Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปัน ปั่น ปั้น

Description: ปัน ปั่น ปั้น

Search

Read the Text Version

www.kalyanamitra.org พ ■ท m tTw I ช้น ๏ ปัน ความสุขแสนประทับใจ ปัน เติมไฟให้ความ'ฝัน ปัน ใจเธอและฉันให้เป็นก้อนกลม กายแก้ว •อพอลโล

www.kalyanamitra.org ปัน ปัน ปัน ปัน ความสุขแลนประทับใจ ปัน เติมไฟให้ความฝัน ปัน ใจเธอและฉันให้เป็นก้อนกลม พิมพ์ที่ นเรศการพิมพ์ 43-45 ทนนนพศ ตรงเามสน.บางรัก ก^งเทพฯ 10500 โทร. 2343491

www.kalyanamitra.org คนที่จะประสบความสำเร็จมองเห็นโอกาสในทุกป๋ญหา คนที่ไม่มีว้นประสบความสำเร็จมองเห็นปัญหาในทุกโอกาส

www.kalyanamitra.org คำนำ หลายครังหลายครา เหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาอาจ1กิด ขนอย่างไม่คาดคิดในช่วงหนึ่งของชีวิตนักลร้างบารมี อย่างเรา คงเป็นการดีไม่น้อย ถ้าหากเราลามารถ บันทึกวันเวลา อารมณ์ ความรูสีก ที่เกิดขึ้นในเหตุ การณ์นั้นๆไว้อย่างครบถ้วนบริTjรณ์ และคงเป็นการดี ยิ่งขึ้น ถ้าหากมีการ บัน เรื่องราวอันน่าประทับใจเหล่า นั้นมาเล่า^กันฟัง เพื่อ บัน พลังใจให้กันและกัน มุ่งไป ^จุดหมายที่เราใฝ่ฝันอยากที่จะบันมันให้เป็นความจรง ....และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของ บัน บัน บัน ขอให้ทุกเรื่องราวที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ ได้เป็น เลนือนวิตามินที่จะช่วยเลริมสร้างความลดใสในหนทาง การสร้างบารมีของยอดกัลยาณมิตรที่รักทุกท'านตลอดไป กองปฎิลันถาร

www.kalyanamitra.org ควๆมเป็นมา ราวเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2542 ข้าพเจ้าเพิงลงมาจาก การปฏิบ้ตธรรมที่เขียงใหม่.... \"นี่ๆ ลงมาจากเขียงใหม่ มีอะใรดืๆ เล่าให้ฟังบ้างสิ\" อพอลโล เพื่อนรักยอดน้กลร้างบารมีคนหนึงถามข้าพเจ้า \"มีเยอะแยะเลย จะเอาเรื่องอะไรก่อนล่ะ\" ข้าพเจ้าตอบ \"เอาเรื่องที่ประทับใจก็ได้\" \"งั้นจะเล่าให้ฟังเรื่อง หา^แจ่ม ละกนนะ เรื่องนน่าประทับ ใจมากเลย เรื่องมีอยู่ว่า \" แล้วข้าพเจ้าก็เล่าเรองห'4แจ่มให้อ'พอลไลฟังจนจบ \"ลู้ยู.,.ขนลุกเลยนะเนี่ย\" อพอลโลบอก \"จริงเร๊อะ ?\"(เว่อรแปล่า) \"จริงสิ,.. เป็นเรื่องที Classic มาก ฟังแล้วขนลุกเลย\" อพอลโลยึนยันพร้อมกับยื่นแขนที่ฃนลุกให้ข้าพเจ้าดู \"ใช่ ตอนผมฟังครั้งแรกก็รู้สืกดืมากเหมือนกัน เอ... จริงๆแล้ว กัดเราก็มีเรื่องราวดีๆอย่างนี้เยอะแยะนะ ถ้ามีการ เรียบเรียงเขียนด้วยภาษาทีอ่านง่าย ซาบขีง แล้วรวบรวมไว้เป็น เล่มก็น่าจะดี\" \"เอาเลย พื่กี้ร์ ถ้าพื่จะทำก็รวบรวมเรื่องได้เลย เดียวผม จะช่วยทำ Art Work ให้เอง\" อพอลโลผู้แสนดีเขียร์และอาสา ช่วยด้วยอาการกระตือรีอร้น หล้งจากนั้นเป็นด้นมา ข้าพเจ้าก็เริ่มสอบทาม ตามหา ประสพการโนดีๆจากนกสร้างบารมีหลายๆ ท่าน ทั้งที่เจ้กและ เพิ่งเจ้ก ซงก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีมาก บางท่านเล่าให้ฟัง ด้วยความเบกบาน ภาคภูมิใจ บางท่านก็เขียนล่งมาให้ บาง

www.kalyanamitra.org ท่านถึงขนาดเอาสมุด Diary ผาให้ดูเลยทีเดียว ข้าพเจ้าใช้เวลา รวบรวมเรื่องราวเหล่านั้นประมาโน 8 เดีอน แล้วจึงคัดสรร ปรับ แฝงสำนวนให้ทุกๆเรื่องมารวมอยู่ในห'นงสือเล่มเดียวคันได้ \"เสร็จยัง? พี่กี้ร\"์ อพอลโลถาม \"ใกล้แล้ว เหลือแด่ภาพประกอบที่ยังได้ใม่ครบ... มาดูสิ นน้องแก้ววาดให้ สุดยอดเลย\" ข้าพเจ้าโซว์ภาพลายเล้นสุดสวย \"อืม..ม ก็สวยดีนะ แด่ผมว่า ถ้าเราลองหาภาพประกอบ แนวใหม่ เช่น เอาของด่างๆ มาจัดองค์ประกอบ ฯลฯ อาจจะ ดีนะ แหวกแนวดี\" อพอลโลเสนอ \"ดีๆ เห็นด้วย แล้วจะเอาไงดี...?\" ข้าพเจ้าคิดๆๆ \"ลองปันดินน้ำมันดูไหมล่ะ!\" สำเริง เพื่อนรักอีกคนหนึ่ง ผู้เชี่ยวฃาญด้านคิลปะนึกลนก มาแจมใอเดียด้วย \"เออ! ... O.K.เลย!\" ทงอพอลโลและข้าพเจ้าแสดงอาการ เห็นด้วยอย่างออกหน้าออกตา ราวคับผู้หลงทางอยู่กลางป่ามา พบทางออกแบบฉับพล้นฉะนั้น \"แล้วชี่อหน้งเอล่ะ? เรื่องนี้สำคัญมากเลย\" ข้าพเจ้าตั้ง คำถามเปิดประเด็นใหม่ \"ปาจะเกี่ยวคับปันๆ\" อพอลโลผู้มี !dea เหลือเทืเอเสนออีก \"ปันดินเป็นดาว... ปันความก็น... ปันก็นให้มีชีวิต... ปัน จมปันเจ๋อ,.. ปันความสุข ปันความใส... ฯลฯ\" ตั้ง 3 เกลอช่วย กนหาทางออกอีกครั้ง \"ปัน ปัน ปัน!\" อพอลโลโพล่งขึ้นมา \"โอว!... คิดใด้ไงเนึ่ย!\" และแล้ว \"ปัน ปัน ปัน\"ก็ใด้ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยประการฉะนี้แล.,. กายแก้ว

www.kalyanamitra.org สารทัญ ^ แม่ห'yน้อย t# คุณยายผู้รักบุญ —, น้ำตาแห่งความภูมิใจ จดหมายถึงน้องพัลลภ ความรัก ร้รุททเ กล้าๆ หน่อย ทุกอย่างก็เป็นเช่นนั้นเอง ห'ภูแจ่ม rfj-f เราก็ทาเด SPEED 'ขุมเพชรแห่งโกลคอนค้า วิถี แห่งวีรบุรุษ

www.kalyanamitra.org §4 เสิยงเรียกจากซั้นห้า ถ้าวันนั้น.... พี่ แก่น มิ ค,.หนูน้อยมหัศจรรย์ เธอ...ผู้ไม่ธรรมดา นักสร้างหรือซ่อมบารมี 14 เด็กหญิง \"สองอ้น\" V อดีตกับปัจจุบัน 1 ii'' อดีตกับปัจจุบัน 2 % หนอน 2 ตัว _- เซ้าหรือเย็น สารานุกรมใจ ฉันขอหาความสุขจาก ฉันจะไม่หาความสุขจาก อารมณ์ของผลไม้ ด้นลิ้นจี่ 2 ด้น

www.kalyanamitra.org ^fii '^::ร^' • 311 - ฟ้^ k ะ^^ อย่าคิดว่าเราจะแพ้ เพราะแค่คิด ก็ปีดหนทางซนะเสืยแล้ว

www.kalyanamitra.org คำ แนะนำการอ่าน เอนหล้งพิง'fาๆ ปล่อยใจสบาย'ๅที่ดูนย์กลางกาย เปิดหัวใจให้โอกาส*กกต้วอ้กษรส์'มผ้'สสายตาเธอ อย่างอ่อนโยน และให้มันทำหน้าที่ของมันเองอย่าง สมใJรณ์

www.kalyanamitra.org จงคิดอย่างผู้ที่มองโลกในแง่ดี จงวางแผนอย่างผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย และจงลงมือปฏิบ้ติอย่างผู้ชนะ 10

พ พwww.kalyanamitra.org ••• ••^'

www.kalyanamitra.org แม่หนู&)ยู่ ใ^^ หนูน้อยว้ยห้าขวบจ้องมองข้าพเจ้าอยู่ด้วยความสนใจ ดู เธอประหลาดใจอย่างยิ่งที่เห็นพระ ว้นนี้ข้าพเจ้าได้ไปบิณฑบาตที่หนู่บ้านสืวลีพร้อมด้วย เพื่อนสหธรรมิกอีก 40 รูป ความจริงข้าพเจ้าไม่อยากออกไปข้างนอก เป็นเพราะข้าพเจ้ามีโรคประจำตัวคือ อาการเมารถ โรงเรียนอนุบาลหล้งเล็กกะท้ดริดปรากฏเด่นชัดขึ้นมา เมื่อเดินเข้าไปภายในจะเห็นภาพการ์ดูนและรูปภาพล็สวยติดอยู่ เต็มไปหมด ช่วยเรียกความมีชีวิตชีวาและความลดไสกลับคืนมา แก่ผู้พบเห็น เมื่อขบวนพระภกษุเดินเพื่อจะไปรับบิณฑบาตและให้พร ญาติโยม ข้าพเจ้าก็ได้สะดุดตาสะดุดไจกับลายตาดู่หนึ่ง ตลอด ระยะเวลาของการไห้พรและการรับบิณฑบาต สายตาดู่นี้จะไม่ ยอมละจากข้าพเจ้า บางครั้งเอียงคอมอง บางครั้งยิ้ม ทำ ไห้ ข้าพเจ้าคลายความประหม่าและเก็ดความเอ็นดูขึ้นมาทํนท ข้าพเจ้าสงลัยยิ่งนักว่า ทำ ไม? แม่หนูน้อยถึงได้มองข้าพเจ้าอย่าง ไม่ละสายตาเช่นนั้น

www.kalyanamitra.org อ๋อ! ข้าพเจ้าได้คำตอบแล้ว ด้วยวัยเพียงห้าขวบของเธอ คงไม่เคยเห็นพระและล้เหลืองๆ เข่นนี้ เมื่อข้าพเจ้ารับบาตรมาถึงหน้อยผู้นี้ เธอกระตุกแขนคุณ ป้าของเธอ ซึ่งกำล้งนั่งหลับตาอธิษฐานอะไรบางอย่างอยู่ในใ'ชุ คุณป้ารีบบอกให้เธอหยิบของใส่บาตรท้นที เธออิดออดเพียงครู่ แล้วค่อยๆ หยิบอาหารใส่ลงในบาตรของข้าพเจ้าด้วยอาการ นอบน้อม ยิ้มแย้ม และเขินอายเล็กน้อย เมื่อรับบาตรเสร็จ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สนใจสายตาดู่นั้นอีกเลย เพราะต้องรีบขึ้นรทกลับมาฟังพระปาฏิโมกข์ ในขณะที่เดินกลับ ข้าพเจ้าก็ใด้ยินเลียงแจ้วๆ ตามหลังมาว่า \"คุณป้าขา คุณป้า โต ขึ้นหา^อยากเป็นพระค่ะ\" ข้าพเจ้ารีบหันกลับมาดู เป็นเลียงของ แม่หt}น้อยคนนั้นนั่นเอง คุณจุฑโฒ ภิกชุ '•หsั•i.j '

www.kalyanamitra.org คุณยายผู้รักบุญ I ภาพของหญิงชราในชุดแม่ซี กุลีกุจอกึ่งวิ่งกงเดินด้วย กิริยางกๆเงิ่นๆ ดูไปแล้วอาจจะน่าข้นในลายตาของคนภายนอก แต่แววตาของเธอดูเป็นประกายเจิดจ้า ใบหน้าที่เหี่ยวย่นกลับ แฝงไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปีติ ท่าทีของเธอเหมือนนกน้อย เริงร่าท่ามกลางนภา เธอกระวกระวาดใช้ทัพพีคันโตตักนํ้าโอวัลดินใส่แก้ว ปาก ก็พรรบอกว่า \"รอเดี๋ยวนะเจ้าคะ\" และ \"จะเอาร้อนหริอเย็นส่ะ เจ้าคะ\" โดยไม่สนใจชุดแม่ซีที่ฃาวบริลุทธจะเลอะเทอะเปรอะ เฟ้อนไปด้วยนํ้าโอวัลดินอยู่เป็นหย่อมๆ หม้อใส่โอวัลดินที่ใหญ่ และดูท่าทางจะหน้กแต่เธอกลับถือราวทับไร้นํ้าหนัก สิงเดียวที่ เธอกำลังคิดอยู่ในขณะน'น คอ พระและของถวายพระเท่านั้น ข้าพเจ้าเห็นเธอมานานแล้ว ในเวลาที่มารับบุญดูแลห้อง ปัญญา ภาพของแม่ฃีผู้นี้พร้อมทั้งปีนโตอาหารคาวหวาน มีมาให้ เห็นทุกวันจนชินตา ในวันนี้ช้าพเจ้ามองเธอด้วยสายตาที่ซื่นชมเช่นเดิม ตาของ เราทั้งสองได้ประสานทันแว่บหนึ่งในช่วงเวลานั้น ข้าพเจ้าได้ย็น เลียงกระซบในใจว่า \"ซาดินี้ยายเลียใจที่เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่ไม่ เป็นไร ยายจะท่าบุญให้เต็มที่เลย ในภพชาติหน้ายายคงได้ห่มผ้า กาสาวพัสตร์บ้าง\" แล้วเธอก็ก้มหน้ารับพรด้วยลีหน้าที่เปียมสุข ยามใดที่ข้าพเจ้าท้อแท้อ่อนแอในการสร้างบารมี ภาพ ของแม่ซีวัยชราผู้นี้จะปรากฏขึ้นใ] I เป็นแบบอย่าง เป็นแรงใจ เป็นกำลังใจให้ช้าพเจ้ H■พนทางลายนี้ อย่างองอาจและมั่นคง ^ ขอขอบคุณคุณยาย คุณวุฑโฒ ภิกชุ **

www.kalyanamitra.org 4 นาดาแห'งความภาคภูมิใจ ข้าพเจ้ามาช่วยงานอาสาลมครต้อนรับสาธุชนที่ๆดพระ ธรรมกายตังแต่ปี 2539 งานอาสาสมัครนี้นอกจากจะได้บุญมาก เป็นพเศษแล้ว ยังมีเกร็ดสนุกๆน่าประมับใจเกิดขึ้นในการสร้าง บารมีเป็นประจำเลยค่ะ ตังเข่นเรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ วันนั้นเป็นว้นอุบาสกแก้ว ข้าพเจ้าปีติใจมากเป็นพิเศษ เพราะนึกไม่กึงว่าจะมีอุบาสกแก้วและสาธุซนมาวัดของเรา มากมายขนาดนั้น ทั้งๆที่วัดกำลังตกอยู่ในกระแลข่าวที่ไม่ค่อยดี ข้าพเจ้าจีงตงไจด้อนรับสาธุซนทุกท่านที่มาวัดอย่างเต็มที่ตลอด ทั้งวันด้วยความเบิกบาน จนกระทั้งกึงเวลาเย็น ข้าพเจ้าได้ไปยืนอนุโมทนาบุญกับ สาธุชนที่ทางออกด้านทิศเหนือของมหาธรรมกายเจดีย์ โดยมี น้องอาสาสมัครพิเศษเกือบร้อยคนที่ข้าพเจ้าต้องดูแล และมี แฟ้มเอกสารสำคัญอยู่กับตัวด้วย ขณะที่กำลังเบิกบานในการล่ง สาธุชนกลับบ้านอยู่นันก็มีคุณป้าคนหนึ่งเดินมาหาข้าพเจ้า ขอร้องให้ช่วยพาไปหารถที่จอดอยู่ที่ลานธรรม ข้าพเจ้าจึงวาง แฟ้มเอาไว้แล้วพาเดินไปล่งด้วยความยินดี ข้าพเจ้าเดินหารถอยู่ นานจึงเจอรถที่คุณป้าต้องการ เมื่อราลากันแล้วข้าพเจ้าก็เดิน กลับลานธรรมกายเจดีย์ด้วยความปีติ ยังมาไม่กึงเป้าหมายก็พบลุงหลังค่อมๆท่านหนึ่ง มาบอก ข้าพเจ้าว่า \"หนุๆ.,ลุงหลงทางหารถคลองเตยไม่เจอ ช่วยพาลุง ไปล่งหน่อยเถอะ\" ในใจข้าพเจ้าเริ่มเป็นห่วงและกลัวไปสารพัด กลัวว่าจะมาอนุโมทนาบุญไม่ทัน กลัวแฟ้มจะหาย กลัวไม่มีใคร ดูแลน้องๆ แต่ก็ไม่อยากเห็นสาธุซนท่านใดต้องพบกับสิงที่จะ ทำ ให้เขาไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย จึงอาสาพาไปล่งอีกครั้งหนึ่ง เดินหารถอยู่นานมากก็หาไม่เจอ ทราบภายหลังว่ารถคลองเตย

www.kalyanamitra.org ออกไปแล้ว สุดท้ายคุณลุงจึงขึ้นรถอีกคันหนึ่งที่สามารถไปถึง บ้านไล้เหมือนกน เวลานั้นท้องฟ้ามืดครึ้มแล้ว ข้าพเจ้าเดินกลับลานเจดีย คนเดียวด้วยความเหน็ดเหนือยเมื่อยล้าอย่างยิง กลับมาถึงพบ ยืนอนุโมทนาก้น ปรากฏว่าทั้งแฟ้มและน้องๆหายไปหมดแล้ว! ข้าพเจ้าก้งวลใจมากจึงรีบกลับไปที่แผนกในส'กาฯ เผือว่าจะพบ น้องๆและแฟ้มที่นั้น เดินไปครืงทางก็พบชายสองคนเดินสวน ทางมา ข้าพเจ้าพยายามเดินก็มหน้าทำคัวลบๆ จนเดินคล้อย หลังไปลักครู่ก็ได้ยินเสืยงเรียก หนุๆ ! \"มือะไรหรีอคะ?\" ข้าพเจ้าถามด้วยสีหน้าเจื่อนๆ \"สหการไปทางไหนจ๊ะ?\" ชายคนหนึ่งถาม \"เดินตรงไปนะคะ จะพบลำน้กงานใหญ่ เลยวซ้าย.. ข้าพเจ้าพยายามอธิบายให้ละเอียดทีสุดเท้าทีจะทำได้ เขาพยัก หน้า 2-3 ครั้งเป็นเซิงว่าเข้าใจ แล้วก็บอกว่า \"ไปส่งให้หน่อยสิ!\" ในขณะนั้นข้าพเจ้าหมดแรงจนแทบจะเดินไม่ไหวแล้ว แมรองเท้าก็ยังเสีกหนัก แต่ด้วยความตั้งใจจะเป็นเจ้าของบ้านที่ ดีที่ลุดจึงอาสาพาสาธุชนท้ง 2 ท้านไปส่งอีกคร้ง เดชะบุญทใน สองท่านนั้นมืคุณลุงคนหนึ่งซึ่งเดินไปไม่ไหวแล้วเช่นเดียวก้บ ข้าพเจ้า เดินไปแค่ทางเข้าที่ ไ หน้าสภาธรรมกายลากล อีกคน หนึ่งที่เดินไหวก็ไปเรียกรถที่สหการมารับ ข้าพเจ้ายืนคุยเป็น เพื่อนคุณลุงท้านนันจนรถมารับ คุณลุงขอบใจข้าพเจ้าเป็นการ

www.kalyanamitra.org ใหญ่พร้อมก้บยื่นเงินให้ข้าพเจ้า 100 บาทเป็นการตอบแทน แต่ ข้าพเจ้าก็ปฏิเสธไป ในที่สุดข้าพเจ้าก็พบหผู่คณะในแผนกที่หน้าสภานั่นเอง น้ำตาของข้าพเจ้าใหลออกมาด้วยความเสีกที่ยากจะบรรยายใด้ นั่งเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆฟัง ทุกคนต่างพาก้น ห้วเราะและปลอบใจข้าพเจ้าด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นคุ้นเคย แม้วันนั้นข้าพเจ้าจะเสีกเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก แต่ทุกๆ เหตุการณ์ก็ย้งคงประท้บอยู่ในใจของข้าพเจ้าจนกึงวันนี้ นงนุช แต้พานิช 1

www.kalyanamitra.org ว้นนั้นเป็นวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2543 หลังจากพิธีถวาย ภัตตาหารเป็นลังร4ทานที่สภาธรรมกายลากลหลังคาจาก ข้าพเจ้าได้พาสาธุฃนที่มาวัดเป็นครั้งแรกจำนวนประมาณ 40 ท่าน เดินซมพื้นที่ ใ96 ไร่แรกของวัดพระธรรมกาย บรรยากาศในขณะ นั้นกำลังร่มรื่นดีทีเดียว แต่ข้าพเจ้าก็คดแปลกใจไม่ได้ที่หนึ่งใน จำ นวนสาธุชนใหม่นั้น มีแม่ชีวัยกลางคนอยู่ท่านหนึ่ง ดูเหมือน ท่านจะหงุดหงดอะไรบางอย่าง จึงคอยพูดแทรก ขัดจังหวะ การ บรรยายของข้าพเจ้าอยู่เป็นระยะๆ ...สงลัยท่านจะรีบไปธุระหรอ อาจเป็นเพราะเราพูดเร็วเกินไปก็ได้นะ ข้าพเจ้าคิดไนใจ เมื่อมาถึงโบสถ์ ข้าพเจ้าก็นำสาธุซนกราบพระประธาน แตะอธิบายความเป็นมา เปทรง ตลอดจนแนวความคิดในการ ก่อสร้างโบสถ์อย่างละเอียด แล้วพาสาธุชนออกมาซมผน้งหิน ล้างทางด้านนอกที่ลมัยก่อนเขาคัดหินทันทีละเม็ดๆ ข้าพเจ้า อธิบายเพิ่มเติมถึงความปราณีตในการก่อสร้างทุกๆจุด ตงแต่ ผน้ง ,กระเบื้องไล่เรื่อยไปจนถึงเสาเข็มและฐานรากที่อยู่ใด้ติน... \"ลู้พู ... ขนาดนี้เลยเหรอ!?\" แม่ชีท่านนั้นอุทานขึ้น เมื่ออธิบายจนหมดแล้ว ข้าพเจ้าก็ถามสาธุซนว่ามืใครมา ทันช่วงที่เขาสร้างโบสถ์ทันบ้าง (พ-ศ.2520) ก็มีแม่ชีท่านนั้น ยกมือขึ้นเพียงคนเดียว \"ลู้พู..\" เสืยงสาธุซนท่านอี่นๆอุทานบ้าง \"ฉันเคยมาทำบุญกฐินที่นึ่ครั้งนึง ดอนนั้นอายุ 17ปี มาทำบุญ 500 บาท แต่มาทีเดียวแล้วก็ไม่มาอีกเลย! ฉันไม่ชอบโบสถพีขาว

www.kalyanamitra.org รูปทรงก็ทื่อๆไม่เห็นเหมือนโบสถ์ที่อื่น ฉันไม่ชอบ... นี่เปินครั้งที่ สอง ผู้นำ บุญเขาชวนฉันมาปล่อยปลาแถวๆนี้ ก็เลยแวะมาดู ตอนทื่มาถึงก็ยงไม่ชอบ จนกระทั่งได้มาฟังหบุพูดนี่แหละ ถึงจะ เข้าใจ แหม...น่าเลียดายจรงๆ สมัยโน้นไม่เห็นมีใครเขามา อธิบายให้ฉันฟังอย่างนี้บ้าง ไม่งั้นฉันก็คงมาที่นี่เรื่อยๆแล้ว หาย ไปตง 23 ปี น่าเลียดาย....\" ข้าพเจ้าฟังแม่ซีท่านนั้นด้วยหัวใจที่พองโต มืความสุข อย่างพูดไม่ถูก ฉัศจรรย'ใจ! ประทบใจที่เราสามารถเปิดใจของ เขาได้ถึงขนาดนี้ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและเห็นความสำคัญ ในหน้าที่อาสาสมัครแผนกมัคคุเทศก์ของตนเพิ่มมากขึ้นเป็นทับทวี \"โบสถ์นี้สวยจริงๆนะ... น่าเลียดาย... สมัยก่อนฉันไม่เข้าใจ... หายไปดั้ง 23 ปี... ต่อไปฉันคงซวนคนอื่นๆมาวัดนี้ด้วย...\" เลียง แม่ซียังคงอธิบายให้ล่าธุชนท่านอื่นได้เข้าใจ ในขณะที่เรากำลัง เดินออกจากโบสถ์เพื่อไปชมจุดอื่นๆในวัดต่อไป มค.นริศรา โพธิ้ทอง

www.kalyanamitra.org จ็ต็ห็มาเ&งรงพ่ล่ร!^ 24 ต.ค. 2542 แม้เหตุการณ์หลายอย่างในชีวิตจะไม่ราบรื่นอย่างที่คิด แต่สิ่งที่ราบรื่นที่ตุดในชีวิต ก็คือ ใจของเราเอง ไม่ว่าเธอจะอ^ที่ใด ฉ้นเซื่อมั่นว่า สิ่งที่เธอได้ทุ่มเทtเกฝนอบรมตนเองตลอดมาจะไม่ เป็นของ^ญเปล่า ตุนย์ทลางกายของเราทำให้โลกงดงามได้เสมอ ถ้าเท?กสูมย์กลางกายของเร^าจรง'/ กึงแพ้มีเโงตุกา?ณ์ภายนอก จะเปลี่ยนไป แต่คาามลุขภายโนของเธอจะคงอ^พอ!!/ชั่วนิ?น(จ?'' ความเป็นคนดีชองเธอจะทำให้เธออตุ่ทุกสถานที่อย่างมี ควา?/สุเข จงโซ'พลิงแห่งควา?/สุเขส?างควา?/ลำเ?จอย'างงคงาม ให้กับชีวิต ความทุกข์ นำ มาซื่งความโง่เขลา ความล้มเหลวและ ความเลวร้ายนานา ความสุข นำ มาซึ่งปัญญาและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ งดงาม ที่เบสท์

www.kalyanamitra.org ๆ^ ถ้าเธอรักเป็นเธอจะไม่ประลบปัญหา ความรักที่แท้จรงนั้น กว้างใหญ่ไพศาล เป็นปีกแผ่น ไม่มีขีดคั่นระหว่างกลาง เมื่อใดเธอปรารถนาการตอบแทน อาณาจักรอันไพศาลนั้นจะฟ้งทลายในทันที เธอจงรักทุกสรรพชีวิตอย่างเท่าเทียมก้น เธอจงรักษาทุกดวงใจให้ตั้งมั่นไนความดี อย่าอ่อนแอก้บผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า อย่าปรารถนาไห้ทุกสิงไม่มีความแตกต่าง ความรักเซ่นนี้ แม้หาได้ไม่ง่าย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะยังประโยชน์ยิ่งใหญ่ให้แก'ทุกสรรพชีวิต THE BEST

www.kalyanamitra.org ดู้ฮุกกรู...กรุกๆ เฮุกกรู้.,,กรุกๆ เสืยงนกเขาชวาตัวหนึ่ง หลับตา โก่งคอขันอย่างไพเราะ เพราะพริ๊งอยู่บนหัวเลาเตี้ยๆต้นหนึ่งในห้องนาบร็เวณดูนย์อบรม ธรรมทายาทของวัดพระธรรมกาย ตามปกติ ข้าพเจ้าชอบลังเกตุดูอากัปกิริยาของสรรพลัตว์ ทั้งหลายในวัด เพราะมีความรู้สีกว่ามันไม่เหมือนกับลัตว์ชนิด เดียวกันที่อยู่นอกวัด ไม่ว่าจะเป็น นก ไก่ ปลาดุก แมงมุม หริอ แม้กระทั่งยุง แต่ละประเภทจะมือะไรพิเศษๆที่ต่างจากลัตว์ ทั่วไปอยู่เสมอ ในวันสบายๆอย่างนี้ก็เข้นกัน ข้าพเจ้ายืนมองเจ้านกเขา ตัวนี้อยู่นาน ดูท่าทางมันจะมีความตั้งอกตงใจขันอย่างมาก ข้าพเจ้าดีดอยากจะหยอกเล่นกับมันลักหน่อย จึงเอื้อมมือเข้าไป หาแลัวโบกทักทาย มันหยุดขัน มองดูข้าพเจ้าด้วยอาการสงบลม เป็นนกเขาวัดพระธรรมกาย แล้วก็ไม่สนใจ โก่งคอขันต่อไป ดู้อุกกรู้.,.กรุกๆ ดู้ฮุกกรู้,,,กรุกๆ ข้าพเจ้าเดนเข้าไป 2-3 ก้าว แล้วเอื้อมมือไปหาอีก มันก็ ยงคงมองเฉยๆ ไม่สนใจอย่างเติม ข้าพเจ้าจึงเดนไปที่โคนเลา เอื้อมมือขึ้นไปใกล้ตัวมันเพียงไม่กี่ฟฺตโบกไม้โบกมือทำท่าว่าจะจ้บ

www.kalyanamitra.org แทนที่มันจะบินหนี มันกลับก้มหัวมามองข้าพเจ้า แล้วก็ยังคงนิ่ง เฉยอยู่ มันคงคิดในใจว่า \"ฮ่าๆ ยังไงก็เอื้อมไม่ถึงตัวฉันแน่ๆ\" และแล้ว มันก็หลับตา โก่งคอขันอย่างไพเราะต่อไป 'เอุกก!... ดู้ ฮุกกรู้... ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจ เหยียบบนไม้ท่อนหนึ่งใข้มือซ้าย เหนี่ยวเสาเอาไว้ เขย่งตัวขึ้น เอื้อมมือขวาคว้าตัวมันลงมาอย่าง ง่ายดาย ทีนี้มันทำตาโต กะพริบตาถี่ๆ มองซ้ายมองขวาด้วย ความตกใจ ข้าพเจ้าลูบหัวลูบหางมันด้วยความเอ็นดูอยู่ครู่หนึ่ง จึงปล่อยตัวมันลงยู่พื้นดิน เมื่อได้รับอิสรภาพ เจ้านกเขาน้อยๆก็สะปัดขนสะปัดตัว เดินเตาะแตะจิกหญ้าจิกดิน หากินอยู่รอบๆตัวข้าพเจ้านั่นเอง ในวันนั่น ข้าพเจ้ารู้สีกรักสรรพลัตว์นั่งหลายเพิ่มขึ้นอย่าง ประหลาด อัตถวโร

www.kalyanamitra.org แม้ผมจะเข้าว้ดมาแล้วหลายปี อบรมพัฒนากาย วาจา ใจ มาพอสมควร แต่ก็มีบางสิงที่ดีและง่ายที่ผมย้งไม่กล้าทำ. ผมเกิดในครอบครัวชาวจีน ซึ่งตั้งแต่เล็กมาจนโต ปาปิามาม๊าไม่เคยสอนให้เรียกพี่ๆด้วยคำนำหน้าว่า \"พี่\" เลย ทั้งๆที่ผมเองเป็นน้องคนสุดท้อง อีกทั้งไม่เคยแสดงความรัก ความห่วงใยให้แก่กิ'นภายในครอบครัวด้วยการเอ่ยออกมา เป็นวาจาเลยถึงแม้ครอบครัวของเราจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่ก็มีบางสิงบางอย่างที่มันปิดบังมิให้ความรู้สึกที่ดีที่มีต่อ กินแสดงออกมาเป็นมธุรสวาจาให้สมกิบความรักความผูก พันธ์ที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ ผมคิดใคร่ครวญครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ทำ ไม? เราจีงเรียก พี่ๆ ในมหาวิทยาลัย นำ หน้าว่า \"พี่\" ทั้งๆที่หลายคนอายุและ คุณธรรมน้อยกว่าพี่แท้ๆของเราเสึยอีก และแล้ว วันหนึ่งใน เดือนมกราคมปี 2540 ผมก็รวบรวมความกล้าหาญทั้งหมด ที่มีเข้าไปหาพี่ชายคนดืที่ผมสนิทด้วยที่สุด แล้วบอกว่า \"ใจๆ วันเกิดของใจ ปีนี้เจจะให้ของขวัญวันเกิด ด้วยการเรียกใจว่า \"พี่ใจ\" จากนี้จนตลอดไป\" นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นวีร บุรุษผู้เก่งกล้าไปเลียทุกเรื่องของผม แสดงอาการเขินอาย เหมือนยกภูเขาออกจากอก ^ม'%ดอนสิงหาคมในปี เดืยวกิน ผมก็ได้เข้าไปในห้องนอ'นฒพรM^นวันแม่ กราบ แทบเท้าของท่านแล้วบอกr \"มาร่^^!»มาม้านะ\" เอเจ

www.kalyanamitra.org ผมมีอาชีพเป็นผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์รายวันฉบับ หนึ่ง ในช่วงที่มีกระแลโจมตีวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่เข้ามาสังเกตการณ์ถึงในวัด เพี่อที่จะนำ ข้อรงูลที่ได้ไปเลนอข่าวตามความเป็นจรง วันที่ผมได้เข้าไปพิสูจน์ความจริงที่วัดพระธรรมกาย เป็นครั้งแรก ท้นทีที่เข้าถึงเขตวัด ผมก็ตกตะลึง เพราะไม่ เคยคาดคดมาก่อนว่าวัดพระธรรมกายจะกว้างใหญ่ถึงเพิยงนี้ แต่ถึงกระนั้น ผมก็ลามารถสัมผสได้ถึงความสุขสงบที่เกิดขึ้น ในใจอย่างที่ไม่เคยเสืกที่ไหนมาก่อน นี่หรือ? วัดที่เพี่อน สื่อมวลซนทั้งหลายพากันประโคมข่าวว่า เป็นวัดที่ไม่ตี เป็น วัดที่หลอกลวงประซาซน ผมคิดในใจ ในวันนั้น ผมไม่ได้รับประทานไปก่อน เพราะนักในใจ ว่าก็คงมีแผงร้านค้าอาหารเรืยงขายเต็มไปหมดเหมือนวัด ทั่วๆไป แต่ผมก็ต้องผิดหวัง เพราะที่นี่ ไม่มีนผงร้านค้าใดๆ ไม่มีร้านขายอาหารชนิดไหนๆ ทุกสื่งทุกอย่างเป็นระเบียบ เรืยบร้อย หลังจากเดินหาอะไรทานอยู่ฟักใหญ่ ผมก็ได้พบแนว โต๊ะวางอาหารที่มีผู้คนใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสยืนรอรับอาหาร เป็นแถวยาว นี่เราต้องไปต่อแถวด้วยหรือนี่? ผมคิดในใจ เพราะตามปกติอยู่ข้างนอกเราก็สามารถที่จะเบียดเข้าไปเพี่อ ขึ้ออาหารได้เลย ขณะนั้นเอง มีพี่ชายท่าทางใจดีคนหนึ่ง เขาคงเห็นผมยืนเก้ๆกังๆ จึงเดินเข้ามาถามผมว่า

www.kalyanamitra.org \"น้องๆ ทานข้าวหรือยัง?\" \"ยังเลยครับ\" \"งั้นเอาของพี่ไปก่อนละกัน\" \"แล้วของพี่ล่ะครับ?\" \"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปต่อแถวใหม่ได้!\" ผมรับข้าวห่อนั้นด้วยความเสึกทึ่ง อึ้ง และซาบซึ้ง จรืงอยู่ ข้าวห่อนั้นหากเทียบราคาแล้วก็คงไม่เกิน 20 บาท แต่ลำหรับคุณค่าทางจิตใจนั้น มหาศาลเกินกว่าจะประเมิน ราคาได้ ผมคิดในใจอีกว่า หากหลวงพ่อเจ้าอาวาสทึ่นี่ไม่ดีจริง จะสามารถสอนลูกคิษยให้มีนั้าใจดีงามได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ? ....และจากทุกภาพทุกเหตุการถ!อันแสนงดงามที่เห็น ประจักษ์ด้วยสายตาของตนเองในวันนั้น ประกอบกับข้อเท็จ จริงทึ่ได้รับ ทำ ให้ผมต้ดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเสนอข่าว เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตามความเป็นจริงทุกประการ แม้ จะไม่ตรงกับกระแสข่าวของพี่อมวลซนฉบับอื่นๆก็ตาม แต่ อย่างน้อยที่ลุด หนงสือพิมพ์ของผมจะต้องเป็นอีกกระแส หนึ่งที่เผยแพร่สิงดีงามนี้และข้อมูลทึ่ถูกต้องทึ่ลุดให้แก่ สาธารณซนได้มีโอกาสรับเต่อไป หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็ได้มาปฏิบัติธรรมร่วมกับ เพี่อนๆสาธุซนที่วัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่องตราบจนปัจจุบัน สมนึก วิทยารังสรรค์

www.kalyanamitra.org พ< วันหนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้าเดินลูความเรียบร้อยในสภา ธรรมกายสากล ได้เห็นสามเณรรูปหนึ่งเดินผ่านมา เห็นท่าน สำ รวม เบิกบาน ผ่องใส ข้าพเจ้านึกในใจว่าท่านต้องมี อะไรดีๆ แน่นอน จึงเดินเข้าไปหาน้อมต้วลงแล้วทามท่านว่า \"สามเณรมีธรรมะอะไรลอนใจตัวเองเจ้าคะ?\" ลามเณร ยิ้ม หัวเราะเบาๆ ทำ ท่าคิดสักครู่ แล้วตอบ ออกมาด้วยความองอาจว่า \"สามเณร ก็จะคิดว่า เราอยู่ใน โลกนึ ก็มีโลกธรรม 8 ประการ มีลุฃ มีทุกข์ มีสรรเสริญ มีนินทา ฯลฯ โลกก็เปินอย่างนี้เอง เพราะฉะนั้น มีอะไร เกิดขน เณรจะไม่หวั่นไหว เณรก็จะคิดว่า \"ทุกอย่างมันก็ เป็นเช่นนั้นเอง\" แล้วก็ไม่คิดอะไรโยมพี่จะลองเอาไปใข้ดู บ้างก็ได้นะครับ\" ได้ฟังธรรมะจากสามเณร ผู้เป็นเหล่ากอของสมณะ แม้องค์ยงเล็ก แต่ปัญญาและใจไม่ได้เล็กตามเลย ฉะนั้น คุณผู้ใหญ่ทํงหลาย ถ้ามีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าดิหรีอ ร้าย ก็อย่าลืมนะคะ \"ทุกอย่างมันก็เป็นอย่างนั้นเอง\" จะ ได้ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมไงคะ Don't serious! But have a nice time . สุขสว่าง

www.kalyanamitra.org m \"■. '■'Zfs ' l.fj jr .r = L คนที่คิดฟ้อย ย่อมพูดมาก 28

www.kalyanamitra.org ในเช้าสดใสวันหนึ่ง.... ดุบ! \"ฮือๆ\" เด็กหญิงตัวน้อยๆ วิ่งหกล้มกองอยู่กับพื้น ช้าวของที่เธอถือมาตกกระจายเรี่ยราด \"ต๊าย!. ห'yแจ่ม เจ็บไหมลูก นิมนต์ตุ๊เจ้าหยุดก่อนค่ะ\" แล้วคุณแม่ก็ประคองเธอมาใส่บาตรพระอาจารย์ได้ทนพอด็ นํ้าตาที่ไหลอาบแก้มเมื่อสักครู่ กสับกลายเป็นนาน้อยๆที่ ช่วยเสริมดวงหน้าแววตาและรอยยิ้มของเธอใ'ฟ้ลดใสยิ่งขึ้น \"ห'นูแจ่ม\" เป็นเด็กหญิงชาวเชียงใหม่ บ้านของเธออยู่ บนยอดดอยลูงในเขตอำ๓อฮอด คุณพ่อทำงานที่กรุงเทพ ฯ ส่วนคุณแม่ทำงานร้บจ้างอยู่ในตัวเมือง หนูแจ่มจึงอาตัยอยู่ กับคุณยาย ด้วยความที่เป็นเด็กผวขาวหน้าตาดี คุณยายจึง ไม่อยากใ'ห้หนูแจ่มสุงสิงกับใครมาก แต่ถืงกระนั้นหนูแจ่มก็ เป็นเด็กร่าเริงและมือัธยาตัยชอบทำบุญ'ฟ้งธรรมจากพระ อาจารย์ยิ่งนัก แถมยังชอบซักซวนเพื่อนๆมากราบพระ อาจารย์และมาวิ่งเล่นในวัดเกือบ'กุกวันหลังเลิกเรียนอีกด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณแม่เก็บเงินจากการทำงานได้ผาก พอสมควร จึงซื้อผลไม้ดีๆจากในเมืองมาฝาก เมื่อหนูแจ่มได้ รับก็ดีใจมาก รีบนำไปถวายพระอาจารย์... \"อ้าว!.. ทำ ไมไป ถวายพระอาจารย์หมดล่ะลูก ไม่เก็บไว้กินเองบ้าง\" คุณแม่ ถามด้วยความตกใจ หนูแจ่มจึงตอบด้วยความไร้เดียงสาว่า \"ก็พระอาจารยไม่มีเงินเดือนนึ่คะ\" ในวันปีใหม่ ทางวัดมีกิจกรรมสำหรับเด็กๆ คือการ จ้บฉลากของขวัญราคาไม่เกิน 50 บาท หนูแจ่มก็เอาของ ขวัญที่ลํ้าค่าที่สุดของเธอมาจับฉลากด้วย เป็นตุ๊กกี้อย่างดีที่ คณแม่ซื้อมาฝาก

www.kalyanamitra.org \"หใ^อยากให้พระอาจารย'ได้คุ้กกื้ของหใ^จังเลย\"ห'yแจ่มเปิดใจ \"อ้าว.. แล้วทำไมไม่ถวายเลยล่ะจ๊ะ?\" พระอาจารย์ถาม \"ไม่เอาๆ ห'4อยากให้พระอาจารย์จับได้ฉลากของห'y\" เจ้า ภาพตัวน้อยๆยืนย้น และแล้ว เวลาที่เด็กๆทุกคนรอคอยก็มาถึง ฉลากใบ แล้วใบเล่าถูกหยิบออกไป จนกระทั่งเหล้อใบสุดท้ายก็ย์งไม่มี ใครจับได้ค้กกึ้ของหใ^แจ่มเลย และก็เหล้อแต่พระอาจารย์ เท่านั้นที่ยังไม่ได้จับ \"ไซโย!!... คุ้กกของห'ถูยังไม่มีใครจับได้ และพระ อาจารย์ก็ยังไม่ได้จับฉลาก เพราะฉะนั้นคุกกี้กระป้องนก็ ด้องเป็นของพระอาจารย์!\" หถูแจ่มกระโดดตัวลอยร้องขน เล้ยงตังด้วยความด็ใจ แล้วรบนำด้กกี้ไปถวายพระอาจารย์ หลังจากนั้นไม่ถึง 5 นาที คุ้กกี้ทุกชิ้นในกระป้องก็ได้ถูกแจก จ่ายให้แก่เด็กๆที่มาร่วมงานจนหมด \"วันปีใหม่ว้นนี้ ซ่างเป็นวันดีจริงๆเลย\" ...หนูแจ่มคิด ในใจ...เพราะนอกจากจะได้ทำบุญถวายคุ้กกี้อย่างดีให้แก่ พระอาจารย์แล้ว หนูแจ่มและเพื่อนๆก็ยังได้กินคุกกี้อย่างดี จากพระอาจารย'อกด้วย\"

www.kalyanamitra.org \"คุณโยม.. งานว้ดปีนี้จะจ้ดสถานที่ให้งามเป็นพิเศษ คุณโยมต้องการเป็นเจ้าภาพไฟวิ่งส์'กหน่อยไหม?\" พระ อาจารย์บอกบุญ \"ไต้ค่ะ\" คุณแม่ของหบุแจ่มรับปาก แล้วคุณแม่ก็ชื้อ ไฟวิ่งจากไนเมืองมา 3 แผง เก็บแผงหนึ่งไว้บนหัวดู้แอผ้า เพื่อจะเอาไว้ใช้เอง แล้วพาหบุแจ่มไปถวายพระอาจารย์ต้วย กันที่วัด 2 แผง หบุแจ่มเสิกปีติไจมากที่ไต้ทำบุญไนสิ่งที่ พระอาจารย์ต้องการ เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ขณะที่หบุแจ่ม กำ ลังวิ่งเลนอย่างสนุกสนานนี้นเอง สายตาอ้นเป็นมงคล ของเธอก็ไต้เหลือบไปเห็นแผงไฟวิ่งอีกแผงหนึ่งที่คุณแม่ซ่อน เอาไว้พอดี เธอคิดไนไจว่า \"เอ.. สงลัยคุณแม่คงลืมเอาไป ด้วยแน่ๆเลย\" หบุแจ่มจึงปีนขึ้นไปหยิบไฟวิ่งแผงสุดท้ายนั้น แล้วรีบวิ่งไปถวายพระอาจารย์ด้วยความปีติไจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถึงซ่วงฤดูหนาว อากาศเย็นจัด อุณหฎมิลดลงตา กว่า 10 องศาเซลเซียส หบุแจ่มคิดอยากทำบุญใหญ่ จึงไป รบเร้าคุณแม่ขอชื้อผ้านวมถวายพระอาจารย์ \"อย่าเลยลูก ครอบครัวเราไม่ไต้รารวยอะไร และผ้า นวมแต่ละผนก็มืราคาแพงมาก\" \"แต่พระอาจารย์ท่านไม่มื เงินเดือนนะคะ\" หบุแจ่มอ้อนวอน \"เราเองยังไม่มืไซ้เลย หบุเองก็ยังมืแต่ผ้าห่มเก่าๆ ล้าหบุอยากทำบุญ เราชื้ออย่าง อื่นไปถวายท่านก็ไต้\" คุณแม่ชื้แจงเหตุผล \"แต่อากาศหนาวเย็นอย่างนี้ ล้าพระอาจารย'ไม่มืผ้า นวม ท่านต้องนอนไม่หลับแน่ๆเลย ผ้าจีวรของท่านก็บางๆ....\" หนแจ่มอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร

www.kalyanamitra.org ในที่สุด คุณแม่ก็ต้องยอมจำนนต่อความพยายาม ของห'yแจ่ม แล้วพาเธอไปเลือกชื้อผ้านวมอย่างดี 1 ผืน สำ หร้บพระอาจารย์และอย่างธรรมดาอีก 1 ผืนสำหรับที่บ้าน หผูแจ่มดีใจผาก เมื่อเลือกชื้อได้แล้ว คุณแม่ก็ปล่อยให้หใ^ แจ่มไปถวายพระอาจารย์ด้วยตัวเองเนื่องจากคุณแม่ติดธุระ บางอย่าง หไ5[แจ่มจึงไต้มีโอกาสสร้างมหาทานบารมี ด้วย การถวายผ้านวมไห้แก่พระอาจารย์ทั้ง 2 ผืนเลย! มีอยู่ครั้งหนึ่ง หใ5[แจ่มและคุณแม่ได้ลงมาเยี่ยมคุณพ่อที่ กรุงเทพฯ คุณแม่ก็ทำการนัดแนะอย่างดีว่า เมื่อเจอคุณพ่อ แล้วไห้ขอเงินจากท่านล้ก 200-300 บาทโดยไห้บอกคุณพ่อว่า ห'yลำบาก ต้องไซ้เงินมาก.,.ฯลฯ ซึ่งห'yแจ่มก็พย์กหน้า แสดงอาการเข้าไจเป็นอย่างดี ครั้นพบคุณพ่อเข้าจริงๆ หา^ แจ่มก็ขอเงินจากคุณพ่อทํนทีตามที่คุณแม่สอนไว้ \"พ่อคะๆ ห^yขอเงิน 1,000บาท\" คุณพ่อทำหน้าตกไจแล้ว ถามว่า \"จะเอาไปทำอะไรลูกตั้ง 1.000บาท!?\" \"เอาไปถวายพระอาจารย์ค่ะ\" ห'yแจ่มตอบซัดถ้อยซัดคำ \"ถวายพระอาจารย์ทำไมตั้ง 1,000บาท?\" \"ก็พระอาจารย์ท่านไม่มีเงินเดือนนื่คะ... และท่านก็เป็นคนดี มากด้วย...\" หyแจ่มอธิบายเสียยืดยาว กลับมาจากกรุงเทพฯไนครั้งนั้น หyแจ่มก็ได้ทำบุญ กับพระอาจารย์ถึง ใ,000บาทสมไจ

www.kalyanamitra.org หลายปีต่อมา เมื่อหIj[แจ่มโตขึ้น คุณแม่ก็ส่งเธอมา เรียนที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เธอจะไป คุณแม่ได้มาเปิดใจกับพระ อาจารย์ว่า ตั้งแต่ได้เข้าวด หใJ[แจ่มดีขึ้นมาก กิริยามารยาท เรียบร้อย มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ และเป็นเด็กที่มีนํ้าใจดี มากคนหนึ่ง พลอยทำให้คุณแม่ คุณยาย และเพื่อนๆของ เธออีกหลายคนได้รู้จักเข้าวัดทำบุญกราบพระสงฆ์องค์เจ้าไป ด้วย ส่วนต้วหบุแจ่มเองก็มากราบลาพระอาจารย์เซ่นกัน พระอาจารยํได้ฝากให้หบุแจ่มหมั่นทำทาน ร้กษาศีล เจริญ ภาวนาอย่าได้ขาด โดยเฉพาะการมั่งธรรมะ ต้องมั่งทุกวัน.,. หบุแจ่มร้บคำอย่างดี ข่าวคราวเกี่ยวกับหบุแจ่มที่พระอาจารยได้รับทราบครั้ง สุดทาย เป็นข่าวที่น่ายินดีว่า ...คงเป็นด้วยบุญสุศลที่หบุแจ่ม ทำ ความรักใคร่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างจับจิตจับใจมาตั้งแต่ ย้งเล็ก จึงส่งผลให้หบุแจ่มเป็นที่รักของเพื่อนๆที่โรงเรียนใหม่กัน ทุกๆคน และที่โรงเรียนมั่นย้งได้มีการนิมนต์พระภกชุสงฆ์จากวัด ปากมั่าภาษีเจริญมาลอนสมาธิให้แก่เด็กนักเรียนอกด้วย กายแกัว

www.kalyanamitra.org \" - 1 อย่ารอที่จะทำอะไรในวันพรุ่งนี้ ไ^ 3-^ เธอจะไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะทุกเช้าเมื่อเธอตื่น มันคือ \"วันนี้' - ;:iTf V- 34

www.kalyanamitra.org •••••••• พ •ร \"■ ',;■ ® • « - ik * IIJ ##®##### ^''' '5S •»#•• • ๏ ๏ ## ๏#๏#๏ •# 0 ๏ ๏

www.kalyanamitra.org หากลองหล้บตาแล้วย้อนเวลากลับไป นึกถึงเรื่องราว ประสบการโน์ต่างๆที่เคยผ่านเข้ามาเมื่อครั้งเรายังเด็กคงมีเรื่องราว มากมายที่น่าสนใจ สำหรับข้าพเจ้า ความทรงจำในวยเด็กเป็น ภาพความงามแห่งชีวิตที่ยังคงจดจำอารมณ์ ความรู้สึก รอยยม เสียงหัวเราะ และคราบนํ้าตาที่เคยเกดขึ้นได้ดี ยังจำได้ว่าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันที่รอคอยของ ข้าพเจ้าและเพื่อนๆเพราะเป็นวันที่ได้สนุกเที่ยวเล่น และพักผ่อน ได้อย่างสบายใจ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าและน้องลาวเล่น กระโดดยางกันอยู่หน้าบ้าน ตอนนั้นข้าพเจ้าอายุ ฑปี น้องสาว อายุ 7 ปี กระโดดยางกันอย่างสนุกสนาน ลักครู่ทมีคนมาเรยก ใหัเปิดประดูบ้าน ข้าพเจ้าและน้องก็รบแย่งกันไปเข็นประดูรั้ว เหล็กเก่าๆที่ค่อนข้างหนักและ'ฝืดเข็นกันอย่างไรมิทราบเราลอง คนก็ทำประตูตกราง เสียงด้ง โครม!! เข็นต่อไปไม่ได้ ทำ ไงดีๆ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกรู้แต่ว่าประตูหนักมากเข็นไปทางไหนก็ไม่ ขยับ จะปล่อยไว้แล้วไปเล่นต่อก็มีหวังถูกดุ เราเลยด้ดสินไจไปหาพ่อ เพราะพ่อเป็นบุคคลที่เราเชื่อ มั่นเสมอว่าไม่มีอะไรที่พ่อทำไม่ได้พ่อสอนและทำให้เราเห็นว่าทุก อย่างมีทางออกที่เหมาะสมเสมอ พ่อจึงไม่ชอบที่จะเห็นลูกๆทำ อะไรเหลาะแหละ ไม่จริงจ้ง คอยคิดแต่จะขอให้คนอื่นช่วยก่อนที่ จะลองพยายามทำเองให้สำเร็จ ข้าพเจ้าและน้องตระหนักถึงข้อนดี แต่ตอนนั้นก็ลืมที่จะนึกถึง

www.kalyanamitra.org แน่นอน หลังจากที่(.ราขอร้อง พ่อก็มีคำตอบให้เราสองคน ช่วยกนยกประดูฃึ้นไว้บนรางแห้วเข็นเข้าที่เดิมด้วยดๆเอง เรา ลองคนก็ร้องลัน ประดูนั่นทังหนัก ทั้งใหญ่ เข็นก้บพื้นยงใม่ฃยับ. แล้วจะยกขนใด้อย่างไร เสืยเวลาเปล'าที่จะปนไป เพราะพ่อยัง I คงยืนยันให้เราสองคนทำเอง ' ข้าพเจ้าและน้องเดินกลับมาที่ประดู ใจก็คิดแต่ว่าเป็นไป ^ ไม่ได้ที่เด็กตัวเล็กๆสองคนจะยกประดูนั่นได้ แต่ต้องจำใจยก' เพราะพ่อดุ เราสองคนก็เอามือจับประดูคนละด้านแห้วนับ 1 ,2,1 3 อบ อี้บ โอ้! ไม่น่าเชื่อ เราทำได้สำเร็จ ทำ ได้สำเร็จ เรายกมัน j ขึ้นได้ด้วยความง่ายดายในขั้นตอนเดียว I แห้วเราสามคนพ่อ-ลูกก็ห้วเราะด้วยกันอย่างเบิกบาน! ตามด้วยเสืยงปิดงานของพ่อว่า \"เห็นมั๊ย พ่อบอกแห้วว่าลูกทำได้\" นักสร้างบารมีตัวน้อยๆ (หมายเหตุ ; หลังจากวันนั่นพ่อก็ทำประดูให้ใหม่ เข็นง่าย ไม่ตก รางอีกเลย) ■พ\"- f

^SPEED www.kalyanamitra.org ^ j วันนั้นเป็นว้นอาทิตย์ต้นเดือนมิถุนายน ของปีพ.ศ, 2539 I • 8.20น.:ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาต้ายอาการตทใจสุดขีด■ -\"านปี i อาทิตย์ต้นเดือนนีนา!!\" ...ใช่แล้วข้าพเจ้าตังใจตนตังแต่ตนาศรง เพราะการเดินทางจากป้านข้าพเจ้าถึงวัดพระธรรมกายนั้มบ่กดิ ใช้เวลาอย่างน้อยถึง 3 ฃั่วโมง • 8.50 น. : ข้าพเจ้าอยู่บนรถประจำทางแล้วลายอะไร ข้าพเจ้าไม่ทราบ เแต่ว่าไต้โปรดพาตัวข้าพเจ้าออกไปจากป้านให้ ! เร็วที่ลุดเทด I • 9.20 น.: ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ไต้การแล้ว ขีนไปรถเมล์อย่าง นั้ไม่ท้นแน่ จีงลงจากรถที่ป้ายบางไผ่ ขึ้นมอเตอร์ไซครับจ้าง 80 บาทไปห้วลำโพง เพื่อไปให้ท้นรถไฟลายเหนือรอบ 9.40 น, • 9.45 น. ะ แย่แล้ว ! ข้าพเจ้าข้าไปนิดเดืยว รถไฟรอบนั้น ออกไปเห็นๆ หลวงพ่อลงนำนั้งสมาธิแล้วนะนี่ ข้าพเจ้าตัดสินใจ 'ขึ้นมอเตอร์ไซด์รับจ้างอกครั้ง พลางร้องสั่ง \"พีๆไปวัดพระธรรม กายรังลิตด่วนทิสุด\" ...ลมใจทิเดืยว มอเตอร์ไซด์คันนันพา ข้าพเจ้าชงแบบสุดชีวิตซอกแซกซอนไซปาดซ้ายปาดขวาไปก้ม วิกถุตจราจรที่คับคั่ง ใ^ของข้าพเจ้าอื้อไปหมดก้บเลียงของแรง ลมที่ปะทะ ใจของข้าพเจ้าเต้นระรัวด้วยความหวาดเกรงต่อ อุบัติเหตุที่อาจเกิดฃึนได้ทุกหัวโค้งทิเสียวแบบไม่ต้องเบรค • 10.30 น. : เท้าของข้าพเจ้าได้ลัมผัสถนนลุขลบายข้าง สภาธรรมกายสากลหลังดามุงจาก ^เอเตอร์ไซด์รับจ้างคันนั้น ♦7^«

www.kalyanamitra.org เก็บเงินข้าพเจ้าถึง 350 บาท ...O.K. ไม่เป็นไรข้าพเจ้าเหลือเงินอยู่ ประมาณ 400 บาท แล้วข้าพเจ้าก็รีบวิ่งเข้าสภาฯ ทันเวลา พอดี แ ได้ยินเลียงหลวงพ่อบอกว่า \"ต่อจากนี้ให้ลูกๆทุกคนนั่ง พับเพียบ หลับตา พนมมือ ตังใจกล่าวคำทุซาข้าวพระกันนะจ๊ะ วันนั่นเป็นอีกวันหนึ่งที่ข้าพเจ้านั่งสมาธิอย่างมีความสุฃที่สุด พงศ์ศักดิ้ อารีย์สว่างกิจ ■^'4

www.kalyanamitra.org ชุมเพชรแห่งโกลคอนดา ครั้งหนึ่ง มีเศรษฐีชาวเปอร์เซีย ชื่อ อัล ฮาเฟด (AI Hafed) เขามีฟาร์มขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งลวนผลไม้ สวนดอกไม้ และทุ่งปลูก ข้าว ว้นหนึ่ง มีนักบวซชราผู้เป็นสหาย มาเยี่ยมเขาที่ม้าน ได้ เล่าให้เขาฟังทงผูลค่าอันมหาศาลของ เพชร ว่า ถ้าเขามีเพชร เพยงกำมีอเดียวก็อาจซื้อประเทศได้ทั้งประเทศ เขารู้สึกสนใจมาก จึงถามนักบวชว่า \"ท่านบอกข้าได้ไหมว่า ข้าจะไปหาเพชรได้ที่ไหน\" \"ถ้าพบแม่น้ำสายหนึ่งซึ่งไหลผ่านบนทรายสึขาวระหว่าง ภูเขาสูง ในระหว่างทรายบริเวณนน มักจะพบเพชร\" \"ข้าจะไปที่นั่น!\" และแล้วเขาก็ขายฟาร์ม รวบรวมข้าวของเงินทอง ออก เดินทางหาแม่นํ้าที่มีลักษณะอย่างนั่น เขาเริ่มต้นไปที่ดินแดน ปาเลสไตน์ ท่องเข้าไปในทวีปยุโรป แต่สุดท้าย เมื่อเงินทองถูกใช้ จ่ายจนหมดสิน อัล ฮาเฟด ผู้สินเนื้อประดาตัว ได้ยืนท้อแท้ ลิ้น หวัง อยู่บนฝังของอ่าวที่บาร์เชโลน่า ประเทศสเปน โดยไม่มีใคร คาดคิด เขาทิ้งตัวให้จมลงไปใต้ฟองคลื่น โดยไม่โผล่ลอยตัวขน มาล้ซีวีตอีกเลย ต่อมา ลูกชายของ อัล ฮาเฟด ได้ลูงลูฐไปดื่มนั่าที่สวน หลังม้าน ในขณะนั่น เขาเห็นหินสึดำก้อนหนึ่งมีจุดประกาย สว่างเล็กๆ แฝงตัวอยู่ใต้พื้นทรายของธารนั่า เขาจึงเก็บหิน ประหลาดนั่นไว้แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร 2-3 วันหลังจากนั่น นักบวชชราได้แวะมาเยี่ยม เพียงแค่ เห็นประกายสว่างจากหินก้อนนั่น เขาตรงริ่เข้าใล่แล้วร้องว่า \"นึ่ แหละเพชร! นี่แหละเพชร อัล ฮาเฟด กลับมาแล้วหริอ\" 40

www.kalyanamitra.org \"ไม่! พ่อข้ายังไม่กลับ และนี่ก็เป็นแค่หินประหลาดที่ข้า พบในสวนหลังบ้านนี่เอง\" \"แต่ข้ารู้ว่า มันคือเพชร\" นักบวชรีบพาลูกชายไปที่สวนหลังบ้าน ใช้มือขดคุ้ยทราย สีขาวในธารนํ้านั้น พวกเขาได้พบเพชรอีกหลายเม็ด และที่ นั้นเองคือ ขุมเพชรแห่งโกลคอนด้า (Golconda) ซึ่งเป็นขุมเพชรที่มี มูลค่าสูงที่สุดในโลก และเพชรคูอินัวร์ (Koh l-Noor) ที่ประด้บบน มงกุฎของราชวงค่'อังกฤษ ก็มาจากขุมเพชรแห่งโกลคอนด้านี้เอง คนในโลกส่วนใหญ่เป็นเหมือนนายอัล ฮาเฟด ต่างวิ่ง แสวงหาลิ่งที่มีค่าอยู่ราไป แต่หารู้!ม่ว่าลิ่งที่มีค่ามากที่สุดซ่อนอยู่ ภายในตัวเขานี่เอง ว.วัชระ หมายเหตุ : เรื่องขุมเพชรแห่งโกสคอนด้านี้ แปลและเรียบเรียง จากหนังสือ Public Speaking & Influencing Men in Business by Dale Carnegie <Unabridged Edition> / 3- #)

www.kalyanamitra.org '-^ถแห่งวีรบุรุษ ะ' FROM ZERO TO HERO^ เร7ิมต้นจากคนธรรมดา ก้าวีมาเป็นวีรบุรุษ จุดไทjี'คนนับ ล้านเคยฝัน แต่จะมีกี่คนกันไปถึง บนเล้นทางแห่งความฝันอันทอดยาวไกล ใครที่กล้า ใครที่ ฝ่าข้ามไปได้ ใครคนนั้นที่ทะยานไกลกว่าดวงดาว เราเริยกเขาว่า 'วิรบรษ' ชัยชนะคือรางกัลฃองชีวิต ความสำเร็จนั้นงดงาม วินาทีที่ อกแตะเล้นชัย เราจะได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานชองมน พี่น้องผู้กล้าทงหลาย เราต่างก็รู้ว่า ตลอดเล้นทางอัน ท้าทายสายนี้ ทั้งคดเคี้ยวและสูงชันเต์มไปด้วยอุปสรรคและชวาก หนามที่กางกั้น แต่เพราะความยากสำบากมใช่หรือ ที่สามารถ เค้นเอาพลังที่เข้มข้นที่สุดจากวิญญาณส่วนลึกชองเราออกมาได้ คุณสมบัติของความเป็นวีรบุรุษ เป็นลิ้งที่สร้างลมและ หล่อหลอมขึ้นมาจากต้วตนภายในของเราลึกลงไปในใจทุกดวง ล้วนมีพลังอันมหัศจรรย์ซุกซ่อนอยู่ เป็นพลังที่มีอำนาจใร้ฃอบเขต เป็นซุมพลังอันใม่มีที่ลิ้นสุด เป็นพลังที่จุดไฟแห่งฝันให้ลุกโชติช่วง ตลอดกาล และเป็นพลังเพียงชนิดเดียว ที่จะเปลี่ยนจากคน ธรรมดาให้กลายมาเป็นวีรบุรุษ ไม่มีการค้นพบใดๆ จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการค้นพบพลังแรง กล้าที่ฝังอยู่ในต้'วเราเอง ปลุกความฝันให้มีชีวิต ให้แลงสืทอง ชองชัยชนะส่องประกายเรืองรองสะท้อนเป็นภาพในดวงตา และ ประทับไว้ในดวงใจชองเรา ความสำเร็จอันงดงามข้างหน้า กำ ลัง รอผู้กล้าฝ่าไปถึง

www.kalyanamitra.org ก้าวต่อไปเถิด พี่น้องผู้ร่วมทางที่ร้กทุกท่าน ก้าวต่อไป ด้วยหัวใจที่เโ!เยมพล้'ง เพราะทุกย่างก้าว ล้วนมีความหมายต่อ ชัยชนะ ทุกย่างก้าว เราเข้าใกล้เล้นชัยไปทุกที ในคาคืนพี่มืดมิดที่สุด ดวงดาวยังเปล่งประกายแลง ในยามมืดมนพี่สุดของชีวิต ความหวังจะยังคงดำรงอยู่ แล้ววันหนึ่งไม่ไกล เราจะคว้าเอาธงชัยมาประดับชีวิต วันวันนั้น วันที่เรา1Jกฝ่าไปด้วยหัวใจพี่องอาจและกล้าหาญ จน สุดปลายเล้นทาง กล้บยู่ความเป็นนิรันดร์ บนถนน คนกล้า คนท้าฝัน เราทุ่งหน้า ฝ่าประจน ไม่ถอยหน ทุ่มพลัง หมดทั้งใจ ทั้งชีวี ณ พี่นี้ บนวิถี แห่งวีรบุรุษ อพอลโล C-

www.kalyanamitra.org เสิยงเรียกจากชั้นห้า ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เข้าวัดพระธรรมกาย ข้าพเจ้าก็ตั้งใจ ทำ ทาน ร้กษาศีล และเจริญภาวนาอย่างสมำเสมอตลอดมา... หอฟักของข้าพเจ้าอยู่ติดกับตลาดปากนา จ.สมุทรปราการ ทุกๆ เข้าจะมีพระภิกษุชรารูปหนึ่งเดินบิณฑบาตผ่านหน้าหอฟัก เป็นประจำ ทำ ให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตรอยู่เนืองๆถึง แม้จะยงไม่สามารกทำได้ทุกวันก็ตาม วันนั้นก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ข้าพเจ้าตั้งใจมากว่าจะต้องใส่ บาตรให้ใต้ แต่ข้าพเจ้าตื่นสาย! เข็มยาวเกือบจะอยู่ที่ตำแหน่ง เที่ยงวัน ส่วนเข็มสันก็เกือบจะซที่เลขหก ใช่! เกือบจะ 6 โมงแล้ว ข้าพเจ้าจึงรีบผลุนผลันลุกจากที่นอน วิ่งออกไปดูที่ระเบียง ก็พบ ว่าพระท่านเดินผ่านหอฟักไปแล้วและกำล้งจะเลี้ยวเข้าซอยไป \"หลวงพ่อ นิมนต์เจ้าค่ะ!\" ข้าพเจ้าตะโกนสุดเสียงด้วย อาการลืมตัว ลายตาของผู้คนหลายสิบคู่มองมาที่ข้าพเจ้าเป็น จุดเดียว แต่ข้าพเจ้ามิได้ใส่ใจหรอก เพราะหลวงพ่อท่านหยุดรอ แล้ว ข้าพเจ้าจึงรีบวิ่งลงจากห้องฟักซึ่งอยู่ซน 5 นำ ภัตตาหารที่ เตรียมไว้ตั้งแต่เมอคีนไปใส่บาตรท่าน เมื่อรับพรเสร็จ ข้าพเจ้าก็เดินกลับห้องฟักด้วยความปีติใจ ท่ามกลางลายตาของผู้คนมากมายที่ยังดงมองมา... ในวันนั้น ข้าพเจ้าได้แง่ดิดอย่างหนึ่งว่า หากเราตั้งใจจะทำอะไร แล้วทุ่ม ใจทำจนสำเร็จโดยไม่หวั่นเกรงต่อสิงใดๆ ความสำเร็จนั้นจะเป็น ภาพแห่งความปีติใจที่จะฝืงอยู่ในความทรงจำของเราอย่างมิรู้เลือน บัวยิ้ม

www.kalyanamitra.org ถำ วันนน I ราวปี 2537 ชมรมทุทธศาสน์ มหาวิทยาลัยใJรพากำลัง จะถูกยุบ ประธานชมรมกำลังจะปลดป้ายออก เพราะไม่มีคนมา ทำ งาน ไม่มีคนมาร่วมกิจกรรม ลำ พังตวประธานผู้มีหัวใจแห่ง I การลร้างความดี ยังฮึด^ หากแต่ขาดหถู้คณะ ผู้มีอุดมการณ์ เดียวกัน หลวงพี่จากวัดพระธรรมกาย 2 รูป ได้เมตตาแวะไปเยี่ยม ชมรมของเราในช่วงเหดุการณ์นั้น ท่านจึงแนะนำให้ประธาน ทราบว่า หมู่คณะที่ร้กการสร้างความดีกำลังจะตามมา ขอให้ อดทนทำต่อไปก่อนเทิด ณ วันนี้ หมู่คณะผู้มีอุดมการณ์ มโนปณิธาน และเป้า, หมายชีวิต ได้มารวมตัวกัน สืบลานงานพระพุทธศาสนา และยัง คงทำหน้าที่กัลยาณมิตรสืบต่อกันไป เมื่อหลับตา ย้อนนืกทิง วันที่ซมรมเกือบจะต้องยุบ พวกเรายังรู้สืกใจหาย เพราะท้าพี่I ประธานชมรมในช่วงนั้นกอดใจเสียก่อน ภาพแห่งความงดงาม ในอดีตคงมาไม่ถึงวันนี้ เหล่าทหารกล้าชาวรพาคงมาไม่ถึงที่นี่ 1 หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่กำลังจะยกเลิกในสิงที่ทำ กำ ลังจะj ทิ้งความฝ็นไว้เบื้องหลัง ขอโปรดหลับตา นึกถึงวันพร่งนี้เทิด 1 พุทธถูรพา 4.:

www.kalyanamitra.org พี่แก่น \"วันฝืนฟ้าใล ค้นหาดวงใจใต้ดวงตะวัน\" เป็นซื่อธุดงค์ที่ ยาวที่สุดและจ้ดฃึ้นเป็นครั้งแรกของมหาวิทยาลัยTjรพา เกิดขึ้น เมื่อปลายปี 2537 ธุดงค์ครั้งนั้นได้จุดประกายให้นิสิต-นักค้กษา ตลอดจนคณาจารย์กว่า 130 คนตระหนักและซาบฃึงถึงคุณค่า ของพระพุทธศาลนา และยังทำให้นิสิตอีกหลายร้อยคนได้ก้าวสุ่ เลันทางเดยวกันในการจัดธุดงค์ปีลัดๆ มา ธุดงค์ประวัติคาสตร์ครั้งนั้น ได้เริ่มต้นจากหัวใจยอด กัลยาณมิตรของนิสิตคณะค์กษาคาสตร์ ขั้นปีที่ 3 คนหนึ่ง เขา มีซื่อว่า \"พี่แก่น\" หลังจากที่พี่แก่นได้ท!การอบรมธรรมทายาท พี่ แก่นก็มี ความฝืนที่ยิ่งใหญ่,.., ฝืนอยากให้ทุกคนได้รับความสุขจาก การปฏิบัติธรรม ฝืนอยากเห็นนิสิตนั้งมหาวิทยาลัยมาปฏิบัติ ธรรมร่วมกัน พี่แก่นไม่ได้ปล่อยให้บันเป็นเพียงแค่ความฝืนเท่านั้น แต่ทุ่งมั่นที่จะลร้างฝันให้เป็นจรง จงเริ่มจุดไฟแห่งฝืนให้กับหทุ่ คณะเล็กๆ ..ด้วยพลังใจอนเข้มแข็งประกอบกับบุคสิกเฉพาะตัว พี่ แก่นลามารถก่ายทอดความฝืนให้ผู้ร่วมงานมองเห็นเป็นกเาพ ความจริงได้ , ตลอดระยะเวลาของการเตรียมงานอันหนักหน่วง พวกเรา เริ่มต้นหาทุนจากการบอกทุญเอง ออกฃักซวนคนตามหอพัก , โรงอาหาร ทำ สื่อประชาลัมพันธ์ ติดต่ออาจารย์ ขนของ และ

www.kalyanamitra.org เตรียมลถานที่เองทั้งหมด หลายครั้งที่เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ จนบางครั้งภาพฝืนในใจมันเลือนลาง แต่ทุกครั้งที่เรารู้สึกอย่างนี้ พี่แก่นจะก้าวเข้ามาจุดประกายความฝืน มาสร้างภาพแห่งความ สำ เร็จให้เกิดขึ้นในใจอกครั้ง พี่แก่นลามารถสร้างบรรยากๅค การเตรียมงานให้สนุกลนานคืกคักดลอดการเตรียมงานทุกจุคืน! สร้างก่าลังใจที่เข้มแข็งให้กับทุกจุคน สร้างความสำเร็จทุกอย่าง ให้เกิดขึ้น พี่แก่นสามารถยกใจทุกคนจากเรื่องสนุกเพียงใม่กี่เรื่อง ดูเหมือนว่า,..,พีเขาจะเป็นคนเล่นจุ แต่ผลงานที่ปรากฏล้วนเป็น. บทพิสูจน์ความเป็นคนจริงของพี่ขายคนนี้ . ปัจจุบ้นพิแก่นจบการศึกษาแล้ว และยงคงทำหน้าที่ยอด กัลยาณมิตรต่อใป เราทุกคนรักและภูมิใจในตัวพี่ขายคนนี้มาก พทธบรพา ^(V. 4

www.kalyanamitra.org ภูเขา K. ในปี ค.ศ.1952 ซายซื่อเอ็ดมันด์ ฮิลลารีผู้มีประกายตาบุ่ง มั่น ได้พยายามปีนเนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ภูเขาที่ลูงที่ลุดเท่าที่ มนุษย่เจ้ก ยอดที่ลูงที่สุดของมันสูงถืง 29,000 ฟุต หนทางนั้นทั้ง ยาวไกลและอันตราย ครั้งนั้นเขาประสบความล้มเหลว เขาท้อหรอ ? เขาเล้กล้มความตั้งใจหรอ ? เปล่าเลย ในดวงตาและในห้วใจของเขาย้งคงล่องประกายแห่ง ซ้ยซนะ เขาบอกกับต้'วเองว่า จะต้องทำให้ได้ เขาฃนวไปที่ รูปภาพของเขาเอเวอร์เรลต์แล้วตะโกนกองว่า \"ภูเขาเอ๋ยเจ้าจะ ชนะขาในครั้งแรกนี้ แต่ข้าจะฃนะเจ้าในครั้งต่อไป เพราะเจ้าไม่ เติบโตไปกว่านี้แล้ว แต่ข้าสิ จะเติบโตต่อไป\" 29 พฤษภาคมปีต่อมา เอ็ดมันด์ ฮิลลารี ผู้เคยพ่ายแพ้ ในวันนี้เขานำชัยชนะมาประดับชีวิต เขาเป็นมนุษย์คนแรกที่ปีน ถึงยอดเขาเอเวอร์เรสตได้สำเร็จ ภูเขาจะสูงแค่ไหน มนุษย์ก็ปีนถึงได้ อุปสรรคเป็นเพียง แค่เครื่องทดสอบกำลังใจ และความพ่ายแพ้ก็เป็นเพียงขั้นตอน หนึ่งก่อนถึงความสำเร็จ แพ้ครั้งนี้ก็มิได้หมายความว่าจะแพ้ตลอดไป ตราบใดที่ ใจไม่เคยยอมแพ้ นึ่แหละคือลักษณะนิลัยของผู้ที่จะประสบชัยชนะ อพอลโล iSiiti

www.kalyanamitra.org มิค.หยูนอยมหัศจรรย \"พื่แม็กศร้บเราขี่จักรยานข้ามจงหวดกันนะ\"' ••เอาสิ พรุ่งนี้เลยมย'\" \"ไดเลยครับ\" ในวันรุ่งขึ้นน้องมิคกิต้องผิดหวัง เพราะ ...แน่ล่ะ ใครจะไป! ใส่ใจกับคำเซิญฃวนที่เฟ้อปีนของเด็กวัย 10 ขวบอย่างเขา แต่มิคไม่, ไต้ชวนเล่นๆ เขาขวนจริงๆ ' 10.00 น. ของวันนน น้องมิคพบว่าเขาทำไต้สำเร็จ เขา! ลามารถขี่จักรยานจากจังหวัดร้อยเอ็ดไปบ้านคุณแม่ที่จังหวัด^ มหาลารคามได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งใน] วันทำงาน กับจักรยาน BMX คันเก่าๆและหัวใจที่ม่งมั่นว่า \"ไมมอะไร ที่ เราจะทำไม่ได้\" ห้ายีเต่อมา หนูน้อยมิค ไต้เข้ารับการอบรมธรรมทายาทุรุ่นที่ 15 (รุ่นฝนพันปี) หลังจากการอบรมครั้งนี้นเขาดงไจมากที่จะเชิญชวน เพื่อนๆในโรงเรียน ให้ไต้มารับความสุขจากการปฎิบ้ตธรรมเข่นเดียว กับเขา เขาจึงใต้ก่อตงชมรม \"วัยรุ่นคุณธรรม\" ขึ้น จากนั้นเพื่อนๆ นักเรียนนับร้อยนับพันกิไต้ทยอยกันมานั่งสมาธ ปฏิบัติธรรมเซ่นเดียว กับเขาตราบจนปัจจุบัน เมื่อเขาขึ้นม.5 ได้มีโอกาลเป็นนักเรียนทุน AFS (AMERICAN FIELD SERVICE) ไปศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นระยะเวลา 1 ปี ในปีนั้นเองเขาไต้บอกบุญกเนที่ออลเดรเลียไต้ปัจจัยมาทำบุญนับ พันเหรียญ แหริยญละประมาณ 18บาท) เขาเสืกปีติใจมาก ปัจจุบันนี้หากคุณไต้แวะเวียนมาลภาธรรมกายสากลหลังใหม่ หรือไต้มาติดต่องานปัที่สํ^กงานใหญ่ของวัดพระธรรมกาย ก็อย่า ลืมอนูโมทนา34®^1'^น้องมิ®^ร1144ะครับ เพราะเขาเป็นส่วนหนื่งที่ สำ คัญในการออกiflบอาค'พงลองหลังนี้เลยล่ะครับ f ♦' กายแก้ว m