Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานคุณธรรม ม.๖ ๒ ๖๔

โครงงานคุณธรรม ม.๖ ๒ ๖๔

Published by s-u-p-e-r_human, 2021-12-23 10:38:09

Description: โครงงานคุณธรรม ม.๖ ๒ ๖๔

Search

Read the Text Version

โครงงานคุณธรรม เรือ่ ง เพื่อนคู่คิดพชิ ิตใจใฝ่การเรียน โดย นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 ครูทีป่ รกึ ษาช้นั นายศิรวิ ัฒน์ ขานไธสง นายสทิ ธิเดช ใจเย็น โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 5๐ จงั หวัดขอนแก่น สานักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สานกั งาคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คานา โครงงานคุณธรรม เร่ือง มีเพื่อนคู่คิดชีวิตพิชิตใจใฝ่การเรียน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 ฉบับน้ี จัดทาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 โดยมีวัตถปุ ระสงค์ให้ท่ีจะใหเ้ พื่อนท่เี ปน็ คนทีไ่ วว้ างใจ เชื่อใจกนั และสนิทสนมกันเปน็ เหมือนกระจกเงา หากมีเพ่ือนดีก็จะทาให้อีกคนยอมรับและทาส่ิงดี ๆ ด้วยกันได้ และสามารถตักเตือนและยอมแก้ไข ข้อบกพร่องได้ การจัดทาโครงงานครั้งนี้จึงสาเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะความร่วมมือของทุกคน ขอขอบคณุ นกั เรียนทุกคนทใี่ หค้ วามร่วมมือในการทากจิ กรรมตามทวี่ างแผนไว้ ผู้จดั ทา

สารบัญ หนา้ คานา 1 สารบัญ 4 บทที่ 1 บทนา 7 บทที่ 2 เอกสารท่ีเก่ยี วข้อง 10 บทท่ี 3 วิธดี าเนนิ งาน 12 บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน 15 บทท่ี 5 สรปุ ผลและอภปิ ราย ภาคผนวก

บทที่ ๑ บทนา ท่มี าและความสาคัญของปัญหา วัยรุ่นเป็นวัยที่ผู้ปกครองและครูท่ีโรงเรียนต้องให้ความสนใจในพฤติกรรมและการเล้ียงดู อย่างรอบคอบและ เพราะในสังคมปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ และอิทธิพลจากละคร และภาพยนตร์ ตลอดจนสื่อในรูปแบบต่างๆ อาจทาให้วัยรุ่นเลียนแบบ หรือไม่อาจแยกแยะได้ว่าสิ่งใดควรเลียนแบบ ไม่ควรเลียนแบบหรือนามาเป็นตัวอย่างในการดาเนินชีวิต จนทาให้ชีวิตช่วงวัยรุ่นที่กาลังศึกษาเล่า เรียนอยู่ล้มเหลวได้ ไมว่ ่าจะเป็นเรือ่ งของยาเสพติด หรือ ปัญหาความรักเพอ่ื นต่างเพศ ผู้ปกครองหรือ โรงเรยี นต้องใหค้ วามสาคัญกับปัญหาน้ี และต้องรว่ มมอื กันแก้ไขอยา่ งถูกวิธี จากพฤติพรรมกล่าวมา เป็นสาเหตุให้นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ มีผลการเรียนต่า สืบเนื่องมาจากไม่มีสมาธิ และไม่ต้ังใจเรียน เพราะหมกมุ่นในเร่ืองการคบเพ่ือนต่างเพศ ทาให้มี การบา้ นและช้นิ งานทีค่ รูแต่ละวชิ าค้างสะสมหลายวิชา ดังนั้น นักเรียนและครูท่ีปรึกษาช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ จึงมีความประสงค์จะให้นักเรียน ทุกคนมุ่งม่ันในการทาหน้าท่ีของนกั เรียนและลูกที่ดีของพ่อแม่ และค้นหาวิธีการแกป้ ัญหาโดยการจับ กลุ่มนักเรียน กลุ่มละ ๔ คน เพ่ือให้ช่วยกันทาการบ้าน ทางาน ช่วยกันทาแบบฝึก ใบงาน ช้ินงานท่ี มอบหมายให้แตล่ ะวิชา เรียนรู้ซึ้งกนั และกัน มีการแลกเปล่ียนเรียนร้กู นั และมีเพอื่ นทีค่ อยตกั เตือนใน เร่ืองที่จะทาให้ตนเองและสังคมส่วนรวมเดือดร้อน เช่น คอยเตือนในเร่ืองท่ีจะทาให้ผิดระเบียบวินัย ของโรงเรียน หรือ เร่ืองอน่ื ๆ ทจ่ี ะทาใหเ้ กดิ ปญั หาและความเดอื ดร้อนตอ่ ตนเองและสังคม ดังนั้น กลุ่ม Buddy จะมีบทบาทในการเรียนและการทาส่ิงต่างๆ ในขณะท่ีอยู่โรงเรียน เตอื นสติเม่ือคดิ จะหนเี รียน หรือไมท่ าการบา้ น หรือเพอ้ ฝันและหมกมุ่นในเร่ืองความรักของวัยร่นุ เม่ือ เป็นเช่นน้ี นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ จะมีผงการเรียนดีขึ้น และรู้หน้าที่ของตนเอง เพราะกลุ่ม เพอื่ น วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อใหน้ กั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท6ี่ /1 ตงั้ ใจเรยี น ขยนั เรยี นและมีผลการเรยี นท่ีสูงขนึ้ ๒. นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่๖/๑ เปน็ ผ้มู คี วามรบั ผิดชอบ ขยันหมน่ั เพียร ปัญหา นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 ไม่มีสมาธใิ นการเรียน ทาให้มกี ารบ้านและมงี านคา้ งสะสม หลายวิชา เพราะคิดหมกมนุ่ ในเรอ่ื งคบเพ่ือนตา่ งเพศ สาเหตขุ องปัญหา นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖/๑ มีพฤติกรรมเลีย่ นแบบละครและส่อื สงั คมออนไลน์ กลุ่มเปา้ หมาย ๑.เชิงปรมิ าณ -นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖/๑ จานวน ๒๐ คน ๒.เชงิ คณุ ภาพ -นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖/๑ เป็นผู้มีความรบั ผิดชอบ ขยันหม่นั เพยี ร -นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖/๑ มีผลการเรียนสงู ขน้ึ สานกึ ในหนา้ ที่ของนักเรยี นและ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ลูกทดี่ ีของพ่อแม่

เป้าหมายระยะสน้ั (ระยะเวลา ๓ เดือน) - นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 ต้ังใจเรียน มีความรับผิดชอบ ติดตามงาน ส่ง แบบฝึกท่ีครูแต่ล่ะวิชาที่ครูมอบหมายให้ มีกลุ่ม Buddy ตักเตือนกัน และช่วยเหลือกันทางานที่ครู มอบหมาย เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา ๑ ปีการศึกษา) - ผลการเรียนของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ สูงข้ึน ลดปัญหาพฤติกรรมที่ไม่ ตั้งใจเรียน ลดปัญหาหมกม่นในเรื่องความรัก มีมมุ มองความรักท่ีถกู ต้องเหมาะสม และเสพสื่อสังคม ออนไลนอ์ ยา่ งเหมาะสม คุณธรรมเป้าหมาย ๑. อิทธบิ าท ๔ ๒. กัลยาณมิตร คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน ๑. ความกตัญญู ๒. ความรับผดิ ชอบ ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ ๑. นักเรียนมีกลุ่มเพื่อน Buddy ท่ีดีคอยช่วยเหลือในเรื่องการเรียน งานอ่ืนๆ ช่วยแนะนา แกป้ ัญหาตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนในโรงเรยี น ๒. นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ เป็นผู้มีความรับผิดชอบ ขยันหม่ันเพียร ตระหนักใน หนา้ ทีข่ องลูกท่ดี แี ละนักเรยี นท่ดี ี

บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ ง ในการดาเนนิ โครงงานคณุ ธรรม นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6/1 ไดน้ าหลักการคุณธรรมมา ใช้ในการแก้ไขปัญหาพฤตกิ รรมของนกั เรียน และนาไปสูก่ ารปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. เคล็ดลบั ในการเรียนใหไ้ ดผ้ ลดี การเรียนในระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สายวิทยาศาสตร์ – คณติ ศาสตร์ นน้ั สว่ นหน่ึงก็ ต้องอาศยั การมีวนิ ัย เข้าห้องเรยี นอยา่ ง สม่าเสมอ และหมั่นทบทวนบทเรยี น ถา้ อยากได้ผลการเรียน ดๆี มีเคล็ดลบั ดังต่อไปน้ี กุญแจแหง่ ความสาเรจ็ ที่จะนามาแนะนามีช่อื วา่ ‘การเรียนรู้แบบองคร์ วม’ หรอื ‘Holistic Learning’ ซึง่ เป็นสง่ิ ที่ตรงข้ามกบั การท่องจาล้วน ๆ ข้อมลู เข้าไปในหวั สมอง การเรียนรู้แบบองค์รวม จะช่วยให้เกิดการเช่ือมต่อระหวา่ งความคดิ และข้อมลู ต่างๆ ทาใหเ้ ราจดจาได้ดขี ึน้ ในระยะยาว และ ชว่ ยเพิ่มทักษะในการคิดวเิ คราะห์ดว้ ย 1) แปลงข้อมูลให้เปน็ รูปภาพ สมองคนเราสามารถจดจาภาพได้ดีกว่าข้อความ ดังนั้น การแปลงข้อมูลต่างๆ ให้เป็นรูปภาพ จะทาให้เราสามารถจาได้ดีข้ึน รูปภาพในที่น้ีรวมถึงแผนภูมิแท่ง แผนภูมิวงกลม แผนท่ีความคิดด้วย นะคะ ลองฝึกจดแลคเชอร์โดยมีรูปประกอบดู แล้วจะพบว่ามันจาง่ายกว่าข้อความติดกันเป็นพรืดๆ เยอะ 2) เช่ือมโยงความรู้ใหม่เข้ากับความรู้เก่า ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้พยายามโยงเข้ากับพื้น ความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจสิ่งใหม่ที่เรียนรู้ได้ดียิ่งข้ึน เช่น คาว่า ‘sue’ ซ่ึง แปลว่า ฟ้องร้อง ออกเสียงคล้ายๆ ‘สู้’ ในภาษาไทย เราก็จาแบบเช่ือมโยงว่า sue คอื สู้กันในศาล = ฟ้องรอ้ ง แบบนก้ี จ็ ะช่วยให้จดจาได้ในระยะยาว 3) ติวให้เพื่อน การติวให้คนอื่น นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้ของเราอีกรอบแล้ว ใน ระหว่างเรียบเรียงเพื่อนาไปอธิบายให้เพ่ือนเข้าใจ สมองของเรายังมีการพฒั นาปรับปรุงสิ่งท่ีเรียนรู้ไป ให้มีการจัดวางอย่างเป็นระบบมากย่ิงขึ้น และทาให้เราเข้าใจความรู้เหล่านั้นลึกซึ้งมากย่ิงข้ึนไปอีก แถมยังสนทิ กบั เพอื่ นมากขึน้ อีกดว้ ยนะ 4) หลีกเล่ยี งการจดโนต้ ดว้ ยข้อความล้วนๆ เชื่อวา่ หลายคนคงเคยหลบั คาตาราเรยี นเลม่ หนาๆ กนั มาแล้วไมม่ ากกน็ ้อย เพราะตัวหนงั สือทีต่ ดิ กันยาวๆ อ่านแลว้ มนั ช่างนา่ เบื่อสุดๆ เพราะแบบ นั้นเวลาทเี่ ราจดโน้ตไว้อา่ นทบทวนเองก็ไม่ควรเขยี นเฉพาะตัวหนังสอื ลองวาดภาพ เขียนกราฟ เขียน แผนภูมิแทรกลงไปบา้ ง ใช้ปากกาสหี รอื ไฮไลทใ์ ห้เด่น ขอ้ ความ pop up ขน้ึ มาเวลาอ่าน จะชว่ ยให้ สนุกขึ้นเวลากลบั มาอา่ นทบทวน และทาให้จดจาได้ดียง่ิ ขน้ึ อกี ด้วย อย่าลมื แทรกความคิดเหน็ ทเี่ รามี ต่อเรื่องนั้นๆ ลงไปด้วย เพราะมันจะชว่ ยกระตุ้นใหส้ มองเกิดการคดิ วิเคราะห์ (critical thinking) ได้ เปน็ อย่างดี 5) วางรากฐานใหม้ ั่นคง เวลาเริม่ ตน้ เรียนใหมๆ่ ส่วนใหญ่เนือ้ หาจะงา่ ยใชไ่ หมคะ แต่พอเรยี น ไปเร่อื ยๆ ยิง่ เรียนก็ยิง่ ยากข้นึ และทาใหง้ นุ งงสบั สนมากขน้ึ เร่อื ยๆ บางคนพอไม่เขา้ ใจจดุ หนึง่ กป็ ลอ่ ย ผา่ นไป แล้วข้ามไปอา่ นอีกเร่ือง แบบนั้นมกั จะยิง่ ทาให้งงมากขึ้นค่ะ เพราะเนื้อหาในบทเรยี นส่วนใหญ่ จะเช่อื มโยงกัน ฉะน้ัน

ถา้ อยากจะเข้าใจบทเรียนทัง้ หมดได้โดยไมส่ บั สน การค่อยๆ เรยี นรู้ไปทีละกา้ วจึงเป็นเร่ืองสาคญั มาก ต้องมั่นใจว่าเราเข้าใจพื้นฐานเรือ่ งทเี่ รียนแนน่ อน สามารถอธบิ ายได้ แลว้ ลาดับตอ่ ๆ ไปถา้ สามารถอธบิ ายได้กจ็ ะไมค่ ่อยรู้สึกว่ามนั ยากเอง 6) อา่ นบทสรุปก่อนเริ่มเรียน หากวชิ าไหนมีบทสรุป ก่อนจะเริม่ อา่ นเนื้อหาหรือเรียนในคาบ ถัดไป แนะนาวา่ ให้อา่ นบทสรุปไปก่อนลว่ งหนา้ เพราะจะช่วยใหเ้ หน็ ภาพรวมของเนอื้ หาทัง้ หมดก่อน และเมื่อยอ้ นกลับมาไลอ่ า่ นอีกครั้งก็จะทาให้เข้าใจได้ดยี ิ่งขึ้น อย่างนอ้ ยเผ่ือเวลาสัก 30 นาทหี รือ 1 ชวั่ โมงก่อนเขา้ คลาสเพ่ือเตรียมตัวไวก้ ็ดีนะ 7) ต้ังใจฟังในห้องเรยี น บางคนเวลาเรยี นในหอ้ งมักจะชอบก้มหน้าก้มตาจดตามสไลด์ หรอื จดตามสง่ิ ท่ีอาจารย์สอนแบบทันบ้างไมท่ นั บ้าง ซึ่งการจดก็ถือเป็นวิธชี ่วยจาทีด่ ี แต่! อย่าลืมเผ่ือสมาธิ ไวใ้ ช้กับการฟังและคดิ วิเคราะหต์ ามด้วย บางคนจดมาเยอะกจ็ รงิ แต่พอกลบั มาอ่านทวนกลับไมเ่ ขา้ ใจ ซะงนั้ เพราะมวั แต่จดแทบไม่ไดฟ้ งั ที่อาจารยส์ อนเลย บางทีอาจารย์บอกว่าตรงนีจ้ ะออกสอบหรือเนน้ ย้าหวั ขอ้ ไหนเปน็ พเิ ศษ ถ้าไม่ไดต้ ้งั ใจฟงั เราก็อาจจะพลาดได้นะ 8) ฝึกจับประเด็น การจับประเด็นไม่ใช่แค่การย่อความหรือสรุปความแต่เป็นการวิเคราะห์ให้ แตกฉานว่าอะไรคือหัวใจหลักของสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือหรือส่ิงท่ีอาจารย์พูด ยกตัวอย่างเช่นเรารู้ว่า นิทานเรือ่ งกระต่ายกับเตา่ เกดิ ขึ้นยงั ไง เลา่ ไดต้ ้งั แต่ต้นจนจบ แต่ประเด็นของเร่ืองไม่ใช่วา่ ใครถึงเส้นชัย ก่อนกันแต่คือคนเล่าต้องการจะสอนให้เราไม่ประมาทและเหลิงไปกับความสามารถของตนเอง ต่างหาก เพราะฉะนั้นเวลาอ่านหนังสือจบบทก็อย่าลืมตั้งคาถามกับตัวเองด้วยว่า หัวใจสาคัญหรือ ประเด็นหลักของบทน้ีคอื อะไร 2. ความหมายของเพื่อน เพื่อน คือ ผูท้ รี่ ักใครชอบพอกัน แล้วกระทาความดีตอ่ กนั เพ่ือใหอ้ ยู่รว่ มกันได้ ไมเ่ ลอื กเพศ วัย ความรู้ ชาติ ศาสนา ผรู้ ว่ มธุระ ผ้อู ยู่ในสภาพ ลักษณะเดียวกนั มติ ร คือ เพ่อื นผรู้ ักใครค่ ้นุ เคยกัน ผูม้ ไี มตรเี ยือ่ ใยต่อกัน สหาย คือ ผูม้ าดว้ ยกันไปดว้ ยกนั กระทารว่ มกัน กลั ยานิมิตร คอื เพ่ือนทีด่ ี มติ รทดี่ งี าม เพ่อื นทดี่ ี คือ ผูท้ ีส่ ามารถอยรู่ ว่ มกันได้ดว้ ยความสุขสวสั ดี ดงั นน้ั การมเี พือ่ นท่ดี ี จะทาให้ผูเ้ รยี นไม่ว่าในระดับใดก็ตามประสบความสาเร็จไปแล้ว ครึ่งหน่ึง เพราะเพ่ือนสามารถเปน็ แรงบันดาลใจให้ผ้เู รยี นทาตามทุกอย่างได้ ในทางตรงกนั กนั ข้าม หากเพ่ือนสามารถชีน้ าไปในทางเสอ่ื มเสีย หรอื ชักจูงไปในทางไม่ดี ก็จะทาให้ผเู้ รียนลม้ เหลวได้เช่นกัน กัลยาณมิตร 7 ประกอบด้วย 1) ปโิ ย คอื ความน่ารกั หมายถงึ มีเมตตากรุณา ใสใ่ จคนและประโยชน์สขุ ของเขา เข้าถึงจิตใจ และสร้างความสนิทสนมเป็นกันเอง 2) ครุ คือ น่าเคารพ หมายถึง เปน็ ผูห้ นักแน่น ถือหลักการเปน็ สาคญั มีความประพฤตสิ มควรแก่ ฐานะ ทาใหร้ ู้สกึ อบอุ่นใจและเปน็ ทพี่ ึง่ ได้ 3) ภาวนีโย คือ น่าเจรญิ ใจ หมายถงึ มีความรจู้ รงิ ทรงภมู ิปญั ญาแท้จริง เป็นผูฝ้ กึ ฝนปรับปรงุ ตน อย่เู สมอและเป็นที่น่ายกยกเอาแบบอย่าง 4) วตฺตา คือ ร้จู กั พดู ให้ได้ผล หมายถึง รจู้ ักช้แี จงให้เข้าใจ รู้ว่าเมอื่ ไรควรทาอะไร คอยให้ คาแนะนาตักเตือนและเป็นท่ีปรึกษาทด่ี ี

5) วจนกขฺ โม คือ อดทนตอ่ ถ้อยคา หมายถงึ พร้อมรบั ฟังคาปรึกษาซกั ถาม อดทนต่อคาล่วงเกนิ คาตกั เตือนและอดทนฟังได้ไม่เสียอารมณ์ 6) คมฺภีรญจฺ กถ กตตฺ า คือ แถลงเรอ่ื งล้าลึกได้ หมายถงึ กล่าวชีแ้ จงเรอ่ื งต่างๆ ทย่ี ุ่งยากลกึ ซึ้งให้ เข้าใจได้ง่าย 7) โน จฏฐฺ าเน นโิ ยชเย คอื ไมช่ ักนาในอฐาน หมายถึง ไมช่ ักจงู ไปในทางทเ่ี ส่ือมเสียหรอื เรอื่ ง เหลวไหล เป็นขอ้ ท่ี 2 ในมงคลชวี ติ 38 ประการ จะทาใหช้ ีวิตเรามีแต่ ความเจริญ รุ่งเรือง ความเจริญเริม่ ตน้ ที่ การ “” รู้จกั เลือกคบคนดี “” แสดงให้เห็นถงึ ความเป็น””คนดี “”ของเราดว้ ย และการท่ีเราสมาคม กับคนดี เราย่อมได้ รบั ฟังสิ่งดีๆ จากคนดๆี ทีเ่ รยี กว่า “”ธรรมะ”” และน่ัน.. เราจะไดร้ บั อานิสงฆ์ จากการรธู้ รรม คณุ ธรรมเป้าหมาย 1. อิทธบิ าท 4 1) ฉนั ทะ (ความพอใจ) นกั เรยี นมคี วามพอใจในการจบั คเู่ พ่ือนสนิททจี่ ะคอยช่วยเหลือ กนั ใน ดา้ นการเรียน และคอยตักเตือนกนั ในพฤติกรรมท่ไี ม่พงึ ประสงค์ 2) วิริยะ (ความเพียร) นกั เรียนทุกคู่ จะคอยช่วยเหลอื กันด้วยความขยนั หม่ันเพยี ร ไม่ ขีเ้ กยี จใน งานท่ีได้รบั มอบหมายจากครูประจาวชิ า ไมส่ ะสม หมักหมมงานท่คี รูมอบหมาย 3) จิตตะ (ความคดิ ม่งุ มัน่ ) นักเรยี นต้งั จติ รบั รใู้ นสิ่งทีท่ าและทาสิ่งน้นั ดว้ ยความคดิ เอา จิตฝักใฝ่ ไมป่ ล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเล่ือนลอย ตง้ั ใจช่วยกันทางาน แก้ปญั หาที่เกดิ ขึ้นด้วยสติ 4) วมิ ังสา (ความไตร่ตรอง หรือทดลอง) คอื นักเรียนทุกคู่ท่เี ปน็ เพ่อื นกนั ชว่ ยกันใช้ ปญั ญา พิจารณา ใคร่ครวญ ในการทางาน การบ้านท่ีครมู อบหมาย มีการวางแผน คิดคน้ วิธกี ารต่าง ๆ ที่ จะทาให้งานสาเร็จ รักในการเรียน ใส่ใจงาน และทางานดว้ ยปญั ญา เปน็ ตน้ 2. กลั ยาณมิตร หมายถึง มติ รแท้ เพ่ือนแท้ กัลยาณมติ ร…คือมติ รแท้ 4 แบบ คือ

1) มติ ร มีอุปการะคอยช่วยเหลือ - ทางานท่ีได้รบั มอบหมาย แลกเปล่ยี นเรียนรจู้ ากกัน และกัน 2) มิตร ร่วมสุขร่วมทุกข์ - ไม่ทอดทิง้ กนั ชว่ ยกันทางานทไี่ ด้รับมอบหมายให้สาเรจ็ 3) มิตร แนะนาแต่ส่ิงดี - คอยแนะนาให้ทาแต่สงิ่ ดี และตกั เตือน หรือหา้ มในสิ่งไม่ดี 4) มติ ร มีความรกั ใคร่ - มคี วามรกั ท่จี ริงใจต่อกัน ชว่ ยเหลอื กนั จรงิ ใจกนั ความเชอ่ื มโยงส่คู ณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ของโรงเรียน โครงงานคุณธรรม มเี พื่อนคู่คิดชีวิตจึงดี นั้นได้เช่ือมโยงส่อู ตั ลักษณ์ของโรงเรียนในข้อทว่ี ่า 1) พอเพยี ง - การท่เี พ่ือนคอยเตือนเพ่ือนในส่ิงดี ๆ คอยช่วยเหลอื กัน แสดงว่าได้ใช้ชีวิตอยู่ อย่างพอเพียง ในที่นห้ี มายความว่านักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนทม่ี ีการบา้ นไมค่ ัง่ คา้ ง ทางานเสร็จทันเวลา มีผล การเรยี นดี 2) กตญั ญู - การที่นกั เรยี นต้ังใจเรียน เอาใจใส่ในการเรยี นเพราะมเี พื่อนคอยเตือนสติและ ช่วยเหลือกนั ไม่ มีปัญหาเดือนร้อนถึงผปู้ กครอง แสดงถึงความกตัญญู เช่อื ฟังคาส่ังสอนตอ่ พ่อแม่ 3) ความรบั ผดิ ชอบ เมื่อนกั เรียนมีเพ่ือนสนทิ หรือเพื่อนค่หู ู จึงเป็นหมอื นเคร่ืองเตือนสติให้ รับผดิ ชอบต่อ หน้าทขี่ องตนเอง ขยนั หมน่ั เพยี ร ทางานไม่คงั่ ค้าง สง่ ผลให้มีผลการเรียนดี 4) ความมรี ะเบยี บวินัย เมอื่ นักเรียนมีเพื่อนสนทิ หรือเพ่ือนคู่หู จงึ เปน็ หมือนเครื่องเตือนสตใิ ห้ รบั ผิดชอบต่อ หนา้ ท่ีของตนเอง ขยนั หมน่ั เพียร ทางานไมค่ ง่ั คา้ ง ส่งผลใหม้ ีผลการเรยี นดี ส่งผลให้นกั เรยี นเปน็ ผู้ มรี ะเบียบวนิ ัยในการดาเนนิ ชีวติ

บทที่ ๓ วิธดี าเนนิ โครงงาน วธิ ดี าเนินงาน การจัดทาโครงงานคุณธรรมของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 ในครั้งนี้ มีการดาเนินงาน ตามขั้นตอนดังนี้ 1.ขั้นวางแผน 1) สารวจและวเิ คราะห์ปญั หาของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 ทเ่ี กดิ ข้ึน 2) นักเรียนและครูร่วมกนั วเิ คราะห์หาแนวทางแก้ไขปัญหา 3) นักเรียนและครูวางแผนร่วมกนั แผนการแก้ไขปัญหา พร้อมกบั สรา้ งความเข้าใจ การดาเนนิ งานสร้างขอ้ ตกลงในการดาเนนิ งาน 2.ขน้ั ดาเนินงาน 1) นักเรียนและครู กาหนดให้ทุกคนเลือกเพือ่ นที่จะค่อยช่วยเหลอื กันโดยเรยี กวา่ กล่มุ เพ่ือนหรือ Buddy ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6/1 2) นักเรยี นจะไดก้ ลุ่ม Buddy จานวน 6 กลุม่ 3) สร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 โดยนาหลักธรรม อิทธิ บาท 4 และบคุ คลตัวอยา่ งมาเป็นหลักใหน้ กั เรยี นเกิดแรงบันดาลใจเพอ่ื สร้างความสาเร็จ 4) นักเรียนและครูรว่ มกันสรา้ งแบบบนั ทึกพฤติกรรมของเพื่อนทุกคใู่ นด้านการเรยี น และพฤตกิ รรมอืน่ ๆ ที่อาจส่งผลตอ่ การเรยี นของนักเรยี น 3.ขน้ั ตดิ ตามผล 1) ครูทาแบบสอบถามนักเรียนเป็นระยะๆ เดือนล่ะ 1 คร้ัง และแบบสังเกต พฤติกรรม โดยให้ครูประจาวิชาที่สอนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ตอบแบบสอบถาม และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรียนในการแก้ไขปญั หา 2) หากกลุ่ม Buddy กลุ่มใด มีปัญหาไม่สามารแก้ไขได้ ให้ปรึกษาเพ่ือนในห้องคู่ อ่ืนๆ และครูทป่ี รกึ ษาช้นั เพ่อื นมาสกู่ ารแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั 4.ข้นั สรปุ และประเมินผล 1) ประเมินผลการดาเนินงานเม่ือสิ้นภาคเรียนท่ี ๒/2564 จากผลการเรียนของ นักเรยี นทุกคน 2) สรุปผลการดาเนินโครงงานและรายงาน คณุ ธรรมเปา้ หมาย 1.อทิ ธบิ าท 4 1) ฉันทะ (ความพอใจ) นักเรียนมีความพอใจในการจับคู่เพื่อนสนิททีค่ ่อยชวยเหลือกนั ใน ดา้ นการเรยี นและค่อยตักเตือนกนั ในดา้ นพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ 2) วิริยะ (ความเพียร) นักเรียนทุกคู่ จะค่อยช่วยเหลือกันด้วยความขยันม่ันเพียร ไม่ขี้เกียจ ในงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายจากครปู ระจาวชิ า ไมส่ ะสมงานมอบหมายทคี่ รคู ่ังค้าง 3) จิตตะ (ความคิดมุ่งมั่น) นักเรียนตั้งจิตรับรู้ในสิ่งท่ีทาและทาสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิต ฝกั ใฝ่ไมป่ ล่อยใจใหฟ้ งุ้ ซา่ นเลื่อนลอย ต้ังใจช่วยกันทางาน แก้ปญั หาทเ่ี กิดขึ้นดว้ ยสติ

4) วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือทดลอง) คือนักเรียนทุกคู่ท่ีเป็นเพื่อนกันช่วยกันใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ควรในการทางาน การบ้านท่ีครูมอบหมาย มีการวางแผน คิดค้นวิธีการต่างๆ ที่จะทาให้ งานสาเรจ็ รกั ในการเรียนใส่ใจงาน แลทางานดว้ ยปัญญา เปน็ ตน้ 2.กลั ยาณมิตร หมายถงึ มติ รแท้ เพื่อนแท้ กลั ยาณมิตร…คือมติ รแท้4 แบบ คือ 1) มิตร มีอุปการะค่อยชว่ ยเหลอื - ทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย แลกเปล่ียนเรยี นรูจ้ ากกันและกัน 2) มิตร รว่ มสขุ รม่ ทุกข์ - ไมท่ อดท้ิงกนั ชว่ ยกนั ทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมายให้สาเรจ็ 3) มิตร แนะนาแต่ส่งิ ดี - คอ่ ยแนะนาใหท้ าแตส่ ิ่งดี และตกั เตือน หรือหา้ มในสง่ิ ไม่ดี 4) มิตร มคี วามรักใคร่ - มีความรักท่ีจรงิ ใจต่อกนั ชว่ ยเหลอื กนั จริงใจกนั ความเช่อื มโยงสู่คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรยี น โครงงานคณุ ธรรม มีเพื่อนค่คู ิดชวี ิตจึงดี นน้ั ไดเ้ ช่อื มโยงสู่อัตลักษณ์ของโรงเรยี นในข้อทีว่ ่า 1) กตัญญุ การทีน่ กั ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ในการเรยี นเพราะมเี พือ่ นคอ่ ยเตือนสติและช่วยเหลือ กนั ไมใ่ ห้มีปญั หาเดอื ดร้อนถึงผปู้ กครอง แสดงถงึ ความกตัญญู เชือ่ ฟังคาสั่งสอนต่อพ่อแม่ ๒) ความรับผิดชอบ เม่ือนักเรียนมีเพื่อนสนิทหรือเพ่ือนคู่หู จึงเป็นเหมือนเครื่องเตือนสติให้ รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ขี องตนเอง ขยนั หมน่ั เพียร ทางานไมค่ ่ังค้าง ส่งผลใหม้ ีผลการเรียนดี วธิ กี ารวัดประเมินผล เพือ่ ลดปัญหาการไม่ต้ังใจเรยี น หรือไมส่ ่งการบ้านครู โดยการเอากลมุ่ เพื่อนคอยช่วยเหลือ คดิ แก้ปญั หาเตือนสติ และช่วยกันทางาน และสามารถแลกเปลนี่ นเรยี นร้จู ากเพ่ือนๆ ทั้งหมดในชั้นเรยี น วธิ ีการวัดผล : ประเมนิ ความพงึ พอใจของนักเรียน เคร่ืองมือวดั : แบบประเมินความพงึ พอใจในการดาเนนิ โครงงาน ชว่ งระยะเวลา : เดอื นละ 1 ครัง้ ตัวช้ีวัดความสาเร็จ 1. ร้อยละของนักเรียนสง่ การบ้าน หรือช้ินงานเสร็จทันเวลาทีค่ รกู าหนด 2. รอ้ ยละของนักเรยี นมผี ลการเรียนทสี่ งู ขึน้ จากระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่5 3. ร้อยละของนักเรียนมผี ลการเรยี นผา่ นทุกวิชา

บทที่ ๔ ผลการดาเนนิ งาน ในการดาเนินโครงงานโรงเรียนคุณธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของนักเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ เพ่ือให้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในคร้ังน้ี นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที ๖/๑ จานวน ๒๐ คน สามารถลดปัญหาด้านพฤติกรรมและมีผลการเรียน ที่พัฒนาและมผี ลการเรยี นเฉลยี่ ดีขึ้น ขอรายงานผลการดาเนนิ โครงงาน ดังน้ี กลุม่ เป้าหมาย ๑.เชิงปรมิ าณ - นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาศึกษาปีท่ี ๖/๑ จานวน ๒๐ คน ๒.เชิงคุณภาพ -นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖/๑ เป็นผมู้ คี วามรับผดิ ชอบ ขยันหมนั่ เพียร -นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ มีผลการเรียนรู้สูงข้ึน มีความสานึกในหน้าที่ของ นกั เรยี นและปฏิบตั ติ นเป็นลูกทด่ี ขี องพ่อแม่ เป้าหมายระยะสั้น (ระยะเวลา ๓ เดอื น) - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ ต้ังใจเรียน มีความรับผิดชอบ ติดสามงาน ส่งแบบฝึกท่ีครูแต่ละ วิชา มอบหมายให้ มกี ลมุ่ buddy ตักเตอื นกนั ชว่ ยเหลือกันทางานทีค่ รมู อบหมาย เปา้ หมายระยะยาว (ระยะเวลา ๑ ปี) - มีผลการเรียนที่สูงขึ้นจากระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ และมีผลการเรียนท่ีสูงขึ้นลดปัญหา พฤติกรรมไม่ต้ังใจเรียน ลดพฤติกรรมหมกมุ่นในเร่ืองความรัก และมีมุมมองเรื่องความรักท่ีถูกต้อง เหมาะสม และเสพสอ่ื สังคมออนไลน์อย่างเหมาะสม

แบบประเมินความพึงพอใจดาเนินโครงงานบดั ด้ีคูค่ ดิ พชิ ิตใจ ใฝ่การเรียน นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖/๑ คาชแี้ จง ให้ทาเครือ่ งหมาย / ในชอ่ งระดับคะแนนที่คิดว่าเหมาะสม ระดับคะแนน 5 หมายถงึ ดมี าก 4 หมายถึงดี 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรับปรุง 1. สถานภาพ ครู นักเรยี น 2. เพศ ชาย หญงิ ระดับความคิดเห็น หมายเหตุ ร้อยละ รายการท่ีประเมิน ๔.๙ ๙๘ ๑.นักเรยี นให้ความสาคัญและมีส่วนรว่ มในการวางแผน ๔.๗ ๙๔ ๒.นกั เรยี นยอมรบั เง่ือนไขและแนวปฏิบตั ใิ นการดาเนนิ กจิ กรรม ๔.๔ ๘๘ ๓.นกั เรียนให้ความรว่ มมือและพึงพอใจในกลมุ่ Buddy ๔.๑ ๘๒ ๔.นกั เรยี นเชือ่ ม่ันในกลุ่มเพ่ือน Buddy วา่ จะทาให้ประสบความสาเร็จ ๔.๘ ๙๖ ๕.นกั เรียนได้เรียนรูจ้ ากกลุ่มเพอื่ น และเกิดความสามัคคีในกลมุ่ ๔.๕ ๙๐ ๖.กจิ กรรมที่จัดทาใหน้ กั เรียนมีคะแนนผลการสอบ/การปฏิบัติงาน/ใบงาน พัฒนาดขี ึ้น ๔.๗ ๙๔ ๗.ครูผเู้ กยี่ วข้องพบเห็นการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมทด่ี ีขนึ้ และพึงพอใจด้าน การเรียนของนักเรียน ๔.๖ ๙๒ ๘.นกั เรยี นพึงพอใจการเรยี นรู้ท่ีดีจากกลุ่มเพ่ือน Buddy ๔.๕ ๙๐ ๙.นกั เรยี นเข้าใจและตระหนักในคุณธรมมท่นี ามาใชแ้ กป้ ญั หาของนักเรยี น ๔.๓ ๘๖ ๑๐.โครงงานนี้มสี ว่ นชว่ ยทาให้นักเรยี นประสบความสาเรจ็ ดา้ นการเรียน ๔.๕๕ ๘๑ รวม

บทที่ ๕ สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ การดาเนินงานตามโครงงานคุณธรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ ของนักเรียนและ ครูทป่ี รึกษาช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ จึงมีความประสงคจ์ ะให้กลุ่มเพ่ือน Buddy ช่วยเตือน ชว่ ยกันทา แบบฝึก ใบงาน ช้ินงานท่ีครูมอบหมายให้แต่ละวิชา และมีเพ่ือนที่คอยตักเตือนในเร่ืองท่ีจะทาให้ ตนเองและสังคมส่วนรวมเดือดร้อน เช่น คอยตักเตือนในเร่ืองท่ีจะทาให้ผิดระเบียบวินัยของโรงเรียน หรือ เรอื่ งอน่ื ๆ ทจี่ ะทาใหเ้ กดิ ปัญหาและความเดือดร้อนต่อตนเองและสงั คม ดงั น้ัน กลุ่มเพอ่ื น Buddy ผู้ท่ีคอยชว่ ยเหลอื เพ่ือนให้สามมารถเรียนจบไปด้วยกัน จึงเปน็ ท่มี า ของคาว่า “บัดดี้คู่คิด พิชิตใจ ใฝ่การเรียน” การทาเช่นน้ีจะทาให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ เปน็ ผทู้ ่ีมีความรับผิดชอบเป็นคนขยนั หม่ันเพียร มีการบ้าน ในแต่ละวิชาส่งทนั ตามกาหนดเวลา และมี ผลการเรียน และมีความประพฤติดีเป็นตัวอย่างที่ดีแก่น้องๆ และโรงเรียน ได้อย่างภาคภูมิใจ สามารถสรุปผลการดาเนนิ โครงงานได้ ดังนี้ ๑. วัตถุประสงค์ของการดาเนินโครงงาน ๒. กลุม่ เป้าเป้าหมาย ๓. ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ๔. คณุ ธรรมเป้าหมาย ๕. คณุ ธรรมอัตลกั ษณข์ องโรงเรยี น ๖. สรุปและอภิปรายผล ๗. ข้อเสนอแนะ วตั ถปุ ระสงค์ ๑.เพื่อให้นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ ตง้ั ใจเรียน ขยันเรียนและมีผลการเรยี นสูงข้นึ ๒.เพื่อให้นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖/๑ เปน็ ผมู้ คี วามรับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร ปญั หา นกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ ไม่มีสมาธิในการเรียน ทาใหม้ กี ารบ้านและชน้ิ งานที่ครู มอบหมายค้างสะสมหลายวชิ า เพราะคดิ หมกม่นุ ในการคบเพอ่ื นต่างเพศ สาเหตุของปัญหา - นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๖/๑ มีพฤติกรรมเลียนแบบละครและสอ่ื สังคมออนไลน์ กลุ่มเปา้ หมาย เชงิ ปริมาณ - นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๖/๑ จานวน ๒๐ คน เชงิ คุณภาพ - นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ เปน็ ผมู้ ีความรบั ผิดชอบ ขยนั หมน่ั เพียร - นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๖/๑ มีผลการเรยี นสงู ขึน้ มีความสานกึ ในหนา้ ท่ีของนักเรยี นและ ปฏิบัตติ นเปน็ ลูกท่ดี ี

เป้าหมายระยะส้นั (ระยะเวลา ๓ เดอื น) - นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ ตงั้ ใจเรียน มีความรับผิดชอบ ตดิ สามงาน ส่งแบบฝึกท่คี รู แตล่ ะวชิ า มอบหมายให้ มกี ลมุ่ buddy ตักเตือนกนั ช่วยเหลือกันทางานที่ครมู อบหมาย เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา ๑ ปี) - มีผลการเรียนท่ีสูงข้ึนจากระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๑ และมีผลการเรียนที่สูงขึ้นลด ปัญหาพฤติกรรมไม่ต้ังใจเรียน ลดพฤติกรรมหมกมุ่นในเรื่องความรัก และมีมุมมองเรื่องความรักท่ี ถูกตอ้ งเหมาะสม และเสพส่ือสงั คมออนไลน์อยา่ งเหมาะสม คณุ ธรรมเปา้ หมาย ๑. อทิ ธบิ าท ๔ 1) ฉนั ทะ (ความพอใจ) นกั เรียนมคี วามพอใจในการจับคเู่ พ่ือนสนิทที่ค่อยชวยเหลือ กนั ในด้านการเรยี นและค่อยตักเตือนกนั ในด้านพฤติกรรมที่ไมพ่ ึงประสงค์ 2) วริ ยิ ะ (ความเพยี ร) นกั เรียนทุกคู่ จะค่อยชว่ ยเหลือกนั ด้วยความขยันมนั่ เพียร ไม่ ขเี้ กยี จในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายจากครูประจาวชิ า ไมส่ ะสมงานมอบหมายท่ีครูคงั่ ค้าง 3) จติ ตะ (ความคดิ มุ่งม่ัน) นักเรียนตง้ั จติ รบั รใู้ นสิ่งท่ีทาและทาส่ิงน้นั ดว้ ยความคดิ เอาจิตฝกั ใฝ่ไมป่ ล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอย ตั้งใจช่วยกนั ทางาน แกป้ ัญหาทเี่ กดิ ขึ้นด้วยสติ 4) วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือทดลอง) คือนกั เรยี นทกุ คู่ที่เป็นเพือ่ นกันช่วยกนั ใช้ ปัญญาพิจารณาใคร่ควรในการทางาน การบ้านที่ครูมอบหมาย มีการวางแผน คิดค้นวิธกี ารต่างๆ ทจ่ี ะ ทาใหง้ านสาเรจ็ รักในการเรียนใสใ่ จงาน แลทางานดว้ ยปัญญา เปน็ ต้น 2.กัลยาณมติ ร หมายถึง มิตรแท้ เพ่ือนแท้ กลั ยาณมิตร…คือมิตรแท้4 แบบ คือ 1) มิตร มีอปุ การะค่อยช่วยเหลือ - ทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย แลกเปล่ยี นเรยี นรู้จาก กันและกัน 2) มติ ร ร่วมสขุ รม่ ทุกข์ - ไมท่ อดทง้ิ กนั ช่วยกันทางานท่ีได้รับมอบหมายใหส้ าเรจ็ 3) มิตร แนะนาแต่สิ่งดี - คอ่ ยแนะนาให้ทาแตส่ งิ่ ดี และตกั เตอื น หรอื หา้ มในส่ิงไม่ดี 4) มิตร มคี วามรักใคร่ - มีความรักท่ีจริงใจตอ่ กนั ชว่ ยเหลือกัน จริงใจกัน ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รับ ๑. นักเรียนมีกลุ่มเพื่อน Buddy ที่ดีคอยช่วยเหลือในเรื่องการเรียน งานอื่นๆ ช่วยแนะนา แก้ปัญหาตา่ งๆ ที่เกดิ ข้ึนในโรงเรียน ๒. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑ เป็นผู้มีความรับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร ตระหนักใน หนา้ ทขี่ องลูกที่ดีและนกั เรียนท่ดี ี

สรุปและอภปิ รายผล 1) นักเรียนมีพฤติกรรมเชิงบวกในการช่วยเหลือกันของกลุ่มเพื่อน Buddy ในเร่ืองการเรียน งานอื่นๆหรือช่วยแนะนาแก้ปัญหาต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในโรงเรียน และตักเตือนไม่ให้ทาผิดระเบียบวินัย ของโรงเรยี น 2) นักเรียนชั้นมัธยมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 มีความรับผิดชอบ ขยันมั่นเพียรมากขึ้น มี พฤติกรรม ทีร่ ักและสามัคคีกนั และช่วยเหลอื กันเรียนอยา่ งจริงใจต่อกลมุ่ เพื่อน Buddy มากขน้ึ 3) นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 มีผลการเรียนของภาคเรียนท่ี 1/2564 ท่ีสูงข้ึนจาก ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 และมีผลการเรียนท่ีผ่านทุกคนและทุกรายวิชา มีความรับผิดชอบ มี ระเบยี บวินยั ลดปญั หาพฤตกิ รรมเสีย่ งในเรอ่ื งต่างๆ ร้อยละ91 4) นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 มีผลการเรียนดขี ึ้น ลดปญั หาเรื่องผลการเรยี นตดิ 0 ร มส 5) ผลการประเมนิ ความพึงพอใจในการทาโครงงาน มเี กณฑค์ ณุ ภาพอยู่ในระดบั 4.55 หรอื คิดเป็นร้อยละ 91 หมายความวา่ อยใู่ นระดับดี นกั เรยี นมีความพึงพอใจและใหค้ วามร่วมมือในการ ทำโครงงำนและตระหนกั ในควำมสำคญั ของกำรแกไ้ ขปญั หำของห้องเรยี นเปน็ อยำ่ งดี ดั้งนั้น กลุ่มเพ่ือน Buddy ผู้ท่ีคอยช่วยเหลือเพ่ือให้สามารเรียนจบไปด้วยกัน จึงเป็นท่ีมา ของคาวา่ “อนาคตสดใสใสใ่ จรักให้เป็น” การทาเช่นนจ้ี ะทาใหน้ กั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 เปน็ ผู้ที่ มคี วามรับผิดชอบเป็นคนขยันหมั่นเพียร มีการบ้าน ในแต่ละรายวิชาส่งทันตามกาหนด และมีผลการ เรยี นดี และมคี วามประพฤตดิ เี ป็นตวั อย่างท่ดี แี ก่น้องๆ และโรงเรยี น ไดอ้ ยา่ งภาคภมู ใิ จ ขอ้ เสนอแนะ จากการสงั เกตการณเ์ ข้าร่วมกิจกรรมของนกั เรยี นและครู นักเรียนละครใู หค้ วามรว่ มมอื ในทุก ขั้นตอนของกิจกรรม ให้ความสาคัญ และตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี นกเรียนให้ความร่วมมือ ความสามัคคีในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตามขั้นตอน ทาให้การจัดทาโครงงานบรรลุเป้าหมาย

ภาคผนวก






Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook