คำนำ จงั หวดั สงขลำเป็ นจงั หวดั ตง้ั อยูฝ่ ่งั ตะวนั ออกของประเทศ ไทยมำแต่สมยั โบรำณ มีชุมชนโบรำณและเมืองเก่ำแก่ มี โบรำณสถำน โบรำณวตั ถุ ขนบธรรมเนียมประเพณี และ กำรละเล่นพื้นเมือง ศิลปพ้ืนบ้ำนเป็ นมรดกทำงวฒั นธรรม สงขลำ เพิ่งปรำกฏเป็ นคร้งั แรกในบนั ทึกของพ่อค้ำและนกั เดนิ เรือชำวอำหรบั -เปอร์เซีย ระหว่ำง ปี พ.ศ.1993-2093 ใน นำมของเมืองซิงกูร์ หรือซิงกอร่ำ แต่ในหนงั สือประวตั ศิ ำสตร์ ธรรมชำตแิ ละกำรเมืองแห่งรำชอำณำจกั ร สยำมของนำยกิโล ลำส แซร์แวส เรียกชื่อเมืองสงขลำ ว่ำ \"เมืองสิงขร\" จึงมีกำร สนั นิษฐำนว่ำ คำวำ่ สงขลำ เพี้ยนมำจำกชือ่ \"สงิ หลำ\" (อำ่ น สงิ - หะ-ลำ) หรือสงิ ขร สงขลำ เป็ นเมืองประวตั ศิ ำสตร์ มีเรือ่ งรำวสืบตอ่ กนั ต้งั แต่สมยั ก่อนประวตั ิศำสตร์ มีกำรค้นพบหลกั ฐำน ได้แก่ ขวำนหนิ ซ่ึงเป็ นเครือ่ งมือสมยั กอ่ นประวตั ศิ ำสตร์ ทอี่ ำเภอสทงิ พระ ประวตั ิ ควำมเป็ นมำ และวฒั นธรรมสมยั ที่ เมืองสทงิ พระ เจริญ เค บูรล์เบท ได้ให้ทศั นะว่ำ สทิงพระ คือศูนย์กลำงของ อำณำจกั รเซ้ียะโทห้ รือเซ็กโท เป็ นแหลง่ หน่ึงในเอเซียตะวนั ออก เฉียงใต้ ทีไ่ ดร้ บั วฒั นธรรมอนิ เดียโดยตรงในสมยั อำณำจกั รศรี วิชยั เป็ นเวลำ ไม่น้อยกว่ำ 7 ศตวรรษ เพรำะมีร่องรอยทำง สถำปตั ยกรรม ประตมิ ำกรรม ทีแ่ สดงใหเ้ ห็นว่ำเมืองสทงิ พระ เป็ น ศูนย์กลำงกำรปกครองดนิ แดน รอบ ๆ ทะเลสำบสงขลำใน สมยั นน้ั ดว้ ยควำมขอบคณุ จงั หวดั สงขลำ
ประวตั คิ วามเป็นมา สมยั โบรำณ สงขลำ เป็ นชมุ ชนประมงบนคำบสมทุ รสทงิ พระ ตอ่ มำพอ่ คำ้ ชำว ตะวนั ตกใชเ้ ป็ นทำ่ เรอื ขนสง่ สนิ คำ้ ชุมชนจงึ ขยำยตวั เป็ นเมอื งทำ่ สำคญั ทปี่ รำกฏชอื่ ในประวตั ศิ ำสตร์วำ่ \"Singora\" (ซงิ กอรำ) โดยชอื่ นี้สำมำรถสนั นิษฐำนไดห้ ลำยแบบ โดยขอ้ สนั นษิ ฐำนทเี่ ดน่ ชดั ทสี่ ดุ คอื เมืองสงขลำในสมยั กอ่ นมชี ือ่ วำ่ \"สงิ ขร\" เมอื่ พอ่ คำ้ ชำวตะวนั ตก เขำ้ มำจงึ ไดม้ กี ำรเรยี กตำมสำเนียงฝร่งั และเพยี้ นมำ เป็ นสงขลำใน ปจั จบุ นั \"singora\" เจำ้ เมอื งสงขลำยคุ แรกเป็ น ชำวมสุ ลมิ สมยั กรุงศรอี ยธุ ยำ สมเดจ็ พระนำรำยณ์มหำรำชไดส้ ง่ กองทพั มำปรำบทำลำยเมือง อยำ่ ง รำบคำบ จงึ มกี ำรยำ้ ยไปอยทู่ แี่ หลมสน(ปจั จบุ นั อยบู่ ำ้ นบอ่ เตย อำเภอ สงิ หนคร) เจำ้ เมอื งเป็ นชำวพืน้ เมอื งบำ้ ง ชำวจนี บำ้ ง ตำม ยคุ ตำมสมยั สมยั รชั กำลที่ 3 แหง่ กรุงรตั นโกสนิ ทร์เมืองสงขลำ มฐี ำนะเป็ น ประเทศรำชของอำณำจกั รสยำม ซงึ่ ทรงใหส้ รำ้ งเมอื ง ใหญท่ ฝี่ ่งั ตำบล บอ่ ยำง ใชเ้ วลำสรำ้ งเมอื งถงึ 10 ปี และรชั กำลที่ 4 ทรงเสด็จมำพำนกั ถงึ 2 ครง้ั พ.ศ. 2439 สงขลำเป็ นทวี่ ำ่ กำร มณฑลนครศรีธรรมรำช และพ.ศ. 2463 สถำปณำเป็ นสุขำภบิ ำล เมอื งสงขลำ พ.ศ.2478 ยก ฐำนะเป็ นเทศบำลเมืองสงขลำ และ พ.ศ. 2542 มีพระรำชกฤษฎกี ำ เปลีย่ นแปลงฐำนะเทศบำลเมือง สงขลำเป็ นเทศบำลนครสงขลำ (รำช กจิ จำนุเบกษำ เลม่ 116 ตอน110ก. วนั ที่ 10 พฤศจกิ ำยน 2542 มี ผลบงั คบั ใชต้ ง้ั แตว่ นั ที่ 11 พฤศจกิ ำยน 2542)
ทที่ อ่ งเทย่ี วของจังหวัดสงขลา สงขลำ มกั จะนึกถงึ ควำมมชี อื่ เสียงของเมอื งกำรคำ้ ชอื่ ดงั น่นั คอื หำดใหญ่ และสถำนทที่ อ่ งเทยี่ วสำคญั อยำ่ ง หำดสมหิ ลำ และเกำะยอ สงขลำถือเป็ นเมืองทมี่ เี สน่หม์ คี วำมสงบเรยี บงำ่ ย มสี ถำนทที่ อ่ งเทยี่ วที่ น่ำสนใจมำกมำย ทง้ั ทำงประวตั ศิ ำตร์ และธรรมชำตสิ วยงำม โดยเฉพำะบรรยำกำศของควำมเป็ นเมอื งตดิ ทะเลทใี่ หค้ วำมรูส้ กึ เหมือนมำพกั ตำกอำกำศ ขยบั มำทำงหำดใหญก่ ็จะเป็ นเมอื งทแี่ สน คกึ คกั เพรำะเป็ นยำ่ นกำรคำ้ มีทง้ั ทพี่ กั รำ้ นอำหำร รำ้ นคำเฟ่ ใหบ้ รกิ ำรมำกมำย แถมมสี ถำนทที่ อ่ งเทยี่ ว Unseen หลำยแหง่ มำทำ ควำมรูจ้ กั 20 ทเี่ ทยี่ วฮอตฮติ ของสงขลำหำดใหญก่ นั เถอะ
หำดสมหิ ลำ สถำนที่ท่องเที่ยวสำคญั ที่มีชื่อเสียงของสงขลำ หำดสมิ หลำมีโขดหนิ ขนำดย่อมยืน่ ลงทะเล หำดทรำยขำวละเอียดที่เรียกว่ำ “ทรำยแก้ว” มีป่ ำสนร่มรื่น จำกหำดสมหิ ลำสำมำรถมองเห็นทวิ ทศั น์ อนั งดงำมของเกำะหนูเกำะแมว จนมีคำกล่ำวว่ำใครมำเยือนสงขลำ แล้วไม่มำเยือนสมิหลำก็เหมือนมำไม่ถึงสงขลำ มีสญั ลกั ษณ์ที่มี ชื่อเสียงรูปป้นั นำงเงือกทอง โดยรอบบรเิ วณไดจ้ ดั สวนหยอ่ มไว้ร่ม รื่นเหมำะเป็ นที่น่งั พกั ผ่อนยำมเย็น เมี่อมองออกไปในทะเลจะเห็น เกำะหนู เกำะแมวอนั เป็ นอีกสญั ลกั ษณ์หนึ่ง หำดสมหิ ลำ สำมำรถสญั จรไปมำไดส้ ะดวก ทง้ั รถสว่ นตวั และรถโดยสำรขนำดเล็ก ตง้ั อยไู่ มห่ ำ่ งไกลจำกอำเภอหำดใหญม่ ำกนกั (ประมำณ ๓๐ กโิ ลเมตร) มโี รงแรมทพี่ กั ตง้ั อยทู่ บี่ รเิ วณแหลมสมหิ ลำ และบรเิ วณใกลเ้ คยี ง มำกมำย มรี ำ้ นจำหน่ำยอำหำรเครือ่ งดมื่ และ ของทรี่ ะลกึ มีกจิ กรรมทำงน้ำมำกมำย บำนำน่ำโบต๊ เจต็ สกี แลน่ เรอื ใบนอกจำกนี้ยงั สำมำรถลง เลน่ น้ำทะเลไดส้ ะดวกเพรำะ เป็ น ชำยหำดทไี่ มล่ ำดชนั และจะมี ยำมรกั ษำกำรณ์จำกเทศบำลเมือง สงขลำคอยดแู ลรกั ษำควำมปลอดภยั
เขำตงั กวน เขำตงั กวน เป็ นสถำนทที่ อ่ งเทยี่ วทสี่ ำคญั แหง่ หนึ่งในอ.เมอื ง สงขลำ จำกยอดเขำสำมำรถมองเห็นทวิ ทศั น์ของเมืองสงขลำได้ โดยรอบ บนยอดเขำตงั กวนเป็ นทปี่ ระดษิ ฐำนเจดยี พ์ ระธำตคุ เู่ มือง สงขลำ ซง่ึ สรำ้ งในสมยั อำณำจกั รนครศรีธรรมรำช เป็ นศลิ ปะสมยั ทวำ รำวดี นอกจำกน้ียงั มีจุดทอ่ งเทยี่ วน่ำสนใจอกี หลำยจุด ไดแ้ ก่ ประภำคำร ศำลำพระวหิ ำรแดง ลำนชมววิ เขำตงั กวน
ยำ่ นเมอื งเกำ่ สงขลำ ตง้ั อยใู่ นเขตอำเภอเมอื ง มถี นนสำยสำคญั น่ำเดนิ เทยี่ ว 3 สำย คอื ถนนนครนอก ถนนนครใน และ ถนนนำงงำม เป็ นถนนที่ ประกอบไปดว้ ยอำคำรและสถำปตั ยกรรมงดงำม ทยี่ งั คงเอกลกั ษณ์ ดง้ั เดมิ ไว้ มีหอ้ งแถวไมแ้ บบจนี ตกึ คลำสสคิ สไตล์ ชโิ นโปรตกุ สี และ ยงั มอี ำคำรตกึ แถวแบบจีนโบรำณของชำวจนี ฮกเก้ียนเรยี งรำยทง้ั สอง ฟำกฝ่งั ถนน แมอ้ ำคำรหลำยหลงั มีกำรปรบั ปรงุ ทำสีใหม่ แตไ่ มไ่ ด้ เปลีย่ นแปลงโครงสรำ้ ง อำคำรยำ่ นเกำ่ สงขลำถอื วำ่ เป็ นแหลง่ เรียนรู้ เรอื่ งรำวควำมเป็ นมำของชำวสงขลำ ผำ่ นมมุ มองทำงสถำปตั ยกรรม นอกจำกนี้ตำมอำคำรบำ้ นเรอื นบำงหลงั ยงั มภี ำพสตรที อำร์ทน่ำรกั ที่ สะทอ้ นเรอื่ งรำวของควำมเป็ นเมอื งสงขลำ ใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วไดถ้ ำ่ ยรูป กนั อีกดว้ ย
พพิ ธิ ภณั ฑสถำ นแหง่ ชำติ ตง้ั อยใู่ นเมอื งสงขลำ ตรงขำ้ มกำแพงเมืองจงั หวดั สงขลำ เป็ น สงขลำโบรำณสถำน ของชำติ มลี กั ษณะสถำปตั ยกรรมแบบจนี อำยกุ วำ่ 100 ปี ภำยในจดั แสดงศลิ ปวตั ถุทเี่ ป็ นมรดกทำงวฒั นธรรม อนั เป็ น เอกลกั ษณ์ของภำคใต้ อำคำรพพิ ธิ ภณั ฑสถำนแหง่ ชำตสิ งขลำ มีควำม โดดเดน่ ดว้ ย อำคำรสถำปตั ยกรรมแบบจนี ผสมยโุ รป ปลกู เป็ น เรือน หมู่ 4 หลงั เชอื่ มตดิ กนั ดว้ ยระเบยี งทำงเดนิ ดำ้ นหน้ำอำคำรมีสนำม และมีอำคำรโถงขนำบสองขำ้ ง ประตมิ ำกรรมนูนตำ่ สลบั ลำย ภำพเขยี นสี เป็ นรปู เทพเจำ้ จนี และลำยพนั ธพ์ุ ฤกษำ จงึ เป็ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ ทมี่ ำถงึ สงขลำแลว้ ไมค่ วรพลำดมำถำ่ ยภำพควำมงดงำมของอำคำร ดงั กลำ่ ว
ประตมิ ำกรรม พญำนำคพน่ น้ำประตมิ ำกรรมพญำนำคพน่ น้ำ ตง้ั อยบู่ รเิ วณชำยหำดสมิ หลำรมิ ถนนสะเดำ ถอื เป็ นสญั ลกั ษณ์หนงึ่ ของจงั หวดั สงขลำ เป็ น โครงกำรทสี่ รรคส์ รำ้ งขนึ้ เพือ่ ปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั น์บรเิ วณ ชำยหำดสมิ หลำใหเ้ ป็ นสถำนทพี่ กั ผอ่ นของ นกั ทอ่ งเทยี่ วและชำวสงขลำ โดย นำเอำคตคิ วำมเชอื่ เกีย่ วกบั พญำนำคทเี่ ชอื่ วำ่ “พญำนำค” เป็ น สญั ลกั ษณ์ของกำร กำเนิดน้ำและควำมอดุ มสมบูรณ์ ชำวใตจ้ งึ นบั ถอื พญำนำคเป็ น สง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ และกรำบไหวข้ อพร เพือ่ เป็ นสริ มิ งคลแก่ ชีวติ
พพิ ธิ ภณั ฑพ์ ะธำมรงค์ พพิ ธิ ภณั ฑพ์ ธำมะรงค์ หรือ บำ้ นของตระกลู ตณิ สลู ำนนท์ เป็ นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทำงประวตั ศิ ำสตร์ทสี่ ำคญั อกี แหง่ หนึ่งของ จดั สรำ้ งขนึ้ โดยกรมรำชทณั ฑ์ในสมยั ของนำยสนิท รจุ ณิ รงค์ อธบิ ดี กรมรำชทณั ฑ์ในขณะนน้ั ซง่ึ เป็ นสถำนทตี่ ง้ั บำ้ นพกั เดมิ ของบดิ ำของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ตณิ สลู ำนนท์ อดตี นำยกรฐั มนตรแี ละ รฐั บรุ ุษซงึ่ เป็ นชำวจงั หวดั สงขลำ ตวั พพิ ธิ ภณั ฑเ์ ป็ นเรอื นไมย้ กพื้นชน้ั เดยี ว หลงั คำทรงป้นั หยำ 2 หลงั คู่ มีชำนเปิ ด โลง่ เชอื่ มถงึ กนั ภำยในมีกำร จดั แสดงขำ้ งของเครือ่ งใชข้ องครอบครวั ตณิ สลู ำนนทใ์ นอดตี และ ประวตั สิ กุลวงศ์
วดั มชั ฌมิ ำวำส (วดั กลำง) เป็ นวดั ใหญแ่ ละสำคญั ทสี่ ดุ ในจงั หวดั สงขลำ อำยุ 400 ปี สรำ้ งตอนปลำยอยธุ ยำ ภำย ในวดั มีโบรำณสถำนทนี่ ่ำสนใจหลำยแหง่ อำทิ พระอุโบสถ สรำ้ งสมยั รชั กำลที่ 1 เป็ นศลิ ปะประยกุ ตไ์ ทย-จีน ภำยในมภี ำพจติ รกรรมฝำผนงั ทยี่ งั อยใู่ นสภำพสมบรู ณ์ เชน่ ภำพ ทำ่ เรือสงขลำทหี่ วั เขำแดงทมี่ ีกำรคำ้ ขำยกนั คกึ คกั ซุม้ ประตู เป็ นศลิ ปะ จนี กบั ยโุ รป นอกจำกนี้ ภำยในบรเิ วณวดั ยงั มี พพิ ธิ ภณั ฑ์ภทั รศลิ ป จดั แสดงโบรำณวตั ถุ ซง่ึ รวบรวมไดจ้ ำก เมอื งสงขลำ สทงิ พระ ระ โนด และ อนื่ ๆ ของทำงภำคใต้ ไวอ้ กี มำก เป็ นหลกั ฐำน ทสี่ ำคญั ทำง ประวตั ศิ ำสตร์ ควรคำ่ แกก่ ำรศกึ ษำ
สะพำนตนิ สลู ำนนท์ สะพำนตณิ สลู ำนนท์ ทชี่ ำวสงขลำนยิ มเรียกวำ่ สะพำนตณิ หรือสะพำนป๋ ำเปรม สะพำนขำ้ มทะเลสำบทยี่ ำวทสี่ ดุ นบั เป็ นสถำนที่ ทอ่ งเทยี่ วอีกแหง่ หนึ่งของ จ.สงขลำ สรำ้ งขน้ึ ในสมยั ฯพณฯ พลเอก เปรม ตณิ สลู ำนนท์ เป็ นนำยกรฐั มนตรเี พอื่ อำนวยควำมสะดวกใน กำรคมนำคมใหร้ วดเร็วยงิ่ ขนึ้ โดยไมต่ อ้ งรอขำ้ มแพขนำนยนตซ์ ง่ึ มี ไมเ่ พียงพอกบั ปรมิ ำณรถยนตท์ เี่ พมิ่ ขน้ึ ทำใหก้ ำรเดนิ ทำงตอ้ งใช้ เวลำนำน สะพำนแบง่ เป็ น 2 ชว่ ง โดยเชอื่ มเกำะยอทง้ั 2 ดำ้ น และ ชว่ งที่ 2 เชอื่ มระหวำ่ งตอนเหนือของเกำะยอกบั ชำยฝ่งั บำ้ นเขำเขยี ว อ.สงิ หนคร รวมทง้ั สองตอนมีควำมยำวทง้ั สน้ิ 2,640 เมตร นบั เป็ น สะพำนคอนกรีตขำ้ มทะเลสำบทยี่ ำวทสี่ ุดในประเทศไทย
เกำะยอ เกำะยอเป็ นตำบลหนงึ่ ทมี่ ีชอื่ เสียงทำงดำ้ นกำรทอ่ งเทยี่ ว กจิ กรรมและแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วบนเกำะยอ ไดแ้ ก่ สมั ผสั วถิ ชี ีวติ ชำวเกำะ ยอพกั ผอ่ นนอนโฮมสเตย์ รสี อร์ท และทอ่ งเทยี่ วไปยงั จดุ ทนี่ ่ำสนใจ ตำ่ งๆบนเกำะยอ ไดแ้ ก่ วดั แหลมพอ้ สถำบนั ทกั ษิณศกึ ษำ และรำ้ น กำแฟ รำ้ นอำหำรสดุ ชลิ บนเกำะมีภมู ทิ ศั น์ทสี่ วยงำมเป็ นเกำะทมี่ ที ง้ั ภเู ขำ ทรี่ ำบ แหลม อำ่ ว ซงึ่ เป็ นลกั ษณะทโี่ ดดเดน่ และมสี ะพำนตณิ สู ลำนนท์ เชอื่ มระหวำ่ งเกำะยอกบั ตำบลใกลเ้ คยี งอนั กอ่ ใหเ้ กดิ มีทวิ ทศั น์ ทสี่ วยงำมยง่ิ ขนึ้ ทนี่ ่ำสนใจอกี อยำ่ ง คอื เกำะยอ เป็ นแหลง่ เลี้ยงปลำ กะพงขำวในกระชงั ในทะเลสำบสงขลำ ทำใหบ้ นเกำะมรี ำ้ นอำหำรชน้ั ดมี ำกมำย
สถำบนั ทกั ษิณคดี ศกึ ษำตง้ั อยบู่ นเนินเขำบนเกำะยอ จงั หวดั สงขลำ ใกลเ้ ชงิ สะพำน ตณิ สลู ำนนท์ชว่ งที่ 2 ทเี่ ชือ่ มระหวำ่ งเกำะยอกบั เกำะใหญ่ ตง้ั ขน้ึ เมือ่ พ.ศ. 2521 เพือ่ ศกึ ษำเกีย่ วกบั ศลิ ปวฒั นธรรมของภำคใต้ มีพ้ืนที่ ทง้ั หมด 23 ไร่ อกี หนึ่งจดุ เดน่ คอื เป็ นจุดชมทวิ ทศั น์ ทสี่ ำมำรถ มองเห็นทศั นียภำพทสี่ วยงำมของทะเลสำบสงขลำในมมุ สูงทมี่ สี ะพำน เปรมตนิ สลู ำนนทท์ อดยำวผำ่ นทะเลสำบ และภำพของบำ้ นเรอื นและ กระชงั ปลำกระพงทชี่ ำวบำ้ นเล้ยี งไว้ ซงึ่ เป็ นวถิ ีชีวติ ชำวประมงเกำะยอ
วดั แหลมพอ้ วดั แหลมพอ้ หรอื วดั พระนอนวดั แหลม ตง้ั อยทู่ บี่ ำ้ นสวน ทเุ รยี น ตำบลเกำะยอ รมิ ทะเลสำบสงขลำ เป็ นวดั ทเี่ กำ่ แกแ่ ละสำคญั วดั หนึ่ง และเป็ นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทสี่ ำคญั ของจงั หวดั สงขลำ ประดษิ ฐำน พระนอนปำงไสยำสน์ทใี่ หญท่ สี่ ุด ซงึ่ เป็ นพระพทุ ธรปู ปำงปรนิ ิพพำนทใี่ หญท่ สี่ ุดในประเทศไทย พระบำทมลี วดลำยภำพ ศลิ ปะ ทง้ั น้ีเนือ่ งดว้ ยทตี่ ง้ั วดั อยใู่ กลถ้ นนเชงิ สะพำนตณิ สูลำนนท์ฝ่งั เกำะยอ จงึ ทำใหเ้ ป็ นสง่ิ ทสี่ ะดดุ ตำของผทู้ ขี่ บั รถผำ่ นไปมำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: