Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิราศฉลาง

นิราศฉลาง

Published by sommaipinsilp, 2021-10-01 03:08:56

Description: นิราศฉลาง

Keywords: นิราศฉลาง

Search

Read the Text Version

1 เสมยี นมี (หมืนพรหมสมพตั สร)

2 นิราศฉลาง เสมยี นมี (หมนื พรหมสมพัตสร) . นายมี หรอื หมืนพรหมสมพตั สร หรือ หลวงศภุ มาตรา ( มี ) ได้เขียนนิราศเมืองถลาง ไวเ้ มอื ประมาณพ.ศ. ๒๓๗๖ – ๒๓๗๗ (สมหมาย ปิ นพุทธศลิ ป์ คน้ ได้วา่ น่าจะแต่ง พ.ศ.2382 ) นริ าศทเี ขาได้แตง่ คอื นิราศถลาง นิราศพระแทน่ ดงรัง นิราศเดอื น และนิราศสุพรรณ (สมบรู ณ์ เแกน่ ตะเคียน https://phuketcity.info/ default.asp?content=contentdetail&id=17292) นิราศถลางไดก้ ลา่ วถงึ การเดนิ ทางตังแต่กรุงเทพฯถงึ เมอื งถลาง วา่ เขาไดล้ งเรือสาํ เภา ทที า่ นาํ วัดโพธิ เรอื ออกจากปากนาํ สมุทรปราการ แล้วใช้ใบแล่นเลียบฝังผ่านบา้ น แหลม – โตนดหลวง เพชรบุรี –สามรอ้ ยยอด – บางสะพาน ประจวบคีรีขนั ธ์ –

3 ปากนาํ ชุมพร – หลังสวน – ถงึ ไชยา อา่ วบ้านดอน – แล้วเข้าแม่นาํ ตาปี เปลยี นเป็ น เรือพาย – ทา่ ข้าม – พมุ เรยี ง – พุนพนิ – ถงึ บ้านพระแสง จนถึงปากพนม แล้วเดนิ บก โดยเชา่ ช้างเป็ นพาหนะ ผ่านเขาพนม จนถงึ เขานางหงส์ ถงึ เมืองฉลาง (สมบูรณ์ เแกน่ ตะเคียน https:// phuketcity.info/default.asp?content=contentdetail&id=1729) นายมี ถอื กาํ เนิดเมือพ.ศ. ๒๓๕๘ ทจี ังหวดั ชัยนาท แลว้ เดนิ ทางเข้ากรุงเทพฯ บวชเณร ทวี ดั พระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม หรือวดั โพธิ เมอื อายุประมาณ ๑๐ – ๑๒ ปี จนไดเ้ ป็ น ศษิ ยข์ องสุนทรภู่ “...ฉันเป็ นศษิ ยส์ ุนทรยงั ออ่ นศักด.ิ ..” จนอายุประมาณ ๑๘ – ๑๙ ปี ไดต้ ดิ ตามผูใ้ หญ่ไปเมอื งถลาง ในขณะทยี งั บวชเณร “...อยากใคร่บวชถือศลี พระชนิ สีห์ แต่อายุยังไม่ครบประจบปี ...” หลงั จากบวชพระสึกแลว้ เขา้ รับราชการเป็ น หมนื พรหมสมพัตสร นายอากรเดนิ สวน เมอื งสุพรรณบุรี แล้วย้ายไปรับราชการทีเมอื ง ชยั นาทในตาํ แหน่ง หลวงศภุ มาตรา(มี) จนถงึ แก่กรรมเมือประมาณพ.ศ. ๒๔๑๓ (สมบูรณ์ เแก่นตะเคยี น https://phuketcity.info/default.asp? content=contentdetail&id=17292) . ๏ จะราํ ปางทางไกลไปถลาง เพราะกองกรรมจาํ คลาดนิราศนาง ทเุ รศร้างรสรักหนักอุรา เมอื วนั ลงเรอื ใหญ่หัวใจหาย แสนเสยี ดายมิงมติ รขนิษฐา ชลนัยนไ์ หลหลังดังธารา พกี ม้ หน้าครวญครางมากลางเรือ

4 แลว้ เหลยี วแลดเู มอื งเรืองระหง ของพระองคแ์ สนสุขสนุกเหลือ บรบิ ูรณพ์ นู เกิดทงั ข้าวเกลือ กเ็ ออื เฟื อยงิ กว่าทกุ ธานี พร้อมด้วยปรางปราสาทราชฐาน โอฬาฬารลําเลิศประเสรฐิ ศรี ดังวิมานเมอื งฟ้าสงา่ ดี ย่อมเป็ นทที ศั นามหาชน วดั พระแก้วมรกตกส็ ดใส งามวไิ ลเลิศฟ้าเวหาหน โอ้แต่นีทไี หนจะได้ยล จะเทยี วทนทกุ ขไ์ ปเสียไกลครัน ลาพระแกว้ แลว้ ลามหากษัตริย์ อันเป็ นฉัตรกรุงไกรไอศวรรย์ ใหพ้ ระองคอ์ ยูเ่ ยน็ ไม่เวน้ วัน กระหม่อมฉันจะไปภัยอยา่ มี ใหไ้ ด้กลับมารับขวญั ทฉี ันรัก อย่ารู้จกั หา่ งหากกระดากหนี ให้น้องน้อยคอยทา่ สักหา้ ปี ขอเดชะพระบารมีพระภวู นัย ครันเสรจ็ คาํ ราํ ฝากออกจากทา่ จนเวลารุง่ รางสว่างไสว ไดฤ้ กษง์ ามยามพฤหสั กาํ จัดภยั กล็ ่องไปจากทา่ หน้าวดั โพธิ

5 ถงึ ตลาดทอ้ งนาํ ระกาํ หวน พซี มซานซูบพกั ตรล์ งอกั โข ดว้ ยเป็ นหว่ งบว่ งใยนันใหญโ่ ต หวั อกโอ้เจยี นจะแยกออกแตกตาย ยงิ คิดไปใจคอให้หดหู่ ชาํ เลืองดแู ถวตลาดไม่ขาดขาย เหน็ พวกแพแมค่ ้านาวาพาย ออกเกยี กกายเยยี ดยดั อยอู่ ดั แอ โอ้ทนี ีเช้าเยน็ ไม่เหน็ ตลาด จะนริ าศแรมรา้ งไม่หา่ งแห เมอื ไรเลยจะไดม้ าเหน็ หน้าแพ จะเหน็ แต่คงคากบั ปลาวาฬ วติ กพลางทางมาถงึ สามปลืม มิได้ลมื รสรักสมคั รสมาน ยังปลมื ปลาบซาบใจอาลยั ลาน ถงึ ไปนานกไ็ มล่ มื แมป่ ลืมใจ ถงึ สาํ เพง็ เล็งแลแพตลาด ไม่เหน็ ยอดกัลยานิจจาเอ๋ย เหน็ คนอนื กไ็ มช่ ืนเหมอื นคนเคย พเี มินเฉยชมเหลา่ สาํ เภาราย โอส้ าํ เภาเหลา่ นีถงึ ปี เข้า บรรทกุ เอาสินค้าเขา้ มาขาย พเี คยซอื ของเลน่ ไม่เว้นวาย โอ้เสียดายทจี ะไปกับสาํ เภา ถงึ คอกควายทา้ ยบ้านละลานเหลยี ว ยิงลอยเลยี วลับเมอื งใหเ้ คืองหมอง จนพน้ หลกั ปักเขตสังเกตปอง นาวาล่องตามลาํ แมน่ ําไป

6 ถงึ สาํ เหรน่ กึ หวาดขยายผี ด้วยเป็ นทฆี ่าคนริมชลไหล ลว้ นป่ าเตยเคยแลดูแตไ่ กล พลางครรไลลอ่ งมาไม่ช้านาน กระทงั ถงึ ดาวคะนองริมคลองน้อย แม่คา้ ลอยขายของรอ้ งประสาน บ้างกห็ ยุดจดั ของทตี อ้ งการ น่าสงสารสาวสาวทชี าวบาง รูค้ ้าขายพายลอ่ งออกคลอ่ งแคลว่ เสยี งเจือยแจว้ ฝี ปากพูดถากถาง พเี มนิ เฉยเลยตรงถึงน้องนาง จนเรือหา่ งเหนิ มาในสาคร ถงึ วัดราชบูรณะระยะสวน เหน็ แต่ ล้วนมิงไมใ้ บสลอน บ้างคลีดอกออกชอ่ อรชร แมลงภูฟ่ อนเรณูดูกระจาย พเี พง่ พศิ คดิ ถงึ คะนึงน้อง ไปตามทอ้ งวังวนชลสาย เหน็ บา้ นชอ่ งสองฟากนันมากมาย สงั เกตหมายคุ้งคดกาํ หนดมา ถงึ บางผึงผึงลงทตี รงไหน พแี ลไปไมเ่ หน็ ผึงคะนงึ หา ถ้าเหน็ แลว้ จะทงึ หวั นาํ ผงึ มา ละลายยาแก้โรคทโี ศกใจ มาถงึ ดา่ นดา่ นเรียกใหเ้ รอื หยุด แลว้ รบี รุดมาในลาํ แม่นําไหล ต้องเดนิ อ้อมคอ้ มคดรนั ทดใจ มไิ ดไ้ ปทางลัดน่าขดั เคือง

7 ถงึ บางขมนิ พคี ะนงึ ถงึ ขมิน ทยี พุ นิ ขดั สฉี วเี หลือง สาํ อางเอียมเรียมพศิ เป็ นนิตยเ์ นือง งามประเทอื งทังกายไมห่ ายงาม ถงึ บางยอยอใครทไี หนหนอ ไดย้ นิ ยอแลว้ กจ็ ิตพคี ิดขาม คะนงึ ถงึ น้องหญิงใหก้ ริงความ กลัวจะตามลูกยอเขาปร๋อไป มาถงึ ช่องอินทรีทวโี ศก แสนวโิ ยคยลป่ าพฤกษาไสว สนิ ประเทศเขตสวนด่วนครรไล รันทดใจดังจะดินสนิ ชวี า ถงึ ศาลเจา้ พระประแดงแสยงเกล้า นกึ กลวั เจา้ พระประแดงหนักหนา บนศาลศรมี ีเศยี รของกุมภา แตพ่ นั ตาพนั วงั หวั ฝังดนิ พระประแดงแขง็ กล้าเจ้าข้าเอ๋ย ขอลาเลยลบั ไปดังใจถวลิ ช่วยป้องกนั กุมภาในวารนิ อยา่ ใหก้ นิ ชาวบา้ นชานบุรี มาตะบงึ ลุถงึ พระโขนง นําก็ลงเรอื กล็ ่องยงิ หมองศรี ดูพวกเพอื นทงั หลายสบายดี แต่ตัวพโี ศกศลั ยถ์ งึ ขวัญตา

8 ถงึ สาํ โรงเหน็ โรงเจ้าภาษี ไมเ่ หน็ มสี าํ โรงโกงนักหนา เหน็ แต่นกกานาํ ลงดาํ ปลา แลว้ พาโบกบนิ ไปกินรัง อนจิ จาปลาว่ายอยใู่ นนาํ นกยังดาํ กนิ ไดด้ งั ใจหวัง กเ็ พราะปลาวา่ ยไมร่ ะวงั จนพลาดพลังตวั ตายวายชวี า ถงึ นครเขอื นขนั ธต์ ะวนั บา่ ย ระกาํ กายตรึกตรองถงึ นอ้ งหญงิ เป็ นปื นใหญ่นกึ จะยนื ใหป้ ื นยงิ ปื นกน็ ิงพกี ็นังประทงั ตน ทศั นาธานีเหน็ พลิ ึก พวกขา้ ศึกเสยี วแสยงทุกแหง่ หน ถงึ ใครประจักหกั โหมโจมประจญ คงจะป่ นลงกบั ปื นไม่คืนมอื ป้อมปราการตอ่ กันเป็ นคันขอบ ชอ่ งปื นรอบเรยี บรอ้ ยน้อยไปหรอื พระญามอญกนิ เมืองยอ่ มเลืองลือ ประทานชอื ยศนามตามตระกลู พระทรงภพตบแต่งไว้แขง่ ขนั คอยป้องกนั ไพรนิ ไมส่ ินสูญ ทงั ชพี รมหมณไ์ พร่ฟ้าไมอ่ าดูร กเ็ พมิ พนู ผาสุกสนุกสบาย มาถงึ บางหวั เสือพเี หลอื พรัน ใหห้ วันหวันหวาดเสือรบิ เรอื หนี ไมห่ ยุดหยอ่ นจรมาในวารี ถงึ เจดยี ก์ ลางนําพอคาํ เย็น

9 พนี ังนบอภวิ าทพระธาตุบรรจุ ว่าสาธุชว่ ยดบั ระงบั เข็ญ ใหฉ้ ันว่างวญิ ญานาํ ตากระเดน็ อย่าใหเ้ ป็ นทกุ ขโ์ ศกมีโรคภยั ราํ พนั แลว้ แคลว้ คลาดลลี าศล่อง มาตามทอ้ งคงคาชลาไหล เหน็ เมืองสมุทรปราการอันชาญชัย พระภูวไนยสร้างสรรไว้ มันคง ดสู งา่ หนาแน่นแสนสาหสั เหน็ ถนัดหอคอยลอยระหง มเี ชงิ เทนิ เดนิ พลรณรงค์ กาํ แพงวงป้อมคูดพู ลิ ึก มปี ื นใหญใ่ ส่ประจาํ ไวท้ กุ ชอ่ ง จะคอยปองลา้ งผลาญสงั หารศกึ ถงึ เมอื งไหนจะราญทาํ หาญฮกึ มไิ ดน้ ึกพรันจิตสกั นิดเดยี ว ถูกแต่ปื นปากนาํ จะควาํ ซุด คงมว้ ยมุดเป็ นวงลงประเดียว ไม่ต้องรบยดื ยาวใหก้ ราวเกรยี ว พริบตาเดยี วกส็ ินไพรนิ ราญ ถงึ อกเต่าอา่ วสมุทรดสู ุดเนตร พระสรุ เิ ยศดวงดบั ลับพฤกษา กห็ ยุดจอดทอดสมอรอนาวา กนิ ขา้ วปลาสรรเสรจ็ สาํ เรจ็ การ พวกเพอื นฝูงมากหลายชายทังนัน พลั วันนังลุกสนุกสนาน บา้ งนันลอ้ มตาเฒ่าเล่านิทาน ต่างสาํ ราญสรวลเสเสยี งเฮฮา

10 ยงิ คดิ ไปใจหายไมว่ ายคดิ พระอาทติ ยแ์ จ้งจบพภิ พสวรรค์ กป็ ลุกเพอื นเตอื นตนื ขนึ พร้อมกนั พัลวนั เกะกะเอะอะอึง จงึ นายทา้ ยนายหัวตัวสันทดั ใหร้ บี จัดสายระยางสองข้างขงึ ถอนสมอช่อใบใส่รอกรึง พอลมตงึ ตดิ ใบกไ็ คลคลา ออกนาํ เขยี วเกลยี วคลนื ดูครืนครึก ทะเลลึกกว้างใหญ่ไกลหนักหนา ดูเบอื งซ้ายสายสมุดสุดสายตา ดเู บอื งขวาทวิ ไม้ราํ ไรราย เหน็ เมฆใกล้เมฆกระป่ ุมกระปิ ม ตดิ กับรมิ ฟ้าเกลือนแล้วเคลนื หาย ชมทะเลเมฆาจนตาลาย ตะวันสายคลืนลมระดมดัง เหลียวเหน็ เกาะสีชงั นังพนิ จิ เฉลียวคิดถงึ นุชทสี ุดหวงั ให้นกึ กลัวน้องหญิงจะชงิ ชงั ถา้ เป็ นดังชือเกาะแล้วเคราะหก์ รรม เหน็ สมมุกขอใหส้ มอารมณม์ าด ขอเชญิ ไทธิราชชว่ ยอุปถัมภ์ ถงึ คนอืนขนื แค่นสกั แสนคาํ อยา่ ใหน้ าํ ใจน้องเป็ นสองใจ ราํ พนั พลางเรอื แล่นแสนสาหัส พระพายพดั คลืนคลอนสะทอ้ นไหว เรือกระโดดคลืนดงั ปึ งปังไป จนเพลาใบตนี ําน่าราํ คาญ

11 ถงึ บ้านแหลมแหลมจริงตลิงเอ๋ย ขอลาเลยแหลมไปไกลสถาน กวา่ จะได้กลับมากช็ า้ นาน แสนราํ คาญคดิ ไปใจระบม ถงึ บางแก้วโอ้วา่ แก้วของพเี อ๋ย จะลอยเลยลบั เนตรของเชษฐา มไิ ดก้ กกอดแกว้ พแี ล้วนา เป็ นเวลากรรมมากทจี ากไกล มาตะบงึ ลุถงึ ตระโหนดหลวง กแ็ ลน่ ลว่ งเลยลดั ตดั สถาน ไมร่ อรามาตะบงึ จนถงึ ปราณ เหน็ เรือนบา้ นมากมายชายทะเล ครันถงึ สามร้อยยอดกท็ อดอยู่ พีนังดูหาดทรายชายสงิ ขร มบี า้ นตังฝังฝารมิ สาคร ดูซับซ้อนแสนสุขสนุกสบาย พวกชาวบา้ นแถวนีไมม่ ีโง่ ปลกู แตงโมรมิ ไร่เอาไวข้ าย ข้างหลังบา้ นนันมีคีรีราย ศลิ าลายแลเลอื มชะเงอื มเงา สามร้อยยอดยอดอะไรไม่ประจักษ์ หรอื ยอดรักเรยี มอย่บู นภเู ขา มองเขมน้ ไม่เหน็ ยอดรกั เรา เหน็ ภเู ขายอดเยียมเทยี มอมั พร

12 ฟังเสยี งนกในเกาะเสนาะกอ้ ง เรไรร้องหริงหริงบนสิงขร สุริยาลงลับยุคนธร พระจนั ทรจรแจ่มฟ้าดาราราย นาํ ค้างพรมลมพดั เยน็ ระยอ่ ถอนสมอแล่นไปดังใจหมาย เหน็ นาํ เคม็ พราวพร่างกระจา่ งพราย ดงั แก้วปรายโปรยปราดสาดระแนง ถงึ ม่องไลม่ องแลชะแงห้ า เหน็ ภูผาแตไ่ กลใหญ่มหนั ต์ ชอื ม่องไล่ไล่ใครทไี หนทนั จังสาปสรงชือเกาะไวเ้ หมาะใจ ทะเลนีมคี ณามัจฉาชาติ ปลาวาฬแกลบวา่ ยกลาดลลี าศล่อง บา้ งอมชลพ่นฟุ้งเป็ นฝอยฟอง ตะเพยี นทองโดดดินกนิ สนิ ธู ฝูงฉลากเรรวนเขา้ กวนเพอื น ราหเู ลือนลอยหาพวกราหู ฝูงฉลามตามพวกฉลามพรู บา้ งขนึ พูฟ่ องพลกิ กระดกิ กระโดง บ้างกนิ ปลาเล็กปลาน้อยลอยขยอก ดเู กลือนกลอกกลบั หางเสยี งผางโผง ปลาโลมาพาเพอื นขึนเกลอื นโคลง ดโู ป้งโล้งเล่นคลืนตัวลนื ลาม ปลาโลมาใจดไี มม่ ีดุ มุทะลุหนักหนาปลาฉลาม เหน็ เรอื แลน่ แตไ่ กลมนั วา่ ยตาม พนี ึกคร้ามนังภาวนาไป

13 ถงึ เกาะเศยี รปลาวาฬดาลเทวศ ชาํ เรืองเนตรชมชะงอ่ นก้อนสงิ ขร ดชู ่างเหมือนปลาวาฬ ตระหงา่ นงอน ใครตดั รอนทงิ ขวางเสยี บางไร เหน็ แต่หวั ตวั หายมไิ ดเ้ หน็ ดกู เ็ ชน่ เรยี มหมองไม่ผ่องใส ไมเ่ หน็ ตัวแกว้ ตาด้วยมาไกล เหน็ แต่ใบกับเรือเหลือราํ คาญ แล่นเฉลียงเฉียงทศิ ตะวันตก ราวกบั นกบนิ เตร่บนเวหา ชมละเมาะเกาะแกง่ ทกุ แหง่ มา ไมร่ อรารบี รัดตัดตาํ บล ถงึ เกาะแก่งราํ พงึ ตะลึงคดิ นิงพนิ ิจแนวทางมากลางหน พรี าํ พงึ ถงึ น้องหมองกมล จนเลยพน้ แมร่ าํ พงึ ตะบงึ มา กระทงั ถงึ บางสะพานสถานที มที องแตโ่ บราณนานหนักหนา บงั เกดิ กบั กายสทิ ธิอิศรา ไมม่ รี าคแี กมแอร่มเรอื ง เนอื กษัตรยิ ช์ ัดแทไ้ มแ่ ปรธาตุ ธรรมชาตสิ ุกใสวไิ ลเหลือง ชาตปิ ะหงั หงุ ขาดบาทละเฟื อง ถงึ รุ่งเรอื งกย็ ังเบาเยาราคา บางตะพานผุดผ่องไม่ต้องหงุ ราคาสงู สมสดี หี นักหนา พอี ยากไดเ้ นือทองใหน้ ้องทา แตว่ าสนายังไม่เทยี มต้องเจยี มใจ

14 ราํ พรรณพรางเรอื เรือยมาเฉือยฉวิ ถงึ ประทวิ ทัศนาพฤกษาไสว เป็ นทวิ ทวิ รวิ รวิ อย่ไู รไร พแี ลไปเป็ นสถานทบี า้ นคน เป็ นเมืองรมิ วารีกะจรี ดิ นังพนิ ิจแล้วกห็ า่ งมากลางหน ใหว้ า้ เหว่วิญญาในสาชล ถงึ บางสนแสนโศกวโิ ยคนัก โอ้บางสนตน้ สนประจาํ อยู่ จงึ ไดร้ ู้เรยี กนามความประจกั ษ์ แต่ตัวเรามิได้อยปู่ ระจาํ รัก มาไกลพกั ตรน์ ุชนาฏอนาถใจ ถงึ ปากนาํ ชุมพรพระนครน้อย เขาเคยคอยจับพม่าเข้ามาถวาย ทรี มิ เมืองมเี กาะละเมาะราย เป็ นหาดทรายทัวปลอดตลอดไป เหน็ เจดยี ม์ ีอยบู่ นจอมเกาะ ดงู ามเหมาะเสาหงสธ์ งไสว พชี บี อกนายทา้ ยบ่ายเขา้ ไป แวะขึนไปพระเจดยี ด์ ้วยปรีดา แล้วลดเลียวเทยี วเลน่ บนจอมเขา ชมลาํ เนาตามเกาะละเมาะผา แลสลับซบั ซ้อนก้อนศิลา ดูกน็ ่าเพลดิ เพลนิ เนนิ ครี ี เวลาคาํ นาํ ขนึ เป็ นคลืนตว่ ม นาํ กท็ ว่ มถงึ ตนี ครี ศี รี ชมไมท่ ัวภผู าเขา้ ราตรี ลาเจดยี ล์ งเรอื เหลอื เสยี ดาย

15 ถอนสมอช่อใบขึนใส่รอก แล้วแล่นออกไปในวนชลสาย กระจ่างแจง้ แสงจนั ทรพรรณราย ดาวกระจายแจ่มฟ้านภาลัย เหน็ ดาวฤกษท์ งั ปวงขนึ ช่วงโชติ อร่ามโรจนเ์ รืองรองดูผอ่ งใส โอ้วา่ ดาวเอย๋ ดาวฉนั หนาวใจ ทาํ อย่างไรจงึ ไดอ้ ุ่นละมุนทรวง ถงึ หลังสวนสวนหลวงหรอื สวนราษฎร์ หลากประหลาดสวนมอี ยทู่ ไี หน ไม่เหน็ สวนเหน็ แตเ่ กาะละเมาะไพร ภูเขาใหญอ่ ยูข่ ้างขวารมิ สาคร ดูเวงิ วา้ งเพงิ ผาน่าสนุก มรี ม่ รุกขเ์ รียงรายชายสงิ ขร บา้ งคดงองามงอกขนึ ซอกซอน แอบชะงอ่ นอิงโกรกชะโงกบงั บนจอมเขาเหล่าไม้เลก็ ๆ งอก ฤดูดอกฤดูดีดงั สีสังข์ ทตี นี เขานาํ ตนื คลืนประดัง ไม่รอรังรีบมาจนช้านาน ถงึ ไชยาธานีบุรีสถาน เหน็ เมอื งบา้ นใหญ่โตสโมสร สะพรึบพร้อมไพร่ฟ้าประชากร สถาพรพนู สุขสนุกสบาย ตังตลาดสองแถวแนวถนน ล้วนผคู้ นองึ อือมาซอื ขาย เสยี งกระหนุงกระหนงิ ทงั หญิงชาย บ้างรอ้ งขายลกู พะเนยี งเถยี งกันองึ

16 บา้ งกข็ ายมะปลงิ มะปรางมะซางสด ทุเรียนรสชืนใจสิบใบสลึง ชมตลาดลานจติ คดิ ราํ พงึ นกึ คะนึงทศั นาแล้วคลาไคล สนิ ประเทศเขตทางกลางสมุทร ก็รบี รุดเขา้ ในลาํ แม่นาํ ไหล ถงึ บ้านดอนลมหมดกล็ ดใบ แจวขึนไปตามลาํ แม่นาํ ราย แมน่ าํ ใหญ่ยาวยดื จดื สนทิ พีวกั วดิ อาบกนิ กระสนิ ธุส์ าย เหน็ บ้านช่องสองฟากนันมากมาย เป็ นเมอื งใตจ้ ันตประเทศเขตนคร มเี รอื กสวนลว้ นเหล่ามะพร้าวมาก ทงั สองฟากซ้อนซบั สลับสลอน ตน้ ทเุ รยี นมงั คุดละมุดกะทอ้ น อรชรช่อผลระคนใบ เกตระกาํ อาํ พาจาํ ปาดะ ทงั สละกนิ เปรียวเคยี วไม่ไหว สะตอื สนพะเนยี งเคยี งกันไป มะเฟื องมะไฟพวงระย้าดนู า่ กนิ พชี มพลางทางพน้ ตาํ บลสวน นาวาด่วนมาในแควกระแสสินธุ์ โทมนัสทศั นาดวู ารนิ ระรืนกลนิ เสาวคนธุร์ มิ ชลธาร

17 ราํ พนั แล้วแจวหนักมาสักครู่ เหน็ ลาํ พรู ายรากเป็ นขวากแหลม ในทรวงพเี จบ็ มากเหมอื นขวากแซม ดว้ ยร้างแรมรสรักลลี าศมา ไมร่ ู้จักแห่งหนตาํ บลสถาน ยงิ ราํ คาญคิดหวนรัญจวนหา ขนึ เหนือนาํ ราํ พงึ ตะบงึ มา ไดส้ หี า้ ค้งุ คดิ กาํ หนดทาง พอถงึ ทา่ ทจี อดทอดประทบั ตะวนั ลบั เมรุไกรฤทยั หมาง พเี อนเอยี งแอบนอนลงตอนกลาง นายระวางพดู จาปรกึ ษากนั ว่าหนทางทจี ะไปยงั ไกลเหลอื ขนึ จากเรอื เดนิ ไปในไพรสัณฑ์ เอาเรอื ใหญไ่ ปยากลาํ บากครัน จะผ่อนผันคดิ หานาวาพาย ขนึ ไปอีกสามคืนนาํ ตนื ตดิ เราจะตดิ กลอกกลบั ขยบั ขยาย ขนึ ไปหาเจา้ บา้ นทา่ นเป็ นนาย ขอเรอื พายขอขีสักสีลาํ เอาเรอื ใหญไ่ ปเปลียนเขาไวด้ ้วย กเ็ หน็ ทเี ขาจะช่วยอุปถัมภ์ ครันปรึกษากนั เสรจ็ สาํ เร็จคาํ ขนึ จากลาํ เรอื มาหากาํ นัล กพ็ อสมนาํ จติ ทคี ิดหมาย ได้เรอื พายปรีเปรมเกษมสันต์ เอาเรือใหญน่ ันเปลียนเข้าไวพ้ ลนั แล้วชว่ ยกนั เกบ็ ของทตี ้องการ

18 บรรทุกลงเรอื น้อยขึนลอยลอ่ ง ไปตามทอ้ งสาคเรศประเทศสถาน ชว่ ยกันพายพยุ้ มาเป็ นช้านาน เสียงโหข่ านอึงมีทงั สลี าํ เหน็ เพอื นกันหรรษาเป็ นผาสกุ แต่ตวั พีเป็ นทุกขถ์ งึ งามขาํ ละหอ้ ยหวนครวญครางมากลางนํา พไิ รราํ เรอื ยมาในวารี ถงึ ท่าขา้ มนาํ วนเป็ นก้นกะทะ เหน็ สวะตดิ วนวารศี รี ชอื ทา่ ขา้ มใครจะข้ามกไ็ ม่มี ไมเ่ หน็ ทคี นขา้ มนึกครา้ มกลัว เหน็ ศาลเจา้ เขาสร้างไว้ข้างขวา หวั กุมภาพงิ ถวายไวห้ ลายหวั จรเข้เป็ นเหน็ ว่ายอยู่หลายตวั แลดทู วั ทา่ ข้ามกค็ ร้ามจรงิ จงึ พายพน้ วนวงั มาทังหมด คอยเลยี วลดเลียบพายชายตลิง มาประมาณสบิ คุ้งเหน็ ฝูงลงิ อยู่บนกงิ กุม้ นาํ ออกคลาํ ไป พเิ คราะหด์ สู ิงหส์ ตั วก์ อ็ ัศจรรย์ ชา่ งเหมอื นกนั กบั เราทเี ศรา้ ใจ (น่าจะชาํ รุดหายไป ๔ วรรค : สมหมาย ปิ นพุทธศลิ ป์ ) ไม่รู้สินโศกศลั ยร์ าํ พงึ ถงึ รีบตะบึงมาในลาํ แมน่ าํ ไหล เหน็ วัดรา้ งข้างซ้ายเมือพายไป มีพระใหญห่ น้าตักไดส้ ักวา

19 ไม่เหน็ มพี ระสงฆส์ ักองคห์ นึง แลตะลึงลานจติ พนิ จิ หา ดูรกนักหกั พงั เป็ นรงั กา อนิจจาวดั ร้างเหมือนอย่างเรา (น่าจะชาํ รุดหายไป ๔ วรรค : สมหมาย ปิ นพุทธศลิ ป์ ) ถงึ ปากนาํ ชุมพรพระนครน้อย เขาเคยคอยจับพม่าเข้ามาถวาย ทรี มิ เมืองมเี กาะละเมาะราย เป็ นหาดทรายทัวปลอดตลอดไป เหน็ เจดยี ม์ อี ยู่บนจอมเกาะ ดูงามเหมาะเสาหงสธ์ งไสว พชี บี อกนายทา้ ยบ่ายเขา้ ไป แวะขึนไปพระเจดยี ด์ ้วยปรดี า แล้วลดเลียวเทยี วเล่นบนจอมเขา ชมลําเนาตามเกาะละเมาะผา แลสลบั ซบั ซ้อนก้อนศิลา ดกู น็ ่าเพลิดเพลินเนินคีรี เวลาคาํ นาํ ขนึ เป็ นคลืนต่วม นาํ กท็ ว่ มถงึ ตีนคีรศี รี ชมไม่ทัวภผู าเข้าราตรี ลาเจดยี ล์ งเรือเหลอื เสยี ดาย ถอนสมอช่อใบขึนใสร่ อก แลว้ แล่นออกไปในวนชลสาย กระจ่างแจง้ แสงจันทรพรรณราย ดาวกระจายแจ่มฟ้านภาลัย

20 เหน็ ดาวฤกษท์ งั ปวงขนึ ช่วงโชติ อร่ามโรจนเ์ รอื งรองดผู อ่ งใส โอว้ ่าดาวเอ๋ยดาวฉนั หนาวใจ ทาํ อย่างไรจึงไดอ้ ุ่นละมุนทรวง ถงึ หลังสวนสวนหลวงหรือสวนราษฎร์ หลากประหลาดสวนมอี ย่ทู ไี หน ไมเ่ หน็ สวนเหน็ แต่เกาะละเมาะไพร ภเู ขาใหญ่อยขู่ า้ งขวาริมสาคร ดูเวงิ ว้างเพงิ ผานา่ สนุก มรี ม่ รุกขเ์ รียงรายชายสงิ ขร บ้างคดงองามงอกขนึ ซอกซอน แอบชะงอ่ นอิงโกรกชะโงกบัง บนจอมเขาเหล่าไม้เลก็ ๆ งอก ฤดูดอกฤดดู ีดงั สสี งั ข์ ทตี นี เขานาํ ตนื คลืนประดัง ไมร่ อรังรบี มาจนช้านาน ถงึ ไชยาธานีบุรสี ถาน เหน็ เมอื งบา้ นใหญ่โตสโมสร สะพรบึ พรอ้ มไพรฟ่ ้าประชากร สถาพรพูนสุขสนุกสบาย ตังตลาดสองแถวแนวถนน ล้วนผู้คนอึงอือมาซอื ขาย เสียงกระหนุงกระหนงิ ทงั หญงิ ชาย บา้ งรอ้ งขายลูกพะเนียงเถยี งกนั องึ บ้างกข็ ายมะปลงิ มะปรางมะซางสด ทุเรยี นรสชืนใจสบิ ใบสลงึ ชมตลาดลานจติ คดิ ราํ พงึ นกึ คะนึงทศั นาแล้วคลาไคล

21 สนิ ประเทศเขตทางกลางสมุทร กร็ บี รุดเขา้ ในลาํ แม่นาํ ไหล ถงึ บ้านดอนลมหมดกล็ ดใบ แจวขึนไปตามลาํ แม่นาํ ราย แม่นาํ ใหญ่ยาวยืดจดื สนทิ พีวกั วดิ อาบกนิ กระสนิ ธุส์ าย เหน็ บา้ นชอ่ งสองฟากนันมากมาย เป็ นเมอื งใตจ้ ันตประเทศเขตนคร มีเรอื กสวนลว้ นเหล่ามะพร้าวมาก ทงั สองฟากซ้อนซับสลบั สลอน ต้นทเุ รยี นมงั คุดละมุดกะทอ้ น อรชรช่อผลระคนใบ เกตระกาํ อาํ พาจาํ ปาดะ ทงั สละกนิ เปรียวเคยี วไม่ไหว สะตอื สนพะเนยี งเคยี งกันไป มะเฟื องมะไฟพวงระยา้ ดูน่ากนิ พชี มพลางทางพน้ ตาํ บลสวน นาวาด่วนมาในแควกระแสสินธุ์ โทมนัสทศั นาดวู าริน ระรืนกลนิ เสาวคนธุร์ ิมชลธาร ราํ พนั แลว้ แจวหนักมาสักครู่ เหน็ ลาํ พรู ายรากเป็ นขวากแหลม ในทรวงพเี จบ็ มากเหมอื นขวากแซม ดว้ ยร้างแรมรสรักลลี าศมา ไม่รูจ้ ักแห่งหนตาํ บลสถาน ยงิ ราํ คาญคดิ หวนรัญจวนหา ขนึ เหนือนาํ ราํ พงึ ตะบงึ มา ไดส้ หี า้ คุง้ คดิ กาํ หนดทาง

22 พอถงึ ทา่ ทจี อดทอดประทบั ตะวันลับเมรุไกรฤทยั หมาง พเี อนเอยี งแอบนอนลงตอนกลาง นายระวางพดู จาปรกึ ษากนั ว่าหนทางทจี ะไปยงั ไกลเหลือ ขนึ จากเรอื เดินไปในไพรสณั ฑ์ เอาเรอื ใหญ่ไปยากลาํ บากครัน จะผ่อนผันคิดหานาวาพาย ขนึ ไปอีกสามคนื นาํ ตนื ตดิ เราจะตดิ กลอกกลับขยบั ขยาย ขนึ ไปหาเจ้าบา้ นทา่ นเป็ นนาย ขอเรอื พายขอขีสกั สีลาํ เอาเรือใหญไ่ ปเปลียนเขาไว้ดว้ ย กเ็ หน็ ทเี ขาจะช่วยอุปถัมภ์ ครันปรกึ ษากันเสรจ็ สาํ เร็จคาํ ขนึ จากลาํ เรือมาหากาํ นัล กพ็ อสมนาํ จติ ทคี ิดหมาย ได้เรอื พายปรีเปรมเกษมสันต์ เอาเรือใหญ่นันเปลียนเข้าไวพ้ ลนั แล้วช่วยกนั เกบ็ ของทตี ้องการ บรรทกุ ลงเรอื น้อยขึนลอยลอ่ ง ไปตามทอ้ งสาคเรศประเทศสถาน ชว่ ยกันพายพยุ้ มาเป็ นช้านาน เสียงโหข่ านองึ มีทงั สลี าํ เหน็ เพอื นกันหรรษาเป็ นผาสกุ แตต่ ัวพีเป็ นทุกขถ์ งึ งามขาํ ละหอ้ ยหวนครวญครางมากลางนํา พไิ รราํ เรอื ยมาในวารี

23 ถงึ ท่าขา้ มนาํ วนเป็ นกน้ กะทะ เหน็ สวะตดิ วนวารศี รี ชอื ทา่ ข้ามใครจะข้ามกไ็ ม่มี ไม่เหน็ ทคี นขา้ มนึกคร้ามกลัว เหน็ ศาลเจ้าเขาสร้างไว้ขา้ งขวา หวั กุมภาพงิ ถวายไวห้ ลายหวั จระเข้เป็ นเหน็ ว่ายอยหู่ ลายตวั แลดทู ัวทา่ ข้ามกค็ ร้ามจริง จงึ พายพน้ วนวงั มาทังหมด คอยเลยี วลดเลยี บพายชายตลิง มาประมาณสบิ คุ้งเหน็ ฝูงลิง อยู่บนกงิ กุ้มนาํ ออกคลาํ ไป พเิ คราะหด์ สู งิ หส์ ัตวก์ อ็ ัศจรรย์ ชา่ งเหมือนกนั กบั เราทีเศรา้ ใจ ไม่รูส้ ินโศกศลั ยร์ าํ พงึ ถงึ รบี ตะบึงมาในลาํ แม่นาํ ไหล (อาจจะตกคาํ หรอื วรรคชาํ รุดหายไป ๔ วรรค : สมหมาย ปิ นพุทธศลิ ป์ ) เหน็ วดั รา้ งข้างซ้ายเมือพายไป มีพระใหญห่ น้าตักไดส้ ักวา ไมเ่ หน็ มพี ระสงฆส์ ักองคห์ นึง แลตะลงึ ลานจิตพนิ จิ หา ดรู กนักหกั พงั เป็ นรงั กา อนจิ จาวดั ร้างเหมือนอย่างเรา ได้สองวันมันหมายพายจนบอบ ถงึ นํารอบเขาเรยี กสาํ เนยี กบ้าน มวี ดั ใหญพ่ ระอยดู่ สู าํ ราญ โบสถว์ หิ ารมุงจากวัดยากจน

24 สาธุสะพระอยดู่ ูเคร่งครัด ปฏบิ ตั สิ ิกขาหากุศล เวลาคาํ ยาํ ระฆังยาํ สวดมนต์ อย่ทู บี นหอกลางหว่างกุฎี พหี ยดุ ฟังนังบ่นจนจบสวด อยากใคร่บวชถือศลี พระชนิ สหี ์ แตอ่ ายุยงั ไม่ครบประจบปี ตอ้ งรอรีรํารักหนักอุรา ราํ พนั พลางทางมาเวลาคาํ เรไรราํ เรอื ยร้องกอ้ งประสาน ดูสองฟากฝังฝาสุธาธาร ไมม่ ีบา้ นรกอยูด่ ูน่ากลัว มีแตป่ ่ ายางยูงสูงระหง เสยี งผโี ป่ งราํ รอ้ งสยองหวั ดแู ม่นาํ ลาํ ลกึ ใหน้ กึ กลัว ยงิ มืดมวั ยงิ มาในสาคร พอเดอื นขึนแจม่ ฟ้าดารารุ่ง ข้างแหลมคุ้งรีบรุดไม่หยุดหยอ่ น มาประมาณยามหนึงถงึ บางงอน กแ็ วะนอนเนินทรายชายปริมปรมิ ลมระเรอื ยเฉอื ยฉาํ ราํ เพยพดั นาํ ค้างหยัดหยดย้อยฝอยหยมิ หยมิ พคี ิดถงึ มุง้ แพรสีทบั ทมิ แมเ่ นือนมิ เคยกางใหเ้ รียมนอน พระจนั ทรส์ ่องต้องทรายทชี ายหาด เดยี รดาษแวววามงามไสว เหมือนหงิ หอ้ ยพลอยพรายกระจายไป ดสู ุกใสสจี ับกบั แสงจนั ทร์

25 ถงึ วัดถาํ ถาํ มเี ป็ นทสี นุก มรี ่มรุกขร์ มิ รายชายภผู า พแี วะขนึ ชมวัดทัศนา เข้าวนั ทาพุทธรูปจุดธูปปราย แล้วลดั วดั เวยี นไปเข้าในถาํ เงอื มชะงาํ นังแลชะแงห้ งาย เขาเขียนถาํ นาํ ยาทาระบาย วิไลลายทองทาบดูปลาบตา ทลี างแหง่ สดส่างบ้างกห็ มอง ดว้ ยเป็ นของแตโ่ บราณนานหนักหนา เขยี นเป็ นเรอื งชาดกยกออกมา ตามพระบาลีตังไวท้ งั ปวง พแี ลดรู ู้เรอื งแลว้ เยอื งยา่ ง มาตามทางลาํ เนาภเู ขาหลวง หอมบุษผาพาชนื ระรืนทรวง แลว้ เลยล่วงหลกี วัดลดั ลงเรอื บรรลุถงึ วัดฆอ้ งมองเขมน้ แลไม่เหน็ ฆ้องชัยฤทยั ถอน เหน็ แต่แถวแนวชลากับป่ าดอน กร็ บี ร้อนแรมไปดงั ใจปอง ถงึ นาํ ตนื ตอ้ งเยน็ เยน็ ยะเยอื ก น่ากลวั เงอื กตกลึกนกึ สยอง เพอื นเขาขนึ รมิ ตลิงวงิ คะนอง บา้ งโหร่ ้องรืนเริงบรรเทงิ ใจ บา้ งเกบ็ ผักหกั ฟื นมายนื สง่ บ้างโยนลงนาวาไม่ปราศรัย บา้ งกแ็ บกปื นผาพากันไป ทยี งิ ได้เนอื กวางมายา่ งแทง

26 แลว้ ชวนกันกนิ กลุ้มประชุมหน้า รินสุราดืมดังฟังแสยง ทเี มามายร้ายร้องคะนองแรง หนา้ ตาแดงลุกโลดกระโดดเรอื ไดว้ ันครึงมาถงึ บ้านพระแสง เป็ นเขตแขวงบ้านป่ าพนาสีห์ เขาวา่ เสอื ชุมนักมักราวี ดูสองฟากนทเี ป็ นป่ าดอน บรรลุถงึ ป่ าพนมพนาเวศ เป็ นประเทศชอื บ้านเขาขานไข กส็ นิ ทางคงคาชลาลยั จะขึนไปเดนิ ป่ าพนาวัน อันหนทางทจี ะไปเป็ นไพรกว้าง ตอ้ งเชา่ ชา้ งเขา้ ป่ าพนาสนั ฑ์ สิบหา้ เชือกเลอื กได้มาเร็วพลัน หมดด้วยกนั ค่าเช่าสิบเก้าตาํ ลึง ช้างพงั สิบพลายหา้ งาเสลา พอรุ่งเชา้ ผูกสับประคับขงึ มิได้พลาดคลาดเคลือนรดั เงอื นตงึ ชาวบ้านองึ ออกดูเสยี งกรูเกรยี ว เหน็ ลกู สาวชาวบา้ นทาขมิน มใิ ครส่ ินราคดี ูสีเขยี ว ไมน่ ่าชมเชยชดิ สักนิดเดียว ขเี กยี จเกยี วพกี ็เตอื นใหเ้ พอื นเรอื ขนขา้ วสารขา้ วสุกบรรทกุ ชา้ ง กระโถนกระถางหม้อไหมใิ หเ้ หลือ กระจุกกระจกิ พริกหอมกะปิ เกลอื เตรยี มไปเผือขัดสนในหนทาง

27 เอาผา้ พับจับจบี ใสห่ บี หบั กเ็ สรจ็ สรรพสารพดั ไม่ขดั ขวาง แลว้ ใหน้ ายควาญหมอขนึ คอช้าง ขยบั ย่างยกเทา้ ออกก้าวเดนิ พขี นึ หลงั ชา้ งพลายสบายจิต ไปทางทศิ หรดวี ิถเี ถนิ บา้ งกข็ นึ ขชี ้างบ้างกเ็ ดนิ ดเู พลินเพลนิ หนักหนาเมือคลาไคล บ้างโหร่ ้องก้องกกึ พลิ ึกลัน เสยี งสนันเฮฮามาไสว ถอื หอกดาบดาษดืนทงั ปื นไฟ คอยกนั ภัยกลางทางทกี ลางดง เหล่านักเลงกัญชาหาหวานหวาน ได้อ้อยตาลใสย่ ่ามตามประสงค์ หยุดทไี หนนังพร้อมลอ้ มเป็ นวง เอาหมอ้ ส่งสูบครอกแลว้ ออกเดนิ เหลา่ นักเลงสุราหากระบอก เอาเหล้ากรอกอัดอุดไม่หยุดเผิน แบกกระบอกสุราพากนั เดนิ พูดหยอกเอินกนั ตามความสบาย แต่ตัวพมี ไิ ดม้ ซี งึ ความสุข มแี ต่ทุกขอ์ าดรู ไมส่ ญู หาย ดูสองฟากมรรคาพฤกษาราย พีซงั ตายชมไพรอาลัยครวญ (ไม่สัมผัสระหวา่ งบท อาจตกคาํ หรือวรรคชาํ รุด : สมหมาย ปิ นพุทธศลิ ป์ ) ถงึ ทุ่งคาเนียรกพ็ อยาํ คาํ มีธารนาํ ศาลาทอี าศยั ไม่เหน็ ทุง่ เหน็ แต่ป่ าพนาลัย ศาลพระไพรเจ้าป่ อู ยู่ขวามอื

28 ใครไปมาหาของกองคาํ นับ อารักษร์ ับบวงบนคนนับถอื ทปี ่ านันพรันเสอื เขาเหลอื ลอื ผู้ใดดือไม่บชู าชวี าวาย กป็ ลงชา้ งวางแวะเขา้ สาํ นัก ทาํ เซ่นวกั เจา้ ไพรเป็ ดไก่ถวาย จงึ เชญิ เจา้ คุม้ กันอนั ตราย ขอฝากกายอาศยั ในศาลา แลว้ กองไฟรายรามตามขอบนอก มอิ าจออกจากกนั พรันหนักหนา ได้ยนิ เสียงแรดรอ้ งกอ้ งวนา พีคดิ ว่าเสยี งเสือกเ็ หลอื กลัว ทงั ผีสางนางไม้กไ็ หโ้ หย เสยี งโหวยโหวยขนพองสยองหวั เรไรร้องมิไดน้ ิงหรงิ ระรัว ยงิ มืดมวั หมิ วนั ตย์ งิ พรันใจ จนแสงทองส่องสว่างนาํ ค้างร่วง กระจ่างดวงสุรยิ าในราศรี กต็ นื ขนึ พร้อมกนั ดว้ ยทนั ที อัญชลีลาเจ้าลาํ เนาไพร บา้ งเดนิ นาดดาดดืนบา้ งขนึ ช้าง มาตามทางหมิ วาพฤกษาไสว แตเ่ ดนิ ทางกลางป่ าพนาลยั กาํ หนดไดส้ ามวนั เป็ นมันคง เข้าเขตแควน้ แดนกลางหนทางหลวง กล็ ัดลว่ งลาํ เนาเขานางหงส์ ถงึ ปลายนาํ เมอื งฉลางหนทางลง กเ็ ดนิ ตรงรบี รัดตัดตาํ บล

29 ถงึ ฉลางกลางวันไม่ทนั คาํ ชวนกนั ทาํ ทปี ระทับออกสับสน อยู่วดั ร้างนาํ พงั รมิ ฝังชล กต็ ่างคนตา่ งสบายเป็ นหลายเดอื น พเี ทยี วชมนคเรศเขตสถาน จะเปรียบปานเมอื งใหญน่ ันกเ็ หมอื น เรอื นพระยาเป็ นสงา่ กวา่ พลเรอื น มคี ่ายเขือนขอบคปู ระตูชัย ข้างหลังหน้าธานบี ุรีรอบ เป็ นเขตขอบโขดเขินเนินไศล ดูยอดเยยี มเทยี มเมฆวเิ วกใจ แมน่ ําไหลลกึ กว้างอยู่กลางเมอื ง มสี าํ เภาเลากามาค้าขาย ทอดอยทู่ า้ ยเวยี งชยั ใบนองเนือง มีสนิ ค้าสารพดั ไมข่ ดั เคือง ทใี นเมอื งกเ็ ป็ นสุขสนุกสบาย ตลาดบกนังเบยี ดกันเสยี ดแทรก ดบี ุกแลกเงนิ เหรยี ญเทยี วเวยี นขาย พวกไทยเจก็ แขกชวาขายผ้าลาย มาตังขายเรียงพบั สลบั กัน บ้างขายแสแพรสีมตี า่ งต่าง ชาวฉลางนุ่งหม่ ดคู มสัน เหน็ สาวสาวรูปร่างสาํ อางครัน พหี วนั หวนั หวาดหวาดไม่อาจดู กลัวยาแฝดแปดเปื อนจะเชอื นหลง ไมป่ ระสงคเ์ ชยชิดคดิ อดสู ผู้หญงิ ทวั บา้ นมาบรรดาดู ยงั ไมส่ ยู้ อดรกั พสี กั คน

30 พดู เป็ นเสยี งชาวนอกไม่ออกอรรถ ฟังไม่ชดั เจนแจ้งทกุ แหง่ หน พพี าชายชาวในออกไปปน ทลี างคนชอบจติ พดู ติดพนั ชาวฉลางชา่ งฉอเลาะจนเพราะหู ไดเ้ ป็ นคู่เชยชมภริ มยข์ วญั ผู้หญิงเกยี วผู้ชายกต็ ายมัน หลงอยู่นันมากมายชายชาวใน แตต่ ัวพใี จตรงตอ่ นงนุช ได้ถอื พทุ ธแล้วกซ็ ือไมถ่ อื ไสย อยฉู่ ลางค้างปี ไมม่ ภี ยั สอู้ ดใจราวกับพระชนะมาร พสี ้ทู นวติ กให้หมกมุ่น แต่ปี กุนเดอื นยีจนปี ขาล เพอื นเขาเหน็ เรียมตรมอยูน่ มนาน กค็ ิดอ่านไปชมยมนา เขาวา่ รอยพระบาททหี าดกว้าง แต่หนทางทจี ะไปไกลหนักหนา พอี ยากไหว้รอยพระบาทพระศาสดา กช็ กั ชวนกันมาเหมอื นใจจง ไปตามทางขา้ งทศิ ตะวันตก ต้องเดนิ บกบุกป่ าพนาระหงส์ ขา้ มหว้ ยหนองคลองบางในกลางดง ครันคาํ ลงนอนค้างอยกู่ ลางไพร ได้สองวันบรรลถุ งึ ทงุ่ กวา้ ง เป็ นทที างทอ้ งนาชลาไหล มหี นองนาํ อยขู่ ้างหนทางไป ดูโตใหญ่เป็ นทะเลจระเขม้ ี

31 สารพดั ผักปลาในสาคเรศ ปทุมเมศดอกประดบั สลับสี ทงั ขาวเขยี วเหลอื งแดงแสงขจี พีชมชเี พลดิ เพลินแลว้ เดนิ มา ลมกระพอื ฮอื หอบทะเลฟ้งุ ในทอ้ งทงุ่ ทางเกวยี นเตยี นหนักหนา เหน็ แตล่ ้วนตน้ ตาลดลู านตา กร็ บี มาพกั หนึงถงึ บางคน เป็ นเมอื งเกา่ ร้างเรอื เหลือพม่า ดูโรยราร้างไปเป็ นไพรสณฑ์ มีแตบ่ า้ นหา่ งหา่ งทางตาํ บล ประชาชนหญงิ ชายสบายบาน ทาํ ไร่นาสวนเรือกปลูกเผือกผัก ทงั แฟงฟักลูกโตแตงโมหวาน สารพนั มนั กลอยทงั อ้อยตาล ไม่กนั ดารสม้ สุกเขาปลูกกนิ พชี มพลางทางพน้ ตาํ บลบา้ น มาถึงย่านยมนาชลาสินธุ์ ลงเลียบเดนิ เนินทรายชายวาริน พีผันผนิ ทศั นาชลาลยั ทะเลลึกครกึ ครืนเป็ นคลืนคลัง กระทบกระทงั หาดหนิ แผ่นดนิ ไหว พฟี ังเสยี งคลืนคลอนสะทอ้ นใจ ทะเลใหญ่ลึกล้นพน้ ประมาณ สีมัจฉาสารพดั สตั วใ์ นนาํ บา้ งผุดดาํ เสียงฟาดอย่ฉู าดฉาน จระเข้เหราทงั ปลาวาฬ ผุดขนานแน่นหนาในสาคร

32 ทงั งเู งอื กเกลอื กกลอกเขา้ หยอกเพือน ขนึ ลอยเลือนเคียงคดู่ ูสลอน กรกฎกุง้ กงั แลมงั กร เทียวสญั จรโบกหางอยู่กลางชล มีเนินทรายชายหาดสะอาดเลียน เป็ นทเี ตยี นเบืองขวาเป็ นป่ าสน มเี บยี หอยพรอยพรายลายชอบกล ระคนปนกรวดทรายชายชลา ทงั เบยี จันเบยี ไทยลกู ใหญ่น้อย มากกว่ารอ้ ยโกฏแิ สนดแู น่นหนา มีทงั เบยี ประหลาดสะอาดตา ดาษดาดีดสี ีตา่ งกัน บ้างกแ็ ดงแดงกาํ ดงั นาํ ฝาง บา้ งดาํ ด่างพรอยพรายลายขยนั บา้ งกเ็ หลอื งเหลอื งดดี งั สีจนั ทร์ ประหลาดพรรณพศิ ดูน่าชูชม ถกู คลืนจดั ซัดสาดขึนหาดกวา้ ง เขา้ เกยค้างกลินเหมน็ เหมอื นเชน่ ผี ครันแหง้ หอมกลินรสหมดราคี เนือเป็ นสีสุวรรณอาํ พันทอง ครันแดดร่มลมตกเสยี งนกเพรียก หอมลาํ เจยี กราํ จวนเทียวหวนหา พระพายพดั ฉาํ เฉอื ยระเรอื ยมา พระสุรยิ าอัสดงคล์ งไรใร พเี ดนิ เรียบเนนิ ทรายข้างฝ่ ายขวา ไม่รู้ว่าแหง่ หนตาํ บลไหน เดนิ บนทรายชายนาํ นันราํ ไป ยงิ สดุ ไกลถนิ ฐานพน้ บ้านคน

33 ดเู บอื งซ้ายสายสุนทรกส็ ุดกว้าง ดฝู ่ ายข้างเบืองขวาล้วนป่ าสน ดไู สวใบบงั พระสุรยิ น เป็ นพวงผลดาดาดสะอาดตา พกิ ุลแกว้ เกดกุ่มตน้ ชุมแสง ทงั จวงแจงไม้มริดกฤษณา ปรงิ ประยงคป์ รงประดูกระดงั งา กระลาํ ภาโกฐสอสมอไทย หญ้าฝรันจันทามหาหงิ ค์ กระไดลงิ เล็บนางแลหา่ งไกล ตน้ กาํ ยานวา่ นกระสอื กระทอื ไพร มอี ยใู่ นป่ านันทกุ พนั ธุย์ า เหลา่ ไม้ดอกออกดอกกระดาดาด ปักษาชาติจกิ กนิ บินถลา นกโนรสี ีแดงดงั ชาดทา มยุราลงเดนิ บนเนนิ ทราย กระตวั เหน็ กระเตน็ หอ้ ยกระตอ้ ยโหน จิงโจ้โจนจับกระถินแล้วบนิ หาย กระสาจับสนเคียงคู่เรียงราย เค้าแมวหมายมองโพรงเค้าโมงเมยี ง ฝูงนกผกผนิ เทยี วบนิ ร่อน บา้ งเจ่านอนแน่นิงบนกิงเหนียง บ้างมีคู่อยูส่ องประคองเคยี ง แลว้ ส่งเสยี งตามภาษาทชิ ากร บ้างพลัดคูด่ เู ศร้าเหมอื นเราโศก แสนวโิ ยคมไิ ดอ้ ยเู่ ป็ นคู่สมร พคี รวญพลางทางล่วงครรไลจร ทนิ กรเลือนลบั ลงกับชล

34 มาประมาณโมงหนึงถงึ พระบาท ทีกลางหาดเนินทรายชายสิงขร พยี นิ ดีปรดี าคลายอาวรณ์ ประณมกรอภวิ าทบาทบงสุ์ จุดธูปเทยี นบุปผาบชู าพรอ้ ม รนิ นําหอมปรายประชาํ ระสรง แลว้ กราบกรานคลานมอบยอบตวั ลง เหมือนพบองคโ์ ลกนาถพระศาสดา ตามรมิ รอบราบรืนทวั พนื หาด ดงั แกว้ ลาดแลรอบเป็ นขอบขัณฑ์ ดกู น็ ่าผาสุกสนุกครัน ดว้ ยสสี รรแสงพรายหลายประการ พวกเพอื นฝูงทงั หลายน้อมกายกราบ ศโิ รราบเรยี บเรยี งเคยี งขนาน พระสุริยงลงลับโพยมมาน กค็ ดิ อา่ นสมโภชพระบาทา บา้ งราํ เต้นเลน่ ตามประสายาก พณิ พาทยป์ ากฟังเสนาะเพราะหนักหนา บา้ งกน็ ังตกี รับขับเสภา ตามวชิ าใครถนัดไม่ขดั กัน อึกทกึ กกึ กอ้ งทงั ทอ้ งหาด ไหวพ้ ระบาทปรีดเิ ปรมเกษมสันต์ แต่นอนค้างกลางทรายอยหู่ ลายวนั บ้างชวนกันเทียวเล่นไม่เวน้ วาย บ้างเทยี วเกบ็ ว่านยากายสทิ ธิ ปรอทฤทธิพลวงแร่แมเ่ หลก็ หลาย พวกลายแทงกแ็ สวงไปตามลาย เทยี วแยกยา้ ยมรรคาเขา้ ป่ าไป

35 บ้างเทยี วจบั นกหนูลูกหมูเม่น มาเลียงเล่นตามประสาอัชฌาสัย บา้ งลงเล่นยมนาชลาลยั เหน็ แต่ใหญ่ขึนหาดดาษดา ชวนกนั จบั ขเี ลน่ เชน่ กับชา้ ง ใหค้ ลานกลางหาดทรายชายพฤกษา เต่ามนั พาลงทะเลเสยี งเฮฮา กลับขึนมาหวั ร่อกนั งอไป เขาเทยี วเล่นเป็ นสขุ สนุกสนาน ในกลางยา่ นยมนาชลาไหล แต่ตวั พเี ศร้าสร้อยละหอ้ ยใจ แสนอาลัยนิมนุชสุดประมาณ ไหว้พระบาทยมนาแล้วลากลบั กเ็ สรจ็ สรรพเรืองราวทกี ล่าวสาร นิราศนุชสุดใจไปไกลนาน แตง่ ไวอ้ า่ นอวดน้องลองปัญญา ฉันเป็ นศิษยส์ ุนทรยงั อ่อนศักดิ พไิ รรักมิงมติ รกนิษฐา ประโลมโลกโศกศลั ยพ์ รรณา ยตุ ิกาจบกันเทา่ นันเอย ๚ะ๛ . .

36 จากวกิ พิ เี ดยี หมืนพรหมสมพตั สร (มี) (จากวิกพิ เี ดยี สารานุกรมเสรี) หมนื พรหมสมพัตสร (เสมียนมี) เกดิ พ.ศ. 2338 หรอื พ.ศ. 2339 เสยี ชีวติ รัชกาลพระบาทสมเดจ็ พระนังเกลา้ เจา้ อยู่หวั อาชพี กวี จติ รกร นายอากร สัญชาติ ไทย ชว่ งเวลา ตน้ รตั นโกสนิ ทร์ หวั ข้อ กวีนพิ นธ์ ผลงานทสี าํ คัญ นิราศพระแทน่ ดงรัง หมนื พรหมสมพัตสร (ม)ี [พรฺ ม-สม-พดั -สอน] เป็ นกวีและจิตรกรในแผ่นดนิ พระบาทสมเดจ็ พระนังเกลา้ เจ้าอยู่หวั ศกึ ษาทางธรรมจนรู้แจง้ ในภาษาไทย บาลี และ สนั สกฤต สามารถแตง่ คาํ ประพนั ธป์ ระเภทกาพย์ กลอน จนมชี ือเสยี งโดง่ ดัง มีผลงาน บทประพันธอ์ าทิ นริ าศถลางหรอื นิราศฉลาง นิราศเดือน นิราศพระแทน่ ดงรงั นริ าศ สุพรรณ กลอนเพลงยาวสรรเสรญิ พระเกยี รติพระบาทสมเดจ็ พระนังเกล้าเจ้าอยู่หวั และทศมลู เสอื โค

37 ประวัตเิ สมยี นมี นายมี หรอื เสมยี นมี คงจะเกดิ ในสมยั พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช ราวปี เถาะ พ.ศ. 2338 หรอื ปี มะโรง พ.ศ. 2339[2] เป็ นบุตรพระโหราธิ บดี บ้างสันนิษฐานวา่ คอื พระโหราธบิ ดี (โลกเนต) พ.ศ. 2300 –2355 หรอื พระ โหราธบิ ดี (สมุ) พ.ศ. 2300–2371 หรอื พระโหราธบิ ดี (ชุม) ซงึ เป็ นโหรมชี อื วา่ ชาํ นาญวชิ าสุรยิ าตรพยากรณ์ แตกฉานในอักษรสมยั ทังเป็ นอาจารยบ์ อกพระปรยิ ตั ิ ธรรมแกพ่ ระภกิ ษุและสามเณรและมสี าํ นักอย่ทู วี ดั พระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนมารดา ชอื ใดไม่ปรากฏ เมอื บวชอยูใ่ นวดั พระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม ในสมัยสมเดจ็ กรมพระปรมานุชติ ชโิ นรส ทรงครองวัด รว่ มสมยั กับพระภิกษุสุนทรภู่ เป็ นศษิ ยข์ องสุนทรภู่ ดังทีได้เขียนเล่าไวใ้ น วรรณคดที แี ตง่ หลายเรือง เช่น กล่าวไวใ้ นนริ าศถลางวา่ \"ฉันเป็ นศษิ ยส์ ุนทรยงั อ่อน ศักดิ พไิ รรักมิงมติ รกนิษฐา\" ผลงานประพนั ธบ์ างเรืองของนายมี บา้ งมคี วามเข้าใจว่า เป็ นผลงานของสุนทรภู่ เช่น นิราศพระแทน่ ดงรัง และนิราศสุพรรณ นอกจากนีนายมี ยงั มีความรู้ทางดนตรแี ละเป็ นผู้บอกสกั วาดว้ ย ตอ่ มานายมีได้เขา้ เป็ นมหาดเลก็ ชา่ งเขยี นในกรมช่างเขยี นมหาดเลก็ ฝ่ าย พระบรมมหาราชวงั มสี ว่ นร่วมในการเขยี นภาพจติ รกรรมฝาผนังทีพระระเบียงวัดพระ ศรีรตั นศาสดารามทาํ ใหไ้ ด้รับสมญานามวา่ นายมีลงกาใหม่ เหตุเพราะมคี วามคดิ ริเริม ทแี ปลกใหมใ่ นการเขยี นภาพจติ รกรรมเรือง รามเกยี รติ ตอนพระวศิ วกรรมลงมาสรา้ ง พระนครลงกาใหมใ่ หแ้ กท่ ศกณั ฐ์

38 จน พ.ศ. 2387 นายมไี ดร้ ับพระราชทานบรรดาศักดิเป็ นหมนื พรหมสมพตั สร นาย อากรเมอื งสุพรรณ นายมถี ึงแกก่ รรมเมือใดไมป่ รากฏหลักฐาน สันนิษฐานว่าคงกอ่ น สนิ รชั กาลพระบาทสมเด็จพระนังเกล้าเจ้าอยหู่ วั [3] ผลงาน นิราศเดอื น นริ าศถลาง พระสุบนิ ก กา นิราศพระแท่นดงรัง นริ าศสุพรรณ กลอนเพลงยาวสรรเสริญพระเกียรตพิ ระบาทสมเดจ็ พระนังเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทศมลู เสอื โค หรือ เสือโค ก กา เรยี กสัน ๆ ว่า ทศมูล (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0 %B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1 %E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%A3_(%E0%B8%A1%E0%B8%B5)

39

40 .

41

42 เสน้ ทางนิราศฉลาง จากปลายพระยา (ปัจจบุ นั ) ไปเขานางหงส์ แลว้ ลงไปเมืองฉลาง

43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook