Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือยาหยุดป่วย

Description: หนังสือยาหยุดป่วย

Search

Read the Text Version

ส่วนประกอบสำ�คญั กิน ดมื่ • พระพากุลเถระ เอตทัคคมหาสาวกผู้มีอาพาธนอ้ ย.............................5 - สร้างมหากศุ ลใหญใ่ นสมยั พระอโนมทสั สพี ทุ ธเจ้า...........................7 แล้ว - สรา้ งมหากุศลใหญใ่ นสมยั พระปทมุ ุตตรพทุ ธเจา้ ...........................1 1 ยอ้ นไปยุคพุทธกาล - สร้างมหากุศลใหญ่ในสมยั พระวิปสั สพี ุทธเจ้า................................1 5 - สรา้ งมหากศุ ลใหญใ่ นสมยั พระกสั สปพทุ ธเจ้า................................1 9 ณ3บัดนี้ - ได้เปน็ เอตทัคคะด้านมีอาพาธนอ้ ยในชาตสิ ุดท้าย สมัยพระสมณโคดมพทุ ธเจ้า..........................................................2 3 • อานสิ งส์จากการทำ�ใหพ้ ระภกิ ษหุ ายจากอาพาธ...............................3 3 • พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยาบาลภิกษอุ าพาธ ดว้ ยตัวพระองคเ์ อง...........................................................................4 8 • อานิสงส์การสร้างอาคารบุญรักษา ..................................................5 8 • คำ�อธษิ ฐานจติ ..................................................................................5 9 250 ml. 2

พระพากุลเถระ เอตทัคคมหาสาวกผมู้ ีอาพาธน้อย เรียบเรยี งจาก : อรรถกถา ขทุ ทกนกิ าย เถรคาถา ติกนิบาต : อรรถกถา อังคตุ ตรนกิ าย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี พระพากลุ เถระ ทา่ นเปน็ พระอรหนั ตผ์ เู้ ปน็ เลศิ ในดา้ น มีอาพาธน้อย หรือป่วยน้อย แต่กว่าท่านจะได้เป็นเลิศ ด้านนี้ ไมใ่ ช่เป็นเพราะผลบญุ ทท่ี �ำเพยี งแค่ชาตเิ ดยี ว หรอื ท�ำบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียว แต่ ท่านต้องบ�ำเพ็ญบุญอย่างตลอดต่อเนื่องยาวนานถึง หนง่ึ อสงไขยกับอีกแสนกัป โดยท�ำบุญไว้ในกาลสมัยของ พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้ามากถงึ 4 พระองคด์ ้วยกนั คือ... 45

สรา้ งมหากุศลใหญ่ ในสมัยพระอโนมทัสสีพุทธเจา้ ยอ้ นไปหนงึ่ อสงไขยกบั อกี แสนกปั ซง่ึ ตรงกบั สมยั ของ พระสัมมาสัมพุทธเจา้ พระนามวา่ อโนมทสั สี ในชาตนิ น้ั พระพากลุ เถระไดเ้ กดิ ในตระกลู พราหมณ์ แต่พอร�่ำเรียนพระเวทจบแล้ว ก็รู้สึกว่า ไม่ใช่หนทาง แห่งการหลุดพ้น จึงตัดสินใจออกบวชเป็นดาบสฤๅษี บ�ำเพ็ญเพียรจนได้อภิญญา 5 และสมาบัติ 8 จากนน้ั กเ็ สวยสขุ อยใู่ นฌาน จนกระทง่ั ไดท้ ราบขา่ วการตรสั รธู้ รรม ของพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า จึงได้ออกเดินทางไปเข้าเฝ้า ฟังธรรมจากพระองค์ ครั้นเมื่อฟังธรรมแล้วก็เกิด จติ เล่ือมใสตง้ั อยใู่ นพระรตั นตรยั และนบั จากนนั้ ทา่ นดาบส กม็ าฟงั ธรรม จากพระอโนมทสั สพี ุทธเจ้าอย่เู ปน็ ประจ�ำ 67

จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ท่านดาบสได้มาเข้าเฝ้า พระตถาคตตามปกติ แตว่ นั นน้ั เปน็ วันทพ่ี ระองคป์ ระชวร ดว้ ยโรคลมในพระอทุ ร (ทอ้ ง) ดาบสจงึ คดิ วา่ นเี่ ปน็ โอกาส ที่เราจะได้ท�ำบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้รีบไป เก็บสมุนไพรชนดิ ต่าง ๆ ที่เชิงเขา แล้วเอามาประกอบ เป็นยาถวายแด่พระเถระที่อุปัฏฐากพระศาสดา ครั้นเม่ือ พระศาสดาเสวยแล้ว โรคลมในพระอทุ รกส็ งบลง จากการกระท�ำในครั้งน้ันเอง ท่านดาบสได้ต้ังจิต อธษิ ฐานวา่ “ความผาสกุ อนั ใดทเ่ี กดิ แกพ่ ระตถาคต เพราะ ยาของข้าพเจ้านี้ ด้วยผลแห่งการถวายยานนั้ ขอความ เจ็บไขท้ างรา่ งกาย แมแ้ ตเ่ พียงเทา่ การถอนผม กจ็ งอย่ามี ในภพทข่ี า้ พเจ้าเกดิ เลย” ด้วยอานิสงส์ผลบุญนี้เอง หลังจากละโลกแล้ว ท่านดาบสก็ได้ไปเกิดในพรหมโลก และเวียนว่ายอยู่ใน เทวโลก และมนษุ ยโลก โดยไม่ไปทคุ ตภิ มู เิ ลย ยาวนานถึง หนง่ึ อสงไขย 89

สร้างมหากศุ ลใหญ่ ในสมัยพระปทมุ ตุ ตรพทุ ธเจ้า ในยุคของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า พระพากุลเถระได้ เกิดเป็นบุตรเศรษฐี ในพระนครหงสาวดี อยู่มาวันหนงึ่ บุตรเศรษฐีได้เดินทางเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเพ่ือฟัง พระธรรมเทศนา โดยยืนฟังอยู่ด้านท้ายของเหล่าพุทธ- บริษัทท้ังหลาย ซึ่งในขณะน้ัน ท่านก็ได้เห็นพระผู้มี พระภาคเจ้าทรงสถาปนาภิกษุรูปหนงึ่ ไว้ในต�ำแหน่งเป็น ผู้มีอาพาธน้อย จากเหตุการณ์น้ีเอง ได้กลายเป็นแรง บันดาลใจให้บุตรเศรษฐีปรารถนาที่จะอยู่ในต�ำแหน่ง เชน่ นนั้ บา้ งในกาลสมยั พระพทุ ธเจา้ พระองคใ์ ดพระองคห์ นง่ึ ในอนาคต 10 11

ด้วยเหตุนี้ บุตรเศรษฐีจึงสร้างมหากุศลใหญ่อย่าง ย่ิงยวด แล้วต้ังจิตอธิษฐานให้เป็นเลิศทางด้านเป็นผู้มี อาพาธน้อยด้วยจิตที่เล่ือมใส และนับจากนนั้ ตลอดชีวิต ของทา่ น ก็ได้สรา้ งบญุ กศุ ลจวบจนวาระสุดทา้ ย ด้วยอานิสงส์ผลบุญนี้เอง หลังจากละโลกแล้ว ท่าน ได้เวียนว่ายอยู่ในเทวโลก และมนุษยโลก ตลอดกาล ยาวนานหลายภพหลายชาติ 12 13

สร้างมหากศุ ลใหญ่ ในสมัยพระวิปสั สีพทุ ธเจ้า ในยุคของพระวิปัสสีพุทธเจ้า พระพากุลเถระได้เกิด ในตระกูลพราหมณ์ ณ กรุงพันธุมวดี ต่อมาได้ออกบวช เปน็ ดาบสฤๅษี และบ�ำเพ็ญเพียรจนไดฌ้ าน จนกระท่ังวันหนง่ึ ท่านได้ทราบข่าวการตรัสรู้ธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้ไปเข้าเฝ้าเพ่ือฟังธรรม แล้วเกิดจิตเล่ือมใส ท�ำให้ท่านถือเอาพระรัตนตรัยเป็น สรณะ อีกทั้งยังหม่ันมาฟังธรรมและคอยดูแลอุปัฏฐาก พระศาสดาตามโอกาสสมควร 14 15

กระท่ังวันหน่ึง ขณะที่ท่านดาบสฤๅษีมาเข้าเฝ้า พระศาสดานนั้ ได้สังเกตเห็นบรรดาเหล่าพระภิกษุล้วน นง่ั คลุมศีรษะ ท่านจึงได้ถามว่า “ท่านเจ้าข้า ภิกษุสงฆ์ เปน็ อะไร ? ” ภกิ ษทุ ัง้ หลายตอบว่า “เปน็ โรคดอกไม้พษิ ท่ี ศรี ษะ เพราะถกู ละอองเกสรดอกไม้ของตน้ ไมพ้ ิษทพ่ี ดั มา ตามลมจากป่าหิมพานต”์ เมื่อดาบสฟังดังน้ัน จึงคิดอยากจะเอาบุญกับภิกษุ ทั้งหลาย โดยช่วยให้ท่านหายป่วย จึงไปเก็บยาสมุนไพร ชนดิ ตา่ ง ๆ แลว้ เอามาประกอบเปน็ ยาถวาย และเมอ่ื ภกิ ษุ ทกุ รูปได้ฉนั ยาของดาบสแล้ว โรคทเ่ี ป็นอยู่ก็สงบทันที ด้วยอานิสงส์ผลบุญน้ี หลังจากละโลกแล้ว ท่านได้ ไปบังเกิดในพรหมโลก และเวียนว่ายอยู่ในเทวโลกและ มนษุ ยโลกตลอด 91 กัป 16 17

สรา้ งมหากุศลใหญ่ ในสมยั พระกัสสปพทุ ธเจา้ คร้นั ในยคุ ของพระกัสสปพทุ ธเจ้า พระพากลุ เถระได้ เกิดเป็นฆราวาสผ้คู รองเรอื น อาศัยอยู่ในกรุงพาราณสี วนั หนงึ่ ทา่ นได้พจิ ารณาดบู า้ นเรือนทีต่ ัวเองอาศยั อยู่ แล้วรู้สึกว่าเก่าทรุดโทรม จึงออกเดินทางไปยังชายแดน กับพวกช่างไม้ เพ่ือจัดหาวัสดุอุปกรณ์มาซ่อมแซมบ้าน ของตน แตร่ ะหวา่ งเดนิ ทางกไ็ ดพ้ บวดั ใหญ่ ซง่ึ เกา่ คร่�ำครา่ ปรกั หกั พงั เพราะขาดการบ�ำรงุ รกั ษา ทา่ นจงึ บอกกบั พวก ช่างไม้ท้ังหมดว่า ขอชะลอการซ่อมแซมบ้านของท่าน ไว้ก่อน โดยให้เอาวัสดุอุปกรณ์ท้ังหมดมาซ่อมแซมวัด และสร้างโรงอุโบสถ สร้างโรงฉัน โรงไฟ (ที่จงกรม) 18 19

เรือนไฟ กัปปยิ กุฏิ (เรือนพยาบาล) ท่ีพักกลางคืน ทีพ่ กั กลางวัน วจั จกฏุ ิ (สว้ ม) และท่ีส�ำคญั ยงั จัดตัง้ ยาใชแ้ ละ ยาฉนั ส�ำหรับภกิ ษสุ งฆ์ไวค้ รบถ้วนทกุ อยา่ ง ด้วยอานิสงส์ผลบุญตรงน้ีเอง หลังจากละโลกแล้ว ทา่ นไดเ้ วยี นวา่ ยอยใู่ นสองภพภมู ิ คอื เทวโลกและมนษุ ยโลก ตลอดระยะเวลาหนง่ึ พุทธนั ดร 20 21

ไดเ้ ป็นเอตทัคคะด้านมอี าพาธนอ้ ย ในชาตสิ ดุ ทา้ ย สมัยพระสมณโคดมพทุ ธเจา้ ในภัทรกัปน้ี พระพากุลเถระได้มาเกิดในตระกูล มหาเศรษฐี แห่งนครโกสัมพี ช่วงก่อนท่ีพระสมณโคดม- พทุ ธเจา้ จะอบุ ตั ขิ น้ึ และในระหวา่ งทท่ี า่ นถอื ปฏสิ นธอิ ยใู่ น ครรภม์ ารดา กท็ �ำใหต้ ระกลู ของทา่ นประสบลาภผลอนั เลศิ ถงึ ขนาดท�ำใหม้ ารดาของท่านคดิ วา่ ลกู ของเราคนนต้ี อ้ ง เปน็ เด็กมบี ุญญาธิการ และถา้ ลูกคนน้ีเปน็ ผ้ไู มม่ โี รคและ มอี ายยุ นื อยูไ่ ด้นานขนาดไหน กจ็ ะเปน็ ผบู้ ันดาลสมบตั ิให้ แกเ่ ราตลอดกาลยาวนานขนาดนน้ั เมอื่ คดิ ดงั น้ี จงึ เอาลกู ไปอาบนำ�้ ในแมน่ ำ�้ ยมนุ า เพราะ สมยั นน้ั ใคร ๆ กจ็ ะเอาเดก็ มาอาบนำ้� ในแมน่ ำ�้ สายนี้ เพราะ มีธรรมเนียมถือกนั วา่ ถ้าเอาเด็กลงอาบน�ำ้ ในแมน่ ำ้� น้ี จะ ท�ำให้เป็นผไู้ มม่ โี รคภัยไขเ้ จ็บ 22 23

ครน้ั เมอื่ พวกพเ่ี ลยี้ งพาพากลุ กมุ ารไปอาบนำ�้ กม็ ปี ลา ปกติภริยาเศรษฐีจะไม่ชอบท�ำปลา แต่วันนนั้ ด้วย ใหญต่ วั หนง่ึ ส�ำคญั วา่ ทารกเปน็ อาหาร จงึ กลนื ทารกเขา้ ไป บุญของทารกดลใจให้นางวางปลาไว้บนเขียง แล้วลงมือ ในท้อง ผ่าข้างหลังปลาด้วยตัวนางเอง ซ่ึงปกติแล้วจะต้องผ่าที่ แต่ด้วยบุญของทารกน้อยพากุละ ท�ำให้ทารกรู้สึก ทอ้ ง และทนั ใดนนั้ เอง นางกเ็ หน็ ทารกผวิ ดง่ั ทองอยใู่ นทอ้ ง ประหนึ่งเหมือนเข้าไปสู่ห้องนอนแล้วหลับไปเท่านั้น ปลา จงึ เกดิ ปตี ยิ นิ ดี เพราะตระกลู ของนางมสี มบตั มิ ากถงึ ตรงกนั ข้าม ดว้ ยเดชแห่งทารก ปลาทกี่ ลนื กนิ ทารกเข้าไป 80 โกฏิ แต่ไม่มบี ุตรผู้สืบสกุล กลับรู้สึกทรมานเหมือนกลืนภาชนะร้อนลงไป จึงท�ำให้ ด้วยเหตุนี้นางจึงอุ้มเด็กไปให้เศรษฐีผู้เป็นสามีดู ปลาผโู้ ชครา้ ยตวั นน้ั มกี �ำลงั วา่ ยตอ่ ไปได้ 30 โยชน์ แลว้ ไป ทา่ นเศรษฐกี ด็ ใี จใหค้ นตกี ลองประกาศขา่ วไปทว่ั พระนคร ตดิ อวนของชาวประมงเมอื งพาราณสี และเมอ่ื ชาวประมง ในทนั ที จากนน้ั ก็พากนั อุ้มทารกนอ้ ยไปยังพระราชส�ำนกั ได้น�ำปลาออกจากอวนแล้วปลาก็ตายทันที จึงท�ำให้ เพอ่ื กราบทลู พระราชาวา่ “ขอเดชะ...ขา้ พระพทุ ธเจา้ ไดพ้ บ ชาวประมงหาบปลาใสค่ านรอ้ งประกาศขายไปทวั่ เมอื งวา่ ทารกในท้องปลา ข้าพระพุทธเจ้าจะต้องท�ำประการใด” จะขายปลาตัวนดี้ ้วยราคาหนงึ่ พนั กหาปณะ พระราชาตรสั วา่ .. “ทารกอยใู่ นทอ้ งปลาไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ครั้นเมื่อชาวประมงหาบปลามาถึงประตูเรือนของ แปลว่าทารกนเ้ี ปน็ ผู้มีบญุ ดงั นนั้ ให้ท่านจงเลี้ยงไว้เถิด” เศรษฐตี ระกูลหนง่ึ ภริยาเศรษฐีเหน็ เขา้ ก็ถกู ใจ จงึ ถามวา่ จะขายเท่าไร ชาวประมงแทนท่ีจะตอบตามราคาที่ต้ังใจ 25 ไว้ กลบั ตอบไปวา่ ขายหนง่ึ กหาปณะ นางจงึ รบี ซอ้ื ไวท้ นั ที 24

จากน้ันข่าวน้ีก็ได้แพร่สะพัดออกไปถึงนครโกสัมพี ว่ามีตระกูลเศรษฐีตระกูลหน่ึงได้พบทารกในท้องปลา ท�ำให้มารดาเดิมของทารกทราบข่าว จึงไม่รอช้า รีบเดิน ทางไปเลา่ ความเปน็ มาและแสดงความเปน็ เจา้ ของทารกนนั้ ใหภ้ รยิ าเศรษฐเี มอื งพาราณสฟี งั แตไ่ มส่ ามารถตกลงกนั ได้ จึงพากันไปยังพระราชส�ำนักให้พระราชาเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งพระราชาก็ตัดสินให้ทั้ง 2 ฝ่าย รับเป็นผู้เล้ียงดู ทารกนอ้ ยนร้ี ว่ มกนั โดยใหช้ อ่ื วา่ พากลุ กมุ าร หมายความวา่ เตบิ โตขน้ึ เพราะ 2 ตระกูลเลี้ยงดู นับจากน้ัน ด้วยบุญของพากุลกุมารจึงท�ำให้ท้ัง 2 ตระกูล ประสบลาภยศเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งยวด และ ต่างไดส้ รา้ งปราสาทใหท้ ่านพากลุ ะไวใ้ น 2 พระนคร แล้ว บ�ำรงุ บ�ำเรอด้วยหญิงฟอ้ นร�ำ ซึ่งทา่ นพากลุ ะจะอย่นู ครละ 4 เดือน เมอื่ ครบ 4 เดอื น กจ็ ะนง่ั เรือเดนิ ทางกลับไปยังอกี นครหนง่ึ สลบั ไปมาอยา่ งน้ี 26 27

แมท้ า่ นพากลุ ะจะตอ้ งเดนิ ทางโดยทางเรอื กจ็ รงิ แตก่ ็ ไมล่ �ำบากประการใดเลย เพราะเรอื ทใ่ี ชเ้ ดนิ ทางนน้ั เปน็ เรอื ท่ที ัง้ 2 ตระกลู ให้ชา่ งสร้างขึ้นเป็นพิเศษโดยสรา้ งมณฑป อยา่ งดไี วใ้ นนน้ั อกี ทง้ั ยงั มหี ญงิ ฟอ้ นร�ำคอยบ�ำรงุ บ�ำเรอให้ ความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ด้วยเหตุน้ี จึงท�ำให้ ทา่ นพากลุ ะเสวยสขุ บนั เทงิ ในสมบตั ติ ลอดกาลยาวนานจน อายคุ รบ 80 ปีบริบรู ณ์ จากนน้ั ไมน่ าน ทา่ นพากลุ ะกไ็ ดท้ ราบขา่ วการตรสั รธู้ รรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซ่ึงพระองค์เสด็จจาริกมาถึง กรุงโกสัมพีพอดี ท่านพากุละจึงได้เดินทางไปเข้าเฝ้าโดย น�ำของหอมและมาลยั ไปสกั การะยงั ส�ำนกั พระศาสดา และ เมื่อท่านพากุละฟังธรรมจบก็เกิดศรัทธาออกบวชทันที และท�ำความเพียรอยู่แค่ 7 วัน พออรุณวันที่ 8 ก็บรรลุ อรหตั ผลพรอ้ มดว้ ยปฏิสมั ภทิ าในวัย 80 ปี 28 29

เมื่อท่านได้ส�ำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ได้เป็น แบบอยา่ งทดี่ แี กพ่ ทุ ธบรษิ ทั เพราะทา่ นเปน็ ผปู้ ฏบิ ตั เิ ครง่ ครดั ในธุดงค์ ข้อ “เนสัชชิกธุดงค์” คือ การสมาทานธุดงค์ ดว้ ยการอยใู่ นอริ ยิ าบถ 3 คอื ยนื เดนิ และนงั่ โดยไมน่ อนเลย และขอ้ “อรญั ญกิ ธุดงค์” คอื การสมาทานธุดงค์ดว้ ยการ อยู่ป่าเป็นวัตร โดยต้ังแต่บวชมา ท่านไม่เคยจ�ำพรรษา ในวัดเลย นอกจากนที้ ่านยังเป็นผู้ท่ีไม่มีโรคเบียดเบียน ไมเ่ คยตอ้ งใหห้ มอรกั ษาพยาบาล ไมเ่ คยฉนั ยาใด ๆ แมแ้ ต่ ผลสมออันเปน็ ยาสมุนไพรแม้เพียงผลเดียว เพราะว่าท่าน ไม่เคยป่วยเลย ทั้งน้ีเป็นเพราะอานิสงส์แห่งการท�ำให้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าพระภิกษุหายจากอาพาธ ด้วยการถวายยา การสร้างกัปปิยกุฏิ (เรือนพยาบาล) สร้างวัจจกุฏิ (ส้วม) และจัดตั้งยาใช้และยาฉนั ส�ำหรับ ภกิ ษสุ งฆไ์ ว้ครบถว้ นทุกอยา่ ง จากการประกอบเหตุไว้ในอดีตชาติเช่นน้ี จึงท�ำให้ ท่านมอี ายขุ ยั ยืนยาวถึง 160 ปี แล้วเข้าปรนิ พิ พาน 30 31

อานสิ งสจ์ ากการท�ำ ให้ พระภิกษหุ ายจากอาพาธ 1) ส่งผลให้พระพากุลเถระได้เป็นหนึ่งในผู้ส�ำเร็จ อภญิ ญาใหญ่ การทพ่ี ทุ ธสาวกของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระองคใ์ ด พระองค์หนงึ่ จะได้อภิญญาใหญ่ ต้องมีบุญบารมีท่ีส่ังสม มาอย่างเต็มเปี่ยม เพราะในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์หนงึ่ จะมีผู้ทส่ี �ำเรจ็ อภญิ ญาใหญไ่ ดเ้ พียง 4 ท่าน เท่านนั้ และพระสาวกท่ีเหลอื แมจ้ ะไดอ้ ภิญญา แต่ก็ไม่ เรียกวา่ ได้อภญิ ญาใหญ่ เพราะสามารถระลึกชาตยิ ้อนไป ได้เพียงแสนกัปเท่านน้ั แต่ท่านผู้บรรลุอภิญญาใหญ่ จะ สามารถระลกึ ชาตไิ ดถ้ งึ หนง่ึ อสงไขยกับอกี แสนกปั 32 33

มาในยุคพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ผู้ที่ส�ำเร็จ ทา่ นพบว่าไดม้ าถงึ เวลาแลว้ จึงด�ำริวา่ แมเ้ ราจะมีชวี ิตอยู่ อภญิ ญาใหญม่ เี พยี ง 4 ทา่ นเชน่ กนั คอื พระสารบี ตุ รเถระ ก็อย่าได้เป็นภาระแก่ภิกษุเหล่าอื่นเลย สรีระของเราแม้ พระมหาโมคคัลลานเถระ พระนางภัททากัจจานาเถรี ปรินิพพานแล้ว ก็อย่าให้ภิกษุสงฆ์ต้องเป็นกังวลเลย (พระนางยโสธราพมิ พา) และหนงึ่ ในนน้ั กค็ อื พระพากลุ เถระ จากนนั้ จึงเข้าเตโชธาตุปรนิ พิ พาน โดยปรากฏเปลวไฟลุก ข้ึนท่วมสรีระ ผิวหนัง เน้ือและโลหิตถูกเผาไหม้ส้ินไป 2) ส่งผลใหพ้ ระพากุลเถระไมเ่ คยอาพาธ เหมือนเนยใส ยังคงเหลืออยู่เพียงแต่ธาตุท่ีมีลักษณะ ชีวิตของพระพากุลเถระตลอด 160 ปี ไม่เคยป่วย ดังดอกมะลติ ูม หรอื อาพาธใด ๆ เลย แมเ้ พยี งจะใช้ 2 นว้ิ จบั กอ้ นของหอม สดู ดม เพราะมีอาการวิงเวียนกไ็ มเ่ คยเกดิ ขึ้น หรือแม้เกิด 4) สง่ ผลใหพ้ ระพากลุ เถระเป็นผู้มอี ายุขยั ยืนยาวกว่า อาพาธด้วยระยะเวลาสั้น ๆ เหมือนช่วงเวลารีดนมโค คา่ เฉล่ยี ของอายุมนุษย์ในยุคนนั้ เสรจ็ ก็ไมเ่ คย ดว้ ยเหตนุ ท้ี ่านจงึ ไม่เคยฉนั ยา แม้เพียงสมอ ในยคุ ทพี่ ระพากลุ เถระมาเกิด มนษุ ย์ในยุคนนั้ มอี ายุ ชิ้นหนงึ่ เฉลยี่ ที่ 100 ปี แตด่ ว้ ยบญุ ทพ่ี ระพากลุ เถระสงั่ สมมาดแี ลว้ ท�ำใหท้ า่ นมอี ายุยนื ยาวกวา่ มนุษยใ์ นยคุ นนั้ คอื 160 ปี ซง่ึ 3) สง่ ผลใหพ้ ระพากุลเถระปรนิ ิพพานด้วยวธิ พี เิ ศษ มากกวา่ มนุษยป์ กตทิ ว่ั ไป เน่ืองจากตลอดชีวิตของท่านไม่เคยอาพาธเลย แต่ ท่านรู้กาลปรินิพพานของท่านด้วยญาณทัสนะ และเมื่อ 35 34

5) ส่งผลให้พระพากลุ เถระ แม้จะอายุมากถึง 80 ปี แล้ว ก็ยังแข็งแรง สามารถออกบวชได้อย่างสะดวก งา่ ยดายโดยไมเ่ ป็นภาระแก่ใคร ปกตคิ นทั่วไปออกบวชตอนอายุ 80 ปี กจ็ ะเปน็ ภาระ ต่อผู้อ่ืนอย่างมาก เน่ืองด้วยสภาพร่างกายไม่แข็งแรงพอ อีกทั้งเวลาจะบ�ำเพ็ญสมณธรรมก็จะทุกข์ทรมาน เพราะ สงั ขารไมเ่ ออ้ื อ�ำนวย แตด่ ว้ ยบญุ ทพ่ี ระพากลุ เถระสงั่ สมมา ท�ำใหท้ ่านออกบวชไดแ้ มว้ ยั จะถึง 80 ปี อีกทง้ั ยงั สามารถ ปฏิบัติธรรมนงั่ สมาธิได้โดยไม่เจบ็ ไมป่ วด ไม่เมอื่ ย ตลอด ท้งั 80 พรรษา 36 37

6) สง่ ผลใหพ้ ระพากลุ เถระไม่ตอ้ งให้สามเณรมาคอย 7) สง่ ผลใหพ้ ระพากลุ เถระมสี ขุ ภาพดมี าก โดยไมต่ อ้ ง อุปัฏฐากเลย ใชต้ ัวชว่ ยในการบรรเทาความปวดเม่อื ยตามรา่ งกายเลย เป็นธรรมดาที่คนอายุมากย่อมต้องมีคนมาคอยดูแล โดยทั่วไปสังขารมนุษย์มักจะมีทุกขเวทนาจากการ หรือแม้แต่พระภิกษุเองเมื่ออายุมาก ก็ต้องมีสามเณรมา ปวดเมอ่ื ยตามร่างกาย และยง่ิ อายุมากขึน้ ก็จะหลกี เลย่ี ง คอยอุปัฏฐากดูแล แต่ด้วยบุญที่พระพากุลเถระส่ังสมมา อาการเช่นน้ีได้ยาก แต่ส�ำหรับพระพากุลเถระแล้ว แม้อายุมาก ท่านก็ยังคงความแข็งแรงช่วยเหลือตัวเอง ทา่ นไมม่ คี วามเมอ่ื ย ฉะนน้ั จงึ ไมต่ อ้ งใหใ้ ครมาบบี นวดเลย ได้ทุกอยา่ งทุกประการ อีกท้ังยังไม่ต้องอบตัวในเรือนไฟ หรือใช้จุณอาบน�้ำ (ผงขดั ตัว) เพราะมสี ุขภาพผวิ ทด่ี ีอย่แู ลว้ 38 39

8) สง่ ผลให้พระพากุลเถระ มคี วามอุดมสมบูรณ์ดว้ ย ปัจจยั 4 โดยไมม่ ีความขัดสนขาดแคลนใด ๆ เลย เช่น 8.1) เปน็ ผู้มจี วี รใช้สอยเหลอื เฟอื ท้งั ๆ ทใ่ี นสมัยนน้ั พระภิกษุต่างได้รับความล�ำบากมากในเร่ืองการหาจีวร มาใช้สอย เพราะต้องบังสกุ ลุ ผ้ามาชว่ ยกันตดั เยบ็ ยอ้ ม และกว่าจะได้แตล่ ะผนื ต้องเสยี เวลา เสยี ก�ำลงั คนไปมาก แต่ด้วยบุญท่ีพระพากุลเถระสั่งสมมา ท�ำให้ท่านไม่ต้อง เสียเวลาไปหา ไปตัด ไปเย็บ ไปย้อมจีวรแต่อย่างใด ด้วยเหตุน้ี จึงท�ำให้ท่านมีเวลาน่ังสมาธิปฏิบัติธรรม เจรญิ สมาบตั มิ ากกวา่ ภิกษุท่ัวไป การท่ีท่านมีจีวรใช้อย่างเหลือเฟือ เพราะบุญท่ี ส่ังสมมาบันดาลให้ท่านไปเกิดในตระกูลมหาเศรษฐี และมีพ่อแม่ที่มียศใหญ่ถึง 2 ตระกูล ซึ่งต่างมีหน้าท่ีท�ำ จวี รสง่ ไปถวายใหท้ า่ นใชส้ อย โดยคร่ึงเดือนแรก ตระกลู ของท่านท่ีอยู่เมืองโกสัมพีจะส่งไปถวายผืนหนึ่ง และ พอเวลาผ่านไปอีกครึ่งเดือน คนในตระกูลที่อยู่เมือง พาราณสกี ็จะท�ำจีวรอกี ผืนหนงึ่ ไปถวาย สลับกันไปถวาย 40 41

ทุกครึ่งเดือนไม่ขาดเลย อีกท้ังจีวรของท่านยังเป็นจีวรท่ี ประณตี ท�ำด้วยผ้าเน้ือละเอียด ซ่ึงเอามาย้อมแล้วใส่ใน ผอบส่งไปถวาย โดยจะวางไว้ให้ท่ปี ระตูหอ้ งนำ้� ในเวลาท่ี พระเถระสรงน้�ำเสร็จก็จะนุ่งห่มจีวรที่วางไว้ และท่านก็ บรจิ าคจวี รเก่าใหบ้ รรพชิตทั้งหลายไป 8.2) มีภตั ตาหารอุดมสมบูรณเ์ ลศิ รส แม้จะอยูใ่ นปา่ และไม่ไดร้ บั กจิ นิมนต์ พระพากลุ เถระ ท่านถอื ธดุ งค์อยปู่ ่าเป็นวตั ร จึงไมร่ ับ กิจนิมนต์ไปฉนั ในบ้านใครเลยตลอดชีวิต แม้เป็นอย่างน้ี ทา่ นกไ็ มล่ �ำบากดว้ ยขา้ วปลาอาหารใด ๆ เลย ตรงกนั ขา้ ม ด้วยบุญในตัวท่าน กลับท�ำให้ได้ภัตตาหารอันประณีต เลิศรส โดยไม่ต้องเสียเวลารับกิจนิมนต์แล้วดึงเวลา ปฏบิ ตั ิธรรมของท่านไป เพราะชาวเมอื งและคนในตระกูล 2 นครของท่าน ได้เตรียมอาหารเลิศรสแล้วพากันมา ใสบ่ าตรทา่ นอยา่ งเนอื งนติ ย์มไิ ดข้ าดเลย 42 43

9) ส่งผลให้พระพากุลเถระสามารถถือธุดงค์ข้อ “เนสชั ชกิ ธดุ งค”์ คอื นง่ั เปน็ วตั รอยา่ งอกุ ฤษฏไ์ ดต้ ลอดชวี ติ ปกติการท่ีคนทั่วไปจะถือธุดงค์ข้อน้ีได้ จะต้องมี สุขภาพร่างกายท่ีแข็งแรงมาก เพราะไม่สามารถนอน ไดเ้ ลย และทีน่ า่ ทึง่ คอื พระพากุลเถระไมเ่ คยเหยยี ดหลงั บนเตียง หรือ แม้แต่การเอนหลังพิงพนกั ตลอด 80 ปีที่ ท่านบวช จนกระทัง่ ปรนิ พิ พาน เนื่องจากพระพากุลเถระ มีสุขภาพดีเป็นเลิศ แม้ไม่ได้นอน สภาพร่างกายก็ยัง แข็งแรง ด้วยเหตุน้ีจึงท�ำให้ท่านได้เปรียบ คือ มีเวลา นง่ั สมาธปิ ฏบิ ตั ธิ รรมสง่ั สมความบรสิ ทุ ธห์ิ ยดุ นง่ิ ไดม้ ากกวา่ ภกิ ษุรูปอืน่ ๆ 44 45

10) ส่งผลให้พระพากุลเถระสามารถถือธุดงค์ข้อ “อรัญญิกธุดงค์” คือการอยู่ป่าเป็นวัตรอย่างอุกฤษฏ์ได้ ตลอดชีวิต การถอื ธุดงค์ขอ้ นก้ี ็เช่นกัน การจะอยูป่ ่าโดยไมอ่ าศัย อยใู่ นวดั เลย กจ็ ะตอ้ งโดนลม โดนฝน โดนแดด โดนสภาพ อากาศท่ีแปรปรวน ซ่ึงถ้าใครสุขภาพไม่ดี ก็จะอยู่ไม่ได้ แต่ส�ำหรับพระพากุลเถระแล้ว ท่านแข็งแรงมาก ไม่ว่าจะเผชิญกับสภาพแวดล้อมแบบไหน ด้วยเหตุน้ี จงึ ท�ำให้ท่านสามารถถือธดุ งคข์ ้อนเี้ ปน็ วัตรไดต้ ลอดชวี ิต 46 47

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความทุกข์เร่ืองการป่วยไข้ช่างท�ำให้มนุษย์ทรมานทั้งกาย ทรงพยาบาลภกิ ษอุ าพาธดว้ ยตัวพระองค์เอง และใจ หน�ำซ้�ำยังสร้างความเป็นกังวลเสียเหลือเกิน อีกท้ังการ ปว่ ยยงั เปน็ ภาระตอ่ คนรอบขา้ งอยา่ งไมจ่ บไมส่ น้ิ ซงึ่ ถา้ มคี นตงั้ ใจ “โย ภิกฺขเว มํ อปุ ฏฺเหยยฺ โส คลิ านํ อปุ ฏฺ เหยฺย” และเตม็ ใจดูแลก็ดีไป แตจ่ ะรู้ได้อยา่ งไรว่า เรามบี ญุ มากพอทจ่ี ะ ผ้ใู ดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต มคี นมาคอยดแู ลเราจวบจนวาระสดุ ทา้ ยหรอื ไม่ ในเมอ่ื ปจั จบุ นั ยงั ผนู้ น้ั พึงอุปฏั ฐากภกิ ษุปว่ ยไขเ้ ถดิ มีลกู หลายคนทอดท้งิ พอ่ แมย่ ามปว่ ยไข้ได้ลงคอเลย!!! (วิ.ม. (บาล)ี 5/166/227) ในเมอ่ื ความจรงิ ของชวี ติ เปน็ อยา่ งนี้ เรามาคดิ กนั ดกี วา่ วา่ จะ รับมือกับสถานการณ์การเจ็บไขไ้ ด้ปว่ ยของตวั เองกันอยา่ งไร? ขณะทค่ี ณุ ก�ำลงั อา่ นประโยคนี้ มคี นปว่ ยบนโลกนจ้ี �ำนวนมาก จากพุทธพจน์ท่ีว่า “ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ” ก�ำลังไดร้ บั ความทุกข์ทรมานแสนสาหสั กบั โรคร้ายท่เี กิดขึน้ และ หว่านพชื เช่นใด ยอ่ มได้ผลเชน่ นน้ั (ส.ํ ส. (บาล)ี 15/903/333) ทนี่ ่าสังเวชใจไปกว่านนั้ หลายคนเป็นโรคร้ายท่รี กั ษาไม่ได้ตงั้ แต่ ดังนนั้ หากเราไม่อยากป่วย ไม่อยากทรมาน ไม่อยากเป็น อายยุ งั นอ้ ย ดว้ ยเหตนุ จ้ี งึ มคี �ำร�ำพงึ ตดั พอ้ ใหเ้ ราไดย้ นิ บอ่ ยครงั้ วา่ .. ผู้ป่วยที่ถูกทอดทิ้ง เราก็ต้องสร้างเหตุโดยการขวนขวายท�ำบุญ “ไมอ่ ยากเปน็ คนป่วยทีท่ �ำอะไรไมไ่ ด้ นอกจากรอคอยความตาย ด้านน้ีให้แก่ตัวเองไว้มาก ๆ เพราะการดูแลพระภิกษุผู้ป่วยไข้ อยา่ งเดียว” ถือเป็นบุญที่ส�ำคัญมาก ถึงขนาดพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรง แนน่ อน ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้ แตท่ กุ ชวี ิตไมอ่ าจรู้เลยวา่ ในอนาคตตัวเองจะตอ้ งป่วยเป็นโรคอะไร จะทรมานมากแคไ่ หน 49 หมอจะหาสาเหตขุ องโรคเจอไหม และทแ่ี ยท่ สี่ ดุ จะมเี งนิ เพยี งพอ เพอ่ื เป็นคา่ รกั ษาหรือไม่??? 48

พยาบาลภิกษุอาพาธด้วยพระองค์เอง ดังในครั้งท่ีภิกษุรูปหนง่ึ อาพาธดว้ ยโรคทอ้ งเสยี นอนจมปสั สาวะอจุ จาระอยู่ พอพระผมู้ -ี พระภาคเจ้าเสด็จผ่านมาทอดพระเนตรเห็น จึงตรัสเรียก พระอานนทใ์ หไ้ ปตกั นำ้� มา แลว้ พระองคก์ ท็ รงชว่ ยกบั พระอานนท์ เช็ดล้างท�ำความสะอาดภิกษุอาพาธรูปนั้นเป็นอย่างดี ดังนั้น การได้อุปฏั ฐากดูแลพระภิกษอุ าพาธถือเปน็ มหากศุ ลอนั ยิ่งใหญ่ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “โย ภิกฺขเว มํ อุปฏฺเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺเหยฺย” ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นน้ั พึงอุปฏั ฐากภิกษปุ ่วยไข้เถดิ (ว.ิ ม. (บาลี) 5/166/227) 50 51

“อาคารบุญรักษา” ซึ่งเป็นอาคารสูง 6 ช้ัน เพ่ือใช้เป็นที่ดูแล รักษาฟื้นฟูสุขภาพของพระภิกษุสามเณรแบบองค์รวม โดยได้ จัดสรรพ้นื ทไ่ี วจ้ �ำนวน 2 ชนั้ ใหเ้ ปน็ สถานทตี่ งั้ ของ “สหคลนิ กิ - รตั นเวช” เพอ่ื ใชด้ �ำเนนิ การรกั ษาพระภกิ ษสุ ามเณรในเบอ้ื งตน้ โดย แพทย์แผนปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีคลินิกทันตกรรมเพื่อใช้ เปน็ สถานทดี่ แู ลสขุ ภาพปากและฟนั ของพระภกิ ษสุ ามเณรอกี ดว้ ย มากไปกว่านนั้ ยังจัดสรรให้เป็นสถานที่ตรวจสุขภาพประจ�ำปี ของสมาชิกองค์กร รวมถึงการตรวจคัดกรองสุขภาพของกลุ่ม ผู้เข้าอบรมในโครงการต่าง ๆ ของวัด เช่น โครงการบรรพชา อุปสมบท ฯลฯ ณ วนั น้ี โอกาสทด่ี ีทส่ี ุดมาถงึ แลว้ ทเ่ี ราจะไดส้ ร้างบญุ ด้านน้ี 53 ให้แก่ตนเอง เน่ืองจากอาคารสหคลินิกรัตนเวชเดิมของ วัดพระธรรมกายเกา่ ช�ำรุด ต้องซ่อมแซมอยู่บ่อยคร้งั อกี ทั้งยังมี พ้ืนท่ีไม่เพียงพอต่อการรองรับพระภิกษุสามเณรอาพาธที่เพิ่ม มากขน้ึ ทกุ ปี ดว้ ยเหตนุ จ้ี งึ มคี วามจ�ำเปน็ อยา่ งยงิ่ ทจ่ี ะตอ้ งกอ่ สรา้ ง 52

อาคารบญุ รกั ษา ส่วนอีก 4 ช้ัน ได้จัดสรรให้เป็นพื้นท่ีฟื้นฟู 54 สุขภาพพระภิกษุสามเณรอาพาธ และพระภิกษุ สามเณรท่ีมีสภาพร่างกายอ่อนแอหลังได้รับการ รกั ษาจากทางโรงพยาบาลกลบั มา และเพ่ือความ สะดวกยิ่งข้ึน ยังได้จัดสรรให้มีห้องปฏิบัติธรรม ส�ำหรบั ผปู้ ว่ ยทม่ี สี ภาพรา่ งกายไมพ่ รอ้ มในการรว่ ม กจิ กรรมบญุ ตามปกติขององคก์ รอกี ด้วย หากเรามีส่วนร่วมในการสร้างอาคารหลังนี้ ถือเป็นโอกาสในการสร้างเหตุแห่งความแข็งแรง ปราศจากโรคภัยให้แก่ตนเองด้วยวิธีการง่าย ๆ ดงั นน้ั จงอย่าใหโ้ อกาสน้ีผ่านไปโดยทีเ่ ราเปน็ เพยี ง ผู้เดียวที่ไม่ได้ไขว่คว้า จงอย่าเป็นคนป่วยท่ีไม่มี ทางเลือก ในเม่ือเรามีโอกาสเลือก โดยการสร้าง เหตแุ หง่ การไมป่ ว่ ยใหแ้ กต่ นเอง ดว้ ยการสนบั สนนุ การสรา้ งอาคารบญุ รกั ษา เพอ่ื ใหพ้ ระภกิ ษสุ ามเณร ทา่ นแขง็ แรง อยสู่ รา้ งบารมเี ปน็ อายพุ ระพทุ ธศาสนา ไปตราบนานเท่านาน เพราะ “ท�ำที่ทา่ น ได้ทเี่ รา” “อาโรคยฺ ปรมา ลาภา” ความไมม่ ีโรค เป็นลาภอนั ประเสรฐิ (ข.ุ ธ. (บาล)ี 25/25/42)

มหากุศลครั้งประวตั ศิ าสตร์ ข อ เ ชิ ญ ร่ ว ม ส ถ า ป น า “อาคารบุญรักษา” วนั พุธท่ี 22 เมษายน พ.ศ. 2558 ณ วดั พระธรรมกาย จ.ปทุมธานี

อานิสงส์การสรา้ งอาคารบญุ รกั ษา ค�ำอธษิ ฐานจิต 1. ยอ่ มไดอ้ านสิ งส์อนั ยงิ่ ใหญ่ เพราะการอุปฏั ฐากดแู ล ดว้ ยบุญกศุ ลทข่ี า้ พเจ้าได้สรา้ งอาคารบุญรักษา ซ่ึงเปน็ การสนบั สนุนใหพ้ ระภิกษสุ ามเณรหายจากการอาพาธในครงั้ นี้ พระภกิ ษุอาพาธ เสมือนได้อปุ ฏั ฐากดูแลพระสมั มาสมั พุทธเจา้ 2. ยอ่ มได้รบั อานสิ งสแ์ ห่งการถวายมหาสงั ฆทาน ขอใหข้ ้าพเจา้ มีสขุ ภาพร่างกายที่สมบูรณแ์ ข็งแรง ไมพ่ กิ ลพกิ าร เพราะเป็นการสรา้ งถวายพระภกิ ษสุ งฆ์แบบไม่เฉพาะเจาะจง ไมใ่ บ้บา้ ปัญญาอ่อน ขอให้ได้ลักษณะมหาบุรษุ ครบถ้วน 32 ประการ 3. ท�ำให้เปน็ ผูม้ อี ายขุ ยั ยืนยาวนานปราศจากทุกขโ์ ศกโรคภยั เหมือน พระพากลุ เถระ ผมู้ อี ายยุ ืน 160 ปี ปราศจากโรคภยั ใด ๆ อย่าเจบ็ อย่าป่วย อยา่ ไข้ 4. ย่อมมีชีวิตสมบูรณพ์ รอ้ มในทกุ ดา้ น เพราะอานสิ งสแ์ ห่งการให้ อายุขัยยืนยาวนานเหมอื นพระพากุลเถระ สถานท่ี ขนึ้ ชือ่ ว่าให้ทุกสิ่ง 5. ยอ่ มเปน็ ผทู้ ่ีถงึ พร้อมด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏภิ าณ หากจ�ำเป็นตอ้ งปว่ ยไข้ ขอใหไ้ มท่ รมานจากการป่วยไข้ และโภคทรัพยส์ มบตั ิ เพราะอานสิ งสแ์ ห่งการอุปถมั ภ์คำ�้ ชู ขอให้เจอหมอดี ยาดี ที่ตัง้ ใจเตม็ ใจมารกั ษาเปน็ อยา่ งดี พระพทุ ธศาสนาให้เจริญรงุ่ เรือง สามารถวินจิ ฉัยหาสาเหตขุ องโรคได้อยา่ งถกู ต้องรวดเร็ว 6. ย่อมเปน็ ท่ีรักของมนุษยแ์ ละเทวดาทง้ั หลาย เพราะอานิสงสแ์ หง่ ผใู้ ห้ย่อมเป็นท่รี ัก และรักษาโรคได้หายขาดโดยไมก่ ลบั มาเปน็ อกี 7. เม่ือถงึ คราวละจากโลก ย่อมไปเกดิ ในสุคติโลกสวรรค์ ขอให้มที รัพยส์ นิ เงินทอง เคร่ืองอปุ โภค บรโิ ภค ยารกั ษาโรค วติ ามนิ 8. ท�ำใหบ้ รรลุมรรค ผล นิพพาน ไดโ้ ดยงา่ ยโดยเรว็ พลัน อาหารเสริม ทีใ่ ชใ้ นการรักษาพยาบาลบ�ำรุงสขุ ภาพอย่างเหลือเฟือ ให้มคี นคอยดูแลเป็นอยา่ งดี มกี �ำลงั ใจท่ีเขม้ แขง็ และผ่องใสตลอดเวลา ฯลฯ สามารถละโลกอยา่ งมสี ติ และไปสสู่ ุคติโลกสวรรค์ 58 ขอให้เจริญดว้ ยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏภิ าณ และโภคทรัพยส์ มบัติ มสี มบัตจิ กั รพรรดิตกั ไม่พรอ่ ง สมบรู ณ์ด้วยทรัพย์ภายนอกและภายใน เพอื่ ใช้ในการสรา้ งบญุ บารมีอย่างไม่รจู้ กั หมดจักส้นิ ขอใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิธรรมได้สะดวก บรรลเุ ร็ว เข้าถึงพระธรรมกายได้โดยง่ายโดยเร็วพลันไปทุกภพทกุ ชาติ ตราบกระท่งั ถึงทสี่ ุดแห่งธรรมเทอญฯ 59