หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 การแกป้ ญั หา การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา ปัญหาตา่ ง ๆ อาจมาจากสิง่ ทพี่ บรอบตัว ความอยากรอู้ ยากเห็นหรอื การกำหนด คำถาม ปัญหาแต่ละปัญหาอาจมีวิธีแก้ปัญหาท่ีแตกต่างกัน การเลอื กวธิ กี ารแกป้ ญั หาควรพจิ ารณาเงื่อนไขของปัญหาให้ครบทุกกรณี แนวทาง ในการแก้ปัญหาท่เี กดิ ขึ้นคือเลือกวิธีการแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับปัญหาทสี่ ุด อาจนำ เคร่อื งมอื ตา่ ง ๆ ท่มี อี ย่มู าชว่ ยในการแก้ปญั หาเพ่อื ให้แกป้ ัญหานัน้ ไดส้ ำเรจ็ เหตุผลเชงิ ตรรกะ (logical reasoning) คือการใช้ เหตุผล กฎ กฎเกณฑ์ หรือ เงือ่ นไขท่เี กีย่ วข้อง เพ่ือตรวจสอบความสมเหตุสมผล หรือพจิ ารณาความเป็นไปไดข้ องการ แกป้ ญั หา การใหเ้ หตผุ ล (reasoning) เป็นการคดิ และอธิบายความคิดออกมาเปน็ แผนงาน การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเปน็ แนวคิดหาวิธแี กป้ ญั หาที่ใช้เหตุผลท่ีตอ่ เนอื่ งกนั โดย การวิเคราะหส์ าเหตุของปญั หาและคาดการณว์ ่าจะเกดิ ผลลพั ธ์อย่างไร รจู้ กั ข้ันตอน ใน การจดั การกับปญั หาด้วยการวิเคราะหห์ าเหตผุ ลของปัญหา จัดลำดับเร่อื งราว และ แยก ความสำคัญของเหตุการณ์ โดยการเปรยี บเทยี บจากข้อมลู ตา่ ง ๆ เพ่อื หาแนวทาง ท่ดี ี ทส่ี ดุ ในการคิดแกป้ ัญหา อลั กอริทมึ (Algorithm) คอื กระบวนการแก้ปัญหาท่ีมีลำดับข้ันตอน การอธบิ ายอัลกอรทิ มึ แบ่งได้เป็น 1. การแสดงอลั กอริทมึ ด้วยข้อความ คือการใช้ข้อความแสดงขั้นตอนการทำงาน มี ส่วนประกอบ 2 สว่ น คือลำดับ และขนั้ ตอนการทำงาน 2. การแสดงอลั กอรทิ ึมดว้ ยรหสั ลำลองหรือซูโดโคด้ (Pseudocode) คือการ อธบิ ายดว้ ยข้อความทลี ะขั้นตอน โดยภาษาทใี่ ช้จะมีความกำ้ กงึ่ กับภาษาคอมพวิ เตอร์ 3. การแสดงอัลกอรทิ ึมดว้ ยผงั งานหรือโฟลวชาร์ต (Flowchart) คอื แผนผงั แสดง ขัน้ ตอนการทำงาน ซ่งึ สามารถใช้แผนผังนแี้ สดงขนั้ ตอนการทำงานของโปรแกรมได้
การแสดงอัลกอรทิ มึ ดว้ ยผงั งาน มสี ัญลักษณแ์ ละคำอธิบายดงั นี้ การแสดงอัลกอรทิ มึ ด้วยผังงาน แบง่ ได้เป็น 2 แบบคือ 1. ผังงานแบบโครงสร้างเรียงลำดบั (Sequential Structure) 2. ผังงานแบบโครงสรา้ งทางเลือก (Selection Structure) เปน็ ผงั งานทใี่ ชแ้ สดง ทางเลือกในการตดั สินใจ (Decision) โดยจะมกี ารใชส้ ัญลกั ษณ์ “การตัดสินใจตาม เงอื่ นไขทกี่ ำหนดไว้ (Decision)” อยา่ งนอ้ ย 1 ครงั้ ในผงั งาน อลั กอริทมึ มีประโยชน์ คอื ทำใหไ้ ม่สับสนกับขน้ั ตอนทำงาน เพราะทุกอยา่ งจะถูก จัดเรียงเป็นข้ันตอนวิธีการ และทางเลือกไว้ เม่ือนำขั้นตอนวธิ ีมาประยุกตใ์ ชจ้ ะทำใหท้ ำงาน
สำเรจ็ อยา่ งรวดเร็ว ปัญหาลดลง หรอื สามารถค้นหาต้นเหตขุ องปญั หาได้ เน่ืองจาก กระบวนการถูกแยกแยะกิจกรรม ขน้ั ตอนและความสัมพันธ์ ออกมาให้เห็นชัดเจน ขั้นตอนการแกป้ ญั หา การวางแผนการแกป้ ัญหาเป็นข้นั ตอน จะทำให้การแกป้ ัญหาน้นั มีประสทิ ธิภาพ ยิ่งขึน้ โดยขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาทำได้ ดงั น้ี 1. ระบปุ ัญหา เปน็ การทำความเข้าใจเก่ยี วกบั ปัญหาวา่ ตอ้ งการอะไร โจทยต์ อ้ งการ ทราบอะไร 2. รวบรวมขอ้ มลู เปน็ การรวบรวมขอ้ มลู นำความรทู้ ม่ี อี ยู่หรือหาความรูเ้ พิม่ เตมิ มา แกป้ ญั หานั้น 3. วางแผนการแกป้ ญั หา เปน็ การวางแผน ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา ซ่งึ อาจมไี ด้ หลายวธิ ี โดยเลือกวธิ กี ารท่ีเหมาะสมกบั สถานการณ์ของตนเอง 4. แกป้ ัญหา เป็นการเรมิ่ แกป้ ญั หาตามวิธีการที่เลือก 5. ทดสอบและประเมินผล เป็นการตรวจสอบผลลัพธท์ ไี่ ดว้ า่ สามารถแกป้ ญั หาท่ี ต้องการไดห้ รอื ไม่ เกมแก้ปญั หาต่างๆ เกมกระดาน (Board Games) คอื เกมทใ่ี ช้ ตวั หมากวางบนพน้ื ที่เล่น เช่น บน แผน่ กระดานหรือ แผ่นกระดาษ ได้แก่ หมากฮอส หมากรุกไทย หมากรกุ จนี หมากรกุ สากล หมากล้อม หมากหนีบ เกมเศรษฐี การเล่นเกมกระดานเป็นการฝกึ ให้ผู้เลน่ รจู้ ัก การคดิ วิเคราะห์ คาดคะเนความคดิ ของฝ่ายตรงข้าม รู้จกั การวางแผน การตัดสนิ ใจ มีความอดทน และรจู้ ักวธิ ีการ แกป้ ญั หาได้เป็นอยา่ งดี ช่วยพัฒนาสมองให้มคี วามคิด เฉยี บแหลมมากขน้ึ และยังชว่ ยขัด เกลาจติ ใจให้นกั เรยี น เป็นคนทีร่ แู้ พ้ รชู้ นะ และใหอ้ ภยั หรือที่เรยี กกันวา่ การมนี ้ำใจ นกั กีฬา เกมโอเอกซ์ (tic-tac-toe) คอื เกมกระดานชนิดหนึง่ ท่สี รา้ งข้ึนโดยขดี ตาราง บนแผน่ กระดาษหรอื กระดานอื่น ๆ ขีดเป็นชอ่ ง ๆ จำนวน 3 หรอื 5 ช่อง ผเู้ ลน่
ฝา่ ยหนง่ึ จะเขยี นวงกลม อกี ฝ่ายจะเขียนรูปกากบาทลงในช่อง ผูท้ เี่ ขยี นวงกลมหรือ กากบาทตามแนวนอน แนวต้งั หรอื แนวทแยง ได้ครบก่อนเป็นผู้ชนะ เกมโอเอกซ์เป็นเกมฝกึ ทักษะในดา้ นการคิด เมอ่ื เลน่ แลว้ จะรูจ้ ักการใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ ในการคาดการณ์ผลลพั ธ์ลว่ งหน้าและการกำหนดเงื่อนไข หมากฮอส (checkers) เปน็ เกมกระดานอกี ชนดิ หนึ่ง เคร่อื งมอื ในการเล่น ประกอบด้วยแผน่ ไม้ แผน่ กระดาษ หรือโต๊ะทีข่ ดี ตารางไว้ขนาด 8x8 ชอ่ ง คอื มตี าราง ตามแนวนอน 8 ชอ่ ง และแนวตั้ง 8 ชอ่ ง รวมเป็น 64 ช่อง ผเู้ ล่นทั้ง 2 ฝ่ายจะมตี ัว หมากฝา่ ยละ 8 ตวั วางในช่องโดยเว้น ชอ่ งว่างระหว่างตวั หมาก 1 ชอ่ ง หมากฮอสเป็นเกมฝกึ ใชท้ ักษะในด้านความคิด การวางแผน การใช้เหตผุ ลเชิง ตรรกะในด้านการสังเกต การสรา้ ง กฎเกณฑ์ และการคาดการณผ์ ลลพั ธล์ ว่ งหน้า หมากรุกไทย (Thai chess) ใช้ กระดานขนาด 8x8 ช่อง เช่นเดยี วกบั หมาก ฮอส แต่จะมตี วั เดนิ มากกว่า หมากรกุ ไทยเป็นเกมฝึกใชท้ กั ษะในดา้ นความคิด การสังเกต และความจำ เพราะ มี ตัวหมากท่ตี ่างกันหลายตวั ทกั ษะในการวางแผน การใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในด้านการ สงั เกต การสรา้ งกฎเกณฑ์ และการคาดการณผ์ ลลัพธ์ลว่ งหน้า
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ ในสมยั โบราณการสอื่ สารของมนุษยจ์ ะใช้เครอื่ งมอื ทม่ี ีอยู่ตามธรรมชาตหิ รอื สิ่งที่ หาได้ง่าย เชน่ การสง่ สญั ญาณระยะใกล้ ๆ จะใชก้ ารเคาะการตใี ห้เกิดเสยี ง ส่วน ระยะไกล ๆ จะใชก้ ารสง่ สัญญาณควนั การใช้งานคอมพิวเตอรใ์ นยุคแรก ๆ นน้ั หากต้องการเช่ือมต่อกบั อุปกรณ์อ่ืนจะนำ อปุ กรณ์ท่ีต้องการใชง้ านมาต่อกนั ตรง ๆ ปจั จบุ นั คอมพิวเตอรส์ ามารถเช่อื มตอ่ กนั เปน็ เครอื ข่ายขนาดใหญ่ได้ทวั่ โลก เรียกวา่ อนิ เทอร์เนต็ (internet) เป็นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ เ่ี ช่อื มต่อกนั จำนวนมากภายใต้ กฎเกณฑท์ ีเ่ ปน็ มาตรฐานเดียวกัน (protocol) ทำให้แลกเปลี่ยนข้อมลู และสง่ ผ่านขอ้ มูล ระหวา่ งกนั ไดท้ ัว่ โลก ปัจจบุ ันการเชื่อมตอ่ อนิ เทอร์เน็ตสามารถทำได้หลายวิธี ใช้อุปกรณ์ได้หลายชนดิ มี ทงั้ ชนิดใช้สายสญั ญาณ และไม่ตอ้ งใชส้ ายสัญญาณ บริการบนอินเทอร์เน็ต 1. ไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-mail) เม่อื มอี นิ เทอร์เนต็ ทำใหส้ ามารถเขยี น จดหมายได้ง่ายขึ้น ไม่ตอ้ งเขยี นลงกระดาษ เพียงแต่พมิ พข์ ้อความแลว้ ส่งได้ทันที นอกจากน้ียงั สามารถแนบภาพหรอื ไฟล์อ่นื ๆ ไปกบั จดหมายหรอื ข้อความได้ ไปรษณียอ์ เิ ล็กทรอนิกส์เป็นขอ้ มูลส่วนบุคคลจึงตอ้ งมกี ารสร้างรหัสผ่านเพอื่ ความ ปลอดภัยของขอ้ มลู และยนื ยันการแสดงตัวตนในการเข้าถึงหรอื ใชข้ ้อมูลต่าง ๆ ใน บริการ การสร้างรหัสผ่านครั้งแรก จะต้องสร้างตามกฎการตั้งรหัสของผู้ให้บริการ คือ การใชต้ วั อกั ษรหรอื ตวั เลขรวมกันไม่ต่าํ กวา่ 8 อกั ขระ 2. ยูทบู (YouTube) ยูทูบ บรกิ ารสำหรบั ดูภาพเคลือ่ นไหวหรือวิดีโอบน อนิ เทอร์เน็ตท่ีไดร้ บั ความนยิ มอย่างมาก 3. เครอื ข่ายสังคมออนไลน์ (social network) สามารถใชใ้ นการนำเสนอข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เครือข่ายสังคมออนไลน์มีหลายชนิด เช่น เฟซบุก๊ (facebook) เฟซบกุ๊ เป็นบริการทส่ี ามารถใช้พดู คุย แลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ โพสต์ภาพ และสรา้ งกลมุ่ ของเครือข่ายขน้ึ มาเฉพาะได้
เราไม่สามารถใชง้ านบนเครอื ข่ายสังคมออนไลน์เช่น facebook ท่ปี ระเทศจีนได้ เพราะเหตผุ ลด้านความปลอดภัยของประชากร แตป่ ระเทศจีนได้สร้างเว็บไซตท์ ีม่ ีการใช้งาน เหมอื นกับเวบ็ ไซต์ทไ่ี ดร้ บั ความนิยมทว่ั โลก เชน่ renren, youku, Baidu และ WeChat 4. บริการของ Google 4.1 บริการ Google Maps เป็นบรกิ ารของ Google ทใี่ ห้บรกิ ารเทคโนโลยีดา้ นแผนที่ประสทิ ธิภาพสูง ใช้ งานงา่ ยและใหข้ อ้ มลู ของธุรกจิ ในทอ้ งถ่ิน ได้แก่ ที่ต้ังของ ธรุ กิจ รายละเอยี ด การ ติดต่อ และเส้นทางการขับขใี่ นการเดินทาง 4.2 บริการแปลภาษา และบริการอนื่ ๆ การใช้อินเทอร์เน็ต องค์ประกอบและสงิ่ ท่ีควรร้จู กั ดงั นี้ 1. URL (Universal Resource Locator) เปน็ ตำแหนง่ ชอ่ื เรียกของเว็บไซต์ซ่ึง ต้องระบทุ ุกครัง้ ทีต่ ้องการเปดิ เว็บไซต์ 2. http (Hypertext Transport Protocol) เป็นส่วนท่ที ำหน้าที่เช่อื มโยงและ แลกเปล่ยี นข้อมลู ต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต 3. เวบ็ ไซต์ (web site) เป็นแหล่งทีเ่ กบ็ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ท่อี ยบู่ นอินเทอรเ์ นต็ เว็บไซต์บนอินเทอรเ์ นต็ จะมี http และ https ซึ่ง https จะสามารถป้องกันการ โจรกรรมข้อมูลได้ดกี วา่ http 4. เวบ็ เบราว์เซอร์ (web browser) เปน็ โปรแกรมในเครื่องคอมพวิ เตอรส์ ำหรับ แสดงข้อมลู ต่าง ๆ ทงั้ ขอ้ ความ ภาพ เสยี ง ในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ จะตอ้ งใชโ้ ปรแกรมนี้ เพื่อเปดิ เว็บไซต์ ตัวอยา่ งของโปรแกรมนี้ เช่น โปรแกรม Microsoft Edge โปรแกรม Google Chrome 5. เวิลดไ์ วดเ์ ว็บ (World Wide Web) หรือ www เป็นบรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ต มีลักษณะของข้อมลู ทส่ี ืบคน้ ได้ จะเปน็ เอกสารไฮเปอร์เทก็ ซต์ ท่ีสรา้ งดว้ ยภาษา HTML (Hypertext Markup Language) ประกอบไปดว้ ยขอ้ ความ ภาพ เสยี ง ภาพเคล่ือนไหว 6. เวบ็ เพจ (web page) หน้าต่างของเว็บไซต์ โดยทั่วไปแล้วเว็บไซต์จะ ประกอบด้วยเวบ็ เพจหลาย ๆ เพจ
7. โฮมเพจ (home page) เป็นหน้าแรกของเว็บไซต์ เม่ือเปดิ เว็บไซต์ตา่ ง ๆ ขน้ึ มา หนา้ แรกท่ีปรากฏให้เห็น เรียกว่า โฮมเพจ 8. ลงิ ก์ (link) เวบ็ ไซต์บางเวบ็ ไซต์สามารถเชอ่ื มโยงไปยังสว่ นอนื่ ๆหรอื เวบ็ ไซต์ อน่ื ๆ โดยตำแหนง่ ท่เี ชือ่ มโยงไปนั้น เรยี กวา่ ลงิ ก์ ซึง่ มหี ลายรปู แบบท้งั เป็นขอ้ ความ ภาพ และภาพเคล่อื นไหว 9. เวบ็ มาสเตอร์ (Webmaster) เปน็ ลักษณะงานเกยี่ วกบั การออกแบบพัฒนา เวบ็ ไซตข์ องหน่วยงาน ประสานงานกับฝา่ ยตา่ ง ๆ เพ่ือดูแลและปรับปรงุ ขอ้ มูลเว็บไซต์ ทงั้ หมด ประชาสัมพันธ์เวบ็ ไซต์ และจัดทำรายงานสรุปเกี่ยวกบั เว็บไซต์ 10. การถ่ายโอนขอ้ มูล (File Transfer Protocol:FTP) เปน็ บรกิ ารถา่ ยโอน แฟม้ ข้อมลู ระหวา่ งเครื่องคอมพวิ เตอร์ การโอนย้ายแฟ้มขอ้ มูลจากคอมพิวเตอรเ์ ครื่องอืน่ มา ลงในเคร่ืองคอมพิวเตอรข์ องเราเรียกวา่ การดาวนโ์ หลด (Download) สว่ นการนำ แฟม้ ขอ้ มลู จากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของเราไปไว้ยังเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งอน่ื เรียกวา่ การ อัปโหลด (Upload) 11. การสนทนาผ่านเครือขา่ ย (chat) เปน็ การบริการเพอื่ สนทนาแลกเปล่ียน ขอ้ มูลความคดิ เห็น ซ่ึงสนทนาผา่ นการพมิ พข์ ้อความ รับ-ส่งแฟ้มข้อมลู สนทนาด้วยเสียง และตดิ ตัง้ กลอ้ งเว็บแคม เพื่อให้เหน็ ภาพคสู่ นทนาด้วย 12. สมารต์ โฟน (Smart phone) คอื โทรศัพทเ์ คลือ่ นทที่ ีส่ ามารถใช้ โทรออก รับสายและยังมีแอปพลิเคชนั ให้ใช้งานมากมาย สามารถรองรบั การใชง้ านบนอนิ เทอรเ์ น็ต ผา่ น WiFi และสามารถใชง้ านโซเชยี ลเน็ตเวริ ก์ มีระบบสมั ผสั และกล้องถ่ายภาพทีม่ คี วาม ละเอียดสูง
การสืบค้นข้อมลู รูปแบบการสืบค้นขอ้ มูลความรู้ 1. การสืบค้นขอ้ มลู แบบ Index Directory เป็นการคน้ หาข้อมูล โดยการคลกิ เลือกข้อมลู ทตี่ อ้ งการในเว็บเบราเซอร์ (Web browser) จากน้นั หน้าจอจะแสดง รายละเอียดของหัวข้อยอ่ ยมาให้เลอื ก 2. การสบื ค้นแบบ Search Engine เป็นการคน้ หาขอ้ มลู ความรูผ้ า่ นเว็บไซด์ อินเตอรเ์ นต็ โดยพิมพ์คำคน้ หรอื คำสำคญั หรือ keyword จากนนั้ Search Engine จะแสดงขอ้ มูลและเว็บไซด์ต่างๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ขอ้ แตกต่างสำคัญระหว่างการสบื ค้นในรปู แบบ Index Directory กับการสืบคน้ ในรปู แบบ Search Engine คือ Index Directory ใชค้ นเปน็ ผูร้ วบรวม และ ทำระบบฐานข้อมูล ส่วน Search Engine ใช้ซอฟต์แวรเ์ ป็นตวั รวบรวมและทำระบบ ฐานข้อมลู ความน่าเชื่อถือของข้อมูล เมอ่ื สบื ค้นข้อมูล และไดข้ ้อมูลท่ีตอ้ งการแลว้ ควรปฏิบัติดงั น้ี 1. ประเมินความน่าเชื่อถอื ของข้อมูล โดยพิจารณาชอ่ื โดเมน ว่ามาจากหน่วยงานใด หน่วยงานน้ันมีความน่าเช่อื ถอื หรอื ไม่ ดงั น้ี
2. ตรวจสอบขอ้ มลู ว่ามคี วามถูกตอ้ ง และทนั สมยั 3. ตรวจสอบการอ้างอิงแหล่งทม่ี าของข้อมลู ว่ามาจากแหลง่ ใด และมีความ น่าเชอ่ื ถือมากนอ้ ยเพยี งใด 4. นำเน้อื หาข้อมูลทส่ี ืบคน้ ได้มาเปรยี บเทียบกัน แลว้ เลือกข้อมลู ที่สอดคล้องและ ตรงกนั 5. นำเสนอข้อมลู โดยนำข้อมูลมาเรียบเรยี ง แล้วสรุปเป็นสำนวนของตนเอง
การใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ ควรปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. ปฏิบัติตามกฎ กตกิ า และมารยาทท่แี ตล่ ะเวป็ ไซต์กำหนด 2. การใชไ้ ปรษณียอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ ไมค่ วรสง่ จดหมายลูกโซ่ ไปสรา้ งความรำคาญ ใจใหแ้ ก่ผอู้ น่ื 3. การสนทนาผ่านเครอื ข่าย ควนสนทนากับผูท้ ี่ตอ้ งการสนทนาด้วยเท่าน้นั ควรใขค้ ำสุภาพ และไม่ละเมิดเร่อื งส่วนตวั 4. การใชก้ ระดานสนทนา (web board) หา้ มพาดพงิ ถึงสถาบนั สำคัญ หา้ ม เผยแพรห่ รอื สง่ ตอ่ ขอ้ มลู ลามกอนาจาร 5. ไมค่ ดั ลอกขอ้ มลู ทางอนิ เทอร์เนต็ ไปใช้เพ่อื ผลประโยชนท์ างธรุ กจิ และไมแ่ อบ อา้ งขอ้ มลู ของผูอ้ ่นื มาเป็นขอ้ มลู ของตนเอง 6. การสง่ ไฟลข์ อ้ มลู ไม่ควรส่งไฟล์ข้อมลู ท่ีมกี ลุ่มซอฟตแ์ วรป์ ระสงคร์ ้ายไปให้ผู้อนื่ เชน่ ไวรสั หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย 1. การปกป้องขอ้ มูลส่วนตัวจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ 1.1 ตงั้ รหัสผา่ นในอุปกรณเ์ ทคโนโลยีตา่ งๆ เพอื่ ปอ้ งกันการโจรกรรมขอ้ มลู โดย หลีกเล่ียงการกำหนดรหสั ผ่านเป็นช่ือ-นามสกลุ วนั เดือนปีเกิด เบอรโ์ ทรศัพท์ หรือ รหสั อ่นื ๆ ทึค่ าดเดาได้งา่ ย 1.2 ลงชื่อออกจากระบบ (Logoff หรอื Sign Out) ทุกครง้ั หลังไมใ่ ชง้ าน จะ ช่วยลดการถกู ตดิ ตาม หรอื ถูกแกะรอยขอ้ มลู ในโลกอินเทอร์เน็ต และยังช่วยป้องกนั ไม่ใช้ผู้ ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ตอ่ จากเรามาแอบดขู อ้ มลู สว่ นตัวได้ ในกรณีทใี่ ชง้ านคอมพวิ เตอร์ สาธารณะ 1.3 ไม่เปิดเผยข้อมูลสว่ นตัวใหผ้ ูอ้ น่ื ทราบ ข้อมูลส่วนตวั (Personal Information) คือข้อมูลท่ีเปน็ ความลับของบุคคลใด บคุ คลหนึง่ ไม่ควรเปดิ เผยและเผยแพร่ใหผ้ ู้อ่นื ทราบ เชน่ ช่อื และนามสกลุ จริง ทอ่ี ยู่ รูปภาพ อเี มล เบอร์โทรศัพท์ เลขบตั รประจำตวั ประชาชน หมายเลขหนงั สอื เดินทาง เป็นส่งิ ที่ไม่ควรเปดิ เผยให้ผอู้ ่นื ทราบ เนอ่ื งจาก
อาจจะส่งผลใหถ้ ูกโจรกรรมข้อมลู ไปใชใ้ นทางที่ไมด่ ี และสรา้ งความเสยี หายต่อชอ่ื เสียงและ ทรพั ย์สินได้ 2. การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ 2.1 พลเมืองดิจทิ ัล (Digital Citizen) หมายถึงบุคคลที่ใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ สื่อดิจิทลั และสอ่ื สังคมออนไลนเ์ ป็นประจำ มคี วามรบั ผดิ ชอบและปฏิบตั ิตน ให้เหมาะสมกับการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ ซ่งึ การปฏบิ ตั ิตามลักษณะของพลเมอื ง ดิจทิ ัล มดี ังนี้ 1. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเองและผูอ้ นื่ 2. ป้องกนั คอมพิวเตอร์จากภยั คกุ คามตา่ งๆ เช่น ป้องกนั ไวรสั คอมพวิ เตอร์ ด้วย การติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัส 3. ปอ้ งกนั ข้อมูลสว่ นตัว โดยการไมเ่ ปิดเผยขอ้ มลู สว่ นตวั ต่างๆ ใหบ้ ุคคลอน่ื ทราบ 4. ไมใ่ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการกอ่ กวนสร้างความรำคาญ หรอื สรา้ งความ เดอื ดร้อนแกบ่ ุคคลอ่นื 5. เคารพสทิ ธิส่วนบคุ คล ปฏิบัติตามกฎ กติกา และมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ พฤตกิ รรมของตนเองในสงั คมออนไลน์ 6. ควบคมุ การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยใี หม้ ีความเหมาะสม เพื่อไมใ่ หเ้ กดิ การเสพ ติดจนส่งผลเสยี ต่อสขุ ภาพ 7. รู้เทา่ ทนั ส่ือดิจทิ ลั เชน่ ไมห่ ลงเชื่อขา่ วลอื ตา่ งๆ รเู้ ท่าทันต่อกลอบุ ายของ อาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ต 8. ลดปริมาณการสอื่ สารแบบออนไลนม์ าเป็นการสอ่ื สารแบบดั้งเดิม
2.2 ความรับผิดชอบของพลเมอื งดิจทิ ลั 1. ความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง เป็นการกระทำเพ่อื รักษาตนเองใหป้ ลอดภยั ทัง้ ดา้ น สุขภาพรา่ งกาย ทรพั ยส์ นิ และขอ้ มูลสว่ นตัวต่างๆ 2. ความรบั ผิดชอบตอ่ ครอบครวั และเพ่อื น เช่นการพูดคุยใหก้ ำลงั ในเมอ่ื เกิดปัญหา ตา่ งๆ 3. ความรับผิดชอบต่อชมุ ชน เป็นการยึดถือปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บ ขอ้ บังคับของ โรงเรยี น การปฏบิ ัติตามกฎหมาย และการไมส่ ร้างความเดอื ดรอ้ นให้แก่ผ้อู ่นื
เอกสารอา้ งองิ โกสันต์ เทพสิทธิทราภรณ.์ (2562). หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4. กรุงเทพฯ: แม็คเอ็ดดเู คชั่น. ณฐั ภทั ร แกว้ รตั นภัทร์. (2563). หนังสอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4. กรุงเทพฯ: อกั ษร เจรญิ ทัศน์ อจท. ทมี วชิ าการ อจท. (ม.ป.ป.). สอ่ื การเรียนรู้ รายวิชาพนื้ ฐาน ชดุ แมบ่ ทมาตรฐาน Active Learning เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4. กรงุ เทพฯ: อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. ธนาวุฒิ ประกอบผล. (2563). หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4. กรุงเทพฯ: สถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ พว.
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: