สารบัญ เกริน่ นำ� ความเปน็ มาของคูม่ ือกิจกรรมโรงเรียนรกั เดิน 4 10 บทที่ 1 ท�ำไมต้องมีกิจกรรม“โรงเรยี นรกั เดนิ ” 14 16 บทที่ 2 “7 ข้นั ตอนสกู่ ารเป็นโรงเรยี นรักเดนิ ” 18 20 ขน้ั ตอนท่ี 1 การนำ� เสนอแผนงานกับผบู้ ริหาร 25 28 ขัน้ ตอนท่ี 2 การจดั ต้งั ทมี งานและการบริหารทีมงาน 32 ขน้ั ตอนท่ี 3 การออกแบบกิจกรรมโรงเรยี นรักเดนิ 34 ข้นั ตอนที่ 4 การส่ือสารประชาสัมพันธ์ และการรณรงค์ ข้นั ตอนท่ี 5 การลงมือปฏบิ ตั ิ Step by Step ขนั้ ตอนท่ี 6 การตดิ ตามผลและประเมนิ โครงการ อยา่ งตอ่ เนื่องเพอ่ื แกไ้ ขปรบั ปรงุ ข้นั ตอนท่ี 7 การประเมนิ โครงการ ตวั อยา่ งแนบท้าย • ตวั อย่างการเขียนแผนการจดั ทำ� โครงการ เสนอผู้บริหาร • แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ สำ� หรบั นกั เรียน • ตัวอย่างกิจกรรม เพิม่ กิจกรรมทางกายในระหว่างคาบเรียน / พักเรยี น • ตวั อยา่ ง การออกแบบจัดกิจกรรม “โครงการโรงเรยี นรกั เดนิ ” - กิจกรรมเดินชมตลาด และ กจิ กรรมเดินชมพิพธิ ภัณฑเ์ มอื งอู่ทอง โครงการโรงเรยี นรกั เดนิ
ความเปน็ มา ภายหลังจากท่ีกิจกรรมดังกล่าว เนือยน่ิง มีประโยชน์และช่วยปลูกฝัง เสร็จส้ิน ได้มีการทดสอบสมรรถภาพ ทัศนคติและพฤติกรรมที่ดีเกี่ยวกับการ ของคมู่ อื กิจกรรม ทางกายเพ่ือสุขภาพของนักเรียนท่ีเข้า เคลื่อนไหวทางกายท่ีส�ำคัญมีขอ้ เสนอ ร่วมโครงการฯ เพ่อื เปรยี บเทยี บผลการ ใหบ้ รรจกุ จิ กรรมทางกายเขา้ เปน็ สว่ นหนง่ึ โรงเรียน เปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้น ซึ่งพบว่าเด็ก ในการเรยี นการสอนของโรงเรยี นดว้ ย รักเดนิ ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่�ำเสมอ มี สมรรถภาพทางกายท่ดี ีขึ้น ดงั นนั้ เพอื่ เปน็ การสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ ปี พ.ศ. 2557 สำ� นักสรา้ งเสริมวิถีชวี ิตสขุ ภาวะ กจิ กรรม “โรงเรียนรกั เดนิ ” ในพ้ืนทีอ่ ืน่ ๆ ส� ำ นั ก ง า น ก อ ง ทุ น ส นั บ ส นุ น ก า ร ส ร ้ า ง เ ส ริ ม เพื่อยืนยันผลดังกล่าว จึงได้มี ทั่วประเทศ จึงได้จัดท�ำ คู่มือกิจกรรม สขุ ภาพ (สสส.) ไดส้ นบั สนุนใหม้ ีการจดั โครงการ การสอบถามความคิดเห็นโดยการ “โรงเรียนรักเดิน”ให้แกโ่ รงเรยี นทสี่ นใจ สัมภาษณ์อาจารย์ผู้ดูแลกิจกรรม ได้น�ำไปใช้เป็นแนวทางสร้างกิจกรรม “โรงเรียนเดินสะสมก้าว ประเทศไทย”และ โรงเรียนรักเดิน นักเรียนที่เข้าร่วม ภายในโรงเรียนตามความเหมาะสม จัดกจิ กรรม “โรงเรยี นรักเดิน” เพือ่ ใชเ้ ป็นงาน กิจกรรม และทีมนักวิทยาศาสตร์การ ภายใต้บริบทของพื้นท่ี รวมถึงรณรงค์ กีฬาท่ีท�ำหน้าท่ีเป็น “พี่เล้ียง” ซ่ึงสรุป ให้เยาวชนมีความเข้าใจ เกิดทัศนคติ ตน้ แบบสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นระดบั มธั ยมตน้ และมธั ยม ได้ว่า ผู้มีส่วนเก่ียวข้องท้ังอาจารย์และ ท่ี ดี ต ่ อ ก า ร ท� ำ กิ จ ก ร ร ม ท า ง ก า ย ปลาย มีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจ�ำวันเพิ่ม นักเรียน ต่างมีความเห็นว่า กิจกรรม เพื่อพัฒนาไปสู่การสร้างสุขภาพ มากขน้ึ รวมทง้ั ปลกู ฝงั ใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายเหน็ ประโยชน์ โครงการ “โรงเรียนรักเดิน” กระตุ้นให้ ท่ีดีให้กับตนเอง ชุมชน และประเทศ ของกิจกรรมทางกายเพ่ิมขึน้ ด้วยเหตุนี้ ตน้ แบบ เกิดการเคลื่อนไหวทางกาย ลดความ ตอ่ ไปในอนาคต โรงเรียนรักเดิน จึงถือก�ำเนิดขึ้นในโรงเรียน พนื้ ทเ่ี ขตกรุงเทพฯ และปรมิ ณฑล จำ� นวน 15 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 5 โรงเรียน เป็นระยะเวลา 9 สปั ดาห์ 4 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
กจิ กรรม 1 2 3กล่มุ ที่ กลุม่ ที่ กล่มุ ที่ โรงเรียนรกั เดิน เคร่อื งนบั กา้ ว แอปพลิเคชันนับก้าว สมุดบนั ทกึ ก้าว กิจกรรม “โรงเรียนรักเดิน” นักเรียนกลุม่ ท่ี 1 และ 2 ส่วนนักเรียนกลุ่มท่ี 3 มี เ ป ้ า ป ร ะ ส ง ค ์ เ พ่ื อ ส ่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ร ณ ร ง ค ์ ใ ห ้ จะส่งข้อมูลจ�ำนวนก้าวในระหว่างเวลา ให้บันทึกลงในสมุดบันทึก เมื่อสิ้นสุด นักเรยี นเพิม่ กจิ กรรมทางกายมากขน้ึ โดยการใช้ 21.00 – 24.00 น. ของทุกวันให้กับพ่ี กิจกรรม จะท�ำการรวบรวมจ�ำนวนก้าวท่ี เคร่ืองมือคือ เกมแข่งขันเก็บจ�ำนวนก้าวเดิน เล้ยี งประจ�ำกลมุ่ (หากนักเรียนไม่สง่ ถอื ว่า เดนิ ของนักเรยี นทั้งหมด เพ่ือหาผู้ชนะที่มี ซึ่งก�ำหนดกติกาให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องเดินให้ นักเรียนสละสิทธิ์การสะสมจ�ำนวนก้าว จ�ำนวนก้าวมากท่ีสุดและประกาศรายชื่อ ไดต้ ามเปา้ หมายที่ 10,000 กา้ วในแต่ละวันและ ในวันนั้น) จากน้ันพ่ีเลี้ยงของแต่ละกลุ่ม ผู้ชนะท้ังในระดับโรงเรียนและต่างโรงเรียน บนั ทึกเพือ่ หาผ้ทู ี่มจี �ำนวนก้าวมากท่สี ุด โดยก่อน จะบันทึกข้อมูลลงเวบ็ ไซต์ (http://www. เริ่มกิจกรรมจะท�ำการทดสอบสมรรถภาพทาง feelfitd.com/ ) และกลุ่มไลน์ (line) กายเพ่ือสุขภาพและบันทึกผล เพ่ือเปรียบเทียบ ทุกวัน เพื่อแสดงผลและแบ่งปันข้อมูล ก่อนและหลังการเข้าร่วมกิจกรรมว่านักเรียนจะ ทั้งภายในโรงเรียน และระหว่างโรงเรียน มีสมรรถภาพทางกายเปลี่ยนแปลงอย่างไร ทง้ั นี้ ได้แบง่ นกั เรียนออกเปน็ 3 กลุ่ม ซ่งึ โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 7 แต่ละกลมุ่ จะมีเครื่องมอื นับกา้ วท่ีแตกตา่ งกัน คอื 6 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
กนยิ จิามกรรมทางกาย นอกจากกิจกรรมท้ัง 3 ระดับแล้ว ยังมี ประชาชนแต่ละวัย มีข้อแนะน�ำการ กจิ กรรมที่ใช้พลงั งานตำ่� ท่เี รียกว่า “พฤตกิ รรม มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ท่ีแตกต่างกัน (Physical Activities) เนอื ยน่งิ (Sedentary Behavior)” เช่น การ ได้แก่ เด็กปฐมวัย (0-5 ปี) ควรมีกิจกรรม นง่ั เลน่ โทรศัพทม์ อื ถอื การใช้คอมพิวเตอร์ การ ทางกายที่หลากหลาย อย่างน้อย 180 นาทีต่อ กิจกรรมทางกาย (Physical Activities) นั่งคุยกับเพื่อน การนั่งหรือนอนดูโทรทัศน์ ท่ี วัน เด็กและวัยรุ่น (6-17 ปี) ควรมีกิจกรรม ห ม า ย ถึ ง ก า ร ข ยั บ เ ค ล่ื อ น ไ ห ว ร ่ า ง ก า ย ทั้ ง ห ม ด ใ น ไม่รวมการนอนหลับ ซ่ึงประชาชนมีแนวโน้ม ทางกายระดบั ปานกลางถึงหนกั อย่างน้อย 60 ชีวิตประจ�ำวันในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิด ท่ีมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากข้ึน โดยควรลด นาทตี ่อวัน ผู้ใหญ่ (18-59 ปี) ควรมีกิจกรรม การใช้และเผาผลาญพลังงาน อันครอบคลุมการ พฤติกรรมเนือยนิ่ง ด้วยการลุกข้ึนเดินไป ทางกายระดบั ปานกลาง อย่างนอ้ ย 150 นาที เคลื่อนไหวร่างกายทั้งหมดในชีวิตประจ�ำวัน ไมว่ ่า มาหรือยืดเหยียดร่างกายทุกชั่วโมง และใน ต่อสัปดาห์ หรือกิจกรรมทางกายระดับหนัก จะเป็นการท�ำงาน การเดินทาง และกิจกรรม เดก็ ปฐมวัย วยั เด็ก และวยั ร่นุ ควรจำ� กดั การใช้ อยา่ งนอ้ ย 75 นาทีตอ่ สัปดาห์ และกจิ กรรม นันทนาการ โดยกิจกรรมทางกาย แบ่งได้เป็น คอมพิวเตอร์ นง่ั ดูทีวี หรือเลน่ โทรศัพทม์ ือถือ พัฒนาความแข็งแรงและความอ่อนตัวของกล้าม 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเบา ปานกลาง และหนัก โดย ในแต่ละวนั เนื้อ อยา่ งนอ้ ย 2 ครงั้ ตอ่ สัปดาห์ ผสู้ ูงวยั (60 ปี กิจกรรมทางกายระดับเบา อาทิ การยืน การเดิน ขน้ึ ไป) ควรมีกจิ กรรมทางกายเช่นเดยี วกับผใู้ หญ่ ระยะทางส้ันๆ การท�ำงานบ้าน กิจกรรมทางกาย แต่เพ่ิมกิจกรรมพัฒนาความสมดุลร่างกาย ระดับปานกลาง คือกิจกรรมที่ท�ำให้รู้สึกเหนื่อย และป้องกันการหกลม้ อย่างนอ้ ย3วันตอ่ สปั ดาห์ ปานกลาง โดยทีร่ ะหวา่ งทำ� กิจกรรมยงั สามารถพดู การมีกิจกรรมทางกาย ไม่ว่าจะมีระยะเวลา รูป เป็นประโยคได้ เช่น การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน แบบ หรอื ความหนกั เบาเท่าไรย่อมดกี ว่าการไม่มี เปน็ ตน้ และกจิ กรรมทางกายระดบั หนกั หมายถงึ การเคลื่อนไหวร่างกายที่ท�ำให้รู้สึกเหนื่อยมาก กิจกรรมทางกายหรือมีแต่พฤติกรรมเนือยน่ิง โ ด ย ที่ ร ะ ห ว ่ า ง ท� ำ กิ จ ก ร ร ม ไ ม ่ ส า ม า ร ถ พู ด เ ป ็ น ประโยคได้ อาทิ การวงิ่ การว่ายนำ�้ เร็ว การเล่นกีฬา *คัดลอกจากแผนยทุ ธศาสตร์การส่งเสริมกจิ กรรมทางกายแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 1 (พ.ศ.2560-2569) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ 8 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 9
คกคิจววาากมมรเฉรกมลง่ ทาดางกาย ท�ำไม ตอ้ งมี เพิม่ 1บทที่ กิจกรรม โรงเรยี น รกั เดนิ
เนอ่ื งจากถูกล้อเลยี น เดก็ อ้วนบางคนแยกตวั ออก มีร่างกายทีแ่ ขง็ แรง คลอ่ งตัว และอารมณแ์ จ่มใส จากกล่มุ เพือ่ น มีปัญหาในการเขา้ สังคม รวมไปถงึ แล้ว สมองของเด็กจะต่ืนตัวในทุกมิติ โดยจะท�ำ ผลกระทบดา้ นการเรียน หน้าที่สั่งการให้เด็กเคล่ือนไหวไปในลักษณะ และ อกี ทง้ั เดก็ ทอ่ี ว้ นตงั้ แตร่ ะดบั ปานกลางถงึ รนุ แรง ทิศทางต่างๆ จึงเท่ากับสมองได้รับการพัฒนาให้ มโี อกาสท่ีจะ “นอนกรน” มากกว่าเด็กปกติ เพราะ ท�ำหน้าท่คี ดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และเรียนรูใ้ นการ ทางเดนิ หายใจสว่ นบนตบี แคบสง่ ผลใหอ้ ากาศไหล ตอบสนองตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม เคารพกตกิ าการอยรู่ ว่ ม • เพมิ่ กจิ กรรมทางกาย เพม่ิ ความฉลาด ผ่านเข้าน้อยจนระดับของออกซิเจนในเลือดลดต�่ำ สัมพันธ์กับเด็กคนอื่นๆ ซ่ึงคือการฝึกทักษะทาง ลง และเมอื่ รา่ งกายไดอ้ อกซเิ จนนอ้ ยลงกจ็ ะกระตนุ้ สงั คมในขณะเลน่ งานวิจยั ยงั ยืนยันอีกด้วยว่า ถา้ จะเหน็ วา่ โรคอว้ นนอกจากเสย่ี งตอ่ การเกดิ กลมุ่ โรค ใหต้ ่ืนเพ่ือหายใจเข้าบ่อยๆ เด็กจงึ หลับไม่สนิทและ เด็กได้เล่น เขาจะมีความจ�ำดีข้ึน แก้ปัญหาโจทย์ NCDs แล้ว ยังมีผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของ มอี าการงว่ งซมึ ในเวลากลางวนั มากผดิ ปกติ ถงึ แม้ เลขไดถ้ กู ต้อง รวมถงึ ทำ� คะแนนสอบไดด้ ี ท่ีส�ำคัญ เดก็ โดยเฉพาะ 8 ชั่วโมงของการเรียนรู้ท่ีโรงเรียน จะมีเวลานอนมากก็ตาม หรือกรณีร้ายแรงสุดก็ ผลดีเหล่านี้เกิดข้ึนได้ทันทีหลังเด็กมีกิจกรรมทาง จึงเป็นการดีไม่น้อยหากจะมีการเพ่ิมกิจกรรมทาง คือเกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจจนอาจหยุด กายอยา่ งเพยี งพอ กายในโรงเรียน เน่ืองจากมีปัจจัยแวดล้อมที่เอ้ือ ประโยชนต์ อ่ การเรยี นรขู้ องนกั เรยี นงา่ ยๆ เพยี งสอด • ขาดกิจกรรมทางกาย เส่ียงอ้วน เสี่ยงโรค หายใจในขณะหลบั ได้ แทรกการเคล่ือนไหวในช่วงส้ันๆ เพียง 3-5 นาที สำ� หรบั ในประเทศไทยมงี านวจิ ยั “หลกั สตู รและ ก่อนเร่ิมเรียน หรือระหว่างชั่วโมง/คาบเรียน หรือ จากผลสำ� รวจการมกี จิ กรรมทางกายระดบั ประเทศ คู่มือการจัดกิจกรรมทางกายส�ำหรับนักเรียนใน ชว่ งพกั เปน็ ประจำ� ทกุ วนั จะชว่ ยใหน้ กั เรยี นมสี มาธิ ประเทศไทย” โดย รศ.ดร.วาสนา คณุ าอภิสทิ ธิ์ ซึง่ ในกระบวนการเรยี นและการจดจ�ำดีข้นึ โดยสถาบนั วจิ ัยประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลัย • ยงิ่ เล่น เด็กย่ิงเกง่ รอบดา้ น ไดร้ บั ทนุ สนบั สนนุ โดยสำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ (สสส.) ไดร้ ะบุวา่ การเลน่ มี การสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มกี จิ กรรมทางกายอยา่ งงา่ ยๆ มหดิ ล รว่ มกบั กระทรวงสาธารณสขุ และสำ� นกั งาน “การเล่น” ไม่ใช่เร่ืองเล่นๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ สว่ นชว่ ยกระตนุ้ การสง่ สญั ญาณประสาทหรอื คลนื่ แต่ทำ� เปน็ ประจำ� จนกลายเป็นนิสัย ซึ่ง “โรงเรียน” กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพราะการเลน่ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางกาย ไฟฟา้ ในสมองทเ่ี ชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งเซลลป์ ระสาทเพม่ิ เป็นหน่วยงานท่ีเก้ือหนุนในการปลูกฝังทัศนคติ พบว่า ในปี 2557 กลุ่มวัยเด็กมีกิจกรรมทางกาย ที่สัมพันธ์กับกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ ซึ่งมี ขน้ึ ซึ่งมผี ลเช่ือมโยงต่อการพัฒนาของสมอง โดย และพฤติกรรมที่ดีในการด�ำเนินชีวิตให้กับเด็ก ลดลง คอื จากรอ้ ยละ 67.6 ในปี 2555 เหลือร้อย งานวจิ ยั ตา่ งๆ มากมายในตา่ งประเทศทไี่ ดย้ นื ยนั วา่ เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเฉลียวฉลาด อีกทั้งมี “กจิ กรรมรกั เดนิ ” จงึ เปน็ เครอื่ งมอื หนงึ่ ทโ่ี รงเรยี น ละ 63.2 ในขณะที่กลุ่มวัยอื่นมีอัตราเพิ่มขึ้น โดย การออกแบบหลักสูตรที่ส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรม ขอ้ บง่ ชถี้ งึ ความสมั พนั ธข์ องโปรแกรมกจิ กรรมทาง สามารถนำ� ไปใชเ้ พอ่ื ชว่ ยลดปญั หาทเ่ี กดิ จากความ เฉพาะกลุ่มเด็กในเขตเมือง มีภาวะเฉ่ือยและเนือย ทางกายทุกวนั สามารถนำ� ไปส่ผู ลการเรยี นท่ีดีขนึ้ กายกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนด้านวิชาการ การ เนือยนิ่งของเดก็ ไทยได้เป็นอย่างดี นงิ่ มากขน้ึ (Sedentary) หรอื นสิ ยั ชอบนง่ั ๆ นอนๆ เพราะการออกมาเล่น (Active Play) นอกจากจะ เป็นเวลานานๆ จนกลายเป็นความเคยชิน โดย อ่าน การเขียนดีขึ้น รวมท้ังช่วยเพิ่มสมาธิในการ สาเหตุหลักพฤติกรรมเนือยนิ่งมาจากการใช้เวลา เรยี นและชว่ ยลดพฤติกรรมก้าวร้าว ส่วนใหญ่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ท�ำให้ คาดการณ์วา่ ในอีก 3 ปขี ้างหน้า จะมีเดก็ ไทยถงึ 1 ใน 5 ที่อยูใ่ นภาวะอ้วน อนั จะสง่ ผลให้งบประมาณ กลมุ่ โรคไมต่ ดิ ตอ่ เร้อื รัง หรือ กล่มุ โรค NCDs (NON- สาธารณสุขของประเทศจะต้องจ่ายให้กับโรคกลุ่ม Communicable diseases) ได้แก่ โรคนำ้� ตาลใน นก้ี วา่ รอ้ ยละ 2-8 หรอื ประมาณสองแสนลา้ นบาท เลือดสูง โรคไขมันในเลอื ดสงู ความดันโลหิตสงู โรค ต่อปี เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ และ โรคหลอดเลือด เดก็ ทเ่ี ปน็ โรคอว้ น นอกจากมคี วามเสยี่ งตอ่ การ สมอง เป็นโรคในกลุ่มโรคไมต่ ิดต่อ หรือ NCDs มากกว่า เด็กปกติแล้ว ยังส่งผลต่อเน่ืองไปถึงปัญหาทาง โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 13 จิตใจ ท�ำให้เด็กเกิดปมด้อยและมีความกดดัน 12 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
2บทท่ี 7 ขนั้ ตอนสู่ โรรักงเเดรนิยี น คำ� แนะนำ� ในการใช้ค่มู ือ คูม่ ือกจิ กรรม “โรงเรียนรกั เดิน” ประกอบดว้ ย 7 ข้ันตอน ที่มีเป้าหมายให้นักเรียนเพิ่มกิจกรรม ทางกาย โดยในแตล่ ะข้นั ตอนน้ัน จะประกอบด้วย เนื้อหา แนวทาง กระบวนการ กจิ กรรม ตลอดจน เทคนคิ ตา่ งๆ ทจี่ ะทำ� ใหโ้ ครงการรกั เดนิ ในโรงเรยี น สามารถด�ำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่องและส�ำเร็จ อยา่ งงา่ ยดาย อย่างไรก็ตาม รูปแบบของกิจกรรมต่างๆ ภายในคูม่ อื ฯ เปน็ เพียงแนวทางทอ่ี าจารย์เจ้าของ โครงการโรงเรียนรักเดิน จะต้องน�ำไปปรับใช้ให้ สอดคล้องกับการบริหารและสภาพแวดล้อมของ โรงเรยี น
1ขน้ั ตอนท่ี น�ำเสนอแผนงาน วิชาการดขี ้นึ และลดความเสย่ี งโรคอ้วน กบั ผบู้ ริหาร 16 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น ในเดก็ มาชว่ ยสนับสนุน กิจกรรม “โรงเรียนรักเดิน” จะสามารถ 5. ความเป็นไปได้จรงิ ด�ำเนินการได้ส�ำเร็จหรือไม่นั้น สิ่งส�ำคัญสิ่งแรก คือ ความเห็นชอบจากผู้บริหาร ดังนั้นภารกิจ 6. น�ำเสนอตัวอย่างโรงเรียนท่ไี ดด้ �ำเนิน ประโยชน์ของกจิ กรรมทางกาย แรกก็คือ “ท�ำอย่างไรท่ีจะท�ำให้ผู้บริหารเห็นถึง โครงการฯ และประสบความส�ำเรจ็ อยา่ ง ความส�ำคัญของโครงการฯ และพร้อมให้การ เปน็ รปู ธรรม • นกั เรียนจะมีสุขภาพจติ ท่ดี ี และสนกุ สนาน สนบั สนนุ ” 7. งบประมาณเป็นประเดน็ หน่งึ ทผี่ ูบ้ ริหาร จากกจิ กรรมทางกาย ใหค้ วามสำ� คญั ควรน�ำเสนอรูปแบบ • ช่วยพัฒนากลวธิ ีการเรียนรู้ อันดับแรกก็คือ การเตรียมความพร้อม การด�ำเนนิ งานทีเ่ รียบง่าย ใช้วสั ดุ • ลดความเครยี ด ความกังวลและซึมเศร้า ในการน�ำเสนอแผนงานต่อผู้บริหาร โดยเฉพาะ อุปกรณ์ท่ีมอี ยู่แลว้ มาปรับใช้เพอ่ื ให้การ • มีสมรรถภาพทางกายและสุขภาพ ข้อมูลอ้างอิงต่างๆ วิธีการด�ำเนินงาน ตลอดจน ใชง้ บประมาณไมส่ ูงมากนกั แตเ่ กดิ ในทศิ ทางทีด่ ี ประโยชน์ท่ีโรงเรียนและนักเรียนจะได้รับอย่าง ประโยชน์มาก • ลดความเสย่ี งจากภาวะโรคอว้ นของนกั เรยี น ชัดเจน รวมถึงงบประมาณซึ่งมีส่วนส�ำคัญ • สามารถกระชบั ความสมั พันธ์ระหวา่ งโรงเรียน ในการพจิ ารณา ตัวอย่างขอ้ มลู งานวจิ ยั เพือ่ ใชป้ ระกอบในการ และผู้ปกครองให้ใกลช้ ดิ กันมากยิ่งขน้ึ ประเดน็ สำ� คัญในการนำ� เสนอโครงการฯ ควร เขียนแผนน�ำเสนอโครงการฯ เช่น • ชว่ ยยกระดับผลสมั ฤทธิด์ า้ นการเรยี นของ ประกอบดว้ ย 1. การรา่ งโครงการฯ ตอ้ งมีความสมบรู ณ์ • แมว้ ่าจะลดเวลาเรยี นภาควิชาการ นักเรียน ประกอบด้วย 1) วัตถปุ ระสงค์ ลงประมาณ 240 นาทีตอ่ สัปดาห์ แต่ • ช่วยใหม้ ีความคดิ สรา้ งสรรค์ 2) เนอ้ื หา 3) ขัน้ ตอนการท�ำกิจกรรม ผลสัมฤทธ์ดิ า้ นการเรียนสามารถพัฒนา • ช่วยเพ่ิมความจ�ำ 4) อปุ กรณ์สิง่ อ�ำนวยความสะดวก ข้ึนได้ (NASPE.2001, Shepard et al. • ฯลฯ 5) งบประมาณ 6) การประเมินผล 2. ความเชอื่ มโยงกบั นโยบาย “ลดเวลา 1984 ) เรยี น เพ่มิ เวลารู้” ของรัฐบาลไดเ้ ป็น • ความเขม้ ข้นของโปรแกรมกิจกรรมทาง สรุปแผนดำ� เนินงาน ข้ันตอนท่ี 1 อย่างดี กายมผี ลทางบวกตอ่ ผลสมั ฤทธิท์ างการ • ท�ำแผนงานให้ชัดเจนโดยใชแ้ นวทางตามแบบ 3. เป็นการสรา้ งภาพลักษณท์ ดี่ ีใหแ้ ก ่ เรียนภาควิชาการ รวมทงั้ เพม่ิ สมาธิ เสนอผบู้ ริหาร (แนบแบบรา่ งการเขยี นเสนอ โรงเรียน พัฒนาคะแนนการทดสอบคณิตศาสตร์ แผนงาน) 4. น�ำข้อมลู งานวิจัยที่ชชี้ ดั ว่า กจิ กรรม การอา่ น และการเขียน และช่วยลด • ทำ� ใหผ้ บู้ รหิ ารมคี วามเขา้ ใจและเห็นถงึ ทางกาย มีสว่ นช่วยใหผ้ ลสัมฤทธด์ิ า้ น พฤติกรรมก้าวรา้ ว (Shephard, et al. ประโยชน์และความส�ำคัญของการเพ่ิม กจิ กรรมทางกายให้แกเ่ ดก็ วัยเรยี น 1997) • หลกั สูตรและคมู่ ือการจัดกจิ กรรมทาง • น�ำเสนอแนวทางการด�ำเนินงานไดช้ ัดเจน กายสำ� หรับนกั เรยี นในประเทศไทย โดย รศ.ดร.วาสนา คณุ าอภิสทิ ธิ์ โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 17
2ขน้ั ตอนที่ ทมี งานคอื พลงั 1. อาจารย์ ด้วยเป้าหมายท่ีต้องการให้กิจกรรม ขอ้ เสนอแนะ ทางกายอยู่ในวิถีชีวิตประจ�ำวันของนักเรียน ดัง ผลักดันความส�ำเร็จ นั้นจึงควรใช้รูปแบบโครงสร้างท่ีไม่เป็นทางการ o การเลอื กตัวแทนนักเรียนของแตล่ ะชนั้ หมายความว่า ไม่ได้จ�ำเพาะให้มีกิจกรรมในคาบ ทเ่ี ข้าร่วมกิจกรรม ควรใช้วิธกี าร การจดั ตงั้ และ วชิ าพลศกึ ษาเทา่ นน้ั แตต่ อ้ งการใหส้ อดแทรกการ “สมคั รดว้ ยตัวเอง” จะดกี วา่ การ บริหารทมี งาน เคลอ่ื นไหวในช่วงส้ันๆ เพยี ง 3-5 นาที ก่อนเริ่ม คดั เลือก เพราะนกั เรียนทีส่ มคั รเขา้ มา เรียน หรือระหว่างชั่วโมง/คาบเรียน หรือช่วงพัก จะมีความสนใจเข้ารว่ มอยแู่ ลว้ ทันทีท่ีผู้บริหารโรงเรียนเปิดไฟเขียวอนุมัติ หลังเลิกเรียน เป็นประจ�ำทุกวัน ฉะน้ัน อาจารย์ o กรณีทีโ่ รงเรียนมีสมาคมผู้ปกครอง ก็ กิจกรรมโรงเรียนรักเดิน นั่นหมายความว่าความ ในโรงเรยี นจงึ มสี ว่ นเกยี่ วขอ้ งในการสนบั สนนุ ใหม้ ี สามารถเชิญชวนผู้ปกครองเขา้ ร่วมเปน็ ส�ำเร็จก�ำลังรอเราอยู่ข้างหน้าส่ิงที่จะด�ำเนินการ กจิ กรรมทางกายในระหวา่ งรอยตอ่ ของแตล่ ะคาบ หนึ่งในคณะกรรมการก็จะชว่ ยใหก้ าร ต่อไป เร่มิ ด้วย การจดั ต้งั ทมี งาน วชิ า จงึ ควรให้ อาจารยไ์ ดเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ ม หรอื รบั ดำ� เนนิ กจิ กรรมมีพลงั มากขึ้น โดยสว่ นใหญผ่ จู้ ะมาทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ หวั หนา้ กจิ กรรม ทราบข้อมูลโดยเฉพาะผลสัมฤทธ์ิในด้านวิชาการ โรงเรยี นรกั เดนิ คอื อาจารยพ์ ลศกึ ษา แตโ่ ครงการ จากการเพ่ิมการมีกิจกรรมทางกาย เพื่อให้เกิด สรุปแผนดำ� เนนิ งาน จะประสบความสำ� เร็จหรอื ไม่นน้ั อยูท่ ี่ ทมี งาน ท่ี การบรู ณาการอนั จะเป็นประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย การจัดตงั้ และบริหารทมี งาน จะมาร่วมมอื รว่ มใจท�ำงานไปด้วยกัน โดยทมี งาน 2. นักเรียน อาจให้นักเรียนแต่ละห้องเสนอ ขัน้ ตอนที่ 2 ควรจะประกอบดว้ ย ตวั แทนหอ้ งละ 1 คน มาร่วมเป็นคณะทำ� งาน โดย ท�ำหน้าท่ีต่างๆ อาทิ บันทึกสถิติจ�ำนวนก้าวของ o มีคณะทำ� งานท่ชี ดั เจน นกั เรยี นในชนั้ ในแตล่ ะวนั ตงั้ คา่ เครอ่ื งนบั กา้ วใหม่ o แจกแจงประโยชน์และบทบาทหนา้ ที่ ทุกวัน (ส�ำหรับโรงเรียนท่ีใช้เครื่องนับก้าว) รวม แกน่ ักเรยี นเปน็ ท่ีเรยี บรอ้ ยแล้ว ถงึ การผลติ สอ่ื เพอื่ ใชใ้ นการสอ่ื สารประชาสมั พนั ธ์ o มกี ารวางเปา้ หมาย การวางแผนงาน กิจกรรมต่างๆ ทจี่ ะมีข้ึน ฯลฯ เปน็ ต้น ข้นั ตอนการทำ� งาน การนดั หมาย อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีให้นักเรียน “สมัครด้วย การประชมุ อยา่ งเปน็ ระบบ ตัวเอง” จ�ำเป็นต้องมีสิ่งกระตุ้นเพื่อสร้างความ น่าสนใจด้วยการประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ท่ี โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 19 นกั เรยี นท่ีเขา้ ร่วมกิจกรรมจะได้ เชน่ คะแนน การ เรยี นดีขึ้น สุขภาพแขง็ แรง ฯลฯ 18 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
3ขัน้ ตอนท่ี กวิจิธกีกรารรมอใหอน้ ก่าแสนบใบจ หรือแอปพลิเคชันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของ นักเรียน ซึ่งวิธีนี้นอกจากให้นักเรียนมีความรับผิด ให้ยดึ หลกั ตอ้ งสนุก เรา้ ใจ และท้าทาย ชอบกันเองแล้วยังช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนาน และสรา้ งบรรยากาศของการแขง่ ขันในแตล่ ะชนั้ การออกแบบ แอปพลเิ คชนั เหมาะสำ� หรบั กลมุ่ นกั เรยี นทส่ี ามารถ กิจกรรม ใชโ้ ทรศพั ท์ smart phone ไดต้ ลอดเวลา โดยแอปพลิ โรงเรียนรกั เดนิ เคชนั ดงั กล่าว สามารถดาวน์โหลดไดท้ ง้ั ระบบ iOS หรอื Android โดยใชค้ ำ� คน้ วา่ “นบั กา้ ว” ซงึ่ จะปรากฎ “กจิ กรรม” คอื เครอ่ื งมอื สำ� คญั กจิ กรรมทดี่ คี วร แอปให้เลือกมากมาย อาจารย์อาจลองดาวน์โหลด ประกอบดว้ ย แตล่ ะแอปมาใชง้ านก่อน เพ่อื คดั เลือกแอปทมี่ กี ารใช้ งา่ ยทสี่ ดุ มาใช้ o เป็นทส่ี นใจของนักเรียน สมุดบันทึกกิจกรรมทางกาย เครื่องมือนี้อาจ ขอ้ ควรจำ� o สนกุ สนานและหลากหลาย เป็นวิธีการท่ีถูกเลือกใช้มากท่ีสุด เพราะไม่ต้องใช้ o สามารถสร้างแรงจงู ใจ และท้าทายในการเข้าร่วมกจิ กรรมอยา่ งต่อเนอื่ ง งบประมาณและข้อจ�ำกัดในเร่ืองการเข้าถึงระบบ เพอ่ื ให้การลงบนั ทกึ จำ� นวนก้าว o รักษาระดบั ความสนใจและแรงกระต้นุ ไปจนถึงสิ้นสดุ โครงการ อินเตอรเ์ นต็ ภายในโรงเรยี น เพยี งใชส้ มดุ เพือ่ บนั ทึก ตรงตามความเปน็ จริง อาจารย์ o มีระยะเวลาทีเ่ หมาะสม เพราะหากใชเ้ วลานานมากเกินไป นกั เรยี นอาจจะร้สู กึ ว่าเป็น จ�ำนวนก้าวเท่าน้ัน แต่วิธีน้ีมีข้อจ�ำกัดคือ การนับ ตอ้ งมกี ารวางกตกิ า ใหต้ งั้ ค่าเคร่อื ง ภาระและเรม่ิ ไมส่ นุก แต่หากนอ้ ยเกนิ ไปก็จะไมเ่ ห็นการเปลีย่ นแปลง ทั้งนี้ระยะเวลาท่ี จ�ำนวนก้าวอาจคลาดเคลื่อนจากความจริงเพราะ นับกา้ วใหม่ในทุกเช้าโดยอาจ ดีคือ ประมาณ 6 สปั ดาห์ ใช้การกะประมาณระยะทาง อีกท้ังเป็นวิธีท่ีจะได้รับ มอบหมายให้ตวั แทนนักเรียน กิจกรรมที่จะออกแบบจ�ำเป็นต้องสอดคล้องกับเครื่องมือท่ีจะใช้ ซ่ึงหลักการพิจารณา ความสนใจนอ้ ยทส่ี ดุ จากนกั เรยี น (ขอ้ มลู จากผลการ ของแต่ละห้องเปน็ ผ้ดู �ำเนนิ การ เลือกใช้อุปกรณ์ข้ึนอยู่กับความพร้อมของโรงเรียน และความสะดวกของนักเรียนด้วย ถอดบทเรียนโครงการรักเดนิ ) ในท่นี ีม้ ตี ัวอย่างการใช้เคร่ืองมือ 3 ชนดิ ดว้ ยกนั คอื เครือ่ งนบั กา้ ว แอปพลเิ คชัน และ ดงั นนั้ อาจารยค์ วรอำ� นวยความสะดวกใหแ้ กน่ กั เรยี น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 21 สมดุ บนั ทกึ โดยการจัดให้มีเลนทางเดินบอกจ�ำนวนก้าวอย่าง เคร่ืองนับก้าว เป็นเครื่องขนาดเล็กใช้พกติดตัวนักเรียนไปทุกที่ และทุกกิจกรรมที่มี ปลอดภัยทั้งภายในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียนก็ได้ การเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง หรือ เดิน เครื่องจะท�ำงานโดยอัตโนมัติ จึงมีความ เปน็ ตน้ วา่ เสน้ ทางจากหอ้ งเรยี นถงึ สนามกฬี า มรี ะยะ สะดวกและแม่นย�ำ ส�ำหรับการบันทึกจ�ำนวนก้าวนั้น อาจารย์อาจให้ตัวแทนของชั้น ทางกก่ี า้ ว เสน้ ทางจากโรงอาหารถงึ หอ้ งเรยี นมรี ะยะ เป็นผู้รวบรวมและบันทึกจ�ำนวนก้าว โดยต้องก�ำหนดเวลาสิ้นสุดการนับในแต่ละวันให้ ทางก่ีก้าว เส้นทางจากห้องน�้ำถึงห้องเรียนมีกี่ก้าว ชดั เจน เช่น 18.00 น. 19.00 น. หรือ 20.00 น. แลว้ ใหบ้ นั ทกึ ลงในสมุดบนั ทกึ หรอื หรือจากป้ายรถประจ�ำทางหน้าโรงเรียนถึงหน้าเสา เพอื่ ลดภาระของตวั แทนชนั้ กส็ ามารถใหน้ กั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ บนั ทกึ จำ� นวนกา้ วดว้ ย ธงมีก่ีกา้ วฯลฯ ช่วยใหก้ ารบนั ทึกจ�ำนวนกา้ วตรงตาม ตวั เองลงในช่องทางออนไลนป์ ระเภท line กลมุ่ ของแต่ละหอ้ ง ซงึ่ อาจารยเ์ ปน็ ผูต้ ัง้ ขน้ึ มา ความเปน็ จริง และงา่ ยตอ่ ผู้ใชง้ าน 20 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
ตวั อย่างกิจกรรม ตัวอย่างโปรแกรม การสรา้ งแรงจูงใจ o จดั กจิ กรรมในชว่ งเวลาพักเท่ียง อาทิ กิจกรรมเขา้ จงั หวะ เดินรอบสนามฯลฯ • แขง่ ขนั ผู้ที่มีจ�ำนวนกา้ วมากทีส่ ดุ ในแต่ละสปั ดาหข์ องแต่ละหอ้ งเม่ือสน้ิ สดุ โครงการ o จัดสังสรรคแ์ ลกเปล่ียนข้อมูลในหมนู่ ักเรยี นท่ีเข้ารว่ ม สปั ดาหล์ ะ 1 ครง้ั โดยคัดเลอื กนกั เรียนทมี่ ีจ�ำนวนก้าวมากท่ีสดุ ของแตล่ ะหอ้ ง และประกาศชื่อพร้อมมอบรางวัล o จดั แขง่ ขนั เดนิ แรลล่ีทศั นศกึ ษาในสถานที่ชมุ ชน หรือโบราณสถาน หรอื สถานท่ ี • เชิญชวนร้านคา้ ในโรงเรียน ลดราคาอาหารหรอื เครอ่ื งด่มื ที่มปี ระโยชนแ์ ก่นกั เรยี น ซึ่งจะชว่ ยให้ ท่องเที่ยวของทอ้ งถนิ่ โครงการฯ เป็นทร่ี ูจ้ ักในหมู่นกั เรียนมากย่งิ ขนึ้ อยา่ งไรก็ตาม ควรมีขอ้ เสนอพิเศษสำ� หรบั o เชญิ บุคคลที่เปน็ ทีร่ ู้จกั ที่มสี ขุ ภาพดี หรอื นักกีฬา มาแลกเปล่ียนพดู คยุ ในโรงเรยี น รา้ น ค้าท่เี ข้ารว่ มดว้ ย o เปดิ line group เพื่อใหเ้ กิดการแลกเปลย่ี นและอพั เดทข้อมลู จ�ำนวนกา้ วของแต่ • มอบใบเกยี รตบิ ตั รให้นักเรยี นทีเ่ ข้าร่วมโครงการ ละคน ซ่ึงจะเป็นการสรา้ งแรงกระตุ้น และท้าทายได้ • หากโรงเรยี นมีการจดั ท�ำวารสาร หนังสอื พมิ พ์ หรือวทิ ยุ ก็ควรจัดมกี ารสมั ภาษณ์นกั เรยี น o จดั ท�ำเลนทางเดนิ นับจำ� นวนก้าว ในสถานทต่ี า่ งๆ ภายในโรงเรยี นและนอก ที่ไดจ้ �ำนวนกา้ วมากท่ีสดุ ในแต่ละสปั ดาหข์ องแต่ละหอ้ ง ลงในสือ่ ของโรงเรยี นเพอื่ ให้เป็นทร่ี ูจ้ ัก โรงเรยี น • สะสมก้าวแลกรางวลั o “65 นาที สมองปลอดโปรง่ ” กจิ กรรมทีแ่ บง่ ชว่ งเวลาใหน้ ักเรียนได้มีกจิ กรรม ทางกายเพอื่ ยดื เส้นยืดสาย ก่อนเรยี นในวชิ าถดั ไป อาทิ กิจกรรมผ่อนคลาย ขอ้ เสนอแนะ (Calm Down) กจิ กรรมพายฝุ น (Rainstorm)ฯลฯ เปน็ ตน้ (อา่ นตวั อยา่ งกจิ กรรม ทา้ ยเล่ม) ทั้งน้ใี นแต่ละช่วงแบง่ เปน็ กอ่ นการเข้าสู่โครงการ คณะท�ำงานควรจดั กิจกรรม ช่วงพักของนักเรยี น จำ� นวนเวลา (นาที) 1. การทดสอบสมรรถภาพทางกายเพือ่ 1. กอ่ นเข้าเรยี น 15 สุขภาพของนักเรยี นทเี่ ข้าร่วมโครงการ เพ่อื แสดงใหเ้ ห็นผลการเปลย่ี นแปลง 2. พกั น้อย 10 กอ่ นและหลงั เข้าร่วมกิจกรรม (มแี บบ ทดสอบสมรรถภาพทางกายเพือ่ สขุ ภาพ 3. พักเทย่ี ง 15 ท้ายเลม่ ) 2. การให้ความรเู้ กี่ยวกบั การใชเ้ คร่ืองมือ 4. พกั น้อย 10 สรปุ แผนดำ� เนินงาน แตล่ ะชนิดอย่างละเอยี ด ข้ันตอนที่ 3 5. หลงั เลิกเรยี น 15 รวม 65 o การเลือกใช้ชนิดของเครื่องมอื นับก้าว ใหเ้ ป็นไปตามความเหมาะสมของ โรงเรียนและนักเรยี น o เครอื่ งมอื พรอ้ มใช้งาน o การกำ� หนดรปู แบบของกจิ กรรม เวลา และสถานที่ ไว้ชดั เจนแล้ว o มีการกำ� หนดแนวทางการดำ� เนิน กิจกรรมไว้อยา่ งชดั เจนเพียงพอ 22 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 23
ตัวอย่างใบบนั ทกึ จำ� นวนกา้ ว 4W 1H หลักการส่ือสาร ชอ่ื อาจารย์ผู้ดแู ล ประชาสมั พนั ธต์ ้องยดึ ใหแ้ ม่น ระดับชนั้ เรยี น เดอื น / ปี ใคร? (Who) ท�ำอะไร? (What) จ�ำนวนก้าว ทีไ่ หน? (Where) เมื่อไร? (When) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 อย่างไร? (How) วนั ที่ ช่อื 4ข้ันตอนท่ี นกั เรียน สอ่ื สารประชาสมั พนั ธ์ และ การรณรงค์ การสือ่ สารและประชาสมั พันธ์ มีความสำ� คัญ เพราะจะเป็นเครื่องมอื ทีท่ รงอทิ ธพิ ล ในการสร้าง กระแสความนา่ สนใจทำ� ใหก้ จิ กรรมเป็นทก่ี ลา่ วถงึ (word of mouth) ทั้งน้ี วธิ ีการส่อื สาร ประชาสัมพนั ธ์ และการรณรงค์ จะต้องคำ� นึงถึงวัตถปุ ระสงคท์ ีเ่ ป็นไปเพอ่ื ... • ใหข้ อ้ มูลที่เป็นประโยชน์ของกจิ กรรม “โรงเรียนรักเดนิ ” • เพ่ือสือ่ สารถึงกจิ กรรมต่างๆ ทีจ่ ะมีข้นึ ตลอดจนวธิ ีการเข้าร่วมกิจกรรม สถานที่ วนั และเวลา เป็นตน้ • ช้แี จงข้อตกลง กฎกตกิ า มารยาท ให้เกดิ ความเข้าใจตรงกนั เพอ่ื ไม่ใหเ้ กิดความสับสน ทีอ่ าจจะมขี นึ้ • ส่งเสริมและกระตุ้นใหน้ กั เรยี นที่เขา้ ร่วมในโครงการฯ ได้ร่วมกจิ กรรมอย่างต่อเน่อื ง จนสนิ้ สดุ โครงการ • กระต้นุ ให้นกั เรยี นทยี่ ังไม่ตดั สนิ ใจเขา้ ร่วม เกดิ ความตน่ื ตัวและสนใจอยากจะเข้าร่วม กิจกรรมในที่สุด ความถใี่ นแผนการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ควรทำ� อยา่ งต่อเนือ่ ง เพื่อให้ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมและคนทวั่ ไปรับทราบ ความเคลื่อนไหว โดยควรแบง่ ช่วงระยะเวลาในการสอ่ื สาร ประชาสัมพันธ์ ดังน้ี โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 25
กอ่ นเริม่ โครงการ แสล่ือะรชณอ่ รงงทคาง์ปปรระะชชาาสสัมัมพพันนั ธธ์์ เพ่ือแจง้ ใหท้ ราบถงึ การจัดกิจกรรม รูปแบบและช่องทางการสื่อสาร ควรออกแบบให้ ขอ้ เสนอแนะ - เปิดตัวโครงการ “เริม่ ต้นดี มชี ัยไปกวา่ ครึ่ง” เป็นประโยคท่ีน่าจะ เหมาะสมกบั พฤตกิ รรมการรบั รขู้ า่ วสารของนกั เรยี น เปรียบเทยี บใหเ้ หน็ ว่า การต้ังต้นท่ีดีจะมีผลใหง้ านประสบผลสำ� เร็จ ตัวอย่างประเภทของส่ือ สอ่ื ประชาสมั พนั ธ์ ประเภทส่ิงพิมพ์ เชน่ กนั การประชาสัมพนั ธ์เปดิ ตัวโครงการฯ ตอ้ งสร้างความประทับ • สือ่ สิ่งพมิ พ์ เหมาะสำ� หรบั กลุ่มเด็กประถมจนถึง ทมี งานสามารถปรกึ ษา หรือ ใจและสามารถเป็นประเด็นทอ่ี ย่ใู นกระแสพดู คยุ และถกเถียงใน มัธยม เชน่ แผน่ พบั โบรชวั ร์ฯลฯ การประกวด ขอความอนุเคาระหจ์ าก สสส. ได้ โรงเรียน ซงึ่ จะมผี ลใหย้ อดจ�ำนวนสมาชกิ ทีจ่ ะเขา้ ร่วมโครงการฯ ออกแบบบอรด์ ประชาสมั พนั ธ์กจิ กรรมโรงเรียน มากขน้ึ รักเดนิ ภายในโรงเรยี น สรุปแผนดำ� เนนิ งาน - ประโยชนท์ ่ไี ด้รับ น�ำเสนอประโยชน์ทผ่ี เู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม จะได้รบั • สอื่ ออนไลน์ เหมาะส�ำหรับเดก็ ระดับมัธยม เช่น ขั้นตอนท่ี 4 อยา่ งชดั เจน ซง่ึ จะชว่ ยกระตนุ้ ใหก้ จิ กรรมทจี่ ะมขี น้ึ ไดร้ บั ความรว่ มมอื เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม เป็นต้น จนบรรลเุ ปา้ หมาย เชน่ คะแนน ของรางวลั ใบเกยี รตบิ ตั รฯลฯ เปน็ ตน้ • เสียงตามสาย จดั รายการเสียงตามสายในชว่ ง • จดั เตรยี มเนอ้ื หาเพ่อื การผลิตส่อื พักเทยี่ ง เพือ่ ประชาสัมพันธก์ ิจกรรม และความ • จดั ทำ� สื่อประชาสัมพนั ธเ์ พ่ือเผยแพร่ ระหว่างด�ำเนนิ กิจกรรม เคลือ่ นไหว • กำ� หนดแผนระยะเวลาการสื่อสาร • การประกาศหน้าเสาธง สามารถส่ือสาร ประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่กอ่ นเริ่มโครงการ/ เพ่ือให้ทราบความต่อเนื่อง และกระตุ้นให้กิจกรรมยังอยู่ในความสนใจ ได้กับทกุ ระดบั ช้นั เรยี น ระหว่างด�ำเนินกจิ กรรม/และเมอื่ ส้ินสุด ของนักเรียนโดยให้ครอบคลุมข้อมูลดงั นี้ • จดั กจิ กรรมรณรงค์ ชักชวนสมาชิกไป กจิ กรรม - ความคืบหนา้ ของการแขง่ ขัน ร่วมทำ� กจิ กรรมนอกโรงเรียนเปน็ - หากมีกจิ กรรมใหม่ๆ เกิดข้นึ ต้องประชาสัมพันธ์ถึง รปู แบบ วิธี ครง้ั คราว เช่น เดนิ ชมพิพิธภณั ฑ์ วัน เวลาและสถานทต่ี ดิ ต่อ เดินชมตลาด เดนิ แรลลี่ฯลฯ - ก�ำหนด กฎ กติกา อย่างชัดเจน เพ่อื สร้างความเขา้ ใจทต่ี รงกนั ซงึ่ เป็นช่องทางการส่ือสาร และลดความสบั สนทอี่ าจจะเกิดขน้ึ ได้ ท่เี ข้าถึงระดบั ชมุ ชน เปน็ การ เพม่ิ โอกาสให้กิจกรรมได้รบั ส้นิ สดุ โครงการฯ ความสนใจจนอาจขยายผล การมสี ว่ นรว่ มในวงกวา้ งมากขน้ึ - เผยแพรข่ อ้ มลู ผลส�ำเร็จของกิจกรรม รวมถงึ ผลการแขง่ ขนั - จัดใหม้ กี ารแบง่ ปันประสบการณ์ โดยเปิดเวทแี ลกเปลยี่ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 27 ประสบการณ์ระหวา่ งนกั เรียนท่ีรว่ มกจิ กรรม โดยให้นักเรียน ทมี่ จี �ำนวนกา้ วท่ีมากทีส่ ดุ ในแตล่ ะสปั ดาหม์ าพดู คยุ ถงึ ผลลพั ธท์ ไ่ี ด ้ แนวคดิ วธิ กี าร ให้กบั เพอ่ื นๆ ซง่ึ จะเป็นการสร้างแรงบนั ดาลใจ ฝกึ จนเปน็ นิสัย หรอื เชิญบุคคลทมี่ ีชื่อเสียงทีใ่ หค้ วามส�ำคญั กบั กจิ กรรมทางกายมาพดู คยุ 26 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
เดินตามท่ีวางไว้ โรงเรียนรกั เดนิ 5ขัน้ ตอนที่ โอกาสหลงทางเป็นไม่มี ตัวอย่างใบสมัครเข้าร่วมกจิ กรรมโครงการโรงเรยี นรักเดิน สรปุ แผนดำ� เนนิ งาน ลงมือปฏิบัตกิ าร ข้อมลู ทั่วไป ขน้ั ตอนท่ี 5 Step by Step 1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญงิ • ทำ� การทดสอบสมรรถภาพทาง ข้ันตอนท่ี 5 ลงมือปฏิบตั กิ าร Step by Step กายเพอื่ สุขภาพของนักเรยี นก่อน หลงั จากทขี่ น้ั ตอนตา่ งๆ สำ� เร็จลลุ ว่ งนบั ต้ังแต่ 2. อายุ ปี...................................................................... เริม่ กิจกรรม ( / ) ได้รับการอนมุ ตั ิจากผู้บริหาร • มีการวางระบบการจดั เกบ็ ข้อมลู ( / ) ทมี งาน 3. ระดับการศึกษา จำ� นวนกา้ วของนักเรียนแตล่ ะคน ( / ) รปู แบบกจิ กรรม และแตล่ ะชั้น ( / ) แผนสื่อสาร ประชาสมั พันธ์ ( ) ป. 5 ( ) ป. 6 • มขี ้นั ตอนการติดตามผลเป็นระยะ ๆ จากนี้คือ การน�ำแผนต่างๆ ท่ีร่างไว้เข้าสู่ 28 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น กระบวนการน�ำไปปฏิบัติ แต่ก่อนจะเริ่มด�ำเนิน ( ) ม. 1 ( ) ม. 2 ( ) ม. 3 การควรท�ำการทดสอบสมรรถภาพทางกาย เพื่อสุขภาพของนักเรียนก่อนเริ่มโครงการ เพ่ือ ( ) ม. 4 ( ) ม. 5 ( ) ม .6 น�ำไปเปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายหลังสิ้น สุดโครงการ (อ่านรายละเอียดท้ายเล่ม) ความ 4. โรคประจ�ำตัว (แพทยว์ ินจิ ฉัย) (ตอบได้มากกว่า 1 ขอ้ ) พรอ้ มของอปุ กรณน์ บั กา้ ว การรบั สมคั ร รวมถงึ การแจ้งผู้ปกครองให้รับทราบเพ่ือให้โครงการ ( ) ไม่มโี รคประจำ� ตวั โรงเรยี นรกั เดนิ เป็นที่น่าเชือ่ ถือ อยา่ งไรกต็ าม การดำ� เนินแผนกจิ กรรมจะประสบ ( ) เบาหวาน ความสำ� เรจ็ ในระหวา่ งดำ� เนนิ การมากนอ้ ยเพยี งใด มปี ัจจัยส�ำคัญ ดงั น้ี ( ) หวั ใจ 1. ทมี งานยงั มีการเก็บรวบรวมจ�ำนวนกา้ วเปน็ ประจำ� และตอ่ เนื่อง ( ) ภมู ิแพ้/หอบหืด 2. มกี ารประชาสมั พนั ธแ์ ละรณรงคเ์ พอ่ื สรา้ งความ ตืน่ ตวั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ( ) โรคเรือ้ รังอืน่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................... 3. นักเรยี นยงั ใหค้ วามสนใจเข้าร่วมกิจกรรม อยา่ งต่อเนอื่ ง 5. ทอ่ี ย่ปู ัจจบุ นั 4. มีการตดิ ตาม กระตุ้นและปรบั ปรงุ การ ด�ำเนินการ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. 6. เบอรโ์ ทรศพั ท์ ......................................................................................................................................... 7. E-mail .................................................................................................................................................. 8. line ID .................................................................................................................................................. โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 29
หนังสอื ขออนุญาตผูป้ กครองให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม หนงั สอื แสดงความยินยอมเข้ารว่ มโครงการโรงเรยี นรักเดิน โครงการโรงเรยี นรกั เดิน ส�ำหรับผู้ปกครอง และผ้อู ยู่ในปกครอง ท�ำท่ี..................................................................... ทำ� ท.่ี .......................................................... วนั ท.่ี ......................เดอื น....................................................พ.ศ.............................. วันท่ี ............. เดอื น..........................พ.ศ. ................. ข้าพเจ้า.............................................................................................................................................เกี่ยวข้องเป็น เรื่อง ขออนญุ าตให้นักเรยี นเขา้ ร่วมกิจกรรม โครงการ “โรงเรียนรกั เดิน” เรียน ผปู้ กครองของ................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... เนอื่ งดว้ ยโรงเรยี น................................................ไดจ้ ัดกจิ กรรม โครงการ “โรงเรยี นรักเดิน” ซงึ่ มีวัตถปุ ระสงค์ ช่ือ(เด็กหญิง/เด็กชาย/นางสาว/นาย)............................................................................................................................... เพอ่ื สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหน้ กั เรยี นมกี จิ กรรมทางกายมากยง่ิ ขนึ้ ทง้ั นดี้ ว้ ยสภาพแวดลอ้ มในปจั จบุ นั มสี ว่ นใหเ้ ดก็ ขอแสดงความยนิ ยอมให้ผู้ที่อยู่ในปกครองของขา้ พเจา้ เข้าร่วมกิจกรรม โครงการ “โรงเรยี นรกั เดิน” และเยาวชนมีพฤติกรรมเนือยนงิ่ ไมเ่ คล่ือนไหว ข้าพเจ้าและผทู้ อ่ี ยใู่ นปกครองของข้าพเจา้ ได้รบั ทราบรายละเอยี ดเก่ียวกับท่ีมาและวัตถปุ ระสงคใ์ นการ โดยไดม้ ขี ้อมลู ผลการส�ำรวจพฤตกิ รรมกจิ กรรมทางกาย ในปี 2556 พบวา่ เด็กไทยอายรุ ะหวา่ ง 6-14 ปี เข้ารว่ มกจิ กรรม โครงการ “โรงเรยี นรักเดิน” ในรายละเอยี ดขนั้ ตอนตา่ งๆ ที่จะต้องปฏิบัติหรอื ไดร้ บั การปฏิบตั ิ ใช้เวลาไปกับพฤติกรรมน่ังๆ นอนๆ หรือเคลอื่ นไหวน้อย ถงึ 13:33 ช่ัวโมงตอ่ วัน และใช้เวลาไปกับพฤตกิ รรม ความเสย่ี ง/อนั ตราย ตลอดจนประโยชน์ซง่ึ จะเกิดขึ้นจากโครงการฯ ซงึ่ ไดอ้ ่านรายละเอยี ดในเอกสารและได้รบั นงั่ ดโู ทรทัศน์ เล่นคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์พกพาประเภทตา่ งๆ พฤตกิ รรมดังกลา่ วกอ่ ให้เกิด คำ� อธิบายจากอาจารยผ์ ูค้ วบคมุ โครงการ จนเขา้ ใจเป็นอยา่ งดแี ล้ว ความเส่ยี งต่อภาวะน�ำ้ หนักเกินและโรคอ้วนในทีส่ ุด ดว้ ยเหตนุ ี้ โรงเรียนจึงมีแนวคิดจดั กิจกรรมโครงการ “โรงเรยี นรักเดิน” ซึ่งมรี ูปแบบให้นกั เรียนทเ่ี ข้ารว่ ม โครงการฯ มาแข่งขันเก็บจ�ำนวนก้าวเดิน โดยได้ตงั้ เป้าไวท้ ี่ 10,000 ก้าวในแต่ละวนั เพ่ือใหน้ กั เรยี นมีสุขภาพ ลงชื่อ............................................................. ร่างกายทแ่ี ข็งแรงท้งั ทางด้านรา่ งกายและจิตใจ รวมทง้ั ช่วยสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กมพี ัฒนาการทางสมองท่ีดีขึ้น (....................................................................) ในการนี้ โรงเรยี นจงึ ใครข่ ออนุญาตให้นกั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรมดงั กลา่ ว ซ่ึงมรี ะยะเวลา ............................วนั พ่อ/แม/่ ผู้ปกครอง/ผู้ดูแล คือระหว่าง..................................................................... จึงเรียนมาเพื่อทราบ ลงชื่อ............................................................. (....................................................................) นกั เรยี นผู้ร่วมกิจกรรม ขอแสดงความนับถือ ลงช่ือ............................................................. ……………..........................…………………… (....................................................................) ( ) อาจารยผ์ คู้ วบคุม ผู้อ�ำนวยการโรงเรียน..................................................................
ติดตามอย่างต่อเนือ่ ง โรงเรียนรักเดิน เพราะทุกเรอ่ื งส�ำคญั 6ขั้นตอนที่ การตดิ ตามผล ตวั อย่างแบบสำ� รวจความพงึ พอใจต่อการจดั กิจกรรมของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ และประเมนิ โครงการ สรุปแผนด�ำเนนิ งาน อยา่ งต่อเนือ่ ง รายละเอยี ด ดเี ย่ียม ดี ปาน ควร ตอ้ ง ขั้นตอนท่ี 6 เพอ่ื แก้ไขปรับปรุง (5) (4) กลาง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ 1 การบนั ทกึ จ�ำนวนก้าวในแตล่ ะวัน มีความสะดวกมากพอ (3) (2) (1) o วิธีการกระจายและเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อให้การด�ำเนินกิจกรรมเป็นไปตามแผนที่ 2 ช่วงเวลาในการบันทกึ ข้อมูลมีความเหมาะสม จากแบบสอบถาม มีประสิทธภิ าพ วางไว้ การติดตามและส�ำรวจผลจึงเป็นส่ิง 3 ระยะเวลาในการจัดและด�ำเนินกิจกรรมเพียงพอ เพียงพอ จำ� เปน็ ในการช่วยแกไ้ ขขอ้ ตดิ ขดั ทอี่ าจจะมีขึ้น 4 อปุ กรณ์นบั จ�ำนวนก้าวมคี วามสะดวกสบายในการใช้งาน o กรณที ี่พบสญั ญาณของปญั หา และผลักดันให้แผนปฏิบัติการเดินหน้าต่อไป 5 กิจกรรมรณรงค์นอกสถานที่เหมาะสม สามารถปรับปรงุ แกไ้ ขได้ทันทว่ งที อย่างประสบผลส�ำเร็จ ทั้งนี้ เคร่ืองมือในการ 6 สามารถนำ� ความร้ไู ปใช้ประโยชน์ไดจ้ รงิ ในชวี ิตประจ�ำวนั ใช้ตดิ ตามมี ดงั นี้ 7 สขุ ภาพร่างกายแข็งแรงขน้ึ 1. แบบสอบถาม ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลความ 8 การประชาสัมพนั ธ์ ชว่ ยเพิม่ ความน่าสนใจของกิจกรรม พึงพอใจ ความคิดเห็น โดยเฉพาะข้อเสนอแนะ 9 ความพร้อมของทมี งาน ต่างๆ สามารถนำ� มาใช้ในการปรับปรุงกิจกรรมท่ี 10 การอ�ำนวยความสะดวกเก่ยี วกับเลนทางเดิน สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนได้มาก ข้นึ ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม........................................................................................................................................................... 2. สัมภาษณ์ความคิดเห็น ท�ำได้ท้ังแบบเป็น ทางการและไม่เป็นทางการ .......................................................................................................................................................................................... อย่างไรก็ตาม สงิ่ สำ� คญั คือ อาจารย์ (ผดู้ �ำเนนิ .......................................................................................................................................................................................... โครงการฯ) ควรจัดให้มีการพบปะกับตัวแทน ของแต่ละช้ัน สัปดาห์ละครั้ง เพื่อประเมินความ กา้ วหนา้ และอปุ สรรคในการดำ� เนนิ กจิ กรรม และ รว่ มกันตดั สนิ ใจเพอ่ื ปรับปรงุ แผนงาน 32 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 33
7ขน้ั ตอนท่ี เก็บข้อมูล สรปุ แผนดำ� เนินงาน ขัน้ ตอนท่ี 7 34 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น ประเมนิ ผลลพั ธ์จากการด�ำเนินงาน น�ำไปขยายผล o ชุดแบบประเมนิ ได้รับการออกแบบให ้ สามารถจัดเก็บข้อมลู ทีม่ เี น้ือหาสาระ การประเมนิ โครงการ สำ� คัญไดอ้ ย่างครบถ้วน ชัดเจน 1.8 แผนการประชาสัมพันธ์ มสี ่วนในการสรา้ ง และเทย่ี งตรงในแตล่ ะประเดน็ การประเมินผลการด�ำเนินโครงการฯ มีความ แรงจูงใจมากนอ้ ยเพยี งไร o วธิ กี ารประเมินครอบคลมุ ทุกกลุ่ม ส�ำคัญไม่ย่ิงหย่อนไปกว่าขั้นตอนอ่ืนๆ เพราะจะ 1.9 การรณรงคน์ อกโรงเรียน สามารถสรา้ ง เปา้ หมาย ใชห่ รอื ไม่? เป็นเครื่องชวี้ ดั ถงึ ความส�ำเร็จที่เปน็ รูปธรรม บรรยากาศการตน่ื ตวั ของชุมชนได้หรอื ไม่ วิธีการประเมินผลโครงการ ประกอบด้วยหลัก 1.10 การบรู ณาการเพ่ือใหม้ ีกิจกรรมทางกายระหว่าง ส�ำคญั 2 ส่วน คอื คาบได้ผลเป็นทีน่ ่าพอใจหรือไม่ 1. ประเมนิ กระบวนการทำ� งาน 2. ประเมินผลลพั ธจ์ ากการดำ� เนินโครงการ 2. การประเมินผลลัพธจ์ ากการดำ� เนนิ โครงการ 1. ประเมินกระบวนการท�ำงาน พิจารณาจากความเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนในโรงเรียน เป็นการประเมินว่าวิธีการด�ำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ และนกั เรียน โดยอาจใช้ตัวชีว้ ดั ผล ดังนี้ มากนอ้ ยเพียงใด โดยพจิ ารณาจากประเด็น ดงั นี้ 2.1 นักเรยี นมีความกระฉับกระเฉงมากขน้ึ หรือไม่ 1.1 แผนกิจกรรมที่วางไวไ้ ดน้ ำ� ไปสู่การปฏบิ ตั ิอยา่ ง 2.2 นกั เรียนมอี าการงว่ งซึมในเวลากลางวันหรือ ครบถ้วนหรือไม่ ในเวลาเรียนน้อยลงหรอื ไม่ อย่างไร 1.2 นกั เรียนให้ความสนใจเข้ารว่ มกิจกรรมมากน้อย 2.3 สมรรถภาพทางกายของนกั เรียนมีการ เพียงใด เปล่ยี นแปลงในทศิ ทางดีขน้ึ หลงั เสร็จสิน้ 1.3 นักเรียนไดร้ ่วมด�ำเนินกจิ กรรมมาอย่างตอ่ เนื่อง โครงการฯ ตามระยะเวลาทกี่ ำ� หนดไวห้ รอื ไม่ 2.4 มนี ักเรียนที่ไม่ไดร้ ่วมในครั้งแรก แสดงความ 1.4 กิจกรรมใดได้รับความนยิ มมากที่สดุ ประสงคท์ ่จี ะเขา้ ร่วมกจิ กรรมในโครงการตอ่ ไป 1.5 อาจารย์ท่านอื่นๆ ในโรงเรยี น และผู้ปกครองของ มากน้อยเพยี งใด นักเรยี นใหก้ ารสนบั สนนุ มากนอ้ ยเพยี งไร 2.5 ความสนใจในการท�ำกิจกรรมทางกายภายใน 1.6 นักเรยี นมคี วามพึงพอใจในรปู แบบการจดั กจิ กรรม โรงเรียนเพิม่ ข้ึนหรอื ไม่ หรือไม่ 1.7 นักเรียนสนใจทีจ่ ะเขา้ รว่ มกจิ กรรมต่อไป ภายหลงั ท้ังนี้ ผลการประเมินทั้ง 2 ส่วน ควรรวบรวมและ สน้ิ สุดโครงการแรกไปแล้ว จัดท�ำเป็นสรุปรายงานประเมินโครงการเสนอต่อผู้ บริหาร เพ่ือให้ผู้บริหารใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 35
โรงเรียนรกั เดิน แบบการประเมินผล ช่ือ-สกลุ (อาจารย์ผดู้ ำ� เนินโครงการ)................................................................................................................................ วนั /เดอื น/ปี(ทป่ี ระเมนิ )......................................................ภาคเรยี น/ปกี ารศกึ ษา........................................................... สง่ิ ท่ีประเมิน 5 การปฏิบัตจิ ริง 1 สิ่งทปี่ ระเมนิ 5 การปฏิบตั ิจรงิ 1 มากทสี่ ุด 432 นอ้ ยที่สุด ด้านผลลัพธ์จากการด�ำเนนิ งาน มากท่สี ดุ 432 น้อยทส่ี ดุ 1. นักเรียนมีการเปลย่ี นแปลงดา้ นสมรรถภาพรา่ งกายใน มาก ปานกลาง น้อย มาก ปานกลาง น้อย ทิศทางทีด่ ีขึน้ ด้านกระบวนการท�ำงาน 1. การเตรียมความพรอ้ มดา้ นข้อมูลกอ่ นนำ� เสนอผ้บู รหิ าร 2. ความเนอื ยนง่ิ ลดลงแต่มคี วามกระฉับกระเฉงเพ่มิ ขนึ้ 2. มกี ารแจ้งวตั ถปุ ระสงคข์ องการเรียนรู้ของแต่ละหน่วยอยา่ ง 3. อาการงว่ งซึมในระหว่างวันลดลง ชดั เจน 4. มจี �ำนวนนักเรียนที่ไมเ่ ข้ารว่ ม แต่แสดงความประสงคจ์ ะเข้า 3. แผนกจิ กรรมที่วางไวน้ �ำไปสกู่ ารปฏิบตั อิ ย่างครบถ้วน รว่ มหากมีโครงการตอ่ ไปในอนาคต 4. ความสนใจของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม 5. ความสนใจในกจิ กรรมทางกายของบุคคลากรภายใน 5. การไดร้ บั การสนับสนนุ จากอาจารย์ท่านอืน่ ๆ ในโรงเรยี น โรงเรยี น และผปู้ กครอง 6. ความพึงพอใจของนักเรียนตอ่ รูปแบบการจดั กจิ กรรม 6. ความสนใจในกิจกรรมทางกายในหมู่ผปู้ กครอง 7. นกั เรียนแสดงความประสงคท์ จ่ี ะเขา้ รว่ มกจิ กรรมตอ่ ไป แม้ สรปุ รวมดา้ นกระบวนการทำ� งาน หลงั สิ้นสุดโครงการ 8. แผนการประชาสมั พนั ธ์ ช่วยสรา้ งแรงจูงใจ 9. กิจกรรมรณรงค์นอกโรงเรยี น สามารถสร้างบรรยากาศการ ตื่นตัวของชมุ ชนได้ 10. ระดบั ความสำ� เร็จของกจิ กรรม • กจิ กรรมเข้าจงั หวะหนา้ เสาธง • กิจกรรมส�ำรวจเสน้ ทางทส่ี ะดวกที่สดุ ระหวา่ งบ้านไปโรงเรยี น • กิจกรรมเดินแรลลี่ • กจิ กรรมร่วมสร้างเลนเดินในโรงเรยี น • กจิ กรรมแขง่ ขนั คนท่มี จี ำ� นวนกา้ วมากทสี่ ดุ ของแต่ละสปั ดาห์ • กจิ กรรมเกบ็ ขยะแลกก้าว 36 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 37
ตวั อยา่ งแนบทา้ ย แบบเสนอโครงการ ประกอบดว้ ย แนวทางการเขยี นโครงการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (1) ตวั อยา่ งการเขยี นแผนการจดั ทำ� โครงการ เสนอผู้บริหาร (2) แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ สำ� หรบั นักเรียน ค�ำแนะน�ำ (3) ตวั อยา่ งกจิ กรรม เพมิ่ กิจกรรมทางกายในระหวา่ งคาบเรียน / พักเรยี น (4) ตวั อย่าง การออกแบบจดั กิจกรรม โครงการ “โรงเรยี นรักเดนิ ” กรณุ าให้รายละเอียด ในหัวขอ้ ทกี่ ำ� หนดให้ไว้มากท่ีสดุ เทา่ ทีจ่ ะทำ� ได้ ความกระจ่างชัดของเอกสาร ทอี่ า่ นแล้วเข้าใจถงึ จุดมุ่งหมาย วิธกี ารด�ำเนินการ ลกั ษณะการทำ� งานรว่ มกันกบั คนหลากหลาย (1) ตัวอยา่ งการเขียนแผนการจัดทำ� โครงการ เสนอผบู้ ริหาร การใชเ้ งินและทรัพยากรท่ีมใี นชมุ ชนมาท�ำให้กิจกรรมบรรลเุ ปา้ หมาย การตดิ ตามประเมินความสำ� เร็จ คนท่ีร่วมคิดรว่ มทำ� แตล่ ะ คนมบี ทบาทอย่างไรฯลฯ มผี ลตอ่ การพิจารณาอนมุ ตั โิ ครงการ แบบเสนอโครงการ สว่ นท่ี 1 ข้อมูลท่วั ไป 1. เหตุใดทา่ นจงึ คดิ ทำ� โครงการนี้ ชอื่ โครงการ (ภาษาไทย) ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… …………………....................................................................................................................................................………… ........................................................................................................................................................................................... ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… …………………....................................................................................................................................................………… ถา้ มชี ื่อโครงการ ภาษาอังกฤษ โปรดระบดุ ว้ ย ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… …………………....................................................................................................................................................………… ........................................................................................................................................................................................... ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… …………………....................................................................................................................................................………… ........................................................................................................................................................................................... ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… …………………....................................................................................................................................................………… ........................................................................................................................................................................................... ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… …………………....................................................................................................................................................………… ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงการ …………………....................................................................................................................................................………… ช่อื -นามสกุล ................................................................................................................................................................... 2. โครงการต้องการให้เกิดผลอะไร ผลนัน้ จะเกิดกับใคร ดว้ ยเงือ่ นไขเวลาอยา่ งไร ต�ำแหน่ง .......................................................................................................................................................................... ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… รายชื่อผู้ร่วมท�ำโครงการ (อยา่ งนอ้ ย 2 คน) …………………....................................................................................................................................................………… ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… 1. ช่ือ-นามสกลุ ................................................................................................................................................................ …………………....................................................................................................................................................………… ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… บทบาทหน้าท/่ี ความรับผิดชอบในโครงการน้ี …………………....................................................................................................................................................………… ……………………………………..…………………………………………………………………………..................…………… ........................................................................................................................................................................................... …………………....................................................................................................................................................………… ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… 2. ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................................................................................................... …………………....................................................................................................................................................………… ……………………………………..…………………………………………………………………………………………………… บทบาทหนา้ ท่ี/ความรบั ผิดชอบในโครงการน้ี …………………....................................................................................................................................................………… …………………....................................................................................................................................................………… ........................................................................................................................................................................................... ส่วนท่ี 2 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 39 งบประมาณโครงการ งบประมาณรวม..................................................................................................บาท โครงการนีจ้ ะเรม่ิ และจบลงเมือ่ ใด วนั เริ่มต้น.......................................................................................................................................................................... กำ� หนดเสร็จ..................................................................................................................................................................... 38 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
3. วธิ ีการดำ� เนินงาน กจิ กรรมอะไร กลมุ่ เป้าหมายคอื ใคร ดำ� เนินการที่ไหน (โดยระบุ หมบู่ า้ น ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวดั ) ระยะเวลา 5 งบประมาณ (ตก้ังแจิ ตก่เรมรอื่ มไรถึงเมือ่ ไร) วิธกี าร ควรแสดงรายละเอียดงบประมาณท่สี มเหตุสมผล โดยประหยัดและคมุ้ ค่า งบประมาณที่เสนอสอดคล้องกบั กจิ กรรม กล่มุ เป้าหมาย/ พื้นท่ี ระยะเวลา จ�ำนวน ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… 4. โครงการจะวดั ผลสำ� เรจ็ จากอะไร ด้วยวิธกี ารใด ใครเปน็ ผูว้ ดั ผลสำ� เรจ็ ของโครงการ ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… (จะทราบได้อย่างไรวา่ โครงการไดผ้ ลตามทีต่ ้งั ใจไว้) ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… 6 ทีมงานและองค์กรทร่ี ว่ มดำ� เนินงาน 40 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น ทีมงานหลกั มใี ครบา้ ง (ระบชุ อ่ื ท่ีอยู่ และบทบาทหน้าท่ใี นโครงการ ไมเ่ กิน 5 คน) ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… องคก์ รทร่ี ่วมด�ำเนนิ งาน (ระบชุ อ่ื หน่วยงาน ทีอ่ ยู่ และบทบาทหน้าท่ใี นโครงการ) ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… ……………………………………..…………………...........………………………………………………………………………… โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 41
แบบทดสอบ ผสมลกรราถรทภดาพสทอบางกาย และโปรแกรมวเิ คราะห์ เพื่อสขุ ภาพ สำ� หรบั นักเรียน
ดัชนีมวลกาย การทดสอบน่งั งอตวั (Body Mass Index : BMI) (Sit and Reach Test) วัตถุประสงค ์ เพ่อื ประเมินความเหมาะสมระหว่างนำ้� หนักตวั กับส่วนสงู ของรา่ งกาย วัตถปุ ระสงค ์ เพอ่ื วัดความออ่ นตัวของหลงั ส่วนลา่ งและต้นขาดา้ นหลัง อปุ กรณ์ เคร่ืองชั่งน้ำ� หนักและท่ีวดั ส่วนสูง อปุ กรณ์ กลอ่ งวดั ความออ่ นตัวท่สี ามารถอา่ นคา่ บวก (+) และคา่ ลบ (-) วธิ กี ารทดสอบ 1. วางกลอ่ งวัดความอ่อนตวั ไวบ้ นพืน้ ราบ วิธีทดสอบ 1. ให้นักเรยี นถอดรองเท้า 2. ใหน้ ักเรียนถอดรองเท้า นัง่ เหยียดเท้าตรง เข่าตึง โดยปลายเทา้ 2. ทำ� การชั่งนำ�้ หนกั โดยน้ำ� หนกั มหี นว่ ยเปน็ กิโลกรมั (กก.) จะต้องยนั กบั กลอ่ งวัดความอ่อนตวั 3. ท�ำการวดั ส่วนสูงมีหนว่ ยเปน็ เซนติเมตร 3. ใหน้ ักเรยี นเหยียดแขนไปข้างหน้า โดยวางมอื ขา้ งหนงึ่ อยบู่ นมืออีกขา้ งหนึ่ง (โปรแกรมจะแปลงหน่วยเปน็ เมตรยกกำ� ลงั สอง หรอื ตารางเมตร) โดยคอ่ ยๆ โน้มตัวไปขา้ งหน้าใหไ้ ดร้ ะยะทางมากทสี่ ุด จนถึงจุดทร่ี ู้สึกตึง 4. น�ำข้อมลู ทีว่ ัดได้ค�ำนวณหาดัชนมี วลกายจากสูตร จากจุด “0” และค้างในระยะดงั กล่าว 2 วินาที ถงึ ปลายมือ (หา้ มโยกตวั หรอื งอตัวแรงๆ) ดังภาพ • ท�ำการบันทึกวัดระยะทที่ �ำได้ ซงึ่ มีหนว่ ยเป็นเซนตเิ มตร ดัชนมี วลกาย = น้�ำหนกั (กิโลกรัม) / ความสูง (เมตร)2 44 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 45
การทดสอบลกุ -น่งั 1 นาที การทดสอบดันพน้ื 30 วนิ าที (1 Minute Sit-Ups Test) (30 Second Push-Up Test) วตั ถุประสงค ์ เพือ่ ทดสอบความแขง็ แรงและอดทนของกล้ามเนือ้ ทอ้ ง วตั ถุประสงค ์ เพือ่ ทดสอบความแขง็ แรงและอดทนของกล้ามเน้อื สว่ นบน อุปกรณ์ นาฬิกาจบั เวลา และเบาะรอง (หัวไหล่ หน้าอกและแขน) วธิ กี ารทดสอบ 1. ใหน้ ักเรียนนอนหงายกับพน้ื ชนั เขา่ ตัง้ ขนึ้ ส้นเท้าท้ังสองหา่ งเท่าแนวหัวไหล่ อปุ กรณ์ นาฬิกาจับเวลา 2. ให้นกั เรยี นนอนราบ แขนทั้งสองขา้ งจะต้องไขว้ประสานบรเิ วณหนา้ อกตลอด วิธีการทดสอบ 1. ใหน้ ักเรยี นนอนคว่�ำกบั เบาะหรอื พืน้ ราบ ใชม้ ือยันพ้นื ทัง้ สองข้างใหป้ ลายนิว้ ช้ี การทดสอบโดยมอื ซ้ายจบั ไหล่ขวา และมอื ขวาจับไหล่ซ้าย ไปขา้ งหนา้ (นกั เรยี นชายใหใ้ ชเ้ ทา้ ยนั พนื้ สว่ นนกั เรยี นหญงิ ใหใ้ ชห้ วั เขา่ ยนั พน้ื ) 3. จากน้ันให้นักเรยี นยกลำ� ตัว เพือ่ ลุกข้ึนนั่ง โดยข้อศอกทแ่ี นบกบั อกจะต้องแตะ 2. ให้นักเรยี นยบุ ข้อศอกลงแนบล�ำตัว ท�ำมมุ 90 องศา ให้แขนท่อนบนขนานกบั บริเวณต้นขา จากนนั้ กลับไปสูท่ า่ เริ่มต้น โดยใหส้ ่วนหลงั สัมผสั เบาะ พ้นื และยกแขนและลำ� ตัวขึ้นมาในท่าเตรยี ม 4. ปฏิบัติการทดสอบอยา่ งถกู ต้องและตอ่ เนือ่ งใหไ้ ด้จำ� นวนครงั้ มากทส่ี ุด 3. ให้ท�ำต่อเน่ืองอย่างถกู ตอ้ งและรวดเร็วมากท่สี ดุ ภายในเวลา 30 วินาที โดย ในเวลา 1 นาที โดยให้บันทกึ เป็นจำ� นวนครง้ั ให้บนั ทกึ เป็นจำ� นวนคร้ัง 46 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น วงิ่ ระยะไกล (Distance Run Test) วตั ถปุ ระสงค ์ เพ่อื วัดความอดทนระบบหวั ใจไหลเวียนและระบบหายใจ นกั เรยี นอายุ 7-12 ปี ใชร้ ะยะทาง 1200 เมตร นกั เรยี นอายุ 13-18 ปี ใชร้ ะยะทาง 1600 เมตร อุปกรณ์ นาฬกิ าจบั เวลา สนามทมี่ ลี ู่ว่ิง หรอื พื้นราบอื่นๆ วิธีการทดสอบ 1. ใหน้ กั เรียนทเ่ี ขา้ รบั การทดสอบเตรยี มความพร้อมท่เี ส้นเริม่ โดยทดสอบ พรอ้ มกันหลายคน 2. คณุ ครูจะตอ้ งใหส้ ญั ญาณ “เขา้ ท่”ี “ระวงั ” “ไป” (เรมิ่ จบั เวลา) 3. ใหน้ ักเรียนวิง่ /เดิน ตามระยะทางที่ก�ำหนด บนั ทึกเวลาเป็น นาที : วินาที โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 47
เกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ ส�ำหรับนกั เรยี น แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายเพือ่ สขุ ภาพ สำ� หรบั นกั เรยี น เกณฑม์ าตรฐาน ดชั นมี วลกาย (กก./ม2.) ชอ่ื -นามสกุล......................................................................... วัน/เดือน/ปเี กดิ ............./................/................ อายุ ต�ำ่ กวา่ ชาย สงู กว่า ต่�ำกว่า หญิง สงู กวา่ อาย.ุ ..........................ปี เพศ ชาย หญิง มาตรฐาน มาตรฐาน < 14.08 > 18.36 7 ปี < 14.58 14.58 - 19.02 > 19.02 < 14.79 14.08 - 18.36 > 19.15 < 14.8 14.79 - 19.15 > 20.46 สัดส่วนของรา่ งกาย 8 ปี < 14.63 14.63 - 20.51 > 20.51 < 15.47 14.8 - 20.46 > 21.79 < 15.41 15.47 - 21.79 > 22.75 9 ปี < 14.81 14.81 - 21.45 > 21.45 < 16.24 15.41 - 22.75 > 22.3 < 16.79 16.24 - 22.3 > 22.77 สว่ นสูง .......................................... เซนติเมตร 10 ปี < 15.66 15.66 - 22.8 > 22.8 < 17.2 16.79 - 22.77 > 24.46 .......................................... กิโลกรัม < 18.16 17.2 - 24.46 > 23.02 น้�ำหนัก 11 ปี < 15.26 15.26 - 22.28 > 22.28 < 18 18.16 - 23.02 > 22.66 < 18.61 18 - 22.66 > 22.83 ความอ่อนตัว 12 ปี < 15.68 15.68 - 22.74 > 22.74 < 18.28 18.61 - 22.83 > 24 การทดสอบนั่งงอตวั .......................................... เซนตเิ มตร 13 ปี < 16.86 16.86 - 24.08 > 24.08 18.28 - 24 ความแข็งแรงและความอดทนของกลา้ มเนอื้ 14 ปี < 17.24 17.24 - 23.98 > 23.98 การทดสอบลุก-น่งั 1 นาที .......................................... ครัง้ 15 ปี < 17.99 17.99 - 23.15 > 23.15 .......................................... ครงั้ การทดสอบดนั พนื้ 30 วินาที 16 ปี < 18.29 18.29 - 23.77 > 23.77 ความอดทนของระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจ 17 ปี < 18.47 18.47 - 23.77 > 23.77 การทดสอบว่งิ ระยะไกล .......................................... นาท:ี วนิ าที 18 ปี < 18.84 18.84 - 23.7 > 23.7 เกณฑ์มาตรฐาน การทดสอบนัง่ งอตัว (เซนตเิ มตร) อายุ ตำ�่ กว่า ชาย สูงกวา่ ตำ่� กว่า หญงิ สูงกวา่ มาตรฐาน มาตรฐาน <4 >7 7 ปี < 2 2 - 5 > 5 <6 4-7 >9 <7 6-9 > 10 8 ปี < 3 3 - 6 > 6 <8 7 - 10 > 12 <9 8 - 12 > 13 9 ปี < 5 5 - 8 > 8 < 10 9 - 13 > 14 < 10 10 - 14 > 14 10 ปี < 6 6 - 9 > 9 < 11 10 - 14 > 16 < 12 11 - 16 > 17 11 ปี < 7 7 - 10 > 10 < 13 12 - 17 > 18 < 14 13 - 18 > 19 12 ปี < 8 8 - 11 > 11 < 15 14 - 19 > 20 15 - 20 13 ปี < 9 9 - 12 > 12 14 ปี < 10 10 - 14 > 14 15 ปี < 11 11 - 16 > 16 16 ปี < 12 12 - 17 > 17 17 ปี < 13 13 - 18 > 18 18 ปี < 14 14 - 19 > 19 48 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 49
เกณฑม์ าตรฐาน การทดสอบดันพ้ืน 30 วินาที (ครงั้ ) เกณฑ์มาตรฐาน การทดสอบว่ิงระยะไกล (นาที:วินาที) อายุ ต่ำ�กว่า ชาย สูงกว่า ต่ำ�กวา่ หญงิ สงู กวา่ อายุ ต่ำ�กวา่ ชาย สงู กวา่ ตำ่ �กวา่ หญงิ สูงกว่า มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐาน < 13 > 19 > 14.42 7 ปี < 15 15 - 21 > 21 3 - 19 > 20 7 ปี < 9.44 9.44 - 12.14 > 12.14 < 11.22 11.22 - 14.42 > 14.27 14 - 20 > 21 11.53 - 14.27 > 13.53 8 ปี <16 16 - 22 > 22 < 14 15 - 21 > 22 8 ปี < 9.26 9.26 - 12.38 > 12.38 < 11.53 10.41 - 13.53 > 13.26 16 - 22 > 24 10.36 - 13.26 > 12.41 9 ปี <17 17 - 23 > 23 < 15 17 - 24 > 25 9 ปี < 9.03 9.03 - 11.4 > 11.4 < 10.41 9.38 - 12.41 > 11.3 18 - 25 > 25 9.16 - 11.3 > 14.51 10 ปี <18 18 - 25 > 25 < 16 18 - 25 > 26 10 ปี < 8.36 8.36 - 11.26 > 11.26 < 10.36 11.43 - 14.51 > 14.27 19 - 26 > 27 11.36 - 14.27 > 14.18 11 ปี <19 19 - 26 > 26 < 17 20 - 27 > 28 11 ปี < 8.15 8.15 - 10.41 > 10.41 < 9.38 11.26 - 14.18 > 13.43 21 - 28 > 30 10.52 - 13.43 > 13.21 12 ปี <20 20 - 27 > 27 < 18 23 - 30 > 32 12 ปี < 8.03 8.03 - 10.27 > 10.27 < 9.16 10.47 - 13.21 > 13.26 25 - 32 10.31 - 13.26 13 ปี <21 21 - 28 > 28 < 18 13 ปี < 10.18 10.18 - 13.41 > 13.41 < 11.43 14 ปี <22 22 - 29 > 29 < 19 14 ปี < 9.36 9.36 - 12.54 >12.54 < 11.36 15 ปี <23 23 - 31 > 31 < 20 15 ปี < 9.45 9.45 - 12.37 > 12.37 < 11.26 16 ปี <24 24 - 32 > 32 < 21 16 ปี < 9.18 9.18 - 11.51 > 11.51 < 10.52 17 ปี <26 26 - 34 > 34 < 23 17 ปี < 8.43 8.43 - 11.32 > 11.32 < 10.47 18 ปี <27 27 - 35 > 35 < 25 18 ปี < 8.26 8.26 - 10.51 > 10.51 < 10.31 เกณฑ์มาตรฐาน การทดสอบลุก-น่ัง 1 นาที (คร้ัง) อายุ ต่ำ�กว่า ชาย สูงกวา่ ตำ่ �กวา่ หญงิ สูงกวา่ มาตรฐาน มาตรฐาน < 17 > 25 7 ปี < 17 17 - 25 > 25 < 18 17 - 25 > 26 < 19 18 - 26 > 27 8 ปี < 19 19 - 27 > 27 < 20 19 - 27 > 28 < 21 20 - 28 > 30 9 ปี < 21 21 - 29 > 29 < 23 21 - 30 > 32 < 24 23 - 32 > 33 10 ปี < 22 22 - 31 > 31 < 25 24 - 33 > 34 < 26 25 - 34 > 35 11 ปี < 23 23 - 32 > 32 < 27 26 - 35 > 36 < 28 27 - 36 > 37 12 ปี < 24 24 - 33 > 33 < 29 28 - 37 > 38 29 - 38 13 ปี < 25 25 - 34 > 34 14 ปี < 26 26 - 35 > 35 15 ปี < 27 27 - 36 > 36 16 ปี < 29 29 - 38 > 38 17 ปี < 30 30 - 39 > 39 18 ปี < 31 31 - 40 > 40 50 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 51
ตัวอย่างกิจกรรม1 พายฝุ น (Rainstorm) สามารถน�ำมาใช้ในระหว่าง ใหน้ ักเรียนทำ� ตามครูสั่ง เริ่มด้วยใหถ้ มู อื สองขา้ ง เปล่ียนคาบเรียนภายในห้อง เบาๆ แลว้ ดีดน้ิว ตบขา ตบขาและกระทืบเท้า เหมือน ฝนตกเบาๆ แล้วหนกั ข้นึ ๆ ทำ� ติดตอ่ กัน 20 วนิ าที รกั ษาความสะอาด (Keep it Clean) สญั ชาตญาณสตั ว์ 1. ยกเกา้ อี้ไปไวด้ า้ นข้างๆ ห้อง แลว้ จนิ ตนาการว่า (Animal Instincts) มีเส้นตรงอย่กู ลางหอ้ ง 2. นำ� วัตถนุ ิม่ ๆ เช่น บอลฟองนำ้� กระดาษใชแ้ ลว้ เรยี กนักเรียนออกมาคนหน่งึ ใหข้ านช่อื สัตว์ แลว้ ขย�ำเปน็ ก้อนกลม ใหน้ ักเรยี นถือไวข้ วา้ ง ใหเ้ พอื่ นท�ำทา่ ทางการเคล่อื นไหวของสตั ว์ชนดิ น้นั 3. แบง่ นกั เรียนเป็นสองฝัง่ ใหน้ ักเรียนเริ่มต้นขวา้ ง ใหน้ กั เรียนเปลย่ี นกันเปน็ ผ้นู �ำไปรอบๆ หอ้ ง จนกวา่ ขา้ มเสน้ กลางหอ้ ง เป้าหมายคอื ขว้างออกไป นักเรยี นทุกคนได้ขานชือ่ สตั ว์ครบทกุ คน ยงั ดา้ นตรงข้าม 4. เมอ่ื ครูส่ังว่า “หมดเวลา” ฝ่ายทีส่ ะอาดทส่ี ุด สนั่ แขน-ขา (Shake It) เหยียดออกไป (Stretch It Out) (มขี ยะนอ้ ยกว่า) เป็นฝ่ายชนะ แตล่ ะครั้งใชเ้ วลา 2 - 3 นาที 1. นกั เรยี นนงั่ บนเกา้ อ้ี ยกแขนข้ึนเหนือศรี ษะ 1. นกั เรียนยืนเหยียดแขนออกไปดา้ นหนา้ แลว้ เริ่มตน้ ใหส้ ่ันแขนซา้ ย 10 ครัง้ แขนขวา 10 คร้ัง ทำ� ท่าจินตนาการว่าก�ำลงั เปิดประตูดว้ ยมือสอง ผ่อนคลาย (Calm Down) เทา้ ซ้าย 10 ครั้งและเท้าขวา 10 ครั้ง ขา้ งอยา่ งช้าๆ 2. ทำ� ซ้�ำ แต่นับถอยหลงั จาก 9-1 จะนบั เร่งเรว็ ขึน้ 2. ประสานมือ/จบั มือสองข้างไว้ แลว้ เหยยี ดแขน 1. น�ำนักเรยี นทำ� ท่ายดื เหยียดเพ่อื ช่วยให้ หรือผอ่ นชา้ ลงก็ได้ เพ่ือให้นักเรียนสนใจมากข้ึน ออกไปดา้ นหนา้ คอ่ ยๆ งอแขน ยืดคอขึ้น พยายามเอาจมูกแตะหนา้ อก กลา้ มเนื้อผ่อนคลายความตงึ เครยี ด เขียนช่อื นักเรยี น 2. ให้นกั เรียนทำ� ท่าละ 15-20 วนิ าที เชน่ (Write Your Name) เหยียดแขนขึน้ ฟ้า กม้ แตะปลายเท้า หมุนแขนยกเขา่ แตะอก 1. สมมตุ ิใหน้ ้วิ ชีเ้ ป็นปากกาหรือดนิ สอ ใหน้ ักเรยี น เขยี นชือ่ ตัวใหญ่ๆ ในอากาศ 2. ใช้อวัยวะสว่ นอืน่ แทนปากกาหรือดนิ สอบ้าง เชน่ ข้อศอก หัวเข่า หวั แม่เทา้ เอว สะโพก กน้ ศรี ษะ อยา่ ลืมว่าต้องเปล่ยี นข้างกนั บา้ ง 1 “หลักสตู รและคู่มือการจัดกิจกรรมทางกายสำ� หรบั นกั เรียนในประเทศไทย โดย รศ. ดร. วาสนา คณุ าอภิสิทธ์ิ” 52 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 53
ตวั อย่าง จกดัารกอิจอกกรแรมบบ โรงเรยี นรกั เดิน
“โรงเรียนรกั เดิน” “กจิ กรรมเดินชมตลาด”และ 3. พน้ื ที่ด�ำเนนิ การ 7. ตวั ชีว้ ัดความส�ำเร็จ “กจิ กรรมเดนิ ชมพิพิธภณั ฑ์เมอื งอทู่ อง” ของโครงการ 3.1 พิพธิ ภัณฑ์สถานแห่งชาติอูท่ อง โครงการ : โครงการรณรงคส์ ง่ เสรมิ และขยายผล จังหวัดสุพรรณบรุ ี 7.1 ตวั ชว้ี ัดเชิงปริมาณ ศูนย์เรียนรู้องคก์ รต้นแบบไร้พุงต้นแบบ 3.2 ตลาดสด เขตเทศบาลเมอื งอู่ทอง ผ้รู ับผิดชอบโครงการ : - มนี ักเรยี น จ�ำนวน 60 คนเขา้ ร่วมกิจกรรม 4. กลมุ่ เป้าหมาย - เกิดชุดสถิตริ ะยะทางและเวลาการเดนิ 1. ความเปน็ มา ลูกปัด ภาชนะดินเผา เหล็กในส�ำหรับปั่นด้ามขวาน คนละชุด ส�ำริด ฉมวก หอก และเครื่องมือเครื่องใช้โลหะอ่ืนๆ นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3-5 - ได้ระยะทางจากการเดนิ ไมต่ �ำ่ กว่า เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสถานท่ีท่อง อีกมากมาย นอกจากน้ี เชอื่ วา่ เมืองอูท่ อง เป็นหนงึ่ ใน 10 กิโลเมตร/คน/วัน เทย่ี วในทอ้ งถิน่ เป็นสงิ่ สำ� คญั ของการไดร้ ้จู กั รากเหง้า เมืองศูนยก์ ลางวฒั นธรรมทวารวดี บริเวณเขตท่ีราบ 5. ระยะเวลาการดำ� เนนิ โครงการ - ชมุ ชน /เทศบาลอำ� เภออู่ทอง ได้เข้ามา ในบรรพบุรุษของตน ประกอบกบั เพื่อเปน็ การส่งเสรมิ ภาคกลางของประเทศไทย ซ่ึงมเี มอื งหลกั ได้แก่ เมอื ง มีส่วนรว่ มในการจัดกจิ กรรม กิจกรรมทางกายท่ีก�ำลังด�ำเนินการอยู่ในโครงการ นครชัยศรี (นครปฐม) เมืองประคูบัว (ราชบุรี)และ ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 รักเดิน จึงจัดให้มี 2 กิจกรรม คือ “กิจกรรมเดิน เมืองอทู่ อง 7.2 ตวั ชี้วดั เชงิ คุณภาพ ชมตลาด” “กิจกรรมเดินชมพิพิธภัณฑ์เมืองอู่ทอง” 6. ผลท่คี าดว่าจะได้รับ ซึ่งออกแบบให้เด็กนักเรียนได้มีประสบการณ์ตรง ปัจจบุ นั เรื่องราวเมอื งโบราณอู่ทองถูกเก็บ - นกั เรียนทเ่ี ข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ จากการเรียนรู้เร่ืองราวทางประวัติศาสตร์ และเดิน รกั ษาและเป็นแหล่งเรยี นรทู้ ่ีพพิ ิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ 6.1 เรยี นรู้เรอ่ื งราวทางประวตั ิศาสตรท์ อ้ งถน่ิ โรงเรยี นรักเดิน ได้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ สำ� รวจวถิ ชี วี ติ ของผคู้ นในตลาดสดใจกลางเขตเทศบาล อู่ทอง จ. สพุ รรณบุรี ซึง่ เปน็ สถานท่ีสามารถเข้าไป จากประสบการณ์ตรง ทอ้ งถนิ่ จากประสบการณต์ รง เมืองอู่ทองเสมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตซ่ึงกิจกรรมเหล่านี้ ศึกษาเรยี นรูเ้ รื่องราวในอดีตผา่ นขา้ วของเคร่ืองใช้เก่าๆ 6.2 เพมิ่ ความส�ำคัญของกจิ กรรมทางกายมากข้ึน - การท�ำกจิ กรรมรว่ มกนั โดยผา่ นกระบวน นอกจากส่งเสริมให้เด็กนักเรียนลดการเนือยน่ิง และต้ังค�ำถามเพ่ือหาคำ� ตอบเก่ียวกบั เมอื งโบราณทม่ี ี อาทิ เดินอยา่ งไรจงึ ปลอดภยั การเดินชว่ ย ความคดิ สร้างสรรค์ รบั ฟังและการสงั เกต หันมาสนใจกิจกรรมทางกายด้วยการเดินเพ่ิมขึ้น ชีวิตและความเคลอื่ นไหวของผู้คน พฒั นาสมองอยา่ งไร ประโยชนข์ องการเดิน ฯลฯ สง่ิ รอบข้าง และได้เรียนรู้โบราณสถานส�ำคัญคือเมืองโบราณ 6.3 รจู้ ักกระบวนการมสี ่วนรว่ มและการเปน็ ผนู้ ำ� - ปรบั ทัศนคติเหน็ ความส�ำคญั ของการทำ� อทู่ องแล้ว ยงั เป็นการประชาสมั พนั ธใ์ ห้ชมุ ชนไดเ้ หน็ 2. วตั ถุประสงค์โครงการ กิจกรรมทางกาย อาทิ การเดินมปี ระโยชน ์ ความส�ำคัญของกิจกรรมทางกายอกี ดว้ ย อย่างไร เดินช่วยพัฒนาสมองได้อยา่ งไร 2.1 รณรงคแ์ ละส่งเสรมิ ให้เดก็ ไทยหันมาสนใจ - สามารถช่วยลดมลพิษจากการใชร้ ถ ประหยดั เมืองอทู่ อง จงั หวัดสุพรรณบรุ ี ตัง้ อยรู่ มิ ลำ� น�ำ้ กจิ กรรมทางกายดว้ ยการเดิน และ ค่าใช้จา่ ยเพอ่ื กระตนุ้ ใหน้ ำ� ไปใชใ้ นชีวิตประจำ� วนั จระเขส้ ามพัน ผงั เมอื งเปน็ รูปวงรี จากการศึกษาทาง ลดพึง่ พารถยนต์ - ชมุ ชนรจู้ กั และมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางกาย โบราณคดที ่ผี า่ นมาพบว่า เปน็ เมืองโบราณทีม่ ีมนษุ ย์ 2.2 เยาวชนรู้จักการใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ มากขนึ้ จากการเดินชมตลาดและชุมชนโดยรอบ อยู่อาศัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 2.3 เยาวชนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งราวทาง 2,500 ปี มาแลว้ จากหลักฐานประเภทขวาน หินขัด ประวัติศาสตร์ของจงั หวัดสพุ รรณบรุ มี ากข้นึ 56 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 57
8. กำ� หนดการ กจิ กรรมที่ 1 เดนิ ชมตลาด ชุดคำ� ถาม ในกิจกรรม กระบวนการ แนวคิดหลัก สอื่ /อุปกรณ์ ผู้รบั ผิดชอบ การตง้ั คำ� ถามกอ่ นการ “เดนิ ชมตลาด” 7.00 -8.00 ลงทะเบียน แบ่งกลมุ่ ๆ ละ 6-8 คน ป้ายช่ือนกั เรียน 1. ใหน้ ักเรียนบันทึก ประเภทของสินคา้ ท่ีขายในตลาด 8.00-8.30 นนั ทนาการ 2. ให้นกั เรียน สมั ภาษณค์ นทำ� ขนมจนี ทำ� มอื 2.1. ให้นกั เรียนแนะนำ� ตนเองก่อนการสมั ภาษณ์ 8.30 – 8.45 แนะนำ� เป้าหมายในการเดิน การเดิน ให้เกบ็ ขอ้ มลู ด้วยการ วิทยสุ อื่ สาร 2.2. ให้นักเรยี นสอบถามประวัตกิ ารทำ� ขนมจีน 8.45-12.00 อย่างปลอดภยั จดบันทึก ถ่ายภาพ ปา้ ยชือ่ โรงเรียน 2.3. ใหน้ ักเรียนจดขัน้ ตอน วธิ ที ำ� ต่างๆ และบันทึกลงสมุด แนะนำ� การใช้เครอ่ื งนับกา้ ว หรือการใช้ พูดคุยกับชาวบา้ น ป้ายชื่อกลมุ่ 2.4. ใหน้ ักเรยี นสอบถาม เรือ่ งทคี่ นท�ำขนมจนี ภมู ใิ จทส่ี ดุ แอปพลเิ คชนั นบั กา้ ว 3. ส่ิงที่สังเกตไดจ้ ากการเดนิ เดนิ ส�ำรวจชมุ ชน แบง่ เป็น 3 กลุ่ม โจทย์ ให้สังเกต 4. ระหว่างท่เี ดนิ รสู้ กึ อยา่ งไร กลมุ่ 1 ไปตลาด • เส้นทางในตลาด กล่มุ 2 ไปศาลเจ้า • วิถีชีวติ ชุมชน อาหาร การตง้ั คำ� ถามสรุปการเรียนรู้ กลุ่ม 3 ไปบ้านทำ� ขนมจีนท�ำมือ บ้านเรือน 1. ตลาดอทู่ องในปัจจุบนั ขายสินคา้ ประเภทใดบา้ ง สลับเวยี นฐาน • สังเกตความสนกุ จาก 2. นักเรยี นคิดว่าชาวบา้ นที่น่ี มบี ุคลิกอย่างไร ฐานละ 30-45 นาที 3. วนั นนี้ ักเรียนอยากขอบคณุ และขอโทษใคร การเดนิ สำ� รวจสงิ่ รอบ 4. นักเรียนคดิ ว่าการเดินมีความส�ำคญั และมปี ระโยชน์อย่างไร ตวั ซงึ่ ไดม้ ากกวา่ 5. หลงั จากทีเ่ ดินเสรจ็ แล้วรสู้ ึกอยา่ งไร การนั่งรถ 6. จำ� นวนกา้ วทเ่ี ดนิ 12.00–13.00 อาหารกลางวัน โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 59 13.15-15.00 ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สรุปความรผู้ ่านการนำ� เสนอตา่ งๆ เชน่ เกม 20 ค�ำถาม รายงานข่าว สารคดี ละครหลงั ขา่ ว บทบาทสมมติ เพลงจาก Keyword กลอน เป็นต้น (20 นาที) 15.00–15.15 พกั บ่าย 15.15-15.45 น�ำเสนอกลุม่ ละ 10 นาที 15.45-16.00 - สรปุ เนื้อหา ปดิ กจิ กรรม พร้อมรว่ มถ่ายภาพหมู่ 58 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
กจิ กรรมที่ 2 เดินชมพพิ ธิ ภณั ฑเ์ มืองอทู่ อง ชดุ ค�ำถาม ในกจิ กรรม กระบวนการ แนวคิดหลกั ส่อื /อุปกรณ์ ผู้รบั ผิดชอบ การต้ังค�ำถามกอ่ นการ “เดนิ ชมพพิ ธิ ภณั ฑเ์ มืองอ่ทู อง” 7.00 -8.00 ลงทะเบียน แบ่งกลุม่ ๆ ละ 6-8 คน ป้ายชือ่ นักเรียน 1. ให้นักเรยี นเขียนระบปุ ระเภทเคร่อื งมือเครือ่ งใช้ 8.00-8.30 นันทนาการ เครื่องประดับมาอยา่ งนอ้ ย ๓ ชนดิ พรอ้ มอธิบาย ลักษณะของส่ิงของเหล่านั้น ลงในสมุดบนั ทึก 8.30–8.45 แนะน�ำเป้าหมายในการเดนิ การเดิน เรยี นรูป้ ระวัตศิ าสตร์ สมุดบนั ทึก วิทยากร 2. ใหน้ กั เรยี นสงั เกตลกั ษณะธรรมจกั รและพระพุทธรูป 8.45-12.00 อยา่ งปลอดภัย ประจ�ำจดุ องค์ใดก็ได้ในพิพิธภัณฑ์ และนำ� มาเขยี นบรรยาย แนะนำ� การใช้เครอ่ื งนบั ก้าว หรือการใช้ ลกั ษณะในสมดุ บันทกึ แอปพลเิ คชนั นับกา้ ว อู่ทองจากผ้เู ช่ยี วชาญ ขนาด A4 3. ใหน้ กั เรยี นวาดผังเมืองโบราณอ่ทู อง แบ่งกลมุ่ นักเรียนเปน็ 2 กลุ่ม ลงในสมุดบันทึก เห็นภาพจรงิ ของชุมชน ไม่มเี สน้ 4. สิง่ ท่ีสังเกตไดจ้ ากการเดนิ กลุ่มที่ 1 5. ระหว่างที่เดนิ รู้สกึ อยา่ งไร เดินศกึ ษาขอ้ มลู ความส�ำคัญของเมือง เดิม จากโมเดลจ�ำลอง ดนิ สอ 2 B ทวารวดี ภายในพิพธิ ภัณฑ์ (45 นาที) การต้ังคำ� ถามสรุปการเรยี นรู้ หรือโบราณวตั ถุ สไี ม้ 2 คน/ กลุ่มท่ี 2 1. นกั เรียนรู้สกึ ประทบั ใจเร่อื งใดบา้ งในวนั น้ี เดนิ ศกึ ษาวิวัฒนาการเมอื งอทู่ อง กล่อง 2. นักเรียนชอบโบราณวตั ถุช้ินใดมากทีส่ ดุ เพราะเหตใุ ด (Time Line) พฒั นาการเมอื งอ่ทู อง 3. นักเรยี นคิดวา่ เมืองโบราณอทู่ องมีความสำ� คญั อย่างไร (45 นาที) ยกตวั อยา่ งสนับสนนุ 4. เกย่ี วกบั การเดนิ เพื่อให้การเรียนรูม้ ีประสทิ ธิภาพสงู สดุ 12.00–13.00 อาหารกลางวนั 4.1. วนั น้ีนกั เรยี น เดนิ ด้วยท่าทีอย่างไร 4.2. การเดนิ ดว้ ยวิธใี ดทท่ี ำ� ให้เราปลอดภัยมากทสี่ ุด 13.15-15.00 กล่มุ สรุปความรู้ ผ่านการน�ำเสนอ 4.3. ระหว่างเดินสังเกตเห็นอะไรท่ีต่างไปจากการน่งั รถ ต่างๆ เช่น เกม 20 ค�ำถาม รายงานขา่ ว สารคดี ละครหลงั ข่าว บทบาทสมมติ โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น 61 เพลงจาก Keyword กลอน เปน็ ต้น (ระดมสมอง 20 นาที นำ� เสนอกล่มุ ละ 10 นาที) 15.00–15.15 พักบ่าย 15.15-15.45 น�ำเสนอกลุ่มละ 10 นาที 15.45-16.00 - สรปุ เนอ้ื หา ปดิ กิจกรรม พร้อมร่วมถา่ ยภาพหมู่ 60 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
โรงเรยี นรักเดนิ สรุปผลการจดั กิจกรรม “เดินชมตลาด” และ “เดินชมพพิ ิธภณั ฑ์เมอื งอทู่ อง” ขอ้ ดี ส่งิ ที่ควรปรบั ปรงุ สงิ่ ทีจ่ ะพฒั นาหากไดท้ ำ� ตอ่ ไป อ้างอิง เนือ้ หาการเรียนรู้ • กระชบั วตั ถปุ ระสงคใ์ นการเรยี นร ู้ • คณะท�ำงานจดั ท�ำยทุ ธศาสตรก์ ารสง่ เสริมกิจกรรมทางกายแหง่ ชาติ มิถุนายน 2560, • เนอ้ื หาน�ำไปสู่การปรับทัศนคตขิ อง • กิจกรรมคอ่ นข้างแน่นมากเกนิ ไป ไม่เกินสองส่งิ หลกั เพ่อื ความ แผนยทุ ธศาสตรก์ ารส่งเสรมิ กจิ กรรมทางกายแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 1 (พ.ศ. 2560-2569) นกั เรียนได้ (กลบั มาสนใจเร่อื งราว • บางบทเรียนทำ� ซ้�ำมากไป อาจ ชัดเจนในการเกดิ ผลต่อนักเรียน • ชมรมโภชนาการเด็กแหง่ ประเทศไทย ราชวทิ ยาลัยกมุ ารแพทย์เด็กแหง่ ประเทศไทย, ของทอ้ งถนิ่ ตนเอง) ทำ� ใหน้ กั เรยี นสับสน • รปู แบบกจิ กรรม เป็นการเรียนรู้ • การท�ำ Timeline ยากไปสำ� หรับ • จัดตารางกิจกรรมไมใ่ ห้แน่นมาก แนวทางเวชปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกันและรกั ษาโรคอว้ นในเด็ก พ.ศ. 2557 ผ่านการลงมอื ท�ำ สมั ผสั เดินเหน็ นักเรยี นบางกลุ่ม เพมิ่ นนั ทนาการเพ่ือผอ่ นคลาย • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุชาติ ทวีพรปฐมกุล, โปรแกรมวเิ คราะห์ผลการทดสอบสมรรถภาพ มากขน้ึ ของจริง จงึ สง่ ผลในเชิงลกึ • เลือกช่วงเวลาในการทำ� กจิ กรรม ทางกายเพ่อื สขุ ภาพส�ำหรบั ประชาชน, ค่มู ือการใช้งาน • กระบวนการเรียนรู้ มคี วามหลากหลาย กบั สภาพอากาศใหเ้ ออ้ื อ�ำนวยกบั • รศ.ดร.วาสนา คุณาอภิสทิ ธ์ิ, หลกั สตู รและคู่มือการจดั กจิ กรรมทางกาย รอ้ ยเรยี งใหน้ ักเรียนเข้าใจไดด้ ี การเรยี นรู้มากข้นึ • การนำ� เสนอในรปู แบบ Mind ส�ำหรับนกั เรยี นในประเทศไทย Mapping เปน็ กลุม่ นกั เรียนมี • สํานกั งานพฒั นาระบบข้อมลู ขา่ วสารสุขภาพ (2006)., สว่ นร่วมและท�ำได้ดีซ่ึงอาศัยทกั ษะ ของพเี่ ลย้ี งกลุม่ สถานการณ์สขุ ภาพประเทศไทย ปี 2006. • เห็นหน้าทีส่ �ำคัญของอวยั วะร่างกาย • Active Education Growing Evidence on Physical activity เช่น เทา้ มหี น้าท่ีเดนิ and Academic Performance 2015 Active living Research, ซง่ึ มคี วามสัมพนั ธ์กับสขุ ภาพ • สามารถบูรณาการวิชาประวตั ิศาสตร์ Research brief January 2015 และพลศึกษาไดอ้ ย่างคลอ้ งจอง • https://www.activelivingresearch.org/ • Manager Online, 20 เมษายน 2554, สายตรงสุขภาพกบั ศิรริ าช, สญั ญาณหยุดหายใจ ! • นักเรียนรจู้ กั เมอื งอู่ทองในแงม่ ุม ผลลพั ธท์ ีเ่ กิดกับนักเรียน • ขยายเส้นทางการเรียนรู้เพิม่ ขึ้น ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละภูมิใจ ภาวะนอนกรนในเด็ก,หน้าแรก, ในทอ้ งถิ่นมากขนึ้ • เครื่องนบั ก้าว หรือการใชแ้ อปพลิเคชัน http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000048195 • นักเรยี นมคี วามสขุ กบั การไดร้ ่วม ควรเพิม่ จำ� นวนให้มากขึน้ หรอื กิจกรรมครั้งน้ี • Manager Online, 7 กุมภาพนั ธ์ 2556 , ขา่ วสขุ ภาพ, พบเดก็ ไทยเสี่ยงอ้วน • นักเรียนไดเ้ ปิดมมุ มองในเรื่องการเดิน เพียงพอส�ำหรบั ทกุ คน ชีถ้ า้ คอมีรอยปน้ื ด�ำ สัญญาณเตอื นเบาหวาน, ไดก้ วา้ งมากขึน้ จนเกิดความสนุก หน้าแรก, http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews. และเพลดิ เพลนิ กับการเดนิ aspx?NewsID=9560000016037 การจัดการและการประสานงานกิจกรรม • การจดั เตรยี มสอื่ อุปกรณ์ใหน้ ักเรยี น • การจดั การเวลากบั เจา้ หน้าทท่ี อ้ งถนิ่ • ประสานวทิ ยากรทอ้ งถ่นิ ควรเปน็ มพี ร้อม ไมช่ ัดเจนท�ำให้กจิ กรรมเรมิ่ ชา้ ปราชญช์ ุมชนตวั จรงิ และให้ ก�ำหนด (คอยประธานเปิดงาน) ขอบเขตเน้อื หาของการเลา่ ให้ • อาหารพอเพยี ง และหลากหลาย นักเรยี นฟงั อยา่ งตรงจุด • รถรบั ส่งไม่เพียงพอ การคอยรถ สองเที่ยวทำ� ใหก้ ิจกรรมชา้ ลงไป • อาหารวา่ งควรมหี ลากหลายมากขน้ึ • การถ่ายทอดข้อมูลขณะออกภาคสนาม ดว้ ยการใชว้ ิทยสุ ่ือสารมีปญั หา เสยี งคล่นื แทรกหรอื บางครง้ั ไม่ไดย้ ิน 62 โ ค ร ง ก า ร โ ร ง เ รี ย น รั ก เ ดิ น
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: