France – Italy when season change Chapter 10 : Venice – Our dreams destination หนูเล็ก
เวนิส - ปลายทางในฝัน เชา้ วนั นีเรามีกาํ หนดเดินทางไปยงั เมืองทีใครๆ ก็ชอบเอามาเปรียบเทียบกบั กรุงเทพฯ ว่าเป็นเวนิส ตะวนั ออก ซึงปลายทางของเราวนั นีคือ เวนิสตวั จรงิ เสียงจรงิ และจะเป็นเมืองสุดทา้ ยของพวกเราสาํ หรบั การเดนิ ทางผจญภยั ในแผน่ ดินยโุ รปแห่งนี การเดินทางวนั นีเราจะนงั รถไฟไปเวนิสโดยรถไฟทีจองไวอ้ อกจากสถานี Varenna-Esino ในเวลา 10.37 น. แต่เราจะตอ้ งนงั กลบั ไปตงั ตน้ ทีสถานี Milano Centrale ทีมิลานเพือนงั รถไฟไปยงั เวนิสอีกที ว่า แลว้ พวกเราก็พากันเดินลากกระเป๋ าไปยังสถานีรถไฟโดยไม่ลืมทีจะเอากุญแจทีพกั กลบั ไปหย่อนใส่กล่อง เอาไวเ้ หมือนตอนทีไปรบั มา เก็บภาพบรเิ วณสถานี Varenna-Esino ไวเ้ ป็นระทกึ
เมอื ไปถึงยงั อกี เป็นชวั โมงกวา่ ทีจะถึงเวลาทีรถไฟมา พีใหญ่กบั หนูเลก็ กเ็ ลยขอตวั กบั สมาชิกไปเดิน เล่นกันทีตลาดนัดริมนาํ เผือจะไดข้ องติดไมต้ ิดมือบา้ ง แต่กลายเป็นว่าวนั นีพ่อคา้ แม่คา้ ยังไม่มาตังรา้ นกัน เลย เราสองคนกเ็ ลยกนิ แหว้ กนั ไปตามระเบยี บ พอเดินกลบั มาทสี ถานสี กั พกั ก็ไดเ้ วลารถไฟมาพอดิบพอดี เรานังรถไฟยอ้ นกลับมาทีมิลานเพือมานังรถไฟแบบทีเรียกว่า Euro City เพือไปยังเวนิส รถไฟ ขบวนนีน่าจะเรมิ ตน้ ทางมาจากสวิสเซอรแ์ ลนด์ เพราะดูจากหนา้ ตาของรถไฟแลว้ เป็นเช่นนนั การเดินทาง ด้วยรถไฟก็ดีอย่างหนึง ไดม้ ีโอกาสใชบ้ ริการรถไฟรูปแบบต่างๆ นังแต่ละขบวนไม่มีเหมือนกนั เลย ทีนัง
ภายในจดั ไดว้ ่านงั สบาย เมือขึนไปเราก็แค่ดูเลขทีนังจากตวั ของเราเทียบกับเลขทีนงั เหนือศีรษะหรือทีตรง ขา้ งพนกั พิง นงั ใหถ้ กู อยา่ ใหใ้ ครเขามาไล่ทีหลงั เสียแต่ว่าโต๊ะหนา้ ทีนงั ขนาดเล็กไปหน่อย คนนงั รมิ ทางเดิน จะไม่มีพืนทีของโต๊ะทีจะวางของแบบเต็มๆ คณุ แม่และคุณลกู สาวแสนสวยหนา้ ตาดีซึงมานงั คู่กบั พีใหญ่ และหนเู ล็ก ทาํ ใหเ้ ราทงั ค่วู างขวดนาํ ไดไ้ มค่ ่อยถนดั เอาเสียเลย พรอ้ มออกเดนิ ทางกนั แลว้ รถไฟทีนีออกตรงเวลาเป๊ ะ เยียมจริง ๆ พอได้เวลาก็เคลือนขบวนออกเดินทาง สองข้างทางมี ทวิ ทศั นส์ วยงาม สถานีทีคนลงกนั มากทีสดุ สถานีหนงึ คือ Verona นนั เป็นเพราะ Verona เป็นเมืองทีใครๆ ก็ อยากจะมายอ้ นตาํ นานความรกั ของโรมิโอกบั จเู ลียตกันทีเมอื งนี แต่พวกเราไม่ไดบ้ รรจุไวใ้ นแผน จึงไดแ้ ต่ นงั ผา่ นไป ปลายทางของพวกเราอยู่ทีเวนสิ แต่ก็ตอ้ งท่องใหข้ ึนใจว่าตอ้ งไปลงทีสถานี Venezia Santa Lucia สถานีสดุ ทา้ ย นนั คือไปลงทีเกาะเวนสิ เลย เพราะหากใจรอ้ นบ่มุ บ่ามไมด่ ใู หด้ ี พอไดย้ ินเวนิสๆ กจ็ ะลงเร็วไป หนึงสถานี คือสถานีก่อนหนา้ ซึงก็คือ Venezia Mestre ก็จะลงผิดทันที เพราะสถานีนีจะเป็นเวนิสส่วนที เป็นแผ่นดินใหญ่ไม่ใช่เกาะ สาํ หรบั พวกเราแลว้ ในเมือมาเวนิส ถา้ ไม่ไปนอนบนเกาะอย่างนีเขาเรียกว่ามา ไม่ถึง อย่างพวกเราตอ้ งเทียวกนั ใหม้ นั สุดๆ ไปเลย และการไปลงยงั สถานี Venezia Santa Lucia จะทาํ ให้ เราไดบ้ รรยากาศนงั รถไฟผ่านนาํ อกี ดว้ ย ซงึ ตอ้ งบอกเลยวา่ วิวสดุ ยอดจรงิ ๆ
วิวงามๆ เมอื รถไฟวงิ เขา้ สสู่ ถานี Venezia Santa Lucia เมอื เราเดนิ ลากกระเป๋ าออกจากสถานี Venezia Santa Lucia ซงึ เป็นสถานีรถไฟบนเกาะเวนสิ หรือ ทีเรียกในภาษาอิตาลีว่า Venezia อ่านว่า เวเนเซีย นัน เราก็จะพบคลองอยู่ตรงหน้าเลย คลองนีนับเป็น คลองหลกั ในการสญั จรของเวนิส เรียกกนั ว่า Grand Canal หรือ Canal Grande ซึงหนูเล็กจะค่อยๆ พา ทวั รเ์ วนสิ ในลาํ ดบั ต่อ ๆ ไป
เมอื เดนิ ออกจากสถานีมา ก็จะเป็นลานกวา้ งๆ ติดริมนาํ แบบนี เมือยืนอยู่หน้าสถานีรถไฟและมองออกไปจะเห็นความวุ่นวายอยู่บริเวณริมนาํ ถนนตรงนันคือ Fondamenta Santa Lucia เป็นจุดขายตัวโดยสารเพือไปขึนยงั ท่าเรือทีมีเรียงรายอยู่บริเวณนันหลายท่า อยา่ ลืมว่าการเดินทางในเวนิสทีนิยมใชก้ นั มากทีสดุ ก็คือทางเรือ และเรอื ทีใชก้ ็คือเรอื โดยสาร (Water Bus) ทขี า้ งลาํ เรอื มขี อ้ ความวา่ เรือวา่ Actv กอ่ นจะใชบ้ ริการก็ตอ้ งไปดแู ต่ละทา่ ว่ามีเรอื สายใดผ่านบา้ ง สายนนั ๆ ไปยงั จดุ หมายทีตอ้ งการจะลงไหม จะว่าไปกค็ ลา้ ยรถเมลเ์ พียงแต่เป็นการเดินทางในนาํ แค่นนั เอง วนั นีพวก เราเพิงมาถงึ อนั ดบั แรกคงตอ้ งเขา้ ทีพกั กันก่อน หลงั จากนีจะไปเทียวทีไหน อย่างไร ค่อยว่ากัน เพราะพวก เรามีเวลากบั เวนิสค่อนขา้ งหลายวัน ไม่ตอ้ งรบี รอ้ น แต่ถงึ อย่างนนั เราก็คงตอ้ งเตือนตวั เองวา่ บนเกาะนไี ม่มี รถยนต์ ในสว่ นทีเรือเดินทางไมถ่ ึง สองเทา้ จงึ เป็นสิงจาํ เป็นทสี ดุ ในการเดินสาํ รวจเวนิส ถา้ ไม่เดินก็จะเทียว ไมท่ วั ซงึ กน็ บั เป็นเรืองทนี ่าหนกั ใจอยเู่ หมือนกนั Actv เรอื โดยสารของเวนสิ หนูเล็กดแู ผนทีและขอ้ ความทีติดต่อกับเจา้ ของทีพกั แลว้ ทีพกั ทีจองไวไ้ ม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก นกั พีใหญ่เรมิ ใชบ้ รกิ าร application Maps.me อีกครงั ในการนาํ ทางเราสู่ทีพักดงั กล่าว ทีพกั วนั นีเป็นการ ใชบ้ รกิ ารจองผ่าน Airbnb บรกิ ารบา้ นพักรูปแบบใหม่ทีกาํ ลงั ไดร้ บั ความนยิ มอย่างมากในหม่นู กั เดินทาง มี
ทงั การเชา่ ทงั หลงั หรือการอยู่รว่ มกบั เจา้ ของทีพกั ซงึ สาํ หรบั ทีเวนิสแห่งนี เนืองจากเป็นสามคืนสดุ ทา้ ยก่อน การเดนิ ทางกลบั พใี หญ่กบั หนเู ล็กจึงเจตนาเลอื กทพี กั ทีคอ่ นขา้ งสะดวกสบาย ทาํ อาหารการกินไดเ้ ต็มที จึง เลือกแบบเช่าทงั หลงั (Entire Place) และแลว้ ก็มาลงเอย ณ ทีพกั สไตล์ modern apartment แห่งนี แมว้ ่า อาจจะหา่ งจากแหลง่ ท่องเทียวไปสกั หนอ่ ย แต่พวกเราขอใกลก้ บั ขนส่งสาธารณะดีกว่า เพราะขากลบั น่าจะ ไดร้ บั ความสะดวกมากกว่าในการลากกระเป๋ า ก็อย่างทีไดเ้ จอมาแลว้ ที Strasbourg การลากกระเป๋ าบน ถนนทีปูดว้ ยหินแบบ Cobber Stone นัน ไม่สนุกเอาเลย ทังเมือยแขน ทังเสียงดัง ลากไม่ดีลอ้ มีพลิกอีก ลากใกลๆ้ ดีทีสดุ แลว้ ทางเดนิ สทู่ ีพกั ของเรา ทีพกั แห่งนีดูแลโดย Host ทีชือ Giorgia Bertoldi ซึง Giorgia น่าจะมีอะไรดีๆ หลายเรืองจึงไดร้ บั การปรบั ใหเ้ ป็น Superhost นันหมายความว่าเธอจะดูแลผูม้ าพักเป็นอย่างดี หอ้ งพักสะอาดเรียบรอ้ ยจึง ไดร้ บั ตาํ แหน่งนี ซึงเราก็ไม่ผิดหวงั จริงๆ เพราะเมือมาถึงและติดต่อเธอ เธอก็บอกเราว่า ณ ตอนนีเธอคอย เราอยู่แลว้ ทีหนา้ ตกึ แลว้ แหม ช่างเป็น Superhost สมกบั ตาํ แหนง่ จริงๆ Giorgia เป็นสาวอายุอานามน่าจะ พอๆ กบั หนูเล็ก หนา้ ตาสะสวย รูปรา่ งดี เธอพาเราขึนไปยงั ทีพกั ซึงเป็น อพารท์ เมนตท์ ีชนั บน ดูแลกดลิฟท์ ช่วยยกกระเป๋ า เมือเปิดเขา้ ไปดา้ นใน หอ้ งพกั เป็นตามภาพทีเธอลงไวท้ ุกประการ เธอแนะนาํ ทกุ สิงอย่าง ดว้ ยความใส่ใจและละเอียดละออจนเราสินสงสยั เมือดแู ลเราเรียบรอ้ ยทุกสิงอนั เธอก็ขอตัวไปพรอ้ มบอก ว่าสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากเธอไดต้ ลอดเวลาทีตอ้ งการ ปล่อยใหพ้ วกเราชืนชมกบั หอ้ งหับกัน อย่างมีความสขุ และพากนั เอนกายพกั ผ่อนหลงั จากใชเ้ วลาเดนิ ทางไกลกนั มาหลายชวั โมง
และเรืองตืนเตน้ สาํ หรบั พวกเราในบ่ายวนั นี คือรอรบั การมาเยอื นของแขกคนสาํ คญั ของคณุ สดุ ซงึ สู้ อตุ ส่าหข์ บั รถมาจาก Parma เมอื งทอี ยูห่ ่างเวนิสไปราว 225 กโิ ลเมตรหรือตอ้ งใชเ้ วลาเดินทางราว 3 ชวั โมง ครงึ เพือมาใชเ้ วลาแห่งความสขุ รว่ มกนั กบั พวกเราทีเวนิส ซึงตอ้ งนบั ว่าเป็นเรืองน่ายินดียิง เพราะการไดม้ ี โอกาสนัดหมายพบปะกับเพือนเก่าจากแผ่นดินเกิดทีห่างหายกันมาเป็นเวลานานในยามต่างก็ไกลบา้ น และยงั ไดม้ าร่วมสรา้ งชว่ งเวลาแห่งความประทับใจ ณ สถานทอี นั สดุ แสนโรแมนติกอย่างเวนิสเช่นนี เป็นสิง ทีหาโอกาสไดย้ ากยิง แลว้ อย่างนีจะไม่น่าตืนเตน้ ไดอ้ ย่างไร การรอคอยสินสดุ ลงเมือแดดร่มลมตก แขกคน สาํ คญั ก็เดนิ ทางมาถึงพอดิบพอดี
Mrs. Mariani เพือนสาวผูม้ าใชช้ วี ิตต่างแดนของคณุ สดุ พาบอดีการด์ ขา้ งกายพากนั หอบหิวขา้ วของมา ฝากมากมาย ส่วนใหญ่เป็นอาหารพรอ้ มรบั ประทานทีลงมือปรุงเองเป็นพิเศษ ซงึ เป็นทีถกู ใจเป็นทีสดุ ชว่ ย ใหเ้ ราไม่ตอ้ งยุ่งกบั การทาํ กบั ขา้ วไปหนึงมือ สามารถเทียวเลน่ ไดส้ บายล่ะเย็นนี พวกเรารอใหผ้ มู้ าเยือนทัง สองพกั ใหห้ ายเหนอื ย จากนนั สกั ครูเ่ ดียวก็พากนั ออกไปเดินเล่นชมเมืองกนั แบบชลิ ชิล ใหพ้ วกเราไดซ้ ึมซบั บรรยากาศแบบเวนิสก่อนทีจะเรมิ สาํ รวจกนั อย่างเป็นเรืองเป็นราวในวนั พรุ่งนี และเพือเป็นการใหส้ ตั ยาบนั แห่งมิตรภาพทีมาเบ่งบาน ณ ดินแดนรองเทา้ บูท้ แหง่ นี จะมีอะไรดีไปกว่า ทีจะใช้ \"ไอศกรีมเจลาโต\"้ เป็นเมนูรว่ มสาบานในการเริมตน้ มิตรภาพดีๆ เช่นนี Mr.Mariani ผูโ้ ปรดปรานเจ ลาโตจ้ ึงเป็นเจา้ ภาพจัดพิธีเลียงเจลาโตร้ ว่ มสาบานใหก้ ับพวกเรากันคนละหนึงโคน นับเป็นช่วงเวลาแห่ง การฉลองบทเรมิ ตน้ แห่งมิตรภาพทคี ลาสสิกทสี ดุ แลว้ ทีหนเู ลก็ จะคิดได้ หลงั จากมคี ่มู อื การเดินเทียวอยา่ งเจลาโตใ้ นมือแลว้ ทนี ีก็ไดเ้ วลาเดินชอ้ ปสินคา้ ของเวนิสดว้ ยสายตากัน ได้เสียที ตลอดสองข้างทางทีเราเดินไปบนถนน Rio Tera' Lista di Spagna มีข้าวของสวยๆ งามๆ มากมาย มีทงั ของกินของใช้ ทีสะดุดตาก็คงเป็นหนา้ กากรูปแบบต่างๆ ทีนับเป็นสญั ลักษณห์ นึงของเวนิส ซงึ จะมีงานคารน์ วิ ลั เป็นประจาํ ทกุ ปี
หนูเล็กขอให้ภาพสินค้า รา้ นรวง วิถีชีวิตของชาวเวนิส และบรรยากาศของเมืองท่องเทียวบอกเล่า เรืองราวของเวนิสแทนก็แลว้ กนั เชือว่าสิงเหล่านีคงอธิบายความเป็นเวนิส และเสน่หท์ ีดึงดูดใหใ้ ครต่อใคร อยากมาเยอื นเกาะทีเต็มไปดว้ ยความคึกคักและสีสนั แต่ภาพทีเห็นนียงั ไม่ถึงครงึ ทางทีพวกเราเดินไปเลย เชียว เมอื งนมี เี รอื งราวบนเสน้ ทางมากมายจรงิ ๆ
การเทียวเวนิสทสี นกุ และไดอ้ ารมณท์ ีสดุ ก็คือการเดินตามตรอกซอกซอยเล็กๆ เพราะมีรา้ นมากมายให้ เดินชม ไม่จาํ เป็นตอ้ งซือหรอกถา้ เงินเราไม่หนาพอ ทีพดู นีไม่ไดห้ มายความว่าตอ้ งมีเงินมากมายจึงจะมา เทียวได้ เพราะขา้ วของไม่ไดแ้ พงอะไรมากนกั พอซือไดบ้ า้ ง แต่เรืองของเรืองคือมันน่าซือไปหมด คนชอบ จบั จ่ายซือนู่นซือนีจะพาลใจอ่อนไดง้ ่าย ๆ ดงั นัน เดินชมเป็นดีทีสุด เลือกซือเท่าทีอยากไดจ้ ริง ๆ ก็จะเดิน เทียวไดอ้ ยา่ งสนกุ และเหตผุ ลอีกประการกค็ ือการหลงในเวนสิ นบั เป็นเรืองน่าสนุกอยา่ บอกใคร บอกไวเ้ ลย ว่าถา้ มาเดินเทียวเล่นในเวนิสแลว้ ไม่หลงนนั คือมาไม่ถึง ใครไม่หลงสินับเป็นเรืองแปลก ซอกซอยยิบย่อย อย่างกบั ไสก้ ระสือขนาดนี ถา้ เดินกนั แม่นเป๊ ะ ๆ จะไปสนกุ ทีตรงไหน การหลงทางนับเป็นเสน่หอ์ ย่างหนึง เพราะนนั ทาํ ใหเ้ ราพบเสน้ ทางใหม่ ๆ ไดพ้ บตัวตนจริง ๆ ของเวนิส และเชือไหม สดุ ทา้ ยแลว้ มนั ก็พาเราไปสู่ ปลายทางทีเราตอ้ งการไปไดเ้ หมือนๆ กนั เพียงแต่อาจจะออ้ มไปบา้ ง ไปผ่านหลงั บา้ นใครต่อใครบา้ งเท่า นนั เอง นอกจากเราจะผ่านร้านรวงต่างๆ มากมายแล้ว ตลอดทางเรายังจะพบโบสถ์เก่าแก่มากมาย มี สถาปัตยกรรมสวย ๆ ใหไ้ ดเ้ ก็บภาพไดต้ ลอดทาง แต่โบสถส์ ว่ นใหญ่ในเวนิสเสียค่าเขา้ ชมและบางทเี สียค่า ถ่ายรูปอกี ตา่ งหาก ตอ้ งศกึ ษามาใหด้ ีๆ ว่าแห่งไหนเสียค่าเขา้ บา้ ง หากอยากเทียวอย่างประหยดั ก็ตอ้ งเลือก เขา้ ชม เพราะจริง ๆ แลว้ แค่เราเดินตามทอ้ งถนน แค่ไดม้ องตึกรามบา้ นช่อง สิงปลูกสรา้ งตามรายทางก็มี สถาปัตยกรรม ศิลปะตามยุคสมยั ใหไ้ ดต้ ืนตาตืนใจมากมายพอสมควรแลว้ เลือกเสพเฉพาะทีอลงั การและ ควรคา่ แก่การเสียเงนิ ก็พอ เทยี วแนวประหยดั ก็ไดอ้ ะไรมากมายไดเ้ หมือนกนั
การเดินเล่นบนเสน้ ทางการเดนิ สาํ รวจเวนิสทนี าํ โดยไกดก์ ติ ติมศกั ดชิ าวอติ าลีอยา่ ง Mr.Mariani จะว่าไม่ มีเป้าหมายก็คงไม่ใช่ เพราะจดุ ม่งุ หมายของการเดินในบ่ายวนั นีของเราคือ Piazza San Marco สาเหตุที เราตอ้ งมาทีนีก็เพราะว่าเป็นทีตงั ของ St.Mark's Basilica หรือ Basilica di San Marco ซึงก็คือวิหารเซนต์ มารค์ นนั เอง ตวั โบสถเ์ ปิดใหเ้ ขา้ ชมฟรี สถานทีแห่งนีเป็นไฮไลตข์ องเวนิส ถา้ ไม่นับเรือกอนโดลาทีใคร ๆ ก็ อยากเสียเงินนงั สกั ครงั เมอื มาถงึ
สาเหตทุ ีสถานทีแห่งนีมีความสาํ คญั นนั เป็นเพราะเป็นสถานทีเก็บร่างของ St.Mark ผเู้ ผยแพร่ศาสนา ครสิ ตท์ ีพอ่ คา้ เวนิสสองคนไดข้ โมยมาจาก Alexandria ของอยี ิปต์ ซึงแต่เดิมเป็นเพียงโบสถเ์ ล็กๆ แต่ไดร้ บั การบูรณ ะเรือยมาเป็ นศตวรรษจนยิงใหญ่ และได้รับอิทธิพลจากโบสถ์ The Holy Apostle ใน Constantinople ของตรุ กี วิหารนีมีเอกลักษณ์ตรงทีไม่มีเอกลักษณ์ พูดแลว้ งงๆ ไหมคะ อ่านบางตาํ ราก็บอกว่าศิลปะทีเห็นนี เหมือนพวก Moorish บา้ งก็ว่าเป็นศิลปะ Byzantine บางส่วนก็มี Gothic ผสม ซึงจะว่าไปแลว้ ก็นบั ได้ว่า เป็นการผสมผสานทีลงตวั อย่างทีสุดเพราะมนั ลงตวั ไม่มีขดั เขิน มีทงั หินสี ปูนปัน ประติมากรรมแกะสลกั โมเสกสีทอง เสาหิน โดมโคง้ ยอดแหลม อะไรมนั จะผสมผสานกนั ไดล้ งตวั ขนาดนี ว่างนั เถอะ ตวั วิหารจะแบ่งเป็น 3 ชนั ชนั ล่างเป็นเสาหินออ่ นตงั รบั ซมุ้ ประตโู คง้ ทงั 5 ประตู เมือมองขึนไปอกี ระดบั หนึงจะเห็นภาพโมเสก เหนือขึนไปอีกระดบั เป็นชันเทพซึงจะมีรูปปันของนักบุญผูก้ ลา้ ทีคอยปกป้องดูแล เมือง และตรงกลางเป็นนักบุญผู้เป็นประธาน นันคือ St.Mark มองตาํ ลงมาเหนือประตูกลางใตร้ ูปปัน นักบุญ St.Mark จะเห็นรูปสิงโตสีทองมีปีก (The Winged Lion) นีเป็นสตั วส์ ญั ลกั ษณ์ประจาํ ตวั St.Mark ซึงหากเดินเทียวทัวเวนิสก็จะเห็นไดท้ ัวไป บนธง ภาพวาด รูปปัน บนของทีระลึก ทีเคาะประตูหนา้ ประตู
บา้ นกม็ ี ซึงนบั เป็น Mascot ของเวนิสเลยทีเดียว สาเหตทุ ีสิงโตกลายเป็นสญั ลกั ษณ์ของเวนิสเป็นเพราะมี เรืองเล่าว่าชาวเวนิสสมัยก่อนเลียงสิงโตเป็นสัตวเ์ ลียง แต่ภายหลังถูกหา้ ม สิงโตสีทองทีดา้ นบนนันถ้า สงั เกตจะเหน็ ว่ามีหนงั สือเปิดไวห้ นา้ หนึง มคี าํ เขียนไวเ้ ป็นภาษาละตนิ ซงึ จากตาํ ราทีอ่านมา เขาแปลเอาไว้ ว่า \"Peace to you, Mark my Evangelist\" แปลว่า “สนั ติสุขจงมีแด่ท่าน มารค์ ผูเ้ ผยแพร่ศาสนาของเรา” คาํ กล่าวนีมที ีมาจากตาํ นานของชาวเวนิสว่าวนั ทีรบั รา่ ง St.Mark (ขโมยร่าง) มานนั พอมาถึงเวนิสไดม้ ีทูต สวรรคม์ าปรากฏกายขึนและกล่าวคาํ พดู นี ทาํ ให้ชาวเวนิสพากันเชือโดยสนิทใจ (หรือจะเรียกว่าเขา้ ขา้ ง ตัวเองได้หรือเปล่าไม่รู)้ ว่าการนาํ ร่างของ St.Mark มายังเวนิสเพือเป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายนันเป็นการ กระทาํ ทีถูกตอ้ งตามพระประสงคข์ องพระเจา้ สิงผิดจึงเป็นถูกนบั แต่บดั นนั เป็นตน้ มา เอวงั ก็มีดว้ ยประการ ฉะนี ทีหน้าบันทีเป็นโดมโคง้ 5 โคง้ จะมีสองโคง้ ซา้ ยและขวาทีจะบอกเล่าเรืองราวเกียวกบั การนาํ ร่างของ St.Mark มายงั เวนสิ แตส่ ว่ นทีโดดเด่นสดุ คอื โคง้ ตรงกลางจะเป็นภาพ Last Judgement จะสงั เกตเห็นไดว้ า่ มีคนทาํ ดีและคนทาํ ชวั อย่สู องขา้ งของภาพ เมือหนั หลงั กลบั ไปจะเห็นสิงปลกู สรา้ งทีทาํ ดว้ ยอิฐสีสม้ สงู ตระหง่าน นีคอื Campanile หรือหอระฆงั ทีมี ความสงู ถึง 98.6 เมตร เป็นจดุ สงู สดุ ทีสามารถชมเวนิสไดท้ งั เมือง บนยอดจะมีระฆงั 5 ใบ ระฆงั 5 ใบนีจะ มเี สียงทีตา่ งกนั ใชบ้ อกสญั ญาณตา่ ง ๆ กนั ระฆงั ใบใหญ่ทีสดุ ตีบอกเวลาทาํ งานและเลิกงานเชา้ กบั เย็น ใบ ทสี องตีตอนเทียงวนั ใบทีสามตีเรียกประชุมสมาชิกสภา ใบทีสีตีเรียกประชมุ สภาขนุ นาง ส่วนใบสดุ ทา้ ยจะ ตีเมือมีการประหารชวี ิตนกั โทษ แต่กจ็ ะมีโอกาสทีทงั 5 ใบตีพรอ้ มกนั นนั คือ ในวาระพิเศษกค็ ือเมือสมเด็จ สนั ตปาปาเสด็จมาถึงเวนิส พวกเราสามารถขึนไปดา้ นบนไดโ้ ดยมีค่าธรรมเนียมและทีสาํ คญั คือตอ้ งต่อคิว ซงึ ใชเ้ วลาพอควรทีเดยี ว
สิงปลูกสรา้ งอีกหนึงทีจะลืมกล่าวถึงไม่ไดค้ ือ Torre dell'Orologio หรือ Moors' Clocktower ว่ากนั ว่า เป็นสิงปลกู สรา้ งทีสรา้ งขึนเพือการอวดราํ อวดรวยของเวนิส บนยอดหอคอยมีเทอเรซซึงมีระฆงั ขนาดใหญ่ และมีรูปปันสัมฤทธิ 2 ตวั ชือ Mori มนี าฬิกาอยู่ใตร้ ูปปันอีกที เมือถึงชัวโมงก็จะยกฆอ้ นฟาดไปทีระฆัง ถดั จากสิงโตหิน จะเป็นรูปมาดอนน่า ดา้ นขา้ งจะเป็นตน้ แบบของนาฬิกาดิจิตอลในยุคปัจจุบนั ฝังซา้ ยบอก ชวั โมงเป็นตัวเลขโรมัน ฝังขวาบอกนาทีเป็นตัวเลขอารบิค จะเปลียนทุกๆ หา้ นาที ถัดลงมาเป็นนาฬิกา ดาราศาสตร์ หนา้ ปัทมเ์ ป็นสีทองและนาํ เงนิ เคลอื บ แสดงขา้ งขึนขา้ งแรมและจกั รราศี สามสิงนีนับเป็นจุดขายทีนักท่องเทียวทีมาเวนิสจะตอ้ งมาถ่ายภาพ มาเยียมชม ณ จตั ุรสั เซนตม์ ารค์ แห่งนี ถา้ มาเวนิสแต่ไม่มาชมสิงเหล่านีก็เรยี กไดว้ ่ามาไม่ถึงเวนิส แต่บริเวณนียงั มีอะไรอีกมาก เรียกไดว้ ่า มาจตั รุ สั แหง่ นที เี ดียวไดช้ ม \"a must\" ของเวนิสไดห้ ลายอย่างเลย จาก Piazza San Marco หรือจตุรัสใหญ่ เมือเดินต่อมาทางริมนาํ ทางด้านซ้ายมือจะเป็น Palazzo Ducale หรือ Doge's Palace ก็คือวังของโดจ ตอ้ งทาํ ความเขา้ ใจไวเ้ บืองต้นก่อนว่า \"โดจ\" คือตาํ แหน่ง ผูป้ กครองเวนิส ส่วนรายละเอียดทีมากไปกว่านีเกียวกบั โดจและวังของโดจไวห้ นูเล็กมาเล่าใหฟ้ ังอีกทีค่ะ
เรืองนีตอ้ งยาว มาดอู าคารดา้ นขวามือกนั บา้ ง อาคารสีขาวทีมีรูปปันเรยี งรายอยู่ดา้ นบนมากมายนนั เป็น Biblioteca Nazionale Marciana หรือ National Library of St.Mark ซึงก็คือห้องสมุดของเวนิสค่ะ เป็น หอ้ งสมดุ เก่าแก่ทียงั เหลืออย่เู พียงไมก่ ีแห่งของประเทศ เป็นทีรวบรวมหนังสือสมัยโบราณทีใหญ่ทีสดุ แห่ง หนึงของโลกเลยทีเดียว พืนทีบริเวณนีถือเป็นจัตุรสั ขนาดเล็ก เขาจะเรียกบริเวณนีว่า Piazzetta ซึงจะ ต่อเนืองไปจนถงึ Canal Grande ทมี ีเรือกอนโดลาจอดเรยี งรายรอบริการแก่นกั ท่องเทียวอย่เู ตม็ ไปหมด วงั ของโดจ บรเิ วณ Piazzetta นจี ะมีเสาหิน (column) อยู่สองตน้ เป็นเสาหินทีขนมาจาก Constantinople เสาหนึง เป็นรูปสิงโตมีปีกสญั ลกั ษณ์ของเวนิส ส่วนอีกเสาหนึงเป็นรูปแกะสลกั ของ St.Theodore ทีกาํ ลงั ต่อกรกบั จระเขอ้ ยู่ St.Theodore เป็นนกั บุญประจาํ เวนิสก่อนทีรา่ งของ St.Mark จะเดินทางมาถึงและกลายมาเป็น นกั บญุ ประจาํ เวนิสแทน ว่ากนั ว่าช่องระหว่าง St.Theodore column กบั St.Mark column นนั ในสมยั ก่อน ใชเ้ ป็นทีประหารชีวิตพวกนักโทษและแขวนศพประจาน ว่ากนั ว่าอีกหนว่าถ้าเป็นชาวเวนิสแทๆ้ จะรูเ้ รือง พวกนีดีและจะไม่เดินผ่านช่องระหว่างสองเสานี หนเู ล็กไม่ใชช่ าวเวนิสจึงไม่สนใจและเดินผ่านไปมาไม่รูก้ ี รอบ
เมือเดินผ่านเสาหินสองตน้ นันมา บริเวณนีเป็นทางเดินริมนาํ ทีเรียกว่า Molo San Marco จะเต็มไป ดว้ ยท่าเรือและจุดจอดเรอื กอนโดลาทีตอ้ งเรียกว่าเป็นมมุ มหาชน ก็จะไม่เรยี กอย่างนีไดอ้ ย่างไร ก็ภาพเรือ กอนโดลาสีดาํ ขลบั ทีมีผา้ ใบสีฟ้าสดคลุมไวเ้ มือยามตอ้ งแสงอาทิตย์อัสดง กับฉากหลงั เป็นโบสถอ์ ย่าง Basilica di San Giorgio Maggiore เป็นจังหวะทีแสงและเงากาํ ลงั สอดรบั กนั พอดีนนั มนั งดงามเกินทีจะ บรรยายจริงๆ เพียงมุมนีมุมเดียว หนูเล็กกดชัตเตอรร์ วั ๆ มาเป็นสิบๆ ภาพ ขอบอกเลยว่าไม่ว่าฝีมือ ถ่ายภาพของเราจะเป็นอย่างไร ถา้ ไดม้ าถ่ายภาพมมุ มหาชนนีไม่ว่าอย่างไรก็จะถ่ายออกมาไดส้ วยบาดตา บาดใจ ขนาดฝีมือหนเู ลก็ กแ็ ค่นยี งั ไดม้ าขนาดนี หยิบภาพชดุ นขี ึนมามองครงั ใดใหอ้ ยากเดินทางกลบั ไปยืน อยู่ ณ ตรงจุดนีอีกสกั ครงั จรงิ ๆ แต่ถา้ จะใหพ้ ดู จรงิ แลว้ แค่ยืนมองนิงๆ นานๆ ความงามตรงหน้าก็แทบจะ ทาํ ให้หยุดหายใจไดเ้ ลยทีเดียว เมือพระอาทิตยค์ ่อยๆ อาํ ลาแสงสีของทอ้ งฟ้า น่าประหลาดทีทาํ ให้รูส้ ึก เหงาๆ เปล่าเปลียว ชวนใหค้ ิดถึงใครบางคนขึนมาไดเ้ สียเฉยๆ บรรยากาศรอบๆ ตวั เราก็มีผลต่อจิตใจของ คนเราไดเ้ หมือนกนั
เส้นทางเดินจาก Molo San Marco ทีเดินผ่าน Palazzo Ducale ไปหยุดยืนบนสะพาน Ponte della Paglia จะมองเห็นสะพานหนึงทีนับเป็นอีกหนึง a must ทีตอ้ งมาชมหากมาเยือนเวนิส นนั คือ Bridge of Sighs หรือ Ponte dei Sospiri ซึงเดิมชือ Bridge of Prison เป็นสะพานทีเชือมต่อระหว่างวังของโดจซึง เป็นทีทาํ การของทางการกับคุกขังนักโทษ ชือ Bridge of Sighs นีมาตังขึนในภายหลงั โดยนักเขียนชือ Lord Byron โดยสรา้ งจินตนาการว่าเมือนักโทษไดเ้ ห็นแสงเดือนแสงตะวนั ครงั สุดทา้ ยเมือเดินผ่านสะพาน นีจะรูส้ ึกทอดถอนใจ ในขณะทีมีตาํ นานเล่าไวอ้ ีกว่า ถา้ คู่รกั คู่ใดไดน้ งั เรือกอนโดลามาจูบกนั ทีใตส้ ะพานนี ความรกั ของทงั คู่จะเป็นอมตะ มนิ ่าละ่ ถึงไดเ้ ห็นมเี รือกอนโดลาทีมีหน่มุ สาวนงั มาผ่านมาถีเหลอื เกิน แต่กไ็ ม่ แน่ใจเหมอื นกนั ว่าตาํ นานนีสรา้ งขึนโดยเหล่า Gondolier เพอื ใหข้ ายดขี ึนหรอื เปล่า Bridge of Sighs และเมือยืนอยู่บนสะพาน Ponte della Paglia สามารถมองไปเห็นโบสถ์ Santa Maria della Salute ที อกี เกาะหนึงไดอ้ ยา่ งชดั เจน โบสถแ์ ห่งนีเขาแนะนาํ วา่ หากอยากมองใหส้ วยตอ้ งมองจากทีไกลๆ เพราะเป็น โบสถท์ รงแปดเหลียมทีมีขนาดใหญ่มาก ตวั โบสถท์ าํ ดว้ ยหินจากโครเอเชีย ทีนีมหี อระฆงั ใหข้ ึนไปชมวิวได้ ดว้ ย
Santa Maria della Salute ฟ้าเวนิสในคืนแรกของเราเรมิ มืดลง ไดเ้ วลาเดินกลบั ทีพกั การเดินยงั เป็นวิธีทีพวกเราเลือกใช้ เวนิสยาม คาํ หาไดห้ ลบั ไหลสนิทแนบแนน่ อย่างทีคิดไม่ ความมืดทีเขา้ ปกคลมุ เวนิสอาจทาํ ใหร้ า้ นคา้ ส่วนใหญ่ปิดลง คนเรือและเรือรบั จา้ งต่างๆ หายไปจากคคู ลองเล็กๆ ทีลดั เลาะไปทวั ทังเกาะ แต่รา้ นอาหารหลายๆ แห่งยงั เต็มไปดว้ ยนกั ทอ่ งเทยี วทีนงั กิน ดืม อยา่ งมีความสขุ คงเป็นเพราะบรรยากาศแบบนีกระมังจึงทาํ ใหค้ วามสุขนันยากจะสินสดุ ลงไดง้ ่ายๆ แมร้ าตรีจะเยียม เยือนมา เหมือนทีพวกเราเองก็รูส้ กึ เชน่ นนั เช่นกนั ทงั ทีตอ้ งตดั ใจเดินกลบั ทีพกั ก็ตามที อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี เรามนี ดั สาํ คญั รออยู่ แทบอดใจรอไม่ไหวเลย
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: