1. ความหมายของระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์2. คาศพั ทพ์ ้ ืนฐานของระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์3. ขอ้ ดีของระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์4. คียใ์ นฐานขอ้ มูล5. กฎที่ใชค้ วบคมุ ความถกู ตอ้ งของขอ้ มูล6. การออกแบบระบบฐานขอ้ มูล7. การนอรม์ ลั ไลเซชนั8. ตวั อยา่ งการออกแบบฐานขอ้ มูล
ความหมายของระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์ ระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์ เป็นฐานขอ้ มูลที่มีการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ในรูป ของตารางแบบ 2..มิติ ท่ีประกอบดว้ ยขอ้ มลู แต่ละแถวในแนวนอน ซ่ึงหมายถึงแต่ละระเบียนและขอ้ มลู แต่ละสดมภใ์ นแนวต้งั ซ่ึงหมายถึง ขอ้ มูลแต่ละเขตขอ้ มลู ที่มีความสมั พนั ธก์ นั ทาใหส้ ามารถเชื่อมโยง หรือสร้างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกลุ่มขอ้ มูลหรือตารางที่เกี่ยวขอ้ งกนั ใน ฐานขอ้ มูลเดียวกนั ไดง้ ่าย
คาศพั ทพ์ ้ นื ฐานของระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์ โมเดลเชิงสมั พนั ธ์ ระบบแฟ้ มขอ้ มูล ผใู้ ชง้ านทวั ่ ไป แฟ้ มขอ้ มูล (File) ตาราง (Table)รเี ลชนั หรอื ความสมั พนั ธ์(Relation) ระเบียน (Record) แถว (Row)ทพั เพิล (Tuple) เขตขอ้ มูล (Field) คอลมั น์ (Column)แอททริบิวต์ (Attribute) จานวนสดมภ์ จานวนเขตขอ้ มูลยอ่ ยในดกี รี (Degree) หนึ่งระเบียน จานวนแถวคารด์ ินลั ลติ ี (Cardinality) จานวนระเบียนในหนึ่ง คา่ เอกลกั ษณ์ แฟ้ มขอ้ มูล (Unique Identifier)คียห์ ลกั (Primary Key) คียห์ ลกั ขอบเขตคา่ ของขอ้ มูลโดเมน (Domain) คา่ ทเี่ ป็ นไปไดข้ องขอ้ มูล
ขอ้ ดีของระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์ ระบบฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์ เป็นฐานขอ้ มูลท่ีมีรูปแบบง่ายสาหรับ ผใู้ ชง้ านทวั่ ไป โดยผใู้ ชไ้ ม่จาเป็นตอ้ งมีความรู้ในการวิเคราะห์และ ออกแบบระบบ กส็ ามารถใชง้ านได้ 1. การจัดการกบั ข้อมูลทาได้โดยง่าย 2. ภาษาทง่ี ่ายในการเรียกดูข้อมูล 3. การเรียกใช้หรือเช่ือมโยงข้อมูลสามารถทาได้โดยง่าย 4. รองรับการเข้าถงึ ข้อมูลแบบผ้ใู ช้หลายคน
คียใ์ นฐานขอ้ มูล คีย์ (Key) หมายถึง แอททริบิวตใ์ ด ๆ ที่ใชใ้ นการแสดงหรือบ่ง บอกคา่ ของแอททริบิวตอ์ ่ืนในทพั เพิลใดทพั เพิลหน่ึงของรีเลชนั หรือ ใชก้ ารเช่ือมโยงขอ้ มูลกบั ขอ้ มูลในอีกรีเลชนั หน่ึงและการใชฐ้ านขอ้ มูล เชิงสมั พนั ธ์ใหม้ ีประสิทธิภาพ จะตอ้ งมีการกาหนดคีย์ ใหก้ บั รีเลชนั
กฎที่ใชค้ วบคมุ ความถูกตอ้ งของขอ้ มูล กฎเกณฑท์ ่ีใชค้ วบคุมความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู ซ่ึงมี 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี 1. กฎการคงสภาพของเอนทติ ี 2. กฎการคงสภาพของการอ้างองิ
การออกแบบระบบฐานขอ้ มูลข้นั ตอนการออกแบบระบบฐานขอ้ มลู มีดงั น้ี 1. เกบ็ รวบรวมรายละเอยี ดท้งั หมด 2. กาหนดเอนทติ แี ละความสัมพนั ธ์ระหว่างเอนทติ ี 3. ปรับเอนทติ แี ละความสัมพนั ธ์ระหว่างเอนทติ เี ป็ นรีเลชัน 4. กาหนดแอททริบวิ ต์แต่ละรีเลชัน 5. กาหนดโครงสร้างของตารางและกาหนดคยี ์ 6. ปรับรีเลชันให้อยู่ในรูปแบบปกติ
การนอรม์ ลั ไลเซชนั นอร์มลั ไลเซชนั (Normalization) คือกระบวนการปรับ โครงสร้างขอ้ มลู ของฐานขอ้ มลู ที่มีความซ้าซอ้ นใหอ้ ยใู่ นรูปแบบท่ี เรียกวา่ รูปแบบปกติ (Normal Form : NF) ดว้ ยการแตก รีเลชนั ที่มีขอ้ มลู ซ้าซอ้ น ใหง้ ่ายต่อ การนาไปใชง้ านและมีปัญหานอ้ ย ที่สุด ไม่วา่ จะเป็นปัญหาการซ้าซอ้ นของขอ้ มลู หรือปัญหาความ ผดิ ปกติท่ีอาจเกิดข้ึนจากการเพิ่ม ลบหรือเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขขอ้ มลู
การนอรม์ ลั ไลเซชนั นอร์มลั ไลเซชนั (Normalization) คือกระบวนการปรับ โครงสร้างขอ้ มลู ของฐานขอ้ มลู ที่มีความซ้าซอ้ นใหอ้ ยใู่ นรูปแบบท่ี เรียกวา่ รูปแบบปกติ (Normal Form : NF) ดว้ ยการแตก รีเลชนั ที่มีขอ้ มลู ซ้าซอ้ น ใหง้ ่ายต่อ การนาไปใชง้ านและมีปัญหานอ้ ย ที่สุด ไม่วา่ จะเป็นปัญหาการซ้าซอ้ นของขอ้ มลู หรือปัญหาความ ผดิ ปกติท่ีอาจเกิดข้ึนจากการเพิ่ม ลบหรือเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขขอ้ มลู
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: