ลอยกระทง วนั ลอยกระทง ประเพณีลอยกระทงลอยกระทงเป็นพธิ อี ยา่ งหน่ึงทม่ี กั จะทาํ กนั ในคนื วนั เพญ็ เดอื น ๑๒ หรอื วนั ขน้ึ ๑๕ ค่าํ เดอื น ๑๒ อนัเป็นวนั พระจนั ทรเ์ ตม็ ดวง และเป็นชว่ งทน่ี ้ําหลากเตม็ ตลงิ่ โดยจะมกี ารนําดอกไม้ ธปู เทยี นหรอื สงิ่ ของใสล่ งในสง่ิ ประดษิ ฐร์ ปู ต่างๆทไ่ี มจ่ มน้ํา เชน่ กระทง เรอื แพ ดอกบวั ฯลฯ แลว้ นําไปลอยตามลาํ น้ํา โดยมีวตั ถุประสงค์ และความเชอ่ื ต่างๆกนั สาํ หรบั ในปีน้วี นั ลอยกระทงตรงกบั วนั จนั ทรท์ ่ี ๒ พฤศจกิ ายน๒๕๕๒ลอยกระทง ประเพณลี อยกระทง มไิ ดม้ แี ต่ในประเทศไทยเทา่ นนั้ ในประเทศจนี อนิ เดยี เขมร ลาว และพมา่ กม็ กี ารลอยกระทงคลา้ ยๆกบั บา้ นเรา จะต่างกนั บา้ งกค็ งเป็นเรอ่ื งรายละเอยี ด พธิ กี รรม และความเช่อื ในแต่ละทอ้ งถนิ่ แมแ้ ต่ในบา้ นเราเอง การลอยกระทงกม็ าจากความเชอ่ื ทห่ี ลากหลายเชน่ กนั ทาํ ไมถึง ลอยกระทง การลอยกระทง เป็นประเพณที ม่ี มี าแต่โบราณ แต่ไมป่ รากฏหลกั ฐาน แน่ชดั วา่ ปฏบิ ตั กิ นั มาแต่เมอ่ื ไร เพยี งแต่ทอ้ งถนิ่ แต่ละแหง่ กจ็ ะมี จดุ ประสงคแ์ ละความเช่อื ในการลอยกระทงแตกต่างกนั ไป เชน่ ใน เรอ่ื งเกย่ี วกบั พระพทุ ธศาสนา กจ็ ะเป็นการบชู าพระเกศแกว้ จุฬามณี บนสวรรคช์ นั้ ดาวดงึ ส์ เป็นบชู ารอยพระพทุ ธบาท ณ หาดทรายรมิ ฝงั่ แมน่ ้ํานมั มทา ซง่ึ ปจั จบุ นั คอื แมน่ ้ําเนรพทุ ทาในอนิ เดยี หรอื ตอ้ นรบั พระพทุ ธเจา้ ในวนั เสดจ็ กลบั จากเทวโลกเมอ่ื ครงั้ ไปโปรดพระพทุ ธ มารดา นอกจากน้ี กย็ งั มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื บชู าพระอุปคตุ เถระท่ีบาํ เพญ็ บรกิ รรมคาถาในทอ้ งทะเลลกึ หรอื สะดอื ทะเล บางแหง่ กล็ อยกระทงเพอ่ื บชู าเทพเจา้ ตามความเชอ่ื ของตน บางแหง่ กเ็ พอ่ื แสดงความขอบคณุ พระแมค่ งคาซง่ึ เป็นแหล่งน้ําใหม้ นุษยไ์ ดใ้ ชป้ ระโยชน์ต่างๆ รวมทงั้ ขอขมาทไ่ี ดท้ ง้ิ สง่ิ ปฏกิ ลู ลงไป สว่ นบางทอ้ งทก่ี จ็ ะทาํ เพอ่ื ระลกึ ถงึ บรรพบุรษุ ทล่ี ว่ งลบั หรอืเพอ่ื สะเดาะเคราะห/์ ลอยทุกขโ์ ศกโรคภยั ต่างๆ และสว่ นใหญ่กจ็ ะอธษิ ฐานขอสง่ิ ทต่ี นปรารถนาไปดว้ ยพระยาอนุมานราชธน ไดส้ นั นิษฐานวา่ ตน้ เหตุแหง่ การลอยกระทงอาจมมี ลู ฐานเป็นไปไดว้ า่ การลอยกระทงเป็นคตขิ องชนชาตทิ ป่ี ระกอบกสกิ รรม ซง่ึ ตอ้ งอาศยั น้ําเป็นสาํ คญั เมอ่ื พชื พนั ธุธ์ ญั ชาตงิ อกงามดีและเป็นเวลาทน่ี ้ําเจง่ิ นองพอดี กท็ าํ กระทงลอยไปตามกระแสน้ําไหลเพอ่ื ขอบคุณแมค่ งคา หรอื เทพเจา้ ท่ีประทานน้ํามาใหค้ วามอุดมสมบรู ณ์ เหตุน้ี จงึ ไดล้ อยกระทงในฤดกู าลน้ํามาก และเมอ่ื เสรจ็ แลว้ จงึ เล่นรน่ืเรงิ ดว้ ยความยนิ ดี เทา่ กบั เป็นการสมโภชการงานทไ่ี ดก้ ระทาํ วา่ ไดล้ ุลว่ งและรอดมาจนเหน็ ผลแลว้ ทา่ นวา่ การทช่ี าวบา้ นบอกวา่ การลอยกระทงเป็นการขอขมาลาโทษและขอบคุณต่อแมค่ งคา กค็ งมเี คา้ ในทาํ นองเดยี วกบั การทช่ี าตติ ่างๆ แต่ดกึ ดาํ บรรพไ์ ดแ้ สดงความยนิ ดที พ่ี ชื ผลเกบ็ เกย่ี วได้ จงึ ไดน้ ําผลผลติแรกทไ่ี ดไ้ ปบชู าเทพเจา้ ทต่ี นนบั ถอื เพอ่ื ขอบคณุ ทบ่ี นั ดาลใหก้ ารเพาะปลกู ของตนไดผ้ ลดี
รวมทงั้ เลย้ี งดผู ที อ่ี ดอยาก และการเซ่นสรวงบรรพบุรษุ ทล่ี ว่ งลบั เสรจ็ แลว้ กม็ กี ารสมโภชเลย้ี งดกู นั เองต่อมาเมอ่ื มนุษยม์ คี วามเจรญิ แลว้ การวติ กทกุ ขร์ อ้ นเรอ่ื งเพาะปลกู วา่ จะไมไ่ ดผ้ ลกน็ ้อยลงไป แต่กย็ งั ทาํการบวงสรวงตามทเ่ี คยทาํ มาจนเป็นประเพณี เพยี งแต่ต่างกแ็ กใ้ หเ้ ขา้ กบั คตลิ ทั ธทิ างศาสนาทต่ี นนบั ถอืเชน่ มกี ารทาํ บุญสนุ ทานเพม่ิ ขน้ึ ในทางพทุ ธศาสนา เป็นตน้ แต่ทส่ี ดุ กค็ งเหลอื แตก่ ารเลน่ สนุกสนานรน่ืเรงิ กนั เป็นสว่ นใหญ่ อยา่ งไรกด็ ี ดว้ ยเหตุดงั กล่าวขา้ งตน้ การลอยกระทงจงึ มอี ยใู่ นชาตติ ่างๆทวั่ ไป และการทไ่ี ปลอยน้ํา กค็ งเป็นความรสู้ กึ ทางจติ วทิ ยา ทม่ี นุษยโ์ ดยธรรมดา มกั จะเอาอะไรทง้ิ ไปในน้ําใหม้ นัลอยไปทาํ ไมกระทงส่วนใหญ่เป็นรปู ดอกบวัในหนงั สอื ตาํ รบั ทา้ วศรจี ุฬาลกั ษณ์หรอื ตํานานนางนพมาศ ซง่ึ เป็นพระสนมเอกของพระมหาธรรมราชาลิไทยหรอื พระรว่ ง แหง่ กรงุ สโุ ขทยั ไดก้ ล่าวถงึ วนั เพญ็ เดอื นสบิ สองวา่ เป็นเวลาเสดจ็ ประพาสลาํ น้ําตามพระราชพธิ ใี นเวลากลางคนื และไดม้ รี บั สงั่ ใหบ้ รรดาพระสนมนางในทงั้ หลายตกแต่งกระทงประดบัดอกไมธ้ ปู เทยี นนําไปลอยน้ําหน้าพระทน่ี งั่ ในคราวนนั้ ทา้ วศรจี ฬุ าลกั ษณ์หรอื นางนพมาศ พระสนมเอกกไ็ ดค้ ดิ ประดษิ ฐก์ ระทงเป็นรปู ดอกบวั กมทุ ขน้ึ ดว้ ยเหน็ วา่ เป็นดอกบวั พเิ ศษทบ่ี านในเวลากลางคนื เพยี งปีละครงั้ ในวนั ดงั กลา่ ว สมควรทาํ เป็นกระทงแต่งประทปี ลอยไปถวายสกั การะรอยพระพทุ ธบาท ซง่ึ เมอ่ืพระรว่ งเจา้ ไดท้ อดพระเนตรเหน็ กร็ บั สงั่ ถามถงึ ความหมาย นางกไ็ ดท้ ลู อธบิ ายจนเป็นทพ่ี อพระราชหฤทยั พระองคจ์ งึ มพี ระราชดาํ รสั วา่ “แต่น้ีสบื ไปเบอ้ื งหน้าโดยลาํ ดบั กษตั รยิ ใ์ นสยามประเทศถงึ กาลกาํ หนดนกั ขตั ฤกษ์ วนั เพญ็ เดอื น ๑๒ ใหน้ ําโคมลอยเป็นรปู ดอกบวั อทุ ศิ สกั การบชู าพระพทุ ธบาทนมัมทานที ตราบเทา่ กลั ปาวสาน” ดว้ ยเหตุน้ี เราจงึ เหน็ โคมลอยรปู ดอกบวั ปรากฏมาจนปจั จบุ นัตาํ นานและความเช่ือจากทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ วา่ การลอยกระทง ในแต่ละทอ้ งทก่ี ม็ าจากความเชอ่ื ความศรทั ธาทแ่ี ตกต่างกนับางแหง่ กม็ ตี ํานานเล่าขานกนั ต่อๆมา ซง่ึ จะยกตวั อยา่ งบางเรอ่ื งมาใหท้ ราบ ดงั น้ี
เร่ืองแรก วา่ กนั วา่ การลอยกระทง มตี น้ กาํ เนิดมาจากศาสนาพทุ ธนนั่ เอง กลา่ วคอื กอ่ นทพ่ี ระพทุ ธองค์จะตรสั รเู้ ป็นสมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ไดป้ ระทบั อยใู่ ตต้ น้ โพธิ ใกลแ้ มน่ ้ําเนรญั ชรา กาลวนั หน่ึง นางสชุ าดาอบุ าสกิ าไดใ้ หส้ าวใชน้ ําขา้ วมธุปายาส (ขา้ วกวน/หงุ ดว้ ยน้ําผง้ึ หรอื น้ําออ้ ย) ใสถ่ าดทองไปถวายเมอ่ื พระองคเ์ สวยหมดแลว้ กท็ รงตงั้ สตั ยาธษิ ฐานวา่ ถา้ หากวนั ใดจะสาํ เรจ็ เป็นพระพทุ ธเจา้ กข็ อใหถ้ าดลอยทวนน้ํา ดว้ ยแรงสตั ยาธษิ ฐานและบุญญาภนิ ิหาร ถาดกล็ อยทวนน้ําไปจนถงึ สะดอื ทะเล แลว้ กจ็ มไปถูกขนดหางพระยานาคผรู้ กั ษาบาดาลพระยานาคต่นื ขน้ึ พอเหน็ วา่ เป็นอะไร กป็ ระกาศกอ้ งวา่ บดั น้ีไดม้ พี ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ อบุ ตั ขิ น้ึ ในโลกอกี องคแ์ ลว้ ครนั้ แลว้ เทพยดาทงั้ หลายและพระยานาคกพ็ ากนั ไปเขา้ เฝ้าพระพทุ ธเจา้ และพระยานาคก็ไดข้ อใหพ้ ระพทุ ธองคป์ ระทบั รอยพระบาทไวบ้ นฝงั่ แมน่ ้ําเนรญั ชรา เพอ่ื พวกเขาจะไดข้ น้ึ มาถวายสกั การะได้ พระองคก์ ท็ รงทาํ ตาม สว่ นสาวใชก้ น็ ําความไปบอกนางสชุ าดา ครนั้ ถงึ วนั นนั้ ของทกุ ปี นางสชุ าดากจ็ ะนําเครอ่ื งหอมและดอกไมใ้ สถ่ าดไปลอยน้ําเพอ่ื ไปนมสั การรอยพระพทุ ธบาทเป็นประจาํ เสมอมา และต่อๆมากไ็ ดก้ ลายเป็นประเพณลี อยกระทงตามทเ่ี หน็ กนั อยใู่ นปจั จุบนัในเรอ่ื งการประทบั รอยพระบาทน้ี บางแหง่ กว็ า่ พญานาคไดท้ ลู อาราธนาพระพทุ ธเจา้ ไปแสดงธรรมเทศนาในนาคพภิ พ เมอ่ื จะเสดจ็ กลบั พญานาคไดท้ ลู ขออนุสาวรยี จ์ ากพระองคไ์ วบ้ ชู า พระพทุ ธองคจ์ งึไดท้ รงอธษิ ฐานประทบั รอยพระบาทไวท้ ห่ี าดทรายแมน่ ้ํานมั มทา และพวกนาคทงั้ หลายจงึ พากนั บชู ารอยพระพทุ ธบาทแทนพระองค์ ต่อมาชาวพทุ ธไดท้ ราบเรอ่ื งน้ีจงึ ไดท้ าํ การบชู ารอยพระบาทสบื ต่อกนั มาโดยนําเอาเครอ่ื งสกั การะใสก่ ระทงลอยน้ําไปสว่ นทว่ี า่ ลอยกระทงในวนั เพญ็ เดอื น ๑๑ หรอื วนั ออกพรรษา เพอ่ื เฉลมิ ฉลองวนั คลา้ ยวนั ทพ่ี ระพทุ ธเจา้เสดจ็ กลบั มาสโู่ ลกมนุษย์ หลงั การจาํ พรรษา ๓ เดอื น ณ สวรรคช์ นั้ ดาวดงึ สเ์ พอ่ื แสดงอภธิ รรมโปรดพทุ ธมารดานนั้ กด็ ว้ ยวนั ดงั กล่าว เหล่าทวยเทพและพทุ ธบรษิ ทั พากนั มารบั เสดจ็ นบั ไมถ่ ว้ น พรอ้ มดว้ ยเครอ่ื งสกั การบชู า และเป็นวนั ทพ่ี ระพทุ ธองคไ์ ดเ้ ปิดใหป้ ระชาชนไดเ้ หน็ สวรรคแ์ ละนรกดว้ ยฤทธขิ องพระองค์คนจงึ พากนั ลอยกระทงเพอ่ื เฉลมิ ฉลองรบั เสดจ็ พระพทุ ธเจา้
สาํ หรบั คติที่ว่า การลอยกระทงตามประทีปเพื่อไปบชู าพระเกศแก้วจฬุ ามณีบนสรวงสรรคช์ นัดาวดึงสน์ นั้ กว็ า่ เป็นเพราะตรงกบั วนั ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ออกบรรพชาทร่ี มิ ฝงั่ แมน่ ้ําอโนมา ทรงใชพ้ ระขรรคต์ ดั พระเกศโมลขี าดลอยไปในอากาศตามทท่ี รงอธษิ ฐาน พระอนิ ทรจ์ งึ นําผอบแกว้ มาบรรจุ แลว้นําไปประดษิ ฐานไวใ้ นจุฬามณเี จดยี บ์ นสวรรคช์ นั้ ดาวดงึ ส์ (ตามประทปี คอื การจดุ ประทปี หรอื จุดไฟในตะเกยี ง /โคม หรอื ผาง-ถว้ ยดนิ เผาเลก็ ๆ) ซง่ึ ทางเหนือของเรามกั จะมกี ารปล่อยโคมลอย หรอื โคมไฟท่ีเรยี กวา่ วา่ วไฟ ขน้ึ ไปในอากาศเพอ่ื บชู าพระเกศแกว้ จฬุ ามณดี ว้ ยเรื่องท่ีสอง ตามตําราพรหมณ์คณาจารยก์ ลา่ ววา่ พธิ ลี อยประทปี หรอื ตามประทปี น้ี แต่เดมิ เป็นพธิ ที างศาสนาพราหมณ์ ทาํ ขน้ึ เพอ่ื บชู าเทพเจา้ ทงั้ สามคอื พระอศิ วร พระนารายณ์และพระพรหม เป็นประเภทคกู่ บั ลอยกระทง ก่อนจะลอยกต็ อ้ งมกี ารตามประทปี กอ่ น ซง่ึ ตามคมั ภรี โ์ บราณอนิ เดยี เรยี กวา่ “ทปี าวล”ีโดยกาํ หนดทางโหราศาสตรว์ า่ เมอ่ื พระอาทติ ยถ์ งึ ราศพี จิ กิ พระจนั ทรอ์ ยรู่ าศพี ฤกษ์เมอ่ื ใด เมอ่ื นนั้ เป็นเวลาตามประทปี และเมอ่ื บชู าไวค้ รบกาํ หนดวนั แลว้ กเ็ อาโคมไฟนนั้ ไปลอยน้ําเสยี ต่อมาชาวพทุ ธเหน็เป็นเรอ่ื งดี จงึ แปลงเป็นการบชู ารอยพระพทุ ธบาทและการรบั เสดจ็ พระพทุ ธเจา้ ดงั ทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ โดยมกั ถอื เอาเดอื น ๑๒ หรอื เดอื นยเ่ี ป็งเป็นเกณฑ์ (ยเ่ี ป็งคอื เดอื นสอง ตามการนบั ทางลา้ นนา ทน่ี บั เดอื นทางจนั ทรคติ เรว็ กวา่ ภาคกลาง ๒ เดอื น)จากเรอ่ื งขา้ งตน้ เราจะเหน็ ไดว้ า่ การลอยกระทง สว่ นใหญ่จะเป็นการแสดงความกตญั รู ะลกึ ถงึ ผมู้ ีพระคณุ ต่อมนุษย์ เชน่ พระพทุ ธเจา้ เทพเจา้ พระแมค่ งคา และบรรพชน เป็นตน้ และแสดงความกตเวที(ตอบแทนคณุ ) ดว้ ยการเคารพบชู าดว้ ยเครอ่ื งสกั การะต่างๆ โดยเฉพาะการบชู าพระพทุ ธเจา้ หรอื รอยพระพทุ ธบาท ถอื ไดว้ า่ เป็นคตธิ รรมอยา่ งหน่ึง ทบ่ี อกเป็นนยั ใหพ้ ทุ ธศาสนิกชนไดเ้ จรญิ รอยตามพระบาทของพระพทุ ธองค์ ซง่ึ เป็นสญั ลกั ษณ์แหง่ ความดงี ามทงั้ ปวงนนั่ เองประเพณลี อยกระทง นอกจากจะเป็นประเพณที ม่ี คี ุณคา่ ในเรอ่ื งการแสดงออกถงึ ความกตญั กู ตเวทตี ่อผู้มพี ระคุณดงั ทก่ี ลา่ วมาแลว้ ประเพณนี ้ียงั มคี ณุ คา่ ต่อครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และศาสานาดว้ ย เชน่ ทาํใหส้ มาชกิ ในครอบครวั ไดใ้ ชเ้ วลารว่ มกนั ทาํ ใหช้ มุ ชนไดร้ ว่ มมอื รว่ มใจกนั จดั งาน หรอื ในบางทอ้ งทท่ี ม่ี ีการทาํ บุญกถ็ อื วา่ มสี ว่ นชว่ ยสบื ทอดพระศาสนา และในหลายๆแหง่ กถ็ อื เป็นโอกาสดใี นการรณรงค์อนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มในแมน่ ้ําลาํ คลองไปดว้ ย
ทงั้ หมดทก่ี ลา่ วมาคงจะทาํ ใหท้ า่ นไดร้ จู้ กั คณุ คา่ สาระและเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั “ประเพณลี อยกระทง” มากขน้ึและหวงั วา่ “ลอยกระทง” ปีน้ี นอกจากความสนุกสนานแลว้ คงจะมคี วามหมายแกท่ า่ นทงั้ หลายเพมิ่ ขน้ึดว้ ย ที่มา : อมรรตั น์ เทพกาํ ปนาท กล่มุ ประชาสมั พนั ธ์ สาํ นักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ กระทรวงวฒั นธรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: