การวเิ คราะหป์ ัญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม การทาเอกสารประกอบโปรแกรม การบารงุ รกั ษาโปรแกรม
การวิเคราะหป์ ญั หา ประกอบด้วยขนั้ ตอนต่างๆ ดงั นี้ กาหนดวัตถปุ ระสงคข์ องงาน เพ่ือพจิ ารณาว่าโปรแกรม ตอ้ งทาการประมวลผลอะไรบ้าง พจิ ารณาข้อมลู นาเขา้ เพอื่ ให้ทราบวา่ จะตอ้ งนาขอ้ มูล อะไรเขา้ คอมพิวเตอร์ ขอ้ มลู มีคุณสมบตั ิเปน็ อยา่ งไร ตลอดจนถงึ ลกั ษณะและรูปแบบของขอ้ มูลทจ่ี ะนาเขา้ พิจารณาการประมวลผล เพอื่ ให้ทราบว่าโปรแกรมมี ขน้ั ตอนการประมวลผลอย่างไรและมีเงื่อนไปการ ประมวลผลอะไรบ้าง พจิ ารณาข้อสนเทศนาออก เพอ่ื ใหท้ ราบวา่ มีขอ้ สนเทศ อะไรทจี่ ะแสดง ตลอดจนรปู แบบและสอ่ื ทีจ่ ะใช้ในการ แสดงผล
การออกแบบข้ันตอนการทางานของโปรแกรม เป็นขน้ั ตอนทใี่ ช้ เป็นแนวทางในการลงรหัสโปรแกรม ผู้ออกแบบขั้นตอนการทางานของโปรแกรมอาจใช้ เคร่ืองมือต่างๆ ช่วยในการออกแบบ อาทิเช่น คาสั่ง ลาลอง (Pseudocode) หรือ ผังงาน (Flow chart) การออกแบบโปรแกรมน้ันไม่ต้องพะวงกับรูปแบบ คาส่ังภาษาคอมพิวเตอร์ แต่ให้มุ่งความสนใจไปท่ี ลาดับขั้นตอนในการประมวลผลของโปรแกรมเท่านั้น
การเขียนโปรแกรมเป็นการนาเอาผลลัพธ์ ของการออกแบบโปรแกรม มาเปลี่ยนเป็น โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหน่ึง ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องให้ความสนใจต่อรูปแบบ คาสั่งและกฎเกณฑ์ของภาษาที่ใช้ เพ่ือให้การ ประมวลผลเป็นไปตามผลลัพธ์ท่ีได้ออกแบบไว้ นอกจากนั้นผู้เขียนโปรแกรมควรแทรกคาอธิบาย การทางานต่างๆ ลงในโปรแกรมเพื่อให้โปรแกรม น้ันมีความกระจ่างชัดและง่ายต่อการตรวจสอบและ โปรแกรมน้ียงั ใชเ้ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของเอกสารประกอบ
การทดสอบโปรแกรมเป็นการนาโปรแกรมที่ลงรหัสแล้วเข้า คอมพิวเตอร์ เพื่อ ตรวจสอบรูปแบบกฎเกณฑ์ของภาษา และผลการทางานของโปรแกรมน้ัน ถ้าพบว่า ยังไม่ถูกก็แก้ไขให้ถูกต้องต่อไป ขั้นตอนการทดสอบและแก้ไขโปรแกรม อาจแบ่งได้ เปน็ 3 ข้นั 1. สร้างแฟ้มเก็บโปรแกรมซึ่งส่วนใหญ่นิยมนาโปรแกรมเข้าผ่านทางแป้นพิมพ์โดยใช้ โปรแกรมประมวลคา 2. ใชต้ ัวแปลภาษาคอมพวิ เตอรแ์ ปลโปรแกรมทส่ี ร้างขนึ้ เปน็ ภาษาเครื่อง โดยระหว่าง การแปลจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของรูปแบบและกฎเกณฑ์ในการใช้ภาษา ถ้า คาสั่งใดมีรูปแบบไม่ถูกต้องก็จะแสดงข้อผิดพลาดออกมาเพื่อให้ผู้เขียนนาไป แก้ไข ต่อไป ถ้าไม่มีข้อผิดพลาด เราจะได้โปรแกรมภาษาเคร่ืองท่ีสามารถให้คอมพิวเตอร์ ประมวลผลได้ 3. ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการประมวลผลของโปรแกรม โปรแกรมท่ีถูกต้องตาม รูปแบบและกฎเกณฑ์ของภาษา แต่อาจให้ผลลัพธ์ของการประมวลผลไม่ถูกต้องก็ได้ ดังนน้ั ผเู้ ขียนโปรแกรมจาเป็นตอ้ งตรวจสอบว่าโปรแกรมประมวลผลถูกต้องตามต้อง การหรือไม่ วิธีการหนึ่งก็คือ สมมติข้อมูลตัวแทนจากข้อมูลจริงนาไปให้โปรแกรม ประมวลผลแล้วตรวจสอบผลลัพธ์ ว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าพบว่าไม่ถูกต้องก็ต้อง ดาเนินการแก้ไขโปรแกรมต่อไป การสมมติข้อมูลตัวแทนเพ่ือการทดสอบเป็นสิ่งที่มี ความสาคัญเป็นอย่างมาก ลักษณะของข้อมูลตัวแทนที่ดีควรจะสมมติท้ังข้อมูลที่ ถกู ต้องและขอ้ มลู ที่ผิด พลาด เพ่ือทดสอบวา่ โปรแกรมท่พี ัฒนาขน้ึ สามารถครอบคลมุ การปฏบิ ัติงานในเง่ือนไข ต่างๆ ไดค้ รบถ้วน นอกจากน้ีอาจตรวจสอบการทางานของ โปรแกรมด้วยการสมมติตัวเองเปน็ คอมพิวเตอรท์ ี จะประมวลผล แล้วทาตามคาส่ังที ละคาส่ังของโปรแกรมน้ันๆ วิธีการนี้อาจทาได้ยากถ้าโปรแกรมมีขนาดใหญ่ หรือมี การประมวลผลทซ่ี ับซอ้ น
การทาเอกสารประกอบโปรแกรมเป็นงานท่ีสาคัญของการ พัฒนา โปรแกรม เอกสารประกอบโปรแกรมช่วยให้ผู้ใช้โปรแกรม เข้าใจวัตถุประสงค์ ข้อมูลท่ีจะต้องใช้กับโปรแกรม ตลอดจนผลลัพธ์ ท่ีจะได้จากโปรแกรม การทาโปรแกรมทุกโปรแกรมจึงควรต้องทา เอกสารกากับ เพ่ือใช้สาหรับการอ้างอิงเมื่อจะใช้งานโปรแกรมและ เมื่อต้องการแก้ไขปรับปรุง โปรแกรม เอกสารประกอบโปรแกรมที่ จดั ทา ควรประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ต่อไปน้ี 1. วตั ถุประสงค์ 2. ประเภทและชนดิ ของคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณท์ ่ใี ช้ในโปรแกรม 3. วธิ กี ารใชโ้ ปรแกรม 4. แนวคดิ เกี่ยวกบั การออกแบบโปรแกรม 5. รายละเอียดโปรแกรม 6. ข้อมูลตัวแทนท่ีใช้ทดสอบ 7. ผลลพั ธ์ของการทดสอบ
เ มี่ อ โ ป ร แ ก ร ม ผ่ า น ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ต า ม ข้ั น ต อ น เรียบร้อยแล้ว และถูกนามาให้ผู้ใช้ได้ใช้งาน ในช่วงแรก ผู้ใช้อาจจะยังไม่คุ้นเคยก็อาจทาให้เกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง ดังนั้นจึงตอ้ งมีผคู้ อยควบคมุ ดแู ลและคอยตรวจสอบการ ทางาน การบารงุ รักษาโปรแกรมจงึ เป็นข้ันตอนท่ีผู้เขียน โปรแกรมต้องคอยเฝ้าดูและหา ข้อผิดพลาดของ โปรแกรมในระหว่างท่ีผู้ใช้ใชง้ านโปรแกรม และปรับปรุง โปรแกรมเม่ือเกิดข้อผิดพลาดขึ้น หรือในการใช้งาน โปรแกรมไปนานๆ ผู้ใช้อาจต้องการเปลี่ยนแปลงการ ทางานของระบบงานเดิมเพ่ือให้เหมาะกับ เหตุการณ์ นักเขียนโปรแกรมก็จะต้องคอยปรับปรุงแก้ไขโปรแกรม ตามความตอ้ งการของผูใ้ ชท้ ่ี เปล่ยี นแปลงไปนนั่ เอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: