หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ระบบทางเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ความเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื และกลไก หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การออกแบบเชิงวศิ วกรรม
ระบบทางเทคโนโลยี คาตอบอาจแตกต่างกนั เทคโนโลยรี อบตวั กบั ระบบทางเทคโนโลยี 1/47 แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ อุปกรณ์เทคโนโลยี 1 อยา่ ง ประกอบดว้ ยระบบยอ่ ย หลายระบบจึงจะทางานได้ นกั เรียนคิดวา่ คอมพวิ เตอร์ ท่ีทุกคนใชจ้ ะประกอบดว้ ยระบบยอ่ ยอะไรบา้ ง
ระบบ (system) ประกอบดว้ ยส่วนประกอบอย่างน้อย 2 ส่วน ซ่ึงทางานสอดประสานกนั เพ่ือให้ไดผ้ ลลพั ธ์หรือบรรลุวตั ถุประสงค์ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ระบบแบง่ ออกเป็น 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1. ระบบทเ่ี กิดจากธรรมชาติ หมายถึง ส่ิงมีชีวิตหรือระบบต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ เช่น การทางานของร่างกายมนุษยแ์ ละสตั ว์ การเจริญเติบโตของพืช วฏั จักรของน้า การเกิดแผ่นดินไหว การเกิด คลื่นสึนามิ 2. ระบบท่ีสร้ างโดยมนุษย์ หมายถึง ระบบท่ีค้นพบ คิดค้น สร้าง หรื อพฒั นาข้ึนโดยมนุษย์ ระบบท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึนมีรูปแบบ ท่ีหลากหลายข้ึนอยกู่ บั การนาไปใชง้ าน เช่น เทคโนโลยีทางการเกษตร เทคโนโลยดี า้ นพลงั งาน เทคโนโลยีการแพทย์ 2/47
ระบบทางเทคโนโลยี (technological system) เป็ นระบบ ที่ใชอ้ ธิบายการทางานของเทคโนโลยีซ่ึงมนุษยค์ น้ พบ คิดคน้ สร้าง หรื อพัฒนาข้ึนเพื่อนามาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ประกอบดว้ ยส่วนประกอบที่เป็ นเทคโนโลยีหรือไม่เป็ นก็ได้ อยา่ งนอ้ ย 2 ส่วน ซ่ึงทางานสอดประสานกนั เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลผลิต หรือบรรลุวตั ถปุ ระสงคอ์ ยา่ งนอ้ ย 1 อยา่ ง ระบบทางเทคโนโลยี 1 ระบบ อาจประกอบดว้ ยระบบย่อย (sub-system) หลายระบบซ่ึงทางานสมั พนั ธ์กนั หากระบบยอ่ ยใด ทางานผิดพลาดกจ็ ะส่งผลถึงการทางานของระบบยอ่ ยอ่ืนท่ีอยใู่ น ระบบทางเทคโนโลยีเดียวกนั ดว้ ย 3/47
ส่วนประกอบของระบบทางเทคโนโลยีมีดงั น้ี ตวั ป้อน กร(pะrบoวcนesกs)าร ผลผลติ (input) (output) 2 1 3 ผลกลาพัรนธ์ทาตี่ไตวดั วั ปจ้ตา้อ้งักนตกนม้ าาขรทปอางรใระหะมเ้บกวบิลดผซก่ลาึงรถกเกูปานรลแา่ียปมนารแผรปูา่ปนลหงกโรดือะยบกผรวา่รนนมกววาิธิธรีกีใตาดา่ รงๆใๆดในภๆากทยรี่ทใะนาบใรวหะนบต้ กวบั าปเรพ้อขอื่ นอใเงหกริดไ้ะดกบผา้ บรลเทปผาลงิตี่ยเทนคแโปนลโงลยี ไปอยใู่ นรูปแบบที่ตอ้ งการ กระบวนการในระบบทางเทคโนโลยอี าจมีมากกวา่ 1 กระบวนการได้ โดยกระบวนการเหลา่ น้นั จะทางานสอดประสานกนั เพื่อใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงค์ **คลิกท่ี 1 - 3 เพ่ือใหข้ อ้ ความปรากฏหรือซ่อนขอ้ ความ 4/47
ตัวป้อน กระบวนการ (ผouลtผpลuิตt) ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) คือ การนา (input) (process) ผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากระบบทางเทคโนโลยีมาใช้ ข้อมูล ในการปรับปรุงตวั ป้อนให้เหมาะสม ก่อนที่ (fยe้อedนbกaลcบั k) จะส่งเขา้ กระบวนการท่ีเกี่ยวขอ้ งอีกคร้ังเพื่อ ปรับแตง่ ผลผลิตใหไ้ ดผ้ ลตามที่ตอ้ งการ ระบบทางเทคโนโลยีที่มีการส่งขอ้ มูล ยอ้ นกลบั จะส่งขอ้ มลู กลบั มายงั ตวั ป้อนทกุ ๆ ช่วงเวลาหน่ึง เพ่ือใชใ้ นการควบคุมผลผลิต ให้ไดต้ ามที่ตอ้ งการตลอดเวลา ระบบท่ีใช้ ขอ้ มูลจากผลผลิตมาปรับค่าตวั ป้อนเรียกว่า ระบบควบคุมแบบย้ อนกลับ (feedback control system) 5/47
ตวั อยา่ งเทคโนโลยีท่ีมีขอ้ มูลยอ้ นกลบั เป็นส่วนประกอบ เตารีดไฟฟ้า สามารถปรับระดบั ความร้อนของแผ่นใหค้ วามร้อนของเตารีดใหเ้ หมาะสมกบั ผา้ แต่ละชนิดโดย ผใู้ ชจ้ ะเลือกระดบั ความร้อนที่ตอ้ งการ เซนเซอร์ วัดอุณหภูมิท่ีพ้ืนเตารี ด ตัวป้อน กระบวนการ ความร้อน (output) จะอา่ นค่าอุณหภูมิที่วดั ไดแ้ ลว้ ส่ง = กระแสไฟฟ้า = วงจรและ จากเตารีด อุปกรณ์ให้ ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) มาคานวณ ความร้อน เปรี ยบเทียบกับค่าอ้างอิงเพ่ือปรับค่า ตวั ป้อนให้เหมาะสม ถา้ อุณหภูมิต่ากว่า ระดบั ท่ีตอ้ งการ ระบบจะจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้วงจรทาความร้อนอย่างต่อเน่ื อง ข้อมูล แ ต่ ถ ้า อุ ณ ห ภู มิ สู ง ก ว่ า ร ะ ดับ ที่ ต้อ ง ก า ร ย้อนกลับ กระแสไฟฟ้า (input) จะถูกตดั เพ่ือควบคุม = ค่าอุณภูมิ อณุ หภูมิ 6/47
ตัวป้อน กระบวนการ ความเยน็ เคร่ืองปรับอากาศ เมื่อเปิ ดใช้งาน = กระแสไฟฟ้า = วงจรและ จากระบบ ผู้ใ ช้ ง า น จ ะ ต้ัง อุ ณ ห ภู มิ ที่ ต้อ ง ก า ร ระบบทา ทาความเย็น กระแสไฟฟ้าจะถูกจ่ายไปยังระบบทา ความเย็น ค ว าม เย็น เพื่อ สร้ าง ล ม เย็น ( output) เซนเซอร์วดั อุณหภูมิท่ีเครื่องปรับอากาศ ข้อมูล จ ะ วัด อุ ณ ห ภู มิ ห้ อ ง แ ล้ว ส่ ง ข้อ มู ล ก ลับ ย้อนกลบั (feedback) เพื่อเปรียบเทียบกบั อุณหภูมิที่ = ค่าอุณภูมิ ตอ้ งการ หากค่าอุณหภูมิท่ีวัดได้สูงกว่า อุณหภูมิท่ีตอ้ งการ ระบบทาความเย็นจะ ทางานตอ่ เน่ือง จนกระทงั่ ค่าอุณหภูมิท่ีวดั ไดเ้ ท่ากับหรื อต่ากว่าอุณหภูมิท่ีตอ้ งการ ระบบทาความเยน็ จึงจะหยดุ ทางาน 7/47
(หนงั สือเรียนหนา้ 6) 1. ร้านสะดวกซ้ือแห่งหน่ึงมีช่องสาหรับชาระค่าสินคา้ 3 ช่อง แต่ละช่องสามารถให้บริการลูกคา้ ไดค้ ร้ังละ 1 คน ลูกค้าท่ีรอชาระค่าสินค้าต้องเข้าแถวคอย แถวเดียว โดยลูกคา้ ท่ีอยหู่ วั แถวจะไดร้ ับบริการเป็ น คนถดั ไป ดงั รูป จงใชส้ ่วนประกอบทางเทคโนโลยี อธิบายกระบวนการชาระสินคา้ กาหนดให้ มีลูกค้าชาระสินค้าท่ีช่องรับบริ การ ทกุ ช่อง และมีลกู คา้ รออยใู่ นแถวคอย 12 ราย 8/47
ลูกค้าท่ีรออยู่ในแถวคอยเป็ นตวั ป้อน (input) ของระบบ โดยลูกค้าจะเข้ารับบริการท่ีช่องบริ การที่ 1, 2 หรื อ 3 ได้คร้ังละ 1 คน โดยกระบวนการของระบบทางเทคโนโลยีสามารถแบง่ เป็นระบบยอ่ ยได้ 3 ระบบ คือ ช่องบริการท่ี 1, 2 และ 3 ตวั ป้อน (input) กระบวนการ (process) ผลผลติ (output) ลูกคา้ เขา้ แถวคอยแถวเดียว ช่องบริการท่ี 1 ลูกคา้ ชาระค่าสินคา้ รอชาระค่าสินคา้ ช่องบริการท่ี 2 ช่องบริการที่ 3 ส่วนประกอบทางเทคโนโลยขี องกระบวนการชาระสินคา้ โดยใหล้ ูกคา้ เขา้ แถวเดียวเพ่ือรอเขา้ รับบริการท่ีช่องบริการคราวละ 1 คน กรณีน้ีหากระบบย่อยระบบใดระบบหน่ึงไม่สามารถทางานไดต้ ามปกติ (ช่องบริการไม่สามารถให้บริ การได้ ตามปกติ) จะทาใหร้ ะยะเวลาในการชาระสินคา้ เพม่ิ ข้ึน 9/47
2. ร้านสะดวกซ้ือแห่งหน่ึงมีช่องสาหรับชาระค่าสินคา้ 3 ช่อง แต่ละช่องสามารถให้บริ การลูกค้าได้คร้ังละ 1 คน และ อนุญาตให้ลูกคา้ อยู่ในแถวคอยเพื่อรอชาระค่าสินคา้ ไดอ้ ีก ช่องละ 2 คน ลูกค้าที่เหลือต้องเข้าแถวคอยแถวเดียว โดยลูกคา้ ที่อยู่หัวแถวของแถวคอยแถวเดียวจะไดเ้ ขา้ ไป ต่อแถวคอยแถวใดแถวหน่ึงใน 3 แถว เมื่อมีท่ีว่างดงั รูป จง ใ ช้ส่ ว น ปร ะ ก อ บทาง เทคโ น โ ลยีอ ธิ บาย กร ะ บว น ก าร ชาระสินคา้ กาหนดให้ แถวคอยที่ช่องสาหรับชาระค่าสินคา้ มีผูย้ ืนรอรับ บริการเตม็ ทุกแถว และมีลูกคา้ รออยู่ในแถวคอยแถวเดียว 12 ราย 10/47
ตวั ป้อน (input) กระบวนการ (process) ผลผลิต (output) ลกู คา้ เขา้ แถวคอยแถวเดียว ลกู คา้ ชาระค่าสินคา้ แถวคอย ช่องบริการที่ 1 รอชาระค่าสินคา้ เพือ่ รอชาระ 1 แถวคอย ช่องบริการที่ 2 เพื่อรอชาระ 2 แถวคอย ช่องบริการท่ี 3 เพือ่ รอชาระ 3 ส่วนประกอบทางเทคโนโลยขี องกระบวนการชาระสินคา้ โดยใหล้ กู คา้ เขา้ แถวเดียวเพื่อรอเขา้ แถวคอยท่ีช่องรับบริการก่อนรับบริการคราวละ1 คน 11/47
กระบวนการของระบบทางเทคโนโลยสี ามารถแบ่งเป็นระบบยอ่ ยได้2 ระบบยอ่ ย ไดแ้ ก่ 1. ระบบแถวคอยเพือ่ รอชาระเงิน ประกอบดว้ ย แถวคอยเพือ่ รอชาระ 1, 2 และ 3 2. ระบบชาระเงิน ประกอบดว้ ย ช่องบริการท่ี 1, 2 และ 3 หากระบบยอ่ ยระบบใดระบบหน่ึงไม่สามารถทางานไดต้ ามปกติ เช่น ช่องบริการหรือ แถวคอยเพื่อรอชาระเงินไม่สามารถให้บริการได้ จะทาใหร้ ะยะเวลาในการชาระสินคา้ เพิ่มข้ึน 12/47
3. จากแบบฝึ กหัดในข้อ 1 และ 2 หากมีผู้รอชาระค่าสิ นค้าจานวน 30 คน การใหบ้ ริการของร้านสะดวกซ้ือในขอ้ ใดจะมีความรวดเร็วมากกว่า โดยกาหนดให้ ผชู้ าระค่าสินคา้ แตล่ ะรายใชเ้ วลาในการชาระสินคา้ เทา่ ๆ กนั ระยะเวลาในการชาระสินคา้ สามารถคานวณไดจ้ าก จานวนลกู คา้ ท้งั หมด×ระยะเวลาในการชาระสินคา้ ของลูกคา้ แตล่ ะราย จานวนช่องชาระค่าสินคา้ เนื่องจากจานวนลูกคา้ ท่ีรอชาระค่าสินคา้ มีจานวนเท่ากนั ระบบแถวคอยท้งั สอง ประเภทมีจานวนช่องชาระค่าสินคา้ เท่ากนั คือ 3 ช่อง และผูร้ ับบริการแตล่ ะรายใชเ้ วลา ในการชาระสินคา้ เทา่ กนั ดงั น้นั การเขา้ แถวคอยท้งั 2 แบบ จะใชเ้ วลาในการชาระเงิน เท่ากนั 13/47
(หนงั สือเรียนหนา้ 6) 14/47
1. นกั เรียนคิดว่ามีเทคโนโลยีใดบา้ งที่มีการนาขอ้ มูล หากเทคโนโลยีเหล่าน้นั ไม่มีขอ้ มูลยอ้ นกลบั จะทาใหร้ ะบบ ยอ้ นกลบั มาใชป้ ระโยชน์ หากเทคโนโลยีดงั กล่าว ทางานต่อเนื่องโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนค่าตัวป้อนหรื อ ไม่มีขอ้ มูลยอ้ นกลบั จะเป็ นอย่างไร จงให้เหตุผล กระบวนการจนกว่าจะสิ้นสุดการทางาน เช่น ประกอบ ระบบเครื่ องปรับอากาศ-หากระบบเครื่ องปรับอากาศไม่มี คาตอบอาจแตกต่างกนั ขอ้ มูลยอ้ นกลบั เคร่ืองปรับอากาศจะทางานต่อเนื่องโดยไม่มี การปรับระดบั อุณหภูมิ จนกว่าจะมีการปิ ดเคร่ืองหรือเครื่อง เทคโนโลยีท่ีนาข้อมูลย้อนกลับมาใช้มัก เป็ น ไม่สามารถทางานต่อได้ (เช่น คอยลเ์ ยน็ เป็ นน้าแขง็ เน่ืองจาก เทคโนโลยีท่ีมีการออกแบบการควบคุมการทางาน อุณหภูมิลดลงต่อเน่ือง) ของระบบเป็ นแบบอตั โนมตั ิ เช่น ระบบเคร่ืองปรับ อากาศ ระบบป๊ัมน้าอตั โนมตั ิ เตารีดไฟฟ้า เตารี ดไฟฟ้า-หากไม่มีขอ้ มูลยอ้ นกลับ ความร้อนท่ีพ้ืน เตารีดจะเพมิ่ ข้ึนอยา่ งตอ่ เน่ือง เน่ืองจากมีการจ่ายกระแสไฟฟ้า เขา้ สู่ขดลวดความร้อนอยา่ งต่อเน่ือง ซ่ึงอาจส่งผลให้ผา้ ท่ีรีด ไดร้ ับความเสียหายและอาจทาใหเ้ กิดเพลิงไหมไ้ ด้ 15/47
2. ร่างภาพระบบทางเทคโนโลยีของเทคโนโลยใี นขอ้ 1 คาตอบอาจแตกต่างกนั เตารีดไฟฟ้า ระบบเครื่องปรับอากาศ ตวั ป้อน กระบวนการ ผลผลิต (input) (process) (output) ตวั ป้อน กระบวนการ ผลผลิต กระแสไฟฟ้า การทางานของ ความร้อน (input) (process) (output) วงจรควบคุม ที่พ้ืนเตารีด กระแสไฟฟ้า การทางานของ ลมเยน็ ท่ีออก อุณหภูมิ วงจรควบคุม จากช่องอากาศ 16/47 อณุ หภูมิ ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั = ค่าอุณหภูมิ ขอ้ มูลยอ้ นกลบั = ค่าอุณหภูมิ
เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนั สามารถอธิบายดว้ ยระบบทางเทคโนโลยีซ่ึงประกอบดว้ ยตวั ป้อน (input) ผลผลิต (output) กระบวนการ (process) ขอ้ มูลยอ้ นกลบั (feedback) โดยส่วนประกอบแต่ละตวั อาจมีตวั แปรมากกว่า 1 ค่า และมีระบบย่อย ที่ซบั ซอ้ นข้ึนอยกู่ บั ระบบแต่ละประเภท กระบวนการหรือระบบยอ่ ยของเทคโนโลยีแต่ละประเภทอาจมีมากกว่าหน่ึงระบบ เพื่อใหเ้ หมาะสมท้งั ดา้ นราคาและประสิทธิภาพ ตวั อยา่ งระบบทางเทคโนโลยี ในชีวิตประจาวนั เช่น 17/47
คอมพวิ เตอร์เป็นระบบทางเทคโนโลยีท่ีรองรับตวั ป้อน มากกว่า 1 ประเภท มีกระบวนการและกระบวนการย่อย หลายกระบวนการ และมีผลผลิตมากกว่า 1 รูปแบบ ระบบ ทางเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์สามารถแสดงไดด้ งั น้ี ตวั ป้อน กระบวนการ ผลผลติ = แผงแป้นอกั ขระ = การประมวลผล = แสดงผลหน้าจอ/ (keyboard)/ ของอปุ กรณ์ แสดงผลทาง เมาส์ (mouse) คอมพวิ เตอร์ เครื่องพมิ พ์ 18/47
1. ตัวป้อน (input) ในระบบคอมพิวเตอร์ คือ คาสั่งจากผูใ้ ชง้ านที่นาเขา้ ผ่านอุปกรณ์หรือวิธีการ เช่น แผงแป้นอกั ขระ (keyboard) เคร่ื องอ่านบัตร (card reader) เคร่ื องอ่านบาร์โค้ด (barcode reader) เมาส์ (mouse) ก้านควบคุม (joystick) ไมโครโฟน (microphone) เครื่ องกราดภาพ (scanner) เคร่ื องรู้จาอักขระดว้ ยแสง (optical character recognition : OCR) การสมั ผสั หนา้ จอคาสงั่ จากอุปกรณ์เหล่าน้ีจะถูกแปลงเป็นสญั ญาณซ่ึงเป็นตวั ป้อน สาหรับกระบวนการของระบบคอมพิวเตอร์ 2. ผลผลิต (output) ของระบบคอมพิวเตอร์ คือ ผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากการประมวลผล โดยจะแสดงผลลพั ธ์ผ่าน อปุ กรณ์ต่าง ๆ เช่น แสดงผลเป็นตวั อกั ษร ภาพ หรือวีดิทศั น์ ผ่านจอภาพ (monitor) แสดงผลในรู ปแบบเอกสารผ่าน เครื่ องพิมพ์หรื อเคร่ื องพล็อตเตอร์ (plotter) แสดงผลใน รูปแบบของเสียงผ่านลาโพง บนั ทึกลงแผน่ ซีดี 3. กระบวนการ (process) ของระบบคอมพิวเตอร์ สามารถพิจารณาไดห้ ลายลกั ษณะ 19/47
แผงแป้นอกั ขระ คอมพวิ เตอร์ ผลผลติ เครื่องอา่ นบตั ร จอภาพ เคร่ืองพมิ พ์ เครื่องอา่ น แผน่ ซีดี เคร่ืองพลอ็ ตเตอร์ ลาโพง ตัวป้อน บาร์โคด้ ไมโครโฟน กา้ นควบคุม 20/47 เมาส์ เครื่องรู้จกั อกั ขระ ดว้ ยแสง เคร่ืองกราดภาพ
ระบบคอมพวิ เตอร์ที่มหี น่วยประมวลผลกลางเพยี งหน่วยเดียว ระบบคอมพวิ เตอร์ท่ีมีหน่วยประมวลผลกลางเพียงหน่วยเดียวแบ่งออกเป็น 3 ระบบยอ่ ย ไดแ้ ก่ 1 ระบบ อปุ กรณ์ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) หนา้ ท่ี ● อา่ นคาสง่ั (input) จากหน่วยความจาเพื่อนามา ประมวลผล ประมวลผล กลาง ● ประมวลผลและควบคมุ ลาดบั การประมวลผล ส่วนประกอบของระบบประมวลผล ไดแ้ ก่ ของคาสง่ั ● ตวั ป้อน คือ ชุดคาสง่ั และขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากหน่วยความจา ● ผลผลิต คือ ผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากการประมวลผล ● สื่อสารกับอุปกรณ์รอบขา้ ง (peripheral) เช่น ● กระบวนการ คือ การประมวลผลชุดคาส่ังโดยใช้ แผงแป้นอักขระ เคร่ื องพิมพ์ จอภาพ ผ่าน ระบบบสั (system bus) คณิตศาสตร์และการตดั สินใจเชิงตรรกะ ● ควบคมุ การรับส่งขอ้ มลู ระหวา่ งชิ้นส่วนตา่ ง ๆ 21/47
2 อปุ กรณ์ หน่วยความจา หนา้ ท่ี ● จัดเก็บคาสั่งและขอ้ มูลที่ไดร้ ับจากอุปกรณ์ ตวั ป้อน (input devices) ระบบหน่วย ความจา ● จดั เก็บผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากหน่วยประมวลผลกลาง ระหวา่ งข้นั ตอนการประมวลผล ส่วนประกอบของระบบจดั เก็บคาสัง่ และขอ้ มูลที่อยู่ระหว่างการ ประมวลผล ไดแ้ ก่ ● จดั เกบ็ ผลลพั ธส์ ุดทา้ ยท่ีไดจ้ ากการประมวลผล ● ตวั ป้อน คือ ชุดคาสงั่ ท่ีไดจ้ ากผูใ้ ชง้ านและผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากการ ก่อนที่จะส่ งผลลัพธ์ไปยังอุปกรณ์แสดง ผลลพั ธ์ (output devices) ประมวลผลของระบบประมวลผล ● ผลผลิต คือ ชุดคาส่ังและขอ้ มูลที่ส่งไปยงั ระบบประมวลผล 22/47 และอปุ กรณ์อ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ ง ● กระบวนการ คือ การจดั สรรพ้ืนที่สาหรับเก็บขอ้ มูลที่รับเขา้ หรือส่งออกจากหน่วยความจา
3 หน่วยเก็บขอ้ มูล หนา้ ที่ จดั เกบ็ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ข อ ง ระบบคอมพิวเตอร์แบบ ระบบจัดเก็บ อปุ กรณ์ ถาวร ข้อมูล ส่วนประกอบของระบบจดั เกบ็ ขอ้ มูล ไดแ้ ก่ ● ตวั ป้อน คือ ผลลพั ธแ์ ละขอ้ มลู ท่ีนาเขา้ จากระบบประมวลผล ระบบหน่วยความจา และส่วนประกอบที่เกี่ยวขอ้ ง ● ผลผลิต คือ ขอ้ มูลที่ส่งออกไปยงั ระบบประมวลผล ระบบ หน่วยความจา และส่วนประกอบที่เกี่ยวขอ้ ง ● กระบวนการ คือ การจดั สรรพ้นื ท่ีสาหรับเก็บขอ้ มูลที่รับเขา้ หรือส่งออกจากหน่วยเกบ็ ขอ้ มลู 23/47
ในการป ระมวลผ ลชุ ดคาส่ัง ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลติ หน่วยประมวลผลกลางจะอ่านคาส่ัง อปุ กรณ์นาเขา้ หน่วย อปุ กรณ์แสดงผล จ า ก ห น่ ว ย ค ว า ม จ า แ ล ะ ท า ก า ร ประมวลผลคาส่ังตามลาดบั ก่อนหลงั ประมวลผลกลาง 24/47 ห น่ ว ย ค ว า ม จ า จ ะ เ ก็ บ ผ ล ลัพ ธ์ ที่ ไ ด้ หน่วยความจา อุปกรณ์เก็บขอ้ มูล ระหว่างข้นั ตอนการประมวลผลและ ขอ้ มลู ท่ีตอ้ งใชใ้ นการประมวลผลไวท้ ี่ หน่ วยความจา จนกระทั่งสิ้ นสุ ด กระบวนการประมวลผล ผลผลิตท่ีได้ จากการประมวลผลจะถูกส่งต่อไปยงั กระ บว นก าร หรื อ อุปกร ณ์ แสดง ผลลพั ธท์ ่ีเก่ียวขอ้ ง
ระบบคอมพวิ เตอร์ท่ีมหี น่วยประมวลผลกลางและหน่วยประมวลผลกราฟิ กในหน่วยเดยี วกนั ระบบคอมพวิ เตอร์ท่ีมีหน่วยประมวลผลกลางและหน่วยประมวลผลกราฟิ ก (GPU) ในหน่วยเดียวกนั (CPU with GPU Built-in) แบ่งเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1 ระบบที่ใชห้ น่วยความจาของหน่วยประมวลผลกลาง 2 ระบบท่ีใชห้ น่วยความจาของหน่วยประมวลผลกลาง และหน่วยประมวลผลกราฟิ กแยกกนั และหน่วยประมวลผลกราฟิ กร่วมกนั CPU หน่วย หน่วยความจา CPU หน่วย ของ CPU ควบคุม ควบคุม ความจา หน่วย ความจา หน่วยความจา ความจา GPU GPU ของ GPU 25/47
มี 2 ระบบยอ่ ยที่แตกตา่ งจากระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีหน่วยประมวลผลกลางเพียงหน่วยเดียว 1. ระบบประมวลผลกราฟิ ก มีหน้าที่ประมวลผลกราฟิ กซ่ึงมีข้นั ตอนการทางานเหมือนกับหน่วยประมวลผลกลาง แตถ่ ูกออกแบบเพือ่ ใชค้ านวณทางคณิตศาสตร์และคานวณรูปทรงทางเรขาคณิตท่ีซบั ซอ้ น ซ่ึงจาเป็ นต่อการประมวลผลภาพ และวีดิทศั น์ ส่วนประกอบของระบบประมวลผลกราฟิ ก ไดแ้ ก่ ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลติ ชุดคาสงั่ และขอ้ มูล การประมวลผล ผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากการ ชุดคาสงั่ โดยใช้ ที่ไดจ้ าก คณิตศาสตร์ ประมวลผล หน่วยความจา การคานวณ 26/47
2. ระบบควบคุมการใช้หน่วยความจา โดยใชห้ น่วยควบคุมความจาซ่ึงทาหนา้ ที่ควบคุมและจดั สรรการใชห้ น่วยความจา ของหน่วยประมวลผลกลางและหน่วยประมวลผลกราฟิ ก อาจใช้พ้ืนท่ีหน่วยความจาร่วมกันหรื อแยกกันข้ึนอยู่กับ การออกแบบสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบของระบบควบคุมการใชห้ น่วยความจา ไดแ้ ก่ ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลติ ชุดคาสงั่ และขอ้ มลู การจดั สรรการใชง้ าน ชุดคาสงั่ และขอ้ มูลท่ีส่ง ท่ีไดจ้ ากผใู้ ชง้ าน พ้นื ท่ีหน่วยความจาของหน่วย ไปยงั ระบบประมวลผล หน่วยความจา หรือ ประมวลผลกลางและหน่วย ระบบประมวลผล ประมวลผลกราฟิ กรูปทรง หรือหน่วยความจา เรขาคณิต และการตดั สินใจ 27/47 เชิงตรรกะ
ระบบคอมพวิ เตอร์ท่ีมหี น่วยประมวลผลกลางและหน่วยประมวลผลกราฟิ กแยกกนั ระบบคอมพิวเตอร์ท่ีมีหน่วยประมวลผลกลางและ GPU CPU หน่วยประมวลผลกราฟิ กแยกกนั แบ่งออกเป็น 2 ระบบยอ่ ย ไดแ้ ก่ หน่วยความจา หน่วยความจา ของ GPU ของ CPU 1. ระบบประมวลผลกลาง ซ่ึงประมวลผลชุดคาส่ัง ท้งั หมดเป็นหลกั ยกเวน้ การประมวลผลภาพและวิดีทศั น์ 28/47 2. ระบบประมวลผลกราฟิ ก ซ่ึงใช้ประมวลภาพและ วิดีทศั นเ์ ป็นหลกั
ท้งั 2 ระบบยอ่ ยมีหลกั การทางานเหมือนกบั ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางเพียงหน่วยเดียว โดยที่ระบบ หน่วยความจาสาหรับกราฟิ กจะใชห้ น่วยความจาสาหรับกราฟิ กซ่ึงทาหน้าที่เหมือนกบั หน่วยความจาของหน่วยประมวลผล กลาง ส่วนประกอบของระบบหน่วยความจาสาหรับกราฟิ ก ไดแ้ ก่ ตวั ป้อน กระบวนการ ผลผลิต ชุดคาสงั่ ท่ีไดจ้ ากผูใ้ ชง้ าน การจดั สรรพ้นื ท่ีสาหรับ ชุดคาสง่ั และขอ้ มูลท่ีส่ง และผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการ เกบ็ ขอ้ มลู ที่รับเขา้ หรือ ไปยงั ระบบประมวลผล ประมวลผลของระบบ ส่งออกจากหน่วยความจา และอปุ กรณ์อ่ืน ประมวลผล สาหรับกราฟิ ก ที่เกี่ยวขอ้ ง 29/47
ระบบเซลลส์ ุริยะเป็ นระบบ input อุปกรณ์ ซ่ ึ ง เ ปล่ี ย น พล ัง ง า น แส ง อ า ทิ ต ย ์ แสตงวั อป=า้อทนิตย์ ไฟฟ้า output กระแสตรง เป็ นพลังงานไฟฟ้าเพ่ือใช้เป็ น แหล่งพลังงานให้กับอุปกรณ์ process เคร่ือง เครื่องแปลง ไฟฟ้า ระบบเซลล์สุ ริ ยะเป็ น เซลระลบ์สุบริยะ ควบคุมประจุ กระแสไฟฟ้า ระบบทางเทคโนโลยีที่มีตวั ป้อน แรงดันไฟฟ้า แบตเตอร่ี อุปกรณ์ ผลผลิต และกระบวนการ ซ่ึงมี ไฟฟ้า ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี กระแสสลบั output ดงั น้ี 30/47
กระบวนการของระบบเซลลส์ ุริยะ ระบบ เครื่อง เครื่องแปลง ประกอบดว้ ยระบบยอ่ ย 3 ระบบ คือ เซลล์สุริยะ ควบคุมประจุ กระแสไฟฟ้า แรงดนั ไฟฟ้า 1. ระบบเซลลส์ ุริยะ แบตเตอรี่ 2. ระบบควบคมุ ประจุไฟฟ้า 3. ระบบแปลงกระแสไฟฟ้า 31/47
1. ระบบเซลล์สุริยะ เป็นการนาแสงจากดวงอาทิตยม์ าสร้าง คู่อิเลก็ ตรอนและโฮล เพอื่ ใหเ้ กิดเป็นกระแสไฟฟ้า ส่วนประกอบของระบบเซลลส์ ุริยะ ไดแ้ ก่ ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลติ แสงจากดวงอาทิตย์ กระบวนการสร้าง กระแสไฟฟ้าที่ได้ กระแสไฟฟ้าดว้ ยการสร้าง จากการจบั คู่ระหวา่ ง คอู่ ิเลก็ ตรอนและโฮล อิเลก็ ตรอนและ โดยใชส้ ารก่ึงตวั นา โฮล 32/47
2. ระบบควบคุมประจุไฟฟ้า คือ ระบบท่ีทาหนา้ ที่บริหารจดั การกระแสไฟฟ้าที่ไดจ้ ากเซลลแ์ สงอาทิตย์ ● ควบคมุ การจ่ายกระแสไฟฟ้าเขา้ แบตเตอร่ีไมใ่ หม้ ีแรงดนั เกินกว่าที่กาหนด เพือ่ ป้องกนั แบตเตอรี่เสียหาย ● จ่ายไฟฟ้ากระแสตรงใหร้ ะบบแปลงกระแสไฟฟ้าเพือ่ แปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลบั ● จ่ายไฟฟ้ากระแสตรงใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสตรง ซ่ึงเป็นผลผลิตของระบบเซลลส์ ุริยะ ส่วนประกอบของระบบควบคมุ ประจุไฟฟ้า ไดแ้ ก่ ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลติ ไฟฟ้ากระแสตรงจาก การจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แบตเตอร่ี การจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงไปยงั ระบบ ระบบเซลลส์ ุริยะ เม่ือแรงดนั ไฟฟ้าของแบตเตอร่ีอยู่ต่า และอุปกรณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ ง การควบคุม กวา่ ระดบั ท่ีกาหนด ปริ มาณกระแสไฟฟ้าท่ีจ่ายให้กับ แบตเตอร่ี ไม่ให้มีแรงดนั ไฟฟ้าเกิน ข้อมูลย้อนกลับ กว่าที่กาหนด คา่ แรงดนั ไฟฟ้าท่ีวดั ไดจ้ ากแบตเตอรี่ 33/47
3. ระบบแปลงกระแสไฟฟ้า คือ ระบบที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงให้เป็ นไฟฟ้ากระแสสลบั เพ่ือใชง้ านกบั เครื่องใชไ้ ฟฟ้า ตา่ ง ๆ กระแสไฟฟ้าท่ีไดจ้ ากระบบเซลลส์ ุริยะมีกระแสไฟฟ้าจากดั อาจไม่เพียงพอต่อการใชง้ านกบั เครื่องใชไ้ ฟฟ้าท่ีตอ้ งการ กระแสไฟฟ้าสูง ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ขนาดของระบบเซลลส์ ุริยะ ส่วนประกอบของระบบแปลงกระแสไฟฟ้า ไดแ้ ก่ ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลติ ไฟฟ้ากระแสตรง การแปลงไฟฟ้ากระแสตรง ไฟฟ้ากระแสสลบั จากระบบควบคุม ใหเ้ ป็นไฟฟ้ากระแสสลบั ประจุไฟฟ้า ซ่ึงมีแรงดนั ไฟฟ้า ท่ีเหมาะสมกบั การ นาไปใชง้ าน 34/47
เกษตรอัจฉริยะ (smart farm) เป็นการ 35/47 นาเทคโนโลยีดา้ นต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี สาร สน เ ทศ เทค โ น โ ล ยี ก าร ส่ื อ สา ร เคร่ื องมืออิเล็กทรอนิกส์ เซนเซอร์และ ระบบควบคุม และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มา ใ ช้ใ น ก าร บ ริ หาร จัดก า ร แล ะ พัฒ น า กระบวนการผลิตสินคา้ เกษตร รวมถึงการ จดั จาหน่ายสินคา้ แก่ผูบ้ ริโภค เพ่ือลดตน้ ทุน ในกระบวนการผลิต เพิ่มคุณภาพและ ปริ มาณผลผลิต ลดความเส่ียงเนื่องจาก ภยั ธรรมชาติและโรคระบาด และลดการใช้ แรงงานมนุษย์
ตวั อยา่ งการนาเทคโนโลยีมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเกษตร เช่น 1. เทคโนโลยีในการระบุพิกัด (GPS-global positioning system) สามารถนามาใชใ้ นการระบุตาแหน่งและเฝ้าสังเกตปศุสัตว์ รวมถึง เคร่ืองมือและอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีติดต้งั บนพน้ื ที่การเกษตร 2. เทคโนโลยใี นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นท่ี (GIS- geographic information system) สามารถนามาใชต้ รวจสอบสภาพ พ้ืนท่ีและสภาพของดินท่ีจะทาการเกษตร 3. ข้อมูลสภาพอากาศจากดาวเทียม นามาใช้พยากรณ์สภาพ อากาศซ่ึงเป็นปัจจยั เสี่ยงตามธรรมชาติ 4. ภาพถ่ายจากดาวเทียม นามาผา่ นกระบวนการประมวลสัญญาณภาพเพ่ือวิเคราะห์การแผ่คล่ืนของผลผลิตสามารถใช้ พยากรณ์การเจริญเติบโตของผลผลิต 5. ติดต้งั เซนเซอร์เพ่ือตรวจสอบตวั แปรทม่ี ผี ลต่อการผลิต เช่น ความช้ืนในอากาศ ความช้ืนในดิน ปริมาณแสง ปริมาณ สารเคมี รวมถึงตรวจสอบการระบาดของโรค 36/47
เกษตรอจั ฉริ ยะเป็ นการนาความรู้ทางเทคโนโลยีหลายแขนงมาประยุกต์ใช้งาน ทาให้ระบบทาง เทคโนโลยีของเกษตรอัจฉริ ยะมีความหลากหลายและทางานร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ เช่น เทคโนโลยีรถไถอจั ฉริยะ (smart tractor) ซ่ึงสามารถควบคุมการทางานโดยการส่ังงานผ่านแอปพลิเคชนั โดยใชข้ อ้ มูลจากดาวเทียมระบุพิกดั (GPS) และขอ้ มลู จากระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) มาใชป้ ระโยชน์ ในการกาหนดทิศทางในการขบั เคล่ือน ระบบทางเทคโนโลยีของรถไถอจั ฉริยะ 37/47
ส่วนประกอบระบบทางเทคโนโลยขี องรถไถอจั ฉริยะ ประกอบดว้ ย ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลิต ชุดคาส่ังที่ส่งผ่านไปยงั ระบบควบคุมทิศทาง น า ชุ ด ค า สั่ง เ กี่ ย ว กับ การเคล่ือนที่ของรถไถ ประกอบด้วยเส้นทางเดินรถรวมถึงการต้งั ค่า เส้นทางขบั เคลื่อนมา ไปบนพ้ืนที่เพาะปลูก ต่าง ๆ ของระบบ ประมวลผลร่ วมกับ ตามทิศทางท่ีกาหนด ค่าพิกัดจากดาวเทียม ในชุดคาสงั่ ตวั ป้อน ระบุพิกัดและข้อมูล ค่าพิกัดปัจจุบันของรถไถซ่ึงเป็ นค่าที่ได้จาก สารสนเทศภูมิศาสตร์ 38/47 ดาวเทียมระบุพิกัด ตัวป้อนน้ี จะถูกอัปเดต เพื่อใชใ้ นการควบคุม ตลอดเวลาโดยดาวเทียมระบุพกิ ดั ทิศทางของรถไถ ตัวป้อน ขอ้ มูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ของพ้นื ที่ปฏิบตั ิการ
(หนงั สือเรียนหนา้ 17) 39/47
1. ใหน้ กั เรียนศึกษาระบบยอ่ ยและส่วนประกอบของเทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั อยา่ งนอ้ ย 2 เทคโนโลยี คาตอบอาจแตกต่างกนั แนวคาตอบ เทคโนโลยี - พดั ลมไฟฟ้า การทางานของพดั ลมประกอบดว้ ยการทางานร่วมกนั ของระบบยอ่ ยหลายระบบ ไดแ้ ก่ ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า ระบบควบคุมการปิ ด-เปิ ดและปรับความเร็วของมอเตอร์ ระบบ ควบคุมการหมนุ ของใบพดั ระบบควบคมุ การส่ายของใบพดั ในแนวราบ ดงั แสดงในแผนภาพ ระบบยอ่ ย 1 ระบบยอ่ ย 2 ระบบยอ่ ย 3 ใบพดั หมนุ ระบบกระแสไฟฟ้า ระบบควบคุมการปิ ด-เปิ ด ระบบควบคุมการหมนุ และปรับความเร็วของมอเตอร์ ของใบพดั ระบบควบคุมการส่าย พดั ลมส่าย ของใบพดั ในแนวราบ 40/47 ระบบยอ่ ย 4
2. ใหน้ กั เรียนทาตารางสรุปสิ่งที่ไดศ้ ึกษาตามขอ้ 1 โดยแยกการสรุปแต่ละ เทคโนโลยี โดยมีหวั ขอ้ ดงั น้ี - หนา้ ท่ีและความสาคญั ของระบบยอ่ ยแตล่ ะระบบ/กระบวนการแตล่ ะ กระบวนการ - ความสมั พนั ธข์ องระบบยอ่ ยแตล่ ะระบบ/แตล่ ะกระบวนการ คาตอบอาจแตกต่างกนั 41/47
แนวคาตอบ ตารางแสดงหนา้ ที่ ความสาคญั และความสมั พนั ธข์ องระบบยอ่ ยของระบบพดั ลม ระบบย่อย หน้าท่ี ความสาคญั ความสัมพนั ธ์ ระบบยอ่ ย 1 จ่ายกระแสไฟฟ้า เป็นแหล่งพลงั งาน ผลผลติ เป็นตวั ป้อนใหก้ บั ระบบยอ่ ย 2 ระบบยอ่ ย 2 - ควบคุมการปิ ด-เปิ ด เป็ นสะพานไฟให้กับ รับกระแสไฟฟ้าจากตวั ป้อน (ระบบย่อย 2) แลว้ ปรับระดับกระแส - ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้า ระบบยอ่ ย 3 และ 4 ไฟฟ้าที่ไหลผา่ นเพื่อใหไ้ ดผ้ ลผลิต คือ กระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้กบั ระบบ ท่ีไหลผา่ น ยอ่ ย 3 ระบบยอ่ ย 3 - ควบคุมการหมุนของใบพดั ทาใหเ้ กิดลม รับกระแสไฟฟ้าจากตัวป้อน (ระบบย่อย 3) เพื่อให้แกนมอเตอร์ - ปรับอตั ราเร็วของการหมุน เคลื่อนท่ีด้วยอตั ราเร็วต่อรอบตามท่ีได้กาหนด โดยมีผลผลิต คือ ตามปริมาณกระแสไฟฟ้า การหมนุ ของใบพดั ลม ระบบยอ่ ย 4 ควบคุมการส่ายของพดั ลมใน ทาให้พดั ลมสามารถ ชุดเฟื องขับทางานโดยใชแ้ รงขับจากมอเตอร์ของระบบย่อย 3 เป็ น แนวราบ ก ร ะ จ า ย ล ม ไ ด้ใ น ตวั ป้อน เพื่อขบั เฟื องควบคุมใหพ้ ดั ลมส่ายในแนวราบซ่ึงเป็นผลผลิต ทิศทางต่าง ๆ 42/47
ระบบทางเทคโนโลยมี ีส่วนประกอบสาคญั ไดแ้ ก่ ตวั ป้อน (input) ผลผลิต (output) และกระบวนการ (process) และขอ้ มูลยอ้ นกลบั (feedback) ซ่ึงใชส้ าหรับปรับค่าตวั ป้อนใหเ้ หมาะสม ระบบทางเทคโนโลยีหน่ึงระบบอาจประกอบดว้ ยระบบยอ่ ย (sub- system) หลายระบบท่ีทางานสมั พนั ธ์กนั โดยส่วนประกอบแต่ละ ส่วนของระบบทางเทคโนโลยีอาจมีมากกวา่ หน่ึงคา่ การทางานของเทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั สามารถอธิบายด้วย ส่วนประกอบของระบบทางเทคโนโลยีได้ 43/47
1. ระบบทางเทคโนโลยีคืออะไรและมีความสาคญั อยา่ งไร ระบบทางเทคโนโลยี คือ ระบบท่ีใชอ้ ธิบายการทางานของเทคโนโลยีซ่ึงมนุษยค์ น้ พบ คิดคน้ สร้าง หรื อพฒั นาข้ึนเพื่อนามาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วยส่วนประกอบที่เป็ น เทคโนโลยีหรือไม่เป็ นก็ไดอ้ ย่างน้อย 2 ส่วน ซ่ึงทางานสอดประสานกันเพื่อให้ไดผ้ ลผลิตหรือ บรรลวุ ตั ถุประสงคอ์ ย่างน้อย 1 อยา่ ง ระบบทางเทคโนโลยี 1 ระบบ อาจประกอบดว้ ยระบบย่อย หลายระบบซ่ึงทางานสมั พนั ธ์กนั ส่วนประกอบของระบบทางเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ ตวั ป้อน ผลผลิต กระบวนการ และขอ้ มูลยอ้ นกลบั 44/47
2. ให้นักเรียนยกตวั อย่างของเทคโนโลยีที่เกี่ยวขอ้ ง กบั การเกษตร พลงั งาน การขนส่ง และการแพทย์ เทคโนโลยีละ 1 ตวั อย่าง พร้อมภาพร่างแสดง คาตอบอาจแตกต่างกนั ระบบทางเทคโนโลยีของเทคโนโลยีน้นั โดยแต่ ละตวั อยา่ งตอ้ งมีระบบยอ่ ยอยา่ งนอ้ ย 2 ระบบ แนวคาตอบ เทคโนโลยที างการแพทย-์ หูฟังแพทย์ ประกอบดว้ ยระบบยอ่ ย 3 ระบบ ไดแ้ ก่ 1. ส่วนรับฟังเสียงจากหนา้ อก (chest piece) ทาหนา้ ท่ีรับสญั ญาณเสียงคลื่นความถ่ีสูงและคล่ืนความถี่ต่าจากร่างกาย คนไข้ 2. ส่วนทอ่ (tubing) ทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางสาหรับนาเสียงจากส่วนรับฟังเสียงจากหนา้ อกไปยงั หูฟังท่ีปลายอีกดา้ น 3. ส่วนหูฟัง (ear pieces) ใชส้ าหรับรับฟังเสียงที่ไดจ้ ากส่วนรับฟังเสียงจากหนา้ อกผ่านท่อ ตวั ป้อน (input) กระบวนการ (process) กระบวนการ (process) กระบวนการ (process) ผลผลติ (output) เสียงจากหนา้ อก รับฟังเสียงจากหนา้ อก ท่อนาเสียง หูฟังเสียง ไดย้ นิ เสียง 45/47
3. ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งของเทคโนโลยีที่มีการนาขอ้ มูลยอ้ นกลบั (feedback) มาใชป้ ระโยชน์ พร้อมภาพร่างระบบทาง เทคโนโลยีดงั กล่าว คาตอบอาจแตกต่างกนั แนวคาตอบ เทคโนโลยี-เตารีด ใชอ้ ุณหภูมิท่ีพ้นื เตารีดเป็นขอ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) สาหรับควบคุมความร้อน ของพ้นื เตารีดขณะใชง้ าน ตวั ป้อน = กระแสไฟฟ้า กระบวนการ ความร้อนจากเตารีด = วงจรและอุปกรณ์ใหค้ วามร้อน ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั = ค่าอณุ หภูมิ ภาพร่างระบบทางเทคโนโลยที ่ีมีการนาขอ้ มลู ยอ้ นกลบั มาใช้ 46/47
4. ใหน้ กั เรียนเลือกตวั อยา่ งเทคโนโลยีในขอ้ 2 มา 1 ตวั อยา่ ง แลว้ วิเคราะหใ์ นประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 4.1 ความสาคญั ของระบบยอ่ ยแต่ละระบบ 4.2 ความสมั พนั ธ์ท่ีมีต่อระบบยอ่ ยอื่นที่อยใู่ นระบบทางเทคโนโลยีเดียวกนั 4.3 ผลกระทบท่ีเกิดกบั การทางานของระบบ หากระบบยอ่ ยแตล่ ะระบบทางานผิดพลาด คาตอบอาจแตกต่างกนั โดยวิเคราะหต์ ามแนวทางคาตอบกิจกรรมตรวจสอบการเรียนรู้ที่ 1.2 และ กิจกรรมเพอ่ื ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ 47/47
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: