Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1 complete

1 complete

Published by wantana, 2020-05-27 03:36:59

Description: 1 complete

Search

Read the Text Version

3.2 แกส้ มกำรตำมท่ีวำงแผนไว้โดยใช้ขนั้ ตอนและหลกั กำรทำงคณติ ศำสตร์ t = 1.5×103s t= 1.5×103 min 60 t = 25 min ข้ันที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ ำก s v t = t = 4.5 ×1011 3×108 4.5 ×1011 1.5×103s = 3×108 s 1.5×103s = 1.5×103s สมการเปน็ จริง ∴ แสงจากดวงอาทติ ยจ์ ะต้องใช้เวลานาน 25 นาที จงึ จะเดินทางถงึ ดาวเคราะห์ดวงนั้น 3. ดาวฤกษ์ดวงหนง่ึ อยไู่ กลจากโลก 3 ปแี สง ถา้ ยานอวกาศใชอ้ ตั ราเรว็ 5 x 104 เมตร/วนิ าที จะใช้ เวลาเดินทางจากโลกถึงดาวฤกษ์ดวงน้ีก่ีปี วิธที ำ ข้ันที่ 1 ทำควำมเขำ้ ใจโจทย์ปัญหำ 1.1 สถำนกำรณ์ให้อะไรมำ s = 3 × 9.5 × 1015 m v = 5 × 104 m/s 1.2 สถำนกำรณ์ใหห้ ำอะไร t ขนั้ ท่ี 2 วำงแผนแกป้ ญั หำ 2.1 เลือกสมกำรท่ีสมั พันธก์ ับสถำนกำรณ์ s v t = 2.2 นกั เรยี นตอ้ งหำตวั แปรใดเพิม่ จำกท่ีโจทย์กำหนดหรือไม่ เพื่อใหเ้ พียงพอในกำรหำคำตอบ -ไมม่ ี- ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 94 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ข้ันที่ 3 ดำเนินกำรแก้ปัญหำ 3.1 แทนค่ำสมกำร t = 3 × 9.5 × 1015 5 × 104 3.2 แกส้ มกำรตำมที่วำงแผนไวโ้ ดยใชข้ น้ั ตอนและหลักกำรทำงคณติ ศำสตร์ t = 5.7 × 1011s t= 5.7 × 1011 ปี 365 × 24 × 60 × 60 t = 1.81×104 ปี ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ ำก s v t= 5.7 × 1011s = 3 × 9.5 × 1015 s 5 × 104 5.7 × 1011s = 5.7 × 1011s สมการเปน็ จรงิ ∴ ยานอวกาศเดินทางจากโลกถงึ ดาวฤกษ์ดวงน้ีจะใชเ้ วลา 1.81 x 104 ปี 4. ถา้ ตอ้ งการยงิ จรวดใหช้ นดวงอาทติ ย์ ในเวลา 1.6 ปีจะต้องทาใหจ้ รวดมีอัตราเร็วเท่าใด (กาหนดให้ ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ เทา่ กับ 1.5 x 1011 เมตร) วธิ ที ำ ขน้ั ท่ี 1 ทำควำมเข้ำใจโจทย์ปัญหำ 1.1 สถำนกำรณ์ใหอ้ ะไรมำ s = 1.5×1011 m t = 1.6 × 365 × 24 × 60 × 60 s 1.2 สถำนกำรณใ์ หห้ ำอะไร v ขน้ั ท่ี 2 วำงแผนแกป้ ญั หำ 2.1 เลือกสมกำรทส่ี มั พันธก์ ับสถำนกำรณ์ s t v = ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 95 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

2.2 นักเรียนตอ้ งหำตัวแปรใดเพ่มิ จำกท่ีโจทย์กำหนดหรือไม่ เพ่ือใหเ้ พยี งพอในกำรหำคำตอบ -ไม่มี- ขัน้ ที่ 3 ดำเนนิ กำรแกป้ ญั หำ 3.1 แทนค่ำสมกำร v = 1.6 × 1.5 × 1011 × 60 365 × 24 × 60 3.2 แกส้ มกำรตำมท่ีวำงแผนไวโ้ ดยใช้ข้นั ตอนและหลกั กำรทำงคณติ ศำสตร์ v = 2.97×103 m/s ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบไดจ้ ำก s t v = 2.97×103 m/s = 1.6 × 1.5 × 1011 × 60 m/s 365 × 24 × 60 2.97×103 m/s = 2.97×103 m/s สมการเป็นจรงิ ∴ ถา้ ต้องการยิงจรวดให้ชนดวงอาทิตยจ์ ะตอ้ งทาใหจ้ รวดมีอตั ราเร็ว 2.97 x 103เมตรต่อวินาที ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 96 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรแก้โจทยป์ ัญหำดว้ ยเทคนคิ กำรแกโ้ จทยป์ ัญหำของโพลยำ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ระดบั คะแนน แสดงวิธกี ารแกโ้ จทยป์ ัญหาด้วยเทคนิคการแกโ้ จทย์ปัญหาของโพลยาได้ 5 ถูกต้อง 4 ขน้ั ตอน หาคาตอบถูกต้องและตรวจคาตอบได้ถูกต้องทุกข้อ 4 แสดงวิธกี ารการแกโ้ จทย์ปัญหาดว้ ยเทคนิคการแก้โจทยป์ ัญหาของโพลยาได้ 3 ถกู ต้อง 4 ขน้ั ตอน หาคาตอบไมถ่ ูกตอ้ ง 2 แสดงวธิ ีการแก้โจทยป์ ญั หาด้วยเทคนคิ การแก้โจทยป์ ญั หาของโพลยาได้ 1 ถกู ต้อง 3 ข้ันตอน 0 แสดงวธิ ีการแก้โจทย์ปญั หาด้วยเทคนคิ การแก้โจทยป์ ญั หาของโพลยาได้ ถูกต้อง 2 ขน้ั ตอน แสดงวิธกี ารแก้โจทยป์ ัญหาด้วยเทคนิคการแก้โจทยป์ ัญหาของโพลยาได้ ถกู ต้อง 1 ขน้ั ตอน ไม่สามารถแสดงวธิ กี ารแกโ้ จทยป์ ญั หาด้วยเทคนิคการแก้โจทย์ปัญหา ของโพลยาไดถ้ ูกต้องเลย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 97 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1.1 SOL match จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. อธิบายได้ว่าแสงเคล่ือนที่ในแนวตรงด้วยอัตราเรว็ ที่สูงมากได้ 2. คานวณหาคา่ ปรมิ าณทเ่ี กย่ี วข้องกับอตั ราเรว็ ของแสงได้ เส้นรงั สีทีใ่ ชเ้ ขียน รงั สขี องแสง แทนแนวกำรเคลื่อนท่ขี องแสง s สมกำรกำรหำอัตรำเรว็ ของแสง v=t ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 98 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

กำรทดลองเพอ่ื วัดอตั รำเรว็ แสง อปี อลิต ฟีโซ โดยใชอ้ ุปกรณ์เฟอื ง อตั รำเร็วของแสง 299,792,458 เมตรต่อวนิ ำที 3 x 108 เมตรตอ่ วินำที สัญลกั ษณ์ c กำรทดลองเพ่อื วดั อัตรำเรว็ แสง กำลิเลโอ กำลิเลอี ด้วยกำรถือโคมไฟไปบนยอดเขำ กำรทดลองเพือ่ วัดอตั รำเร็วแสง โอเลำส์ โรเมอร์ โดยศึกษำจำกกำรเกดิ อุปรำคำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 99 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

แอลเบิร์ต ไมเคลสนั ไดร้ บั รำงวัลโนเบลเกย่ี วกบั กำรทดลองหำอัตรำเร็วของแสง 1 ปีแสง ระยะทำงทแี่ สงเคลอ่ื นที่ได้ใน 1 ปี มีค่ำ 9.5 x 1015 เมตร รศั มวี งโคจรของโลกรอบดวงอำทิตย์ 500 วนิ ำที เท่ำกบั 1.5 x 1011 เมตร 5,000 ปี จงหำเวลำทีแ่ สงจำกดวงอำทิตย์ เดนิ ทำงมำยงั โลก หำกต้องกำรเดินทำงไปยงั ดำวดวง หนง่ึ ซึง่ อยหู่ ำ่ งจำกโลก 1 ปแี สง ดว้ ยยำนอวกำศทม่ี คี วำมเร็ว 6 x 104 เมตรตอ่ วนิ ำที จะต้องใช้ เวลำเดินทำงก่ีปี ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 100 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เฉลยใบบันทกึ กิจกรรมที่ 1.2 กำรสะทอ้ นของแสง จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ อธิบายการสะทอ้ นของแสงและกฎการสะท้อนของแสงได้ กลุ่มท.่ี ......................................................... รำยชอ่ื สมำชกิ ในกลุ่ม 1..............................................................เลขที่................หนา้ ท่.ี ...................................... 2..............................................................เลขที่................หนา้ ท.ี่ ...................................... 3..............................................................เลขท.่ี ...............หนา้ ท.ี่ ...................................... 4..............................................................เลขท.่ี ...............หนา้ ที่....................................... 5..............................................................เลขที่................หนา้ ที่....................................... จดุ ประสงค์กำรทดลอง เพ่อื ศึกษาการสะท้อนของแสงบนวัตถุที่มีผวิ ราบและผวิ โคง้ วัสดุอุปกรณ์กำรทดลอง จานวน 1 กลอ่ ง 1. กลอ่ งแสง จานวน 1 บาน 2. กระจกเงาราบ จานวน 1 ชิ้น 3. โลหะผวิ โคง้ จานวน 3 แผน่ 4. กระดาษขาว A4 จานวน 1 แท่ง 5. ดนิ สอ จานวน 1 อัน 6. ไม้บรรทัด จานวน 1 อนั 7. ไมโ้ ปรแทรกเตอร์ จานวน 1 เครื่อง 8. หมอ้ แปลงโวลตต์ ่า จานวน 1 แผ่น 9. แผน่ ช่องแสง (1 ช่อง) ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 101 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

วิธกี ำรทดลอง 1. นากระจกเงาราบวางบนกระดาษขาว A4 ในแนวตั้ง ใชด้ นิ สอลากเส้นตามแนวผิวกระจก 2. ฉายแสงไปกระทบกบั กระจก จะปรากฏลาแสงสะท้อนกลบั มาจากกระจก 3. เขียนจุดบนกระดาษขาว A4 ท่ีลาแสงตกกระทบ 2 ตาแหนง่ และลาแสงสะทอ้ น 2 ตาแหน่ง 4. ลากเส้นรังสีตกกระทบ รังสสี ะท้อน และเส้นแนวฉากบนกระดาษขาว A4 5. วดั มุมตกกระทบและมุมสะทอ้ น 6. ทาการทดลองซ้าข้อ 1-5 เปลี่ยนจากกระจกเงาราบเปน็ โลหะผวิ โคง้ โดยฉายตกกระทบ ทัง้ ดา้ นผิวโค้งเวา้ และผิวโค้งนูน ผลกำรทดลอง แนวบนั ทกึ ผลการทดลอง 1. กรณกี ระจกราบ เสน้ แนวฉาก รงั สีตกกระทบ รังสีสะทอ้ น 30๐ 30๐ ภาพท่ี 1.32 การสะท้อนแสงของกระจกราบ (ทมี่ า : วาดและถ่ายภาพโดยนางสาววันทนา เก้าเอยี้ น) 2. กรณีโลหะผิวโค้งนูน เสน้ แนวฉาก รงั สีตกกระทบ รงั สสี ะท้อน 30๐ 30๐ ภาพท่ี 1.33 การสะท้อนแสงของผิวโค้งนูน (ทมี่ า : วาดและถ่ายภาพโดยนางสาววันทนา เกา้ เอยี้ น) ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 102 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

3. กรณโี ลหะผวิ โค้งเว้า เส้นแนวฉาก รังสีตกกระทบ รงั สสี ะทอ้ น 30๐ 30๐ ภาพที่ 1.34 การสะท้อนแสงของผิวโค้งเวา้ (ทีม่ า : วาดและถ่ายภาพโดยนางสาววนั ทนา เกา้ เอ้ียน) คำถำมหลังกำรทดลอง การสะท้อนของแสงเมื่อฉายกระทบกระเงาราบ ผิวโค้งเว้า และผิวโค้งนูนเป็นไปตามกฎการสะท้อน หรอื ไม่ อย่างไร แนวคาตอบ การสะท้อนของแสงเม่ือฉายกระทบกระเงาราบ ผิวโค้งเว้า และผิวโค้งนูน เป็นไปตามกฎการสะท้อนของแสง น่ันคือ รังสีตกกระทบ รังสีสะท้อนและเส้นแนวฉากอยู่ในระนาบ เดยี วกัน นอกจากน้ี มุมตกกระทบมีค่าเท่ากบั มุมสะท้อน สรุปผลกำรทดลอง แนวการสรุปผลการทดลอง จากผลการทดลอง เมื่อฉายแสงไปยังกระจกเงาราบ ผิวโค้งเว้า และผิวโค้งนูน แล้ววัดมุมตกกระทบและมุมสะท้อน พบว่า มุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน และรังสี ตกกระทบ รงั สีสะทอ้ นและเสน้ แนวฉากอย่ใู นระนาบเดยี วกนั อภปิ รำยผลกำรทดลอง แนวการอภิปรายผลการทดลอง จากผลการทดลองช้ีให้เห็นว่า การสะท้อนของแสง เม่ือฉายกระทบกระเงาราบ ผิวโค้งเว้า และผิวโค้งนูนจึงเป็นไปตามกฎการสะท้อนของแสง เน่ืองจาก มมุ ตกกระทบเทา่ กบั มมุ สะท้อน และรงั สีตกกระทบ รงั สีสะทอ้ นและเสน้ แนวฉากอยู่ในระนาบเดยี วกนั ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 103 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

เกณฑ์กำรพิจำรณำใหค้ ะแนนกำรเขยี นรำยงำนกำรทดลอง ประเด็นกำร ระดบั คะแนน ประเมิน 3 21 0 1. จดุ ประสงค์ กำรทดลอง กาหนด กาหนด กาหนด กาหนดจุดประสงค์ จดุ ประสงค์ การทดลอง การทดลอง จดุ ประสงค์ จุดประสงค์ ไม่สอดคล้องกบั สอดคล้องกับ การทดลอง การทดลองและ การทดลอง การทดลอง หรอื ไม่เขียน ถกู ต้องครบถว้ น จุดประสงค์ สอดคล้องกบั สอดคลอ้ งกับ การทดลอง การทดลอง การทดลอง วธิ กี ารทดลอง ไม่ถูกตอ้ ง หรอื ถกู ต้องเปน็ ถกู ต้องบางส่วน ไม่เขียนวิธีการ ทดลอง สว่ นใหญ่ 2. วธิ ี วิธกี ารทดลอง วธิ กี ารทดลอง วธิ กี ารทดลอง กำรทดลอง ถูกต้องสมบรู ณ์ ครบถ้วน ถกู ต้องเปน็ ถกู ต้องบางส่วน สว่ นใหญ่ 3. กำรบนั ทกึ บันทึกผล บันทกึ ผล บนั ทึกผล บันทึกผล ผลกำร การทดลองได้ การทดลอง การทดลอง การทดลอง ทดลอง ถกู ต้องครบถว้ น ถกู ต้องเป็น ถกู ต้องบางสว่ น ไม่ถูกตอ้ ง หรอื ส่วนใหญ่ ไม่บันทึกผลการ ทดลอง 4. สรปุ และ สรุปและอภิปราย สรปุ และอภิปราย สรุปและอภิปราย สรุปและอภิปราย อภปิ รำยผล ผลการทดลองได้ ผลการทดลอง ผลการทดลองได้ ผลการทดลอง กำรทดลอง ถกู ต้องครบถ้วน ถูกต้องเปน็ ถกู ต้องบางส่วน ไมถ่ ูกตอ้ ง หรอื ส่วนใหญ่ ไมส่ รุปและ อภิปรายผลการ ทดลอง คะแนนเตม็ 12 คะแนน 10-12 = ดมี ำก 7-9 = ดี 6-4 = พอใช้ 0-3 = ควรปรับปรุง ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 104 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เฉลยใบงำนท่ี 1.2 กำรสะท้อนของแสง จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ อธิบายการสะท้อนของแสงและกฎการสะท้อนของแสงได้ คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเขยี นรงั สีสะทอ้ นให้ถูกต้องตามกฎการสะทอ้ นของแสง 1. 2. 45๐ 45๐ 60๐ 60๐ 3. 4. 20๐20๐ 60๐ 60๐ 70๐ 30๐ 5. 6. 60๐ 60๐ 44005๐๐0๐ 50๐ 30๐ 30๐ 100๐ 50๐ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 105 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

เกณฑ์กำรให้คะแนนใบงำนท่ี 1.2 กำรสะทอ้ นของแสง เกณฑ์กำรให้คะแนน ระดบั คะแนน - เขียนรงั สสี ะท้อนไดถ้ ูกต้อง 2 - บอกคา่ ของมุมสะท้อนได้ถูกต้อง - สัดส่วนของภาพถูกต้อง 1.5 - เขยี นรังสสี ะท้อนไดถ้ ูกต้อง - บอกค่าของมมุ สะท้อนได้ถกู ตอ้ ง 1 - สัดสว่ นของภาพไม่ถกู ตอ้ ง - เขียนรงั สีสะท้อนได้ถูกต้อง 0 - บอกคา่ ของมุมสะท้อนไม่ถกู ตอ้ งหรอื ไมบ่ อกค่าของมมุ สะทอ้ น - สัดส่วนของภาพไม่ถกู ตอ้ ง - เขยี นรังสีสะท้อนไม่ถกู ต้องหรอื ไมเ่ ขียนรังสสี ะท้อน ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 106 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เฉลยใบงำนที่ 1.3 กำรเขียนรังสขี องแสงเมื่อวัตถุอยู่หนำ้ ผวิ สะท้อนรำบ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ เขยี นรงั สขี องแสงเพ่อื หาตาแหนง่ ขนาด และชนิดของภาพทีเ่ กิดจากกระจกเงาราบได้ คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นรงั สขี องแสงเพื่อหาตาแหน่งของภาพ พร้อมทงั้ บอกชนิด ลักษณะและ ตาแหนง่ ของภาพทีเ่ กดิ ข้ึน จากรปู ทก่ี าหนดให้ 1. วตั ถุ กระจกเงาราบ ภาพ ชนดิ ของภาพ ภาพเสมือน ลักษณะของภาพ เปน็ จุดเหมือนวตั ถุ p ตาแหน่งของภาพ อยู่หลังกระจก ระยะภาพเท่ากบั ระยะวตั ถุ 2. วัตถุ ภาพ กระจกเงาราบ ชนดิ ของภาพ ภาพเสมือน ลักษณะของภาพ เป็นจดุ เหมอื นวัตถุ ตาแหน่งของภาพ อยหู่ ลังกระจก ระยะภาพเท่ากบั ระยะวัตถุ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 107 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

3. กระจกเงาราบ วัตถุ ภาพ ชนดิ ของภาพ ภาพเสมือน ลกั ษณะของภาพ เป็นภาพหัวตั้ง ขนาดเท่ากับวตั ถุ p ตาแหนง่ ของภาพ อยู่หลงั กระจก ระยะภาพเทา่ กับระยะวตั ถุ 4. กระจกเงาราบ A วตั ถุ ภาพ B ชนดิ ของภาพ ภาพเสมือน ลักษณะของภาพ เป็นภาพหวั ตง้ั ขนาดเทา่ กบั วัตถุ p ตาแหน่งของภาพ อยูห่ ลังกระจก ระยะภาพเท่ากับระยะวัตถุ 5. กระจกเงาราบ ตามอง A ภาพ วตั ถุ B ชนดิ ของภาพ ภาพเสมือน ลักษณะของภาพ เปน็ ภาพหวั ตั้ง ขนาดเทา่ กับวัตถุ p ตาแหน่งของภาพ อยู่หลงั กระจก ระยะภาพเทา่ กบั ระยะวัตถุ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 108 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เกณฑ์กำรให้คะแนนใบงำนที่ 1.3 กำรเขียนรงั สีของแสงเม่ือวตั ถุอยู่หนำ้ ผิวสะท้อนรำบ ประเดน็ คะแนนเต็ม เกณฑ์กำรให้คะแนน ระดบั คะแนน การเขยี นรงั สีของแสงแสดง 2 การเกิดภาพ เขียนรังสไี ด้ถูกต้องทั้งหมด 1 0 การบอกชนิดของภาพ 2 เขียนรงั สีไม่ถูกต้อง 1-2 รังสี การบอกลักษณะของภาพ เขยี นรังสไี ม่ถกู ต้องต้งั แต่ 3 รงั สี 1 การบอกตาแหนง่ ของภาพ 0 ขึ้นไป 1 0 1 บอกชนิดของภาพได้ถกู ต้อง 1 บอกชนิดของภาพไม่ถกู ต้อง 0 1 บอกลกั ษณะของภาพได้ถูกต้อง บอกลักษณะของภาพไม่ถกู ต้อง 1 บอกตาแหนง่ ของภาพได้ถกู ต้อง บอกตาแหนง่ ของภาพไม่ถูกต้อง ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 109 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

เฉลยใบงำนที่ 1.4 กำรเกดิ ภำพของวตั ถุทีอ่ ยูห่ น้ำกระจกเงำโคง้ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ เขียนรังสีของแสงเพอื่ หาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพที่เกิดจากกระจกเงาโค้งได้ คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนเขยี นรังสีของแสงเพื่อหาตาแหน่งของภาพ พร้อมท้ังบอกชนดิ ขนาดและตาแหนง่ ของภาพทเี่ กิดข้นึ จากรูปทกี่ าหนดให้ 1. F C ภาพ ชนิดของภาพ ภาพจริง (หวั กลบั ) ขนาดของภาพ ใหญ่กวา่ วตั ถุ ตาแหน่งของภาพ อยู่หน้ากระจก ระยะห่างจากกระจกมากกว่า 2f 2. ภาพ FC ชนิดของภาพ ภาพจริง (หัวกลับ) ขนาดของภาพ เลก็ กว่าวัตถุ ตาแหนง่ ของภาพ อยหู่ นา้ กระจก ระยะหา่ งจากกระจกอยู่ระหว่าง f และ 2f ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 110 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

3. ภาพ CF ชนิดของภาพ เสมอื น (หัวต้ัง) ขนาดของภาพ เลก็ กวา่ วัตถุ ตาแหนง่ ของภาพ อยหู่ ลังกระจก ระยะห่างระหวา่ งกระจกน้อยกวา่ f 4. วัตถุหนง่ึ สงู 10 เซนตเิ มตร วางไวห้ นา้ กระจกโคง้ เว้าซง่ึ มีรศั มีความโค้ง 40 เซนติเมตร หา่ งจาก กระจก 30 เซนติเมตร จงหาตาแหน่ง ขนาด และชนิดของภาพทเี่ กดิ ขน้ึ ได้ โดยวิธีการเขียนทางเดนิ ของแสง (กาหนดให้ มาตราส่วน 1 cm : 10 cm ในการวาดภาพ) CF ภาพ ชนดิ ของภาพ ภาพจรงิ (หวั กลับ) ขนาดของภาพ ใหญ่กวา่ วัตถุ ตาแหน่งของภาพ อยู่หน้ากระจก ระยะหา่ งจากกระจกมากกว่า 2f 5. วตั ถุหนึง่ สงู 10 เซนติเมตร วางไวห้ นา้ กระจกโคง้ นูนซง่ึ มีความยาวโฟกัส 20 เซนติเมตร ห่างจาก กระจก 40 เซนติเมตร จงหาตาแหน่ง ขนาด และชนดิ ของภาพทเ่ี กิดข้ึนได้ โดยวธิ กี ารเขียนทางเดิน ของแสง (กาหนดให้ มาตราส่วน 1 cm : 10 cm ในการวาดภาพ) ภาพ CF ชนิดของภาพ เสมอื น (หวั ตัง้ ) ขนาดของภาพ เลก็ กว่าวัตถุ ตาแหน่งของภาพ อยู่หลังกระจก ระยะห่างระหว่างกระจกนอ้ ยกวา่ f ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 111 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนใบงำนที่ 1.4 กำรเกดิ ภำพของวตั ถุท่ีอยู่หน้ำกระจกเงำโค้ง ประเด็น คะแนนเตม็ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ระดบั คะแนน การเขียนรงั สขี องแสงแสดง 2 การเกิดภาพ เขยี นรงั สไี ด้ถูกต้องท้งั หมด 1 0 การบอกชนิดของภาพ 2 เขียนรงั สไี ม่ถกู ต้อง 1-2 รังสี การขนาดของภาพ เขยี นรังสไี ม่ถกู ต้องตั้งแต่ 3 รังสี 1 การบอกตาแหนง่ ของภาพ 0 ขนึ้ ไป 1 0 1 บอกชนิดของภาพได้ถกู ต้อง 1 บอกชนดิ ของภาพไม่ถูกต้อง 0 1 บอกขนาดได้ถกู ต้อง บอกขนาดไมถ่ ูกตอ้ ง 1 บอกตาแหน่งของภาพได้ถกู ต้อง บอกตาแหนง่ ของภาพไม่ถกู ต้อง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 112 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เฉลยใบงำนที่ 1.5 กำรคำนวณหำตำแหนง่ ขนำดและชนิดของภำพท่เี กดิ จำกกระจกเงำโคง้ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ คานวณหาตาแหน่ง ขนาดและชนิดของภาพท่เี กดิ จากกระจกเงาโค้งได้ คำช้ีแจง ให้นกั เรียนแสดงวธิ ที าแกโ้ จทยป์ ัญหาตอ่ ไปน้ี 1. กระจกโค้งนนู มรี ัศมีความโคง้ 60 เซนตเิ มตร เม่อื วางวัตถสุ งู 5 เซนตเิ มตรหา่ งจากกระจกเปน็ ระยะ 15 เซนติเมตร จงหาตาแหน่ง ขนาด และชนดิ ของภาพ วธิ ีทำ วตั ถุ y = 5 cm เสน้ แกนมุขสาคญั C s = 15 cm R = 60 cm ขน้ั ท่ี 1 ทำควำมเข้ำใจโจทย์ปญั หำ 1.1 สถำนกำรณใ์ ห้อะไรมำ R = - 60 cm s = + 15 cm y = +5 cm 1.2 สถำนกำรณ์ใหห้ ำอะไร s' และ y' ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 113 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

ขั้นท่ี 2 วำงแผนแกป้ ัญหำ 2.1 เลอื กสมกำรทส่ี ัมพันธ์กบั สถำนกำรณ์ 1 = 1 + 1 และ y' = s' y s f s s' 2.2 นกั เรยี นตอ้ งหำตวั แปรใดเพิม่ จำกท่ีโจทย์กำหนดหรือไม่ เพือ่ ใหเ้ พียงพอในกำรหำคำตอบ R f = 2 = - 30 cm ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ 3.1 แทนคำ่ สมกำร 10 15 1 = 1 + 1 และ y' = - 30 15 s' 5 3.2 แก้สมกำรตำมท่ีวำงแผนไว้โดยใช้ขน้ั ตอนและหลักกำรทำงคณิตศำสตร์ s' = - 10 cm และ y' = 3.33 cm พิจารณาจากเคร่ืองหมายของ s' มเี ครื่องหมายเปน็ ลบ แสดงว่าเป็นภาพเสมือน ขั้นท่ี 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จำก 1 = 1 + 1 และ y' = s' y s f s s' 10 15 1 = 1 + 1 และ y' = - 30 15 s' 5 10 1 1 1 3.33 15 = + และ = - 30 15 -10 5 -0.03 = -0.03 และ 0.67 = 0.67 สมการเป็นจรงิ ∴ ภาพทเ่ี กิดขึน้ เป็นภาพเสมือนอยู่หลังกระจกห่างจากกระจก 10 เซนติเมตร มีขนาด 3.33 เซนตเิ มตร ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 114 ชุดท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

2. ทนั ตแพทย์ถอื กระจกโคง้ เว้าทม่ี ีความยาวโฟกัส 2 เซนตเิ มตร หา่ งจากฟันทต่ี ้องการอดุ เป็นระยะ 1เซนติเมตร ทนั ตแพทย์จะเห็นฟันในกระจกขยายเปน็ กี่เทา่ วธิ ีทำ วัตถุ เสน้ แกนมขุ สาคญั F f = 2 cm s = 1 cm ขน้ั ท่ี 1 ทำควำมเข้ำใจโจทย์ปัญหำ 1.1 สถำนกำรณใ์ ห้อะไรมำ f = + 2 cm s = + 1 cm 1.2 สถำนกำรณ์ใหห้ ำอะไร M ขน้ั ท่ี 2 วำงแผนแก้ปญั หำ 2.1 เลือกสมกำรท่สี ัมพนั ธ์กบั สถำนกำรณ์ f M= s-f 2.2 นกั เรียนตอ้ งหำตัวแปรใดเพม่ิ จำกที่โจทย์กำหนดหรือไม่ เพือ่ ใหเ้ พยี งพอในกำรหำคำตอบ - ไม่มี - ข้นั ที่ 3 ดำเนนิ กำรแกป้ ญั หำ 3.1 แทนค่ำสมกำร 2 1-2 M= 3.2 แก้สมกำรตำมท่ีวำงแผนไวโ้ ดยใชข้ นั้ ตอนและหลกั กำรทำงคณติ ศำสตร์ M=-2 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 115 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จำก f s- M = f M= 2 1-2 2 -2 = 1-2 -2 = -2 สมการเป็นจรงิ ∴ ทนั ตแพทย์จะเหน็ ฟนั ในกระจกขยายเป็น 2 เท่า 3. กระจกเงาโค้งบานหน่ึงทาให้เกิดภาพบนฉากขยายเป็น 5 เท่าของวตั ถุ ที่ระยะห่างจากกระจก 10 เซนติเมตร จงหาว่ากระจกบานนี้เป็นกระจกชนิดใด และความยาวโฟกสั ของกระจก วิธที ำ เส้นแกนมุขสาคญั F s' = 10 cm ภาพ ขนั้ ที่ 1 ทำควำมเข้ำใจโจทย์ปญั หำ 1.1 สถำนกำรณใ์ หอ้ ะไรมำ M = + 5 (ภาพเกิดบนฉากเป็นภาพจริง) s' = + 10 cm (ภาพจริงเกิดหน้ากระจก) 1.2 สถำนกำรณ์ใหห้ ำอะไร f ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 116 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

ขน้ั ท่ี 2 วำงแผนแกป้ ัญหำ 2.1 เลอื กสมกำรท่ีสมั พันธก์ ับสถำนกำรณ์ M = s' - f f 2.2 นกั เรยี นต้องหำตวั แปรใดเพิม่ จำกท่ีโจทย์กำหนดหรือไม่ เพือ่ ใหเ้ พียงพอในกำรหำคำตอบ - ไมม่ ี - ข้นั ท่ี 3 ดำเนินกำรแกป้ ญั หำ 3.1 แทนคำ่ สมกำร 10 - f f 5 = 3.2 แก้สมกำรตำมท่ีวำงแผนไว้โดยใชข้ ัน้ ตอนและหลกั กำรทำงคณติ ศำสตร์ f = 1.67 cm ขัน้ ท่ี 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จำก M = s' - f f 10 - f 5 = f 5 = 10 -1.67 1.67 5 = 5 สมการเปน็ จรงิ ∴ กระจกบานนเี้ ป็นกระจกโค้งเวา้ เน่ืองจากเกดิ ภาพจริง มีความยาวโฟกสั 1.67 เซนติเมตร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 117 ชุดที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

4. กระจกโค้งนูนบานหนงึ่ มกี าลังขยาย 0.50 เมอ่ื วางวัตถุห่างจากกระจกเงา 2 เมตร จงหาระยะภาพ และความยาวโฟกสั ของกระจก วธิ ีทำ วตั ถุ เส้นแกนมขุ สาคัญ s=2m ขน้ั ท่ี 1 ทำควำมเข้ำใจโจทย์ปญั หำ 1.1 สถำนกำรณใ์ ห้อะไรมำ M = - 0.50 (กระจกโคง้ นนู เกิดภาพเสมอื น) s=+2m 1.2 สถำนกำรณ์ให้หำอะไร s' และ f ขนั้ ท่ี 2 วำงแผนแก้ปญั หำ 2.1 เลือกสมกำรทส่ี มั พันธ์กบั สถำนกำรณ์ s' f s M= s-f และ M= 2.2 นกั เรียนตอ้ งหำตัวแปรใดเพ่มิ จำกท่โี จทย์กำหนดหรือไม่ เพอ่ื ใหเ้ พียงพอในกำรหำคำตอบ ขั้นท่ี 3 ดำเนนิ กำรแก้ปญั หำ 3.1 แทนคำ่ สมกำร f s' 2-f 2 - 0.5 = และ - 0.5 = 3.2 แก้สมกำรตำมที่วำงแผนไว้โดยใชข้ ้นั ตอนและหลกั กำรทำงคณติ ศำสตร์ f = - 2 m และ s' = - 1 m ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 118 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

ข้นั ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จำก f s' s-f s M= และ M= - 0.5 = f และ - 0.5 = s' 2-f 2 -2 -1 - 0.5 = 2 -(-2) และ - 0.5 = 2 - 0.5 = - 0.5 และ - 0.5 = - 0.5 สมการเป็นจรงิ ∴ ระยะภาพเท่ากบั 1 เมตร (หลังกระจก) และความยาวโฟกัสของกระจกเทา่ กบั 2 เมตร 5. วตั ถสุ งู 3 เซนติเมตร อย่หู ่างจากกระจกเงาเว้าเป็นระยะ 9 เซนตเิ มตร ปรากฏว่าเกิดภาพขน้ึ บน ฉากด้านหลังวัตถุ ขนาดของภาพทเ่ี กดิ สงู 6 เซนติเมตร จงหาระยะห่างระหวา่ งวตั ถุกับฉาก วธิ ีทำ วัตถุ เส้นแกนมขุ สาคัญ y = 3 cm y' = 6 cm s = 9 cm ภาพ ขน้ั ที่ 1 ทำควำมเขำ้ ใจโจทย์ปัญหำ 1.1 สถำนกำรณใ์ ห้อะไรมำ y = 3 cm s = + 9 cm y' = 6 cm 1.2 สถำนกำรณใ์ หห้ ำอะไร ระยะห่ำงระหว่ำงวัตถกุ บั ฉำก = s'- s ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 119 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะทอ้ นของแสง

ขน้ั ที่ 2 วำงแผนแก้ปัญหำ 2.1 เลอื กสมกำรท่ีสมั พนั ธก์ บั สถำนกำรณ์ s' y' s y = 2.2 นักเรยี นต้องหำตวั แปรใดเพ่ิมจำกทีโ่ จทย์กำหนดหรือไม่ เพอ่ื ให้เพียงพอในกำรหำคำตอบ s' ขนั้ ที่ 3 ดำเนนิ กำรแกป้ ัญหำ 3.1 แทนคำ่ สมกำร s' 6 9 3 = 3.2 แก้สมกำรตำมที่วำงแผนไว้โดยใช้ขนั้ ตอนและหลกั กำรทำงคณติ ศำสตร์ s' = 18 cm ระยะหา่ งระหว่างวัตถุกบั ฉาก = 18 – 9 = 9 cm ขน้ั ที่ 4 ตรวจสอบผล ตรวจสอบได้จำก s' y' s y = 18 = 6 9 3 2 =2 สมการเป็นจริง ∴ ระยะห่างระหวา่ งวตั ถกุ ับฉากเทา่ กบั 9 เซนติเมตร ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 120 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เกณฑ์กำรให้คะแนนกำรแกโ้ จทย์ปัญหำดว้ ยเทคนคิ กำรแกโ้ จทย์ปญั หำของโพลยำ เกณฑ์กำรให้คะแนน ระดบั คะแนน แสดงวธิ กี ารแกโ้ จทย์ปัญหาด้วยเทคนคิ การแกโ้ จทยป์ ญั หาของโพลยาได้ 5 ถูกต้อง 4 ขน้ั ตอน หาคาตอบถูกต้องและตรวจคาตอบได้ถูกต้องทกุ ขอ้ 4 แสดงวธิ กี ารการแก้โจทย์ปญั หาดว้ ยเทคนคิ การแกโ้ จทยป์ ัญหาของโพลยาได้ 3 ถกู ต้อง 4 ขั้นตอน หาคาตอบไมถ่ ูกต้อง 2 แสดงวิธกี ารแก้โจทยป์ ญั หาด้วยเทคนคิ การแกโ้ จทยป์ ญั หาของโพลยาได้ 1 ถูกต้อง 3 ขั้นตอน 0 แสดงวิธกี ารแก้โจทย์ปัญหาด้วยเทคนคิ การแกโ้ จทย์ปัญหาของโพลยาได้ ถกู ต้อง 2 ข้นั ตอน แสดงวธิ กี ารแก้โจทยป์ ญั หาด้วยเทคนคิ การแก้โจทยป์ ญั หาของโพลยาได้ ถูกต้อง 1 ขน้ั ตอน ไมส่ ามารถแสดงวธิ กี ารแกโ้ จทยป์ ัญหาด้วยเทคนิคการแก้โจทยป์ ญั หา ของโพลยาได้ถูกต้องเลย ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 121 ชุดท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะทอ้ นของแสง

เฉลยใบกิจกรรมท่ี 1.3 ประโยชนข์ องกระจกเงำรำบ และกระจกเงำโค้ง จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ยกตัวอยา่ งและอธบิ ายประโยชนข์ องกระจกเงาราบ กระจกเงาเวา้ และกระจกเงานนู ในชวี ติ ประจาวันได้ ตัวอยำ่ งกำรสบื ค้น เรือ่ ง ประโยชนข์ องกระจกเงาราบ กระจกเงาเวา้ และกระจกเงานนู ใน ชีวิตประจาวนั ประโยชน์ของกระจกเงาราบ สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ดงั นี้ - เปน็ ส่วนประกอบของกล้องเปอริสโคป ทใ่ี ห้ส่องดวู ัตถุที่อยู่สงู กว่าระดับสายตา ภาพท่ี 1.35 กล้องเปอรสิ โคป (ทีม่ า : http://thaiadapp.com/product/upload/photos/23499/201511270505520.jpg http://www.vcharkarn.com/uploads/21/21106.jpg, เขา้ ถงึ ขอ้ มูลเมื่อวนั ที่ 20 เดอื นมีนาคม พ.ศ.2558) - ใชใ้ นการตกแต่งร้านคา้ เพอื่ ใหม้ องดูกวา้ งข้ึน ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 122 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

ประโยชนข์ องกระจกเงาเวา้ ภาพจริงมที ัง้ ขนาดเลก็ กว่าวัตถุ ขนาดเทา่ วัตถุ และขนาด ใหญก่ ว่าวตั ถุ ภาพจริงอยู่หนา้ กระจก แต่เกิดภาพเสมือนขนาดใหญก่ วา่ วตั ถุ อย่หู ลงั กระจกเท่าน้นั จงึ สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ดังน้ี - กระจกท่ีแพทยใ์ ชใ้ นการทาฟัน ทาจากกระจกโค้งเวา้ เนื่องจากต้องการเห็นฟนั เป็น ภาพเสมอื นขนาดใหญ่ ภาพท่ี 1.36 กระจกตรวจฟนั (ท่มี า : https://sripai52.wordpress.com/กระจกนูนและกระจกเวา้ / เข้าถงึ ข้อมลู เม่ือวนั ท่ี 20 เดือนมีนาคม พ.ศ.2558) - ไฟฉาย ชว่ ยในการสะท้อนรวมแสง ภาพที่ 1.37 ไฟฉาย (ทมี่ า : https://sripai52.wordpress.com/กระจกนนู และกระจกเว้า/ เขา้ ถงึ ข้อมลู เมื่อวนั ที่ 20 เดือนมนี าคม พ.ศ.2558) ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 123 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

- เปน็ สว่ นประกอบในกลอ้ งโทรทรรศนป์ ระเภทสะท้อนแสง ภาพท่ี 1.38 กล้องโทรทรรศน์ประเภทสะท้อนแสง (ท่ีมา : https://sripai52.wordpress.com/กระจกนูนและกระจกเว้า/ เขา้ ถึงข้อมูลเมื่อวนั ที่ 20 เดอื นมีนาคม พ.ศ.2558) ประโยชน์ของกระจกเงานูน เนื่องจากกระจกเงานนู สะท้อนเหน็ ภาพในมมุ กว้าง จงึ สามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ดังนี้ - กระจกมองหลงั ของรถ ภาพท่ี 1.39 กระจกมองหลงั ของรถ (ทม่ี า : http://www.scimath.org/lesson-physics/item/7278-2017-06-13-14-46-38 เขา้ ถึงข้อมูลเม่ือวนั ที่ 20 เดือนมนี าคม พ.ศ.2558) ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง แสงและทศั นอปุ กรณ์ 124 ชดุ ที่ 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

- กระจกท่ีติดตามแยก ภาพที่ 1.40 กระจกทต่ี ิดตามแยก (ท่มี า : https://sripai52.wordpress.com/กระจกนนู และกระจกเว้า/ เขา้ ถึงข้อมลู เมื่อวันท่ี 20 เดือนมนี าคม พ.ศ.2558) - กระจกตดิ ในร้านคา้ ภาพท่ี 1.41 กระจกตดิ ในร้านคา้ (ท่มี า : http://www.scimath.org/lesson-physics/item/7278-2017-06-13-14-46-38 เขา้ ถงึ ข้อมูลเมอ่ื วันท่ี 20 เดือนมนี าคม พ.ศ.2558) ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 125 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

- กระจกตดิ รถจกั รยานยนต์ ภาพที่ 1.42 กระจกตดิ รถจักรยานยนต์ (ที่มา : https://sripai52.wordpress.com/กระจกนนู และกระจกเวา้ / เขา้ ถงึ ข้อมูลเมื่อวนั ท่ี 20 เดอื นมีนาคม พ.ศ.2558) ทมี่ าของการสืบค้นข้อมูล http://www.scimath.org/lesson-physics/item/7278-2017-06-13-14-46-38 http://slideplayer.in.th/slide/2796129/ http://www.atom.rmutphysics.com/charud/oldnews/231/Light2.htm ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 126 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาติและการสะท้อนของแสง

เกณฑก์ ำรประเมินผลงำน ประเด็นกำร ระดบั คณุ ภำพ ประเมิน ดีมำก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) กำรออกแบบ รปู แบบนาเสนอ รปู แบบนาเสนอ รปู แบบนาเสนอ รูปแบบนาเสนอ กำรใชภ้ ำษำ โดดเดน่ นา่ สนใจ น่าสนใจ น่าสนใจ มกี าร ไม่น่าสนใจ มีการ เนือ้ หำ มาก มีการ มีการนาเสนอทงั้ นาเสนอข้อความ นาเสนอข้อความ รปู ภำพ สสี นั นาเสนอทงั้ ขอ้ ความและ มากเกนิ ไป มีการ มากเกินไป ไมม่ ี ข้อความและ รูปภาพอย่าง อ้างองิ ทม่ี าได้ การอา้ งอิงที่มา รูปภาพอย่าง เหมาะสม ถกู ต้อง เหมาะสม มีการ มีการอ้างอิงท่มี า แตไ่ ม่ครบถ้วน อา้ งองิ ได้ถูกต้อง ได้ถูกตอ้ งแตไ่ ม่ ครบถว้ น ครบถ้วน ใช้ภาษา ใชภ้ าษา ใชภ้ าษา ใชภ้ าษา ทถี่ กู ต้อง ท่ถี กู ต้อง ทถ่ี กู ต้อง ท่ีถูกต้อง ส่ือความหมายได้ ส่อื ความหมายได้ ส่อื ความหมายได้ สอื่ ความหมายได้ ชัดเจนท้ังหมด ชดั เจน ชดั เจนเป็นสว่ น แต่มีพิมพ์ผิดมาก เป็นส่วนใหญ่ ใหญ่ แตม่ ีพิมพ์ ผิดเปน็ บางสว่ น เนื้อหาถูกต้อง เนื้อหาถูกตอ้ ง เนื้อหาถูกต้อง เนื้อหาถูกต้อง ครบถ้วน ครบถ้วน แตไ่ ม่ครบถ้วน บางส่วน เรยี งลาดบั เรยี งลาดบั และเรยี งลาดบั เรียงลาดบั วกวน การนาเสนอดี การนาเสนอดี วกวน จดั แบ่งตอนได้ เหมาะสม ขนาดของรูปภาพ ขนาดของรูปภาพ ขนาดของรูปภาพ ขนาดของรูปภาพ เหมาะสม ชดั เจน เหมาะสม เหมาะสม แต่ไม่ เลก็ เกนิ ไป และ มคี วามคมชดั แต่ไม่คมชัดบาง คมชัด ไมช่ ัดเจน ภาพ ใชส้ ีสนั เหมาะสม ใช้สีสันเหมาะสม ใช้สีสนั เหมาะสม ใช้สสี ันไม่ สวยงาม สวยงาม แตด่ ูแลว้ ไม่ค่อย เหมาะสม ดูแลว้ ดแู ลว้ สบายตา สบายตา ไม่ค่อยสบายตา คะแนนเตม็ 20 คะแนน 11-15 = ดี 16-20 = ดมี ำก 1-5 = ควรปรับปรุง 6-10 = พอใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 127 ชดุ ท่ี 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน กอ่ นเรยี น หลังเรยี น ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10  10  ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง แสงและทัศนอปุ กรณ์ 128 ชุดที่ 1 ธรรมชาตแิ ละการสะท้อนของแสง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook