E-BOOKหน่วยที่ 1E-BOOKหน่วยที่ 1 จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์กับสารสนเทศ

แผนการจดั การเรียนรู้วชิ าคอมพวิ เตอร์ และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ ครูณกุ านดา คณุ สทุ ธ์ิ Home [วนั ท่ี]

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 1 หนว่ ยท่ี 1 จรยิ ธรรมในการใชค้ อมพิวเตอรก์ บั สารสนเทศหัวข้อเร่ือง/งาน 1. จริยธรรมในการใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ 2. จรรยาบรรณในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศ 3. รูปแบบการก่ออาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ 4. วธิ ีป้องกนั อาชญากรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศ 5. พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 6. การละเมิดลิขสิทธ์ิ 7. เอกสารสิทธ์ิสาระการเรียนรู้ การใชง้ านระบบเครือขา่ ยที่ออนไลน์และส่งข่าวสารถึงกนั ยอ่ มมีผทู้ ่ีมีความประพฤติไม่ดีปะปนและสร้างปัญหาให้กบั ผใู้ ชอ้ ่ืนอยเู่ สมอ หลายเครือข่ายจึงไดอ้ อกกฎเกณฑ์การใชง้ านภายในเครือข่าย เพื่อให้สมาชิกในเครือข่ายของตนยึดถือ ปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์และไดร้ ับประโยชน์สูงสุดดังน้ันผูใ้ ช้บริการตอ้ งให้ความสาคญั และตระหนักถึงปัญหา ปริมาณขอ้ มูลข่าวสารท่ีวิ่งอยู่บนเครือข่ายการใชง้ านอย่างสร้างสรรคแ์ ละเกิดประโยชน์จะทาให้สังคมอินเทอร์เน็ตน่าใชแ้ ละเป็ นประโยชน์ร่วมกนั อยา่ งดี ขณะเดียวกนั ก็มีกิจกรรมบางอยา่ งท่ีไม่ควรปฏิบตั ิและตอ้ งหลีกเล่ียงเช่นการเขา้ ไปแกไ้ ขหรือทาลายขอ้ มูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ เพ่ือเผยแพร่ขอ้ มูลอนั เป็ นเท็จหรือมีลกั ษณะอนั ลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ สังคมและความมน่ั คงของรัฐ รวมท้งั ความสงบสุขและศีลธรรมอนั ดีของประชาชน ดงั น้นั รัฐบาลจึงไดอ้ อกกฎหมาย เพ่อื ป้องกนั และปราบปรามการกระทาความผดิ ดงั กล่าวข้ึน ซ่ึงเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิวา่ดว้ ยการกระทาความผดิ เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550”

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 2จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของจริยธรรมและจริยธรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. บอกจรรยาบรรณในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศไดถ้ ูกตอ้ ง 3. บอกรูปแบบการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง 4. บอกวธิ ีป้องกนั อาชญากรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศไดถ้ ูกตอ้ ง 5. บอกเจตนารมณ์ของกฎหมาย พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เก่ียวกบัคอมพวิ เตอร์ พทุ ธศกั ราช 2550 ไดถ้ ูกตอ้ ง 6. บอกบทลงโทษจากการกระทาผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผดิเก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 ไดถ้ ูกตอ้ ง 7. บอกความหมายของทรัพยส์ ินทางปัญญา ลิขสิทธ์ิและสิทธิบตั รไดถ้ ูกตอ้ ง 8. บอกลกั ษณะของการละเมิดลิขสิทธ์ิไดถ้ ูกตอ้ ง

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 3 แบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์ และสารสนเทศ-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------คำส่ัง ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมายกากบาท x หนา้ ขอ้ ที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว1. ขอ้ ใดไม่ใช่การกระทาความผดิ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ก. การปลอมแปลงขอ้ มูลลงคอมพิวเตอร์ข. ความผดิ ฐานการลกั ลอบเขา้ ถึงขอ้ มูลโดยไม่ไดร้ ับอนุญาตค. ความผดิ ฐานฉอ้ โกงง. ความผดิ ฐานทาใหส้ ่ือลามกอนาจารแพร่กระจาย2. จริยธรรมหมายถึงอะไรก. กิริยาท่ีควรประพฤติ ข. หลกั การที่ยดึ ปฏิบตั ิค. ควรปฏิบตั ิในสิ่งท่ีควรกระทา ง. หลกั ท่ีควรปฏิบตั ิท่ีไม่ใหผ้ อู้ ่ืนเดือดร้อน3. จรรยาบรรณของผใู้ ช้ Internet คือขอ้ ใดก. สาเนาโปรแกรมท่ีมีลิขสิทธ์ิข. เขา้ ไปใชส้ ารสนเทศท่ีไม่ใช่ของตนค. คานึงถึงผลกระทบต่อสงั คมสารสนเทศง. สร้างหลกั ฐานเทจ็ เกี่ยวขอ้ มูลสารสนเทศ4. “นายสมควรเป็นบุคคลที่มีความรู้ทกั ษะคอมพวิ เตอร์เป็นอยา่ งดีไดเ้ จาะระบบเขา้ ไปในองคก์ รของรัฐทาใหข้ อ้ มูลเกิดความเสียหายอยา่ งร้ายแรง” จากขอ้ ความดงั กล่าวเป็นอาชญากรคอมพิวเตอร์ในลกั ษณะใดก. Cracker ข. Noviceค. Hacker ง. Com Artist5. \"สมศรีเป็นแฟนเพลงที่ชื่นชอบในผลงานของมนตแ์ คน แก่นคูณ อยา่ งมาก จึงซ้ือแผน่ ซีดีเพลงมาและดว้ ยความช่ืนชอบอยา่ งมาก อยากใหเ้ พ่อื นฟังดว้ ย จึงทาสาเนา (copy) ซีดีเพลงใหเ้ พือ่ น\" จากท่ีกล่าวมาขา้ งตน้ สมศรีทาผดิ เก่ียวกบั ทรัพยส์ ินทางปัญญาในขอ้ ใดก. ลิขสิทธ์ิข. สิทธิบตั รค. ความลบั ทางการคา้ง. ท้งั ความลบั ทางการคา้ และสิทธิบตั ร

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 46. จากขอ้ ความ คอมพวิ เตอร์เป็นท้งั เคร่ืองมือและเป้าหมายของอาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ขอ้ ใดเป็นตวั อยา่ งของคอมพิวเตอร์ในฐานะท่ีเป็นเป้าหมายของการก่ออาชญากรรม ก. การโจรกรรมขอ้ มูล ข. การฟอกเงิน ค. การก่อกวนระบบของผอู้ ื่น ง. การถอดรหสั โปรแกรมคอมพวิ เตอร์7. การละเมิดลขิ สิทธ์ิ มีบทลงโทษอยา่ งไร ก. ทาซ้า ดดั แปลง มีโทษปรับ 20,000-200,000 บาท ข. ทาเพอ่ื การคา้ มีโทษจาคุก 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับ 100,000-800,000 บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ ค. การละเมิดลิขสิทธ์ิโดยทางออ้ ม มีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท ง. ถูกทุกขอ้8. Password มีความสาคญั ต่อระบบเครือข่ายอยา่ งไร ก. เป็นคาสง่ั เพอ่ื เขา้ สู่ระบบ ข. เป็นรหสั ผา่ นเขา้ สู่ระบบ ค. เป็นช่องทางผา่ นเขา้ สู่ระบบเครือข่าย ง. เป็นหน่วยงานยอ่ ยเก่ียวกบั ความปลอดภยั9. ขอ้ ใดเป็นเจตนารมณ์ของร่างกฎหมาย พระราชบญั ญตั ิ วา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบัคอมพวิ เตอร์ พทุ ธศกั ราช 2550 ก. ฐานความผดิ และบทลงโทษ ข. อานาจหนา้ ท่ีของพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ค. หนา้ ที่ของผใู้ หบ้ ริการ ง. ถูกทุกขอ้10. การปฏิบตั ิตนเช่นใดคือการใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละมีประโยชน์ ก. กระจ่ายขา่ วลือจานวนมากบนเครือขา่ ย ข. เคารพกฎระเบียบ กติกา และมีมารยาท ค. ส่งเอกสารจดหมายลูกโซ่ใหก้ บั ผอู้ ่ืนบนเครือขา่ ย ง. สดแนม แกไ้ ข หรือเปิ ดแฟ้มขอ้ มูลของผอู้ ่ืน

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 51. จริยธรรมในการใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ ปัจจุบนั ระบบคอมพิวเตอร์ไดเ้ ขา้ มาเป็ นส่วนหน่ึงในการดาเนินชีวิตของมนุษยเ์ ป็นอยา่ งมาก เน่ืองจากระบบคอมพิวเตอร์มีความสามารถในการจัดเก็บขอ้ มูล ประมวลผลขอ้ มูลและติดต่อส่ือสารได้ ทาใหก้ ารดาเนินงานต่างๆ มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่หากพิจารณาอีกดา้ นหน่ึงคอมพิวเตอร์ก็อาจจะเป็ นภยั ไดเ้ ช่นกนั ดงั น้นั ผใู้ ชจ้ ึงตอ้ งระมดั ระวงั ในการนาขอ้ มูลและสารสนเทศไปใชง้ าน จริยธรรม หมายถึง หลกั ศีลธรรมจรรยาที่กาหนดข้ึนเพื่อใช้เป็ นแนวทางปฏิบตั ิ หรือควบคุมการใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ในทางปฏิบตั ิแลว้ การระบุว่าการกระทาสิ่งใดผดิจริยธรรมน้ัน ย่อมข้ึนอยู่กบั วฒั นธรรมของสังคมในแต่ละประเทศดว้ ย อย่างเช่น กรณีที่เจา้ ของบริษทั ใชก้ ลอ้ งในการตรวจจบั หรือเฝ้าดูการทางานของพนกั งาน เป็นตน้ ตวั อยา่ งของการกระทาท่ียอมรับกนั โดยทว่ั ไปว่าเป็ นการกระทาท่ีผิดจริยธรรม เช่น การใชค้ อมพิวเตอร์ทาร้ายผูอ้ ื่นให้เกิดความเสียหายหรือก่อความราราญ การใช้คอมพิวเตอร์ในการขโมยขอ้ มูล การเขา้ ถึงขอ้ มูลหรือคอมพิวเตอร์ของบุคคลอ่ืนโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต และการละเมิดลิขสิทธ์ิ โดยทวั่ ไป เมื่อพิจารณาถึงจริยธรรมเก่ียวกบั การใชเ้ ทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และสารสนเทศแลว้ จะกล่าวถึงใน 4 ประเดน็ ที่รู้จกั กนั ในลกั ษณะตวั ยอ่ วา่ PAPA ประกอบดว้ ย 1. ควำมเป็ นส่วนตัว (Information Privacy) หมายถึง สิทธิที่จะอยู่ตามลาพงั และเป็ นสิทธิที่เจ้าของสามารถที่จะควบคุมข้อมูลของตนเองในการเปิ ดเผยให้กับผูอ้ ื่น สิทธิน้ีใช้ได้ครอบคลุมท้งั ปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล และองคก์ ารต่างๆ การกระทาท่ีเป็ นสิทธิความเป็ นส่วนตวัสงั เกตได้ ดงั น้ี 1.1 การเขา้ ไปดูขอ้ ความในจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์และการบนั ทึกขอ้ มูล ในเครื่องคอมพวิ เตอร์ รวมท้งั การบนั ทึกแลกเปล่ียนขอ้ มูลท่ีบุคคลเขา้ ไปใชบ้ ริการบนเวบ็ ไซต์ 1.2 การใชเ้ ทคโนโลยีในการติดตามความเคล่ือนไหว หรือพฤติกรรมของบุคคลเช่น การใชเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์ตรวจจบั พฤติกรรมการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน เป็นตน้ 1.3 การใชข้ อ้ มูลของลูกคา้ จากแหล่งต่างๆ เพ่อื ผลประโยชนใ์ นการขยายตลาด 1.4 การรวบรวมหมายเลขโทรศพั ท์ ท่ีอยู่ หมายเลขบตั รและขอ้ มูลอ่ืนๆ สาหรับนาไปสร้างเป็นฐานขอ้ มูล เพือ่ ขายใหบ้ ริษทั อื่นๆ เป็นตน้ 2. ความถูกต้อง (Information Accuracy) หมายถึง ความรับผิดชอบต่อความถูกตอ้ งของขอ้ มูลที่จดั เก็บและเผยแพร่ ดงั น้ันในการจดั ทาขอ้ มูลและสารสนเทศให้มีความถูกตอ้ งและ

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 6น่าเชื่อถือ จะตอ้ งตรวจสอบความถูกตอ้ งก่อนที่จะนาเขา้ ฐานขอ้ มูล การปรับปรุงขอ้ มูลให้ทนั สมยัอยเู่ สมอและควรใหส้ ิทธิแก่บุคคลในการตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูลของตนเอง 3. ความเป็ นเจ้าของ (Information Property) หมายถึง กรรมสิทธ์ิการถือครองทรัพยส์ ินซ่ึงอาจเป็นทรัพยส์ ินทว่ั ไปที่จบั ตอ้ งได้ เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรืออาจเป็นทรัพยส์ ินทางปัญญาท่ีจบั ตอ้ งไม่ได้ เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ บทเพลงแต่สามารถถ่ายทอดและบนั ทึกลงในส่ือต่างๆได้ เช่น สิ่งพิมพ์ ซีดีรอม เป็ นต้น การคัดลอกโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะตอ้ งพิจารณาก่อนว่าโปรแกรมที่คดั ลอกน้นั เป็นโปรแกรมที่มีสิทธิในระดบั ใด 4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) หมายถึง การกาหนดสิทธิตามระดับของผูใ้ ชง้ าน เพื่อป้องกนั การเขา้ ไปดาเนินการต่างๆ กบั ขอ้ มูลของผูใ้ ชท้ ี่ไม่มีส่วนเก่ียวขอ้ ง ท้งั น้ีเพื่อรักษาความลบั ของขอ้ มูล2. จรรยาบรรณในการใช้คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ ก็เป็ นส่ิงใหม่ท่ีมีศีลธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณเฉพาะของตนซ่ึงบางคร้ังก็แตกต่างจากจริยธรรมที่ยอมรับกนั มาแต่ก่อน หลกั พ้ืนฐานของจริยธรรมในสังคมสารสนเทศก็คือการเคารพผูอ้ ื่น เคารพความเป็ นส่วนตวั การเขา้ ถึงระบบคอมพิวเตอร์และขอ้ มูลก็จะเฉพาะสิทธ์ิท่ีตนเองมี เพ่ือให้การอยู่ร่วมกนั ในสังคมอินเทอร์เน็ตสงบสุข จึงไดร้ วบรวมกฎกติกามารยาทต่างๆ ในการใชง้ านอินเทอร์เน็ต มาเขียนเป็นจรรยาบรรณ ดงั น้ี 1. ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอร์ทาร้ายหรือละเมิดผอู้ ื่น 2. ตอ้ งไม่รบกวนการทางานของผอู้ ่ืน 3. ตอ้ งไม่สอดแนมหรือแกไ้ ขและเปิ ดดูขอ้ มูลในแฟ้มของผอู้ ื่น 4. ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอร์ เพ่อื การโจรกรรมขอ้ มูลขา่ วสาร 5. ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอร์สร้างหลกั ฐานท่ีเป็นเทจ็ 6. ตอ้ งไม่คดั ลอกโปรแกรมผอู้ ื่นที่มีลิขสิทธ์ิ 7. ตอ้ งไม่ละเมิดการใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอร์ โดยที่ตนเองไม่มีสิทธ์ิ 8. ตอ้ งไม่นาเอาผลงานของผอู้ ่ืนมาเป็นของตน 9. ตอ้ งคานึงถึงสิ่งท่ีจะเกิดข้ึนกบั สงั คมอนั ติดตามมาจากการกระทา 10. ตอ้ งใชค้ อมพวิ เตอร์โดยเคารพ กฎ ระเบียบ กติกามารยาท

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 73. รูปแบบการก่ออาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ รูปแบบของการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ท่ีพบเห็นทวั่ ไป มีดงั น้ี 1. การลกั ลอบเขา้ ถึงโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต ซ่ึงกลุ่มคนท่ีลกั ลอบเขา้ ถึงขอ้ มูลโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 3 กลุ่ม คือ 1.1 Hacker คือ กลุ่มคนท่ีมีความรู้ความสามารถและตอ้ งการทดสอบความสามารถของตนเอง โดยไม่เจตนาที่จะประสงคร์ ้าย 1.2 Cracker คือ กลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถคลา้ ยกบั Hacker แตก่ ลุ่มน้ีจะเป็นผู้ที่ประสงคจ์ ะทาลายและสร้างความเสียหายแก่ผอู้ ่ืน 1.3 Script Kiddy คือ กลุ่มเดก็ หรือนกั ศึกษาท่ีเพ่ิงจบใหม่ โดยกลุ่มน้ีจะมีความตอ้ งการอยากทดลอง อยากรู้อยากเห็นและเจตนาท่ีจะก่อกวนบุคคลอื่น 2. การขโมยและทาลายอุปกรณ์ 3. การขโมยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 4. การก่อกวนระบบดว้ ยโปรแกรมประสงคร์ ้าย เช่น ไวรัสคอมพวิ เตอร์ 5. การก่อกวนระบบดว้ ยสปายแวร์ 6. การก่อกวนระบบดว้ ยสแปมเมล์ 7. การหลอกลวงเหยอื่ เพอ่ื ลว้ งเอาขอ้ มูลส่วนตวั4. วธิ ีป้องกนั อาชญากรรมในการใช้คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ การป้องกนั อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ จากการเรียนรู้เทคนิคการเจาะขอ้ มูลของ นกัก่อกวนคอมพิวเตอร์ (Hacker) ท้งั หลาย องคก์ รต่างๆ สามารถหาวิธีท่ีเหมาะสมเป็ นการป้องกนัอาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ได้ ดงั น้ี 1. การว่าจา้ งอยา่ งรอบคอบและระมดั ระวงั ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มาจากพนกั งานภายในองคก์ ร ดงั น้ันกระบวนการจา้ งคนเขา้ ทางานจะตอ้ งคดั เลือกคนท่ีซ่ือสัตย์สุจริตและรับผดิ ชอบต่อวิชาชีพของตนเอง 2. ระวงั กลุ่มบุคคลท่ีไม่พอใจ เน่ืองจากพนักงานในองคก์ รเหล่าน้ันจะมีความรู้และความเชี่ยวชาญในระบบคอมพวิ เตอร์ แต่ไม่พอใจการบริหารงานของผบู้ งั คบั บญั ชา เนื่องจากไม่ได้รับความเป็ นธรรมในการเล่ือนตาแหน่งหน้าท่ี ทาให้เกิดความโกรธแค้น จึงได้ทาลายหรือเปลี่ยนแปลงขอ้ มูลท่ีสาคญั ภายในองคก์ ร

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 8 3. การแยกหน้าที่รับผิดชอบของพนักงาน ควรกาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบในแต่ละงานและหมุนเวียนหนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบของพนกั งาน ในตาแหน่งที่มีความเส่ียงต่อการรั่วไหลของขอ้ มูล 4. การกาหนดสิทธิในการใชท้ รัพยากรขอ้ มูลเท่าท่ีจาเป็นของแต่ละตาแหน่งงาน ดงั น้นัองคก์ รจึงตอ้ งกาหนดข้นั ตอนและวิธีการในการควบคุมขอ้ มูลที่สาคญั ขององคก์ ร เช่น ไม่อนุญาตใหพ้ นกั งานมีการเรียกใชข้ อ้ มูล หรือเขา้ ถึงขอ้ มูลที่ไม่ไดร้ ับผดิ ชอบ 5. การป้องกนั ทรัพยากรขอ้ มูลดว้ ยรหัสผา่ น (Password) เป็ นการตรวจสอบการมีสิทธ์ิใชง้ านของผใู้ ช้ ซ่ึงจากดั อยเู่ ฉพาะกลุ่มคนท่ีมีรหสั ผา่ นเท่าน้นั เพื่อใหส้ ามารถใชง้ านซอฟตแ์ วร์และฮาร์ดแวร์ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 6. การเขา้ รหัสขอ้ มูลและโปรแกรม การเขา้ รหัสขอ้ มูล เป็ นกระบวนการในการซ่อนหรือเปล่ียนรูปขอ้ มูลและโปรแกรมให้อยู่ในรูปของรหัสชนิดใดชนิดหน่ึง เพ่ือไม่ให้คนอื่นทราบขอ้ มูลจริง 7. การเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของระบบขอ้ มูล ซ่ึงจะมีโปรแกรมเฉพาะ โดยโปรแกรมจะคอยบนั ทึกวา่ มีใครเขา้ มาใชง้ านระบบเวลาเท่าใด ณ ท่ีแห่งใดของขอ้ มูล แลว้ กลบั ออกไปเวลาใด 8. การตรวจสอบระบอยา่ งสม่าเสมอ 9. ใหค้ วามรู้ผรู้ ่วมงานเก่ียวกบั ระบบความปลอดภยั ของขอ้ มูล พนกั งานทุกคนควรตอ้ งรู้ระบบความปลอดภยั ของขอ้ มูลในองคก์ ร5. พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 ปัจจุบนั ระบบคอมพิวเตอร์ไดเ้ ป็นส่วนสาคญั ของการประกอบกิจการและการดารงชีวิตของมนุษย์ หากมีผกู้ ระทาดว้ ยประการใดๆ ใหร้ ะบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทางานตามคาสง่ั ท่ีกาหนดไว้ หรือทาใหก้ ารทางานผดิ พลาดไปจากคาสงั่ ที่กาหนดไว้ หรือใชว้ ธิ ีการใดๆ เขา้ ล่วงรู้ขอ้ มูล แกไ้ ขหรือทาลายขอ้ มูลของบุคคลอ่ืนในระบบคอมพวิ เตอร์โดยมิชอบ หรือใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ เพือ่ เผยแพร่ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์อนั เป็นเทจ็ หรือมีลกั ษณะอนั ลามกอนาจาร ยอ่ มก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สงั คมและความมนั่ คงของรัฐ รวมท้งั ความสงบสุขและศีลธรรมอนั ดีของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพอื่ ป้องกนั และปราบปรามการกระทาดงั กล่าว จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั ิน้ี เจตนารมณ์ของร่างกฎหมาย พระราชบญั ญตั ิ วา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พทุ ธศกั ราช 2550 กาหนด ดงั น้ี

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 9 1. ฐานความผดิ และบทลงโทษ 2. อานาจหนา้ ท่ีของพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ 3. หนา้ ท่ีของผใู้ หบ้ ริการ ระบบคอมพิวเตอร์ หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมการทางานเขา้ ดว้ ยกนั โดยไดม้ ีการกาหนดคาส่ัง ชุดคาส่ัง หรือสิ่งอ่ืนใดและแนวทางปฏิบตั ิงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ ทาหนา้ ที่ประมวลผลขอ้ มูลโดยอตั โนมตั ิ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ขอ้ มูล ขอ้ ความ คาส่ัง ชุดคาสั่ง หรือสิ่งอื่นใด บรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลไดแ้ ละให้หมายความรวมถึงขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ดว้ ย ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ขอ้ มูลเก่ียวกบั การติดต่อส่ือสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซ่ึงแสดงถึงแหล่งกาเนิดตน้ ทาง ปลายทาง เสน้ ทาง เวลา วนั ที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การติดต่อส่ือสารของระบบคอมพิวเตอร์น้นั บทลงโทษจากการกระทาผิดตาม พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกบัคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 ถือเป็นความผดิ ทางอาญา มีโทษปรับ จาคุก หรือท้งั ปรับและจาคุก ลกั ษณะการกระทาความผดิ และโทษจากการกระทาความผดิ มีดงั น้ี มาตรา 5 ผูใ้ ดเขา้ ถึงโดยมิชอบซ่ึงระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีมาตรการป้องกันการเขา้ ถึงโดยเฉพาะและมาตรการน้นั มิไดม้ ีไวส้ าหรับตน ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหม่ืนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 6 ผใู้ ดล่วงรู้มาตรการป้องกนั การเขา้ ถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผอู้ ่ืนจดั ทาข้ึนเป็นการเฉพาะถา้ นามาตรการดงั กล่าวไปเปิ ดเผยโดยมิชอบในประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผอู้ ื่น ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 7 ผูใ้ ดเขา้ ถึงโดยมิชอบซ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ท่ีมีมาตรการป้องกนั การเขา้ ถึงโดยเฉพาะและมาตรการน้นั มิไดม้ ีไวส้ าหรับตน ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หม่ืนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 8 ผใู้ ดกระทาดว้ ยประการใดโดยมิชอบดว้ ยวิธีการทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เพ่ือดกั รับไวซ้ ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ของผอู้ ื่นที่อยรู่ ะหวา่ งการส่งในระบบคอมพิวเตอร์และขอ้ มูลคอมพิวเตอร์น้นั มิไดม้ ีไว้ เพ่ือประโยชนส์ าธารณะ หรือเพอ่ื ใหบ้ ุคคลทวั่ ไปใชป้ ระโยชน์ได้ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหม่ืนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 10 มาตรา 9 ผูใ้ ดทาให้เสียหาย ทาลาย แกไ้ ข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าท้งั หมด หรือบางส่วน ซ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ของผอู้ ื่นโดยมิชอบ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหา้ ปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 10 ผใู้ ดกระทาดว้ ยประการใดโดยมิชอบ เพ่อื ใหก้ ารทางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผูอ้ ่ืนถูกระงบั ชะลอ ขดั ขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติได้ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหา้ ปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 11 ผใู้ ดส่งขอ้ มูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์แก่บุคคลอ่ืนโดยปกปิ ดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งขอ้ มูลดงั กล่าว อนั เป็ นการรบกวนการใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท มาตรา 12 ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา 9 หรือมาตรา 10 (1) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายน้ันจะเกิดข้ึนในทนั ที หรือในภายหลงั และไม่ว่าจะเกิดข้ึนพร้อมกนั หรือไม่ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินสิบปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท (2) เป็นการกระทาโดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายต่อขอ้ มูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ท่ีเก่ียวกับการรักษาความมนั่ คงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมนั่ คงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็ นการกระทาต่อขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีไวเ้ พ่ือประโยชน์สาธารณะ ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่สามปี ถึงสิบหา้ ปี และปรับต้งั แต่หกหม่ืนบาทถึงสามแสนบาท ถา้ การกระทาความผดิ ตาม (2) เป็ นเหตุใหผ้ อู้ ่ืนถึงแก่ความตาย ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่สิบปี ถึงยสี่ ิบปี มาตรา 13 ผูใ้ ดจาหน่าย หรือเผยแพร่ชุดคาสั่งท่ีจดั ทาข้ึนโดยเฉพาะ เพ่ือนาไปใช้เป็ นเครื่องมือในการกระทาความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 10 หรือมาตรา 11 ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 14 ผใู้ ดกระทาความผดิ ที่ระบุไวด้ งั ต่อไปน้ี ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหา้ ปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ (1) นาเขา้ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าท้งั หมดหรือบางส่วน หรือขอ้ มูลคอมพิวเตอร์อนั เป็ นเท็จ โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผูอ้ ่ืนหรือประชาชน (2) นาเขา้ สู่ระบบคอมพวิ เตอร์ซ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์อนั เป็นเทจ็ โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายต่อความมนั่ คงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 11 (3) นาเขา้ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อนั เป็ นความผิดเกี่ยวกบั ความมนั่ คงแห่งราชอาณาจกั ร หรือความผิดเก่ียวกบั การก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา (4) นาเขา้ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซ่ึงขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลกั ษณะอนั ลามกและขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์น้นั ประชาชนทว่ั ไปอาจเขา้ ถึงได้ (5) เผยแพร่ หรือส่งต่อซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็ นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) มาตรา 15 ผใู้ หบ้ ริการผใู้ ดจงใจสนบั สนุน หรือยนิ ยอมใหม้ ีการกระทาความผดิ ตามมาตรา14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยใู่ นความควบคุมของตน ตอ้ งระวางโทษเช่นเดียวกบั ผกู้ ระทาความผดิตามมาตรา 14 มาตรา 16 ผูใ้ ดนาเขา้ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนท่วั ไปอาจเขา้ ถึงได้ซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็ นภาพของผอู้ ่ืนและภาพน้นั เป็นภาพท่ีเกิดจากการสร้างข้ึน ตดั ต่อเติม หรือดดั แปลงดว้ ยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอ่ืนใด ท้งั น้ี โดยประการที่น่าจะทาให้ผอู้ ื่นน้นัเสียช่ือเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชงั หรือไดร้ ับความอบั อาย ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหม่ืนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับถา้ การกระทาตามวรรคหน่ึง เป็ นการนาเขา้ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผูก้ ระทาไม่มีความผิดตามวรรคหน่ึงเป็ นความผิดอนั ยอมความได้ถา้ ผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหน่ึงตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผเู้ สียหายร้องทุกขไ์ ดแ้ ละใหถ้ ือวา่ เป็นผเู้ สียหาย มาตรา 17 ผใู้ ดกระทาความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีนอกราชอาณาจกั รและ (1) ผูก้ ระทาความผิดน้ันเป็ นคนไทยและรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดข้ึน หรือผเู้ สียหายไดร้ ้องขอใหล้ งโทษ หรือ (2) ผกู้ ระทาความผดิ น้นั เป็นคนต่างดา้ วและรัฐบาลไทย หรือคนไทยเป็นผเู้ สียหายและผเู้ สียหายไดร้ ้องขอใหล้ งโทษ จะตอ้ งรับโทษภายในราชอาณาจกั ร

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 126. การละเมดิ ลขิ สิทธ์ิและบทลงโทษ การละเมิดลขิ สิทธ์ิ หมายถึง การคดั ลอกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่ไดร้ ับอนุญาต เพื่อนาไปเผยแพร่ต่อ ลกั ษณะของการละเมิดลิขสิทธ์ิ ไดแ้ ก่ 1. การทาซ้าหรือการดดั แปลง 2. การเผยแพร่ต่อสาธารณชน 3. ใหเ้ ช่าตน้ ฉบบั หรือทาสาเนา 4. ขาย หรือมีไวเ้ พือ่ ขาย เสนอขาย ใหเ้ ช่า ใหเ้ ช่าซ้ือ หรือเสนอใหเ้ ช่าซ้ือ 5. แจกจ่ายในลกั ษณะท่ีอาจก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่เจา้ ของลิขสิทธ์ิ บทลงโทษเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธ์ิ คือ บทลงโทษในการละเมิดลิขสิทธ์ิ การละเมิดลิขสิทธ์ิ แบ่งออกเป็น 2 ทาง คือ 1. การละเมิดลิขสิทธ์ิโดยทางตรง เช่น ทาซ้า ดัดแปลง มีโทษปรับ 20,000-200,000 บาท หากทาเพ่ือการคา้ มีโทษจาคุก 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับ 100,000-800,000 บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ 2. การละเมิดลิขสิทธ์ิโดยทางออ้ ม (สนับสนุนให้เกิดการละเมิด) มีโทษปรับ10,000-100,000 บาท หากทาเพือ่ การคา้ มีโทษจาคุก 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือ 50,000-400,000 บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ7. เอกสารสิทธ์ิ เอกสารสิทธ์ิ หมายถึง เอกสารท่ีทางราชการออกให้ เพื่อใชเ้ ป็นหลกั ฐานคุม้ ครองในสิทธ์ิน้นั ๆ ไดแ้ ก่ 5.1 ทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ผลงานอนั เกิดจากความคิดสร้างสรรคข์ องมนุษยซ์ ่ึงเป็นทรัพยส์ ินนอกเหนือจากสังหาริมทรัพยแ์ ละอสงั หาริมทรัพย์ ทรัพยส์ ินทางปัญญา แบ่งออกเป็น2 ประเภท คือ 5.1.1 ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม คือ ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษยท์ ่ีเกี่ยวกบัอุตสาหกรรมในการประดิษฐค์ ิดคน้ การออกแบบผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม ซ่ึงอาจเป็นกระบวนการหรือเทคนิคในการผลิตที่ไดป้ รับปรุง หรือคิดคน้ ข้ึนมาใหม่ ท่ีเกี่ยวกบั ตวั สินคา้ หรือผลิตภณั ฑ์ที่เป็นองคป์ ระกอบและรูปร่างของผลิตภณั ฑ์ ซ่ึงรวมถึงเคร่ืองหมายการคา้ หรือยห่ี อ้

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 13 5.1.2 ลิขสิทธ์ิ คือ การคุม้ ครองการแสดงออกทางดา้ นความคิด ซ่ึงเป็นงานประเภทวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรี ภาพยนตร์ หรือดา้ นวิทยาศาสตร์ รวมท้งั สิทธ์ิขา้ งเคียงที่เกิดจากการนางานดา้ นลิขสิทธ์ิแสดงออก โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือชุดคาส่ังท่ีใชก้ บั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ฐานขอ้ มูลที่รวบรวมเพอื่ ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในดา้ นต่างๆ 5.2 สิทธิบัตร หมายถึง เอกสารสิทธ์ิท่ีแสดงถึงการจดทะเบียนคุม้ ครองการประดิษฐแ์ ละการออกแบบผลิตภณั ฑ์ เป็ นสิทธิพิเศษท่ีกฎหมายบญั ญตั ิให้เจา้ ของสิทธิบตั รมีสิทธิเด็ดขาด หรือสิทธิแต่เพียงผเู้ ดียวในการแสวงหาประโยชน์จากการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภณั ฑท์ ี่ไดร้ ับสิทธิบตั รน้นั 5.3 อนุสิทธิบัตร หมายถึง เอกสารสิทธิท่ีแสดงถึงการจดทะเบียนคุม้ ครองการประดิษฐ์และการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ให้ความคุม้ ครองสิ่งประดิษฐ์ทางอุตสาหกรรมที่มีความใหม่และสามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ นทางอุตสาหกรรมได้ ซ่ึงต่างกบั สิทธิบตั รที่เป็นการประดิษฐท์ ี่มีเทคนิคไม่สูงมากนกั อาจจะเป็นการปรับปรุงเพียงเลก็ นอ้ ย

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 14สรปุ จริยธรรม หมายถึง \"หลกั ศีลธรรมจรรยาท่ีกาหนดข้ึนเพอื่ ใชเ้ ป็นแนวทางปฏิบตั ิ หรือควบคุมการใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ\" โดยทั่วไป เม่ือพิจารณาถึงจริ ยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศแลว้ จะกล่าวถึงใน 4 ประเด็น ที่รู้จกั กนั ในลกั ษณะตวั ยอ่ วา่ PAPA ประกอบดว้ ย ความเป็ นส่วนตัว (Information Privacy) ความถูกต้อง (Information Accuracy) ความเป็ นเจ้าของ(Information Property) การเขา้ ถึงขอ้ มูล (Data Accessibility) รูปแบบการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ รูปแบบของการก่ออาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ที่พบเห็นทวั่ ไป มี การลกั ลอบเขา้ ถึงโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต การขโมยและทาลายอุปกรณ์การขโมยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การก่อกวนระบบดว้ ยโปรแกรมประสงคร์ ้าย การก่อกวนระบบดว้ ยสปายแวร์ การก่อกวนระบบดว้ ยสแปมเมล์ การหลอกลวงเหยอื่ เพอื่ ลว้ งเอาขอ้ มูลส่วนตวั วิธีป้องกนั อาชญากรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศ การป้องกนั อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Preventing computer crime) สามารถหาวิธีที่เหมาะสมเป็ นการป้องกนั อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้ ดงั น้ี การว่าจา้ งอยา่ งรอบคอบและระมดั ระวงั ระวงั กลุ่มบุคคลที่ไม่พอใจ การแยกหนา้ ที่รับผิดชอบของพนกั งาน การกาหนดสิทธิในการใชท้ รัพยากรขอ้ มูลเท่าท่ีจาเป็ นของแต่ละตาแหน่งงาน การป้องกนั ทรัพยากรขอ้ มูลดว้ ยรหสั ผ่าน(Password) การเขา้ รหสั ขอ้ มูล การเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของระบบขอ้ มูล การตรวจสอบระบอย่างสม่าเสมอ ให้ความรู้ผรู้ ่วมงานเก่ียวกบัระบบความปลอดภยั ของขอ้ มูล การละเมิดลิขสิทธ์ิ หมายถึง การคดั ลอกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่ไดร้ ับอนุญาตเพื่อนาไปเผยแพร่ต่อ ลกั ษณะของการละเมิดลิขสิทธ์ิ บทลงโทษเก่ียวกบั การละเมิดลิขสิทธ์ิ คือบทลงโทษในการละเมิดลิขสิทธ์ิ การละเมิดลิขสิทธ์ิ แบ่งออกเป็ น 2 ทาง คือ การละเมิดลิขสิทธ์ิโดยตรง การละเมิดลิขสิทธ์ิโดยทางออ้ ม เอกสารสิทธ์ิ หมายถึง เอกสารที่ทางราชการออกให้ เพอื่ ใชเ้ ป็นหลกั ฐานคุม้ ครองในสิทธ์ิน้นั ๆ ไดแ้ ก่ ทรัพยส์ ินทางปัญญา สิทธิบตั ร อนุสิทธิบตั ร

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 15 ใบงาน หน่วยที่ 1 จรยิ ธรรมในการใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศหัวข้อกจิ กรรม 1. จริยธรรมและจรรยาบรรณในการใชค้ อมพวิ เตอร์และสารสนเทศ 2. รูปแบบการก่ออาชญากรรมทางคอมพวิ เตอร์ 3. วิธีป้องกนั อาชญากรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศ 4. พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550เคร่ืองมือและอุปกรณ์ 1. ใบความรู้ หน่วยท่ี 1 2. เครื่องคอมพวิ เตอร์ 3. เคร่ืองมลั ติมิเดียโปรเจคเตอร์ 4. ส่ือในการนาเสนอของนกั เรียนข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 1. แบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม พร้อมคดั เลือกหวั หนา้ กลุ่ม 2. ตวั แทนกลุ่มจบั ฉลากหวั ขอ้ เร่ืองท่ีจะนาเสนอ 3. แจกใบความรู้ หน่วยท่ี 1 4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเตรียมหวั ขอ้ เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมาย 5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนองานกลุ่มละ 10 นาที 6. นกั เรียนในหอ้ งช่วยกนั ประเมินผลการรายงานของกลุ่มท่ีนาเสนอ 7. นกั เรียนท่ีนาเสนอรายงาน ประเมินผลตนเอง 8. ผสู้ อนรวบรวมแบบประเมินผลจากนกั เรียนท้งั 4 กลุ่ม พร้อมประเมินผลนกั เรียนท้งั 4กลุ่มที่นาเสนองาน

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 16 แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์ และสารสนเทศ-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------คำสั่ง ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมายกากบาท x หนา้ ขอ้ ที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว1. ขอ้ ใดไม่ใช่การกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ก. การปลอมแปลงขอ้ มูลลงคอมพิวเตอร์ข. ความผดิ ฐานการลกั ลอบเขา้ ถึงขอ้ มูลโดยไม่ไดร้ ับอนุญาตค. ความผดิ ฐานฉอ้ โกงง. ความผดิ ฐานทาใหส้ ื่อลามกอนาจารแพร่กระจาย2. จริยธรรมหมายถึงอะไรก. กิริยาที่ควรประพฤติ ข. หลกั การท่ียดึ ปฏิบตั ิค. ควรปฏิบตั ิในส่ิงที่ควรกระทา ง. หลกั ท่ีควรปฏิบตั ิท่ีไม่ใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อน3. จรรยาบรรณของผใู้ ช้ Internet คือขอ้ ใดก. สาเนาโปรแกรมท่ีมีลิขสิทธ์ิข. เขา้ ไปใชส้ ารสนเทศท่ีไม่ใช่ของตนค. คานึงถึงผลกระทบต่อสงั คมสารสนเทศง. สร้างหลกั ฐานเทจ็ เก่ียวขอ้ มูลสารสนเทศ4. “นายสมควรเป็นบุคคลท่ีมีความรู้ทกั ษะคอมพิวเตอร์เป็ นอยา่ งดีไดเ้ จาะระบบเขา้ ไปในองคก์ รของรัฐทาใหข้ อ้ มูลเกิดความเสียหายอยา่ งร้ายแรง” จากขอ้ ความดงั กล่าวเป็นอาชญากรคอมพวิ เตอร์ในลกั ษณะใดก. Cracker ข. Noviceค. Hacker ง. Com Artist5. \"สมศรีเป็นแฟนเพลงที่ชื่นชอบในผลงานของมนตแ์ คน แก่นคูณ อยา่ งมาก จึงซ้ือแผน่ ซีดีเพลงมาและดว้ ยความชื่นชอบอยา่ งมาก อยากใหเ้ พ่ือนฟังดว้ ย จึงทาสาเนา (copy) ซีดีเพลงใหเ้ พ่ือน\" จากที่กล่าวมาขา้ งตน้ สมศรีทาผดิ เก่ียวกบั ทรัพยส์ ินทางปัญญาในขอ้ ใดก. ลิขสิทธ์ิข. สิทธิบตั รค. ความลบั ทางการคา้ง. ท้งั ความลบั ทางการคา้ และสิทธิบตั ร

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (2001-2001) 176. จากขอ้ ความ คอมพวิ เตอร์เป็นท้งั เคร่ืองมือและเป้าหมายของอาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ขอ้ ใดเป็นตวั อยา่ งของคอมพวิ เตอร์ในฐานะท่ีเป็นเป้าหมายของการก่ออาชญากรรม ก. การโจรกรรมขอ้ มูล ข. การฟอกเงิน ค. การก่อกวนระบบของผอู้ ื่น ง. การถอดรหสั โปรแกรมคอมพิวเตอร์7. การละเมิดลขิ สิทธ์ิ มีบทลงโทษอยา่ งไร ก. ทาซ้า ดดั แปลง มีโทษปรับ 20,000-200,000 บาท ข. ทาเพือ่ การคา้ มีโทษจาคุก 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับ 100,000-800,000 บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ ค. การละเมิดลิขสิทธ์ิโดยทางออ้ ม มีโทษปรับ 10,000-100,000 บาท ง. ถูกทุกขอ้8. Password มีความสาคญั ต่อระบบเครือขา่ ยอยา่ งไร ก. เป็นคาสง่ั เพือ่ เขา้ สู่ระบบ ข. เป็นรหสั ผา่ นเขา้ สู่ระบบ ค. เป็นช่องทางผา่ นเขา้ สู่ระบบเครือข่าย ง. เป็นหน่วยงานยอ่ ยเกี่ยวกบั ความปลอดภยั9. ขอ้ ใดเป็นเจตนารมณ์ของร่างกฎหมาย พระราชบญั ญตั ิ วา่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบัคอมพิวเตอร์ พทุ ธศกั ราช 2550 ก. ฐานความผดิ และบทลงโทษ ข. อานาจหนา้ ที่ของพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ค. หนา้ ที่ของผใู้ หบ้ ริการ ง. ถูกทุกขอ้10. การปฏิบตั ิตนเช่นใดคือการใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละมีประโยชน์ ก. กระจ่ายขา่ วลือจานวนมากบนเครือขา่ ย ข. เคารพกฎระเบียบ กติกา และมีมารยาท ค. ส่งเอกสารจดหมายลูกโซ่ใหก้ บั ผอู้ ื่นบนเครือข่าย ง. สดแนม แกไ้ ข หรือเปิ ดแฟ้มขอ้ มูลของผอู้ ่ืน

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 18 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียนหน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์ และสารสนเทศ ------------------------------------------------------------------------------- ข้อท่ี คำตอบ 1. ค 2. ง 3. ค 4. ค 5. ก 6. ก 7. ง 8. ข 9. ง 10. ข

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 19 แบบประเมินผลการนาเสนองานกลุ่มหน่วยท่ี 1 จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้ คอมพิวเตอรก์ บั ระบบสารสนเทศระดบั ช้ัน ปวช. ........ กลุ่ม ............... สำขำงำน ................................................ วนั ท่ี .............. เดือน ......................................... พ.ศ. ............................รำยช่ือสมำชิก 1. .............................................................. 2. .........................................................แบบประเมิน 1 คะแนน ข้อคดิ เห็นของผู้ประเมนิ 321 ท่ี รำยกำรประเมิน 1 ความร่วมมือในการนาเสนอ 2 ความชดั เจนของเน้ือหา 3 ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 4 รูปแบบของการนาเสนอ 5 ระยะเวลาในการนาเสนอ 6 ความสนใจของผฟู้ ัง รวมแต่ละรำยกำร รวมคะแนนท้งั หมดประเมนิ โดย ❑ ผเู้ รียนกล่มุ ที่ .... ❑ ผสู้ อน

คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (2001-2001) 20แบบประเมิน 2 กลุ่มท่ี 1 กลุ่มท่ี 2 กลุ่มที่ 3 กล่มุ ที่ 4 ผู้ประเมนิ ผเู้ รียน ครูผสู้ อน รวมคะแนน คะแนนเฉลย่ีระดบั คะแนน ❑ 15 - 18 คือ ดี ❑ 8 - 14 คือ พอใช้ ❑ 0 - 7 คือ ปรับปรุง ผปู้ ระเมิน ............................................................... วนั ที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. .............