Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GR34 คลื่นความร้อน

GR34 คลื่นความร้อน

Published by Lib SRC, 2022-01-26 01:54:02

Description: GR34.1

Search

Read the Text Version

ISSN:1686-1612 Research ปที ี่ 13 ฉบับท่ี 34 กนั ยายน 2559 คลน่ื ความร้อน ความตกลงปารสี : จดุ เปลยี่ นสำ� คญั สำ� หรบั การแกไ้ ขปญั หา โปรแกรมประมวลผลดชั นีความร้อน ข้อพงึ ปฏิบัติสำ� หรบั มนุษย์ธรรมดาๆ การเปลีย่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของโลก ส�ำหรบั ประเทศไทย ทอี่ ยากชว่ ยลดโลกรอ้ น...ตกิ๊ ถูกได้กี่ขอ้

EDITOR’S TALK บ.ก.แถลง สวสั ดคี ะ่ ทา่ นผอู้ า่ นวารสาร Green Research ฉบบั ท่ี 34 ประจ�ำ เดอื นกนั ยายน 2559 ฉบบั นจ้ี ะไดน้ �ำ เสนอภายใต้ ประเดน็ หลกั การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เรมิ่ ดว้ ยคอลมั น์ เรอ่ื งเดน่ ประจ�ำ ฉบบั “ความตกลงปารสี : จดุ เปลยี่ นส�ำ คญั สำ�หรับการแก้ไขปัญหาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก” เป็นอีกไฮไลท์ท่ีเราปรารถนาอย่างย่ิงให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงในบ้านเราและโลกใบน้ีค่ะ ซ่ึงมาพร้อมกับโปรแกรมประมวลผลดัชนีความร้อนสำ�หรับประเทศไทย และวิธี การง่ายๆ ที่เราทุกคนจะช่วยกันลดการเกิดภาวะโลกร้อน อ่านดูนะคะว่าต๊ิกได้ก่ีข้อ..หากติ๊กได้ครบทั้ง 30 ข้อ Green Research กดไลค์รัวๆ ใหเ้ ลยคะ่ ... ตามดว้ ยคอลัมน์ ตดิ ตามเฝา้ ระวังกับทศิ ทางปัญหาสงิ่ แวดล้อมของประเทศไทยนั้น มีอะไรบา้ ง แล้วต่อกนั เลยกับ “ภัยมืดจากกาแฟ” ท่ีเราทุกท่านดื่มกันทุกวันน้วี า่ มีอะไรบา้ งที่ซอ่ นตวั อยกู่ บั ความอรอ่ ย.... หอมกร่นุ ของกาแฟค่ะ และอกี หนง่ึ สิง่ ทเี่ ราต้องรู้จักเก่ยี วกบั สถานการณส์ ารอันตรายที่ปนเปอ้ื นในสิ่งแวดล้อม และสะสม ได้ในเน้ือเยอ้ื อวยั วะต่างๆ ของสงิ่ มชี วี ติ พร้อมกบั ความเปน็ พิษตอ่ ระบบตา่ งๆ อ่านได้ภายในเล่มเลยคะ่ ในคอลมั นส์ ดุ ทา้ ยทจี่ ะพดู ถงึ ในฉบบั น้ี กเ็ ปน็ เรอื่ งทที่ กุ ทา่ นตอ้ งตามใหท้ นั กบั คอลมั สนก์ า้ วหนา้ พฒั นา อนาคต..... นาโนเทคโนโลยขี องประเทศไทย พร้อมกนั นย้ี ังมเี ร่อื งของ การทดสอบประสิทธภิ าพการบำ�บัดน้�ำ เสียสำ�หรับถังสำ�เร็จรปู ทใ่ี ชก้ นั อยใู่ นทอ้ งตลาด และอกี เรอื่ งทเี่ ราภมู ใิ จน�ำ เสนอของกรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มซง่ึ ไดล้ งนามในบนั ทกึ ขอ้ ตกลง ความร่วมมือ “ลดการใชถ้ งุ พลาสตกิ ” กบั หน่วยงานภาคธุรกจิ เอกชน จำ�นวน 15 หนว่ ยงาน โดยไดร้ บั ความรว่ มมือในการ รณรงค์ “ลดการใช้ถุงพลาสติก” ทกุ ๆ วันท่ี 15 ของเดอื น ถึงเวลาหรือยงั ทเี่ ราตอ้ งเลกิ ใชบ้ รรจภุ ัณฑจ์ ากโฟมและพลาสตกิ อยา่ งเดด็ ขาดและจรงิ จงั เสยี ที เพอ่ื ประเทศไทยและโลกของเราคะ่ หลากหลายความร.ู้ ....ทท่ี กุ ทา่ นจะไดน้ �ำ ไปปฏบิ ตั ดิ กี วา่ อยูน่ ่ิงๆ เฉยๆ ..แนน่ อน...เจอกันใหม่ฉบบั หนา้ นะค่ะ GREEN RESEARCH CONTENTS เรื่องเดน่ ประจำ� ฉบบั กนั ยายน 2559 3 ความตกลงปารีส: จดุ เปล่ยี นส�ำคญั ส�ำหรบั การแกไ้ ขปญั หา ที่ปรึกษา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศของโลก ภาวณิ ี ปณุ ณกนั ต์ 12 โปรแกรมประมวลผลดชั นีความรอ้ นส�ำหรบั ประเทศไทย ขอ้ พงึ ปฏิบตั ิส�ำหรบั มนษุ ย์ธรรมดาๆ ท่ีอยากชว่ ยลดโลกร้อน... บรรณาธิการบริหาร 17 ตกิ๊ ถกู ไดก้ ีข่ ้อ โสฬส ขนั ธ์เครือ ตดิ ตามเฝา้ ระวงั กองบรรณาธิการ 19 ทศิ ทางปญั หาสง่ิ แวดล้อมในปัจจบุ นั 22 ภัยมดื ……..จากกาแฟ นติ ยา นักระนาด มิลน์ การตดิ ตามสถานการณ์ปนเปื้อนของสารเปอรฟ์ ลูออรเิ นเทต (PFCs) ศริ ินภา ศรีทองทิม 26 ในน�้ำตะกอนดนิ และตวั อย่างชีวภาพในภูมิภาคเอเชยี หทัยรตั น์ การีเวทย์ เจนวทิ ย์ วงษศ์ านนู กา้ วหนา้ พัฒนา ปญั จา ใยถาวร รฐั เรอื งโชติวทิ ย์ 29 อนาคตนาโนเทคโนโลยขี องประเทศไทย จินดารตั น์ เรืองโชติวทิ ย์ 31 ถงึ เวลาหรือยงั ท่ีประเทศไทยจะใช้ “ไบโอชานอ้อย” แทนสารพิษอยา่ ง “โฟม” อาทติ ยา พามี 33 วิธกี ารทดสอบประสิทธภิ าพการบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำหรบั ถังบ�ำบดั น�้ำเสียส�ำเรจ็ รูป ศนู ยว์ ิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เทคโนธานี ตำ� บลคลองห้า อ�ำเภอคลองหลวง จังหวัดปทมุ ธานี 12120 โทรศัพท์ 02-577-4182-9 โทรสาร 02-577-1138 www.deqp.go.th No.34 September 2016

เรื่องเดน่ ประจำ�ฉบบั 3 อศั มน ลม่ิ สกลุ 1 และฤทธิรงค์ จงั โกฏ2ิ 1ศูนย์วิจัยและฝกึ อบรมด้านสิง่ แวดลอ้ ม กรมส่งเสรมิ สขุ ภาพสง่ิ แวดล้อม 2คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ความตกลงปารสี : จดุ เปลี่ยนสำ� คัญสำ� หรับการแกไ้ ขปญั หา การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศของโลก (The Paris Agreement: An Important Turning Point in Global Action on Climate Change) ท่ีประชุมสมัชชารัฐภาคี (Conference of the Parties; COP) กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปล่ียนแปลง สภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework on Climate Change Convention; UNFCCC) สมัยที่ 21 หรือ COP21 ณ กรงุ ปารสี ประเทศฝรง่ั เศส ซง่ึ มี 196 ประเทศเขา้ รว่ มประชมุ [1] เพ่ือเพิ่มความเข้าใจที่ถูกต้องและครบถ้วนต่อสาระ ไดบ้ รรลขุ อ้ ตกลงและรบั รองความตกลงปารสี (Paris Agreement)[2] หลักๆ ของความตกลงปารีสและเหตุผลว่าทำ�ไมความตกลง เพื่อเป็นกฎกติกาฉบับใหม่ที่ใช้บังคับกับทุกรัฐภาคี ในการ ปารสี ถงึ ไดร้ บั การยอมรบั จากประเทศตา่ งๆ อยา่ งกวา้ งขวาง ยกระดบั การด�ำ เนนิ งานการแกไ้ ขปญั หาการเปลย่ี นแปลงสภาพ บทความน้ี จึงได้ทำ�การประมวลรวบรวมผลและสรุปเนื้อหา ภมู อิ ากาศของโลกหลงั ปี ค.ศ. 2020 ความตกลงปารสี เปน็ ขอ้ ตกลง ในประเดน็ ตา่ งๆ เชน่ กระบวนการจดั ท�ำ และผลลพั ธท์ สี่ �ำ คญั ฉบับประวัติศาสตร์ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนที่กำ�หนดแนวทาง ของความตกลงปารสี การเตรยี มการเพอ่ื ใหค้ วามตกลงปารสี การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก มผี ลบงั คบั และขน้ั ตอนการเขา้ เปน็ ภาคคี วามตกลงปารสี และ โดยเน้ือหาบางส่วนมีผลทางกฎหมายที่ทุกรัฐภาคีไม่ว่าจะเป็น พนั ธกรณีของประเทศไทย ประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศกำ�ลังพัฒนาก็ตาม ต้องมี พันธกรณีร่วมกันภายใต้กรอบการดำ�เนินงานเดียวกัน ทั้งนี้ กระบวนการและขน้ั ตอนการจดั ทำ�ความตกลงปารสี ความตกลงปารีส มีเป้าหมายหลักเพื่อควบคุมการเพ่ิมข้ึนของ ความตกลงปารสี มกี ระบวนการและขนั้ ตอนการจดั ท�ำ อุณหภูมิโลกให้ตำ่�กว่า 2 oC และมุ่งม่ันความพยายามในการ ผ่านคณะทำ�งานเฉพาะกิจเดอร์บันเพื่อการยกระดับการ จำ�กัดการเพ่ิมขึ้นไม่ให้เกิน 1.5 ํC จากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ดำ�เนินงาน (Ad Hoc Working Group on the Durban ควบคไู่ ปกบั การเพม่ิ ขดี ความสามารถในการปรบั ตวั ตอ่ ผลกระทบ Platform for Enhanced Action; ADP) ตามข้อตัดสนิ ใจของ จากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมท้ังทำ�ให้เกิด การประชมุ สมชั ชารฐั ภาคสี มยั ท่ี 17 (1/CP.17) ณ เมอื งเดอรบ์ นั เงินทุนหมุนเวียนที่มีความสอดคล้องกับแนวทางท่ีนำ�ไปสู่การ ประเทศแอฟรกิ าใต้ ทม่ี มี ตใิ หจ้ ดั ตง้ั คณะท�ำ งาน ADP เพอ่ื เรมิ่ พัฒนาประเทศท่ีปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ�และมีภูมิต้านทาน กระบวนการพัฒนาจัดทำ�พิธีสาร หรือตรากฎหมาย หรือ และความสามารถในการฟ้ืนตัวจากภูมิอากาศ[2] เพื่อให้บรรลุ ข้อตกลงท่ีมีผลทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาฯ ท่ีจะมี วตั ถปุ ระสงคด์ งั กลา่ ว ความตกลงปารสี ไดก้ �ำ หนดแนวทางผา่ น ผลบงั คบั ใชก้ บั ทกุ ภาคี โดยใหร้ บี ด�ำ เนนิ การเจรจาใหแ้ ลว้ เสรจ็ การยกระดับการดำ�เนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจก โดยเร็วท่ีสดุ แตไ่ มช่ ้าเกนิ กว่าปี ค.ศ. 2015 เพื่อให้ทป่ี ระชุม การปรับตัว การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี การสนับสนุน สมัชชารัฐภาคีสมัยท่ี 21 รับรองพิธีสาร หรือตรากฎหมาย ทางด้านการเงินแก่ประเทศกำ�ลังพัฒนาและการเสริมสร้าง หรือข้อตกลงที่มีผลทางกฎหมายดังกล่าว และสามารถมีผล ศักยภาพ โดยมีระบบความโปร่งใสของการดำ�เนินงานและ บงั คับใชต้ ัง้ แต่ปี ค.ศ. 2020 เป็นต้นไป[3] คณะท�ำ งาน ADP[4] การสนบั สนนุ (Transparency for implementation and support) ได้มีการประชุมกันท้ังสิ้น 15 คร้ัง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และการทบทวนสถานการณ์และการดำ�เนินงานระดับโลก ปี ค.ศ. 2012 ถึงเดอื นธันวาคม ปี ค.ศ. 2015 โดยการประชุม (Global stocktake) เปน็ กลไกใหมท่ เ่ี ออ้ื อ�ำ นวย ใหก้ ารด�ำ เนนิ งาน ADP1-1 เป็นการจัดทำ�และรับรองวาระการประชุม ติดตาม มีความโปร่งใส ถูกต้องและหลีกเลี่ยงการนับซ้ำ� รวมถึงสร้าง ด้วยการแบ่งการประชุมเจรจาออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ ความม่นั ใจร่วมกันในการติดตามตรวจสอบความกา้ วหนา้ และ Post-2020 (Workstream I) และ Pre-2020 (Worksteam II) ส่งเสริมการดำ�เนนิ งานท่มี ปี ระสิทธผิ ล[2] No.34 September 2016

4 เร่ืองเด่นประจ�ำ ฉบับ พร้อมทั้งกำ�หนดเป้าหมาย (Milestone) สำ�คัญของการดำ�เนิน ความเห็นและจุดยืนของแต่ละภาคีหรือกลุ่มภาคี ตัดทอน งานในกรอบ ADP ในการประชุม ADP1-informal และ ADP2-1 สงั เคราะห์ รวมเนอ้ื หาและขอ้ เสนอตา่ งๆ ทค่ี ลา้ ยคลงึ เขา้ ดว้ ยกนั (ตารางที่ 1) หลังจากที่ได้ประชุมเจรจาในประเด็นต่างๆ ที่ เพ่ือให้เอกสารการเจรจาดังกล่าว มีความกระชับ ครบถ้วน เก่ียวข้องมาระยะหน่ึงแล้ว ภาคีได้จัดทำ�และรับรอง Geneva สมบูรณม์ ากขนึ้ พรอ้ มจัดท�ำ Working document Non-paper Text ในการประชุม ADP2-8 ทปี่ ระเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพอื่ ใช้ และ Technical paper เพอื่ เออื้ อ�ำ นวยใหก้ ารแกไ้ ข เพมิ่ เตมิ และ เปน็ เอกสารหลกั ส�ำ หรบั การประชมุ เจรจาครง้ั ถดั ไปของการจดั ท�ำ ตดั ทอน รวมทงั้ ผนวกรวมเนอ้ื หาในแตล่ ะสว่ นของ Geneva Text ข้อตกลงฉบับใหม่[4] การประชุมหลังจากนั้น เป็นการพิจารณา ด�ำ เนินงานไดง้ ่ายและชดั เจนขึ้น (ตารางที่ 1) เนื้อหาและสาระบนพื้นฐาน Geneva Text โดยมีการประมวล ตารางท่ี 1 ล�ำดับการประชุมของคณะท�ำงาน ADP และสรุปประเด็นหลักของการประชุมโดยย่อ ADP1-1 (May 2012) เยอรมนี จดั ท�ำและรับรองวาระการประชมุ ADP1-informal (Aug. 2012) ประเทศไทย แบง่ การหารอื ออกเป็น Post-2015 (Workstream I;WSI) และ Pre-2020 (Workstream II; WSII) ADP1-2 (Dec. 2012) รฐั กาตาร์ ก�ำหนด Milestones ส�ำคญั ส�ำหรบั การท�ำงานในกรอบ ADP ADP2-1 (May 2013) เยอรมนี WSI: ระบขุ อ้ ตกลงทีต่ อ้ งเป็นไปตามหลักการและบทบัญญัติของอนุสญั ญาฯ และ WSII: แลกเปล่ียน ADP2-2 (Jun. 2013) เยอรมนี ประสบการณ์และแนวทางปฏิบตั ริ ะหวา่ งกันเพื่อเป็นข้อมลู ในการวางแผนการด�ำเนินงาน ADP2-3 (Nov. 2013) โปแลนด์ WSI: หารือถึงความเชอื่ มโยงการด�ำเนนิ งานกบั Subsidiary Bodies และ WSII: จดั Workshop on ADP2-4 (Mar. 2014) เยอรมนี pre-2020 ambition เรอ่ื ง Energy WSI: ก�ำหนด Mandate ให้ภาคเี ตรยี มการภายในประเทศตนเองส�ำหรบั ขอ้ ตกลงปี 2015 WSII: จดั ADP2-5 (Jun. 2014) เยอรมนี Workshop on pre-2020 ambition เร่อื ง Urbanization WSI: Intended Nationally Determined Contributions (INDCs) และแนวทางการเพมิ่ ระดบั การ ADP2-6 (Oct. 2014) เยอรมนี ด�ำเนินงานหลงั ปี ค.ศ. 2020 WSII: จัด Technical Expert Meeting (TEM) เรื่อง พลงั งานทดแทนและ การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลงั งาน ADP2-7 (Dec. 2014) เปรู WSI: หารอื สาระส�ำคัญของขอ้ ตกลงใหม่ดา้ น Mitigation Adaptation Finance Technology ADP2-8 (Feb. 2015) สวิสเซอรแ์ ลนด์ Capacity building INDCs และการประเมนิ ทบทวนและการบังคับใช้ WSII: จดั TEM เรื่อง Urban ADP2-9 (Jun. 2015) เยอรมนี environment/land use ADP2-10 (Aug. 2015) เยอรมนี WSI: หารือสาระส�ำคญั ของข้อตกลงใหมด่ ้าน Mitigation Adaptation Finance Technology ADP2-11 (Oct. 2015) เยอรมนี Capacity building INDCs และการประเมิน ทบทวนและการบงั คับใช้ WSII: จัด TEM เรอ่ื ง Urban environment/land use ADP2-12 (Dec 2015) ฝรัง่ เศส WSI: หารือสาระส�ำคญั ของขอ้ ตกลงใหมด่ ้าน Mitigation Adaptation Finance Technology Capacity building INDCs และการประเมนิ ทบทวนและการบังคบั ใช้ WSII: จดั TEM เร่ือง Urban environment/land use ภาคีได้จัดท�ำและรบั รอง Geneva Text เพอ่ื ใช้เป็นเอกสารหลกั ในการเจรจาจดั ท�ำขอ้ ตกลงฉบับใหม่ พจิ ารณา Geneva Text โดยมีการหารือ ตัดทอน สังเคราะหร์ วมเน้อื หาและทางเลอื กต่างๆ ท่ี คลา้ ยคลงึ เขา้ ดว้ ยกนั เพื่อให้เอกสารเจรจามีความกระชบั และชดั เจนมากข้ึน พรอ้ มจัดท�ำ Working document พิจารณา Working paper เพ่อื ชี้ให้เหน็ ถึงแนวคดิ ทค่ี ล้ายคลงึ และแตกตา่ งกันของภาคีตา่ งๆ พรอ้ มท้งั จัดท�ำ Non-paper บนพื้นฐานของ Geneva Text รวมท้ังประมวลความเห็นและจดุ ยืนของแตล่ ะภาคี พจิ ารณารา่ งขอ้ ตกลงและข้อตดั สินใจทีจ่ ดั ท�ำข้ึนจาก Geneva Text ซง่ึ ภาคสี ว่ นใหญ่มคี วามเหน็ ว่า เอกสารดังกลา่ ว ยังไม่สมบรู ณแ์ ละไม่สามารถน�ำมาเปน็ เอกสารการเจรจาได้ โดย Co-chair ไดจ้ ดั ท�ำ Revised Non-paper จดั ท�ำร่างสุดทา้ ยของข้อตกลงและขอ้ ตดั สินใจจาก Revised non-paper และ Technical paper ท่ี เลขาธิการอนสุ ญั ญาฯ ได้จดั เตรยี ม ผา่ นการประชมุ แบบ Open-ended contact group และ Spin-off group ตามประเดน็ ทีจ่ ดั แบง่ ออกเปน็ กล่มุ ๆ No.34 September 2016

เรอ่ื งเด่นประจำ�ฉบับ 5 การประชุม ADP2-12 ซ่ึงจัดข้ึนในช่วงสัปดาห์แรกของ ดงั กล่าว และพยายามหา Safer political landing zone ส�ำ หรบั การประชมุ COP21 เปน็ การจดั ท�ำ รา่ งฉบบั สดุ ทา้ ยของขอ้ ตกลง ข้อกังวลและส่ิงท่ีรับไม่ได้ซึ่งมีบริบทและมิติที่แตกต่างกัน และข้อตัดสินใจท่ีเกี่ยวข้อง[4] ก่อนที่จะส่งร่างดังกล่าวให้กับ ในแตล่ ะกลมุ่ ภาคี ทง้ั นี้ Comité de Paris มกี ารประชมุ กนั ทงั้ สน้ิ ทปี่ ระชมุ สมชั ชารฐั ภาคี หรอื COP เพอื่ น�ำ ไปพจิ ารณาตอ่ ในการ 7 ครง้ั ตง้ั แตว่ นั ท่ี 7 ธนั วาคม จนถงึ วนั ท่ี 12 ธนั วาคม ค.ศ. 2015 ประชมุ ผแู้ ทนระดบั สงู ของแตล่ ะภาคี โดยการประชุม ADP2-12 ซึ่งเป็นวันท่ภี าคีมกี ารรับรองความตกลงปารสี [1] เป็นการพิจารณาบนพ้ืนฐานของเอกสาร Non-paper ของ ADP2-11 ท่ีได้มีการปรับแก้เล็กน้อยและ Technical paper สาระและผลลัพธส์ ำ�คญั ของความตกลงปารีส ท่ีจัดเตรียมเพิ่มเติมโดยเลขาธิการอนุสัญญาฯ ผ่านการประชุม สาระท่ีเกี่ยวข้องกับความตกลงปารีสซึ่งบรรจุในเอกสาร แบบ Open-ended contact group และ Spin-off group ซง่ึ จดั FCCC/CP/2015/10/Add.1 ประกอบดว้ ยเน้ือหา 2 สว่ นหลักๆ แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ตามรายประเด็น ทั้งน้ี คณะทำ�งาน ADP คือ (1) ความตกลงปารีสมีทั้งหมด 29 ข้อ โดยโครงสร้างของ ได้สิ้นสุดการดำ�เนินงานและส่งมอบร่างข้อตกลงให้ที่ประชุม ความตกลงปารสี ดังแสดงในตารางท่ี 2 ซง่ึ คำ�แปลอยา่ งไมเ่ ป็น สมัชชารัฐภาคี หรือ COP เม่ือวันท่ี 5 ธันวาคมปี ค.ศ. 2015 ทางการรายข้อฉบับภาษาไทย จัดทำ�โดยคณะทำ�งานเจรจา ซึ่งรา่ งข้อตกลงที่สง่ มอบให้นน้ั มจี �ำ นวน 48 หนา้ สำ�หรับการประชุมอนุสัญญาฯ สำ�นักนโยบายและแผน สำ�หรับการประชุมระดับสมัชชารัฐภาคีหรือ COP ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม (สผ.) และสามารถดาวโหลด ในชว่ งสปั ดาหท์ สี่ องนนั้ ไดเ้ ปลย่ี นโหมดการประชมุ เปน็ ลกั ษณะ ได้ที่ www.tccnclimate.com และ (2) ข้อตัดสินใจ (Decision) Open-ended single-setting group ผ่านการจัดต้ัง Comité de ที่เกี่ยวข้องกับความตกลงปารีสซึ่งประกอบด้วย 1) การรับรอง Paris เพ่ือกำ�กับดูแลเอื้ออำ�นวยและปรึกษาหารืออย่างไม่เป็น ความตกลงปารีส 2) การมีส่วนร่วมท่ีกำ�หนดโดยประเทศ ทางการในการจัดทำ�ข้อตกลงปารีสต่อเนื่องจากคณะทำ�งาน (Nationally Determined Contributions; NDCs) 3) ข้อตดั สนิ ใจ ADP เป็นผู้แทนระดับสูงของแต่ละภาคี โดยแบ่งหัวข้อ ที่ทำ�ให้ความตกลงปารีสมีผลกระทบในด้านการลดก๊าซเรือน การปรกึ ษาหารอื ยอ่ ยออกเปน็ 9 ประเดน็ ดงั นี้ 1) การสนบั สนนุ กระจก การปรับตัว ความสูญเสียและความเสียหาย การเงิน การดำ�เนินงานด้านการสนับสนุนทางการเงิน เทคโนโลยีและ การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเสริมสร้างศักยภาพ การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ 2) ความแตกตา่ ง (Differentiation) ในแง่ ความโปรง่ ใสของการด�ำ เนนิ งานและการสนบั สนนุ การทบทวน การลดกา๊ ซเรอื นกระจก การสนบั สนนุ ทางการเงนิ และเทคโนโลยี สถานการณแ์ ละการด�ำ เนนิ งานระดบั โลก การสง่ เสรมิ การด�ำ เนนิ งาน 3) ความพยายามและเปา้ หมายระยะยาว 4) การเรง่ การด�ำ เนนิ งาน และการบังคบั ใช้ และประเดน็ คาบเกี่ยวอน่ื ๆ 4) การยกระดบั กอ่ นปี ค.ศ. 2020 5) การปรบั ตวั ความสญู เสยี และความเสยี หาย การด�ำ เนินงานกอ่ นปี ค.ศ. 2020 5) ผู้มสี ่วนได้ส่วนเสียท่ีไมใ่ ช่ 6) บทน�ำ ของความตกลง 7) ปา่ ไม้ 8) ความรว่ มมอื ในการด�ำ เนนิ การ ภาคี และ 6) การบริหารงานและงบประมาณ[2] ซึ่งสาระและ และกลไก และ 9) การส่งเสรมิ การด�ำ เนินงานและการบงั คบั ใช้ ผลลัพธ์สำ�คัญของความตกลงปารสี สรุปได้ดังนี้ ผ่านคณะทำ�งานท่ีจัดต้ังขึ้นโดย Comité de Paris ซึ่งมีระดับ 1. เป้าหมายระยะยาวของการลดก๊าซเรือนกระจก รฐั มนตรเี ปน็ ผอู้ �ำ นวยความสะดวกในการปรกึ ษาหารอื (Minister-led ความตกลงปารสี ไดก้ �ำ หนดเปา้ หมายทส่ี �ำ คญั ส�ำ หรบั การด�ำ เนนิ consultation หรือ Indaba of Solutions) เพ่ือให้ภาคกี ลุม่ ตา่ งๆ งานเกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ซงึ่ มวี ตั ถปุ ระสงค์ นำ�เสนอข้อเสนอ ข้อกังวล สิ่งที่รับได้และรับไม่ได้ของกลุ่ม เพอ่ื ควบคมุ การเพม่ิ ขน้ึ ของอณุ หภมู โิ ลกใหต้ �ำ่ กวา่ 2 oC และมงุ่ มน่ั (Redline) แทนที่แสดงจุดยืนและท่าทีของกลุ่ม พร้อมทั้งเอ้ือ ความพยายามในการจ�ำ กดั การเพม่ิ ขน้ึ ของอณุ หภมู ไิ มใ่ หเ้ กนิ 1.5 oC อ�ำ นวยใหภ้ าคอี ภปิ รายหาทางออกเพอื่ ผนวกรวมขอ้ เสนอตา่ งๆ จากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว No.34 September 2016

6 เรอื่ งเดน่ ประจำ�ฉบับ แต่ละประเทศมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับสูงท่ีสุด ลดความเปราะบางจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ความ ของโลก (Global peak) โดยเร็วทสี่ ุด และหลงั จากนัน้ จะลดการ ตกลงปารสี ได้กำ�หนดวงรอบการด�ำ เนินงาน ส�ำ หรบั เสริมสร้าง ปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจกลงอยา่ งรวดเรว็ (Deep cut) ใหถ้ งึ ระดบั ความพยายามในการปรับตัวอย่างสม่ำ�เสมอเช่นเดียวกันกับ การปลอ่ ยสทุ ธเิ ปน็ ศนู ยใ์ นชว่ งครง่ึ หลงั ของศตวรรษท่ี 21 บนพน้ื ฐาน วงรอบของการลดกา๊ ซเรือนกระจก ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีความ ของความเป็นธรรม ในบริบทการพัฒนาท่ีย่ังยืนและความ ยดื หยนุ่ ในแงเ่ วลาและวธิ กี ารส�ำ หรบั การสอื่ สารทเี่ กย่ี วกบั ขอ้ มลู พยายามทจ่ี ะขจัดความยากจน กจิ กรรมและความพยายามดา้ นการปรบั ตวั ประเทศก�ำ ลงั พฒั นา 2. วงรอบหา้ ปขี องการดำ�เนนิ งาน เพอ่ื สรา้ งแรงผลกั ดนั จะได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนในการวางแผน จากแผนงานการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติของ การดำ�เนนิ งานและการส่ือสารกจิ กรรมการปรับตวั แต่ละประเทศมุ่งสู่การปฏิบัติที่มีความก้าวหน้าภายใต้ความ 5. ความสูญเสียและความเสียหาย ความตกลงปารีส ตกลงปารสี ทุกประเทศไดต้ กลงใหม้ ีกระบวนการจดั ท�ำ และแจ้ง ได้ตระหนักและให้ความสำ�คัญของการหลีกเล่ียง การบรรเทา การมีส่วนร่วมทก่ี ำ�หนดโดยประเทศในรูป NDC อยา่ งตอ่ เนื่อง และการจัดการกับการสูญเสียและความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับ ทุกๆ 5 ปี เร่ิมจากปี ค.ศ. 2020 โดย NDC ครั้งถัดไป จะตอ้ ง ผลกระทบทางลบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ รวมถงึ แสดงความก้าวหน้าท่ีเพ่ิมข้ึนและสะท้อนความพยายามท่ีเป็น บทบาทของการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ในการลดความเสย่ี งของการสญู เสยี ไปได้สูงสุด ทั้งน้ี ทุกประเทศต้องส่งข้อมูลที่จำ�เป็นประกอบ และความเสียหาย ซ่ึงได้พิจารณาแยกจากหัวข้อการปรับตัว การแจ้ง NDC เพ่ือความชัดเจน ความโปร่งใสและความเข้าใจ โดยยกระดบั และเสรมิ สรา้ งกลไกระหวา่ งประเทศวอรซ์ อส�ำ หรบั โดย NDC ซงึ่ แจง้ โดยภาคตี อ้ งไดร้ บั การบนั ทกึ ในระบบทะเบยี น การสูญเสียและความเสียหาย (Warsaw International สาธารณะ Mechanism (WIM) on Loss and Damage) ซึ่งจัดต้ังข้ึนเม่ือ 3. การทบทวนสถานการณแ์ ละการดำ�เนนิ งานระดบั โลก สองปีทีผ่ า่ นมา ให้มีประสทิ ธภิ าพมากขึ้น แบบเข้มข้นทุกๆ 5 ปี ความตกลงปารีส ได้จัดต้ังกระบวนการ 6. การชว่ ยเหลอื ทางการเงนิ ความตกลงปารีสระบถุ ึง ทบทวนสถานการณ์และการดำ�เนินงานระดับโลกแบบเข้มข้น การหมุนเวียนของแหล่งเงินทุนจากแหล่งต่างๆ ท้ังจากภาครัฐ เพื่อเป็นกลไกสำ�หรับประเมินการดำ�เนินงานและทบทวน และเอกชน จ�ำ เปน็ ตอ้ งใชเ้ พอื่ เปลยี่ นผา่ นไปสกู่ ารพฒั นาทปี่ ลอ่ ย กจิ กรรมดา้ นการเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ อยา่ งสม�ำ่ เสมอ ก๊าซเรือนกระจกต่ำ�และเสริมภูมิต้านทานและความสามารถ เปน็ ระยะทุกๆ 5 ปี เพือ่ ประเมนิ ความกา้ วหน้าในภาพรวมต่อ ในการฟนื้ ตัวจากภมู ิอากาศ โดยเน้นยำ้�อย่างชัดเจนว่าประเทศ การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายระยะยาวของความตกลง พัฒนาแล้ว ยังคงเป็นผู้นำ�ระดมเงินทุนและให้ความช่วยเหลือ ปารสี กระบวนการนี้ จะประเมนิ การด�ำ เนนิ งานดา้ นการลดกา๊ ซ แก่ประเทศกำ�ลังพัฒนา การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เรือนกระจก การปรับตัว การสนับสนุนในรูปการช่วยเหลือ ดังกล่าว ควรให้เกิดความสมดุลระหว่างการปรับตัวและการลด ทางการเงิน เทคโนโลยีและการเสริมสร้างศักยภาพ ซ่ึงผลการ ก๊าซเรือนกระจก ซ่ึงการช่วยเหลือทางการเงินเพื่อการปรับตัว ประเมินจะนำ�ไปใช้เพื่อปรับปรุงและยกระดับการดำ�เนินงาน มสี ดั สว่ นทเ่ี พม่ิ ขน้ึ อยา่ งมนี ยั กอ่ น ปี ค.ศ. 2020 ประเทศพฒั นาแลว้ รวมถึงการสนับสนุน NDC และส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง ตกลงวา่ จะด�ำ เนนิ การตามพนั ธกรณเี ดมิ ในการระดมเงนิ ทนุ 100 ประเทศ การทบทวนสถานการณ์และการดำ�เนินงานระดับโลก พันล้านเหรยี ญสหรฐั ฯ ต่อปีจนถงึ ปี ค.ศ. 2025 สว่ นเปา้ หมาย ครั้งแรก จะเริ่มในปี ค.ศ. 2023 และจะดำ�เนินการทุกๆ 5 ปี การระดมเงินทุนสำ�หรับช่วงเวลาหลังจากปี ค.ศ. 2025 จะถูก หลงั จากนน้ั อยา่ งไรกต็ าม ทกุ ประเทศไดต้ กลงรเิ รมิ่ การทบทวน กำ�หนดขึ้นใหม่ซ่ึงต้องเป็นระดับท่ีมากกว่าความพยายาม สถานการณแ์ ละการด�ำ เนนิ งานระดบั โลกเบอื้ งตน้ ในปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเข้าถึงทรัพยากรทางการเงิน ต้องมี เพื่อนำ�ผลการทบทวนมาปรับปรุงการจัดส่ง NDC ฉบับแรก ประสิทธิภาพผ่านข้ันตอนการอนุมัติที่ง่ายและมีการสนับสนุน ในปี ค.ศ. 2020 เพื่อเตรียมความพร้อมที่ดีข้ึนสำ�หรับประเทศกำ�ลังพัฒนา โดย 4. การปรับตัวต่อการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ ความตกลงปารีส ยังเปิดโอกาสให้ประเทศกำ�ลังพัฒนาบาง ได้กลายเป็นประเด็นหลักในการตอบสนองต่อปัญหา ประเทศทม่ี คี วามพรอ้ ม สามารถใหค้ วามชว่ ยเหลอื ประเทศก�ำ ลงั การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในระยะยาว ซึ่งให้ พฒั นาอน่ื ๆ ได้เชน่ กัน นอกจากนี้ ระบบรายงานและแจง้ ข้อมูล ความส�ำ คญั เทา่ เทยี มกนั กบั การลดกา๊ ซเรอื นกระจก โดยก�ำ หนด บ่งช้ีเชิงปริมาณและคุณภาพที่เกี่ยวกับการระดมเงินทุน การให้ เป้าหมายการปรับตัวของโลก เพ่ือยกระดับความสามารถใน ความชว่ ยเหลือและการได้รบั ความช่วยเหลือ จะถกู พัฒนาเพอื่ การปรบั ตวั สง่ เสรมิ ภมู ติ า้ นทานและการฟนื้ ตวั (Resilience) และ เพ่มิ ความโปรง่ ใสของการดำ�เนนิ งาน No.34 September 2016

เรอื่ งเดน่ ประจำ�ฉบบั 7 7. ความโปรง่ ใส จดั ตง้ั ระบบความโปรง่ ใสในการด�ำ เนนิ งานและการสนับสนุนท่ียกระดับขึ้นจากเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจ รว่ มกนั และสง่ เสรมิ การด�ำ เนนิ งานทมี่ ปี ระสทิ ธผิ ล วตั ถปุ ระสงคข์ องระบบความโปรง่ ใสดา้ นการด�ำ เนนิ งาน เพอื่ ความเขา้ ใจทชี่ ดั เจน ต่อการดำ�เนินงานท่ีให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาฯ ติดตามความก้าวหน้าของ NDC การดำ�เนินงานดา้ นการปรบั ตวั ประเมินผลการดำ�เนินงานท่ผี ่านมาและเสนอแนะสิ่งท่ีต้องดำ�เนินการเพิ่มเติม ในขณะท่ีวัตถุประสงค์ของกรอบความโปร่งใส ด้านการสนับสนุน เพ่ือความชัดเจนเก่ียวกับการให้และรับการสนับสนุนด้านต่างๆ ซึ่งจะใช้ประกอบการทบทวนสถานการณ์และ การดำ�เนินงานระดับโลก ระบบความโปร่งใสที่พัฒนาข้ึน ต้องยกระดับการดำ�เนินงานด้านความโปร่งใสภายใต้อนุสัญญาฯ และ ตอ้ งน�ำ ไปปฏบิ ตั ใิ นลกั ษณะทเี่ ออ้ื อ�ำ นวย ไมแ่ ทรกแซง ไมม่ กี ารลงโทษ ใหค้ วามเคารพตอ่ อ�ำ นาจอธปิ ไตยของประเทศและหลกี เลยี่ ง การสรา้ งภาระทไ่ี มจ่ �ำ เปน็ แกป่ ระเทศตา่ งๆ ทง้ั นี้ ตอ้ งมคี วามยดื หยนุ่ และพจิ ารณาถงึ ศกั ยภาพของประเทศก�ำ ลงั พฒั นา โดยประเทศ ก�ำ ลงั พฒั นา จะตอ้ งไดร้ บั การสนบั สนนุ การด�ำ เนนิ งานและการเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ พรอ้ มทง้ั จดั ตง้ั Capacity-building Initiative for Transparency 8. การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ เพ่อื ให้ความตกลงปารสี เปน็ ที่ยอมรับในระดับสากลและมีผลบังคบั ใชท้ ว่ั โลก ทุกประเทศต่าง เหน็ พอ้ งตอ้ งกนั ว่า การเสริมสร้างศักยภาพอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เป็นหวั ใจสำ�คญั ที่เอื้อใหป้ ระเทศกำ�ลังพัฒนาสามารถด�ำ เนนิ การ ด้านต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เข้มแข็งขึ้น โดยการเสริมสร้างศักยภาพ จะต้องถูกยกระดับ ผา่ นการจดั การเชงิ สถาบนั ทเ่ี หมาะสม พรอ้ มทง้ั จดั ตง้ั Paris Committee on Capacity-building (PCCB) แผนงานและกลไกทีเ่ ก่ียวขอ้ ง เพื่อก�ำ กบั ดูแล สนับสนนุ และก�ำ หนดแนวทางการดำ�เนินงาน ใหต้ อบสนองตอ่ ความต้องการของแตล่ ะประเทศ เสริมสร้างความ เปน็ เจา้ ของและการมสี ว่ นรว่ ม และเปน็ ไปในลกั ษณะของกระบวนการทท่ี �ำ ซ�ำ้ อยา่ งตอ่ เนอื่ งทมี่ ปี ระสทิ ธผิ ล ทง้ั น้ี ประเทศพฒั นาแลว้ ควรยกระดบั การสนบั สนนุ การด�ำ เนนิ งานดา้ นการเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพแกป่ ระเทศก�ำ ลงั พฒั นา และตอ้ งแจง้ ผลการด�ำ เนนิ งานดงั กลา่ ว อยา่ งสม�่ำ เสมอ ตารางที่ 2 สรุปโครงสรา้ งของความตกลงปารีส ประเดน็ หลกั การรายงาน การทบทวน อ่ืนๆ บทนำ� ผลการดำ� เนินการ และ การจัดการเชิงสถาบัน การบงั คับใช้ ขอ้ 1 ค�ำจ�ำกดั ความ ขอ้ 4 การลดก๊าซเรอื นกระจก ขอ้ 13 ความโปร่งใส ขอ้ 16 ทป่ี ระชุมภาคซี งึ่ ท�ำ ข้อ 20 ก ารลงนามและการให้ ข้อ 2 วตั ถปุ ระสงค์ ข้อ 5 การดูดซบั และกกั เกบ็ ก๊าซ ขอ้ 14 การทบทวนสถานการณ์ หนา้ ทเ่ี ป็นทป่ี ระชุม สตั บนั ข้อ 3 การมีสว่ นรว่ มท่ี เรอื นกระจก และ REED+ และการด�ำเนนิ การ ภาคีความตกลงปารีส ขอ้ 21 การมผี ลบงั คบั ใช้ ก�ำหนดโดยประเทศ ข้อ 6 Cooperative approaches ระดบั โลก ข้อ 17 เลขาธิการความตกลง ขอ้ 22 การแก้ไขเพิ่มเติม (Nationally ข้อ 7 การปรับตวั ข้อ 15 การส่งเสริมการ ปารีส ข้อ 23 ภาคผนวก Determined ขอ้ 8 ค วามสญู เสยี และความ ด�ำเนนิ งานและ ข้อ 18 องคก์ รย่อยดา้ นการ ข้อ 24 การระงับขอ้ พิพาท Contributions; NDCs) เสียหาย การบงั คบั ใช้ ด�ำเนินการ ขอ้ 25 การออกเสียง ขอ้ 9 การเงิน ขอ้ 19 องค์กรอ่ืนๆ และการ ขอ้ 26 ผู้เก็บรกั ษาความตกลง ข้อ 10 เทคโนโลยี จดั การเชงิ สถาบันที่ ปารสี ข้อ 11 การเสรมิ สรา้ งศักยภาพ สนบั สนนุ ความตกลง ขอ้ 27 การตง้ั ข้อสงวน ขอ้ 12 การศึกษาและการสรา้ ง ปารสี ขอ้ 28 การถอนตวั จากความ ความตระหนกั ตกลง ขอ้ 29 ภาษา REDD+ = Reducing Emissions from Deforestation and Forest Degradation, and the Role of Conservation, Sustainable Management of Forests and Enhancement of Forest Carbon Stocks in Developing Country การเตรยี มความพร้อมใหค้ วามตกลงปารสี มีผลบงั คับใช้ ความตกลงปารีส นับเป็นจุดเปลี่ยนสำ�คัญสำ�หรับการแก้ไขปัญหาการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในอนาคต หลงั ปี ค.ศ. 2020 ซง่ึ ไดว้ างวสิ ยั ทศั น์ แนวทางเชงิ หลกั การและเปา้ หมายไว้ เพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาของนานาประเทศมงุ่ สกู่ ารปลอ่ ยกา๊ ซ เรอื นกระจกต�ำ่ และมภี มู ติ า้ นทานและความสามารถในการฟน้ื ตวั จากภมู อิ ากาศ แตก่ ารรบั รองความตกลงปารสี ท่ี COP21 ณ กรงุ ปารสี เปน็ เพยี งจดุ เรม่ิ ตน้ เทา่ นน้ั ซง่ึ สถานะปจั จบุ นั ยงั ไมม่ ผี ลบงั คบั ใชแ้ ละผกู พนั ทางกฎหมาย ความสามารถในการบรรลเุ ปา้ หมายเหลา่ น้ี จงึ ขน้ึ อยกู่ บั รปู แบบ กระบวนการ ขน้ั ตอนและแนวทางทจ่ี ะตอ้ งรบี ด�ำ เนนิ การจดั ท�ำ รายละเอยี ดหลงั จากนเ้ี ปน็ ตน้ ไป ทง้ั น้ี คณะท�ำ งาน No.34 September 2016

8 เรอื่ งเดน่ ประจ�ำ ฉบบั เฉพาะกจิ วา่ ด้วยความตกลงปารสี (Ad Hoc Working Group on the Paris Agreement; APA) ถูกจดั ต้งั ขน้ึ เพื่อจดั ท�ำ รายละเอียด รูปแบบ กระบวนการ ขน้ั ตอนและแนวทางดังกลา่ ว[2] คณะทำ�งานฯ น้ี เรมิ่ ประชมุ ครั้งแรกเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2016 ซึง่ การ ดำ�เนินงานจะได้รับการสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจากกรอบอนุสัญญาฯ องค์กรย่อยให้คำ�ปรึกษาด้านเทคนิคและวิทยาศาสตร์ (Subsidiary Body for Scientific and Technological Advice; SBSTA) และองค์กรย่อยด้านการดำ�เนนิ งาน (Subsidiary Body for Implementation; SBI) งานส่วนใหญ่ของ APA จะต้องดำ�เนินงานให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมรัฐภาคีท่ีทำ�หน้าที่เป็นที่ประชุม รฐั ภาคคี วามตกลงปารสี (The Conference of the Parties serving as the meeting of the Parties to this Agreement; CMA) สมยั แรก ท่ีจะเกิดขึ้นหลังจากความตกลงปารีสมีผลบังคับใช้ ซ่ึงยังไม่ทราบอย่างแน่นอนว่าจะเกิดข้ึนเมื่อไหร่แต่คาดว่าก่อนปี ค.ศ. 2020 ในการประชุม COP22 ที่ประเทศโมร็อกโกปลายปีนี้ ภาคีจะต้องตกลงร่วมกันก่อนถึงแผนการดำ�เนินงานในภาพรวมของ APA เพอ่ื สรา้ งความมน่ั ใจวา่ งานท่ี APA รบั ผดิ ชอบจะเสรจ็ ทนั เวลา โดยภารกจิ หลงั จากนไี้ ปจนถงึ การประชมุ สมยั แรกของ CMA ที่ APA และ SBs ตอ้ งเนน้ และใหค้ วามส�ำ คญั เปน็ พเิ ศษ เพอ่ื ผลกั ดนั ใหค้ วามตกลงปารสี ทไี่ ดร้ บั รอง ณ กรงุ ปารสี มผี ลบงั คบั ใชโ้ ดยเรว็ และ สามารถอนุวัตไิ ด้อย่างประสิทธผิ ล ประกอบด้วย 1) จัดทำ�แนวทางส�ำ หรับประเทศในการเพ่มิ ความพยายาม 2) สร้างความมน่ั ใจ ตอ่ ระบบความโปรง่ ใสและการรว่ มรบั ผดิ ชอบ 3) ระบบตดิ ตามเงนิ ทนุ เพอื่ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ 4) สรา้ งความพยายาม ของวงรอบการปรบั ตัว 5) ออกแบบและก�ำ หนด PCCB 6) ออกแบบว่าประเทศจะบรรลุเปา้ หมายการลดก๊าซเรือนกระจกรว่ มกนั อยา่ งไร และ 7) สรา้ งกรอบเทคโนโลยใี หม่ ซง่ึ ภารกจิ หลกั หลงั จากการรบั รองความตกลงปารสี ทจ่ี ะตอ้ งด�ำ เนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ น การประชุมสมยั แรกของ CMA ดงั ตารางที่ 3 ตารางที่ 3 สรปุ ภารกจิ หลกั หลงั จากการรบั รองความตกลงปารสี ทจี่ ะตอ้ งด�ำเนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ นการประชมุ สมยั แรกของ CMA (ที่มา: Northorp and Krnjaic, 2016) หว้ งเวลา ภารกิจ ก.พ. - พ.ค. 2016 ปรบั ปรุงรายงาน สรา้ งระบบทะเบยี น ริเริ่ม clearinghouse ริเริม่ คณะทำ�งาน เร่ิมงานจดั ทำ�กรอบ รเิ ร่ิมการประเมิณประสทิ ธิผลและ COP22 2016 สงั เคราะห์ INDC สาธารณะช่วั คราว สำ�หรบั risk transfer เฉพาะกจิ สำ�หรบั เทคโนโลยใี หม่ ความเพียงพอในการสนบั สนนุ ให้แก่ ให้เปน็ ปจั จบุ นั ของ WIM displacement Technologo Mechanism ของ WIM ระบุถึงรายงาน IPCC สามารถช่วย ทบทวน WIM รเิ ร่มิ งานเพ่ือระบขุ ้อมูลทป่ี ระเทศพฒั นาต้องให้ รับรองรา่ งขอบเขตงานของ PCCB Global Stocktake ได้อย่างไร เกย่ี วกบั การระดมทนุ โดยภาครฐั COP23 2017 ทบทวนการจัดการเชงิ สถาบันด้านการปรับตวั COP24 2018 จดั facilitative dialogue เผยแพรร่ ายงานเฉพาะของ พิจารณาข้อเสนอแนะของ APA ตอ่ พัฒนารูปแบบการ พัฒนาข้อเสนอแนะ เพอื่ ทบทวนความพยายาม IPCC เก่ียวกับผลกระทบ รปู แบบ กระบวนการ ข้นั ตอนและ จดั ทำ�บญั ชสี ำ�หรบั สำ�หรับความโปรง่ ใส รว่ มมือกันต่อเป้าหมาย ของการเพม่ิ ขนึ้ 1.5 ํC แนวทางสำ�หรับความโปรง่ ใสของการ เงินทุนจากภาครัฐ ของการดำ�เนินงานและ ระยะยาวของความตกลงปารสี ของอณุ หภูมิโลก ดำ�เนนิ งานและการให้การสนบั สนุน การให้การสนับสนนุ COP25 2019 การปรับปรงุ INDC ใหเ้ ปน็ จดั ส่งยทุ ธศาสตร์การพัฒนาท่ี รับรองขอบเขตและรปู แบบส�ำหรับ ทบทวนความกา้ วหน้า ความจ�ำเปน็ ในการ ปัจจุบันหรอื จดั สง่ INDC ใหม่ ปล่อยก๊าซเรอื นกระจกตำ่� การประเมินเปน็ ระยะ ของการสนบั สนุน ขยายระยะเวลา ประสทิ ธผิ ล และการยกระดบั ทจ่ี ัดให้แก่ Technologo Mechanism ของ PCCB กลไกลการเพ่มิ ความพยายาม การปรบั ตัว การสูญเสียและความเสยี หาย เทคโนโลยี การเงิน การเสรมิ สรา้ งศักยภาพ ความโปร่งใสและการรว่ มรบั ผิดชอบ ความตกลงปารีส จะมีผลบังคับใช้และผูกพันทาง of ratification) สารการยอมรับ (instrument of acceptance) กฎหมายหลังจากภาคีอนุสัญญาฯ อย่างน้อยที่สุด 55 ภาคี สารการให้ความเห็นชอบ (instrument of approval) หรือ ซึ่งมีความรับผิดชอบรวมกันต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภาคยานวุ ตั สิ าร (instrument of accession)[2] ณ จดุ น้ี ยงั ไมส่ ามารถ อย่างน้อยท่ีสุดประมาณร้อยละ 55 ของจำ�นวนการปล่อยก๊าซ คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเทศ เรือนกระจกทั้งหมดของโลก ได้มอบสัตยาบันสาร (instrument จะสามารถด�ำ เนนิ การขน้ั ตอนตา่ งๆ ภายในประเทศไดช้ า้ หรอื เรว็ No.34 September 2016

เร่ืองเด่นประจ�ำ ฉบบั 9 Northrop and Ross (2016) แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเปน็ ไปไดส้ ามกรณที ป่ี ระเทศตา่ งๆ สามารถรวมตวั กนั เพอ่ื ใหถ้ งึ เกณฑด์ งั กลา่ วขา้ งตน้ เพ่ือให้ความตกลงปารีส มีผลใช้บงั คบั [5] (รปู ท่ี 1) โดยผลการวเิ คราะห์ พบวา่ เกณฑข์ องรอ้ ยละ 55 สามารถบรรลไุ ด้ หากอยา่ งนอ้ ย หนง่ึ ประเทศในบรรดาสป่ี ระเทศทป่ี ลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจก สงู สุดของโลก (จนี สหรัฐอเมริกา สหภาพยโุ รปและ รสั เซีย) เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารสี กรณีท่ี 1 และ 2 มคี วามเปน็ ไปไดส้ งู เนอื่ งจากประเทศจนี และ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีถ้อยแถลงร่วมกัน (joint statement) ที่แสดงเจตจำ�นง ในการเข้าร่วม เป็นภาคีความตกลงปารีส[6] ในขณะนี้ สำ�นัก เลขาธิการอนุสัญญาฯ ได้เปิดให้ประเทศต่างๆ ลงนามและให้สัตยาบันเพื่อเข้าร่วมเป็นภาคีความ ตกลงปารีส ในช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 22 เมษายน ปี ค.ศ.2016 (2559) ถงึ วนั ที่ 21 เมษายน ปี ค.ศ.2020 (2560) ท่ีสำ�นักงานสหประชาชาติ ณ กรุงนิวยอร์ค อย่างไรก็ตาม ประเทศต่างๆ ยังสามารถเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีสได้ หลังจากวันที่ 21 เมษายน 2560 ในลักษณะ ภาคยานวุ ตั รซง่ึ เปน็ ค�ำ ทใ่ี ชเ้ มอ่ื ประเทศใดประเทศหนง่ึ กลายเป็นภาคีความตกลงระหว่างประเทศหลังจาก ประเทศอ่ืนๆ ได้ลงนามแล้ว โดยการมอบ ภาคยานุวัติสาร มีผลบังคับใช้และผูกพันทาง กฎหมายเชน่ เดยี วกนั กบั สตั ยาบนั สาร สารการยอมรบั หรอื สารการให้ความเห็นชอบ รปู ท่ี 1 ค วามเป็นไปได้สามกรณีท่ีประเทศต่างๆ สามารถรวมตัวกันเพ่ือให้ถึงเกณฑ์อย่างน้อยที่สุด 55 ภาคี ซ่ึงมีความรับผิดชอบรวมกันต่อการปล่อย ก๊าซเรอื นกระจกอยา่ งน้อยท่สี ดุ ประมาณรอ้ ยละ 55 ของจ�ำ นวนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทง้ั หมดของโลก เพ่อื ใหค้ วามตกลงปารสี มผี ลใชบ้ งั คับ (ทม่ี าของ ขอ้ มูล: Northrop and Ross, 2016) การเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีสของประเทศไทยและ เขา้ รว่ มเปน็ ภาคคี วามตกลงปารสี แลว้ จะมที างเลอื ก 3 ชว่ งเวลา พันธกรณีท่ีเกีย่ วข้องกับประเทศไทย ในการลงนาม (รูปที่ 2) สำ�หรับข้ันตอนการให้สัตยาบันน้ัน การเขา้ รว่ มเปน็ ภาคคี วามตกลงปารสี ของประเทศไทยนน้ั เรมิ่ จากการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ในวงกวา้ งตอ่ การใหส้ ตั ยาบนั เพอื่ สผ. ในฐานะหนว่ ยประสานงานกลางของประเทศ ภายใตก้ รอบ เข้าเป็นภาคีความตกลงปารีส ซ่ึงจะต้องนำ�ผลการรับฟังความ อนุสัญญาฯ จะต้องนำ�เร่ืองเสนอให้คณะอนุกรรมการ คดิ เหน็ ดงั กลา่ ว มาประมวลและเสนอตอ่ คณะรฐั มนตรผี า่ นทาง การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านการประสานท่าทีเจรจา คณะกรรมการนโยบายการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศแหง่ ชาติ และความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ เพอ่ื พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ใน ท้ังนี้ หากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ สผ. จะต้องประสานกับ เบ้ืองต้นก่อนนำ�เร่ืองเข้าท่ีประชุมคณะกรรมการนโยบายการ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายเพ่ือจัดส่งสัตยบันสารต่อไป เปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ เพื่อพิจารณาเสนอต่อ (รูปที่ 3) หลังจากการเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีสแล้ว คณะรัฐมนตรี หากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทย ประเทศไทยจะมพี นั ธกรณใี นสว่ นต่างๆ ดังสรปุ ในตารางท่ี 4 No.34 September 2016

10 เรอ่ื งเดน่ ประจำ�ฉบบั ความตกลง คณะอนกุ รรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้าน ปารสี การประสานท่าทเี จรจาและความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเปล่ยี นแปลง สภาพภูมิอากาศแหง่ ชาติ คณะรฐั มนตรี ไม่เข้าร่วมเป็นภาคี ความตกลงปารีส เขา้ ร่วมพิธีลงนามความตกลงปารีส ลงนามระหวา่ ง วันที่ 21 เม.ย. ค.ศ.2016 ให้ภาคยานวุ ัตสิ าร โดยผแู้ ทนระดบั สงู จัดโดยเลขาธิการสหประชาชาติ - วนั ท่ี 21 เม.ย. ค.ศ.2020 วนั ที่ 22 เม.ย. ค.ศ.2016 ณ นครนวิ ยอรก์ สหรัฐอเมริกา รูปที่ 2 ข น้ั ตอนการลงนามความตกลงปารีสของประเทศไทย (ที่มา: คณะท�ำงานเจรจาส�ำหรบั การประชมุ ภายใต้กรอบอนสุ ัญญาสหประชาชาตวิ ่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม) รับฟังความคิดเหน็ วงกว้างต่อ ความตกลง คณะอนกุ รรมการการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศด้านการ การให้สัตยาบันเพอื่ ปารสี ประสานทา่ ทีเจรจาและความรว่ มมือระหวา่ งประเทศ เขา้ เป็นภาคคี วามตกลงปารสี ผลการรับฟังความคิดเห็น คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู อิ ากาศแห่งชาติ ต่อการเข้าร่วมเปน็ ภาคี ความตกลง คณะรัฐมนตรี ปารสี ความตกลงปารีส สน. ประสานกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เพ่ือนำ� สง่ สัตยบันสาร เขา้ ร่วมเป็นภาคี ความตกลงปารสี รูปท่ี 3 ข ้ันตอนการลงนามความตกลงปารีสของประเทศไทย (ท่มี า: คณะท�ำงานเจรจาส�ำหรับการประชุมภายใตก้ รอบอนุสัญญาสหประชาชาติวา่ ด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ ส�ำนกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม) No.34 September 2016

เรื่องเดน่ ประจำ�ฉบับ 11 ตารางที่ 4 ส รุปพันธกรณีความตกลงปารีสในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับประเทศไทย (ท่ีมา: คณะท�ำงานเจรจาส�ำหรับการประชุมภายใต้ กรอบอนสุ ญั ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ส�ำนกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อม) ADP1-1 (May 2012) เยอรมนี จดั ทำ� และรบั รองวาระการประชมุ 1. การลดก๊าซเรือนกระจก - จ ดั ท�ำและแจง้ NDC อย่างต่อเน่ือง พรอ้ มท้ังด�ำเนินมาตรการลดกา๊ ซเรอื นกระจกภายใน ประเทศ 2. ความรว่ มมือในการด�ำเนนิ งาน - ใหข้ อ้ มูลที่จ�ำเปน็ เพ่ือความชัดเจน ความโปรง่ ใสและความเขา้ ใจประกอบการแจง้ NDC 3. เทคโนโลยี - จดั ส่งเป้าหมายและแผนการลดกา๊ ซเรือนกระจกของประเทศทุก 5 ปี 4. การเสริมสร้างศกั ยภาพ - ต อ้ งมกี ารจดั ท�ำบัญชแี สดงผลการด�ำเนนิ งานตามเป้าหมาย และแผนการลดก๊าซเรือน 5. การศกึ ษาการสรา้ งจติ ส�ำนกึ และการมสี ่วนรว่ ม กระจกของประเทศ โดยจัดท�ำบัญชกี า๊ ซเรือนกระจกท่เี กดิ จากกจิ กรรมของมนษุ ย์ และ 6. ความโปรง่ ใส การก�ำจดั กา๊ ซเรือนกระจกโดยการดดู กลบั ซึ่งต้องอยบู่ นหลักการทีก่ �ำหนด โดยเฉพาะ ต้องไม่เกิดการนับซ้ำ� ตามแนวทางทไ่ี ดต้ กลงกัน - ต อ้ งพจิ ารณาถงึ ขอ้ กงั วลของภาคที ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบทางเศรษฐกจิ มากทส่ี ดุ เมอ่ื ประเทศไทย น�ำมาตรการตา่ งๆ มาใช้ในการตอบสนองตอ่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ (response measure) หากประเทศไทยตอ้ งการใช้กลไกตลาดทม่ี กี ารซอ้ื /ขาย ผลการลดก๊าซเรอื นกระจก เพื่อใช้ ในการบรรลุเปา้ หมายการลดกา๊ ซเรือนกระจกน้นั ประเทศไทยตอ้ งสนับสนุนการพัฒนา ท่ยี ่งั ยืน และท�ำใหม้ ั่นใจว่ามีความม่งั คงด้านสิง่ แวดล้อมและความโปร่งใส รวมถงึ ความ โปรง่ ใสในการก�ำกบั ดูแล และตอ้ งใชก้ ารบญั ชีทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ เพือ่ ใหม้ ่ันใจว่ามกี ารหลีก เลี่ยงการนับซ้ำ� ต้องเสรมิ สร้างความรว่ มมือในการด�ำเนนิ งานด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี เนื่องจากมคี วามส�ำคญั ในการน�ำมาใช้ในการด�ำเนินงานทง้ั ดา้ นการลดก๊าซเรอื นกระจก และการปรับตัว ตอ้ งร่วมกนั ด�ำเนนิ การเพอ่ื เสรมิ สร้างศกั ยภาพของประเทศก�ำลงั พัฒนาเพ่อื ใหส้ ามารถ ด�ำเนนิ การตามพนั ธกรณขี องตน ตอ้ งรว่ มมือกับประเทศต่างๆ เพือ่ ด�ำเนินมาตรการที่ส่งเสรมิ การศึกษา การฝกึ อบรม ความ ตระหนักรู้ของสาธารณชน การมีส่วนร่วมของประชาชน การเข้าถงึ ข้อมลู ของประชาชน โดยตระหนกั ว่าการด�ำเนินการเหลา่ นี้ เป็นการเสริมสรา้ งการด�ำเนินงานภายใต้ความตกลง ปารีสใหเ้ กดิ ขน้ึ ประเทศไทย ต้องจัดส่งรายงานบัญชีกา๊ ซเรือนกระจกของประเทศและตอ้ งจัดส่งขอ้ มลู ความก้าวหนา้ ในการด�ำเนนิ งานของประเทศตามเป้าหมายการลดกา๊ ซเรอื นกระจกทไี่ ดน้ �ำ เสนอไว้ เอกสารอ้างองิ [1]UNFCCC. Paris Climate Change Conference- November 2015. United Nations Framework on Climate Change Convention, http://unfccc. int/meetings/paris_nov_2015/meeting/8926.php. [2]UNFCCC. Paris Agreement. United Nations Framework on Climate Change Convention, http://unfccc.int/paris_agreement/items/9485.php. [3]UNFCCC. Durban Climate Change Conference –November/December 2011. United Nations Framework on Climate Change Convention, http://unfccc.int/meetings/durban_nov_2011/meeting/6245.php. [4]UNFCCC. Ad Hoc Working Group on the Durban Platform for Enhanced Action (ADP). United Nations Framework on Climate Change Convention, http://unfccc.int/bodies/body/6645.php. [5]Northrop, E. and Krnjaic, M. (2016). After COP21: 7 key tasks to implement the Paris Agreement. World Resource Institute, http://www.wri.org/blog/2016/03/after-cop21-7-key-tasks-implement-paris-agreement. [6]The White House President Barack Obama. (2016). U.S.-China Joint Presidential Statement on Climate Change. https://www.whitehouse.gov/the-press-office/2016/03/31/us-china-joint-presidential-statement-climate-change. No.34 September 2016

12 เร่ืองเดน่ ประจ�ำ ฉบบั วุฒิชัย แพงแก้ว1 อัศมน ลมิ่ สกลุ 1 ฤทธิรงค์ จังโกฏ2ิ และนดิ าลักษณ์ อรณุ จันทร1์ 1ศูนย์วจิ ยั และฝกึ อบรมด้านส่ิงแวดล้อม 2 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 34 38 โปรแกรมประมวลผล ดัชนคี วามรอ้ นส�ำหรบั ประเทศไทย ความส�ำคัญและที่มาของโปรแกรมประมวลผลดัชนี สถานอี ตุ นุ ยิ มวทิ ยาทว่ั ประเทศท�ำการวเิ คราะหอ์ ณุ หภมู ิ ในชว่ ง ความร้อนส�ำหรบั ประเทศไทย ระหวา่ งปี พ.ศ. 2548-2552 พบว่า อุณหภมู มิ ีแนวโน้มเพิ่มข้นึ ในปจั จบุ นั สภาพภมู อิ ากาศทเี่ ปลย่ี นแปลงไปไดส้ ง่ ผลให้ อยา่ งมีนัยส�ำคญั โดยค่าเฉล่ยี รายปีของอณุ หภูมสิ งู สดุ อุณหภูมิ อุณหภูมิในพ้นื ทบี่ รเิ วณต่างๆ ของประเทศไทยมีค่าสูงข้ึนอย่าง เฉลยี่ อุณหภมู ิต�ำ่ สดุ มีแนวโน้มเพิม่ ขึ้น 0.86, 0.95 และ 1.45 ต่อเน่ือง ท�ำให้วันท่ีอากาศร้อนมีความถี่ของการเกิดและความ องสาเซลเซยี ส ในรอบ 55 ปีทผี่ ่านมา ซึ่งสอดคล้องกบั รายงาน รนุ แรงมากขน้ึ ดงั จะเหน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนในเดอื นเมษายน ปี พ.ศ. ของ กรรวี (2551) พบว่า อณุ หภูมเิ ฉลย่ี อณุ หภูมสิ งู สดุ และต�่ำ 2559 ทีผ่ า่ นมา โดยกรมอุตุนยิ มวิทยา (2559) ไดร้ ายงานวา่ มี สดุ ของประเทศไทยในรอบ 50 ปที ผี่ า่ นมา (ระหวา่ ง พ.ศ. 2494 - อุณหภูมิความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเกือบ 2549) มแี นวโน้มเพ่มิ ขน้ึ 0.81, 0.57 และ 0.89 องศาเซลเซียส ตลอดเดือน อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยในเดือนน้ีสูงกว่า ตามล�ำดบั คา่ ปกตปิ ระมาณ 2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาค แสงจันทร์ ลิ้มจิรการ และคณะ (2553) และรายงาน ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคกลางสงู กวา่ คา่ ปกตปิ ระมาณ 2-3 การสังเคราะห์และประมวลสถานภาพองค์ความรู้ด้านการ องศาเซลเซยี ส ทง้ั นหี้ ลายพน้ื ทม่ี อี ณุ หภมู สิ งู สดุ สงู กวา่ สถติ เิ ดมิ ท่ี เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของไทย ครั้งท่ี 1 พบว่า อุณหภูมิและ เคยตรวจวัดได้ ดงั ปรากฏในอ�ำเภอเมอื ง จังหวดั แมฮ่ ่องสอน ท่ี ความช้ืนสัมพัทธ์ ซึ่งเป็นตัวแปรหลักท่ีก�ำหนดการเกิดสภาวะ อณุ หภมู สิ ูงสดุ วดั ได้ 44.6 องศาเซลเซียส เม่ือวนั ที่ 28 เมษายน อากาศความรอ้ นจดั และคลนื่ ความรอ้ น มแี นวโนม้ เพมิ่ ขนึ้ อยา่ ง 2559 ซ่ึงเป็นอุณหภูมิท่ีสูงท่ีสุดเท่าที่เคยมีการตรวจวัดของ มีนัยส�ำคัญในประเทศไทย รวมถึง Tawatsupa et al. (2012) ประเทศไทย (รูปท่ี 1) ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและ เม่ือพจิ ารณาถึงภาพรวมของประเทศไทย พบวา่ มีการ อตั ราการตายของคนไทยในชว่ งระหวา่ งปี ค.ศ. 1999-2008 โดย ศึกษาวิจัยหลายช้ินที่บ่งบอกไปในทิศทางเดียวกันว่าค่าเฉล่ีย อณุ หภมู สิ งู สดุ เปน็ ปจั จยั ทส่ี �ำคญั ในการคาดการณอ์ ตั ราการตาย อุณหภูมิของประเทศไทยจะเพ่ิมสูงขึ้นอย่างต่อเน่ืองในอนาคต จากหลกั ฐานการศกึ ษาทผ่ี า่ น อาจจะกล่าวไดว้ า่ สภาวะอากาศ เช่น อัศมน ล่ิมสกุล และคณะ (2554) ท่ีใช้ข้อมูลตรวจวัดจาก รอ้ นจดั รวมถงึ คลน่ื ความรอ้ น จดั เปน็ ภยั คกุ คามใหมท่ เี่ กดิ ควบคู่ No.34 September 2016

เรื่องเด่นประจ�ำ ฉบับ 13 รปู ท่ี 1 อณุ หภมู ิสงู สดุ เฉลย่ี และอณุ หภูมสิ งู สดุ เฉลี่ย สูง-ตำ�่ กวา่ คา่ ปกติ เดือนเมษายน พ.ศ. 2559 กับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุณหภูมิที่เกิดจากสภาวะ Relational Database Management System) และใช้ ASP.NET ก๊าซเรือนกระจก ซ่ึงนับเป็นความเสี่ยงทางด้านสุขภาพและ Web Pages ชว่ ยในการสร้าง Web Application ทีส่ ามารถปรับ การด�ำรงชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนยากจนและ เปล่ยี นได้ตามการเขยี นค�ำสงั่ และเงอื่ นไขต่างๆ ได้ตามต้องการ บุคคลที่มีโรคประจ�ำตัว ซ่ึงเป็นกลุ่มประชากรท่ีมีข้อจ�ำกัดของ โดยการก�ำหนดขั้นตอนให้เครื่องคอมพิวเตอร์ท�ำงานซ่ึงมี ความสามารถและศกั ยภาพในการปรบั ตวั ดงั นนั้ หากมกี ารพฒั นา โครงสรา้ งการควบคมุ พนื้ ฐาน 3 หลกั การ ไดแ้ ก่ การท�ำงานแบบ โปรแกรมประมวลผลดชั นคี วามรอ้ นทจี่ ะเปน็ เครอ่ื งมอื อยา่ งงา่ ย ตามล�ำดบั (Sequence) การเลอื กกระท�ำตามเง่อื นไข (Decision) ใหห้ นว่ ยงานสว่ นทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง รวมถงึ ภาคประชาชน และการท�ำซำ�้ (Loop) สามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ในการติดตามสถานการณ์ความร้อน โปรแกรมประมวลผลดัชนีความร้อน ถูกตั้งค่าเพ่ือ ในระดับท้องถ่ิน จะช่วยเพ่ิมศักยภาพการเตรียมความพร้อม ก�ำหนดเงอ่ื นไขการท�ำงาน โดยใหด้ าวนโ์ หลดขอ้ มลู อณุ หภมู แิ ละ และตั้งรับ รวมถึงการรับรู้ข่าวสารและความตระหนักของภาค ความช้ืนสัมพัทธ์แบบอัตโนมัติ จากหน้าแสดงผลการพยากรณ์ สว่ นตา่ งๆ ซง่ึ จะชว่ ยลดผลกระทบและความเสยี่ งทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ อากาศรายจังหวัดของกรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd. จากสภาวะอากาศร้อนจัดและคล่ืนความร้อนในปัจจุบันและ go.th/daily_forecast_forweb_guide.php ท้ังน้ีก�ำหนดตั้งเวลา ในอนาคตได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและอย่างทนั ทว่ งที ในการดึงข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาแบบรายวัน ในช่วงเวลา 15.00 น. (ของทกุ วัน) โดยใช้ task schedule ของ windows ใน แนวคิดและวิธีการพัฒนาโปรแกรมประมวลผลดัชนีความ การท�ำงานแล้วท�ำการเรยี ก code ท�ำงาน ซ่งึ กรมอุตนุ ิยมวิทยา ร้อนสำ� หรับประเทศไทย มบี รกิ ารขอ้ มลู ผา่ น Web API โดยแสดงผลแบบ XML ภาษาท่ี โปรแกรมประมวลผลดชั นคี วามรอ้ นส�ำหรบั ประเทศไทย ใช้เขียนโปรแกรมดึงข้อมูล คือ ASP.NET และจัดเก็บเป็นฐาน ท่ีพัฒนาขึ้นนั้น เป็นการพัฒนาบนโปรแกรมไมโครซอฟท์ ข้อมูลด้วย MySQL ข้อมูลอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์จะถูก ไอไอเอส (Microsoft IIS = Internet Information Server) ซึ่ง ดึงเข้าสู่ระบบประมวลผลเพ่ือท�ำการค�ำนวณดัชนีความร้อนใน เป็นโปรแกรมส�ำหรับการจ�ำลองเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กลาย สูตร Heat Index calculator และผลลัพท์ท่ีได้จากสูตรค�ำนวณ เป็นเครื่องเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยใช้ฐานข้อมูล MySQL ซ่ึงจัดอยู่ จะถูกจัดเก็บในระบบฐานข้อมูล MySQL (รูปที่ 2) และท�ำการ ในกลมุ่ ของระบบริหารจัดการฐานข้อมูลเชงิ สมั พนั ธ์ (RDBMS : แสดงผลการประมวลในแผนท่ี Google Map No.34 September 2016

14 เรอื่ งเด่นประจ�ำ ฉบบั ขอ้ มมูลอณุ หภูมิ ความชน้ื สมั พทั ธ์ สถานอี ตุ นุ ยิ มวิทยา ชว่ งเวลา 15.00 น. สถานีตรวจอากาศ เกษตร แสดงผลในแผนท่ี Server Google Map เกณฑ์ คอมพวิ เตอร์ ดึงข้อมูลดว้ ย ความรุนแรง ASP.NET ดัชนีความรอ้ น Heat Index calculator รูปที่ 2 ขน้ั ตอนการท�ำงานของโปรแกรมประมวลผลดชั นีความร้อนส�ำหรับประเทศไทย ส�ำหรบั การแสดงผลในแผนท่ี Google Map นน้ั โปรแกรมประมวลผลดชั นคี วามรอ้ นจะแสดงในรปู แบบของสญั ลกั ษณว์ งกลม ทแ่ี ยกออกเปน็ เฉดสี 4 สี ซง่ึ แบง่ ตาม Category ผลกระทบทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ ตอ่ รา่ งกายมนษุ ยต์ ามคา่ Heat Index ในชว่ งตา่ งๆ ดงั นี้ สญั ลกั ษณว์ งกลมสีฟา้ (caution) หมายถึง ค�ำเตือนใหเ้ ฝ้าระวัง ค่า HI อยใู่ นช่วง 26.7-32.2 °C วงกลมสเี หลือง (extreme caution) หมายถึง ค�ำเตือนใหร้ ะมดั ระวงั เป็นพิเศษ ค่า HI อยู่ในช่วง 32.2-40.6 °C วงกลมสีส้ม (danger) หมายถงึ อันตราย/มผี ลกระทบ ต่อสขุ ภาพและร่างกาย ค่า HI อยใู่ นช่วง 40.6-54.5 °C และวงกลมสีแดง (extreme danger) หมายถึง อันตราย/มีผลกระทบตอ่ สขุ ภาพและร่างกายอยา่ งรนุ แรง ค่า HI อยูใ่ นชว่ งมากกว่า 54.5 °C ดังแสดงในตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 ค�ำอธบิ ายสญั ลกั ษณ์ของโปรแกรมประมวลผลดชั นีความรอ้ น Symbol Category Heat Index °C 26.7-32.2 Caution 32.2-40.6 Extreme Caution 40.6-54.5 Over 54.5 Danger Extreme Danger การใชง้ านโปรแกรมประมวลผลดชั นคี วามรอ้ นส�ำหรับประเทศไทย โปรแกรมประมวลผลดชั นีความรอ้ นส�ำหรบั ประเทศไทยสามารถเข้าถงึ ได้ที่ http://deqp.it-biz.biz/map.aspx เมื่อกดเลือก เขา้ สู่โปรแกรมแลว้ หนา้ จอจะแสดงผลในรูปแผนท่ี Google Map ครอบคลมุ พนื้ ท่ี 50 สถานตี รวจวดั ในประเทศไทย เม่อื เข้าสู่หน้า จอดา้ นมมุ ซา้ ยด้านบนจะสามารถเลือกการแสดงแผนที่ได้ 2 แบบ คือ Map หรือ Satellite ส่วนด้านมมุ ขวาดา้ นบนจะแสดงตาราง ค�ำอธบิ ายสญั ลกั ษณข์ องโปรแกรมประมวลผลดัชนคี วามรอ้ น ดังแสดงในรปู ท่ี 3 No.34 September 2016

เร่อื งเดน่ ประจ�ำ ฉบบั 15 รูปที่ 3 หน้าจอแสดงผลโปรแกรมประมวลผลดัชนีความรอ้ นส�ำหรบั ประเทศไทย เมอื่ เขา้ สโู่ ปรแกรมประมวลผลดชั นคี วามรอ้ นแลว้ ผใู้ ชง้ านสามารถตดิ ตามสถานการณค์ วามรอ้ นตามรายจงั หวดั (สถานี ตรวจอากาศ) ไดท้ ้งั สิ้น 50 สถานี ซงึ่ จะเหน็ ความแตกต่างของคา่ Heat Index ทข่ี ึ้นอย่กู ับสภาพอากาศของสถานนี ้นั เม่อื ผ้ใู ช้ งานให้ความสนใจหรืออยากทราบรายละเอียดของจังหวัด/สถานี ให้เลื่อนเมาส์ไปที่สัญลักษณ์ท่ีข้ึนอยู่ก็จะเห็นช่ือสถานีและ คา่ Heat Index ล่าสุด ดังแสดงในรปู ท่ี 4 (หากเขา้ ดูข้อมูลก่อน 15.00 น. ของวัน จะเปน็ ข้อมูลยอ้ นหลัง 1 วัน/หากเขา้ ดขู อ้ มลู หลัง 15.00 จะเป็นขอ้ มูลปัจจบุ นั ) รปู ท่ี 4 ช่ือสถานีและคา่ Heat Index ล่าสดุ เมอื่ กดเลอื กท่ี รายละเอยี ด หนา้ จอจะเขา้ ไปสหู่ นา้ ทแี่ สดงผลเปน็ กราฟเสน้ เปรยี บเทยี บคา่ Heat Index ในชว่ งตงั้ แตเ่ รม่ิ ตดิ ต้ังค�ำสง่ั ให้โปรแกรมเริม่ ท�ำงาน (เริม่ ต้นเดอื นกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559) ค่า Heat Index ทป่ี รากฏเปน็ เสน้ สดี �ำเปน็ คา่ ที่ค�ำนวณ เปน็ รายวัน ในขณะท่ีเสน้ สีแดงเปน็ ค่า Heat Index เฉลี่ยระยะยาว (30 ปี) ซ่ึงการแสดงผลในสว่ นนจ้ี ะท�ำใหผ้ ใู้ ช้งานเข้าใจวา่ ช่วง เวลาใดท่คี ่า Heat Index มคี า่ สูงและเป็นชว่ งท่คี วรระมัดระวงั ผลกระทบต่อสขุ ภาพและรา่ งกายเปน็ พิเศษ (รูปท่ี 5) นอกจากนี้ หากผ้ใู ชง้ านโปรแกรมตอ้ งการดาวน์โหลดข้อมูล Heat Index ให้กดเลือกที่ Download ขอ้ มลู แล้วท�ำการบันทึกหรอื เปดิ ไฟลไ์ ด้ ใน Microsoft excel ซึ่งจะไดข้ ้อมูลรายวนั ท่ีท�ำการค�ำนวณ ดังแสดงในรปู ท่ี 6 และ7 No.34 September 2016

16 เรอ่ื งเดน่ ประจำ�ฉบับ รปู ที่ 5 คา่ Heat Index ทค่ี �ำนวณเปรยี บเทยี บกบั คา่ เฉล่ยี ระยะยาว 30 ปี รปู ท่ี 6 การดาวนโ์ หลดขอ้ มลู Heat Index รายวัน ตามรายสถานี รูปท่ี 7 ตวั อย่างขอ้ มลู ค่า Heat Index ทด่ี าวนโ์ หลด เอกสารอา้ งองิ กรรวี สิทธชิ วี ภาค. 2551. ความผันแปรและการเปลีย่ นแปรสภาพภมู ิอากาศ พ.ศ. 2550. ศนู ย์ภูมิอากาศ กรมอตุ ุนิยมวทิ ยา, กรงุ เทพฯ กรมอุตุนยิ มวทิ ยา. (2559) ศูนย์ภูมิอากาศ ส�ำนักพฒั นาอตุ นุ ยิ มวทิ ยา กรมอุตุนิยมวทิ ยา.สภาวะอากาศประเทศไทย เดือนเมษายน พ.ศ. 2559 http://www.tmd.go.th/programs/uploads/monthlySummary/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%A 2%E0%B8%99_2559.pdf แสงจนั ทร์ ลิ้มจิรกาล, อัศมน ล่มิ สกลุ และทววี งศ์ ศรีบุร.ี (2553). การประเมินสภาวะความรุนแรงสภาพภมู ิอากาศของประเทศไทย: การวิเคราะห์ ความเสี่ยงและความลอ่ แหลมของพ้นื ท่ีวิกฤต.ิ รายงานฉบบั สมบรูณ์ของส�ำนกั งานกองทุนสนบั สนนุ การวจิ ัย (สกว.). อัศมน ลิม่ สกุล, อ�ำนาจ ชิดไธสง และ กัณฑรีย์ บุญประกอบ. 2554. รายงานการสังเคราะหแ์ ละประมวลสถานภาพองคค์ วามรดู้ ้านการเปลย่ี นแปลง ภมู อิ ากาศของไทย พ.ศ.2554. บัณฑิตวทิ ยาลยั ร่วมด้านพลังงานสงิ่ แวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ กรงุ เทพฯ. 240 หน้า. Tawatsupa, B. Dear, K., Kjellstrom, T, and Sleigh, A. 2012. The association between temperature and mortality in tropical middle income Thailand from 1999 to 2008. International Journal of Biometeorology, DOI 10.1007/s00484-012-0597-8. No.34 September 2016

เรอ่ื งเดน่ ประจำ�ฉบบั 17 ขอ้ พงึ ปฏบิ ตั ิสำ� หรับมนษุ ย์ธรรมดาๆ ทอ่ี ยากชว่ ยลดโลกรอ้ น... ต๊กิ ถกู ได้ก่ขี ้อ เม่ือพูดถึงความร้อนของโลก ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ 3. เปลยี่ นหลอดไฟ เปน็ หลอดประหยดั พลงั งานแบบขด เป็นเรื่องที่มีแต่นักพูด นักวิจัย นักเขียน น�ำเสนอแนะ และ ท่ีเรียกว่า Compact Fluorescent Lightbulb (CFL) เพราะ อีกหลายๆ นัก... แต่เพราะเราไร้นักปฏิบัติ..จึงท�ำให้เร่ือง จะกนิ ไฟเพยี ง 1 ใน 4 ของหลอดไฟเดิม และมีอายกุ ารใช้งาน ภาวะโลกร้อนยังคงเป็นประเด็นให้เราชาวโลก... บ่นพึมพัม ไดน้ านกว่าหลายปีมาก  กับความร้อนของอากาศของโลกใบนี้ได้อย่างต่อเนอ่ื งและ มีผลการศึกษามากมายหลายสำ� นกั เกบ็ ไวเ้ ปน็ สถิติ 4. ใชไ้ ฟแบบหลอด LED จะไดแ้ สงทสี่ วา่ งและประหยดั กวา่ หลอดปกติ 40% การเปลยี่ นหลอดไฟจากหลอดไสจ้ ะชว่ ย หากเราลองเลิกวิจัย วิเคราะห์และหันมาปฏิบัติกัน ลดคารบ์ อนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี ดบู า้ ง... แลว้ รายงานผลสะทอ้ นกลบั มามายงั โลกดว้ ยรปู ธรรม จะเป็นเรอ่ื งนา่ ยินดีไม่นอ้ ย   5. ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ปั่นจักรยาน ใช้รถ โดยสารประจ�ำทาง หรือเดินไปท�ำกิจกรรมใกล้ๆ บ้าน ข้อน้ี เอาละวนั นี้ เราพบรายงานของคณะกรรมการระหวา่ ง ประหยัดเงินในกระเป๋าและลดการใช้พลังงานน้�ำมัน ลดการ ประเทศว่าด้วยเรื่องการเปล่ียนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปล่อยคารบ์ อนไดออกไซดด์ ว้ ย หรอื ไอพซี ซี ี (Intergovernment Panel on Climate Change : IPCC) ที่รวบรวมงานวจิ ัยของนักวทิ ยาศาสตร์ 2,500 คน 6. ตอ่ เนอื่ งจากขอ้ นช้ี กั ชวนกนั ใช้ Car Pool ผลตอ่ เนอื่ ง จาก 30 กว่าประเทศ ใชเ้ วลาวิจยั ถงึ 6 ปี ระบไุ ว้วา่ มีความ เป็นลูกโซ่ ประหยัดเงินลดภาวะการจราจร ลดอากาศเสีย เปน็ ไปไดถ้ งึ  90% ทภ่ี าวะการเปลย่ี นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศ ท�ำไดก้ ็เยี่ยม เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ จึงถือได้ว่าตัวการส�ำคัญของ ปัญหาโลกร้อน คอื มนุษยน์ ั่นเอง  7. หนว่ ยงานจดั รถสวสั ดกิ ารรบั -สง่ ตามเสน้ ทาง ขอ้ นี้ หลายองคก์ รปฏิบตั ติ อ้ งช่ืนชม เม่ือเป็นเช่นนี้มนุษย์ต้องคิดว่าสองมือของคุณจะช่วย “ลดโลกรอ้ น” ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ลองตกิ๊ ถกู ดวู า่ ขอ้ ไหนบา้ งทเี่ รา 8. หากบ้านมีหน้าต่างหรืออยู่ในสภาพท่ีสามารถเปิด เริม่ ปฏบิ ตั ิตามได้  อยากบอกวา่ เร่ิมไดเ้ ลย ณ นาที นี้   หน้าต่างรบั ลมไดก้ ป็ ิดแอร์ปิดพัดลมเสียบ้าง 1. ปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เคร่ืองเสียง และเครื่องใช้ 9. เดนิ ตลาดสดใชถ้ ุงผ้าแทนถงุ พลาสตกิ ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ใช้งาน มีการศึกษามาแล้วว่าจะช่วยลด 10. มองหาผลิตภัณฑ์รักษาส่ิงแวดล้อม เช่น ป้าย คาร์บอนไดออกไซด์ไดน้ ับ 1 พนั ปอนดต์ อ่ ปี ฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 สนิ คา้ เกษตรอนิ ทรีย์   11. เม่ือต้องเลือกซื้อรถยนต์ควรเลือกรถประหยัด 2. ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่อง พลงั งาน และขนาดตามความจ�ำเปน็ หากเปน็ ส�ำนกั งานกห็ นั เสยี งระบบไฮไฟ โทรทศั น์ เครอื่ งบนั ทกึ วดิ โี อ คอมพวิ เตอรต์ ง้ั มาเลอื กซอื้ รถประหยดั พลงั งาน รวมทง้ั เลอื กอปุ กรณเ์ ครอื่ งใช้ โตะ๊ และอปุ กรณพ์ ่วงตา่ งๆ ท่ตี ดิ มาด้วยการดึงปลกั๊ ออก หรอื ไฟฟา้ ทมี่ ฉี ลากประหยัดไฟ ทงั้ ในบา้ นและอาคารส�ำนักงาน ใชป้ ล๊ักเสยี บพ่วงท่ีตดั ไฟด้วยตวั เอง 12. ไม่จ�ำเป็นก็ไม่ต้องเลือกรถโฟว์วีลขับเคลื่อนแบบ 4 ลอ้ เพราะกนิ นำ้� มนั มาก และตะแกรงขนสมั ภาระบนหลงั คารถ กไ็ มใ่ ชส่ งิ่ จ�ำเปน็ เพราะเปน็ การเพม่ิ นำ้� หนกั รถใหเ้ ปลอื งนำ้� มนั อยา่ อวดความเท่เก๋กูด๊ ผคู้ นเหลียวหลงั มอง  13. ขบั รถอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ในระยะทางไกลขบั ดว้ ย ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง ช่วยลดการใช้น�้ำมัน ลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ท่ีลดได้ 1 ตันตอ่ รถยนต์แตล่ ะคันทใ่ี ชง้ านราว 3 หมืน่ กิโลเมตรต่อปี   No.34 September 2016

18 เร่อื งเด่นประจ�ำ ฉบับ 14. เชค็ ลมยาง การขบั รถทย่ี างลมมนี อ้ ยอาจท�ำใหเ้ ปลอื ง 24. ปลกู ต้นไม้ในสวนหน้าบ้าน ตน้ ไม้ 1 ตน้ จะดูดซบั นำ�้ มันได้ถึง 3% จากภาวะปกติ คารบ์ อนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน ตลอดอายขุ องมนั   15. เปลยี่ นมาใชพ้ ลงั งานชวี ภาพ เชน่ ไบโอดเี ซล เอทานอล 25. หากพื้นที่อ�ำนวยปลูกไผ่แทนร้ัวเพราะเติบโตเร็ว ให้มากข้นึ เปน็ รว้ั ธรรมชาตสิ วยงามยงั ดดู ซบั คารบ์ อนไดออกไซดไ์ ดด้ ดี ว้ ย   16. หากจะใส่ใจไปถึงการเช่ารถรถรุ่นเป็นมิตรกับ 26. ใช้ร่มเงาจากต้นไมช้ ่วยลดความรอ้ นในตวั บา้ น สิ่งแวดล้อมท่ีใช้เอทานอล หรือน้�ำมันเช้ือเพลิงเป็นทางเลือก 27. ทานสเตก๊ และแฮมเบอรเ์ กอรใ์ นรา้ นใหญๆ่ ใหน้ อ้ ยลง คุณก็สดุ ยอดข้ึนไปอกี เพราะอุตสาหกรรมเนื้อระดับนานาชาติ ผลิตก๊าซเรือนกระจก 17. เมอื่ พดู ถงึ เรอื่ งเทยี่ วโรงแรมทม่ี สี ญั ลกั ษณส์ ง่ิ แวดลอ้ ม ถึง 18% สาเหตุหลักก็ คือ ไนตรัสออกไซด์จากมูลวัวและ เชน่ มาตรการประหยดั นำ้� ประหยดั พลงั งาน และมรี ะบบจดั การ มีเทน ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากลักษณะทางธรรมชาติของ ของเสีย มองหาป้ายสัญลกั ษณ์ เช่น โรงแรมใบไมส้ ีเขยี ว กม็ ีให้ วัวท่ีย่อยอาหารได้ช้า (มีกระเพาะอาหาร 4 ตอน) มีเทนเป็น เราเลอื กเพ่อื ท่จี ะรกั ษาโลก ก๊าซเรือนกระจกท่ีท�ำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกได้มากกว่า 18. ดูสิ่งใกล้ตัวอีกอย่างที่นิยมใช้กันข้ามศตวรรษ คาร์บอนไดออกไซด์ถึง 23 เท่า ในขณะทไี่ นตรัสออกไซด์ก่อผล “ต้เู ยน็ ” 10 ปตี งั้ แตค่ ณุ ย่ายงั สาว จนเหลนเขา้ มหาวิทยาลัย ยงิ่ ได้มากกวา่ คารบ์ อนไดออกไซด์ 296 เท่า เก่าย่ิงกินไฟเป็นสองเท่า เปล่ียนซะ เพราะช่วยลดการปล่อย 28. อบรมคนในครอบครวั ใหช้ ว่ ยกนั ดแู ลสงิ่ แวดลอ้ มและ คารบ์ อนไดออกไซด์ 100 กโิ ลกรมั ตอ่ ปี สว่ นวธิ กี ารใช้ตเู้ ย็นควร ลดปัญหาภาวะโลกร้อน อย่างจริงใจและจริงจัง หากสามารถ ปฏิบัติตามนัน้   ขยายเครอื ข่ายไปยงั คนรอบขา้ งได้ดว้ ย 19. ใช้แดดตากเส้อื ผ้าแทนการใช้เครื่องป่ันแหง้ บา้ งก็ได้ 29. เพื่อการสร้างกิจกรรมรณรงค์สิ่งแวดล้อมในชุมชน 20. ใช้น้ำ� อย่างประหยัด    เพื่อการลงมือท�ำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเน่ือง ย่อม 21. ป้องกันการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ ด้วยการ สง่ ผลให้ตัวคุณเองและคนในชุมชนมคี ณุ ภาพชวี ิตที่ดขี น้ึ   แยกขยะอินทรีย์ เช่น เศษผัก เศษอาหาร ออกจากขยะอ่ืนๆ 30. เลอื กโหวตแตพ่ รรคการเมอื งทมี่ นี โยบายสงิ่ แวดลอ้ ม ที่สามารถน�ำไปรีไซเคิลได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ถามตัวเอง ท่ีชัดเจน จริงใจ และต้ังใจท�ำจริง เพราะนักการเมืองคือคนท่ี ท�ำหรือยงั ??? แยกขยะนะ แห้งเปยี ก และ รีไซเคลิ   เราส่งไปเป็นตัวแทนท�ำหน้าท่ีในสภาผู้แทนราษฎร โปรดใช้ 22. ทาหลังคาบ้านด้วยสีอ่อน เพื่อช่วยลดการดูดซับ ประโยชน์จากพวกเขาตามสิทธิที่คุณมี...แม้ว่าเราจะยังไม่มีการ ความรอ้ น  ตอ่ เนือ่ งไปถึง เลือกตั้งแตค่ ุณก็เตรยี มค�ำตอบไว้ในใจ 23. น�ำแสงธรรมชาตมิ าใช้ในอาคารบา้ นเรือน ต�ำแหนง่ ของช่องแสงเป็นปัจจัย ซ่ึงจะช่วยลดจ�ำนวนหลอดไฟและ พลงั งานไฟฟ้าทต่ี อ้ งใช้ เพียง 30 ขอ้ เบือ้ งตน้ ที่เราสามารถปฏบิ ัตไิ ด้ด้วยเองคุณสามารถ ใสเ่ ครือ่ งหมายถูกได้กีข่ อ้ เพือ่ ช่วยลดภาวะ “โลกของเรา” ให้ รอ้ นนอ้ ยลง... อยา่ เพิ่งคดิ การใหญ.่ . แคน่ ี้ขอใหถ้ ูกทุกขอ้ ก่อน... No.34 September 2016

ตดิ ตามเฝา้ ระวัง 19 รัฐ เรืองโชตวิ ิทย์ ศนู ย์วจิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสิ่งแวดล้อม ทศิ ทางปญั หาส่ิงแวดลอ้ มในปจั จบุ นั ในสถานการณป์ จั จบุ นั ประเทศไทยคดิ คน้ เทคโนโลยเี พอ่ื ตอบสนองตอ่ การเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ มีการลงทุนขนาดใหญ่หลายประเภทที่ก่อให้เกิดโครงการท่ีมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมนับวันจะ ทวีความรุนแรงและบ่อยคร้ังท่ีเกิดผลกระทบส่ิงแวดล้อม ยากแก่การแก้ไข และการเยียวยาไม่สามารถ ทำ� ได้ทนั ท่วงที การวิเคราะหท์ ศิ ทางปญั หาส่งิ แวดลอ้ ม จงึ เป็นสง่ิ หนึ่งทจี่ ะช่วยตอบโจทย์ปญั หาสง่ิ แวดล้อม ในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและเชิงสังคมอย่างเป็นระบบ การแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม ซง่ึ ตอ้ งพฒั นาแนวคดิ การทำ� นายทศิ ทางการเกดิ ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบและประเมนิ ทศิ ทางของปญั หาใหท้ นั ตอ่ สถานการณ์ปัจจุบันมากข้นึ ปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม เปน็ ปญั หาทมี่ องจากค�ำตอบทไ่ี ดจ้ าก ในบทความนี้ อยากหยบิ ยกประเดน็ ทศิ ทางปญั หาสง่ิ การแกไ้ ขเฉพาะหนา้ เปน็ สว่ นใหญ่ เชน่ กรณีน้�ำมันร่ัวไหล มีนกั แวดลอ้ มทนี่ า่ จะเกิดขน้ึ ในอนาคต ดงั นี้ วจิ ยั น�ำเสนอเปน็ ประเดน็ เพอื่ การศกึ ษา ทง้ั บทเรยี น และการหา 1. ประเดน็ ปญั หาขยะลน้ เมอื ง ทศิ ทางของปญั หาคอื การ องคค์ วามรเู้ พอื่ แกไ้ ขปญั หาใหค้ รอบคลมุ และมปี ระสทิ ธภิ าพมาก เพมิ่ ขน้ึ ของปรมิ าณขยะ และความเปน็ พษิ จากการจดั การขยะที่ ทส่ี ดุ การไดม้ าของโจทยว์ จิ ยั คงเปน็ เรอ่ื งทต่ี อ้ งหยบิ ยกมาคดิ กนั มผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพประชาชน ทจี่ ะทวคี วามรนุ แรงซงึ่ เกดิ จาก กอ่ นวา่ ทมี่ าของโจทยว์ จิ ยั โดยเฉพาะประเดน็ ตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ การจดั การของหน่วยงานต่างๆ เคยมีการศึกษามาก่อนหรือไม่ การทบทวนความรู้ในอดีตเป็น 2. ประเด็นปัญหาน้�ำเสีย ทิศทางของปัญหาเกิดจาก สง่ิ ส�ำคญั เชน่ การรว่ั ไหลของนำ้� มนั มเี ทคโนโลยอี ะไรบา้ งในการ การพัฒนากระบวนการผลิตจากอุตสาหกรรมบางประเภท ก�ำจดั คราบนำ�้ มนั การฟน้ื ฟสู ภาพแวดลอ้ ม ในกรณที เี่ คยเกดิ เชน่ ตลอดจนการจัดการน้�ำเสียท่ีไม่มีประสิทธิภาพ รวมท้ังการ ทอี่ ่าวเมก็ ซโิ กมีการท�ำอะไรกนั บา้ ง การทบทวนปญั หาทีเ่ กดิ ขึ้น ปนเปอ้ื นสารพษิ ในแหลง่ นำ�้ ทม่ี ปี รมิ าณมากขน้ึ และความเปน็ พษิ สงู ในอดีต บทเรียนความผิดพลาดที่เกดิ ข้ึน เชน่ การปนเปอ้ื นโลหะหนกั ในแหลง่ นำ�้ หรอื สารพษิ จากการเกดิ ปฏิกริ ิยาของสารเคมีตา่ งๆ ในแหล่งน�้ำ No.34 September 2016

20 ติดตามเฝา้ ระวงั 3. ประเดน็ วตั ถอุ นั ตราย หรอื สารพษิ ตามกระแสขา่ วทเ่ี กดิ ขนึ้ ในปจั จบุ นั มีการวพิ ากษถ์ งึ การบงั คบั ใชก้ ฏหมาย กฎกติการะหว่างประเทศ ซ่ึงเปน็ ปัญหา ทห่ี มกั หมมมานานท�ำใหท้ ศิ ทางของปญั หามคี วามซบั ซอ้ นมากขนึ้ เชน่ สารพษิ ทม่ี คี วามรนุ แรงสงู แตม่ าตรฐานยงั ไมม่ กี ารก�ำหนด กรณเี ชน่ สารอนิ ทรยี ร์ ะเหย ในอตุ สาหกรรมปโิ ตรเคมี การจดั การของเสยี ขา้ มแดน เปน็ ตน้ ซง่ึ ในการพฒั นา งานการวจิ ยั ตอ้ งการการศกึ ษา เพอื่ ตดิ ตามผลทางวชิ าการทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ เชน่ การวจิ ยั มาตรฐานการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มในดา้ นตา่ งๆ การ ทดสอบวิธีการตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อม การวิจัยแสดงสถานภาพปัญหา สิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ซ่ึงก็เป็นส่วนท่ีดีท�ำให้รับรู้รับทราบสถานการณ์ ปัจจุบันแต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ควรมีการวิจัยเพื่อเสนอเทคโนโลยีในการจัดการ การเยียวยา หรือบ�ำบัดฟื้นฟูจากการท�ำลายหรือการจัดการมลพิษอย่างมี ประสิทธภิ าพ อยา่ งยงั่ ยืน หรอื การน�ำเสนอมาตรการทางสงั คมเพือ่ การมสี ่วน เยียวยาประชาชนท่ีได้รับผลกระทบ การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมระบบนิเวศน์ท่ี เปลี่ยนแปลง หรือการวิจัยการปรับตัวของประชาชนในอนาคตส่ิงส�ำคัญคือ การวิจัยปัญหาสิ่งแวดล้อม ต้องตอบโจทย์ให้ครบวงจรมากขึ้น หรือท่ีเรียกว่า ให้สุดซอยกันนน่ั เอง 4. ประเดน็ ปญั หาดา้ นมลพษิ ทางอากาศและการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิ อากาศ ในการวเิ คราะหท์ ศิ ทางของปญั หาในดา้ นนเี้ ปน็ เรอ่ื งทตี่ อบโจทยป์ ญั หา ส่ิงแวดล้อม มักจะเปน็ ลักษณะทดลอง pilot scale มากกวา่ จะท�ำจรงิ บางครงั้ หากน�ำมาปฏิบตั เิ พือ่ แกไ้ ขปญั หาส่ิงแวดล้อมอาจตอ้ งใช้เวลา และงบประมาณ จ�ำนวนมาก ซงึ่ การวจิ ยั คงจะเปน็ แคจ่ ดุ เรมิ่ ดงั นนั้ งานวจิ ยั จงึ ควรมลี กั ษณะของ ข้อเสนอแนะที่เป็นจริงในตอนท้ายของผลการศึกษาให้ครอบคลุมในประเด็น ตา่ งๆ ที่จะท�ำจริง จากที่กล่าวถึงการตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อม มีการแบ่งปัญหาออก เป็น 2 ด้านคือ การจัดการกับปัญหา และการเยียวยา กับการวิจัยเพื่อการ ป้องกันปัญหา หรือน�ำเสนอแนวทางท่ีมีประสิทธิภาพในการจัดการป้องกัน ผลกระทบท่ีจะเกดิ ขน้ึ บทความน้ี เสนอมมุ มองหรอื แนวทางการแก้ไขปญั หาสิง่ แวดลอ้ ม อยา่ งมีเหตุผล และไดป้ ระโยชน์มากขึน้ ประเด็นดังตอ่ ไปนี้ เป็นส่วนหนึง่ จากประสบการณ์ที่ ซ่ึงน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยส�ำหรับการปรับ ตัวของการแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดล้อมท่จี ะเกิดขึ้นในอนาคต ดงั นี้ 1. ปัญหาส่ิงแวดล้อม เป็นปัญหาท่ีมีความหลากหลาย การวิเคราะห์ การทบทวนองค์ความร้เู ป็นสิง่ ส�ำคัญ ปัจจบุ นั มกี ารศกึ ษาวจิ ยั ในเชิงตอบโจทย์ ปัญหาเฉพาะด้านความเชี่ยวชาญเพียงบางด้าน ดังน้ันข้อเสนองานวิจัยแนว ใหม่คงต้องทบทวนให้รอบด้านทั้งด้านวิทยาศาสตร์และสังคม หรือท่ีเรียกว่า ทบทวนความรู้ให้รอบด้าน และก�ำหนดหัวข้อการศึกษาท่ีใช้องค์ความรู้ใน หลายๆ ด้าน เข้าดว้ ยกนั โดยค�ำนึงถงึ ค�ำตอบเพอื่ การน�ำไปใช้ประโยชน์ No.34 September 2016

ติดตามเฝ้าระวัง 21 2. การท�ำนายผลกระทบปัญหาในอนาคต หรือที่เรียก ปจั จบุ นั ) ส�ำหรบั การใชเ้ ทคโนโลยที น่ี �ำเขา้ ตอ้ งเลอื กใหเ้ หมาะสม ว่าการใช้แบบจ�ำลอง (Model) ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม กับสถานการณม์ ากท่สี ดุ ต่อสภาพพื้นที่ การพัฒนาแบบจ�ำลองเพื่อท�ำนายผล การแพร่ 5. การพัฒนาคน องค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหา กระจายมลพิษทางอากาศ น้�ำเสีย หรือการร่วั ไหลสารพษิ วัตถุ ส่ิงแวดล้อมเป็นเรื่องส�ำคัญ อย่างที่กล่าวข้างต้น งบประมาณ อันตราย ต้องใช้ข้อมูลพื้นฐานในระดับพื้นที่จริงมากกว่าน�ำ ในการวจิ ยั ของประเทศมจี �ำกดั ก�ำลงั คนในสาขาวชิ าตา่ งๆ ความ ข้อมูลท่ีเป็นค่าคาดการณ์จากพื้นท่ีอื่นมาใช้ การพัฒนาแบบ เช่ยี วชาญเฉพาะทาง ล้วนเปน็ ตวั แปรส�ำคญั ในการพฒั นางาน จ�ำลองต้องปรับใช้ให้เหมาะส�ำหรับพ้ืนที่ท่ีเป็นพ้ืนที่ศึกษาจริง ด้านส่ิงแวดล้อมการพัฒนาในส่วนน้ีจะเป็นตัวแปรส�ำคัญต่อ การคาดการณ์ผลกระทบส่ิงแวดล้อมจากปัญหามลพิษค่อนข้าง คุณภาพ ทงั้ น้ีภาครฐั ตอ้ งมีนโยบายสนบั สนนุ ในการพัฒนาคน จะคลาดเคลื่อนกันมากทั้งข้อมูลท่ีไม่เป็นปัจจุบันและข้อมูลที่ และองคก์ รวจิ ยั ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ มศี กั ยภาพในการจดั การงานวจิ ยั เปน็ คา่ ประมาณการ ซง่ึ ตอ้ งพจิ ารณาเลอื กใชส้ มการทเ่ี หมาะสม ใหม้ ากขน้ึ 3. การคาดการณ์ปัญหาหรือแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม บทสรุป จากการน�ำเสนอทิศทางปัญหาสิ่งแวดล้อม คงต้องมีข้อเสนอแนะในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และ มีความจ�ำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด การตอบโจทย์ปัญหา เป็นไปได้ โดยต้องค�ำนึงถึงความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ สงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และเนน้ การพฒั นาองคค์ วามรู้ ความเหมาะสมทางการเงนิ ความคมุ้ คา่ การลงทนุ เชน่ กรณขี อง การเรียนรู้ท่ีครอบคลมุ ปญั หามากข้นึ การแกไ้ ขอย่างเป็นระบบ พน้ื ทอ่ี ตุ สาหกรรมขนาดใหญม่ กี ารน�ำเสนอเทคโนโลยกี ารบ�ำบดั มีเครือข่ายความร่วมมือมากข้ึนและต้องหลุดพ้นจากข้อจ�ำกัด ของเสียในกลุ่มอุตสาหกรรมท่ีมีความหลากหลายและมักจะ เวลาและงบประมาณ บุคลากรในการวิจัยต้องได้รับการพัฒนา ลงทุนสูง ซึ่งหากพจิ ารณาจากเทคโนโลยเี หลา่ น้ันอาจไมเ่ หมาะ อยา่ งตอ่ เนื่อง การพัฒนาหาแนวทางท่ีเหมาะสมจะเปน็ ตัวชว่ ย สมกับประเทศไทยก็เป็นได้ ควรพิจารณาต้นทุนทางเทคโนโลยี ทส่ี �ำคญั และจะเปน็ สว่ นทจ่ี ะใหป้ ระเทศกา้ วหนา้ ทดั เทยี มกบั ชาติ รว่ มกบั การใชเ้ ทคโนโลยไี ดป้ ระสทิ ธภิ าพและผลลพั ธเ์ ปน็ ไปตาม อนื่ ๆ ท่ีมีการพฒั นาดา้ นนอ้ี ยา่ งจรงิ จัง มาตรฐานคุณภาพสิง่ แวดล้อมของไทย 4. ประเดน็ โจทย์วจิ ัยเพื่อตอบปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม ควร พิจารณาถึงเทคโนโลยีในการศึกษาและแสดงให้เห็นถึงการ วเิ คราะหเ์ ทคโนโลยที จี่ ะใชก้ ารบ�ำบดั หรอื ทเี่ รยี กวา่ ความเหมาะสม กบั ประเทศของเรา (การเลอื กใชเ้ ทคโนโลยที เี่ หมาะสมกบั สภาพ No.34 September 2016

22 ตดิ ตามเฝา้ ระวัง อารรี ตั น์ จากสกุล ศนู ย์วจิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ภยั มดื .... จากกาแฟ ปจั จบุ นั กาแฟเปน็ เครอ่ื งดมื่ ทป่ี ระชากรทว่ั โลกนยิ มดม่ื ในชีวิตประจ�ำวัน โดยมีสถิติการผลิตกาแฟท่ัวโลกถึง 8.1 ล้านตันในปี 2554 (Adriana. 2012) กาแฟจึงนับได้ว่าเป็น พชื เศรษฐกจิ ชนิดหนงึ่ ท่มี คี วามส�ำคัญของโลก โดยมผี ลผลติ ทางการเกษตรทส่ี ง่ ออกมากเปน็ อันดับทห่ี กของโลก สำ� หรับ ประเทศไทยมีข้อมูลการด่ืมกาแฟโดยเฉลี่ย 233 แก้วต่อคน ตอ่ ปี ดว้ ยกาแฟมอี งคป์ ระกอบของสารทเี่ รยี กวา่ antioxidant และสารประกอบอ่นื ๆ ที่มีประโยชน์ต่อรา่ งกาย เช่น วติ ามนิ เกลือแร่ รวมไปถึงสารคาเฟอีน (caffeine) เปน็ สารที่กระตุ้น ประสาทท�ำให้กระปรี้กระเปร่า โดยสารดังกล่าวพบในกาแฟ พันธุ์อราบิก้ามีปริมาณถึง 1.0-1.5 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ คร่ึงหนึ่งของโรบัสต้า ซึ่งกาแฟโดยท่ัวไปมีปริมาณคาเฟอีน 80-140 มิลลิกรัมต่อหนึ่งแก้ว ปัจจัยท่ีส�ำคัญของปริมาณ สารคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟข้ึนอยู่กับสภาพแวดล้อมของ พื้นที่ท่ปี ลกู และรวมไปถึงพนั ธุก์ าแฟ ชนิดสายพันธุข์ องกาแฟทีป่ ลกู ในประเทศไทย ตน้ กาแฟระยะออกดอกและผล (ทมี่ า:bloggang.com) ส�ำหรับถ่ินก�ำเนิดของกาแฟด้ังเดิมนั้นอยู่ท่ีแถบประเทศ Arobica Robusta แอฟริกา กาแฟพันธุ์ที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย มีอยู่สองพันธุ์ คือ อราบิก้าและโรบัสต้า ต้นก�ำเนิดกาแฟพันธุ์ ที่มา : coffeeindy.com อราบิก้าน�ำมาจากพ้ืนท่ีสูงของประเทศเอธิโอเปีย โดยทั่วไป กาแฟมีหลายร้อยสายพันธุ์ แต่กาแฟพันธุ์ท่ีนิยมกันอย่าง แพร่หลายท่ัวโลกมีอยู่สองพันธุ์คือ พันธุ์ อราบิก้า และพันธุ์ โรบัสต้า กาแฟพันธุ์อราบิก้าเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกและบริโภค No.34 September 2016

ตดิ ตามเฝ้าระวัง 23 มากที่สุดในโลก และมีปริมาณการผลิตถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ท่ีมา : http://coffeelike.blogspot.com/2013/06/coffee-processing.html ในตลาดโลก สว่ นประเทศทส่ี ง่ ออกกาแฟอนั ดบั หนง่ึ ของโลกคอื ประเทศบราซิล ส�ำหรับประเทศไทยประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ 2. การสเี ปียก (Wet processing) นิยมปลูกพันธ์ุโรบัสตา้ โดยการน�ำผลกาแฟแช่น�้ำและใช้เครื่องที่เรียกว่า Pulping Machine ก�ำจดั ผิวนอกของผลใหห้ ลดุ ออกมา ท�ำให้ กาแฟพันธุ์อราบิก้ามีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Coffea เมลด็ เปน็ เมอื กลน่ื การเอาเนอื้ ออกจากผลโดยการโมจ่ ะท�ำให้ Arabica L. เจริญงอกงามได้ดีในพ้ืนที่สูงกว่าระดับน้�ำทะเล ผวิ ภายนอกหลดุ ออกแตถ่ า้ ผลทเี่ กบ็ มายงั ไมเ่ จรญิ เตบิ โตเตม็ ที่ ประมาณ 3000 ฟุต หรือประมาณ 800-2000 เมตรเหนือ หรือยังมีสีเขียวอยู่ผิวนอกจะหลุดออกมายาก ดังนั้นการ ระดับน้�ำทะเล ให้ผลผลิตดีในที่มีอากาศเย็นโดยเฉพาะในเขต เกบ็ เกย่ี วผลจงึ ควรเกบ็ ทเี่ จรญิ เตบิ โตเตม็ ทแี่ ลว้ การน�ำเอาเยอื่ ภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เมือกออกสามารถก�ำจดั ด้วยวิธกี ารทางเคมี ด้วยนำ้� รอ้ นหรอื แมฮ่ ่องสอน ตาก และล�ำปาง ใช้ Aqua Pulper ในอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ นยิ มใชว้ ธิ กี ารหมัก ดว้ ยการน�ำเมลด็ ใสภ่ าชนะบรรจนุ ำ�้ และทง้ิ ไวจ้ นเมอื กหลดุ ออก กาแฟพันธุ์โรบัสต้ามีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Coffea ไปเอง หลังจากนั้นจึงน�ำเมล็ดมาล้างอีกครั้งและท�ำให้ canephora ชอบอากาศร้อนชนื้ เจรญิ เติบโตไดด้ ีในพื้นที่ราบสงู เมลด็ แหง้ ตอ่ ไป การท�ำใหแ้ หง้ จะตอ้ งเปน็ ไปอยา่ งชา้ ๆ ปอ้ งกนั กวา่ ระดบั นำ้� ทะเลประมาณ 500-600 เมตรเหนอื ระดบั นำ�้ ทะเล เมล็ดแหง้ แตก โดยทั่วไปจะท�ำใหค้ วามชืน้ เหลอื ประมาณ 10 ประเทศไทยนยิ มปลกู ในจงั หวดั ชมุ พร ระนอง สรุ าษฎรธ์ านี และ เปอร์เซ็นต์โดยน�้ำหนัก หลังจากเมล็ดแห้งแล้วควรพักเมล็ด นครศรีธรรมราช ไว้ประมาณ 8 ช่ัวโมงในที่ๆ มีการระบายอากาศดี แล้วจึง น�ำมาท�ำข้ันตอนต่อไปคือการน�ำเอาแผ่นบางๆ ที่หุ้มเมล็ด ลกั ษณะทางกายภาพโดยทว่ั ไปของกาแฟ คอื เปน็ ไมพ้ มุ่ ออกโดยการใช้เครื่องกะเทาะเปลือก แล้วใช้ลมเป่าเพ่ือการ ยนื ตน้ ไมผ่ ลดั ใบ ขนาดปานกลางสงู ประมาณ 3-4 เมตร ใบสเี ขยี ว ท�ำความสะอาดเมล็ดในขน้ั ตอนสดุ ท้าย มคี วามยาวโดยเฉลยี่ 10-15เซนตเิ มตรกวา้ ง6เซนตเิ มตรแตกออก การค่ัวเมล็ดกาแฟ (Roasting) จากขอ้ เปน็ คๆู่ ดอกออกตามขอ้ ของกงิ่ มสี ขี าวบรสิ ทุ ธิ์ กลน่ิ หอม เป็นการให้ความร้อนแก่เมล็ดกาแฟดิบจนกระท่ัง บานพร้อมกันทั้งต้น ต้นกาแฟในประเทศไทยเร่ิมออกดอก เมล็ดกาแฟสุกท่ัวกันแล้วจึงน�ำมาชงดื่มหรือน�ำมาแปรรูปใน ในเดือนตลุ าคม – กมุ ภาพันธ์ ระยะเวลาต้งั แตก่ ารออกดอกถึง ขน้ั ตอนต่อไป ซ่งึ กระบวนการค่ัวกาแฟเป็นหัวใจส�ำคัญกล่าว การเกบ็ เก่ยี วใชเ้ วลาประมาณ 8-12 เดือน หลงั จากปลูกกาแฟ คือ รสชาติ กล่ิน สี ของกาแฟข้ึนอยู่กับกระบวนการนี้เป็น ได้ 2-3 ปี กาแฟจะเรม่ิ ออกดอกและตดิ ผล ผลของกาแฟเรยี กวา่ ส�ำคัญ ระดับการคั่วท่ีดีที่สุดอยู่ที่การคงไว้ซ่ึงลักษณะของ Coffee Cherry มีลักษณะค่อนข้างกลม ขณะท่ีผลยังอ่อน กาแฟพันธุ์นั้นๆ (original character) โดยทั่วไปใช้อุณหภูมิ มีสีเขียว และเมื่อผลแก่จัดจะมีสีแดง ในแต่ละข้อของก่ิงกาแฟ ประมาณ 180-250 องศาเซลเซียส ระยะเวลา 10-20 นาที ตดิ ผลประมาณ 10-60 ผล แตล่ ะผลมีเมล็ดกาแฟอยู่ 2 เมล็ด การคั่วกาแฟแบ่งออกเป็น 12 ระดับ แตส่ ามารถแบ่งไดอ้ อก กระบวนการแปรรปู กาแฟ เปน็ 3 กลุม่ หลักๆ คอื • การค่ัวระดับออ่ น (Light roast) หรืออาจเรียกได้ การแปรรปู กาแฟยดึ ตามรายชอื่ มาตรฐานของผลติ ภณั ฑ์ อีกอย่างว่าซินนาม่อน การค่ัวกาแฟระดับนี้ให้ความร้อนใน อุตสาหกรรมกาแฟแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ กาแฟคั่ว การคัว่ ประมาณ 180-205 องศาเซลเซยี ส ท�ำให้เมล็ดกาแฟมี (มอก.522-2527) กาแฟผงส�ำเรจ็ รปู (มอก.573-2528) กาแฟเมลด็ สเี หลอื งนำ้� ตาลออ่ น ผวิ เมลด็ แหง้ มรี สชาตเิ ปรยี้ วของกรดผลไม้ (มอก.585-2528) และผลิตภัณฑ์เคร่ืองด่ืมกาแฟ (มอก.1169- ทม่ี อี ยใู่ นกาแฟ รสชาตไิ มข่ มมากจงึ ไมน่ ยิ มน�ำมาเปน็ เครอื่ งดม่ื 2536) กระบวนการแปรรูปกาแฟเบื้องต้นโดยท่ัวไปแบ่งเป็น ชนดิ เอสเพรสโซ เพราะมรี สเปรีย้ วแหลม 2 วธิ ี คอื 1. การสแี หง้ (Dry processing) โดยการเทผลกาแฟลงในภาชนะบรรจนุ ำ�้ ผลทลี่ อยนำ้� ขนึ้ มามักเป็นผลที่สุกเกินไป และเป็นผลท่ีแห้งถูกแมลงท�ำลายไม่ ได้ขนาดจงึ ต้องคัดทิง้ สว่ นผลที่จมน�้ำน�ำขึน้ มาตากแห้งบนลาน ตาก กลับผลกาแฟเป็นระยะๆเพ่ือให้สีของผลกาแฟสม�่ำเสมอ ผลกาแฟแห้งเสมอกันเป็นการป้องกันการหมักของผลกาแฟ หลังจากนนั้ คือขนั้ ตอนการกะเทาะเปลอื ก (Hulling) โดยการใช้ เครอื่ งกะเทาะเปลอื กหลดุ ออกมาจากผล แล้วท�ำความสะอาด No.34 September 2016

24 ติดตามเฝา้ ระวงั • การคั่วระดับกลาง (Medium roast) ให้ความเข้ม การบด (Grinding) มากกว่าระดับแรก ความร้อนในการค่ัวประมาณ 210-220 การบดเปน็ ผงในอตุ สาหกรรมในครวั เรอื นนยิ มใชแ้ รงงาน องศาเซลเซียส ท�ำให้ความเป็นกรดของกาแฟลดลง มีรสชาติ คนบด (Manual grinding mills) เป็นการบดด้วยมือต้องใช้ผู้ที่ กลมกล่อม มีกลิ่นหอมแบบอโรมา เปน็ ระดับกาแฟท่นี ยิ มน�ำไป มีความช�ำนาญ บดได้จ�ำนวน 20 กิโลกรัม ใช้เวลาประมาณ ท�ำเครอ่ื งดืม่ ชนดิ เอสเพรสโซ 8 ชั่วโมง ส�ำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นิยมใช้เคร่ืองบด • การค่ัวกาแฟระดับเข้ม (Dark roast) ให้ความเข้ม (Motorized grinding mills) Horizontal plate, Vertical plate ของกาแฟมาก ความร้อนในการคั่วประมาณ 240 - 250 หรือ Hammer mills เครื่องมอื เหล่าน้ีมีประสิทธิภาพในการบด องศาเซลเซียส เมล็ดกาแฟทีไ่ ดจ้ ะมสี ีเข้มจัดไปจนถึงด�ำ ให้กลิ่น คล้ายคลึงกัน การบดเป็นข้ันตอนท่ีส�ำคัญเช่นกันเพราะขนาด กาแฟเต็มที่กาแฟจะมีเมล็ดมันวาว ไม่มีความเปร้ียวของกาแฟ ของผงกาแฟมีส่วนในรสชาติและกล่ินของกาแฟกล่าวคือ หาก เหลืออยู่ เหมาะกบั การน�ำไปท�ำเครือ่ งดืม่ ผสมนมหรือครมี เชน่ ผงกาแฟทบี่ ดมคี วามละเอยี ดมาก เมอ่ื น�ำมาชงเปน็ เครอื่ งดมื่ จะ คาปูชิโนและลาเต้ ใหร้ สชาตทิ เี่ ขม้ ขน้ ของกาแฟระดบั นน้ั ๆ มากกวา่ การบดแบบหยาบ การเก็บรกั ษาเมลด็ กาแฟทผ่ี า่ นการคัว่ (Preservation) สารประกอบในเมล็ดกาแฟดิบพันธอุ์ ราบกิ ้าและโรบัสตา้ การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วแล้ว ควรเก็บไว้ ส�ำหรับสารประกอบในเมล็ดกาแฟดิบพันธุ์อราบิก้าและ ในขวดสชี าหรือถุงพลาสติกที่ปิดแนน่ ป้องกนั ไมใ่ หค้ วามชืน้ ถูก โรบัสต้ามีสารประกอบในปริมาณความเข้มข้นแตกต่างกันไป เมล็ดกาแฟเพื่อรักษา กล่ิน รสชาติ และคุณสมบัติต่างๆ ท่ีดี โดยท่ีสารประกอบส่วนใหญ่ในพันธุ์โรบัสต้ามีปริมาณสูงกว่า ของกาแฟให้คงไว้นานๆ รวมไปถึงป้องกันการเกิดเชื้อราที่เป็น พันธุ์อราบิก้า รวมไปถึงปริมาณสารคาเฟอีนของกาแฟพันธุ์ อันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย กาแฟท่ีผ่านการค่ัวและบดแล้วจะ โรบัสต้ามีความเข้มข้นมากกว่ากาแฟพันธุ์อราบิก้าประมาณ มอี ายกุ ารเกบ็ รกั ษาไดน้ านนอ้ ยกวา่ กาแฟควั่ ทย่ี งั ไมไ่ ดบ้ ด กาแฟ 1 เท่า ดังตารางที่ 1 ทผี่ า่ นการควั่ และบดแลว้ จะมอี ายกุ ารเกบ็ รกั ษาไดน้ านนอ้ ยกวา่ กาแฟค่ัวท่ียังไม่ได้บด ทั้งน้ีขึ้นกับวิธีเก็บรักษาท่ีถูกวิธีด้วย โดยทวั่ ไปการเก็บรักษากาแฟคัว่ บดไมค่ วรนานเกิน 3 เดือน ตารางที่ 1 สารประกอบในเมลด็ กาแฟดบิ พนั ธ์ุอราบกิ า้ และพันธ์ุโรบสั ตา้ สารประกอบ ความเข้มข้น (กรมั ต่อ 100 กรมั ) carbohydrate/fiber กาแฟพนั ธ์ุอราบกิ า้ กาแฟพันธุ์โรบัสต้า sucrose reducing sugars 6.0-9.0 6.0-9.0 lpigonlyinsaccharides 0.1 0.1 pectin 343-.044 343-.044 2.0 2.0 nitrogenous compounds pfreroeteainm/pineopatidciedss 10.00-.511.0 101..80--11.50.0 caffeine 0.9-1.3 1.5-2.5 trigonelline 0.6-2.0 0.6-0.7 lipids 15-17.0 7.0-10.0 coffee oil(triglycerides with 0.5-1.2 0.2-0.8 nsaponifiables, sterols/tocopherols) 3.0-4.2 4.4-4.5 Diterpenes (free and esterified) 4.1-7.9 6.1-11.3 minerals Chlorogenic acaidcsids and esters 01..40 10..04 aqluipinhiactiaccaidcids ท่มี า : (Andrina.2012) หมายเหตุ: ปริมาณสารประกอบแตกต่างไปตามพนั ธุ์ วิธกี ารปลูก สถานท่ปี ลูก สภาพอากาศ องค์ประกอบของดนิ และวธิ ีการวเิ คราะห์ (Andrina.2012) No.34 September 2016

ติดตามเฝ้าระวงั 25 เมื่อมีการให้ความร้อนโดยการคั่วแก่เมล็ดกาแฟดิบ ขนึ้ กบั ระดบั การคว่ั (Adriana .2012) และขอ้ มลู ตอ่ ไปนเี้ ปน็ ขอ้ มลู สารประกอบในเมล็ดกาแฟดบิ จะมกี ารเปล่ยี นแปลงไปทางด้าน การตกค้างของสารประกอบพีเอเอชชนิดอื่นๆ จากรายงาน กายภาพและเคมี เชน่ การสูญเสยี ความช้ืน นำ�้ หนักเมลด็ ลดลง การวิจัยของประเทศโปแลนด์พบการตกค้างสารพีเอเอชชนิด การเกิดกระบวนการ caramelization ปฏิกิริยา maillard และ benzo(a)anthracene ปรมิ าณ 7.20-51.40 ไมโครกรมั ตอ่ กโิ ลกรมั การย่อยสลายของ ไขมัน และน�้ำตาล รวมไปถึงสารประกอบ และจากแหล่งงานวิจัยประเทศอื่นๆ ได้แก่ ประเทศโรมาเนีย ที่ไมพ่ ึงประสงค์ เช่น สารประกอบในกล่มุ Polycyclic aromatic ตรวจพบในปรมิ าณ 0.74 ไมโครกรมั ตอ่ กโิ ลกรมั ประเทศอนิ เดยี hydrocarbons (Kyueun and Han-Seung. 2010) เปน็ ต้น ตรวจพบปรมิ าณ 92.80-106.60 ไมโครกรมั ตอ่ กโิ ลกรมั ประเทศ ปัจจัยและการตกค้างของสาร Polycyclic Aromatic สเปนตรวจพบในปริมาณ 0.001-0.003 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม Hydrocarbons(PAHs) ในกาแฟ และประเทศอิตาลีตรวจพบในปริมาณ 0.001-0.16 ไมโครกรัม กระบวนการผลิตกาแฟในข้ันตอนการคั่วนับว่ามีความ ต่อกิโลกรัม ในส่วนของสารพีเอเอชชนิด benzo(a)pyrene ส�ำคัญมาก ในแต่ระดับของการค่ัวหมายถึงรสชาติท่ีแตกต่าง ประเทศโปแลนด์ตรวจพบในปริมาณ 17.29-34.84 ไมโครกรัม ของเคร่ืองด่ืมกาแฟชนิดต่างๆ การคั่วกาแฟโดยท่ัวไปใช้ระดับ ต่อกิโลกรัม ประเทศบราซิลตรวจพบในปริมาณ 0.47-12.52 ความรอ้ นในชว่ ง 180-250 องศาเซลเซยี ส ซง่ึ มงี านวจิ ยั ใหข้ อ้ มลู ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ประเทศโรมาเนียตรวจพบในปริมาณ ว่าสามารถท�ำให้เกิดสารประกอบพีเอเอช ขึ้นได้ สารพีเอเอช 0.29 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ประเทศสเปนตรวจพบในปริมาณ เป็นสารอันตรายท่ีมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต กล่าวคือ เป็น 0.002-0.003 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมและประเทศอิตาลีตรวจ สารประกอบชนดิ ทที่ �ำใหเ้ กดิ การกลายพนั ธ์ุ และเปน็ สารกอ่ มะเรง็ พบในปริมาณ 0.001-0.05 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม (Anna et เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์ หรือ al. 2015) ทั้งน้ีในประเทศไทยค่ามาตรฐานของการตกค้างสาร กระบวนการ Pyrolysis ของสารอินทรีย์ แพร่กระจายในอากาศ พีเอเอชในเครื่องด่ืมและอาหารยังไม่มีการจัดตั้ง จึงมีความ นำ้� ดนิ และอาหาร (Gabriela et al. 2008) นอกจากนใ้ี นรายงาน จ�ำเป็นต้องศึกษาจากรายงานต่างประเทศ ซึ่งพบว่าข้อมูลยังมี ยงั กลา่ ววา่ มกี ารตกคา้ งสารประกอบพเี อเอชชนดิ ตา่ งๆ ในกาแฟคว่ั อยคู่ อ่ นข้างน้อยเชน่ กนั เช่น naphthalene acenaphthylene, acenaphthene, fluorene, benzo(ghi)perylene และdibenzo(a,h)anthracene และพบ สาร naphthalene มีความเข้มข้นสูงที่สุดในรายงานน้คี อื 1.005 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม และระดับความเข้มข้นของสารพีเอเอช ท่ีตรวจพบนั้นข้ึนอยู่กับกระบวนการค่ัวและข้ึนกับสถานท่ีปลูก ซึ่งอาจเกิดจากการปนเปื้อนของต้นกาแฟจากมลพิษในอากาศ ดังจะเห็นได้ว่าระดับการคั่วของกาแฟ พันธุ์กาแฟ และสถาน ที่ปลูกในสภาพแวดล้อมท่ีแตกต่างกันก็มีอิทธิพลต่อการเกิด สารชนดิ น้ีเช่นกัน กระบวนการคั่วกาแฟท่ีระดับความร้อนมากกว่า 220 องศาเซลเซียส ท�ำให้เกิดสารประกอบพีเอเอชชนิด phenanthrene, anthracene และ benzo(a)anthracene และ ท่ีระดับความร้อน 260 องศาเซลเซียส ท�ำให้เกิดสารประกอบ พเี อเอชชนดิ pyrene และchrysene ความเขม้ ขน้ ของสารพเี อเอช ทมี่ า : https://ajnownirun.files.wordpress.com/2015/ 02/roast-color-01-horz.jpg เอกสารอา้ งอิง 1. Adriana F (2012) Coffee Constituents. Emerging Health Effects and Disease Prevention: 21-58 2. Anna S-R, Magdalena S, Ewa C (2015) Determination of Polycyclic Aromatic Hydrocarbons in Coffee and Coffee Substitutes using Dispersive SPE and Gas Chromatography-Mass Spectrometry. Food Anal 8:109-121 3. Gabriela S, Semaghiul B, Simona D (2008) Residues of Polycyclic aromatic hydrocarbons in different types of coffee. Science study & research (3):325-329 4. Kyueng L, Han-Seung S (2010) Determination of Polycyclic aromatic hydrocarbons in Commercial Roasted Coffee beans. Food Sci Biotechnol 19(6):1435-1440 No.34 September 2016

26 ตดิ ตามเฝา้ ระวงั ณพวฒุ ิ ประวัติ และ รุจยา บุณยทมุ านนท์ สถาบันไดออกซินแห่งชาติ (PFCs) การตดิ ตามสถานการณ์การปนเป้ือน ของสารเปอรฟ์ ลูออรเิ นเทต (PFCs) ในน้ำ� ตะกอนดนิ และตัวอย่างชวี ภาพ ในภมู ภิ าคเอเชีย Perfluorinated Chemicals (PFCs) หรอื เรยี กในอกี ชอ่ื หนงึ่ วา่ Perfluroalkyl Substances (PFASs) เปน็ กลมุ่ ของสารอนิ ทรยี ส์ งั เคราะห์ ทใี่ ชเ้ ปน็ สว่ นประกอบ โพลเิ มอรใ์ นอตุ สาหกรรมการผลติ ตา่ งๆ อาทิ ภาชนะใสอาหาร เครอ่ื งครวั แบบ non-stick หรอื สาร surface-active บนเสอ้ื กนั ฝน รวม ถึงอตุ สาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่างๆ เปน็ ต้น [1] เปน็ เวลากวา่ 50 ปที ่กี ารสงั เคราะห์สารกลมุ่ นเ้ี ป็นไปเพื่อการประยกุ ตใ์ ช้ ในกระบวนการผลติ ท�ำ ใหเ้ กดิ การปนเปอ้ื นสแู่ หลง่ สง่ิ แวดลอ้ มตา่ งๆ ทวั่ โลก ทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม[2] กระทง่ั จนถงึ หว่ งโซอ่ าหาร ในชวี ติ ประจ�ำ วนั [3] หากพจิ ารณาในเชงิ การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งแลว้ Perflurooctanoic Acid (PFOA) และ Perfluorooctane Sulfonate (PFOS) นนั้ ถอื เปน็ สาร 2 ชนดิ หลกั ในกลมุ่ สาร PFCs ทไ่ี ดร้ บั ความสนใจมากทสี่ ดุ ในดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มเนอื่ งจากมกั พบในสดั สว่ นการ ปนเปอ้ื นที่คอ่ นขา้ งสงู เมอื่ เทยี บกับสารตัวอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน [4] PFCs ในอุตสาหกรรมต่างๆ - การผลิตเส้ือกนั ฝน - อุปกรณอ์ เิ ล็คทรอนิกส์ - ผลิตภณั ฑ์บำ�รุงผวิ - พรมที่มคี ุณสมบัตกิ นั เลอะ - ภาชนะและอปุ กรณใ์ นครัวเรอื น ที่มา: http://saferchemicals.org/chemicals/pfcs No.34 September 2016

ตดิ ตามเฝ้าระวงั 27 PFCs มเี สถียรภาพทางเคมี (Chemical Stability) ทสี่ ูง คุณสมบัตกิ ารละลายนำ้�ท่ดี มี าก (Relatively High Water Solubility) การกลายเป็นไอตำ่� (Low Volatility) อีกท้ังเป็นสารตกค้างยาวนานในส่ิงแวดล้อม สามารถสะสมได้ในเน้ือเย่ืออวัยวะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตและมีความเป็นพิษต่อระบบต่างๆ ดังนั้นสารกลุ่มนี้จึงถูกจัดให้เป็นสาร Persistent Organic Pollutants (POPs) ภายใต้อนสุ ัญญาสต็อกโฮล์ม (Stockholm Convention) เม่อื ปี 2552 โดยอยใู่ น Annex B (Restriction) สารมลพษิ กลมุ่ ทีต่ อ้ งมี การจ�ำ กดั การใช้และผลติ และยังเปน็ Emerging Chemicals Concern[5] ในการศึกษาด้านความเปน็ พิษน้นั สำ�หรับ PFOS พบวา่ มีผลกระทบต่อระบบต่อมไร้ท่อ เป็นสารก่อมะเร็ง และยังมีพิษต่อระบบประสาท [3] ในขณะที่ PFOA สามารถเหน่ียวนำ�ให้เกิด การเปลยี่ นแปลงของยนี ตา่ งๆ ได้ (xenobiotic metabolism genes) [6] PFOS PFOA ทม่ี า: http://www.analysis.co.jp ตารางแสดงคณุ สมบัติบางประการของสาร PFOS และ PFOA ทมี่ า: http://www.watertechonline.com ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา กรมส่งเสริมคุณภาพ ในช่วงวันที่ 11-16 กรกฏาคม 2559 ท่ผี ่านมามีการจดั สง่ิ แวดลอ้ ม ซงึ่ เปน็ หนว่ ยงานหลกั ของประเทศไทย ท�ำ โครงการ Workshop Training ใน theme ของ Determination of PFCs in ความร่วมมอื กับ United Nations University (UNU) – Institute Sediments and Biota ข้นึ ณ Shimadzu Cooperation ณ เมอื ง for the Advance Study of Sustainability (IAS) และประเทศอนื่ ๆ เกียวโต ประเทศญ่ีปุ่น โดยในคร้ังนี้ เป็นการฝึกวิธีสกัดสาร จนถึงขณะน้ีมีจำ�นวน 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ในกลุ่ม PFCs จากตัวอย่างตะกอนดิน และตัวอย่างชีวภาพ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐเวียดนาม ซง่ึ ก�ำ หนดใหใ้ ช้ เนอ้ื ปลาในตระกลู Seabass เปน็ ตวั แทน เนอ่ื งจาก ปากสี ถาน สาธารณรฐั ประชาชนจนี มาเลเซยี อินเดยี และไทย สามารถพบได้ท่ัวไปในบริเวณทวีปเอเชีย เพ่ือจุดประสงค์ที่ว่า ในการติดตามรวมถึงหาแนวทางจัดการแก้ไขการปนเปื้อนของ เม่ือแต่ละประเทศได้ทำ�การติดตามตรวจสอบสารในกลุ่มน้ีแล้ว สาร Perfluorinated Chemicals (PFCs) ในสิง่ แวดล้อม รวมถงึ จะสามารถนำ�ผลการวิเคราะห์น้ีมาเช่ือมต่อกันเพื่อให้เห็นเป็น ท�ำ นายทศิ ทางของการแพร่กระจายของสารในกลุม่ นี้ในภูมภิ าค ภาพรวมของทวีปได้ นอกจากน้ี จากการท่ีโครงการนใี้ น Phase ทวปี เอเชยี ตอ่ ไปในอนาคต ภายใตช้ อ่ื โครงการ Monitoring and ทผี่ า่ นมา จะเนน้ ทก่ี ารวเิ คราะหเ์ พยี ง PFOS และ PFOA เทา่ นนั้ Management of POPs in Asia โดยได้รับการสนับสนุนจาก แตใ่ นคร้งั นจ้ี ำ�นวนของสารประกอบทส่ี นใจจะเพิ่มขึน้ เปน็ ดังน้ี Shimadzu Cooperation ประเทศญ่ีป่นุ ซ่งึ ในปี พ.ศ. 2559 นี้ 1. PFOA 2. PFOS 3. PFHxS เปน็ ปแี รกของการเรม่ิ ตน้ โครงการนใี้ น Phase 7 (2559-2561) 4. PFBA 5. PFHxA 6. PFNA 7. PFDA 8. PFUnDA 9. PFDoDA No.34 September 2016

28 ติดตามเฝ้าระวงั เทคนิคการวิเคราะห์ที่ใช้น้ันจะเป็น Liquid Gas ซ่ึงจะเป็นการระบุมวลต่อประจุของสารตัวอย่างไว้ท้ังระบบ Chromatography – Tandem Mass Spectrometry (LC/MS/MS) ท�ำ ใหก้ าร identify และ quantify สารแตล่ ะตวั มคี วามถกู ตอ้ งและ ซึ่งเป็นเทคนิคการแยกสารท่ีอยู่ในรูปของเหลวและนำ�มา แม่นยำ� อีกท้ังใช้เวลาในการวิเคราะห์ (Turn-Around Time) วิเคราะห์มวลด้วยการวัดปริมาณมวลต่อประจุของโมเลกุลสาร ประมาณ 15 นาทเี ท่านนั้ สำ�หรับสารในกลุม่ นี้ ที่มีความนา่ สนใจมาก กล่าวคือ ในส่วนของ interface ระหวา่ ง หลงั จาก Workshop Training ในครง้ั น้ี ตวั แทนของแตล่ ะ เคร่ือง LC และ MS น้นั จะใช้เทคนคิ Electrospray Ionisation ประเทศตอ้ งกลบั มาก�ำ หนดจดุ เกบ็ ตวั อยา่ งในประเทศ เพอ่ื เปน็ (ESI) ทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มอยา่ งมากในการท�ำ ใหส้ ารตวั อยา่ งทเ่ี ปน็ แหลง่ อา้ งองิ การปนเปอื้ นและกระจายตวั ของสาร PFCs รวมถงึ ของเหลวเกดิ เปน็ ประจแุ ละกลายเปน็ สารตวั อยา่ งในสถานะกา๊ ซ ท�ำ การสกดั สารมลพษิ นี้ ในตวั อยา่ งน�้ำ ตะกอนดนิ และตวั อยา่ ง ในสภาวะความดนั บรรยากาศ (Atmospheric Pressure) เพอ่ื เขา้ สู่ ชวี ภาพ ในฤดฝู น และฤดแู ลง้ เพอ่ื น�ำ ไปวเิ คราะหห์ าปรมิ าณของ เครื่อง MS ต่อไป นอกจากน้ใี นส่วนของเครอื่ ง Tandem Mass สารทส่ี นใจทัง้ 9 ชนิดข้างต้น และร่วมกนั การอภปิ รายผลในเชงิ Spectrometre จะใช้ Mass Analyser ซงึ่ เปน็ Triple Quadrupole ของแตล่ ะประเทศและภูมภิ าคเอเชียโดยรวมตอ่ ไป ในโหมดของ Multiple Reaction Monitoring (MRM) เอกสารอา้ งองิ [1] Xiao, F., Simcik, M.F., Gulliver, J.S. 2013. Water. Res. 47, 49-56. [2] Shi, X., Liu, C., Wu, G., Zhou, B. 2009. Chemosphere. 77, 1010-1018. [3] Salgado, R., Lopez-Doval, S., Pereiro, N., Lafuente, A., Toxicol. Lett. 240, 226-235. [4] Zareitalabad, P., Siemens, J., Hamer, M., Amelung, W. 2013. Chemosphere. 91, 725-732. [5] Wang, S., Wang, H., Zhao, W., Cao, Y., Wan, Y. 2015. Environ. Pollut. 205, 186-198. [6] Xu, J., Shimpi, P., Armstrong, L., Salter, D., Slitt, A.L. 2016. Toxicol. Appl. Pharmacol. 290, 21-30. No.34 September 2016

ก้าวหน้าพฒั นา 29 จตรุ งค์ เหลาแหลม ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม นาโนเทคโนโลยี ของประเทศไทย นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) หมายถงึ เทคโนโลยปี ระยกุ ตซ์ งึ่ เกยี่ วขอ้ งกบั การจดั การ การสรา้ ง การสงั เคราะห์ วัสดหุ รืออุปกรณใ์ นระดบั ของอะตอม โมเลกลุ หรอื ช้ินสว่ นท่ีมขี นาดเล็กในช่วงประมาณ 1 ถงึ 100 นาโนเมตร  ขนาดหน่ึง นาโนเมตร จึงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือแม้แต่การใช้กล้องจุลทรรศน์ธรรมดา ดังนั้นการท่ี นักวิทยาศาสตร์จะสามารถมองเห็นขนาดเล็กระดับหนึ่งนาโนเมตรได้นั้นจะต้องให้กล้องจุลทรรศน์ท่ีมีกำ�ลังขยายสูงมาก เช่น กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน หรือ กล้องจุลทรรศน์ชนิดใหม่ๆ ที่ถูกสร้างข้ึนมาเพ่ือใช้ในการศึกษาและวิจัยทางด้าน นาโนเทคโนโลยีโดยเฉพาะ ซึ่งจะส่งผลให้วัสดุหรืออุปกรณ์ต่างๆ มีหน้าที่ใหม่ๆ และมีคุณสมบัติที่พิเศษขึ้นทั้งทางด้าน กายภาพ เคมี และชวี ภาพ ทำ�ให้มปี ระโยชน์ตอ่ ผู้ใชส้ อยและเพ่ิมมลู ค่าทางเศรษฐกจิ ได้ (ศูนยน์ าโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ) ทมี่ า: http://www.nanotec.or.th/th/?p=1137 No.34 September 2016

30 ก้าวหนา้ พัฒนา การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรทู้ างวทิ ยาศาสตรใ์ นการจดั การและควบคมุ อย่างง่ายท่ีสามารถเข้าสู่สังคมได้ทุกระดับโดยมี สสารในระดับนาโนสเกล เพื่อใช้ประโยชน์จากสมบัติหรือปรากฏการณ์ มาตรการต่างๆ โดยมีการก�ำ หนดฉลากนาโน ให้เป็น ท่ีขึ้นกับขนาดหรือโครงสร้างของสสาร โดยโครงสร้างหรือปรากฏการณ์ ฉลากบงั คบั ใช้ และมกี ารประชาสมั พนั ธแ์ ละสมั ฤทธผ์ิ ล ดังกล่าวแตกต่างท่ีพบในอะตอม หรือโมเลกุล หรือวัสดุขนาดใหญ่ อย่างมืออาชีพ โดยจัดทำ� road map ด้านการ แผนยทุ ธศาสตรด์ า้ นความปลอดภยั และจรยิ ธรรมนาโนเทคโนโลยฉี บบั น้ี ประชาสมั พันธ์ Nano safety สสู่ าธารณะ ให้ความรู้ พฒั นาเพอ่ื ใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกบั นโยบายของรฐั บาล โดยการบรู ณาการ ประโยชน์และโทษควบคู่กันไปโดยสร้างความรู้ความ แผนแม่บทและแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับความ เข้าใจ Nano safety มากขึ้นนำ�ไปสู่การเปิดเวที ปลอดภัยด้านนาโนเทคโนโลยี ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติโดย สาธารณะเพอ่ื สรา้ งกระบวนการขอ้ แลกเปลย่ี น รวมถงึ เฉพาะอย่างย่ิง แผนยุทธศาสตร์การจัดการสารเคมีแห่งชาติฉบับที่ 4 สรา้ งความตระหนกั ใหเ้ กดิ ความเปน็ เจา้ ของเพอื่ สรา้ ง (พ.ศ. 2555-2564) ซงึ่ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ แนวความคดิ เชงิ บวกและขอ้ ดอ้ ยของผลติ ภณั ฑส์ นิ คา้ สง่ิ แวดลอ้ มและความมนั่ คงของประเทศดว้ ยกระบวนการวจิ ยั และพฒั นา นาโน (เอกสารการประชมุ เชิงปฏิบตั กิ ารติดตามแผน ผลิต จำ�หน่าย และใช้นาโนเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์นาโนอย่างมี ยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยและจริยธรรมนาโน จริยธรรมเหมาะสมย่ังยืนและมีส่วนร่วม จึงกำ�หนดแผนยุทธศาสตร์ เทคโนโลยี 1 เมษายน พ.ศ. 2559) อนาคตเราจะได้ 3 ดา้ น เพอ่ื ใหท้ กุ ภาคสว่ นไดด้ �ำ เนนิ การรว่ มกนั ในลกั ษณะบรู ณาการเพอื่ เ ห็ น ฉ ล า ก น า โ น ป ร า ก ฏ ใ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ท่ี เ ป็ น ใหบ้ รรลุผลสำ�เรจ็ ดงั นี้ นาโนเทคโนโลยีคอยกำ�กับดูแล และจะแสดงให้ ผู้บริโภคทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นนาโนน้ันมีฉลาก ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างและบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านความ แสดงชัดเจนสำ�หรับผลิตภัณฑ์นาโนซ่ึงจะเป็นการ ปลอดภัยและจริยธรรมนาโนเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์นาโน อย่างเป็น ป้องกันการกล่าวอ้างผลิตภัณฑ์การโฆษณาว่า ระบบครบวงจร สามารถบูรณาการกลไกลการเชื่อมโยงข้อมูลและ ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นนาโนท้ังที่ไม่ใช่นาโนซึ่งจะทำ�ให้ สารสนเทศดา้ นความปลอดภยั และจรยิ ธรรมนาโนเทคโนโลยจี ากหนว่ ยงาน ผู้บริโภคเกิดความปลอดภัยและได้ผลิตภัณฑ์ท่ีเป็น เครือข่ายที่เกี่ยวข้องในทกุ ภาคส่วน พรอ้ มนำ�เสนอเผยแพร่สสู่ าธารณะ นาโนตามต้องการของผบู้ ริโภค ยุทธศาสตร์ท่ี 2 พัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ท่มี า: สมาคมนาโนเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย มาตรการและกลไกการกำ�กับดูแลและบังคับใช้ มีมาตรการและระบบ บริหารจัดการด้านความปลอดภัยและจริยธรรมด้านนาโนเทคโนโลยีที่ สามารถบรู ณาการมาตรฐานและการท�ำ งานของทกุ ภาคสว่ นทงั้ ในระดบั ประเทศและในระดับสากล ยุทธศาสตร์ท่ี 3 สร้างความเข้มแข็งและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของภาคประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ และความตะหนักเรื่องความ ปลอดภัยของนาโนเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์นาโน พร้อมท้ังสามารถใช้ ผลิตภัณฑ์นาโนได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสมรวมถึงสามารถเข้ามามี ส่วนในกระบวนการพัฒนาและร่วมกำ�หนดนโยบายที่เก่ียวข้องกับ การจดั การ เฝา้ ระวงั และตดิ ตามการด�ำ เนนิ งานดา้ นความปลอดภยั และ จริยธรรมนาโนเทคโนโลยี โดยผ่านระบบการศึกษาและส่ือการเรียนรู้ เอกสารอ้างองิ เอกสารการประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการติดตามแผนยทุ ธศาสตรด์ า้ นความปลอดภยั และจริยธรรมนาโนเทคโนโลยี 1 เมษายน พ.ศ. 2559 นาโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ [สืบค้นระบบออนไลน์] ://www.nanotec.or.th/th/ สืบค้นเม่ือ 20 มิถนุ ายน 2559 สมาคมนาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย [สืบค้นระบบออนไลน์] ://www.nanotec.or.th/th/wp-content/uploads/2016/06/NanoQ-Package-2012. pdf สืบค้นเมือ่ 20 มิถนุ ายน 2559 No.34 September 2016

ก้าวหน้าพัฒนา 31 ถงึ เวลาหรือยงั ท่ีประเทศไทยจะใช้ “ไบโอชานออ้ ย” แทนสารพษิ อยา่ ง “โฟม” โฟม หรอื พลาสตกิ เปน็ ทร่ี กู้ นั ดวี า่ เปน็ บรรจภุ ณั ฑท์ อี่ นั ตราย ท�ำลายส่ิงแวดล้อมและไม่ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ อีกทั้ง ยังสิ้นเปลืองพลังงานในการก�ำจัดแถมยังปล่อยของเสียระหว่าง กระบวนการจดั การดว้ ย ดงั นน้ั วนั นเี้ ราจงึ น�ำผอู้ า่ นไปท�ำความรจู้ กั “ไบโอชานอ้อย” บรรจุภัณฑท์ ่เี ป็นผลผลิตจากเทคโนโลยชี วี ภาพ น�ำวัสดุเหลือใช้จากชานอ้อยท่ีเหลือจากอุตสาหกรรมผลิตน�้ำตาล มาผลติ ส�ำหรับ “ไบโอชานอ้อย” น้ันเป็นบรรจุภัณฑ์สะอาดไม่ ปล่อยของเสียตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงกระบวนการจัดการ โดยขน้ั ตอนการผลติ  เรมิ่ จากการน�ำเยอื่ กระดาษชานออ้ ยทเี่ หลอื ดงั กลา่ ว ไปผสม ตี ผ่านกระบวนการปอ้ งกนั น้ำ� รั่วซมึ และขน้ึ รูป เป็นบรรจุภัณฑต์ า่ งๆ กวา่ 70 ชนิด เช่น  จาน ชาม ถาด ถ้วยนำ้� และกล่องพร้อมฝาปิด ฯลฯ ไบโอชานอ้อยจะมีสีหม่นๆ ไม่ขาว สะอาดเหมือนกล่องโฟมเนื่องจากกระบวนการผลิตไม่ใช้คลอรีน ฟอกสี สที ไี่ ดเ้ ปน็ สธี รรมชาตขิ องชานออ้ ย แตม่ น่ั ใจในความสะอาด และปลอดภัยไร้สารปนเปื้อนเพราะทุกขั้นตอนการผลิตต้องผ่าน ความร้อนทอ่ี ณุ หภูมิ 160 องศาเซสเซียส  ไบโอชานอ้อย เป็นนวัตกรรมสีเขียวด้วยคุณสมบัติเด่น หลายประการ อาทิ กระบวนการผลติ ทเ่ี รยี บงา่ ย ประหยดั พลงั งาน เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ไมใ่ ชเ้ ยอื่ จากไมย้ นื ตน้ เลอื กใชเ้ ทคโนโลยที ่ี เรียกวา่ ECF คอื การไม่ใช้คลอรนี ในการฟอกสีเยือ่ กระดาษ ท�ำให้ ได้เยื่อกระดาษจากชานอ้อยที่สะอาดและปลอดภัย และยังผ่าน การฆา่ เชอื้ ดว้ ยแสง UV อกี ครง้ั กอ่ นถงึ มอื ผบู้ รโิ ภคอยา่ งปลอดภยั   เปน็ ทน่ี า่ แปลกใจวา่ ไบโอชานออ้ ย ยงั ไมค่ อ่ ยเปน็ ทน่ี ยิ มใน บา้ นเรา ขณะทตี่ า่ งประเทศ ทง้ั แถบยโุ รป อเมรกิ า หรอื ญปี่ นุ่ เปน็ บรรจภุ ัณฑท์ ไี่ ด้รบั ความนิยม หากจะวเิ คราะห์ว่าสาเหตเุ ร่อื งราคา ท่ีสงู กว่าโฟมประมาณ 2 เท่า (จากข้อมลู บรษิ ัท บรรจุภณั ฑ์เพอ่ื สงิ่ แวดลอ้ ม ระบวุ า่ ราคาของไบโอชานออ้ ยนน้ั อยทู่ ปี่ ระมาณ 3-4 บาทต่อช้ิน ) ซ่งึ ถูกมองวา่ ท�ำไมต้องซือ้ แพง ในเม่อื มขี องราคาถกู กวา่ ใหเ้ ลอื กใช้ ซง่ึ เหตนุ เ้ี องท�ำใหค้ นสว่ นใหญเ่ ลอื กใช้ “โฟม” มากกวา่ “ไบโอชานออ้ ย” จงึ สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพพลเมอื งของประเทศในภาพรวม ทรี่ ฐั บาลตอ้ งใชเ้ งนิ ในการรกั ษาสขุ ภาพในระยะยาวจากพษิ ภยั ของ โฟมนัน่ เอง  No.34 September 2016

32 ก้าวหน้าพัฒนา อย่างไรก็ตามยังมีสาเหตุจากการละเลยท่ีจะเอาจริง ลดใชถ้ ุงพลาสติกทกุ วันที่ 15 ของเดอื น จากภาคเี ครอื ขา่ ยภาค เอาจังกับการก�ำจัดโฟมหรือพลาสติก ออกจากการน�ำมาใช้ ธุรกิจเอกชน 15 หน่วยงาน ประกอบด้วย บริษัท ซีพี ออล์ ในการเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร จากหน่วยงานรัฐบาล  ด้วย จ�ำกดั (มหาชน) บรษิ ทั เดอะมอลล์ กรปุ๊ จ�ำกดั บรษิ ทั ฟดู้ แลนด์ มาตรการหรือรณรงค์กันอย่างจริงจัง หรือมีบทลงโทษที่ชัดเจน ซุปเปอร์มารเ์ กต็ จ�ำกดั บรษิ ทั สยามแมค็ โคร จ�ำกัด (มหาชน) ต่างจากบางประเทศที่ท�ำเป็นวาระแห่งชาติ เช่น การเรียกเก็บ บริษทั สรรพสนิ คา้ เซน็ ทรัล จ�ำกัด บรษิ ทั เอก-ชยั ดีสทรบิ วิ ชั่น ภาษีถุงพลาสติกของไอร์แลนด์ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการ ซิสเทม จ�ำกัด บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จ�ำกัด บริษัท ซีอาร์ซี ใช้ถุงพลาสติกของไต้หวัน หรือห้างสรรพสินค้าในเมืองฮิโรชิมา สปอร์ต จ�ำกัด บรษิ ทั เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จ�ำกดั บรษิ ัท เซ็นทรัล ประเทศญปี่ นุ่ ประกาศใหแ้ ตม้ สะสมแลกกบั ผทู้ ไ่ี มร่ บั ถงุ พลาสตกิ มาร์เก็ตต้ิงกรุ๊ป จ�ำกัด บริษัท บิ๊กซี ซุปเปรอ์เซ็นเตอร์ จ�ำกัด ที่มาจับจ่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้แต่เมืองลีฟเรปิดส์ (มหาชน) บรษิ ทั รงั สติ พลาซา่ จ�ำกดั และบรษิ ทั หา้ งสรรพสนิ คา้ ประเทศแคนาดาที่ประกาศตัวเป็นเมืองปลอดถุงพลาสติก ใคร โรบนิ สนั จ�ำกัด (มหาชน) โดยขอ้ ตกลงความรว่ มมอื การรณรงค์ ฝ่าฝืนจะถูกปรับเงินทันที หรือประเทศใกล้ๆ เราอย่างสิงคโปร์ ลดใช้ถุงพลาสติกน้ีมีการด�ำเนินการสนับสนุนให้เกิดการงดให้ ทก่ี �ำหนดใหว้ นั พธุ แรกของเดอื นเปน็ วันพกถงุ ชอ้ ปปิ้ง ถ้าใครไม่ บรกิ ารหรอื งดใชถ้ งุ พลาสตกิ ไปยงั ผมู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งและประชาชน น�ำถงุ มาเองจะต้องจา่ ยเงนิ คา่ ถงุ ท่ัวไป เพื่อให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจและมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซ่ึงตอนนี้ในบ้านเราเร่ิมมีการรณรงค์ ของกรมส่งเสริม อย่างกว้างขวาง และห้างสรรพสินค้าและร้านค้าสะดวกซื้อ คณุ ภาพคุณภาพสงิ่ แวดล้อม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและ จดั กิจการเชงิ รกุ เพื่อสง่ เสริมการลดใช้ถงุ พลาสติกอย่างตอ่ เนื่อง ส่ิงแวดล้อม ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ( MOU) ถึงเวลาหรือยังท่ีเราจะเลิกใช้บรรจุภัณฑ์โฟมและ ลดการใช้ถุงพลาสติก กับหน่วยงานภาคธุรกิจเอกชน จ�ำนวน พลาสติกอย่างเด็ดขาดและจริงจังเสียที...เพ่ือสุขภาพที่ดีของ 15 หน่วยงาน ในระยะแรกได้รับความร่วมมือในการรณรงค์ ประชากร...ของประเทศไทย  สิง่ ดีดีจาก “ไบโอชานออ้ ย”   -ใช้กระบวนการผลิตท่ีเรียบง่าย ไม่เหลือของเสียจากการผลิตยังสามารถ น�ำกลับเขา้ ส่กู ระบวนการผลติ ใหม่ได้ทัง้ หมด -สามารถฝังกลบและย่อยสลายไดเ้ องตามธรรมชาตใิ นเวลา 30-45 วนั     -ผลติ จากธรรมชาติ 100%  ตา่ งจากโฟมทผ่ี ลติ ภณั ฑจ์ ากปโิ ตรเคมี ตอ้ งอาศยั การน�ำเข้าวตั ถุดบิ จากตา่ งประเทศ -ทนความเย็นและความร้อนสูงได้ตั้งแต่-40 จนถึง 220 องศาเซลเซียส จงึ สามารถใชก้ บั การแชแ่ ขง็ หรอื ใชเ้ ปน็ ภาชนะในเตาไมโครเวฟหรอื เตาอบไดโ้ ดยไม่ กอ่ สาร CFC ซงึ่ เปน็ สารก่อมะเรง็   เอกสารอา้ งองิ คมู่ ือ ขอ้ มูลชว่ ยชาติ ลดขยะ พลาสตกิ และโฟม. กรมสง่ เสริมคณุ ภาพสิง่ แวดลอ้ ม. พิมพ์ครั้งท่ี 1 พ.ศ. 2548 ข้อมูลการจดั งานวันสิ่งแวดลอ้ มโลก ประจ�ำปี 2558. กองส่งเสริมและเผยแพร่ กรมส่งเสริมคณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม No.34 September 2016

ก้าวหน้าพฒั นา 33 สุดา อิทธสิ ภุ รณ์รัตน์ จิตตมิ า จารุเดชา ชวลา เสยี งล�ำ้ และอนุพงษ์ ปณุ โณทก ศนู ยว์ ิจัยและฝึกอบรมด้านส่งิ แวดล้อม กรมส่งเสรมิ สุขภาพส่งิ แวดลอ้ ม วธิ กี ารทดสอบประสิทธิภาพ การบำ� บัดนำ้� เสยี ส�ำหรับ ถงั บ�ำบัดนำ�้ เสยี ส�ำเร็จรปู จากท่ีได้มีกฎหมายก�ำหนดไว้ว่า ในการสร้างบ้านพักท่ีอยู่ อย่างไรกต็ าม ผลิตภณั ฑ์เหล่านี้ ซึง่ มกี าร อาศัยต้องมีการติดตั้งระบบบ�ำบัดน้�ำเสียด้วยจึงจะสามารถได้รับ วางจ�ำหน่ายในท้องตลาด ยังไม่มีการรับรองถึง การอนุญาตให้ก่อสร้างบ้านได้ ตามที่ก�ำหนดไว้ในกฎกระทรวง ประสิทธิภาพการบ�ำบัดน้�ำเสียที่ผู้ผลิตได้ท�ำการ ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุม ออกแบบไว้ ถงึ แมว้ า่ โรงงานผผู้ ลติ ถงั บ�ำบดั นำ�้ เสยี อาคาร พ.ศ. 2522 ว่าผู้ที่จะสร้างอาคารพักอาศัย ประเภทบ้าน ส�ำเรจ็ รปู บางราย จะท�ำการทดสอบประสทิ ธภิ าพ เด่ยี ว หอ้ งแถว ตกึ แถว หรอื บา้ นแฝด ตอ้ งแสดงระบบบ�ำบัดนำ�้ เสยี ในการบ�ำบัดน�้ำทิ้งของถังที่ผลิตโดยโรงงานของ โดยอาจจะเป็นบ่อเกอะ หรือบ่อซึม หรือวิธีอ่ืนในการปรับปรุงน้�ำ ตนเองแล้ว แต่การทดสอบดังกล่าว ก็ยังไม่มี เสยี ให้ได้มาตรฐานคณุ ภาพน�ำ้ ทิง้ ตามทก่ี �ำหนดไวส้ ำ� หรับอาคารได้ มาตรฐานวธิ กี ารทดสอบ รวมทงั้ เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการทดสอบนั้นๆ เพ่ือให้ส�ำนักงานมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้ บ้านในยุคปจั จบุ ัน จงึ นิยมใชถ้ ังบ�ำบัดน�ำ้ เสียส�ำเรจ็ รปู ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมซึ่งมีหน้าท่ีในการออก ที่มจี �ำหน่ายในทอ้ งตลาด แทนการตดิ ตั้งบ่อเกรอะ หรอื บ่อซึม ในการใช้ มาตรฐานให้กับถังบ�ำบัดน้�ำเสียแบบส�ำเร็จรูป เพ่ือบ�ำบัดน้�ำเสียทั่วไป เนื่องจากติดต้ังสะดวกวัสดุท่ีใช้มีความคงทน ท�ำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการบ�ำบัดน้�ำ สามารถแก้ปัญหาเร่ืองน้�ำใต้ดิน หรือเรื่องสิ่งปฏิกูลเต็มบ่อออกไปได้ เสยี ของถงั บ�ำบดั นำ้� เสยี ส�ำเรจ็ รปู ของแตล่ ะโรงงาน ซ่ึงโดยท่ัวไป ถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูปมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ ผู้ผลิตได้ ดังน้ัน ส�ำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ถงั บ�ำบดั นำ�้ เสยี ส�ำเรจ็ รปู แบบไรอ้ ากาศ และถงั บ�ำบดั นำ้� เสยี ส�ำเรจ็ รปู แบบ อุตสาหกรรมจึงได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและ เติมอากาศ โดยท่ีถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูปท้ังสองแบบ แตกต่างกันตรง ฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพ ท่ีถังบ�ำบัดน�้ำเสียแบบเติมอากาศน้ัน จะมีการเติมออกซิเจนจากเครื่อง สง่ิ แวดล้อม จัดท�ำโครงการทดสอบประสิทธิภาพ เติมอากาศ เพ่ือช่วยให้จุลินทรีย์ท�ำการย่อยสลายส่ิงสกปรกได้ดียิ่งขึ้น ของถังบ�ำบัดน้�ำเสียแบบส�ำเร็จรูปขึ้น โดย ท�ำใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพในการบ�ำบดั ดกี วา่ แบบไรอ้ ากาศ แตใ่ นขณะเดยี วกนั ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม เป็น ถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูปแบบเติมอากาศก็จะมีราคาที่แพงกว่า และมี หน่วยงานทดสอบ (Testing Organization) และ ค่าใช้จ่ายเพื่อเติมอากาศให้กับระบบเพิ่มข้ึน ท�ำให้ถังบ�ำบัดน�้ำเสีย คณะกรรมการวิชาการพิจารณามาตรฐาน ส�ำเร็จรูปแบบไร้อากาศมักเป็นท่ีนิยมในการติดต้ังส�ำหรับครัวเรือน ถังบ�ำบัดน้�ำเสียแบบส�ำเร็จรูปของส�ำนักงาน มากกวา่ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นผู้ควบคุม และก�ำกับการทดสอบ เพ่ือเป็นแนวทางในการ ก�ำหนดเป็นมาตรฐานวิธีการทดสอบ และเกณฑ์ การตัดสินผลการทดสอบ ส�ำหรับออกเป็น มาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม ให้กบั ผู้ผลติ ถงั บ�ำบดั น้�ำเสยี แบบส�ำเร็จรปู ในอนาคต ถงั บ�ำบดั นำ�้ เสียส�ำเร็จรูปทต่ี ดิ ต้งั ระหว่างการสรา้ งบ้าน No.34 September 2016

34 ก้าวหน้าพัฒนา การด�ำเนินการทดสอบประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน�้ำเสีย ผลการทดสอบโดยพิจารณาจากค่าสารอินทรีย์ในรูปของบีโอดี ส�ำเร็จรูปแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยในระยะแรก ได้ด�ำเนินการ ทเ่ี ขา้ ถงั บ�ำบดั อยใู่ นชว่ ง 115-232 มลิ ลกิ รมั /ลติ ร พบวา่ ในสภาวะ ทดสอบประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูปแบบไร้อากาศ ทดสอบแบบปกติ และสภาวะทดสอบแบบผดิ ปกติ ประสทิ ธภิ าพ ระหว่างปีพ.ศ. 2551-2552 โดยเลือกถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูป การบ�ำบัดสารอินทรีย์ในรูปของบีโอดีไม่มีผลที่แตกต่างอย่างมี แบบไร้อากาศ ขนาด 1600 ลิตร ที่นิยมใช้กันมากในท้อง นัยส�ำคัญ (p<0.05) โดยมีประสิทธิภาพการบ�ำบัดสารอินทรีย์ ตลาด ซึ่งเหมาะส�ำหรับครัวเรือนท่ีมีผู้อาศัยไม่เกิน 5 คน จาก ในรูปของบีโอดีเฉลี่ยอยู่ในช่วงร้อยละ 61-77 โดยค่าเฉล่ียสาร บริษัทผู้ผลิตถังบ�ำบัดน�้ำเสียท่ีเข้าร่วมทดสอบ จ�ำนวน 9 ราย อินทรีย์ในรูปของบีโอดีหลังการบ�ำบัดของแต่ละถังอยู่ในช่วง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน�ำไปใช้เป็นข้อมูลส�ำหรับการก�ำหนด 41-74 มิลลิกรัม/ลิตร จากผลการศึกษาที่ได้ คณะกรรมการ มาตรฐานประสทิ ธภิ าพถงั บ�ำบดั นำ้� เสยี ส�ำเรจ็ รปู ซง่ึ การทดสอบ วิชาการของส�ำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ได้ก�ำหนดการป้อนนำ�้ เสียเขา้ ระบบคงทีท่ ี่ 1 ลูกบาศก์เมตร/วนั ได้สรุปแผนการทดสอบประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูป (+10%) หรือ 900 – 1,100 ลิตร/วนั โดยมชี ว่ งเริม่ ต้นเดินระบบ แบบไรอ้ ากาศ ขนาด 1,600 ลติ ร ได้ดังตารางท่ี 1 ซึง่ ถงึ แม้วา่ (start up) ก่อนทจ่ี ะด�ำเนนิ การทดสอบในสภาวะปกติ เปน็ เวลา การทดสอบในสภาวะผดิ ปกตจิ ะไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ประสทิ ธภิ าพ 3 เดือน การทดสอบในสภาวะปกติ 3 เดือน และทดสอบ ของระบบในการบ�ำบัดสารอินทรีย์ในรูปของบีโอดีก็ตาม แต่ก็ ในสภาวะผดิ ปกติ จ�ำนวน 6 เดอื น ซงึ่ การทดสอบในสภาวะผดิ ปกติ ควรท�ำการทดสอบประสทิ ธภิ าพการบ�ำบดั ในทกุ สภาวะของการ ได้แบ่งการทดสอบออกเป็น 3 ระยะ คือ การทดสอบน�้ำเสีย ทดสอบ และควรท�ำการวเิ คราะหค์ ณุ ภาพนำ้� ทใี่ ชใ้ นการทดสอบ เข้าระบบมากกว่าปกติ 2 เท่า {2 ลูกบาศก์เมตร/วัน (+10%)} ไดแ้ ก่ ความเปน็ กรด-ดา่ ง บโี อดี ทเี คเอน็ สารแขวนลอย ตะกอน หรือ 1,800 – 2,200 ลิตร/วัน เพ่ือจ�ำลองสถานการณ์ในกรณี หนัก สารละลายไดท้ ง้ั หมด ไขมันและนำ้� มนั และซัลไฟด์ ตาม ท่ีมีคนใช้น�้ำมากกว่า 5 คน เช่น การมีงานเล้ียงท่ีบ้าน น้�ำเสีย มาตรฐานการระบายน้�ำทิ้งท่ีก�ำหนดไว้ตามประกาศกระทรวง เขา้ ระบบน้อยกวา่ ปกติ 2 เทา่ {0.5 ลกู บาศกเ์ มตร/วนั (+10%)} ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมส�ำหรับอาคารบางประเภท หรือ 450 – 550 ลิตร/วัน เพื่อจ�ำลองสถานการณ์ในกรณีท่ีมี และบางขนาด ซ่ึงจะท�ำการเก็บตัวอย่างน�้ำไม่น้อยกว่า 5 คร้ัง คนใชน้ ำ้� นอ้ ยกวา่ 5 คน เชน่ สมาชกิ ภายในบา้ นบางคนไปเทยี่ ว ของแต่ละสภาวะการทดสอบ ซึ่งค่าแนะน�ำส�ำหรับการบ�ำบัด ตา่ งจงั หวดั และไมม่ นี ำ�้ เสยี เขา้ ระบบ เพอ่ื จ�ำลองสถานการณใ์ น สารอนิ ทรียใ์ นรปู ของบีโอดคี วรมากกวา่ รอ้ ยละ 60 และคา่ สาร กรณีที่ไม่มีการใช้น�้ำหรือคนที่อาศัยในบ้านไปเที่ยวต่างจังหวัด อนิ ทรยี ใ์ นรปู ของบโี อดขี องนำ้� เสยี ออกจากระบบควรมคี า่ ไมเ่ กนิ กันหมด โดยการเดินระบบ แต่ละระยะน้ัน จะท�ำการทดสอบ 74 มิลลิกรัม/ลิตร โดยพิจารณาจากค่าความเข้มข้นของน้�ำเสีย ที่เวลา 5 วันติดต่อกัน แล้วจึงท�ำการเดินระบบในสภาวะปกติ เข้าระบบท่มี คี า่ บีโอดมี ากกว่า 100 มลิ ลกิ รมั /ลิตร {1 ลูกบาศก์เมตร/วัน (+10%)} เพื่อดูผลการฟื้นตัวของระบบ ตารางท่ี 1 แผนการทดสอบประสทิ ธภิ าพถงั บ�ำบัดน�้ำเสยี ส�ำเรจ็ รูปแบบไรอ้ ากาศ การทดสอบ ระยะเวลา ลกั ษณะการด�ำเนินงาน การเก็บตวั อยา่ ง ไมน่ ้อยกวา่ 5 ครง้ั เร่ิมต้นเดนิ ระบบ 3 เดอื น ปอ้ นน้ำ� เสยี เข้าระบบในชว่ ง 1,000 ลติ ร/วัน (+10%) ไมน่ ้อยกว่า 5 คร้งั สภาวะปกติ 3 เดอื น ป้อนนำ�้ เสียเขา้ ระบบในชว่ ง 1,000 ลิตร/วัน (+10%) สภาวะผิดปกติ ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ครง้ั ไมน่ ้อยกว่า 5 ครง้ั นำ้� เสยี เขา้ ระบบ 5 วัน ป้อนน�ำ้ เสียเข้าระบบในช่วง 2,000 ลิตร/วัน (+10%) ไมน่ ้อยกว่า 5 ครง้ั มากกวา่ ปกติ 2 เทา่ 5 วันตดิ ตอ่ กนั และเดินระบบในสภาวะปกติ ไมเ่ กิน 2 เดอื น นำ้� เสยี เขา้ ระบบ 5 วัน ปอ้ นน้�ำเสียเขา้ ระบบในชว่ ง 500 ลติ ร/วัน (+10%) นอ้ ยกวา่ ปกติ 2 เท่า 5 วนั ตดิ ตอ่ กัน และเดนิ ระบบในสภาวะปกติ ไมเ่ กิน 2 เดือน ไม่มนี ้ำ� เสยี เขา้ ระบบ 5 วัน หยุดระบบ 5 วนั ตดิ ตอ่ กนั และเดนิ ระบบในสภาวะปกติ ไม่เกิน 2 เดอื น No.34 September 2016

ก้าวหน้าพัฒนา 35 ส่วนในระยะท่ีสอง หลังจากได้ด�ำเนินการทดสอบ สารอนิ ทรยี ใ์ นรปู ของบโี อดี ทง้ั ในสภาวะปกตแิ ละสภาวะผดิ ปกติ ประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน�้ำเสียส�ำเร็จรูปแบบไร้อากาศ ขนาด ติดต่อกัน 5 วัน พบว่าถังทดสอบมากกว่าร้อยละ 80 (10 ใน 1,600 ลิตร ในระยะที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ด�ำเนินการ 12 ราย) แสดงค่าประสิทธิภาพการบ�ำบัดสารอินทรีย์ในรูป ทดสอบประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูปแบบเติมอากาศ ของบีโอดีไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส�ำคัญ (p < 0.05) ขนาด 1,600 ลิตร ระหว่างปี พ.ศ. 2553-2556 ที่มีการใช้กับ โดยท่ีค่าสารอินทรีย์ในรูปของบีโอดีของน�้ำเสียท่ีเข้าสู่ระบบ บ้านเรือนท่ีมีผู้อาศยั ไม่เกนิ 5 คน จากบรษิ ทั ผู้ผลิตถงั บ�ำบัดน้�ำ ที่ท�ำการทดสอบอยู่ในช่วง 78–188 มิลลิกรัม/ลิตร และน้�ำท่ี เสยี ทเ่ี ขา้ รว่ มทดสอบ จ�ำนวน 12 ราย โดยมกี ารก�ำหนดแผนการ ผา่ นการบ�ำบดั มคี า่ สารอนิ ทรยี ใ์ นรปู ของบโี อดอี ยใู่ นชว่ ง 13–22 ด�ำเนนิ งานทดสอบเหมอื นกบั การทดสอบประสทิ ธภิ าพถงั บ�ำบดั มิลลิกรัม/ลติ ร ซ่งึ มปี ระสทิ ธิภาพในการบ�ำบดั สารอนิ ทรีย์ในรปู น�ำ้ เสียส�ำเรจ็ รูปแบบไรอ้ ากาศที่แบง่ การทดสอบเป็น 2 ขน้ั ตอน ของบีโอดีอยู่ในช่วงร้อยละ 82-88 ทั้งนี้ สามารถสรุปแผนการ ได้แก่การทดสอบในช่วงการเดินระบบในสภาวะปกติ และการ ทดสอบประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูปแบบเติมอากาศ ทดสอบในชว่ งการเดนิ ระบบในสภาวะผดิ ปกติ ซงึ่ ในการทดสอบ ได้ดังตารางท่ี 2 โดยมีข้อก�ำหนดว่าการเก็บตัวอย่างส�ำหรับ ไดก้ �ำหนดอตั ราการป้อนน้�ำเสียที่เข้าระบบใหค้ งทท่ี ่ี 1 ลกู บาศก์ การทดสอบในสภาวะผิดปกติต้องเก็บหลังระยะเวลาทดสอบ เมตร/วัน (+10%) ในช่วงเร่ิมต้นเดินระบบ (start up) และการ ไมเ่ กนิ 5 วนั และเกณฑ์ในการบ�ำบดั จะตอ้ งมีประสิทธภิ าพใน ทดสอบในสภาวะปกติ ส่วนการทดสอบในสภาวะผิดปกติ ได้ การบ�ำบดั ไม่แตกต่างกนั ในสภาวะปกตแิ ละสภาวะผดิ ปกติ เชน่ แบง่ การทดสอบเปน็ 3 ระยะ คอื การทดสอบนำ�้ เสียเข้าระบบ เดียวกันกับการทดสอบประสิทธิภาพถังบ�ำบัดน้�ำเสียส�ำเร็จรูป มากกว่าปกติ 2 เทา่ {2 ลูกบาศกเ์ มตร/วัน (+10%)} น�้ำเสียเข้า แบบไร้อากาศ สว่ นการวเิ คราะห์คุณภาพนำ้� ทใี่ ช้ในการทดสอบ ระบบน้อยกว่าปกติ 2 เท่า {0.5 ลูกบาศก์เมตร/วัน (+10%)} ให้เป็นไปตามมาตรฐานการระบายน�้ำท้ิงท่ีก�ำหนดไว้ตาม และไม่มีน้�ำเสียเขา้ ระบบเลย ซงึ่ การทดสอบการเดินระบบแบบ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส�ำหรับ ผิดปกติแต่ละระยะ จะท�ำการทดสอบที่เวลา 5 วันติดต่อกัน อาคารบางประเภทและบางขนาด ซึ่งจะท�ำการเก็บตัวอย่างน้�ำ แลว้ จึงท�ำการเดนิ ระบบในสภาวะปกติ {1 ลกู บาศก์เมตรต่อวัน ไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ครง้ั ของแตล่ ะสภาวะการทดสอบ และคา่ แนะน�ำ (+10%)} เพื่อดูผลการฟื้นตัวของระบบ ผลการทดสอบ พบว่า ส�ำหรบั การบ�ำบดั สารอนิ ทรยี ใ์ นรปู ของบโี อดคี วรมคี า่ ไมเ่ กนิ 20 ถงั ทดสอบ 11 ราย ใชเ้ วลาในช่วงเริ่มต้นเดนิ ระบบใกลเ้ คียงกนั มิลลิกรัม/ลิตร โดยพิจารณาจากค่าความเข้มข้นของน้�ำเสียเข้า ประมาณ 1 เดือน สว่ นผลการทดสอบประสทิ ธภิ าพการบ�ำบัด ระบบทม่ี ีค่าบโี อดีอยใู่ นชว่ ง 78-188 มิลลกิ รมั /ลิตร ตารางที่ 2 แผนการทดสอบประสิทธิภาพถงั บ�ำบดั น�ำ้ เสียส�ำเร็จรูปแบบเตมิ อากาศ การทดสอบ ระยะเวลา ลักษณะการด�ำเนนิ งาน การเกบ็ ตัวอย่าง อยา่ งนอ้ ย 1 คร้ัง เริม่ ต้นเดนิ ระบบ 1 เดือน ป้อนน้ำ� เสยี เขา้ ระบบในช่วง 1,000 ลิตร/วนั (+10%) อย่างนอ้ ย 1 ครง้ั สภาวะปกติ 1 เดือน ป้อนนำ�้ เสียเขา้ ระบบในชว่ ง 1,000 ลติ ร/วนั (+10%) อยา่ งนอ้ ย 1 ครง้ั อย่างน้อย 1 ครง้ั สภาวะผิดปกติ อย่างนอ้ ย 1 คร้งั นำ้� เสียเข้าระบบ 5 วัน ป้อนนำ้� เสียเขา้ ระบบในช่วง 2,000 ลิตร/วนั (+10%) มากกวา่ ปกติ 2 เท่า 5 วันตดิ ต่อกัน และเดนิ ระบบในสภาวะปกติ ไมเ่ กิน 1 เดอื น น�ำ้ เสียเขา้ ระบบ 5 วนั ปอ้ นน�ำ้ เสียเขา้ ระบบในช่วง 500 ลิตร/วัน (+10%) นอ้ ยกวา่ ปกติ 2 เท่า 5 วนั ติดต่อกนั และเดนิ ระบบในสภาวะปกติ ไม่เกิน 1 เดือน ไมม่ ีนำ�้ เสยี เขา้ ระบบ 5 วัน หยดุ ระบบ 5 วนั ตดิ ตอ่ กนั และเดนิ ระบบในสภาวะปกติ ไม่เกิน 1 เดอื น No.34 September 2016

36 ก้าวหน้าพฒั นา โรงเรือนทดสอบ บอ่ รวบรวมนำ้� เสียส�ำหรบั ท�ำการทดสอบ ถงั บ�ำบัดน�ำ้ เสียส�ำเรจ็ รูปทเ่ี ข้าร่วมโครงการ ระบบการกระจายน�้ำเสยี ในการทดสอบ การประชุมสรุปผลการด�ำเนินงาน การเก็บตวั อย่างน้�ำเพือ่ น�ำไปวเิ คราะหค์ ณุ ภาพน�้ำ โครงการทดสอบประสิทธิภาพถงั บ�ำบัดน้�ำเสียแบบส�ำเรจ็ รปู น้ี หากมีการน�ำข้อมลู ทางวชิ าการไปใช้ประโยชน์ นอกจากจะ มีประโยชน์ในการออกมาตรฐานให้กับถังบ�ำบัดน�้ำเสียแบบส�ำเร็จรูปแล้ว ยังท�ำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ถังบ�ำบัดน้�ำเสียแบบ ส�ำเร็จรูปที่มีประสิทธิภาพและเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตถังบ�ำบัดน�้ำเสียแบบส�ำเร็จรูปเกิดการแข่งขันกันเพ่ือพัฒนาถังบ�ำบัดน�้ำเสีย แบบส�ำเรจ็ รปู ของตนเองใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพดยี งิ่ ขนึ้ ตอ่ ไป อกี แนวทางหนง่ึ ทจ่ี ะสามารถลดปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มทก่ี �ำลงั เสอ่ื มโทรมของ แหล่งนำ้� ลงได้ คำ� ขอบคุณ ขอขอบคณุ บรษิ ทั ผผู้ ลติ ถงั บ�ำบดั นำ้� เสยี ส�ำเรจ็ รปู ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการและสนบั สนนุ งบประมาณบางสว่ นในการด�ำเนนิ โครงการ ให้ส�ำเรจ็ ลุล่วงเปน็ อย่างดี ปีท่ี 13 ฉบับที่ 34 กันยายน 2559 ศนู ยว์ ิจัยและฝึกอบรมดา้ นสงิ่ แวดล้อม กรมสง่ เสริมคุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม เทคโนธานี ตำ� บลคลองห้า อำ� เภอคลองหลวง จังหวัดปทมุ ธานี 12120 โทรศพั ท์ 02-577-4182-9 โทรสาร 02-577-1138 www.deqp.go.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook