รปู โดย : วงั จนั ทร์ -44-
พิพธิ ภณั ฑสถาน แหง่ ชาติ จันทรเกษม หลังจากที่เราดื่มด่ำกับบรรยากาศและ รสชาติของกาแฟแล้วเรายังสามารถเดินเที่ยวชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจนั ทรเกษมได้อีกด้วยนะ คะเพราะมีพนื้ ที่ ๆ ติดกนั น้ันเองคะ่ พิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม หรือ รปู โดย : MOM วังจันทรเกษม หรือ วังหน้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ทราบไหมคะว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทร ใบเสมา มีประตูด้านละ 1 ประตู รวม 4 ด้าน เกษม ปรากฎหลักฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระ พลับพลาจตุรมุข เป็นพลับพลาเครื่องไม้ มีมุข มหาธรรมราชาธิราช ประมาณ พ.ศ.2120ค่ะ ด้านหน้า 3 มุข ด้านหลัง 3 มุข เดิมใช้เป็นท้อง สาเหตุที่สร้างข้ึนมาเพราะ เพื่อให้เป็นที่ประทับของ พระโรงสำหรับออกงานว่าราชการและเป็นที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเคยใช้เป็นที่ ประทับ ต่อมาใช้เป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ประทับของสมเดจ็ พระยพุ ราชและพระมหากษัตริย์ เรียกว่า อยุธยาพิพิธภัณฑสถาน ปัจจุบันจัดแสดง หลายพระองคน์ นั้ เองคะ่ ตอ่ มาในสมยั รชั กาลที่ 4 เครื่องใช้ส่วนพระองคท์ ี่มีอยู่เดิมภายในพระราชวัง ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมพระที่นั่งพิมานรัตยา พระที่นั่งพิมานรัตยา จัดแสดงประติมากรรม และพลับพลาจตุรมุข ไว้เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จ เทวรูปและพระพุทธรปู นาคปรก ศิลปะสมัยลพบุรี ประพาสพระนครศรีอยุธยาและพระราชทานนาม พระพุทธรูปสำริดสมัยอยุธยา พระพิมพ์ และ วา่ “พระราชวงั จนั ทรเกษม” สมัยรัชกาลที่ 5 ได้ เครื่องไม้แกะสลัก ที่สลักจากศิลา พระที่นั่งพิสัย พระราชทานพระที่นั่งพิมานรัตยา ให้เป็นที่ทำการ ศัลลักษณ์ หรือ หอส่องกล้อง เป็นหอสูงสี่ชั้น ใช้ ของมณฑลกรุงเก่า จนกระทั่งเมื่อพระยาโบราณ เปน็ ทีป่ ระทับทอดพระเนตรดวงดาว ราชธานินทร์ เข้ามาดำรงตำแหน่งสมหุ เทศาภิบาล ในส่วนที่สองนะคะจะเป็นตึกที่ทำการภาค มณฑลกรุงเก่าจึงได้จัดสร้างอาคารที่ทำการภาค จัดนิทรรศการถาวร 5 เรื่อง คือ เรื่องศิลปะ บริเวณกำแพงทางด้านทิศตะวันตกต่อกับทิศใต้ สถาปัตยกรรมอยุธยา , เครื่องปั้นดินเผาสินค้า แล้วย้ายที่ว่าการมณฑลจากพระที่นั่งพิมานรัตยา นำเข้าและส่งออกที่สำคัญของอยุธยา, อาวุธ มาตั้งที่อาคารที่ทำการภาคใหม่ กรมศิลปากรจึง ยุทธภัณฑ์ , ศิลปวัตถุพุทธบูชา , วิถีชีวิตริมน้ำ ได้เข้ามาดูแล และจัดทำเป็นพิพิธภัณฑสถาน ชาวกรุงเก่า พิพิธภัณฑ์เปิดให้บริการวันพุธ-วัน แห่งชาตจิ นั ทรเกษมจนกระทง่ั ปัจจบุ ัน อาทิตย์ 09.00-16.00 น. สำหรับคา่ เข้าชม ชาว ในส่วนของภายในพิพิธภัณฑ์นั้นมีจุดที่ ไทยจะอยู่ที่ 20 บาทค่ะ ชาวต่างประเทศ 100 น่าสนใจหลายจุดมาก ๆ เลยค่ะ เราไปดูกันเลยวา่ บาท ถ้าหากเป็นน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาใน มีอะไรบ้าง จุดแรกจะเป็น โบราณสถาน เครื่องแบบ ภิกษุสามเณรและนักบวชในศาสนา โบราณวัตถุที่น่าสนใจในพระราชวังจนั ทรเกษมค่ะ ตา่ ง ๆ ไม่เสยี ค่าธรรมเนียมเข้าชมเลยค่ะ ใครที่เป็น มีกำแพงและประตูวัง ปัจจุบันก่อเป็นกำแพงอิฐ มี สายประวัติศาสตร์ชอบในความงดงามของอดีต ห้ามพลาดเลยนะคะ -45-
รูปโดย : MOM -46-
รปู โดย : Stefan
ในวันท่ีทอ้ อย่าคดิ วา่ ไมเ่ หลอื ใคร ส่องกระจก แล้วย้ิมเขา้ ไว้ ไม่เหลือใคร กย็ ังเหลอื ตวั เราเอง -พระมหาสมปอง-
วดั พิชัยสงคราม รปู โดย : วิกิ -49-
เมื่อเราเดินทางออกจากวัดแม่นางปลื้ม เส่อื มโทรมไปแล้วจนได้รบั การบูรณะในรัชกาลที่ 4 วัดพิชัยสงครามเป็นอีกหนึ่งวัดในอยุธยาที่ หรือรัชกาลที่ 5 ค่ะ และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัด นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จักมากสักเท่าไหร่ เป็นวัดที่ พิชยั สงครามเพือ่ เทิดเกียรติให้แกเ่ หลา่ ทหารผู้กล้า ต้ังอยู่ใกล้ ๆ กับสถานรี ถไฟจังหวดั พระนครอยุธยา หาญที่กอบกู้เอกราชได้สำเร็จค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปเที่ยวชมวัดพิชัยสงคราม ขอเลา่ นอกจากเรื่องราวความเป็นมาประวัติ- ที่มาให้ทุกคนไดฟ้ งั คราว ๆ กนั ก่อนนะคะ วัดพิชยั - ศาสตร์แล้ว วัดพิชัยสงครามไม่ได้มีดีแค่ประวัติ สงคราม เดิมแล้วเป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยกรุง ความเป็นมาของประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว ศรีอยุธยามีนามปรากฏในราชพงศาวดาร ว่า วัด นะคะ ยังมีชื่อเสียงมากในเรื่องพระดี ใครที่เป็น พชิ ยั บางแหง่ เขียนวา่ วัดพิไชย ได้เปล่ยี นนามใหม่ สายมู อยากได้ของขลังไว้บูชาเสริมดวง ไว้เป็น ว่า “วัดพิชัยสงคราม” ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สิริมงคลกับชีวิต ต้องห้ามพลาดวัดนี้เป็นเด็ดขาด ประมาณรัชกาลที่ 4 หรือ รัชกาลที่ 5 สันนิษฐาน เลยนะคะ เพราะได้รับฉายาว่าพระดี ศรีอยุธยา ว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ราว ๆ พ.ศ 1900 ของหลวงพ่ออุดม พระครูวิชัยกิจจารักษ์ ซึ่งเป็น ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้างวัด ทุกคนทราบไหม เจ้าอาวาสผู้ที่ร่ำเรียนวิชาพุทธาคมสายวัดประดู่- คะว่าเดิมแล้ววันนี้มีบทบาทและสำคัญเป็นอย่าง ทรงธรรมค่ะและยังเป็นสายวัดอยุธยาโบราณจน มาก เพราะเป็นหมุดหมายแห่งการกอบกู้เอกราช รู้แจ้งและได้มีการปลุกเสกวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ ของสยามประเทศเป็นเส้นทาง ผ่านของการ มากมาย มีทั้งเสื้อยันต์ ไม้ครู ลูกสะกด และ เดินทัพครั้งสำคัญของพระยาวชิรปราการหรือ พิรอดแขน โดยเฉพาะ ตะกรุดถือเป็นวัตถุมงคล สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราชน้ันเองค่ะ ในช่วงน้ัน ชิ้นเอกของหลวงพ่ออุดมที่ได้รับความนิยมเป็น กองทัพพม่าได้เข้ามาสู่พระนครในพศ. 2309 อย่างมาก จนมีลูกศิษย์ลูกหา อยู่ไปทั่วทุกสารทิศ พระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร ในเวลา ใกลท้ ี่เปน็ สายบชู า สายของขลัง ต้องห้ามพลาดวัด นั้นก็เห็นว่าพม่าจะเข้ามายึดพระนครไว้ได้ นี้เป็นเด็ดขาดเลยค่ะ ส่วนใครที่สนใจหรืออยากจะ ทั้งทหารข้าราชการ ประชาชนทั้งหลายต่างก็เสีย มาเที่ยวชมสามารถมาได้ตามที่อยู่นี้เลยนะคะ ซึ่ง ขวัญ และพระมหากษัตริย์เองก็ไม่ได้มีความ วัดพิชัยสงครามตั้งอยู่ที่ 155 หมู่ 11 บ้านบาก เข้มแข็ง และเห็นที่ว่ากรุงศรีอยุธยาจะต้องเสีย ถนนประโคนชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จงั หวัด ให้กับพม่าเป็นครั้งที่ 2 เมื่อ คิดได้ดังนั้นแล้วจึง พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่สายมูเตลู สายของ รวบรวมกำลังพลตีวงล้อมทหารพม่าข้ามแม่น้ำ ขลงั ต้องห้ามมากันเลยล่ะคะ่ ลองมาเที่ยวชมกนั นะ ป ่าสักไป ตั้งแ ต่ท ี่ว ัดพิชัย แ ละได้ม า ตั้ ง คะรับรองวา่ สวยงามและสมคำลำ่ ลือแน่นอนค่ะ พระสัตยาธิษฐานต่อหลวงพ่อใหญ่หรือ พระพุทธพิชัยนิมิตค่ะซึ่งเป็นพระประธานใน พระอุโบสถ เพื่อขอให้เดินทางปลอดภัย กรอบกู้ บ้านเมืองและมีชัยชนะกับศึกครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจริง ในภายหลัง แล้วเมื่อรบชนะแล้วจึงได้ขึ้นเป็น พระเจ้ากรุงธนบุรีและได้คืนเอกราชแก่สยามได้ สมความมุ่งหมายความตั้งใจเมื่อย้อนไปในคราว กรุงศรีอยุธยาแตกวัดพิชัยนี้ได้กลายเป็นวัดร้างที่ รูปโดย : go.ayutthaya -50-
ชวนชมิ ริมทาง The Station รปู โดย : The Station เป็นร้านอาหารและคาเฟ่ที่อยู่ด้านข้างของสถานี รถไฟอยุธยา บนชานชาลา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามและ ห่างจาก ร้าน SEVEN SEAS RESTAURANT & BAR ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น ภายในร้านตกแต่ง ด้วยกระจกทำให้สว่างมองดูแล้วสบายตา สไตล์ การแต่งร้านออกแนวเรียบง่ายมีต้นไม้ประดับ ภายในร้าน บรรยากาศดี ทางร้านมีบริการอาหาร ไทย อาหารต่างชาติและมีบริการเครื่องอีกหลาย ชนิด มีมุมสวย ๆ ให้นั่งหลากหลาย สำหรับใครที่ เป็นสายถ่ายรูปต้องห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ ลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนที่เดินทาง ด้วยรถไฟ ทางร้านมีบริการ รปภ. รับจอดรถ ใครที่นั่งรถส่วนตัวมาหายห่วงเรื่องจอดรถได้เลย และใครที่ต้องน่งั รอรถไฟนาน ๆ สามารถเข้ามาน่ัง ชิว ถ่ายรูปกับมุมสวย ๆ เก๋ ๆ ของทางร้านชนิด ที่ว่านั่งรอรถไฟแบบไม่ต้องร้อนนั่งรับแอร์เย็น ๆ ถ่ายรูปชิว ๆ ไปเลยค่ะ สาว ๆ คนไหนที่เป็นสาย ถ่ายรูปขอแนะนำว่าสามารถมาถ่ายรูปที่สถานีรถ ไปได้ด้วยจะถ่ายบนรางรถไฟเก๋ ๆ ก็ได้ค่ะแต่ต้อง ระวังรถไฟกนั ดว้ ยนะคะ -51-
รปู โดย : SSRB SEVEN SEAS RESTAURANT & BAR สำหรับใครทีอ่ ยากจะหาที่น่ังชิวหรือด่ืมด่ำ กับบรรยากาศยามเย็นเราขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ SEVEN SEAS RESTAURANT & BAR ร้า นอ า ห า ร และร้านนั่งดื่มเป็นร้านเลก็ ๆ ซึง่ ร้านต้ังอยทู่ างด้าน ซ้ายมือห่างจากวัดพิชัยสงครามประมาณ 500 เมตร และไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ภายในร้าน ต ก แ ต ่ ง ด ้ ว ย ไ ม ้ แ บ บ ไ ท ย ผ ส ม ผ ส า น แ น ว classic บรรยากาศในร้านประดับตกแต่งด้วยของที่ เรียบง่าย มีบริการอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด สามารถนัง่ ทานที่ร้านพร้อมกบั ชมการเล่นอคูลติก การร้องเพลงสดเพราะ ๆ จากทางร้านกับ บรรยากาศชิว ๆ ลูกค้าในร้านส่วนใหญ่เป็น ชาวต่างชาติเพราะเป็นร้านที่ใกล้ท่าเรือและสถานี รถไฟทำให้เดินทางสะดวก นอกจากจะเป็น ร้านอาหารและเครื่องดื่มแล้วในส่วนของด้านหลงั เป็นบ้านพักผ่อนและด้านหน้าเป็นร้านอาหารและ บาร์ มีบริการห้องพักอีกด้วยนะคะ ใครที่สนใจ อยากจะพักค้างคืนชมบรรยากาศรับลมตอนเยน็ ที่ มีเรือบรรทุกหินและดินผ่านไปผา่ นมา บรรยากาศ ที่เรียบง่ายของชาวเรือสามารถติดทางร้านได้เลย ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 08:00 ไปจนถึงเที่ยงคืน ร้านSEVEN SEAS RESTAURANT & BAR เป็นอีก หนึ่งร้านที่น่ามานั่งดื่มและดื่มด่ำกับบรรยากาศ มาก ๆ เลยนะคะ -52-
รปู โดย : Vlada
“คนท่มี ีธรรมะในหัวใจ ไม่ว่าจะทำอะไรกด็ ีทง้ั นนั้ โดยเฉพาะเร่ืองความรัก โยมรไู หมว่า มันไมย่ ากหรอกทจี่ ะพูดคำวา่ รัก แต่มนั ยากยงิ่ นักท่ีจะรกั อย่างเข้าใจ” -พระมหาสมปอง-
วัดอโยธยา เจดีย์มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังกลม หรือทรงลังกาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม รปู ระฆังเรียวปากแคบไมผ่ ายกว้าง องคร์ ะฆังกลม ทำเป็นรูปปูนปั้นกลีบดอกบัวลดหลั่นแปลกตากวา่ วัดอโยธยา หรือ วัดเดิม ตาม พงศาวดาร เจดีย์องค์อื่น ๆ และมีบันไดขึ้นทางด้านหน้าและ เหนือ เชื่อกันว่าบริเวณวัดนี้เคยเป็นพระราชวัง ด้านหลัง เป็นเจดีย์อโยธยารุ่นแรก ซึ่งมีอายุกว่า สมัยอโยธยามาก่อน ต่อมาเมื่อกษัตริย์ผู้ปกครอง 500 ปี พงศาวดารเหนือ เล่าว่า พระมหาเถรศรี เมืองได้ถวายพืน้ ทีพ่ ระราชวังให้สร้างเป็นวัด ให้ชื่อ ศรัทธาได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เจดีย์นี้ด้วย ว่า \"วัดเดิม\" เป็นศูนยก์ ลางของเมืองอโยธยา เป็น เมือ่ คร้ังอุทกภยั ในประเทศไทย พ.ศ. 2554 เจดีย์ วัดประจำพระราชวัง \"เมืองอโยธยาศรีราม วดั อโยธยาองคน์ ้ีกไ็ ดร้ บั ความเสยี หายจากถูกน้ำขัง เทพนคร\" ริมแม่น้ำป่าสัก ก่อนที่สมเด็จพระ- เป็นเวลานานหลายเดอื นตั้งแตบ่ รเิ วณรอบฐานราก รามาธิบดีที่ 1 จะทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา จนถึงองคเ์ จดยี ์ อโุ บสถซึ่งไดร้ บั การสร้างข้นึ ใหม่ใน ณ หนองโสน เดิมเป็นพระอารามหลวง โดย สมัยรัตนโกสินทร์บนรากฐานอาคารเดิม ส่วน พระเจ้าหลวงยกวัดให้เป็นวังเช่นเดียวกับ ทางด้านทิศตะวันตกของวัดเป็นที่ตั้งของวิหารซึ่ง วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัด ถกู ปกคลุมด้วยเนินดนิ ในฝ่ายอรญั วาสยี งั ปรากฏชื่อวดั นี้ในจารึกวัดศรีชุม วัดอโยธยานี้เป็นวัดเก่าแก่ ก่อนมีการ คือ จารึกหลักที่ 2 ในประมวลจารึกไทย สถาปนาพระนครศรีอยธุ ยาเปน็ ราชธานี มีปรากฎ ที่สันนิษฐานว่าจารึกโดยพระมหาเถรศรีศรัทธา ในจารึกวัดศรีชุม คือ จารึกหลักที่ 2 ในประมวล วัดนี้เป็นวัดที่มีพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ จารึกไทย ที่สันนิษฐานว่าจารกึ โดยพระมหาเถรศรี เสด็จประทับอยู่และเป็นวัดที่สำคัญเกี่ยวกับพิชัย สรธาราชจุฬามณี (สันสกฤตชื่อ \"ศรีศรัทธาราช สงคราม จุฬามุน\"ี ) ซึ่งมศี กั ดิ์เปน็ หลานพ่อขุนนาวนำถมุ เป็น การบันทึกเหตุการณ์ราว คริสต์ศตวรรษที่ 14 (ราว ค.ศ.1351 /ราว พ.ศ.1893) ตอนพระมหาเถรศรีสรธาราชจุฬามณี กลับจากลังกา ซึ่งมีการสถาปนาพระนครศรีอโยธ ยาเป็นราชธานีแล้ว พงศาวดารเมืองเหนือเล่าว่า สมเด็จพระมหาเถรศรีสรธาฯ ได้บรรจุพระ สารีริกธาตุที่เจดีย์วัดเก่าอโยธยาด้วย เจดีย์ ประธาน วัดอโยธยา มีลักษณะเป็นเจดีย์แปด เหลี่ยม ชั้นล่างสุดเป็นฐานในผังสี่เหลี่ยม เหนือขึ้น ไปเป็นชุดฐานบังในผังแปดเหลี่ยม ลักษณะ ค่อนข้างเตี้ย รองรับระฆังขนาดใหญ่ รอบองค์ ระฆังประดับปูนปั้นเป็นรูปกลีบบัวโดยรอบ สันนิษฐานว่าคงเป็นงานประดับเพิ่มในภายหลัง ส่วนเหนือองค์ระฆังขึ้นไปหักหายไปแล้ว รูปโดย : ayothaya สันนิษฐานว่าเจดีย์องค์นี้น่าจะสร้างขึ้นในสมัย -55-
อยุธยาตอนต้น วัดอโยธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลหันตรา วัดโบราณ มีมาแต่สมัยอโยธยา เป็นวัดคามวาสีที่ อ ำ เ ภ อ พ ร ะ น ค ร ศ ร ี อ ย ุ ธ ย า จ ั ง ห วั ด ต้ังอยกู่ ลางพระนครอโยธยา ดงั น้ัน พนื้ ที่ในบรเิ วณ พระนครศรีอยุธยา ต้ังอยู่บริเวณตอนเหนือของเขต นจี้ ึงเช่อื กันว่าเป็นเมืองอโยธยาตั้งแต่น้ันเป็นต้นมา อนุรักษเ์ มืองเก่าอโยธยา ในท้องที่เรียกได้อีกอย่าง ดังนั้นในระยะต่อมาจึงได้มีการเรียกชื่อใหม่เป็น วา่ วดั ศรีอโยธยา หรือวัดเดมิ วัดอโยธยา เพื่อให้สอดคล้องกบั ความเชือ่ น้ี วัดอโยธยา มีโบราณสถานสำคัญคือพระ เจดีย์ขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นเจดีย์แปดเหลีย่ ม ชั้น ล่างสุดเป็นฐานสงู ในผงั สเ่ี หล่ยี ม เหนือขนึ้ ไปเปน็ ชดุ ฐานบัวในผังแปดเหลี่ยมลักษณะค่อนข้างเตี้ย รองรบั องค์ระฆังขนาดใหญ่ รอบองคร์ ะฆังประดับ ปนู ป้ันเปน็ รปู กลบี บัวโดยรอบ สนั นิษฐานว่าคงเป็น งานประดบั เพิ่มในภายหลงั สว่ นเหนือองคร์ ะฆังขึ้น ไปหักหายไปแล้ว จากรูปแบบที่ปรากฎนี้ทำให้ สันนิษฐานได้ว่า เจดีย์องค์นี้น่าจะสร้างขึ้นในสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนต้น และน่าจะมีการบูรณะ เพิ่มเตมิ มาโดยตลอด รูปโดย : thaiza รปู โดย : thaiza ตามตำนานในพงศาวดารเหนือเชื่อว่า บริเวณของวัดนี้เคยเป็นพระราชวังสมัยอโยธยา ต่อมาเมื่อกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองได้ถวายพื้นที่วัง ให้สร้างเป็นวัด จึงได้ชื่อว่า วัดเดิม อันเป็น ศูนย์กลางของเมืองอโยธยาริมแม่น้ำปา่ สกั ก่อนที่ พระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยา ณ หนอง โสน วัดอโยธยาหรือวัดเดิมนี้ ไม่ปรากฏหลักฐาน ในพงศาวดารอยุธยาถึงการบูรณปฏิสังขรณ์แต่ ประการใด แต่น่าเชื่อว่าคงจะเป็นวัดหลวงที่เจ้า อาวาสที่ความสำคัญและมีบทบาททางศาสนา ใน สมัยอยุธยาวัดหนึ่ง เช่น ในสมัยพระนารายณ์วัดนี้ มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นผู้มีภูมิรู้แตกฉาน ใน คัมภีร์พระไตรปิฎก เชื่อว่าสมเด็จฯ องค์นี้คือผู้ แตง่ “ราโชวาทชาดก” ซึง่ เป็นชาดกสำคญั ของราช สำนักอยุธยา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสใน ปลายรชั สมัย พ.ศ. 2451 ทรงระบุวา่ วัดเดมิ นคี้ ือ -64- -56-
ริมทางวัดอโย โอโ้ ห ตอ้ งมา ตลาดน้ำอโยธยา เป็นจุดศูนย์รวม สวย ๆ ให้คุณไม่ควรพลาดอีกด้วย ที่ถือได้ว่าเป็น นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติที่จะได้ อะไรที่ตอบโจทย์และมีนักท่องเที่ยวที่มีความ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ และทัศนียภาพอัน คึกคกั เป็นอยา่ งยิง่ ในแทบจะทกุ วันเลยทีเดยี ว โดย งดงามแบบไทยๆ ด้วยการเดินชมตลาดเพื่อชิม ที่นี่นั้นสามารถที่จะตอบโจทย์ตาม Concept ของ อาหารรสชาดอร่อยๆ เรียบคลองยาว หรือจะซื้อ กรุงเก่า ของพระนครศรีอยุธยาในอดีตมาไว้ในที่น้ี หาของกินของฝากบนร้านค้า ที่ตั้งเรียงรายอยู่ใน จึงทำให้ได้รับถึงบรรยากาศต่างๆได้เป็นอย่างดี เรือนไทยอันงดงาม รอบตลาดน้ำอโยธยาของเรา เพื่อให้เราได้ยิน กับบรรยากาศของกรุงเก่าได้อีก กเ็ พลิดเพลนิ ไม่แพ้กัน พร้อมกนั นีก้ ็ยังมีเรือบริการ ด้วย อีกทั้งการท่องเที่ยวเหล่านี้นั้นยังเป็นอีกหนึ่ง รบั ส่ง ไปยงั ทา่ เรือภายในตลาดอีกด้วยเพื่อสะท้อน สถานที่ท่องเที่ยว ในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่มี ถึงวิถีการเดินทางในสมัยก่อน ตลาดน้ำอโยธยา ความยิ่งใหญ่ที่สุด ในจังหวัดอยุธยาเลยก็ว่าได้ที่ เปิดให้บริการทุกวัน เวลาที่เหมาะในการมาเที่ยว เรียกได้ว่ามี พ่อค้า-แม่ค้า และร้านค้าต่าง ๆ คงจะเป็นช่วงเย็นของทุกวัน เพราะแดดร่มลมตก มากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งการขายอาหาร อากาศเย็นสบายเดินช๊อปปิ้งสบายใจแน่นอน คาวหวานอาหารทะเล หรือเกลือขายอาหารที่เปน็ ยิ่งวันหยุดคนอาจจะเยอะยิ่งมีของที่ระลึก และ อีกหนึ่งสิ่งที่ติดตารวมไปถึงขนมของฝาก และร้าน ของกินมากมายให้กนิ กันท้ังวนั ขายสินค้าพื้นบ้านแบบ OTOP รวมไปถึงร้านนวด ตลาดน้ำอโยธยา ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง เพื่อสขุ ภาพกม็ ีให้คณุ ได้เลอื กกัน เพราะยงั มบี รกิ าร ตลาดที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะ ล่องเรือชมบรรยากาศรอบ ๆ ตลาดน้ำอีกด้วย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ มักจะแวะที่นี่กันเป็น เรียกว่าพิการบริการต่าง ๆ มากมายหลากหลาย หลัก และเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่สามารถตอบ รูปแบบ และสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการโชว์ โจทยท์ ั้งด้านอาหารการกินข้าวของเครื่องใช้ตา่ ง ๆ แสดงวัฒนธรรมไทย ที่เรียกว่าหาดูที่ไหนไม่ได้อีก ที่มีความโดดเด่นและมีความเป็น Local ที่สูงเป็น ดว้ ย อย่างมากเลยทีเดียว จึงทำให้ที่ได้รับการยอมรับ และเปน็ ที่นิยมเปน็ อย่างมากเลยทีเดยี ว จึงถอื ได้ว่า เป็นอีกหนึง่ สถานที่ที่เราอยากจะแนะนำให้คุณต้อง แวะมาเดินชิวหา ของทานอร่อย ๆ และของฝาก ต่าง ๆ มากมาย ที่คุณไม่ควรพลาดอีกด้วยที่ได้รบั การยอมรับมากที่สุดเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่ง สถานที่เที่ยวที่ใกล้กับกรุงเทพฯ ในวันสบาย ๆ จะไปเที่ยวไหนดแี ลว้ ยงั ไมร่ ู้ที่นี่สามารถตอบโจทย์ ได้อยา่ งนา่ สนใจเลยกว็ า่ ได้ ที่คณุ สามารถที่จะเดิน ชิวหาของอรอ่ ย ๆ ท้ังของหวานคาวหวานขนมไทย ขนมโบราณให้ชิมกัน แถมยังมีมุมถ่ายรูปแบบ รปู โดย : travelblog -57-
ยืนโชวค์ วามเท่หอ์ ยู่หน้าตลาด ซึ่งตรงน้ันกลายเป็น แลนด์มาร์คใหม่ ที่มีความสำคัญ ที่ใครหลายคน แวะมาถ่ายรูปและเดินเที่ยวตลาดกันอีกด้วย ที่เรียกว่าภายในตลาดและยังสามารถที่จะตกแตง่ มากมาย ทั้งร้านค้าร้านอาหารรวมไปถึงคาเฟ่ กาแฟเก๋ ๆ และร้านขายของที่ระลกึ ตา่ ง ๆ มากมาย รวมถึง พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋วแบบวิถีไทย ซึ่งเป็นการ จัดแสดงตุ๊กตาดินตัวจิ๋วให้คุณได้รับชมกันอีกด้วย และเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิตต่าง ๆ มากมาย ให้คุณได้ศึกษาและไม่ควรพลาดลงไปถึง ประเพณี วัฒนธรรมไทย ที่มีความหนาใจและสามารถ ถ่ายรูปสวย ๆ ได้แบบไม่มีเบื่อเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากจะเสร็จบรรยากาศแบบวัดเก่าแก่ ตั้งแต่ สมยั กรงุ ศรีอยุธยา บอกไดเ้ ลยวา่ ตลาดน้ำวัดท่ากา ร้องก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นแหล่ง รวมของกินของฝากในราคาชาวบ้านมากมาย และ ผู้คนนิยมมหาของอร่อย ๆ ทานกัน ซึ่งแต่ละอย่าง นั้นมีรสชาติที่มีความดั้งเดิม เป็นท้องถิ่นตนเองสงู เป็นอย่างมากและราคาถูกแบบฝีมือ คุณป้า คุณยาย ได้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือ อยุธยาที่ต้องบอกได้เลยว่าต้องไปลองสักครั้งหนึ่ง แล้วคุณจะได้รู้ถึงรสดั้งเดิม ของก๋วยเตี๋ยวเรืออีก ด้วย ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังมีมุมให้อาหารปลาแล้ว ได้ทำบุญแบบอิ่มบุญอิ่มใจกันอีกด้วย สามารถทำ ทานได้ที่ด้านหน้าของตลาดนั้น ยังมีดอกไม้ มากมายหลากหลายสีมาประดับต่าง ๆ ที่ให้ บรรยากาศที่สุดแสนจะลื่นล้ม รวมไปถึงตุ๊กตาดิน เผาที่มีมากมายหลากหลายรูปแบบ และยังมี ห้องน้ำติดแอร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องน้ำที่สะอาด รูปโดย : travelblog มาก ๆ แหง่ หนึง่ อีกด้วย เหน็ หรือยังคะว่าในแต่ละสถานท่ีในจังหวัด หรือถ้าอยากจะไปเสิร์ฟบรรยากาศ อยุธยานั้น มีความไม่ธรรมดาและมีเอกลักษณ์ ตลาดน้ำที่อื่นเราก็มีตลาดน้ำทุ่งบัวชน ซึ่งเป็น เฉพาะตัวที่สูงเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ ซึ่งที่เรา ตลาดน้ำที่อยู่ในอำเภอวังน้อยที่ต้องยอมรับว่า แนะนำนน้ั ถอื ได้วา่ เป็นตลาดน้ำทีข่ ้นึ ชื่อ และไมค่ วร อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักทางเข้าตลาด ที่ ที่จะพลาด แต่ก็ยังมีอีกหลายสถานที่ที่ยังไม่ได้เอ่ย เรียกว่าสะดุดตาด้วยหุ่น Transformers สีเหลืองที่ มาบอกไดเ้ ลยวา่ -58-
ตั้งอยูท่ างไปตลาดน้ำอโยธยา บรเิ วณหลังวัดอโยธ ยา เข้าไปในวัด พอผ่านเจดีย์หลังโบสถ์ เลี้ยวขวา จะเห็นร้านนายย้ง เป็นบ้านไม้ บรรยากาศสบายๆ ร่มรื่นดีมาก ร้านจะเปิดเวลาเช้าประมาณ 8 โมง พอช่วงบ่ายๆ ก็หมดแล้ว แนะนำว่าอย่าไปกินตอน เที่ยงเพราะคนจะแน่นมาก ร้านจะหยุดทุกวัน อาทิตย์จนั ทร์ ลองโทรศัพทไ์ ปสอบถามกันดคู รบั ที่ โทร. 080-234-4202 และ 081-399- 5227 รูปโดย : paiginaroundtheworld รูปโดย : paiginaroundtheworld ก๋วยเตี๋ยวนายย้ง หนึ่งในร้านที่ประทับใจ และอยากให้ใครที่ ไปอยุธยาทั้งทีไม่ควรพลาดน่ัน คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวนายย้ง ก๋วยเตี๋ยวหมูเจ้าเก่าที่มี ชื่อเสียงอีกร้านของ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ก่อน พายเรือขายในแม่น้ำป่าสัก ก่อนยกพลขึ้นบกมา ขายอยู่ที่ตลาดเจ้าพรหม ก่อนที่จะมาอยู่ในวัด อโยธยาในปจั จบุ นั จะเป็นลูกค้าท้องถิ่นมาอุดหนุน กันแน่น บางวันก็มีนักท่องเที่ยวมากินด้วยเยอะ เหมือนกนั มารา้ นนีก้ ต็ ้องสั่งกว๋ ยเต๋ียวหมตู ้มยำ น้ำ ขลุกขลิกกำลังซด ให้แบบครบเครื่อง ทั้ง เนื้อหมู แดงชนิ้ โตๆ ยงั มีหมสู บั หมกู รอบ ปลาแผ่น ปรุงรส มาให้เสรจ็ สรรพ ถั่วควั่ เอง พริกค่ัวเอง และที่ทำให้ อร่อยเดด็ คือเสน้ บะหมี่ทางรา้ นจะทำเอง ทั้งเหนียว ทั้งนุ่ม อีกอย่างที่อร่อยไม่แพ้กันก็คือเย็นตาโฟให้ แบบครบเครื่อง ทั้งลูกชิ้น ฮื่อก้วย แมงกะพรุน หมึกกรอบ ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซอสที่เขาปรุงขึ้นเอง รสชาติเด็ดดวงมาก แม้กระทั่งต้มจืดยังอร่อย เพราะนำ้ ซุปเขาหวานน้ำต้มกระดูกแบบเต็ม ๆ ร้าน -59-
รปู โดย : paiginaroundtheworld -60-
รปู โดย : kira
มนษุ ย์แท้จริงแล้วไมไ่ ดโ้ ตดว้ ยอาหาร แตโ่ ตไดด้ ว้ ยความลำบาก -https://investwallet.money-
วัดใหญช่ ยั มงคล รปู โดย : วิกิ ถือว่าเป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติ ศาตร์มากที่สุดและเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมา มากที่สุดวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึง เป็นธรรมดาที่จะพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมายังวัดแห่งนี้ จุดสนใจของวัดใหญ่ชัย มงคลนี้ คือเรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุง ศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ชม เจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา ด้านหลังวัดมีตำหนัก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้า มากราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ ยังมี สวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวอยุธยาจึงไม่ควร พลาดอย่างยิง่ วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้นคือในรัชสมัยของ สมเดจ็ พระรามาธปิ ดที ี่ 1 หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทองพระมหากษัตริย์ผู้สถาปนา กรุงศรีอยุธยา ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 1900 สมเด็จพระเจ้าอู่ทองได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้ขุดศพเจ้าแก้ว ซึ่งทิวงคตด้วย อหิวาตกโรคขึ้นมาเผา ที่ปลงศพนั้นโปรดให้ สถาปนาเป็นพระอาราม นามว่า วัดป่าแก้ว ต่อมา คณะสงฆ์สำนักวัดป่าแก้วบวชเรียนมา จากสำนัก รัตนมหาเถระ ในประเทศศรีลังกาคณะสงฆ์นี้ได้ เป็นที่เคารพเลื่อมใสแก่ชาวกรุงศรีอยุธยาเป็นอัน มาก ทำให้ผู้คนตา่ งมาบวชเรียนในสำนักสงฆ์คณะ ป่าแก้วมากขึ้น สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง จึงทรงตั้ง อธิบดีสงฆ์นิกายนี้เป็นสมเด็จพระวันรัตน มี ตำแหน่งเป็นพระสังฆราชฝ่ายขวาคู่กับสมเดจ็ พระ พุทธโฆษาจารย์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่าย คันถธรุ ะ -63-
สร้างข้ึนในสมัยอยุธยาตอนต้นรัชสมัยของ รูปโดย : sanook สมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ 1 หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทองพระมหากษัตริย์ผู้สถาปนา กรุงศรีอยุธยา ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้ง พ.ศ. 1900 สมเด็จพระเจ้าอู่ทองได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้ขดุ ศพเจ้าแก้วและเจ้าไท ซึ่งทิวงคต ด้วยอหิวาตกโรคขึ้นมาเผา ที่ปลงศพนั้นโปรดให้ สถาปนาเป็นพระอาราม นามว่า วัดป่าแก้ว ต่อมา คณะสงฆ์สำนักวัดป่าแก้วที่ได้บวชเรียนมา จาก สำนกั รัตนมหาเถระในประเทศศรีลังกาคณะสงฆ์นี้ ได้เป็นที่เคารพเลื่อมใสแก่ชาวกรุงศรีอยุธยาเป็น อันมาก ทำให้ผู้คนต่างมาบวชเรียนในสำนักสงฆ์ คณะป่าแก้วมากขึ้น สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง จึงทรง ต ั ้ ง อ ธ ิ บ ด ี ส ง ฆ ์ น ิ ก า ย น ี ้ เ ป ็ น ส ม เด ็ จ พ ร ะ วั น รัตน์ มีตำแหน่งเป็นพระสังฆราชฝ่ายขวาคู่กับสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่าย คนั ถธรุ ะ กาลตอ่ มาเป็นที่พำนักของพระภิกษุคณะ ป่าแก้ว ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธานสงฆ์ จึงไดช้ ื่อวา่ วดั เจ้าพระยาไทยคณะป่าแก้ว รูปโดย : painaidii เรือ่ งราวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวัดป่า แก้วมีอยู่ว่า อุโบสถของวัดเคยเป็นที่ซึ่งคณะคิด กำจัดขุนวรวงศาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์มา ประชุมเสี่ยงเทียนอธิษฐาน ครั้งนั้นได้รับผลสำเรจ็ จึงอัญเชิญพระเฑียรราชาลาผนวช ขึ้นครองราช สมบัติทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พ.ศ. ๒๑๐๔ ในรัชกาลของสมเด็จพระมหา จักรพรรดินั้นเอง ได้มีพระบรมราชโองการให้เอา สังฆราชวัดป่าแก้วไปสำเร็จโทษ ฐานฝักใฝ่ให้ฤกษ์ ยามแก่ฝ่ายกบฏพระศรีศิลป์ พ.ศ. ๒๑๓๕ ใน แผ่นดินของพระนเรศวรมหาราช มีเหตุการณ์ สำคัญที่ชวนให้เข้าใจว่ามีการสร้างปฏิสังขรณ์ เจดีย์ประธานวัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศของ พระองค์ที่ได้ชัยชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า จึงทำให้เชอ่ื ว่าเป็น -64-
เจดีย์ชัยมงคลอนุสรณ์แห่งชัยชนะอัน พระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระที่นั่งสุริยาตรม ยิ่งใหญ่ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ -รินทร์โปรดเกล้า ให้ยกทัพเรือออกจากพระนคร มังกะยอชวาพระมหาอุปราชาของหงษาวดี ที่ ไปตั้งอยู่ที่วัดป่าแก้ว แต่ทัพเรือสยามเสียทีข้าศึก ต.หนองสาหร่าย จ.สพุ รรณบรุ ีในครง้ั นั้นพม่าได้ยก พระยาเพชรบุรีถูกสังหาร กองทัพอาณาจักร ทัพเข้ามาในขอบขันฑสีมา สมเด็จพระนเรศวรฯ คองบองบางส่วนได้ยึดเอาวัดป่าแก้วเป็นฐาน และสมเด็จพระเอกาทศรถผู้เปน็ พระอนุชาจึงได้นำ ปฏิบัตกิ าร เมื่อกรงุ ศรีอยุธยาแตกใน พ.ศ. 2310 ทัพไปรับศึก และได้ขับช้างเข้าไปอยู่ในวงล้อมของ วดั แหง่ นจี้ ึงไดร้ ้างลง ข้าศึกทคี อยระดมยิงปืนเข้าใสพ่ ระและพระคชาธาร โดยทีเ่ หล่าแม่ทพั นายกองวิง่ ตามพระองค์มาไม่ทัน พระองค์จึงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพีเ่ ราจะยืนอยูไ่ ยในร่มไมเ้ ลา่ เชญิ ออกมาทำ ยุทธหตั ถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีกษตั ริยท์ ีจ่ ะได้กระทำยทุ ธหัตถีแล้ว พระมหาอุปราชาของพม่าจึงไสยช้างออกมา กระทำยทุ ธหัตถีดว้ ยกันในการทำยุทธหัตถีครั้งน้ัน สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้พระแสงพลพ่ายฟาด ฟนั พระมหาอปุ ราชาขาดตะพายแลง่ เมือ่ กลับมาสู่ พระนครแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษเหล่าทหารที่ ตามไปไม่ทันตอนกระทำศึกยุทธหัตถี ซึ่งตามกฏ ระเบียบแลว้ ตอ้ งโทษถึงขน้ั ประหารชีวิต ชว่ งเวลาที่ รออาญาสมเด็จพระพันรัตน พระสังฆราชพร้อม ด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวร พระราชทานอภัยยกเว้นโทษให้กับทหารเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่าพระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัม พุทธเจ้าทีแ่ วดล้อมด้วยหมู่มารก่อนทีจ่ ะตรัสรู้ เป็น การประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและ เกง่ กาจของพระองค์ให้ขจรกระจายไปทัว่ แคว้นท่ัว แผ่นดิน สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์ องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและ ความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีต่อเหล่าทหาร เหล่านั้น และพระะราชทานนามว่า เจดีย์ชัยมงคล ในปี พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็น เจดีย์ ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจน ทุกวันนี้ วัดป่าแก้ว หรือวัดเจ้าไท ต้องร้างลงเมื่อ คราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ประมาณ พ.ศ. 2309 อาณาจักรคองบองได้ยกพลมาประชิด -65-
เรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวัดป่าแก้วมีอยู่ว่า อุโบสถของวัดเคยเป็นที่ซึ่งคณะคิดกำจัด ขุนวรวงศาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์มาประชุมเสี่ยงเทียนอธิษฐาน ครั้งนั้นได้รับผลสำเร็จจึงอัญเชิญ พระเฑียรราชาลาผนวช ขึ้นครองราชสมบัติทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิพ.ศ. ๒๑๐๔ ใน รัชกาลของสมเด็จพระมหาจักรพรรดินั้นเอง ได้มีพระบรมราชโองการให้เอาสังฆราชวัดป่าแก้วไปสำเร็จ โทษ ฐานฝักใฝ่ให้ฤกษ์ยามแก่ฝ่ายกบฎพระศรีศิลป์ พ.ศ. ๒๑๓๕ ในแผ่นดินของพระนเรศวรมหาราช มี เหตุการณ์สำคัญที่ชวนให้เข้าใจว่ามีการสร้างปฎิสังขรณ์เจดีย์ประธานวัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศของ พระองคท์ ่ไี ด้ชัยชนะพระมหาอุปราชแห่งพมา่ จงึ ทำให้เช่อื วา่ เป็นท่มี าของช่ือวดั ใหญ่ชยั มงคล จดุ ทีน่ ่าสนใจ เจดีย์ชัยมงคลอนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ มังกะยอชวาพระมหาอุปราชของหงษาวดี ที่ต.หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบรุ ีในครั้งนั้นพม่าได้ยกทัพ เข้ามาในขอบขันฑสมี า สมเดจ็ พระนเรศวรฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถผู้เป็นพระอนุชาจึงได้นำทัพ ไปรับศึก และได้ขับช้างเข้าไปอยู่ในวงล้อมของข้าศึกทีคอยระดมยิงปืนเข้าใส่พระและพระคชาธาร โดยที่เหล่าแม่ทัพนายกองวิ่งตามพะรองค์มาไม่ทันพระองค์จึงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่าเชิญออกมาทำยทุ ธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดิน เกิด ภายหน้าไปไม่มีกษตั ริย์ที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว พระอุปราชของพม่าจึงไสยช้างออกมากระยทุ ธถี ด้วยกันในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้พระแสงพลผ่ายฟาดฟันพระอุปราช ขาดตะพายแล่ง เมื่อกลับมาสู่พระนครแล้ว พระองคก์ จ็ ะลงโทษเหล่าทหารที่ตามพระไปไม่ทันตอน กระทำศึกยุทธหัตถี ซึ่งมากฏระะเบียบแล้วต้องโทษถึงขึ้นประหารชีวิต ช่วงเวลาที่รออาญาสมเด็จ พระพันรัตน พระสังฆราชพร้อมด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวรพระราชทานอภัยยกเว้น โทษให้กับทหารเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่าพระองคเ์ ปรยี บดงั พระสมั มาสมั พุทธเจ้าทีแ่ วดล้อมด้วยหมู่ มารก่อนที่จะตรัสรู้ เป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ให้ ขจรกระจายไปทั่วแคว้นทั่วแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็น สญั ลักษณ์แหง่ ชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีตอ่ เหลา่ ทหารเหล่าน้ัน และพระะราช ทานนามวา่ “เจดยี ์ชัยมงคล” รปู โดย : ททท -66-
ริมทางชื่นใจ ลายผ้าขาวม้า เพื่อผลิตมาจำหน่ายเพื่อเป็นของที่ ระลกึ แม้กระทั่งผ้าขาวม้าที่พันแก้วกาแฟ เรียกได้ ว่า ใสใ่ จทุกรายละเอียดในการออกแบบ แม้กระท่ัง ริมทาง การตกแต่งภายในร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามานั่ง ทานแล้วประทบั ใจในที่มมุ ของทางร้าน และถ่ายรปู วัดใหญช่ ัยมงคล เก็บไว้เป็นทีร่ ะลกึ ส่วนในเรื่องของรสชาติกาแฟ เป็นกาแฟที่ ไม่เหมือนใคร ในกาแฟกลิ่นอายของขนมหวาน จะ ไม่ได้โดดเด่นเป็นกลิ่นหอมของกาแฟเลย จึงทำให้ ผู้ที่ไม่ชอบทานกาแฟ เข้ามาแล้วสั่งทานได้ ซึ่งมี มาอยุธยาต้องแวะ “บ้านขาวม้า คาเฟ่” เมนูแนะนำทางร้านจะเป็นกาแฟบ้านขาวม้า ซึ่งจะ บรรยากาศร้านน่ารัก ตกแต่งด้วยลายผ้าขาวม้า เด่นในเรื่องของกลิ่นที่เหมือนขนมควันเทียน ชาไทย ไทยสสี นั สดใส นำมาประยกุ ตใ์ หม่ให้เข้ากับยคุ สมยั ย้อนยุค โกโก้ สตรอเบอรี่สมูทตี้ ที่ทำจาก และโดดเด่นในเรื่องรสชาติกาแฟที่มีกลิ่นอาย สตอเบอรี่สด ๆ ในส่วนของราคาก็สามารถเข้ามา เหมือนขนมควันเทียน เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินของ รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ไม่แพง และยัง นักท ่อ งเ ท ี่ยว ท ี่เ ดินท างมาเ ท ี่ยว จังห วั ด สามารถซื้อสินค้าที่ทำจากผ้าขาวม้าไปเป็นของ พระนครศรีอยุธยา ชอบสั่งทาน และชื่นชอบ ฝากได้อีกด้วย อยากให้ลองมาสัมผัสบรรยากาศ ถา่ ยรปู เซลฟีเ่ พือ่ กลับไปเป็นที่ระลกึ และรสชาติ ซึ่งร้านจะเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ “บ้านขาวม้า คาเฟ่” ตั้งอยู่ริมถนนฝั่งตรง 07.30-18.30 น. ร้านจะอยตู่ รงข้ามกับวัดใหญ่ ข้ามวัดใหญ่ชัยมงคล เลขที่ 1/22 หมู่ที่ 3 ตำบล ชยั มงค คลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยมี น.ส.จารุพร ขันธนันท์ อ ายุ 31 ป ี ชาว อ ำเ ภอ บ างบ าล จังห วั ด พระนครศรีอยธุ ยา เจ้าของร้าน กล่าววา่ จุดเริ่มต้น ของการเป็นบ้านขาวม้า คาเฟ่เนื่องมาจากตนเอง เป็นคนชอบทานกาแฟ และเป็นคนชอบในสไตล์ ของผ้าขาวม้ามานานแล้ว ได้มาเจอร้านนี้ และ ทำเลดี จึงมีแนวความคิดอยากจะเปิดร้านกาแฟ เมื่อมีโอกาสเราจะตกแต่งร้านอย่างไรให้โดดเด่น และผู้คนชื่นชอบ จึงมีแนวความคิดว่าถ้านำ ผ้าขาวม้ามาตกแต่งร้านในแบบเดิมมันก็จะเฉย ๆ บ้าน ๆ จึงคิดว่าต้องทำในรูปแบบใหม่ ให้เข้ากับ ยุคสมัย จึงได้มีการออกแบบและคิดค้นในการ เลือกลาย และสีสันของผ้าขาวม้าเอง พร้อมนำไป ออกแบบและสั่งตัดเองในรูปแบบของตนเองเป็น หมอน ตุ๊กตา พวงกุญแจ กระเป๋า ของฝาก รูปโดย : wongnai -67-
\"ร้านก๋วยเตี๋ยววัดใหญ่\" ร้านก๋วยเตี๋ยว เรือตำนาน 30 ปีค่ะ ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยู่ เคียงคูใ่ นยา่ นนเี้ ลย โดยร้านจะตั้งอยตู่ ิดกับวัดใหญ่ ชยั มงคล สำหรับเมนูทางร้านกจ็ ะเปน็ ก๋วยเตยี๋ วเรือ เนอื้ ตุ๋นหมตู ุ๋นยาจีน ซึ่งเปน็ จุดเด่นของทางร้าน คือ การตุ๋นเนือ้ จนเปื่อยทำให้เนือ้ นุม่ ทานคู่กับกากหมู กรบุ กรอบ รับรองว่าฟินค่ะ สำหรบั ก๋วยเตี๋ยวราคา จะอยทู่ ี่ 25 บาท และพิเศษ 35 บาทคะ่ เมนูทาน เล่นก็จะเป็น เต้าหู้ทอด ทอดมัน และหมูสะเต๊ะ ส่วนราคาเมนเู ริ่มต้นที่ 30 บาทขึ้นไป รปู โดย : wongnai รปู โดย : wongnai -68-
รปู โดย : SEM
ไมต่ ้องยนื ในท่ดี ีทส่ี ุดหรอก แต่จงยืนในที่ทำใหเ้ รามี ความสขุ กพ็ อ -https://investwallet.money-
วดั พนัญเชงิ วรวหิ าร ใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดาร เหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และ พระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง และพระ ราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษร นิติ์กล่าวไว้ว่า ได้สถาปนาพระพุทธรูปพุทธเจ้า พแนงเชิง เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ ทองจะสถาปนากรงุ ศรีอยธุ ยาถึง 26 ปี พระพุทธ ไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็น พระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดใน พระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับ การบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนกระทั่งใน สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2394 ได้โปรดเกล้า ให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนาม ใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่รู้จักกันใน หมู่พทุ ธศาสนิกชนชาวไทยเชอื้ สายจีนวา่ หลวงพ่อ ซำปอกง คำว่า พแนงเชิง มีความหมายว่า นัง่ ขัดสมาธิ ฉะนั้น คำวา่ วดั พนญั เชิง (วัดพระแนง เชิง หรือ วัดพระเจ้าพแนงเชิง) จึงหมายถึงวัดแหง่ พระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยคือ หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก นั้นเอง หรืออาจสืบ เนื่องมาจากตำนานเรื่องพระนางสร้อยดอกหมาก คือ เมื่อพระนางสร้อยดอกหมากกลั้นใจตายนั้น พระนางคงนั่งขัดสมาธิ เพราะชาวจีนนิยม นั่งขัดสมาธิมากว่านั่งพับเพียบจึงนำมาใช้เรียกชื่อ วัด บางคนก็เรียกว่า วัดพระนางเอาเชิง ตาม สาเหตุที่ทำให้พระนางถึงแก่ชีวิต ฉะนั้น ถ้าเรียก นามวัดตามความหมายของคำว่า วัดพนัญเชิง ก็ย่อมหมายความถึงวดั ที่มีพระพุทธรูปน่งั ขัดสมาธิ คือหลวงพ่อโต (อ้างอิงจากประวัติวัดพนัญเชิง ข้อมูลของทางวัดในปัจจบุ ัน) รูปโดย : ผ้จู ดั การ -71-
จุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งจุดคือ หลวงพ่อโต หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง ๑๔.๒๐ เมตร สูง ๑๙.๒๐ เมตร วัสดุปูนปั้นลงรักปิดทอง หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก หรือ พระโตของชาวอยุธยาองค์นี้ ถือกันว่าเป็นพระ โบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรก สร้างกรุง พงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ รูปโดย : วิกิ อักษรนิติ์ระบุว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๖๘ หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ สถาปนากรุงศรีอยุธยา พระพุทธรูปทองคำในพระอุโบสถ วัด ๒๖ ปีและเมื่อกรุงศรีอยุธยาใกล้จะแตกปรากฏใน พนัญเชิงนั้นมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือ คำให้การขาวกรุงเก่าว่าพระปฏิมากรใหญ่ที่วัดพ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูน และ นัญเชิงมีน้ำพระเนตรไหลเปน็ ที่อัศจรรย์ หลวงพ่อ พ ร ะ พ ุ ท ธ ร ู ป น า ค พ ร ะ พ ุ ท ธ ร ู ป ท อ งเ ป็ น โตเป็นพระองคห์ นึง่ ซ่งึ เปน็ ทีเ่ คารพนับถือในหมู่ชาว พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยทำจากทองสัมฤทธิ์ จีนมากโดยเรียกกันว่า “ซำปอกง” นอกจากชาว หน้าตักกว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอก มีสีทองอร่ามใส ไทยแล้วยังมีผู้มีเชื้อสายจีนหลั่งไหลกันมากราบ เป็นเงาสะท้อนอย่างชัดเจน องค์กลางเป็น ไหว้บชู าจำนวนมากและเป็นประจำทกุ ปี พระพุทธรูปปูนปั้นสมัยอยุธยาหน้าตักกว้าง 4 ศอก สูง 5 ศอก ส่วนพระพุทธรูปนาคเป็น พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยนั้นจะมีสีออกแดง ๆ หน้าตักกว้าง 3 ศอก สูง 5 ศอก กล่าวกันว่า พระพุทธรูปทองและนาคนี้เพิ่งถูกพบว่าเป็นพระ ทองและพระนาคด้วยบังเอิญ เนื่องจากแต่เดิมที พระทั้งสององค์ถูกฉาบเคลือบด้วยปูน จนมี ลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปปูนปั้นทั่วไป สาเหตุ คงเพราะว่าช่วงเวลาก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะถูก ข้าศึกบุกตีพระนคร คนในสมัยนั้นเกรงว่า พระพุทธรปู ทองและพระพทุ ธรูปนาคนจี้ ะถูกขโมย หรือเผาเอาทองไปจึงได้ฉาบปูนเคลือบและปั้นปูน ในขณะที่ปูนยังไม่แห้งเพื่อทำเป็นลายจีวรและ ลักษณะต่าง ๆเช่น ปั้นรูปพระพักตร์ พระเกศา เพื่อให้เข้าใจ ว่าไม่ใช่พระทองคำและพระนาค จ น ก ร ะ ท ั ่ ง ใ น ภ า ย ห ล ั ง ม ี ผ ู ้ ไ ป ค ้ น พ บ ว ่ า เ ป็ น รปู โดย : chillpainai พระพุทธรูปทองคำเนื่องจากเศษปูนได้กะเทาะ -72-
ออกมาและเนื้อภายในเป็นทอง จึงได้ค่อย ๆ ในปัจจุบัน) พระเจ้าสายน้ำผึ้งเสด็จเข้าพระนคร กะเทาะปูนออกให้หมด จึงได้เห็นว่าเป็นพระ ก่อน เพื่อจัดเตรียมตำหนักซ้ายขวามาต้อนรับ ทองคำทั้งองค์และนำมาประดิษฐานอยู่ภายพระ พระนางสร้อยดอกหมาก ครั้นรุ่งเช้าก็จัดขบวน อโุ บสถของวัด ต้อนรับโดยให้เสนาอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่มาอัญเชิญ รูปปนั้ เจา้ แมส่ รอ้ ยดอกหมาก อยใู่ นศาล พระนางสร้อยดอกหมากเข้าเมือง โดยพระองค์ เจ้าแม่สร้อยดอกหมากนอกจากหลวงพ่อโตหรือ ไม่ได้เสด็จไปด้วย พระนางสร้อยดอกหมากไมเ่ ห็น เจ้าพ่อซำปอกง แห่งวัดพนัญเชิง จ.พระนคร พระเจ้าสายน้ำผึ้งมารับก็เกิดความน้อยพระทัย ศรีอยุธยา ทีผ่ ู้คนมาสกั การะกันอย่างหนาตาทุกวัน จึงไมย่ อมเสด็จข้ึนจากเรือ พร้อมกล่าวว่า “มาดว้ ย แล้ว ใกล้กันนั้นยังมี “ศาลพระนางสร้อย พระองคโ์ ดยยาก เมือ่ มาถึงพระราชวงั แลว้ เป็นไฉน ดอกหมาก” หรือ “ศาลเจ้าแม่แอเนี้ย” อันเป็น พระองค์จึงไม่มารับ ถ้าพระองคไ์ มเ่ สด็จมารับ กจ็ ะ อนุสรณ์แห่งความรักที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมใน ไม่ไป” เสนาบดีนำความขึ้นกราบทูล พระเจ้าสาย ยุคก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ที่มีผู้คนที่ต้องการ น้ำผึ้งคิดว่านางหยอกเล่น จึงกล่าวสัพยอกว่า ขอพรแห่งความรักมาสักการะไม่น้อยเช่นกันตาม “เมื่อมาถึงแลว้ จะอยู่ทีน่ ัน่ ก็ตามใจเถิด” ครน้ั รุ่งขึ้น ตำนานพระราชพงศาวดารเหนือ กลา่ วถึงพระนาง พระเจ้าสายน้ำผึ้งก็เสด็จมารับด้วยพระองค์เอง สร้อยดอกหมากไว้ว่า พระเจ้ากรุงจีนทรงมีบุตร เมื่อเสด็จขึ้นไปบนเรือสำเภา พระนางสร้อย บุญธรรมจากจั่นหมากชื่อว่า สร้อยดอกหมาก ดอกหมากจึงตัดพ้อต่อว่ามากมาย พระเจ้าสาย ครั้นนางจำเริญวัยเป็นสาวแรกรุ่นที่มาพร้อม น้ำผงึ้ จึงทรงสพั ยอกอีกวา่ “เมือ่ ไมอ่ ยากข้นึ ก็จงอยู่ รูปลักษณ์อันงดงาม โหรหลวงได้ทำนายว่าจะได้ ทีน่ ีเ่ ถิด” ฝา่ ยพระนางสร้อยดอกหมากได้ฟังดังน้ัน กษัตริย์กรุงอโยธยาเป็นพระสวามี พระเจ้ากรุงจีน เข้าพระทัยผิดคิดวา่ ตรัสเช่นน้ันจริงๆ กเ็ สียพระทัย จึงทรงมีพระราชสาสน์มาถวายพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ยิ่งนัก จึงกลั้นพระหฤทัยจนถึงแก่ทิวงคต ณ พระเจ้าสายน้ำผึ้งหลังจากรับราชสาสน์จึงเสด็จไป บนสำเภาเรือพระที่นั่ง ที่ท่าปากน้ำแม่เบี้ยนั่นเอง กรุงจีนด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัยด้วยพระบารมี ยังความโศกสลดพระทัยแก่พระเจ้าสายน้ำผึ้ง พ ร ะ ร า ช ก ุ ศ ล ท ี ่ ส ั ่ ง ส ม ม า แ ต ่ ป า ง ห ล ั ง น ำ พ า ใ ห้ ยิ่งนัก จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระศพมา พระองค์ฝ่าภยันตรายไปถึงกรุงจีนด้วยความ พระราชทานเพลิงที่แหลมบางกะจะ และสถาปนา ปลอดภัย พระเจ้ากรุงจีนทรงโสมนัสเป็นยิ่งนัก บรเิ วณนั้นเป็นพระอารามนามว่า “วัดพระเจ้าพระ จึงมีรับสัง่ ให้จัดกระบวนแหอ่ อกไปรบั พระเจ้าสาย นางเชิง” หรือ “พแนงเชงิ ” ซึ่งแปลวา่ “พระนางผู้มี น้ำผึ้งเข้ามาภายในพระราชวัง พร้อมทั้งให้ แง่งอน” พร้อมทั้งสร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ร า ช า ภ ิ เ ษ ก พ ร ะ น า ง ส ร ้ อ ย ด อ ก ห ม า ก ข ึ ้ น เ ป็ น แห่งความรักนั่นก็คือ ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก พระมเหสีของพระเจ้าสายน้ำผึ้งเวลากาลผ่านไป นั่นเอง และศาลแห่งนี้ยังถือเป็นเครื่องยืนยัน พระเจ้าสายน้ำผึ้งจึงกราบถวายบังคมลาพระเจ้า ความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างไทย-จีนมาช้านาน กรุงจีนกลับพระนคร พระเจ้ากรุงจีนจึง ตั้งแต่สมัยก่อนอยุธยาจนปัจจบุ ัน ยังมีการจัดงาน พระราชทานเรือสำเภา 5 ลำ กบั ชาวจีนที่มีฝีมอื ใน สืบสานประเพณีจีน เช่น งานเทกระจาด งานล้าง การช่างสาขาต่าง ๆ จำนวน 500 คน ให้เดินทาง ป่าช้าจีน กลับสู่กรุงอโยธยาด้วย เมื่อเดินทางถึงปากน้ำแม่ ศาลพระนางสร้อยดอกหมากนั้นเต็มไป เบี้ย ใกล้แหลมบางกะจะ (บริเวณหน้าวัดพนัญเชงิ ด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบจีน ป้ายหน้า -73-
ศาลมีทั้งอักษรไทยและจีน เขียนว่า เปยเหนียง ประจำศาลเจ้าแม่เป็นคนจีน ฟังภาษาจีนและพูด หากแปลแยกจะได้ความว่า หญิงสาวผู้โศกเศร้า ภาษาจีนได้เล่าว่า เจ้าแม่สร้อยดอกหมากเคยถาม แต่หากแปลรวมจะหมายถึง พระแม่ผู้เปี่ยมเมตตา หาทรัพย์สมบัติโบราณที่พระองค์นำมาจากเมือง ตัวศาลเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ตกแต่ง จีนและเคยเก็บรักษาไว้ที่นี่ ตอนนี้เอาไปเก็บเสียที่ ลวดลายปูนปั้นสวยงาม ชั้นล่างเป็นเจ้าที่ ส่วนชั้น ไหนแลว้ และที่สำคญั เจ้าหน้าทีท่ ี่ดูแลศาลเคยเห็น 2 ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งนับถือกันว่าเป็น เจ้าแม่มาแล้ว ท่านจะแต่งชุดจีนสีขาว พระพักตร์ ตวั แทนรปู เคารพของพระนางสร้อยดอกหมาก อีก สวยมาก ปัจจุบันความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ก็ ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อย ยังคงมีอยู่ ใครมาบนบานขออะไรท่านไม่ว่าจะขอ ดอกหมากที่แต่งองค์แบบจีน ชาวจีนให้ความ ลูก ขอความสำเร็จหรือขอให้มีความรักก็มักจะได้ เคารพนับถือมาก แทบทุกคนเมื่อมาปิดทองหลวง ตามนั้น จนมีผู้นำของมาแก้บนเต็มไปหมด โดย พอ่ โตในพระวิหารแลว้ จะต้องแวะมาสักการะองค์ สว่ นมากจะบนดว้ ยสร้อยไข่มุก เคร่อื งสำอาง สงิ โต เจ้าแม่สร้อยดอกหมากด้วย ที่สำคัญศาลแห่งนี้ยัง เชิด และเคร่อื งสังเวยตำนานรกั เรอ่ื ง “เจ้าชายสาย เก็บสมอเรือเก่าแก่ไว้อันหนึ่ง เชื่อกันว่าเป็น น้ำผึ้งกับพระนางสร้อยดอกหมาก” ยังเป็นตำนาน สมอเรือของพระนางสร้อยดอกหมากนนั่ เอง ความ แห่งการสร้างวัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งทำให้ต่างมี ศักดิ์สิทธิแ์ ละอภินิหารของเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ความเชื่อกันว่า เจ้าแม่สร้อยดอกหมากสามารถ มีผู้กล่าวขานมาเนิ่นนาน ว่ากันว่าท่านเป็นผู้ถือ ดลบันดาลให้ผู้ที่กราบไหว้ได้สมปรารถนาดังที่ขอ พระองค์ และมีรักเดียวใจเดียวต่อพระเจ้าสาย ไว้ไดท้ ุกเรือ่ งทกุ ประการ น้ำผึ้ง ไม่โปรดให้ผู้ชายเข้าไปแตะต้องพระรูปของ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบล ทา่ นไมว่ า่ กรณีใด ๆ ท้ังส้นิ เมือ่ หลายสบิ ปีก่อนเคย คลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด มีผู้ชายเข้าไปทำความสะอาดพระรูปเจ้าแม่ พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ปรากฏว่าเมื่อชายผู้นั้นกลบั ไปบ้านก็เกิดเจบ็ อย่าง ชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย มีจุดเด่นสำคัญ คือ กะทันหันและถึงแก่ความตายไปโดยไม่รู้สาเหตุ พระพุทธไตรรตั นนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่ง และหากย้อนหลังไปอีกเหตุการณ์เช่นกรณีนี้กเ็ คย เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน มีผู้ชายเข้าไปทำความสะอาดพระรูปเจ้าแม่แล้วถึง พระนครศรีอยุธยา แก่ความตายถึง 2 คน และเป็นความตายโดย ฉบั พลนั ท้ังส้นิ จึงเปน็ ทีร่ ู้กันว่าเจ้าแมไ่ ม่ยินดแี ละไม่ ยอมให้ชายคนใดถูกพระวรกายของทา่ นแม้กระท่งั ปัจจุบันนี้ เวลามีงานงิ้วเดือน 9 ของวัดพนัญเชิง ซึ่งมคี วามเกีย่ วข้องกับศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก จะมีการทำพิธีบูชาเจ้าแม่ การแห่เจ้าแม่ออกนอก ศาลก็เพียงแต่ใช้วิธีอัญเชิญเอาเฉพาะกระถางธูป ออกไปเท่านั้น ในงานนี้จะมีบรรดาคนทรงเจ้าแม่ สร้อยดอกหมากมาจากทั่วทุกสารทิศ เล่ากันว่า เมื่อประทับทรงเจ้าแมส่ ร้อยดอกหมากนั้น ร่างทรง ซึ่งปกติจะพูดภาษาจีนไม่ได้เลย ก็กลับกลายเป็น พูดจีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ สมัยก่อนเจ้าหน้าที่ รูปโดย : Sook -74-
เที่ยววดั พนัญเชงิ รืน่ เริงริมทาง โจก๊ ตลาดพลู อยุธยา ถ้าหากวันพักผ่อนหรือวันสบาย ๆ เพื่อน ๆ Cafe Chill Out เอาใจสายชิลนง่ั จิบกาแฟ และยงั เป็น แวะมาเที่ยวอยุธยาไหว้พระทำบุญเสรจ็ แล้วตอ้ งไปหา ที่พักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกจากงานได้มาฟังเพลงผ่อน อะไรอร่อย ๆ ลองท้องซะหน่อย วันนี้เรามีร้านเด็ด คลาย พบปะพูดคุย สงั สรรค์กัน “โจ๊กตลาดพลูอยุธยา”มาแนะนำให้กับสายกินห้าม พลาด แถมเดินทางไม่ยากหาง่ายร้านอยู่บริเวณวัด พนังเชิง ห่างกันประมาณ 300 เมตร ร้านค่อนข้าง ใหญ่จุลูกค้าได้ประมาณ 200 คน มีพื้นที่ลานจอดรถ สะดวกสบาย จะมาเป็นทัวร์ คณะ ก็มีที่ให้จอดรถบัส นะคะ เป็นร้านที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย อาหารครบ วงจร และทีส่ ำคัญนีม่ ีมากกวา่ โจ๊ก “โจ๊กตลาดพลูอยุธยา” เมนูดังของร้านต้อง ยกให้โจ๊กหมูการันตีความอร่อยสูตรต้นตำหรับอยู่ท่ี ตลาดพลูฝั่งธน ขายมานานกว่า 60 ปี มาอยู่ที่อยุธยา แล้ว และเปิดมายาวนาน 20 ปี ด้วยความที่อยาก ยกระดับร้านโจ๊กให้เป็นร้านอาหารที่คนทุกระดับชั้น เข้ามาใช้บรกิ ารได้ ถา้ ใครไม่อยากทานโจก๊ ทางรา้ นยัง มีบริการอาหารอื่นๆ มากมายให้เลือกสรร ทั้งส้มตำปู ม้า และอาหารปิ้งย่างอื่น ๆ นอกจากอาหารคาวแล้ว ทางร้านยงั มบี รกิ ารของหวาน เชน่ บิงซู ฮนั นี่โทส วาฟ “โจ๊กตลาดพลูอยธุ ยา” พรอ้ มใหบ้ ริการทกุ วนั เฟลิ และเครื่องด่มื ต่างๆ ท่ีน่มี ีกาแฟสดดว้ ย มาที่เดียว เปิดเวลา 11.00- 22.00 น. ถ้ามาอยุธยาแล้ว ห้าม ไดท้ านครบทกุ อยา่ ง พลาดเด็ดขาดอาหารอร่อย มีให้เลือกหลายหลาย ถ้ายังคิดว่า “โจ๊กตลาดพลูอยุธยา” เป็นร้าน รสชาติดี และราคาถูก โดนใจใครหลายๆ คนแน่นอน พิกัด 23/7 หมู่ที่ 6 ต.คลองสวนพลู อ.พระนคร โจ๊กธรรมดาบอกได้เลยว่าคิดผิด เพราะทางร้านจัด ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เวลาเปิด : 11.00- บรรยากาศภายในร้านให้ดูสบายๆ ปลอดโปร่ง ตั้งอยู่ 22.00 น. Facebook: โจก๊ ตลาดพลู อยธุ ยา ริมทางรถไฟ มีรถไฟวิ่งผ่านเป็นระยะ เปิดเพลงแนว -75-
วัดเกาะแกว้ อยุธยา วัดเกาะแก้วเป็นวัดที่เงียบสงบและยังเป็นวดั ที่มีประวัติความเป็นมาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ ประวัติศาสตร์และวรี บรุ ษุ ไทย เป็นสถานที่ต้งั ทัพพระ ยาตาก ก่อนการเสียกรุงศรีครั้งที่ 2 วัดตั้งอยู่ริมแม่ น้ำป่าสักด้านทิศตะวันออก ในตำบลกะมัง อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา \"เกาะ แก้ว\" เป็นช่ือทม่ี ปี รากฎในพระราชพงศาวดารเป็นคร้ัง แรก ในสมยั สมเด็จพระเจ้าจกั รพรรดิ บ้างกเ็ รยี กกันวา่ คลองเกาะแก้ว มุมเกาะแก้ว ตรงบริเวณเกาะแก้วมี ถนนและกำแพง แล้วเขา้ ใจกันว่าบริเวณนัน้ น่าจะเป็น เกาะหน่ึง จงึ เรียกกนั ว่า เกาะแก้ว มาจนถงึ ทกุ วันน้ีคะ่ จุดแรกเมื่อมาถึงวัดนะคะ แนะนำให้ไปไหว้ สักการะขอพรจาก หลวงพ่อทันใจกันก่อนค่ะ แล้วก็ เข้ามาขา้ งในมากราบสักการะบูชาคุณ สมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช ส่วนเครื่องสักการะดอกไม้ธูปเทียน ทางวัดได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ เราสามารถทำบุญ ตามศรัทธาได้เลยค่ะ หลังจากอิ่มบญุ กันถ้วนหน้าแลว้ เราก็เดินชมบรรยากาศภายในวัดค่ะ เนื่องจากวัดเป็น ที่ติดแม่น้ำทำให้บรรยากาศภายในวัดเย็นสบาย ไม่ ตอ้ งกลวั ว่าจะร้อนนะคะ เพราะมาวดั เกาะแกว้ เหมือน ได้มาใกล้ชิดกับธรรมชาติ อบอวลไปด้วยต้นไม้น้อย ใหญ่นานาชนิด ที่แข่งกันให้ความร่มรื่นสดช่ืน ประกอบกับเสียงน้ำตกยิ่งทำให้ใจได้สงบนิ่ง เดินชม ภายในวดั พรอ้ มกบั เก็บภาพประทับใจ ทน่ี ี่มมี ุมถ่ายรูป สวย ๆ หลายจุดเลยค่ะ ก่อนจะกลับกันก็อย่าลืมแวะ ใหอ้ าหารปลากนั ด้วยนะคะ -76-
รปู โดย : George
เกรด็ ความรู้
การที่มีคำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์เพราะ พระ หรือ ภิกษุ ถือว่าเป็นบุคคลที่สืบทอดพระพุทธศาสนาทั้ง พระธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติแต่ความดีละเว้นความช่ัว เป็นผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือจากบุคคลทั่วไปดังนั้น จึงมีคำศัพท์ที่เราต้องใช้สำหรับพระภิกษุกำหนดไว้เป็น เฉพาะ ซึ่งเราจะสงั เกตได้ว่า คำศัพท์ที่ใช้กบั พระสงฆ์ มีการใช้ที่แตกต่างจากศัพท์สำหรบั พระราชวงศ์ หรือคน ทั่วไป เพราะสำหรับพระภิกษนุ ้ันไม่ว่าบุคคลอื่นจะพูดกับท่าน หรือกล่าวถึงท่าน หรือเมื่อทา่ นพูดเองก็ตาม จะใช้ คำศัพท์เหมือนกันตลอดการสนทนา และการที่เราใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นการรักษาและ คงไว้ด้วยเอกลกั ษณค์ วามเป็นไทยทีด่ ีงามต่อไป -79-
ตวั อย่ างบทสนทนาที่ใช้กับพระภิกษุ นมิ นตพ์ ระคณุ เจา้ ฉันภตั ตาหารเพลเจา้ คะ่ ดิฉนั ขอถวายปัจจยั ให้กบั พระคณุ อาตมาจะต้องไปทำวตั รเย็นทีศ่ าลาแล้วนะโยม เจา้ และขอกราบนมสั การลาเจา้ ค่ะ ดิฉนั ขออนโุ มทนาบุญในคร้ังน้ดี ว้ ยนะเจา้ คะ กราบนมสั การพระคุณเจา้ นิมนต์ พรงุ่ นน้ี มิ นต์ท่านมาบิณฑบาตที่หนา้ บา้ นนะเจ้าคะ พระคณุ เจ้าน่ังบนอาสนะไดเ้ ลย ครบั มารยาทในการสนทนากับ โดย บณุ ฑริกา ชื่นชอบ พระสงฆ์อีกสิ่งที่ควรคำนึงถึงสำหรับ เพศหญิงเมื่อมีกิจที่ต้องเข้าไปหา พระภิกษุ มีอยู่หลายอย่างเช่น ควร แต่งกายให้เรียบร้อย ควรมีเพื่อนไป ควรนั่งที่ต่ำกว่าพระสงฆ์ เวลาเรียก แทนตัวเองใช้ว่า ดิฉันหรือโยมก็ได้ และเรียกท่านว่าท่าน หรือพระคุณ เจ้าก็ได้ที่พูดถึงทั้งหมดนี้คือมารยาท ที่เราควรจะต้องรู้และปฎิบัติให้ ถูกต้องเมื่อต้องสนทนากับพระสงฆ์ เพื่อความถูกต้องและเพื่อคงไว้ด้วย วัฒนธรรมที่ดสี บื ต่อกนั ไป มารยาทในการสนทนากับพระสงฆ์ ขณะสนทนาอยู่ กับพระสงฆ์นั้น เราไม่ควรพูดล้อเลน่ หรือเร่ืองสว่ นตัว ถ้าเปน็ เพศหญิงไม่ควรสนทนากับพระภิกษุสองต่อสอง เมื่อจะลา กลับ ควรนั่งคุกเข่า กราบท่าเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้งแล้ว เดนิ เขา่ ออกไป -80-
ชือ่ นีม้ ีท่มี า ลักษณะหนึ่งที่มีความน่าสนใจเพราะประเทศไทย เ ป ็ นเ ม ือ ง พุ ท ธ ศา สนา แ ละ ม ีวั ดเ ป ็ น จ ำ นว น ม า ก เคยสงสยั ไหมว่าการต้ังชื่อของวดั น้ันมีที่มา โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีเรื่องราว ที่ไปอย่างไรและมีการคิดหรือใช้วิธีไหนในการตั้ง ทางประวัติศาสตร์ ตำนาน ความเป็นมาอย่าง ชื่อวัดมีการใช้ตำราในการตั้งชื่อเหมือนกับการตั้ง ชื่อเราหรือเปล่า คนในสมัยก่อนเขาตั้งชื่อวัดกัน ยาวนาน ซึ่งประกอบไปด้วยวัดทีม่ ีจำนวนมาก วัด ยงั ไง วันนีเ้ รามาไขขอสงสัยกันเลย ส่วนใหญ่มักมีการตั้งชื่อวัดตามสิ่งสำคัญที่อยู่ ภายในวัด การตั้งชื่อเรียกตามประวัติและความ ภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ใน เป็นมา การตั้งชื่อวัดตามชื่อตำบล, ชื่อหมู่บ้าน การติดต่อสื่อสาร มีการใช้และสืบทอดต่อกันมา และการตั้งชื่อตามชื่อของผู้สร้างวัดหรือบุคคล ใช้ อย่างยาวนานจนทำให้เกิดวฒั นธรรม ความเปน็ อยู่ เหตุการณ์มาเปน็ ชื่อวัด และสิ่งต่าง ๆ ของมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว ั ด ใ ห ญ ่ ช ั ย ม ง ค ล เ ป ็ น อ ี ก ห น ึ ่ ง ว ั ด ท ี ่ มี ภ า ษ า ย ั ง เ ป ็ น เ ค ร ื ่ อ ง ม ื อ ท ี ่ ม น ุ ษ ย ์ ส า ม า ร ถ ใ ช้ เรื่องราวทางประวตั ศิ าสตร์ ตำนาน และเป็นวัดที่มี แลกเปล่ยี นความรู้ ความคิด ความรสู้ กึ ความเชือ่ การตั้งชือ่ วดั ตามประวตั ิศาสตร์และเหตกุ ารณ์ คือ ครั้งเมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ การตั้งชื่อถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ จากการทำสงครามกับพม่าพระองค์ทรงได้สร้าง วัฒนธรรมและมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะ เจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ใน ชื่อเป็นคำที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการใช้เรียกแทนคน สัตว์ สถานที่ สิ่งของทั่วไปหรือเฉพาะเจาะจง ครั้งนั้นและ ได้มีทหารที่ตามไปไม่ทันตอนกระทำ เนื่องจากทุกสิ่งในโลกใบนี้ล้วนมีชื่อเรียกเฉพาะ ศึกยุทธหัตถีตามระเบียบแล้วต้องลงโทษถึงขั้น ของสิง่ น้ัน เพือ่ ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันในการ ประหารชีวิต และได้มีพระสังฆราชพร้อมด้วย สื่อสารร่วมกัน ชื่อจึงเป็นตัวแทนของสิ่งที่เราใช้ พระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวร พระราชทาน เรียก ที่บอกถึงสิ่ง ๆ นั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งการ อภัยโทษให้กบั ทหารเหล่าน้ัน โดยให้เหตผุ ลวา่ โครง เรียกแทนสง่ิ เหล่านี้ จะอยู่ในความจำของผู้คนตาม เปรยี บเหมือน พระสมั มาสมั พุทธเจ้าที่ล้อมรอบไป ยุคตามสมยั ทีใ่ ช้เรยี กสิ่งน้ันอยู่ ชื่อจึงมีความสำคัญ ดว้ ยหมมู่ าร และเปน็ การประกาศเกียรติและบารมี เป็นอย่างมากในการระบุการมีอยู่ของสิ่งต่าง ๆ ความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ สมเด็จ และเมื่อเวลาผา่ นไปชื่อของสิง่ ที่เรียกอาจยังคงอยู่ พระนเรศวรจึงไดม้ ีการสร้างเจดียอ์ งค์ใหญ่ขึ้นเพื่อ หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่อาจเกิดจาก เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัย สภาพสังคม ความต้องการ หรือตามวัฒนธรรมก็ ของพระองค์เอง ได้มีการพระราชทานนามว่า ได้ ดังนั้นการตั้งชื่อในแต่ละยุคแตล่ ะสมัยมีวิธีการ “เจดีย์ชัยมงคล”เป็นที่มาของการตั้งชื่อวดั ในส่วน ต้ังชื่อตามทีม่ า ลักษณะทีเ่ ฉพาะ และการต้ังชื่อที่มี ของคำว่า วัดใหญ่สันนิษฐานว่าอาจเรียกตาม ความเกี่ยวของกับสภาพแวดล้อมที่ปรากฏใน ลักษณะของเจย์ดีที่มีความสูงและใหญ่และมีการ ชว่ งเวลาน้ัน นำคำทั้งสองคำนั้นมารวมกันจนกลายเป็นชื่อ วัด ใหญ่ชัยมงคล วัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ๆ มีสำคัญเป็น อย่างมากในการใช้ประกอบกิจกรรมทางศาสนา ว ั ด แ ม ่ น า ง ป ล ื ้ ม ก ็ เ ป ็ น อ ี ก ห น ึ ่ ง ว ั ด ท ี ่ มี การจัดประเพณีหรือแม้แต่กิจกรรมที่เกี่ยวกับการ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์เชน่ เดียวกับวัดใหญ่ชัย ดำรงชีวิตของมนุษย์ที่มีมาต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มงคลและเป็นวัดที่มีการตั้งชื่อตามชื่อของบุคคล นอกจากนี้ชื่อวัดยังเป็นลักษณะการใช้ภาษาอีก คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเข้ามาหลบฝน -81-
ที่บ้านแมป่ ล้ืม และได้ขอน้ำจนั ทร์พร้อมกับพักค้าง ต่อการคิดและการตั้งชื่อ จึงได้มีการนำสิ่งที่เคย แรมทีบ่ ้านแมป่ ล้ืมโดยที่ไมป่ ลมื้ ไม่รู้ว่าพระองค์เป็น เกิดขนึ้ หรือการนำเรื่องราวต่าง ๆ รวมไปถึงการนำ ใคร และมีการต้อนรับเปน็ อยา่ งดี แม่ปล้ืมได้มีการ ชื่อของบคุ คลที่สำคัญมาตั้งเปน็ ชื่อวัด การต้ังชือ่ วัด กลา่ วถึงพระเจ้าแผน่ ดินด้วยความจงรักภักดีทำให้ ในลักษณะน้มี มี าต้ังแต่ในอดีตและเมื่อเวลาผ่านไป สมเด็จพระนเรศวรทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก การตั้งชื่อวัดเหล่านี้ยังคงสืบทอดและใช้กันมา พอพระองค์เสด็จกลับพระราชวังหลวง หลังจาก จนถึงปจั จบุ นั นี้ นั้นพระองค์ก็ได้มีการจัดขบวนมารับแม่ปลื้มไป วัดถือเป็นสถานที่สำคัญอย่างหนึ่งที่คน เลี้ยงอาหารในวังเพื่อตอบแทนความเมตตาและ ไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมากซึ่งสามารถ ความภักดี หลังจากเมื่อแม่ปลื้มเสียชีวิตลงสมเด็จ สะท้อนแงม่ มุ ตา่ ง ๆ รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ พระนเรศวรมหาราชก็ได้จัดพิธีศพให้อย่าง ของคนในสังคม วัฒนธรรม ความเชือ่ สง่ิ แวดล้อม สมเกียรติและพร้อมสร้างวัดพระราชทานชื่อว่า และที่สำคัญคือสะท้อนให้เหน็ พฒั นาการภาษาของ “วัดแม่นางปลื้ม” ซึ่งเป็นการตั้งชื่อวัดโดยการนำ มนุษย์ในแต่ละยุคสมัย การตั้งชื่อวัดจึงถือเป็นอีก ชื่อบุคคล ที่มีความสำคญั เกี่ยวกับวดั เพื่อเป็นการ ม ุ ม ห น ึ ่ ง ข อ ง ม น ุ ษ ย ์ ท ี ่ ท ำ ใ ห ้ เ ร า ท ร า บ ถึง ยกย่องให้เกียรติ และประกาศคุณความดีของ ศิลปะวัฒนธรรมต่าง ๆ ภูมิปัญญา ความเชื่อและ บคุ คลนั้น ให้กบั คนรุน่ ตอ่ ไปไดท้ ราบนน้ั เอง วัฒนธรรมของการใช้ภาษาของคนไทยที่เกิดขึ้น นอกจากการตั้งชื่อวัดตามประวัติศาสตร์ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เราเห็นถึง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การตั้งชื่อตามผู้สร้างวัด ความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมที่มี หรือบคุ คล แล้วยังมีการต้ังชือ่ วดั ตามลักษณะของ อิทธิพลซึง่ กันและกนั วัดและเหตุการณท์ ีเ่ กิดขนึ้ ในช่วงเวลานั้น วัดท่ากา ร้องเป็นอีกหนึ่งวัดที่ตั้งชื่อวัดตามลักษณะของวัด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวัดท่าการ้องเดิมที่ มี การนำวัดทั้งสองวัดมารวมกัน คือ “วัดท่า” และ “วัดการ้อง” วัดการ้องมีที่มาจากบริเวณที่ตั้งของ วัดมีชุมชนมุสสลิมอยู่เป็นจำนวนมากและได้มีการ ชำแหละวัวในพื้นที่นั้น จึงทำให้อีกาเข้ามากินซาก และเศษเนื้อเป็นจำนวนมาก จนเกิดการตั้งชื่อวัด การ้อง และบรเิ วณวัดน้ันติดกบั ท่าเรือจึงทำให้มนี ำ ชื่อวัดทั้งสองและท่าเรือมารวมกันเป็น “วัดท่ากา ร้อง” จากการตั้งชื่อของท้ัง 3 วัด จะเห็นได้ว่ามี การตั้งชื่อวัดตามลักษณะตามประวัติศาสตร์และ เหตุการณ์ ตั้งชื่อตามชื่อของบุคคล และตั้งชื่อวัด ตามลักษณะของวัดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ช่วงเวลานั้น ซึ่งทำให้เห็นถึงค่านิยมของสังคมไทย ที่มีการตั้งชื่อวัดตามลักษณะดังกล่าว สาเหตุของ การตั้งชื่อวัดตามลักษณะดังกล่าวเป็นเพราะง่าย รูปโดย : Graphyhope โดย กาญจนา ดอนโชติ -82-
รหู้ รือไม่ ภูเขาทองที่กรุงเก่า ปัจจุบัน คือ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา เมื่อเดือนสิบเอ็ด ปีชวด พ.ศ. 2371 ในปจั จุบนั นีม้ ีเครือ่ งมือที่ช่วยในการบันทึก โดยเนอื้ หาสนุ ทรภไู่ ดพ้ รรณนาเรื่องราวในช่วงเวลา เรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ทุกคนได้ หลังจากบวชมาหลายพรรษาแล้ว และอยู่ใน รับชมไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วีดีโอ ที่จะคอยช่วย บนั ทึกออกมาจากเหตกุ ารณ์จริง ๆ ทำให้ทุกคนนั้น ระหว่างการเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทองที่ รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วในอดีตทุกท่านทราบ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาครั้นเมื่อออกพรรษา หรือไม่ว่าใช้สิ่งใดบันทึกเรื่องราว คนในอดีตนั้นยัง ได้รับอนโุ มทนากฐินแล้ว ก็ออกเดินทางจากวดั ราช ไม่มีเทคโนโลยีที่ช่วยในการบันทึกเราจะรับรู้ บูรณะไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองในจังหวัด เรื่องราวจากอดีตได้จากการศึกษาสถานที่ทาง พระนครศรีอยุธยากับหนูพัด และได้แต่งนิราศ ภูเขาทอง เมื่อเดินทางออกจากท่าวัดราชบูรณะ ประวัติศาสตร์ หรือเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นที่เล่าสืบต่อ กันมา แตก่ ารเล่าสืบต่อโดยไม่มหี ลักฐานก็ไม่ใช่ส่ิง แล้ว ได้ผ่านตำหนักแพและพระบรมมหาราชวัง ที่น่าเชื่อถือ ในประเทศไทยเราน้ันมีสิ่งที่คนในอดีต สุนทรภู่ได้รำพันถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ ใช้บันทึกเรือ่ งราวอย่างเช่น ศิลาจารึก พงศาวดาร หล้านภาลัย โดยกล่าวถึงความหลังในอดีตที่เคย และวรรณคดี ที่จะช่วยในการบันทึกเหตุการณ์ เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดพระยุคลบาท รวมทั้งความทกุ ข์ที่ ต่าง ๆ ที่เกิดขนึ้ ในอดตี ได้รบั เมื่อพระองคเ์ สดจ็ สวรรคต เมือ่ เดนิ ทางต่อไป ถึงโรงเหล้าแถวบางยี่ขัน จึงได้รำพันโทษของสุรา และรู้หรือไมท่ ำไมวรรณคดีนั้นถึงจัดได้วา่ เป็นสิ่งที่มีความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับเรื่องราวทาง เมื่อถึงวัดเขมาภิรตาราม จังหวัดนนทบุรี สุนทรภู่ ประวัติศาสตร์ ทั้งที่วรรณคดีเป็นเรื่องราวที่ ได้กล่าวถึงวัดว่าเพิ่งมีงานฉลองไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้ประพันธ์ ประพนั ธ์ข้ึนจากจิตนการความชอบของ และการเดินทางของสุนทรภู่ผ่านวัดเขมาภิตาราม ตน เพราะวา่ ตัวของผู้ประพันธ์เปน็ คนในยุคอดีตจึง ทำให้เรือของสุนทรภู่ไปติดกับน้ำวน เมื่อเรือผ่าน ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวเหตุการณ์ สภาพแวดล้อม มาถึงบางธรณี สุนทรภู่ได้รำพันถึงตนเองที่ต้อง ต่าง ๆ จึงทำให้ผู้ประพันธ์หยิบเรือ่ งราวที่ได้พบมา เร่ร่อนไร้ที่อยู่ เมื่อเดินทางถึงสามโคกสุนทรภู่ได้ กล่าวรำพันวา่ เมื่อสิ้นรัชกาลที่ 2 ชื่อเสียงของตน เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวภายในวรรณคดี เช่น วรรณคดีนิราศ ที่จะมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่าง ก็พลอยหมดสนิ้ ไปดว้ ย สุนทรภู่ไดอ้ ธิษฐานว่า เกิด มาก เนื่องจากมักมีเนื้อหาในเชิงพรรณนาถึงการ ชาติใดขอให้ตนได้เป็นข้ารับใช้ใต้เบื้องพระยุคล เดนิ ทางเปน็ หลกั มักจะเล่าถึงเสน้ ทาง การเดนิ ทาง บาท หากพระองคเ์ สดจ็ สวรรคต ก็ขอให้ตนส้นิ ชีวิต เสมือนว่าเป็นบันทึกการเดินทางก็ว่าได้ และ ตามไปดว้ ย เมื่อเดนิ ทางถึงบ้านงวิ้ สุนทรภกู่ ลา่ วถึง นอกจากนี้ยังบอกเล่าถึงสิ่งที่พบเห็นระหว่างการ ตนว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ คืออายุ 45 ปี ตน ได้ครองตัวไม่ให้มัวหมอง คือไม่เคยเป็นชู้กับใคร เดินทางในขณะเดียวกันมักจะสอดแทรกความคิด ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหวา่ งการเดินทางนั้น ไม่ต้องปีนต้นงิ้วเมื่อตายไปแล้ว เมื่อสุนทรภู่ โดยมักจะเชื่อมโยงสิ่งที่พบเห็นกับความรู้สึก เดินทางโดยทางลัดตัดออกทางกลางนา ต้องถ่อ ภายใน เชน่ วรรณคดเี อกเรอ่ื งนิราศภเู ขาทอง ต้องค้ำเรือด้วยความทุลักทุเล เมื่อเดินทางผ่าน หน้าจวนเจ้าเมืองอยุธยา สุนทรภู่ได้นึกถึงเพื่อนที่ นิราศภูเขาทอง เป็นนิราศที่สุนทรภู่ เคยคบกับสุนทรภู่ ในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้มาเป็น ประพันธ์ขณะบวชเป็นพระภิกษุ ระหว่างการ เจ้าเมืองอยทู่ ี่นี่ อยากจะแวะเข้าไปเยี่ยมเพือ่ นแต่ไม่ เดินทางจากวัดราชบูรณะไปนมัสการพระเจดีย์ กล้ากลัวว่าจะจำตนไม่ได้ หรืออาจจะไม่ยินดี -83-
ต้อนรับ จึงแวะจอดเรือที่ท่าตรงข้ามหน้าวัด พระเมรุพอรุ่งเช้าสุนทรภู่ได้เดินทางไปนมัสการ พระเจดยี ภ์ เู ขาทอง และได้บรรยายถึงพระเจดีย์ว่า มีความทรุดโทรมมาก จึงกล่าวรำพันเปรียบเทียบ กบั ชื่อเสยี ง เกียรติยศ และความเป็นอนจิ จงั ของส่ิง ต่าง ๆ เมื่อสุนทรภู่นมัสการพระเจดีย์ภูเขาทอง เสร็จ จึงล่องเรือกลับกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทาง หนึง่ วันถึงกรงุ เทพฯ สุนทรภู่ได้นำเรือมาจอดที่ วัด อรุณราชวราราม เมื่อนำนิราศภูเขาทองมาเปรียบเทียบกับ สถานท่ใี นปจั จบุ นั น้ันสถานทีท่ ีถ่ ูกกล่าวมาในนิราศ ภเู ขาทองกับปัจจบุ ันมีความตรงกัน แม้ว่าบางที่จะ มีความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาจึงทำให้ วรรณคดเี รื่องนิราศภเู ขาทองเปน็ หลักฐานท่ีสำคัญ ทางประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ และใน จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยาน้ันมีหลายสถานที่ ที่ถูก กล่าวถึงในวรรณคดี ไม่เพียงแค่ปรากฏในเรื่อง นิราศภูเขาทองเท่านั้นยังปรากฏในวรรณคดีอีก หลายเรื่องมากมายที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ทั้งนี้ที่เล่าถึงนิราศภูเขาทองมาทั้งหมด เพื่อให้ทุก ท่านเห็นภาพตาม ว่าการจดบันทึกเรื่องราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ของคนอดีตว่ามีการจดบันทึก อย่างไรจากการทีไ่ ด้อ่านนิราศภูเขาทอง รปู โดย : matichon รูปโดย : paiduaykan -84- โดย ชนญั ธดิ า แสงรตั นายนต์
ภาษาอะไรเอย่ ไมใ่ ช่ การใช้คำภาษาบาลีและสันสกฤตที่เปน็ คำ ราชาศพั ท์ จึงมคี วามจำเป็นอยา่ งมาก ภาษาไทย แตใ่ ช้ในภาษาไทย คำราชาศัพท์ที่ใช้ ในภาษาไทย และมีการ บรรพบุรุษไทยของเราได้มีการสร้างสรรค์ นำมาใช้ในการแต่งบทประพันธ์ และวรรณกรรม มรดกทางภาษา ด้วยการเรียงร้อยถ้อยคำออกมา ต่าง ๆ มีคำราชาศัพท์ที่เป็นคำบาลีและสันสกฤต เป็นบทร้อยกรองที่มีสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นกาพย์ อยู่จำนวนไมน่ ้อย เชน่ โคลง กลอน และอื่นๆ เชื่อกันว่าทุกคนเองก็คง พระเนตร หมายถึง ดวงตา พระกรรณ หมายถึง หู พอที่จะคุ้นเคยกับคำประพันธ์ต่างๆเหล่านี้ ใ-น93พ-ระทนต์ หมายถึง ฟัน พระบาท หมายถึง เท้า วรรณคดีหรือวรรณกรรมไทยกันมาบ้างแล้ว และ พระเศียร หมายถึง หัวหรือแม้กระทั่งชื่อจังหวัด เราเคยรู้หรือไม่วา่ ในการแตง่ คำประพนั ธเ์ หล่านี้ ได้ อำเภอ ฯลฯ ในประเทศไทย เช่น สุรินทร์ แปลว่า มีการใช้คำหรือภาษาที่ไพเราะ และคำหรือภาษาที่ จอมผู้กล้า, จอมเทวดา แยกเปน็ สุร (กล้า, เทวดา) ไพเราะเหลา่ นีม้ ีที่มาจากไหน เด๋ยี วเราจะได้มารู้กัน + อินทร (จอม, ผู้เป็นใหญ่) อุบลราชธานี แปลว่า คะ่ เมืองดอกบัวหลวง แยกเปน็ อุบล (ดอกบัว) + ราช คำ และภาษาทีก่ วีหรอื ผู้คนสว่ นใหญ่ นิยม (พระราชา, หลวง) + ธานี (เมือง) บุรีรัมย์ แปลวา่ นำมาใช้ในการแต่งคำประพันธ์ คือ คำภาษาบาลี เมืองที่น่ายินดี แยกเป็น บุรี (เมือง) + รัมย์ และสันสกฤต ซึ่งปรากฏในวรรณคดีไทยตั้งแต่ (น่ายินดี, อันเขาพึงยินดี) ปทุมธานี แปลว่า เมือง สมัยสุโขทัยจนกระทั่งในสมัย ปัจจุบัน มีทั้งร้อย แห่งดอกบัว แยกเป็น ปทมุ (ดอกบวั ) + ธานี (เมือง) แก้วและร้อยกรอง คือ ในศิลาจารึกสมัยพ่อขุน สมุทรปราการ แปลว่า กำแพงแห่งทะเล แยกเป็น รามคำแหง เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า ในสมัย สมุทร (ทะเล) + ปราการ (กำแพง) สุราษฎร์ธานี สุโขทัยนั้นไทยได้นำภาษาบาลีและสันสกฤตมาใช้ แปลว่า เมืองคนดี แยกเป็น สุ (ดี) + ราษฎร์ ในภาษาไทย และในสมยั ต่อมากป็ รากฏว่าได้มีการ (ราษฎร, แคว้น) + ธานี (เมือง) ชัยนาท แปลว่า นิยมใช้คำภาษาบาลีและสันสกฤตในการแต่ง เสียงบรรลือแห่งความชนะ แยกเป็น ชัย (ความ ชนะ) + นาท (เสยี งบรรลอื ) วรรณคดมี ากขึ้น จากการที่ได้อ่านและเรียนรู้บทประพันธ์ วรรณคดีไทยเป็นวรรณกรรมที่ถือเอา เสียงไพเราะเป็นสำคัญ โดยเฉพาะวรรณคดี ต่างๆมามากมาย จึงสามารถเห็นได้ว่า ในบท ประเภทร้อยกรอง นอกจากจะเเอาความไพเราะ ประพนั ธ์และในวรรณคดเี รือ่ งต่างๆทีม่ ีชือ่ เสยี งของ ของเสียงเป็นสำคัญแล้ว ในการประพันธ์ ไทย มีคำที่เป็นคำบาลีและสันสกฤตอยู่ในบท วรรณกรรมประเภทฉันท์ จะต้องถือคำ ครุ ลหุ ประพันธ์ค่อนข้างมาก ถาษาบาลีและภาษา เปน็ สำคัญอีกด้วย คำที่เป็นเสยี งลหใุ นภาษาไทยมี สันสกฤตเกิดจากภาษาพระเวท มีกฎเกณฑ์รัดกุม น้อยมาก จึงจำเป็นจะต้องใช้ศัพท์ภาษาบาลีและ มาก เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เป็นภาษาที่ผู้มีการศึกษา สันสกฤตเข้ามา เพราะสามารถเลอื กคำลหุ ครุ ได้ สูงใช้ และเป็นภาษาทางวรรณคดีใช้เขียนคัมภีร์ มาก และสามารถดัดแปลงให้เข้ากับภาษาของเรา พระเวท เปน็ ภาษาทีศ่ กั ดิ์สิทธิ์ การทีไ่ ทยเรารับเอา ได้ดี วรรณคดีไทยส่วนใหญ่ มักจะเป็นเรื่องราวที่ ลทั ธบิ างอย่างมาจากศาสนาพราหมณ์ เกี่ยวกบั จกั ร ๆ วงศ์ ๆ ซึ่งจะต้องใช้คำราชาศพั ท์ -85-
ทำให้ภาษาบาลีสันสกฤตได้เข้ามามีบทบาทใน ภาษาไทยด้วย ภาษาบาลีสันสกฤตเป็นภาษาที่ ไพเราะและสุภาพมา กจึงมักใช้ในบทร้อยกรอง และวรรณคดนี ่ันเอง รูปโดย : Mateusz รูปโดย : Alexandr -86- โดย อทติ ยา ชื่นชอบ
Search