วชิ า การเขียนแบบก่อสรา้ ง 1 ระดับ ปวช.1 สาขาวชิ าสถาปตั ยกรรม ๒๕๖๒ ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 3 เร่ือง การเขยี นแบบรปู ตดั อ.สจุ ติ รา พสุ ิมมา สาขาสถาปัตยกรรม 30/8/2562
ใบความรู้ที่ 4 วิชา การเขยี นแบบก่อสรา้ ง 1 หน่วยเรียนที่ 3 การเขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพ้นื แผนก สถาปัตยกรรม สาขาวิชา สถาปัตยกรรม ช้ันปี ท่ี 1 จานวน 16 หนา้ หน่วยที่ 4 การเขียนแบบรูปตัดบ้านพกั อาศัยช้ันเดยี วยกพืน้ ช่ือบทเรียน 4.1 ความหมายของแบบรูปตดั 4.2 ประเภทของการแสดงรูปตดั 4.3 การเขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพ้นื จดุ ประสงค์การสอน 4.1 เขา้ ใจความหมายของแบบรูปตดั 4.1.1 อธิบายความหมายของแบบรูปตดั 4.2 เขา้ ใจประเภทของการแสดงรูปตดั 4.2.1 อธิบายรูปตดั ตามขวาง 4.2.2 อธิบายรูปตดั ตามยาว 4.3 ปฏิบตั ิการเขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพน้ื 4.3.1 อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรูปตดั กบั ผงั พ้นื ผงั โครงสร้างและรูปดา้ น 4.3.2 อธิบายหลกั เกณฑแ์ ละขอ้ กาหนดในการเขยี นแบบรูปตดั 4.3.3 เรียงลาดบั ข้นั ตอนในการเขียนรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพน้ื 4.3.4 เขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพน้ื (A-A)
4.1 ความหมายของรูปตัด 4.1.1 ความหมายของรูปตดั การเขียนแบบใดๆ จะตอ้ งเขียนรูปตดั ประกอบทกุ คร้ัง เพราะรูปตดั จะแสดงมิติทางสูงท้งั หมด ของวตั ถุที่เราจะนาไปก่อสร้าง โดยเฉพาะการเขียนแบบบา้ นและอาคารทวั่ ไปยง่ิ มีความจาเป็นอยา่ งมาก ฉะน้นั ช่างเขยี นแบบตอ้ งเป็นผมู้ ีความรอบคอบ เป็ นผมู้ ีความรู้ดา้ นการก่อสร้าง ดา้ นวสั ดุ ตลอดจนขนาด ต่างๆ ของผลิตภณั ฑ์ ตอ้ งมีความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความสมั พนั ธ์ของแบบท่ีเขียน ต้งั แต่ผงั พ้ืน ผงั โครงสร้าง ต่างๆ เพราะทุกแบบจะมีผลในการนามาเขียนรูปอ่ืนๆ เช่น รูปตดั รูปดา้ นและแบบขยาย การเขียนรูปตดั เป็ นรูปท่ีแสดงให้เห็นโครงสร้างและรายละเอียดต่างๆ ภายในอาคารในแนวด่ิง โดยมีแนวคิดว่าเลื่อยตดั อาคารในแนวด่ิงใหต้ ้งั ฉากกบั พ้ืนตามแนวเสน้ ตดั ท่ีแสงในผงั พ้นื แลว้ เคล่ือนอาคารส่วนที่หน้าเส้นแนว ตดั ออกไป จะเห็นภาพฉายแสดงโครงสร้างภายในของอาคาร ได้แก่ ระดับของฐานราก พ้ืนช้ันต่างๆ เพดาน ประตู หน้าต่าง และหลงั คา ส่วนท่ีถูกตดั แต่ฐานรากจนถึงหลงั คา ว่าทาดว้ ยวสั ดุชนิดใด ขนาด เท่าใด และลกั ษณะการติดต้งั เป็ นแบบใดดว้ ยการใชเ้ สน้ สัญลกั ษณ์คายอ่ ขององคอ์ าคารประกอบกบั เพอื่ สื่อความหมาย ท้งั น้ีมาตราส่วนท่ีใชใ้ นการเขียนรูปตดั ควรเป็ นขนาดเดียวกบั ท่ีเขียนผงั พ้นื หรือไม่เล็ก 1:50 รูปตดั ของอาคารแต่ละหลงั นิยมแสดงอยา่ งนอ้ ย 2 รูป ในแนวตดั ที่ต้งั ฉากกนั 4.2 ประเภทของการแสดงรูปตัด 4.2.1 รูปตดั ตามขวาง (Transverse Section) เป็ นแบบท่แี สดงรูปตดั ตามแนวเสน้ ตดั ที่ตดั ผา่ นดา้ นแคบของอาคาร หรือจะเรียกตามแนวตดั ก- ก ดงั รูปที่ 4.1 จะเห็นรายละเอียดคร่าวๆ ดงั น้ี 1. แนวตดั A–A ตดั ผ่านอาคาร แสดงพ้ืนที่ใชง้ านแต่ละส่วนของบา้ นท่ีโดนตดั ส่วนมากจะตดั แสดงพ้นื บา้ น หอ้ งน้า บนั ได และหลงั คาบา้ นเป็นตน้ 2. ความกวา้ งของตวั อาคาร อ่านไดจ้ ากตวั เลขบอกระยะช่วงเสา และระยะรวมเป็ นความกวา้ ง ท้งั หมดของตวั อาคาร 3. ความสูงของอาคารและระดบั ต่างๆ เช่น ระดบั รากฐาน ระดบั พ้นื ระดบั หลงั อะเส ระดบั อกไก่ และระดบั รายละเอียดอ่ืนๆ ซ่ึงกาหนดจากระดบั +0.00 4. ลกั ษณะโครงสรา้ งของอาคาร แสดงวา่ โครงสร้าง เช่น เสา คาน พน้ื ค.ส.ล. พน้ื ไม้ ตงไม้ วสั ดุมุงหลงั คา ผนงั ชนิดต่างๆ 5. ขนาดและชนิดของวสั ดุก่อสร้างทใี่ ช้ เช่น กระเบ้ือง โครงหลงั คา โครงสร้างพ้นื เสา ตอม่อ ฐานราก แสดงดว้ ยสญั ลกั ษณ์ ขอ้ ความที่ระบุชนิดและขนาดของวสั ดุ อธิบายดว้ ยขอ้ ความส้ัน กระชับ อ่านเขา้ ใจงา่ ย
รูปท่ี 4.1.1 แสดงรูปตดั ตามขวางตามแนวเสน้ ตดั จากรูปท่ี 4.1.1 ซ่ึงเป็ นรูปตวั แนว A – A แสดงแนวการตดั ท่ีส่วนต่างของอาคาร ดูจากรูปผงั พน้ื จะเห็นส่วนตา่ งๆ ดงั น้ี 1. รูปตดั จะตดั ผา่ นห้องเอนกประสงค์ หอ้ งน้า-สว้ ม และตดั ผ่านผนงั หน้าต่าง ประตู ฝา้ เพดาน หลงั คา 2. โครงสร้างพ้ืนเป็ นโครงสร้างพ้ืนไม้ โครงสร้างหลังคาเป็ นแบบจัว่ และเพิง โครงสรา้ งไม้ วสั ดุมุงเป็ นกระเบ้อื งลอนคู่ ฝ้าเพดานเป็ นโครงสร้างไม้ ชายคาปิ ดฝ้าไมร้ ะแนง ขา้ ง ในบา้ นปิ ดฝา้ กระเบ้อื งแผน่ เรียบ 3. ผนงั หอ้ งเอนกประสงคเ์ ป็นฝาโครงสรา้ ง ความยาวของตวั อาคาร และแนวชายคา ซ่ึงบอกคา่ เป็นมิติ 5. ระดบั ส่วนตา่ งๆท่แี สดง 4.2.2 รูปตดั ตามยาว (Longitudinal Section) เป็ นแบบที่แสดงตามแนวเส้นตดั ผ่านดา้ นยาวของอาคารผงั พ้ืน หรือเรียกตามแนวเสน้ ตดั B – B แตใ่ นที่น้ีไม่ไดแ้ สดงไวใ้ หด้ ู รายละเอียดจะคลา้ ยๆ กบั รูปตดั A – A แต่จะเพม่ิ รายละเอียดบางอยา่ ง ที่รูปตดั A – A ยงั ไม่แสดงใหเ้ ห็นรายละเอียด เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจแบบมากยง่ิ ข้นึ เช่น
1. พ้ืนห้องน้าเป็ นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบหล่อกับที่ ฝาห้องน้าเป็ นผนังก่ออิฐ มอญคร่ึงแผน่ ฉาบปูนเรียบขา้ งในบกุ ระเบ้ืองภายในหอ้ งน้า รูปที่ 4.1.2 แสดงรูปตดั ตามยาวตามแนวเสน้ ตดั 4.3 การเขียนรูปตัดบ้านพกั อาศัยช้ันเดียวยกพืน้ 4.3.1 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรูปตดั กบั ผงั พน้ื ผงั โครงสรา้ งและรูปดา้ น แบบรูปตดั มีความสมั พนั ธก์ บั ผงั พน้ื กล่าวคือ เมื่อจะเขียนรูปตวั ตอ้ งเขียนตามแนวเสน้ ตดั ผงั พ้นื ซ่ึงรูปตดั จะมีความกวา้ งของอาคารตามความกวา้ งและช่วงเสาที่ปรากฏในผงั พน้ื อีกท้งั ตดั ผา่ น พ้นื ที่ส่วนตา่ งๆ ของอาคารตามทีป่ รากฏในผงั พน้ื และตดั ผา่ นผนงั หรือประตู หนา้ ต่าง ที่เป็ นส่วน แสดงขอบเขตเน้ือที่ใชง้ านในผงั พ้นื อีกดว้ ย เมื่อจะเขยี นรูป A – A จึงตอ้ งดูในผงั พน้ื ตามแนวตดั A – A แนวเดียวกนั ในขณะเดียวกนั รูปตดั ก็มีความสัมพนั ธก์ บั ผงั โครงสร้าง เพราะเมื่อตอ้ งการทราบรายละเอียด โครงสร้างตรงตาแหน่งที่ถูกตดั ก็ตอ้ งแสดงโครงสร้างส่วนต่างๆ ใหต้ รงกบั ผงั ฐานรากของโครงสร้างพ้นื คาน ตง พ้นื ผงั โครงหลงั คา ตามแนวตดั แนวเดียวกบั ทแี่ สดงในผงั พน้ื ดงั น้นั ผเู้ ขียนจึงควรร่าง
แนวตดั A – A และ B - B ไวใ้ นผงั โครงสร้างดว้ ยบางกรณี เพ่ือใหส้ ะดวกต่อการดูโครงสร้างว่าแนวตดั ผา่ นตวั โครงสรา้ ง เช่น ตง หรือคาน ฯลฯ หมายเลขอะไรบา้ งตอนนามาเขยี นลงในรูปตดั ใหถ้ ูกตอ้ ง ส่วนรูปดา้ นน้นั มีความสมั พนั ธก์ บั รูปตดั เม่ือแนวตดั A – A หรือ B - B ตดั ผา่ นโครงสรา้ ง บางส่วนของอาคาร ส่ิงท่ีจะตอ้ งแสดงใหต้ รงกนั ท้งั ในรูปตดั และรูปดา้ น คือ ระดบั ซ่ึงระยะความสูงน้ี เขยี นบอกระดบั ไวอ้ ยา่ งละเอียดในรูปตดั แต่ไม่นิยมแสดงไวใ้ นรูปดา้ นอาจจะแสดงไวใ้ นรูปดา้ นขา้ งกแ็ ต่ เพยี งระดบั ทสี่ าคญั เช่น ระดบั พน้ื หอ้ ง หรือฝา้ เพาดานเทา่ น้นั 4.3.2 หลกั เกณฑแ์ ละขอ้ กาหนดในการเขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพน้ื 1. รูปตดั ตามยาวและรูปตดั ตามขวางใชม้ าตราส่วน 1:50 ส่วนรูปตดั ขยายหรือรูปตดั แสดง รายละเอียดใชม้ าตราส่วน 1:20 หรือ 1:25 หรือใหญก่ วา่ น้นั ตามความเหมาะสม ใชค้ วามหมายของเสน้ 3 ขนาด โดยแสดงขอบนอกของส่วนที่ถูกตดั ดว้ ยเสน้ หนามากส่วนของอาคารทเ่ี ห็นในรูปตดั ทไ่ี ม่ถูกตดั แสดงดว้ ยเสน้ หนา หรือบางตามความเหมาะสม เสน้ ฉายเสน้ มิตแิ ละเสน้ ท่ีเขยี นสญั ลกั ษณ์ใชเ้ สน้ บาง ดู ไดจ้ ากตารางที่ 5.2.1 แสดงสญั ลกั ษณ์เสน้ ในแบบรูปตดั 2. การแสดงระดบั ในรูปตดั ใชร้ ะบบเดียวกบั ทแี่ สดงไวใ้ นผงั พ้นื แนวระดบั อยนู่ อกรูปตดั ทเ่ี ขยี นโดยมีตวั อกั ษรกากบั และลูกศรช้ีบอกแนวน้นั การเขยี นขอ้ ความประกอบแบบรูปตดั เพอ่ื ใหร้ ายละเอียดของส่วนโครงสร้างและวสั ดุทีใ่ ชใ้ นรูปตดั ใช้ แสดงดว้ ยตวั ยอ่ สญั ลกั ษณ์ และขอ้ ความทกี่ ระทดั รดั ชดั เจนโดยจดั ให้เป็ นหมวดหมู่ เช่น โครงสรา้ งส่วน อ่ืน เป็ นตน้ และจดั แนวประณีต เพอ่ื ช่วยใหอ้ ่านงา่ ย และตวั อกั ษรส่งเสริมแบบใหม้ ีคุณคา่ ข้นึ ขอ้ ความท่ี บง่ ช้ีเฉพาะควรใหอ้ ยใู่ กลก้ บั ส่วนทีบ่ ง่ ถึงมากท่ีสุดและระวงั ไม่ใหท้ บั เสน้ มิติ เสน้ ช้ีบอกถา้ ใชบ้ รรทดั ช่วย เขียนตวั อกั ษร ไม่ควรขีดเสน้ ใตข้ อ้ ความแตใ่ นการฝึกหดั เขยี นดว้ ยลายมือ จาเป็ นตอ้ งขีดเสน้ ร่างเพอื่ ช่วย ใหแ้ นวตวั อกั ษรเป็นระเบียบก็อนุโลมใหใ้ ชไ้ ด้ ขนาดตวั อกั ษรและตวั เลข ทใ่ี ชเ้ ขยี นประกอบในแบบ ใช้ ขนาดความสูง 2.5 – 3.5 มิลลิเมตร ขนาดช่องไฟตามความเหมาะสม 4. สญั ลกั ษณ์ ใชส้ ญั ลกั ษณ์วสั ดุก่อสร้าง และสญั ลกั ษณ์เสน้ ตามตารางที่ 5.1-5.2 เขยี นรูปตดั ตาม แนวเสน้ ตดั ในผงั พ้นื และกาหนดแนวเส้นตดั ให้ตดั ส่วนท่ีผเู้ ขียนเห็นว่าสาคญั เช่น ตอ้ งการตดั ผ่านช่อง หน้าต่าง บนั ได ส่วนที่พ้ืนเปลี่ยนระดบั โดยเส้นตดั ไม่จาเป็ นตอ้ งเป็ นเสน้ ตรง เพ่ือแสดงรายละเอียดของ โครงสร้างมากทีส่ ุดเทา่ ที่จะแสดงได้ นอกจากน้ี แนวเสน้ ตดั ไม่ควรตดั ผา่ นหนา้ ตดั เสา เพราะผอู้ ่านจะอ่าน เป็ นผนงั ทึบและไม่ไดแ้ สดงรายละเอียดของผนงั และช่องประตูหรือหนา้ ต่างท่ีควรแสดงในการกาหนด ขนาดและตาแหน่งของโครงสร้างใหต้ รงกบั ในแบบรูปตดั
รูปท่ี 4.3.1 แสดงการเขียนเสน้ ลูกศรในแบบรูปตดั ทม่ี า : เจริญ เสาวภาณี 2550:40 ตารางท่ี 4.3.1 แสดงสัญลักษณ์เส้นในแบบรูปตดั ชนิดเสน้ การใชง้ าน เสน้ หนามาก รูปตดั ทางนอน หรือทางต้งั เสน้ หนา รายละเอียดทวั่ ไป เสน้ บาง เสน้ มิติ เสน้ ฉาย เสน้ ลงเงา ตงั เลข ตวั อกั ษร เสน้ ประหนา เสน้ ที่มองเห็น และส่วนท่จี ะร้ืนถอน เสน้ ลูกโซ่บาง เสน้ ศูนยก์ ลาง และเสน้ แกน ตารางท่ี 4.3.1 แสดงสญั ลกั ษณ์เสน้ ในแบบรูปตดั (ตอ่ ) ชนิดเสน้ การใชง้ าน เสน้ ลูกโซ่ หรือเสน้ เตม็ บาง เสน้ กากบั ศูนยก์ ลางเสา โดยมีวงกลมปลายเสน้ เสน้ ท่บี างทีข่ าดตอน การตดั ตอนส่วนที่ต่อเนื่องกนั หรือต่อกนั ดว้ ยสลบั ฟันปลา
ท่มี า : มาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ุสาหกรรม 440 เล่ม 1-2525 หนา้ 14-1 ตารางที่ 4.3.2 แสดงสญั ลกั ษณ์วสั ดุในแบบรูปตดั สัญลกั ษณ์ ความหมาย ดิน หรือระดบั ดิน ทรายถม หิน คอนกรีต อิฐ คอนกรีตบล็อก ปนู ฉาบ ปนู พลาสเตอร์หรือปูนทราย
ตารางที่ 4.3.2 แสดงสญั ลกั ษณ์ของโครงสรา้ งในรูปตดั (ตอ่ ) สัญลกั ษณ์ ความหมาย กระเบ้อื งดินเผา กระเบ้อื งเคลือบ (มาตรา ส่วนขนาดใหญม่ าตราส่วนขนาดเล็ก) ยาง หรือพลาสติก (มาตราส่วนใหญ่) ฉนวนกนั ความร้อน ไมไ้ ม่แต่งผวิ หรือโครงไมท้ ่ยี าวตอ่ เนื่อง ไมต้ ดั เป็ นช่วงส้นั ๆ ไมแ้ ต่งผวิ รูปตดั ไมอ้ ดั (รูปตดั - อตั ราส่วนใหญ่) กระจก (มาตราส่วนใหญ)่ กระจก (มาตราส่วนเล็ก) เหล็ก (มาตราส่วนใหญ)่ โลหะอื่นๆ (มาตราส่วนใหญ)่ เหล็ก หรือโลหะอ่ืนๆ (มาตราส่วนขนาด เลก็ ) เหล็กรูปพรรณ (มาตราส่วนใหญ่) รูปตดั ผนงั ก่ออิฐฉาบปูน (มาตราส่วนใหญ่) ที่มา : เจริญ เสาวภาณี 2550:4
ตารางที่ 4.3.3 แสดงสญั ลกั ษณ์โครงสรา้ งในแบบรูปตดั สัญลกั ษณ์ ความหมาย หนา้ ตดั พ้นื ไมบ้ นตง – คานไม้ พ้นื ไมว้ างพาดบนหนา้ ตดั ตง @ 0.50 เมตร พ้นื คอนกรีตเสริมเหล็กแบบหล่อในท่ี (SLAB ON BEAM) พน้ื คอนกรีตเสริมเหลก็ บนทรายอดั แน่น (SLAB ON GROUND) ก. ผนงั สองช้นั ทาดว้ ยวสั ดุแผน่ เรียบ ใชค้ ร่าวต้งั และคร่าวนอน @ 0.40 เมตร ข. ผนงั ช้นั เดียวทาดว้ ยวสั ดุแผน่ ใชค้ ร่าวต้งั และคร่าว นอน @ 0.40 เมตร ก. ผนงั คอนกรีตเสริมเหล็กใชม้ าตราส่วน 1:50 ข. ผนงั ก่ออิฐคร่ึงแผน่ ค. แสดงช่องหนา้ ต่างและวงกบบน-ล่าง ง. ช่องประตู (แสดงวงกบบน และความสูง) ก. ผนงั ก่ออิฐเตม็ แผน่ และหนา้ ตา่ งบานกระทงุ้ ข. ผนงั หินก่อ ค. ผนงั ซีเมนตบ์ ล็อก
ตารางท่ี 4.3.3 แสดงสญั ลกั ษณ์โครงสรา้ งในแบบรูปตดั (ตอ่ ) สัญลกั ษณ์ ความหมาย ก. ฐานรากแผค่ อนกรีตเสริมเหลก็ บนช้นั ดินแขง็ ข. ฐานรากแผค่ อนกรีตเสริมเหลก็ รับกาแพงก่ออิฐ .. ก. ฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็กใชเ้ สาเขม็ ส้นั ข. ฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็กบนเสาเขม็ ยาว .. บนั ไดไมแ้ บบลูกนอนวางบนแม่บนั ได บนั ไดไมแ้ บบพงุ ไมย้ ดึ ขา้ งแม่บนั ได บนั ไดไมแ้ บบลูกนอนฝังในบนั ได บนั ไดคอนกรีตเสริมเหลก็ แบบทอ้ งเรียบ
ตารางท่ี 4.3.3 แสดงสญั ลกั ษณ์โครงสรา้ งในแบบรูปตดั (ต่อ) สัญลกั ษณ์ ความหมาย บนั ไดคอนกรีตเสริมเหล็กแบบพบั ผา้ บนั ไดก่ออิฐ บนั ไดเวยี น เพดานแผน่ เรียบโครงเคร่าไม้ @ 0.60 เมตร # เพดานแผน่ เรียบโครงเคร่าโลหะชุบสงั กะสี @ 0.60 เมตร # เพดานแผน่ เรียบโครงเคร่าทบี าร์ชุบสงั กะสี @ 0.60 เมตร # ทม่ี า : เจริญ เสาวภาณี 2550:46 5. เขียนเสน้ แนวตดั ในผงั โครงสร้างทุกรูป โดยให้แนวตดั ตรงกบั ผงั พน้ื เพอ่ื สะดวกในการกาหนดขนาด และตาแหน่งของโครงสรา้ งใหต้ รงกบั แบบรูปตดั
6. แปลงมาตราส่วนของโครงสร้างหนา้ ตดั ไมซ้ ่ึงทอ้ งตลาดนิยมใชเ้ ป็ นน้ิวให้เป็ นมิลลิเมตรเพอ่ื สะดวกในการวดั ขนาดลงในแบบ เริ่มจากผูเ้ ร่ิมเขียนยงั ไม่ชินในการแปลงมาตราส่วนจากมาตรา องั กฤษมาเป็นมาตราเมตริกทน่ี ิยมใชก้ นั มากแสดงไว้ ตารางที่ 4.3.4 แสดงการแปลงมาตราส่วนหนา้ ตดั ไมจ้ ากมาตราองั กฤษเป็ นมาตราเมตริกโดยประมาณ ชนิดของโครงสร้าง ขนาดหน้าตัดไม้ นิ้ว x นิว้ ม.ม. x ม.ม. ไมแ้ ผน่ บาง ฝาไม้ 1/2” x 6” 12.5 x 150 1/2” x 2” 12.5 x 50 เชิงชาย 1” x 10” 25 x 250 ไมป้ ิ ดลอนกระเบ้ือง 3/4” x 4” 19 x 100 พ้นื 1” x 6” 25 x 150 ไมโ้ ครงสรา้ ง ตง อะเส จนั ทนั 1 1/2” x 5” 38 x 125 2” x 4” 50 x 100 2” x 6” 50 x 150 คาน 1 1/2” x 8” 38 x 200 2” x 8” 50 x 200 เคร่า 1 1/2” x 3” 38 x 75 แป 2” x 3” 50 x 75 4.3.3 ข้นั ตอนในการเขียนแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพ้นื (รูปตดั A-A) 1. จดั หนา้ กระดาษใหเ้ หมาะสม โดยพจิ ารณาดูขนาดความยาว ความสูงของรูปตดั ท่ีจะเขียน ใหม้ ีพ้ืนท่ีโดยรอบรูปตดั พอท่ีจะเขียนบอกมิติและขอ้ ความบอกชนิดและขนาดของวสั ดุโครงสร้างทุก ส่วนของรูปตดั ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ไม่แออดั จนเกินไป
รูปที่ 4.3.2 แสดงภาพรวมการจดั หนา้ กระดาษ ทม่ี า : เจริญ เสาวภาณี 2550:40 2. เขียนเสน้ ร่างแนวนอนเสน้ ระดบั ของพน้ื ดิน หาศนู ยก์ ลางเสา A ,B และ C บนเสน้ นอน เขียนเสน้ ร่างแนวดิ่งศนู ยก์ ลางเสา A ,B และ C ตามระยะมาตราส่วนทก่ี าหนด เขยี นเสน้ ร่างแสดงขนาด เสา 0.20 เมตร คร่อมเสน้ ศูนยก์ ลางเสาแนวด่ิง รูปที่ 4.3.3 แสดงการร่างเสน้ ระดบั และแนวเสา 3. เขยี นเสน้ ร่างทางนอน แสดงระดบั ความสูงของบา้ นเป็ นตอนๆ คอื รบั กน้ หลุมฐานราก ระดบั หลงั พ้นื หอ้ ง
รูปท่ี 4.3.4 แสดงระดบั ความสูงของอาคาร 4. เขียนเสน้ ร่างหน้าตดั โครงสร้างส่วนที่ถูกตดั ซ่ึงไดแ้ ก่ คาน อะเส ขนาด 0.05 x 0.20 เมตร อกไก่ ขนาด 0.025 x 0.20 เมตร ตง ขนาด 0.05 x 0.15 เมตร พ้นื ขนาดความหนา 0.025 เมตร โดยเขียนจาก เสน้ ร่างก่อนแลว้ คอ่ ยเขยี นเสน้ หนามากทบั เสน้ ร่างเดิม ในส่วนทเี่ ป็ นหนาตดั รูปท่ี 4.3.5 แสดงโครงสรา้ งพน้ื ตามแนวทถ่ี ูกตดั 4. เขียนเสน้ ร่างแสดงรายละเอียดส่วนทีไ่ ม่ถูกตดั ไดแ้ ก่ ประตู หนา้ ตา่ ง รายละเอียดผนงั หอ้ งน้า เพดาน โครงหลงั คา เขียนส่วนท่ีมองไม่เห็น เช่น ฐานราก และเสาตอม่อใหแ้ สดงดว้ ยเสน้ ประ
รูปท่ี 4.3.6 แสดงการร่างรายละเอียดของรูปตดั 5. เขยี นเสน้ บอกมิติ เสน้ ฉาย เสน้ ศนู ยก์ ลางเสา เขียนสญั ลกั ษณ์วสั ดุก่อสร้าง และโยงลูกศรดว้ ยเสน้ หนา รูปท่ี 4.3.7 แสดงสญั ลกั ษณ์และการช้ีบอกวสั ดุโครงสร้าง 6. ตรวจสอบความถูกตอ้ งข้นั สุดทา้ ยโดยละเอียด เขียนรายการประกอบแบบ เขียนตวั เลขตวั อกั ษร เขียนบอกช่ืองานพร้อมมาตราส่วนกากับไวด้ ้านล่างของแบบด้วยเส้นหนาและลบส่วนท่ีไม่ ตอ้ งการออก
รูปท่ี 4.3.8 แสดงรูปตดั ทส่ี มบูรณ์ 4.3.4 การเขียนแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพ้นื (A-A) ปฏิบตั กิ ารเขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพน้ื ที่แบบกาหนดในใบงานท่ี 4
ใบงานท่ี 4 สัปดาห์ท่ี 4 ผู้สอน : อาจารยส์ ุจติ รา พสุ ิมมา รายวชิ า : การเขียนแบบก่อสรา้ ง 1 ห้อง : ปวช. 1 เวลา : 10.30-17.30 เวลา : 6 คาบ สถานทฝี่ ึ กสอน: วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย ช่ืองาน การเขยี นแบบรูปตดั บา้ นพกั อาศยั ช้นั เดียวยกพ้นื A-A วสั ด-ุ อุปกรณ์และเคร่ืองมอื เขยี นแบบ 1. กระดาษปอนดเ์ ขยี นแบบ 80 ปอนด์ ขนาด A2 จานวน 1 แผน่ หรือกระดาษถ่ายเอกสาร (80 แกรม) ขนาด A3 จานวน 1 แผน่ 2. โตะ๊ เขียนแบบ 3. ทสี ไลด,์ ฉากสามเหล่ียม, ดินสอ,ยางลบ 4. เทปตดิ กระดาษ,สเกล มอบหมายงาน 1. เขียนแบบตามใบงาน 4 2. กาหนดเวลาทางาน 5 ชว่ั โมง ข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน 1. ตรวจความพร้อมของโตะ๊ เขียนแบบ อุปกรณ์ เคร่ืองมือเขยี นแบบและอุปกรณ์ต่างๆที่เก่ียวขอ้ ง 2. เตรียมความพรอ้ มของตวั นกั ศกึ ษาเอง และสภาพแวดลอ้ ม 3. วางแผนการทางาน กาหนดเวลาทางานในแต่ละชิ้น คดิ รูปแบบการจดั หนา้ กระดาษ 4. ปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอนอยา่ งละเอียด รอบคอบ 5. เม่ือทางานแลว้ เสร็จตรวจสอบความเรียบรอ้ ยและความถกู ตอ้ งกอ่ นส่งงาน ข้อเสนอแนะในการปฏิบัตงิ าน 1. การเขียนรูปตดั ตอ้ ง ศกึ ษาแบบแปลนพน้ื ผงั โครงสรา้ งท้งั หมด เพอื่ ใชป้ ระกอบการเขียนรูปตดั ท่ีถูกตอ้ ง 2. ควรจดั วางรูปแบบ ตอ้ งใหม้ ีความเหมาะสมและเขียนรายละเอียดใหช้ ดั เจน 3. การเขยี นตวั หนงั สือ กรอบชื่อ ตอ้ งร่างเสน้ ตามขนาดกอ่ นเขียนทกุ คร้งั 4. การเขียนแบบใหค้ านึงน้าหนกั ของเสน้ คอื เสน้ บาง เสน้ หนา และเสน้ หนกั มาก
ใบงานที่ 4 (ต่อ) สัปดาห์ที่ 4 ผู้สอน : อาจารยส์ ุจติ รา พสุ ิมมา รายวิชา : การเขยี นแบบก่อสร้าง 1 ห้อง : ปวช. 1 เวลา : 6 คาบ สถานทฝี่ ึ กสอน: วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย เวลา : 10.30-17.30 เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ความถูกตอ้ ง 5 คะแนน 2. ความสะอาด ประณีต สวยงาม 2 คะแนน 3. การจดั หนา้ กระดาษ 2 คะแนน 4. ส่งงานตามกาหนดเวลา 1 คะแนน
ใบงานท่ี 4 (ต่อ) สัปดาห์ที่ 4 ผู้สอน : อาจารยส์ ุจติ รา พสุ ิมมา รายวิชา : การเขียนแบบก่อสร้าง 1 ห้อง : ปวช. 1 เวลา : 6 คาบ สถานทฝี่ ึ กสอน: วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย เวลา : 10.30-17.30
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: