Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GR36 "ปลูกป่านิเวศ (Eco Forest)"

GR36 "ปลูกป่านิเวศ (Eco Forest)"

Published by Lib SRC, 2022-01-27 01:36:14

Description: GR36

Search

Read the Text Version

Cover Green 60 36-.pdf 1 5/29/60 BE 9:26 AM ป‚ที่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 กเโศwททรูนwคระยศwโทวนพั.ริจdธวทยัeางแนqท0ลี2pระต-พั.g5ฝำย7oกบา7.อลtก-hบ4คร1รธล8มรอ2รดง-มหา9ชนาาโสทตอิง่ ริแำแสเลวภาะดรอสลค0งิ่อลแ2ม-วอ5ดงก7หลร7ลอม-1วมส1งง3เจ8สงัรหมิ วคดั ณุ ปภทาุมพธสา่ิงนแี ว1ด21ล2อ0ม ปท‚ ี่ 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560

ปท‚ ี่ 14 ฉบับที่ 36 พฤษภาคม 2560 “ปลูกปา† นิเวศ (Eco Forest)” การสง‹ เสรม� การเพ�มพ�้นท่ีสเี ข�ยวในเมืองและชมุ ชน ภายใตŒยทุ ธศาสตรส ‹งเสรม� คุณภาพสงิ� แวดลอŒ ม ระยะ 20 ป‚ (พ.ศ. 2560-2579) การสรางปา นิเวศ (Eco Forest) ส(Gำนreกั eงnา-นชพo‹วส้น�fงfทเีฤiขีต่cดนŒียeูหท)วมาองก(คตขสฉวŒนนัอบถลคใาบัมนน)นทภภทพา่ี ีส่ค2าบง‹พเหผสใอนลนำอืงกคสตครญัวอะค ทนนขวบบทอาตนมเี่‹องกรรร่ยีะาูดดยวาับกงนาPับกนMอากร1งาเ0คปรคสลวงัี่ยาเนคมแรราูแปะลลหะงแขภลอูมะมอิ ปูลารกขะาามศววสขลอารงไทย การบำบดั นำ้ เสยี ณ ศนู ยวิจัยและฝกอบรมดา นสงิ่ แวดลอม ปจจบุ นั ดา นการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศของประเทศไทย โดยใชถังปฏกิ รณช วี ภาพ แบบมเี มมเบรนที่ศนู ยว ิจยั และฝก อบรมดา นสง่ิ แวดลอม

เร่อื งเด่นประจ�ำฉบบั เร่ืองเดน่ ประจ�ำฉบบั การสรา้ งปา่ นเิ วศ (Eco Forest) สำ� นักงานสเี ขยี ว 1ณ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม 6(Green-office) ดร. สิรินทร์ แก้วละเอียด อัญชลี แท่นนิล ดร. อนงค์ ชานะมูล กา้ วหนา้ พฒั นา ขอ้ ค้นพบส�ำคัญของรายงานการสังเคราะหแ์ ละประมวลสถานภาพองคค์ วามรดู้ า้ นการเปลีย่ นแปลง ภูมอิ ากาศของไทย ฉบับท่ี 2 ในสว่ นทีเ่ กีย่ วกับองค์ความรูแ้ ละข้อมลู ขา่ วสารปัจจุบัน ดา้ นการเปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศของประเทศไทย 11 ดร. อศั มน ลม่ิ สกลุ ดร. บุญลือ คะเชนทร์ชาติ ดร. ปทั มา สิงหรกั ษ์ ดร. สุรยิ ัณห์ สาระมูล ผศ.ดร. จริ สรณ์ สันตสิ ิริสมบรู ณ์ ดร. สมเกยี รติ อภพิ ฒั นวิศว์ ก้าวหนา้ พัฒนา กา้ วหนา้ พัฒนา การลงทนุ ที่ยง่ั ยนื การบ�ำบดั น้�ำเสยี โดยใช้ถงั ปฏกิ รณ์ 17ตอ้ งคำ� นงึ ถึงสงั คม สงิ่ แวดล้อม 22ชีวภาพแบบมีเมมเบรน ทศ่ี นู ยว์ จิ ัย รฐั เรืองโชติวิทย์ ตดิ ตามเฝา้ ระวัง ตดิ ตามเฝ้าระวงั และฝกึ อบรมด้านส่งิ แวดล้อม การสำ� รวจและตรวจสอบปริมาณ ฐาปนี สมสุข หทัยกาญจน์ แสงทอง สารไดออกซนิ ฟิวแรน และ สดุ า อิทธิสุภรณร์ ัตน์ และไดออกซิน ไลค์ พีซีบี ERTC Update สารประกอบพทาเลทในหอย สส. ร่วมแรงปลูกปา่ นเิ วศ 26ในอากาศในพื้นทกี่ รุงเทพมหานคร 30 33เพ่อื เป็นศูนย์การเรียนรตู้ น้ แบบ สถาบันไดออกซินแหง่ ชาติ “ป่าในเมือง” กรมส่งเสรมิ คณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม พรี ะพงษ์ สุนทรเดชะ สวสั ดีค่ะ ทา่ นผอู้ ่านวารสาร Green Research ฉบับท่ี 36 ประจ�ำเดอื น พฤษภาคม2560 ทกุ ๆ ทา่ น ฉบบั นม้ี าพรอ้ มกบั ความชมุ่ ฉำ่� ของสายฝนทโี่ ปรยปราย พฤษภาคม 2560 ไม่ขาดสายในช่วงต้นฤดูฝน ซ่ึงเต็มไปด้วยเร่ืองราวที่น่าสนใจเช่นเคย เริ่มด้วย คอลมั น์เรอ่ื งเด่นประจำ� ฉบบั เรื่อง การสร้างป่านิเวศ ณ ศูนยว์ ิจัยและฝึกอบรม ทป่ี รึกษา นายสุรชยั อจลบญุ ด้านสิ่งแวดล้อม (ศวฝ.) ซึ่งเป็นกิจกรรมตามยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมคุณภาพ สากล ฐนิ ะกุล ส่ิงแวดล้อม ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 4 การสง่ เสริมการเพ่ิมพื้นทสี่ ีเขียวในเมืองและชมุ ชน บรรณาธิการบรหิ าร กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดล้อม (สส.) โดย ศวฝ. ได้น�ำรอ่ งการปลูกปา่ นเิ วศใน อนงค์ ชานะมลู สถานทรี่ าชการมาแลว้ 3 ครงั้ ดว้ ยกัน ส�ำหรบั การปลูกปา่ นิเวศได้ใช้พนั ธไ์ุ ม้ท้งั สิน้ กองบรรณาธิการ 89 ชนดิ พันธ์ุ จ�ำนวน 1,900 ตน้ พรอ้ มกนั น้ไี ดด้ ำ� เนนิ การสำ� นักงานสเี ขยี วภายใน นติ ยา นักระนาด มลิ น์ ศริ นิ ภา ศรที องทิม ส�ำนักงานของ ศวฝ. เพ่ือให้ทุกคนเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและ หทัยรตั น์ การเี วทย์ เจนวทิ ย์ วงษ์ศานูน สง่ิ แวดลอ้ ม และสง่ิ ของทใ่ี ชใ้ นสำ� นกั งานใหเ้ กดิ ประโยชนม์ ากทสี่ ดุ ตอ่ ดว้ ยคอลมั น์ ปัญจา ใยถาวร รฐั เรอื งโชติวทิ ย์ ก้าวหน้าพัฒนากับ “ข้อค้นพบส�ำคัญของรายงานการสังเคราะห์และประมวล จนิ ดารตั น์ เรอื งโชติวทิ ย์ อาทติ ยา พามี สถานภาพองคค์ วามรูด้ า้ นการเปล่ยี นแปลงภูมิอากาศของไทย ฉบับท่ี 2” สดุ ทา้ ยพลาดไมไ่ ดก้ บั คอลมั นต์ ดิ ตามเฝา้ ระวงั เรอ่ื ง “สารประกอบพทาเลท ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมด้านส่ิงแวดลอ้ ม ในหอย” ท่ีอ่านแล้วรู้สึกว่าพวกเราควรจะร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์ทะเลไทย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยการไม่ท้ิงของเสียหรือขยะพลาสติกลงสู่ทะเล เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม อาหารทะเลที่ปลอดภัยรับประทานต่อไปในอนาคต...เน้ือหาอัดแน่นด้วยคุณภาพ เทคโนธานี ต�ำบลคลองหา้ อ�ำเภอคลองหลวง น่าติดตามทุกเรื่องเลยใช่ไหมคะ หน้าฝนแล้วรักษาสุขภาพและเตรียมตัวรับมือ จังหวดั ปทุมธานี 12120 กบั สภาพอากาศให้ดนี ะคะ จนกวา่ จะพบกนั ใหม่ในฉบับหนา้ ค่ะ โทรศัพท์ 02-577-4182-9 โทรสาร 02-577-1138 www.deqp.go.th AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 34 5/29/60 BE 10:09 AM

ปีท่ี 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 การสร้างปา่ นิเวศ (Eco Forest) ณ ศูนยว์ จิ ัยและฝึกอบรมด้านสงิ่ แวดล้อม ✑ ดร. สิรินทร์ แกว้ ละเอียด ผู้เชย่ี วชาญด้านการปลกู ปา่ นเิ วศ ดร. อนงค์ ชานะมูล ผูอ้ ำ� นวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมดา้ นสงิ่ แวดล้อม ปา่ นเิ วศ(EcoForest) หมายถงึ ปา่ ทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ จากพนื้ ที่ เร็วกว่าการฟื้นตัวตามธรรมชาติ ตลอดจนสร้างความหลากหลาย ทางชีวภาพ เส่อื มโทรม (Degraded Area) เพ่อื ใหเ้ ป็นปา่ ธรรมชาติ (Natural ประเทศญ่ีปุ่นได้เร่ิมต้นสร้างป่าธรรมชาติ (ป่านิเวศ) โดย Forest) โดยการปลกู ต้นไมท้ อ้ งถิน่ (native species) ดว้ ยเทคนคิ Prof. Dr.Akira Miyawaki เมอื่ ประมาณกวา่ 40 ปที ี่ผา่ นมา ปัจจบุ นั การปลูกหลายชัน้ (multi-layer) เลยี นแบบโครงสร้างปา่ ธรรมชาติ ศาสตราจารยม์ ิยาวากิ ไดส้ รา้ งป่านิเวศประมาณกว่า 1,500 แหง่ ปลกู ถี่ (dense planting) ปลูกแบบสุม่ (random) เพือ่ ชว่ ยเรง่ การ ท่ัวทั้งประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน มาเลเซีย ประเทศไทย บราซิล เจริญเติบโต รน่ ระยะเวลาการสืบพันธ์พุ ชื ตามธรรมชาติ ท�ำใหก้ าร และอินเดีย ตามแนวคิดของ Prof. Dr.Akira Miyawaki แห่ง ทดแทนของสงั คมพชื เขา้ สสู่ งั คมพชื ขนั้ สงู สดุ (climax community) 1 เรอื่ งเดน่ ประจำ� ฉบับ AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 1 5/29/60 BE 10:07 AM

ปีท่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 มหาวทิ ยาลยั แหง่ ชาตโิ ยโกฮามา (Yokohama National University) รวมท้ัง ดร. สิรินทร์ แก้วละเอียด และ ดร. อนงค์ ชานะมูล ประเทศญป่ี นุ่ สามารถสรา้ งปา่ ธรรมชาตดิ ว้ ยระยะเวลาสนั้ ไดเ้ รว็ ขนึ้ ผอู้ �ำนวยการศูนยว์ จิ ัยและฝึกอบรมดา้ นสิง่ แวดล้อม ผู้ทไี่ ด้ไปศกึ ษา 10 เทา่ ตามทฤษฎกี ารทดแทนสงั คมพชื แนวใหม่(Newsuccession หลักการปลูกป่านิเวศจาก Prof. Dr.Akira Miyawaki, และ theory) โดยการน�ำหลักวชิ าว่าด้วยสังคมพชื มาประยุกต์ใช้รว่ มกับ Prof. Dr. Kazue Fujiwara โดยไดเ้ ริ่มทดลองใชแ้ นวทางการฟ้นื ฟู เทคนคิ การปลกู ปา่ การสรา้ งปา่ ธรรมชาตติ ามแนวคดิ Prof.Dr.Akira ป่านิเวศชนบทตามหลักการของ Prof. Dr.Akira Miyawaki Miyawaki จะมปี ระโยชนต์ อ่ การดำ� รงชวี ติ ของมนษุ ยท์ ง้ั ในเขตเมอื ง ครั้งแรกท่ีบ้านบ่อหวี ต�ำบลบ่อหวี อ�ำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี และชนบท เพราะปา่ ธรรมชาตจิ ะสามารถปกปอ้ งผลกระทบอนั เกดิ ร่วมกับโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตาม จากภัยธรรมชาติ เช่น แผน่ ดินไหว คลื่นสึนามิ ไฟไหม้ พายุฝน พระราชด�ำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และลม ดงั ตวั อยา่ ง แผน่ ดินไหวทีป่ ระเทศญป่ี ุ่น ส่งิ ก่อสรา้ ง เชน่ ต�ำรวจตระเวนชายแดน และประชาชนบ้านบ่อหวี รวมท้ังต�ำบล อาคาร บ้านเรอื น ตึกทที่ �ำงาน วัด และโรงเรียน ทมี่ ปี า่ ลอ้ มรอบ ใกลเ้ คยี ง เมอ่ื ปี พ.ศ.2534 และตอ่ มาไดส้ รา้ งแปลงทดลองเพอื่ สรา้ ง เสียหายน้อยกว่าสิ่งก่อสร้างที่ไม่มีป่าหรือต้นไม้ล้อมรอบ ดังนั้น ป่านิเวศเมืองที่สวนจิตรลดา ต่อมาได้ขยายผลแปลงทดลองสร้าง ในประเทศญ่ีปุ่นจึงส่งเสริมให้มีการปลูกป่านิเวศในเมือง ใน ปา่ นเิ วศเมอื งเพอ่ื เปน็ ตวั แทนการฟน้ื ฟรู ะบบนเิ วศทร่ี าบลมุ่ ภาคกลาง มหาวิทยาลัย รอบพื้นท่โี รงงาน ตามถนนและพนื้ ท่ีว่างตา่ งๆ รวมท้ัง ข้ึนท่ีศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพ ปลูกในพื้นทป่ี า่ จนมีผนื ป่าครอบคลมุ พ้นื ท่ที ่ัวทั้งประเทศประมาณ สิง่ แวดล้อม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ปี พ.ศ. ร้อยละ 70 2539 ซึ่งเป็นการทดลองสร้างป่าธรรมชาติในพ้ืนที่เขตเมืองด้วย การสร้างปา่ นิเวศในประเทศไทย สังคมพันธุ์ไม้ท้องถ่ินที่ราบลุ่มภาคกลาง (พันธุ์ไม้ท้องถ่ินที่ปลูก ส�ำหรับในประเทศไทย Prof. Dr.Akira Miyawaki, ได้แก่ ยางนา ตะเคียนทอง ไทรชนิดต่าง ๆ เป็นต้น) ปัจจุบัน Prof. Dr. Kazue Fujiwara และคณาจารยจ์ ากภาควชิ าวทิ ยาศาสตร์ ได้ขยายพ้ืนที่สร้างป่านิเวศในพื้นที่เขตเมืองเพ่ิมขึ้นอีกหลายแห่ง สังคมพืช (Department of Vegetation Science) ท้ังในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่ิงแวดล้อม (Institute of ภาคเอกชน รวมท้งั ภาคประชาชนดว้ ย Environmental Science and Technology) มหาวทิ ยาลยั แหง่ ชาติ วัตถุประสงค์ โยโกฮามา (Yokohama National University) เมืองโยโกฮามา วิจัยและพัฒนาเทคนิคและวิธีการรวมทั้งรูปแบบเพ่ือ จังหวดั คานากาวา ประเทศญ่ปี ่นุ รวมทงั้ Prof. Dr. Shunji Murai ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าธรรมชาติในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง โดย แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว กลุ่มอาสาสมัครชาวญ่ีปุ่น RGM การคดั เลือกพ้นื ที่เปา้ หมาย คอื ศูนยว์ จิ ัยและฝกึ อบรมสงิ่ แวดลอ้ ม (Re-Green Movement) กลุ่มบริษัท อิออน (AEON Group) ตำ� บลคลองหา้ อ�ำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทุมธานี เรอื่ งเดน่ ประจำ� ฉบับ 2 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 2 5/29/60 BE 10:07 AM

ปีที่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 Dig hole Soak with water mulching Tropical Rain Forest press softly around planted seedling Remove seedling from the pot and transfer into the hole fil with mixed topsoil Figure Planting tachniques. หลักการและวิธีการสรา้ งปา่ นเิ วศ การปลกู ใชพ้ นั ธไ์ุ มห้ ลากหลายสายพนั ธป์ุ ลกู ในพน้ื ทเ่ี ดยี วกนั (The Principal & Methodology) โดยมีระยะห่างของการปลูกใช้หลักการปลูกถ่ี (ประมาณ 3 ต้น หลกั การทสี่ ำ� คญั ของการสรา้ งปา่ นเิ วศนนั้ เปน็ การบรู ณาการ ต่อตารางเมตร) ปลูกพันธุ์ไม้หลายๆ ชนิดคละกัน (เลียนแบบ องคค์ วามรทู้ างดา้ นนเิ วศวทิ ยา(สงั คมพชื ) วทิ ยาศาสตรส์ งิ่ แวดลอ้ ม โครงสร้างสังคมพืชในป่าธรรมชาติ) ท้ังพันธุ์ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม (ดิน น�้ำ ลม ไฟ) และสังคมศาสตร์ (การมสี ว่ นร่วม ความสัมพนั ธ์ และไม้คลุมดิน โดยปลูกแบบสุ่ม (ไม่ก�ำหนดระยะปลูกที่แน่นอน ระหว่างคนกับป่า) และไม่เป็นแถว เป็นแนว เลียนแบบธรรมชาติตามท่ีลูกไม้หล่น ขน้ั ตอนทส่ี ำ� คญั ของการสรา้ งปา่ นเิ วศ ไดแ้ ก่ การสำ� รวจพนั ธ์ุ ไมไ่ กลตน้ ) เพมิ่ เทคนคิ การปลกู เชน่ การนำ� กลา้ ไมจ้ มุ่ นำ�้ กอ่ นปลกู ไม้ป่าธรรมชาตดิ ้ังเดิม ในพื้นที่ทตี่ ้องการจะปลูกปา่ นเิ วศหรอื พน้ื ที่ เมอ่ื ปลกู แลว้ ใชฟ้ าง หรอื หญา้ หรอื ใบไมค้ ลมุ ดนิ (หม่ ดนิ ) เพอื่ รกั ษา ที่ต้องการจะฟน้ื ฟูให้ป่าธรรมชาติกลับคนื เพอื่ ท�ำการคดั เลอื กชนิด ความช้นื ในดินและเป็นปุย๋ ธรรมชาติ พันธุ์ไม้ดั้งเดิมของท้องถน่ิ น้นั ๆ มาปลูก โดยการน�ำเมลด็ มาเพาะ ผลการดำ� เนินการ ในแปลงเพาะชำ� และยา้ ยลงปลกู ในถงุ เพาะชำ� และบำ� รงุ รกั ษากลา้ ไม้ เตรียมพ้ืนท่ีปลูกป่านิเวศ ประมาณ 315 ตารางเมตร ใหแ้ ข็งแรงก่อนที่จะน�ำไปปลกู โดยใชเ้ วลาอยา่ งนอ้ ย 6-8 เดอื น ดว้ ยการไถพรวนดนิ เดมิ ความลกึ 20 เซนตเิ มตร ผสมดนิ ดว้ ยแกลบ การเตรียมพ้ืนที่ปลูก โดยการสร้างเนินดินให้มีโครงสร้าง ปุ๋ยคอก ปั้นเป็นเนนิ ฐานกวา้ ง 3.50 เมตร ยาว 40 เมตร ส่วนอีก โปร่ง นมุ่ และผสมดินด้วยวัสดธุ รรมชาติ เชน่ แกลบ ขยุ มะพร้าว แปลงหน่งึ มีความกว้าง 3.5 เมตร ยาว 50 เมตร ไมม่ กี ารสรา้ งเปน็ มลู สตั วต์ า่ ง ๆ เพอื่ ใหเ้ ปน็ เสบยี งอาหารใหก้ บั กลา้ ไมท้ ป่ี ลกู นำ� ไปใช้ เนินดิน ในการเจริญเติบโตในช่วง 2-3 ปีแรก AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 3 3 เรือ่ งเด่นประจ�ำฉบับ 5/29/60 BE 10:07 AM

ปีท่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 ขัน้ ตอน การปลูก เร่ืองเดน่ ประจำ� ฉบบั 4 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 4 5/29/60 BE 10:07 AM

ปีท่ี 14 ฉบบั ท่ี 36 พฤษภาคม 2560 คัดเลือกพันธุ์ไม้ จ�ำนวน 79 ชนิด ซ่ึงเพาะจากเมล็ดไม้ ราชพฤกษ์ (คนู ) (Cassia fistula Linn.) ตะแบก (Lagerstroemia รวม 600 ต้น มาปลกู เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 ชนดิ พนั ธไ์ุ ม้ floribunda Jack.) ทองกวาว (Butea monosperma (Lam.) Taub.) กลุ่มไม่ผลัดใบ (evergreen species) ท่ีส�ำคัญ ได้แก่ ยางนา และ กลั ปพฤกษ์ (Cassia bakeriana Craib.) เป็นต้น (Dipterocarpus alatus Roxb.) ตะเคียนทอง (Hopea odorata บทสง่ ทา้ ย Roxb.) เคย่ี มคะนอง (Shorea henryana Pierre) เขล็ง (Dialium ปา่ นเิ วศแหง่ น้ี จะเปน็ แหลง่ ศกึ ษาวจิ ยั เรยี นรู้ ดา้ นการฟน้ื ฟู cochinchinense Pierre) กฤษณา (Aquilaria crassna Pierre ex ระบบนิเวศป่าที่ราบลุ่มภาคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตาม Lecomte) พิกุล (Mimusops elengi L.) กันเกรา (Fagraea การเจรญิ เตบิ โตของตน้ ไมท้ ป่ี ลกู การเปลย่ี นแปลงภายหลงั การปลกู fragrans Roxb.) และ กระทิง (Calophyl um inophyl um L.) ต้นไม้ กระบวนการสังเคราะห์แสง กระบวนการย่อยสลาย เปน็ ตน้ สว่ นพนั ธไ์ุ มก้ ลมุ่ ผลดั ใบ(deciduousspecies) ไดแ้ ก่ พะยงู กระบวนการสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตในดิน (Dalbergia cochinchinensis Pierra) ประดู่ป่า (Pterocarpus ความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความหลาก macrocarpus Kurz) มะคา่ โมง (Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib) หลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะทางดา้ นสตั ว์ เชน่ แมลง ผีเส้อื นก แดง (Xylia xylocarpa (Roxb.) W. Theob. Var. xylocarpa) ชงิ ชนั สัตวเ์ ลือ้ ยคลาน สตั วค์ รง่ึ บกครึ่งนำ้� ฯลฯ ในพ้นื ที่แปลงปลูก (Dalbergia oliveri Gamble ex Prain) กระโดน (Careya sphaerica Roxb.) กระพี้จ่ัน (Millettia brandisiana Kurz) 5 เรอ่ื งเดน่ ประจ�ำฉบับ AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 5 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 สำ� นกั งานสเี ขียว (Green-Office) ✑ อัญชลี แทน่ นลิ นกั วชิ าการสงิ่ แวดลอ้ มปฏิบัตกิ าร ปัจจุบันอุณหภูมิของโลกน้ันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งล้วน จะเห็นได้ว่าการตระหนักและใส่ใจถึงปัญหาส่ิงแวดล้อมเป็นเรื่องท่ี ส�ำคัญ และปัญหาส่ิงแวดล้อมในส�ำนักงานหรือออฟฟิศนั้น เป็น เกิดจากกิจกรรมต่างๆ จากฝีมือมนุษย์ จนส่งผลกระทบต่อพืช ปัญหาท่ีส�ำคัญเป็นอย่างย่ิงในยุคน้ี คนส่วนใหญ่มักใช้ระยะเวลาท่ี สตั ว์ ทรพั ยากรธรรมชาตอิ นื่ ๆ อยา่ งมากมาย สงั เกตไดว้ า่ ถา้ สภาพ ท�ำงานหรือออฟฟิศมากกว่าท่ีบ้าน ส่งผลให้การใช้พลังงานในที่ ภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ก็จะท�ำให้เกิดผลกระทบ ท�ำงานน้ันส้ินเปลืองพลังงานมากกว่าท่ีบ้านอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะ ตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มมากยงิ่ ขน้ึ ทำ� ใหฤ้ ดกู าลตา่ งๆ เปลย่ี นแปลงไป สง่ิ มชี วี ติ เป็นการใช้ไฟฟ้าส�ำหรับระบบปรับอากาศ แสงสว่าง อุปกรณ์ ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมท่ีเปลี่ยนแปลงก็จะ อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการใช้วัสดุอุปกรณ์ส�ำนักงานอย่างฟุ่มเฟือย คอ่ ยๆ สญู พนั ธไ์ุ ป สาเหตทุ ส่ี ง่ ผลใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศ ดงั นนั้ การลดปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ จากสภาวะโลกรอ้ นในปจั จบุ นั จงึ ตอ้ ง โลกนั้น ล้วนเกิดจากการเพ่ิมข้ึนของปริมาณก๊าซเรือนกระจก มีการปรับเปล่ียนพฤติกรรมในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าท่ีสุด (Greenhouse Gases, GHG) ซงึ่ ได้แก่ กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการใช้พลังงานเกินความจ�ำเป็น ต้องอาศัยความร่วมมือและ (ศคCัากOรยบ์ 2ภ)อ,านพกท(๊าCซ�ำFมใCหีเท)้โ,ลนกโอ(รCโ้อซHนน4),((OGไ3นl)oตbโรดaัสยlอกWอ๊ากซaไดrซmังดกin์ ล(gN่าว2OPนo)ี้ถ,tอืeคเnปลt็นiอaโlG,รฟHGลGWอู อทPโsม่ี ร)ี การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่รัฐบาล ภาคเอกชน และ ประชาชนทั่วไป เรอ่ื งเดน่ ประจำ� ฉบับ 6 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 6 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบับที่ 36 พฤษภาคม 2560 สำ� นกั งานสเี ขียว (Green Office) เปน็ แนวทางหนึง่ ทที่ �ำให้ หมวดที่ 1 การบรหิ ารจดั การองคก์ าร บคุ ลากรในองค์กรสามารถมีสว่ นร่วมในการลดปญั หาท่เี กดิ ข้นึ จาก (Organization Management) ภาวะโลกรอ้ น จดั เตรยี มใหอ้ งคก์ รดำ� เนนิ การอยา่ งเปน็ ระบบภายใต้ - มีการก�ำหนดนโยบายการจัดการส�ำนกั งานสีเขยี ว จาก กรอบของการป้องกันปัญหาส่ิงแวดล้อมและตอบสนองต่อการ ผู้บริหารระดับสูงเพื่อแสดงถึงทัศนวิสัย ความต้ังใจ มุ่งมั่น และ เปล่ียนแปลงสภาพส่ิงแวดล้อม เพ่ือให้เกิดความสมดุลของความ หลักการในการท�ำงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เพ่ือปรับปรุง ต้องการทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการปรับเปล่ียน ใหก้ ารจดั การสง่ิ แวดล้อมดขี ึน้ อย่างต่อเน่อื ง งา่ ยตอ่ การอธบิ ายแก่ พฤติกรรมในส�ำนักงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน ด�ำเนินกิจกรรมท่ี พนักงานในสำ� นักงาน รวมถงึ บคุ คลภายนอกและผูส้ นใจทวั่ ๆ ไป เปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม นำ� แนวคดิ เรอื่ งระบบการจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม พร้อมท้ังสามารถปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ISO14001 การจดั การกา๊ ซเรือนกระจก การจัดซอ้ื จัดหาท่ีเปน็ มติ ร เผยแพรแ่ ก่บคุ ลากรภายในและสาธารณะใหร้ ับทราบทว่ั ถึงกัน โดย กับสิ่งแวดล้อม การลดของเสีย (Waste Minimization) การป้องกัน มุง่ ม่ันที่จะผลกั ดัน สนับสนุนกจิ กรรมต่างๆ ตามนโยบาย อาทเิ ชน่ ปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม (Polution Prevention) เป็นหลักในการกำ� หนด สร้างจิตส�ำนึกของบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักถึง ทศิ ทางการจดั การดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มภายในสำ� นกั งานอยา่ งเปน็ ระบบ ผลกระทบการใชท้ รพั ยากรธรรมชาตทิ มี่ ผี ลตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม สง่ เสรมิ ประกอบด้วยเกณฑท์ งั้ หมด 7 หมวด ไดแ้ ก่ ให้บุคลากรร่วมมือในการรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบ หมวดท่ี 1 การบริหารจัดการองค์การ (Organization เรียบรอ้ ย สุขอนามยั และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เลือกซอื้ เลือกใช้ Management) สนิ คา้ และบรกิ ารทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม ใชท้ รพั ยากรและพลงั งาน หมวดท่ี 2 การดาํ เนนิ งาน Green Office (Operation of อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้โฟมและถุงพลาสติกภายในอาคาร Green Office) หมวดท่ี 3 การใช้พลังงานและทรัพยากร (Energy and Resource) หมวดที่ 4 การจัดการของเสยี (Waste and Waste water Management) หมวดที่ 5 สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกสํานักงาน (Indoor & Outdoor Environmental) หมวดที่ 6 การจัดซ้อื และจดั จา้ ง (Green Procurement) หมวดที่ 7 การประเมินประสิทธิภาพและการปรับปรุง อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง (Continual Improvement) 7 เรอื่ งเดน่ ประจำ� ฉบบั AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 7 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ่ี 14 ฉบับที่ 36 พฤษภาคม 2560 ส่งเสริมให้มีการจัดประชุมท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ป้องกันและ - มีการฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อมแก่บุคลากรท่ีเก่ียวข้อง ควบคุมมลพิษ โดยการจัดการขยะ น้�ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เพ่อื สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ และความตระหนักด้านสิง่ แวดล้อม สร้างสภาพแวดลอ้ มให้มพี ้ืนทีส่ ีเขียวและเอือ้ ตอ่ การทำ� งาน เป็นตน้ - มีการก�ำหนดมาตรการท่ีเก่ียวข้องทางด้านส่ิงแวดล้อม และเพื่อให้การด�ำเนินงานส�ำนักงานสีเขียวมีประสิทธิภาพจึงได้ ในการจดั ประชมุ และนทิ รรศการทกุ ครงั้ โดยจะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ การใช้ กำ� หนดเป็นตัวชวี้ ัดการประเมินผลการปฏบิ ัตริ าชการรายบคุ คล พลงั งานและทรพั ยากรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การลดปรมิ าณของเสยี - มีการระบุและประเมินปัญหาส่ิงแวดล้อมและการใช้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการจัดประชุม ทรัพยากร เพ่ือพิจารณาปัญหาส่ิงแวดล้อมและใช้ทรัพยากรที่มี และนิทรรศการ การเลือกสถานที่ควรได้รับการรับรองมาตรฐาน นัยสำ� คญั เพอ่ื จัดหาแนวทางในการแก้ไขและปรับปรุง การจดั การสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ ระบบการจดั การสงิ่ แวดลอ้ มISO14001 - มกี ารรวบรวมกฎหมาย และข้อก�ำหนดดา้ นส่ิงแวดล้อม มาตรฐานใบไมเ้ ขยี ว เปน็ ต้น สำ� หรับการประชุมภายในองคก์ รนนั้ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั สำ� นกั งานเพอื่ ใชเ้ ปน็ เกณฑเ์ บอ้ื งตน้ ในการจดั การทาง ตอ้ งเป็นการจดั ประชุมแบบ Green meeting โดยใชเ้ อกสารแบบ ด้านส่ิงแวดล้อมท่ีส�ำนักงานและจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ พร้อมท้ัง ดิจิตอลไฟล์เวียนให้ผ้เู ขา้ รว่ มประชุม ลดการใช้พลาสตกิ ในการจัด มีการป้องกันและการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉิน เพื่อลดผล อาหารว่างและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งก�ำหนดให้เปิด-ปิดการใช้ กระทบตอ่ พนักงาน ชุมชนรอบขา้ ง และสิ่งแวดลอ้ ม เคร่ืองปรับอากาศและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าเมื่อถึงก�ำหนดเวลาใน - แต่งต้ังคณะท�ำงานด้านสิ่งแวดล้อมออกมาเป็น การจดั ประชมุ เท่านั้น ลายลักษณ์อักษรและสื่อสารให้รับทราบท่ัวกัน โดยติดประกาศ - ดำ� เนนิ การดแู ลรกั ษาความสะอาดและความเปน็ ระเบยี บ ใหท้ ราบอยา่ งทว่ั ถงึ โดยคณะท�ำงานฯ ในแตล่ ะหมวดนัน้ บุคลากร อย่างสม่�ำเสมอ และมีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเป็นประจ�ำ จะสมัครใจและพึงพอใจที่จะท�ำงานในแต่ละคณะท�ำงานฯ ท�ำให้ ทุกสปั ดาห์ แต่ละคณะนั้นจะมีผู้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องท่ีตนเองสนใจ - มีส่วนร่วมในการช่วยกันลดการเดินทางท่ีไม่จ�ำเป็น และมคี วามถนัดในเร่ืองนนั้ ๆ โดยให้มีการส่ือสารด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ส่ือสารกันทาง - มีการทบทวนของฝ่ายบริหารเป็นประจ�ำในทุกๆ ปี โทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็น Line/Facebook/video cal การติดตอ่ กนั ไมน่ ้อยกวา่ 2 คร้ังตอ่ ปี เพอ่ื เป็นการปรบั ปรงุ ประสทิ ธิภาพ หรอื ทางอีเมล์ เป็นต้น สร้างความสะดวกและพิจารณาถึงความเหมาะสมของระบบ รวม - มีการป้องกันและการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉิน ทงั้ การให้การสนับสนุนบุคลากรทต่ี อ้ งการความช่วยเหลือตา่ ง ๆ โดยจดั ใหม้ ีการฝกึ อบรมการซ้อมอคั คีภัยเป็นประจำ� ทกุ ปี หมวดท่ี 2 การดําเนนิ งาน หมวดที่ 3 การใชพ้ ลังงานและทรัพยากร Green Office (Operation of Green Office) (Energy and Resource) - มีการสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อม เพ่ือการประชาสัมพันธ์ การท�ำงานในหมวดน้ี แบ่งเป็นคณะท�ำงานกลุ่มย่อยอีก ชี้แจงข่าวสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลในทุกระดับภายในส�ำนักงาน 3 กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลมุ่ การใช้พลังงาน กล่มุ การใช้น�้ำ และกลุ่มการใช้ สามารถรับรู้ข่าวสารด้านการจัดการส่ิงแวดล้อมที่ทันสมัยและทัน ทรัพยากร ซ่ึงแต่ละกลุ่มน้ันได้ก�ำหนดมาตรการใช้พลังงาน สถานการณ์ไดต้ ลอดเวลา ไม่วา่ จะทาง Facebook Line หนังสือ และทรพั ยากรอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เวยี น การติดประกาศ ประชาสมั พนั ธ์เสยี งตามสาย รวมไปถงึ การ - การใชพ้ ลงั งานในหลายรปู แบบ เชน่ ระบบปรับอากาศ สร้างความรว่ มมือในการจดั การสิ่งแวดล้อมในส�ำนักงาน พรอ้ มท้งั ระบบแสงสว่าง และการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ โดยก�ำหนด เปดิ ชอ่ งทางเพอ่ื รบั เรอ่ื งรอ้ งเรยี นหรอื การเสนอแนะดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรการในการใช้พลงั งานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เช่น ก�ำหนดเวลา ได้ตลอดเวลา ทงั้ ทาง Facebook line และกล่องรับความคดิ เห็น การเปดิ -ปดิ เครอ่ื งปรบั อากาศ ไมเ่ กนิ วนั ละ6 ชว่ั โมง และปดิ พดั ลม 8 เรอ่ื งเดน่ ประจ�ำฉบบั AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 8 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 ดดู อากาศเมอื่ เปดิ เครอื่ งปรบั อากาศเพอื่ ทจ่ี ะสามารถควบคมุ ความ เศษอาหาร เศษกระดาษ ตลบั หมกึ พมิ พท์ ใี่ ชแ้ ลว้ บรรจภุ ณั ฑท์ ใ่ี ชแ้ ลว้ เย็นได้ดขี น้ึ การบ�ำรงุ รักษาเครอื่ งปรบั อากาศ การตดิ ปา้ ยรณรงค์ เป็นต้น ดาํ เนนิ การแยกของเสียหรือขยะและดําเนินการกบั ของเสยี การเก็บข้อมลู การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ เปน็ ประจ�ำทกุ เดอื น ติดต้ังสาย เหลา่ นน้ั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยมกี ารแบง่ ประเภทขยะทง้ั หมด ไฟฟ้าเพ่ือเปิด-ปิดเฉพาะที่ รณรงค์การใช้ลิฟท์โดยใช้ลิฟท์เพื่อ 4 ประเภท ได้แก่ ขยะเศษอาหาร ขยะท่ัวไป ขยะรไี ซเคลิ และของ ขนของหรือกรณีเจ็บป่วยหรือเม่ือมีบุคลากรที่ใช้ร่วมกันไม่น้อยกว่า มีคม ขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และบนั ทกึ ปรมิ าณขยะทุกเดือน รวมถงึ มี 3 คน ปรับหน้าจอคอมพวิ เตอรเ์ ป็นโหมด Energy saving mode การสมุ่ ตรวจการทง้ิ ขยะของบคุ ลากร สปั ดาหล์ ะ1 ครง้ั เพอ่ื ประเมนิ หรือปิดหน้าจอเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ถอดปลั๊กเคร่ืองใช้ การทง้ิ ขยะภายในองคก์ ร สำ� หรบั ปญั หานำ้� เสยี ภายในสาํ นกั งานนนั้ ไฟฟา้ ออกทันทีเมื่อไม่ไดใ้ ช้งาน หรือแมก้ ระทงั่ การด�ำเนนิ โครงการ มีการติดตั้งระบบบ�ำบัดน�้ำเสียและมีแผนการบ�ำรุงรักษาอุปกรณ์ ติดต้ัง Solar roof ซ่ึงเป็นการน�ำพลังงานทดแทนมาใช้ให้เกิด สำ� หรบั ระบบบำ� บดั นำ�้ เพอ่ื บำ� บดั นำ�้ จากกจิ กรรมตา่ งๆ ภายในกอ่ น ประสทิ ธภิ าพใหไ้ ด้มากที่สดุ ที่จะกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมท้ังมีการเฝ้าระวัง ตรวจ - ปลูกฝังการใช้น้�ำอย่างรู้คุณค่า ประหยัด และมีการ ตดิ ตามคณุ ภาพนำ�้ ภายในองคก์ รเปน็ ประจำ� อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อกี ทง้ั ยงั ควบคุม โดยก�ำหนดมาตรการในการใช้ทรัพยากรน้�ำอย่างมี มีการเลือกใชผ้ ลิตภัณฑท์ าํ ความสะอาดทเ่ี ปน็ มิตรกับส่ิงแวดล้อม ประสทิ ธภิ าพ การเกบ็ ข้อมูลการใช้น้�ำเปน็ ประจ�ำอยา่ งตอ่ เนือ่ ง หมวดท่ี5สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกสาํ นกั งาน - ทรพั ยากรอน่ื ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ กระดาษ หมกึ พมิ พ์ อปุ กรณ์ (Indoor & Outdoor Environmental) เคร่ืองเขยี น และอปุ กรณ์สาํ นกั งาน เป็นทรัพยากรท่มี คี วามสําคญั - ภายในอาคารสํานักงานท่ีมีสิ่งเจือปนอยู่ในปริมาณและ ตอ่ กจิ กรรมในสาํ นกั งานและทสี่ าํ คญั มกี ารใชป้ รมิ าณมากในแตล่ ะวนั ระยะเวลาที่นานพอ อาจจะทําให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย ดังน้ันจึงต้องมีการกําหนดแนวทางการใช้ทรัพยากรดังกล่าว ของพนักงาน เรียกว่า โรคสํานักงาน หรือ Sick buildings อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น เลือกซื้อและใช้ sysdrome เกิดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา สาร VOCs (Volatile กระดาษจากหนว่ ยงานทไ่ี ดร้ บั รองดา้ นระบบการจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม Organic Compounds) และมลพษิ ตวั อนื่ ๆ ทม่ี าจากเครอ่ื งตกแตง่ หรอื เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม เศษกระดาษจากการพมิ พใ์ ชห้ นา้ ทวี่ า่ ง สาํ นกั งาน สที ที่ า พรม เปน็ ตน้ ดงั นนั้ สาํ นกั งานจะตอ้ งมกี ารจดั การ เป็นกระดาษบันทึกข้อความหรือร่างหนังสือ เลือกใช้ระบบ สภาพอากาศภายในสํานักงาน ให้มีสภาพอากาศท่ีดี ถ่ายเทได้ Fax Server เพื่อลดการบริโภคกระดาษลงซึ่งจะแปลงเป็นเอกสาร ในรูปแบบ Electronic หรือท่ีเรียกกันว่า Soft File ตรวจสอบ รายละเอียดที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องก่อนสั่งพิมพ์ กําหนดการส่ังพิมพ์เป็นแบบข้อความเท่าน้ัน ยกตัวอย่างเช่น การพิมพ์ผ่านโปรแกรม PowerPoint จะต้องตัด background รูปภาพออก ควรเบิกในปริมาณท่ีพอเหมาะและใช้ร่วมกันอย่าง ประหยดั กาํ หนดแนวทางการควบคมุ การเบกิ อปุ กรณส์ าํ นกั งาน เชน่ กาํ หนดความถใี่ นการเบกิ เดอื นละ2 ครงั้ เปน็ ตน้ อปุ กรณส์ าํ นกั งาน เช่น กรรไกร คัตเตอร์ ท่ีเย็บกระดาษ ควรเบิกใช้เป็นส่วนรวม เนอื่ งจากสิ่งเหล่านีไ้ มจ่ าํ เปน็ ตอ้ งใช้ต่อบุคคล หมวดท่ี 4 การจดั การของเสยี (Waste and Waste water Management) การท�ำงานในหมวดนี้ แบ่งเป็นคณะท�ำงานกลุ่มย่อยอีก 9 กลมุ่ ได้แก่ กล่มุ ที่ 1 การจดั การขยะ กลุ่มที่ 2 การทิ้งขยะของ พนักงาน กล่มุ ท่ี 3 จุดพักขยะกอ่ นส่งก�ำจดั กลมุ่ ท่ี 4 การส่งขยะ กำ� จดั ขององค์กร กลุ่มที่ 5 แนวทางการลดปรมิ าณขยะและการน�ำ ไปใช้ประโยชน์ กลมุ่ ที่ 6 การจดั การนำ้� เสียจากกจิ กรรมท่เี กีย่ วขอ้ ง กลุม่ ท่ี 7 การดูแลอปุ กรณ์ส�ำหรบั บำ� บดั น�ำ้ เสีย กลุม่ ท่ี 8 เศษขยะ เศษอาหารคราบน้�ำมันและสิ่งสกปรกต่างๆ ได้รับการก�ำจัดอย่าง เหมาะสม กลุ่มท่ี 9 การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาดท่ีเป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยควบคุมของเสียภายในสํานักงาน เช่น 9 เร่อื งเดน่ ประจำ� ฉบับ AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 9 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบับที่ 36 พฤษภาคม 2560 - มีการจัดสภาพแวดล้อมของสํานักงานให้มีความน่าอยู่ การจัดสภาพแวดล้อมในทท่ี ํางานทด่ี ีและเหมาะสม เชน่ การเพม่ิ พ้นื ท่สี เี ขียว การจัดทํากิจกรรม 5ส. การควบคมุ สตั ว์พาหะนําเชื้อ (หนู นก แมลงสาบ) เปน็ ตน้ หมวดท่ี 6 การจัดซอ้ื และจัดจ้าง (Green Procurement) - การจดั ซื้อโดยคํานึงถงึ ความเหมาะสมทางด้านคณุ ภาพ ราคา การส่งมอบสินค้าหรือบริการตามท่ีกําหนด และการลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม หมายถึง ผลิตภัณฑ์ท่ีส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมน้อยกว่า เม่ือเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อ่ืนๆ โดยมีฉลากส่ิงแวดล้อมเป็น เครอื่ งมอื แยกผลติ ภณั ฑท์ เี่ ปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มออกจากผลติ ภณั ฑ์ ทวั่ ไปในทอ้ งตลาด และให้ขอ้ มูลทางด้านสิ่งแวดล้อมทีถ่ ูกต้องของ ผลติ ภณั ฑแ์ กผ่ บู้ รโิ ภค สาํ หรบั ประเทศไทยไดใ้ ชค้ าํ วา่ “ฉลากสเี ขยี ว” แทน “ฉลากสงิ่ แวดลอ้ ม”(Greenlabel หรอื Eco-label) เปน็ ฉลาก ท่ีให้กับผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณภาพและมีผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม นอ้ ยกวา่ เมอื่ นาํ มาเปรยี บเทยี บกบั ผลติ ภณั ฑท์ ท่ี าํ หนา้ ทอ่ี ยา่ งเดยี วกนั สะดวก เพือ่ ให้พนักงานอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มเหมาะสม เกดิ ความ หมวดท่ี 7 การประเมินประสทิ ธิภาพ สบายในการทาํ งานและมสี ขุ ภาพอนามยั ทด่ี ี เชน่ เครอ่ื งถา่ ยเอกสาร และการปรบั ปรงุ อย่างต่อเนอ่ื ง เครื่องพิมพเ์ อกสาร ควรวางใหห้ ่างไกลพนักงาน เนือ่ งจากผงหมกึ (Continual Improvement) ท่ใี ชจ้ ะตอ้ งมสี าร nitropyrenes และ trinitrofluorene ซึ่งเป็นสาร - โครงการด้านส่ิงแวดล้อม เป็นกลไกอย่างหนึ่งในการ ก่อมะเรง็ มีการสือ่ สาร ป้ายรณรงค์ ตามจุดตา่ งๆ ในสาํ นักงาน แก้ไขปัญหาและพัฒนาด้านส่ิงแวดล้อมให้เกิดประสิทธิผล เช่น ป้ายกําหนดจุดสูบบุหรี่ ป้ายพ้ืนท่ีก่อสร้างห้ามเข้า เป็นต้น อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ดังนั้นสํานักงานจึงมีความจําเป็น รวมไปถงึ การสอื่ สารแกผ่ รู้ บั เหมากอ่ สรา้ ง หรอื บคุ คลภายนอกทเ่ี ขา้ ในการจดั ทาํ โครงการดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม เพอื่ บง่ บอกถงึ ความใสใ่ จและ มาทาํ ความสะอาดเครอ่ื งปรบั อากาศ บาํ รงุ รกั ษาเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร ความตระหนักกับปัญหาสิ่งแวดล้อมท่ีเกิดขึ้นในสํานักงาน เช่น เคร่อื งพิมพ์เอกสาร (Printer) เปน็ ตน้ การน�ำผลผลิตที่เกิดจากการย่อยสลายของสารอินทรีย์โดย - มีการจัดการให้แสงในสํานักงานเพียงพอต่อการทํางาน ไสเ้ ดอื นดนิ มาใชใ้ นการปรบั ปรงุ โครงสรา้ งของดนิ และแรธ่ าตสุ ำ� หรบั ตามลักษณะของงานแต่ละประเภท นอกจากนี้ จะต้องมีการทํา การใช้ประโยชน์ในโครงการพ้ืนท่ีสีเขียวในองค์กร โครงการติดตั้ง ความสะอาดหลอดไฟ รวมไปถึงแผงสะท้อนแสงอย่างสม่�ำเสมอ Solar roof เพื่อผลิตพลังงานทดแทนแสงอาทิตย์ให้กับหน่วยงาน เน่ืองจากอาจจะมีฝุ่นจับทําให้ความสว่างลดลง และทําให้สายตา เป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดก๊าซเรือน เสือ่ มสภาพได้ กระจก และการบ�ำบัดน�้ำเสียจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร - มีการจัดการให้มีสภาวะเรื่องเสียงในสํานักงานที่ ก่อนปลอ่ ยออกส่สู ิง่ แวดลอ้ มภายนอก เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเสียงท่ีเกิดจากการทํางาน เสียงที่เกิดจาก - มีการตรวจสอบปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับปรุงสํานักงาน รวมไปถึงเสียงจากภายนอกสํานักงาน อย่างสม�่ำเสมอทุกเดือน โดยการเก็บข้อมูลปริมาณการใช้ ที่อาจสง่ ผลภายในสํานักงานไดร้ วมไปถึงการไดย้ นิ ของพนกั งาน ทรัพยากรและพลังงานทุกชนิด ปริมาณของเสียท่ีเกิดขึ้น รวมไปถึงลดปริมาณของเสียท่ีเกิดขึ้นจากทุกกิจกรรมปฏิบัติงาน และผลท่ีได้จะน�ำไปสู่การจัดการเพ่ือลดการปล่อยปริมาณ กา๊ ซเรือนกระจกของส�ำนกั งาน เรือ่ งเด่นประจำ� ฉบบั 10 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 10 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 ขอ้ คน้ พบส�ำคญั ของรายงานการสงั เคราะห์และประมวลสถานภาพ องค์ความรดู้ า้ นการเปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศของไทย ฉบบั ที่ 2 ในส่วนที่เก่ียวกับ องค์ความร้แู ละขอ้ มลู ขา่ วสารปัจจุบันดา้ นการเปลีย่ นแปลงภูมอิ ากาศของประเทศไทย (Key findings of Thailand’s Second Assessment Report on Climate Change in the part regarding updated climate change knowledge and information of Thailand) ✑ ดร. อัศมน ลิ่มสกุล1 ดร. บุญลอื คะเชนทร์ชาต2ิ ดร. ปทั มา สิงหรกั ษ3์ ดร. สุริยณั ห์ สาระมูล3 ผศ.ดร. จิรสรณ์ สันติสริ สิ มบรู ณ4์ ดร. สมเกียรติ อภพิ ฒั นวศิ ว5์ 1ศูนยว์ ิจัยและฝกึ อบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพส่ิงแวดล้อม 2คณะส่งิ แวดล้อมและทรพั ยากรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล 3คณะวิทยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย 4ศนู ย์วิจัยแบบจ�ำลองการเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศระดับภมู ิประเทศ มหาวทิ ยาลยั รามคำ� แหง 5ส�ำนกั วจิ ยั และพัฒนา กรมชลประทาน การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปัญหาส�ำคัญของโลกที่ การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของประเทศ ได้เล็งเห็น ความส�ำคัญดังกล่าว และได้ริเริ่มจัดท�ำรายงานการสังเคราะห์ กำ� ลงั ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในหลายภมู ิภาค โดยองคค์ วามรู้ และประมวลสถานภาพองค์ความรู้ด้านการเปล่ียนแปลงสภาพ วิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นับเป็นฐาน ภูมอิ ากาศของไทย ครัง้ ที่ 1 (Thailand’s First Assessment Report ส�ำคัญท่ีแต่ละประเทศควรจะต้องเร่งพัฒนาให้ชัดเจนและเพียงพอ on Climate Change; 1st TARC) ในชว่ งระหวา่ งปี ค.ศ. 2010 เพื่อน�ำไปใช้ตั้งรับปรับตัวกับผลกระทบและแก้ไขปัญหาในเรื่องน้ี ถึง 2011 โดยความร่วมมือของผู้เช่ียวชาญและนักวิชาการจาก ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัยในฐานะหน่วยงานสนับสนุน 11 ก้าวหน้าพัฒนา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 11 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 หลากหลายสาขา สว่ นการจดั ทำ� รายงานการสงั เคราะหแ์ ละประมวล ข้อค้นพบของรายงาน TARC ฉบบั ที่ 2 ในส่วนคณะทำ� งาน สถานภาพองคค์ วามรู้ดา้ นการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของไทย กลมุ่ ท่ี 1 มปี ระเด็นสำ� คัญต่างๆ ดงั นี้ ครั้งท่ี 2 (Thailand’s Second Assessment Report on Climate 1. รายงาน AR5 ของ IPCC ระบวุ า่ อณุ หภูมิเฉลยี่ ของพ้นื Change; 2nd TARC) ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2015 ถึง 2017 นี้ แผ่นดนิ และมหาสมุทรรวมกัน เพิ่มขึ้น 0.85 C ในช่วงระหว่างปี เป็นการปรับปรุงเน้ือหาและเพ่ิมเติมองค์ความรู้ใหม่ๆ ตลอดจน ค.ศ. 1880-2012 (รูปที่ 1) โดยในชว่ งครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ความก้าวหน้าของการศึกษาวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ไดม้ กี ารสงั เกตพบการเปลย่ี นแปลงของสภาวะสดุ ขดี ของภมู อิ ากาศ ของประเทศไทยทีเ่ กดิ ข้นึ หลงั จากรายงาน TARC ฉบบั ที่ 1 ใหเ้ ป็น หลายเหตุการณ์ ท้ังน้ี แผ่นน�้ำแข็งบริเวณกรีนแลนด์และ ปจั จุบัน มคี วามชดั เจนและครอบคลมุ มากยิ่งข้นึ แอนตาร์กติกา มีขนาดลดลงในช่วงสองถึงสามทศวรรษท่ีผ่านมา บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพ่ือสรุปข้อค้นพบส�ำคัญของ เชน่ เดยี วกบั ธารนำ้� แขง็ เกอื บทว่ั โลกและทะเลนำ้� แขง็ อารก์ ตกิ ยงั คง รายงาน TARC ฉบบั ที่ 2 ในสว่ นคณะทำ� งานกลมุ่ ที่ 1 ทเ่ี กี่ยวกบั องค์ หดตวั ลดลงอยา่ งต่อเนอ่ื ง การเปล่ียนแปลงเหลา่ นี้ สง่ ผลให้ระดับ ความรู้และข้อมูลข่าวสารปัจจุบันด้านการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ น�ำ้ ทะเลเฉลีย่ ของโลกสูงข้ึน 0.19 เมตร การเปลีย่ นแปลงทสี่ ำ� คัญ ของประเทศไทย ในประเดน็ ตา่ งๆ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ขอ้ คน้ พบสำ� คญั อีกประการหน่ึง คือ นับต้ังแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นต้นมา ในรายงานประเมนิ ฉบับท่ี 5 (Fifth Assessment Report; AR5) ของ มหาสมทุ รมคี วามเปน็ กรด เพม่ิ ขนึ้ รอ้ ยละ26 แบบจำ� ลองภมู อิ ากาศ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ เมื่อคาดประมาณด้วยภาพการณ์จ�ำลองการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Intergovernmental Panel on Climate Change; IPCC) แบบวิถีความเข้มข้นตัวอย่าง (Representative Concentration แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในประเทศไทยจากข้อมูล Pathways) ระบวุ ่าอุณหภมู ิเฉล่ียพ้นื ผวิ โลกเม่อื ส้ินสดุ ศตวรรษท่ี 21 ตรวจวัดท่ีพื้นผิวการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศท่ีเก่ียวข้องกับทะเล จะมีค่าสูงข้ึนในช่วง 0.3-4.8 C โดยเมื่ออุณหภูมิโลกเฉลี่ยสูงขึ้น ชายฝั่ง การจ�ำลองภูมิอากาศและการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ สง่ ผลใหท้ ะเลนำ้� แขง็ บรเิ วณขว้ั โลกเหนอื จะลดขนาดและบางลงอยา่ ง ในอนาคตของประเทศไทย และความแปรปรวนของภูมิอากาศ ตอ่ เนอื่ ง สว่ นระดบั นำ�้ ทะเลเฉลย่ี ของโลก คาดประมาณจะเพม่ิ สงู ขนึ้ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อย่างตอ่ เนอ่ื งในศตวรรษที่ 21 ซ่ึงมีค่าอยู่ในชว่ ง 0.26-0.82 เมตร ทงั้ นี้ รายงาน TARC ฉบับท่ี 2 ในสว่ นคณะท�ำงานกลุม่ ท่ี 1 ได้ทำ� 2. การประมวลและสังเคราะห์หลักฐานการเปล่ียนแปลง การประมวลและสังเคราะห์องค์ความรู้บนพ้ืนฐานเอกสารงานวิจัย ภมู อิ ากาศของประเทศไทย ในบริบทข้อมลู ตรวจวัดที่พ้ืนผิวในช่วง ท่ีได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารต่างๆ จ�ำนวนท้ังสิ้น 243 ฉบับ หลังรายงาน TARC ฉบับท่ี 1 ต่างแสดงผลที่สอดคล้องกันถึง โดย 58% หรือ 140 ฉบบั เป็นเอกสารท่ีได้ตพี ิมพ์ในช่วงหลงั จาก การร้อนขึ้นอย่างมีนัยส�ำคัญของประเทศไทย โดยในห้วงเวลา รายงาน TARC ฉบบั ท่ี 1 (ค.ศ. 2011-2015) ระหว่างปี ค.ศ. 1970-2009 อุณหภูมิสูงสุด อุณหภูมิเฉล่ีย ก้าวหน้าพฒั นา 12 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 12 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 Temperature anomaly ( ํC) relative to 1961-1990 0.6 0.4 คา่ เฉลีย่ รายปี 0.2 Year 1950 2000 0.0 -0.2 -0.4 -00..66 0.4 ค่าเฉลย่ี รายทศวรรษ 0.2 0.0 -0.2 -0.4 -0.6 1850 1900 รูปท่ี 1 แนวโน้มการเปล่ียนแปลงอุณหภูมิเฉล่ียของพ้ืนแผ่นดินและมหาสมุทรโลกรวมกันรายปี และรายทศวรรษจากฐานข้อมลู 3 ชุดในช่วงเวลาระหว่างปี ค.ศ. 1880-2012 (ทมี่ า: IPCC, 2013) รูปท่ี 2 ความถ่ีของพายุหมุนเขตร้อนที่เคล่ือนเข้าสู่ประเทศไทยในห้วงเวลาระหว่างปี ค.ศ. 1951-2014 ภาพเล็กแสดงจ�ำนวนพายุหมุน เขตร้อนท่ีมีขนาดสูงกว่าพายุดีเปรสชั่นเขตร้อนทั้งหมดในคาบเวลาทุกๆ 10 ปี (ค.ศ. 1951-1960, 1961-1970, 1971-1980, 1981-1990, 1991-2000 และ 2001-2010) (ทมี่ า: TMD, 2011 และกรมอุตุนิยมวิทยา, 2558) 13 กา้ วหนา้ พฒั นา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 13 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ี่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 รปู ท่ี 3 การเปลีย่ นระดบั น�้ำทะเลเฉล่ยี ของโลก ระหวา่ งปี ค.ศ. 1993-ปัจจบุ ัน ซึ่งค�ำนวณจากขอ้ มูลดาวเทียมประเภทอัลติมิเตอร์ขององคก์ ร ตา่ งๆ คอื AVISO+CSIRO CU NASA GSFC และ NOAA คา่ ทคี่ ำ� นวณไดห้ ักคา่ ความผันแปรรายปแี ละมกี ารแก้ค่า inverse barometer effect และ GIA เรียบรอ้ ยแล้ว เสน้ สีดำ� เปน็ เส้นแนวโนม้ ท่ีคำ� นวณได้จากข้อมูล ตัวเลขขวามือล่างเป็นค่าเฉลี่ยจากเส้นแนวโน้ม ± ค่าความ ไมแ่ น่นอน และอุณหภูมิต่�ำสุดเฉลี่ยรายปีของประเทศไทย มีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน 0.96 0.92 และ 1.04 C ตามลำ� ดับ ส่วนการศกึ ษาการเปลยี่ นแปลง ของฝนในช่วงหลังรายงาน TARC ฉบบั ท่ี 1 ชว่ ยเพม่ิ เติมหลกั ฐาน แนวโน้มการเปล่ียนแปลงอย่างมีนัยส�ำคัญเม่ือวิเคราะห์ในสเกล พื้นท่ีและเวลาท่ีมีความละเอียดขึ้น โดยพบว่า ปริมาณฝนสะสม รายปีในภาคใต้ฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทยในห้วงเวลาระหว่าง ปี ค.ศ. 1955-2014 มแี นวโนม้ ลดลงและเพิ่มขึ้นอยา่ งมีนัยส�ำคัญ ในขณะท่ีปริมาณฝนสะสมรวมในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือน เมษายนในประเทศไทย มแี นวโนม้ เพม่ิ ขนึ้ อยา่ งมนี ยั สำ� คญั ในอตั รา 64.8 มิลลเิ มตรในรอบ 60 ปที ีผ่ ่านมา การศึกษาการเปลย่ี นแปลง สภาวะสดุ ขดี ของลมฟา้ อากาศในประเทศไทย ในหว้ งเวลาหลงั จาก ปี ค.ศ. 2011 ถงึ ปจั จบุ นั ชว่ ยเพมิ่ ความมน่ั ใจถงึ ขอ้ สรปุ ทว่ี า่ สภาวะ ลดลงอย่างมีนัยส�ำคัญ (รูปที่ 2) อย่างไรก็ตามภายใต้การลดลง สดุ ขดี ของอณุ หภมู ใิ นประเทศไทย มแี นวโนม้ การเปลยี่ นแปลงอยา่ ง ของความถี่ของพายุหมุนเขตร้อนน้ันกลับพบว่า จ�ำนวนพายุหมุน มนี ัยส�ำคัญในรอบ 40-50 ปีท่ีผ่านมา ส่วนองค์ความรู้ใหมๆ่ จาก เขตรอ้ นในระดบั ทร่ี นุ แรงกวา่ พายดุ เี ปรสชน่ั เขตรอ้ นทเ่ี กดิ ขนึ้ ทง้ั หมด การศกึ ษาในช่วงล่าสุด ช่วยสร้างความชัดเจนต่อการเปลีย่ นแปลง ในรอบ ทุกๆ 10 ปี กลบั มีแนวโนม้ เพมิ่ ขึน้ ต้ังแต่ทศวรรษท่ี 1970 สภาวะสุดขีดของฝนในประเทศไทย ซึ่งบ่งช้ีให้เห็นถึงความถี่ของ (รูปท่ี 2) การเปลี่ยนแปลงดงั กล่าว อาจบ่งชถี้ งึ ความเส่ียงท่ีเพิม่ ข้ึน เหตกุ ารณฝ์ น และระยะเวลาทฝี่ นตกอยา่ งตอ่ เนอื่ งในพนื้ ทส่ี ว่ นใหญ่ ของประเทศไทยต่อเหตุการณ์สภาวะสุดขีดของลมฟ้าอากาศ ของประเทศไทยลดลง แต่ความแรงของฝนและความเข้มของฝน ทั้งจากเหตุการณ์ฝนตกหนักและน�้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ จากเหตุการณ์ฝนตกหนัก รวมถึงปริมาณฝนรวมจากเหตุการณ์ สลบั กบั การเกดิ ภาวะความแห้งแลง้ ที่ยาวนานขึ้น ฝนหนัก กลับมีแนวโน้มเพิ่มข้ึนอย่างมีนัยส�ำคัญ บนพ้ืนฐานของ 3. ระดับน�้ำทะเล นับเป็นการเปล่ียนแปลงส�ำคัญท่ี ขอ้ มลู ทีไ่ ด้บันทึกในรอบ 64 ปีท่ผี า่ นมา (ค.ศ. 1951-2014) พบวา่ เก่ียวข้องกับสภาพภูมิอากาศท่ีพบบริเวณชายฝั่ง ซ่ึงสาเหตุอาจ ความถ่ีของพายุหมนุ เขตรอ้ นท่เี คลื่อนเขา้ สปู่ ระเทศไทย มแี นวโนม้ เกิดจากการท่ีมวลหรือปริมาตรของน้�ำทะเลมีการเพ่ิมข้ึนโดย ก้าวหนา้ พฒั นา 14 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 14 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 ผ่านวัฏจักรน้�ำ และ/หรือเกิดจากการขยายตัวของน้�ำทะเล รายปีภายใต้ RCP8.5 ท้ัง 3 แบบจ�ำลองมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย อันเน่ืองมาจากการเพิ่มข้ึนของอุณหภูมิน้�ำทะเล จากข้อมูล ระยะยาวประมาณ 1.67 C 3.98 C และ 4.82 C ตามลำ� ดบั ดาวเทียมประเภทอัลติมิเตอร์ พบว่าการเปลี่ยนระดับน้�ำทะเล 5. ภูมิอากาศในแต่ละภูมิภาคของโลก มีความแปรปรวน เฉลี่ยของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1993-ปัจจุบัน มีค่าเพ่ิมขึ้นอยู่ใน ท่ีแตกต่างกันตามสภาพภูมิประเทศและการตอบสนองต่ออิทธิพล ช่วง 3.2-3.3 มิลลิเมตรต่อปี (รูปท่ี 3) ซ่ึงหากพิจารณาในสเกล ของภูมิอากาศโลกท่ีมีลักษณะท่ีแตกต่างกัน โดยแบบจ�ำลอง ระดับภูมิภาคแล้ว การเปล่ียนแปลงอาจมีค่าลดลงในบางพ้ืนที่ ภูมิอากาศโลกท่ีได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเน่ือง ช่วยให้ ขณะทใี่ นบางพ้นื ทีอ่ าจมีคา่ เพิ่มขนึ้ ซึ่งข้นึ อยูก่ บั ปัจจยั ทางกายภาพ นักวิทยาศาสตร์สามารถจ�ำลองและเข้าใจพฤติกรรมและความ หลายๆ ปจั จยั การเปลย่ี นแปลงของระดบั นำ�้ ทคี่ ำ� นวณจากดาวเทยี ม แปรปรวนทางธรรมชาติ รวมถงึ ปรากฏการณต์ ่างๆ ของภมู อิ ากาศ บริเวณทะเลอันดามัน ทะเลจีนใต้และทะเลโดยรอบประเทศ โลกได้ดีขึ้น และสามารถสร้างภาพการจ�ำลองการเปลี่ยนแปลง อนิ โดนเี ชยี ซง่ึ เปน็ บรเิ วณทอ่ี ยใู่ กลก้ บั ประเทศไทย พบวา่ มคี า่ เพม่ิ ขนึ้ ภูมิอากาศอนาคตในระดับภูมิภาคมีความน่าเช่ือมากข้ึนเช่นกัน อยรู่ ะหวา่ ง3.6-6.6 มลิ ลเิ มตรตอ่ ปี ภาพการจำ� ลองการเปลย่ี นแปลง การประเมินและสังเคราะห์ภาพการณ์จ�ำลองของปรากฏการณ์ ระดับน้�ำทะเลในพ้ืนที่อ่าวไทย พบว่าในช่วง 30 ปีข้างหน้า หลักๆ ของบรรยากาศ และตัวแปรภูมิอากาศที่เช่ือมโยงกับ การเพ่ิมขึ้นของระดับน�้ำทะเลเฉลี่ย มีค่าอยู่ระหว่าง 10-20 การเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศอนาคตในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ เซนตเิ มตร โดยแบบจำ� ลองการทว่ มของแผน่ ดนิ ในบรเิ วณภาคกลาง ภายใต้การเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุณหภูมิเฉล่ียของโลก พบว่า ตอนล่าง พบว่าพื้นท่ีกรุงเทพฝั่งตะวันออก สมุทรปราการและ แบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกส่วนใหญ่ให้ผลท่ีสอดคล้องกันว่า ฉะเชิงเทราจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนภาพการจ�ำลองการ ในศตวรรษที่ 21 ระบบมรสุมของโลกในภาพรวม จะมีก�ำลัง เปลยี่ นแปลงของพายหุ มนุ เขตรอ้ น พบวา่ ในชว่ งสน้ิ ศตวรรษจำ� นวน แรงขน้ึ แต่การหมุนเวยี นของมรสุมจะอ่อนตวั ลง มรสุมมแี นวโนม้ พายุหมุนท่ีมีโอกาสเคลื่อนท่ีเข้าสู่อ่าวไทยและท�ำให้เกิดภัยจาก ท่ีจะเกิดเร็วขึ้นหรือไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในแต่ละปีแต่วันสิ้นสุด คลน่ื พายซุ ดั ฝง่ั ไดน้ น้ั ในชว่ งเดอื นตลุ าคมถงึ เดอื นธนั วาคม จะลดลง ฤดูมรสุมจะล่าช้าออกไปกว่าเดิม ส่งผลให้ฤดูมรสุมมีระยะเวลา 20-44% แต่จ�ำนวนพายุที่มีความรุนแรงจะเพ่ิมข้ึน 3-9% ส่วน ยาวนานขึ้น ทั้งน้ี มรสุมจะก่อให้เกิดฝนตกหนักในภูมิภาคเอเชีย อณุ หภมู ิน้�ำทะเลจะเพิม่ ขนึ้ ประมาณ 2-4 C ตะวันออกเฉยี งใต้ แบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกจำ� นวนหนึ่ง แสดงผล 4. การจ�ำลองการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้เร่ิมต้นขึ้นใน ท่ีสอดคล้องกันว่า ปริมาณฝนจากมรสุมจะมีความผันผวนมากขึ้น ทศวรรษที่ 1980s โดยแบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกได้รับการพัฒนา ในอนาคต การจำ� ลองรปู แบบการเกดิ Indian Ocean Dipole (IOD) อย่างต่อเนื่องในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา และในปัจจุบันมีการเพิ่ม และสร้างภาพการจ�ำลองในอนาคต แสดงผลท่ีสอดคล้องกันว่า ความละเอียดของภาพจ�ำลองภูมิอากาศและมหาสมุทรทั้ง ในอนาคตจะเกดิ รปู แบบการเปลย่ี นแปลงในแนวตะวนั ออก- ตะวนั ตก ในแนวราบและแนวระดับสูงและสูงมาก การย่อส่วนแบบจ�ำลอง ในมหาสมทุ รอนิ เดยี โดยพน้ื ทดี่ า้ นตะวนั ตกจะมอี ณุ หภมู สิ งู ขนึ้ และ ภูมิอากาศโลก เพื่อให้มีความละเอียดในแนวราบสูงขึ้นในระดับ มฝี นเพม่ิ ขน้ึ ในทางตรงขา้ มพน้ื ทดี่ า้ นตะวนั ออก จะมอี ณุ หภมู ติ ำ�่ ลง ท่ีสามารถประยุกต์ใช้เป็นข้อมูลน�ำเข้าส�ำหรับการศึกษาผลกระทบ และมีฝนตกน้อยลง ซ่ึงส่งผลให้พื้นท่ีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีฝน การปรับตัวและความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ตกน้อยลง ในปัจจุบัน แบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกสามารถจ�ำลอง ด�ำเนินการได้โดยแบบจ�ำลองภูมิอากาศภูมิภาค ในช่วงทศวรรษท่ี ปรากฏการณ์ El Nino - Southern Oscilation (ENSO) ไดใ้ กลเ้ คียง ผ่านมาประเทศไทย ได้มีการด�ำเนินกิจกรรมการวิจัยด้าน และสอดคล้องกับความจริงมากขึ้น และเมื่อใช้จ�ำลองเหตุการณ์ การย่อส่วนแบบจ�ำลองภูมิอากาศโลกอย่างต่อเนื่อง โดยประยุกต์ ENSO ต่อไปในอนาคต ได้ผลลัพธ์ท่ีมีความเช่ือมั่นในระดับสูง ใช้วิธีการท้ังแบบพลวัตร และสถิติ ในปัจจุบันได้มีการขยาย ซึ่งบ่งบอกถงึ ปรากฏการณ์ ENSO ยงั คงเปน็ ปัจจัยหลกั ทกี่ อ่ ให้เกิด กรอบความร่วมมือการย่อส่วนในระหว่างประเทศสมาชิกใน ความผันผวนของสภาพอากาศในรอบปี ผลการศึกษาด้วยแบบ ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตร้ วมถงึ ประเทศไทย ภายใตโ้ ครงการ จ�ำลองภูมิอากาศระดับภูมิภาคและย่อส่วนเพ่ือเพ่ิมรายละเอียด SEACLID/CORDEX Southeast Asia Project การย่อส่วนซ่ึงมี การแสดงผลเชงิ พนื้ ที่ พบวา่ ปรมิ าณฝนเฉลยี่ และปรมิ าณฝนในชว่ ง ความละเอยี ดเชิงพ้ืนท่ขี นาด 10 กิโลเมตร x 10 กโิ ลเมตร เพอื่ ให้ มรสุมฤดูหนาวของซีกโลกเหนือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ข้อมูลภูมิอากาศอนาคตครอบคลุมพ้ืนท่ีประเทศไทยล่าสุดจาก จะเพ่มิ ขึ้นในอนาคต (รูปที่ 4) การเพิม่ ขึ้นของฝนดังกล่าว พบตาม แบบจ�ำลองภมู ิอากาศโลก 3 แบบจ�ำลอง ภายใตภ้ าพการณจ์ ำ� ลอง แนวเส้นรุ้ง 10 เหนือและ 5 ใต้ ซ่ึงบ่งช้ีถึงการขยายตัวไปทาง 3 รปู แบบ ได้แก่ RCP4.5, RCP6.0 และ RCP8.5 พบวา่ อณุ หภูมิ ทิศเหนือและทิศใต้ของรอ่ งความกดอากาศต่ำ� เฉลี่ยรายวัน อุณหภูมิสูงสุด อุณหภูมิต�่ำสุดและปริมาณน�้ำฝน การสังเคราะห์และประมวลสถานภาพองค์ความรู้ด้านการ โดยเฉลี่ยทั่วประเทศ มีแนวโน้มสูงข้ึนอย่างมีนัยส�ำคัญทุก เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในประเด็นส�ำคัญท่ีเกี่ยวข้องกับ แบบจำ� ลองและภาพการจำ� ลอง ในปี ค.ศ.2100 ทง้ั นี้ อณุ หภมู เิ ฉลยี่ ประเทศไทย นับเป็นกระบวนการทส่ี �ำคญั ในการปรับปรงุ หลักฐาน 15 ก้าวหน้าพฒั นา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 15 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีท่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 รูปที่ 4 การเปลี่ยนแปลงค่ามัธยฐานของปริมาณฝนในช่วงมรสุมฤดูหนาวของซีกโลกเหนือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอนาคตซง่ึ แสดงในหนว่ ยของเปอรเ์ ซ็นต์ ส�ำหรับภาพการจำ� ลอง RCP2.6 RCP4.5 และ RCP8.5 โดยคอลมั น์ท่ี 4 แสดงค่าเฉล่ยี ตามแนวเส้นแวงของความแปรปรวนของปรมิ าณฝนในช่วงมรสมุ ฤดหู นาว (มลิ ลิเมตรต่อเดอื น) (ท่มี า: Siew et al., 2014) ทางวิทยาศาสตร์ใหเ้ ปน็ ปัจจบุ นั และเสรมิ องค์ความรใู้ หม่ๆ ซง่ึ ชว่ ย ภูมิอากาศ ท้ังนี้ กระบวนการสังเคราะห์และประมวลข้อมูลและ แสดงรายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ ถงึ การเปลยี่ นแปลงตา่ งๆ ในประเทศไทย ผลการศึกษาระดับประเทศ ยังจ�ำเป็นต่อการจัดการองค์ความรู้ ที่เก่ียวข้องกับการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศท่ีได้เกิดขึ้นแล้ว ใหม่ๆ ซ่ึงควรทบทวนให้เป็นปัจจุบันเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องที่ ในอดีต และคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตให้มีความชัดเจนและ สอดคล้องกับวงรอบการจัดท�ำรายงานประเมินของ IPCC โดย ครอบคลุมมากข้ึน โดยผลการสังเคราะห์และประมวลสถานภาพ การศกึ ษาวจิ ยั ดา้ นภมู อิ ากาศวทิ ยาและการจำ� ลองภมู อิ ากาศอนาคต องค์ความรู้นี้ จะเป็นแหล่งความรู้หน่ึงของประเทศที่สามารถ ในประเทศไทย ยังมีความส�ำคัญและควรได้รับการสนับสนุน ใช้เป็นแหล่งอ้างอิงและน�ำไปใช้ประกอบเพื่อสร้างความรู้ จากหน่วยงานต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องอย่างต่อเน่ือง ซึ่งหัวข้องานวิจัย ความเข้าใจและความตระหนักรู้ให้แก่ภาคส่วนต่างๆ อีกท้ัง ควรเน้นประเด็นที่จ�ำเป็นต่อประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งโจทย์วิจัย สามารถใช้เป็นข้อมูลทางด้านวิชาการเพ่ือสนับสนุนกระบวนการ ควรผ่านกระบวนการปรึกษาหารือกับหน่วยงานต่างๆ ตลอดจน ตัดสินใจและศึกษาวิจัยต่อยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็น สามารถตอบโจทย์วิจัยส�ำคัญในบริบทของความตกลงปารีส ผลกระทบ การปรบั ตวั และความลอ่ แหลมตอ่ การเปลย่ี นแปลงสภาพ และแนวทางการจดั ท�ำรายงาน AR6 ของ IPCC อกี ด้วย เอกสารอา้ งอิง ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย 2559. รายงานการสังเคราะห์และประมวลสถานภาพองค์ความรู้ด้านการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ ของไทย ครง้ั ท่ี 2 พ.ศ. 2559. สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนุนการวิจยั : กรุงเทพมหานคร [อำ� นาจ ชดิ ไธสง, ปริเวท วรรณโกวทิ , มทั นพรรณ จิว๋ เจยี ม, อัศมน ลม่ิ สกลุ , ศุภกร ชินวรรโณ และชโลธร แก่นสนั ติสขุ มงคล (บรรณาธิการ)] กา้ วหน้าพฒั นา 16 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 16 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบบั ท่ี 36 พฤษภาคม 2560 การลงทุนที่ยงั่ ยืน ตอ้ งค�ำนงึ ถงึ สังคม สิง่ แวดล้อม เมอ่ื ไม่นานมาน้ี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดสัมมนา การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แนวโน้ม ความเสยี่ งในการลงทนุ และโอกาส เปน็ การวเิ คราะหภ์ าพรวมเกยี่ วกบั การลงทนุ ทย่ี งั่ ยนื ครอบคลมุ ประเดน็ เกี่ยวกับแนวโน้มและภาพรวมของการลงทุนท่ีเก่ียวข้องกับความย่ังยืนในระดับโลกและภูมิภาค ตลอดจน ความเคลื่อนไหวท่ีเกี่ยวกับการลงทุน ในประเทศไทย ท่ีสะท้อนให้เห็นถึงความส�ำคัญของความตื่นตัวของการ ลงทนุ ทยี่ งั่ ยนื ของกองทนุ ทง้ั ในระดบั โลกและระดบั ประเทศ และชใี้ หน้ กั ลงทนุ ไทยมองเหน็ โอกาสของการดำ� เนนิ ธรุ กจิ ตามแนวทางความรับผิดชอบต่อสังคมและส่ิงแวดล้อม ตลอดจนการสื่อสารกับนักลงทุนเชี่ยวชาญหลายท่าน มองแนวโนม้ มมี ลู คา่ สงู ถงึ 9 ลา้ นลา้ นเหรยี ญสหรฐั และจากรายงานของสำ� นกั ขา่ วบลมู เบริ ก์ ที่ไดส้ อบถามบรษิ ทั จดทะเบยี นจำ� นวน 12,012 บรษิ ทั พบวา่ ประเทศทม่ี บี รษิ ทั จดทะเบยี นฯ เปดิ เผยขอ้ มลู ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ มมากท่ีสดุ คอื ญ่ีปุ่น จำ� นวน 2,124 บรษิ ัท ซง่ึ คิดเป็นสดั สว่ น 54.7% ของบริษทั จดทะเบียน ขณะท่ี ประเทศไทยมี 51 บรษิ ัท หรอื คิดเป็นสัดส่วน 7.0% ของบรษิ ัทจดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์ ✑ รัฐ เรืองโชตวิ ทิ ย์ นักวชิ าการสิง่ แวดล้อมช�ำนาญการพิเศษ 17 กา้ วหน้าพฒั นา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 17 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ่ี 14 ฉบับที่ 36 พฤษภาคม 2560 ภาพการเพิ่มของก๊าซเรือนกระจก ทม่ี า บริษทั ERM ประเทศไทย จำ� กัด มกี ารนำ� เสนอขอ้ มลู วา่ แมว้ า่ การทป่ี ระธานาธบิ ดี โดนลั ด์ ทรมั ป์ ด้านการเงินในระดับอาวุโสจ�ำนวนมาก จากผลวิจัยของบริษัท จะพยายามลม้ เลกิ เปา้ หมายดา้ นธรรมาภบิ าลและสงั คมสงิ่ แวดลอ้ ม โอลเิ วอร์ ไวแมน ระบวุ า่ มผี หู้ ญงิ ไทยถงึ 31% เปน็ คณะกรรมการ รวมถงึ กฎระเบยี บตา่ งๆ เชน่ การจา่ ยเงนิ ซอี โี อมากเกนิ ไป รวมถงึ บริษัท และมีสัดส่วนท่ีสูงมาก โดยเม่ือเปรียบเทียบในระดับโลก แนวโน้มของกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกาท่ีพยายามท�ำใหอ้ อ่ นแอลง ประเทศไทยเปน็ รองเพยี งนอรเ์ วยแ์ ละสวเี ดน ทอ่ี ยใู่ นลำ� ดบั 1 และ 2 แตใ่ นทางกลบั กนั เมอื่ ดแู นวโนม้ ของธรุ กจิ เราจะเหน็ วา่ แนวโนม้ ทเ่ี กดิ ขณะที่ในสหรัฐอเมริกาเอง ผู้หญิงท่ีอยู่ในระดับน้ีมีเพียง 20% จากความต้องการที่แท้จริงในธุรกิจเก่ียวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและ ส่วนญี่ปุ่นน้ันอยู่ในประเทศท้ายๆ ท่ีผู้หญิงได้อยู่ในต�ำแหน่ง สงั คมนนั้ ยงั มอี ยู่ เชน่ การทำ� ธรุ กจิ คารบ์ อนตำ�่ ทท่ี ำ� ใหธ้ รุ กจิ สามารถ บรหิ ารระดบั สงู ลดตน้ ทนุ รวมไปถงึ แนวโนม้ ของพลงั งานทางเลอื กทจี่ ะยงั อยู่ โดย นักลงทุนท่ีให้ความส�ำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมส่ิงแวดล้อม สว่ นใหญม่ กั จะกระจกุ ตวั อยใู่ นยโุ รป โดยมสี ดั สว่ นถงึ 50% ขณะทใ่ี น สหรฐั อเมรกิ ามคี วามสนใจในเรอื่ งนี้20% และมองวา่ เรอื่ งนเี้ ปน็ ปจั จยั หน่ึงในการด�ำเนินธุรกิจ ขณะที่ญี่ปุ่นจะเห็นแนวโน้มการเข้ามา สนบั สนนุ ของรฐั บาลทก่ี ระตนุ้ ใหเ้ กดิ เรอื่ งนม้ี ากขนึ้ ผู้เช่ียวชาญตลาดตราสารทุนในภูมิภาคอาเซียนให้ข้อมูลว่า กฎระเบยี บตา่ งๆ เปน็ พลงั ผลกั ดนั สำ� คญั ในสง่ิ แวดลอ้ ม สงั คม และ ธรรมชาติ (Environment Social Governance) (ESG) ทที่ �ำให้ การเปดิ เผยขอ้ มลู และการดำ� เนนิ การเกย่ี วกบั ESG ในอนิ เดยี และญปี่ นุ่ น้ันมีแนวโน้มท่ีดีข้ึนมาก ส่วนไทย มาเลเซีย และฮ่องกง เป็น การรายงานทเี่ กดิ จากความสมคั รใจ อยา่ งไรกต็ าม ไทยถอื เปน็ ผนู้ ำ� เรอื่ ง ธรรมาภบิ าลและสงั คมสง่ิ แวดลอ้ ม ในระดบั ภมู ภิ าค โดยเฉพาะเรอื่ ง ความหลากหลายทางเพศ ตลอดจนการที่มีผู้หญิงอยู่ในต�ำแหน่ง ก้าวหน้าพัฒนา 18 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 18 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ี่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 นพิ จน์ ไกรลาศโอฬาร “ด้าน “นิพจน์ ไกรลาศโอฬาร” ผู้จัดการกองทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ทสิ โก้ จำ� กดั กลา่ ววา่ วนั นมี้ กี องทนุ ฯ ธรรมาภบิ าลและสงั คมสง่ิ แวดลอ้ ม เพอ่ื สงั คมบรหิ าร ภายใตแ้ นวคดิ ในการวเิ คราะหเ์ รอ่ื งธรรมาภบิ าลและสงั คมสงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ หลกั ดำ� เนนิ การมาแลว้ ประมาณ 2 ปี มีนโยบายในการบริหารกองทุนโดยใช้ข้อมูลท่ีมากกว่าข้อมูลทางการเงิน (Non-Financial) มาเป็นแนวทางในการวิเคราะห์เพ่ือเลือกหุ้นท่ีจะลงทุน วันน้ีธุรกิจที่ย่ังยืน สำ� หรบั บรษิ ทั ในตลาดฯ ขยบั จาก CSR (Corporate Social Responsibility) มาสกู่ ารทำ� ธรุ กจิ แบบย่ังยืน เป็นการท�ำธุรกิจท่ีมีรายได้ไม่หวือหวาแต่ขอเติบโตอย่างยั่งยืน และมีความเสี่ยง ในการดำ� เนนิ ธรุ กจิ นอ้ ยทสี่ ดุ นอกจากธรรมาภบิ าลและสงั คมสง่ิ แวดลอ้ ม ซงึ่ ประกอบไปดว้ ย 3 ดา้ น คอื สงิ่ แวดลอ้ ม (Environment) สงั คม (Social) และธรรมาภบิ าล (Governance) (ESG) ปจั จบุ นั บรษิ ทั ยงั เผชญิ หนา้ กบั โซเชยี ลมเี ดยี (Social Media) ซง่ึ จากทเ่ี หน็ ในชว่ ง 2-3 ปที ผ่ี า่ นมา ส่วนใหญ่เกิดจากผลกระทบของการไม่ด�ำเนินการทั้ง 3 ด้านนี้ ดังน้ัน การมีโซเชียลมีเดีย จึงยิ่งท�ำให้บริษัทจดทะเบียนจะต้องตระหนักเรื่องเหล่าน้ีมากย่ิงขึ้น โดยจ�ำเป็นต้องมองใน ภาพกวา้ งขน้ึ เชน่ เรอื่ งการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (Climate Change) สามารถมองได้ เปน็ ทงั้ ความเสย่ี งและโอกาสของบรษิ ทั ขณะทใี่ นดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม บรษิ ทั ฯ จำ� เปน็ ตอ้ งคำ� นงึ ถึงการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมน้อยท่ีสุด แต่ในเวลา เดยี วกนั กเ็ ปน็ การมองหาโอกาสในการสรา้ งคณุ คา่ ใหก้ บั สนิ คา้ ดว้ ย ทมี่ า: เอกสารประกอบการนำ� เสนอของ พาเมลา กสุ ตาส, บลมู เบริ ก์ ก้าวหน้าพฒั นา 19 5/29/60 BE 10:08 AM AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 19

ปีที่ 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 ในมมุ มองของผจู้ ดั การกองทนุ เขายงั มองดว้ ยวา่ ธรุ กจิ ทคี่ ำ� นงึ ใชห้ ลกั 6 ประการทใี่ ชใ้ นการบรหิ ารการลงทนุ ภายใตธ้ รรมาภบิ าล ถงึ ประเดน็ สงั คม(SocialIssues) ควรจะพจิ ารณาผลกระทบทเ่ี กยี่ วขอ้ ง และสงั คมสง่ิ แวดลอ้ ม โดยมี 6 วธิ ี คอื กับท้ังภายในและภายนอกองค์กร ได้แก่ สวัสดิการพนักงาน 1. Exclusionary Screening สกรีนหุ้นท่ีไม่ผ่านออกโดย สทิ ธมิ นษุ ยชน มาตรฐานแรงงาน ฯลฯ โดยบรษิ ทั ตอ้ งบรหิ ารจดั การ พจิ ารณาทงั้ ในระดบั ของการทำ� ธรุ กจิ ทไ่ี มส่ ง่ เสรมิ ประโยชนต์ อ่ สงั คม หว่ งโซอ่ ปุ ทานตง้ั แตต่ น้ นำ้� จนถงึ ปลายนำ�้ โดยเฉพาะการบรหิ ารจดั การ สงิ่ แวดลอ้ ม หรอื มปี ระวตั ไิ มด่ เี กย่ี วกบั ธรรมาภบิ าลจะถกู สกรนี ออก ผทู้ ม่ี สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (stakeholder) อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ยกตวั อยา่ ง ในลำ� ดบั แรก บริษัทมีการผลิตสินค้าและโรงงานท�ำให้เกิดของเสียหรือท�ำให้เกิด 2. Best-in-Class Selection จากน้ันจะพิจารณาเลือก มลภาวะตอ่ ชมุ ชนใดชมุ ชนหนง่ึ สง่ ผลใหเ้ กดิ ภาพลกั ษณไ์ มด่ ตี อ่ สนิ คา้ แตต่ วั ทดี่ ที สี่ ดุ ของอตุ สาหกรรมตา่ งๆ มารวมกนั หากเกดิ การฟอ้ งรอ้ ง กจ็ ะมคี า่ ใชจ้ า่ ยและตอ้ งมกี ารชดใชค้ า่ เสยี หาย 3. Active Ownership เราจะตั้งค�ำถามถามบริษัท ไมว่ า่ จะถกู หรอื ผดิ หากเกดิ กรณดี งั กลา่ วขนึ้ กจ็ ะมผี ลกระทบตอ่ ฐานะ จดทะเบียนฯ เกี่ยวกับประเด็นท่ีอ่อนไหว ซ่ึงส่วนใหญ่ผู้จัดการ การเงินของบริษัททั้งหมด ซ่ึงในมุมของนักลงทุนน้ันไม่ชอบเรื่อง กองทนุ ในไทยจะไมค่ อ่ ยถาม ในอนาคตเชอื่ วา่ ทศิ ทางการมาพบกนั แบบน้ี ส�ำหรับเรื่องธรรมาภิบาลก็เช่นกัน เป็นเร่ืองนามธรรมท่ีส่ง ระหวา่ งผบู้ รหิ ารกบั นกั ลงทนุ จะคอ่ ยๆ ปรบั ตวั ในเรอื่ งน้ี ผลกระทบอยา่ งมาก โดยเฉพาะในประเดน็ เรอื่ งการใชข้ อ้ มลู ภายใน 4. Thematic Investing เปน็ เรอื่ งใหม่ เปน็ การลงทนุ Multi เล่นหุ้น เรื่องการให้สินบน การคอร์รัปช่ัน ฯลฯ เรื่องเหล่าน้ีเป็น Investment บริษัทหลักทรัพย์บางแห่งจะบอกเลยว่าปีน้ีเขาอยาก Non Financial Value ทหี่ ลายบรษิ ทั อาจจะไมส่ นใจ ลงทนุ ภายใต้ Theme อะไร คำ� ถามคอื ทำ� ไมบรษิ ทั บางแหง่ Earning Growth ไมไ่ ดต้ ำ�่ เลย 5. Impact Investing เนน้ การลงทนุ ในหนุ้ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การ ทำ� ไมราคาหนุ้ จงึ แพงกวา่ สว่ นหนงึ่ เกดิ จาก Hidden Value ทไ่ี ม่ เจรญิ เตบิ โตของประเทศในปนี น้ั ๆ สามารถประเมนิ คา่ ได้ หากภาพลกั ษณด์ คี นมคี วามเชอื่ ถอื เขากล็ งทนุ 6. ESGIntegration โดยใสส่ ง่ิ ทคี่ าดวา่ จะเปน็ ไปไดใ้ นทกุ ดา้ น กับบริษัทของท่านในระยะยาว ทางตรงข้ามหากไม่ใส่ใจรอให้เกิด เขา้ ไป ทง้ั ดา้ นเศรษฐกจิ มหภาค และ Theme สำ� คญั ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง เรอ่ื งกอ่ น มนั กจ็ ะสะทอ้ นจากราคาหนุ้ ทปี่ รบั ตวั ลงมา หลกั 6 ประการ ในชว่ งนนั้ เชน่ ปที แี่ ลว้ มมี อื ถอื เจา้ หนง่ึ จากประเทศเกาหลี แบตเตอรี่ ในการบรหิ ารการลงทนุ ธรรมาภบิ าลและสงั คมสง่ิ แวดลอ้ มสำ� หรบั ระเบิด เป็นรุ่นท่ีเพ่ิงออกใหม่ ท�ำให้ผู้บริโภคเกิดความกังวล เป็น ปัจจัยที่ผู้จัดการกองทุนใช้พิจารณาในการลงทุน นักลงทุนท่ัวโลก มอื ถอื ใชร้ ะบบ Andriod และในชว่ งนนั้ เองกม็ ผี ผู้ ลติ มอื ถอื เจา้ หนงึ่ ก้าวหน้าพฒั นา 20 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 20 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีท่ี 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 นPโoยบlicาyยแaลnะdกฎLeหgมaาlย คว(Rาiมskเสsยี่) ง (Oppโoอrกtuาสnities) การใชท้RรeพัsoยuากrcรeอยEา่fงfiมcปีleรnะcสyทิ ธภิ าพ Marตkลeาtดsแ&ละSผuผู้pลpติ liers Pผrลoติdภuณัctฑsแ์ /ลSะeบrรvกิicาeรs Financial Impact Mตaลrkาeดts Reชpอื่uเtสaยี tงion คRวeาsมitยieดื nหcยeนุ่ Teเทcคhโnนoโlลoยgี y (Incงoบmกeำ� ไSรtขaาtดeทmนุ ent) (BaราlaยnงcาeนงSบhดeลุ et) จากประเทศจนี เขา้ มา เมอื่ แบตเตอรย่ี หี่ อ้ นนั้ ใชไ้ มไ่ ด้ ระบบเหมอื นกนั ต้องค�ำนึงในหลายด้าน การควบคุมหรือหามาตรการท่ีเหมาะสม แตค่ วามปลอดภยั ตำ�่ ปรากฏวา่ สน้ิ ปที ผ่ี า่ นมา บรษิ ทั ผผู้ ลติ มอื ถอื ด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อชุมชน ล้วนต้องค�ำนึงถึง รายทแี่ บตเตอรรี่ ะเบดิ สว่ นแบง่ การตลาดลดลงเกลย่ี ไปใหร้ ายท่ี 2-3 การลงทนุ ทเี่ หมาะสม มกี ารบรหิ ารทค่ี ำ� นงึ ถงึ ขน้ั ตอนทางกฎหมาย หากมเี รอื่ งความปลอดภยั เขา้ มาผา่ นโซเชยี ลมเี ดยี สามารถสง่ ผา่ นจาก กตกิ า และมาตรฐานสง่ิ แวดลอ้ ม โดยเฉพาะโครงการอสงั หารมิ ทรพั ย์ คนหนง่ึ ไปสคู่ นหนงึ่ ไดง้ า่ ย สง่ ผลกระทบเยอะเปน็ เรอ่ื งทไ่ี มค่ วรมอง จะออกโปรเจกตใ์ หมๆ่ จะตอ้ งจดั ทำ� EIA ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ การวางแผน ขา้ ม หลายๆ บรษิ ทั มชี อ่ งทางในการสอ่ื สารกบั นกั ลงทนุ หรอื สอ่ื สาร เวลาให้เหมาะสม และเป็นความเส่ียงหากโครงการไม่ผ่าน EIA กบั ลกู คา้ ผา่ นทางโซเชยี ลมเี ดยี ซงึ่ เปน็ เรอื่ งดที า่ นกำ� ลงั มาถกู ทางแลว้ หรือบางโครงการต้องมีการรับฟังความคิดเห็นท�ำความเข้าใจกับ เพราะว่าทุกวันนี้ผลกระทบที่เกิดข้ึนกับก�ำไรของบริษัทมีนิดเดียว ชมุ ชนในผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ ม หากเกดิ ปญั หาขน้ึ มาจะทำ� อยา่ งไร ในบางกรณี แตอ่ ยดู่ ๆี หนุ้ มนั ตกลงเพราะเรอื่ งมาตรฐาน ความปลอดภยั เวลาถามต้องมีค�ำตอบให้ชุมชน และการก�ำหนดมาตรการต่างๆ ของสินค้า เร่ืองที่มันอยู่ในโซเชียลมีเดียเล่าต่อๆ กันไปหลายๆ เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต ด้วยเงื่อนไขการจ�ำกัด ครง้ั เปน็ อยา่ งนนั้ จรงิ ๆ เพราะเราไปจบั เฉพาะFinancialValue ไมไ่ ด้ การลงทนุ โครงการในพน้ื ทตี่ า่ งๆ ผลู้ งทนุ ตอ้ งวางกรอบเวลา การลงทนุ จบั Non-Financial Value ท่ีรับผิดชอบภายใต้ธรรมาภิบาลและสังคมส่ิงแวดล้อม วันน้ีจึง บทสรุปของการลงทุนในยุคนี้จึงเป็นการเติบโตท่ีมีความ มองการลงทุนที่มีความรับผิดชอบและเป็นค�ำตอบการพัฒนา ระมดั ระวงั มคี วามผกู พนั ในหลายดา้ น พนื้ ทที่ มี่ ผี ลกระทบสงิ่ แวดลอ้ ม ทย่ี ง่ั ยนื ในอนาคต เอกสารอา้ งองิ เอกสาร SET SD Forum 1/2017: Climate Change: Key Trend in Capital Market Risks and Opportunities ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย เมษายน 2560 กรงุ เทพฯ 21 ก้าวหน้าพฒั นา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 21 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ี่ 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 การบ�ำบัดน้�ำเสยี โดยใชถ้ ังปฏิกรณช์ ีวภาพแบบมีเมมเบรน ท่ีศูนย์วจิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม ✑ ฐาปนี สมสขุ 1 หทยั กาญจน์ แสงทอง2 และ สุดา อทิ ธสิ ภุ รณร์ ตั น3์ 1, 2 สาขาเทคโนโลยแี ละการจัดการสง่ิ แวดล้อม คณะเทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภเู กต็ 3นักวิชาการสง่ิ แวดลอ้ มช�ำนาญการ ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมด้านส่งิ แวดลอ้ ม ปัจจุบันปัญหามลพิษในแหล่งน้�ำมีความส�ำคัญเพ่ิม ศูนย์วิจัยและฝึกอบรบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงาน ทางส่ิงแวดล้อมท่ีมีการใช้เทคโนโลยีถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมี มากขึ้น เนื่องจากมีการปนเปื้อนสารมลพิษจากน�้ำเสียใน เมมเบรน (Membrane Bioreactor, MBR) ซงึ่ เป็นเทคโนโลยีท่ี แหล่งก�ำเนิดต่างๆ ท�ำให้คุณภาพของแหล่งน้�ำผิวดิน ซึ่ง มปี ระสทิ ธภิ าพสงู สามารถบำ� บดั นำ้� เสยี แบบการยอ่ ยสลายทาง เป็นแหล่งน�้ำดิบในการผลิตน้�ำประปาเสื่อมโทรมลง บางคร้ัง ชีวภาพและการกรองผ่านเย่ือกรอง ลดข้ันตอนการตกตะกอน เกิดการเน่าเสียไม่สามารถน�ำไปใช้ในการอุปโภค-บริโภคได้ ออกไป ส่งผลให้ระบบมขี นาดเลก็ ลงและน้ำ� ทผ่ี ่านการบ�ำบัดมี ทำ� ใหแ้ หลง่ นำ้� ผวิ ดนิ ในประเทศไทยทมี่ คี ณุ ภาพนำ�้ ดลี ดนอ้ ยลง คุณภาพดี ระบบ MBR ที่ติดต้ังขึ้นน้ี สามารถบ�ำบัดน้�ำเสีย เกิดการขาดแคลนแหลง่ น้ำ� เพอ่ื น�ำไปใช้ในกจิ กรรมต่างๆ ของ ท่ีเกิดข้ึนจากการใช้ห้องน�้ำ และน้�ำเสียจากการล้างท�ำความ ประชาชน ทั้งนี้การจัดการน�้ำเสียมีหลากหลายวิธีท่ีเหมาะสม สะอาดอุปกรณ์เคร่ืองแก้ว ในห้องปฏิบัติการทางเคมี โดย ส�ำหรับปรับปรุงคุณภาพน้�ำเสียให้อยู่ในสภาพท่ีสามารถปล่อย สามารถรองรับปริมาณน�้ำเสยี ของอาคารได้สงู สดุ 15 ลกู บาศก์ ลงสู่แหล่งน้�ำธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย และการเลือกใช้ เมตร/วัน โดยระบบบ�ำบัดน�้ำเสียแบบ MBR ของอาคารนี้ เทคโนโลยีการบ�ำบัดต้องค�ำนึงถึงปัจจัยหลายด้านทั้งงบ ประกอบดว้ ยเมมเบรน2 ชนดิ คอื เมมเบรนแบบแผน่ (Flatsheet) ประมาณ ข้อจ�ำกัดในส่วนของพ้ืนท่ีในการติดตั้ง รวมไปถึง และเมมเบรนแบบเสน้ ใย (Holow fiber) ซึง่ ทั้ง 2 ชนิด มขี นาด ความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่น�ำมาใช้ในการบ�ำบัด รพู รุน 0.4 ไมโครเมตร (หรอื เท่ากับ 0.0004 มิลลิเมตร) น�ำ้ เสยี นั้นๆ กา้ วหน้าพฒั นา 22 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 22 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ่ี 14 ฉบับที่ 36 พฤษภาคม 2560 แผนผงั การบำ� บัดน�ำ้ เสีย รปู ท่ี 2 น้ำ� เสียก่อนและหลงั การบ�ำบัด น้�ำเสียจากห้องน�้ำและห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ถูก ด้วยระบบบำ� บัดนำ้� เสยี แบบ MBR ทั้ง 2 แบบ รวบรวมอยใู่ นบอ่ ใตอ้ าคาร และจะถกู สบู ขนึ้ มาโดยการผา่ นตะแกรง สารอินทรีย์ในรปู ของบีโอดี และซโี อดี ไนโตรเจนในรูปของทเี คเอน็ ดกั จบั ขยะละเอยี ดกอ่ นทจี่ ะเกบ็ ไวใ้ นถงั พกั นำ�้ หลงั จากนนั้ จะถกู สบู และแอมโมเนยี และตะกอนแขวนลอย พบว่า ระบบบ�ำบัดนำ�้ เสยี เข้าสู่ระบบบ�ำบัดน�้ำเสียแบบ MBR ทั้ง 2 แบบ โดยการควบคุม แบบ MBR ชนิด Flat sheet สามารถบำ� บัดสารปนเปอื้ นได้รอ้ ยละ การไหลของนำ้� ดว้ ยระดบั ของลกู ลอย สดุ ทา้ ยนำ้� เสยี ในระบบบำ� บดั 97 66 98 100 และ 98 ตามล�ำดับ ในขณะท่ี เมมเบรนชนดิ Holow นำ้� เสยี แบบ MBR จะถกู บำ� บดั ดว้ ยจลุ นิ ทรยี ท์ อี่ ยใู่ นระบบ และจะถกู fiber สามารถบ�ำบดั สารปนเปือ้ นได้รอ้ ยละ 98 74 97 98 และ 98 กรองผา่ นเมมเบรนท่มี ีรูพรนุ ขนาดเลก็ ทำ� ใหไ้ ด้นำ้� ทผ่ี ่านการบำ� บดั ตามล�ำดับ ทั้งน้ีระบบบ�ำบัดน้�ำเสียแบบ MBR ทั้งสองชนิด เกบ็ ไว้ในถงั น�ำ้ ออก (Effluent) ตามรูปท่ี 1 มีประสิทธิภาพในการบ�ำบัดโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ซ่ึงเป็นดัชนีชี้วัด ประสทิ ธิภาพการบำ� บัดน�้ำเสยี การปนเปอื้ นของเชอื้ โรคไดด้ ีถึงร้อยละ 100 อยา่ งไรก็ตาม ระบบนี้ ผลการทดสอบประสิทธิภาพของระบบในการบ�ำบัดน�้ำเสีย ไม่มีประสทิ ธภิ าพในการบ�ำบดั สารละลายในนำ�้ ทง้ั หมด (TDS) และ หลงั จากเดนิ ระบบเปน็ ระยะเวลา 3 เดอื น ตง้ั แตม่ กราคมถงึ มนี าคม ฟอสฟอรัสทงั้ หมด (TP) ได้ 2560 โดยการเกบ็ ตวั อยา่ งจ�ำนวน 6 คร้ัง ปริมาณทนี่ ำ�้ เสียเข้าระบบ โดยเฉลย่ี อยูท่ ี่ 6.4 ลกู บาศก์เมตร/วนั ลักษณะทางกายภาพ น้�ำเสียก่อนการบ�ำบัดท่ีมีสีดําขุ่น มตี ะกอนแขวนลอยเจอื ปนและสง่ กลน่ิ เหมน็ เนา่ เสยี ซง่ึ แตกตา่ งจาก น�้ำหลังผ่านการบ�ำบัดมีลักษณะใส ไม่มีตะกอนแขวนลอยและ ปราศจากกล่นิ เหม็นได้เป็นอยา่ งดี ลักษณะทางเคมี จากการศึกษาประสิทธิภาพการบ�ำบัด น้�ำเสียพิจารณาค่าความสกปรกจากพารามิเตอร์ต่างๆ ดังน้ี ถูกกกั เก็บในบอ่ สูบนำ้� เสีย ตะแกรงดักจับขยะละเอยี ด (Sump tank) อย่ใู ต้ระบบ Static fine screen น้ำ� ผ่านเวยี ร์ Flat sheet membrane Storage Weirs Tank 1 Flow slitter box AIR กา้ วหน้าพัฒนา Effluent 5/29/60 BE 10:08 AM 10% chlorine solution Storage Tank 2 AIR Hollow membrane รูปที่ 1 แผนผงั การบ�ำบดั นำ้� เสีย 23 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 23

ปที ่ี 14 ฉบบั ท่ี 36 พฤษภาคม 2560 รปู ท่ี 3 ผลการวิเคราะหค์ า่ BOD และ COD รูปท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์คา่ TDS และ SS รปู ที่ 5 ผลการวเิ คราะห์กลมุ่ ไนโตรเจน (TKN และ Ammonia-N) เกณฑ์มาตรฐานคณุ ภาพน�้ำทงิ้ สารอินทรียใ์ นรปู ของบีโอดีเท่ากันท่ี 0.5 มก/ล ไนโตรเจนในรปู ของ เม่ือพิจารณาตามมาตรฐานคุณภาพน�้ำทิ้งจากอาคาร ทีเคเอ็น เท่ากบั 0.7 และ 0.5 มก/ล ตามล�ำดับ แอมโมเนยี เท่ากับ บางประเภท อาคารศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มจดั อยใู่ น 0.4 และ 0.1 มก/ล ตามล�ำดับ และตะกอนแขวนลอยเทา่ กนั ที่ 0.3 มาตรฐานคุณภาพน้�ำทิ้งจากอาคารประเภท ข ซ่ึงมีพ้ืนที่ใช้สอย มก/ล ซ่ึงมีค่าน้อยกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพน้�ำทิ้งจากอาคารที่ มากกว่า 5,000 ตารางเมตร แตไ่ มเ่ กนิ 25,000 ตารางเมตร ซึง่ มี ก�ำหนดไวม้ าก ในขณะท่สี ารละลายในน�้ำทง้ั หมด มีค่าเทา่ กบั 706 การก�ำหนดค่ามาตรฐานคุณภาพน้�ำทิ้งไว้ 5 พารามิเตอร์ ได้แก่ และ 705 มก/ล ตามลำ� ดบั ซงึ่ มคี า่ ทเี่ พมิ่ ขนึ้ จากปรมิ าณสารละลาย สารอินทรีย์ในรูปของบีโอดี ไนโตรเจนในรูปของทีเคเอ็น และ ในน้�ำตามปกติอยู่ 486 มก/ล ส�ำหรับเมมเบรนแบบเส้นใย และ แอมโมเนีย ตะกอนแขวนลอย และสารละลายในน�้ำทั้งหมด 485 มก/ล สำ� หรบั เมมเบรนแบบแผน่ ซงึ่ มคี า่ ตำ�่ กวา่ เกณฑค์ า่ มาตรฐาน จากตารางท่ี1 จะเหน็ ไดว้ า่ นำ�้ ทผี่ า่ นการบำ� บดั ดว้ ยระบบบำ� บดั นำ้� เสยี คณุ ภาพนำ้� ทงิ้ (เทยี บจากคา่ สารละลายในนำ�้ ตามปกตขิ องนำ�้ ประปา แบบ MBR ทงั้ แบบ Holow Fiber และ Flat Sheet มีค่าเฉลย่ี ของ เท่ากบั 220 มก/ล ทท่ี ำ� การวิเคราะหเ์ ม่ือวนั ที่ 8 พฤษภาคม 2560) 24 ก้าวหนา้ พฒั นา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 24 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 ตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์คณุ ภาพน้ำ� ของระบบ MBR พารามิเตอร์ จดุ น้�ำเข้าระบบ ผลการวเิ คราะห์ มาตรฐานคณุ ภาพน�ำ้ (mg/l) จดุ นำ�้ ออกจากระบบบ�ำบดั ประสิทธิภาพการบ�ำบัด ทง้ิ จากอาคาร ประเภท ข (mg/l) (%) (mg/L)** Hollow Fiber Flat Sheet Hollow Fiber Flat Sheet BOD (mg/L) 24.8(±12) 0.5(±0.1) 0.5(±0.2) 98 97 ไมเ่ กิน 30 COD (mg/L) 62.2(±16.1) 16(±6.5) 19(±5.1) 74 66 - TKN (mg/L) 27.4(±6.1) 0.7(±0.8) 0.5(±0.4) 97 98 ไม่เกิน 35 TP (mg/L) 1.9(±0.2) 1.8(±0.5) 1.8(±0.4) 1 3 - SS (mg/L) 14.3(±4.8) 0.3(±0.3) 0.3(±0.3) 98 98 ไม่เกิน 40 TDS (mg/L) 556.3(±92) 706(±144) 705(±123) 0 0 ไมเ่ กิน 500* Ammonia (mg/L) 23(±5.9) 0.4(±0.9) 0.1(±0.1) 98 100 - Coliform TC 1 x105(±1.2x105) 0 0 100 100 - Bacteria E-coil 1.1 x 105(±1.3x105) 0 0 100 100 - (CFU/ml) EnC 1.9 x 104(±1.3x104) 0 0 100 100 - หมายเหตุ * เป็นคา่ ทเี่ พ่ิมขึ้นจากปรมิ าณสารละลายในน้ำ� ตามปกติ ** มาตรฐานนำ้� ทิง้ ตามประกาศกระทรวงวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีและสง่ิ แวดลอ้ ม พ.ศ. 2537 เร่ืองมาตรฐานควบคมุ การระบายนำ�้ ท้ิงจากอาคารบางประเภทและบางขนาด รปู ท่ี 6 ผลการวเิ คราะหค์ า่ ฟอสฟอรัสทัง้ หมด (TP) บทสรปุ ระบบบ�ำบัดน้�ำเสียแบบ MBR ที่ใช้เมมเบรนประเภท Hollow Fiber และ Flat Sheet มีประสิทธิภาพสูงในการบ�ำบัด น�้ำเสีย จึงสามารถที่จะบ�ำบัดน�้ำเสียให้เป็นน้�ำท้ิงที่มีคุณภาพน�้ำ ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้�ำทิ้งได้ รวมทั้งการบ�ำบัดทางด้าน การปนเปอ้ื นของเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ทีเ่ ปน็ ดัชนีชวี้ ดั ทางดา้ นเช้อื โรค และ ยงิ่ กว่านัน้ คณุ สมบตั ิของน้�ำทผี่ ่านการบ�ำบดั มีความเหมาะสมตอ่ การน�ำนำ้� กลบั มาใช้ใหมไ่ ด้ ท้ังในรูปแบบของการน�ำมารดน�ำ้ ตน้ ไม้ หรอื ใชใ้ นการชะลา้ งโถสขุ ภณั ฑ์ หรอื แมก้ ระทง่ั หากปลอ่ ยลงสรู่ างนำ�้ สาธารณะกส็ ามารถเปน็ นำ้� ท้ิงทไ่ี มส่ ่งผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม ซงึ่ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม มีแผนท่ีจะท�ำเป็นศูนย์ เรียนรู้ส�ำหรบั การบำ� บดั น�ำ้ เสียเพอื่ น�ำกลับมาใช้ใหมต่ อ่ ไป เอกสารอา้ งองิ กรมควบคมุ มลพษิ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม.2552. “พ.ร.บ. กฎหมาย และมาตรฐานทเี่ กย่ี วกบั การควบคมุ มลพษิ .”(ออนไลน)์ เขา้ ถงึ ไดท้ ี่ http://www.pcd.go.th/info_serv/reg_std_water04.html#s3 (วนั ที่ 5 มนี าคม 2560). บรษิ ทั เอส ทมี เอน็ ไวโรเทค จำ� กดั . 2559. คมู่ อื การควบคมุ ดแู ลระบบบำ� บดั นำ�้ เสยี , ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม, ปทมุ ธาน.ี 25 กา้ วหน้าพฒั นา AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 25 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 การสำ� รวจและตรวจสอบปรมิ าณสารไดออกซนิ ฟิวแรนและไดออกซนิ ไลค์ พีซบี ี ในอากาศในพ้ืนทกี่ รงุ เทพมหานคร ✑ สถาบันไดออกซินแหง่ ชาติ กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดล้อม ปจั จุบนั ปัญหาการจราจรในเมอื งใหญ่ เชน่ กรุงเทพมหานคร พวกเรามาร้จู ักกบั สารพษิ ประเภทสารไดออกซิน เปน็ ชอื่ ยอ่ มีมลพษิ หลายประเภท ทั้งฝุน่ ละออง สารอนิ ทรีย์ระเหยจากน�ำ้ มัน ของสารกลุ่ม Polychlorinated dibenzo-p-dioxin (PCDD) ในรถยนต์ รวมทั้งสารพิษต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นจากการท�ำปฏิกิริยา และสารกลุ่ม Polychlorinated dibenzofuran (PCDF) ได้รับ ต่อเนื่อง ซงึ่ สารพษิ จากการเผาไหม้ท่ีไมส่ มบูรณข์ องนำ�้ มนั รถยนต์ พจิ ารณาระดับความเปน็ พษิ อยใู่ นระดับท่ี 1 (Class 1) จากสถาบนั ในห้องเผาไหม้ ลูกสูบและระบายออกมาทางท่อไอเสียรถยนต์ The International Agency For Research On Cancer การศึกษาการตกค้างของสารไดออกซินจากแหล่งก�ำเนิดในเมือง ซึ่งหมายถึงสารพิษที่มีความเป็นพิษสูงสุดและเป็นสารก่อมะเร็ง คือ บริเวณท่ีมีการจราจรหนาแน่นนั้นยังไม่เคยมีข้อมูลในพ้ืนที่ สารกลุ่มไดออกซินและฟิวแรนมีทั้งหมด 210 ชนิด ซึ่งมีความ กรงุ เทพมหานครมาก่อน การศึกษานี้มวี ตั ถุประสงคเ์ พอื่ ผลักดนั ให้ เป็นพิษแตกต่างกันตามลักษณะของพันธะเคมีขององค์ประกอบ ทุกภาคสว่ นตระหนกั ถงึ สารมลพษิ ไดออกซิน โดยการเก็บตัวอยา่ ง คลอรีน ซงึ่ ทำ� ใหค้ วามเป็นพษิ มีความแตกต่างกนั อากาศในบรรยากาศบรเิ วณทม่ี กี ารจราจรหนาแนน่ ตรวจวดั ปรมิ าณ ความเปน็ พษิ ของไดออกซนิ /ฟวิ แรน ไมท่ ำ� ใหเ้ กดิ อาการพษิ และชนดิ สารไดออกซนิ ฟวิ แรน และไดออกซนิ ไลค์ พซี บี ี ทป่ี นเปอ้ื น หรือตายอย่างทันที แต่อาการจะค่อยๆ เกิดและเพิ่มความรุนแรง ในบรรยากาศ โดยเปรยี บเทยี บการกระจายตวั ของสารไดออกซนิ /ฟวิ แรน จนถึงตายได้ อาการเฉียบพลันทป่ี รากฏ คือ ทำ� ให้เกิดโรคผิวหนงั ในฤดูกาลตา่ งๆ กนั ซง่ึ สามารถใชเ้ ปน็ ข้อมลู พืน้ ฐานในการจดั ทำ� ทเี่ รยี กวา่ “Chloracne” คอื มผี วิ หนงั ขน้ึ เปน็ สวิ หวั ดำ� มถี งุ สนี ำ้� ตาล ค่ามาตรฐานคณุ ภาพอากาศในเมอื งไดใ้ นอนาคต อมเหลอื งของผิวหนังบรเิ วณหลงั ใบหู ขอบตา หลัง สารน้ีทำ� ให้เกดิ 26 ตดิ ตามเฝ้าระวงั AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 26 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 มะเรง็ หรอื เนอ้ื งอกในอวยั วะตา่ งๆ ของหนโู ดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในตบั เฉพาะอยา่ งย่ิงหากมกี ารปนด้วยสาร PVC พลาสตกิ ประเภทตา่ งๆ มีรายงานว่าเกิดโรคระบบประสาทในคนงานท่ีได้รับสารนี้จากการ การเผาปา่ เตาเผาขยะตดิ เชอื้ เตาเผาขยะชุมชน อตุ สาหกรรมทม่ี ี หกรดหรือปนเป้ือนในอตุ สาหกรรม โดยมอี าการกล้ามเน้อื มอื เสอื่ ม คลอรีนเป็นองคป์ ระกอบ ซ่ึงเป็นกลมุ่ สารประกอบอินทรียท์ ถี่ กู ย่อย ไม่มีกำ� ลงั มีการแสดงอาการโรคประสาท เชน่ การสูญเสียความรบั รู้ สลายได้ยาก มีคุณสมบัติเป็นพิษและเป็นสารก่อมะเร็ง สะสมใน บนเสน้ ประสาท ปลายมือ และปลายเทา้ ออ่ นเพลีย เป็นต้น ทำ� ให้ สิ่งมีชีวิต ตกค้างยาวนานและสามารถเคล่ือนย้ายได้ไกลใน เกิดความผิดปกติของระบบสืบพนั ธุข์ องสตั ว์เพศผู้และเพศเมีย ส่ิงแวดล้อมและปรับปรุงขบวนการผลิตที่ก่อให้เกิดสารไดออกซิน แหล่งที่มาของสารไดออกซินมีได้หลายทาง คือ จากการ กระจายสู่สิ่งแวดล้อม สารไดออกซินเกิดข้ึนจากการเผาไหม้ที่ เผาไหม้ท่ีไม่สมบูรณ์ท่ีอุณหภูมิต�่ำกว่า 800 องศาเซลเซียส โดย ไมส่ มบูรณ์ พ้ืนที่ศึกษา บรเิ วณทม่ี กี ารจราจรหนาแนน่ 5 พื้นท่ี ดังแสดงในรปู ท่ี 1 รูปท่ี 1 แสดงจุดเกบ็ ตวั อยา่ งพื้นท่กี รุงเทพมหานคร 1) กรมการขนสง่ ทางบก จตจุ กั ร 2) แยกอรณุ อมั รนิ ทร์ 3) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 4) สถานตี ำ� รวจนครบาลโชคชัย 4 5) เคหะชุมชนดินแดง 27 ตดิ ตามเฝ้าระวัง AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 27 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 รปู ท่ี 2 แสดงการเก็บตัวอยา่ งอากาศในพน้ื ทีก่ รุงเทพมหานคร ตารางแสดงปรมิ าณทพ่ี บสารไดออกซิน ฟวิ แรนและไดออกซนิ ไลค์ พซี ีบใี นอากาศพน้ื ทก่ี รุงเทพมหานคร พ.ศ. 2558 จุดเก็บตัวอยา่ ง ปริมาณทพี่ บ ปรมิ าณท่พี บ ปี 58 (ฤดูรอ้ น) ปี 58 (ฤดูฝน) (pg-TEQ/m3) (pg-TEQ/m3) รพ.จฬุ าลงกรณ์ 0.037 0.025 แยกดนิ แดง 0.040 0.026 สน.โชคชยั 4 0.027 0.023 แยกอรณุ อมั รนิ ทร์ 0.075 0.044 กรมการขนส่งทางบก 0.037 0.035 ค่ามาตรฐานคณุ ภาพอากาศในบรรยากาศประเทศญ่ปี นุ่ 0.60 (pg-TEQ/m3) คา่ มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศประเทศแคนาดา 0.10 (pg-TEQ/m3) วิธเี ก็บตัวอยา่ งและวธิ ที ดสอบ ผลการสำ� รวจและวจิ ารณ์ วิธีการเก็บตัวอย่างอากาศท�ำตามมาตรฐานของประเทศ ผลจากการศึกษาคร้ังนี้เลือกพื้นท่ีตามแหล่งก�ำเนิดการเกิด ญ่ีปุน่ โดยการดูดอากาศดว้ ยป๊ัมผ่านกระดาษกรอง (Quartz Fiber สารไดออกซิน ฟิวแรน และไดออกซิน ไลค์ พซี บี ีจากการจราจร Filter) ซ่ึงท�ำการเตมิ sampling spike และโพลยี ูรีเทนโฟม (PUF) ในพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร จ�ำนวน 5 พื้นท่ี คือ รพ.จุฬาลงกรณ์ ดว้ ยเครือ่ งมือเกบ็ ตัวอยา่ งอากาศชนดิ High Volume Air Sampler แยกดินแดง สน.โชคชัย แยกอรุณอัมรินทร์ และกรมการขนส่ง ย่ีหอ้ Sibata รนุ่ HV1000R เปน็ การเกบ็ ต่อเน่อื ง 24 ชั่วโมง และ ทางบก สรุปผลปริมาณการตรวจวิเคราะห์สารไดออกซิน ฟิวแรน ท�ำการวิเคราะห์ตัวอย่างอากาศโดยวิธี soxhlet extraction ด้วย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดังตารางผลการศึกษาพบว่าในเขต toluene 24 ชั่วโมง โดยกอ่ นสกดั ตอ้ งเติม cleanup spike ลงใน กรุงเทพมหานคร ซึ่งแหล่งกำ� เนดิ สารไดออกซนิ จากถนนท่ีมกี าร ตัวอย่างด้วย หลังจากน้ันผ่านข้ันตอนการก�ำจัดสิ่งเจือปนด้วย จราจรหนาแน่นเป็นหลัก พบว่าในฤดูร้อนและฤดูฝนพ้ืนท่ีบริเวณ multilayer silica gel chromatography column และ activated แยกอรุณอมรินทร์มีความเข้มข้นสูงสุด (0.075 pg-TEQ/m3) carbon column นำ� ไปลดปรมิ าตรดว้ ย rotary evaporator และ รองลงมาคอื จดุ เกบ็ ตวั อยา่ งบรเิ วณแยกดนิ แดง(0.040pg-TEQ/m3) ก๊าซไนโตรเจน เติม syringe spike วิเคราะห์ผลด้วยเคร่ืองแก๊ส โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ (0.037 pg-TEQ/m3) และกรมการขนส่ง โครมาโตกราฟีความละเอียดสูง (Gas Chromatography High ทางบก (0.037 pg-TEQ/m3) และ สน. โชคชยั 4 มีความเขม้ ข้น Resolution Mass spectrometer) โดยใช้ HRMS ยี่ห้อ JEOL รนุ่ น้อยสดุ (0.027 pg-TEQ/m3) ตามล�ำดับ ส�ำหรบั ฤดฝู น ตรวจพบ JMS-800D พว่ งต่อกบั GC ยห่ี อ้ Agilent รุ่น 7890A ปรมิ าณสารไดออกซิน ฟิวแรน และไดออกซิน ไลค์ พีซีบี พบว่า ติดตามเฝ้าระวัง 28 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 28 5/29/60 BE 10:08 AM

ปที ี่ 14 ฉบับท่ี 36 พฤษภาคม 2560 จดุ เกบ็ ตวั อยา่ งทม่ี คี วามเขม้ ขน้ สงู สดุ เชน่ เดยี วกบั ฤดรู อ้ น คอื บรเิ วณ การปนเปอ้ื นของสารไดออกซนิ จากแหลง่ ตา่ งๆ ทวั่ ประเทศทง้ั หมด แยกอรณุ อมรนิ ทร์(0.044pg-TEQ/m3) รองลงมาคอื จดุ เกบ็ ตวั อยา่ ง 387 แห่ง ในปี ค.ศ. 2000 โดยในอากาศบรเิ วณใกล้เคียงเตาเผา บรเิ วณกรมการขนสง่ ทางบก (0.035 pg-TEQ/m3) เนอ่ื งจากปจั จบุ นั มีค่าเฉลี่ยของสารไดออกซิน 0.25 pg-TEQ/m3 ในเมืองใหญ่พบ ประเทศไทยยงั ไมก่ ำ� หนดคา่ มาตรฐานคณุ ภาพอากาศในบรรยากาศ ค่าเฉล่ียไดออกซนิ 0.22 pg-TEQ/m3 ในขณะที่ตวั อยา่ งท่ีมีจุดเกบ็ ส�ำหรับสารไดออกซินและฟิวแรน ในการศึกษาครั้งน้ีจึงน�ำค่า บริเวณริมถนนมีค่าเฉล่ียของสารไดออกซิน 0.44 pg-TEQ/m3 มาตรฐานของประเทศแคนาดาและประเทศญี่ปุ่นมาเปรียบเทียบ ส�ำหรับประเทศเยอรมัน ได้ท�ำการติดตามการปนเปื้อนของสาร จากผลการส�ำรวจและตรวจวัดครั้งน้ีพบว่า ในทุกจุดเก็บตัวอย่าง ไดออกซนิ ในอากาศตงั้ แตป่ ี ค.ศ.1990-1999 พบวา่ มคี า่ เฉลยี่ ระหวา่ ง ท้ังฤดูร้อนและฤดูฝนพบว่า ปริมาณสารไดออกซินท่ีตกค้างใน 0.020-0.095 pg-TEQ/m3 และประเทศสเปนได้มีการศึกษาการ บรรยากาศในพ้ืนท่ีมีการจราจรหนาแน่นน้ันไม่เกินค่ามาตรฐาน ปนเปอ้ื นของสารไดออกซนิ ในอากาศบรเิ วณทใ่ี นเมอื งทมี่ กี ารจราจร นอกจากน้ันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่นท่ีได้ท�ำการศึกษา หนาแน่นพบว่ามีคา่ ไดออกซนิ อย่ใู นชว่ ง 0.01-0.357 pg-TEQ/m3 เอกสารอ้างอิง IARC monographs on the evaluation of the carcinogenic risk of chemicals to humans (1987). Overal evaluation of carcinogenity: an updating of IAPC monographs volumes 1-42. Suppl.7. International Agency for Research on Cancer, Lyon, France. Sources of PCDD/PCDF and impact on the environment, Heidelore Fiedler, Chemosphere Volume 32, Issue 1, January 1996, Pages 55-64 Long-Term Toxic Impact of 2, 3, 7, 8-Tetrachlorodibenzo-p-dioxin on the Reproduction, Sexual Differentiation, and Development of Different Life Stages of Gobiocyprisrarus and Daphnia magna, W.Z. Wu, W. Li, Y. Xu, J.W. Wang, Ecotoxicology and Environmental Safety Volume 48, Issue 3, March 2001, Pages 293-300 World Health Organization (2015). Dioxins and their Effects on Human Health. [Online]. Available from http://www.who.int/ mediacentre/factsheets/fs225/en. (3 August 2015) Ontario Ministry of the Environment (2012). Ontario’s ambient air quality criteria. [Online]. Available from http://www.ontario.ca/ ministry-environment. (20 August 2015) The Inventory of Sources and Environmental Releases of Dioxin-Like Compounds in the United States: The Year 2000 Update. U.S. Environmental Protection Agency, 2005. 29 ตดิ ตามเฝ้าระวงั AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 29 5/29/60 BE 10:08 AM

ปีที่ 14 ฉบบั ท่ี 36 พฤษภาคม 2560 สพารทปราะกเลอบทในหอย ✑ พีระพงษ์ สุนทรเดชะ บริเวณชายฝั่งทะเลเป็นพื้นท่ีเศรษฐกิจซ่ึงมีการขยายตัวอย่าง นักวชิ าการสง่ิ แวดลอ้ มช�ำนาญการ ชายฝั่งจึงมีโอกาสเส่ียงต่อการรับสัมผัสสารอันตราย และอาจ รวดเรว็ ของอตุ สาหกรรมและชมุ ชน ชายฝง่ั ทะเลจงึ เปน็ แหลง่ รองรบั ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในระบบห่วงโซ่อาหารตามล�ำดับข้ัน นำ�้ เสยี อนั เกดิ จากการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ซง่ึ โดยทว่ั ไประบบนเิ วศ การกินอาหารซ่ึงรวมถึงมนุษย์ด้วย สารอันตรายอาจก่อให้เกิดพิษ ของชายฝง่ั ทะเลทอ่ี ยใู่ นเขตอตุ สาหกรรมและชมุ ชนมโี อกาสเสย่ี งตอ่ ต่อส่งิ มชี วี ติ ท้งั ทางตรงและอ้อมได้หรืออาจเกดิ พิษโดยเฉยี บพลนั การรับสารอนั ตรายจากกจิ กรรมในพ้ืนท่ี เนือ่ งจากการปลอ่ ยนำ�้ ท้งิ พ้ืนท่ีชายฝั่งทะเลหลายพ้ืนที่นับเป็นแหล่งประมงและเพาะ ท่ยี ังมีสารอันตรายปนเปอ้ื นอยู่ จากการชะสารอันตรายจากชนั้ ดิน เล้ียงสัตว์น�้ำท่ีส�ำคัญรวมถึงการเลี้ยงหอย พ้ืนท่ีการเล้ียงหอยทะเล และลงส่นู ำ�้ ใต้ดนิ และทา้ ยสุดไหลลงสทู่ ะเลบรเิ วณชายฝงั่ หรือจาก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยจากสถิติการเล้ียงหอยทะเลของกรมประมง อบุ ตั เิ หตทุ ม่ี กี ารรว่ั ไหลสารอนั ตรายลงสทู่ ะเลและสามารถสะสมใน พบว่าพ้ืนทกี่ ารเลย้ี งหอยเพิ่มจาก 86,583 ไร่ (ปี 2553) เปน็ 105,902 ไร่ ดินตะกอนหรือขยะพลาสติกท่ีถูกทิ้งลงในทะเลเกิดการย่อยเป็น (ปี 2556) และผลผลิตรวมเพ่ิมขึ้นจาก 175,616 ตัน (ปี 2553) ไมโครพลาสติก สัตว์น้�ำใกล้ชายฝั่ง รวมทั้งหอยที่ถูกเล้ียงบริเวณ เป็น 216,838 ตนั (ปี 2556) แสดงถึงการเพม่ิ ขึ้นของการบริโภค รปู ที่ 1 การเลย้ี งหอยแมลงภู่ รปู ที่ 2 การเล้ียงหอยนางรม ติดตามเฝา้ ระวัง 30 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 30 5/29/60 BE 10:09 AM

ปที ่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 สารพทาเลท (สารกลมุ่ พทาเลท) เปน็ สารทใ่ี ชเ้ ปน็ พลาสตกิ ภาพแสดงถึงการทงิ้ สารอันตรายและขยะพลาสตกิ ในทะเล ไซเซอร์ (plasticizers) (Oehlmann et al., 2008) เปน็ สารท่ใี สใ่ น ผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่อลดจุดหลอมที่ท�ำให้เกิดการไหล (flexing temperature) ของพลาสติก ท�ำให้เม็ดพลาสติกมีความยืดหยุ่น และอ่อนนุ่มขึ้น สารพทาเลทมีอันตรายต่อสุขภาพโดยเป็นสารท่ีมี ผลต่อการรบกวนการท�ำงานของระบบต่อมไร้ท่อ (Wen-Xiong Wang and Qiong Zhang, 2013) รวมท้งั เป็นสารท่ีอาจก่อมะเรง็ ดว้ ย โดยทว่ั ไปสารประกอบพทาเลทจะถกู สะสมในเนอ้ื เยอื่ สงิ่ มชี วี ติ ที่มไี ขมนั สงู (OEHHA 2009) ซ่ึงหอยเป็นอาหารท่มี ไี ขมนั ดังนน้ั การ รับประทานหอยที่มีการปนเปื้อนสารพทาเลทจึงอาจส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพได้ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อมได้ด�ำเนินการส�ำรวจ พน้ื ทเี่ ลยี้ งหอยบรเิ วณชายฝง่ั ทะเลของประเทศไทย ครอบคลมุ ทง้ั ฝง่ั อา่ วไทยและฝง่ั อนั ดามนั ประกอบดว้ ยจงั หวดั ชลบรุ ี ระยอง จนั ทบรุ ี ตราด สมุทรปราการ สมุทรสงคราม เพชรบรุ ี ชมุ พร สุราษฎร์ธานี นครศรธี รรมราช พังงา และจงั หวดั กระบี่ จากผลการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบพทาเลท ประกอบดว้ ยDi-n-butylPhthalate(DBP),ButylBenzylPhthalate (BBP), Di(2-ethylhexyl) Ehthalate (DEHP) และ Di-n-octyl Phthalate (DnOP) ในตวั อยา่ งหอย พบสารท้ังสชี่ นิดในตวั อยา่ ง หอย โดยทีพ่ บการปนเป้อื นของสารชนดิ DBP และ DEHP สูงกว่า BBP และ DnOP เมื่อเปรียบเทียบการปนเปื้อนของสารประกอบ พทาเลทในหอยในสองช่วงเวลาที่เก็บตัวอย่างพบว่าปริมาณ รวมเฉล่ยี ของสารประกอบพทาเลท (Average Σ (DBP+BBP+DE- HP+DnOP)) ของแตล่ ะจดุ เกบ็ ตวั อยา่ งโดยทวั่ ไปของการเกบ็ ตวั อยา่ ง ครง้ั ท่ี 1 (เดอื นพฤศจกิ ายน 2558) (รปู ที่ 6 (1)) สงู กวา่ ครงั้ ที่ 2 (ปลาย เดือนกุมภาพนั ธ์ถึงต้นเดือนมนี าคม 2559) (รปู ท่ี 6 (2)) ซ่งึ อาจเปน็ เพราะเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงน้�ำหลากท�ำให้มีการไหลลงของ น้�ำผิวดินสูงกว่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ซ่ึงเป็นช่วงต้นหน้าร้อนปริมาณน้�ำผิวดินไหลลงสู่ทะเลน้อยกว่า เมอื่ นำ้� ผวิ ดนิ ไหลลงสทู่ ะเลมกี ารชะเอาสารประกอบพทาเลทลงสทู่ ะเล สง่ ผลต่อการปนเปอ้ื นในหอย ทง้ั น้ีการกระจายตวั ของน้ำ� ผิวดินทไ่ี หล ลงสูท่ ะเลข้ึนอยู่กับอุทกศาสตร์ชายฝั่งทะเล (coastal hydrology) ซง่ึ รวมกระบวนการของลม คล่ืน กระแสนำ�้ และนำ้� ขึ้น-นำ้� ลง รูปที่ 3 สารละลายพทาเลทและโครงสร้าง 31 รปู ท่ี 4 พ้ืนทส่ี ำ� รวจและจดุ เกบ็ ตัวอย่าง ตดิ ตามเฝ้าระวัง AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 31 5/29/60 BE 10:09 AM

ปที ่ี 14 ฉบบั ท่ี 36 พฤษภาคม 2560 รปู ที่ 5 การเก็บตัวอยา่ งหอย 12 *DW คอื Dry Weight รูปท่ี 6 ปริมาณรวมเฉลี่ยของสารประกอบพทาเลท (Average Σ (DBP+BBP+DEHP+DnOP)) (1) ช่วงการเก็บตวั อย่างครั้งที่ 1 (เดอื นพฤศจกิ ายน 2558) (2) ช่วงการเก็บตัวอย่างครัง้ ท่ี 2 (ปลายเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม 2559) บทสรุป สารประกอบพทาเลทเป็นสารมลพิษที่ไม่ค่อยแสดง ตอ่ ระบบสบื พนั ธ”์ุ ปจั จบุ นั ประเทศไทยยงั ไมไ่ ดก้ ำ� หนดคา่ มาตรฐาน ความเป็นพิษอย่างเฉียบพลัน แต่จะแสดงในลักษณะพิษเรื้อรัง ของสารกลมุ่ นี้ในสิง่ แวดล้อม การท่พี บสารประกอบพทาเลทสะสม เป็นผลให้เกิดอาการตกเลือดในปอด (lung hemorrhage), ในหอยเลย้ี งตามชายฝง่ั ทะเลของประเทศไทย นน้ั หมายถงึ สญั ญาณ ตบั โต (hepatomegaly) เปน็ พษิ ตอ่ เซลลใ์ นรา่ งกาย (cytotoxicity) บ่งบอกภาวะเสี่ยงของผู้บริโภคอาหารทะเล ถ้าหากยังไม่มีการ ท�ำให้เกิดมะเร็ง (carcinogenicity) เกิดการกลายพันธุ์ จัดการที่ดีต่อของเสีย น้�ำเสียและขยะพลาสติกท่ีลงสู่ทะเล ดังนั้น (mutagenicity) และทารกในครรภ์มีรูปร่างผิดปกติ พวกเราคนไทยทุกคนควรจะร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์ทะเลไทย (teratogenicity) (www.greenpeace.org/seasia/th/) โดยการไม่ท้ิงของเสีย น้�ำเสียและขยะพลาสติกลงสู่ทะเล เพื่อ โดยเฉพาะสาร Di (2-ethyl hexyl) Phthalate; DEHP และ ลูกหลานของเราจะได้มีอาหารทะเลที่ปลอดภัยรับประทานต่อไป สาร Dibutyl Phthalate; DBP เป็นสารที่มีคุณสมบัติ “เป็นพิษ ในอนาคต ติดตามเฝ้าระวงั 32 AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 32 5/29/60 BE 10:09 AM

ปที ่ี 14 ฉบบั ที่ 36 พฤษภาคม 2560 สส. รว่ มแรงปลกู ป่านเิ วศ “ป่าในเมอื ง”เพือ่ เป็นศูนย์การเรยี นร้ตู ้นแบบ ตามยทุ ธศาสตร์กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม ยุทธศาสตรท์ ่ี4 โครงสร้างป่าธรรมชาติ มีกลุ่มพันธุ์ไมช้ ้นั บนสดุ กลมุ่ ไม้ช้นั รองและ กลุ่มพันธุ์ไม้พื้นล่าง รวมจ�ำนวน 89 ชนิดพันธุ์ ท่ีส�ำคัญ ได้แก่ การสง่ เสริมการเพมิ่ พืน้ ที่สีเขียวในเมืองและชมุ ชน รัฐมนตรีว่าการ ตะเคยี นทอง ยางนา สมอไทย แคนา จกิ นำ้� กนั เกรา ชะมวง ลำ� ดวน กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม ไดม้ อบหมายใหก้ รม ชำ� มะเลยี ง หมากเมา่ พลิ งั กาสา ฯลฯ โดยมี ดร.สริ นิ ทร์ แกว้ ละเอยี ด ส่งเสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม (สส.) เปน็ หลักในการสง่ เสริมการเพิ่ม เปน็ วทิ ยากรให้ความรู้ เรอื่ งเทคนคิ การปลูกป่าตามหลักวชิ าสงั คมพืช พนื้ ทส่ี เี ขยี วในเมอื งและชมุ ชน สส. โดย ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ น ศวฝ. ได้จัดกิจกรรมการปลูกป่าขึ้น 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันท่ี 18 สิ่งแวดล้อม (ศวฝ.) จึงได้ด�ำเนินการน�ำร่องการปลูกป่านิเวศ ใน เมษายน 2560 ครง้ั ที่ 2 วันท่ี 8 พฤษภาคม 2560 และครง้ั ท่ี 3 เม่อื สถานที่ราชการขึ้น ณ ศวฝ. เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง วันที่ 20 พฤษภาคม 2560 โดยนายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรม จ.ปทุมธานี เพื่อศึกษาวิจัยรูปแบบการเพิ่มพื้นท่ีสีเขียวท่ีสามารถ ส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด กกั เกบ็ คารบ์ อนไดด้ ี โดยประยกุ ตใ์ ชก้ ารปลกู ปา่ นเิ วศตามทฤษฎขี อง การปลกู ปา่ นเิ วศและรว่ มปลกู ปา่ กบั เจา้ หนา้ ทจี่ ากกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพ ศ.ดร.อาคริ ะ มยิ าวากิ ซง่ึ เป็นหนึง่ ในหลายๆ วิธี ในการเพิ่มพ้นื ที่ ส่งิ แวดล้อม ในครงั้ ที่ 1 และครั้งท่ี 3 รวมจ�ำนวนกล้าไมท้ ี่ปลกู ท้งั สิ้น ปา่ ในเมอื ง การปลกู ปา่ นเิ วศเปน็ การสรา้ งความหลากหลายของพนั ธไ์ุ ม้ จ�ำนวน 1,900 ตน้ ณ ศวฝ. เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง รวมท้ังสามารถสร้างระบบนิเวศให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติจน จ.ปทมุ ธานี ภายใน 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี จะได้พบเห็นความหลาก กลายเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ต่อไปใน หลายของสิง่ มีชวี ติ ต่างๆ เชน่ นก ผเี สือ้ และแมลงเพ่ิมขนึ้ อนาคต พันธุ์ไม้ท้องถิ่นท่ีน�ำมาปลูกเป็นกลุ่มพันธุ์ไม้เลียนแบบ 33 ERTC Update AW Green ���� 2 �� 60-������.indd 33 5/29/60 BE 10:09 AM


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook