เพ่ือความสาเร็จและความสุขของบุตรหลาน ท้งั ในโรงเรียนและการดารงชีวติ
ระยะเวลาทม่ี บี ทบาทสาคญั ต่อลูกของคุณ การเช่ือมโยงของสมอง คือ ระยะก่อนวยั เรียน! “ทารกสามารถนับจานวน ได้ก่อนท่จี ะส่ือสาร” “ท้งั ๆ ทที่ ารกยงั ไม่ได้เรียนรู้วธิ ี การพูด แต่พวก เขาสามารถเข้าใจ ลาดบั จานวน และหลกั การของ เวลาได้” - Psychologist Stella Lourenco, Emory University Minor Smart Kids
คุณทราบหรือไม่ว่า เมื่อลูกอายุได้แปดเดือน สมองของลูก จะมกี ารเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทถงึ หน่ึงพนั ล้านเซลล์ • และเมื่ออายุ 10 ปี จานวนการเชื่อมโยงของ เส้นประสาทจะลดลงเหลือเพยี ง 500 ล้านล้านเซลล์ หรือน้อยกว่าน้ัน • ประสบการณ์เร่ิมแรกมีผลกระทบต่อจานวน การเชื่อมโยงเซลล์ประสาท • สมองเราทางานโดย “เราใช้งานมนั หรือปล่อยมนั สูญเสียไป” (How A Child’s Brain Develops - TIME Magazine) Minor Smart Kids
คุณทราบหรือไม่ว่า ลูกเริ่มเรียนภาษาได้ ต้งั แต่วยั ทารก และจะสามารถพฒั นาไปสู่ระดบั สูง เม่ืออายุได้หกขวบ “ทารกแรกเกดิ จนถงึ สี่เดือนเปรียบเสมือน ‘นักภาษาศาสตร์’ ทสี่ ามารถแยกแยะเสียงต่างๆ ได้ถงึ 150 เสียง ทป่ี ระกอบอยู่ในภาษาท้งั หมดที่ใช้กนั ทว่ั โลก”(Babies Are Smarter Than You Think, LIFE magazine) “เดก็ เลก็ จะมพี ลงั ในการเรียนรู้ภาษาอย่างมหาศาล พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้หลายภาษา หาก คุณเปิ ดโอกาสให้เดก็ ๆ ได้เรียนรู้อยู่สมา่ เสมอ” (Dr. Susan Curtiss, Professor of Linguistics, UCLA) “เดก็ วยั 3 ขวบ เร่ิมรู้จกั ผสมคาเป็ นประโยคง่ายๆ และเม่ือถงึ วยั 6 ปี เขาจะมคี ลงั คาศัพท์มากถงึ 10,000 คา” (Dr. William Damon, Professor of Education, Stamford University) Minor Smart Kids
การพฒั นาศักยภาพด้านภาษา ตามแนวคดิ Brain-Based Learning สตีเฟน พงิ เคอร์ (Steven Pinker) ศาสตราจารย์ด้านจิตวทิ ยาแห่งมหาวทิ ยาลยั ฮาร์ วาร์ด ผู้เขยี นหนังสือ How the Mind Works (1997) และ The Stuff of Thought: Language as a Window into Human Nature (2005) ได้เป็ นผู้ประเมนิ เอาไว้ว่า • เม่ืออายุ 6 ขวบ เดก็ จะรู้คาศัพท์ต่างๆ ในสมองของตัวเองประมาณ 13,000 คา • เมื่อจบช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลายน้ัน ขนึ้ อยู่กบั ว่าแต่ละคนมปี ระสบการณ์มากหรือน้อย โดยเฉลย่ี แล้วเดก็ กจ็ ะมคี าศัพท์ท่ีใช้ราว ๆ 60,000 – 120,000 คา • สมองเรียนรู้ภาษาได้ดี เม่ือมภี าพและเหตุการณ์มาเกย่ี วข้อง Minor Smart Kids
พฒั นาด้านสตปิ ัญญา การเรียนรู้ของเดก็ มี 3 ช่วง : 1. อายุ 0 - 4 ขวบ : เรียนรู้ได้ถงึ 50 % 100% 2. อายุ 4 - 8 ปี : เรียนรู้ได้ 30 % 3. อายุ 8 - 18 ปี : เรียนรู้ได้ 20 % 80% “นักประสาทวทิ ยาได้ยืนยนั แล้วว่า ช่วงระยะเวลาท่ี 50% สมองเจริญเตบิ โตมากทส่ี ุด จะสิ้นสุดลงเมื่อเดก็ อายุ ประมาณ 10 ปี ” (How a Child’s Brain Develops, 48 18 ปี TIME magazine) Minor Smart Kids
ทักษะการอ่านมีความสาคญั ! การเรียนรู้วิธีการอ่าน เป็ นสิ่งสาคัญต่อการ ดารงชีวิตประจาวัน การพัฒนานิสัยรักการ อ่าน คือ การเปิ ดโลกใหม่ให้ลูก การอ่านทาให้ ลูกได้รับความรู้ ทักษะ ความชานาญ และ ค่ านิยมคุณธรรมท้ังปวงท่ีสาคัญย่ิงต่ อ ค ว า ม ส า เ ร็ จ ใ น ก า ร เ รี ย น ที่ โ ร ง เ รี ย น แ ล ะ ดารงชีวติ ต่อไป Minor Smart Kids
คุณรู้ไหม เดก็ วยั เรียนประมาณ 20 – 30% มีปัญหาในการอ่าน? • สร้างความอบั อาย • หยดุ ย้งั แรงจูงใจการอยากเรียนรู้ • ไม่กล้าแสดงออก *การเรียนรู้การอ่าน เร่ิมต้นทีบ่ ้าน สานต่อที่ โรงเรียน* Minor Smart Kids
การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง… • เป็ นส่วนสาคญั ท่ีจะสอนให้เดก็ รู้จกั การอ่าน • ช่วยพฒั นาการพูด และการใช้ภาษา • สอนให้เดก็ รู้คาศัพท์ใหม่ๆ และการ ออกเสียงทถี่ ูกต้อง • พฒั นาทักษะการฟัง การมีสมาธิ และ กระตุ้นความสนใจ Minor Smart Kids
• สร้างจนิ ตนาการให้เดก็ อยากเรียนรู้ • พฒั นาความสามารถในการพูด และ การเขยี น • เตรียมความพร้อมให้กบั เดก็ สาหรับการเรียนรู้ ในโรงเรียน • เป็ นการสานต่อประสบการณ์การเรียน และ สร้างเสริมพฒั นาการทางอารมณ์ การอ่านหนังสือให้ลูกของคุณฟัง เป็ นการหล่อหลอมให้เขาเป็ นนักอ่าน ในอนาคต ซ่ึงเป็ นส่วนสาคญั ในการช่วยให้ลูกๆ ของคุณประสบความสาเร็จ! Minor Smart Kids
ลูกของคุณใช้เวลาทบ่ี ้านมากกว่าทีโ่ รงเรียนถึงสองเท่า! คุณทราบหรือไม่ว่า: ทีโ่ รงเรียน ท่ีบ้าน • หากลูกของคุณเข้าอนุบาลเม่ืออายุส่ีขวบ แสดงว่าลกู ของ 1,505 ชั่วโมง 3,605 ช่ัวโมง คุณได้ใช้เวลาอยู่กบั คุณทบี่ ้านไม่นับเวลานอนถงึ 17,500 ใน 1 ปี ใน 1 ปี ช่ัวโมง ใช่หรือไม่ (4 ปี X 365 วนั X 12 ช่ัวโมง = 17,520) • เม่ือลกู ของคุณเข้าโรงเรียน ในหน่ึงปี ลกู จะใช้เวลาอยู่ท่ี [ 215 วนั x 7 ชั่วโมง] บ้านถงึ 5 เดือน • โดยเฉลย่ี เดก็ แต่ละคนจะได้รับความสนใจจากครูประมาณ วนั ทเี่ รียนหนังสือ 215 x 7 = 1,505 11 นาทตี ่อวนั ในการเรียน การสอนปกติ วนั หยุด 150 วนั x 14 = 2,100 (40 นาท/ี นักเรียน 30 คน X 8 คาบเรียน = 10.66 นาท)ี Minor Smart Kids
ข้อมูลนีแ้ สดงให้เห็นว่า บ้านของคุณเป็ นสถานทีส่ าหรับการเรียนรู้ ทสี่ าคญั ทสี่ ุดสาหรับลูกของคุณ และคุณคือครูทส่ี าคญั ทสี่ ุดของลูก! Minor Smart Kids
เดก็ ๆ ไม่จาเป็ นต้องอ่านและเรียนรู้ตลอดเวลา แต่พวกเขาต้องการ ช่วงเวลาสาหรับปรับความสมดุลทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ให้เหมาะสม เดก็ ๆ อาจไม่สามารถเลือกตวั เลือกท่ีดีท่ีสุดสาหรับตนเอง ดงั น้นั พอ่ แม่จึงตอ้ งรับผดิ ชอบในการใหส้ ภาพแวดลอ้ มท่ี เหมาะสม สาหรับการพฒั นาอยา่ งสมบูรณ์แก่เดก็ ๆ Minor Smart Kids
โรงเรียนไม่ได้เตรียมความพร้อมให้กบั ลูกของคุณ ในการเผชิญโลกทม่ี กี ารแข่งขนั เพมิ่ สูงขนึ้ ปัจจุบนั ในแต่ละวนั มีการแข่งขนั ท่ีสูงข้ึน... • สาหรับการเข้าศึกษาต่อโรงเรียนทดี่ ีและ มหาวทิ ยาลยั ทีม่ ีช่ือเสียง • สาหรับการศึกษาทส่ี ูงขนึ้ หรือการศึกษาต่อที่ ต่างประเทศ • สาหรับการทางาน, การทางานและการ ประสบความสาเร็จในอาชีพ Minor Smart Kids
สิ่งสาคญั ทจี่ ะทาให้ประสบความสาเร็จคือ: • ทักษะในการทางาน - ความรู้และ ทกั ษะในด้านต่างๆ • ทักษะในการวเิ คราะห์ – จนิ ตนาการ การใช้เหตุผล การคดิ ในเชิง สร้างสรรค์ การตดั สินใจ ฯลฯ • ทกั ษะทางสังคม – การปฏสิ ัมพนั ธ์ การสื่อสาร การจัดการและการโน้มนาผู้อื่น • ทศั นคตสิ ่วนบุคคล – ความมรี ะเบียบ ความต้งั ใจ ความทะเยอทะยาน การ มองโลกในแง่ดี ฯลฯ • ค่านิยม – ความพร้อม ความซื่อสัตย์ การให้ความ เคารพ ความอดทน ความเห็นอกเห็นใจ ฯลฯ ทักษะต่างๆ และค่านิยมคุณธรรม ไม่ค่อยมีการสอนอย่างเป็ นทางการ ในโรงเรียนและมหาวทิ ยาลยั มากนัก ลกู ของคุณ จงึ ต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ จากท่บี ้าน Minor Smart Kids
“หนังสือ” หนุนเสริมสู่การพฒั นาพหุปัญญา 8 ด้าน 1. ปัญญา 2. ปัญญา 3. ปัญญา ด้านภาษา ด้านตรรกะ ด้านมติ ิ สัมพนั ธ์ 4. ปัญญาด้าน และ ร่างกายและ คณติ ศาสตร์ การเคลื่อนไหว 5. ปัญญา ด้านดนตรี 6.ปัญญาด้าน 7. ปัญญา 8. ปัญญา มนุษยสัมพนั ธ์ ด้านความ ด้านธรรมชาตวิ ทิ ยา เข้าใจตนเอง Minor Smart Kids
10 สมรรถนะ สร้างเดก็ ไทยฉลาดรู้ อยู่ดมี สี ุข มคี วามสามารถสูง ใส่ใจสังคม 1 ภาษาไทยเพ่ือการสื่อสาร 6 ทกั ษะชีวติ และ 2 คณติ ศาสตร์ในชีวติ ประจาวนั ความเจริญแห่งตน 3 ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4 การสืบสอบทางวทิ ยาศาสตร์ 7 ทกั ษะอาชีพและ การเป็ นผู้ประกอบการ และจติ วทิ ยาศาสตร์ 8 รู้เท่าทนั สื่อสารสนเทศและ 5 ทกั ษะการคดิ ข้นั สูงและ ดจิ ทิ ัล นวตั กรรม 9 การทางานแบบรวมพลงั เป็ นทมี และภาวะผู้นา 1 การเป็ นพลเมืองต่ืนรู้ และสานึกสากล
เดก็ ในวนั นี้ แตกต่างจากวันก่อน! มีหน่ึงสิ่งท่ีเราแน่ใจกค็ ือ : เดก็ ๆ มีความแตกต่างกนั ท้งั ในเรื่องของการเรียน การลงมือทา การเขียน ปฏิกิริยาตอบสนอง ต่อแนวทางการเรียนรู้และการ เติบโตท่ีแตกต่างกนั (Born Digital: Understanding the First Generation of Digital Natives by John Palfrey & Urs Gasser) ส่ิงเหล่านีม้ ผี ลต่อคุณพ่อคุณแม่และคุณครูอย่างไร? 1. ทุกวนั นี้ เดก็ ๆ ต่างจากสมยั ก่อน พวกเขามี ความสนใจทจี่ ะเรียนรู้เพยี งระยะเวลาส้ันๆ 2. การสอนด้วยวธิ ีเดมิ ๆ อาจไม่ได้ผลอกี ต่อไป 3. ส่ือการเรียนการสอนทนี่ ามาใช้ จะต้องมกี าร โต้ตอบและสามารถดงึ ดูดความสนใจจาก พวกเขาได้ดี Minor Smart Kids
TDP นวัตกรรมการศกึ ษาเพอ่ื ความสาเร็จของบุตรหลาน
3 - 10 ปี ชส่วรง้าเงวลลูกา สู่อจั ฉริยะ เคลด็ ลบั เดก็ จะฉลาดหรือไม่ฉลาด ไม่ได้อยู่ทกี่ รรมพนั ธ์ุอย่างเดยี ว สร้างลูกให้ฉลาด แต่อยู่ทป่ี ระสบการณ์การเรียนรู้ และการฝึ กฝนเป็ นสาคญั กระตุ้น พฒั นาการทีแ่ ตกต่างกนั ของเดก็ แต่ละคน ทสี่ าคญั ไม่เกดิ จากความโง่กว่า หรือฉลาดกว่า แต่เกดิ จากตวั แปรทสี่ าคญั คือ เดก็ ได้รับประสบการณ์น้นั ๆ สมองให้คดิ พชิ ิต มากพอไหม และมีการกระตุ้นถูกวธิ ีหรือเปล่า ได้ทบี่ ้าน พฒั นาการในสมองของลูกจะลดลง หากจดั ให้ลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมทแี่ ห้งแล้ง “พ่อแม่ คือ ผู้นาพาโชคชะตาทด่ี มี าให้กบั ลูก”
พระบรมราโชวาท ในพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดช “ หนังสือเป็ นการสะสมความรู้ และทุกสิ่งทุกอย่าง ทม่ี นุษย์ได้สร้างมา ทามา คดิ มา แต่โบราณกาลจนถงึ ทุกวนั นี้ หนังสือจึงเป็ นส่ิงสาคญั เป็ นคล้ายๆ ธนาคารความรู้ ”และเป็ นออมสิน เป็ นสิ่งทจี่ ะทาให้มนุษย์ก้าวหน้าได้ โดยแท้
@minorsmartkids http://minorsmartkids.com/ https://www.youtube.com/user/MinorEducationGroup บริษทั ไมเนอร์ คอร์ปอเรชนั่ จากดั (มหาชน) 246/01, 02 อาคารไทมส์ สแควร์ ช้นั 17 ถนนสุขมุ วิท 12-14 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 www.minorsmartkids.com ©2018 Minor Corporation PCL. All rights reserved. Minor Smart Kids
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: