Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1. ตำราฝึกสอนภายในหน่วย unit school การปฏิบัติศาสน

1. ตำราฝึกสอนภายในหน่วย unit school การปฏิบัติศาสน

Published by phansummath, 2019-10-25 04:43:14

Description: 1. ตำราฝึกสอนภายในหน่วย unit school การปฏิบัติศาสน

Search

Read the Text Version

ก กองทัพบก แผนบทเรยี นการฝกสอนภายในหนว ย Unit school เรอ่ื ง การปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ที างทหาร ---------------------------- พ.ศ.๒๕๕๗

ก คํานาํ แผนบทเรียนการฝกสอนภายในหนวย Unit school เร่ือง การปฏิบัติศาสนพิธีทาง ทหาร ฉบับน้ีไดจัดทําขึ้นสําหรับเปนคูมือ ในการจัดการเรียน การสอน และการฝกของหนวย เพื่อเปนการเพ่ิมพูนความรูใหกับกําลังพลที่เกี่ยวของกับการปฏิบัติศาสนพิธีทางทหารของ หนวย เพื่อใหเ กิดความเขา ใจและดาํ เนินการปฏิบัตศิ าสนพิธไี ดอยา งมปี ระสิทธภิ าพ ในการจัดทําเอกสารฉบับนี้ หากมีขอคิดเห็นเพิ่มเติมประการใด สามารถสงคําแนะนํา ไปไดท่ีแผนกวิชาการและการศึกษา กองอนุศาสนาจารย กรมยุทธศึกษาทหารบก เพ่ือเปน ประโยชนใ นการปรับปรุงแกไขตอ ไป กองอนุศาสนาจารย กรมยุทธศกึ ษาทหารบก พฤศจิกายน ๒๕๕๗

ข . สารบญั .หนา คํานาํ ............................................................................................................................... ก แผนบทเรยี นการฝกสอนภายในหนว ย (Unit School) ....................................................๑ ศาสนพิธเี บอื้ งตน .............................................................................................................๑ พิธสี ถาปนาหนวย......................................................................................................... ๑๔ พธิ ีบวงสรวง...................................................................................................................... ๑๕ พิธีสงฆ.............................................................................................................................. ๑๕ พธิ เี กี่ยวกับศพทหาร ..................................................................................................... ๑๗ พธิ ีสง ศพ........................................................................................................................... ๑๘ พธิ รี ับศพ........................................................................................................................... ๑๙ พิธรี ดนํ้าศพ ...................................................................................................................... ๒๑ พธิ ีสวดพระอภธิ รรม ......................................................................................................... ๒๒ พธิ พี ระราชทานเพลิง........................................................................................................ ๒๔ พิธีเก็บอัฐิ.......................................................................................................................... ๒๕ พธิ ีลอยองั คาร................................................................................................................... ๒๗ พิธเี วยี นเทียนวนั สําคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ................................................................. ๓๙ วันวสิ าขบชู า..................................................................................................................... ๔๐ วันอาสาฬหบชู า................................................................................................................ ๔๐ วันมาฆบชู า....................................................................................................................... ๔๑ พิธีแสดงตนเปน พทุ ธมามกะ.......................................................................................... ๔๑ คาํ กลาวรายงานประธาน .................................................................................................. ๔๓ คํากลา วแสดงตนเปน พุทธมามกะ..................................................................................... ๔๔ คํากลา วปฏญิ าณตนเขารว มพัฒนาจรยิ ธรรม.................................................................... ๔๕ โอวาทของประธานในพธิ ี.................................................................................................. ๔๖ ภาคผนวก..................................................................................................................... ๔๗ แบบประเมนิ ภาคทฤษฎี ................................................................................................... ๔๘ แบบประเมินภาคปฏบิ ัติ ................................................................................................... ๕๒ คณะกรรมการตรวจชาํ ระ................................................................................................. ๕๙

๑ แผนบทเรียนการฝก สอนภายในหนว ย (Unit school) ๑. ความมุงหมาย ๑.๑ เพื่อใหก ารปฏบิ ัติศาสนพิธที างทหารของหนว ยในกองทพั บก ดาํ เนินไปดว ยความ เรียบรอยเปน ไปตามมาตรฐาน และสอดคลอ งกับนโยบายการศกึ ษาของกองทพั บก พ.ศ.๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ ๑.๒ เพือ่ ใหหนว ยที่มคี วามเก่ียวขอ งกบั การจัดศาสนพิธีทางทหารของหนวยใชเ ปน มาตรฐาน ในการวางแผนการจัดงาน เตรยี มการ และออกคาํ สั่งการปฏบิ ัติ ดําเนนิ การปฏิบตั ิ ควบคมุ กํากบั ดแู ล และประสานการปฏิบัตใิ นเร่ืองการสนับสนนุ การปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ีทางทหารใหสอดคลอ งกบั การปฏบิ ัติแต ละขนั้ ตอน เพ่อื ปองกนั ไมใหก ารปฏบิ ตั ิศาสนพิธที างทหารชะงักหรือเสียผล อันเนื่องมาจากการสนบั สนุน ไมส อดคลองกบั ความตอ งการในการปฏบิ ัติ ๑.๓ เพอ่ื ใหท กุ หนว ยดําเนนิ การฝก ใหเ ปน ไปตามขึ้นตอนฝกปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ที างทหาร ๑.๔ เพอื่ เปน พื้นฐานในการจดั ทาํ คาํ สั่งการสนับสนุนการปฏิบตั ิศาสนพิธีทางทหารของหนว ย ตอ ไป ๒. วตั ถุประสงค ๒.๑ เพื่อเปน เครือ่ งมือของผบู งั คับบัญชาและเหลา สายวทิ ยาการในการกํากบั ดูแลการ ปฏิบตั ิศาสนพิธีทางทหารของหนวยตาง ๆ ๒.๒ เพอ่ื ใชส าํ หรบั การควบคุมใหหนว ยสามารถทาํ การปฏบิ ัติศาสนพิธที างทหารใหค รบถวน ครอบคลุม ๒.๓ เพ่ือการปฏิบัตศิ าสนพิธีทางทหารทสี่ าํ คัญของหนวยเปนมาตรฐานเดียวกนั ๓. ขอบเขตการฝกสอน การปฏิบัตศิ าสนพธิ ที างทหารท่เี ก่ียวของกับหนว ย มดี ังตอ ไปน้ี ๓.๑ ศาสนพธิ เี บ้ืองตน ๓.๑.๑ การจดั สถานทท่ี าํ บญุ ๓.๑.๒ การนิมนตพ ระสงฆ ๓.๑.๓ การใชด ายสายสญิ จน ๓.๑.๔ เทยี นชนวน ๓.๑.๕ การอาราธนาสําหรับพธิ ีกร ๓.๑.๖ การจุดเทยี นน้ํามนต ๓.๑.๗ การถวายขา วบูชาพระพุทธ ๓.๑.๘ การลาขาวบูชาพระพุทธ ๓.๑.๙ การจัดภตั ตาหารถวายพระสงฆ ๓.๑.๑๐ การประเคนของพระ ๓.๑.๑๑ การปฏิบัติในการกรวดน้าํ ๓.๒ พิธสี ถาปนาหนว ย ๓.๒.๑ พิธีบวงสรวง ๓.๒.๒ พิธีสงฆ ๓.๓ พิธีเกีย่ วกับศพทหาร ๓.๓.๑ พิธีสง ศพทหาร ๓.๓.๒ พิธีรบั ศพทหาร

๒ ๓.๓.๓ พธิ รี ดน้าํ ศพทหาร ๓.๓.๔ พิธีสวดพระอภธิ รรมศพทหาร ๓.๓.๕ พธิ ีพระราชทานเพลงิ ศพทหาร ๓.๓.๖ พิธีเก็บอัฐิ ๓.๓.๗ พิธีลอยอังคาร ๓.๔ พธิ เี วียนเทียนวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ๓.๔.๑ วนั วิสาขบูชา ๓.๔.๒ วนั อาสาฬหบูชา ๓.๔.๓ วนั มาฆบชู า ๓.๕ พธิ ีแสดงตนเปนพทุ ธมามกะของทหาร ๔. ผเู ขารบั การฝกสอน : กําลังพลของหนวย ๕. โครงสรา งการจดั การสอน ๕.๑ กองอาํ นวยการ มีหนาทกี่ าํ หนดนโยบาย วางแผน อํานวยการ และประสานงาน รวมทงั้ ใหค ําแนะนําสว นตาง ๆ เพอื่ ใหการสอนดําเนินไปดวยความเรียบรอย และบรรลุผลตามวัตถุประสงค (ผอ.กอศจ.ยศ.ทบ., รอง ผอ.กอศจ.ยศ.ทบ.) ๕.๒ สวนดําเนินการ มีหนา ทดี่ าํ เนนิ การใหก ารฝกสอนเปนไปตามนโยบาย และแนวทางท่ี กาํ หนด (หน.อบรม กอศจ.ยศ.ทบ.,หน.วชิ าการและการศกึ ษา กอศจ.ยศ.ทบ.,หน.ศาสนพธิ ี กอศจ.ยศ.ทบ.) ๕.๓ สวนสนับสนนุ มีหนาทใ่ี หก ารสนบั สนนุ ทงั้ ปวง (หน.กําลังพล กอศจ.ยศ.ทบ., ธก.กอศจ. ยศ.ทบ.) ๖. หว งเวลาในการเรียนการสอน การสอนจะแบงออกเปน ๔ ขัน้ ตอน ไดแก ขนั้ เตรียมการ, ขัน้ การสอน, ข้ันการฝก ปฏิบตั ิ และขั้นการประเมินผล (การทดสอบโดยขอสอบและภาคปฏบิ ัติ) รวมระยะเวลาทงั้ สิน้ ๗ ช่วั โมง ๖.๑ ขั้นเตรียมการ ๖.๒ ขนั้ การฝก สอน : ๗ ช่วั โมง ๖.๒.๑ ขัน้ การสอน ๖.๒.๑.๑ ศาสนพิธีเบือ้ งตน : ๓๐ นาที ๖.๒.๑.๒ พธิ ีสถาปนาหนวย : ๑ ชั่วโมง ๖.๒.๑.๓ พิธเี ก่ยี วกับศพทหาร : ๒ ช่ัวโมง ๖.๒.๑.๔ พิธีเวยี นเทียนวันสาํ คัญทางพระพทุ ธศาสนา : ๓๐ นาที ๖.๒.๑.๕ พธิ ีแสดงตนเปน พทุ ธมามกะของทหาร : ๓๐ นาที ๖.๒.๒ ข้นั การฝก ปฏิบตั ิ เรื่องการปฏิบัติศาสนพิธีทางทหาร : ๑ ช่ัวโมง ๖.๓ ขน้ั การประเมนิ ผล ๖.๓.๑ ประเมนิ ผลโดยการสอบ : ๓๐ นาที ๖.๓.๒ ประเมนิ ผลโดยปฏบิ ัติ : ๑ ช่ัวโมง

๓ ๗. การดาํ เนินการฝกสอนและการประเมินผล เวลา (นาท)ี สอ่ื การสอน หมายเหตุ ลาํ ดบั เน้อื หา ๑ ศาสนพธิ เี บ้ืองตน ๓๐ ๒ พิธีสถาปนาหนวย (๑ ชม.) ๓๐ ๓๐ ๒.๑ พธิ บี วงสรวง ๑๕ ๒.๒ พธิ สี งฆ ๑๕ ๓ พธิ ีเกีย่ วกบั ศพทหาร (๒ ชม.) ๑๕ ๓.๑ พธิ ีสงศพ ๑๕ ๓.๒ พธิ รี ับศพ ๓๐ ๓.๓ พธิ ีรดนาํ้ ศพ ๑๕ ๓.๔ พธิ ีสวดพระอภธิ รรมศพ ๑๕ ๓.๕ พธิ ีพระราชทานเพลงิ ศพ ๑๐ ๓.๖ พธิ ีเก็บอัฐิ ๑๐ ๓.๗ พธิ ีลอยอังคาร ๑๐ ๔ พิธีเวยี นเทยี นวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา (๓๐ นาท)ี ๓๐ ๔.๑ วันวิสาขบชู า ๓๐ ๔.๒ วนั อาสาฬหบูชา ๙๐ ๔.๓ วนั มาฆบชู า ๕ พธิ ีแสดงตนเปน พทุ ธมามกะ ๖ การประเมนิ ผล (๒ ชม.) ๖.๑ สอบความรู ๖.๒ สอบปฏบิ ตั ิ ๘. เครื่องชวยฝกท่ใี ชในการฝก สอน และเอกสารอา งองิ ๘.๑ เครอื่ งชว ยฝก ท่ใี ชในการฝกสอน ๘.๑.๑ อุปกรณศาสนพิธที เ่ี กยี่ วของ ๘.๑.๒ คอมพวิ เตอรแบบพกพา ๘.๑.๓ เคร่อื งฉาย Projector พรอ มจอ ๘.๑.๔ เพาเวอรพอยท เรอ่ื ง การปฏบิ ัติศาสนพธิ ที างทหาร ๘.๒ เอกสารอา งอิง ๘.๒.๑ คาํ ส่ังกองทพั บกท่ี ๒/๒๕๕๗ ลง ๖ ม.ค. ๕๗ ๘.๒.๒ กองทพั บก,คูมือการปฏบิ ตั ิศาสนพธิ ี,กรงุ เทพมหานคร : อมรินทรพ รนิ ติง้ , ๒๕๕๓ ๘.๒.๓ ขอ บังคบั กห.วา ดวยการจัดกองทหารเกียรติยศ พ.ศ.๒๕๒๘ ๘.๒.๔ ระเบยี บ กห.วา ดว ยการจัดยามเกยี รติยศทหาร พ.ศ.๒๕๑ ๘.๒.๕ ประกาศ กห.เรอ่ื งช้ีแจงการใชธ งชาติคลมุ ศพ หบี ศพหรือทเ่ี ก็บอัฐผิ ูเ สยี ชวี ติ เนอื่ งจากการปฏบิ ตั ิหนาทีร่ าชการ ลง ๒๒ พ.ค. ๒๗

๔ ความสาํ คญั ของศาสนพธิ แี ละพธิ ีกรรม (The importance of the ordinances and rituals) .............................................................................................................................. สาระการเรยี นรู ๑. บทนาํ ๒. ศาสนพิธเี บอื้ งตน ๓. ขอปฏิบัติทว่ั ไปในศาสนพิธี ๔. การเตรียมการในพิธีทําบญุ ๕. ขอ ควรทราบเพมิ่ เตมิ วัตถปุ ระสงค เม่อื ศึกษาบทเรียนนจ้ี บแลว ผูเ ขา รบั การศกึ ษาสามารถ ๑. อธิบายประเภทของศาสนพิธไี ด ๒. อธิบายขอ ปฏบิ ตั ใิ นพิธีทําบญุ ได ๓. อธิบายการเตรยี มการในพิธีทาํ บญุ ได ๔. ปฏบิ ัตติ นตามหลักมารยาทชาวพทุ ธได ๕. กลา วคาํ อาราธนาในพทุ ธศาสนพิธไี ด กิจกรรมระหวางเรยี น ๑. บรรยาย ๒. สอบถาม ๓. ใบงาน ๔. สาธติ ใหด ู สือ่ การสอน ๑. เพาเวอรพอยท ๒. เอกสารตํารา ๓. คลิปวีดโิ อท่ีเก่ียวของ ประเมนิ ผล ๑. ใหตอบคาํ ถาม ๒. แบบทดสอบหลังเรียน ๓. ทดสอบปฏบิ ตั ิ

๕ บทนํา (preface) พิธี คือ แนวทางหรือขอเสนอแนะการปฏิบัติงานที่เปนรูปแบบ เปนตนวา งานใดสมควรจะ ดําเนินการอยางไร เมื่อไดดําเนินการตามแนวทางหรือขอเสนอแนะน้ันแลว งานเหลาน้ันจะดําเนินไปดวย ความราบรนื่ รวดเร็ว เรียบรอย ถกู ตองตามขนบธรรมเนยี มประเพณี สาํ เรจ็ ลลุ วงตามจุดมงุ หมายของงาน ไมขัดของหรือวุนวาย พิธีเปนวัฒนธรรม ประเพณีของชาติ เปนวถิ ีชีวติ ของประชาชน ในแตละสังคมจะมี พิธีการที่ปฏิบัติสืบตอกันมาตามความเช่ือของคนในสังคมน้ัน ๆ ดวยเหตุนี้ พิธีจึงมีรูปแบบการปฏิบัติ หลากหลาย แมในปจจุบันก็มีรูแบบการปฏิบัติพิธีแตกออกไปตามความเห็นของแตละสํานัก ทําใหมีขอ ถกเถียงกันเสมอเพ่ือจุดมุงหมายท่ีจะใหการปฏิบัติพิธีมีรูปแบบและแนวทางการปฏิบัติเปนแนวเดียวกัน จงึ ไดร วบรวมแนวปฏิบัติพิธที ่ีเปนแนวกลาง ๆ มาแสดงไวพอเปน ขอ สงั เกต ในการจัดงานศาสนพิธี คือการประกอบพิธีทางศาสนา จะมีบุคคลประเภทหนึ่งเปน ผูด ําเนินการในเร่อื งพิธี มีชื่อเรียกกันหลากหลาย เชน มรรคนายก อุบาสก เจาหนาที่ เจาพนักงาน แต ในท่ีนี้จะขอเรียกบุคคลน้ีวา ศาสนพิธีกร แปลวา ผูดําเนินการพิธีทางศาสนา ศาสนพิธีกรนี้มีหนาท่ี ควบคุม ปฏิบัติ จัดการ ตลอดถึงใหคําแนะนํา ใหคําปรึกษา ในการจัดพิธีการทางพระพุทธศาสนา ศาสน พิธีกรทดี่ ี จะตองประกอบดวยคุณสมบัตหิ ลายประการ เปนตน วา 1. มีความรอบรใู นเรอ่ื งศาสนพิธอี ยางกวา งขวาง ละเอียด ลกึ ซ้งึ 2. มีความสามารถในการปฏบิ ัตงิ าน ไมเ คอะเขนิ งนั งก ตกประหมา 3. มีความรอบคอบ ละเอียดถ่ถี ว นในเรอื่ งอุปกรณ และลําดบั พธิ ี ไมประมาท 4. มีกริ ิยา วาจา และมารยาทเรยี บรอ ย การแตง กาย การวางตนเหมาะสม 5. มีการตดั สินใจท่ฉี ับไวและถูกตอง สามารถแกไขขอ ขดั ขอ ง ทีเ่ กิดข้นึ ในพิธไี ดท ันการ ศาสนพิธีเบือ้ งตน ศาสนพิธี คือพิธีทางศาสนา ในที่นหี้ มายถึงศาสนาพุทธ แบงลักษณะ รแู บบ ประเภทออกไปได มากมาย เชน พิธีงานมงคล พิธีงานอวมงคล พิธีงานราษฎร พิธีงานหลวง พิธีงานทางราชการ พิธีงาน ชาวบา น ฯลฯ หนังสือศาสนพธิ ฉี บบั กรมการศาสนา ไดร วบรวมพธิ ีเหลานั้นไวเ ปน 4 ประเภท คือ 1. กุศลพิธี ไดแก พิธีที่ประกอบข้ึนเพ่ือความดี เพ่ือสิริมงคล เฉพาะตน เชน พิธีอุปสมบท พิธีรกั ษาอโุ บสถ พิธแี สดงตนเปน พทุ ธมามกะ เปน ตน 2. บุญพิธี ไดแก พิธีท่ีประกอบข้ึนเพื่อบุญกุศล และความเปนสิริมงคลแกตน ครอบครัว ญาตมิ ิตร ผทู เ่ี คารพรกั ใคร นบั ถอื แกส ถานที่ หรอื เพอ่ื บุคคลที่ลว งลับ ท่ีประสงคจะอทุ ิศผลบญุ ไปให 3. ทานพิธี ไดแกพิธีถวายส่ิงของตาง ๆ ทั้งท่ีเปนการถวายแกสวนรวม เชน สังฆทาน กฐิน ทาน หรอื ถวายเฉพาะบคุ คล เชน ถวายยารักษาโรค ถวายอาหาร ถวายไทยธรรม เปน ตน 4. ปกิณกะพิธี ไดแก พิธีเบ็ดเตล็ดท่ีไมอยูใน 3 ประเภท ขางตน เชน พิธีพุทธาภิเษก พธิ มี งั คลาภเิ ษก พิธวี างศลิ าฤกษ พธิ ยี กชอ ฟา เปนตน ในพิธีท้ัง 4 ประเภทนั้น ถาจะกลาวใหสั้นลง คงได 2 ประเภท คือ งานมงคล ไดแก พิธีที่ ประกอบเพ่ือความดี ความสุข ความเจริญ บุญกุศล สิริมงคล ทั้งแตตน สถานท่ี และผูอ่ืน กับงาน อวมงคล ไดแก พิธีประกอบพ่ือถวายหรืออุทิศบุญกุศลใหผูอื่น รวมความวา งานศาสนพิธีตาง ๆ ที่จัดกัน ท่วั ๆ ไปมจี ุดมุงหมายเพียง 2 ประการนเี้ ทา นั้น ศาสนพธิ ีที่จะปฏิบัติพธิ ีตาง ๆ พงึ ศกึ ษาหลักการของศา สนพิธที ั้ง 2 ประเภทนน้ั การจัดพิธดี งั กลาวมีรปู แบบการจดั เปน 2 ลักษณะ คือ พิธีท่ชี าวบา นจัดกนั ตาม

๖ ประเพณีนิยม การจัดลักษณะนี้ไมมีรูปแบบท่ีแนนอน ตางปฏิบัติตามความเชื่อท่ีถือปฏิบัติกันสืบ ๆ มา จนเคยชิน เคยปฏิบัติมาเชนไร ก็ปฏิบัติไปเชนน้ัน ตามแบบของวัด ตามแบบของหมูบาน หรือของ สังคมนั้น ๆ วัดหน่ึง หมูบานหนึ่ง สังคมหนึ่งก็จัดกันไปตามแบบของตน ๆ ลักษณะน้ีขอเรียกวา พิธีแบบ ชาวบานหรือพิธีทองถิ่น และพิธีท่ีสวนราชการตาง ๆ จัดขึ้น มีรูแบบ ข้ันตอน มีกําหนดเวลา ไมวาจะ จัดที่ตําบล อําเภอ จังหวัดอะไร ก็จะปฏิบัติเหมือน ๆ กัน การจัดพิธีลักษณะเชนน้ีเรียกวา พิธีแบบทาง ราชการ การจดั พธิ ีท้งั 2 ลกั ษณะน้ัน มีลาํ ดับขน้ั ตอนใหญ ๆ คอื 1. เตรียมการ ปฏิบัติกอ นจะจัดงานพธิ ี 2. ปฏิบตั ิการ ปฏิบตั กิ อ นพิธแี ละระหวา งพิธี 3. สรปุ งาน ปฏิบตั หิ ลงั เสรจ็ พิธี ขอ ปฏบิ ตั ทิ ั่วไปในศาสนพิธี พิธีทําบุญในที่น้ี จะพูดถึงพิธีทําบุญท่ัวๆ ไป ซ่ึงเปนกิจเบื้องตนที่พุทธศาสนิกจะพึงทราบ และ นําไปปฏิบัติได สวนจะผิดแผกแตกตางกันไปบางนั้น ก็สุดแตความนิยมของแตละทองถ่ิน พิธีทําบุญใน ศาสนาพทุ ธ สรุปแลว มี ๒ พิธี คือ ๑. พิธีทําบุญในงานมงคล เปนการทําบุญเพื่อความเปนสิริมงคล ความสุขความเจริญ เชน พิธี แตงงาน ขนึ้ บา นใหม และวันเกดิ เปนตน ๒. พิธีทําบุญในงานอวมงคล เปนการทําบุญเพื่อปดเปาความชั่วรายใหหมดไป โดยปรารภถึงเหตุ ท่ีมาไมด ี หรอื เหตทุ ่ีกอ ใหเ กิดความทกุ ขโ ศก เชน พธิ ศี พ พธิ ีทาํ บญุ ในการท่แี รงจบั บาน รงุ กินนํ้าในบา น เปนตน ทัง้ ๒ พธิ ี มพี ธิ ีกรรมท่ีจะตองปฏบิ ตั โิ ดยยอ ๆ ดงั นี้ ๑. จดั สถานที่ กอ นถึงวนั พิธี จะตอ งตบแตง สถานทร่ี บั รองพระที่จะเจริญพระพุทธมนต และแขกที่จะมาในงาน ตลอดจนเครื่องใชแตละแผนกใหเรียบรอย โดยเฉพาะที่พระสงฆ ตองจัดใหอยูใน ฐานะที่นาเคารพเสมอ โดยจัดท่ีบูชาไวทางขวามือของพระสงฆท่ีจะสวดมนต และใหหันหนาไปทางทิศ ตะวันออก (ถา ที่จํากดั กเ็ วนได) และอาสนะพระน้ันตองจัดใหเปนสวนหนง่ึ ตางหากจากฆราวาส โดยเฉพาะ ผูหญิง แลวต้ังกระโถนภาชนะน้ํา พานหมากพลูไวทางขวามือของพระสงฆ โดยตั้งกระโถนไวขางในแลว เรียงออกมาตามลําดับ ๒. เครื่องสักการะ หมายถึง โตะหมูหรือที่บูชาอ่ืนใดตามฐานะ อันประกอบดวย พระพุทธรูป ๑ องค, แจกนั ๑ คู, เชิงเทียน ๑ ค,ู กระถางธปู ๑ ท่ี เปนอยา งนอย อยางมากจะจัดใหเต็มทีต่ ามรูปแบบการ จัดของโตะหมู ๕, ๗ หรอื ๙ เปน ตน ก็ได ๓. ดายสายสิญจน, บาตรน้ํามนต ในงานมงคลทุกชนิด นิยมวงดายสายสิญจนรอบบานหรือ สถานที่ แตจะยอลงมาแคที่พระสวดมนตก็ได การวงดายสายสิญจน ใหถือเวียนขวาไวเสมอ ถาจะวงรอบ บานดว ย กใ็ หเรม่ิ ตนที่โตะหมูบ ชู าแลว เวียนออกไปท่ีร้ัวบานหรอื ตวั บา นทางขวามือ (เวยี นแบบเลข ๑ ไทย) เมื่อวงรอบแลวกลับมาวงรอบท่ีฐานพระพุทธรูป วงไวกับฐานพระพุทธรูป แลวมาวงท่ีบาตรน้ํามนต เสร็จ แลวหาพานวางดา ยสายสญิ จนทเี่ หลือไวใกล ๆ บาตรน้ํามนตน้ัน เพื่อใหพระสงฆใ ชประกอบการเจรญิ พระ พุทธมนตต อ ไป ๔. บาตรนํ้ามนต ใหใสน้ําพอควร จะใสใบเงินใบทองใบนาก หญาแพรก ฝกสมปอย ผิวมะกรูด ฯลฯ ก็ได สุดแตจะนิยม ไมใสอะไรเลยก็ไดเพราะพระพุทธมนตท่ีพระสวดเปนของประเสริฐอยูแลว และ ตั้งไวทางขวามือของพระสงฆที่เปนประธาน ติดเทียนน้ํามนตไวที่ขอบบาตร ๑ เลม จะหนัก ๑ บาท หรือ ๒ บาทก็ได แตควรใหไสใหญ ๆ ไวเพ่ือกันลมพัดดับดวย และเม่ือพระสงฆดับเทียนน้ํามนตแลวหามจุดอีก ตอ ไป ซ่งึ ถอื วา เปนการดับเสนยี ดจญั ไรไปหมดแลว มใิ หเกดิ ข้ึนมาอีก

๗ สวนในพิธีศพ ตั้งแตถึงแกกรรมจนกระทั่งเผา ไมมีการวงดายสายสิญจนและต้ังบาตรน้ํามนต หลังจากเผาศพเสรจ็ แลว จะทําบญุ อัฐจิ ึงกระทําได ๕. การนิมนตพระสงฆม าเจรญิ พระพทุ ธมนต - นิยมนิมนตไมต่ํากวา ๕ รูป จะเปน ๗ รูป หรือ ๙ รูปก็ได ไมนิยมพระจํานวนคู เวนแตงาน มงคลสมรส มักนิมนตพระจาํ นวนคู จดุ มงุ หมาย เพอ่ื ใหเจา บา วเจาสาวนมิ นตพ ระมาจาํ นวนเทา ๆ กนั - พิธีหลวงหรือพิธีทม่ี ีความเกยี่ วขอ งดวยอดตี พระมหากษตั ริย หรือพิธที ่ีพระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัว สมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถ เสด็จ ฯ เปนองคประธาน หรือกรณีมีผูแทน พระองคไ ปเปนประธาน นิมนตพระ ๑๐ รูป (รวมทั้งกรณีท่มี กี ารทักษณิ านุประทาน) - ตองแจง วันเวลา สถานท่ี จํานวนพระสงฆ การรบั -สงและพธิ ที ี่จะกระทาํ เพราะบทสวดมนต จะมเี พม่ิ เตมิ ตามโอกาสท่ีทาํ บญุ ไมเ หมือนกนั - การนิมนตพระเพื่อฉันหรือรับบิณฑบาต อยาระบุชื่ออาหาร ๕ ชนิด คือ ขาวสุก ขนมสด ขนมแหง ปลา เนื้อ สรุปแลวระบุไมไดทุกชนิด ใหใชคํารวมวา “นิมนตฉันเชา นิมนตฉันเพล หรอื นิมนตรบั อาหารบณิ ฑบาตเชา - เพล” กพ็ อ เม่ือพระสงฆท่ีมาสวดมนตถึงบานแลว กิจท่ีจะตองทําอีกอยางหน่ึงก็คือ ควรจัดหานํ้าลางเทา และทําใหเสร็จ เพราะถาพระสงฆลางเอง น้ํามีตัวสัตว พระสงฆก็เปนอาบัติ และถาปลอยใหเทา เปยกนํ้าแลวเหยียบอาสนะ พระสงฆก็เปนอาบัติอีก จึงตองทําใหทาน แตสมัยน้ี การไปมาสะดวกดวย ยานพาหนะ เทา พระสงฆไมเปรอะเปอนจงึ ไมมีการลา งเทา พระสงฆเปนสว นมาก ๖. ลาํ ดบั พธิ ี โดยทั่วไปพิธมี งคลจะเร่ิมดวยประธาน หรือเจา ภาพจุดธปู เทียนบชู าพระรตั นตรยั ธูป ไมควรเกิน ๓ ดอก หรืออยางมากไมเกิน ๕ ดอก เทียน ๒ เลม และจุดใหติดจริง ๆ จุดแลวอธิษฐานใจ กราบพระ ๓ หน แลวอาราธนาศีล อาราธนาพระปริตร ฟงพระสงฆเจริญพระพุทธมนต เมื่อพระสงฆสวด ถึงบท “ อเสวนา จ พาลานัง ” ใหเจาภาพจุดเทียนนํ้ามนต และเม่ือพระสงฆสวดถึงบทวา “ นิพพันติ ธี รา ยถา ยมั ปทีโป ” ทา นดับเทียนตรงคําวา “นิพ” โดยจุมเทยี นนํา้ มนตลงในบาตรน้ํามนต (การดับเทยี น อาจจะผิดแผกไปจากนี้บางก็เปนเร่ืองของพระสงฆ) พระสงฆสวดมนตจบแลว ถาเปนพิธี-สวดมนตในวัน เดียวซ่ึงนิยมทําในตอนเชาหรือเพลก็ถวายภัตตาหาร พระสงฆฉันเสร็จถวายไทยธรรม พระสงฆอนุโมทนา เจาภาพกรวดนํ้า ก็นับวาเสร็จพธิ ี แตถาทาํ บุญ ๒ วัน วนั แรกนิยมสวดมนตเ ย็นแบบน้ี เมือ่ สวดมนต เย็นเสร็จก็นับวาเสร็จไปตอนหนึ่ง รุงข้ึนจะเชาหรือเพล พระสงฆมาถึงก็ทํากิจเบ้ืองตน มีจุดธูปเทียน อาราธนาศีล รับศีลเสร็จแลว พระสงฆสวดถวายพรพระ ไมมีอาราธนาพระปริตร จบแลวถวายภัตตาหาร ถวายไทยธรรม พระสงฆอนโุ มทนา เจาภาพกรวดนํ้า จึงเสรจ็ พิธี ๗. การกรวดน้ํา เม่ือพระสงฆเร่ิมอนุโมทนา คือ รูปหัวหนาวา “ ยถา…” ก็ใหเจาภาพกรวดนํ้า ทันที พอจบ “ ยถา…” พระสงฆรูปที่สองข้ึนบทอนุโมทนา “ สัพพี…” พระสงฆนอกน้ันสวดรับตอพรอม กนั ก็ใหเจาภาพเทน้าํ ใหห มด แลวนัง่ ประนมมือฟง พระสงฆใ หพ รตอไป จบแลวกราบ ๓ คร้งั ๘. การประพรมนํ้าพระพุทธมนต ใหกระทําหลังจากพระสงฆอนุโมทนา (ยถา สัพพี) จบแลว จะนิมนตใหพ ระสงฆประพรมใครหรอื ทใ่ี ดก็นิมนตทา นตามประสงค ๙. การเทศน การนิมนตพระสงฆใหแสดงพระธรรมเทศนาดว ย ในกรณที ี่มีสวดมนตก อ น แลว ก็มี เทศนติดตอกันไป การอาราธนาตอนพระสวดมนตใหอาราธนาพระปริตร ยังไมตองรับศีล ตอเมื่อถึงเวลา เทศน นิมนตพระสงฆข้ึนธรรมาสนแลว จึงอาราธนาศีล รับศีลเสร็จ อาราธนาธรรมตอ พระสงฆเทศนจบ ถาไมมีพระสวดรับเทศน พระทานจะอนุโมทนาบนธรรมาสนเลย ทานลงมาแลวจึงถวายไทยธรรม (เคร่อื งกัณฑ) แตถา มพี ระสวดรับเทศน เชน ในกรณที ําบญุ หนา ศพ เปนตน พระเทศนจบ พระสงฆสวดรับ เทศนตอ (ระหวางนี้พระเทศนจะลงมานั่งขางลางตรงตนแถวพระสวด) จบแลว เจาภาพจึงถวายไทยธรรม

๘ พระสงฆอ นุโมทนา เจา ภาพกรวดน้ําเปน เสร็จพธิ ี ๑๐. การตั้งเคร่ืองบูชาหนาศพ ถาเปนพิธีอาบนํ้าศพ จะตองมีเทียน (ประทีป) ๑ เลม ตามไวขาง ศพเหนือศีรษะดวย และประทีปนี้จะตามไวตลอดเวลา เมื่อนําศพลงหีบแลว ก็ตามไวขางหีบ ดานเทาของ ผตู าย ซ่ึงถอื วา ผตู ายจะไดจดุ สองทางไป ถาเปนพิธีทําบุญหนาศพ ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน หรือวันเผาก็ตาม ดานหนาศพจะมีที่จุด ธูปไวใหผูท่ีเคารพนับถือบูชา ๑ ท่ี และนอกจากน้ี เวลาประกอบพิธีทุกครั้งนิยมจัดเคร่ืองทองนอยไวเบื้อง หนาศพอีก ๑ ท่ี ซึ่งประกอบดวย กรวยปกดอกไม ๓ กรวย, เทียน ๑ เลม, ธูป ๑ ดอก, เคร่ืองทองนอยนี้ ต้งั ไวหนา ศพเพื่อใหศ พบูชาธรรมโดยเจา ภาพจดุ ให และการตั้งใหตัง้ ดอกไมไ วขางนอก ตัง้ ธปู เทยี นไวขางใน (หันธปู เทยี นไวทางศพ) (บางวัด ใหต ั้งเคร่ืองทองนอ ยอีกชนิดหนึง่ สําหรับเจาภาพในเวลาฟงธรรมระหวาง พระสงฆก บั เจาภาพ การต้ังหนั ธปู เทยี นไวท างเจา ภาพ) ๑๑. การจุดธปู เทียน การจุดธปู เทียนบูชาพระรัตนตรัยหรอื อ่นื ใดก็ตาม จะตองจุดเทยี นกอนเสมอ แลวจึงจุดธูป เพราะถือวาเทียนสูงกวาธูป และอีกประการหนึ่ง การจุดเทียนกอน หากเทียนเกิดดับข้ึน ระหวา งกลางคัน ก็จะไดต อตดิ กันสะดวกย่งิ ขนึ้ ๑๒. ผาภูษาโยง พิธีศพ เวลาพระทานจะบังสุกลุ จะมีผาภูษาโยงซ่ึงเชอ่ื มโยงมาจากศพเสมอ การ ทอดผาบนผาภูษาโยงนี้ใหทอดตามขวาง เพื่อพระจับชักบังสุกุล ถาไมมีผาทอด พระสงฆก็จับเฉพาะผา ภษู าโยง หากไมมีผาภูษาโยง จะใชดายสายสิญจนแทนก็ไดและหามขามเด็ดขาด ไมวาจะเปนมือหรือเทาก็ ตาม ถือวาไมเคารพศพ สําหรับศพหลวง ผาภูษาโยงจะถูกนําเชื่อมกับผาหรือดายสายสิญจนที่ตอมาจาก ศพ จากนั้นเจาภาพจงึ ทอดผา ๑๓. ใบปวารณา ในการทําบุญ มักจะมีเงินถวายพระสงฆเสมอ เพื่อใหทานนําไปใชจาย แต พระสงฆทานจับตองเงินไมได จึงใชใบปวารณาแทน และใชคําวาจตุปจจัย (ปจจัย ๔ คือ เคร่ืองนุงหม, อาหาร, ทอ่ี ยูอาศัย, ยารกั ษาโรค ) แทนคาํ วาเงนิ การเตรยี มการในพิธที าํ บญุ ๑. การจดั สถานทที่ ําบุญ ๑.๑ โตะหมบู ูชา - ต้ังไวดานขวาของอาสนสงฆ สูงกวาอาสนสงฆพอสมควร หันหนาไปทางดานทิศ ตะวันออก ทิศเหนือ หรือทิศใตก็ได ไมนิยมตั้งหันหนาไปทางทิศตะวันตก (ดูความเหมาะสมของสถานที่ ประกอบดว ย) - โตะ หมบู ชู า ประกอบดวยสง่ิ สําคัญอยางนอย คือ ๑.๑.๑ พระพทุ ธรปู ๑ องค ๑.๑.๒ แจกนั ๑ คู พรอมดอกไมป ระดับ (ดอกไมน ิยมใหมีสีสวย–กลิน่ หอม–กาํ ลงั สด) ๑.๑.๓ กระถางธูป ๑ ใบ พรอ มธปู หอม ๓ ดอก ๑.๑.๔ เชิงเทยี น ๑ คู พรอมเทยี น ๒ เลม - ตงั้ หันหนา โตะออกมาทางเดียวกบั พระสงฆ ตงั้ ทางดานขวาของอาสนสงฆ - นิยมต้ังหันไปทางทิศตะวันออก ทิศเหนือและทิศใตตามลําดับไมนิยมหันไปทางทิศ ตะวนั ตก

๙ ภาพแสดงการตัง้ โตะ หมบู ูชาตามแบบราชการทหาร (คาํ สั่ง ทบ.ท่ี ๒/๒๕๕๗ ลง ๖ ม.ค. ๕๗) และทศิ ทางการตั้งตามตวั หนงั สอื สีนํา้ เงนิ ๑.๒ อาสนส งฆ จัดต้ังไวดานซายโตะหมูบูชา แยกเปนเอกเทศตางหากจากที่น่ังฆราวาส ประกอบดวย เคร่ืองรับรอง คอื ๑.๒.๑ พรมเล็กเทา จํานวนพระสงฆ ๑.๒.๒ กระโถนเทาจํานวนพระสงฆ ๑.๒.๓ ภาชนะน้าํ เย็นเทา จาํ นวนพระสงฆ ๑.๒.๔ ภาชนะน้าํ รอ นเทา จาํ นวนพระสงฆ เครื่องรับรองดังกลาว ตั้งไวดานขวามือของพระสงฆ โดยต้ังกระโถนไวดานในสุด ถดั ออกมาเปนภาชนะนาํ้ เยน็ สว นภาชนะนา้ํ รอ นจัดถวายเมอื่ พระสงฆเขา น่ังแลว - ถาเครื่องรับรองไมเพียงพอ จัดไวสําหรับพระผูเปนประธานสงฆ ๑ ที่ นอกน้ัน ๒ รูปตอ ๑ ท่ีก็ได (ยกเวน แกว นาํ้ ) ๑.๓ ท่นี ง่ั เจาภาพและผจู ดั งาน - จัดไวดา นหนา ของอาสนส งฆ โดยแยกเปนสว นหนงึ่ ตา งหากจากอาสนส งฆ - ถาเน่ืองเปนอันเดียวกับอาสนสงฆ ใหปูเส่ือหรือพรมบนอาสนสงฆทับผืนท่ีเปนท่ีนั่ง สําหรับฆราวาส โดยปูทับกันออกมาตามลําดับ แลวปูพรมเล็กสําหรับพระสงฆแตละรูปอีกเพื่อใหสูงกวาที่ น่งั เจา ภาพ ๑.๔ ภาชนะนา้ํ มนต - จัดทําเฉพาะพิธีทําบุญงานมงคลทุกชนิด โดยตั้งไวขางโตะหมบู ชู า ดา นขวาของประธาน สงฆ - พิธีทําบุญงานอวมงคลที่เก่ียวเน่ืองกับศพ เชน ทําบุญ ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน เปนตน ไมตอ งจดั ภาชนะน้าํ มนต ๑.๕ เทยี นน้าํ มนต - ใชเทียนข้ีผ้ึงแท นาํ้ หนกั ๑ บาทขน้ึ ไป โดยใชช นิดไสใหญ เพือ่ ปองกันมใิ หดบั งา ย ๒. การนมิ นตพระสงฆ ๒.๑ พธิ ีทาํ บุญงานมงคล อยางนอยไมตา่ํ กวา ๕ รปู ขา งมากไมมีกําหนด (พิธีหลวง และพิธีที่มี การทาํ บญุ ทักษิณานุประทานนิยม ๑๐ รูป) ๒.๒ งานมงคลสมรส เม่ือกอนนยิ มนิมนตจํานวนคู คือ ๖ - ๘ - ๑๐ - ๑๒ รูป เพื่อฝายเจาบาว และเจาสาวนิมนตฝายละเทา ๆ กนั ๒.๓ ในปจจุบัน งานมงคลทุกประเภท รวมทั้งงานมงคลสมรสนิยมนิมนต ๙ รูป (เลข ๙ ออก

๑๐ เสยี งใกลเ คียงคาํ วา “ กา ว ” หมายถึง กาวหนา หรือกาํ ลงั พระเกตุ ๙,พระพทุ ธคณุ ๙ และโลกุตตรธรรม ๙) ๒.๔ งานทาํ บุญอายุ นยิ มนิมนตพ ระสงฆเ กนิ กวาอายเุ จา ภาพ ๑ รูป ๒.๕ งานอวมงคลเก่ยี วเนือ่ งกบั พธิ ีศพ นิยมนิมนตด งั นี้ - สวดพระอภิธรรม ๔ รูป - สวดหนา ไฟ ๔ รูป - สวดพระพทุ ธมนต ๕ - ๗ - ๑๐ รูป ตามกําลงั ศรัทธา - สวดแจง ๒๐ -๒๕ -๕๐ - ๑๐๐ - ๕๐๐ รูป หรอื ท้ังวัด - สวดมาตกิ า สวดบังสกุ ลุ นิยมนมิ นตเทา อายผุ ูตายหรือตามศรัทธาก็ได ๒.๖ วธิ ีการนมิ นตพ ระสงฆ - พิธที ีเ่ ปน ทางราชการ นมิ นตเ ปน ลายลักษณอักษร - พิธีทาํ บญุ สว นตัว นยิ มไปนิมนตด ว ยวาจาดว ยตนเอง ๒.๗ ขอควรระวัง - อยานมิ นตออกชอ่ื อาหาร เชน นิมนตไ ปฉันขนมจีน เปนตน เพราะพระผิดวินยั บญั ญัติ - นิมนตแตเพียงวา “นิมนตรับบิณฑบาต รับภิกษา” หรือ “นิมนตฉันเชา ฉันเพล” เปนตน ๓. การใชด ายสายสิญจน ๓.๑ นิยมใชทั้งงานพธิ ีมงคล และพิธีอวมงคล ๓.๒ งานพิธีอวมงคลเกี่ยวกับศพ ไมใชดายสายสิญจนวงรอบอาคารบานเรือน ใชเปนสายโยง จากศพมาถงึ อาสนส งฆ สําหรบั พระสงฆพจิ ารณาบงั สกุ ุล ๓.๓ งานพิธีมงคล นิยมวงรอบอาคารบานเรือนเฉพาะพิธีขึ้นบานใหม ทําบุญบานประจําป และทําบุญปดความเสนียดจญั ไรดังนี้ - อาคารบา นเรอื นทม่ี รี ้วั หรอื กาํ แพง วงรอบรั้วหรือกําแพงโดยรอบ - อาคารบานเรือนที่มีรั้วหรือกําแพงลอม หรือมีแตบริเวณกวางขวางเกินไปใหวงเฉพาะ รอบตวั อาคารบานเรือน ๓.๔ การวงดา ยสายสิญจน - เร่ิมวงดายสายสิญจนต้ังแตโตะหมูบูชา แตยังไมตองวงรอบพระพุทธรูป เม่ือวงรอบ อาคารบานเรือน หรือรอบบริเวณงาน แลวจึงนํามาวงรอบฐานพระพุทธรูปภายหลัง โดยวงเวียนขวา ๑ รอบ หรือ ๓ รอบ - วงดายสายสญิ จนเ วยี นขวาไปตามลําดับ และยกข้นึ ใหอยสู ูงทส่ี ดุ เพอ่ื ปอ งกัน คนขา มกราย หรอื ทําขาด - ดายสายสิญจนท วี่ งแลว ใหค งไวต ลอดไป ไมต อ งเก็บ - พิธที ําบุญงานมงคลอนื่ ๆ วงเฉพาะบริเวณหองพธิ ีหรอื เฉพาะรอบฐานพระพุทธรปู ทโ่ี ตะ หมบู ูชา แลวโยงมาวงรอบภาชนะน้ํามนต วางกลุมดา ยสายสิญจนใสพ านไวดา นซา ยโตะหมูบชู า ๓.๕ การใชดา ยสายสิญจนทอดบงั สุกลุ - โยงจากศพ จากโกศอัฐิ จากรูปของผูตาย หรือจากรายนามของผูตายอยางใดอยางหน่ึง มาทอดใหพระสงฆพ จิ ารณาบังสุกลุ - ในพิธีทําบุญงานมงคล หากเชิญโกศอัฐิของบรรพบุรุษมารวมบําเพ็ญกุศลดวยเม่ือจะนิมนต พระสงฆพ ิจารณาบังสุกลุ ใหใชดายสายสิญจนอกี กลุมหน่งึ ตางหากจากกลุม ท่ีพระสงฆถือเจรญิ พระพุทธ

๑๑ มนต หรือจะเดด็ ดายสายสิญจนจากกลุมเดียวกันน้ันใหขาดออกจากพระพุทธรูป แลวเช่ือมโยงกับโกศอัฐิก็ ได ๓.๖ การทํามงคลแฝด - นําดายดิบท่ียังไมไดทําเปนดายสายสิญจนไปขอใหพระเถระท่ีเคารพนับถือทําพิธีปลุก เสกและทาํ เปน มงคลแฝดสําหรับคบู า วสาว กอ นถงึ วันงานประมาณ ๗ วัน หรอื ๓ วนั เปนอยา งนอย ๔. เทยี นชนวน ๔.๑ อุปกรณ - ใชเชิงเทียนทองเหลืองขนาดกลาง ๑ ขาง - เทียนข้ีผึง้ ไสใหญ ๆ ขนาดพอสมควร ๑ เลม - น้ํามันชนวน (ข้ีผ้ึงแทแชน้ํามันเบนซิน หรือเคี่ยวขี้ผ้ึงใหเหลว ยกลงจากเตาไฟแลวผสม นํา้ มันเบนซนิ ) ๔.๒ การถอื เชิงเทียนชนวนสําหรับพธิ กี ร - ถือดวยมือขวา โดยหงายฝามือ ใชนิ้วมือส่ีน้ิว (เวนนิ้วหัวแมมือ) รองรับฐานเชิงเทียน ใชหัวแมม อื กดฐานเชงิ เทียนดา นบนใหแนนเขาไว - ไมนยิ มจบั กึ่งกลางเชงิ เทยี น เพราะจะทําใหผ ูใหญรับไมส ะดวก ๔.๓ การสงเทียนชนวนใหผ ใู หญส ําหรับพธิ ีกร - ถึงเวลาประกอบพิธี จุดเทียนชนวน ถือดวยมือขวา เดินเขาไปหาประธานในพิธี ยืนตรง โคงคาํ นบั - เดินตามหลงั ประธานในพธิ ไี ปยังทบ่ี ชู า - ถาประธานในพิธีหยุดยืนหนาที่บูชา พิธีกรนอมตัวลงเล็กนอยสงเทียนชนวน (ถา ประธานในพิธีนัง่ คุกเขา พธิ ีกรก็น่ังคกุ เขา ตาม) แลว สง เทยี นชนวนดว ยมือขวา มอื ซา ยหอ ยอยูขางตัว - สงเทียนชนวนแลวถอยหลังออกมาหางจากประธานในพิธีพอสมควร พรอมกับคอย สังเกต ถาเทยี นชนวนดับ พึงรบี เขา ไปจุดทันที - เม่ือประธานในพิธีจุดธูปเทียนเสร็จแลว เขาไปรับเทียนชนวน โดยวิธีย่ืนมือขวา แบมือเขาไปรองรับ ถอยหลงั หางออกไปเลก็ นอย โคงคํานบั แลว จึงกลบั หลงั หนั เดนิ ออกมา ๔.๔ การจดุ ธูปเทียนสําหรบั ประธานในพิธี - เมื่อพิธีกรถือเทียนชนวนเขาไปเชิญประธานฯ ประธานฯ ลุกขึ้นจากท่ีนั่ง เดินไปที่หนา โตะหมูบูชา ถาโตะหมูบูชาต้ังอยูสูง พึงยืน ถาต้ังอยูไมสูงนัก พอนั่งคุกเขาจุดถึง พึงนั่งคุกเขาลงแลวรับ เชิงเทียนชนวนจากพธิ ีกร - จุดเทียนเลมขวาของพระพุทธรูปกอน แลวจุดเลมซายตอไป แลวจึงจุดธูปเชนเดียวกับ เทยี น - ถามีสายชนวนเชื่อมโยงจากธูปไปยงั เทียนทกุ คู พึงจุดธูปเปน อันดับแรก - ถาธูปมิไดจุมน้ํามันชนวน พึงถอนธูปออกมาจุดกับเทียนชนวน สงเทียนชนวนใหพิธีกร แลว ปกธปู ไวตามเดมิ โดยปก เรยี งหนึ่งเปน แถวเดียวกัน หรือปก เปนสามเสากไ็ ด - จุดธปู เทยี นเสรจ็ แลว นัง่ คุกเขา ประนมมือ กลา วคําบูชาพระรตั นตรยั โดยวา นโม … ๓ จบ แลววา อิมินา … (เพียงแตนึกในใจ) แลวกราบดวยเบญจางคประดิษฐ ขณะกราบพึงระลึกถึงพระ รตั นตรัยดว ย คอื กราบครั้งที่ ๑ บริกรรมวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิ วาเทมิ

๑๒ กราบครงั้ ที่ ๒ บริกรรมวา สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม ธมั มงั นะมสั สามิ กราบคร้ังท่ี ๓ บริกรรมวา สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ เสร็จแลวกลบั เขาไปนัง่ ประจาํ ที่ ๕. การอาราธนาสําหรบั พธิ กี ร - เมื่อเจาภาพ หรือประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเสร็จแลว พิธีกรเร่ิมกลาว คาํ อาราธนาศีล - ถาอาสนสงฆอยูระดับพ้ืน ผูรวมพิธีทั้งหมดน่ังกับพื้น พิธีกรพึงนั่งคุกเขาประนมมือกราบ ๓ ครั้ง แลว จงึ กลา วคําอาราธนา ถาอาสนสงฆยกข้ึนสูงจากพ้ืน แตผ ูรวมพิธีท้ังหมดนง่ั อยกู ับพนื้ ก็นั่งคุกเขา อาราธนาเชนกนั - ถาอาสนสงฆยกสูง ผูรวมพิธีท้ังหมดนั่งเกาอี้ พิธีกรพึงยืนทางทายอาสนสงฆ ขางหนา พระสงฆรูปท่ี ๓ จากทายแถวหรือท่ีอันเหมาะสม ทําความเคารพประธานในพิธี แลวหันหนาไปทาง ประธานสงฆ ประนมมือ กลาวคําอาราธนาศีล โดยหยดุ ทอดเสยี งเปน จังหวะ ๆ ดงั น้ี “มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปญจะ สีลานิ ยาจามะ, ทตุ ิยมั ป… ฯลฯ, ตะติยัมป…ฯลฯ - เม่ือรับศีลเสร็จแลว พึงอาราธนาพระปริตรตอไป จบแลว ถานั่งคุกเขา กราบ ๓ คร้ัง ถายืน กย็ กมือไหว เสรจ็ แลว ทาํ ความเคารพประธานในพธิ อี กี คร้ังหนง่ึ ๖. การจดุ เทยี นนาํ้ มนต - ประธานในพิธี หรือเจา ภาพ จะตองรอคอยจดุ เทียนนา้ํ มนตอกี ครง้ั หนงึ่ - เมื่อพระเจริญพระพุทธมนตถึงบทมงคลสูตร (บท อะเสวะนา จะ พาลานัง ...) พิธีกรพึงจุด เทียนชนวนเขาไปเชิญประธานในพิธีหรือเจาภาพไปจุดเทียนน้ํามนต ยกภาชนะน้ํามนตถวายประธานสงฆ ยกมอื ไหว แลวกลับไปนัง่ ทีเ่ ดิม ๗. การถวายขา วบชู าพระพทุ ธ - เมื่อพระสงฆเจรญิ พระพุทธมนตถึงบทถวายพรพระ พิธีกรยกสํารับคาวหวานไปตั้งที่หนาโตะ หมบู ชู าโดยตงั้ บนโตะ ท่ีมผี า ขาวปรู อง หรือท่พี ื้นแตมผี าขาวปูรอง - เชิญประธานในพิธีหรอื เจา ภาพทําพิธีบูชา (พธิ กี รไมค วรจัดทาํ เสียเอง) - ประธานในพิธี หรือเจาภาพ นั่งคุกเขา (พิธีราษฎรจุดธูป ๓ ดอก ปกท่ีกระถางธูป) ประนม มอื กลา วคาํ บูชาขาวพระพทุ ธจบแลวกราบ ๓ ครัง้ - กรณียกสํารับคาวหวานสําหรับพระพุทธและสํารบั คาวหรือทง้ั คาวและหวานสําหรับพระสงฆ เขาไปพรอมกัน (หลังจบบทถวายพรพระ) ประธานฯ หรือเจาภาพ นั่งคุกเขากลาวคําบูชาขาวพระพุทธจบ แลว จึงยกสํารับคาวหรือทั้งคาวและหวานถวายพระสงฆเฉพาะรูปประธานฯ นอกนั้นจะมอบใหผูรวมพิธี เขารวมถวาย กช็ อ่ื วาเปน ความสมบรู ณแหงพิธีการท่ีเหมาะสม - คาํ ถวายขาวพระพทุ ธ อิมงั สูปะพยญั ชะนะสมั ปน นงั สาลนี งั โภชะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธสั สะ ปูเชมิ. (ขาพเจา ขอบูชาดว ยโภชนะขาวสาลี พรอมดว ยแกงกบั และนํ้าอนั ประเสรฐิ นี้แดพระพทุ ธเจา) ๘. การลาขาวพระพุทธ - เมื่อพระสงฆฉันภัตตาหารเสร็จแลว เจาภาพหรือพธิ กี ร เขาไปนง่ั คกุ เขาประนมมือกลาวคาํ ลาขา วพระพุทธจบแลวกราบ ๓ ครง้ั แลวยกสํารบั ไปได

๑๓ - คาํ ลาขาวพระพุทธ เสสัง มงั คะลงั ยาจาม.ิ (ขา พเจาขอคืนเศษอนั เปนมงคลน้ี ขาพเจา ขอภตั ตที่เหลอื ทีเ่ ปน มงคลดว ยเถิด) ๙. การจัดภตั ตาหารถวายพระสงฆ - เวลาเชา จัดอาหารประเภทอาหารเบา เชน ขา วตม โจก กาแฟ ขนมปง เปนตน - เวลาเพล จัดอาหารประเภทอาหารหนัก โดยมากจัดเปนอาหารไทย และควรเปนอาหาร พ้ืนเมอื งเปนหลกั อาจมอี าหารพเิ ศษแทรกบางก็ได ๑๐. การประเคนของพระ - ถาเปนชาย ยกสงใหถึงมือพระภิกษุผูรับประเคน ถาเปนหญิง วางถวายบนผา ท่ีพระสงฆทอด รบั ประเคนและรอใหทานจบั ท่ผี า ทอดนน้ั กอ น จงึ วางส่ิงของลงบนผานัน้ - ถา พระสงฆน ง่ั กับพ้นื พึงนั่งคุกเขาประเคน ถาพระสงฆน ่งั เกาอ้ี พงึ ยืนประเคน - ยกภัตตาหารที่จะพึงฉันพรอมภาชนะอาหารถวายเทาน้ัน ส่ิงของเคร่ืองใชตาง ๆ ไมตองยก ประเคน เพียงแตว างมอบใหเทา นั้นกพ็ อ - ภัตตาหารทุกชนิดท่ีประเคนแลว หามคฤหัสถจับตองอีก ถาเผลอไปจับตองเขาตองประเคน ใหม - ประเคนครบทุกอยางแลว ถาน่ังคุกเขาประเคน กก็ ราบ ๓ คร้ัง ถา ยืนประเคนก็นอมตัวลงยก มอื ไหว - ลักษณะการประเคนที่ถกู ตอง ประกอบดว ยองค ๕ คือ ๑. ส่ิงของท่ีจะประเคน ไมใหญโตหรือหนักเกินไป ขนาดปานกลางคนเดียวยกไหว และยก สิง่ ของนัน้ ใหข้นึ พนจากพ้ืนทสี่ งิ่ ของนั้นต้ังอยู ๒. ผปู ระเคนอยูหา งจากพระภิกษุผรู ับประเคนประมาณ ๑ ศอก (อยางมากไมเกิน ๒ ศอก) ๓. ผูประเคนนอมสิง่ ของนัน้ เขาไปใหดวยกริ ิยาอาการแสดงความเคารพออ นนอม ๔. กริ ยิ าอาการทนี่ อมส่งิ ของเขาไปใหนน้ั จะสง ใหดว ยมือก็ได ดว ยของเน่ืองดวยกาย เชน ใช ทัพพตี กั ถวาย กไ็ ด ๕. พระภิกษุผูรับประเคนน้ัน จะรับดวยมือก็ได ดวยของเนื่องดวยกาย เชน จะใชผาทอดรับ ใชบ าตรรบั หรือใชภ าชนะรบั ก็ได ๑๑. การจดั เครื่องไทยธรรมถวายพระสงฆ ๑. เคร่ืองไทยธรรม คือวัตถุส่ิงของตาง ๆ ท่ีสมควรถวายแกพระสงฆ ไดแกปจจัย ๔ และ สง่ิ ของทนี่ ับเน่ืองในปจจัย ๔ ๒. ส่ิงของท่ีประเคนพระสงฆไดในเวลาเชาชั่วเที่ยง ไดแก ประเภทอาหารคาวหวานทุกชนิด ท้ังอาหารสด อาหารแหง และอาหารเคร่ืองกระปองทุกประเภท หากนําส่ิงของเหลาน้ีไปถวายในเวลา หลังเท่ียงวันแลว เพียงแตแจงใหภิกษุรับทราบแลวมอบสิ่งของเหลานั้นแกศิษยของทานใหเก็บรักษาไวทํา ถวายในวันตอไปก็พอ ๓. ส่ิงของที่ประเคนพระสงฆไดตลอดเวลา ไดแกป ระเภทเคร่ืองดื่ม เครื่องยาบําบัดความเจ็บ ไข และประเภทเภสชั เชน น้ําตาล นํา้ ผ้งึ นํ้าออย หมากพลู หรอื ประเภทสง่ิ ของทไ่ี มใ ชของสําหรบั ขบฉนั ๔. ส่ิงของที่ไมสมควรประเคนพระสงฆ ไดแก เงิน และวัตถุสําหรับใชแทนเงิน เชน ธนบัตร เปนตน (ในการถวาย ควรใชใ บปวารณาแทนตัวเงนิ สว นตัวเงนิ มอบไวก ับไวยาวจั กรของพระภกิ ษนุ ้ัน) ๑๒. การปฏิบัตใิ นการกรวดน้ํา

๑๔ - กระทาํ ในงานทาํ บุญทุกชนิด เพ่ืออุทิศสว นกศุ ลใหแกผ ูลว งลับไปแลว - ใชน้ําท่ใี สสะอาดบริสทุ ธ์ิ ไมม ีสิง่ อื่นใดเจือปน - ใชภาชนะสําหรับกรวดน้ําโดยเฉพาะ ถาไมมี ก็ใชแกวนํ้าหรือขันนํ้าแทน โดยจัดเตรียมไว กอนถึงเวลาใช - กรวดนํา้ หลังจากถวายเครือ่ งไทยธรรมแลว - เมอื่ ประธานสงฆเ ริ่มอนโุ มทนา (ยถา…) ก็เริ่มหล่งั น้าํ อทุ ิศสวนกุศล - ถาน่ังอยูกับพ้ืน พึงน่ังพับเพียบจับภาชนะ สําหรับกรวดนํ้าดวยมือท้ังสอง รินนํ้าใหไหลลง เปน สาย - ถาภาชนะสําหรับกรวดน้ําปากกวาง เชน ขันหรือแกว ควรใชน้ิวมือขวารองรับสายน้ําให ไหลลงไปตามนวิ้ ช้นี ั้น ถาภาชนะปากแคบ ไมตอ งใชน วิ้ มอื รองรับสายนาํ้ - ควรรินนํ้าใหไหลลงเปนสาย โดยไมขาดตอนเปนระยะ ๆ พรอมกันน้ัน ควรต้ังจิตอุทิศสวน กุศลแกทา นผูลวงลับไปแลว - เมื่ออุทิศเปนสวนรวมแลว ควรอุทิศระบุเฉพาะเจาะจงชื่อ นามสกุล ของผูลวงลับไปแลว อยา งชดั เจนอกี ครง้ั หน่ึง - เมื่อพระสงฆรูปท่ี ๒ รับและข้ึนอนุโมทนาวา สัพพีติโย….พึงเทน้ําใหหมดภาชนะแลว ประนมมือรับพรตอ ไป - ขณะทพ่ี ระสงฆก ําลงั อนุโมทนา ไมพ งึ ลกุ ไปทําธุรกจิ อืน่ ๆ (หากไมจําเปนจริง ๆ) - พระสงฆอนโุ มทนาจบแลว พึงกราบหรือไหวต ามสมควรแกสถานท่ีนนั้ ๆ - นํ้าท่ีกรวดแลวพึงนําไปเทลงที่พ้ืนดิน โดยเทลงที่กลางแจงภายนอกตัวอาคารบานเรือน หา มเทลงไปในกระโถนหรอื ในท่ีสกปรกเปนอันขาด ขอท่คี วรทราบเพม่ิ เตมิ ศาสนพิธี เปนองคประกอบที่สําคัญสวนหนึ่งของพระพุทธศาสนา ซ่ึงผูรูไดถือปฏิบัติกันมาจนเปน แบบแผนและเปนส่ิงที่ชาวพุทธควรศึกษาและปฏิบัติใหถูกตอง เพ่ือใหเกิดศรัทธา ปสาทะแกผูพบเห็น และใหเกดิ ความขลังความศกั ด์ิสิทธิแ์ กพ ิธกี รรมนน้ั ๆ ขอ ควรทราบเพิม่ เติม ดังน้ี ๑. การไหว ๑.๑ การไหวพ ระ - ยกมือทั้งสองพนมอยูระดับอก แลวยกมือที่พนมน้ันขึ้นจรดหนาผาก โดยให ปลายนวิ้ หัวแมม ือ ท้งั สองจรดระหวางควิ้ นอมศรี ษะลงพองาม เหตุผล : การเคารพผูที่เรานับถืออยางสูงสุด ควรพนมมือใหอยูระดับ สูงสดุ ของใบหนา และ นอบนอ มเคารพดวยเศียรเกลา ๑.๒ การไหวบ ิดามารดา ปยู า ตายาย - ยกมือท่ีพนมอยูข้ึน ใหปลายนิ้วหัวแมมือจรดปลายจมูก นอม ศรี ษะลงพองาม เหตุผล : การเคารพผูท่ใี หชีวติ ใหล มหายใจแกเ รา จึงพนมมือไว เหนอื จมูกและนอมราํ ลึกถึง พระคณุ ดวยเศยี รเกลา

๑๕ ๑.๓ การไหวผทู เี่ ราเคารพนับถอื ทว่ั ไป หรอื ผทู ี่มอี ายุมากกวา ตน - ยกมือที่พนมอยูใหปลายน้ิวหัวแมมือจรดปลายคาง นอมศีรษะลงพองาม เหตุผล : การเคารพผูที่มีอาวุโสมากกวาอยูในรุนคราวพี่ ซ่ึงถือวาเปน แบบอยางในการทํามาหาเลี้ยงชีพ จึงพนมมือไวระดับของปาก และนอม รบั มาเปนแบบอยางการดาํ รงชวี ติ ๑.๔ การไหว (การรบั ไหว) ผเู สมอกันหรือผนู อ ยกวา - ยกมือพนมข้ึนเสมออก ใหปลายน้ิวชี้จรดปลายคาง ไมตองนอม ศรี ษะ เหตุผล : คนเสมอกันและเพื่อนมนุษย ควรมีน้ําใจเมตตาเอ้ือเฟอ เก้อื กลู กนั จงึ พนมไวในระดบั อก หมายถึงจิตใจ การไหวนั้น จะน่ังพับเพียบไหวหรือยืนไหวก็ได ผูชายถายืนตองให เทาท้ังสองชิดกัน ในลักษณะยืนตรง ผูหญิงถายืนใหสืบเทาขางหนึ่งไปขางหลัง เล็กนอย พรอมทงั้ นอ มตวั ไหวส าํ หรับการไหวผูอาวโุ สกวาขนึ้ ไป ๒. การกราบ ๒.๑ การกราบพระ - กราบศพพระ - กราบแบบเบญจางคประดิษฐ ๓ คร้ัง หมายถึงใหอวัยวะ ๕ สวนจรดถึงพ้ืน คือ เขา ๒ มือ ๒ หนา ผาก ๑ ทา เตรียม ผชู าย น่งั คุกเขา บนสน เทา ปลายเทาตั้ง ผหู ญิง น่ังทบั ฝาเทา ปลายเทาราบ จังหวะ ๑ (อญั ชลี) ยกมอื ทง้ั สองขนึ้ พนมเสมออก ปลายน้ิวเบนออกประมาณ ๔๕ องศา จังหวะ ๒ (วันทา) ยกมือท่ีพนมน้ันขนึ้ จรดหนาผาก ใหห วั แมม ือทง้ั สองจรดระหวางคิ้ว จงั หวะ ๓ (อภิวาท) กราบลงกบั พื้น แบมือควาํ่ ใหฝา มอื ท้ังสองหา งกันพอศีรษะจรดพ้นื ได (ผูช ายใหขอศอกตอ หัวเขา ผหู ญงิ ใหขอศอกครอ มเขา ) ๒.๒ กราบคน - กราบศพคน (กราบมอื ตั้งครง้ั เดียว) จังหวะ ๑ นง่ั พับเพียบพนมมือไหวขึ้น ใหหัวแมมือจรดปลายจมูก (กรณีผูตายอาวโุ สกวา)

๑๖ ใหห วั แมมือจรดปลายคาง (กรณีผูต ายอาวุโสเทา กันหรอื รนุ ราวคราวเดียวกนั ) จงั หวะ ๒ กราบ หมอบกราบครัง้ เดยี วโดยใหมือท่ีพนมนัน้ ต้งั กบั พืน้ หนา ผากจรดสันมอื ๓. การจดุ ธูปเทียนบูชาพระ - จุดเทยี นเลม ทางขวาของพระพุทธกอ น แลว จึงจดุ เทยี นเลมทางซา ยของพระพุทธ - จดุ ธูป ๓ ดอก โดยจุดดอกทางขวาของพระพุทธ ไปทางซา ยตามลําดบั - เสร็จแลว กราบดว ยเบญจางคประดษิ ฐ ๓ ครัง้ ๔. สัญลกั ษณแหง การบชู า เทียน เปนสัญลักษณแหงการบูชาพระธรรมและพระวินัย เปรียบเทียบวาเทียนเปนแสง สวา งสอ งทาง พระธรรมใหค วามสวา งแกจ ิตใจ ธูป เปนสัญลักษณแหงการบูชาพระคุณของพระพุทธเจา ผูทรงพระคุณ ๓ ประการ คือ พระปญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ เปรียบเทียบวา ธูปมีกล่ินหอม เม่ือหมดดอก ความหอมจะสนิ้ ไป แตค วามหอมของพระพทุ ธคุณ มิมวี นั หายไป ดอกไม เปน สัญลกั ษณแ หงการบูชาพระสงฆ เปรียบเทียบวา ดอกไมจ ัดเปน ระเบยี บแลว ดูสวยงาม พระสงฆอยูในระเบียบวนิ ยั ปฏิบัติดี ปฏิบตั ชิ อบ ยอมสวยงามมคี ณุ คา ๕. การจุดธูป จดุ ๑ ดอก : บชู าศพ จุด ๓ ดอก : บชู าพระรตั นตรยั - บชู าพระคุณของพระพทุ ธเจาทงั้ ๓ ประการ จดุ ๕ ดอก : บูชาปูชนียบุคคลท้ังหาคือ บูชาพระรัตนตรัย ๓ ดอก,บูชาบิดามารดา ๑ ดอก, บูชาครูอาจารย ๑ ดอก หรือบูชาพระพุทธเจา ๕ พระองค คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกสั สปะ พระโคตมะ และพระศรีอริยเมตไตรย จดุ ๗ ดอก : บชู าองคแ หงธรรมเปนเครือ่ งตรสั รขู องพระพทุ ธเจา ๗ ประการ ท่ีเรียกวา โพชฌงค ๗ หรอื บูชาวนั ท้ัง ๗ คือ อาทติ ย - เสาร จดุ ๙ ดอก : บูชาพระพุทธคุณโดยพิสดาร ๙ ประการ บชู าพระภมู เิ จาท่ีทง้ั ๙ พระองค

๑๗ ๖. การอัญเชญิ พระพุทธรปู มาต้งั บนโตะ หมูบ ูชา - ควรทาํ เมอื่ ใกลเวลาจะประกอบพธิ ี - พระพทุ ธรปู น้นั ควรใหญพ อสมควร ไมใ ชพ ระเครอื่ ง ซึ่งเล็กเกินไป - ถา มคี รอบ ควรเอาทค่ี รอบออก หากมวั หมองดวยธลุ ี ควรเช็ดใหส ะอาด หรอื สรงน้ําเสยี กอ น - อัญเชิญโดยยกที่ฐานพระใหสูงระดับอกดวยอาการเคารพ หามจับท่ีพระศอ (คอ) หรือพระ พาหา (แขน) ในลกั ษณะห้วิ ของ ซง่ึ เปน อาการท่ีไมเ คารพ - ตง้ั บนโตะ หมบู ชู าตัวท่ีสงู ที่สดุ - ควรอัญเชิญกลับไปไวทีเ่ ดิมเมอื่ เสร็จพธิ ี ๗. การกลา วคาํ อาราธนาในพุทธศาสนาพิธี กอ นแตจะรับศีลจากพระสงฆกด็ ี กอ นแตจ ะฟงพระธรรมเทศนากด็ ี กอนแตจ ะใหพ ระสงฆ เจรญิ พระพทุ ธมนตก็ดี คฤหสั ถตองอาราธนากอ น คําอาราธนานนั้ เปน ภาษามคธ ดงั นี้ คาํ อาราธนาศลี ๕ คาํ บาลี คาํ แปล มะยัง ภันเต วิสงุ วสิ งุ รกั ขะณัตถายะ/ ขาแตทา นผเู จริญ ขา พเจา ท้ังหลายขอศีล ๕ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปญ จะ สีลานิ ยาจามะ พรอมดว ยไตรสรณะ เพ่อื รักษาแยกกนั เปนขอ ๆ ทุตยิ มั ป มะยงั ภนั เต วสิ งุ วิสุง รกั ขะณัตถายะ/ ขา แตทานผเู จรญิ ขา พเจาท้งั หลายขอศีล ๕ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปญ จะ สีลานิ ยาจามะ พรอ มดว ยไตรสรณะ เพอื่ รักษาแยกกันเปนขอ ๆ เปนครงั้ ที่ ๒ ตะติยมั ปม ะยงั ภนั เต วสิ งุ วสิ ุง รักขะณตั ถายะ/ ขาแตท านผเู จริญ ขา พเจา ทัง้ หลายขอศลี ๕ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปญ จะ สีลานิ ยาจามะ พรอมดว ยไตรสรณะ เพอ่ื รักษาแยกกันเปน ขอ ๆ เปน ครง้ั ที่ ๓ คําอาราธนาพระปรติ ร (สวดมนต) คําบาลี คําแปล วปิ ตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปต ตสิ ทิ ธิยา ขออาราธนาพระคณุ เจา ท้ังหลาย สวดพระปรติ ร สัพพะทกุ ขะวินาสายะ ปะริตตัง พรถู ะ มังคะลัง อนั เปนมงคล เพ่ือปอ งกันความพิบัติ เพ่อื ใหส ําเร็จ วปิ ตติปะฏิพาหายะ สัพพะสมั ปตตสิ ทิ ธยิ า สมบตั ิทุกอยาง และเพือ่ ใหท กุ ขพ ินาศไป สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตงั พรถู ะ มังคะลงั ขออาราธนาพระคณุ เจา ทั้งหลาย สวดพระปรติ ร วปิ ตติปะฏิพาหายะ สัพพะสมั ปต ติสิทธยิ า อันเปนมงคล เพอ่ื ปอ งกันความพิบัติ เพอ่ื ใหส ําเร็จ สพั พะโรคะวนิ าสายะ ปะรติ ตงั พรูถะ มงั คะลงั สมบตั ิทกุ อยา ง และเพื่อใหภ ยั พนิ าศไป ขออาราธนาพระคณุ เจา ทั้งหลาย สวดพระปริตร อันเปน มงคล เพื่อปอ งกนั ความพิบัติ เพอ่ื ใหสําเร็จ สมบัติทกุ อยาง และเพอ่ื ใหภ ัยพินาศไป อาราธนาธรรม (อาราธนาใหพ ระเทศน) คาํ บาลี คําแปล พรหั มา จะ โลกาธปิ ะตี สะหมั ปะติ ทา วสหมั บดีพรหม ผเู ปน อธบิ ดขี องโลก ไดป ระนมหัตถ

๑๘ กัตอัญชะลี อนั ธิวะรัง อะยาจะถะ นมสั การกราบทลู สมเด็จพระผมู ีพระภาคเจา ผปู ระเสรฐิ สนั ตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาตกิ า กวา สัตวผยู ังมดื มนวา สตั วท ้งั หลายผูมี คอื กิเลส เทเสตุ ธัมมัง อะนกุ ัมปมัง ปะชัง ในดวงตาเพียงเล็กนอย ยังมีอยูใ นโลกนี้ ขอพระองค จงทรงแสดงธรรม อนุเคราะหห มสู ัตวนเี้ ถดิ กอนวาคําอาราธนา ถาเปนพิธีทางราชการ พระสงฆนั่งบนอาสนะสูง เจาภาพน่ังเกาอี้ ผูอาราธนาควรยืนขึ้น ทําความเคารพประธานกอน แลวจึงเดินเขาไปหาพระสงฆยืนหางพอควร แลว ประนมมือไหวกลา วคําอาราธนา เสร็จแลวไหวอีกคร้งั หนึ่งหันมาทําความเคารพประธาน แลวจงึ ไปน่ังฟง เทศนหรือฟงพระสวดมนต ถาเปนพิธีของเอกชน ผูฟงน่ังกับพ้ืน ผูอาราธนาควรนั่งคุกเขาขึ้นแลวกราบ พระประนมมือกลาวคําอาราธนา เสรจ็ แลว กราบ ๑ คร้ัง น่งั ราบลงกบั พน้ื ฟงสวดหรอื เทศนตอไป

๑๙ พิธีสถาปนาหนว ย (The ceremony of establishment) ............................................................................................................................. สาระการเรยี นรู ๑. บทนํา ๒. พิธีบวงสรวง (สกั การะส่งิ ศักดส์ิ ทิ ธ)ิ์ ๓. พธิ สี งฆ วัตถุประสงค เมอ่ื ศกึ ษาบทเรียนนจ้ี บแลว ผูเขา รับการศกึ ษาสามารถ ๑. อธบิ ายการจัดเตรียมสําหรบั พิธบี วงสรวงสงิ่ ศักดิ์สทิ ธ์ไิ ด ๒. สามารถจัดเตรียมสิ่งของสําหรับพิธีบวงสรวงสิ่งศกั ด์สิ ิทธิไ์ ด ๓. อธิบายขน้ั ตอนการเจริญพระพทุ ธมนตเนื่องในวันสถาปนาหนวยได ๔. สามารถจดั เตรียมสิง่ ของสาํ หรบั พธิ เี จรญิ พระพุทธมนตเนอ่ื งในวันสถาปนาหนวยได กจิ กรรมระหวางเรยี น ๑. บรรยาย ๒. สอบถาม ๓. ใบงาน ๔. สาธิตใหดู ส่อื การสอน ๑. เพาเวอรพ อยท ๒. เอกสารตาํ รา ๓. คลิปวีดโิ อท่ีเกย่ี วของ ๔. เครอื่ งชวยฝก ประเมินผล ๑. ใหตอบคําถาม ๒. แบบทดสอบหลังเรียน ๓. สอบภาคปฏบิ ตั ิ

๒๐ บทนาํ (preface) พิธีทําบญุ เนอื่ งในวันสถาปนาหนวย เปน การบําเพญ็ กศุ ลเพอ่ื อทุ ศิ กุศลแกผ ูท่ไี ดกอ ตง้ั หนว ยหรอื ทําการสถาปนาหนว ย, อดตี ผูบังคับหนวย และขาราชการของหนว ยทถี่ ึงแกก รรมไปแลว และเพ่อื ความ เปนสิรมิ งคลของขา ราชการในหนว ย พธิ บี วงสรวง (สกั การะสงิ่ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ)์ ๑. การเตรยี มการ ๑. โตะ วางเครอ่ื งบวงสรวง ๒. เครอื่ งบวงสรวง (มัจฉะมังสะ) ๓. กระถางธูป เชิงเทยี น ๔. ธูปหาง ๕. ขา วตอก ดอกไม ๖. พวงมาลยั ๗. คํากลาวบูชาเครื่องสงั เวยสําหรับประธาน ๒. การปฏบิ ตั ิ ประธานฯ - วางพวงมาลัย - จุดธูปเทียนทรี่ ูปเคารพ - ปกธปู หาง พธิ ีกร -กลุมชมุ นมุ เทวดา ประธานฯ - นํากลา วคาํ บูชาเครื่องสังเวย (จบแลว ) - โปรยขาวตอก ดอกไม (วาง – ผูก- จดุ – ปก – กลา ว – โปรย) เสร็จพิธี คาํ ชุมนมุ เทวดา สคั เค กาเม จะ รูเป คิรสิ ขิ ะระตะเต จนั ตะลกิ เข วมิ าเน ทเี ป รฎั เฐ จะ คาเม ตะรวุ ะ นะคะหะเน เคหะวตั ถุมหิ เขตเต ภมุ มา จายนั ตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยกั ขะคนั ธพั พะนาคา ตฏิ ฐนั ตา สนั ตเิ ก ยัง มุนวิ ะระวะจะนัง สาธะโว เม สนุ นั ตุ อายาจะนะกาโล อะยมั ภะทนั ตา อายาจะนะกาโล อะยัมภะทนั ตา อายาจะนะกาโล อะยมั ภะทนั ตา ขา พเจาขออญั เชญิ มวลเทพยดามหาพรหม ซึง่ สถิตอนุกรมเสวยสวรรค ชนั้ กามภพและรปู ภาพ อกี ทงั้ ปวงเทพรักษท ่พี ํานักเหนือสิงขร บรรพตยอดคีรี อีกทั้งมใี นคหู า เหวธารละหารหวยและสถติ อยูใน เวหานภากาศ พิมานมาศมณฑิรา อกี เหลาเทวดาในเกาะแกงแหลง รัฐคามนิคม ในชมรมแดนพฤกษา พนาเวศ อยใู นเขตเคหาและนาไร อีกทัง้ ทวยยกั ษคนธรรพพญานาค ซึ่งสถติ ชดิ ใกลใ นสาํ นกั ไมหางเหิน ขออัญเชญิ มารว มชมุ นุมรบั ฟง ขอเสาวนยี ใ นพธิ บี วงสรวง เน่ืองในพิธสี ถาปนาหนวยนเี้ ทอญ

๒๑ คาํ กลา วบวงสรวง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พทุ ธสั สะ ( ๓ จบ ) อมิ ัสมงิ / ทิสาภาเค / สนั ตภิ ุมมา / มะหทิ ธิกา / เตป อัมเห อะนรุ ักขนั ตุ / อาโรคะเยนะ สเุ ขนะ จะ / สปู ะพะยญั ชะนะสัมปน นัง / โภชะนงั / ปะรภิ ญุ ชันตุ / ชะยะ มังคะละเทวา / สพั พะโทสัง ขะมนั ตุ โน / สะทา โสตถี / ภะวนั ตุ โน / ขา แตพระชัยมงคลภูมิ ผทู รงฤทธ์ิ ซ่งึ สถติ อารักขา ณ ภูมิภาคนี้ ดว ยวันนี้ เปนวันมหามงคล ขา พเจา ............................................................... พรอ มดว ย................................................................จะได ประกอบพธิ เี น่ืองในวันสถาปนาหนว ย.......................... เพื่อความเปน สิรมิ งคล จงึ ไดจัดตบแตง เครือ่ ง สงั เวย และเครื่องสกั การะบูชา นอ มถวายแดพระภมู ิเจา ท่ี ขอพระภูมเิ จาท่ี โปรดแผบญุ ญาภนิ ิหาร อภบิ าลรักษา ปวงขาพเจา ใหปราศจากทุกขโ ศก โรคภยั พาล อุปสรรคนานาประการ และอปุ ทวนั ตราย ทั้งหลาย จงปลาสนาการ ขอไดโ ปรดประทานพร ใหปวงขาพเจา ประสบแตส นั ติสขุ สริ ิสวสั ดิ์ เจริญ รุงเร่อื งในหนาท่กี ารงาน ในท่ีทุกสถาน ตลอดกาลทุกเมอื่ เทอญ พธิ สี งฆ ๑. การเตรียมการ -นิมนตพ ระสงฆ ๑๐ รปู ในการบาํ เพญ็ กศุ ลทเ่ี กยี่ วเน่ืองกับพระมหากษตั รยิ แ ละพระบรม วงศานวุ งศ หรอื ในพธิ ที ่ีกาํ หนดใหม ีการบาํ เพ็ญกศุ ลทกั ษณิ านุประทาน -โตะหมูบูชาพรอมเครอื่ งตัง้ ครบชุด -เครือ่ งใชในพิธีสงฆครบชุด -โตะ หมูบ ูชา หมู ๔ สําหรับประดษิ ฐานพระบรมรปู หรอื โกศบรรจุรายชอื่ ขา ราชการทีเ่ สียชีวติ พรอมเครอ่ื งต้ัง (พานพมุ ๒ พาน และเคร่อื งทองนอ ย ๑ ชดุ ) -ผาภูษาโยง พรอมสายโยง -ผาบงั สกุ ุล -รายชือ่ อดตี ขาราชการท่ีเสยี ชวี ติ -เครื่องไทยธรรมสาํ หรบั ถวายพระสงฆ ๒. การปฏบิ ตั ิ เวลา ........ - ขา ราชการ และแขกรบั เชญิ พรอม ณ สถานท่ปี ระกอบพธิ ี เวลา ......... - ประธานฯ เดินทางถึงสถานที่ประกอบพิธี - ประธานฯ จุดธูปเทยี นบชู าพระรตั นตรัย กราบ ๓ ครั้ง - ประธานฯ จุดธปู เทียน เคร่ืองทองนอ ย บูชารายพระนาม และรายนามของ ขาราชการผลู วงลับไปแลว และกลบั เขา นง่ั ยงั ที่รับรองประธานฯ - พธิ กี รอาราธนาศีล - ประธานสงฆใหศีล ผรู ว มพิธรี บั ศีล - พธิ ีกร/เจาหนา ที่ ลาดผาภูษาโยง - ประธานฯ ทอดผา บังสุกุล ๑๐ ผืน - พระสงฆสดบั ปกรณ หรอื พิจารณาบงั สุกุล - พิธีกร/เจา หนา ที่ เกบ็ ผาภูษาโยง

๒๒ - พระสงฆอนุโมทนา - ประธานฯ กรวดนา้ํ -รับพร - พิธกี รอาราธนาพระปริตร - พระสงฆเ จริญพระพุทธมนต -ประธานฯ จดุ เทยี นน้าํ มนตแ ละถวายขันน้าํ มนตแ ดป ระธานสงฆ พระสงฆเ จรญิ พระพุทธมนต ไปจนจบ - เจา หนาที่ ๑๐ นาย เทียบภตั ตาหารดานหนาพระสงฆ - ประธานฯ และแขกผใู หญ ประเคนภัตตาหารแดพ ระสงฆ - พระสงฆฉนั ภตั ตาหาร - ประธานฯ และแขกผใู หญถ วายเครื่องไทยธรรมแดพ ระสงฆ - พระสงฆอนโุ มทนา - ประธานฯ กรวดนา้ํ -รับพร - ประธานฯ กราบพระรัตนตรัย - พระสงฆประพรมน้ําพระพุทธมนตแ กป ระธานในพธิ ีและผูรวมพิธีฯ - เสร็จพิธสี งฆ ฯ จํานวน ๑๐ ชุดๆ ละ ๖๐๐.- บ. จาํ นวน ๑ อัน ๑,๘๐๐.- บ. จํานวน ๑ อนั ๑,๑๐๐.- บ. จาํ นวน ๑ อนั ๗๕๐.- บ. จาํ นวน ๑๐ ผืนๆ ละ ๓๘๐.- บ. จํานวน ๕ ใบๆ ละ ๔๕๐.- บ. จํานวน ๑ ใบ ๒,๖๐๐.- บ. อุปกรณใ นพธิ สี งฆ

๒๓ ภาพตัวอยา งการปฏบิ ตั พิ ธิ สี งฆ

๒๔ พธิ ีเกี่ยวกบั ศพทหาร (The ceremony of Military funeral) ............................................................................................................................. สาระการเรียนรู ๑. พธิ สี ง ศพ ๒. พธิ รี ับศพ ๓. พิธีรดนาํ้ ศพ ๔. พธิ สี วดพระอภิธรรม ๕. พิธีพระราชทานเพลิง ๖. พิธเี กบ็ อัฐิ ๗. พิธีลอยอังคาร วตั ถุประสงค เมื่อศกึ ษาบทเรยี นนจ้ี บแลว ผเู ขารบั การศกึ ษาสามารถ ๑. อธิบายข้ันตอนพธิ สี งศพได ๒. อธิบายข้นั ตอนพิธรี ับศพได ๓. อธบิ ายขนั้ ตอนพธิ รี ดน้าํ ศพได ๔. อธบิ ายขน้ั ตอนพิธสี วดอภธิ รรมได ๕. อธบิ ายข้นั ตอนการปฏบิ ัตใิ นพิธีพระราชทานเพลิงได ๖. อธบิ ายขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิในพิธีเกบ็ อัฐไิ ด ๗. อธิบายข้ันตอนปฏิบตั พิ ิธลี อยองั คารได กจิ กรรมระหวา งเรยี น ๑. บรรยาย ๒. สอบถาม ๓. ใบงาน ๔. สาธติ ใหด ู สื่อการสอน ๑. เพาเวอรพอยท ๒. เอกสารตาํ รา ๓. คลิปวีดโิ อทีเ่ กีย่ วของ ๔. เคร่อื งชวยฝก ประเมินผล ๑. ใหต อบคําถาม ๒. แบบทดสอบหลังเรยี น ๓. สอบปฏบิ ตั ิ

๒๕ บทนํา (preface) เมอ่ื เกิดสญู เสยี กําลังพลจากการปฏบิ ัติหนา ที่ หนวยที่เกย่ี วขอ งจะตอ งจดั การพธิ เี กี่ยวกับศพของ กาํ ลังพลดงั กลา วใหถ ูกตองตามระเบียบปฏิบัติของกองทัพ เพื่อใหเกิดความเรยี บรอยและเปนมาตรฐาน เดียวกนั ๑. พธิ สี งศพ ๑. การเตรียมการ 1. ตดิ ตอ วัดสาํ หรบั ประกอบพธิ ี 2. โตะวางหบี ศพจดั ต้ังเตียงรองศพ ณ สถานทก่ี วาง ๆ ตรงกลางของสถานทน่ี ั้น ๆ ตัง้ ไว ดา นซายของโตะหมูบชู า 3. หันดา นขวามือศพ หรอื ดา นปลายเทาศพ ใหอ ยูท างผูท่ีมาแสดงความเคารพศพ (ไมค วร เดนิ ผานดา นศีรษะศพ) 4. จัดรา งศพใหนอนหงายเหยียดยาว จดั มือขวาใหเ หยียดออกหา งจากตวั ศพเลก็ นอย โดยใหว างมือแบ เหยียดออกคอยรับการรดนํ้า 5. นาํ้ อบสําหรับรดนาํ้ ศพ 6. มาลยั กร 7. พวงหรีดสาํ หรับประธานพธิ ี 8. พวงหรีดผูบ งั คับบญั ชา 9. เหรียญบางระจนั ทร 10. รายการเงนิ ชว ยเหลือ ๒. การปฏบิ ตั ิ พธิ ีกร - กลาวคาํ สดดุ ี ประธานฯ - วางพวงหรีด ตามลาํ ดับในนามผบู ังคบั บัญชาดงั นี้ ๑) นายกรฐั มนตรี ๒) รฐั มนตรวี าการกระทรวงกลาโหม ๓) ปลดั กระทรวงกลาโหม ๔) ผบู ญั ชาการทหารบก ๕) แมท พั ภาคท่ี ๔ - มอบเหรียญบางระจนั แกทายาททหารกลา - มอบเงินชว ยเหลอื จดั การศพข้นั ตนตามลําดบั ดงั น้ี ๑) เงินกองทุน “ภาคเอกชนรว มน้าํ ใจชว ยทหารชายแดนใต” โดย รัฐมนตรีวาการกระทรวงกลาโหม ๒) เงินกองทนุ ชวยเหลอื กําลังพลกองทพั บก จังหวดั ชายแดนภาคใต ๓) เงินชว ยเหลือจัดการศพขน้ั ตนโดย...................ผูบัญชาการทหารบก ๔) เงินชว ยเหลือจัดการศพขน้ั ตน โดย.................แมท พั ภาคที่ ๔ - จดุ ธปู เทยี นบชู าพระรัตนตรัย - จุดธูปเทยี นเคารพศพ - วางมาลัยกรทีข่ อ มือศพ

๒๖ ผรู วมพิธี - รดนา้ํ ศพ ประธานฯ -รดน้าํ ศพ (เสรจ็ แลว) - กองทหารเกยี รตยิ ศเขา ประจําท่ี - ผูรว มพธิ พี รอม ณ จุดสง ศพ - จุดธูปเทียนเคารพศพ - ทอดผาบงั สกุ ลุ /พระสงฆพ ิจารณา - ไปประจาํ จดุ ท่กี ําหนด - สห.เชิญศพขนึ้ เครือ่ ง (กระถางธปู - รปู - พระ - ศพ - หรีด) - กองทหารเกยี รติยศ ส่งั “วนั ทยาวธุ ” พลแตรเปาเพลง “เคารพ” - กองทหารเกยี รติยศ สง่ั “เรียบอาวุธ” เมือ่ สห.เชิญศพไปถงึ เครื่องบนิ - เครือ่ งบินวงิ่ ไปรนั เวย - เครอ่ื งบินทยานข้นึ สทู อ งฟา - กองทหารเกยี รตยิ ศ สั่ง “วนั ทยาวธุ ” พลแตรเปาเพลง “เคารพ” - กองทหารเกยี รตยิ ศ ส่ัง “เรยี บอาวธุ ” เม่ือเครอ่ื งบนิ ลับสายตา - เสร็จพธิ ี คาํ สดดุ ที หารกลา เรียน........................................ประธานพธิ ี และทา นผมู ีเกียรติทเี่ คารพ รา งปราศจากวิญญาณ ทน่ี อนสงบนงิ่ ณ เบ้ืองหนา ของทานท้ังหลายในขณะนี้ เปนรางของ .....................ตําแหนง.................. (ผูตาย).................เกดิ เมือ่ วัน...............ท.่ี .........เดอื น..............พ.ศ..................เปน บุตรของ ................................................................... ไดถงึ แกก รรมดวยการปฏิบตั ิหนาท่ีแหงชายชาตทิ หารผพู ลชี พี เพอ่ื รกั ษาชาติ รักษาแผนดนิ และความสงบสุขแหงปวงชนชาวไทย ขณะปฏิบตั ิภารกจิ ทผ่ี บู งั คับบัญชา มอบหมายใหป ด ลอ มตรวจสอบพสิ ูจนท ราบพน้ื ท่.ี ...................................................................................... ทค่ี าดวาผกู อเหตรุ ุนแรงหลบซอนตวั ตอ มาผกู อเหตุรนุ แรงไดใ ชอ าวุธปน ยงิ ใสเ จาหนา ที่ เปนเหตใุ ห ...................................................เสยี ชีวิตในเวลาตอ มา (ผูตาย).........................................................อาย.ุ ..........ป ตําแหนง ................................สังกัด .................................................มภี มู ิลําเนาอยทู ่ี........................................................................................ การจากไปของ (ผตู าย).........................................ในคร้ังนี้ เปน การจากไปอยา งวีรชนทหารกลา ผูสละชพี เพือ่ ความสงบสขุ แหง ปวงชนชาวไทย ภายใตพระบรมโพธิสมภารแหงพระบาทสมเดจ็ พระ เจา อยหู วั และพระบรมวงศานุวงศ เพือ่ เปน การสดดุ เี กียรติคุณแหง วรี ชนทา นน้ี ขออนญุ าตเรยี นเชญิ .........................ประธานในพธิ ี ไดกรุณาวางพวงหรดี เคารพศพในนามของ นายกรฐั มนตรี, รัฐมนตรวี า การกระทรวงกลาโหม, ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผูบ ญั ชาการทหารบก และแมทพั ภาคท่ี ๔ ตามลาํ ดบั หลังจากน้นั ขอเชญิ ญาติของ (ผูตาย)..................รับมอบเหรียญบางระจนั และใบประกาศเกยี รติ คุณท่ี (ผตู าย)................ไดพ ลีชีพเพอ่ื พิทักษรักษาผนื แผน ดนิ ไทย ไวเปนเกยี รตปิ ระวตั ิแกค รอบครวั .............สบื ไป และขอเชญิ ทานประธานมอบเงินชวยเหลือจัดการพิธีศพขน้ั ตน ตามลาํ ดับดังนี้ ๑. เงินกองทุน “ภาคเอกชนรวมน้าํ ใจชว ยทหารชายแดนใต” โดยรฐั มนตรีวา การ กระทรวงกลาโหม จํานวน...............บาท

๒๗ ๒. เงินกองทนุ ชว ยเหลอื กําลงั พลกองทพั บกจงั หวัดชายแดนภาคใต จาํ นวน.........บาท ๓. เงินชวยเหลือจดั การพธิ ศี พขัน้ ตน ตามหลักศาสนา โดย..............ผบู ญั ชาการทหารบก จํานวน.....บาท ๔. โดย.....................แมท ัพภาคที่ ๔ จํานวน ..........บาท ในนามของครอบครัว (ผตู าย).............ขอขอบพระคุณทา นประธานและคณะผูบงั คับบัญชาทุก ระดบั ช้ันท่มี ีความหว งใยและเอาใจใสตอ ครอบครวั ผวู ายชนมในฐานะของผใู ตบ งั คบั บัญชา เพือ่ เปนการ ปฏิบัตติ ามประเพณนี ยิ ม ตลอดถงึ เปน การขอขมาตอ สง่ิ ที่ไดล วงเกินผวู ายชนม ขออนญุ าตเรียนเชญิ ........... (ตําแหนง).....................กรุณาเปน ผูนาํ การประกอบพธิ ีรดนํ้าศพ ดวยการจดุ ธูปเทียนบชู าพระรัตนตรัย ณ โตะ หมบู ูชา จดุ ธูปเทียนเคารพศพและรดนาํ้ ศพ ตามลําดับ ๒. พธิ รี บั ศพ ๑. การเตรยี มการ 1. ตดิ ตอ วัดสําหรบั ประกอบพธิ ี 2. นมิ นตพ ระจูงศพ 3. ผา บงั สุกุล ๒. การปฏบิ ตั ิ - พรอม ณ จุดท่กี าํ หนด ผูร วมพิธี - กองทหารเกยี รตยิ ศเขาประจาํ ท่ี ประธานฯ - ทอดผา บังสกุ ลุ บนหีบศพ/พระสงฆพิจารณา - สห.เชญิ ศพขนึ้ รถยนต - กองทหารเกยี รติยศ สงั่ “วนั ทยาวุธ” พลแตรเปาเพลง “เคารพ” - กองทหารเกยี รตยิ ศ สง่ั “เรียบอาวธุ ” เม่อื สห.เชญิ ศพไปถึงรถยนต - รถยนตวงิ่ ออกจากสนามบนิ - กองทหารเกยี รตยิ ศ ส่ัง “วนั ทยาวธุ ” พลแตรเปาเพลง “เคารพ” - กองทหารเกยี รตยิ ศ ส่ัง “เรยี บอาวธุ ” เมื่อรถวิ่งออกจากสนามบนิ - เสรจ็ พิธี ๓. พิธรี ดนา้ํ ศพ ๑. การเตรียมการ 1. ติดตอวัดสําหรบั ประกอบพธิ ี 2. โตะ วางหบี ศพจดั ตัง้ เตยี งรองศพ ณ สถานทก่ี วาง ๆ ตรงกลางของสถานทีน่ ้ัน ๆ ต้ังไว ดานซายของโตะหมูบ ชู า 3. หนั ดานขวามือศพ หรอื ดานปลายเทาศพ ใหอยทู างผูท่มี าแสดงความเคารพศพ (ไมควร เดนิ ผา นดานศีรษะศพ) 4. จดั รา งศพใหน อนหงายเหยียดยาว จดั มือขวาใหเ หยียดออกหางจากตัวศพเล็กนอย โดยใหว างมอื แบ เหยียดออกคอยรบั การรดนํา้ 5. นา้ํ อบสําหรับรดนาํ้ ศพ 6. มาลยั กร 7. พวงหรีดสําหรับประธานพิธี 8. พวงหรีดผบู ังคับบญั ชา

๒๘ 9. รายการเงินชวยเหลือ ๒. การปฏบิ ตั ิ พธิ ีกร - กลาวคาํ สดุดี ประธานฯ - วางพวงหรดี - มอบเงินชวยเหลือจดั การศพขัน้ ตน - จดุ ธปู เทยี นบชู าพระรัตนตรัย - จุดธูปเทยี นเคารพศพ - วางมาลัยกรทีข่ อ มือศพ - รดนํา้ ศพ/ผรู ว มพิธีรดน้าํ ศพ - เจาหนา ทีเ่ ชญิ น้าํ อาบศพพระราชทานเขา ประจําจุด ประธานพธิ ี - จุดธปู เทยี นเครอื่ งทองนอย - ถวายคาํ นบั แลวหยบิ คนโทน้ํา อาบนา้ํ ศพโดยรดเฉวียงบาจากซา ยลงมา ทางขวา และขวาลงมาทางซา ย - หยิบนํา้ อบเทลงทีห่ นาอกของศพ - หยิบนาํ้ ขม้นิ เทลงที่หนา อกของศพ - ถวายคํานบั อกี คร้งั - วางหรีดของประธาน - เจาหนา ทบี่ รรจศุ พลงหีบ - พระสงฆส วดพระอภิธรรม - ประธานถวายไทยธรรม - พระสงฆอ นุโมทนา/ประธานกรวดนํา้ รบั พร - เสร็จพธิ ี

๒๙ ๔. พธิ สี วดพระอภธิ รรม ๑. การเตรียมการ 1. นิมนตพ ระสงฆส วดพระอภิธรรม ๔ รปู 2. จดั ยามเกยี รติยศประกอบศพทหาร จาํ นวน ๒ คู คลู ะ ๑๕ - ๓๐ นาที 3. ไทยธรรมถวายพระ 4. ภษู าโยง 5. ธูปเทียน เครอ่ื งทองนอ ย 6. ทก่ี รวดนํ้า ๒. การปฏบิ ตั ิ - ไดก าํ หนดเวลา นิมนตพระสงฆป ระจําท่ี - ประธาน ฯ จดุ ธูปเทียนบชู าพระรัตนตรยั จุดธปู เทียนท่หี นา ตูพระธรรม - ประธาน ฯ จดุ เทียนธปู เครือ่ งทองนอย (หนา ภาพถา ยผตู าย) - พิธกี รอาราธนาศีล ผูรวมพธิ ีรับศลี - พิธกี รอาราธนาธรรม (บางแหงอาจไมมกี ารอาราธนาธรรม) - พระสงฆส วดพระอภิธรรม จนจบครงั้ สดุ ทา ย - พิธกี ร และเจา หนาที่ เขา เทยี บเครื่องไทยธรรม - ประธาน ฯ (และผแู ทนผรู วมพิธี) ถวายเคร่ืองไทยธรรม - พธิ ีกร ลาดผา ภูษาโยง - ประธาน ฯ (และผแู ทนผูรวมพิธี ) ทอดผา บังสุกลุ - พระสงฆ พิจารณาผาบงั สุกลุ - พระสงฆ อนุโมทนา - ประธาน ฯ กรวดน้าํ - ประธาน กราบพระรัตนตรัย และนอมไหวพระสงฆ - พระสงฆ กลบั (ผรู ว มพิธี ลกุ ขนึ้ ยนื นอมไหว) - เสร็จพิธี

๓๐ ๕. พธิ พี ระราชทานเพลงิ ๑. การเตรยี มการ 1. ญาติ เคลือ่ นศพเวยี นเมรุ 2. ผา บังสกุ ลุ เทาจํานวนผบู ังคับบญั ชา (ตามปกติไมควรเกนิ ๑๐ ผนื ) 3. ผา ไตรบงั สุกุลผนื ประธาน 4. ดอกไมจนั ทน 5. ของทรี่ ะลึก (ถา ม)ี 6. ผูตั้งแถวรบั เพลิงพระราชทาน 7. ผูเ ชิญผา บงั สกุ ลุ 8. ผูเชญิ ดอกไมจนั ทน 9. ผสู งตาลปต ร 10. ผดู ูแลพระสงฆ 11. กองทหารเกียรติยศ 12. พลแตร 13. ยามเกียรตยิ ศประกอบศพทหาร 14. ผูอานหมายรับส่งั 15. ผูอานสํานกึ 16. ผูอา นประวตั ิ 17. หมูเชิญธง 18. ผูเ ชญิ เหรยี ญบางระจนั

๓๑ ๒. การปฏบิ ตั ิ ผปู ฏบิ ัติ เวลา การดําเนินการ ...................น. ถวายภัตตาหารเพล แจงภายใน .................. น. เคลือ่ นโลงศพข้ึนสูเมรุ แจง ภายใน ลาํ ดับงาน (๑) ผูถือกระถางธปู นําหนา (สวนใหญจะเปน บตุ รคนโต) (๒) ผูถือรปู ภาพผูวายชนม (เปนบุตรคนรองลงมา) (๓) พระภิกษุ จงู สายโยงจากโลงศพ (๔) โลงศพ (๕) แขกผมู ีเกียรติ - เดินเวียนขวารอบเมรุ ๓ รอบ (อุตตราวรรต เมรอุ ยตู ิดดานซายมอื ผูเดิน) นําโลงศพไปตง้ั ไวบนแทน ทีเ่ มรุ ทกุ คนกลบั มาน่ังทีจ่ ัดไว ถายภาพครอบครวั ............... น. ทอดผาบังสุกลุ บตุ รหลายชว ยกันจดั ๑. .................................................................................................. ผูเ ชญิ ผา บงั สกุล ๒. .................................................................................................. ๑................................ ๓. .................................................................................................. ๒................................ ๔. .................................................................................................. ๓................................ ๕. .................................................................................................. ผูเชญิ ดอกไมจันทน ๖. .................................................................................................. ๑................................ ๗. .................................................................................................. ๒................................ ๘ .................................................................................................. ๓................................ ๙. .................................................................................................. ผสู ง ตาลปตร ประชาสัมพนั ธขน้ั ตอนไฟพระราชทานเพลิงศพมาถึง ใหอยใู นอาการ ...................................... สํารวมและงดใชเสียงสักครู จนกวาจะนําไฟพระราชทานไปประดิษฐาน บนเมรเุ รียบรอย .............. น. เมื่อผอู ัญเชิญเพลิง/หีบเพลิง พระราชทาน ลงจากรถตู บุตร-หลานเขา แถว (๑) ญาติยืนรบั เพลิง/หีบเพลิง และรวมเดินไปยงั หนาเมรุ (๒) -ขบวนผูเชิญเพลิง/หีบเพลิง เดินไปหยดุ หนาเมรุ ผเู ชิญเพลิง/หีบเพลิงไป บุตร-หลานเดนิ ตาม ต้ังไวทโี่ ตะปผู า ขาว แลวเดินลงมานําขบวนไปนงั่ พกั คอย -กองทหารเกียรติยศ ติดดาบ เขา ประจาํ จดุ ผบ.กองเกยี รติ ..................................... พลฯแตร .....................................

๓๒ เวลา การดําเนินการ ผูปฏบิ ัติ ................ น. (๓) อานหมายรบั สงั่ ฯ ....................................... (๔) อานสํานึกในพระมหากรณุ าธิคณุ ....................................... (๕) -อานประวัติคาํ ไวอาลยั ....................................... -ผเู ชิญเพลิง/หีบเพลิงพระราชทาน เขาประจําจุด ผูเ ชญิ ผาไตรบังสกุ ลุ (๖) เชิญ........................................................................................... ...................................... (ตาํ แหนง) ....................................................................................... ประธานพธิ ี ทอดผาไตรมหาบังสุกลุ ผูด แู ลพระ (๗) นิมนต .......................................... ........................................................................................ . (ตําแหนง ).................................................................................. ....... ผูเ ชญิ ดอกไมจ ันทนให พิจารณาผาไตรมหาบงั สกุ ุล ประธาน (๘) -ประธานรับกระทงขา วตอก,กระทงดอกไม จากพนกั งาน พระราชพิธีวางหนา หีบศพ (คาํ นับ ๑ ครั้ง) ...................................... -ผบ.กองเกียรติฯ สง่ั “ตรง” (ผูรว มพิธียืนตรง) -พิธกี รกลา วคํามอบธง -พลแตร เปา เพลง “นอน” ๑ จบ และเหรยี ญบางระจัน (๙) -ประธานถวายบงั คมไหว ๑ คร้ัง -เปด เพลงความฝนอนั สูงสุด -หยิบดอกไมจ นั ทนพ ระราชทานจากเจาหนา ที่, จดุ เพลิง .......................................... พระราชทานจากโคมไฟฯ, วางที่ฐานใตหีบศพ, (คาํ นับ ๑ คร้งั ) - ผบ.กองเกียรติฯ สง่ั “ตรงหนาระวัง” .. “วันทยา...วุธ” - พลแตร เปา เพลง “เคารพ” ๑ จบ - ประธาน คาํ นบั ๑ คร้ัง - ผบ.กองเกียรติฯ สง่ั “เรียบ...อาวุธ” - วางดอกไมจนั ทนช อ ของประธาน, คํานบั ๑ ครัง้ , เดินลงจากเมรุ - ผบ.กองเกียรติฯ ส่งั “แบก..อาวธุ ”.. “ขวา/ซาย..หนั ”..“หนา ..เดิน” (๑๐) พระสงฆองคพิจารณาผาไตรบงั สุกุล วางดอกไมจ ันทน (๑๑) -หมูเชิญธงและเหรยี ญเขา ประจาํ จดุ (หนา เมรุ) -เชิญญาติผวู ายชนมรบั ธงชาติและเหรียญบางระจัน ..................................................................................... ..................................................................................... (๑๒) -ประธานมอบธงชาติ, มอบเหรียญบางระจนั , เงินชว ยเหลือ (ถามี) ใหแกท ายาทวีรชน

๓๓ เวลา การดาํ เนินการ ผปู ฏิบตั ิ (๑๓) -นิมนตพระสงฆขึน้ วางดอกไมจนั ทน -เชิญผรู วมพิธขี ึน้ วางดอกไมจันทน (๑๔) -ประธานเดินทางกลบั - กลาวขอบคุณประธาน ขอบคณุ แขก เสรจ็ พิธี ๖. พิธเี กบ็ อฐั ิ ๑. การเตรียมการ ๑.๑ สามหาบ - ผาไตร หรือผา บงั สุกลุ - อาหารคาวหวาน - ขาวของเครื่องใช ๑.๒ อปุ กรณ - เครอ่ื งทองนอย - ดอกไม (สําหรบั โปรย) - นํา้ อบ - เหรียญ (สําหรับโปรยทาน) - โกศอฐั ิ - ผาหอองั คาร (รงุ ) ๒. การปฏบิ ตั ิ ๑. พิธเี กบ็ อฐั ิ ๑. เจาหนา ที่แปรธาตุ ญาติรว มกันพรมนาํ้ อบและโปรยดอกไม ๒. เจา หนา ท่ีหนั ศีรษะศพไปทางทศิ ตะวันตก (พระสงฆพ จิ ารณาบงั สุกลุ ตาย) ๓. เจาหนาท่ีหนั ศรี ษะศพไปทางทิศตะวนั ออก (พระสงฆพ จิ ารณาบังสุกลุ เปน) ๔. ญาติรวมกนั เกบ็ อฐั ิใสโกศ จากรางกาย ๖ แหง ๔.๑ ศรี ษะ ๑ ชิน้ ๔.๒ แขนท้งั สอง ๒ ชน้ิ ๔.๓ ขาท้งั สอง ๒ ช้นิ ๔.๔ หนาอก ๑ ช้นิ ๕. อัฐทิ ี่เหลอื ใสหอ ผาขาวเพ่อื ลอยอังคาร ๒. พธิ ที าํ บญุ อฐั ิ ๑. ประธานฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรยั เสร็จแลว กราบ ๓ คร้ัง ๒. อศจ.สงเทยี นชนวน ๓. ประธานฯ จดุ ธปู เทียนทเี่ ครอ่ื งทองนอย ยกมอื ไหว เสร็จแลว น่งั ประจําท่ี

๓๔ ๔. อาราธนาศีล/ประธานสงฆใ หศ ีล ๕. อาราธนาธรรม ๖. พระสงฆสวดมาติกา จบแลว ๗. อศจ. ลาดผา ภูสายโยง ๘. อศจ. เชิญผา บงั สุกลุ ๙. ประธานฯ และคณะ ทอดผาบงั สุกุล ๑๐. พระสงฆพ ิจารณาผา บงั สุกุล ๑๑. อศจ.เก็บผา ภสู ายโยง ๑๒. เจาหนา ทเ่ี ทียบเครอ่ื งไทยธรรม จํานวน ๙ ชุด ๑๓. ประธานฯ และคณะ รวมจํานวน ๙ ทาน ถวายเครอ่ื งไทยธรรม เสร็จแลว ๑๔. ประธานฯ และคณะ อญั เชญิ อัฐิไปบรรจุ ณ กําแพง ๑๕. ผอู ญั เชิญอัฐิ นําอัฐไิ ปต้ังไว ณ สถานทซ่ี ่ึงไดจดั เตรียมไว ๑๖. อศจ. เปดโกศอฐั ิ ๑๗. อศจ. สงเทียนชนวนใหป ระธาน ๑๘. ประธาน จดุ ธูปเทียนบูชาอฐั ิ ๑๙. อศจ. สงน้ําอบใหป ระธานฯ ๒๐. ประธานฯ พรมนา้ํ อบทีอ่ ัฐิ/ผรู ว มพิธีพรมนา้ํ อบท่ีอัฐิ ๒๑. อศจ. ปด ฝาโกศอัฐิ ๒๒. อศจ. อญั เชญิ อฐั ิ บรรจุ ณ สถานทซี่ ่งึ ไดเตรยี มไว (พระสงฆ ๔ รูป สวด อนจิ จาฯ) ๒๓. เรียนเชิญ ประธานฯ โปรยขา วตอกดอกไมแ ละวางพวงมาลยั บูชาอัฐิ ๒๔. ผูร วมพธิ ี โปรยขาวตอกดอกไมและวางพวงมาลยั บูชาอฐั ิ ๒๕. ประธานปด แผนปายช่ือ ๒๖. ประธาน และคณะของ ผบ.ทบ. กลับเขาไปยงั ศาลาบาํ เพ็ญกศุ ล ( เจา หนาท่เี ทยี บภัตตาหาร) ๒๗. อศจ.นาํ กลาวถวายสังฆทาน เพ่อื อทุ ศิ สวนกุศลใหผ วู ายชนม ๒๘. เรยี นเชญิ ประธาน และคณะ ถวายภัตตาหาร ๒๙. พระสงฆใหพร ๓๐. ประธานฯและคณะ กรวดน้าํ รบั พรจากพระสงฆ ๓๑. กราบลาพระรตั นตรัยทหี่ นา โตะ หมบู ชู า - เสรจ็ พิธี - ๗. พธิ ลี อยองั คาร ๑. การเตรียมการ ๑.๑ ของใชสําหรบั บชู าแมยา นางเรอื - พวงมาลยั ๑ พวง/ดอกไมสด ๑ กาํ - ธูป ๙ ดอก เทียนหนกั ๑ บาท ๑ เลม - พานเลก็ ๑ ใบ สําหรับใสดอกไมบูชาแมยานางเรือ - ดายดิบสาํ หรบั ผกู ผูกธปู และดอกไมก บั เสาหัวเรอื ๑.๒ ของใชส าํ หรับบูชาเจาแมน ท-ี ทาวสีทันดร - กระทงดอกไม ๗ สี ๑ กระทง

๓๕ - ธูป ๗ ดอก เทยี นหนกั ๑ บาท ๑ เลม - พานโตกสําหรับวางกระทงดอกไม ๗ สี ๑.๓ ของใชสําหรบั ไหวอังคารบนเรอื - ลุงใสอ ังคารและผา ขาวสําหรับหอ ลงุ - ดอกไมโ ปรย ๑ พาน (สําหรบั ผูรว มพิธโี ปรย) - นํา้ อบไทย ๑ ขวด - ดอกกุหลาบเทาจาํ นวนผูรว มพิธี - ธูปเทียนเครอ่ื งทองนอ ย ๑ ชุด - สายสญิ จน ๑ มวน - พานโตกขนาดกลางสําหรบั รองลงุ อังคาร ๑ ใบ - พานกนต้นื ใสเ หรยี ญ ๑ ใบ ๒. การปฏบิ ตั ิ ๑. พธิ ีไหวแ มย านางเรอื ๑. ญาตนิ าํ อังคารไปยังทา เทยี บเรือ ๒. ประธานในพิธี - ลงเรือกอน นอกน้ันรอทีท่ า เทียบเรือ - จดุ ธปู เทียนและนาํ ดอกไมบ ชู าแมยา นางท่หี ัวเรือ - กลา วคาํ บูชาแมยา นางและขออนุญาตนาํ อฐั ิและองั คารลงเรือ ๓. ญาตนิ าํ อังคารลงเรือ ๔. เรือแลน ไปยังจดุ ลอยองั คาร คํากลา วบชู าขออนญุ าตแมย านางเรือ นะมัตถุ/นาวานวิ าสนิ ยิ า/เทวตายะ/อมิ นิ า สกั กาเรนะ/นาวานวิ าสนิ งิ /เทวะตงั /ปูเชม/ิ ขา พเจา/ ขอนอ มไหวบ ูชาแมย า นางเรือ/ ผคู ุม ครองรกั ษาเรอื ลาํ น/้ี ดว ยเครอ่ื งสักการะเหลานี้/ ดวยขาพเจา/ พรอมดว ยญาติมิตร/ ขออนญุ าตนําอัฐแิ ละองั คารของ ....................................................... /ลงเรือลาํ น/ี้ ไปลอยในทะเล/ ขอแมยา นางเรือ/ ไดโ ปรดอนญุ าต/ ใหน าํ อัฐิและอังคารลงเรอื ได/ และ ไดโ ปรดคุมครองรกั ษา/ ใหข า พเจาและญาติมติ ร/ กระทําพิธีลอยอฐั แิ ละอังคาร/ ดวยความสะดวกและ ปลอดภัย/ โดยประการท้ังปวง เทอญ ๒. พิธไี หวองั คารบนเรือ ๑. เปด ลงุ อังคารจัดเครอ่ื งไหวใหป ระธาน ๒. ประธานจดุ ธูปเทยี นไหวอ ังคาร สรงนํา้ ดวยนา้ํ อบไทย โรยดอกมะลิ กลีบกุหลาบ และอืน่ ๆ ๓. ญาติไหวอ งั คารตอจากประธาน ๔. หอลุงอังคารดวยผา ขาวมัดดวยสายสญิ จน ทาํ เปนจกุ ขา งบนแลวคลอ งดวยมาลัย ๕. แจกดอกกหุ ลาบใหญ าตคิ นละดอก ๓. การบชู าเจา แมน ที - ทา วสที นั ดร ๑. พิธกี รจัดเครือ่ งบูชาเจา แมนที - ทาวสีทันดร ๒. ประธานจดุ เทียน ๑ เลม ธูป ๗ ดอก ทก่ี ระทงดอกไม ๗ สี แลว กลา วบูชา

๓๖ คํากลา วบชู า/กลา วฝากองั คารกบั เจา แมน ทที า วสที นั ดร ( ตั้งนะโม ๓ จบ ) นะมัตถุ/ อมิ สิ สงั / มะหานะทิยา/ อะธวิ ัตถานงั / สรุ ักขนั ตานงั / สัพพะเทวานัง/ อมิ ินา สกั กาเรนะ / สัพพะเทเว/ ปูเชมะ. ขา พเจา ทัง้ หลาย/ ขอนอมไหวบูชา/ เจา แมนที/ ทา วสที ันดร/ และเทพยดาทง้ั หลาย/ ผสู ถิตคุมครองรักษาอย/ู ในทะเลนี/้ ดว ยเครอื่ งสกั การะนี้/ ดว ยขาพเจาทงั้ หลาย/ไดป ระกอบกศุ ลกิจ/ อทุ ศิ สว นบุญ/ แก. ..................................................../ผวู ายชนม/ และกาลบัดนี/้ จกั ไดป ระกอบพิธ/ี ลอยอฐั ิและองั คาร/ ของ.........................................../พรอมกบั ขอฝากไว/ ในอภิบาล/ ของเจา แมน ท/ี ทาวสที นั ดร/ เจา แมแหง ทะเล/ และเหลาทวยเทพทง้ั ปวง/ ขอเจาแมน ที ทา วสที นั ดร/ แมย านางเรือและ เทพยดาท้งั หลาย/ไดโ ปรดอนุโมทนา/ดลบนั ดาลใหด วงวิญญาณของ.............................../จงเขา ถงึ สุคต/ิ ในสัมปรายภพ/ ประสบสขุ /ในทพิ ยวิมาน/ ชวั่ นริ นั ดรกาลเทอญ. ๔. พิธลี อยองั คาร ๑. เม่อื กลา วบูชาเจา แมนที - ทา วสที นั ดรเรยี บรอยแลว เชิญทกุ คนยืนไวอาลัยประมาณ ๑ นาที ๒. ประธาน - โยนเหรียญลงทะเลตามสมควร (เพ่ือซ้อื ทต่ี ามธรรมเนียม) - ลงบันไดเรือทางกาบซา ย ใชส ายสญิ จนท าํ เปนสาแหรก ๔ สาย จํานวน ๒ สาแหรก ใสก ระทงดอกไม ๗ สี จาํ นวน ๑ สาแหรก และใสห อ ลงุ องั คาร ๑ สาแหรก หยอ นลงไปในนํ้า โดยผูรว มพธิ จี บั สายสญิ จนด วย - เม่ือลอยองั คารแลว โรยดอกกุหลาบ ดอกไมแ ละส่ิงของตามลงไป - เรอื วนซาย ๓ รอบ - เสร็จพธิ ี

๓๗ พธิ ีเวียนเทียนวันสําคญั ทางพระพุทธศาสนา (The ceremony of Bucha Day) ............................................................................................................................. สาระการเรยี นรู ๑. การเตรยี มการ ๒. การปฏิบตั ิพิธเี วยี นเทยี น ๓. คําบูชาวนั วสิ าขบูชา ๔. คําบชู าวันมาฆบชู า ๕. คําบชู าวันอาสาฬหบูชา วตั ถปุ ระสงค เมอื่ ศกึ ษาบทเรยี นนี้จบแลว ผูเ ขารบั การศกึ ษาสามารถ ๑. อธิบายการเตรียมการพิธเี วยี นเทียนได ๒. อธิบายขนั้ ตอนการปฏิบตั พิ ิธเี วยี นเทยี นได กจิ กรรมระหวางเรียน ๑. บรรยาย ๒. สอบถาม ๓. ใบงาน ๔. สาธิตใหด ู สอ่ื การสอน ๑. เพาเวอรพ อยท ๒. เอกสารตาํ รา ๓. คลปิ วดี โิ อทเี่ กย่ี วของ ๔. เคร่ืองชวยฝก ประเมนิ ผล ๑. ใหต อบคําถาม ๒. แบบทดสอบหลังเรียน ๓. สอบปฏบิ ัติ

๓๘ บทนํา (preface) พธิ ีเวยี นเทยี นวันสาํ คัญทางพระพุทธศาสนามวี ตั ถปุ ระสงคเพ่ือใหก ําลงั พลรู เขา ใจและตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของวันสําคญั ทางพระพุทธศาสนา สามารถวิเคราะหหลักธรรมท่เี ก่ียวเน่อื งในวนั สาํ คญั ทาง พระพุทธศาสนาและนําหลกั ธรรมดงั กลา วไปประยกุ ตใ ชในชวี ิตประจาํ วันได และจักไดต ระหนักถึง ความสาํ คญั ของการปฏิบตั พิ ิธีในวันสาํ คัญทางพระพทุ ธศาสนา เปน การสบื ทอดอายพุ ระพทุ ธศาสนาให ดาํ รงอยคู สู ังคมไทยตอไป ๑. การเตรียมการ - ต้ังโตะ หมบู ูชาพรอมเคร่อื งสกั การะ - ดอกไมธ ปู เทยี นหรอื โคมไฟ (สําหรับผบู ังคบั บญั ชาใชเวยี นเทยี น) - ดอกไมธปู เทยี นสําหรบั กาํ ลงั พลและครอบครัว - ไทยธรรมสาํ หรบั ถวายพระสงฆ - สถานทบ่ี ริเวณหนาพระอโุ บสถ หรอื ศาสนสถานของหนวย ๒. การปฏบิ ตั ิ - กําลงั พลเขา ประจําที่กอ นเวลาประกอบพิธี ฯ เลก็ นอ ย - ประธานจดุ ธปู เทียนทโ่ี ตะ หมูบชู า กราบเสร็จ ประธานกลับไปยืน ณ จดุ ที่กําหนด - พิธีกรอาราธนาพระสงฆผูท รงคุณวุฒิ ๑ รูป ใหโอวาทเก่ยี วกบั วนั สําคญั ประมาณ ๕ ถึง ๑๐ นาที (บางหนว ยอาจจะมีการอาราธนาศลี กอ นฟง โอวาท) - ผรู วมพิธยี นื ประนมมือฟง โอวาท เมอื่ จบโอวาทใหท ุกคนรับ “ สาธุ ” พรอ มกนั - ประธานถวายไทยธรรมแดพ ระสงฆ - พระสงฆใ หพ ร (ยถา.....สัพพี), ประธานกรวดนาํ้ (ถาม)ี - พธิ กี ร นาํ ไหวพ ระสวดมนตตามแบบธรรมเนียมทหาร ( โดยสวดถึงบทแผเ มตตา ) แผเ มตตาแลว เชิญนอ มเกลา ฯ ถวายเปนพระราชกศุ ลแดพระบาทสมเดจ็ พระเจาอยูหวั พรอมทั้งอทุ ศิ แกทา นผมู ีพระคุณ - พิธกี รแจงใหก ําลงั พลจดุ ธปู เทียนในมอื เสรจ็ แลว กลาวนาํ บชู าเปนภาษาไทย (กลา วนําเปนวรรค ๆ ใหท ุกคนวา ตาม ) จบแลว - นมิ นตพ ระสงฆผ ใู หโ อวาทเดนิ นาํ ประธาน เวยี นประทักษิณปูชนียสถาน ๓ รอบ ระหวา งเดิน รอบท่ี ๑ ใหส วดสรรเสรญิ บทพระพทุ ธคณุ หรือบริกรรมวา พทุ โธ รอบที่ ๒ ใหส วดสรรเสรญิ บทพระธรรมคุณ หรือบริกรรมวา ธัมโม รอบที่ ๓ ใหส วดสรรเสรญิ บทพระสงั ฆคณุ หรอื บริกรรมวา สังโฆ และใหส าํ รวมกริ ิยา ไมค วรใหมีเสยี งพดู คยุ หรือหยอกเยา ขณะที่เดนิ เวยี นเทยี น

๓๙ - เวยี นเทียนครบ ๓ รอบแลว กาํ ลงั พลนาํ เครอื่ งสักการะไปวาง ณ ทีท่ ่ีจดั เตรยี มไวใ ห - ประธานกราบพระรัตนตรัย อาํ ลาพระสงฆ (สงพระสงฆก ลบั ในกรณีทจ่ี ดั ในหนวย) - เสรจ็ พิธี คํากลา วแผเมตตา คาํ อทุ ศิ สวนกศุ ล

๔๐

๔๑

๔๒

๔๓ พธิ แี สดงตนเปน พุทธมามกะ (The ceremony of Presence a Buddhist) ............................................................................................................................. สาระการเรยี นรู ๑. การเตรียมการพธิ ีแสดงตนเปน พุทธมามกะ ๒. การปฏิบตั ิพธิ ีแสดงตนเปน พทุ ธมามกะ วตั ถปุ ระสงค เมอื่ ศึกษาบทเรียนนจ้ี บแลว ผเู ขา รบั การศกึ ษาสามารถ ๑. อธิบายการเตรียมการในพธิ ีแสดงตนเปนพุทธมามกะได ๒. อธิบายการปฏิบัติในพิธแี สดงตนเปนพุทธมามกะได กจิ กรรมระหวางเรยี น ๑. บรรยาย ๒. สอบถาม ๓. ใบงาน ๔. สาธิตใหดู ส่ือการสอน ๑. เพาเวอรพ อยท ๒. เอกสารตาํ รา ๓. คลิปวดี โิ อที่เกยี่ วขอ ง ๔. เครื่องชวยฝก ประเมนิ ผล ๑. ใหต อบคําถาม ๒. แบบทดสอบหลงั เรยี น ๓. สอบปฏบิ ัติ

๔๔ บทนํา (preface) พิธีแสดงตนเปนพุทธมามกะมวี ัตถปุ ระสงคเพอ่ื ใหก าํ ลงั พล โดยเฉพาะทหารใหมซ ง่ึ จากบา น จาก พอจากแมจ ากครอบครวั มาอยหู นวย คลายความวติ กกังวลมีที่ยดึ เหนย่ี วทางจิตใจโดยใชพิธีทางพระพุทธ ศาสนา กอใหเ กดิ ความเลอ่ื มใสศรทั ธาในพระพุทธศาสนา อันจะเปน ทางชกั จงู ใหเ ขาใจซาบซ้ึงในศลี ธรรม จรรยายิ่งข้นึ อันเปน ผลดีแกห มูค ณะและกองทพั บก เพื่อใหท หารมีเคร่อื งเตอื นจติ สะกดิ ใจ ยามอยู หางไกลจากพระพทุ ธศาสนา อีกทั้งเปน เกราะปองกนั ภยั ใหแ กพระพุทธศาสนกิ ชนอกี ดวย ๑. การเตรียมการ - ตง้ั โตะหมบู ูชาพรอ มเครือ่ งสักการะ - เตรียมสถานที่ตามความเหมาะสมกับจาํ นวนผูรวมพธิ ี - อาสนสงฆ - ไทยธรรมสําหรับถวายพระสงฆ - ธปู เทียนแพ ๒. การปฏบิ ตั ิ เวลา .......... - ทหารใหมพ รอ ม ณ แหลง ชมุ นุม......................... และทาํ การซักซอม เวลา ......... - ผูรว มพิธฯี พรอ ม ณ แหลงชุมนมุ นายทหาร คา ยขุนเณร เวลา .......... - ประธานพิธี เดนิ ทางถึงสถานทป่ี ระกอบพิธี - ผฝู กฯ สง่ั แสดงการเคารพและวิ่งรายงานยอดทหารใหม - ประธานจดุ ธูปเทยี นบชู าพระรัตนตรัย แลว กลับเขา นงั่ ประจําที่ - ฝกพ. กลา วรายงาน - ทหารใหมท งั้ หมดยืนประจําท่ี - ผแู ทนทหารใหมนํากลาวคําถวายเคร่ืองสกั การะ จบแลวถวายเคร่อื งสักการะแด พระสงฆ - ผแู ทนทหารใหมน าํ กลา วแสดงตนเปนพุทธมามกะ ทหารใหมท งั้ หมดกลา วตาม จบแลว - ทหารใหมท ง้ั หมดน่ังประนมมอื รับฟง พระสงฆกลาวสมั โมทนยี กถา - พระสงฆกลา วสมั โมทนียกถา จบแลว - ผแู ทนทหารใหมน าํ กลา วคําอาราธนาเบญจศลี (วา พรอ มกัน) - ประธานฯ ถวายเครอื่ งไทยธรรมแดพ ระสงฆ - ประธานและผรู วมพิธฯี กรวดนาํ้ รบั พรจากพระสงฆ - พระสงฆป ระพรมน้ําพระพุทธมนตใหประธาน ผูรวมพิธี และทหารใหม - พระสงฆเดนิ ทางกลบั - ประธานสงพระสงฆเดนิ ทางกลับ - ทหารใหมท ้ังหมดยนื ประจาํ ท่ี - ผฝู ก ฯ กลบั เขา ประจําที่

๔๕ - ประธานขึ้นประจาํ แทน - ผฝู กฯ ส่ังแสดงการเคารพ - ประธานกลา วใหโ อวาท จบแลว ผูควบคมุ แถวส่งั “ ท้งั หมด ตรง ” - ประธานกราบลาพระรตั นตรัย แลวเขา ทกั ทายทหารใหม - ประธานเดนิ ทางกลับ - เสรจ็ พิธี

๔๖

๔๗


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook