หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ “The dangers of using pesticides” อันตราย ! จากการใชส้ ารกาจัดศัตรูพืช ศนู ย์วิทยาศาสตรเ์ พ่อื การศึกษานครพนม
กนั ยายน 2564
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม อนั ตรายจากการใชส้ ารกาจดั ศัตรูพชื สารกาจัดศัตรูพืช (pesticides) ท่ีใช้ในการเกษตรเป็น สารพิษอนั ตรายทสี่ ่งผลกระทบต่อสขุ ภาพของมนุษยโ์ ดยสามารถเข้า สรู่ ่างกายของมนษุ ยไ์ ด้ทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ ส่วนมากเกิดจากการใช้หรือสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรหรือใช้ สารเคมีไม่ถูกต้อง นอกจากน้ีสารกาจัดศัตรูพืชยังส่งผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อาหาร เกษตรกรส่วนใหญ่เห็นว่าสารเคมีนั้น จะทาให้พืชผักสวยงามน่ารับประทาน ขายได้ราคาดี เป็นท่ียอมรับ ของผู้บริโภค และท่ีสาคัญในปัจจุบันพบปัญหาแมลงรบกวนมากขึ้น ผลผลติ ท่ีเกษตรกรนยิ มใชส้ ารเคมีมากทสี่ ดุ คือ ข้าว รองลงมา คอื พืช ไรช่ นดิ อนื่ ๆ ไม้ผล พืชสวน และไม้ดอก หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 1 “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม อนั ตรายจากการใชส้ ารกาจัดศตั รูพชื การใช้สารกาจัดศัตรูพืชทางการเกษตรไม่เพียงก่อให้เกิด ผลทางตรงในการกาจัดศัตรูพืชเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดผลกระทบ ทางอ้อมโดยกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและระบบนิเวศโดยเฉพาะใน ดิน น้า อากาศ ส่ิงมีชีวิต ระบบห่วงโซ่อาหารและในระบบนิเวศ อ่ืนๆ ที่อยใู่ กล้เคียง เนื่องจากในการฉีดพ่นสารเคมีที่ตกบนต้นพืช จะมีผลในการป้องกันกาจัดแมลงศัตรูพืชมีประมาณร้อยละ 1 เท่าน้ันที่สารเคมีจะตกโดนตัวแมลงโดยตรง ส่วนอีกที่เหลือจะมี การแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อมทาให้คุณภาพส่ิงแวดล้อมเส่ือม โทรมลง อาจทาให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์และ กอ่ ให้เกดิ อันตรายต่อส่ิงมชี วี ิตในระบบนเิ วศด้วย หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 2 “อันตรายจากสารกาจัดศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม อนั ตรายจากการใชส้ ารกาจดั ศัตรูพชื ปัญหาจากการใช้สารกาจัดศัตรูพืช ท่ีเกิดขึ้นมักเกิด จากการขาดความรคู้ วามเข้าใจท่ถี ูกต้องของเกษตรกรทาให้มี การใช้สารเคมีทางการเกษตรมากเกินความจาเป็นหรือ เกษตรกรไม่ทิ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวให้นานพอจึงทาให้มีการ ปนเปื้อนของสารเคมีในผลผลิตทางการเกษตรและในแหล่ง น้า ปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีกาจัดศัตรูพืชท่ีกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมน้ันมิได้เกิดข้ึนเฉพาะพื้นท่ีที่มีการใช้สารเคมี เท่าน้ัน แต่อาณาเขตพ้ืนที่ยังสามารถท่ีจะขยายแพร่กระจาย ในพ้ืนที่บริเวณกว้างได้ ซ่ึงก่อให้เกิดปัญหาทางด้าน สิ่งแวดล้อม จากการแพรก่ ระจายและการตกค้างของสารเคมี ในดิน น้า พืชและลาต้นพืชหลังจากการฉีดพ่นจะเกิดการ สะสมสว่ นหน่งึ และบางส่วนฟุ้งกระจายไปในบรรยากาศทาให้ แมลงท่ีมีประโยชน์ตายและบางส่วนซึมลงไปในดินและแหล่ง น้าทาให้ใส้เดือนและปลาในน้าตายซ่ึงส่วนใหญ่จะถูกฝนชะ ไหลลงสแู่ หลง่ นา้ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 3 “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม ความเป็นพิษของสารกาจัดศัตรูพืช สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุม่ ไดด้ ังน้ี 1. พิษเฉียบพลัน (Acute toxicity) เมื่อได้รับสารพิษจะ แสดงอาการทันที แม้จะได้รับพิษเพียงครั้งเดียว ซึ่งเก่ียวข้องกับ การรับหรือสัมผัสวัตถุอันตรายในปริมาณมากอย่างกระทันหัน เช่น สารเคมกี รด เป็นตน้ 2. พิษเร้อื รงั (Chronic toxicity) เป็นการได้รับสารพิษ คร้งั ละไม่มากแต่เป็นระยะเวลานานและได้รับสารพิษหลายครัง้ จึง จะแสดงอาการ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 4 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม ผลเสียของสารกาจัดศัตรูพชื ผลเสียท่ีเกิดขึ้นจากสารกาจัดศัตรูพืชน้ันมีมากมาย สารพิษจากสารกาจัดศัตรูพืชอาจตกค้างในผลผลิต ส่ิงแวดล้อม เช่น ตกค้างในดิน ตามแหล่งน้า ซ่ึงจะหมุนเวียนกลับมาสู่พืชที่ เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ได้ ดังน้ัน จึงควรใช้สารกาจัดศัตรูพืช เท่าที่จาเป็นและใช้ในปริมาณท่ีเหมาะสมเท่านั้น โดยผลเสียของ สารกาจดั ศตั รูพืชสามารถแบ่งออกได้เปน็ 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. ผลเสียต่อสุขภาพ การได้รับสารพิษบ่อยครั้งและ ติดต่อกันเป็นเวลานาน สารพิษจะสะสมในร่ากายจนถึงปริมาณที่ เป็นพิษจะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ ทรุดโทรม เกิดการเจ็บป่วย โดยไม่ทราบสาเหตุ นอกจากน้ียงั มีผลทางอ้อมเช่นกัน เชน่ ทาให้ ร่างกายต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บได้น้อยลง ถ้าหากได้รับสารพิษ ในปริมาณที่สูงร่างกายจะแสดงอาการหลังจากที่ได้รับสารพิษใน เวลาไม่นาน เช่น อาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ อาเจียน ปวด ทอ้ ง ทอ้ งรว่ ง และอาจทาให้เสียชวี ติ ได้ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 5 “อันตรายจากสารกาจดั ศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม 2. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าสารพิษสะสมในดินหรือ แหล่งนา้ ในปริมาณสูง จะทาให้สงิ่ มชี ีวติ ในดนิ หรอื ในแหลง่ น้าตาย เช่น ไส้เดือนและปลาซ่ึงเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สาคัญของคน ถ้าสารพิษท่ีตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมเข้าไปในห่วงโซ่อาหาร ผลกระทบที่เกิดข้ึนจะมากมาย เกษตรกรพ่นสารป้องกันกาจัด ศัตรูพืชเพื่อฆ่าแมลง เม่ือนกกินแมลงนกก็จะตายด้วย หรือถ้า สารพิษสะสมในแหล่งน้า ปลาที่อาศัยอยู่จะได้รับสารพิษด้วย เชน่ กนั ถ้าคนจับปลาจากแหล่งน้าน้ันมากิน คนก็จะได้รับสารพิษ ด้วยเช่นกัน สารพิษจะสะสมในร่างกายคนมากข้ึน จนในที่สุดจะ เปน็ อันตรายต่อสุขภาพของคนได้ 3. ผลเสียต่อเศรษฐกิจ ถ้าสินค้าทางการเกษตรท่ีส่งขาย ในตลาดมีปริมาณสารพิษตกค้างที่สูงเกินค่ามาตรฐาน คงไม่มีใคร ซื้อสินค้านั้นไปบริโภคแน่นอน การส่งสินค้าออกต้องหยุดชะงัก ทาให้รายได้ลดลงก็จะเกิดความเสียหายต่อเกษตรกรและต่อ เศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เป็นตน้ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 6 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม สารกาจัดศัตรูพืช (pesticides) หมายถึง สารเคมีทผี่ ลิต ขึ้นเพ่ือทาลายส่ิงมีชีวิตชนิดอื่นท่ีมาแก่งแย่งขัดขวางการผลิต อาหาร เป็นสารทใ่ี ชเ้ พ่อื ป้องกนั โรคพชื สัตว์หรอื แมลงทมี่ าทาลาย และขัดขวางการเจริญเติบโตของพืช โดยสามารถลดประชากร ของศัตรูพืชลงได้อย่างรวดเร็ว ทาให้ความเสียหายของพืชท่ีอาจ เกิดขึ้นจากศัตรูพืชลดลงหรือไม่เสียหายเลย สารกาจัดศัตรูพืช สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น • สารกาจดั แมลง (insecticide) • สารกาจดั หนู (rodenticides) • สารกาจัดวัชพชื (herbicides) • สารกาจดั เช้อื รา (fungicides) • สารกาจดั ใสเ้ ดอื นฝอย (nematocides) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 7 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม 1. สารกาจัดแมลง (insecticide) สารเคมีกาจัดแมลง เป็น สารเคมีทางการเกษตรที่มีจานวนชนิดมากท่สี ดุ สารเคมีกาจดั แมลง แบ่งออกเป็นกลมุ่ ใหญ่ๆตามชนดิ ของสารเคมไี ด้ 4 ประเภท คอื 1. กลุ่มออรก์ าโนคลอรนี (Organochlorine) สารเคมีในกลุ่มน้ีส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่มีพิษไม่ เลือก(เป็นพิษต่อแมลงทุกชนิด)และค่อนข้างจะสลายตัวช้า ไม่ ละลายน้า แต่สามารถละลายได้ดีในน้ามัน จากงานวิจัยระบุว่ามี การตกค้างในห่วงโซ่อาหารจะสะสมในดินและสิ่งแวดล้อมได้นาน สารบางชนิดอาจตกค้างได้นานหลายสิบปี ปัจจุบันประเทศส่วน ใหญ่ท่ัวโลกจะไม่อนุญาตให้ใช้สารในกลุ่มน้ีหรือควบคุมการใช้ ไม่ อ นุ ญ า ต ใ ห้ ใ ช้ อ ย่ า ง เ ส รี เ พ ร า ะ มี ผ ล ก ร ะ ท บ เ ป็ น อ ย่ า ง ม า ก ต่ อ ส่งิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพ 2. กลุ่มออรก์ าโนฟอสเฟต (Organophosphate) เป็นกลุ่มสารเคมีที่มีฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบ เปน็ สารกาจัดแมลงที่นิยมใช้กนั เปน็ อยา่ งมากในปัจจุบัน สารเคมีใน กลุ่มน้ีมีพิษรุนแรงมากกว่ากลุ่มอ่ืน เป็นพิษท้ังกับแมลงและสัตว์ อืน่ ๆทุกชนิด แต่ยอ่ ยสลายได้เรว็ กวา่ กลุ่มออรก์ าโนคลอรนี หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 8 “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม 3. กลุ่มคารบ์ าเบต (Carbamate) สารเคมีในกลุ่มน้ีจะมีความเป็นพิษต่อสัตว์เล้ียงลูก ด้วยนมน้อยกว่าสารเคมีกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและสามารถ สลายตวั ได้อย่างรวดเร็ว 4. กลุ่มไพรีทรัมและสารสังเคราะห์ไพรีทรอยด์ (Pyerthrum and Pyrethroides) เ ป็ น ส า ร เ ค มี ท่ี มี ก า ร สั ง เ ค ร า ะ ห์ ข้ึ น โ ด ย มี ความสัมพันธ์ตามโครงสร้างของไพรีทิน ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติท่ี สกัดได้จากพืช สารเคมีในกลุ่มนี้มีความเป็นพิษต่อแมลงสูงแต่มี ความเป็นพษิ ต่อสตั วเ์ ลือดอุ่นต่า อยา่ งไรกต็ ามสารเคมกี ลุ่มน้มี ีราคา แพง จึงไม่ค่อยเปน็ ท่นี ยิ มใช้สารเคมีกาจัดแมลงในกล่มุ นี้ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 9 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม 2. สารป้องกันกาจัดวัชพืช (herbicides) สารเคมีกาจัด วชั พชื แบ่งออกได้เป็น 2 กล่มุ ใหญ่ คือ 1. สารกาจัดวัชพืชชนิดเลือกทาลาย (Selective herbicide) สารกาจัดวัชพืชพืชชนิดเลือกทาลายจะทาลาย เฉพาะวัชพืชแต่ไม่เป็นอันตรายต่อพืชที่ปลูก เช่น 2,4-D เป็นสาร กาจัดวัชพืชใบกว้างโดยไม่เป็นพิษต่อต้นข้าวท่ีเป็นพืชใบแคบ เป็น ตน้ 2. สารกาจัดวัชพืชชนิดไม่เลือกทาลาย (Non- selective herbicide) สารกาจัดวัชพืชชนิดไม่เลือกทาลายจะทาลายพืช ไม่เลือกชนิด แนะนาให้ใช้กาจัดวัชพืชในพ้ืนท่ีท่ีไม่มีการเพาะปลูก พืชหรือถ้าจะพ่นในพ้ืนท่ีมีพืชข้ึนอยู่หรืออยู่ใกล้เคียง ต้องพ่นอย่าง ระมดั ระวงั เช่น เช่น พาราควอท (Paraquat) เปน็ ต้น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 10 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม 3. สารกาจัดเช้ือรา (fungicides) สารกาจัดเช้ือราจะมี หลายชนดิ หลายกล่มุ ความเปน็ พษิ มากหรือน้อยข้ึนอยกู่ ับชนิดของ สารเคมีสาคัญของสารกาจัดเชื้อราในการเกษตร 1. กลุ่ม Dimethey Dithiocarbamates สารเคมีกลุม่ น้ีมีฤทธ์ิยับย้ังเอนไซม์ Acetaldehyde dehydrogenase 2. กลุ่ม Ethylenebisdithiocarbamates สารเคมีกลุ่มนี้จะถูก Metabolize เป็น Ethylene thiourea ซ่ึงเปน็ สารกอ่ มะเร็งในสตั ว์ 3. กลุ่ม Methyl Mercury สารเคมีกลุ่มนี้ดูดซึมได้ดีทางผิวหนังและมีพิษต่อ ระบบประสาท 4. กลุ่ม Hexachlorobenzene สารเคมกี ลุ่มนจ้ี ะยับยง้ั เอนไซม์ Uroporphyrinogen Decarboxylase มีพิษตอ่ ตับ ผวิ หนัง ขอ้ กระดกู อักเสบ 5. กลุ่ม Pentachlorophenol สารเคมีกลุม่ นี้ถ้าสัมผสั มากๆ จะทาใหม้ ไี ข้สูง เหงอ่ื ออกมาก หัวใจเต้นเรว็ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 11 “อันตรายจากสารกาจดั ศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม 4. สารกาจัดหนูและสัตว์ฟันแทะ (rodenticides) สารกาจัด หนูและสัตว์ฟันแทะนิยมใช้กันส่วนใหญ่เป็นสารกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้าน การแขง็ ตวั ของเลอื ด สารกาจัดศัตรูพืชท่ีเกษตรกรนิยมใช้ในปัจจุบันมีมากมาย หลายชนิด ดังนั้นเกษตรกรจึงต้องรู้ว่าสารเคมีกาจัดศัตรูพืชที่ตนใช้ นั้นมีความเป็นพิษอยู่ในระดับใด โดยตรวจสอบได้จากชื่อสามัญท่ี ฉลากติดท่ีภาชนะบรรจุสารเคมีกาจัดศัตรูพืชหรืออาจตรวจสอบได้ จากแถบสีท่ีปรากฏอยู่บนฉลากข้างภาชนะบรรจุสารกาจัดศัตรูพืช จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องให้ความรู้แก่เกษตรกรและ ผู้เกี่ยวข้องถึงวิธีการและเทคนิคในการใช้สารกาจัดศัตรูพืชอย่าง ถกู ตอ้ ง เพ่ือใหส้ ามารถปอ้ งกันอันตรายท่ีอาจเกดิ ข้นึ ได้ทั้งต่อตัวเอง ผ้คู นรอบข้าง ผ้บู รโิ ภค และส่งิ แวดลอ้ มอ่นื ได้เป็นอย่างดี หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 12 “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม แถบสีระบุแสดงความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกาจัดศัตรูพืช สารปอ้ งกนั กาจดั ศัตรูพชื มีพษิ รา้ ยแรงมาก สีแดงเขม้ = พษิ รา้ ยแรงมาก สารปอ้ งกนั กาจัดศตั รูพืชมพี ษิ ร้ายแรง สแี ดง = พษิ ร้ายแรง สารปอ้ งกนั กาจดั ศัตรูพืชมพี ษิ อันตราย สีเหลอื ง = พิษอนั ตราย สารปอ้ งกนั กาจัดศตั รพู ชื ควรระวงั สีเหลือง = ควระวัง เตอื นให้ระวงั ในการเกบ็ ภาพเตอื นใหร้ ะวงั ในการผสม ภาพเตอื นใหร้ ะวงั หลงั สารเคมีในท่มี ดิ ชดิ และลอ็ ค สารเคมี ควรใส่หน้ากาก รอ้ งเท้า การใช้สารเคมีตอ้ งลา้ ง ผา้ ปดิ จมูกและถงุ มือ เพ่อื ปอ้ งกนั อุปกรณ์ และอาบนา้ ประตปู อ้ งกนั ผ้ทู ี่ไม่ อนั ตรายจากการสัมผัสสารเคมี เพ่ือป้องกันอนั ตราย เกี่ยวข้องเขา้ ถึงได้ จากสารเคมีทุกคร้ัง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 13 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม สารกาจัดศตั รูพืชเขา้ สู่รา่ งกายได้อย่างไร ทางผิวหนัง เป็นทางที่สารเคมเี ขา้ สรู่ ่างกายได้มากท่ีสุด โดย สารเคมจี ะซมึ ผา่ นเข้าทางผวิ หนังโดยการสมั ผสั สารเคมีในขณะผสม ขณะฉีดพ่น หรือขณะล้างอุปกรณ์ ละอองสารเคมีเหล่านี้จะสัมผัส ผิวหนังและซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารเคมีในกลุ่มที่ สามารถละลายในไขมันไดด้ มี ักซึมผา่ นไดง้ ่าย ทางการหายใจ สารท่ีเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจนั้น อาจ อยใู่ นรปู ฝุ่นผงหรือละอองของสารเคมีกาจัดศัตรูพืชที่ผสมกับน้ายา อื่นๆ ฝุ่นที่มีขนาดเล็กเข้าสู่ทางเดินหายใจได้มากกว่าฝุ่นท่ีมีขนาด ใหญ่ เกษตรกรจึงควรสวมหน้ากากที่สามารถป้องกันสารเคมีหาก ทางานในบริเวณที่มีการฉีดพ่นสารเคมีกาจัดศัตรูพืชเพื่อป้องกัน อันตรายจากการได้รบั ทางการหายใจ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 14 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม สารกาจัดศัตรูพืชเข้าสู่รา่ งกายได้อยา่ งไร (ต่อ) ทางปาก การได้รับสารเคมีทางการเกษตรเข้าทางปากอาจ เกิดขนึ้ จากการทางานทไี่ มป่ ลอดภยั เชน่ การดูดหัวฉีดพน่ หรือกรณี ที่ไม่ได้ต้ังใจ เช่น การดื่ม การกินอาหารท่ีปนเป้ือนสารเคมีกาจัด ศัตรูพืช ซ่ึงความอันตรายจะขึ้นกับปริมาณของสารเคมีท่ีได้รับ อย่างไรก็ตามหากเกษตรกรปฏิบัติตามวิธีใช้อย่างแท้จริง โอกาสที่ สารเคมีจะเข้าทางปากเกดิ ข้นึ ไดน้ อ้ ยมากสาหรับเกษตรกร หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 15 “อันตรายจากสารกาจดั ศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม หลักการสาคัญในการใช้สารกาจัดศตั รูพืช 1. เลือกใช้สารกาจัดศัตรูพืชเป็นทางเลือกสุดท้าย โดย เกษตรกรควรพิจารณาวิธีการป้องกันกาจัดศัตรูพืชแบบอ่ืนเป็น อนั ดับแรกๆ และเลือกใช้วิธีการท่ีสามารถปฏบิ ัติได้จริง โดยอาจ ใช้วิธีการเดียวหรือหลายวิธีการร่วมกัน โดยปฏิบัติตามหลักการ ใชส้ ารกาจัดศตั รูพืชอย่างถูกต้องปลอดภัย (safe use) 2. ใช้สารกาจัดศัตรูพืชเฉพาะเม่ือจาเป็นเทา่ น้ัน ในเร่ือง น้ีจึงมีหลายประเด็นท่ีต้องพิจารณาคือ จะต้องมีการสารวจ ประชากรศัตรูพืชอย่างสม่าเสมอจึงจะรู้ว่ามีจานวนประชากร ศัตรูพืชมากน้อยเพียงใด ซึ่งโดยทั่วไปผู้ใช้มักจะคิดเพียงแค่ค่า สารกาจัดศัตรูพืชและค่าจ้างแรงงานในการพ่นสาร เกษตรกร สว่ นใหญจ่ งึ เลือกใช้สารที่มรี าคาถูกและมปี ระสทิ ธภิ าพปานกลาง หรือต่า แทนการเลือกใช้สารที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ราคาแพง โดยไมไ่ ดพ้ ิจารณารายละเอยี ดหรอื ต้นทนุ ด้านอ่ืนๆ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 16 “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม !วธิ หี ลีกเล่ียงสินค้า อันตรายจากสารกาจัดศัตรูพืช 1. เลือกซ้ือผักท่ีมีรอยเจาะของแมลง บา้ งเลก็ น้อยเลอื กรับประทานผกั ผลไมต้ าม ฤดูกาลหรือผกั พืน้ บ้าน เลือกผักใบมาก กวา่ ผกั หัวเพราะผักหวั จะสะสมสารพษิ ไว้มากกว่า ควรลา้ งผกั และผลไม้เพือ่ ลด ปรมิ าณสารเคมี 2. ในกรณีท่เี ปน็ เนอื้ สัตว์ เชน่ ปลาแหง้ ปลาเค็มปลารา้ ใหส้ งั เกตจากสภาพ แวดลอ้ ม เน่ืองจากปกตอิ าหาร ประเภทนี้จะมีแมลงวันมาตอม หากพบว่าไมม่ ีแมลงมาตอมอาจ สนั นิษฐานเบือ้ งต้นไดว้ า่ มีการปนเปอ้ื น ของสารกาจัดศัตรูพชื ควรนาไปผา่ นความรอ้ นกอ่ นหรอื หากไม่มี ความจาเปน็ ก็ไม่ควรซือ้ มารบั ประทาน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 17 “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม ?การล้างผัก ผลไม้อยา่ งไร ลดปรมิ าณสารเคมีกาจัดศัตรูพืช 1. ลา้ งผัก เดด็ เปน็ ใบแลว้ แชน่ ้านาน 15 นาที จะลดสารพษิ ได้ 7-33% ถ้าล้างผา่ น น้าไหลจะชว่ ยลดสารพษิ ได้ประมาณ 54-63% 2. การลวกดว้ ยนา้ รอ้ นจะชว่ ยลด ปริมาณสารพษิ ได้ 50% แต่ถ้าล้างไมส่ ะอาด แลว้ นาไปต้มทาแกงจดื สารพิษกจ็ ะเจือปนอยู่ ในน้าแกงได้ 3. ลา้ งดว้ ยแคลเซยี มไบคารโ์ บเนต (ผง ฟู) ในอัตราส่วน ผงฟู 1 ชอ้ นโตะ๊ ต่อน้า 1 อา่ ง แช่ทิ้งไว้ 15 นาที จะชว่ ยลดสารพิษได้ 90- 95% หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 18 “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม ?การล้างผัก ผลไม้อยา่ งไร ลดปรมิ าณสารเคมีกาจัดศัตรูพชื 4. ล้างด้วยน้าผสมน้าส้มสายชู 0.5% แช่น้านาน 15-30 นาที จะลด ปริมาณสารพิษได้ประมาณ 60-84% และ ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและทาลายไข่พยาธิได้อีก ดว้ ย 5. ควรลอกเปลือกหรอื กาบดา้ นนอก ออกท้ิงสัก 2-3 ใบ เพราะสารพษิ สว่ นใหญ่ จะสะสมตกคา้ งอยู่มากบรเิ วณกาบหรอื เปลอื กดา้ นนอก 6. การแชใ่ นน้าซาวขา้ วกอ่ น 10-15 นาที แล้วลา้ งดว้ ยนา้ สะอาดช่วยลดสารพษิ ได้ 50-60% หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ 19 “อันตรายจากสารกาจัดศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม เอกสารอ้างอิง สภุ ราดา สุคนธาภริ มย์ ณ พัทลงุ พฤทธชิ าติ ปุญวฒั โฑ เสาวนิตย์ โพธพิ์ นู ศกั ด์ิ และศรจี านรรจ์ ศรจี ันทรา. 2564. เอกสาร วชิ าการคาแนะนาการปอ้ งกันกาจดั แมลง-สตั วศ์ ัตรพู ชื อยา่ งปลอดภยั จากงานวจิ ยั ปี 2564. กล่มุ บริหาร ศตั รูพืช/กลมุ่ กฏี และสตั ววทิ ยา สานักวจิ ัยพัฒนาการ อารักขาพชื กรมวชิ าการเกษตร. 280 หนา้ . มูลนธิ โิ ครงการหลวง. 2560. คาแนะนาการปอ้ งกนั กาจัดศัตรูพืช ในมลู นิธโิ ครงการหลวง ปี พ.ศ. 2560. ศนู ยอ์ ารักขาพืช มูลนิธโิ ครงการหลวง. 108 หน้า. สุธาสนิ ี องั้ สงู เนนิ . 2558. ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อมจากการใชส้ าร กาจดั ศตั รพู ชื . วารสารวชิ าการมหาวทิ ยาลัยอสี เทริ น์ เอเชีย ฉบบั วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 9 (1) : 50-63. ทรปู ลกู ปญั ญา. 2560. ยาปราบศตั รพู ชื ยังจาเปน็ อยูไ่ หม. สืบคน้ เมื่อ 30 ตลุ าคม 2564, แหลง่ ที่มา https://www.trueplookpanya.com/knowledge/con tent/56061/-agragr-agr. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ “อันตรายจากสารกาจัดศตั รูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษานครพนม เอกสารอ้างอิง กลุ่มส่อื สารสาธารณะและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. 2553. คู่มือ เกษตรกรปลอดโรคสาหรับเกษตรกรและอาสาสมคั ร สาธารณสขุ ประจาหมบู่ ้าน. พิมพ์คร้ังที่ 1. กรงุ เทพฯ โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั . หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ “อันตรายจากสารกาจัดศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
คณะผู้จัดทา ท่ีปรกึ ษา นายพรศักด์ิ ธรรมวานชิ ผู้อานวยการศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพื่อ การศึกษานครพนม คณะกรรมการดาเนินงาน ครู ครูผ้ชู ว่ ย นายสนธยา ทิพยโ์ พสงิ ห์ ครูผชู้ ว่ ย นายไกรสร ไทยแสนทา นักวิชาการศกึ ษา นาวสาววริ ยิ า ธานี นกั วิชาการศกึ ษา นางสาวนภา พมิ พ์จันทร์ นักวิชาการศกึ ษา นายบรุ ทศั จนั ทรรังสี นกั วิชาการศึกษา นางสาวจิรนันท์ ต๋นั เต๋ นักวชิ าการศึกษา นายพทิ ักพงษ์ อนิ ทรต์ า นักวิชาการศกึ ษา นางสาวเอมกิ า พลิ าสุข นกั วชิ าการวิทยาศาสตรศ์ กึ ษา นายพงษศ์ กั ด์ิ ดอนขวา นกั วชิ าการวิทยาศาสตรศ์ กึ ษา นายสหภาพ เขียวมาก นักวิชาการวทิ ยาศาสตร์ศึกษา นางสาวทติ าพร ฝา่ ยอนิ ทร์ นายสรุ ิยะ ภารไสว ผู้รวบรวมขอ้ มูล/ออกแบบรูปเล่ม นักวิชาการศกึ ษา นายภานทุ ศั น์ แสนสุภา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการเรยี นรู้ “อันตรายจากสารกาจดั ศัตรูพืช” “The dangers of using pesticides”
ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพ่ือการศกึ ษานครพนม โทรศัพท์ 042-530780 โทรสาร 042-53081 https://www.nkpsci.ac.th 355 หมู่ 6 ตาบลหนองญาติ อาเภอเมือง จังหวดั นครพนม 48000
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: