า เ ด้ว เ จา ความหยาบของทรายจะขัดเส้ียนของ า ม ด้ว ะ ใบลานออกไป ทาำ ใหผ้ วิ หนา้ ลานเรยี บเนยี นมอื า ใ า ด้ว ท า อ้ ส่วนความร้อนจากทรายจะลบสีดำาส่วนที่ อยนู่ อกรอยจารออกไปจนสะอาด เหลอื เฉพาะ ตรงส่วนร่องจารท่ีนำ้ามันยางผสมเขม่าหรือ ถา่ นบดไหล มึ และฝงั ตวั ตดิ อยกู่ บั เสน้ อกั ษรนน้ั ปรากฏเปนเส้นสีดำาทำาให้อ่านได้ง่ายและ ชดั เจน แม้ว่าวิธีการดังกล่าวจะทำาให้สีดำาติด เส้นอักษรเปนเวลาหลายร้อยป แต่เมื่อเวลา ผา่ นไปนานเข้า ความเข้มบางสว่ นก็ค่อย ลบเลอื นไป หรอื บางครง้ั หมกึ ยงั คงตดิ แนน่ อยู่ แต่ไม่สามารถอ่านได้ เพราะมีคราบสกปรก เปรอะเปอนมาปดบังไว้ ดังนั้นการอนุรักษ์ คัมภีร์ใบลานก่อนจะนำาไปศึกษาหรือเก็บเปน สมบตั ทิ างวั นธรรมของชาตจิ งึ เปนสงิ่ สาำ คญั ทล่ี ะเลยไมไ่ ด้ โดยเฉพาะการทาำ ความสะอาด ใบลานและตรวจสอบความสมบูรณ์ของตัว อักษรอยา่ งพิถีพถิ นั กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
การ า าม ะอา แ ้ ้ ยแ ร ออ การทำาความสะอาดใบลานมีทั้งการ การ า าม ะอา ยก ้ ยแอ กอ อ ทาำ ความสะอาดแบบแหง้ และการทาำ ความสะอาด แบบเปยก หากใบลานฉบับนนั้ มเี พยี งฝุน่ ละออง การ ้ ย ามั พอ าม ม เปรอะเปอน จะใช้แปรงขนอ่อน เช่น แปรง ขนกระต่าย ปัดฝุ่นไปตามทิศทางของเส้นใย ของลานท้ังด้านหน้าและด้านหลังอย่างเบามือ แล้วเช็ดตามด้วยสำาลีแห้งเบา แต่หากเปน คราบสกปรกติดแน่น มีเชื้อราหรือไข่แมลง จะใช้การทำาความสะอาดแบบเปยกด้วยสำาลี ชุบน้ำาสะอาดหรือสารละลายเอทิลแอลกอ อล์ พอหมาด เช็ดทำาความสะอาด แล้วผึ่งลม ใหแ้ หง้ ในทร่ี ม่ มอี ากาศถา่ ยเทสะดวก และไมใ่ ห้ โดนแสงแดด การทาำ ความสะอาดทงั้ แบบแหง้ และเปยกนี้ ต้องพิจารณาถึงสภาพของใบลานฉบับน้ัน ดว้ ย หากใบลานยงั อยใู่ นสภาพดกี ไ็ มจ่ าำ เปนตอ้ ง นำาใบลานออกจากผูก แต่หากใบลานกรอบ เปราะ หรือชำารุดมาก ต้องถอดสายสนองออก แล้วทำาความสะอาดใบลานทีละแผ่นอย่าง ระมัดระวัง ใบลานที่เปราะหรือกรอบมาก ต้องใช้วิธีแตะแทนการเช็ดเพื่อปองกันใบลาน เสยี หาย นอกจากนสี้ ามารถเพม่ิ ความชมุ่ ชน้ื และ ความยืดหยุ่นได้โดยใช้นำ้ามันสกัดจากพืช ธรรมชาติทาลงบนลาน เพ่ือทดแทนน้ำามันใน เนอ้ื ลานทร่ี ะเหยไป ง่ึ นอกจากชว่ ยเพมิ่ ความชมุ่ ชนื้ แล้ว นำา้ มนั ทีม่ ีกลน่ิ เชน่ น้ำามันการบูร น้ำามนั ตะไคร้หอม น้ำามันยูคาลิปตัส ยังช่วยปองกัน แมลงและเชอื้ รา งึ่ เปนศตั รขู องใบลานไดอ้ กี ดว้ ย อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
เม่ือทำาความสะอาดเอาสง่ิ สกปรกออกไปจากใบลานแล้วพบว่าหมกึ ในเส้นอกั ษรหลดุ ออกไป หรือตัวอักษรมีสีจางลง จะใช้วิธีการเติมความเข้มให้ตัวอักษร เพ่ือคืนสภาพตัวเขียนให้สามารถ กลบั มาอา่ นไดอ้ ยา่ งชดั เจนอกี ครงั้ งึ่ อาจเลอื กเตมิ ความเขม้ เฉพาะจดุ หรอื ทาำ หมดทง้ั หนา้ ลานกไ็ ด้ ข้ึนอยู่กบั กระบวนการและกรรมวิธีที่ต่างกนั ออกไป าพ รยบ ยบ ้า บ า รากอ แ ะ ั า าม ะอา สำาหรับการปฏิบัติงาน ่อมอนุรักษ์คัมภีร์ กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ ใบลานของสาำ นกั หอสมดุ แหง่ ชาติ กรมศลิ ปากร จะใชก้ ารทานา้ำ หมกึ เพอื่ ทาำ ใหร้ อยจารเขม้ ขน้ึ ทงั้ หนา้ ลาน โดยใชล้ กู ประคบแตะนา้ำ หมกึ ทไี่ ดจ้ าก นำ้ากาวยางมะขวิดหรือกาวยางกระถินผสม ผงถ่าน (คาร์บอน) ทาบนผิวลานให้ท่ัว ใช้ ผ้าขาวบางชุบน้ำาหมาด เช็ดหมึกออกจาก ใบลาน แลว้ เชด็ าำ้ อกี ครงั้ ดว้ ยผา้ แหง้ จนสะอาด ตัวอักษรจะตดิ ชัดข้นึ
า ้ อัก รกอ า มก า ่า ้ อกั ร ั า มก ะก ับ ราก ั สำาหรับโครงการพระไตรปฎก วัดพระธรรมกาย ก่อนการบันทึกภาพคัมภีร์ใบลาน พระไตรปฎกเพอื่ รวบรวมเปนไ ล์ภาพดจิ ิทลั เจา้ หนา้ ท่โี ครงการจะทาำ ความสะอาดหน้าใบลาน แตล่ ะหนา้ ดว้ ยการทาำ ความสะอาดทง้ั แบบแหง้ และแบบเปยก แลว้ ลงนาำ้ หมกึ เพมิ่ ความคมชดั ให้ ตวั อกั ษร เพอ่ื ใหส้ ามารถบนั ทกึ ภาพอกั ขระทกุ ตวั ไดอ้ ยา่ งชดั เจน หลายครง้ั พบวา่ เมอื่ ลงนาำ้ หมกึ ไป จะปรากฏขอ้ ความทผ่ี ู้จารเดมิ ไมไ่ ดล้ งสีดำาไว้ สนั นษิ ฐานว่าผจู้ ารหรอื อาจารยผ์ ู้ตรวจสอบน่าจะ แก้ไขเพ่ิมเติมหลังจากลูบเขม่าหรือถ่านบดออกไปแล้ว แต่เม่ือนำากลับมาอ่านทวนในภายหลัง พบข้อผิดพลาด จงึ จารแก้ไขเพิ่มเตมิ ลงไป แลว้ ไม่ได้มกี ารลบู เขม่าหรอื ถ่านบด ้ำาอกี ขอ้ ความ ท่ีจารเพิ่มในภายหลังเม่ือหลายร้อยปก่อนจึงปรากฏเปนเพียงเส้นรอยจารเน้ือเดียวกับสีใบลาน ยากทใ่ี ครจะสงั เกตเหน็ กวา่ จะปรากฏใหเ้ หน็ เปนรอยเสน้ สดี าำ ในปจั จบุ นั กผ็ า่ นกาลเวลามาหลาย ร้อยป รอย าร าก กแ ม ก ้ บรร ตั อัก ร กตั รย ร้อย ้อ าม ้ ก ั มา าก ามตั อ บรรพ แต แตม้ ้ ย า าก รรม าต ม้ า ากการ ั กต แ ะ ม า อ ยา ตายาย า ย าย อ้ ามบา ตอ า าย ้ ย า ต า ั การ แตก า ก า ยั มอ า ร าะ าแ ะ ยกั อ รกั าพตั อกั ร แ ะ อ้ าม บรพ ย าร ้ ก้ บั ้ อกั ร อา ้ ั บั รยบ มอ การยอ้ ั ก บั ้ า ระ ตั า ตร ัม รอั ร า ้ รร ร้า มาอก รั การุณ โรหิตรัตนะ และคณะ ความรู้ด้านการ ่อมอนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน. กรุงเทพมหานคร : สำานักหอสมดุ แหง่ ชาติ กรมศลิ ปากร . กอ่ งแกว้ วรี ะประจกั ษ์ หนงั สอื โบราณของไทย. สารานกุ รมสาำ หรบั เยาวชน ( ): - . อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
ดวงอาทติ ย์ดวงเดียวผดุ ขึน้ มาขจัดความมดื ทาำ ใหอ้ ากาศสว่างได้ ันใด คนดี แม้เพียงคนเดยี ว กส็ ามารถทาำ ให้ทุกคนในโลกสะอาดและสว่างได้ ันน้นั พระเทพญาณมหามนุ ี (หลวงพอ่ ธมั มชโย) S W D C . D. เป็นผผู้ ลิตและจำาหนา่ ย C ตราภเู ขาแหง่ แรกของประเทศไทย ได้รบั มาตรฐาน มอก. ไมต่ ้องหว่ งนำ้าท่วม ไม่ต้องหว่ งว่าปลวกจะกิน หรอื ไมจ้ ะบวม ภายในบ้าน เย็นสบาย..ไม่รอ้ นอบอ้าว เพราะแผ่น VC ตราภูเขามีคณุ สมบตั ิเหนอื กวา่ ไมธ้ รรมชาติ ตดิ ตงั้ ง่าย สรา้ งบา้ นไดท้ งั้ หลงั ด้วยหลงั คา INTERL C พน้ื ผนงั ฝา ระแนง และเ อร์นิเจอรต์ ามสง่ั ท่ีอยู่ / M RIVERSIDE พระราม กทม. โทร. ๗๗ ๒ ๒ ๕ ๕ WWW.T I L STW D.C M
อ นุ อ แกป หาดวยการ าวนา มมา อ ร หง ไม่ว่าจะเกดิ อะไรขนึ้ กับชวี ติ จงแก้ไขปญั หาด้วยการภาวนา สมั มา อะระหัง ่งึ เปนวธิ ี ทีง่ า่ ยทส่ี ุด การภาวนาควบคกู่ บั การนง่ั สมาธนิ น้ั มคี ณุ เปนอยา่ งมากตอ่ การปฏบิ ตั ธิ รรมใหบ้ รรลผุ ลและ การนำาพาชีวิตให้พ้นจากภัยทั้งปวง ยกตัวอย่างเช่น พระจู ปันถก ึ่งได้รับการยกย่องจาก พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ว่าเปนเลิศทางมโนมยิทธิ ่ึงแตเ่ ดิมท่านจู ปันถกมีสติปัญญาและความจำา ไม่ค่อยดีนัก พระพ่ีชายท่านให้ท่องคาถาบทหน่ึง ท่านท่องอยู่ เดือน แต่ก็จำาไม่ได้ จึงถูก อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
พระพช่ี ายไลอ่ อกจากวดั ด้วยความน้อยใจทา่ นจึงคิดจะลาสกิ ขา คราวนัน้ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงตรวจดูเวไนยสัตว์ ทอดพระเนตรเห็นพระจู ปันถก จึงเสด็จมาหา เมื่อพระพุทธองค์ ทรงทราบสาเหตุ ก็ทรงมอบผ้าที่สะอาดให้พระจู ปันถกผืนหนึ่ง พร้อมกับให้ภาวนาคาถาว่า ระโชหะระนัง ภาวนาไปด้วยและลูบผา้ ไปด้วย ในทส่ี ุดทา่ นกไ็ ด้บรรลุธรรมเปนพระอรหันต์ อีกเรื่องราวหนึ่งเปนเรื่องของนกแขกเต้าตัวหน่ึง ึ่งถูกท้ิงไว้ในสำานักของนางภิกษุณี แต่มี สามเณรเี มตตาเล้ียงดูเอาไว้ทีก่ ฏุ ิ และตงั้ ช่อื ให้ว่า พทุ ธรักขิต วันหนึ่งพระมหาเถรีมาเจอพุทธรักขิตจึงสอนว่า เจ้ามาอยู่ในสำานักที่มีการเจริญภาวนา เจา้ ก็ควรทจ่ี ะบริกรรมภาวนาสกั บทหน่งึ เถดิ เอาบทง่าย ท่ีเหมาะกบั เจา้ คอื อฐั ิ อัฐิ (กระดูก) เท่าน้ีกพ็ อ พทุ ธรักขิตก็ตัง้ ใจภาวนาดว้ ยความเคารพ จะไปไหนมาไหนก็ภาวนาอยู่มิไดข้ าด วันหน่งึ มี เหยย่ี วตวั หนง่ึ บนิ ตรงเขา้ โฉบพทุ ธรกั ขติ ไป หมายจะกนิ เปนอาหาร เมอื่ พทุ ธรกั ขติ ถกู เหยย่ี วโฉบไป กไ็ มไ่ ดค้ ดิ เรอ่ื งอน่ื ไดแ้ ตภ่ าวนาวา่ อฐั ิ อฐั ิ แตเ่ พยี งอยา่ งเดยี วเท่านน้ั สามเณรที ีเ่ หน็ เหตุการณ์ รีบจับฉวยสง่ิ ของที่พอหาไดข้ วา้ งปาเหย่ียว เหย่ยี วตกใจกลัวจงึ ปล่อยพทุ ธรกั ขติ แล้วรีบบินหนีไป พุทธรักขิตจึงรอดชวี ิต ตอ่ มา เม่อื พุทธรกั ขติ ตายไป ด้วยใจท่ีเปนกุศลจดจอ่ ต่อการภาวนา ทาำ ใหไ้ ปเกิดเปนมนษุ ย์ ในตระกูลม่ังค่ังแห่งเมืองอนุราธบุรี ประเทศศรีลังกา คร้ันเจริญวัยขึ้น วันหน่ึงได้เห็นพระภิกษุ รูปหนงึ่ มศี ีลาจารวัตรงดงามก็รู้สึกศรัทธา และต่อมาไดอ้ อกบวช ดว้ ยความค้นุ เคยกับการภาวนา จึงเปนปจั จัยให้ทา่ นได้บรรลุเปนพระอรหนั ต์ พร้อมดว้ ยปฏสิ มั ภิทาญาณในท่ีสุด ดังนั้น การหม่ันเจริญภาวนาให้จิตผ่องใสจึงเปนวิถีแห่งการดำาเนินชีวิตอย่างผู้มีบุญโดยแท้ งึ่ ในยคุ ปัจจุบันกม็ ีผมู้ บี ุญจำานวนไมน่ ้อยท่ีหมัน่ เจริญภาวนาอยเู่ สมอ ุใ น นน ญ ายา น โดยปกติแล้วพอนั่งสมาธิหนูจะคิดแค่ว่า น่ังหลับตาไปเรื่อย หลบั บา้ ง งุ บ้าง พอตน่ื ข้ึนมากส็ วดมนต์ แต่เมอ่ื เดอื นเมษายนที่ผ่านมา หนูมีโอกาส ังวิธีการวางใจโดยใช้การภาวนา สัมมา อะระหัง จาก พระอาจารยป์ รเมษฐ์ ปรมสจโจ เมอื่ กอ่ นหนเู คยภาวนา พทุ โธ ควบคกู่ บั การ กาำ หนดลมหายใจ หลงั จากทพ่ี ระอาจารยม์ าบรรยาย ตอนคาำ่ หนกู ก็ ลบั ไป กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
ลองปฏิบัติ โดยนั่งสมาธิก่อนนอน และภาวนา สัมมา อะระหัง สมั มา อะระหงั ภาวนาไปเรอื่ ย จนถึง ครงั้ ก็รู้สกึ เหมือนว่า ข้างในเราจดจ่อกบั การภาวนาและน่ิงมากขึน้ หลงั จากน้ัน หนูก็ทาำ มาตลอด พอทาำ ไปเร่ือย รสู้ กึ วา่ การภาวนา สมั มา อะระหัง ทาำ ให้เรามสี มาธิในการน่ังมากข้ึน แม้ใจเราอาจจะจดจอ่ กับอย่างอื่น แต่พอเรา สัมมา อะระหัง ปุบ เราก็จะน่ิง พอภาวนา สมั มา อะระหงั ไปนาน ใจเราจะนงิ่ จนลืมคาำ ภาวนาไปเลย เม่ือสัปดาห์ท่ีแล้วหนูมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมกับเพื่อน ร่วมรุ่น ธรรมทายาทหญิง ร่นุ ท่ี ทส่ี นแกว้ วนาราม จ.เชยี งใหม่ ตอนแรก ที่นัง่ สมาธิ ก็มดื ตื้อ มดื มิด ไม่เห็นอะไร แต่ก็น่งั ไปเรื่อย จากท่มี ดื สักพกั หน่งึ กเ็ หน็ แสงสว่างเปนจดุ เหมือนดาวประกาย สกั พกั หนึง่ จากท่ี เปนประกายเหมือนดาวกระจายก็รวมเปนจุดเดียวตรงกลาง และจากจุด เดยี วนั้นกเ็ ปลง่ แสงสว่างมากขึ้น พอนงั่ ไปเรอ่ื ย กร็ ู้สึกวา่ ดวงแก้วขยายขน้ึ ยิ่งนิง่ มากเท่าไรก็จะมี ดวงแก้วอีกดวงหน่ึงผุดขนึ้ มาจากตรงกลางแสงนัน้ ผุดข้ึนมาเรื่อย ทีละ ดวง ยิ่งนง่ิ เท่าไรก็จะยิ่งมีความสุขมากขน้ึ และตรงจุดประกายเลก็ เห็นเปนเหมือนสามเหล่ียม ถ้าเราลุ้นมาก หรือใจเริ่มเขว คำาภาวนา สมั มา อะระหัง กเ็ ริ่มผุดขึ้นมา ท้ัง ท่ีหนไู ม่ได้ สมั มา อะระหงั เลย แค่นั่งน่ิง ทีน้ีภาพที่เห็นเป นสามเหลี่ยมน้ันก็ปรากฏชัด เปนรปู องค์พระแกว้ ใสทอ่ี ยู่ตรงกลางของดวงแกว้ และดวงแกว้ นั้นก็ค่อย ผุดข้ึนเร่ือย องคพ์ ระกผ็ ดุ ตามมา คือผุด อ้ นกนั มาเรอ่ื ย ให้เราเหน็ ใหเ้ รามีความสขุ หนูรู้สึกมีความสุขมากจนลืมเวลาว่าเราน่ังไปนานเท่าไรแล้ว แล้วก็ รูส้ กึ เหมอื นร่างกายเราวดื้ แล้วกข็ ยายแบบอธบิ ายไม่ถูก ขยายเหมอื นมี พลังอยูข่ ้างใน หลังจากนั้นประสบการณใ์ หม่ ก็เกิดข้ึน ย่ิงเรานัง่ สมาธิ มากขน้ึ ใจเรากน็ งิ่ มากขนึ้ เหมอื นกบั วา่ เราจะรจู้ งั หวะของการวางใจวา่ วาง อย่างไรจะไมเ่ ขว นงั่ ปุบเราจะเรม่ิ สบาย นกึ เรื่องสบายก่อน ประสบการณ์ ภายในใหม่ กเ็ ริม่ เขา้ มาเรอ่ื ย โดยทีไ่ มไ่ ดต้ ัง้ ตวั มาก่อน บอกไดเ้ ลยวา่ เปนประสบการณ์ทมี่ คี วามสุขมาก ค่ะ อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
ย ยย ย อ นย บ น ก าน ยา า ยา า ดฉิ นั มอี าการปวดเอวแลว้ รา้ วไปทขี่ า ปวดมากจนตอ้ งไปหาหมอ หมอ ให้อยู่โรงพยาบาลเพ่ือทำากายภาพบำาบัด และสั่งยาคลายกล้ามเนื้อให้ทาน เนือ่ งจากดฉิ ันเคยเรยี นพยาบาลมา ก็พอจะรู้วา่ ยาพวกนมี้ อี นั ตราย ถา้ ทาน ต่อเน่ืองจะมีผลกับตับและไต เลยไม่อยากทาน นอกจากน้ีหมอยังส่ัง ยาแก้ปวดใหท้ านครั้งละ เม็ด รุ่งข้ึนวันแรก หมอให้ไปทำากายภาพบำาบัด ด้วยการอบความร้อนท่ี สะโพกและนวดโดยใช้ไ า แต่เราก็ยังปวดอยู่ เวลาเดินต้องใช้ walker และเนอ่ื งจากดฉิ นั อยใู่ นหอ้ งพเิ ศษคนเดยี วกเ็ ลยกลวั พอเกดิ ความกลวั กเ็ ลย ภาวนา สัมมา อะระหัง และอธิษฐานกับหลวงปู่ หลวงพ่อ คณุ ยายวา่ ชว่ ยลกู ดว้ ยเถดิ มนั ปวด แลว้ กน็ ง่ั ภาวนา สมั มา อะระหงั แตเ่ วลา ปวดทำาใจนง่ิ ไมไ่ ด้ ยอมรบั ว่า ตัวเองภาวนา สมั มา อะระหงั ไมถ่ ึง ครัง้ พอหลุดไปก็จำาไม่ไดแ้ ล้วว่าภาวนาถึงเท่าไร แตก่ ็นงั่ สมั มา อะระหงั ไปเรอื่ ย อาราธนาบารมหี ลวงปู่ หลวงพอ่ คณุ ยายวา่ ชว่ ยลกู ดว้ ย มนั ปวด แล้วก็นัง่ ไปเร่ือย แรก ดิฉันก็ทาำ ไปอย่างน้ันแหละ ไมร่ ้วู า่ จะได้ผลหรอื เปลา่ แตก่ ็ เช่ือม่นั บารมีครบู าอาจารยจ์ งึ ทำาไปเรอื่ ย แตห่ ลงั พอง่วงกล็ งนอนหลับ อย่างสบาย ไม่ต้องทานยาอะไรเลย นอกจากยาหลังอาหารท่ีเขาจัดให้ เพราะว่าพยาบาลเขาเอามาใหห้ ลงั อาหารทนั ทีเลย รุ่งเช้าหมอมาดูรายงานของพยาบาล เห็นว่าดิฉันไม่ขอยาแก้ปวด หมอเลยถามว่า พี่ไมป่ วดเลยหรอื ทำาไมไมข่ อยาแก้ปวด ดฉิ ันบอกว่า ทาำ สมาธิ หมอกบ็ อกวา่ อา้ ว พปี่ วดเขา่ ปวดสะโพก นง่ั สมาธไิ ดอ้ ยา่ งไร ดิฉันเลยนั่งให้เขาดู หมอคิดอย่างไรไมร่ ู้ แตด่ ิฉันกท็ าำ ไปเรื่อย วา่ งเมอื่ ไร ก็ทาำ ระหว่างท่อี ยู่โรงพยาบาลภาวนาไดว้ ันละ กวา่ ถึง กว่า ครั้ง จนกระทั่งกลับบ้านก็ไม่ต้องทานยาแก้ปวดเลย อยากชวนทุกคน มาภาวนา สมั มา อะระหงั เพราะจะทำาให้เราสุขภาพแข็งแรง สรา้ งบารมี กนั ไปได้นาน อย่างที่หลวงพ่อบอก และไมว่ า่ จะเกิดอะไรข้นึ การภาวนา สัมมา อะระหงั ดที ี่สดุ กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
อ ย ่ใ ใ ุ ู่ “ู ู อ ย อบ ่ ใ อ บ น ่ อ อยู่ อ ”ใ ย ยใน น ย น อย่ พระเทพญาณมหามนุ ี ว.ิ (หลวงพ่อธัมมชโย) เมตตาแสดงพระธรรม- เทศนาเอาไว้ว่า คำาภาวนา สัมมา อะระหัง เป็นพุทธานุสติ สัมมา แปลว่า ชอบหรือถูกต้อง อะระหัง หมายถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสอาสวะ สัมมา อะระหัง จึงหมายถึงการส่งใจไปถึง พระพทุ ธเจา้ ผหู้ ่างไกลแล้วจากกิเลส ผู้ตรัสรู้แลว้ เองโดยชอบ การสง่ ใจไป ถึงองคพ์ ระแก้วใส และบริกรรมภาวนาว่า สัมมา อะระหัง อยเู่ สมอ จะ ทำาให้เราเข้าถึงพระธรรมกายภายใน มีพระรัตนตรัยเป็นท่ีพึ่งอย่างแท้จริง เมื่อใดท่ีเราปรารถนาความสุข พึงระลึกถึงพุทธคุณเมื่อน้ัน ระลึกถึงเพียง หน่ึงนาที ย่อมเป็นนาทีทองแห่งความสุข นาทีแห่งบุญกุศล ระลึกถึง หนึง่ ชว่ั โมง กม็ ีความสขุ ตลอดหน่ึงช่ัวโมง ถา้ หากระลกึ ถึงอยู่ตลอดเวลา ก็ จะมีความสุขตลอดเวลา เป็นสุขทุกทิวาราตรีกาล เพราะ ะน้ันให้ยึด พระรัตนตรัยเป็นท่ีพ่ึงท่ีระลึก ด้วยการฝกฝนใจให้หยุดนิ่ง ทำาตามหลักท่ี หลวงปวู ดั ปากนาำ้ ทา่ นสอนไว้ แลว้ เราจะไดเ้ ขา้ ถงึ พระรตั นตรยั กนั ทกุ คน ดังนั้น ในพรรษานี้พวกเราจะต้องยึดถือปฏิบัติตามคำาสอนของ หลวงพ่อ โดยหมั่นเจริญภาวนา สัมมา อะระหัง ให้ได้ตลอดเวลา อย่าให้ บญุ ตกหลน่ เลยแมส้ ักนาทีเดียว.. อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
การทาำ สมาธิ ไม่ไดย้ ากอะไรเลย เป็นเรอ่ื งงา่ ย สบาย แล้วกป็ ลอดภยั ไม่มพี ษิ ภยั จากการนัง่ สมาธิ พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
ก า กา ใกนา้ เวยแอรกรมนั แดนคนจรงิ ขอขอบคณุ ภาพจาก . . อยู่ในบญุ กนั ยายน ๒๕๕๗
มเี รื่องเล่าต่อ กนั มาวา่ สมยั ท่พี ระเดชพระคุณพระมงคลเทพมนุ ี (สด จนทสโร) หลวงปวู ดั ปากนาำ้ ภาษเี จรญิ ยงั มชี วี ติ อยนู่ นั้ ทา่ นเคยปรารภ ว่า ในอนาคตอยากนำาวิชชาธรรมกายไปเผยแผท่ ี่ประเทศเยอรมนี เพราะ ทา่ นเลง็ เหน็ ประโยชนอ์ นั ยง่ิ ใหญท่ จ่ี ะเกดิ แกพ่ ระพทุ ธศาสนา วชิ ชาธรรมกาย อยา่ งไรกต็ าม ความปรารถนาของทา่ นเพิ่งมาสำาเร็จในยุคหลงั นี้ เมื่อคณะ ศิษยานุศิษย์ของท่านไปสร้างวัดและศูนย์สาขาหลายแห่งท่ีสหพันธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ในเมืองใหญ่ ทาำ ใหม้ ีโอกาสพบปะผคู้ นจาก ทีมงานพี เร โวลชู ัน ( ) ก็มี ประเทศตา่ ง ทวั่ ยโุ รปไดง้ า่ ยขน้ึ เพราะปจั จบุ นั โอกาสเป็นส่วนหน่ึงในการทำาความปรารถนา ชาวยุโรปสามารถย้ายถิ่นฐานการทำางานได้ ของพระเดชพระคุณหลวงปูให้สำาเร็จ ด้วยการ อย่างอิสระ ในกรณีของกรุงเบอร์ลินถือว่าเจอ ไปจัดปฏิบัติธรรมในประเทศเยอรมนีเป็น ชาวตา่ งชาติ (ทีไ่ มใ่ ช่ชาวเยอรมัน) ครงึ่ ตอ่ คร่งึ คร้ังแรกท่ีกรุงเบอร์ลิน ่ึงเป็นเมืองหลวงของ เลยทีเดียว ทมี งานจึงเข้าถึงผ้คู นหลากเชื้อชาติ ประเทศ และทร่ี ฐั นอร์ดไรน์ เวสท์ าเลน ได้ง่ายข้นึ และได้พี เอเจนต์ ( ) ในการเดินทางไปครั้งนี้ ทีมงานพี งา่ ยขนึ้ งึ่ ถอื เปน็ ลทู่ างทจี่ ะขยายวชิ ชาธรรมกาย เร โวลชู นั คน้ พบวา่ การปกั หลกั จดั ปฏบิ ตั ธิ รรม ใหก้ ว้างไกลออกไปทัว่ ยุโรปได้สะดวกข้นึ การปฏบิ ตั ธิ รรมจดั ขนึ้ ระหวา่ งวนั ท่ี - พี เอเจนต์ านโตส กิริ เมษายน พ.ศ. โดยแบ่งออกเปน ชว่ ง ชว่ งแรกจดั ทกี่ รงุ เบอรล์ นิ โดยมพี ี เอเจนตอ์ งั คา โยกูเลสคู (ลิตเติลอังคา) ชาวโรมาเนีย เปน ผู้ประสานงาน ชว่ งทสี่ องจดั ขึน้ ท่รี ฐั นอรด์ ไรน-์ เวสท์ าเลน มพี ี เอเจนต์ านโตส กริ ิ ชาวเนปาล เปนผปู้ ระสานงาน สว่ นผคู้ วบคมุ คณุ ภาพ ( C) ในการจัดงานครั้งนี้ คือ พี เอเจนต์อังคา กลกิ า ชาวโรมาเนยี ผปู้ ระสานงานภาคพนื้ ยโุ รป พี เอเจนต์อังคา โยกูเลสคู (ลติ เติลอังคา) พี เอเจนต์องั คา กลิกา (อังคา) อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
แนวกำาแพงเบอร์ลนิ กโิ ลเมตรสดุ ทา้ ยที่ยังเหลอื อยู่ ๒ การปฏิบัติธรรมรอบแรกจัดท่ีกรุงเบอร์ลิน ึ่งเปนเมืองที่มีช่ือเสียงในด้านการท่องเที่ยว ด้านประวัติศาสตร์ และเปนที่ต้ังของกำาแพงเบอร์ลิน ึ่งแบ่งเยอรมนีออกเปน ประเทศ หลัง สงครามโลกครง้ั ท่ี ปจั จุบันกรุงเบอร์ลนิ มปี ระชากร . ลา้ นคน (มีคนไทยประมาณ คน) ประชากร ราว เปอร์เ ็นต์ ประกาศตนว่าไม่มีศาสนา อีก เปอรเ์ น็ ต์ เปนกล่มุ โปรเตสแตนต์ เปอร์เ น็ ต์ เปนโรมันคาทอลกิ และอีก เปอรเ์ น็ ต์ เปนมุสลิม การเดินทางไปกรุงเบอร์ลินครั้งนี้ ทีมงานพี เร โวลูชันไปพักที่วัดพระธรรมกายเบอร์ลิน โดยมีพระอาจารยแ์ ละเจ้าภาพใหก้ ารดแู ลเปนอยา่ งดี ทมี งานจดั ปฏบิ ตั ธิ รรมทกี่ รงุ เบอรล์ นิ ทงั้ หมด รอบ โดยมลี ติ เตลิ องั คาเดนิ ทางมารบั ทมี งาน ไปน่งั รถไ ใตด้ นิ เขา้ ไปทำากจิ กรรมในเมอื งทกุ วัน กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
รอบท่ี จัดปฏิบัติธรรมท่ีบอยส์คลับ ( oysClub) บอยสค์ ลบั จดั ตงั้ โดยกลมุ่ นกั ศกึ ษา ตา่ งชาติ พวกเขาเปดพนื้ ทใ่ี นตกึ สาำ หรบั เยาวชน ต่างชาตใิ หม้ าทาำ กจิ กรรมตา่ ง ความประทับใจอย่างแรกของทีมงาน รอบท่ี จัดปฏิบัติธรรมท่ี ูเปอร์มักต์ ในการจดั ปฏบิ ตั ธิ รรมรอบน้ี กค็ อื ผรู้ ่วมกิจกรรม (Super Makt) ึ่งเปน Co-working Space ต่างเดนิ ทางมาก่อนเวลา ทาำ ให้การปฏิบตั ธิ รรม หรือพื้นท่ีท่ีเปดให้คนมาเช่าทำางานเปนราย เร่มิ ไดต้ รงเวลา ่งึ ถือเปนเรอ่ื งยากในหลาย ชั่วโมง ่ึงกำาลังเปนท่ีนิยมในสังคมตะวันตก ประเทศ และเนอื่ งจากลติ เตลิ องั คาใชบ้ รกิ ารนเ้ี ปนประจาำ รอบน้ี นอกจากชาวเยอรมันแล้ว ผู้ร่วม เธอจงึ มเี ครอื ขา่ ยคนรจู้ กั ในกรงุ เบอรล์ นิ มากมาย กิจกรรมกว่าคร่ึงมาจากประเทศอ่ืน เช่น การจัดปฏิบัติธรรมรอบที่ นี้ เริ่มข้ึน ประเทศอารเ์ จนตนิ า สเปน โคลอมเบยี อเมรกิ า หลังจากรอบแรก ชว่ั โมง ทมี งานเดนิ ทางไป ฝรงั่ เศส ฯลฯ ดว้ ยรถไ ใตด้ นิ รอบนมี้ หี ลายคนจากรอบทแี่ ลว้ หลังจากพระอาจารย์นำานงั่ สมาธิไปเกือบ ตามมาด้วย เม่ือไปถึง ูเปอร์มักต์ก็พบว่ามีคน นาที เมื่อบอกให้ทุกคนลืมตา ปรากฏว่า กว่าคนนั่งรออยู่แล้ว ทำาให้เร่ิมนั่งสมาธิได้ เกอื บทกุ คนรสู้ กึ ผอ่ นคลายมาก บางคนรสู้ กึ เหมอื น ตรงเวลา ตวั หาย ตวั ลอย บางคนเหน็ แสงสวา่ งสอ่ งขนึ้ มา บรรยากาศขณะปฏิบัติธรรมเงียบสงบดี บางคนรู้สกึ เหมอื นตวั โยกไปมา ไมม่ แี มเ้ สยี งกระแอม ไอ หรอื จาม หลาย คน เม่ือต่างได้รับประสบการณ์ท่ีดีจากการ รสู้ กึ สบายมาก บางคนกต็ วั หาย ตวั ขยาย บอกวา่ นง่ั สมาธิ พวกเขากเ็ รม่ิ สนใจในสง่ิ ทพ่ี ระอาจารย์ นง่ั แลว้ รู้สึกดี มคี วามสุขมาก แต่หลาย คน แบ่งปัน แต่ชาวยุโรปตะวันตกโดยเฉพาะคน ไม่ค่อยเล่าประสบการณ์ โดยเฉพาะคนเยอรมนั เยอรมันยังเก็บอาการ ไม่แสดงออกทางสีหน้า งึ่ ไม่ชอบแสดงออก แตเ่ หน็ หนา้ นงิ่ แบบนี้ มตี ้ัง กว่าคน ตาม พระอาจารยไ์ ปน่งั สมาธติ ่อในรอบอ่ืน อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
๕ ในการจัดปฏบิ ัตธิ รรมรอบท่ี น้ัน ในแต่ละรอบเม่ือพระอาจารย์ถามว่า เนอ่ื งจากลติ เตลิ องั คากวา้ งขวางในCo-working นั่งกันเปนอย่างไรบ้าง คนที่ตอบมักไม่ใช่ Space หลายแห่ง เธอจึงสามารถขอใชส้ ถานที่ ชาวเยอรมัน มีชาวเยอรมันคนหนึ่งเปนเพ่ือน ชอื่ เบตาเ าส์ ( eta aus) ได้ รี ทั้ง รอบ ของลิตเติลอังคา เขาทำาหน้าเฉย ต้ังแต่ การปฏบิ ตั ิธรรม รอบน้ี ลิตเติลอังคา กอ่ นนง่ั กำาลงั นั่ง และหลงั จากนั่งแลว้ ตอนหลงั ใช้เ บุ๊กประชาสัมพันธ์กิจกรรม ประกอบกับ เขามาบอกลิตเติลองั คาวา่ รูส้ ึกประทับใจมาก ผทู้ ม่ี าปฏบิ ตั ธิ รรมตง้ั แตร่ อบแรกมผี ลการปฏบิ ตั -ิ พระอาจารยอ์ ธบิ ายดมี าก ไมเ่ คยคดิ วา่ สมาธจิ ะ ธรรมที่ดี และพระอาจารย์ก็อธิบายเรื่องสมาธิ ดีอย่างน้ี ครัง้ นเ้ี ปนคร้ังแรก แต่รสู้ กึ ว่าสดุ ยอด เชื่อมโยงกับเน้ือหาท่ีแตกต่างกันในแต่ละรอบ มาก น่ังไปกเ็ หน็ เปนดวงลอยอยตู่ รงหน้า กลม หลายคนจงึ สนใจตามมาร่วมกิจกรรมอกี ทาำ ให้ ใสสว่างมาก ทีมงาน งั แลว้ ก็คดิ วา่ คนแบบน้ี มีคนมานัง่ สมาธเิ กอื บเตม็ หอ้ งทง้ั รอบ นา่ จะเปนประเภท รกั นะแต่ไมแ่ สดงออก สมาชิกของเว็บไ ต์พี เร โวลูชัน หลังจากเสร็จส้ินรอบการปฏิบัติธรรม ชาวสเปนคนหนึ่ง ้ือตัวเครื่องบินมาน่ังสมาธิ พวกเขาปรบมอื ใหพ้ ระอาจารยแ์ ละทมี งาน แลว้ ต้งั แต่รอบแรก และเข้ารว่ มกจิ กรรมทกุ วนั เขา เดนิ มาขอบคณุ เหมอื นจะบอกใหช้ น่ื ใจวา่ ชอบ บอกว่า ฉนั มคี วามสุขมาก ตวั ฉันขยายออก นะ แตข่ อแสดงออกแคน่ แ้ี หละ ไปทกุ ทศิ ทาง อกี คนหน่ึงมาจากตรุ กี เขาบอก วา่ ฉันทำาสมาธิกับพี เร โวลชู ันอยแู่ ลว้ วนั นี้ นั่งแล้วมีความสุขมาก ฉันจะทำาบันทึกความดี ออนไลนใ์ หจ้ บ เพอื่ ทจี่ ะไปรว่ มการอบรมทเี่ มอื ง ไทยให้ได้ ส่วนบางคนน่ังสมาธิแล้วเห็น แสงสวา่ ง บางคนบอกวา่ ตอนแรกนกึ นมิ ติ เปน พระจนั ทร์ ตอ่ มาพระจนั ทรก์ ลายเปนพระอาทติ ย์ สอ่ งสว่าง กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
รอบที่ ปฏิบตั ธิ รรมทเี่ รนเมคกงิ ลอ ต์ ๗ บูตแคมป (Rainmaking Lo t oot Camp) ึ่งเปนศูนย์รวมของบริษัทขนาดเล็กที่เปดใหม่ หรอื Start-up Company ภาพที่พระภิกษุไปสอนสมาธิในกลุ่ม รอบท่ี จัดปฏิบัติธรรมกับกลุ่มทุดกูด Start-up คงไม่ชินตา ทำาให้มีพนักงานที่น่ัน (Tut gut) รอบนีเ้ ปนรอบสดุ ทา้ ยในกรงุ เบอรล์ นิ ขอมาน่ังสมาธิด้วย และเน่ืองจากคนส่วนใหญ่ กลุ่มคนเหล่านี้มีความสนใจด้านสุขภาพและ ทำางานเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พระอาจารย์จึง จติ วญิ ญาณเปนพิเศษ อธิบายเปรียบเทียบคอมพิวเตอร์กับใจว่า รอบนมี้ ผี รู้ ว่ มปฏบิ ตั ธิ รรมกวา่ คน ง่ึ ร่างกายของคนเราประกอบด้วยใจ เหมือนกับ ล้วนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คนหนึ่งกล่าว คอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วย าร์ดแวร์และ ว่า ร้สู กึ ง่วงในตอนแรก แต่เมื่อน่งั ไป ตวั ก็ อ ต์แวร์ ถ้า อ ต์แวร์ติดไวรัสก็ยากที่จะ เบาเหมอื นลอยได้ จนกระทงั่ ตวั หายเปนอนั หนง่ึ รีดประสิทธิภาพของ าร์ดแวร์ออกมาได้สูงสุด อนั เดยี วกบั บรรยากาศ อีกคนหน่ึงบอกว่า เขา ใจของคนเราก็เช่นกัน จะต้องทำาความสะอาด ไม่เข้าใจว่าศูนย์กลางกายอยู่ตรงไหน แต่เมื่อ ให้ปราศจากไวรัส คือ ความโลภ โกรธ หลง ใจนิ่ง ภาพแอปเปลท่ีเขานึกอยู่ก็เปล่ียนเปน จึงจะทำาให้ใจมีพลัง ึ่งดูเหมือนว่า การ สิ่งกลม ท่สี อ่ งสวา่ ง และเปนประกายมนั วาว เปรียบเทียบอย่างนี้ช่วยดึงดูดความสนใจของ คลา้ ย กระจกส่องหน้า (เขาใช้คาำ ว่า Metal มนษุ ย์คอมพวิ เตอรพ์ วกน้ีได้เปนอย่างดี all) แล้วศูนย์กลางกายก็ปรากฏขึ้นเองอย่าง รอบนี้ พระอาจารยน์ ำานั่งสมาธิ นาที ชดั เจน ทาำ ใหร้ สู้ กึ สงบและปราศจากความกงั วล แต่ทุกคนรสู้ กึ เหมือน นาทีเทา่ นน้ั หลาย อีกคนเดินมาขอบคุณพระอาจารย์ บอกว่าน่ัง คนบอกวา่ ความเครียดทม่ี มี าเมอ่ื สักครหู่ ายไป สมาธมิ าเกอื บ ปแลว้ ไมเ่ คยรสู้ กึ ดอี ยา่ งน้ี จนหมดสน้ิ บางคนเหน็ แสงสวา่ ง บางคนตกศนู ย์ มากอ่ นเลย และรูส้ ึกตกใจ มาถามวา่ เกดิ อะไรข้ึน นอกจาก นี้ หลาย คนยังสนใจการนงั่ สมาธิออนไลน์ และบอกลิตเติลอังคาว่า คงจะวิเศษไม่น้อยถ้า จะมกี ารนัง่ สมาธอิ อนไลน์กันที่น่เี ปนประจำา อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
เมอ่ื เสรจ็ ภารกจิ ทก่ี รงุ เบอรล์ นิ แลว้ ทมี งาน ไปจดั ปฏบิ ตั ธิ รรมตอ่ ทร่ี ฐั นอรด์ ไรน-์ เวสท์ าเลน พักค้างที่วัดพุทธนอร์ดไรน์-เวสท์ าเลน และ ได้รับการดูแลเปนอย่างดีจากพระอาจารย์และ โยมอุปฏั ฐาก การจัดปฏิบัติธรรมท่ีนี่มีพี เอเจนต์ านโตส กริ ิ นกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั Rhein-Waal Nordrhein-West alen เปนผู้ประสานงาน านโตสทาำ ประชาสมั พนั ธใ์ นมหาวทิ ยาลยั ท่ีเขาเรียนอยู่ ทำาให้มีผู้มาร่วมปฏิบัติธรรมกว่า คน รอบนนี้ กั ศกึ ษาหญงิ ชาวเยอรมนั คนหนงึ่ บอกวา่ เธอไมเ่ คยเชอื่ มากอ่ นวา่ เธอจะสามารถ หยดุ ความคดิ ได้ หลงั จากนง่ั สมาธแิ ลว้ เธอกลบั ประหลาดใจว่า เม่ือสักครู่เกิดอะไรข้ึน ตัวเธอ หายไปไหน สุดท้ายเธอตัดสินใจท่ีจะไปร่วม หลังจากนี้ ทีมงานไปจัดปฏิบัติธรรม ปฏบิ ัติธรรมสุดสปั ดาห์ วนั ดว้ ย สุดสัปดาห์ วัน ท่ีเมืองเค เวลาห์ในรัฐ เพ่ือนของ านโตสคนหนึ่งรู้สึกประทับใจ นอรด์ ไรน-์ เวสท์ าเลน สถานทจ่ี ดั ปฏบิ ัติธรรม ที่ านโตสมคี วามสขุ ในการแบง่ ปนั ประสบการณ์ ครัง้ นชี้ ่อื World ouse เก่ียวกับสันติสุขภายในให้ผู้อ่ืน ่ึงกลายเปน เน่ืองจากช่วงที่จัดปฏิบัติธรรมเปนช่วงท่ี แรงบันดาลใจให้เขาสนใจเรื่องสมาธิและมา ตรงกบั เทศกาลอสี เตอร์ ทาำ ใหน้ กั ศกึ ษาหลายคน ชว่ ยจดั กจิ กรรม เมอ่ื เขาลองนง่ั สมาธดิ ู เขาบอก ต้องกลับบ้าน มาร่วมกิจกรรมไม่ได้ านโตส วา่ ประสบการณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ยากจะอธบิ าย เขารสู้ กึ จงึ ตอ้ งทาำ งานหนกั ทงั้ ทาำ โปสเตอร์ ตดิ ตอ่ โฆษณา ว่ามีพลังบางอย่างแผ่ขยายออกมาจากบริเวณ ในหนงั สอื พิมพ์ แตก่ ็มผี ู้ลงทะเบยี นมาเพียง หน้าผาก (พระอาจารย์แนะนำาวา่ สบายตรงไหน คน ึ่งสว่ นใหญ่เปนนักศกึ ษามหาวทิ ยาลัย ให้วางใจตรงนั้นไปก่อน) จนกระทั่งความรู้สึก ในครง้ั น้ี ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมตอ้ งรบั ผดิ ชอบ แผ่ า่ นครอบคลมุ หลอมรา่ งกายใหห้ ายไป ทกุ สง่ิ เรื่องค่าท่ีพักและอาหารเอง แต่นักศึกษาจาก ทกุ อยา่ งดูโล่งไปหมด และความรู้สึกน้คี อ่ ย มหาวิทยาลัย Rhein-Waal สามารถเบิกงบ เคลื่อนลงสู่บริเวณกลางท้อง ทำาให้รู้สึกสบาย สวสั ดกิ ารจากมหาวทิ ยาลยั ได้ ง่ึ ถอื วา่ านโตส ผอ่ นคลาย และหายเครียด ไม่ธรรมดาเลยท่ีสามารถดึงมหาวิทยาลัยให้มา ร่วมดว้ ยชว่ ยกันได้ กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
W สถานท่ปี ฏิบตั ิธรรมสดุ สปั ดาห์ วัน ในคร้งั น้ี ในรอบน้ี ผเู้ ขา้ รว่ มปฏบิ ตั ธิ รรมตา่ งบอกวา่ ตราบจนถงึ วนั น้ี หลายคนกค็ งยงั ไมท่ ราบ ไม่เคยคิดว่าสมาธิจะเปนเร่ืองง่าย และไม่เคย วา่ พระเดชพระคณุ หลวงปเู ลง็ เหน็ อะไรเกย่ี วกบั นั่งสมาธิมากขนาดนี้มาก่อน นอกจากน้ียัง คนเยอรมันหรือประเทศเยอรมนี แต่ที่แน่ ไมไ่ ดค้ าดหวงั วา่ จะมผี ลการปฏบิ ตั ธิ รรมดขี นาด ปัจจุบันเยอรมนีมีขนาดเศรษฐกิจท่ีใหญ่ท่ีสุดใน น้ี ย่งิ น่งั กย็ ิง่ ดขี ้นึ เรอ่ื ย บางคนบอกว่า เม่ือ ยุโรป มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพล สดู ลมหายใจเข้าลกึ กร็ สู้ ึกเหมือนลมหายใจ มากทสี่ ดุ ในโลก ป อ้ น(จากนติ ยสาร ) ช้าลง หัวใจกเ็ ต้นช้าลง บางคนบอกว่าเหมอื น และที่สำาคัญคนเยอรมันมีคุณสมบัติพิเศษ ฝันไป เห็นภาพนิมิตค่อนข้างชัด บางครั้งมี อย่างหนึ่งที่ห่างไกลจากคำาว่า ไอ้ขี้ไต้ (คำาที่ ความสขุ มาก ไมอ่ ยากจะลมื ตาเลย แตท่ ท่ี มี งาน หลวงปูใช้เรียกคนท่ีไม่มีความต้ังใจจริงและ สงั เกตเหน็ กค็ อื หลายคนดยู มิ้ งา่ ยและมคี วามสขุ ไม่มีความสมำา่ เสมอในการปฏบิ ัติธรรม) เพราะ มากขนึ้ คนเยอรมันเป็นคนทำาอะไรทำาจริง และมีระบบ นอกจากสมาธิ สงิ่ ทท่ี กุ คนสนใจมากกค็ อื ระเบยี บในชวี ิตมาก หากสนใจการปฏบิ ตั ธิ รรม หลกั อริยมรรคมอี งค์ ่งึ เมอ่ื อธบิ ายควบคู่กับ กจ็ ะทาำ จรงิ และสมาำ่ เสมอ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากเวบ็ ไ ต์ สมาธิ และหลกั ในการสรา้ งนสิ ยั ดี ผา่ นบทฝกึ พี เร โวลูชันที่มีสมาชิกชาวเยอรมันมากขึ้น ห้องชีวิต เนรมติ นิสัย และความดีสากลของ เรอื่ ย งึ่ เปน็ สญั ญาณทด่ี วี า่ อกี ไมน่ านแสงแหง่ พระเดชพระคณุ หลวงพอ่ ทตั ตชโี วแลว้ หลายคน ธรรมจะสอ่ งสวา่ งกลางใจชาวดอยช์ (D ) ถึงกับพูดว่า ส่ิงน้ีเหมือนจะเปนกุญแจที่ไข อยา่ งแนน่ อน.. ความลี้ลับแห่งการพั นาคุณภาพชีวิตที่ย่ังยืน เลยทเี ดยี ว อยู่ในบญุ กนั ยายน ๒๕๕๗
สิ่งที่จะต้องเรยี นรู้นั้น นอกเหนอื จากวชิ าชพี แลว้ ควรจะมวี ิชชาของชวี ิตดว้ ย วิชาชพี ทาำ ให้เรามีชวี ิตอยู่ได้ แตว่ ชิ ชาชวี ิตทำาให้ชวี ิตทเ่ี รามอี ยนู่ น้ั เกิดคุณคา่ อันสงู สง่ มีสุขทัง้ ในปัจจบุ นั และในอนาคต เปน็ ประโยชน์อย่างย่งิ ต่อตัวเราและชาวโลก พระเทพญาณมหามนุ ี (หลวงพอ่ ธัมมชโย) ชาตรามือ หอม.. อรอ่ ย ถกู ใจผดู้ ่ืม ชาตรามอื ดีทห่ี นง่ึ ชาไทย ชาจนี ชาอหู่ ลง ชาเขยี ว ชา ลี อน ชาไขม่ กุ ชาชกั ฯลฯ โทร. - - www.cha-thai.com
บ นู ก แม้อยากตักบาตรพระ แตใ่ ช่ว่าจะทา� ได้เสมอ คร้ังหนึ่ง เม่ือท้าวสักกะทอดพระเนตร เห็นเทวดาบริวารที่เคยทำาบุญไว้ในพระพุทธ- ศาสนามีแสงสว่างมากกว่า พระองค์จึงทรง ขวนขวายที่จะสร้างกุศลในพระพุทธศาสนา ด้วยการเสด็จมาสู่โลกมนุษย์เพื่อตักบาตร พระมหากัสสปะที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ทงั้ นเี้ พราะ สวรรค์ แมเ้ ปนดนิ แดนทสี่ วยงาม และเปยมสุข แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ท่ีมีเน้ือนาบุญ ให้สรา้ งบญุ ได้เหมือนในโลกของเรา อยา่ งไรกต็ าม ใชว่ า่ เนอ้ื นาบญุ อนั เลศิ คอื พระภิกษุในพระพุทธศาสนา จะมีอยู่ทุกหน ทกุ แหง่ ในโลกใบนี้ บางคนอยากทาำ บญุ กบั พระ ก็ต้องเดินทางไกลถึงจะได้ทำา ดังเช่น ชาว มาเลเ ยี ชาวสงิ คโปร์ ชาวอนิ โดนีเ ยี ฯลฯ ท่ี พากนั เดนิ ทางมาตกั บาตรในโครงการตกั บาตร พระ รูปฯ ทีน่ ครหาดใหญ่ทุกป ทุกวันน้ี เราโชคดีมากท่ีมีเน้ือนาบุญมา ให้ตักบาตรทุกวัน จึงควรใช้โอกาสน้ีให้คุ้มค่า ท่ีสดุ เพราะเมื่อข้ึนไปอยู่บนสวรรค์ แมอ้ ยาก ตกั บาตรแคไ่ หนกค็ งไมม่ พี ระมาเดนิ บณิ ฑบาต เปนเน้อื นาบุญให้เรา นายธานนิ ทร์ สุภาแสน ผ้วู า่ ราชการจังหวดั ลำาปาง ประธานฝ่ายฆราวาส อยู่ในบุญ กันยายน ๒๕๕๗
ต๑ัก๐บ,๐าต๐ร๐พรระูป 8 อำ� เภอเมือง จังหวดั ล�ำปำง เมอ่ื วนั ที่ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. มีพิธตี ักบาตรพระ รปู ณ ถนนดวงรัตน์ อาำ เภอเมอื ง จังหวัดลำาปาง เนือ่ งในวาระครบ ป จงั หวัดลาำ ปาง เพอ่ื ถวายเปนพทุ ธบูชา สบื ทอดอายุพระพุทธศาสนา น ศู ีลธรรมโลก และช่วยเหลือคณะสงฆ์ วัด ใน จงั หวัด ภาคใต้ โดยมีพระราชจินดานายก เจ้าคณะจังหวัดลำาปาง เปนประธานฝ่ายสงฆ์ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำาปาง เปนประธานฝ่ายฆราวาส พิธีตักบาตรครั้งใหญ่ในจังหวัด ลาำ ปางน้ี จัดขึ้นเปนปท่ี ตามโครงการตักบาตรพระ รปู จงั หวดั ทกุ วัดทั่วไทย โดยดำาริของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพอ่ ธมั มชโย) กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
นายรงั สรรค์ ตนั เจรญิ ปลดั จงั หวัดระนอง ประธานฝา่ ยฆราวาส อยู่ในบญุ กนั ยายน ๒๕๕๗
ตักบาตรพระ ๑,๕๐๐(ตักบาตรมิตรภาพไทย-พม่า) รูป 8 อ�ำเภอเมือง จังหวดั ระนอง เมื่อวันท่ี มีนาคม พ.ศ. มีพิธีตักบาตรมิตรภาพไทย-พม่า ณ ถนนท่าเมือง อำาเภอเมือง จังหวดั ระนอง เพื่อสง่ เสริมความร่วมมือระหวา่ งประชาชนท้ัง ประเทศ ต้อนรับ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเ ียนในป และเพื่อช่วยเหลือคณะสงฆ์ วัด ใน จงั หวดั ภาคใต้ พธิ ตี กั บาตรครง้ั นมี้ พี ระภกิ ษไุ ทยและพมา่ กวา่ รปู ไปเปนเนอื้ นาบญุ โดยมี พระเทพสทิ ธมิ งคล ทป่ี รกึ ษาเจา้ คณะจงั หวดั ระนอง และพระระณงั คมนุ วี งศ์ เจา้ คณะจงั หวดั ระนอง เปนประธานฝา่ ยสงฆ์ นายรงั สรรค์ ตันเจรญิ ปลัดจังหวดั ระนอง เปนประธานฝา่ ยฆราวาส ในงาน มีพทุ ธศาสนกิ ชนชาวไทยและพม่าจาำ นวนมากรว่ มตกั บาตรขา้ วสารอาหารแหง้ กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
่่ าน า “จับเวลาใหม้ าพบกนั ณ จุดบรรจบแห่งความพอดี ย้อนวนั วาน หยดุ นง่ิ วนั น้ี ”เพอื่ รองรับสงิ่ ทดี่ ี ในอนาคต อยู่ในบุญ กันยายน ๒๕๕๗
อ่ คน ควร บ ดิ สุทสสำ วชชม เ สำ อตตโน ปน ทุททสำ โทษคนอื่น เหน็ งา่ ย แต่โทษตนเอง เห็นยาก (ข.ุ ธ. ๒๕/๒๗) คนเรามักมีนสิ ยั ชอบจบั ผิดผ้อู ่นื เห็นความผิดผูอ้ ืน่ เปนเรื่องนา่ จบั จอ้ ง เข้าใจว่ายง่ิ จบั ผดิ ไดม้ าก ตนเองจะดูดขี ึ้นมาก ยิ่งจบั ผดิ ไดบ้ ่อย ตนเองจะดูฉลาดหลักแหลม อันท่จี รงิ ความผดิ ของเขา ไม่ใชค่ วามดีของเรา ความผิดของเขากบั ความดขี องเรามนั คนละสว่ นกัน ผ้ฉู ลาดจงึ พยายามจบั ผดิ ตนเอง มองข้อบกพร่องตนเองดว้ ยใจเปนกลาง แมเ้ ปนสงิ่ ทท่ี าำ ได้ยากกวา่ แตก่ จ็ ะเกดิ ประโยชนแ์ กต่ นได้มากกวา่ การนาำ ข้อบกพรอ่ งมาพั นาแก้ไขปรับปรงุ ตนเอง ทาำ ใหต้ นเองมพี ั นาการตลอด ตนเองจึงดีข้นึ เพราะจบั ผดิ ตนเอง แก้ไขตนเอง ไมใ่ ชด่ ขี ้นึ เพราะไปจับผดิ ใคร ใสร่ ้ายใคร คนทีค่ วรจับผดิ มากทส่ี ุดกค็ อื ตัวของเรานั่นเอง.. อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
ç ¡∫µ— ∑‘ Èß— Û §Õ◊ ¡π…ÿ ¬ ¡∫µ— ‘ ∑‘æ¬ ¡∫µ— ‘ ·≈–π‘ææ“π ¡∫µ— ‘ ‡√“®–¡’‰¥°â ‡Á æ√“–∫ÿ≠Õ¬“à ߇¥¬’ « ∑’‡Ë ªìπæ≈—ß ”§≠— ∑”„Àâ‡√“¡§’ «“¡æ√âÕ¡„π∑ÿ° Ê Õ¬“à ßé ‚Õ«“∑æ√–‡∑æ≠“≥¡À“¡πÿ ’ «‘. (À≈«ßæàÕ∏—¡¡™‚¬) ∫√‘…—∑ »‘√™‘ π‘ ®”°—¥ 29/10,17,19 À¡Ÿà 2 µ.∫ß÷ ∑ÕßÀ≈“ß Õ.≈”≈Ÿ°°“ ®.ª∑¡ÿ ∏“π’ 12150 ‚∑√. 02-995-2243-4, 02-997-4355-6 www.sirishin.com ººâŸ ≈‘µ·≈–®”Àπ“à ¬ πÈ” ¡â ·≈–πÈ”º≈‰¡â 25 % π”È ¡â 20 % º ¡‡π◊ÈÕ â¡ µ√“ “¬πÈ”ºß÷È »√‘ ™‘ π‘ µ√“®ÿä∫®äÿ∫
ศลี ข้อ ๒ เร่อื ง : พระราชภาวนาจารย์ (หลวงพอ่ ทตั ตชีโว) ศีลข้อ ๒ (ตอนที่ ๑) สภาพเศรษฐกิจ นิสัยชาวโลก อานุภาพการรักษาศลี หัวใจเศรษฐี บรรยายโดย พระราชภาวนาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แด่ พระวทิ ยากรโครงการหมบู่ ้านรักษาศลี ๕ วนั เสารท์ ่ี กรกฎาคม พ.ศ. เวลา . - . น. ณ ศาลาสตมานสุ รณ์ (ศาลาทรงไทย) วดั ปากนำ้า เขตภาษเี จรญิ กรุงเทพมหานคร ขออนุโมทนาบุญกับท่านวิทยากรทุกรูปที่ต้ังใจจะนำาศีล ไปปลูกฝังให้ม่ันคงทุกหมู่บ้าน ทั่วประเทศไทย ขอให้ได้บุญเยอะ นะครับ เรื่องที่รับอาราธนามาบรรยายวันนี้ก็คือ เร่ืองศีล ขอ้ แตถ่ ้าจะพูดเฉพาะศลี ขอ้ บางทีเร่ืองตอ่ เนอ่ื งระหว่างศีลข้อ กับศีลขอ้ อ่ืนจะตกหายไป ไมเ่ พยี งพอกบั การเตรยี มตวั เปดประเทศเขา้ สปู่ ระชาคมเศรษฐกจิ อาเ ยี นกนั กจ็ าำ เปนตอ้ งกลา่ วพาดพงิ ไปถึงศลี ข้ออน่ื ด้วย ส า เศรษ กจิ -นสิ ยั ชาว ลก ศีลข้อ ๒ การไม่ลักทรพั ย์ เปนเรอ่ื งของเศรษฐกิจ จึงขอโอกาสให้ภาพรวมสภาพเศรษฐกจิ - นิสัยชาวโลก ่ึงปรากฏในกามโภคีสูตร อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ในพระสูตรนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งประเภทบุคคล โดยยึดหลักเศรษฐกิจกับจิตใจไว้เปนกลุ่มตามวิธี หาทรพั ยแ์ ละเปนประเภทตามการกนิ -ใช้ การเลยี้ งดูตนและครอบครวั การแบ่งปันช่วยเหลอื สงั คม การแบง่ ปันทำาบุญ และความมปี ัญญา จากหลักการดงั กลา่ วจึง แบ่งบคุ คลออกได้เปน็ กล่มุ ประเภท ดังนี้ กลุ่มท่ี หาทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม บุคคลกลุ่มนี้อาจหาทรัพย์ด้วยวิธีการทั้งผิดกฎหมาย และผิดหลักศลี ธรรม หรอื ถกู กฎหมายแต่ผดิ ศลี ธรรม ทแี่ น่ คอื ผดิ ศีลธรรม คอื ไม่คาำ นงึ ถึง ความเดือดร้อนของใคร ถ้าฆ่าได้เปนฆ่า อาจฆ่าคนหรือฆ่าสัตว์ก็ตาม โกงได้เปนโกง ปล้นได้ เปนปลน้ เปนพวกมจิ ฉาอาชวี ะ คนกลุ่มนีแ้ บง่ ไดเ้ ปน ประเภท คือ อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
ประเภทท่ี การกิน ใช้อดอยาก ไม่ปัน ไม่ทำาบุญ ไม่มีปัญญาทางธรรม คนประเภทน้ี หาทรพั ยม์ าไดแ้ ลว้ ไมว่ า่ จะดว้ ยการฆา่ (สตั ว-์ คน) ปลน้ โกง เปดบอ่ น- อ่ ง ฯลฯ กต็ ามที เนอื่ งจาก ไดท้ รัพยม์ าด้วยความลาำ บาก เพราะฉะนน้ั จึงกินใช้ในครอบครวั อยา่ งอด อยาก เรื่องจะแบง่ ปัน ให้พวกพอ้ งและสงั คมไม่ต้องพูดถงึ จะทำาบญุ ทำาทานไหม ชาตหิ นา้ คอ่ ยคุยกบั คนกลุ่มน้ี ปัญญาคดิ ออกจากกามกย็ ่ิงไมม่ ี ประเภทท่ี การกนิ ใช้อม่ิ หนาำ ไม่ปัน ไม่ทาำ บญุ ไม่มปี ัญญา คนประเภทนีแ้ ม้ได้ทรัพย์ ด้วยความทุจริต ก็ใช้ทรัพย์บำารุงตนและครอบครัวให้เปนสุข แต่ท่ีจะคิดแบ่งปันช่วยเหลือผู้อ่ืน แบง่ ทาำ บญุ แบง่ ใชท้ รพั ย์ฝึกตนให้มีปญั ญาทางธรรมนั้น คนประเภทน้ีไมค่ ดิ ทาำ ประเภทที่ การกนิ ใช้อิ่มหนำา ให้ปัน ทำาบุญ ไมม่ ปี ญั ญา คนประเภทนีพ้ ั นาขนึ้ มาอีก คือ กนิ ใชเ้ ลี้ยงดูตนและครอบครัวอมิ่ หนำาสำาราญ ให้ปนั พวกพ้องและสงั คม ทำาบญุ แต่วา่ ยงั โกง ยงั คอร์รปั ช่นั จะให้เลกิ ยังเสียดาย แตถ่ า้ ใหก้ าำ ลงั ใจกม็ สี ิทธิพั นา กลุ่มที่ ๒ หาทรัพย์โดยชอบ ไม่ชอบธรรม บุคคลพวกน้ีเปนพวกอยากจะดี แต่แพ้ใจ ตัวเอง ไม่อยากหาทรพั ยผ์ ิดกฎหมาย ผดิ ศลี ธรรม แต่เมือ่ มโี อกาสก็ทำา เปนประเภทบุญปนบาป ดีบ้างไม่ดีบา้ ง ไมถ่ งึ กับร้ายกาจนัก คนกล่มุ นแี้ บ่งได้เปน ประเภท คือ กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
ส า เศรษ กจิ -นิสยั ชาว ลก วธิ ี ประเภท ตน - ครอบครวั สงั คม บญุ ปัญญาละกาม หาทรัพย์ กิน-ใช้ อดอยาก ใหป้ ัน ไมป่ นั ทาำ บุญ ไมท่ ำา . ไธมร่ชรมอบ อดอยาก ไม่ปัน ไมท่ าำ ไม่ช.อชบอธบร-รม กนิ -ใช้ ไมป่ ัน ไมท่ าำ . ชอบธรรม กิน-ใช้ ใหป้ นั ทาำ บุญ ไมม่ ี อดอยาก ไมป่ ัน ปัญญา ไม่ทำา ละกาม มปี ัญญา กนิ -ใช้ ไม่ปนั ไม่ทำา กิน-ใช้ ใ ปน ทาำ บญุ อดอยาก ไมป่ ัน ไม่ทำา กิน-ใช้ ไมป่ ัน ไมท่ าำ กิน-ใช้ ให้ปัน ทำาบุญ กิน-ใช้อิ่ม ใหป้ ัน ทาำ บุญ ประเภท - - - เปนการสรา้ งเครอื ขา่ ย ทม่ี า : องั . ทสก. / / - (มจร.) ประเภทที่ การกิน ใช้อดอยาก ไม่ปัน ไม่ทำาบุญ ไม่มีปัญญา ได้ทรัพย์แล้วไมก่ ินใช้ ใหอ้ ม่ิ หนำา อยอู่ ยา่ งอด อยาก ไม่ปันชว่ ยเหลอื พวกพอ้ ง ไมท่ าำ บุญ และไม่มปี ญั ญาทางธรรม ประเภทที่ การกิน ใช้อิ่มหนำา ไม่ปัน ไม่ทำาบุญ ไม่มีปัญญา ได้ทรัพย์แล้วกินใช้ บาำ รุงตนและครอบครวั แต่ไมแ่ บ่งปนั ใหใ้ คร ไมค่ ิดทาำ บุญ และไม่มีปัญญาทางธรรม ประเภทที่ การกิน ใช้อิ่มหนำา ให้ปัน ทำาบุญ ไม่มีปัญญา ได้ทรัพย์แล้วก็กินใช้ บาำ รงุ ตนและครอบครัว แบง่ ปันให้พวกพอ้ ง ทาำ บุญ แตย่ งั ไมม่ ปี ัญญาออกจากกาม กลุ่มที่ หาทรัพย์โดยชอบธรรม บุคคลกลุ่มนี้หาทรัพย์โดยไม่ยอมละเมิดศีล ละเมดิ ธรรม ถึงจะถกู กฎหมาย แต่หากผดิ ศลี ผดิ ธรรม ไมย่ อมทำาเปนอันขาด ในกลมุ่ นแ้ี บ่งได้ เปน ประเภท คือ ประเภทท่ี การกนิ ใชอ้ ดอยาก ไมป่ ัน ไม่ทาำ บญุ ไมม่ ีปัญญา แม้ไดท้ รพั ยด์ ว้ ยสจุ ริต แตก่ ก็ นิ ใช้อย่างอด อยาก ทง้ั ไมแ่ บ่งปัน ไมท่ าำ บญุ จึงไมม่ ปี ญั ญา ประเภทที่ การกิน ใช้อ่ิมหนำา ไม่ปัน ไม่ทำาบุญ ไม่มีปัญญา พวกน้ีใช้ทรัพย์บำารุงตน และครอบครัว แต่ไมแ่ บ่งปันใคร ไม่ทำาบญุ ปัญญาจงึ ไม่ค่อยมี อยู่ในบุญ กันยายน ๒๕๕๗
ประเภทท่ี การกิน ใชอ้ ่มิ หนาำ ให้ปัน ทำาบุญ ไม่มีปัญญา พวกนก้ี ิน-ใช้อ่มิ หนำา แบง่ ปัน ช่วยเหลอื สังคม ทำาบุญ แต่ยังไมค่ ดิ ออกจากกาม ประเภทท่ี การกิน ใชอ้ ่ิมหนาำ ใหป้ นั ทำาบุญ มีปญั ญา เปนกลุ่มพิเศษ คอื หาทรัพย์ โดยชอบธรรม แล้วใช้ทรัพย์กินอิ่มหนำาสำาราญ ให้ปันด้วย ทำาบุญด้วย ท้ังยังมีปัญญาที่จะ ออกจากกามด้วย บุคคลประเภทนี้เฉกเช่นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีหรือท่านมหาอุบาสิกาวิสาขา เปนต้น อาน า การรกั ษาศล ทำาไมพระจะต้องรู้เร่ืองสภาพเศรษฐกิจ-นิสัยชาวโลก ก็เพราะพระจะต้องไปปลุกคน เหล่าน้ีใหร้ ักษาศลี และกลุ่มคน ประเภทนกี้ ม็ อี ยู่ทกุ ยคุ ทกุ สมยั รวมทั้งในสมยั ของพวกเรา ง่ึ เปนยคุ ประชาธิปไตย มีการเลอื กตัง้ ไม่ว่าระดับหมู่บา้ น ตาำ บล อำาเภอ จังหวดั ประเทศชาติ คนกลุ่มท่ี ประเภทที่ คอื หาทรพั ยไ์ ม่ชอบธรรม กินใช้สขุ สำาราญ แบง่ ปันสังคม ทาำ บุญ แตไ่ ม่มีปญั ญา คนเหลา่ นจ้ี ะมีโอกาสไดร้ ับเลือกตง้ั เข้ามาคอ่ นขา้ งมาก คนกล่มุ ที่ ๒ ประเภทท่ี คอื หาทรัพย์ชอบ-ไมช่ อบธรรม กินใชส้ ขุ สำาราญ ชว่ ยเหลือสงั คม ทาำ บญุ ตามโอกาส แต่ไม่มีปัญญาคดิ ออกจากกาม คนกลุม่ นมี้ โี อกาสได้รบั เลอื กต้ัง แตน่ ้อยลง คนกล่มุ ท่ี ประเภทที่ ๗ ย่งิ ไมต่ ้องพดู ถงึ โอกาสไดร้ บั เลือกตัง้ น้อยมาก อาน า การรักษาศล อ : ไมลกั ทรั ย์ ยกระดับเศรษฐกจิ -จติ ใจ l ตนเอง l ครอบครวั l ชุมชน l สงั คม จติ ใจไร้กังวล ประชาชนรา่ำ รวย กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
} จึงเปนหนา้ ทีข่ องพระ ชาวพุทธ และหน่วยงานทกุ ภาคส่วนต้องระดมความรว่ มมอื ชว่ ยกัน ปลกู ฝังศีล ให้คนกลมุ่ ท่ี ประเภทที่ รักษาศลี มากย่งิ ขน้ึ จะได้ยกระดบั มาอยกู่ ล่มุ ท่ี ส่วนประเภท และ นั้นคงยากที่จะรักษาศีล พระคุณเจ้าท้ังหลายในข้ันต้นก็อย่าไปยุ่งกับ พวกเขา ต้องรอไว้ก่อน เดียวความเดือดร้อนจะมาถึงท่านและวัดของท่าน ส่วนคนกลุ่มท่ี ทงั้ ประเภท มโี อกาสรกั ษาศลี ได้ แตต่ อ้ งทมุ่ เทเคย่ี วเขญ็ ยง่ิ ไดค้ นกลมุ่ ท่ี ไมว่ า่ ประเภทใด โอกาสท่ีบุคคลเหล่าน้ีจะรักษาศีล มีมากข้ึน หากพระทั้งแผ่นดินลุกข้ึนมาช่วยกันปลูกฝัง ศลี แกป่ ระชาชน คนกลมุ่ ท่ี ประเภทที่ - ถา้ พอมสี ทิ ธไิ ดร้ บั เลอื กตง้ั บา้ ง บา้ นเมอื งกค็ งสงบสขุ ไม่น้อย เพราะฉะน้ันถ้าอยากเหน็ บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง พระทง้ั แผ่นดนิ ตอ้ งลกุ ข้นึ มาชว่ ยกนั และ ก็โชคดีทเี่ จา้ ประคณุ สมเด็จฯ ดาำ รใิ ห้มีโครงการน้ีข้ึนมา ก็ถือวา่ เปนโอกาสดีที่พวกเรา ่งึ เปนกาำ ลัง ของพระพุทธศาสนาจะได้ใชเ้ รี่ยวแรงสติปัญญาสร้างบุญบารมกี นั ได้เตม็ ที่ คอื มาชว่ ยกันยกระดับ ท้งั เศรษฐกจิ และจิตใจให้แก่คนไทยทงั้ แผน่ ดนิ ดว้ ยการปลกู ฝังให้รกั ษาศลี กนั ทง้ั หม่บู ้าน การรักษาศีลข้อ ๒ มีอานุภาพในการยกระดับเศรษฐกิจกับจิตใจ โดยยกท่ีตัวของเขา กอ่ น แล้วกม็ าที่ครอบครวั คอื หัวหน้าครอบครวั จากน้นั ใหเ้ ขายกระดบั ครอบครัวของเขา แลว้ จงึ ช่วยกนั ยกระดับชุมชนของเขา สังคมและประเทศชาตจิ งึ จะเต็มไปด้วยคนรักษาศีล พระคุณเจ้าควรช้ีให้ประชาชนเห็นอานุภาพการรักษาศีลข้อ ว่าทำาให้ประชาชนร่ำารวย จิตใจไร้กังวล รกั ษาศีลแลว้ ทาำ มาหากินย่งิ รวย คนก็อยากรักษา แต่ถ้ารกั ษาศลี แล้วจนลง ใคร ก็ไมอ่ ยากรกั ษา มาช่ ัน ระ ับทัง ร และ ใ ใ แ ่ น ท ทังแผ่น น ารปลู ง }ใ รั า ล ันทัง มู่บาน หวั จเศรษ : ศล อ พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าตรสั ไวใ้ นทีฆชาณุสูตร หวั ใจเศรษฐี เปนพระสตู รทว่ี า่ ด้วยความเปน็ เศรษฐี คอื ตง้ั เนอ้ื ตง้ั ตวั ได้ เปน็ เศรษฐี ราำ่ รวย มสี ขุ ละโลกกไ็ ปสวรรค์ พระองคท์ รงใหห้ ลกั มา ขอ้ คือ อุ - อฏุ ฐานสมั ปทา หาทรพั ยเ์ ปน อา - อารักขสมั ปทา เก็บทรพั ย์เปน ก - กัลยาณมติ ตตา คบมิตรเปน ส - สมชวี ติ า ใชท้ รัพยเ์ ปน อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
หัวใจเศรษฐี เศรษฐกิจ จติ ใจ อุ - อฏุ ฐานสมั ปทา หาทรพั ยเ์ ปน ศ - สทั ธาสมั ปทา อา - อารักขสัมปทา เก็บทรัพยเ์ ปน ศี - สีลสมั ปทา ก - กลั ยาณมติ ตตา คบมิตรเปน จา - จาคสมั ปทา ส - สมชีวติ า ใชท้ รพั ยเ์ ปน ป - ปัญญาสัมปทา นั่นคือ ใครจะเป็นเศรษฐี มีสุข ไปสวรรค์ได้ จะต้องรักษาศีลด้วย แล้วก็หาทรัพย์ เป็นด้วย คือ หาทรัพย์โดยไม่เสียศีล ประกอบแต่อาชีพสุจริต เม่ือหาทรัพย์เปนแล้วก็ต้องเก็บ ทรัพย์ให้เปน ตอ้ งเลอื กคบคนเปน สรา้ งคนดีเปน สรา้ งเครอื ขา่ ยคนดใี ห้เปน และใชท้ รัพย์ใหเ้ ปน การประพ ตปิ ฏบิ ตั ดิ งั กลา่ ว เรยี กยอ่ วา่ อุ อา ก ส พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั วา่ เปนประโยชน์ ในชาติน้ี คือ ตั้งเน้ือต้ังตัวเปนเศรษฐีได้ แล้วพระองค์ก็ประทานประโยชน์ในชาติหน้า คือ ให้มี ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา จิตใจจะได้ผ่องใส ไร้กังวล ละโลกจะได้ไปสุคติ เพราะฉะนั้น จะให้รักษาศลี ได้บรบิ รู ณ์ กต็ ้องสอนใหห้ าทรัพยเ์ ปน เก็บทรัพยเ์ ปน สร้างเครอื ขา่ ยคนดีเปน และ ใช้ทรัพย์เปน เพื่อไม่ให้ยากจนและกลับไปหาทรัพย์แบบไม่ชอบธรรมตามความคุ้นเดิมอีก ่ึง ทำาให้รักษาศลี ไว้ไม่ได้.. (อา่ นตอ่ ฉบับหน้า) กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
บยอ ั า า นา า ย บยอ จากคมั ภีร์ “จรรยาบ่าว” วิธฝี กึ ผนู้ า� ในยคุ ร.ศ. ๑๓๑ อน ยอ ตำารบั ยอดเลขา นำามาจากหนงั สือ จรรยาบ่าว ่งึ ตพี ิมพ์เมอ่ื ปทแ่ี ล้ว โดยไม่ไดร้ ะบุชื่อ ผ้เู ขยี น เมอื่ หลวงพ่อทัตตชีโวอ่านหนงั สือเล่มนแ้ี ล้ว ทา่ นอยากให้ญาติโยมรเู้ ร่อื งราวดี จงึ เมตตา นำามาเทศน์ให้ ังเม่ือป พ.ศ. ต่อมาพิมพ์รวมเล่มและต้ังช่ือใหม่ว่า ตำารับยอดเลขา โดยลาำ ดบั เนอ้ื ความตามตน้ ฉบบั เดมิ และคดั ลอกของเกา่ ไวใ้ หด้ ดู ว้ ย เพอ่ื รกั ษาศพั ทบ์ างคาำ ไว้ และเพอื่ เปนเกยี รตแิ กผ่ เู้ ขยี น ๑๗ ว่าดว้ ยการปลกุ นายตามท่มุ โมงทีส่ งั่ ไว้ คนท่ีจะทำางานไมผ่ ิดพลาด คอื คนท่รี ู้จักวางแผนล่วงหน้า และทำางานตรงตอ่ เวลาอยเู่ สมอ ทำาให้มกี ารเตรียมพรอ้ มอยู่ตลอดเวลา เพราะรลู้ ่วงหน้าว่า วนั ไหน ท่ีไหน เวลาใด จะตอ้ งทำาอะไร จะตอ้ งเตรียมอะไรไปบ้าง และตอ้ งไปถึงที่หมายก่ีโมงกีย่ าม อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
๗. วา่ ดว้ ยการปลกุ นายตามทุ่มโมงท่ีสง่ั ไว้ นายทา่ นจะมรี าชการฤๅธรุ ะอนั สา� คัญ ไปแตด่ ึกฤๅแต่เช้าก็ดี เมอ่ื ทา่ นส่งั ไว้ให้ปลุกเวลานน้ั เราก็ต้องผูกใจจดจ�าคอยปลุกท่านตามสั่งอย่าเหลวไหล ถ้ามีเวลาน้อยอยู่ท่ีจะถึงก�าหนดเราก็ไม่ ควรจะนอน หาหนังสือมาดูเสียให้เพลินอยา่ งหน่ึง ฤๅเราชอบเล่นอะไรท�าอะไรกท็ �าไปตามความ ประสงค์ อย่าใหห้ ลบั ลงไปไดจ้ ะเสยี การ ฤๅว่าเวลายังมมี ากพอจะนอนไดบ้ า้ งจึงควรนอน แตถ่ งึ กระนน้ั กอ็ ยา่ ปลอ่ ยใจใหเ้ ผลอ ควรทจ่ี ะไปสงั่ กบั คนแก ่ ๆ ทเ่ี ขาเคยตนื่ ดกึ ตน่ื เชา้ ไวด้ ว้ ย เพอ่ื ใชเ้ ขา ปลุกเราอีกทีจงึ จะด ี ถ้าคนแก่นัน้ เขามนี าฬกิ า ฤๅรู้ทุ่มโมงถูกต้อง กพ็ อวางใจได้ ถา้ แกเลอ่ื นหลง ฤๅไม่แนน่ อนในเวลาทมุ่ โมงแลว้ ต้องใหแ้ กปลกุ เราเน่นิ ๆ ไว้จะได้ไม่พลาด แต่เราตอ้ งปลุกทา่ น ตามคา� สงั่ และเวลาทยี่ งั มกี อ่ นปลกุ ทา่ นนนั้ เราตอ้ งตระเตรยี มสง่ิ ทท่ี า่ นจะตอ้ งใช ้ มชี งนา้� ชากาแฟ เปน็ ต้น ให้พรอ้ มไว ้ ฤๅพาหนะรถเรอื อะไรทจี่ ะใช้นัน้ กใ็ หพ้ รอ้ มดว้ ย ฤๅอะไร ๆ อีกดว้ ยบา้ ง ก็ให้ เรยี นถามไว้เสยี ด้วย แลว้ กจ็ ดั เตรยี มใหพ้ ร้อมตามส่ัง เม่ือกระทา� เชน่ นี้ได้ละดนี กั แล จะเหน็ วา่ ผ้ทู ่เี ขียนหนงั สอื เล่มนี้ เปนคนรอบคอบมาก คงทาำ งานมามาก จงึ เก็บรายละเอยี ด ไดถ้ งึ ขนาดน้ี เราเคยสอนลูกน้องไดอ้ ยา่ งน้ีกันไหม ถ้าเคยสอนไวก้ จ็ ะมคี นไวใ้ ช้สอยไดด้ ังใจ แต่ถา้ ไม่เคยอบรมลกู น้องไว้เลย ถงึ คราวจะไปโน่นไปน่ี ก็ไมไ่ ดด้ ังใจสักที เมื่อก่อนหลวงพ่อก็ตอบไมถ่ ูก วา่ ทาำ ไม แตพ่ อมาเจอหนงั สอื จรรยาบา่ วเลม่ นจ้ี งึ เขา้ ใจวา่ ทคี่ นโนน้ คนนที้ าำ อะไรใหเ้ ราไมไ่ ดอ้ ยา่ งใจ เพราะไม่ไดท้ ำาอยา่ งท่คี วรจะเปนนั่นเอง เวลาจะไปไหนดึก ดน่ื หรือวา่ มีงานดว่ น ส่ิงที่ผูใ้ หญต่ อ้ งการมาก นอกจากจะช่วยปลกุ ท่านตามเวลาแลว้ กค็ อื ต้องการความพรอ้ มของเรา งึ่ เปนผูต้ ดิ ตามนั่นเอง สมมุติว่าจะต้องออกเดินทางตอนตีสอง สำาหรับหลวงพ่อกว่าจะทำางานประจำาวันเสร็จก็ดึก ปกตจิ ะสรงนา้ำ เวลาเทย่ี งคนื ตอ่ จากนน้ั กส็ วดมนตท์ าำ วตั ร เสรจ็ กร็ าวเทย่ี งคนื สสี่ บิ หา้ หรอื ตหี นง่ึ แลว้ ถ้าจะนอนก็คงมีเวลาหลับเพียงชั่วโมงเดียว ป่วยการหลับ เพราะเวลาน้อยเหลือเกิน ก็อาจหยิบ หนงั สอื มานง่ั อา่ นหรอื ขดี เขยี นรอเวลาไป ทจ่ี รงิ แลว้ การไดห้ ลบั สกั ชว่ั โมงสองชวั่ โมงอาจจาำ เปน เพราะ เมอื่ ไปถงึ ทแี่ ลว้ ตอ้ งลงมอื ทาำ งานเลย แตถ่ า้ ผตู้ ดิ ตามกไ็ ปนอนดว้ ย แลว้ ตงั้ นา กาไวก้ ระชน้ั ชดิ เกนิ ไป พอถงึ เวลาจวนตสี อง ตนื่ ขนึ้ มาดว้ ยอาการงวั เงยี ทงั้ คู่ เดยี วกห็ ลงลมื อะไรกนั บา้ ง เสยี งานจนได้ ผู้ติดตามหรือลูกน้องท่ีดีต้องกระปร้ีกระเปร่าอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยตระเตรียมทุกอย่างไว้ ใหพ้ ร้อม เช่นว่าอาจจะตนื่ ขน้ึ มากอ่ นสัก นาที พออกี นาที จะถึงเวลาเดนิ ทาง เจา้ นาย ตื่นข้ึนมาก็ให้ท่านรองท้องด้วยปาท่องโก โอวัลตินหรือกาแ พาหนะท่ีใช้ในการเดินทางควรเช็ก ใหพ้ รอ้ มอยเู่ สมอ อยา่ งนจ้ี งึ จะดี บางครง้ั หลวงพอ่ โชคดไี ดเ้ ดก็ เกง่ อยา่ งนมี้ าชว่ ยงาน เมอื่ จะเดนิ ทาง ไปทห่ี นึ่งเพือ่ ทาำ งานเรือ่ งนน้ั ความท่ีใจจดจอ่ อย่กู บั งานจงึ เตรียมเฉพาะเรือ่ งงานเทา่ นนั้ ไมค่ ่อย ห่วงเรื่องสว่ นตัว ทำาให้หลงลืมไม่ได้เอายาไปฉันตามเวลาทห่ี มอส่ัง เดก็ เขาจะเตรียมเอาไปใหเ้ สร็จ ไมบ่ กพร่อง กส็ บายไป กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
บางครั้งเดินทางไปทาำ งานในที่แห่งหนงึ่ ึง่ี อยู่ไมไ่ กลจากอกี แห่งหน่ึง สามารถแวะทาำ ธุระได้ อกี อย่าง แตท่ แี รกไมไ่ ดค้ ิด ไมไ่ ดเ้ ตรยี มการมา กเ็ ลยทำาไม่ได้ เสียเท่ียวไปเปล่า แต่บางครั้งได้ เด็กท่รี ู้ใจมาคอยดูแลว่า หลวงพอ่ จะไปทำางานอะไร เขารู้ระยะทาง รู้ระยะเวลา และรูค้ วามจาำ เปน มากนอ้ ยทงั้ หมด แลว้ กเ็ ตรยี มงานตา่ ง ไปใหเ้ สรจ็ สรรพ เผอื่ แวะหรอื เลยไปทาำ งานอนื่ ไดด้ ว้ ย ทั้ง หยูกยา เคร่อื งอดั เทป วดิ ีโอ สไลด์ ฯลฯ บางทหี ลวงพ่อเห็นเขาหอบพะรงุ พะรังกเ็ อด็ เอาเสียอีกว่า จะเอาไปทำาไมมากมาย เขาก็บอกว่า เผื่อหลวงพ่อทำาธุระตรงนี้เสร็จ อาจจะแวะไปตรงนั้นได้ เลยเตรียมมาให้ ถึงไม่ได้ใช้งานก็ไม่เปนไร ไม่หนักหนาอะไร ผมหิ้วติดมือมาด้วย เผ่ือจะได้ไม่ เสียเทยี่ ว อย่างนีก้ ็ดีเหมอื นกัน ทาำ ให้เราคลอ่ งตัวทำางานได้มาก ไม่ตดิ ขดั ไอช้ นิดทสี่ งั่ หนงึ่ ได้แค่ จุดห้า จุดเจด็ ละกแ็ ยห่ นอ่ ย กไ็ ด้แต่ทนใช้งานกนั ไปอย่างนั้นเอง การทบี่ คุ คลจะไดบ้ รวิ ารอยา่ งนไี้ มใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยนกั แมพ้ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ กท็ รงเคยเจอปญั หา มาแล้ว สมยั ที่พระองค์ทรงประกาศพระศาสนาไปได้สัก - ป คราวหน่ึงทรงเดนิ ทางไปกบั พระภกิ ษผุ ตู้ ดิ ตามอปุ ฏั ฐากรปู หนง่ึ ผา่ นปา่ มะมว่ งรม่ รน่ื นา่ แวะพกั ผอ่ น แตพ่ ระองคท์ รงมกี จิ จะตอ้ ง เดินทางไปต่อ ทรงหยุดพักไม่ได้ พระภิกษุรูปที่ติดตามมาด้วยกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ป่ามะม่วงนรี้ ่มรน่ื ดี ขา้ พระพทุ ธเจา้ ขอพักอยทู่ ่ีน่แี หละ เพ่ือเจรญิ ภาวนา พระพุทธองค์ทรงค้านว่า อย่าเลย ไปกับเราก่อนเถิด เราจะไปเทศนท์ หี่ ม่บู า้ นขา้ งหนา้ พระภกิ ษทุ ูลว่า ข้าพระพุทธเจา้ ไม่ ไปดว้ ยหรอกพระเจา้ ขา้ จะหาปา่ รม่ รนื่ อยา่ งนไี้ ดท้ ไ่ี หนอกี ขา้ พระพทุ ธเจา้ ขอนง่ั ทาำ ภาวนาอยทู่ น่ี แ่ี หละ แมพ้ ระพทุ ธองคจ์ ะทรงเอย่ ชวนอกี หลายครงั้ กไ็ มย่ อม กลบั วางบาตรของพระองคล์ งกลางถนน แลว้ กเ็ ข้าป่ามะมว่ งไป พระพุทธองคจ์ งึ ตอ้ งทรงถือบาตรไปเอง ตอนนั้นพระองค์ทรงมพี ระชนมายุ ประมาณ - พรรษา เมอ่ื จะเสด็จไปเทศน์ทไี่ หนกท็ รงมภี ารกจิ หลายอย่าง เชน่ ต้องประกาศ ให้ชาวบ้านชาวเมืองรู้ว่าจะมีการเทศน์ที่ไหน เม่ือใด เรื่องอะไร และต้องนำาของใช้ เช่น บาตร ไปด้วย และยงั ตอ้ งไปจัดอาสนะเอง ง่ึ นับว่าเปนภาระยุ่งยากเกนิ ไปสาำ หรบั ผ้สู ูงอายเุ ช่นพระองค์ ในท่สี ุดพระองค์จงึ ทรงเลอื กพระอานนทม์ าเปนอุปัฏฐากคอยรบั ใช้ และเปนเลขานกุ ารสว่ นพระองค์ ดว้ ย ถา้ เปนในวงการทหารกบ็ อกวา่ เปนตาำ แหนง่ ทส. (ทหารคนสนทิ ) นน่ั เอง เมอื่ พระอานนทไ์ ดเ้ ปนพระอปุ ฏั ฐากประจาำ กป็ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ ทที่ รงมอบหมายไดอ้ ยา่ งยอดเยยี่ ม จนพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ วา่ จะหาพทุ ธอปุ ฏั ฐากทม่ี คี วามสามารถเกนิ กวา่ พระอานนท์ น้นั ไมไ่ ด้แลว้ งานประกาศพระศาสนาของพระองค์จงึ รดุ หนา้ รวดเร็วยิง่ ขึ้น กวา่ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จะทรงไดพ้ ระอานนทม์ าเปนเลขาฯ หรอื เปนอปุ ฏั ฐากสว่ นพระองค์ กท็ รงเจอเลขาฯ ประเภทไมเ่ ปนโลเ้ ปนพาย ทาำ ให้พระองคต์ ้องทรงลำาบากลำาบนเสียหลายครั้ง เช่น คราวหนง่ึ พระภกิ ษรุ ปู หนง่ึ ขณะรว่ มทางไปกบั พระองคด์ ี พอไปไดค้ รงึ่ ทางกลบั ขอแยกไปทางอน่ื เสยี นี่ ปลอ่ ยใหท้ รงถือบาตรไปเอง พระองคท์ รงห้ามถงึ ครงั้ กไ็ ม่เชอ่ื แยกทางไปจนได้ แล้วก็ ไปโดนโจรทุบหัวเอา ว่ิงเลือดโชกมาทีเดียว ร้องว่า พระพุทธเจ้าข้า รอด้วย โจรมันทุบหัว ขา้ พระพุทธเจ้า เจ็บเหลอื เกิน พระพุทธองคต์ รสั วา่ เราบอกแล้วไงว่าอยา่ ไป พระภกิ ษุนนั้ กลับ ตอบว่า แลว้ ทาำ ไมพระองคไ์ ม่บอกข้าพระพุทธเจา้ กอ่ นว่าไปแลว้ จะโดนตหี วั แบบนี้ อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั ตอบวา่ ถา้ บอกเธออยา่ งนนั้ เธอกจ็ ะคดิ วา่ เราหลอกลวงขเู่ ธอ เพอ่ื ว่าเธอจะไดไ้ ปกบั เรา เราออกปากห้ามเธอหลายครงั้ กไ็ ม่ยอมเช่อื จงึ ต้องปลอ่ ยให้เปนอย่างนี้ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงมบี ารมมี ากขนาดนี้ กวา่ จะไดอ้ ปุ ฏั ฐากทร่ี ใู้ จมารบั ใชย้ งั ยาก เพราะ ฉะนนั้ ใหต้ งั้ ใจศกึ ษาและปรบั ปรงุ ตวั ใหด้ ี เผอื่ จะไดเ้ ปนเลขาฯ พระพทุ ธเจ้าพระองคห์ นา้ ไดบ้ ญุ มาก ทีเดียว ยงั มแี งค่ ดิ เกยี่ วกบั การเลอื กอปุ ฏั ฐากของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ง่ึ นา่ สนใจสาำ หรบั ผทู้ เี่ ปนนาย ท่ีต้องการผ้รู บั ใช้ใกลช้ ดิ ร้ใู จสกั คน จะไดศ้ กึ ษาไวเ้ ปนตัวอยา่ ง ตอนทีพ่ ระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ ตรัสว่า ต้องการอุปัฏฐาก ก็มีพระเถระผู้ใหญ่หลายท่านอาสา องค์แรกคือพระสารีบุตร แต่พระสัมมา- สมั พทุ ธเจ้าไม่ทรงรับ ตรัสว่า อยา่ เลยสารบี ุตร เธอมคี วามรคู้ วามสามารถมาก เธอไปทางทิศไหน ประชาชนกจ็ ะดอี กดใี จเหมอื นอยา่ งไดเ้ หน็ เราไปเอง ถา้ เธอไปกบั เราเสยี แลว้ ประชาชนทเี่ ขารอเธอ หรอื รอเราทางทศิ อ่ืน กจ็ ะตัง้ ตาคอย ทาำ ใหเ้ สยี ประโยชน์ของงานพระศาสนา จากพระดาำ รสั นี้ ทาำ ให้เราได้เห็นนาำ้ พระทัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวา่ ทงั้ ทพี่ ระสาวก มือดีท่ีสุด ทรงปัญญาเปนเลิศ อาสาขอเปนเลขาฯ ส่วนพระองค์ แต่พระองค์กลับไม่ทรงยอมรับ ด้วยเกรงว่าประชาชนท้ังหลายจะเสียประโยชน์ไป ส่วนพระองค์เองจะทรงเหน่ือยยากอย่างไรก็ไม่ เปนไร ครน้ั เมอ่ื ไมท่ รงรบั พระสารบี ตุ รแลว้ พระโมคคลั ลานะจงึ อาสาขอเปนอปุ ฏั ฐากเอง แตพ่ ระองค์ กท็ รงหา้ มเอาไวอ้ กี ดว้ ยเหตผุ ลเดยี วกนั นนั้ พระอรหนั ตผ์ ใู้ หญท่ ง้ั หลายพากนั อาสา เหตกุ ารณก์ เ็ ปน เช่นเดียวกัน จนกระทั่งเหลือพระอานนท์เพียงรูปเดียว ท่านน่ังเฉยอยู่ไม่ได้อาสาแต่ประการใด เหตุท่ที ่านไมอ่ าสาเพราะมเี หตผุ ลอยใู่ นใจ ประการ คือ ประการแรก ทา่ นคดิ วา่ ทา่ นเองกย็ งั ไมไ่ ดเ้ ปนพระอรหนั ต์ ยงั ไมห่ มดกเิ ลส เปนแคพ่ ระโสดาบนั ประการทสี่ อง ทา่ นมอี าวโุ สนอ้ ย ขนาดพระผใู้ หญท่ ง้ั หลายพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ยงั ไมท่ รงรบั ไว้ เปนอปุ ฏั ฐาก ถงึ อาสาไปพระองคอ์ าจไม่ทรงรับกไ็ ด้ ประการที่สาม ถ้าพระพุทธองค์ทรงต้องการจะให้ท่านเปนอุปัฏฐากก็คงมีรับสั่งเอง และใน ทส่ี ดุ พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ กท็ รงเจาะจงชม้ี าที่พระอานนท์ ทรงบอกใหม้ าเปนอุปัฏฐาก แสดงว่าการจะเลือกเอาผใู้ ดมาเปนอปุ ฏั ฐากหรอื เปนเลขานกุ ารส่วนตวั น้ี ไม่จาำ เปนต้องเปน บุคคลท่ีทรงคุณธรรมอันเลิศไปเสียทั้งหมด แต่ขอเพียงเปนผู้ท่ีรู้ใจนายดี และท่ีสำาคัญจะต้องไม่มี ขอ้ บกพรอ่ ง และสามารถปองกันไม่ให้เกิดขอ้ ครหาตา่ ง แก่เจ้านายได้ อยา่ งเชน่ พระอานนทน์ นั้ ขนาดพระพุทธองค์ทรงชต้ี วั เรยี กให้มาเปนอปุ ัฏฐาก ทา่ นยงั ไม่รับทนั ที ขอตัง้ เง่อื นไขก่อน เงือ่ นไข ทข่ี อไวน้ นั้ เพอ่ื ปองกนั คาำ ครหาวา่ รบั เปนอปุ ฏั ฐากเพราะเหน็ แก่ความสะดวกสบาย และเพอื่ ปองกนั ไม่ใหใ้ ครตาำ หนพิ ระพุทธเจา้ ได้วา่ ทรงลาำ เอียงเพราะรกั เพราะเปนคนโปรด ทา่ นขอไว้หลายข้อ เช่น ไม่ให้ประทานของดี เสมอของพระพุทธเจ้า ไม่ให้พกั ในท่ีเดียวกัน มีหลายขอ้ ลว้ นแตไ่ มใ่ ชเ่ พอื่ ประโยชนข์ องทา่ น แตเ่ พอื่ ประโยชนข์ องพระพทุ ธองคแ์ ละของพระศาสนาทงั้ นน้ั มโี อกาสหลวงพอ่ จะเอาเรอื่ งพระอานนทท์ าำ หนา้ ทเี่ ลขาฯ มาเลา่ ให้ งั จะไดร้ วู้ า่ เลขาฯ ดี นน้ั เขาคดิ กนั อยา่ งไร ตอนนศี้ กึ ษาจากทท่ี า่ นผเู้ ขยี นหนงั สอื จรรยาบา่ ว ใหไ้ วไ้ ปกอ่ นกแ็ ลว้ กนั นะ.. (อา่ นต่อฉบับหนา้ ) กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
่อ อบ ญ ั า า นา า ย คนในโลกน้ีมีหลากหลายความเช่ือ บางครั้งก็มี คหลวาายมนเหกิ า็นยไมกย่ล็ งังอรยอรู่ยว่ กมันกนั ไแดตโ้ ด่ ยเไหมตก่ รุใะดทชบากวรพะุททธงั่ กแนัม?้มี ANคS�ำ ตWอบER ศาสนิกต่างศาสนาท่านหน่ึงได้พบกับหลวงพ่อ ได้สนทนากัน เขาเอ่ยความในใจข้ึนมาว่า ทกุ คนในโลกตา่ งกอ็ ยากเหน็ ชาวโลกเปนสขุ ดว้ ยกนั ทงั้ นน้ั แตใ่ นขอ้ ปฏบิ ตั ติ า่ ง หรอื วธิ ตี ดั สนิ ใจ ตา่ ง โดยรายละเอยี ดมกั จะมขี อ้ ขัดแย้งกนั อยเู่ ปนประจำา แมแ้ ตใ่ นศาสนาเดยี วกนั ก็ยังไมว่ าย มีขอ้ ขดั แย้งกัน เขารูอ้ กี ว่า ในพระพุทธศาสนาของเราก็มีหลายนิกายเหมอื นกนั แต่ทว่าในพระพุทธศาสนา แมม้ หี ลายนิกายกไ็ ม่ไดท้ ะเลาะกัน ไมถ่ ึงกบั ยกพวกมาลยุ กันหรืออะไรอย่างนั้น ตรงน้เี ขาเห็นแลว้ ก็ชนื่ ชม แล้วกเ็ ลยถามมา ่ึงเปนคาำ ถามที่หลวงพอ่ ประทบั ใจว่าเขาเข้าใจถาม มีประโยชน์ แลว้ คาำ ตอบก็น่าจะไดร้ ้ทู ั่วกนั ท้งั ชาวพทุ ธและชาวโลก Qเขาถามวา่ ชาวพทุ ธแม้ตา่ งนิกาย ทาำ ไมจึงไม่มีการกระทบกระทง่ั กนั เหน็ มารว่ มกันทาำ บญุ หลวงจนี กน็ งุ่ หม่ แบบหลวงจนี หลวงเกาหลคี ลา้ ยหลวงจนี แตก่ ม็ สี ว่ นทแ่ี ตกตา่ งอยบู่ า้ ง หลวงลามะ จากทิเบตกอ็ กี อย่างหน่ึง Aในความแตกต่างอย่างน้ี มีวิธีที่จะทำาความเข้าใจและก่อให้เกิดความสมัครสมานกันขึ้นมา ได้อย่างไร ที่เขาถามอย่างน้ีก็เพ่ือว่า เม่ือรู้แล้วจะได้ใช้หลักเดียวกันนี้ในกลุ่มศาสนาเดียวกันกับ ของเขา เพราะเขากไ็ มอ่ ยากเหน็ ผู้ที่นับถอื ศาสนาเดยี วกนั กับเขาขัดแยง้ กัน แลว้ ก็อยากจะเห็นท้งั ศาสนาทเ่ี ขานบั ถอื กบั ศาสนาพทุ ธของเราอยรู่ ว่ มกนั ดว้ ยดี แตจ่ ะมวี ธิ จี ดั การอยา่ งไรในสว่ นทไ่ี มต่ รงกนั อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
่งึ หลวงพ่อให้ข้อคดิ กับเขาไปตั้งแตเ่ รม่ิ ตน้ ว่า ) คนเหมือนกนั เกดิ เป็นคนตา่ งก็มคี ณุ คา่ คนเราไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน เปนชนชาติเผ่าพันธุ์อะไรก็ช่างเถิด เขาก็เปนคน เราก็ เปนคน แล้วกม็ ีองค์ประกอบเหมือน กนั คือ มีกายท่ีประกอบดว้ ยเลอื ดดว้ ยเน้อื เหมอื นกัน มใี จใส ดว้ ยกนั ทง้ั นนั้ ถา้ ใจไมใ่ ส แลว้ ไมไ่ ดส้ รา้ งบญุ มามากพอ ไมไ่ ดเ้ กดิ เปนคนหรอก ในโลกนถี้ า้ เราเทยี บกนั ระหวา่ งจาำ นวนมนษุ ยก์ บั สตั วท์ ง้ั หลาย เมอ่ื เทยี บกนั แลว้ จาำ นวนมนษุ ย์ น้อยกว่าสัตว์ต้ังเยอะ อย่าว่าแต่เอามาเทียบกันทั้งโลกเลย เอาแค่เทียบท่ีบ้านตัวเอง จำานวนคน ในบ้านตอ่ ให้ครอบครวั ใหญก่ ็มีไม่กีส่ บิ คน แต่เมอื่ นับจาำ นวนสตั วใ์ นบา้ นดู บางคนอาจจะบอกว่า ท่ีบ้านไม่เลี้ยงสุนขั ไม่เล้ยี งแมว แล้วคณุ เคยนับมดไหมว่าทั้งบา้ นมีสักกีต่ วั จง้ิ จกก่ีตวั ตุ๊กแกก่ตี วั ยงุ กีต่ วั แมลงตา่ ง กีต่ ัว ถ้าอย่างนก้ี ็จะเห็นไดว้ ่าระหวา่ งมนุษย์กับสัตว์เทียบสดั สว่ นกันไมไ่ ด้เลย ไม่วา่ บา้ นไหนสตั ว์ก็มากกวา่ คน ไมว่ า่ ในประเทศไหน สัตวก์ ต็ ้องมากกวา่ คน หรือแมก้ ระทงั่ ในโลกทง้ั โลกนี้ สตั วก์ ม็ ีมากกวา่ มนุษย์ชนิดเทียบกนั ไม่ไดเ้ ลย ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ เมื่อเกิดมาแล้วอย่างไหนจะสร้างคุณประโยชน์ให้กับตัวเอง สร้าง คุณประโยชน์ให้กับโลกได้มากกว่ากัน ใครท่ีมีใจเปนกลางก็ต้องมองเห็นว่า ถึงอย่างไรมนุษย์ ก็สร้างคณุ ประโยชนใ์ หก้ บั ตัวเอง ให้กับชาวโลก ใหก้ บั โลกใบน้ีได้มากกว่าสตั ว์เปนแนแ่ ท้ ถามวา่ การเกดิ มาเปนมนษุ ยก์ บั การเกดิ เปนสตั ว์ อยา่ งไหนจะโชคดกี วา่ กนั ถงึ อยา่ งไรมนษุ ย์ ก็โชคดีกวา่ สัตวอ์ ยา่ งแน่นอน การที่จะเกิดเปนมนุษย์ เกิดเปนสัตว์ ข้ึนอยู่กับอะไร ในศาสนาอ่ืนเขาบอกว่า ศาสดา ของเขาสอนว่าใครจะเกิดมาเปนมนุษย์ ใครจะเกิดมาเปนสัตว์ ข้ึนอยู่กับความปรารถนาของ ผสู้ รา้ งโลกทเี่ ขานบั ถอื ในพระพุทธศาสนา พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าทรงสอนไวว้ า่ ทงั้ คนและสตั ว์มีสว่ นท่ีเหมอื นกัน Qคือลว้ นรกั สุขเกลียดทกุ ขเ์ หมือนกนั คนพูดภาษาสัตวไ์ มไ่ ด้ สัตว์กพ็ ูดภาษาคนไม่ได้ แตด่ ไู ด้จาก ลักษณะท่าทางของเขาก็ร้วู ่า รกั สขุ แล้วเกลียดทกุ ข์เหมือนกัน ในพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาทรงเปนผู้ค้นพบความจรงิ ของสรรพสิง่ ทั้งหลาย ในการ Aคน้ พบนน้ั ทรงคน้ พบจากการทำาสมาธิ พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ ของเราทรงฝกึ พระองค์อยา่ งนี้ ทรง ทาำ สมาธเิ พอื่ ทาำ ใหใ้ จใส สว่ นระยะเวลาทฝี่ กึ กไ็ มใ่ ชแ่ คเ่ ปนวนั ไมใ่ ชแ่ คเ่ ปนเดอื น แตท่ รงฝกึ สมาธิ อยา่ งตอ่ เนื่องมานับภพนับชาตไิ ม่ถว้ น แม้ในชาติสุดท้ายก็ทรงฝึกนานหลายป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้ความจริงของทุกสิ่งทุกอย่างโดยอาศัยการทำาสมาธิให้ใจใส พอใสแล้วใจจะสวา่ ง สว่างแลว้ กจ็ ะเหน็ ความจริง พระพุทธองคท์ รงพบวา่ คนทุกคนนั้น ถึงคราว ละโลกไปก็ยงั มีชวี ิตหลังความตาย ไม่ไดต้ ายแลว้ สูญ ถ้าต้งั ใจทาำ ความดี ความดที ท่ี าำ ไวก้ ็จะสง่ ผล ใหเ้ ปล่ียนตวั เองจากคนไปเปนเทวดา นาง า ไปอยใู่ นภพภมู ใิ หมท่ ี่เปนสุข ทีเ่ รียกว่า สวรรค์ คนท่ี ทำาไม่ดี ตายแล้วก็ไม่สูญ แต่ว่าผลของความเลวจะส่งเขาไปอยู่ในภพภูมิที่เดือดร้อน ไปอยู่แล้ว เปนทกุ ข์ เรยี กวา่ นรก กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
บางคนถงึ จะเปนคนเลว แตก่ ย็ งั ไมเ่ ลวสดุ ผลของความเลวสง่ ใหไ้ ปเกดิ แคเ่ ปนสตั วเ์ ทา่ นนั้ แทนทจี่ ะไปถงึ นรก ถา้ ไมเ่ ลวเกนิ ไปจนกระทง่ั ไปเปนสตั วน์ รก กม็ าเปนสตั วเ์ ดรจั ฉานอยา่ งทพ่ี วกเรา เหน็ เชน่ มด ปลวก เปนตน้ ๒) เกิดเปน็ คนยอ่ มต้องการโอกาสกลับเน้อื กลบั ตัว พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงคน้ พบอกี วา่ หลงั จากทร่ี บั โทษไปแลว้ พวกทไ่ี ปตกนรกและรบั โทษ พอสมควรแล้ว ก็มโี อกาสกลบั มาแกต้ ัวอีก ในระหวา่ งท่เี กิดเปนสัตว์ ถ้าระมดั ระวงั ตวั ดี ไม่ใช่สตั ว์ เกเร ความไม่ดีก็ค่อย คลายตัวไป พวกน้ีมโี อกาสกลับมาเกิดเปนคนอีก พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ ทรงพบว่า คนสามารถไปเกดิ เปนสตั ว์ และสตั ว์กส็ ามารถกลบั มาเกิด เปนคนได้ การเกิดเปนคนทาำ ใหม้ โี อกาสกลบั มาแก้ตัวใหม่ ถ้ากลบั เน้อื กลับตัวได้ กจ็ ะมคี วามสุข มากยงิ่ ขนึ้ ไมต่ อ้ งกลบั ไปเกดิ เปนสตั วอ์ กี แตก่ ารกลบั เนอ้ื กลบั ตวั ไดน้ นั้ ไมใ่ ชว่ า่ คนโนน้ คนนไ้ี ปเสกให้ แตเ่ ขาตอ้ งปรบั ปรุงตวั เอง การดำาเนินชีวิตในวิถีชาวพุทธจึงมีคำาว่า ทำาดีต้องได้ดี ทำาช่ัวต้องได้ช่ัว ดังน้ันผลของ กรรมดีก็คือ เวลาทำาดีก็ต้องได้รางวัลกันบ้าง ส่วนผลของกรรมช่ัวก็คือ เวลาทำาช่ัวก็ต้องลงโทษ กันบ้าง แต่เมื่อพ้นโทษแล้วก็ให้โอกาสกลับตัวใหม่ เพราะทุกชีวิตในโลกน้ีต่างยังตกอยู่ภายใต้ กฎแหง่ กรรม คอื กฎแหง่ การรบั ผลการกระทาำ ที่คน นน้ั ได้ทำาไว้นั่นเอง ) ใหเ้ วลาแตล่ ะคนแก้ไขตวั เอง พระพุทธศาสนาสอนให้มุ่งม่ันทำาความดีเรื่อยไป ส่วนท่ีเปนความดีก็ทำาไปมาก ส่วนที่ ยังไม่ดีก็ปล่อยเวลาให้เขาได้มีเวลาแก้ไขตัวเอง เพราะคิดอย่างนี้ชาวพุทธแม้ต่างนิกายก็ไม่ ทะเลาะกนั เพยี งแตว่ า่ ความเชือ่ ยังไมต่ รงกนั ตา่ งคนก็ไปฝกึ สมาธใิ ห้ใจใส พอใจใสแล้ว เดียวก็ เห็นความจริงตรงกัน ) ใจใส จากสมาธทิ าำ ใหเ้ หน็ ความจรงิ ตรงกนั Qความทคี่ นในโลกนตี้ า่ งกเ็ ปนคนเหมอื นกนั ทาำ ใหแ้ มต้ า่ งศาสนากนั กน็ งั่ สมาธดิ ว้ ยกนั ได้ เมอื่ น่งั สมาธิใหใ้ จใส แลว้ เดยี วก็ตอ้ งเห็นตรงกนั ธรรมชาติของใจทส่ี ะอาดบริสุทธิจะปรับเขา้ หากัน Aไดเ้ องโดยธรรมชาติ เหมือนนาำ้ บรสิ ทุ ธิที่ไม่วา่ จะอยู่บนยอดเขา บนทอ้ ง า ในแมน่ า้ำ เม่อื นาำ มารวมกัน ก็ยอ่ มมคี วามเข้ากันได้ สง่ิ นเี้ ปนการสะท้อนให้เหน็ ว่า แมต้ ่างศาสนา เรากเ็ ปนเพอื่ นรว่ มโลก เปน เพอื่ นนง่ั สมาธริ ว่ มกนั ได้ ขอเพยี งตา่ งคนตา่ งทาำ ความดใี หม้ าก สว่ นขอ้ บกพรอ่ งตา่ ง ปลอ่ ยให้ ต่างคนได้แก้ไขตัวเอง แล้วนั่งสมาธิกนั ไปทกุ วนั พอนัง่ สมาธิใจใสก็จะอยากปรับตวั ปรบั ใจเข้าหา กนั เอง เห็นตรงกันเอง ดังนัน้ ถา้ อยากจะให้ชาวโลกอยู่รว่ มกันไดอ้ ย่างมีความสุข ไมข่ ัดแย้งกัน ไมเ่ บยี ดเบียนกัน กช็ ่วยกนั ชวนชาวโลกทง้ั หมดมาเปนเพอ่ื นน่ังสมาธิกนั .. อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
燰¥‘ ¡“‡æ◊ËÕ √â“ß∫“√¡’ ¡“∑”æ√–πæ‘ æ“π„À·â ®âß „À·â µà≈–«π— ºà“π‰ª¥â«¬°“√‡µ¡‘ §«“¡¥’ ‡µ‘¡§«“¡∫√ ‘ ∑ÿ ∏„‘Ï Àâ°∫— µπ‡Õßé ‚Õ«“∑æ√–‡∑æ≠“≥¡À“¡ÿπ’ «.‘ (À≈«ßæÕà ∏—¡¡™‚¬)
อ อบ าก ายกา ั ก ากา า า าย าน ก นิ าปา แ อานิ ง ์ น อน อ ่ นอย่ ผ้าป่า เราใช้อกี คาำ หน่งึ วา่ ผา้ บังสกุ ุล เปนผ้าท่ีไมม่ ีเจ้าของ คอื เปนธรรมเนยี มของสงฆ์ ตั้งแตค่ รั้งพทุ ธกาลว่า ผ้าที่พระใชท้ ำาเปนจีวรเอามาจากผา้ คลกุ ฝุ่น บางคร้งั เปนผ้าห่อศพกม็ ี ผา้ ท่ี ไมใ่ ชแ้ ลว้ กม็ ี พดู งา่ ย คอื เปนผา้ ทเี่ จา้ ของเขาทงิ้ แลว้ สละแลว้ พระภกิ ษกุ ไ็ ปเอาผา้ นน้ั มา กั และ มาย้อมด้วยสจี ากแกน่ ไม้ เชน่ แก่นขนุน เปนต้น เสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ก็เอามาทำาเปนจีวร เวลาพระ ภกิ ษุไปชกั ผา้ ปา่ จะใชค้ าำ ว่า อิทงั วัตถัง อัสสามกิ งั ปังสุกลุ ะจวี ะรัง มัยหงั ปาปณุ าติ ผา้ บังสกุ ลุ จวี รอนั ไม่มีเจ้าของน้ี จงสาำ เร็จประโยชนแ์ กข่ ้าพเจ้าในกาลบดั นี้ ปกติแตเ่ ดิมจริง ผ้าปา่ เปนผา้ ท่ไี ม่มีเจา้ ของเลย แตต่ อนหลังเปนผ้ามีเจ้าของที่เขาเอามา พาดไว้ ่งึ เจ้าของเขาก็กลา่ วคำาถวายแล้วว่า ขอถวายแดค่ ณะสงฆ์ แลว้ เอาไปพาดไว้ ่ึงต่างจาก เวลาถวายของอยา่ งอื่นท่ีใช้วิธีประเคน แต่ผ้าปา่ ใช้วธิ ีพาด บางครั้งก็พาดที่ราวไม้ไผบ่ ้าง พาดอยู่ บนพานบ้าง แล้วพระภิกษุก็มาจับผ้า และกล่าวว่า อิทัง วัตถัง สัสสามิกัง ปังสุกุละจีวะรัง มยั หงั ปาปุณาติ ผ้าบงั สุกลุ จีวรอันมเี จ้าของน้ี จงสาำ เรจ็ ประโยชน์แก่ขา้ พเจา้ ในกาลบัดนี้ แลว้ ท่านกช็ กั ผ้าขึ้นมาพาดไวท้ ่ีแขน เปนการรกั ษาธรรมเนยี มเดมิ คือยงั มีการชกั ผา้ ฉะนัน้ การถวาย ผ้าปา่ จงึ ถวายไดท้ ้งั ป ไม่จำากัดเรื่องเวลา และถวายพระภกิ ษรุ ูปเดียวก็ได้ ถวายเม่อื ไรก็ได้ นน่ั คอื ผา้ ป่า อยู่ในบุญ กนั ยายน ๒๕๕๗
แต่ถ้าเปนกฐินไม่ใช่แบบนี้ การถวายผ้ากฐินเปนส่ิงท่ีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ ถวายแก่พระภกิ ษุในวดั ที่มีพระจาำ พรรษาครบ รูป ตลอดพรรษา เดอื น และถวายไดภ้ ายใน เวลา เดอื น นับตง้ั แตว่ นั ออกพรรษา คือ ตงั้ แตว่ นั แรม ค่ำา เดือน จนถึงวันขน้ึ คำา่ เดือน คอื วันลอยกระทงนน่ั เอง หมายความวา่ พระภิกษสุ ามารถรบั ผ้ากฐนิ ไดเ้ ฉพาะในเวลา หน่งึ เดอื นนีเ้ ท่าน้นั ไมส่ ามารถรับทงั้ ป การทอดกฐินจึงถือวา่ เปนกาลทาน คือเปนทานทีจ่ ำากัดด้วย เงอื่ นไขของเวลา ไมไ่ ดท้ าำ ไดต้ ลอดเวลา แลว้ ยงั ทาำ ไดเ้ ฉพาะกบั พระภกิ ษใุ นวดั ทม่ี พี ระอยจู่ าำ พรรษา ตลอดพรรษา และครบ รูป ถา้ วัดไหนมพี ระ - รูป ก็รับกฐินไมไ่ ด้ แต่ถ้าเปนการทอดผ้าป่า สามารถทำาได้ นอกจากน้วี ัดหน่งึ ยังรับกฐนิ ได้แคป่ ละครง้ั เดยี วเทา่ น้ัน แตผ่ ้าปา่ จะทอดกคี่ รั้งกไ็ ด้ น อ ย อน น อ ่ นอย่ ใน ่ ยุ ย ในแง่หลักการสำาคัญก็ต้องคงเดิมเอาไว้ แต่รูปแบบพิธีการหรือข้าวของท่ีถวายอาจจะ แตกต่างกนั ไปตามทอ้ งถน่ิ บ้าง แต่หลักการของผ้าป่าเปนอย่างท่กี ล่าวไปแล้วข้างตน้ สว่ นรปู แบบของกฐนิ นนั้ จะไมป่ ระเคนหรอื ประเคนกไ็ ด้ แตต่ อ้ งไปวางไวท้ หี่ นา้ คณะสงฆ์ เสรจ็ แลว้ คณะสงฆ์ต้องมีการอปโลกน์กฐิน คือตง้ั พดั แลว้ ตัวแทนสงฆ์ รปู จะกล่าววา่ ผ้ากฐินทานกับทั้งผ้าอานิสงส์บริวารทั้งปวงนี้ เป็นของบริสุทธิประดุจเลื่อนลอยมาจาก ท้องนภากาศ แล้วตกลงในท่ามกลางสงฆ์ มิได้เ พาะเจาะจงแก่ภิกษุรูปหนึ่งรูปใด แต่มี พระบรมพทุ ธานุญาตไว้ว่า ให้มอบแก่ภกิ ษุผ้มู จี วี รเก่า หรอื เป็นผ้มู คี วามสามารถ อาจจะกระทำา กฐินัตถารกิจให้ถูกต้องตามวินัยบรมพุทธานุญาตได้ บัดนี้สงฆ์เห็นสมควรแก่ภิกษุรูปใด ขอจง พรอ้ มใจมอบแกภ่ กิ ษุรูปนัน้ เทอญ นี่คอื การอปโลกน์กฐนิ เสร็จแลว้ ก็จะมีพระภกิ ษุอีกรูปหนึ่ง อาจจะเปนรูปเดยี วกนั หรือคนละ รูปก็แลว้ แต่ ตง้ั พัดในท่ามกลางสงฆ์แล้วกลา่ ววา่ ผา้ กฐินทานกบั ทง้ั ผา้ อานิสงส์บรวิ ารทง้ั ปวงน้ี ขา้ พเจ้าเหน็ สมควรแก่ (กล่าวช่ือและ ายา ของพระภิกษุรูปน้ี) ผู้มีความสามารถ อาจจะกระทำากฐินัตถารกิจให้ถูกต้องตามวินัยบรม พุทธานุญาตได้ ถ้าภิกษุรูปใดเห็นไม่สมควร จงทักท้วงข้ึนในท่ามกลางสงฆ์ จากนั้นก็หยุดน่ิง นิดหน่ึงเพื่อดูว่าจะมีใครท้วงหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็กล่าวต่อไปว่า หากเห็นสมควรแล้ว ขอจงให้ สัททสัญญา สาธุการขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน แล้วพระทั้งหมดก็สาธุ เปนอันว่าเห็นชอบตามที่ พระภกิ ษผุ ตู้ งั้ ญตั ตเิ สนอใหม้ อบผา้ กฐนิ นแี้ กพ่ ระรปู น้ี แตถ่ า้ มสี งฆร์ ปู ใดคดั คา้ นไมเ่ หน็ ดว้ ยแมเ้ พยี ง รูปเดียวกไ็ มไ่ ด้ มติตอ้ งเปนเอกฉันท์ เปอร์เ น็ ต์ แตโ่ ดยท่ัวไปมกั ไม่มใี ครคดั คา้ น กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
อน น อย่ ประเพณที อดกฐินเกดิ ขน้ึ ตง้ั แตค่ รง้ั พุทธกาล มอี ยคู่ ราวหนงึ่ พอออกพรรษาแลว้ พระสงฆท์ ี่ จาำ พรรษาอยตู่ ามทต่ี า่ ง กส็ ง่ ตวั แทนเดนิ ทางมาเฝาพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ (เปนธรรมเนยี มของพระ ในครั้งพุทธกาล) เพื่อท่ีจะดูว่าตลอดพรรษาในปท่ีผ่านมา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติ พระวินัยอะไรบ้าง มีพระธรรมเทศนาใหม่ อะไรบ้าง จะได้มาศึกษาเล่าเรียนและมากราบ พระพทุ ธองคด์ ว้ ย แล้วจะไดก้ ลับไปถ่ายทอดความรู้ใหม่ แก่พระภิกษรุ ูปอื่นในทอ้ งถนิ่ ของตน มอี ยู่คราวหน่ึง พระภิกษุเมืองปาไฐยรฐั รปู เดินทางรอนแรมตากแดด ตากฝน ลัดเลาะ คันนาและเดนิ ผ่านปา่ ผา่ นเขา พอจวี รโดนฝนบวกกับเจอกิ่งไม้ เจอหนาม เจออะไรต่าง ก็ เปอยขาดไปตามสภาพ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงมีพุทธานุญาตให้ถวายผ้ากฐินแก่พระภิกษุได้ ตามเงอื่ นไขดงั ทีก่ ล่าวมาแล้วข้างต้น ตงั้ แตน่ ัน้ มาจึงเกิดเปนประเพณีทอดกฐินขน้ึ น อ นนใน อ อ ย นย อ นอ ย นใน ู บบ ่ ย นอ บ อ นอย่ ถอื วา่ เปนบรวิ ารกฐนิ หรอื บรวิ ารผา้ ปา่ เพราะวา่ ทาำ ไปเพอ่ื ทาำ นบุ าำ รงุ พระพทุ ธศาสนา เนอ่ื งจาก ในช่วงวันทอดกฐิน ทอดผ้าป่า มีสาธุชนมาร่วมบุญท่ีวัดเปนจำานวนมาก และเห็นว่าจะต้อง บำารุงวัดดว้ ยปัจจัย เช่น เรอ่ื งผ้า หรอื เรอื่ งเสนาสนะทเ่ี ปนอาคารสถานทีบ่ ้าง เปนโบสถ์ วิหาร ศาลา หรือกุฏพิ ระบา้ ง งึ่ แล้วแต่วา่ ท่นี นั้ ขาดแคลนส่งิ ใด จาำ เปนจะตอ้ งใช้สิง่ ใด หรือว่าจะ เปนกองทนุ ภตั ตาหาร กองทนุ ยารกั ษาโรคกไ็ ด้ บางทกี เ็ ปนกองทนุ การศกึ ษาของพระภกิ ษสุ ามเณร คือสงิ่ ใดทเี่ ปนประโยชน์ตอ่ พระพทุ ธศาสนา ถอื ว่าเปนบริวารกฐินหรือบรวิ ารผ้าปา่ ไปดว้ ย ใน น ุ บ น ่ อย่ ใน น น บญุ มีตัวอย่างเรื่องจริงในคร้ังพุทธกาล อุบาสกท่านหนึ่งไป ังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเกดิ ศรัทธา อยากจะเลี้ยงพระ แต่ตวั เองมที รัพย์ไมพ่ อ ก็ไปชวนคนทงั้ เมืองมาทำาบุญเล้ียงพระ วนั หนง่ึ ไปเจอเศรษฐขี เี้ หนยี ว อบุ าสกกช็ วนเศรษฐมี ารว่ มบญุ ทา่ มกลางลกู คา้ ทกี่ ำาลงั อ้ื ของเตม็ รา้ น ครั้นเศรษฐีจะไม่ทำาก็กลัวคนว่าข้ีเหนียว ก็เลยจำาใจร่วมบุญกับเขาไป แต่คร้ันเวลาจะเอานำ้ามัน นาำ้ ผึง้ น้าำ ออ้ ยเทใหเ้ ขาคร่ึงแกว้ กก็ ลัวจะเยอะเกินไป กเ็ ลยเปดจุกขวด แลว้ เอามอื ปดไว้ กะวา่ ให้ ออกมาสกั หยดสองหยด ขอมีส่วนรว่ มในบญุ ดว้ ยหยดสองหยด อุบาสกก็ไมไ่ ด้ว่าอะไร ได้แตก่ ลา่ ว คำาวา่ สาธุ อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
บอกบุญกับเศรษฐีข้ีเหนียวแล้ว อุบาสกก็ไปชวนคนอ่ืนทำาบุญต่อไปด้วยความปติเบิกบาน ตามหลักวิชชา แต่ฝ่ายเศรษฐีกลัวเขาจะไปต่อว่าทีหลัง เลยเอากริชเหน็บเอวแล้วตามไปแอบ ัง ถ้าอุบาสกคนนี้เอย่ ถึงชอ่ื ตน แล้วทำาท่าจะพูดในทางเสีย หาย กจ็ ะเอากริชแทงให้ตาย พออุบาสกไปถึงสถานท่ีที่จะเลี้ยงพระ ก็หุงหาอาหาร แล้วก็เอานำ้ามัน เอางา เอาอะไร ต่าง ท่ีได้มาจากเศรษฐีอย่างละนิดอย่างละหน่อยใส่ลงไปทุกหม้อ หม้อน้ีเม็ดหน่ึง หม้อนั้น เม็ดหนึ่ง แลว้ ก็เอาไปเลี้ยงพระ แลว้ กลา่ วทา่ มกลางหมูส่ งฆว์ า่ เศรษฐรี ่วมบญุ มาด้วย ขอใหม้ สี ่วน แหง่ บญุ ทุก หมอ้ เลย ขอใหไ้ ด้บุญเยอะ เหมอื นไดเ้ ล้ียงพระทุกรปู เลย เศรษฐี งั แล้วแทบช็อก เราขีเ้ หนียวสดุ และทำากับเขาถึงขั้นแอบมา งั วา่ เขาจะวา่ อะไร เราหรอื เปลา่ แตเ่ ขาดกี บั เราถึงขนาดนี้ ใหเ้ ราได้บญุ กบั พระทกุ รูป ถ้าหากเรายังทำาอยา่ งนี้ ตอ่ ไป เรากค็ งเปนคนท่ีแย่ท่ีสุด ขณะนัน้ ใจของเศรษฐเี ปดแล้ว จึงไดร้ ว่ มบุญใหญ่ พลกิ ความคดิ จากขเ้ี หนียวกลบั มาเปนผูใ้ หอ้ ย่างเต็มทีเ่ ตม็ กาำ ลัง เรอื่ งราวนแี้ สดงใหเ้ หน็ วา่ เราควรเคารพในทานของผอู้ นื่ ไมว่ า่ เขาจะทาำ มากหรอื ทาำ นอ้ ย ใน ใจของเราไมค่ วรมคี วามรสู้ กึ ตาำ หนติ เิ ตยี น หรอื กลา่ วหาวา่ ทาำ ไมทาำ นอ้ ย ไมว่ า่ เขาจะทาำ มากทาำ นอ้ ย ก็เคารพในทานของเขา ให้เราถือหลักที่ว่ามีบุญอะไรก็ชวนให้ทั่ว อย่าไปเกรงใจ แต่อย่าไป คาดหวังว่าเขาต้องทำาเท่านั้นเท่านี้ ไปอธิบายให้เขาเข้าใจ และอธิบายให้เหมาะกับภาวะของ แตล่ ะคน แลว้ ถ้าเขาร่วมบญุ มา ไม่ว่าสลงึ หน่งึ บาทหน่งึ สิบบาท ร้อยบาท หรือเท่าไรก็แลว้ แต่ ให้อนโุ มทนาบุญกบั เขาจากใจจรงิ ตรงนี้คือหนา้ ที่ของผู้ชวน ่ ่ นอ น อ บอ น อน น อ ่ น อบ ย ่ น นอน ย อ น ่ บ ย อ อย่ บ ถ้าเราไดไ้ ปร่วมงานดว้ ยความตั้งใจ อานสิ งสจ์ ะเตม็ ที่ เพราะเราจะไดเ้ หน็ ภาพพระรบั ของ ที่เราถวายกับมือ ความปติเบิกบานในบุญจะเต็มที่กว่า ฉะน้ันการไปทำาด้วยตัวเองถึงอย่างไรก็ ไดบ้ ญุ เตม็ เม็ดเตม็ หน่วยกว่าแน่นอน แตถ่ ้าฝากเขาไปทาำ ก็ไดบ้ ุญเหมือนกัน แตไ่ ดต้ ามสว่ น ถา้ ทาำ แบบเสียไม่ได้ก็ได้บุญเหมือนกนั ได้แค่ส่วนหน่ึง ถา้ ฝากไปและใจมีศรทั ธา แต่เน่อื งจากสขุ ภาพ ไมด่ หี รอื ตดิ ธรุ ะจรงิ แตใ่ จเลอื่ มใสเตม็ ท่ี กอ่ นใหก้ จ็ บอธษิ ฐานอยา่ งดแี ลว้ บญุ กจ็ ะเพม่ิ ขนึ้ มากกวา่ คนท่ีทาำ แบบเสยี ไมไ่ ด้ สรปุ แล้วอยูท่ ่คี วามตงั้ ใจและความศรทั ธาของเราว่ามีแคไ่ หนดว้ ย.. พิธีทอดกฐนิ สามัคคขี องวดั พระธรรมกาย ประจำาป พ.ศ. ๒๕๕๗ จะจดั ขน้ึ ในวันอาทิตยท์ ่ี พ ศจิกายน พ.ศ. เวลา . น. ณ สภาธรรมกายสากล (เวลา . น. มีพธิ ีบูชาข้าวพระ) ขอเรียนเชญิ สาธชุ นทกุ ท่านไปรว่ มพิธีได้ในวันเวลาดังกลา่ ว (กรณุ าสวมชุดขาวหรอื สวมเสือ้ ขาว เพือ่ รักษาวั นธรรมชาวพุทธ) กันยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบญุ
ู ย า ยั ความแตกตา่ งบนความเหมอื น ของการเกดิ เปน็ มนุษย์ มนษุ ยท์ ุกคนท่เี กิดมาบนโลกใบน้ี ไมว่ า่ อาหาร มที วารเบา ทวารหนกั เอาไวข้ ับถา่ ย เชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ใด หากไม่นับผู้เกิดมา ของเสียออกมา และมีอวัยวะน้อยใหญ่ท่ีอยู่ ผิดปกตพิ กิ ลพกิ าร ต่างกต็ อ้ งมีลกั ษณะเฉพาะ ภายในรา่ งกาย ทเี่ รยี กวา่ อาการ (ผม ขน ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเปนมนษุ ยท์ ไี่ มแ่ ตกตา่ ง เลบ็ ัน หนงั เน้ือ เอน็ กระดูก เยือ่ ใน กนั น่นั คอื มีกายท่ตี ้ังตรงกบั พ้ืนโลก มีสมอง กระดกู มา้ ม หัวใจ ตับ พงั ผืด ไต ปอด เอาไว้คิด มีแขน ข้าง เอาไว้หยิบจับทำา ไสใ้ หญ่ ไสน้ อ้ ย อาหารใหม่ อาหารเกา่ นาำ้ ดี สง่ิ ตา่ ง มขี า ขา้ ง เอาไวก้ ้าวเดนิ ไปในที่ เสลด นำ้าหนอง เลือด เหงื่อ มันข้น ตา่ ง มีตา ตา เอาไวม้ องดู มหี ู หู เอา มนั เหลว นำ้าตา นำ้าลาย นา้ำ มูก นำ้าไขข้อ ไว้ ัง มปี าก ปาก เอาไวส้ นทนาและบรโิ ภค ปสั สาวะ และมันสมอง) รูปร่างและลกั ษณะที่ อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
ปรากฏเหล่านคี้ อื ส่งิ ทแี่ ยกแยะความแตกตา่ ง ๒. มนุสสเปโต มนุษย์เปรต คือ มนุษย์ ระหว่างความเปนมนุษย์กับความเปนสัตว์ ผู้มากไปด้วยความโลภ มากไปด้วย ชนดิ อน่ื แต่ยงั มีส่ิงสำาคัญทแี่ ยกความแตกตา่ ง ตัณหา ชอบลักเล็กขโมยน้อย แย่งชิง ระหว่างมนุษยก์ ับสรรพสัตว์ทั้งหลายได้อยา่ งดี ว่ิงราว เปนต้น มีชีวิตความเปนอยู่ ท่สี ดุ นั่นคอื ใจ อย่างยากลำาบาก เท่ียวแสวงหาอาหาร และผ้านุ่งผ้าห่มเท่าน้ัน กว่าจะหาได้ก็ ใจของมนษุ ยน์ นั้ เปนใจท่สี ูงส่งกว่าสัตว์ ยากลำาบาก แม้จะมีความเพียรขยัน ทุกชนิด เพราะมีมโนธรรม รู้จักผิดชอบช่ัวดี หาทรพั ยอ์ ยา่ งไร กไ็ มพ่ อใช้ พอกนิ มแี ต่ สามารถแยกแยะสงิ่ ท่ีควรและไม่ควรได้ จึงไม่ ความอดอยากเขา้ ครอบงาำ มากไปดว้ ย แปลกว่าทำาไมสัตว์ชนิดน้ีจึงเรียกตัวเองว่า ความทุกข์ เขาว่าตรงไหนดี หากิน มนุษย์ ่ึงแปลว่า ผู้มีใจสูง (มน ใจ สะดวกสบาย แต่พอไปถึงท่ีนั่นกลับไม่ อุสส สูง) ภาษาอังก ษเรียกว่า uman เจรญิ ดงั ทเี่ ขากลา่ ว ผคู้ นมกั เรยี กขานคน แปลวา่ คนฉลาดหรอื ผู้รู้ ประเภทน้วี า่ คนกาลกิณี เหมือนผุดมา จากภูมิเปรตท่ีมีแต่ความอดอยาก แม้มนุษย์จะมีหลายสิ่ง หลายอย่าง ท่ี แร้นแคน้ เหมอื น กัน แตม่ นุษยก์ ลบั ใช้สงิ่ ทเี่ หมอื นกัน ไปทำาสิง่ ตา่ ง ไดไ้ ม่เหมือนกนั จากลกั ษณะ . มนุสสติรัจ าโน มนุษย์เดรัจ าน คือ พ ติกรรมและการกระทำาของมนุษย์แต่ละคน มนุษยท์ ่ีขวางศีล ขวางธรรม มโี มหะคอื ท่ีแตกต่างกันนั้น ทำาให้สามารถแยกประเภท ความหลงมาก ไม่รู้จักบาป บุญ คุณ ของมนุษย์ตามการกระทำาไดเ้ ปน ประเภท โทษ ไมร่ จู้ กั บญุ คณุ ผมู้ พี ระคณุ เชน่ บดิ า ดงั นี้ มารดา ครบู าอาจารย์ ไรศ้ ลี ธรรม ทาำ อะไร . มนุสสเนรยโิ ก มนุษยน์ รก คือ มนุษยท์ ่ี ทางกาย วาจา ใจ ก็ขวางศลี ขวางธรรม เหมอื นกบั สตั วเ์ ดรจั ฉานทม่ี กี ายทอดขวาง มีนสิ ยั ดรุ า้ ย หยาบคาย โหดร้าย ชอบ ไมไ่ ดเ้ ดินตวั ตง้ั เหมอื นมนุษย์ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อ่ืนอย่าง มาก ประพ ติทจุ รติ มจิ ฉาชพี ผิดมนุษย์ . มนุสสภูโต มนุษย์แท้ คือ เปนคน ธรรมดา ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน ลักขโมย เตม็ ตวั ไดแ้ ก่ คนรักษาศลี เปนนิจ ปล้นจ้ีทรัพย์ของผู้อื่นเปนปกติ เปนคน ไม่ประมาทต่อการรักษาศีล เพราะศีล ไรศ้ ีลธรรม เปนมนุษยแ์ ต่เพยี งชื่อ ส่วน เปนมนษุ ยธรรม คือธรรมประจำามนษุ ย์ ความประพ ตทิ างกาย วาจา ใจ เลวทราม หากขาดศลี เสยี แลว้ คณุ ธรรมความเปน ประหน่ึงว่าผุดข้ึนมาจากนรก มนุษย์ คนกจ็ ะสูญหายไป พวกนี้ไม่ชอบอยู่ในบ้านอย่างคนท่ัวไป แต่กลับชอบอยู่ในคุกตะราง ถูกจองจำา ๕. มนุสสเทโว มนษุ ยเ์ ทวดา คอื มนษุ ย์ที่ หมดอสิ รภาพ ตอ้ งทนทกุ ขท์ รมานแสน รู้จักว่า ส่ิงใดเปนประโยชน์ ส่ิงใดเปน สาหสั โทษ รจู้ ักบาป บญุ คณุ โทษ รจู้ กั ว่า กนั ยายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ
ด้วยเหตุนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า กจิ โฉ มนสุ สปฏลิ าโภ การไดอ้ ตั ภาพเปนมนษุ ย์ เปนการยาก ส่ิงไหนดี ส่งิ ไหนช่วั แลว้ ละเวน้ ส่ิงที่เปน เม่ือเราโชคดีท่ีสุดที่ได้เกิดมาเปนมนุษย์ บาปอกุศล ตั้งใจประพ ติตนอยู่ใน แลว้ ทง้ั ยงั โชคดที ไ่ี ดม้ าพบเจอพระพทุ ธศาสนา ความดี และมศี ลี เปนปกตมิ ไิ ด้ขาด กค็ วรใชก้ ายมนษุ ยน์ ที้ าำ ตนใหเ้ ปนมนษุ ยเ์ ทวดา มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป หรืออย่างน้อยที่สุดก็เปนมนุษย์ที่เปนมนุษย์ ไมก่ ลา้ ทำาช่วั ใช้ชีวติ ของตนเองไดอ้ ยา่ ง แท้ ทจี่ ะสรา้ งคณุ งามความดี และสง่ั สมบญุ มีสาระ ไม่อยู่ไปวัน เปนมนุษย์ผู้มี กุศลเพ่ือเป นเสบียงในการเดินทางข้าม ใจสูง บำาเพ็ญบุญกุศลอยู่เปนประจำา วฏั สงสาร ทาำ ชวี ติ นใี้ หค้ มุ้ คา่ สมกบั การทไ่ี ดเ้ กดิ ทัง้ ทาน ศีล ภาวนา ทงั้ ทาำ ดว้ ยตนเอง มาเปนมนษุ ยใ์ นชาติหนึ่ง และชักชวนผู้อ่ืน มนุษย์ประเภทน้ี เปนประดุจเทพบุตรหรือเทพธิดา ผู้มี สำาหรับผู้ท่ีปรารถนาจะสั่งสมบุญติดตัว หริ ิโอตตปั ปะจุติลงมายังโลกมนษุ ย์ ไว้ เดอื นนม้ี ีบุญใหญ่ใหเ้ ราส่งั สมมากมาย ทง้ั การเกิดเปนมนุษย์นั้นนับว่าเปนความ การปฏบิ ตั ธิ รรมบชู าครผู คู้ น้ พบวชิ ชาธรรมกาย โชคดี เปนส่ิงท่ีเกิดได้ยากย่ิงกว่าการถูก การร่วมบุญสร้างอาคารพระผู้ปราบมาร การ ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งหลายร้อยหลายพันคร้ัง นงั่ สมาธิเขา้ กะทกุ วนั การทำาบุญตักบาตรพระ ดังอุปมาที่เปรียบด้วยเต่าตาบอดท่ีมีโอกาส ในโครงการตักบาตรพระ รูป เพียงน้อยนิดที่จะโผล่มาเจอกับห่วงที่มีขนาด จังหวดั ทกุ วัดทวั่ ไทย ฯลฯ และทสี่ าำ คัญ พอดกี ับหวั ในท่ามกลางมหาสมุทรท่ีกว้างใหญ่ อยา่ ลืมมาศกึ ษาหาความรู้ ความเปนจรงิ ของ ชวี ิตใน D กนั เพื่อเตมิ เต็มชีวติ ใหส้ มบรู ณ์ แบบ และเปนทางมาแห่งปัญญาบารมขี า้ มภพ ข้ามชาติ ตราบกระท่ังถึงที่สดุ แห่งธรรม.. เรยี บเรยี งจาก วชิ า GL 102 ปรโลกวิทยา กาำ หนดการเรยี น ประกาศผลสอบภาคฤดูรอ้ น/๒๕๕๗ วนั ที่ กันยายน พ.ศ. นกั ศึกษาลงทะเบียนเรียน ภาคเรยี นที่ ๒/๒๕๕๗ วนั ที่ กนั ยายน- ตลุ าคม พ.ศ. หลักสูตรพิเศษ บูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายด้วยการศึกษาปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ และปฏิบัติบูชาในวิชาศาสตร์แห่งสมาธิ รับสมัครตั้งแต่วันท่ี กันยายน - ตุลาคม พ.ศ. (คา่ สมัครอัตราพเิ ศษ) อยู่ในบญุ กันยายน ๒๕๕๗
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172