France-Italy when season change Chapter 2 : Flowers Bloom – Cathedral & Opera หนูเล็ก
ดอกไม้บาน วหิ าร โอเปรา หลงั จากท่ีเม่ือคืนไปช่ืนชมกบั หอไอเฟลกันมาเป็นท่ีเรียบรอ้ ยกว่าจะกลบั ถึงท่ีพกั ก็ดกึ ด่ืนค่อนคืน แต่ ดว้ ยความท่ียงั สดใหม่ เพ่งิ มาถงึ สมาชิกทกุ คนพากนั ต่ืนเชา้ ไดต้ ามท่ีนดั หมายกนั เอาไว้ เชา้ นีเ้ รามีท่ีหมายกนั ท่ี จะไปชมสถาปัตยกรรมอนั งดงามแห่งหน่ึง ส่วนจะเป็นท่ีใดนนั้ เด๋ียวค่อยว่ากนั เพราะมีภารกิจท่ีสาํ คญั กว่าท่ี จะตอ้ งไปจดั การกนั ก่อน น่นั คือ เราจะตอ้ งทดลองเดินทางจากท่ีพกั ไปยงั สถานีรถไฟใตด้ ิน Les Gobelins เพ่ือ น่งั รถไฟใตด้ ินไปยงั สถานี Gare de l'Est ท่ีเราจะตอ้ งเดินทางไปใชบ้ รกิ ารในวนั พรุง่ นี้ เพราะตามแผนการ เดินทางพวกเราจาํ ตอ้ งจากปารีสไปเท่ียวยงั เมืองถัดไป ครงั้ นีเ้ ราเลือกใชบ้ ริการรถไฟของฝร่งั เศส TGV2363 (เท-เจ-เว) ซ่ึงจะออกเดินทางกันตงั้ แต่ 06.55 น. ดงั นั้น เราจึงตอ้ งมาออกต๋วั ใหเ้ รียบรอ้ ย พรอ้ มกับทาํ การ สาํ รวจทางหนีทีไล่และจบั เวลาการเดินทางจากท่ีพกั เพ่ือมายงั สถานีรถไฟว่าใชเ้ วลาประมาณก่ีนาทีเพ่ือการ คาํ นวณเวลาต่นื เวลาเดนิ ทาง เพ่ือกนั พลาด เพราะถา้ เกิดความผิดพลาดขนึ้ ละก็ แผนท่ีวางไวค้ งยงุ่ ไปหมดเป็น แนแ่ ท้ จากท่ีพกั มายงั สถานี Les Gobelins จากท่ีพกั เราน่งั รถไฟใตด้ นิ มาลงท่ีสถานี Gare de l'Est จากนนั้ เดนิ จากสถานีรถไฟใตด้ นิ ตอ่ เน่ืองมายงั สถานีรถไฟ SNCF เพ่ือมาหาตสู้ ีเหลืองสาํ หรบั การออกต๋วั ต๋วั นีห้ นเู ล็กไดท้ าํ การซือ้ ออนไลนไ์ วเ้ ป็นท่ีเรยี บรอ้ ย แตบ่ งั เอิญเลือกเมนพู ลาดแทนท่ีจะพิมพเ์ ป็นกระดาษ A4 เพ่ือขนึ้ รถไฟไดเ้ ลย กลบั ไปเลือกเมนมู าออกต๋วั กบั ตู้ SNCF self-service terminal ตามสถานีเสียน่ี ก็เลยเพ่ิมความยงุ่ ยากขนึ้ มาอีก ก่อนมาจงึ ตอ้ งเพ่ิมการศกึ ษา วิธีการออกต๋วั มาใหเ้ รียบรอ้ ยเพราะถา้ ทาํ ผิดขนั้ ตอนน่นั หมายถึงว่าเราจะตอ้ งซือ้ ต๋วั เดินทางใหม่หมดซ่ึงราคา ตอ่ ใบไมใ่ ชน่ อ้ ยเลย และท่ีสาํ คญั จะมีเวลาท่ีเราตอ้ งการจะไปเหลอื อยหู่ รอื เปลา่ น่ีสปิ ัญหาใหญ่
นาํ เอกสารมาออกต๋วั ไดส้ าํ เรจ็ เป็นท่ีเรยี บรอ้ ย ผลของการทาํ การบา้ นมาอย่างดี ทกุ อย่างราบร่ืนไม่มีปัญหา เม่ือออกต๋วั เรียบรอ้ ยก็เดินสาํ รวจตรวจ ตรา ศกึ ษาวิธีดขู บวนรถ ดชู านชาลาจากหนา้ จอ แลว้ ก็เดนิ ดสู ถานท่ีใหค้ นุ้ เคยกนั สกั พกั เม่ือทกุ อย่างเรยี บรอ้ ย และเดนิ ชมรอบๆ จนพอใจแลว้ ก็ไดเ้ วลาไปไฮไลทส์ าํ หรบั วนั นีก้ นั เสียที สถานีรถไฟ SNCF โปรแกรมนีเ้ ป็น request ของหนเู ล็กท่ีขอบรรจไุ วใ้ นโปรแกรมทวั รป์ ารสี ทวั รเ์ ราอาจไมเ่ หมือนใครท่ีถา้ มาฝร่งั เศสจะตอ้ งไปพิพิธภณั ฑล์ ฟู วร์ (Louvre Museum) หรอื พระราชวงั แวรซ์ ายส์ (Château de Versailles) แตเ่ ราขอเลือกไปท่ีน่ี Palais Garnier หรอื Opéra de Paris น่นั คือ โรงอปุ รากรปาแลการน์ ีแย เป็นโรงอปุ รากร ท่ีสรา้ งโดย Charles Garnier เป็นสถาปัตยกรรม Neo Baroque ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมชิน้ เอกของยคุ นนั้ เลยทีเดียว
สถานท่ีนีจ้ ะไม่ไดแ้ พ็ครวมกบั บตั ร Museum Pass แตเ่ งินคา่ เขา้ 11 Euro ถา้ เทียบกบั ส่งิ ท่ีไดเ้ ขา้ ไปเห็นสาํ หรบั หนเู ล็กแลว้ คิดว่าไมไ่ ดแ้ พงเลย เพราะแคจ่ ากท่ีศกึ ษาก่อนไปมนั ก็อลงั วงั เวอรจ์ นอยากไปเห็นของจรงิ เม่ือออก จาก Metro โผลห่ นา้ ขนึ้ ไปก็จะไปเจออาคารขนาดใหญ่ แคต่ วั อาคารก็เลน่ เอาต่ืนเตน้ ตะลงึ งนั จากนนั้ ก็เดนิ ไป ท่ีดา้ นหลงั อาคารเพ่ือไปติดต่อซือ้ ต๋วั ท่ีทางเขา้ ดา้ นหลงั จ่ายเงินไปก็ไดต้ ๋วั มา จากนัน้ ก็เดินชมไดต้ ามความ พอใจ เสียดายเงินก็เดินใหค้ มุ้ เดินใหน้ านเท่าท่ีอยากเดินใชเ้ วลาใหม้ ากท่ีสดุ เท่าท่ีใจอยาก ขอ้ ดีท่ีสถานท่ีนีไ้ ม่ รวมใน Museum Pass ก็คือจะไมม่ ีมหาชนมากมายนกั ทวั รจ์ ีนก็จะไมม่ าลงใหป้ วดเศียรเวียนเกลา้ น่งั รถไฟใตด้ นิ จากสถานี Gare de l'Est มาลงยงั สถานี Palais Garnier ไดเ้ ลย ดา้ นหลงั รูปปั้นคือทางเขา้ โถงจาํ หนา่ ยบตั รระหวา่ งรอเขา้ ชม เม่ือกา้ วเขา้ ส่กู ารเขา้ ชมก็จะตอ้ งเร่มิ เก็บจิตเก็บใจไวก้ บั เนือ้ กบั ตวั ใหม้ าก เพราะเม่ือไดเ้ ห็นหนเู ล็กเช่ือ ว่าทุกคนคงรูส้ ึกไม่แตกต่างจากหนูเล็ก เราจะอดตะลึงพรงึ เพริศไปกบั ความงดงามอลงั การ วิจิตรบรรจงของ ศลิ ปะประดามีท่ีประดบั ประดาไปทกุ อณนู นั้ ไมไ่ ด้ เขาเก็บความงดงามไดท้ กุ รายละเอียดทกุ ซอกทกุ มมุ คมุ้ ค่า กบั ท่ีไดเ้ สยี เงินเสียเวลาเขา้ มาชม
ไฮไลตส์ าํ หรบั ท่ีน่ีและหา้ มพลาดคือ บนั ไดเอก (Grand Escalier) และ หอ้ งโถงเอก (Grand Foyer) สาํ หรบั part นี้ หนเู ลก็ ขอพาชมถึงแคบ่ นั ไดเอกกนั ก่อน บนั ไดเอกสรา้ งอยา่ งสวยงามหรูหรา ทงั้ ตวั บนั ได ท่ีพกั บนั ได และเวิง้ สลบั ไปมาอย่างสวยงาม เพดานโคง้ สูงดา้ นบนท่ีมีภาพเขียนสีย่ิงขับใหโ้ ถงบนั ไดนีโ้ ดดเด่น งดงามทรงคณุ คา่ ย่ิง ทงั้ หมดทงั้ มวลนีค้ งไมต่ อ้ งมีคาํ อธิบาย ลองพจิ ารณาจากภาพถ่ายฝีมือบา้ นๆ ของหนเู ลก็ ก็ คงพอบอกเลา่ ความงามไดบ้ า้ งแลว้ วา่ งดงามเพียงใด โถงบนั ไดเอก (Grand Escalier)
จากโถงบนั ไดเอก (Grand Escalier) ในตอนท่ีแลว้ เราไปชมอีกไฮไลตห์ น่ึงท่ีพลาดไม่ไดด้ ว้ ยประการ ทงั้ ปวง น่นั คอื หอ้ งโถงเอก (Grand Foyer) เม่ือกา้ วเขา้ ไปจะรูส้ กึ ไดถ้ ึงความโอโ่ ถงกวา้ งขวางสดุ ลกู หลู กู ตาของ หอ้ งนี้ น่นั เป็นเพราะลกู เลน่ ของการติดกระจกและหนา้ ตา่ ง จึงทาํ ใหห้ อ้ งดกู วา้ งใหญ่กวา่ ความเป็นจรงิ อยา่ ลืม ท่ีจะแหงนหนา้ มองภาพวาดบนเพดานซ่งึ เป็นเร่อื งราวประวตั ิศาสตรเ์ ก่ียวกบั ดนตรีท่ีวาดไวอ้ ย่างวิจิตรบรรจง โคมไฟระยา้ ย่ิงทาํ ใหห้ อ้ งทงั้ หอ้ งดอู ลงั การราวกบั เดนิ อย่บู นแดนสวรรค์ หนเู ลก็ เดนิ ช่ืนชมและแหงนมองมมุ นนั้ มมุ นีข้ องหอ้ งอยา่ งไมร่ ูเ้ บ่ือ วนเวียนเดนิ ด่มื ด่าํ ไปมาเพ่ือใหส้ มกบั ท่ีอยากมาเห็นดว้ ยตาตนเอง หอ้ งโถงเอก (Grand Foyer)
หอ้ งถดั ไปท่ียงั คงมีการแสดงอย่อู ย่างตอ่ เน่ืองน่นั คือ The Auditorium การตกแต่งเป็นแบบ Italian- style การจดั วางเกา้ อีน้ ่งั ไวถ้ ึง 1,979 ท่ีน่งั มีหอ้ งท่ีสามารถรองรบั นกั แสดงไดก้ ว่า 450 คน การตกแต่งหรูหรา ตามสถาปัตยกรรม Baroque เกา้ อีบ้ ดุ ว้ ยกาํ มะหย่ีสีแดง ประดบั ดว้ ยสีทองและดรุณเทพ ย่ิงขบั ใหห้ อ้ งทงั้ หอ้ งดู เขม้ ขรมึ บรเิ วณเพดานรอบโคมระยา้ ท่ีกลางหอ้ งท่ีมีนา้ํ หนกั กว่า 6 ตนั นนั้ มีภาพเขียนท่ีอาจดขู ดั ๆ ตากบั หอ้ ง ไปสกั หน่อย และหอ้ งนีเ้ องเป็นท่ีมาของอปุ รากรเก่าแก่ช่ือกอ้ งโลกอย่าง \"The Phantom of the Opera\" ซง่ึ มี ท่ีมาจากวนั หน่งึ ในปี ค.ศ.1896 โคมไฟแชนเดอรเ์ ลียกลางหอ้ งท่ีเตม็ ไปดว้ ยนา้ํ หนกั ไดร้ ว่ งหลน่ ลงมาและทาํ ให้ ผชู้ มเสยี ชีวติ หนง่ึ คน เหตกุ ารณด์ งั กลา่ วนาํ ไปสบู่ ทประพนั ธแ์ นว Gothic ของ Gaston Leroux The Auditorium
เม่ือออกจากหอ้ งนีเ้ ราก็ไปชมหอ้ งถดั ไปคือ หอ้ งสมดุ และพิพิธภณั ฑ์ ซง่ึ เก็บรกั ษาเอกสารกว่า 600,000 ฉบับและหนังสือกว่า 100,000 เล่ม อีกทั้งยังมีจดหมาย ภาพถ่าย ภาพวาด และของเก็บสะสมต่างๆ อีก มากมายนบั แสนชิน้ ตามทางเดนิ ยงั มีชดุ ท่ีใชใ้ นการแสดงอปุ รากรจดั โชวไ์ วใ้ หเ้ ห็นดว้ ย หอ้ งสมดุ และพิพธิ ภณั ฑ์ เม่ือเดนิ ชมจนท่วั บรเิ วณเราจะตอ้ งเดนิ สทู่ างออกซง่ึ จะอย่บู รเิ วณโถงท่ีเรียกว่า Grand Vestibule ซง่ึ เป็นจดุ สดุ ทา้ ยก่อนท่ีเราจะออกสบู่ รเิ วณรา้ นขายหนงั สือและรา้ นของท่ีระลกึ ซง่ึ เต็มไปดว้ ยของท่ีระลกึ เก่ียวกบั การแสดงมากมาย ทงั้ ต๊กุ ตาตวั เลก็ ตวั นอ้ ย ชดุ บลั เลต่ ส์ วยๆ อปุ กรณส์ าํ หรบั ใสเ่ ลน่ บลั เลต่ ์ สมดุ โน๊ต พวงกญุ แจ ฯลฯ เห็นแลว้ ก็ไดแ้ ตเ่ มียงมองและใหม้ นั อยขู่ องมนั อยา่ งนนั้ น่าจะสบายกระเป๋ ากวา่ Grand Vestibule
ของท่ีระลกึ น่ารกั ๆ แตร่ าคาไมธ่ รรมดา เวลาท่ีหมดไปราวสองช่วั โมงเศษกบั Palais Garnier สาํ หรบั หนเู ลก็ แลว้ ช่างคมุ้ แสนคมุ้ ท่ีไดม้ าเห็นดว้ ย ตาครงั้ หนง่ึ ในชีวติ อีกทงั้ การไดท้ าํ การบา้ นศกึ ษามาก่อนบา้ งยง่ิ ทาํ ใหก้ ารเดนิ ชมไดร้ บั สาระไปพรอ้ มๆ กบั ความ เพลดิ เพลนิ ตระการตา แต่น่ีเป็นเพียงส่วนหน่ึงของการเท่ียวปารีสของเราในวนั นีท้ ่ีเหลืออยู่ ไหนๆ มาถึงฝร่งั เศส จะไม่แวะมา สถานท่ีท่ีใครๆ เขามากนั บา้ งก็จะกระไรอยู่ พ่ีใหญ่หวั หนา้ ทวั รก์ ็เลยพาลกู ทวั รม์ าใหเ้ ห็นเป็นบุญตาเสียหน่อย ไมง่ นั้ กลบั ไปจะคยุ โวโออ้ วดกบั ใครเขาไมไ่ ด้ เพียงเดนิ ลดั เลาะมาประเด๋ียวเดียว โผลพ่ น้ ตกึ ออกมาก็มาเจอลาน กวา้ งอนั เป็นท่ีตงั้ ของพิพิธภณั ฑช์ ่ือกอ้ งโลกอยา่ งพพิ ิธภณั ฑล์ ฟู วร์ (Musée du Louvre) กนั แลว้ Musée du Louvre ภาพท่ีปรากฏตรงหนา้ เป็นภาพคนุ้ ตาท่ีเคยเห็นตามหนา้ นิตยสาร เว็บไซตห์ รือสารคดีท่องเท่ียวต่างๆ พีระมดิ แกว้ ตงั้ โดดเดน่ อยกู่ ลางลาน ซง่ึ แทท้ ่ีจรงิ แลว้ นนั้ ใชเ้ ป็นทางเขา้ หลกั ของพิพิธภณั ฑ์ พิพิธภณั ฑล์ ฟู วร์ (Musée du Louvre) ในช่ือทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภณั ฑท์ างศิลปะ ท่ีมีช่ือเสียงท่ีสดุ เก่าแก่ท่ีสดุ และใหญ่ท่ีสดุ แห่งหน่ึงของโลก ซ่งึ ไดเ้ ปิดใหส้ าธารณชนเขา้ ชมตงั้ แตป่ ี ค.ศ.1793
ตวั อาคารเดิมเคยเป็นพระราชวงั หลวง ซ่ึงปัจจุบนั เป็นสถานท่ีท่ีจัดแสดงและเก็บรกั ษาผลงานทางศิลปะท่ี ทรงคณุ ค่าระดบั โลกเป็นจาํ นวนมากกว่า 35,000 ชิน้ จากตงั้ แต่สมยั ก่อนประวตั ิศาสตรจ์ นถึงศตวรรษท่ี 19 รวมทงั้ ภาพเขียนสาํ คญั อยา่ ง ภาพเขียน Mona Lisa ผลงานของ Leo Nardo da vinci หรอื รูปประติมากรรม หินออ่ นวีนสั ของมิโล (Venus de Milo) ท่ีน่ีมีผมู้ าเย่ียมชมเป็นจาํ นวนหลายลา้ นคนตอ่ ปี เป็นพิพิธภณั ฑท์ ่ีมีผมู้ า เย่ียมชมมากท่ีสดุ ในโลก และยงั เป็นสถานท่ีท่ีมีนกั ท่องเท่ียวมาเยือนมากท่ีสดุ ในกรุงปารสี พีระมิดแกว้ ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมรกิ นั ก่อสรา้ งเสรจ็ สมบรู ณเ์ ม่ือปีค.ศ.1988 เป็นหน่ึงในโครงการท่ีรเิ รม่ิ ของประธานาธิบดี Francois Mitterrand โดยผเู้ ขา้ ชมจะตอ้ งเขา้ ผา่ นล็อบบีใ้ ตด้ ินท่ี อยใู่ ตฐ้ านพีระมดิ พิพิธภณั ฑล์ ฟู วร์ เป็นท่ีกลา่ วขานและอยากมาเยือนมากขนึ้ เม่ือถกู ใชเ้ ป็นพืน้ ท่ีถ่ายทาํ ภาพยนตรช์ ่ือดงั จากนวนิยายเร่อื ง Davinci Code ของ Dan Brown พิพิธภณั ฑไ์ ดร้ บั เงินสนบั สนนุ คา่ พืน้ ท่ีการถ่ายทาํ ถึง 2.5 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ และในปีค.ศ.2008 รฐั บาลฝร่งั เศสไดส้ นนั สนุนงบประมาณทัง้ หมด 180 ลา้ นเหรียญฯ จากงบประมาณท่ีตอ้ งการทงั้ หมด 350 ลา้ นเหรยี ญฯ โดยสว่ นตา่ งท่ีเหลือมาจากเงินบรจิ าคและคา่ เขา้ ชม พ่ีใหญ่และหนเู ล็กไม่ไดบ้ รรจแุ ผนการเขา้ ชมพิพิธภณั ฑล์ ฟู วรไ์ วใ้ นทวั รข์ องเราเพราะการเขา้ ชมท่ีดีนนั้ ตอ้ งมีเวลาใหก้ บั สถานท่ีแห่งนีไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 3 วนั จงึ จะสามารถชมไดอ้ ยา่ งสบายๆ ก็ลองดจู ากภาพท่ีหนเู ลก็ เก็บ
มาฝากสิ อาคารโดยรอบทงั้ หมดนนั้ คือสถานท่ีแสดงศิลปะท่ีมีอย่หู ลายหม่ืนชิน้ หากตอ้ งการด่ืมด่าํ กับศิลปะ อย่างเต็มท่ีก็ควรมีเวลาราวๆ นัน้ เพราะการมาชมศิลปะแบบก่ึงเดินก่ึงว่ิงคงไม่ไดใ้ หอ้ รรถรสหรือสนุ ทรียใ์ น อารมณแ์ ต่อย่างใดนกั พาลจะเหน่ือยหอบราวกบั กาํ ลงั ทาํ กิจกรรม walk rally หาผลงานของดาวินชีเสีย มากกวา่ สาํ หรบั ทวั รแ์ นวประหยดั ของพวกเราหา้ คนนี้ แคไ่ ดม้ ายืนเหยียบลานกวา้ งๆ ดบู รรยากาศผคู้ นท่ีพากนั มายืนตอ่ แถวรอเขา้ ชม แคน่ ีก้ ็อ่มิ อกอ่ิมใจแลว้ จากพิพิธภัณฑล์ ูฟวร์ พวกเราเดินขา้ มถนนมายังอีกฝ่ังหน่ึงเป็นปอดแห่งหน่ึงของกรุงปารีส ท่ีน่ีคือ Tuileries Garden หรือในภาษาฝร่งั เศสเรยี กว่า Jardin des Tuileries พืน้ ท่ีสีเขียวแห่งนีน้ บั เป็นสวนแบบ ฝร่งั เศสแทๆ้ ท่ีสรา้ งขนึ้ ตามคาํ บญั ชาของพระนางแคทเธอรนี เดอ เมดซิ ี (Catherine de Medici) ครงั้ หน่งึ เคย เป็นสว่ นหน่งึ ของฟากตะวนั ตกของเมือง แตป่ ัจจบุ นั กินขอบเขตใหญ่ท่ีสดุ ในปารสี กินพืน้ ท่ี 2500 เอเคอร์ ทอด ยาวไปกบั แมน่ า้ํ แซน (Siene) ตงั้ อยรู่ ะหวา่ งพิพิธภณั ฑล์ ฟู วรแ์ ละลานคองคอรด์ (Place de la Concorde) ใน ฐานะท่ีเป็นสวนของ Tuileries Palace ในปี ค.ศ.1564 ออกแบบโดยหวั หนา้ ผดู้ แู ลสวนของพระเจา้ หลยุ สท์ ่ี 14 ประดบั ดว้ ยหิน รูปปั้น ประตมิ ากรรม บอ่ นา้ํ และนา้ํ พอุ ยา่ งสวยงาม
สวนนีเ้ ปิดเปิดใหเ้ ป็นพืน้ ท่ีสาธารณะในปี ค.ศ.1667 และกลายเป็นสวนสาธารณะหลังการปฏิวัติ ฝร่งั เศสในท่ีสุด นับเป็นพืน้ ท่ีสีเขียวท่ีชาวปารีเซียงนิยมมาใชใ้ นการพักผ่อนหย่อนใจ พบปะพูดคุย และใช้ วนั หยดุ รว่ มกนั มากท่ีสดุ ชา่ งน่าเสยี ดายท่ีฟา้ ปารสี วนั นีม้ ีละอองฝอยฝนพรา่ งพรมมา อากาศท่ีดเู หมือนจะหนาวอยแู่ ลว้ ย่ิงหนาว เพ่มิ ขนึ้ ไปอีกราวกบั วา่ เครอ่ื งปรบั อากาศของปารสี นนั้ คอมเพรสเซอรท์ าํ งานผิดปกติ พ่ีใหญ่ หนเู ลก็ และลกู ทวั ร์ ท่ีรจิ ะน่งั ปิคนิคตากอากาศสบายๆ แบบชาวปารเิ ซียงกบั เขาบา้ งดเู หมือนจะทนไม่ไหวไปตามๆ กนั พากนั ออก กาํ ลงั กายไปเดินเคล่ือนไหวตามซอกตึกหลบลมเย็นๆ น่าจะไดผ้ ลกว่า ว่าแลว้ ก็จรลีจากสวนแสนสวยไปใน บดั ดล
หลงั จากเดินไตรต่ รองอยนู่ านว่าเราจะหนีฝนไปทางไหนกนั ดี ยงั มีสถานท่ีท่ีควรจะไปเยือนอีกแห่ง น่นั คือ มหาวิหารน็อทร-์ ดามแหง่ ปารสี (Cathe'drale Notre-Dame de Paris) ดงั นนั้ อย่าไดร้ รี อมือไวเท่าความคิด หนเู ลก็ คน้ หาแผนท่ี Metro ทนั ทีเลยวา่ เราจะเดนิ ทางไปไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง จากสถานี Palais Royal - Musée du Louvre เราตอ้ งน่งั Metro สาย 1 ไปลงท่ีสถานี Chatelet จากนนั้ เปล่ยี นเป็นสาย 4 ไปลงท่ีสถานี Cite' ซง่ึ เป็นสถานีท่ีใกลก้ บั Notre-Dame ท่ีสดุ แลว้ เม่ือออกจากสถานี ไปจะตอ้ งเดนิ ตอ่ ไปอีกเลก็ นอ้ ยจงึ จะถงึ มหาวหิ ารโดยจะผา่ น Palace of Justice และโบสถ์ Saint Chapelle ไป สองแหง่ นีเ้ ราไมไ่ ดแ้ วะเพราะเวลาไมอ่ าํ นวยและแห่งหลงั มีคา่ เขา้ ชม ถา้ ใครเคยดหู นงั เรอ่ื งคนคอ่ มแห่งน็อทร-์ ดาม (The Hunchback of Notre-Dame) คงจะรูจ้ กั สถานท่ีนี้ กนั ดี ในภาษาฝร่งั เศสจะอา่ นวา่ “กาเตดราลน็อทร-์ ดามเดอปาร”ี เป็นมหาวิหารสมยั Gothic ตงั้ อย่บู นเกาะซเิ ต้ (Ile de la Cite') คือฝ่ังตะวนั ออกของกรุงปารสี เกาะนีจ้ ะถกู ลอ้ มรอบดว้ ยแมน่ า้ํ Seine Notre Dame
คาํ วา่ Notre Dame แปลวา่ พระแมเ่ จา้ ของเรา (Our Lady) ซง่ึ เป็นคาํ ท่ีชาวคาทอลิกใชเ้ รยี กพระแม่มา รี ปัจจบุ นั มหาวหิ ารก็ยงั ใชเ้ ป็นโบสถข์ องครสิ ตจกั รโรมนั คาทอลกิ และเป็นท่ีตงั้ อาสนะของอารค์ บชิ อปแหง่ ปารสี ท่ีน่ีถือกนั วา่ เป็นโบสถท์ ่ีสวยงามท่ีสดุ ในลกั ษณะ Gothic แบบฝร่งั เศส มหาวิหารน็อทร-์ ดามจะมีประตใู หญ่ 3 ประตู ไดแ้ ก่ ประตดู า้ นหนา้ คือ ประตพู ระแม่ (The Portal of the Virgin) ประตคู าํ พิพากษาครงั้ สดุ ทา้ ย (The Portal ifthe Last Judgement) และประตแู ซงตแ์ อนน์ (The Portal of Saint Anne) เหนือประตทู ่ีเป็นซุม้ จะมีการแกะสลกั เลา่ เร่อื งราวของแตล่ ะประตดู ว้ ย เหนือประตทู งั้ 3 ประตูจะเป็นรูปสลกั ของกษัตริยย์ ิวโบราณ 28 พระองค์ ท่ีเคยถูกตดั พระเศียรและทาํ ลายไปในสมัยปฏิวัติ ฝร่งั เศส และเม่ือมองสงู ขนึ้ ไปจะเห็นกระจกสีกลมตรงกลาง หรอื Rose Window (หนา้ ตา่ งกหุ ลาบ) ท่ีทาํ จาก กระจกสี ตงั้ แตศ่ ตวรรษท่ี 13 เป็นรูปพระแมม่ ารหี อ้ มลอ้ มดว้ ยรูปปั้นจาก The Old Testament ความงดงามของมหาวิหารไม่เพียงแต่ดา้ นนอกท่ีทาํ ใหห้ นเู ล็กเดินวนเวียนเก็บภาพอย่างไม่รูเ้ บ่ือ เม่ือ เขา้ มาดา้ นในย่ิงทาํ ใหเ้ ดินหลงใหลชมสถาปัตยกรรมดา้ นในทกุ จดุ ทุกมมุ ไม่ยอมออก แมจ้ ะไม่ใช่ชาวครสิ ตแ์ ต่ ทกุ ครงั้ ท่ีเขา้ ชมโบสถห์ รอื วิหารเหลา่ นี้ มกั จะรูส้ กึ ด่มื ด่าํ ไปกบั บรรยากาศดา้ นในจนลืมเวลาทกุ ครงั้ คงเหมือนกบั เวลาท่ีตา่ งชาติมาเมืองไทยแลว้ หลงใหลไดป้ ลืม้ กบั วดั พระแกว้ หรอื พระปรางคว์ ดั อรุณอย่างไรอย่างนนั้ กระมงั วฒั นธรรม ความเช่ือและศรทั ธาท่ีแตกตา่ งเหลา่ นีเ้ ป็นส่ิงท่ีน่าเรยี นรูแ้ ละน่าศกึ ษาจรงิ ๆ ความศรทั ธาเป็นพลงั ท่ี ย่ิงใหญ่ท่ีสรา้ งส่งิ ตา่ งๆ ใหส้ าํ เรจ็ มาไดน้ กั ตอ่ นกั แลว้
หลงั จากเดินชมดา้ นในอย่างด่ืมด่าํ อินไปกบั บรรยากาศเสียจนสมาชิกดา้ นนอกตอ้ งคอยเสียเป็นนาน หนเู ลก็ มีข่าวแจง้ ใหส้ มาชิกทราบว่ายงั มีอีก mission หน่ึงท่ีพวกเราจะตอ้ งกระทาํ ใหส้ าํ เรจ็ ไมใ่ กลไ้ ม่ไกลจาก ท่ีน่ี หากไมส่ าํ เรจ็ จะถือวา่ ทวั รเ์ รานนั้ ยงั มาไมถ่ งึ ฝร่งั เศสกนั จรงิ ๆ หรอกนะ แตร่ ะหวา่ งท่ี Mission ยงั ไมส่ าํ เรจ็ ให้ คา้ งคาใจ พ่ีใหญ่ชวนใหเ้ ดนิ เลน่ ไปยงั ทางเดนิ รมิ นา้ํ เพราะเห็นสชี มพแู ว๊บๆ ใหร้ ูส้ กึ วา่ ไมไ่ ปไมไ่ ดแ้ ลว้ ทางเดนิ รมิ นา้ํ ท่ีวา่ นีค้ อื Promenade Maurice Careme จะเป็นทางเดนิ ขา้ งๆ มหาวิหารท่ีเลาะเลียบไป กบั แม่นา้ํ แซน ส่งิ ท่ีสะดดุ ตาพ่ีใหญ่ก็คือ ดอกซากรุ ะ ท่ีน่ีถือเป็นจดุ ชมดอกซากรุ ะบานท่ีปารีสท่ีสวยมากจดุ หน่ึง นอกเหนือไปจากบรเิ วณ Champ de Mars วนั นีก้ าํ ลงั bloom เต็มท่ี ทาํ ใหบ้ รรยากาศดหู วานมดขนึ้ มาเลย ทีเดียวเชียว อารมณป์ ลงแบบนกั บวชท่ีเพ่ิงเดินออกจากมหาวิหารเม่ือสกั ครูห่ ายเป็นปลิดทิง้ ใหบ้ งั เอิญมีหน่มุ สาวมาถ่ายพรเี วดดงิ้ กนั เขา้ ไปอีก นกั ท่องเท่ียวท่ีอยบู่ รเิ วณนนั้ เลยย่ิงไดอ้ ารมณฟ์ ิ นๆ กนั เขา้ ไปใหญ่
แต่อย่างไรพวกเราก็ไม่ลืมภารกิจท่ียงั ไม่แลว้ เสร็จ ว่าแลว้ ก็เดินตามแผนท่ีในมือไปคน้ หากนั อีกรอบ และแลว้ หน่ึงในลกู ทวั รข์ องเราก็ตามหาจนเจอ น่นั ก็คือ Point Zero บางคนเรียก Kilometre zero หรือ กิโลเมตรท่ี 0 หรอื บางทีเรียกกนั เสียน่าเกลียดน่าชงั ว่า \"สะดือปารสี \" นบั เป็นจดุ ศนู ยก์ ลางเอาไวใ้ ชส้ าํ หรบั เป็น จดุ เรม่ิ ตน้ ของการวดั ระยะทางจากกรุงปารีสไปยงั เมืองตา่ งๆ ในฝร่งั เศสน่นั เอง จดุ นีอ้ ย่บู นพืน้ หนา้ ประตใู หญ่ ของมหาวิหาร Norte-Dame Point Zero พ่ีใหญ่ หนเู ล็ก ไดพ้ าลกู ทวั รอ์ ีกสามชีวิตมาเหยียบท่ีจดุ นี้ เพ่ือจะบอกลกู ทวั รท์ งั้ สามว่า เราไดพ้ าท่าน มาถึงกรุงปารีสเป็นท่ีเรียบรอ้ ยแลว้ และน่ีคงเป็นสญั ญาณว่า พรุง่ นีเ้ ราคงตอ้ งอาํ ลากรุงปารีสกันอย่างมิตอ้ ง สงสยั แต่ราตรนี ีย้ งั อีกยาวนานนกั และ \"ปารีส\" ยงั รอใหเ้ ราคน้ หา พ่ีใหญ่กบั หนูเล็กยงั คงวนเวียนอย่แู ถวมหา วิหารน็อทร-์ ดามอย่นู ่นั แลว้ น่นั เพราะหวั หนา้ ทวั รย์ งั หาท่ีไปไมไ่ ด้ ก็ท่ีเท่ียวเยอะเสียปานนนั้ จะไปน่นั ก็เสียดาย
น่ี จะไปน่ีก็เสียดายน่นั เช่นนนั้ แลว้ เดนิ เท่ียวแบบไรแ้ ผนกนั บา้ งจะเป็นไรมี ใครมาเท่ียวกบั ทวั รน์ ีอ้ ย่าหวงั วา่ จะ ไดเ้ ท่ียวแบบทวั รอ์ ่ืนๆ เราจะมีสถานท่ีแบบแถมๆ ม่วั ๆ มาเป็นระยะๆ หากมากบั ทวั รอ์ ย่าไดห้ วงั ว่าจะไดเ้ ห็น ระดบั ทวั รห์ วั หกกน้ ขวิดอยา่ งเราๆ ลองมาเดนิ เลาะเลยี บรมิ ถนนทาํ ตนเป็นชาวปารเิ ซยี งกนั บา้ งดกี วา่ หลงั จากชมมหาวิหารก็แลว้ ไปชมดอกซากรุ ะบานกลางกรุงปารสี ก็แลว้ ทีนีไ้ ดเ้ วลาเดนิ ตหุ รดั ตเุ หรแ่ บบ ไรจ้ ดุ หมายไปตามถนน Rue d' Arcole หนเู ลก็ มีอนั สะดดุ ตากบั รา้ นอาหารธีมแสนหวานท่ีเลน่ เอาคนโสดอย่าง หนเู ลก็ อยากฆา่ ตวั ตายลงหนา้ รา้ น ใครมาปารสี กบั คณุ แฟนแวะมาสรา้ งอารมณส์ นุ ทรยี ก์ นั ท่ีน่ีนา่ จะดี รา้ น \" ไม่ ไกลจากมหาวหิ ารมากนกั สว่ นราคาก็...เอ่ิม ตวั ใครตวั มนั Au Vieux Paris d'Arcole หลงั จากหนูเล็กยืนเพอ้ เจอ้ ไปกบั ความหวานสกั พกั ก็ตอ้ งออกจากภวงั คแ์ ละกลบั มาส่โู ลกความเป็น จรงิ ท่ีเบือ้ งหนา้ ตอ่ ไป ถนนนีจ้ ะพาเราไปสแู่ ม่นา้ํ แซน (La Seine) หากมองไปฝ่ังตรงขา้ มจะเห็นอาคารขนาด ใหญ่น่นั คือ Hotel de Ville กรุณาอย่าเขา้ ใจผิด ไม่ใช่โรงแรมหรอื อะไร แตค่ ือศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ของกรุงปารสี เขาเรียกกนั แบบนนั้ เม่ือเดินมายืนรมิ นา้ํ และหนั มองไปทางขวาจะเห็นสะพานหลยุ ส-์ ฟิ ลิปเป้ (Pont Louis-Phillipe) และหากมองไปทางซา้ ยก็จะเห็นสะพานน็อทร-์ ดาม (Pont Norte-Dame) แม่นา้ํ แซนยามนีส้ งบน่ิงชวนใหย้ ืนทอดอารมณน์ ึกถึงใครตอ่ ใครไปเร่ือยเป่ือย หรือจะเป็นเพราะยงั มีอารมณค์ า้ งมา ตงั้ แตด่ อกซากรุ ะหวานๆ จนมาถึงรา้ นอาหารเม่ือตะกีก้ ็ไมร่ ู้ เฮอ้ ....
พ่ีใหญ่กลวั อารมณล์ กู ทวั รจ์ ะกระเจิงเกินเหตเุ ลยพาไปเดนิ ทวั รต์ ลาดกนั ดีกวา่ แถวๆ นีม้ ีตลาดดอกไมท้ ่ี คนปารีสนิยมมาเดินกัน หากเรียกในภาษาฝร่งั เศสก็ตอ้ งเรียกว่า Marche'-aux-fleurs แต่เป็นท่ีรูจ้ ักใน ภาษาองั กฤษคือ Flower Market Queen Elizabeth II ตลาดนีเ้ ปิดทกุ วนั แตจ่ ะมีการนาํ นกมาจาํ หน่ายรว่ ม ดว้ ยในวนั อาทิตย์ รา้ นแตล่ ะรา้ นตงั้ อย่ใู ตโ้ ครงเหล็กจาํ หน่ายสินคา้ ทงั้ ดอกไม้ ตน้ ไมแ้ ละอปุ กรณต์ กแต่งสวนท่ี คนรกั บา้ นเห็นแลว้ อยากขนซือ้ กลบั ไปใจจะขาด ดอกไมท้ ่ีวางขายก็มีนานาพนั ธุท์ งั้ ไมใ้ บไมด้ อก แตด่ จู ะเนน้ ไม้ ดอกเป็นหลกั ดอกลาเวนเดอรแ์ หง้ จาก Provence ก็มีจาํ หน่าย หรอื จะผลิตภณั ฑข์ องกระจกุ กระจิกท่ีระลกึ ที ผลติ จากดอกลาเวนเดอรก์ ็สามารถหาซือ้ ไดจ้ ากท่ีน่ีแมไ้ มม่ ีโอกาสไปเยือนดินแดนแถบนนั้ ในฤดกู าลนี้ บางรา้ น ก็ใจดอี ยากถ่ายรูปก็ถ่ายไป บางรา้ นเขียนติดปา้ ยไวเ้ ลยว่า ถา้ อยากถ่ายรูปตอ้ งมาทกั ทาย say \"Hi\" กบั เจา้ ของ รา้ นก่อน ก็จะไดถ้ ่าย 1 รูป อะไรประมาณนี้ ก็คงเพราะมีแตค่ นมาเดินเก็บภาพแตไ่ มซ่ ือ้ อะไรกนั กระมงั ก็เลยคดิ แผนการตลาดแบบใหม่ แตก่ ็น่าเสียใจท่ีใชไ้ มไ่ ดผ้ ลกบั พวกเราท่ีตดั สินใจเดินไปถ่ายรา้ นอ่ืนท่ียินยอมใหถ้ ่ายได้ ตามแตใ่ จจะปรารถนา Flower Market Queen Elizabeth II
ดเู หมือนวา่ โปรแกรมทวั รว์ นั นีข้ องพ่ีใหญ่จะออกแนวหวาน อบอ่นุ ในหวั ใจมากไป ทงั้ ๆ ท่ีลกู ทวั รแ์ ตล่ ะ คนถา้ ไม่โสด ก็เป็นพวกห่างคนขา้ งเคียงมา ช่างสอดรบั กบั บรรยากาศฟา้ หมน่ ฝนพราํ ท่ีมาเพ่ิมความหนาวเย็น ใหพ้ วกเราท่ีตอ้ งต่างคนต่างพากนั กระชบั เสือ้ หนาวของตวั เองใหร้ ดั กุมขึน้ มาในทนั ที อย่าไดห้ วงั หาหนุ่มสาว อิตาลีแถวๆ นีม้ าช่วยจบั กระชบั ให้ พ่ีใหญ่เห็นว่าอากาศและบรรยากาศจะพาลกู ทวั รเ์ ตลิดไกลเกินก็เลยขอพา ไปปิดกิจกรรมทวั รป์ ารสี กบั a must แห่งสดุ ทา้ ยก่อนท่ีเราจะอาํ ลาปารสี กนั จากตลาดดอกไม้ พ่ีใหญ่หวั หนา้ ทวั รส์ มุ หวั กบั หนเู ล็กตดั สินใจพาลกู ทวั รท์ งั้ สามปิดทรปิ ทวั รก์ รุงปารีส เมืองหลวงของฝร่งั เศสกนั ท่ี \"ประตชู ยั \" (Arc de triomphe de l'Étoile) อา่ นว่า อารก์ เดอ ทรยี งฟ์ เดอ เลตวล เพ่ือประกาศชยั ชนะของพวกเราท่ีปฏิบตั ภิ ารกิจมาถงึ กรุงปารสี ไดส้ าํ เรจ็ เรยี บรอ้ ยและปลอดภยั จากมิจฉาชีพอนั แสนขนึ้ ช่ือลือชาตลอดสองวนั ท่ีผา่ นมา เย.้ ... เราน่งั Metro จากสถานี Cite' โดยขนึ้ สาย 4 ไปลงท่ีสถานี Chatelet แลว้ ไปตอ่ สาย 1 ไปยงั สถานี Charles de Gaulle-E'toile เม่ือโผลข่ นึ้ ไปส่งิ ก่อสรา้ งขนาดใหญ่ก็ปรากฏอยตู่ รงหนา้
ประตชู ยั ฝร่งั เศส เป็นอนสุ รณส์ ถานท่ีสาํ คญั ตงั้ อย่กู ลางจตั รุ สั ชารล์ เดอ โกล (Place Charles de Gaulle) หรอื เป็นท่ีรูจ้ กั กนั ในนาม \"จตั รุ สั แห่งดวงดาว\" (Place de l'Étoile) อย่ทู างทิศตะวนั ตกของ Champ- Elyse'es ประตชู ยั แห่งนีส้ รา้ งขึน้ เพ่ือเป็นการสดดุ ีวีรชนทหารกลา้ ท่ีไดร้ ว่ มรบเพ่ือประเทศฝร่งั เศส โดยเฉพาะ อย่างย่ิงในสงครามนโปเลียน และในปัจจบุ นั ยงั เป็นสสุ านของทหารนิรนามอีกดว้ ย นอกจากนี้ ยงั นบั เป็นสว่ น หน่งึ ของ \"แกนกลางอนั เก่าแก่\" (L'Axe historique) ซง่ึ เป็นถนนเสน้ ตรงจากสวนพิพิธภณั ฑล์ ฟู วรไ์ ปยงั ชานกรุง ปารสี ออกแบบโดยฌ็อง ชาลแกรง็ ในปี ค.ศ.1806 โดยมียวุ ชนเปลือยชาวฝร่งั เศสกาํ ลงั ต่อสกู้ บั ทหารเยอรมนั เต็มไปดว้ ยเคราและใสเ่ กราะเป็นสญั ลกั ษณเ์ พ่ือเป็นการปลกุ ใจ และเป็นอนสุ รณส์ ถานจนกระท่งั สงครามโลก ครงั้ ท่ี 1 Arc de Triomphe มีความสงู 49.5 เมตร (165 ฟุต) กวา้ ง 45 เมตร (148 ฟตุ ) และลกึ 22 เมตร (72 ฟุต) เป็นประตูชัยท่ีใหญ่เป็นอันดบั สองของโลกท่ีปรากฏอยู่ในปัจจุบนั สาํ หรบั ประตูชัยท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลก (Arch of Triumph) อยทู่ ่ีกรุงเปียงยาง ประเทศสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรอื เกาหลีเหนือ ของพ่ีคิมจองอึน เขาเรียกเป็นภาษาเกาหลีว่า \"แกซอนมนุ \" สรา้ งดว้ ยการซอ้ นหินแกรนิตสีขาวจาํ นวน 25,500 บล็อก มีความสงู 60 เมตร ความกวา้ ง 52.5 เมตร ซุม้ ประตโู คง้ สงู 27 เมตร กวา้ ง 18.6 เมตร รถสามารถว่ิง ผา่ นได้ 2 ช่องทางแบบสบายๆ ไดร้ บั การตกแต่งดว้ ยภาพนนู อย่างสวยงาม เปิดตวั ในโอกาสฉลองครบรอบวนั เกิด 70 ปีของท่านประธานาธิบดีคิมอิลซุง และเพ่ือเป็นอนุสรณท์ ่ีท่านคิมอิลซุงต่อสภู้ ายใตก้ ารปกครองของ ญ่ีป่นุ ช่วงปี ค.ศ.1925-1945 วา่ แลว้ ก็กลบั มาประตชู ยั ของเราตอ่ กนั ดีกวา่ จากรมิ ถนนชองป์ -เซลเิ ซสเ์ ราสามารถเดนิ ไปยงั ประตชู ยั ท่ี อย่กู ลางจตั รุ สั ไดโ้ ดยไมตอ้ งว่ิงขา้ มการจราจรอนั ว่นุ วายคะ่ เขามีทางเดินลอดดา้ นล่างใหเ้ ดินไปได้ มีหรอื ท่ีหนู เลก็ จะพลาด ก็เลยพาลกู ทวั รส์ ว่ นหน่งึ ไปชมดว้ ยกนั ดว้ ย สว่ นท่ีสมคั รใจจะชมระยะไกลก็ใหร้ ออยทู่ ่ีน่ีกบั พ่ีใหญ่ เม่ือเดินเขา้ ไปดา้ นในทางลอดไดส้ กั พกั จะมีประตทู างขนึ้ ดา้ นบน เลือกขึน้ ใหถ้ กู ทางหน่ึงคือขนึ้ ไปบน ลาน อีกทางหน่งึ คอื ขนึ้ ไปสดู่ า้ นบนซง่ึ มีพพิ ธิ ภณั ฑส์ ามารถเลือกขนึ้ ไดท้ งั้ บนั ไดวน 284 ขนั้ หรอื ขนึ้ ลฟิ ทแ์ ละเดนิ ขนึ้ บนั ไดตอ่ อีก 46 ขนั้ รวมทงั้ สามารถออกไปชมวิวดา้ นนอกในมมุ สงู ไดด้ ว้ ยซง่ึ อนั นีเ้ สียคา่ ธรรมเนียมแตแ่ นวนี้ ทวั รเ์ ราไมน่ ิยม ขอบาย เราแคช่ มความงามบนพืน้ ราบท่ีลานตรงกลางและแหงนหนา้ ชมก็พอแลว้
Arc de Triomphe ประตชู ยั ก่อสรา้ งในรูปแบบศิลปะท่ีเรียกว่า Neo-Classic ท่ีไดด้ ดั แปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมนั โบราณ ช่างแกะสลกั ท่ีสาํ คญั ของฝร่งั เศสในยคุ นนั้ หลายคนไดม้ ีส่วนรว่ มในรูปแกะสลกั ของประตชู ยั ฝร่งั เศส ดว้ ย รูปแกะสลกั ท่ีสาํ คญั จะไม่ไดเ้ ป็นลวดลายยาวบนกาํ แพง แต่จะเป็นรูปแกะสลกั ลอยตวั ท่ีเป็นสญั ลกั ษณ์ แห่งชยั ชนะตดิ กบั ตวั ประตชู ยั โดยรูปแกะสลกั 4 กลมุ่ บรเิ วณฐานประตชู ยั ท่ีสาํ คญั ไดแ้ ก่ 1 .Le Départ de 1792 (เรยี กวา่ La Marseillaise) โดยฟรองซวั ส์ รูด 2. Le Triomphe de 1810 โดยฌอง-ปีแอร์ กอรโ์ ตต์ 3. La Résistance de 1814 โดยอองตวน เอเตกซ์ 4. La Paix de 1815 โดยอองตวน เอเตกซ์
นอกจากนีย้ ังมีภาพแกะสลักหินนูนต่าํ 6 ชิน้ ท่ีอยู่บนประตูทั้งส่ีทิศ เล่าเหตุการณ์การปฏิวัติและ จกั รวรรดฝิ ร่งั เศส อยเู่ หนือรูปแกะสลกั ลอยตวั ทงั้ ส่ีชิน้ น่นั อีก และก็ยงั มีรายละเอียดอ่ืนๆ อีกมากท่ีปรากฏอยบู่ น ประตชู ยั ท่ีลว้ นมีความหมายเก่ียวกบั สงครามต่างๆ ทงั้ รายช่ือสงครามและรายช่ือทหารท่ีรว่ มรบสลกั ไวเ้ ต็มไป หมด นบั เป็นหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรช์ นั้ เย่ียมอีกแหง่ หนง่ึ ท่ีนา่ ศกึ ษา ทวั รป์ ารีสสาํ หรบั พวกเราจบลงแลว้ ณ ประตชู ยั และการถ่ายรูปเช็คอินกับป้ายขอ้ ความว่า Champ- Elyse'es เพ่ือประกาศใหโ้ ลกไดร้ ูท้ ่วั กนั ว่าเรามายืนอย่บู นถนนท่ีไดร้ บั การขนานนามวา่ เป็นถนนท่ีสวยท่ีสดุ ใน โลก โดยมีอตั ราค่าเช่าสงู ถึง 1.5 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ต่อปี สาํ หรบั พืน้ ท่ี 1000 ตารางฟุต (93 ตารางเมตร) หรือ สงู ท่ีสดุ ในยโุ รปเลยทีเดยี วเชียว OMG!!! ก่อนจะสิน้ แสงสดุ ทา้ ยของวนั เป็นครงั้ แรกท่ีหวั หนา้ ทวั รป์ ล่อยใหล้ กู ทวั รช์ อปปิ้งไดต้ ามอธั ยาศยั ไดท้ ่ี รา้ นเคร่อื งกีฬาสญั ชาติฝร่งั เศสท่ีเพ่ิงมาเปิดสาขาท่ีบา้ นเราอยา่ ง Decathlon ท่ีบรเิ วณถนน Wagram ท่ีน่ีเป็น รา้ นท่ีรวมอุปกรณก์ ีฬาทั้งทางบก ทางนา้ํ อุปกรณ์แคม้ ปิ้งท่ีราคาย่อมเยา ย่ิงตอนนีก้ ระแสนักป่ันกาํ ลงั ฮิต สามารถไปจดั หาอปุ กรณจ์ กั รยานกนั ไดเ้ ต็มท่ี แตท่ ่ีน่าเจ็บใจก็คือ เปใ้ บนอ้ ยย่ีหอ้ นีท้ ่ีหนเู ล็กสอู้ ตุ สา่ หส์ ะพายไป จากเมืองไทย ราคาถกู กว่าเสียอีก น่ีมนั อะไรกนั แลว้ พวกเราก็อาํ ลาปารสี กนั ไปง่ายๆ แบบนีเ้ อง ไม่รูจ้ ะง่ายไป ไหมนะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: