Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

s1

Published by wantana, 2020-05-28 20:09:50

Description: s1

Search

Read the Text Version

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ รายวิชา ฟิสกิ ส์3 (ว30203) ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง ฉบับ นกั เรียน ช่อื – สกลุ .............................................................................ชน้ั ..............เลขท.ี่ ......... นางสาววนั ทนา เก้าเอ้ียน ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรียนเมอื งสุราษฎรธ์ านี อาเภอเมือง จงั หวดั สุราษฎร์ธานี สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 11

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทศั นอุปกรณ์ รายวิชา ฟสิ ิกส์3 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ชุดที่ 1 เรอื่ ง ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง จดั ทาโดย นางสาววนั ทนา เกา้ เอีย้ น ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ โรงเรียนเมืองสรุ าษฎร์ธานี อาเภอเมือง จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 11 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปกี ารศึกษา 2560

คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ รายวิชาฟิสิกส์3 (ว30203) สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 เร่ือง แสงและทัศนอุปกรณ์ ที่ใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ และเสริมเทคนิคการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ท้ังหมด จานวน 5 ชุด ได้แก่ ชุดท่ี 1 เร่ือง ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง ชุดท่ี 2 การหักเหของแสง ชุดที่ 3 ปรากฏการณ์ที่เก่ียวกับแสง ชุดท่ี 4 ทัศนอุปกรณ์ และชุดที่ 5 ตาและการมองเห็นสี จัดทาขึ้นเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนและยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของผู้เรียน เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ตามความสามารถและความสนใจ มีอิสระในการคิด ทุกคนมีโอกาสใช้ความคิดอย่างเต็มที่ และเต็มศักยภาพ โดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ซ่ึงชุดกิจกรรมน้ีจะช่วยให้ใช้เวลาน้อยลง ในการนาเสนอข้อมูลต่าง ๆ สามารถประกอบกิจกรรมการเรียนด้วยตนเองมากกว่าที่จะให้ครูบอก หรือกาหนดให้ โดยครเู ปน็ ผู้สร้างโอกาสทางการเรยี นการสอน มกี จิ กรรมให้กับนักเรียนเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม ซึ่งผู้เรียนจะดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้จากคาแนะนาที่ปรากฏอยู่ในชุดกิจกรรมเป็นไป ตามลาดับข้ันด้วยตนเอง สอดคล้องกับธรรมชาติของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา และตอบสนอง กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ทั้งด้านความรู้กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้การแก้ปัญหา ความสามารถ ในการส่ือสาร การตัดสินใจ การนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน ตลอดจนมีจิตวิทยาศาสตร์คุณธรรม และคา่ นยิ มทีถ่ กู ต้องเหมาะสม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสงเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้เรียนและส่งเสริม ให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิ ทธิภ าพแล ะเป็นส่ ว นส า คัญในการพัฒนาคุ ณ ภ า พ และมาตรฐานการศึกษากลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านท่ีตรวจสอบให้ข้อเสนอแนะ ในการปรับปรุง เพื่อการแก้ไขชุดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ให้มีความสมบูรณ์ อันส่งผลให้ชุดกิจกรรมน้มี ีประสทิ ธภิ าพ และสาเร็จลุลว่ งไดด้ ้วยดี ไว้ ณ โอกาสน้ี วันทนา เกา้ เอี้ยน ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ ก ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

สำรบญั หนา้ คานา............................................................................................................................. .............. ก สารบญั ........................................................................................................................................ ข คาช้แี จงเก่ยี วกบั ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้....................................................................................... 1 คาช้แี จงสาหรบั นกั เรยี น.............................................................................................................. 3 ลาดบั ข้ันตอนการศึกษาชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้............................................................................ 4 แผนผงั การจัดชนั้ เรียน................................................................................................................ 5 ผงั มโนทศั น์การเรียนรู้................................................................................................................. 6 สาระสาคัญ / สาระการเรียนรู้..................................................................................................... 7 ผลการเรียนรู้ / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ / สมรรถนะสาคัญ.......................................................... 8 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น................................................................................................................. 9 กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น....................................................................................... 12 ใบงานที่ 1.1 การคานวณเกย่ี วกับอัตราเร็วของแสง.................................................................... 13 ใบกิจกรรมที่ 1.1 SOL match…………........................................................................................ 18 ใบบนั ทกึ กิจกรรมท่ี 1.2 การสะท้อนของแสง............................................................................. 19 ใบงานที่ 1.2 การสะท้อนของแสง............................................................................................... 21 ใบงานท่ี 1.3 การเขยี นรังสขี องแสงเม่ือวัตถอุ ย่หู น้าผิวสะทอ้ นราบ............................................ 22 ใบงานที่ 1.4 การเกดิ ภาพของวัตถุที่อยหู่ นา้ กระจกเงาโค้ง......................................................... 24 ใบงานที่ 1.5 การคานวณหาตาแหนง่ ขนาดและชนิดของภาพท่ีเกิดจากกระจกเงาโค้ง.............. 26 ใบกจิ กรรมที่ 1.3 ประโยชนข์ องกระจกเงาราบ และกระจกเงาโคง้ ............................................. 32 บันทึกการเรียนรู้........................................................................................................................ 33 แบบบันทึกคะแนนกล่มุ .............................................................................................................. 34 แบบทดสอบหลงั เรยี น................................................................................................................ 35 กระดาษคาตอบหลงั เรยี น........................................................................................................... 38 บรรณานกุ รม............................................................................................................................... 39 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ ข ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

คำชแ้ี จงเกี่ยวกับชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ วิชาฟิสิกส์3 สาหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีหลากหลาย โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ และเสริมเทคนิคการแก้โจทย์ปัญหา ของโพลยา เพ่ือส่งเสริมพัฒนาการทางด้านทักษะวิทยาศาสตร์และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ซง่ึ มี 5 ขนั้ ดังนี้ ข้นั ท่ี 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ ขน้ั ที่ 2 ขั้นสารวจและคน้ หา ข้นั ที่ 3 ข้ันอภปิ รายและลงข้อสรปุ ขั้นท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ ขนั้ ที่ 5 ขัน้ ประเมิน 2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทัศนอุปกรณ์ วิชาฟิสิกส์3 สาหรับนักเรียน ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 แบง่ ออกเปน็ 5 ชดุ ใชเ้ วลาในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ั้งหมด 26 ชว่ั โมง ดงั นี้ แนะนาการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน 1 ช่วั โมง ชดุ ที่ 1 เร่ือง ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง จานวน 5 ชวั่ โมง ชุดที่ 2 เรอ่ื ง การหกั เหของแสง จานวน 10 ชั่วโมง ชุดที่ 3 เร่ือง ปรากฏการณท์ เ่ี กย่ี วกบั แสง จานวน 2 ช่วั โมง ชุดท่ี 4 เรื่อง ทศั นอปุ กรณ์ จานวน 4 ชัว่ โมง ชดุ ที่ 5 เรอ่ื ง ตาและการมองเหน็ สี จานวน 4 ชว่ั โมง 3. ส่วนประกอบของชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละชุด ประกอบด้วย 2.1 คานา 2.2 สารบญั /สารบญั ภาพ 2.3 คาชแี้ จงเก่ียวกบั ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.4 คาชแี้ จงสาหรบั ครู 2.5 คาช้แี จงสาหรับนกั เรยี น 2.6 ลาดับข้นั ตอนการศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ 2.7 แผนผังการจดั ชนั้ เรยี น 2.8 ผังมโนทัศนก์ ารเรยี นรู้ 2.9 สาระสาคัญ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 1 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

2.10 สาระการเรยี นรู้ 2.11 ผลการเรียนรู้ 2.12 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.13 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 2.14 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 2.15 ใบความรู้ 2.16 ใบกิจกรรม 2.17 ใบงาน 2.18 แบบทดสอบหลังเรยี น 2.19 แบบบนั ทึกคะแนนการเรยี นรู้ 2.20 บรรณานุกรม 2.21 ภาคผนวก ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 2 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

คำชแ้ี จงสำหรับนกั เรยี น ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทัศนอุปกรณ์ วิชาฟิสิกส์3 สาหรับนักเรียน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ชุดที่ 1 เร่ือง ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง นักเรยี นจะตอ้ งปฏบิ ัติ ดังนี้ 1. ก่อนเร่ิมการจัดการเรียนรู้จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนต้องทาแบบทดสอบก่อน เรียน จานวน 10 ข้อ ใช้เวลา 15 นาที เพื่อประเมินความรู้พื้นฐานของนักเรียน และเมื่อศึกษา และปฏิบัติกิจกรรมครบทุกกิจกรรมแล้วและได้คะแนนแต่ละกิจกรรมผ่านเกณฑ์ท่ีกาหนด ให้ทาแบบทดสอบหลังเรียน จานวน 10 ข้อ ใช้เวลา 15 นาที เพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้า ของนักเรียน ซงึ่ นกั เรียนตอ้ งทาแบบทดสอบหลงั เรียนไดไ้ ม่ต่ากวา่ ร้อยละ 50 จึงจะผา่ นเกณฑ์ 2. นักเรียนจะต้องแบ่งหน้าที่ให้กับสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งในแต่ละคร้ังหน้าท่ีของสมาชิก แต่ละคนจะตอ้ งสลับกัน โดยมีหนา้ ท่ี 5 ตาแหนง่ ดงั น้ี คุณอานวย ทาหนา้ ที่ อานวยความสะดวกใหก้ บั สมาชิกในกลมุ่ โดยการไปหยิบอุปกรณ์ หรือเอกสารตา่ ง ๆ คุณวางแผน ทาหน้าท่ี วางแผนการทางาน คุณจดั การความรู้ ทาหนา้ ที่ รวบรวมองค์ความรู้ และผลงานของกลมุ่ คณุ เสนอ ทาหนา้ ที่ นาเสนอผลงาน หรอื ความรูท้ ่ีได้เรียนรู้ คณุ กิจกรรม ทาหนา้ ที่ ทากิจกรรมร่วมกันกบั สมาชิกในกลุม่ (ถา้ ม)ี 3. ปฏิบัติกิจกรรมตามข้ันตอนที่ระบุไว้ในชุดกิจกรรมการเรียนรู้เม่ือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ตรวจคาตอบจากเฉลย แล้วบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนนของนักเรียน นักเรียนจะต้องได้คะแนนทุกกิจกรรมไม่ต่ากว่าร้อยละ 70 จึงจะผ่านเกณฑ์ ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ ใหก้ ลบั ไปอา่ นทาความเข้าใจเกีย่ วกบั เนื้อหาอกี ครงั้ แล้วตอบใหม่ 4. นักเรียนทุกคนปฏิบัติกจิ กรรมด้วยความตัง้ ใจ และทากิจกรรมให้เสรจ็ ทันเวลาทก่ี าหนด 5. เม่อื ปฏบิ ัติกจิ กรรมเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ต้องช่วยกันเก็บวสั ดุ อุปกรณ์ ส่ือการเรยี นตา่ ง ๆ จดั โตะ๊ และเก้าอี้ ให้อยู่ในสภาพ เรยี บรอ้ ย และทาความสะอาดก่อนออกจากห้องเรยี น ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 3 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ลำดับขัน้ ตอนกำรศึกษำชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ 1. ศึกษำคำช้ีแจงต่ำงๆ ในกำรใชช้ ุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 2. ศกึ ษำสำระสำคญั / สำระกำรเรียนรู้ /ผลกำรเรียนรู้ / จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 3. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 10 ข้อ 15 นำที 4. ปฏิบัตกิ ิจกรรมกำรเรียนรตู้ ำมขัน้ ตอน ประกอบด้วย ข้นั ท่ี 1 สร้ำงควำมสนใจ ขั้นท่ี 2 สำรวจและค้นหำ ข้นั ที่ 3 อธบิ ำยและลงข้อสรปุ ขน้ั ท่ี 4 ขยำยควำมรู้ ขั้นที่ 5 ประเมนิ ผล 5. ตรวจสอบคำตอบของใบงำนและกจิ กรรมแต่ละขน้ั เพอ่ื ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจ โดยจะต้องผำ่ นเกณฑท์ ่กี ำหนด ถ้ำไมผ่ ่ำนเกณฑ์จะตอ้ งกลบั ไปศกึ ษำเน้อื หำ ทไี่ มผ่ ่ำนเกณฑอ์ กี ครง้ั จนกวำ่ ผ่ำนเกณฑท์ ่กี ำหนด 6. ทำแบบทดสอบหลงั เรียน จำนวน 10 ขอ้ 15 นำที 7. ตรวจคำตอบ ผำ่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 50 ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ ผ่ำนเกณฑ์ ศกึ ษำชุดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ชดุ ท่ี 2 ต่อไป ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 4 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

แผนผงั กำรจัดชนั้ เรียน จอนำเสนอ โตะ๊ ครู กล่มุ ท่ี 1 กลมุ่ ที่ 2 กลุ่มที่ 3 กล่มุ ท่ี 6 กลุม่ ท่ี 5 กลุ่มท่ี 4 กล่มุ ท่ี 7 กลมุ่ ที่ 8 กลุ่มท่ี 9 โตะ๊ วสั ดอุ ุปกรณ์ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 5 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

ผงั มโนทศั น์กำรเรยี นรู้ ชุดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ เร่ือง แสงและทัศนอปุ กรณ์ วิชำฟสิ ิกส3์ สำหรบั นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 ธรรมชาติและ แสงและทัศนอุปกรณ์ เคร่อื งฉายภาพ การสะท้อนของแสง ทัศนอุปกรณ์ กลอ้ งถ่ายรปู กล้องจุลทรรศน์ อัตราเร็วของแสง กล้องโทรทรรศน์ กฎการสะท้อน กระจกเงาราบ ปรากฏการณ์ การกระจายแสง รุง้ กระจกเงาโคง้ ทเ่ี กีย่ วข้องกบั การทรงกลด แสง และมิราจ ตาและการมองเหน็ สี ความสว่างกบั การถนอมสายตา การหักเหของแสง สายตาสัน้ กฎการหกั เห สายตายาว ดรรชนีหักเห การมองเหน็ สี การสะท้อนกลบั หมด แสงสี ความลึกปรากฏ สารสี เลนสบ์ าง เลนส์เว้า เลนสน์ ูน ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 6 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เคล่ือนที่ในแนวตรงด้วย สำระ อัตราเร็ว 299,792,458 เมตรต่อวินาทีหรือประมาณ 3.00 x 108 เมตรต่อวินาที ในการศึกษาเกี่ยวกับแสง กาหนดให้เส้นตรงที่ตั้งฉาก สำคญั กับหน้าคลื่น มีลูกศรแสดงทิศทางการเคล่ือนที่ของคลื่นแสง เรียกว่า รังสีของแสง หรอื เรียกสั้นๆ ว่า รงั สี เม่ือแสงตกกระทบผิววัตถุจะเกิดการสะท้อนของแสง (reflection) โดยเป็นไปตามกฎการสะทอ้ นของแสง ดงั นี้ 1. รังสีตกกระทบ เส้นแนวฉากและรังสีสะท้อนอยู่ในระนาบ เดยี วกันเสมอ 2. มกุ ตกกระทบเทา่ กบั มมุ สะท้อน ถ้าวางวัตถุหน้ากระจกเงาราบ จะเกิดภาพของวัตถุ โดยระยะภาพ s' เท่ากับระยะวัตถุ s และความสูงของภาพเท่ากับ ความสูงของวัตถุ แต่ถ้าวางวัตถุหน้ากระจกเงาโค้ง (เว้าและนูน) ระยะวัตถุ s ระยะภาพ s' และความยาวโฟกัส f มีความสัมพันธ์ 1 1 1 ดังสมการ f = s + s' และขนาดของภาพมีท้ังใหญ่กว่าวัตถุ เท่าวัตถุ และเล็กกวา่ วตั ถุ สำระ 1. อตั ราเรว็ แสง กำรเรยี นรู้ 2. การสะทอ้ นของแสง 3. การเขียนรังสีของแสงเพื่อหาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพ ที่เกิดจากกระจกเงาราบ 4. การเขียนรังสีของแสงเพ่ือหาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพ ทเ่ี กิดจากกระจกเงาโคง้ 5. ประโยชน์ของกระจกเงาราบและกระจกเงาโค้ง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 7 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ผล อธิบายการสะท้อนของแสง การหาตาแหน่ง ขนาดและชนิด กำรเรียนรู้ ของภาพท่ีเกิดจากกระจกเงาราบและกระจกเงาโค้ง ทั้งโดยการเขียน ภาพและการคานวณ จดุ ประสงค์ ดำ้ นควำมรู้ (K) กำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายไดว้ า่ แสงเคล่ือนท่ใี นแนวตรงด้วยอตั ราเรว็ ที่สูงมากได้ 2. คานวณหาค่าปรมิ าณทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับอัตราเร็วของแสงได้ 3. อธิบายการสะท้อนของแสงและกฎการสะท้อนของแสงได้ 4. คานวณหาตาแหนง่ ขนาด และชนดิ ของภาพท่ีเกิดจากกระจกเงา โค้งได้ 5. ยกตัวอยา่ งและอธิบายประโยชน์ของกระจกเงาราบและกระจกเงาโค้ง ในชีวติ ประจาวันได้ ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร (P) 1. เขยี นรังสีของแสงเพ่ือหาตาแหน่ง ขนาด และชนดิ ของภาพ ที่เกิดจากกระจกเงาราบได้ 2. เขียนรงั สีของแสงเพ่ือหาตาแหนง่ ขนาด และชนดิ ของภาพ ทเ่ี กดิ จากกระจกเงาโค้งได้ ด้ำนคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ซอ่ื สตั ย์สุจริต 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทางาน สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสื่อสาร สำคัญ 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 8 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ชดุ ท่ี 1 เรอ่ื ง ธรรมชำตแิ ละกำรสะท้อนของแสง คำชี้แจง : แบบทดสอบกอ่ นเรยี นเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 10 ขอ้ ใชเ้ วลา 15 นาที คำสงั่ : จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสดุ เพียงคาตอบเดยี ว แลว้ ทาเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบ 1. ขอ้ ความใด ไม่ใช่ ธรรมชาติของแสงท่ถี ูกต้อง ก. แสงเคลื่อนท่เี ปน็ เสน้ ตรงในตัวกลางชนดิ เดยี วกัน ข. แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเคลอื่ นทไี่ ปโดยไมต่ ้องอาศยั ตัวกลาง ค. แสงเป็นพลังงานท่ีไม่สามารถเปลย่ี นไปเป็น หรือเปลยี่ นมาจากพลังงานรปู อืน่ ๆได้ ง. แสงเปน็ คลน่ื ตามขวาง เพราะสามารถเกดิ โพลาไรซ์ได้ 2. แสงจากดวงอาทติ ยเ์ ดนิ ทางมายังโลกใชเ้ วลานานกน่ี าที (กาหนดให้ ระยะทางจากโลกถงึ ดวงอาทิตย์ เทา่ กบั 1.5 x 1011 เมตร) ก. 8.33 นาที ข. 9.33 นาที ค. 10.33 นาที ง. 11.33 นาที 3. เม่ือแสงตกกระทบท่ีพน้ื ผิวขรุขระจะเป็นอยา่ งไร ก. มุมตกกระทบโตกวา่ มมุ สะทอ้ น ข. มุมตกกระทบเลก็ กว่ามุมสะท้อน ค. มุมตกกระทบเทา่ กับมุมสะท้อน ง. มมุ ตกกระทบอาจจะเล็กหรอื โตกว่ามมุ สะท้อนก็ได้ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 9 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

4. กระจกเงาราบ XY และ YZ วางเอียงทามุม 45o กบั พืน้ ราบ รงั สขี องแสงตกกระทบด้าน XY ทามุม 60o กับระนาบ XY ดังรูป จงพจิ ารณาว่าข้อความใดต่อไปน้ีถูกตอ้ ง X 60o Z 45o 45o Y ก. รงั สีสะทอ้ นด้าน YZ ทามุมสะทอ้ น 30o ข. รังสสี ะท้อนจากด้าน XY ไปยงั YZ ขนานกับพ้นื ราบ ค. รังสสี ะทอ้ นด้าน YZ ทามุม 60o กบั เส้นแนวฉาก ง. รังสีตกกระทบดา้ น XY และรังสสี ะท้อนดา้ น YZ ขนานกัน 5. ชายคนหน่ึงสูง 170 เซนติเมตร และมีดวงตาต่ากว่าส่วนที่สูงท่ีสุดในร่างกาย 10 เซนติเมตร หากต้องการส่องกระจกเงาราบ โดยทาให้มองเห็นได้ตลอดทั้งตัว กระจกต้องมีความยาว อยา่ งน้อยทส่ี ดุ เท่าไร และตอ้ งตดิ ตั้งกระจกใหส้ ูงจากพ้นื เป็นระยะเทา่ ใด ก. กระจกต้องมคี วามยาว 80 เซนตเิ มตร และอยสู่ ูงจากพื้น 85 เซนติเมตร ข. กระจกต้องมีความยาว 85 เซนติเมตร และอยู่สูงจากพื้น 80 เซนตเิ มตร ค. กระจกต้องมีความยาว 160 เซนตเิ มตร และอยู่สูงจากพ้ืน 80 เซนติเมตร ง. กระจกต้องมีความยาว 170 เซนติเมตร และอย่สู ูงจากพ้ืน 85 เซนตเิ มตร 6. จุด C เป็นจุดศูนย์กลางความโค้ง จุด F เป็นจุดโฟกัส ถ้า XY เป็นรังสีตกกระทบ รังสีสะท้อน จะเป็นไปตามหมายเลขใด 1X Y2 CF 4 3 ง ก. เลข 1 ข. เลข 2 ค. เลข 3 ง. เลข 4 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 10 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

7. เมอ่ื วางวตั ถุหนา้ กระจกโค้งเวา้ บานหน่งึ ข้อใดต่อไปน้เี ป็นภาพของวัตถุท่ีเกิดขนึ้ (1) ภาพเสมือน มขี นาดใหญ่กว่าวตั ถุ (2) ภาพเสมือน มีขนาดเลก็ กว่าวัตถุ (3) ภาพจรงิ ขนาดเล็ก เท่าและใหญก่ วา่ วตั ถุ (4) ภาพเสมอื น มีขนาดเทา่ วัตถุ ก. (1) และ (2) เท่านั้น ข. (2) และ (3) เท่านน้ั ค. (1) และ (3) เท่านัน้ ง. เป็นไดท้ ้ัง (1) (2) (3) และ (4) 8. จากรปู กระจก A B C และ D ควรเป็นกระจกชนิดใด ตามลาดบั A B วัตถุ ภาพ วัตถุ ภาพ C วตั ถุ D วัตถุ ภาพ ภาพ ก. กระจกโคง้ นูน กระจกโค้งนูน กระจกราบ กระจกโค้งเว้า ข. กระจกโค้งเว้า กระจกโคง้ เวา้ กระจกราบ กระจกโค้งเว้า ค. กระจกโคง้ นูน กระจกโค้งนนู กระจกโคง้ นูน กระจกโค้งเวา้ ง. กระจกโค้งเวา้ กระจกโค้งนูน กระจกราบ กระจกโค้งเวา้ 9. วัตถุสูง 8 เซนติเมตร วางอยู่หน้ากระจกโค้งทาให้เกิดภาพจริงหน้ากระจกขนาด 4 เซนติเมตร ห่างจากกระจก 12 เซนตเิ มตร จงหาความยาวโฟกัสของกระจกโคง้ ก. 4 เซนตเิ มตร ข. 6 เซนตเิ มตร ค. 8 เซนตเิ มตร ง. 10 เซนตเิ มตร 10. เด็กคนหน่ึงสูง 120 เซนติเมตร ยืนห่างจากกระจกนูน 60 เซนติเมตร มองเห็นภาพตัวเอง ในกระจกสงู 60 เซนติเมตร กระจกนนู มรี ศั มคี วามโคง้ กเ่ี ซนตเิ มตร ก. 10 เซนติเมตร ข. 20 เซนติเมตร ค. 30 เซนติเมตร ง. 40 เซนติเมตร ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 11 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

กระดำษคำตอบกอ่ นเรียน ชุดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชดุ ที่ 1 เรอื่ ง ธรรมชำตแิ ละกำรสะทอ้ นของแสง ชื่อ – สกุล.................................................................................ช้ัน....................เลขท.่ี .................... คำสั่ง : จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว แล้วทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบ ขอ้ ก ข ค ง คะแนนทไ่ี ด้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ทาแบบทดสอบเสร็จแลว้ อยา่ ลืม! ตรวจคาตอบดว้ ยนะคะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 12 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ใบงำนที่ 1.1 กำรคำนวณเกยี่ วกับอตั รำเร็วของแสง จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ คานวณหาค่าปริมาณที่เก่ียวข้องกับอัตราเร็วของแสงได้ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นแสดงวธิ ีทาแก้โจทย์ปญั หาต่อไปน้ี 1. ถ้ายานอวกาศอยู่ห่างจากโลก 2,340,000 ไมล์ และมีแสงส่องมาถึงโลกจะใช้เวลาเท่าใด กาหนดให้ 1 ไมล์ = 1.609 กโิ ลเมตร วธิ ีทำ ข้ันที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา 1.1 สถานการณ์ใหอ้ ะไรมา 1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ข้นั ท่ี 2 วางแผนแกป้ ญั หา 2.1 เลือกสมการที่สัมพนั ธก์ ับสถานการณ์ 2.2 นกั เรยี นต้องหาตัวแปรใดเพ่มิ จากท่ีโจทย์กาหนดหรือไม่ เพอื่ ใหเ้ พยี งพอในการหาคาตอบ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 13 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

ขั้นท่ี 3 ดาเนนิ การแกป้ ัญหา 3.1 แทนคา่ สมการ 3.2 แก้สมการตามที่วางแผนไวโ้ ดยใช้ข้นั ตอนและหลักการทางคณิตศาสตร์ ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ าก 2. ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่งเป็นระยะทาง 4.5 x 1011 เมตร แสงจากดวงอาทิตย์ จะตอ้ งใชเ้ วลานานกีน่ าที จึงจะเดินทางถึงดาวเคราะหด์ วงนั้น วิธที ำ ขนั้ ที่ 1 ทาความเข้าใจโจทยป์ ญั หา 1.1 สถานการณ์ใหอ้ ะไรมา 1.2 สถานการณ์ใหห้ าอะไร ข้ันท่ี 2 วางแผนแกป้ ญั หา 2.1 เลอื กสมการทส่ี ัมพันธ์กับสถานการณ์ 2.2 นักเรียนต้องหาตวั แปรใดเพ่ิมจากทโ่ี จทยก์ าหนดหรือไม่ เพ่ือใหเ้ พียงพอในการหาคาตอบ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 14 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ขน้ั ท่ี 3 ดาเนนิ การแกป้ ัญหา 3.1 แทนคา่ สมการ 3.2 แก้สมการตามที่วางแผนไว้โดยใช้ข้ันตอนและหลักการทางคณิตศาสตร์ ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ าก 3. ดาวฤกษ์ดวงหนึ่งอยู่ไกลจากโลก 3 ปีแสง ถ้ายานอวกาศใช้อัตราเร็ว 5 x 104 เมตร/วินาที จะใช้เวลาเดนิ ทางจากโลกถงึ ดาวฤกษด์ วงนกี้ ป่ี ี วธิ ีทำ ขัน้ ท่ี 1 ทาความเขา้ ใจโจทยป์ ญั หา 1.1 สถานการณ์ให้อะไรมา 1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแกป้ ัญหา 2.1 เลอื กสมการทส่ี มั พันธก์ ับสถานการณ์ 2.2 นกั เรียนตอ้ งหาตัวแปรใดเพิม่ จากท่โี จทยก์ าหนดหรือไม่ เพ่อื ให้เพยี งพอในการหาคาตอบ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 15 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ขนั้ ที่ 3 ดาเนินการแกป้ ัญหา 3.1 แทนค่าสมการ 3.2 แกส้ มการตามที่วางแผนไว้โดยใช้ขนั้ ตอนและหลกั การทางคณิตศาสตร์ ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ าก 4. ถ้าต้องการยิงจรวดให้ชนดวงอาทิตย์ ในเวลา 1.6 ปีจะต้องทาให้จรวดมีอัตราเร็วเท่าใด (กาหนดให้ ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทติ ย์ เท่ากบั 1.5 x 1011 เมตร) วิธีทำ ขั้นที่ 1 ทาความเขา้ ใจโจทยป์ ญั หา 1.1 สถานการณ์ใหอ้ ะไรมา 1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแกป้ ญั หา 2.1 เลอื กสมการทสี่ มั พันธ์กับสถานการณ์ 2.2 นกั เรียนตอ้ งหาตัวแปรใดเพ่มิ จากทโี่ จทยก์ าหนดหรือไม่ เพ่ือใหเ้ พียงพอในการหาคาตอบ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 16 ชุดที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

ข้ันที่ 3 ดาเนินการแกป้ ัญหา 3.1 แทนค่าสมการ 3.2 แกส้ มการตามท่ีวางแผนไว้โดยใชข้ นั้ ตอนและหลักการทางคณิตศาสตร์ ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ าก ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 17 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 SOL match จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายไดว้ า่ แสงเคลื่อนทใี่ นแนวตรงด้วยอัตราเร็วทีส่ ูงมากได้ 2. คานวณหาค่าปรมิ าณทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับอัตราเร็วของแสงได้ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นทาความเขา้ ใจกบั กตกิ าการเลน่ เกมดงั น้ี 1. ให้คุณอานวยของแต่ละกลุ่มออกมารับซองบรรจุเกม “SOL match” กลุ่มละ 1 ซอง ซึ่งมีจานวนบัตรเกมท้ังหมด 24 ใบ โดยแบ่งเป็นบัตรสีชมพู จานวน 10 ใบ และบัตรเกมสีฟ้า จานวน 14 ใบ 2. ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันจับคู่บัตรสีชมพูและสีฟ้าที่มีสอดคล้องกัน โดยใช้ เวลา ในการจับคู่บัตรเกม “SOL match” 5 นาที คะแนนเต็มสาหรับการตอบคาถามจะนาไปรวมไว้ เป็นคะแนนกลุ่ม (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) 3. หลงั จากเลน่ เกมเสรจ็ แล้ว ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั เฉลยคาตอบ ถา้ เขา้ ใจกตกิ าแล้ว ไปเลน่ เกมกนั เลยค่ะ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 18 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

ใบบันทึกกิจกรรมท่ี 1.2 กำรสะทอ้ นของแสง จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ อธบิ ายการสะท้อนของแสงและกฎการสะท้อนของแสงได้ กลมุ่ ท.่ี ......................................................... รำยชอ่ื สมำชกิ ในกลุ่ม 1..............................................................เลขที่................หนา้ ท.ี่ ...................................... 2..............................................................เลขท.่ี ...............หนา้ ท.ี่ ...................................... 3..............................................................เลขท.ี่ ...............หนา้ ท.ี่ ...................................... 4..............................................................เลขที.่ ...............หนา้ ที่....................................... 5..............................................................เลขที่................หนา้ ท่ี....................................... จุดประสงค์กำรทดลอง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ วสั ดุอุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นกำรทดลอง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................... ................................. ................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ................................... วิธกี ำรทดลอง ................................................................................................................................................ ................ ................................................................................................................... ............................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 19 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ผลกำรทดลอง คำถำมหลงั กำรทดลอง การสะท้อนของแสงเมื่อฉายกระทบกระเงาราบ ผิวโค้งเว้า และผิวโค้งนูนเป็นไปตามกฎการสะท้อน หรอื ไม่ อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ สรปุ ผลกำรทดลอง ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................. ................... อภปิ รำยผลกำรทดลอง ............................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 20 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ใบงำนท่ี 1.2 กำรสะท้อนของแสง จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ อธิบายการสะทอ้ นของแสงและกฎการสะทอ้ นของแสงได้ คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเขียนรังสสี ะทอ้ นให้ถกู ต้องตามกฎการสะท้อนของแสง 1. 2. 45๐ 60๐ 3. 4. 30๐ 70๐ 5. 6. 30๐ 50๐ 45๐ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 21 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ใบงำนที่ 1.3 กำรเขียนรังสขี องแสงเม่ือวตั ถอุ ยู่หน้ำผวิ สะท้อนรำบ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ เขยี นรงั สีของแสงเพื่อหาตาแหนง่ ขนาด และชนดิ ของภาพทเี่ กิดจากกระจกเงาราบได้ คำช้ีแจง ให้นักเรียนเขียนรังสีของแสงเพื่อหาตาแหน่งของภาพ บอกชนิด ลักษณะและตาแหน่ง ของภาพทเี่ กิดข้ึน จากรปู ที่กาหนดให้ 1. วตั ถุ กระจกเงาราบ ชนิดของภาพ.....................................ลักษณะของภาพ.................................................................. ......... ตาแหน่งของภาพ............................................................................................................................ ......... 2. วัตถุ กระจกเงาราบ ชนิดของภาพ.....................................ลกั ษณะของภาพ........................................................................... ตาแหน่งของภาพ............................................................................................................ ......................... ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 22 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

3. กระจกเงาราบ วัตถุ ชนดิ ของภาพ.....................................ลักษณะของภาพ........................................................................... ตาแหน่งของภาพ................................................................................................................ ..................... 4. กระจกเงาราบ A วัตถุ B ชนิดของภาพ.....................................ลักษณะของภาพ........................................................................... ตาแหน่งของภาพ................................................................................................................ ..................... 5. กระจกเงาราบ ตามอง A วตั ถุ B ชนดิ ของภาพ.....................................ลกั ษณะของภาพ........................................................................... ตาแหนง่ ของภาพ..................................................................................................................................... ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 23 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ใบงำนท่ี 1.4 กำรเกิดภำพของวัตถุที่อยูห่ นำ้ กระจกเงำโค้ง จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ เขยี นรังสขี องแสงเพ่ือหาตาแหนง่ ขนาด และชนิดของภาพท่ีเกดิ จากกระจกเงาโค้งได้ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นรังสีของแสงเพื่อหาตาแหน่งของภาพ พร้อมท้ังบอกชนิด ขนาดและตาแหน่ง ของภาพที่เกิดขนึ้ จากรปู ทีก่ าหนดให้ 1. FC ชนดิ ของภาพ.....................................ขนาดของภาพ........................................................................... ตาแหนง่ ของภาพ..................................................................................................................................... 2. FC ชนดิ ของภาพ.....................................ขนาดของภาพ........................................................................... ตาแหน่งของภาพ................................................................................................................ ..................... ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 24 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

3. CF ชนิดของภาพ.....................................ขนาดของภาพ.................................................................... ....... ตาแหน่งของภาพ.............................................................................................................. ....................... 4. วัตถุหน่ึงสูง 10 เซนติเมตร วางไว้หน้ากระจกโค้งเว้าซึ่งมีรัศมีความโค้ง 40 เซนติเมตร ห่างจาก กระจก 30 เซนติเมตร จงหาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพท่ีเกิดข้ึนได้ โดยวิธีการเขียนทางเดิน ของแสง (กาหนดให้ มาตราสว่ น 1 cm : 10 cm ในการวาดภาพ) ชนิดของภาพ.....................................ขนาดของภาพ.................................................................... ....... ตาแหน่งของภาพ......................................................................................................... ............................ 5. วัตถุหนึ่งสูง 10 เซนติเมตร วางไว้หน้ากระจกโค้งนูนซึ่งมีความยาวโฟกัส 30 เซนติเมตร ห่างจาก กระจก 45 เซนติเมตร จงหาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพที่เกิดขึ้นได้ โดยวิธีการเขียนทางเดิน ของแสง (กาหนดให้ มาตราสว่ น 1 cm : 10 cm ในการวาดภาพ) ชนดิ ของภาพ.....................................ขนาดของภาพ........................................................................... ตาแหนง่ ของภาพ..................................................................................................................................... ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 25 ชุดที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ใบงำนท่ี 1.5 กำรคำนวณหำตำแหน่ง ขนำดและชนดิ ของภำพท่ีเกดิ จำกกระจกเงำโค้ง จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ คานวณหาตาแหน่ง ขนาดและชนดิ ของภาพท่เี กดิ จากกระจกเงาโค้งได้ คำช้แี จง ให้นักเรยี นแสดงวิธที าแกโ้ จทย์ปญั หาตอ่ ไปนี้ 1. กระจกนูนมีรัศมีความโค้ง 60 เซนติเมตร เมื่อวางวัตถุสูง 5 เซนติเมตรห่างจากกระจกเป็นระยะ 15 เซนตเิ มตร จงหาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพ วธิ ที ำ ขนั้ ท่ี 1 ทาความเข้าใจโจทยป์ ัญหา 1.1 สถานการณ์ให้อะไรมา 1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ข้ันที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา 2.1 เลอื กสมการทีส่ ัมพันธ์กบั สถานการณ์ 2.2 นักเรยี นต้องหาตัวแปรใดเพิม่ จากท่ีโจทย์กาหนดหรือไม่ เพอ่ื ให้เพียงพอในการหาคาตอบ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 26 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

ขน้ั ที่ 3 ดาเนนิ การแก้ปัญหา 3.1 แทนค่าสมการ 3.2 แก้สมการตามท่ีวางแผนไว้โดยใชข้ ัน้ ตอนและหลกั การทางคณิตศาสตร์ ข้ันที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ าก 2. ทันตแพทย์ถือกระจกเว้าท่ีมีความยาวโฟกัส 2 เซนติเมตร ห่างจากฟันที่ต้องการอุดเป็นระยะ 1 เซนติเมตร ทันตแพทย์จะเห็นฟันในกระจกขยายเป็นก่เี ทา่ วธิ ีทำ ขั้นท่ี 1 ทาความเขา้ ใจโจทย์ปญั หา 1.1 สถานการณ์ให้อะไรมา 1.2 สถานการณ์ใหห้ าอะไร ขัน้ ท่ี 2 วางแผนแกป้ ัญหา 2.1 เลือกสมการท่ีสมั พนั ธ์กับสถานการณ์ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 27 ชุดที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

2.2 นกั เรียนตอ้ งหาตวั แปรใดเพ่ิมจากทโี่ จทยก์ าหนดหรือไม่ เพอื่ ใหเ้ พยี งพอในการหาคาตอบ ข้ันที่ 3 ดาเนินการแกป้ ัญหา 3.1 แทนค่าสมการ 3.2 แก้สมการตามท่วี างแผนไวโ้ ดยใชข้ ั้นตอนและหลกั การทางคณิตศาสตร์ ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จาก 3. กระจกเงาโค้งบานหนึ่งทาให้เกิดภาพบนฉากขยายเป็น 5 เท่าของวัตถุ ท่ีระยะห่างจากกระจก 10 เซนตเิ มตร จงหาวา่ กระจกบานนเี้ ปน็ กระจกชนดิ ใด และความยาวโฟกสั ของกระจก วธิ ีทำ ข้นั ท่ี 1 ทาความเข้าใจโจทยป์ ญั หา 1.1 สถานการณ์ใหอ้ ะไรมา 1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 28 ชุดที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ขน้ั ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา 2.1 เลือกสมการที่สมั พันธ์กับสถานการณ์ 2.2 นักเรียนต้องหาตัวแปรใดเพ่ิมจากทโ่ี จทย์กาหนดหรือไม่ เพ่ือใหเ้ พียงพอในการหาคาตอบ ขน้ั ที่ 3 ดาเนนิ การแก้ปัญหา 3.1 แทนคา่ สมการ 3.2 แก้สมการตามทว่ี างแผนไวโ้ ดยใชข้ ั้นตอนและหลกั การทางคณิตศาสตร์ ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จาก 4. กระจกนนู บานหนึง่ มกี าลังขยาย 0.50 เมื่อวางวัตถหุ า่ งจากกระจกเงา 2 เมตร จงหาระยะภาพและ ความยาวโฟกสั ของกระจก วิธที ำ ข้นั ที่ 1 ทาความเขา้ ใจโจทย์ปัญหา 1.1 สถานการณ์ใหอ้ ะไรมา ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 29 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ข้นั ท่ี 2 วางแผนแก้ปญั หา 2.1 เลอื กสมการทสี่ ัมพนั ธ์กบั สถานการณ์ 2.2 นักเรียนต้องหาตัวแปรใดเพ่มิ จากท่โี จทยก์ าหนดหรือไม่ เพอ่ื ใหเ้ พียงพอในการหาคาตอบ ข้นั ที่ 3 ดาเนินการแก้ปัญหา 3.1 แทนค่าสมการ 3.2 แก้สมการตามทวี่ างแผนไวโ้ ดยใช้ข้ันตอนและหลกั การทางคณิตศาสตร์ ขน้ั ท่ี 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จาก ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 30 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

5. วัตถุสูง 3 เซนติเมตร อยู่ห่างจากกระจกเงาเว้าเป็นระยะ 9 เซนติเมตร ปรากฏว่าเกิดภาพข้ึน บนฉากดา้ นหลังวัตถุ ขนาดของภาพทเ่ี กิดสงู 6 เซนตเิ มตร จงหาระยะหา่ งระหว่างวัตถกุ ับฉาก วธิ ที ำ ขนั้ ที่ 1 ทาความเข้าใจโจทยป์ ัญหา 1.1 สถานการณ์ให้อะไรมา 1.2 สถานการณ์ให้หาอะไร ข้ันที่ 2 วางแผนแกป้ ญั หา 2.1 เลือกสมการทีส่ ัมพันธ์กบั สถานการณ์ 2.2 นักเรยี นตอ้ งหาตัวแปรใดเพิ่มจากท่ีโจทยก์ าหนดหรือไม่ เพื่อให้เพียงพอในการหาคาตอบ ขนั้ ท่ี 3 ดาเนนิ การแก้ปัญหา 3.1 แทนคา่ สมการ 3.2 แกส้ มการตามทวี่ างแผนไวโ้ ดยใช้ขนั้ ตอนและหลักการทางคณิตศาสตร์ ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จาก ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 31 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

ใบกิจกรรมที่ 1.3 ประโยชน์ของกระจกเงำรำบ และกระจกเงำโคง้ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ยกตัวอยา่ งและอธบิ ายประโยชนข์ องกระจกเงาราบ กระจกเงาเว้าและกระจกเงานนู ในชีวิตประจาวนั ได้ ให้นักเรยี นศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจแนวทำงกำรปฏบิ ัติกิจกรรม ดังนี้ 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลในหัวข้อ “ประโยชน์ของกระจกเงาราบ กระจกเงาเว้า และกระจกเงานูนในชีวิตประจาวัน” จากสื่อต่างๆ เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วเขียน สรุปเป็นแผนผังความคิดของกลุ่มตนเองลงบนกระดาษปรู๊ฟ โดยให้เวลาในการทากิจกรรมทั้งหมด 15 นาที 2. เม่อื หมดเวลาให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ นาผลงานของกลุ่มไปตดิ ท่ผี นงั หอ้ ง 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเดินไปดูและอ่านผลงานของกลุ่มอ่ืน ๆ หากข้อมูลของกลุ่มเพ่ือน ถกู ต้องใหเ้ ขียนเครือ่ งหมายถูก () และหากข้อมลู ของเพ่ือนผดิ ให้เขียนเคร่ืองหมายผิด () พรอ้ มทั้ง ประเมนิ ใหค้ ะแนนกลุ่มเพ่อื น โดยการเขยี นดาวลงบนกระดาษปรฟู๊ ดว้ ย 4. เม่ือนักเรียนศึกษาผลงานของกลุ่มอ่ืน ๆ ครบทุกกลุ่มแล้ว ให้กลับมานับดาวท่ีได้ ของกลมุ่ ตนเอง แล้วบันทึกเป็นคะแนนกล่มุ โดยดาว 1 ดวง = 1 คะแนน ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 32 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

บันทึกกำรเรยี นรู้ คำสงั่ : ใหน้ กั เรียนบันทึกการเรียนรู้ จากส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรู้และทากจิ กรรม ตามประเด็นท่ีกาหนดให้ ส่งิ ได้เรียนรแู้ ละเข้ำใจ สง่ิ ท่ยี ังไม่รู้/ไม่เขำ้ ใจ ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... ............................................................... สง่ิ ที่ต้องกำรเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ ................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................... ................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................... ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 33 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

แบบบนั ทึกคะแนน ท่ี กิจกรรม คะแนนเต็ม เกณฑก์ ำรผำ่ น คะแนนท่ีได้ 1 ทดสอบก่อนเรยี น 10 - 2 ใบงานที่ 1.1 20 3 กจิ กรรมที่ 1.1 10 ร้อยละ 70 (14 คะแนน) 4 ใบบันทกึ กิจกรรมที่ 1.2 12 รอ้ ยละ 70 (7 คะแนน) 5 ใบงานที่ 1.2 12 ร้อยละ 70 (9คะแนน) 6 ใบงานที่ 1.3 25 รอ้ ยละ 70 (9 คะแนน) 7 ใบงานที่ 1.4 20 ร้อยละ 70 (18 คะแนน) 8 ใบงานท่ี 1.5 25 ร้อยละ 70 (14 คะแนน) 9 กิจกรรมท่ี 1.3 20 ร้อยละ 70 (18 คะแนน) ระดับดี (11 คะแนน) รวมคะแนนระหว่ำงเรยี น 10 ทดสอบหลงั เรียน 10 ร้อยละ 50 (5 คะแนน) สรปุ ผลกำรประเมินจำกชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ คะแนนระหว่ำงเรียนทไ่ี ด้ เท่ำกับ สรปุ ผลกำรประเมนิ จำกชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียนท่ีได้ เท่ำกบั  ผ่ำน  ไม่ผ่ำน ลงชือ่ ..........................................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาววนั ทนา เกา้ เอีย้ น) ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 34 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

แบบทดสอบหลงั เรยี นชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ชดุ ที่ 1 เรอื่ ง ธรรมชำติและกำรสะทอ้ นของแสง คำชี้แจง : แบบทดสอบหลงั เรยี นเป็นแบบทดสอบแบบเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 10 ข้อ ใชเ้ วลา 15 นาที คำสั่ง : จงเลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ดุ เพยี งคาตอบเดียว แล้วทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบ 1. ทศิ ทางการเคล่ือนท่ีของแสงมลี กั ษณะเป็นไปตามข้อใด ก. ทศิ ทางการเคล่ือนท่ีไมแ่ น่นอน ข. ทศิ ทางการเคลื่อนท่ีเปน็ แนวตรง ค. ทศิ ทางการเคล่ือนท่ีเป็นแนวโคง้ ง. เปน็ ไปไดท้ ุกข้อ 2. แสงจากดวงอาทิตย์เดินทางไปยังดาวอังคารใช้เวลานานก่ีนาที (กาหนดให้ ระยะทางจากโลก ถึงดวงอาทิตย์ เท่ากบั 2.3 x 1011 เมตร) ก. 8.33 นาที ข. 10.78 นาที ค. 12.78 นาที ง. 13.33 นาที 3. เมอื่ แสงตกกระทบที่พ้ืนผิวโคง้ จะเปน็ อย่างไร ก. มุมตกกระทบเท่ากับมมุ สะทอ้ น ข. มุมตกกระทบเลก็ กวา่ มุมสะท้อน ค. มุมตกกระทบโตกวา่ มมุ สะท้อน ง. มุมตกกระทบอาจจะเลก็ หรือโตกว่ามมุ สะท้อนก็ได้ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 35 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

4. กระจกเงาราบ XY และ YZ วางเอียงทามุม 45o กับพื้นราบ รงั สขี องแสงตกกระทบด้าน XY ทามุม 30o กับระนาบ XY ดังรูป จงพิจารณาวา่ ขอ้ ความใดต่อไปนี้ถกู ต้อง X 30o Z 45o 45o Y ก. รังสีสะท้อนจากด้าน XY ไปยัง YZ ตง้ั ฉากกับพน้ื ราบ ข. รงั สีสะทอ้ นดา้ น YZ ทามุมสะทอ้ น 30o ค. รงั สสี ะท้อนด้าน YZ ทามุม 60o กบั เส้นแนวฉาก ง. รงั สตี กกระทบดา้ น XY และรังสสี ะท้อนดา้ น YZ ต้งั ฉากกนั 5. หญิงคนหน่ึงสูง 160 เซนติเมตร และมีดวงตาต่ากว่าส่วนท่ีสูงท่ีสุดในร่างกาย 10 เซนติเมตร หากต้องการส่องกระจกเงาราบ โดยทาให้มองเห็นได้ตลอดท้ังตัว กระจกต้องมีความยาวอย่างน้อย ท่สี ุดเท่าไร และต้องติดตงั้ กระจกให้สูงจากพื้นเปน็ ระยะเท่าใด ก. กระจกต้องมคี วามยาว 80 เซนตเิ มตร และอย่สู ูงจากพืน้ 85 เซนตเิ มตร ข. กระจกต้องมีความยาว 80 เซนติเมตร และอยสู่ งู จากพ้ืน 75 เซนติเมตร ค. กระจกต้องมีความยาว 160 เซนติเมตร และอยสู่ งู จากพื้น 80 เซนตเิ มตร ง. กระจกต้องมีความยาว 170 เซนตเิ มตร และอยู่สงู จากพ้ืน 75 เซนติเมตร 6. จุด C เป็นจดุ ศนู ย์กลางความโคง้ จุด F เป็นจดุ โฟกสั ถ้า XY เปน็ รังสตี กกระทบ รงั สีสะท้อน จะเป็นไปตามหมายเลขใด 1X Y2 CF 4 3 ง ก. เลข 4 ข. เลข 3 ค. เลข 2 ง. เลข 1 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 36 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

7. เมอ่ื วางวัตถหุ น้ากระจกโค้งนนู บานหนงึ่ ข้อใดต่อไปน้ีเป็นภาพของวตั ถุทเี่ กิดขน้ึ (1) ภาพจริง ขนาดเล็ก เทา่ และใหญ่กวา่ วัตถุ (2) ภาพเสมือน มีขนาดเทา่ วัตถุ (3) ภาพเสมือน มขี นาดใหญ่กว่าวัตถุ (4) ภาพเสมอื น มีขนาดเลก็ กวา่ วตั ถุ ก. (1) และ (2) เทา่ น้นั ข. (1) และ (3) เท่าน้นั ค. (3) เทา่ นั้น ง. (4) เท่านั้น 8. จากรูป กระจก A B C และ D ควรเปน็ กระจกชนดิ ใด ตามลาดบั A B วตั ถุ ภาพ วัตถุ ภาพ C วตั ถุ D วัตถุ ภาพ ภาพ ก. กระจกโคง้ เว้า กระจกโคง้ นนู กระจกราบ กระจกโค้งเว้า ข. กระจกโคง้ เวา้ กระจกโค้งเวา้ กระจกราบ กระจกโค้งเวา้ ค. กระจกโคง้ นูน กระจกโค้งนูน กระจกโค้งนนู กระจกโค้งเว้า ง. กระจกโค้งนูน กระจกโค้งนูน กระจกราบ กระจกโคง้ เวา้ 9. วัตถุสูง 6 เซนติเมตร วางอยู่หน้ากระจกโค้งทาให้เกิดภาพจริงหน้ากระจกขนาด 2 เซนติเมตร ห่างจากกระจก 8 เซนตเิ มตร จงหาความยาวโฟกสั ของกระจกโค้ง ก. 4 เซนตเิ มตร ข. 6 เซนติเมตร ค. 8 เซนตเิ มตร ง. 10 เซนตเิ มตร 10. เด็กคนหนึ่งสูง 100 เซนติเมตร ยืนห่างจากกระจกนูน 60 เซนติเมตร มองเห็นภาพตัวเอง ในกระจกสูง 60 เซนติเมตร กระจกนนู มรี ศั มคี วามโค้งกีเ่ ซนติเมตร ก. 45.0 เซนตเิ มตร ข. 22.5 เซนตเิ มตร ค. 49.0 เซนตเิ มตร ง. 24.5 เซนติเมตร ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 37 ชุดที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

กระดำษคำตอบหลังเรียนชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ชุดท่ี 1 เรื่อง ธรรมชำติและกำรสะทอ้ นของแสง ช่ือ – สกลุ .................................................................................ชน้ั ....................เลขท.่ี .................... คำสัง่ : จงเลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว แลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงใน กระดาษคาตอบ ข้อ ก ข ค ง คะแนนทไี่ ด้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ทาแบบทดสอบเสร็จแลว้ อยา่ ลืม! ตรวจคาตอบด้วยนะคะ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 38 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

บรรณำนกุ รม กล้องเปอรสิ โคป. (ม.ป.ป.). [Online]. เข้าถึงได้จาก : http://thaiadapp.com/product/upload/ photos/23499/201511270505520.jpg [2558, มนี าคม, 20] กลอ้ งเปอรสิ โคป. (ม.ป.ป.). [Online]. เขา้ ถึงได้จาก : http://www.vcharkarn.com/ uploads/21/21106.jpg [2558, มีนาคม, 20] จอห์นสัน คธี . (2551). ฟิสิกส์. (พมิ พ์ครงั้ ท่ี 9). กรงุ เทพฯ: พิมพ์ด.ี เฉลมิ ชัย มอญสขุ า. (2557). แนวข้อสอบฟิสิกส์ ม.ปลำย. กรงุ เทพฯ: เดอะบุคส์. ณรงค์ สังวาระนท.ี (ม.ป.ป.). หนงั สือเรยี นรำยวชิ ำเพิ่มเตมิ ฟสิ ิกส์ ชัน้ ม. 4-6 เล่ม 3. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทศั น์. ประโยชน์กระจกนูนและกระจกเวำ้ . (2555). [Online]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://sripai52.wordpress.com/กระจกนนู และกระจกเวา้ / [2558, มนี าคม, 20] ปรียา อนุพงษ์องอาจ. (ม.ป.ป.). แสง [Online]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://www.atom.rmutphysics.com/physics/oldfront/62/light1/ligh_1.htm [2558, มนี าคม, 15] พงษ์ศกั ดิ์ ชนิ นาบุญ. (ม.ป.ป.). ฟสิ กิ ส์ เล่ม 3 ม. 4-6. กรงุ เทพฯ: ออฟเซท็ พลสั . ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,สถาบัน. (2558). เมอ่ื ส่งิ ท่ีเห็นไมใ่ ช่สง่ิ ทเ่ี ปน็ . สสวท. [Online Serial]. เขา้ ถึงได้จาก : http://emagazine.ipst.ac.th/196/IPST196/assets/ common/downloads/IPST196.pdf [2558, กนั ยายน, 25] ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . (2555). หนังสอื เรียนรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ ฟสิ กิ ส์ เล่ม 3 ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 4-6. (พมิ พ์ครง้ั ท่ี 4). กรงุ เทพฯ: สกสค. ลาดพร้าว. ภัทรจติ สิทธศิ ร. (2555). ธรรมชำตขิ องแสง [Online]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/carefullpattara/hnwy-thi-2/1-1-thrrmchati- khxng-saeng [2558, มีนาคม, 15] ภำพกำลิเลโอ. (ม.ป.ป.). [Online]. เข้าถงึ ได้จาก : https://www.leifiphysik.de/sites/default/ files/medien/lanternanim_lichtaus_ver.gif [2558, มีนาคม, 15] ภำพทเี่ กิดจำกกระจกเงำ. (ม.ป.ป.). [Online]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.scimath.org/lesson- physics/item/7278-2017-06-13-14-46-38 [2558, มีนาคม, 20] สมพงษ์ ใจด.ี (2544). ฟิสิกส์ มหำวิทยำลัย 4. (พิมพค์ รัง้ ท่ี 2). กรุงเทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 39 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

บรรณำนกุ รม (ต่อ) สจุ ติ รา สหุ ร่าย. (ม.ป.ป.). กำรเดินทำงของแสงและตวั กลำง [Online]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/sm1mook1/ [2558, มีนาคม, 15] สุรศกั ด์ิ เชยี งกา. (2557). ทัศนศำสตรเ์ บอ้ื งตน้ . กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. แสงและกำรมองเหน็ . (ม.ป.ป.). [Online]. เข้าถงึ ได้จาก : http://www.nakhamwit.ac.th/ pingpong_web/Light.htm [2558, มนี าคม, 15] ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 40 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook