การอนุรักษณ์พลงั งาน และ สง่ิ แวดลอ้ ม
ความรู้เก่ียวกับทรัพยากร พลงั งานและสง่ิ แวดล้อม
ทรัพยากร ความหมายของทรพั ยากร หมายถึง สง่ิ ท่มี ปี ระโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพอื่ สนองความตอ้ งการของ มนษุ ย์ ทรพั ยากร คือ ทรพั ย์+อากร หมายถึง หมู่ กอง บอ่ เกดิ ดังนน้ั ทรัพยากร หมายถงึ บ่อเกิดของทรัพย์ ประเภทของทรพั ยากร ทรพั ยากรเปน็ 1 ใน 4 ของมิติทางสิง่ แวดล้อม แตน่ กั วิชาการไดแ้ บง่ ทรพั ยากรออกเปน็ 2 กลมุ่ ใหญ่ ๆ คือ
1.ทรพั ยากรธรรมชาติ หมายถึง สิง่ ตา่ ง ๆ ทม่ี อี ยใู่ นธรรมชาตแิ ละใหป้ ระโยชน์ต่อมนษุ ย์ไมท่ างใดกท็ างหน่ึง นกั อนุรกั ษ์วทิ ยาแบ่งประเภททรัพยากรตามการใช้งานและผลทเี่ กิดขน้ึ ได้ 3 ประเภท - ทรัพยากรทใี่ ช้แล้วไม่หมดไป เปน็ ทรัพยากรทใ่ี ชแ่ ลว้ ไม่หมดไป ส่ิงมีชีวติ ขาดไมไ่ ด้ การขาดไปเพยี งระยะสน้ั อาจมีผลต่อ ชีวติ ได้ เช่นแสงอาทิน น้าในวฎั จักร บรรยากาศ - ทรพั ยากรท่ที ดแทนได้ เปน็ ทรพั ยากรท่สี ามารถทดแทนไดแ้ ละจ้าเปน็ ตอ่ การมชี ีวิตอยู่ เช่นน้า ดิน สิ่งมชี วี ิต - ทรพั ยากรทใี่ ช้แลว้ หมดไป ทรัพยากรประเภทน้จี า้ เป็นอยา่ งยิง่ ทีต่ อ้ งอนุรกั ษ์ไว้ใหใ้ ชป้ ระโยชน์ไดน้ านท่สี ดุ เพราะไมส่ ามารถ ทดแทนได้เมื่อใชห้ มด เชน่ ทรัพยากรแรธ่ าตุ ทรัพยากรพลังงาน พ้ืนที่ในลกั ษณะธรรมชาติ
2.ทรพั ยากรทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ เปน็ ทรัพยากรที่ไมไ่ ด้เกิดข้นึ ตามธรรมชาติ แตม่ ีบางสว่ นที่เกดิ ข้นึ ตามธรรมชาตแิ ละมนุษย์ได้ ดดั แปลงหรอื สร้างกลไกควบคุมใหแ้ ปลเปล่ยี นรูปรา่ งหรือพฤติกรรมได้ บางกรณมี นษุ ย์ใช้ธรรมชาติเปน็ ปกลไกในการสร้าง ทรพั ยากรข้นึ มาเพอ่ื การอปุ โภคบริโภคทรัพยากรกลมุ่ นี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คอื - กลุ่มทรพั ยากรชีวกายภาพ เชน่ อตุ สาหกรรม การคมนาคม ขนส่ง เป็นตน้ - กลุ่มทรัพยากรเศรษฐสังคม ได้แก่ การศกึ ษา การปกครอง เศรษฐกจิ
พลังงาน ความหมายของพลงั งาน หมายถึง ความสามารถในการทา้ งาน โดยการท้างานนอ้ี าจจะอยใู่ นรูป ของการเคลอื่ นท่หี รอื เปลยี่ นรปู ของวตั ถุกไ็ ด้ ประเภทของพลงั งาน แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท 1.พลังงานหมุนเวียน หมายถึงพลังงานที่ใชแ้ ล้วสามารถนา้ กลับมาใชใ้ หม่ได้ เชน่ พลังงานแสงอาทติ ย์ พลังงานลม พลังงานน้า พลังงานความรอ้ นใต้ พิภพ เป็นต้น
2.พลังงานสิ้นเปลือง หมายถงึ พลังงานท่ีใชแ้ ล้วหมดสนิ้ ไมส่ ามรถหามาทดแทนใหมไ่ ดห้ รือหามาทดแทนไม่ ทัน เชน่ พลังงานนวิ เคลียร์ น้ามัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหนิ
สงิ่ แวดลอ้ ม ความหมายของสิง่ แวดล้อม หมายถงึ สง่ิ ต่าง ๆ ทม่ี ลี ักษณะทางกายภาพและชีวภาพท่ีอยู่รอบ ๆ ตัว มนษุ ย์ ซงึ่ เกดิ ข้ึนโดยธรรมชาติและสงิ่ ทม่ี นุษย์ท้าข้ึน ประเภทของสิง่ แวดลอ้ ม แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท 1.ส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติ ส่งิ ทีเ่ กดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ แบง่ เปน็ 2 ประเภทย่อย -ส่งิ ทม่ี ชี ีวิตหรอื สงิ่ แวดล้อมทางชวี ภาพ เกดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ มี คุณสมบตั ิเฉพาะตัว เช่น พืช สัตว์ มนุษย์เปน็ ตน้
- สง่ิ ท่ไี ม่มีชีวิตหรอื สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพ อาจมองเหน็ หรือมองไม่เหน็ เช่น แรธ่ าตุ อากาศ เสยี ง เปน็ ตน้ 2. สิ่งแวดล้อมที่มนุษยส์ ร้างข้นึ ได้จากทรพั ยากรดั้งเดิมแล้วมนษุ ยเ์ ป็นผดู้ ัดแปลง เชน่ ถนน บ้านเมือง เป็นตน้ ซง่ึ เปน็ สง่ิ แวดลอ้ มแบบนามธรรม เช่น วฒั นธรรมประเพณี การเมอื ง ศาสนา กฎหมาย เปน็ ต้น
คุณสมบตั ิเฉพาะตัวของสงิ่ แวดล้อม 1.มเี อกลกั ษณ์เฉพาะ 2.ไมอ่ ยูโ่ ดดเดีย่ ว 3.ต้องการสงิ่ อืน่ เสมอ 4.มีความเก่ยี วเนือ่ งกนั กับส่งิ อ่นื ทห่ี ลากหลาย 5.มีความเปราะบาง-ทนทานตา่ งกนั ท้งั เวลา อายุ สถานที่ 6.อยู่เป็นร่วมกนั อยา่ งผสมกลมกลนื เป็นระบบนเิ วศ/ระบบสิง่ แวดล้อมท่ีมี สมบตั ิและพฤติกรรมเฉพาะตวั 7.เปล่ียนแปลงจากสภาพหนึง่ ไปสู่สภาพหนึ่งเสมอ มิตสิ ่งิ แวดลอ้ ม แบ่งออกเปน็ 4 มิติ 1. มติ ิทรัพยากร หมายถึงทรพั ยากรทัง้ ที่เปน็ ธรรมชาติ และที่มนุษย์สรา้ งขนึ้ เป็นต้น 2. มติ ิเทคโนโลยี เปน็ การนา้ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์มาใช้เพือ่ ความเปน็ อยขู่ องมนษุ ย์ 3. มิตขิ องเสียงและมลพษิ สงิ่ แวดล้อม เชน่ กากสารพิษ น้ามนั เขม่าควนั 4. มิติเศรษฐสงั คม/มิติมนุษย์ หมายถงึ สง่ิ แวดลอ้ มทางเศรษฐกิจและสังคมทเี่ ป็นองค์ประกอบในสิ่งแวดล้อมที่ถูก สร้างขึ้นโดยมนุษย์
การอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน
ความหมายของการอนรุ กั ษณ์ หมายถึง การร้จู ักใช้ทรัพยากรอยา่ งชาญฉลาดใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ มหาชนมากที่สดุ และใชไ้ ด้เปน็ เวลายาวนานที่สุด หลกั การอนรุ ักษณ์ 1. หลักการอนรุ กั ษ์ 3 ประการ 2. หลกั ปฏิบตั ใิ นการอนรุ กั ษ์ 5 ประเด็น 3. วิธีการอนุรกั ษ์ 8 วิธี การอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน คือ การผลติ และการใชพ้ ลงั งานอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและประหยดั นอกจากจะช่วยลดปรมิ าณการใชพ้ ลังงาน ยังชว่ ย ลดปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มทเี่ กิดจากแหลง่ ทีใ่ ช้และผลิตพลังงานด้วย
นโยบายพลงั งาน 1.พฒั นาพลังงานใหป้ ระเทศไทยสามารถพึง่ ตนเองไดม้ ากขึ้น 2.ดา้ เนนิ การใหน้ โยบายด้านพลังงานทดแทนเป็นวาระแหง่ ชาติ 3.กา้ กบั ดแู ลราคาพลงั งานใหอ้ ยูใ่ นระดับท่เี หมาะสม มเี สถียรภาพ และเป็นธรรมต่อประชาชน 4.สง่ เสรมิ การอนุรกั ษแ์ ละประหยดั พลังงาน 5.สง่ เสรมิ การจดั หาและการใชพ้ ลังงานที่ให้ความสา้ คัญตอ่ ส่ิงแวดล้อม แนวทางการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน 1.การใช้พลังงานอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ 2.การใชพ้ ลังงานอย่างรคู้ ุณคา่ 3.ส่งเสริมใหม้ ีการใช้พลงั งานทดแทน 4.การเลอื กใชเ้ คร่ืองมอื และอุปกรณ์ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพสูง 5. การเพมิ่ ประสิทธิภาพเชือ้ เพลงิ 6. การหมนุ เวียนกลบั มาใช้ใหม่
การอนรุ กั ษ์ ส่งิ แวดลอ้ ม
ความหมายของการอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม หมายถงึ การใช้ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ด้วยความชาญฉลาดและกอ่ ใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อมวลมนษุ ยใ์ หม้ ากท่สี ุดและมี ระยะเวลาเวลาในการใช้งานยาวนานท่ีสดุ หลักการและวิธีอนุรักษส์ งิ่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ 1.การถนอมรกั ษา 2.การบรู ณะฟื้นฟู 3.การนา้ กลับมาใช้ใหม่ 4.การเพ่ิมประสิทธิภาพในการใชง้ าน 5.การน้าสิ่งอืน่ มาใช้ทดแทน 6.การส้ารวจแหลง่ ทรัพยากรเพ่มิ เติม 7.การประดิษฐ์ของเทียมขน้ึ ใช้
ประเภทของสิง่ แวดลอ้ มท่คี วรอนรุ กั ษ์ 1.ทรพั ยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ทุ่งหญา้ สตั วป์ า่ 2.ธรรมชาติทค่ี วรอนรุ กั ษ์ เช่น ภูเขา หาดหิน นา้ พุร้อน 3.สิ่งแวดล้อมท่ีมนษุ ยส์ ร้างขน้ึ เชน่ โบราณสถาน โบรานณวตั ถุ ขนบธรรมเนยี มประเพณี
การอนุรกั ษท์ รพั ยากร ประเภทต่าง ๆ
การอนรุ ักษ์ทรพั ยากรปา่ ไม้ การอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรนา้ 1. การก้าหนดนโยบายปา่ ไม้ 1. การปลกู ปา่ 2. การปลกู ปา่ 2. การพฒั นาแหลง่ น้า 3. การป้องกันไฟ 3. การสงวนนา้ ไวใ้ ช้ 4. การป้องกันการบกุ รุกทา้ ลายปา่ 4. การใช้นา้ อยา่ งประหยัด 5. การใชว้ สั ดุทดแทนไม้ 5. การปอ้ งกนั การเกดิ น้าเสีย 6. การใช้ไมอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ/ประหยัด 6. การน้านา้ ท่ใี ชแ้ ล้วกลับไปใช้ใหม่ 7. การพยายามนา้ ไมท้ ไี่ ม่เคยใชป้ ระโยชน์มาใช้ 8. ส่งเสรมิ ประชาสมั พันธ์ให้การศึกษา การอนุรกั ษท์ รัพยากรดนิ 1. การใช้ทีด่ นิ อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม 2. การปรบั ปรงุ บ้ารงุ ดนิ การป้องกนั การเส่ือมโทรมของดนิ 3.การใหค้ วามช่มุ แกด่ นิ
การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรสตั วป์ า่ 1. การอนรุ ักษพ์ ืน้ ท่ี 2. การอนุรักษ์สตั ว์ปา่ ทางวชิ าการ 3. การควบคมุ สงิ่ ทา้ ลาย 4. การปอ้ งกนั และปราบปราม 5. การประชาสมั พนั ธ์ การอนุรกั ษท์ รพั ยากรแร่ธาตุ 1. การด้าเนนิ งานทางวชิ าการ 2. การใชแ้ รธ่ าตอุ ย่างมีประสิทธิภาพ 3. การนา้ แรท่ ใี่ ช้ประโยชน์แลว้ กลับมาใชไ้ ดอ้ กี 4. การใช้สง่ิ อ่นื ทดแทน 5. การยดื อายุการใช้งานแรธ่ าตุให้ยาวนาน 6. การตรึงราคา 7. การควบคุมราคา 8. การสา้ รวจแหลง่ แรธ่ าตเุ พม่ิ เตมิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: