Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบนิเวศน้ำจืด

ระบบนิเวศน้ำจืด

Published by aquarium2550fish, 2022-04-22 08:19:17

Description: ระบบนิเวศน้ำจืด

Search

Read the Text Version

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม

ระบบนิเวศแหล่งน้ำ มีน้ำเป็นตัวกลาง คุณสมบัติของน้ำเป็นตัวกำหนดลักษณะของ สิ่งมีชีวิตในน้ำ สิ่งมีชีวิตมีการปรับตัวเพื่อการดำรงชีวิตในน้ำ การเคลื่อนที่ osmoregulation

คุณสมบัติของน้ำ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของน้ำในแหล่งน้ำเกิด ขึ้นน้อยกว่า และช้ากว่าระบบ นิเวศบก น้ำมีความร้อนจำเพาะสูงทำให้อุณหภูมิของน้ำ เปลี่ยนแปลงน้อยในแต่ละช่วงวัน น้ำมีความหนืดสูงกว่าอากาศ ช่วยพยุงร่างกายของ สิ่งมีชีวิตในน้ำได้ดี น้ำเป็นตัวทำละลายที่ดี สามารถทำละลายได้ทั้ง ของแข็ง และก๊าซ

ประเภทของสิ่งมีชีวิต ในแหล่งน้ำ แพลงก์ตอน (Plankton) เนคตอน (Nekton) นิวสตอน (Neuston) เพอริไฟตอน (Periphyton) สัตว์หน้าดิน (Benthos)

แพลงกตอน์ (Plankton) -อาศัยล่องลอยอยู่ในมวลน้ำไม่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำได้ -จำแนกตามหน้าที่เชิงความสามารถในการหาอาหาร แพลงก์ตอนพืช (Phytoplankton) เช่น ไดอะตอม สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีทองและไซ ยาโนแบคทีเรีย แพลงก์ตอนสัตว์ (Zooplankton) เช่น – โรติเฟอร์ ไรน้ำ(Daphnia) Ostracod Copepod: Calanoid, Cycloploid แมงกะพรุนน้ำจืด โปรโตซัวต่างๆ

เนคตอน (Nekton) อาศัยล่องลอยอยู่ในมวลน้ำ มีความ สามารถว่ายน้ำได้ดี (ทวนกระแสน้ำได้) เช่น ปลา สัตว์สะเทินบกสะเทินน้ำ โลมา วาฬ

นิวสตอน (Neuston) อาศัยอยู่เฉพาะที่ผิวน้ำ เช่น จิงโจ้น้ำ

เพอริไฟตอน (Periphyton) อาศัยเกาะอยู่ตามวัตถุอื่น ๆ ในน้ำ เช่น พืชน้ำและวัตถุลอยน้ำ อื่นๆ

สัตว์หน้าดิน (Benthos) อาศัยอยู่บริเวณผิวดินในแหล่งน้ำ เช่น –ตัวอ่อนแมลงน้ำ เช่น ชีปะขาว แมลงปอ

ประเภทของระบบ นิเวศแหล่งน้ำ แบ่งโดยใช้ความเค็ม ได้แก่ – ระบบนิเวศน้ำจืด (Fresh water ecosystem) – ระบบนิเวศน้ำเค็ม (Marine ecosystem) ความเค็ม หมายถึง ปริมาณเกลือที่ละละลายในน้ำ • น้ำจืด (Fresh water) <0.5 ppt • น้ำกร่อย (Brackish) 0.5-30 ppt • น้ำเค็ม (Saline) 30-50 ppt • น้ำเกลือ (Brine) > 50 ppt

ประเภทของระบบนิเวศแหล่งน้ำ ระบบนิเวศน้ำจืด (Freshwater ecosystem) -ระบบนิเวศน้ำไหล (Lotic ecosystem) ex. Stream -ระบบนิเวศน้ำนิ่ง (Lentic ecosystem) ex. Lake ระบบนิเวศน้ำกร่อย (Estuary) ระบบนิเวศน้ำเค็มหรือระบบนิเวศทะเล (Marine ecosystem) -บริเวณชายฝั่ ง (Coastal ecosystem) หรือ เขตน้ำขึ้น น้ำลง (Intertidal zone) -บริเวณทะเลเปิด (Open sea ecosystem)

แหล่งน้ำจืด (freshwater) มีค่าความเค็มน้อยกว่า 0.5 ppt

แหล่งน้ำเค็ม (marine) มีค่าความเค็มโดยเฉลี่ย ประมาณ ร้อย ละ 34 หรือ 0.34 ppt

แหล่งน้ำกร่อย (estuaries) มีค่าความเค็มอยู่ในช่วงกว้างและ แปรผันในแต่ละวัน

ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืด สิ่งมีชีวิตมีการปรับตัวต่อแหล่งอาศัยที่ป้องกันการละลายเกลือออกจากร่างกาย – การกำจัดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย – การดูดซึมเกลือแร่จากน้ำเพื่อทดแทนเกลือแร่ที่สูญเสียไป – ตัวอย่างเช่น การปรับตัวของปลาน้ำจืด เหงือกปลาดูดซึมเกลือเข้าสู่ร่างกาย ไตดูด ซึมเกลือกลับเข้าสู่กระแสเลือด และ ขับถ่ายปัสสาวะที่เจือจางมาก

นิเวศวิทยาแหล่งน้ำจืด นิเวศวทิยาแหล่งน้ำจืด เป็นการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและ สภาพแวดล้อมทางน้ำ ในแง่ของความต้องการอาหารและที่อยู่อาศัย แหล่งน้ำจืดเป็นแหล่งน้ำ ที่ให้ผลผลิตสูงมากเมื่อเทียบกับผลผลิตในพื้นที่ อื่น ๆ ที่มีพื้นที่ เท่ากับนักวิทยาศาสตร์จึงให้ความสนใจศึกษา ทั้งทางอุทกวิทยา ชลธีวิทยาและ นิเวศวิทยา ระบบนิเวศน้ำจืดสามารถแบ่งได้หลายลักษณะแต่ที่นิยมใช้ทำการศึกษากันมาก แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ ระบบนิเวศในแหล่งน้ำนิ่ง และระบบนิเวศในแหล่งน้ำไหล

แหล่งน้ำนิ่ง (lentic หรือ standing water) เป็นแหล่งน้ำปิด แต่อาจมีทางติดต่อกับ แม่น้ำลำธาร หรือเป็นแหล่งน้ำปิดสนิทได้รับน้ำฝนเพียงทางเดียวส่วน ใหญ่มีขนาดเล็ก บางครั้งอาจไม่มีน้ำตลอดทั้งปี เช่น น้ำใน ทะเลสาบ บ่อ บึง หนอง อ่างเก็บน้ำ เป็นต้นไม่มี การขึ้นลงของน้ำ น้ำเคลื่อนที่ได้โดยกระแสลมเท่านั้น แหล่งน้ำเหล่านี้ มีการเกิดและลักษณะทางกายภาพแตก ต่างกัน ส่งผลให้มีปัจจัยสิ่งแวดล้อมทั้งมีและไม่มีชีวิต แตกต่างกัน

บ่อ (pond) เป็นแหล่งน้ําขนาดเล็ก ส่วนมาก เกิดจากการสร้างของ มนุษย์ เพื่อกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเกษตรการประมง การอุปโภค บริโภค บ่อมัก ไม่มีความหมายเป็นทางการ แต่ ที่สำคัญ คือ มีขนาดเล็ก มีลักษณะพื้นและมีศักยภาพการ ผลิตสมบูรณ์ตาม ธรรมชาติ

หนองน้ำ(marsh) หมายถึง ที่แฉะ (wet area) ที่มีน้ำขังอยู่ และมี หญ้ากกขึ้นอยู่ เป็นแหล่งน้ำตื้นที่มี ความลาดชัน (slope) ของชายฝั่ งน้อย ไม่มีเขตน้ำลึกเลย ส่วนใหญ่ เป็นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง ไม่มีทางน้ำไหลเข้า-ออก ในฤดูฝน จะมีพื้นน้ำกว้างใหญ่ แต่ในฤดูแล้งปริมาณน้ำอาจ ลดลงมากจนตื้นเขินไปทั้งหมด ตัวอย่าง เช่น หนอง ประจักษ์ หนองหาร เป็นต้น

บึง (Swamp) หมายถึง ที่ต่ำ มีน้ำขังอยู่ ลึกน้อยกว่าและมี ขนาดเล็กกว่าทะเลสาบ มีพืชน้ำตลอดท้องน้ำ จัด เป็น แหล่งน้ำขนาดกลาง มีน้ำขังตลอดปี มีทางน้ำ ไหล เข้า-ออก มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำบ้าง ทำให้ ชายฝั่ งมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี ชายฝั่ งมีพุ่มไม้ เตี้ยๆ ขึ้นอยู่ รอบๆ เช่น ทะเลสาบสงขลาส่วนที่ เป็น ทะเลน้อย บึงบอระเพ็ด กว๊านพะเยา เป็นต้น

อ่างเก็บน้ำ (reservoir) เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น โดย สร้างเขื่อน ขวางกั้นทางเดินของน้ำ ทำให้น้ำ เหนือเขื่อน ถูกยกระดับขึ้น ท่วมไปตามลักษณะ ภูมิประเทศ เกิดการ เปลี่ยนระบบนิเวศจากน้ำไหลเป็นน้ำนิ่ง การสร้างอ่างเก็บ มีวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อป้องกันน้ำท่วม เก็บน้ำไว้ใช้ใน ฤดูขาดแคลน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า อ่างเก็บน้ำที่สร้าง ขึ้นมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ เช่น รูปร่างแบบ บ่อ แบบแม่น้ำและ แบบทะเลสาบ

พื้นที่ชุ่มน้ำ (wetlands) เป็นพื้นดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำผิวดินเป็นเวลานาน เพียงพอที่ จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตของพืชน้ำ มีสัตว์หลากหลาชนิด เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ชุ่มน้ำ เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารและ ที่หลบซ่อน เช่น แมลงเข้ามาหาซากอาหารที่ตายทับถมกัน ปลาหากินไข่หรือตัวอ่อนของแมลงที่อยู่ในน้ำ นกสามารถใช้ พืชในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำ สร้างรังพื้นที่ชุ่ม น้ำหลายแห่งจึงมี ความสำคัญในฐานะของแหล่ง ที่อยู่อาศัยที่ สำคัญของพืช และสัตว์ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงบริเวณหนึ่ง

ทะเลสาบ(lake) เป็นแหล่งน้ำนิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน (inland water) และ ไม่มีทางติดต่อกับทะเล อาจเป็นน้ำจืดหรือน้ำเค็มก็ได้ เนื่องจากเดิมอาจเคยติดต่อกับทะเลมา แต่เปลี่ยนแปลง จน ขาดการติดต่อ กลายเป็นทะเลสาบ เป็นแหล่งน้ำที่เกิด ขึ้น ตามธรรมชาติ มีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะมีน้ำอยู่ตลอด ปี และมีระดับแตกต่างกันไม่มากนัก ทะเลสาบ มีขนาด แตกต่างกันมาก เช่น ขนาดใหญ่มากมีพื้นที่ผิวน้ำถึง 83,300 ตารางกิโลเมตร คือ ทะเลสาบสุพีเรียใน สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีในยุโรปตอนเหนือ เช่น ฟินแลนด์ รัสเซีย แคนาดา และอเมริกาตอนเหนือ สำหรับ เขตร้อนพบได้ในอัฟริกาและเอเชีย

ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืด ที่เป็นแหล่งน้ำไหล (running water) ซึ่งแบ่งออกเป็น บริเวณที่สำคัญ 2 บริเวณ คือ 1.บริเวณที่เป็นเกาะแก่ง หรือบริเวณน้ำไหลเชี่ยว (rapid zone) 2.บริเวณที่เป็นแอ่งน้ำ(pool zone)

เขตน้ำไหลแรง (rapid Zone) เป็นเขตน้ำตื้น แต่กระแสน้ำมีความเร็วสูง เป็น เขตที่อยู่ต้นน้ำ ลำธาร มีความลาดชันสูง ลำน้ำไม่ กว้าง พื้นท้องน้ำเป็นหิน กรวด หรือทราย น้ำไม่ลึก มากในบางฤดูอาจแห้ง อุณหภูมิน้ำส่วนมากจะต่ำ จึง มีออกซิเจนละลายได้มาก มีสารอินทรียวัตถุน้อย

เขตน้ำลึก (pool zone) เป็นเขตที่มีระดับ น้ำลึก น้ำไหลไม่แรงหรือมีการไหล วนกลับ ความลาดชันของพื้นท้องน้ำมีน้อยพื้นท้องน้ำ เป็นดินโคลนหรือทรายปนโคลน มีตะกอนตกทับถมมาก จึงมีอินทรียวัตถุมาก ลำน้ำมีความกว้างมากและมีส่วนที่ เป็นร่องน้ำลึก ส่วนใหญ่ จะอยู่ตอนปลายของแม่น้ำที่จะ ไหลสู่ทะเล ถ้าอยู่ตอนต้นของแม่น้ำจะเป็นแก่งน้ำหรือ วังน้ำ

สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่ง น้ำไหลนี้พบว่า ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในการ ดำรงชีวิต เช่น มีรูปร่างเพรียวเพื่อลดความต้านทานของกระแสน้ำ เช่น ปลาบางชนิด ตัวอ่อนแมลงบางชนิดสามารถเกาะติดแน่นกับ พื้น ผิวที่อาศัยอยู่ สกัดเมือกเหนียวเพื่อใช้ยึดเกาะเช่น หอย กาบเดียว ปลาบางชนิดมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดย การ ว่ายทวนน้ำ

ระบบนิเวศแหล่งน้ำกร่อย แหล่งน้ำกร่อย เป็นบริเวณที่มี น้ำจืดมา บรรจบ กับน้ำเค็ม มักพบตามบริเวณปาก แม่น้ำ ปากอ่าว และช่องแคบ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง ระบบนิเวศในน้ำ สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2565. จาก https://th.wikipedia.org/wiki สราวุธ คลอวุฒิมันตร์ ระบบนิเวศแหล่งน้ำ ระบบนิเวศแหล่งน้ำ - (Aquatic ecosystem) - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ https://bio.flas.kps.ku.ac.th

042 - 530780 , 042 - 530747 [email protected] www.nkpsci.ac.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook