Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GR24 แนะนำ 4 ฐานข้อมูล อรรถประโยชน์งานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม

GR24 แนะนำ 4 ฐานข้อมูล อรรถประโยชน์งานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม

Published by Lib SRC, 2022-01-24 02:52:26

Description: GR24.1

Search

Read the Text Version

ISSN:1686-1612 Research ปที่ 10 ฉบับที่ 24 กนั ยายน 2556 เรอ� งเดนประจำฉบบั แนะนำ l โครงการจดั ทำฐานขอ มลู เทคนคิ ใน การฟนฟดู นิ และน้ำใตด นิ ทปี่ นเปอ น ฐานขอ มลู สารอันตราย 01 อรรถประโยชนงานวจิ ยั l แบบจำลองคาดการณ ดา นสง่ิ แวดลอม ระดับเสียงจากรถไฟ 12 ติดตามเฝาระวัง โครงการวางระบบโครงขาย ตรวจสอบสารอินทรียระเหยในไอสารในดนิ 17 กาวหนาพัฒนา บานดนิ บา นลดการปลอ ย กาซคารบ อนไดออกไซด 18

2013 GREEJNouRrnealsearch www September deqp.go.th/website/20/ Editor’s Talk [บรรณาธิการ ชวนคยุ ] ContentNo.24 Green Research กบั การปรับโฉมใหม่ ก่อนอื่นขอสวัสดีผู้อ่านอย่างเป็นทางการกับการปรับโฉมอีกครั้งของ Green Research ค่ะ คณะผจู้ ดั ทำ� ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ถ้าพูดถึงเรื่องธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในทุกวันนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องท่ีหลายฝ่ายต่างให้ความสนใจเพราะเป็น กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เทคโนธานี ตำ� บลคลองห้า อ�ำเภอคลองหลวง สง่ิ ทใี่ กลต้ วั มากๆ มองเหน็ ไดเ้ ดน่ ชดั ไมว่ า่ จะเปน็ ปญั หาการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของทว่ั โลก ปญั หาหมอก จังหวัดปทุมธานี 12120 โทรศัพท์ 02-577-4182-9 โทรสาร 0-2577-1138 ควันขา้ มพรมแดน ที่ส่งผลใหพ้ ลเมอื งโลกในทวปี ตา่ งๆ ต่ืนตัวมาทะนุถนอมและให้ความส�ำคญั ต่อธรรมชาตแิ ละ ทป่ี รึกษา จตพุ ร บรุ ษุ พัฒน,์ รชั นี เอมะรจุ ิ, สากล ฐนิ ะกลุ บรรณาธิการบริหาร สุวรรณา เตียรถส์ วุ รรณ สง่ิ แวดลอ้ มบนโลกทรงกลมใบนก้ี นั มากขน้ึ ไมเ่ วน้ แมแ้ ตป่ ระเทศไทยของเราทสี่ ถานการณด์ า้ นสง่ิ แวดลอ้ มกม็ ผี ล บรรณาธกิ าร ณฐั พล ติยชริ วงศ์ กองบรรณาธิการ มีศักด์ิ มิลินทวิสมัย, โสฬส ขันธ์เครือ, นิตยา ใหเ้ กดิ ผลกระทบไดอ้ ยา่ งชัดเจนในรอบหลายๆ ปที ผี่ ่านมา นักระนาด มิลน์, ศิรินภา ศรีทองทิม, หทัยรัตน์ การีเวทย์, รุจยา บณุ ยทมุ านนท,์ ปญั จา ใยถาวร, จนิ ดารตั น์ เรอื งโชตวิ ทิ ย,์ อาทติ ยา พามี ผทู้ มี่ หี นา้ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั เรอ่ื งดงั กลา่ วโดยเฉพาะนกั วจิ ยั สงิ่ แวดลอ้ มแบบเรานน้ั ตอ้ งกลบั มาใหค้ วาม สนใจและติดตามอย่างใกล้ชิดกันมากข้ึน และหน่ึงในองค์ประกอบของการติดตามสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมท่ี ตอ้ งพดู ถงึ อกี เรอ่ื งนนั้ คอื “ฐานขอ้ มลู ” คนทว่ั ไปหลายๆ คนอาจมคี วามคดิ วา่ เปน็ เรอื่ งทไี่ กลตวั พอสมควร และ อาจปนสงสยั ดว้ ยวา่ คอื อะไร แตห่ ากเปน็ กลมุ่ พวกเราทเี่ ปน็ นกั วจิ ยั สงิ่ แวดลอ้ มแลว้ “ฐานขอ้ มลู ” มคี วามสำ� คญั อย่างมากในการท�ำงานหรืองานวิจัยทั้งหมด เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลหรือแหล่งศึกษาค้นคว้า กต็ ามลว้ นมีความสำ� คญั ต่อผลลัพธ์ของงานวิจัยอยา่ งหลีกเล่ียงไม่ได้ Green Research ฉบับน้ี จึงอยากน�ำทกุ ทา่ นมาท�ำความร้จู กั กับฐานขอ้ มูลส่ิงแวดล้อมในหลายๆ รูปแบบ ซ่ึงมีแนวโน้มที่จะน�ำข้อมูลดังกล่าวมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับสถานการณ์ด้านส่ิงแวดล้อมของ เราในปจั จบุ นั ไมว่ า่ จะเปน็ ฐานขอ้ มลู เทคนคิ ในการฟน้ื ฟดู นิ และน้�ำใตด้ นิ ทป่ี นเปอ้ื นสารอนั ตราย ซอฟตแ์ วรค์ �ำนวณ ปริมาณก๊าซเรือนกระจก (3R – Greenhouse Gas Calculation) ข้อมูลดิจติ อลและการน�ำไปใช้ในงานวิจัย และแบบจำ� ลองคาดการณร์ ะดบั เสยี งจากรถไฟ ทงั้ หมดนเ้ี รารวบรวมมาใหแ้ ลว้ ในฉบบั นี้ รวมถงึ ผอู้ า่ นจะไดพ้ บกบั คอลมั นท์ หี่ ลากหลายเชน่ เดมิ และพบกนั ใหมฉ่ บบั หน้ากับประเด็นทน่ี า่ สนใจอีกคร้งั ค่ะ เรอ่ื งเด่นประจำ� ฉบับ 1 4 • โครงการจดั ท�ำฐานข้อมูลเทคนคิ ในการฟนื้ ฟดู ินและนำ�้ ใตด้ ิน 9 ทปี่ นเป้ือนสารอันตราย 12 • แนะนำ� “ซอฟตแ์ วรค์ ำ� นวณปริมาณก๊าซเรือนกระจก” 17 • ขอ้ มลู ดจิ ิตอลและการน�ำไปใช้ในงานวจิ ัย • แบบจ�ำลองคาดการณ์ระดับเสียงจากรถไฟ 18 22 ติดตามเฝา้ ระวัง 25 28 • โครงการวางระบบโครงข่ายตรวจสอบสารอินทรียร์ ะเหยในไอสารในดนิ (soilgas monitoring system) โดยขุดเจาะช้ันดินโดยเครอ่ื งขดุ เจาะ 34 แบบตอ่ เนอ่ื ง (Geoprobe) และติดตัง้ ระบบ และทดสอบประสิทธภิ าพ ในการบ�ำบัดสารอินทรียร์ ะเหยในดิน โดยระบบ Soil Vapor Extraction (SVE) เคล่ือนที่ กา้ วหนา้ พฒั นา • บา้ นดิน บ้านลดการปล่อยก๊าซคารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากการก่อสร้างบ้าน ทเ่ี ป็นมิตรตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม สวู่ ถิ ชี วี ติ เศรษฐกิจสเี ขียว • สินคา้ ท่เี ป็น Eco label ตอบโจทยก์ ารค้ายคุ ใหม?่ พึ่งพาธรรมชาติ • การพฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรของอาสาสมคั รพิทักษท์ รพั ยากร ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมหมบู่ า้ น (ทสม.) • ทศิ ทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการแก้ไขปญั หาหมอกควนั และการเผาในทโ่ี ลง่ ปี 2555-2559 ERTC Management Update • รมว.ทส. ตรวจเย่ียมพรอ้ มมอบนโยบายแก่ผบู้ รหิ ารกรมสง่ เสริม คุณภาพสิง่ แวดลอ้ ม

เรอื่ งเดน่ ประจ�ำฉบบั โครงการจดั ท�ำ ฐานข้อมลู เทคนคิ ในการฟ้ืนฟูดินและน้�ำ ใตด้ ิน ท่ปี นเปือ้ นสารอนั ตราย แฟรดาซ์ มาเหลม็ * และพรี พงษ์ สุนทรเดชะ* โครงการนส้ี บื เนอ่ื งมาจากบนั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื การแก้ สง่ิ แวดลอ้ ม ไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ปน็ ประธานคณะทำ� งานยอ่ ยในขณะ ปญั หาวกิ ฤตดิ า้ นสงิ่ แวดลอ้ มในพน้ื ทอ่ี ตุ สาหกรรม ระหวา่ งกระทรวง นนั้ และมหี นว่ ยงานในคณะทำ� งาน ประกอบดว้ ย กรมควบคมุ มลพษิ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวง กรมทรพั ยากรนำ�้ บาดาล กรมทรพั ยากรธรณี กรมโรงงานอตุ สาหกรรม อตุ สาหกรรม กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สภาอตุ สาหกรรม การนคิ มอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย ตวั แทนจากสถาบอั ดุ มศกึ ษา แหง่ ประเทศไทย และสมาคมนกั วชิ าชพี ไทยในอเมรกิ าและแคนาดา ตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรม และตัวแทนจากท้องถิ่น เป็นต้น (ลงนามวนั ที่ 13 กรกฎาคม 2553 ณ ตกึ สนั ตไิ มตรี ทำ� เนยี บรฐั บาล) แต่เน่ืองจากติดปัญหาทางด้านงบประมาณภายใต้บันทึกข้อตกลง และมีรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เป็น ความร่วมมือดังกล่าว ทั้งน้ีกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อมเห็นว่า ประธานคณะกรรมการบรหิ ารโครงการภายใตบ้ นั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ ม ประเทศไทยขาดแนวทางทชี่ ดั เจนและเหมาะสม ในการจดั การปญั หา มอื (Steering Committee) สว่ นหนงึ่ ในมตขิ องคณะกรรมการไดก้ ำ� หนด การปนเปอ้ื นสารอนั ตรายในสง่ิ แวดลอ้ ม ซง่ึ สง่ ผลใหก้ ารจดั การปญั หา ใหม้ กี ารพฒั นากรอบนโยบายการจดั การพน้ื ทป่ี นเปอ้ื นน�้ำใตด้ นิ และดนิ สำ� หรบั ประเทศไทย เพอ่ื ทกุ ภาคสว่ นจะไดม้ แี นวปฏบิ ตั ทิ เี่ หมาะสมและ ไปในทิศทางเดียวกัน และได้มอบหมายให้คณะทำ� งานย่อยที่ 3 ซึ่ง รบั ผดิ ชอบดา้ นระบบตดิ ตามตรวจสอบ มลพษิ น้�ำใตด้ นิ และเทคนคิ และเทคโนโลยีการฟื้นฟูพื้นท่ีปนเปื้อน (Groundwater Monitoring System, Site RemediationTechniques and Technologies) ดำ� เนนิ การ จดั ทำ� แนวทางหรอื เกณฑส์ ำ� หรบั ประเทศไทย ในการดำ� เนนิ งานดา้ น การติดตั้งระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพน้�ำใต้ดิน (Groundwater Monitoring System) การตรวจสอบพ้ืนที่ปนเปื้อน (Site Characterization/Site Investigation) เกณฑก์ ารประเมนิ ความเสย่ี ง ต่อสุขภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ปนเปื้อน (Risk Assessment) การศกึ ษาความเหมาะสมในการเลอื กเทคนคิ การบำ� บดั ฟน้ื ฟดู นิ และ นำ�้ ใตด้ นิ (Feasibility Study) และการก�ำหนดเกณฑค์ ณุ ภาพดนิ และ นำ�้ ใตด้ นิ ทยี่ อมรบั สำ� หรบั การบำ� บดั ฟน้ื ฟู และใชพ้ น้ื ทม่ี าบตาพดุ เปน็ กรณีศึกษาในการทดสอบหลักเกณฑ์ดังกล่าว กรมส่งเสริมคุณภาพ รปู ท่ี 1 เวบ็ ไซตฐ์ านขอ้ มลู http://www.ttigerr.org *นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ มชำ� นาญการ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม No.24 September 2013 Green Research 1

เร่อื งเด่นประจำ� ฉบบั การปนเปอ้ื นไมส่ ามารถดำ� เนนิ การไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และปญั หาการปนเปอ้ื นจะถกู คน้ พบ และถกู ใหค้ วามสำ� คญั กต็ อ่ เมอื่ มผี ลกระทบชดั เจนตอ่ สขุ ภาพของประชาชน และมกั จะเกดิ ความ สบั สนในการแกป้ ญั หา กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม จงึ ไดจ้ ดั ทำ� ฐานขอ้ มลู เทคนคิ ในการ ฟน้ื ฟดู นิ และนำ�้ ใตด้ นิ และมขี น้ั ตอนการดำ� เนนิ งานทส่ี ามารถปฏบิ ตั ติ ามไดจ้ รงิ เพอื่ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายการจดั การ และการบำ� บดั ฟน้ื ฟพู น้ื ทปี่ นเปอ้ื น และเพอื่ จะไดพ้ ฒั นาฐานขอ้ มลู ดงั กลา่ วไป สู่กรอบนโยบายการจัดการพ้ืนท่ีปนเปื้อนน้�ำใต้ดินและดินส�ำหรับประเทศไทย โครงการน้ีได้ ดำ� เนนิ งานรว่ มกบั คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรในฐานะทป่ี รกึ ษา กรอบแนวทางการจัดท�ำฐานข้อมูลเทคนิคครั้งน้ีได้ประยุกต์มาจากกรอบแนวทาง การจัดการพื้นท่ีปนเปื้อนสารอันตรายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกฎหมายเฉพาะ ส�ำหรับการจัดการพื้นที่ปนเปื้อนสารอันตรายอันประกอบด้วยกฎหมาย Comprehensive Environmental Response, Compensation, and Liability Act (CERCLA) ส�ำหรบั จดั การพน้ื ที่ ปนเปื้อนท่ีถูกท้ิงร้าง หรือพื้นท่ีที่ผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อการปนเปื้อนเลิกกิจการไปแล้ว และ Corrective Action ของ Subtitle C ภายใตก้ ฎหมาย Resource Conservation and Recovery Act (RCRA) ส�ำหรับจัดการพื้นท่ีปนเปื้อนที่ผู้ท่ีมีส่วนรับผิดชอบต่อการปนเปื้อนยัง ดำ� เนนิ กจิ การอยู่ การจัดท�ำระบบฐานข้อมูลเทคนิคในการฟื้นฟูดินและน้�ำใต้ดินที่ปนเปื้อนสาร อันตรายน้ี เป็นฐานข้อมูลท่ีมีเป้าหมายให้สามารถใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง ให้ข้อมูลท่ี ครบถ้วนถูกต้องตามหลักวิชาการสากล และเหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานและผู้เก่ียวข้องใน ระดบั ทตี่ า่ งกนั ไป ระบบฐานขอ้ มลู เทคนคิ จะครอบคลมุ 5 ระบบฐานขอ้ มลู ยอ่ ย (Module) โดย ประยกุ ตม์ าจากฐานขอ้ มลู ของนานาชาติ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า ระบบฐาน ขอ้ มลู ยอ่ ยทงั้ 5 ประกอบดว้ ย Module I: ภาพรวมแนวทางและเคร่ืองมือการบริหารจัดการดินและน้�ำใต้ดิน ที่ปนเปื้อนสารอันตราย ซึ่งฐานข้อมูลนี้รวบรวมภาพรวมกรอบแนวทางการจัดการพ้ืนที่ ปนเปอ้ื นสารอนั ตรายตามหลกั วชิ าการสากล นอกจากนยี้ งั รวบรวมกรอบทางกฎหมายแนวทาง และเครอ่ื งมอื การบรหิ ารจดั การพนื้ ทป่ี นเปอ้ื นสารอนั ตรายของประเทศสหรฐั อเมรกิ า ซงึ่ พฒั นา มาจากกรอบแนวทางการจดั การพน้ื ทปี่ นเปอ้ื นสารอนั ตรายตามหลกั วชิ าการสากล ฐานขอ้ มลู นี้ รวบรวมกรอบทางกฎหมาย แนวทางและเครอ่ื งมอื การบรหิ ารจดั การพนื้ ทปี่ นเปอ้ื นสารอนั ตราย ของประเทศไทย และชใ้ี ห้เหน็ จดุ อ่อนของระบบการจดั การของไทยเมอ่ื ปรียบเทยี บกับกรอบ แนวทางการจดั การของประเทศสหรฐั อเมรกิ า Module II: ฐานข้อมูลเทคนิคการประเมินและส�ำรวจการปนเปื้อนและพื้นท่ี ปนเปอ้ื นสารอนั ตรายเบอื้ งตน้ โดยฐานขอ้ มลู นเ้ี สนอรายละเอยี ดและเครอื่ งมอื ในการประเมนิ และส�ำรวจพ้ืนท่ีปนเปื้อนสารอันตรายเบ้ืองต้นเพื่อประกอบการประเมินสภาวะคุกคามของ การปนเปื้อนสารอันตรายต่อสุขภาพและส่ิงแวดล้อม โดยจะช่วยในการตัดสินใจว่าการ ปนเปื้อนนั้นจะก่อให้เกิดสภาวะคุกคามท่ีมีนัยส�ำคัญถึงขนาดที่ต้องท�ำการส�ำรวจและ วิเคราะห์การปนเปื้อนและพ้ืนที่ปนเปื้อนสารอันตรายโดยละเอียดเพื่อการฟื้นฟูพ้ืนที่ ปนเปอ้ื นตอ่ ไปหรอื ไม่ 2 Green Research No.24 September 2013

Module III: ฐานขอ้ มลู เทคนคิ การสรา้ งแบบจำ� ลองมโนทศั น์ การสำ� รวจ และวเิ คราะห์ สว่ นท่ี 4 ฐานขอ้ มลู วธิ มี าตรฐาน (Method การปนเปื้อนและพ้ืนท่ีปนเปื้อนสารอันตรายโดยละเอียด โดยฐานข้อมูลน้ีน�ำเสนอแนว Databases): เปน็ ฐานขอ้ มลู ทท่ี ำ� หนา้ ทค่ี ลา้ ย ทางและเคร่ืองมือในการส�ำรวจและวิเคราะห์การปนเปื้อนและพื้นท่ีปนเปื้อนสารอันตราย กล่องเคร่ืองมือทางเทคนิค (Technical โดยละเอยี ด เพื่อสรา้ งแบบจำ� ลองเชิงมโนทัศนข์ องการปนเปอื้ นซง่ึ เป็นข้นั ตอนทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ Toolbox) แตว่ า่ จะรวบรวมเฉพาะฐานขอ้ มลู ที่ เพราะจะน�ำไปสู่การประเมินความเส่ียงเชิงปริมาณเพ่ือระบุผู้ได้รับผลกระทบจากการ เป็นท่ีรู้จักกันดีสามารถตรวจค้นได้ง่าย และ/ ปนเปอ้ื น การกำ� หนดวตั ถปุ ระสงคก์ ารพน้ื ฟแู ละการเลอื กเทคโนโลยกี ารฟน้ื ฟทู เี่ หมาะสม หรือมีลิขสิทธิ์อยู่ท�ำให้ไม่สามารถถูกคัดลอก หรือสรุปมาใส่ในกล่องเครื่องมือทางเทคนิค Module IV: ฐานขอ้ มลู เทคนคิ การประเมนิ ความเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพเชงิ ปรมิ าณ อนั เนอื่ ง (Technical Toolbox) เชน่ ASTM method, AWWA method for water analysis ทถ่ี กู อา้ ง มาจากพ้ืนที่ปนเปื้อนสารอันตรายโดยฐานข้อมูลน้ีน�ำเสนอแนวทางและเครื่องมือในใช้การ ถึ ง ใ น ก ร อ บ ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ท า ง เ ท ค นิ ค ประเมนิ ความเสยี่ งตอ่ สขุ ภาพและระบบนเิ วศอนั เนอื่ งมาจากพนื้ ทป่ี นเปอ้ื นสารอนั ตราย เพอื่ ที่ (Technical Guideline) จะกำ� หนดวตั ถปุ ระสงคก์ ารฟน้ื ฟพู น้ื ทปี่ นเปอ้ื นเพอื่ การปกปอ้ งผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากการปนเปอ้ื น Module V: ฐานขอ้ มลู เทคนคิ การเลอื กเทคโนโลยที เี่ หมาะสมทส่ี ดุ ในการฟน้ื ฟพู น้ื ที่ ฐานขอ้ มลู เทคนคิ ในการฟน้ื ฟดู นิ และ น�้ำใต้ดินท่ีปนเปื้อนสารอันตรายได้ถูก ปนเปื้อนสารอันตรายโดยฐานข้อมูลนี้น�ำเสนอแนวทางและเคร่ืองมือในการเลือกเทคโนโลยี น�ำเสนอใน website ภายใต้ชื่อ “ฐานข้อมูล ทเี่ หมาะสมทสี่ ดุ ในการฟน้ื ฟพู น้ื ทป่ี นเปอ้ื นสารอนั ตราย ฐานขอ้ มลู ยอ่ ยนอ้ี า้ งถงึ ระบบขนั้ ตอน เทคนิคในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมท่ีปนเปื้อน มาตรฐานและฐานข้อมูลของประเทศสหรัฐอเมริกาซ่ึงครอบคลุมเทคโนโลยีการฟื้นฟู สารอนั ตรายสำ� หรบั ประเทศไทย” (Thailand’s แบบกายภาพ เทคโนโลยกี ารฟน้ื ฟแู บบเคมี และเทคโนโลยกี ารฟน้ื ฟแู บบชวี ภาพ ในแตล่ ะโมดลู จะประกอบดว้ ยขอ้ มลู 4 สว่ นดงั ตอ่ ไปนี้ Technical Initiatives and Guidelines for Environmental Remediation and ส่วนท่ี 1 กรอบแนวทางการจัดการ (Management Guideline): เป็นฐานข้อมูล Restoration (URL: ttigerr.org)) เพื่อให้ผู้ สนใจสามารถเข้าถึงได้ง่าย และน�ำไปใช้ ท่ีกล่าวในภาพรวมเก่ียวกับการจัดการการปนเปื้อนในแต่ละข้ัน ซึ่งจะมีลักษณะเป็น ประโยชน์ ทงั้ นก้ี รมสง่ เสมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม กรอบแนวทางเชงิ พรรณนาอยา่ งยอ่ (Brief Descriptive Guideline) ทใ่ี หค้ วามรเู้ บอื้ งตน้ และ ขอรับข้อคิดเห็นจากผู้สนใจทุกท่าน เพื่อการ ความเข้าใจในภาพรวม แต่ไม่สามารถใช้ในการประเมินการปนเปื้อนหรือการปฏิบัติงาน พัฒนาฐานข้อมูลดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ ฟื้นฟูการปนเปื้อนที่ต้องการรายละเอียดในการปฏิบัติได้ ซึ่งข้ันตอนรายละเอียดในการ สงู สดุ ตอ่ ไป ปฏบิ ตั นิ จ้ี ะถกู อา้ งถงึ ในกรอบการดำ� เนนิ การทางเทคนคิ (Technical Guideline) ฐานขอ้ มลู กรอบแนวทางการจัดการ (Management Guideline) น้ีเหมาะส�ำหรับประชาชน NGOs นกั วชิ าการ หรอื ผทู้ ส่ี นใจจะศกึ ษาแนวทางหรอื เกณฑใ์ นการจดั การพนื้ ทปี่ นเปอ้ื นอยา่ งเปน็ ระบบ แตไ่ มไ่ ดท้ ำ� หนา้ ทป่ี ระเมนิ การปนเปอ้ื น หรอื จดั การการปนเปอ้ื น www.ttigerr.org สว่ นท่ี 2 กรอบการดำ� เนนิ การทางเทคนคิ (Technical Guideline): เปน็ ขน้ั ตอนทางเทคนคิ ทีละขั้นทีละตอน “Step-by-Step” ส�ำหรับการประเมินหรือปฏิบัติงานการจัดการ พน้ื ทปี่ นเปอ้ื นในแตล่ ะ Module โดยเนน้ ใหผ้ ใู้ ชฐ้ านขอ้ มลู สามารถปฏบิ ตั ติ ามไดจ้ รงิ และอาจ จะมกี ารอา้ งถงึ กลอ่ งเครอ่ื งมอื ทางเทคนคิ (Technical Toolbox) สว่ นที่ 3 กลอ่ งเครอื่ งมอื ทางเทคนคิ (Technical Toolbox): เปน็ ฐานขอ้ มลู ทร่ี วบรวมเครอื่ งมอื ทางเทคนคิ ทสี่ ำ� คญั และถกู อา้ งถงึ ในกรอบการดำ� เนนิ การทางเทคนคิ (Technical Guideline) ซงึ่ เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู และเครอ่ื งมอื สำ� คญั สำ� หรบั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านในการปฏบิ ตั งิ านจรงิ โดยกลอ่ งเครอื่ งมอื ทางเทคนคิ นปี้ ระกอบดว้ ยโปรแกรม วธิ กี ารใชโ้ ปรแกรม แบบประเมนิ หรอื ตวั อยา่ งรายงาน และ แบบฟอรม์ ทถี่ กู อา้ งถงึ ในกรอบการดำ� เนนิ การทางเทคนคิ (Technical Guideline) เปน็ ตน้ No.24 September 2013 Green Research 3

เรอื่ งเดน่ ประจ�ำฉบับ แนะน�ำ “ซอฟตแ์ วร์คำ�นวณ ปรมิ าณก๊าซเรอื นกระจก” อศั มน ลิ่มสกลุ * วมิ ลรัตน์ลี กถาเสนีย์* วุฒิชัย แพงแก้ว** และอศั ดร คำ� เมือง** “ลดขยะ ลดโลกรอ้ น”ขยะเกยี่ วขอ้ ง มากขน้ึ จงึ ไดจ้ ดั ทำ� ซอฟตแ์ วรค์ ำ� นวณปรมิ าณ กับโลกร้อนอย่างไร แล้วกระบวนการ ก๊าซเรือนกระจกเพื่อใช้ค�ำนวณปริมาณก๊าซ รณรงค์เพื่อให้ประชาชนมีการลดและคัด เรือนกระจกตามรายประเภทที่น�ำกลับมา แยกขยะทแ่ี หลง่ กำ� เนดิ ชว่ ยลดโลกรอ้ นได้ ใช้ใหม่ ซ่ึงเป็นการค�ำนวณปริมาณขยะที่น�ำ ดว้ ยหรอื ประเดน็ เหลา่ นเี้ ปน็ เรอื่ งนา่ สนใจ กลบั มาใชใ้ หมแ่ ละนำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ หอ้ ยใู่ น เน่ืองจากในปัจจุบันทิศทางการส่งเสริม รูปของคาร์บอน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการซ้ือขาย ประชาชนมกั ใหค้ วามสำ� คญั กบั การลดโลก ภายใต้กลไกของอนุสัญญาสหประชาชาติ วา่ ดว้ ยการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศและ รอ้ นเปน็ หลกั พิธีสารเกียวโต ตลอดจนกลไก Corporate Social Responsibility (CSR) ของบริษัท ปี พ.ศ. 2553 ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรม เอกชน โดยเช่ือมโยงการมีส่วนร่วมของ ด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพ ประชาชนและการแก้ไขปัญหา ดว้ ยการเพ่ิม สิ่งแวดล้อมร่วมกับศูนย์บริการเทคโนโลยี มูลค่าขยะที่น�ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่และ สาธารณสขุ และสง่ิ แวดลอ้ ม คณะสาธารณสขุ ขยะอนิ ทรยี ซ์ งึ่ เปน็ การสนบั สนนุ ภารกจิ ในการ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ไดจ้ ดั ทำ� ฐาน รณรงค์สร้างจิตส�ำนึกและส่งเสริมการ ข้อมูลประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจก ที่ มีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการขยะ สามารถลดไดจ้ ากการดำ� เนนิ งานการคดั แยก ชมุ ชนไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพตอ่ ไป และนำ� ขยะกลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หมข่ องชมุ ชน ด้วยวิธี 3R ซึ่งเป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยเสริมให้ ภารกจิ ของกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม ใน ด้านการรณรงค์ส่งเสริมการจัดการขยะครบ วงจร ภายใตบ้ รบิ ท Zero waste community เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม มากขนึ้ และเพอื่ ใหก้ ารดำ� เนนิ งาน ดา้ นการลด ปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากภาคของเสีย ชมุ ชนมคี วามตอ่ เนอ่ื งและมชี มุ ชนตวั อยา่ งทด่ี ี (www.tccnclimate.com) *นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ มชำ� นาญการ **นกั วชิ าการสง่ิ แวดลอ้ ม ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม 4 Green Research No.24 September 2013

สถานการณข์ ยะมลู ฝอยและกา๊ ซเรอื นกระจก ของเสยี ชมุ ชน นบั เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ และปลดปลอ่ ยกา๊ ซเรอื น กระจกท่ีส�ำคัญอีกแหล่งหน่ึง ท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภมู อิ ากาศ หรอื รจู้ กั กนั ในนาม “ภาวะโลกรอ้ น” (IPCC, 1996) จากฐาน ข้อมูลบัญชีก๊าซเรือนกระจก พบว่าในปี พ.ศ. 2546 ประเทศไทยมี สถานการณ์การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคของเสีย เป็น CสสดัอOสด2ว่ คนเทล3ีย้อ.บ9ง%กเทับ(่าส3).ถ9เา2กนิดลกจา้ นาารตกณน้กิจ์แCกลOระ2รแมเทนกยี วาบโรเนจทั้ดมา่ )กขโาอดรงยขขย5ย2ะะ.2มข%ูล้อฝม(4อูล.ย8ด6ทังกี่เลกลา้ ิดน่าขตวึ้นนนั ้ี กลา่ วคอื ในปี พ.ศ. 2536 ประเทศไทยมขี ยะชมุ ชนเกดิ ขน้ึ 30,640 ตนั ตอ่ วนั และเพมิ่ ขนึ้ เปน็ 41,064 ตนั ตอ่ วนั ในปี พ.ศ. 2551 หรอื 34% (ส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2552) ปรมิ าณขยะชมุ ชน ไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ กา๊ ซเรอื นกระจกออกสบู่ รรยากาศ ในปรมิ าณทค่ี อ่ นขา้ งสงู เนอื่ งจากขยะมลู ฝอยทเ่ี กดิ ขนึ้ ถกู นำ� ไปกำ� จดั อยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั สขุ าภบิ าลเพยี ง 14,373 ตนั ตอ่ วนั หรอื ประมาณ 35% ของปรมิ าณขยะมลู ฝอยทเี่ กดิ ขน้ึ ทวั่ ประเทศ โดยสว่ นทเ่ี หลอื ถกู จดั การดว้ ยวธิ กี ารเทกองกลางแจง้ หรอื การเผา และในสว่ นของชมุ ชนที่ อยหู่ า่ งไกลประชาชนจะกำ� จดั กนั เองในครวั เรอื น ในชว่ งทผ่ี า่ นมา ทง้ั หนว่ ยงานของรฐั และเอกชน ไดร้ ว่ มกนั หา แนวทางในการแก้ไขปัญหาขยะชุมชน โดยได้ให้ความส�ำคัญต่อ การจัดการขยะชุมชนแบบครบวงจร เพ่ือลดปริมาณขยะจากแหล่ง กำ� เนดิ ซง่ึ ไดร้ ณรงคใ์ หค้ ดั แยกขยะนำ� กลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หม่ รวมทงั้ การนำ� ขยะอนิ ทรยี ม์ าใชป้ ระโยชนใ์ นรปู แบบการผลติ กา๊ ซชวี ภาพและ การทำ� ปยุ๋ หมกั จากขอ้ มลู ของกรมควบคมุ มลพษิ พบวา่ ในปี พ.ศ. 2550 ไดม้ กี ารนำ� ขยะกลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หม่ 22% ของขยะทง้ั หมด (3.25 ลา้ นตนั ) และเพมิ่ ขนึ้ เปน็ 23% (3.41 ลา้ นตนั ) ในปี พ.ศ. 2551 การคดั แยกขยะและนำ� ขยะมาผลติ กา๊ ซชวี ภาพ นบั เปน็ แนวทางเชงิ บรณู าการ ที่ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากของเสีย เพื่ออนุรักษ์และใช้ประโยชน์ ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่า ซึ่งเป็นแนวทางท่ีส่งเสริมการ บรโิ ภคทย่ี งั่ ยนื อกี ทง้ั ชว่ ยลดการปลดปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก อนั เปน็ ตน้ เหตทุ ส่ี ำ� คญั ของการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของโลก No.24 September 2013 Green Research 5

เรือ่ งเด่นประจำ� ฉบับ สถานการณก์ ารนำ� กลบั มาใชใ้ หม่ ข้อมูลการส�ำรวจของกรมควบคุมมลพิษ พ.ศ.2547 ซ่ึงได้ท�ำการส�ำรวจร้านค้ารับซื้อวัสดุรีไซเคิลที่ขึ้นทะเบียนในเขตพื้นท่ีเทศบาล รวมทั้งสิ้น 3,088 ร้าน จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลประเภทวัสดุรีไซเคิลที่พบหลักๆ ได้แก่ กระดาษ พลาสติก แก้ว อลูมิเนียม ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก และอื่นๆ ได้แก่ แบตเตอรี่เก่า สายยาง สังกะสี และ นุ่น เป็นต้น ทั้งน้ีในภาพรวมวัสดุรีไซเคิลของประเทศไทย พบวา่ ประเภทวัสดุรีไซเคิลทีม่ กี ารรับซื้อรวมท้งั ส้ิน 4,642.425 ตนั /วัน โดยวัสดุรไี ซเคิลที่รบั ซื้อมากท่สี ดุ คอื กระดาษ มีปรมิ าณการรับซอ้ื 1,407.437 ตนั /วนั คดิ เปน็ 30.32 % รองลงมาคอื เหลก็ มปี รมิ าณการรบั ซอ้ื 1,202.961ตนั /วนั คดิ เปน็ 25.91 % อนั ดบั ทสี่ าม คอื แกว้ มปี รมิ าณ การรบั ซอ้ื 1,148.537 ตนั /วนั คดิ เปน็ 24.74 % สว่ นวสั ดรุ ไี ซเคลิ อนื่ ๆ ทมี่ กี ารรบั ซอื้ อาทิ พลาสตกิ อลมู เิ นยี ม ทองเหลอื ง ทองแดง และ อน่ื ๆ คดิ เปน็ ประมาณการรบั ซอื้ 536.156 ตนั /วนั 126.698 ตนั /วนั 99.623 ตนั /วนั 90.630 ตนั /วนั และ 30.383 ตนั /วนั ซง่ึ คดิ เปน็ 11.55 %, 2.73 %, 2.15 %, 1.95 % และ 0.65 % ตามลำ� ดบั อืน่ ๆ 0.65 กระดาษ 30.32 เหล็ก 25.91 ทองเหลือง 2.15 พลาสติก 11.55 ทองแดง 1.95 อลมู ิเนียม 2.73 แกว 24.74 รอ้ ยละวสั ดรุ ไี ซเคลิ ในประเทศไทย ทม่ี า : กรมควบคมุ มลพษิ พ.ศ. 2547 ซอฟตแ์ วรค์ ำ� นวณปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก (3R – Greenhouse Gas Calculation) การใชซ้ อฟตแ์ วรค์ อมพวิ เตอรท์ อี่ อกแบบมาเฉพาะเพอื่ การนำ� เข้าข้อมูลการน�ำมูลฝอยกลับมาใช้ใหม่ในโครงการตั้งแต่เริ่มด�ำเนิน โครงการจะชว่ ยใหเ้ กดิ ความสะดวกในการจดั การขอ้ มลู และสามารถ ประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกตามวิธีการค�ำนวณที่ศึกษาไว้แล้ว ลดความผดิ พลาดในการคำ� นวณ ตลอดจนทราบถงึ ขอ้ มลู ยอ้ นหลงั ใน การจัดการขยะมูลฝอย เช่น อัตราการน�ำกลับมาใช้ใหม่ของมูลฝอย แตล่ ะประเภท 6 Green Research No.24 September 2013

หลกั การทำ� งานของซอฟตแ์ วร์ หลกั การทำ� งานของซอฟตแ์ วรเ์ พอื่ ใชค้ ำ� นวณปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกจาก ขยะทนี่ ำ� กลบั มาใชใ้ หม่ คอื การใชค้ า่ การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกทไ่ี ดจ้ ากผลการ ศึกษาปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากวัสดุท่ีกลายเป็นขยะแต่ละ ประเภท ทไี่ ดจ้ ากโครงการศกึ ษาปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก ระยะท่ี 1 มาใชใ้ นการ คำ� นวณโดยเทยี บกบั ปรมิ าณขยะทไ่ี ดร้ บั การคดั แยกโดยแสดงคา่ การคำ� นวณใน คหวนาว่ มยเตหนั มหาระอื สกมโิ ขลอกงรขมั อ้ CมลOู ป2-รeมิ qาuณivaขlยeะnทcไี่eดตร้ บัอ่ ตกนัารขคยดั ะแแยตกล่ ะโดปยระเนเภน้ ทปรทะง้ัเภนทแ้ี ลขยว้ แะทต่ี่ ไดร้ บั การจดั ลำ� ดบั 10 ประเภท ทมี่ กี ารคดั แยกและนำ� กลบั มาใชใ้ หมป่ รมิ าณมาก ท่ีสุดที่ได้ศึกษาไว้แล้ว เพ่ือให้เกิดประโยชน์และเกิดประสิทธิภาพกับงาน คดั แยกขยะของพนื้ ทน่ี �ำรอ่ ง ทนี่ อกจากเปน็ การลดปรมิ าณขยะในพนื้ ทแ่ี ลว้ ยงั สามารถทราบไดว้ า่ สามารถลดการปลดปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกไดม้ ากนอ้ ยเพยี ง ใด ทง้ั นน้ี อกจากขอ้ มลู การคดั แยกขยะแลว้ ยงั สามารถน�ำเขา้ ขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง อนื่ ๆ เชน่ ปรมิ าณมลู ฝอย และองคป์ ระกอบของขยะในพนื้ ทเี่ พอื่ ใชเ้ ปรยี บเทยี บ ประสิทธิภาพในการคัดแยกขยะ อัตราการเกิดขยะ ภาพรวมของปัญหาขยะ มลู ฝอยในพนื้ ที่ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ทค่ี รอบคลมุ และใชป้ ระโยชนไ์ ดห้ ลากหลาย ขอ้ มลู นำ� เขา้ การออกแบบระบบขอ้ มลู ของซอฟตแ์ วรค์ ำ� นวณปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก มี 2 กลมุ่ หลกั ๆ ดงั น้ี (1) ขอ้ มลู สถานการณก์ ารจดั การขยะ เปน็ ขอ้ มลู ทบี่ อกถงึ สภาพปญั หา ของขยะมลู ฝอยในพนื้ ท่ี ประกอบดว้ ย - ขอ้ มลู ปรมิ าณขยะทเ่ี กดิ ขนึ้ ซง่ึ บง่ บอกถงึ ระดบั ของปญั หาขยะมลู ฝอย ในพน้ื ท่ี และทำ� ใหท้ ราบถงึ อตั ราการเกดิ ขยะตอ่ คน นอกจากนน้ั ปรมิ าณขยะยงั เก่ียวข้องกับการจัดการโดยท้องถ่ิน เช่น การจัดการด้านบุคลากร เครื่องจักร รถเกบ็ ขน แรงงาน งบประมาณ รวมทงั้ การจดั หาสถานทกี่ ำ� จดั ทเ่ี หมาะสมดว้ ย - ขอ้ มลู องคป์ ระกอบของขยะ ขอ้ มลู สว่ นนจ้ี ะอธบิ ายถงึ ประเภทของขยะ ที่เกิดข้ึนลักษณะการบริโภคของประชาชนในพื้นท่ี สภาพเศรษฐกิจของชุมชน ศักยภาพในการคัดแยกและน�ำกลับมาใช้ใหม่ของขยะ เน่ืองจากข้อมูล องคป์ ระกอบของขยะทเ่ี กดิ ขนึ้ ในแตล่ ะเสน้ ทางของการจดั การขยะ เชน่ ณ แหลง่ ก�ำเนิด รถเก็บขน หรือสถานที่กำ� จัดขยะ จะบอกไดถ้ งึ ลักษณะการด�ำเนนิ การ คดั แยกขยะของทอ้ งถนิ่ การใหค้ วามสำ� คญั กบั การลดและคดั แยกขยะ ตลอดจน ความรว่ มมอื ของชมุ ชนในพนื้ ที่ (2) ขอ้ มลู การคดั แยกขยะ เปน็ ขอ้ มลู ของปรมิ าณขยะแตล่ ะประเภททไี่ ด้ รบั การคดั แยกแลว้ เพอ่ื เตรยี มนำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นลกั ษณะตา่ งๆ เชน่ การนำ� กลบั มาใชใ้ หม่ (Reuse) หรอื การนำ� ไปรไี ซเคลิ ผลติ เปน็ สนิ คา้ ใหม่ (Recycle) ซง่ึ ขอ้ มลู อาจจะสามารถตรวจสอบไดห้ ากมกี ารดำ� เนนิ การอยแู่ ลว้ โดยอาจจะอยทู่ ช่ี มุ ชน หรอื ศนู ยร์ บั ซอ้ื ขยะ No.24 September 2013 Green Research 7

เร่อื งเดน่ ประจำ� ฉบบั ลักษณะการเก็บข้อมูลทั้งสองประเภทเพื่อนำ� เข้าสู่การประมวลผลของ เร่มิ ตน ปรมิ าณขยะ แฟม ขอมูลบรรทดั ฐาน ซอฟต์แวร์ค�ำนวณเป็นการศึกษาสภาพของการจัดการในข้ันแรกเรียกว่า ขอ มลู ปรมิ าณขยะ ขอ้ มลู ฐาน (Baseline) ซงึ่ จะบอกถงึ คา่ การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกเปน็ คา่ เรม่ิ ตน้ นำเขา ขอมลู ปริมาณขยะ ขอ มลู องคประกอบขยะ และหลงั จากดำ� เนนิ งานโครงการคดั แยกและนำ� ขยะกลบั มาใชใ้ หมแ่ ลว้ จะไดผ้ ล ท่ีเกิดขึน้ การคำ� นวณคา่ การปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกทสี่ ามารถเปรยี บเทยี บกบั Baseline ได้ ขอ มลู การนำกลับมาใชใ หม วา่ สามารถลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกไดเ้ ทา่ ใด พรอ้ มกบั การอธบิ ายถงึ ความ เชอื่ มโยงกบั ขอ้ มลู ฐานและการจดั การขยะมลู ฝอยในดา้ นตา่ งๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งอยา่ ง นำเขาขอ มูล องคป ระกอบขยะ ครอบคลมุ องคป ระกอบขยะ การรายงานผล นำเขาขอมลู ปรมิ าณ องคประกอบขยะ ขอ มลู กา ซเรือนกระจก การนำมูลฝอยกลบั มาใชใ หม กจิ กรรมการนำกลับมาใชใ หม ผลการคำ� นวณปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกจากขยะทไี่ ดร้ บั การคดั แยกและ พลาสติก, เหล็ก, อลูมเิ นยี ม กนาำ� รกรลาบั ยมงาาในชผใ้ หลมสจ่าะมแาสรดถงแเปสน็ดคงา่เปCน็ Oผ2ล-eกqาuรiคvaำ� lนenวcณeตทาส่ี มาชมว่ างรเวถลลาดไเชดน่้ ทรงั้ านยล้ี วกั นั ษรณายะ ฐานขอ มลู รวม สำหรับ สัปดาห์ หรือรายเดือน เป็นต้น โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกแสดงผลตามความ การประเมินกา ซเรือนกระจก แกว, กระจก, กระดาษ ต้องการ ท้ังนี้ความถ่ีในการน�ำเข้าข้อมูลต้องมีความสัมพันธ์กันกับระบบการ รายงานผล กลา่ วคอื หากสามารถนำ� เขา้ ขอ้ มลู ไดล้ ะเอยี ดมากเทา่ ใดกส็ ามารถ จากขยะชมุ ชน ผลการประเมนิ สร้างระบบการรายงานผลได้ละเอียดเช่นกัน โดยการออกแบบระบบข้อมูลจะ ออกแบบให้รองรับความถ่ีของข้อมูลที่เหมาะสมและใช้งานได้สะดวกท้ังการ ปริมาณขยะรีไซเคลิ , GHG ที่ลดได นำ� เขา้ การสรา้ งเงอ่ื นไขของการรายงานผล และการแสดงรายงานในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ กราฟ แผนภมู ิ ตาราง รวมทง้ั สามารถพมิ พร์ ายงานได้ การรายงานผล การแสดงผล การใชง้ าน กรอบแนวคดิ การทำ�งานของซอฟตแ์ วร์ ประเมนิ กา๊ ซเรอื นกระจก เน่ืองจากระบบซอฟต์แวร์ที่สร้างข้ึน เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้งานในระดับผู้ ประโยชน์จากของเสียเพื่ออนุรักษ์และใช้ ปฏบิ ตั งิ านในทอ้ งถนิ่ ดงั นนั้ หลกั การทจ่ี ะทำ� ใหซ้ อฟตแ์ วรใ์ ชง้ านไดเ้ กดิ ประโยชน์ ประโยชน์ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดและ และเกดิ ประสทิ ธภิ าพ จงึ ตอ้ งสรา้ งใหซ้ อฟตแ์ วรใ์ ชง้ านไดง้ า่ ย สะดวก ลดความ คมุ้ คา่ ซงึ่ เปน็ แนวทางทสี่ ง่ เสรมิ การบรโิ ภคที่ ซำ้� ซอ้ นรวมทง้ั แกไ้ ขปรบั ปรงุ ไดง้ า่ ย เนอ่ื งจากในชว่ งของการทดสอบการทำ� งาน ยั่งยืน อีกท้ังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซ ของซอฟตแ์ วรท์ ง้ั ในขนั้ ตอนการออกแบบ การทดสอบในพนื้ ทซ่ี งึ่ ไดร้ บั ขอ้ เสนอ เรอื นกระจก อนั เปน็ ตน้ เหตทุ สี่ ำ�คญั ของการ แนะทั้งจากผู้ใช้งาน ผู้บริหาร และผู้ที่เก่ียวข้อง เพ่ือน�ำมาแก้ไขปรับปรุงจน เปล่ียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศของโลก สามารถใชง้ านไดอ้ ยา่ งราบรนื่ สำ� หรบั เนอื้ หาสาระ “ซอฟตแ์ วรค์ ำ� นวณปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก” ในฉบบั นไี้ ดก้ ลา่ วแนะนำ� ภาพรวมของซอฟตแ์ วรด์ งั กลา่ วในเบอื้ งตน้ ซงึ่ ในวารสาร Green Research ฉบบั ตอ่ ไปจะน�ำเสนอรายละเอยี ดวธิ กี ารใชง้ าน “ซอฟตแ์ วร์ คำ� นวณปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก” ตอ่ ไปสำ� หรบั ทา่ นผอู้ า่ นทา่ นใดทมี่ คี วามสนใจ หรอื ตอ้ งการทดลองใชง้ าน สามารถดาวนโ์ หลดซอฟตแ์ วรพ์ รอ้ มคมู่ อื การตดิ ตงั้ และใชง้ านไดท้ เ่ี วบ็ ไซตเ์ ครอื ขา่ ยการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศไทย www.ttigerr.org 8 Green Research No.24 September 2013

ข้อมูลดจิ ติ อลและการน�ำ ไปใชใ้ นงานวิจยั ศิรพงศ์ สขุ ทว*ี ขอ้ มูลถือว่าเป็นสิ่งส�ำคัญส�ำหรบั ของข้อมลู ไว้ครบถว้ นเชน่ กัน • CDO (Climate Data Operators) ในส่วนของรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล • GrADS (Grid Analysis and Display การวจิ ยั ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ อาจได้ มาจากการตรวจวัดเองหรือได้มาจาก นั้น โดยส่วนใหญ่ถูกจัดเก็บโดยการบีบอัด System) แหลง่ อน่ื ส�ำหรบั ขอ้ มลู จากแหลง่ อน่ื นนั้ มี ขอ้ มูลในรูปแบบตา่ งๆ ท่ี ไม่ใช่ Text File หรอื • ncensemble (command line utility ท้ังที่ต้องจัดซ้ือหรือไม่เสียค่าใช้จ่าย ใน Excel File เนื่องจากข้อมูลมีขนาดที่ใหญ่ to do ensemble statistics) ปจั จบุ นั มกี ารเผยแพรข่ อ้ มลู โดยไมค่ ดิ คา่ ดังนั้นการน�ำข้อมูลไปใช้จึงจ�ำเป็นท่ีจะต้อง • NCL (NCAR Command Language) ใช้จ่ายเพ่ิมมากขึ้นเป็นจ�ำนวนมาก โดย เข้าใจถึงลักษณะของ File ท่ีผู้ใช้ดาวน์โหลด • NCO (NetCDF Operators) เฉพาะข้อมูลทางด้าน บรรยากาศ ทะเล จากแหลง่ ขอ้ มลู วา่ ประกอบดว้ ยตวั แปรอะไร • ncview และพน้ื ดิน ท้ังกายภาพ และเคมี การเผย ลกั ษณะเชงิ พนื้ ทแ่ี ละเวลาของขอ้ มลู ทถี่ กู บบี แพร่ข้อมูลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายน้ันมีเป้า อัดเป็น Meta Data รวมอยู่ใน File น้ันๆ หมายเพ่ือให้มีการวิจัย วิเคราะห์ และ นอกจากน้ีผู้ใช้ต้องมีความรู้และศักยภาพใน วนิ จิ ฉยั กระบวนการตา่ งๆ ทจี่ ำ� เปน็ ในการ การใช้ข้อมูลรูปแบบต่างๆ รวมถึงการสกัด เพมิ่ ความเขา้ ใจของสภาพแวดลอ้ มและนำ� และแปลงขอ้ มลู ตา่ งๆ เพอ่ื อา่ นขอ้ มลู วเิ คราะห์ ไปใช้ในการจดั การบรหิ ารบนพน้ื ฐานของ แปรผลหรอื นำ� เสนอตอ่ ไป ตวั อยา่ งเชน่ รปู ที่ 1 ข้อมูลโดยส่วนใหญ่ถูกจัดเก็บในรูป ข้อมลู และการวจิ ัย แบบ NetCDF, Grib1, Grib2, และ HDF โดยเฉพาะ NetCDF เป็นชนิดของข้อมูล จากแหล่งข้อมูลจ�ำนวนมากมายท่ี ถกู เรมิ่ พฒั นามาโดย University Corporation เผยแพร่นั้น ในส่วนน้ีจะเป็นการน�ำเสนอ for Atmospheric Research (UCAR) และมี ตัวอย่างดังตารางท่ี 1 ข้อมูลท่ีมีการเผยแพร่ การเผยแพร่ขอ้ มูลในรปู แบบ NetCDF อย่าง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และแหล่งที่สามารถ แพรห่ ลาย สำ� หรับ Utility ทางคอมพวิ เตอร์ที่ ดาวนโ์ หลดได้ทางอินเตอรเ์ น็ต อย่างไรก็ตาม ใชใ้ นการจดั การขอ้ มลู ชนดิ นมี้ มี ากมายขนึ้ อยู่ ในการน�ำข้อมูลไปใช้จะต้องเป็นไปตามท่ีผู้ กับวัตถุประสงค์และความถนัดของผู้ใช้ เผยแพรไ่ ดร้ ะบไุ วใ้ นขอ้ ตกลง สำ� หรบั คณุ ภาพ ตวั อยา่ งเช่น ของข้อมูลน้ันโดยส่วนใหญ่ผู้เผยแพร่ได้มี เอกสารแสดงถงึ รายละเอยี ดทมี่ าและคณุ ภาพ *นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ มปฏบิ ตั กิ าร ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม No.24 September 2013 Green Research 9

เรือ่ งเดน่ ประจำ� ฉบบั ตารางที่ 1 แสดงตวั อยา่ งของข้อมูลที่มีการเผยแพร่โดยไม่คิดค่าใชจ้ ่าย ช่อื ขอ้ มูล ความละเอยี ดเชงิ พ้นื ท่ี ความละเอียดเชงิ เวลา ตวั แปร แหลง่ ดาวน์โหลด NCEP/NCAR 2.5 x 2.5 degree ราย 6 ชม, รายวนั ,รายเดอื น (01/01/1948– ปจั จุบนั ) ตัวแปรทางอุตนุ ิยมวทิ ยา http://www.esrl.noaa.gov/psd/data/reanalysis/ FNL 1.125 x 1.125 degree เชน่ ลม, อณุ หภมู ,ิ ความชน้ื reanalysis.shtml JRA-25 1.25 x 1.25 degree ราย 6 ชม (30/07/1999 ปัจจบุ ัน) เปน็ ตน้ http://rda.ucar.edu/datasets/ds083.2/#access ราย 6 ชม, รายเดอื น (01/01/1979- http://jra.kishou.go.jp/ JRA-25/index_en.html ปจั จบุ ัน) SRTM • 3 arc-sec (~90 m) - ลักษณะ ภมู ิประเทศ http://www2.jpl.nasa.gov/ ETOPO • 30 arc-sec (~900 m) - ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ srtm/cbanddataproducts.html • 1 arc-min (~1.8 km) http://www.ngdc.noaa.gov/mgg/global/ UDel • 2 arc-min รายเดือน (01/01/1901-ปัจจบุ ัน) HadISST • 5 arc-min รายเดือน (01/01/1870-ปจั จบุ ัน) อณุ หภมู ิ และปริมาณฝน http://www.esrl.noaa.gov/psd/data/gridded/ 0.5 x 0.5 degree อณุ หภูมิ ผิวน้�ำทะเล data. UDel_AirT_Precip.html http://climatedataguide.ucar.edu/ 1 x 1 degree guidance/sst-data-hadisst-v11 รปู ท่ี 1 แสดงภมู ปิ ระเทศจากขอ้ มลู ETOPO5 ทไ่ี ดว้ เิ คราะหข์ อ้ มลู และสรา้ งภาพโดย NCL (หนว่ ย: เมตร) การนำ� ข้อมลู ต่างๆ ไปวเิ คราะห์มีวัตถปุ ระสงค์ท่ีหลากหลาย เช่น การนำ� มาวเิ คราะหท์ างดา้ นความแปรปรวนของภมู อิ ากาศดงั รปู ท่ี 2 (ก) เปน็ การน�ำขอ้ มลู SST มาใชใ้ นการศกึ ษาเกย่ี วกบั ปรากฏการณ์ ENSO (Dijkstra, 2006) และรปู ท่ี 2 (ข) แสดงการใชข้ อ้ มลู ลมและความ กดอากาศมาใชใ้ นการศกึ ษาเก่ยี วกับมรสุมฤดูหนาว (Sooktawee,2012) นอกจากการนำ� ขอ้ มลู มาใช้วเิ คราะหแ์ ลว้ น้ัน ยงั สามารถน�ำไปใช้ เป็นข้อมูลน�ำเข้าส�ำหรับแบบจ�ำลองเพื่อใช้ในการศึกษาทางด้านต่างๆ เช่นการจ�ำลองปริมาณฝน (รูปที่ 2 (ค) เป็นผลท่ีได้จากแบบจ�ำลอง WRF ทใ่ี ชข้ ้อมูลนำ� เขา้ เช่น ลักษณะความสงู ของภมู ิประเทศ การใชท้ ่ดี นิ ตวั แปรทางอตุ ุนิยมวทิ ยา และอืน่ ๆ ส�ำหรับผลของการจำ� ลองจะมี ความนา่ เชอื่ ถอื มากนอ้ ยเพยี งใดขนึ้ อยกู่ บั หลายองคป์ ระกอบ ซง่ึ การใชข้ อ้ มลู นำ� เขา้ ทถี่ กู ตอ้ ง ทใี่ กลเ้ คยี งกบั สภาพความเปน็ จรงิ มากทส่ี ดุ เปน็ ส่ิงหน่งึ ทที่ �ำให้ผลของการจำ� ลองมคี วามน่าเชอ่ื ถือ 10 Green Research No.24 September 2013

(ก) (ข) (ค) (ง) รูปท่ี 2 (ก) ความผิดปกติของอุณหภูมิน้�ำทะเลในเดือนธันวาคม 2540 (Dijkstra, 2006) (ข) ค่าเฉล่ียทางภูมิอากาศของลมท่ีระดับ 850 hPa (vector), ค่าความ กดอากาศ (shaded contour), และ geopotential height ท่ีระดบั 850 hPa (contour line) ส�ำหรบั ช่วง 2522-2553 (Sooktawee, 2012) และภาพ แสดงปริมาณฝนรายวนั จาก (ค) แบบจ�ำลอง WRF และ (ง) กรมอุตนุ ยิ มวทิ ยา ในวนั ท่ี 16 กันยายน 2555 การเลอื ก การใช้ และความเขา้ ใจถึงโครงสรา้ งของขอ้ มูลการใช้ส�ำหรบั การวิเคราะห์ โดยเฉพาะขอ้ มลู ทางดา้ นบรรยากาศ และการใช้ส�ำหรับแบบจ�ำลองเป็นส่ิงที่ส�ำคัญกว่าการที่ต้องการเพียงแค่ให้ผลการวิเคราะห์ ทะเล และพน้ื ดนิ ทงั้ กายภาพ และเคมี และผลการจ�ำลองท่ีออกมาตรงกับท่ีคาดการณ์ไว้หรือตรงกับค่าท่ีตรวจวัด นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้แบบจำ� ลองอาจเปรียบเสมือนได้กับของเล่นสำ� หรับเด็กหาก การเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่เสียค่า ใช้โดยปราศจากความเข้าใจถึงพื้นฐานของข้อมูลที่ใช้ ผลท่ีได้จึงเป็นได้แค่ภาพกราฟฟิก ใช้จ่ายน้ันมีเป้าหมายเพื่อให้มีการ สวยๆ เหมือนเด็กที่เล่นของเล่นเพ่ือความสนุกสนานเพียงอย่างเดียวแต่หากเด็กนั้นได้เล่น ของเล่นที่มีคุณภาพเหมาะสมกับวัยจะท�ำให้มีความเข้าใจ มีพัฒนาการเพิ่มขึ้น เช่นเดียว วจิ ยั วเิ คราะห์ และวนิ จิ ฉยั กระบวน กับการวเิ คราะหข์ อ้ มลู และการใชแ้ บบจ�ำลองทเ่ี หมาะสม ทต่ี งั้ อยู่บนพ้นื ฐานของทฤษฎแี ละ การตา่ งๆ ทจี่ �ำ เปน็ ในการเพม่ิ ความ องคค์ วามรทู้ มี่ ี ณ ปจั จบุ นั ผลลพั ธท์ ไี่ ดน้ นั้ กจ็ ะน�ำไปสกู่ ารพฒั นาเพอ่ื ใหม้ คี วามเขา้ ใจในกลไก เขา้ ใจของสภาพแวดลอ้ ม ของธรรมชาติไดม้ ากขึ้น เอกสารอ้างอิง Dijkstra, H. A. (2006). The ENSO phenomenon: theory and mechanisms. Advances in Geosciences, 6, 3-15. Sooktawee, S., U. Humphries, A. Limsakul and P. Wongwises. (2012). Low-Level Wind Variability over the Indochina Peninsula during Boreal Winter. International Journal of Environmental Science and Development, 3, 130-135. No.24 September 2013 Green Research 11

เรื่องเด่นประจ�ำฉบบั แบบจ�ำ ลองคาดการณ์ระดบั เสยี งจากรถไฟ อ�ำนวยชัย คงดี* ข ณ ะ ท่ี ร ถ ไ ฟ วิ่ ง ผ่ า น เ ร า แ ม้ จ ะ ไ ม่ ใ ช่ รถไฟความเร็วสูงเหมือนของต่าง ประเทศแต่เสียงท่ีได้ยินก็สร้างความ รำ�คาญพอสมควรทีเดียว โดยแต่ละ ขบวนให้กำ�เนิดเสียงที่ความดังไม่เท่า กันขึ้นกับหลายปัจจัยซึ่งหากได้รับ เสยี งเหล่านี้บอ่ ยๆ อาจสง่ ผลใหเ้ กิด ความรำ�คาญ และหากว่าเสียงที่เกิด ข้ึนดังเกินมาตรฐานที่กำ�หนดอาจ ทำ�ให้เกิดการสูญเสียการได้ยินด้วย เหตุนี้ กระบวนการ เครอื่ งมอื ในการ ป้องกัน แก้ไขปัญหาท่ีเกิดจากเสียง ข้อมูลท่ีส�ำคัญส�ำหรับใช้ ในการควบคุม แหล่งก�ำเนดิ ของเสียงจากรถไฟ รถไฟ จึงเป็นสิ่งจำ�เป็นท่ีต้องมี เสยี งของรถไฟ เ สี ย ง ที่ เ กิ ด จ า ก ร ถ ไ ฟ มี ลั ก ษ ณ ะ ไ ม ่ เพ่ือแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยองค์ ประกอบหลักๆ ดังต่อไปนี้ กระบวนการจัดการแก้ไขปัญหาด้าน คงท่ีแต่จะแปรเปล่ียนไปตามคุณสมบัติ เสียงจากแหล่งก�ำเนิดมีองค์ประกอบหลักที่ ทางกายภาพของรถไฟและรางรถไฟ เช่น ต้องควบคมุ อยู่ 3 องคป์ ระกอบ ได้แก่ ความเร็วรถไฟ ชนิดรถไฟ สภาพราง เป็นต้น 1. ควบคมุ เสยี งทแี่ หลง่ กำ� เนดิ (source path) ซ่ึงคุณสมบัติเหล่าน้ี เกี่ยวของโดยตรงกับ 2. ควบคุมเสียงที่เส้นทางผ่านเสียง ความดันเสียงในหน่วยเดซิเบลและความถี่ (propagation path) เสียงในหน่วยเฮิร์ตซ์ โดยที่ทั้งความดันเสียง 3. ควบคมุ เสยี งทผ่ี รู้ บั เสยี ง (receiver path) และความถเี่ สียงนี้ มสี ่วนเกีย่ วขอ้ งกับความ ร�ำคาญและการสูญเสียการได้ยินเป็นอย่าง ซึ่งเครื่องมือท่ีส�ำคัญอย่างหน่ึง ท่ีใช้ มาก ส�ำหรับรถไฟโดยทั่วไปสามารถแบ่ง ส�ำหรับใช้ในการควบคุมเสยี งของรถไฟ ทงั้ 3 แหล่งก�ำเนิดเสียงจากรถไฟได้ 5 แหล่งหลัก องคป์ ระกอบ คอื แบบจำ� ลองคาดการณร์ ะดบั ดงั นี้ เสียงจากรถไฟ ส�ำหรับในบทความนี้จะขอ กล่าวถึง ความรู้ส�ำคัญซึ่งในการพัฒนาแบบ จ�ำลองคาดการณ์ระดับเสียงจากรถไฟ ประกอบด้วย กลไกการเกิดเสียง และที่มา ของเสียงรถไฟ และความสัมพนั ธ์ระหว่างค่า ระดบั เสยี งกบั ปรมิ าณทางกายภาพของรถไฟ เชน่ ความเรว็ รถไฟ ความยาวขบวนรถไฟ รวม ทั้งองค์ประกอบโดยท่ัวไป ของแบบจ�ำลอง ทางคณติ ศาสตรส์ ำ� หรบั คาดการณร์ ะดบั เสยี ง จากรถไฟ *นกั วชิ าการสง่ิ แวดลอ้ ม ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม 12 Green Research No.24 September 2013

1. เสียงจากล้อและรางเกิดจากความ 2. เสียงจากเครื่องยนต์ของหัวรถจักร เรยี บไมส่ มำ�่ เสมอของราง และลอ้ ทมี่ ลี กั ษณะ เคร่ืองยนต์ท่ีใช้จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลท�ำ ไม่เป็นทรงกลมอย่างสมบูรณ์ (มีลักษณะ หนา้ ทใี่ นการผลติ กระแสไฟฟา้ เพอื่ จา่ ยใหก้ บั คล้ายวงรี) ท�ำให้เกิดการส่ันสะเทือนของล้อ มอเตอร์ขับเคล่ือนล้อหัวรถจักรโดย และราง เกดิ เสยี งแพรก่ ระจายในอากาศ โดย เคร่ืองยนต์แต่ละรุ่น ยี่ห้อ อาจจะให้ก�ำเนิด ท�ำให้ก�ำเนิดเสียงที่มีความถ่ีสัมพันธ์กับ เสียงที่ความดันเสียงและความถี่เสียงที่แตก ความเรว็ ในรูปแบบ ดงั สมการท่ี (1) ต่างกันโดยค่าความดันเสียงจะเพิ่มขึ้นตาม ความเรว็ ทเี่ พมิ่ ขนึ้ ของรถไฟและเมอ่ื พจิ ารณา V=fl ……สมการท่ี (1) เสียงท่ีเกิดจากระบบล้อและรางร่วมด้วย โดย V คอื ความเรว็ รถไฟมหี นว่ ยเปน็ เมตร ส า ม า ร ถ เ ขี ย น ส ม ก า ร สั ม พั น ธ ์ ร ะ ห ว ่ า ง ตอ่ วนิ าที ความเร็วรถไฟกับระดับความดันเสียงที่เกิด f คอื ความถข่ี องเสยี งมหี นว่ ยเปน็ รอบ ในรปู แบบอย่างง่าย ดังสมการที่ (2) ตอ่ วินาที (เฮิรต์ ซ์) l คือความยาวคลื่นเสียงมีหน่วยเป็น LP= LPo + log เมตร โดยคา่ ความยาวคลน่ื ทเ่ี กดิ จะมลี กั ษณะ N V ….สมการท่ี (2) VO เฉพาะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นผิวของแต่ละราง โเดดซยิเบLลPท่คี ควือามระเรด็วับรถคไวฟามดันเสียงในหน่วย รถไฟซ่ึงมีความเรียบไม่เท่ากนั ในแต่ละราง V มีหนว่ ยเปน็ กโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมง L P o คือ ระดับความดันเสี ย ง ใ น ห น ่ ว ย เดซเิ บลท่คี วามเร็วรถไฟ LO โดยทำ� การวดั ณ ต�ำแหน่งเดยี วกนั รปู ที่ 1 แสดงกลไกการแพร่กระจายของเสียงเน่อื งจาก เครื่องยนต์ดีเซลทำ�หน้าท่ีในการ ความส่ันสะเทือ่ นของลอ้ และรางรถไฟ ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับ มอเตอร์ขับเคล่ือนล้อหัวรถจักร (a) โดยเครอื่ งยนตแ์ ตล่ ะรนุ่ ยห่ี อ้ อาจจะ ให้กำ�เนิดเสียงท่ีความดันเสียงและ ความถี่เสียงท่ีแตกต่างกันโดย ค่าความดันเสียงจะเพ่ิมขึ้นตาม ความเรว็ ทีเ่ พิม่ ข้ึนของรถไฟ (b) รูปท่ี 2 ตัวอย่างหัวรถจักรดีเซลที่ใช้ในประเทศไทย (a) ย่ีห้อ Alsthom รนุ่ 4406 และ (b) ยห่ี ้อ GEA. ร่นุ 4523-456 No.24 September 2013 Green Research 13

เร่อื งเด่นประจำ� ฉบับ 1. เสยี งจากความปน่ั ปว่ นของอากาศ แบบจ�ำลองทางคณิตศาสตร์ส�ำหรับคาด บรเิ วณรอบตวั รถไฟ เกดิ ขนึ้ ขณะรถไฟวงิ่ ดว้ ย ความเรว็ สงู เสยี งทเี่ กดิ มลี กั ษณะเสยี งความถี่ การณร์ ะดบั เสยี งจากรถไฟ Adiv = 20 log d + 11 ..สมการที่ (4) ในการวางแผนปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหา dO ต่�ำกว่า 500 เฮิร์ตซ์ และความดันเสียงใน เสียงท่ีเกิดจากรถไฟในหลายๆ สถานการณ์ Adiv = 10 log d …..สมการที่ (5) หน่วยเดซิเบลสัมพันธ์กับความเร็วรถไฟใน จ�ำเป็นต้องมีข้อมูล ข่าวสาร ส�ำหรับ 25 หนว่ ยกโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมงในลกั ษณะลอการทิ มึ ตัดสินใจก่อนเหตุกาณ์จริงเกิดขึ้น เน่ืองจาก 2. เสียงจากระบบเบรค ซ่ึงเกิดจาก หากรอให้สถานการณ์จริงเกิดข้ึนอาจแก้ไข การเสยี ดสรี ะหวา่ งลอ้ และตวั ระบบเบรค เสยี ง ปัญหาได้ยาก หรือส้ินเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ท่ีเกิดมีลักษณะเสียงความถ่ีสูงระหว่าง ดังนั้นแบบจ�ำลองทางคณิตศาสตร์ส�ำหรับ 1000 - 2000 เฮิรต์ ซ์ คาดการณ์ระดับเสียงจากรถไฟจึงเป็นเครื่อง มือที่ส�ำคัญและมีประโยชน์ในการค้นหา ข้อมูล ข่าวสารเหล่านั้น แบบจ�ำลองทาง คณติ ศาสตรส์ ำ� หรบั คาดการณร์ ะดบั เสยี งจาก รถไฟ โดยทั่วไปอยู่ในรูปความสัมพันธ์ ระหว่าง คา่ ความดนั เสยี งของรถไฟ ณ ระยะ ใดๆ กับ ปริมาณทางกายภาพต่างๆ ในรูป แบบ ดังสมการที่ (3) LP= LO + S Ai เดซิเบล หรอื เดซเิ บลเอ …….สมการที่ (3) รูปท่ี 3 สว่ นตา่ งๆ ของระบบเบรครถไฟประกอบ อโดยยใู่ ทนรี่ Lปู Oขอคงอื กรำ� ะลดงั บัเสเยีสงยี ง(sณouจnดุdอpา้ oงwอeงิ rซlง่ึeอvาeจl) ดว้ ย จานเบรค (Brake Discs) และตวั ในหน่วยวัตต์ หรือความดันเสียง (sound ห้ามลอ้ (Brake calipers) 3. เสยี งขณะรถไฟวง่ิ บนสะพาน เกดิ pressure level) ในหน่วยเดซิเบลหรือ จากการส่ันของโครงสร้างสะพานขณะรถไฟ เดซิเบลเอ หาได้จากการวัดในสถานท่ีจริง วิ่งบนสะพาน และขณะรถไฟวิ่งผ่านสะพาน มีค่าแปรไปตามชนิดของรถไฟ ( สินค้า หรือ ระดับเสียงจะกว้างกว่ารางรถไฟทั่วไป โดยสาร) ชนิดของหัวรถจักรความเร็วของ ประมาณ 10 – 20 เดซเิ บล ขน้ึ อยกู่ บั โครงสรา้ ง รถไฟ (กิโลเมตรต่อช่ัวโมง) ชนิดของราง สะพานแต่ละแห่ง เป็นต้น มีหน่วยเป็น เดซิเบล หรือเดซิเบลเอ 4. เสียงขณะรถไฟวิ่งผ่านทางโค้ง ส่วนเทอม Ai ประกอบดว้ ยคา่ ต่างๆ ดังน้ี M เกิดจากการเสียดสีระหว่างล้อและรางขณะ เ นอ่ื งจาก1ร.ะยAะหdา่ivงจคา่ากแกหาลรลง่ กด�ำลเนงดิขกอบั งจเสดุ ียรบั ง รถไฟวงิ่ บนทางโคง้ โดยความดงั และความถี่ เสียงเพ่มิ ขึน้ (Geometrical divergence) มี เสียงที่เกิดขึ้นๆ อยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ผลท�ำให้พลังงานเสียงเกิดการกระจาย สภาพราง ความโค้งของราง ความเร็วรถไฟ สามารถหาได้จากสมการท่ีสัมพันธ์กับระยะ เปน็ ต้น ทาง ดงั ตัวอย่างกำ� หนดโดย ISO 9613-2 ใน สมการที่ (4) และสมการที่ใช้ในแบบจ�ำลอง คาดการณร์ ะดบั เสยี งรถไฟของสหราชอาณา จกั ร (CRN model) ในสมการท่ี (5) 14 Green Research No.24 September 2013

แหล่งกำ�เนดิ ถงึ จดุ รับเสียงและความสงู ของจุด รับเสียงแตใ่ นบางแบบจำ�ลองฯ รวมเอาผลจาก สภาพพืน้ ผวิ เข้ามาไวใ้ นแบบจ�ำ ลองดว้ ย ระ หว่างแโหดลย่งทกี่�ำdเนoิดแถลึงะจุด2ว5ัดเคสือียงรอะ้ายงะอทิงามงี บ รรยากาศ3.(AAtmairoคsาp่ กhาeรrดicดู กaลbนื sเoนrอ่ืpงtจioาnก)สมภาีคพา่ หนว่ ยเปน็ เมตร d คอื ระยะทางระหวา่ งแหลง่ ข้ึนอยู่กับระยะทางระหว่างแหล่งก�ำเนิดกับ ก�ำเนดิ ถงึ จดุ วดั เสยี งท่ีสนใจ จุดรับเสียง และความถ่ีเสียง โดยเสียงที่มี ความถี่ต�่ำสูงถูกดูดกลืน พลังงานมากกว่า เสียงความถ่ี ตัวอย่างสมการที่ (7) แสดง สมการหาค่าการดูดกลืนเสียงของอากาศ แนะน�ำโดย ISO 9613-2 Aair = - ad h ….สมการท่ี (7) 1000 รูปท่ี 3 ทร่ี ะยะ r1 พลังงานเสียงกระจายอยูใ่ นพน้ื ท่ี โดย d คือ ระยะห่างจากรางรถไฟ หน่วยเป็นเมตร aในทพ่ีรน้ื ะทยี่ะ4arท2ำพ�ใลหัง้คงวาานมเเสขียม้ งเแสพยี งรม่กีคระา่ จลาดยลองยู่ a เปน็ ค่าคงท่ี สัมประสิท2ธ. ์กAาgรดคูา่ดกกาลรืนดขดู อกงลพืน้ืนเทนี่ทื่อี่เงสจียางกเดคิน่า ทางผา่ น (Ground effect) มคี า่ ขน้ึ อยกู่ บั ระยะ ทางระหว่างแหล่งก�ำเนิดถึงจุดรับเสียงและ ความสูงของจุดรับเสียง แต่ในบางแบบ จ�ำลองฯ รวมเอาผลจากสภาพพื้นผิวเข้ามา ไว้ในแบบจ�ำลองด้วย เ ช่น พื้นคอนกรีตมี สมั ประสทิ ธกิ์ ารดดู กลนื นอ้ ยกวา่ พนื้ สนามหญา้ เปน็ ตน้ ดงั ตวั อยา่ งสมการท่ี (6) แสดงสมการ ค่าการดูดกลืนเสียงของพื้นที่ ใช้ในแบบ จ�ำลองของสหราชอาณาจักร Ag = - d h ….สมการที่ (6) 130 โดย d คือ ระยะห่างจากรางรถไฟ หน่วยเป็นเมตร h คือ ความสูงของจุดรับเสียงจากพ้ืน หน่วย เป็นเมตร No.24 September 2013 Green Research 15

เรือ่ งเด่นประจำ� ฉบับ ( Screeni4n.gA) เbม่ือคเ่าสแียกงเ้เดนินื่อทงจางามกาสปิ่งรกะีดทขะวกาับง การคำ�นวณหาระยะห่างระหว่างรางรถไฟกับจุดรับเสียงหรือการ สงิ่ กดี ขวางซงึ่ อาจจะเปน็ กำ� แพงกนั้ เสยี ง เนนิ คำ�นวณหาความสูงกำ�แพงกั้นเสียงที่เหมาะสมในการลดระดับ ดนิ ฯลฯ จะเกดิ การสญู เสยี พลงั งานเนอื่ งจาก การเล้ียวเบน โดยขนาดระดับเสียงระดับท่ี เสียงจากรถไฟ ลดลง ขน้ึ อยกู่ บั ความยาวและความสงู ของสงิ่ กีดขวาง รวมท้ังความถ่ีของเสียงดังตัวอย่าง สมการท่ี (8) สมการค่าแก้เน่ืองจากส่ิง กีดขวางทใี่ ช้ในยโุ รปบางประเทศ บทบาทของแบบจ�ำลองทางคณิตศาสตร์ส�ำหรับคาดการณ์ระดับเสียง ในการแก้ไข 1 Adiv = - 10 log 20 N+3 ….สมการที่ (8) ปญั หาเสียงจากรถไฟ เราสามารถแบง่ บทบาทในการแกไ้ ขปญั หาของแบบจำ� ลองคาดการณร์ ะดบั เสยี งฯ ตาม โดยท่ี คอื คา่ Fresnel number แนะนำ�โดย Makeawa กระบวนการจัดการแกไ้ ขปญั หาดา้ นเสยี งท้ัง 3 องคป์ ระกอบได้ดงั น้ี 1. บทบาทในการควบคุมเสียงที่แหล่งก�ำเนิด (source path) เช่น การค�ำนวณหา ( Reflecti5o.nA) ขr้ึนคอ่ายแู่กกับ้เนป่ือัจงจจัยากหกลาักรสคะือทม้อุนม อัตราเรว็ ทีเ่ หมาะสมของรถไฟทีท่ ำ� ให้ระดบั เสยี งไม่เกนิ ระดบั ทเ่ี หมาะสม 2. บทบาทในการควบคมุ เสยี งทท่ี างผา่ น (propagation path) เชน่ การค�ำนวณหาระยะ ระหว่างแหล่งก�ำเนิดและจุดรับเสียง และ ห่างระหว่างรางรถไฟกับจุดรับเสียง หรือ การค�ำนวณหาความสูงก�ำแพงกั้นเสียงที่ ขนาดของตัวสะท้อน เหมาะสมในการลดระดบั เสยี งจากรถไฟ (M6e. teAoromlogคic่าaแl ก้เนื่องจากสภาพ อากาศ correction) ขึน้ กับ 3. บทบาทในการควบคุมเสียงที่ผู้รับเสียง (receiver path) ในการออกแบบอาคาร เพ่ือลดผลกระทบด้านเสียงจ�ำเป็นต้องทราบข้อมูลระดับเสียง ณ บริเวณอาคาร ซึ่งในบาง ปัจจัยตา่ งๆ ทางอตุ ุนยิ มวิทยา เช่น ความเร็ว กรณีข้อมูลท่ีได้จากการตรวจวัดจริงไม่เพียงพอ จึงจ�ำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากการ ลม อณุ หภูมิ เปน็ ตน้ ค�ำนวณจากแบบจ�ำลองทางคณิตศาสตร์ชว่ ยในการออกแบบ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ ในตัวแบบจ�ำลองฯ อาจ เอกสารอ้างอิง เพิ่มเติมเทอมท่ีเก่ียวข้องกับปัจจัยแวดล้อม Cowan, James P. (1994). Handbook of Environmental Acoustics. อื่นๆ อีกเช่น ต้นไม้ อาคารบ้านเรือน ริมราง ISO 9613-2 : 1996-Acoustic-Attenuation of Sound During Propagation Outdoor. รถไฟ เป็นต้น และจากปัจจัยท้ังหมดท่ีกล่าว István L vér and Leo L. Baranek. (2005). Noise and Vibration Control Engineering. มาจะเห็นได้ว่า แบบจ�ำลองฯ ที่เหมาะกับ Thompson, David. (2008). Railway Noise and Vibration Mechanisms, Modelling and พื้นที่หนึ่งอาจไม่เหมาะกับอีกพื้นที่หน่ึงก็ได้ Means of Control. ดังนั้นจึงควรมีการพัฒนาแบบจ�ำลองฯท่ี Van Leeuwen, Hans J.A. Railway Noise Prediction Models a Comparision. เหมาะสมกับพื้นท่ีโดยเฉพาะ รวมทั้งมีการ http://www.railway.co.th ตรวจสอบและปรบั ปรงุ แบบจำ� ลองกอ่ นใชง้ าน http://www.railway-technical.com http://www.rtri.or.jp 16 Green Research No.24 September 2013

ติดตามเฝา้ ระวงั โครงการวางระบบโครงขา่ ยตรวจสอบสารอนิ ทรยี ร์ ะเหยในไอสารในดนิ (soilgas monitoring system) โดยขดุ เจาะชน้ั ดนิ โดยเครอ่ื งขดุ เจาะแบบตอ่ เนอ่ื ง (Geoprobe) และตดิ ตง้ั ระบบ และทดสอบประสทิ ธภิ าพในการบ�ำ บดั สารอนิ ทรยี ร์ ะเหยในดนิ โดยระบบ Soil Vapor Extraction (SVE) เคลอ่ื นท่ี แฟรดาซ์ มาเหล็ม* และพีรพงษ์ สนุ ทรเดชะ* เทคนิค SVE มักถูกน�ำมาใช้ก�ำจัดสารอินทรีย์ระเหยท่ี การปนเปอ้ื นสารอนิ ทรยี ร์ ะเหย ในชน้ั ดนิ และชน้ั น�้ำใตด้ นิ ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ปนเป้อื นในช้ันดินไมอ่ มิ่ น้�ำ ซง่ึ อยู่ในระดับความลึกไม่มาก ความเสยี่ งตอ่ สขุ ภาพของประชาชนในพนื้ ท่ี (health risk) จำ� เปน็ ตอ้ งมกี าร เทคนิคน้ีสว่ นใหญน่ �ำมาใชก้ บั พ้นื ที่ปนเป้อื นที่ทราบแหล่ง บ�ำบัดฟื้นฟูให้คืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว หรืออย่างน้อย ต้องฟื้นฟูให้อยู่ใน ก�ำเนิด (source zone) หรือต�ำแหน่งปนเปื้อนความเข้ม ระดับท่ีไม่เป็นอันตราย ซ่ึงเทคโนโลยีท่ีใช้ในการบ�ำบัดฟื้นฟูนั้นมีหลาย ข้นสงู (hot spot) ทแี่ น่นอน เทคนคิ การเลอื กใชเ้ ทคโนโลยใี นการบ�ำบดั ฟน้ื ฟนู นั้ ขนึ้ อยกู่ บั ชนดิ ของสาร ปนเปื้อนและสภาวะแวดล้อมที่เกิดการปนเปื้อน ในบางคร้ังอาจมีการใช้ รปู ท่ี 1 หลกั การบ�ำบัดฟนื้ ฟูชัน้ ดิน/น้�ำใต้ดนิ ด้วยเทคนิค มากกว่าหน่ึงเทคโนโลยีร่วมกัน ซ่ึงเทคนิค SVE มักถูกน�ำมาใช้ก�ำจัดสาร SVE (Suthersan, 1997) อินทรีย์ระเหยท่ีปนเปื้อนในชั้นดินไม่อิ่มน�้ำ ซ่ึงอยู่ในระดับความลึกไม่มาก เทคนิคน้ีส่วนใหญ่นำ� มาใช้กับพ้ืนท่ีปนเปื้อนท่ีทราบแหล่งกำ� เนิด (source *นกั วชิ าการสง่ิ แวดลอ้ มชำ� นาญการ zone) หรอื ต�ำแหน่งปนเป้ือนความเขม้ ขน้ สูง (hot spot) ท่ีแนน่ อน โดยจะ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ท�ำการอัดอากาศอุณหภูมิปกติหรืออากาศร้อนลงไปในชั้นดิน แล้วสูบ อากาศดงั กลา่ วทมี่ ไี อของสารอนิ ทรยี ร์ ะเหยกลบั ขน้ึ มาบำ� บดั ซง่ึ อาจบำ� บดั โดยใชก้ ารเผา (incineration) หรอื ควบแนน่ แลว้ เกบ็ ใสถ่ งั บรรจุ ดงั แสดงใน รูปที่ 1 กลไกการเคลื่อนท่ีของแก๊สในดินในขณะที่ท�ำการบ�ำบัดโดยเทคนิค Soil Vapor Extraction (SVE) คอ่ นขา้ งซบั ซอ้ น ซง่ึ โดยทว่ั ไปแลว้ การเคลอื่ น ตวั ของ soilgas ในดนิ ประกอบดว้ ยสองกระบวนการ ไดแ้ ก่ กระบวนการพา (advection) และกระบวนการแพร่ (diffusion) กระบวนการพาเปน็ กระบวน การเคล่ือนท่ีของไอ VOCs ไหลผ่านช้ันดิน โดยอาศัยกลไกที่ไหลตามกัน และมีทิศทางไปทศิ ทางหนง่ึ ซึง่ ในชนั้ ดนิ ต้องเป็นแบบไมอ่ ่ิมน�ำ้ และมกี าร ยอมใหไ้ อของ VOCs ไหลผา่ นไดง้ า่ ย เปน็ ทศิ ทางเดยี วกนั อยา่ งชดั เจนตาม ทศิ ทางการลดลงของความดนั (pressure gradient) เสมอื นหนง่ึ วา่ ไอของ VOCs ไหลผ่านช่องอุโมงค์ขึ้นมายังผิวดิน ส่วนกระบวนการแพร่น้ันเป็น No.24 September 2013 Green Research 17

ตดิ ตามเฝา้ ระวงั การเคลื่อนท่ีของไอ VOCs ไหลผ่านช้ันดิน โดยอาศัยกลไกการไหล รูปที่ 2 ระบบ Soil Vapor Extraction (SVE) เคลื่อนท่ี กระจดั กระจายไปทว่ั บรเิ วณ ซง่ึ อาศยั ความแตกตา่ งของความเขม้ ขน้ รปู ที่ 3 แผนภาพแสดงตำ�แหน่งโครงข่ายบ่อตรวจสอบไอดิน ของ VOCs ระหว่างจุดสองจดุ ใดๆ (concentration gradient) ตาม กฎของฟิกซ์ (Fick’s law) ซ่ึงชั้นดินที่จะทำ� ให้การเคล่ือนท่ีโดยการ รปู ท่ ี 4-5 การเปล่ียนแปลงปริมาณ VOCs หลังจากเดินระบบ 4 แพรจ่ ะเปน็ ดนิ ทม่ี เี นอ้ื แนน่ และมกี ารยอมใหซ้ มึ ผา่ นไดน้ อ้ ย และเมอ่ื เปรยี บเทยี บระหวา่ งกระบวนการพาและกระบวนการแพร่ พบวา่ โดย และ 12 ชั่วโมง ตามลำ�ดับ ทัว่ ไปประมาณรอ้ ยละ 40-60 จะเคลือ่ นที่โดยกระบวนการพา ส่วนท่ี เหลือจะเคลื่อนท่ีโดยกระบวนการแพร่ การตรวจพบการปนเปื้อนของสารอินทรีย์ระเหยทั้งในดินและ ในนำ้� ใตด้ นิ ในพน้ื ทเี่ ขตควบคมุ มลพษิ จงั หวดั ระยองบง่ ชถี้ งึ ความเปน็ ไปได้ว่าการปนเปื้อนในช้ันดินท�ำให้เกิดการปนเปื้อนในช้ันน้�ำใต้ดิน เนอ่ื งจากการชะสารอนิ ทรยี ร์ ะเหยจากดนิ สนู่ ำ้� ใตด้ นิ ดงั นนั้ การบำ� บดั ฟน้ื ฟนู ำ�้ ใตด้ นิ ทม่ี กี ารปนเปอ้ื นสารอนิ ทรยี ร์ ะเหยใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพนนั้ จ�ำเป็นต้องมีการบ�ำบัดฟื้นฟูดินที่มีการปนเปื้อนสารอินทรีย์ระเหย ด้วย กรมสง่ เสริมคณุ ภาพสิ่งแวดล้อม จงึ ไดค้ ัดเลือกพืน้ ท่ที ีพ่ บการ ปนเปือ้ นสารอนิ ทรีย์ระเหยในดินเพ่ือทำ� การติดตั้งระบบ Soil Vapor Extraction (SVE) พรอ้ มการวางระบบโครงขา่ ยตรวจสอบสารอนิ ทรยี ์ ระเหยในไอสารในดนิ (soilgas monitoring system) ในการทดสอบ ประสทิ ธภิ าพของระบบ SVE ในการบ�ำบดั สารอนิ ทรยี ์ระเหยในดิน โครงการนี้ด�ำเนินการในพ้ืนท่ีทดสอบที่มีการปนเปื้อนของสาร อินทรีย์ระเหยในดิน โดยด�ำเนินงานร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร และคณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ในฐานะทปี่ รกึ ษา โครงการ ซ่ึงการด�ำเนินงานได้มีการศึกษาหลายด้านส�ำหรับการ ออกแบบและตดิ ตง้ั ระบบ เชน่ การศกึ ษาคณุ สมบตั ขิ องดนิ การศกึ ษา คณุ สมบตั ขิ องสารปนเปอ้ื น การศกึ ษาคณุ สมบตั ขิ องสภาวะแวดลอ้ ม จากข้อมูลการวิเคราะห์ดินท้ังหมดโดยเฉพาะข้อมูลการปนเปื้อน น�ำมาใช้เป็นตัวบ่งช้ีว่าขอบเขตและศูนย์กลางการปนเปื้อน ซ่ึงเป็น ข้อมูลส�ำคัญในการออกแบบต�ำแหน่งของหลุมในระบบโครงข่าย ตรวจสอบไอดนิ ขอ้ มลู ขา้ งตน้ ใชใ้ นการจดั ทำ� แบบจำ� ลองคณติ ศาสตร์ เพ่ือจ�ำลองลักษณะและทิศทางการไหลของอากาศในดิน ท้ังน้ี ประสิทธิภาพการบ�ำบัดสารอินทรีย์ระเหยในดินโดยใช้ระบบ Soil Vapor Extraction (SVE) ในพ้ืนที่ทดสอบน้ี สามารถบ�ำบัดไอสาร อนิ ทรยี ร์ ะเหยทอี่ ยใู่ นดนิ มากกวา่ 90 เปอรเ์ ซน็ ต์ ในระยะเวลา 6 เดอื น รายละเอยี ดแสดงดังรปู ที่ 2-5 18 Green Research No.24 September 2013

กา้ วหนา้ พัฒนา บา้ นดนิ บ้านลดการปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์จากการก่อสร้าง บ้านที่เป็น มิตรตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม ส่วู ถิ ีชีวติ เศรษฐกจิ สเี ขยี ว ธงชัย สีฟ้า* ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เร่ิมหันมาสนใจ ประโยชน์ที่ส�ำคัญที่ยังไม่ค่อยมีผู้พูดถึงคือ ในการสรา้ งบา้ นดนิ มากขนึ้ เนอื่ งจากเลง็ เหน็ วา่ บา้ นดนิ เปน็ บา้ นทลี่ ดการปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อน บ้านดินสามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง และงบ จากการก่อสร้าง ซ่ึงเปน็ สาเหตุของภาวะโลก ประมาณในการก่อสร้างไม่สูงมากนักและ ร้อนได้ เม่ือเปรียบเทียบกับบ้านที่ก่อสร้าง ที่ส�ำคัญคือ วัสดุท่ีใช้ในการก่อสร้างบ้านนั้น จากวัสดุอน่ื ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ ธรรมชาติ1 สำ� หรบั อายุ โดยในประเทศนิวซีแลนด์มีการ การใช้งานของบ้านดินก็อาจมีอายุมากกว่า แนะน�ำการค�ำนวณปริมาณก๊าซคาร์บอนได 100 ปี โดยบ้านดนิ เกา่ แกท่ ม่ี อี ายรุ าว 100 ปี ออกไซด์จากการเลือกซื้อวัสดุสร้างบ้าน พบทงั้ ในภาคอสี านและภาคเหนอื ยกตวั อยา่ ง (carbon calculator for houses) โดยเช่อื ว่า เช่น บ้านแบบเก่าของชาวลีซู และอาข่า ซึ่ง วธิ นี จ้ี ะสามารถลดปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนลงได้ บ้านดินเก่าแก่ที่มีอายุราว 100 ปี เป็นบ้านที่มีส่วนผสมของดินในการก่อสร้าง ถงึ ประมาณ50ตนั ซงึ่ กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ พบทั้งในภาคอีสานและภาคเหนือ บ้านดินของชาวเวียดนามที่อพยพเข้ามา จ�ำนวน 50 ตันนี้เอง มีค่าเทียบเท่ากับก๊าซ ยกตัวอย่างเช่น บ้านแบบเก่าของ บ้านดินท่ีก่อด้วยอิฐดินดิบแถบเมืองอุบล คาร์บอนที่ปล่อยจากท่อไอเสียรถยนต์ตลอด ราชธานีและศรีสะเกษ2 นอกจากน้ีเนื่องจาก วงจรชีวิตที่รถยนต์คันหนึ่งสามารถใช้งานได้ ชาวลซี ู และอาข่า บา้ นดนิ สรา้ งดว้ ยอฐิ ดนิ ดบิ ซงึ่ จะมคี วามหนา หรอื มคี า่ เทยี บเทา่ กบั การปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อน กวา่ อฐิ ปกติ และไมไ่ ดเ้ ผา ทำ� ใหเ้ ปน็ ฉนวนกนั จากการบินซึ่งเทียบระยะทางการบินได้เป็น ความร้อนท่ีดีเยี่ยมบ้านดินจะมีอุณหภูมิ ระยะประมาณ 500,000 ไมล์ ภายในบ้าน 24-26 องศาเซลเซียสตลอดท้ัง ปี3 เป็นระดับอุณหภูมิที่เย็นสบายในการพัก อาศัยโดยไมต่ อ้ งติดเคร่ืองปรับอากาศ ดงั นนั้ ในระยะหลังมานี้จึงมีผู้สนใจสร้างบ้านดิน มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ท่ีให้ความส�ำคัญต่อ การเลือกสร้างบ้านที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม รวมทั้งสนใจในวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึง *นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ ม ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม No.24 September 2013 Green Research 19

กา้ วหน้าพฒั นา ความประหยดั ซึ่งก่อให้เกดิ ภาพลักษณข์ องสถาปตั ยกรรมทีม่ าจาก ความเรียบงา่ ย สมั พนั ธ์กบั สภาพแวดล้อม ทั้งน้ีผู้จัดการระบบโปรแกรมการคิด บา นดิน บานประเภทอน่ื ๆ ค�ำนวณ Mr. Geoff Henley ได้บอกว่าการ ใชวสั ดุจากธรรมชาติ เชน ดิน แกลบ ฟางขา ว ใชวสั ดุทตี่ องผานกระบวนการผลิตทางอุตสหกรรม ค�ำนวณมีขั้นตอนธรรมดา แต่สามารถแสดง ซ่งึ ไมต อ งผา นกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ใหเ้ หน็ ไดว้ า่ จากการเลอื กวสั ดแุ ตล่ ะชนดิ จะมี เชน อลมู ิเนยี ม เหลก็ กระเบื้อง ชว ยลดการเกดิ CO2 จากการสรา งบาน สงผลใหเ กดิ CO2 จากการสรา งบา นสูง ผลต่อส่ิงแวดล้อมโดยตรง เน่ืองจากงานก่อ สร้างมีหลายแบบ โดยวิธีการค�ำนวณจะ แสดงให้เห็นถึงวัสดุท่ีเลือกใช้แต่ละชนิดว่า จะมีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากน้อย คำนวณเปรย� บเทียบระหวาง เพียงใด เช่น วัสดุจ�ำพวกไม้ ชนิด Pinus ปรม� าณการใชคารบ อน ในวัสดกุ อสรางบา นดิน และบา นประเภทอน่ื ๆ radiate สามารถดูดซึมก๊าซคาร์บอนได้ถึง 1.7 ตนั ในกรณที ใ่ี นบา้ นใชแ้ ตว่ สั ดจุ ำ� พวกไม้ Pinus radiate ส่วนวัสดุจ�ำพวกอลมู ิเนยี มจะ ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนประมาณ 9 ตัน ต่อ หนึ่งผลิตภัณฑ์ Mr. Geoff Henley เสริมว่า - บา นดนิ ลดโลกรอ น โปรแกรมการออกแบบน้ีเองเหมาะส�ำหรับ - CO2 ตอตารางเมตร คำ� นวณบา้ นแบบชนั้ เดยี ว ดงั นนั้ จะเหน็ ไดว้ า่ - Carbon Banking - สง เสรม� การปลกู บา นดิน หากผู้บริโภคเลือกใช้วัสดุจ�ำพวกไม้แทน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพ่ือช่วยลดการ อลมู เิ นยี มจะสามารถลดกา๊ ซคารบ์ อนไดส้ งู ถงึ ปลอ่ ยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดโ์ ดยนำ� ฟางอดั ประมาณ 20-25 ตนั จากอากาศ โปรแกรมนี้ เข้าไปในโครงไม้ของบ้านจนเต็ม เกิดเป็น จึงเป็นทางเลือกหน่ึงของผู้บริโภคท่ีสามารถ ผนังหนา 60 เซนตเิ มตร เม่อื ฉาบด้วยปนู แล้ว เลอื กซือ้ สนิ ค้าท่เี ป็นมิตรต่อส่ิงแวดลอ้ ม4 ฟางจะเป็นฉนวน มีประสิทธิภาพในการ นอกจากนี้ บ้านดินยังมีประโยชน์ ประหยดั พลงั งานมากกวา่ วสั ดกุ อ่ สรา้ งทน่ี ยิ ม ในแง่ของการเป็น Carbon Banking ด้วย ทั่วไปราวสองถงึ สามเท่า5 เนื่องจากบ้านดินสามารถลด Carbon สำ�หรับบ้านดินในประเทศไทยพบว่า emission จากการสร้างบ้านได้ โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เป็นการสร้างด้วยเทคนิคอิฐดินดิบ ในปัจจุบันประเทศไทยถูกเพ่งเล็งว่า ปล่อย (Adobe)6 เน่ืองจากสามารถสร้างได้เร็ว ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ในอัตราเพิ่มขึน้ มาก และยังมีการศึกษาถึงวิธีเพิ่มประสิทธิภาพ ดังน้ันการก่อสร้างบ้านดินซึ่งวัตถุ ของบ้านดิน โดยศึกษาการประยุกต์ใช้ สร้างบ้านส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ เช่น วตั ถดุ บิ ทางธรรมชาตใิ นการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพ ดิน แกลบ และฟางข้าว จึงมีความสามารถ ของก้อนอิฐดินดิบเพื่อใช้ในการก่อสร้าง ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ดีกว่า บ้านดิน โดยผลการทดสอบ พบว่า แกลบ การสร้างบ้านด้วยวัสดุสร้างบ้านอื่นๆ ซึ่ง และขุยมะพร้าวสามารถเพิ่มกำ�ลังรับ กรอบแนวความคิด สามารถสรุปได้ แรงอัด และลดการหดตัวของก้อนอิฐดินดิบ ดงั ภาพตอ่ ไปน้ี แต่ในส่วนผสมที่มีแกลบแทนที่เกินกว่า ในทวปี อเมรกิ าไดค้ ำ� นงึ ถงึ สงิ่ แวดลอ้ ม รอ้ ยละ 3 นนั้ สง่ ผลใหก้ ำ�ลงั รบั แรงอดั มคี า่ ลด เช่นเดียวกัน โดยในการสร้างบ้านมีการน�ำ ลง และการอบกอ้ นอฐิ ในตอู้ บ ทำ�ใหค้ า่ กำ�ลงั มดั ฟางมาแทนอฐิ บลอ็ กสำ� หรบั กอ่ สรา้ งบา้ น รบั แรงอดั เพมิ่ ข้นึ 1 20 Green Research No.24 September 2013

นอกจากน้ยี ังมกี ารศึกษาบา้ นดนิ ตามแนวทางสถาปตั ยกรรมทยี่ งั่ ยืนกรณศี กึ ษาบ้านดนิ หมู่บ้านศรีฐาน ต.ศรฐี าน อ.ปา่ ติ้ว จ.ยโสธร โดยผลการศกึ ษาพบวา่ บา้ นดนิ ไมใ่ ชส่ งิ่ ใหมท่ เี่ กดิ ขนึ้ มาในประเทศไทย บา้ นดนิ ทห่ี มบู่ า้ นศรฐี านเกดิ ขนึ้ จากความคดิ ทจี่ ะฟน้ื ฟวู ธิ ชี วี ติ ดง้ั เดมิ หลังจากประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบพอเพียงและพ่ึงพาอาศัยกัน บ้านดินจึงเกิดขึ้นในฐานะตัวแทนทาง สถาปัตยกรรมตามแนวความคิดแบบพอเพียงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของบ้านดินมุ่งเน้นท่ีจะตอบสนองการใช้สอยแบบตรงไปตรงมา แสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมในการใช้งานปัจจัยแวดล้อมที่เด่นชัดของบ้านดินในการเป็นสถาปัตยกรรมที่ย่ังยืน คือ ความสอดคล้อง กับแนวความคดิ ในการพ่งึ พาตนเองและพ่งึ กนั เองของชมุ ชนความยัง่ ยนื ของอายุการใชง้ านของบ้านดินและธรรมชาติ ความประหยดั ซ่งึ ก่อ ให้เกิดภาพลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่มาจากความเรียบง่าย สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมท่ีทำ�ให้บ้านดินเกิดภาวะความสบายใน การอาศัยบ้านดินจึงมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตท่ีพึ่งพาและพออยู่พอกินของชาวบ้านรวมถึงความสอดคล้องในองค์รวมของงาน สถาปัตยกรรมทีย่ งั่ ยนื 7 การสร้างบ้านดิน เอกสารอา้ งอิง 1จตุพร ต้ังศิริสกุล (2550) การประยุกต์ใช้วัตถุดิบ บา้ นดิน ณ ศูนย์การเรยี นรู้ ทางธรรมชาติในการเพ่ิมประสิทธิภาพ พนั พรรณ อ�ำเภอแมแ่ ตง ของก้อนอิฐดินดิบเพื่อใช้ในการก่อสร้าง จงั หวัดเชียงใหม่ บ้านดิน. วิทยานิพนธ์หลักสูตรสถาปัตยกรรม ศาสตรม์ หาบณั ฑติ คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ และการผังเมอื งมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ 2อภชิ าต ไสวดี (ม.ป.ป.). กอ่ นนน้ั ...บา้ นดนิ [ออนไลน]์ เข้าถึงไดจ้ าก : http : www.b aandin.org 3พชั นจิ เนาวพนั ธ์ (2553). การลดตน้ ทนุ การกอ่ สรา้ ง และการสร้างธุรกิจรีสอร์ทแนวใหม่ด้วย “บ้านดิน” [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก : http:// w w w . b a a n d i n t h a i . c o m / i n d e x 2 . p h p ? o p t i o n = c o m _ c o n t e n t & d o _ pdf=1&id=114 4Henley, Geoff. (อา้ งถงึ ใน www.tgo.or.th). Carbon calculator for houses. 5รอธสไ์ ซลด์, เดวดิ เดอ. (2551). ค่มู อื ใช้ชวี ติ ในยคุ โลกร้อน. กรุงเทพฯ : อมรนิ ทร์ 6นทิ รรศการบ้านดนิ (ม.ป.ป.) เข้าถึงได้จาก : http : www.baandin.org 7ดมั พ์ ผดงุ วเิ ชียร. (2545). การศึกษาบ้านดนิ ตาม แนวทางสถาปัตยกรรมทยี่ ่ังยืน กรณศี ึกษา บ้านดินหมู่บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ป่าต้ิว จ.ยโสธร. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญา สถาปตั ยกรรมศาสตรม์ หาบณั ฑติ สาขาวชิ าวจิ ยั สภาพแวดลอ้ มภายในคณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ ทหารลาดกระบัง. No.24 September 2013 Green Research 21

กา้ วหน้าพฒั นา สินค้าทเี่ ปน็ Eco label ตอบโจทยก์ ารค้ายุคใหม่? รฐั เรอื งโชติวิทย์* การค้าในโลกปัจจุบันมีการแข่งขัน ถูกท�ำลาย เกิดภาวะมลพิษจากของ ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการตกลงในเรื่อง เสียอุตสาหกรรมการขนส่ง ภาวะ การค้าเสรี ท�ำให้ก�ำแพงภาษีท่ีเคยเป็นตัว ขยะพิษ โลกร้อน ตลอดจนคุณภาพ กดี กนั ทางการคา้ หายไป การผลติ ทตี่ อ้ งค�ำนงึ ชีวิตของประชาชนได้รับผลกระทบ ถึงการแข่งขันดังกล่าว จึงต้องการเพิ่ม จากพษิ ของมลภาวะตา่ งๆจนธรรมชาติ คุณภาพสินค้าและสร้างการยอมรับของการ เสียสมดุลและยากแก่การเยียวยา บริโภคมากข้ึนกว่าเดิม แม้กระทั่งสินค้า กลับคืน แบรนด์เนมท่ีต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เกิด ความนยิ มใหม่ๆ ในลักษณะการคา้ ของโลก 2. ช่องว่างระหว่างความร�่ำรวยกับ ยุคใหม่น้ี พบว่าเกิดประเด็นปัญหา ขึ้นมา 5 ความยากจนเกิดจากการพัฒนา ประการ ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาของ เศรษฐกิจและสังคมภายใต้กฎกติกา สหภาพยุโรป มองการแข่งขันทางการค้า การค้าใหม่ ท่ีเปิดโอกาสให้ทุนข้าม ยคุ ใหม่ ดงั นี้ ชาติเข้ามาใช้ทรัพยากรและลงทุนใน การผลิตอย่างเสรี ท�ำให้มีผลก�ำไร 1. การท�ำลายดุลธรรมชาติ เป็นผล ค่อนข้างสูงมากจนมีช่องว่างระหว่าง จากการเปล่ียนแปลงการผลิตใน รายได้ของนักลงทุนกับประชาชนใน ระบบข้ามชาติท่ีทรัพยากรธรรมชาติ ทอ้ งถนิ่ อยา่ งมากพบวา่ ในโลกการคา้ ถกู ถลงุ โดยระบบการลงทนุ ของบรษิ ทั ยคุ ใหม่ จะมรี ายไดร้ วมของประชาชน ใหญจ่ ากตา่ งประเทศทม่ี ที นุ หนา เชน่ ท้งั โลก 83% ตกอยู่ในมือของนายทุน การใช้ทรัพยากรพลังงาน ทรัพยากร คนรวยสุด 20% ประชาชนในระดับ แร่ธาตุ เป็นต้น ซ่ึงจากการแข่งขัน ล่างมีรายได้เพยี ง 1.4% ทางการคา้ ทเ่ี นน้ การผลติ ใหไ้ ดผ้ ลผลติ มากๆ จนละเลยผลกระทบด้าน (ทมี่ า: จากผลสำ� รวจรายไดป้ ระชากรโลก: ส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ Word Bank Report 2012) *นกั วชิ าการสง่ิ แวดลอ้ มชำ� นาญการพเิ ศษ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม 22 Green Research No.24 September 2013

3. เกิดระบบการพ่ึงพาจากภายนอก 5. การตอบโจทย์ความตอ้ งการความสขุ มากขึ้น จากหนังสือ world system จากการบริโภคนิยม เพื่อตอบ theory,ของอิมมานูเอล วอเรนสเตน คำ�ถามของความต้องการหารายได้ ได้แยกกลุ่มประเทศออกเป็น 3 กลุ่ม ให้มากขึ้นเพ่ือซ้ือสินค้าและบริการ ได้แก่ กลุ่มแกนกลางระบบทุน กลุ่ม ความสุขจากการบริโภคสินค้าและ กงึ่ ทนุ นยิ ม และกลมุ่ ประเทศชายขอบ บริการ ท่ีทำ�ให้ภาวะหนี้สินท่ีเพิ่มขึ้น เช่น เอเชีย แอฟริกา ท่ีจ�ำเป็นต้อง จากการซ้ือสนิ คา้ เงนิ ผ่อน บริการการ พ่ึงพาการค้าและการลงทุนจากกลุ่ม ใช้บัตรเครดิตหรือการใช้นโยบายลด ประเทศแกนกลางระบบทนุ โดยกลมุ่ ราคาสินค้าเพื่อจูงใจในการซ้ือสินค้า ประเทศท่ีอยู่ชายขอบ มีการพึ่งพา ราคาแพง เชน่ การซอื้ บา้ น รถราคาถกู การป้อนสินค้าเข้าสู่ตลาดโลกใน แตเ่ กดิ ภาวะหนสี้ นิ ในชนชนั้ กลางของ ราคาถูก คุณภาพตำ่� เช่น สนิ ค้าเลียน บางประเทศที่ใกล้จะล้มละลาย แบบท่ีมีการปนเปื้อนสารเคมีหรือใช้ สารพษิ ในการผลติ ซง่ึ เปน็ อนั ตรายตอ่ จากท่ีกล่าวมาแล้วทั้ง 5 ประเด็น ผูบ้ ริโภคของเล่นทมี่ ีคุณภาพตำ�่ คงจะเป็นประเด็นที่ต้องนำ�มาพิจารณา ในแต่ละประเทศที่อยู่ชายขอบ ต้องปรับ 4. การเกดิ การสรา้ งวฒั นธรรมบรโิ ภค นโยบายท่ีตอบสนองต่อการค้ายุคใหม่ นิยมใหม่ มีการวัดความมั่งค่ังทาง แต่อย่างไรก็ตาม ข้อแรก คือ การทำ�ลาย เศรษฐกิจ ด้วยการสร้างความ ดุลธรรมชาติ ท่มี ีผลต่อทรัพยากรและสภาพ เติบโตการบริโภค สร้างความเชื่อ แวดล้อมของประเทศชายขอบ เช่น กลุ่ม การบรโิ ภคนยิ มตอบสนองตอ่ ความสขุ เอเชีย ละตินอเมริกา หรือแอฟริกา ต้อง ของผู้คนในสังคม โดยไม่ค�ำนึง ปรับตัวอย่างมาก และเพื่อการดำ�รงอยู่ ถึงความจ�ำเป็นข้ันพ้ืนฐาน หรือการ ของทรัพยากรที่มีจำ�กัด และการลดผล บริโภคสารพิษที่มีผลต่อสุขภาพ กระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพประชาชนทาง และที่ส�ำคัญ คือ การไม่ได้ค�ำนวณ หนึ่งคือการจำ�กัดการเติบโตของระบบ ถึงต้นทุนจากการบริโภคเกินตัว ทุนข้ามชาติที่ก่อให้เกิดมลพิษที่มีการย้าย เช่น การลงทุนโฆษณาเกินจริงใน ฐานผลิตมาลงทุนในประเทศกลุ่มที่ 3 ด้วย สินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มอาหารและ มาตรฐานต่างๆ เท่าท่ีจะทำ�ได้ ทางหน่ึงคือ เครื่องดี่มท่ีเป็นอาหารขยะ ท่ีมีผล การกำ�หนดมาตรฐาน การผลิตสินค้า Eco ต ่ อ สุ ข ภ า พ ป ร ะ ช า ช น ใ น บ า ง label หมายถึง สินค้าที่ได้การรับรองหรือ ประเทศใช้นโยบายประชานิยม เน้น ประกาศตนเองวา่ เปน็ มติ รตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม ซึ่ง การซื้อสินค้าราคาถูกหรือแจกแถม ตอบโจทย์ท้ัง 5 ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ทั้ง สินค้า เพ่ือกระตุ้นการใช้จ่ายให้มาก ด้านการตลาดจนถึงการผลิตที่สอดคล้องกัน ข้ึนก่อให้เกิดภาวะหน้ีสินโดยไม่ กลา่ วคือ จ�ำเปน็ การผลติ ท่ตี ้องคำ�นงึ ถงึ การแขง่ ขนั จงึ ตอ้ งการเพมิ่ คุณภาพ สินค้า No.24 September 2013 Green Research 23

ก้าวหน้าพฒั นา 1. เป็นการใช้ทรัพยากรท่ีเหมาะสม ประสบปัญหามลพิษอย่างรุนแรงใน และไม่เกิดเป็นภาระในการทดแทน ขณะน้ี ที่เน้นนโยบายประชานิยมใน ทรัพยากรธรรมชาติการฟื้นฟูท่ี การบรโิ ภคมากเกินความจำ�เปน็ เหมาะสม หรอื เรยี กวา่ มขี ดี จำ�กดั การ รองรับการใช้ทรัพยากร (Carrying 3. ควรให้ความรู้แก่ประชาชนใน Capacity) มีการควบคุมการลงทุน การเลือกซ้ือสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ และการรบั ผดิ ชอบ การปรบั วถิ ชี วี ติ ใหบ้ รโิ ภคอยา่ งพอเพยี งตาม ต่อมลพิษที่เกิดจากการผลิตอย่าง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและรักษาสภาพ จ ริ ง จั ง ใ น ส่ ว น ข อ ง ร ะ บ บ พ่ึ ง พ า แวดลอ้ มให้ยงั่ ยนื ทรัพยากรจากภายนอกต้องมีระบบ สนิ คา้ ทเี่ ปน็ Ecolabel จะอยหู่ รอื จะไป การจดั สรรอยา่ งเหมาะสมโดยเฉพาะ ขนึ้ กบั การตอบรบั ของกระแสของสงั คมทเี่ รมิ่ ทรัพยากรพลงั งานที่นับวนั จะหมดไป มองปัญหาส่ิงแวดล้อมที่เกิดจากการบริโภค โดยไม่อาจทดแทน จำ�เป็นต้องหา ทรัพยากร การรับผิดชอบต่อสังคม และทุก แหลง่ พลงั งานหมนุ เวยี นใอตุ สาหกรรม คนมสี ว่ นรว่ มในการแกไ้ ขปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม การผลิต หรือพลังงานทางเลือกอ่ืนๆ สินค้าที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมถึงแม้จะไม่ เพอ่ื ทดแทนพลังงานทหี่ มดไป เปน็ ทนี่ ยิ มในขณะนี้ดว้ ยการผลติ ทต่ี น้ ทนุ อาจ 2. เปน็ การพฒั นาทมี่ แี ผนทเี่ หมาะสม สูงกว่า แต่ในอนาคตน่าจะเป็นคำ�ตอบที่ดี และสร้างจิตสำ�นึกในการรับผิดชอบ สำ�หรับผู้บริโภคและประชาชนที่ต้องช่วยกัน ตอ่ สงั คม ตอ่ ชมุ ชนและโลกใบนอ้ี ยา่ ง รักษาส่ิงแวดล้อมมากขน้ึ จริงจัง ผู้ประกอบการหรือนักลงทุน เอกสารอ้างองิ ตอ้ งคำ�นงึ ถงึ ผลกระทบยอ้ นกลบั สกู่ าร รฐั เรอื งโชตวิ ทิ ย์ ทนุ นยิ มกบั สงิ่ แวดลอ้ ม เอกสาร ผลติ ทไี่ ปลงทนุ ในทตี่ า่ งๆ ของโลก เชน่ ประกอบการสอนนกั ศกึ ษาคณะวทิ ยาศาสตร์ กระแสการต่อต้านการสร้างโรงงาน และเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั ราชภัฏวไลย มลพษิ สงู การใชพ้ ลงั งานกา๊ ซธรรมชาติ อลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ,์ ปทมุ ธานี ในทะเลที่มีผลกระทบต่อชุมชนใน 2555 เอกสาร World Bank Report World Bank, 2012 ประเทศนน้ั ๆ อยา่ งมวี นิ ยั และรบั ผดิ ชอบ แม้จะมีกติกาของการค้าเสรีเป็นตัว หนุนก็ตาม การประกอบการท่ีมี จิตสำ�นึกท่ีดีต่อการรับผิดชอบต่อ สง่ิ แวดลอ้ มสขุ ภาพของชมุ ชนยอ่ มจะ เป็นการลงทุนท่ีย่ังยืนและเป็นมิตร ตอ่ การอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมโลก ซงึ่ อาจ หมายถึงกำ�ไรจากการผลิตท่ีอาจ ลดน้อยลงแต่สร้างความยั่งยืนใน การผลิต ให้กับโลกใบน้ี มากกวา่ การ 24 Green Research No.24 September 2013 ทำ�ลายโดยไมยั้งคิด ลดการโฆษณา เพื่อการบริโภคนิยมสินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าท่ีมีพิษต่อประชาชนในประเทศ ชายขอบ เช่น ที่บางประเทศท่ีกำ�ลัง

พง่ึ พาธรรมชาติ การพัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรของอาสาสมคั รพทิ ักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มหมบู่ ้าน (ทสม.) บษุ บา อบอาย* อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน/เมือง (ทสม.) คือ บุคคลในท้องถ่ิน หรือหมู่บ้าน หรือชุมชนที่ได้สมัครใจเป็นอาสาสมัคร โดยมีบทบาทส�ำคัญ ในฐานะผู้น�ำการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แบบบูรณาการ การเฝ้าระวังปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมี กระบวนการสร้างจิตส�ำนึกในการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้กับ ประชาชนและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง สร้างความเป็นเจ้าของให้เกิดความรู้สึก หวงแหน ซึ่งจะน�ำไปสู่การดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ตนให้คงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน ทสม. เป็นยุทธศาสตร์ท่ีส�ำคัญที่ยึดคนเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ท่ีเป็นรูปแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วมในลักษณะการเป็นตัวแทนชุมชน เป็นผู้น�ำและเป็นผู้ ประสานงานระหวา่ งประชาชน และทุกฝา่ ยทเี่ กยี่ วขอ้ ง เพ่ือสรา้ งความเปน็ เจา้ ของและได้รับ ผลประโยชนร์ ว่ มกนั ในลกั ษณะการบรหิ ารจดั การในรปู แบบคณะกรรมการ และมกี ารเชอ่ื มโยง เปน็ เครอื ขา่ ย ทสม. จงึ เปน็ แนวทางหนง่ึ ในการเชอื่ มโยงกระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ของคนใน สงั คม เชอื่ มโยงการทำ� งานดา้ นการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ระหวา่ ง ระดับนโยบายและระดับชุมชน อันจะน�ำไปสู่การบริหารจัดการ และการใช้ประโยชน์จาก ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งยงั่ ยนื โดยมปี รชั ญาพน้ื ฐานในการด�ำเนนิ การ ดงั น้ี 1. การดำ� เนนิ การทอี่ ยบู่ นพืน้ ฐานความต้องการของชุมชน 2. ชุมชนต้องมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทกุ ขั้นตอน 3. ชุมชนมคี วามรู้สกึ เปน็ เจ้าของ 4. เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของชมุ ชน 5. ยดึ หลกั ธรรมาภิบาลในการดำ� เนนิ งาน *นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ มชำ� นาญการ สถาบนั ฝกึ อบรมและถา่ ยทอดเทคโนโลยดี า้ นสง่ิ แวดลอ้ ม No.24 September 2013 Green Research 25

พ่ึงพาธรรมชาติ ดังน้ัน เพ่ือเป็นการเตรียมความพร้อมและพัฒนาขีดความสามารถ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ของ ทสม. ส�ำนักอาสาสมัครและเครือขา่ ย (สอข.) และสถาบันฝึกอบรมและ ถา่ ยทอดเทคโนโลยดี า้ นสิ่งแวดลอ้ ม (สอท.) กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม ทางสายกลาง จงึ กำ� หนดใหม้ กี ารจดั ฝกึ อบรมหลกั สตู ร การพฒั นาเครอื ขา่ ยอาสาสมคั รพทิ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ภายใต้โครงการพัฒนา พอประมาณ ศักยภาพอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ในปีงบประมาณ 2556 ครอบคลุม ทสม. ทุกจังหวัดท่ัวประเทศ มีเหตผุ ล มภี มู คิ มุ กัน ในพ้ืนท่ภี าคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ภาคกลาง ภาคตะวนั ออก และ ในตวั ทดี่ ี ภาคใต้จ�ำนวน 8 รุ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิก ทสม. ท่ีเป็นคณะ กรรมการเครอื ขา่ ย ทสม. ตงั้ แตร่ ะดบั หมบู่ า้ น ระดบั ต�ำบล ระดบั อ�ำเภอ ระดบั ความรู คณุ ธรรม จังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าท่ีจากส�ำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จงั หวัด (ทสจ.) เพอ่ื เสรมิ สร้างศักยภาพของบคุ ลากรให้เกดิ ความเข้มแข็ง เกิด รอบรู รอบคอบ ระมดั ระวัง ซ่อื สตั ยส จุ รติ ขยันอดทน สตปิ ญ ญา แบงปน กระบวนการเรียนรู้และการพึ่งพาตนเองของชุมชนในการบริหารจัดการ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งยงั่ ยนื ในทอ้ งถนิ่ ของตนเองเปน็ การ นำไปสู เช่ือมโยงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมจากระดับ ชุมชนไปสู่ระดับนโยบายของประเทศ และเป็นการเชื่อมโยงกับแนวคิดด้าน เศรษฐกจิ / สังคม /สงิ่ แวดลอ ม /วฒั นธรรม เศรษฐกจิ พอเพยี ง ซงึ่ เปน็ หลกั ปรชั ญาทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ มพี ระ สมดลุ /พรอ มรบั ตอ การเปล่ียนแปลง ราชด�ำรัสไว้ ส่งผลให้สังคมไทยเป็นสังคมท่ีมีความเข้มแข็งอย่างย่ังยืนให้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพเพียงพอที่จะพ่ึงพาตนเอง และสามารถ ภาพที่ 1 แสดงการเช่อื มโยงแนวคิด ยกระดบั คณุ ภาพความเปน็ อยไู่ ด้ โดยการด�ำเนนิ ชวี ติ ในแบบเรยี บงา่ ย ภายใต้ ดา้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง กระแสโลกาภวิ ฒั น์ ตลอดจนความเปลยี่ นแปลงตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ แสดงดงั ภาพที่ 1 การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ทสม. ในหลักสูตร การพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมบู่ า้ น (ทสม.) ขณะนไ้ี ดด้ ำ�เนนิ การเสรจ็ สน้ิ แลว้ มผี เู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมทง้ั สน้ิ 615 คน จาก 76 จงั หวดั โดยมรี ายละเอยี ดดงั แสดงในตารางที่ 1 ตารางที่ 1 สรุปผลการจดั ฝกึ อบรมหลักสูตร การพัฒนาเครอื ขา่ ย ทสม.ประจำ�ปีงบประมาณ 2556 รุ่นท่ี จัดระหว่างวันที่ จำ�นวนผ้เู ขา้ รบั การ ฝึกอบรม(คน) รนุ่ ท่ี 1 จดั ฝกึ อบรมใหก้ บั ทสม. ในพน้ื ทภ่ี าคเหนอื 29 - 30 มกราคม 2556 54 รุน่ ท่ี 2 จัดฝึกอบรมให้กบั ทสม. ในพ้นื ท่ีภาคเหนอื 31 มกราคม - 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2556 42 ร่นุ ที่ 3 จดั ฝึกอบรมใหก้ ับ ทสม. ในพน้ื ท่ีภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 26 - 27 มีนาคม 2556 98 รุ่นที่ 4 จัดฝึกอบรมให้กบั ทสม. ในพ้ืนท่ีภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 28 - 29 มนี าคม 2556 85 รุ่นท่ี 5 จัดฝึกอบรมใหก้ บั ทสม. ในพื้นทภ่ี าคกลางและภาคตะวันออก 20 - 21 พฤษภาคม 2556 106 รนุ่ ท่ี 6 จดั ฝกึ อบรมให้กับ ทสม. ในพ้นื ทีภ่ าคกลางและภาคตะวันออก 22 - 23 พฤษภาคม 2556 92 รนุ่ ท่ี 7 จดั ฝกึ อบรมใหก้ บั ทสม. ในพน้ื ทภ่ี าคใต้ 11 - 12 มถิ นุ ายน 2556 66 รนุ่ ท่ี 8 จดั ฝกึ อบรมใหก้ บั ทสม. ในพน้ื ทภ่ี าคใต้ 13 - 14 มถิ นุ ายน 2556 72 รวม มกราคม - มิถุนายน 2556 615 คน *ท้ัง 8 รนุ่ จัด ณ ชลพฤกษ์รีสอร์ท จ. นครนายก 26 Green Research No.24 September 2013

จากการประเมินผลเบ้ืองต้นของ ความผูกพันและความสามัคคีระหว่างเจ้า โครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครพิทักษ์ หน้าท่ีภายในหน่วยงานร่วมจัด รวมท้ังได้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เรียนรู้เทคนิควิธีการท�ำงานร่วมกับวิทยากร ประจ�ำปี 2556 โดยผู้จัดการฝึกอบรมของ จากสถาบนั การศกึ ษา ในบทบาทของการเปน็ สอข. และ สอท. พบวา่ การจดั ฝกึ อบรมใหก้ บั วิทยากรท่ีดีทางด้านส่ิงแวดล้อม ซ่ึงผู้จัดการ ทสม. ประสบผลส�ำเร็จด้วยดี ทั้งในด้านการ ฝกึ อบรมหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ จะนำ� ประสบการณ์ บรหิ ารจดั การ โดยมคี วามพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รบั ท่ีได้รับจากการร่วมจัดฝึกอบรมในคร้ังนี้ไป การฝกึ อบรม คดิ เปน็ 85 % และดา้ นวชิ าการ ประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ โดยมีความรู้ความเข้าใจของผู้เข้ารับการฝึก ต่อไป อบรมเพ่ิมข้ึน คิดเป็น 85%ในภาพรวมของ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่พึงพอใจต่อ เอกสารอา้ งอิง การฝึกอบรมท้ัง 8 รุ่นเน่ืองจากได้เรียนรู้ถึง การประชุมอาสาสมัครพิทักษ์ส่ิงแวดล้อม หลักการเรียนรู้ร่วมกันทั้ง 3 ส. ได้แก่ สาระ ระดับชาติ ครั้งที่ 3 ปี 2547 กรุงเทพฯ : ส่วนร่วม และสนุกสนาน เรียนรู้หลักการ ส.ไพบลู ย์การพิมพ์ คนหลังเลนส์ (2556) “พอเพียงเยี่ยงพ่อ” ทำ� งานเชงิ ระบบ 5 ข้ันตอน ไดแ้ ก่ 1) วนิ ิจฉยั สหกรณป์ า่ ไม้. 2556(156), 2. และวิเคราะห์ประเด็นทางสิ่งแวดล้อม 2) ก�ำหนดยุทธศาสตร์ของแผนงานโครงการ 3) การสือ่ สารสรา้ งการยอมรับ 4) น�ำแผนไป สู่การปฏิบัติ 5) ติดตามประเมินผลและ ปรับปรุงแก้ไข และน�ำไปสู่เทคนิคการเขียน โครงการด้านสิ่งแวดล้อม จากการวิเคราะห์ จากปัญหาส่ิงแวดล้อมในชุมชนของตนเอง โดยภาพรวมการปฏิบัติงานด้านการดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มของ ทสม. ในพ้ืนที่ท่ีตนเองรับผิดชอบจะประสบ ผลส�ำเร็จได้ ต้องอาศัยการร่วมคิด ร่วมท�ำ และร่วมตรวจสอบจากทุกคนในชุมชนให้ สามารถขับเคลื่อนงาน ดา้ นการดแู ลรกั ษา คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มซงึ่ ทสม.สว่ นใหญท่ เ่ี ขา้ รบั การ ฝึกอบรมมีความต้องการให้มีก า ร ศึ ก ษ า ดูงานในพ้ืนที่ที่ประสบความส�ำเร็จด้าน การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเพื่อน�ำความรู้ท่ีได้รับจากการ ศึกษาดูงานไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน ในท้องถิ่นของตนเองได้ ส�ำหรับผู้จัดการ ฝกึ อบรมเหน็ วา่ โครงการนี้ เปน็ การบรู ณาการ ร่วมกันของท้ัง 2 หน่วยงาน ภายในกรม สง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ สอท.และ สอข. ได้เรียนรู้วิธีการท�ำงานร่วมกัน เกิด No.24 September 2013 Green Research 27

พึง่ พาธรรมชาติ ทิศทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบตั ิการแกไ้ ขปญั หาหมอกควนั และการเผาในทโ่ี ลง่ ปี 2555-2559  สุภาพันธ์ สงั ข์คร* ทมี่ าของแผนปฏิบัติการฯ ภาพท่ี 1-2 ไฟป่าทภี่ าคเหนือ ภาพท่ี 3 สภาพการจราจรภาคเหนอื สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2552 เห็นชอบมาตรการเร่งด่วน ในการแก้ไขปญั หามลพษิ หมอกควนั ในพืน้ ที่ 8 จังหวัดภาคเหนอื (ตอนบน) ไดแ้ ก่ 1) แพร่ 2) น่าน 3) พะเยา 4) เชียงราย 5) ลำ� พูน 6) แม่ฮ่องสอน 7)เชียงใหม่ และ 8) ลำ� ปาง ในพนื้ ที่ 8 จังหวัดนี้ ต้องประสบกบั ปัญหามลพษิ ทางอากาศโดยเฉพาะปัญหาหมอกควันใน ข้ันรุนแรงนอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากหน่วยควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและ พันธุพ์ ชื ในปี 2550 พบวา่ มกี ารเผาป่าในพื้นท่ีภาคเหนือ จ�ำนวน 54,469 ไร่ ภาคตะวันออก เฉียงเหนอื จำ� นวน 37,929 ไร่ ภาคกลาง จ�ำนวน 18,704 ไร่ และภาคใต้ จ�ำนวน 3,838.5 ไร่ ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการเผาป่า และเผาวัสดุอื่นในชุมชน การเผาในพื้นที่เกษตร การเผา วชั พชื รมิ ทางขยะมูลฝอย และไฟปา่ กอ่ ให้เกดิ หมอกควนั ฝนุ่ ละออง เถ้า เขมา่ ควนั ท่ีระบาย ออกสู่บรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพส่ิงแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน ท้ังก่อใหเ้ กิดความร�ำคาญ บดบงั ทศั นวิสยั การจราจรท้ังทางบก ทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อ การทอ่ งเท่ียว และระบบเศรษฐกจิ โดยรวมน�ำมาซึง่ การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาสิง่ แวดล้อม ในเชงิ บูรณาการ บทบาทของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ไดจ้ ดั ทำ� แผนแมบ่ ทแหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยการเผาในทโี่ ลง่ ซงึ่ ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจาก คณะรฐั มนตรี เมอ่ื วนั ท่ี 22 กรกฎาคม 2546 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหห้ นว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งมกี ารนำ� นโยบาย และมาตรการควบคมุ การเผาในทโี่ ลง่ ไปใชเ้ ปน็ ยทุ ธศาสตรแ์ ละแนวปฏบิ ตั ใิ นการปอ้ งกนั ลด และแก้ไขปญั หามลพิษหมอกควนั จากการเผาในทโี่ ล่งและไฟปา่ ตลอดจนการเตรยี มความ พรอ้ มรองรับการดำ� เนินงานตามข้อตกลงอาเซียนเร่อื ง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดนโดยมี ยุทธศาสตรก์ ารดำ� เนินงาน 7 ดา้ นประกอบดว้ ย *นกั วชิ าการสง่ิ แวดลอ้ มชำ� นาญการ สถาบนั ฝกึ อบรมและถา่ ยทอดเทคโนโลยดี า้ นสงิ่ แวดลอ้ ม 28 Green Research No.24 September 2013

1. การรองรบั ขอ้ ตกลงอาเซียน เร่อื งมลพษิ จากหมอกควันขา้ มแดน 2. การจดั การเศษวัสดเุ หลือใชภ้ าคการเกษตร 3. การจัดการขยะมูลฝอยชุมชน 4. การจดั การไฟป่า 5. การส่งเสริมการใชพ้ ลงั งานหมุนเวยี น 6. การส่งเสริมประชาสัมพันธ์ 7. การใช้มาตรการดา้ นกฎหมาย บทบาทกรมควบคมุ มลพษิ กรมควบคมุ มลพษิ ในฐานะฝา่ ยเลขานกุ ารไดจ้ ดั ท�ำแผนปฏบิ ตั กิ ารตามแผนแมบ่ ท แห่งชาติ ว่าด้วยการควบคุมการเผาในที่โล่ง (พ.ศ.2547-2551) เพ่ือใช้เป็นแนวทาง การด�ำเนินงานของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการน�ำยุทธศาสตร์ตามแผนแม่บทแห่งชาติ ไปใช้ให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ ในการประชุมครั้งท่ี 7/2547 เม่ือวันท่ี 3 ธันวาคม 2547 และได้มีการดำ� เนินการ ในรปู แบบของการจดั ทำ� แผนปฏบิ ตั กิ ารแบบตอ่ เนอื่ งตามรอบปงี บประมาณซงึ่ ปจั จบุ นั อยใู่ น ช่วงของแผนปฏิบัติการ ปี 2555-2559 โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงาน 3 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวง มหาดไทย และยังมีอีกหลายหน่วยงานได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข เป็นตน้ ซงึ่ ได้ด�ำเนนิ การตามมาตรการทกี่ ำ� หนดไว้ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ เรื่องมาตรการ ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาหมอกควนั ในพน้ื ทภี่ าคเหนอื 9 จงั หวดั (เดมิ 8 จงั หวดั ) เพม่ิ อกี 1 จงั หวดั คือ จังหวัดตาก และนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี (ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี) เป็นผู้รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันปี 2556 โดยมีการแต่งต้ัง นายมาโนช การพนกั งาน ทปี่ รกึ ษารองนายกรฐั มนตรี เปน็ ผอู้ �ำนวยการศนู ยอ์ ำ� นวยการปอ้ งกนั ไฟปา่ และหมอกควนั ให้มีผลตั้งแตว่ นั ท่ี 14 กุมภาพันธ์ 2556 เปน็ ต้นไป โดยภารกิจที่กรมควบคุมมลพิษในฐานะหน่วยงานหลักและเป็นฝ่ายเลขานุการนั้น นับเป็นภารกิจท่ีต้องด�ำเนินการทั้งทางรุกและ ประสานงาน เพ่ือขับเคลื่อนโครงการเม่ือต้องด�ำเนินโครงการในพื้นที่ โดยหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ส�ำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำ� นักงานส่ิงแวดล้อมภาค และสถาบันการศึกษาในพื้นท่ี โดยดำ� เนินการในรูปของ กลุ่มชุมชนคอยเฝ้าระวังไม่ให้มีการเผา และเม่ือมีการเผาเกิดข้ึนจะด�ำเนินการอย่างไร มีการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อประกอบอาชีพเสริม และคอยเปน็ พเ่ี ลย้ี งใหช้ มุ ชน ในขณะเดยี วกนั ในบางชมุ ชนกม็ ผี นู้ ำ� และ ทสม.ทเ่ี ขม้ แขง็ ซง่ึ จะเปน็ ชมุ ชนตน้ แบบในการรกั ษาปา่ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี โดยเฉพาะพ้ืนที่ภาคเหนอื และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาพท่ี 4 การประชุมระดมความคิดเหน็ ภาพท่ี 5 ผู้บรหิ ารของ ทส.รว่ มกันแถลงขา่ ว จากหลายหนว่ ยงาน รณรงค์ลดการเผาในทโี่ ลง่ No.24 September 2013 Green Research 29

พง่ึ พาธรรมชาติ นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษ ยังได้มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศตามจุดที่มี ภาพที่ 6 สถานตี รวจวัดคุณภาพอากาศ ความร้อนและความเส่ียงในการเกิดหมอกควันที่เกินมาตรฐาน และสามารถตรวจวัดด้วย ของกรมควบคุมมลพษิ เครื่องมือท่ีทันสมัยและแจ้งข่าวสารให้ประชาชนในพ้ืนท่ี ตลอดจนแจ้งเวียนไปยัง หน่วยงานที่เก่ียวข้องและประชาชนท่ัวไปได้รับทราบด้วย ดังตัวอย่างสถานีตรวจวัดและ ผลการตรวจวดั คณุ ภาพอากาศในภาพที่ 6 จากรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ในวันท่ี 18 มีนาคม 2556 พบปริมาณฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 10 ไมครอน เฉล่ีย 24 ชัว่ โมง มีค่าระหว่าง 40-185 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อ สุขภาพปรมิ าณฝุ่นละอองลดลงกวา่ ก่อนหน้านเี้ กือบทุกสถานี แสดงคา่ ดงั ตารางที่ 1 ตารางที่ 1 แสดงค่าเฉล่ยี 24 ชว่ั โมงของ PM10 และ AQI ในภาคเหนอื ณ เวลา 09.00 น วนั ท่ี 18 มีนาคม 2556 สถานี PM10 AQI** คุณภาพอากาศ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อ.เมือง 115 97 เชียงราย สนง.สาธารณสขุ แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย 110 94 ปานกลาง ศาลากลางจงั หวัดเชยี งใหม่ อ.เมอื ง จ.เชียงใหม่ 97 86 ปานกลาง เชียงใหม่ โรงเรยี นยพุ ราชวทิ ยาลัย อ.เมอื ง จ.เชียงใหม่ 107 92 ปานกลาง พระตำ�หนกั ภูพิงคราชนิเวศน์ (Mobile)*** 27 34 ปานกลาง ลำ�พูน สนามกฬี า อบจ. อ.เมือง จ.ลำ�พนู 90 81 สถานีอตุ นุ ิยมวทิ ยาลำ�ปาง อ.เมือง จ.ลำ�ปาง 95 84 ดี โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพบา้ นสบป้าด อ.แม่เมาะ 97 86 ปานกลาง ลำ�ปาง 112 95 ปานกลาง โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพบา้ นท่าสี อ.แม่เมาะ 69 68 ปานกลาง การประปาส่วนภมู ิภาคแม่เมาะ อ.แมเ่ มาะ ปานกลาง แม่ฮ่องสอน สนง. ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม อ.เมือง 185 129 ปานกลาง น่าน สำ�นักงานเทศบาลเมืองน่าน อ.เมือง จ.นา่ น 119 99 มีผลกระทบ แพร่ สถานอี ุตนุ ิยมวิทยาแพร่ อ.เมอื ง จ.แพร่ 98 86 ต่อสขุ ภาพ พะเยา อทุ ยานการเรียนรกู้ วา๊ นพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา 112 95 ปานกลาง ตาก สถานีอุตนุ ยิ มวิทยาแมส่ อด อ.แมส่ อด (Mobile) 40 50 ปานกลาง ปานกลาง ดี หมายเหตุ : คา่ มาตรฐาน PM10 เฉลี่ย 24 ชวั่ โมง จะต้องไม่เกนิ 120 ไมโครกรมั ตอ่ ลกู บาศก์เมตร * PM10 มีหน่วยเป็นไมโครกรัมตอ่ ลกู บาศก์เมตร (ug/m3) ** ดชั นีคณุ ภาพอากาศ (Air Quality Index) *** พระตำ�หนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน์ จ.เชยี งใหม่ มตี ำ�แหนง่ ทต่ี รวจวดั อยบู่ นภเู ขาสงู อยเู่ หนอื ระดบั ชนั้ อณุ หภมู ผิ กผนั (Inversion) สง่ ผลใหป้ รมิ าณฝนุ่ ละอองทตี่ รวจวดั ไดไ้ มไ่ ดร้ บั ผลกระทบ จากแหลง่ กำ�เนดิ ในแอง่ เชียงใหม่-ลำ�พนู จงึ ละเว้นจากการรายงานในภาพรวม 30 Green Research No.24 September 2013

บทบาทกรมสง่ เสริมคุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม ภาพท่ี 7 การสัมมนาวิชาการการเสริมสรา้ ง กระบวนการมีสว่ นร่วมในการลดมลพษิ จาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนได้ดำ�เนินการตาม หมอกควันและการเผาในที่โลง่ จ.เชียงใหม่ ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ข้อที่ 6 รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่องค์ความรู้ การมีส่วนร่วมและ ภาพท่ี 8 การสมั มนาวชิ าการการเสรมิ สรา้ ง การเฝ้าระวัง ป้องกัน ผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ข้อ 7 มาตรการมีส่วนร่วมของภาค กระบวนการมสี ่วนรว่ มในการลดมลพิษจาก ประชาชน และข้อท่ี 8 จัดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนด้านมลพิษหมอกควันและไฟป่า หมอกควนั และการเผาในท่ีโลง่ จ.ขอนแกน่ ในพื้นท่ีเป้าหมาย 64 จังหวัด ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ดำ�เนินการตามแผน มาตรการป้องกันและแก้ไขต่างๆ มาเป็นระยะ โดยมีการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และ การปลูกจติ สำ�นกึ ซึง่ ไดด้ ำ�เนนิ การ ดงั น้ี 1. การฝกึ อบรม การถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยี 2. การจดั กจิ กรรมรณรงค์ ลดการเผาตา่ งๆ 3. การสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมในการควบคมุ ปอ้ งกนั ปัญหา 4. การสรา้ งเครอื ข่ายงานวิจยั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านการฝึกอบรมการถ่ายทอดองคค์ วามร้แู ละเทคโนโลยี กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม โดย สถาบันฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้านสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เม่ือปลาย ปีงบประมาณ 2554 ใหม้ ีการบรรจหุ ลกั สูตรสมั มนาวิชาการ การถ่ายทอดองคค์ วามร้เู พ่อื ลด การเผาในท่ีโล่ง ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือบูรณาการ ร่วมกันในการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคล่ือนแผนปฏิบัติการ โดยให้อยู่ในแผนการ ฝึกอบรมประจ�ำปี 2555-2559 สถาบันฝึกอบรมฯ ได้หารือกับผู้ที่รับผิดชอบโครงการ ของกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และกรมส่งเสริมการเกษตร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงได้ข้อสรุปว่า สถาบันฝึกอบรมฯ ควรด�ำเนิน การในรูปแบบของการจัดสัมมนารายภาค (ปี 2555 ภาคเหนือ ปี 2556 ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ปี 2557 ภาคกลาง ปี 2558 ภาคใต้ และ ปี 2559 เป็นการประเมินผลในพื้นท่ี ภาคเหนือ) เป็นการให้องค์ความรู้ในภาพรวม เน่ืองจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยกองส่งเสริมและเผยแพร่ และกรมควบคุมมลพิษ ได้มีการบูรณาการร่วมกันในการ ด�ำเนนิ โครงการฯ เชงิ รุกในพนื้ ทภี่ าคเหนอื โดยไดด้ ำ� เนนิ การอย่างตอ่ เนอ่ื ง ดังนั้นในปีงบประมาณ 2555 และ2556 จึงได้มีการจัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง การเสริมสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมในการลดมลพิษจากหมอกควันและการเผาใน ที่โล่งขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ความรู้ ความ เข้าใจ ปลูกจิตส�ำนึก และการมีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ซ่ึงเป็นภาค ธรุ กจิ ออ้ ยและนำ้� ตาล (บรษิ ทั รวมเกษตรกร อตุ สาหกรรม จำ� กดั ผลติ นำ้� ตาลทรายขาว นำ�้ ตาล ทรายแดง ตรามิตรผล) สถาบันการศึกษาเกษตรกร และประชาชนทั่วไป (ทสม.) ในการลด การเผาในที่โลง่ และในปีงบประมาณ 2557 สถาบันฝกึ อบรมฯ มแี ผนจะจดั การสัมมนาทาง วิชาการ ท้ังนี้ เพือ่ ให้เกดิ กระบวนการ การทบทวนและนำ� ผลการระดมความคดิ เหน็ ไปส่กู าร พัฒนาบทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและการ เผาในท่ีโล่ง ตลอดจนการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ท่สี อดคล้องกบั สถานการณ์ของปัญหาและนโยบายของรฐั ตอ่ ไป No.24 September 2013 Green Research 31

พง่ึ พาธรรมชาติ ด้านการจัดกิจกรรมรณรงคล์ ดการเผาตา่ งๆ กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม โดยกองส่งเสริมและเผยแพร่ ได้ด�ำเนินการวาง ระบบการจดั การขยะมลู ฝอยในครวั เรอื นโดยไดก้ ำ� หนดมาตรการควบคมุ การเผาขยะมลู ฝอย ในชุมชน ดงั นี้ - การลดปริมาณขยะ - การลดคัดแยกขยะเพอื่ นำ� กลับมาใช้ใหม่ - ชุมชนท่ีมีการจัดการขยะ เช่น ชุมชนสระสองห้อง ของเทศบาลนครพิษณุโลก ได้ รับรางวัล Zero Waste ขอนแกน่ พงั โคน และสกลนคร - จดั อบรมให้มกี ารสือ่ สารผ่านสือ่ วิทยชุ มุ ชน เพ่อื รณรงคไ์ ม่ให้มกี ารเผา - จดั ท�ำสื่อซีดีเปน็ ภาษาภาคเหนอื เพื่อให้มีการสือ่ สารได้เขา้ ใจมากย่งิ ข้ึน ประชาชนในชมุ ชนมีส่วนรว่ มในการควบคุมปอ้ งกนั ปญั หา ภาพที่ 9 สอื่ ประชาสัมพันธ์ประเภทตา่ งๆ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยกองส่งเสริมและเผยแพร่ จะเน้นบทบาท การมสี ว่ นรว่ มของภาคเี ครอื ขา่ ยในเชงิ ลกึ โดย จดั ตง้ั คณะกรรมการชมุ ชนและจดั ทำ� แผนชมุ ชน โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นผู้จัดต้ัง และมีคณะท�ำงานในการติดตาม ประเมนิ ผล ในการออกกฎระเบยี บตา่ งๆ มกี ฎหมาย และตอ้ งมกี ารสรา้ งแรงจงู ใจ ใหม้ กี ารรบั รางวลั เชน่ การประกวดหม่บู ้านปลอดการเผา การให้งบประมาณบางส่วนเพอ่ื สนับสนนุ ให้ กบั ชมุ ชนทสี่ นใจร่วมเขยี นแผนและดำ� เนนิ การตามแผน เปน็ ตน้ ทัง้ น้ี เพือ่ ใหช้ มุ ชนสามารถ จัดการแก้ไขปัญหาได้ ซ่ึงสามารถสร้างเครือข่ายในชุมชนอย่างดีย่ิงและเป็นการเฝ้าระวัง ภายในพ้ืนที่อยา่ งต่อเนอ่ื ง การสร้างเครือข่ายงานวจิ ยั ด้านส่งิ แวดลอ้ ม กรมสง่ เสริมคุณภาพสงิ่ แวดลอ้ ม โดยศูนยว์ จิ ัยและฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดล้อม ได้ ด�ำเนินการส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาวิจัยแบบบูรณาการ เพื่อให้สามารถน�ำผลการศึกษา วิจัยไปใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพ้ืนท่ี ภาคเหนือได้ยกประเด็นการลดการเผาในท่ีโล่งเป็นประเด็นส�ำคัญในการส่งเสริมการศึกษา ภาพท่ี 9 ภาพโครงการประกวดหมบู่ า้ นปลอดการเผา วจิ ยั เพอื่ การจดั การปญั หาหมอกควนั ในพนื้ ทภี่ าคเหนอื ตอนบน ในปงี บประมาณ 2556 ไดม้ ี การจัดเวทีภายใต้สมัชชานักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมขึ้น 3 เวที ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซ่ึงได้เชิญ ภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคชุมชน เข้าร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้และ พฒั นายทุ ธศาสตร์ และกลยทุ ธส์ �ำหรบั ปญั หาการเผาในทโ่ี ลง่ ภาคเหนอื ตลอดจนการพฒั นา ขอ้ เสนอโครงการวจิ ยั เพอ่ื น�ำไปสกู่ ารขอรบั การสนบั สนนุ งบประมาณงานวจิ ยั จากส�ำนกั งาน กองทนุ ส่งิ แวดล้อมต่อไป บทบาทของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาพที่ 10 การสมั มนาการสรา้ งเครือขา่ ยนักวจิ ยั ภายใต้กลไกการขับเคล่ือนแผนปฏิบัติการฯ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย หนว่ ยงานหลกั ไดแ้ ก่ กรมวชิ าการเกษตร กรมพฒั นาทด่ี นิ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ไดเ้ นน้ ภาค เกษตรกรรม ส่งเสริมเผยแพร่องค์ความรู้เกษตรอินทรีย์ปลอดการเผา สนับสนุนการดำ� เนิน มาตรการควบคมุ การเผาในพนื้ ทเ่ี กษตรกรรมและปฏบิ ตั กิ ารฝนหลวง จดั ใหม้ แี ผนการจดั การ 32 Green Research No.24 September 2013

ภาพท่ี 11 เคร่ืองบินฝนหลวง และควบคุมการเผาหลังการเก็บเก่ียว และพัฒนาศักยภาพศูนย์บริการและถ่ายทอด เทคโนโลยีการเกษตรประจ�ำต�ำบล ให้มีความรู้ความสามารถในการเผยแพร่องค์ความรู้ เกษตรปลอดการเผา คือ ท�ำอย่างไรไม่ให้มีการเผาตอซัง และผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ เพ่ือ มารองรับ เช่น น�้ำหมักชีวภาพเพ่ือย่อยสลายฟางข้าว หรือการน�ำรถบดอัดขนาดเล็กให้ เกษตรกร เปน็ ตน้ ทงั้ นใ้ี นเบอ้ื งตน้ ในสว่ นของภาคเกษตรกรรมหากจะบ�ำรงุ ดนิ จะเนน้ การปลกู ถว่ั และปลอ่ ยใหเ้ ปน็ ปยุ๋ การปลกู พชื แบบไมไ่ ถ-ไมเ่ ผา การไถกลบตอซงั ขดุ หลมุ ฝงั และสดุ ทา้ ย จะไม่มีการเผาในพื้นที่เกษตร เป็นต้น และอีกบทบาทส�ำคัญในการดับไฟป่าขั้นสุดท้าย คือ การปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งเมื่อทุกอย่างยังไม่อาจหยุดพฤติกรรมการเผาได้ ก็ไม่พ้นเอื้อม พระหตั ถข์ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทพ่ี ระราชทานโครงการฝนหลวง ในยามหนา้ แลง้ แมก้ ระทงั่ การดับไฟปา่ โดยส�ำนกั ฝนหลวงและการบนิ เกษตร ซึง่ ปัจจบุ ันได้ รับการยกฐานะเป็นกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ร่วมกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเข้าร่วม ดับไฟป่า เพือ่ บรรเทาความเดือดร้อนได้เปน็ อยา่ งดี ซึง่ นับเป็นความร่วมมอื ของทกุ ภาคส่วน ทีด่ �ำเนินการจนสำ� เร็จ สรุป ผลการดำ� เนนิ งานทผี่ า่ นมาสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำคญั ของการใหก้ ารสนบั สนนุ การสรา้ งสงั คมแหง่ การเรยี นรู้ ทตี่ อบสนองตอ่ ความ ต้องการของสังคมท้ังภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน สถาบันการศึกษา แนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายพ้ืนฐานแห่งรัฐ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ การยกระดับบทบาทของชุมชนและภาคสว่ นตา่ งๆ ในสงั คมให้เขา้ มามีสว่ นรว่ มในการแก้ไขปัญหาใหม้ าก ยง่ิ ขน้ึ โดยเฉพาะการสรา้ งความรทู้ ศั นคติ ทนี่ ำ� ไปสกู่ ารปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมทเี่ หมาะสมกบั การอนรุ กั ษ์ ฟน้ื ฟแู ละใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ยากร ธรรมชาตอิ ยา่ งยง่ั ยนื ทงั้ นตี้ อ้ งอาศยั การพฒั นาองคค์ วามรทู้ เ่ี หมาะสมกบั สถานการณแ์ ละความตอ้ งการในการน�ำความรเู้ หลา่ นนั้ ไปปรบั ใช้ ในชีวิตประจ�ำวัน การประกอบอาชีพการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันทางสังคมผ่านกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้อง อาศยั ความร่วมมอื จากทกุ ภาคเี ครอื ข่ายโดยเฉพาะบทบาทของ ทสม. ทัง้ นเี้ พ่ือขบั เคลอื่ นแผนปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หาการเผาใน ทโ่ี ลง่ ปี 2555-2559 ใหเ้ ปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ทีว่ างไว้ เพื่อสงิ่ แวดลอ้ มที่ดีของทกุ คน เอกสารอ้างองิ กรมควบคมุ มลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม, 2550. แผนปฏิบัติการแก้ไขปญั หาหมอกควนั และไฟป่า 2551-2554 กรมควบคมุ มลพษิ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2556. แผนปฏบิ ัตกิ ารแก้ไขปัญหาหมอกควนั และไฟป่า 2555-2558 บรรพต อมราภบิ าล. เอกสารประกอบการบรรยายการเสรมิ สร้างกระบวนการมสี ว่ นรว่ มในการลดมลพิษจากหมอกควนั และการเผาในที่โลง่ จ.เชยี งใหม่ วันที่ 18-20 สงิ หาคม 2554. กรงุ เทพฯ : กรมส่งเสรมิ คณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม. กรมควบคมุ มลพษิ . สถานการณห์ มอกควันในพนื้ ท่ีภาคเหนือของประเทศไทย วนั ท่ี 18 มนี าคม 2556 (สำ�เนา). No.24 September 2013 Green Research 33

ERTC Management Update รมว.ทส. ตรวจเยยี่ มพร้อมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกรมสง่ เสรมิ คุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม เม่ือวันท่ี 17 กรกฎาคม 2556 นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เดินทางไปตรวจเย่ียมกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม พร้อม มอบนโยบายแก่ผู้บริหารให้ดำ�เนินงานด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เน้นส่งเสริมงานวิจัย ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ และสังคม สามารถตอบโจทย์ปัญหาชุมชนได้อย่างแท้จริงรณรงค์ ปลกู ฝงั ความรแู้ ละสรา้ งจติ ส�ำ นกึ ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มตงั้ แตว่ ยั เยาว์ สรา้ งเครอื ขา่ ยอาสาสมคั รและจดั ตง้ั ชมุ ชน ตวั อยา่ งในการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม รวมถงึ มกี ารวางแผนการตดิ ตามและ ประเมินผลพร้อมกับการวางแผนปฏิบัติการเชิงบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายและผู้เก่ียวข้อง โดยมี นายจตพุ ร บุรษุ พัฒน์ อธบิ ดีกรมส่งเสริมคุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม นำ�คณะผ้บู ริหารกรมส่งเสริมคณุ ภาพ ส่ิงแวดล้อมประกอบด้วย นางรัชนี เอมะรุจิ นายสากล ฐินะกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพ ส่ิงแวดล้อม และเจ้าหน้าท่ีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม อารยี ์สมั พนั ธ์ กรมส่งเสรมิ คณุ ภาพส่งิ แวดล้อม การสมั มนาเชงิ ปฏิบตั ิการ เรอ่ื ง การประยุกต์ใชถ้ ังบำ�บัดนำ�้ เสยี สำ�เรจ็ รปู เพื่อการนำ�นำ้�ใช้ (Grey water) กลบั มาใช้ใหม่ สว่ นน้ำ� และขยะ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมด้านสิง่ แวดล้อม กรมส่งเสรมิ คุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม ได้จดั การสมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร เรื่อง การประยุกต์ใช้ถัง บ�ำบัดน้�ำเสยี ส�ำเร็จรูปเพื่อการน�ำนำ้� ใช้ (Grey water) กลบั มาใช้ใหม่ เมื่อวันที่ 4 มิถนุ ายน 2556 ณ หอ้ งรวยเพชร โรงแรมมารวย การ์เดน้ ท์ เพ่อื น�ำเสนอ เทคโนโลยีในการประยุกต์ใชถ้ งั บ�ำบดั น้ำ� เสยี ส�ำเรจ็ รปู เพ่อื การน�ำน�้ำใช้ (Grey water) กลบั มาใช้ใหม่ และเป็นการส่งเสรมิ ใหม้ ีการน�ำน้�ำกลบั มาใช้ใหมส่ �ำหรับภาค ชุมชน โดยมี นางสุวรรณา เตียรถ์สวุ รรณ ผ้อู �ำนวยการศูนยว์ จิ ยั และฝึกอบรมดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม เป็นผกู้ ล่าวรายงาน และนางรัชนี เอมะรจุ ิ รองอธิบดีกรม ส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม และ Mr. Tomoyuki Kawabata ผูแ้ ทนองคก์ ารความรว่ มมอื ระหว่างประเทศของประเทศญ่ปี ุ่น รว่ มใหเ้ กียรติเปน็ ประธานในการ จดั สมั มนา ซงึ่ ในการสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารดงั กลา่ ว มกี ารบรรยายในหวั ขอ้ ความเปน็ มาของระบบ Johkasou ในประเทศญปี่ นุ่ โดยผเู้ ชยี่ วชาญจาก Ritsumeikan University หวั ข้อการพฒั นาเทคโนโลยีของถงั Johkasou ของประเทศญี่ป่นุ โดยผู้แทนจากบริษทั อาควา นชิ ฮิ าร่า คอร์ปอเรช่ัน จ�ำกัด หวั ข้อ การพฒั นา เทคโนโลยีของถงั บ�ำบดั น�้ำเสียส�ำเร็จรูปของประเทศไทย โดยผ้แู ทนจากบริษทั ธรรมสรณ์ จ�ำกัด และหวั ข้อการประยกุ ต์ใช้ถงั บ�ำบัดน้ำ� เสียส�ำเรจ็ รปู เพื่อการน�ำ นำ�้ ใช้ (Greywater) กลบั มาใช้ใหม่ในประเทศไทย โดยผู้แทนจากส่วนน�้ำและขยะ ศนู ย์วิจัยและฝึกอบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม กรมสง่ เสริมคุณภาพสงิ่ แวดลอ้ ม การสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เรอื่ ง รปู แบบการใชป้ ระโยชท์ ดี่ นิ เพอื่ ลดปัญหาทางเสียงจากท่าอากาศยานสุวรรณภมู ิ นางรัชนี เอมะรุจิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดการ สัมมนาเชิงปฏิบัติการเร่ืองรูปแบบการใช้ที่ดินเพ่ือลดปัญหาทางเสียงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ โรงแรมอมารี ดอนเมอื ง กรุงเทพฯ ในวนั ท่ี 18 กรกฎาคม 2556 34 Green Research No.24 September 2013