Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปั๊บผะหญา_ล้านนาสร้างสุขภาวะ

ปั๊บผะหญา_ล้านนาสร้างสุขภาวะ

Description: ปั๊บผะหญา_ล้านนาสร้างสุขภาวะ

Search

Read the Text Version

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี กลุ่มธนาคารข้าวบ้านวอแก้ว พ้ืนที่: องคการบริหารสวนตําบลวอแก้ว อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง วิทยากร: นายสุวิทย ธิวงค ตําแหนง: ประธานกลุมธนาคารข้าวบ้านวอแก้ว เบอรโทรศัพท: ๐๘๔-๙๕๐-๙๕๙๑ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี เน่อื งจากปรมิ าณผลผลติ ขา้ วในบา้ นวอแกว้ และบา้ นหลา่ ยทงุ่ ไมเ่ พยี งพอสา� หรบั การบรโิ ภค นายสวุ ทิ ย์ ธิวงค์ แกนนา� เกษตรกรบา้ นวอแกว้ จงึ มแี นวคดิ ช่วยเหลือเกษตรกรในพ้นื ที่ ดว้ ยการ รวมกลุม่ จัดตัง้ กองทนุ ขา้ วบา้ นวอแกว้ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เม่ือปี ๒๕๔๓ เกิดกรณีขา้ วในพ้ืนที่ขาดแคลน ไมเ่ พียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน แกนนา� เกษตรกรจงึ ปรกึ ษาหารอื กนั เพ่อื หาทางแกป้ ั ญหาอยา่ งยงั่ ยนื จากนนั้ จดั ตงั้ กลมุ่ เพ่อื กา� หนด กฎ กติกา โดยให้ยืมขา้ วเปลอื กสา� หรบั สีเป็นขา้ วสาร ๕๐ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ช่วยเหลอื เกษตรกรทีผ่ ลติ ขา้ วไดไ้ มเ่ พยี งพอตอ่ การบรโิ ภคในครวั เรอื น ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) จดั ประชุมประชาคมเพ่อื แตง่ ตัง้ คณะกรรมการมาขับเคล่อื นกลุม่ ๒) สมาชกิ ทุกคนนา� ขา้ วมาฝากทธี่ นาคาร ๓) ผลจากการจา� หนา่ ยขา้ วในธนาคาร คืนเงินรายไดใ้ ห้แกส่ มาชกิ กลมุ่ โดยหกั สว่ นหน่งึ ไวเ้ ป็นเงินของกลมุ่ และยงั แบง่ ไวส้ า� หรับให้สมาชิกกไู้ ปลงทุนท�านา ครัวเรือนละไมเ่ กิน ๕๐,๐๐๐ บาท คดิ ดอกเบยี้ ร้อยละ ๖ ตอ่ ปี ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ผูท้ ีม่ ีความร้เู ร่ืองการบริหารจัดการกลุม่ ประกอบดว้ ย ๑) นายสุวทิ ย์ ธวิ งค์ ประธานกลมุ่ และ ๒) นายบรรจง ลอื ชยั รองประธานกลุม่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) มีข้าวไว้เป็นกองทุนช่วยเหลือครัวเรือนที่มีผลผลิตข้าวไม่เพียงพอ แต่ละปีกองทุน รวบรวมขา้ วไดป้ ระมาณ ๒๐ ตนั ๒) สมาชกิ กลมุ่ มแี หลง่ เงนิ ทนุ สา� หรบั กยู้ มื ไปลงทนุ ทา� นาในอตั รา ดอกเบยี้ ตา และเขา้ ถงึ แหลง่ เงนิ ทุนไดง้ า่ ย ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั คณะกรรมการกลุม่ มวี ธิ บี รหิ ารจดั การอยา่ งเป็นระบบ โดยมกี ฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ ที่ สมาชิกสามารถปฏบิ ตั ติ าม สง่ ผลให้กลุม่ ด�าเนนิ งานไดอ้ ยา่ งมัน่ คงและตอ่ เน่ือง ๕๑ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรอินทรีย์ตําบลวอแก้ว พื้นที่: องคการบริหารสวนตําบลวอแก้ว อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง วิทยากร: นายสายัณห ฉัตรแก้ว ตําแหนง: หัวหน้าสํานักปลัดองคการบริหารสวนตําบลวอแก้ว เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๖๓๔-๒๔๖๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ตา� บลวอแกว้ มปี ระชากรทงั้ สนิ้ ๔,๒๐๘ คน แยกเป็นชาย จา� นวน ๒,๐๙๘ คน หญงิ จา� นวน ๒,๑๑๐ คน มีครวั เรือนทงั้ หมด ๑,๖๕๒ ครวั เรอื น มพี ้นื ทที่ �าการเกษตรทัง้ หมด ๒๗,๔๐๐ ไร่ จาก ขอ้ มูลของพ้ืนที่พบว่ามีครัวเรือนที่ท�านา ๖๑๔ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๑๗ ท�าไร่ ๑๕ ครัวเรอื น คดิ เป็นร้อยละ ๐.๙๑ ทา� สวน ๒๐ ครัวเรอื น คิดเป็นร้อยละ ๑.๒๑ ทา� เกษตรอินทรียแ์ ละ ลดปริมาณการใช้สารเคมี ๑๓๖ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๘.๒๓ และท�าเกษตรโดยใช้สารเคมี ๗๐๐ ครัวเรอื น คดิ เป็นร้อยละ ๔๒.๓๗ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�าบลวอแกว้ ประกาศนโยบายสง่ เสรมิ การทา� เกษตรอินทรยี ์ ดว้ ยการ สนับสนุนให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี น�าไปสูก่ ารรวมกันเป็นเครือขา่ ยระดับต�าบล เพ่ือผลิตอาหารทีป่ ลอดภัยไวบ้ ริโภคเองภายในครัวเรือน โดยเนน้ การท�าเกษตรผสมผสาน และ ใช้ระบบการรบั รองเกษตรอนิ ทรยี แ์ บบมสี ว่ นรว่ ม หรอื PGS (Participatory Guarantee System) มาเป็นแนวทางบริหารจัดการ เพ่ือสร้างความนา่ เช่ือถือและความมัน่ ใจแกผ่ ูบ้ ริโภควา่ ผลิตภัณฑ์ เหลา่ นีไ้ ร้สารเคมี ๕๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื ผลติ อาหารทปี่ ลอดภยั ไวบ้ รโิ ภคเองภายในครวั เรอื น ในลกั ษณะเกษตรผสมผสาน ๒) เพ่อื สร้างรายไดใ้ ห้สมาชิกกลุม่ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) นา� หลกั การดา� เนนิ งานของวสิ าหกจิ ชมุ ชนมาใช้ โดยแบง่ คณะทา� งานเป็นฝ่ ายตา่ งๆ ทงั้ ฝ่ ายจดั ซ้อื /การตลาด ฝ่ ายตรวจสอบแปลง กรณสี มคั รเขา้ ใหมแ่ ละรายเกา่ ฝ่ ายรบั รองแปลงเกษตร ฝ่ ายวชิ าการ (รวบรวมขอ้ มูลของกลุม่ ) และฝ่ ายการเงินและบญั ชี ๒) สมาชกิ ในกลมุ่ ผลติ สนิ คา้ จากแปลงของตนเอง ทงั้ ขา้ ว พชื ผกั ผลไม้ รวมทงั้ แปรรปู เป็น ผลิตภณั ฑต์ า่ งๆ เพ่ือจา� หนา่ ยให้ลูกคา้ ประจา� เช่น โรงพยาบาลศนู ยล์ า� ปาง ตลาด We Market ลา� ปาง และกลมุ่ ลกู คา้ ทัว่ ไป ๓) การบรหิ ารจดั การเงนิ ทุนกลมุ่ ใช้วิธีหกั เงนิ ทไี่ ดจ้ ากการจ�าหนา่ ยสินคา้ เขา้ กลมุ่ ร้อยละ ๑ นอกจากนยี้ งั เก็บคา่ ตรวจแปลงจากสมาชิก อตั ราไร่ละ ๕๐ บาท เพ่อื ให้มเี งินทุนเป็นคา่ ใช้จ่าย ในกิจกรรมตา่ งๆ ของกลุม่ ๔) น�าระบบการตรวจรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วมเข้ามาใช้ ทั้งการวิเคราะห์ สถานการณก์ ลุม่ เรยี นร้ทู �าความเขา้ ใจมาตรฐานเกษตรอนิ ทรีย์ เรยี นร้กู ระบวนการ PGS มกี าร ให้ค�าปฏญิ าณ จดั ท�าเอกสาร รวบรวมฐานขอ้ มลู สมาชกิ เพ่ือข้นึ ทะเบียนกับมลู นิธเิ กษตรอินทรยี ์ ไทย ร่วมกนั ตรวจเยยี่ มแปลงและตดั สนิ ให้การรับรอง ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) นายเมธี มณวี งค์ ปราชญช์ าวบา้ น ในฐานะประธานกลมุ่ วสิ าหกิจชมุ ชนเกษตรอินทรยี ์ ตา� บลวอแกว้ ๒) สมาชิกกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรียต์ �าบลวอแกว้ และ ๓) องคก์ ารบริหาร ส่วนต�าบลวอแก้ว ท�าหน้าที่ให้ความรู้ด้านวิชาการและเช่ือมโยงตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนสนับสนุนการแปรรปู เพ่อื เพิม่ มูลคา่ ของสินคา้ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน สมาชิกมีอาหารที่ปลอดภัยไว้บริโภคในครัวเรือนอย่างเพียงพอ และมีรายได้จากการ จ�าหนา่ ยผลผลิตทเี่ หลอื จากการบรโิ ภค ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การสนบั สนนุ สง่ เสริม ขององคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลวอแกว้ หนว่ ยงาน และกลมุ่ องคก์ ร ต่างๆ ไมว่ ่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน ทัง้ ในและนอกพ้ืนที่ ขณะเดียวกัน สมาชิกกลุ่มก็มีความ สามคั คี และปฏิบตั ติ ามกฎกติกาของกลมุ่ อยา่ งเคร่งครัด ๕๓ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ การบริหารจัดการ ระบบอาหารชุมชนตําบลวอแก้ว พื้นท่ี: องคการบริหารสวนตําบลวอแก้ว อําเภอห้างฉัตร จังหวัดลําปาง วิทยากร: นายอินจันทร ทันวิสัย ตําแหนง: นายกองคการบริหารสวนตําบลวอแก้ว เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๕๕๙-๐๑๙๗ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี ตา� บลวอแกว้ มีประชากรทงั้ สิน้ ๔,๒๐๘ คน เป็นชาย จา� นวน ๒,๐๙๘ คน หญิง จา� นวน ๒,๑๑๐ คน มพี ้ืนทีท่ �าการเกษตรทงั้ หมด ๒๗,๔๐๐ ไร่ มีลา� ห้วยสายหลัก ๕ สาย ไดแ้ ก่ ล�าห้วย แมไ่ พร ลา� ห้วยแมเ่ ปิ๊บ ลา� ห้วยแมต่ วิ ลา� ห้วยนาไพร และลา� ห้วยแมเ่ ป็ด มคี รวั เรอื นทงั้ หมด ๑,๖๕๒ ครัวเรือน เกษตรกรส่วนใหญป่ ลูกขา้ วเป็นหลัก ส่วนพืชไร่นิยมปลูกขา้ วโพด เพ่ือจ�าหนา่ ยเป็น อาหารสัตว์ ทัง้ ยังปลูกถัว่ ลิสง มันส�าปะหลัง ยาสูบ และปลูกพืชระยะสัน้ เช่น แตงกวา ฟั กทอง เป็นตน้ ขณะทบี่ างสว่ นทา� เกษตรอนิ ทรียผ์ สมผสาน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบลวอแกว้ ตรวจพบสารเคมีตกคา้ งในเลือดของเกษตรกร ในพ้นื ที่ มากถงึ รอ้ ยละ ๗๐ ซ่งึ อยใู่ นเกณฑน์ า่ เป็นห่วง องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลวอแกว้ จงึ กา� หนด นโยบายต�าบลเกษตรอินทรียเ์ พ่ือแกไ้ ขปั ญหาดังกลา่ ว โดยสง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้เกษตรกร ลด ละ เลกิ การใช้สารเคมี แลว้ เปลีย่ นจากเกษตรเคมีเชงิ เดีย่ วมาทา� เกษตรอนิ ทรียผ์ สมผสาน ควบคไู่ ป กับการพฒั นาแหลง่ นาให้เหมาะสมกับการท�าเกษตรอินทรีย์ ๕๔ | ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือแกไ้ ขปั ญหาและสนับสนนุ ให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี ๒) เพ่อื เพิม่ พ้ืนทเี่ กษตรอินทรยี ใ์ นตา� บล ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) กา� หนดนโยบายเพ่อื ขับเคล่อื นเกษตรอนิ ทรียท์ ีช่ ัดเจน ๒) พัฒนาแหลง่ นา ให้เหมาะสมกับการท�าเกษตรอนิ ทรีย์ (บอ่ บาดาลเพ่ือการเกษตร) ๓) พฒั นาองคค์ วามรดู้ า้ นเกษตรอนิ ทรยี ์ ผา่ นกลมุ่ และแหลง่ เรยี นรเู้ กษตรอนิ ทรยี ท์ กี่ ระจาย อยูใ่ นหมบู่ า้ น ๔) สร้างมาตรฐานเกษตรอนิ ทรยี เ์ พ่ือเป็นกลไกควบคมุ การผลติ ๕) พัฒนาและติดตอ่ ประสานงานกับตลาดสนิ คา้ เกษตรอนิ ทรยี ์ ๖) ยกระดับสนิ คา้ เกษตรอนิ ทรยี ด์ ว้ ยการแปรรปู ๗) สรา้ งกลไกการช่วยเหลอื กนั ในรปู กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชน เพ่อื เรยี นรกู้ ารทา� ธรุ กจิ การเกษตร ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนต�าบลวอแก้ว ในฐานะแกนน�าหลักในการขับเคล่ือน นโยบายตา� บลเกษตรอินทรยี ์ ๒) กา� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ทา� หนา้ ทชี่ ่วยผลกั ดันนโยบายตา่ งๆ ของทอ้ งถนิ่ ๓) กลมุ่ /แหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ ในพ้นื ที่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกษตรกรเลิกใช้สารเคมีและหันมาท�าเกษตรอินทรีย์ ๕๐ ครัวเรือน ปั จจุบันมีพ้ืนทีท่ ีท่ �า เกษตรอินทรีย์ ๓๐๐ ไร่ และมีแนวโนม้ เพิม่ ข้ึนทุกปี ส่งผลให้มีอาหารปลอดภัยเพียงพอต่อการ บริโภคในครัวเรือน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ความร่วมมอื จากหนว่ ยงานหรอื องคก์ รตา่ งๆ เช่น มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ล�าปาง สนบั สนนุ ด้านวิชาการ กรมการขา้ ว สนับสนุนด้านวิชาการ และงบประมาณให้เกษตรกรทีท่ �าขา้ วอินทรีย์ ไร่ละ ๓,๐๐๐ บาท ส�านักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สนับสนุนการสร้างระบบ อาหารชุมชน มลู นิธิเกษตรอนิ ทรียไ์ ทย ให้องคค์ วามรู้การท�าเกษตรอนิ ทรียแ์ ละขนั้ ตอนการออก ใบรับรองเกษตรอนิ ทรยี ์ เป็นตน้ ทา� ให้การบรหิ ารจดั การระบบอาหารชมุ ชนขบั เคล่ือนไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ และสามารถตอ่ ยอดไดใ้ นอนาคต ๕๕ปบผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ เกษตรผสมผสาน อาหารปลอดภัยนายบพิตร พื้นท่ี: องคการบริหารสวนตําบลบัวใหญ อําเภอนาน้อย จังหวัดนาน วิทยากร: นายบพิตร ปญญาถุง ตําแหนง: เกษตรกร เบอรโทรศัพท: ๐๘๑-๐๙๐-๕๘๙๒ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี เดิมต�าบลบัวใหญ่เป็นส่วนหน่ึงของต�าบลสันทะ อ�าเภอนาน้อย จังหวัดน่าน กระทั่งปี ๒๕๒๕ มีการแยกพ้ืนที่บางส่วนออกมาจัดตั้งเป็นต�าบลใหม่ เรียกว่า ต�าบลบัวใหญ่ โดยได้ แรงบันดาลใจจากดอกบัวหลวงที่ข้ึนอยู่เต็มหนองปวน ซ่ึงเป็นหนองนาธรรมชาติในหมู่ที่ ๑ บา้ นอ้อย ปั จจุบันต�าบลบัวใหญแ่ บง่ เขตปกครองออกเป็น ๘ หมูบ่ า้ น ดังนี้ หมูท่ ี่ ๑ บา้ นอ้อย หมทู่ ี่ ๒ บา้ นใหมม่ งคล หมูท่ ี่ ๓ บา้ นนาแหน หมูท่ ี่ ๔ บา้ นทพั มา่ น หมูท่ ี่ ๕ บา้ นนาไค้ หมูท่ ี่ ๖ บา้ นตน้ มว่ ง หมทู่ ี่ ๗ บา้ นสนั พยอม และหมทู่ ี่ ๘ บา้ นหนองห้า ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง หลังลาออกจากงานรับเหมากอ่ สร้างในกรุงเทพฯ นายบพิตร ปั ญญาถุง กลับมาใช้ชีวิต ทีบ่ า้ นเกดิ และเริม่ ตน้ พฒั นาพ้นื ทีเ่ กษตรจา� นวน ๒๘ ไร่ ดว้ ยการทา� สวนยางพาราและไร่ขา้ วโพด อยู่ ๑ ปี ต่อมาการปลูกขา้ วโพดเกิดภาวะขาดทุน เพราะต้นทุนการผลิตสูงเกินไปจากการใช้ สารเคมจี �านวนมาก ซา ยังกระทบตอ่ สขุ ภาพอีกดว้ ย จากขอ้ มลู ของสาธารณสขุ อา� เภอนานอ้ ย รว่ มกบั โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลบวั ใหญ่ ตรวจพบยาฆา่ แมลงตกค้างในกระแสเลือดของประชาชนจ�านวนมาก และยังพบผปู้ ่ วยมะเร็งถึง ๕๖ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๑๘ คน ดว้ ยเหตุนี้ นายบพติ รจงึ กลบั มาทบทวนการท�าเกษตรของตัวเอง แลว้ หันมาปลกู พชื ผัก สวนครวั ดา� เนนิ ชวี ติ ตามวถิ พี อเพยี ง งดการใช้สารเคมี หนั มาใช้ป๋ ยุ คอกและป๋ ยุ หมกั ทไี่ มส่ ง่ ผลเสยี ตอ่ ระบบนิเวศ โดยเริม่ ตน้ จาก ๕ ไร่ กอ่ นขยายจนเต็มพ้ืนที่ ปลูกพืชผสมผสานและพืชหมนุ เวยี น เลี้ยงสัตว์ทั้งไกพ่ ันธุ์พ้ืนเมือง เป็ด หมู นอกจากนี้ยังสร้างฝายชะลอนา เพ่ือกักเก็บนาฝนไว้ใช้ ตลอดปี รวมทงั้ เขา้ รว่ มโครงการเกษตรทฤษฎใี หม่ และกลมุ่ หน่งึ ไรห่ น่งึ อนิ ทรยี ต์ า� บลบวั ใหญ่ เพ่อื สง่ ตอ่ ความร้ใู ห้ผคู้ นในพ้ืนทหี่ นั มาปลูกผกั ทปี่ ลอดภยั ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ลดรายจ่าย เพมิ่ รายไดใ้ ห้แกค่ รอบครวั และดา� เนินชีวติ ตามวิถพี อเพียง ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ปลูกพืชผักหลากหลายไว้บริโภคในครัวเรือน และจ�าหนา่ ยผลผลิตที่ปลอดภัยให้แก่ คนในชุมชน พร้อมขุดบอ่ เลี้ยงปลา ๒ บอ่ และเลี้ยงหมู ไกพ่ ันธุ์พ้ืนเมือง เป็ด เพ่ือบริโภคและ จ�าหนา่ ย ๒) พฒั นาแหลง่ นา สร้างฝายชะลอนา (ฝายแมว้ ) สร้างถังกกั เกบ็ นา ฝน ๓) ปลูกพืชตา่ งระดบั และผกั กางมงุ้ เช่น ผกั กาด ผักบุง้ แตงกวา คะนา้ ถวั่ ฝั กยาว เป็นตน้ เพ่ือบริโภคในครวั เรือน และจ�าหนา่ ยในชุมชน ๔) ขยายตลาด จา� หนา่ ยผลผลติ นอกชมุ ชน เช่น ตลาดสดนาหลวง ตลาดสดบา้ นพระเนตร และตลาดประชารัฐ ณ ธ.ก.ส.อ�าเภอนานอ้ ย ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบลบวั ใหญ่ ๒) หนว่ ยราชการต่างๆ เช่น ส�านักงานเกษตรอ�าเภอนานอ้ ย ส�านักงานปศุสัตว์อ�าเภอ นานอ้ ย สา� นกั งานประมงอ�าเภอนานอ้ ย และสถานพี ัฒนาทีด่ นิ นา่ น ๓) คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน มีพืชผักปลอดภัย รวมถึงเน้ือสัตว์ ทัง้ ปลา หมู ไก่ ไว้บริโภคและจ�าหนา่ ย สร้างรายได้ ให้ครวั เรือน ตลอดจนมแี หลง่ นา ไวอ้ ุปโภคบรโิ ภคตลอดทงั้ ปี ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) ความมานะอดทน ขยันขนั แขง็ ในการทา� เกษตรผสมผสาน ๒) วางแผนการใช้แหลง่ นา อยา่ งเหมาะสม ๓) ลดตน้ ทนุ การผลติ งดใช้สารเคมตี า่ งๆ ๔) ตอ่ ยอดสร้างรายได้ ดว้ ยการขายผลผลิตทางการเกษตร ๕๗ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน สวน ปา ไร่ นาผสม พนื้ ท:่ี เทศบาลตาํ บลนาํ้ แพรพ ฒั นา ตาํ บลนา้ํ แพร อาํ เภอหางดง จงั หวดั เชยี งใหม วิทยากร: นายวราวุฒิ รัตนวราหะ ตําแหนง: ผู้จัดการ/วิทยากรประจําศูนยฯ ๒. ขอ้ มูลพื้นฐานของพืน้ ท่ี เม่ือปี ๒๕๕๐ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดา� เนินโครงการพัฒนาศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญ์ ชาวบ้าน เพ่ือปรับเปลี่ยนแนวคิดและรูปแบบการท�าเกษตรของเกษตรกร ตามทฤษฎีใหมข่ อง พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช โดยศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญช์ าวบา้ นเป็นส่อื กลาง ถ่ายทอดและฝึกอบรมเกษตรกร เป้ าหมายส�าคญั คือให้ชาวบา้ น ลด ละ เลกิ การใช้สารเคมี ลด รายจ่ายและเพมิ่ รายได้ ดว้ ยการทา� บญั ชคี รัวเรอื น และผลิตเคร่อื งอปุ โภคบรโิ ภคใช้เอง ตลอดจน ร่วมอนรุ ักษท์ รัพยากรและสิง่ แวดลอ้ มของชมุ ชน ปลกู ฝั งความไมโ่ ลภ เนน้ ยา ให้ห่างไกลอบายมุข ตา่ งๆ ปั จจบุ นั ศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญช์ าวบา้ น สวน ป่ า ไร่ นาผสม ตัง้ อยทู่ บี่ า้ นนา บนุ่ หมูท่ ี่ ๑๐ มี คณะกรรมการ ๗ คน จากภาคสว่ นตา่ งๆ ในต�าบลนา แพร่ ๓. ที่มา ข้อมลู ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เม่อื ปี ๒๕๓๐ นายชนวน รัตนวราหะ และนายวราวฒุ ิ รตั นวราหะ ซ้อื ทดี่ นิ ในเขตหมูท่ ี่ ๑๐ บา้ นนาบุน่ ต�าบลนาแพร่ ประมาณ ๓ ไร่ จากเดมิ ทเี่ ป็นสวนล�าไย เรมิ่ เปลีย่ นเป็นสวนวนเกษตร โดยปลกู ตน้ สกั ผสมผสานกับไมผ้ ล เช่น สม้ โอ มะพร้าว ขนนุ มะขามหวาน ฯลฯ เพ่อื เป็นสถานที่ ให้เกษตรกรและประชาชนมาเรียนรู้ จากนัน้ ขยายพ้ืนทีอ่ ีกประมาณ ๗ ไร่ น�าระบบเกษตรผสม ผสานตามทฤษฎีใหมม่ าปรับใช้กบั ผืนนาเดิม ปั จจบุ นั แบง่ พ้นื ทอี่ อกเป็น สวนป่ า(ไมส้ กั ) ประมาณ ๓-๔ ไร่ สวนไมผ้ ลกวา่ ๖๐ ชนดิ พ้นื ที่ ประมาณ ๓ ไร่ ปลกู ขา้ วนาปีและนาปรงั ในพ้ืนทีป่ ระมาณ ๓ ไร่ และปลูกถวั่ เหลอื งหลงั การท�านา รวมถึงมีสระกักเก็บนา ๒ สระ พ้ืนที่ประมาณ ๑ ไร่ เพ่ือเลี้ยงปลา และเลี้ยงเป็ดไกบ่ นขอบบอ่ ปลกู ไผเ่ ป็นรัว้ เพ่อื ใช้สอย ขณะทีร่ วั้ บางสว่ นปลูกชะอมเป็นแถวยาว ทงั้ สองยงั เนน้ การพ่งึ พาตนเองดา้ นปั จจยั การผลติ โดยผลติ ป๋ ยุ ชวี ภาพและนา สม้ ควนั ไมไ้ ว้ ใช้เอง ปลูกพืชอาหาร เช่น พืชผกั พ้นื เมอื ง กลว้ ย อ้อย และเพาะเห็ดนานาชนดิ พร้อมทัง้ ประยุกต์ ใช้หลกั การสร้างความหลากหลายทางชวี ภาพ เพ่อื จดั การศตั รพู ชื และปรบั ปรงุ บา� รงุ ดนิ เช่น ปลกู ตะไคร้บา้ น ตะไคร้หอม ดอกไมส้ เี หลือง อยา่ งดาวเรอื งและดาวกระจาย ตลอดจนปกป้ องหนา้ ดิน ด้วยฟางข้าว ใบไม้ที่ร่วงหล่น และพืชตระกูลถั่ว (ถั่วบราซิล) นอกจากนี้ยังสร้างรายได้เสริม ดว้ ยการขยายพนั ธไุ์ มผ้ ลและไมป้ ระดับเพ่อื การจดั สวน ๕๘ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ

จากการดา� เนนิ งานอยา่ งตอ่ เน่อื ง ทา� ให้ทนี่ ไี่ ดร้ บั การยกระดบั ขน้ึ เป็นศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยปราชญ์ ชาวบา้ น สวน ป่ า ไร่ นาผสม และได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของต�าบลนาแพร่ เปิดให้ ประชาชนเขา้ มาศึกษาเรยี นรู้โดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จ่าย และยังมีการอบรมให้ความร้แู กเ่ กษตรกรดว้ ย ๔. เปาหมาย วัตถปุ ระสงค์ ๑) ส่งเสริมการท�าเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแหลง่ เรียนรู้และสาธิต ให้แกผ่ ทู้ สี่ นใจ ๒) เป็นแหลง่ แจกจา่ ยพนั ธพุ์ ชื และจา� หนา่ ยกลา้ ไมค้ ณุ ภาพดี และ ๓) สง่ เสรมิ อาชพี เพ่อื ให้ประชาชนมรี ายไดเ้ พิม่ ข้นึ ๕. วิธกี ารด�าเนินงาน ๑) งานบริการ เน้นการส่งเสริมความรู้แกป่ ระชาชน ด้วยการเป็นวิทยากรเร่ืองเกษตร ผสมผสานตามแนวพระราชดา� รแิ ละเกษตรทฤษฎใี หม่ โดยมแี ปลงสาธติ เป็นตวั อยา่ งทเี่ ป็นรปู ธรรม พร้อมให้คา� ปรึกษาเกีย่ วกับการเกษตร แจกจ่ายพนั ธุพ์ ชื ฟรี และจ�าหนา่ ยกลา้ ไมค้ ณุ ภาพดี รวมถงึ สง่ เสริมอาชพี ให้ประชาชนมีรายไดเ้ พมิ่ เตมิ ๒) งานเฝ้ าระวัง ป้ องกันและเตือนภัยการระบาดของศัตรูพืชชนดิ ตา่ งๆ โดยให้ค�าแนะนา� เฝ้ าระวังร่วมกบั เกษตรกรในตา� บลนา แพร่ และแจ้งเตอื นให้เกษตรกรทราบเม่อื เกดิ การระบาดข้นึ ๓) งานแกไ้ ขปั ญหา แกไ้ ขปั ญหาและป้ องกนั แมลงศตั รพู ชื ตดิ ตามปั ญหาและหาทางแกไ้ ข ๔) งานพัฒนา พัฒนาพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ และเทคนิควิธีการดูแลรักษา อยา่ งต่อเน่ือง พร้อมทั้งพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเกษตร ตลอดจนจัดอบรมหลักสูตรการเกษตรต่างๆ ให้ เกษตรกรและประชาชนทสี่ นใจ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนงบประมาณในการด�าเนินกิจกรรมตา่ งๆ ของ ศนู ยฯ์ ๒) เทศบาลตา� บลนา แพรพ่ ฒั นา สนบั สนนุ ให้ศนู ยฯ์ เป็นแหลง่ เรยี นรขู้ องตา� บลนา แพร่ และ ๓) กลมุ่ เกษตรอินทรยี ต์ �าบลนาแพร่ ช่วยเหลือและสนับสนนุ การท�างานของศนู ยฯ์ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกดิ ผลติ ผลทางการเกษตรทีป่ ลอดสารพิษ เช่น ขา้ ว ผลไมป้ ระมาณ ๖๐ ชนิด พืชผกั สมนุ ไพร สา� หรบั จา� หนา่ ยในราคาถกู และแจกจ่ายให้กบั ผมู้ าศกึ ษาเรยี นรู้ รวมถงึ เน้อื สตั ว์ ทงั้ ปลา เป็ด ไก่ เป็นแหล่งอาหารตลอดปี ๒) เกิดแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรในชุมชน มีบุคลากรที่มี ความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ สามารถถ่ายทอดให้ผูอ้ ่ืนได้ ๓) ประชาชนทีม่ ีโอกาส เขา้ มาเรียนรู้ เกิดการซึมซับและต่อยอดไปใช้ในชีวิตประจ�าวัน เช่น การท�าบัญชีครัวเรือน และ ๔) เกิดการรวมกลุม่ ของเกษตรกรในพ้ืนที่ ซ่งึ จะเป็นกา� ลงั หลักในการพฒั นาพ้นื ทีอ่ ยา่ งยงั่ ยนื ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ๑) ผรู้ ว่ มกอ่ ตงั้ มคี วามตงั้ ใจจรงิ ทมุ่ เท เสยี สละ และมคี วามรจู้ รงิ ในสงิ่ ทที่ า� ๒) ความพรอ้ ม ทัง้ ทีด่ ิน แหลง่ นา อาคาร เหมาะส�าหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ ๓) ความร่วมมือจากปราชญช์ าวบา้ น ทงั้ ในและนอกพ้นื ทใี่ นการแลกเปลยี่ นความรู้ และ ๔) ความรว่ มมอื และการสนบั สนนุ จากหนว่ ยงาน ของรฐั และเอกชน ทงั้ ดา้ นงบประมาณและบคุ ลากร ๕๙ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ บ้านท่าม้า หมู่ท่ี ๘ พื้นท่ี: เทศบาลตําบลสูงเมน อําเภอสูงเมน จังหวัดแพร วิทยากร: นายชณภพ ไกรศักด์ิ ตําแหนง: นายกเทศมนตรีตําบลสูงเมน เบอรโทรศัพท: ๐๘๑-๕๙๕-๑๖๐๘ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ศูนยก์ สิกรรมธรรมชาตบิ า้ นทา่ มา้ หมทู่ ี่ ๘ เป็นแหลง่ เรียนรู้ทีด่ า� เนนิ งานตามแนวปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี นายชณภพ ไกรศกั ดิ์ เป็นประธานศูนยฯ์ และนายธรี พงศ์ มัง่ มี เป็น รองประธานศนู ยฯ์ จดั ตงั้ ขน้ึ เพ่อื เป็นพ้นื ทแี่ ลกเปลยี่ นองคค์ วามรเู้ กยี่ วกบั กสกิ รรมธรรมชาติ สา� หรบั ประชาชนทสี่ นใจ ทงั้ ในและนอกเขตเทศบาล ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ศูนยก์ สิกรรมธรรมชาติบ้านท่ามา้ ใช้พ้ืนที่ของโรงเรียน สพฐ. ที่ยุติการเรียนการสอน ไปแล้ว เพ่ือเป็นศูนยเ์ รียนรู้ประจ�าหมูบ่ า้ น โดยแกนน�าร่วมกับชาวบา้ นได้รับแรงบันดาลใจจาก การไปศกึ ษาดงู านทศี่ นู ยก์ สกิ รรมธรรมชาตมิ าบเอ้อื ง ซง่ึ อาจารยว์ วิ ฒั น์ ศลั ยกา� ธร เป็นผขู้ บั เคล่อื น จากนัน้ นา� แนวคิดมาประยกุ ตใ์ ช้ในพ้นื ทขี่ องตวั เอง ๖๐ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ส่งเสริมให้ชาวบา้ นเขา้ ถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจ�าวนั ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประชาชนบ้านท่าม้า หมู่ที่ ๘ จัดประชุมประชาคม เพ่ือลงมติจัดตั้งศูนย์กสิกรรม ธรรมชาตบิ า้ นทา่ มา้ และคัดเลือกคณะกรรมการศนู ยเ์ พ่ือบริหารงาน ๒) จดั กจิ กรรมแลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ว่ มกนั โดยนา� หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาปรบั ใช้ พร้อมทั้งเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญหลักกสิกรรมธรรมชาติมาให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืช ปลอดสารพษิ ทา� ให้ชาวบา้ นไดร้ ้จู กั การใช้ป๋ ยุ พืชสดเตรียมดนิ กอ่ นเพาะปลกู พืชตามฤดูกาล ๓) สง่ เสรมิ ให้จัดตงั้ กลุม่ ปลูกผกั ปลอดสารพษิ เขา้ มารับผิดชอบแปลงเกษตรภายในศนู ย์ นอกจากปลูกพชื แลว้ ยงั มกี ารเลีย้ งสัตว์ เช่น หมู ไกไ่ ข่ แลว้ นา� มลู สตั วม์ าทา� ป๋ ยุ หมกั ชวี ภาพ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เทศบาลตา� บลสงู เมน่ กศน.ตา� บลสงู เมน่ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ-้ แพร่ มหาวทิ ยาลยั แพร่ เกษตร ต�าบลสูงเมน่ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดแพร่ มูลนธิ ิอาสาเพ่อื นพ่ึง (ภาฯ) ยามยาก ศนู ยก์ สิกรรม ธรรมชาตมิ าบเอ้ือง มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ชาวบา้ นสามารถน�าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการด�ารงชีวิต มีกิจกรรม ทา� ร่วมกนั ในเวลาวา่ ง มรี ายไดเ้ สรมิ ทีส่ ุดแลว้ ชมุ ชนมีความยัง่ ยนื เกดิ ความสมดลุ ระหวา่ งวิถชี ีวิต สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั การเขา้ ถึงหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงเป็นรากฐานการพัฒนาทยี่ ัง่ ยืนของพ้นื ที่ ๖๑ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ท่ี การบริหารจัดการเพ่ือพัฒนา แหลง่ อาหารชมุ ชนเทศบาลตําบลสูงเม่น พ้ืนที่: เทศบาลตําบลสูงเมน อําเภอสูงเมน จังหวัดแพร วิทยากร: นายชณภพ ไกรศํกด์ิ ตําแหนง: นายกเทศมนตรีตําบลสูงเมน เบอรโทรศัพท: ๐๘-๑๕๙๕-๑๐๖๘ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี พ้นื ทเี่ ทศบาลตา� บลสงู เมน่ มปี ระชากร ๑,๒๒๐ ครวั เรอื น ในจา� นวนนม้ี คี รวั เรอื นทมี่ ปี ั ญหา เร่ืองการใช้สารเคมี ๖๐๓ ครัวเรือน หรือร้อยละ ๔๙.๔ มีครวั เรือนทมี่ ีการป้ องกันอนั ตรายจาก การใช้สารเคมี ๕๖๐ ครัวเรอื น ครวั เรือนทมี่ ีการท�าเกษตรอินทรยี แ์ ละลดปรมิ าณการใช้สารเคมี ๒๕ ครวั เรือน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ปี ๒๕๕๒ ประชากรในเขตเทศบาลตา� บลสูงเมน่ ๒ ใน ๓ ประสบปั ญหาสุขภาพจากการ ใช้สารเคมใี นการเกษตร จงึ เรมิ่ มีแนวคิดการทา� เกษตรปลอดสารพษิ เพ่อื สร้างอาหารทปี่ ลอดภัย ในปี ๒๕๕๓ ชมุ ชนตา่ งๆ จดั ตงั้ กลมุ่ การทา� เกษตรปลอดภยั โดยเทศบาลตา� บลสงู เมน่ ไดส้ นบั สนนุ ความรู้ งบประมาณ บคุ ลากร รวมถงึ สถานทเี่ พ่อื ใช้ในการดา� เนนิ งานของกลุม่ ตา่ งๆ ๖๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ คนในชมุ ชนไดต้ ระหนกั ถงึ การบรโิ ภคอาหารทีป่ ลอดภยั ไดแ้ นวทางการผลติ จา� หนา่ ย และ สง่ เสริมการผลิตอาหารปลอดภยั ขยายผลไปสูค่ วามยัง่ ยนื ตอ่ ไป ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ติดต่อประสานงานหนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ งให้เขา้ มาส่งเสริมองคค์ วามรู้ ปลุกกระตุ้นให้ เกดิ แหลง่ เรียนรู้อาหารปลอดภยั ๒) จดั ฝึกอบรมให้กลุม่ ประชาชนในพ้นื ที่ โดยติดตอ่ ประสานงานเจ้าหนา้ ทีจ่ ากหนว่ ยงาน อ่ืน เช่น สา� นกั งานเกษตรอ�าเภอสูงเมน่ ส�านักงานปศสุ ตั วอ์ า� เภอสงู เมน่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เทศบาลต�าบลสูงเม่นสนับสนุนทางวิชาการ งบประมาณ บุคลากร และสถานที่ เพ่ือ ขับเคล่ือนการด�าเนินงานของกลุ่มต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเครือข่าย เช่น มหาวิทยาลัยแพร่ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร สา� นกั งานทดี่ นิ สา� นกั งานเกษตร อา� เภอสงู เมน่ โรงพยาบาลสงู เมน่ โรงพยาบาลแพร่ กศน.อา� เภอสงู เมน่ มลู นธิ ริ กั ษด์ นิ รกั ษน์ า มลู นธิ ิ อาสาเพ่ือนพ่ึง (ภาฯ) ยามยาก มูลนธิ อิ ทุ กพฒั น์ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ประชาชนในพ้นื ทเี่ ริม่ หันมาปลกู ผกั ปลอดสารพิษ ๒) ขยายกลุม่ อาหารปลอดภยั ครอบคลุมทงั้ ต�าบล ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ประชาชนเริ่มตระหนักถึงอันตรายของสารเคมี และหันมาสนใจปลูกผักปลอดสารพิษ เพ่ือบรโิ ภค ๖๓ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ กลุ่มอนุรักษ์พันธุ์สัตว์นํ้า บ้านเวียงใต้ พื้นท่ี: เทศบาลตําบลเวียงเทิง ตําบลเวียง อําเภอเทิง จังหวัดเชียงราย วิทยากร: นายประสาท ปญญายม ตําแหนง: ผู้ชวยผู้ใหญบ้าน เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๘๕๔-๕๕๕๒ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี บา้ นเวยี งใต้ หมทู่ ี่ ๑๕ ตงั้ อยใู่ นเขตตา� บลเวยี ง อา� เภอเทงิ จงั หวดั เชยี งราย มพี ้นื ทปี่ ระมาณ ๓๐๒ ไร่ มบี า้ นเรือนจ�านวน ๓๘๕ หลงั คาเรอื น ประชากร ๘๓๒ คน ประกอบอาชีพทหี่ ลากหลาย แตด่ ว้ ยความทบี่ า้ นเวยี งใตม้ ีแมน่ าลาวไหลผา่ น ประชาชนสว่ นหน่งึ จงึ ประกอบอาชีพประมง ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ปั จจบุ นั ปลาในแมน่ า ลาวลดจา� นวนลง บางชนดิ ไดส้ ญู พนั ธไุ์ ปแลว้ เพราะคนเขา้ มาอยอู่ าศยั และเบียดเบียนสัตวน์ า มีการใช้อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือจับปลาทผี่ ิดกฎหมาย จากปั ญหาดังกลา่ ว นางสาวเฉลยี ว ณ นา่ น ผูใ้ หญบ่ า้ นเวียงใต้ และคณะกรรมการหมูบ่ า้ น จงึ ประชมุ ปรกึ ษากันเพ่ือ หาแนวทางแกไ้ ขปั ญหา ทปี่ ระชุมมีความเห็นร่วมกนั วา่ ควรกา� หนดให้มเี ขตอนุรกั ษพ์ นั ธุป์ ลาและ สตั วน์ า อ่ืนๆ จนกลายเป็นเขตอนรุ ักษถ์ าวรมาถงึ ทุกวนั นี้ ๖๔ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ชาวบา้ นรว่ มใจกนั กา� หนดเขต เพ่อื ให้เป็นแหลง่ อนรุ กั ษพ์ นั ธสุ์ ตั วน์ า และเป็นทแี่ พรก่ ระจาย พนั ธุส์ ัตวน์ า สร้างความมนั่ คงทางอาหาร ตลอดจนระบบนเิ วศของแมน่ า ลาว ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ชาวบา้ นรวมตวั กนั เพ่อื หาทางแกไ้ ขปั ญหา ๒) ทปี่ ระชมุ มมี ตจิ ดั ตงั้ กลมุ่ อนรุ กั ษพ์ นั ธสุ์ ตั วน์ า มโี ครงสรา้ งคณะกรรมการ โดยผใู้ หญบ่ า้ น เวียงใตเ้ ป็นประธาน ๓) จดั ทา� ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั โดยห้ามใช้อปุ กรณห์ าปลาทผี่ ดิ กฎหมาย ห้ามลกั ลอบหาปลา ในพ้นื ทอี่ นรุ ักษ์ และให้ชาวบา้ นช่วยกันสอดสอ่ ง รวมถึงดูแลความสะอาด ๔) ขอรบั การสนบั สนนุ พนั ธุป์ ลานา จดื จากสา� นกั งานประมงจงั หวดั เชยี งรายทกุ ปี เพ่อื เพิม่ ปริมาณปลาในแมน่ า ๕) ถ่ายทอดวธิ กี ารดา� เนินงาน เพ่อื เป็นแนวทางในการอนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ มในพ้นื ทตี่ า่ งๆ ๖) สรา้ งเครอื ขา่ ยอนรุ กั ษร์ ว่ มกบั หมบู่ า้ นใกลเ้ คยี ง ๒ หมบู่ า้ น คอื บา้ นรอ่ งขามป้อม หมทู่ ี่ ๙ และบา้ นทงุ่ ขันไชย หมทู่ ี่ ๗ ๗) เช่อื มโยงแหลง่ เรยี นรอู้ ่นื ทไี่ ดร้ บั ประโยชนร์ ว่ มกนั คอื แหลง่ เรยี นรชู้ มรมเยาวชนคนรกั ษ์ แมน่ า อิง ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ผู้ใหญบ่ ้านเวียงใต้ คณะกรรมการหมูบ่ ้านบ้านเวียงใต้ ประชาชนบ้านเวียงใต้ แกนน�า ชาวบา้ นบา้ นร่องขามป้ อม และบา้ นทงุ่ ขนั ไชย ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกิดแหล่งอนุรักษ์พันธุ์สัตว์นาแบบถาวร เป็นพ้ืนที่อยูอ่ าศัย แพร่กระจายพันธุ์ปลา และ สตั วน์ า อ่นื ๆ เกดิ ความมนั่ คงทางอาหารและทรพั ยากรในแหลง่ นา คนในชมุ ชนมรี ายไดเ้ พมิ่ ขน้ึ จาก จา� นวนปลาทเี่ พมิ่ ขน้ึ เกดิ เครอื ขา่ ยทเี่ ขม้ แขง็ ในการอนรุ กั ษแ์ ละดแู ลรกั ษาทรพั ยากรตา่ งๆ ในชมุ ชน จนสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในลุ่มนาลาว ทัง้ ยังเป็นแนวทางการ อนรุ ักษพ์ ันธุป์ ลาให้พ้นื ทขี่ า้ งเคยี ง ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การมีสว่ นร่วมของคนในชมุ ชนทีล่ ุกข้ึนมาจดั การปั ญหาดว้ ยตนเอง เกิดเป็นเครอื ขา่ ยการ อนุรกั ษพ์ ันธุส์ ัตวน์ า ทเี่ ขม้ แขง็ ๖๕ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ ตลาดสด ๓ ข หรือ ตลาด ๓ ข พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลเวียงเทิง ตําบลเวียง อําเภอเทิง จังหวัดเชียงราย วิทยากร: นายวัชระ โนวงศ ตําแหนง: ผู้ใหญบ้านตั้งข้าว หมูที่ ๒ เบอรโทรศัพท: ๐๘๗-๑๗๔-๔๑๑๔ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ตลาดสด ๓ ข เกดิ จากการรวมตวั กนั ของประชาชน ๓ หมบู่ า้ น คือบา้ นตงั้ ขา้ ว หมทู่ ี่ ๒ บา้ นพระเกิด หมทู่ ี่ ๑๔ และบา้ นเวยี งจอมจ้อ หมทู่ ี่ ๒๐ มีประวัตคิ วามเป็นมายาวนาน เป็นตลาด ทมี่ ีเอกลกั ษณ์ บง่ บอกถึงวิถชี ีวิตลุม่ นา อิงมาจนปั จจุบนั ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ปี ๒๕๕๗ เทศบาลตา� บลเวียงเทงิ ร่วมกับนายวชั ระ โนวงศ์ ผูใ้ หญบ่ า้ นตัง้ ขา้ ว หมูท่ ี่ ๒ ตลอดจนผูใ้ หญบ่ ้านพระเกิด หมูท่ ี่ ๑๔ และผูใ้ หญบ่ า้ นเวียงจอมจ้อ หมูท่ ี่ ๒๐ ปรับปรุงพ้ืนที่ ตลาดเกา่ นใี้ ห้ดขี ้นึ เพ่อื เป็นพ้นื ทซี่ ้อื ขายแลกเปลยี่ นสนิ คา้ ของคนในชมุ ชน หลงั จากประสบปั ญหา ซบเซามานาน เน่อื งจากมตี ลาดขนาดใหญอ่ ยูบ่ ริเวณใกลเ้ คียง ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ แกนน�าเริม่ ด�าเนินการปรับปรุงพ้ืนทีต่ ลาด วางระบบการท�างาน และส่งเสริมการจัดการ สิง่ แวดลอ้ มให้สอดคลอ้ งกับแนวทางของเทศบาลต�าบลเวียงเทิง เพ่ือเป็นพ้ืนทีแ่ ลกเปลีย่ นสินคา้ ราคาถกู และมคี ุณภาพ ตลอดจนเป็นพ้ืนทีแ่ ห่งการเรียนร้แู ละการพัฒนา ๖๖ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) จัดตัง้ คณะกรรมการด�าเนินการขับเคล่อื นตลาดสด ๓ ข ประกอบดว้ ย กองสาธารณสขุ และสิง่ แวดลอ้ ม เทศบาลตา� บลเวยี งเทิง ส�านักงานสาธารณสขุ อ�าเภอเทิง โรงพยาบาลเทงิ ผูน้ า� ๓ หมูบ่ า้ น ผปู้ ระกอบการ และประชาชนผมู้ าใช้บรกิ ารตลาดสด ๒) จัดประชุมประชาคมระหว่างคณะกรรมการตลาดสด ๓ ข เทศบาลต�าบลเวียงเทิง ผปู้ ระกอบการทกุ ราย และประชาชน เพ่อื จดั ทา� ขอ้ ตกลงในการซ้อื ขาย และวางขอ้ บงั คบั จนออกมา เป็น “ธรรมนญู แมค่ า้ ” ๓) พฒั นาศักยภาพผปู้ ระกอบการ ให้มคี วามรู้ดา้ นสุขาภิบาล สขุ อนามัย รวมถึงจัดอบรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณให้ผูป้ ระกอบการทุกราย ๔) รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม รณรงค์คัดแยกขยะ ดูแลการบ�าบัดนาเสีย การระบายอากาศ และแสงสวา่ ง ๕) หนุนเสริมการแปรรูปและยกระดับผลิตภัณฑข์ องกลุม่ ตา่ งๆ เช่น กลุม่ แปรรูปอาหาร จากปลาแมน่ าอิง กลุม่ อาชีพหาปลา และกลมุ่ สตรี เป็นตน้ ๖) ปรบั ปรงุ โครงสรา้ งของตลาดให้สะอาด ถกู สขุ ลกั ษณะ และปลอดภยั จดั ระเบยี บจราจร เพิ่มความมัน่ ใจโดยติดตัง้ กล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยง รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศนใ์ ห้สวยงาม มีการ ตรวจเกณฑ์มาตรฐานด้านสิง่ แวดล้อม และตรวจเกณฑ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาหาร สินคา้ เพ่อื คุม้ ครองผูบ้ ริโภค ๗) สรา้ งอตั ลกั ษณแ์ ละสง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ ว โดยกา� หนดให้เป็นตลาดปลาแมน่ า แห่งเดยี ว ในอา� เภอเทิง ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เทศบาลตา� บลเวียงเทงิ แกนนา� ภาคประชาชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ตลาดสด ๓ ข เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนอาหารพ้ืนบา้ นราคาถูก เป็นตลาดที่มีการบริหาร จดั การทีด่ รี อบดา้ น สามารถเป็นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว ตลอดจนเป็นแหลง่ เรยี นรู้ ถ่ายทอดบทเรียนให้ หนว่ ยงานอ่นื ๆ น�าไปเป็นแนวทางพฒั นาพ้ืนที่ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั การให้ความรว่ มมอื และการมสี ว่ นรว่ มของคนในชมุ ชนและหนว่ ยงานตา่ งๆ เนน้ การเก้อื กลู ซ่ึงกันและกัน เพ่ือร่วมกันพัฒนาตลาดให้เจริญกา้ วหนา้ มัน่ คง ขณะเดียวกันก็อนุรักษค์ วามเป็น ทอ้ งถนิ่ ดัง้ เดมิ ให้อยูค่ ูอ่ �าเภอเทงิ อยา่ งยัง่ ยืน ๖๗ปบผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ โรงเรียนเทศบาลตําบลเวียงเทิง (กิจกรรมสวนสมนุ ไพร พืชสวนครัว ร้วั กนิ ได้) พ้ืนท่ี: เทศบาลตําบลเวียงเทิง ตําบลเวียง อําเภอเทิง จังหวัดเชียงราย วิทยากร: นางเทียมแข ลีหัวสระ ตําแหนง: ผู้อํานวยการโรงเรียนเทศบาลตําบลเวียงเทิง เบอรโทรศัพท: ๐๘๘-๒๖๗-๖๒๖๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี นางเทียมแข ลีหัวสระ ผู้อ�านวยการโรงเรียนเทศบาลต�าบลเวียงเทิง จัดกิจกรรมสวน สมนุ ไพร พืชสวนครัว รวั้ กินได้ สา� หรบั นักเรยี นชนั้ อนบุ าลศกึ ษาปีที่ ๑-๓ รวมถงึ ผปู้ กครองของ นกั เรียน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ในปี ๒๕๕๙ โรงเรียนเทศบาลต�าบลเวียงเทิงได้บูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้เข้าสู่ หลักสูตรสถานศึกษา เพ่ือให้นักเรียนได้น�าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน การด�าเนินชวี ิต ปลูกฝั งและสร้างจติ สา� นกึ การประหยัด ผา่ นการสร้างอาหารดว้ ยตัวเอง เกิดเป็น กจิ กรรมสวนสมุนไพร พืชสวนครัว รวั้ กินได้ ซ่งึ ดา� เนนิ งานมาจนถึงปั จจบุ นั ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ นักเรยี นระดับชนั้ อนุบาลศกึ ษาปีที่ ๑-๓ ตลอดจนผปู้ กครอง และครู นอ้ มน�าหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจา� วนั ๖๘ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน กิจกรรมสวนสมุนไพร พืชสวนครัว รัว้ กินได้ เป็นกิจกรรมยอ่ ยทีป่ รับพ้ืนทีส่ ว่ นหน่ึง เพ่ือ ส่งเสริมให้นักเรียนท�ากิจกรรมปลูกผักสวนครัว ซ่ึงผักที่ได้จากการท�ากิจกรรม ส่วนหน่ึงเขา้ สู่ โรงอาหาร เพ่อื ประกอบอาหารให้นกั เรยี น อกี สว่ นหนง่ึ แบง่ ให้ผปู้ กครองไปกนิ ทบี่ า้ น หรอื จา� หนา่ ย เป็นรายไดใ้ ห้แกน่ ักเรยี น ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เทศบาลตา� บลเวยี งเทงิ คณะครู นักเรยี น ผปู้ กครอง ๗. ผลการดา� เนนิ งาน นกั เรียนไดเ้ รยี นรู้และทา� กจิ กรรมอยา่ งสมา เสมอ เกดิ การซึมซับ เขา้ ใจ จนสามารถสร้าง แรงกระตุน้ ให้ผปู้ กครอง และชุมชนของตนเอง ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การมีส่วนร่วมของนักเรียนและผูป้ กครอง ทีเ่ ขา้ มาเรียนรู้และท�ากิจกรรมอยา่ งสมาเสมอ ทงั้ ยังนา� กลบั ไปท�าตอ่ ทบี่ า้ น ๖๙ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ หมอสมุนไพรพื้นบ้าน พ้ืนที่: เทศบาลตําบลงิม อําเภอปง จังหวัดพะเยา วิทยากร: นายแตง กุสาวดี ตําแหนง: ประธานกลุมหมอสมุนไพรพ้ืนบ้าน เบอรโทรศัพท: ๐๕๔-๔๔๘-๓๑๙ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี กลุ่มหมอพ้ืนบ้านภูมิปั ญญาท้องถิ่น ก่อตั้งเม่ือปี ๒๕๔๑ โดยนายแต่ง กุสาวดี และ นายวีระชัย ค�ามา ได้ชักชวนปราชญช์ าวบา้ นและผูส้ ูงอายุทีม่ ีความรู้ด้านสมุนไพรและการรักษา โรคโดยใช้ภูมิปั ญญาท้องถิ่นมารวมตัวกัน เพ่ืออนุรักษ์ภูมิปั ญญาท้องถิ่นด้านการใช้สมุนไพร รกั ษาโรค ช่วยเหลอื กลุม่ ผปู้ ่ วยโรคเอดส์ ประกอบกบั เป็นนโยบายกระทรวง และผูบ้ รหิ ารเทศบาล ตา� บลงมิ ทตี่ อ้ งการฟ้ืนฟภู มู ิปั ญญาดงั้ เดมิ เพ่อื ให้ประชาชนมคี ณุ ภาพชีวติ ทีด่ ขี ้ึน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เม่อื ปี ๒๕๔๑ โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพต�าบลบา้ นเลีย้ ว และกลุม่ หมอพ้ืนบา้ นจติ อาสา ใช้งบประมาณ ๔,๐๐๐ บาท ก่อตั้งกลุ่มหมอสมุนไพรพ้ืนบ้าน มีสมาชิกจ�านวน ๕๔ คน ประกอบด้วยหมอเมือง ๑๔ คน ปราชญช์ าวบา้ น ๒๐ คน เจ้าหนา้ ทีโ่ รงพยาบาล ๓ คน และ ผูส้ ูงอายุ ๑๗ คน เพ่อื อนรุ ักษภ์ มู ปิ ั ญญาทอ้ งถนิ่ และสบื ทอดภมู ิปั ญญาทอ้ งถนิ่ ตอ่ มาในปี ๒๕๔๒ เกดิ การรวมกลมุ่ ของผปู้ ่ วยภมู คิ มุ้ กนั บกพรอ่ ง ช่อื กลมุ่ บานบรุ ี ซ่งึ เขา้ มารบั บรกิ ารในระยะแรกและ มีสุขภาพดีข้ึน จึงจับมือกับกลุ่มหมอพ้ืนบา้ น ด้วยมองว่าสมุนไพรพ้ืนบา้ นสามารถรักษาโรคได้ ขณะที่ รพ.สต.ก็ไดร้ ับงบประมาณสว่ นหน่ึงมาจัดสร้างห้องอบสมุนไพร และซ้ือเคร่ืองกลัน่ นามัน หอมระเหย หลังจากนนั้ มีการตอ่ ยอดดว้ ยการจัดซ้ืออปุ กรณต์ า่ งๆ อีกหลายอยา่ ง เช่น เคร่อื งบด สมุนไพร เพ่ือผลิตสมุนไพรผง โรงกลัน่ นามันหอมระเหย ผลิตนามันตะไคร้หอม นอกจากนี้ยัง ร่วมกับมหาวิทยาลัยพะเยา เป็นเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาเร่ืองสมุนไพร การกลั่นนามัน หอมระเหย และสมุนไพรบ�าบัดแบบองค์รวม ด้วยการท�างานที่เป็นระบบและต่อยอดอยูเ่ สมอ ส่งผลให้กลุ่มได้รับคัดเลือกจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรมให้เป็นหนว่ ยงานหรือองคก์ รดีเด่น ด้าน การสง่ เสริมและรักษามรดกภูมปิ ั ญญาทางวัฒนธรรม ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือให้ผูเ้ รียนรู้ทราบถึงแนวทาง กระบวนการ แนวคดิ ในการจัดตงั้ บรหิ ารจดั การ การนา� สมุนไพรไปใช้ประโยชน์ และภูมิปั ญญาทอ้ งถิน่ ดา้ นสุขภาพ สร้างการมีสว่ นร่วมของคนในชุมชน ในการใช้ประโยชนจ์ ากสมนุ ไพรพ้นื บา้ น ๗๐ | ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) กลมุ่ หมอพ้นื บา้ นและบคุ ลากรของโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลบา้ นเลยี้ ว รว่ มกนั ส�ารวจองคค์ วามร้ตู า่ งๆ ทงั้ จากการสมั ภาษณ์ อ่านต�ารา จนสามารถรวบรวมกลมุ่ หมอพ้ืนบา้ นได้ ๕๙ คน แบ่งเป็นด้านพิธีกรรม ๑๑ คน ด้านสมุนไพร ๒๗ คน และด้านการบ�าบัด ๒๑ คน ท�าหนา้ ทีศ่ กึ ษาองคค์ วามร้จู ากต�ารา ๒ ประเภท คือใบลาน และบนั ทกึ ในกระดาษสา ๒) จัดเวทีแลกเปลีย่ นความร้รู ่วมกันระหวา่ งชุมชน ผูน้ า� หมอเมอื ง ปราชญช์ าวบา้ น อสม. รพ.สต. และผูส้ ูงอายุ ๓) พัฒนาองค์ความรู้และสถานที่ เช่น อบรมให้ความรู้สมาชิกกลุ่มหมอพ้ืนบ้าน และ ปรับปรงุ อาคารสถานทีใ่ ห้สะอาด ปลอดภัย มีมาตรฐานมากข้ึน ๔) ให้บรกิ ารคัดกรองโดยบุคลากรโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตา� บลบา้ นเลีย้ วเพ่อื สง่ ตอ่ กลมุ่ หมอเมอื ง บา� บดั รกั ษาพ้นื ฟู โดยหมอพ้นื บา้ นจิตอาสามาให้บรกิ ารที่ รพ.สต. สัปดาห์ละ ๒ วัน วันละ ๒ คน โรคทบี่ �าบัดมีทัง้ อาการทวั่ ไปอยา่ งกระดูกหัก ปวดเม่ือย เคล็ดขัดยอก เป็นไข้ ทอ้ งเสีย อาการเร้ือรัง เช่น เบาหวาน โรคกระเพาะ ริดสีดวง มะเร็ง แผลเร้อื รัง HIV กลุ่มโรค พ้ืนบา้ นทีม่ ีอาการและโรคแตกตา่ งกันและมีความเกีย่ วพันกับความเช่ือ เช่น โรคลมตา่ งๆ ผีเขา้ คณุ ไสย โรคทตี่ อ้ งอาศยั พธิ กี รรม การบา� บดั ใช้ยาสมนุ ไพร เช่น การกนิ การทา การอบสมนุ ไพร นวด ประคบ ตอกเสน้ ยา ขา๋ ง ร่วมกบั พิธีกรรมบา� บดั เช่น สขู่ วัญ สืบชะตา แฮ้ก สะเดาะเคราะห์ เป็นตน้ ๕) ผลิตและจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตลอดจนถ่ายทอดองค์ความรู้การสืบสาน ภมู ิปั ญญา โดยมีวทิ ยากรให้ความรู้ และเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กลมุ่ หมอเมอื ง กลมุ่ ผสู้ งู อายุ สขุ ศาลา สองสขุ ป่ าชมุ ชน โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บล บา้ นเลยี้ ว เทศบาลต�าบลงิม และโรงเรียนบา้ นเลีย้ ว ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) ผใู้ ช้บรกิ ารเขา้ ถงึ การดแู ลรักษาสุขภาพ การแพทยพ์ ้ืนบา้ น อยา่ งทวั่ ถึง ๒) ผปู้ ่ วยติดเช้อื HIV ไดร้ ับการบริการและมีสุขภาพดขี ้ึน ๓) ผปู้ ่ วยมที างเลอื กในการบา� บัดรักษาสขุ ภาพ ๔) เกิดผลิตภณั ฑส์ มนุ ไพรทหี่ ลายหลากและมกี ารพัฒนารปู แบบให้เหมาะสมกับปั จจุบัน ๕) ต�าราสมุนไพรได้รับการแปลจากภาษาล้านนา และมีการอนุรักษ์ป่ าสมุนไพร เช่น การปลกู ป่ าสมุนไพร การบวชป่ า ๖) มกี ารถ่ายทอดองคค์ วามรู้ เช่น การศกึ ษาดูงาน การอบรมพฒั นา ๗) เกิดแหลง่ เรยี นรู้ทสี่ ามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในชุมชนและเครอื ขา่ ย ๘) ชมุ ชนมีความเขม้ แข็ง ยงั่ ยืน และสามารถเป็นตน้ แบบแลกเปลยี่ นเรียนร้ใู นพ้ืนทีไ่ ด้ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั - ๗๑ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ ระเบียบตําบลการพัฒนาระบบ อาหารชุมชนตําบลร่องเคาะ พ้ืนท่ี: องคการบริหารสวนตําบลรองเคาะ อําเภอแจ้หม จังหวัดลําปาง วิทยากร: นายเสกสรรค โตสวัสดิ์ ตําแหนง: ปลัดองคการบริหารสวนตําบลรองเคาะ เบอรโทรศัพท: ๐๙๑-๐๗๘-๗๒๐๘ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี พ้ืนที่องค์การบริหารส่วนต�าบลร่องเคาะถือเป็นแหล่งผลิตอาหารแห่งหน่ึง โดยร้อยละ ๔๘.๓ ของครวั เรอื นทงั้ หมด ทา� เกษตรโดยใช้แหลง่ นา ธรรมชาติ ซง่ึ มอี ยู่ ๒๘ แหง่ ทงั้ ทเี่ ป็นลา� คลอง นาตก แม่นา สามารถผลิตอาหารปลอดภัยได้จ�านวนมาก โดยมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ย่นื มือเขา้ มาสนบั สนนุ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โครงการนี้เกิดจากคนในชุมชนขาดความรู้ในการบริโภคอาหารที่ถูกต้อง เคยชินกับ การบริโภคอาหารในทอ้ งถิน่ ทัง้ ยังขาดความรู้เร่อื งการดแู ลรกั ษาสุขภาพ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ให้คนในชุมชนมีความรู้เกยี่ วกบั การบรโิ ภคอาหารทปี่ ลอดภัย ๗๒ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ออกกฎระเบียบต�าบล ๒) จดั อบรมให้ความร้กู ารบรโิ ภคอาหารทถี่ กู ตอ้ ง ๓) รณรงคห์ ้ามเลยี้ งอาหารดบิ ในงานเลยี้ งตา่ งๆ ๔) แต่งตัง้ คณะกรรมการด�าเนินการระเบียบต�าบล เพ่ือด�าเนินงานความสงบเรียบร้อย ในชุมชน ตามบทลงโทษทกี่ �าหนดไวใ้ นระเบยี บ เช่น หากเลยี้ งอาหารดบิ ในงาน ให้ปรบั เจ้าภาพ ครัง้ ละ ๒,๐๐๐ บาท เพ่อื เขา้ บัญชีของหมบู่ า้ นทเี่ กดิ เหตุ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) ทุนบุคคล คือ ผูน้ �าหรือแกนน�า เช่น อผส. อสม. ก�านัน ผูใ้ หญบ่ า้ น ส.อบต. กลุ่ม เกษตรกร ๒) ทนุ หนว่ ยงาน เช่น โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพต�าบล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�าบล กศน. สถาบนั การศกึ ษา หนว่ ยรกั ษาป่ า ๓) แหลง่ ประโยชน์ เช่น วดั ลานกจิ กรรม ตลาด สนามเดก็ เลน่ ศาลาประชาคม อ่างเกบ็ นา ๔) เครอื ขา่ ย เช่น เครือขา่ ยป่ าชมุ ชน เครอื ขา่ ยเกษตรกร เครือขา่ ยกลมุ่ ผูใ้ ช้นา ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ชาวบ้านในต�าบลร่องเคาะให้ความส�าคัญ และมีความรู้ในการบริโภคอาหารปลอดภัย มากข้นึ โดยเฉพาะการปรงุ ท�าอาหารให้สกุ ทัง้ นี้ กลมุ่ ทรี่ บั ประโยชนป์ ระกอบดว้ ย ครัวเรือนทที่ �า อาชีพเกษตรกร จ�านวน ๑,๑๗๒ ครัวเรือน กลุ่มเด็กปฐมวัยในชุมชน ๒๐๑ คน ศูนยพ์ ัฒนา เดก็ เลก็ ๒ ศูนย์ ผูส้ งู อายุในชมุ ชน ๑,๗๔๑ คน และกลมุ่ อ่ืนๆ เช่น เด็กเยาวชน หญงิ ตัง้ ครรภ์ กลมุ่ วัยทา� งาน ผปู้ ่ วยระยะสดุ ทา้ ย ผูด้ อ้ ยโอกาส คนพกิ าร และผปู้ ่ วยโรคเร้อื รัง นอกจากนยี้ ังช่วย ลดรายจ่าย เพิม่ รายได้ ลดการใช้เคมี ลดมลพษิ และอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ความร่วมไมร้ ่วมมอื ของทกุ ภาคสว่ น ทัง้ ผบู้ ริหารทอ้ งถิน่ ก�านัน ผใู้ หญบ่ า้ น โรงพยาบาล สง่ เสริมสุขภาพต�าบล โรงเรียน วัด ชุมชน และหนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ทีร่ ะดมสรรพก�าลังและหา มาตรการแกไ้ ขความเดอื ดร้อนของคนในชมุ ชนอยา่ งเป็นระบบ จนสามารถคลีค่ ลายสถานการณ์ ได้ นา� ไปสูก่ ารสร้างกระบวนการทา� งานทยี่ ัง่ ยืน ๗๓ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี พนั ธกุ รรมพชื ท้องถิน่ ในระบบไรห่ มุนเวียน พื้นท่ี: องคการบริหารสวนตําบลเมืองปอน อําเภอขุนยวม จังหวัด แมฮองสอน วิทยากร: นายดํารง วนาวิไลกุล ตําแหนง: ปราชญพ้ืนบ้าน เบอรโทรศัพท: ๐๖๓-๙๘๑-๓๒๗๔ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี บา้ นมะหนิ หลวง หมทู่ ี่ ๘ เป็นหมบู่ า้ นชาวปกาเกอะญอ มจี า� นวนครวั เรอื น ๑๔๓ ครวั เรอื น ประชากร ๕๗๗ คน ประชากรร้อยละ ๘๒ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ท�าไร่หมุนเวียน (การ หมนุ เวยี นพ้นื ทที่ กุ ปี) มที งั้ ขา้ วไร่ พชื ผกั สมนุ ไพร ถอื เป็นแหลง่ อาหารหลกั ของคนทนี่ ี่ แตใ่ นปั จจบุ นั การปลูกพืชตามเกษตรกระแสหลักเขา้ มามีบทบาท ชาวบ้านส่วนหน่ึงหันมาปลูกพืชส่งเอกชน แล้วหันมาซ้ือเพ่ือบริโภค รายจ่ายในครัวเรือนสูงข้ึน ไมส่ อดคล้องกับรายได้ ขณะที่พันธุกรรม พชื ทอ้ งถนิ่ กเ็ รมิ่ สญู หาย ดงั นนั้ ชมุ ชนจงึ เรมิ่ ขบั เคล่อื นการอนรุ กั ษร์ ะบบการผลติ แบบไรห่ มนุ เวยี น อนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมขา้ ว พนั ธกุ รรมผกั พนั ธกุ รรมสมนุ ไพร และตอ่ ยอดไปยงั ธนาคารขา้ ว ทสี่ ามารถ แกไ้ ขปั ญหาขาดแคลนอาหารในชมุ ชน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง จากระบบฐานข้อมูลต�าบล TCNAP และข้อมูล RECAP ประกอบกับการจัดให้มีการ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ โดยกระบวนการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน ทา� ให้ชมุ ชนตระหนกั ถงึ ปั ญหาของ การทา� เกษตรกรรมเพ่อื การคา้ และเรมิ่ หนั กลบั มาหาความมนั่ คงทางอาหารในระบบไร่หมนุ เวียน โดยไดร้ ับการสนบั สนนุ จากหลายหนว่ ยงาน ๗๔ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) สร้างความมัน่ คงทางอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน โดยให้ครัวเรือนและชุมชน สามารถพ่งึ พาตนเอง ผา่ นการฟ้ืนฟกู ารท�าไร่หมนุ เวียน และการอนุรักษพ์ นั ธุกรรมพชื ๒) เช่อื มโยงการจัดสวสั ดกิ ารการเขา้ ถึงอาหารผา่ นธนาคารขา้ ว ๓) สร้างกระบวนการมีสว่ นร่วมในการฟ้ืนฟูวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอบา้ นมะหินหลวง ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในทุกระดับ น�าใช้ขอ้ มูลเพ่ือหาแนวทางการพัฒนาอยา่ ง ยั่งยืน ซ่ึงมีขั้นตอนที่ส�าคัญ ได้แก่ การตระหนักถึงปั ญหา ร่วมกันก�าหนดหรือเลือกแนวทาง การพัฒนาทีส่ ามารถเป็นไปได้ และอยบู่ นพ้ืนฐานของชุมชน ๒) สร้างจติ สา� นึกทีด่ ี มภี ูมคิ มุ้ กนั ตอ่ สิง่ ยวั่ ยภุ ายนอกทีเ่ ป็นภัยตอ่ ความมัน่ คงทางอาหาร ๓) เช่อื มโยงและจัดการความร้เู พ่อื เผยแพร่ สง่ ตอ่ แนวทางการอนรุ กั ษใ์ ห้คนร่นุ หลงั ไดใ้ ช้ ตอ่ ยอดและพฒั นาตอ่ ไป ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทุนระดับบุคคล ซ่ึงเป็นปราชญช์ าวบ้าน ๔ คน ทุนระดับกลุ่มองค์กรที่เขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง ทงั้ ระบบจา� นวน ๔ กลมุ่ หนว่ ยงานและแหลง่ ประโยชนท์ หี่ นุนเสรมิ จา� นวน ๔ หนว่ ยงาน มีกลมุ่ ระดับชุมชนจ�านวน ๓ กล่มุ และมีกลุ่มระดับต�าบลทีม่ ีการเช่ือมโยงงานอยา่ งต่อเน่ืองจ�านวน ๔ กลมุ่ ทัง้ หมดเป็นทนุ และศักยภาพทีเ่ ขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งทงั้ ทางตรงและทางอ้อม ๗. ผลการดา� เนนิ งาน การด�าเนินงานฟ้ื นฟูพันธุกรรมพืชท้องถิ่นและระบบไร่หมุนเวียนท�าให้เกิดการรวบรวม ขอ้ มลู พนั ธุกรรมพืชของบา้ นมะหินหลวง น�ามาซ่งึ แหลง่ อาหารทอี่ ุดมสมบูรณ์ เกดิ การฟ้ืนฟรู ะบบ ไร่หมุนเวียน และเช่อื มโยงงานอ่นื ๆ เช่น หลักสตู รการเรยี นร้ใู นโรงเรียนประถมศึกษา ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ทุนทางวัฒนธรรมปกาเกอะญอทีโ่ ดดเด่น เช่น การท�าไร่หมุนเวียน ตลอดจนพันธุกรรม พืชทอ้ งถิ่นที่สอดคล้องกับพ้ืนที่ ซ่ึงน�าสมดุลกลับมาสู่ระบบนิเวศของชุมชน สามารถสร้างความ มัน่ คงทางอาหารให้แกช่ มุ ชน ๗๕ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี วังปลาบ้านแม่ลากะ พื้นท่ี: องคการบริหารสวนตําบลเมืองปอน อําเภอขุนยวม จังหวัด แมฮองสอน วิทยากร: นายพรพิชัย วัตนัยสวรรค ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพน้ื ท่ี หมูบ่ า้ นแมล่ ากะ๊ เป็นหมูบ่ า้ นของชาวปกาเกอะญอ ด�ารงชีวิตสัมพันธก์ ับธรรมชาติ ยังคง เช่อื ในสงิ่ เหนอื ธรรมชาติ มคี วามเคารพตอ่ ธรรมชาตเิ ป็นทนุ จงึ ให้ความสา� คญั กบั การดแู ลจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งเคร่งครดั ปกปั กรักษาดนิ นา และป่ า เม่ือวิเคราะห์โครงสร้างการไดม้ า ซ่ึงอาหารชมุ ชน พบวา่ คนบา้ นแมล่ ากะ๊ มแี หลง่ ทีม่ าของอาหาร ไดแ้ ก่ ๑) ระบบไร่หมนุ เวียนและ ระบบนา มีพืชพนั ธขุ์ า้ วทอ้ งถิน่ มากกวา่ ๑๐ สายพันธุ์ ๒) แหลง่ ทรพั ยากร โดยเฉพาะป่ าและล�านา แมล่ ากะ๊ ทมี่ ีความอุดมสมบูรณ์ มีพนั ธปุ์ ลาทอ้ งถิน่ มากกวา่ ๒๐ สายพันธุ์ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ช่วงที่ผา่ นมา ระบบนิเวศในล�านาแมล่ ากะ๊ เริ่มไมส่ มดุล มีการใช้ประโยชนจ์ ากแหล่งนา ท�าให้ชุมชนเรียกประชุมเพ่ือหาแนวทางป้ องกันและฟ้ืนฟู ที่ประชุมมีมติให้กันเขตอนุรักษ์ตัง้ แต่ ทางทิศใต้ของหมูบ่ า้ นจนสิน้ สุดทีฝ่ ายชลประทานทิศเหนือของชุมชน พร้อมตัง้ กฎกติกาว่า ห้าม จบั ปลาในเขตพ้ืนทีอ่ นุรกั ษ์ หากฝ่ าฝืนปรบั ตัวละ ๕๐๐ บาท นอกจากนีย้ ังร่วมกนั ทา� พธิ บี วชปลา ซ่ึงมีวิธีคิดและวิธีการปฏิบัติคล้ายคลึงกับพิธีบวชป่ า หรือสืบชะตาคน เป็นดูแลรักษาปลาซึ่งเป็น แหลง่ อาหาร ให้มคี วามสมบูรณ์ มจี �านวนปลาเพิม่ มากข้ึน คงอยคู่ ชู่ มุ ชนตอ่ ไป ๗๖ | ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื สร้างสงั คมทีเ่ ป็นธรรมผา่ นการจดั การและกระจายทรัพยากรอยา่ งเทา่ เทียม ๒) เพ่อื สร้างพ้นื ทกี่ ารอนรุ กั ษพ์ นั ธปุ์ ลาและจา� นวนปลา ซ่งึ เป็นแหลง่ อาหาร ให้ชาวบา้ นได้ บรโิ ภค และสร้างรายได้ ๓) เพ่อื ร่วมจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม คืนสมดลุ สูธ่ รรมชาติ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ในช่วง ๒๕๓๓ ชมุ ชนเรมิ่ ตระหนกั วา่ ลา� นา แมล่ ากะ๊ มจี า� นวนปลาลดนอ้ ยลง นา� มาสกู่ าร หารือพดู คุยกนั ในชุมชน พบปั ญหาการลักลอบจบั ปลา การจบั ปลาผดิ วธิ โี ดยการระเบิดปลาและ ชอ็ ตดว้ ยไฟฟ้า ทปี่ ระชมุ มมี ตใิ ห้อนรุ กั ษพ์ นั ธสุ์ ตั วน์ า โดยกา� หนดเขตอนรุ กั ษพ์ นั ธปุ์ ลาเป็นระยะทาง ๑ กิโลเมตร เป็นวังปลา เพ่อื ให้ปลาไดข้ ยายพนั ธุ์ ๒) ชุมชนสร้างข้อตกลงร่วมกัน โดยห้ามจับปลาในพ้ืนที่อนุรักษ์ ฝ่ าฝืนปรับเงินตัวละ ๕๐๐ บาท ๓) ชุมชนร่วมกันท�าพิธีบวชปลา ซ่ึงมีวิธีคิดและวิธีการปฏิบัติคล้ายคลึงกับพิธีบวชป่ า หรือสืบชะตาคน โดยได้เชิญผู้น�าทางศาสนาทุกศาสนาที่มีอยูใ่ นชุมชนมาท�าพิธีร่วมกันบริเวณ ใตต้ น้ ไมใ้ หญใ่ กลส้ ะพานขา้ มล�าห้วยแมล่ ากะ๊ ซ่งึ เป็นบริเวณทีป่ ลามารวมตัวคอ่ นขา้ งชกุ ชุม ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ทุนส�าคัญคือฐานคิดต่อชีวิตดั้งเดิมของคนปกาเกอะญอ ท่ีเห็นความส�าคัญของ ทรัพยากรธรรมชาติ จงึ ร่วมกันอนรุ กั ษด์ ิน นา ป่ า โดยไดร้ บั การสนับสนุนจากแหลง่ ทุนอ่ืน เช่น โรงเรยี นบา้ นแมล่ ากะ๊ โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตา� บล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลเมอื งปอน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ชมุ ชนมแี หลง่ อาหารทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ ระบบนเิ วศมคี วามสมดลุ เกดิ ความเทา่ เทยี ม ในอนาคต สามารถตอ่ ยอดเป็นสถานทีท่ อ่ งเทยี่ วเชิงนิเวศ กระตุน้ เศรษฐกจิ ภายในชมุ ชน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ชุมชนตระหนักถึงปั ญหาและผลกระทบจากระบบนิเวศที่เสียสมดุล น�ามาสู่การประชุม วางแผนร่วมกัน โดยใช้วิถีของชุมชน บนฐานความเช่ือทมี่ ีต่อทรัพยากรดิน นา ป่ า เพ่ืออนุรักษ์ แหลง่ อาหารให้มีความยงั่ ยืน คืนความสมดุลทางธรรมชาตแิ ละความมัน่ คงทางอาหารในชุมชน ๗๗ปบ ผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ อาหารไทใหญ่ กนิ ปลอดภัย ไรโ้ รค พ้ืนท่ี: องคการบริหารสวนตําบลเมืองปอน อําเภอขุนยวม จังหวัด แมฮองสอน วิทยากร: อนุชา ตาสิติ ตาํ แหนง : ผอู้ าํ นวยการโรงพยาบาลสง เสรมิ สขุ ภาพประจาํ ตาํ บลเมอื งปอน เบอรโทรศัพท: ๐๘-๘๔๐๑-๒๔๘๘ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี ต�าบลเมอื งปอนมพี ้นื ทที่ งั้ หมดประมาณ ๔๐๕ ตารางกโิ ลเมตร หรอื ๒๕๓,๑๒๕ ไร่ ตงั้ อยู่ ในหบุ เขาทมี่ ภี ูเขาลอ้ มรอบทัง้ ๔ ดา้ น พ้ืนทสี่ ว่ นใหญเ่ ป็นภูเขาสูงและป่ าไม้ โดยทัว่ ไปเป็นป่ าเขา ทุรกันดาร มีภูเขาสูงสลับซับซ้อนถึงร้อยละ ๗๐ มีพ้ืนที่ราบบริเวณลุ่มแม่นาปอน และลุ่มนา แมล่ ากะ๊ เป็นพ้นื ทที่ า� การเกษตรและตงั้ บา้ นเรอื นประมาณ ๘๙.๗ ตารางกโิ ลเมตร หรอื ๕๖,๐๖๒ ไร่ แบง่ การปกครองออกเป็น ๑๐ หมบู่ า้ น และ ๑ หยอ่ มบา้ น ประชากรในตา� บลเมอื งปอนแบง่ เป็น ๒ กลมุ่ ชาตพิ ันธุ์ ไดแ้ ก่ ชาตพิ ันธไุ์ ทใหญ่ และชนเผา่ ปกาเกอะญอ คนไทใหญ่มีวิถีการกินที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการเป็นโรค เน่ืองจากนิยมอาหารมัน เค็ม ด้วยต้นก�าเนิดคนไทใหญอ่ ยูใ่ นพ้ืนที่หนาวเย็น อาหารมันจึงมีความจ�าเป็น แต่เม่ืออพยพยา้ ย ถิ่นฐานใหม่ สภาพอากาศร้อนอบอ้าว อาหารดั้งเดิมจึงเป็นปั จจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ ซ่ึงจากการ วเิ คราะห์ระบบฐานขอ้ มลู ตา� บล (TCNAP) และขอ้ มลู RECAP พบวา่ ประชากรของบา้ นเมืองปอน หมูท่ ี่ ๑ เจบ็ ป่ วยเป็นโรคความดนั โลหติ สูงถงึ ร้อยละ ๔๑.๒๘ รองลงมาคือโรคเบาหวานร้อยละ ๑๐.๒๑ บา้ นเมืองปอน หมูท่ ี่ ๒ ก็เช่นกัน พบโรคความดันโลหิตสูงถึงร้อยละ ๔๕.๒๔ ปั ญหา ดงั กลา่ วเกิดจากพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารทมี่ ีปริมาณไขมนั สงู ๗๘ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หมูบ่ า้ นเมืองปอนเป็นหมูบ่ า้ นของชาวไทใหญ่ ที่ยังคงรับวัฒนธรรมอาหารแบบไทใหญ่ อยา่ งเต็มรูปแบบ แต่อาจมีความแตกต่างในการปรับประยุกต์ใช้วัตถุดิบพ้ืนถิ่นมากข้ึน อาหาร ไทใหญท่ ีน่ ยิ มอยา่ งแพร่หลาย ประกอบดว้ ยอาหารประเภท โก้ (ยา� ผกั ) ประเภท อุ๊บ (การอบให้ แห้ง) ประเภทแกง๋ (การแกง) ประเภทจอ (การตม้ หรอื อบจนเป่ือยแลว้ ปรงุ รส) และประเภททอด อาหารไทใหญม่ ีอัตลักษณข์ องตัวเอง รสคอ่ นขา้ งจัด และมัน ซ่ึงเป็นปั จจัยเสีย่ งของโรค เบาหวาน โรคหวั ใจ โรคความดนั โลหติ สงู โรคอ้วน คนไทใหญท่ เี่ มอื งปอนเรมิ่ ตระหนกั ถงึ สขุ ภาพ จึงเกิดแนวคิดทจี่ ะจัดท�าโซนอาหาร ใช้สีเป็นตัวแบง่ สีแดง เป็นอาหารทเี่ สีย่ งตอ่ โรคตา่ งๆ เช่น อาหารมนั อาหารก่ึงสกุ ก่งึ ดิบ อาหารหมักดอง สีเหลือง เป็นอาหารก่งึ ปลอดภยั เช่น แกงแคไก่ จนิ้ ลุง ขา้ วกนั้ จนิ้ หนังโก้ และสเี ขยี ว เป็นอาหารปลอดภยั จา� พวกผักตา่ งๆ ในอาหารม้ือหน่งึ จะ จดั โซนอาหาร ๓ สี แบง่ เป็นอาหารสีแดงไมเ่ กิน ๑ เมนู อาหารสีเหลอื งไมเ่ กนิ ๒ เมนู และอาหาร สีเขยี วไมจ่ า� กัดเมนู องค์การบริหารส่วนต�าบลเมืองปอน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบลเมืองปอน รณรงค์จัดโซนอาหารตามสี เพ่ือสุขภาพที่ดีข้ึนของชุมชม เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่มี การพัฒนาอยา่ งตอ่ เน่อื ง ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือให้เกิดภาวะสุขภาพทีด่ ขี องประชาชน และตระหนักร้ถู ึงคณุ คา่ ตลอดจนโทษของ อาหารทีร่ บั ประทานในแตล่ ะม้ือ ๒) ประชาชนสามารถออกแบบม้อื อาหารทเี่ ป็นประโยชนต์ อ่ ร่างกาย ๓) เพ่อื ให้เกดิ การเรยี นรเู้ ร่อื งโภชนาการอาหารของหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งอยา่ งเป็นรปู ธรรม และสอดคลอ้ งกับบริบทพ้นื ที่ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ชาวบา้ นเมืองปอน หมทู่ ี่ ๑ และหมทู่ ี่ ๒ เรมิ่ ตระหนักถึงสขุ ภาพ จงึ ร่วมกันหารอื และ ออกแบบการจัดโซนอาหารตามสี สีแดง เป็นอาหารทเี่ สีย่ งตอ่ โรคตา่ งๆ เช่น อาหารมนั อาหาร ก่งึ สกุ ก่ึงดบิ อาหารหมักดอง สเี หลอื ง เป็นอาหารก่งึ ปลอดภัย เช่น แกงแคไก่ จนิ้ ลงุ ขา้ วกนั้ จิน้ หนังโก้ และสเี ขียว เป็นอาหารปลอดภัย จ�าพวกผักตา่ งๆ ในอาหารม้อื หน่งึ จะจดั โซนอาหาร ๓ สี แบง่ เป็นอาหารสีแดงไมเ่ กิน ๑ เมนู อาหารสเี หลอื งไมเ่ กนิ ๒ เมนู และอาหารสเี ขียวไมจ่ า� กัด เมนู เพ่อื ลดความเสีย่ งตอ่ โรคตา่ งๆ ๗๙ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |

๒) แกนนา� ให้ความรเู้ ร่อื งการบรโิ ภคอาหารอยา่ งปลอดภยั ตามโซนสี จดั ทา� ตวั อยา่ งปฏทิ นิ อาหาร โดยให้ อสม. เป็นผใู้ ห้ความร้รู ายครัวเรอื น นอกจากนนั้ ยงั มกี ารจัดกิจกรรมสาธติ การปรงุ อาหารตามโซนสี การสัมมนาเร่อื งหลักการโภชนาการ ๓) ติดตามกลุม่ เป้ าหมาย หรือกลุม่ เสีย่ ง หลังจากทีไ่ ดเ้ ผยแพร่ความรู้ โดยใช้เครือขา่ ย อสม. เข้าไปเสริมความรู้ ให้ก�าลังใจ เพ่ือให้กลุ่มเสี่ยงมีแรงบันดาลใจในการรักษาสุขภาพ ของตนเอง ๔) ในงานประเพณี แกนน�าแมบ่ า้ นจะหารือกับเจ้าภาพ เพ่ือขอให้ลดอาหารที่ประกอบ ไปดว้ ยไขมัน อาหารก่ึงสกุ ก่งึ ดิบ รวมถงึ การงดเลีย้ งสรุ า บหุ รี่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลเมอื งปอน และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา� บลบา้ นเมอื งปอน ไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในการรณรงค์ และสง่ เสริมการจดั โซนอาหารตามสี ร่วมกบั แกนน�าชมุ ชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกดิ นวัตกรรมอาหารไทใหญก่ นิ ปลอดภยั ตามสี ซ่งึ ช่วยให้ผูป้ ่ วยมภี าวะสุขภาพทีด่ ขี ้ึน และลดปั จจยั เสยี่ งในกลุม่ ประชากรทไี่ มม่ ีปั ญหาสขุ ภาพ ๒) คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีข้ึน โดยตระหนักถึงความส�าคัญของการเลือกรับประทาน อาหาร ตอ่ ยอดแนวคิดดว้ ยการจัดโซนอาหารให้นกั ทอ่ งเทยี่ วทมี่ าพักในโฮมสเตยข์ องชมุ ชน ลด อาหารหวาน มนั เคม็ ในงานบญุ ประเพณี และยงั เป็นแหลง่ การเรยี นรสู้ า� หรบั ผทู้ สี่ นใจศกึ ษาดงู าน ๓) เกดิ การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ภายในกลมุ่ เสยี่ ง ประชากรทัว่ ไป และเกิดการจดั การอยา่ งมี สว่ นร่วม ๔) ชาวบา้ นปลกู ผกั ปลอดสารพิษ ๕) การจัดอาหารตามโซนสี ได้รับรางวัลชนะเลิศการน�าเสนอผลงานทางวิชาการ สาขา สง่ เสริมสขุ ภาพ ระดบั จงั หวัดแมฮ่ ่องสอน ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การเขา้ ใจบรบิ ทชมุ ชน รวมถึงการออกแบบการดา� เนนิ งานทสี่ อดคลอ้ งกบั วิถวี ัฒนธรรม ๘๐ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี กลุ่มเกษตรอินทรีย์ปลอดภัย พน้ื ท:่ี องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลบา้ นกาด อาํ เภอแมว าง จงั หวดั เชยี งใหม วิทยากร: นายรังสรรค กันธิยะ ตําแหนง: ประธานแหลงเรียนรู้ เบอรโทรศัพท: ๐๘๗-๔๖๐-๒๓๗๑ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี ต�าบลบา้ นกาดมีครัวเรือนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมร้อยละ ๘๑.๙๘ แบง่ เป็นท�านา ร้อยละ ๒๒.๓๒ ท�าไร่ร้อยละ ๑.๗๒ ท�าสวนร้อยละ ๕๔.๕๑ เลยี้ งสัตวร์ ้อยละ ๓ ครวั เรือนทมี่ ี การใช้สารเคมีคิดเป็นร้อยละ ๖๗.๒๙ ครัวเรือนทีม่ ีการท�าเกษตรอินทรียแ์ ละลดปริมาณการใช้ สารเคมรี ้อยละ ๓๒.๗๑ ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง เดมิ นายรงั คส์ รรค์ กนั ธิยะ รบั ราชการครแู ละทา� เกษตรกรรมในยามวา่ ง มสี วนล�าไย ๖ ไร่ นาขา้ ว ๒ ไร่ บอ่ ปลา ๑ บอ่ เม่อื ลองดูรอบขา้ งพบวา่ ชาวบา้ นทัว่ ไปทา� เกษตรกรรมโดยขาดการ วางแผน ขาดการบรหิ ารจดั การทดี่ ี ทา� ให้ชีวิตมหี นีส้ ิน ในปี ๒๕๔๘ จึงลาออกจากราชการ เพ่ือ หันมาเป็นครเู กษตรของคนในชมุ ชน ในระยะแรก (ปี ๒๕๔๘-๒๕๕๑) เรม่ิ ท�าเกษตรเต็มตัว ยังมีการใช้ป๋ ุยและสารเคมี พบ ปั ญหาตน้ ทุนการผลติ สงู เม่ือราคาผลผลิตไมเ่ ป็นไปตามคาดหวัง จึงขาดทนุ นอกจากนีส้ ารเคมี ยงั ทา� ใหด้ นิ เส่อื มคณุ ภาพ ระบบนา เสยี สขุ ภาพรา่ งกายทรดุ โทรมตาม ตรวจเลอื ดพบสารพษิ ตกคา้ ง ในรา่ งกาย จนในช่วงกลางปี ๒๕๕๑ สา� นกั งานเกษตรอา� เภอแมว่ างไดส้ ง่ เสรมิ ใหเ้ ขา้ อบรมโครงการ เสน้ ทางเศรษฐี ณ ศนู ยป์ ราชญช์ าวบา้ นเกษตรยงั่ ยนื บา้ นแมท่ า กงิ่ อา� เภอแมอ่ อน จงั หวดั เชยี งใหม่ พร้อมกับเพ่ือนเกษตรกรหมูบ่ า้ นละ ๑ คน รวมเป็น ๕ คน จากการเขา้ ร่วมอบรมครัง้ นี้ ท�าให้ เรียนรู้การท�าเกษตรอินทรีย์ รู้จักการท�าเกษตรผสมผสาน การท�าบัญชีฟาร์ม บัญชีครัวเรือน ตลอดจนการพัฒนาระบบตลาด เม่ือกลับจากการอบรมจงึ มีแนวคิดรวมกลมุ่ เกษตรกรเพ่อื ทา� เกษตรอินทรีย์ ไดจ้ ัดตงั้ กลมุ่ วิสาหกจิ ชุมชนแมว่ างเกษตรอินทรยี ์ มสี มาชกิ แรกเริม่ ๕ คน ปั จจบุ ันมสี มาชกิ ทงั้ หมด ๒๑ คน มพี ้ืนทีก่ ารผลิตผกั ปลอดสารพษิ ทงั้ หมด ๑๑.๕ ไร่ กระจายอยทู่ ุกหมบู่ า้ นในพ้นื ทตี่ �าบลบา้ นกาด ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) การรวมกลุม่ เกษตรกรในพ้นื ทเี่ พ่อื ท�าเกษตรปลอดสารพษิ ๒) เป็นแหลง่ เรยี นรู้และเผยแพร่วิธกี ารทา� เกษตรปลอดสารพิษ ๘๑ปบผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) สมาชกิ ภายในกลมุ่ ทา� การผลติ พชื ผกั ปลอดสารพษิ เพ่อื บรโิ ภคในครวั เรอื น และจา� หนา่ ย ในตลาดชมุ ชน ภายใตแ้ นวคดิ “ผลติ เพ่อื บรโิ ภค เหลอื จงึ ออกจา� หนา่ ย” โดยมกี จิ กรรมทา� จลุ นิ ทรยี ์ ป๋ ุยหมกั การปลูกขา้ วเสน้ เดียว ปลูกพชื ผกั สวนครวั มวั่ ๒) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแมว่ างเกษตรอินทรียน์ �าผลผลิตที่ได้ไปจ�าหน่ายที่ตลาดเพ่ือคน รักสขุ ภาพ จริงใจมาร์เก็ต โรงพยาบาลสันป่ าตอง และสา� นกั งานเกษตรจงั หวัดเชยี งใหม่ ๓) ศึกษาดูงานและเขา้ ร่วมอบรมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น เขา้ อบรมโครงการผลิตผัก ปลอดสารพิษบนฐานเศรษฐกิจพอเพียงของกิจกรรมงานวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงใหม่ อบรมเทคนิคการผลิตผักปลอดสารพิษ โดยศูนยว์ ิจัยเพ่ือเพิม่ ผลผลิตทางการ เกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สา� นกั งานกองทนุ การวจิ ยั สนบั สนนุ จดั ทา� แปลง สาธิตระดับต�าบล ศึกษาดูงานที่ห้วยขา้ วกา จังหวัดพะเยา ที่สวนอาจารยร์ ัชยุทธ วรรณศิริบุญ ผูก้ อ่ ตงั้ PR Model นับเป็นจุดเปลีย่ นในการปรบั ปรุงดนิ ๔) เป็นแหลง่ เรยี นรใู้ นพ้นื ที่ ซ่งึ ทางกลมุ่ แบง่ ฐานเรยี นรเู้ ป็น ๔ ฐาน ไดแ้ ก่ การปลกู ผกั แบบ อินทรีย์ การท�าป๋ ุยหมักคุณภาพสูงและนาหมักฮิวมิก การท�าจุลินทรียท์ อ้ งถิ่น และการปลูกขา้ ว เสน้ เดยี ว ๕) ให้บริการขอ้ มูลและประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลขา่ วสารด้านการเกษตร เช่น สถานการณ์ ภยั แลง้ เตอื นภัยการระบาดของศัตรพู ชื และราคาผลผลิตตามทอ้ งตลาด เป็นตน้ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) สมาชิกกลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนแมว่ างเกษตรอินทรยี ์ ๒๑ คน ๒) สา� นกั งานเกษตรอ�าเภอ แมว่ าง ๓) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลบา้ นกาด ๔) กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ๕) ตลาดเพ่อื คนรกั สขุ ภาพ จริงใจมาร์เก็ต โรงพยาบาลสันป่ าตอง ๖) ส�านักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ๗) มหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงใหม่ และ ๘) มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนแมว่ างเกษตรอนิ ทรยี ท์ ผี่ ลติ พชื ผกั ผลไมป้ ลอดสารพษิ ทา� จลุ นิ ทรยี ์ ทอ้ งถิน่ ป๋ ยุ หมัก นวตั กรรมการปลกู ขา้ วเสน้ เดยี ว การทา� การเกษตรเพ่ือลดตน้ ทนุ การผลติ การ ปลกู พชื ผกั สวนครวั มวั่ ๒) ตอ่ ยอดเป็นแหลง่ เรยี นรู้ภายในพ้ืนที่ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่วางเกษตรอินทรีย์บริหารจัดการโดยเกษตรกรที่มีความสนใจ ร่วมกัน สั่งสมความรู้ความเชี่ยวชาญ ประกอบกับมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสนับสนุนส่งเสริม จนกลมุ่ มคี วามเขม้ แขง็ ยงั่ ยนื พ่งึ พาตนเองได้ จนสามารถเผยแพรค่ วามรดู้ า้ นการเกษตร เพ่อื เป็น แนวทางให้เกษตรกรหรือบุคคลทัว่ ไปทสี่ นใจ ๘๒ | ปบ ผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ เครอื ขา่ ยเกษตรปลอดสารพิษ ดอยแมว่ าง พน้ื ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลบา้ นกาด อาํ เภอแมว าง จงั หวดั เชยี งใหม วิทยากร: นายแดง พลอยแดง ตําแหนง: ประธานเครือขายเกษตรปลอดสารพิษดอยแมวาง เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๖๓๒-๘๑๙๗ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี ต�าบลบา้ นกาดมีครัวเรือนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมร้อยละ ๘๑.๙๘ แบง่ เป็นท�านา ร้อยละ ๒๒.๓๒ ทา� ไร่ร้อยละ ๑.๗๒ ทา� สวนร้อยละ ๕๔.๕๑ เลยี้ งสตั วร์ ้อยละ ๓ ครวั เรือนทมี่ ี การใช้สารเคมีคิดเป็นร้อยละ ๖๗.๒๙ ครัวเรือนทีม่ ีการท�าเกษตรอินทรียแ์ ละลดปริมาณการใช้ สารเคมรี ้อยละ ๓๒.๗๑ กลุ่มเกษตรปลอดสารพิษดอยแม่วางเกิดจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรที่ตระหนักถึง ผลเสียจากการปนเป้ือนของสารเคมใี นพืชและอาหาร เน่ืองจากสง่ ผลกระทบตอ่ ภาวะสขุ ภาพของ ผบู้ รโิ ภค ตลอดจนปั ญหาของการผลติ พชื เชงิ เดยี่ วทตี่ อ้ งลงทนุ สงู แตไ่ ดผ้ ลตอบแทนตา เพราะถกู กดราคาจากพอ่ คา้ คนกลาง นอกจากนี้ยังเป็ นการน้อมน�าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มาปรับใช้ ๘๓ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ |

๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ปี ๒๕๔๗ อาจารยโ์ ฆษิต สุขีตาวธุ เป็นผนู้ �าแนวคิดการปลูกผักปลอดภัย และเรมิ่ จดั ตงั้ เป็นกลมุ่ เกษตรกรผูป้ ลูกผกั ปลอดสารพิษข้ึนมา ภายใตแ้ นวคดิ “ปลกู ได้ ขายเป็น และปลอดภัย ทงั้ คนปลกู คนกนิ ” โดยมสี มาชกิ จาก ๒ สว่ น คอื เกษตรกรบา้ นกวิ่ แลป่ าเป้า หมทู่ ี่ ๓ ตา� บลบา้ นกาด และเกษตรกรพ้นื ทสี่ งู บา้ นแมส่ ะป๊ อก ต�าบลแมว่ ิน เกษตรกรพ้ืนทสี่ ูงบา้ นหนองเตา่ ต�าบลแมว่ นิ ในระยะแรกสมาชิกกลุ่มเขา้ รับการอบรมจากส�านักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ ลงมือท�าจนเป็นรูปธรรม โดยผนวกองค์ความรู้ใหม่กับภูมิปั ญญาท้องถิ่น และส่งผักเข้าไป ตรวจสอบการปนเป้ือน เพ่อื สรา้ งความมนั่ ใจแกผ่ บู้ รโิ ภค โดยตลอดระยะเวลาดา� เนนิ งาน มอี งคก์ ร ทัง้ ภาครัฐและเอกชนเขา้ มามีส่วนร่วมในการสนับสนุน เกิดจุดจ�าหนา่ ยผลผลิตของกลุ่มเกษตร ปลอดสารพษิ ดอยแมว่ างทงั้ ในพ้ืนทแี่ ละนอกพ้ืนที่ ตอ่ มาในปี ๒๕๕๓ กรมการคา้ ภายใน กระทรวงพานชิ ย์ ไดย้ กระดับจดุ จา� หนา่ ยผลผลติ ของกลมุ่ ให้เป็น Farm Outlet มสี มาชกิ กลุม่ เป็นผบู้ รหิ าร ดา� เนนิ งานดว้ ยตนเอง สามารถกระจาย ผักปลอดสารพิษถึงมอื ผูบ้ ริโภคทงั้ ในชมุ ชนและจงั หวัดเชียงใหมใ่ นราคาทยี่ อ่ มเยา ปั จจุบันกลุ่มยังคงยึดมั่นในแนวทางการผลิตผักปลอดสารพิษ และแปรรูปผลผลิตผัก ปลอดสารพษิ ทตี่ อบความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค มงุ่ หวงั ใหพ้ ้นื ทอี่ า� เภอแมว่ าง เป็นถนิ่ อาหารปลอดภยั ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) เพ่ือผลิตสินคา้ เกษตรที่ปลอดภัยออกจ�าหนา่ ย ๒) ลดอ�านาจการต่อรองของพอ่ คา้ คนกลาง และ ๓) นอ้ มน�าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดลุ ยเดช มาใช้ในการด�าเนนิ ชีวติ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ปลูกพชื ผักทสี่ ามารถเจรญิ ไดด้ ใี นสภาพอากาศทอ้ งถนิ่ เนน้ พชื ผกั พ้ืนบา้ น หมุนเวียน ตามฤดูกาล และร่วมกนั ผลิตป๋ ยุ หมกั นา สม้ ควันไม้ สารเร่งจากธรรมชาติ ๒) บริหารจดุ จา� หนา่ ยสนิ คา้ ในชมุ ชน และสง่ สนิ คา้ ไปยงั จดุ จ�าหนา่ ยในเมือง ๓) เผยแพร่ความรู้ให้แกผ่ ทู้ ีส่ นใจเขา้ มาดงู าน ๔) แปรรูปผลิตภณั ฑเ์ พ่อื การจา� หนา่ ย โดยเนน้ หลกั สะอาดและปลอดภยั ๘๔ | ปบผะหญา ลา นนาสรางสุขภาวะ

๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) เครอื ขา่ ยเกษตรปลอดสารพษิ ดอยแมว่ าง ๒๑ คน ทีร่ วมกันปลูกผักปลอดสาร ๒) ส�านักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และส�านักงานเกษตรอ�าเภอแมว่ าง ที่เขา้ มา สุม่ ตรวจคุณภาพผลผลติ วา่ ปลอดภยั จากสารพิษจรงิ ๓) กรมการค้าภายใน กระทรวงพานิชย์ ยกระดับจุดจ�าหน่ายผลผลิตของกลุ่มให้เป็น Farm Outlet ทีม่ ีความทันสมยั มีสมาชกิ กลุม่ เป็นผูบ้ ริหาร และด�าเนินงานดว้ ยตนเองอยา่ งยงั่ ยืน ๔) กรมส่งเสริมการเกษตร ยกระดับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่วางเกษตรอินทรีย์เป็น “ศนู ยเ์ รียนรู้การเพิม่ ประสทิ ธิภาพสินคา้ เกษตรประจ�าต�าบลบา้ นกาด” ๕) องค์การบริหารส่วนต�าบลบ้านกาดสนับสนุนพัฒนาศักยภาพและผลักดันให้เป็น แหลง่ เรียนรู้ส�าหรับคนในชมุ ชน และเครือขา่ ยนอกชมุ ชน ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกดิ กลมุ่ เกษตรปลอดสารพิษดอยแมว่ างทปี่ ลูกพชื ผักตามสภาพอากาศ ดิน นา ของ พ้นื ที่ เนน้ ผกั หมนุ เวียนตามฤดกู าล โดยผลติ ป๋ ยุ หมัก นา สม้ ควันไม้ ส�าหรับการเพาะปลกู ๒) จดั การตลาดรองรับสนิ คา้ โดยเฉพาะการขยายตลาดเขา้ ไปในเขตเมือง ๓) เผยแพร่ความร้ใู ห้แกผ่ ูส้ นใจเขา้ มาดูงาน โดยแบง่ การเรยี นร้อู อกเป็น ๕ ฐาน ไดแ้ ก่ การปลกู ผกั ตามฤดกู าล การทา� ป๋ ยุ หมกั เทคนคิ การกา� จดั ศตั รพู ชื โดยธรรมชาติ สนิ คา้ แปรรปู เพ่อื การจ�าหนา่ ย และการตลาด การกระจายสินคา้ ๔) แปรรูปผลิตภัณฑเ์ พ่อื การจา� หนา่ ย โดยเนน้ หลักสะอาดและปลอดภัย ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ทุกคนภายในกลุ่มเกษตรปลอดสารพิษดอยแมว่ างมีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรม มีการ ทบทวน วางแผนการผลิตร่วมกัน เพ่ือให้ได้ผลผลิตที่หลากหลาย และเหมาะสมกับตลาด ตลอดจนความช่วยเหลือจากหนว่ ยงานตา่ งๆ เช่น อบต.บา้ นกาด กรมการคา้ ภายใน สา� นกั งาน สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ เหลา่ นีเ้ ป็นองคป์ ระกอบทีท่ �าให้กลุม่ เกิดความเขม้ แข็ง พ่ึงพา ตนเองได้ ถ่ายทอดได้ ๘๕ปบ ผะหญา ลา นนาสรางสขุ ภาวะ |

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ที่ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกรแปรรูปผัก ผลไม้ เวียงกานต์ พน้ื ท:ี่ องคก ารบรหิ ารสว นตาํ บลเวยี งกานต อาํ เภอบา้ นโฮง จงั หวดั ลาํ พนู วิทยากร: นางกญั ญารัตน ไชยเดช ตําแหนง: คณะกรรมการวสิ าหกจิ ชมุ ชนกลุม เกษตรกรแปรรปู ผัก ผลไม้ เวยี งกานต เบอรโทรศัพท: ๐๕๓-๙๘๐-๕๖๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี พ้นื ที่ อบต.เวียงกานต์ มปี ระชากรทัง้ หมด ๕,๖๓๕ คน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ๙๓๗ คน พ้ืนทีท่ �ากินรวม ๙,๔๖๒ ไร่ พืชเศรษฐกจิ ส�าคัญ คือ ล�าไย มะมว่ ง หอมแดง และกระเทียม จาก การส�ารวจ พบวา่ มผี ูป้ ่ วยโรคเบาหวาน ๒๕๙ คน ผูป้ ่ วยโรคความดันหิตสงู ๖๑๔ คน ผูม้ ีหนีส้ นิ ๙๙๘ คน ซ่งึ ขอ้ มลู ตวั เลขทหี่ ยิบยกมา ลว้ นมสี าเหตุมาจากการทา� เกษตร ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ชาวบ้านต�าบลเวียงกานต์น�าผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูป เช่น ล�าไยอบเน้ือสีทอง กระเทยี มเจียว ทองมว้ นล�าไย ขนมหมอ้ แกงล�าไย ทาร์ตหมอ้ แกงลา� ไย ขนมชนั้ สมนุ ไพร ลา� ไยอบ ทผี่ า่ นกระบวนการ Freeze Dried Technology โดยมี วสิ าหกจิ ชุมชนกลมุ่ เกษตรกรแปรรปู ผัก ผลไม้ เวียงกานต์ และกลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชนพัฒนาผลติ ภัณฑพ์ ชื ผกั สมนุ ไพรและผลไมบ้ า้ นป่ าป่ วย ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ กลุ่มเกษตรกรแปรรูปผัก ผลไม้ เวียงกานต์ ข้ึนทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เพ่ือน�าผลผลิต เขา้ สกู่ ระบวนการแปรรปู เพมิ่ มลู คา่ เกดิ ความเขม้ แขง็ จนสามารถตอ่ ยอดเป็นแหลง่ เรยี นรทู้ สี่ า� คญั ของประชาชนในพ้ืนที่และนอกพ้ืนที่ นอกจากนี้ กลุ่มยังคิดค้น ศึกษาเพิ่มเติม เพ่ือสร้างสรรค์ ผลติ ภัณฑใ์ หมๆ่ ออกสตู่ ลาดอยเู่ สมอ ๘๖ | ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) เกษตรกร และชาวบา้ นในชมุ ชนรวมกลมุ่ กนั แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร เช่น แปรรปู หอมแดงเจยี ว หมอ้ แกงลา� ไย ทาร์ตหมอ้ แกงลา� ไย ทองมว้ นล�าไย กรอบเค็มล�าไย นาพริกนา ยอ้ ย ลา� ไย เพ่อื จ�าหนา่ ย สร้างรายไดใ้ ห้แกส่ มาชิก ๒) จดั ทา� แผนทที่ นุ และศกั ยภาพขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลเวยี งกานต์ เพ่อื ศกึ ษาขอ้ มลู ดา้ นการเกษตรและอาหารปลอดภยั จนคน้ พบกลมุ่ องคก์ รทสี่ า� คญั ในชมุ ชน ทสี่ ามารถดา� เนนิ ธรุ กจิ ของชมุ ชนอยา่ งเขม้ แขง็ สามารถตอ่ ยอดเป็นแหลง่ เรยี นรู้ เพ่อื ใหค้ นในพ้นื ทไี่ ดเ้ ขา้ มาดเู ป็นตวั อยา่ ง โดยทาง อบต.เวียงกานต์ จัดเวทีนโยบายสาธารณะด้านการพัฒนาระบบอาหารชุมชน และให้ ศนู ยบ์ รกิ ารและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจา� ต�าบลเขา้ มาเป็นกลไกขับเคล่ือน ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง อบต.เวียงกานต์ ศูนยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรระดับต�าบล ส�านักงานเกษตร อ�าเภอบ้านโฮ่ง ก�านัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการพัฒนาแผน สมาชิกสภา อบต.เวียงกานต์ ส�านักงานพาณิชย์จังหวัดล�าพูน เกษตรจังหวัดล�าพูน ส�านักงานพัฒนาชุมชนอ�าเภอบ้านโฮ่ง กลุ่มเกษตรอินทรียต์ �าบลบ้านโฮ่ง กลุ่มเกษตรอินทรียอ์ �าเภอบ้านโฮ่ง เครือขา่ ยเกษตรอินทรีย์ จังหวัดล�าพูน พัฒนาชุมชนอ�าเภอบา้ นโฮ่ง จังหวัดล�าพูน โรงเรียนบา้ นห้วยแพง่ โรงเรียนบา้ น ห้วยนา ดบิ รพ.สต.บา้ นห้วยแพง่ โรงพยาบาลบา้ นโฮ่ง โรงเรยี นผสู้ งู อายุ กองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพ ระดับทอ้ งถิน่ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกดิ กลมุ่ เกษตรกรแปรรปู ผกั ผลไม้ เวยี งกานต์ ทขี่ น้ึ ทะเบยี นเป็นวสิ าหกจิ ชมุ ชน สรา้ งสรรค์ นวัตกรรมการแปรรูปพืชผลทางการเกษตรออกสู่ท้องตลาด และต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ ผูท้ ีต่ อ้ งการเขา้ มาศกึ ษา ทัง้ จากในพ้นื ทีแ่ ละนอกพ้นื ที่ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั การมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น และนโยบายการสง่ เสรมิ การเกษตรปลอดภยั ทตี่ อ้ งการให้ ชมุ ชนมีอาหารทีป่ ลอดภัย สามารถสร้างรายได้ เป็นเศรษฐกิจชุมชนทีม่ คี วามยัง่ ยนื ๘๗ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ |



๔ ประเด็นการพัฒนา ระบบการดูแลผู้สูงอายุ โดยชุมชนท้องถ่ิน

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตําบล สองแคว (ออมวันละ ๑ บาท) พื้นท่ี: เทศบาลตําบลสองแคว อําเภอดอยหลอ จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายญาณเวทย ปญญาฟอง ตําแหนง: หัวหน้าฝายธุรการ เบอรโทรศัพท: ๐๘๘-๔๐๙-๒๖๖๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี ตา� บลสองแควตงั้ อยทู่ างทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของอา� เภอดอยหลอ่ ห่างจากอา� เภอเมอื ง จังหวัดเชยี งใหม่ ๓๖ กโิ ลเมตร ตามทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข ๑๐๘ มเี น้อื ทปี่ ระมาณ ๕,๘๑๘ ไร่ หรือ ๘.๕ ตารางกโิ ลเมตร สภาพพ้ืนทโี่ ดยทวั่ ไปเป็นทรี่ าบลมุ่ แมน่ าขาน และพ้ืนทีท่ างตอนใต้ ของต�าบลเป็นทีร่ าบลุ่มแมน่ าปิง ความทีแ่ มน่ าส�าคัญสองสายไหลมาบรรจบกัน จึงเป็นทมี่ าของ ช่ือต�าบลสองแคว ตา� บลสองแควมปี ระชากรทงั้ สิน้ ๔,๙๒๓ คน เป็นชาย ๒,๓๗๖ คน หญงิ ๒,๕๔๗ คน มี ความหนาแนน่ เฉลี่ย ๕๗๙ คนต่อตารางกิโลเมตร ด้านสถานการณก์ ลุ่มประชากรผูส้ ูงอายุใน ตา� บลสองแคว พบวา่ มีผูเ้ ตรยี มความพร้อมเขา้ สูว่ ัยสงู อายุ (อายุ ๕๐ ปีข้นึ ไป) จา� นวน ๙๒๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๘.๗๕ และมีผสู้ งู อายุ (๖๐ ปีข้ึนไป) จ�านวน ๑,๐๘๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๒ ๙๐ | ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เน่อื งจากประชาชนในพ้นื ทีท่ �าเกษตร บางครงั้ ประสบอุทกภัย ไมไ่ ดผ้ ลผลิต สง่ ผลให้เกดิ ปั ญหาหนีส้ ินครัวเรอื น และจากการจัดทา� ขอ้ มูล TCNAP และ RECAP พบปั ญหาการออมในทงั้ ๘ หมบู่ า้ น ซง่ึ เช่อื มโยงไปถงึ ปั ญหาของผสู้ งู อายุ ผปู้ ่ วยตดิ บา้ นตดิ เตยี ง รวมถงึ ผเู้ ตรยี มความพรอ้ ม เขา้ สวู่ ยั สูงอายุ (อายุ ๕๐ปีข้ึนไป) เทศบาลต�าบลสองแควพยายามสร้างคุณภาพชีวิตที่ยัง่ ยืนให้แกป่ ระชากร ด้วยการสร้าง ชุมชนเก้ือกูล ทุกคนมีคุณคา่ เปิดพ้ืนที่ให้ทุกภาคส่วนเขา้ มามีส่วนร่วมสร้างสังคมแห่งจิตอาสา พร้อมกันนี้ยังใช้กระบวนการร่วมออมวันละ ๑ บาท ภายใต้แนวคิด “ต�าบลแห่งความมั่นคง ด้านคุณภาพชีวิต” เพ่ือน�ามาจัดสวัสดิการ ดูแลกันตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต ตลอดจนช่วยเหลือ ผูด้ อ้ ยโอกาส เดก็ สตรี ผสู้ ูงอายุ ผูพ้ ิการ ตามวาระโอกาส ขณะทบี่ ริการสาธารณะ มี อสม. บุคลากรจากโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตา� บล องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่น และส�านักงานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนุษยจ์ ังหวัด คอยให้การ ช่วยเหลือดูแล ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) สง่ เสรมิ ให้สมาชกิ ร้จู ักการออมเงิน เพ่อื แบง่ ปั นช่วยเหลือซ่งึ กันและกนั ๒) เพ่อื จัดสวสั ดิการแกส่ มาชกิ ตลอดชวี ติ ครอบคลมุ ทงั้ เกดิ แก่ เจ็บ ตาย ๓) เพ่อื ให้เกิดคณุ ธรรม ความสามัคคี มนี า ใจ ร่วมกนั แกไ้ ขปั ญหา สร้างสัมพนั ธภาพทีด่ ี แกส่ มาชกิ ๔) เพ่อื ให้ชุมชนเขม้ แขง็ มอี งคก์ รทคี่ อยช่วยเหลอื เม่อื เกดิ ความเดอื ดร้อนหรอื จา� เป็น ๕) เป็นกองทุนทไี่ มแ่ สวงหาผลกา� ไร ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน การดา� เนนิ งานของเทศบาลตา� บลสองแคว แบง่ เป็น ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑) การออมเพ่อื สงั คมและชมุ ชน หมายถงึ การออมเพ่อื สวสั ดกิ ารรว่ มกนั คอื เขา้ เป็นสมาชกิ นา� สง่ เงนิ ออมวันละ ๑ บาท โดยจะไดร้ ับสวสั ดกิ าร เช่น สมาชิกให้ก�าเนิดบตุ ร ไดร้ บั เงินรบั ขวัญ เด็ก ๕๐๐ บาท ข้ึนบา้ นใหม่ (หลังแรกเทา่ นัน้ ) ไดร้ ับเงนิ ๕๐๐ บาท สมาชิกทีเ่ รียนจบ ป.๖ ม.๓ ม.๖ และปริญญาตรี จะไดร้ บั เงนิ ๕๐๐ บาท สมาชิกเจ็บป่ วยนอนโรงพยาบาล ไดค้ า่ ชดเชยวนั ละ ๑๐๐ บาท ไมเ่ กนิ ๑๐ คืนตอ่ ปี สมาชิกเสยี ชวี ติ ไดร้ ับเงินช่วยเหลือ ๓,๐๐๐ บาท ๒) การออมบญุ หมายถงึ การบรจิ าคเขา้ กองบญุ โรงพยาบาล ๕ บาท โดยผทู้ เี่ ขา้ รบั บรกิ าร จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�าบลบา้ นสามหลัง ต้องบริจาคคนละ ๕ บาท เพ่ือหนุนเสริม กองทนุ สวัสดกิ ารชมุ ชน ๙๑ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ |

๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) ชมรมอาสาสมัครสาธารณสขุ ๒) ชมรมผสู้ ูงอายตุ �าบลสองแคว ๓) เทศบาลต�าบลสองแคว ๔) สภาเทศบาลตา� บลสองแคว ๕) ก�านนั ผใู้ หญบ่ า้ น ๖) โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพต�าบลบา้ นสามหลัง ๗) กลุม่ แมบ่ า้ นต�าบลสองแคว ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ปั จจบุ นั กองทนุ สวสั ดิการชุมชน (ออมวันละ ๑ บาท) มีสมาชกิ ๑,๘๐๘ คน มเี งินฝากใน บัญชี ทั้งหมด ๘๒๙,๐๙๑.๔๙ บาท และเงินลงทุนอีก ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๑,๘๒๙,๐๙๑.๔๙ บาท รายรบั โดยเฉลยี่ อยทู่ ี่ ๔๐,๐๐๐ บาทตอ่ เดอื น และมกี ารเบิกสวสั ดกิ าร โดยเฉลยี่ ๑๘,๐๐๐ บาทตอ่ เดือน นอกจากเงินออมวันละ ๑ บาทแลว้ ยังมีงบประมาณจาก พมจ.เขา้ มาช่วยเหลือ น�ามาใช้ ปรบั ปรุงบา้ นให้ผูส้ ูงอายุ จ�านวน ๗ ราย สว่ นอกี ๒ ราย ใช้งบประมาณจากกองทนุ ฯ รวมเป็นเงิน ๙๐,๐๐๐ บาท และยังใช้เงินกองทุนฯ ในการช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยนาทว่ ม จัดงานรดนาด�าหัว งานวนั เดก็ และออกเยีย่ มผปู้ ่ วยในหมบู่ า้ น กองทนุ ฯ ช่วยให้ชมุ ชนเขม้ แข็ง ช่วยเหลือเก้อื กลู ซ่ึงกันและกัน สง่ เสรมิ ความสัมพันธอ์ ันดี ระหวา่ งสมาชกิ ในชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวติ ทัง้ ดา้ นสังคม เกดิ สังคมทไี่ มท่ อดทิง้ กัน เอ้อื เฟ้ือ เผ่ือแผแ่ กผ่ ูท้ ีด่ อ้ ยโอกาสกวา่ ในชุมชน ดา้ นเศรษฐกิจ ปลูกฝั งให้ประชาชนในชุมชนมีความร้แู ละ รักการออม ร้จู กั ความพอเพยี ง กองทุนฯ นีย้ งั เช่อื มโยงไปยงั กองบุญโรงพยาบาล ๕ บาท ทผี่ า่ นมาไดน้ า� เงินจากกองบุญ ดงั กลา่ วไปพฒั นาชมุ ชน ๒ ครงั้ ครงั้ แรกนา� ไปจดั ซ้ือหมอ้ หงุ ขา้ วไฟฟ้ า ขนาด ๗ ลติ ร ราคา ๓,๐๐๐ บาท เพ่ือให้นักเรียนโรงเรียนเทศบาลต�าบลสองแควได้ใช้ เน่ืองจากเคร่ืองเดิมช�ารุด และยัง ไมส่ ามารถหาแหล่งทุนไหนมาจัดซ้ือทดแทนได้ ครัง้ ทีส่ อง น�าไปใช้ปรับปรุงห้องนาแบบนัง่ ยอง ให้เป็นชักโครกแบบตักราด จ�านวน ๙ หลังคาเรือน ใช้เงินไปทัง้ สิ้น ๙,๔๕๐ บาท โดยมีช่าง จิตอาสาเป็นผูด้ า� เนินการ ๘. ปัจจยั เงือ่ นไขที่สา� คัญ ๑) การสร้างความร่วมมือและแนวทางให้เป็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั ทกุ คนตอ้ งเขา้ ใจและ ให้ความร่วมมือในการทา� งาน และสร้างจิตสา� นึกรกั ชมุ ชน ทุกคนเป็นเจ้าของชมุ ชนร่วมกนั ๒) การเช่อื มโยงเครือขา่ ยในระดบั องคก์ ร ตอ้ งเกดิ ข้ึนเพ่ือเป้ าหมายเดยี วกนั ๙๒ | ปบผะหญา ลานนาสรา งสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ โรงเรียนผู้สูงอายุตําบลแม่ข่า (สูงวัย สร้างเมือง) พื้นท่ี: เทศบาลตําบลแมขา อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายสายันต ปญโญ ตําแหนง: ที่ปรึกษาองคกรผู้สูงอายุตําบลแมขา เบอรโทรศัพท: ๐๘๔-๐๔๗-๐๕๙๐ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพนื้ ท่ี พ้ืนทีเ่ ทศบาลต�าบลแมข่ า่ มีประชากรทัง้ หมด ๗,๖๓๕ คน เป็นชาย ๓,๗๑๘ คน หญิง ๓,๙๑๗ คน ในจ�านวนนมี้ ปี ระชากรผสู้ ูงอายุ ๑,๓๒๓ คน สดั สว่ นผูส้ ูงอายุตอ่ ประชากรทัง้ หมด คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๓ แบง่ ผสู้ งู อายุตามช่วงอายุไดด้ งั นี้ กลุม่ อายุ ๕๐-๕๙ ปี ๗๕๐ คน กลุม่ อายุ ๖๐-๖๔ ปี ๑๒๘ คน กลมุ่ อายุ ๖๕-๖๙ ปี ๑๕๕ คน กลมุ่ อายุ ๗๐-๗๙ ปี ๑๗๘ คน และ กลุม่ อายุ ๘๐ ปีข้ึนไป ๑๑๒ คน นอกจากนีย้ ังมีผูส้ งู อายุทีเ่ ป็นผพู้ ิการ ๔๕๔ คน ผสู้ ูงอายทุ ตี่ ิดบุหรี่ ๖๒๑ คน ผสู้ งู อายุ ตดิ สรุ า ๑๒๖ คน และมีนักเรียนโรงเรียนผูส้ งู อายุ ๑๔๘ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ต�าบลแมข่ า่ มีชมรมผสู้ ูงอายุทุกหมูบ่ า้ น จ�านวน ๑๓ ชมรม มีการประชุมหารือร่วมกับ เทศบาลตา� บลแมข่ า่ ทกุ ๓ เดอื น ตอ่ มาผูส้ งู อายรุ วมตวั กนั จดั ตงั้ กลุม่ ช่อื วา่ “องคก์ รผูส้ งู อายตุ า� บล แมข่ า่ ” มี นายสม กันทาซาว เป็นประธานคนแรก ร่วมกันขับเคล่ือนงานผูส้ ูงอายุอยา่ งต่อเน่ือง กระทั่งเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ได้ตกลงกันจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุสัญจรข้ึน โดยทดลองจัด กจิ กรรมแรก ณ วดั ห้วยโจ้ ตา� บลแมข่ า่ ปรากฏวา่ มผี สู้ งู อายเุ ขา้ รว่ มจา� นวนมาก ในงานนมี้ วี ทิ ยากร จาก รพ.สต.แมข่ า่ กศน.ตา� บลแมข่ า่ อาสาสมคั รดูแลผูส้ ูงอายุ และชาวตา่ งชาตมิ าร่วมสอนภาษา ทั้งหมดเป็นจิตอาสา ทั้งยังมีผู้ใจบุญเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารว่าง เม่ือเห็นว่าไมต่ ้องใช้ งบประมาณ จงึ เริม่ จัดตงั้ โรงเรียนผูส้ งู อายเุ ตม็ รูปแบบ เนน้ สง่ เสริมการเรยี นร้ตู ลอดชีวิต ๙๓ปบผะหญา ลา นนาสรา งสุขภาวะ |

๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสูงวัยสร้างเมือง ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมแบบ บูรณาการ “ร่วมคิด ร่วมท�า ร่วมสร้าง” เพ่ือให้ผูส้ ูงอายุมีความสุข มีทักษะเพิ่มเติมในการดูแล ตนเอง และมคี ณุ ภาพชวี ิตทดี่ ีข้นึ ๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) ประชมุ วางแผนกา� หนดหลกั สตู รกบั คณะทา� งาน โดยถอดบทเรยี นจากการเรยี นการสอน ทีผ่ า่ นมา เพ่ือปรับปรุงแกไ้ ขหลักสูตรให้สอดคลอ้ งกับความต้องการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียน ผูส้ ูงอายุ และสอดคลอ้ งกับการพฒั นาหลกั สูตรผูส้ ูงอายุตามมาตรฐาน ๒) จัดท�าหลักสูตรโรงเรียนผู้สูงอายุ สูงวัยสร้างเมือง ก�าหนดให้มีการเรียนการสอน เดอื นละ ๒ ครงั้ ครงั้ แรกเนน้ ศกึ ษาตามแหลง่ เรยี นรใู้ นตา� บลแมข่ า่ และครงั้ ทสี่ อง สอนตามหลกั สตู ร สงู วัยสร้างเมือง โดยคณะครูโรงเรยี นบา้ นหลา่ ยฝาง เจ้าหนา้ ทจี่ าก รพ.สต. กศน. คณะสงฆ์ และ ปราชญช์ าวบา้ น ผลัดเปลยี่ นหมุนเวียนกันมาเป็นวทิ ยากร ๓) นักเรียนที่จบหลักสูตรสามารถรวมกันจัดตัง้ เป็นกล่มุ อาชีพ เช่น กลุ่มผลิตสมุนไพร ลกู ประคบ นามนั เหลอื ง ยาดมฯ และพฒั นาเป็นแหลง่ เรียนร้สู า� หรับคนทสี่ นใจ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ชมรมผูส้ ูงอายุต�าบลแมข่ า่ ขอรับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสขุ ภาพระดับทอ้ งถิน่ ในการทา� กจิ กรรมอบรมให้ความร้ผู ูส้ งู อายุ และร่วมจัดตัง้ เป็นโรงเรยี นผูส้ งู อายุ คณะครจู ากโรงเรยี นบา้ นหลา่ ยฝางถอดบทเรยี น เพ่อื จดั ทา� หลกั สตู รโรงเรยี นผสู้ งู อายุ ผา่ น ประสบการณจ์ ากวทิ ยากรทมี่ าจากหลายหนว่ ยงาน เช่น รพ.สต. กศน. คณะสงฆ์ และปราชญช์ มุ ชน กองทนุ สวัสดิการชมุ ชน ศูนยเ์ รยี นรู้ผสู้ งู อายุ คอยเป็นสว่ นสนบั สนุนการดูแลคุณภาพชีวิต ของผสู้ งู อายุ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ผู้สูงอายุรวมตัวท�ากิจกรรม เกิดการพัฒนาทักษะทั้งทางร่างกาย จิตใจ และได้ความรู้ ทีจ่ �าเป็นต่อการด�ารงชีวิต นอกจากน้ยี ังมีการต่อยอดเร่ืองอาชีพ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เห็นคณุ คา่ ของตนเอง ห่างไกลจากภาวะซึมเศร้า ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทสี่ า� คญั ๑) การประสานผูใ้ หญใ่ จดที ีช่ ่วยสนับสนนุ อาหารกลางวัน ทมี ครผู ูส้ อนจาก กศน.ตา� บล แมข่ า่ รพ.สต.แมข่ า่ และแหลง่ เรียนรู้ในตา� บลแมข่ า่ ๒) ศึกษาและส�ารวจความตอ้ งการเรยี นรู้ เพ่อื พฒั นาหลักสูตร โดยมโี รงเรียนบา้ นหลา่ ย ฝาง ร่วมกบั คณะผสู้ อน ๓) ตอ่ ยอดสูก่ ารจดั ตงั้ เป็นกลุม่ อาชีพ ๙๔ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพนื้ ท่ี จิตอาสา ๕ บาท เพื่อนช่วยเพ่ือน พื้นที่: เทศบาลตําบลแมขา อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายกรกษิณ สามะนนถี ตําแหนง: นักวิชาการโครงการ เบอรโทรศัพท: ๐๘๖-๔๕๑-๙๒๙๒ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี พ้ืนทีเ่ ทศบาลต�าบลแมข่ า่ มีประชากรทัง้ หมด ๗,๖๓๕ คน เป็นชาย ๓,๗๑๘ คน หญิง ๓,๙๑๗ คน ในจา� นวนนมี้ ีประชากรผสู้ ูงอายุ ๑,๓๒๓ คน สัดสว่ นผูส้ ูงอายุตอ่ ประชากรทัง้ หมด คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๓ แบง่ จา� นวนผสู้ งู อายตุ ามช่วงอายไุ ดด้ ังนี้ กลมุ่ อายุ ๕๐-๕๙ ปี ๗๕๐ คน กลุม่ อายุ ๖๐-๖๔ ปี ๑๒๘ คน กลมุ่ อายุ ๖๕-๖๙ ปี ๑๕๕ คน กลมุ่ อายุ ๗๐-๗๙ ปี ๑๗๘ คน และกลุม่ อายุ ๘๐ ปีข้ึนไป ๑๑๒ คน นอกจากนีย้ ังมีผูส้ ูงอายุทีเ่ ป็นผูพ้ ิการ ๔๕๔ คน ผูส้ ูงอายุทีต่ ิดบุหรี่ ๖๒๑ คน ผูส้ ูงอายุ ติดสรุ า ๑๒๖ คน และมนี ักเรยี นโรงเรยี นผูส้ ูงอายุ ๑๔๘ คน สา� หรบั ผสู้ งู อายทุ มี่ กี ารพ่งึ พงิ แบง่ เป็นกลมุ่ ที่ ๑ เคล่อื นไหวไดบ้ า้ งและอาจมปี ั ญหาการกนิ หรอื การขบั ถ่าย แตไ่ มม่ ีภาวะสับสนทางสมอง จา� นวน ๒๑ คน กลมุ่ ที่ ๒ เหมอื นกลมุ่ ที่ ๑ แตม่ ี ภาวะสับสนทางสมอง จ�านวน ๑๘ คน กลมุ่ ที่ ๓ เคล่ือนไหวเองไมไ่ ด้ และอาจมีปั ญหาการกินหรอื การขบั ถ่าย หรอื มีอาการเจบ็ ป่ วยรุนแรง จ�านวน ๗ คน และกลมุ่ ที่ ๔ เหมือนกลมุ่ ที่ ๓ แตม่ อี าการ เจ็บป่ วยรนุ แรงหรืออยูใ่ นระยะสดุ ทา้ ยของชวี ติ จ�านวน ๕ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง กองทุนจิตอาสา ๕ บาท เกิดจากการระดมทุนของนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุและผู้มี จิตอาสา โดยรับบริจาคเงิน และส่ิงของจ�าเป็นส�าหรับผู้ป่ วยติดเตียง ตั้งเป็นกองทุนจิตอาสา มอี งคก์ รผสู้ งู อายุ ร่วมกบั อาสาสมคั รดูแลผสู้ ูงอายุ (อผส.) เป็นแกนน�า โดย อุมาพร พวันนา เป็น ประธานกองทุนฯ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ ๑) สร้างกลุม่ จติ อาสาในชมุ ชน เพ่อื ให้ช่วยเหลอื กันและกันภายในต�าบล ๒) สร้างกองทุนเพ่อื เป็นเคร่อื งมอื ในการช่วยเหลือดแู ลผสู้ ูงอายุและผปู้ ่ วยติดเตยี ง ๙๕ปบ ผะหญา ลานนาสรา งสุขภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) สา� รวจขอ้ มลู ผปู้ ่ วยติดเตียง แลว้ จดั ระดบั ดว้ ยการแบง่ ออกเป็น ๓ สี สแี ดง หมายถงึ ตอ้ งช่วยเหลือเร่งดว่ น สี เหลอื ง หมายถึง ช่วยเหลอื และสนบั สนนุ ทางการแพทย์ สีเขียว หมายถงึ ช่วยเหลอื ตามอาการปกติ นับเป็นภารกจิ ทีท่ กุ ภาคสว่ นร่วมมือร่วมใจกนั ๒) กลมุ่ แกนนา� จติ อาสาประสานกา� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ให้ช่วยประชาสมั พนั ธก์ ารระดมทนุ และ จดั ตัง้ กองทุน โดยมคี ณะนักเรียนโรงเรียนผูส้ งู อายบุ ริจาคคนละ ๕ บาท รวมถงึ จดั วางตูบ้ ริจาค แล้วน�าเงินจ�านวนนี้ไปซ้ือของออกเยี่ยมผูส้ ูงอายุติดเตียง ผู้พิการ ในวันที่โรงเรียนผู้สูงอายุจัด การเรยี นการสอน ๓) แกนนา� ประสานคณะท�างานจาก รพ.สต. อผส. และผนู้ �าชุมชน ร่วมออกเยีย่ ม โดยจัด ตารางออกเยยี่ มตามแบบสา� รวจ นอกจากไปมอบสงิ่ ของเคร่อื งใช้ทจี่ า� เป็นแลว้ เจา้ หนา้ ทยี่ งั แนะนา� การดแู ลผปู้ ่ วยให้แกญ่ าตดิ ว้ ย ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๑) เทศบาลตา� บลแมข่ า่ ท�าหนา้ ทปี่ ระสานงานแหลง่ ทนุ เกบ็ ขอ้ มูล ๒) ผนู้ า� ชุมชน ทหาร เยาวชน ระดมพลังแหลง่ ทุนในชมุ ชน ๓) นกั พฒั นาชุมชน จัดกจิ กรรมระดมทนุ ผา่ นส่อื ออนไลน์ และบรหิ ารจดั การกองทนุ ๔) ชมรมผสู้ ูงอายุ ร่วมออกเยยี่ มให้กา� ลงั ใจกัน ๕) องคก์ รผูส้ งู อายุ จัดกจิ กรรมจิตอาสา ๕ บาท เพ่อื นช่วยเพ่อื น ๖) อผส. ท�าหนา้ ทสี่ า� รวจและจัดเกบ็ ขอ้ มูล ๗) รพ.สต. ทา� หนา้ ทสี่ ง่ ตอ่ ขอ้ มลู สุขภาพและตรวจรกั ษาตามอาการ ๗. ผลการดา� เนนิ งาน ๑) เกดิ กลมุ่ จติ อาสากลมุ่ แรกทที่ า� กจิ กรรมเพ่อื ชมุ ชน ทา� ให้ชมุ ชนเหน็ ความสา� คญั ของการ เก้อื กูลกนั ๒) ผูน้ า� ชุมชน จิตอาสา ตลอดจนบุคลากรจากหลายภาคสว่ น เขา้ มาร่วมกนั ท�างาน สร้าง ชุมชนทชี่ ่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั ๓) เกดิ กองทนุ จติ อาสา ๕ บาท เพ่ือนช่วยเพ่อื น โดยนา� เงนิ มาจัดซ้ือเคร่อื งใช้ทีจ่ �าเป็นแก่ ผสู้ ูงอายุ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั การสร้างกระบวนการมีสว่ นร่วม และพัฒนาศกั ยภาพคณะทา� งาน เกิดกลุม่ จิตอาสาทเี่ ป็น กลไกขับเคล่ือน ประสานคนทัง้ ชุมชนเขา้ มาภายใต้กิจกรรมจิตอาสา สร้างก�าลังใจแกผ่ ูร้ ับ และ สร้างความสขุ แกผ่ ูใ้ ห้ ๙๖ | ปบ ผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ องค์กรผู้สูงอายุตําบลแม่ข่า (ชมรม) พื้นที่: เทศบาลตําบลแมขา อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายวิชัย อินตาโน ตําแหนง: ปลัดเทศบาลตําบลแมขา เบอรโทรศัพท: ๐๘๖-๔๒๘-๓๖๓๖ ๒. ขอ้ มลู พน้ื ฐานของพน้ื ท่ี พ้ืนทีเ่ ทศบาลต�าบลแมข่ า่ มีประชากรทัง้ หมด ๗,๖๓๕ คน เป็นชาย ๓,๗๑๘ คน หญิง ๓,๙๑๗ คน ในจ�านวนนมี้ ีประชากรผสู้ ูงอายุทงั้ หมด ๑,๓๒๓ คน สดั สว่ นผูส้ งู อายุตอ่ ประชากร ทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ ๑๗.๓ แบ่งจ�านวนผู้สูงอายุตามช่วงอายุได้ดังนี้ กลุ่มอายุ ๕๐-๕๙ ปี ๗๕๐ คน กลมุ่ อายุ ๖๐-๖๔ ปี ๑๒๘ คน กลุม่ อายุ ๖๕-๖๙ ปี ๑๕๕ คน กลุม่ อายุ ๗๐-๗๙ ปี ๑๗๘ คน และกลมุ่ อายุ ๘๐ ปีข้ึนไป ๑๑๒ คน ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ชมรมผูส้ ูงอายุต�าบลแมข่ า่ ไดร้ ับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับทอ้ งถิน่ โดยนา� มาจดั อบรมความร้แู กผ่ สู้ ูงอายุ จนเกิดแกนนา� ผูส้ งู อายุทเี่ ขม้ แข็ง สง่ ผลดีตอ่ ชมรมผูส้ งู อายุ ทงั้ ๑๓ หมูบ่ า้ น จากการหารือทุกภาคส่วน ปลัดเทศบาลต�าบลแมข่ า่ ได้เสนอให้ชมรมผูส้ ูงอายุระดมทุน ภายในคนละ ๑๐๐ บาท โดยจัดเวทีประชาคมทุกหมู่บ้านเพ่ือลงมติรับรอง ตั้งเป็นกองทุน จดทะเบยี นในนาม “องคก์ รผสู้ ูงอายุต�าบลแมข่ า่ ” เป็นองคก์ รสาธารณประโยชน์ และให้นกั พัฒนา ชมุ ชนเขา้ มาดา� เนนิ การ สนับสนนุ เร่อื งเอกสารราชการ ต่อมาเทศบาลต�าบลแมข่ า่ เขา้ ร่วมโครงการต�าบลสุขภาวะกับ สสส. ได้รับงบประมาณ มาตอ่ ยอดองคก์ รผสู้ งู อายตุ �าบลแมข่ า่ เกดิ เป็นแหลง่ เรียนร้สู า� หรับผทู้ ีส่ นใจ ๔. เปา หมาย วตั ถปุ ระสงค์ เนน้ สง่ เสริมการพัฒนาคุณภาพชวี ิตผสู้ ูงอายุ ผา่ นการท�างานอยา่ งบรู ณาการทุกภาคสว่ น เพ่ือสง่ เสรมิ อาชพี สวสั ดิการ การดูแลสุขภาพ โดยอาศยั แหลง่ ทุนในตา� บลเป็นกลไกขับเคล่อื น ๙๗ปบ ผะหญา ลานนาสรางสขุ ภาวะ |

๕. วธิ กี ารดา� เนนิ งาน ๑) เริม่ ต้นจากการจัดตัง้ ชมรมผูส้ ูงอายุ ๑๓ หมูบ่ า้ น ร่วมกันท�ากิจกรรมภายในหมูบ่ า้ น และยกระดบั สูก่ ารทา� กจิ กรรมร่วมกันทัง้ ต�าบล ๒) ประธานชมรมผู้สูงอายุทุกหมู่บ้าน ประชุมหารือการวางแผนและจัดกิจกรรมของ ผสู้ งู อายใุ นระดบั ตา� บล จากการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ พบปั ญหาดา้ นงบประมาณในการทา� กจิ กรรม จึงร่วมมือกับเทศบาลต�าบลแมข่ า่ จัดตัง้ เป็นองคก์ รผูส้ ูงอายุต�าบลแมข่ า่ เพ่ือระดมทุน และรับ งบประมาณจากหนว่ ยงานอ่ืน โดยประธานชมรมผูส้ ูงอายุต�าบลแมข่ า่ จัดท�าเอกสารร่างระเบียบ ว่าด้วยการจัดตัง้ องคก์ รผูส้ ูงอายุ ขณะที่เทศบาลต�าบลแมข่ า่ ท�าหนา้ ที่เป็นผูป้ ระสานงาน และ เก็บเอกสารการจดั ตงั้ องคก์ รฯ ๓) จัดกิจกรรมโรงเรียนผสู้ ูงอายตุ า� บลแมข่ า่ ข้นึ เป็นกิจกรรมทผี่ ูส้ ูงอายใุ นตา� บล ร่วมคดิ ร่วมทา� และรบั ผดิ ชอบ สะทอ้ นให้เหน็ ความสามารถในการบรหิ ารจัดการกลมุ่ องคก์ ร โดยไดร้ บั งบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น และ สสส. นอกจากน�ามา ขับเคล่ือนโรงเรียนผสู้ ูงอายุแล้ว ยังใช้จัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ และน�าไปดูแลผสู้ ูงอายุติดเตียง ท�าให้งานดา้ นผูส้ งู อายเุ กดิ ความโดดเดน่ ๖. ทนุ ทางสงั คมทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ๑) เทศบาลตา� บลแมข่ า่ ร่วมจัดเวทปี ระชาคมผูส้ ูงอายุ นา� ไปสูก่ ารจัดตัง้ องคก์ รผูส้ งู อายุ และยงั ประสานหนว่ ยงานอ่นื เช่น สสส. พมจ. เพ่อื ช่วยขบั เคล่อื นกจิ กรรมของผูส้ งู อายุ ๒) ชมรมผสู้ ูงอายุระดับหมบู่ า้ น และระดับต�าบล ร่วมกันขับเคล่ือนองคก์ รผูส้ ูงอายุ และ กจิ กรรมตา่ งๆ ลงมตปิ ระชาคมร่วมจัดตงั้ องคก์ รผสู้ ูงอายุ โดยขอให้เทศบาลต�าบลแมข่ า่ ประสาน ทา� ขอ้ มลู และเอกสารจดั ตงั้ ให้ พมจ. ๗. ผลการดา� เนนิ งาน เกิดชมรมผู้สูงอายุทุกหมูบ่ ้าน จ�านวน ๑๓ ชมรม และต่อยอดสู่องค์กรผู้สูงอายุต�าบล แมข่ า่ ซ่ึงเป็นองคก์ รสาธารณประโยชน์ ขบั เคล่อื นกิจกรรมของผูส้ งู อายรุ ะดบั ตา� บล เช่น โรงเรียน ผูส้ ูงอายุ กองทุนสวัสดิการ ศูนยเ์ รียนรู้ผูส้ ูงอายุ โดยร่วมกับหนว่ ยงานทุกภาคส่วนในพ้ืนที่ เช่น รพ.สต.แมข่ า่ กศน.แมข่ า่ คณะสงฆ์ ๘. ปจั จยั เงอ่ื นไขทส่ี า� คญั ๑) ดา้ นสงั คม ผสู้ งู อายรุ วมกลุม่ ทา� กิจกรรม สร้างสงั คมแห่งการเก้อื กลู ๒) ดา้ นสขุ ภาพ บูรณาการร่วมกับ รพ.สต. จดั อบรมความร้ดู า้ นสุขภาพแกผ่ ูส้ งู อายุ ๓) ดา้ นสภาวะแวดลอ้ ม มกี าร ปรับสภาพแวดล้อมส�าหรับการด�าเนินชีวิตของผูส้ ูงอายุให้ปลอดภัยข้ึน และ ๔) ด้านการเมือง องคก์ รผูส้ ูงอายุเป็นแบบอยา่ งการบริหารจัดการโดยผูส้ ูงอายุ มีรูปแบบทีช่ ัดเจน ท�างานร่วมกับ เทศบาล และหนว่ ยงานภาคี ๙๘ | ปบผะหญา ลานนาสรางสุขภาวะ

๑. ชอ่ื รปู ธรรมพน้ื ที่ ศูนย์รวมภูมิปัญญาท้องถ่ิน ตําบลแม่ปูคา พ้ืนที่: เทศบาลตําบลแมปูคา อําเภอสันกําแพง จังหวัดเชียงใหม วิทยากร: นายศรีทน กามะโน ตําแหนง: รองนายกเทศมนตรีตําบลแมปูคา ประธานศูนยรวมภูมิปญญาท้องถ่ินตําบลแมปูคา เบอรโทรศัพท: ๐๘๙-๙๕๐-๙๑๖๒ ๒. ขอ้ มลู พนื้ ฐานของพนื้ ท่ี จากการส�ารวจขอ้ มลู ชุมชนเบ้อื งตน้ ต�าบลแมป่ ูคา มี ๙ หมบู่ า้ น รวม ๒,๔๘๖ ครวั เรือน มีประชากรทั้งหมด ๕,๘๔๖ คน ในจ�านวนนี้มีผู้สูงอายุ ช่วงอายุตั้งแต่ ๖๐-๙๘ ปี ทั้งหมด ๑,๒๐๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐.๖๖ ของประชากรทัง้ หมด แบ่งเป็นชาย ๕๓๐ คน และหญิง ๖๗๘ คน และมีผสู้ งู อายทุ ีม่ คี วามพิการ ๑๙ คน (ขอ้ มูล TCNAP และ RECAP ปี ๒๕๖๐) เม่ือเปรียบเทียบกับข้อมูลในปี ๒๕๕๙ ที่ระบุว่ามีประชากรอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีข้ึนไป จา� นวน ๙๗๓ ราย คดิ เป็นร้อยละ ๑๖.๘๗ จะเห็นวา่ สดั สว่ นผูส้ งู อายุตอ่ ประชากรทงั้ หมดเพิม่ ข้ึน อยา่ งรวดเร็ว ๓. ทม่ี า ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง จากสถานการณ์ที่จ�านวนผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มข้ึนอยา่ งต่อเน่ือง พบปั ญหาตามมา ทงั้ เร่อื งรายไดไ้ มเ่ พียงพอ ขาดคนดูแล ปั ญหาสุขภาพทีเ่ กีย่ วกับโรคเร้อื รงั โรคซมึ เศร้า ตลอดจน สภาพแวดลอ้ มทีไ่ มเ่ อีอ้ อา� นวยตอ่ การด�าเนนิ ชีวติ ทางรัฐบาลมีนโยบายลดความเหล่ือมลา สร้างโอกาสในการเขา้ ถึงบริการของรัฐ และ เตรยี มความพร้อมเขา้ สสู่ งั คมผูส้ งู อายุ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ทีก่ �าหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาผูส้ ูงอายุให้มีความมัน่ คงทางเศรษฐกิจ และสังคม มคี ุณภาพ มคี ณุ คา่ ปรบั ตัวเทา่ ทันการเปลยี่ นแปลง ด้วยเหตุนี้ เทศบาลต�าบลแมป่ ูคา ซ่ึงมีภารกิจหลักตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ ในเร่อื งการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ คณุ ภาพชวี ติ ของผูส้ งู อายุ จงึ หากจิ กรรมและอาชพี เพ่อื ดแู ล กลมุ่ ผสู้ งู อายุ ๙๙ปบผะหญา ลา นนาสรา งสขุ ภาวะ |