Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GR30 การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในประเทศไทย

GR30 การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในประเทศไทย

Published by Lib SRC, 2022-01-25 03:34:19

Description: GR30.1

Search

Read the Text Version

ISSN:1686-1612 Research ปที ี่ 12 ฉบับท่ี 30 พฤษภาคม 2558 กกในาารรปบเปรรลิห่ียะาเนรทแจปศดั ลกไงทาภรมูยิอากาศ การจำ�ลองภูมอิ ากาศในอนาคตและ ทศิ ทางการวางแผนการรองรบั การจัดการซากผลติ ภัณฑ์เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ข้อมูลคาดการณ์ภูมอิ ากาศ การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอเิ ลก็ ทรอนิกสข์ องประเทศไทย ความละเอียดสงู สำ�หรับประเทศไทย ของท้องถิ่น

บ.ก.แถลง EDITOR’S TALK สวสั ดคี ะ่ ทา่ นผอู้ า่ นหลงั จากท่ี ผา่ นพน้ ความชมุ่ ฉำ่� ไปกบั เทศกาลสงกรานต์ เขา้ วดั ทำ� บญุ กราบไหวข้ อพรผใู้ หญต่ ามประเพณแี ลว้ “Green Research” ฉบบั ที่ 30 ประจ�ำเดอื นพฤษภาคม 2558 ไดก้ ลบั มาพบกับท่านผอู้ า่ นอกี ครั้ง ด้วยเนอื้ หาท่เี ปยี่ มไปดว้ ยสาระ ดา้ นส่งิ แวดลอ้ มตา่ งๆ เฉกเชน่ เดิมคะ “Green Research” ฉบับนี้ ขอน�ำเสนอประเด็นหลักด้านการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยนำ� เสนอการศกึ ษาวจิ ยั การจำ� ลองภมู อิ ากาศในอนาคตและขอ้ มลู คาดการณภ์ มู อิ ากาศในอนาคตทม่ี คี วามละเอยี ดสงู ทจี่ ำ� ลอง ภูมิอากาศโลกผ่านการย่อส่วนและเพิ่มเติมความละเอียดการแสดงผลในระดับท้องถิ่น ซ่ึงข้อมูลดังกล่าวสามารถใช้วิเคราะห์ ผลกระทบและประเมนิ แนวทางการปรบั ตวั ตอ่ ของการเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศของประเทศไทย รวมทง้ั นำ� เสนอทศิ ทางการวางแผน การรองรบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศในระดบั ทอ้ งถนิ่ เพอื่ เชอื่ มโยงนโยบายระดบั ประเทศลงสปู่ ระชาชนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากนี้ ภายในเลม่ ยังมบี ทความอน่ื ๆ ทีน่ ่าสนใจไมค่ วรพลาดเชน่ เคย แล้วพบกันฉบับหนา้ นะคะ GREEN RESEARCH CONTENTS พฤษภาคม 2558 เรอ่ื งเดน่ ประจำ� ฉบับ ทป่ี รึกษา 3 การจำ� ลองภมู อิ ากาศในอนาคตและขอ้ มลู คาดการณภ์ มู อิ ากาศความ ละเอยี ดสงู ส�ำหรบั ประเทศไทย ภาวณิ ี ปณุ ณกันต์ เสรมิ ยศ สมม่ัน 7 ทิศทางการวางแผนการรองรับการเปลีย่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศ สากล ฐนิ ะกลุ ของท้องถ่นิ ติดตามเฝ้าระวัง บรรณาธิการบรหิ าร การจดั การซากผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 9 ของประเทศไทย สุวรรณา เตียรถส์ วุ รรณ 14 สถานการณข์ ยะอิเลคทรอนกิ ส์และมลพิษก่อมะเรง็ ..ไดออกซนิ .. กองบรรณาธกิ าร 19 แนวทางการบริหารการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพของ โสฬส ขันธ์เครือ ประเทศเพอื่ ใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธ์ิ ภายใตก้ ารประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญา นติ ยา นักระนาด มิลน์ วา่ ด้วยความหลากหลายทางชวี ภาพ สมัยท่ี 1-12 ศิรนิ ภา ศรที องทิม หทยั รัตน์ การเี วทย์ กา้ วหน้าพัฒนา เจนวิทย์ วงษศ์ านูน ปัญจา ใยถาวร 23 “Bio plastics” ผลิตภณั ฑเ์ พ่อื สง่ิ แวดลอ้ ม จินดารตั น์ เรืองโชติวทิ ย์ 26 Eco-fiber นวตั กรรมเสน้ ใย ก้าวสสู่ ่ิงทอ อาทิตยา พามี ศูนยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นส่ิงแวดล้อม พง่ึ พาธรรมชาติ กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ ม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม 24 การอนุรักษส์ งิ่ แวดล้อม เทคโนธานี ต�ำบลคลองห้า อ�ำเภอคลองหลวง 32 การพัฒนาส.ู่ ..การบนิ ที่เปน็ มิตรต่อส่ิงแวดลอ้ ม จงั หวดั ปทมุ ธานี 12120 โทรศพั ท์ 02-577-4182-9 ERTC UPDATE โทรสาร 02-577-1138 www.deqp.go.th

เร่ืองเดน่ ประจำ�ฉบับ 3 ดร.อศั มน ล่ิมสกุล กปคราารดะเจกท�าศำลรไอทณงย์ภภมู ูมอิ ิอาากกาาศศคในวอามนลาคะเอตียแลดะสขงูอ้ สม�ลูำหรบั ข้อมูลคาดการณ์ภูมิอากาศอนาคตความละเอียดสูง ที่ถูกสร้างข้ึนจากแบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกผ่านการย่อส่วน เพิ่มรายละเอียดการแสดงผลในระดับท้องถ่ิน เป็นจุดเร่ิมต้นส�ำคัญต่อการวิเคราะห์ผลกระทบและประเมินแนวทาง การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของประเทศไทย ภายใต้สถานการณ์อนาคตที่คาดว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ จะมีความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนเพ่ิมมากขึ้นตามการเพิ่มข้ึนของก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศและ อุณหภูมิโลก ข้อมูลดังกล่าวที่จ�ำลองจากหลายๆ แบบจ�ำลองภายใต้ภาพฉายต่างๆ กัน ยังมีความจ�ำเป็นต้องยกระดับ การด�ำเนินการให้เกิดการบูรณาการอย่างจริงจัง ผ่านการมีส่วนร่วมของหลายภาคส่วนซ่ึงรวมถึงผู้ก�ำหนดนโยบาย นักวิจัย นักวิชาการ และเจ้าหน้าท่ีระดับปฏิบัติการ เพื่อให้การบริหารจัดการและใช้ประโยชน์ข้อมูลคาดการณ์ภูมิอากาศอนาคต ความละเอยี ดสูงเกดิ เปน็ รปู ธรรมและย่งั ยนื การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เป็นปัญหาส�ำคัญท่ีก�ำลัง ต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ในต่างประเทศได้มีการพัฒนา ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในหลายภูมิภาคของโลก จะเห็น ข้อมูลคาดการณ์ภูมิอากาศในอนาคตขึ้นมามากมายเริ่มต้ังแต่ ได้จากระบบนิเวศต้ังแต่ขั้วโลกถึงเขตร้อน มีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลที่มีความละเอียดเชิงพ้ืนที่หลายร้อยกิโลเมตร ไปจนถึง อย่างรวดเร็วในอัตราที่ไม่เคยเกิดข้ึนมาก่อนในอดีต อีกท้ัง ความละเอียดเชิงพื้นที่สูงในระดับท้องถิ่น โดยท่ัวไปแล้ว เหตุการณ์สภาวะความรุนแรงลมฟ้าอากาศ เช่น พายุโซนร้อน ข้อมูลภูมิอากาศความละเอียดสูงในอนาคต ถูกสร้างข้ึนจาก ภาวะนำ�้ แลง้ และนำ�้ ทว่ มรวมทงั้ คลน่ื ความรอ้ น เปลย่ี นแปลงไป แบบจำ� ลองภมู อิ ากาศโลก (รปู ที่ 1) ทงั้ ระดบั ความรนุ แรงและความถขี่ องการเกดิ สรา้ งความเสยี หาย ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ นบั เปน็ มลู คา่ มหาศาล ผลการศกึ ษาทผ่ี า่ นมา รูปที่ 1 แผนภาพการก�ำหนดกริดแนวราบและแนวตั้งของแบบจ�ำลอง ระบุว่า สภาพภูมิอากาศและสภาวะความรุนแรงลมฟ้าอากาศ ภมูมหอิาสามกาุทศรโลนกำ�้ แพขร็งอ้แลมะทผัง้ วิกดรินะบในวพนืน้กาทร่ีขทนาางดกเาลยก็ ภขาอพงขแอตง่ลบะรกรรยิดากาศ ของประเทศไทยในอดีต ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย ส�ำคัญเช่นกัน ซ่ึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่งผลให้หลาย ภาคส่วนที่มีความส�ำคัญต่อการด�ำรงชีวิตของประชาชนและ การพัฒนาประเทศ ได้รับผลกระทบท่ีมีแนวโน้มความรุนแรง เพม่ิ ขน้ึ ขอ้ มลู คาดการณภ์ มู อิ ากาศในอนาคต เปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ สำ� คญั ต่อการวิเคราะห์ผลกระทบและประเมินแนวทางการปรับตัว Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

4 เรอื่ งเด่นประจำ�ฉบับ ผ่านการปรับข้อมูลให้เป็นระดับภูมิภาค (regionalization) ละเอียดเชิงพื้นที่ และพัฒนาให้สามารถจ�ำลองเหตุการณ์ ด้วยการย่อส่วนหรือลดขนาดด้วยวิธีทางพลวัตร (dynamical ภูมิอากาศในพ้ืนที่ขนาดเล็กให้ใกล้เคียงเพ่ิมมากยิ่งข้ึน downscaling) หรือวิธีทางสถิติ (statistical downscaling) ซ่ึงแบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกหลายแบบจ�ำลอง ได้เพิ่ม เพอื่ เพม่ิ ความละเอยี ดการแสดงผลในพนื้ ทข่ี นาดเลก็ ใหเ้ หมาะสม ความสามารถและขยายเป็นแบบจ�ำลองระบบโลก (Earth กบั การน�ำไปใชศ้ ึกษาในระดบั ทอ้ งถนิ่ [1] (รปู ท่ี 2) System Model; ESM) ภายใตก้ ารจำ� ลองดว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพสงู โดยไดร้ วมวฏั จกั รชวี ะธรณเี คมี กระบวนการ รงั สที สี่ อ่ งลงสโู่ ลกและผลกระทบจากการเพม่ิ ขน้ึ กา๊ ซเรอื นกระจก และปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งเมฆและละอองลอย เขา้ เปน็ องคป์ ระกอบ ทส่ี ำ� คญั ของแบบจำ� ลอง[1] ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนอย่างช้าๆ และใช้เวลานานกว่า ทจ่ี ะสงั เกตพบได้ ซง่ึ เทคโนโลยที ม่ี อี ยใู่ นปจั จบุ นั น้ี ยงั ไมส่ ามารถ ท�ำการพยากรณ์สภาพอากาศอนาคตระยะยาวได้อย่างถูกต้อง และแม่นย�ำ อีกท้ัง พลวัตขององค์ประกอบในส่วนต่างๆ ของโลก โดยเฉพาะความแปรปรวนระยะส้ันตามธรรมชาติ ของระบบภูมิอากาศ ยังส่งผลให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลง ในอนาคตมีความไม่แน่นอนสูง ดังน้ัน สภาพภูมิอากาศ ในอนาคต เป็นการจ�ำลองภายใต้ภาพฉาย (scenario) สมมุติ ท่ีมีเง่ือนไขบางประการซ่ึงสามารถน�ำไปใช้เป็นพื้นฐาน ในการประเมินการเปลี่ยนแปลงและผลสืบเน่ืองอ่ืนๆ ท่ีอาจ จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคตภายใตส้ ถานการณน์ น้ั ๆ ทง้ั นี้ ภาพฉายอนาคต รูปที่ 2 หลักการปรับข้อมลู แบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกใหเ้ ป็นข้อมูล ไม่ใช่การวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์หรือท�ำนายเหตุการณ์ ร(dะoดwบั nภsมูcaิภlาinคgแ) ลดะ้วรยะเดทับคทน้อิคงกถา่ินรพดล้ววยตั กราหรรยอื อ่ สสถ่วติ นิ เพิม่ รายละเอียด ในอนาคต แตเ่ ปน็ ภาพทอ่ี ธบิ ายถงึ ทางเลอื กความเปน็ ไปไดท้ อ่ี าจ แบบจ�ำลองภูมิอากาศโลก เป็นแบบจ�ำลองคณิตศาสตร์ เกิดข้ึนในอนาคตตามการเปล่ียนแปลงของตัวแปรส�ำคัญหลาย สามมิติที่ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณในการเลียนแบบกระบวนการ ตวั แปร โดยปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกในบรรยากาศซง่ึ มกั แปรผนั ทางกายภาพของบรรยากาศ มหาสมุทร นำ้� แขง็ และผวิ ดิน และ ตามรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การเติบโตของ จำ� ลองการเปลยี่ นแปลงของภมู อิ ากาศในอนาคตตอ่ การเพมิ่ ขน้ึ ประชากรและเทคโนโลยี ตลอดจนการใช้ประโยชนที่ดิน ของก๊าซเรือนกระจก ในปัจจุบันการพัฒนาไม่ได้รวมแค่ และพลังงานในอนาคต เป็นข้อมูลส�ำคัญของภาพฉายที่ใช้ การเพิ่มความละเอียดเชิงพ้ืนที่เท่าน้ัน องค์ความรู้พื้นฐาน เป็นแรงขับเคลื่อนในแบบจ�ำลองภูมิอากาศโลก ในรายงาน ทจี่ ำ� เปน็ ตอ่ การปรบั ปรงุ แบบจำ� ลองและการตรวจวดั ขอ้ มลู ตา่ งๆ IPCC Special Report on Emission Scenario หรือ SRES ก็ได้พัฒนาอย่างมากเช่นกัน ท�ำให้ความเข้าใจในกระบวนการ เผยแพรเ่ มอ่ื ปี ค.ศ. 2000 คณะกรรมการระหว่างรฐั บาลวา่ ด้วย ทางบรรยากาศวิทยาเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มความม่ันใจต่อผล การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (Intergovernmental Panel on การจำ� ลองภาพภมู อิ ากาศในอนาคต[1] แบบจำ� ลองการหมนุ เวยี น Climate Change หรอื IPCC)[2] ไดก้ ำ� หนดภาพฉายการปลอ่ ยกา๊ ซ ทั่วไปของบรรยากาศและมหาสมุทร (Atmosphere-Ocean เรือนกระจกในอนาคตบนพ้ืนฐานรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ General Circulation Models; AOGCMs) ซ่ึงควบประสาน และสงั คม การเตบิ โตของประชากรและเทคโนโลยที แี่ ตกตา่ งกนั แบบจ�ำลองทางบรรยากาศเข้ากับแบบจ�ำลองทางสมุทรศาสตร์ ออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ 1) การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไดก้ ลายเปน็ แบบจำ� ลองมาตรฐาน เนอ่ื งจากสามารถจำ� ลองอตั รา ปานกลาง-สงู (ภาพฉายแบบ A) เม่อื การพัฒนาให้ความส�ำคญั และขนาดของภูมิอากาศท่ีเปล่ียนแปลง ตลอดจนกระบวนการ กับการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก และ 2) การปล่อยก๊าซ ทางกายภาพในอดีตได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น เรอื นกระจกตำ่� -ปานกลาง (ภาพฉายแบบ B) ในกรณที ก่ี ารพฒั นา ในช่วงเรว็ ๆ นี้ แบบจ�ำลองภมู อิ ากาศโลก ไดถ้ ูกปรับปรงุ ความ ใหค้ วามสำ� คญั กับส่ิงแวดลอ้ มมากกวา่ การพัฒนา Research No.30 May 2015 ISSN:1686-1612

เร่อื งเดน่ ประจ�ำ ฉบับ 5 หลังจากรายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ ของแบบจ�ำลอง โดยข้อมูลภูมิอากาศจ�ำลองในอนาคต IPCC ฉบับที่ 4 เป็นตน้ มา ได้มกี ารพฒั นาภาพฉายการปลอ่ ย จาก CMIP5 เป็นฐานข้อมูลใหม่ล่าสุดท่ีใช้ประเมินการ ก๊าซเรือนกระจกแบบใหม่ท่ีเรียกรวมๆ ว่า Representative เปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศในรายงานฉบบั ท่ี 5 ของ IPCC Concentration Pathways (RCPs) โดยถือเอาความเข้มข้น ประเทศไทย ได้เริ่มศึกษาจ�ำลองสภาพภูมิอากาศ ของกา๊ ซเรอื นกระจกเปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ แลว้ ประเมนิ วา่ ทคี่ วามเขม้ ขน้ ในอนาคตด้วยความละเอียดการแสดงผลในพ้ืนท่ีขนาดเล็ก ของก๊าซเรือนกระจกระดับต่างๆ กัน จะส่งผลกระทบต่อ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 โดยการศึกษาในช่วงหลังจากปี การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและกระบวนการท่ีเก่ียวข้อง ค.ศ. 2007 เป็นการจ�ำลองการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศอนาคต อย่างไรบ้าง เสร็จแล้วค่อยมาวิเคราะห์ต่อว่า การพัฒนา ของประเทศไทยด้วยภาพฉาย SRES ในรูปแบบข้อมูลรายวัน ด้านเศรษฐกิจและสังคมในลักษณะใด ที่จะส่งผลท�ำให้เกิด มคี วามละเอยี ดการแสดงผลเชงิ พน้ื ทต่ี งั้ แต่ 15 ถงึ 50 กโิ ลเมตร[4] การเปลี่ยนแปลงของก๊าซเรือนกระจกน้ันๆ ซึ่งจะเชื่อมไปถึง สว่ นการศกึ ษาในระยะลา่ สดุ เปน็ การนำ� ขอ้ มลู ภมู อิ ากาศอนาคต นโยบายและมาตรการในการลดก๊าซเรือนกระจกได้โดยตรง ทจ่ี ำ� ลองภายใตภ้ าพฉาย RCP จากโครงการ CMIP5 มายอ่ สว่ น กวา่ ภาพฉายแบบ SRES[3] ภาพฉายการปล่อยก๊าซเรอื นกระจก ลดขนาดเพื่อเพิ่มความละเอียดการแสดงผลเชิงพ้ืนที่ แบบใหม่น้ี ใช้ชื่อว่า RCP แล้วตามด้วยค่าพลังงานความร้อน ในระดับท้องถ่ิน อาทิเช่น มหาวิทยาลัยรามค�ำแหงและ ระดับต่างๆ ในบรรยากาศที่สัมพันธ์กับความเข้มข้นของก๊าซ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั รว่ มกบั อกี 15 สถาบนั จาก 11 ประเทศ เรือนกระจก เช่น RCP4.5 ส่ือความหมายว่า ค่าพลังงาน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก�ำลังด�ำเนินโครงการ ในบรรยากาศจะเพิ่มเป็น 4.5 วัตต์ต่อตารางเมตร จากยุค Southeast Asia Regional Climate Downscaling (SEACLID) อุตสาหกรรมและความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกประมาณ ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของ World Climate Research Program (WCRP) 650 สว่ นในลา้ นส่วน หลงั ปี ค.ศ. 2100 ตัวเลขตอ่ ทา้ ยที่บอกถงึ Coordinated Regional Climate Downscaling EXperiment ค่าพลังงานนี้ ยังมีความหมายในเชิงนโยบายในการแก้ปัญหา (CORDEX) เพอื่ จัดทำ� ข้อมลู ภมู ิอากาศอนาคตความละเอียดสงู โลกร้อน เพราะตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงสภาพโลกอนาคตว่า ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ทจี่ ำ� เปน็ สำ� หรบั การประเมนิ ถ้าต้องการให้พลังงานถูกกักอยู่ในบรรยากาศคงท่ีหรือไม่เพิ่ม ผลกระทบ การปรับตัวและความเสี่ยงต่อการเปล่ียนแปลง ไปกว่า RCP ท่ีก�ำหนด จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภมู อิ ากาศโลกในระดบั ภมู ภิ าคและทอ้ งถน่ิ โดยนำ� ขอ้ มลู ทจี่ ำ� ลอง ลงเท่าใด[3] ภาพฉายแบบ RCP ถูกน�ำมาใช้แทนภาพฉาย ภายใตภ้ าพฉาย RCP4.5 และ RCP8.5 จากโครงการ CMIP5 แบบ SRES ในโครงการทดลองเปรียบเทียบแบบจ�ำลอง จำ� นวน 14 แบบจ�ำลอง มายอ่ สว่ นลดขนาดลงดว้ ยแบบจ�ำลอง ภูมิอากาศโลก ระยะที่ 5 หรือรู้จักกันในค�ำย่อยว่า CMIP5 ภมู อิ ากาศระดบั ภูมิภาค (Regional Climate Model เวอรช์ ่ัน 4; ซงึ่ มแี บบจำ� ลองภมู อิ ากาศโลกมากกวา่ 50 แบบจำ� ลอง เขา้ รว่ ม RegCM4) ทดสอบความสามารถ ความน่าเช่ือถือและความไม่แน่นอน Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

6 เรอ่ื งเด่นประจ�ำ ฉบบั จากความก้าวหน้าของการจ�ำลองภูมิอากาศอนาคต ภายใต้สถานการณ์อนาคตท่ีคาดว่าการเปลี่ยนแปลง ของประเทศไทยทมี่ พี ฒั นาการและปรบั ปรงุ ใหท้ นั สมยั และดขี น้ึ ภูมิอากาศ จะมีความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อ อย่างต่อเน่ืองในช่วงสิบปีท่ีผ่านมา ส่งผลให้ข้อมูลคาดการณ์ หลายภาคส่วนเพิม่ มากขึ้นตามการเพ่ิมข้ึนของกา๊ ซเรอื นกระจก ภมู อิ ากาศอนาคตถกู นำ� ไปใชป้ ระโยชนเ์ พมิ่ ขนึ้ เพอ่ื วตั ถปุ ระสงค์ ในบรรยากาศและอุณหภูมิโลก ข้อมูลคาดการณ์ภูมิอากาศ และบริบทต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบ อนาคตความละเอียดสูงที่จ�ำลองจากหลายๆ แบบจ�ำลอง เชิงปริมาณต่อภาคส่วนต่างๆ การบริหารจัดการความเสี่ยง ภายใต้ภาพฉายต่างๆ กัน ยังมีความจ�ำเป็นต้องยกระดับ ระดับพื้นที่และการสนับสนุนการตัดสินใจด้านการปรับตัว การดำ� เนนิ การใหเ้ กดิ การบรู ณาการอยา่ งจรงิ จงั ทงั้ น้ี ผู้ก�ำหนด ต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ[4] ตัวอย่างเช่น ข้อมูล นโยบายควรให้ความส�ำคัญประเด็นดังกล่าวเป็นวาระเร่งด่วน ภูมิอากาศอนาคตภายใต้ภาพฉาย SRES ซึ่งได้ท�ำย่อส่วน เพื่อน�ำไปสู่การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลภูมิอากาศกลางและวางระบบ เพม่ิ รายละเอยี ดดว้ ยแบบจำ� ลองระดบั ภมู ภิ าค PRECIS ถกู นำ� มา คอมพิวเตอร์ที่จ�ำเป็นต่อการจ�ำลองภูมิอากาศและวิเคราะห์ คาดการณผ์ ลกระทบของการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศตอ่ ผลผลติ ขอ้ มลู คาดการณภ์ มู อิ ากาศอนาคตความละเอยี ดสงู โดยแนวทาง ของพชื เศรษฐกจิ ของประเทศไทย นอกจากนี้ ขอ้ มลู คาดการณ์ การบริหารจัดการข้อมูลภูมิอากาศอนาคตของประเทศไทย ภูมิอากาศอนาคตท่ีจ�ำลองด้วย super-high-resolution ควรเน้นการด�ำเนินงานผ่านเครือข่ายและการมีส่วนร่วม MRI-GCM ซ่ึงได้ปรับแก้ความคลาดเคลื่อนของข้อมูล ของผเู้ ช่ียวชาญและนักวจิ ยั จากหนว่ ยงานตา่ งๆ เพือ่ เสรมิ สรา้ ง ด้วยเทคนิคทางสถิติแล้ว ถูกน�ำมาวิเคราะห์ดัชนีความรุนแรง ศกั ยภาพนกั วชิ าการ เจา้ หนา้ ทรี่ ะดบั ปฏบิ ตั กิ ารและผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ ง ของฝนเพ่ือเป็นข้อมูลน�ำเข้าแบบจ�ำลองทางเศรษฐมิติ เพื่อวัด ในการประยุกต์ใช้ประโยชน์ข้อมูลคาดการณ์ภูมิอากาศอนาคต มูลค่าทางเศรษฐกิจของน้�ำชลประทานท่ีใช้ในภาคเกษตรกรรม ในดา้ นตา่ ง ๆ รวมทง้ั การแปลผลการศกึ ษา การจดั การกบั ความ และประมาณค่าผลประโยชน์การปรับตัวของเกษตรกร ไมแ่ น่นอนในข้อมูลคาดการณ์ภมู ิอากาศอนาคต และการแปลง ในลุ่มแม่น้�ำเจ้าพระยา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การน�ำข้อมูล ข้อมูลอากาศอนาคตและผลการศึกษาท่ีเก่ียวข้อง เป็นข้อมูล จ�ำลองภูมิอากาศอนาคต ไปใช้ประโยชน์ในช่วงที่ผ่านมา ข่าวสารที่เหมาะสมต่อการน�ำไปสนับสนุนการตัดสินใจและ ยังมีข้อติดขัดและปัญหาอุปสรรคอยู่พอสมควร โดยเฉพาะ ใชป้ ระโยชนใ์ นการวางแผน นอกจากนี้ ความรว่ มมอื กบั หนว่ ยงาน ความละเอียดเชิงพ้ืนที่ของข้อมูลที่มีสเกลค่อนข้างหยาบต่อ ระหว่างประเทศ ยังช่วยหนุนเสริมให้การสร้างภาพภูมิอากาศ การศึกษาการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบในระดับท้องถิ่น อนาคตและการบริหารจัดการฐานข้อมูลคาดการณ์ภูมิอากาศ ความยุ่งยากในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการจัดการกับ อนาคตความละเอียดสูงของประเทศไทย มีความเข้มแข็ง ฐานข้อมูลท่ีมีขนาดใหญ่ ตลอดจนการจัดการกับความ และด�ำเนินการได้ต่อเน่ืองอย่างย่ังยืนซ่ึงสามารถตอบสนอง ไมแ่ นน่ อนในขอ้ มลู คาดการณภ์ มู อิ ากาศอนาคตซง่ึ สง่ ผลอยา่ งสงู ตอ่ ความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ นภาคสว่ นตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม ต่อระดับความเช่ือม่ันของผลการศึกษา รวมท้ังข้อมูล มากขนึ้ ที่มีอยู่ปัจจุบันมีการจ�ำลองด้วยแบบจ�ำลองและภาพฉาย บทความนี้ เปน็ ส่วนหนึง่ ของโครงการ Improving Flood เพียงไม่กี่แบบจ�ำลองและภาพฉายเท่านั้น ท�ำให้ฐานข้อมูล Management Planning in Thailand’ funded by International มีความหลากหลายน้อยที่ใช้คาดการณ์โอกาสการเปล่ียนแปลง Development Research Centre (IDRC; IDRC Project Number ทีอ่ าจจะเกิดขึ้นอนาคตในช่วงกว้าง 107094-001) เอกสารอา้ งองิ ISSN:1686-1612 [1]F lato, et al., 2013: Evaluation of climate models. In: Climate Change 2013: The Physical Science Basis. Contribution of Working Group I to the Fifth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change [Stocker, T.F., D. Qin, G.-K. Plattner, M. Tignor, S.K. Allen, J. Boschung, A. Nauels, Y. Xia, V. Bex and P.M. Midgley (eds.)]. Cambridge University Press, Cambridge, United Kingdom and New York, NY, USA. [2]IPCC, 2000: IPCC Special report on emissions scenarios. Prepared by Working Group III of the Intergovernmental Panel on Climate Change, Cambridge University Press, Cambridge, United Kingdom, pp 570. [3]M oss, R. H., et al., 2010: The next generation of scenarios for climate change research and assessment. Nature, 463, 747–756. [4]อ ำ� นาจ ชดิ ไธสง, 2553: การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของไทย เลม่ ท่ี 2 แบบจำ� ลองสภาพภมู อิ ากาศและสภาพภมู อิ ากาศในอนาคต.-- กรงุ เทพฯ : ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ยั , 176 หน้า Research No.30 May 2015

เร่ืองเด่นประจำ�ฉบับ 7 รฐั เรืองโชตวิ ทิ ย์ การวางแผนการรองรับ การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ของท้องถิ่น ปญั หาการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศทรี่ นุ แรง รวมทงั้ สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต โดยมีการก�ำหนด การเกิดภัยภิบัติทางธรรมชาติที่มีแนวโน้มเกิดบ่อยข้ึน การจัดการหรือการด�ำเนินการในรูปแบบต่างๆ ไว้ล่วงหน้า จึงต้องมีการวางเป้าหมายเพื่อให้สังคมสามารถรับมือกับการ ตามรปู แบบของภมู อิ ากาศอนาคตรปู แบบตา่ งๆ ตลอดจนสภาพ เปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ดีขึ้น (resilience) และเพ่ือให้แผนงาน เศรษฐกิจและสังคมท่ีอาจเปล่ียนแปลงไป ท้ังน้ี เมื่อกล่าวถึง ตา่ งๆ ยงั คงสามารถบรรลเุ ปา้ หมายทวี่ างไวภ้ ายใตก้ ารเปลย่ี นแปลง ทอ้ งถน่ิ อาจวางแผนการปรบั ตวั ตอ่ การเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศ ทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ การวางแผนในลกั ษณะดงั กลา่ วจะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ นี้โดยสร้างเป็นผังการตัดสินใจไว้ และเม่ือการเปลี่ยนแปลง ความไมแ่ นน่ อนของอนาคตเขา้ ไวด้ ว้ ย ซงึ่ ความไมแ่ นน่ อนนอ้ี าจ ในอนาคตเกิดขึ้นแล้วจริงๆ จึงจะด�ำเนินการตามแผนท่ีวางไว้ เปน็ ไดท้ งั้ ความไมแ่ นน่ อนของการคาดการณภ์ มู อิ ากาศอนาคต นน้ั เป็นข้ันๆ เช่น การวางแผนด้านการจัดการนำ้� ในลมุ่ น้ำ� หน่งึ และพลวตั ของสภาพเศรษฐกจิ สงั คมซงึ่ อาจจะเปลยี่ นบรบิ ทของ โดยใช้การคาดการณ์การเปล่ียนแปลงปริมาณและรูปแบบฝน การปรับตัวไปโดยสิ้นเชิง การวางแผนการปรับตัวโดยค�ำนึงถึง ในอนาคต อาจจะวางแผนไว้เป็นเพียงก�ำหนดผังการตัดสินใจ ความไมแ่ นน่ อนของอนาคตนอี้ าจท�ำไดห้ ลายทาง ไมว่ า่ จะเปน็ ไว้โดยใช้การเปลี่ยนแปลงปริมาณฝนในอนาคตเป็นเง่ือนไข เรอ่ื งของการใชภ้ าพฉายอนาคตหลายแนวทาง (scenario-base ในการตัดสินใจด�ำเนินการตามแผนการที่ได้ก�ำหนดไว้ planning) ตลอดจนเทคนิคอ่ืนๆ แต่อย่างไรก็ดี ภายใต้กรอบ แต่แผนงานระยะส้ันท่ีจะต้องเร่ิมด�ำเนินการก่อนนั้นจะต้อง การวางแผนที่คุ้นเคยกันในปัจจุบันนี้ การวางแผนภายใต้ สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนในอนาคตดังท่ีได้วางแผนไว้ได้ สถานการณ์ท่ีอนาคตมีความไม่แน่นอนสูงก็ยังมีประเด็น การวางแผนในลกั ษณะนอี้ าจจะมคี วามยงุ่ ยากกวา่ การวางแผน เรื่องของความถูกต้องเหมาะสมในยุทธศาสตร์และแผน โดยท่ัวไป แต่ก็เป็นการเพ่ิมขีดความสามารถของแผนงาน การปรับตัวท่ีท�ำให้หลายชาติต้องวางแผนภายใต้สถานการณ์ที่ ในการรองรับความไม่แน่นอนของอนาคตโดยไม่ต้องใช้ อนาคตมีความไม่แน่นอนท่ีหลากหลาย ซึ่งในหลายกรณีก็เป็น การลงทุนเต็มรูปแบบได้ เร่ืองความคุ้มค่าในการลงทุนแนวคิดหนึ่งที่อาจน�ำมาประยุกต์ ใช้กับการวางแผนการปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ เพอ่ื จดั การกบั ประเดน็ ความไมแ่ นน่ อนของอนาคตน้ี คอื การนำ� แนวคิดของ Adaptive management มาประยกุ ต์ใชร้ ว่ มกับการ ใช้ภาพฉายอนาคตหลายแนวทาง (scenario-base planning) กล่าวคือ การวางแผนจะต้องคิดถึงยุทธศาสตร์การพัฒนา หรือแผนการระยะยาวที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและ Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

8 เรื่องเดน่ ประจ�ำ ฉบบั ในแง่มุมหนึ่งแนวคิดด้านการปรับตัว Adaptive 2. การวางแผนร่วมกันกับภาคส่วนต่างๆ ในท้องถิ่น management นี้ อาจน�ำมาประยุกต์ใช้ในแง่ของการออกแบบ ภาคประชาชน ธุรกิจ ภาครัฐ ในการวางแผนร่วมกันก�ำหนด เชิงโครงสร้างต่างๆ โดยออกแบบโครงสร้างน้ันๆ ให้สามารถ เป็นยุทธศาสตรใ์ นการปฏิบัติ ปรับเปล่ียนได้เพ่ือให้รองรับสถานการณ์ในการปรับตัวอนาคต 3. การสร้างภาพร่วมกันเพ่ือมองอนาคต จากแผนท่ีท�ำ (Adaptive design) อันเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือ ร่วมกันในระยะยาว ทั้งน้ีเพื่อความย่ังยืนความต่อเน่ือง กบั สถานการณใ์ นอนาคต (Flexible design) ซึง่ อาจจะมตี ้นทุน การจดั การทมี่ ุ่งประสิทธิภาพในระยะยาว ท่ีสูงข้ึน เพราะโครงสร้างหรือการออกแบบน้ันจะต้องเผื่อ 4. การติดตามตรวจสอบการด�ำเนินการท่ีผ่านมา และ ให้รองรับการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมได้ในอนาคต แต่ก็อาจ การวางแผนในปัจจุบันท่ีทันต่อการปรับแผนให้สอดคล้อง จะเป็นการลงทุนท่ีน้อยกว่าการค�ำนึงถึงเง่ือนไขในเชิงท่ีการ กบั ปัญหาท่ีเกิดขึน้ เปลี่ยนแปลงในอนาคตอาจจะรุนแรงอย่างท่ีสุด (worst case การวางแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ scenario) ทง้ั น้ี แนวคดิ ดา้ น Adaptive design นี้ อาจจะใชก้ บั การ โดยการควบรวมเข้ากับแผนพัฒนาต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ออกแบบโครงสรา้ งขนาดใหญห่ รอื ใชก้ บั การออกแบบโครงสรา้ ง ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับกันมากขึ้นนี้แนวคิด ขนาดเลก็ ระดบั บา้ นเรอื นกไ็ ด้ ด้าน Adaptive management น่าจะเป็นแนวทางที่ผู้วางแผน แนวคดิ ตอ่ ทศิ ทางของทอ้ งถน่ิ ในการวางแผนการปรบั ตวั น�ำมาพิจารณาประยุกต์ใช้ในการวางแผนต่างๆ เพื่อเพิ่ม เพอ่ื รองรบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศทเ่ี กดิ ขน้ึ ในปจั จบุ นั ความยืดหยุ่นของแผนงานต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จงึ มขี อ้ เสนอใหท้ อ้ งถนิ่ เปน็ เจา้ ภาพทเ่ี ชอื่ มตอ่ นโยบายระดบั ชาติ ระยะยาว และท�ำให้การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ลงสูภ่ าคประชาชน สามารถเดินหน้าไปได้โดยไม่ต้องยึดติดกับความไม่แน่นอน 1. การจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู ทอ้ งถน่ิ เปน็ ตวั ตง้ั สำ� คญั ทท่ี อ้ งถนิ่ ของอนาคตมากนกั ควรจัดท�ำให้เป็นระบบและทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง สุดท้ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ประชาชน ในปัจจุบันโดยเกี่ยวกับการด�ำเนินชีวิตของประชาชนในท้องถ่ิน ภาคธุรกิจ องค์กรพัฒนาเอกชน ท่ีตอ้ งหาหนทางในการรองรบั เช่น การประกอบอาชีพ การเพาะปลูก การกัดเซาะชายฝั่ง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อ เป็นตน้ การด�ำเนินการท่ีมีประสิทธิภาพ สามารถเดินหน้าต่อไป อย่างย่งั ยนื เอกสารอา้ งองิ ISSN:1686-1612 ส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ รายงานการเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ ฉบับที่ 2 กรงุ เทพฯ 2556 รฐั เรอื งโชตวิ ทิ ย์ เอกสารประกอบบรรยาย การปรบั ตวั เมอื งคารบ์ อนตำ่� วชิ าการจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม ปรญิ ญาโท สถาบนั บณั ฑติ พฒั นาบรหิ ารศาสตร์ 2558 Research No.30 May 2015

ISSN:1686-1612 ตดิ ตามเฝา้ ระวัง 9 จินดารัตน์ เรอื งโชตวิ ทิ ย์ การจัดการซากผลิตภณั ฑ์ เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ของประเทศไทย สถานการณแ์ ละสภาพปัญหาการจดั การซากผลติ ภัณฑเ์ คร่อื งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ในปี 2556 กรมควบคุมมลพิษ ได้ประมาณการปริมาณของเสียอันตรายท่ีเกิดข้ึนท่ัวประเทศมีจ�ำนวน 3.30 ล้านตัน โดยมีของเสียอันตรายจากชุมชน (รวมซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์) 0.56 ล้านตัน หรือร้อยละ 17 โดยของ เสียอันตรายจากชุมชนส่วนใหญ่เป็นซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Waste from Electrical and Electronic Equipment : WEEE) ประมาณ 368,314 ตัน หรือรอ้ ยละ 65.4 และของเสยี อันตรายประเภทอ่นื ๆ จากชุมชน เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ ภาชนะบรรจสุ ารเคมี เป็นต้น เกิดขน้ึ ประมาณ 194,520 ตนั หรือร้อยละ 34.6 ประเภทของผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมควบคุมมลพิษได้ประเมินปริมาณการเกิดซาก ผลติ ภณั ฑฯ์ ในปี 2556 มดี ังต่อไปนี้ ที่มา: ก รมควบคุมมลพิษ เอกสารประกอบการสัมนาวิชาการ เร่ือง กู้วิกฤติการจัดการขยะของประเทศไทย ในการสัมนาวิชาการเร่ือง งานวิจัยด้าน สิง่ แวดลอ้ มกับการสง่ เสรมิ คุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม ในวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมมิราเคลิ แกรนด์ คอนเวนชน่ั กรุงเทพมหานคร Research No.30 May 2015

10 ตดิ ตามเฝ้าระวัง ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จัดเป็นวัตถุ โพลีโบรมิเนตเต็ด ไบฟีนิล (PBB) และโพลีโบรมิเนตเต็ด อันตรายประเภทที่ 3 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ไดฟีนิลอีเทอร์ (PBDE) ในผลิตภัณฑ์ฯ ท่ีวางจ�ำหน่ายหลัง เรอ่ื ง บญั ชรี ายชอ่ื วตั ถอุ นั ตราย พ.ศ. 2546 หากพจิ ารณาตาม วันท่ี 1 กรกฎาคม 2549 เช่นเดียวกับหลายมลรัฐในประเทศ ประเภทผลิตภัณฑ์ จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ สหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา และหลายประเทศใน อิเล็กทรอนิกส์มีชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบบางอย่างท่ีคล้ายกัน เอเชีย อาทิเช่น ประเทศญ่ีปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ และไตห้ วนั เช่น จอ LCD ที่มีใช้ในหลายประเภทผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น รวมทั้งประเทศจีนเองก็ได้มีการออกมาตรการเกี่ยวกับ RoHS จอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ทั้งแบบต้ังโต๊ะ โน้ตบุ๊ค จอ LCD และกฎหมายเรื่อง WEEE เช่นเดียวกัน ในกล้องดิจิตอล กล้องวิดีโอ เคร่ืองฉายภาพ (LCD projector) หรือแผงวงจร (PCB) ท่ีเป็นส่วนประกอบส�ำคัญของผลิตภัณฑ์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รวมทง้ั ชนิ้ สว่ นพน้ื ฐานอน่ื ๆ เชน่ โลหะ พลาสตกิ (มีประเภทและชนิดย่อยลงไปอีก) และแก้ว วัสดุองค์ประกอบ เหล่านี้สามารถน�ำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยวิธีการและเทคโนโลยี การรีไซเคิลรูปแบบต่างๆ ส่วนวัสดุท่ีมีสารอันตรายจะถูกแยก ออกมาจดั การเฉพาะ เชน่ ตะกว่ั ในจอภาพโทรทศั น์ สารโบรมนี ในพลาสติกและสายไฟ แคดเมียมในสายไฟและแบตเตอร่ี ส่วนท่ีเก่ียวข้องกับหมึกพิมพ์ทั้งหมด เช่น สารเคมีท่ีเป็นหมึก ตลบั หมกึ (Toner Cartridge) ฟวิ เซอร์ (fuser) Fax roll สารทำ� ความ เยน็ ทใี่ ชค้ ลอโรฟลอู อโรคารบ์ อน (CFC) ซงึ่ เปน็ สารประกอบทเี่ กดิ การจดั การซากผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จากคลอรนี (Cl) ฟลอู อรนี (F) และคารบ์ อน (C) ในขณะเดยี วกนั หาก ของประเทศไทย พจิ ารณาในแงส่ ง่ิ แวดลอ้ ม พบวา่ ซากผลติ ภณั ฑฯ์ เหลา่ นลี้ ว้ นแลว้ แต่ มชี น้ิ สว่ นหรอื องคป์ ระกอบทเ่ี ปน็ อนั ตราย ซงึ่ ตอ้ งอาศยั กระบวนการ สำ� หรบั ประเทศไทยยงั ไมม่ รี ะบบการรไี ซเคลิ ซากผลติ ภณั ฑฯ์ จดั การเฉพาะและอยา่ งระมดั ระวงั เพอื่ ปอ้ งกนั มใิ หส้ ารอนั ตราย ท่ีมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างครบวงจร โดยปัญหาส�ำคัญอยู่ ทอี่ ยใู่ นซากผลติ ภณั ฑฯ์ แพรก่ ระจายสสู่ งิ่ แวดลอ้ มซงึ่ อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ท่ีการจัดการท่ีเหมาะสม โดยซากผลิตภัณฑ์ฯ จากบ้านเรือน ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของมนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มได้ ส่วนใหญ่ ผู้บริโภคจะขายให้แก่ซาเล้งหรือร้านรับซื้อของเก่า นอกจากนซ้ี ากผลติ ภณั ฑฯ์ ขนาดเลก็ ยงั ไมม่ กี ระบวนการรไี ซเคลิ ในเชิงพาณิชย์ เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ และถ่านไฟฉาย การจดั การซากผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กถ็ กู ทงิ้ รวมไปกบั ขยะทวั่ ไป ดงั นน้ั วงจรผลติ ภณั ฑเ์ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ของตา่ งประเทศ และอิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีปัญหา คือการแยกชิ้นส่วนซากอย่างไม่ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั้งประเทศพัฒนาแล้ว และ ถูกต้องโดยซาเล้งและร้านรับซ้ือของเก่า และการจัดการซาก ประเทศกำ� ลงั พฒั นาไดใ้ หค้ วามสำ� คญั และตระหนกั ถงึ ผลกระทบ ที่เหลอื จากการแยกชน้ิ สว่ นอยา่ งไมถ่ กู ต้อง ซึง่ ก่อใหเ้ กดิ ปัญหา จากซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ดังจะเห็น ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ได้จากสหภาพยุโรปได้มีการประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยเศษซาก น่ันเอง นอกเหนือจากนั้นในปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มพ่อค้า ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (WEEE Directive) คนกลาง หรือนายทุนนอกระบบท่ีเข้ามารับซื้อซากผลิตภัณฑ์ฯ โดยก�ำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องออกกฎหมายตามแนวทาง ของระเบียบ WEEE โดยจะต้องด�ำเนินการจัดให้มีระบบ เก็บรวบรวมซากผลติ ภัณฑ์ฯ และนำ� ไปจดั การโดยใชเ้ ทคโนโลยี สูงสุดเท่าท่ีมีอยู่ รวมท้ังการออกแบบผลิตภัณฑ์ฯ ที่อ�ำนวย ความสะดวกในการถอดแยกชน้ิ สว่ นเพอื่ น�ำกลบั มาใชป้ ระโยชน์ ใหม่ โดยท่ีภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของ ผู้ผลิตและผู้น�ำเข้า และระเบียบว่าด้วยการห้ามการใช้สาร ทเ่ี ปน็ อนั ตราย (RoHS Directive) จำ� นวน 6 ประเภท ไดแ้ ก่ ตะกว่ั (Pb) ปรอท (Hg) แคดเมยี ม (Cd) โครเมยี ม เฮกซาวาเลนท์ (Cr6+) Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ติดตามเฝา้ ระวงั 11 จากผู้รับซ้ือของเก่าที่ได้รับอนุญาต และ/หรือไม่ได้รับอนุญาต ต่อมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม หรืออาจมีบางส่วนที่เก่ียวข้องกับการน�ำเข้าซากผลิตภัณฑ์ฯ ได้มีการศึกษาและยกร่างกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนการด�ำเนิน จากต่างประเทศ โดยน�ำซากผลิตภัณฑ์ที่จัดหามาไปให้ชุมชน งานตามยุทธศาสตร์การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด�ำเนินการคัดแยก เพื่อหลีกเล่ียงกฎหมายตาม พรบ.โรงงาน และอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ชงิ บูรณาการหลายฉบบั ดงั นี้ ซ่ึงจะเข้าข่ายเป็นผู้ประกอบการรายย่อยท่ีไม่ได้จดทะเบียน 1. ปี 2554 ยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดการ เป็นโรงงาน ซึ่งจะพบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ อย่างไม่ ของเสียอันตรายจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว พ.ศ.........แต่พระราช เหมาะสม ผู้ประกอบการรีไซเคิลดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ บญั ญตั ดิ งั กลา่ วไปซำ�้ ซอ้ นกบั พระราชบญั ญตั มิ าตราการการคลงั และมตี น้ ทนุ ตำ่� แตก่ ม็ ปี ระสทิ ธภิ าพในการนำ� วสั ดมุ คี า่ กลบั มาใชน้ อ้ ย เพื่อส่ิงแวดล้อมท่ีเสนอโดยกระทรวงการคลัง ดังนั้นจึงมีการ กระบวนการรไี ซเคลิ ซากผลติ ภณั ฑแ์ บบนท้ี ำ� ใหเ้ กดิ การปนเปอ้ื น ยกร่างพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข ของสารพิษในระบบนิเวศ โดยผู้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ และการจัดการเงินรายได้จากค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์ คนงาน และชมุ ชนใกลเ้ คยี งแหลง่ รไี ซเคลิ ซากผลติ ภณั ฑฯ์ กอ่ ให้ ภายใตร้ า่ งพระราชบัญญตั ิของกระทรวงการคลัง แตใ่ นขณะน้ัน เกดิ ความเส่ียงตอ่ สุขภาพอนามยั และสิง่ แวดล้อมได้ กระทรวงการคลงั ไม่เห็นดว้ ยกบั การรวมรา่ งอนุบญั ญัติเกย่ี วกบั คา่ ธรรมเนยี มผลติ ภณั ฑไ์ วใ้ นรา่ งพระราชบญั ญตั มิ าตราการการ คลังเพ่ือส่ิงแวดลอ้ ม ที่ผ่านมาประเทศไทย ได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม 2. ปี 2557 ยกรา่ งพระราชบญั ญตั กิ ารจดั การซากผลติ ภณั ฑ์ จากซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่นับวัน เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และของเสียอันตรายต่อ จะย่ิงทวีความรุนแรงข้ึน จึงได้ด�ำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ชุมชน พ.ศ.... เพ่ือก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข กบั การบริหารจัดการซากผลิตภณั ฑฯ์ ดังน้ี การจัดระบบรับคืน รวบรวม เก็บรักษา การขนส่ง การรีไซเคิล ปี พ.ศ. 2550 หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ร่วมกันยกร่าง และการก�ำจัดซากผลิตภัณฑ์ฯ ให้มีความปลอดภัย โดยใช้ ยุทธศาสตร์การจัดการซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ หลักการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนควบคู่ไปกับหลัก อิเล็กทรอนิกส์เชิงบูรณาการข้ึน เพ่ือใช้เป็นกรอบและแนวทาง การความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer ในการแกไ้ ขปญั หาการจดั การซากผลติ ภณั ฑฯ์ ตง้ั แตต่ น้ ทางจนถงึ Responsibility:EPR) โดยมสี าระส�ำคญั ดงั น้ี ปลายทางตามหลกั การผกู้ อ่ มลพษิ เปน็ ผจู้ า่ ย โดยใหค้ วามสำ� คญั (1) กำ� หนดใหม้ คี ณะกรรมการกำ� หนดประเภทผลติ ภณั ฑ์ กบั การพฒั นาระบบกฎหมายและกลไกทางการเงนิ เพอื่ การจดั การ หรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ท่ีจะควบคุม ช่วงแรกเสนอให้เป็นกลุ่ม ซากผลิตภัณฑ์ฯ ในอนาคต โดยให้มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ผลติ ภณั ฑเ์ ครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตและผู้น�ำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและ (2) ก�ำหนดให้ใช้หลักการความรับผิดชอบของผู้ผลิต อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท และน�ำเข้าเป็นรายได้ของกองทุน (Extended Producer Responsibility:EPR) ชว่ งแรกเนน้ การสง่ เสรมิ ของรัฐเพ่ือเป็นแหล่งงบประมาณในการพัฒนาและสนับสนุน ให้ผู้ผลิตเสนอแผนความรับผิดชอบ และรวมตัวกันสร้าง กลไกการรับซ้ือคืนซากผลิตภัณฑ์ฯและกลไกการจัดการซาก ระบบการจัดการติดตาม และรายงานข้อมูล ส่วนการจัดเก็บ ผลิตภัณฑ์ อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นมิตรต่อ ค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์ต้องเตรียมความพร้อมของกองทุน สิ่งแวดล้อม แต่ทั้งนี้ต้องมีการผลักดันกฎหมายมารองรับการ สิ่งแวดล้อม เพ่ือน�ำไปใช้ในการสนับสนุนการจัดการของเสีย ดำ� เนนิ การดังกลา่ ว อันตรายตามกฎหมายนี้ Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

12 ติดตามเฝา้ ระวัง (3) กำ� หนดหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของทกุ ภาคสว่ น ตง้ั แต่ (1) ก�ำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารจัดการขยะเพื่อ ผู้บริโภค ผู้ผลิตและผู้น�ำเข้า ผู้จัดจ�ำหน่าย องค์กรปกครอง ให้มีผู้บริหารกฎหมายในระดับนโยบายเป็นผู้ก�ำหนดแนวทาง สว่ นทอ้ งถนิ่ รวมท้ังผู้ประกอบการรีไซเคิล ปฏบิ ตั แิ ละกำ� กบั การปฏบิ ตั ิ โดยแบง่ เปน็ 2 ระดบั คอื ระดบั ชาติ (4) ก�ำหนดให้มีศูนย์รับคืนซากผลิตภัณฑ์ฯ หรือเครือ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และระดับพ้ืนท่ี มีผู้ว่าราชการ ขา่ ยศูนย์รบั คนื โดยไม่กีดกันร้านค้าของเก่า พอ่ คา้ มลู นธิ ติ ่างๆ จังหวัดเป็นประธานกรรมการ แตต่ ้องปฏิบตั ิตามเงอื่ นไขท่กี �ำหนด (2) ก�ำหนดใหม้ กี ารบรหิ ารกฎหมายท่ีเกีย่ วกบั ขยะ ถ้ามี 3. ปี 2558 ยกรา่ งพระราชบญั ญตั กิ ารบรหิ ารจดั การขยะ กฎหมายก�ำหนดรายละเอียดการด�ำเนินการไว้อย่างไร ให้มี แหง่ ชาติ พ.ศ..... เพอ่ื เปน็ กฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ กี ารบรหิ ารจดั การขยะ การปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านั้นต่อไป เว้นแต่ถ้าการจัดการ ของหน่วยงานของรัฐ ซ่ึงมีอ�ำนาจหน้าที่จัดการขยะแต่ละ ขยะในเร่ืองใดไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้รัฐมนตรี ประเภทให้สามารถวางแผนร่วมกันและด�ำเนินการร่วมกัน โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบรหิ ารจดั การขยะแหง่ ชาติ ในการจัดการขยะในภาพรวม เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาที่เกดิ จากขยะได้ มีอ�ำนาจออกกฎกระทรวงก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการ อย่างครบวงจร รวมทั้งก�ำหนดหน้าที่ของบุคคลต่างๆ ท่ีมีส่วน จัดการขยะนั้นได้ ทำ� ใหเ้ กดิ ขยะขน้ึ ในชมุ ชนวา่ ตอ้ งมบี ทบาทเกย่ี วขอ้ งอยา่ งไรบา้ ง (3) กำ� หนดหนา้ ทผี่ ผู้ ลติ ผลติ ภณั ฑค์ วบคมุ โดยรฐั มนตรมี ี ส่วนวิธีการในการจัดการขยะแต่ละประเภทซึ่งเป็นรายละเอียด อำ� นาจประกาศกำ� หนดใหผ้ ลติ ภณั ฑบ์ างประเภทเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ ทางเทคนิควิชาการเกี่ยวกับการจ�ำกัดขยะน้ันยังคงให้เป็นไป ควบคมุ ได้ และเมอื่ มปี ระกาศผลติ ภณั ฑค์ วบคมุ แลว้ ผผู้ ลติ มหี นา้ ท่ี ตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศที่เกี่ยวข้อง แจ้งข้อมูลเก่ียวกับการผลิตผลิตภัณฑ์นั้นให้กรมควบคุมมลพิษ เพียงแต่ร่างพระราชบัญญัตินี้จะก�ำหนดวิธีการบริหารกฎหมาย ทราบ และต้องเสนอแผนการจัดการผลติ ภณั ฑ์ควบคุมของตน ให้เกิดการบูรณาการ เพ่ือความสอดคล้องกันของมาตรฐาน (4) ก�ำหนดให้มีศูนย์รับคืนขยะ เพ่ือด�ำเนินการรวบรวม ในการด�ำเนินการก�ำจัดขยะ และเพ่ือให้ประชาชนสามารถ รบั คนื หรอื รับชื้อจากผใู้ ช้สินค้าที่จะทง้ิ เป็นขยะ เพ่ือดำ� เนินการ เข้าถึงข้อมูลและแนวทางในการจัดการกับขยะแต่ละประเภท จัดการขยะเหลา่ น้นั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ซงึ่ จะมสี ว่ นเสรมิ สรา้ งความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิ (5) ก�ำหนดมาตรการส่งเสริม ให้มีกองทุนการบริหาร ตามกฎหมายโดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระส�ำคัญ จัดการขยะข้ึนมาเฉพาะแยกต่างหากจากกองทุนส่ิงแวดล้อม ท่ีเก่ียวข้องกับการบริหารจัดการซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เพื่อเป็นเงินที่จะน�ำมาใช้จ่ายในการส่งเสริมการจัดการขยะ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ดังต่อไปน้ี ให้เกิดประสทิ ธภิ าพและมคี วามตอ่ เนื่อง Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ISSN:1686-1612 ติดตามเฝา้ ระวัง 13 ในอนาคตอันใกล้ ปัญหาการจัดการซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นปัญหาวิกฤติส่ิงแวดล้อม ของประเทศไทย สว่ นหนง่ึ เพราะเทคโนโลยที ม่ี กี ารพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง หรอื อาจเปน็ กลยทุ ธใ์ นการสง่ เสรมิ การขายของผผู้ ลติ เอง ทำ� ใหผ้ บู้ รโิ ภคตอ้ งทงิ้ ผลติ ภณั ฑฯ์ เกา่ และซอ้ื ของใหม่ รวมทง้ั ระบบการเกบ็ หรอื เรยี กคนื ผลติ ภณั ฑเ์ ดมิ ทเ่ี ปน็ ความรบั ผดิ ชอบของผู้ ผลิตและผู้ขายสินค้าเหล่านีย้ งั ไมม่ ี จงึ เปน็ ภาระขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ซ่ึงไม่มสี ถานที่ก�ำจดั อย่างถูกตอ้ ง ซากผลิตภณั ฑ์ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นประเทศไทยนบั วนั จะมปี รมิ าณมาก และมแี นวโนม้ เพมิ่ ขนึ้ ทกุ ปี ประกอบกบั ซาเลง้ และรา้ นรบั ซอื้ ของเกา่ ซงึ่ เปน็ แหลง่ รวบรวมและแยกชน้ิ สว่ นซากผลติ ภณั ฑฯ์ ทไ่ี ดจ้ ากผบู้ รโิ ภค มกี ารดำ� เนนิ การอยา่ งไมถ่ กู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ รวมทงั้ มกี ารจดั การซากทเ่ี หลอื จากการแยกชนิ้ สว่ นอยา่ งไมถ่ กู ตอ้ ง ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาผลกระทบตอ่ สขุ ภาพอนามยั ของประชาชน และสง่ิ แวดลอ้ ม องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ซง่ึ เปน็ หนว่ ยงานทด่ี ำ� เนนิ การรบั คนื ขยะ และการจดั การซากทเี่ หลอื จากการแยกชน้ิ สว่ น หรือของเสียอันตรายจากชุมชน ก็มีขีดความสามารถไม่เพียงพอที่จะจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง ประชาชนเองก็ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของซากผลิตภัณฑ์ฯ และผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและสุขภาพอนามัย รวมท้ังขาดแรงจูงใจในการคัดแยกขยะท�ำให้ไม่ได้รับความร่วมมือในการคัดแยกซากผลิตภัณฑ์ฯ ออกจากขยะมูลฝอยท่ัวไป ดงั นน้ั ถงึ เวลาแลว้ ทกี่ ารจดั การซากผลติ ภณั ฑเ์ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ องประเทศไทย จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กบั การจดั การซากผลติ ภณั ฑฯ์ (WEEE Directive) เพอ่ื กำ� หนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขการจดั ระบบรบั คนื รวบรวม เกบ็ รกั ษา การขนส่ง การรีไซเคิล และการก�ำจัดซากผลิตภัณฑ์ฯ ให้มีความปลอดภัย โดยใช้หลักการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนควบคู่ ไปกบั หลกั การความรับผิดชอบของผู้ผลติ (Extended Producer Responsibility:EPR) เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากซากผลติ ภัณฑ์ฯ ได้อย่างครบวงจร รวมทั้งก�ำหนดหนา้ ที่ของบคุ คลตา่ งๆ ทีม่ ีส่วนท�ำใหเ้ กิดซากผลิตภัณฑฯ์ วา่ ตอ้ งมบี ทบาทเก่ยี วขอ้ งอยา่ งไรบ้าง และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแนวทางในการจัดการกับซากผลิตภัณฑ์ฯ แต่ละประเภทได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะมี ส่วนเสริมสร้างความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย ท้ังนี้ประเทศไทยเองก็เริ่มมีการผลักดันกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องมามากกว่า 10 ปีแล้ว แต่คงยังไม่สายเกินไป ถ้าเร็วๆ น้ีภายใต้ยุคของการปฎิรูปประเทศไทยจะได้เห็นการประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการจดั การซากผลติ ภณั ฑ์ฯ เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ สข์ นึ้ ในประเทศไทย เอกสารอ้างอิง กรมควบคุมมลพิษ. (2551). ยุทธศาสตรก์ ารจัดการซากผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งใช้ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ชงิ บูรณาการ. กรุงเทพฯ : กรมควบคุมมลพิษ. กรมควบคุมมลพิษ. (2553). รายงานหลักโครงการศึกษาหลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข และอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการซากผลิตภัณฑ์ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส.์ กรุงเทพฯ : กรมควบคมุ มลพษิ . กรมควบคมุ มลพษิ . (2556). รายงานสถานการณม์ ลพิษของประเทศไทย ปี 2556. กรุงเทพฯ : กรมควบคมุ มลพษิ . กรมควบคุมมลพิษ และ สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2557). เอกสารประกอบการสัมมนาเผยแพร่ผลการด�ำเนินงาน “โครงการรา่ งกฎหมายการจดั การซากผลติ ภณั ฑเ์ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละของเสยี อนั ตรายตอ่ ชมุ ชน”. กรงุ เทพฯ : กรมควบคมุ มลพษิ กรมควบคมุ มลพษิ . (2558). เอกสารประกอบการประชมุ สมั มนาเพอื่ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ตอ่ รา่ งกฎหมายวา่ ดว้ ยการบรหิ ารจดั การขยะของประเทศไทย. กรุงเทพฯ : กรมควบคมุ มลพษิ Research No.30 May 2015

14 ติดตามเฝ้าระวัง ชวนพิศ บญุ ยอ่ ย เมธวจั น์ รงุ่ ศิรวิ รพงศ์ ณพวุฒิ ประวตั ิ ฐิติมา สจุ ินพรหม สทุ ธศิ ักด์ิ ณรงคศ์ ักด์ิ และรุจยา บณุ ยทมุ านนท์ สแถลาะมนลกพารษิ ณก์ขอ่ ยมะะอเริเลง็ ก็ ทรอนิกส์ ..ไดออกซนิ .. ขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-waste) หรอื Waste Electrical and 1 พันล้านคนทั่วโลก ซ่ึงจะเป็นการเพ่ิมปัญหาจ�ำนวนขยะ Electronic Equipment (WEEE) เปน็ ของเสยี ในกลมุ่ สารอนั ตราย อิเล็กทรอนกิ ส์ในอนาคตได้ (Hazardous Waste) ทปี่ ระกอบดว้ ย เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ หรอื อปุ กรณ์ ช้นิ สว่ นอิเล็กทรอนิกสท์ ีเ่ สอ่ื มสภาพ ในปัจจุบันปญั หาเก่ียวกบั จากขอ้ มลู รายงานของกรมโรงงานอตุ สาหกรรม [1] พบวา่ ขยะเหล่านี้ก�ำลังเป็นท่ีวิตกกังวลอย่างมาก เน่ืองจากชิ้นส่วน ในปีพ.ศ 2556 จ�ำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่าน้ี มีความเป็นพิษสูงและไม่ มีปริมาณสูงกว่า 20 ล้านเครื่อง และมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น สามารถย่อยสลายไดต้ ามธรรมชาติ ร้อยละ 10 ต่อปี โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือมีปริมาณสูงถึง 9.2 ล้านเคร่ือง ซ่ึงถือว่ามากเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ ความก้าวล�้ำทางเทคโนโลยีทุกวันนี้ ท�ำให้สินค้า อุปกรณ์เล่นภาพ/เสียง 3.3 ล้านเครื่อง โทรทัศน์ 2.5 ล้าน อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในสภาพตกรุ่นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะ เครื่อง คอมพิวเตอร์ 2 ล้านเคร่ือง เครื่องพิมพ์/โทรสาร เคร่ืองคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ PC รวมถึงโทรศัพท์มือถือ 1.5 ล้านเครื่อง กล้องถ่ายภาพ/วิดีโอ 7 แสนเครื่อง ซงึ่ มอี ตั ราการเปลยี่ นใหมข่ องผบู้ รโิ ภคสงู ทส่ี ดุ โดยอายกุ ารใชง้ าน เคร่ืองปรับอากาศ 7 แสนเครื่อง และตู้เย็น 8 แสนเคร่ือง ของเครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน อยู่ระหว่าง 3-5 ปี ในขณะที่ นอกจากน้ี ยังพบว่าในแต่ละปีมีขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า โทรศัพท์มือถือมีอายุใช้งานเฉล่ีย 2 ปี โดยจ�ำนวนผู้ใช้ 40 ล้านตันทั่วโลก [2] ปัจจุบันโรงงานทั้งในและต่างประเทศ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือปัจจุบันมีมากกว่า ท่ีมีกระบวนการคัดแยกและบดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า ISSN:1686-1612Research No.30 May 2015

ตดิ ตามเฝ้าระวัง 15 อิเล็กทรอนิกส์ยังมีจ�ำนวนน้อย ไม่เพียงพอกับปริมาณ สารพิษเหล่าน้ีสามารถเข้าสู่ร่างกายและสะสมยาวนาน ผ่าน ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่าง ทางระบบทางเดินหายใจซึ่งจะลอยปนอยู่ในฝุ่นละออง และ รวดเรว็ และหากกระบวนกำ� จดั โดยการแปรรปู นำ� กลบั มาใชใ้ หม่ ระบบทางเดินอาหารผ่านการบริโภคอาหารท่ีมีการปนเปื้อน (Recycle) ไมม่ มี าตรการและการควบคมุ ทด่ี เี พยี งพอ ยอ่ มกอ่ ให้ อยใู่ นวตั ถุดบิ นอกจากนม้ี ีงานวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ทไ่ี ด้รบั การ เกดิ สารพิษทม่ี ีผลกระทบต่อระบบนิเวศและสงิ่ แวดล้อมได้ ตพี มิ พ์ในวารสารระดับนานาชาตไิ ด้ท�ำการศกึ ษา และตรวจพบ สารในกลุ่ม Dioxin, Furan และ Dioxin-related ถือเป็น การสะสมของ PCDD/Fs และ Polybrominated Dibenzo-p- กลมุ่ ของสารเคมที ม่ี คี วามเปน็ พษิ สงู ตอ่ สง่ิ มชี วี ติ [3] โดยสว่ นมาก dioxins and Dibenzo-furans (PBDD/Fs) ในนำ�้ นมมารดาทอ่ี าศยั กระบวนการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ จะใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง อยู่บริเวณรไี ซเคลิ ไซต์ต่างๆ เปรยี บเทียบกัน [5] อาทิ การเผาไหมใ้ นระบบเปดิ (Open Incineration) ซงึ่ เปน็ การ นอกจากนี้การสะสมของสารกลุ่ม Dioxin, Furan และ ให้เกิดสารพิษ ท้ัง Polychlorinated Dibenzo-p-dioxins and Dioxin-related สามารถเกิดข้ึนและสร้างผลกระทบได้ใน Diobenzo-furans (PCDD/Fs) รวมถงึ Polybrominated Diphenyl ส่ิงมีชีวิตชนิดอนื่ ๆ ดว้ ย เชน่ ปลา นก และไขน่ ก รวมถึงตน้ ไม้ Ethers (PBDEs) และ Polychlorinated Biphenyls (PCBs) โดย ในบริเวณท่มี ีการรไี ซเคิลขยะอิเลก็ ทรอนกิ ส์ โดยมีการวิเคราะห์ สามารถถูกตรวจพบได้ในดิน พืช และตัวอย่างทางชีวภาพ และตรวจสอบปริมาณการดูดซึมและสะสมของสารเหล่าน้ีผ่าน (bio-sample) ในบรเิ วณแหลง่ คดั แยกขยะ [4] และบรเิ วณใกลเ้ คยี ง ทางเปลอื กของต้นไมไ้ ด้ [6] รปู ท่ี 1 และ 2 พืน้ ทีเ่ ทกองและเผาขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธ์ุ รปู ท่ี 3 พน้ื ทีเ่ ทกองและเผาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ISSN:1686-1612 รูปท่ี 4 การเผาไหม้ในระบบเปดิ เพอื่ นำ� ทองแดงในสายไฟ ต.โคกสะอ(ทาด่ีมาอ:.hฆt้อtpง:ช//ัยewจa.กstาeฬgสuินidธe์ุ.iกnลfoับ) มาใชใ้ หม่ Research No.30 May 2015

16 ติดตามเฝา้ ระวัง สถาบันไดออกซินแห่งชาติ กรมส่งเสริมคุณภาพ การตรวจวัดสารไดออกซินในบรรยากาศของพื้นที่ ส่ิงแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำ� รวจยงั อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐานทไ่ี มเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ได้เล็งเห็นถึงความส�ำคัญของปัญหาท่ีอาจส่งผลกระทบ ค่ามาตรฐานท่ีก�ำหนดของสารไดออกซินและฟิวแรนท่ียอมรับ ต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศ อันเน่ืองมาจากการรีไซเคิลขยะ ได้ คือไม่เกิน 0.6 pg-TEQ/m3 นอกจากจะตรวจพบสารพิษ อิเล็กทรอนิกส์อย่างผิดวิธี จึงได้ท�ำการศึกษาวิจัยและวิเคราะห์ ชนดิ ไดออกซนิ /ฟวิ แรนบรเิ วณสถานทคี่ ดั แยกขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ปริมาณสารในกลุ่ม Dioxin และ Furan ในอากาศบริเวณพื้นท่ี แล้ว ยังมีรายงานจากวารสารพิษวิทยาไทย [9] มีการตรวจ ที่มีการรีไซเคิลขยะเหล่าน้ี ที่อ�ำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ พบสารพิษชนิดอ่ืนท่ีอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คน โดยท�ำการเก็บตัวอย่างอากาศในพื้นที่รอบบ่อขยะ โดยรอบ เช่น สารจ�ำพวกโลหะหนัก ได้แก่ ตะกั่ว (Lead) (อ.ฆ้องชยั จ.กาฬสนิ ธุ)์ รวมทงั้ สนิ้ 3 จดุ ไดแ้ ก่ บริเวณริมถนน ปรอท (Mercury) แคดเมียม (Cadmium) โครเมียม (Chromium) ขอนแกน่ -โพนทอง โรงเรยี นบวั สะอาดสง่ เสรมิ และโรงเรยี นโคก และสารอื่นๆ ท่ีสามารถพบได้ เช่น กลุ่มโบรมีน (Brominated ประสิทธิ์วิทยา ตามมาตรฐานของกระทรวงส่ิงแวดล้อมญี่ปุ่น Flame Retardants) โพลีไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride โดยใช้เครื่อง High volume air sampler รุน่ HV1000R ทำ� การ PVC) โพลีคลอริเนตไบฟีนิล (Polychlorinated Biphenyls, ดูดอากาศผ่านกระดาษกรองและพอลิยูรีเทนโฟม (PUF) PCBs) ไตรฟีนิลฟอสเฟต (Triphenyl phosphate, TPP) ด้วยอัตราเร็ว 700-1000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที เป็นเวลา โนนลิ ฟนี อล (Nonylphenol, NP) และโพลคี ลอรเิ นทเตด็ แนฟทาลนี 18-24 ชั่วโมงต่อเนื่อง ตัวอย่างท่ีเก็บได้น�ำไปสกัดด้วยโทลูอีน (Polychlorinated Naphthalene, PCNs) แลว้ กำ� จดั สง่ิ สกปรกโดยใช้ Multilayer Silica Column และ Active ดงั นน้ั การจดั การพน้ื ทบ่ี รเิ วณบอ่ กำ� จดั ขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ Carbon Chromatography จากน้ันน�ำไปวิเคราะห์ด้วยเครื่อง จึงเป็นสิ่งท่ีทางภาครัฐและเอกชนควรให้ความส�ำคัญ แม้ว่า Gas Chromatograph/High Resolution Mass Spectrometer ในทางปฏิบัติจะกระท�ำได้ค่อนข้างยากก็ตาม โดยในปัจจุบันนี้ รุ่น JEOL JMS-800D และวเิ คราะห์ผลด้วยโปรแกรม DIOK ในหลายประเทศก�ำลังมีการรณรงค์ให้ลดและจ�ำกัดพื้นที่การ ซึ่งจากผลการวิเคราะห์ตัวอย่างพบว่า อากาศบริเวณ จดั การขยะ รวมถงึ การสง่ ขยะเหลา่ นไ้ี ปรไี ซเคลิ ทบ่ี รษิ ทั รบั กำ� จดั ชุมชนใน อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ท้ัง 3 จุด ได้แก่ ริมถนน ซึ่งได้รับมาตรฐานการรับรอง และมีกระบวนการท่ีเป็นมิตรต่อ ข่อนแก่น-โพนทอง (ห่างจากพื้นท่ีเผา 1 กิโลเมตร) โรงเรียน สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยงั มีนวตั กรรมใหม่ๆ อาทิ เตาเผาขยะ บัวสะอาดส่งเสรมิ (หา่ งจากพนื้ ท่ีเผา 2 กโิ ลเมตร) และโรงเรียน ไรม้ ลพษิ ท่ีมีการควบคุมอณุ หภมู ิ และการเผาไหม้ ซง่ึ สามารถ โคกประสิทธิ์วิทยา (ห่างจากพื้นที่เผา 6 กิโลเมตร) พบว่า เป็นอกี ทางเลอื กหนึ่งในการจดั การปัญหานี้ มีปริมาณรวมของไดออกซิน/ฟิวแรน เท่ากับ 0.0946, 0.0167 และ 0.0680 พิโคกรัม TEQ ต่อลูกบาศก์เมตร ตามล�ำดับ เมอื่ เทยี บกบั คา่ มาตรฐานของสารไดออกซนิ ในบรรยากาศทว่ั ไป ท่ีประเทศแคนาดาและประเทศญี่ปุ่นก�ำหนด ปริมาณท่ีพบ ไม่ควรเกิน 0.1 พิโคกรัม TEQ ต่อลูกบาศก์เมตร และ 0.6 พโิ คกรมั TEQ ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร โดยมคี า่ ตำ�่ กวา่ คา่ มาตรฐานของ ญป่ี นุ่ ซงึ่ กำ� หนดไวไ้ มเ่ กนิ 0.6 พโิ คกรมั TEQ ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร [7] และในประเทศแคนาดากำ� หนดไวไ้ มเ่ กิน 0.1 พิโคกรมั TEQ [8] ส�ำหรับประเทศไทยยังไม่มีการก�ำหนดค่ามาตรฐานของ ไดออกซินในอากาศถึงแม้ว่าปริมาณสารไดออกซินท่ีตรวจพบ ใน 3 พนื้ ทนี่ นั้ จะไมเ่ กนิ มาตรฐานทต่ี า่ งประเทศกำ� หนด แตย่ งั มี ความจ�ำเป็นต้องเฝ้าระวังเน่ืองจากมีการน�ำขยะจากพ้ืนที่อ่ืน มาคดั แยกในพนื้ ท่ี ต.โคกสะอาดและเผามากขน้ึ ตามจำ� นวนขยะ อิเลก็ ทรอนิกส์ทเี่ พ่มิ ข้ึนทกุ ปี ภาพเครอื่ ง High volume air sampler รนุ่ HV1000R Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ติดตามเฝ้าระวงั 17 ตารางแสดงคา่ ปรมิ าณสารประกอบในกลุ่ม ไดออกซนิ /ฟิวเรน แบ่งตามพน้ื ท่ที ่ที �ำการทดลอง สารประกอบ ปริมาณไดออกซิน/ฟวิ แรน (pg-TEQ/m3) ถ.ขอนแก่น-โพนทอง รร.บัวสะอาดสง่ เสริม รร.โคกประสทิ ธวิ์ ทิ ยา 2,3,7,8-TCDD - - - 1,2,3,7,8-PeCDD - - - 1,2,3,4,7,8-HxCDD 0.0009 0.0003 0.0004 1,2,3,6,7,8-HxCDD 0.0023 0.0006 0.0011 1,2,3,7,8,9-HxCDD 0.0027 0.0007 0.0005 1,2,3,4,6,7,8-HpCDD 0.0009 0.0003 0.0003 OCDD 0.00004 0.00003 0.00001 2,3,7,8-TCDF 0.0048 0.0009 0.0047 1,2,3,7,8-PeCDF 0.0018 0.0003 0.0012 2,3,4,7,8-PeCDF 0.0310 0.0050 0.0230 1,2,3,4,7,8-HxCDF 0.0107 0.0019 0.0093 1,2,3,6,7,8-HxCDF 0.0113 0.0018 0.0083 2,3,4,6,7,8-HxCDF 0.0140 0.0025 0.0079 1,2,3,7,8,9-HxCDF 0.0086 0.0012 0.0078 1,2,3,4,6,7,8-HpCDF 0.0043 0.0009 0.0029 1,2,3,4,7,8,9-HpCDF 0.0010 0.0002 0.0006 OCDF 0.0001 0.0000 0.0001 ไดออกซินและฟิวแรน 0.0946 0.0167 0.0680 ทง้ั หมด รูปที่ 5 จดุ เกบ็ ตัวอยา่ ง ถ.ขอนแกน่ -โพนทอง ISSN:1686-1612 รูปท่ี 6 จุดเแกล็บะตทัวีมองยา่านง ทโรสงจเร.ียกนาฬบสวั นิสะธอุ์ าดสง่ เสริม Research No.30 May 2015

ISSN:1686-161218 ติดตามเฝา้ ระวัง แผนท่ีเก็บตัวอย่างอากาศบรเิ วณ ต.โคกสะอาด อ.ฆอ้ งชยั จ.กาฬสินธ์ุ A: บรเิ วณพ้นื ที่เผาขยะ E-waste CB:: ถรร.ข.บอวันสแะกอน่ า-ดโพสง่นเทสอรมิ ง,, ((หหา่่างงจจาากกพพ้นื้นื ทท่เีี่เผผาา 12 กกิโโิ ลลเเมมตตรร)) D: รร.โคกประสทิ ธิ์วทิ ยา, (หา่ งจากพ้ืนที่เผา 6 กโิ ลเมตร) [1] รายงานภาวะสงั คมไทยไตรมาส 3 ปี 2557, สำ� นกั งาน สศช, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, กระทรวงอตุ สาหกรรม. [2] Zeng, X., Song, Q., Li, J., Yuan, W., Duan, H., Liu, L., 2015. J. Clean. Prod. 90, 55-59. [3] Sorg, O., 2014. AhR signaling and dioxin toxicity. Toxicol. Lett. 230, 225-233. [4] Liu, H., Zhou, Q., Wang, Y., Zhang, Q., Cai, Z., Jiang, G., 2008. Environ. Int. 34, 67-72. [5] T ue, N.M., Katsura K., Suzuki, G., Tuyen, L.H., Takasuga, T., Takahashi, S., Viet, P.H., Tanabe, S., 2014. Ecotox. Environ. Safe. 106, 220-225. [6] Wen, S., Yang, F., Li, J.G., Gong, Y., Zhang, X.L., Hui, Y., Wu, Y.N., Zhao, Y.F., Xu, Ying., 2009. Chemosphere. 74, 981-987. [7] Ministry of the Environment, Government of Japan. <http:// www.env.go.jp/en/chemi>. [8] Canadian Council of Ministers of the Environment. < http://www.ccme.ca/en>. [9] อรวรรณ พ่พู สิ ุทธ์ิ และศุลีพร แสงกระจา่ ง, 2533. พษิ วิทยาไทย 25(1), 67-76. Research No.30 May 2015

ISSN:1686-1612 ติดตามเฝ้าระวัง 19 ดร. จฑุ าธิป อยู่เย็น ความหลากหลายทาเพงชือ่ วี ใหภเ้ากพิดขผอลงสปมัระฤเททศธิ์ ภายใตก้ ารประชมุ สมชั ชาภาคอี นุสัญญาวา่ ด้วย ความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 1-12 ด้วยความตระหนักและเข้าใจในความเส่ือมโทรมของทรัพยากรชีวภาพ การถดถอยของความหลากหลายชีวภาพ ประเทศไทยตัดสินใจเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ล�ำดับท่ี 188 โดยมีหน้าที่จะต้องด�ำเนิน การตามข้อตัดสินใจและพันธกรณีในมาตราต่างๆ ของอนุสัญญาฯ โปรแกรมงานของอนุสัญญาฯ และข้อตัดสินใจการ ประชุมทีเ่ กดิ ข้ึนจากการประชุมทเ่ี กดิ ขึ้นจากการประชุมสมัชชาภาคี อนุสัญญาฯ สมัยต่างๆ โดยส�ำนักงานนโยบายและ และผลประโยชน์ขอการพาณิชย์ 3. น�ำไปสู่การอนุรักษ์และใช้ แผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในฐานะหน่วยงาน ประโยชนค์ วามหลากหลายทางชวี ภาพอยา่ งยง่ั ยนื 4. เออ้ื อำ� นวย ประสานงานกลางระดับชาติของอนุสัญญาฯ มีหน้าท่ีในการ การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ประเทศก�ำลังพัฒนาและ ประสานและด�ำเนินการเพ่ือให้การอนุมัติการตามอนุสัญญาฯ 5. การมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาท่ีเกี่ยวกับทรัพยากร บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชวี ภาพ พนั ธกุ รรมของภาคผี ใู้ ห้ วตั ถปุ ระสงคข์ องอนสุ ญั ญา 1.เพอ่ื อนรุ กั ษ์ ภายใตโ้ ครงการสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ สหประชาชาติ (UNEP) ไดเ้ ปดิ ให้ ความหลากหลายทางชวี ภาพ 2. ใชป้ ระโยชนจ์ ากองคป์ ระกอบของ มกี ารลงนามเมอ่ื วนั ที่ 5 มถิ นุ ายน ค.ศ. 1992 และมผี ลบงั คบั ใช้ ความหลากหลายทางชวี ภาพอยา่ งยง่ั ยนื 3. แบง่ ปนั ผลประโยชนท์ ไี่ ด้ ตง้ั แตว่ นั ท่ี 29 ธนั วาคม ค.ศ. 1993 ปจั จบุ นั มภี าคอี นสุ ญั ญาฯ จากการใชท้ รพั ยากรพนั ธกุ รรมอยา่ งยตุ ธิ รรมและเทา่ เทยี ม โดยการ 193 ประเทศ อนสุ ญั ญาฯ มเี ปา้ หมายเพอื่ สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษค์ วาม เขา้ ถงึ ทรพั ยากรพนั ธกุ รรมและการถา่ ยทอดเทคโนโลยที เ่ี กยี่ วขอ้ ง หลากหลายทางชวี ภาพ การใชป้ ระโยชนอ์ งคป์ ระกอบของความ อยา่ งเหมาะสม (www.onep.go.th,ค.ศ.2015) รายละเอยี ดความ หลากหลายทางชวี ภาพอยา่ งยงั่ ยนื และการแบง่ ปนั ผลประโยชน์ สำ� คญั ในการประชมุ COP ตา่ งๆ ดงั นี้ ทไี่ ดจ้ ากการใชท้ รพั ยากรพนั ธกุ รรมอยา่ งยตุ ธิ รรมและเทา่ เทยี ม โดยมี สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ (COP) เปน็ หนว่ ยงานบรหิ ารจดั การของ อนุสัญญาฯ หลักการของ Convention of Biodiversity มีดังน้ี 1. รฐั มสี ทิ ธอิ ธปิ ไตยเหนอื ทรพั ยากรธรรมชาตขิ องตน 2. การแบง่ ปนั ผลประโยชนจ์ ากการใชท้ รพั ยากรพนั ธกุ รรม และภมู ปิ ญั ญา ท้องถ่ินอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม ทั้งผลการวิจัยและพัฒนา Research No.30 May 2015

20 ตดิ ตามเฝา้ ระวงั การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ท่ี 1 (COP1): อาจมีผลเสียหายต่อความหลากหลายทางชวี ภาพ โดยค�ำนงึ ถึง การประชุมสมัยแรกของสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ มีขึ้นในเดือน สขุ อนามยั ของมนษุ ย์ และมงุ่ เนน้ เปน็ พเิ ศษเรอื่ งการเคลอื่ นยา้ ย พฤศจกิ ายน-ธนั วาคม ค.ศ. 1994 ณ กรงุ นสั ซอ ประเทศบาฮามาส ส่งิ มชี ีวิตดังกลา่ วข้ามพรมแดน สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ได้ก�ำหนดกรอบการด�ำเนินงาน ตามอนุสัญญาฯ โดยจัดต้ังกลไกการเผยแพร่ข้อมูลข่างสาร (CHM) คณะทป่ี รกึ ษาทางวทิ ยาศาสตร์ (SBSTTA) และมอบหมาย ให้กองทุนส่ิงแวดล้อมโลก (GEF) เป็นกลไกการเงินขอ อนสุ ัญญาฯ การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ท่ี 2 (COP2): การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ที่ 5 (COP5): มีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1995 ณ กรุงจาการ์ตา มขี น้ึ ในเดอื นพฤษภาคม ค.ศ. 2000 ณ กรงุ ไนโรบี ประเทศเคนยา ประเทศอินโดนีเซีย สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ได้รับรองข้อมติ สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ได้รับรองโปรแกรมงานว่าด้วยความ เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง หลากหลายทางชีวภาพในพ้ืนที่แห้งแล้งและพ้ืนท่ีก่ึงชื้น (Jakarta Mandate) และได้จัดตั้งคณะท�ำงานเฉพาะกิจว่าด้วย โปรแกรมงานว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทาง ความปลอดภัยทางชีวภาพขึ้น เพื่อเตรียมการจัดท�ำพิธีสาร การเกษตร มาตรการสร้างแรงจูงใจ มาตรา 8 (j) และ ว่าดว้ ยความปลอดภยั ทางชีวภาพ ค�ำแนะแนวทางเชิงปฏิบัติเร่ืองแนวทางเชิงระบบนิเวศ การใช้ การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ที่ 3 (COP3): ประโยชน์อย่างยั่งยืน ความหลากหลายทางชีวภาพกับการ มีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1996 ณ กรุงบัวโนสไอเรส ท่องเที่ยว ชนิดพันธุ์ต่างถ่ินที่รุกราน การริเริ่มทั่วโลก ประเทศอาร์เจนตินา ตามล�ำดับสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ทางอนุกรมวิธาน และจัดต้ังคณะท�ำงานเร่ืองการเข้าถึงและ ไดร้ ับรองบนั ทึกความเขา้ ใจกบั กองทุนสง่ิ แวดล้อม (GEF) การแบ่งปนั ผลประโยชน์ การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ท่ี 4 (COP4): การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ท่ี 6 (COP6): มีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1998 ณ กรุงบราทิสลาวา มีขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 2002 ณ กรุงเฮก ประเทศ สาธารณรฐั สโลวกั สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ ไดจ้ ดั ตง้ั คณะทำ� งาน เนเธอร์แลนด์ สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ได้รับรองแผนกลยุทธ์ ว่าด้วยมาตรา 8 (j) (ความรู้ที่สืบทอดตามธรรมเนียมประเพณี) ส�ำหรบั อนุสญั ญาฯ รวมถงึ เปา้ หมายลดอัตราการสญู เสยี ความ และคณะผเู้ ชยี่ วชาญเรอื่ งการเขา้ ถงึ และการแบง่ ปนั ผลประโยชน์ หลากหลายทางชีวภาพอย่างมีนัยส�ำคัญ ภายในปี 2010 และ และรับรองโปรแกรมงานว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ได้รับรองโปรแกรมงานว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพใน ในป่าไม้ และการริเร่ิมท่วั โลกทางอนุกรมวธิ าน (GTI) ป่าไม้ฉบับท่ีปรับปรุงแก้ไขแล้ว หลักแนวทางว่าด้วยชนิดพันธุ์ การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยพิเศษ ตา่ งถน่ิ ทร่ี กุ ราน แนวทางบอนนว์ า่ ดว้ ยการเขา้ ถงึ และการแบง่ ปนั (ExCOP): หลงั จากการประชมุ คณะทำ� งานวา่ ดว้ ยความปลอดภยั ผลประโยชน์ รวมถึงข้อมติว่าด้วยกลยุทธ์ท่ัวโลกส�ำหรับการ ทางชีวภาพหกคร้ัง ในช่วงระหว่างปี 1996 ถึง 1999 สมัชชา อนุรักษ์พืช (GSPC) มาตรการสร้างแรงจูงใจ มาตรา 8 (j) ภาคีอนุสัญญาฯ ได้มีการประชุมสมัยพิเศษ (ExCOP) ครั้งแรก และโปรแกรมงานสำ� หรบั การรเิ ริม่ ทวั่ โลกทางอนุกรมวิธาน ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1999 ณ เมืองคาร์ตาเฮนา ประเทศ การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ที่ 7 (COP7): โคลอมเบีย ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปที่เป็นฉันทามติในการยกร่าง มีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ พิธีสารความปลอดภัยทางชีวภาพ จึงมีการประชุมอีกครั้ง ประเทศมาเลเซีย สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ได้รับรองโปรแกรม (resumedExCOP)ในเดอื นมกราคมค.ศ.2000ณนครมอนทรอี อล งานวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชวี ภาพแหง่ ภเู ขา โปรแกรมงาน ประเทศแคนาดา ซึ่งได้รับรองพิธีสารคาร์ตาเฮนาว่าด้วย ว่าด้วยพื้นท่ีคุ้มครอง และ โปรแกรมงานว่าด้วยการถ่ายทอด ความปลอดภัยทางชีวภาพ และจัดตั้งคณะกรรมการระหว่าง เทคโนโลยีและความร่วมมือทางเทคโนโลยี และมอบหมาย รัฐบาลส�ำหรับพิธีสารคาร์ตาเฮนาว่าด้วยความปลอดภัย ให้คณะท�ำงานว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์ ทางชีวภาพ (ICCP) เพ่ือเตรียมการประชุมสมัชชาภาคีพิธี เรมิ่ ทำ� การเจรจาตอ่ รองเรอ่ื งระบอบระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยการ สารฯ (COP/MOP) สมัยท่ี 1 พิธีสารฯ มุ่งเน้นท่ีประเด็นการ เข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์ สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ขนย้าย การดูแล และการใช้ประโยชน์ส่ิงมีชีวิตที่ได้รับการ ยังได้รับรอง ข้อมติในการทบทวนการด�ำเนินงานตาม ดดั แปลงพนั ธกุ รรม (LMOs) อยา่ งปลอดภยั ซง่ึ สงิ่ มชี วี ติ ดงั กลา่ ว อนุสัญญาฯ, แผนกลยุทธ์ และความก้าวหน้าในการ Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ติดตามเฝา้ ระวัง 21 บรรลุเป้าหมายปี 2010 แนวทางอัคเวย์ คู ส�ำหรบั การวิเคราะห์ ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะกจิ วา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชวี ภาพกบั การ ประเมินผลกระทบทางวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และสังคม เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้น และรับรองข้อมติในประเด็น หลกั การและแนวทางแอดดสิ อาบาบา ส�ำหรับการใช้ประโยชน์ ต่างๆ เช่น เช้ือเพลิงชีวภาพ ต้นไม้ตัดต่อพันธุกรรม พ้ืนท่ี อย่างยั่งยืน และแนวทางว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ คุ้มครอง และสภาวะการเพิ่มธาตุอาหารในมหาสมุทร (ocean กับการพัฒนาการท่องเท่ยี ว fertilization) การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ท่ี 8 (COP8): การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยท่ี 10 มีขึ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006 ณ เมืองคูริติบา สหพันธ์ (COP10): มขี ึน้ ในเดอื นตุลาคม 2010 ณ นครนาโงยา ประเทศ สาธารณรัฐบราซลิ สมัชชาภาคีอนสุ ญั ญาฯ ได้รบั รองโปรแกรม ญ่ีปุ่น สมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ได้รับรอง: พิธีสารนาโงยา งานวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชวี ภาพแหง่ เกาะ และขอ้ มตใิ น ว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์จาก ทรัพยากร ประเดน็ ตา่ งๆ รวมถงึ : มาตรา 8 (j) การตดิ ตอ่ สอื่ สาร การใหก้ าร พนั ธกุ รรม ซง่ึ ก�ำหนดกฎระเบยี บและขน้ั ตอนส�ำหรบั การด�ำเนนิ ศกึ ษา และการเสริมสรา้ งความตระหนักแก่สาธารณชน (CEPA) งานตามวัตถุประสงค์ข้อที่สามของอนุสัญญาฯ แผนกลยุทธ์ ความร่วมมือกับอนุสัญญาอ่ืนๆ และการมีส่วนเกี่ยวข้องของ ของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ส�ำหรับ ภาคเอกชน พน้ื ทคี่ มุ้ ครอง รวมถงึ พน้ื ทค่ี มุ้ ครองในเขตทะเลหลวง ปี 2011 - 2020 และเป้าหมายไอจิ ข้อมติเก่ียวกับกิจกรรม มาตรการสร้างแรงจูงใจ ความหลากหลายทางชีวภาพกับการ และดัชนีช้ีวัดส�ำหรับการด�ำเนินงานตามกลยุทธ์การขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ ทรัพยากร และข้อมติในประเด็นต่างๆ กว่า 40 ข้อ รวมถึง ในป่าไม้ ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง ความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งนํ้าในแผ่นดิน การใช้ และความหลากหลายทางชีวภาพทางการเกษตร สมัชชาภาคี ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างย่ังยืนการ อนุสัญญาฯ ได้ยืนยันข้อมติสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ ในการ เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศกับความหลากหลายทางชีวภาพ ประชุมสมัยที่ 5 (COP5) ที่ให้ห้ามการทดสอบภาคสนาม การริเริ่มท่ัวโลกทางอนุกรมวิธาน ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน กับเทคโนโลยีที่จ�ำกัดการใช้พันธุกรรม (GURTs) และขอให้ และแนวทางและวธิ กี ารปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพของคณะทป่ี รกึ ษา คณะท�ำงานว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์ ทางวทิ ยาศาสตรฯ์ (SBSTTA) ด�ำเนินงานเร่ืองระบอบระหว่างประเทศว่าด้วยการเข้าถึงและ การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ที่ 11 (COP11): การแบ่งปันผลประโยชน์ให้เสร็จโดยเร็วท่ีสุด ก่อนการประชุม มีขึ้นระหว่างวันที่ 8-19 ตุลาคม 2012 ณ เมืองไฮเดอราบาด สมชั ชาภาคอี นุสัญญาฯ สมัยที่ 10 (COP10) ใน ค.ศ. 2010 สาธารณรฐั อนิ เดยี ในการประชมุ ครงั้ นี้ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ การประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ สมยั ที่ 9 (COP9): ได้รับรองข้อมติ 33 ข้อ ทั้งในประเด็นเชิงกลยุทธ์ประเด็น มีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2008 ณ นครบอนน์ สหพันธ์ สารัตถะ ประเด็นการบริหารจัดการ และประเด็นทาง สาธารณรฐั เยอรมนี สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาฯ ไดร้ บั รอง: แผนที่ การเงินและงบประมาณ ท่ีส�ำคัญก�ำหนดเป้าหมายเฉพาะกาล เส้นทาง (roadmap) ส�ำหรับการเจรจาต่อรองเร่ืองระบอบ (interim target) ในการเพิ่มการสนับสนุนทรัพยากรการเงิน ระหว่างประเทศว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์ ในการด�ำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ให้แก่ ใหเ้ สรจ็ ภายในกำ� หนดเวลาปี 2010 กลยทุ ธส์ ำ� หรบั การขบั เคลอื่ น ประเทศก�ำลังพัฒนามากข้ึนเป็นสองเท่า ภายในปี 2015 และ ทรพั ยากร และเกณทท์ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละวชิ าการสำ� หรบั พนื้ ท่ี ให้คงการสนับสนุนดังกล่าวจนถึงปี 2020 เร่งเตือนภาคีและ ทางทะเลที่จ�ำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง และได้จัดตั้งคณะ กระตุ้นรัฐบาลอื่น และองค์กรที่เก่ียวข้องเพ่ือด�ำเนินงาน สอดประสานเพื่อบรรลุเป้าหมายไอจิท่ี 14 (Aichi Target 14) (ระบบนิเวศและบริการที่ส�ำคัญย่ิงได้รับการเฝ้าระวัง) และ15 (ระบบนิเวศได้รับการฟื้นฟูและฟื้นฟูความหยืดหยุ่นคงทน) และเพ่ือเกอ้ื กลู ตอ่ การบรรลุความส�ำเร็จของเปา้ หมายอ่นื และ รับทราบถึงแนวทางโดยสมัครใจส�ำหรับพิจารณาความหลาก หลายทางชีวภาพในการวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อม (EIA) และการวิเคราะห์ส่ิงแวดล้อมเชิงกลยุทธ์ (SEAs) พิเศษเฉพาะ ความหลากหลายทางชีวภาพในพ้ืนท่ีทะเลและชายฝั่งรวมทั้ง พนื้ ทีน่ อกเขตอ�ำนาจรัฐ (ABNJ) Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ISSN:1686-161222 ติดตามเฝา้ ระวงั การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยท่ี 12 (COP12): มีข้ึนระหว่างวันที่ 6-17 ตุลาคม 2014 ณ เมืองพยองซาง สาธารณรฐั เกาหลี ประมวลมตทิ ป่ี ระชมุ เปน็ ชดุ นโยบายทเี่ รยี กวา่ Pyeongchang Roadmap for the enhanced implementation of the Strange Plan for Biodiversity 2011-2020 and the achievement of the Aichi Biodiversity Target (Pyeongchang Roadmap) โดยมตทิ ่ีจะนำ� มารวมในชดุ นโยบาย มดี งั ตอ่ ไปนี้ 1. การทบทวนความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายของ แผนกลยุทธ์ความหลากหลายทางชีวภาพ 2011-2020 และ เป้าหมายไอจิและกิจกรรมในการพัฒนาความก้าวหน้าในเร่ือง ดงั กลา่ ว ความร่วมมือระหวา่ งอนสุ ัญญาฯ อน่ื ๆ 2. การระดมทรัพยากร 3. ความหลากหลายทางชีวภาพ และการพัฒนาอย่าง ยัง่ ยนื ต้ังแต่เร่ิมมีการประชุม COP1 ถึง COP12 เป็นเวลา จัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างย่ังยืน ส�ำหรับประเทศไทย กว่า 20 ปี ที่นานาชาติสมาชิกให้ความพยายามในการลดการ ได้มีการจัดท�ำแผนแม่บทบูรณาการจัดการความหลากหลาย ท�ำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และอนุรักษ์ให้เกิดการ ทางชีวภาพ พ.ศ. 2556-2564 เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ ใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างย่ังยืน ในขณะ ในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ ท่ีสถานการณ์การลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพยัง โดยความร่วมมือระหว่าง ส�ำนักงานนโยบายและแผน เกดิ ขน้ึ ทวั่ โลก จากทป่ี ระชมุ คขู่ นานกบั การประชมุ COP ประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ส�ำนักงานคณะกรรมการ สมาชิกสากลได้รว่ มกัน 167 สมาชิก ได้อุทศิ แรงกายและแรงใจ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และส�ำนักงานพัฒนา ร่วมกันในการท�ำงานให้สังคมตระหนักในการอยู่ร่วมกับ เศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) โดยได้รับความ ธรรมชาติ โดยจดั ตั้ง “ The International Partnership for the เห็นชอบจากคณะอนุกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยความหลาก Satoyama Initiative (IPSI) เพ่ือร่วมกันในการหาวิธีการ และ หลายทางชีวภาพ ครั้งท่ี 1/2556 วนั ท่ี 2 ตลุ าคม 2556 ส�ำหรบั การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนต่อปัจจุบัน เป็นกรอบแนวทางในการด�ำเนินงานในระดับชาติ ประกอบ และอนาคต เพื่อให้การแก้ปัญหาวิกฤติของโลกให้ส�ำเร็จลุล่วง ด้วยเป้าหมายระดับชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ กระทรวงสง่ิ แวดลอ้ มของญปี่ นุ่ (the Ministry of the Environment และแผนปฏิบัติการการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ of Japan (MOEI) และ the United Nations University Institute พ.ศ. 2558-2559 รวมทง้ั รายงานผลการดำ� เนนิ งานทส่ี อดคลอ้ ง for the Advanced Study of Sustainability (UNU-IAS: formerly กับ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ พ.ศ. 2558-2559 ซ่ึงขณะน้ี the United Nations University Institute of Advanced Studies) อยู่ระหว่างการด�ำเนินการเพ่ือน�ำแผนงานดังกล่าวสู่การปฏิบัติ ร่วมกันริเร่ิมโครงการ Satoyama Initiative เป็นกลยุทธ์ในการ ใหเ้ กดิ ผลสัมฤทธติ์ อ่ ไป เอกสารอ้างอิง ฝา่ ยความหลากหลายทางชวี ภาพ (2558) เอกสารประกอบการประชมุ เพอ่ื เผยแพรข่ อ้ ตดั สนิ ใจการประชมุ สมชั ชาภาคอี นสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลาย ทางชวี ภาพ สมยั ที่ 12. สำ� นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม. 2558. สำ� นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม (2558) (รา่ ง) แผนแมบ่ ทบรู ณาการจดั การความหลากหลายทางชวี ภาพ พ.ศ. 2556-2564 กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม. Research No.30 May 2015

ก้าวหนา้ พัฒนา 23 แฟรดาซ์ มาเหล็ม พีรพงษ์ สุทรเดชะ ประภาภรณ์ พรมมา ผลิตภณั ฑเ์ พ่อื สง่ิ แวดลอ้ ม พลาสตกิ ที่เราใชใ้ นปัจจบุ ันไมว่ า่ จะเปน็ ถงุ พลาสตกิ จากรา้ นสะดวกซอื้ แก้วนำ�้ พลาสตกิ จากรา้ นกาแฟ แม้ กระทง่ั ผลติ ภณั ฑพ์ ลาสตกิ ทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจ�ำวนั ลว้ นเกดิ จากเมด็ พลาสตกิ และเรซนิ ทผี่ า่ นกระบวนการปโิ ตรเคมี ซง่ึ พลาสตกิ เหลา่ นมี้ นี ำ้� หนกั เบา ราคาถกู สะดวก และทนความชนื้ จงึ มกี ารใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลาย และเมอื่ พลาสตกิ เหลา่ นก้ี ลายเป็นขยะ ตอ้ งใชร้ ะยะเวลานานกวา่ จะย่อยสลายได้หมดในธรรมชาติ ตกค้างในสงิ่ แวดลอ้ ม แมว้ า่ พลาสติก ทีผ่ า่ นการใชง้ านบางส่วนจะถูกน�ำมาจัดการโดยใชห้ ลัก 3R น่ันคอื Reduce Reuse และ Recycle แตก่ ็ไมส่ ามารถ ด�ำเนนิ การไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี เพราะคา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั การขยะเพอื่ น�ำมาใชใ้ หมท่ คี่ อ่ นขา้ งสงู ท�ำใหไ้ มป่ ระสบผลส�ำเรจ็ และส่งผลใหป้ รมิ าณขยะพลาสติกยงั คงเพิม่ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เน่อื ง จากปัญหาดังกล่าวประเทศไทยจึงผลักดันให้เกิด อ้อย มาแปรรูปให้เป็นแปง้ แลว้ นำ� ไปผ่านกระบวนเปล่ียนแป้ง อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ด้วยความพร้อมด้านวัตถุดิบ ให้เป็นน�้ำตาล เรียกว่า แซคคาริฟิเคชั่น ด้วยเอมไซม์ท�ำให้ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านวัตถุดิบชีวมวลหรือวัตถุดิบทางการ ได้กูลโคสเหลว แล้วน�ำกลูโคสเหลวไปหมักโดยเช้ือแบคทีเรีย เกษตร เชน่ มนั สำ� ปะหลงั ขา้ วโพด และออ้ ย ซง่ึ สามารถแปรรปู เปน็ หรือเชื้อราจะได้เป็นมอนอเมอร์ เช่น กรดแลคติก จากนั้น ผลติ ภณั ฑใ์ หมแ่ ละสรา้ งมลู คา่ เพมิ่ ซงึ่ พชื ดงั กลา่ วมสี ว่ นประกอบ เข้าสู่กระบวนการเชื่อมต่อโมเลกุล ท�ำให้ได้ Polylactic acid ของแป้ง น้�ำตาล และเส้นใยที่ใช้เป็นองค์ประกอบหลัก (PLA) หรือ Polybutylene succinate (PBS) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ ในการน�ำมาผลิตเป็นเม็ดพลาสติกชีวภาพมีคุณสมบัติเหมือน ยอ่ ยสลายไดท้ างชวี ภาพ ยกเวน้ Polyhydroxyalkanoates (PHAs) พลาสตกิ ทั่วไป สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable) จะเกิดเป็นพอลิเมอร์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพภายในเซลล์ มีกลไกการย่อยสลาย ด้วยเอนไซม์ และแบคทีเรียในธรรมชาติ ของแบคทีเรียหลังจากการหมักกูลโคสได้ทันที พอลิเมอร์เหล่า ซึง่ เมอื่ ยอ่ ยสลายหมดแล้วจะไดผ้ ลติ ภัณฑเ์ ป็น นำ�้ มวลชีวภาพ น้ีจะถูกน�ำไปผ่านกระบวนการคอมพาวดิ้ง (compounding) กา๊ ซมเี ทน และกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ซง่ึ สง่ิ เหลา่ นเ้ี ปน็ สง่ิ จำ� เปน็ หรือน�ำไปผ่านกระบวนการผสมพอลิเมอร์หรือวัสดุผสมโดย ในการเจรญิ เตบิ โตและดำ� รงชวี ติ ของพชื กลายเปน็ ปยุ๋ กลบั คนื สดู่ นิ การเติมแต่งเพื่อปรับปรุงสมบัติของเม็ดพลาสติกให้ดีข้ึน และ ช่วยลดปัญหามลพษิ ในสงิ่ แวดลอ้ ม นำ� ไปผา่ นกระบวนการสดุ ทา้ ยคอื การขน้ึ รปู เปน็ ผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ สำ� หรบั การผลติ พลาสตกิ ชวี ภาพจากวตั ถดุ บิ ชวี มวลนนั้ มี ดังรปู กระบวนการผลติ ทส่ี ำ� คญั คอื การนำ� มนั สำ� ปะหลงั ขา้ วโพด และ Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

24 ก้าวหนา้ พัฒนา การแซคคารฟิ คิ ชน่ั การหมักโดยใชเ้ ชอื้ Lactic โดยเอนไซม์ แบคทเี รยี acid Succinic กลูโคส acid PHAs การคอมพาวดง้ิ การพอลเิ มอรไ์ รเซชน่ั การข้ึนรปู พลาสติกชวี ภาพ เชน่ PLA PBS ผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ รปู แสดงกระบวนการผลติ ผลิตภณั ฑพ์ ลาสติกชวี ภาพ จากกระบวนผลิตพลาสตกิ ชีวภาพ แบ่งตามลักษณะของสารแต่งเตมิ เพ่อื ปรับปรงุ สมบตั ิของการน�ำไปใชง้ าน 3 ชนิด ดังนี้ ชนดิ คุณสมบตั ิ ตัวอยา่ งผลิตภัณฑ์ Polyhydroxyalkanoates (PHAs) - ส ามารถย่อยแป้งให้เปน็ น้ำ� ตาลด้วยเชอื้ Escherichia coli และเปลีย่ นโครงสรา้ ง ทางเคมขี องน�ำ้ ตาลให้เปน็ PHAs - ทนอุณหภูมไิ ดส้ งู ถึง 55-60 °C - ม คี ณุ สมบตั ใิ นการข้ึนรปู เป็นฟลิ ม์ การฉีดและเป่าใหไ้ ดเ้ ป็นผลิตภัณฑ์ Polylactic acid (PLA) - ผ ลิตจากกระบวนการหมกั น�้ำตาล ใหเ้ ปน็ กรดแลคติก (Lactic acid) - ทนอณุ หภูมไิ ด้สงู ถงึ 55-60 °C - มสี มบตั ใิ ส แข็ง เปราะ การดงึ ยดึ ต�ำ่ Polybutylene succinate (PBS) - ผ ลิตจากการปฏิกิริยาการควบแนน่ ของ กรดซคั ซนิ ิก และ 1,4-บิวเทนไดออล - ทนอุณหภูมไิ ด้สงู ถงึ 90-100°C - ส ามารถขึน้ รูปเป็นฟลิ ์มไดง้ ่าย มีสมบตั ิ การดงึ ยืดสงู ทบึ แสง Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

กา้ วหนา้ พัฒนา 25 พลาสติกชีวภาพที่ผ่านการใช้งานสามารถย่อยสลายได้โดยน�ำมาฝังกลบในสภาวะที่เหมาะสม สามารถแตกตัวเป็นปุ๋ย และสลายตัวไดเ้ ป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้�ำ ภายในระยะเวลา 180 วนั ดงั รปู Compostable 180 วัน รูปแบบกระบวนการการย่อยสลายของพลาสติกชีวภาพ จากความพร้อมด้านวัตถุดิบของประเทศไทยต่ออุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ท�ำให้บริษัท มัลติแบกซ์ จ�ำกัด (มหาชน) สามารถผลติ เมด็ พลาสตกิ ชวี ภาพ ตน้ แบบ M-BIO ไดจ้ ากมนั ส�ำปะหลงั ซง่ึ การคน้ ควา้ วจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยกี ารผลติ พลาสตกิ ชวี ภาพ จนสามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดด้ เี ทยี บเทา่ กบั พลาสตกิ ทใ่ี ชง้ านกนั อยใู่ นปจั จบุ นั นบั เปน็ ความสำ� เรจ็ รายแรกของบรษิ ทั ของ คนไทย โดยมีจดุ เด่นตรงที่เป็นพลาสติกท่ีสามารถยอ่ ยสลายได้ 100% มีส่วนผสมจากวตั ถุดิบชวี มวลและเปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ผ่านการทดสอบจากสถาบนั OWS (Organic Waste Systems) ประเทศเบลเย่ยี ม จากการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศไทย ซึง่ ถอื วา่ ประสบผลสำ� เรจ็ และหวังว่าจะมีการพัฒนา คุณภาพพลาสติกชีวภาพให้ดียิ่งข้ึนสามารถเพิ่มก�ำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ท้ังนี้ พลาสติกชีวภาพจะสามารถ ทดแทนพลาสติกจากปิโตรเคมีได้หรือไม่น้ัน ขึ้นอยู่กับจิตส�ำนึกต่อสิ่งแวดล้อมของเราที่จะช่วยกันคนละไม้คนมือและเปล่ียน มาใช้พลาสติกชวี ภาพเพื่อสงิ่ แวดล้อมท่ีดีและโลกท่สี ดใสในอนาคต ตัวอย่างผลติ ภัณฑ์ ทีม่ า: http://supachailor.com ท่มี า: http://news.siamphone.com/news-02369.html ทีม่ า: http://update66.com/page.php?id=101894 เอกสารอ้างอิง ISSN:1686-1612 http://th.materialconnexion.com/programs_th.asp https://www.gotoknow.org/posts/459214 www.nia.or.th/bioplastics/download/bioplast_roadmap.pdf http://green-bioplastic.blogspot.com/2010/03/bioplastic.html http://www.dobmeierjanitorialsupplies.com/Catalog-By-Product-Manufacturer/Solo-Cup-Company/Solo-Bare-PLA-Hot-Cups- SKU-SCC370PLA-BB/ http://www.ecoshop.in.thgs http://www.thailandindustry.com/guru/view.php?id=15876&section=9 https://www.bigstart.in.th/innovation/181/ http://nstda.or.th/rural/public/100%20articles-stkc/39.pdf Research No.30 May 2015

ISSN:1686-161226 ก้าวหน้าพัฒนา ระพีพร ธงยศ แฟรดาซ์ มาเหลม็ พีรพงษ์ สุทรเดชะ นวตั กรรมเส้นใย ก้าวสู่ส่ิงทอ ในปจั จบุ นั ทวั่ โลกไดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั สงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งมากในกระบวนการผลติ หรอื การใชว้ ตั ถดุ บิ ตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ มติ ร ตอ่ สิง่ แวดล้อม เชน่ การเลือกใช้วตั ถดุ ิบท่ีเปน็ มิตรต่อสง่ิ แวดล้อม จากกระแสความต่ืนตัวในด้านส่ิงแวดล้อมและ จะมีเพียงประมาณนับพันแผ่นเท่านั้นท่ีได้ผ่านการอ่าน มลภาวะโลกนั้น ก่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นมิตร และท่ีเหลือนอกจากน้ันได้กลายเป็นขยะในถังขยะโดย ต่อส่ิงแวดล้อม ท�ำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ต้องปรับแนวทาง ไม่ผ่านการอ่านเลย จึงเป็นการใช้ทรัพยากรท่ีสิ้นเปลือง และเป้าหมายการผลิต โดยเน้นการใช้วัสดุท่ีท�ำจากพืชและ ที่สุด กระดาษเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ทุกคนใช้เพ่ือ วัสดุเหลือทิ้ง อุตสาหกรรมกระดาษก็ได้ให้ความส�ำคัญกับ ป้อนข้อมูลต่างๆ เพ่ือการสื่อสารความจริงของวันนี้ภายใต้ ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม เพราะวา่ ในแตล่ ะปเี ราจะพบเจอกบั จำ� นวนนบั กระบวนการผลิตเยื่อกระดาษไม่เพียงส่งผลกระทบต่อพ้ืนที่ ล้านๆ ของใบปลิวโฆษณาทางไปรษณีย์ คูปอง ใบขอบริจาค ป่า หากยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศท้ังในส่วนของอากาศ แคตตาล็อกต่างๆ และโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ และทรพั ยากรน�ำ้ Research No.30 May 2015

ก้าวหน้าพัฒนา 27 หนงึ่ ในความพยายามทจี่ ะชว่ ยลดปญั หาขยะเหลา่ นี้ คอื นวตั กรรม Eco-Fiber Eco-fiber คือ เยื่อกระดาษท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม ท�ำจากเศษวัสดุหรือวัสดุที่ผ่านการใช้งานแล้ว เช่น ชานอ้อย ฟางข้าว น�ำมาคัดสรรจัดการและควบคุมการผลิตอย่างมี ประสิทธิภาพ เพ่ือให้ได้เย่ือกระดาษท่ีมีคุณภาพ ได้มีการน�ำ เอาเยื่อกระดาษท่ีเหลือใช้จากทางการเกษตรมาผสมกับ เยือ่ ของต้นไม้ ชนดิ ของ Eco-fiber มี 2 แบบ ตวั อยา่ งผลิตภณั ฑจ์ ากเสน้ ใยกญั ชงซงึ่ เป็นการวจิ ยั และพัฒนาในระยะท่ี 1 1. Eco-fiber 60% คือ กระดาษทีผ่ ลิตจากวสั ดเุ หลือใช้ ทางการเกษตร 60% อกี 40% คือ เยอื่ จากต้นไม้ 2. Eco-fiber 100% คือ ไมม่ กี ารตัดต้นไมแ้ ม้แตต่ ้นเดยี ว ในการผลติ เย่อื กระดาษนนั้ การผลิตเยื่อกระดาษใหม่จากวัสดุเหลือท้ิง หรือใช้แล้ว นน้ั เปน็ การรักษาส่งิ แวดล้อมที่มปี ระสทิ ธภิ าพทางหน่งึ และให้ ประโยชนต์ อ่ โลกในหลายๆ ดา้ น ถา้ นบั ใหด้ เี ราจะเหน็ ประโยชน์ ถึง 3 อย่างเลยทีเดียว คอื ประโยชน์อย่างแรก กค็ อื เปน็ การลดปริมาณมลภาวะ ขยะ เราสามารถน�ำเอากระดาษที่ใช้แล้วมารีไซเคิล กลับมาใช้ ใหมไ่ ด้อีกคร้ัง ประโยชน์อย่างที่สอง กค็ อื เป็นการนำ� ทรพั ยากรทีเ่ รา มีกลบั มาใชอ้ ย่างค้มุ คา่ คือ นำ� ของท่ีเหลือใช้จากการเกษตรมา เพม่ิ มลู ค่าทางการเกษตรอีกทางหนง่ึ ดว้ ย ประโยชน์อย่างท่ีสาม ซ่ึงเป็นข้อท่ีส�ำคัญที่สุด ก็คือ การรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม ลดการตดั ตน้ ไมท้ ำ� ลายปา่ เพราะเยอ่ื กระดาษ ท่ีเราใชน้ น้ั ลว้ นผลิตมาจากเยื่อของตน้ ไม้ การพฒั นาและตอ่ ยอดของ Eco-fiber จากจดุ เริม่ ต้นของ Eco-fiber ท่ีนา่ สนใจ เมื่อปีทผ่ี า่ นมา อุตสาหกรรมส่ิงทอ ก็ได้ขานรับกระแสเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม ท่ีน�ำ Polylacticacid (PLA) เส้นใยจากพืช มาสร้างสรรค์ สู่สิ่งท่อท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรม ส่ิงทอ ได้เร่งขับเคล่ือนอุตสาหกรรมส่ิงทอไทย โดยการน�ำเอา ตวั อยา่ งการพัฒนาเส้นใยธรรมชาตสิ ู่อุตสาหกรรมส่งิ ทอในระยะที่ 2 ใบสับปะรด ต้นกัญชง และเศษริมไหม วัสดุเหลือใช้จากภาค (ต้นแบบเส้นใยยาว) เกษตรและอุตสาหกรรม สู่การวิจัยพัฒนา 3 เส้นใยที่เป็น โดยเมื่อเร็วๆ น้ี สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ มิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถักทอเป็นผ้าผืนต้นแบบโครงสร้างใหม่ ในชีวติ ประจ�ำวัน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ต่อยอด Eco-fiber ในระยะที่ 2 ในการวิจัยและพฒั นาในระยะท่ี 1 ใช้เส้นใยจากวัตถดุ บิ (ต้นแบบเส้นใยยาว) ศึกษาวิจัยเส้นใยธรรมชาติท่ีได้วิจัยแล้ว เหลอื ใชจ้ ากภาคการเกษตร 3 ชนดิ คอื เสน้ ใยสบั ปะรด เสน้ ใยกญั ชง รวมท้ังเส้นใยใหม่ให้มีศักยภาพและมีปริมาณสูงขึ้น ไม่ว่า เส้นด้ายจากไหมรีไซเคิล สู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเป็นใบสบั ปะรด กาบกล้วย ผลตาล เปลือกหมาก ผกั ตบชวา เช่น หมวก กระเปา๋ และกางเกงยีนส์ เป็นต้น ใบตะไคร้ เปน็ ต้น Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

28 ก้าวหน้าพฒั นา และพชื อกี ชนดิ หนงึ่ ทก่ี ำ� ลงั เปน็ ทนี่ า่ จบั ตามองตอนนคี้ อื การศึกษาวิจัยพัฒนาเกี่ยวกับวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อ “เสน้ ใยจากตน้ ไผ”่ เมอ่ื นำ� มาถกั ทอเปน็ ผา้ จะไดเ้ นอ้ื ผา้ ทอ่ี อ่ นนมุ่ สิ่งแวดล้อมยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ยังได้มีการต่อยอดไปได้อีก น่าสัมผัส แถมต้านเช้ือแบคทีเรีย ซึมซับน้�ำได้ดีเยี่ยม ท่ีส�ำคัญ มากมาย และมีการพัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพของเส้นใย ยังรบกวนธรรมชาตินอ้ ยมาก ในภาคอตุ สาหกรรมกไ็ ด้มีการนำ� ไปเรื่อยๆ แนวทางการแกป้ ัญหามีหลากหลายวธิ ี แมแ้ ตป่ ัญหา เอาเสน้ ใยจากตน้ ไผม่ าพฒั นาน�ำมาถกั ทอเป็นเสอื้ ผา้ ผา้ ขนหนู ด้านสิ่งแวดลอ้ ม จะตอ้ งไมข่ าดความรับผดิ ชอบ เพราะตน้ ทนุ ที่ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าห่ม ปลอกหมอน ฯลฯ ผ้าจากใยไผ่ไม่เพียง มีค่าล้วนเร่มิ ตน้ จากทุกคน นบั ตัง้ แต่คดิ ผลิต และการนำ� มาใช้ จะมปี ระโยชนใ์ นดา้ นลดสง่ิ แวดลอ้ ม แตผ่ า้ จากใยไผม่ คี ณุ สมบตั ิ หากเรามีจิตส�ำนึกตระหนักรู้ มีความรับผิดชอบอย่างจริงจัง หลายอยา่ งทีเ่ ราอาจคาดไม่ถึง อย่างน้อยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอาจจะลดลงได้ไม่มากก็น้อย เพือ่ พื้นแผน่ ป่าเพื่ออนาคตทส่ี ดใส ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากพืชลม้ ลุกทนี่ ำ� มาทดแทนกระดาษจากต้นไม้ISSN:1686-1612 เอกสารอ้างองิ http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9580000001630 http://www.thaitextile.org/main/content.php?content_id=NEWS140617103725&content_type=news http://www.vcharkarn.com/varticle/41760 http://www.nstda.or.th/index.php/nstda-knowledge/1146-ecofiber Research No.30 May 2015

ISSN:1686-1612 พ่งึ พาธรรมชาติ 29 พนมพร วงษ์ปาน การอนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หมายถึง การเก็บรักษา สงวน ซ่อมแซม ปรับปรุง และใช้ประโยชน์ตามความต้องการอย่างมี เหตุผลต่อสิ่งแวดล้อม เพอื่ เอ้ืออ�ำนวยให้เกิดคุณภาพสูงสดุ ในการสนองความเป็นอยู่ของมนษุ ยอ์ ยา่ งถาวรต่อไป การทจี่ ะใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย คอื การทจ่ี ะทำ� ใหม้ ที รพั ยากร ธรรมชาตไิ วใ้ ชแ้ ละอยคู่ กู่ บั โลกตลอดไปไดน้ น้ั มหี ลกั การอนรุ กั ษ์ 3 ประการ คอื 1. ใช้อย่างฉลาด การจะใช้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ถึงผลดี ผลเสีย ความขาดแคลนหรือความหายากในอนาคต อีกท้ังพิจารณาหลักเศรษฐศาสตร์ถึงต้นทุนและผลตอบแทน อยา่ งถ่ีถ้วน 2. ประหยัด (เก็บรักษาสงวน) ของท่ีหายาก หมายถึง ทรัพยากรใดที่มีน้อยหรือหายาก ควรเก็บรักษาไว้มิให้สูญไป บางครัง้ ถา้ มีของบางชนดิ ทพี่ อจะใช้ไดต้ อ้ งใชอ้ ย่างประหยัด 3. ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมท่ีไม่ดีหรือเสื่อมโทรมให้ดีข้ึน (ซ่อมแซม ปรับปรุง) กล่าวคือ ทรัพยากรใดก็ตามมีสภาพ ลอ่ แหลมตอ่ การสญู เปลา่ หรอื จะหมดไปถา้ ดำ� เนนิ การไมถ่ กู ตอ้ ง ตามหลักวชิ าควรหาทางปรับปรงุ ให้อยใู่ นลกั ษณะท่ีดขี ึ้น มนุษย์เป็นผู้ใช้ทรัพยากรโดยตรง ซึ่งย่อมจะต้องได้รับ ผลกระทบ อันเน่ืองมาจากการเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดล้อม ถ้าหากพิจารณาถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว จะเห็นได้ว่า ล้วนเป็นเหตุมาจากการเพิ่มจ�ำนวนประชากร และการเพิ่ม ปริมาณการบริโภคทรัพยากรของมนุษย์เอง โดยมุ่งยกระดับ มาตรฐาน การด�ำรงชีวิต และมีการผลิตเคร่ืองอุปโภคมากข้ึน มกี ารนำ� ทรพั ยากรธรรมชาตมิ าใชม้ ากขนึ้ กอ่ ใหเ้ กดิ สารพษิ อยา่ ง มากมาย สง่ิ แวดลอ้ มหรอื ธรรมชาติ ไมส่ ามารถจะปรบั ตวั ไดท้ นั และทำ� ใหธ้ รรมชาตไิ มส่ ามารถรกั ษาสมดลุ ไวไ้ ด้ อนั จะสง่ ผลตอ่ มนุษยแ์ ละโลกในท่สี ดุ Research No.30 May 2015

30 พงึ่ พาธรรมชาติ ปัญหาส่ิงแวดล้อมที่เกิดข้ึนนี้จะเห็นได้ว่า เกิดจากการ ขาดความรู้ ความเข้าใจในความเป็นจริงของสิ่งแวดล้อมและ ธรรมชาติ ขาดความรคู้ วามเขา้ ใจ ในความเปน็ จรงิ ของชวี ติ และ องค์ประกอบอ่ืนของความเป็นมนุษย์ โดยท่ีมนุษย์เองก็เป็น ส่วนหนึ่งของส่ิงแวดล้อมและธรรมชาติ ดังนั้น การน�ำความรู้ ความเข้าใจมาปรับปรุงพัฒนาการด�ำรงชีวิตของมนุษย์ ให้กลมกลืนกับส่ิงแวดล้อม จึงน่าจะเป็นมาตราการท่ีดีท่ีสุด ในการที่จะท�ำให้มนุษย์สามารถท่ีจะด�ำรงชีวิตอยู่ได้อย่างม่ันคง มีความสอดคล้อง และสามารถกลมกลืนกับส่ิงแวดล้อมได้ท้ัง ในปจั จบุ ันและอนาคต แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพ่ือสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยพุทธจริยธรรมเพื่อ มีดงั น้ี สิง่ แวดลอ้ ม 1. การให้การศึกษาเก่ียวกับส่ิงแวดล้อม โดยเน้นให้ พทุ ธศาสนามหี ลกั คำ� สอนเกย่ี วกบั การพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม ผู้เรียนได้รู้จักธรรมชาติท่ีอยู่รอบตัวมนุษย์อย่างแท้จริง อยู่หลายข้อ ตามที่ปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎกหลักจริยธรรม โดยให้มีการศึกษาถึงนิเวศวิทยา และความสัมพันธ์ระหว่าง ท่ีส�ำคัญบางประการท่ีสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์ มนุษย์และส่ิงแวดล้อม เพื่อให้มีความรู้จริงในการด�ำรงชีวิต และการพัฒนาส่ิงแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เช่น การแสดง ให้ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติที่อยู่โดยรอบ ได้มุ่งสอน ความกตัญญูกตเวทีต่อส่ิงแวดล้อมท่ีมีอุปการคุณต่อมนุษย์ ใหย้ ดึ หลกั ศาสนา สอนใหค้ นมชี วี ติ ความเปน็ อยอู่ ยา่ งเรยี บงา่ ย เราเป็นอย่างมาก กล่าวคือ แผ่นดินให้ที่อยู่อาศัยและที่ท�ำกิน ไม่ท�ำลายชีวิตอื่นๆ ท่ีอยู่ในธรรมชาติด้วยกัน พิจารณาถึง แมน่ ำ้� ลำ� คลองใหน้ ำ�้ ดมื่ นำ้� ใช้ และเปน็ แหลง่ อาหารของเรา ปา่ ไม้ ความเป็นไปตามธรรมชาติที่เป็นอยู่ ยอมรับความเป็นจริง ให้ยาสมุนไพรช่วยรักษาโรค ให้ความร่มร่ืน การท�ำลายป่า ของธรรมชาติ และยอมรับความจริงนั้นโดยไม่ฝืนธรรมชาติ กเ็ ทา่ กบั การทำ� ลายสง่ิ มชี วี ติ ตา่ งๆ ทอ่ี าศยั อยใู่ นปา่ เพราะฉะนนั้ ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างส้ินเปลืองน้อยท่ีสุด ท�ำให้ คนดีท้ังหลายจึงควรกตัญญูต่อแผ่นดินท่ีเราอาศัย ต่อป่า เกิดทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของสังคมและ ตอ่ แมน่ ำ้� ลำ� คลอง และแสดงกตเวที คอื ชว่ ยกนั ดแู ลรกั ษาสภาพ ประเทศชาติในการพัฒนา ของสง่ิ แวดลอ้ ม ความเมตตา ความกรณุ า เปน็ การแสดงความรกั 2. การสร้างจิตส�ำนึกแห่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความปรารถนาดี และเสียสละต่อบุคคลอื่น บุคคลท่ีมีความรัก เป็นการท�ำให้บุคคลเห็นคุณค่าและตระหนักในสิ่งแวดล้อม ความเมตตาจะไม่ท�ำลายสัตว์ป่า ไม่ท�ำลายแหล่งที่อยู่อาศัย และธรรมชาติ รวมทั้งผลกระทบจากการท�ำกิจกรรมท่ีส่งผล ของสัตว์โลกต่างๆ ความเมตตากรุณาจะท�ำให้สภาพแวดล้อม ต่อส่ิงแวดล้อม สร้างความรู้สึกรับผิดชอบต่อปัญหาท่ีเกิดขึ้น ไม่ถูกท�ำลาย ไม่ว่าจะเป็นส่ิงแวดล้อมตามธรรมชาติหรือ ระหว่างส่ิงแวดล้อมและการพัฒนา การสร้างจิตส�ำนึก สิ่งแวดล้อมทางสงั คมกต็ าม โดยการให้การศึกษาเก่ยี วกับสิง่ แวดล้อม จะเปน็ พ้ืนฐานในการ พัฒนาจิตใจของบุคคล และยังมีผลต่อพฤติกรรมของบุคคล ให้มีการเปลี่ยนแปลงการด�ำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ 3. การส่งเสริมให้มีการปรับเปล่ียนพฤติกรรม โดย ให้เอื้อต่อสิ่งแวดล้อม ด�ำรงชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ซ่ึง การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมทเี่ ออ้ื ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มน้ี จะเปน็ สง่ิ ทเ่ี กดิ ตามมาจากการให้การศึกษาและการสร้างจิตส�ำนึก ท�ำให้มีการ ดำ� รงชวี ิตโดยไมเ่ บยี ดเบียนธรรมชาติ ISSN:1686-1612Research No.30 May 2015

พ่งึ พาธรรมชาติ 31 หลักการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พฒั นาทั้งหลายจงึ ตอ้ งชว่ ยกันป้องกนั การแสวงหาผลประโยชน์ ในการอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้ ของประเทศมหาอำ� นาจท้ังหลาย เหมาะสมและได้รบั ประโยชนส์ ูงสดุ ควรคำ� นงึ ถึงหลกั ต่อไปน้ี 6. มนุษย์สามารถน�ำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยในการ 1. การอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ จัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ แต่การจัดการนั้นไม่ควรมุ่งเพียง ต้องค�ำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติอื่นควบคู่กันไป เพราะ เพือ่ การอยดู่ ีกินดเี ทา่ นั้น ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ผลดีทางด้านจิตใจด้วย ทรพั ยากรธรรมชาตติ า่ งกม็ คี วามเกยี่ วขอ้ งสมั พนั ธแ์ ละสง่ ผลตอ่ 7. การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมแต่ละแห่ง กันอยา่ งแยกไมไ่ ด้ นนั้ จ�ำเปน็ ตอ้ งมคี วามรใู้ นการรักษาทรพั ยากรธรรมชาตทิ จ่ี ะให้ 2. การวางแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่าง ประโยชนแ์ กม่ นษุ ยท์ กุ แงท่ กุ มมุ ทงั้ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี โดยคำ� นงึ ถงึ ชาญฉลาด ต้องเช่ือมโยงกับการพัฒนา เศรษฐกิจ การเมือง การสูญเปลา่ อนั เกิดจากการใชท้ รัพยากรธรรมชาติดว้ ย สงั คมและคณุ ภาพชวี ติ อยา่ งกลมกลนื ตลอดจนรกั ษาไวซ้ งึ่ ความ 8. รักษาทรัพยากรธรรมชาติท่ีจ�ำเป็นและหายากด้วย สมดุลของระบบนิเวศควบค่กู ันไป ความระมดั ระวงั พรอ้ มใชป้ ระโยชนแ์ ละทำ� ใหท้ รพั ยากรธรรมชาติ 3. การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ ตอ้ งรว่ มมอื กนั ทกุ ฝา่ ย อยใู่ นสภาพทเ่ี พมิ่ ทงั้ ทางดา้ นกายภาพและเศรษฐกจิ เทา่ ทท่ี ำ� ได้ ทงั้ ประชาชนในเมอื ง ในชนบท และผบู้ รหิ าร ทกุ คนควรตระหนกั รวมทั้งจะต้องตระหนักเสมอว่า การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ถึงความส�ำคัญของทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมตลอดเวลา ที่มากเกินไปจะไม่ปลอดภยั ต่อส่งิ แวดล้อม โดยเร่ิมต้นที่ตนเองและท้องถิ่นของตน ร่วมมือกันทั้งภายใน 9. ต้องรักษาทรัพยากรท่ีทดแทนได้ โดยให้มีอัตราการ ประเทศและตา่ งประเทศ ผลิตเท่ากับอัตราการใช้หรืออัตราการเกิดเท่ากับอัตราการตาย 4. ความส�ำเร็จของการพัฒนาประเทศข้ึนอยู่กับความ เปน็ อย่างน้อย อุดมสมบูรณ์และความปลอดภัยของทรัพยากรธรรมชาติ 10. หาทางปรับปรงุ วิธีการใหม่ๆ ในการผลติ และการใช้ ดังน้ันการท�ำลายทรัพยากรธรรมชาติจึงเป็นการท�ำลายมรดก ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อกี ทงั้ พยายามคน้ ควา้ และอนาคตของชาตดิ ้วย ส่งิ ใหม่ๆ มาใชท้ ดแทน 5. ประเทศมหาอ�ำนาจที่เจริญทางด้านอุตสาหกรรม 11. ใหก้ ารศกึ ษาเพอ่ื ทปี่ ระชาชนจะไดเ้ ขา้ ใจถงึ ความสำ� คญั มคี วามตอ้ งการทรพั ยากรธรรมชาตเิ ปน็ จำ� นวนมาก เพอ่ื ใชป้ อ้ น ในการรักษาทรพั ยากรธรรมชาติ โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศของตน ดังน้ันประเทศท่ีก�ำลัง สิ่งแวดล้อมมีความส�ำคัญต่อมนุษยชาติมากมายมหาศาลจนนับไม่ได้ เน่ืองจากมนุษย์ล้วนเป็นส่วนหน่ึงของ ส่ิงแวดล้อม ที่ต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งแวดล้อมเพ่ือการด�ำรงอยู่ของชาติพันธุ์ต่างๆ มนุษย์ใช้ประโยชน์จากส่ิงแวดล้อมใน ทุกด้านและใช้มากกว่าสิ่งมีชีวิตอ่ืนๆ นอกจากจะใช้ประโยชน์ส�ำหรับปัจจัยสี่แล้วนั้น (อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย) ยังใช้ประโยชน์ในด้านความสะดวกสบาย ความบันเทิง และอื่นๆ อย่างหาขอบเขตมิได้ ซึ่งมนุษย์เอง กเ็ ปน็ ผทู้ �ำลายสง่ิ แวดลอ้ มในอตั ราทเี่ รว็ กวา่ ปกตนิ บั พนั เทา่ เราจงึ ควรชว่ ยกนั อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มใหค้ งอยกู่ บั เราใหน้ านทสี่ ดุ เท่าทเ่ี ราจะท�ำได้ เอกสารอา้ งองิ http://www.schoolnet.th www.tigertemplecharity.org www.et-online.org www.maceducation.com Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ISSN:1686-161232 พึ่งพาธรรมชาติ รฐั เรอื งโชตวิ ทิ ย์ การพฒั นาสู่... การบนิ ทเี่ ป็นมิตรต่อสงิ่ แวดล้อม การบนิ ท่ีเปน็ มติ รตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม หมายถึง การบนิ ท่ีค�ำนึงถึงระบบการบินท่ีลดผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม และค�ำนึงถึง การพฒั นาการใชท้ รพั ยากรทเ่ี หมาะสมไมเ่ กดิ มลพษิ การบรกิ ารทค่ี �ำนงึ ถงึ สงิ่ แวดลอ้ ม การลดมลพษิ การใชพ้ ลงั งานสะอาด การใชท้ รพั ยากรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เปน็ ตน้ และปจั จบุ นั ICAO ไดก้ �ำหนดคา่ ปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกจากการบนิ (Emisstion factor) คอ่ นขา้ งจะเขม้ งวด ตง้ั แตก่ ารใชเ้ ชอื้ เพลงิ การบรกิ ารของสายการบนิ ระบบการบนิ ซง่ึ การบนิ ไทยสายการบนิ ของ ประทศไทยเปน็ สายการบนิ ท่เี รมิ่ ตน้ แสดงตนเป็นสายการบินสีเขยี วกับ “Carbon Footprint Benchmark and Share” การนำ� ฉลาก “Cabon Footprint” มาประทบั ไวบ้ นเมนอู าหาร ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศส�ำหรับการเดินทางแบบ ของการบินไทย โดยวัตถุประสงค์ก็เพื่อต้องการให้ผู้โดยสาร รักษ์ส่ิงแวดล้อม หรือ Travel Green น้ัน เป็นการบินโดยใช้ ได้ทราบว่าอาหารท่เี ราทานเขา้ ไปนั้นกอ่ ใหเ้ กิดกา๊ ซเรอื นกระจก เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ มีการก�ำหนดให้ทุกขั้นตอน มากน้อยเพียงใด การบินไทยต้องการให้ผู้โดยสารทุกคนได้มี ในการด�ำเนินการ เน้นการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนร่วมและตระหนักในการใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้คุ้มค่า ด้วยบริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่การส�ำรองท่ีน่ัง ซงึ่ ตอ่ มามกี ารใชเ้ ชอื้ เพลงิ เครอื่ งบนิ ทปี่ ระหยดั พลงั งาน และมกี าร การออกบตั รโดยสาร ตลอดจนการเชก็ อนิ โดยผา่ นทางโทรศพั ท์ พิจารณาท้ังวงจรการเดินทางที่เรียกว่า การเดินทางแบบรักษ์ มือถือสมาร์ทโฟนทุกรุ่น นอกจากน้ี ผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นมิตรต่อ สงิ่ แวดลอ้ ม หรอื Travel Green เปน็ การดำ� เนนิ งานสอดคลอ้ ง สิ่งแวดล้อมในเที่ยวบินน้ียังใช้วัสดุท่ีย่อยสลายได้ เช่น แก้ว กับแนวคิดด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กระดาษไบโอพลาสติก กล่องบรรจุอาหารท่ีผลิตจากกระดาษ หรอื CSR การบนิ ไทยในฐานะสายการบนิ แหง่ ชาติ จงึ ไดร้ ว่ มมอื รีไซเคิล และของที่ระลึกที่มอบให้ผู้ร่วมเดินทาง เพ่ือสร้าง กบั หนว่ ยงานตา่ งๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ด�ำเนิน ความประทับใจให้แก่ผู้โดยสาร คือ จานรองแก้วท่ีผลิตจาก “โครงการพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพในการบินอย่าง ไบโอพลาสตกิ สว่ นวธิ กี ารลดการปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ย่ังยืน” โดยได้น�ำแนวคิดตามโครงการพระราชด�ำริ ของ จากอุตสาหกรรมการบินนั้น สามารถท�ำได้หลายวิธี ทั้งการ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทเ่ี กย่ี วกบั การใชพ้ ลงั งานทดแทน พัฒนาเทคโนโลยีเคร่ืองบินและเคร่ืองยนต์ รวมท้ังการพัฒนา น�ำมาเป็นแนวทางปฏิบัติ เพ่ือต้องการให้ทุกภาคส่วนได้รับรู้ และลงทุนด้านบริหารจัดการจราจรทางอากาศด้วยเครื่อง และตระหนักถึงการรักษาส่ิงแวลดล้อม โดยการลดการปล่อย มือและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้เคร่ืองบินใช้น�้ำมันน้อยลง Research No.30 May 2015

พ่งึ พาธรรมชาติ 33 และปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดน์ อ้ ยลงตามไปดว้ ย ทงั้ การให้ ชวี ภาพแลว้ บรรจภุ ณั ฑท์ ใี่ ชบ้ รกิ ารบนเครอื่ งบนิ นน้ั กเ็ ปน็ สว่ นหนง่ึ เครื่องบินจอดรอท่ปี ระตู (Gate) การใหเ้ คร่อื งบนิ ไต่ระดบั อยา่ ง ในการสรา้ งมลพษิ ใหก้ บั สง่ิ แวดลอ้ ม ดงั นน้ั ถว้ ยกระดาษเคลอื บดว้ ย ตอ่ เนอื่ ง แทนการเปลย่ี นชน้ั ความสงู การบนิ ลดั เปน็ เสน้ ตรงใหม้ ี PBS (Polybutylene Succinate) พลาสติกยอ่ ยสลายได้ จึงเปน็ ระยะทางบนิ ใกลท้ สี่ ดุ รวมทงั้ การรอ่ นลงจอดโดยลดระดบั อยา่ ง ทางเลอื กหน่ึงซึง่ ทางกล่มุ บรษิ ทั ปตท. พฒั นาขึน้ เพอื่ ใช้เปน็ ตน้ ต่อเนอ่ื ง ระหวา่ งทบี่ ินเข้าสนามบนิ แต่วิธดี ังกล่าว เพยี งชะลอ แบบ และน�ำมาใช้ในภาคธรุ กจิ เปน็ ครง้ั แรกในโอกาสการปฏบิ ัติ การเพิ่มข้ึนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเท่าน้ัน การบินพิเศษ ด้วยเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพของการบินไทย แต่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงต้องหาน้�ำมัน โดยใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์กระดาษบรรจุอาหารท่ีเคลือบด้วย เชอ้ื เพลงิ ชนดิ ใหมท่ เ่ี ปน็ Low Carbon Fuel เชอื้ เพลงิ อากาศยาน พลาสตกิ LDPE ทใ่ี ชก้ ันอยู่ในปจั จบุ ัน ซ่งึ ไม่สามารถย่อยสลาย ชวี ภาพ หรือ Biofuel ถอื เปน็ เชอื้ เพลงิ หลกั ในการเดนิ ทางแบบ ได้ ซงึ่ กอ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม สว่ นพลาสตกิ ยอ่ ยสลายได้ รกั ษ์สงิ่ แวดล้อม หรอื Travel  Green ซ่งึ เดิมนัน้ ในอุตสาหกรรม เม่ือถูกท้ิงเป็นขยะและน�ำไปฝังกลบจะถูกย่อยสลายด้วย การบนิ ใชแ้ หลง่ พลงั งานจากนำ�้ มนั ฟอสซลิ ซง่ึ เปน็ สาเหตสุ ำ� คญั จลุ นิ ทรยี ใ์ นดนิ โดยปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดแ์ ละนำ�้ ออกมา ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ตั้งแต่กระบวนการในการขุดเจาะ ซ่ึงพืชสามารถน�ำไปใช้ในการสังเคราะห์แสงเพ่ือเจริญเติบโตได้ การขนส่ง ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจ�ำนวนมาก ดังน้ัน พลาสติกชีวภาพ PBS ของกลุ่ม ปตท. จะสามารถ การใช้เช้ือเพลิงอากาศยานชีวภาพ จะช่วยลดผลกระทบต่อ ช่วยลดปัญหาขยะและก๊าซเรือนกระจกได้อย่างย่ังยืน จะเห็น สิ่งแวดล้อม การบินไทยมีแนวคิดพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้ว่า Thai Travel Green : Thai First Flight with Biofuels (Biofuel) เพอื่ นำ� มาใชเ้ ปน็ ทางเลอื ก จากปจั จบุ นั ทใี่ ชเ้ ฉพาะนำ้� มนั จะเป็นแค่ส่วนหน่ึงในการช่วยรักษาโลก แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเร่ิม Jet A-1 ทมี่ าจากนำ�้ มนั ดบิ เพราะวา่ การใชง้ านเชอื้ เพลงิ ชวี ภาพ ต้นท่ีดีถ้าหากอุตสาหกรรมการบินเร่ิมหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซ่ึงผลิตมาจากพืชนั้น ท�ำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของโลกกันอย่างจริงจัง โดยใช้เช้ือเพลิงอากาศยานชีวภาพ ในอากาศลดลงอย่างยั่งยืน เน่ืองจากในกระบวนการเพาะปลกู แทนพลังงานที่ผลิตจากฟอสซิลได้ ท�ำให้ลดการปล่อยก๊าซ พืชเหล่าน้ีจะเกิดการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซ่ึงมีผลให้ คาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึงร้อยละ 5 เลยทเี ดียว กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ในบรรยากาศมปี รมิ าณลดลง ในขณะท่ี การบินไทยจึงเป็นตัวอย่างการบินสีเขียวที่น่าสนใจ การใช้เช้ือเพลิงจากน�้ำมันดิบจะไม่มีกระบวนการน้ี ท�ำให้โดย หากมองในอนาคตจะตอ้ งมกี ารพฒั นาอยา่ งมากในการคำ� นงึ ถงึ ภาพรวมแลว้ นำ�้ มนั เชอื้ เพลงิ ชวี ภาพทม่ี กี ารควบคมุ การเพาะปลกู ส่ิงแวดล้อมและผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ทั้งน้ีอาจจะเป็นก้าวส�ำคัญ การขนส่ง และการกล่ันอย่างมีประสิทธิภาพ จะท�ำให้ ของการบินท่ีจะเกิดเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมทางการบินที่เป็น มีการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกสู่ มิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากข้ึนในปัจจุบันสู่อนาคตที่ค�ำนึงถึงความ ช้ันบรรยากาศน้อยกว่าเชื้อเพลิงท่ีมาจากน้�ำมันดิบ นอกจากนี้ รับผดิ ชอบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มและสังคม. ยงั มกี ารคาดการณว์ า่ ในปี ค.ศ. 2020 หากการขนสง่ ทางอากาศ ใช้เช้ือเพลิงชีวภาพ ในปริมาณร้อยละ 6 ของน้�ำมันเช้ือเพลิง เครื่องบิน จะท�ำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศลดลง ถึงร้อยละ 5 อีกทั้งเช้ือเพลิงชีวภาพ สามารถผลิตได้จากพืช สาหร่าย หรือ สารชีวมวลต่างๆ ซ่ึงเป็นการผลิตขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลา เชื้อเพลิงชีวภาพจึงเป็น พลงั งานทางเลอื กในภาวะทม่ี ปี ญั หาการขาดแคลนพลงั งาน หรอื การที่น้�ำมันเช้ือเพลิงจากฟอสซิลมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงข้ึน อย่างต่อเนื่อง ซ่ึงการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพจะสามารถท�ำให้ ชว่ ยลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกแลว้ ยงั สง่ ผลใหเ้ กดิ การพฒั นา ทางดา้ นเศรษฐกจิ รวมทง้ั เกดิ การกระจายรายไดไ้ ปยงั เกษตรกร และยังช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงาน ของประเทศ นอกจากน้ี ในอนาคตการบินไทยมีแผนจะใช้เช้ือ เพลิงชีวภาพ ในเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ ในอุตสาหกรรมการบิน เขออ้ กมสูลารTAอhth้าaoงi อiTBrงิ oayvtealiG,Breaenng:kTohka2i 0F1ir4st Flight with BiofuelsTwitter : ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากเชื้อเพลิง Research No.30 May 2015ISSN:1686-1612

ISSN:1686-161234 ERTC Update กลุ่มการเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศ โครงการเตาเผาขยะชีวมวลไรค้ วัน ลดหมอกควนั เฉลมิ พระเกียรตพิ ระบาท สมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว เน่ืองในโอกาส ทรงเจรญิ พระชนมพรรษา 87 พรรษา กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยศูนย์วิจัยและ ติดตั้งเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควันด้วยตนเอง ซ่ึงผู้เข้าร่วม ฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ไดต้ ะหนกั ถงึ ปญั หามลพษิ จากการเผา การฝกึ อบรมไดน้ ำ� ความรจู้ ากการเขา้ รว่ มอบรมไปใชป้ ระโยชนแ์ ละ ในทโ่ี ลง่ จงึ ไดจ้ ดั ตงั้ โครงการเตาเผาขยะชวี มวลไรค้ วนั ลดหมอกควนั ตอ่ ยอดนวตั กรรม ในวดั และชมุ ชนของตนเอง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน่ืองในโอกาส ทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ลดปญั หามลพษิ และหมอกควนั จากการเผา่ ในทโ่ี ลง่ และเผยแพร่ ความรู้ด้านเทคนิค วิธีสร้าง การฝึกปฏิบัติการใช้งานและ บำ� รงุ รักษาเตาเผาขยะชีวมวลไรค้ วัน และเตาเผาถา่ นมลพิษต่�ำ ใหแ้ ก่ วดั และชมุ ชน ในพน้ื ทวี่ กิ ฤตภาคเหนอื (เชยี งใหม่ ลำ� พนู ล�ำปาง เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน แพร่ ตาก น่าน และ อุตรดิตถ์) และหน่วยงานต่างๆ โดยได้จัดการฝึกอบรมเชิง ปฏบิ ตั กิ ารในพนื้ ที่ จำ� นวน 4 ครงั้ ไดแ้ ก่ ครงั้ ที่ 1 ในระหวา่ งวนั ท่ี 20-21 มกราคม 2558 ณ จ.เชยี งใหม่ ครง้ั ท่ี 2 ในระหวา่ งวนั ท่ี 2-3มนี าคม 2558ณ จ.เชยี งใหม่ ครง้ั ที่ 3 ในระหวา่ งวนั ท่ี 5-6มนี าคม 2558 ณ จ.เชยี งราย และ ครงั้ ที่ 4 ในระหวา่ งวนั ท่ี 9-10 มนี าคม 2558 ณ จ.แพร่ มผี เู้ ขา้ รว่ มการฝกึ อบรมจำ� นวนทง้ั สนิ้ 525 คน และแจกเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน (ชุดปล่องควัน) ให้แก่วัด และชมุ ชน จำ� นวนทง้ั สนิ้ 236 ชดุ โดยผเู้ ขา้ รว่ มการฝกึ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารมคี วามสนใจศกึ ษา วธิ กี าร และชมการสาธติ จากวทิ ยากร พรอ้ มทง้ั ไดท้ ดลองทำ� การ Research No.30 May 2015

ISSN:1686-1612 ERTC Update 35 กลมุ่ ประสานความร่วมมือนกั วจิ ัยด้านส่งิ แวดล้อม งกาารนสวัมนิจาัยวชิแาลกาะรนเรวอ่ื ัตง กรรมดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม ได้จัดการสัมมนาวิชาการ เร่ือง งานวิจัย และนวตั กรรมด้านสิง่ แวดลอ้ ม ในวันที่ 30 มนี าคม 2558 ณ โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพมหานคร โดยมนี ายเสริมยศ สมม่นั รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนาวิชาการดังกล่าว ภายในงานมีกิจกรรม การเสวนางานวิจัย การบรรยาย การน�ำเสนอผลงานวิจัย การแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผลงานวิจัย ของศูนย์วิจัยและฝึกอบรม ด้านส่ิงแวดล้อม สถาบันไดออกซินแห่งชาติ และสถาบันพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ยังมีเอกสารเผยแพร่ ได้แก่ โปสเตอร์ แผ่นพับ โครงการตา่ งๆ ภายในงานมกี ารสาธิต-เทคนคิ และเครือ่ งมอื อปุ กรณก์ ารตรวจวัดคณุ ภาพส่ิงแวดล้อม โดยกิจกรรมในช่วงเช้าเป็นการเสวนา หัวข้อ งานวิจัยการจัดการพื้นที่ปนเปื้อน VOCs ในน�้ำและน�้ำใต้ดิน โดยมี ผศ. ดร. จริ ฏั ฐ์ แสนทน จากมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ นายอดศิ รพนั ธ์ กาญจนเรขา จากสำ� นกั นโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม นายรังสรรค์ ปิ่นทอง จากกรมควบคุมมลพิษ และนายพีรพงษ์ สุนทรเดชะ จากกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม โดยมี ดร. มณทพิ ย์ ศรรี ตั นา ทาบกู านอน ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นสง่ิ แวดลอ้ ม เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การ และกจิ กรรมในชว่ งบา่ ยเปน็ การนำ� เสนอ ผลงานวจิ ยั ของศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม โดยแบง่ เปน็ 2 หอ้ งยอ่ ย ไดแ้ ก่ หอ้ งยอ่ ยที่ 1 บรรยายสรปุ ผลการศกึ ษาวจิ ยั เร่ือง การจดั การมลพษิ ทางเสยี งจากสนามบินสวุ รรณภมู ิ และห้องยอ่ ยที่ 2 การเสวนาวชิ าการ หวั ขอ้ การจัดการซากบรรจุภณั ฑ์ เคมี เพอื่ ความปลอดภยั ของชวี ิตและส่งิ แวดล้อม ซึง่ กจิ กรรมตา่ งๆ ที่ไดจ้ ัดขนึ้ น้ีมวี ตั ถุประสงค์ เพ่อื เผยแพร่องคค์ วามรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีการด�ำเนินงานวิจัยด้านส่ิงแวดล้อม ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อสาธารณะ และเปิดโอกาสให้นักวิจัย ไดแ้ ลกเปล่ยี นเรียนรดู้ ้านการศึกษาวิจัยรว่ มกบั นกั วิจยั จากหน่วยงานอน่ื ๆ Research No.30 May 2015

36 ERTC Update กล่มุ ประสานความรว่ มมอื นักวจิ ยั ด้านสิง่ แวดล้อม การศึกษาภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ดา้ นการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ได้จัดการประชุมโครงการศึกษาภูมิปัญญา ท้องถิ่นด้านการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมขึน้ เมอื่ วันศกุ ร์ที่ 27 มีนาคม 2558 ณ อทุ ยานส่งิ แวดล้อมนานาชาติ สิรนิ ธร อ�ำเภอชะอำ� จงั หวัดเพชรบรุ ี โดยมีวตั ถุประสงค์ เพ่อื แลกเปล่ยี นข้อมลู ประสบการณส์ �ำหรับการศกึ ษาภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดยน�ำเสนองานวิจัยภูมิปัญญาท้องถ่ินการท�ำนาเกลือ การอนุรักษ์ ปา่ ชายเลน การต่อยอดภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ การจัดท�ำธนาคารปมู ้า และการผลิตเตาชีวมวล เปน็ ต้น พรอ้ มทงั้ ระดมความคดิ เหน็ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในพนื้ ทจ่ี งั หวดั เพชรบรุ ี โดยมกี ลมุ่ เปา้ หมายจากหนว่ ยงานทงั้ ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชน เขา้ ร่วมประชมุ จ�ำนวน 50 คน ศนู ยว์ ิจยั และฝึกอบรมด้านส่งิ แวดลอ้ ม กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ปที ่ี 12 ฉบับท่ี 30 พฤษภาคม 255N8o.30โwเMททwครwaศโนy.พั dธทe2าq์ น00pี21.ตg-55�oำ7บ.t7hล-ค41ล8อ2ง-ห9า้ โทอร�ำสเภาอรค0ล2อ-5ง7ห7ล-1ว1ง3จ8ังหวัดปทมุ ธานี 12120 Research Research ISSN:1686-1612 ISSN:1686-1612