๑ โครงงานคุณธรรม เรือ่ ง หอ้ งเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรยี น นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท5ี่ /1 ครทู ่ีปรกึ ษาชนั้ นางสกุ ญั ญา สแี จจนั ทร์ นายภมู ใิ จ ใจอนิ ทร์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 5๐ จงั หวดั ขอนแกน่ สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งาคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คานา โครงงานคณุ ธรรม เรอื่ ง “หอ้ งเรียนสะอาด บรรยากาศนา่ เรียน” ของนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ฉบับนี้ จัดทาข้ึนเพือ่ แกป้ ัญหาพฤติกรรมทไ่ี ม่พึงประสงคข์ องนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โดยมีวัตถปุ ระสงค์ กค็ อื การนาหลักธรรมคาสอนมาใชเ้ กย่ี วกับ อิทธิบาท ๔ ควาทมรับผิดชอบ เพอ่ื ให้นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี5/1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 มคี วามรับผดิ ชอบมากขึ้น ทกุ คนได้รว่ มมือร่วมใจชว่ ยกันมคี วามรับผิดชอบ ชว่ ยกนั ทาความ สะอาดหอ้ งเรียน ไมท่ ง้ิ เศษขยะในหอ้ งเรียน ห้องเรยี นมีความสะอาดเรียบรอ้ ยเป็นประจาทกุ วัน การจดั ทาโครงงานคร้งั นีจ้ งึ สาเร็จลุล่วงดว้ ยดี เพราะความรว่ มมือของทุกคน ขอขอบคุณนักเรียนทกุ คนทใี่ ห้ความ รว่ มมอื ในการทากิจกรรมตามทวี่ างแผนไว้ นักเรียนระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี5/1 ผู้จัดทา ๒
สารบญั คานา หน้า สารบัญ บทท่ี 1 บทนา 4 บทที่ 2 เอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง 6 บทที่ 3 วธิ ดี าเนินงาน 10 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 11 บทท่ี 5 สรุปผลและอภปิ ราย 13 ภาคผนวก 16 ๓
บทท่ี 1 บทนา ที่มาและความสาคัญของปญั หา ห้องเรยี น บรรยากาศในช้นั เรียนมสี ่วนสาคัญในการส่งเสรมิ ความสนใจใครร่ ู้ใคร่เรียนให้แกผ่ ้เู รยี น ชั้น เรยี นท่มี บี รรยากาศเตม็ ไปดว้ ยความอบอนุ่ ความเหน็ อกเห็นใจ และความเอือ้ เฟอ้ื เผอ่ื แผ่ต่อกนั และกัน ยอ่ มเปน็ แรงจูงใจภายนอกทก่ี ระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียนรักการเรยี น รกั การอยู่รว่ มกันในช้ันเรียน และช่วยปลกู ฝงั คุณธรรม จริยธรรม ความประพฤตอิ นั ดีงามให้แก่นกั เรียน นอกจากนกี้ ารมีหอ้ งเรียนทีม่ บี รรยากาศแจ่มใส สะอาด สวา่ ง กวา้ งขวาง พอเหมาะ มีโตะ๊ เกา้ อี้ทีเ่ ปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย มกี ารตกแตง่ หอ้ งให้สดใส กเ็ ปน็ อีกสงิ่ หนึง่ ท่สี ง่ ผลทาให้ผู้เรยี นพอใจ มาโรงเรียน เข้าห้องเรียนและพรอ้ มทจี่ ะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี นการสอน ดงั นน้ั ผู้เปน็ ครจู ึงตอ้ งมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมาย ความสาคัญ ประเภทของบรรยากาศ หลกั การจัดบรรยากาศในชัน้ เรียนและการ จดั การเรยี นรูอ้ ยา่ งมคี วามสุข เพ่ือพฒั นาผู้เรยี นให้มีลกั ษณะตามที่หลักสูตรได้กาหนดไว้ การปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรมเพือ่ ใหเ้ ปน็ สงิ่ แวดล้อมที่ดีใหแ้ กผ่ ู้เรียน จงึ มีความสาคญั ไมน่ อ้ ยไปกวา่ การให้วชิ าการแก่ผ้เู รียน นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5/1 มีจานวนนกั เรยี น 25 คน แบ่งเป็นชาย 9 คนและหญงิ 16 คน จากการสังเกตและการระดมความคดิ ของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 พบว่าปญั หา ท่พี บมากทส่ี ดุ ในห้องเรียนคือ ห้องเรยี นจัดโต๊ะเกา้ อี้ ไมเ่ ป็นระเบียบ นักเรียนชอบทง้ิ เศษกระดาษ เศษดินสอท่ีเหลาลงพนื้ หอ้ ง นกั เรียนไมท่ าเวรประจาวันตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย จึงทาให้ห้องเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5/1 ไมม่ คี วามเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย ห้องเรียนไมส่ ะอาดไมส่ ะอาด ดังนั้นนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 ปกี ารศกึ ษา 2564 จึงมี ความ สนใจที่จะทาใหป้ ัญหาดังกล่าวหมดสนิ้ ไป จึงไดจ้ ัดทาโครงงานคุณธรรม เรือ่ ง “หอ้ งเรยี นสะอาด บรรยากาศ น่าเรยี น” เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 ปีการศึกษา 2564 เกิดความตระหนักและมีความรบั ผิดชอบ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ใหห้ ้องเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 สะอาดเรยี บรอ้ ย 2. เพอื่ ให้นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5/1 เป็นผู้มีความรับผดิ ชอบ 3. นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 ทาเวรประจาวันตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ปัญหา ห้องเรียนไม่เป็นระเบียบ นักเรยี นท้งิ เศษกระดาษ เศษดินสอที่เหลาลงพนื้ หอ้ ง ไมจ่ ัดโต๊ะ เก้าอใ้ี ห้เป็น ระเบยี บเรยี บรอ้ ย นกั เรยี นไมท่ าเวรประจาวันตามทไ่ี ด้รบั มอบหมาย สาเหตุของปญั หา 1. นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 5/1 ไม่จัดโตะ๊ เกา้ อ้ี ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย 2. นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ไม่ทาเวรประจาวนั ตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย ๔
กลุ่มเป้าหมาย 1. เชิงปริมาณ - นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5/1 จานวน 25 คน 2. เชิงคณุ ภาพ - นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5/1 เป็นผู้มคี วามรับผดิ ชอบ - นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5/1 จัดโตะ๊ เก้าอ้ี ใหเ้ ป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย - นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 ทาเวรประจาวันตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย เปา้ หมายระยะสนั้ (ระยะเวลา 3 เดอื น) - นกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 มคี วามรับผิดชอบ จดั โต๊ะ เก้าอี้ ให้เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย ทา เวรประจาวนั ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปีการศึกษา) - นกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 เป็นผู้มคี วามรับผดิ ชอบ จัดโต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ เรียบร้อย ทาเวรประจาวันตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย รอ้ ยละ 100 พฤติกรรมบ่งชเ้ี ชงิ บวก - นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5/1 จัดโต๊ะเก้าอี้ใหเ้ ป็นระเบยี บ หอ้ งเรียนสะอาดไม่มขี ยะ คณุ ธรรมเปา้ หมาย - ความรับผิดชอบ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ 1. นกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 เป็นผมู้ ีความรับผิดชอบในตัวเองมากขน้ึ 2. นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5/1 จดั โตะ๊ เกา้ อี้ ใหเ้ ป็นระเบียบเรียบรอ้ ย 3. นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5/1 ทาเวรประจาวันตามที่ได้รบั มอบหมาย 4. ห้องเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 ห้องเรยี นมคี วามสะอาด บรรยากาศน่าเรยี น ๕
บทท่ี 2 เอกสารทีเ่ ก่ยี วข้อง ในการดาเนินโครงงานคุณธรรม นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 ได้นาหลักการคุณธรรมมาใชใ้ นการ แกไ้ ขปญั หาพฤติกรรมของนักเรียน และนาไปสกู่ ารปฏบิ ัติ ดังนี้ อทิ ธบิ าท 4 เปน็ แนวทางการเรยี น การทางาน ใหป้ ระสบความสาเรจ็ อิทธิบาท 4 เปน็ แนวทางการเรยี น การทางาน ให้ประสบความสาเร็จท่ีพระพุทธองคไ์ ดท้ รงสดับไว้ อย่างแยบคลาย อันประกอบด้วยแนวปฏบิ ัติ4ขอ้ คือ ฉนั ทะ วริ ิยะ จติ ตะ วมิ งั สา ซงึ่ ใคร ๆก็ท่องได้ จาแต่จะมสี ักกค่ี นท่ปี ฏบิ ัติได้ ครบกระบวนความทัง้ 4ข้อ อนั เป็น 4ขัน้ ตอนที่ต่อเน่ืองหนุนเสรมิ กัน จะขาดข้อใ ข้อหน่ึงไม่ได้ด้วยว่ามันเปน็ กระบวนการท่ีเช่ือมโยงกนั 4ข้อจงึ จะทาาใหง้ านเราประสบผลสาเร็จในชีวติ และการงานไดต้ ามความม่งุ หวงั ขอ อธบิ ายดงั ต่อไปน้ี 1)ฉนั ทะ คอื การมีใจรกั ในส่งิ ที่ทาใจทร่ี กั อันเกดิ จากความศรัทธาและเชอื่ มนั่ ต่อสิง่ ท่ีทาจรงิ ตามควร เราคงเคยได้ ยินคาวา่ \"ขอฉนั ทามติจากประชมุ \" บอ่ ย ๆ หรือ \"มีฉนั ทะรว่ มกัน\" ก่อนเลกิ การ บางอนั เป็นเสมือนสญั ญาระหว่าง กนั ว่าเราจะทาสง่ิ นั้นสิง่ น้ีรว่ มกนั หรือละเว้นบางสิง่ ร่วมกนั ซง่ึ ความเข้าใจในข้อ นคี้ ดิ วา่ ถูกเพยี งคร่ึงเดยี ว เพราะ ความหมายของ \"ฉันทะ\" นน้ั ไมใ่ ช่แปลว่าเป็นสัญญาภาษากระดาษหรือ ท่ีให้ไว้กับมวลหมู่สมาชิกเทา่ น้นั หากแต่ เปน็ สัญญาใจและเปน็ ใจทผี่ กู พนั เป็นใจที่ศรัทธาและเตม็ เปยี่ ม จึงจะเกิดความเพียรตามมา เปรยี บได้กบั นกั วจิ ัยท่ี ศรัทธาและเชอ่ื ม่นั ในแนวคิดแนวปฏิบตั ิของ เพือ่ ทอ้ งถิน่ ซง่ึ อาจมีมากนอ้ ยตา่ งกัน คงไม่มีใครบอกไดน้ อกจากตัว นักวิจยั เองและผลของงานที่เกิดข ประจักษต์ อ่ สาธารณะชน หลายคนคงเคยได้ยินประโยคทวี่ า่ Where there is the will, there is the way. ท่ใี ด มีความปรารถนาอนั แรงกลา้ ท่ีน่ันยอ่ มมหี นทางเสมอขอเพียงแตใ่ ห้มีความ ต้งั ใจแนว่ แนท่ ี่จะประสบความสาเรจ็ ในเรื่องนน้ั ๆใหด้ ว้ ยความมุ่งมน่ั ได้ ไม่ท้อยอ่ มมหี นทางนาเราไปสูค่ วามสาเรจ็ ไดเ้ สมอการมีใจรัก ถือว่าสาคญั มาก ไม่ใชท่ าใจให้รกั เพื่ออะไรสักอยา่ ง หรือ หา้ มใจไม่ให้รัก มนั ก็ยากยิ่ง รัก ดังกล่าวไมไ่ ดเ้ กิดจากความรักความศรัทธาของเราจรงิ ๆ ขนื ทาไปกม็ ีแต่จะทุกข์ทรมาน แม้จะไดบ้ างสว่ นแล้วก็ ตาม ประการสาคัญเปน็ การแอบแฝงมาจากความคิดอ่ืนศรทั ธาอ่นื หรอื ความเปน็ อืน่ ทเ่ี ราพยายามหาเหตุและผล มาอธิบายวา่ มนั คือส่ิงเดยี วกนั เพื่อให้สามารถดาเนนิ ไปไดห้ รือเพ่ือให้ตวั เองสบายใจท่ีสดุ แต่ถา้ ศรัทธาอันแรงกล้า แลว้ พลงั สรา้ งสรรค์ก็จะบงั เกิดขึน้ กับเราอยา่ งมหัศจรรยท์ ีเดยี วทีน้ีมาพูดถึงว่า \"เราจะสร้างฉันทะให้เกิดข้ึนได้ อยา่ งไร\" พระพทุ ธองค์เคยสอนไวว้ ่า มนษุ ย์เราตอ้ ง เลอื กท่จี ะศรทั ธาบางอย่างและหมั่นตรวจสอบศรทั ธาของ ตัวเองว่าดีตอ่ ตัวเองและดีตอ่ ผูอ้ ่ืน เมอ่ื ดีทัง้ สองอย่างกจ็ งมุง่ มนั่ ท่ีจะทาดว้ ยความตง้ั ใจ และหากไมด่ กี ็จง เปลี่ยนแปลงศรัทธา ซึ่งเราต้องเลือก ไม่เช่นนัน้ เราจะกลายเป็นคนท่ีสับสนไม่มแี กน่ สารและเปน็ คนไร้รากในทส่ี ดุ เมอ่ื เป็นคนไม่จะถูกชกั ชวนไปในทางทีไ่ มด่ ีไดง้ า่ ยนนั่ เองหากจะฝกึ ฝนตนเอง อาจเริ่มจากการตงั้ คาถามกบั ตวั เองวา่ เราศรทั ธาอะไรอยู่ เพราะคนเราเมอ่ื คดิ อะไรก็จะได้พบกบั สงิ่ นน้ั เข้าถงึ สิง่ นั้น ศรทั ธาในเทคโนโลยีเรากจ็ ะเขา้ ถงึ เทคโนโลยี ศรัทธาต่อชา เขา้ ถงึ ชาวบ้าน ศรัทธาต่อวตั ถกุ จ็ ะเข้าถงึ วตั ถุ ศรัทธาต่อลาภยศสรรเสรญิ กจ็ ะเข้าถงึ ลาภ ถงึ ยศ ศรทั ธาต่อความรกู้ ็จะเข้าถงึ ความรู้ หรือศรัทธาตอ่ หลกั ธรรมเข้าถงึ ธรรรมหรือไมศ่ รัทธาอะไรเลยกไ็ ม่เขา้ ถึง อะไรเลย เพราะความศรทั ธานามาซ่งึ มงุ่ มน่ั ทุ่มเทเพือ่ ทาทกุ อย่างใหไ้ ดม้ าซึง่ ส่งิ ทศรัทธานน่ั เอง ขณะเดียวกนั ก็ลอง ตรวจสอบตัวเองดูวา่ ส่งิ ทีเ่ ราศรัทธากับสงิ่ ท่อี งคก์ รของเราศรทั ธานนั้ ตรงกนั หรอื กเ็ รยี นรู้ท่จี ะเปล่ยี นแปลงตน ๖
2)วริ ยิ ะ คือ ความมุง่ มนั่ ทุม่ เท เป็นความมุ่งม่นั ทุ่มเททง้ั กายและใจ ที่จะเรยี นรู้และทา แท้ของสง่ิ นัน้ เรื่องนน้ั ถา้ หากกระทาอย่างเชยี่ วชาญก็จะจนเป็นผ้รู ู้จนเช่ียวชาญ ถ้าหากศึกษากจ็ ะศึกษาใหร้ จู้ นถึงรากของเร่ืองราวนนั้ ๆ ดังน้ัน คาว่า \"วิรยิ ะ\" จึงหมายถึงความเพียรพยายามอยา่ งสูงที่จะทาตามฉันทะ ของตัวเอง หากเราไมม่ ีความเพยี ร แลว้ ก็อนุมานได้วา่ เรามีฉนั ทะหลอก ๆ หรอื ศรทั ธาหลอก ๆ ทัง้ โกหกตัวเองและหลอกผูอ้ ่ืน เพื่ออะไรน้นั ผลงานท่ี เขาทาจะชีช้ ัดออกมาเองว่าทาเพอ่ื อะไร ดังนั้น นักวิจยั ทอ้ งถ่ินและรกั ต่อการทางานวิจยั เพื่อแกป้ ญั หาคนท้องถนิ่ อันเป็นศรทั ธาสูงสุด หาก แต่เพยี งศรทั ธาปากเปล่าท่ไี รแ้ มเ้ งาของความมุ่งมั่นและทุ่มเท หากแต่มีศรัทธาอน่ื ให้ ครนุ่ คิดและกระทาอยู่ วริ ิยะนี้มาคู่กับความอดทนอดกลนั้ เปน็ ความรู้สกึ ไมย่ ่อทอ้ ต่อปัญหาและมคี วามหวังทีจ่ ะเอา ท้งั ปวง โดยมศี รัทธาเป็นเคร่ืองยึดเหนยี่ วจติ ใจ นาใจ และเตือนใจ ความอดทนเป็นเคร่ืองมอื สาหรบั คนใจงามดว้ ย ไมใ่ ชม่ ุทะลุดุดันรบเรา้ และรุ่มร้อน เพราะมันจะทาใหม้ โี อกาสผดิ พลาดได้งา่ ย หรือ อดทนในที่สดุ ดงั นั้น ความ วิรยิ ะอสุ าหะ จึงเป็นวิถีทางของบุคคลทห่ี าญกล้าและทายท้าต่ออุปสรรค ถามว่า \"ความวิริยะมนั เกดิ จากอะไร\" คาตอบก็คอื \"เกิดจากศรัทธาหรอื ฉนั ทะน่นั เอง\" และเป็นศรทั ธาที่ ม่ันคงด้วยไม่วา่ จะมีอุปสรรคใ์ ด ๆมากระทบกต็ ามกจ็ ะไม่เปลย่ี นแปลง แตอ่ าจปลอ่ ยวางหรือวางเฉยในบางเวลา บางสถานการณบ์ ้าง เพื่อรอสภาวะทเี่ หมาะสมกว่า ความวิริยะไมใ่ ช่ความดุดันอยา่ งเอาเปน็ เอาตายหรือตอ้ ได้ เสมอ แต่มันคอื ความแยบยลและเลอื กทจ่ี ะทาบางอยา่ งเพอื่ รกั ษาศรทั ธาไวห้ รอื เพ่อื รอวาระทเ่ี หมาะสมอนั หมายถงึ การบรรลผุ ลแหง่ ศรทั ธาถ้าจะฝึกฝนเรอื่ งความวริ ิยะแล้วคงต้องเรมิ่ จากความคิดทวี่ า่ ต้องหมั่นฝกึ ฝน ตนเองบ่อย ๆ หมนั่ คดิ หม่นั เขียนหม่นั นาเสนอและอย่าขีเ้ กยี จ อยา่ กลัวความผิดพลาดและจงกลา้ แสดงออกซึง่ ความรับผิดชอบตอ่ ความ ล้มเหลวของตัวเอง อย่าท้อตอ่ งานหนักและงานมากใหค้ ิดวา่ ทามากร้มู ากเกง่ มากขน้ึ อยา่ บน่ ว่าไมม่ ีเวลา เวลามีเท่าเดมิ ฯลฯ 3)จติ ตะ คือ ใจที่จดจอ่ และรบั ผดิ ชอบ เมอ่ื มีใจท่ีจดจอ่ แล้วก็จะเกดิ ความรอบคอบตาม คานีย้ ่งิ ใหญ่ปัจจบุ ันสงั คม ซบั ซอ้ นมสี ่ิงใหมๆ่ เกิดข้ึนมากมาย แต่ละคนมภี าระหน้าท่ี ท่ีต้องทามากมาย ไม่รูจ้ ะเอาเวลาอ่านหนังสือกค็ ิดถึง งานท่รี ับผิดชอบ เวลาทางานก็คิดว่าตอ้ งอ่านหนังสอื เพือ่ เตรียมตัวสอบ มจี ิตจดจ่ออยู่กับสิ่งใดส่ิงหนึ่งได้นาน ผลคือ ทาอะไรก็ไม่ดี ทาผิดๆถกู ๆอย่อู ย่างนัน้ แตถ่ ้าเรามใี จทจ่ี ดจอ่ ตอ่ สงิ่ ท่ีเราคดิ เราทาและรบั ผดิ ชอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเรียนหรือการงาน ทุกอยา่ งกจ็ ะดขี ้ึนไปเอง เราก็จะมีความรอบรู้มากขน้ึ เร่อื ย ๆด้วยใจทจี่ ดจ่อตั้งม่ันและใฝ่ เรียนรู้ รอบรูม้ ากข้นึ ก็จะเกิดความรอบคอบตามมา เมื่อมคี วามรอบคอบแล้วการตัดสินใจทาอะไรก็จะไม่เกิดความ ผดิ พลาด ความรอบคอบจะเกดิ ขนึ้ ไมไ่ ด้เลยหากไม่รอบรู้ ดงั น้ัน การท่ีคนจะรอบรไู้ ด้นนั้ ตอ้ งหม่นั ตดิ ตามขา่ วสาร บา้ นเมืองสม่าเสมอ ตอ้ งอา่ นหนงั สอื อยู่ไม่ขาดและหลากหลายโดยไม่ยึดติดกบั เรือ่ งให้ ใดเร่ืองหนง่ึ ประการสาคัญ ต้องฝกึ ต้ังคาถามกบั ตวั เองกบั เรอ่ื งราวต่าง ๆทเ่ี กิดข้ึนรอบตวั เราค้นหาคาตอบให้ได้ การฝึกสนทนากับผรู้ ู้บอ่ ย ๆก็ เป็นส่งิ จาเปน็ ซงึ่ เมอื่ เราทาเราก็จะเปน็ ผูท้ ่ีเขา้ ใกล้ได้ ความรอบรู้ไปโดยปรยิ าย เม่อื เราเข้าใกลค้ วามรอบรูแ้ ลว้ ก็ ไม่ใช่เรือ่ งยากทจี่ ะวิเคราะห์สงั เคราะหเ์ น้อื แทข้ องเร่อื งราว สู่การตัดสนิ ใจของหม่คู ณะหรอื แมแ้ ตเ่ รอ่ื งสว่ นตัวของ เราเอง ดงั นนั้ ความรอบคอบจงึ แฝงไปดว้ ยความ สภาพจริงของมัน อนั เปน็ แนวปฏิบตั ทิ ี่คนรนุ่ ใหมต่ ้องสร้างใหเ้ กิด เปน็ นิสัยแกต่ นเอง ความรอบคอบนอกจากจดารงอย่คู กู่ บั ความรอบรู้แล้ว ยงั ต้องอาศัยความดงี ามเปน็ เครอื่ ง เตือนสติ ถงึ จะสามารถใชจ้ ิตของเราพินิจพจิ ารณาและตรกึ ตรองในเนือ้ แท้ของสงิ่ ตา่ ง ๆน้นั ไดอ้ ย่างเหมาะสมเพราะ ความดี งามตามแบบอยา่ งของคุณธรรมตามหลักศาสนาและจรยิ ธรรมของสังคมนน้ั เป็นสิง่ เดยี วทจี่ ะทาใหม้ นษุ ย์ อยรู่ ว่ มกนั อย่างปรกติสขุ ๗
4)วิมงั สา คือ การทบทวนในสิ่งทไี่ ด้คดิ ได้ทามา อันเกิดจาก การมีใจรัก (ฉนั ทะ) แล้วทาด้วยมุ่งมนั่ (วริ ิยะ) อย่าง ใจจดใจจอ่ และรับผดิ ชอบ (จติ ตะ) โดยใช้วิจารณญาณอย่างรอบรูแ้ ละรอบคอบ จงึ นาไปสู่การทบทวนตัวเอง และ ทบทวนองคก์ รหรือทบทวนขบวนการ ทบทวนในสิง่ ทไ่ี ดค้ ดิ สิง่ ไดท้ าผา่ นมาว่าเกิดผลเสียอย่างไร ทัง้ ที่เปน็ เรื่อง สว่ นตวั ของเราเองและเปน็ เรอื่ งท่ีรว่ มคิดรว่ มกับคนอื่นเพ่อื ใหป้ รับปรุงให้ดยี ่งิ ขน้ึ การทบทวนเรอ่ื งราวจากภายใน ของตัวเองเปน็ สิ่งสาคัญมากในยคุ ปัจจบุ นั ท่ีผู้คนเริ่ม ทบทวนความคดิ เพ่อื ตรวจสอบความคิดและการกระทาของ เราวา่ เราคดิ หรอื ทาจากความคิดอะไร พรอ้ มกับถามตัวเองว่าเราคิดอย่างนัน้ เพอ่ื อะไร เราทสง่ิ นี้เพื่ออะไร เพอ่ื ความสุขของตัวเองหรือเพ่ือความสงบสขุ ของสังคมซึ่งจะทาให้เรารวู้ า่ เราควรจะอยู่ ณ จุดไหนของสังคมหรอื เปลยี่ นแปลงตนอยา่ งไรไปสู่ สรา้ งสรรคต์ นเองและสงั คมทง่ี ดงาม ดงั นั้น \"อทิ ธบิ าท4\"จึงมีความหมายกบั คนรุ่นใหมท่ ่ีต้องการจะเดินทางไปในสูค่ วามสาเรจ็ ในชวี ิตและ การงาน เพราะหากทาไดต้ ามกระบวนความแล้ว สังคมความรู้ ชุมชนความรู้ และปัจเจกชนความรู้ คงอยู่ เกินฝนั ประการ สาคญั \"อิทธิบาท4\"ไมไ่ ด้เกิดขึน้ อย่างโดดเดยี่ วจากหลกั ธรรมข้ออ่ืน ๆอันเปน็ องคร์ วมและ เชือ่ มโยงถงึ กัน เพยี งแต่ อธิบายคนละบทบาทเทา่ นั้น สง่ิ สาคัญ เราได้ใครค่ รวญในเรื่องเหล่าน้ีมากน้อยเพียงเพราะ ในโลกปจั จุบนั โลกท่ีส่ัง สม อวิชชามามากจนเกนิ ล้น จึงกลายเป็นโลกท่ีฉาบฉวยและวนุ่ วายสูงสุด แปลวา่ เราตอ้ งฝกึ ฝนตนเองหลายเทา่ ตัว เพอ่ื จะเข้าใจและเข้าถึงหลกั ธรรมที่ก่อกาเนิดการพฒั นาทจ่ี ดุ เริ่มต้นของ ตนเองอยา่ งแทจ้ ริง คุณธรรมเปา้ หมาย 1. อทิ ธิบาท 4 1) ฉันทะ (ความพอใจ) นักเรยี นมคี วามพอใจในการทาความสะอาดห้องเรยี น 2) วริ ยิ ะ (ความเพียร) นกั เรยี นทุกคนมคี วามขยันหม่ันเพียร ทาเวรตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 3) จติ ตะ (ความคิดมุ่งมนั่ ) นกั เรยี นตง้ั จติ รับรใู้ นส่ิงทีท่ าและทาส่งิ น้นั ด้วยความคิด เอาจติ ฝกั ใฝ่ ไมป่ ลอ่ ยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอย ตง้ั ใจชว่ ยกันทาเวรประจาวนั ของหอ้ งเรยี น 4) วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรอื ทดลอง) คือ นักเรียนทุกคู่คนช่วยกันใช้ปัญญา พจิ ารณา ใคร่ครวญ ในการทาเวรจัดโตะ๊ เก้าอี้ ใหเ้ ปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย และทางานดว้ ยปญั ญา เป็นต้น ๘
ความรบั ผดิ ชอบ หมายถงึ ลักษณะของบคุ คลที่แสดงออกถงึ ความเอาใจใส่จดจอ่ ตั้งใจ ม่งุ มน่ั ต่อหนา้ ที่การงาน การศกึ ษาเล่าเรียน และการเป็นอยูข่ องตนเอง และผู้อื่นที่อยู่ในสังคม อย่างเต็มความสามารถ เพ่อื ให้บรรลผุ ล สาเรจ็ ตามความมงุ่ หมายในเวลาท่กี าหนด ยอมรบั ผลของการกระทาท้ังผลดีและผลเสียที่เกดิ ขึ้น รวมท้ังปรบั ปรงุ การปฏิบตั ิงานให้ดขี น้ึ เปน็ ความผูกพันในหนา้ ที่การงานใหส้ าเร็จลุล่วงไปได้ วตั ถปุ ระสงค์แบ่งเป็นประเภทความ รับผิดชอบไว้ดงั น้ี 1.ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง หมายถึงการรบั รฐู้ านนะและบทบาทของตนท่ีเปน็ ส่วนหนึง่ ของสงั คม จะตอ้ งดารง ตนใหอ้ ยใู่ นฐานนะท่ีช่วยเหลือตวั เองได้ รจู้ กั ว่าสิ่งใดถูก ส่งิ ใดผดิ ยอมรับผลท้ังที่เป็นผลดีและผลเสยี เพราะฉะนนั้ บคุ คลทม่ี คี วามรับผดิ ชอบในตนเองย่อมจะไตร่ตรองดใู ห้รอบคอบกอ่ นวา่ ส่ิ ท่ีตนเองทาลงไปน้นั จะมผี ลดีผลเสีย หรอื ไมแ่ ละการจะเลือกปฏิบตั ิแต่สิ่งทจ่ี ะก่อใหเ้ กิดผลดีเท่านนั้ 2.ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม หมายถงึ ภาระหนา้ ท่ีของบุคคลท่จี ะต้องเกย่ี วข้อง และมสี ว่ นร่วมตอ่ สวัสดภิ าพของ สังคมทตี่ นเองดารงอยู่ ซ่งึ เปน็ เรือ่ งทเี่ กย่ี วข้องกบั หลายส่ิงหลายอยา่ ง ต้ังแต่สงั คมขนาดเล็ก สังคมขนาดใหญ่ การ กระทาของบุคคลใดบุคคลหนึง่ ยอ่ มมีผลกระทบต่อสงั คมไมม่ ากกน็ อ้ ย บคุ คลทกุ คน ภาระหนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบที่จะต้องปฏิบตั ิต่อสงั คม ดังตอ่ ไปนี้ 2.1 ความรับผิดชอบตอ่ หน้าทพี่ ลเมอื งการปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของสังคมได้แก่ การรกั ษา ทรพั ย์สนิ ของสงั คม การชว่ ยเหลอื ผู้อน่ื และการใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื 2.2 ความรับผิดชอบต่อครอบครัว ไดแ้ ก่การเคารพเช่อื ฟังผูป้ กครองการชว่ ยเหลืองานบ้านและการ รกั ษา ชือ่ เสยี งของครอบครัว 2.3 ความรับผิดชอบตอ่ โรงเรียน ได้แก่ความตั้งใจเรยี น การเชือ่ ฟังครู–อาจารย์ การปฏบิ ัตติ าม กฎของโรงเรียน และการรกั ษาสมบัติของโรงเรียน 2.4 ความรับผิดชอบต่อเพอ่ื น ไดแ้ ก่ การช่วยตกั เตือนแนะนา การช่วยเหลือเพ่อื น อยา่ งเหมาะสม การให้อภัยเม่ือ เพ่ือนทาผดิ การไม่ทะเลาะและเอาเปรียบเพอ่ื น และการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ความเช่ือมโยงสูค่ ุณธรรมอัตลักษณข์ องโรงเรียน โครงงานคุณธรรม “ห้องเรียนสะอาด บรรยากาศนา่ เรียน” ของนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5/1 นั้น ได้เชื่อมโยงสอู่ ัตลักษณ์ของโรงเรียนในขอ้ ท่วี า่ 1) พอเพยี ง - การท่ีรักษาความสะอาดห้องเรียน แสดงวา่ ไดใ้ ช้ชีวิตอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ในทน่ี หี้ มายความว่านักเรียนรกั ษาหอ้ งเรียน ใหส้ ะอาดอยู่เสมอ 2) กตญั ญู - การที่นกั เรยี น เอาใจใส่ในการรักษาห้องเรยี น จัดโตะ๊ เก้าอ้ี ทงิ้ ขยะลงถัง แสดงถึงความกตัญญู เชอ่ื ฟงั คาสั่งสอนตอ่ คณุ ครู 3) ความรับผิดชอบ นกั เรียนเป็นผูม้ ีความรบั ผิดชอบ จัดโตะ๊ เก้าอ้ี ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทาเวร ประจาวันตามทไี่ ด้รับมอบหมาย 4) ความมรี ะเบียบวนิ ัย นกั เรียนทาเวรประจาวนั เปน็ ประจาสม่าเสมอ สง่ ผลใหน้ ักเรยี นเป็นผู้มรี ะเบียบวนิ ยั ในการดาเนินชวี ติ ๙
บทที่ 3 วธิ ีดาเนินโครงงาน วธิ ีดาเนนิ งาน การจัดทาโครงงานคณุ ธรรมของนกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5/1 ในครั้งน้ี มีการดาเนนิ งานตาม ขัน้ ตอนดังน้ี 1. ข้นั วางแผน 1) สารวจและวิเคราะห์ปัญหาของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 ทเ่ี กดิ ขึน้ 2) นกั เรียนและครรู ่วมกนั วิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขปญั หา 3) นักเรยี นและครูรว่ มกนั วางแผนการแก้ไขปญั หา พรอ้ มกับสร้างความเขา้ ใจการดาเนนิ งาน สรา้ ง ข้อตกลงในการดาเนินงาน 2. ขั้นดาเนนิ งาน 1) นักเรยี นและครู กาหนดใหท้ กุ คนเลือกเพอ่ื นที่จะคอยชว่ ยเหลือในการทาเวรความสะอาดของ ห้องเรียนแก่นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 2) นกั เรียน 25 คน แบ่งกันทาเวรทาความสะอาดหอ้ งเรียน วนั ละ 5 คน เช้าและเยน็ 3. ข้ันติดตามผล 1) ครูทาแบบบันทึกการทาความสะอาดหอ้ งเรียนระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5/1 2) สภานักเรียนตรวจและตดิ ตามการทาความสะอาดห้องเรียนรายงานหน้าเสาธงทกุ วนั 4. ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล 1) ประเมินผลการดาเนนิ งานเมอ่ื สน้ิ ภาคเรียนท่ี 2/2564 2) สรปุ ผลการดาเนนิ โครงงานและรายงาน วิธกี ารวดั ประเมินผล เพ่อื ลดปัญหาการทงิ้ ขยะในหอ้ งเรียน การจัดโต๊ะ เกา้ อี้ให้เป็นระเบียบ เวรประจาวันมคี วามรบั ผิดชอบใน การเวรท่ไี ดร้ ับมอบหมายให้สะอาดทกุ วนั วิธกี ารวดั ผล : สงั เกตุพฤตกิ รรม เครือ่ งมือวดั : แบบบันทึกการตรวจเวรประจำวนั ของคณะกรรมการนักเรยี น ช่วงระยะเวลาวัดและประเมนิ : สัปดาห์ละ 1 ครงั้ ตวั ช้วี ัดความสาเรจ็ 1. นักเรยี นหอ้ งเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 ทาเวรประจาวัน ห้องสะอาดเรยี บร้อย จัดโต๊ะ เก้าอี้เป็น ระเบียบ 2. นักเรยี นมพี ฤติกรรมท่พี งึ ประสงค์ รู้จกั ความรบั ผดิ ชอบและมวี ินยั ในตนเองมากขน้ึ ผลการตรวจความ สะอาดหอ้ งเรยี นในแต่ละเดอื นไดผ้ ลลพั ธ์ในระดบั ร้อยละ๙๕ ๑๐
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน ในการดาเนนิ โครงงานโรงเรียนคณุ ธรรม เพ่ือแกไ้ ขปัญหาพฤติกรรมของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 เพอื่ ใหม้ ีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ในคร้ังน้ี นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5/1 จานวน 25 คน ขอรายงานผลการดาเนนิ โครงงาน ดังน้ี กลุ่มเปา้ หมาย 3. เชิงปรมิ าณ - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5/1 จานวน 25 คน 4. เชิงคุณภาพ - นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 เป็นผมู้ ีความรับผิดชอบ - นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5/1 จัดโต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย - นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 ทาเวรประจาวันตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย เปา้ หมายระยะส้นั (ระยะเวลา 3 เดอื น) - นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5/1 มีความรบั ผิดชอบ จดั โตะ๊ เก้าอี้ ให้เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย ทา เวรประจาวันตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปกี ารศกึ ษา) - นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 เปน็ ผูม้ คี วามรับผดิ ชอบ จัดโต๊ะ เก้าอี้ ใหเ้ ปน็ ระเบียบ เรยี บร้อย ทาเวรประจาวนั ตามท่ีได้รับมอบหมาย รอ้ ยละ 100 ๑๑
แบบบันทึกการทาความสะอาดหอ้ งเรียน ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 ประจาเดือน ..................................... โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 5๐ จังหวัดขอนแกน่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งาคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ๑๒
แบบบนั ทกึ การทาความสะอาดห้องเรยี น ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5/1 วัน วัน/เดือน/ปี ลงชอ่ื ลงชอื่ ลงช่อื ลงชอ่ื ลงชื่อ ครุผตู้ รวจ จันทร์ วนั /เดอื น/ปี ลงช่อื ลงชื่อ ลงช่ือ ลงช่อื ลงช่อื ครุผตู้ รวจ องั คาร วัน/เดือน/ปี ลงชอ่ื ลงชอื่ ลงชอื่ ลงชอ่ื ลงชอื่ ครุผตู้ รวจ พุธ วนั /เดอื น/ปี ลงช่อื ลงชือ่ ลงชือ่ ลงชื่อ ลงช่อื ครุผตู้ รวจ พฤหสั บดี ศกุ ร์ วัน จนั ทร์ องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศกุ ร์ วนั จันทร์ องั คาร พุธ พฤหัสบดี ศกุ ร์ วนั จนั ทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศกุ ร์ ๑๓
บทท่ี 5 สรุป อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ การดาเนนิ งานตามโครงงานคณุ ธรรมของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 ของนักเรียนและครทู ี่ปรกึ ษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 จึงมีความประสงคจ์ ะให้ การนาหลกั ธรรมคาสอนมาใชเ้ กี่ยวกับ อิทธิบาท ๔ ควาทม รับผิดชอบ เพ่ือให้นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท5ี่ /1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 มคี วามรบั ผดิ ชอบมากข้นึ ทุกคนได้ ร่วมมอื รว่ มใจชว่ ยกันมคี วามรบั ผิดชอบ ช่วยกนั ทาความสะอาดห้องเรียน ไมท่ ้งิ เศษขยะในหอ้ งเรียน หอ้ งเรยี นมี ความสะอาดเรยี บรอ้ ยเปน็ ประจาทุกวัน สามารถสรุปผลการดาเนนิ โครงงานได้ ดงั น้ี 1. วัตถปุ ระสงค์ของการดาเนินโครงงาน 2. กลมุ่ เปา้ หมาย 3. ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั 4. คณุ ธรรมเปา้ หมาย 5. คุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน 6. สรุปและอภปิ รายผล 7. ข้อเสนอแนะ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหห้ ้องเรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 สะอาดเรียบรอ้ ย 2. เพื่อใหน้ กั เรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5/1 เป็นผูม้ ีความรับผดิ ชอบ 3. นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 ทาเวรประจาวันตามท่ีได้รบั มอบหมาย กลุ่มเปา้ หมาย 5. เชิงปรมิ าณ - นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5/1 จานวน 25 คน 6. เชิงคณุ ภาพ - นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 เปน็ ผู้มคี วามรับผิดชอบ - นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 จัดโต๊ะ เกา้ อี้ ใหเ้ ป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย - นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 ทาเวรประจาวันตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย เปา้ หมายระยะส้นั (ระยะเวลา 3 เดือน) - นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5/1 มคี วามรับผดิ ชอบ จัดโต๊ะ เก้าอ้ี ให้เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย ทา เวรประจาวนั ตามทไี่ ด้รบั มอบหมาย เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปกี ารศกึ ษา) - นักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5/1 เปน็ ผ้มู คี วามรับผิดชอบ จัดโต๊ะ เก้าอี้ ใหเ้ ป็นระเบยี บ เรยี บร้อย ทาเวรประจาวนั ตามท่ไี ด้รับมอบหมาย รอ้ ยละ 100 ๑๔
ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะไดร้ ับ 1. นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5/1 เปน็ ผูม้ ีความรับผิดชอบในตวั เองมากข้นึ 2. นกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5/1 จัดโตะ๊ เกา้ อ้ี ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย 3. นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ทาเวรประจาวันตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 4. ห้องเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5/1 หอ้ งเรยี นมคี วามสะอาด บรรยากาศน่าเรียน คุณธรรมเปา้ หมาย 2. อทิ ธิบาท 4 5) ฉันทะ (ความพอใจ) นักเรยี นมีความพอใจในการทาความสะอาดห้องเรียน 6) วริ ิยะ (ความเพยี ร) นักเรยี นทุกคนมีความขยันหม่นั เพียร ทาเวรตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย 7) จิตตะ (ความคิดมุ่งมนั่ ) นักเรยี นตัง้ จติ รับรูใ้ นส่ิงทท่ี าและทาสิง่ นน้ั ด้วยความคดิ เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจใหฟ้ งุ้ ซา่ นเลอ่ื นลอย ต้ังใจชว่ ยกนั ทาเวรประจาวันของห้องเรียน 8) วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือทดลอง) คอื นักเรียนทุกคู่คนช่วยกนั ใช้ปญั ญา พิจารณา ใคร่ครวญ ในการทาเวรจัดโต๊ะ เก้าอี้ ให้เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย และทางานด้วยปัญญา เป็นต้น ความเช่ือมโยงสู่คณุ ธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรยี น โครงงานคณุ ธรรม “หอ้ งเรียนสะอาด บรรยากาศน่าเรยี น” ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5/1 น้นั ไดเ้ ชื่อมโยงสู่อัตลักษณ์ของโรงเรยี นในข้อทีว่ ่า 1) พอเพยี ง - การที่รกั ษาความสะอาดหอ้ งเรยี น แสดงวา่ ไดใ้ ช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง ในท่นี ้ีหมายความวา่ นกั เรียนรกั ษาห้องเรียน ให้สะอาดอยเู่ สมอ มีความตระหนกั ถงึ ความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองและ ส่วนรวม 2) กตญั ญู - การทน่ี กั เรียน เอาใจใส่ในการรักษาหอ้ งเรียน จัดโตะ๊ เก้าอ้ี ทิ้งขยะลงถัง แสดงถึงความกตญั ญู เช่อื ฟังคาส่ังสอนของคณุ ครู 3) ความรับผิดชอบ นกั เรยี นเปน็ ผ้มู คี วามรับผิดชอบ จัดโตะ๊ เก้าอี้ ให้เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย ทาเวร ประจาวนั ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 4) ความมีระเบียบวินัย นักเรียนทาเวรประจาวนั เป็นประจาสม่าเสมอ สง่ ผลใหน้ กั เรียนเปน็ ผู้มรี ะเบียบวนิ ัย ในการดาเนนิ ชีวติ สรุปและอภปิ รายผล 1. นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5/1 เปน็ ผมู้ ีความรับผดิ ชอบในตวั เองมากขนึ้ จดั โตะ๊ เกา้ อี้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย มคี วามตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม 1) นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5/1 มีความรบั ผิดชอบทาเวรประจาวันเป็นประจาสม่าเสมอ เชื่อฟัง คาสั่งสอนของคุณครู ส่งผลใหน้ กั เรียนเป็นผมู้ ีระเบียบวินัยในการดาเนนิ ชวี ิต ผลการประมนิ ความพงึ พอใจในการทาโครงงาน มีเกณฑค์ ุณภาพอยู่ในระดบั ดี หรือคดิ เปน็ รอ้ ยละ 95 นกั เรยี นมีความพงึ พอใจและใหค้ วามร่วมมือในการทาโครงงานและตระหนักในความสาคญั ของการแก้ไข ปัญหาของหอ้ งเรยี นเป็นอยา่ งดี นกั เรียนทเ่ี ข้ารว่ มกิจกรรมโครงงาน“หอ้ งเรยี นสะอาด บรรยากาศน่าเรียน” มีความรับผิดชอบ และมีวนิ ัยในตนเองมากข้ึน ๑๕
ขอ้ เสนอแนะ 1) นกั เรยี นให้ความรว่ มมอื ในทกุ ขน้ั ตอนของกจิ กรรมให้ความสาคัญและตง้ั ใจปฏิบัตกิ จิ กรรมเปน็ อย่างดี 2) นกั เรียนใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตามข้ันตอน ทาใหก้ ารจดั ทาโครงงานบรรลเุ ปา้ หมาย 3) ควรขยายผลไปยังนกั เรียนทุกคนในโรงเรยี น 4) ควรจัดทาโครงงานนี้อย่างต่อเนือ่ งเพอ่ื ให้นกั เรยี นมคี วาดชอบและมีวนิ ยั ในตนเองอยา่ งยงั่ ยนื 5) ควรมกี ารพฒั นาสอ่ื คณุ ธรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพือ่ กระต้นุ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคใ์ หด้ ีย่ิงขน้ึ ๑๖
ภาคผนวก ๑๗
โต๊ะ เก้าอไี ม่เรียบรอ้ ย ๑๘
บอร์ดความรู้หนา้ ห้องไม่สวยงาม ๑๙
เวรประจาวนั ทาความสะอาดหอ้ งเรียนทกุ วันตอนเชา้ ก่อนเข้าเรยี น ๒๐
นักเรยี นจกั โต๊ะเก้าอ้เี ขา้ ท่ีทกุ ครง้ั ท่เี รยี นเสร็จ ๒๑
จดั บรรยากาศหอ้ งใหน้ ่าเรียน ๒๒
จดั ทาโครงงานรว่ มกนั จนสาเร็จ ๒๓
อา้ งอิง อิทธิบาท 4 . {ระบบออนไลน์} แหลง่ ท่ีมา . https://wealthmeup. com. 18 สงิ หาคม 2563. อิทธบิ าท 4 . {ระบบออนไลน์} แหล่งทีม่ า . https://th.wikipedia.org/wiki . 18 สิงหาคม 2563. ๒๔
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: