2013 December Content wwwNo.25 GREEN Research Journal deqp.go.th/website/20/ Editor’s Talk [บรรณาธิการ ชวนคยุ ] Green Research กบั การปรบั โฉมใหม่ สวสั ดคี ะ่ กลบั มาพบกนั อกี ครงั้ ฉบบั นย้ี งั คงมปี ระเดน็ งานวจิ ยั ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มทนี่ า่ สนใจมาฝากเชน่ เดมิ โดยฉบับน้ีประเด็นเร่ืองสารพิษจากหมอกควันถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งในแง่สถานการณ์ท่ีเราอาจได้รับผลกระทบ ในอกี ไม่กี่เดือนข้างหน้า หากจะพดู ถงึ มลพษิ ในหมอกควนั ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ รา่ งกายอาจแบง่ เปน็ 2 กลมุ่ คอื ฝนุ่ ขนาด เลก็ และแกส๊ พษิ โดยผลจากการตรวจวดั ระดบั ฝนุ่ ในอากาศในหลายทใ่ี นปผี า่ นมา พบวา่ มจี �ำนวนมากขน้ึ อยา่ งนา่ เปน็ หว่ ง ซึง่ สารท่ปี นเเปือ้ นในหมอกควันท้ังสองนก้ี อ่ ให้เกิดผลกระทบกับระบบตา่ งๆ ของร่างกาย คือ ระบบทางเดนิ หายใจ ระบบหวั ใจ รวมไปถงึ ระบบสมอง กอ่ ให้เกิดโรคเฉียบพลนั อาทิ หลอดลมอักเสบ ไอ หายใจลำ� บาก อาจจะ ท�ำให้โรคทเ่ี ปน็ อยู่ เช่น หอบหืดหรือถงุ ลมโปง่ พองก�ำเรบิ หนักกวา่ เดมิ “เมอื่ รา่ งกายดดู ซมึ สารพษิ และฝนุ่ ละอองเขา้ ไปสะสม จะสง่ ผลทำ� ใหก้ ลา้ มเนอื้ หวั ใจตาย และเสน้ เลอื ดในสมองตบี บางรายถงึ ขนั้ เปน็ อมั พาธเพราะเลอื ดไมส่ ามารถไปเลย้ี งทส่ี มอง และโรคอนื่ ๆ นอกจากนย้ี งั เกดิ โรคทเี่ กดิ จาก การสะสมกอ่ ใหเ้ กดิ โรคถงุ ลมโปง่ พอง ทน่ี า่ กลวั ทสี่ ดุ และไดร้ บั การยนื ยนั แลว้ คอื ในหมอกควนั มสี ารกอ่ มะเรง็ รวมอยู่ด้วย จึงท�ำให้ผู้ที่หายใจเอาหมอกควันเข้าไปเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งภาคเหนือเรามีจำ� นวนผู้ ปว่ ยมะเรง็ ปอดสงู สดุ ในประเทศ เป็นอันดบั ท่ี 1 คือ จงั หวัดลำ� ปาง อันดับ 2 จังหวดั ลำ� พูน และอนั ดบั 3 คอื จงั หวดั เชยี งใหม่ โดยบางคนจะเหน็ วา่ ไม่ไดส้ บู บหุ รแ่ี ตก่ เ็ สยี ชวี ติ ดว้ ยโรคมะเรง็ ปอดจากสาเหตหุ มอกควนั ได้เชน่ กัน” ทั้งหมดน้ีเป็นเพียงข้อมูลเบ้ืองต้นท่ีบรรณาธิการสรุปจากหลายๆ บทความ Green Reseach ฉบบั นี้ จงึ อยากน�ำทกุ ท่านมาท�ำความรู้จกั กบั หมอกควัน สารพิษ และฝนุ่ ละอองจากบทความท่ีนา่ สนใจภายในเลม่ ท่ีทางทีมงานได้รวบรวมไว้ และบทความอนื่ ๆ ท่ีนา่ สนใจ แล้วพบกนั ใหม่กับการเกาะตดิ ประเด็นทนี่ ่าสนใจอกี ครง้ั ค่ะ เรอ่ื งเด่นประจำ� ฉบบั 1 5 • สารพษิ จากการเผา ในท่ีโลง่ 8 • ปัญหาหมอกควัน จ.เชียงใหม่ แก้ไมง่ า่ ยอย่างท่คี ดิ 13 16 ติดตามเฝ้าระวัง 18 22 • ท�ำไมต้องสนใจปรอทในอากาศ 26 • เปิดแผนท่ีปนเปือ้ นสารพิษในประเทศไทย ผลลัพธ์จากการพัฒนา 30 • ผลพวงจากทีวีอนาลอ็ กเปน็ ทวี ดี ิจิตอล 34 ก้าวหนา้ พัฒนา • แนะน�ำห้องสมุดกรมสง่ เสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม • การบรกิ ารที่เป็นมติ รกับส่งิ แวดล้อม (Eco-services : ES) พ่งึ พาธรรมชาติ • การต่อสเู้ พื่อต่อลมหายใจให้ผืนดนิ เกิด • พทุ ธศาสนากบั ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ERTC Management Update • งานวนั สิง่ แวดล้อมไทย และวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาต ิ และส่ิงแวดล้อมหมบู่ ้านแหง่ ชาติ (ทสม.) ประจ�ำปี 2556 • การประชุมเสนอผลการด�ำเนนิ งาน โครงการ “การประเมนิ ความเส่ยี งนเิ วศ แหล่งนำ�้ ในพน้ื ทีเ่ ขตควบคมุ มลพษิ จงั หวัดระยอง” • การสมั นาวิชาการ เรอ่ื งการกา้ วสสู่ ังคมคารบ์ อนต่�ำ คณะผู้จัดทำ� ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมดา้ นสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เทคโนธานี ต�ำบลคลองหา้ อำ� เภอคลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี 12120 โทรศัพท์ 02-577-4182-9 โทรสาร 0-2577-1138 ทีป่ รึกษา จตพุ ร บรุ ษุ พฒั น์, เสรมิ ยศ สมมั่น, สากล ฐินะกุล บรรณาธิการบริหาร สุวรรณา เตยี รถ์สุวรรณ บรรณาธกิ าร ณัฐพล ตยิ ชริ วงศ์ กองบรรณาธกิ าร โสฬส ขนั ธเ์ ครอื , นติ ยา นกั ระนาด มลิ น,์ ศริ นิ ภา ศรที องทมิ , หทยั รตั น์ การเี วทย,์ รจุ ยา บณุ ยทมุ านนท,์ ปญั จา ใยถาวร, จนิ ดารตั น์ เรอื งโชตวิ ทิ ย,์ อาทติ ยา พามี
เรื่องเด่นประจำ� ฉบบั สารพษิ จากการเผาในทโี่ ล่ง วรรณา เลาวกลุ นักวิชาการส่งิ แวดล้อมช�ำนาญการพิเศษ ศูนยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเผาในท่ีโล่ง การเผาในทโี่ ลง่ (Open Burning) เกดิ จาก 3 กจิ กรรมหลกั ไดแ้ ก่ การเผาเศษพชื เศษวสั ดเุ หลอื ใชภ้ าคเกษตร การเผาขยะมลู ฝอย จากชุมชน การเผาป่าเพื่อบกุ รุก ยึดถอื ครอบครองพ้ืนทป่ี ่า ล่าสตั ว์ ทำ� ไม้ เกบ็ /หาของป่า เชน่ ผกั หวาน และเหด็ เผาะ เป็นต้น ซึง่ การ เผาในที่โล่งจากกิจกรรมดังกล่าว ก่อให้เกิดสารมลพิษทางอากาศต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) สารประกอบ โพลไี ซคลกิ อะโรมาตกิ (PAHs) สารไดออกซิน กา๊ ซต่างๆ เชน่ กา๊ ซคารบ์ อนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ นอกจากน้ยี งั มี เขม่า ควัน กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หามลพษิ ทางอากาศและปญั หาหมอกควนั แลว้ สง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพอนามยั ของประชาชน ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากชว่ งเกดิ วกิ ฤติ หมอกควัน 8 จงั หวดั ภาคเหนือตอนบน ตัง้ แตเ่ ดอื นมกราคมถงึ เมษายน 2555 ผปู้ ่วยจำ� นวนมากมีอาการแสบตา น้ำ� ตาไหล แสบคอ แสบ จมูก ไอ จาม และโรคระบบทางเดินหายใจเพม่ิ ข้นึ ดงั รปู ท่ี 1 เผานาข้าว เผาไร่อ้อย No.25 December 2013 Green Research 1
เรอื่ งเดน่ ประจ�ำฉบบั รูปท่ี 1 สถติ ผิ ู้ปว่ ยโรคที่เกยี่ วข้องกบั มลพษิ หมอกควนั จำ� นวน 4 โรค ช่วงเดอื นมกราคมถึงเมษายน 2555 เปรียบ องค์ประกอบทางเคมีเชื้อเพลิง เทยี บกับปริมาณฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM10 สงู สุดในแตล่ ะสปั ดาห์ (ทม่ี า: ส�ำนักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคที่ 10 จังหวัด แต่ละประเภทค่าความร้อนของ เชยี งใหม่ กรมควบคมุ โรค) เชอ้ื เพลงิ คา่ ความจคุ วามหนาแนน่ ของเชอ้ื เพลงิ ความถข่ี องการเผา สารพิษจากปญั หาการเผาในทโ่ี ล่ง และปัจจัยที่มีผลต่อสภาวะของ การเผาไหม้ เช่น อุณหภูมิของ ชนดิ และปริมาณของสารพษิ ขึ้นอยู่กับองคป์ ระกอบทางเคมีเชอ้ื เพลิงแต่ละประเภท การเผา ความช้ืนของเช้ือเพลิง (Fuel Composition) ค่าความร้อนของเชือ้ เพลิง (Fuel Heating Value) คา่ ความจุความหนา สัดส่วนของอากาศต่อเช้ือเพลิง แนน่ ของเช้อื เพลิง (Bulk Density) ความถขี่ องการเผา และปัจจยั ทมี่ ีผลต่อสภาวะของการ สภาวะที่ไฟไหม้ช้าๆ หรือไฟ เผาไหม้ เชน่ อณุ หภูมขิ องการเผา ความชื้นของเชอื้ เพลิง สัดส่วนของอากาศต่อเชือ้ เพลงิ ครุกร่นุ สภาวะที่ไฟลุกโชติช่วง สภาวะท่ไี ฟไหม้ชา้ ๆ หรอื ไฟครุกรุ่น (Smoldering flaming) สภาวะท่ไี ฟลุกโชตชิ ว่ ง (Flaming) หรอื อกี นยั หนง่ึ คอื สภาวะทม่ี กี าร หรอื อกี นยั หนงึ่ คอื สภาวะทม่ี กี ารเผาไหมส้ มบรู ณ์ และสภาวะทเ่ี ผาไหมไ้ มส่ มบรู ณ์ ชนดิ และ เผาไหม้สมบูรณ์และสภาวะท่ีเผา ปริมาณสารพิษที่ปลดปล่อยออกมาก็แตกต่างกัน ยกตัวอย่างการศึกษาปริมาณการปลด ไหม้ไม่สมบรู ณ์ ปล่อยสารมลพิษ (Emission Factor) ของการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและ ไฟป่าในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเห็นได้ว่าชนิดและปริมาณของสารพิษแตกต่างกัน เม่ือ ชนดิ ของเชอ้ื เพลงิ แตกตา่ งกนั ดงั ตารางท่ี 1 นอกจากนย้ี งั พบวา่ การเผาขยะมลู ฝอยจากครวั เรอื นในประเทศสหรฐั อเมรกิ า เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ ทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ ทม่ี กี ารปลดปลอ่ ยสารพษิ ในกลมุ่ ของสารไดออกซนิ เชน่ สารโพลีคลอริเนตเตต ไดเบนโซ พาราไดออกซนิ (polychlorinated dibenzo-para-dioxins และฟิวแรน (PCDDs/Fs) ตารางที่ 1 แสดงปรมิ าณการปลดปลอ่ ยสารพษิ (Emission Factor) จากการเผาเศษวสั ดเุ หลอื ใช้ทางการเกษตรและไฟป่า หนว่ ย: มิลลกิ รมั ต่อกิโลกรมั ของเชื้อเพลงิ กลุ่มของสารพษิ ชนดิ ของสารพิษ เผาตอซงั ข้าวโพด เผาแกลบ ไฟป่าในเขตรอ้ น - - 400 สง่าายรอ(นิ VทOรCยี sร์)ะเหย เบนซนี (Benzene) 22 - 250 โทลูอนี (Toluene) 26 35 130 - - 60 สไตรนี (Styrene) - 45 6 ไซลีน - 5.37 x 107 - ฟีนอล (Phenol) ฟนี อล สารไดออกซิน TQouxainctitieEsquPiCvDalDesn/FcSe แหลง่ ทีม่ า : Paul M. Lemieux และคณะ, 2004 2 Green Research No.25 December 2013
อนั ตรายของสารพิษ ชอ่ งทางทสี่ ารพษิ จากการเผาในทโี่ ลง่ จะเขา้ สรู่ า่ งกาย มคี วามเปน็ ไปได้ 2 ชอ่ งทาง คอื ชอ่ งทางการหายใจ และช่องทางการสมั ผัสกับผิวหนังหรือดวงตา ช่องทางการหายใจ สารพิษที่เข้าสู่ร่างกายโดยผ่านระบบทางเดินหายใจ สามารถท�ำให้เกิดความเป็น พษิ ได้ โดยการดูดซับผา่ นเย่อื บแุ ละเมอื กในบรเิ วณ ปาก คอ และ ปอด ท�ำให้เน้ือเยอ่ื ถกู ท�ำลายอย่างรุนแรง นอกจากนี้สารพิษยังอาจผ่านเข้าไปยังระบบหลอดลม และถุงลมย่อย ในปอดและซมึ ตอ่ ไปเขา้ สรู่ ะบบหมนุ เวยี นของโลหติ ได้ การดดู ซบั ทบ่ี รเิ วณปอดมกั จะเกดิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ เนอ่ื งมาจากผนงั ปอดจะมพี นื้ ทผี่ วิ คอ่ นขา้ งสงู ถงึ ประมาณ 75 – 100 ตารางเมตร อยา่ งไรกต็ ามอนั ตรายของสารพษิ ทจี่ ะสง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของผทู้ ไี่ ดร้ บั หรอื สมั ผสั ขน้ึ อยู่ กับความเป็นพิษของสารพษิ แตล่ ะชนดิ ความถแ่ี ละปรมิ าณทไ่ี ดร้ บั สมั ผสั เป็นตน้ สารพษิ บางชนดิ หากได้รบั หรอื สมั ผสั เป็นระยะเวลานานๆ มีโอกาสเส่ยี งต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ ดังตัวอยา่ งความเปน็ พษิ ของสารพษิ ท่มี ผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพ แสดงดังตารางที่ 2 ตารางท่ี 2 แสดงตัวอย่างความเป็นพิษของสารพิษท่ีมีผลตอ่ สขุ ภาพ กลุ่มของสารพษิ ชนิดของสารพษิ ความเป็นพษิ สารอินทรีย์ระเหยง่าย เบนซิน กโ(Lลรeหะuตติkกeุจmาแงiaล)กะเดปปน็ รสะาสรากทอ่ สมว่ ะนเรกง็ ลในาเงมด็ตเาลพอื รดา่ ขาชวกั สไตรนี สกดารปกร่อะมสะาเทรส็ง่วนกลาง ตับอกั เสบ และเป็น โทลูอนี กเมดด็ ปโรละหสิตาขทาสวว่นน้อกยลาง ตบั อักเสบ โรคไต ไซลนี ไรหะคลาไมย่หเคยอื ุดง ตรบัะบอบักเอสาบหาร ปอดอักเสบ เลือด สารไดออกซิน ไดออกซนิ /ฟวิ แรน นเสซืบำ้ ล�หพลนนัต์ ักธับตุ์ ตแัวาลลยดะเลเปกง็นิดสเคกาวิดราคกมอ่วผามิดมะปผเรกิดง็ ตปิขกอตงทิ ร่ีตะบับบ การเผาขยะมูลฝอยจากครัว สารประกอบโพลไี ซคลกิ เบนโซเอไพริน มหลคี าวยามชนสาิดมารถในการกอ่ มะเร็งตอ่ อวยั วะ เรอื นเปน็ แหลง่ กำ�เนดิ ทใ่ี หญท่ สี่ ดุ ที่มีการปลดปล่อยสารพิษใน อะโรมาติก (PAHs) กลุ่มของสารไดออกซิน เช่น สารโพลีคลอริเนตเตต ไดเบนโซ ช่องทางการสัมผสั กบั ผิวหนงั หรอื ดวงตา พาราไดออกซิน / ฟวิ แรน ช่องทางการสมั ผสั กบั ผิวหนงั หรอื ดวงตาพบได้อยู่เสมอในอัตราที่ค่อนขา้ งสูง การ เขา้ สรู่ ่างกายจากการสมั ผัส อาจเกิดผา่ นชอ่ งทางต่าง ๆ เชน่ รูขุมขน ตอ่ มไขมนั ต่อมเหง่อื และผวิ หนังชนั้ นอก เปน็ ต้น ปัจจัยต่าง ๆ ที่จะท�ำใหก้ ารเข้าสรู่ า่ งกายไดม้ ากหรือนอ้ ย ข้นึ อยู่กับความเข้มข้นของสารพิษ ความว่องไวหรือความรุนแรงในการท�ำปฏิกิริยาเคมี No.25 December 2013 Green Research 3
เรอ่ื งเดน่ ประจ�ำฉบบั ของสารพษิ ความสามารถในการละลายน�้ำ สภาพและลักษณะความหนาบางของผิวหนัง บรเิ วณทีไ่ ดร้ ับการสัมผสั และระยะเวลาท่สี มั ผัส ยกตวั อยา่ งสารไดออกซนิ /ฟวิ แรน อาการ เฉยี บพลนั ทป่ี รากฏ คอื ทำ� ใหเ้ กดิ โรคผวิ หนงั ทีเ่ รยี กวา่ “Chloracne” คอื มผี วิ หนงั ขน้ึ เปน็ สวิ หัวด�ำ มีถุงสนี ำ้� ตาลอมเหลืองของผิวหนังบริเวณหลงั ใบหู ขอบตา หลงั ไหล่ และบรเิ วณ อวยั วะสบื พนั ธุ์ อาจมขี นข้นึ ในบรเิ วณที่ปกติจะไมม่ ขี ึน้ ผิวหนงั มีสีเข้มขึน้ สขี องเล็บเปลีย่ น เป็นสีน�ำ้ ตาล มีรายงานการเกิดอาการ “Chloracne” นี้ในคนที่อยู่ในบริเวณท่ีได้รับการปน เปอื้ นไดออกซนิ /ฟวิ แรนท่ี อติ าลี ไตห้ วนั และญ่ปี ุ่น (S.J. Harrad,1992, Lin-Chi Wang และ คณะ,2003) นอกจากนีย้ ังเกิดอาการโรคผวิ หนงั อักเสบ ส�ำหรับชอ่ งทางการสมั ผสั บรเิ วณดวงตา ก็เป็นช่องทางหน่ึงทอ่ี นั ตรายรุนแรงที่สุด เน่ืองจากดวงตาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายท่ีละเอียดอ่อนมากที่สุด ดวงตาเป็นส่วนท่ีมีเส้น ประสาทและเส้นโลหิตฝอยมาหล่อเล้ียงมากมายจึงเป็นแหล่งที่จะดูดซับสารพิษต่าง ๆ ได้ อย่างรวดเร็ว สารพิษบางชนิดเป็นอันตรายต่อดวงตาตั้งแต่ท�ำให้เกิดการระคายเคือง แสบตา สร้างความเจ็บปวด และมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการมองเห็น ไปจนถึง ทำ� ใหต้ าบอดอยา่ งถาวรได้ ยกตวั อยา่ ง สารไดออกซนิ เปน็ สารทท่ี ำ� ใหเ้ ยอ่ื บตุ าอกั เสบและมี ขต้ี า เป็นตน้ ช่องทางการสัมผัสของสารพิษ ทางผิวหนังข้ึนอยู่กับความเข้ม ขน้ ของสารพษิ ความวอ่ งไวหรอื ความรุนแรงในการทำ�ปฏิกิริยา เคมขี องสารพิษ เอกสารอา้ งอิง Paul M. Lemieux, Christopher C. Lutes, Dawan A. Santoanni. (2004). Emissions of Organic Air Toxics from Open Burning: A Comprehensive Review. Progress in Energy and Combustion Science. 30, pp. 1-32 J. Harrad and K.C. Jones. (1992). A Source Inventory and Budget for Chlorinated Dioxins and Furans in the United Kingdom Environment. Science of The Total Environment. Volume 126, Issues 1–2, 11 September, pp 89–107. Lin-Chi Wang , Wen-Jhy Lee , Wei-Shan Lee , Guo-Ping Chang-Chien , and Perng-Jy. (2003). Characterizing the Emissions of Polychlorinated Dibenzo-p- dioxins and Dibenzofurans from Crematories and Their Impacts to the Surrounding Environment, Tsai. Environ. Sci. Technol, 37 (1), pp 62–67. 4 Green Research No.25 December 2013
ปญั หาหมอกควัน จ.เชยี งใหม่ แก้ไมง่ า่ ยอย่างท่ีคิด ผศ.สุพจน์ เอยี้ งกุญชร จากทัศนวิสัยทั่วไปที่เลวลงเป็น หมอกควนั (Smog) หมายถงึ สภาพอากาศทป่ี ระกอบไปดว้ ยหมอก (Fog) และควนั ลำ�ดับ เช่น ผู้โดยสารเครื่อง (Smoke) ผสมปนกนั อยู่ (Smoke + Fog = Smog) สามารถมองเห็นได้จากทศั นวิสยั ท่ีเลวลง บิ น ม า ล ง ส น า ม บิ น เ ชี ย ง ใ ห ม่ และกลน่ิ ของควนั ไฟจากอากาศ ซ่ึงจดั เปน็ มลภาวะทางอากาศประเภทหนึง่ โดยทว่ั ไปสว่ น ไม่สามารถมองเห็นตัวเมือง ของหมอก จะเกดิ จากอณุ หภมู อิ ากาศลดตำ่� ลงจนไอนำ้� ในอากาศเกดิ การควบแนน่ เปน็ ละออง เชียงใหม่ได้ จนกว่าเครื่องบิน น้�ำ โดยจะเหน็ เปน็ ควันสขี าวไมม่ ีกลน่ิ ซ่งึ มักจะเกิดข้นึ ตามปกตใิ นช่วงเช้าของฤดู หนาว จะลดเพดานบินลงมาใกล้พ้ืนดิน แต่ควนั นน้ั จะเกดิ จากการเผาไหมใ้ นลักษณะตา่ งๆ โดยส่วนใหญจ่ ะเห็นเปน็ สเี ทา หรือไม่อาจมองเห็นดอยสุเทพ หรือดำ� และมีกล่ินไหม้ต่างๆกันตามชนิดของเช้ือเพลิง ควันจึงประกอบด้วยก๊าซชนิดต่างๆ จากในตัวเมืองเชียงใหม่ได้เช่น จากการเผาไหม้ ซ่งึ ส่วนใหญ่จะเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ปกติ เป็นต้น ซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ (SO2) และไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) เป็นส�ำคัญ แตท่ ่ีย่ิงไปกวา่ นนั้ ก็ คอื ควันยงั ประกอบด้วยเขมา่ ซงึ่ เป็นฝุ่นละอองหรืออนภุ าคขนาดเล็กมากต่างๆ กัน โดย เฉพาะอยา่ งยิ่งฝ่นุ ละอองทีม่ ีขนาดเลก็ กวา่ 10 ไมครอน (PM10)น้ัน สามารถเข้าสรู่ ะบบทาง เดินหายใจของคนและสัตว์ ซ่ึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างย่ิงแม้ว่าปีนี้จะมีฝนตก ประปรายทั่วภาคเหนือตอนบนเป็นระยะๆ ก็ตาม (นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงต้นเดือน มีนาคม) จนหลายคนคาดการณ์ว่า ปีน้ีหมอกควันในภาคเหนือตอนบนจะไม่รุนแรงเข้าขั้น วิกฤติเหมือนทุกๆ ปีท่ีผ่านมา แต่พอฝนท้ิงช่วงได้ไม่นาน จังหวัดเชียงใหม่ก็ต้องตกอยู่ใน สถานการณห์ มอกควนั ในขั้นวกิ ฤติ (นับต้ังแต่ปลายเดือนมีนาคมเปน็ ต้นมา) ทั้งน้ีสามารถรับรู้ได้โดยตรงจากทัศนวิสัยท่ัวไปที่เลวลงเป็นล�ำดับ เช่น ผู้โดยสาร เครอื่ งบนิ มาลงสนามบนิ เชยี งใหมไ่ มส่ ามารถมองเหน็ ตวั เมอื งเชยี งใหม่ ได้ จนกวา่ เครอ่ื งบนิ จะลดเพดานบินลงมาใกล้พื้นดิน หรือไม่อาจมองเห็นดอยสุเทพจากในตัวเมืองเชียงใหม่ได้ เชน่ ปกติ เปน็ ตน้ และจากการตรวจวดั คณุ ภาพอากาศพบวา่ คา่ PM10 สงู กวา่ คา่ มาตรฐาน ความปลอดภยั (120 ไมโครกรัมต่อลกู บาศกเ์ มตร) เชน่ เดยี วกับจงั หวดั ตา่ งๆ ในภาคเหนอื ตอนบนทั้ง 9 จังหวดั No.25 December 2013 Green Research 5
เร่อื งเดน่ ประจ�ำฉบบั จังหวัดแม่ฮ่องสอนทางด้านตะวันตก ปัญหานท้ี ั้งทางจังหวัดเชียงใหม่ และกรมควบคมุ มลพษิ ซง่ึ เป็นผรู้ บั จงั หวดั เชยี งราย ทางดา้ นตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ผิดชอบโดยตรงตา่ งกเ็ ตรยี มการรับมือไวต้ ัง้ แต่ปลายปีท่แี ลว้ แตส่ ดุ ทา้ ยก็ยงั ไม่ จังหวัดลำ�ปางทางตะวันออกและจังหวัด อาจหลกี เลยี่ งปญั หาไดท้ งั้ นเี้ พราะปญั หาหมอกควนั แก้ ยากกวา่ ทคี่ ดิ ดว้ ยสาเหตุ ลำ�พูนทางด้านใต้ และในกรณีของจังหวัด ดังนี้ ลำ�พูนนั้น แม้สถิติหมอกควันอาจจะไม่สูง ประการแรก หมอกควันจากจังหวัดข้างเคียง เป็นที่ทราบกันดีจาก เท่าจังหวัดเชียงรายและแม่ฮ่องสอน แต่ สถิติหมอกควันของทุกๆ ปีว่า จังหวัดท่ีเกิดหมอกควันสูงในอันดับต้นๆ คือ จังหวัดลำ�พูนนั้นมีที่ตั้งอยู่ในแอ่งท่ีราบ จังหวัดที่อยู่รายล้อมจังหวัดเชียงใหม่ อันได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอนทางด้าน เดียวกันกับจงั หวดั เชียงใหม่ ตะวันตก จังหวัดเชียงราย ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดล�ำปางทาง ตะวนั ออกและจงั หวดั ลำ� พูนทางดา้ นใต้ และในกรณีของจังหวัดลำ� พูนนนั้ แม้ สถิติหมอกควันอาจจะไม่สูงเท่าจังหวัดเชียงรายและแม่ฮ่องสอน แต่จังหวัด ล�ำพูนน้ันมีที่ต้ังอยู่ในแอ่งท่ีราบเดียวกันกับจังหวัดเชียงใหม่ หมอกควันใน จังหวดั ลำ� พนู จงึ แผข่ ยายเข้ามายงั จงั หวัดเชยี งใหม่ได้งา่ ยที่สดุ โดยเฉพาะใน ช่วงท่ีมีมวลอากาศเย็น (ความกดอากาศสูง) แผ่เข้ามาปกคลุมตอนบนของ ประเทศไทย ดงั นั้น การป้องกนั การเผาในทโ่ี ล่งแจ้งเฉพาะพน้ื ทภ่ี ายในจังหวดั เชียงใหม่จึงไม่ เพียงพอต่อการป้องกันสถานการณ์หมอกควันท่ีจะเกิดขึ้นได้ ท้งั หมด ประการที่สอง ยังไม่อาจหยุดย้ังการเผาของเกษตรกรรอบนอก ปญั หานที้ กุ ฝา่ ยทราบกนั ดอี ยแู่ ลว้ วา่ ยงั ไมส่ ามารถแกป้ ญั หาได้ โดยเฉพาะการ เผาตอซงั ขา้ วโพดในพนื้ ทห่ี า่ งไกลซงึ่ มกี ารเผาสองถงึ สามครงั้ ใน แตล่ ะรอบของ การปลกู เร่มิ จากการเผาเปดิ พื้นที่ปลกู เผาตอซงั หลังเกบ็ เกี่ยวฝัก และเผาซัง ขา้ วโพดหลงั จากกะเทาะเมลด็ แลว้ ยง่ิ ไปกวา่ นน้ั ยงั พบวา่ มกี ารขยายพน้ื ทเี่ พาะ ปลกู ขา้ วโพดเพิ่มข้นึ ทกุ ปจี าก การส่งเสริมของภาคธุรกิจอาหารสัตว์ของบริษทั เอกชน 6 Green Research No.25 December 2013
นอกจากนี้ การเผาปา่ เผาหญา้ กย็ งั คงมอี ยเู่ สมอๆในพน้ื ทห่ี า่ งไกลรอบนอก ดว้ ย แม้สถานการณ์หลายอย่างจะเป็นใจ เหล่าคนท่ีรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งน้ีเพราะคนเหล่าน้ีได้รับผลประโยชน์จากการเผาโดยตรง จนสามารถผ่านช่วง 80 วัน แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้รับอะไรตอบแทนโดยตรงเลยจากการงดการเผา อีกทั้งคนเหล่า อนั ตรายมาไดก้ ว่าคร่ึงทางแล้ว แต่ นแี้ มม้ จี ำ� นวนนอ้ ยแตก่ ลบั สรา้ งหมอกควนั ไดม้ าก ดงั นน้ั จงึ เปน็ เรอ่ื งยากทจ่ี ะชกั จงู ใหค้ น สุดท้ายปัญหาหมอกควันก็ยังยก เหล่าน้ีเหน็ แก่ประโยชนส์ ว่ นรวมและยอมให้ ความรว่ มมืออย่างจรงิ จงั ระดับข้ึนจนถึงข้ันวิกฤติอีกจนได้ ประการท่ีสาม การบริหารการเผายงั ท�ำไม่ได้อย่างจริงจัง จากความเขา้ ใจต่อ แม้ประชาชนชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่ วิถีชีวิตของเกษตรกรในพ้ืนที่กันดารและห่างไกลท่ียากจะขจัด การเผาได้อย่างเด็ดขาด (กว่าร้อยละ 80-90) ไม่ได้เป็นผู้ ทางกรมควบคุมมลพิษ จึงคิดวิธีแก้ปัญหา โดยการยอมให้มีการเผาตามความจ�ำเป็น กอ่ ขนึ้ ก็ตาม หรอื การบรหิ ารการเผาน่นั เอง ดว้ ยการก�ำหนดวัน เวลา พืน้ ที่ และปรมิ าณการเผาตาม โควตา เพื่อให้สามารถควบคุมหมอกควันให้อยู่ในเกณฑ์ท่ีไม่สูงเกินค่ามาตรฐานความ ปลอดภัยได้ ซึ่งแม้วิธีการน้ีจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่วิธีนี้ก็น่าจะช่วยลดปัญหา ตา่ งๆ ในเบอื้ งตน้ ลงไดม้ าก ทงั้ ปญั หาดา้ นกายภาพและปญั หาดา้ นสงั คม แตน่ า่ เสยี ดาย ทใ่ี นปีนย้ี ังไมม่ คี วามชัดเจนในทางปฏบิ ัติ วิธนี ้จี ึงยงั ไมเ่ หน็ ผลอยา่ งจรงิ จงั ประการสุดท้าย คนท่ีได้รับผลกระทบจากหมอกควันไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ ท้ังน้ีจะ เห็นได้วา่ ในพืน้ ท่ที มี่ ีคนอยหู่ นาแนน่ ท้งั ในเขตตวั จงั หวัด ตัวอำ� เภอ และในเขตเทศบาล จะมีการรณรงค์ให้งดการเผาในช่วง 80 วันอันตราย (ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือน เมษายน) อยา่ งเขม้ งวด และประชาชนสว่ นใหญก่ ใ็ หค้ วามรว่ มมอื ดว้ ยดี เพราะตา่ งเขา้ ใจ ดีว่า ประโยชนจ์ ากการเผาขยะมูลฝอยในชมุ ชนไมค่ ้มุ กบั ผลกระทบจากหมอกควันที่เกดิ ข้ึน อีกทั้งชาวเชยี งใหม่เคยได้รับบทเรียนอยา่ งแสนสาหัสมาแล้วในปี พ.ศ. 2550 เพราะ ในปีนั้นมีการตรวจวัดค่า PM10 กลางเมืองเชียงใหม่ได้สูงสุดถึง 383 ไมโครกรัมต่อ ลกู บาศกเ์ มตร นับตั้งแต่นั้นมาการรณรงค์ให้งดการเผาในเขตชุมชนท้ังในระดับเทศบาลและ อบต. นบั ว่าได้ผลเป็นอยา่ งดี และยงั ไม่เคยปรากฏปัญหาหมอกควันรนุ แรงในข้นั วิกฤติ ไดเ้ ทา่ ปีนนั้ อกี แตถ่ งึ กระนั้นก็ยงั ไม่สามารถท�ำให้ปราศจากปัญหาหมอกควนั ลงไดอ้ ยา่ ง สมบูรณ์ เชน่ เดยี วกบั ปนี ้ี แม้สถานการณห์ ลายอยา่ งจะเป็นใจจนสามารถผา่ นช่วง 80 วนั อันตรายมาได้กว่าครงึ่ ทางแล้ว แตส่ ุดทา้ ยปัญหาหมอกควนั กย็ งั ยกระดบั ขึน้ จนถึงขัน้ วิกฤติอีกจนได้ แมป้ ระชาชนชาวเชยี งใหมส่ ว่ นใหญ่ (กวา่ ร้อยละ 80-90) ไม่ไดเ้ ป็นผ้กู อ่ ขึ้นกต็ าม จังหวัดเชียงใหม่ได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับต้นๆ ของโลก อากาศดี เป็นปัจจัยหนึ่งท่ีท�ำให้เมืองเชียงใหม่น่าอยู่ แต่ถ้าใครได้มาเชียงใหม่ ในช่วงท่ีมีวิกฤติ หมอกควัน คงไม่มีใครคิดเช่นนั้นอย่างแน่นอน เพราะหมอกควันไม่เพียงแค่ท�ำลาย ทศั นยี ภาพและบรรยากาศของการท่องเท่ียวเทา่ นัน้ แตก่ ำ� ลังท�ำลายสุขภาพของทุกคน ที่ตอ้ งเผชิญโดยไมอ่ าจหลกี เล่ยี งได้ ปัญหาหมอกควันก�ำลังบ่ันทอนความน่าอยู่ของเมืองเชียงใหม่ลงไปอย่างน่า เสียดาย (ขนาดคนท่ีเคยอยู่เชียงใหม่มานานนับสิบปียังอยากย้ายหนีไปท่ีอื่นเลย) แม้ ปัญหาจะเกดิ ในชว่ งเวลาส้นั ๆ (ราว80-100 วนั ) แต่กเ็ ป็นเหตุการณ์ที่เกิดขนึ้ ประจ�ำแทบ ทกุ ปี ปญั หานที้ ำ� ใหค้ วามนา่ อยขู่ องเมอื งเชยี งใหมห่ ดหายไปเปน็ อนั มาก ดงั นน้ั แมป้ ญั หา นจ้ี ะแกไ้ มง่ า่ ยอยา่ งทหี่ ลายคนคดิ แตค่ วามพยายามทจี่ ะแกป้ ญั หานจี้ ะตอ้ งมตี อ่ ไปในทกุ ระดับ No.25 December 2013 Green Research 7
ติดตามเฝา้ ระวัง ท�ำ ไมต้องสนใจปรอทในอากาศ หทยั รตั น์ การเี วทย์ นักวชิ าการสง่ิ แวดลอ้ มชำ� นาญการพเิ ศษ ศูนย์วิจยั และฝกึ อบรมด้านสงิ่ แวดล้อม สารปรอทในส่ิงแวดล้อมนั้น elemental mercury ถือเป็นรูปที่ คุณสมบัติของสารปรอทและความเป็นพษิ เสถียรท่ีสดุ ละลายน�ำ้ ได้นอ้ ย และสามารถระเหยกลายเป็นไอไดท้ ี่ ในสง่ิ แวดลอ้ ม อณุ หภมู หิ อ้ ง กอ่ ใหเ้ กดิ การแพรก่ ระจายของปรอทในอากาศทเ่ี ปน็ อนั ตรายได้ สารปรอทเป็นธาตุที่เกิดข้ึนเองตาม ธรรมชาติเป็นโลหะสีเงินมันวาว มีสถานะเป็น The Mercury Cycle ของเหลวทอ่ี ณุ หภมู หิ อ้ ง มกั เกดิ ปะปนอยกู่ บั โลหะ อ่ืนๆ โดยพบว่ามีการปนเปื้อนในระดับสูงในเชื้อ lootmchaeoHlrrgreesogfdruiioosrmtncaeanslt&: เพลิงฟอสซิล (Fossil fuels) สารปรอทใน สงิ่ แวดล้อมจะเกดิ ข้นึ ในสามรปู แบบ ไดแ้ ก่ ในรปู DepDorsyition ของโลหะปรอท (elemental mercury) ในรูปของ ปรอทอนินทรีย์ (inorganic mercury) และปรอท GEEMm,isGsOioMns,PoBfM Mceaoamnscuberienentmrtaetanioirtnof Meaosfuwreemt ent อินทรีย์ (organic mercury) และทัง้ สามรูปแบบนนั้ wHtoagmtetrersathhneysldmpsoe; rrHtcegudrcyoth(nMrvoeeuHrtgeghd) มีคุณสมบัติเป็นสารพิษในส่ิงแวดล้อมทั้งสิ้น elemental mercury ถอื เปน็ รปู ทเี สถยี รทส่ี ดุ ละลาย GEMPB,MGOM uMpetHheg fionocrdeachseasin M1gerHmeawgiltlaeiiontrentfrihstiahmneis น�้ำได้น้อย และสามารถระเหยกลายเป็นไอได้ท่ี อณุ หภมู หิ อ้ ง กอ่ ใหเ้ กดิ การแพรก่ ระจายของปรอท รูปท่ี 1 วัฏจกั รสารปรอทในส่งิ แวดล้อม ในอากาศทเี่ ปน็ อนั ตรายได้ inorganic mercury โดย ภาพโดย Dr. David Schmeltz, US. Environmental Protection Agency, 2013 ปกติจะอยู่ในรูปของเกลือโลหะ ใช้เป็นส่วนผสม ของสารฆา่ เชอื้ โรค และยาฆา่ แมลง ซ่ึง inorganic mercury หลายชนดิ ไดถ้ กู หา้ มใชโ้ ดยองคก์ รพทิ กั ษ์ สง่ิ แวดลอ้ มของประเทศอเมรกิ า (http://www.epa. gov/opptintr/pbt/mercury.htm) ส�ำหรับ organic mercury เปน็ สารทส่ี ามารถสงั เคราะห์ข้ึนทางเคมี หรอื การเปลยี่ นรปู ทางชวี ะวทิ ยาโดยแบคทเี รยี เชน่ 8 Green Research No.25 December 2013
methyl mercury สว่ นมากมกั ใชเ้ ปน็ สารฆา่ เชอื้ รา สาร organic mercury บางชนิดสามารถละลายน�้ำได้ท�ำให้สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร เกดิ การสะสมตวั และขยายความเปน็ พษิ ทเี่ รยี กวา่ กระบวนการ bioaccumulation สารปรอทมกั พบปนเปอ้ื นอยใู่ นอากาศ นำ�้ และดนิ เปน็ สว่ นใหญ่ สาเหตมุ าจากการเผาไหม้เชอื้ เพลิง การเผาขยะ ขยะผลิตภณั ฑ์ทใี่ ช้ ตามบา้ นเรอื นและโรงงานอตุ สาหกรรมทใี่ ชส้ ารปรอทเปน็ วตั ถดุ บิ เชน่ โรงงานผลติ เยอื่ กระดาษ โรงงานผลติ พลาสตกิ โรงงานผลติ เภสชั ภณั ฑ์ โรงงานไฟฟา้ ทีใ่ ช้ถา่ นหนิ และโรงกล่นั น้�ำมัน เปน็ ต้น สารปรอททีอ่ ยู่ ในรูปของเหลวสามารถระเหยเป็นไอไดใ้ นภาวะปกติ สว่ นใหญ่พบอยู่ ในเทอร์โมมเิ ตอร์ (ปรอทวดั ไข้) และหลอดไฟนีออน ถา้ เทอร์โมมเิ ตอร์ หรือหลอดไฟแตก สารปรอทที่บรรจุอยู่จะสามารถกลายเป็นไอ แพรก่ ระจายออกมาปนเป้ือนในอากาศ นอกจากน้ียังสามารถพบสาร ปรอทในเคร่ืองส�ำอางและอาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลพบมากใน สัตว์ทะเลตัวใหญ่ เชน่ หฉู ลาม ทนู า่ โลมา วาฬ เน่อื งจากมีช่วงชีวติ ทีย่ นื ยาวและกนิ ปลาเลก็ เปน็ อาหาร จงึ มโี อกาสที่สารปรอทสะสมอยู่ ในตัวคอ่ นข้างมาก (เรียกกระบวนการน้ีวา่ Bioaccumulation) ซง่ึ การ ปนเปื้อนของสารปรอทจากแหล่งน�้ำธรรมชาติมักมีสาเหตุมาจาก โรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยสารปรอทออกมากับน้�ำท้ิงของโรงงาน นอกจากนี้สารปรอทในอากาศสามารถตกลงสู่น�้ำและดินได้โดยถูก ชะล้างมากับน�้ำฝน หรือปะปนอยู่กับฝุ่นละออง สารปรอทเข้าสู่ ร่างกายได้โดยตรงจากการหายใจ การสัมผัสทางผิวหนัง การกิน อาหารและน้�ำท่ีปนเปื้อนสารปรอทที่เรียกว่าห่วงโซ่อาหาร ก่อให้เกิด อันตรายต่อส่ิงแวดล้อมและมนุษย์ได้ รูปท่ี 1 แสดงวัฏจักรของสาร ปรอทในสิง่ แวดล้อมท่มี ผี ลต่อหว่ งโซอ่ าหาร ผลกระทบของสารปรอทต่อส่ิงแวดล้อมและสุขภาพปรากฏ ให้เห็นครั้งแรกซ่ึงเป็นท่ีรู้จักไปทั่วโลกคือ “โรคมินามาตะ” ที่จังหวัด คมุ าโมโตในประเทศญป่ี ุน่ มีสาเหตมุ าจาก methyl mercury อนั เป็น สารประกอบอินทรีย์ของปรอทปนเปื้อนอยู่ในน�้ำเสียซ่ึงเกิดข้ึนจาก โรงงานผลติ acetaldehyde acetic acid และ methyl mercury เกดิ จาก กระบวนการผลิต acetaldehyde ในโรงงาน สารพษิ เหล่านั้นได้เขา้ ไป สะสมอยใู่ นตวั ปลาและหอยทชี่ าวประมงจบั ขนึ้ มาขายและรบั ประทาน รูปที่ 2 แสดงผู้ทไ่ี ดร้ ับผลกระทบจากสารปรอทในส่งิ แวดลอ้ ม ผลกระทบของสารปรอทต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพปรากฏให้เห็นครั้งแรกซ่ึงเป็นท่ีรู้จักไปทั่วโลกคือ “โรคมนิ ามาตะ” ท่ีจงั หวดั คมุ าโมโตในประเทศญ่ปี ุน่ มสี าเหตมุ าจาก methyl mercury อนั เปน็ สารประกอบ อนิ ทรยี ข์ องปรอท No.25 December 2013 Green Research 9
ติดตามเฝา้ ระวัง ท�ำให้ประชาชนเสียชีวิต 46 คน และทรมานด้วยโรคดังกลา่ วหลายรอ้ ยคน (Japan Asia Quarterly Review 1997) นอกจากนแ้ี พทยแ์ ละผเู้ ชยี่ วชาญตา่ งๆ ตอ้ งใชเ้ วลาถงึ 12 ปี ในการหาสาเหตุของโรคดังกล่าว รูปที่ 2 แสดงผู้ได้รับผลกระทบจาก สารปรอทในสิ่งแวดล้อม การปนเป้อื นของสารปรอทในอากาศ สารปรอทที่ถูกปลดปล่อยออกสู่อากาศจะอยู่ใน 3 รูป คือ รูปของก๊าซ ปรอท Gaseous Elemental Mercury (GEM) ในรูปของออกซไิ ดซ์ก๊าซปรอท หรอื ที่ เรยี กวา่ Gaseous Oxidized Mercury (GOM) และในรูปท่ีเกาะอยู่กบั ฝุ่นละอองใน อากาศ หรอื ทีเ่ รยี กว่า Particulate Bound Mercury (PBM) ท้งั สามรปู น้ีพบวา่ GEM จะมีปรมิ าณมากท่ีสุดในอากาศ เนื่องจากถกู ปลดปล่อยโดยตรงและมีความเสถียร มากที่สุดในอากาศ เมื่อถูกปลดปล่อยจากแหล่งก�ำเนิดแล้วจะสามารถคงอยู่ใน อากาศ (lifetime) ไดค้ อ่ นข้างนานประมาณ 6-18 เดอื น จงึ สามารถพบไดท้ ั่วไปใน อากาศ ส่วน GOM และ PBM จะมีระยะเวลาคงอยู่ในอากาศไดค้ ่อนข้างสัน้ คิดได้ เป็นหลายๆ ชั่วโมงหรือหลายๆ วัน เน่ืองจากมีคุณสมบัติที่ท�ำปฎิกิริยาได้ง่ายใน อากาศ และละลายน้�ำได้ดี จึงสามารถถูกก�ำจัดออกจากอากาศได้อย่างรวดเร็ว ผา่ นกระบวนการตกสะสมแบบเปยี ก (wet deposition) และ แบบแหง้ (dry deposition) แต่อย่างไรก็ตามส�ำหรับ PBM ในบางกรณีสามารถถูกพัดพาไปกับฝุ่นละอองใน ระยะไกลๆ แบบ long range transport ได้เช่นกัน แหล่งก�ำเนิดหลักของปรอทในอากาศเกิดจากจากการเผาไหม้เช้ือเพลิง การเผาขยะ ขยะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตามบ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรมท่ีใช้สาร ปรอทเปน็ วตั ถดุ บิ เชน่ โรงงานผลติ เยอื่ กระดาษ โรงงานผลติ พลาสตกิ โรงงานผลติ เภสัชภณั ฑ์ โรงงานไฟฟา้ ท่ีใชถ้ ่านหนิ และโรงกล่ันน�้ำมนั เป็นตน้ UNEP 2008 ได้ ประเมนิ วา่ ในทวปี เอเชยี มปี รมิ าณการปลดปลอ่ ยสารปรอทสอู่ ากาศเพมิ่ ขนึ้ กวา่ 50% นับจากปี 1990-1995 ทั้งน้ีสืบเน่ืองมาจากความต้องการการใช้ไฟฟ้าและพลังงาน เพมิ่ ขน้ึ ในภมู ภิ าคนี้ ซง่ึ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ การเพม่ิ ขนึ้ ของประชากรและการเตบิ โตทาง เศรษฐกิจ ตลอดจนมีการใชเ้ ช้ือเพลิงถ่านหนิ อย่างกวา้ งขวาง นอกจากนี้ European Monitoring and Evaluation Program (EMEP) ไดป้ ระเมินว่า ระหว่างปี 1990-2007 ปริมาณการปลดปล่อยสารปรอทในทวีปเอเชียเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคิดเป็น ปริมาณถึง 65% ของการปลดปล่อยสารปรอทสู่อากาศจากแหล่งก�ำเนิดท่ีมนุษย์ ทำ� ขน้ึ ทวั่ โลก (รปู ที่ 3) โดยจากการประเมนิ แหลง่ ก�ำเนดิ ในทวปี เอเชยี พบวา่ ประเทศ จีนและประเทศอนิ เดยี มกี ารปลดปลอ่ ยสารปรอทสู่อากาศสูงที่สุด (รูปที่ 4) แสดง ใหเ้ ห็นถึงการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมท่ีมีผลต่อการเพิ่มข้ึนของสารปรอท ในสงิ่ แวดลอ้ ม นนั่ เอง ปฏกิ ริ ยิ าเคมขี องสารปรอทในอากาศมคี วามซบั ซอ้ น และมคี วามไมแ่ นน่ อน เปน็ อย่างมาก เนื่องจากขน้ึ กับหลายปัจจยั (Calvert and Lindberg 2005; Lin et al., 2006; Ariya et al., 2008; Steffen et al., 2008) การตรวจวัดสารปรอทในอากาศ และในน้�ำฝนจึงมีความส�ำคัญมาก เพราะจะเป็นตัวบ่งช้ีถึงปริมาณการกระจายตัว ของปรอทในสงิ่ แวดลอ้ ม และสารปรอททถี่ กู กำ� จดั ออกจากอากาศผา่ นกระบวนการ wet and dry deposition 10 Green Research No.25 December 2013
รปู ที่ 3 การประเมินปริมาณการปลดปลอ่ ยสารปรอทสู่อากาศในทวปี เอเชียเทยี บกับทวปี อน่ื ๆ ในโลก ท่ีมา: European Monitoring and Evaluation Program (EMEP): MSC-W Technical Report 2/2013 ทำ� ไมตอ้ งสนใจสารปรอทในอากาศ PBM ได้ ซึ่งวิธีการตรวจวัดสารปรอทในอากาศนั้น ในยุโรปและ สืบเน่ืองจากการประชุมคณะมนตรีประศาสน์การ อเมรกิ าสว่ นมากจะใชว้ ธิ ขี อง US.EPA Compendium method IO-5 ซง่ึ โครงการสง่ิ แวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP GC) พ.ศ. 2544 ได้ เปน็ วธิ เี กบ็ ตวั อยา่ งและวเิ คราะหส์ ารปรอทในอากาศดว้ ยเทคนคิ Cold มีการประเมินผลกระทบของสารปรอทในระดับโลก ผลการประเมิน Vapour Atomic Fluorescence Spectrometry (CVAFS) สำ� หรบั วธิ ตี รวจ พบวา่ สารปรอทสง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพอนามยั ของ วดั สารปรอทในนำ�้ ฝน ใชว้ ธิ ี EPA method 1631 (Method 1631, ประชากรโลก และตอ่ มา UNEP GC ไดข้ อ้ สรปุ วา่ “การลดความเสย่ี ง” Revision E, US.EPA. 2002) ซงึ่ เปน็ วธิ เี ก็บตวั อยา่ งและวเิ คราะหส์ าร เป็นแนวทางหลักในการด�ำเนินงานเพอื่ การจดั การสารปรอทระหว่าง ปรอทในน้�ำสะอาดดว้ ยเทคนคิ Oxidation, Purge and Trap, and Cold ประเทศ (สารปรอทปนเปอ้ื นขา้ มแดน) ในระยะยาวพรอ้ มทงั้ เรยี กรอ้ ง Vapour Atomic Fluorescence Spectrometry (CVAFS). ให้รัฐบาลประเทศตา่ งๆ องค์กรเอกชน และองค์การระหวา่ งประเทศ จากการเฝ้าระวังสารปรอทในอากาศในทวีปยุโรปและ ด�ำเนินกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากสารปรอทในผลิตภัณฑ์และ อเมรกิ าตอนเหนอื พบวา่ ความเขม้ ขน้ ของสารปรอทในอากาศ GEM ขบวนการผลติ และมมี ตใิ หจ้ ดั ทำ� มาตรการทางกฎหมายแลว้ เสรจ็ ซงึ่ ในพื้นที่ทไ่ี ม่มีการปนเปอ้ื นเฉลย่ี รายปีมคี า่ อยรู่ ะหวา่ ง 1.5-1.7 นาโน ต่อมาได้พัฒนาเป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศท่ีใช้ช่ือว่า “The กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสอดคล้องกับระดับที่พบในอาฟริกาใต้ Minamata Convention on Mercury” มีวัตถปุ ระสงค์ “เพ่ือปกป้อง ในพื้นท่ีท่ีไม่มีการปนเปื้อนคือมีค่าประมาณ 1.2-1.4 นาโนกรัมต่อ สขุ ภาพของมนษุ ยแ์ ละสิ่งแวดล้อมจากการปลดปล่อยสารปรอทและ ลกู บาศกเ์ มตร แตส่ ำ� หรบั ภูมภิ าคเอเชียตะวันออก พบวา่ มคี า่ เฉลย่ี สารประกอบปรอทจากกิจกรรมของมนุษย์สู่อากาศ แหล่งนำ้� และ ทส่ี ูงกว่าคอื ประมาณ 4 นาโนกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร (Kim 2004) ดิน” ซ่ึงจะมีผลให้ประทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยต้องมีการ แตถ่ า้ หากเปน็ พน้ื ทที่ ม่ี แี หลง่ กำ� เนดิ เชน่ บรเิ วณเหมอื งเกา่ ในประเทศ พิจารณารบั รองหรือเข้าร่วมเป็นภาคสี มาชิกอนสุ ญั ญาฯ ตอ่ ไป โดย สเปน พบความเข้มข้นของ GEM มีค่าสูงถึง 5 ไมโครกรัมต่อ มกี ารรับรองอนสุ ัญญาฯ ในเดือนตลุ าคม 2556 ทผี่ ่านมาน้ี และจะ ลูกบาศก์เมตร (Ferrara et al., 1998) ในสว่ นของระดบั ความเข้มขน้ มีผลบังคับใช้ใน 90 วัน หลังจากมีประเทศลงนามในอนุสัญญา RGM ท่ีพบในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ มีค่าเฉลี่ยประมาณ 60 ดงั กล่าวครบ 50 ประเทศ พิโคกรมั ต่อลกู บาศกเ์ มตร (Wangberg et al., 2001) ปรมิ าณความ ความพยายามในการเฝ้าระวังสารปรอทในอากาศได้มีขนึ้ เข้มขน้ ทพี่ บมากท่ีสดุ อยู่ท ่ี Point Barrow ในรัฐ Alaska มคี า่ 100 มานานแลว้ ในอดีตในทวีปยุโรปและอเมริกา Iverfeldt (1991) ไดเ้ ร่ิม พิโคกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือ 1 นาโนกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ท�ำการตรวจวดั สารปรอทในน�้ำฝนตงั้ แตป่ ี 1991 ตอ่ มาไดม้ ีการตรวจ (Brooks et al., 2006a) ในพนื้ ท่ีแถบข้ัวโลกเหนอื (Arctic) ปรมิ าณ วัดสารปรอทในอากาศในรูป GEM และเมื่อไม่นานมาน้ีจึงได้มีการ RGM ทตี่ รวจวดั ไดส้ งู สดุ มคี า่ ประมาณ 40 พโิ คกรมั ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร ตรวจวัดสารปรอทในอากาศทั้งสามรูปแบบ คือ GEM GOM และ และ PBM มคี า่ 100 พโิ คกรมั ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร (Cobbett et al., 2007) No.25 December 2013 Green Research 11
ตดิ ตามเฝา้ ระวัง สำ� หรบั ทวปี เอเชยี มกี ารตรวจวดั สารปรอทในอากาศในประเทศจนี เกาหลแี ละญป่ี นุ่ การพัฒนาศักยภาพในการเฝ้า แตใ่ นภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตแ้ ละเอเชยี แปซฟิ กิ ยงั คงมกี ารตรวจวดั นอ้ ยมาก สำ� หรบั ระวังการปนเปื้อนของสารปรอท ประเทศไทยมกี ารตดิ ตามตรวจสอบการปนเป้อื นของสารปรอทในแหลง่ น�้ำ ในสตั วน์ ำ�้ และ ในอากาศสำ�หรับประเทศไทย ในดนิ เพอ่ื ปกปอ้ งสขุ ภาพมนษุ ยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ มในประเทศ แตย่ งั ไมม่ กี ารตรวจวดั ในอากาศ เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพ ซงึ่ มปี รมิ าณนอ้ ยและตอ้ งใชเ้ ทคนคิ การตรวจวดั ทเี่ หมาะสม การปนเปอ้ื นสารปรอทในอากาศ อากาศและลดการสะสมของ มคี วามสำ� คัญมากเพราะเปน็ ตัวกลางส�ำคัญที่ปรอทจะถูกพัดพาไปในสง่ิ แวดลอ้ ม สารปรอทในสงิ่ แวดล้อม ตลอด จนลดการสะสมของสารปรอทใน ห่วงโซ่อาหารไม่ให้เกิดอันตราย ตอ่ สขุ ภาพประชาชน Mercury emission 2010, g/km2 เอกสารอ้างองิ 0 2 5 10 100 1000 European Monitoring and Evaluation Program (EMEP): MSC-W Technical รปู ท่ี 4 แผนที่แสดงการปลดปล่อยสารปรอทสบู่ รรยากาศจากแหลง่ กำ�เนดิ ทม่ี นษุ ยท์ ำ�ขนึ้ Report 2/2013. Atmospheric Supply of ท่ีมา: United Nations Environment Programme (UNEP) Report 2013, Nitrogen, Lead, Cadmium, Mercury and Dioxins/ Furans to the Baltic Sea in The Global Atmospheric Mercury Assessment: Sources, Emissions and Environmental Transport. 2011 United Nations Environment Programme นอกจากน้ีการเกิดฝนมีบทบาทส�ำคัญในการชะล้างปรอทจากบรรยากาศลงสู่ดิน (UNEP) Report 2013, The Global Atmo และน้ำ� ท้ังน้ีจ�ำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพในการเฝ้าระวังการปนเปื้อนของสารปรอทใน spheric Mercury Assessment: Sources, อากาศส�ำหรับประเทศไทย เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพอากาศและลดการสะสมของ Emissions and Environmental Transport. สารปรอทในสิ่งแวดล้อม ตลอดจนลดการสะสมของสารปรอทในห่วงโซ่อาหารไม่ให้เกิด EPA (U.S. Environmental Protection อันตรายต่อสุขภาพประชาชน นอกจากน้ียังเป็นข้อมูลให้แก่ประเทศไทยในการรับรอง Agency). (1997). Mercury Study for อนสุ ัญญา “The Minamata Convention on Mercury” ต่อไป Congress Volume III, Fate and Transport of Mercury in the Environment, page 2-3, EPA- 452/R-97-003, December 1997. George Schwedt, 2001. The Essential Guide to Environmental Chemistry, John Wiley & Sons, Ltd, ISBN 0 471 89954 2. UNEP Report 2008. Technical back ground Report to the Global Atmo spheric Mercury Assessment. US.EPA 2002. Method 1631, Revision E: Mercury in Water by Oxidation, Purge and Trap, and Cold Vapour Atomic Fluorescence Spectrometry US.EPA 1999. Compendium methods for the determination of inorganic compounds in ambient air, Chapter IO-5, Sampling and analysis for atmospheric mercury. 12 Green Research No.25 December 2013
เปดิ แผนทปี่ นเปือ้ นสารพิษในประเทศไทย ผลลัพธจ์ ากการพัฒนา อุบลวรรณ กระปุกทอง เป็นความจริงที่ว่าการก้าวผ่านจากสังคมเกษตรสู่ยุคการ “ในอดตี ฐานการผลิตของไทยอยู่ท่ีภาคเกษตรแตพ่ อมาถงึ พฒั นาอตุ สาหกรรมของประเทศไทย ไดก้ อ่ ปญั หาไวม้ ากมาย หลกั ฐาน อีกยุคหนึ่งเราก็เริ่มพูดถึงการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าจน หนง่ึ ที่ประจักษค์ อื สารพษิ ทีป่ นเปอ้ื นในดิน น้ำ� อากาศ และสง่ ผลก เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมหลังมีการสำ�รวจเจอก๊าซธรรมชาติ ไทยก็ให้ ระทบต่อสขุ ภาพของผูค้ นในพ้นื ทตี่ า่ งๆ ของประเทศ ความสำ�คัญกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อหวังใช้เป็นฐานในการพัฒนา เมอ่ื ไมน่ านมาน้ี สำ�นกั งานคณะกรรมการสขุ ภาพแหง่ ชาติ เศรษฐกจิ ของประเทศ เพิม่ จีดีพี และลดการวา่ งงาน อยา่ งไรกต็ าม รว่ มกบั ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเติบโต มีการพัฒนาเทคโนโลยี แต่อีก สง่ิ แวดล้อม และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร ได้จัด ด้านหน่ึงกลับปรากฏว่ามีสารพิษปนเป้ือนในสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผล ทำ�แผนทพี่ ื้นทป่ี นเปอ้ื นสารพิษในประเทศไทยขนึ้ เพอ่ื สะท้อนใหเ้ ห็น กระทบตอ่ ระบบนเิ วศและสขุ ภาพของประชาชนในพน้ื ท”ี่ สมพรกลา่ ว ถึงปัญหาสารพิษท่ภี ูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยทีก่ ำ�ลังเผชญิ และ พื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียงนับเป็น ยังคงรอคอยการฟ้ืนฟูแกไ้ ข กรณีตวั อย่างท่ีชัดเจนท่ีสุดกรณีหน่งึ เนอ่ื งจากเดิมพืน้ ท่มี คี วามอดุ ม สมพร เพง็ ค่ำ� ผอู้ ำ�นวยการศนู ยป์ ระสานงานการพฒั นา สมบรู ณ์ เต็มไปด้วยทรพั ยากรท่หี ลากหลาย ทั้งดนิ ดำ�น้ำ�ช่มุ เหมาะ ระบบและกลไกการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ สำ�นักงาน กับการทำ�เกษตร รวมไปถึงมีทรัพยากรทางทะเลท่ีอุดมหลากหลาย คณะกรรมการสขุ ภาพแหง่ ชาตกิ ลา่ ววา่ แผนทแี่ สดงพน้ื ทป่ี นเปอื้ น แตเ่ ม่อื มโี ครงการพฒั นาพื้นทีช่ ายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (อสี เทริ น์ ซี สารพษิ ในประเทศไทยเปน็ เสมอื นการเปดิ ประเดน็ สอ่ื สารไปถงึ สงั คม บอรด์ ) เกดิ ขน้ึ มาบตาพดุ กไ็ ดแ้ ปรสภาพเปน็ นคิ มอตุ สาหกรรม แมจ้ ะ เพื่อให้รับรู้ว่าสารพิษที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสำ�คัญที่ มกี ารวางเปา้ หมายในการพฒั นาคอื เศรษฐกจิ ดี มตี วั เลขจา้ งงานเพมิ่ สง่ ผลกระทบโดยตรงตอ่ สขุ ภาพของประชาชน ทงั้ น้ี พน้ื ทกี่ ารปนเปอื้ น สงู ขน้ึ ทวา่ ผลลพั ธอ์ กี ดา้ นทอ่ี ยนู่ อกเหนอื ความคาดหมายกค็ อื มกี าร สารพิษที่ปรากฏในแผนทีฉ่ บับนีม้ ีมากเกือบ 50 แหง่ แตก่ ็เป็นเพียง ปนเป้ือนสารพิษท้ังในดนิ นำ้ � และอากาศ จนต้องมกี ารประกาศเป็น ส่วนหน่ึงของพื้นที่ท่ีประสบปัญหาเท่าน้ัน ซ่ึงปัญหาเกิดจากหลาย เขตควบคมุ มลพษิ เมอื่ ปี 2552 สาเหตุ บางส่วนมาจากโรงงานอตุ สาหกรรม บางสว่ นเป็นผลกระทบ ไมเ่ พยี งแคน่ นั้ ในหลายกรณสี ารพษิ ยงั สามารถแพรก่ ระจาย จากการทำ�เหมอื ง และบา้ งกเ็ กดิ จากการลกั ลอบทง้ิ กากอตุ สาหกรรม จนเกดิ ผลกระทบในวงกวา้ งไดผ้ า่ นความสมั พนั ธข์ องระบบนเิ วศและ ขยะพษิ นอกจากน้ัน หลายพ้นื ท่ตี ้องเผชิญการปนเปอ้ื นสารพษิ มา ห่วงโซ่อาหาร ยกตัวอย่างกรณีลุ่มนำ้ �แม่ตาวท่ีมีการปนเปื้อนสาร ยาวนาน เช่น กรณีการปนเป้ือนของสารหนูในอำ�เภอร่อนพิบูลย์ แคดเมียมในพ้ืนท่ีปลูกข้าว ฉะน้ันเราก็ไม่มีทางรู้เลยว่าข้าวที่ส่งเข้า อนั เปน็ ผลมาจากการทำ�เหมอื งดบี กุ ช่วงปี 2520 – 2528 ซง่ึ ปัจจบุ ัน โรงสีมาจากแม่ตาวหรือไม่ เช่นเดียวกับกรณีการลักลอบทิ้งขยะพิษ ยังไมไ่ ด้รับการแกไ้ ข ขณะที่บางแห่งก็เพง่ิ ประสบปัญหา เชน่ การ จำ�นวนมากท่หี นองแหน ซ่ึงเปน็ แหล่งผลิตอาหารทสี่ ำ�คัญ โดยมที ั้ง ร่ัวไหลของนำ้ �มันดิบจากท่อส่งนำ้ �มันของบริษัท PTTCG เมื่อเดือน ฟารม์ ปศสุ ตั ว์ นาขา้ ว การปลูกผัก รวมถึงปลกู มะมว่ งท่สี ง่ ขายทั้งใน กรกฎาคม 2556 ที่ผา่ นมา และทำ�ให้บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ประเทศและต่างประเทศ ปนเป้อื นนำ้ �มนั ดบิ No.25 December 2013 Green Research 13
ติดตามเฝา้ ระวัง สมพรเสนอว่า ถงึ เวลาท่ีประเทศไทยต้องทบทวนแนวทาง ข้อมูลพื้นทป่ี นเป้อื นสารพิษในประเทศไทย การพฒั นา เพราะสง่ิ ทีเ่ กดิ ขน้ึ ไม่ใช่แค่ปัญหาการปนเปอ้ื นสารพิษใน สิ่งแวดลอ้ ม แต่หมายถงึ ความเจบ็ ปว่ ย ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึน้ อนั นิคมอุตสาหกรรมลำ�พนู เรม่ิ ตั้งเมือ่ ปี 2526 โดยมโี รงงานผลิตชิน้ เน่ืองมาจากความไม่เป็นธรรมในโครงการพัฒนาต่างๆ แน่นอนว่า สว่ นอเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ขา้ มาเปดิ ดำ�เนนิ กจิ การ หลงั จากนนั้ ไมน่ านกเ็ กดิ ประเทศไทยไมส่ ามารถยอ้ นเวลากลบั ไปสอู่ ดตี ทเ่ี ปน็ สงั คเกษตรกรรม ปัญหาโลหะหนกั อย่างตะก่วั ทองแดง สงั กะสี ปนเปอ้ื นในดินและ ได้ แตก่ ็สามารถใช้บทเรยี นท่ีผ่านมาบวกกบั งานวิจัยและการพฒั นา แหลง่ นำ้ �ใตด้ นิ และตามมาดว้ ยความเจบ็ ปว่ ยของผคู้ น ทง้ั โรคภมู แิ พ้ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม ในการทำ�ให้ประเทศเดินไปบนเส้นทางการ โรคทางเดินหายใจ และบางรายเสยี ชวี ิตโดยไม่ทราบสาเหตุ พฒั นาท่ียง่ั ยนื ตำ�บลแมต่ าว จงั หวดั ตาก ปี 2547 สถาบนั การจดั การนำ้ �นานาชาติ นอกจากนี้ การบังคับใชก้ ตกิ าผงั เมอื งหรอื จัดโซนนิ่งการใช้ (IWMI) ได้ตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนแคดเมียมปริมาณสูงท้ังในดิน ประโยชน์ที่ดินกม็ ีสว่ นสำ�คัญ เชน่ กนั สมพรกล่าววา่ ประเทศไทยมี น้ำ� และเมล็ดข้าวที่ปลูกในพื้นท่ีตำ�บลแม่ตาว ซ่ึงพ้ืนท่ีปนเป้ือน ขนาดเล็กนิดเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องทบทวนว่าพ้ืนท่ีอาหารจริงๆ ต้ังอยู่ใกล้กับเหมืองแร่และโรงงานถลุงสังกะสีของบริษัท ผาแดง เหลือเท่าไหร่ แล้วท่ีเหลืออยู่นี้เพียงพอสำ�หรับการผลิตอาหารเลี้ยง อินดัสเตรียล จำ�กัด รัฐบาลแก้ปัญหาข้าวปนเป้ือนด้วยการให้เผา คนทง้ั ประเทศหรอื เปลา่ โดยตอ้ งพจิ ารณาถงึ ปญั หาการขยายตวั ของ และฝังกลบ พร้อมแนะใหช้ าวบ้านหนั ไปปลูกออ้ ยแทน แต่กไ็ มไ่ ดผ้ ล ที่อยู่อาศัยและการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เข้าไปเบียดบังพื้นที่ เน่ืองจากพืน้ ทลี่ ุ่มนำ้ �แม่ตาวเหมาะแกก่ ารปลูกขา้ วมากกวา่ อยา่ งไร อาหาร เนอ่ื งจากทผี่ า่ นมาขาดการมองภาพรวมของทงั้ ประเทศวา่ เรา กต็ ามเม่ือเดือนสงิ หาคมท่ผี ่านมาศาลปกครองไดม้ ีคำ�พพิ ากษาให้ มพี ื้นทีท่ ี่ ศักยภาพในการผลติ อาหารเหลือเท่าไหร่ และจะคุ้มครอง พนื้ ที่ ดังกล่าวเปน็ เขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พ้ืนที่เหลา่ นั้นไม่ใหอ้ ุตสาหกรรมเข้าไปทำ�ลายไดอ้ ยา่ งไร ตำ�บลวงั สะพงุ จงั หวดั เลย ใน ปี 2551 กรมควบคมุ มลพษิ กระทรวง “สังคมไทยต้องเห็นปัญหาร่วมกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มได้เขา้ ตรวจสอบคณุ ภาพนำ้ �รอบ เปล่ียนแปลง เพราะหากเดินไปบนเส้นทางเดิมก็เห็นแล้วว่าถึงที่สุด เหมืองแร่ทองคำ�ของ บริษทั ทงุ่ คำ� จำ�กัด ภายหลงั ท่ีเหมืองแร่เปิด กค็ งจะไปไม่รอด” สมพรย้ำ�ถงึ ความสำ�คญั ของปัญหา ดำ�เนินกิจการมาได้ 2 ปี ผลการตรวจสอบพบสารพษิ เชน่ สารหนู แมงกานีส และแคดเมียมในระบบประปา นอกจากนย้ี งั พบว่า ชาว บา้ นบางรายมีอาการเจ็บปว่ ย เม่อื ตรวจเลือดก็พบวา่ มสี ารไซยาไนด์ สงู เกินค่ามาตรฐาน อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการยงั คงมคี วามพยายาม จะขอขยายพน้ื ทท่ี ำ�เหมอื งเพม่ิ แตก่ ถ็ กู ชาวบา้ นในพน้ื ทค่ี ดั คา้ นเรอ่ื ยมา ตำ�บลกลางดง อำ�เภอปากชอ่ ง จังหวดั นครราชสีมา เมอ่ื ปี 2547 มีข่าวการลักลอบทิ้งขยะอันตรายจำ�นวนกว่าหลายพันตัน ซึ่งขยะ เหลา่ นเ้ี ปน็ ขยะอตุ สาหกรรมทม่ี าจากจงั หวดั ระยอง โดยผลู้ กั ลอบทง้ิ คือ บริษัทที่รับกำ�จัดกากของเสีย จากการตรวจสอบพบว่ามีการ ปนเปอื้ น TEC (ไตรคอลโรเอทธลิ นี ) และ PEC (เตตระคลอโรเอทธลิ นี ) อำ�เภอท่าตมู จงั หวัดสรุ นิ ทร์ ปลาย ปี 2555 มีการลกั ลอบทง้ิ ขยะ ติดเชอื้ ทางการแพทย์ เช่น ขวดนำ้ �เกลือ เข็มฉดี ยา ถุงบรรจเุ ลือด โดยทิ้งไว้ในป่าใกล้กับร่องนำ้ �ธรรมชาติ ซึ่งถึงขณะน้ีก็ยังต้องรอการ ประเมนิ ผลการปนเปื้อน ตำ�บลเขาเจด็ ลกู อำ�เภอทบั คลอ้ จงั หวดั พจิ ติ ร บรษิ ทั อคั ราไมนง่ิ จำ�กดั ไดร้ บั ประทานบตั รอนญุ าตใหท้ ำ�เหมอื งแรท่ องคำ�เฟสแรกในปี 2543 ซึ่งเหมืองนัน้ ตั้งอยู่ไมไ่ กลจากบรเิ วณชมุ ชน ชาวบ้านก็ประสบ ปญั หาฝนุ่ ละออง เสยี งรบกวน และนำ้ �ทไ่ี มเ่ พยี งพอสำ�หรบั การทำ�การ เกษตร ไปจนถงึ มโี ลหะหนกั เช่น สารหนู ปรอท ไซยาไนด์ ปนเป้ือน ในแหล่งนำ้ � ทำ�ใหห้ ลายคนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคผวิ หนงั 14 Green Research No.25 December 2013
หมบู่ า้ นคลติ ล้ี า่ ง จงั หวดั กาญจนบรุ ี เปน็ ขา่ วโดง่ ดงั ในปี 2541 เมอ่ื ที่เต็มไปด้วยสารหนูท้ังในดินและแหล่งนำ้ � ซึ่งบางแห่งมีปริมาณสูง โรงแต่งแร่ตะกั่วปล่อยนำ้ �เสียลงสูล่ ำ�หว้ ย ทำ�ใหช้ าวบา้ นเจ็บปว่ ย แม้ กว่ามาตรฐานความปลอดภยั ถึง 50 เทา่ และจากแบบจำ�ลองทาง แหล่งกำ�เนิดมลพษิ จะหยุดดำ�เนินการไปแลว้ แต่กย็ งั คงมสี ารตะกัว่ คณติ ศาสตร์ช้วี ่าถา้ ไม่มีการแกไ้ ข ในอีก 50 ปี ข้างหน้าสารหนจู ะ ตกค้างในตะกอนดินและสัตว์น้ำ� ล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำ� กระจายไปทวั่ พน้ื ท่ที ง้ั อำ�เภอ พิพากษา (เมอ่ื วนั ที1่ 0 มกราคม 2556) ให้กรมควบคมุ มลพิษ (คพ.) เขา้ ฟน้ื ฟูลำ�ห้วย พร้อมชดใช้ค่าเสยี หายแก่ชาวบา้ น แตจ่ นถงึ ขณะนี้ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดระยอง กย็ งั ไมม่ ีความชดั เจนจาก คพ. วา่ จะใชว้ ิธกี ารใดในการฟ้นื ฟลู ำ�หว้ ย ผลจากโครงการอสี เทริ น์ ซบี อรด์ ไดแ้ ปรสภาพมาบตาพดุ และพนื้ ทใี่ กล้ ทำ�ให้วันนชี้ าวบ้านยงั ไม่สามารถใช้น้ำ�ในลำ�หว้ ยได้ตามปกติ เคยี งใหก้ ลายเปน็ แหลง่ ทตี่ ง้ั นคิ มอตุ สาหกรรม วนั นสี้ งิ่ ทชี่ าวมาบตาพดุ และผทู้ อี่ าศยั อยใู่ นพน้ื ทตี่ อ้ งเผชญิ คอื การปน เปอ้ื นสารพษิ ทงั้ ในดนิ อำ�เภออรญั ประเทศ จงั หวดั สระแกว้ เมอื่ ตน้ ปี 2556 มกี ารลกั ลอบ นำ้ � และอากาศ จนเม่ือปี 2552 มีการประกาศให้มาบตาพุดเป็น ทงิ้ รองเทา้ มอื สองนบั ลา้ นคู่ ซงึ่ เปน็ รองเทา้ ทเี่ หลอื จากการคดั แยกเพอื่ เขตควบคุมมลพิษ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษหรือควบคุม ขาย โดยท่ีในแตล่ ะวนั มกี ารนำ�เข้ารองเทา้ เก่าจากท่วั โลกมากหลาย คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มได้ สิบตัน และขณะนี้ยังต้องรอการประเมินผลการปนเปื้อน อ่าวพรา้ ว เกาะเสมด็ จงั หวัดระยอง เมอ่ื วนั ที่ 27 กรกฎาคม 2556 รา้ นรบั ซอื้ ของเกา่ พระประแดง ตน้ ปี 2543 เกดิ เหตสุ ารกมั มนั ตรงั สี ทผ่ี า่ นมา เกดิ กรณนี ้ำ�มนั ดบิ จากทอ่ สง่ น้ำ�มนั ของบรษิ ทั PTTCG รวั่ ไหล โคบอลต์ 60 รัว่ ไหล เน่ืองจากมซี าเล้งยา่ นพระประแดงเข้าไปขโมย ในทะเลเป็นวงกว้าง โดยนำ้ �มันดิบบางส่วนถูกคล่ืนพัดเข้าสู่หาด แทง่ วตั ถอุ นั ตรายทว่ี างทง้ิ ไวใ้ น บรษิ ทั กมล สโุ กศล อเิ ลคทรคิ จำ�กดั พรา้ วจนชายหาดเปอ้ื นไปด้วยคราบนำ้ �มันสดี ำ� อยา่ งไรก็ตามแมจ้ ะ ภายหลงั เมอ่ื นำ�ไปแยกชนิ้ สว่ น ปรากฏวา่ มสี ารกมั มนั ตรงั สแี ผก่ ระจาย มกี ารเกบ็ คราบนำ้ �มันหมดแล้ว แตก่ ย็ ังต้องมกี ารเผา้ ระวงั ผลกระทบ ทำ�ให้ซาเล้งและเจ้าของร้านรับซ้ือของเก่าเสียชีวิต ผู้ที่อยู่ในบริเวณ ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบนิเวศต่อไป ทั้งในทะเลและบริเวณชายหาดท่ี ใกล้เคียงท่ีได้รับรังสี บางรายต้องสูญเสียอวัยวะ ขณะที่บางราย ได้รบั ผลกระทบ ก็มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ด้านสำ�นักงานปรมาณูเพ่ือ สนั ติ (พปส.) ถกู ศาลปกครองพพิ ากษาว่ามีความผิดฐานละเลยการ มกี ารลกั ลอบน�ำ ขยะพษิ น�ำ้ เสยี และกากอตุ สาหกรรม ปฏบิ ัติหน้าที่ ฐานไม่มีการตรวจสอบและควบคมุ ท่รี ดั กมุ เพียงพอจน มาท้ิงจำ�นวนมาก เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งของ เกดิ การสญู เสยี ร้ายแรง นคิ มอตุ สาหกรรม อกี ทง้ั โรงงานรบั รไี ซเคลิ ก�ำ จดั ขยะ 40 พน้ื ท่ี ภาคตะวนั ออก ในจังหวัดระยอง ชลบรุ ี สมทุ รปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี รวมถึงกรุงเทพฯ มีการลักลอบนำ�ขยะพิษ และบำ�บัดของเสียหลายแห่งที่มาตั้งอยู่ในพ้ืนที่ขาด น้ำ�เสีย และกากอุตสาหกรรมมาท้ิงจำ�นวนมาก เพราะอยู่ไม่ไกล การจดั การท่ไี ดม้ าตรฐาน จากทีต่ งั้ ของนิคมอุตสาหกรรม อกี ทง้ั โรงงานรับรีไซเคลิ กำ�จดั ขยะ อา้ งองิ และบำ�บัดของเสียหลายแห่งที่มาตั้งอยู่ในพื้นที่ขาดการจัดการทไี่ ด้ http://www.greenworld.or.th/greenworld/local/2311 มาตรฐาน สิ่งที่ชาวบ้านต้องเผชิญนอกจากจะมาในรูปของกลิ่น เหม็นแล้ว ยงั มผี ลกระทบไปถึงสขุ ภาพและส่งิ แวดล้อมอกี ดว้ ย สนามบนิ บ่อฝ้าย จงั หวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ เมื่อปี 2542 ระหวา่ ง การปรับปรุงสนามบินบ่อฝ้าย รถแบ็กโฮได้ขุดไปกระทบถังสารเคมี ท่ีฝังอยู่ใต้ดิน จนเกิดการรั่วไหลและส่งกล่ินเหม็น สันนิษฐานว่า สารเคมีดังกล่าว คอื เอเย่นต์ ออเร้นจ์ ซึ่งเป็นสารเคมอี นั ตรายชนิด เดียวกับที่ใช้ในสงครามเวียดนาม เร่ืองนี้จบลงตรงท่ีมีการฝังกลบ สารเคมไี วบ้ รเิ วณเดมิ โดยมกี ารเฝา้ ระวงั ดว้ ยการเกบ็ ตวั อยา่ งดนิ เพอ่ื ตรวจสอบตดิ ต่อกนั 10 ปี อําเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช กากข้ีแร่ท่ีถูกทิ้งไว้ หลงั ยคุ ดบี กุ บมู ชว่ งปี 2520 – 2528 ทำ�ใหร้ อ่ นพบิ ลู ยก์ ลายเปน็ พน้ื ที่ No.25 December 2013 Green Research 15
ตดิ ตามเฝา้ ระวัง ผลพวงจากทวี ีอะนาลอ็ กเปน็ ทีวีดจิ ทิ ลั พีรพงษ์ สุนทรเดชะ นักวชิ าการส่งิ แวดล้อม ศูนยว์ ิจยั และฝกึ อบรมด้านส่งิ แวดล้อม สารอันตรายปนอยู่เป็นจำ�นวนมาก อาทิเช่น ความเปน็ มา สารตะก่ัวในแผงวงจร สารปรอทในจอภาพ ส�ำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กลมุ่ สารพอลสิ ไตรนี จากพลาสตกิ ทที่ ำ�โครงทวี ี และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาตหิ รอื กสทช. มยี ทุ ธศาสตรก์ ารเปลย่ี นผา่ น สารเหลา่ นี้เปน็ สารทมี่ พี ษิ ตอ่ สง่ิ มีชวี ิต จากระบบรบั สง่ สญั ญาณอะนาล็อกไปสรู่ ะบบการรบั สง่ สัญญาณแบบ ดจิ ิทลั ภายใน 5 ปี ดังแสดงในรูปที่ 1 รปู ท่ี 1 Digital Roadmap 2555-2559 ทม่ี า : http://xn--82cxef7ei9bzcbfb.xn--o3cw4h/ ซง่ึ กสทช. กำ� หนดใหร้ ะบบการรบั สง่ สญั ญาณดจิ ทิ ลั จะเรม่ิ ออก อากาศเป็นคร้งั แรกในวนั ที่ 5 ธนั วาคม 2556 และเดอื นมกราคม 2558 กสทช. จะเรม่ิ กระบวนการยตุ กิ ารรบั สง่ สญั ญาณทวี รี ะบบอะนาลอ็ ก (Analog Switch Off) นน้ั หมายความวา่ ทวี แี บบเกา่ จะรบั สญั ญาณไมไ่ ด้ กสทช. ได้ กำ� หนดทางเลอื กใหก้ บั ประชาชนไว้ 2 วิธีการ วิธกี ารท่ี 1 ติดตั้งอุปกรณ์รับสญั ญาณ “Set Top Box” เพมิ่ เขา้ มา ซง่ึ “Set Top Box” จะทำ� หน้าทีแ่ ปลงสญั ญาณดจิ ิทัลเปน็ สญั ญาณ อะนาล็อกก็สามารถรบั ชมได้ วธิ ีการที่ 2 ซื้อทวี รี ุ่นใหมๆ่ ทรี่ องรับสัญญาณดจิ ิทลั DVB-T2 16 Green Research No.25 December 2013
ผลกระทบ จากจ�ำนวนทีวีไม่ต่�ำกว่า 22 ล้านเครื่องที่รองรับระบบ อะนาล็อก บางส่วนก็ติดต้ังอุปกรณ์รับสัญญาณ “Set Top Box” เพ่ิมเข้ามาบางสว่ นกเ็ ปลีย่ นทวี ีใหมท่ ร่ี องรบั กับระบบดิจิทลั ประเด็น ทส่ี ำ� คญั อยตู่ รงทที่ วี ที ไ่ี มใ่ ชแ้ ลว้ จะไปไหน ปญั หาขยะอเิ ลคทรอนคิ จาก ทีวีจะเป็นปัญหาท่ีเกิดข้ึนในอนาคตอย่างแน่นอน และปัญหาหน่ึงที่ เกิดจากขยะทีวี คือ สารพิษท่ีปะปนอยู่ในทีวีจะออกมาปนเปื้อนใน สิ่งแวดลอ้ มในมิติ อากาศ ดิน น�้ำและนำ�้ ใตด้ นิ อยา่ งน่ากังวล ทีม่ า : http://window2nature.wordpress.com/ ส่วนประกอบของทีวีมีสารอันตรายปนอยู่เป็นจ�ำนวนมาก สรปุ อาทิเช่น สารตะก่ัวในแผงวงจร สารปรอทในจอภาพ กลุ่มสาร นา่ เปน็ ห่วงอยา่ งยิ่งกับปรมิ าณขยะทีวี 20 ลา้ นเคร่อื งทจ่ี ะ พอล์สไตรีนจากพลาสตกิ ทท่ี �ำโครงทวี ี สารเหล่าน้ีเป็นสารทมี่ พี ิษต่อ เกดิ ขนึ้ อกี ไมน่ าน หวงั วา่ หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งจะมแี ผนจดั การกบั ขยะ สิ่งมีชีวิต โดยที่ พิษของสารตะก่ัว จะท�ำให้เกิดอาการโลหิตจาง ทีวีที่มากมายได้อย่างเบ็ดเสร็จ มิฉะนั้นปัญหามลพิษจากขยะทีวี (Anaemia) กระดกู ผุ อาการพษิ ทางประสาท และสมอง ทำ� ใหท้ รงตวั จะเกดิ ข้นึ อยา่ งแน่นอน ไมอ่ ยู่ เกิดอาการประสาทหลอน ซมึ ไมร่ สู้ กึ ตวั ชกั มือและเท้าตก เป็นอัมพาต และเดก็ ทีเ่ กิดจากผูท้ ี่ได้รับสารตะก่ัว ส่วนใหญ่จะเปน็ โรคภาวะปัญญาออ่ น พษิ ของสารปรอท เมื่อเขา้ สรู่ า่ งกายจะไปทำ� เอกสารอา้ งองิ http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_txR_search.asp?info_id=41 อนั ตรายต่อระบบประสาทสว่ นกลาง ซึง่ ได้แก่ สมอง และไขสันหลงั http://window2nature.wordpress.com/ ท�ำให้เสียการควบคุมเก่ียวกับการเคล่ือนไหวของแขน ขา การพูด http://xn--82cxef7ei9bzcbfb.xn--o3cw4h และยังท�ำให้ระบบประสาทรับความรสู้ กึ เสียไป เชน่ การไดย้ ิน การ มองเห็น ซงึ่ อนั ตรายเหลา่ น้ี เม่อื เปน็ แลว้ ไม่สามารถรักษาใหก้ ลบั ดี ดั่งเดิมได้ อาการที่เป็นพิษมากเกิดจากการหายใจ ปอดอักเสบ มี อาการเจ็บหน้าอก มีไข้ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกและตายได้ พิษของสไตรีน เม่ือเข้าสู่ร่างกายจะมีผลต่อระบบประสาทเม็ดเลือด แดง และตับไต No.25 December 2013 Green Research 17
ก้าวหนา้ พัฒนา แนะนำ�หอ้ งสมุด กรมสง่ เสริมคณุ ภาพสิง่ แวดล้อม กำ� ไล ลม่ิ สอน บรรณารกั ษช์ ำ� นาญการ ศูนยส์ ารสนเทศสงิ่ แวดล้อม ณญั ธิกานต์ ทะเสนฮด นกั วชิ าการส่งิ แวดลอ้ ม ศูนยว์ จิ ยั และฝึกอบรมด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ห้องสมุดกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เป็นห้องสมุดด้านสิ่งแวดล้อมท่ีท�ำหน้าที่เป็นห้องสมุดและหน่วยงานกลาง ในการจัดเก็บ รวบรวม จัดระบบการจัดเก็บด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้บริการข้อมูล สารสนเทศ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั สาขาวชิ าทเี่ กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื ประโยชน์ ในการศกึ ษา คน้ ควา้ วจิ ยั งานวชิ าการดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ ทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม โดย คำ� นงึ ถงึ ผลประโยชนใ์ นการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหบ้ คุ ลากร นสิ ติ นกั ศกึ ษา นกั วชิ าการ ผมู้ สี ว่ นได้ ส่วนเสียและประชาชนท่ัวไปสามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ�ำวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเกดิ ประสิทธิผล บรกิ ารห้องสมดุ กรมส่งเสรมิ คณุ ภาพสงิ่ แวดล้อม 1. บรกิ ารขอ้ มลู ขอ้ สนเทศดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มดว้ ยเทคโนโลยตี า่ งๆ ในฐานะศนู ย์บริการข้อมูลขอ้ สนเทศด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม 2. บริการงานวิชาการช่วยในการส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัย พัฒนา ถ่ายทอด ส่งเสริมเทคโนโลยีและการจดั การดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม 3. บรกิ ารเผยแพรแ่ ละประชาสมั พนั ธง์ านดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม รวมถึงสาขาวชิ าที่เกี่ยวข้อง 4. บรกิ ารสอื่ สารและกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การด�ำเนนิ งานและการสรา้ งจติ ส�ำนกึ ให้บริหารจัดการงานด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืนในฐานะศูนย์บริการ ประชาชน ห้องสมุดกรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อมมีความต้ังใจจริงเป็นอย่างยิ่งในการ พัฒนารูปแบบและบริการให้ทันสมัยและเป็นมิตรกับประชาชนผู้เข้าใช้บริการของห้องสมุด ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ท้ังในเชิงให้ความรู้วิชาการ สอดแทรกความรู้ในรูปแบบง่ายๆ สบายๆ แต่แฝงไว้ด้วยความรู้วิชาการเพ่ือประโยชน์ในการพักผ่อนหย่อนใจและง่ายในการ เขา้ ถงึ ขอ้ มูลของผใู้ ช้บริการ เชน่ 18 Green Research No.25 December 2013
งานแจกรางวลั ผใู้ ชห้ ้องสมดุ ดเี ดน่ และกิจกรรมวันครสิ ต์มาส กจิ กรรมวนั เดก็ แหง่ ชาติ เชิญผ้ทู รงคณุ วฒุ ิมาเล่าประสบการณ์ และ เชญิ เจา้ ของหรือนักเขียนมาเปิดตวั หนงั สอื เชิญพม่ี าเลา่ เรือ่ งสอนน้อง KM มกี ารแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ บริการสังคม ตักบาตรหนงั สอื ทอ้ งสนามหลวง No.25 December 2013 Green Research 19
ก้าวหนา้ พัฒนา บูรณาการงานร่วมกับหนว่ ยงานท้ังภายในและภายนอก ทงั้ ยงั รว่ มจดั กจิ กรรมตา่ งๆ รว่ มกบั เครอื ขา่ ยจนเปน็ ทย่ี อมรบั ของบรรดาเพอื่ นรว่ มอาชพี ทงั้ หลาย รปู แบบของบริการห้องสมุดถกู แบ่งออกเปน็ 2 สว่ นดว้ ยกันคอื 1. บริการแบบตั้งรับอยู่กับบ้านในรูปของ ” One Stop Service” ด้วยรูปแบบของการให้บริการ ณ จุดเดียว ที่ศูนย์บริการ ประชาชน กรมสง่ เสริมคณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ มกบั ผู้ใช้บรกิ ารทีเ่ ดนิ ทางมารับบริการ ณ หอ้ งสมุด 2. บริการสารสนเทศเคลอื่ นท่ี โดยความรว่ มมือกับเครอื ขา่ ยทง้ั ภายในและภายนอกและผ้ใู ช้บริการ ในโลกของสังคมยุคไฮเทค โลกแห่งเทคโนโลยี ห้องสมุดได้พัฒนารูปแบบของสื่อสารสนเทศด้านสิ่งแวดล้อมของกรมเป็นแบบ สื่อดจิ ติ อลโดยสามารถใหบ้ รกิ ารผา่ นระบบ Intranet และระบบ Internet พร้อมให้บริการแบบไม่จำ� กัดเวลาและสถานท่ี หอ้ งสมดุ กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม ตงั้ อยบู่ รเิ วณ ชนั้ 2 อาคารกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม เลขที่ 49 ซ.พระรามหก 30 ถ.พระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ : 02-2788420 โทรสาร : 02-2985605 เว็บไซต์ : http://library. deqp.go.th อเี มล์ : [email protected] 20 Green Research No.25 December 2013
กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม นอกจากห้องสมุดท่ีตั้งอยู่ในส่วนกลางแล้ว กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม ยงั มหี อ้ งสมดุ อกี หนง่ึ แหง่ ทอ่ี ยใู่ น ยังมีห้องสมุดอีกหนึ่งแห่งซึ่งต้ังอยู่ที่ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ท�ำหน้าท่ีเป็น สงั กดั ซง่ึ ท�ำ หนา้ ทเ่ี ปน็ หนว่ ยงาน หน่วยงานส่งเสริม สนับสนุนการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยดี า้ นสง่ิ แวดลอ้ ม และเปน็ ส่งเสริม สนับสนุน การศึกษา หอ้ งสมดุ เฉพาะทางทรี่ วบรวมทรพั ยากรสารสนเทศ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านสิ่ง และสาขาวิชาท่ีเกี่ยวข้อง โดยมุ่งพัฒนาห้องสมุดให้เป็นคลังข้อมูลด้านการวิจัยและพัฒนา แวดลอ้ ม และเปน็ หอ้ งสมดุ เฉพาะ เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ทางทร่ี วบรวมทรพั ยากรสารสนเทศ ในการศึกษาวจิ ัย พัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีดา้ นสิง่ แวดล้อม โดยเปิดโอกาสใหน้ ักวิจยั ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และ นักวิชาการ นสิ ิต นักศกึ ษา และประชาชนท่วั ไป สามารถเข้ามาใช้บริการห้องสมุดได้ สง่ิ แวดล้อม บรกิ ารหอ้ งสมดุ ศูนยว์ ิจยั และฝึกอบรมด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ห้องสมุดศนู ย์วิจัยและฝกึ อบรมดา้ นสิง่ แวดล้อม ให้บริการทรัพยากรสารสนเทศ ต่างๆ เช่น หนังสือด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีส่ิงแวดล้อม และวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม รายงานผลงานวิจยั เอกสารประกอบการฝกึ อบรมด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อม วารสาร/นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการเก็บรวบรวม ค้นหาและเรียกใช้ข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศ เพื่ออ�ำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการให้ สามารถสืบค้นขอ้ มลู ได้อยา่ งรวดเรว็ ปัจจุบันห้องสมุดศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม มีทรัพยากรสารสนเทศ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษใหบ้ รกิ ารกว่า 8,000 รายการ ไวบ้ ริการผู้ใช้ เช่น • การประเมนิ ผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มขั้นสูง • การประเมนิ ผลกระทบต่อสขุ ภาพ • การประเมนิ ความเสี่ยงทางสุขภาพ • กลางใจราษฎร์ : หกทศวรรษแหง่ การทรงงาน • Methods of Dendrochronology : Applications in the Environmental Science • In Situ Remediation Engineering • In Situ Chemical Oxidation For Groundwater Remediation • Groundwater Treatment Technology หอ้ งสมดุ ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ตงั้ อยู่ ชน้ั 1 อาคารศนู ยว์ จิ ยั และ ฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม เทคโนธานี ต. คลองหา้ อ. คลองหลวง จ. ปทมุ ธานี 12120 โทรศพั ท์ : 02-5774182-5 ต่อ 1300, 1121 โทรสาร : 02-5774182-5 ต่อ 1121 No.25 December 2013 Green Research 21
กา้ วหนา้ พัฒนา การบริการทเ่ี ป็นมติ รกบั ส่ิงแวดลอ้ ม (Eco-services: ES) รฐั เรืองโชตวิ ทิ ย์ นักวชิ าการส่งิ แวดล้อมชำ� นาญการพิเศษ ศูนย์วจิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นส่ิงแวดล้อม การใช้ประโยชน์ การใช้บริการ การบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เป็นสากลโดยองค์กรเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย ภายนอก การบริการในการ (APO) ได้แบ่ง เป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่ ความสัมพันธ์การบริการกับการผลิตต้ังแต่การ จดั การขยะการจดั การสารพษิ และ จดั การ การปรบั ปรงุ และการซอ่ มแซม การใชป้ ระโยชน์ การใชบ้ รกิ ารภายนอก การบรกิ ารใน การให้การปรึกษา ระบบข้อมูล การจดั การขยะ การจดั การสารพษิ และการใหก้ ารปรกึ ษา ระบบขอ้ มลู ซงึ่ จากนยิ ามของการ ซ่ึงจากนิยามของการจัดการ จัดการส่ิงแวดล้อมท่ีดีในภาคบริการ จากความสัมพันธ์การบริการกับการจัดการที่ต้นทางสู่ ส่ิงแวดล้อมที่ดีในภาคบริการคือ ปลายทาง การจดั การส่ิงแวดลอ้ มทด่ี ใี นภาคบริการ คือ การปรบั ปรุงเทคโนโลยี แนวทางใน การปรับปรุงเทคโนโลยี แนวทาง การใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ การจดั การดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม กลไกการเงนิ ทสี่ ง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การลดผลกระทบ ในการใช้ผลิตภัณฑ์ การจัก ตอ่ สิ่งแวดล้อม (financial products) รวมถึงการใช้รถยนต์รว่ มกนั เชน่ การท่คี น 5 คนมาใช้ การด้านสิ่งแวดล้อม กลไกการ รถยนต์ร่วมกันแทนท่ีจะต่างคนต่างขับรถยนต์ของตัวเองไป ซ่ึงจะช่วยลดจ�ำนวนรถยนต์ใน เงินที่ส่งเสริมให้เกิดการลดผล ทอ้ งถนนและนำ� ไปสกู่ ารลดผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มของการเดนิ ทางได ้ อกี ตวั อยา่ งหนงึ่ ของ กระทบต่อสงิ่ แวดล้อม การบรกิ ารทเี่ ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ การบ�ำรงุ รกั ษาและอพั เกรดอปุ กรณห์ รอื ผลติ ภณั ฑ์ เพอ่ื ทจี่ ะใหส้ ามารถใชง้ านไดย้ าวนานขน้ึ นอกจากนยี้ งั รวมถงึ กองทนุ eco-funds ซงึ่ การลงทนุ ถูกท�ำโดยบริษัทที่มีการดูและรักษาส่ิงแวดล้อมดีเยี่ยม การพัฒนาเทคโนโลยีของการ ป้องกัน สงิ่ แวดลอ้ มโดยทวั่ ไปตอ้ งอาศยั ทง้ั เงนิ และเวลา แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม อาศยั เพยี งการมไี อเดยี ทด่ี ี ในการส่งเสริมให้เกิดการลดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม จ�ำเป็นต้องเป็นที่รู้จักแพร่หลายใน ผบู้ รโิ ภคแตร่ ะบบของการบรกิ ารควรถกู พฒั นา เพอื่ ทจ่ี ะสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การแพรก่ ระจายเขา้ ไป ในสงั คมและสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การลดผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อมต่อไป การบรกิ ารทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ตอ้ งไดร้ บั การรวบรวมจดั ท�ำเปน็ ฐานขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ระบบและเผยแพรใ่ นวงกวา้ ง การบรกิ ารทเี่ ปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ มสว่ นใหญจ่ ะไดร้ บั การรบั รอง ผ่านทางระบบฉลากส่ิงแวดล้อมเพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารข้อมูลด้านส่ิงแวดล้อมให้กับ 22 Green Research No.25 December 2013
ผบู้ รโิ ภคหรอื ภาคธรุ กจิ อนื่ ๆ ซงึ่ ผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ด้ จึงได้มีการจัดพ้ืนที่ให้ความส�ำคัญประเภท รับฉลากสิ่งแวดล้อมก็จะสอดคล้องกับข้อ ของการบรกิ ารตา่ งๆ ไวเ้ ปน็ ลกั ษณะตามพน้ื ที่ ก�ำหนดหรือมาตรฐานที่ก�ำหนดข้ึนมาโดย ในท่ีน้ขี อเสนอ 3 พน้ื ท่ี แต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาค หรือแต่ละ องค์กร ในส่วนของมาตรฐาน ISO ได้แบ่ง 1 . ก า ร บ ริ ก า ร ท่ี มี ค ว า ม เ ป ็ น มิ ต ร กั บ การบรกิ ารในพน้ื ทอ่ี นรุ กั ษ์ ความ ประเภทของฉลากสิ่งแวดล้อมไว้ 3 ประเภท ส่ิงแวดล้อมในพื้นท่ีอนุรักษ์หรือพื้นที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้อง ไดแ้ ก่ ฉลากประเภทท่ี 1 คอื การรับรองโดยที่ เฉพาะ มีการค้นหาปัญหาส่ิงแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ต้องสอดคล้องกับข้อก�ำหนดซึ่ง การบริการในพื้นท่ีเฉพาะหรือพ้ืนท่ี และกำ�หนดจุดสนใจในภาวะ ก�ำหนดโดยภาครัฐหรือ third party ฉลาก อนรุ ักษ์ ความเป็นมติ รตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม ต้องมี การเปลี่ยนแปลงต่างๆ การใช้ ประเภทที่ 2 เป็นการรับรองตนเองด้าน การค้นหาปัญหาสิ่งแวดล้อมและก�ำหนดจุด ทรัพยากรในพื้นท่ี และปัญหา สิ่งแวดล้อมโดยผู้ผลิตเอง และประเภทที่ 3 สนใจในภาวะการเปลยี่ นแปลงตา่ งๆ การใช้ มลพิษทเี่ กิดขึ้น เป็นการเปิดเผยข้อมูลเชิงปริมาณของ ทรพั ยากรในพนื้ ที่ และปญั หามลพษิ ทเี่ กดิ ขน้ึ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ นอก การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นท่ีใน เหนือจากผลิตภัณฑ์ท่ีได้รับฉลากด้านสิ่ง สว่ นของการแบง่ ประเภทในหมวดนจี้ ะชว่ ยให้ แวดล้อมแล้ว ผลิตภัณฑ์หรือการด�ำเนินกา ผู้บริโภคเข้าใจว่าบริการนั้นมีความเป็นมิตร รอื่นๆ เพ่ือส่งเสริมให้เกิดความตระหนักด้าน กับส่ิงแวดล้อมในประเด็นปัญหาเรื่องอะไร สงิ่ แวดลอ้ มของผบู้ รโิ ภค รวมถงึ การสรา้ งฐาน โดยทจี่ ดุ สนใจหลกั จะอยทู่ เี่ รอ่ื งภาวะโลกรอ้ น ขอ้ มูลเพอ่ื ใหผ้ ลิตภณั ฑ์สามารถประเมนิ และ และการใช้ทรัพยากร นอกจากน้ียังรวมถึง รับรองตนเองได้ก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น ประเด็นส่ิงแวดล้อมด้านปัญหามลพิษ มิตรกบั สิ่งแวดลอ้ มด้วย (อากาศ, น้�ำ, ดิน) ซ่ึงเป็นปัญหาที่ส�ำคัญใน ในการรวบรวมการบริการที่เป็นมิตร การพัฒนาเศรษฐกิจ และรวมถึงในเรื่องการ ตอ่ สิง่ แวดลอ้ มไวใ้ นฐานขอ้ มูลของ APO น้ัน ก�ำจัดของเสีย ตอ้ งได้รบั การรบั รองโดย third party หรือได้ 2. การบริการที่มีความเป็นมิตรกับ รับการยอมรับจากคณะท�ำงานของ APO สง่ิ แวดลอ้ มในพื้นท่ีเมือง เท่านั้นจึงจะสามารถรวบรวมเข้าไว้ในฐาน โดยทั่วไปพื้นที่เมือง เป็นพื้นที่บริการ ข้อมูลได้ โดยที่ผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นการรับรอง ส�ำหรับการท่องเที่ยวที่เป็นที่พัก ส่ิงอ�ำนวย ตนเองโดยผผู้ ลติ (Eco label Type 2) นน้ั จะ ความสะดวก การบริโภค และการใช้บริการ ต้องแสดงเกณฑ์และหลักฐานท่ีใช้ในการ เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ท่องเท่ียว ซึ่งให้ความ รับรองตนเองที่ครบถ้วนให้กับทางคณะ สำ� คญั การบรกิ ารทเ่ี ปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มใน ท�ำงาน APO พิจารณาความครบถ้วนส่วน สถานบรกิ าร โรงแรม สถานบรกิ ารทัว่ ไปและ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีการรับรองแต่มีการ แหล่งชอปปิ้ง ท่ีต้องค�ำนึงการรองรับนักท่อง ประเมินด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เที่ยวปริมาณมาก ต้องมีส่ิงอ�ำนวยความ (Eco label type 3) ก็ต้องมีการถูกประเมิน สะดวกที่เพียงพอ โดยทั่วไปโรงแรมจะมี ตรวจสอบจากคณะท�ำงาน APO เพ่ือที่จะ มาตรฐานใบไมเ้ ขยี ว (Green leaf) เปน็ ตน้ ซง่ึ รบั รองใหส้ ามารถรวบรวมเขา้ ไวใ้ นฐานขอ้ มลู ได้ มีความเข้มงวด และมีมาตรฐานอ่ืนๆ ที่ เกี่ยวข้องตามระดับของการให้บริการ เช่น การจัดแบ่งหมวดหมู่ของฐานข้อมูลด้าน มาตรฐานโรงแรมสีเขียว มาตรฐานสินค้าที่ บริการทเี่ ป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น เพ่ือท่ีจะท�ำให้เกิดความเข้าใจที่ตรง กันของบริการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม No.25 December 2013 Green Research 23
ก้าวหนา้ พัฒนา 3. การบริการทีม่ ีความเปน็ มติ รต่อส่งิ แวดล้อมในพนื้ ทท่ี างธรรมชาติ ซง่ึ มกั จะเปน็ พน้ื ทเ่ี ฉพาะทมี่ คี วามสวยงามตามธรรมชาตหิ รอื แหลง่ ศลิ ปกรรมทสี่ ำ� คญั พ้ืนที่ทางธรรมชาติท้ังอุทยานแห่งชาติ เกาะแก่ง หรือสถานที่ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ บางแห่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก (World heritage) ที่มีเกณฑ์ในการพัฒนาพ้ืนท่ี เพ่ือการอนุรักษ์ การรักษาสภาพให้มีความคงทนและยืนยาว เพ่ือการสงวนไว้เป็นพ้ืนท่ีที่มี คณุ คา่ เป็นต้น บรกิ ารมีความเปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งไร? เป็นการจัดประเภทบริการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดการลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมท่ีได้กล่าวถึงในสถานท่ีต่างๆ ต้องมีการจัดประเภท และท�ำความเข้าใจอย่าง ชดั เจนเกยี่ วกบั มาตรการ เพอ่ื ชว่ ยลดผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทใี่ ชก้ นั อยใู่ นปจั จบุ นั เชน่ การ ประหยัดทรัพยากรสามารถทำ� ได้หลายแนวทาง เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการ และจัดการอย่างเหมาะสม การยืดอายุการใช้งานของสถานท่ีท่องเที่ยว การปรับปรุงความ สามารถในการรองรับนักท่องเท่ียวเป็นส่ิงจำ� เป็น เช่น การประเมินความจุของการท่องเท่ียว (capacity หรอื loading) ของพืน้ ท่ี เป็นตน้ 24 Green Research No.25 December 2013
การท่องเที่ยวในอนาคตต้อง พัฒนาอย่างต่อเนื่องจริงจัง แ ล ะ มี แ ผ น ก า ร พั ฒ น า อ ย่ า ง เหมาะสม มคี วามชดั แจน มเี จา้ ภาพในการดูแล ทั้งหน่วยงาน ในพื้นท่ีและส่วนให้การสนับสนุน ความเป็นมิตรตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม บรกิ ารมคี วามเปน็ มติ รกบั สิ่งแวดลอ้ มควรอย่ทู ีช่ ว่ งไหนของวงจรการใหบ้ ริการ? เปน็ การจดั กลมุ่ บรกิ ารวา่ ชว่ ยลดผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทชี่ ว่ งไหนของวฎั จกั รชวี ติ ผลติ ภณั ฑ์ โดยวฎั จกั รชวี ติ ของผลติ ภณั ฑส์ ามารถ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 7 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ การสกดั วตั ถดุ บิ การผลติ วตั ถดุ บิ และสว่ นประกอบ การออกแบบ การผลติ ผลติ ภณั ฑ์ การขนสง่ การใชง้ าน ผลิตภัณฑ์ และการก�ำจัดซากผลิตภัณฑ์ ซึ่งการบริการที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมต้องให้ความส�ำคัญกับทุกช่วง ทุกขั้นตอนในการให้บริการ ตามแผนภาพดา้ นลา่ ง ดังนั้น การบริการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมกับกระบวนการ บทสรปุ ผลติ ในภาคอุตสาหกรรมอยูใ่ นทกุ ช่วงของการให้บรกิ าร ไดแ้ ก่ การพฒั นาสถานบริการ การท่องเท่ียวในอนาคต ต้องพัฒนา 1. การจดั เตรยี มสถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว ที่เปรยี บเหมอื นวตั ถดุ บิ อย่างต่อเนื่อง จริงจังและมีแผนการพัฒนาอย่างเหมาะสม มีความ โดยการเตรยี มการรบั รองนกั ทอ่ งเทยี่ วเหมาะสมกบั พนื้ ท่ี ชัดเจนมีเจ้าภาพในการดูแล ทั้งหน่วยงานในพ้ืนที่และส่วนให้การ ป้ายแสดงการจัดระเบียบในสถานที่ท่องเท่ยี ว สนับสนุนความเป็นมิตรต่อสงิ่ แวดล้อม การพฒั นาสถานทที่ ่องเที่ยว 2. การบริการท่องเท่ียว ในแต่ละพ้ืนท่ีต้องค�ำนึงถึงสภาพ ในแต่ละพื้นที่มีความเฉพาะและประเมินอย่างเหมาะสม ในการ ความสมดุลย์ ความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ หรือมรดก จัดการอย่างมีประสิทธิภาพรองรับการขยายตัวหรือการพัฒนาใน ทางธรรมชาติให้รกั ษาสภาพได้ อนาคตใหม้ คี วามเป็นมิตรตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งย่งั ยนื 3. การรองรบั ของเสยี จากการบรกิ าร ตอ้ งมคี วามเหมาะสม และไม่เกดิ ผลกระทบตอ่ สถานทท่ี ่องเทยี่ วน้นั ๆ เอกสารอ้างองิ 4. การสรา้ งจติ สำ� นกึ นกั ทอ่ งเทย่ี ว ผใู้ หบ้ รกิ ารตอ้ งทำ� อยา่ ง สำ�นกั งานคณะกรรมการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ (2556). เอกสารการประเมนิ การการท่องท่องเทยี่ วอย่างย้ังยนื . กรงุ เทพมหานคร ต่อเน่ืองและให้ความส�ำคัญต่อการให้ความรู้อย่าง รฐั เรืองโชติวิทย ์ (2555). เอกสารประกอบการบรรยายการท่องเท่ยี วเชิงอนุรกั ษ์ ต่อเนื่อง วชิ าการจัดการส่ิงแวดล้อมเบื้องต้น. มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสนุ นั ทา No.25 December 2013 Green Research 25
พงึ่ พาธรรมชาติ “การต่อส้เู พ่อื ต่อลมหายใจใหผ้ ืนดนิ เกดิ ” การปรบั ตัวจากการเปลยี่ นแปลงสภาพ ภมู อิ ากาศ กรณี: การกดั เซาะชายฝ่งั ชมุ ชนบา้ นปากพญา ต�ำ บลท่าซัก อำ�เภอเมอื ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช อศั มน ลิม่ สกลุ 1 วฒุ ชิ ยั แพงแก้ว1 ปกรณ์ ดิษฐกิจ2 1ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมดา้ นสิง่ แวดล้อม กรมสง่ เสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2 ส�ำนกั วชิ าวิศวกรรมศาสตร์และทรัพยากร มหาวทิ ยาลยั วลัยลกั ษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพ้ืนท่ีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 235 กิโลเมตร เปน็ จงั หวดั ในลำ� ดบั แรกๆ ทไี่ ด้รับผลกระทบจากการกดั เซาะชายฝัง่ รุนแรง มชี ายฝัง่ ที่อยใู่ น สภาพปกติไม่ถึงครึ่งของความยาวชายฝั่งทั้งหมด จากการส�ำรวจพ้ืนที่กัดเซาะ ท�ำให้เห็น ภาพการกดั เซาะในวงกวา้ ง โดยพนื้ ทเี่ สยี หายมที งั้ ชมุ ชนชายฝง่ั บอ่ ปลา บอ่ กงุ้ สวนมะพรา้ ว รวมทงั้ โครงสรา้ งตามแนวชายฝง่ั ทง้ั เขอ่ื นคอนกรตี และเขอ่ื นหนิ ทง้ิ สาเหตสุ ว่ นใหญเ่ ปน็ ผล มาจากการพฒั นาพน้ื ทช่ี ายฝง่ั ทไี่ มเ่ หมาะสมตอ่ สภาพธรรมชาตขิ องพนื้ ท่ี โครงสรา้ งดงั กลา่ ว ลว้ นเปน็ สงิ่ ทกี่ ดี ขวางกระแสนำ้� และการเคลอื่ นทขี่ องตะกอนชายฝง่ั และทำ� ใหเ้ กดิ การเปลยี่ น ทศิ ทางของกระแสน้�ำทะเล มผี ลให้เกิดการสะสมตัวของตะกอนดา้ นใตข้ องโครงสร้าง แต่มี การกดั เซาะอยา่ งรนุ แรงทางดา้ นทศิ เหนอื เนอื่ งจากการเคลอื่ นตวั ของกระแสน�้ำและตะกอน ชายฝง่ั ทมี่ ที ศิ ทางจากดา้ นใตไ้ ปทางเหนอื นน้ั ไมส่ ามารถเคลอื่ นตวั ผา่ นโครงสรา้ งเหลา่ นไ้ี ปได้ ท�ำให้เกดิ การแปลงแนวชายฝัง่ ทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ โดยกัดเซาะชายฝัง่ ตอ่ ไปเรอ่ื ยๆ และลกุ ลาม ไม่มีทส่ี นิ้ สดุ ดงั น้ัน แนวทางปรับตวั เพ่ือปอ้ งกันการกดั เซาะชายฝั่งดว้ ยภูมิปัญญาชาวบา้ น เปน็ อกี วธิ ีการหนงึ่ ท่ชี ่วยแก้ไขปัญหาการกดั เซาะชายฝั่งแบบยงั่ ยืน ตำ� บลทา่ ซกั เดมิ ทมี พี นื้ ทปี่ า่ ชายเลนประมาณ 13,200 ไร่ แตพ่ น้ื ทส่ี ว่ นใหญไ่ ดถ้ กู เปล่ียนแปลงรูปแบบการใช้ประโยขน์ท่ีดิน จากป่าชายเลนซ่ึงเป็นระบบนิเวศท่ีมีคุณค่า มากมายมหาศาล ได้ถูกท�ำลายเปลี่ยนสภาพกลับกลายเป็นนากุ้งเกือบเต็มพื้นท่ี การเปล่ียนแปลงพ้ืนท่ีป่าชายเลนเป็นนากุ้งในช่วงระยะเวลาไม่ก่ีปี ได้สร้างมูลค่าทาง เศรษฐกิจแตส่ ร้างความเสียหายต่อระบบนเิ วศอยา่ งรุนแรงและต่อเนอ่ื ง จนมคี ำ� พูดส้ันๆ ว่า “กุ้งมา ... หอย ปู ปลา ... หายหมด” บา้ นปากพญา ประชากรกวา่ 100 หลงั คาเรอื นประกอบอาชพี ทำ� นากงุ้ มากวา่ 30 ปี ประสบปญั หากบั สภาพอากาศเปลยี่ นแปลงในชว่ ง 3-4 ปหี ลงั ดงั เชน่ เมอ่ื ตน้ ปี 2555 ชมุ ชน บา้ นปากพญา ต.ทา่ ซกั ไดเ้ กดิ สถานการณน์ ำ้� ทว่ มซำ�้ ซากในพน้ื ท่ี หลงั จากประสบปญั หาใน ชว่ งเดอื นมนี าคมถงึ เดอื นเมษายน ปี 2554 ทป่ี ระสบกบั ภาวะอทุ กภยั จากพษิ ภยั ของลมมรสมุ ที่พัดเข้าถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ระดับน�้ำสูงจากพ้ืนดิน 26 Green Research No.25 December 2013
ผลกระทบจากการกัดเซาะชาย 1 เมตร จากการท่ีปริมาณน�้ำฝนท่ีตกใน ลดโลกร้อน ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุน ฝั่งรุนแรง มีชายฝั่งท่ีอยู่ใน แตล่ ะคร้ังเพ่ิมปริมาณมากขึ้นและฝนตก การวจิ ัย (สกว.) ซง่ึ สามารถสรุปแนวทางการ สภาพปกติไม่ถึงคร่ึงของความ ผิดฤดูกาลจากที่เคยเป็น ประกอบกับน�้ำ ปรบั ตัวไดด้ ังนี้ ยาวชายฝั่งท้ังหมด จากการ ทะเลในช่วงเวลาน�้ำหนุนมีปริมาณสูง - แนวทางในการประกอบอาชีพใหม่ โดยหัน ส�ำ รวจพน้ื ทก่ี ดั เซาะ ท�ำ ใหเ้ หน็ ภาพ มากกว่าเดิม ท�ำให้น้�ำท่วมคันบ่อกุ้งได้รับ ไปศึกษาการท�ำเกษตรอย่างย่ังยืน เช่น การกดั เซาะในวงกวา้ ง โดยพน้ื ท่ี ความเสียหาย การทำ� สวนปาล์ม ในพนื้ ท่ีนากงุ้ เดมิ เ สี ย ห า ย มี ท้ั ง ชุ ม ช น ช า ย ฝั่ ง - การรวมกลมุ่ ของชาวบา้ นทงั้ ในรปู แบบของ บ่อปลา บ่อกุ้ง สวนมะพร้าว ชมุ ชนบา้ นปากพญา มพี น้ื ทท่ี เี่ ปดิ กลุ่มออมทรัพย์ และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจ ร ว ม ทั้ ง โ ค ร ง ส ร้ า ง ต า ม แ น ว รบั ตอ่ ภยั ธรรมชาตริ อบดา้ น ดว้ ยเปน็ ชมุ ชนท่ี พอเพียงท่ีมีอยู่ในปัจจุบันจะเป็นต้นทุนท่ี ชายฝั่ง ท้งั เข่อื นคอนกรีต และ อยู่ติดชายทะเลต้องเผชิญกับลมพายุจาก ส�ำคัญในการศึกษาและหาแนวทางในการ เขอ่ื นหนิ ทง้ิ มรสุมที่มีความถี่และรุนแรงมากข้ึน สภาพ ตั้งรับและปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงของ ชมุ ชนทอี่ ยรู่ มิ คลองปลายนำ�้ ตอ้ งเผชญิ กบั นำ้� สภาพภูมอิ ากาศทเ่ี กดิ ขึน้ ไดเ้ ป็นอยา่ งด ี เหนือไหลบ่าในช่วงฤดูฝน และหากเจอกับ เพ่ิมเติมความรู้ที่ส่งผลต่อการ ชว่ งนำ้� ทะเลหนนุ กจ็ ะเกดิ นำ�้ ทว่ มไดท้ นั ที รวม ประกอบอาชีพของชาวบ้านทั้งในส่วนอาชีพ ท้งั สภาพชมุ ชนท่อี ยู่ในพ้ืนทท่ี ุรกนั ดาน ถนน เดิม อย่างชว่ งเวลาทีเ่ ปลย่ี นไปของลมมรสุม น้�ำ ไฟ ไม่เพียงพอ หากเกิดเหตุการณ์ ต่อการเพาะเลี้ยงและเก็บเกี่ยวผลผลิตจาก ภัยพิบัติขึ้นการช่วยเหลือ หรือการติดต่อกับ นากุ้ง และในส่วนของอาชีพเสริมหรืออาชีพ ภายนอกแทบไม่สามารถท�ำได้ ประกอบกับ ใหมอ่ ย่างสวนปาลม์ บ้านปากพญามีอาชีพหลัก คือ การเล้ียงกุ้ง นอกจากน้ี แนวทางการปรบั ตวั ของ เพยี งอยา่ งเดยี ว และไม่ไดถ้ ือครองสทิ ธทิ ี่ดนิ ชาวบา้ นชมุ ชนบา้ นปากพญาทส่ี ำ� คญั อกี เรอ่ื ง ท�ำกินเป็นของตนเอง ทั้งหมดที่กล่าวมานับ หนึ่ง คือ “การต่อสู้กับปัญหาการกัดเซาะ เปน็ ความออ่ นไหวประการสำ� คญั ของชมุ ชนท่ี ชายฝั่ง” จากบทเรยี นท่ีผ่านมาของชาวบ้าน จะสง่ ผลใหไ้ ด้รับผลกระทบจากภยั ธรรมชาติ ปากพญา พบว่า ป่าชายเลนเป็นผืนป่าท่ี เพิม่ มากขึ้นอยา่ งหลกี เลย่ี งไม่ได้ เปรียบเสมือนหัวใจซึ่งเป็นอวัยวะท่ีส�ำคัญ แนวทางการปรับตวั ชาวบา้ นใน ท่สี ดุ ของรา่ งกาย การเยยี วยารกั ษา ฟ้นื คืน ชุมชนบ้านปากพญาได้เริ่มศึกษาเรียนรู้ สภาพปา่ ชายเลนใหก้ ลบั มามคี วามอดุ มสมบรู ณ์ ปัญหาจากโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็ง เหมือนก่อน จะเป็นแนวทางการปรับตัวต่อ ให้ประชาชนชายฝั่งทะเลเพ่ือลดผลกระทบ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศท่ีสร้าง จากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศท่ี ความสมดุลและความย่ังยืนอยา่ งสูงสดุ ดำ� เนนิ การโดยมลู นธิ ริ กั ษไ์ ทย และชดุ โครงการ “ทำ� ไม ... ตอ้ งฟน้ื คนื ปา่ ชายเลน” พัฒนาความรู้ และยุทธศาสตร์ความตกลง ป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่มีความส�ำคัญ พหุภาคีด้านส่ิงแวดล้อม และยุทธศาสตร์ และมีประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล No.25 December 2013 Green Research 27
พึ่งพาธรรมชาติ เพราะป่าชายเลนเป็นท่ีรวมของพืช สัตว์น�้ำและสัตว์บกนานาชนิด ซ่ึงมีความส�ำคัญและ ปา่ ชายเลนเปน็ แหลง่ เพาะเลย้ี งตวั ประโยชน์ต่อการดำ� รงชีวติ ของมนษุ ยห์ ลายรูปแบบ เชน่ ไม้ในป่าชายเลนนำ� มาใช้ประโยชน์ ในลักษณะตา่ งๆ กนั ได้หลายรปู แบบ หรือการท�ำหนา้ ทเ่ี ปน็ แหล่งอาหารสำ� คญั ของสัตวน์ ำ้� ออ่ น เช่น กงุ้ กุลาดำ� ปลากะพง เป็นที่อยู่อาศัย และท่ีอนุบาลสัตว์น�้ำในระยะตัวอ่อนกุ้งและปลา ท่ีส�ำคัญทางเศรษฐกิจได้ ขาว และปลาอื่นๆ รวมถึงเป็น อาศยั ป่าชายเลนเป็นแหลง่ เพาะเลย้ี งตัวออ่ น เชน่ ก้งุ กุลาดำ� ปลากะพงขาว และปลาอ่นื ๆ รวมถึงเป็นแหล่งส�ำหรับลดความรุนแรงของคลื่น ป้องกันการพังทลายของดินชายฝั่ง แหลง่ ส�ำ หรบั ลดความรนุ แรงของ ชว่ ยชะลอความเร็วของลมพายใุ ห้ลดลงก่อนท่ีจะข้ึนสู่ฝั่งไม่ให้เกิดความเสยี หายอย่างรุนแรง คล่ืน ป้องกันการพังทลายของ แก่ทอ่ี ยอู่ าศยั และพน้ื ทที่ ำ� กนิ ของชาวบา้ นทตี่ งั้ ถนิ่ ฐานอยบู่ รเิ วณใกลเ้ คยี ง ชว่ ยเพม่ิ พน้ื ทต่ี าม ดินชายฝ่ัง ช่วยชะลอความเร็ว ชายฝั่ง เพราะระบบรากของไม้ป่าชายเลนจะช่วยในการทับถมของเลนโคลน ท�ำให้เกิดดิน เลนงอกใหมอ่ ยเู่ สมอ ชว่ ยกรองของเสยี ทเี่ กดิ จากโรงงานอตุ สาหกรรมมใิ หไ้ หลลงสทู่ ะเลสรา้ ง ของลม ความเสียหายแก่สตั วน์ �ำ้ และระบบนิเวศในบรเิ วณชายฝัง่ ได้ แลว้ ... จะใชว้ ธิ ไี หน ? ชาวบา้ นปากพญา โดยแกนนำ� กลมุ่ ประมงพนื้ บา้ นชมุ ชน ปากพญา ได้เรียนรู้ผ่านการศึกษาดูงานจากพ้ืนท่ีท่ีประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งท่ีมี ลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กัน พวกเขาระดมความคิด รว่ มคิด ร่วมตัดสินใจคดั เลอื กวธิ ีการทจ่ี ะนำ� เข้ามาประยุกต์ใชใ้ นพน้ื ทขี่ องตนเอง ... “แนวกันคลนื่ คอนกรตี ” จะใชแ้ บบน้ดี ีหรอื ไม่ ... ไมด่ ีกวา่ ราคาสูงไป สร้างไปไม่ นานกพ็ งั อีก เราไมม่ เี งนิ มากขนาดนน้ั ตัวอย่างก็มีใหเ้ หน็ สร้างเทา่ ไหร่ก็พงั ...แกนน�ำคนหนึ่ง กลา่ ว “แนวกนั คลน่ื ไม้ไผ่” คือ คำ� ตอบสดุ ทา้ ยของชาวบ้านปากพญา ซึง่ ขอ้ ดีของมนั ก็ คือ ใช้แนวทางธรรมชาติในการแก้ไขปัญหา ใช้งบประมาณน้อย และสร้างผลกระทบต่อ ชายฝง่ั ขา้ งเคยี งและระบบนเิ วศนอ้ ย ในขณะทข่ี อ้ ดอ้ ยของแนวกนั คลน่ื ไมไ้ ผค่ อื ลดพลงั คลนื่ ไดไ้ มม่ าก อายกุ ารใช้งานส้ัน (3-5 ป)ี จ�ำเปน็ ต้องมีการบำ� รงุ รกั ษาซ่อมแซมตลอด ใชว้ ัสดุ ปรมิ าณมากและต้องใชแ้ รงงานจำ� นวนมาก ชาวบา้ นปากพญาไดเ้ ลอื กแนวทางของพวกเขาแลว้ แนวทางนพี้ วกเขาเหน็ วา่ เหมาะสม และมคี วามเปน็ ไปไดท้ ส่ี ดุ พวกเขาไดด้ ำ� เนนิ การปกั ไมไ้ ผก่ นั คลน่ื เปน็ แนวยาวประมาณ 200- 300 เมตร บรเิ วณดา้ นหนา้ ผนื ปา่ ชายเลนทเี่ สยี หาย ซง่ึ อาจคดิ เปน็ 30% ของแผนการดำ� เนนิ งานที่ชาวบ้านปากพญาต้องการ เน่ืองจากการจัดท�ำแนวกันคล่ืนไม้ไผ่ต้องใช้ งบประมาณในการหาซอ้ื ไมไ้ ผข่ นาดใหญ่ ซง่ึ จำ� เปน็ ตอ้ งรอเวลาหรอื งบประมาณการสนบั สนนุ จากภาครัฐหรอื หนว่ ยงานเอกชนท่ีใหค้ วามสำ� คัญกับปัญหาของพวกเขา ในขณะน้ีพวกเขา เพียงได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิรักษ์ไทซ่ึงถือเป็นเร่ืองที่น่ายินดีแก่พื้นที่เป็นอย่างย่ิงท่ีมี หน่วยงานเริ่มให้ความสนใจและให้การช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณในการด�ำเนินงาน 28 Green Research No.25 December 2013
ทำ� ได้แค่ไหน ... ก็ตอ้ งทำ� ไปก่อน คำ� พดู ส้ันๆ ทใี่ หค้ วามหมายอยา่ งชดั เจนจาก คำ�พูดสั้นๆ ท่ีให้ความหมาย แกนนำ� ชาวบา้ นคนหนง่ึ เขาใหค้ วามเหน็ วา่ การจดั ท�ำแนวกนั คลนื่ ไมไ้ ผน่ ี้ จะสามารถชว่ ยแก้ อย่างชัดเจนจากแกนนำ�ชาว ปญั หาการกดั เซาะไดไ้ มม่ ากกน็ อ้ ย เขาตอ้ งการใหแ้ นวกนั คลน่ื ไมไ้ ผเ่ ปน็ ตวั กกั เกบ็ หรอื สะสม บ้านคนหนึ่ง เขาให้ความเห็น ตะกอนดนิ เมอื่ ตะกอนดนิ มมี ากพอจนมลี กั ษณะเปน็ ผนื ดนิ ประกอบกบั เมอื่ ฤดมู รสมุ หมดไป ว่าการจัดทำ�แนวกันคลื่นไม้ไผ่น้ี พวกเขาจะด�ำเนินการปลูกป่าชายเลนเพ่ือเพม่ิ ผืนป่าให้มีพน้ื ทม่ี ากขึ้น โดยหวังว่า วธิ กี ารน้ี จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการกัด จะชว่ ยใหร้ ะบบนเิ วศปา่ ชายเลนของชมุ ชนปากพญากลบั มามคี วามอดุ มสมบรู ณเ์ หมอื นกอ่ น เซาะไดไ้ ม่มากก็นอ้ ย เอกสารอ้างอิง ประสาร สถานสถิตย์, 2555: บา้ นปากพญา อนาคตของชุมชนนาก้งุ กับวถิ กี ารเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศ. มลู นธิ ริ ักษ์ไท 31 มกราคม 2555 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=781610 ศนู ยข์ อ้ มลู สงิ่ แวดลอ้ มภาคใตต้ อนบน, 2555: ปญั หาการกดั เซาะชายฝง่ั . อทุ ยานการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ http://eic.wu.ac.th/Biodiversity/ coastal.html No.25 December 2013 Green Research 29
พึ่งพาธรรมชาติ พทุ ธศาสนากบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม พนมพร วงษ์ปาน นกั วิชาการส่ิงแวดล้อมชำ� นาญการ ศูนย์วิจัยและฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม พระสงฆก์ บั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากร มนษุ ย์ไดน้ ำ� ทรัพยากรธรรมชาติมาสนองความต้องการของตนอยา่ งมากมาย โดย ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมน้ัน ขาดความส�ำนึก ความตระหนัก ในความสัมพันธ์ ความเช่ือมโยง ของธรรมชาติและ เนื่องจากพระสงฆ์ในพระพุทธ ส่ิงแวดล้อม และยงิ่ มกี ารคน้ คว้าด้านเทคโนโลยที ่ีอำ� นวยความสะดวกแก่มนษุ ยม์ ากเทา่ ไหร่ ศาสนาเปน็ ทเ่ี คารพบชู าเปน็ เสมอื น ปรมิ าณการทำ� ลายทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มมีมากขนึ้ และทวคี วามรนุ แรงมากยงิ่ ผู้ถือประทีปเส้นทางชีวิตให้กับ ข้ึนอย่างเห็นไดช้ ัด มนษุ ยชาตจิ งึ มบี ทบาททเ่ี กย่ี วขอ้ ง การทำ� ลายทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมไมว่ ่าพืช สัตว์ แหลง่ น�้ำ แหล่งแร่ กับความเป็นอยู่ทุกอย่างของ ตา่ งๆ ยอ่ มทำ� ใหส้ ภาพแวดลอ้ มทว่ั ไปเสอ่ื มโทรมลงอยา่ งรวดเรว็ เพราะเปน็ การทำ� ลายความ ศาสนกิ ชน สมดุลของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างกรณีการบุกรุกท�ำลายป่าในบริเวณต้นน�้ำล�ำธาร ทำ� ใหส้ ภาพของดินเสยี ความสมดุลย์ เมอื่ ฝนตกลงมากช็ ะล้างหน้าดนิ ลงสแู่ ม่นำ้� ลำ� ธารเป็น โคลนตะกอนก่อให้เกิดปัญหาน้�ำปา่ ไหลหลาก สร้างความเดือดร้อนแกป่ ระชาชน ส�ำหรับพระสงฆ์กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมน้ัน เนื่องจาก พระสงฆใ์ นพระพทุ ธศาสนาเปน็ ทเ่ี คารพบชู าเปน็ เสมอื นผถู้ อื ประทปี เสน้ ทางชวี ติ ใหก้ บั มนษุ ยชาติ จงึ มบี ทบาททเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความเปน็ อยทู่ กุ อยา่ งของศาสนกิ ชน และในทกุ ระยะแหง่ ชวี ติ ของ มนุษย์ โดยอาศัยความบริสุทธ์ิและการมีพฤติปฏิบัติท่ีงดงามเป็นแบบอย่างในการสั่งสอน อบรม ประชาชนใหล้ ะเวน้ จากความชวั่ ใหต้ ง้ั มน่ั อยใู่ นความดดี ว้ ยจติ เมตตาใหซ้ าบซงึ้ ในบาป บุญคุณโทษแห่งการกระท�ำท่ีผิดถูก ด้วยทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมด้วยหลักของ พุทธศาสนา เชน่ หา้ มไม่ใหฆ้ า่ สตั ว์ ไมใ่ ห้ลักทรัพย์ ไมใ่ หผ้ ิดในกาม ไม่ให้พูดเท็จและไมใ่ ห้ ประมาท เปน็ การห้ามมิให้ท�ำลาย และเบียดเบียนทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม รวม ทั้งมนษุ ยด์ ้วย 30 Green Research No.25 December 2013
ในพระวินัยปฎิ ก พระพุทธเจ้าทรงบัญญตั ิสกิ ขาบทเป็นศลี ห้ามพระสงฆ์ทำ� ลายต้นไม ้ หรอื พรากของเขียว ภตู คามทุกชนิด ห้าม มใิ หข้ ดุ ดนิ ห้ามถา่ ยอจุ จาระ ปัสสาวะ หรือบว้ นน้�ำลายลงบนตน้ ไมห้ รือในแมน่ ำ้� ล�ำธารในวนโรปสูตพระองคท์ รงตรสั ว่า การปลูกป่า และ การรกั ษาตน้ ไม้ล�ำธารเปน็ บุญกศุ ล ดังนี้ “ชนเหล่าใด ปลูกปา่ ปลกู สวน สร้างสะพาน สรา้ งโรงนำ้� ขดุ บ่อนำ�้ บรจิ าคที่พกั อาศยั ชนเหลา่ นัน้ ยอ่ มได้บญุ ตลอดเวลาท้งั กลางวนั และกลางคืน “ ในการปฏบิ ตั เิ พอื่ สง่ เสรมิ ความมนั่ คงของทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของพระสงฆไ์ ดใ้ ชห้ ลกั ธรรมมาสอนใหเ้ หน็ วา่ มนษุ ย์ กับทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มยอ่ มมีความสัมพันธก์ ันอย่างย่ิง อาศยั กันไม่มีใครอยูไ่ ด้อย่างโดดเดี่ยว ดงั่ คำ� ทว่ี ่า “น้�ำพึ่งเรอื เสือพึ่ง ป่า” แสดงเป็นค�ำพดู วา่ “เสือมีเพราะปา่ มาก ปา่ รกเพราะเสอื ยัง ดินดเี พราะหญา้ บงั หญา้ ยงั เพราะดนิ ด”ี No.25 December 2013 Green Research 31
พ่งึ พาธรรมชาติ เนอ่ื งจากพระพทุ ธศาสนาสอนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมด้วยวธี กี ารปลกู จติ สำ� นกึ ให้ตระหนกั ในคณุ ค่าและ ความส�ำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยหลักธรรมกตัญญูกตเวทีจึงเกิดมีคติในการสร้างพระพุทธรูป “ปรางถวายเนตร” เพอ่ื เปน็ การระลึกถงึ เหตุการณท์ อี่ งคพ์ ระสัมมาสัมพุทธเจา้ พระองค์ไดป้ ระดับยืน เอาพระหัตถข์ วาทาบบนพระหตั ถซ์ ้าย อย่ทู างทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของต้นพระศรีมหาโพธ์ิ ลืมพระเนตรเพ่งดูต้นพระศรีมหาโพธ์ิ โดยมิได้กระพริบพระเนตรเป็นเวลา 7 วัน ความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงร�ำลึกถงึ คุณของต้นพระศรมี หาโพธ์ิที่ใหร้ ่มเงาแก่พระองค์จนไดต้ รสั รู้เปน็ พระสมั มาสัมพทุ ธเจา้ ” พระพุทธศาสนาสอนการอนุรักษ์ทรัพยากร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ด้ ว ย วี ธี ก า ร ป ลู ก จิตสำ�นึกให้ตระหนักในคุณค่าและความสำ�คัญของ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ยหลกั ธรรม กตญั ญูกตเวที 32 Green Research No.25 December 2013
ในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม นน้ั พระสงฆท์ ำ� หนา้ ที่ โดยการ พ ร ะ ส ง ฆ์ จ ะ ต้ อ ง ดำ � เ นิ น ชี วิ ต ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและส่ังสอนศีลธรรมให้ประชาชนมีจิตส�ำนึกในคุณค่า และความ เกอ้ื กลู ตอ่ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากร จ�ำเป็นของสิ่งแวดล้อมท�ำให้เกิดความรักในธรรมชาติและเกิดความความภูมิใจในศิลป ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในฐานะ วัฒนธรรมอันดีงามของตน กล่าวคือ พระสงฆ์จะต้องด�ำเนินชีวิตเก้ือกูลต่อการอนุรักษ์ เปน็ แบบอยา่ ง แลว้ ทา่ นยงั ไดส้ อน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในฐานะเป็นแบบอย่าง แล้วท่านยังได้สอนให้ ให้พุทธศาสนิกชนให้ตระหนักใน พุทธศาสนกิ ชนให้ตระหนกั ในคณุ คา่ ของการพัฒนาจติ ใจโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ คุณค่าของการพัฒนาจิตใจโดย ส่ิงแวดล้อมท่ีเหมาะสมด้วยการปฏิบัติธรรม คือ การบ�ำเพ็ญสมาธิภาวนา เดินจงกรม อาศัยทรัพยากรธรรมชาติและ (เดนิ แบบเจรญิ สต)ิ ใตร้ ม่ ไม้ เพราะในปา่ จะมตี น้ ไมม้ าก บรรยากาศรม่ รน่ื ทำ� ใหผ้ เู้ ขา้ ไปสมั ผสั สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมด้วยการ เกิดความรู้สกึ ร่มเย็นสบายมคี วามสงบสงดั ไม่มคี วามฟ้งุ ซา่ น ลดความวิตกกังวลไดอ้ ยา่ งดี ปฏบิ ตั ิธรรม ทำ� ให้จิตสงบและร่างกายสดช่ืน เพราะสัมผสั กับความสมดลุ ของธรรมชาติ เอกสารอา้ งองิ - ไมตรี สทุ ธจิตต์ มนษุ ย์กบั การป้องกันและแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาควิชาชวี เคมี คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ - มนษุ ย์กับสง่ิ แวดลอ้ ม การประชุมวชิ าการทัว่ ประเทศไทยประจำ� ปี 2536 มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ No.25 December 2013 Green Research 33
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: