แนวทางการสอนคดั ลายมอื ตามแบบกระทรวงศึกษาธกิ าร เขยี นพยัญชนะไทยอย่างไรดี เอกสารศน.ที่ .... /๒๕๖๔ กลมุ่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต ๑
๒ คำนำ ภาษาไทยเป็นวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ประจาชาติท่ีใช้ในการสื่อสาร เพ่ือสื่อความหมายและ สร้างความเข้าใจของคนในสังคม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความงดงาม และมีคุณค่าอันสูงยิ่ง เป็นสิ่ง สะท้อน ที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาติ ภาษาไทยเป็นภาษาท่ีงดงามท่ีมีความสมบูรณ์ท้ัง ด้านภาษาพูด และภาษาเขียน สามารถนาเสนอได้ในรูปแบบของร้อยแก้วและร้อยกรอง ในภาษาเขียนท่ี นิยมใช้สว่ นใหญ่เป็นลักษณะแบบร้อยแกว้ มที ้ังการเขียนแบบเรยี งความ การเขียนบทความ ฯลฯ แตก่ าร เขยี นและการออกเสียงภาษาไทยของเยาวชนไทยในปจั จุบันไดผ้ ดิ เพ้ียนไปจากอกั ขรวธิ ีของภาษาไทย และ ขาดทักษะในการเขียน ภาษาไทยให้ถูกสวยงามตามแบบไทย โดยเฉพาะการเขียนลายมือท่ีผิดไปจาก หลกั เกณฑ์ทก่ี าหนดไว้ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๑ ตระหนักถึงความสาคัญและปัญหา ดา้ นการเรียนการสอนภาษาไทย ซง่ึ สอดคล้องกับนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานดา้ น การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนและส่งเสริมการจัดการศึกษา เพอ่ื สรา้ งขดี ความสามารถในการแข่งขนั ในการ พัฒนาคุณภาพกระบวนการเรียนรู้ เน้นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเขียนได้ตามช่วงวัย จึงได้กาหนดการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทย โดยเฉพาะด้านการเขียนซึ่งเป็นสาระการเรยี นร้หู น่งึ ท่ีเปน็ ปัญหา จาการนิเทศติดตามพบว่านักเรียนบางส่วนมีปัญหาด้านการเขียนตั้งแตข่ ้ันพ้นื ฐาน เช่น เขยี น หนังสือไม่เป็นตัว ไมม่ ที ิศทาง ไม่ไดส้ ัดสว่ น และไม่มีรูปแบบ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๑ โดยกลุ่มนิเทศ ติดตามและ ประเมินผลการจัดการศึกษา จึงได้จัดทาคู่มอื การสอนเขยี นอักษรไทยและแบบฝึกหัดคัดลายมือข้ึน เพ่ือ ชว่ ยครูในการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทยโดยเฉพาะการคดั ลายมือผา่ นการเขยี น ธรี วรรณ จันทร์วิชชาพร ศึกษานเิ ทศก์ ชานาญการพิเศษ
๓ สำรบัญ หน้า คานา ....................................................................................................................... .......... ก สารบญั .............................................................................................................................. ข ความสาคัญการคดั ลายมอื ........................................................................................... ๑ จุดมงุ่ หมายของการคัดลายมือ ..................................................................................... ๑ การเตรยี มตัวก่อนสอนเขยี น ........................................................................................ ๑ รูปแบบการเขียนของตวั อักษรไทยท่ใี ช้กันในปัจจบุ ัน ……………………………………………. ๕ หลักการเขียนเส้นพ้ืนฐานตวั พยญั ชนะไทย .................................................................. ๑๐ วิธีการคัดพยัญชนะไทยแบบตัวกลมแบบกระทรวงศกึ ษาธิการ .................................... ๑๔ ขนั้ ตอนการฝกึ คดั และเขยี น ……………………………………………………………………………….. ๑๕ การเขียนหวั พยญั ชนะ .................................................................................................. ๑๖ การเขียนตวั พยญั ชนะไทย ……………………………………………………………………………….. ๑๙ การเขยี นสระ ………………………………………………………………………………………………….. ๓๓ การเขียนวรรณยุกต์ ...................................................................................................... ๓๔ การเขยี นเลขไทย ......................................................................................................... ๓๔ แบบฝกึ หัดเขียนบรรทัด ๕ เสน้ (บรรทดั ๔ สว่ น) (แบบ ข ๑) ............................... ๓๕ แบบฝกึ หดั เขยี นบรรทดั ๕ เส้น (บรรทดั ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ............................... ๓๖ แบบฝึกหัดเขยี นบรรทัด ๕ เส้น (บรรทัด ๔ สว่ น) (แบบ ข ๓) ............................... ๓๗ แบบฝกึ หัดเขยี นบรรทดั ๕ เสน้ (บรรทัด ๔ สว่ น) (แบบ ข ๔) ............................... ๓๘ เอกสารอ้างองิ .................................................................................................................... ๓๙ ภาคผนวก .......................................................................................................................... ๔๐ คณะกรรมการทีป่ รึกษา ..................................................................................................... ๔๒ ผู้จดั ทา .............................................................................................................................. ๔๒
๔ เขยี นไดล้ ายมือสวย ความสาคัญการคดั ลายมือ การเขยี นสอื่ สารด้วยถ้อยคาเปน็ การเขยี นการถา่ ยทอดความร้คู วามคิดของผู้เขยี นใหผ้ ูอ้ ่านได้รับรู้ ดงั นัน้ ในการเขียนจงึ ต้องเขียนให้ถกู ต้อง ชัดเจนเพื่อทีจ่ ะไดถ้ า่ ยทอดข้อมูลไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ไม่คลาดเคล่ือน อีกทั้งการเขยี นยงั ก่อใหเ้ กดิ วามรู้สึกภาคภมู ิใจรักการเขียนภาษาไทย อันเปน็ ภาษาประจาชาติและเปน็ การ สบื สานมรดกของไทยดว้ ย การคัดลายมือเป็นการฝึกเขียนเบื้องต้นท่ีจาเป็นต้องฝึกปรือต้ังแต่เยาว์วัยให้เคยชินกับการเขยี น ท่ีสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะเป็นพื้นฐานที่จะนาไปสู่การเขียนได้ถูกต้องคล่องแคล่ว รวดเร็ว สวยงาม น่าอ่าน บางคนไม่ให้ความสาคัญกับเร่ืองลายมือ ถ้าการเขียนน้ันมีเน้ือเรื่องดี มีการแสดงความ คิดเห็น ลีลาและสานวนโวหารดีก็เพียงพอแล้วถือเป็นความเข้าใจผิด เพราะลายมืออ่านไม่ออกไม่ชัดเจน ผูอ้ า่ นก็อา่ นไม่ออกทาให้ไม่เข้าใจ ไม่ทราบคุณค่าของงานเขียนว่าดีอยา่ งไร การเขียนเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด การบันทึก เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ ลายมอื ที่หวัดไมช่ ัดเจน ไม่มผี ู้ใดสามารถอ่านเข้าใจได้ การเขยี นนัน้ ก็ไม่มคี ุณคา่ ครูผูส้ อนระดับประถมศึกษา ควรตระหนักในเรื่องน้ี เพราะลายมือของครูต้องเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีแก่เดก็ ครผู ้สู อนจึงจาเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการฝกึ เด็กต้งั แต่ระดบั ประถมศึกษา ซึง่ ถือว่าเป็นปวงชนชาวไทยใหส้ ามารถเขยี นอักษรไทย ได้ถกู ตอ้ ง รวดเร็ว และสวยงาม จดุ มงุ่ หมายของการคัดลายมือ ๑. เพอื่ พฒั นากลา้ มเนื้อมือ ตา ให้สมั พันธ์กันและคล่องแคล่วในการเขียน ๒. เพอ่ื เขยี นตัวอักษรไทยถกู ต้องตามหลกั เกณฑ์อย่างประณีต สะอาดเป็นระเบยี บ และอา่ น เข้าใจงา่ ย ๓. เพื่อให้เกิดความชานาญจากการคัดไปสู่การเขียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๕. เพ่ือให้เกิดสมาธิในการทางาน มวี นิ ัยในตนเอง รับผดิ ชอบในการปฏบิ ัติงานให้สาเร็จ กำรเตรยี มตวั ก่อนสอนเขียน องคป์ ระกอบทมี่ ีอิทธิพลต่อการสอนเขียนให้ไดผ้ ลดี มีทงั้ ประสทิ ธิภาพในการสอนและมีคุณภาพ ในการเขยี น ต้องเตรียมตวั กอ่ นสอนเขียน กำรเตรียมตวั ครู ๑. ฝึกตนให้สามารถคดั ลายมือตามแบบทีต่ กลงกันให้ถูกต้องแม่นยาสวยงาม และคลอ่ งแคลว่ เพอื่ เปน็ แบบอย่างท่ีดีแก่เด็ก และมีความมั่นใจขณะสอน ๒. ขวนขวายหาความร้ใู หม่ ๆ มาปรบั ปรงุ วิธีการสอนใหม้ ีประสิทธภิ าพ และทันสมยั อยู่เสมอ เช่น ศึกษาผลงานวจิ ัย ติดตามนวตั กรรมใหม่ ๆ
๕ ๓. พยายามคิดกจิ กรรมทส่ี นุกสนาน เรา้ ใจให้เด็กอยากเขียน เช่น ใหเ้ ล่นเกมตา่ ง ๆ ให้ฟงั นิทาน วาดภาพ เล่นของเลน่ ที่นาไปสู่การเขียน ฯลฯ (สาหรบั เดก็ เร่มิ เรียน) ๔. จัดเตรียมเน้ือหาตามลาดับจากงา่ ยไปหายาก และเตรียมอปุ กรณ์การสอนไว้ให้พร้อมก่อนสอน กำรเตรียมตวั เดก็ ๑. เตรียมความพร้อมทางพัฒนาการทุกด้าน ให้เด็กสามารถรับรู้ทางตาให้มีกล้ามเนื้อแขน มือ นิ้วมือแข็งแรง ให้ใช้ตาและมือสัมพันธ์กันอย่างดี มีความสามารถจาภาพที่เห็นได้แม่นยา สามารถคิดและ เข้าใจส่ิงที่เป็นนามธรรม มีสุขภาพจิตท่ีดี มีคุณธรรม มีความสนใจและแรงจูงใจท่ีจะทาส่ิงต่าง ๆ อย่างดี มีช่วงความสนใจนานพอควรไม่เบ่ือง่าย และรู้จักปรับตัวพูดคุย เล่น ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างดี ๒. เตรียมความพร้อมในการเขียน ท้ังการฝึกลีลามือด้วยการเขียนเส้นอย่างเสรี เขียนเส้นพื้นฐาน ๑๓ เส้น และฝึกทากิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับเส้น เพ่ือให้เด็กคุ้นเคยกับเส้นท่ีจะประกอบเป็นตัวพยัญชนะ และสามารถบังคับการเคล่ือนไหวของกล้ามเนื้อมือให้เขียนเส้นเรียบสม่าเสมอ ตามทิศทางที่ต้องการได้อย่าง คล่องแคลว่ ๓. จัดกิจกรรมให้เด็กสามารถจดจารูปร่างของพยัญชนะทุกตัวได้อย่างแม่นยา และจาตาแหน่ง ของพยญั ชนะแตล่ ะตวั ตามลาดบั ได้ กำรเตรียมอปุ กรณ์ และวิธกี ำรใหเ้ ดก็ ดินสอ ควรเป็นดินสอที่มีขนาดปกติท่ีขายกันในท้องตลาด ซ่ึงเด็กจับถือได้พอเหมาะ สะดวก ไม่จาเป็นต้องมีขนาดใหญ่กว่าปกติหรือเล็กกว่าปรกติ เพราะจะทาให้เด็กจับถือไม่สะดวก และต้องไม่ส้ัน เกินไป อย่างน้อยให้สงู เลยอุ้งมือของเด็กจับดนิ สอประมาณ ๑ น้ิว หรือไม่ยาวกว่าปกติ ไส้ของดินสอ ต้องอ่อน และดา “อย่างน้อย 2B หรือ BB” คอื ดาเปน็ ๒ เท่า ถ้าไส้ออ่ นขนาดโต ๆ และดามาก ๆ แบบท่ีใชแ้ รเงายิ่งดี เพราะไส้ใหญ่เขียนได้เส้นหนา เด็กไม่ต้องออกแรงกดมาก ซึ่งตรงกับที่ไวล์ (Wiles) ได้แนะนาว่า เด็กท่ีเร่ิม เขียนใหม่ควรใช้ดินสอหรือปากกามาตรฐานท่ีมีไว้สาหรับการฝึกเขียนโดยเฉพาะ หรือดินสอไส้ใหญ่ท่ีมี ความอ่อนพอควร วธิ จี บั ดนิ สอ การจบั ดินสอทีจ่ ะทา ให้ไมเ่ กดิ การเกรง็ ของน้ิวและข้อมือมากเกนิ ไป และยังเป็นการจบั แบบธรรมชาติ ตามสรรี ะของนว้ิ และมอื คอื ควรทาดงั นี้ ๑. ควา่ มอื ขวาลง ใชน้ ว้ิ ชี้และนว้ิ หัวแม่มือจบั ดนิ สอใหห้ ่างจากปลายดนิ สอประมาณ ๑ น้วิ แลว้ วางไวท้ ี่ปลายน้วิ กลาง นว้ิ ทง้ั สามน้จี ะประคองดนิ สอไปด้วยกัน ๑. น้วิ นางและน้ิวก้อยกาเขา้ ไวใ้ นองุ้ มอื เปน็ ท่พี กั มือ โคนนิ้วก้อยยนั พ้ืนไว้ คอยเคล่อื นไหวไปพรอ้ ม ดินสอเป็นระยะ ๆ ๒. อย่าจับดนิ สอแน่นเกนิ ไป และไม่ควรเกรง็ ข้อนิ้วขณะเขียน
๖ การจับดินสออย่างถูกต้องของเด็กเร่ิมเขียน เป็นเรื่องท่ีสาคัญมาก เพราะเป็นผลดีต่อคุณภาพ ในการเขียนของเด็ก ทาให้เขียนหนังสือได้สวยและเร็วสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับเด็ก มีความเช่ือมั่นในตัวเอง ไม่เมื่อยล้าเร็ว และไม่เสียสายตา นอกจากนี้ผลวิจัยของประเมิน มหาขันธ์ ยังยืนยันว่านักเรียนท่ีจับ ดนิ สอถกู ต้องมีแนวโนม้ ในเรอ่ื งความสามารถในการเขียนดีกวา่ กลมุ่ นักเรียนทจ่ี บั ดินสอไม่ถูกต้อง ถ้าเด็กจับดินสอผดิ แลว้ จะแก้ไขได้ยาก เพราะเด็กจะมีความเคยชนิ หากถูกแก้ไขจะไม่สบายใจ หงุดหงิด เบ่ือ หรือเกลียดการเขียนได้ ผู้สอนจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมาก โดยหาวิธีการที่นุ่มนวล ให้กาลังใจ ไม่รบเร้าหรือบังคับให้เด็กแก้ไขถ้าเด็กยังไม่เต็มใจ และต้องให้เวลาท่ีเขาจะแก้ไขด้วยตนเอง มฉิ ะนั้นเขาจะแก้ไขเฉพาะชว่ งท่อี ยู่ต่อหนา้ ผสู้ อนเทา่ น้นั ดังน้นั ผ้สู อนควรฝึกให้เด็กจบั ดินสออย่างถูกวิธีตั้งแต่แรกเริ่ม และคอยสังเกตการจับดินสอของเด็ก ให้ถกู ต้องอย่เู สมอ ถ้าพบว่าไม่ถูกต้องให้แก้ไขทนั ที เพ่ือสร้างพื้นฐานการเขียนทด่ี ีให้แกเ่ ด็ก ยำงลบ ควรเป็นชนิดอ่อน ลบออกง่าย ไม่สกปรก เวลาลบต้องใช้มือข้างท่ีถนัดจับยางลบด้วยน้ิว ในลักษณะการจับดินสอ มืออีกข้างหน่ึงกางนิ้วออกกดกระดาษให้มั่น เพื่อไม่ให้กระดาษเคล่ือนไปมา หรือไม่ใหก้ ระดาษยน่ เขา้ หากนั เวลาลบ กระดำษ ควรใช้กระดาษที่หนา เน้ือค่อนข้างหยาบ ผิวกระดาษไม่มันไม่ลื่น เส้นบรรทัดควรเป็น ขนาดใหญ่ เพราะเด็กเล็กจะเขียนตัวอักษรตัวใหญ่ได้เร็วและดีกว่าอักษรตัวเล็ก เส้นบรรทัดที่ใช้ มี ๔ ขนาด คือ ขนาดใหญ่พิเศษ มีเส้นบรรทัดห่างกัน ๑ ๑/๒ นิ้ว ขนาดรองลงมาเส้นบรรทัดห่างกัน ๑ น้ิว และ ๑/๒ น้ิว ขนาดธรรมดาเส้นบรรทัดห่างกัน ๓/๘ นิ้ว หรือประมาณ ๑ เซนติเมตร พราวพรรณ เหลืองสุวรรณ ได้ให้เด็กเร่ิมเขียนเลือกขนาดของเส้นเพ่ือใช้เขียน ผลปรากฏว่า เส้นบรรทัดขนาด ๑/๒ น้ิว ได้รับเลือก เปน็ อันดับหน่ึง รองลงมาคือขนาด ๑ นว้ิ และ ๓/๘ นว้ิ กำรวำงกระดำษหรือสมุด ต้องวางตรงหน้าผู้เขียนตามแนวขอบโต๊ะห่างจากขอบโต๊ะเข้าไป ประมาณ ๓/๔ หรือ ๑ นิ้ว เพ่ือไม่ให้กระดาษยับการวางกระดาษไม่ตรงทาให้ผู้เขียนต้องเอียงคอ สายตา ทางานมาก ขณะเขยี นใชม้ อื อีกข้างหนึ่งจับกระดาษหรือสมุดให้ม่ัน โต๊ะ เก้ำอี้ ต้องมีส่วนสัดสัมพันธ์กันอย่างดี และเหมาะกับเด็กแต่ละวัยจึงจะนั่งสบายและ ถูกสุขลักษณะ ถ้าโต๊ะสูง เก้าอี้เต้ียเกินไป เวลาเขียนหนังสือจะต้องยกไหล่ให้สูงข้ึน ต่อไปไหล่จะเอียง แต่ถ้าโต๊ะเตี้ยและเก้าอ้ีสูงเกินไป เด็กจะต้องก้มหลังมากกว่าปกติ นานไปหลังจะโกง ดร. ซีเกอร์ ได้ศึกษาว่า สว่ นสูงโดยเฉลยี่ ของโตะ๊ และเกา้ อสี้ าหรับเด็กไทย ควรเปน็ ดังน้ี ระดบั ชนั้ เรยี น ความสูงของโต๊ะ ความสงู เก้าอ้ี อนบุ าล ๕๕ ซ.ม. ๒๙ ซ.ม. ป. ๑ – ๒ ๕๗ ซ.ม. ๓๑ ซ.ม. ป. ๓ – ๔ ๖๐ ซ.ม. ๓๓ ซ.ม. ป. ๕ – ๖ ๖๔ ซ.ม. ๓๖ ซ.ม.
๗ นอกจากนโ้ี ตะ๊ เรยี นควรกวา้ งพอใหเ้ ดก็ วางแขนไดส้ ะดวก ขอบเก้าอ้ีควรสอดเข้าใตโ้ ต๊ะได้ และ เมื่อเด็กนั่งหวั เข่าควรยื่นเขา้ ไปใต้โต๊ะได้สะดวก ท่ำนั่งเขียน ๑. นั่งหันหน้าเข้าหาโต๊ะ หลังตรง กม้ หนา้ ลงนิดหน่อย ให้ห่างจากกระดาษประมาณ ๑ ฟุต และอย่าใหอ้ กชดิ โต๊ะ ถ้านง่ั เขียนเอียงจะทาให้กระดูกคด ๒. วางแขนท้ังสองขา้ งไว้บนโตะ๊ ประมาณ ๓ ใน ๔ ของความยาวระหวา่ งศอกกบั ขอ้ มือ แขน ขา้ งท่ีไม่ได้ใชเ้ ขียนอาจจะวางอย่บู นโตะ๊ ไดเ้ ตม็ ที่โดยให้ฝา่ มือควา่ ลงยึดกระดาษไว้ หากปลอ่ ยแขนท่ีไม่ได้ ใชเ้ ขยี นไวข้ า้ งตัวจะปวดไหลแ่ ละทาให้กระดูกคด ๓. ขอ้ ศอกไม่กางออก หรือแนบตวั มากเกนิ ไป ๔. วางฝ่าเท้าทั้งสองราบลงบนพ้ืน อย่าไขว้หรือบิดตะแคงเด็กท่ีเรียนเขียน ควรได้รับการฝึก ให้มีท่าทางที่น่ังเขียนอย่างถูกต้องเพราะจากผลวิจัยของประเทิน มหาขันธ์ ยืนยันว่า ท่าทางท่ีน่ังเขียน มีผลต่อความสามารถในการเขียนของเด็ก กล่าวคือ เด็กที่นั่งเขียนถูกต้อง จะมีความสามารถในการเขยี น ดกี วา่ เดก็ ทน่ี ง่ั เขียนไม่ถูกตอ้ ง บรรยำกำศในชั้นเรียน เดก็ ท่ีเร่ิมเขยี น จะยึดตนเองเปน็ ศนู ย์กลาง เม่อื มีความสนใจอยากจะทาอะไร ก็จะลงมือกระทาทันที ดงั นัน้ ควรเตรยี มสภาพแวดลอ้ ม และบรรยากาศในชั้นเรยี นใหเ้ ร้าใจเด็ก ดงั นี้ ๑. จดั หอ้ งเรยี นให้มีมมุ บา้ น มมุ ธรรมชาติ มมุ ศลิ ปะ มุมดนตรี มุมไมบ้ ล็อก มมุ ของเล่น มุมทักษะ ฯลฯ แต่ละมุมจะมีวัสดุหรืออุปกรณ์ ท่ีเก่ียวข้องกับมุมน้ัน ๆ วางอยู่อย่างเป็นระเบียบ สวยงาม เพื่อเร้าให้ เด็กสนใจ และสะดวกและท่ีจะให้เด็กเข้าทากิจกรรมได้ทันที เม่ือทากิจกรรมนั้นเสร็จแล้ว ต้องให้เด็กจัดวัสดุ อุปกรณ์ในมุมหรือโต๊ะน้ันให้เหมือนเดิม เพ่อื ฝึกนิสยั ที่ดใี นการเกบ็ ของเข้าที่เป็นระเบียบด้วย ในมมุ ทักษะ เพื่อส่งเสริมด้านการเขียนจะต้องมี กระดาษ ดินสอสี หรือปากกาปลายสักหลาด หรือสีเทียน และแบบ ตัวอักษร ที่ทาให้เด็กเขียนตามด้วยวิธีต่าง ๆ ได้ ในมุมศิลปะก็มีกระดาษ สีและมีตัวอักษรแบบฉลุให้เด็กได้
๘ เล่นลอกแบบตามแล้วระบายสี ในมุมของเล่นอาจมีของเล่นเป็นตัวอักษรให้เด็กเล่นได้ เช่น ใส่ตัวอักษรลงใน กรอบฉลุวางเชือกลงในตัวอกั ษรเซาะรอ่ ง จัดภาพตัดตอ่ ตวั อกั ษรให้ถกู ต้อง เป็นต้น ๒. จัดห้องเรียนท่ีจะให้เด็กเรียนหรือฝึกเขียนอยู่ในทาเลที่เงียบสงบไม่มีเสียงอึกทึก หรือผู้คน พลุกพล่าน มีแสงสว่างพอเหมาะ แสงไม่จ้าเกินไปและควรให้แสงสว่างเข้าทางซ้ายมือของเด็ก หรือจากทาง ด้านบน มิใช่ส่องเข้าทางด้านขวา หรือตรงหน้าของเด็ก เพราะจะทาให้เกิดเงามือบังตัวอักษรที่จะเขียน แตถ่ ้าเด็กถนดั มือซ้ายก็ควรให้แสงสว่างเขา้ ทางขวามือของเด็ก ๓. จดั เวลาใหเ้ ดก็ ฝึกเขียนไว้ตอนเชา้ ดังที่ มอสโบ (Mosbo) ไดก้ ล่าววา่ การใหเ้ ดก็ หัดเขียนใน ตอนเช้า เช่ือกนั ว่าจะเขยี นได้ดกี ว่าและชว่ งเวลาในการสอนเขียนลายมอื แตล่ ะคร้งั กาหนดประมาณ ๑๕ – ๒๐ นาที รูปแบบกำรเขียนของตัวอกั ษรไทยที่ใช้กนั ในปัจจบุ ัน แบ่งตามลักษณะอักษรได้ ๒ ประเภท คือ ๑. ประเภทตัวเหลี่ยม มเี สน้ ตรงเปน็ สว่ นประกอบได้แก่ ๑.๑ แบบอาลกั ษณ์ แผนกอาลักษณ์ กองประกาศิต สานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรีใชเ้ ปน็ แบบคดั ของทางราชการ เป็นลายมือไทยท่สี วยงาม ใชเ้ ขยี นเพ่ือใชใ้ นงานเกยี รติยศตา่ ง ๆ
๙ ๑.๒ แบบพระยาผดุงวิทยาเสริม (กาจดั พลางกรู) อย่ใู นแบบหัดอ่านท่ีพระยาผดุงวิทยาเสริม เขียนข้ึน คือ แบบหัดอ่านหนังสือไทยภาคต้น แบบหัดอ่าน ก ข ก กา และหนังสือแบบหัดอ่านเบื้องต้น ซ่ึงพิมพ์ข้ึนใช้เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๑, ๒๔๗๓ และ ๒๔๗๖ ตามลาดับ เพื่อใช้ฝึกเด็กให้เขียนหรือคัดลายมือ หลังจากเรียนอา่ นพยญั ชนะแตล่ ะครัง้ ๑.๓ แบบโรงเรยี นทุ่งมหาเมฆ คล้ายแบบของพระยาผดุงวิทยาเสรมิ ซงึ่ อาจารย์สรู นิ สพุ รรณรัตน์ อาจารย์ใหญท่ ่านแรกของโรงเรยี นไดน้ าลายมือของบิดา คือ อาจารย์ มงคล สพุ รรณรัตน์ เจา้ ของและอาจารยใ์ หญโ่ รงเรยี นสุพมาศพิทยาคม (ตรอกวัดราชนัดดา จ. พระนคร) มาเป็นต้นแบบให้ อาจารย์พูนสุข นีลวฒั นานนท์ (ปณุ ย์สวัสดิ์) จัดทาเป็นแบบคัดลายมือของโรงเรียนตงั้ แต่ พ.ศ.๒๕๐๙
๑๐ ๑.๔ แบบโรงเรียนสายน้าทิพย์ คล้ายแบบของพระยาผดุงวิทยาเสริม ซึ่งอาจารย์อุไร ศรธี วัช ณ อยุธยา อาจารย์ใหญ่ และอาจารย์สุริน สุพรรณรัตน์ ผู้ชว่ ยอาจารยใ์ หญ่ ไดด้ าริให้ลายมือของครูทุกคน เป็นแบบเดียวกัน และคณะครูของโรงเรียนได้นาลายมือของอาจารย์มงคล สุพรรณรัตน์มาดัดแปลงและ ทาแบบฝึก คัดลายมือของโรงเรียนตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๐ ต่อมาได้ดัดแปลงลักษณะของตัวอักษรอีกคร้ังหน่ึง เมอื่ พ.ศ.๒๕๒๑ ๑.๕ แบบภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคล้ายแบบ ของพระยาผดุงวิทยาเสริม (กาจัด พลางกร)ู เกิดขึน้ จากดาริของศาสตราจารย์อาไพ สุจริตกุล หวั หน้าแผนก วิชาประถมศึกษาท่ีต้องการให้มีอักษรของแผนกวิชาท่ีง่ายต่อการฝึกเด็กเขียน และเพ่ือใช้เป็นแบบฝึก ลายมอื ของนสิ ติ ทุกคนของแผนกวชิ าท่จี ะนาไปสอนศษิ ยเ์ มือ่ จบเปน็ ครูแล้ว
๑๑ ๒. ประเภทตวั กลมหรือตัวมน มีสว่ นโค้งเปน็ สว่ นประกอบได้แก่ ๒.๑ แบบขุนสมั ฤทธ์วิ รรณการ กระทรวงธรรมการใชเ้ ปน็ แบบฝกึ หดั ลายมือของนกั เรยี น ในสมัยก่อน และโรงพิมพต์ ่าง ๆ ใชเ้ ป็นแบบทาสมดุ คัดลายมือจาหน่าย ๒.๒ แบบกระทรวงศึกษาธิการ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการได้ดัดแปลงจากตัวอักษร แบบขุนสัมฤทธิ์วรรณการ เพื่อทาเป็นแบบฝึกหัดคัดลายมือใช้ในโรงเรียนประถมศึกษาของโรงเรียนรัฐบาล ทั่วประเทศต้ังแต่ พ.ศ.๒๕๒๐
๑๒ ๒.๓ แบบราชบัณฑิตยสถาน เป็นแบบตัวอักษรตัวกลม ซ่ึงราชบัณฑิตยสถานกาหนดข้ึน (ในปี ๒๕๔๐) เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการสร้างตัวอักษรไทยทั้งการเขียน และการพิมพ์รวมท้ังเพื่อประโยชน์ ในการออกแบบ ตวั อักษรไทยมาตรฐานทจ่ี ะใช้ในกิจการคอมพิวเตอร์
๑๓ การเลอื กรูปแบบตัวอักษร ตวั อักษรทจี่ ะใช้สอนเด็ก ควรพิจารณา ดังน้ี ๑. มีหลักเกณฑ์ท่สี ามารถยดึ เปน็ หลักในการเขยี นได้ ๒. เขยี นไดง้ ่าย รวดเรว็ เหมาะกับวยั ของผูเ้ รียน ๓. เป็นระเบยี บ เรียบรอ้ ย สวยงาม ตัวอักษรทน่ี ามาใชเ้ ป็นตัวอยา่ งในค่มู ือฉบับน้ี เป็นตัวอักษรตวั กลมอิงแบบกระทรวงศึกษาธกิ าร หลักการเขียนเสน้ พนื้ ฐานตวั พยัญชนะไทย ก่อนสอนเขียนพยญั ชนะไทย ครูควรฝึกการเขียนเส้นพ้ืนฐานจากง่ายไปหายาก จานวน ๑๐ เส้น ใหก้ บั นกั เรียน โดยใชบ้ รรทดั ๕ เส้น (๔ ส่วน) จนนกั เรียนเกิดความชานาญ ตวั อยา่ งเส้นพืน้ ฐานในการเขียนพยัญชนะ ๑. การเขียนเส้นดง่ิ ลากบนลงล่าง เส้นหลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหดั เขียนเส้นด่งิ ๑ ๒ ๓ ๔ ๒. เส้นเฉียงจากบนขวามาลา่ งซา้ ย เส้นหลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหดั เขียนเส้นเฉยี งจากบนขวามาล่างซา้ ย ๑ ๒ ๓ ๔
๑๔ ๓. เสน้ เฉียงจากบนซ้ายมาล่างขวา เสน้ หลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝกึ หดั เขียนเสน้ เฉียงจากบนซ้ายมาลา่ งขวา ๑ ๒ ๓ ๔ ๔. เส้นเฉียงจากล่างซ้ายไปบนขวา เสน้ หลกั ๑ เส้นฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหดั เขียนเส้นเฉียงจากล่างซ้ายไปบนขวา ๑ ๒ ๓ ๔ ๕. เสน้ ตั้งจากลา่ งไปบน เสน้ หลกั ๑ เส้นฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหัดเขยี นเส้นตัง้ จากลา่ งไปบน ๑ ๒ ๓ ๔ ๖. เสน้ ตรงลากจากซ้ายไปขวา เส้นหลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหดั เขียนเสน้ ตรงลากจากซ้ายไปขวา ๑ ๒ ๓ ๔
๑๕ ๗. เสน้ ตรงลากจากขวาไปซ้าย เส้นหลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝกึ หดั เขยี นเสน้ ตรงลากจากขวาไปซา้ ย ๑ ๒ ๓ ๔ ๘. เส้นโค้งบนจากซา้ ยไปขวา เส้นหลกั ๑ เส้นฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝกึ หดั เขยี นเส้นโค้งบนจากซา้ ยไปขวา ๑ ๒ ๓ ๔ ๙. เส้นโค้งบนจากขวาไปซา้ ย เสน้ หลกั ๑ เส้นฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหัดเขียนเส้นโค้งบนจากขวาไปซ้าย ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๐. เสน้ โค้งลา่ งจากซ้ายไปขวา เส้นหลกั ๑ เส้นฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหัดเขยี นเส้นโค้งบนจากขวาไปซ้าย ๑ ๒ ๓ ๔
๑๖ ๑๑. เสน้ โค้งลา่ งจากขวาไปซา้ ย เสน้ หลกั ๑ เส้นฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหดั เขียนเสน้ โค้งลา่ งจากซ้ายไปขวา ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๒. เส้นวงกลมจากซา้ ยไปขวา เสน้ หลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝึกหดั เขียนเส้นโคง้ ล่างจากซ้ายไปขวา ๑ ๒ ๓ ๔ ๑๓. เส้นวงกลมจากขวาไปซ้าย เสน้ หลกั ๑ เสน้ ฐาน ๒ ๓ ๔ แบบฝกึ หดั เขยี นเส้นโค้งล่างจากซา้ ยไปขวา ๑ ๒ ๓ ๔
๑๗ การสอนใหน้ ักเรยี นเกิดทักษะการเขียนเส้นพื้นฐาน ครคู วรใหน้ กั เรียนเขียนเส้นพ้ืนฐานทั้ง ๑๓ เสน้ ตามรูปแบบที่กาหนดให้ต่อเน่ืองจนเกิดความชานาญ และเมื่อนักเรียนคุ้นเคยกับการเขียนเส้นข้ันพ้ืนฐาน แลว้ ครสู ามารถเร่มิ สอนเขยี นพยัญชนะไทยตามรูปแบบพยญั ชนะไทยที่ถูกต้อง ทั้ง ๔๔ ตวั อย่างตอ่ เนื่อง จนเกดิ ความชานาญ โดยยึดหลักเกณฑท์ ่สี าคัญ ดงั น้ี ๑. การเขียนพยัญชนะไทยต้องเน้นให้นักเรียนเขียนตัวพยัญชนะก่อนแล้วจึงเขียนเชิงหาง หรือไส้ และใหเ้ รมิ่ เขยี นท่ีตน้ ตวั พยญั ชนะแล้วลากเสน้ ตดิ ตอ่ กนั ไปจนจบทป่ี ลายพยัญชนะ ๒. การเขียนหวั พยญั ชนะ ตอ้ งเขียนใหก้ ลม มเี สน้ เรยี บคมและสม่าเสมอ ในท่ีนีข้ อเสนอวิธกี ารเขียน พยญั ชนะไทยตามลาดบั ความยากงา่ ย การเขยี นหัวพยญั ชนะ ๑. หวั อยู่ในสว่ นท่ี ๑ กลมเต็ม ๑ สว่ น ๑.๑ หัวเข้า ได้แก่ ผ ฝ ย พยญั ชนะ ๑.๑.๑ จรดเครื่องเขียนท่ีเส้นบนของส่วนที่ ๑ เขียนวงกลมทวนเขม็ นาฬิกาเต็ม ๑ ส่วน ๑.๑.๒ ลากทับรอยเดมิ อกี ประมาณ ๑/๒ ของส่วนที่ ๑ แล้วจึงลากเสน้ ตอ่ ไปตามลกั ษณะตัว ๑.๒ หัวออก ได้แก่ ง บ ป น ม ท ห พ ฟ ษ ฬ ๑.๒.๑ จรดเครื่องเขยี นท่ีเสน้ บนของสว่ นที่ ๑ เขยี นวงกลมตามเข็มนาฬิกาเต็ม ๑ ส่วน ๑.๒.๒ ลากทบั รอยเดมิ อีกประมาณ ๑/๒ ของส่วนท่ี ๑ แลว้ จงึ ลากเส้นตรงต่อไปตาม ลกั ษณะตัวพยัญชนะ
๑๘ ๒. หัวอยใู่ นส่วนที่ ๒ กลมเต็ม ๑ สว่ น ๒.๑ หัวเขา้ ได้แก่ ค ต ศ อ ฮ จรดเครอ่ื งเขยี นท่ีเส้นบนของสว่ นที่ ๒ แลว้ เขยี นเหมอื นข้อ ๑.๑ ๒.๒ หวั ออก ได้แก่ จ ฉ ด ต ฒ ฐ จรดเคร่ืองเขียนทเี สน้ บนของส่วนที่ ๒ แล้วเขียนเหมือนขอ้ ๑.๒ หน้า ๑๙ ๓. หวั อยใู่ นสว่ นท่ี ๔ กลมเต็ม ๑ ส่วน ๓.๑ หวั เข้า ไดแ้ ก่ ถ ล ส ฌ ณ ญ ๓.๑.๑ จรดเครื่องหมายท่ีเส้นลา่ งของสว่ นที่ ๔ เขยี นวงกลมตามเข็มนาฬิกาเต็ม ๑ สว่ น ๓.๑.๒ ลากทับรอยเดมิ อีกประมาณ ๑/๒ ของส่วนที่ ๔ แลว้ จึงลากเส้นตรงต่อไปตาม ลกั ษณะตวั พยัญชนะ ๓.๒ หัวออก ได้แก่ ว ร ภ ฎ ฏ ๓.๒.๑ จรดเคร่ืองเขียนท่ีเส้นล่างของส่วนท่ี ๔ เขยี นวงกลมทวนเข็มนาฬิกาเตม็ ๑ สว่ น ๓.๒.๒ ลากทับรอยเดิมอกี ประมาณ ๑/๒ ของส่วนท่ี ๔ แล้วจึงลากเส้นตรงตอ่ ไปตาม ลักษณะตัวพยญั ชนะ
๑๙ ๔. พยัญชนะที่มีหัว ๒ ชน้ั ๔.๑ หัวขมวดหักหน้าบน หวั ๒ ชั้น เต็ม ๑ ส่วน ไดแ้ ก่ ข ช ๔.๑.๑ จรดเครือ่ งเขียนที่เสน้ ลา่ งของสว่ นท่ี ๑ เขยี นวงกลมตามเขม็ นาฬิกาขนาด ๑/๒ สว่ น เปน็ หวั ชั้นใน ๔.๑.๒ ลากเสน้ ตรงเฉยี งซา้ ยขึน้ ใหย้ าวเสมอสว่ นบนสุดของหัวชนั้ ในห่างจากเสน้ รอบ วง ด้านซ้ายของหวั ชัน้ ใน ๑/๒ สว่ น ๔.๑.๓ ลากเส้นเป็นจั่วเต็มคร่ึงสว่ น ใหย้ อดจวั่ จรดเส้นบนของสว่ นที่ ๑ และอยู่ตรงกบั เสน้ ศนู ย์กลางของหวั ชน้ั ใน ๔.๑.๔ ลากเส้นตรงเฉียงซา้ ยลงจรดเส้นลา่ งของสว่ นท่ี ๑ ตรงจดุ เสน้ ผ่าศูนย์กลางของ หัวชั้นใน แลว้ จึงลากเสน้ ตรงต่อไปตามลักษณะตัวพยัญชนะ ๔.๒ หวั หยักหักเหล่ยี มหนา้ บน ๒ ช้ัน เต็ม ๑ สว่ น ที่มหี วั ชนั้ นอกเปน็ หวั หยักหรือหัวแตก ได้แก่ ซ ฑ ฆ ๔.๒.๑ เขียนเหมอื น ข้อ ๔.๑.๑ – ๔.๑.๒ ของหวั ข หน้า ๑๗ ๔.๒.๒ ลากเสน้ ตรงเฉียงขวาขึ้นจรดเสน้ บนของสว่ นท่ี ๑ แนวเดียวกบั เส้นรอบวง ด้ายซา้ ยของหัวชน้ั ใน ๔.๒.๓ เขยี นหยกั ฟันปลามีขนาดเท่าช่วงหวั ชั้นในโดยให้สว่ นแหลมลา่ งของฟนั ปลาตรงกบั เสน้ ผา่ ศนู ย์กลางของหัวชน้ั ใน ฟนั ปลายาว ๑/๔ ของสว่ นท่ี ๑ ๔.๒.๔ เขยี นตอ่ เหมือนหัว ข
๒๐ การเขยี นตวั พยัญชนะไทย การฝึกคัดลายมือให้แก่เด็กในระดับประถมศึกษา ควรฝึกตามหลักเกณฑ์โครงสร้างตัวอักษรไทย ขั้นตอนในการเขียนต้องจัดกิจกรรมให้เด็กฝึกคัดอย่างถูกวิธี เพื่อฝึกให้นักเรียนเข้าใจและนาหลักเกณฑ์ การคดั ลายมือไปใช้ในชีวติ ประจาวันไดแ้ ละมลี กั ษณะนสิ ยั ท่ดี ใี นการเขยี นต่อไป การเรียงลาดบั พยญั ชนะในคู่มือเลม่ นี้ เรยี งลาดับพยญั ชนะที่นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ เขียนได้จากง่ายไปหายาก ตามผลการวจิ ยั ของ วรรณี โสมประยรู ดังต่อไปนี้ การเรยี งลาดับพยัญชนะทีง่ า่ ยตอ่ การฝึกเดก็ เริ่มเขยี น ความยากงา่ ยในการเขียนพยญั ชนะไทย ของนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ งจ วรธ กล่มุ ง่าย บปษ กถภ ฝพผฟยฬ คดตฅศ กลุ่มปานกลาง ขฃชซ มนฆฉ ทหฑ ลส อ ฮ กลุ่มยาก ญฌณฒ ฎฐฏ
วธิ ีการคดั พยญั ชนะไทยแบบหัวกลมแบบกระทรวงศึกษาธิการ ๒๑ ลกั ษณะการเขยี นอักษรแบบตัวกลม ลกั ษณะ ๔ ๑. สดั สว่ นของพยัญชนะ กาหนดเป็น ๔ ส่วน ดังนี้ สว่ น ๒. หัวกลมมีขนาด ๑ สว่ น ๓. หัวของ ข ช เปน็ หัวขมวดหยกั หนา้ บน และ ฅ ฆ ซ ฑ เปน็ หวั หยัก – หัวโค้งหน้าบน ๔. เส้นทล่ี ากจากหวั ตรงในแนวดิง่ ยกเว้น ค ฅ จ ฐ ฒ ด ต ล ศ ส เป็นเสน้ โคง้ เฉยี ง ๕. เส้นบนโคง้ มน มีขนาด ๑ สว่ น ๖. เส้นลา่ งตรงแนวเดยี วกับเสน้ บรรทดั หรอื เปน็ เสน้ โคง้ เล็กน้อย ๗. หาง ป ฝ ฟ เปน็ เสน้ ตรงยาวไม่เกนิ ๓ ส่วน ๘. หางอกั ษรอน่ื เปน็ เสน้ โคง้ หงาย ยาวไมเ่ กนิ ๓ ส่วน ๙. สว่ นลา่ งของ ฎ ฏ ฐ เลยตวั อักษรลงมา ๒ สว่ น และกวา้ งเทา่ ตัวหลัง ๑๐. เชงิ ญ อยู่ในสว่ นที่ ๑ ลา่ ง และกว้างเท่าตวั หลงั ๑๑. ไส้ ษ อยูใ่ นส่วนท่ี ๒ ๑๒. ขนาดของตัวอักษรโดยท่ัวไป มีความกว้างเป็นครึ่งหนึ่งของความสูงไม่รวมหางและเชิง ยกเว้น ข ฃ ช ซ กว้างเป็นคร่ึงหนึ่งของตวั อื่น ๆ และตวั อักษรท่ีเหมือน ๒ ตัวติดกัน ได้แก่ ฌ ญ ฒ ณ ตวั หนา้ กว้างครึง่ หน่ึงของความสูง ตัวหลังกว้างครึ่งหน่ึงของตวั หนา้ ๑๓. สระ ไ- ใ- โ- สูงเลยตัวอกั ษรข้นึ ไปไมเ่ กนิ ๓ สว่ น ๑๔. สระ -ุ -ู อยใู่ ตต้ ัวอักษรไม่เกิน ๓ ส่วน ๑๕. สระและเคร่อื งหมายบนทุกตัวอยู่ทส่ี ว่ น ๒ และ ๓ ๑๖. ส่วนขวาสุดของสระ วรรณยุกต์ และเครื่องหมายต่าง ๆ อยู่ตรงกับเส้นขวาสุดของ พยัญชนะที่เกาะ ยกเว้นถ้าอยู่กับพยัญชนะท่ีมีหาง ได้แก่ ป ฝ ฟ ให้เขียนสระ วรรณยุกต์ และ เครือ่ งหมายเย้อื งมาข้างหนา้ ไม่ทับหางพยญั ชนะ ๑๗. สระ อี ลากขดี ลงแตะปลายสระ -ิ -ี ๑๘. สระ –ื เขียนเหมอื นสระ –ี เพมิ่ ๑ ขีดดา้ นใน –ี -ื ๑๙. สระ –ื มวี รรณยกุ ต์ให้ใสว่ รรณยุกต์ไว้ตรงกลาง -่ื
๒๒ การเรียงลาดบั พยัญชนะในคมู่ ือเลม่ น้ี เรยี งลาดับจากง่ายไปหายากตามผลวจิ ัยของ วรรณี โสมประยูร ดังนี้ ๑. เขียนหวั ออก หัวอยูใ่ นส่วนท่ี ๑ เหมือนข้อ ๑.๒ หน้า ๑๗ ๒. ลากเสน้ ด่ิงจดเส้นฐาน ๓. ลากเส้นทแยงข้นึ หนา้ สูง ๓ สว่ น กว้าง ๒ สว่ น ๑. เขียนหวั ออก หัวอยู่ในส่วนที่ ๒ เหมือนข้อ ๒.๒ หนา้ ๑๗ ๒. ลากเส้นทแยงลงหลัง เส้นโค้ง จดเสน้ ฐาน กว้าง ๑⁄๒ ส่วน ๓. ลากเสน้ ต้ังหลัง ๓ สว่ น ๔. ลากเสน้ บนโค้งเตม็ สว่ นที่ ๑ กว้าง ๒ สว่ น ๑. เขยี นหวั ออก อยู่ในสว่ นที่ ๔ เหมอื นข้อ ๓.๒ หนา้ ๑๘ ๒. ลากเส้นต้งั ๓ สว่ น ๓. ลากเส้นบนบนโค้ง ไปทางซ้ายเต็มส่วนที่ ๑ กวา้ ง ๒ สว่ น
๒๓ f ๑. เขียนหัวเหมอื น ว ๒. ลากเสน้ ตง้ั ๓ ส่วน ๓. ลากเส้นซ้อนเตม็ ส่วนที่ ๑ เสน้ โค้งกว้าง ๒ สว่ น ปลายเส้นโค้งลากขน้ึ ๑/๔ สว่ น ป๑ร. ะเขมยีานณต๑้น⁄ต๔วั อักษส่วรนเหนือเส้นล่างของสว่ นที่ ๑ ๒. ลากเส้นด่ิงจดเสน้ ฐาน ๓. ลากเสน้ ล่างตรงไปทางขวาทบั เส้นฐานกว้าง ๑ สว่ น ๔. ลากเสน้ ต้ัง ๓ ส่วน ๕. ลากเส้นซ้อนเหมือน ร ๑. เขยี นหวั เหมอื น ง ๒. ลากเสน้ ด่งิ จดเส้นฐาน ๓. ลากเส้นล่างตรงไปทางขวาทบั เสน้ ฐานกวา้ ง ๒ ส่วน ๔. ลากเสน้ ต้งั จดเสน้ หลกั
๒๔ ๑. เขยี นเหมือน บ ๒. ลากเสน้ ตงั้ หลังเลยเสน้ หลกั ข้ึนไป ๒ สว่ น ๑. เขยี นหัวเหมอื น บ ๒. ไส้ ษ อยู่ในส่วนท่ี ๒ ขนาด ๑ ๑/๒ สว่ น หวั ของไส้ ขนาด ๑⁄๒ ส่วน ๑. เขียนตน้ ตัวอักษรที่เสน้ ฐาน ๒. ลากเส้นตง้ั ๓ สว่ น ๓. ลากปากไกเ่ ป็นเส้นทแยง ปากไก่เป็นจะงอยโคง้ เต็มส่วนท่ี ๑ ปากไก่ยน่ื หน้า ๑ สว่ น ลาตวั กวา้ ง ๒ ส่วน ๔. ลากเส้นด่ิงจดเส้นฐาน
๒๕ ๑. เขียนหวั เขา้ หัวอยูใ่ นสว่ นที่ ๔ เหมอื นข้อ ๓.๑ หนา้ ๑๘ ๒. ลากเสน้ ต่อ เหมือน ก ๑. เขียนหวั เหมือน ว ๒. ลากเสน้ ต่อเหมือน ก ๑. เขียนหวั เข้า หวั อย่ใู นสว่ นที่ ๑ เหมือนข้อ ๑.๑ หน้า ๑๗ ๒. ลากเส้นดิง่ จดเส้นฐาน ๓. ลากเสน้ ทแยงขึ้นหลังสูง ๒ ส่วน กว้าง ๑ สว่ น ๔. ลากเสน้ ทแยงลงหลงั จดเส้นฐานกว้าง ๑ ส่วน ๕. ลากเสน้ ตงั้ หลังเลยเส้นหลกั ขึ้นไป ๒ สว่ น ๑. เขียนหวั เหมอื น ง ๒. ลากเส้นด่งิ จดเส้นฐาน ๓. ลากเส้นทแยงขนึ้ หลงั จดเส้นหลกั กวา้ ง ๑ สว่ น ๔. ลากเสน้ ทแยงลงหลังจดเส้นฐานกวา้ ง ๑ ส่วน ๕. ลากเสน้ ตั้งจดเสน้ หลกั
๒๖ ๑. เขียนเหมือนข้อ ๑ – ๔ ของ ฝ ๒. ลากเส้นต้ังหลังจดเสน้ หลัก ๑. เขยี นหวั เหมอื น พ ๒. ลากเสน้ ตง้ั ตอ่ จากปลายเส้นหลงั ขึ้นไป ๒ สว่ น ๑. เขยี นหัวเหมือน ฝ ๒. ลากเส้นดิง่ ถึง ๓⁄๔ ของส่วนท่ี ๒ ทาหยกั ฟนั ปลา ขนาด ๑⁄๒ สว่ น แลว้ ลากเส้นดิ่งถงึ เสน้ ฐาน ๓. ลากเส้นล่างตรงไปทางขวาทับเสน้ ฐาน กวา้ ง ๒ สว่ น ๔. ลากเสน้ ตงั้ จดเส้นหลกั ๑. เขียนเหมือน พ ๒. ลากเส้นตั้งถึง ๑⁄๒ ของส่วนท่ี ๑ ๓. ขมวดเปน็ วงรี เสน้ บนของวงรแี ละปลายหางชดิ เส้น บนของสว่ นที่ ๑ บน วงรี กว้าง ๑ ๑⁄๒ ส่วน ปลาย หางกวา้ ง ๑⁄๔ สว่ น
๒๗ ๑. เขยี นหัวเข้า หัวอยใู่ นส่วนที่ ๒ เหมอื นข้อ ๒.๑ หนา้ ๑๗ ๑⁄๒ สว่ น ๒. ลากเส้นทแยงลงหนา้ โค้ง จดเส้นฐานกว้าง ๓. ลากเสน้ ตั้งหน้า ๓ ส่วน ๔. ลากเส้นบนโค้ง เต็มส่วนที่ ๑ กว้าง ๒ ส่วน ลากเส้น ดงิ่ จุดเส้นฐาน ๑. เขยี นหวั เหมอื น จ ๒. ลากเส้นทแยงลงหน้าจดเส้นฐาน กวา้ ง ๑ ส่วน จากเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางของหวั ๓. ลากเสน้ ตง้ั ๓ สว่ น ๔. ลากเสน้ บนบนโคง้ เตม็ สว่ นท่ี ๑ กวา้ ง ๒ ส่วน ลากเส้นดงิ่ จดเสน้ ฐาน ๑. เขยี นเหมือนข้อ ๑ – ๓ ของ ตัว ด ๒. ลากเสน้ บนหยักโคง้ เตม็ ส่วนท่ี ๑ กวา้ ง ๒ ส่วน ๓. ลากเส้นด่งิ จุดเส้นฐาน
๒๘ ๑. เขียนเหมอื นข้อ ๑ – ๓ ของตวั ค ๒. ลากเส้นตอ่ เหมือน ตวั ต ๓. ลากเส้นบนหยักโคง้ เต็มส่วนที่ ๑ กวา้ ง ๒ ส่วน ๔. ลากเสน้ ดง่ิ จุดเส้นฐาน ๑. เขยี นเหมอื น ค ๒. เตมิ หางบนเปน็ เสน้ เฉียง จากกึ่งกลางเสน้ บน สว่ นหลังถึงเต็มส่วนที่ ๑ บน ๑. เขยี นหัวเหมือนข้อ ๔.๑ หน้า ๑๗ ๒. ลากเส้นดิ่งจดฐาน ๓. ลากเสน้ ลา่ งตรงไปทางขวาทับเสน้ ฐาน กวา้ ง ๑ สว่ น ๔. ลากเส้นตงั้ จดเสน้ หลัก
๒๙ ๑. เขียนหวั เหมอื นขอ้ ๔.๒ หนา้ ๑๘ ๒. ลากเสน้ ตอ่ เหมอื น ข ๑. เขียนเหมอื น ข ๒. จากเสน้ หลังของ ข ต่อหาง ข เปน็ เสน้ ตรงเฉยี งข้นึ ไป ๑ สว่ น ถงึ สว่ นที่ ๑ บน ๑. เขยี นหวั เหมือน ฃ ๒. ลากหางเหมือน ช ๑. เขียนหวั เหมอื น ง ๒. ลากเสน้ ดิ่งถึงกง่ึ กลางของส่วนท่ี ๔ ๓. ขมวดหนา้ ตรงกลม ๑ ส่วน ๔. ลากเสน้ ล่างเอยี งลงจดเสน้ ฐาน ลาตัวหลัก กว้าง ๑ ๑⁄๒ ๕. ลากเส้นต้ังจดเสน้ หลัก
๓๐ ๑. เขียนหัวเหมอื น ง ๒. ลากเส้นดิง่ จดเส้นฐาน ๓. ลากเสน้ ล่างเอยี งขึน้ แล้วขมวดหลังตรงกลม ๑ สว่ น ลาตัวหลกั กว้าง ๑ ๑⁄๒ ส่วน ๔. ลากเสน้ ตัง้ จดเส้นหลัก ๑. เขยี นหัวเหมอื น ฃ ๒. ลากเสน้ ต่อเหมอื น ม ๑. เขยี นหวั เหมอื น จ ๒. ลากเส้นดิง่ จดเสน้ ฐาน ๓. ลากเส้นตอ่ เหมือน น แต่เสน้ ต้งั หลังขึ้นไป ๓ สว่ น ๔. ลากเสน้ บนโค้ง (ตัวกลม) เต็ม ๑ สว่ น กว้าง ๓ ส่วน ใหจ้ ุดก่งึ กลางของเส้นบน กวา้ ง ๑ ๑⁄๒ ส่วน
๓๑ ๑. เขยี นหวั เหมือน ง ๒. ลากเส้นด่ิงจดเส้นฐาน ๓. ลากเส้นทแยงข้ึนหลงั จดเส้นหลกั กวา้ ง ๑ ๑⁄๒ สว่ น ๔. ลากเส้นทแยงลงหลงั เส้นโคง้ (ตวั กลม) ๑⁄๒ ส่วน กวา้ ง ๑⁄๒ ส่วน ในสว่ นที่ ๑ ๕. ลากเส้นด่ิงจดเสน้ ฐาน ๑. เขียนหวั เหมอื น ง ๒. ลากเสน้ ดงิ่ จดเสน้ ฐาน ๓. ลากเส้นทแยงข้ึนหลงั ถงึ ๑⁄๒ ส่วน ในสว่ นที่ ๑ กวา้ ง ๒ ส่วน ๔. ขมวดบนหลงั หลบกลม เตม็ ๑ สว่ น ๕. ลากเส้นดิง่ จดฐาน ๑. เขยี นหัวเหมือน ฃ ๒. ลากเสน้ ต่อเหมือน ท
๓๒ ๑. เขยี นหวั เหมอื น ถ ๒. ลากเสน้ ทแยงขึน้ หลัง ๓ สว่ น กวา้ ง ๑ ส่วน ๓. ลากเส้นทแยงลงหลังจดเสน้ ฐานกว้าง ๑ สว่ น ๔. ลากเส้นตง้ั ขึ้นไป ๓ สว่ น ๕. ลากเส้นบนโคง้ (ตวั กลม) เต็มส่วนท่ี ๑ บนกว้าง ๒ ๑⁄๒ ส่วน ๑. เขียนเหมือน ล ๒. เติมหางบนเป็นเสน้ เฉยี ง เส้นโคง้ (ตัวกลม) จากก่ึงกลางเส้นบนสว่ นหลงั ถึงเตม็ ส่วนที่ ๑ บน ฟ ๑. เขยี นหัวเหมอื น ค ๒. ลากเส้นด่ิงจดเสน้ ฐาน ๓. ลากเส้นล่างตรงไปทางขวาโคง้ หงายไป ทางขวา (ตวั กลม) กวา้ ง ๒ ส่วน ๔. ลากเสน้ ต้งั ถงึ เสน้ ล่างของส่วนท่ี ๑ ๕. ลากเส้นบนโค้ง (ตวั กลม) เต็มสว่ นที่ ๑ กวา้ ง ๒ ๑⁄๒ ส่วน
๓๓ ๑. เขียนเหมือนข้อ ๑ – ๓ ของ อ ๒. ลากเส้นตั้งถึง ๑⁄๒ ของส่วนท่ี ๑ ๓. ม้วนหางเป็นวงรี เสน้ บนของวงรีและ ปลายหางชิดเสน้ หลัก วงรี กวา้ ง ๒ สว่ น ๑. เขียนเหมอื น ถ ๒. ลากเสน้ ล่างตรงไปทางขวาทับเส้นฐาน กวา้ ง ๑ สว่ น ๓. ลากเสน้ ต้งั ถงึ เสน้ หลกั ๔. เชงิ อยูใ่ นสว่ นที่ ๑ ลา่ ง หัวและปลายเชงิ มี ขนาด ๑⁄๒ สว่ น เชิงกวา้ งเท่ากบั สว่ นหลงั ๑. เขยี นเหมือน ถ ๒. ลากเสน้ ต่อเป็น ม ลาตัวขนาด ๑ สว่ น ขมวดกลาง ขนาด ๑⁄๒ ส่วน
๓๔ ๑. เขยี นเหมอื น ถ ๒. ลากเสน้ ต่อเป็น น ลาตัวขนาด ๑ ส่วน ขมวดหลัง ขนาด ๑⁄๒ ส่วน ๑. เขียนเหมือน ต ๒. ลากเส้นต่อเปน็ ม ลาดบั ขนาด ๑ ส่วน ขมวดกลาง ขนาด ๑⁄๒ ส่วน ๑. เขียนเหมอื น ภ ๒. ลากเส้นดิ่งถึงเสน้ กลางของสว่ นที่ ๒ ลา่ ง ๓. หางลา่ งขมวดตวดั เต็มสว่ นท่ี ๒ ลา่ ง กว้าง ๓ ส่วน ปลายหางตวัดขนึ้ ถงึ ๑⁄๒ ส่วนในส่วนที่ ๑ ลา่ ง หา่ งจากเส้นดง่ิ ๑⁄๒ ส่วน
๓๕ ๑. เขยี นเหมือนข้อ ๑ – ๓ ของ จ ๒. ลากเสน้ ซอ้ นเต็มสว่ นท่ี ๑ เหมือน ร เ๓ช.ิงเหชยิงกัมขขี มนวาดดต๑วัด๑ข⁄น๒าดส๑่ว⁄น๒อยสใู่ ่วนนสว่ .ในนทสี่ ่ว๑นทล่า่ี ๒งหลา่างง ปลายหางตวดั เสมอหวั หา่ งจากเสน้ ดง่ิ ๑ ส่วน ๑. เขยี นเหมือน ภ ๒. ต่อเส้นดิ่งถึงเสน้ ลา่ งของส่วนที่ ๒ ลา่ ง ๓. หางล่างหยักขมวดตวดั เตม็ สว่ นที่ ๒ ล่าง กว้าง ๓ ส่วน ปลายหางตวดั ถงึ ๑⁄๒ ส่วนในสว่ นที่ ๑ ล่าง ห่างจากเส้นด่ิง ๑ เส้น
๓๖ การสอนให้เขยี นรูปสระ เมือ่ นกั เรียนอา่ นออกเสียงสระได้แลว้ ครสู อนให้เขยี นรปู สระ โดยมีขน้ั ตอนดงั น้ี ๓.๑ ครเู ขยี นรปู สระในกระดานดา โดยคดั ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และลากเสน้ ให้ถูกต้องตาม หลกั การเขียนสระ ครลู ากเส้นชา้ ๆ ใหน้ กั เรยี นดูและอ่านออกเสยี งสระตัวนนั้ ไปพรอ้ มกัน ๓.๒ ใหน้ ักเรยี นเขียนรูปสระตามครูขณะเขียนให้อ่านออกเสียงสระไปด้วย ๓.๓ ใหน้ กั เรยี นคัดรูปสระแต่ละตัวดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทัดใหส้ วยงามลงในสมดุ หลายๆครง้ั หลาย ๆ เท่ียว ๓.๔ ครูต้องสงั เกต ตรวจสอบ หรือทดสอบการเขียนรปู สระของนักเรียนเป็นรายบคุ คล หากพบวา่ นักเรยี นคนใดยังอ่านไมไ่ ด้หรอื เขยี นไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไขในทันทีก่อนท่ีจะให้เขียนสระตวั ต่อไป - สระที่มีตาแหนง่ อยู่ขา้ งบนพยญั ชนะตน้ ๑ ๒ ๓ ๔ - สระทม่ี ตี าแหน่งอยู่ขา้ งล่างพยญั ชนะต้น ๑๑ ๒๒ ๓๓ ๔๔ - สระท่มี ีตาแหนง่ อยู่ขา้ งหลังพยญั ชนะตน้ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ - สระท่มี ตี าแหนง่ อยู่ขา้ งหนา้ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ - สระที่มตี าแหน่งอยู่ขา้ งบนและขา้ งหลงั พยญั ชนะตน้ - สระทมี่ ีตาแหน่งอยู่ขา้ งหนา้ และข้างหลังพยัญชนะตน้ - สระทม่ี ตี าแหนง่ อยู่ขา้ งหนา้ ขา้ งหลัง และข้างบนพยัญชนะตน้
๓๗ การสอนเขียนรูปวรรณยุกต์ รูปวรรณยกุ ต์ เขียนบนพยัญชนะตน้ เพื่อบอกระดบั เสียงของคา ทาให้คามคี วามหมายต่างกนั ๑. วรรณยุกต์มี ๔ รปู คือ -่ เรยี กว่า ไมเ้ อก -้ เรยี กว่า ไมโ้ ท - เรียกวา่ ไม้ตรี - เรียกวา่ ไม้จัตวา ๒. วิธีเขียนรูปวรรณยุกต์ ๔ รูป ไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี ไม้จัตวา รูปวรรณยุกต์จะวางอยู่บนพยัญชนะ ครูให้นักเรียนฝึกเขียนรูปวรรณยุกต์ ขณะท่ีนักเรียนเขียนวรรณยุกต์แต่ละตัวให้ออกเสียงวรรณยุกต์ ตามไปด้วย ครอู าจเดินสงั เกตการเขียนรูปวรรณยกุ ตข์ องนักเรียน และตรวจ การเขยี น หากพบวา่ นกั เรยี น คนใดยังเขียนไม่ได้หรือเขียนไม่ถูกต้อง ให้แก้ไขทันทีโดยให้ฝึกซ้า ๆ หรือถ้านักเรียนคนใดเข้าใจดีแล้ว ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกเสริมอนื่ ๆ ๑ ๒ ๓ ๔ ๓. ตาแหนง่ ของวรรณยุกต์ จะเขียนอย่บู นพยัญชนะตน้ ขนาดเล็กกว่าพยัญชนะ ๑ ใน ๔ รปู วรรณยกุ ต์จะวางอยู่บนพยัญชนะ ครูให้นักเรียนฝกึ เขยี นรปู วรรณยุกตข์ ณะทีน่ ักเรียนเขียนวรรณยุกต์ แตล่ ะตัว ใหอ้ อกเสยี งวรรณยุกต์ตามไปด้วย ครอู าจเดนิ สังเกตการเขียนรูปวรรณยกุ ต์ของนักเรียน และ ตรวจ การเขียน หากพบว่านักเรียนคนใดยงั เขียนไม่ไดห้ รือเขียนไม่ถกู ต้อง ใหแ้ กไ้ ขทันทโี ดยใหฝ้ ึกซ้า ๆ หรือถา้ นักเรียนคนใดเข้าใจดีแลว้ ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกเสริมอนื่ ๆ
๓๘ ๓.๑ การวางตาแหน่งรูปวรรณยุกต์ เขียนบนตัวพยัญชนะให้ตรงกบั เสน้ หลัง หรือค่อน ไป ทางดา้ นทา้ ยของตวั พยัญชนะ โดยส่วนขวาสดุ ของวรรณยกุ ต์อยตู่ รงกับเสน้ ขวาสุดของพยัญชนะที่เกาะ เช่น ขา่ เกขา่ แคข่ ยข่า มข้า ขข้อ ขจ้อ ทข้า ขด๊า ขจ๊ า โขต๊ะ โลข๊ะ เกข๋ จข๋า เตข๋า ขอ๋ า ๓.๒ พยัญชนะท่ีมีหาง ได้แก่ ป ฝ ฟ ใหเ้ ขยี นวรรณยุกต์เยื้องมาข้างหนา้ ไม่ทบั หาง พยัญชนะ เชน่ ปข่า ปข้า ปข๊ า ปข๋ า ฝข่า ขฝ้ า ขฝ๊ า ฝข๋า
๓๙ ๓.๓ พยัญชนะตน้ มตี ัวอักษร ๒ ตัว รปู วรรณยกุ ตจ์ ะวางอยู่บนตวั ท่ี ๒ เชน่ ปลข่อง คลข้อง ปขร๋อ ๓.๔ พยางคใ์ ดมรี ูปสระอยบู่ นตวั พยัญชนะแล้ว ใหเ้ ขยี นรปู วรรณยุกตไ์ ว้บนรปู สระอีกช้ันหน่ึง เชน่ ปลขิ้น คขร้ิัน กขริ๊ งิ กำรเขียนเลขไทย ตำมรปู แบบตัวเลขกระทรวงศกึ ษำธิกำร ๑ ๒ ๓ ๔ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔๑ ๒ ๓ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙๔ ชื่อตัวเลข ๐ เรยี ก เลขศนู ย์ ๑ เรียก เลขหนง่ึ ๒ เรียก เลขสอง ๓ เรยี ก เลขสาม ๔ เรียก เลขส่ี ๕ เรยี ก เลขหา้ ๖ เรียก เลขหก ๗ เรียก เลขเจ็ด ๘ เรยี ก เลขแปด ๙ เรียก เลขเก้า
๔๐ ขน้ั ตอนการฝึกคดั และเขยี น ๑. กอ่ นฝึกเขียนใหน้ ักเรียนฝึกเขียนเสน้ พ้นื ฐาน ๑๓ แบบ จนชานาญ ๒. ครูสาธติ การเขียนอกั ษรไทยตัวเตม็ บรรทัดทีละตวั ลงบนกระดานดา ๓. นักเรียนทุกคนคดั และเขยี นตวั อักษรแต่ละตวั ตามครู ตัวละ ๑ หนา้ กระดาษ ลงในแบบฝึกเขยี น (แบบ ข ๑) บรรทดั ทเี่ ปน็ เส้นประใชส้ าหรับเขียนหางตัวอกั ษรและเชงิ ตัวอักษร ๔. นักเรียนฝึกคัดและเขียนอักษรไทยทุกตัวในแบบฝึกเขียน (แบบ ข ๑) จนชานาญแล้ว ครูผสู้ อนฝึกใหน้ ักเรียนเขียนตัวอักษรไทยแตล่ ะตวั ๆ ละ ๑ หนา้ กระดาษ ลงในแบบฝึกเขยี น (แบบ ข ๒) ครูผู้สอนสังเกตพัฒนาการของนักเรยี นแต่ละคนว่า อักษรแต่ละตัวนั้น นักเรียนเวน้ ชอ่ งไฟถูกต้องหรือไม่ และคดั ตวั ละกีค่ รั้งจงึ จะสวยงามถูกต้อง ๕. เม่ือนักเรียนฝึกคัดและเขียนในแบบฝึกเขียน (แบบ ข ๒) จนชานาญแล้ว ครูผู้สอน ฝึกให้ นักเรียนเขียนตัวอักษรเรียงตามลาดับทุกตัวลงในแบบฝกึ เขียน (แบบ ข ๓) โดยครูสังเกตการเว้นช่องไฟ ความเป็นระเบียบ สะอาด สวยงาม ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การเขียน และประเมินผลสัปดาห์ละ ๑ คร้ัง ของนกั เรยี นทกุ คนเป็นเวลา ๑ เดือน ๖. เมื่อนักเรียนฝึกคัดและเขียนผสมอักษรเป็นข้อความในแบบฝึกเขียน (แบบ ข ๒) จนชานาญ แลว้ ใหฝ้ กึ เขียนผสมอกั ษรเปน็ ขอ้ ความในแบบฝึกเขยี น (แบบ ข ๒) ๗. เมื่อนักเรียนฝึกคัดและเขียนผสมอักษรเป็นข้อความในแบบฝึกเขียน (แบบ ข ๒) จนชานาญ แลว้ ให้ฝกึ เขียนผสมอักษรเปน็ ข้อความในแบบฝกึ เขียน (แบบ ข ๓) ๘. เม่ือนักเรียนฝึกคัดและเขียนผสมอักษรเป็นข้อความในแบบฝึกเขียน (แบบ ข ๓) จนชานาญ แล้วใหฝ้ ึกเขียนผสมอักษรเปน็ ขอ้ ความในแบบฝึกเขยี น (แบบ ข ๔) ๙. เม่ือนักเรียนฝึกคัดและเขียนผสมอักษรเป็นข้อความในแบบฝึกเขียน (แบบ ข ๔) จนชานาญ แลว้ ใหฝ้ ึกเขยี นผสมอกั ษรเป็นข้อความในสมุดคดั ไทยบรรทัดปกติ ๑๐. ให้การบา้ นนักเรยี นคดั ลายมือทุกวนั วันละ ๑๐ บรรทัด ๑๑. ประกวดคดั ลายมือในชัน้ เรยี น สปั ดาห์ละ ๑ ครง้ั ๑๒. ให้ครูผู้สอนจัดเก็บแบบฝึกการคัดและเขียนไว้ตั้งแต่เริ่มต้นการฝึกจนประสบความสาเร็จ เพื่อเป็นหลักฐานในการเปรียบเทียบพัฒนาการทักษะด้านการคัดและเขียน และเป็นหลักฐานในการนิเทศ ตดิ ตามของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๑
๔๑ แบบฝึกหัดเขียนบรรทดั ๕ เส้น (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๑) ชื่อ..................................................................ชนั้ ป. . ..........โรงเรยี น.......................................................... ๑ ๒ ๓ ก ข ฃ ค ฅ ฆ ง จ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ฉช ซฌญฎฏฐ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฑ ฒณดต ถท ธ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ นบป ผฝพฟภ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ม ย รล ว ศษส๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ หฬ อ ฮ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๒ ก แบบฝกึ หดั เขียนบรรทัด ๕ เสน้ (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ชือ่ ..................................................................ช้ัน ป. ...........โรงเรียน.......................................................... ๑ ๒ ๓ ๔ ข๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ค๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฅ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฆ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ง๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ จ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๓ ฉแบบฝกึ หดั เขียนบรรทดั ๕ เสน้ (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ชือ่ ..................................................................ชั้น ป. ...........โรงเรียน.......................................................... ๑ ๒ ๓ ๔ ช๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ซ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฌ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ญ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฎ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฏ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๔ ฐแบบฝกึ หดั เขียนบรรทัด ๕ เสน้ (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ชือ่ ..................................................................ชนั้ ป. ...........โรงเรียน.......................................................... ๑ ๒ ๓ ๔ ฑ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฒ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ณ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ด๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ต๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ถ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๕ ธแบบฝึกหดั เขียนบรรทดั ๕ เส้น (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ชือ่ ..................................................................ชน้ั ป. ...........โรงเรียน.......................................................... ๑ ๒ ๓ ๔ น๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ บ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ป๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ผ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฝ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ พ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๖ แบบฝกึ หดั เขียนบรรทัด ๕ เสน้ (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ชือ่ ..................................................................ช้ัน ป. ...........โรงเรียน.......................................................... ๑ ๒ ๓ ๔ ฟ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ภ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ม๔ ย๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ร๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ล๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ว๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๗ แบบฝกึ หดั เขียนบรรทัด ๕ เสน้ (บรรทัด ๔ ส่วน) (แบบ ข ๒) ชือ่ ..................................................................ช้ัน ป. ...........โรงเรียน.......................................................... ๑ ๒ ๓ ๔ ศ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ษ๔ ส๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ห๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ฬ๔ อ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔ ฮ๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒ ๓ ๔
๔๘
๔๙ แบบฝกึ หดั เขียนบรรทดั ๕ เส้น (บรรทดั ๔ ส่วน) (แบบ ข ๓) ช่อื ...................................................................ชัน้ ป. ...........โรงเรียน.......................................................... วันท่ฝี ึกเขยี น วันที.่ .......เดือน...........................พ.ศ. ..............
๕๐ แบบฝึกหดั เขียนบรรทดั ๕ เส้น (บรรทัด ๔ ส่วนปกติ) (แบบ ข ๔) ช่อื ...................................................................ชน้ั ป. ...........โรงเรียน.......................................................... วนั ที่ฝกึ เขยี น วันที่........เดอื น...........................พ.ศ. .............. ........................................................
Search