Internet & Networking
หนาท่ีี่1 บทที่1 Internet & Networking ในบทนี้จะศึกษาเกี่ยวกับประโยชนของอินเตอรเน็ตที่นํามาประยุกตใชกับธุรกิจ ตางๆ มาตรฐานที่จําเปนในระบบเครือขายคอมพิวเตอรรูจักกับผูใหบริการอินเตอรเน็ต (Internet Service Provider) การทํางานของ Point Of Presence (POP) Internet Exchange Point (IEP) อุปกรณและหนาที่ของ ISP ในการเชื่อมตออินเตอรเน็ต หลักในการติดตอสื่อสาร และการติดตอสื่อสารในเครือข่ายท้องถิ่น 1.1 อิินเตอร์เน็ตคืออะไร (What is the Internet?) อิินเตอรเน็ต (Internet) มาจากคํําวา Inter และ Net มีีความหมายวา การติดตอสื่อสารระหวาง เครือขาย อิินเตอรเน็ตจัดไดวามีีการใชงานท่ัั่วไป อาจกลาวไดวามัันไดกลายเปนสวนหนึ่งในชีวิตประจําวัน การใชอิินเตอรเน็ตนั้น จําเปนท่ีี่จะตองมีีโครงสรางท่ีี่ชวยในการติอตอสื่อสาร หรือเชื่อมโยงขอมููลระหวาง เครือขายท่ีี่ เรียกวาเครือขายคอมพิิวเตอร ภาพขางลางแสดงการเชื่อมโยงของ เครือขายแบบงาย พรอมการประยุกตใช อิินเตอรเน็ตผานเครือขาย การใชงาน ของอิินเตอรเน็ตทางดานธุรกิิจนั้น สงผลใหการทํํางานของพนักงานไมได จํากััด แคภายในสํานักงานเทานั้น พนักงานสามารถทํํางานนอกสถานท่ีี่ เชนท่ีี่บาน ท่ีี่ Site งานของลูกคาหรือแมกระท่ัั่งในท่ีี่สาธารณะอ่ืื่นๆ โดยผานทางระบบเครือขาย แอพพลิเคชันตางๆก็็สามารถใชงานผานทางระบบเครือขายได ภาพท่ีี่1.1 แสดงตัวอยางการใชงานอิินเตอรเน็ตผา นระบบเครือขาย ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่2 ซ่ึึ่งแอพพลิเคชั่นเหลานี้นี่เองท่ีี่เปรียบเสมืือนเครื่องมืือท่ีี่ชวยในการทํํางาน และช่วยให ประหยัดงบประมาณในการเดิินทางและติดตอสื่อสารทางธุรกิิจ ตัวอยางเชน การประชุมของสํานักงานใหญและสํานักงานยอย ท่ีี่มีีท่ีี่ตั้งอยูใน ท่ีี่ตางๆหางไกลกัันนั้น สามารถใช Digital board และ VDO conference ซ่ึึ่งจะชวยลดคาใชจายในการเดินทาง เปนตน อีีกตัวอยางหนึ่งจะเปนการใช บริการคาขายโดยผานระบบเครือขาย เชนการสรางรานคาบนเวบไซตหรือ บนเฟสบุค การใชบริการประเภทนี้ชวยลดตนทุุนของสินคาแกผูจําหนาย ผูจําหนายไมตองเสียคาใชจายในการสรางรานคาในสวนของลูกคานั้นนอกจาก ไมตองเสียเวลาในการเดินทาง แลวยังสามารถสามารถดููรายละเอีียดของสินคา สามารถสั่งสินคาและชําระเงิินผานทางเวบไซตได อยางไรก็็ตามการใชบริการ เครือขายขางตนนั้น ถาไมมีีความรูความเขาใจท่ีี่เพีียงพออาจจะกอใหเกิิดการสูญ เสีย ในดานคาใชจาย และความไมปลอดภัยไดอัันเนื่องมาจากอุุปกรณท่ีี่ใช และอาชญากรรมได ภาพท่ีี่1.2 แสดงตัวอยางมาตรฐานในการผลิตอุุปกรณในระบบเครือขาย อุุปกรณหรือซอฟตแวรท่ีี่ใชในระบบเครือขายนั้นจําเปนท่ีี่จะตองผานการตรวจ เพ่ืื่อรับรองมาตรฐานการใชงานและเพ่ืื่อความปลอดภัยของผูใชงานเอง ตัวอยางมาตรฐานเชน International Organization for Standard (ISO) เปนมาตรฐานท่ีี่ยืนยันความสามารถของอุุปกรณการทํํางานไดระดับหนึ่ง ตามขอตกลงของอุุปกรณนั้น เชนเดียวกัับการใชงานแอพพลิเคชันอิิเล็คทรอนิกสเมล (Electronic-mail) หรือ อีีเมลลโปรแกรม ท่ีี่ใชงานอีีเมลยนั้นจะตองมีีการสงขอมููลผาน โปรโตคอล SMTP หรือ POP ตามมาตรฐาน RFC 5321 และRFC 5322 เปนตน ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่3 1.2 ผูู้ให้ บริการอิินเตอร์เน็ต (Internet Service Providers - ISPs) ผูใหบริการอิินเตอรเน็ตหมายถึึงบริษััทหรือหนวยงานท่ีี่ดําเนินการจัดการ ใหผูใชงานท่ัั่วไปสามารถใชบริการอิินเตอรเน็ตผานระบบเครือขายได โดยท่ีี่ผูใชงานจะตองเสียคาใชจายในการขอใชบริการนั้นๆ จากภาพ ขางลางแสดงตัวอยางการบริการ (Services) ท่ีี่ISPs เปดใหบริการ ภาพท่ีี่1.3 ตัวอยาง Services ท่ีี่ISPs เปดใหบ ริการ การใชบริการ Services ตางๆของ ISPs นั้นข้ึึ้นอยูกัับความตองการของ ผูใชงานและคาใชจายท่ีี่ผูใชงานสามารถจะรับได้โดยการใชบริการ Services ขางตนนั้นผูใชงานจําเปนท่ีี่จะตองเลือกการเชื่อมตอสัญญาณท่ีี่เหมาะสมกัับ Services ท่ีี่ใชงานดวย ซ่ึึ่งอาจจะมีีคาใชจายเพ่ิิ่มเติิมตามความเหมาะสมของการ เชื่อมตอสัญญาณ ตัวอยางการใหบริการเชื่อมตอสัญญาณของ ISPs แสดงใน ภาพท่ีี่ 1.4 และภาพท่ีี่ 1.5 การ เชื่อมตอสัญญาณระบบเครือขายระหวางท่ีี่พััก อาศััยกัับ ISPs นั้น ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่4 ภาพท่ีี่1.4 การให้ บริการการเชื่อมต่อสัญญาณของท่ีี่พัักอาศััย จะพบวามีีการเชื่อมตอสัญญาณแบบ Dial-Up Digital Subscriber Line (DSL) Cable และ Wireless ข้ึึ้นอยู กัับความพรอมของผูใชบริการ ภาพท่ีี่1.5 การใหบ ริการการเชื่อมตอสัญญาณสําหรับหนวยงานหรือองคก ร สวนการเชื่อมตอสัญญาณสําหรับหนวยงาน (ภาพท่ีี่ 1.5) นั้นโดยปกติจะข้ึึ้น อยูกัับขนาดของหนวยงานเปนหลัก ลักษณะการเชื่อมตอ(สัญลักษณ T1/E1 นั้น หมายถึึง Transmission System โดย T1 จะเปนชื่อท่ีี่ใชเรียกตามแบบของ ประเทศสหรัฐ สวน E1 จะเปนชื่อท่ีี่ใชเรียกมาตรฐานของ Europe) นอกจากนี้ ในกรณีีมีีการเชื่อมตอขาม ISP ก็็จะมีีโครงสรางการเชื่อมตอตามลําดับดังภาพท่ีี่1.6 ภาพท่ีี่1.6 ภาพแสดง Hierarchical structure of the Internet ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่5 1.3 การใช้งานเครือข่าย (Utilization of Network) 31 14 21 ภาพท่ีี่1.7 ภาพแสดงตัวอยา งการใชง านเครือขา ย การใชงานเครือขายในปจจุบันมีีหลายรูปแบบ ตัวอยางเชน • หมายเลข 1 แสดงการใชง าน Computer/ Data Network เปนการติดตอ สื่อสารระหวา งเครื่องคอมพิิวเตอรผานสายทองแดง สายไฟเบอรหรือการเชื่อม ตอ แบบไรสาย • หมายเลข 2 แสดงการใชง าน Telephone Network เปนการติดตอทาง โทรศััพทซ่ึึ่งใชส ายสัญญาณโทรศััพทเปนตัวเชื่อมการติดตอ • หมายเลข 3 แสดงการใชงาน Television Network เปนการ แสดงผลทางโทรทััศนโดยอาจจะใชการสงผานคลื่นในลักษณะ Broadcast หรือใชสัญญาณดาวเทีียม • หมายเลข 4 แสดงการใชงาน Mobile Phone Network เปนการ เชื่อมตอสัญญาณเสียงขอความหรืออิินเตอรเน็ตผานทางระบบ โทรศััพทมืือถืือ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่6 การเชื่อมตอขางตนนั้นเปน ลักษณะท่ีี่พบเห็นในการใชงานท่ัั่วๆ ไปคืือ มีีการ ระบุอุุปกรณและกํําหนด หนาท่ีี่การทํํางานของอุุปกรณแ ตละชนิดท่ีี่ชัดเจน มีีการเชื่อม ตอ ในลักษณะ Peer-To-Peer และมีีการทํํางาน แบบ Client/Server เบื้องหลังการ ใชง านนั้นสามารถแบง ไดเปนโครงสรางทางตรรกะ (Logical Topology) และทาง กายภาพ (Physical Topology) โดย Physical Topology แสดงการเชื่อมตอกััน ระหวางอุุปกรณตา งๆ ในระบบเครือขาย ในสว นของ Logical Topology นั้นแสดงวิธี การติดตอสื่อสารแตไ มแ สดงการเชื่อมตอ ซ่ึึ่งจะ ตรงขามกัับ Physical Topology ภาพท่ีี่1.8 ภาพแสดงตัวอยา ง Physical Topology ภาพท่ีี่1.9 ภาพแสดงตัวอยาง Logical Topology ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่7 1.4 ประเภทของเครือข่าย (Network Type) ประเภทของเครือขายก็็สามารถแบงไดหลายๆ แบบ ถาแบงตามลักษณะการ สื่อสารจะแบงเปน 2 ประเภทคืือ Client/Server และ Peer-To-Peer ภาพท่ีี่1.10 ภาพแสดงการเชื่อมตอแบบ Client/ Server Client/ Server เปนประเภทของเครือขายท่ีี่มีีเครื่องแมขาย (Server) ทํําหนาท่ีี่ใหบริการขอมููลตางๆตามท่ีี่เครื่องลูกขาย (Client) รองขอ เชนตัวอยาง ในภาพท่ีี่1.10 E-mail Server มีีmail server software รันอยูบนเครื่อง และ E-mail Client มีีmail client software ซ่ึึ่งจะเปดใชงานเม่ืื่อผูใชเปด ซอฟตแวรนั้นข้ึึ้น ซอฟตแวรนั้นจะสงคํํารองขอมาท่ีี่E-mail Server และแสดง ผลใหผูใช้เชนเดียวกัับ File Server มีีหนาท่ีี่ในการ เก็็บไฟลตาง และ จะสงมาใหกัับผูใชเม่ืื่อมีีการรองขอจาก File Access Client. ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่8 ภาพท่ีี่1.11 ภาพแสดงการเชื่อมตอ แบบ Peer-To-Peer Peer-To-Peer เปนประเภทเครือขายท่ีี่เชื่อมตอกัันระหวางอุุปกรณเครือขาย 2 อุุปกรณโดยตรง ไมซัับซอนและใชเฉพาะงานเทานั้น เชน ตัวอยางการเชื่อมตอ เพ่ืื่อแชรการใชงานพรินเตอรของ PC เปนตน การแบงประเภทของเครือขายโดยแบงตาม Topology จะแบงไดเปน 7 ประเภทคืือ Ring, Mesh, Star, Full, Connected, Line, Tree และ Bus ภาพท่ีี่1.12 ภาพแสดงประเภทเครือขายตาม Topology ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่9 การแบง ประเภทของเครือขา ยโดยแบง ตาม Service จะแบง ไดเปน 5 ประเภทคืือ Ethernet, Internet, Outernet, Intranet และ Extranet ภาพท่ีี่1.13 ภาพแสดงประเภทเครือขา ยตาม Service การแบงประเภทของเครือขายโดยแบงตาม Size จะแบงไดเปน 3 ประเภท คืือ Local Area Network (LAN), Metropolitan Area Network (MAN), และ Wide Area Network (WAN) ภาพท่ีี่1.14 ภาพแสดงประเภทเครือขา ยตามขนาด 1.5 หลัักการติดต่อส่ืื่อสาร (Principal of Communication) วัตถุุประสงคของการติดตอสื่อสาร คืือการแลกเปลี่ยนขอมููลระหวางผูสงและ ผูรับ ผานทางชองทางสื่อสารหรือภายใตขอตกลงรวมกััน ขอตกลงหรือกฎระเบียบนี้ เรียกวา โปรโตคอล (Protocol) การแลกเปลี่ยนขอมููลในการสื่อสารของมนุษยนั้น อาจจะเปนการพููดซ่ึึ่งถาเปนการพููดโดยใชภาษาเดียวกัันก็็สามารถเขาใจกัันได้ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่10 เชนเดียวกัับการสื่อสารทางคอมพิิวเตอร ถามีีการสื่อสารโดยใชโปรโตคอล เดียวกัันขอมููลท่ีี่ถููกสงก็็สามารถสง ถึึงกัันไดอยางถููกตองจากภาพท่ีี่ 15 โดยท่ัั่วไป การติดตอสื่อสารมีีองคประกอบอยู 3 สวนดวยกััน คืือ ภาพท่ีี่1.15 ภาพแสดงการจําลองติดตอ สื่อสารของมนุษยและการติดตอสื่สารของเครื่องคอมพิิวเตอร Message Source (Transmitter) Channel/Protocol (Medium) และ Message Destination (Receiver) ในระบบเครือขายขอมููลจากผูสงจะถููกเขารหัส (Encapsulate) กอนท่ีี่จะดําเนินการสง ซ่ึึ่งจะเปรียบไดกัับการใสจดหมายในซอง จดหมายนั่นเอง หลังจากนั้นขอมููลท่ีี่เขารหัสเรียบรอยแลวจะถููกสงผานสื่อหรือ โปรโตคอล ตางๆจนมาถึึงผูรับ เม่ืื่อถึึงมืือผูรับขอมููลดังกลาวตองถููกถอดรหัส (De-encapsulate) เพ่ืื่อท่ีี่ผูรับจะสามารถเขาใจไดสื่อหรือโปรโตคอลท่ีี่ขอมููลนี้ใชใน การเดินทางผานนั้นตองเปนท่ีี่ยอมรับท้ัั้งผูสงและผูรับดวย มิิเชนนั้น จะเกิิดขอผิด พลาดกัับขอมููลได ซ่ึึ่งโปรโตคอลมีีหนาท่ีี่ดังนี้ 1. ตรวจจับสัญญาณการเชื่อมตอทางกายภาพท้ัั้งของผูรับและผูสงตลอด จนโหนดตางๆระหวางการสงขอมููล 2. ดําเนินการเชื่อมตอระหวางโหนด 3. ตรวจสอบคุุณลักษณะของการเชื่อมตอ 4. บอกจุดเริ่มตนและจุดสิ้นสุดของขอมููล 5. แสดงรูปแบบของขอมููล ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่11 6. มีีแนวทางการแกไ ขขอมููลเม่ืื่อมีีขอผิดพลาดเกิิดข้ึึ้น 7. มีีการจัดการตอสิ่งตางๆท่ีี่ไมไดคาดหวัง เชน การเชื่อมตอเสียหาย เปนตน ตัวอยางการแบงขอมููลเพ่ืื่อสงตามรูปแบบของการติดตอสื่อสารทางคอมพิิวเตอร ภาพท่ีี่1.16 ภาพแสดงตัวอยางการแบง ขอมููลเพ่ืื่อสง ตามรูปแบบของการติดตอ สื่อสาร ทางคอมพิิวเตอร 1.6 การติดต่อส่ืื่อสารในเครือข่ายท้องถิ่น (Communication on Local Wired Network) การติดตอสื่อสารในเครือขายทองถ่ิิ่นนั้นเรียกวา “Ethernet” ซ่ึึ่งเปน โปรโตคอลท่ีี่ใชเรียกการเชื่อมตอผานทางสายสัญญาณภายในเครือขายทองถ่ิิ่น การออกแบบลําดับชั้นของ Ethernet ประกอบไปดวย Access Layer Distribution Layer และ Core Layer ดังภาพท่ีี่1.17 โดยท่ีี่Access Layer ประกอบดวยการทํํางาน ของ Hub และ Switch โดยมีีจุดมุุงหมายเปนการเชื่อมตอระหวาง โหนดกัับเครือขาย Distribution Layer เปนชั้นท่ีี่มีีการทํํางานของอุุปกรณเครือขายท่ีี่ชื่อวา Router ในชั้นนี้จะทํํางานในการคนหาเสนทางของเครือขาย แตละวงตามท่ีี่โหนดมีีการ รองขอ Core layer เปนชั้นท่ีี่เชื่อมตอระหวางเครือขายทองถ่ิิ่นกัับเครือขายภายนอก Core layer มีีชื่อเรียกอีีกอยางหนึ่งวา Backbone network ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่12 ภาพท่ีี่1.17 ภาพแสดง Layer ตางๆ ใน Local Wired Network ภาพท่ีี่1.18 ภาพแสดงหมายเลข MAC Address ใน Access Layer Media Access Control Address (MAC Address) จัดไดวามีีสวนสําคััญมากเพราะใชเปนหมายเลขท่ีี่ระบุโหนดเฉพาะในการสื่อสาร MAC Address นั้นเปนหมายเลขของ Network Interface Card (NIC) หรือ LAN Card ซ่ึึ่งจะมีีเพีียงหนึ่งหมายเลขไมซํ้ํ้ากัันมีีขนาด 64 บิต (ภาพท่ีี่1.18) การ ทํํางานของ MAC Address ใน Access Layer ดังแสดงในภาพท่ีี่1.19 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่13 ภาพท่ีี่1.19 ภาพแสดงการทํํางานของ MAC Address จากภาพ MAC Address ของเครื่องคอมพิิวเตอรแตละเครื่องจะเชื่อมตอกัับ Port ของ Hub ดังนั้นถา มีีการสงสัญญาณมาท่ีี่Hub เพ่ืื่อติดตอกัับเครื่องคอมพิิวเตอรใดก็็ตาม Hub จะสงขอมููลไปท่ีี่เครื่องคอมพิิวเตอร ทุุกๆเครื่องท่ีี่เชื่อมตอกัับ Hub นั้น เครื่องท่ีี่มีี MAC Address ตรงกัับในเฟรมก็็จะรับขอมููล สวนเครื่องอ่ืื่นๆก็็จะ discard ขอมููลนั้น ลักษณะของเฟรมขอมููลแสดงดังภาพท่ีี่1.20 ภาพท่ีี่1.20 ภาพแสดง Ethernet Frame • Preamble – ใชสําหรับ Synchronize timing • Start of Frame Delimiter (SFD) – เปน marker สําหรับจุดสิ้นสุดของ • timing information และ บงบอกจุดเริ่มตนของเฟรม • Destination MAC Address – แสดงหมายเลข MAC Address ปลายทาง (ผูรับ) ซ่ึึ่งอาจจะมีีลักษณะเปน Unicast Multicast หรือ Broadcast ก็็ได Source MAC Address – แสดงหมายเลข MAC Address ตนทาง (ผูสง) ซ่ึึ่งตองเปน Unicast เทานั้น ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่14 • Length/ Type – ขนาดของขอมููล (byte) และประเภทของขอมููล (Received • Protocol) Encapsulated Data – ขอมููลท่ีี่ผานการเขารหัส • Frame Check Sequence (FCS) – ขอมููลขนาด 4 ไบตสรางข้ึึ้นโดย Sender เพ่ืื่อใชตรวจสอบความเสียหายของเฟรม การทํํางานของ Hub ในภาพท่ีี่ 1.21 อาจกอใหเกิิดปรากฏการณท่ีี่เรียกวา Collision Domain เนื่องจากการ สงขอมููลกระจายไปทุุกๆ port ของ Hub วิธีการปองกัันสามารถ ทํําไดโดยใช Switch แทน Hub เพราะการใช Switch นั้นการสงขอมููลจะพิิจารณาท่ีี่ Destination Address ของเฟรม และสงขอมููลไปท่ีี่ Destination MAC นั้นโดยตรง จะไมมีีการสงกระจายไปทุุกๆ port ดังนั้น Switch จะชวยเพ่ิิ่มจํานวน Collision Domain โดยแตละ port ของ Switch นับไดวาเปน 1 Collision Domain จากภาพท่ีี่ 1.21 แสดง Collision Domain โดยท่ีี่ภาพทางซาย (ท่ีี่มีี Hub) จะมีีจํานวน Collision Domain เทากัับ 1 Collision Domain ในขณะท่ีี่ภาพ ทางขวา (ประกอบไปดวย Switch 2 ตัว) จะมีีจํานวน Collision Domain เทากัับ 10 Collision Domain ภาพท่ีี่ 1.21 ภาพแสดง Collision Domain Distribution layer มีี Router ทํําหนาท่ีี่ในการเชื่อมตอเครือขายยอ ยกัับเครืขายยอยภายในทองถ่ิิ่น เดียวกััน และทํําหนาท่ีี่ควบคุุมการการจราจรของ ขอมููลระหวางเครือขายยอยนั้น Router สามารถ decode ขอมููลในเฟรมเพ่ืื่อท่ีี่ จะอาน IP Address ตนทาง (ผูสง) และปลายทาง (ผูรับ) หลังจากนั้นจะพิิจารณา ความ เมาะสมของ Routing Table กอนท่ีี่จะสงขอมููลไปใหผูรับ โดยการทํํางานของ Router นั้นจะทํํางานเก่ีี่ยวของ กัับ IP Address ท่ีี่จะกลาวถึึงในบทเรียนนี้ IP Address คืือ IP Address Version 4 ซ่ึึ่งประกอบดวย เลขฐานสอง 32 บิต และ แบงเลขเหลานี้ออกเปน 4 กลุมเรียกแตละกลุมวา Octet แตละกลุมมีี 8 บิต ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่15 หมายเลข IP Address จัดวาเปน Logical Address คืือสามารถเปลี่ยนแปลงไดหลัง จากมีีการกํําหนดใหโหนด หรือ host ไปแลว ซ่ึึ่งจะแตกตางจาก MAC Address ซ่ึึ่ง จัดวาเปน Physical Address ไมสามารถเปลี่ยนแปลง ไดเม่ืื่อทํําการติดตั้ง card เรียบรอยแลว ภาพท่ีี่1.22 ภาพแสดงลักษณะของ IP Address IP Address ท่ีี่ใชใน Distribution layer นั้นเปน Network Address ซ่ึึ่ง จะใชในการสราง Routing Table (ดังภาพท่ีี่1.23) ในตารางนี้จะเก็็บเสนทางจาก Router ท่ีี่มีีตารางนี้อยูไปยังโหนดตางๆในเครือขาย ใน สวนของ Core Layer เปนหนาท่ีี่ของ ISPs ในการจัดการเชื่อมตอสายสัญญาณ ภาพท่ีี่1.23 ภาพแสดงลักษณะของ Routing Table ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่16 แบบฝกหััด บริษััท ABC Company ไดจัดซ้ืื้อเครื่องคอมพิิวเตอรจํานวน 90 เครื่อง คุุณ ไดรับมอบหมายใหดําเนินการ จัดการเครื่องคอมพิิวเตอรดังกลาวโดยอาจมีีการซ้ืื้ ออุุปกรณเพ่ิิ่มคืือ Hub หรือ Switch ตามความเหมาะสม ผูจัดการนั้นไมรูจักท้ัั้ง Hub และ Switch เพีียงแตทราบราคาวา Hub ถููกกวา Switch ในฐานะท่ีี่คุุณได รับผิดชอบงานดังกลาวคุุณจะตองแสดง Layout การวางเครื่องคอมพิิวเตอรท้ัั้งหมด พรอมอธิบายการทํํางาน ของอุุปกรณท่ีี่คุุณดําเนินการซ้ืื้อเพ่ิิ่ม (ในท่ีี่นี้คืือ Hub และ Switch) เอกสารอางอิิง สัลยุทธสวางวรรณ (2547), “CCNA 1 – Cisco Network Academy Program”, Pearson Education Indochina LTD. สัลยุทธสวางวรรณ (2547), “CCNA 2 – Cisco Network Academy Program”, Pearson Education Indochina LTD. Tanenbaurn, Andrew S. (2003), “Computer Network” Pearson Education, Inc William, S. (2004), “Computer Networking with Internet Protocol and Technology”, Pearson Prentice Hall. www.cisco.com ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่17 บทที่2 Open System Interconnection and Transmission Control Protocol/ Internet Protocol ในบทนี้จะศึึกษาเก่ีี่ยวกัับโมเดลโอเอสไอ (OSI) โมเดลทีีซีีพีีไอพีี (TCP/IP) ขอแตกตางระหวางท้ัั้งสองโมเดล อุุปกรณเบื้องตนท่ีี่ใชในระบบเครือขาย การทํํางานของโปรโตคอลตางๆในแตละเลเยอร และการสงขอมููล 2.1 Open System Interconnection (OSI) โมเดลโอเอสไอถููกสรางโดย International Organization for Standard (ISO) โดยมีีวัตถุุประสงคเพ่ืื่อลดความซัับซอนของการทํํางานของอุุปกรณอิินเตอรเฟส ท่ีี่ใชมีีมาตรฐานรองรับ สะดวกในการขยาย ขนาดของเครือขาย และรองรับ เทคโนโลยีในอนาคต นอกจากนี้แลววัตถุุประสงคหนึ่งของโมเดลโอเอสไอ คืือ การปองกัันการพััฒนาเครือขายในลักษณะท่ีี่เรียกวา Proprietary ซ่ึึ่งหมายความวา การสรางเครือขายท่ีี่ตองใช อุุปกรณตางๆจากแบรนดเดียวกัันท้ัั้งหมด ซ่ึึ่งจะเปน ประโยชนกัับผูพััฒนาเครือขาย โมเดลโอเอสไอ ประกอบดวย 7 เลเยอร์ แตละเลเยอรมีีหนาท่ีี่ดังตอไปนี้ ภาพท่ีี่2.1 ภาพแสดงโมเดลโอเอสไอท้ัั้ง 7 เลเยอร ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่18 • Application Layer มีีหนา ท่ีี่เปน ตัวเชื่อมตอ ระหวา งกระบวนการทาง เครือขา ยกัับผูใชง านผานทาง แอพพลิเคชัน หรืออาจกลาวไดวา เปน อิินเตอรเ ฟสสําหรับผูใชงานนั่นเอง เชน โปรแกรมเทลเน็ต (Telnet) และ โปรแกรมเอชทีีทีีพีี(HTTP) เปน ตน • Presentation Layer ทํําหนา ท่ีี่ในการจัดการขอ มููลใหอยูในรูปแบบท่ีี่เครื่อง คอมพิิวเตอรหรือซอฟตแ วรสามารถเขาไดเ ชน การเขา รหัส (Encode) ตัวอัักษรใหอ ยูในรูปรหัสแอสกีีเปน ตน • Session Layer ทํําหนาท่ีี่แยกขอมููลตามลักษณะของแอพพลิเคชันท่ีี่ใช • Transport layer ทํําหนาท่ีี่ในการเชื่อมตอระหวางโหนดกัับโหนด มีีการสงขอมููลและการตรวจเช็คขอมููลหลังจากสง ถาขอมููลมีีขอผิดพลาดระหวางสง สามารถทํําการรองขอใหสงใหมอีีกครั้ง • Network Layer ทํําหนาท่ีี่ในการคนหาเสนทางท่ีี่ดีท่ีี่สุด • เพ่ืื่อใชในการสงขอมููล Data Link layer ทํําหนาท่ีี่เชื่อมตอ กัับสื่อท่ีี่ใชใ นการสงขอ มููล • โดยใชMAC Address Physical Layer ทํําหนา ท่ีี่แปลงขอมููลท่ีี่เปน ไบนารีใหอ ยูใน รูปสัญญาณ ไฟฟา เพ่ืื่อใชสําหรับสง ขอมููล นอกจากหนาท่ีี่ดังกลาวแลวยังสามารถแบงเปน 2 สวนคืือ (1) Upper layer ซ่ึึ่งเปนการทํํางานในสวน ของการพััฒนาโปรแกรม การควบคุุมการทํํางานผานทาง Software และการ configure ตางๆ สวนใหญจะ เปนการทํํางานของโปรแกรม เมอรและผูดูแลระบบ ในสวนของ (2) Lower layer นั้นจะทํํางานเก่ีี่ยวกัับ ฮารดแวรและการสื่อสารของขอมููล ซ่ึึ่งอยูในผูประกอบอาชีพวิศวกรเครือขาย โมเดล โอเอสไอจัดไดวาเปน Reference Model เนื่องจากเปนโมเดลซ่ึึ่งจําลองข้ึึ้นเพ่ืื่ อชวยใหการรอธิบายความแตกตางของการทํํางาน ตางๆ ในแตละเลอเยอรและการ อธิบายกระบวนการทํํางานของโปรโตคอล มีีความเขาใจมากข้ึึ้น นอกจากนี้ยัง เปน โมเดลท่ีี่อํํานวยความสะดวกใหกัับวิศวกรเครือขายหรือผูดูแลระบบ ในการดําเนินการ ออกแบบระบบ เครือขาย การจัดการเครือขายและ Trouble shooting เครือขาย ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่19 2.2 Transmission Control Protocol/ Internet Protocol (TCP/IP) โมเดลทีีซีีพีี/ไอพีีเปน Protocol Model เพราะวาโมเดลทีีซีีพีี/ไอพีี จะอธิบายการทํํางานท่ีี่เกิิดข้ึึ้นจริงของแตละโปรโตคอล โมเดลนี้ประกอบไปดวย เลเยอรแอพพลิเคชัน (Application Layer) เลเยอรทรานสปอรต (Transport Layer) เลเยอรอิินเตอรเน็ต (Network Layer) และเลเยอรเน็ตเวิรคแอคเซส (Internet Access Layer) ซ่ึึ่งในแตละเลเยอรนั้นสามารถเปรียบเทีียบไดกัับ โมเดลโอเอสไอ ดังแสดงในรูป 2.2 ภาพท่ีี่2.2 ภาพแสดงโมเดลโอเอสไอเปรียบเทีียบกัับ โมเดลทีีซีีพีี/ ไอพีี ในแตละเลเยอรของโมเดลทีีซีีพีี/ไอพีีจะมีีหนาท่ีี่ตามลักษณะของโมเดล โอเอสไอเชน Application Layer มีี หนาท่ีี่เปนท้ัั้งเปนตัวเชื่อมระหวางผูใชงาน ผานแอพพลิเคชันและการเขารหัสขอมููล ซ่ึึ่งก็็เปนการรวมการทํํางานของโมเดล โอเอสไอในเลยอรท่ีี่6 และเลเยอรท่ีี่7 ไวดวยกััน 2.3 Data Encapsulation และ Data De-encapsulation ในการสงขอมููลระหวางอุุปกรณตางๆในระบบเครือขายจะมีีการสงในลักษณะ Peer-to-Peer ซ่ึึ่งเปน การสงแบบเสมืือนระหวางโหนดสองโหนด การจําลองรูป แบบการสงขอมููลดังกลาวโดยมีีการหอหุมหรือแนบ ลักษณะเฉพาะของการสื่อสาร แสดงดังรูป 2.3 การสงขอมููลแบบเสมืือนระหวางโหนดสองโหนดนั้นกํําหนดให Sender เปนผูสงขอมููล และReceiver เปนผูรับขอมููล ขอมููลท่ีี่ถููกสงจากผูสงไปยัง ผูรับจะผานกระบวนการท่ีี่ เรียกวา Data Encapsulation และData De- encapsulation โดยกระบวนการ “Data Encapsulation” นั้นจะเปนกระบวนการท่ีี่ เกิิดข้ึึ้นในฝงของผูสง เม่ืื่อขอมููลถููกสรางจากการใชงานซอฟตแวร (ในเลเยอรท่ีี่7) จะ ถููกสงมาท่ีี่เลเยอรท่ีี่ 6 ในเลเยอรนี้ขอมููลดัังกลาวจะถููกเขารหัส (Encode) และ ถููกสงตอมายังเลเยอรท่ีี่ 5 เล เยอรท่ีี่ 5 จะมีีการทํํางานท่ีี่เรียกวา Dialogue Control ซ่ึึ่งกระบวนการดังกลาวนี้จะเปนการกํําหนดขนาดของ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่20 ขอมููลท่ีี่ถููกสงตามลักษณะของ Application หรือซอฟตแวรท่ีี่สรางขอมููล พรอมกัันนั้นหนวยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) จะตองมีีสวนรวม ในการจัดสรรขนาดของ Dialogue นี้ดวย เลเยอรทรานสปอรต ทํําหนาท่ีี่ในการจัด สงขอมููลตามขนาดของ Dialogue และมีีการสงขอมููลซํ้ํ้าขอมููลใน Dialogue ดังกลาว ภาพท่ีี่2.3 ภาพแสดงการจําลองการสงขอมููลระหวา ง โหนด กรณีีท่ีี่เกิิดขอผิดพลาดในการสงขอมููลในเลเยอรท่ีี่ 4 นี้ ขอมููลท่ีี่ถููกสงมา จากเลเยอรท่ีี่ 5 จะถููกแบง ขนาดตามขนาดของ Dialogue ท่ีี่ไดรับการจัดสรร เรียกขอมููลแตละชิ้นนี้วา เซ็็กเมน (Segment) เชนจากใน รูปท่ีี่ 2.3 ขอมููลท่ีี่มาจาก เลยอรท่ีี่ 5 (DATA) จะถููกแบงได 3 สวน หลังจากนั้นขอมููลแตละสวนก็็จะถููกจัดส่ง ให้เลเยอรท่ีี่3 เลเยอรเน็ตเวิรค ในเลเยอรนี้เองจะมีีการแนบ Network Header ซ่ึึ่งประกอบดวย IP Address ของผูสงและ IP Address ของผูรับเขาไปใน DATA แตละชื้น เซ็็กเมนท่ีี่ถููกแนบ Network Header ดังกลาว เรียบรอยแลวจะถููกเรียก วา แพ็็คเกต (Packet) เม่ืื่อแตละแพ็็คเกตถููกสงตอมายังเลเยอรท่ีี่ 2 ก็็จะถููกแนบ Media Access Control Address (MAC Address) หรือหมายเลขประจําตัวของ NIC card เพ่ืื่อใหทราบวา สงมาจากเครื่องคอมพิิวเตอรไหน นอกจากหมายเลขดัง กลาวแลวในเลเยอรนี้ยังมีีการแนบวิธีการ Error Protection ท่ีี่เรียกวา “Cyclic Redundancy Check” ไปกัับกระบวนการนี้ดวย แพ็็คเกตท่ีี่ผานเลเยอรท่ีี่ 2 จะถููก เรียกวาเฟรม (Frame) ข้ัั้นตอนสุดทายกอนท่ีี่ขอมููลจะออกจากเครื่องคอมพิิวเต อรนั้น จะตองผานการ แปลงเพ่ืื่อใหอยูในรูปแบบท่ีี่สามารถสงไปตามสื่อท่ีี่ใชใน การสงขอมููลได ข้ัั้นตอนนี้จะเกิิดในเลเยอรท่ีี่ 1 โดยเล เยอรฟสิคอล จะแปลงเฟรม ท่ีี่ไดรับมาใหอยูในรูป Binary Number พรอมสงตอใหกัับสื่อเชนสายสัญญาณ หรือในลักษณะ Wireless โดยอาศััยอากาศเปนสื่อกลางในการสงสัญญาณ ดังนั้น ขอมููลในเลเยอรท่ีี่ 1 จึงถููก ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่21 เรียกวา บิต (Bit) ชื่อท่ีี่ใชเรียกขอมููลเม่ืื่อผานเลเยอรตางๆ นี้เรียกวา “Protocol Data Unit” ดังแสดงในรูป 2.4 ในฝงของผูรับจะเกิิดกระบวนการท่ีี่เรียกวา “De- Encapsulation” กระบวนการนี้จะเปนกระบวนการท่ีี่ยอนกลับของกระบวนการ Encapsulation ภาพท่ีี่2.4 ภาพแสดง Protocol Data Unit ในแตล ะเลเยอร เม่ืื่อผูรับรับสัญญาณมาจากสายสัญญาณ ผูรับจะทํําการแปลงสัญญาณดัง กลาวใหอยูในรูปแบบของบิตในเล เยอรท่ีี่ 1 และสงผานตอไปยังเลเยอรท่ีี่ 2 พรอมกัันนั้นบิตก็็จะถููกเปลี่ยนเปนเฟรม ทํําแบบนี้จนกระท่ัั่งถึึงเล เยอรท่ีี่ 7 ซ่ึึ่ง จะเปนการถอดรหัส (Decode) เพ่ืื่อแสดงผลในในรูปแบบแอพพลิเคชันหรือ ซอฟตแวร ซ่ึึ่งผูรับ สามารถเขาใจได 2.4 ตัวอย่างอุุปกรณ์ เครือข่าย ในหัวขอนี้จะกลาวถึึงอุุปกรณท่ีี่ใชใน Lower Layer (จากภาพท่ีี่2.1) ซ่ึึ่งไดแก รีพีีทเตอร (Repeater) ฮัับ (Hub) บริดจน(Bridge) สวิทส(Switch) และ เราเตอร(Router) 2.4.1 รีพีีทเตอร(Repeater) ทํํางานในเลเยอรท่ีี่1 ชวยแกปญหาสัญญาณ ไมชัดเจนในเครือขายทองถ่ิิ่นขนาด ใหญท่ีี่มีีการสงสัญญาณทางสายสัญญาณ รีพีีทเตอรจะชวยในการกระตุนสัญญาณใหมีีความแรงข้ึึ้น ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่22 ภาพท่ีี่2.5 ภาพแสดงการใชง าน Repeater 2.4.2 ฮัับ (Hub) ทํํางานในเลเยอรท่ีี่1 พััฒนามาจาก Repeater โดยมีีการเพ่ิิ่ม ทํําหนาท่ีี่สรางสัญญาณใหม กระตุนสัญญาณ และกระจายสัญญาณ ภาพท่ีี่2.6 ภาพแสดงการใชง าน Hub 2.4.3 บริดจน(Bridge) ทํํางานในเลเยอรท่ีี่2 ทํําหนาท่ีี่ตรวจสอบหมายเลข MAC address กอนท่ีี่จะสงตอ ขอมููล ไปยังเครื่องคอมพิิวเตอรหรือโหนดท่ีี่เชื่อมตอกัับ บริดจนนอกจากนี้บริดจนทํําหนาท่ีี่ในการแบงขนาด ของ LAN และขนาดของ Collision Domain ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่23 ภาพท่ีี่2.7 ภาพแสดงการ ใชง านฺBridge 2.4.4 สวิทส (Switch) เปนอุุปกรณท่ีี่อาจเรียกไดวา Multi-purpose สามารถทํํา งานไดในหลายเล เยอรในตัวเดียวกัันข้ึึ้นอยูกัับรุนของสวิทส ในบทเรียนนี้จะ กลาวถึึงสวิทสท่ีี่ทํํางานในเลเยอรท่ีี่ 1 และเลเยอรท่ีี่ 2 การทํํางานของสวิทสแสดงดัง รูปท่ีี่ 2.8 สวิทสจะทํําหนาท่ีี่ในการกรองสัญญาณ โดยพิิจารณาจากคา MAC address และสงสัญญาณไปยังโหนดท่ีี่ตองการ นอกจากนี้ยังทํําหนาท่ีี่ในการกระ จายการใชงานระบบเครือขาย ซ่ึึ่งเปน หนาท่ีี่เดียวกัับฮัับ ภาพท่ีี่2.8 ภาพแสดงการใชงาน Switch 2.4.5 เราเตอร(Router) เปน อุุปกรณท ่ีี่ทํํางานในเลเยอรท่ีี่3 มีีหนา ท่ีี่สําคััญคืือคน หา เสนทางท่ีี่เหมาะสมสําหรับสัญญาณโดยใชต ารางแสดงเสน ทาง (Routing Table) และ โปรโตคอลเสน ทาง (Routing Protocol) ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่24 ภาพท่ีี่2.9 ภาพแสดงการใชงาน Router 2.5 การติดต่อส่ืื่อสารระหว่างเลเยอร์ การติดตอสื่อสารระหวางแตละเลเยอรนั้นจะเริ่มจากกระบวนการใน Upper Layer กอน โดยมีี รายละเอีียดดังตอไปนี้ ้ ภาพท่ีี่2.10 ภาพแสดงการติดตอสื่อสารระหวาง Application Layer และ Presentation Layer การใหบริการในชั้นแอพพลิเคชัน (Application Service Elements: ASEs) แบงเปน 2 ประเภทคืือ การใหบริการท่ัั่วไป (Common-Application Service Elements: CASEs) และ การใหบริการพิิเศษ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่25 (Specific-Application Service Elements: SASEs) ดังรูป 2.10 ในการเรียก ใชงานนั้นจะเลือกใช CASEs หรือ SASEs อยางใดอยางหนึ่งเทานั้น โดย CASEs มีี 4 แบบคืือ 1. Association control service element (ACSE) – การติดตอสื่อสาร ระหวางแอพพลิเคชันกัับแอพพลิเคชัน สามารถทํําไดโดยการกํําหนดความ สัมพัันธระหวางแอพพลิเคชันกัับแอพพลิเคชันซ่ึึ่งใชแอพพลิเคชันเอนติตี้ จากแตละแอพพลิเคชัน 2. Remote operations service element (ROSE) – กระบวนการ Request และ Reply ซ่ึึ่งจะเกิิดข้ึึ้นหลังจาก ACSE เชื่อมตอกัันเรียบรอย 3. Reliable transfer service element (RTSE) – อีีลีเมนท่ีี่ชวยใหการสื่อสารมีี ความนาเชื่อถืือพรอมกัันนั้นก็็มีีดําเนินการทํํางานของเลเยอรท่ีี่ตํ่ากวาอยูเบื้องหลัง 4.Commitment, concurrence, and recovery service elements (CCRSE) – อีีลีเมนท่ีี่ใหบริการ เก่ีี่ยวกัับกระบวนการตางๆท่ีี่เก่ีี่ยวของในการติดตอสื่อสาร Presentation layer ประกอบดวย Presentation protocol และ Presentation Service Presentation protocol อนุญาตให Presentation-service users (PS-users) ติดตอสื่อสารกัับ Presentation service PS-user เปนเอนติตี้ท่ีี่ขอใชบริการจาก Presentation layer การรองขอใชบริการตางๆใน Presentation layer จะทํําท่ีี่Presentation- service access points (PSAPs) โดย PS-users จะใช PSAP address เปนการระบุตัวตนของ PS-user ซ่ึึ่งเปนหมายเลขท่ีี่มีีลัษณะเปน Unique Presentation service ทํําหนาท่ีี่รับหรือสง Syntax และแปลขอมููลไปยัง หรือจาก PS-user ซ่ึึ่งการใน ดําเนินข้ัั้นตอนนี้ PS-user แตละคนจะใช Syntax ท่ีี่ แตกตางกััน เพราะฉะนั้นในการสงขอมููลจะตองมีีการตก ลงระหวาง PS-user วา จะใชSyntax แบบไหนหรือ Presentation protocol แบบใด โดย OSI presentation layer service มีีขอกํําหนดอยูในมาตรฐาน ISO8822 และ ITU-T X.216 สวน OSI presentation protocol มีีขอกํําหนดอยูในมาตรฐาน ISO8823 ISO9576 และ ITU-T X.226 การทํํางานของ Session layer ประกอบดวย Session protocol และ Session service โดย Session protocol จะทํําหนาท่ีี่เปนตัวกลาง ระหวาง Session –service user (SS-users) และ Session service SS-user จะเปนเอนติิตีี้ท่ีี่สงคํํารองขอ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่26 เพ่ืื่อใชงาน Session layer ซ่ึึ่งคํํารองขอหรือ requests นี้จะดําเนินการท่ีี่ Session- service access points (SSAPs) การดําเนินการตางๆของ SS-user บน SSAP นี้ จะมีีการระบุหมายเลขเฉพาะของแตละกระบวนการ หมายเลขเหลานี้เรียกวา “SSAP address” Session service มีีการใหบริการ 4 การบริการพ้ืื้นฐานคืือ 1) สราง และยกเลิกการเชื่อมตอระหวาง SS-user 2) จัดรูปแบบของโทเคน 3) แทรก Synchronization point เพ่ืื่อแจงจุดท่ีี่สามารถทํําการ Recover ได กรณีีเดขอผิดพลาด ในการเชื่อมตอ 4) ดําเนินการเก่ีี่ยวกัับการหยุดการทํํางานหรือกระทํําตอของ Session layer ตามความตองการของ SS-users ภาพท่ีี่2.11 ภาพแสดงการติดตอสื่อสารระหวา ง Presentation Layer และ Session Layer จากภาพท่ีี่ 2.11 จะเห็นความสัมพัันธระหวาง SS-user และ SSAP ซ่ึึ่ง SS-user จะดําเนินการสง service ใหกัับ Presentation layer ท่ีี่SSAP โดยใชSession protocol Session service มีีขอกํําหนดอยูในมาตรฐาน ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่27 ISO8306 และ ITU-T X.2215 และSession protocol มีีขอกํําหนดอยูในมาตรฐาน ISO8307 และ ITU-T X.225 Upper layer อีีกอัันหนึ่งคืือ Transport layer มีีหนาท่ีี่ 1) ระบุประเภทของแอพพลิเคชัน 2)ทํําการ Segment ขอมููลและดําเนินการจัดการขอมููลแตละ Segment 3)ติดตามการติดตอสื่อสารแตละ line ระหวางแอพพลิเคชันจากตนทางและ ปลายทาง 4)รวมขอมููลแตละ Segment เขาดวยกััน การระบุวาขอมููลท่ีี่อยูในระบบเครือขายเปนสวนหนึ่งของแอพพลิเคชันใดนั้น เปนหนาท่ีี่หนึ่งท่ีี่สําคััญ ของ Transport layer ซ่ึึ่งสามารถทํําไดโดยมีีการเพ่ิิ่ม หมายเลขเฉพาะท่ีี่เรียกวา Port number แนบไปกัับขอมููลนั้นๆ หมายเลข Port number นี้เปนหมายเลขเฉพาะของแตละแอพพลิเคชัน และจะไมซํ้ํ้ากััน ภาพ 2.12 แสดงตัวอยางหมายเลขเฉพาะของอีีเมลย เวบเพจ และออนไลนแชท ซ่ึึ่งหมายเลขดังกลาวคืือ 110 80 และ 531 ตามลําดับ Port number จะถููกบรรจุใน Header ของแตละ Segment ซ่ึึ่งจะมีีท้ัั้ง Source และ Destination number เพ่ืื่อใหการจัดสงขอมููลของแตละแอพพลิเคชันมีีความถููกตอง การกํําหนด Port number ใหกัับแตละแอพพลิเคชันนั้นมีีหลายวิธี ท่ีี่นิยมคืือในสวนของ Server จะ มีีการกํําหนด Port number ท่ีี่แนนอนไมมีีการเปลี่ยนแปลง (Static) ภาพท่ีี่2.12 ภาพแสดง Identifying conversation ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่28 แตในสวนของ Client นั้นจะเปนลักษณะตรงขาม Client จะกํําหนด Port number ในลักษณะ Dynamic ถาตองการใชจึงทํําการระบุ เม่ืื่อเสร็จสิ้นการใชงานก็็จะยกเลิก Port number ดังกลาว บางครั้งจะมีีการเรียก รวมระหวาง Port number และ IP address วา Socket หรือมีีการเขีียนรวมกััน ดังตัวอยางเชน 192.168.1.20:80 ซ่ึึ่งหมายความวา เครื่องคอมพิิวเตอรเปน Web Server มีี IP address 192.168.1.20 กํําหนดใหใชงาน HTTP ผานทาง Port number หมายเลข 80 อีีกตัวอยางหนึ่งถาเครื่องคอมพิิวเตอรมีี IP address 192.168.100.48 และตองการเปดเวบเบราเซอร หมายเลข Port number ท่ีี่ ไดรับจากการสุม คืือ 49152 สามารถเขีียน Socket ไดคืือ 192.168.100.48:49152 ประเภทของ Port number (มาตรฐาน IANA) แบงเปน 3 ประเภทคืือ 1. Well Known Ports (Numbers 0 to 1023) – หมายเลข Port number ท่ีี่ถููกสงวนสําหรับ Service และแอพพลิเคชันมาตรฐาน เชน HTTP (web server) POP3/SMTP (e-mail server) และTelnet. 2. Registered Ports (Numbers 1024 to 49151) - หมายเลข Port number ท่ีี่กํําหนดให Process หรือ Request ตางๆ ของโปรแกรมหรือ แอพพลิเคชันท่ีี่มีีการติดตั้งในเครื่องคอมพิิวเตอร 3. Dynamic or Private Ports (Numbers 49152 to 65535) - หมายเลข Port number ท่ีี่กํําหนดใหส ําหรับแอพพลิเคชันบน Client เม่ืื่อ มีีการสรา งการติดตอ สื่อสาร (Initiating a connection) โปรโตคอลมาตรฐานท่ีี่พบใน Transport layer คืือ Transmission Control Protocol (TCP) and User Datagram Protocol (UDP) ซ่ึึ่งเปนโปรโต คอลท่ีี่ชวยในการจัดการขอมููลของการติดตอสื่อสารระหวาง ผูใชภาพ 2.14 แสดง Header field ของโปรโตคอลแตละประเภท UDP ตาม RFC768 จัดวาเปน โปรโตคอล ประเภท Connectionless มีีคา Overhead ตํ่าในการสื่อสารในระบบ เครือขาย แอพพลิเคชันท่ีี่ใชไดแก Domain Name System (DNS) Video Streaming Simple Network Management Protocol (SNMP) Dynamic Host Configuration Protocol (DHCP) Routing Information Protocol (RIP) Trivial File Transfer Protocol (TFTP) Online games และ VoIP เปนตน ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่29 ภาพท่ีี่2.13 ภาพแสดง Protocol headers in Transport layer ตาม RFC793 TCP จัดวาเปนโปรโตคอลประเภท Connection Oriented มีีคา Overhead สูงตํ่าใน การสื่อสารในระบบเครือขาย ซ่ึึ่งคา Overhead ท่ีี่เพ่ิิ่มข้ึึ้น นี้ชวยทํําให TCP มีีการทํํางานท่ีี่มีีประสิทธิภาพมากข้ึึ้น คืือ ความนาเชื่อถืือ (Reliable) และการควบคุุมการสงขอมููล (Flow control) จากภาพ 2.13 TCP header field จะมีีขนาด 20 ไบตในขณะท่ีี่UDP header field มีีขนาด 8 ไบตตัว อยางของแอพพลิเคชันท่ีี่ ใชTCP เชน Web Browsers E-mail และ File Transfers เปนตน ภาพท่ีี่2.14 ภาพแสดง Segment and reassembly data ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่30 การสงขอมููลแบบ TCP ผูรับปลายทางสามารถแนใจไดวา ขอมููลท่ีี่ไดรับนั้น เปนขอมููลชุดเดียวกัันจากผูสง เนื่องจากในการสงขอมููลตามกระบวนการ Encapsulation (หัวขอ 2.3) แอพพลิเคชันจะสงขอมููลท้ัั้งหมด ตามขนาดท่ีี่ผูใชตอง การ แตในทางปฏิบัตินั้นขอมููลขนาดใหญไมสามารถสงไดในครั้งเดียว เพราะอาจ เสี่ยงตอ ความเสียหายของขอมููล และ Buffer สํารองในเครือขายนั้นจะไมมีีการ สํารองเพ่ืื่อแอพพลิเคชันใดแอพพลิเค ชันหนึ่ง ดังนั้นการทํํางานในเครือขายจะมีี โปรโตคอลท่ีี่ชวยในการจัดการขนาดของขอมููลใหสามารถสงไดตาม ขนาดของสื่อ หรือตามขนาดของชองสัญญาณ เฟรมของ TCP จะมีีฟลวสําหรับใสมายเลขของชิ้น ขอมููล (Sequence number) เม่ืื่อขอมููลเดินทางมาถึึงผูรับ TCP จะรอจนขอมููลมาครบ และทํําการเรียงลําดับ กอนท่ีี่ จะสงใหเลเยอรตอไป ซ่ึึ่งถาเปน UDP จะไมมีีการ เรียงลําดับขอมููลขอมููลใหแตจะสงขอมููลใหเลเยอรตอไปเลย การสงขอมููลแบบ UDP นั้นนอกจากท่ีี่จะไมมีีการเรียงลําดับของขอมููลแลว พิิจารณาจาก UDP Header จะ พบวา UDP ยังไมมีีการรับประกัันวาผูรับไดรับขอมููลครบตามท่ีี่ผูสงตองการอีีกดวย ซ่ึึ่งในทางตรงกัันขาม TCP Header มีีฟลว ซ่ึึ่งชวยในการ Acknowledgement ของ การรับและสงขอมููล กระบวนการท่ีี่ใชขอมููล Acknowledgement ดังกลาว เรียกวา Tree-way handshake Three-way handshake เปนกระบวนการท่ีี่สรางความนาเชื่อถืือใหกัับ TCP ประกอบดวย กระบวนการหลัก 3 กระบวนการดวยกัันคืือ (1) การสรางการเชื่อมตอ (Connection establishment) (2) การสงขอมููล (Data transferring) และ (3) ยกเลิกการเชื่อมตอ (Terminate connection) ภาพท่ีี่2.15 ภาพแสดง Connection establishment ใน Three-way handshake ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่31 การสรางการเช่ืื่อมตอ (Establish Connection) ในกระบวนการนี้ประกอบดวยข้ัั้น ตอน 3 ชั้นตอน (ดัง แสดงในรูป 2.15) คืือ 1. เริ่มตนการทํํางานโดย ผูสง (Sender หรือ Client) สง Segment ไปยัง ผูรับท่ีี่ตองการติดตอดวย (Receiver หรือ Server) Segment ท่ีี่สงไปนั้น บรรจุSequence number 2. Receiver ตอบกลับดวย Segment ท่ีี่บรรจุดวยคา 2 คา คืือคา Acknowledgement ซ่ึึ่งเปน คาท่ีี่บวกไปอีีก 1 ของ Sequence number ท่ีี่ไดรับจาก Sender และ คา Sequence number ของ receiver เอง 3. Sender จะตอบกลับ Receiver โดยสง Segment ท่ีี่ประกอบดวย คา Acknowledgement ของ Receiver บวกหนึ่ง การสราง Connection จึงเสร็จสมบูรณ ภายใน Segment ท่ีี่สงระหวาง Sender และ Receiver มีี Field ท่ีี่บรรจุขอมููล ควบคุุม (Control Information) ซ่ึึ่งใชในการจัดการการทํํางานของ กระบวนการ Three-way Handshake ซ่ึึ่งมีีรายละเอีียดดังนี้ ้ - Urgent pointer field - significant (URG) - Acknowledgement field - significant (ACK) Push function (PSH) - Reset the connection (RST) - Synchronize sequence numbers (SYN) No more data from sender (FIN) ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่32 ภาพท่ีี่2.16 ภาพแสดง Transferring ใน Three-way handshake การสงขอมููล (Data Transferring) เม่ืื่อการ Establish connection สมบูรณ Sender จะเริ่มทํําการสงขอมููลในรูปแบบ Segment ตามขนาดของ Window size ท่ีี่สามารถสงได Receiver ก็็จะ Acknowledge การสงขอมููลดััง กลาวดวยการสงคาของหมายเลข Sequence number ตัวสุดทายท่ีี่ไดรับบวกดวย หนึ่งเสมอ และข้ัั้นตอนเหลานี้จะทํําซํ้ํ้าไปเรื่อยๆๆจน Sender สงขอมููลครบ การยกเลิิกการเช่ืื่อมตอ (Terminate connection) ในกระบวนการนี้ ประกอบดวยการแลกเปลี่ยนขอมููล ระหวาง Sender และ Receiver 4 ข้ัั้นตอน ดังแสดงในรูปขางลาง ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่33 ภาพท่ีี่2.17 ภาพแสดง Terminate connecting ใน Three-way handshake 1. เม่ืื่อ Sender ไดรับ Acknowledgement ของการรับขอมููลจาก Receiver เรียบรอยแลว (การ ตรวจสอบความครบถวนของขอมููล ดูจากกระบวนการ Data Transferring) Sender สง Segment ซ่ึึ่งภายในบรรจุ Control “FIN” เพ่ืื่อเปนการแจงให Receiver ทราบวาจะไมมีีขอมููล สงมาอีีก 2. Receiver จะสง Acknowledgement กลับเพ่ืื่อบอกใหS ender ทราบ วาไดร ับ Segment ในขอ ท่ีี่1 3. หลังจากท่ีี่ Receiver ทํําข้ัั้นตอนท่ีี่ 2 เรียบรอยแลว Receiver จะสง Segment ซ่ึึ่งภายในบรรจุ Control “FIN” เพ่ืื่อแสดงวาการรับขอมููลเสร็จ สิ้น 4. Sender จะสง Segment เพ่ืื่อ Acknowledge Segment ของ Receiver หลังจากนั้น การ เชื่อมตอนี้จะถููกตัดทัันทีี Lower Layer ลําดับแรกท่ีี่ถััดจาก Upper Layer คืือ Network Layer ซ่ึึ่งเปนเลเยอร ลําดับท่ีี่ 3 ใน OSI มีี หนาท่ีี่ใหบริการการแลกเปลี่ยนขอมููลระหวางอุุปกรณเครือขาย ซ่ึึ่งการทํํางานในลักษณะ End-to-end นี้ ประกอบดวยกระบวนการทํํางาน 4 กระบวนการดวยกัันคืือ 1. Addressing – Network layer ตองทํําการกํําหนด Address ใหกัับ อุุปกรณเครือขายท่ีี่จะ ทํําการแลกเปลี่ยนขอมููลกััน ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่34 2. Encapsulation – Network layer ตองทํําการ Encapsulate ขอมููลแตละชิ้นท่ีี่รับมาจาก Transport layer แลวทํําการแนบ หมายเลข IP Address ของอุุปรณเครือขายท้ัั้งสอง ซ่ึึ่ง IP Address อุุ ปกรณเครือขายท่ีี่เริ่มสงจะถููกเรียกวา Source Address และ IP Address ของ Receiver จะถููกเรียกวา Destination Address ขอมููลท่ีี่ผานการ Encapsulate แลวจะถููก เรียกวา “Packet” หลังจาก นั้น Packet จะถููกสงไปยัง Data Link layer เพ่ืื่อเตรียมพรอม ในกา รสงผานสื่อท่ีี่ใชตอไป 3. Routing – Network layer ทํําหนาท่ีี่คนหาเสนทางในการสง Packet ไปยัง Destination host 4. Decapsulation – เม่ืื่อ Packet เดินทางมาถึึง Destination host หนาท่ีี่ของ Network layer คืือการตรวจสอบวา Packet ท่ีี่มาถึึงนั้น เปน Packet สําหรับ Host Data Link Layer เปน Lower Layer ท่ีี่ถััดจาก Network Layer มีีหนาท่ีี่ในการ แปลงขอมููลท่ีี่รับมา จาก Network Layer ใหเหมาะสมกัับสื่อท่ีี่จะใชใน Physical Layer สวนเก่ีี่ยวของกัับการทํํางานในระบบ เครือขาย ซ่ึึ่งเม่ืื่อ Packet เดิินทา งมาถึึง Data Link Layer จะถููกจัดใหอยูในรูปแบบ Frame พรอมกัับเพ่ิิ่ม ขอมููลท่ีี่จําเปนตองใชในการแปลงขอมููล ดังรูปขางลาง ภาพท่ีี่2.18 ภาพแสดงสวนประกอบของเฟรมท้ัั้งตามมตรฐาน IEEE 802.3 และ Ethernet Frame ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่35 Packet ท่ีี่ถููกสงลงมาจาก Network Layer จะถููกเพ่ิิ่มโครงสรางของเฟรม โดยจะเพ่ิิ่ม Frame header ท่ีี่ขางหนา Packet และเพ่ิิ่ม Frame trailer ท่ีี่สวนทายของ Packet ขอมููลสวนท่ีี่เพ่ิิ่มเขามาเรียกวา Field ซ่ึึ่ง Frame ในเลเยอร II นี้มีีดวยกััน 2 มาตรฐานคืือ Ethernet และ IEEE 802.3 ขอแตกตางของมาตรฐานท้ัั้งสองนั้นคืือสวน Header ของเฟรม ดังแสดงในรูป 2.18 มาตรฐาน IEEE 802.3 จะมีีStart of Frame Delimiter (SFD) ขนาดของ เฟรมท้ัั้งสองแบบจะเหมืือนกัันคืือนอยท่ีี่สุดมีีคาเทากัับ 64 ไบต และมากท่ีี่สุด 1518 ไบต จะมีีพิิเศษคืือมาตรฐาน 802.3a ซ่ึึ่งถููกกํําหนดข้ึึ้นเพ่ืื่อรองรับ Virtual Local Area Network (VLAN) จึงมีีขนาดเพ่ิิ่มข้ึึ้นเปน 1522 ไบต ขนาดของ เฟรมนี้มีีผลตอการสงขอมููลคืือ ถาขอมููลท่ีี่มีีการสงขอมููล ขนาดเล็กกวาขนาดตํ่าสุด ของเฟรม หรือมีีการสงขอมููลขนาดมากกวาขนาดสูงสุดของเฟรม ขอมููลนั้นจะถููก drop หรืออาจถููกสงสัยวาเปนขอมููลท่ีี่อัันตราย Media Access Control Address (MAC Address) เปน สวนประกอบหนึ่งของเฟรม ซ่ึึ่งจะอยูท้ัั้งใน Source Address และ Destination address โดยท่ีี่ MAC Address นี้เปน หมายเลขท่ีี่อยูใน Network Interface Card ทํําหนาท่ีี่ระบุตัวตนของ Host บนระบบเครือขาย มีีขนาด 48 บิต หมายเลขนี้จะไมซํ้ํ้ากััน เนื่องจาก 24 บิตแรก จะเปนรหัสของโรงงานท่ีี่ผลิต สวนอีีก 24 บิตท่ีี่ เหลือจะเปนจํานวนนับท่ีี่โรงงาน นั้นผลิต ดังแสดงตััวอยางในภาพ 2.19 เม่ืื่ออุุปกรณท่ีี่ใชในการสงขอมููล สงตอ ขอมููลเขาสูเครือขาย ภาพท่ีี่2.19 ภาพแสดงสวนประกอบหมายเลข MAC Address ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่36 หมายเลข MAC address ท่ีี่อยูภายในเฟรมก็็จะถููกสงเขาสูระบบเครือ ขายดวย NIC ท่ีี่อยูในเครือขาย จะดููเฟรมท่ีี่สงผานวาหมายเลข MAC address ปลาย ทางดังกลาวใชหมายเลขเดียวกัับ Physical Address ของตนหรือไม ถาไมใชก็็จะ discard เฟรมท่ีี่ copy มา ถาใชก็็จะสงตอไปยัง Upper Layer เพ่ืื่อทํําการ De- Encapsulation ตอไป หมายเลข MAC Address นี้ใชสําหรับการสงขอมููล 3 แบบ คืือ 1) Unicast 2) Broadcast และ 3) Multicast ภาพท่ีี่2.20 ภาพแสดง Unicast Communication Unicast Communication จะเกิิดข้ึึ้นเม่ืื่อผูสงตองการสงขอมููลไปยังผูรับเดียว เทานั้น จากภาพ 2.20 สังเกตจาก Field Destination MAC และ Destination IP จะ พบวาเปนตัวเลขของ MAC Address หมายเลข เดียว และ IP Address หมายเลข เดียวเทานั้น ซ่ึึ่งจะตางจาก Broadcast Communication ในภาพ 2.21 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่37 ภาพท่ีี่2.21 ภาพแสดง Broadcast Communication ในภาพ Broadcast Communication สังเกตท่ีี่ Field Destination MAC จะพบวา เปน F ท้ัั้งหมด และ Destination IP จะพบวา IP Address ลงทายดวย 255 แสดงวา Sender ตองการสงไปยังทุุกๆๆโหนดในเครือขาย สวน Multicast Communication (ภาพท่ีี่ 2.22) นั้นก็็สังเกตจาก Destination MAC และ Destination IP เชนเดียวกัน โดยท่ีี่ Address ท้ัั้งสอง Field จะอยูในลักษณะกลุม ภาพท่ีี่2.22 ภาพแสดง Multicast Communication ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่38 เลเยอรลางสุด Physical Layer เปนเลเยอรท่ีี่เชื่อมตอกัับสื่อท่ีี่ใชในการสื่อสาร ซ่ึึ่งการศึึกษาในเลเยอรนี้จะประกอบดวยสื่อท่ีี่ใชในการสงขอมููลสื่อท่ีี่ใชในการส่งข้อมูล ในท่ีี่นี้คืือ สายคููบิดเกลียว สายโคแอกเชียล ใยแกว นําแสง และการสงสัญญาณแบบ ไรสาย สายคููบิดเกลียวเปนสายทองแดงท่ีี่มีีฉนวนหุมจับกัันเปนคูู บิดเปนเกลียว จํานวน 4 คููการบิดเปนเกลียวนี้ชวยลด Crosstalk นิยมใชภายในอาคาร ภาพท่ีี่2.23 ภาพแสดง สายคููบิดเกลียว ตารางท่ีี่2.1 แสดงการเปรียบเทีียบประเภทของสายคููบิดเกลียว สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) เปนสื่อท่ีี่นิยมใชภายนอกอาคารเนื่อง จากมีีฉนวนปองกัันสภาพ อากาศ สวนประกอบของสาย โคแอกเชียลแสดงดังภาพ 2.24 สายโคแอกเชียลมีี 2 ประเภทคืือ 1) Baseband ใชในการสงขอมููลของสัญญาณดิิจิตอล สามารถนําสัญญาณไดในระยะทางไกล เชนสายเคเบิลทีีวี เปนตน 2) Broadband ใชในการสงขอมููลของสัญญาณ อะนาล็อก เชนสัญญาณโทรทััศนเปนตน ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่39 ภาพท่ีี่2.24 ภาพแสดงสว นประกอบของสายโค แอกเชียล • Conductor เปนแกนทองแดง ทํําหนาท่ีี่เปนตัวนําสัญญาณ • Insulator เปนฉนวนหุมตัวนําสัญญาณ • Braid เปนโลหะหรือทองแดงท่ีี่ถัักหุมฉนวนตลอดท้ัั้งเสน ทํําหนาท่ีี่ปอง กัันสัญญาณรบกวน และ ปองกัันการแพรกระจายของคลื่นสัญญาณออกมาภายนอก • Plastic Jacket เปนสวนหอหุมภายนอก เพ่ืื่อปองกัันการฉีีกขาดของ สายภายใน ใยแกวนําแสง เปนสายสัญญาณท่ีี่มีีNoise นอ ยท่ีี่สุด หรือแทบจะไมมีีเลย เปน การทํํางานแบบ Half duplex มีี2 ประเภทคืือ Single mode และ Multimode สวนประกอบของใยแกวนําแสงแสดงดัังภาพท่ีี่2.25 ภาพท่ีี่2.25 ภาพแสดงสว นประกอบของใย แกวนําแสง ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่40 ตารางท่ีี่2.2 แสดงการเปรียบเทีียบ Single mode และ Multimode การสงสัญญาณแบบไรสาย เปนการใชคลื่นแมเหล็กไฟฟาในการสงขอมููล ภาพท่ีี่2.26 ภาพแสดงสเปคตรัมคลื่นแมเ หล็กไฟฟา ภาพ 2.26 แสดงสเปคตรัมของคลื่นแมเหล็กไฟฟา คลื่นวิทยุ คลื่นไมโครเวฟ และ อิินฟาเรด มีีการสง สัญญาณโดยแปลงความสูงและความถ่ีี่ จึงนิยมใชในการสงขอมููล เพราะ สัญญาณของคลื่นดังกลาวไมกอใหเกิิดอัันตราย ในขณะท่ีี่ UV X-Ray และGamma เปนการสงสัญญาณโดยใชเทคนิคในการสรางสัญญาณ ซ่ึึ่ง สัญญาณดัง กลาวนั้นมีีผลกระทบตอสุขภาพของสิ่งมีีชีวิต การสงสัญญาณของคลื่นระหวางสถานีมีี 2 ลักษณะ คืือ 1) การสงสัญญาณโดยอาศััยความโคงของผิวโลก เปนการสงสัญญาณ ของคลื่นท่ีี่มีีความถ่ีี่ตํ่า (Low Frequency: LF) ถึึงความถ่ีี่ปานกลาง (Medium Frequency: MF) ระหวาง 104 Hertz และ 106 Hertz 2) การสงสัญญาณโดยอาศััย ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟยร เปนการสงสัญญาณของคลื่นท่ีี่มีีความถ่ีี่สูง (High Frequency: HF) ถึึงความถ่ีี่สูงมาก (Very High Frequency: VHF) ระหวาง 107 Hertz และ 108 Hertz การ สงสัญญาณท้ัั้ง 2 ประเภทแสดงดังรูป 2.27 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่41 ภาพท่ีี่2.27 ภาพแสดงการสงสัญญาณคลื่น ระหวางสถานี การติิดตอสื่อสารทาง ดาวเทีียมท่ีี่ใชในการติดตอสื่อสารแบงเปน 3 ประเภทคืือ Geostationary Earth Orbit Satellites Medium-Earth Orbit Satellites และ Low-Earth Orbit Satellites ภาพท่ีี่2.28 ภาพแสดงประเภทของดาวเทีียมท่ีี่ใชใ นการติ ดตอ สื่อสาร 1. Geostationary-Earth Orbit Satellites เปนดาวเทีียมสื่อสารท่ีี่เคลื่อนท่ีี่สูง จากผิวโลกระหวาง 20,000 กิิโลเมตรถึึง 35,000 กิิโลเมตร มีีเขตรับสัญญาณพ้ืื้ นท่ีี่ Foot Print ท่ีี่กวางมากท่ีี่สุดในบรรดาดาวเทีียม ดวยกััน ตัวอยางเชนดาวเทีี ยมท่ีี่ใชในการถายทอดสดรายการ TV ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่42 2. Medium-Earth Orbit Satellites เปนดาวเทีียมท่ีี่เคลื่อนท่ีี่สูงจากผิวโลกระหวาง 5,000 กิิโลเมตรถึึง 15,000 กิิโลเมตร ดาวเทีียมประเภทนี้เชน ดาวเทีียมท่ีี่บอกพิิกััดทางภูมิิ ศาสตรเปน ตน 3. Low-Earth Orbit Satellites เปน ดาวเทีียมท่ีี่เคลื่อนท่ีี่ใกลผิวโลกมากท่ีี่สุด เอกสารอางอิิง สัลยุทธสวางวรรณ (2547), “CCNA 1 – Cisco Network Academy Program”, Pearson Education Indochina LTD. สัลยุทธสวางวรรณ (2547), “CCNA 2 – Cisco Network Academy Program”, Pearson Education Indochina LTD. Tanenbaurn, Andrew S. (2003), “Computer Network” Pearson Education, Inc William, S. (2004), “Computer Networking with Internet Protocol and Technology”, Pearson Prentice Hall. www.cisco.com ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่43 บทที่3 Internet Protocol Address Internet Protocol Address (IP Address) จัดไดวาเปน Logical address เปน โปรโตคอลท่ีี่ทํํางานในเล เยอรท่ีี่ 3 มีีหนาท่ีี่บอกตํําแหนงหรือท่ีี่อยูของ Host บน ระบบเครือขาย ในหัวขอนี้จะแสดงรายละเอีียดของ Internet Protocol version 4 (IPv4) ตามมาดวยการแบง Subnet และแนะนํา Internet Protocol version 6 (IPv6) 3.1 Internet Protocol Address version 4 (IPv4) Header ของ IPv4 (ภาพ 3.1) ประกอบดว ย • Version – บอกเวอรชั่นของ IP Address ในท่ีี่นี้คืือ IPv4 • Internet Header Length (IHL) – ขนาดภายใน Header • Differentiated Services Code Point (DSCP) – ประเภทของ service ภาพท่ีี่3.1 ภาพแสดง Header ของ IPv4 • Explicit Congestion Notification (ECN) –ขอมููลเก่ีี่ยวกัับการขััดของ ของการจราจรท่ีี่พบเห็นในเสนทางการเดินทาง ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
• Total Length – ความยาวของ IP packet หนาท่ีี่44 • Identification – ในกรณีีท่ีี่ Packet ถููกแบง Identification จะเก็็บขอมููล หมายเลขของ Packet ยอ ย • Flags –เปนลักษณะการแจง เตือนวามีีการแบง เปน Packet ยอ ย หรือเปลา • Fragment Offset –บอกตําแหนงของ Packet ยอ ย • Time to Live (TTL) – อายุของ Packet ชว ยหลีกเลี่ยงการทํํางานวนซํ้ํ้า • Protocol – บอกวา Packet ใชงานโปรโตคอลประเภทใดในการสง ขอมููล (TCP หรือ UDP) • Header Checksum – keep checksum value of entire header which is then used to check if the packet is received error-free • Source Address – IP address ของผูส ง • Destination Address - IP address ของผูรับ • Options – สามารถใชเ ปนขนาดท่ีี่เพ่ิิ่มข้ึึ้นของ IHL หรือเก็็บขอมููลประเภท Time Stamp หรือ Security 3.2 IPv4 Addressing IPv4 มีีขนาด 32 บิต และใชจ ุดในการแบง โดยแบง เปน 4 กลุมยอ ย ในแตล ะกลุมมีีเลขฐานสอง 8 บิต เพราะฉะนั้นจะเรียกแตละกลุมวา Octet ดัง แสดงในภาพ 3.2 ภาพท่ีี่3.2 ภาพแสดงลักษณะของ IP Address version 4 บนเครือขาย ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่45 เพ่ืื่อสะดวกในการเรียกและนําไปใชงาน ภาพ 3.3 จะแสดงการแปลงจาก Binary ไปเปน Decimal ในแตละ Octet IPv4 แบงออกเปน 5 คลาสตามลักษณะการ ใชงานดังแสดงในตาราง 3.1 ภาพท่ีี่3.3 ภาพแสดงแสดงการแปลงจาก Binary ไปเปน Decimal ในแตละ Octet ตารางท่ีี่3.1 แสดง Class ตางๆ ของ IPv4 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่46 จากตารางท่ีี่3.1 IP Address ท่ีี่อยูใ น Class A 32 บิตจะประกอบดว ย Network bit จํานวน 8 บิต และ Host bit จํานวน 24 บิต โดยท่ีี่ Network bit จะเปนหมายเลขท่ีี่ไมม ีีการเปลี่ยนแปลง สว น Host bit จะเปน หมายเลขท่ีี่มีีการ เปลี่ยนแปลงได หรือหมายเลขท่ีี่มีีลักษณะเปนชว ง ตัวอยางหนวยงานขนาด ใหญแหง หนึ่งมีี การจดทะเบียนเพ่ืื่อขอใช IP Address หมายเลข IP Address ท่ีี่ ไดร ับคืือ 12.0.0.0 ทางหนว ยงานสามารถทํํา การแบงหรือนําหมายเลข IP Address ไปใชงานไดต ้ัั้งแตหมายเลข 12.0.0.1 ถึึงหมายเลข 12.255.255.255 จะพบวา Network bit ท่ีี่กลาวถึึงคืือ หมายเลข “12” (Octet ท่ีี่ 1) และ Host bit คืือ “0.0.0” (ชวงของ IP Address ใน Octet ท่ีี่ 2- Octet ท่ีี่ 4) ลักษณะของ IP Class B และ Class C ก็็เปน เชน เดียวกัันกัับ ตััวอยาง ขางตน สวน IP Class D และ Class E นั้น จะไมมีีการนํามาใชเ พราะจะถููกสํารองไวส ําหรับการทํํา Multicast การติดตั้ง การ ใชงานอุุปกรณเ ครือขาย หรือ Routing Protocol อ่ืื่นๆ นอกจากท่ีี่แบง IP Address เปน Class แลว IP Address ยังถููกจัดกลุมเปน Public IP Address และ Private IP Address ประเภทแรกนั้นเปน ไอพีี ในแตละคลาสท่ีี่ใชใ นระบบเครือขาย สวน อีีกประเภทนั้นเปน ไอพีีท่ีี่ถููกออกแบบใหใ ชภายใน Private network ซ่ึึ่ง Private IP Address ไดแ ก 10.0.0.0 - 10.255.255.255 172.18.0.0 - 172.31.255.255 และ 192.188.0.0 – 192.188.255.255 3.3 การแบ่งเครือข่ายย่อย (Subnet) ในระบบเครือขายนั้นเม่ืื่อมีีการคนหาเสนทางโดยใช Routing protocol ประเภทตางๆ จะมีีการสง Packet ท่ีี่มีีขนาดเล็กเพ่ืื่อทํําการตรวจสอบเพ่ืื่อคนหาตํา แหนงของ Host หรือโหนดทุุกโหนด ท่ีี่มีี IP Address ดังนั้นถาไมมีีการแบง Subnet คา Overhead บนเครือขายและบนอุุปกรณเครือขาย เชน เราเตอรและ สวิทส จะมีีคาสูงมาก สงผลใหการทํํางานของระบบเครือขายลาชา ดังนั้นการแบง เครือขายจะเขามาชวยในการ ทํํางานและลดคา Overhead ดังกลาว การแบงเครือ ขายยอยมีี 2 ประเภทคืือ Fixed length Subnet Mask (FLSM) และ Variable Length Subnet Mask (VLSM) FLSM เปนการแบงเครือขายยอยโดยท่ีี่ทุุกเครือ ขาย ยอยมีีSubnet Mask เหมืือนกััน นั่นหมายความวาเครือขายยอยเหลานั้นมีี ลักษณะ Classful subnetting คืือ ทุุกเครือขา ยยอ ยจะตองมีีจํานวน IP Address ท่ีี่เทากััน วิธีการแบง Subnet สามารถคํํานวณไดจ ากสูตร ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่47 2n -2 >= จํานวน Subnet โดยที่ n คือ จํานวนบิตที่ขอยืมจาก Host bit และ -2 คือการลบ IP Address ที่เปน subnet all zero (subnet address) และ subnet all one (broadcast address) ตัวอยางท่ีี่ 1 จากรูปขางลางกํําหนดใหIP Address ท่ีี่ใชคืือ 203.20.1.0/24 จงหาจํา นวน Subnet หมายเลข IP Address ของแตละ Subnet และจํานวน IP Address ในแตละ Subnet พิิจารณาจากรูปจะพบวาจํานวน Subnet ท่ีี่สามารถเกิิดข้ึึ้นไดคืือ 2 Subnet คํําตอบท่ีี่1 ดังนั้นแทนคาในสูตร 2n -2 >= จํานวน Subnet จะได 2n -2 >= 2 2n >= 4 ≈n 2 IP Address 203.20.1.0/ 24 เปน IP Address คลาส C ดังนั้น Host bit ท่ีี่ สามารถขอยืมมาใชไดจะเริ่มท่ีี่ Octet ท่ีี่4 การขอยืมบิตเพ่ืื่อสราง Subnet แสดง ดังตอไปนี้ 203. 20 . 1 . 00 | 000000 203.20.1.0 Subnet #0 203. 20 . 1 . 01 | 000000 203.20.1.64 Subnet #1 203. 20 . 1 . 10 | 000000 203.20.1.128 Subnet #2 203. 20 . 1 . 11 | 000000 203.20.1.192 Subnet #3 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนาท่ีี่48 เพราะฉะนั้น IP Subnet Address ของ Subnet ท้ัั้งสองคืือ 203.20.1.64 และ 203.20.1.128 ตามลําดัับ คํําตอบท่ีี่2 พิิจารณา Host bit ใน Octet ท่ีี่ 3 จะพบวา มีี Host bit ท่ีี่เหลือจาการขอยืม 6 บิต เพราะฉะนั้นในแตละ Subnet จะมีีจํานวน IP Address เทากัับ 26 หรือ 64 IP Address คํําตอบท่ีี่3 ตัวอยางท่ีี่ 2 ถา IP Address ท่ีี่ไดรับมาคืือ 194.17.10.0/27 จงคํํานวณหาจํานวน Subnet และจํานวน IP Address ของแตละ Subnet /27 เปน Prefix ซ่ึึ่งบอกใหทราบวา หมายเลข IP Address ดังกลาวมีี Network bit จํานวน 27 บิต และมีี จํานวน Host bit 5 บิต เพราะฉะนั้นสามารถนํามาเขีียน แบงไดดังรูปขางลาง Network bit 27 บิต 194. 17 . 10 . 000 | 194.17.10. Subnet 00000 0 #0 194. 17 . 10 . 001 | 194.17.10. 32 Subnet 00000 #1 194. 17 . 10 . 010 | 194.17.10. 64 Subnet 00000 #2 194. 17 . 10 . 011 | 194.17.10. 96 Subnet 00000 #3 194. 17 . 10 . 100 | 194.17.10. Subnet 00000 128 #4 194. 17 . 10 . 101 | 194.17.10. Subnet 00000 160 #5 194. 17 . 10 . 110 | 194.17.10. Subnet 00000 192 #6 194. 17 . 10 . 111 | 00000 194.17.10. Subnet 224 #7 เนื่องจาก 194.17.10.0 เปน IP Address คลาส B ดังนั้นท่ีี่ Octet ท่ีี่ 3 สามบิตแรก จะบอกจํานวน Subnet ดังนั้น IP Address 194.17.10.0/27 มีีจํานวน Subnet ท้ัั้ง หมด 8 Subnet คํําตอบท่ีี่1 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
หนา ท่ีี่49 พิิจารณา Host bit ใน Octet ท่ีี่ 3 จะพบวา มีี Host bit ท่ีี่เหลือจาการขอยืม 5 บิต เพราะฉะนั้นในแตละ Subnet จะมีีจํานวน IP Address เทากัับ 25 หรือ 32 IP Address คํําตอบท่ีี่2 VLSM เปนการแบงเครือขายยอยโดยท่ีี่ในเครือขายยอยนั้นอาจจะมีีSubnet Mask และจํานวน IP Addressไมเทากััน เรียกลักษณะดังกลาววา Classless Subnetting ภาพท่ีี่3.4 ภาพแสดงเครือขา ยท่ีี่เกิิดจากการแบง Subnet แบบ VLSM จากภาพ 3.4 หมายเลข IP Address ท่ีี่ทางหนวยงานไดรับมานั้นคืือ IP Class B หมายเลข 172.16.0.0/16 172316.1.0 /24 is divided into smaller subnets: /27 /27 is divided into smaller subnets: /30 วิธีการแบง Subnet สามารถคํํานวณไดจากสูตร 2n -2 >= จํานวน IP Address Host โดยท่ีี่n คืือ จํานวนบิตท่ีี่ขอยืมจาก Host bit และ -2 คืือการลบ IP Address ท่ีี่เปน subnet all zero (subnet address) และ subnet all one (broadcast address) ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ
Search