Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Germany : Love at first drive Chapter 16

Germany : Love at first drive Chapter 16

Published by Ou' Bookshop, 2021-09-24 04:56:15

Description: Chapter 16 : One fine day in Frankfurt

Search

Read the Text Version

Germany : Love at first drive Chapter : 16 One fine day in Frankfurt หนูเล็ก

เรื่อยไปในแฟรงค์เฟิ ร์ต ตน่ื เช้ามาด้วยความสดช่ืน ส่วนจะฝันหวานหรือเปล่าตอบไม่ได้ เพราะพอหวั ถึงหมอนก็ หลบั สนิท ขอ้ ดีของการเท่ียวตะลอนแบบนีก้ ็ดีไปอย่างหน่ึง เพราะความเหน็ดเหน่ือยจะทาํ ใหส้ ามารถ นอนหลบั ไดท้ กุ ท่ีอยา่ งไม่ตอ้ งตะขิดตะขวงใจ ไม่มวั นอนตาแป๋ วเพราะรูส้ กึ แปลกท่ีแปลกทางจนนอนไม่ หลบั เพราะจรงิ ๆ หนเู ลก็ คอ่ นขา้ งเป็นคนหลบั ยากโดยเฉพาะเวลามาเท่ียวแบบนี้ ไมใ่ ชเ่ พราะอะไรหรอก ก็แค่อยากแต่จะวางแผนเท่ียว ทาํ ให้เวลาท่ีใครๆ เขาหลับไหลก็จะยังอ่านหนังสือ หาขอ้ มูลอะไร มากมายไปหมดเพ่ือท่ีว่าในวนั พรุ่งนีจ้ ะไดไ้ ม่พลาดสถานท่ีน่าสนใจท่ีเขาแนะนาํ ไวต้ ามแหล่ง ขอ้ มูล ตา่ งๆ ก็เท่านนั้ เอง เม่ือพวกเราต่นื กนั พรอ้ มก็พากนั ลงไปรบั อาหารเชา้ ท่ีรวมอย่ใู นคา่ ท่ีพกั ตามท่ีมิสเตอรส์ เตชเออร์ นดั หมายไวท้ ่ีเวลาประมาณเจ็ดโมงครง่ึ จะวา่ ไปไมใ่ ช่เธอเป็นคนนดั หรอก แตเ่ ป็นเราตา่ งหาก เพราะเรา บอกเธอว่าเราจะออกเดินทางต่อในเชา้ นี้ ขอรบั อาหารเชา้ เร็วหน่อยไดไ้ หม เธอเลยต่อรองว่าขอเป็น ประมาณเจ็ดโมงคร่ึงแลว้ กัน เพราะถา้ เชา้ เกินไปเธอต่ืนไม่ไหว และเธอตอ้ งเป็นคนต่ืนมาเตรียมเอง เพราะภรรยาไมอ่ ยู่ บอกกนั ตรงๆ แบบนีเ้ ลย อาหารเชา้ แบบเยอรมนั ท่ีคณุ สเตชเออรน์ าํ มาเสิรฟ์ จดั มาใหแ้ บบเต็มท่ี ท่ีแปลกจากท่ีอ่ืนก็คง เป็นไข่ตม้ คนละฟองท่ีพวกเราพากันเก็บไปเป็นเสบียง เพราะไม่คุน้ กับการกินไข่ตม้ กันแต่เชา้ ถ้า เปล่ียนเป็นไขล่ วกไดค้ งจะดกี วา่ คณุ สเตชเออรท์ ่ีเราพบเชา้ นีย้ งั คงอยใู่ นชดุ เดมิ ท่ีเราเจอเม่ือบา่ ยวานนี้ ดี วา่ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ กลช้ ิดกนั มากนกั ไมเ่ ช่นนนั้ อาจไดก้ ล่ินอะไรติดจมกู แตถ่ า้ ใหว้ ิจารณก์ นั ตรงๆ คณุ สเตชเออร์ เป็นชายวยั กลางคนท่ีมีอธั ยาศยั ดี คอยดแู ล และถามไถ่ระหว่างท่ีพวกเราน่งั ทานอาหารเชา้ ของเธออยู่ ตลอดวา่ ตอ้ งการอะไรเพ่มิ หรอื ไม่ โดยเฉพาะชา กาแฟ อีกทงั้ ยงั มาสอบถามเราอีกว่าเม่ือคืนเป็นอย่างไร หลบั สบายไหม ทงั้ ๆ ท่ีตอนท่ีมาเช็คอนิ เธอก็อาํ นวยอวยพรไวแ้ ลว้ วา่ ขอใหพ้ กั ผอ่ นใหส้ บายในท่ีพกั ท่ีเธอ จดั เตรยี มไวใ้ ห้ อาหารเชา้ แบบจดั เตม็ และแสนเคม็

หลงั จากพวกเราจดั เตรยี มขา้ วของเสรจ็ สรรพ ก็ไดเ้ วลาท่ีจะตอ้ งอาํ ลาคณุ สเตชเออรแ์ ลว้ ดทู ่า ชว่ งนีค้ งไมค่ อ่ ยมีใครมาพกั เธอจงึ ดจู ะดแู ลเราเป็นพิเศษ สอบถามถึงจดุ หมายถดั ไปของเราและบอกกบั เราว่า หากผ่านมาทางนีเ้ ชิญมาใชบ้ รกิ ารท่ีพกั ของเธอไดเ้ สมอ เม่ือย่างเทา้ ออกไปยงั ลานจอดรถท่ีดา้ น นอก ไม่เพียงแต่หนูเล็ก ทุกคนพากันผงะ ก็อากาศนอกบา้ นในเชา้ วนั นีช้ ่างหนาวจบั จิต ลมดา้ นนอก ค่อนขา้ งแรงจนทาํ ใหต้ อ้ งพากันกระชบั เสือ้ ใหแ้ น่นขึน้ ส่วนหน่ึงคงเป็นเพราะเราเดินอย่รู ิมแม่นา้ํ ดว้ ย กระมงั จึงทาํ ใหล้ มแรงเป็นพิเศษ ดงั นนั้ เม่ือถึงรถพวกเราทุกคนจึงพากนั รือ้ กระเป๋ ากนั อีกรอบเพ่ือเอา เสือ้ หนาวใสเ่ พ่ิม อากาศแบบนีต้ อ้ งพยายามทาํ ตวั ใหอ้ นุ่ เขา้ ไว้ โดยเฉพาะผมู้ ีประสบการณอ์ ย่างคณุ ปา ท่ีเคยป่ วยหนกั เอาวนั ก่อนกลบั บา้ นเม่ือครงั้ ไปเท่ียวท่ีเชคกนั เม่ือหลายปีก่อน เพราะมนั จะทาํ ใหค้ วาม สนกุ ท่ีมีหมดลงเสยี สนิ้ เชา้ ท่ีแสนสดช่ืนก่อนอาํ ลา St.Goar เวลาไมเ่ กินเกา้ โมงครง่ึ ไดฤ้ กษเ์ คล่ือนพ่ีดีอ้ อกเดินทาง หนเู ล็กกาํ หนดเปา้ หมายใหน้ อ้ งจีไวท้ ่ีแฟ รงคเ์ ฟิ รต์ โดยไม่คิดจะแวะเมืองไหนอีก หากอยากแวะตรงไหนก็คงแค่จอดขา้ งทางแค่นนั้ เพราะะวนั นี้ บรษิ ัทรถเชา่ ทาํ งานแคค่ รง่ึ วนั เท่านนั้ เราจงึ มีกาํ หนดสง่ คืนรถไม่เกินเท่ียง เสน้ ทางท่ีเราขบั กลบั เป็นถนน

สาย B9 ว่ิงมาไดเ้ พียงเลก็ นอ้ ยจะผา่ นจดุ ท่ีเขาใหจ้ อดพวกรถบา้ น (Campervan) บรเิ วณนีจ้ ะเยือ้ งๆ กบั สถานท่ีทอ่ งเท่ียวสาํ คญั น่นั คอื หนา้ ผาเทพธิดาลอรเ์ ลอไล (The Lorelei) หนา้ ผาเทพธิดาลอรเ์ ลอไล (The Lorelei) หนา้ ผาลอรเ์ ลอไล ตงั้ อย่บู รเิ วณฝ่ังตะวนั ออกของแม่นา้ํ ตงั้ อย่รู ะหว่างเมืองเคาบ์ (Kaub) และ เมืองซงั คก์ วั รส์ เฮาเซน บนฝ่ังขวาของแมน่ า้ํ ไรน์ มีความสงู 433 ฟตุ แมน่ า้ํ ไรนใ์ นบรเิ วณนีม้ ีความลกึ กวา่ 82 ฟุต และกวา้ งประมาณ 371 ฟตุ เป็นหนา้ ผาท่ีสงู ชนั อย่ใู นหว้ งนา้ํ ท่ีแคบท่ีสดุ ของแม่นา้ํ ไรนร์ ะหว่าง ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนดก์ บั ทะเลเหนือ กระแสนา้ํ ท่ีไหลผ่านบรเิ วณนีจ้ ึงทวีความรุนแรงขึน้ ในอดีตเป็น บริเวณท่ีมีอนั ตรายมากท่ีสดุ สาเหตเุ น่ืองจากกระแสนา้ํ มาปะทะกบั ผาในช่วงท่ีแคบท่ีสดุ ประกอบกบั ดา้ นลา่ งมีสนั ดอน มีหินใตน้ า้ํ ทาํ ใหน้ า้ํ กลายเป็นนา้ํ วน เรอื จงึ ประสบอบุ ตั เิ หตบุ อ่ ยครงั้ จากการเกิดอบุ ตั เิ หตเุ รอื อบั ปางบอ่ ยครงั้ ทาํ ใหเ้ กิดนิยายปรมั ปราจนกลายเป็นเรอ่ื งเลา่ ตอ่ ๆ มา เก่ียวกบั หนา้ ผาและเทพธิดาลอรเ์ ลอไล เขาวา่ เอาไวว้ า่ เธอเป็นเทพธิดาท่ีถกู สาป ทาํ ใหต้ อ้ งมาสถิตยท์ ่ี โขดหินแห่งนี้ เธอจะปรากฏกายในเดือนหงาย มาน่งั ขบั รอ้ งเพลงอนั โหยหวน กะลาสีเรอื ท่ีลอ่ งเรอื มาจะ พากนั ตกอยใู่ นภวงั ค์ เคลบิ เคลมิ้ จนทาํ ใหล้ ืมคดั ทา้ ยเรือหรือหนั หางเสือเพ่ือหนั หวั เรอื ใหค้ ดโคง้ ไปตาม สายนา้ํ ทาํ ใหเ้ รือเสียหลกั ชนสนั ดอนครา่ ชีวิตชาวเรือไปเป็นจาํ นวนมาก เห็นว่านิยายปรมั ปรานีถ้ ึงขนั้ ศลิ ปินชาวเยอรมนั นาํ ไปแตง่ เป็นเพลงกลอนจนเป็นท่ีรูจ้ กั กนั ไปท่วั บางตาํ นานก็เล่าว่า นกั เดินเรือมกั จะไดย้ ินเสียงรอ้ งเพลงจากสาวผมทองนางหน่ึงท่ีมาน่งั สาง ผมสีทองอยทู่ ่ีโขดหิน ซง่ึ พวกนกั เดนิ เรอื บา้ งก็จะมาจอดเรอื ฟังโดยท่ีไมเ่ คยมีใครลอ่ งเรอื เขา้ ไป ในขณะท่ี เรอื บางลาํ ฟังเสียงรอ้ งของนางจนเพลินลืมคดั ทา้ ยเรือ จนเรือไปชนหินโสโครกตายกนั บอ่ ยๆ จนกระท่งั วนั หนง่ึ มีชายหน่มุ ช่ือ โรนลั ด์ ลกู ชายของคนใหญ่คนโตในแควน้ นนั้ ไดย้ ินเสียงรอ้ งเพลงของนางแลว้ เกิด หลงไหลถงึ ขนั้ วา่ ยนา้ํ เขา้ ไปหาทาํ ใหจ้ มนา้ํ ตายท่ีบรเิ วณหนา้ ผานนั้ บดิ าของโรนลั ดโ์ กรธมากถึงกบั ส่งั ให้ ลกู นอ้ งไปจบั ตวั นางมาใหไ้ ด้ นางจึงไดป้ รากฏกายต่อหนา้ คนกลมุ่ นนั้ แลว้ บอกว่า ไม่มีใครจบั นางได้ มี แตเ่ พียงแมน่ า้ํ ไรนเ์ ทา่ นนั้ ท่ีจะจบั ตวั เธอไปได้ วา่ แลว้ นางก็กระตกุ เครอ่ื งลางท่ีทาํ ใหน้ างมีรา่ งเป็นคนออก จากนนั้ เธอก็หายไปพรอ้ มกบั แม่นา้ํ ไรนท์ ่ีซดั สาดขนึ้ มาท่ีโขดหินนนั้ และจากวนั นนั้ ก็ไม่เคยมีใครไดเ้ ห็น สาวผมทองคนนนั้ มารอ้ งเพลงทีรมิ หนา้ ผาอีกเลย

จากอุบตั ิเหตทุ ่ีเกิดขึน้ ทาํ ใหเ้ กิดการขดุ แม่นา้ํ บางส่วนเพ่ือสรา้ งรอ่ งนา้ํ และติดตงั้ ระบบนาํ ร่อง อิเล็คทรอนิกสท์ ่ีปลอดภยั ไวท้ ่ีวงั วนบงิ เงนเนอร์ (Bingener Hole) ใกลก้ บั หนา้ ผา เพ่ือใหเ้ รอื สนิ คา้ และ เรืออ่ืนๆ เดินเรือไดส้ ะดวกและปลอดภยั ขึน้ อีกทงั้ ยงั มีการติดตงั้ เสาสญั ญาณเพ่ือช่วยใหช้ าวเรือเห็น เสน้ ทางงา่ ยขนึ้ มวั แต่จอดชมหนา้ ผาลอรเ์ ลอไล มวั แตด่ ่ืมด่าํ กบั ทิวทศั นส์ วยๆ รมิ นา้ํ ไรนท์ ่ีแสนต่ืนตาต่ืนใจ พอ กลบั มามองหนา้ ปัทมร์ ถอีกที ทาํ ใหเ้ ห็นหนา้ จอแสดงวา่ อณุ หภมู ภิ ายนอกท่ีเราเห็นหมอกหนาๆ มีหมอก จางๆ เหนือลาํ นา้ํ ไรนน์ นั้ มนั อยทู่ ่ี – 5 องศา แถมมีสญั ลกั ษณบ์ อกดว้ ยว่ามีหิมะตก อะไรกนั น่ี มิน่าเลา่ เชา้ นีเ้ ราถึงรูส้ กึ หนาวกนั จบั จิต ดีเหลือเกินท่ีเรากาํ ลงั เดนิ ทางลงใตเ้ พ่ือกลบั ไปยงั แฟรงคเ์ ฟิ รต์ ซง่ึ ก็คงจะ อนุ่ กวา่ นี้ หนาวเกินไปชวนใหห้ มดสนกุ เพราะเสือ้ ผา้ ท่ีเรามีอย่ไู ม่ไดพ้ รอ้ มสาํ หรบั ความหนาวท่ีมากมาย ขนาดนนั้ อณุ หภมู ภิ ายนอก -5 องศาไปแลว้ ระหว่างทางสายนี้ จดั เป็นเสน้ ทางท่ีน่ามาเท่ียวชมมากอีกเสน้ ทางหน่ึงในความคิดของหนเู ล็ก เน่ืองจากเป็นท่ีตงั้ ของปราสาทเรยี งรายไปตลอดสองฝ่ังของแมน่ า้ํ ไรน์ ก็อยา่ งท่ีหนเู ล็กว่าน่นั ละ ส่ิงปลกู สรา้ งเหลา่ นีเ้ ป็นผลมาจากยคุ ขนุ นางท่ีพยายามจะสรา้ งปราสาทเพ่ือแสดงอาณาจกั รของตน จากซงั ค์ กัวรม์ า มีปราสาทมากมายหลายแห่ง ท่ีโดดเด่นและสะดุดตาน่าจะเป็นปราสาทบนเนินกลางแม่นา้ํ ปราสาทฟาลซก์ ราเฟนสไตน์ (PfalzGrafenstein) เป็นดา่ นศลุ กากรทางนา้ํ ในศตวรรษท่ี 14 เป็นจดุ ท่ี กองทพั นโปเลียนถกู ไลล่ า่ ภายหลงั จากท่ีเพ่ิงประสบความพา่ ยแพค้ รงั้ ใหญ่ใกลเ้ มืองไลป์ ซกิ (Leipzig) ตลอดเสน้ ทางท่ีแมว้ า่ เราจะน่งั กนั อยแู่ ตเ่ พียงในรถ แตก่ ็ซมึ ซบั ไดว้ า่ อากาศหนาวเรม่ิ เดนิ ทางมา เยือนบรเิ วณนีแ้ ลว้ เพราะตน้ หญา้ พมุ่ ไมต้ ามรายทางถกู ฤทธิ์ความหนาว นา้ํ คา้ ง นา้ํ แข็งเกาะจบั เสียจน เฉา เน่า ไปบา้ งแลว้ ตน้ ไมบ้ างตน้ ก็ใบร่วงโกร๋นเหลือแต่ตน้ ยืนโดดเด่ียวอย่างเหงาๆ รอใหผ้ ่านพน้ ฤดกู าลแห่งความหนาวเหน็บ เพ่ือจะกลบั มายืนผลใิ บ ออกดอก ออกผล อยา่ งท่ีเคยในฤดรู อ้ นถดั ไป และแลว้ เราก็เดนิ ทางมาถึงท่ีหมายในเวลาท่ีดีพอควร เพ่ือความสะดวกของพวกเรา หนเู ล็กเอา คณุ ปาและคณุ สดุ ไปส่งไวท้ ่ีท่ีพกั สาํ หรบั สองคืนสดุ ทา้ ยในเยอรมนี ซ่ึงเราเลือกใชบ้ ริการท่ีแฟรงคเ์ ฟิ รต์

โฮสเทล (Frankfurt Hostel) เพราะสะดวกในการเดินทางสสู่ นามบนิ มากท่ีสดุ เน่ืองจากท่ีน่ีอย่ใู กลก้ บั สถานีรถไฟใตด้ ินเพียงแค่เดินขา้ มถนนไป ขา้ วของวนั สดุ ทา้ ยของเราก็จะค่อนขา้ งเยอะ และเม่ือครงั้ ตดิ ต่อมา ก็มีหอ้ งว่างแบบท่ีตอ้ งการและราคาไม่แพงรอใหเ้ รามาใชบ้ รกิ าร เราจึงตดั สินใจไม่ยากนกั ใน การเลือกท่ีแห่งนี้ เม่ือสง่ คณุ ปาและคณุ สดุ พรอ้ มกระเป๋ าสมั ภาระของพวกเราทงั้ หมดไวแ้ ลว้ หนเู ล็กและพ่ีใหญ่ก็ รีบเดินทางไปติดต่อกบั บริษัทรถเช่า ซ่ึงเราไดเ้ งินคืนบางส่วนท่ีจะคืนใหผ้ ่านทางบตั รเครดิต เน่ืองจาก นา้ํ มนั ท่ีเราเหลือมามากกว่าเม่ือครงั้ ท่ีรบั รถไป ซ่งึ กฎเกณฑก์ ารเช่ารถท่ีเมืองนอกก็จะเป็นเช่นนีท้ กุ ท่ีไป จากนนั้ เราก็พากนั เดนิ ทางกลบั มายงั ท่ีพกั ท่ีคณุ ปาและคณุ สดุ คอยอยู่ แตค่ งไมใ่ ช่หนเู ลก็ และพ่ีใหญ่หาก จะเรง่ รบี เดนิ ทางกลบั ก็เลยพาลเดนิ เลน่ เรอ่ื ยเป่ือยตามถนนหนทางกวา่ จะกลบั มาถงึ ท่ีพกั ไดเ้ วลาอาํ ลาพ่ีดีก้ บั นอ้ งจีกนั จรงิ ๆ แลว้ แฟรงคเ์ ฟิ รต์ โฮสเทล เป็นโฮสเทลขนาดใหญ่ท่ีชาวแบกเปน้ ิยมมาพกั จะว่าไปก็เป็นเพราะการ เดนิ ทางท่ีคอ่ นขา้ งสะดวกสาํ หรบั พวกนกั เดนิ ทางแบกเป้ เพราะอยใู่ กลส้ ถานีรถไฟมาก เดนิ ออกจากโฮส เทลก็เป็นถนนใหญ่ท่ีมีรถเมล์ รถรางหลายสายว่ิงผา่ น ไปไหนมาไหนสะดวก แตอ่ ีกประการหน่งึ ก็คงเป็น เพราะย่านนีเ้ ป็นย่าน “Red Light District” ย่านเดียวกนั กบั ท่ีเรามาพกั เม่ือวนั แรกท่ีมาถึง ทาํ ใหบ้ รเิ วณ นีม้ ีสถานบรกิ ารทางเพศท่ีถกู กฎหมายเยอรมนั เต็มไปหมด ดีว่าท่ีน่ียงั ห่างออกมาหน่อย ไม่ใช่แบบคืน แรกท่ีตงั้ อยตู่ รงกลางดงนนั้ พอดบิ พอดี Frankfurt Hostel ท่ีพกั สดุ ทา้ ยของพวกเรา

แฟรงคเ์ ฟิ รต์ โฮสเทล (Frankfurt Hostel) ตงั้ อยบู่ นถนนไกเซอร์ (Kaiser Straße) เขา้ ไปตวั อาคารแลว้ โฮสเทลจะตงั้ อยทู่ ่ีชนั้ 3 และ 4 สามารถตดิ ตอ่ เขา้ พกั ไดท้ ่ีเจา้ หนา้ ท่ีท่ีชนั้ 3 ซง่ึ จะเป็นทงั้ พืน้ ท่ี คอมมอนรูมใหน้ ่งั กินอาหาร น่งั เล่นโนต้ บ๊คุ ทาํ กิจกรรมสว่ นตวั ได้ และมีหอ้ งรบั ฝากกระเป๋ าเดินทางทงั้ กรณีเดินทางมาถึงเร็วยงั เขา้ พกั ไม่ไดแ้ ละทัง้ กรณีเช็คเอาทอ์ อกแลว้ แต่ยงั ตอ้ งรอเวลารถไฟ หากมอง บรรยากาศโดยรวมจดั ไดว้ ่าเป็นท่ีพกั ท่ีสะดวก สะอาด และไดม้ าตรฐานแบบบา้ นพกั เยาวชนท่วั ไป มี หอ้ งหลากหลายแบบทงั้ แบบหอ้ งรวมท่ีเรยี กว่า ดอรม์ ิทอร่ี (Dormitory) ซง่ึ มีแบบแยกเป็นหอ้ งรวมหญิง ดว้ ย นอกจากนีย้ งั มีหอ้ งสว่ นตวั แบบ 2 – 4 คน ซง่ึ เป็นแบบท่ีพวกเราเลือก พวกเรายงั คงมีความคนุ้ ชิน กบั ความเป็นส่วนตวั แบบคนไทย แมว้ ่าหอ้ งนอนรวมแบบดอรม์ จะราคาถกู มาก แตก่ ารไปนอนรวมกบั ฝร่งั นานาชาติแบบนนั้ พวกเราทกุ คนยงั ปรบั ใจยอมรบั ไม่คอ่ ยได้ เพราะคณุ พ่ีฝร่งั ชอบมีพฤติกรรมอะไร แปลกๆ และเวลานอนก็มกั สง่ เสียงรบกวนกนั เหลือเกิน บรรยากาศภายในท่ีพกั ของเรามนั ก็จะรกๆ หน่อย เม่ือเอาขา้ วของเขา้ เก็บและสาํ รวจตรวจตราส่งิ ตา่ งๆ เรยี บรอ้ ย ยงั พอมีเวลาท่ีเราจะลองไปเดิน ชมแฟรงคเ์ ฟิ รต์ ยามเย็นวนั เสารใ์ หพ้ อเป็นนา้ํ จิม้ เพราะพรุง่ นีเ้ ป็นวนั อาทิตย์ คงไม่คอ่ ยมีท่ีไหนใหเ้ ราได้ ไปกนั ไดม้ ากนกั พวกเราก็เลยพากนั ออกไปเดนิ เลน่ ชมเมืองกนั เสียตงั้ แตว่ นั นีเ้ ลย จริงๆ แลว้ หากจะเรียกใหถ้ ูกเราคงตอ้ งเรียกแฟรงคเ์ ฟิ รต์ กันว่า แฟรงคฟ์ รูต แต่เราก็เรียกกัน แบบบา้ นๆ อย่างนีล้ ่ะ จากท่ีพกั ตรงถนนไกเซอรต์ รงเขา้ เมืองไปเร่ือยๆ ระหว่างทางมีอาคารสงู ๆ ระฟ้า มากมาย ทัง้ ตึกกัลลิเลโอ (Gallileo) ระดบั ความสูง 137 เมตร บริเวณวิลล่ีบรนั ดท์ พ์ ลาทซ์ (Willy- Brandt-Platz) ท่ีสรา้ งมาตงั้ แต่ปี ค.ศ.2003 ใกลๆ้ กันเป็นอาคารอิงลิชเธียเตอร์ (The English Theatre) ท่ีใชใ้ นการจดั แสดงการแสดงตา่ งๆ เราเดนิ ทะลไุ ปจนถึงไกเซอรพ์ ลาทซ์ (Kaiserplatz) ซง่ึ เป็น ลานกวา้ งแบบถนนคนเดินท่ีมีนกั ท่องเท่ียวเดินกนั ใหข้ วกั ไขว่ เม่ือยืนน่ิงๆ แลว้ กวาดตาไปรอบๆ บรเิ วณ นีเ้ ตม็ ไปดว้ ยอาคารเก่า อาคารใหมร่ ายลอ้ มอยโู่ ดยรอบ มีทงั้ อาคารสาํ นกั งานดอยทช์ แ์ บงค์ (Deutsche Bank) ธนาคารท่ีทรงอิทธิพลแห่งหน่ึงของโลกเงินตรา ท่ีเห็นดา้ นหนา้ เป็นอาคารเก่า แต่ปัจจบุ นั มีตึก

ใหม่ สูง สง่า จึงมีจุดท่ีผสมผเสกันทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่ให้ได้บรรยากาศเก๋ๆ ไปอีกแบบ ดา้ นหนา้ มีรูปปั้นท่ีไดร้ บั ความสนใจจากนกั ท่องเท่ียวไปยืนถ่ายรูปเป็นท่ีระลกึ กนั ส่งิ ปลกู สรา้ งทงั้ เก่าและใหมต่ ลอดสองขา้ งทางท่ีเดนิ ไป หากมองไปอีกดา้ นเป็นอาคารเก่าซ่ึงเป็นบา้ นเกิดของศิลปินโยฮันน์ โวลฟ์ กัง ฟอน เกอเธ่ (J.W.von Goethe) นกั เขียนและกวีเอกเชือ้ ชาติเยอรมนีโดยแท้ และสถานท่ีท่ีเขาใชช้ ีวิตวยั เด็ก ใกลช้ ิด ติดกนั เป็นพิพิธภณั ฑ์ เป็นสถานท่ีท่ีผสมผสานทงั้ อดีตท่ีพาํ นกั ในวยั เยาว์ แกลเลอร่ี ภาพวาด ส่ิงสะสม ตา่ งๆ ท่ีลว้ นเป็นตน้ ฉบบั รวมทงั้ หอ้ งสมดุ จรงิ ๆ แลว้ บา้ นถกู ถลม่ ยบั เยินเม่ือครงั้ สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ท่ี เห็นนีค้ ือผลจากการบูรณะครงั้ ใหญ่เม่ือปี ค.ศ.1950 จนกลบั มาสวยงามไม่มีท่ีติ ตวั บา้ นเป็นบา้ นไม้ 4 ชนั้ มีหอ้ งทงั้ หมด 16 หอ้ ง เขาเกิดภายในบา้ นหลงั นีท้ ่ีเป็นของบิดา มารดา เม่ือวนั ท่ี 28 สิงหาคม ค.ศ. 1749 จากนนั้ พกั อาศยั อยู่จนถึงปี ค.ศ.1775 ก่อนจะยา้ ยไปยงั เมืองไวมาร์ (Weimar) ในส่วนของ พิพิธภณั ฑไ์ ดจ้ ดั จาํ ลองวิถีชีวิตในช่วงท่ีเขายงั มีชีวิตอยู่ ตกแต่งภาพเขียน ศิลปะต่างๆ จากศตวรรษท่ี 18 โตะ๊ ทาํ งานของเขาก็ยงั ไดร้ บั การดแู ลรกั ษาไวอ้ ยา่ งดี และไดจ้ ดั แสดงไวใ้ หไ้ ดช้ มกนั ดว้ ย จากนั้นเราเดินต่อไปยังสถานท่ีสาํ คัญอีกแห่งคือ อัน แดร โฮพท์วาเคอร์ (An der Hauptwache) ซง่ึ เป็นลานกวา้ งและเป็นท่ีตงั้ ของปอ้ มปราการเก่าของเมือง เรม่ิ สรา้ งเม่ือปี ค.ศ.1671 ภายหลงั มีการสรา้ งใหม่จนแลว้ เสรจ็ ในปี ค.ศ.1730 ใชเ้ ป็นปอ้ มปราการและคกุ นกั โทษชนั้ ดีจะไดอ้ ย่ทู ่ี หอ้ งใตห้ ลงั คา ส่วนนกั โทษอจุ ฉกรรจจ์ ะถกู โยนไปอย่ใู นคกุ ขีไ้ ก่ใตด้ ิน หน่ึงในนกั โทษอจุ ฉกรรจท์ ่ีเคยถกู

จองจาํ ท่ีน่ีก็คือ โยฮนั เนส บคึ เคอร์ (Johannes Bücker) หรอื ชาวเยอรมนั รูจ้ กั กนั ดีในช่ือว่า ชินเดอร์ ฮันเนส (Schinderhannes) เขาเป็นโจรท่ีก่อเหตุอาชญากรรมอย่างต่อเน่ืองท่ีสุดคนหน่ึงใน ประวตั ศิ าสตรเ์ ยอรมนี แรกๆ เขาก็เป็นแตเ่ พียงโจรลกั เลก็ ขโมยนอ้ ยธรรมดา แตเ่ ม่ือหนีการกกั ขงั ออกมา ได้ เขาก็เรม่ิ ปลน้ สดมภแ์ ละขโมยสรรพาวธุ ของผทู้ ่ีพาํ นกั สองฝ่ังแม่นา้ํ ไรน์ ขณะนนั้ ทางฝ่ังตะวนั ตกของ แม่นา้ํ ถูกครอบครองโดยกองทัพฝร่งั เศส เขากลายเป็นขวญั ใจของชาวบา้ นท่ีไปปลน้ สดมภจ์ นทาํ ให้ เจา้ หนา้ ท่ีฝร่งั เศสเดือดรอ้ น อีกทงั้ เขาเลือกท่ีจะปลน้ จากพวกยิว โดยไม่ทาํ อะไรกบั ชาวบา้ น ทาํ ใหเ้ ป็น เสมือนจอมโจรขวญั ใจคนจน แตส่ ดุ ทา้ ยเขาก็ถกู จบั ไดภ้ ายหลงั ปลอมตวั เป็นทหารในกองทพั ออสเตรีย และเม่ือถูกขู่ว่าคนรกั ของเขาจะถูกลงโทษในขอ้ หาสมรูร้ ่วมคิด เขาจึงยอมเปิดเผยขอ้ มูลของผูร้ ่วม ขบวนการ สดุ ทา้ ยทงั้ ตวั เขาท่ีเปิดเผยขอ้ มลู และสมาชิกในแก็งคอ์ ีก 19 คนก็ลว้ นถกู ประหารชีวิตดว้ ยกิ โยติน โดยเขาถูกประหารท่ีประตเู มืองไมนซ์ (Mainz) เม่ือปี ค.ศ.1803 แต่ยงั คงสรา้ งตาํ นานท่ีชาว เยอรมนั ลว้ นรูจ้ กั ดี ปอ้ มปราการและคกุ แห่งนีถ้ กู รอื้ ออกเพ่ือวางระบบรถใตด้ ิน จากนนั้ จึงสรา้ งใหม่และ ปรบั เปล่ียนเป็นรา้ นอาหารเม่ือปี ค.ศ.1904 สภาพท่ีเห็นตรงหนา้ จึงไมไ่ ดแ้ สดงใหเ้ ห็นเคา้ เลยวา่ เคยเป็น คกุ มาก่อนแมแ้ ตน่ ิดเดียว มีแตภ่ าพรา้ นอาหารภายใตอ้ าคารเก่าท่ีน่าน่งั เพราะจดั เป็นจดุ ชมวิวของเมือง ท่ีน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะในฤดใู บไมผ้ ลหิ รอื ฤดรู อ้ น ลกู คา้ สามารถมาน่งั ท่ีดา้ นนอกได้ อนั แดร โฮพทว์ าเคอร์ (An der Hauptwache) แคทเธอรเี นนเคยี เชอ (Katharinenkirche) ใกลๆ้ กนั นีม้ ีโบสถเ์ ก่าแก่แห่งหน่ึงคือ แคทเธอรีเนนเคียเชอ (Katharinenkirche) หรือใน ภาษาองั กฤษว่า โบสถเ์ ซนตแ์ คทเธอรนี (St. Catherine’s Church) โบสถแ์ ห่งนีถ้ ือเป็นโบสถท์ ่ีใหญ่ท่ีสดุ ในแฟรงคเ์ ฟิ รต์ เป็นแบบบารอค สรา้ งตงั้ แต่ปี ค.ศ.1681 แต่เม่ือครงั้ สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ถูกระเบิด ทาํ ลายเสยี หายมากเช่นเดียวกบั อีกหลายๆ แห่งจนตอ้ งมีการซอ่ มแซมใหมจ่ นมีสภาพงดงามอยา่ งท่ีเห็น หนั ไปอีกดา้ นหน่ึงจะเห็นหา้ งขนาดใหญ่ท่ีมีตามเมืองท่องเท่ียวใหญ่ๆ ท่วั เยอรมนีอย่าง กาเลอ เรยี เคาฟ์ โฮฟ (Galeria Kaufhof) น่าจะเป็นหา้ งท่ีใหญ่ท่ีสดุ ของเยอรมนีแลว้ ละ แตก่ ็นะใหญ่ของเขาก็ เทา่ นี้ ประมาณ 4 – 5 ชนั้ ดพี ารท์ เมนตส์ โตรแ์ ห่งนีร้ าคาคอ่ นสงู แตก่ ็เป็นสถานท่ีแห่งหน่งึ ท่ีพวกเรานิยม โฉบเขา้ ไป เพราะสนิ คา้ หลากหลาย ดดู ี น่าเดนิ และท่ีสาํ คญั ชว่ ยเราไดด้ ีเวลารูส้ กึ ทนความหนาวและลม แรงตามทอ้ งถนนไม่ไหว เพราะหา้ งพวกนีม้ ีฮีทเตอร์ เขา้ ไปเดินเอาไออ่นุ สกั พกั ก็ดีเหมือนกนั นอกจากนี้

ยงั มีหา้ งใหช้ อปปิ้งอีก 2 แห่งบรเิ วณนี้ คือ ไซลแ์ กลเลอเรยี (Zeilgalerie) และคารส์ ตดั ท์ (Karstadt) ท่ี จาํ หน่ายพวกเสอื้ ผา้ แฟช่นั เป็นหลกั บริเวณนีม้ ีรถจกั รยานสามลอ้ ไวบ้ ริการนกั ท่องเท่ียวดว้ ย รถแบบนีเ้ ขามีช่ือเรียกเฉพาะว่า วีโล แท็กซ่ี (Velotaxi) สามารถน่งั ได้ 2 คนตอ่ หน่งึ คนั เป็นรถประเภทเดียวท่ีอนญุ าตใหว้ ่ิงไดใ้ นบรเิ วณถนน คนเดิน ประมาณว่าเช่าน่งั ชมรอบๆ เมือง ราคาเขาจะแปะเอาไวท้ ่ีดา้ นในรถ แต่ดเู หมือนไม่ค่อยมีใคร ยอมใชบ้ ริการ เพราะเดินเท่ียวดจู ะใหบ้ รรยากาศและไดแ้ วะซา้ ยแวะขวาไดม้ ากกว่า ลานบริเวณนีเ้ ต็ม ไปจดุ จอดรถจกั รยานยานพาหนะยอดฮิตของฝร่งั วีโลแท็กซ่ี (Velotaxi) ตามตน้ ไมก้ ็จะมีราวเหล็กเอาไวใ้ หเ้ ป็นจดุ จอดรถจกั รยานพวกนี้ วนั นีเ้ ป็นวนั พกั ผ่อนของพวก เขา ดงั นนั้ จงึ เตม็ ไปดว้ ยผคู้ น จกั รยาน เดก็ ๆ ท่ีมาเลน่ สเก็ตบอรด์ ผคู้ นท่ีมาน่งั พดู คยุ สงั สรรค์ และชอป ปิ้งกบั หา้ งขนาดใหญ่ท่ีคกึ คกั และเป็นขวญั ใจวยั รุน่ มายไซล์ (MyZeil) อย่บู นถนนไซลซ์ ่งึ ต่อเน่ืองจาก ย่านโฮฟทว์ าเคอรจ์ นจรดแยกคอนสเตเบลอรว์ าเคอร์ (Konstablerwache) ถือเป็นศนู ยก์ ลางการชอป ปิ้งของแฟรงคเ์ ฟิ รต์ เพราะจะเตม็ ไปดว้ ยผคู้ นมากมายมหาศาล ถนนไซลถ์ ือเป็นยา่ นท่ีคา่ เชา่ รา้ นคา้ แพง ท่ีสุดเป็นอนั ดบั สองในเยอรมนีรองจากบริเวณเคาฟิ งเกอรส์ ตราสเซ (Kaufingerstraße) ในมิวนิค รา้ นคา้ สว่ นใหญ่เป็นรา้ นคา้ ปลีกของแบรนดด์ งั ๆ อยา่ ง H&M , Saturn, Esprit, Zara หรอื New Yorker สว่ นหา้ งไซลน์ ีม้ าทีหลงั เพ่ิงจะเปิดตวั เม่ือปี ค.ศ.2009 นีเ้ อง ดา้ นในมีรา้ นคา้ รวมกนั แลว้ เกือบรอ้ ยรา้ น

ขา้ วของในหา้ งจะค่อนขา้ งตอบสนองพวกวัยรุ่นเสียมากกว่า จะมีบนั ไดเล่ือนยาวมาก ดา้ นบนเป็น หอ้ งอาหาร ท่ีน่ีมีดีตรงหอ้ งนา้ํ เขา้ ไดฟ้ รี เพราะสว่ นใหญ่ลว้ นเก็บเงินคา่ เขา้ ทงั้ นนั้ จดุ เดน่ ของหา้ งคอื หลมุ ดาํ ท่ีอย่ดู า้ นหนา้ เรียกความสนใจจากนกั ท่องเท่ียวไดเ้ สมอ เพราะใครๆ ก็มกั จะมายืนเพ่ือเก็บภาพไป เป็นท่ีระลกึ ในช่วงก่อนครสิ ตม์ าสถนนคนเดินแถบนีจ้ ะแปรสภาพเป็นตลาดครสิ ตม์ าสขนาดใหญ่ และ เป็นอีกแหง่ ท่ีเก่าแก่มากแหง่ หน่งึ ของเยอรมนี MyZeil หนา้ หา้ งไ.ซล์ พวกเราดทู ่าจะแก่เกินไปจึงอย่บู รเิ วณนีน้ านไม่ไหว รูส้ ึกผคู้ นพลกุ พล่านเหลือเกิน เด็กวยั รุน่ ก็ เลน่ สเก็ตบอรด์ ข่ีจกั รยานปาดไปมาเสียจนน่าเวียนหวั เลยพากนั เดินไปทางอ่ืนเสียดีกวา่ เราพากนั เดิน ลดั เลาะมาทางถนนเสน้ เล็กๆ อย่างฮาเซนกาสเซ (Hasengasse) ทะลุมายังถนนเบอรล์ ินเนอร์ (Berlinerstraße) สะดดุ ตารา้ นตรงหวั มมุ ถนนเพราะเป็นรา้ นเบอรเ์ คนสตอค (Birkenstock) รา้ นรองเทา้ แบรนดเ์ ยอรมนีช่ือดงั เป็นแบรนดท์ ่ีไดร้ บั ความนิยมจากชาวเซเลบ็ ทงั้ หลายมาก พวกดาราดงั ๆ นิยมใส่ กนั มาก ซ่ึงก็น่าแปลกเพราะจริงๆ มนั ก็เป็นแค่รองเทา้ แตะ แต่กลบั มีรูปแบบและความสบายท่ีไดร้ บั ความนิยมสูงมาก ย่ิงในหน้ารอ้ นรองเท้าสไตลแ์ บบนีไ้ ดร้ บั ความนิยมมากขนาดว่าเป็น Summer Sandals ท่ีมียอดขายเป็นอนั ดบั หน่งึ เลยทีเดียว คาํ วา่ sandals จรงิ ๆ แลว้ ถา้ จะใหต้ รงตามความหมาย

แบบในสมยั โรมนั จะตอ้ งเป็นรองเทา้ ประเภทท่ีมีพนั ๆ ขอ้ เทา้ ดว้ ย แต่มายคุ หลงั เหมารวมเรียกรองเทา้ ประเภทเปลอื ยๆ หลงั เทา้ แคห่ นีบๆ คีบๆ สวมแบบมีสายคาด ก็เรยี กแบบนีแ้ ลว้ Birkenstock รองเทา้ สญั ชาตเิ ยอรมนีแทๆ้ กลบั มาเร่ืองรองเทา้ เบอรเ์ คนสต็อคอีกที รองเทา้ นีม้ ีประวตั ิยืดยาวมาตงั้ ประมาณ 240 ปีแลว้ ถือกาํ เนิดขึน้ ท่ีหม่บู า้ นเล็กๆ ในเมืองแลงเกนเบิรก์ (Langenberg) โดย โยฮนั น์ อดมั เบอรเ์ คนสต็อค (Johann Adam Birkenstock) จากนนั้ ก็ตกทอดมาสรู่ ุน่ หลาน คอนราด เบอรเ์ คนสต็อค (Konrad Birkenstock) ผซู้ ง่ึ มีกิจการรองเทา้ อยสู่ องแห่งในแฟรงคเ์ ฟิ รต์ โรงงานไดป้ รบั ปรุงรูปแบบรองเทา้ ของเขา จนมาเป็นรูปแบบนี้ คือ เนน้ การสวมใสเ่ พ่ือสขุ ภาพจนเป็นเอกลกั ษณแ์ ละไดร้ บั ความนิยมไปท่วั โลก ไม่ เพียงแตใ่ นยโุ รป เพราะเป็นรองเทา้ คนทกุ เพศทกุ วยั สามารถสวมใสไ่ ดใ้ นหลากหลายโอกาส หากดดู ว้ ย สายตาและเม่ือซือ้ มาใส่แรกๆ จะรูส้ ึกว่าพืน้ แข็ง แต่เขาบอกว่าถา้ ใส่ไปนานๆ จะชินและนุ่มลง และท่ี สาํ คญั ก็คือ เม่ือสวมใสเ่ ดินไปจะรูส้ กึ สบายเทา้ เพราะเขาดีไซนต์ ามสรรี ะรูปเทา้ นอกจากย่ีหอ้ นีแ้ ลว้ เขา ยงั แตกไลนก์ ารผลิตออกเป็นแบรนดอ์ ่ืนๆ ในเครอื ดว้ ย ถา้ ใครสนใจวงการแฟช่นั คงพอไดย้ ินบา้ ง ทงั้ ทา ทามิ (Tatami®) พาพิลลิโอ (Papillio®) เบทลู า (Betula®) เบอรก์ ิ (birki®) อลั โปร (Alpro®) และฟตุ พ รนิ ทส์ ์ footprints®) รูปแบบท่ีเป็นเอกลกั ษณค์ ือ การสวมใสแ่ บบเปลือยๆ หลงั เทา้ เหมาะกบั ลคุ สบายๆ วนั หยุด วันชอปปิ้ง เดินเยอะๆ พวกเราพากันเดินไปเกาะกระจกแอบมองราคาแลว้ ไดแ้ ต่ตาละหอ้ ย เพราะราคาเร่มิ ตน้ อย่ทู ่ีประมาณ 45 ยโู รขึน้ ไป จากเดิมท่ีตงั้ ใจจะเขา้ ไปเดินดขู า้ งในกนั เสียหน่อยก็เลย เปล่ียนใจขอไปตามทางของเราเหมือนเดิมดีกว่า จรงิ ๆ จะถามว่าแพงไหมก็ไมแ่ พงหรอกสาํ หรบั ของแท้ เมดอินเยอรมนี แต่เป็นเพราะส่วนหน่ึงเรามองความคมุ้ ค่าท่ีจะไดใ้ ชง้ านในทุกๆ โอกาสมากกว่าและ รองเทา้ แบบนีก้ ็ไมใ่ ช่สไตลข์ องเรากนั ดว้ ย งานนีเ้ ลยปลอ่ ยใหผ้ า่ นไปอยา่ งไมต่ อ้ งลงั เลใจมาก จากถนนเบอรล์ ินเนอร์ เราพากนั เดินต่อไปยงั เปา้ หมายท่ีสงู ตระหง่านอยู่ไม่ไกลนี้ ท่ีน่ีคือมหา วิหารเซนตบ์ ารโ์ ทโลมิว (Dom Sankt Bartholomäus) หรอื รูก้ นั ในช่ือวา่ ไกเซอรโ์ ดม (Kaiserdom) หรอื มหาวิหารจกั รพรรดิ์ (Emperor’s Cathedral) โดมแห่งนีต้ งั้ ช่ือตามสาวกของพระเยซูครสิ ต์ สรา้ งขนึ้ ใน แบบโกธิคในช่วงระหว่างคริสตศ์ ตวรรษท่ี 14 ถึง 15 รูปแบบดอู อกจะแข็งๆ เพราะใชอ้ ิฐสีแดงเป็นหลกั

แตใ่ นสายตาหนเู ล็กก็แปลกตาดีเหมือนกนั เพราะเห็นแบบขาวๆ อลงั การงานสรา้ งมาหลายวนั เร่มิ ลาน ตาไปหมดแลว้ สาเหตุท่ีไดช้ ่ือว่าไกเซอรโ์ ดม เป็นเพราะท่ีแห่งนีใ้ ชเ้ ป็นสถานท่ีแต่งตงั้ จักรพรรดิ์ของ อาณาจักรโรมนั อันศกั ดิ์สิทธิ์มาหลายยุคหลายสมยั ตงั้ แต่ปี ค.ศ.1562 ถึงปี ค.ศ.1792 และปกติถา้ โบสถแ์ ห่งไหนไม่ใช่ท่ีประทบั ของบิชอปจะไมไ่ ดถ้ กู เรยี กเป็นโดมหรอื มหาวิหาร ในปี ค.ศ.1867 โดมแห่ง นีถ้ กู ไฟไหมจ้ ึงไดม้ ีการบรู ณะสรา้ งใหมใ่ นรูปแบบปัจจบุ นั จากนนั้ ก็มาถกู ทาํ ลายลงอีกบางสว่ นเม่ือครงั้ สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 ความสงู ของมหาวิหารประมาณ 95 เมตร โดยเขาจะเปิดหอคอยใหน้ กั ท่องเท่ียว สามารถขึน้ ไปชมวิวท่ีระดบั ความสงู 66 เมตร ในปัจจบุ นั ถือเป็นโบสถห์ ลกั ของเมืองเลยก็ว่าได้ ดา้ นใน ค่อนขา้ งเรียบๆ ในความคิดหนูเล็กว่า ดีไปอีกแบบ ดสู ง่า เครง่ ขรมึ ดี หรือเป็นเพราะจะเบ่ือๆ แบบจดั เตม็ ก็ไมร่ ูเ้ พราะเห็นตอ่ เน่ืองมาหลายวนั มีนกั ทอ่ งเท่ียวเขา้ มาชมพรอ้ มๆ กบั พวกเราหลายคน Kaiserdom ด้านข้างของไกเซอรโ์ ดมมีซากปรักหักพังแห่งหน่ึง ไล่ดูตามไกด์บุ๊คปรากฏว่าเป็ นซาก โบราณสถานเก่า นยั ว่า เป็นสถานท่ีอาบนา้ํ ในยคุ โบราณ แบบท่ีเขาเรียกว่า โรมนั บาธ แตด่ จู ากภาพท่ี เห็นในปัจจบุ นั เหมือนจะกลายเป็นสนามเด็กเลน่ ไปเสียแลว้ เพราะนอกจากนกั ท่องเท่ียวท่ีเดินชมซาก โบราณสถานอนั เก่าแก่นีแ้ ลว้ ยงั เห็นเดก็ ว่ิงปีนป่ายไลจ่ บั กนั เป็นท่ีสนกุ สนานไปเสยี อีก

โรมนั บาธ เราพากนั เดนิ ตอ่ มาอีกไมเ่ กิน 1 นาทีก็ถงึ รมิ แมน่ า้ํ ไมนอ์ นั เป็นท่ีมาของช่ือ แฟรงคเ์ ฟิ รต์ อมั ไมน์ แลว้ บรรยากาศริมนา้ํ วนั นีค้ ่อนขา้ งเงียบ ผคู้ นส่วนใหญ่คงไปอย่กู นั ตามหา้ งและแหล่งชอปปิ้ง เพราะ พรุง่ นีห้ า้ งปิดคงตอ้ งจบั จ่ายซือ้ ของกนั ใหส้ ดุ ๆ ในแมน่ า้ํ มีเรอื จอดบรกิ ารไวส้ าํ หรบั นกั ท่องเท่ียวท่ีนิยมการ น่งั เรือล่องไปตามลาํ นา้ํ ชมบา้ นเมืองวิวทิวทศั น์ วิถีชีวิตผคู้ น แต่การล่องแม่นา้ํ ไมนไ์ ม่ค่อยไดร้ บั ความ นิยมเท่ากบั การลอ่ งแม่นา้ํ ไรน์ เพราะผ่านเมืองต่างๆ มากมาย ทิวทศั นก์ ็น่าสนใจกว่าเยอะ เพราะเป็น พวกไรอ่ ง่นุ ปราสาทเก่า ภเู ขา โขดหิน ในขณะท่ีลอ่ งแม่นา้ํ ไมนย์ ่ิงแถวๆ แฟรงคเ์ ฟิ รต์ นี้ คงจะเห็นแตต่ กึ ระฟา้ เสยี เป็นสว่ นมาก แมน่ า้ํ ไมน์ สายเลอื ดใหญ่ของแฟรงคเ์ ฟิ รต์ เราพากนั เดินเลาะไปจนถึงสะพานไอเซอรเ์ นอร์ (Eiserner Steg) ถือเป็นสะพานเก่าสรา้ งตงั้ แต่ ปี ค.ศ.1868 ใชเ้ ช่ือมระหว่างเมืองเก่าและย่านซคั เซนเฮาเซน (Sachsenhausen) ซง่ึ อย่นู อกเขตเมือง ความยาวประมาณ 170 เมตร เป็นสะพานสาํ หรบั ให้คนเดินอย่างเดียว รถขึน้ ใช้ไม่ได้ เพ่ือให้เข้า บรรยากาศพวกเราจึงไม่พลาดท่ีจะขึน้ ไปเดินเพ่ือเก็บภาพมาเป็นระลึก เม่ือยืนบนสะพานแลว้ มอง ออกไปฝ่ังตรงขา้ มกบั ไกเซอรโ์ ดมจะมีโบสถอ์ ีกแห่งหน่ึงดูสวยสง่าดี แต่ไม่รูเ้ ป็นโบสถอ์ ะไรเหมือนกัน ระหว่างเดินอย่บู นสะพานสงั เกตเห็นว่า มีกุญแจเอามาล็อคไวอ้ ีกแลว้ ดจู ะเป็นความเช่ือสาํ หรบั พวก ค่รู กั ไปเสียแลว้ ว่าจะตอ้ งเอากุญแจมาล็อคเพ่ือแสดงความรกั กันบนสะพานแลว้ โยนลกู กุญแจทิง้ นา้ํ ประมาณวา่ รกั เราจะย่งั ยืนเป็นนิรนั ดรไ์ ม่มีทางจะพรากจากกนั อะไรทาํ นองนี้ ความเช่ือและการกระทาํ

แบบนีบ้ างทีมนั ก็ทาํ ใหม้ ีความสุขทางใจไดด้ ีเหมือนกัน ส่วนอนาคตของหนา้ จะเป็นอย่างไรก็ตอ้ งให้ เวลาเป็นเครอ่ื งพิสจู น์ สะพานไอเซอรเ์ นอร์ (Eiserner Steg) วิวสวยๆ จากบนสะพาน เราเดินเล่นบนสะพานมายงั ฝ่ังตรงขา้ มท่ีเรยี กว่า ซคั เซนเฮาเซน ดา้ นล่างของสะพานฝ่ังนีเ้ ป็น พืน้ ท่ีของสวนสาธารณะใหไ้ ดม้ าน่งั พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ สว่ นในแม่นา้ํ ก็มีพวกเรอื คายคั มาพายเลน่ ฝึกปรือ ฝีมือกนั อยหู่ ลายลาํ เราเดนิ เลน่ พกั ผอ่ นหยอ่ นใจบรเิ วณนีก้ นั อยสู่ กั พกั ตดิ ใจบรรยากาศรมิ นา้ํ ท่ีดเู หมือน จะทาํ ใหเ้ ราปลดปลอ่ ยอารมณใ์ หส้ บายๆ ขึน้ หลงั จากท่ีไปเดินลดั เลาะอย่ใู นย่านท่ีผคู้ นมากมายสบั สน วนุ่ วายมาเม่ือหลายช่วั โมงก่อนหนา้ นี้ เตม็ ไปดว้ ยพืน้ ท่ีใหม้ าพกั ผอ่ น ตอนแรกเราตงั้ ใจกนั อย่เู หมือนกนั วา่ จะไปเดนิ เท่ียวตลาดนดั วนั เสารแ์ บบท่ีเรยี กวา่ ฟลีมารเ์ ก็ต (Flea Market) เพราะจากจุดนีห้ ากเดินต่อไปจะเป็นบริเวณท่ีเขาเรียกว่า มูเซอุมสอ์ ูเฟอร์

(Museumsufer) ซง่ึ เป็นแหลง่ รวมพิพิธภณั ฑม์ ากมาย และในย่านนนั้ ละจะมีตลาดนดั ท่ีพอ่ คา้ แมค่ า้ นาํ พวกสนิ คา้ มือสองมาวางจาํ หนา่ ย แตพ่ อดนู าฬิกาแลว้ ก็ใหห้ มดแรง เดนิ เท่ียวกนั จนไมท่ นั ไดด้ เู วลา ก็มนั ปาเขา้ ไปบา่ ยสามโมงกวา่ แลว้ พอ่ คา้ แมค่ า้ ท่ีไหนเขาจะคอยอยู่ ตลาดนดั วนั เสารบ์ รเิ วณมเู ซอมุ สอ์ เู ฟอร์ จะเรม่ิ ตงั้ แตเ่ จ็ดโมงเชา้ จนถึงแค่บา่ ยสองโมง ลืมกนั ไปเสียสนิท สว่ นจะไปเขา้ พิพิธภณั ฑแ์ ทนเพ่ือนรว่ ม ทางทกุ คนพากนั ปฏิเสธ เพราะเดินเท่ียวกนั มาเกือบทงั้ วนั แลว้ ลว้ นไม่ไหวกนั เป็นแถว อยากจะกลบั ท่ี พกั ไปพกั เอาแรงเสียที ทาํ ใหห้ นเู ลก็ ผพู้ ิศวาสการเท่ียวตอ้ งจาํ ใจกลบั ไปดว้ ย แมว้ ่ายงั มีแรงคกึ ในหวั ใจท่ี จะไปตอ่ อย่างท่ีเล่าน่ันละว่าย่านนีเ้ ป็นบริเวณท่ีเต็มไปดว้ ยพิพิธภัณฑ์มากมาย อาทิ ไบเบิลเฮาส์ (Biblehaus) รวบรวมเรอ่ื งราวเก่ียวกบั พระคมั ภีรไ์ บเบิล หรอื ดอยทเ์ ชส อารค์ เิ ท็ค มเู ซอมุ (Deutsches Architekmuseum) ซ่งึ เป็นท่ีรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั ส่ิงก่อสรา้ งและสถาปัตยกรรมตา่ งๆ ของเยอรมนี หรือ ดอยทเ์ ชส ฟิ ลม์ มเู ซอมุ (Deutsches Filmmuseum) เก็บรวบรวมฟิ ลม์ และภาพตา่ งๆ ของเยอรมนี เป็น ตน้ แตก่ ็อยา่ งวา่ อีกเหมือนกนั การไปเท่ียวพิพิธภณั ฑจ์ าํ เป็นตอ้ งมีเวลาพอสมควร เพราะตอ้ งคอ่ ยๆ เดนิ คอ่ ยๆ อ่าน เราเดินเท่ียวกนั จนปาเขา้ ไปเกือบส่ีโมงเย็นแลว้ คงไม่ใช่เวลาท่ีจะไปเท่ียวแลว้ ละ แตเ่ หตผุ ล แอบแฝงของพวกเราอีกอย่างท่ีมองตาก็รูใ้ จกนั ก็คือ คืนนีเ้ วลาประมาณ 1 ท่มุ แฟรงคเ์ ฟิ รต์ โฮสเทล ท่ี พกั ของเราเขาจะมีพาสตา้ ปารต์ ี้ น่นั คือ ทางโฮสเทลจะทาํ พาสตา้ เลีย้ งแขกท่ีมาพกั ทกุ คน สามารถกินได้ เตม็ ท่ี ถือเป็นการคนื กาํ ไรสลู่ กู คา้ สปั ดาหล์ ะ 1 ครงั้ พวกเรามงุ่ ม่นั กบั การไปรว่ มกินครงั้ นีม้ าก เรอ่ื งฟรนี ่ะ ก็เรอ่ื งหน่ึง แตอ่ ยากไปรว่ มบรรยากาศแบบนีด้ วู า่ เป็นอย่างไรมากกว่า การไดม้ ีโอกาสรว่ มกิจกรรมแบบ นีห้ าไมไ่ ดง้ ่ายนกั ในการมาเท่ียวครงั้ หน่งึ คิดได้ดังนี้พวกเราจึงพากันเดินทางกลับ โดยการเดินข้ามอุนเทอรไ์ มน์บรึค (Untermain Brücke) สะพานขา้ มแม่นา้ํ ไมนท์ ่ีรถราสญั จรไดป้ กติกลบั ไปโดยใชเ้ สน้ ทางหลกั คือ ถนนไมนเ์ ซอร์ (Mainzer straße) ซง่ึ จะผ่านไปทางวิลล่ีบรนั ดท์ พ์ ลาทซ์ ์ (Willy-Brandt-Platz) ซง่ึ เป็นท่ีตงั้ ของยโู รทาว เวอร์ (Eurotower) อาคารกระจกความสงู 149 เมตร ซง่ึ จะมีโลโกเ้ งินยโู รขนาดยกั ษอ์ ยหู่ นา้ ตกึ แลว้ ก็ลดั กลบั เขา้ ไปยงั ถนนไกเซอร์ แคน่ ีก้ ็ถงึ ท่ีหมายแลว้

ก่อนกลบั เขา้ ท่ีพกั ไมล่ มื แวะซือ้ ของกินจากรา้ น REWE เขา้ ไปดว้ ย เม่ือกลบั เขา้ ไปท่ีโฮสเทล พวกเราด่งิ ไปดบู รรยากาศของปารต์ ีค้ ่าํ นีก้ นั ท่ีบรเิ วณคอมมอนรูมก่อน ก็เป็นพืน้ ท่ีส่วนกลางสาํ หรบั การน่งั กิน การน่งั พูดคยุ น่นั ละ เม่ือขึน้ ไปถึงก็ใหต้ กใจ ดเู หมือนทุกคนจะ จดจาํ นดั สาํ คญั นีไ้ ดด้ ี เพราะขนาดว่าเม่ือเราไปถึงแคเ่ พียงหา้ โมงครง่ึ เท่านนั้ โต๊ะ เกา้ อี้ เรม่ิ มีการถกู จบั จองแลว้ คือจะว่าจองก็คงไม่ถกู นกั แต่ประมาณว่ามาน่งั รอกนั หนาตาแลว้ แต่ละคนเอากิจกรรมตา่ งๆ มาทาํ อยทู่ ่ีหอ้ งนี้ ทงั้ การเลน่ อนิ เตอรเ์ น็ตจากโน๊ตบ๊คุ การอา่ นหนงั สือ การน่งั พดู คยุ การน่งั ด่ืมเบียร์ เลน่ เกม สารพนั จะหามาทาํ กนั พวกเราเห็นท่าจะไม่ดี เพราะหากมวั แต่ไปน่งั รอเวลาอย่ทู ่ีหอ้ ง ไม่มาเกรๆ่ อยใู่ นนี้ คงจะไมม่ ีท่ีน่งั เป็นแน่ พวกเราก็เลยตกลงใจน่งั เลน่ น่งั คยุ กนั ท่ีน่ีไปเลยแลว้ กนั ระหวา่ งท่ีน่งั คอย จะไดถ้ ือโอกาสสงั เกตผเู้ ขา้ พกั คนอ่ืนๆ ดว้ ยว่า เป็นผรู้ อมาปารต์ ีเ้ ช่นเดียวกบั เราหรอื ไม่ หรอื วา่ เขาน่งั กนั อยา่ งนีเ้ ป็นประจาํ แตเ่ ราไมเ่ คยมาเห็น เนืองแนน่ ไปดว้ ยผคู้ น เม่ือเวลานดั หมายใกลเ้ ขา้ มาดเู หมือนผคู้ นท่ีมาพาํ นกั ท่ีนีจ้ ะพากนั มารวมตวั จนน่าตกใจ เพราะ ในชว่ งวนั สองวนั ท่ีผา่ นมา เวลาเขา้ มาท่ีหอ้ งนีไ้ มเ่ คยเห็นผเู้ ขา้ พกั จะมากมายขนาดนีม้ าก่อน ดทู กุ คนจะ ใหค้ วามสาํ คญั กบั นดั หมายนีก้ นั เหลือเกิน สกั พกั หลายคนเรม่ิ ลกุ ไปตอ่ แถวเพ่ือรอรบั พาสตา้ จากแมค่ รวั สาวหนา้ ตาน่ารกั สองคน โดยเขาจะจัดวางจาน ชอ้ มสอ้ ม ไวเ้ สร็จสรรพ ก็เพียงแค่ต่อแถวหยิบจาน ชอ้ นสอ้ ม ใหเ้ รียบรอ้ ยจากนนั้ ก็เดินเรียงแถวเขา้ มาใหส้ าวสวยคนท่ีหน่ึงตกั พาสตา้ ใส่จานให้ พอเดิน

ตอ่ มาสาวคนท่ีสองก็จะหมนุ กระปกุ พรกิ ไทยเพ่ือโรยหนา้ ให้ เท่านีก้ ็เสรจ็ สรรพ กลบั ไปอ่ิมอรอ่ ยท่ีโต๊ะได้ เลย อ่ิมแลว้ ก็เอาจานไปสง่ ท่ีเคานเ์ ตอรเ์ ดมิ เพราะเขาจะเป็นผจู้ ดั การลา้ งเอง สองเจา้ หนา้ ท่ีโฮสเทลสาวแสนสวยท่ีเสริ ฟ์ พาสตา้ ในเยน็ วนั นี้ พวกเราไดม้ าคนละจานก็อยหู่ มดั เขาตกั ใหเ้ ยอะพอควร เอรด็ อรอ่ ยมาก ดผู เู้ ขา้ พกั คนอ่ืนๆเองก็ คกึ คกั เหมือนกนั กบั เรา บางรายถึงกบั เดินไปสองสามรอบ อาจเป็นเพราะนกั ท่องเท่ียวบางคนเป็นพวก แบค็ แพ็คกระมงั อะไรท่ีประหยดั ไดเ้ ขาก็ตอ้ งประหยดั เป็นธรรมดา สรุปวา่ มือ้ นีอ้ ่ิมอรอ่ ยโดยถว้ นหนา้ กนั บรรยากาศช่ืนม่ืนดี อ่มิ อรอ่ ย ช่ืนม่ืนกนั โดยถว้ นหนา้ เม่ืออ่ิมหมีพีมันเรียบรอ้ ยก็พากันกลับหอ้ ง พักท่ีย่านนีอ้ อกไปเดินเพ่นพ่านดูจะไม่ค่อยดี ท่ี สาํ คญั เรามาพกั กนั ในยา่ นแบบนีด้ ว้ ย แมว้ ่าสามสาวอยา่ งเราจะดไู มค่ อ่ ยน่าเป็นสเปคของหน่มุ เยอรมนั แตก่ นั ไวก้ ่อนคงดีกวา่ พวกเราจงึ พากนั เขา้ นอนเรว็ กวา่ ท่ีเคย สว่ นหน่ึงความกระตือรอื รน้ อยากเท่ียวเรม่ิ นอ้ ยลง ความคิดถึงบา้ นเร่ิมมีมากขึน้ ดงั นั้น เม่ือเขา้ นอนเร็วแลว้ นอนไม่หลบั หนูเล็กจึงไดแ้ ต่นอน หลบั ตานบั ถอยหลงั วา่ อีกเพียงไมก่ ่ีช่วั โมงนบั จากนี้ เราจะไดก้ ลบั สแู่ ผน่ ดนิ เกิดท่ีเราจากมานานรว่ มครง่ึ เดือน แมว้ ่าหลายวนั ท่ีผ่านมาจะเต็มไปดว้ ยความต่ืนตาต่ืนใจ สนุก ประทบั ใจ และสารพนั ความรูส้ ึก ประดงั ประเดมา แต่ความคิดถึงบา้ นท่ีตกผลึกอยู่ในใจก็ยังคงอยู่ และคงถึงเวลาของมนั แลว้ ท่ีจะได้ ปรากฏออกมาในความรูส้ กึ นึกคิด จึงทาํ ใหห้ นเู ล็กคิดวนเวียนเช่นนีจ้ นแทบไม่รูต้ วั เลยว่าผลอยหลบั ไป ตงั้ แตเ่ ม่ือใด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook