Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1

หน่วยที่ 1

Published by phisitphaophanyonk, 2023-06-30 07:48:09

Description: ทฤษฎีพื้นฐานไฟฟ้า

Search

Read the Text Version

งานไฟฟ้ารถยนต์เบื้องต้น หน่วยที่ 1 ทฤษฎีพื้นฐานไฟฟ้า

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 สอนครงั้ ที่ 1 เร่อื ง ทฤษฎพี ื้นฐานไฟฟา้

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 เวลาเรยี นรวม 90 ชั่วโมง สอนคร้ังท่ี 1 ชอื่ วชิ า งานไฟฟา้ รถยนต์เบอื้ งต้น ช่ือหนว่ ย ทฤษฎพี ืน้ ฐานไฟฟา้ ชื่อเรอ่ื ง ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ จานวน 5 ชัว่ โมง หัวข้อเรื่อง 1. การกาเนดิ ไฟฟ้า 2. การเคลอื่ นที่ของอเิ ลก็ ตรอน 3. ตวั นาไฟฟ้า ฉนวน และวสั ดกุ ่งึ ตัวนา 4. ทฤษฎีการไหลของกระแสไฟฟ้า 5. ชนิดของไฟฟา้ 6. ปริมาณทางไฟฟา้ 7. กฎของโอห์ม 8. วงจรไฟฟ้า 9. กาลงั ไฟฟา้ 10. แม่เหล็กสาระสาคัญ การศึกษาวิชาไฟฟ้ารถยนต์เบอ้ื งต้นให้เกิดความรู้ความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง จาเป็นต้องศกึ ษาทฤษฎไี ฟฟ้าเบื้องต้นเพอ่ื ให้ เกิดความเข้าใจพ้ืนฐานดา้ นวิธีการกาเนดิ การนาไฟฟ้ามาใช้งาน ชนิดของไฟฟา้ การอ่านคา่ และการคานวณค่าต่างๆทางไฟฟา้ สมรรถนะหลัก (สมรรถนะประจำหน่วย) แสดงความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั หลกั การพ้ืนฐานไฟฟา้ สมรรถนะยอ่ ย (สมรรถนะการเรยี นรู้) สมรรถนะท่วั ไป (ทฤษฏ)ี 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับการกาเนดิ ไฟฟา้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกับการเคลอื่ นทข่ี องอิเลก็ ตรอน 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกับตัวนาไฟฟา้ ฉนวน และวัสดกุ ึ่งตัวนา 4. แสดงความรเู้ ก่ียวกบั ทฤษฎกี ารไหลของกระแสไฟฟ้า 5. แสดงความรเู้ กย่ี วกับชนิดของไฟฟ้า 6. แสดงความรเู้ กย่ี วกับปรมิ าณทางไฟฟ้า 7. แสดงความรเู้ กย่ี วกับกฎของโอหม์ สมรรถนะที่พึงประสงค์ (ทฤษฏ)ี เมือ่ ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาเนื้อหาในบทนีแ้ ล้ว ผ้เู รียนสามารถ 1. อธิบายหลกั การกาเนิดกระแสไฟฟา้ ได้ถกู ตอ้ ง 2. อธิบายทฤษฎีการเคลอื่ นที่ของอิเลก็ ตรอนไดถ้ กู ต้อง 3. อธบิ ายคณุ สมบัตขิ องตัวนาไฟฟ้า ฉนวนและสารกงึ่ ตัวนาไดถ้ ูกตอ้ ง 4. อธิบายทฤษฎีการไหลของกระแสไฟฟ้าได้ถูกต้อง 5. อธิบายชนดิ ของไฟฟ้าได้ถูกตอ้ ง 6. อธิบายคณุ สมบัตขิ องกระแสไฟฟา้ แรงเคล่ือนไฟฟา้ และความตา้ นทานได้ถกู ต้อง 7. บอกนิยามกฎของโอหม์ ไดถ้ กู ต้อง

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 เวลาเรียนรวม 90 ช่ัวโมง สอนครั้งที่ 1 ช่อื วชิ า งานไฟฟ้ารถยนต์เบอื้ งต้น ช่อื หนว่ ย ทฤษฎีพน้ื ฐานไฟฟ้า ช่ือเร่ือง ทฤษฎพี ้ืนฐานไฟฟา้ จานวน 5 ช่วั โมง สมรรถนะทว่ั ไป (ปฏิบัต)ิ 1. แสดงทกั ษะในการต่อวงจรไฟฟา้ 2. แสดงทกั ษะในการคานวณกาลงั ไฟฟา้ 3. แสดงทักษะในการเหนยี่ วนาแมเ่ หล็กไฟฟา้ สมรรถนะทพ่ี ึงประสงค์ (ปฏบิ ตั )ิ เมือ่ ผู้เรยี นไดศ้ ึกษาเนือ้ หาในบทนแ้ี ล้ว ผเู้ รยี นสามารถ 1. สามารถต่อวงจรไฟฟา้ ได้ถกู ต้อง 2. สามารถคานวณกาลังไฟฟา้ ไดถ้ กู ตอ้ ง 3. เขียนหลักการเหนยี่ วนาของแมเ่ หล็กไฟฟา้ ไดถ้ กู ต้อง ในการจดั การเรียนการสอนรายวชิ าไฟฟา้ รถยนตเ์ บอ้ื งต้น ได้กาหนดกิจกรรมการเรยี นการสอนใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้ โดยใชว้ ธิ กี ารจดั การเรียนรู้ฐานสมรรถนะเชิงรกุ (Active Learning Competency Based) ด้านเทคนิคการจดั การเรียนการ สอนแบบ MAIP โดยมขี น้ั ตอนในการดาเนินกจิ กรรมการเรยี นการสอน ดังน้ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน (สอนครัง้ ท่ี 1 ) เวลา 5 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 1. ผสู้ อนช้ีแจงรายละเอยี ดเกย่ี วกบั จดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ า การวดั และ ประเมินผลการเรียนรายวชิ า คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของรายวิชา และข้อตกลงในการจัดการเรยี นการสอนใน รายวชิ า 2. ผสู้ อนแสดงตัวอยา่ งเก่ียวกบั ทฤษฎพี ้นื ฐานไฟฟ้า 3. ผสู้ อนถา่ ยทอดความรูใ้ นหน่วยที่ 1 เร่อื ง ทฤษฎีพื้นฐานไฟฟา้ 4. นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด 5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยแบบฝกึ หดั และรว่ มอภปิ รายสรปุ บทเรียน 6. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 1 ส่ือการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. เอกสารประกอบการเรียน 3. ส่อื นาเสนอ PowerPoint งานทม่ี อบหมาย/กิจกรรม ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยการเรียนที่ 1

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เวลาเรยี นรวม 90 ช่วั โมง สอนคร้ังที่ 1 ชอื่ วิชา งานไฟฟา้ รถยนต์เบื้องต้น ชอ่ื หนว่ ย ทฤษฎีพื้นฐานไฟฟ้า จานวน 5 ชั่วโมง ช่ือเร่ือง ทฤษฎพี น้ื ฐานไฟฟา้ การวดั และประเมินผล วัดผล/ประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ 1.สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ - ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 - ทาแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะท้าย - แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะท้าย 2.คณุ ลกั ษณะอันพึง - ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 80 ประสงค์ (Attitude) หนว่ ย หนว่ ย - ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ประสงค์ อันพึงประสงค์

รหัสวิชา 30101-0004 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1 หน่วยท่ี 1 ช่อื วิชา งานไฟฟ้ารถยนต์เบ้อื งต้น ชือ่ หน่วย หลักการไฟฟ้าเบือ้ งต้น หน่วยที่ 1 หลักการไฟฟ้าเบือ้ งต้น จานวน 5 ช่วั โมง คาสั่ง จงทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ขอ้ ที่ถูกทสี่ ุด 1. อนุภาคท่โี คจรรอบ ๆ ศูนยก์ ลางของอะตอมคือข้อใด ก. อเิ ลก็ ตรอน ข. โมเลกลุ ค. นิวเคลียส ง. โปรตอน จ.อะตอม 2. ข้อใด ไมใ่ ช่ ส่ิงท่ีทาให้อิเลก็ ตรอนไหลอสิ ระเพ่ือให้เกดิ ผลของกระแสไฟฟา้ ก. แรงโน้มถ่วง ข. ความร้อน ค. แสงสว่าง ง. ความดัน จ.ปฏิกริ ยิ าเคมี 3. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ ง ก. กระแสอเิ ล็กตรอนอสิ ระจะอยใู่ นรูปของแรงเคล่ือนไฟฟ้า ข. ถา้ อิเล็กตรอนอสิ ระแยกตวั ออกจากอะตอม จะเกดิ การไหลของกระแสไฟฟ้า ค. การไหลของกระแสไฟฟ้าจะเรมิ่ ต้นขน้ึ จากการเคล่ือนที่ของอเิ ล็กตรอนอสิ ระทไี่ หลผา่ นภาระ ง. ถ้าการถา่ ยเทของอเิ ล็กตรอนอสิ ระมาก ทาใหก้ ารถา่ ยเทของกระแสไฟฟ้าจะมากขน้ึ จ. กระแสไฟฟ้าเกิดข้นึ จากความแตกต่างของกาลังดันไฟฟา้ จากศักยไ์ ฟฟา้ สูงไปยังศกั ย์ไฟฟา้ ตา่ 4. สภาวะทเ่ี กดิ ขึน้ คลา้ ยแรงเสยี ดทานของกระแสไฟฟ้าท่ไี หลผ่านวตั ถุ คอื ขอ้ ใด ก. กาลงั ข. กระแสไฟฟ้า ค. แรงเคล่ือนไฟฟา้ ง. ความต้านทาน จ. แม่เหลก็ ไฟฟ้า

รหสั วิชา 30101-0004 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1 หนว่ ยที่ 1 ชื่อวชิ า งานไฟฟ้ารถยนตเ์ บอ้ื งตน้ ชื่อหนว่ ย หลกั การไฟฟา้ เบอ้ื งตน้ หน่วยที่ 1 หลกั การไฟฟา้ เบอ้ื งตน้ จานวน 5 ช่วั โมง คาสงั่ จงทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงหน้าข้อทีถ่ กู ทสี่ ุด 5. วสั ดุทม่ี ีจานวนอิเลก็ ตรอน 1-3 อนุภาคในวงแหวนรอบนอกของอะตอม คอื ข้อใด ก. สสาร ข. ฉนวน ค. สารก่งึ ตัวนา ง. ตวั นา จ. ใยแก้วนาแสง 6. ไฟฟ้ากระแสแบ่งเป็นก่ีชนดิ ก. 1 ชนดิ ข. 2 ชนดิ ค. 3 ชนิด ง. 4 ชนิด จ. 5 ชนิด 7. สภาวะใดกลา่ วถกู ต้องเกีย่ วกับการไหลของกระแสไฟฟา้ ก. ไฟฟ้ากระแสสลบั จะสามารถเกบ็ ทแ่ี บตเตอรไี่ ด้ ข. ไฟฟ้ากระแสตรงจะเปลยี่ นทิศทางจากบวกไปลบ ค. ไฟฟา้ กระแสตรงจะมที ศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟา้ ในทิศทางเดยี วกัน ง. กระแสไฟฟ้าเกิดจากการเคล่ือนท่ขี องโปรตอนที่ไหลผา่ นตวั นา จ. กระแสไฟฟา้ ท่ีใชใ้ นโรงงานอุตสาหกรรมเปน็ ไฟฟ้ากระแสตรง 8. ทฤษฎีอิเลก็ ตรอนของการไหลกระแสไฟฟา้ มที ิศทางการไหลตามขอ้ ใด ก. สุม่ การไหล ข. บวกไปลบ ค. ลบไปบวก ง. ศักยต์ า่ ไปยงั พื้นท่ีไม่มีความตา่ งศักย์ จ. เกิดขึ้นท่ี 60 รอบตอ่ วินาที

รหัสวชิ า 30101-0004 แบบทดสอบหน่วยท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 ชื่อวชิ า งานไฟฟ้ารถยนตเ์ บอื้ งตน้ ชื่อหนว่ ย หลักการไฟฟา้ เบอื้ งต้น หน่วยที่ 1 หลกั การไฟฟา้ เบ้อื งต้น จานวน 5 ชวั่ โมง คาส่งั จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ข้อทถ่ี กู ทสี่ ุด 9. แรงท่ีทาใหเ้ กิดการขบั อิเล็กตรอนให้ไหลผ่านตวั นาจากความต่างศักย์ไฟฟ้า เรยี กว่าอะไร ก. กาลงั งาน ข. กระแสไฟฟา้ ค. แรงเคล่อื นไฟฟา้ ง. ความตา้ นทาน จ. แรงขับแมเ่ หลก็ 10. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ งเกีย่ วกบั แรงเคลือ่ นไฟฟ้า ก. ในวงจรอนุกรม แรงเคล่อื นไฟฟ้าจะเท่ากันทกุ จดุ ในวงจร ข. แรงเคลอื่ นไฟฟา้ คือกระแสไฟฟา้ (A) คูณความตา้ นทาน (R) ค. แรงเคลือ่ นไฟฟ้าคือกาลังดันไฟฟา้ เปน็ เหตใุ ห้อเิ ลก็ ตรอนเคล่ือนท่ี ง. แรงเคลือ่ นไฟฟา้ จะเกิดขึน้ ระหว่างจุดใด ๆ ในวงจร ยกเว้นความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้าตกคร่อมเปน็ ศนู ย์ จ. ในวงจรขนาน แรงเคลือ่ นไฟฟา้ ตกคร่อมผา่ นภาระแตล่ ะตัวจะเทา่ กนั เพราะแหล่งจ่ายแตล่ ะสาขาเทา่ กัน 11. ข้อใดเป็นคณุ สมบตั ทิ ไี่ มม่ ีผลตอ่ ความตา้ นทาน ก. ขนาดพ้นื ที่หนา้ ตดั ของตวั นา ข. อณุ หภูมิของตัวนา ค. โครงสรา้ งอะตอมของตวั นา ง. ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟา้ ในตวั นา จ. ความยาวของตัวนา 12. การเคล่ือนที่ของอิเลก็ ตรอนอสิ ระทไ่ี หลผ่านตวั นาซึ่งถกู ผลกั โดยแรงเคลอ่ื นไฟฟ้า คือข้อใด ก. กาลังไฟฟา้ ข. กระแสไฟฟา้ ค. แรงเคลอื่ นไฟฟ้า ง. ความตา้ นทาน จ. แม่เหลก็ ไฟฟ้า

รหัสวชิ า 30101-0004 แบบทดสอบหน่วยที่ 1 หนว่ ยท่ี 1 ชื่อวชิ า งานไฟฟา้ รถยนตเ์ บ้ืองต้น ช่อื หน่วย หลกั การไฟฟ้าเบอื้ งต้น หนว่ ยที่ 1 หลักการไฟฟ้าเบือ้ งตน้ จานวน 5 ชัว่ โมง คาส่ัง จงทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ข้อท่ีถกู ทส่ี ุด 13. สภาวะต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ ง ก. ถ้าวงจรเปิด จะไม่ยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ น ข. ถา้ แรงเคลอ่ื นเพิ่มขึ้น แอมแปรจ์ ะเพ่ิมขนึ้ ค. กฎของโอห์มเขยี นเปน็ สูตรทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ I = VR ง. ถ้าความต้านทานเพม่ิ ขนึ้ และแรงเคลอ่ื นมคี า่ คงที่ แอมแปร์จะเพ่มิ ขึ้น จ. ความตา้ นทานรวมเพิ่มขน้ึ กระแสไฟฟา้ ทีไ่ หลในวงจรจะลดลง 14. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ลกั ษณะสาคัญของวงจรอนกุ รมไดถ้ ูกต้อง ก. กระแสไฟฟ้าท่ีเพ่ิมขนึ้ วงจรจะมีความตา้ นทานมากขน้ึ ข. ความต้านทานรวมคือผลรวมของความตา้ นทานในวงจร ค. กระแสไฟฟ้าที่น้อยกวา่ ไม่มีผลตอ่ การทางานของภาระไฟฟา้ ง. กระแสไฟฟ้าสลบั จะผลติ แรงเคล่อื นไฟฟ้า ซึง่ กระแสไฟฟา้ มคี า่ คงทแี่ ละไหลในทิศทางเดยี วกัน จ. ผลรวมของแรงเคลื่อนไฟฟ้าทีต่ กคร่อมในวงจรแตล่ ะตัว มคี า่ เทา่ กบั แรงเคลอ่ื นไฟฟ้าทีแ่ หล่งจ่าย 15. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ลกั ษณะสาคญั ของวงจรขนานไดถ้ กู ตอ้ ง ก. กระแสไฟฟ้าไหลไปท่กี ราวดเ์ ทา่ น้นั ข. กระแสไฟฟา้ มคี า่ เทา่ กันในทุกชนิ้ ส่วนของวงจร ค. ความตา้ นทานในวงจรจะลดลงตามอุปกรณ์ทตี่ ่อขนาน ง. กระแสไฟฟ้าทง้ั หมดท่ไี หลในวงจรมคี ่าเท่ากับกระแสไฟฟ้าทไี่ หลในสาขาใด สาขาหนึ่ง จ. ถา้ เปดิ วงจรสาขาเดยี ว จะสง่ ผลต่อภาระในสาขาเดยี วเทา่ น้ัน สว่ นสาขาอ่นื จะทางานได้ปกติ

แบบฝึ กหดั หน่วยที่ 1 หน่วยที่ 1 รหัสวชิ า 30101-0004 ชือ่ วิชา งานไฟฟา้ รถยนตเ์ บอื้ งตน้ หน่วยท่ี 1 ชือ่ หน่วย ทฤษฎพี นื้ ฐานไฟฟา้ ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ จานวน 5 ช่ัวโมง ตอนที่ 1 จงเตมิ คาตอบลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง 1. สสาร โมเลกลุ อะตอมนวิ เคลยี ส 2. อะตอมผลติ ขนึ้ จากสว่ นประกอบของอนภุ าคทงั้ สาม ประกอบดว้ ย 3. อนภุ าคในอะตอมทเ่ี พม่ิ การไหลของกระแส คือ 4. เป็นอนภุ าคประจลุ บ นิวเคลยี สประกอบดว้ ยอนภุ าคประจบุ วก เรยี กวา่ และอนภุ าคท่ีไมม่ ีการประจเุ รยี กวา่ 5. ถา้ เปรยี บเทียบตวั นาไฟฟา้ ทีม่ ขี นาดเลก็ กบั ตวั นาไฟฟา้ ท่มี ีขนาดใหญ่ ตวั นาใดที่นาไฟฟา้ ไดด้ ีกวา่ กนั . 6. ถา้ เปรยี บเทียบตวั นาไฟฟ้าท่ีมีความหนาเทา่ กนั 2 ชนิด แตส่ ายไฟชนดิ หนง่ึ มีความยาวสนั้ อีกชนดิ หนง่ึ มี ความยาวมากกวา่ สภาวะใดท่ีนาไฟฟ้าไดด้ ีกวา่ กนั ถา้ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น 7. ยอมใหก้ ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นไดง้ ่าย และ ไมย่ อมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ น 8. ชนดิ ของไฟฟา้ แบง่ เป็น ชนิด คอื 9. การเคล่ือนท่ีของอิเล็กตรอนอิสระจะไหลจากบวกไปยงั ลบ เรียกทฤษฎีนีว้ ่า 10. การเคล่ือนท่ีของอิเลก็ ตรอนอสิ ระจะไหลจากลบไปยงั บวก เรียกทฤษฎีนีว้ ่า 11. อเิ ลก็ ตรอนอสิ ระท่ีเคล่ือนท่ีไปในทิศทางเดียวกนั 12. อเิ ล็กตรอนอสิ ระท่ีเคล่ือนท่ีเปล่ียนทิศทางกลบั ไปมา และมีอตั ราคงท่ี เรียกวา่ 13. ความตา้ นทานจะ การไหลของกระแสไฟฟา้ วดั ออกมาในหนว่ ย 14. หมายถงึ กาลงั ดนั ไฟฟ้า

แบบฝึ กหดั หน่วยที่ 1 หน่วยท่ี 1 รหัสวชิ า 30101-0004 ชื่อวิชา งานไฟฟา้ รถยนตเ์ บอื้ งตน้ หน่วยท่ี 1 ชอื่ หน่วย ทฤษฎพี นื้ ฐานไฟฟา้ ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ จานวน 5 ช่ัวโมง ตอนท่ี 2 จงเตมิ คาตอบลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง 1. จงอธิบายกฎของโอหม์ . 2. จงเขยี นรูปและสตู รทางคณิตศาสตรต์ ามกฎของโอหม์ . 3. จงอธิบายคณุ สมบตั ขิ องวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม แบบขนาน และแบบผสมอนกุ รม–ขนาน . . . 4. จากรูป จงคานวณหาคา่ ความตา้ นทานรวม กระแสไฟฟา้ และแรงเคลอื่ นไฟฟา้ ตกครอ่ มแตล่ ะจดุ ใน วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม . . . . . . .

เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 1 หน่วยที่ 1 รหสั วชิ า 30101-0004 ชอ่ื วิชา งานไฟฟา้ รถยนตเ์ บอื้ งตน้ หน่วยที่ 1 ช่ือหน่วย ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ จานวน 5 ช่วั โมง ตอนท่ี 1 จงเตมิ คาตอบลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง 1. สสาร โมเลกลุ อะตอม อะตอมนิวเคลยี ส โปรตรอน อิเลก็ ตรอน นิวตรอน 2. อะตอมผลติ ขนึ้ จากสว่ นประกอบของอนภุ าคทงั้ สาม ประกอบดว้ ย โปรตรอน นวิ ตรอน และอิเลก็ ตรอน 3. อนภุ าคในอะตอมทเี่ พม่ิ การไหลของกระแส คอื อิเลก็ ตรอน 4. อเิ ลก็ ตรอน เป็นอนภุ าคประจลุ บ นวิ เคลยี สประกอบดว้ ยอนภุ าคประจบุ วก เรยี กวา่ โปรตรอน และอนภุ าคทีไ่ มม่ กี ารประจเุ รยี กวา่ นวิ ตรอน 5. ถา้ เปรยี บเทียบตวั นาไฟฟา้ ทม่ี ีขนาดเลก็ กบั ตวั นาไฟฟา้ ทีม่ ีขนาดใหญ่ ตวั นาใดท่นี าไฟฟา้ ไดด้ กี วา่ กนั ตวั นาไฟฟา้ ทม่ี ขี นาดใหญ่ 6. ถา้ เปรยี บเทียบตวั นาไฟฟ้าท่ีมีความหนาเทา่ กนั 2 ชนิด แตส่ ายไฟชนิดหน่งึ มีความยาวสนั้ อีกชนิดหน่งึ มี ความยาวมากกวา่ สภาวะใดท่ีนาไฟฟา้ ไดด้ ีกวา่ กนั ถา้ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ น สายไฟขนาดความยาวสนั้ 7. ตวั นา ยอมใหก้ ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นไดง้ า่ ย และ ฉนวน ไมย่ อมใหก้ ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ น 8. ชนดิ ของไฟฟา้ แบง่ เป็น 2 ชนิด คือ ไฟฟา้ สถิตและไฟฟ้ากระแส 9. การเคล่ือนท่ีของอเิ ล็กตรอนอสิ ระจะไหลจากบวกไปยงั ลบ เรยี กทฤษฎีนีว้ ่า ทฤษฎีดงั้ เดมิ 10. การเคล่ือนท่ีของอิเลก็ ตรอนอสิ ระจะไหลจากลบไปยงั บวก เรยี กทฤษฎีนีว้ า่ ทฤษฎีอเิ ลก็ ตรอน 11. อเิ ลก็ ตรอนอสิ ระท่ีเคล่ือนท่ีไปในทิศทางเดียวกนั เรียกวา่ ไฟฟา้ กระแสตรง 12. อิเลก็ ตรอนอสิ ระท่ีเคล่ือนท่ีเปล่ียนทิศทางกลบั ไปมา และมีอตั ราคงท่ี เรียกวา่ ไฟฟา้ กระแสสลบั 13. ความตา้ นทานจะ ตา้ นทาน การไหลของกระแสไฟฟ้า วดั ออกมาในหนว่ ย โอหม์ 14. แรงเคล่ือนไฟฟา้ หมายถึง กาลงั ดนั ไฟฟ้า

เฉลยแบบฝึ กหัดหน่วยท่ี 1 หน่วยท่ี 1 รหสั วิชา 30101-0004 ชื่อวิชา งานไฟฟา้ รถยนตเ์ บอื้ งตน้ หน่วยท่ี 1 ชือ่ หน่วย ทฤษฎพี นื้ ฐานไฟฟา้ ทฤษฎพี นื้ ฐานไฟฟา้ จานวน 5 ช่วั โมง ตอนที่ 2 จงตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ตอ้ ง 1. จงอธิบายกฎของโอหม์ ตอบ ปรมิ าณของกระแสในวงจรจะมีสดั สว่ นโดยตรงกบั แรงเคลอ่ื นไฟฟา้ และมีปฏภิ าคกลบั กนั กบั ความตา้ นทานไฟฟา้ กลา่ วคือแรงเคลื่อนไฟฟ้าเพิ่มขึน้ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านจะเพิ่มขึน้ และความตา้ นทานที่เปล่ียนแปลงกระแสไฟฟ้าจะ ลดลง 2. จงเขียนรูปและสตู รทางคณิตศาสตรต์ ามกฎของโอหม์ ตอบ I คือ กระแสไฟฟ้า (A) R คือ ความตา้ นทาน (Ω) E คือ แรงเคลื่อนไฟฟ้า (V) E=IxR 3. จงอธิบายคณุ สมบตั ิของวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม แบบขนาน และแบบผสมอนกุ รม–ขนาน ตอบ 3.1 คณุ สมบตั ิของวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม มีลกั ษณะสาคญั ดงั นี้ 1. กระแสไฟฟา้ จะมคี า่ เทา่ กนั ในทกุ สว่ นของวงจร 2. ผลรวมของความตา้ นทานแตล่ ะตวั มคี า่ เทา่ กบั ความตา้ นทานรวมในวงจร 3. ผลรวมของแรงเคลอ่ื นไฟฟา้ ทีต่ กครอ่ มในวงจรแตล่ ะตวั มคี า่ เทา่ กบั แรงเคลอื่ นไฟฟา้ ทีแ่ หลง่ จา่ ย 3.2 คณุ สมบตั ขิ องวงจรไฟฟา้ แบบขนาน มีลกั ษณะสาคญั ดงั นี้ 1. กระทงั้ หมดทไี่ หลในวงจรมีคา่ เทา่ กบั ผลรวมของกระแสแตล่ ะสาขา (เสน้ ทาง) 2. ถา้ เปิดวงจรสาขาเดียว จะสง่ ผลตอ่ ภาระในสาขาเดยี วเทา่ นนั้ สว่ นสาขาอื่น ๆ จะ ทางานไดป้ กติ 3. ความตา้ นทานแตล่ ะสาขา กาหนดโดยกระแสทไี่ หลผา่ นแตล่ ะสาขา

เฉลยแบบฝึ กหดั หน่วยท่ี 1 รหัสวิชา 30101-0004 ชอื่ วิชา งานไฟฟา้ รถยนตเ์ บอื้ งตน้ หน่วยที่ 1 ช่อื หน่วย ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ หน่วยท่ี 1 ทฤษฎีพนื้ ฐานไฟฟา้ จานวน 5 ช่วั โมง 4. ถา้ ความตา้ นทานสาขาเทา่ กนั กระแสทีส่ าขาจะมคี า่ เทา่ กนั ในทางกลบั กนั ถา้ ความตา้ นทานสาขาแตกตา่ งกนั กระแสในแตล่ ะสาขาจะแตกตา่ งกนั ดว้ ย 5. แรงเคลอ่ื นไฟฟา้ ตกครอ่ มผา่ นภาระแตล่ ะตวั จะเทา่ กนั เน่ืองจากแหลง่ จา่ ยทใ่ี ชแ้ ตล่ ะ สาขาเทา่ กนั 6. ความตา้ นทานรวมของวงจรจะมคี า่ นอ้ ยกวา่ คา่ ความตา้ นทานตวั ทม่ี ีคา่ นอ้ ยที่สดุ ในวงจร 3.3 คณุ สมบตั ขิ องวงจรไฟฟา้ แบบผสม มลี กั ษณะสาคญั ดงั นี้ 1. กระแสในสว่ นของวงจรอนกุ รมมคี า่ เทา่ กบั ผลรวมของกระแสในสาขาของวงจรแบบขนาน 2. ความตา้ นทานวงจร คอื ผลรวมของความตา้ นทานวงจรไฟฟา้ แบบขนานรวมกบั ความ ตา้ นทานในวงจรแบบอนกุ รม 4. จากรูป จงคานวณหาคา่ ความตา้ นทานรวม กระแสไฟฟา้ และแรงเคลอ่ื นไฟฟา้ ตกครอ่ มแตล่ ะจดุ ใน วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม R1 = 1Ω R2 = 2Ω R3 = Ω ER1 = ? ER2 = ? ER3 = ? 12 โวลต์ วิธีทา ความตา้ นทานรวมในวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม RT = R1 + R2+R3 = 1Ω +2Ω + 3 Ω =6Ω ตอบ ตอบ หากระแสไฟฟา้ รวมในวงจรจาก I= E ตอบ RT = 12v 6 =2A หาแรงเคลอ่ื นไฟฟา้ ตกครอ่ มแตล่ ะจดุ ในวงจรไฟฟา้ ER1 = I x R1 = 2 x 1 = 2 V ER2 = I x R2 = 2 x 2 = 4 V ER3 = I x R3 = 2 x 3 = 6 V






















































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook