ISSN:1686-1612 Research ปที ี่ 13 ฉบบั ท่ี 33 พฤษภาคม 2559 ฝ่าวิกฤต ! กบั ทางเลอื กการน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ วกิ ฤตภยั แล้งรนุ แรง ปี 2559 การน�ำน�ำ้ กลบั มาใช้ใหม่ การบำ� บดั น�้ำ Greywater ดว้ ยถงั บำ� บัดน�ำ้ เสียสำ� เรจ็ รปู แบบเตมิ อากาศเพือ่ นำ� นำ้� กลบั มาใช้ใหม่
บ.ก.แถลง EDITOR’S TALK สวสั ดคี ะ่ ทา่ นผอู้ า่ นเปน็ อยา่ งไรกนั บา้ งคะ่ Green Research ฉบบั ที่ 33 ประจำ� เดอื นพฤษภาคม 2559 น้ี จะนำ� เสนอประเดน็ เกย่ี วกบั ทางเลอื กในการรบั มอื กบั วกิ ฤตภยั แลง้ ทเ่ี หมาะสมกบั ประเทศไทย ในชว่ งหลายเดอื นทผ่ี า่ นมาเราตอ้ งทำ� การบนั ทกึ เปน็ สถติ ิ ของประเทศไทยเลยกว็ า่ ไดถ้ งึ “วิกฤตภัยแล้งรนุ แรงที่เกิดข้นึ ” Green Research ฉบับนีไ้ ดน้ �ำสาระความรทู้ างวิชาการที่เกยี่ วขอ้ ง กับสถานการณภ์ ัยแลง้ ของประเทศไทย รวมท้ังรูปแบบ/ทางเลอื กการแกไ้ ขภยั แล้งโดยการน�ำน�ำ้ กลบั มาใช้ใหม่ ซง่ึ มันเปน็ เรอ่ื งใกล้ ตัวกับอุณหภูมิความร้อนท่ีเพิ่มขึ้น ติดตามได้ที่คอลัมน์เร่ืองเด่นประจ�ำฉบับ ส�ำหรับคอลัมน์ติดตามเฝ้าระวัง มาท�ำความรู้จัก การคักแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบของประเทศจีน พร้อมท้ังสารพิษตกค้างยาวนานกับการเคลื่อนย้ายในสิ่งแวดล้อม และ ไมโครพลาสติกคืออะไร ปิดท้ายเล่มกันที่ คอลัมน์ก้าวหน้าพัฒนา กระแสก�ำลังมาเลยค่ะ คล่ืนความร้อนและการพัฒนาดัชนีความร้อน เพ่ือการ ประยุกตใ์ ชศ้ ึกษาในประเทศไทย และอกี หนึ่งกระแสท่กี ำ� ลงั อินมาก คือ การบำ� บดั ไซยาไนด์ จากเหมอื งทองคำ� ติดตามข้อมูลและ สาระดๆี ได้ในเลม่ เลยค่ะ แลว้ พบกันใหม่ฉบบั หน้าค่ะ GREEN RESEARCH CONTENTS เร่ืองเดน่ ประจำ� ฉบบั พฤษภาคม 2559 3 วิกฤตภยั แลง้ รนุ แรง ปี 2559 5 การน�ำน�้ำกลับมาใชใ้ หม่ ทป่ี รึกษา การบำ� บัดนำ�้ Greywater ดว้ ยถงั บำ� บัดน้ำ� เสยี ส�ำเร็จรปู 7 แบบเติมอากาศเพื่อนำ� น�ำ้ กลบั มาใช้ใหม่ ภาวิณี ปณุ ณกันต์ 10 ความรู้ ทัศนคติ และพฤตกิ รรมของภาคส่วนตา่ งๆ บรรณาธกิ ารบริหาร ต่อการนำ� น�ำ้ ทผ่ี า่ นการบำ� บดั แล้วกลบั มาใช้ใหม่ ติดตามเฝา้ ระวงั โสฬส ขนั ธ์เครอื การคดั แยก/รีไซเคลิ E-waste นอกระบบ 14 (Informal Dismantling Recycling E-waste Sector) ในประเทศจนี กองบรรณาธิการ 18 สารมลพษิ ตกค้างยาวนานกับการเคลอ่ื นย้ายในสง่ิ แวดลอ้ ม นิตยา นกั ระนาด มิลน์ 21 ไมโครพลาสตกิ ในทะเล ศิรนิ ภา ศรที องทิม หทัยรตั น์ การเี วทย์ ก้าวหน้าพฒั นา เจนวิทย์ วงษศ์ านูน ปญั จา ใยถาวร 25 คลืน่ ความร้อนและการพัฒนาดชั นคี วามร้อน รฐั เรืองโชตวิ ิทย์ เพอื่ การประยุกตใ์ ช้ศึกษาในประเทศไทย จนิ ดารัตน์ เรอื งโชติวทิ ย์ อาทิตยา พามี 32 การบ�ำบัดไซยาไนด์ ศนู ย์วจิ ัยและฝึกอบรมด้านส่งิ แวดลอ้ ม ERTC UPDATE กรมสง่ เสรมิ คุณภาพสงิ่ แวดล้อม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 35 - ถา่ ยทอดความรแู้ ละรณรงคห์ ยดุ การเผาพนื้ ทก่ี ารเกษตรในตำ� บลตน้ แบบ เทคโนธานี ตำ� บลคลองห้า อำ� เภอคลองหลวง ปลอดการเผา ณ โรงเรยี นหว้ ยน�้ำขุ่น ต.อ่านาไลย อ.เวียงสา จ.นา่ น จังหวดั ปทุมธานี 12120 โทรศพั ท์ 02-577-4182-9 - การประชมุ เชงิ ปฏิบตั ิการพัฒนาโครงการนำ� รอ่ งพ้ืนทรี่ ูปธรรม โทรสาร 02-577-1138 ต้นแบบแห่งการเรียนร้ขู องชุมชนในการแกไ้ ขปัญหาหมอกควนั ทย่ี ง่ั ยืน www.deqp.go.th ในพนื้ ท่ีดอยยาว-ดอยผาหมน่ No.33 May 2016
เรื่องเดน่ ประจำ�ฉบบั 3 ชญานนิ น้ำ�เย้ือง วกิ ฤตภยั แลง้ รนุ แรง ปี 2559 วกิ ฤตภยั แลง้ ทำ� ใหร้ ะดบั นำ�้ เหนอื เขอื่ นเจา้ พระยาไดล้ ดลงมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งตงั้ แตต่ น้ ปี 2559 ขณะทใี่ น เดอื นมนี าคมนี้ นำ�้ ในเขอ่ื นหลกั ทปี่ อ้ นนำ้� เขา้ สแู่ มน่ ำ้� เจา้ พระยาทง้ั 4 เขอ่ื น (เขอ่ื นภมู พิ ล เขอื่ นสริ กิ ติ ิ์ เขอื่ นแควนอ้ ย และเข่ือนป่าสักชลสิทธิ์) เหลือน้�ำใช้การได้เพียงร้อยละ 14 เท่านั้น นั่นคือ ยังคงเหลือน้�ำใช้การได้จนถึง เดือนมิถุนายน ประมาณ 2,945 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอา่ งเกบ็ น้ำ� ในอีก 10 เขอ่ื น ก็เข้าข้นั วกิ ฤต (เขื่อนอุบลรตั น์ เข่ือนแม่งัด เข่ือนห้วยหลวง เขื่อนคลองศรียัด เขื่อนบางพระ เข่ือนกระเสียว เขื่อนล�ำปาว เขื่อนแม่กวง เขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนล�ำพระเพลิง) วิกฤตขาดน้�ำทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยนี้ นับว่าเป็นภัยแล้ง ทรี่ ุนแรงทีส่ ดุ ในรอบ 20 ปี No.33 May 2016
4 เร่อื งเด่นประจ�ำ ฉบบั การแก้ปัญหาจะเกิดโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หนา้ ฝน คอื ปลายเดอื นเมษายนกบั ตน้ เดอื นพฤษภาคมนนั้ หาก ในการใชน้ ำ้� อย่างประหยัด โดยเฉพาะคนกรุงเทพมหานครและ ผทู้ ไ่ี มไ่ ดท้ ำ� นาปรงั ในปนี ้ี ซงึ่ มปี ระมาณ 3-4 ลา้ นไร่ จะตอ้ งลงนาปี ปรมิ ณฑลต้องลดการใชน้ ้�ำประปา กรุงเทพมหานครมกี ารใชน้ ำ�้ และถ้าลงพร้อมกันก็คงต้องมีการเตรียมน้�ำไว้ให้เกษตรกรท�ำ มากเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ นาปซี ง่ึ ใชน้ ำ้� 2,000-3,000 ลา้ น ลบ.ม. แตข่ ณะนม้ี กี ารสำ� รองนำ้� ใช้น้�ำประมาณวันละ 6 ล้าน ลบ.ม. หรือคนละ 200 ลิตร/วัน ไว้ใช้ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมโดยเป้าหมาย ขณะท่ีคนชนบทใช้น�้ำเพียงคนละ 70 ลิตร/วัน นักวิชาการได้ คือ 1,000 กว่าล้าน ลบ.ม. ใช้สำ� หรับอุปโภคบริโภคและรักษา ประเมินว่าถ้าคนกรุงเทพฯ ลดการใช้น้�ำได้ร้อยละ 30 ภายใน ระบบนิเวศเท่านั้น เพราะฉะน้ันในช่วงปลายเดือนเมษายนกับ 3 เดือนนี้ ก็จะช่วยเพ่ิมน้�ำต้นทุนเพื่อผลิตน้�ำประปาได้อีกกว่า ต้นเดือนพฤษภาคมจงึ ไม่สามารถจา่ ยนำ�้ ใหเ้ กษตรกรได้ ภาครัฐ 200 ลา้ น ลบ.ม. ซง่ึ สามารถใชน้ ำ�้ ไดอ้ กี 1 เดอื น ก็ยงั จะมีน�้ำ ก็ต้องท�ำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อขอให้เล่ือนการท�ำนาปี ใชอ้ ย่างเพียงพอ ออกไปกอ่ น ท่ีมา : http://wuwpwlo.amdysg/2re0e1n3g/a0r3d/e0n0s5..cjpogm/wp-content/ ท่มี า : http://www.o-wat.com/images/sub_1215892584/20150929%20 %231_2720.jpg ในส่วนของผู้ประกอบการภาคเอกชน ก็มีการตื่นตัว ในการประหยัดน�้ำ โดยบางโรงงานได้น�ำน�้ำที่ผ่านระบบบ�ำบัด กลับมาใช้ใหม่นอกกระบวนการผลิตในโรงงาน เช่น รดต้นไม้ และสนามหญ้า ใช้ท�ำความสะอาดพื้นบริเวณรอบโรงงาน แต่ ปจั จบุ นั การนำ� นำ้� กลบั มาใชใ้ หมใ่ นประเทศไทยยงั ไมแ่ พรห่ ลายเทา่ ทค่ี วร นอกจากน้ี บางโรงงานมีการจดั การน้ำ� ดว้ ยการปรับน�ำ้ ใช้ ในโรงงาน โดยใช้ระบบบำ� บดั น�้ำเสียเหลือศูนย์ ซ่งึ เปน็ กระบวน การบ�ำบัดน้�ำเสียท่ีเกิดขึ้นจากการผสมผสานเทคโนโลยีการก ทีม่ า : http://www.thaiarcheep.com/wp-content/uploads/2015 รองนำ�้ ดว้ ยเมมเบรน และการบำ� บดั นำ้� เสยี ดว้ ยกระบวนการทาง /01/0911.jpg ในสว่ นของภาคการเกษตร เกษตรกรในลมุ่ นำ�้ เจา้ พระยา ชีวภาพ น้ำ� ทิ้งที่ผา่ นการบ�ำบัดแลว้ มคี ณุ ภาพสูงและสามารถน�ำ ไดม้ กี ารปลกู ขา้ วนาปรงั ไปแลว้ กวา่ 2 ลา้ นไร่ ซง่ึ กรมชลประทาน กลบั มาใช้ประโยชน์ได้สูงสดุ ก็ได้แจ้งว่าไม่มีสัดส่วนน�้ำให้ท�ำนาปรังได้เลย แต่เกษตรกรส่วน จะเหน็ วา่ การนำ� นำ�้ ทผ่ี า่ นการบำ� บดั กลบั มาใชใ้ หมก่ เ็ ปน็ ใหญไ่ ด้หยุดทำ� นาปรังแล้ว และไดร้ ับการส่งเสรมิ ให้ปลกู พชื ทใ่ี ช้ อีกหน่ึงวิธีท่ีจะแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้�ำใช้ ในระบบโรงงานได้ น้ำ� น้อย เชน่ ถ่ัวฝกั ยาว ถ่วั ข้าวโพดหวาน พรกิ และการเลย้ี งไก่ เป็นอยา่ งดี ดงั นนั้ การแก้ปัญหาภยั แล้งในปี 2559 นี้ มีหลายวธิ ี พันธุ์พ้ืนเมือง การปรับตัวของเกษตรกร ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ใหเ้ ลอื กปฏบิ ตั ิ และทสี่ ำ� คญั ยง่ิ นน้ั ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื จากทกุ เช่น ใช้เทคโนโลยีน้�ำหยด ใช้น�้ำจากบ่อน้�ำต้ืนท่ีขุดเจาะเอง ภาคส่วนที่จะช่วยกันประหยัดนำ�้ อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ใหม้ ากที่สุด แลว้ เป็นต้น ในช่วงปลูกข้าวนาปีหรือรอยต่อระหว่างหน้าแล้งกับ เราก็จะผ่านพ้นวิกฤตภิ ยั แล้งในครงั้ น้ไี ปด้วยกันได้ No.33 May 2016
เรื่องเดน่ ประจำ�ฉบับ 5 ชญานนิ นำ้ �เยือ้ ง น�้ำการน�ำ กลับมาใช้ใหม่ นำ้� จ�ำเปน็ ต่อส่งิ มีชวี ติ แตม่ ีน�ำ้ ใหส้ ่ิงมีชีวิตใชไ้ ดไ้ มถ่ ึง 1% ของปรมิ าณน�้ำท่มี ีทง้ั หมดในโลก ปจั จุบนั การใช้นำ้� ในภาคชมุ ชน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมมีปริมาณเพิม่ มากขึ้นทุกขณะตามจ�ำนวนประชากรท่ีเพมิ่ ขนึ้ อีกทงั้ ภยั แลง้ ที่ เปน็ ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศทำ� ใหฝ้ นตกไมต่ รงตามฤดกู าล ผลทต่ี ามมาคอื เกดิ ปญั หาขาดแคลนนำ�้ การแกป้ ญั หาการขาดแคลนนำ้� มหี ลากหลายวธิ ี ตวั อยา่ งเชน่ การรณรงคใ์ หใ้ ชน้ ำ้� อยา่ งประหยดั เพอ่ื ลดปรมิ าณนำ�้ ทใี่ ชเ้ พอื่ ยืดเวลาให้มีน้ำ� ใช้เพยี งพอในชว่ งระยะเวลาหนงึ่ การพฒั นาเทคโนโลยแี ละการปรับเปลี่ยนวิธีการในภาคเกษตรกรรมเพื่อ การใชน้ ำ�้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและคมุ้ คา่ รวมถงึ การสง่ เสรมิ ใหป้ ลกู พชื ทใี่ ชน้ ำ้� นอ้ ยในหนา้ แลง้ การขาดแคลนนำ้� โดยเฉพาะ แหลง่ นำ้� ผวิ ดนิ ทมี่ ปี รมิ าณนำ�้ ลดลงจนไมเ่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการและไมเ่ พยี งพอในการผลติ นำ้� ประปา เมอื่ ทรพั ยากรนำ�้ จากแหลง่ นำ�้ ทเ่ี หมาะสมมไี มเ่ พยี งพอ ผใู้ ชน้ ำ้� จงึ ตอ้ งหานำ้� จากแหลง่ อน่ื เชน่ การขดุ เจาะนำ้� ใตด้ นิ หรอื นำ�้ บาดาล การนำ� นำ�้ กลับมาใช้ใหมก่ ็เปน็ อกี แนวทางหนง่ึ ทเี่ กดิ จากการน�ำน�้ำเสียที่ผ่านการบำ� บดั กลบั มาใชซ้ ำ้� แรงผลกั ดันของการนำ� น�้ำกลบั มาใชใ้ หม่ นอกจากเกดิ จากปญั หาการขาดแคลนนำ้� แลว้ ยงั เปน็ แนวทางหนง่ึ ของการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื นนั่ คอื การจดั การนำ�้ และพลงั งานอยา่ งยงั่ ยนื และเปน็ การอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม เนอื่ งจากการนำ� นำ้� กลบั มาใชซ้ ำ้� ใหมน่ น้ั จะชว่ ยลดทง้ั ปรมิ าณการ ใชน้ ้�ำจากแหล่งน้ำ� ธรรมชาติ และปรมิ าณการปลอ่ ยน้ำ� เสยี กลับสวู่ ฏั จกั รของนำ้� ตามธรรมชาติอีกด้วย การน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ (reclaimed water/recycled water/ water reuse) เป็นการน�ำน้�ำเสียมาเป็นแหล่งน�้ำต้นทุน โดยการบ�ำบัดให้มีคุณสมบัติเหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ท่ีจะ น�ำกลับมาใช้ซ�้ำใหม่ ปัจจุบันได้มีการศึกษาและลงทุนสร้างระบบ การนำ� น้�ำกลบั มาใชใ้ หม่แลว้ ในหลายประเทศ ส�ำหรบั ประเทศไทย นัน้ การน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ยังอย่ใู นวงจำ� กัด เน่อื งจากประชาชน หรอื ผปู้ ระกอบการขาดความรแู้ ละความมนั่ ใจในแนวทางทเ่ี หมาะสม และปลอดภัยในการน�ำน�้ำเสียท่ีผ่านการบ�ำบัดแล้วกลับมาใช้ซ�้ำ ใหมอ่ กี ครงั้ ดว้ ยเหตนุ ี้ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม โดย ความร่วมมือกับประเทศญ่ีปุ่น จึงได้จัดท�ำแนวทางส�ำหรับการน�ำ นำ�้ กลบั มาใชใ้ หมข่ องประเทศไทย (Water Reuse Guidelines)1 เพอื่ การสนับสนุนและส่งเสริมการน�ำน้�ำกลับมาใช้ใหม่ของประเทศให้ เกดิ ข้นึ อยา่ งกวา้ งขวาง และเปน็ ทยี่ อมรับของทกุ ภาคส่วน No.33 May 2016
6 เรื่องเด่นประจำ�ฉบับ แหลง่ นำ�้ เสยี สำ� หรบั นำ� มาเปน็ ตน้ ทนุ ในการผลติ เปน็ นำ้� ทนี่ ำ� กลบั มาใชใ้ หม่ มาจากแหลง่ กำ� เนดิ 3 แหลง่ ดว้ ยกนั คอื ภาคชมุ ชน ภาคเกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรม นำ�้ เสยี จากภาคชมุ ชน เชน่ นำ้� ทิง้ จากระบบบำ� บดั น�ำ้ เสียชุมชน นำ้� ทงิ้ จากอาคาร นำ้� เสีย จากภาคเกษตรกรรม เช่น นำ�้ ทง้ิ จากฟาร์มปศสุ ัตว์ ฟาร์มเพาะเล้ยี งสตั ว์น้�ำ และการเพาะปลกู นำ�้ เสยี จากภาคอุตสาหกรรม เชน่ นำ้� ท้ิงจากระบบบ�ำบัดน�้ำเสียจากกระบวนการผลิต เปน็ ตน้ จากการสำ� รวจขอ้ มลู การนำ� นำ้� กลบั มาใชใ้ หมใ่ นประเทศไทย ในสว่ นของภาคชมุ ชน ภาคเกษตรกรรม และภาคอตุ สาหกรรม มดี งั นี้ ภาคชุมชน ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม พบวา่ อาคารประเภทโรงพยาบาล แบ่งเป็นการเกษตร (ร้อยละ 83) พบว่าโรงงานอุตสาหกรรม และคอนโดมีเนียม (ร้อยละ 17) มี ปศุสัตว์ (ร้อยละ 14) และพื้นที่สีเขียว มากกว่า ร้อยละ 50 มีการน�ำน�้ำกลับ การน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ ซ่ึงส่วนใหญ่ สวนสาธารณะ (ร้อยละ 3) พบว่า มาใชใ้ หม่ ในการรดนำ้� ตน้ ไม้ ลา้ งพน้ื ใช้ ใช้รดน้�ำต้นไม้ และกิจกรรมอื่นๆ เช่น เกษตรกรมกี ารนำ� นำ้� กลบั มาใชใ้ หมเ่ พยี ง ในระบบ ชกั โครก ระบบดบั เพลงิ เปน็ ตน้ ท�ำความสะอาดพ้ืน ดับเพลิง เป็นต้น ร้อยละ 13 ในการท�ำฟาร์มกล้วยไม้ ส่วนอาคารประเภทอ่ืนๆ เช่น หอพัก และฟาร์มสุกร ในฟาร์มกล้วยไม้มี *จ�ำนวนแบบสอบถาม 100 ชุด รา้ นอาหาร ตลาด และอน่ื ๆ รวมรอ้ ยละ การรวบรวมน้�ำส่วนเกินจากการรดน�้ำ ร้อยละ 63 จากภาคกลาง รอ้ ยละ 45 82 ไมม่ กี ารนำ� นำ้� กลบั มาใช้ใหม่ กล้วยไม้กลับมาใช้ซ�้ำ ในฟาร์มสุกรมี การใช้น้�ำทิ้งจากบ่อที่บ�ำบัดแล้วมาล้าง อยู่ในเขตนิคมอตุ สาหกรรม *จ�ำนวนแบบสอบถาม 100 ชดุ พนื้ โรงเรอื นและรดนำ�้ ตน้ ไม้ รดนำ้� พชื ไร่ ร้อยละ 75 จากภาคกลาง เชน่ ออ้ ย ข้าวโพด และสง่ ไปยงั นาข้าว *จำ� นวนแบบสอบถาม 101 ชุด ร้อยละ 56 จากภาคกลาง ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการประมาณการว่าจะมีการน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ 7-8% ของปริมาณน้�ำเสียชุมชนที่ เกิดขึ้น และมีจ�ำนวนเพิ่มมากข้ึนในอนาคต ประเทศออสเตรเลียได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีการน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ประมาณ 30% ของปรมิ าณนำ้� เสยี ภายในปี 2015 ประเทศซาอดุ อิ าระเบยี จะเพมิ่ การใชน้ ำ้� ซำ�้ เปน็ 65% ในปี 2516 ในประเทศสงิ คโปรจ์ ะนำ� นำ้� มาใช้ซ�้ำ 30% และมแี ผนลดการน�ำน�ำ้ เขา้ จากประเทศมาเลเซยี สว่ นประเทศอิสราเอลนน้ั จะใชน้ ้�ำซ�ำ้ มากทีส่ ุด คอื 70% ของ ปริมาณน้ำ� ทิ้งชุมชน2 เอกสารอ้างอิง (1) กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม, แนวทางส�ำหรับการน�ำน�้ำกลับมาใช้ใหม่ของประเทศไทย (Water Reuse Guidelines) เข้าถึงจากเว็บไซต์ http://waterreusecenter.deqp.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id= 115&Itemid=23 (2) USEPA, Guidelines for water reuse, EPA/600/R-12/618, September 2012. No.33 May 2016
เร่ืองเดน่ ประจ�ำ ฉบับ 7 จิตติมา จารเุ ดชา การบำ� บัดน้ำ� Greywater ดว้ ยถงั บำ� บัดน้�ำเสียสำ� เร็จรูปแบบเติมอากาศ เพอื่ นำ� น้ำ� กลับมาใช้ใหม่ น�้ำท้ิงชุมชน (Domestic wastewater) แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ น�้ำเสยี จากการซักลา้ ง (Greywater) และน้ำ� จาก สว้ ม (Blackwater) “นำ�้ Greywater” คอื นำ้� ทเี่ กดิ จากกจิ กรรมการชำ� ระลา้ ง ทำ� ความสะอาดภายในบา้ นและทพี่ กั อาศยั เชน่ อาบน�้ำ ซักผ้า อา่ งล้างหนา้ อา่ งล้างมอื และห้องครวั เปน็ ต้น โดยน�้ำ Greywater จะประกอบด้วยสบู่ ยาสระผม ยาสฟี ัน เศษอาหาร น�้ำมันจากการท�ำอาหาร สารซักฟอกและเศษเส้นผม รวมถึงสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาดต่างๆ แต่ไม่มีการปนเปื้อนสิ่งขับถ่ายอย่างอุจจาระหรือปัสสาวะ น้�ำ Greywater จึงไม่เข้าข่ายน�้ำเสียท่ีต้องผ่านการบ�ำบัดแบบ เตม็ รูปแบบ น�้ำ Greywater มีปรมิ าณร้อยละ 50-80 ของปรมิ าณน้ำ� เสียครวั เรือนท้ังหมด จะเห็นได้ว่า น�้ำ Greywater จะ มีปริมาณมาก มีความสกปรกนอ้ ยและมีความเส่ยี งตอ่ จุลนิ ทรยี ก์ ่อโรคนอ้ ยเม่ือเปรยี บเทยี บกับนำ้� Blackwater ดังนนั้ การ นำ� นำ�้ Greywater กลบั มาใชใ้ หมด่ ว้ ยถงั บำ� บดั นำ�้ เสยี สำ� เรจ็ รปู ทนี่ ยิ มใชใ้ นการบำ� บดั นำ�้ เสยี จากครวั เรอื น และมกี ารใชง้ าน อย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นระบบท่ีติดต้ังและดูแลรักษาได้ง่าย มีวางจ�ำหน่ายในท้องตลาดจึงเป็นเทคโนโลยีทางเลือก หนง่ึ ในการบำ� บดั นำ้� เสยี จากครวั เรอื น ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม จงึ ไดท้ ำ� การศกึ ษาการบำ� บดั นำ้� เสยี จากการซกั ลา้ ง(Greywater) ดว้ ยถงั บำ� บดั นำ�้ เสยี ส�ำเร็จรูปเพ่ือน�ำกลับมาใช้ใหม่ เพ่ือศึกษาความเป็นไปได้ในการน�ำน้�ำ Greywater กลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้ นำ้� ประปา นำ้� ดบิ จากธรรมชาติ แกป้ ญั หาการขาดแคลนนำ�้ ในพน้ื ทปี่ ระสบภยั แลง้ ลดการปลดปลอ่ ยมลพษิ ลงสธู่ รรมชาติ สามารถ ชว่ ยเตมิ น้�ำคืนสแู่ หล่งน้ำ� ใตด้ ินและแหลง่ น�ำ้ ธรรมชาติได้อีกด้วย พ้นื ท่ศี กึ ษา (Study Site) รูปท่ี 1 อาคารพกั อาศัยของเจา้ หนา้ ทก่ี องพันทหารราบท่ี 11 รักษาพระองค์ No.33 May 2016
8 เรอ่ื งเด่นประจำ�ฉบบั แผนผงั และระบบบำ� บดั นำ�้ Greywater ด้วยถงั บำ� บดั น�้ำเสียส�ำเรจ็ รูปแบบเติมอากาศ รูปท่ี 2 แผนผงั ระบบบ�ำบัดนำ�้ Geywater ดว้ ยถงั บ�ำบดั น้�ำเสียสำ� เร็จรูป รูปที่ 3 ระบบบ�ำบัดนขน�้ำาGดe1yw,6a0t0erลดติ ว้ รยสถ�ำังหบรำ� ับบสัดมนา้ำ� ชเสกิ ีย5ส�ำคเนร็จรปู แบบเตมิ อากาศ ผลการทดสอบประสทิ ธภิ าพการบ�ำบัดนำ้� เสยี ด้วยถังบ�ำบดั นำ้� เสียส�ำเร็จรูป ผลการศกึ ษาได้ทำ� การเปรียบเทยี บประสทิ ธภิ าพการบำ� บดั ทางเคมีของผอู้ าศยั 1 ห้องทีม่ ผี พู้ ักอาศยั 1 คน(โสด)และ 5 คน (ครอบครวั ) และรวมผอู้ าศยั 2 หอ้ ง เทยี บกบั มาตรฐานการระบายนำ้� ทงิ้ จากระบบบำ� บดั นำ้� เสยี ชมุ ชน พบวา่ ถงั บำ� บดั นำ�้ เสยี สำ� เรจ็ รปู No.33 May 2016
เรอื่ งเดน่ ประจำ�ฉบับ 9 แบบเตมิ อากาศ มีค่า บีโอดี ของแขง็ แขวนลอย และไนโตรเจนท้งั หมด จาก 1 ห้อง สมาชกิ 1 คน และ 5 คน รวม 2 หอ้ ง สมาชกิ 6 คน มีคา่ ระหวา่ ง 1-14, 0-14 และ 0.8-11 ผ่านเกณฑค์ ่ามาตรฐานน้ำ� ท้งิ จากระบบบำ� บดั น�้ำเสียชมุ ชนค่าฟอสฟอรสั ท้ังหมดมี ค่าเกนิ เกณฑค์ า่ มาตรฐาน ดงั แสดงในตารางที่ 1 ตารางที่ 1 ค่าเฉลีย่ ตำ่� สดุ -สูงสุดของประสิทธภิ าพการบำ� บดั ทางเคมขี องถังบำ� บัดน้ำ� เสียส�ำเรจ็ รูปแบบเติมอากาศ พารามิเตอร์ มาตรฐานการระบายนำ�้ ทิง้ นำ้� ทง้ิ จากถังบำ� บดั น้ำ� เสยี ส�ำเรจ็ รปู จากระบบบำ� บัดนำ�้ เสยี ชุมชน 1 ห้อง 1 หอ้ ง 2 ห้อง (สมาชกิ 1 คน) (สมาชิก 5 คน) (สมาชกิ 6 คน) บีโอดี (มก./ล.) ≤ 20 2 - 5 1 - 7 8 - 14 ของแข็งแขวนลอย ≤ 80 2 - 12 0 - 7 2 - 14 (มก./ล.) ฟอสฟอรัสทัง้ หมด ≤2 0.2 - 5 0.4 - 2.8 1.0 - 11 (มก./ล.) ไนโตรเจนท้งั หมด ≤ 20 N/A 0.8 - 8.6 2.1 - 11 (มก./ล.) และผลการเปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ าพการบำ� บดั ทางชวี วทิ ยาของถงั บำ� บดั นำ้� เสยี สำ� เรจ็ รปู แบบเตมิ อากาศ พบวา่ นำ้� จากหอ้ ง คนโสดทม่ี สี มาชกิ 1 คน มคี า่ เฉลย่ี ของคา่ ตำ่� สดุ และคา่ สงู สดุ ตำ่� กวา่ หอ้ งครอบครวั ทมี่ สี มาชกิ 5 ถงึ 6 คน เนอื่ งจากประเทศไทยไมม่ ี มาตรฐานคุณภาพนำ�้ ทิ้งทางชวี วิทยา คณะผู้วิจัยจงึ ไดท้ �ำการเปรยี บเทียบคา่ การบำ� บัดทางชีววทิ ยาของถังบ�ำบดั น้�ำเสียส�ำเรจ็ รปู กบั คา่ มาตรฐานนำ้� ผวิ ดนิ ประเภทท่ี 3 พบวา่ นำ�้ จากหอ้ งคนโสดทม่ี สี มาชกิ 1 คน มคี า่ ผา่ นเกณฑค์ า่ มาตรฐานนำ�้ ผวิ ดนิ ประเภทที่ 3 สามารถนำ� น้�ำไปใชใ้ นการเกษตรได้ ดังแสดงผลการศกึ ษาในตารางที่ 2 ตารางที่ 2 ค่าเฉล่ยี ต�่ำสดุ -สูงสดุ และคา่ เฉล่ยี ของประสทิ ธิภาพการบ�ำบัดทางชีวภาพของถงั บ�ำบัดน�้ำเสยี ส�ำเรจ็ รูป พารามเิ ตอร์ มาตรฐานน้�ำผิวดิน น�ำ้ ทิ้งจากถงั บำ� บัดน�ำ้ เสียสำ� เร็จรปู ประเภทท่ี 3 1 ห้อง 1 ห้อง 2 หอ้ ง แบคทเี รยี กลมุ่ โคลิฟอรม์ (สมาชกิ 1 คน) (สมาชกิ 5 คน) (สมาชกิ 6 คน) ทง้ั หมด ≤ 200 2 - 5 1 - 7 8 - 14 (Total Coliform Bacteria) (เอม็ .พ.ี เอน็ /มล.) อีโคไล (E. Coli) 2 - 12 0 - 7 2 - 14 ≤ 40 (เอม็ .พี.เอ็น/มล.) หมายเหตุ น�้ำผิวดินประเภทที่ 3 (ได้แก่ แหล่งน�้ำท่ีได้รับน�้ำทิ้งจากกิจกรรมบางประเภท และสามารถเป็นประโยชน์เพ่ือ การอุปโภคและบริโภคโดยต้องผ่านการฆ่าเช้อื โรคตามปกติและผ่านกระบวนการปรับปรุงคณุ ภาพนำ้� ท่วั ไปกอ่ นและการเกษตร) สรปุ ผลการศึกษา 1. ถงั บำ� บดั นำ้� เสยี สำ� เรจ็ รปู แบบเตมิ อากาศขนาด 1,600 ลติ ร สามารถบำ� บดั นำ� เสยี จากการซกั ลา้ ง (Greywater) จากครวั เรอื น ทีม่ ีสมาชิกจำ� นวน 1 คน ถึง 6 คนไดด้ ี โดยมคี ่าบีโอดี ของแข็งแขวนลอย และไนโตรเจนท้ังหมด ผ่านเกณฑค์ า่ มาตรฐานนำ�้ ทิ้งจาก ระบบบำ� บัดน้�ำเสยี ชุมชน 2. น้�ำเสียจากการซักล้าง (Greywater) ที่ผ่านการบ�ำบัดด้วยถังบ�ำบัดน�้ำเสียส�ำเร็จรูปแบบเติมอากาศ ส�ำหรับห้องพักท่ีมี สมาชกิ 1 คน (คนโสด) มคี า่ แบคทเี รยี เฉลย่ี ตำ่� กวา่ คา่ มาตรฐานนำ�้ ผวิ ดนิ ประเภทท่ี 3 สามารถนำ� กลบั มาใชไ้ ดใ้ หมใ่ นทางการเกษตร ได้ ส่วนห้องที่มสี มาชิก 5 ถงึ 6 คน ควรมีการปรบั สภาพน้ำ� โดยการฆา่ เชือ้ แบคทเี รียก่อนนำ� กลับไปใชใ้ หม่ No.33 May 2016
10 เรอ่ื งเด่นประจ�ำ ฉบับ สุเทียบ ศรลี าชัย ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม ของภาคส่วนต่างๆ ต่อการน�ำน�้ำทีผ่ า่ นการบ�ำบัดแลว้ กลบั มาใช้ใหม่ เป็นท่ีทราบกันดีว่าปัญหาการขาดแคลนน้�ำใช้ในการอุปโภคและบริโภคในปัจจุบันน้ีเป็นปัญหาระดับชาติท่ีจ�ำเป็นต้อง ใหค้ วามสำ� คญั และแกไ้ ขอยา่ งเรง่ ดว่ น โดยแหลง่ นำ�้ ธรรมชาตทิ มี่ อี ยอู่ ยา่ งจำ� กดั ในปจั จบุ นั นน้ั เมอื่ เรยี งลำ� ดบั ความสำ� คญั ของการใชน้ ำ้� ตามนโยบายรัฐบาลแลว้ ระบวุ ่า อันดบั แรกต้องให้ความส�ำคญั เพอ่ื ใช้ในการอุปโภคและบรโิ ภค รองลงมากใ็ ช้เพ่อื รักษาสภาพทาง นเิ วศวทิ ยา นำ้� ทเ่ี หลอื จากกจิ กรรมดงั กลา่ วแลว้ จงึ จะสามารถนำ� ไปใชส้ ำ� หรบั กจิ กรรมอน่ื ๆ เชน่ กจิ กรรมภาคการเกษตร แตค่ วามเปน็ จรงิ ในปจั จบุ นั โดยเฉพาะในชว่ งฤดแู ลง้ แมแ้ ตน่ ำ�้ สำ� หรบั การอปุ โภคและบรโิ ภคยงั ขาดแคลนอยา่ งมาก ดงั นน้ั นำ�้ ใชส้ ำ� หรบั กจิ กรรมอนื่ ๆ ทม่ี ีความสำ� คัญในลำ� ดับถัดไปย่อมขาดแคลนตามไปด้วย ในขณะทีแ่ หล่งน้ำ� ธรรมชาติสำ� หรบั ใช้ในกจิ กรรมตา่ งๆ มอี ย่อู ยา่ งจ�ำกดั เหมอื นกบั ความมดื มดิ ทปี่ กคลมุ ไปทวั่ ทงั้ ถำ�้ แตก่ ย็ งั พอจะมแี สงสวา่ งทป่ี ลายอโุ มงค์ เมอ่ื พบวา่ แหลง่ นำ�้ อน่ื อกี แหลง่ หนงึ่ ทส่ี ามารถ จะทดแทนส�ำหรับการใช้น�้ำในบางกิจกรรมได้ซ่ึงก็คือ น�้ำท้ิงจากภาคส่วนต่างๆ ท่ีผ่านการบ�ำบัดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นน�้ำทิ้งจากภาค ชุมชน อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม โดยปริมาณของน�้ำดังกล่าวมีปริมาณที่แน่นอนและยังมีแนวโน้มท่ีเพ่ิมข้ึนตามกิจกรรมที่ กล่าวมาแล้ว เพียงแต่ยังขาดขอ้ มลู ดา้ นต่างๆ ในการตดั สนิ ใจทีจ่ ะน�ำไปใช้ จากการศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของภาคส่วนต่างๆ ต่อการน�ำน�้ำท่ีผ่านการบ�ำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ โดยการใช้ แบบสอบถามและสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ ในครง้ั นี้ เปน็ อกี หนงึ่ ชอ่ งทางทส่ี ามารถจะนำ� เสนอความรู้ ทศั นคติ ความตอ้ งการ และพฤตกิ รรม การน�ำน้�ำกลับมาใช้ใหม่ของภาคส่วนต่างๆ ส�ำหรับใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจด�ำเนินการใดๆ เก่ียวกับการรณรงค์และส่งเสริม การน�ำนำ�้ กลับมาใชใ้ หมเ่ พอ่ื บรรเทาหรือลดปัญหาการขาดแคลนแหลง่ น้�ำสำ� หรับใชใ้ นกิจกรรมตา่ งๆ ตอ่ ไป วธิ ีการส�ำรวจข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม 1. การเลอื กเปา้ ประสงคผ์ ใู้ ชน้ ำ�้ แบบสอบถามไดด้ ำ� เนนิ การในปี พ.ศ. 2556 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ รวบรวมขอ้ มลู ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่ ขอ้ มลู ทว่ั ไปของหนว่ ยงาน/สถานประกอบการ ขอ้ มลู การใชน้ ำ้� ปรมิ าณการใชน้ ำ้� และแหลง่ นำ้� ทใี่ ชอ้ ยใู่ นปจั จบุ นั ขอ้ มลู นำ�้ เสยี และระบบบ�ำบัดน้�ำเสีย ข้อมูลการหมุนเวียนน�้ำ ความต้องการใช้น�้ำท่ีผ่านการบ�ำบัด ค่าธรรมเนียมการใช้น�้ำท่ีผ่านการบ�ำบัด จากโรงบำ� บดั นำ้� เสยี ความตอ้ งการใชป้ ระโยชนจ์ ากนำ้� ทผ่ี า่ นการบำ� บดั จากโรงบำ� บดั นำ�้ เสยี แทนนำ�้ ทใี่ ชใ้ นปจั จบุ นั รวมถงึ กจิ กรรม No.33 May 2016
เรื่องเด่นประจ�ำ ฉบับ 11 ท่ีต้องการน�ำน�้ำไปใช้ การเข้าใจและยอมรับค่าธรรมเนียมการใช้น�้ำท่ีผ่านการบ�ำบัดจากโรงบ�ำบัดน�้ำเสีย และอัตราค่าธรรมเนียม ทยี่ อมรับได้ โดยแบง่ ตามภาคส่วนทีม่ ีการน�ำน�้ำกลับมาใช้ประโยชน์ คอื ภาคชุมชน ภาคเกษตรกรรม และภาคอตุ สาหกรรม 2. องคป์ ระกอบของแบบสอบถาม มอี งค์ประกอบต่างๆ 5 ส่วน คอื ข้อมลู ทว่ั ไป ขอ้ มูลการใชน้ ำ้� ขอ้ มูลความรู้และการ จัดการน�้ำเสีย ข้อมูลการหมุนเวียนน�้ำและการใช้ประโยชน์จากน�้ำที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพน้�ำ และความพึงพอใจในการน�ำน�้ำ กลบั มาใช้ซำ้� และการจดั เก็บค่าธรรมเนียมนำ้� ที่ผ่านการปรบั ปรงุ คุณภาพนำ�้ 3. วธิ กี ารกระจายแบบสอบถาม โดยการจัดส่งแบบสอบถามไปยังภาคสว่ นตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ภาคชมุ ชน ภาคเกษตรกรรม และ ภาคอตุ สาหกรรม ผา่ นชอ่ งทางการสง่ ไปรษณยี ์ โทรสาร และอเี มล์ ซงึ่ ในการสำ� รวจครง้ั นมี้ ขี อบเขตการจดั เกบ็ ขอ้ มลู แตล่ ะภาคสว่ นให้ ไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 100 ฉบบั ดงั นน้ั จงึ มจี ำ� นวนแบบสอบถามรวมกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ 300 ชดุ เมอ่ื ไดร้ บั แบบสอบถามคนื กลบั มาแลว้ ภาคสว่ นใด มีจ�ำนวนไม่ครบตามเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ จะท�ำการส�ำรวจข้อมูลเพิ่มเติมโดยการลงพ้ืนท่ีสัมภาษณ์เชิงลึกต่อกลุ่มเป้าหมาย ขัน้ ตอนการสำ� รวจขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสอบถามแสดงดังรปู ท่ี 1 แบบสอบถาม - ภาคชุมชน - ภาคเกษตรกรรม - ภาคอตุ สาหกรรม ไมเ่ หน็ ชอบ คณะกรรมการพจิ ารณา เหน็ ชอบ แก้ไขแบบสอบถาม กระจายแบบสอบถาม ได้รับแบบสอบถามตำ�่ กว่า 1) ไปรษณยี ์ เปา้ หมายทีก่ ำ� หนด 2) โทรสาร ออกพนื้ ทส่ี มั ภาษณ์เชงิ ลึก 3) อเี มล์ ได้รบั แบบสอบถาม ครบ 100 ชุด/ ภาคสว่ น สรุปแบบสอบถาม รูปท่ี 1 ขัน้ ตอนการส�ำรวจข้อมลู โดยใชแ้ บบสอบถาม ผลการสำ� รวจแบบสอบถาม แหลง่ นำ้� ใชข้ องภาคสว่ นตา่ งๆ พบวา่ แหลง่ นำ�้ ใชห้ ลกั ของภาคครวั เรอื น คอื นาํ้ ประปา คดิ เปน็ รอ้ ยละ 96 ภาคเกษตรกรรม คือ แหลง่ น�้ำธรรมชาติ คดิ เป็นรอ้ ยละ 62 และภาคอุตสาหกรรม คอื นาํ้ ประปา คิดเปน็ ร้อยละ 52 ความเพียงพอของแหลง่ น�ำ้ ใช้ ทัง้ 3 ภาคส่วน พบวา่ ส่วนใหญ่มนี ้�ำใช้อย่างเพียงพอ ยกเว้น ผู้ใชน้ ้ำ� จากแหล่งนำ�้ ธรรมชาติ จะขาดแคลนน�ำ้ ช่วงฤดแู ล้ง ระหว่าง เดอื นมนี าคม ถงึ เดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมท่ใี ช้แหลง่ น้ำ� ธรรมชาตเิ ปน็ หลกั No.33 May 2016
12 เร่ืองเด่นประจำ�ฉบับ ตารางท่ี 1 แสดงขอ้ มูลแหลง่ น�้ำใช้ของภาคส่วนต่างๆ (รอ้ ยละ) แหล่งน้�ำใช้ ชุมชน เกษตรกรรม อุตสาหกรรม 6 52 ประปา 96 62 16 14 28 ธรรมชาติ - 18 4 บาดาล 4 อนื่ ๆ เช่น น้�ำฝน บ่อขุด บงึ - ปริมาณและการจัดการน�้ำเสีย พบว่า ภาคชุมชนมีระบบบ�ำบัดน�้ำเสีย คิดเป็นร้อยละ 27 โดยส่วนมากจะเป็นอาคาร ขนาดใหญ่ ไดแ้ ก่ หา้ งสรรพสนิ คา้ และโรงพยาบาล ภาคเกษตรกรรมมรี ะบบบำ� บดั นำ�้ เสยี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 13 มอี ยใู่ นการเลย้ี งปศสุ ตั ว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงหมู ภาคอุตสาหกรรมมีระบบบ�ำบัดน�้ำเสีย คิดเป็นร้อยละ 59 ส่วนใหญ่เป็นระบบบ�ำบัดน้�ำเสียประเภท บ่อเติมอากาศ (Aerated Lagoon) รองลงมาคือ ระบบแอคทิเวทเตดสลัดจ์ (Activated Sludge; AS) ตารางท่ี 2 แสดงข้อมูลการจัดการน้ำ� เสียของภาคสว่ นตา่ งๆ (รอ้ ยละ) การจดั การนำ้� เสยี ชุมชน เกษตรกรรม อุตสาหกรรม 13 59 มรี ะบบบ�ำบัดนำ�้ เสยี 27 87 12 - 13 ไมม่ รี ะบบบำ� บัดนำ้� เสีย 62 - 16 สง่ ใหก้ ารนิคมฯ/บรษิ ัทรับบ�ำบดั - ไม่มีข้อมูล 11 การหมนุ เวยี นนาํ้ ทผี่ า่ นการบำ� บดั แลว้ กลบั มาใชป้ ระโยชน์พบวา่ ภาคอตุ สาหกรรมเปน็ ภาคสว่ นทม่ี กี ารหมนุ เวยี นนำ้� กลบั มาซำ้� มากทส่ี ดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ40รองลงมาคอื ภาคชมุ ชนคดิ เปน็ รอ้ ยละ17และภาคเกษตรกรรมคดิ เปน็ รอ้ ยละ13ซงึ่ การหมนุ เวยี นนาํ้ ทผี่ า่ นการบำ� บดั แลว้ กลบั มาใชป้ ระโยชน์ สอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู การจดั การนำ้� เสยี คอื หากมรี ะบบบำ� บดั นำ�้ เสยี จะมกี ารนำ� นำ�้ กลบั มาใชซ้ ำ�้ โดยกจิ กรรมหลกั ที่มกี ารน�ำน�ำ้ กลับมาใชซ้ ้�ำ คอื รดนำ้� ตน้ ไม้ ลา้ งพนื้ ตารางท่ี 3 แสดงการหมนุ เวยี นน�้ำกลบั มาใช้ใหมข่ องภาคสว่ นตา่ งๆ การหมุนเวียนนำ�้ กลับมาใช้ใหม่ (ร้อยละ) ชุมชน เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม 13 40 มีการหมนุ เวียนน�ำ้ 17 87 52 - 8 ไม่มกี ารหมุนเวยี นน้�ำ 83 ไมม่ ขี อ้ มูล - ความตอ้ งการน�ำนำ�้ กลับมาใชซ้ ำ้� พบว่า ทกุ ภาคส่วนมคี วามต้องการน�ำนำ�้ กลบั มาใช้ซ้�ำใกลเ้ คียงกนั คอื ร้อยละ 41 - 46 ซ่งึ สาเหตุหลกั ทตี่ ้องการน�ำนำ้� กลบั มาใชซ้ �้ำ คอื ประหยัดค่าใช้จา่ ย และทดแทนแหล่งน�้ำปัจจุบัน โดยภาคเกษตรกรรมทีส่ ว่ นมาก ใชน้ ำ�้ จากแหลง่ นำ�้ ธรรมชาติ เชน่ แมน่ ำ้� ลำ� คลอง ตอ้ งการนำ� นำ�้ กลบั มาใชซ้ ำ้� เนอื่ งจากขาดแคลนนำ�้ ในฤดแู ลง้ ในขณะทคี่ ณุ ภาพนำ้� ทท่ี ุกภาคส่วนมคี วามหว่ งกงั วล คอื ความสะอาด และเชอ้ื โรคโดยภาคการเกษตรมีความกงั วลเพ่มิ เติมเร่อื งความเคม็ ของน�้ำ สว่ น ภาคอตุ สาหกรรมมคี วามกงั วลเพม่ิ เตมิ เรอ่ื งความกระดา้ ง และนอกจากความกงั วลในเรอ่ื งคณุ ภาพนำ�้ แลว้ ยงั มคี วามกงั วลในประเดน็ ของเทคโนโลยที นี่ �ำมาปรบั ปรงุ คุณภาพน�ำ้ ความเพียงพอ และระบบทอ่ ส่งน�ำ้ No.33 May 2016
เรอ่ื งเด่นประจำ�ฉบบั 13 ตารางท่ี 4 แสดงความตอ้ งการน�ำน�้ำกลับมาใชซ้ ้ำ� ของภาคส่วนต่างๆ ความต้องการน�ำนำ�้ กลบั มาใช้ซ�ำ้ (รอ้ ยละ) ชุมชน เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม 44 46 ต้องการ 41 51 32 5 22 ไมต่ อ้ งการ 59 ไม่ใหข้ ้อมูล - ความยินดีจ่ายค่าน�้ำที่มีการบ�ำบัดหรือปรับปรุงคุณภาพแล้ว พบว่า อัตราค่าน�้ำที่เกิดจากการปรับปรุงคุณภาพน�้ำให้ได้ ตามต้องการ หรือซ้ือจากหน่วยงานที่จัดหาน�้ำที่ผ่านบ�ำบัดให้ โดยภาคส่วนที่ความยินดีจ่ายมากที่สุด คือ ภาคชุมชน คิดเป็น รอ้ ยละ 78 สว่ นภาคเกษตรกรรม คดิ เป็นร้อยละ 46 และอตุ สาหกรรม คดิ เป็นร้อยละ 48 ตารางท่ี 5 แสดงการยอมรบั ในการจ่ายค่าธรรมเนียมค่าน�ำ้ ท่ีผา่ นการปรับปรุงคณุ ภาพของภาคส่วนตา่ งๆ การยอมรับในการจา่ ยค่าธรรมเนยี ม (รอ้ ยละ) ชุมชน เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ยอมรบั 78 46 48 ไม่ยอมรับ 11 43 19 ไม่แสดงความคดิ เหน็ 11 11 33 ความคิดเหน็ ของความเหมาะสมของคา่ ธรรมเนียมคา่ น�ำ้ ทมี่ กี ารบำ� บดั หรือปรับปรุงคณุ ภาพแลว้ ของภาคชุมชน ยินดีจ่าย คา่ น�ำ้ 7 บาทตอ่ ลกู บาศก์เมตร ภาคเกษตรกรรม ยนิ ดจี า่ ยคา่ น�ำ้ 4 บาทตอ่ ลูกบาศก์เมตร และภาคอุตสาหกรรม ยนิ ดจี ่ายค่าน้ำ� 5 บาทต่อลกู บาศก์เมตร สรุปผลการศกึ ษา น้�ำจากแหล่งน้�ำท้ิงท่ีผ่านการบ�ำบัดแล้วสามารถที่จะน�ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้หากมีข้อมูลหรือแนวทางการน�ำไปใช้ หรือส่งเสริมอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อทดแทนแหล่งน้�ำธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจ�ำกัด โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรม ซ่งึ ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากแบบสอบถามภาคสว่ นตา่ งๆ แสดงให้เห็นว่าภาคชุมชน และ ภาคอตุ สาหกรรม ใช้นำ�้ ประปาเปน็ หลกั ในขณะท่ี ภาคเกษตรกรรมใชน้ ำ�้ ธรรมชาตเิ ปน็ หลกั และขาดแคลนในชว่ งฤดแู ลง้ การนำ� นำ�้ กลบั มาใชใ้ หมม่ สี ดั สว่ นมากทสี่ ดุ ในภาคอตุ สาหกรรม ซ่ึงอาจจะเน่ืองมาจากภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนของการบ�ำบัดน้�ำเสียมากที่สุด โดยจะน�ำมาใช้ส�ำหรับรดน้�ำต้นไม้ และล้างพื้น ในขณะทคี่ วามต้องการนำ� นำ้� กลับมาใช้ซ้�ำใกลเ้ คียงกัน โดยมีสาเหตหุ ลกั เพ่อื การประหยัดค่าใชจ้ า่ ย และ ทดแทนแหล่งน�ำ้ ปจั จุบัน สว่ นความยนิ ดจี า่ ยคา่ นำ้� ทม่ี กี ารบำ� บดั หรอื ปรบั ปรงุ คณุ ภาพแลว้ พบวา่ ภาคชมุ ชนยนิ ดจี า่ ยมากทสี่ ดุ รองลงมาคอื ภาคเกษตรกรรม และภาคอตุ สาหกรรม ตามลำ� ดบั No.33 May 2016
14 ติดตามเฝ้าระวัง จนิ ดารัตน์ เรืองโชตวิ ิทย์ การคดั แยก/รีไซเคลิ E-waste นอกระบบ (Informal Dismantling Recycling E-waste Sector) ในประเทศจีน แหลง่ กำ� เนิด E-waste ในประเทศจีน คนเมือง ส่งผลถึงความสามารถที่จะเป็นเจ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ แหล่งก�ำเนิด E-waste ในประเทศจีน ส่วนใหญ่มาจาก ท�ำให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าเก่าหรือตกรุ่นจึงถูกน�ำซ่อมแซมและขายต่อ 3 แหลง่ ได้แก่ การบรโิ ภคเคร่อื งใช้ไฟฟา้ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ให้กับคนในชนบท ดังนั้นความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองของ ภายในประเทศ การนำ� เขา้ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ และอปุ กรณอ์ เิ ลคทรอนกิ ส์ คนในชนบท ประกอบกับอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระยะส้ัน จากต่างประเทศ และจากโรงงานผลิตเคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ จึงเป็นตัวเร่งให้เกิดกิจการรับซื้อของเก่าตามบ้าน กิจการขาย อิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าประเทศจีนมี เครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองจากเมืองสู่ชนบท รวมถึงกิจการคัดแยก- การน�ำเข้า E-waste ผิดกฎหมายจากต่างประเทศเป็นจ�ำนวนมาก รีไซเคลิ นอกระบบในประเทศจีน เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป รวมท้ังประเทศในทวีปเอเชีย ตลอดจน เกาหลีใต้ และญี่ปนุ่ จงึ สง่ ผลให้ประเทศจีนเปน็ แหล่งรวม E-waste การคัดแยก/รไี ซเคิล E-waste นอกระบบ ทม่ี ากทสี่ ุดในโลก และจากการน�ำเข้า E-waste ทผ่ี ิดกฎหมายเข้ามา การประกอบการคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ ในประเทศจีนดังกล่าว ก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลกับกิจการ (Informal E-waste Dismantling Recycling Sector) หรอื การประกอบ คดั แยก-รไี ซเคลิ E-waste นอกระบบ ทม่ี กี ระบวนการคดั แยก-รไี ซเคลิ การคัดแยก/รีไซเคิล E-waste แบบผิดกฎหมาย (Illegal E-waste ท่ีมีราคาถูกและไม่รับผิดชอบต่อผลกระทบส่ิงแวดล้อม รวมทั้งยัง Recycling Sector) หรอื การประกอบการคดั แยก/รีไซเคลิ E-waste ผลักภาระการก�ำจัดของเสียอันตรายท่ีเกิดจากกระบวนการรีไซเคิล ราคาถูก ( Low Cost Recycling Site) พบมากที่สดุ ใน Guiyu และ ให้กับท้องถิ่นในพื้นที่ นอกจากนั้น ประเทศจีนยังเป็นประเทศท่ีมี Taizhou โดยที่ Guiyu เปน็ เมอื งศนู ยก์ ลางรไี ซเคลิ E-waste ท่ีใหญ่ การสง่ ออกเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ สม์ ากทสี่ ดุ โดยมมี ลู คา่ ถงึ ท่สี ดุ ของประเทศจนี มีคนงานมากถึง 150,000 คน รวมกบั ผู้อพยพ 227.46 พนั ลา้ นดอลลารส์ หรฐั จงึ ทำ� ใหม้ ี E-waste บางสว่ นทเ่ี กดิ จาก เขา้ มาทำ� งานจากเมอื งอน่ื กวา่ 100,000 คน โดยทคี่ นทำ� งานสว่ นใหญ่ กระบวนการผลิตของโรงงานด้วย ดังนั้นปัจจุบันประเทศจีนจึงเป็น เป็นผู้หญงิ และเดก็ Guiyu มโี รงงานคัดแยก/รีไซเคลิ ในระบบจ�ำนวน ประเทศทมี่ ีการผลติ การบรโิ ภค และการส่งออกเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าและ 300 บริษัท และการคัดแยก/รีไซเคิลนอกระบบมากกว่า 3,000 อิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดในโลก ประกอบกับผู้บริโภคเครื่องใช้ไฟฟ้า แห่ง ส่วน Taizhou เป็นเมืองท่ีมีการประกอบการคัดแยก/รีไซเคิล ส่วนใหญ่ของประเทศจีนนิยมขายเคร่ืองใช้ไฟฟ้าเก่าให้กับผู้รับซื้อ นอกระบบมาร่วม 25 ปี โดยมีการน�ำเข้า E-waste เข้ามาในเมือง ของเก่าตามบ้านเรือน ซึ่งจะมีการเก็บรวบรวมและส่งต่อให้กับ และมปี รมิ าณผลผลติ จากการคดั แยก/รไี ซเคลิ จำ� นวน 2.2 ลา้ นตนั /ปี กิจการขายเคร่ืองใช้ไฟฟ้ามือสอง เพื่อน�ำไปปรับปรุงซ่อมแซม การประกอบการคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ และน�ำไปขายต่อไป และบางส่วนที่ไม่สามารถซ่อมได้จะถูกส่งไป เป็นการประกอบการรีไซเคิลท่ีมีราคาถูก ส่งผลให้มีอัตราการขยาย คดั แยก/รไี ซเคิลนอกระบบ ท้งั นี้ ปรมิ าณ E-waste ประมาณ 60 % ตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศที่ก�ำลังพัฒนา ซ่ึงรวมถึง ในประเทศจีนจะถูกส่งต่อไปยังกิจการคัดแยก/รีไซเคิลนอกระบบ ประเทศจีนด้วย ท้ังน้ีเนื่องจากประชาชนในประเทศจีนยังมีความ นอกเหนือจากน้ัน สภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศจีน เป็น ตอ้ งการเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ มอื สองประกอบกบั ผใู้ ชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ เกา่ หรอื ปจั จยั หนงึ่ ทกี่ ำ� หนดรปู แบบการคดั แยก/รไี ซเคลิ E-waste ในประทศจนี เสอื่ มสภาพ นยิ มขายเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ เกา่ ใหก้ บั ผรู้ บั ซอื้ ของเกา่ ตามบา้ น กล่าวคือ ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างรายได้ของคนชนบทกับ ซ่ึงส่งผลให้ผู้ประกอบการคัดแยก/รีไซเคิลนอกระบบสามารถหา No.33 May 2016
ตดิ ตามเฝา้ ระวงั 15 ซ้ือวัตถุดิบ E-waste เพ่ือประกอบการได้ง่ายและมีปริมาณวัตถุดิบ ใกล้กับสถานประกอบการคดั แยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ โดย E-waste เป็นจ�ำนวนมาก นอกจากนี้ การประกอบการคัดแยก/ พบปรมิ าณ PCBs ซง่ี ประกอบดว้ ย tri, tetra-, penta-, hexa - PCBs รีไซเคิลนอกระบบน้ี นอกจากจะส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและ มปี รมิ าณเทา่ กับ 9.01, 5.56, 12.93 และ 3.13 mg/kg ตามล�ำดบั ต่อสุขภาพของคนงานแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อระบบการเรียกคืน ท้ังน้ีปริมาณความเข้มข้นของ PCBs ที่พบมีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐาน ซากผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าของผู้ผลิตตามนโยบายของรัฐบาล ของประเทศ 2-3 เท่า และเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ PCBs ท่ี เนื่องจากการคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบสามารถดึงเอา ตรวจพบบรเิ วณพนื้ ทโ่ี รงงานรไี ซเคลิ ขนาดใหญ่ (large scale e-waste วตั ถดุ บิ E-waste จากผูบ้ รโิ ภคผา่ นทางช่องทางผูร้ บั ซือ้ ของเกา่ ตาม recycling plants) ท่ี Wenlin, Lugiao และ Guiyu พบวา่ ปรมิ าณ PCBs บ้านได้งา่ ย และสะดวกกวา่ ทำ� ใหโ้ รงงานรีไซเคลิ ในระบบขาดแคลน ในการประกอบการคดั แยก/รไี ซเคลิ E-waste นอกระบบ ที่ Taizhou วัตถุดิบ E-waste และจากประสบการณ์การจัดการ E-waste ของ มีค่าสูงกว่าค่าสูงสุดท่ีพบในโรงงานรีไซเคิลขนาดใหญ่ที่มีระบบการ ประเทศจีน พบว่า นโยบายการห้าม หรือยับยั้ง การประกอบการ จัดการท่ีดีกว่า นอกจากนี้ยังพบการปนเปื้อนโลหะหนัก Pb, Cd, คัดแยก/รีไซเคิลนอกระบบ รวมทั้งการเก็บรวบรวม E-waste ของ Cr, Zn, As, Hg และ Cu = 6082.9, 42.3, 771.5, 5995.6, 36.6, ผู้รับซื้อของเก่าตามบ้านไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดวัตถุดิบ 4.1 และ 2364.2 mg/kg ตามล�ำดับ และพบว่าการปนเปื้อนโลหะ E-waste ปอ้ นโรงงานรไี ซเคลิ แบบเปน็ ทางการไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ หนกั ดงั กลา่ วมกี ารเคลอื่ นทจ่ี ากสถานทป่ี ระกอบการคดั แยก/รไี ซเคลิ ดังน้นั ระบบการรไี ซเคิลในระบบ (Formal Recycling System) ตาม E-waste นอกระบบดังกล่าวไปยังบริเวณใกล้เคียงด้วย และจาก กฎหมายควรพิจารณาน�ำเอาการประกอบการรีไซเคิลนอกระบบ การศกึ ษา Ecology risk assessment พบวา่ ทงั้ PCBs และโลหะหนกั เข้ามาเป็นส่วนหน่ึงในระบบการจัดการ E-waste ด้วย แต่อย่างไร มีความเส่ียงสูงที่จะกระทบต่อระบบนิเวศในพ้ืนท่ีดังกล่าว และ ก็ตามรัฐบาลควรมีนโยบายด้านการพัฒนากระบวนการคัดแยก/ ความเสย่ี งทีจ่ ะสง่ ผลกระทบตอ่ สุขภาพของผใู้ หญแ่ ละเดก็ ดว้ ย รีไซเคิลนอกระบบให้มีกระบวนการท่ีถูกหลักวิชาการ และไม่ส่ง ผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการท�ำงาน ของคนงานให้มีความปลอดภัย ตลอดจนพิจารณาเพ่ิมช่องทาง ใหก้ ารประกอบการนอกระบบเหลา่ นเี้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในระบบ ดงั นนั้ กุญแจส�ำคัญของการจัดการปัญหา E-waste นอกระบบ คือการ พฒั นากลไก/สรา้ งแรงจงู ใจ/สรา้ งระบบการเงนิ ทส่ี ามารถดงึ เอาการ ประกอบการรีไซเคิลนอกระบบที่มีการพัฒนากระบวนการรีไซเคิล ท่ีไม่ส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและสุขภาพเข้ามาไว้ในระบบ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้วัตถุดิบ E-waste ส่งเข้าในกระบวนการรีไซเคิล ในระบบตามกฎหมายของประเทศได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ การปนเปื้อนของสารพิษบริเวณโดยรอบของพื้นที่การ ตวั อยา่ งวธิ ีการคัดแยก/รไี ซเคลิ E-waste นอกระบบ ได้แก่ คัดแยก/รีไซเคลิ E-waste นอกระบบ 1. การร้ือแยกช้ินส่วนทางกายภาพ โดยใช้ค้อน ส่ิว ไขควง การประกอบการคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบเป็น และใช้มือเปล่า สาเหตุหลักท่ีท�ำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษในสิ่งแวดล้อม ใน 2. การแยกช้ินส่วน แยกแผงวงจรไฟฟ้า โดยใช้ความร้อน ประเทศก�ำลังพัฒนาหลายประเทศรวมถึงประเทศจีน พบการปน จากเตาถ่าน เปื้อนโลหะหนัก Polychlorinated biphenyls ในดิน แหล่งน้�ำ และ 3. การสกดั โลหะในอา่ งนำ้� กรด เพอ่ื เอาทองและโลหะมคี า่ อน่ื ๆ นำ้� ใตด้ นิ ตวั อยา่ งเชน่ พนื้ ทกี่ ารคดั แยก/รไี ซเคลิ E-waste นอกระบบ 4. การแกะและแปรสภาพพลาสตกิ โดยปราศจากระบบการ ใน Longtang, South China พบการปนเปื้อนโลหะหนักบริเวณ หมุนเวยี นอากาศทีด่ ี ผิวดินที่มีการเผา E-waste หรือมีกระบวนการแยกโลหะมีค่าจาก 5. การเผาสายไฟ เพือ่ ต้องการทองแดงหรอื เผาเศษช้นิ สว่ น E-waste โดยใช้สารละลายกรด โดยมปี รมิ าณโลหะหนกั ทีพ่ บ ไดแ้ ก่ ท่ีไม่ตอ้ งการในที่เปิดโลง่ Cd (>0.39 mg/kg) Cu (>1981 mg/kg) รวมทั้งแหล่งน้�ำในชุมชน 6. การก�ำจัดของเสียอันตรายที่ได้จากกระบวนการคัดแยก/ ก็พบการปนเปื้อนของโลหะหนัก ซ่ึงจะท�ำให้นาข้าวท่ีใช้น�้ำของ รีไซเคลิ ที่ไม่ถกู วิธี โดยท้งิ ไวต้ ามทงุ่ นาหรือท่ีสาธารณะ แหล่งนำ้� ที่ปนเป้ือนโลหะหนกั มีความเส่ยี งท่จี ะพบโลหะหนกั ตกค้าง 7. การเติมหมึกพิมพ์ในตลับหมึกเก่า ซึ่งวิธีการคัดแยก/ ในผิวดนิ ของนาขา้ วดว้ ย รไี ซเคลิ E-waste ลกั ษณะนจ้ี ะทำ� ใหม้ สี ารพษิ ตกคา้ งอยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ ม ส่วนท่ี Taizhou พบการปนเปื้อนของ 16 PCBs เช่น ตะกว่ั (lead) สารอนิ ทรียต์ กคา้ งยาวนาน เชน่ PBDEs รวมทั้ง (Polychlorinated biphenyls) และโลหะหนกั 7 ชนิดทบี่ รเิ วณผวิ ดิน ไดออกซิน และ ฟิวแรน No.33 May 2016
16 ตดิ ตามเฝา้ ระวัง ผลกระทบของการคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ E-waste ที่ผิดกฎหมาย แหล่งการเก็บรวบรวม E-waste จากบ้าน (Informal Dismantling Recycling E-waste) กับการคัดแยก/ เรือนที่มีประสิทธภิ าพ โดยคนรับซื้อของเก่าตามบา้ น รีไซเคิล E-waste ในระบบ (Formal Dismantling Recycling 2. การคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ มีค่าใช้จ่ายใน E-waste) การด�ำเนินการคัดแยก/รีไซเคิลที่มีต้นทุนต�่ำ เพราะส่วนใหญ่ใช้การ รัฐบาลประเทศจีนประสบความส�ำเร็จในการส่งเสริมให้เกิด คัดแยกด้วยมือ รวมทั้งมีการใช้เทคโนโลยีและ/หรือมีกระบวนการ การลงทนุ ของภาคเอกชนในอตุ สาหกรรม Formal Recycling E-waste คัดแยก/รไี ซเคิลราคาถูกทีไ่ ม่คำ� นงึ ถึงผลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม รวมทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ ท�ำให้เกิดอุตสาหกรรม Formal 3. การคดั แยก/รีไซเคลิ E-waste นอกระบบ มปี ระสทิ ธภิ าพ Recycling E-waste ทมี่ กี ระบวนการ recycle ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ และ การคัดแยกช้ินส่วนท่ีสามารถน�ำกลับมาใช้ใหม่หรือโลหะที่มีค่าที่ได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นเป็นจ�ำนวนมาก โดยเฉพาะใน จากกระบวนการคัดแยก/รีไซเคิลด้วยมือมีประสิทธิภาพมากกว่า Beijing, Tianjin, Shanghai, Jiangsu และ Guandong นอกจากนี้ การคดั แยกด้วยเครอ่ื งจกั ร ต้ังแต่ปี 2004 ประเทศจีนได้ริเริ่มโครงการน�ำร่องเพ่ือการจัดการ 4. การคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ มีแหล่งรับซ้ือ E-waste ในระดับประเทศ 4 แห่ง (Hangzhou Dadi, Beijing ชน้ิ สว่ นอเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ สี่ ามารถนำ� กลบั มาใชใ้ หมห่ รอื โลหะมคี า่ จาก Huaxing, Qingdao Haier และ Tianjin Datong) โดยมีการน�ำร่อง กระบวนการคัดแยก/รีไซเคิลเป็นจ�ำนวนมาก และสามารถรองรับ ทดลองการออกแบบระบบเครือข่ายการเก็บรวบรวม E-waste ประเภทของชน้ิ ส่วนทห่ี ลากหลายไดท้ ุกประเภท การก�ำหนดมาตรฐานการจัดการ E-waste การบังคับใช้กฎหมาย 5. การคดั แยก/รไี ซเคลิ E-waste นอกระบบ สามารถทำ� ได้ และการพัฒนาเทคโนโลยีการ recycling แต่อยา่ งไรกต็ าม โครงการ ทกุ ทที่ กุ เวลา ไมต่ อ้ งการสถานทที่ ต่ี ง้ั แนน่ อน สามารถทำ� ไดท้ งั้ ในบา้ น น�ำร่องของรัฐบาล และระบบการเรียกคืนซากผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิต ท่ีพักอาศัยหรือที่สาธารณะ หรือสามารถเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา ยังไม่ประสบความส�ำเร็จ และไม่สามารถต่อสู้กับการประกอบการ หากมีการจบั กุม หรือ สงั่ ปดิ หรือสามารถทำ� ไดใ้ นเวลากลางคืนเพือ่ Informal Recycling E-waste ได้ โดยเฉพาะในส่วนของปรมิ าณการ หลีกเล่ยี งการตรวจจบั จากเจ้าหนา้ ท่ี เก็บรวบรวม E-waste คืนจากผู้บริโภคจากช่องทางการรวบรวม ที่ด�ำเนินการโดยเอกชนหรือผู้ผลิตสินค้าท่ีมีไม่เพียงพอและไม่มี แนวทางการจัดการการคัดแยก/ รีไซเคลิ E - waste นอกระบบ ประสทิ ธภิ าพ ประกอบกับ Formal Recycling E-waste มตี น้ ทุนการ ของประเทศจีนที่ผา่ นมา รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มจากกระบวนการ รไี ซเคลิ ทมี่ รี าคาสงู ทง้ั นเ้ี นอื่ งจาก การเกบ็ รวบรวม E-waste นอกระบบ เชน่ คนรบั ซอ้ื ของเกา่ ตามบา้ น 1. การใช้กฎหมาย โดยห้ามไม่ใหม้ ีการด�ำเนินการ Informal เป็นสาเหตสุ �ำคัญทีท่ �ำให้อุตสาหกรรม Formal Recycling E-waste Recycling E-waste แต่การจัดการดังกล่าวควรต้องมีการค�ำนึงถึง ขาดแคลนวตั ถดุ บิ E-waste ปอ้ นเขา้ สกู่ ระบวนการผลติ เนอ่ื งจากคน ผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ และสงั คมของคนงาน ซงึ่ เมอ่ื มกี ารหา้ มไมใ่ ห้ รับซื้อของเก่าสามารถที่จะซื้อเคร่ืองใช้ไฟฟ้าเส่ือมสภาพ/ตกรุ่นจาก ประกอบการ Informal Recycling E-waste จะส่งผลให้เกิดการ ครัวเรือนในราคาถูก และน�ำมาคัดแยก-รีไซเคิลนอกระบบท่ีมีราคา เลิกจา้ งงานซ่งึ จะกระทบถงึ ลูกจ้างในระบบดงั กลา่ วเป็นจำ� นวนมาก ถกู กว่า นอกจากน้ี การคดั แยก E-waste ดว้ ยมอื ใน Informal Recycling E-waste ทมี่ กี ารฝกึ อบรมคนงาน และมกี ารจดั การทดี่ จี ะมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. การใชก้ ารตลาด โดยใชร้ ะบบแรงจงู ใจใหก้ บั ผเู้ กบ็ รวบรวม ในการคัดแยกที่ดีกว่า เม่ือเปรียบเทียบกับการใช้เครื่องจักรแยกใน E-waste ตามบา้ น โดยมกี ารกำ� หนดราคาขน้ั ตำ�่ ของ E-waste แตล่ ะ Formal Recycling E-waste ประเภท ซ่ึงช่วยให้มีการไหลของ E - waste บางประเภทจาก Informal Recycling E-waste ไปยัง Formal Recycling E-waste ได้ แตร่ ะบบแรงจงู ใจดงั กลา่ วตอ้ งสามารถใหร้ าคาทเี่ ทา่ กบั หรอื สงู กวา่ ผล ประโยชน์ทีจ่ ะได้รับจาก Informal Recycling E-waste 3. การใช้ท้ังกฎหมายและการตลาด โดยมีการจัดตั้ง สวนอตุ สาหกรรมรไี ซเคลิ E- waste ในบรเิ วณทมี่ ี Informal Recycling E-waste อยอู่ ยา่ งหนาแนน่ เพอ่ื การปรบั ปรงุ กระบวนคดั แยก/รไี ซเคลิ และควบคุมมลพิษ ปัจจุบันมีการจัดต้ังสวนอุตสาหกรรมรีไซเคิล E-waste โดยใช้มือในการคัดแยกใน Tianjin, Taicang, Ningbo, ทมี่ า: (http://edition.cnn.comwa/2s0te1-3e/-0w5a/s3t0e//w) orld/asia/china-electronic- Taizhou และ Zhangzhou โดยมีการใช้ระบบแรงจูงใจ และสร้าง โอกาสในการท�ำงานให้กับลูกจ้าง ส่วนท่ี Guiyu รัฐบาลมีนโยบาย ปจั จัยทีส่ ง่ ผลตอ่ การขยายตวั ของการคดั แยก/รีไซเคิล E-waste ทจี่ ะ Upgrade เทคโนโลยี ทใ่ี ชใ้ นการประกอบการInformal Recycling นอกระบบ ในประเทศจีน E-waste ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และสง่ ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มนอ้ ยทสี่ ดุ 1. การคัดแยก/รีไซเคิล E-waste นอกระบบ สามารถหาซื้อ นโยบายของสวนอุตสาหกรรมรีไซเคิล E-waste ท่ี Guiyu เปล่ียน วตั ถดุ บิ (E-waste) ไดง้ า่ ยและสะดวก จากหลายแหลง่ เชน่ แหลง่ นำ� เขา้ จากการหา้ มดำ� เนนิ การไปสกู่ ารรว่ มมอื ในการปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพ No.33 May 2016
ตดิ ตามเฝา้ ระวงั 17 การคัดแยก/รีไซเคิล ซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบายการห้าม Informal จากผู้บริโภค ในทางกลับกันท�ำไมไม่ใช้เครือข่ายการเก็บรวบรวม Recycling E-waste อาจจะไมใ่ ชแ้ นวทางการจดั การท่ีดีอกี ตอ่ ไป E-waste จากบ้านเรือนของ Informal Recycling E-waste ที่มีอยู่ 4. เครือขา่ ยการเกบ็ รวบรวม E-waste เป็นอีกประเด็นหน่ึง อยา่ งกวา้ งขวางใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ซงึ่ เครอื ขา่ ยดงั กลา่ วมกี ารเชอื่ มโยง ที่มีความส�ำคัญต่อความส�ำเร็จของระบบการเก็บรวบรวม E-waste ของเครือข่ายการเกบ็ รวบรวมในหลายระดบั ต้ังแต่ คนเกบ็ รวบรวม ของประเทศจนี ซึง่ จากประสบการณข์ องต่างประเทศ พบว่า ระบบ ตามบ้าน พ่อค้าคนกลาง และผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ Recycle ที่ได้จาก การเก็บรวบรวม E-waste สามารถที่จะสร้างได้จากการเชื่อมโยง Informal Recycling E-waste อย่างไรก็ตาม จะท�ำอย่างไรท่ีจะใช้ ระบบการขนสง่ ทมี่ อี ยขู่ องผผู้ ลติ แตท่ ง้ั นก้ี ารทจี่ ะประสบความสำ� เรจ็ เครอื ขา่ ยการเกบ็ รวบรวม E-waste อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ ในการหา หรอื ไมก่ ข็ นึ้ อยกู่ บั การลงทนุ เพอื่ การพฒั นาระบบองคค์ วามรู้ ระบบ วตั ถดุ บิ E-waste ปอ้ นใหก้ บั โรงงาน Recycle อยา่ งเปน็ ทางการยงั คง การขนส่งท่ีมีประสิทธิภาพ และอัตราการเก็บรวบรวม E-waste เปน็ ประเด็นท่ีนา่ สนใจ สรุป 1) เปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยการเสนอระบบการเงินหรือระบบแรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้เก็บรวบรวมในระบบ Informal Recycling E-waste เพื่อเพมิ่ ปรมิ าณวัตถุดบิ E-waste ใหก้ ับโรงงาน Formal Recycling E-waste 2) ปรบั ใชเ้ ทคโนโลยที เ่ี หมาะสมที่ท�ำให้กระบวนการคัดแยก-รไี ซเคิลของระบบ Informal Recycling E-waste มีประสทิ ธิภาพ เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลติ ภัณฑ์ Recycle ท่มี ีปรมิ าณมากและมคี ุณภาพสูง และไมส่ ่งผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม โดยปราศจากผลกระทบทางดา้ นเศรษฐกิจ และสังคมของคนงาน 3) ปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างสวนอุตสาหกรรม E-waste การพัฒนาทักษะคนงานผ่านการอบรม และการ ปรบั ปรุงสถานทีก่ ารทำ� งานให้มีความปลอดภยั 4) ใช้เครอื ข่ายการเกบ็ รวบรวม E-waste จากบ้านเรือนของ Informal Recycling E-waste ใหเ้ ป็นประโยชน์ เพือ่ การเพิม่ ปริมาณ วตั ถุดิบ E-waste ปอ้ นเขา้ สโู่ รงงาน Formal Recycling E-waste 5) สร้างความร่วมมอื /สานสมั พนั ธ์ระหวา่ งในระบบกบั นอกระบบ โดยใชน้ อกระบบรับผดิ ชอบการเก็บรวบรวม E-waste และการใช้ ซำ้� (Reuse) ส่วนระบบแบบเปน็ ทางการรับผดิ ชอบการถอดแยกชิน้ ส่วนและการ Recycle ดงั นน้ั การแกไ้ ขปญั หาการประกอบการ Informal Recycling E-waste ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ผลกระทบดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คมของผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง โดยเฉพาะคนงาน โดยการดึงเอาระบบ Informal Recycling E-waste ให้เข้ามาเปน็ ส่วนหน่ึงของระบบ E-waste management ในภาพรวม ไม่ใช่การใช้กฎหมายห้ามประกอบการเพียงอย่างเดียว เ1อ. กCสhาi,รXอ.,้างSอtrงิeicher-Porte, M., Wang, M. Y., & Reuter, M. A. (2011). Informal electronic waste recycling: a sector review with special focus 2. Kahhato,nRC.,hiKnaim. ,WJa.s, teXuM, aMn.a,gAemlleennbty, ,3B1(.4,),W7i3lli1a-m7s4,2.E., & Zhang, P. (2008). Exploring e-waste management systems in the United States. Resources, Conservation and Recycling, 52(7), 955-964. 3. Osibanjo, O., & Nnorom, I. C. (2007). The challenge of electronic waste (e-waste) management in developing countries. Waste Management & Research,25(6), 489-501. 4. Yu, J., Williams, E., Ju, M., & Shao, C. (2010). Managing e-waste in China: Policies, pilot projects and alternative approaches. Resources, Conservation and Recycling, 54(11), 991-999. 5. Wath, S. B., Dutt, P. S., & Chakrabarti, T. (2011). E-waste scenario in India, its management and implications. Environmental monitoring and assessment,172(1-4), 249-262. 6. Zhang, Q., Ye, J., Chen, J., Xu, H., Wang, C., & Zhao, M. (2014). Risk assessment of polychlorinated biphenyls and heavy metals in soils of an abandoned e-waste site in China. Environmental Pollution, 185, 258-265. 7. Wu, Q.o, fLeaunnagb, aJn. dYo.,nGedeneg-,wXa.s,tCehreenc,ycSli.n,gHusaitne:g,imXp.,liLcia,tHio.n,s...fo&r Lduis,sYe.m(2in0a1ti5o)n. Hoef ahveyamvyetmalectaolsn.t aSmciineantcioenoofftshoeilTaontdalwEantveirroinnmtheentv,i c5in0i6ty, 8 . Tang, X2.1, 7S-h2e2n5,. C., Shi, D., Cheema, S. A., Khan, M. I., Zhang, C., & Chen, Y. (2010). Heavy metal and persistent organic compound contamination in soil from Wenling: an emerging e-waste recycling city in Taizhou area, China.Journal of Hazardous Materials, 173(1), 653-660. 9. Streicher-Porte, M., Widmer, R., Jain, A., Bader, H. P., Scheidegger, R., & Kytzia, S. (2005). Key drivers of the e-waste recycling system: Assessing and modelling e-waste processing in the informal sector in Delhi. Environmental impact assessment review, 25(5), 472-491. 10. Terazono, A., Murakami, S., Abe, N., Inanc, B., Moriguchi, Y., Sakai, S. I., ... & Wong, M. H. (2006). Current status and research on E-waste issues in Asia.Journal of Material Cycles and Waste Management, 8(1), 1-12. No.33 May 2016
18 ติดตามเฝา้ ระวงั อารีรัตน์ จากสกลุ สารมลพษิ ตกค้างยาวนาน กบั การเคลือ่ นยา้ ยในส่ิงแวดล้อม สารมลพิษตกค้างยาวนานหรือสารกลุ่ม Persistent Organic Pollutants (POPs) ท่ีรู้จักกันท่ัวไป ปัจจุบัน เปน็ ทส่ี นใจเน่ืองจากเปน็ สารมลพิษท่ที ัว่ โลกทราบถึงพษิ ภยั ท่ีส�ำคญั คอื เปน็ สารเคมีทมี่ ีผลกระทบต่อ ต่อมไร้ทอ่ (Endocrine Grand) ซงึ่ กค็ ือ Endocrine disruptor’s compounds คือ สารเคมีรบกวนการทำ� งานของฮอร์โมนใน มนุษย์ และสตั ว์ การรบกวนเปน็ สาเหตขุ องมะเรง็ การเกิดและการพฒั นาการผดิ ปกติ โดยเฉพาะความสามารถใน การเรียนรู้ รวมถึงการพัฒนาด้านสมองพบปัญหาการพัฒนาทางเพศท่ีผิดปกติ และเป็นสารสังเคราะห์ท่ีรบกวน การเคลื่อนย้าย การรวมและการกำ� จัดฮอร์โมนธรรมชาตทิ ่มี อี ยใู่ นรา่ งกาย ซ่ึงมีหน้าท่ีเกีย่ วกับการพฒั นาการของ รา่ งกาย เกีย่ วกับพฤติกรรม และการสืบพนั ธุ์ ด้วยคุณสมบัติท่ีส�ำคัญคือ สามารถเคล่ือนย้ายไปได้ พืชผักต่างๆ มนุษย์ และสัตว์ท่ีอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง และ ในระยะทางไกลๆ ข้ามทวีป สามารถสะสมในห่วงโซ่อาหาร ชะล้างลงสู่แหล่งน�้ำตามธรรมชาติ แม่น้�ำ ล�ำคลอง รวมไปถึง ในส่ิงแวดล้อม ซ่ึงมีข้อมูลสนับสนุน คือ การตรวจพบการ น�้ำชายฝั่งทะเล ปัจจุบันการน�ำเข้าสารเคมีด้านการเกษตรใน สะสมและตกค้างของสารกลุ่มน้ีบางชนิดในส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยใน ประเทศ เป็นเหมือนกระจกเงาสะท้อนให้เห็นถึงปริมาณการใช้ ข้ัวโลก เช่น แมวน�้ำ และหมีขั้วโลก ส่วนชนิดของสาร POPs สารเคมใี นภาคส่วนเกษตรกรรมภายในประเทศ ทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่ Polychlorinated biphenyls, Phthalates, Phenols, Organochlorine Pesticides, Polybrominated diphenyl ethers, dioxins และ Perfluorinated compounds (PFCs) เป็นต้น ซงึ่ การปนเปอ้ื นและการตกคา้ งนน้ั เกดิ ขน้ึ ได้ เชน่ จากการใชส้ าร เคมีกลุ่ม Organochlorine pesticides เหล่าน้ีโดยตรงในพ้ืนท่ี การเกษตรในอดตี ถงึ แมว้ า่ สารเคมกี ลมุ่ นจ้ี ะถกู ยกเลกิ การใชง้ าน ในประเทศไทยมานานแล้วก็ตาม แต่หากในบางพื้นท่ีของโลก ยังใช้กันอยู่ และการใช้สารเคมีกลุ่มอื่นๆ ท่ีเข้ามาทดแทนก็ยัง คงมีอยู่ ทั้งนี้ระยะเวลาการตกค้างและการปนเปื้อนจะส้ันหรือ ยาวนานเท่าใดย่อมข้ึนกับคุณสมบัติของสารกลุ่มนั้นๆ ร่วมกับ ปจั จยั สภาวะแวดลอ้ มเปน็ สงิ่ สำ� คญั ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การตกคา้ งในดนิ รูปการใชส้ ารเคมดี ้านการเกษตร:แหลง่ ที่มากรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ No.33 May 2016
ตดิ ตามเฝ้าระวงั 19 ตารางปรมิ าณและมูลคา่ การนำ� เข้าวัตถุอนั ตรายทางดา้ นการเกษตรของประเทศไทย หนว่ ย: ปรมิ าณ (ตนั ) , มูลค่า: (ลา้ นบาท) ปี สารก�ำจัดวัชพชื สารกำ� จัดแมลง สารปอ้ งกันและ อ่ืนๆ รวม ปริมาณ มูลคา่ กำ� จดั โรคพืช ปรมิ าณ มลู คา่ ปริมาณ มูลคา่ ปริมาณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ 2553 68,825 11,487 25,332 4,577 4,497 580 109,908 19,182 11,255 2,537 2554 97,957 9,338 24,680 3,972 10,367 2,968 4,590 537 137,594 16,816 2555 80,278 8,845 23,417 4,670 9,671 3,860 4,332 550 117,698 17,924 2556 112,177 11,480 34,672 5,938 12,179 3,875 5,355 751 164,383 22,044 2557 106,860 11,294 16,797 3,686 6,972 3,883 3,748 494 134,377 19,357 ที่มา: กรมสง่ เสรมิ การเกษตร, 2557 นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่ม POPs ตัวอ่ืนท่ีมนุษย์สังเคราะห์ข้ึนมา เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าอื่นๆ นอกเหนือไปจากด้าน การเกษตร คือ ดา้ นอุตสาหกรรม เชน่ สาร Perfluorinated compounds (PFCs) ท่ใี ชใ้ นงานหลากหลายดา้ น โดยหลกั ๆ น�ำมาใช้ เพอ่ื เคลอื บและผสมในวสั ดตุ า่ งๆ เชน่ ผา้ มา่ น พรม ในอตุ สาหกรรมสงิ่ ทอ เบาะหนงั ในอตุ สาหกรรมยานยนต์ และเคลอื บกระดาษ เพื่อชะลอการเปียกและกันน้ำ� เปน็ ตน้ ส่วนสาร POPs อกี ชนดิ หนงึ่ คือ สารกล่มุ ไดออกซนิ และฟวิ แรน ซงึ่ เป็นสารทีม่ คี วามเปน็ พษิ สงู มากเป็นสารที่เกดิ จากกระบวนการเผาไหม้ทไ่ี มส่ มบรู ณ์ของสารอนิ ทรยี ์ตา่ งๆ ที่เช้อื เพลงิ มีคาร์บอน และคลอรนี ท�ำให้เกดิ ไดออกซินได้หลายไอโซเมอร์ อณุ หภูมทิ ีเ่ หมาะสมในการเผาไหม้ทีท่ ำ� ใหเ้ กดิ สารไดออกซนิ อยู่ระหวา่ ง 250 – 350 องศาเซลเซียส การเผาไหม้ เช่น ไฟป่า การเผาตอซังข้าวโพด การเผาตอซังข้าวในพื้นท่ีเกษตรกรรม การเผาขยะจากโรงพยาบาล การเผาขยะ ในเตาเผาที่ไม่ได้มาตรฐาน การเผาขยะอันตราย โรงไฟฟ้าถ่านหิน และการเผาขยะในที่โล่ง ล้วนเป็นกิจกรรมท่ีอาจท�ำให้เกิด สารไดออกซินทง้ั สิน้ นอกจากน้ยี ังมกี ระบวนการทที่ ำ� ให้เกิดสารนี้ในด้านอุตสาหกรรม เช่น อตุ สาหกรรมเหลก็ และอุตสาหกรรม กระดาษ ทั้งน้ีที่กล่าวในเบื้องต้นเพ่ือให้ทราบถึงการน�ำไปใช้ของสารกลุ่มน้ีในด้านต่างๆ และสาเหตุของการปนเปื้อนและตกค้าง ในส่ิงแวดล้อม สำ� หรับการเคลอ่ื นยา้ ยของสาร POPs ในสงิ่ แวดล้อมจะขอยกตัวอยา่ งการใช้สารเคมดี ้านการเกษตรโดยสังเขป รปู การเคลือ่ นย้ายของสาร POPs :แหลง่ ทม่ี า biothai.net No.33 May 2016
20 ติดตามเฝ้าระวัง จากการใช้สารเคมีทางการเกษตรท�ำให้เกิดการเคล่ือน Global distillation ยา้ ยของสารซง่ึ ขนึ้ อยกู่ บั ความดนั ไอ อณุ หภมู ขิ องชน้ั บรรยากาศ สำ� หรบั สาเหตทุ ท่ี ำ� ใหม้ กี ารตรวจพบสาร POPs บางชนดิ และขนาดของอนุภาค โดยที่สารดังกล่าวจะฟุ้งกระจายในชั้น ตกคา้ งในสงิ่ มชี วี ติ และในพน้ื ทห่ี า่ งไกลทไี่ มเ่ คยมกี ารใชส้ ารเคมี บรรยากาศถกู เคลอื่ นยา้ ยจากชนั้ บรรยากาศโดยขบวนการ wet ด้านการเกษตร หรือมีประวัติการใช้สารเคมีในกลุ่ม POPs นี้ deposition (เป็นการตกสะสมในช้ันบรรยากาศรวมตัวกับเมฆ ก็คือ การเกิดปรากฏการณ์ท่ีเรียกว่า Global distillation หรือ และต่อมากลายเป็นฝนตกลงสู่พื้นดิน พื้นน้�ำและต้นไม้) และ Grasshopper effect เปน็ ปรากฏการณท์ ส่ี ามารถอธบิ ายไดโ้ ดยที่ dry deposition (เป็นการตกสะสมในสภาวะท่ีไม่มีน้�ำเป็นส่วน สาร POPs เคล่อื นยา้ ยจากแถบอากาศอบอุ่นไปยังแถบอากาศ ประกอบ ดว้ ยแรงโนม้ ถว่ งของโลกและตกลงสพู่ น้ื ดนิ และนำ�้ และ หนาวของโลก เชน่ บริเวณขวั้ โลกหรอื เขตเทอื กเขาสูง กลไกการ เกิดการสะสมในนำ�้ ดินและพชื ) เกดิ ของขบวนการเรยี กวา่ distillations หรอื การกลน่ั ในขบวนการนี้ เม่ือมีการเคลื่อนย้ายของสาร POPs ลงสู่แหล่งน�้ำโดย สารเคมีจะถูกท�ำให้ระเหยที่อุณหภูมิสูง โดยท่ีไอระเหย ขบวนการ runoff และ การ erosion หรือ atmospheric wet จะเคลอ่ื นทีไ่ ปสู่ทีๆ่ มอี ณุ หภมู ติ �่ำกว่าและเกิดการควบแน่น ใน และ dry deposition สารกลุ่มน้ีจะเกาะติดกับอนุภาคของดิน ส่ิงแวดล้อมสารเคมีจะถูกปลดปล่อยอย่างอิสระ เม่ือมีการ ที่ฟุ้งกระจายในน้�ำและในที่สุดจะถูกเคล่ือนย้ายโดยขบวนการ เคล่ือนที่ของกระแสลม สารเคมีจะเคล่ือนที่จากบริเวณท่ี ตกตะกอนของอนุภาคดิน (sedimentation) และจะยึดติดกับ อุณหภูมิสูงไปยังท่ีอุณหภูมิที่ต่�ำกว่าและเกิดการควบแน่น ตะกอนดนิ ตกตะกอนอยใู่ ตท้ อ้ งนำ้� ถงึ แมว้ า่ จะมกี ารฟงุ้ กระจาย ในท่ีสุดจนเพียงพอส�ำหรับเกิดการขบวนการตกสะสม ของตะกอนดนิ จากการรบกวนของขบวนการทางธรรมชาตติ า่ งๆ (deposition) ขบวนการเหลา่ นจี้ ะเกดิ อยา่ งชา้ ๆ เปน็ วงจร ในแถบ เช่น การเกิดน้�ำท่วม กิจกรรมของสิ่งมีชีวิต และปรากฏการณ์ ข้ัวโลก หรือแถบเทือกเขาสูง และปรากฏการณ์น้ีมักจะเกิดกับ อน่ื ๆ ทางธรรมชาติ และมบี างสว่ นระเหยจากนำ�้ (volatilization) สารเคมปี ระเภท Semi-volatile ทม่ี กี ารแตกตวั และสลายตวั อยา่ ง สู่ช้ันบรรยากาศโดยเฉพาะสารที่มีมวลโมเลกุลต่�ำๆ นอกจากน้ี ชา้ ๆ ในสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ DDT, Polychlorinated biphenyls และ การเกิดขบวนการ resuspension (การฟุ้งกระจายของสารและ lindane เปน็ ตน้ แขวนลอยอยู่ในน้�ำ) ก็เป็นสาเหตุหน่ึงของการตกสะสมได้ใน ระยะทางไกลๆ ของแหลง่ นำ้� โดยเฉพาะจากตน้ นำ�้ สทู่ า้ ยนำ้� เชน่ การตกตะกอนสะสมในบริเวณสามเหลยี่ มปากแมน่ ้�ำ เป็นต้น ท่มี า : http://krathumlom.go.th/public/webboard_upload/backend/ ท่มี า : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/f/f8/Yom_ comment/comment24_1.jpg River_in_Phrae_Province.jpg เอกสารอ้างอิง 1. G. Charnleya, and J. Doullb. Human exposure to dioxins from food, aHealthRisk Strategies, 222 11th Street NE, Washington, DC 20002, USA bUniversity of Kansas Medical Center, Department of Pharmacology and Toxicology, 3901 Rainbow Boulevard, Kansas City, KS 66160, USA 2. Chemicals & waste: Persistent Organic Pollutants (POPs). 2016. http://www.unep.org/chemicalsandwaste/POPs/tabid/1059787/Default. aspx 3. Endocrine Disruptor and Child Health. 2016. www.who.int/ceh/publications/endocrine_disrupters_child/en 4. Endocrine Disruptor compounds. 2016. http://en.wikipedia.org/wiki/Endocrine_disruptor 5. Global distillations.2016. https://en.wikipedia.org/wiki/Grasshopper_effect 6. วิกฤตอาหารอาบพิษ. 2559. http://thaipublica.org/2014/08/contaminated-fruits-and-vegetables/ 7. เกษตรอนิ ทรยี ย์ ง่ั ยนื จริงหรือ. 2559. http://natres.psu.ac.th/nsfc4/download/2.pdf No.33 May 2016
ติดตามเฝา้ ระวัง 21 สุดา อิทธิสุภรณร์ ตั น์ ไมโครพลาสติก ปจั จบุ นั นี้ ถงุ พลาสตกิ หรอื อปุ กรณท์ มี่ อี งคป์ ระกอบของพลาสตกิ ถอื เปน็ สว่ นหนงึ่ ทม่ี กี ารใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำ� วนั ของทกุ คน จากการประมาณการผลิตพลาสติกทวั่ โลก พบวา่ พลาสตกิ มกี ารผลิตเพิ่มข้นึ ทกุ ปี จาก 1.7 ล้านตนั ในปี 1950 เปน็ 299 ลา้ นตัน ในปี 2013 โดยที่ 5-13 ลา้ นตัน ไดถ้ กู ทิ้งลงทะเลในแตล่ ะปี (1) โดยประเทศไทยตดิ อันดบั 1 ใน 10 ของ ประเทศทม่ี ขี ยะพลาสตกิ มากทส่ี ดุ ในทะเล ดงั รปู ที่ 1 และจากทที่ ราบกนั ดวี า่ พลาสตกิ เปน็ วสั ดทุ ยี่ อ่ ยสลายไดย้ าก มคี วาม คงตวั สงู ทำ� ใหข้ ยะพลาสตกิ ทต่ี กคา้ งในทะเล ใชเ้ วลาในการยอ่ ยสลายอยใู่ นชว่ ง 10-600 ปี ขนึ้ อยกู่ บั ประเภทของพลาสตกิ เช่น ถงุ พลาสติกท่ัวไป อยู่ท่ี 10-20 ปี แตถ่ ้าเป็นขวดน�้ำพลาสติก และเอ็นตกปลา สามารถอยู่ได้นานถงึ 450 ปี และ 600 ปี ตามล�ำดบั ซึ่งใช้เวลาในการยอ่ ยสลายมากกว่าเมือ่ เปรียบเทยี บกับขยะประเภทอื่น ดงั รูปท่ี 2 รูปท่ี 1 ประเทศท่ีพบวา่ มีขยะพลาสตกิ มากท่สี ดุ ในทะเลในปี 2010 (http://news.nationalgeographic.com/news/2015/02/150212-ocean-debris-plastic-garbage-patches-science/) No.33 May 2016
22 ติดตามเฝา้ ระวงั รูปท่ี 2 ระยะเวลาการยอ่ ยสลายของขยะแต่ละประเภทในทะเล (http://www.momypedia.com/) ท่มี าของไมโครพลาสตกิ ไมโครพลาสติก คือ ขยะพลาสติกท่ีมีขนาดเล็กกว่า 5 มลิ ลเิ มตร ซึง่ มาจากกระบวนการผลติ เม็ดพลาสติกขนาดเล็ก โดยตรง เช่น เป็นองค์ประกอบในเครื่องส�ำอางค์ ท่ีเป็นเม็ด สครับ (microbeads) ใยเสื้อผ้า หรือในการผลิตอุตสาหกรรม พลาสตกิ ดงั รปู ที่ 3 สว่ นอกี รปู แบบหนง่ึ มาจากพลาสตกิ ทใี่ ชอ้ ยู่ ทวั่ ไป เกดิ การฉกี ขาดจนเปน็ เศษพลาสตกิ ขนาดเลก็ และตกคา้ ง สะสมในสง่ิ แวดลอ้ ม(2) ดว้ ยเหตุทไี่ มโครพลาสตกิ เป็นวสั ดขุ นาด เล็ก ท�ำให้การเก็บและการก�ำจัดกระท�ำได้ยาก แม้แต่ในกรณีท่ี ไมโครพลาสติกปนเปื้อนมากับน�้ำเสียและได้ผ่านการบ�ำบัดมา รปู ที่ 3 ไมโครพลาสติกที่เป็นส่วนผสมในเคร่ืองสำ� อางค์ (http://www.plasticsnews.com/) แล้วก็ตาม ประกอบกับคุณสมบัติที่คงสภาพ ย่อยสลายได้ยาก ผลกระทบต่อสตั ว์ทะเล ท�ำให้เมื่อมีการระบายน้�ำท่ีผ่านการบ�ำบัดแล้วลงสู่สิ่งแวดล้อม ในปัจจุบัน พบการแพร่กระจายของไมโครพลาสติกใน จึงง่ายที่จะท�ำให้เกิดการปนเปื้อน แพร่กระจาย สะสม และ ส่งิ แวดล้อมทางทะเลทวั่ โลก ท้งั ในน�ำ้ และตะกอนดนิ จงึ ท�ำให้ ตกค้างในสิ่งแวดล้อมได้ ในขณะเดียวกัน การท้ิงขยะพลาสติก ไมโครพลาสติก จัดเป็นมลภาวะที่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบ ขนาดใหญ่ เม่ือเวลาผ่านไปก็สามารถเกิดการย่อยสลาย มีการ ต่อระบบนิเวศทางทะเลทง้ั ในกรณีเปน็ ตวั น�ำสารพิษเข้าสหู่ ่วงโซ่ แตกหักเปน็ อนพุ นั ธข์ องไมโครพลาสติก ซ่งึ กอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบ อาหาร และการเกดิ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ และการดำ� รงชวี ติ ของ ต่อสง่ิ แวดลอ้ มได้เช่นเดียวกัน สิ่งมชี วี ิตในระบบนิเวศขึ้นได้ No.33 May 2016
ตดิ ตามเฝา้ ระวงั 23 มกี ารสำ� รวจวา่ ขยะท่ถี กู ทิง้ ลงในทะเล ทัง้ ในมหาสมทุ ร รูปท่ี 4 ไมโครพลาสติก (สีเขียวเรอื งแสง) ที่อยู่ภายในตวั ของแพลงตอนสตั ว์ซง่ึ ลึกไปจนถึงแผ่นน้�ำแข็งทวีปอาร์กติก ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นขยะ เป็นส่ิงมีชวี ติ ขนาดเลก็ (4) ประเภทพลาสติกน้ัน สัตว์น�้ำกว่า 700 สายพันธุ์ ได้กินขยะ พลาสตกิ เหลา่ นเี้ ขา้ ไป(3) โดยมคี วามเขา้ ใจวา่ สง่ิ นน้ั เปน็ อาหาร ซงี่ หมายความรวมถงึ ไมโครพลาสตกิ ดว้ ย ดงั รปู ที่ 4 โดยผลกระทบ ท่ีเกิดข้ึน อาจก่อให้เกิดมลพิษท้ังทางตรงและทางอ้อมต่อ สิ่งมีชีวิตได้ ที่กล่าวเช่นน้ี เนื่องจากมีรายงานว่า สารที่เป็น องค์ประกอบ และพบว่ามีการปนเปื้อนอยู่ในไมโครพลาสติก เป็นสารพวกโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) โพลคี ลอรเิ นตไบฟีนลิ (PCBs) ดดี ีที (DDT) และ ไดออกซิน ซึง่ เปน็ สารพิษที่สามารถกอ่ ให้เกดิ มะเรง็ ได้ (4, 5) การศึกษาการปนเปื้อนของไมโครพลาสตกิ บนชายหาดในประเทศไทย ในประเทศไทย ได้มีรายงานผลการส�ำรวจและจ�ำแนกตัวอย่างขยะทะเลประเภทไมโครพลาสติก โดยสถาบันวิจัยและ พฒั นาทรพั ยากรทางทะเลและปา่ ชายเลน คณะเทคโนโลยที างทะเล มหาวทิ ยาลยั บรู พา(8) ซงึ่ ในเบอ้ื งตน้ พบวา่ ชายหาดเจา้ หลาว และคุ้งวิมาน จังหวัดจันทบุรี ทั้งบนชายหาด ในตะกอนดิน และในหอยสองฝาที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาด มีการปนเปื้อนของ ไมโครพลาสติก อย่างไรก็ตามผลกระทบที่มีความกังวลต่อขยะประเภทไมโครพลาสติกคือการสะสมสารพิษบนไมโครพลาสติก และการถ่ายทอดไปสู่ผู้บริโภคในล�ำดับท่ีสูงกว่านั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ถึงแนวโน้มการสะสมของสารพิษในห่วงโซ่อาหาร แตจ่ ากผลการศึกษาท่ีกลา่ วข้างตน้ แสดงให้เห็นอยา่ งชัดเจนวา่ ได้มกี ารปนเปอื้ นของไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อมทางทะเล และ ในสัตว์ทะเลของประเทศไทยแล้ว รูปท่ี 5 การแพร่กระจายเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของไมโครพลาสตกิ (7) No.33 May 2016
24 ติดตามเฝ้าระวงั ความตั้งใจของผู้เขียน ต้องการน�ำเสนอมลภาวะทาง ทั้งหอยสองฝาและหอยฝาเดียว อย่างหอยแมลงภู่ หอยแครง ส่ิงแวดล้อมอีกรูปแบบหนึ่ง ท่ีมีความห่วงกังวลกันทั่วโลก และหอยหวาน ซ่ึงเราบริโภคทั้งตัว ก็มีโอกาสที่จะสามารถรับ อันเน่ืองมาจากขยะประเภทไมโครพลาสติก ซึ่งยังไม่ค่อยมี สารมลพิษที่ปนเปื้อนในไมโครพลาสติกได้ อย่างไรก็ตาม คนเคยได้ยิน หรือคุ้นหูกับค�ำๆ น้ี มากนัก แม้ว่าผลการศึกษา ร่างกายของคนเราก็มีกระบวนการขับสารพิษออกนอกร่างกาย แสดงให้เห็นว่ามีการปนเปื้อนไมโครพลาสติกในทะเลและ อยู่แล้ว ซึง่ ณ ตอนนจี้ ึงยังไม่นา่ หว่ งกังวลมากนกั ประกอบกับ สัตว์ทะเลในประเทศไทยแล้วก็ตาม แต่ข้อห่วงกังวลหรือข้อ ยังไม่มีรายงานทางวิชาการท่ียืนยันแน่ชัดว่า ไมโครพลาสติก ค�ำถามทีเ่ กดิ ขน้ึ ตามมากค็ ือ แลว้ จะมผี ลกระทบตอ่ คนทบ่ี รโิ ภค กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบทเี่ ปน็ อนั ตรายสมู่ นษุ ยโ์ ดยตรงจากการไดร้ บั สตั วท์ ะเล อยา่ งปลา หรอื หอยชนดิ ตา่ งๆ หรอื ไมน่ นั้ ในความเหน็ ผา่ นทางหว่ งโซอ่ าหาร แมก้ ระนน้ั กต็ าม เพอ่ื ตอบคำ� ถามเหลา่ นี้ ของผู้เขียน จากที่กล่าวไปแล้วว่า โดยท่ัวไปส่ิงมีชีวิตในทะเล นกั วจิ ยั ทว่ั โลกจงึ กำ� ลงั ทำ� การศกึ ษาวจิ ยั เพม่ิ เตมิ ทางดา้ นความเสย่ี ง จะกินไมโครพลาสติกเข้าไปเพราะเข้าใจว่าเป็นอาหาร ดังนั้น ในการสะสมของสารพิษ และการถ่ายทอดของสารปนเปื้อนใน ไมโครพลาสติกมักจะสะสมอยู่ในส่วนของกระเพาะและล�ำไส้ ไมโครพลาสติกสู่มนุษย์ รวมถึงผลกระทบทางด้านสุขภาพของ ในกรณีที่เป็นปลาโดยปกติเราก็ไม่ได้บริโภคอวัยวะในส่วนนี้ สิง่ มีชีวิตในระบบนิเวศ เพอ่ื ตอบคำ� ถามท่ีก�ำลังเป็นทสี่ งสยั และ จึงยังไม่ควรวิตกกังวลมากนัก แต่ถ้าเป็นสัตว์น้�ำประเภทหอย เป็นขอ้ หว่ งกงั วลอยตู่ อนนี้ เอกสารอ้างอิง (1) European Commission. 2015. Microplastic pollution’s effects explored for two key marine species: mussels and lugworms. เข้าถึงได้จาก http://ec.europa.eu/environment/integration/research/newsalert/pdf/microplastic_pollutions_effects_ explored_for_mussels_and_lugworms_412na5_en.pdf (2) Microplastics. เขา้ ถึงได้จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Microplastics (3) Laura Parker. 2015. ‘Eight Million Tons of Plastic Dumped in Ocean Every Year’ เข้าถึงได้จาก http://news.nationalgeographic. com/news/2015/02/150212-ocean-debris-plastic-garbage-patches-science/ (4) Katsnelson, K. 2015. New feature: microplastics present pollution puzzle. Proc Natl Acad Sci 112(18): 5547–5549. Published online 2015 May 5. doi: 10.1073/pnas.1504135112 (5) Rochman CM, Hoh E, Hentschel BT, Kaye S. Long-term field measurement of sorption of organic contaminants to five types of plastic pellets: Implications for plastic marine debris. Environ Sci Technol. 2013;47(3):1646–1654. (6) Ivar do Sul, J. A., & Costa, M. F. (2014). The present and future of microplastic pollution in the marine environment. Environmental Pollution, 185, 352-364. DOI: 10.1016/j.envpol.2013.10.036 (7) Cole, M., Lindeque, P., Fileman, E., Halsband, C., Goodhead, R., Moger, J., Galloway, T. S. 2013. “Microplastic ingestion by zooplankton.” Environmental science & technology 47(12): 6646-6655. (8) สถาบันวิจยั และพฒั นาทรัพยากรทางทะเลและปา่ ชายเลน คณะเทคโนโลยที างทะเล มหาวทิ ยาลัยบรู พา. 2557.รายงาน ฉบับสมบรู ณ์ การส�ำรวจและจำ� แนกตัวอยา่ งขยะทะเลประเภทไมโครพลาสตกิ . 67 หนา้ . No.33 May 2016
กา้ วหนา้ พัฒนา 25 วฒุ ิชยั แพงแกว้ อัศมน ล่ิมสกลุ ฤทธร์ิ งค์ จงั โกฏิ อัศดร คำ�เมือง และนดิ าลกั ษณ์ อรณุ จันทร์ คลืน่ ความรอ้ น และการพัฒนาดชั นคี วามรอ้ น เพ่อื ประยุกตใ์ ชศ้ ึกษาในประเทศไทย 1. คลื่นความร้อน คล่ืนความร้อน นับเป็นภัยคุกคามทางภูมิอากาศท่ี คลื่นความร้อน จัดเป็นสภาวะความรุนแรงของลมฟ้า สามารถส่งผลกระทบท้ังทางตรงและทางอ้อมต่อสังคม โดย อากาศ ซ่ึงหมายถึง ลักษณะที่สภาพอากาศร้อนผิดปกติและ ส่วนใหญ่ รู้จักกันถึงผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ (Kovats สะสมอยพู่ นื้ ทใี่ ดพน้ื ทหี่ นง่ึ เปน็ ระยะเวลานาน โดยอาจจะเกดิ ขนึ้ and Hajat, 2008) คล่ืนความร้อน มีผลกระทบอย่างมีนัย มาพร้อมกับอากาศท่ีมีความช้ืนสูงและอบอ้าว คล่ืนความร้อน ส�ำคัญต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้ง มนี ยิ ามและคำ� จำ� กดั ความทห่ี ลากหลายและแตกตา่ งกนั คอ่ นขา้ ง ประสทิ ธภิ าพและสขุ ภาพของมนษุ ย์ ซง่ึ สามารถนำ� ไปสกู่ ารเพม่ิ ขน้ึ มากในแตล่ ะภูมภิ าคและพ้นื ที่ (Meehl and Tebaldi, 2004) โดย อย่างรวดเร็วในระยะส้ันของการเจ็บป่วยและเสียชีวิต (Kovats ท่ัวไปแล้ว คล่ืนความร้อน มักถูกตรวจวัดและเปรียบเทียบกับ and Ebi, 2006; Basu, 2009) โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีเขตเมืองท่ี ลักษณะสภาพอากาศในพื้นท่ีนั้นๆ และ/หรือเปรียบเทียบกับ ประชาชนอาศยั อยอู่ ยา่ งหนาแนน่ กลมุ่ เสย่ี งทมี่ คี วามลอ่ แหลมสงู อณุ หภมู ิปกตใิ นแตล่ ะฤดูกาล ต่อคลื่นความร้อน ได้แก่ ผู้สูงอายุหรือกลุ่มท่ีมีโรคประจ�ำตัว องคก์ รอตุ นุ ยิ มวทิ ยาโลกและ Frich et al. (2002) ไดใ้ หค้ ำ� มักไดร้ ับผลกระทบโดยตรงทคี่ อ่ นขา้ งรนุ แรงกวา่ กลุ่มอื่นๆ จำ� กดั ความของคลนื่ ความรอ้ น คอื ชว่ งระยะเวลาอยา่ งนอ้ ย 5 วนั ความแปรปรวน คือ ลักษณะทางธรรมชาติท่ีรู้จักกันดี ทม่ี อี ณุ หภูมิสูงสดุ เกนิ 25 ํC (77 Fํ ) โดยมเี วลาอยา่ งน้อย 3 วัน ของระบบภมู อิ ากาศ ซง่ึ คลนื่ ความรอ้ น เปน็ รปู แบบหนงึ่ ของความ ในชว่ งอณุ หภมู สิ งู สดุ เกนิ 30 Cํ (86 Fํ ) ซงึ่ เปน็ นยิ ามทป่ี ระยกุ ตใ์ ช้ ผันแปรดังกล่าว นอกจากนี้ การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ กนั โดยทว่ั ไปในทวปี ยโุ รป (WMO-WHO, 2010) สำ� หรบั ประเทศ ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ยังเป็นปัจจัยเสริมที่ส�ำคัญต่อ อเมรกิ า คลน่ื ความรอ้ นปกติ กำ� หนดใหช้ ว่ งระยะเวลา 3 วนั หรอื แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของคลื่นความร้อน ผลการศึกษา มากกวา่ 3 วนั ตดิ ตอ่ กนั ทม่ี อี ณุ หภมู สิ งู กวา่ 32 Cํ (90 Fํ ) (Lau and ทผ่ี า่ นมา ระบวุ า่ เหตกุ ารณค์ ลน่ื ความรอ้ นและสภาวะเครยี ดจาก Nath, 2012; NOAA, 2014) ในชว่ งระยะเวลาเกดิ คลน่ื ความรอ้ น ความรอ้ น (Thermal stress) ในชว่ งหลงั ของศตวรรษที่ 20 มแี นวโนม้ ไม่เพียงอุณหภูมิกลางวันท่ีสูงขึ้น แต่อุณหภูมิและความชื้น เพม่ิ ขนึ้ ในหลายภมู ภิ าคของโลก ซง่ึ เปน็ การเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ ตอนกลางคนื อาจเพม่ิ ขน้ึ สงู กวา่ คา่ เฉลย่ี ระยะยาวเชน่ กนั ภายใต้ ควบคกู่ บั การเพม่ิ ขนึ้ ของอณุ หภมู โิ ลก (Field et al., 2012; IPCC, มุมมองของอุตุนิยมวิทยาแล้ว คลื่นความร้อน เก่ียวขอ้ งกบั การ 2013; IPCC, 2014) เหตุการณ์คลื่นความร้อนที่มีขนาดใหญ่ ไหลเวียนของมวลอากาศแบบ quasi-stationary anticyclonic และมีระดับรุนแรง ได้เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงทศวรรษเร็วๆ นี้ ทผี่ ดิ ปกตซิ ง่ึ สง่ ผลใหม้ วลอากาศอนุ่ จมตวั ลง ทอ้ งฟา้ โปรง่ ใสและ อาทเิ ชน่ ในทวปี ยโุ รปในปี ค.ศ. 2003, 2006 และ 2010 ประเทศ เกดิ อากาศใกลพ้ นื้ ดนิ รอ้ นอบอา้ วเปน็ ระยะเวลานาน (Fischer et ออสเตรเลยี ในปี ค.ศ. 2009 ประเทศรสั เซยี ในปี ค.ศ. 2010 และ al., 2007; Barriopedro et al., 2011) ประเทศสหรฐั อเมรกิ าในปี ค.ศ. 2010 และ 2011 No.33 May 2016
26 ก้าวหน้าพัฒนา ความถี่ของการเกิดคล่ืนความร้อนรวมรายปีของโลก เป็นบริเวณกว้างของจ�ำนวนคืนท่ีอบอุ่น (Field et al., 2012; ระหวา่ งช่วงปี ค.ศ. 1980-2013 แสดงในรูปท่ี 1 ซง่ึ บง่ ชถี้ ึงการ IPCC, 2013) ทัง้ นี้ มคี วามเป็นไปได้ทคี่ ลนื่ ความร้อนมีแนวโนม้ เพิ่มข้ึนอย่างมีนัยส�ำคัญของเหตุการณ์คล่ืนความร้อนที่เกิดข้ึน ความถี่ของการเกิดเพ่ิมขึ้นต้ังแต่ช่วงหลังของศตวรรษท่ี 20 ใน ทวั่ โลก โดยเฉพาะหลงั จากปี ค.ศ. 2000 โดยจ�ำนวนเหตกุ ารณ์ ทวีปยโุ รป ออสเตรเลยี และพื้นทส่ี ่วนใหญข่ องทวีปเอเชีย คลนื่ ความรอ้ นทเ่ี พมิ่ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ งน้ี สอดคลอ้ งกบั การเพม่ิ ขนึ้ รปู ที่ 1 จ�ำนวนการเกดิ เหตกุ ารณค์ ลืน่ ความร้อนรวมรายปีของโลกทบ่ี นั ทกึ ในฐานขอ้ มลู Emergency Events Database (EM-DAT) ของ The International Disaster Database (http://www.emdat.be/) คลน่ื ความรอ้ นที่เกดิ ขึน้ ในชว่ งฤดูรอ้ นของปี ค.ศ. 2003 ในอนาคต (Field et al., 2012) โดยมีหลกั ฐานบางส่วนท่ีแสดง นับเป็นเหตุการณ์ท่ีรุนแรงท่ีสุดในรอบ 3,500 ปีของทวีปยุโรป ถึงกิจกรรมมนุษย์ อาจเปน็ สาเหตุทีม่ อี ทิ ธพิ ลต่อคลน่ื ความร้อน ซ่ึงส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้างในหลายประเทศ (รูปที่ 2) Rahmstorf and Coumou (2011) พบว่า มีความเป็นไปได้ถึง (Beniston, 2004; Schär et al., 2004; Stott et al., 2004) 80% ท่ีคลื่นความร้อนท่ีเกิดข้ึนบริเวณฝั่งตะวันตกของรัสเชีย อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน กรกฎาคม และ ในช่วงฤดูรอ้ นของปี ค.ศ. 2010 เกิดจากการเพิ่มขึน้ เปน็ บรเิ วณ สงิ หาคม) ของปี ค.ศ. 2003 สงู กวา่ คา่ เฉลย่ี ในชว่ งปี ค.ศ. 1961- กว้างของอุณหภูมิโลกหลังจากปี ค.ศ. 1980 ผลการจ�ำลองผล 1990 ถึง 3 ํC ซ่ึงเกินกว่า 5 เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน กระทบของการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศตอ่ คลน่ื ความรอ้ น (รปู ที่ 3) (Schär et al., 2004) ทง้ั นี้ มีความเปน็ ไปไดส้ งู ท่คี ล่ืน ในทวีปอเมริกาเหนือในศตวรรษท่ี 21 พบว่า ความถีแ่ ละระยะ ความรอ้ น มคี วามถข่ี องการเกดิ ความแรงและระยะเวลาการเกดิ เวลาของคลน่ื ความรอ้ นมแี นวโนม้ เพม่ิ ขน้ึ ภายใตก้ ารเพม่ิ ขนึ้ ของ ทยี่ าวนานขน้ึ ภายใตอ้ ณุ หภมู โิ ลกทรี่ อ้ นขนึ้ ของสภาพภมู อิ ากาศ ปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกจากกจิ กรรมของมนษุ ย์ รปู ที่ 2 การแจกแจงความถี่ของอุณหภมู เิ ฉล่ยี ชว่ งฤดูร้อนระหว่างปี ค.ศ. 1864-2003 ในประเทศสวติ เซอร์แลนด์ (ที่มาของขอ้ มูล : Schär et al., 2004) No.33 May 2016
ก้าวหนา้ พฒั นา 27 รูปท่ี 3 ลในกั ชษ่วณงเะดขอื อนงมคลถิ ื่นนุ คายวานมถรงึ อ้สนงิ หทาเ่ี กคดิมขเทนึ้ ยี ในบทกบัวีปจยากุโรคป่าชเฉ่วลงฤี่ยดในรู ้อชนว่ งขปอี งคป.ศี ค..1ศ9.6210-01399โ0ดย(ทพ่มี ิจาาขรอณงาขจ้อามกลูค:า่ ผSดิchปäกrตeขิ tอaงl.อ, ณุ20ห0ภ4มู) ิเฉลีย่ ในปี ค.ศ. 2015 มีเหตุการณ์คล่ืนความร้อนเกิดขึ้นใน อังกฤษ สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์และภาคใต้ของสวีเดน ประเทศอินเดียช่วงเดือนพฤษภาคม โดยอุณหภูมิในหลาย ในช่วงตน้ เดือนกรกฎาคม โดยอณุ หภูมสิ ูงกว่า 40 oC เมืองสูงถึง 48 oC ส่วนประเทศปากีสถานเกิดคลื่นความร้อน ส�ำหรับประเทศไทย ยังมีการศึกษาไม่มากนักที่บ่งช้ีถึง ในช่วงเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เผยว่า ความรนุ แรงและความถขี่ องการเกดิ คลนื่ ความรอ้ นและแนวโนม้ โรงพยาบาลต่างๆ ของนครการาจี ท�ำการรักษาประชาชนที่ การเปลยี่ นแปลงของสภาวะเครยี ดจากอากาศรอ้ นจดั แตข่ อ้ มลู ได้รับผลกระทบจากโรคลมแดดและภาวะร่างกายขาดน้�ำเกือบ จากการศึกษาของแสงจันทรแ์ ละคณะ (2553) และจากรายงาน 80,000 คน โดยทีอ่ ุณหภมู ิระดบั 45 oC หรือสงู กวา่ น้ันถอื เปน็ การสังเคราะห์และประมวลสถานภาพองค์ความรู้ด้านการ เรื่องธรรมดาในพื้นท่ีอื่นๆ แต่ส�ำหรับนครการาจีแล้วนับเป็น เปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศของไทย ครงั้ ที่ 1 แสดงถงึ โอกาสเปน็ ไปได้ เรอ่ื งผิดปกติ เนอื่ งจากปกติแลว้ เมอื งแหง่ น้ีมักมอี ากาศเยน็ กวา่ ท่ีจะเกิดข้ึนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างย่ิง อุณหภูมิและ ทอ่ี ืน่ ๆ เนอื่ งจากตั้งอยรู่ ิมชายฝ่งั ส่วนประเทศอียปิ ตเ์ กิดขึ้นใน ความชื้นสัมพัทธ์ ซึ่งเป็นตัวแปรหลักท่ีก�ำหนดการเกิดคลื่น เดอื นสงิ หาคมทำ� ใหม้ ผี เู้ สยี ชวี ติ ซงึ่ โดยสว่ นใหญเ่ ปน็ ผสู้ งู อายแุ ละ ความร้อนและสภาวะเครียดจากความร้อน มีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น ผปู้ ว่ ยในโรงพยาบาลจติ เวช ในประเทศญปี่ นุ่ เกดิ สถานการณค์ ลน่ื อย่างมีนัยส�ำคัญในประเทศไทย นอกจากน้ี ดัชนีอุณหภูมิที่ ความร้อนปกคลมุ หลายพ้ืนท่ีในชว่ งต้นเดอื นสิงหาคม สง่ ผลให้ รา่ งกายมนุษย์รู้สกึ ได้ (Apparent Temperature; AT) ซ่งึ ค�ำนวณ ชาวเมืองโตเกียวต้องเผชิญอุณหภูมิ 35 oC นานติดต่อกันถึง จากขอ้ มลู อณุ หภมู แิ ละความชน้ื สมั พทั ธ์ ยงั แสดงความเสยี่ งตอ่ 5 วนั ซึง่ ถอื ว่ายาวนานที่สุด ตัง้ แตม่ ีการเกบ็ ขอ้ มูลสถติ ิมาตั้งแต่ สภาวะความเครยี ดจากความรอ้ นในประเทศไทยมแี นวโนม้ เพม่ิ ปี พ.ศ. 2418 และกรุงโตเกียวต้องตกอยใู่ นสภาพอากาศท่รี อ้ น ขน้ึ ในรอบ 42 ปที ผ่ี า่ นมา (แสงจนั ทรแ์ ละคณะ, 2553) Tawatsupa et ระอุถึง 36.7 oC ท�ำให้ประชาชนในเมืองต้องเข้ารับการรักษา al. (2012) พบความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงของ ที่โรงพยาบาลกว่า 3,307 คน จากสาเหตุอากาศร้อน ขณะที่ อุณหภูมิและอัตราการตายของคนไทยในช่วงระหว่างปี ค.ศ. เมอื งไดโงะ ในจงั หวดั อบิ ารากิ ทางภาคเหนอื ของประเทศญป่ี นุ่ 1999-2008 โดยอุณหภูมิสูงสุดเป็นปัจจัยที่ส�ำคัญในการ ต้องเผชิญกับอุณหภูมิท่ีสูงถึง 38 oC นอกจากน้ี ในทวีปยุโรป คาดการณอ์ ัตราการตาย ยังเกิดคลื่นความร้อนท้ังในประเทศฝร่ังเศส เยอรมัน อิตาลี No.33 May 2016
28 กา้ วหน้าพัฒนา 2. ดชั นคี วามรอ้ น Thermal Index (TI) ซงึ่ โดยส่วนใหญค่ ำ� นวณจากข้อมลู อณุ หภูมแิ ละความชื้นได้รับการพฒั นาอย่างต่อเนื่อง เพอ่ื ใช้อธิบาย เงอ่ื นไขและความเชอื่ มโยงทซ่ี บั ซอ้ นระหวา่ งการแลกเปลยี่ นความรอ้ นระหวา่ งรา่ งกายมนษุ ยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มโดยรอบ (Anderson et al., 2013; WMO and WHO, 2015) โดยที่ WMO and WHO (2015) ไดส้ รปุ ชดุ TI ทีม่ อี ยู่ในปัจจบุ ันทถ่ี กู นำ� มาประยุกต์ใชป้ ระเมนิ ความร้อนและอธิบายกระบวนการควบคุมอุณหภูมิและภาระความร้อนในหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตุนิยมวิทยาท้ังส่วน กลางและสว่ นทอ้ งถ่ิน ซ่ึง TI ทใี่ ช้ในปัจจุบนั มีหลากหลายตงั้ แต่ดัชนีอยา่ งงา่ ยทีค่ ำ� นวณจากตวั แปรภมู อิ ากาศพื้นฐานท่ตี รวจวดั กนั โดยทว่ั ไป ไปจนถงึ ดชั นที ค่ี ำ� นวณจากตวั แปรภมู อิ ากาศหลายตวั แปรหรอื คำ� นวณบนพนื้ ฐานของโมเดลสมดลุ ความรอ้ นหรอื โมเดล ทางด้านสรรี วทิ ยาความร้อนและอุณหภมู ิของมนุษย์ (Anderson et al., 2013; WMO and WHO, 2015) จากการทบทวนเอกสารงานวจิ ยั ตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง พบวา่ Steadman’s apparent temperature เปน็ หนง่ึ ในบรรดา TI ทน่ี ยิ ม มากทส่ี ดุ สำ� หรบั การวจิ ยั ดา้ นอนามยั สงิ่ แวดลอ้ ม ซง่ึ สามารถคำ� นวณจากขอ้ มลู อณุ หภมู อิ ากาศและความชนื้ โดยแปลงสภาพอากาศ ปจั จบุ นั ใหเ้ ปน็ อณุ หภมู ทิ ที่ กุ คนรสู้ กึ ไดเ้ หมอื นกนั ในกรณที อ่ี ณุ หภมู จิ ดุ นำ�้ คา้ งมคี า่ เทา่ กบั 14.0 Cํ (Steadman 1979a, 1979b, 1984; Rothfusz 1990) อย่างไรกต็ าม Steadman’s apparent temperature ได้พฒั นาเพ่ือวัดความสะดวกสบายจากความรอ้ นมากกว่า ใชศ้ ึกษาสขุ ภาพของมนษุ ย์ (Steadman 1994) Anderson et al. (2013) ได้ทำ� การเปรยี บเทียบอลั กอรทึ มึ และสมการทีแ่ ตกต่างกนั ถึง 21 วิธีท่ีใช้ค�ำนวณดัชนีความร้อนท่ีพบในเอกสารงานวิจัยที่ผ่านมา เพ่ือตรวจสอบว่าอัลกอรึทึมและสมการท่ีแตกต่างกันนั้น ใหค้ า่ ดชั นคี วามรอ้ นทสี่ อดคลอ้ งกบั แนวคดิ ทางทฤษฎขี อง AT หรอื ไมแ่ ละใหผ้ ลการคำ� นวณคา่ ดชั นคี วามรอ้ นทค่ี ลา้ ยคลงึ กนั หรอื ไม่ ซึง่ ผลการศกึ ษา พบว่า อัลกอรทึ มึ และสมการส่วนใหญ่ ให้ค่าดัชนคี วามร้อนท่ีสอดคลอ้ งกับ AT และใหผ้ ลการค�ำนวณท่ใี กลเ้ คยี ง และสามารถเปรยี บเทียบผลกนั ได้ 3. การพัฒนาดชั นคี วามรอ้ นส�ำหรบั ประเทศไทย Heat Index (HI) ไดถ้ กู คดั เลอื กเปน็ ดชั นคี วามรอ้ นทใ่ี ชศ้ กึ ษาในประเทศไทย เนอ่ื งจากเปน็ ดชั นที อ่ี าศยั เฉพาะขอ้ มลู อณุ หภมู ิ และความชนื้ ซง่ึ เปน็ ตวั แปรภมู อิ ากาศพนื้ ฐานทตี่ รวจวดั เปน็ ประจำ� ของสถานตี รวจวดั อตุ นุ ยิ มวทิ ยาพนื้ ผวิ อกี ทง้ั เปน็ ดชั นที ส่ี ามารถ ใชต้ ดิ ตามแนวโนม้ การเปลย่ี นแปลงคลน่ื ความรอ้ นในระยะยาวไดบ้ นพน้ื ฐานของฐานขอ้ มลู ภมู อิ ากาศรายวนั ทไี่ ดต้ รวจวดั และเกบ็ รวบรวมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน HI เป็นดัชนีที่ถูกพัฒนาบนพ้ืนฐานของ AT ซ่ึงได้ถูกน�ำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ทง้ั การศกึ ษาวจิ ยั และการตดิ ตามตรวจสอบอยา่ งแพรห่ ลายในหนว่ ยงานตา่ งๆ ตวั อยา่ งเชน่ National Weather Service ของประเทศ สหรฐั อเมริกา HI สามารถค�ำนวณจากข้อมลู อุณหภมู ิและความชื้นสัมพทั ธ์ไดด้ งั น้ี HI (oF) = -42.379 + 2.04901523*T +10.14333127*RH -0.22475541*T*RH -6.83783 x 10-3*T2 -5.481717 x 10-2* RH2 +1.22874 x 10-3*T2*RH +8.5282 x 10-4*T*RH2 -1.99 x 10-6 * T2 *RH2 1 C = 5/9 * ( oF -32) 2 HI: heat index (oF), T: air temperature (oF), RH: relative humidity (%) F: Fahrenheit, C: Celsius สมการข้างต้น เป็นอัลกอรึทึมถดถอยพหุคูณ ประกอบด้วย 9-term multiple regression model ที่สามารถประยุกต์ใช้ คำ� นวณ HI ได้ดี เมื่ออุณหภูมแิ ละความชืน้ สัมพทั ธ์สงู กว่า 26 oC และ 39% ตามลำ� ดบั ดงั นนั้ มีข้อแนะน�ำให้ปรบั ความถกู ตอ้ ง ของคา่ HI = T ในกรณีทอี่ ณุ หภูมิและความชืน้ สมั พทั ธต์ �่ำกว่าคา่ ดงั กล่าว (Patricola and Cook 2010; Zahid and Rasul, 2010; Oka, 2011; Rajib et al., 2011) ส�ำหรับข้อมูลอุณหภูมิเฉลี่ยรายวันของสถานีตรวจวัดอุตุนิยมวิทยาท่ัวประเทศไทยในห้วงเวลา 1970-2014 ประมาณ 24.3% ทมี่ ีค่าตำ่� กว่า 26 oC สว่ นข้อมลู ความช้ืนสมั พัทธ์รายวันในห้วงเวลาเดียว พบเพียง 0.13% ที่มคี า่ No.33 May 2016
กา้ วหน้าพัฒนา 29 นอ้ ยกว่า 39% ซึง่ ต้องปรบั ความถูกตอ้ งเม่อื คำ� นวณคา่ HI จากสมการ 1 ความผดิ พลาดของการคำ� นวณ HI มคี า่ ±1.3 oF (Zahid and Rasul, 2010; Rajib et al., 2011) เนอื่ งจาก HI เป็นการค�ำนวณจากขอ้ มูลในตาราง Steadman ดว้ ยสมการถดถอยพหคุ ูณ HI ได้ถูกน�ำมาประยุกต์ใช้ศึกษาในพื้นที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย อาทิเช่น ประเทศปากีสถาน ประเทศบังคลาเทศ และประเทศ เกาหลใี ต้ เพอื่ ให้ HI สามารถถกู นำ� ไปใชง้ านใหง้ า่ ยขน้ึ ไดม้ กี ารพฒั นา Chart ทแี่ สดงคา่ ของ HI ในชว่ งของอณุ หภมู ติ ง้ั แต่ 26-43 Cํ และความชื้นสัมพัทธ์ตั้งแต่ 40-100% เพ่ิมเติม ดังแสดงในรูปที่ 6 โดยระดับผลกระทบท่ีอาจจะเกิดขึ้นต่อร่างกายมนุษย์ของ คา่ HI ในชว่ งตา่ งๆ สรปุ ในตารางท่ี 1 ซง่ึ ผลกระทบดงั กลา่ ว ยงั ไดแ้ สดงใน Chart ของ HI ดว้ ยระดบั ความเขม้ ของสที ตี่ า่ งกนั (รปู ท่ี 4) รูปท่ี 4 HI Chart สาหรับช่วงของอณุ หภูมิตัง้ แต่ 26-43 oC และความชื้นสมั พัทธต์ ัง้ แต่ 40-100% ตารางท่ี 1 ผลกระทบทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ ตอ่ รา่ งกายมนษุ ยข์ องคา่ HI ในชว่ งตา่ งๆ (Choi et al., 2005; Zahid and Rasul, 2010) Category Heat Index ( ํC) Possible symptom Caution 26.7 - 32.2 Extreme caution 32.2 - 40.6 Fatique with prolonged exposure and physical activity Sunstroke, Heat cramps and heat exhaustion with prolonged exposure Danger 40.6 - 54.5 and physical activity under these conditions Extreme danger Over 54.5 Sunstroke, Heat cramps or heat exhaustion are likely. Heatstroke with prolonged exposure and physical activity Heatstroke or Sunstroke are imminent ผลการคำ� นวณจากขอ้ มลู อณุ หภมู แิ ละความชน้ื สมั พทั ธต์ รวจวดั รายวนั ของสถานพี นื้ ผวิ ของกรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา จำ� นวน 69 สถานี ในห้วงเวลาตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1970-2013 พบว่า HI ในประเทศไทย มีลักษณะการแจกแจงแบบปกติ ซึง่ มคี า่ อยู่ในช่วงระหว่าง 13.1 – 64.2 oC แตค่ ่า HI สว่ นใหญต่ กอยูใ่ นชว่ ง 27 – 35 oC (รูปที่ 5) ท้งั นี้ HI ท่คี ำ� นวณสำ� หรบั ประเทศไทยในอดตี ถึงปัจจบุ ัน มีค่าอยูใ่ นชว่ งผลกระทบที่อาจจะเกดิ ขนึ้ ต่อรา่ งกายมนษุ ยต์ ัง้ แต่ Caution ถงึ Extreme danger โดย 25.5% ของขอ้ มูลทัง้ หมดมี คา่ HI สูงกวา่ 32.2 oC หรือระดบั Extreme caution (ตารางท่ี 1 และรูปที่ 5) No.33 May 2016
30 กา้ วหน้าพัฒนา รปู อทุณ่ี 5หRภeมู lิแatลivะeคfวrาeqมuชe้ืนnสcมัyพhัทisธto์ตgรrวaจmวดั ขรอางยคว่านั HขอI ทงสีค่ ถ�ำานนวีผณิวจพา้นื กขขอ้องมลู รูปรทอี่ บ6ปคีข่าอเฉงลHี่ยIแทล่ีคะำ�คนา่ วเบณ่ยี จงาเบกน6ม5าสตถรฐานานี ใรนะชยว่ ะงยตาง้ั วแต(1ป่ 9ี7ค0.-ศ2.011937) 0ร-า2ย0ว1นั 3ใน กรมอุตนุ ยิ มวทิ ยา จำ� นวน 69 สถานี ตั้งแตป่ ี ค.ศ. 1970-2013 เส้นปะสแี ดง แสดงระดบั Extreme caution (32.2 Cํ ) ค่าเฉล่ยี ระยะยาวและคา่ เบย่ี งเบนมาตรฐานรายวนั ในรอบปขี อง HI ในภาพรวมของประเทศไทยดงั แสดงในรูปที่ 6 ซ่งึ HI มคี ่าสงู กว่าระดับ Extreme caution เกิดขึน้ ต้ังแต่ประมาณปลายเดือนกมุ ภาพันธถ์ งึ ประมาณเดอื นกรกฎาคม (รูปที่ 6) ภาคกลาง และภาคตะวันออก มชี ่วงท่ี HI มีคา่ สงู กว่าระดบั Extreme caution กว้างกวา่ ภาคอน่ื ๆ พรอ้ มทัง้ มีคา่ สงู สดุ สูงกวา่ เม่อื เปรียบเทยี บ กับภาคอ่ืนๆ ทั้งน้ี ค่า HI ในระดับ Extreme caution (> 32.2 ํC) ในภาคกลางและภาคตะวันออก มีสัดส่วนท่ีสูงกว่าภาคอ่ืนๆ เชน่ กัน (รูปท่ี 7) รูปท่ี 7 สัดส่วนของคา่ HI เฉลยี่ รายภาคในกลุม่ ตา่ ง ๆ ตามตารางท่ี 1 เอกสารอา้ งอิง แสงจนั ทร์ ลิม้ จริ กาล อัศมน ล่มิ สกุล และทวีวงศ์ ศรีบรุ .ี 2553. การประเมนิ สภาวะความรุนแรงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย: การวเิ คราะห์ ความเส่ยี งและความล่อแหลมของพนื้ ท่วี ิกฤต.ิ รายงานฉบับสมบรูณข์ องสำ� นักงานกองทุนสนบั สนุนการวิจัย (สกว.). อศั มน ล่มิ สกลุ อ�ำนาจ ชดิ ไธสง และกัณฑรีย์ บุญประกอบ. 2554. รายงานการสงั เคราะหแ์ ละประมวลสถานภาพองคค์ วามร้ดู ้านการเปล่ียนแปลง ภมู ิอากาศของไทยครั้งที่ 1 คณะทำ� งานกลุม่ ท่ี 1 องค์ความรู้ดา้ นวทิ ยาศาสตรข์ องการเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศ. สานกั งานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย (สกว.). Anderson, G.B., Bell, M.L., Peng, R.D. 2013. Methods to calculate the heat index as an exposure metric in environmental health research. Environmental Health Perspectives, 121, 1111-1119. No.33 May 2016
กา้ วหน้าพฒั นา 31 Barriopedro, D., Fischer, E.M., Luterbacher, J., Trigo, R.M., Garćıa-Herrera, R. 2011. The hot summer of 2010: redrawing the temperature record map of Europe. Science, 332, 220–224. Basu, R. 2009. High ambient temperature and mortality: a review of epidemiologic studies from 2001 to 2008. Environmental Health, 8:40, DOI: 10.1186/1476-069X-8-40. Beniston, M. 2004. The 2003 heat wave in Europe: A shape of things to come? An analysis based on Swiss climatological data and model simulations. Geophysical Research Letters, 31, L02202. Field, C.B., et al. (Eds.) 2012. Intergovernmental Panel on Climate Change: Managing the risks of extreme events and disasters to advance climate change adaptation. Cambridge University Press: Cambridge; 1075 pp. Fischer, E.M., Seneviratne, S.I., Lüthi, D. and Schär, C. 2007. Contribution of land-atmosphere coupling to recent European summer heat waves. Geophysical Research Letters 34: L06707. DOI: 10.1029/2006GL029068. Frich, P., Alexander, L.V., Della-Marta, P., Gleason, B., Haylock, M., Klein Tank, A.M.G. and Perterson, T. 2002. Observed coherent changes in climatic extremes during the second half of the twentieth century. Climate Research, 19, 193-212. IPCC, 2013. Climate change 2013: The physical science basis. Contribution of Working Group I to the Fifth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change (Eds: Stocker TF, Qin D, Plattner G-K, Tignor M, Allen SK, Boschung J, Nauels A, Xia Y, Bex V and Midgley PM). Cambridge University Press, Cambridge, United Kingdom and New York, NY, USA. IPCC, 2014. Climate change 2014: Impacts, adaptation and vulnerability. Contribution of Working Group II to the Fifth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change (Eds: Field CB, Barros VR, Dokken DJ, Mach KJ, Mastrandrea MD, Bilir, TE, Chatterjee M, Ebi KL, Estrada YO, Genova RC, Girma B, Kissel ES, Levy AN, MacCracken, S, Mastrandrea PR, and White LL). Cambridge University Press, Cambridge, United Kingdom and New York, NY, USA. Kovats, R.S. and Ebi, K.L. 2006. Heatwaves and public health in Europe. European Journal of Public Health, 16, 592–599. Kovats, R.S. and Hajat, S. 2008. Heat stress and public health: A critical review. Annual Review of Public Health, 29, 41–55. Lau, N.-C and Nath, M.J. 2012. A model study of heat waves over North America: Meteorological aspects and projections for the twenty-first century. Journal of Climate, 25, 4761–4784. Meehl, G.A. and Tebaldi, C. 2004. More intense, more frequent and longer lasting heat waves in the 21st century. Science, 305, 994-997. NOAA, 2014. Heat wave. National Weather Service, National Oceanic and Atmospheric Administration. http://www.weather.gov/. Oka, M. 2011. The influence of urban street characteristics on pedestrian heat comfort levels in Philadelphia. Trans GIS, 15(1), 109–123. Patricola, C.M., Cook, K.H. 2010. Northern African climate at the end of the twenty-first century: an integrated application of regional and global climate models. Climate Dynamices, 35,193–212. Rahmstorf, S and Coumou, D. 2011. Increase of extreme events in a warming world. PNAS 108, 17905–17909. Rajib, M.A., Mortuza, M.R., Selmi, S., Ankur, A.K. and Rahman, M.M. 2011. Increase of heat index over Bangladesh: Impact of climate change. World Academy of Science, Engineering and Technology, 58, 402-405. Rothfusz, L.P. 1990. The Heat Index “Equation” (or, More Than You Ever Wanted to Know About Heat Index). SR 90–23. Fort Worth, TX:National Oceanic and Atmospheric Administration, National Weather Service, Office of Meteorology. Schär, C., Vidale, P.L., Lüthi, D., Frei, C., Häberli, C., Liniger, M.A. and Appenzeller, C. 2004. The role of increasing temperature variability in European summer heatwaves. Nature, 427, 332-336. Steadman, R.G. 1979a. The assessment of sultriness. Part I: A temperature-humidity index based on human physiology and clothing science. Journal of Applied Meteorology, 18, 861–873. Steadman, R.G. 1979b. The assessment of sultriness. Part II: Effects of wind, extra radiation and barometric pressure on apparent temperature. Journal of Applied Meteorology, 18, 874–885. Steadman, R.G. 1994. Norms of apparent temperature in Australia. Aust Met Mag, 43, 1–16. Stott, P.A., Stone, D.A. and Allen, M.R. 2004. Human contribution to the European heatwave of 2003. Nature, 432, 610-613. Tawatsupa, B. Dear, K., Kjellstrom, T, and Sleigh, A. 2012. The association between temperature and mortality in tropical middle income Thailand from 1999 to 2008. International Journal of Biometeorology, DOI 10.1007/s00484-012-0597-8. WMO-WHO, 2010. Heat wave and health: Guidance on warming system development. The World Meteorological Organization and the World Health Organization. 88 pp. WMO (World Meteorological Organization) and WHO (World Health Organization), 2015. Heatwaves and health: Guidance on warning- system development. WMO-No. 1142. 96 pp. Zahid, M. and Rasul, G. 2010. Rise in summer heat index over Pakistan. Pakistan Journal of Meteorology, 6 (12), 85-96. No.33 May 2016
32 กา้ วหนา้ พฒั นา จตุรงค์ เหลาแหลม การบำ� บดั ไซยาไนด์ จากการขยายตัวอยา่ งตอ่ เนอ่ื งของอตุ สาหกรรมผลิตทองค�ำบริสทุ ธ์ิสง่ ผลใหเ้ กดิ น้ำ� เสียทีเ่ กิดจากกระบวนการสกัด แร่ทองค�ำและอุตสาหกรรมผลิตทองบริสุทธ์ิเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ไซยาไนด์เป็นสารส�ำคัญในการแยกสินแร่ทองค�ำ มากกวา่ 90 เปอรเ์ ซน็ ต์ ของการผลติ ทองคำ� ทว่ั โลกในแตล่ ะปใี ชไ้ ซยาไนดแ์ ยกสกดั ทองคำ� ออกจากแรส่ นิ แมส้ ารเคมหี ลาย ชนิดจะสามารถใช้สกัดทองค�ำได้แต่ด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น ความเป็นพิษ ประสิทธิภาพ ต้นทุนการผลิต ซ่ึงท�ำให้ ไซยาไนดเ์ ป็นสารเคมีท่ไี ด้รับความนยิ มมากท่สี ุดในการแยกสกดั ทองคำ� แมค้ วามเปน็ พษิ สูงแบบเฉียบพลนั แตไ่ ม่จดั เปน็ สารก่อมะเร็ง ดังนั้นหากมีการจัดการท่ีดี เริ่มตั้งแต่การขนย้าย การนำ� มาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะก่อให้เกิดของเสียที่มี ไซยาไนด์น้อยที่สุด และการก�ำจัดของเสียท่ีเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยท่ีท�ำให้เกิดของเสีย ไซยาไนดม์ ากขน้ึ เกดิ จากเหลก็ ในสนิ แร่ ทำ� ใหเ้ กดิ เปน็ สารประกอบเชงิ ซอ้ นของเหลก็ ไซยาไนด์ นอกจากนโ้ี ลหะอน่ื ในสนิ แร่ เปน็ สารมลทนิ แยง่ ทองจบั ไซยาไนด์ เชน่ สงั กะสี ทองแดง และนกิ เกลิ ทำ� ใหต้ อ้ งใชไ้ ซยาไนดม์ ากขนึ้ ซง่ึ จะทำ� ใหเ้ กดิ ของเสยี ไซยาไนด์ (สภาวศิ วกร. 2554) สารไซยาไนด์ (Cyanide) นับว่าเป็นสารเคมีอีกชนิดท่ีควรตระหนักถึงภัยอันตรายท่ีมีต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ถงึ แม้ว่าสารไซยาไนด์ไมถ่ ูกจดั ว่าเปน็ สารกอ่ มะเรง็ (จฑุ ารัตน์. 2547) แตก่ ม็ ฤี ทธท์ิ ำ� ให้ถงึ แกค่ วามตายได้หากร่างกายไดร้ ับเกนิ ค่า มาตรฐานที่ก�ำหนด นอกจากน้ียังมีรายงานว่าการได้รับสารไซยาไนด์ท่ีความเข้มข้นสูงอาจท�ำให้เสียชีวิตได้ในระยะเวลาเพียงไม่ กว่ี นิ าทีนี้ (Baskin และคณะ.2008 )และสารเคมีชนดิ นถี้ กู ใชเ้ ป็นยาพิษเม่ือหลายพันปีแลว้ (ทมี่ า: http://www.siamchemi.com/) No.33 May 2016
กา้ วหนา้ พัฒนา 33 ความเข้มข้นของสารประกอบไซยาไนด์และวิธีการได้รับ สารพิษ 1. ทางปาก (Ingestion) คา่ Lethal Dose 50 เปอรเ์ ซน็ ต์ (รL่าDงก50า) ยเท(ก่าิโกลับกร5ัม0) -200 ppm หรือ 1-3 มิลลิกรัมต่อนํ้าหนัก 2. ทางลมหายใจ (Inhalation) คา่ Lethal Concentration 50 เปอร์เซ็นต์ (LC50) เท่ากับ 100-300 ppm จะตายภายใน เวลา 10-60 นาที แต่ถ้าได้รับไซยาไนด์ 2,000 ppm จะตาย ภายใน 1 นาที 3. ทางผวิ หนงั (Contact) คา่ LD50 เทา่ กบั 100 มลิ ลกิ รมั Thlaspi caerulescens Brassica juncea 2. กระบวนการย่อยสลายทางกายภาพ การจัดการ ต่อนํ้าหนักร่างกาย (กิโลกรัม) โดยท่ีค่า LD50 คือ ปริมาณสาร ไซยาไนด์โดยวิธีการทางกายภาพ เป็นวิธีการอย่างง่ายเหมาะ ท่ีเราให้กับสัตว์ทดลอง แล้วสัตว์ทดลองตายไปครึ่งหน่ึง หรือ ส�ำหรับกรณีท่ีมีของเสียปริมาณไม่มาก เช่น การเจือจาง 50 เปอร์เซ็นต์ (http://www.chemtrack.org/Board-Detail. (Dilution), Electrowining, Hydrolysis / Distillation และการผา่ น asp?TID=0&;ID=467) เย่ือ (Membrane) โดยการแยกไซยาไนด์จากสารละลายโดยการ ผา่ นเยือ่ สามารถท�ำได้ 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ Electrodialysis ท�ำไดโ้ ดยใส่ พิษจากสารไซยาไนด์ (จุฑารัตน์ . 2547) สารละลายไซยาไนด์ที่ต้องการท�ำให้บริสุทธิ์ในครึ่งเซลล์แคโทด อาการเฉียบพลัน ทางเข้าสู่ร่างกายน้ันสามารถเข้าสู่ หรือขั้วลบ เนื่องจากไซยาไนด์มีประจุลบจะแพร่ผ่านเย่ือมา คร่ึงเซลล์แอโนด หรือข้ัวบวก เป็นการแยกไซยาไนด์ออกจาก ร่างกายได้ท้ังทางการหายใจ ทางการกิน และซึมผ่านผิวหนัง สารละลายและ Reverse Osmosis เปน็ วีธีที่ใช้แรงดันท�ำให้นำ�้ หากได้รับเข้าไปปริมาณมากจะมีฤทธ์ิยับย้ังการหายใจในระดับ แพร่ผา่ นเย่ือเป็นการแยกน�ำ้ ออกจากสารละลายไซยาไนด์ เซลลท์ ำ� ให้เซลล์ถงึ แก่การตายได้ 3. วิธีการผสมผสาน การ Acidification/Volatilization/ อาการระยะยาว การสัมผัสสาร thiocyanate ในระยะ Reneutralization (AVR or Mills-Crowe Process) เปน็ การบำ� บดั ยาวอาจก่อให้เกิดพิษเรื้อรังได้มีอาการ แขนขาอ่อนแรง ปวด ไซยาไนดโ์ ดยการนำ� กลบั มาใชใ้ หม่ (Recovery) เปน็ กระบวนการ ศรี ษะ และโรคของตอ่ มไทรอยด์ ซึ่งมรี ายงานในคนงานโรงงาน ทใี่ ชไ้ ดด้ กี บั ของเสยี ทไ่ี ซยาไนดม์ คี วามเขม้ ขน้ ปานกลางถงึ สงู และ แผงวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ และคนงานขัดเครือ่ งเงนิ การบำ� บดั ไซยาไนด์ มอี ตั ราการไหลสงู หรอื ตำ่� กไ็ ดโ้ ดยการทำ� ใหไ้ ซยาไนดอ์ ยใู่ นสภาพ ไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่พบได้ในธรรมชาติท้ังพืชและ ที่เปน็ กรด (Acidification) ท่ี pH ตำ�่ กว่า 8.0 ไซยาไนด์อสิ ระและ สัตว์ โดยสมดุลของธรรมชาติจะมีกระบวนการท�ำลายพิษของ WAD Cyanide จะทำ� ปฏกิ ริ ยิ ากบั กรดไดก้ า๊ ซไฮโดรเจนไซยาไนด์ ไซยาไนด์ จะดำ� เนนิ การไปอยา่ งช้าๆ ซึ่งไม่สามารถรองรับของ ระเหยไปในอากาศ (Volatilization) ปฏกิ ริ ิยาเหลา่ นีส้ ามารถเกิด เสียอุตสาหกรรม ดังนั้นต้องหาวิธีการบ�ำบัดไซยาไนด์อย่างมี ขึ้นได้เองในธรรมชาติ โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะละลาย ประสิทธภิ าพและเหมาะสม (Young, Online 2002) น้�ำได้กรดคาร์บอนิกท�ำให้ pH ลดต่�ำลง เกิดก๊าซไฮโดรเจน 1. กระบวนการย่อยสลายตัวโดยธรรมชาติ (Natural ไซยาไนด์ แต่ถ้าต้องการน�ำไซยาไนด์กลับมาใช้ใหม่ก็จะต้อง Degradation) การสลายตวั โดยธรรมชาตเิ กดิ จากหลายปฏกิ ริ ยิ า ให้ก๊าซไฮโดรเจนไซยาไนด์ท�ำปฏิกิริยากับโซเดียมไฮดรอกไซด์ เช่น Hydrolysis Photodegradation, Chemical Biological (Sodium Hydroxide: NaOH) ซ่ึงจะสามารถดักจับไซยาไนด์ได้ Oxidation และการตกตะกอนในรูปสารประกอบเชิงซ้อนของ ประมาณ 70-95 เปอร์เซน็ ต์ โลหะ แต่กระบวนการหลัก คือ การแยกตัวของสารประกอบ Metal Addition การเติมโลหะเป็นการท�ำให้ไซยาไนด์ เชิงซ้อนไซยาไนด์ของโลหะ และการระเหยเป็นก๊าซไฮโดรเจน อยใู่ นรปู SAD complex เชน่ การเติม Fe2+หรือ Fe3+ ทำ� ใหเ้ กดิ ไซยาไนด์ ปจั จยั สำ� คญั ทม่ี ผี ลตอ่ การสลายตวั ไดแ้ ก่ pH อณุ หภมู ิ Hiกoบัenxแ[aFสceงy(Ca(PnNho)of6e3to-r]rdaตetาegมr(aIลId)ำ� iaoดtniบัon[Fแ)eตด(ส่Cงั นาNรนั้)ป6จ4-รงึ]ะมแกกีลอาะบรHเทตeไ่ีมิxดaโอ้ลcาหyจaะnเซกoอ้ ดิfeนปrอrฏaกี กิteริเชยิ(IIน่ าI) แสงแดด และการเติมอากาศรวมถึงการใช้พืช ถ้าอยู่ในสภาวะ แวดล้อมที่เหมาะสม ปัจจัยแวดล้อมทางธรรมชาติจะเป็นตัว กระตนุ้ ใหเ้ กิดการสลายตวั ของไซยาไนด์ได้ดีย่งิ ขึน้ เหลก็ ทองแดง นกิ เกลิ และสงั กะสี เพอื่ ใหเ้ กดิ การตกตะกอนเปน็ No.33 May 2016
34 กา้ วหนา้ พฒั นา โลหะเชิงซ้อนของเหล็กไซยาไนด์ โดยที่ Hexacyanoferrate (II) กบั สารละลายทตี่ อ้ งการบำ� บดั ไซยาไนดจ์ ะแยกตวั ออกมาอยใู่ น ion [Fe(FCloNta)6t4i-o]nจะกทารำ� ทป�ำฏิกFlิรoยิ taาtกioบั nโลเกหิดะขทึน้ เ่ี ตคมิร้ังแรกต้งั แต่ปี 1880 ชั้นของ Solvent Extraction สมการการเกิดปฏิกิริยามีลักษณะ เดียวกันกับ Flotation สารละลายท่ีใช้เป็น Solvent Extraction เพื่อแยกแร่ออกจากสินแร่ ต่อมาจึงได้มีการปรับปรุงระบบมา สามารถนำ� กลบั มาใชใ้ หม่ได้ ใช้กับการบ�ำบัดไซยาไนด์ การแยกไซยาไนด์ด้วยวิธี Flotation 4. วีธีการดูดซับ (Adsorption method) วิธีการดูดซับ เป็นการแยก SAD Cyanide แล้วเกิดเปน็ ตะกอนโดยธรรมชาติ ไซยาไนด์เป็นการแยกไซยาไนด์ออกจากสารละลายโดยอาศัย หรือโดยการเติมโลหะเพ่ือช่วยในการตกตะกอน ซ่ึงจะช่วย วสั ดตุ า่ งๆ ทม่ี สี มบตั ใิ นการดดู ซบั เชน่ แรบ่ างชนดิ ถา่ นกมั มนั ต์ ปอ้ งกนั การสลายตวั เปน็ ไซยาไนดอ์ สิ ระการทำ� Flotation ไดโ้ ดย (M.D. ADAMS, 1994) และ เรซน่ิ โดยหลกั การแลว้ ไซยาไนดท์ ี่ เติมสาร Heteropolar Surfactant ซ่ึงสวนมากจะเป็นสารกลุ่ม ถกู ดดู ซบั ไวจะถกู แยกออกอกี ครง้ั ในสารละลายทมี่ ปี รมิ าณนอ้ ย Cationic Amine เช่น Tricaprylmethyl Ammonium Chloride ท�ำให้ได้สารละลายไซยาไนด์เข้มข้นและวัสดุดูดซับดังกล่าวก็ แ(Rล4ว้NตCกl)ตเะพกอื่ อทนำ� เปปฏน็ กิเกริ ลยิ อืาเกชบั งิ สซอ้ารนปขรอะงกสอาบรอAนิ nทioรnยี icต์ ะSกAอDนCทyไ่ี aดnอ้ idาจe สามารถนำ� กลบั มาใช้ใหม่ได้ 5. วิธีการออกซิเดชัน (Oxidation method) การก�ำจัด อยู่ในรูปสารแขวนลอยหรืออาจมีขนาดอนุภาคใหญ่กว่า วิธีนี้ ไซยาไนดด์ ว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ เชน่ วธิ ที างกายภาพ วธิ กี ารทำ� ใหเ้ กดิ เหมาะสำ� หรับการแยก SAD Cyanide มากกว่า WAD Cyanide สารประกอบเชิงซ้อน และวิธีการใช้สารท่ีมีคุณสมบัติในดูดซับ Solvent Extraction เรมิ่ ใชค้ รงั้ แรกประมาณกลางปี 1950 ยังคงมีสารประกอบไซยาไนด์ที่เกิดจากการบ�ำบัดที่ยังเป็นพิษ ในกระบวนการผลิตยูเรเนียม และจากนั้นมาอีก 10 ปี ก็ได้รับ ตอ้ งทำ� การบำ� บดั กอ่ นการปลอ่ ยออกสสู่ ง่ิ แวดลอ้ ม แตว่ ธิ กี ารดงั ความนิยมทั่วโลกจากการประยุกต์มาใช้กับกระบวนการผลิต กล่าวเป็นวิธีการแยกและน�ำไซยาไนด์กลับมาใช้ใหม่ถ้าต้องการ ทองแดง สารท่ีใช้เป็น Solvent Extraction เป็นสารอินทรีย์จึง ทำ� ลายไซยาไนดจ์ ำ� เปน็ ตอ้ งใหไ้ ซยาไนดเ์ กดิ ปฏกิ ริ ยิ าออกซเิ ดชนั ไม่รวมตัวกับน้�ำและมีความหนาแน่นน้อยกว่าน�้ำและมีความ สามารถในการละลายเม่อื เตมิ สารทใี่ ชเ้ ป็น Solvent Extraction เอกสารอา้ งองิ จุฑารัตน์ อาชวรตั น์ถาวร. 2547. ความรู้เบอื้ งต้เกย่ี วกบั ไซยาไนด์. สำ� นกั อสุ าหกรรมพ้ืนฐาน กรมอตุ สาหกรรมเหมืองแร่ สภาวศิ วกร. 2554. มาตรฐานการปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี เรอ่ื งมาตรฐานการจดั การไซยาไนดใ์ นการกระบวนการสกัดทองค�ำ ศูนยข์ อ้ มลู วัตถอุ ันตรายและเคมีภณั ฑ์. http://msds.pcd.go.th/searchName.asp?vID=1385 M.D. ADAMS, REMOVAL OF CYANIDE FROM SOLUTION USING ACTIVATED CARBON, Minerals Engineering, 1994, Vol. 7, No. 9, pp. 165-117 S.I. Baskin, J.B. Kelly, B.I. Maliner, G.A. Rockwood, C.K. Zoltani, Cyanide poisoning,in: S.D. Tuorinsky (Ed.), Textbook of Military Medicine: Medical Aspects of Chemical Warfare, Office of The Surgeon General at TMM Publications, Borden Institute, Washington, DC, 2008, pp. 371–410 Young, C.A. and Jordan, T.S. “Cyanide Remediation: Current and Past Technologies.” (Online). Available: http://www.engg.ksu.edu/ HSRC/95Proceed/young.pdf, 2002. http://www.siamchemi.com http://www.tint.or.th/nkc/nkc51/nkc5102/nkc5102d.html http://www.publicconsultation.opm.go.th/rubfung67/doc37.pdf No.33 May 2016
ERTC Update 35 ถ่ายทอดความรู้ และรณรงค์หยุดการเผาพน้ื ทกี่ ารเกษตรในตำ� บลต้นแบบปลอดการเผา ณ โรงเรยี นห้วยน�้ำขุ่น ต.อ่านาไลย อ.เวยี งสา จ.นา่ น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยสถาบันไดออกซินแห่งชาติ ไดเ้ ขา้ รว่ มจดั แสดงนทิ รรศการเรอ่ื ง “สารไดออกซนิ ” เพอื่ เผยแพรค่ วามรู้ เก่ียวกับสารไดออกซินให้กับประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงภัยอันตรายที่มา กับสารไดออกซิน ในงานถ่ายทอดความรู้และรณรงค์หยุดการเผาพื้นท่ี การเกษตรในต�ำบลต้นแบบปลอดการเผา เม่ือวันท่ี 4-5 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ณ โรงเรยี นห้วยน้�ำขุ่น ต�ำบลอา่ นาไลย อำ� เภอเวยี งสา จงั หวดั นา่ น จดั โดยสำ� นกั งานเกษตรจงั หวดั นา่ น ซง่ึ ในงานมกี ารจดั แสดง นิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย และได้รับความสนใจจาก ประชาชนในพน้ื ทเ่ี ปน็ อยา่ งมาก การประชุมเชิงปฏิบตั ิการพัฒนาโครงการน�ำร่องพืน้ ทีร่ ปู ธรรม ต้นแบบแหง่ การเรยี นรขู้ องชมุ ชนในการแก้ไขปัญหาหมอกควันท่ยี ัง่ ยืน ในพื้นทด่ี อยยาว-ดอยผาหมน่ กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม โดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรม การทำ� ปยุ๋ อนิ ทรยี จ์ ากเศษวสั ดเุ หลอื ทง้ิ จากการปลกู ขา้ วโพดเลยี้ งสตั ว์ ดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม รว่ มกบั วิทยาลัยบรหิ ารศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ พรอ้ มทงั้ รว่ มกนั จดั ทำ� แผนการดำ� เนนิ โครงการนำ� รอ่ งพฒั นาพนื้ ทรี่ ปู จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาโครงการน�ำร่องพ้ืนที่รูปธรรม ธรรมต้นแบบแห่งการเรยี นรู้ของชมุ ชน ซงึ่ ได้รบั ความสนใจจากกลมุ่ ต้นแบบแห่งการเรียนรู้ของชุมชนในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน เกษตรกรในพน้ื ทเี่ ข้าร่วมงานเป็นอย่างดี ทย่ี ง่ั ยนื ในพน้ื ทด่ี อยยาว-ดอยผาหมน่ ในระหวา่ งวนั ที่ 12-13 มนี าคม 2559 ณ ศูนย์บริการนกั ท่องเท่ียวภชู ฟ้ี ้า ต�ำบลตับเต่า อ�ำเภอเทงิ จงั หวัดเชยี งราย เพือ่ สร้างความรู้ความเข้าใจ เกย่ี วกบั องคค์ วามรทู้ ่ี เกย่ี วขอ้ งกบั โครงการนำ� รอ่ งพน้ื ทร่ี ปู ธรรมตน้ แบบแหง่ การเรยี นรขู้ อง ชุมชนในการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่ย่ังยืน ในพื้นที่ดอยยาว-ดอย ผาหมน่ ประกอบด้วย เกษตรกรรมยั่งยืน การท่องเท่ียวยงั่ ยนื และ No.33 May 2016
ปที ่ี 13 ฉบบั ที่ 33 พฤษภาคม 2559 ศนู ยว์ ิจยั และฝึกอบรมดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม กรมสง่ เสรมิ คุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม เทคโนธานี ต�ำบลคลองห้า อ�ำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 โทรศัพท์ 02-577-4182-9 โทรสาร 02-577-1138 www.deqp.go.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: