แมลง กิ น ไ ด้ (EDIBLE INSECTS) ศู น ย์ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ เ พ่ื อ ก า ร ศึ ก ษ า น ค ร พ น ม
แมลง (INSECT) แมลงเป็นสัตว์ทมี่ ีบรรพบุรุษมานานกว่า Fossil of a Meganeuridae 300 ลา้ นปี และมีวิวัฒนาการ มายาวนาน จาก อดีตถึงปัจจุบัน กล่าวกันว่าในอนาคตแมลงจะ เป็นอาหารแหล่งโปรตีนของมนุษย์และสัตว์อ่ืน ๆ ด้วยคุณสมบัติที่มีการเจริญเติบโตในช่วงชีวิต ที่ส้ัน และมีความสามารถในการเพ่ิมจานวนได้ คราวละมาก ๆ ทาให้แมลงปรับตัวและเพิ่ม จานวนไดร้ วดเรว็ ในระยะเวลาอนั สั้น ท่มี า : http://www.geologyin.com/2018/01/the-largest-insect-ever-existed-was.html
แมลง (INSECT) ด้ ว ย เ ห ตุ น้ี แ ม ล ง เ ป็ น สั ต ว์ ท่ี มี ท้ั ง ป ริ ม า ณ แ ล ะ จ า น ว น ช นิ ด ม า ก ที่ สุ ด ใ น โ ล ก 1 ล้านชนิด ในจานวนน้ีมีทั้งแมลงท่ีให้คุณและ ให้โทษ ท่ีเป็นศัตรูทาลายพืชผลทางการเกษตร และเข้ามารบกวนชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์มี เพียง 8,000 ชนิด หรืออาจก่อโรคให้กับมนุษย์ ได้ นอกจากน้ีแมลงส่วนใหญ่เป็นแมลงท่ีมี ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ท้ังในด้านการเกษตร อุตสาหกรรม ทางการแพทย์ และที่สาคัญแมลง ยังสามารถนามาเป็นอาหารของมนุษย์ได้อีก ดว้ ย (โครงการสารานกุ รม 2554)
แมลง : อาหารทางเลือกแห่งอนาคต องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization: FAO) แนะนา ให้เป็นอาหารสาหรับประชากรในอนาคต หลังจาก คาดการณ์ว่าภายในปี 2593 ประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 9,000 ลา้ นคน จาก 7,400 ลา้ นคน ท่ีมอี ยใู่ นปี 2559 ปจั จบุ นั มแี มลงมากกว่า 1,900 ชนิดที่สามารถ รับประทานได้และมีประชากรโลกราว 2,000 ล้านคน ท่ีรบั ประทานแมลงเปน็ อาหาร ทม่ี า : https://seattleglobalist.com/2013/09/20/seattles-bug-chef-promotes-insect-diet/16587
ทาไมถึงต้องเป็นแมลง ? มีโภชนาการสูง ทั้งโปรตนี ไม่ต้องใชเ้ ทคโนโลยขี น้ั สงู ลงทุนต่า ไขมนั และวิตามนิ สามารถเล้ยี งในเขตชนบทได้ ไมต่ อ้ งใชพ้ ื้นทีแ่ ละน้ามาก ลดภาวะเรือนกระจก (เกิดก๊าซมเี ทนต่า) แมลงมอี ตั ราการแลกเน้อื (Feed Conversion Ratio) ต่า (เล้ียงแมลง 1 กโิ ลกรัม ใช้อาหารในการเลย้ี ง 2 กโิ ลกรัม เลี้ยงวัว 1 กิโลกรมั ใช้อาหาร 8 กโิ ลกรมั ) ทีม่ า : แมลงอาหาร[email protected]
แมลงกินได้ (EDIBLE INSECT) ประเทศไทยมีแมลงมากกว่า 150 ชนิด ที่นามาเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ถื อ ไ ด้ ว่ า เ ป็ น ต้ น ต า รั บ ข อ ง ก า ร น า แ ม ล ง มาบริโภคเป็นอาหาร โดยแมลงแต่ละชนิดได้ ถูกคัดเลือกนามาเป็นอาหารและยา จากการ สืบทอดกันมาต้ังแต่บรรพบุรุษ แมลงบางชนิด พบได้เฉพาะถิ่น บางชนิดพบได้ท่ัวไปใน ประเทศ
1.กลมุ่ แมลงปอ (Odonata) แมลงกินได้ แมลงท่ีนิยมนามารบั ประทาน : ตวั ออ่ นแมลงปอเข็มและตัว อ่อนแมลงปอบ้าน ลักษณะ : ตัวอ่อนของแมลงปออาศัยอยู่ตามแหล่งน้าจืดท่ัวไป ลกั ษณะแตกต่างจากตวั พอ่ ตัวแม่ เพราะตวั แมว่ างไขใ่ นน้า หรอื ตามพืชน้า ลอกคราบ ประมาณ 10-15 ครั้ง จึงเป็นตัวเต็มวัย กินลูกน้าและลูกอ๊อดเป็นอาหาร ตัวอ่อนแมลงปอใช้ชีวิตนาน อยู่ในน้านาน 1-3 ปี จากน้ันจึงข้ึนจากน้ามาลอกคราบและผ่ึง ปกี เพอื่ จะกลายเปน็ ตวั เต็มวยั ถน่ิ ทอ่ี ยอู่ าศัย : แหล่งน้าจืด การประกอบอาหาร : คว่ั ทอด หมก หรือ แกง
2. กลมุ่ ต๊ักแตน (Orthoptera) แมลงกินได้ 2.1 ตก๊ั แตน (Grasshopper) ท่ีมา ; http://แมลงทอดเดลเิ วอร่ี.websmy.com/YAvKR ลักษณะ มีปากแบบกดั กิน (Chewing Type) พบตง้ั แตใ่ นระยะ ตัวอ่อนจนถึงตัวเต็มวยั มีตารวมขนาดใหญ่ มหี นวดเป็น แบบเส้นดา้ ย (filiform) ปกี คู่หนา้ เป็นคลา้ ยหนัง (tegmina) ปีกคูห่ ลงั แบบบางใส (membrane) ซง่ึ พบั อยู่ใต้ปีกคู่หนา้ ขา 2 คูแ่ รกเป็นขาเดนิ (walking legs) ขาค่หู ลงั เป็นแบบ กระโดด (jumping legs) tarsi มี 3 – 5 ปล้อง มีอวัยวะ พิเศษคือ อวัยวะทาเสยี ง และอวยั วะฟงั เสียง เพอ่ื ใช้ในการ สื่อสาร หาคู่ และไลศ่ ัตรู ถนิ่ ท่ีอยู่อาศัย : พบตามตน้ ไมพ้ มุ่ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ การประกอบอาหาร : คว่ั ทอด ตานา้ พริก แกง
2. กลุม่ ตัก๊ แตน (Orthoptera) Gryllus bimaculatus degeer แมลงกินได้ Gryllus testaceus Walker 2.2 จ้ิงหรดี (Cricket) ลักษณะ : เปน็ แมลงขนาดกลางถงึ ขนาดใหญ่ หนวดยาว จิ้งหรีดทองดา จงิ้ หรีดทองแดง ปากมลี ักษณะเป็นแบบปากกดั มีตารวม ขาคู่หลงั มขี นาด ใหญ่และแข็งแรง กระโดดเกง่ เพศเมยี ปีกเรียวและมอี วัยวะ จงิ้ หรดี ทองแดงลาย/ วางไขย่ าวแหลมคล้ายเข็มยื่นออกมาจากส่วนท้องเพศผ้มู ปี กี แมงสะดง้ิ คู่หนา้ ยน่ สามารถทาเสียงไดจ้ ิ้งหรีดมีหลายชนิด หลาย Acheta domestica (Linnaeus, 1758) ขนาดแตกต่างกนั ไปตามพฤติกรรม ถ่ินท่ีอยอู่ าศยั : พบตามคนั นา ทุ่งหญ้า สนามหญา้ และตาม Tarbinskiellus portentosus จงิ้ โกร่ง รอยแตกของดนิ รใู ตด้ ิน หรือใต้กองเศษหญา้ (Lichtenstein, A.A.H., 1796) การประกอบอาหาร : ค่วั ทอด แกง ตานา้ พรกิ ที่มา ; http://www.aopdh02.doae.go.th/cricket2.pdf
2. กลมุ่ ตกั๊ แตน (Orthoptera) แมลงกินได้ 2.3 แมงกระชอน (Mole cricket) ลักษณะ : ลาตัวมีสนี ้าตาล สว่ นหัวมีสดี ากวา่ ส่วนอ่นื ๆ สนั Gryllotalpa africana Beauvois หลังอกปล้องแรกเปน็ แผ่นแขง็ หนวดสนั้ เปน็ แบบเส้นดา้ ย ปากเปน็ แบบปากกดั ขาคหู่ นา้ เปน็ แผน่ กวา้ ง ใชส้ าหรบั ขุด ขาคู่กลางและคู่หลังเป็นขาเดนิ ร่างกายมขี นปกคลมุ ปีกมสี ี นา้ ตาลยาวกวา่ ความยาวของลาตัว ตัวผูส้ ามารถทาเสยี งได้ โดยใช้ปกี คหู่ น้าสีกนั แมลงชนิดนไ้ี ม่กระโดด มกี ารออกหา กนิ ในเวลากลางคืน ถ่นิ ที่อยู่อาศัย : ขุดรอู าศัยอยใู่ นดนิ ท่ชี น้ื แฉะบริเวณใกล้ แหลง่ นา้ ท่มี า ; http://animal-of-the-world.blogspot.com/2009/11/blog-post_2651.html การประกอบอาหาร : ค่วั ทอด แกง
3. กลุ่มมวน (Hemiptera) แมลงกินได้ 3.1 แมลงดานา (Giant water bug) Lethocerus indicus ที่มา ; https://thaismartfarmer.com/แมงดานา ลกั ษณะ : เป็นพวกมวนท่มี ีขนาดใหญ่สดุ ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่า ตัวเมีย ขาคู่หน้าเป็นขาแบบจับ ขาคู่กลางและหลังเป็นแบบ ขาว่ายน้า ปากเป็นแบบเจาะดูด ส่วนใหญ่อยู่ในน้า จัดเป็น แมลงตัวห้า อาหารส่วนใหญ่ คือสัตว์น้าเล็กๆที่อาศัยอยู่ใน แหล่งน้า มักออกหาอาหารในเวลากลางวัน แมลงดาตัวผู้จะ ผลิตสารฟีโรโมนส์ซึ่งมีกลิ่นฉุนเพื่อใช้ดึงดูดให้เพศเมียเข้ามา ผสมพันธ์ุ จึงมีผู้นิยมใช้แมลงดานาตัวผู้ซ่ึงมีกล่ินฉุนน้ีมา ทาอาหาร ถน่ิ ท่อี ยู่อาศยั : แหลง่ นา้ จืด การประกอบอาหาร : ปิ้ง ทอด ตานา้ พรกิ
3. กลุ่มมวน (Hemiptera) แมลงกินได้ 3.2 มวนลาไย (Longan stink bug) Tessaratoma papillosa Drury ลกั ษณะ : เป็นพวกมวนทม่ี ขี นาดใหญ่ โดยตัวเต็มวัยจะมสี ี ทีม่ า ; https://puechkaset.com/มวนลาไย น้าตาลอมเหลอื ง ท้ังปีก และเปลือกแขง็ หุ้มลาตวั และบรเิ วณ ลาตวั ด้านลา่ งท้งั หมดจะปกคลมุ ด้วยผงสีขาว สว่ นหวั จะมี ขนาดเล็กท่ีสุด มตี า 2 ขา้ ง มองเห็นเป็นจดุ ขนาดเลก็ มปี าก ชนิดเจาะดูด ยนื่ ออกมาจากด้านหนา้ สดุ ของหวั และสว่ นปาก จะหบุ ซ่อนอย่ใู ตส้ ว่ นหวั ในขณะท่ีไม่กนิ อาหาร ปีกของมวน ลาไยจะประกอบด้วยปีกคู่หนา้ ทท่ี บั ด้านบนของปกี คู่หลงั ปกี คู่ หน้าส่วนต้นจะมีลักษณะแข็ง ปลายปกี เป็นแผ่นบางออ่ น ส่วน ปีกคู่หลังจะมีลกั ษณะบาง และสน้ั กวา่ ปีกคหู่ น้า ถน่ิ ท่ีอยอู่ าศยั : ไมย้ ืนตน้ การประกอบอาหาร : คั่ว ทอด ตาน้าพริก แกง
4. กล่มุ ปลวก (Isoptera) แมลงกินได้ ตัวอยา่ งแมลงท่ีนยิ มนามารบั ประทาน : นางพญาปลวก แมลงเม่า ลกั ษณะ : รูปร่างออ่ นน่มิ หนวดแบบรูปปัด ปากแบบกัดกิน มปี ีก 2 คู่ ลกั ษณะเปน็ แผน่ บางใส ยาวและแคบ ปีกหน้ามีขนาดเท่ากัน ปกี หลุดไดง้ า่ ย บางชนิดกไ็ ม่มีปีก มีตาขนาดเล็ก บางพวกไม่มีตา ปลวกเป็นแมลงสังคมที่แท้จริง แบ่งเป็นวรรณะต่าง ๆ ได้แก่ วรรณะปลวกงาน วรรณะปลวกทหาร และวรรณะสืบพันธุ์ เม่ือโต ที่มา ; https://www.blockdit.com/posts/5ebea9be1c6379149a638ae7 เต็มวัยจะมปี กี การมองเห็นท่ดี แี ละมรี ะบบสืบพันธุ์ท่ีสมบูรณ์ เรียก ปลวกในระยะนี้ว่า “แมลงเม่า” และจะสลัดปีกออกและหาสถานท่ี สร้างรังและวางไข่ แมลงเม่าตัวเมียจะเป็นนางพญาปลวกหรือ ราชินีปลวก ถนิ่ ทีอ่ ยอู่ าศัย : ใต้ดิน การประกอบอาหาร : ค่วั หมก ท่ีมา ; http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2008/06/O6738655/O6738655.html
5. กลุ่มจกั จน่ั (Homopteara) แมลงกินได้ ตัวอย่างแมลงทีน่ ยิ มนามารบั ประทาน : จักจั่น ลักษณะ : ส่วนใหญ่มีปีก 2 คู่ ปีกคู่หน้าอาจเป็นแผ่นบางหรือ หนามีความสม่าเสมอตลอดท้ังปีก ปีกคู่หลังเป็นแผ่นบางส้ัน กว่าปีกคู่หน้า ขณะเกาะจะพับปีกเป็นรูปหลังคาคลุมตัว บาง ชนิดมีปีก 1 คู่หรือไม่มีปีก ลักษณะการวางของส่วนหัวเป็นแบบ หัวงอ ปากแบบเจาะดูดโผล่จากส่วนท้ายของหัว ส่วนใหญ่ หนวดส้นั ถิน่ ท่ีอยอู่ าศยั : ต้นไม้ การประกอบอาหาร : คว่ั ทอด ตาน้าพริก แกง ผดั ท่มี า ; https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1243397
6. กลุ่มผเี สือ้ (Lepidoptera) แมลงกินได้ 6.1 หนอนรถด่วน (Bamboo Caterpillar) ทมี่ า ; https://www.sanook.com/news/7539870/ ลกั ษณะ : หนอนของผเี ส้อื กลางคนื ชนิดหน่ึง ซึง่ ตัวหนอนกินเยื่อไผ่ เปน็ อาหาร เม่อื ถึงวยั เจริญพนั ธุผ์ ีเสือ้ จะจบั คู่ผสมพันธ์ุในช่วงฤดูฝน จากนั้นเพศเมียก็จะวางไข่บนหน่อไม้เมื่อตัวอ่อนฟักออกจากไข่จะ เจาะเขา้ ไปอยูใ่ นหน่อไม้เพื่อกินเยื่อไผ่เป็นอาหารหนอนจะผ่านการ ลอกคราบถึง 5 คร้ังใช้เวลา ถึง 10 เดือน จากนั้นจะเข้าสู้ระยะ ดักแด้เพ่ือเปลี่ยนสรรี ะร่างกายประมาณ 40–60 วัน และลอกคราบ ออกเป็นตวั เต็มวยั ในท่ีสุด ถ่นิ ท่อี ยู่อาศัย : ไผ่ซาง ไผ่หก ไผ่บง ไผไ่ รร่ อ และไผส่ สี ุก การประกอบอาหาร : คัว่ ทอด ต้ม ตานา้ พรกิ
6. กลุ่มผีเสือ้ (Lepidoptera) แมลงกินได้ 6.2 ดักแดไ้ หม (silkworm) ลักษณะ : ผีเสอ้ื กลางคนื ตวั สีครมี ตัวเต็มวัยไม่กินอาหาร มีอายุ สั้นเพยี ง ๒ -๓ วัน วางไขป่ ระมาณ ๓๐๐-๕๐๐ ฟอง และจะตาย หลงั จากวางไข่ ใช้เวลาประมาณ ๑๐ วัน ตัวหนอนจะฟักออกมา กนิ ใบหม่อนเปน็ อาหารจนหมดอายุ ๓๕-๔๐ วนั ก็จะเขา้ ดักแด้ โดย จะทารังไหมหอ่ หมุ้ ตัวรงั ไหม เมอื่ นาไปต้มและสาวเสน้ ไหมออกแล้ว จะเหลือตัวดักแด้ทส่ี ามารถรับประทานได้ ตัวเต็มวยั ถ่นิ ท่อี ยอู่ าศยั : ตน้ หม่อน (ปจั จบุ นั เลี้ยง) การประกอบอาหาร : นึง่ ค่วั ทอด แกง ตาน้าพริก Bombyx mori ที่มา ; https://steemit.com/thai/@bellapitchy/7desea
6. กล่มุ ผเี สอ้ื (Lepidoptera) แมลงกินได้ 6.3 ดักแด้ผีเส้อื หนอนคูน (The Lemon Emigrant) Catopsilia pomona ลกั ษณะ : ผีเสอื้ ท่มี ีขนาดกลาง ไข่สขี าว รปู ร่างรีมีขนาดเล็กมากเปน็ ฟองเดี่ยว ๆ มกั พบตดิ ท่ีขอบใบออ่ นของต้นพชื อาหารทเี่ ป็นไมย้ ืนต้น เช่น คูนหรือราชพฤกษ์ [Cassia fistula] ข้ีเหลก็ [Senna siamea] ชุมเห็ดเทศ [Senna alata) ซงึ่ จะมรี ะยะเวลาประมาณ 4-6 วัน จากน้นั จะฟกั เป็นตัวหนอน โดยตัวหนอนจะอาศยั กนิ ใบของพชื อาหารจนหมด ตน้ ในกรณีท่เี กดิ การระบาด เมอ่ื ถึงระยะของตัวหนอนจะใช้เวลา ประมาณ 10-15 วนั จงึ จะเข้าดกั แด้สเี ขียวออ่ นหอ้ ยอยู่ทใ่ี ต้ใบแกท่ ี่ เหลืออยหู่ รอื ที่กา้ นใบ ในระยะน้ีจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันจึงจะ พฒั นาเปน็ ตัวเตม็ วยั ถนิ่ ที่อยอู่ าศยั : ต้นไม้ การประกอบอาหาร : ควั่ ทอด ท่ีมา ; https://www.facebook.com/106213564146490/posts/352935702807607/
7. กล่มุ ด้วง (Coleoptera) แมลงกินได้ 7.1 ด้วงสาคู ตัวออ่ นด้วงงวงมะพร้าว Rhynchophorus ferrugineus (Red palm weevil) ลักษณะ : ดว้ งงวงขนาดกลาง ตวั เตม็ วัย ปีกมีสนี า้ ตาลดา อกมีสี น้าตาลและมจี ดุ สดี า มขี นาดลาตัวยาวประมาณ 25-28 มลิ ลเิ มตร ท้ังตวั ผ้แู ละตวั เมยี มขี นาดและลักษณะภายนอก คลา้ ยคลึงกัน ต่างกนั ท่ตี ัวผู้มีขนทดี่ า้ นบนของงวงใกล้ส่วนปลาย ตวั หนอนมสี เี หลอื งปนนา้ ตาล ดกั แดเ้ ป็นปลอกทาดว้ ยเศษ ชิ้นสว่ นจากพืชทีก่ ินเป็นอาหาร ถนิ่ ท่ีอยู่อาศยั : ตน้ มะพร้าว ต้นสาคู ต้นลาน การประกอบอาหาร : ค่ัว ทอด น้าพริก ผดั แกง ทม่ี า ; https://th.wikipedia.org/ดว้ งงวงมะพรา้ ว
7. กลมุ่ ด้วง (Coleoptera) แมลงกินได้ 7.2 แมงอนี นู แมลงนูน (Cockchafer) ลักษณะ : แมลงปกี แขง็ สีนา้ ตาลถึงน้าตาลดา ลาตัวอว้ นและสัน้ ขนาดประมาณ 15 มลิ ลเิ มตร ปกี คลมุ สว่ นท้องไม่มดิ เพศเมยี มี ขนาดใหญก่ วา่ เพศผเู้ ลก็ น้อย หลังการผสมพนั ธ์ุ เพศเมียจะบนิ ลงดิน เพือ่ วางไข่ในดิน หนอนเข้าดักแด้ในดิน โดยทาเป็นโพรง ดนิ ลักษณะคอ่ นขา้ งกลม และเขา้ ดกั แด้ในโพรงดินน้นั ถ่นิ ทีอ่ ยูอ่ าศัย : ใต้ดนิ ตน้ ไม้ การประกอบอาหาร : ควั่ ทอด ตาน้าพริก แกง https://www.amarintv.com/news/detail/863
7. กลมุ่ ดว้ ง (Coleoptera) แมลงกินได้ 7.3 กดุ จี่ (Cockchafer) Paragymnopleurus aethiops Sharp. ลกั ษณะ : สว่ นหัวมขี นาดเลก็ ที่สุด มลี ักษณะครึง่ วงกลม และค่อนข้างแบน มีปากเป็นแบบปากกัด มีหนวดรปู ใบไม้ 2 อัน โดยส่วนปลายของปลอ้ งหนวดจะแผแ่ บนออกคล้ายรปู ใบไม้ สว่ นอกมีขนาดใหญก่ วา่ สว่ นหัว แต่เล็กกวา่ ส่วนท้อง ส่วนทอ้ งมีขนาดใหญท่ ่ีสดุ ด้านบนปกคลุมด้วยแผน่ ปกี ถิ่นท่ีอยู่อาศัย : มูลสัตว์ การประกอบอาหาร : คั่ว ทอด น้าพริก แกง ทม่ี า ; https://siamroommate.com/กดุ จห่ี มน่ /
7. กล่มุ ด้วง (Coleoptera) แมลงกินได้ 7.4 ดว้ งด่ิง แมลงตบั เต่า (True water beetle, Cybister Limbatus Fabricius Predaceous diving beetle) ทีม่ า ; https://siamroommate.com/ด้วงด่งิ ลกั ษณะ : มลี าตัวเป็นรปู ไข่ มผี วิ แข็งเปน็ มนั สีดา น้าตาลเขม้ อาจมีสเี หลอื ง หรอื มลี ายแต้มสีเขียว ลกั ษณะหนวดเป็นแบบลกู ตุ้ม ขาหลังเปน็ แบบ Swimming legs ซงึ่ เหมาะสาหรับการว่ายน้า มี ลกั ษณะเป็นแผงขน ด้วงดิ่งเพศผู้ อาจมขี าคหู่ น้าท่ีสว่ นเทา้ ขยาย ใหญ่ และแบนใต้แผ่นเทา้ มีรอยเว้า เหมาะสาหรับเกาะทหี่ ลงั ตัวเมีย ขณะผสมพันธ์ุ หลังจากการผสมพนั ธุ์ ด้วงดง่ิ เพศเมียจะกัดพืช น้าใหล้ อยข้ึนผิวน้าและผลิตฟองไว้ใต้พืชน้านน้ั แล้วจงึ วางไขไ่ ว้ ภายในกลมุ่ ฟองเหนือผวิ น้า ถิ่นท่ีอย่อู าศัย : แหล่งน้าจดื การประกอบอาหาร : ค่ัว ทอด ตานา้ พริก แกง
แมลงกินได้ 8. กล่มุ มด ผึ้ง ตอ่ แตน (Hymenoptera) 8.1 มดแดงส้ม (Weaver ants or Green ants) ลกั ษณะ : ไข่มดแดง ซึ่งจะมีลักษณะยาวรี สขี าว ตัวเต็มวัยมดงาน เปน็ เพศเมยี มีสีแดง ยาวประมาณ ๑ เซนตเิ มตร ไมม่ ปี ีก มกี า้ นบนสัน หลงั และสว่ นทอ้ งปล้องที่ ๑ และ ๒ มีลักษณะเปน็ ปมุ่ ปม มีหนวดหกั เป็นข้อศอก มดงานเหล่าน้มี ีหน้าทีส่ รา้ งรังและเลย้ี ง ตวั ออ่ น นางพญาเปน็ ตัวเต็มวยั เพศเมียท่มี ขี นาดตวั ใหญ่กวา่ มดงาน Oecophylla longinoda สว่ นใหญม่ ลี าตวั สเี ขียว มีปกี ใส ทาหน้าที่ผสมพันธุแ์ ละวางไข่ ถน่ิ ทีอ่ ยู่อาศัย : ตน้ ไม้ การประกอบอาหาร : คั่ว ทอด ต้ม แกง เม่ียง ห่อหมก ใสไ่ ข่เจยี ว แมเ่ ปง้ หรือราชนิ มี ด ท่ีมา ; https://www.thairath.co.th/content/568199
แมลงกินได้ 8. กลุม่ มด ผ้ึง ตอ่ แตน (Hymenoptera) 8.2 แมลงมัน (Subterranean ants) ลักษณะ : มดงานจะมีตวั ขนาดเลก็ ลาตวั สสี ม้ ออกน้าตาล นางพญามสี ีแดงคล้า ตัวใหญ่ มีปกี ใส ไข่และตัวอ่อนของแมลง มันมีลักษณะคล้ายไข่มดแดง มสี นี วล อยใู่ นดินลกึ ประมาณ ๕๐ เซนตเิ มตร ถน่ิ ท่อี ยู่อาศัย : ใตด้ นิ การประกอบอาหาร : คั่ว ทอด ตากับน้าพริก แกง ท่มี า ; https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1334855/
แมลงกินได้ 8. กลุ่มมด ผ้งึ ต่อ แตน (Hymenoptera) 8.3 ผึ้ง (Bee) ลกั ษณะ : แมลงทีเ่ ก็บนา้ หวานจากดอกไม้ มีหัว อก และทอ้ ง แยกกันชัดเจน ขาคูห่ ลังมอี วัยวะสาหรบั เก็บละอองเกสร มปี กี ใส ๒ คู่ มเี หล็กในทม่ี พี ษิ สาหรับปอ้ งกนั ตวั แตล่ ะตัวสามารถต่อย ได้คร้งั เดยี วและตายหลังจากต่อย มหี ลายชนดิ เชน่ ผงึ้ หลวง ผ้ึงม้มิ ผ้ึงโพรง ถน่ิ ท่ีอยู่อาศัย : โพรงไม้ ต้นไม้ การประกอบอาหาร : (ตัวอ่อน) ใส่ไขเ่ จยี ว หอ่ หมก ยา ลาบ ทานสด ทีม่ า ; https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/59705/-ani-
แมลงกินได้ 8. กล่มุ มด ผ้งึ ตอ่ แตน (Hymenoptera) 8.4 ต่อ (Wasp) ลกั ษณะ : ลาตัวมสี เี หลอื งหรือสม้ สลบั ดา บริเวณส่วนกลาง ของลาตัวคอดก่วิ ปลาย สว่ นท้องมีเหล็กไนสาหรับปอ้ งกนั ตัว และล่าเหย่อื มบี ทบาทเป็นตวั หา้ (Predator) กินสตั ว์ชนดิ อื่น เป็นอาหาร สว่ นใหญอ่ ยู่รวมกันเปน็ สังคมหรือรงั แต่ละรัง ประกอบด้วยวรรณะราชินี กรรมกร และตอ่ เพศผู้ ถิ่นท่อี ยู่อาศัย : ตน้ ไม้ การประกอบอาหาร : นึง่ คว่ั ทอด ตากับนา้ พริก แกง ใส่ไข่ เจยี ว ท่มี า ; https://www.thairath.co.th/content/198380
ตาราง : พลังงานและองค์ประกอบหลักของแมลงกินได้ ในน้าหนักสด 100 กรัม แมลง พลังงาน ความช้ืน โปรตีน ไขมนั คาร์โบไฮเดรต (กรัม) (กรัม) (กรัม) (กิโลแคลอร)ี่ (กรมั ) 17.5 12.0 2.4 จ้งิ โกร่ง 188 67 จิง้ หรดี 133 73 18.6 6.0 1.0 ดักแดไ้ หม 152 70 14.7 8.3 4.7 ต๊ักแตนปาทังกา้ 157 66 27.6 4.7 1.2 ตวั ออ่ นของต่อ 140 73 14.8 6.8 4.8 แมลงกินนู 98 76 18.1 1.8 2.2 แมลงปอ่ ง 130 69 24.5 2.3 2.8 หนอนไม้ไผ่ 231 67 9.2 20.4 2.5 ที่ ม า : ง า น วิ จั ย เ ร่ื อ ง คุ ณ ภ า พ โ ป ร ตี น แ ล ะ ไ ข มั น ใ น แ ม ล ง ท่ี กิ น ไ ด้ 2 5 4 7 . สา นั ก โ ภ ช น า ก า ร
ข้อควรระวังในการบริโภคแมลง • การบริโภคแมลงดิบ ๆ โดยไม่ผ่านความร้อนให้สุก อาจส่งผลให้พยาธิในแมลงเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายได้ โดยเฉพาะด้วงปีกแข็ง ตั๊กแตนและตัวอ่อนแมลงปอซึ่งสามารถเป็นพาหะของพยาธิใบไม้ได้ ด้วงประเภท ตา่ ง ๆ และแมลงปกี แขง็ เปน็ ตวั พาหะของหนอนพยาธิ โดยเฉพาะด้วงทอ่ี าศัยอยตู่ ามกองขี้ควาย ซึ่งจะทา ให้เกิดพยาธิสภาพบริเวณปากและล้ิน แมลงกินูนและแมลงเหน่ียงสามารถทาให้เกิดโรคพยาธิได้เช่นกัน โดยผู้ป่วยจะมีอาการเป็นแผลในลาไส้ เน่ืองจากพยาธิชอนไชฝังในลาไส้ บางคร้ังอาจทะลุได้ ทาให้เกิด เยื่อบุช่องท้องอักเสบ จิ้งหรีดเป็นพาหะของพยาธิตัวกลม ทาให้เกิดอาการเก่ียวกับระบบทางเดินอาหาร พยาธิอาจจะเกาะอาศัยตามกระเพาะ ลาไส้เล็ก และตับ เพื่อดูดเลือดเป็นอาหาร โดยผู้ป่วยจะมีอาการ เจ็บปวดมากเม่ือพยาธิเหล่านี้มีการเคล่ือนที่ไปยังบริเวณต่าง ๆ ของระบบทางเดินอาหาร ทาให้เยื่อบุ ทางเดินอาหารอกั เสบและมเี ลือดออกได้
ข้อควรระวังในการบริโภคแมลง • แมลงบางชนิดอาจมีพิษจากเหล็กในเพื่อป้องกันตัว ได้แก่ ผึ้ง ต่อ และแตน โดยผู้ท่ีจะนาแมลง เหลา่ นี้มาบริโภคจะต้องมีความรแู้ ละมีทักษะในการเก็บรงั โดยต้องมีการรมควัน และมีชุดท่ีสวม ใส่เพื่อป้องกันการเข้าต่อยของแมลงเหล่านี้ได้ ซ่ึงหากไม่มีการป้องกันท่ีดีอาจโดนต่อยและเกิด อาการแพ้จนถึงข้ันเสยี ชีวติ ได้ โดยเฉพาะแมลงปกี แขง็ เชน่ พวกด้วงน้ามนั มีสารพิษในตัวแมลง เอง ถึงแม้ว่าจะนามาทาให้สุกแต่ไม่สามารถสลายสารพิษได้ เมื่อนามาบริโภคจะมีอันตรายถึง เสียชวี ิตได้ • แมลงบางชนดิ อาจมสี ารพิษ ท่ีปนเปอื้ นเปน็ อันตรายต่อมนุษย์ได้ ดังน้ันในการเลือกรบั ประทาน ไมค่ วรทานชนดิ ท่ไี ม่เคยทานมาก่อน
บรรณานุกรม ความสาคัญ ชนดิ และคณุ คา่ ทางโภชนาการของแมลงกนิ ได้. ผศ.ดร.ทศั นีย์ แจม่ จรรยา และรศ.ดร.ยุพา หาญบุญทรง. สาขาวิชากฏี วทิ ยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น คุณภาพโปรตนี และไขมันในแมลงท่ีกนิ ได้. 2547. นนั ทยา จงใจเทศ และคณะ. งานวิจัยสานักโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ โครงการสารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว.2554. สารานุกรมไทยสาหรับเยาวชนฯ ฉบับเสรมิ การเรียนรู้ เร่อื ง แมลงกินได้ (เลม่ 17) กรงุ เทพฯ. แมลงกินได้ ทางเลอื กในภาวะเกดิ ภยั พบิ ตั ิ. สริ วิ ัฒน์ วงษ์ศิริและคณะ วารสารราชบัณฑติ ยสถาน ปที ่ี 37 ฉบบั ท่ี 1 ม.ค.-มี.ค. 2555 แมลงกินได้ จากเศรษฐกจิ ฐานรากสกู่ ารยกระดบั คณุ ภาพและความปลอดภยั . สุรศกั ดิ์ ธนัชชาพศิ ทุ ธิ์ . วารสารกรมวทิ ยาศาสตร์บริการ ปีท่ี 66 ฉบับท่ี 206 ประจาเดอื น มกราคม ปที ี่พิมพ์ 2561 แมลง INSECT. รศ.ดร. จฑุ ารัตน์ อรรถจารุสทิ ธิ์.สานักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี 2546
คณะผู้จดั ทำ ❖ ทป่ี รกึ ษา นายพรศกั ด์ิ ธรรมวานิช ผอู้ านวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศึกษานครพนม ❖ คณะกรรมการดาเนินงาน นายสนธยา ทพิ ย์โพธส์ิ ิงห์ ครู นายไกรสร ไทยแสนทา ครูผชู้ ่วย นางสาววีริยา ธานี ครผู ู้ช่วย นางสาวนภา พมิ พจ์ ันทร์ นักวชิ าการศึกษา นายบุรทัศ จันทรังษี นกั วชิ าการศกึ ษา นางสาวจิรนันท์ ตัน๋ เต๋ นักวชิ าการศึกษา นายพทิ กั พงษ์ อินทร์ตา นกั วิชาการศึกษา นางสาวเอมกิ า พลิ าสขุ นักวิชาการศกึ ษา นายพงษ์ศกั ดิ์ ดอนขวา นกั วชิ าการศึกษา นายภานทุ ศั น์ แสนสุภา นักวิชาการศึกษา นายสหภาพ เขียวมาก นกั วชิ าการวิทยาศาสตร์ศกึ ษา นางสาวฑิตาพร ฝ่ายอินทร์ นักวิชาการวทิ ยาศาสตร์ศกึ ษา นายสรุ ยิ ะ ภารไสว นกั วิชาการวทิ ยาศาสตร์ศึกษา
ศูนย์วทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศกึ ษานครพนม 355 ม.6 ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000 โทรศพั ท์ 042-530780 www.nkpsci.ac.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: