Human Resource Development (HRD) แผนกฝกึ อบรมและพฒั นาบคุ ลากร Human Resource Development (HRD) บริษัทในกลมุ่ ภิรชั บุรีเล็งเหน็ ถงึ ความสาคัญของการ พัฒนาบคุ ลากรใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ สง่ เสรมิ ให้บุคลากร ศึกษาหาความร้อู ยู่ตลอดเวลาเพ่อื ให้ทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงใน สถานการณป์ ัจจบุ นั และสามารถนาความรทู้ ่ีได้รับมาประยุกตใ์ ช้ ในการปฏบิ ตั งิ านได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 1
Human Resource Development (HRD) การฝึกอบรมและพฒั นาพนกั งาน DISC ร้จู ักตนเอง เพอ่ื พฒั นาความสมั พันธ์ในองคก์ ร Competency คืออะไร In-house Training Public Training Team Building On-the-Job Training Career Ladder Learning Centre DISC รู้จักตนเอง เพอ่ื พฒั นาความสมั พันธใ์ นองคก์ ร DISC ร้จู กั ตนเอง เพื่อพัฒนาความสัมพนั ธใ์ นองคก์ ร วันนี้เราจะมาวิเคราะห์สไตล์ หรือรูปแบบการสื่อสารของคุณ จากพื้นฐานทฤษฎีทาง บคุ ลกิ ภาพของ คาลล์ จุง (Carl Jung) ซ่งึ ได้รับการยกย่องว่าเป็นการอธิบายพฤติกรรมท่ี นามาวเิ คราะหบ์ คุ ลิกภาพของคนไดด้ ี เรามาดูกนั ว่าคณุ เปน็ สไตล์ใดใน 4 แบบ 2
DISC รู้จักตนเอง เพ่อื พัฒนาความสัมพันธ์ในองค์กร D – Style DI I – Style (Dominance) CS (Influence) ผู้ลงมอื ทา นักสงั คม C – Style S – Style (Compliance) (Steadiness) นกั ประสานงาน นกั คดิ DISC รจู้ กั ตนเอง เพ่อื พัฒนาความสัมพนั ธ์ในองค์กร DISC Strength – กระตือรอื ร้น – ตรงไปตรงมา – ชอบหวา่ นล้อม – เขา้ กับคนง่าย – ชอบการแขง่ ขนั – ใชอ้ านาจบังคับ – พูดจาเก่ง – มองโลกในแง่ดี – อยากรู้อยากเหน็ – รกั ษาสทิ ธขิ องตน – มนุษยสัมพันธ์ดี - เชอื่ คนง่าย - ปลักดันตวั เองในการทางาน D – Style (Dominance) ผู้ลงมอื ทา I – Style (Influence) นักสังคม การทางานร่วมกับผูอ้ ่ืน ควรจะตอ้ งรู้ Strength & Limitation ของตนเองและผูอ้ ืน่ C – Style (Compliance) นกั คิด S – Style (Steadiness) นกั ประสานงาน – วางใจได้ – ออ่ นหวาน – ระวังรอบคอบ – ปราณีต – เชือ่ ฟังคาส่งั – ละเอยี ดถี่ถว้ น – สขุ มุ รอบคอบ – ใจเย็น – ถูกต้องแม่นยา – มรี ะบบระเบียบ – ใช้เหตแุ ละผลในการตดั สนิ ใจ – ผู้ฟังทด่ี ี – ใจดี - ปลักดันตัวเองในการทางาน 3
DISC รูจ้ ักตนเอง เพอ่ื พฒั นาความสมั พันธ์ในองค์กร วิธีการสือ่ สารเหล่าน้เี หมาะกับคนแตล่ ะประเภท Dตรงไปตรงมา ถ่อมตน Iสือ่ สารอ้อมๆ เนน้ การขอความคดิ เหน็ พดู ถึงผลประโยชน์ เนน้ การขอความชว่ ยเหลือ น้าน้อยๆ บรรยากาศดี สน้ั กระชับ ไมจ่ า้ จจ้ี า้ ไช สนกุ สนาน สรา้ งแรงบันดาลใจ เป็นการเป็นงาน ไม่ทางการ Sสอ่ื สารออ้ มๆ สรา้ งความมัน่ ใจ Cชดั เจน กลา่ วถึงกฎ ระเบยี บ เน้นการขอความช่วยเหลอื สุภาพ ไม่กระทนั หัน มขี ้อมูประกอบ จรงิ ใจ บอกประโยชนท์ ีท่ ีมจะไดร้ ับ ลายลกั ษณ์อกั ษร เปดิ โอกาสใหซ้ กั ถาม สุภาพ ทางการ ความหมายของ Competency Competency คืออะไร ?? ความรู้ (Knowledge) , ทกั ษะ (Skills) และคุณลกั ษณะ (Personal Attribute) ที่จาเป็นตอ่ ตาแหน่งงาน เพือ่ ให้ผดู้ ารงตาแหนง่ สามารถปฏบิ ตั ิงาน ได้ตามหนา้ ทีท่ ก่ี าหนด Job Description Knowledge Skills Attribute Competency 4
ประเภทของ Competency ความสามารถด้านผู้นาและการบริหาร จดั การ ซ่งึ พนกั งานที่มีผู้ใต้บังคับบัญชา ประเภทของ Competency ทุกคน จาเป็นจะต้องมี เพื่อใช้ในการ บรหิ ารจัดการงาน ความสามารถหลกั ขององคก์ ร เปน็ สมรรถนะ และคน ความสามารถท่พี นกั งานทกุ คนตอ้ งมีเหมอื นกัน ซึ่งเปน็ พฤติกรรมท่ีองคก์ รคาดหวงั ตามคา่ นยิ มรว่ ม Core Managerial (Core Values) หรือวสิ ยั ทัศน์ (Vision) Competency Competency Functional Competency ความสามารถท่ีจาเป็นในการปฏิบัติงาน โดยกาหนดจาก Job Description หน้าทท่ี ี่รบั ผดิ ชอบตามตาแหนง่ งาน ประเภทของ Competency ประเภทของ Competency 1.Core Competency : ความสามารถหลกั ขององคก์ ร เปน็ สมรรถนะ ความสามารถที่พนักงานทกุ คนต้องมีเหมือนกนั ซ่ึงเป็นพฤติกรรมท่อี งค์กร คาดหวังตามค่านยิ มร่วม ประกอบด้วย 5 ข้อ ดังน้ี 1. การม่งุ เน้นผลสาเรจ็ ของงาน (Achievement Orientation) 2. การทางานเปน็ ทีม (Teamwork) 3. จิตพสิ ยั การบริการ (Service Mind) 4. การส่ือสารอยา่ งมีประสิทธภิ าพ (Effective Communication) 5. เชีย่ วชาญสกู่ ารปฏบิ ตั ิ (Masterly) 5
ประเภทของ Competency ประเภทของ Competency 2. Managerial Competency : ความสามารถด้านผู้นาและการบริหาร จัดการ ซ่ึงพนักงานที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน จาเป็นจะต้องมี เพื่อใช้ในการ บรหิ ารจดั การงานและคน ซึง่ บรษิ ทั ในกลุม่ ภิรัชบุรจี ะมีด้วยกนั 8 ตัวดงั น้ี ประเภทของ Competency Managerial Competency : ความสามารถด้านผนู้ าและการบริหารจัดการ LC- 01 : ภาวะความเป็นผ้นู า (Leadership) ภาวะของความเปน็ ผนู้ า เปน็ แบบอย่างที่ดี มีอิทธิพลต่อความคดิ พฤติกรรมของผ้อู ่นื สรา้ งความเชื่อมั่นความไวว้ างใจ ความน่าเชื่อถือ และสามารถโน้มน้าวจูงใจให้สมาชิกทางานให้ สาเร็จลุล่วงไดด้ ว้ ยตนเองได้ LC – 02 : ความสามารถในการส่อื สาร (Communication) ความสามารถในการสื่อสารด้วยการฟัง พูด อ่าน และเขียนได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และได้ ใจความ เพ่ือให้เกดิ ความเข้าใจทตี่ รงกัน รวมถงึ การสื่อสารเพือ่ โน้มนา้ ว จงู ใจและเจรจา เพอ่ื นาไปสกู่ ารปฏิบตั ิหรือการเปลย่ี นแปลงตา่ งๆ ให้บรรลตุ ามวัตถุประสงคท์ ่ีกาหนดได้ 6
ประเภทของ Competency Managerial Competency : ความสามารถดา้ นผู้นาและการบริหารจัดการ LC – 03 : ความสามารถในดา้ นการคิด (Intellectual Skills) ความสามารถและทักษะทางด้านความคิด (Thinking) สามารถวิเคราะหค์ น้ หาสาเหตุต่างๆของ ปัญหา , ริเร่ิมแนวทาง วิธีการใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน หรือออกแบบขั้นตอนการ ทางานได้อย่างเป็นระบบ ตลอดจนสามารถมีความคิดเชิงวิสัยทัศน์ มองเห็นถึงภาพอนาคต ของธุรกิจ และแปลงเปา้ หมายตา่ งๆ ใหเ้ ป็นกลยทุ ธแ์ ละแผนงานในเชิงปฏิบตั ิได้ LC – 04 : การแก้ปญั หาและการตดั สินใจ (Problem Solving & Decision Making) ความสามารถในการวเิ คราะห์ กาหนดทางเลอื กในการแก้ไขปัญหาโดยอาศัยประสบการณ์ และ ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมทั้งพิจารณาเลือกแนวทางการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม และเกดิ ประโยชนส์ ูงสุดต่อหนว่ ยงาน และองคก์ ร ประเภทของ Competency Managerial Competency : ความสามารถด้านผนู้ าและการบรหิ ารจดั การ LC – 05 : การบรหิ ารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) ความสามารถในการกาหนดป้าหมายงาน และควบคุม บริหารผลการปฏิบัติงานของสมาชิก และหน่วยงาน ให้สามารถปฏิบัติงานได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยสามารถติดตาม กระตุ้น จงู ใจและวางแผนพฒั นาความสามารถและผลงานของพนักงานรายบคุ คล และหนว่ ยงานให้ดีข้ึน ไดอ้ ยา่ งต่อเนอื่ ง LC – 06 : การวางแผนและจดั การ (Planning & Organizing) ความสามารถในการวางแผนและจดั การ สามารถกาหนดแผนงาน ตารางการทางานของทีมให้ สอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานรวมถึงบริหารจัดการควบคุมการทางานและการใช้ ทรพั ยากรตา่ งๆ ในการทางาน (คน,งบประมาณ,เครือ่ งมือ,อุปกรณ)์ ให้เปน็ ไปตามท่กี าหนดได้ 7
ประเภทของ Competency Managerial Competency : ความสามารถดา้ นผู้นาและการบรหิ ารจดั การ LC – 07 : การบรหิ ารความเปล่ยี นแปลง (Change Management) ความเข้าใจ ยอมรับ สนับสนุน มีส่วนร่วม และจัดการความเปล่ียนแปลงภายในองค์การตาม บทบาทหน้าท่ขี องตนเอง เพื่อใหก้ ารเปล่ียนแปลงประสบความสาเร็จตามเป้าหมายขององค์การ รวมถึงสามารถนาความเปลยี่ นแปลงมาส่อู งค์กร เพอ่ื พัฒนาองค์กรได้ LC – 08 : ความสามารถในการพัฒนาผ้อู ืน่ (People Development) ความสามารถในการวางแผนพฒั นาความสามารถของพนกั งานรายบคุ คลภายในทมี รวมถึงการ สอนและพัฒนาพนักงานด้วยวิธีการต่างๆ ท่ีเหมาะสม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของพนักงาน และทมี งานรองรบั ตอ่ ความเปลีย่ นแปลงและความเตบิ โตขององค์กร ประเภทของ Competency Leadership Competency Model 1.Leadership People Communication Development Change leadership Intellectual Management competencies Skills Planning & Problem Solving Organizing & Decision Making Performance Management 8
ประเภทของ Competency ประเภทของ Competency 3. Functional Competency : ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะท่ีบุคลากร จาเป็นต้องมี โดยกาหนดจาก Job Description หน้าท่ีท่ีรับผิดชอบตามตาแหน่งงาน เพอ่ื ใช้ในการปฏิบตั หิ นา้ ทใ่ี ห้บรรลเุ ป้าหมายทวี่ างไว้ In-house Training In-house Training การจัดอบรมภายในบริษัทโดยหนว่ ยฝึกอบรมขององคก์ รจะเปน็ ผอู้ อกแบบ และพัฒนาหลักสูตรท่ีสอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพการดาเนินงานขององค์กร กาหนดตารางเวลา และเชญิ ผูท้ รงคณุ วฒุ ิท้งั จากภายในและภายนอกองค์กรมาเป็น วทิ ยากร 9
In-house Training หลักสูตรทจ่ี ัดขนึ้ เพือ่ ให้เป็นไปตามข้อกาหนดของ มาตรฐานต่างๆ หลักสตู รทจ่ี ัดขนึ้ ตามที่กฏหมายกาหนด ISO 14001:2015 awareness training ความปลอดภัยสาหรับลูกจ้างเข้าทางาน TIS 22300:2551 Refreshment training ใหมต่ ามพรบ. ISO 50001:2018 - Introductions & Requirements GMP&HACCP Awareness จป.บริหาร จป.หัวหน้างาน ความปลอดภัยในการทางานเกี่ยวกับ ไฟฟ้า ช่างไฟฟา้ ภายในอาครระดับ 1 การปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น ความปลอดภยั ในการทางานกบั สารเคมี In-house Training หลักสตู รท่จี ัดข้นึ เพอื่ พัฒนางานในแตล่ ะ Function หลักสูตรท่จี ดั ข้นึ เพ่ือเปน็ การพัฒนาพนกั งานตาม Customer Service Excellence Leadership Program Personality Improvement Negotiation Skills Situational Leadership Service Mind to Service Excellence Critical Thinking & Decision Making How to Develop Functional Competency Coaching and mentoring การขบั รถฟอรค์ ลิฟท์ อยา่ งปลอดภยั ในถูกวธิ ี Systematic Thinking Reporting and Work Follow up Skill Development Problem Solving Presentation Skill Positive Thinking & EQ for SMART People 10
In-house Training ภาพประกอบการฝึกอบรม (In-house Training) In-house Training การประชาสมั พนั ธ์การจัดอบรม ส่งออก E-Mail เพ่อื เชญิ พนักงานเขา้ รว่ มอบรมหลักสตู รที่ได้จัดข้นึ 11
Public Training Public Training การส่งพนักงานเข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การภายนอก ตัวอย่างเชน่ สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) , สมาคม การจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) , สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย- ญี่ปนุ่ ) ,ธรรมนติ ิ เปน็ ต้น Public Training ขนั้ ตอนการขออบรมภายนอก (Public Training) 1. กรอกแบบฟอรม์ ขอ 2. เสนอผู้จัดการขึน้ ไป 3. ส่งแบบฟอร์ม เขา้ รบั การอบรม อนมุ ตั ิในแบบฟอรม์ ให้ฝ่ ายฝึ กอบรม แ ล ะ พั ฒ น า เ พ่ื อ 4. เขา้ รบั การอบรมตามที่ได้ ลงทะเบียนเขา้ รับ ลงทะเบียนไว้ การอบรม 5.ส่งรายงานการฝึ กอบรม บนั ทกึ ประวตั กิ ารฝึกอบรม 12
Public Training แบบฟอร์มขออบรม Public Training M:\\Public\\0_QSHE\\0_Control Documents\\QSHE Control Document_BITEC Property Solutions\\HR\\HRD\\HRD_FM Public Training แบบฟอร์มรายงานการฝกึ อบรม (Follow up Training) 13
นโยบาย Training (Training Policy) นโยบาย Training (Training Policy) แนวปฏิบตั ิการฝกึ อบรมและพัฒนา • พนกั งานยอมรับวา่ เม่ือเสร็จส้ินการฝึกอบรมจะกลับมาทางานให้แก่บริษัทฯ และจะนาความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ท่ีได้รับนามาใช้เพ่ือให้เกิดประโยชน์แก่บริษัทฯ พร้อมทั้ง ถา่ ยทอดความรใู้ หแ้ กพ่ นกั งานทเี่ กีย่ วขอ้ งในบรษิ ทั ฯ มีกาหนดระยะเวลา • พนักงานระดบั Officer - Supervisor = ไมน่ ้อยกว่า 3 เดอื น • พนักงานระดับสูงกวา่ Officer - Supervisor = ไมน่ ้อยกวา่ 6 เดอื น • พนกั งานยอมรับว่าหากพนกั งานไมป่ ระสงคท์ ี่จะทางานกับบรษิ ทั /ทาผดิ วนิ ยั ถึงข้ันให้ออก ปลดออก ไล่ออก แล้วแต่กรณี ให้ถือว่าพนักงานไม่สามารถทางานให้แก่บริษัทได้ และยอมชดใช้ คา่ เสยี หายใหแ้ กบ่ ริษัท ทง้ั น้ี บังคับใช้สาหรบั หลักสูตรท่ีมีค่าใชจ้ า่ ย 5,000 บาท ขน้ึ ไป • ระดับ Officer - Supervisor ชดใช้ 50% ของค่าใช้จ่ายท้งั หมด • พนกั งานระดบั สูงกวา่ Officer – Supervisor 100% ของค่าใชจ้ า่ ยท้ังหมด Team Building กจิ กรรมการพัฒนาและสร้างความสัมพนั ธข์ องพนกั งาน (Team Building) กระบวนการพัฒนาพนกั งานท่ีทางานในหนว่ ยงานเดียวกนั หรืออยูใ่ นองค์กร เดียวกัน เพื่อท่ีจะให้พนักงานได้เรียนรู้ถึงกระบวนการต่างๆในการประสานงานที่จะ สามารถทางานให้บรรลเุ ปา้ หมายของทงั้ ตนเอง ของกลุ่ม หรือของหน่วยงานได้อย่าง มีประสิทธภิ าพ และเกิดประสทิ ธผิ ล 14
On The Job Training On The Job Training การให้ผรู้ ับการฝกึ อบรมลงมอื ปฏิบัตงิ านจริง ๆ ในสถานท่ีทางานจริง ภายใต้การดูแลเอาใจใส่ของพนักงานซึ่งทาหน้าที่เป็นพี่เล้ียง โดยการแสดง วิธีการปฏิบัติงานพร้อมทั้งอธิบายประกอบ จากนั้นจึงให้ผู้รับการอบรมปฏิบัติ ตาม พเี่ ล้ียงจะคอยดแู ลใหค้ าแนะนาและช่วยเหลือหากมปี ญั หาเกดิ ข้นึ การพัฒนาความก้าวหนา้ ในอาชีพ (Career Ladder) การพฒั นาความก้าวหนา้ ในอาชพี (Career Ladder) การกาหนดแผนในการพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงานกลุ่ม ศักยภาพแต่ละคนว่าจะมีความเติบโตในหน้าท่ีการงานไปในแนวทางใด และต้องทา อะไรบา้ งเพือ่ ให้ไปถึงยังเป้าหมายที่กาหนด กระบวนการนี้นอกจากเป็นการพัฒนา แล้ว ยังเปน็ การสรา้ งแรงจูงใจและรักษาพนักงาน 15
Learning Centre Learning Centre (Office A) Q&A 16
Contact Person ติดต่อสอบถามขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ได้ท่ี ทมี HRD คณุ สาวติ รี สาวเสม (จ)ี้ คณุ ศวติ า สขุ วฒั น์ (เดยี ร)์ HRD Manager HRD Officer - Training 02-726-1999 # 8200 02-726-1999 # 8201 [email protected] [email protected] Human Resource Development (HRD) 17
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: