Driving in Down Under Chapter 4

Driving in Down Under Chapter 4 : From the sea to the mountains หนูเล็ก

จากทะเลถงึ ภเู ขา และแล้วเราสองคนกไ็ ม่ได้ตืน่ ไปดู Twelve Apostles อย่างทีส่ งั หรณ์ใจกนั ไว้ตงั้ แต่ เมือ่ คืน จรงิ ๆ แลว้ หนูเลก็ กอ็ ยากจะออกไปหรอกนะ เพราะครงั้ หน่ึงในชวี ติ ทจ่ี ะไดม้ ายนื ชมแท่งหนิ ภายใตแ้ สงอาทติ ยแ์ บบน้ี แต่กเ็ กรงใจพใ่ี หญ่กบั พอ่ี อเพราะเดนิ ทางตะลอนมาทงั้ วนั เม่อื วานน้ี หากจะ ให้หนูเล็กขบั รถออกไปแต่มดื เพ่อื ให้ทนั ไปรอพระอาทิตย์ข้นึ จากขอบฟ้าแต่เพยี งคนเดียว ก็ดูจะ อนั ตรายเกนิ ไป จงึ ตดั ใจเพราะอยา่ งไรการไดม้ าเหน็ เตม็ ตาไปเมอ่ื เยน็ วานกอ็ มิ่ ใจมากแลว้ เม่อื นอนจนเตม็ ต่นื ราวๆ 7 โมงเชา้ หนูเลก็ และพใ่ี หญ่กพ็ ากนั ลุกไปจดั เตรยี มอาหารเชา้ ใน ครวั เตม็ ไปดว้ ยสมาชกิ ชาวโฮสเทลทม่ี าตระเตรยี มอาหารเชา้ กนั หลายคน ทาํ ใหไ้ ดม้ โี อกาส say Hi ! กบั หนุ่มสาวคนนัน้ คนน้ี เสน่ห์ของการมานอนโฮสเทลกค็ อื การไดม้ าพบปะนักเดนิ ทางจากดนิ แดน อ่นื ๆ บางคนคุยกนั จนถูกคนเป็นเพ่อื นเป็นฝูงกนั ไป แต่สมาชกิ ท่พี บเจอในเช้าวนั น้ีแค่ทกั ทายกนั เลก็ น้อย เพราะต่างคนต่างกง็ ว่ นกบั การจดั เตรยี มอาหารตรงหน้าของตวั เองกนั วนุ่ กบั การทาํ ครวั แตเ่ ชา้ เมนูทจ่ี ะใสก่ ลอ่ งไป ไขด่ าวฝีมอื พใ่ี หญ่ อาหารเชา้ แบบงา่ ยๆ เช้าน้ีเจ้าหน้าท่ีของโฮสเทลยงั ไม่มี ดังนัน้ หลังจากหนูเล็กและพ่ีใหญ่จัดการกับตัวเอง พรอ้ มสรรพกเ็ อาคยี ก์ ารด์ หย่อนคนื ไวแ้ ลว้ กเ็ รม่ิ ออกเดนิ ทางกนั ต่อ เสน้ ทางวนั น้ีทว่ี างแผนและจองท่ี พกั รอไวล้ ่วงหน้าแลว้ คอ่ นขา้ งไกลพอควร เพราะตามทต่ี รวจสอบจาก Google Map จะตอ้ งเดนิ ทาง ราว 160 กวา่ กโิ ลเมตร แมว้ ่าดตู วั เลขเหมอื นจะไมเ่ ยอะ แต่เราไมร่ เู้ ลยว่าหนทางขา้ งหน้าจะขน้ึ เขาลง

หว้ ยอย่างไร อกี ทงั้ การขบั รถกท็ าํ เวลาไม่ไดเ้ ท่าใดนกั เพราะมคี วามเรว็ กําหนดตลอดทาง จงึ เป็นสงิ่ ท่ี เราทงั้ สองคอ่ นขา้ งกงั วล ทพ่ี กั ของเรา Port Campbell Hostel เม่อื ออกไปเอารถ ทําให้เราพบว่า จากท่พี กั หากวงิ่ ตรงต่อไปเพยี งไม่ก่รี อ้ ยเมตรจะพบกบั ทะเลผนื ใหญ่ เป็นเพราะเม่อื คนื เราเร่งรบี มากนั อย่างไม่สนสงิ่ รอบขา้ งอะไร และฟ้าก็มดื ต๋ือแล้วจงึ ไมไ่ ดร้ เู้ ร่อื งอะไรกนั เลย น้ําทะเลตรงหน้าเพยี งแค่ไมก่ ร่ี อ้ ยเมตรเป็นเหมอื นแรงดงึ ดูดใหต้ อ้ งขบั รถไป แวะจอดชม บรเิ วณน้ีกค็ อื ทา่ เรอื อนั เป็นทม่ี าของช่อื Port Campbell นนั่ เอง อากาศยามเชา้ กบั แรงลม ทะเลเป็นบรรยากาศทส่ี ดช่นื ดแี ท้ เราต่างยนื รบั ลมทะเลบนั ทกึ ภาพทะเลสสี ดตรงหน้าดว้ ยสายตาโดย ไมไ่ ดก้ ล่าวอะไรต่อกนั หนูเลก็ ไม่อาจล่วงรูค้ วามคดิ ของคนอ่นื ว่าคดิ เหมอื นกนั หรอื ไม่ แต่สาํ หรบั หนู เลก็ แลว้ ความคดิ วนเวยี นแต่เพยี งวา่ อยากหยดุ เวลาน้ีไวใ้ หน้ ่ิงนานเทา่ ทพ่ี อจะทาํ ได้ แคม่ องไปจากทพ่ี กั กเ็ หน็ ทะเลแลว้ Port Campbell อากาศยามเชา้ ทแ่ี สนสดชน่ื

แม้ว่าอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงน้ีเน่ินนานเพียงใด เราก็จําต้องจากไปด้วยเช่ือว่าหนทาง ขา้ งหน้าจะยงั มสี ง่ิ ท่เี ราต้องต่ืนตาต่ืนใจรอเราอยู่อกี มาก และท่สี ําคญั เรายงั เกบ็ สถานท่ที ่ถี อื เป็น a must แถวน้ียงั ไมห่ มดเลย แต่เราตอ้ งวง่ิ ยอ้ นกลบั ไปทางเดมิ กอ่ น เพราะเมอ่ื คนื เราวงิ่ ผา่ นมนั มาแลว้ ระหวา่ งวง่ิ ยอ้ นกลบั เสน้ ทางเดมิ พบเจอเหยอ่ื ทโ่ี ดนรถชน ไมน่ านนกั กม็ ปี ้าย Loch Ard Gorge ใหเ้ ลย้ี วเขา้ ไปจอดบรเิ วณลานจอดรถ จากนนั้ กเ็ ดนิ เทา้ ไปตามทางทเ่ี ขาทําไวต้ ามเคย ซ่งึ มหี ลายทางใหเ้ ลอื กเดนิ เทย่ี ว หนูเลก็ เลอื กเดนิ ชมอนั แรกทม่ี ปี ้าย เขยี นว่า The Wreck ในขณะทอ่ี กี ทางมที างลงไปถ้ําทด่ี า้ นล่าง มองลงไปเหน็ บรรยากาศแบบทะเลใน ตามประวตั บิ อกไวว้ ่า เมอ่ื ปี ค.ศ.1878 เรอื เดนิ ทะเลสญั ชาตอิ งั กฤษนามว่า Loch Ard ประกอบดว้ ย ลกู เรอื 36 คน ผโู้ ดยสารอกี 18 คน และสนิ คา้ ต่างๆ เตม็ ลาํ เรอื เดนิ เรอื มาถงึ น่านน้ําของเมลเบริ น์ อยู่ ในทะเลไดส้ ามเดอื นจนถงึ วนั ท่ี 31 พ.ค. กเ็ ตรยี มตวั เดนิ ทางกลบั แต่สภาพอากาศในวนั นัน้ เลวรา้ ย เอามากๆ ทาํ ใหไ้ มส่ ามารถมองเหน็ ไฟประภาคารซง่ึ อยบู่ น Cape Otway กปั ตนั Gorge Gibb ซง่ึ เป็น ผบู้ ญั ชาการเรอื ในตอนนัน้ เหน็ ว่าเรอื จะชนกส็ งั่ ใหห้ ยุดเรอื เตม็ ท่ี แต่กส็ ายเกนิ ไป สุดทา้ ยเรอื กเ็ กดิ อุบตั เิ หตุ ชนกบั หนิ โสโครก จนน้ําเขา้ เรอื และจมลงในบรเิ วณน้ีเอง จงึ เป็นทม่ี าของช่อื Loch Ard Gorge มาตงั้ แต่บดั นนั้ ซง่ึ เขาจะมปี ้ายแสดงจุดทเ่ี รอื ชนหนิ โสโครกไวใ้ หด้ ดู ว้ ย หนูเลก็ เพลดิ เพลนิ กบั การเกบ็ ภาพมมุ เดมิ ๆ อยา่ งไมร่ เู้ บ่อื ใครไมไ่ ดม้ าเหน็ ดว้ ยตาจะไมม่ วี นั รวู้ า่ ภาพทค่ี นอ่นื ถ่ายทอดมาให้ ดนู นั้ มนั สวยไมถ่ งึ ครง่ึ กบั สง่ิ ทต่ี าเหน็ เพราะไมเ่ พยี งแต่ความงาม ยงั แฝงไวซ้ ง่ึ ความยงิ่ ใหญ่อยใู่ นนนั้ Loch Ard Gorge จากจุดน้ีหนูเลก็ กเ็ ดนิ ยอ้ นกลบั ไปทางเก่า แลว้ กล็ องเปล่ยี นไปเดนิ เสน้ ทางอ่นื ท่เี ขาทําป้าย บอกทางไว้ ในช่อื Island Archway เดมิ แท่งหนิ ตรงน้ีเป็นแท่งหนิ รปู ร่างคลา้ ยประตูโคง้ แต่ถูกน้ํา ทะเลสีฟ้าสดกดั เซาะจนตรงกลางพงั กลายเป็นแท่งหนิ สองก้อนไม่เช่อื มต่อกนั หนิ สองก้อนน้ีถูก

เรยี กช่อื ใหมว่ ่า Tom กบั Eva ซง่ึ เป็นช่อื ของผโู้ ดยสารเรอื Loch Ard ทร่ี อดชวี ติ เพยี งสองคน หาก เดนิ ต่อไปอกี มุมหน่ึงจะเป็นหนิ ท่เี ขาใหช้ ่อื ว่า Razorback เพราะรูปร่างของมนั เหมอื นกบั ใบมดี อยา่ งไรอยา่ งนนั้ เลย เสน้ ทางเดนิ ชมจดุ ต่างๆ จดั ทาํ ทางราดยางไวเ้ ป็นอยา่ งดี Island Archway ในชอ่ื ใหมว่ า่ Tom and Eva Razorback ววิ หน้าผารปู รา่ งแปลกตาตดั กบั น้ําทะเลสสี ด

เราเดนิ ชมแคพ่ อรอ้ น เพราะแดดแรงเหลอื เกนิ จากนนั้ กเ็ ดนิ ทางกลบั ออกมา ตงั้ GPS นําเรา ไปสเู่ ป้าหมายถดั ไปคอื London Bridge ซง่ึ อยไู่ มห่ า่ งจากทน่ี ่ีเทา่ ใดนกั เม่อื เลย้ี วรถเขา้ ทจ่ี อด มที าง ใหเ้ ดนิ ไปไมไ่ กลนกั กจ็ ะเหน็ หนิ กอ้ นมหมึ าปรากฏอยตู่ รงรมิ หาด นกั ทอ่ งเทย่ี วสามารถชมความงดงาม ไดจ้ ากระเบยี งท่เี ขาทําย่นื ออกไปไวใ้ หอ้ ย่างแขง็ แรง หรอื สะพานลอนดอน เป็นกอ้ นหนิ ขนาดใหญ่ ตงั้ อย่รู มิ หาด มลี กั ษณะคลา้ ยกบั สะพานขา้ มแม่น้ําเทมสใ์ นกรุงลอนดอน ซง่ึ แต่ก่อนเคยเช่อื มกบั แผน่ ดนิ ใหญ่ แต่ในปี ค.ศ.1990 ถูกคล่นื ลมซดั เสยี จนขาดออกจากกนั เลยทาํ ใหค้ งเหลอื อยา่ งทเ่ี หน็ มี คาํ เล่าดว้ ยวา่ วนั ทห่ี กั โคน่ ลงนนั้ มนี กั ท่องเทย่ี วเดนิ ไปชมอยดู่ ว้ ย ดวี า่ ตอนหกั โค่นลงไมม่ ใี ครยนื อยใู่ น บรเิ วณนนั้ อยแู่ ต่เพยี งตรงสว่ นปลาย ทาํ ใหต้ อ้ งนําเฮลคิ อปเตอรไ์ ปรบั กลบั มา London Bridge ฟองคล่นื ทช่ี ายหาดบรเิ วณ London Bridge ขอเกบ็ ภาพเป็นทร่ี ะลกึ กนั เสยี หน่อย ทท่ี ่องเทย่ี วถดั ไปไมไ่ กลกนั นกั คอื The Grotto เป็นหนิ ทถ่ี ูกกดั เซาะจนเป็นช่องโหว่ หาก อยากจะเหน็ ช่องน้ีชดั ๆ ต้องไต่ลงบนั ไดไมล้ งไปดา้ นล่าง ทางเดนิ เพ่อื จะไปชมต้องเดนิ ไปท่ามกลาง พ้ืนท่ีโล่ง แต่เขาก็จดั ทําทางเดินไม้ไว้อย่างดี สามารถเดินชมพรรณไม้แปลกตาท่ีเป็นพรรณไม้ เฉพาะทข่ี น้ึ ในบรเิ วณรมิ ทะเล หน้าผา โขดหนิ ทงั้ ดอกและใบคอ่ นขา้ งแขง็ สลู้ มแรงๆ ไดด้ ที เี ดยี ว

เสน้ ทางเดนิ สู่ The Grotto จดุ ชมววิ ทด่ี า้ นบน สว่ นทเ่ี ป็น The Grotto คอื ตอ้ งเดนิ ลงบนั ไดไปดา้ นลา่ ง ไมไ่ กลกนั นกั คอื Bay of Islands กจ็ ะเป็นบรเิ วณทม่ี แี ท่งหนิ กอ้ นใหญ่น้อยอยกู่ ลางทะเล ทุก ทส่ี วยบาดตาบาดใจจนแทบไม่อยากจะลาจาก และเม่อื ขบั รถออกจากบรเิ วณน้ีไปสกั พกั กจ็ ะสน้ิ สุด เสน้ ทาง Great Ocean Road ทเ่ี ราจะไมไ่ ดเ้ ลาะเลยี บรมิ ทะเลอกี แลว้ Bay of Islands

จรงิ ๆ แล้วเป้าหมายของวนั น้ีอยู่ท่ดี นิ แดนอนั ไกลโพ้น เพราะท่พี กั ท่จี องไว้อยู่ท่เี มอื ง Hall Gaps ซง่ึ อยใู่ นเขตอุทยานแหง่ ชาตทิ ม่ี ชี ่อื ว่า Grampian National Park แต่เหน็ วา่ น่าจะยงั พอมเี วลา จงึ จะไปผา่ นเมอื ง Warrnambool ก่อนแลว้ จงึ คอ่ ยตรงดง่ิ ขน้ึ ไป ซง่ึ เมอ่ื ดจู ากแผนทใ่ี นมอื แลว้ หนูเลก็ และพใ่ี หญ่เหน็ ตรงกนั วา่ ถนนจาก Warrnambool น่าจะเป็นถนนเสน้ ใหญ่ทเ่ี ราคงทาํ เวลาไดด้ พี อควร เพราะวงิ่ สอู่ ุทยานแหง่ ชาตชิ ่อื ดงั ของรฐั วคิ ตอเรยี เลยทเี ดยี ว ซง่ึ หากเราทงั้ สองหยงั่ รดู้ นิ ฟ้ากค็ งจะรไู้ ด้ วา่ สงิ่ ทเ่ี ราคดิ นนั้ มนั สวยหรเู กนิ ไป เพราะสงิ่ ทเ่ี รากาํ ลงั จะเผชญิ ในอนาคตขา้ งหน้าเป็นอะไรทเ่ี ราไมไ่ ด้ คาดคดิ เลยจรงิ ๆ จาก Port Campbell – Warrnambool – Halls Gap ดงั นนั้ เราจงึ ตงั้ GPS ใหป้ ลายทางเป็น Warrnambool เมอื งทต่ี งั้ อยบู่ น Shipwreck Coast อกี เมอื งหน่ึง เมอื งน้ีเป็นเมอื งทเ่ี ขามาดวู าฬกนั ซง่ึ มนั จะมฤี ดทู ว่ี าฬมาคลอดลกู แถวน้ี ในเวบ็ ของเมอื ง น้ีถงึ ขนั้ มกี ารรายงานเลยดว้ ยว่าสถานการณ์ ณ ตอนน้ีเหน็ วาฬมากต่ี วั แลว้ ตวั เลก็ หรอื ตวั ใหญ่ GPS พาเราวง่ิ เตลดิ เขา้ ไปลดั เลาะฟารม์ ตามรายทาง ไม่ใช่ถนนเสน้ หลกั อย่างทค่ี ดิ ดงั นัน้ จงึ มรี ถของเรา เพยี งคนั เดยี ววง่ิ บุกตะลุยเขา้ ไป ดงั นัน้ ทุกฟารม์ ทว่ี งิ่ ผา่ นกจ็ ะมสี ายตาของสตั วต์ ่างๆ พากนั จอ้ งมอง รถแปลกหน้าคนั น้ีกนั ทกุ ฟารม์ ไป เสน้ ทางน้ี ไมม่ ที ะเลใหเ้ หน็ ทุกสายตาหนั มามองทร่ี ถของเรากนั หมด

ระหวา่ งทางไดเ้ จอโรงงานทาํ ชสี และเนย สนิ คา้ เล่อื งช่อื ของ Warrnambool ดว้ ย แลว้ ไหนเลย จะไมล่ องแวะสกั นิดล่ะ แวะเขา้ ไปดสู นิ คา้ กนั หน่อย สารพนั สนิ คา้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ชสี นม เนย วง่ิ รถไปเร่อื ยๆ ยงั ไดเ้ จอศูนยบ์ รกิ ารนกั ท่องเทย่ี ว บรเิ วณทเ่ี ขาใชอ้ นุบาลลูกวาฬ แต่ทุกแหง่ เราไดแ้ ค่แวะชมบรรยากาศเท่านัน้ ยง่ิ พอเขา้ เมอื งทําใหร้ ูว้ ่าเมอื งน้ีไม่ใช่ธรรมดา รถราวง่ิ กนั วุ่นวาย พอดู จดั ไดว้ ่าเป็นเมอื งใหญ่อกี เมอื งหน่ึง ใหบ้ งั เอญิ ว่าสายตาไปประสบกบั Coles ซุปเปอรม์ ารเ์ กต็ จงึ ไดค้ ดิ ขน้ึ มาไดว้ ่ามสิ เตอรท์ มิ ซ่งึ เป็นเจา้ ของท่พี กั ท่จี องไวใ้ น Hall Gaps บอกว่า เราควรจะ ตระเตรยี มวสั ดุต่างๆ ไปใหพ้ รอ้ มหากคดิ จะทาํ อาหารทานกนั เอง เพราะใน Hall Gaps สนิ คา้ ต่างๆ คอ่ นขา้ งมรี าคาสงู และอาจมไี มค่ รบครนั เทา่ ใดนกั กไ็ มอ่ าจรไู้ ดว้ า่ ทน่ี นั่ มนั เป็นอยา่ งไร แต่คาํ เตอื นน้ีทาํ ใหเ้ ราต้องจดั เตรยี มขา้ วของต่างๆ ทค่ี ดิ จะทําไปใหพ้ รอ้ ม จากนัน้ กร็ บี ออกเดนิ ทางต่อ เพราะดูจาก ระยะทางแลว้ ยงั เหลอื อกี ไมใ่ ชน่ ้อยเลยทเี ดยี ว

ตวั เมอื ง Warrnambool ออกจากเมอื งมาไดส้ กั พกั เราคงแวะอะไรไม่ไดอ้ กี แลว้ เพราะหากมวั เถลไถล เราคงถงึ ทพ่ี กั มดื ค่ําเป็นแน่ ลางสงั หรณ์ดูจะมเี คา้ ลางๆ เสยี แลว้ เม่อื GPS บอกใหเ้ ราวง่ิ เขา้ ถนนลูกรงั เสน้ หน่ึง เนวเิ กเตอร์อย่างหนูเล็กต้องถึงกบั หนั มาสบตากบั พ่ใี หญ่ว่าน่ีเราหลงทางกนั หรอื เปล่าน่ี และบน เสน้ ทางน้ีกไ็ มม่ รี ถสกั คนั เอาเสยี เลย ตอ้ งใหพ้ อ่ี อจอดทาํ ใจกนั อยสู่ กั พกั สุดทา้ ยตดั สนิ ใจกนั ว่า ในเม่อื GPS บอกใหเ้ ราไป เรากค็ งไม่มที างเลอื ก เขา้ ใจว่ามนั คงเลอื กเสน้ ทางทล่ี ดั ทส่ี ุดใหเ้ ราแลว้ เพราะ ขนาดเสน้ ทางน้ีเรายงั จะไปถงึ ทพ่ี กั ในอกี เกอื บสามชวั่ โมงขา้ งหน้า โอว้ มายกอ้ ดดดด........ สองขา้ งทางมเี พยี งทุ่งหญ้าสุดหูสุดตา ไรผ้ ูค้ น เพ่อื นบนเสน้ ทางของเรามเี พยี งสตั วเ์ ลย้ี งใน ฟารม์ เปลย่ี นหน้าเปลย่ี นตาไป เดยี๋ วววั เดยี๋ วแกะ สลบั กนั ไปมา นานๆ จะมรี ถวง่ิ สวนมาสกั คนั หน่ึง วง่ิ ไปเร่อื ยๆ บางครงั้ ไดเ้ จอถนนราดยางเรากใ็ จชน้ื ขน้ึ มาบา้ ง แต่พอกาํ ลงั สบายใจ กต็ อ้ งวงิ่ เขา้ สถู่ นน ลกู รงั ใหฝ้ ่นุ ฟุ้งไปอกี ถนนหนทางทว่ี า่ งเปล่าไรผ้ คู้ น เสน้ ทางทเ่ี ราไมอ่ าจหยงั่ รอู้ นาคตไดเ้ ลย แรกๆ หนูเลก็ พดู เล่นๆ เม่อื เหน็ เทอื กเขาดาํ ทะมนึ อยไู่ กลลบิ ๆ วา่ ตรงนัน้ น่าจะเป็นปลายทาง ของเราในคนื น้ี เพราะดเู หมอื นน่าจะเป็นสว่ นหน่ึงของ Grampians National Park ทงั้ ๆ ทใ่ี นใจคดิ วา่ ถา้ มนั ใช่ กด็ วู า่ มนั ยงั ไกลอกี เหลอื เกนิ แต่เม่อื รถยงิ่ วงิ่ ออกไปการสนทนาในรถเรมิ่ เงยี บลงเร่อื ยๆ อาจ เพราะต่างกก็ งั วลใจว่าหนทางขา้ งหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ภาพทช่ี ดั ขน้ึ กค็ อื เทอื กเขาทเ่ี ดมิ ดูว่า ไกล เร่ิมเข้ามาใกล้กบั เรามากข้นึ ขนาดใหญ่ข้นึ เร่ือยๆ หากไม่นับเสียงดงั จากล้อท่ีบดถนนอยู่ ภายนอก เสยี งภายในทเ่ี ป็น ASMR คงไดย้ นิ แต่เพยี งเสยี งลมหายใจและเสยี งระรวั ของหวั ใจของพวก เราทงั้ สามคนทต่ี ่างลุน้ ระทกึ กบั อนาคตขา้ งหน้าทไ่ี มอ่ าจคาดเดาอะไรไดเ้ ลย

เทอื กเขาดาํ ทะมนึ นนั้ จะใชป่ ลายทางของเราไหมนะ และแลว้ เสน้ ทางกพ็ าเราวงิ่ ขน้ึ เขาไปเร่อื ยๆ นนั่ ทาํ ใหแ้ น่ใจแลว้ ว่า เราไดเ้ ขา้ สเู่ ขตของอุทยาน แหง่ ชาตเิ ขา้ ใหแ้ ลว้ ถนนลกู รงั กบั ป่าทบึ สองขา้ งทางเรม่ิ ทาํ ใหบ้ รรยากาศในรถตงึ เครยี ดขน้ึ เรอ่ื ยๆ หนู เลก็ เรมิ่ ขบั รถชา้ ลง เพราะเรม่ิ ไมแ่ น่ใจวา่ จะมสี ตั วป์ ่าอะไรโผล่ออกมาตดั หน้ารถเราหรอื ไม่ เพราะอยา่ ง น้อยกม็ องเหน็ ว่าบนเสน้ ทางมปี ้ายเตอื นใหร้ ะวงั จงิ โจใ้ นระยะหลายกโิ ลเมตรนับจากน้ีไป เพยี งชวั่ สน้ิ ความคดิ สายตากพ็ ลนั เหลอื บเหน็ จงิ โจก้ ระโดดจากฝัง่ ถนนหน่ึงไปยงั อกี ฝัง่ ถนนหน่ึง ตดั หน้ารถเรา ในระยะ 500 เมตร แต่ถงึ แมอ้ ยากจะเหน็ ตวั เป็นๆ ของมนั ขนาดไหน บรรยากาศในยามทเ่ี ราอยกู่ ลาง ป่ากนั ลาํ พงั แบบน้ีกเ็ รมิ่ ไมน่ ่าสนุกเทา่ ใดนกั ไดแ้ ต่บ่นกนั ว่าไมร่ วู้ า่ อกี นานไหมทเ่ี ราจะออกจากบรเิ วณ น้ีไปสถู่ นนเสน้ อ่นื ทด่ี ูน่าจะปลอดภยั กว่าน้ี เพราะหากเราตอ้ งวง่ิ อยใู่ นป่าแบบน้ีจนฟ้ามดื ไม่อยากจะ คดิ เลยวา่ บรรยากาศจะเป็นเชน่ ไร การขบั รถทา่ มกลางป่าทบึ ในเวลาตกเยน็ เชน่ น้ีไมน่ ่าพสิ มยั เลย ดูเหมือนว่าน่ีจะเป็นครงั้ แรกท่ีคนขบั รถได้ทุกรูปแบบอย่างหนูเล็กรู้สึกว่าเส้นทางน้ีเป็น เสน้ ทางทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยความทรมานเหลอื เกนิ มนั เป็นครงั้ แรกทร่ี สู้ กึ ไดด้ ถี งึ ความกระวนกระวายและตงึ เครยี ดทร่ี อเวลาปลดปลอ่ ย ดงั นนั้ เมอ่ื มปี ้ายบอกทางวา่ ขา้ งหน้าเป็นทางออกสู่ Grampian Road และ เหน็ มรี ถวงิ่ ฉิวผา่ นไป ความเครยี ดทท่ี บั ถมทวคี ณู นนั้ เหมอื นจะมลายลงไปในทนั ที และเม่อื รถของเรา ออกสู่ Grampian Road ใหไ้ ดเ้ จอรถคนั อน่ื สวนมาบา้ งเป็นระยะ การสนทนาในรถจงึ เรม่ิ ตน้ ขน้ึ อกี ครงั้ เทอื กเขาขนาดมหมึ าทห่ี นูเลก็ พดู เล่นๆ วา่ มนั คอื เป้าหมายของเรานัน้ บดั น้ีมนั ไดป้ รากฏอยตู่ รงหน้า ในอกี ไม่ไกลน้ีแล้วจรงิ ๆ ป้ายเตอื นใหร้ ะวงั จงิ โจย้ งั คงมอี ยู่เป็นระยะๆ และแล้วกจ็ รงิ ตามนัน้ เพราะ

ระหวา่ งทางเราไดม้ โี อกาสเหน็ พวกมนั กระโดดหลบเขา้ ป่าไปเป็นระยะๆ อยา่ งทเ่ี ขาเตอื นเอาไวจ้ รงิ ๆ ในขณะท่ี GPS บอกเราวา่ อกี ไมเ่ กนิ ครง่ึ ชวั่ โมงเราจะถงึ ทห่ี มายแลว้ Grampian Road เสน้ ทางสทู่ พ่ี กั ของเรา สกั พกั เราเรมิ่ เขา้ สบู่ รเิ วณชุมชน เรม่ิ เหน็ บา้ นผูค้ น รา้ นรวง ป้ายแนะนําทพ่ี กั รมิ ทาง และป้าย แนะนําศนู ยศ์ ลิ ปะวฒั นธรรมของชาวอะบอรจิ นิ (The Brambuk Aboriginal Cultural Centre) ซง่ึ เขา จะจดั แสดงประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรมของชาวอะบอรจิ นิ ใหศ้ กึ ษา แต่แลว้ ฉบั พลนั สง่ิ ทไ่ี ม่คาดคดิ ท่ี จะไดเ้ จอกค็ อื สองขา้ งทางเตม็ ไปดว้ ยจงิ โจ้ สตั วพ์ น้ื เมอื งทเ่ี ราอยากมโี อกาสไดพ้ บเหน็ อกี ชนิดหน่ึง มนั ทงั้ ยนื กนิ อาหารอยรู่ มิ ทาง และกระโดดตดั หน้ารถขา้ มถนนไป น่ีเป็นสง่ิ ทเ่ี ราไม่คาดคดิ กนั มาก่อน เลยว่าจะไดม้ าพบกบั พวกมนั ไดง้ า่ ยๆ แบบน้ี ดงั นัน้ เราจงึ หยุดรถเกบ็ ภาพพวกมนั กนั อย่างต่นื เต้น ความเครยี ด ความกงั วลในไมก่ ช่ี วั่ โมงก่อนหน้าน้ีไมร่ หู้ ายไปไหนหมด พใ่ี หญ่อนุญาตใหจ้ อดรถดพู วก มนั กระโดดข้ามถนนอยู่สกั พกั จนพอใจ แล้วเตือนสติว่าเรายงั ไม่ถึงท่พี กั กนั เลยนะ เรายงั ต้องไป จดั การกบั อาหารเยน็ กนั อกี พวกเราจงึ ไดส้ ตแิ ละออกรถเดนิ ทางต่อ พอออกหา่ งจากชุมชนเมอ่ื สกั ครู่ เรากถ็ งึ ทพ่ี กั ทจ่ี องไว้ Tim’s Place เมอ่ื หนูเลก็ ยน่ื หน้าเขา้ ไป ตดิ ต่อ หนุ่มใหญ่หน้าตาเป็นมติ รมสิ เตอรท์ มิ กก็ ล่าวต้อนรบั พรอ้ มใหข้ อ้ เสนอว่า เขามที พ่ี กั แบบเป็น หลงั ใหโ้ ดยไม่คดิ ราคาเพมิ่ ซง่ึ ทพ่ี กั ทว่ี ่ามคี รวั ใหใ้ ชต้ ่างหาก มหี อ้ งน้ําในตวั เสรจ็ สรรพ จากเดมิ ทเ่ี รา จะตอ้ งไปใชค้ รวั รวมกบั คนอน่ื ขอ้ เสนอดๆี แบบน้ีเราจะปฏเิ สธไดอ้ ยา่ งไรกนั มสิ เตอรท์ มิ นําทางเราไป ยงั ทพ่ี กั เป็นทพ่ี กั ทน่ี ่ารกั และน่าพกั มากอกี แหง่ หน่ึง หากจะบอกวา่ ประทบั ใจทส่ี ดุ ในรอบหลายวนั น้ีก็ อาจจะได้ เพราะแมว้ า่ จะเป็นทพ่ี กั เลก็ ๆ แต่ดบู รรยากาศอบอนุ่ ดเี หลอื เกนิ จากนนั้ เขากแ็ นะนําสถานท่ี ท่องเทย่ี วสําคญั ๆ ท่เี ราไม่ควรพลาดเม่อื มาถงึ Hall Gaps เพราะเป็นเมอื งทอ่ี ยู่ใจกลางของ Grampians National Park ทน่ี กั ทอ่ งเทย่ี วสามารถไปเยอื นไดโ้ ดยสะดวก มปี ้ายบอกทางชดั เจน และ จะไดร้ บั ธรรมชาตอิ ยา่ งเตม็ อม่ิ แสนประทบั ใจตดิ ตวั กลบั ไป และทส่ี าํ คญั ทเ่ี ราเพง่ิ ไดร้ จู้ ากมสิ เตอรท์ มิ อกี ขอ้ กค็ อื เจา้ จงิ โจส้ ตั วป์ ระจําชาตอิ อสเตรเลยี ทเ่ี ราเฝ้าอยากเจอนกั เจอหนา จะอย่ใู นบรเิ วณหลงั ท่ี พกั เราแคน่ ้ีเอง เพยี งแคเ่ ราเดนิ ออกไปดา้ นหลงั บา้ น เรากจ็ ะไดเ้ จอมนั ตามทใ่ี จตอ้ งการเลยทเี ดยี ว

Tim’s Place ทพ่ี กั น่ารกั ๆ ของมสิ เตอรท์ มิ เม่อื เอาขา้ วของเขา้ เก็บเรยี บร้อย ความหวิ โหย ความเหน่ือยล้าก็มาเยอื นในทนั ที อาจจะ เพราะความเครยี ดและความวติ กกงั วลจากการเดนิ ทางในช่วงสองสามชวั่ โมงทผ่ี า่ นมาเป็นตวั กระตุน้ ให้พวกเรารู้สึกโหยกนั หนักกว่าปกติ ดงั นัน้ จากเนวิเกเตอร์ประจําทริป หนูเล็กต้องรีบเปล่ียน ตําแหน่งมาเป็นเชฟจําเป็นโดยเรว็ โดยมพี ใ่ี หญ่คอยเป็นลูกมอื อยขู่ า้ งๆ ขา้ วของทแ่ี วะซอ้ื ก่อนมาทน่ี ่ี ถูกเอามาปรงุ เป็นอาหารมอ้ื อรอ่ ย จากเชฟฝีมอื บา้ นๆ อาหารเมนูงา่ ยๆ กลบั อรอ่ ยเป็นพเิ ศษ เป็นอกี หน่ึงวนั ทต่ี อ้ งยอมรบั เลยวา่ ปรบั ตวั ปรบั ใจกนั ไมท่ นั เลยทเี ดยี ว รบี ทาํ ครวั อยา่ งขะมกั เขมน้

มอ้ื อาหารแบบจดั เตม็ สาํ หรบั สมาชกิ ทุกคน การเดนิ ทางไกลจากสุดแผ่นน้ําสู่ดนิ แดนแห่งเทอื กเขาขนาดมหมึ าทโ่ี อบล้อมชวั่ เพยี งแค่วนั เดยี ว แต่ผลลพั ธท์ ไ่ี ดน้ นั้ แสนจะคุม้ คา่ ไมน่ ่าเช่อื เลยวา่ ดนิ แดนแหง่ น้ีมคี วามหลากหลายทางธรรมชาติ ทางภมู ศิ าสตรม์ ากมายเหลอื เกนิ รสชาตกิ ารท่องเทย่ี วเม่อื สองสามวนั ก่อนทม่ี แี ต่น้ํากบั ฟ้า กบั วนั น้ีท่ี ไดร้ บั อกี รสชาตหิ น่ึงท่ามกลางผนื ป่าและขนุ เขามนั ทาํ ใหห้ นูเลก็ ยงิ่ รสู้ กึ ว่าความยง่ิ ใหญ่ของธรรมชาติ ยงั เป็นสง่ิ ทน่ี ่าคน้ หาต่อไปอย่างไม่สน้ิ สุดจรงิ ๆ ความเหน่ือยลา้ กบั อุณหภูมภิ ายนอกสบิ กว่าองศาทํา ใหพ้ วกเราพากนั เขา้ นอนแต่วนั อยา่ งไมต่ อ้ งสงสยั เลย