Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานไฟฟ้ารถยนต์-05

งานไฟฟ้ารถยนต์-05

Published by thongma.55, 2021-07-27 03:29:42

Description: งานไฟฟ้ารถยนต์-05

Search

Read the Text Version

ในรถยนตท์ วั่ ไปนอกจากระบบต่างๆ ทจ่ี าเป็นสาหรบั การใชง้ านแลว้ ระบบอานวยความสะดวกเป็นระบบเสรมิ เพอ่ื ช่วยให้ บรรยากาศของการขบั ขเ่ี ป็นไปอย่างสะดวกสบาย เหมาะสมและปลอดภยั ในสภาวะต่างๆ เช่น ระบบปัดน้าฝน ช่วยปัดกระจก ใหม้ องเหน็ ดา้ นหน้าและดา้ นหลงั ไดช้ ดั เจนทาใหป้ ลอดภยั ต่อการขบั ข่ี วทิ ยุรถยนต์ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครยี ดใน การขบั ข่ี พดั ลมระบายความรอ้ น ชว่ ยระบายความรอ้ นใหแ้ ก่เครอ่ื งยนต์

ระบบปัดน้าฝนและฉีดน้าล้างกระจก ปัดน้าฝน (Wiper) หน้าท่ี 1. ปัดน้าฝนออกจากกระจกบงั ลมหน้าและหลังรถยนต์ในขณะฝนตก ทาให้ผู้ขบั ข่สี ามารถมองเห็นถนนและขบั รถได้อย่างปลอดภยั 2. ปัดทาความสะอาดกระจกบงั ลมหน้าและหลงั รถยนต์ โดยทางานรว่ มกบั ชุดฉดี น้าลา้ งกระจก รายละเอียด 1. สวติ ชป์ ัดน้าฝนประกอบดว้ ยสวติ ชป์ ัดน้าฝนและฉดี น้าลา้ งกระจก 2. ฝาครอบนอต 3. ชุดกา้ นและใบปัดน้าฝน 4. มอเตอรป์ ัดน้าฝน 5. แผงดกั ลมหน้า 6. ขาต่อ 7. ทอ่ น้าลา้ งกระจก 8. หวั ฉดี น้าลา้ งกระจก 9. ทอ่ น้าลา้ งกระจก 10. ถงั น้าลา้ งกระจก 11. มอเตอรฉ์ ดี น้าลา้ งกระจก 12. ตวั ยดึ ถงั น้าลา้ งกระจก ส่วนประกอบระบบน้าฝนและฉีดน้าล้างกระจก

วงจรปัดน้าฝน แบบสวิตชอ์ ย่หู ลงั มอเตอรป์ ัดน้าฝน วงจรปัดน้าฝนและฉีดน้าล้างกระจกแบบสวิตชอ์ ยหู่ ลงั

หลกั การทางาน แบบสวิตชอ์ ย่หู ลงั มอเตอร์ 1. ตาแหน่ง LO หรือ +1 ไฟจากแบตเตอร่ผี ่านขวั้ B สวติ ช์จุดระเบิดออกขวั้ ACC ผ่านฟิวส์เข้าขวั้ B ของมอเตอร์ ออกขวั้ LO หรอื +1 เขา้ สวติ ชป์ ัดน้าฝนผา่ นขวั้ LO ผ่านสวติ ชล์ งกราวด์ ตาแหน่งน้มี อเตอรห์ มนุ ชา้ ปัดน้าฝนปัดชา้ 2. ตาแหน่ง HI หรือ +2 ไฟเขา้ ขวั้ B ของมอเตอร์ ผ่านออกขวั้ HI หรือ +2 เขา้ ขวั้ HI ของสวติ ช์ และต่อลงกราวด์ ตาแหน่งน้ไี ฟเขา้ เตม็ เฟส มอเตอรห์ มนุ เรว็ ปัดน้าฝนปัดเรว็ 3. ตาแหน่งหยุดขวั้ Sจะต่อกับขวั้ LOลงกราวด์ท่ีสวิตช์หน้าแปลนของมอเตอร์ มอเตอร์จะหมุนไปอีกระยะหน่ึงจนก้านปัดน้าฝน ถงึ ตาแหน่งหยุด สวติ ชห์ น้าแปลนจะตดั ขวั้ S ไมใ่ ห้สมั ผสั ลงกราวด์ มอเตอรป์ ัดน้าฝนจะหยุดหมุน ปัดน้าฝนจะหยุดทางาน ทต่ี าแหน่งปัดใบปัด

วงจรปัดน้าฝน แบบสวิตชอ์ ย่หู น้ามอเตอรป์ ัดน้าฝน วงจรปัดน้าฝนแบบมตี าแหน่งปัดเป็นช่วงๆ วงจรปัดน้าฝนแบบธรรมดา

1. ตาแหน่งปัดช้า กระแสไฟจากแบตเตอรไ่ี หลผ่านสวติ ช์จุดระเบดิ ขวั้ B ออก IG ผ่านฟิวส์ เขา้ สวติ ช์ปัดน้าฝนขวั้ B ออกขวั้ +1 เขา้ มอเตอรป์ ัดน้าฝนผา่ นลงกราวด์ มอเตอรห์ มนุ ชา้ ปัดน้าฝนปัดชา้ 2. ตาแหน่งปัดเรว็ กระแสไฟฟ้าจากขวั้ แบตเตอรไ่ี หลผา่ นสวติ ชจ์ ดุ ระเบดิ ขวั้ B ออก IG ผา่ นฟิวส์เขา้ สวติ ชป์ ัดน้าฝนขวั้ B ออกขวั้ +2 เขา้ มอเตอรป์ ัดน้าฝนผา่ นลงกราวด์ มอเตอรห์ มนุ เรว็ ปัดน้าฝนปัดเรว็ 3. ตาแหน่งหยุด ในตาแหน่ง “OFF” สวติ ช์ปัดน้าฝนขวั้ S ต่อกบั ขวั้ +1 หน้าแปลน L ต่อกบั ขวั้ S ไฟไหลผ่านขวั้ S ผา่ นขวั้ +1 เขา้ มอเตอรล์ งกราวด์ มอเตอรจ์ ะหมนุ จนกระทงั่ กา้ นปัดน้าฝนมาถงึ ตาแหน่งหยดุ หน้าแปลน L ถกู ตดั ออกจากขวั้ S มอเตอรจ์ ะหยุดหมนุ 4. ตาแหน่งปัดเป็ นช่วง คือ ตาแหน่ง “INT” มอเตอร์ปัดน้าฝนจะทางานช่วงเวลาหน่ึงแล้วหยุดทางานเป็นช่วงๆ ตลอดเวลา โดยการควบคุมของรเี ลยค์ วบคุมเวลา 5. ตาแหน่ง “MIST” คือ ตาแหน่งท่ีกดปัดแล้วสปรงิ จะดนั ให้สวติ ช์ปัดน้าฝนกลบั มาในตาแหน่งปิดเอง ใช้ในกรณี ทต่ี อ้ งการปัดครงั้ เดยี วแลว้ หยุดเอง 6. ตาแหน่งฉีดน้าล้างกระจก กระแสไฟจากขวั้ IG ฟิวสผ์ ่านมอเตอรฉ์ ดี น้า ผา่ นขวั้ W ทส่ี วติ ชป์ ัดน้าฝน ในตาแหน่งฉีด น้า ขวั้ W ต่อกบั E กระแสไฟไหลผา่ นขวั้ E ลงกราวด์ ทาใหก้ ระแสไฟครบวงจร มอเตอร์ฉดี น้าหมุนขบั ปัม๊ น้าซง่ึ ตดิ อย่กู บั ตวั มอเตอรใ์ หป้ ัม๊ น้าจากถงั เกบ็ น้าขน้ึ ไปหวั ฉดี ลา้ งกระจก

ส่วนประกอบของชดุ ปัดน้าฝนและฉีดน้าล้างกระจก 1. มอเตอร์ปัดน้าฝน ทาหน้าท่ีหมุนปัดน้าฝน โดยทัว่ ไปจะหมุนเป็ นวงกลม 2 ความเร็ว คือ ความเร็วต่า และความเร็วสูง บรเิ วณหน้าแปลนประกอบดว้ ยอุปกรณ์ควบคุมการเกบ็ ใบปัด น้าฝนให้กลบั มาในตาแหน่งเดมิ ไมว่ ่าจะปิดสวติ ช์ปัดน้าฝน ทต่ี าแหน่งใดกต็ ามเป็นการช่วยป้องกนั ไมใ่ หใ้ บปัดน้าฝนคา้ งเมอ่ื ปิดสวติ ช์ มอเตอรป์ ัดน้าฝน ส่วนประกอบของมอเตอรป์ ัดน้าฝน

แสดงตาแหน่งสวิตชป์ ัดน้าฝน 2. สวิตชป์ ัดน้าฝน ทาหน้าทค่ี วบคุมการทางานของระบบปัดน้าฝนในตาแหน่งปัดชา้ ปัดเรว็ เป็นช่วงๆ ปัดแลว้ หยุดเอง เกบ็ ใบปัด และฉดี น้าลา้ งกระจก ตามวงจรจากรปู ท่ี 5.7 ดงั น้คี อื 2.1 ตาแหน่งปิด (OFF) ในตาแหน่ง “OFF” สวติ ชป์ ัดน้าฝนขวั้ S ต่อกบั ขวั้ +1 หน้าแปลน L ต่อกบั ขวั้ S ไฟไหลผ่าน ขวั้ S ผ่านขวั้ +1 เขา้ มอเตอรล์ งกราวด์ มอเตอร์จะหมุนจนกระทงั่ กา้ นปัดน้าฝนมาถงึ ตาแหน่งหยุดหน้าแปลน L ถูกตดั ออก จากขวั้ S มอเตอรจ์ ะหยดุ หมนุ

2.2 ตาแหน่งปัดเป็นช่วงๆ (INT) ตาแหน่ง “INT” มอเตอร์ปัดน้าฝนจะทางานช่วงเวลาหน่ึงแลว้ หยุดทางานเป็นช่วงๆ ตลอดเวลา โดยการควบคมุ ของรเี ลยค์ วบคมุ เวลา 2.3 ตาแหน่งปัดช้า (LOW) กระแสไฟจากแบตเตอรไ่ี หลผ่านสวติ ช์จุดระเบดิ ขวั้ B ออก IG ผ่านฟิวส์ เขา้ สวติ ช์ปัด น้าฝนขวั้ B ออกขวั้ +1 เขา้ มอเตอรป์ ัดน้าฝนผา่ นลงกราวด์ มอเตอรห์ มนุ ชา้ ปัดน้าฝนปัดชา้ 2.4 ตาแหน่งปัดเร็ว (HIGH) ขวั้ B ต่อกบั +2 กระแสไฟฟ้าจากขวั้ แบตเตอร่ไี หลผ่านสวติ ชจ์ ุดระเบดิ ขวั้ B ออก IG ผ่านฟิวสเ์ ขา้ สวติ ชป์ ัดน้าฝนขวั้ B ออกขวั้ +2 เขา้ มอเตอรป์ ัดน้าฝนผา่ นลงกราวด์ มอเตอรห์ มนุ เรว็ ปัดน้าฝนปัดเรว็ 2.5 ตาแหน่งฉีดน้า (WASH) ขวั้ W ต่อกบั E กระแสไฟจากขวั้ IG ฟิวส์ผ่านมอเตอร์ฉีดน้า ผ่านขวั้ W ท่สี วติ ช์ปัด น้าฝน ในตาแหน่งฉดี น้า ขวั้ W ต่อกบั E กระแสไฟไหลผ่านขวั้ E ลงกราวด์ ทาใหก้ ระแสไฟครบวงจร มอเตอร์ฉีดน้าหมนุ ขบั ปัม๊ น้าซง่ึ ตดิ อยกู่ บั ตวั มอเตอรใ์ หป้ ัม๊ น้าจากถงั เกบ็ น้าขน้ึ ไปหวั ฉดี ลา้ งกระจก

3. มอเตอรฉ์ ีดน้าลา้ งกระจก ประกอบดว้ ยมอเตอร์ขบั และปัม๊ น้า ทาหน้าทป่ี ัม๊ น้าจากถงั เกบ็ น้าไปยงั หวั ฉดี เพ่อื ฉดี ลา้ ง สงิ่ สกปรกออกจากกระจกหน้าและหลงั โดยใชค้ วบค่กู บั ปัดน้าฝน โดยมอเตอรแ์ ละปัม๊ น้าจะตดิ ตงั้ อย่บู รเิ วณดา้ นล่างของถงั เกบ็ น้า ตาแหน่งมอเตอรฉ์ ีดล้างกระจกหน้าและหลงั การตรวจสอบวงจรปัดน้าฝน 1. ตรวจสอบฟิวส์ (ดว้ ยตา) 2. ตรวจสายไฟและขวั้ ต่อ (ดว้ ยตา) 3. ตรวจไฟผ่านฟิวส์ 4. ตรวจการลงกราวด์ 5. ทดสอบการทางานของมอเตอรป์ ัดน้าฝน 6. ตรวจการทางานของสวติ ชค์ วบคุม 7. ตรวจการทางานของสวติ ชต์ าแหน่งเกบ็ ใบปัด

การตรวจสอบระบบปัดน้าฝน การตรวจสอบตาแหน่งเกบ็ ใบปัด

ระบบท่ีจดุ บหุ รี่ หน้าท่ี อานวยความสะดวกในการจุดบุหรภ่ี ายในรถยนต์ ส่วนประกอบและวงจรท่ีจดุ บหุ ร่ี หลกั การทางาน กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรไ่ี หลผ่านฟิวส์เขา้ ทจ่ี ุดบุหร่ี เมอ่ื กดทจ่ี ุดบุหรก่ี ระแสไฟจะไหลผ่านขดลวดความรอ้ นของทจ่ี ุด บหุ รล่ี งกราวด์ ขดลวดจะเกดิ ความรอ้ นจนรอ้ นแดง ในขณะเดยี วกนั เบา้ ของทจ่ี ุดบุหรซ่ี ง่ึ ถูกกดลอ็ กตวั อย่จู ะขยายตวั และดนั ท่ี จดุ บหุ รใ่ี หเ้ ดง้ ออกมาในตาแหน่งเดมิ และสามารถนาไปใชง้ านได้

ระบบวิทยรุ ถยนต์ หน้าท่ี ช่วยผอ่ นคลายความเครยี ดในขณะขบั ขร่ี ถยนตโ์ ดยการฟังเพลง หรอื ขา่ วสารต่างๆ จากวทิ ยรุ ถยนต์ ส่วนประกอบระบบวิทยรุ ถยนต์ วงจรวิทยรุ ถยนต์ หลกั การทางาน กระแสไฟสวติ ชจ์ ดุ ระเบดิ ขวั้ ACC ไหลผ่านฟิวสภ์ ายในเขา้ วทิ ยุ เมอ่ื เปิดวทิ ยุ กระแสไฟจะไหลผ่านวงจรวทิ ยุลงกราวด์ วงจรวทิ ยุจะทางาน และเมอ่ื หมนุ ป่มุ “TUNER” ปรบั คลน่ื เครอ่ื งรบั ตรงกบั เครอ่ื งส่งจากสถานีสง่ เสาอากาศจะรบั คล่นื วทิ ยุผ่าน เขา้ มาทต่ี วั วทิ ยุ วทิ ยุจะทาหน้าทแ่ี ปลงคลน่ื วทิ ยุเป็นคลน่ื ไฟฟ้าส่งไปตามสายลาโพงเขา้ ลาโพงทข่ี วั้ บวก ผ่านลาโพงออกขวั้ ลบ และกลบั มาลงกราวด์ท่ตี วั วิทยุ ลาโพงจะทาให้ท่แี ปลงคล่นื ไฟฟ้าเป็นคล่นื เสียง โดยการสนั่ สะเทอื นของแผ่น ไดอะแฟรม ทต่ี วั ลาโพง โดยทวั่ ไปวทิ ยจุ ะนิยมใชล้ าโพงอย่างน้อย 2 ตวั ขน้ึ ไป

ส่วนประกอบ 1. วิทยุ ทาหน้าทเ่ี ปลย่ี นคลน่ื วทิ ยจุ ากสถานสี ่งใหเ้ ป็นคลน่ื ไฟฟ้าส่งไปยงั ลาโพง เพอ่ื แปลงเป็นคลน่ื เสยี งอกี ครงั้ หน่งึ ทต่ี วั วทิ ยปุ ระกอบดว้ ยป่มุ ควบคมุ หลกั ทส่ี าคญั ดงั น้ี ส่วนประกอบวิทยุ 1.1 ป่มุ ปิด-เปิด (ON-OFF) และป่มุ เร่ง-ผ่อนเสยี ง (VOL) ทาหน้าทต่ี ดั ต่อวงจรไฟฟ้าเขา้ ตวั วทิ ยุ และเร่ง-ผ่อนเสยี ง ในป่มุ เดยี วกนั 1.2 ป่มุ ปรบั เสยี งทมุ้ -แหลม (TONE) ทาหน้าทป่ี รบั เสยี งวทิ ยใุ หท้ มุ้ หรอื แหลมตามความเหมาะสม 1.3 ป่มุ ปรบั ความสมดลุ ของลาโพงซา้ ย-ขวา หน้า-หลงั (BAL) ทาหน้าทป่ี รบั เสยี งลาโพงใหส้ มดุลกนั 1.4 ป่มุ ปรบั คลน่ื (TUNER) ทาหน้าทป่ี รบั คลน่ื ของเครอ่ื งรบั วทิ ยุใหต้ รงกบั คลน่ื ของสถานสี ง่ ทต่ี อ้ งการรบั ฟัง 1.5 ป่มุ เปลย่ี นหน้าเล่นเทป (CH) ทาหน้าทเ่ี ปลย่ี นหน้าเลน่ เทปเมอ่ื ตอ้ งการฟังเทปอกี หน้าหน่งึ 1.6 ป่มุ กดเอาเทปออก (EJECT) ทาหน้าทก่ี ดเมอ่ื ตอ้ งการเอาเทปออกจากซอง 1.7 ป่มุ AM, FM ทาหน้าทก่ี ดเมอ่ื ตอ้ งการรบั ฟังคลน่ื วทิ ยจุ ากสถานสี ง่ AM หรอื FM 1.8 ป่มุ เลอื กเลน่ เทปโลหะ (METAL) ทาหน้าทก่ี ดเมอ่ื ตอ้ งการเล่นเทปโลหะ ถา้ เลน่ เทปธรรมดากไ็ มต่ อ้ งกดป่มุ น้ี

2. ลาโพง ทาหน้าทเ่ี ปลย่ี นคลน่ื ไฟฟ้าทส่ี ง่ มาจากวทิ ยเุ ป็นชว่ งๆ ใหเ้ กดิ การสนั่ สะเทอื นของแผน่ ไดอะแฟรมและทาใหเ้ กดิ เสยี งดงั ตามจงั หวะการสนั่ สะเทอื น ขนาดของลาโพงใชห้ น่วยวดั เป็นวตั ต์ ส่วนประกอบชดุ ลาโพง วทิ ยุรถยนต์ในปัจจุบนั นิยมใช้ลาโพงด้านหน้า 2 ตัว ด้านหลงั 2 ตวั ส่วนขนาดลาโพงท่ใี ช้ข้นึ อยู่กบั การออกแบบ ของบรษิ ทั ผผู้ ลติ โดยตอ้ งศกึ ษาจากค่มู อื การใชเ้ ฉพาะรนุ่ นนั้ ๆ

3. รีเลย์ ทาหน้าท่ีลดปริมาณไฟเข้าสวิตช์ปิด-เปิดวิทยุ ภายในรีเลย์ประกอบด้วย ชุดขดลวดสนามแม่เหล็กและชุดหน้าทองขาว โดยกระแสไฟจะครบวงจรท่ีชุดขดลวดสนามแม่เหล็ก ทาให้เกิดอานาจแม่เหล็กดูดหน้าทองขาวแตะกัน ให้กระแสไฟจาก B ฟิ วส์ ไหลผ่านเขา้ ในวงจรวทิ ยุ รเี ลยค์ วบคมุ

4. เสาอากาศ ทาหน้าทร่ี บั คล่นื วทิ ยุจากสถานี ผ่านเขา้ วงจรภายในตวั วทิ ยุ ตวั เสาอากาศทาดว้ ยโลหะทไ่ี ม่เป็นสนิม และมีความไวต่อการรับคล่ืน ปัจจุบันนิยมใช้ยืดหดได้ตามความต้องการ โดยการควบคุมด้วยมือหรือมอเตอร์ไฟฟ้ า ตัวเสาอากาศ จะต่อเข้าหาตัววิทยุด้วยสายอากาศ คล่ืนวิทยุจากสถานีส่งจะถูกส่งผ่านเสาอากาศ ผ่านสายอากาศเข้ามายังตัววิทยุ การใช้วิทยุ หรอื การตรวจซ่อมควรศกึ ษาจากคมู่ อื แต่ละรุ่นแต่ละยห่ี อ้ ของวทิ ยุ เสาอากาศ

ระบบพดั ลมระบายความรอ้ น พดั ลมไฟฟ้า หน้าที่ ระบายความรอ้ นทห่ี มอ้ น้ารถยนต์ ทาใหอ้ ุณหภมู ขิ องเครอ่ื งยนต์ไมร่ อ้ นเกนิ กวา่ ค่าทก่ี าหนด หลกั การทางาน เม่อื เปิดสวิตช์กุญแจตาแหน่ง “ON”กระแสไฟจากขวั้ IG จะไหลเขา้ ขวั้ (1) ท่ีรีเลย์เคร่ืองยนต์ ผ่านขดลวดรีเลย์ ออกขวั้ (3)ลงกราวด์ ทาใหร้ เี ลยเ์ คร่อื งยนต์ทางานขวั้ (5) ต่อกบั ขวั้ (4) กระแสไฟจากแบตเตอรจ่ี ะไหลผ่านขวั้ (5) และขวั้ (4) ของรเี ลย์เครอ่ื งยนต์ ไปยงั รเี ลยม์ อเตอรพ์ ดั ลมทข่ี วั้ (3) ออกขวั้ (4) เขา้ มอเตอรพ์ ดั ลมผ่านลงกราวด์ ไฟควบคุมส่วนหน่ึงจากขวั้ IG ไหลเขา้ ขวั้ (1) ผ่านขดลวดรีเลย์มอเตอร์พดั ลม ออกขวั้ (2) ผ่านสวิตช์อุณหภูมนิ ้าครบวงจรท่ีกราวด์ ทาให้รีเลย์มอเตอร์พัดลมทางาน ดึงให้ขวั้ (3) แยกออกจากขวั้ (4) มอเตอร์พดั ลมไมท่ างาน แต่เมอ่ื อุณหภูมเิ คร่อื งยนต์สูงกว่า 90oC สวติ ช์อุณหภมู นิ ้าจะตดั วงจรขดลวด รเี ลยม์ อเตอรพ์ ดั ลม ทาใหข้ วั้ (3) กลบั มาต่อกบั ขวั้ (4) มอเตอรพ์ ดั ลมจะทางาน วงจรพดั ลมระบายความรอ้ น

ส่วนประกอบ 1. รีเลย์ ทาหน้าทก่ี าหนดทศิ ทางการไหลของกระแสไฟและลดปรมิ าณไฟเขา้ สวติ ชอ์ ุณหภมู ิ ประกอบดว้ ย 1.1 รเี ลยช์ นิด 5 ขวั้ หลกั การทางานคลา้ ยกบั รเี ลย์ทวั่ ไปต่างกนั ทส่ี ามารถเลอื กใชง้ านได้ทงั้ 2 ตาแหน่ง คอื ถ้ารเี ลย์ ไมม่ ไี ฟเขา้ ขวั้ 4 จะต่อกบั 2 ถา้ มไี ฟเขา้ ขดลวดรเี ลย์ (1, 3) ขวั้ 4 จะต่อกบั 5 1.2 รเี ลยช์ นิด 4 ขา จะใชง้ านไดต้ าแหน่งเดยี วคอื เมอ่ื มไี ฟเขา้ ขดลวดรเี ลย์ (1, 2) ขวั้ 4 จะต่อกบั 3 รเี ลย์ 2. มอเตอร์พัดลม เป็ นมอเตอร์ขนาดเล็ก ใช้สาหรับหมุนใบพัดให้เกิดลมดูด ช่วยระบายความร้อนของน้าในหม้อน้ารถยนต์ หลกั การทางานเหมอื นกบั มอเตอร์ทวั่ ไปคอื เมอ่ื ปล่อยกระแสไฟเขา้ ขดลวดอาร์มาเจอร์และขดลวดฟิลด์คอยล์ จะทาให้เกดิ แรงผลกั ใหม้ อเตอรห์ มนุ ขบั ใบพดั ลม จะนยิ มตดิ ตงั้ อย่ใู กลก้ บั หมอ้ น้าระบายความรอ้ น มอเตอรพ์ ดั ลม

3. สวิตช์อุณหภูมิ เป็นสวิตช์แบบปกติปิด โดยจะต่อกระแสไฟลงกราวด์ เม่อื อุณหภูมิน้าต่า รีเลย์จะตัดวงจรไฟ ไมใ่ หม้ อเตอร์พดั ลมทางาน แต่เมอ่ื อุณหภูมนิ ้าในเคร่อื งยนต์สูง สวติ ชอ์ ุณหภูมจิ ะตดั วงจรขดลวดสนามแม่เหลก็ ทาให้รเี ลย์ ต่อวงจรไฟใหม้ อเตอรพ์ ดั ลมทางาน * ส่วนแบตเตอร่ี ฟิวส์ สวติ ช์กุญแจ ซ่งึ เป็นส่วนประกอบหลกั ของระบบอานวยความสะดวกได้กล่าว รายละเอยี ด ไวใ้ นหน่วยอน่ื แลว้ จงึ ไมไ่ ดน้ ามากล่าวในการเรยี นน้อี กี สวิตชอ์ ณุ หภมู ิ




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook