เล่ม1 (2)

1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน วชิ าสุขศึกษา รหัสวิชา พ22101 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 เร่ือง วัยร่นุ , วยั รนุ่ เล่มที่ 1 วัยรุ่นและการเปล่ยี นแปลง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบับน้ีมีจานวน 10 ข้อ แบบเลือกตอบ มี 4 ตัวเลือก คือ ก ข ค และ ง 2. ทาเครอื่ งหมายกากบาท ( x ) ทับตัวอักษร ก ข ค หรอื ง ลงใน กระดาษคาตอบ สาหรบั ข้อทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียว 3. ห้ามทาเครื่องหมายใดๆ ในแบบทดสอบน้ี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. การเปลีย่ นแปลงของวัยรนุ่ มีผลมาจากส่ิงใด ก. ฮอร์โมนเพศ ข. การเจริญเติบโตของวยั รุ่น ค. สภาพแวดล้อมท่เี ปลี่ยนแปลง ง. พัฒนาการในด้านต่างๆ ของวยั รนุ่ 2. ข้อใดเป็นลักษณะของวยั รนุ่ ชาย ก. ไหล่จะกวา้ งข้นึ ข. สะสมไขมันเพิม่ ข้นึ ค. สะโพกจะขยายออก ง. เสียงจะแหลมออกหรอื สูงขนึ้ 3. เดก็ ผู้ชายและเดก็ ผหู้ ญิงจะเขา้ สูว่ ยั รุ่นเรว็ หรือชา้ ต่างกันหรือไม่ ก. ไมต่ ่างกัน ข. ไมแ่ นน่ อน ค. เด็กผชู้ ายเรว็ กวา่ ง. เดก็ ผู้หญงิ เร็วกว่า

2 4. ช่วงวยั ใดของมนษุ ย์ท่ีมอี ารมณ์เปล่ยี นแปลงมากท่ีสดุ ก. วัยเด็กกอ่ นเรียน ข. วัยเดก็ เรียน ค. วัยทารก ง. วัยรนุ่ 5. ปัญหาของการเกดิ สิวและกลน่ิ ตัว มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในข้อใด ก. การเปล่ียนแปลงของระดบั ฮอรโ์ มน ข. การเปลีย่ นแปลงของโครงสรา้ งใบหนา้ ค. การเปล่ียนแปลงของไขมนั และกล้ามเนือ้ ง. การเปล่ยี นแปลงของร่างกายและความสูง 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะพัฒนาการทางด้านร่างกายของวัยรุ่นเพศหญิง ก. สะโพกแคบ ข. เสยี งแหลม ค. เต้านมขยาย ง. มปี ระจาเดือน 7. ขอ้ ใดให้ความหมายคาวา่ วยั รุ่นไดถ้ กู ต้อง ก. เปน็ วัยทมี่ ีการเปลีย่ นแปลงจากวยั ทารกส่วู ยั เดก็ ข. เป็นบคุ คลท่อี ย่รู ะหวา่ งชว่ งอายุตัง้ แต่ 15–20 ปี ค. เป็นบคุ คลท่ีอยรู่ ะหว่างชว่ งอายตุ งั้ แต่ 15–25 ปี ง. เป็นวยั ที่มีการเปล่ียนแปลงจากวัยเดก็ ก้าวย่างเข้าสูว่ ัยผูใ้ หญ่ 8. พัฒนาการทางดา้ นรา่ งกายของวัยร่นุ ขอ้ ใดผดิ ปกติ ก. ผ้ชู ายมีเสียงหา้ ว ข. ผูช้ ายมขี นขึ้นทห่ี น้าอก ค. มปี ระจาเดอื นตอนอายุ 13 ปี ง. ผ้หู ญิงไม่มีประจาเดอื นจนอายุ 20 ปี 9. ข้อใดเป็นลักษณะทางดา้ นอารมณ์และสภาพจิตใจของวัยรนุ่ ก. ชอบรอ้ งไห้ ข. ภาวะผ้นู าสงู ค. อารมณ์รนุ แรง ง. ชอบตะโกนดังๆ

3 10. ข้อใดบอกลกั ษณะของการเจริญเตบิ โตไดด้ ที สี่ ดุ ก. ลกั ษณะการเปล่ยี นแปลงทางด้านขนาดของอวัยวะตา่ ง ๆ ข. ลักษณะการเปลยี่ นแปลงทางดา้ นสตปิ ญั ญาและสังคม ค. ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นความคิด ง. ลกั ษณะการเปล่ียนแปลงทางดา้ นสังคม

4 ใบความรู้ที่ 1 เรือ่ ง ความหมายของวยั รนุ่ วัยรุ่น (Adolescence) แปลว่า การเจริญเตบิ โตสวู่ ุฒิภาวะ ดงั นัน้ วยั รุ่นจึงเปน็ วัยทน่ี ับจากการมวี ุฒภิ าวะทางเพศ คือ สามารถทจี่ ะมบี ตุ รไดเ้ ป็นสาคัญ ซ่ึงขอ้ กาหนดนจี้ ะแตกตา่ งกนั ออกไปตามแต่ละชนชาติ ข้นึ อยู่กับการเจริญเติบโต ของร่างกาย สภาพภูมอิ ากาศ ประเพณีและวัฒนธรรมทแี่ ตกตา่ งกัน โดยทัว่ ไปแลว้ ส่วนใหญจ่ ะถือว่า อยใู่ นช่วงอายุ 10-20 ปี ซึง่ สามารถ แบง่ ชว่ งวยั รุน่ ออกได้เป็น 3 ชว่ ง ดงั น้ี 1. วัยแรกรนุ่ เป็นชว่ งที่มกี ารเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทุกระบบ โดยจะอยูใ่ นชว่ งอายุ 10-13 ปี เด็กในวยั นี้ มกั คดิ หมกมุน่ กังวลเก่ยี วกบั การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายซง่ึ จะสง่ ผลกระทบไปยังจิตใจ ทาใหอ้ ารมณ์หงุดหงดิ และแปรปรวนง่าย

5 2. วัยรุน่ ตอนกลาง เป็นช่วงท่ีวัยรนุ่ จะยอมรับสภาพรา่ งกายทมี่ ีการเปล่ียนแปลง เป็นหนุ่มเปน็ สาวได้แล้ว ซ่ึงอย่ใู นชว่ งอายุประมาณ 14-16 ปี เดก็ ในวัยนจ้ี ะเรม่ิ มีความคิด ทล่ี กึ ซงึ้ จึงหันมาใฝุอดุ มการณ์ หาเอกลักษณ์ของตนเองเพอื่ ความเปน็ ตัวของตัวเองและ พยายามเอาชนะความรสู้ ึกแบบเด็กๆ ทผี่ กู พนั พ่งึ พาพ่อแม่ 3. วัยร่นุ ตอนปลาย จะอยใู่ นช่วงอายุ 18-19 ปี หรือ 20 ปี เป็นช่วงเวลา ของการฝกึ ฝนอาชพี รวมท้ังตัดสินใจทีจ่ ะเลอื กอาชีพทเี่ หมาะสมกบั ตนเองในอนาคต เปน็ ช่วงเวลาท่จี ะมีความผูกพนั กับเพ่ือนต่างเพศ สภาพทางร่างกายเตบิ โตเต็มทีแ่ ละ บรรลนุ ติ ภิ าวะในทางกฎหมาย

6 ใบความรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การเปล่ยี นแปลงของวัยร่นุ การเปลี่ยนแปลงด้านรา่ งกายและสภาวะทางอารมณ์น้นั เกดิ ข้นึ ในทกุ ๆ ชว่ งวัย แตกตา่ งกันไป แต่สาหรับเพศชายน้ัน ในชว่ งวยั รนุ่ จะมกี ารเปลยี่ นแปลงทม่ี ากทส่ี ุด การเปลี่ยนแปลงดา้ นรา่ งกายทางเพศของวยั รนุ่ ชายเกดิ จากอทิ ธิพลโดยตรง ของฮอรโ์ มนเพศ (Testosterone) ซ่ึงผลิตโดยอณั ฑะและการสร้างฮอรโ์ มนเพศชายนี้ ถูกควบคุมโดยฮอร์โมน ICSH (Interstitial cell stimulating hormone) และ FSH (Follicle Stimulating hormone) ซ่งึ เปน็ ฮอร์โมนทีผ่ ลิตโดยต่อมพทิ ูอิตารี (Pituitary) โดยกลไกการผลติ ดงั ตอ่ ไปนี้ กลีบหน้าของตอ่ มพิทูอิตารผี ลิตฮอร์โมนท่กี ระตนุ้ การเปล่ียนแปลงด้านร่างกาย และจติ ใจทางเพศชายดงั น้ี 1. FSH (Follicle Stimulating hormone) เปน็ ฮอร์โมนท่มี หี นา้ ท่ี ใหเ้ ซลล์ในอัณฑะใหผ้ ลติ ตวั อสุจิ 2. ICSH (Interstitial cell stimulating hormone) ซง่ึ มีหนา้ ทก่ี ระต้นุ เซลลท์ กี่ ระจายอยู่ภายในหลอดเล็กๆ ของอณั ฑะให้ผลติ ฮอรโ์ มนทเ่ี รียกว่า เทสโตสเตอโรน (Testosterone) จานวนท่เี หมาะสม ฮอร์โมนของเพศชายน้ีมอี ิทธพิ ลอย่างยิง่ ต่อความเจริญเตบิ โตและพฒั นาการ ทางเพศรวมท้ังพฤตกิ รรมทางเพศต่างๆ ทผี่ ชู้ ายแสดงออกมาอีกดว้ ย ในวัยเดก็ ฮอร์โมน FSH จะกระตุ้นการเจรญิ เติบโตของอณั ฑะและเริม่ ผลติ ตัวอสจุ ิ เม่ือเรม่ิ ยา่ งเข้าส่วู ยั ร่นุ หรืออายปุ ระมาณ 14 ปี และฮอรโ์ มน ICSH กจ็ ะกระตนุ้ ให้เกิด การผลิต เทสโตสเตอโรน ซึง่ จะพบอยา่ งมากมายในตอนวยั ร่นุ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิด การเปลี่ยนแปลงอวยั วะท่ีแสดงความเปน็ เพศชาย ดังตอ่ ไปนี้ 1. มีการสร้างตัวอสจุ ิและมีการหล่งั นา้ อสุจไิ ด้ 2. มีการเปลีย่ นแปลงของอวัยวะเพศ เช่น องคชาต ต่อมลูกหมาก ถงุ เก็บนา้ อสุจิ รวมทงั้ อัณฑะเองกจ็ ะเจรญิ มีขนาดโตข้ึน

7 3. มกี ารเปลี่ยนแปลงทาให้เกดิ ลักษณะทางเพศอนั ดับรอง สาหรับเพศชาย คือ เสียงแตก เสียงห้าว มหี นวด เคราเรม่ิ ข้ึน มขี นข้ึนตามรกั แร้และบริเวณเหนือ องคชาต ไหลจ่ ะกวา้ งขึ้นและมีกล้ามเนื้อหนาและแขง็ แรงขนึ้ ซง่ึ เปน็ ลักษณะแสดงความ เป็นเพศชาย 4. มีการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นจิตใจ มีความรูส้ ึกต้องการทางเพศ สนใจ เพศตรงขา้ ม แสดงพฤติกรรมในเชงิ เกย้ี วพาราสี สาเหตุและปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านรา่ งกายและจิตใจของเพศหญงิ เพศหญงิ เปน็ เพศท่ีมีการเปล่ียนแปลงทีน่ ่าสนใจในหลายช่วงวัย โดยเริม่ ตงั้ แต่เมอื่ เข้าสู่ วยั สาว วัยสืบพันธุ์ จนกระท่ังถึงวัยหมดประจาเดือน การเปลยี่ นแปลงรูปร่างเชน่ น้เี ป็น ผลมาจากฮอรโ์ มนเอสโตรเจน ซึง่ ถูกผลิตข้ึนมาจากรังไข่ แล้วกระจายไปตามกระแสเลือด ส่งต่อไปตามอวยั วะต่าง ๆ จงึ สง่ ผลต่อรปู รา่ ง นิสัย อารมณข์ องเพศหญงิ คือ ทาใหม้ ี หนา้ อก เต้านมเต่งตึง สะโพกผาย ผิวพรรณเปล่งปลัง่ ช่วยเสรมิ สร้างเซลล์ให้เจริญเตบิ โต ซ่อมแซมระบบสบื พนั ธ์ุ รักษาสภาพผนังช่องคลอด ควบคมุ เมอื กในช่องคลอดเพือ่ ปอู งกนั การอกั เสบ ทาใหไ้ ขใ่ นรงั ไขเ่ จรญิ เตบิ โต ควบคุมการตกไข่ กระตนุ้ การหนาตัวของเย่ือบุ ผนังมดลกู ชน้ั ใน เพื่อรองรบั การปฏสิ นธิรว่ มกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทาให้ผหู้ ญงิ มอี ารมณ์อ่อนหวาน ออ่ นไหวงา่ ย เปลี่ยนแปลงง่าย เพราะฮอรโ์ มนเอสโตรเจนจะมี ไม่สม่าเสมอ ข้ึนลงอยตู่ ลอดเวลาตามรอบของประจาเดอื น โดยช่วงทีม่ เี อสโตรเจน สูงจะเปน็ ชว่ งหลังหมดประจาเดอื นและระหว่างเตรียมการตกไข่ กินเวลาประมาณ 9-20 วัน เม่อื เขา้ สู่วัยทอง ฮอรโ์ มนเพศหญิงในร่างกายจะมีปริมาณน้อยลง หรอื มาไม่ สม่าเสมอ ทาให้รสู้ กึ หงดุ หงิด ร้อนวูบวาบ หมดอารมณ์ทางเพศ หนาวสัน่ ง่าย และเกดิ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่น ผิวแหง้ เหี่ยวย่น มรี วิ้ รอย หน้าอกหยอ่ นยาน ปัสสาวะเลด็ กลน้ั ปัสสาวะไมไ่ ด้ คันช่องคลอด ผมรว่ ง ฯลฯ นอกจากนฮ้ี อร์โมนเอสโตรเจนยงั ช่วยในเรื่องความจา ควบคมุ การสร้าง คอเลสเตอรอล เปน็ ตวั ช่วยไม่ใหเ้ กิดเมือกไขมนั อดุ ตนั ในเสน้ เลอื ด ช่วยลดภาวะกระดกู พรนุ และปูองกนั โรคหลอดเลือดหวั ใจ ดังน้ันหากรายใดมีเอสโตรเจนมากเกินไป ก็จะทา ใหไ้ ขมนั สะสมได้มากขึน้ ทาใหอ้ ้วนง่าย อารมณ์แปรปรวนมาก หงดุ หงดิ งา่ ย และมีความ เส่ยี งตอ่ การเกิดโรคมะเรง็ ไดห้ ลายชนิด สว่ นถา้ ใครมีเอสโตรเจนต่าเกินไป กจ็ ะมีรปู รา่ ง ผอม ไรท้ รวดทรงองคเ์ อว ผิวพรรณไมเ่ ปลง่ ปล่ัง ประจาเดอื นมาไมป่ กติ ช่องคลอดบาง และหย่อนยาน มดลกู ฝอุ ลบี เตา้ นมมขี นาดเลก็ ลง มีโอกาสเสยี่ งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจ และหลอดเลือด และโรคกระดูกพรนุ ไดม้ ากเพราะสญู เสยี แคลเซยี มไปทีละน้อย

8 นอกจาก “เอสโตรเจน” แลว้ ผู้หญิงก็ยงั มีฮอรโ์ มนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) อกี หน่ึงฮอร์โมนเพศหญิงท่สี าคญั มากๆ โดยถูกสร้างขึน้ มาจากรังไข่ และรก ทางานรว่ มกนั กบั ฮอรโ์ มนเอสโตรเจน มหี น้าท่สี าคญั คือช่วยกระตนุ้ ให้เยอ่ื บุผนงั มดลูกช้ันในหนาตัวขน้ึ เพ่ือเตรยี มการต้งั ครรภ์ โดยเอสโตรเจนนนั้ จะไปกระต้นุ ใหม้ ดลูก ขยาย พร้อมจะหดรัดตัว แตโ่ ปรเจสเตอโรนจะไปยับย้งั ไม่ให้มดลูกรดั ตวั มากจนเกนิ ไป เพื่อใหท้ ารกฝังตัวทม่ี ดลูกได้ นอกจากน้ี โปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนยังช่วยกันควบคุม การต้งั ครรภใ์ นชว่ งแรกๆ เช่น ปรับสภาพเย่อื บโุ พรงมดลกู ให้เหมาะสม เพอื่ ใหเ้ กิดการ ฝงั ตัวได้ ชว่ ยสะสมไขมันให้ผหู้ ญิงท่ตี ง้ั ครรภ์ เพื่อให้มีพลังงาน และสารอาหารเลย้ี งทารก รวมทัง้ ชว่ ยทาให้เต้านมขยายใหญข่ ึ้น เพ่อื เตรียมผลิตน้านมใหล้ กู หลังคลอด นอกจากน้ี ยังกระตนุ้ ให้รา่ งกายหายใจเร็วขน้ึ เพื่อสูดออกซิเจนเขา้ ปอดมากๆ น่ันจึงทาให้ผูห้ ญงิ ตัง้ ครรภจ์ ะรูส้ ึกเหนื่อยง่ายกวา่ เดมิ อีกทั้งยงั รูส้ กึ เมื่อยเนื้อเมอ่ื ยตัว ปวดแข้งปวดขา เพราะฮอรโ์ มนจะไปทาให้กล้ามเน้ือ เอน็ ขอ้ ตอ่ ยดื ขยายนนั่ เอง นั่นคอื หน้าท่ีหลัก ๆ ของ โปรเจสเตอโรนในช่วงที่ต้งั ครรภ์ แตห่ ากในช่วงท่ไี มม่ กี ารตัง้ ครรภ์ โปรเจสเตอโรนก็จะไป สลายเย่อื บุโพรงมดลกู ท่ีหนาขึน้ (จากการทางานของเอสโตรเจน) ใหห้ ลดุ ลอกออกมาเปน็ ประจาเดอื น อย่างที่สาวๆ เปน็ กันทุกเดอื น ซึ่งระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนี้ จะมีปริมาณ สงู สุดประมาณวันท่ี 21-23 ของรอบเดือน (หลงั ตกไข่ 1 สปั ดาห)์ แตจ่ ะลดลงต่าสดุ ประมาณวนั ที่ 1-9 ของรอบเดือน ช่วงหลงั ไขต่ ก ซึ่งเป็นช่วงที่มโี ปรเจสเตอโรนสูง ชว่ งนัน้ สาวๆ จะมสี วิ เหอ่ ขน้ึ ทุกที น่นั เพราะโปรเจสเตอโรนทห่ี ล่ังเพมิ่ ขึน้ ไปทาให้เกิด การค่งั นา้ ในร่างกาย จนทาให้รูขุมขนบวมมากขน้ึ อีกท้งั ยงั หลง่ั น้ามนั มาหลอ่ เล้ยี งผิวมากขึ้น จนเกดิ การสะสมอุดตันตามใบหน้าน่นั เอง ท้งั น้วี ัยร่นุ แตล่ ะคนน้ันจะมกี ารเจรญิ เติบโตและการเปล่ียนแปลงทเี่ ปน็ แบบ ฉบบั ของตนเอง ซง่ึ จะแตกต่างกนั ออกไปในแตล่ ะบคุ คล เมื่อเด็กย่างเข้าสูว่ ัยรุ่น ตอ่ มไร้ทอ่ ตา่ งๆ จะผลิตฮอรโ์ มน เพอื่ กระตุน้ ให้อวัยวะบางส่วนของร่างกายทางานได้อยา่ งสมบรู ณ์ เช่น ตอ่ มเพศของเพศชาย ต่อมเพศของวัยรนุ่ หญงิ เพอื่ ใหแ้ สดงลกั ษณะเฉพาะของเพศ ตนเองออกมา ซึ่งโดยทว่ั ไปแลว้ วัยรุ่นจะมีการเจรญิ เติบโตและเปลย่ี นแปลงมากข้ึนทกุ ดา้ น รวมทง้ั เร่มิ มีความต้องการท่แี ตกต่างออกไปจากตอนเปน็ เดก็

9 การเปลี่ยนแปลงสาคญั ที่เป็นลักษณะเฉพาะของวัยรุ่น คอื 1. การเปลย่ี นแปลงทางด้านร่างกาย 2. การเปลย่ี นแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ 3. การเปล่ียนแปลงทางด้านสังคม 4. การเปลีย่ นแปลงทางด้านสตปิ ญั ญา การเปลยี่ นแปลงของวยั ร่นุ 1. ร่างกาย 2. จติ ใจและอารมณ์ - ส่วนสงู - อ่อนไหวงา่ ย - โครงสร้าง - ควบคมุ อารมณ์ไม่ดนี ัก - กล้ามเนื้อ - ค้นหาตนเอง - กาลงั กาย - เกาะกลุ่ม ตดิ เพื่อน - การเปล่ยี นแปลงทางเพศ 3. สังคม 4. สตปิ ญั ญาและการเรียนรู้ - คบเพอื่ นกลุ่มใหญ่ - ความสามารถทาง - ต้องการเป็นทีย่ อมรับ ของกลุ่ม ดา้ นการคดิ - มองส่ิงต่าง ๆ ไดต้ าม ความจรงิ - สามารถตัดสินใจได้

10 ใบความร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นรา่ งกาย การเจรญิ เติบโต พฒั นาการและการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นรา่ งกายของวยั รนุ่ จะเจรญิ เติบโตอยา่ งรวดเร็วในช่วงอายุ 10-13 ปี และจะลดอตั ราการเจรญิ เติบโต เมอื่ เข้าระยะวยั รุ่นตอนกลาง ในช่วงวยั รนุ่ ตอนปลายจะมีการเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกาย นอ้ ยลงอยา่ งมาก การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นรา่ งกายทสี่ าคัญ คือ 1. ขนาดของร่างกายและความสงู เม่อื เขา้ สวู่ ัยแรกรุน่ วัยรนุ่ ชายมีอตั ราการเจรญิ เติบโตของไหล่มากท่สี ดุ วยั ร่นุ ชายจะมไี หลก่ วา้ งกว่าวัยรุน่ หญงิ แต่การเจริญเตบิ โตของสะโพก วยั รนุ่ หญงิ มอี ัตรา การเจรญิ เรว็ กว่าวยั รนุ่ ชายในระยะเริ่มแรก แตเ่ มอื่ รา่ งกายโตเตม็ ทแี่ ล้ว พบว่าสะโพก ของวัยรุ่นหญิงและวัยรุ่นชายมีขนาดใกล้เคยี งกนั ส่วนการเจรญิ เตบิ โตทางดา้ นความสูง ในชว่ งวยั เด็กวยั รุ่นชายจะสูงกวา่ วยั รุ่นหญงิ มาตลอด จนเข้าสูว่ ยั แรกร่นุ วัยรุ่นหญงิ จะมี อัตราเร็วในการเจริญเตบิ โตทางดา้ นความสูงในระยะแรก จนเมอ่ื อายุ 11 ปี ก็จะสงู พอๆ กบั วัยร่นุ ชายและสูงนาไปกอ่ น จนเขา้ สอู่ ายุ 15 ปี วยั รนุ่ ชายจะเริ่มสงู ทันวัยรนุ่ หญงิ ในวัยเดียวกนั และจะเร่มิ สูงกวา่ จนอายุ 18 ปี ก็จะสูงกว่าวยั รนุ่ หญงิ และยังสามารถ เพ่ิมความสูงตอ่ ไปได้อกี ในขณะทว่ี ัยรุน่ หญงิ ปกตจิ ะหยดุ สูงแลว้

11 2. การเปล่ียนแปลงของกระดูก เม่ือมีอายปุ ระมาณ 11-14 ปี กระดกู จะแขง็ แรงขน้ึ การเจริญเตบิ โต ของกระดกู ในแตล่ ะบุคคลจะแตกตา่ งออกไป เชน่ เดียวกบั การเจริญเติบโตด้านอน่ื ๆ ของรา่ งกาย วัยรุน่ ชายที่มีอายุ 14 ปไี ปแลว้ จะมกี ระดูกข้อมอื ทใี่ หญ่กว่าวัยรนุ่ หญิง แตม่ ีความหนาแนน่ ของกระดกู นอ้ ยกว่า และเมอ่ื ถงึ ขน้ั ทีม่ วี ฒุ ภิ าวะทางเพศ กระดกู ข้อมือ จะมพี ฒั นาการเท่ากัน ทัง้ ในดา้ นความหนาแน่นและความแข็งของกระดกู อวัยวะต่างๆ สามารถเคลือ่ นไหวและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธภิ าพ 3. การเปลี่ยนแปลงของไขมนั และกล้ามเน้ือ ในชว่ งเขา้ สู่วยั รุ่น เดก็ ผชู้ ายจะมไี ขมนั ใต้ผวิ หนังบางลง พรอ้ ม ๆ กับมี กล้ามเนือ้ เพิ่มมากขน้ึ และแขง็ แรงขึ้น ซึง่ จะทาใหว้ ัยร่นุ ชายผอมลงในระยะแรก โดยเฉพาะ ทแ่ี ขน ขา น่อง สว่ นวยั รนุ่ หญงิ แม้จะมีการเพมิ่ ของกล้ามเน้ือแตก่ ็จะมกี ารสะสมไขมนั ใตผ้ ิวหนงั เพม่ิ มากขน้ึ ตอ่ ไปอกี ซ่ึงนา้ หนักอาจเพิ่มได้ถงึ ร้อยละ 25 ของน้าหนักตวั โดยเฉพาะไขมนั จะไปสะสมที่เตา้ นมและสะโพก ทง้ั น้วี ยั รุ่นหญิงจานวนมากมักจะรูส้ กึ ไมพ่ อใจในรูปลักษณข์ องตนและมักคิดวา่ ตวั เอง อ้วนเกนิ ไป วัยรนุ่ หญิงจึงลดน้าหนกั จนถึงข้ันมรี ูปร่างผอมแห้ง ซึ่งอาจเป็นอนั ตรายถงึ ชีวิต

12 โดยภาพรวมอาจสรุปได้วา่ วัยรุน่ ชายจะมคี วามแนน่ ของรา่ งกายในสว่ น ทเี่ ป็นกล้ามเนอ้ื มากกว่าในวัยรุ่นหญิงในวัยเดยี วกันและเป็นสาเหตุทท่ี าให้วัยรนุ่ ชายมี พละกาลงั เหนือกวา่ 4. การเปลยี่ นแปลงด้านกาลังกาย และความแข็งแรง การเปล่ียนแปลงด้านการออกกาลังกายและความแข็งแรง เน่ืองจากอัตรา การเปล่ียนแปลงดา้ นกล้ามเน้อื ของวัยรุน่ ชายมมี ากกว่าวัยรนุ่ หญงิ ประกอบกบั การท่ี วยั รนุ่ ชายชอบออกกาลงั กายมากกว่าจึงทาใหม้ คี วามแขง็ แรงมากกว่าวัยรุน่ หญิง เด็กวัยน้ี จงึ ตอ้ งการพักผอ่ นโดยโดยการนอนมากกว่าปกติ 5. การเปลี่ยนแปลงของทางเพศ ในวยั รุ่นพบว่ามกี ารเพ่ิมขึ้นของระดบั ฮอร์โมนตา่ งๆ เชน่ โกรทฮอรโ์ มน (Growth Hormone ) ฮอรโ์ มนจากต่อมไทรอยด์ รวมทง้ั ฮอร์โมนทางเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนจะไปกระตุ้นตอ่ มไขมนั ใต้ผิวหนังและตอ่ มเหงอื่ ให้ทางานเพิ่มมากข้นึ อันเปน็ สาเหตขุ องการเกิดสวิ และกลน่ิ ตวั ของวัยรุ่น นอกจากน้ียังมีผลโดยตรง ตอ่ การเจริญเตบิ โตของรา่ งกายและอวยั วะเพศในวัยรุ่นยังส่งผลถงึ อารมณค์ วามร้สู กึ ทางจติ ใจด้วย

13 ภาพท่ี 1 การเปลยี่ นแปลงของร่างกายวัยรุ่น ที่มา : w.google.com/search?tbm=isch&sa=1&ei=lLuIW_b_ วันที่สบื ค้น 20 พฤษภาคม 2558

14 สาหรบั หญงิ แรกรุ่นนน้ั รอบเดอื นครัง้ แรกส่วนใหญ่จะมเี ม่ืออายุ 12-13 ปี อนั บง่ บอกวา่ มดลูกและชอ่ งคลอดได้เจรญิ เตบิ โตแลว้ และจะเติบโตเต็มทีเ่ มื่อประมาณ อายุ 15-17 ปี การมรี อบเดอื นครัง้ แรกอาจทาให้วัยรุ่นหญงิ บางคนรู้สกึ พอใจหรือภมู ิใจที่ เปน็ ผู้หญิงเต็มตวั แตบ่ างคนอาจจะรู้สึกในทางลบ หว่ันไหว หวาดหว่นั หรือตกใจได้ เชน่ กนั ท้ังนร้ี อบเดอื นในช่วงปีแรกอาจมาไมส่ ม่าเสมอหรือขาดหายเปน็ ชว่ ง ๆ ได้ สาหรับชายวัยแรกรนุ่ นนั้ รปู รา่ งภายนอกมกี ารเจริญเติบโตเปลย่ี นแปลงชา้ กวา่ เดก็ ผู้หญิงประมาณ 2 ปี เมอ่ื เข้าสชู่ ว่ งอายุ 10-13 ปี อัณฑะจะเริม่ มีการเจรญิ เตบิ โตแต่ กย็ งั ไม่เต็มที่ จนเมือ่ มกี ารเจริญเติบโตเข้าสวู่ ยั ร่นุ ตอนกลาง ในช่วงอายุ 14-16 ปี อัณฑะจึงจะเจริญเติบโตและทาหนา้ ทีไ่ ด้อย่างสมบรู ณ์ วัยรนุ่ ชายนับจากช่วงนไี้ ปมภี าวะ ฝันเปียกบ่อยๆ ได้ ในชว่ งวัยร่นุ ตอนปลาย อายุ 17-19 ปี ร่างกายวัยรนุ่ ชายจะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างเต็มท่ี อารมณ์ทางเพศอาจข้นึ สงู และรุนแรงอวยั วะเพศต่ืนตวั ไดง้ ่าย แม้วา่ ไมม่ ีส่ิงเร้า และอาจจะเกิดในสถานการณ์ทีไ่ มส่ มควร จนทาให้วัยรุ่นชายบางคนอาจเกิดความรูส้ ึก ละอายใจทีค่ วบคุมร่างกายตนเองไมไ่ ด้ สง่ ผลใหข้ าดความมน่ั ใจในตนเองตามมา ส่วนวัยรุ่นชายบางรายท่มี ีความคดิ หมกมนุ่ เก่ยี วกับเร่ืองทางเพศ อาจแสดงพฤติกรรม ทางเพศท่เี บี่ยงเบนไปจากปกติจนกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาได้ ภาพที่ 2 การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ท่ีมา : w.google.com/search?tbm=isch&sa=1&ei=lLuIW_b_ วนั ทีส่ ืบค้น 20 พฤษภาคม 2558

15 ใบความรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง การเปลยี่ นแปลงทางด้านจิตใจ และอารมณ์ วยั ร่นุ มักมีจติ ใจและอารมณ์เปล่ียนจากวยั เด็กมาก มคี วามรู้สึกนึกคิด เกีย่ วกบั เรอื่ งเพศ ของตนหรือเพศตรงข้ามมากขน้ึ ชอบความอิสระ มีความภาคภมู ใิ จ ความเป็นชายและเปน็ หญิงของตนเอง สว่ นวยั รุ่นบางคนที่มกี ารเปลี่ยนแปลงทางด้านรา่ งกายรวดเร็วกว่าคนอ่ืน เชน่ สูงมาก ตัวใหญ่ อ้วน มีหนา้ อกโต อาจทาให้เกิดความวติ กกงั วลหรอื คิดว่าเป็นปมดอ้ ย ไม่เหมอื นเพ่อื น อาจทาใหค้ วามเชื่อมน่ั ในตนเองลดลงไป ซงึ่ การเปล่ียนแปลงและ การเจรญิ เติบโตทางดา้ นร่างกายของวัยรนุ่ ท้ังภายในและภายนอกน้ีเอง จะมีอิทธิพล อย่างมากตอ่ อารมณแ์ ละจิตใจวัยร่นุ จึงมอี ารมณเ์ ปล่ียนแปลงงา่ ย สับสน อ่อนไหว ไม่มนั่ คง ภาพที่ 3 การเปล่ียนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ ของวยั รนุ่ ทม่ี า : https://www.google.com/search?sxsrf=ACYBGNTtIS 5ao00RZp70rufwt7NIxdZv- วนั ท่ีสบื คน้ 20 พฤษภาคม 2558

16 อารมณ์ท่เี กดิ ขนึ้ มกั จะเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเรว็ รุนแรง เข้าใจได้ยาก จนมีการเปรียบเทียบวา่ อารมณ์ของวยั รุ่นเหมือนพายุบุแคม รวมทั้งมีความวติ กกงั วล หงุดหงิด หมกม่นุ ในเรื่องตา่ งๆ เก่ียวกับตนเอง โดยจะมคี วามวติ กกังวลในการ เปลยี่ นแปลงและตอ้ งการเรยี กรอ้ งความสนใจหลายอย่าง จงึ พอสรุปได้ดงั นี้ 1. วิตกกังวลเกยี่ วกบั การเปลี่ยนแปลงของรา่ งกาย เดก็ ผชู้ ายจะมีความวิตกกงั วลมากเก่ยี วกบั ความแขง็ แรงของร่างกาย จนอาจจะไม่ม่นั ใจในความเป็นชายรสู้ กึ ว่าตนเองไม่สมบรู ณ์ เกรงถกู ล้อเลียนหรอื กลั่นแกลง้ จากเพ่อื นๆ ทม่ี รี ูปรา่ งใหญ่โตกวา่ สว่ นวยั รนุ่ หญิงทโ่ี ตไวกว่าเพอ่ื นวยั เดยี วกัน มกั จะรูส้ กึ อึดอดั เคอะเขิน ประหม่า อายตอ่ สายตาและคาพูดของเพศตรงข้าม เพราะร่างกาย เริม่ โตเปน็ สาวในขณะทสี่ ภาพจิตใจยงั เปน็ เดก็ 2. วิตกกังวลเก่ยี วกับอารมณท์ างเพศท่สี ูงข้นึ การเปล่ียนแปลงของระดบั ฮอรโ์ มนเพศส่งผลทาให้วัยรุ่นเกิดอารมณ์ทางเพศ ข้ึนมาไดบ้ อ่ ย เพราะบางคนมคี วามเครียดเพราะรู้สึกว่าเปน็ สิ่งไมด่ ี พฤติกรรมในชว่ งน้ี อยากรู้อยากเหน็ บวกกับระดับฮอร์โมนเพศสงู ขึน้ วัยรุน่ จงึ เรียนรู้ทจี่ ะหัดสาเร็จความใคร่ ด้วยตนเอง บางคนอยากเรยี นรเู้ กีย่ วกับการมีความสัมพนั ธท์ างเพศ หลายคนหมกมุ่น ในเรือ่ งเพศมากจนกระทบต่อการเรียนและการดาเนินชีวติ ปกติ ภาพท่ี 4 การเปลยี่ นแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ ของวัยรนุ่ ท่มี า : https://www.google.com/search?sxsrf=ACYBGNTtI S5ao00RZp70rufwt7NIxdZv- วันที่สืบค้น 20 พฤษภาคม 2558

17 3. วิตกกงั วลกลัวการเปน็ ผู้ใหญ่ วัยรุ่นบางคนเม่อื เหน็ การเปลี่ยนแปลงรา่ งกายของตน บางคนก็จะเกิดความ กงั วลมาก กลัวว่าจะพ้นวัยเด็ก ไม่ร้จู ะวางตัวอยา่ งไร กลัวไม่เปน็ ทีย่ อมรบั ของคนรอบข้าง 4. วติ กกังวลในความงดงามของร่างกาย วัยรุ่นชายหญิงต้องการให้คนรอบขา้ งชน่ื ชมเก่ียวกบั รปู ลกั ษณ์ภายนอก ของตน สานกึ ว่าความสวยงามทางร่างกายเป็นแรงจูงใจสาคญั ทาให้ผ้อู น่ื เห็นคณุ ค่า ทาให้เพ่ือนยอมรับเข้ากลุ่มได้ง่าย สนอกสนใจพถิ พี ถิ ันในเรื่องการเลือกเสื้อผา้ การหวผี ม เอาใจใส่ตอ่ การออกกาลงั กาย สนใจเคร่ืองประดบั สขุ อนามยั การวางตวั ในสังคม 5. ตอ้ งการความรกั ความหว่ งใย วยั รนุ่ เป็นวัยท่มี ีความรู้สกึ อยากจะถูกรัก อยากได้รับความเอาใจใส่จาก บุคคลท่มี ีความสาคัญต่อตนเองไม่ว่าจะเป็นพอ่ แม่ ครอู าจารย์และเพอื่ น แต่มักจะมขี ้อแม้ ไม่อยากให้รสู้ กึ ว่าเปน็ เดก็ ไมต่ อ้ งการใหแ้ สดงความหว่ งใยตลอดเวลาและก็ไมต่ อ้ งการ การหา่ งเหิน 6. ตอ้ งการเปน็ อิสระทาอะไรดว้ ยตนเอง เด็กในวัยนีอ้ ยากทาในสงิ่ ท่ีตนเองคดิ วา่ ดี อยากมสี ว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจ อยากทีจ่ ะทาตวั ห่างเหนิ จากพ่อแม่ ห่างจากคาสั่งของบคุ คลทุกรปู แบบ ซึง่ บางคร้ังจะทาให้ วยั รุ่นเกิดความสับสน สองจติ สองใจ คอื อยากไดค้ วามอสิ ระแต่ก็กลวั สญู เสยี ความรกั ความ เอาใจใสจ่ ากพ่อแม่ ตอ้ งการพึ่งพาตนเอง ครอบครัวตอ้ งเข้าใจและเคารพในสิทธิสว่ นบคุ คล ของวัยร่นุ

18 7. ต้องการเปน็ ตัวของตัวเอง วัยรุ่นจะยอมรบั สงิ่ ที่มาจากตวั ของเขาเอง ไม่ต้องการใหใ้ ครมาออกคาสั่ง หรอื บงั คบั หลายคนใช้วธิ ีดือ้ เงยี บเม่ือถกู คาสงั่ ใหท้ าในสง่ิ ทีต่ ัวเองไม่ชอบ แตข่ ณะเดียวกนั ก็ ยังไม่คอ่ ยมัน่ ใจในความคิดหรอื การกระทาของตน ยังตอ้ งการคาชี้แนะอยู่บ้าง 8. ต้องการความถูกตอ้ ง ความยตุ ิธรรม เม่ือเข้าสวู่ ัยรนุ่ ตอนกลาง วัยรนุ่ จะจรงิ จงั อย่างมากกับความถกู ต้องยตุ ิธรรม ตามทัศนะของตนเอง อยากทาอะไรหลายๆ อย่างเพื่อเรียกรอ้ งความยตุ ิธรรม จงึ มกั จะ เห็นวัยรุ่นถกเถยี งกนั ในสง่ิ ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดขึน้ รอบตวั 9. ต้องการตนื่ เต้นทา้ ทาย ความแปลกใหม่ วยั รุน่ บางสว่ นโดยเฉพาะวัยร่นุ ชายอาจเรียกรอ้ งความสนใจด้วยการกระทา ที่ฝุาฝนื ต่อกฎเกณฑ์ตา่ งๆ ของทางบา้ นและระเบียบของสงั คม เพราะรูส้ กึ ว่าเป็นความ ตน่ื เต้นและความท้าทาย หรอื เข้าใจผิดว่าจะทาใหต้ นเป็นคนเดน่ ข้นึ มา ซง่ึ การกระทา บางสิ่งกอ็ าจเปน็ อันตรายถึงชวี ติ 10. มคี วามอยากรู้ อยากเห็น อยากลองสูง เดก็ ในวยั นีจ้ ะมีความอยากรู้ อยากเห็นหรอื อยากลองสงิ่ ใหม่ ๆ การกระทา หลายอย่างแม้จะทราบเป็นสงิ่ ไม่ดี แต่บางครงั้ ก็อยากร้ดู ว้ ยตนเองว่าทาแลว้ จะเป็นอย่างไร มผี ลอยา่ งไร ทาให้การกระทาหลายอย่างมีความเสี่ยงทจี่ ะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเอง ซงึ่ การเลยี้ งดขู องครอบครัวที่เปดิ โอกาสให้วัยรนุ่ ไดท้ ดลองทาในสิง่ ดี มปี ระโยชนแ์ ละถกู ตอ้ ง จะชว่ ยทาให้เด็กไดค้ วามรู้ ทักษะประสบการณ์ ซึ่งบางส่ิงกจ็ ะเป็น ประโยชน์ตอ่ การประกอบอาชีพในภายหน้า

19 ใบความร้ทู ่ี 5 เรอื่ ง การเปล่ียนแปลงทางดา้ นสังคม วัยน้จี ะเร่มิ ทาตัวหา่ งเหนิ จากบ้าน ไม่คอ่ ยคลกุ คลีกับครอบครัวเหมือน ช่วงวยั เดก็ แต่จะสนใจเพื่อนมากกวา่ จะใช้เวลากับเพือ่ นนาน ๆ มกี ิจกรรมนอกบา้ นมาก ไมอ่ ยากไปไหนกบั ทางบ้าน เริม่ มีความสนใจเพศตรงข้าม สนใจสงั คมสิ่งแวดลอ้ ม รจู้ ักปรบั ตัวเองใหเ้ ข้ากับกฎเกณฑก์ ตกิ าของกลมุ่ และสงั คมได้ดขี ึน้ สว่ นใหญ่มีความสามารถ ทางทักษะสงั คม การส่ือสารเจรจาแกป้ ญั หา การประนีประนอม การยืดหยุ่นโอนออ่ น การทางานร่วมกบั ผู้อ่นื พัฒนาการทางสังคมท่ดี ีจะเป็นพืน้ ฐานของมนษุ ยสมั พันธแ์ ละ บุคลกิ ภาพทีด่ ี การเรียนรู้สงั คมจะช่วยใหว้ ยั รุ่นหาแนวทางการดาเนนิ ชีวติ ทีเ่ หมาะสมกับ ตนเองได้ดขี น้ึ เดก็ ในวยั นี้ตอ้ งการการยอมรับวา่ ตนเปน็ สว่ นหน่ึงของบา้ น ของกลุ่มเพ่ือน พืน้ ฐานการเลี้ยงดูทีส่ นับสนนุ ใหก้ าลังใจ มคี วามรักความผกู พันระหว่างพ่อแม่ การเปิดโอกาสให้วัยรุน่ ไดม้ ีสว่ นในการตดั สินใจ ลงมือกระทาหรอื การแสดงความคดิ เหน็ ในเรือ่ งตา่ งๆ สิง่ เหล่านจี้ ะทาให้วยั รุ่นมคี วามรู้สกึ ว่าตนเป็นเปน็ ท่ียอมรบั จากบุคคลภายนอก ในครอบครัว สาหรบั เด็กท่ีเข้าร่วมกัน จะมคี วามจริงใจตอ่ กลุ่ม ยอมรับเอาค่านิยมทัศนคติ ความเชอื่ และความสนใจของกลุ่มมาเปน็ ของตนเองอย่างเต็มใจ กล้าแสดงความคิดเหน็ หรือการกระทาในเชิงตอ่ ต้านในส่งิ ท่ีเขาเห็นวา่ ไมย่ ุติธรรม ภาพท่ี 5 วยั รนุ่ มีความสามารถด้านทกั ษะสงั คม ท่ีมา : https://www.google.com/search?sxsrf=ACYBGNTtI S5ao00RZp70rufwt7NIxdZv- วันทสี่ ืบค้น 20 พฤษภาคม 2558

20 จากท่กี ลา่ วมา พอจะสรปุ ภาพรวมพฤติกรรมทางสงั คมของวัยรนุ่ ได้ ดังน้ี 1. มกี ารคบค้าสมาคมกบั เพอื่ นต่างเพศและเพศเดียวกัน 2. มกี ารเที่ยวเตร่ เพือ่ หาความรู้ ความบันเทิงใจ โดยพบวา่ เด็กในวัยน้ี ชอบเทยี่ วเตร่เปน็ หมู่คณะมากกวา่ การเที่ยวเตร่ตามลาพงั 3. การแต่งกายของวัยร่นุ เปน็ ไปตามสมัยนิยม เน่ืองจากมีความตอ้ งการ ทีจ่ ะให้เหมือนกบั เพือ่ นๆ เพ่อื หวังการยอมรับจากกล่มุ 4. พยายามแสวงหาเอกลักษณข์ องการเป็นคนเก่ง การเป็นวรี บุรุษ เด็กวยั รุน่ จะยอมรับและนับถอื บคุ คลตามเจตคติของตนและเลียนแบบพฤตกิ รรมตาม ภาพที่ 6 วยั รนุ่ มีความสามารถดา้ นทกั ษะสงั คม มกี ารคบเพื่อนในเพศเดียวกนั และต่างเพศ ท่ีมา : https://www.google.com/search?sxsrf=ACYBGNTtIS5ao00RZp70rufwt7NIxdZv- วนั ท่สี ืบคน้ 20 พฤษภาคม 2558

21 ใบความรูท้ ี่ 6 เรื่อง การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นสตปิ ญั ญา วยั นส้ี ตปิ ญั ญาจะพัฒนาสูงขน้ึ จนมีความคิดเป็นแบบรูปธรรม หมายถงึ ความสามารถเรียนรู้เขา้ ใจเหตกุ ารณ์ต่างๆ ไดล้ ึกซ้ึงขนึ้ มีความสามารถ ในการคดิ วิเคราะห์ และสงั เคราะห์สง่ิ ต่างๆ ไดม้ ากข้นึ จนเม่ือพน้ ชว่ งวัยรนุ่ แลว้ จะมคี วามสามารถ ทางสติปญั ญาเหมือนผู้ใหญ่ การเจริญเตบิ โตในการทางานของสมอง ทาให้เด็กวยั น้ี เริ่มมคี วามคิดอ่านเป็นของตนเอง เรมิ่ มคี วามคิดแบบนามธรรม รจู้ ักควบคุมตนเอง เรียนรู้ทจี่ ะควบคุมความคิด รจู้ ักยงั้ คิด คิดให้เป็นระบบ เพอื่ ให้สามารถใชค้ วามคดิ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพและอยูร่ ว่ มกบั ผู้อืน่ ได้ แต่บางครั้งในช่วงระหว่างวยั ร่นุ ก็ยงั พบวา่ มีบางขณะที่มกี ารกระทาที่อาจขาดความยั้งคดิ มคี วามหนุ หัน พลนั แลน่ สงู ขาดการไตร่ตรองใหร้ อบคอบได้ ภาพที่ 7 วัยรุ่นมีความคดิ เป็นของตนเอง ร้จู กั ใฝหุ าความรอู้ ยเู่ สมอ ที่มา : https://www.google.com/search?sxsrf=ACYBGNTtIS5ao00RZp70rufwt7NIxdZv- วันทีส่ ืบค้น 20 พฤษภาคม 2558

22 พฒั นาการทางความคดิ และสติปญั ญาของวยั รุ่นน้ัน พบว่าสามารถท่ีจะคิดได้ ในลักษณะดงั ต่อไปนี้ 1. ร้จู กั คิดเปน็ เหตุเปน็ ผล ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ 2. รู้จกั คดิ แบบวทิ ยาศาสตร์ มีการวิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คิดอย่างมรี ะบบ แบบแผน ต้องพยายามนึกคิดดว้ ยตนเอง 3. มคี วามคิดในเชิงนามธรรมมากขึน้ กล่าวคอื ไม่จาเปน็ ต้องเห็นของจริงก็ สามารถที่จะจินตนาการเพอื่ สรา้ งภาพในใจให้เกิดขน้ึ ได้ ตลอดจนสามารถที่จะนาภาพในใจ เหลา่ นั้นมาผสานกับกระบวนการคดิ ทางวทิ ยาศาสตรไ์ ดม้ ากข้ึน ทาใหเ้ กดิ กระบวนการ ตัดสนิ ในเชิงเหตผุ ล 4. มคี วามคดิ รวบยอดในเรอื่ งราวตา่ งๆ มากขนึ้ สามารถท่จี ะนาความร้แู ละ ประสบการณ์ในอดีตมาเชื่อมโยงเข้ากับสถานการณใ์ นปัจจบุ นั ได้ สามารถท่ีจะเรยี นรู้ และนามาประยุกตใ์ ช้ไดม้ ากขนึ้ 5. รู้จกั ทจี่ ะตัดสนิ ใจในเรื่องยากๆ มีการคน้ หาข้อมูลเพ่มิ เติมเพอื่ ประกอบการ ตดั สินใจของตนเองมากขนึ้ 6. รูจ้ กั ทจ่ี ะปรับตวั ทางความคิด สามารถที่จะปรบั ตวั เพอื่ ให้ทางานร่วมกบั ผู้อน่ื ได้ และชว่ ยทางานให้กบั สาธารณประโยชนไ์ ด้ หากได้รับการสง่ เสริม ภาพท่ี 8 วยั รุ่นมสี ตปิ ัญญาเฉลยี วฉลาดเพราะรู้จักใฝุหาความรอู้ ยู่เสมอ ทมี่ า : https://www.google.com/search?sxsrf=ACYBGNTtIS5ao00RZp70rufwt7NIxdZv- วันทส่ี ืบค้น 20 พฤษภาคม 2558

23 กจิ กรรมท่ี 1 คาชี้แจง นักเรียนนาพยัญชนะหน้าขอ้ ความต่อไปน้ีเตมิ ในชอ่ งวา่ ง ท่ีมคี วามสมั พนั ธก์ นั (10 คะแนน) ก. วัยแรกร่นุ ข. วยั ร่นุ ตอนกลาง ค. วัยรนุ่ ตอนปลาย 1. ชว่ งเวลาฝึกฝนอาชีพ 2. ชว่ งทีม่ ีการเปล่ียนแปลงทางร่างกายทุกระบบ 3. อายุระหว่าง 10-13 ปี 4. อายุระหว่าง 17-19 ปี 5. อายุระหว่าง 14-16 ปี 6. สภาพร่างกายโตเตม็ ทแ่ี ละบรรลุนิตภิ าวะ 7. คน้ หาเอกลักษณข์ องตนเอง 8. หมกมุน่ กังวลเกี่ยวกบั การเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย 9. ผกู พนั กับเพ่อื นตา่ งเพศ 10. อารมณ์หงุดหงิดแปรปรวนงา่ ย

24 กจิ กรรมท่ี 2 คาช้ีแจง นกั เรียนทาเครอื่ งหมาย / หน้ากิจกรรมที่ถูกตอ้ ง และทาเคร่ืองหมาย x หนา้ กิจกรรมทไ่ี ม่ถกู ต้อง (10 คะแนน) 1. เม่ือเข้าสู่วยั รุน่ วยั รุ่นชายจะโตทีส่ ุด 2. วัยรนุ่ ชายไหลก่ ว้างกวา่ วัยรนุ่ หญงิ 3. วัยรุ่นหญงิ มกี ารเจริญเติบโตท่สี ะโพก 4. วยั รุ่นชายจะเตยี้ กว่าวัยรุ่นหญิง 5. วัยร่นุ ชายอายุ 15 ปี จะสูงทันวัยรุ่นหญงิ 6. วัยรุน่ ชายอายุ 18 ปี จะสงู กว่าวัยรุ่นหญงิ 7. วยั รุ่นหญงิ จะมไี ขมนั และกล้ามเนื้อมากขึน้

25 8. วัยรุ่นชายจะผอมโดยเฉพาะที่แขน ขา 9. วัยรนุ่ ชายจะมกี ระดูกขอ้ มอื ท่ใี หญ่กว่าวัยรุน่ หญงิ 10. วยั รุ่นหญิงจะมอี ัตราความสงู ในระยะแรกและสูงกว่าวัยรนุ่ ชาย

26 กจิ กรรมท่ี 3 คาชีแ้ จง นักเรียนวิเคราะห์ความวติ กกังวลของการเปลี่ยนแปลง ทางดา้ นจติ ใจและอารมณ์ตามหัวขอ้ ทก่ี าหนดให้ถกู ต้อง (10 คะแนน) 1. การวิตกกงั วลเกีย่ วกับการเปลี่ยนแปลงดา้ นร่างกาย 2. การวิตกกังวลเกย่ี วกบั อารมณ์ทางเพศที่สงู ข้ึน 3. การวติ กกังวลกลัวการเปน็ ผูใ้ หญ่ 4. การวติ กกงั วลในความงดงามของรา่ งกาย

27 5. การตอ้ งการความรกั ความห่วงใย 6. การตอ้ งการความเป็นอิสระ 7. การต้องการเปน็ ตวั ของตนเอง 8. การต้องการความถกู ต้อง ยตุ ธิ รรม 9. ต้องการความตนื่ เต้นท้าทาย ความแปลกใหม่ 10. มีความอยากรอู้ ยากเหน็ อยากลองสูง

28 กจิ กรรมท่ี 4 คาชี้แจง นกั เรยี นมวี ธิ กี ารปฏิบตั ิตนอยา่ งไร เมอื่ เกิดการเปล่ยี นแปลง ด้านอารมณ์และจิตใจ ตอบอยา่ งนอ้ ย 5 ขอ้ (10 คะแนน)

29 กจิ กรรมท่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรปุ ความรู้การเปลีย่ นแปลงทางดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญา แล้วเขยี นเปน็ ผังความคดิ (10 คะแนน)

30 แบบทดสอบหลงั เรียน วิชาสุขศกึ ษา รหัสวิชา พ22101 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 เรื่อง วัยรุน่ , วยั ร่นุ เล่มที่ 1 วยั รุน่ และการเปล่ยี นแปลง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบบั นม้ี จี านวน 10 ข้อ แบบเลอื กตอบ มี 4 ตัวเลือก คือ ก ข ค และ ง 2. ทาเครอ่ื งหมายกากบาท ( x ) ทับตัวอักษร ก ข ค หรือ ง ลงใน กระดาษคาตอบ สาหรบั ขอ้ ทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพียงขอ้ เดียว 3. ห้ามทาเครื่องหมายใดๆ ในแบบทดสอบน้ี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ปัญหาของการเกิดสิวและกลนิ่ ตัว มสี าเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในข้อใด ก. การเปล่ียนแปลงของระดบั ฮอรโ์ มน ข. การเปลย่ี นแปลงของโครงสร้างใบหน้า ค. การเปล่ียนแปลงของไขมันและกลา้ มเนอ้ื ง. การเปล่ยี นแปลงของร่างกายและความสงู 2. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะพฒั นาการทางดา้ นร่างกายของวัยรุ่นเพศหญิง ก. สะโพกแคบ ข. เสยี งแหลม ค. เตา้ นมขยาย ง. มีประจาเดือน 3. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายคาว่าวยั รนุ่ ไดถ้ ูกตอ้ ง ก. เป็นวัยทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงจากวัยทารกส่วู ยั เดก็ ข. เปน็ บุคคลทีอ่ ยู่ระหว่างชว่ งอายตุ ั้งแต่ 15–20 ปี ค. เป็นบคุ คลท่ีอยูร่ ะหวา่ งช่วงอายุต้งั แต่ 15–25 ปี ง. เป็นวัยท่ีมีการเปล่ียนแปลงจากวัยเดก็ ก้าวย่างเข้าสูว่ ัยผใู้ หญ่ 4. พัฒนาการทางดา้ นร่างกายของวยั รนุ่ ขอ้ ใดผดิ ปกติ ก. ผู้ชายมีเสียงห้าว ข. ผชู้ ายมขี นข้นึ ทหี่ น้าอก ค. มปี ระจาเดือนตอนอายุ 13 ปี ง. ผ้หู ญงิ ไมม่ ีประจาเดือนจนอายุ 20 ปี

31 5. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะทางด้านอารมณแ์ ละสภาพจิตใจของวยั รุน่ ก. ชอบร้องไห้ ข. ภาวะผู้นาสูง ค. อารมณ์รนุ แรง ง. ชอบตะโกนดงั ๆ 6. ขอ้ ใดบอกลักษณะของการเจริญเติบโตได้ดีที่สดุ ก. ลกั ษณะการเปล่ียนแปลงทางด้านขนาดของอวัยวะตา่ งๆ ข. ลักษณะการเปล่ียนแปลงทางดา้ นสตปิ ัญญาและสังคม ค. ลกั ษณะการเปล่ียนแปลงทางด้านความคดิ ง. ลกั ษณะการเปล่ียนแปลงทางด้านสังคม 7. การเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่นมผี ลมาจากส่ิงใด ก. ฮอร์โมนเพศ ข. การเจรญิ เติบโตของวัยร่นุ ค. สภาพแวดล้อมทเ่ี ปลี่ยนแปลง ง. พัฒนาการในดา้ นต่างๆ ของวยั รุ่น 8. ขอ้ ใดเป็นลักษณะของวัยรุ่นชาย ก. ไหล่จะกวา้ งข้นึ ข. สะสมไขมันเพม่ิ ขึ้น ค. สะโพกจะขยายออก ง. เสียงจะแหลมออกหรอื สงู ขน้ึ 9. เด็กผู้ชายและเด็กผูห้ ญิงจะเข้าสู่วยั รนุ่ เรว็ หรอื ช้าต่างกนั หรอื ไม่ ก. ไม่ตา่ งกนั ข. ไม่แน่นอน ค. เดก็ ผู้ชายเรว็ กวา่ ง. เด็กผู้หญงิ เร็วกว่า 10. ชว่ งวยั ใดของมนษุ ยท์ ี่มอี ารมณ์เปล่ียนแปลงมากที่สดุ ก. วัยเดก็ กอ่ นเรยี น ข. วยั เด็กเรียน ค. วัยทารก ง. วัยรุน่

32 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธกิ าร. หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพค์ ุรสุ ภา, 2551. . หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 กลมุ่ สาระ การเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพร้าว, 2551. ชชู าติ รอดถาวร,ภาสกร บุญนยิ ม. สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจริญทัศน์ อจท.จากดั , 2551. บรรพต สุวรรณประเสรฐิ . การพฒั นาหลกั สตู รโดยเน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ. เชียงใหม่ : โรงพมิ พแ์ สงศิลป์, 2544. เยาวดี วิบลู ย์ศรี. การวดั ผลและสรา้ งแบบทดสอบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ. พมิ พค์ ร้ังท่ี 5. กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 2549. สาโรจน์ โศภรี กั ษ์. นวัตกรรมการสอนท่ยี ดึ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ. กรงุ เทพฯ : บุ๊คพอยท์, 2546. อัมพร โอตระกูล. สุขภาพจติ . กรุงเทพฯ : วิทยพัฒน์, 2550. เอกรนิ ทร์ สี่มหาศาลและคณะ. สุขศึกษาและพลศึกษา พทุ ธศกั ราช 2551 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2. กรงุ เทพฯ : อักษรเจริญทศั น์ อจท.จากัด, 2551. .

33 ภาคผนวก

34 ภาคผนวก ก แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรยี น

35 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น วชิ าสุขศกึ ษา รหสั วิชา พ22101 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เร่ือง วัยรนุ่ , วัยร่นุ เล่มที่ 1 วยั รนุ่ และการเปล่ยี นแปลง ขอ้ คาตอบ 1. ง 2. ก 3. ง 4. ง 5. ก 6. ก 7. ง 8. ง 9. ค 10. ก

36 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น วิชาสุขศกึ ษา รหัสวิชา พ22101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 เร่ือง วัยรุ่น, วัยร่นุ เลม่ ที่ 1 วัยรุ่นและการเปลย่ี นแปลง ข้อ คาตอบ 1. ก 2. ก 3. ง 4. ง 5. ค 6. ก 7. ง 8. ก 9. ง 10. ง

37 ภาคผนวก ข เฉลยกจิ กรรม

38 เฉลยกิจกรรมที่ 1 ค 1. ช่วงเวลาฝึกฝนอาชพี ก 2. ชว่ งท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทกุ ระบบ ก 3. อายรุ ะหวา่ ง 10-13 ปี ค 4. อายุระหวา่ ง 17-19 ปี ข 5. อายรุ ะหวา่ ง 14-16 ปี ค 6. สภาพร่างกายโตเต็มที่และบรรลุนิติภาวะ ข 7. คน้ หาเอกลักษณข์ องตนเอง ก 8. หมกมุ่นกงั วลเกีย่ วกบั การเปลยี่ นแปลงทางร่างกาย ค 9. ผกู พันกบั เพ่ือนต่างเพศ ก 10. อารมณ์หงดุ หงดิ แปรปรวนงา่ ย เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนเต็ม คะแนนเต็ม 10 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน เขยี นคาตอบถกู ต้องไดข้ ้อละ 1 คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ตอ้ งได้ 8 คะแนน ขนึ้ ไปจงึ จะ “ผา่ น”

39 เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 X 1. เม่อื เขา้ สู่วยั ร่นุ วัยร่นุ ชายจะโตท่สี ุด / 2. วัยรุน่ ชายไหลก่ วา้ งกวา่ วยั ร่นุ หญงิ / 3. วัยรุ่นหญิงมกี ารเจริญเติบโตทีส่ ะโพก X 4. วัยรุ่นชายจะเต้ยี กว่าวัยรุ่นหญิง / 5. วัยร่นุ ชายอายุ 15 ปี จะสงู ทนั วัยรุ่นหญิง / 6. วยั รนุ่ ชายอายุ 18 ปี จะสงู กว่าวัยรุ่นหญิง X 7. วัยรุน่ หญิงจะมีไขมันและกลา้ มเนือ้ มากขึ้น / 8. วยั รุ่นชายจะผอมโดยเฉพาะทแี่ ขน ขา / 9. วยั ร่นุ ชายจะมีกระดูกข้อมอื ทใ่ี หญ่กว่าหญงิ X 10. วยั รุ่นหญิงจะมีอตั ราความสงู ในระยะแรกและสงู กว่าวยั รนุ่ ชาย เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนนเตม็ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน เขียนคาตอบถูกต้องได้ข้อละ 1 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ตอ้ งได้ 8 คะแนน ขึ้นไปจงึ จะ “ผ่าน”

40 เฉลยกิจกรรมที่ 3 แนวคาตอบ 1. การวิตกกังวลเกย่ี วกบั การเปลี่ยนแปลงดา้ นร่างกาย เดก็ ผ้ชู ายจะมีความวติ กกงั วลมากเกยี่ วกับความแข็งแรงของร่างกาย จนอาจจะไม่มั่นใจในความเป็นชายร้สู กึ ว่าตนเองไมส่ มบูรณ์ เกรงถกู ลอ้ เลยี นหรือกลั่นแกลง้ จากเพือ่ นๆ ท่มี ีรูปรา่ งใหญโ่ ตกวา่ ส่วนวัยรุ่นหญงิ ทโ่ี ตไวกว่าเพอ่ื นวัยเดยี วกัน มกั จะรู้สกึ อดึ อดั เคอะเขนิ ประหม่า อายตอ่ สายตาและคาพูดของเพศตรงข้ามเพราะร่างกายเริ่มโต เปน็ สาวในขณะที่สภาพจติ ใจยงั เปน็ เด็ก 2. การวติ กกังวลเกย่ี วกับอารมณ์ทางเพศท่ีสงู ขนึ้ การเปล่ียนแปลงของระดับฮอรโ์ มนเพศส่งผลทาให้วัยรุ่นเกดิ อารมณ์ทางเพศขึ้นมาได้ บ่อย เพราะบางคนมีความเครยี ดเพราะรู้สกึ วา่ เปน็ ส่งิ ไม่ดี พฤติกรรมในชว่ งน้ี อยากรู้อยากเห็นบวกกับระดบั ฮอรโ์ มนเพศสูงข้ึน วัยรุ่นจงึ เรียนรู้ทจี่ ะหดั สาเร็จความใคร่ ดว้ ยตนเอง บางคนอยากเรียนรู้เก่ยี วกับการมีความสัมพนั ธ์ทางเพศ หลายคนหมกมนุ่ ในเร่ืองเพศมากจนกระทบต่อการเรียนและการดาเนินชีวิตปกติ 3. การวติ กกังวลกลัวการเป็นผูใ้ หญ่ วัยรุน่ บางคนเมือ่ เห็นการเปล่ียนแปลงรา่ งกายของตน บางคนกจ็ ะเกดิ ความกังวลมาก กลวั วา่ จะพ้นวยั เด็ก ไมร่ จู้ ะวางตวั อย่างไร กลวั ไมเ่ ป็นทย่ี อมรบั ของคนรอบข้าง 4. การวติ กกงั วลในความงดงามของร่างกาย วยั รนุ่ ชายหญงิ ต้องการใหค้ นรอบขา้ งช่ืนชมเกยี่ วกับรปู ลกั ษณภ์ ายนอก ของตน สานึกวา่ ความสวยงามทางร่างกายเป็นแรงจงู ใจสาคญั ทาใหผ้ ู้อ่ืนเห็นคณุ คา่ ทาให้เพอ่ื นยอมรับเขา้ กลุ่มไดง้ ่าย สนอกสนใจพถิ ีพถิ ันในเรอ่ื งการเลือกเส้อื ผ้า การหวีผม เอาใจใสต่ อ่ การออกกาลงั กาย สนใจเคร่ืองประดับ สขุ อนามยั การวางตัวในสงั คม

41 5. การตอ้ งการความรกั ความห่วงใย วัยท่ีมคี วามรู้สกึ อยากจะถูกรกั อยากไดร้ บั ความเอาใจใส่จากบคุ คลที่มีความสาคัญ ต่อตนเองไมว่ ่าจะเปน็ พ่อแม่ ครูอาจารย์และเพอื่ น แตม่ กั จะมีข้อแม้ ไมอ่ ยากใหร้ ู้สกึ ว่า เป็นเด็ก ไมต่ อ้ งการใหแ้ สดงความหว่ งใยตลอดเวลาและก็ไมต่ อ้ งการการห่างเหิน 6. การต้องการความเป็นอสิ ระ เด็กในวัยนีอ้ ยากทาในสิ่งที่ตนเองคดิ ว่าดี อยากมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจ อยากท่จี ะทาตวั ห่างเหินจากพอ่ แม่ หา่ งจากคาสั่งของบคุ คลทกุ รปู แบบ ซึ่งบางครัง้ จะทาให้ วัยร่นุ เกดิ ความสับสน สองจิตสองใจ คอื อยากได้ความอิสระแต่กก็ ลัวสญู เสยี ความรัก ความเอาใจใส่จากพ่อแม่ ต้องการพงึ่ พาตนเองครอบครัวตอ้ งเข้าใจและเคารพในสิทธิ สว่ นบุคคลของวยั รนุ่ 7. การต้องการเปน็ ตวั ของตนเอง วัยรนุ่ จะยอมรับส่งิ ท่ีมาจากตัวของเขาเอง ไมต่ อ้ งการใหใ้ ครมาออกคาสัง่ หรอื บงั คบั หลายคนใชว้ ธิ ีด้ือเงยี บเม่อื ถกู คาสัง่ ให้ทาในสง่ิ ทีต่ วั เองไม่ชอบ แต่ขณะเดียวกัน ก็ยังไมค่ ่อยมน่ั ใจในความคิดหรอื การกระทาของตน ยังต้องการคาช้ีแนะอยูบ่ ้าง 8. การต้องการความถกู ต้อง ยุตธิ รรม เม่ือเขา้ สวู่ ัยรนุ่ ตอนกลาง วยั ร่นุ จะได้รบั ความจรงิ จงั อย่างมากกบั ความถูกตอ้ ง ยตุ ิธรรมตามทัศนะของตนเอง อยากทาอะไรหลายๆ อย่างเพือ่ เรียกรอ้ งความยุตธิ รรม จึงมกั จะเหน็ วัยรุ่นถกเถยี งกันในสง่ิ ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขึ้นรอบตัว 9. ตอ้ งการความตื่นเต้นท้าทาย ความแปลกใหม่ วัยรุ่นบางสว่ นโดยเฉพาะวยั รุน่ ชายอาจเรียกร้องความสนใจดว้ ยการกระทา ท่ีฝุาฝืนตอ่ กฎเกณฑ์ตา่ งๆ ของทางบ้านและระเบยี บของสังคม เพราะรู้สึกว่าเปน็ ความ ต่ืนเตน้ และความท้าทาย หรอื เข้าใจผดิ ว่าจะทาใหต้ นเป็นคนเดน่ ขึ้นมา ซงึ่ การกระทา บางสิ่งกอ็ าจเปน็ อันตรายถึงชวี ิต 10. มีความอยากรอู้ ยากเหน็ อยากลองสูง เด็กในวยั นีจ้ ะมีความอยากรู้ อยากเห็นหรอื อยากลองสงิ่ ใหม่ๆ การกระทา หลายอย่างแม้จะทราบเป็นส่ิงไม่ดี แต่บางครัง้ ก็อยากรดู้ ้วยตนเองว่าทาแลว้ จะเปน็ อยา่ งไร มผี ลอย่างไร ทาใหก้ ารกระทาหลายอยา่ งมคี วามเสี่ยงทจ่ี ะก่อให้เกดิ อันตรายต่อตวั เอง ซึ่งการเลีย้ งดูของครอบครัวทเ่ี ปิดโอกาสให้วยั ร่นุ ได้ทดลองทาในสง่ิ ดมี ปี ระโยชนแ์ ละถูกต้อง จะชว่ ยทาให้เดก็ ไดค้ วามรู้ ทักษะประสบการณ์ ซ่ึงบางสงิ่ ก็จะเป็นประโยชน์ตอ่ การประกอบอาชีพในภายหน้า

42 เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนเตม็ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เขยี นคาตอบถูกต้องได้ข้อละ 1 คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ตอ้ งได้ 8 คะแนน ขึ้นไปจงึ จะ “ผา่ น”

43 เฉลยกิจกรรมที่ 4 แนวคาตอบ 1. ยอมรับสภาพความเป็นจริงของตนเอง โดนรู้จกั ปลอ่ ยวาง 2. พยายามสร้างความเช่อื มนั่ ใหก้ ับตนเอง กลา้ เผชิญปัญหา 3. รู้จกั ปรับตัวใหส้ ามารถเข้ากบั ผอู้ น่ื ได้ 4. ทาจติ ใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ 5. มวี ฒุ ิภาวะทางอารมณ์ทด่ี ี 6. ฝกึ จิตใจใหส้ งบมีสมาธิ 7. หลกี เลีย่ งจากสง่ิ ไม่ดีท้ังหลาย เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนนเตม็ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน เขยี นคาตอบถูกต้อง 5 ขอ้ ข้ึนไป 10 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ต้องได้ 8 คะแนน ข้นึ ไปจึงจะ “ผ่าน”

44 เฉลยกิจกรรมท่ี 5 คาตอบขึ้นอยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอน เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนเตม็ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การเขียนแผนผังความคดิ ใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ตามหัวข้อต่อไปน้ี เน้อื หา ละเอยี ด ครอบคลุมสาระของเรอ่ื ง และชัดเจน (6 คะแนน) ความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ (2 คะแนน) ความสะอาด เรียบร้อย (1 คะแนน) ความสวยงาม (1 คะแนน) ตอ้ งได้ 8 คะแนน ขึ้นไปจึงจะ “ผ่าน”