โปรแกรมมัลติมีเดียหน่วย2-สป.3

โปรแกรมมลั ตมิ เี ดีย Multimedia Program 20204-2110 ท-ป-น : 2-2-3 หน่วยท่ี 2 การถา่ ยภาพและเขียน Story Board Teacher Chom

หน่วยท่ี 2 การถา่ ยภาพและเขียน Story Board 1. กฎ 3 สว่ น 2. ขนาดของภาพ 3. มุมกลอ้ ง 4. การเขยี น Story Board Teacher Chom

การจัดวางตาแหน่งหลักของภาพถ่าย เป็นองค์ประกอบหน่ึงที่สามารถ ทาให้เกิดผลทางด้านแนวความคิด และความรู้สึกได้ การวางตาแหน่งท่ี เหมาะสมของจุดสนใจในภาพ เป็นอีกสิ่งหน่ึงที่สาคัญ และท่ีนิยมกัน โดยทั่วไปคือ กฎสามส่วน กฎ 3 ส่วน <<ไม่ว่าภาพจะอยู่แนวตั้งหรือแนวนอน หากแบ่งภาพน้ัน ออกเป็นสามส่วน ตามแนวต้ังและแนวนอน แล้วลากเส้นแบ่งภาพทั้งสาม เส้น จะเกิดจุดตัดท้ังหมด 4 จุด ซึ่งจุดตัดของเส้นทั้งสี่นี้ เป็นตาแหน่งที่ เหมาะสมสาหรับการจัดวางวัตถุที่ต้องการเน้นให้เป็นจุดเด่นหลัก ส่วน รายละเอียดอ่ืน ๆ น้ัน เป็นส่วนสาคัญท่ีรองลงมา>> Teacher Chom



Teacher Chom

นอกจากน้ียังสามารถใช้แนวเส้นแบ่ง 3 เส้นนี้ เป็นแนวในการจัดสัดส่วน ภาพก็ได้ อย่างการจัดวางเส้นขอบฟ้าให้อยู่ในแนวเส้นแบ่ง โดยให้ส่วน พื้นดินและท้องฟ้าอยู่ในอัตราส่วน 3:1 หรือ 1:3 แต่ไม่ควรแบ่ง 1: 1 1 2 3 Teacher Chom

2. ขนาดของภาพ 1. ภาพระยะไกลมากหรอื ระยะไกลสุด (Extreme Long Shot : ELS) 2. ภาพระยะไกล (Long Shot : LS) 3.ภาพระยะไกลปานกลาง (Medium Long Shot : MLS) 4. ภาพระยะปานกลาง (Medium Shot : MS) 5. ภาพระยะใกลป้ านกลาง (Medium Close-Up : MCU) 6. ภาพระยะใกล้ (Close-Up : CU) 7. ภาพระยะใกลม้ าก (Extreme Close-Up : ECU หรือ XCU) Teacher Chom

1. ภาพระยะไกลมาก (Extreme Long Shot : ELS) เป็นภาพขนาดกว้างมาก บางทีแทบจะไม่เห็นตัว Object เลยก็ได้ เน้นสถานท่ีลูก เดียวให้เห็นถึงความกว้าง ความใหญ่ ความสูง หรือความแตกต่างระหว่าง สถานที่กับ object Teacher Chom

2. ภาพระยะไกล (Long Shot : LS) เป็นภาพระยะไกล เห็นรายละเอียดของ สภาพแวดล้อม ว่าทาอะไรที่ไหน ส่วน ใหญ่จะใช้ เล่าเก่ียวกับสถานที่ เวลา (ใช้ในการอื่นก็มีเหมือนกัน) Teacher Chom

3. ภาพระยะไกลปานกลาง (Medium Long Shot : MLS) เป็นภาพท่ีเห็นรายละเอียดของผู้แสดงมากขึ้นต้ังแต่ศีรษะจนถึงขา หรือหัวเข่า ซึ่ง บางคร้ังก็เรียกว่า Knee Shot เป็นภาพที่เห็นตัวผู้แสดงเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับฉาก หลังหรือเห็นเฟอร์นิเจอร์ในฉากน้ัน Teacher Chom

4. ภาพระยะปานกลาง (Medium Shot : MS) เป็นภาพขนาด Medium Shot จะเริ่มตั้งแต่หัวถึงเอว หรือลงมาอีกหน่อยถึงเข่าก็ ได้ แยกย่อยเป็น Medium Close up, Medium Long shot และอ่ืน ๆ Teacher Chom

5. ภาพระยะใกลป้ านกลาง (Medium Close-Up : MCU) เป็นภาพแคบ ครอบคลุมบริเวณตั้งแต่ศีรษะถึงไหล่ของผู้แสดง ใช้สาหรับในฉาก สนทนาที่เห็นอารมณ์ความรู้สึกที่ใบหน้า ผู้แสดงรู้สึกเด่นในเฟรม บางครั้ง เรียกว่า Bust Shot มีขนาดเท่ารูปปั้นคร่ึงตัว Teacher Chom

6. ภาพระยะใกล้ (Close-Up / CU) เป็นภาพที่เห็นบริเวณศีรษะและบริเวณใบหน้าของผู้แสดง มีรายละเอียดชัดเจน ข้ึน เช่น ริ้วรอยบนใบหน้า นา้ ตา ส่วนใหญ่เน้นความรู้สึกของผู้แสดงที่สายตา แววตา เป็นช็อตท่ีนิ่งเงียบมากกว่าให้มีบทสนทนา โดยกล้องนาคนดูเข้าไปสารวจ ตัวละครอย่างใกล้ชิด Teacher Chom

7. ภาพระยะใกล้มาก (Extreme Close-Up /ECU หรือ XCU) เป็นภาพที่เน้นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายหรือวัตถุ ภาพจะถูกขยายใหญ่บนจอ เห็นรายละเอียดมาก Teacher Chom

มุมกล้องเกิดจากการวางตาแหน่งคนดูให้ทามุมกับตัวละครหรือวัตถุ ทาให้มองเห็นตัวละครในระดับองศาที่แตกต่างกัน แบ่งเป็น9 ระดับ ดังนี้ 1. มมุ สายตานก 6. มุมเอียง 2. มมุ สูง 7. มุมเฝา้ มอง 3. มุมระดบั สายตา 8. มุมแทนสายตา 4. มุมต่า 9. มุมมองใกลช้ ิด 5. มุมสายตาหนอน Teacher Chom

1. มมุ สายตานก 6. มุมเอียง 2. มมุ สงู 7. มุมเฝา้ มอง 3. มุมระดับสายตา 8. มุมแทนสายตา 4. มุมต่า 9. มุมมองใกล้ชิด 5. มุมสายตาหนอน

1. มมุ สายตานก (Bird’s-eye view) เป็นมุมถ่ายมาจากด้านบนเหนือศีรษะ ทามุมต้ังฉากเป็นแนวด่ิง 90 องศา เป็นมุมมองท่ีเราไม่คุ้นเคยในชีวิตประจาวัน จึงเป็นมุมท่ีแปลก แทนสายตานกท่ีอยู่บนท้องฟ้า Teacher Chom

2. มมุ สูง (High-angle shot) มุมสูงกล้องอยู่ด้านบนหรือวางไว้บนเครน (crane) ถ่ายกดมาท่ีผู้ แสดง แต่ไม่ตั้งฉากเท่า Bird’s-eye view ประมาณ 45 องศา เป็น มุมมองท่ีเห็นผู้แสดงหรือวัตถุอยู่ต่ากว่า ใช้แสดงแทนสายตามองไปเบ้ือง ล่างท่ีพื้น Teacher Chom

3. มมุ ระดับสายตา (Eye-level shot) เป็นมุมท่ีอยู่ในระดับเดียวกันกับสายตาของตัวละครหรือแนว เดียวกับกล้องท่ีวางไว้บนไหล่ของตากล้อง เป็นมุมท่ีสูงเล็กน้อย ซ่ึงเป็น มุมที่คนดูคุ้นเคยกับการดูหนังบนจอใหญ่ที่ถ่ายดาราภาพยนตร์ให้ดูใหญ่ เกินกว่าชีวิตจริง Teacher Chom

4.มุมต่า (Low-angle shot) เป็นมุมท่ีตา่ กว่าระดับสายตา แล้วเงยกล้องข้ึนประมาณ 70 องศา ทาให้เกิดผลทางด้านความลึกของซับเจ็คหรือตัวละคร Teacher Chom

5. มมุ สายตาหนอน (Worm’s-eye view) เป็นมุมท่ีตรงข้ามกับมุมสายตานก (Bird’s-eye view) กล้องเงยต้ัง ฉาก 90 องศากับตัวละครหรือซับเจ็ค Teacher Chom

6. มมุ เอียง (Oblique angle shot) เป็นมุมที่มีเส้นระนาบ (Horizontal line) ของเฟรมไม่อยู่ในระดับ สมดุล เอียงไปด้านใดด้านหน่ึงเข้าหาเส้นต้ังฉาก (Verticle line) Teacher Chom

7.มมุ เฝา้ มอง (Objective Camera Angle) เป็นมุมแอบมองหรือเฝ้ามองตัวละคร แอ็คช่ันและเหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ้น เป็น มุมเดียวกับกล้องแต่มองไม่เห็นคนดู ซ่ึงคนดูจะอยู่หลังกล้องโดยผ่านสายตาของตา กล้อง หรือบางทีเป็นการถ่ายโดยคนแสดงไม่รู้ตัว เรียกว่า การแอบถ่าย Teacher Chom

8. มุมแทนสายตา เป็นมุมมองส่วนตัว หรือเรียกว่า มุมแทนสายตา ซ่ึงเป็นการนาพาคนดูเข้ามามี ส่วนร่วมในภาพด้วย เช่น ผู้แสดงมองมาที่กล้อง ซึ่งจะให้ความรู้สึกเหมือนมองไปท่ีคน ดูหรือพูดกับกล้อง เช่น การอ่านข่าว การรายงานข่าวในทีวี เป็นต้น ลักษณะของมุม กล้องชนิดน้ี เป็นความสัมพันธ์กันระหว่างสายตาต่อสายตา (eye-to-eye) Teacher Chom

8.1 มมุ แทนสายตาคนดู เป็นการกาหนดตาแหน่งคนดูให้เป็นส่วนหน่ึงของฉากน้ัน เช่น คนดู ถูกพาให้เข้า ชมโบราณสถาน พาเท่ียว คนดูจะได้เห็นเหตุการณ์ของแต่ละฉาก หรือกล้องอาจถูก ท้ิงมาจากที่สูง แทนสายตามาจากท่ีสูง แทนคนดูตกลงมาจากท่ีสูง ภาพแทนสายตา ของนักบิน รถแข่ง พายเรือ ดาน้า สกี รถไฟเหาะตีลังกา Teacher Chom

8.2 มุมแทนสายตาตวั ละคร เป็นการเปลี่ยนสายตาของคนดูจากการเฝ้าแอบมอง เป็นแทนสายตาในทันที ซึ่ง คนดูก็ได้เห็นร่วมกันกับตัวละครหรือผู้แสดง เช่น ตัวละครมองออกไปนอกกรอบภาพ จากนั้นภาพตัดไปเป็นมุมแทนสายตาของตัวละคร การแพนช็อตหรือ traveling shot ในภาพยนตร์สารคดีส่วนใหญ่ กล้องมักทาหน้าที่แทนสายตาของคนดู Teacher Chom

9. มมุ มองใกล้ชิด (Point-of-view Camera Angles) มุมมองใกล้ชิดน้ี หรือ มุมพีโอวี (POV) เป็นมุมกึ่งระหว่าง มุม objective และ มุม subjective ส่วนใหญ่ขนาดภาพท่ีใช้มักเป็นภาพระยะใกล้กับระยะปานกลาง เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพแสดงออกของใบหน้าตัวละคร เห็นรายละเอียดชัดเจน Teacher Chom

Story Board หมายถงึ Storyboard คือ การเขียนกรอบแสดงเร่ืองราว การสร้างภาพให้ เห็นลาดับข้ันตอนตามเนื้อเร่ืองท่ีต้องการ โดยเฉพาะภาพเคล่ือนไหว โดยมีการแสดงรายละเอียดท่ีจะปรากฏในแต่ละฉากหรือแต่ละ หน้าจอ เช่น ข้อความ ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียงดนตรี เสียงพูดและ แต่ละอย่างนั้นมีลาดับของการปรากฏว่าอะไรจะปรากฏข้ึนก่อน-หลัง อะไรจะปรากฏพร้อมกัน Teacher Chom

หลักการเขยี น Story Board ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนภาพกับส่วนเสียง โดยปกติการเขียนสตอ ร่ีบอร์ด จะวาดภาพในกรอบสี่เหลี่ยม ต่อด้วยการเขียนบทบรรยายภาพหรือ บทการสนทนา และส่วนสุดท้ายคือการใส่เสียงซึ่งประกอบด้วยเสียงสนทนา เสียงบรรเลง และเสียงประกอบต่าง ๆ สิ่งสาคัญท่ีอยู่ภายในสตอร่ีบอร์ด ประกอบด้วย 1. ตัวละครหรือ ฉาก ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่หรือตัวการ์ตูน และที่สาคัญ คือ พวกเขากาลังเคล่ือนไหวอย่างไร 2. มุมกล้อง ในเร่ืองของขนาดภาพ มุมภาพและการเคลื่อนกล้อง 3. เสียงการพูดกันระหว่างตัวละคร มีเสียงประกอบหรือเสียงดนตรีอย่างไร Teacher Chom

ขอ้ ดีของการทา Story Board 1. ช่วยให้เนื้อเร่ืองล่ืนไหล เพราะได้อ่านทวนตั้งแต่ต้นจนจบก่อน จะลงมือวาดจริง 2. ช่วยให้เน้ือเร่ืองไม่ออกทะเล เพราะมีแผนการวาดกากับไว้ หมดแล้ว 3. ช่วยกะปริมาณบทพูดให้พอดีและเหมาะสมกับหน้ากระดาษและ บอลลูนน้ัน ๆ 4. ช่วยให้สามารถวาดจบได้ในจานวนหน้าที่กาหนด (สาคัญสุด!) Teacher Chom

ขน้ั ตอนการทา Story Board 1.วางโครงเรื่องหลัก ไม่ว่าจะเป็น Theme, ตัวละครหลัก, ฉาก ฯลฯ 2. ลาดับเหตุการณ์คร่าว ๆ 3. กาหนดหน้า 4. แต่งบท 5. ลงมือเขียน Story Board Teacher Chom

ตัวอย่าง แบบที่ 1 กระดาษ Story Board เรอื่ ง................................................................ตอน....................................ฉาก.................................... ...เสยี ง/บทบรรยาย......................................... ...เสียงตัวละคร/บทสนทนา............................ ...เพลง............................................................. ........................................................................ ........................................................................ .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... Teacher Chom

ตวั อยา่ ง แบบที่ 2 Story Board สรา้ งการ์ตูน Animation Scene :……………........................................... เวลา :............................................................. คาอธบิ าย : ……………………………………………… ………………………………………………………………. ……………………………………………………………….. ......................................................................... .......................................................................... Sound Affect : .............................................. ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… Teacher Chom

ตวั อย่าง แบบท่ี 3 Title…………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….…. No.………… CAMERA.………………………………… Introduction.………………………………………………………… Technics……………………… Sound……………………… Story Dialog : Teacher Chom

ตวั อยา่ ง Story Board Teacher Chom

Teacher Chom

Teacher Chom

Teacher Chom

Teacher Chom

Teacher Chom

จบแลว้ จ้าหน่วยท่ี 2 ใครมอี ะไรสงสัย สอบถามเพิ่มเตมิ ไดค้ ะ่