โครงงานวิทยาศาสตร์ นํ้ายาเช็ดกระจกจากเเป้งข้าวโพด

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง นำ้ ยาเชด็ กระจกจากแป้งขา้ วโพด Cornstarch glass cleane จัดทำโดย นางสาวสุชดา เพ็งจนั ทร์ เลขที่ 1 นางสาวณภทั ร เมืองนอ้ ย เลขที่ 3 นางสาวแพรฉตั ร จันทรเวช เลขท่ี 6 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6/1 โรงเรยี นเทศบาล ๔ (วดั โพธาวาส) อำเภอเมอื ง จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี โครงงานเล่มนเี้ ปน็ ส่วนหน่ึงของโครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งประดษิ ฐ์ ตามหลกั สตู รหอ้ งเรียนวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ณ โรงเรียนเทศบาล ๔ (วดั โพธาวาส) อำเมอื ง จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเชด็ กระจกจากแป้งขา้ วโพด Cornstarch glass cleane จดั ทำโดย นางสาวสุชดา เพ็งจนั ทร์ เลขท่ี 1 นางสาวณภทั ร เมืองน้อย เลขท่ี 3 นางสาวแพรฉัตร จนั ทรเวช เลขที่ 6 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/1 ครทู ี่ปรกึ ษา ปรดี า บวั ยก โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดโพธาวาส) อำเภอเมือง จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี โครงงานเล่มน้เี ปน็ สว่ นหน่ึงของโครงงานวิทยาศาสตร์ส่ิงประดษิ ฐ์ ตามหลักสตู รหอ้ งเรียนวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ณ โรงเรียนเทศบาล ๔ (วดั โพธาวาส) อำเมือง จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี

ก บทคัดยอ่ โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องน้ำยาเชด็ กระจกจากแป้งข้าวโพดจัดทำขึ้นมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาน้ำยา เชด็ กระจกจากสูตรอื่นๆนอกเน่อื งจากสูตรทีใ่ ชส้ ารเคมี (2) เพือ่ สร้างนำ้ ยาเชด็ กระจก จากแปง้ ข้าวโพด ในการทดลองนี้คณะผู้ต้องการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการทำน้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด โดยมี ขนั้ ตอนการศึกษาค้นคว้า โดยนำแปง้ ข้าวโพด 1 ช้อนโตะ๊ มาผสมกับน้ำในปรมิ าตรสุทธิ 300 ml แลว้ นำแอมโมเนีย มาผสมอีก 1ช้อนโตะ๊ และนำ้ ส้มสายชู 1 ชอ้ นโตะ๊ ผสมใหเ้ ปน็ สารเน้อื เดียวกนั รอ ตกตะกอน จากการที่เราได้ศึกษา และได้ผลิตน้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดมาใช้นั้น ผลการทดลอง พบว่าใช้เช็ดกระจกประสิทธิภาพเทียบเท่า นำ้ ยาเชด็ กระจกท่ีมีทั่วไปตามทอ้ งตลาด ซึง่ แสดงว่า ปรมิ าตรความเข้มข้นท่ตี กตะกอนมผี ลต่อคราบบนกระจกเมื่อ ไม่มีการใช้สารเคมี และได้ศึกษาต่อ นำมาประยุกต์ใช้ผลขี้เถ้ามาเปรียบเทยี บคราบบนกระจก ซึ่งมีผลใกล้เคียงกนั แต่การทดลองพบว่า แป้งข้าวโพดมีการตกตะกอนที่ดีไม่มีสิ่งเจือปนลอย ผลขี้เถ้ามีสิ่งเจือปนลอยอยู่เมื่อรอ ตกตะกอน มีผล ตอ่ คราบบนกระจกเม่ือลองเช็ดแล้ว และสามารถทำใช้เองไดภ้ ายในบ้าน ทำให้ประหยัดค่าใช่จ่าย ภายในบ้านด้วย

ข กติ ติกรรมประกาศ โครงงานวทิ ยาศาสตรฉ์ บบั นสี้ ำเร็จอย่างสมบรู ณ์ไดด้ ว้ ยความชว่ ยเหลืออย่างย่งิ จาก คุณครูปรีดา บัวยก คุณครูที่ปรึกษา ที่ได้ให้คำแนะนำปรึกษาและให้ข้อมูลต่างๆ ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง ณ โอกาสนี้ อนึ่ง คณะผูจ้ ดั ทำหวังวา่ โครงงานวทิ ยาศาสตรเ์ ล่มน้จี ะมีประโยชน์อยู่ไมน่ ้อย จึงขอมอบสว่ นดีท้ังหมดนี้ ให้แก่คุณครทู ีป่ รึกษาที่คอยให้คำแนะนำตลอดจนตรวจสอบโครงงานวิทยาศาสตร์ ทำให้โครงงานวิทยาศาสตร์เล่ม น้มี ีประโยชนต์ ่อผเู้ ก่ียวข้องและขอมอบความกตัญญูกตเวทิตาคณุ แดบ่ ิดา มารดา และผู้มีพระคุณทุกท่านตลอดจน เพ่ือนๆ ท่คี อยใหค้ วามช่วยเหลอื และกำลังใจ คณะผจู้ ดั ทำ

สารบัญ ค เรอื่ ง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบญั ค-ง สารบัญตาราง จ สารบญั ภาพ ฉ บทท่ี 1 บทนำ 1 1 ทีม่ าและความสำคัญ 1 วัตถปุ ระสงค์ 1 ขอบเขตการศึกษา 2 สมมติฐานการทดลอง 2 ตวั แปรทศี่ ึกษา 2 นิยามศพั ท์เฉพาะ 3 บทที่ 2 เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 3 แปง้ ข้าวโพด 3-4 แอมโมเนีย 5 น้ำยาอเนกประสงค์ 5 โครงงานวิทยาศาสตรท์ ่ีเกี่ยวข้อง 6 บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนินงาน 6 วัตถุดิบ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และสารเคมี 6-7 วิธกี ารทดลอง 8 บทท่ี 4 ผลการทดลองและอภปิ ราย 8 ผลการทดลอง 8 การนำไปใช้ 9 บทท่ี 5 สรุปผลการทดลองและข้อเสนอแนะ 9 สรปุ ผลการทดลอง

สารบญั (ตอ่ ) ง อภปิ รายผลการทดลอง 9 ข้อเสนอแนะ 9 บรรณานุกรม 10 ภาคผนวก 11-13

จ สารบญั ตาราง หน้า ตารางท่ี 8 8 4.1 การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของน้ำยาเชด็ กระจกจากแป้งขา้ วโพดและผงขเ้ี ถา้ 4.2 การเปรียบเทียบคณุ สมบัตขิ องน้ำยาเชด็ กระจกจากแป้งข้าวโพดและผงขเี้ ถ้า

ฉ สารบญั ภาพ หน้า ภาพท่ี 3 4 ภาพท่ี 1 แปง้ ขา้ วโพด 5 ภาพที่ 2 แอมโมเนยี มไบคาร์บอเนต 11 ภาพที่ 3 น้ำยาเอนกประสงค์ 11 ภาพท่ี 4 น้ำสะอาดใสภ่ าชะท้ัง 2 ใบ 11 ภาพท่ี 5 ใส่แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ลงในภาชนะใบท่ี 1 11 ภาพที่ 6 ใส่แอมโมเนยี ม 1 ช้อนโต๊ะ ลงในภาชนะใบท่ี 1 12 ภาพท่ี 7 ใส่นำ้ สม้ สายชู 1 ชอ้ นโต๊ะ ลงในภาชนะใบท่ี 2 12 ภาพท่ี 8 ใส่ผงขี้เถ้า 1 ชอ้ นโต๊ะ ลงในภาชนะใบที่ 2 12 ภาพที่ 9 ใส่แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต 1 ชอ้ นโต๊ะ ลงในภาชนะใบท่ี 2 12 ภาพที่ 10 ใส่น้ำสม้ สายชู 1 ชอ้ นโต๊ะ ลงในภาชนะใบท่ี 2 13 ภาพที่ 11 รอตกตะกอน 13 ภาพท่ี 12 ผลติ ภณั ฑ์ทัง้ 2 ชนดิ ตกตะกอนแบบที่ใช้แปง้ ข้าวโพดมีความใสกวา่ แบบใช้แปง้ ผงขเ้ี ถ้า 13 ภาพที่ 13 กระจกทีใ่ ช้ทดลอง 13 ภาพท่ี 14 ใช้ผลิตภัณฑ์จากแปง้ ข้าวโพดมาเช็ดกระจก ภาพที่ 15 ผลท่ไี ดจ้ ากการทดลองเชด็ กระจก

1 บทท1่ี บทนำ ทม่ี าและความสำคญั การดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคนในแต่ละวัน มักใช้ผลิตภัณฑ์หรือเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ในการทำความ สะอาดส่ิงสกปรกปนเป้ือนของเคร่ืองใช้หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในการทำความสะอาดแต่ละคร้ังน้ันจะมีการใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดส่ิงสกปรกของใช้หรอื ผลติ ภัณฑ์ตา่ ง ๆ ซงึ่ ในนำ้ ยาหรือผลติ ภณั ฑ์ทำความสะอาดน้ีมัก มสี ่วนผสมของสารเคมีต่าง ๆ ที่มีกลิ่นของสารรนุ แรงและสง่ ผลเสยี ตอ่ สุขภาพของผูใ้ ชง้ าน การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำยาเช็ดกระจกท่ัวๆไปในท้องตลาดจะเห็นได้ว่าส่งกลิ่นรุนแรงมา จากสารเคมีที่มีอยู่ในน้ำยาเช็ดกระจกทั่ว ๆ ไปซึ่งมีผลเสียต่อร่างกายที่ได้รับกล่ินอยู่บ่อยคร้ังเพราะมีส่วนผสม ของ บิวทิลเซลโลโซด และแอมโมเนียไฮดรอกไซด์ เป็นอันตรายต่อร่างกายหากดูดซึมผ่านผิวหนังจะระคาย เคืองในชีวิตประจำวันของเราการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในธรรมชาติท้ังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายและ สภาพแวดล้อมสามารถทำได้ดว้ ยตนเองและสามารถบอกต่อ ๆ กันเพื่อใช้งานภายในบ้านหรือสถานท่ที ำงานได้ น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดที่ได้ศึกษาและมาทำโครงงานนี้ มีส่วนวัตถุดิบมาจากธรรมชาติหาได้ภายใน ครัวเรือนในท้องถิ่นหรือเป็นวัตถุดิบที่หาซ้ือได้ง่ายไม่เป็นอันตรายสามารถนำมาใช้แทนน้ำยาเช็ดกระจกที่มี สารเคมีในท้องตลาดได้ ผู้จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์จึงเล็งเห็นความสำคัญเก่ียวกับสุขภาพร่างกายและสภาพแวดล้อม จึง คิดริเร่ิมทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เร่ืองน้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด ซ่ึงมีความจำเป็นอย่างมากเพื่อ แก้ปัญหาสารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และการรักษาสุขภาพของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเป็น ผลติ ภัณฑข์ จดั คราบสกปรกทไี่ ม่เปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพและสภาพแวดลอ้ มใกลต้ ัวเรา 1 .2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ศึกษานำ้ ยาเชด็ กระจกจากสตู รอ่ืนๆนอกเนือ่ งจากสตู รทใ่ี ช้สารเคมี 1.2.2 เพอ่ื สรา้ งนำ้ ยาเชด็ กระจกจากแป้งข้าวโพด 1.3 ขอบเขตการศกึ ษา 1.3.1 ศกึ ษาการผสมแปง้ ขา้ วโพดและผงข้ีเถา้ กบั นำ้ รอให้ตกตะกอนกอ่ นนำไปผสมกับสว่ นผสมอ่ืนๆ 1.3.2 น้ำยาเช็ดกระจกจากแปง้ ข้าวโพดและสว่ นประกอบตวั อื่นๆ 1.3.3 ประสิทธภิ าพการเช็ดทำความสะอาด

2 1.4 สมมตุ ิฐานการทดลอง แป้งข้าวโพดสามารถขจัดคราบบนกระจกแทนน้ำยาเช็ดกระจกท่ีใช้ผงขี้เถ้าเป็นส่วนผสม เน่ืองจาก แป้งขา้ วโพดตกตะกอนดีกว่าผงขี้เถา้ 1.5 ตัวแปรทีศ่ ึกษา 1.5.1 ตัวแปรตน้ - แปง้ ขา้ วโพดและผงข้ีเถา้ 1.5.2 ตวั แปรตาม - กระจกไร้รอยเปื้อนหรือสิง่ สกปรก 1.5.3 ตวั แปรควบคมุ - ปรมิ าณของนำ้ ส้มสายชู - ปรมิ าณของแอมโมเนยี - อุณหภูมขิ องอากาศ 1.6 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ นำ้ ยาเช็ดกระจกจัดอยูใ่ นผลิตภัณฑ์ซกั ล้าง จึงมีสารลดแรงตึงผวิ เป็นองคป์ ระกอบหลกั ผสมกบั สารเคมี ท่ีใช้เป็นตัวทำละลาย มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสมแอมโมเนียมีฤทธิ์เป็นด่างและสามารถกัดกร่อน มีสูตรเคมีคือ NH3 ซึ่งปกติจะอยู่ในสถานะก๊าชไม่มีสีท่ีมีกล่ินฉุนเฉพาะตัว แต่เม่ือละลายน้ำจะอยู่ในรูปสารละลายของ แอมโมเนียไฮดรอกไซด์ (NH4OH) แป้งข้าวโพด คือแป้ง ท่ีได้จากเมล็ดข้าวโพด (ข้าวโพด ) แป้งได้มาจาก เอนโดสเปิร์ม ของเคอร์เนล แปง้ ข้าวโพดเป็นสว่ นประกอบของอาหารท่ัวไปซ่ึงมกั ใช้ในการข้น ซอส หรือ ซปุ และทำ น้ำเชอ่ื มข้าวโพด และ นำ้ ตาล อน่ื ๆ แปง้ ขา้ วโพดมคี วามหลากหลายปรับเปลีย่ นไดง้ ่ายและพบการใช้งานมากมายในอุตสาหกรรม ผงข้ีเถ้า หมายถึง ส่วนท่ีเป็นผงละเอียดของเช้ือเพลิง ท่ีเหลือจากไฟเผามอดแล้ว ครัวเรือน ภาคใต้ สมัยก่อนก็เหมือนๆ กับในภูมิภาคอื่นทั่วไป คือนิยมใช้ฟืนหรือถ่านในการหุงต้มอาหาร และ ให้ความร้อนเพื่อ ประโยชนอ์ ย่างอืน่ ทงั้ ในสังคมชนบทและสงั คมเมือง

3 บทท่ี 2 เอกสารท่เี กย่ี วข้อง การตรวจสอบทางพฤกษเคมี การทดสอบหาปรมิ าณสารประกอบฟนี อลิกรวม และการ ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในใบรางจดื ด้วยวธิ ี DPPH radical assay โดยแยกเปน็ หัวขอ้ ดังนี้ - เอกสารท่เี กี่ยวข้อง - โครงงานวิทยาศาสตร์ทเี่ กยี่ วข้อง เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 1. แปง้ ขา้ วโพด แป้งข้าวโพด (อังกฤษ: corn starch, corn flour หรือ maize starch) เป็นแป้งที่ได้จากส่วนเมล็ด ของขา้ วโพด นิยมใช้ในการเพิ่มความข้นของซอสหรือซุปเนื่องจากให้เนื้อที่ใสกวา่ แป้งชนิดอ่ืน และเป็นวัดถุดิบ ในการทำน้ำเชื่อมข้าวโพดอีกด้วย มีลักษณะเป็นผงละเอียดสีขาว มีไขมันและโปรตีนสูงกว่า สตาร์ซข้าวโพด (corn starch) ซึง่ มีแตค่ าร์โบไฮเดรต หรือสตาร์ชเท่านั้น ภาพที่ 2.1 แป้งข้าวโพด 2. แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต หรือเรียกว่า ไบคาร์บอเนตออฟแอมโมเนีย, แอมโมเนียมไฮโดรเจน คาร์บอเนต,ฮารต์ สฮอรน์ (hartshorn), หรือ ผงเบกง่ิ แอมโมเนยี เป็น เกลอื ไบคาร์บอเนต ของ แอมโมเนีย แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต สามารถทำให้เกิดได้โดยการผ่าน คาร์บอนไดออกไซด์ เข้าไปในสารละลาย แอมโมเนีย จะได้ผงสีขาว ไม่มีกล่ิน ละลายนำ้ ได้เล็กน้อย สารละลายของแอมโมเนียม ไบคาร์บอเนตเมื่อสัมผัส กับอากาศหรือโดนความร้อนจะปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ ออกมามันทำตัวเป็นด่างในปฏิกิริยา สารละลาย

4 ท้ังหมดของคาร์บอเนตเม่ือถูกต้มจะสะลายตัวเกิดเป็น คารบ์ อนไดออกไซด์ และ แอมโมเนียดังสมการข้างล่าง นี้ : NH4HCO3 → NH3 + H2O + CO2 ชอ่ื : แอมโมเนยี ม ไบคาร์บอเนต ชื่ออ่ืน : แอมโมเนยี ม ไฮโดรเจน คาร์บอเนต, : แอซดิ แอมโมเนียม คารบ์ อเนต, : โมโนแอมโมเนียม คาร์บอเนต, : เกลือ คารบ์ อเนต แอซิด โมโนแอมโมเนยี ม สตู รโมเลกุล : NH4HCO3 น้ำหนกั โมเลกุล : 79.06 g/mol CAS : [1066-33-7] ความหนาแน่น : 1.586 g/cm3 การละลายในนำ้ : Soluble (17.4% at 20 °C) จุดหลอมเหลว : 106 °C จดุ เดอื ด : N/A ภาพที่ 2.2 แอมโมเนียมไบคาร์บอเนต

5 3. นำ้ ยาเอนกประสงค์ น้ำยาเอนกประสงค์เป็นน้ำยาทำความสะอาดท่ีประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ(น้ำหมักผลไม้) และสารเคมี (สารชำระล้าง N70 ,เกลือ Sodium Choride-NaCI),น้ำเปล่า –H2O) ใช้ได้ท้งั ลา้ งจาน ซักผา้ ล้าง รถ ขัดห้องน้ำ ถูบ้าน ล้างเช็ดทำความสะอาด อุปกรณ์ท่ีทำจากโลหะหรืออโลหะ ข้อดีคือค่อนข้างจะเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีจุลินทรีย์ชนิดดีจากน้ำหมึกผลไม้รสเปรี้ยว เป็นตัวย่อยสะลาย เช่น สับปะรด ซึ่งช่วย ขจัดส่ิงสกปรกทั้งสารเคมี สีและกล่ินที่เกิดจากจุลินทรีย์ชนิดไม่ดี เช่น ถ้านำไปซักผ้าจะช่วยป้องกันเชื้ อราได้ ขัดห้องน้ำก็จะช่วยกำจัดกล่ินได้ น้ำที่เหลือจากล้างจานหรือซักผ้า ก็ยังสามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ได้ ช่วยย่อย สารอาหารให้ดินให้เป็นปุ๋ยต่อไปได้อีก นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตถือว่าต่ำมาก สามารถใช้ทำเองได้อย่างง่าย และรวดเรว็ น้ำส้มสายชูนัน้ เป็นกรดอ่อนๆ เลยใช้เป็นนำ้ ยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ได้ทงั้ บ้าน โดยคุณใช้ น้ำสม้ สายชูได้ท้งั ขจัดคราบ ขจัดกล่นิ แก้ท่อน้ำอุดตัน ฆา่ เช้ือ กระทงั่ ใชเ้ วลาแกะสตกิ เกอร์เหนยี วๆ ภาพที่ 2.3 นำ้ ยาเอนกประสงค์ โครงงานวิทยาศาสตร์ทเี่ กี่ยวข้อง เสฏฐวุฒิ ปติ ะโพธิ์ (2557) ได้ทำการศึกษาเรือ่ ง น้ำยาเช็ดกระจกจากแปง้ ข้าวโพด พบว่าแปง้ ข้าวโพด สามารถนำมาทำเป็นน้ำยาเช็ดกระจกได้ มีส่วนผสมของวัตถุดิบมาจากธรรมชาติหาได้ภายในครัวเรือนใน ท้องถิ่นหรือเป็นวัตถุดิบท่ีหาซ้ือได้ง่ายไม่เป็นอันตรายสามารถนำมาใช้แทนน้ำยาเช็ดกระจกท่ีมีสารเคมีใน ท้องตลาดได้ มีประสทิ ธิภาพภาพเทยี บเท่าน้ำยาเช็ดกระจกทม่ี ที ่วั ไปตามท้องตลาด

6 บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ งาน วัตถุดิบ วสั ดุอุปกณ์ และสารเคมี 3.1 วตั ถุดิบ 3.1.1 แปง้ ข้าวโพด 1 ชอ้ นโต๊ะ 3.1.2 แอมโมเนยี 1 ช้อนโต๊ะ 3.1.3 น้ำสม้ สายชู 1 ชอ้ นโต๊ะ 3.1.4 น้ำสะอาด 300 มิลมลิ ิตร 3.1.5 ผงขเี้ ถ้า 1 ช้อนชา 3.2 วัสดอุ ปุ กรณ์ 3.2.1 ถ้วย 2 ใบ 3.2.2 ชอ้ น 2 คัน 3.2.3 กระดาษหนังสือพมิ พ์ 1 ฉบับ 3.2.4 ภาชนะบรรจุภัณฑ์ 2 ขวด 3.3 สารเคมี 3.3.1 Ammonium bicarbonate NH4HCO3 → NH3 + H2O + CO2 3.3.2 Aceeticacid CH3HCO2H หรือ C2 H4O2 วิธกี ารทดลอง ตอนที่ 1 การทำผลติ ภัณฑท์ ำความสะอาดกระจก 1. นำภาชนะ2ใบใสแ่ ปง้ ข้าวโพดในภาชนะใบท่1ี และใสผ่ งขี้เถา้ ในภาชนะที่2 2. ใสน่ ำ้ ในปริมาตรสุทธิ 300 ml ท้งั สองภาชนะ 3. ใส่แอมโมเนียไบคารบ์ อเนต 1 ช้อนโตะ๊ ทง้ั สองภาชนะ 4. ใสน่ ำ้ ส้มสายชู 1 ชอ้ นโตะ๊ ทงั้ สองภาชนะ แลว้ คนให้เป็นสารละลายเดยี วกัน 5. รอตกตะกอน แล้วนำใสบ่ รรจุภัณฑ์

7 ตอนท2ี่ การทดลองกระจก 1. ทดลองเชด็ กระจกท่ีมีครามสกปรก 2. เมือ่ ใช้สูตรขเ้ี ถ้าเชด็ เชด็ ได้แตต่ อ้ งใช้เวลามากกวา่ การทดลองใชส้ ตู รแปง้ ขา้ วโพด 3. สรุปผลการทดลอง

8 บทท่ี 4 ผลการทดลองและอภิปรายผล ผลการทดลอง จากการทดลองเรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งขา้ วโพด ทำใหค้ ณะผจู้ ัดทำไดส้ ำรวจประสิทธิภาพเรอ่ื ง นำ้ ยาเชด็ กระจกจากแป้งข้าวโพด จากการเปรียบเทียบประสิทธภิ าพจะเห็นได้ ดังตารางท่ี 4.1 ชนิดของส่วนผสม การตกตะกอน ผลการทดลอง 1.แป้งข้าวโพด คุณภาพในการเช็ดกระจก เวลาในการเช็ดกระจก 2.ผงข้เี ถา้ ตกตะกอนได้ช้า ดี เห็นผลในเวลา 1 นาที ตกตะกอนได้เรว็ แต่มี ค่อนข้างดี เห็นผลในเวลา 2นาที เศษวัสดลุ อยอยู่ 4.2 ตารางการเปรยี บเทียบคุณสมบตั ขิ องน้ำยาเชด็ กระจกจากแป้งข้าวโพดและผงขเ้ี ถา้ ชนดิ ของส่วนผสม ไม่มเี ศษตะกอน ผลการทดลอง ไมม่ ีคราบสิ่งสกปรก 1.แป้งข้าวโพด มีเศษตะกอนลอยอยู่ ไมม่ ีกล่ิน ติดกระจก 2.ผงข้เี ถ้า ไม่มีกล่ิน มคี ราบส่งิ สกปรกตดิ กระจกเล็กนอ้ ย 4.3 การนำไปใช้ ใช้ในการทำความสะอาดขจัดคราบส่งิ สกปรกบนกระจกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สะอาด ปลอดภยั ไม่มี สารเคมีท่ีเป็นอันตราย ไมม่ คี ราบมนั และกลิน่ อนั ไม่พึงประสงคข์ องส่วนผสม

9 บทท5่ี สรปุ ผลการทดลอง และขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผลการทดลอง จากการทำโครงงานนี้พบวา่ นำ้ ยาเขด็ กระจกจากแป้งข้าวโพดมีประสทิ ธภิ าพสูงกวา่ น้ำยาเช็ดกระจกจากผง ข้เี ถ้าเนื่องจากแปง้ ข้าวโพดละลายน้ำได้ดีกว่าใชเ้ วลาในการตกตะกอนน้อยกวา่ ผงขี้เถา้ ทีใ่ ช้เวลาในการ ตกตะกอนชา้ 5.1.1 การทดลองใชน้ ้ำยาเช็ดกระจกสตู รแป้งข้าวโพด ทดลองเช็ดแลว้ ให้ผลประสทิ ธภิ าพท่ีดเี ทยี บเทา่ น้ำยา เชด็ กระจกทมี่ ีส่วนผสมของสารเคมีทรี่ นุ แรงตามท้องตลาด ถา้ ย่ิงลดปริมาณน้ำจะทำให้น้ำยาเช็ดกระจกมคี วาม เข้มขน้ มากขึ้นแต่การตกตะกอนจะตกได้ยากเวลาเช็ดจะเช็ดลำบาก 5.1.2 การทดลองใช้น้ำยาเช็ดกระจกสูตรผงขเี้ ถา้ ทดลองเช็ดกระจกแล้วใหผ้ ลประสิทธิภาพท่นี านแตเ่ มือ่ ใช้ เวลาเพ่ิมขน้ึ อกี ก็มีประสทิ ธภิ าพเหมือนนำ้ ยาเช็ดกระจกสูตรแป้งข้าวโพด 5.2 อภิปรายผลการทดลอง 5.2.1 จากการทำโครงงานน้ีพบว่าน้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดมีประสิทธภิ าพสงู กว่านำ้ ยาเชด็ กระจกจาก ผงข้ีเถ้าเน่ืองจากแป้งข้าวโพดละลายน้ำไดด้ ีกว่าผงขี้เถ้า และใชเ้ วลาในการตกตะกอนน้อยกวา่ ผงขีเ้ ถ้าและผงขี้ ในทอ้ งถิน่ ส่วนใหญ่มักมง่ิ ปะปนรวมอยู่ด้วย ทำใหม้ ีขยะหรือส่ิงไม่พึงประสงค์ไม่สามารถตกตะกอนได้ปะปนอยู่ ซง่ึ ลำบากหรอื เปน็ อปุ สรรคต่อการตกตะกอน ซงึ่ แปง้ ขา้ วโพดจะละลายได้ดีกว่าจงึ เหมาะสมแก่การทำมากกว่า และทดลองตอ้ งใชแ้ ค่นำ้ จากแปง้ ขา้ วโพดและผงข้เี ถ้าที่ตกตะกอนแลว้ เทา่ นั้น จากการทดลองพบวา่ น้ำยาเชด็ กระจกจากแปง้ ขา้ วโพดใหป้ ระสทิ ธภิ าพท่ีใช้เวลาสั้นกว่า น้ำยาเช็ดกระจกจากข้ีเถ้า ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรผสมแปง้ ขา้ วโพดและผงข้ีเถ้ากับนำ้ แลว้ รอให้ตกตะกอนเท่านั้นก่อนนำมาผสมกับสว่ นต่างๆ 2. ควรใสป่ ริมาตรน้ำที่พอดี 3. ดคู วามสกปรกของกระจก 4. ตรวจสอบการตกตะกอน

10 บรรณานุกรม ผศ.ดร พมิ พเ์ พ็ญ พรเฉลิมพงษ์.//2564.//แป้งข้าวโพด (Corn flour).//สืบคน้ เมื่อเม่อื 30 พฤศจิกายน 2564, /จาก/www.foodnetworksolution.com ผศ.ดร พิมพเ์ พ็ญ พรเฉลมิ พงษ์.//2564.//แอมโมเนยี ไบคาร์บอเนต (Ammonium bicabonate).// สืบคน้ เม่อื 7 ธนั วาคม 2564, /จาก/www.foodnetworksolution.com ศิรินภา.//2564.//นำ้ ยาอเนกประสงค์.//สืบคน้ เม่อื 7 ธนั วาคม 2564, /จาก/https.//google.com

11 ภาคผนวก ภาพท่ี 6.1 น้าสะอาาใใสะภภานนอท้งั 2ใบ ภาพที่ 6.2. ใสะแภ ปง้ ขา้ วโพใ1นา้ นโตอ๊ ลงในภานนอท่ี1 ภาพท6ี่ .3 ใสะภแามโมเนีย1นา้ นโต๊อลงในภานนอท่1ี ภาพท่ี6.4 ใสะนภ า้ สะ้มสะายนู1น้านโตอ๊ ลงในภานนอที่1

12 ภาพที่6.4 ใสะภผงขีเ้ ถ้า1น้านโตอ๊ ลงในภานนอที่2 ภาพท่ี6.3 ใสะภแามโมเนีย1น้านโตอ๊ ลงในภานนอท่ี2 ภาพท่ี6.4 ใสะภนา้ สะม้ สะายนู1นา้ นโตอ๊ ลงในภานนอที่2 ภาพที่6.5 ราตกตอกาน

13 ภาพท่ี6.6 ผลิตภณั ฑ์ทัง้ 2นนิใตกตอกานแบบที่ ภาพที่6.7 กรอจกที่ใน้ทใลาง ในแ้ ป้งขา้ วโพใมีความใสะกวภาแบบในผ้ งขีเ้ ถ้า ภาพท่ี6.7 ใน้ผลติ ภณั ฑ์จากแป้งข้าวโพใมาเน็ใกรอจก ภาพท่6ี .8 ผลทไ่ี ใจ้ ากการทใลางเนใ็ กรอจก