Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore GR39 ERTC Environmental Research and Training Center

GR39 ERTC Environmental Research and Training Center

Published by Lib SRC, 2022-01-27 01:37:12

Description: GR39

Search

Read the Text Version

วิสัยทศั น์ มุ่งสู่การเป็นศูนย์ที่มีความเป็นเลิศในด้านการวิจัย พัฒนา และถ่ายทอด เทคโนโลยีเพอื่ การพฒั นาอย่างยั่งยืนและคุณภาพชวี ติ ท่ีดีของประชาชน พนั ธกจิ 1. วิจัย และพัฒนา นวัตกรรม เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการป้องกัน และควบคุม มลพิษ การอนุรกั ษ์และจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. วิจัยและพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ตัวอย่างสิ่งแวดล้อม และการผลิตตัวอย่าง มาตรฐานสำ� หรบั ใช้อา้ งองิ 3. ประสานงานในการตรวจสอบความเท่ียงตรงของข้อมูลจากการวิเคราะห์ ตวั อยา่ งสงิ่ แวดลอ้ มระหวา่ งหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และใหค้ �ำปรกึ ษาในการใชเ้ ครอ่ื งมอื และวิธีการวิเคราะหต์ ัวอยา่ งส่ิงแวดลอ้ มแกห่ น่วยงานทเี่ กีย่ วข้อง 4. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ เครือข่ายความรว่ มมอื การวิจัย และพัฒนาดา้ นสิง่ แวดล้อม ระหว่างหน่วยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ งทง้ั ภายในประเทศและต่างประเทศ

ศูนย์วจิ ัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดลอ้ ม มีอ�ำนาจหน้าท่ี ดงั น้ี 1. วิจัยพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีส่ิงแวดล้อมท่ีเหมาะสมกับ การจดั การดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม 2. วิจัยและพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ตัวอย่างส่ิงแวดล้อม รวมท้ังผลิตตัวอย่าง มาตรฐานส�ำหรับใช้อ้างอิง ตลอดจนให้ค�ำปรึกษาในการใช้เครื่องมือ และ วธิ วี เิ คราะหต์ ัวอย่างสง่ิ แวดลอ้ มแกห่ นว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง 3. ประสานงานในการตรวจสอบความเที่ยงตรงของข้อมูลจากการวิเคราะห์ ตวั อยา่ งส่งิ แวดล้อมระหวา่ งหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารด้านสิ่งแวดล้อม 4. วจิ ัยและพัฒนาวิธกี ารตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม 5. ประสานความร่วมมอื ในและตา่ งประเทศทเ่ี ก่ียวกับการวิจยั พัฒนา สง่ เสรมิ นวัตกรรม เทคโนโลยแี ละการจดั การด้านส่งิ แวดลอ้ ม 6. บริการทางวิชาการ และส่ือสารงานวิจัย เก่ียวกับนวัตกรรม และเทคโนโลยี ดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม 7. ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั หรอื สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงานอนื่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หรอื ที่ไดร้ ับมอบหมาย

ศนู ย์วจิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม • ชือ่ ผลงาน โครงการศกึ ษาและพฒั นารปู แบบการเพม่ิ พน้ื ท่ี • สเี ขยี วในเมอื งและชมุ ชน พื้นท่ีศึกษาวิจยั ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ท�ำไมตอ้ งท�ำ ปา่ ไม้ในเมอื งและชมุ ชนนบั เปน็ สว่ นสำ� คญั ทจี่ ะชว่ ยรกั ษาพน้ื ทใี่ หน้ ำ้� และความหลากหลายทางชวี ภาพ รวมท้ังช่วยบรรเทาและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพ่ือให้สอดคล้องกับ ขอ้ สง่ั การของนายกรฐั มนตรที ใี่ หก้ ระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมและหนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกป่า โดยก�ำหนดให้มีพ้ืนท่ีป่าไม้ทั่วประเทศร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ อีก 20 ปีขา้ งหนา้ กรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม จงึ ไดก้ ำ� หนดยทุ ธศาสตรก์ ารเพมิ่ พนื้ ทส่ี เี ขยี วในเมอื ง และชุมชน โดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม ได้ศึกษารูปแบบการเพ่ิมพื้นท่ีสีเขียวในเมือง และชุมชน เพ่ือกักเก็บคาร์บอนและสามารถฟื้นฟูระบบนิเวศป่าธรรมชาติในสถานท่ีราชการ เพื่อเป็น ตน้ แบบทจ่ี ะสามารถเผยแพร่ และขยายผลใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ หนว่ ยงานราชการ ธรุ กจิ เอกชน ชุมชน ภาคส่วนตา่ งๆ น�ำไปใช้ประโยชน์ตอ่ ไป ประเทศได้ใช้ประโยชนอ์ ยา่ งไร ป่านิเวศในเมืองและชุมชนจะมีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนสูง ช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่ เขตเมือง ชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นสถานที่พักผ่อนของคนในเมือง และชุมชน และเป็นตน้ แบบการเพ่มิ พนื้ ที่สีเขยี วในเมืองและชุมชน ประชาชนไดป้ ระโยชนอ์ ย่างไร •••• ประชาชนสามารถนำ� รูปแบบการปลูกป่านิเวศ ไปขยายผลในชมุ ชนของตนเอง ประชาชนมีความตระหนกั ร้ถู งึ ประโยชนข์ องการเพิม่ พ้ืนทีป่ ่านเิ วศในชมุ ชน ประชาชนมสี ถานทพ่ี กั ผอ่ นหยอ่ นใจได้ใกลช้ ดิ ธรรมชาติ เพอื่ สขุ ภาพและคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ขี นึ้ เป็นแนวทางในการใช้รปู แบบการเพิ่มพ้นื ทีส่ เี ขียวในหนว่ ยงานราชการต่างๆ ตดิ ต่อสอบถาม ดร. อศั มน ลิ่มสกลุ กลุม่ การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศ ศูนยว์ ิจยั และฝึกอบรมดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม โทรศัพท์ 02-5774182-9 ต่อ 1129 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนยว์ จิ ัยและฝกึ อบรมด้านส่งิ แวดล้อม • ชื่อผลงาน ศึกษาการลดกล่ินรบกวนจากโรงงานแปรรูป • ยางพาราอัดแทง่ ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พืน้ ท่ีศึกษาวิจยั โรงงานแปรรปู ยางพาราอดั แทง่ จงั หวดั อดุ รธานี ท�ำไมต้องท�ำ ปญั หาเรอื่ งรอ้ งเรยี นเกยี่ วกบั กลน่ิ เหมน็ จากโรงงานแปรรปู ยางพาราในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ซึ่งมีจ�ำนวนโรงงานมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ด้านสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบบริเวณ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เปน็ ตน้ มา ทง้ั นสี้ ว่ นใหญโ่ รงงานแปรรปู ยางพาราในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จะรบั ซอ้ื ยางกอ้ นถว้ ยจาก เกษตรกร แล้วน�ำมากองเก็บไว้ ก่อนน�ำไปแปรรูป โดยการอบด้วยความร้อนเพ่ือผลิตเป็นยางแท่ง ซึ่งใน กระบวนการแปรรูปยางพาราอัดแท่งน้ี มักก่อให้เกิดปัญหากล่ินรบกวน และส่งผลกระทบต่อชุมชน ทอี่ ยบู่ รเิ วณโดยรอบโรงงาน ซง่ึ ไดม้ กี ารรอ้ งเรยี นปญั หาเรอ่ื งกลน่ิ รบกวนตอ่ ชมุ ชนโดยรอบมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดล้อม กรมส่งเสรมิ คณุ ภาพสิ่งแวดล้อม จึงได้ดำ� เนนิ การศกึ ษา เพือ่ หา แนวทางในการลดกล่ินรบกวนจากโรงงานแปรรูปยางพาราอัดแท่งดังกล่าว และเพ่ือส�ำรวจทัศนคติต่อ กล่ินรบกวนของโรงงานต่อชุมชนโดยรอบ ผลการด�ำเนินงานท่ีผ่านมา ได้ศึกษาชนิดและปริมาณของ สารท่ีก่อให้เกิดกลิ่นจากทั้ง 3 บริเวณ คือ บริเวณกองยางก้อนถ้วย บริเวณเตาอบยางแท่ง และปล่อง ระบายของเตาอบยางแท่ง พบว่ามีสารกลุ่มคีโตน อัลดีไฮด์ คลอริเนเตทไฮโดรคาร์บอน จึงได้ ทดลองใช้เช้ือจุลินทรีย์และสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ รวมถึงสารดูดซับกล่ินบางชนิด มาทดสอบ เพอื่ ลดกล่นิ จากยางกอ้ นถว้ ยในเบื้องตน้ และจะขยายผลไปใช้ในโรงงานแปรรปู ยางพาราอัดแท่งตอ่ ไป ประเทศได้ใชป้ ระโยชนอ์ ย่างไร เพ่ือให้อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราอัดแท่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถด�ำเนินการ ตอ่ ไปได้ โดยไมม่ ผี ลกระทบตอ่ ชมุ ชนโดยรอบ และเปน็ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการกำ� จดั กลน่ิ รบกวนทมี่ ตี น้ ทนุ ไม่สงู มากนัก ซง่ึ จะสง่ ผลดตี อ่ เศรษฐกิจของประเทศ ประชาชนไดป้ ระโยชน์อย่างไร เกษตรกรชาวสวนยางพาราจะยังมีอาชีพต่อไปได้อย่างยั่งยืน และประชาชนโดยรอบบริเวณ โรงงานแปรรปู ยางพาราอดั แทง่ กม็ คี ณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี นึ้ เนอื่ งจากปญั หาความเดอื ดรอ้ นจากกลน่ิ รบกวน จากโรงงานแปรรูปยางพาราอัดแท่งลดลง ติดตอ่ สอบถาม นายปญั จา ใยถาวร กลุ่มน้�ำและขยะ ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมด้านสิ่งแวดลอ้ ม โทรศพั ท์ 02-5774182-9 ต่อ 1304 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนย์วิจยั และฝึกอบรมดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม • ชอ่ื ผลงาน การศึกษาผลกระทบด้านเสียงจากท่าอากาศยาน • นานาชาตอิ ู่ตะเภา พน้ื ทศ่ี ึกษาวิจัย ทา่ อากาศยานนานาชาตอิ ตู่ ะเภา ตำ� บลพลา อำ� เภอ บ้านฉาง จงั หวดั ระยอง ทำ� ไมต้องท�ำ แผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็น 1 ในแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จากทั้งหมด 48 โครงการ ซ่ึงโครงการพัฒนาส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน รถไฟ ท่าเรือ และท่าอากาศยาน โดยการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาจะพัฒนาให้เป็นท่าอากาศยาน เชิงพาณิชย์แห่งท่ี 3 ของกรุงเทพฯ รองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมี แผนงานระยะแรกคือการพัฒนาท่าอากาศยานฯ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 8 แสนคนต่อปี เป็น 3 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2560 ในระยะท่ี 2 พัฒนาให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2563 และระยะท่ี 3 ก่อสร้างทางว่ิง (รันเวย์) ที่ 2 ระยะทางไม่ต�่ำกว่า 2,700 เมตร ในปี 2563 ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวย่อมส่งผลให้จ�ำนวนเท่ียวบินท่ีให้บริการภายในท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพ่ิมสูงข้ึน และท�ำให้พื้นที่ท่ีได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการพัฒนาท่าอากาศยานฯ นั้นเพ่ิมมากข้ึนด้วย ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดท�ำโครงการศึกษา ผลกระทบด้านเสียงจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยศึกษาแนวโน้มพ้ืนที่ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียง จากการพัฒนาท่าอากาศยานฯ ทั้งในสถานการณ์การบินในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้หน่วยงานที่เก่ียวข้อง ใช้เป็นกรอบแนวทางการด�ำเนนิ การเพ่อื ป้องกนั ปญั หามลพษิ ทางเสียงท่อี าจเกิดขึน้ ในอนาคตไดต้ อ่ ไป ประเทศได้ใช้ประโยชน์อย่างไร • ทราบถึงสถานการณ์มลพิษด้านเสียงของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาในปัจจุบัน ซ่ึงใช้เป็น •ฐานขอ้ มลู อา้ งองิ ของสถานการณม์ ลพษิ ด้านเสียงในพนื้ ท่ีโดยรอบท่าอากาศยานฯ ในระยะก่อนการพฒั นาฯ การคาดการณ์สถานการณ์มลพิษด้านเสียงจากการพัฒนาท่าอากาศยานฯ ในระยะต่างๆ ท�ำให้ ได้แผนท่ีเส้นเท่าระดับเสียงที่แสดงถึงพ้ืนท่ีที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยข้อมูลน้ี หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพื่อใช้เป็นกรอบการด�ำเนินงานเพื่อก�ำหนดพื้นที่หรือมาตรการการจัดการการใช้ ประโยชน์ที่ดินโดยรอบท่าอากาศยาน เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบด้านเสียง และลดข้อร้องเรียนจากประชาชน ทอ่ี าจได้รบั ผลกระทบด้านเสยี งในอนาคตได้ ประชาชนไดป้ ระโยชน์อย่างไร ประชาชนท่ีอาศัยอยู่โดยรอบท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาที่อาจจะได้รับผลกระทบด้านเสียง จากเคร่ืองบินเน่ืองจากการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้รับการป้องกันและแก้ ไขปัญหา ผลกระทบดา้ นเสยี ง ไมม่ ขี ้อขดั แยง้ ระหวา่ งทา่ อากาศยานฯ กับประชาชนที่อาศยั อยูโ่ ดยรอบท่าอากาศยานฯ ติดต่อสอบถาม นายวริ ชั เออื้ ทรงธรรม, นายเจษฎาพร รอดพพิ ฒั น์ กลมุ่ อากาศ เสยี งและความสน่ั สะเทอื น ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม โทรศพั ท์ 02-5774182-9 ต่อ 1308, 1315 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนยว์ ิจยั และฝึกอบรมดา้ นส่ิงแวดล้อม • ชอ่ื ผลงาน ศกึ ษาการแพรก่ ระจายและสะสมตวั ของสารPAHs ในตะกอนดิน กรณีศึกษา เหตุการณ์น้�ำมันดิบ • รวั่ ไหลบรเิ วณชายฝ่ังทะเลจงั หวดั ระยอง พืน้ ทศี่ กึ ษาวจิ ยั บรเิ วณชายฝง่ั ทะเลและชมุ ชนชายฝง่ั จงั หวดั ระยอง ท�ำไมต้องท�ำ เหตุการณ์น�้ำมันดิบร่ัวไหล นับเป็นสาเหตุส�ำคัญของการแพร่กระจายและการสะสมของ สารพีเอเอชในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในตะกอนดิน ภายหลังจากการรั่วไหลของน้�ำมันดิบเป็นสิ่งท่ี จ�ำเป็นที่ต้องด�ำเนินการศึกษาวิจัย โดยในปีงบประมาณ 2559 ได้ท�ำการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ สารพีเอเอชในตะกอนดิน และพบว่า มีการแพร่กระจายและสะสมตัวของสารพีเอเอชในตะกอนดิน ซ่ึงอาจส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมชายฝั่ง และสุขภาพของประชาชน ประเทศได้ใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร ได้ข้อมูลความเส่ียงของสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง และความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชน จากเหตุการณ์น้�ำมันดิบรั่วไหล และการปนเปื้อนของสารพีเอเอช ซ่ึงสามารถน�ำไปใช้ประกอบการ ตัดสินใจในกระบวนการฟื้นฟูพื้นที่ (Site remediation) โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสูง (Hot spot) รวมท้ังเป็นข้อมูลในการติดตามตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยงของระดับการปนเปื้อนของ สารพีเอเอชท่สี ะสมตัวตกค้างในระบบนเิ วศ ในพ้นื ทที่ ี่ตอ้ งสมั ผัสกับสารพเี อเอชทง้ั ทางตรงและทางอ้อม ประชาชนไดป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร •• ปปรระะชชาาชชนนมมคีสี ว่วนามรว่ตมรใะนหกนาักรรเู้ตฝ่อา้ รปะญั วงั หแลากะตาดิรรตั่วาไมหแลกข้ไอขงปนัญ้�ำมหันาสแล่ิงะแกวดารลปอ้ นมเใปน้ือพนนื้ ขทอี่งสารพีเอเอช ติดต่อสอบถาม ดร. อศั มน ลิ่มสกุล กลุ่มการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ศนู ย์วิจัยและฝึกอบรมดา้ นสิ่งแวดล้อม โทรศัพท์ 02-5774182-9 ตอ่ 1129 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนยว์ ิจัยและฝกึ อบรมด้านสงิ่ แวดลอ้ ม • ชือ่ ผลงาน การศึกษาการกระจายตัวสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคารบ์ อน (PAHs) ในบรรยากาศ ในพน้ื ทอ่ี ตุ สาหกรรม • มาบตาพุดและผลกระทบต่อสขุ ภาพของประชาชน พน้ื ท่ีศึกษาวิจัย บริเวณนคิ มอุตสาหกรรมมาบตาพดุ จังหวัดระยอง ทำ� ไมต้องท�ำ เน่ืองจากประเทศไทยมีนโยบายมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างย่ิง อตุ สาหกรรมปโิ ตรเคมี มกี ารขยายตวั มากขนึ้ แถบชายฝง่ั ตะวนั ออก อยา่ งไรกต็ าม การพฒั นาอตุ สาหกรรมทเ่ี ปน็ อยขู่ ณะน้ี ยังขาดสมดุลในเรื่องสิ่งแวดล้อม มีปัญหาเรื่องส่ิงแวดล้อมเกิดขึ้นมาก ซ่ึงมีแหล่งท่ีเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมท้ังสิ้น มลพิษเหล่าน้ียังไม่สามารถท�ำการควบคุมได้อย่างถูกต้อง สารปิโตรเคมีที่สะสมในสิ่งแวดล้อมมีหลายชนิด ส่วนใหญ่ เปน็ สารประกอบอนิ ทรยี ์ (Volatile Organic Compounds: VOCs) รวมทง้ั สารกลมุ่ โพลไี ซคลกิ อะโรมาตกิ ไฮโดรคารบ์ อน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon: PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) และสารเบ่ียงเบนพันธุกรรม (Mutagenic) สารกลมุ่ โพลไี ซคลกิ อะโรมาตกิ ไฮโดรคารบ์ อน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon: PAHs) เปน็ ผลผลติ ของกระบวนการเผาไหม้ หรอื สนั ดาปท่ีไมส่ มบรู ณ์ ซง่ึ เปน็ สารพษิ กลมุ่ ทม่ี จี ำ� นวนชนดิ มากทส่ี ดุ ในอตุ สาหกรรมปโิ ตรเคมี นคิ มอตุ สาหกรรมมาบตาพดุ มโี รงงานอตุ สาหกรรมหลายประเภท เชน่ โรงงานปโิ ตรเคมี โรงงานกลน่ั นำ้� มนั โรงงานผลิตปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ โรงผลิตไฟฟ้าและโรงงานที่มีการผลิตและการใช้โลหะ นอกจากนี้ โรงงานอุตสาหกรรม นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมยังมีการประกอบการอุตสาหกรรมหลายประเภท ซึ่งโรงงานเหล่านี้มีการใช้เครื่องจักร ในกระบวนการผลิตสารเคมีอันตรายหลายชนิด ด้วยสาเหตุดังกล่าว ในพ้ืนที่มาบตาพุดจึงพบปัญหามลพิษ ทางอากาศเน่ืองจากกลิ่นของสารเคมีและการปนเปื้อนของสารเคมีในอากาศ มลพิษจากปัญหาน�้ำทิ้งของโรงงาน และมลพิษในดินเน่ืองจากการทิ้งขยะมูลฝอยจากชุมชนและกากของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรม นอกจากน้ี ในพ้ืนท่ีเขตมาบตาพุดยังมีปัญหาเก่ียวกับฝุ่นละออง ปัญหาอุบัติภัยจากการรั่วไหลของสารเคมีและเพลิงไหม้ เนื่องจากสารเคมีจากการประกอบการอุตสาหกรรมและจากการจราจรและขนส่ง ซ่ึงสารเคมีเหล่าน้ีมีพิษ ต่อร่างกายทั้งแบบเฉียบพลันและเร้ือรัง โดยท�ำให้ระคายเคืองผิวหนัง เยื่อบุอ่อน ระบบทางเดินหายใจ ตับและไต ระบบเลือด ระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาทและกล้ามเน้ือ และบางชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ท่ีผ่านมาได้มีการร้องเรียน ของประชาชนในชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดว่ามีปัญหาสุขภาพอนามัย ท้ังด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนังและภูมิแพ้ และโรคมะเร็ง ซ่ึงจากการร้องเรียนดังกล่าว หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องท้ังภาครัฐ ภาคเอกชนและเครือข่ายภาคประชาชน จึงร่วมกันบูรณาการการด�ำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษส่ิงแวดล้อมที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ภายใต้แผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยอง อยา่ งไรกต็ าม การศกึ ษา สารโพลไี ซคลกิ อะโรมาตกิ ไฮโดรคารบ์ อน ( PAHs) ในประเทศไทยยงั คงมคี วามจำ� กดั อยู่มาก ท�ำให้การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพไม่แน่นอนและประชาชนยังคงไม่มีความตระหนักต่อปัญหาเท่าท่ีควร ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม (ศวฝ.) จึงมุ่งศึกษาหาชนิด ปริมาณ และการกระจายตัวของสาร กลุ่ม PAHs จากกิจกรรมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในประเทศไทย ซ่ึงจะเป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการก�ำหนดแนวทาง ลดผลกระทบ จากปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อสร้างความตระหนัก และ กอ่ ให้เกดิ การมีส่วนรว่ มของภาคอตุ สาหกรรมในการแก้ปญั หา เพอื่ คณุ ภาพชวี ติ ทีด่ ขี ึ้น ประเทศได้ใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร • นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สามารถใช้ในการก�ำหนดแนวทางหรือมาตรการ การจัดการผลกระทบ ด้านมลพษิ ทางอากาศได้ • ปอ้ งกนั และลดจำ� นวนขอ้ ร้องเรยี นจากผู้ไดร้ ับผลกระทบจากมลพษิ ทางอากาศได้ ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร ติดต่อสอบถาม เป็นข้อมูลระดับความเส่ียงการรับสัมผัส ดร. เดซ่ี หมอกน้อย กลุม่ อากาศ เสียงและความส่ันสะเทอื น สารโพลไิ ซคลกิ อะโรมาตกิ ไฮโดรคารบ์ อนตอ่ สขุ ภาพ ศูนย์วจิ ยั และฝกึ อบรมด้านสง่ิ แวดล้อม ของประชาชนในพนื้ ทนี่ ิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โทรศัพท์ 02-5774182-9 ต่อ 1325 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม • ชื่อผลงาน ดัชนีช้ีวัดเชิงนิเวศส�ำหรับการประเมินสุขภาวะ ของแม่น้�ำเลยตามหลักการความต่อเนื่อง • ของแม่น�้ำ พ้นื ทีศ่ กึ ษาวจิ ยั แม่น้�ำเลยและล�ำน�้ำสาขา ตลอดความยาว ของแม่น้�ำ 231 กิโลเมตร ในพื้นที่จังหวัดเลย โดยก�ำหนดจุดศึกษา 10 จุดตลอดแม่น้�ำเลย ท�ำไมต้องท�ำ พ้ืนท่ีสองฝั่งแม่น�้ำเลยและล�ำน�้ำสาขาได้รับผลกระทบจากกิจกรรมการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ เพอื่ เฝา้ ระวงั และตดิ ตามตรวจสอบสขุ ภาวะของแมน่ ำ้� เลยและลำ� นำ้� สาขา จำ� เปน็ ตอ้ งหาดชั นชี วี้ ดั เชงิ นเิ วศ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและเหมาะสมสำ� หรบั การประเมนิ สขุ ภาวะของแมน่ ำ้� เลยตามหลกั การความตอ่ เนอื่ งของแมน่ ำ�้   ประเทศได้ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร ไดร้ บั ขอ้ มลู ความหลากหลายทางชวี ภาพของพชื และสตั วน์ ำ้� ในแมน่ ำ�้ เลยและลำ� นำ�้ สาขา ตามหลกั ความต่อเนื่องของล�ำน้�ำตลอดจนระบบฐานข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านส่ิงแวดล้อมในพื้นที่ จังหวดั เลย ประชาชนไดป้ ระโยชน์อยา่ งไร ไดข้ อ้ มลู พน้ื ฐานทถ่ี กู ตอ้ งเกยี่ วกบั งานดา้ นการอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้� การใชป้ รบั ปรงุ และการพฒั นา งานดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มในพนื้ ทล่ี มุ่ นำ้� เลย เพอ่ื ลดผลกระทบดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มและความปลอดภยั ตอ่ ประชาชน ในพนื้ ที่ ติดตอ่ สอบถาม ดร. เจนวิทย์ วงษ์ศานูน, นายศภุ ชาติ เม่นประเสรฐิ กลมุ่ สารอนั ตราย ศนู ยว์ ิจยั และฝกึ อบรมด้านสง่ิ แวดลอ้ ม โทรศัพท์ 02-5774182-9 ต่อ 1222, 1209 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม • ชือ่ ผลงาน การเพ่ิมประสิทธิภาพการก�ำจัดสารประกอบ ไนโตรเจนของระบบบ�ำบัดน้�ำเสียชุมชนแบบบ่อ ปรบั เสถยี รโดยการใชพ้ ืชนำ้� ที่เหมาะสม • พืน้ ทีศ่ กึ ษาวิจัย • ระบบบำ� บดั นำ้� ทงิ้ ของหอพกั รกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม 1 ศนู ยว์ จิ ยั และฝกึ อบรมดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม เทคโนธานี • ตำ� บลคลองหา้ อำ� เภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี ระบบบ�ำบัดน�้ำท้ิงชุมชนของเทศบาลต�ำบล โกสมุ พสิ ยั อำ� เภอโกสมุ พสิ ยั จงั หวดั มหาสารคาม ท�ำไมต้องท�ำ เพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทางในการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของระบบบำ� บดั นำ�้ ทง้ิ ชมุ ชนแบบบอ่ ปรบั เสถยี รในการ ดูดซับหรือก�ำจัดสารประกอบไนโตรเจนในน้�ำทิ้งของระบบบ�ำบัดน�้ำทิ้งชุมชนโดยการใช้พืชลอยน�้ำ ตามชนิดและปรมิ าณทเ่ี หมาะสมกับความเขม้ ขน้ ของน�้ำท้ิงชมุ ชนก่อนทจ่ี ะปล่อยนำ�้ ทผ่ี า่ นการบำ� บัดแล้ว ออกสูแ่ หลง่ น้�ำธรรมชาติ ประเทศได้ใช้ประโยชนอ์ ย่างไร หน่วยงานต่างๆ ของท้ังภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีมี ระบบบ�ำบัดน�้ำเสียแบบบ่อปรับเสถียร เช่น องค์การบริหารส่วนต�ำบล เทศบาลต�ำบล เทศบาลเมือง หรือเทศบาลนคร สามารถใช้เป็นแนวทางในการก�ำจัดหรือลดสารประกอบไนโตรเจนในน้�ำทิ้ง เพ่ือลดปัญหาผลกระทบของสารประกอบไนโตรเจนต่อแหล่งน้�ำธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ประชาชนได้ประโยชนอ์ ย่างไร • ประชาชนมแี หลง่ นำ�้ ธรรมชาตทิ มี่ คี วามสะอาดและมปี รมิ าณของสารประกอบไนโตรเจนลดลง ซง่ึ จะสง่ ผลใหป้ ระชาชนสามารถใชป้ ระโยชนแ์ หลง่ นำ้� ธรรมชาตใิ นการบรโิ ภคและอปุ โภคทป่ี ลอดภยั มากขนึ้ • เมื่อน�้ำทิ้งชุมชนมีปริมาณของสารประกอบไนโตรเจนลดลง ก็จะท�ำให้แหล่งน้�ำธรรมชาติ มีคุณภาพดีข้ึน ซ่ึงจะส่งผลให้ประชาชนมีแหล่งน้�ำธรรมชาติส�ำหรับการด�ำรงชีพ การอุปโภค บริโภค และกิจกรรมอน่ื ๆ ทสี่ ะอาดและปลอดภัยมากขึน้ ตามไปดว้ ย ตดิ ต่อสอบถาม นายสุเทียบ ศรลี าชัย กลุม่ น้�ำและขยะ ศูนย์วจิ ัยและฝกึ อบรมด้านสิง่ แวดลอ้ ม โทรศัพท์ 02-5774182-9 ต่อ 1337 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนย์วิจัยและฝกึ อบรมดา้ นส่ิงแวดล้อม • ชื่อผลงาน การศึกษาการปลดปล่อยและผลกระทบจากสารปรอท • จากกจิ กรรมเหมืองแรท่ องค�ำขนาดเลก็ ในประเทศไทย พืน้ ทศี่ กึ ษาวิจัย ตามแนวพน้ื ทที่ ม่ี ศี กั ยภาพในแรท่ องคำ� ของประเทศไทย 12 จงั หวดั ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดล�ำปาง จังหวัดแพร่ จังหวัดตาก จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิจิตร จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวล�ำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดชุมพร โดยเน้นศึกษาในพ้ืนท่ีที่มีประวัติการท�ำ เหมืองทองค�ำขนาดเล็ก เคยมีกิจกรรมการร่อนแร่ แยกทองค�ำ มากอ่ น และหรอื ในปจั จบุ นั ยงั มกี จิ กรรมเหลา่ นก้ี ระจายอยใู่ นพน้ื ที่ ท�ำไมต้องท�ำ ประเทศไทยได้ลงนามรับรองอนุสัญญามินามาตะ (The Minamata Convention on Mercury) ในปี พ.ศ. 2556 ซ่ึงมีแนวโน้มที่จะเข้าเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าว ในข้อบทท่ี 7 กิจการเหมืองทองค�ำ ขนาดเล็กท่ีมีการใช้สารปรอท ระบุไว้ว่าประเทศภาคีต้องด�ำเนินการ ลด ละ เลิก การใช้สารปรอทและการก�ำจัด สารประกอบปรอท รวมท้ังการปลดปล่อยสารปรอทจากกระบวนการ และกิจการเหมืองแร่ทองค�ำขนาดเล็ก และจะต้องมีแผนการจัดการระดับชาติส่งให้ส�ำนักเลขาธิการไม่ช้าไปกว่า 3 ปี หลังอนุสัญญามีผลบังคับใช้ และจะตอ้ งมกี ารทบทวนแผนทกุ ๆ 3 ปี ปจั จุบันขอ้ มูลการศึกษาวจิ ยั ถึงการตกคา้ ง การปนเป้อื นสารปรอท การแพรก่ ระจาย และการถา่ ยผา่ น สารปรอทสู่สิ่งแวดล้อมยังน้อยมาก ดังน้ัน หากมีการจัดท�ำแผนการจัดการท่ีเกี่ยวข้องกับเหมืองทองค�ำ ขนาดเล็กแล้ว ต้องมีการศึกษาวิจัย รวบรวมข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ และจ�ำเป็นต้องมีการวิจัยอย่างเป็นระบบ เพ่อื เพมิ่ เตมิ ข้อมูลที่จะนำ� ไปจดั ทำ� แผนการระดบั ชาติในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ดังน้ันเพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นเหล่านี้ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านส่ิงแวดล้อม จึงมีแผน ด�ำเนินการศึกษา การถ่ายผ่าน การปลดปล่อยสารปรอทสู่ส่ิงแวดล้อมจากกิจกรรมเหมืองทองคำ� ขนาดเล็ก เพื่อให้ได้ข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบัน อันน�ำไปสู่การวางแผนการจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการท่ี ประเทศไทยจะเข้ารว่ มเปน็ ภาคี ซง่ึ ต้องปฏบิ ตั ติ ามข้อก�ำหนดในอนุสัญญาฯ และต้องสอดคลอ้ งสนับสนนุ แนวทาง การบริหารจดั การทรัพยากรแรท่ องคำ� ในประเทศไทยท่ีไดจ้ ดั ทำ� ไว้แล้ว ประเทศได้ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร ได้ข้อมูลการศึกษาวิจัยถึงการตกค้าง การปนเปื้อนสารปรอท การแพร่กระจาย และการถ่ายผ่าน สารปรอทสู่สิ่งแวดล้อม เพื่อเพ่ิมเติมข้อมูลหรือใช้ประกอบในการน�ำไปจัดท�ำแผนการจัดการระดับชาติอย่างมี ประสิทธภิ าพตอ่ ไป ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร ประชาชนท่ีเก่ียวข้องกับกิจกรรมเหมืองทองค�ำขนาดเล็กท่ีใช้สารปรอทในการสกัดแยกแร่ทองค�ำ ได้รับผลการวิเคราะห์ปรอทในเส้นผม เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความเป็นพิษของสารปรอท และให้ความรู้ ทถี่ กู ตอ้ งเกี่ยวกับสารปรอท ติดต่อสอบถาม ดร. เจนวทิ ย์ วงษศ์ านูน, นายศภุ ชาติ เมน่ ประเสริฐ กลมุ่ สารอันตราย ศนู ยว์ จิ ัยและฝกึ อบรมดา้ นสิ่งแวดล้อม โทรศพั ท์ 02-5774182-9 ตอ่ 1222, 1209 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศูนย์วิจยั และฝึกอบรมดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม • ชื่อผลงาน ต้นแบบระบบบ�ำบัดขยะอินทรีย์และน�้ำเสียด้วย กระบวนการย่อยสลายแบบไร้อากาศร่วมกับ • ถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมเี มมเบรน พืน้ ที่ศกึ ษาวจิ ัย สถานีขนถ่ายขยะ เทศบาลเมืองสระบุรี จังหวัด สระบรุ ี ท�ำไมตอ้ งท�ำ ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยท่ีมีเพิ่มขึ้นทุกปี ถือเป็นปัญหาระดับชาติท่ีรัฐบาลพยายาม ผลักดันให้มีการจัดการและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน การจัดการขยะของท้องถิ่นส่วนใหญ่จะใช้วิธีการ ฝังกลบขยะ ซ่ึงในพ้ีนที่เทศบาลบางแห่งท่ีมีขยะจ�ำนวนมาก จะมีสถานีขนถ่ายขยะ เพื่อจัดการขยะสด ทต่ี น้ ทางกอ่ นขนสง่ ไปกำ� จดั ทห่ี ลมุ ฝงั กลบขยะตอ่ ไป ขยะสดทท่ี อ้ งถน่ิ จดั เกบ็ รวบรวมมา จะทำ� การบบี อดั และรดี นำ�้ ทปี่ นมากบั ขยะ ทำ� ใหข้ ยะทถ่ี กู บบี อดั แลว้ มปี รมิ าณนำ�้ ทป่ี นเปอ้ื นลดลง ซง่ึ สามารถลดปรมิ าณขยะ เพ่ือไปก�ำจัดในหลุมฝังกลบขยะ ลดปัญหาการปนเปื้อนของมลพิษ อีกท้ังเป็นการลดความเสี่ยง เน่ืองจากการเกิดก๊าซมีเทนจากกระบวนการย่อยสลายแบบไร้อากาศในหลุมฝังกลบขยะ ซึ่งเป็น สาเหตุหนึ่งของการเกิดเพลิงไหม้ได้ ท้ังนี้ น�้ำชะขยะท่ีปนเปื้อนมาจากการบีบอัดขยะ จะมีความสกปรก ของสารอินทรีย์และสารมลพิษอื่นๆ ในปริมาณมาก การใช้ระบบย่อยสลายแบบไร้อากาศ ร่วมกับ ถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน (Membrane bioreactor: MBR) สามารถท�ำการบ�ำบัดน�้ำชะขยะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้�ำท่ีผ่านการบ�ำบัดแล้วมีคุณภาพดีกว่าน�้ำที่ท�ำการบ�ำบัดน้�ำเสียด้วยระบบ บำ� บดั น้�ำเสียท่ัวไป สามารถนำ� กลับมาใช้ใหม่ในกิจกรรมบางประเภทได้ ประเทศได้ใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร เป็นการวิจัยเพื่อทดสอบสภาวะที่เหมาะสมในการบ�ำบัดน�้ำเสียท่ีมีความสกปรกสูงให้มี ประสทิ ธภิ าพเพอ่ื เป็นเทคโนโลยีทางเลอื กในการบ�ำบดั น้ำ� เสียเพื่อการน�ำนำ้� กลบั มาใช้ใหม่ ประชาชนได้ประโยชนอ์ ยา่ งไร เทคโนโลยกี ารบำ� บดั นำ้� เสยี ดว้ ยกระบวนการยอ่ ยสลายแบบไรอ้ ากาศรว่ มกบั ถงั ปฏกิ รณช์ วี ภาพ แบบมีเมมเบรนสามารถท�ำการบ�ำบัดน�้ำเสียท่ีมีค่าความสกปรกสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท�ำให้ไม่เกิด มลพิษทางน้�ำและส่ิงแวดล้อม อีกท้ัง น�้ำท่ีผ่านการบ�ำบัดสามารถน�ำกลับมาใช้ในกิจกรรมบางประเภท ได้ ทำ� ให้เกดิ การหมนุ เวยี นน�ำทรพั ยากรนำ�้ ทีก่ ำ� ลงั ขาดแคลนมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ ติดตอ่ สอบถาม ดร. สดุ า อทิ ธสิ ุภรณร์ ตั น์ กลุ่มน�้ำและขยะ ศนู ยว์ ิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดลอ้ ม โทรศัพท์ 02-5774182-9 ต่อ 1313 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศนู ยว์ จิ ัยและฝกึ อบรมด้านสิ่งแวดลอ้ ม • ชื่อผลงาน โครงการศึกษาภูมิปัญญาท้องถ่ินในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กรณีศึกษา • จังหวัดเพชรบุรี พืน้ ท่ศี กึ ษาวจิ ัย จังหวัดเพชรบุรี ท�ำไมตอ้ งท�ำ ภูมิปัญญาท้องถ่ินวิถีชุมชนกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม หากไม่มีการรักษาและ สืบทอด อาจสูญหายโดยเฉพาะในพื้นท่ีจังหวัดเพชรบุรีท่ีมีความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ ท่ีควรค่าแก่การอนุรักษ์ ควรจัดระบบและจัดท�ำเป็นฐานความรู้เพ่ือการถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลังได้ใช้ ประโยชนต์ อ่ ไป ศนู ยว์ ิจยั และฝึกอบรมดา้ นสงิ่ แวดล้อมจงึ ท�ำการศกึ ษา รวบรวม และเผยแพรภ่ ูมปิ ัญญา ทอ้ งถน่ิ ดา้ นการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ตลอดจนศกึ ษาการใชป้ ระโยชนจ์ ากของเสยี ดว้ ยภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ภายใตแ้ นวคิด 3R ในพ้นื ทจี่ ังหวัดเพชรบรุ ี ประเทศได้ใช้ประโยชน์อย่างไร ฐานข้อมูลการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถ่ินเพ่ือการ ถ่ายทอดองค์ความร้อู ย่างเป็นระบบ ประชาชนได้ประโยชน์อยา่ งไร • ประชาชนในพื้นท่ีมีส่วนร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถ่ินและน�ำไปประยุกต์ใช้หรือเป็นต้นแบบ ในการพัฒนาเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมี ประสิทธิภาพ • เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชนท้องถ่ินในกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมท่ีมปี ระสิทธิภาพ ติดตอ่ สอบถาม นายรฐั เรอื งโชติวทิ ย์ กลุ่มประสานความรว่ มมอื นกั วจิ ัยดา้ นสิ่งแวดล้อม ศนู ย์วิจัยและฝกึ อบรมดา้ นสงิ่ แวดล้อม โทรศัพท์ 02-5774182-9 ต่อ 1123 โทรสาร 02-5771138 E-mail: [email protected]

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม

ศนู ยว จ� ัยและฝกƒ อบรมดาŒ นสิ่งแวดลอŒ ม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook