Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นางสาวฑิฆัมพร เกตุเพชร วิจัย ม.1 เทอม 2 -2564 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป (1)

นางสาวฑิฆัมพร เกตุเพชร วิจัย ม.1 เทอม 2 -2564 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป (1)

Published by thikumishaneul, 2022-06-27 16:21:32

Description: วิจัย ม.1 เทอม 2 -2564 การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป (1)

Search

Read the Text Version

รายงานวจิ ัยในช้ันเรียน เรอ่ื ง การพัฒนาทักษะการพูดส่อื สารภาษาองั กฤษในชีวติ ประจำวนั โดยใช้บทสนทนาจากยทู ปู ของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ผูว้ จิ ัย นางสาวฑฆิ มั พร เกตุเพชร ภาษาอังกฤษฟัง-พดู 2 อ 20213 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรยี นพุนพนิ พิทยาคม ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จงั หวดั สุราษฎร์ธานี เขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 11

ก ชือ่ งานวจิ ัย การพฒั นาทกั ษะการพดู สื่อสารภาษาองั กฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยทู ูป ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 ช่อื ผู้วิจัย นางสาวฑิฆมั พร เกตุเพชร กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาผลการใช้บทสนทนาในชีวิตประจำวันจากยูทูป เพ่ือการพัฒนาทักษะ การพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาค เรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนพุนพินพิทยาคม ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้คือ นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 42 คน ไดม้ าโดยการสุ่มแบบเจาะจง เคร่ืองมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ ส่ือยูทูป ช่อง VOA Learning English และแบบประเมินทักษะการพูดส่ือสาร สถิติท่ีใช้ในการ วิเคราะห์ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ ค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่เข้าร่วมในกิจกรรมการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษ โดยภาพรวมมีทักษะการพูด ส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน จากการทดสอบก่อนเรียน ระดับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.17 และจากการ ทดสอบหลังเรียน ระดับคะแนนเฉล่ียอยู่ท่ี 14.10 โดยพบว่า นักเรียนมีทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษใน ชีวติ ประจำวนั ดขี ้นึ หลังจากเรยี นทักษะการพูดสอื่ สารภาษาองั กฤษในชีวิตประจำวันโดยใชบ้ ทสนทนาจากยูทูป ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการพูดส่อื สารภาษาอังกฤษของนกั เรียนกอ่ นเรียนหลังเรียนพบวา่ หลัง การทดลองนักเรียนมีทักษะพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น โดยมีทักษะการพูดส่ือสาร ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันหลังการทดลองสูงกวา่ กอ่ นการทดลองอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 4.93

ข กิตติกรรมประกาศ รายงาน การวิจัยฉ บั บ น้ี ส ำเร็จลุ ล่ ว งไป ได้ ด้ ว ยดี เพ ราะได้ รับ ก ารส นั บ ส นุ น จ าก ก ลุ่ ม ส าระก ารเรีย น รู้ ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นพนุ พนิ พทิ ยาคม ขอขอบคุณนกั เรียนจำนวน 42 คน ท่ีเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด รหัสวิชา อ 20213 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นพนุ พนิ พิทยาคม ในการเปน็ กลุ่มตัวอย่างใหผ้ ู้วิจัยใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ขอขอบคุณบุคคลรอบข้างทีช่ ่วยใหง้ านวจิ ัยชิ้นน้ีสำเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ คุณค่าและประโยชน์ใดๆ จากการวิจัยใน คร้งั นี้ขอมอบเป็นเครื่องบูชาคุณพระศรรี ัตนตรัย พระคณุ บดิ าและมารดาผู้ใหก้ ำเนิดและเล้ียงดตู ลอดจนครอู าจารย์ ทกุ ท่านทีไ่ ด้ประสทิ ธปิ ระสาทวชิ า ฑิฆัมพร เกตุเพชร ผูว้ จิ ัย

ค สารบัญ หน้า ก บทคัดย่อ ข กติ ติกรรมประกาศ ค สารบญั จ สารบญั ตาราง 1 บทท่ี 1 บทนำ 1 2 ความเป็นมาและความสำคัญ 2 วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั 3 สมมติฐานการวจิ ัย 3 ขอบเขตการวจิ ยั 3 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รบั 4 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ยี วข้อง 5 หลกั สูตรการศึกษาข้ันพืน้ ฐานกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ พุทธศักราช 2551 5 เอกสารเกย่ี วกบั การพูดเพ่อื การสื่อสาร 5 6 1. ความหมายของการพูดเพื่อการสื่อสาร 8 2. ความสามารถในการพูดเพื่อการสื่อสาร 8 3. การวัดและประเมนิ ความสามารถในการพูดเพ่ือการสื่อสาร 9 เอกสารเกี่ยวกบั สอ่ื ยทู ูป 11 3.1 แนวคิดเกี่ยวกบั ยูทูบ 11 3.2 ประเภทของวิดีโอยูทบู ทีไ่ ด้รับความนยิ ม 12 3.3 ประโยชน์และขอ้ จำกดั กำรประยกุ ตใ์ ชง้ าน YouTube เพอ่ื การเรยี นการสอน 13 3.4 ประโยชนข์ อง YouTube สำหรบั โรงเรียน 13 3.5 ขอ้ จำกัด 13 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ การวิจยั 13 กลุม่ เป้าหมาย 13 ขน้ั ตอนการดำเนินการวิจยั 13 แบบแผนการวจิ ยั 14 เครื่องมือทีใ่ ช้ในการวิจัย 14 การสร้างเครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการวิจัย 14 การรวบรวมข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูล สถติ ิท่ใี ชใ้ นกำรวเิ คราะหข์ ้อมลู

บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล ง ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู 15 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 15 สรปุ ผลการวิจยั 17 อภิปรายผล 17 ข้อเสนอแนะ 17 18 บรรณานกุ รม 20 ภาคผนวก 21

สารบัญตาราง จ ตารางท่ี 4.1 แสดงผลคะแนนจากการประเมินทักษะการพดู ทั้ง 2 คร้งั หน้า 15

1 บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ เน่ืองจากทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานนั้น มีความจำเป็นอย่างย่ิงที่นักเรียนจะต้องมีพ้ืน ฐานความรู้ทางด้านกระบวนการทักษะการฟังภาษาอังกฤษเป็นอันดับแรก เพราะหากว่าถ้านักเรียนขาดทักษะ กระบวนการทักษะการพูดแล้ว ก็จะเป็นปัญหาที่สำคัญมากแก่ผู้เรียนและครูผู้สอน เพราะจะทำให้การเรียนการ สอนขาดประสิทธิภาพและผลสมั ฤทธิท์ างการศึกษาวชิ านไี้ ม่ดีเทา่ ทค่ี วร ภาษาอังกฤษมีบทบาทในฐานะเป็นภาษาสากล การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามหลักสูตร การศึกษาขั้นพ้ืนฐานเป็นการพัฒนาท้ัง 4 ทักษะ คือทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการ เขียน ซงึ่ ทกั ษะท้ัง 4 ทักษะที่กล่าวมาน้ัน ทักษะการพูดเป็นทักษะ ที่สำคัญที่สุด เน่ืองจากเป็นทกั ษะท่ีแสดงให้เห็น วา ผู้พูดมีความรู้ในภาษาอย่างชัดเจน และ เนื่องจากทักษะการพูดเป็นการถ่ายทอดความคิด ความเขาใจ และ ความรูสึกในการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจำวัน การที่ผู้เรียนใช้ภาษาไดไมดีเพราะผู้เรียนไม่ได้อยู่ใน สภาพแวดลอมทม่ี กี ารใช้ภาษาองั กฤษในการสื่อสาร ขาดความคล่องแคล่วในโครงสร้างทางภาษาและสำนวนต่าง ๆ และขาดความเขาใจในสภาพความเป็นจริงทางวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา (Shumin 1998:8) การจัดการเรียน การสอนภาษาตา่ งประเทศนั้น ทักษะการพดู เปน็ ทักษะหน่ึงทส่ี ําคัญในโลกยคุ ปจั จุบัน เพราะเป็น การตดิ ตอ่ สื่อสาร ระหว่างมนุษย์ด้วยการใช้เสียง ภาษา และท่าทางเพื่อถ่ายทอดความรู้สึก ความคิด และความเข้าใจจากผู้พูดไปสู่ ผฟู้ ัง เป็นกระบวนการที่ไม่ได้ถกู กำหนดไว้ตายตวั (แสงระวี ดอนแก้วบัว, 2558: 146) ซึ่งสอดคล้องกบั แนวคิดของ เฉลิม ทองนวล (2557: 23) ท่ีกล่าวว่า ทักษะการพูดเบ้ืองต้นจำเป็นต้องมุ่งเน้นให้ผู้เรียนพูดเพื่อการส่ือสารใน สถานการณ์ จริงโดยผู้เรียนจะต้องปฏบิ ัติตามแบบหรอื ตัวอย่างท่ีกำหนด เพื่อนำไปสู่การพูดท่ีมีประสทิ ธิภาพ และ การส่งเสรมิ กระบวนการ เรียนรู้ทางภาษาของผู้เรียนให้มีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษอยา่ งมีประสิทธภิ าพ นอกจากน้ี นูแนน (Nunan, 1991: 279) ยังกล่าวถึงทักษะการพูดไว้ว่าทักษะการพูดเป็นทักษะที่บ่งบอกถึง ความสำเร็จในการเรียนรู้ภาษาได้อย่างชัดเจน ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกพูดมากข้ึน และในการเรียนการสอนทุกครั้ง ผเู้ รยี นต้องสามารถนำไปใชไ้ ด้จรงิ ในชวี ติ ประจำวนั ทกั ษะการพูดเปน็ ทักษะทซี่ ับซอ้ นและค่อนขา้ งยากสำหรับผู้เริ่ม เรียนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ จึงยัง เป็นปัญหาแก่ผู้เรียน ดังทกี่ ระทรวงศึกษาธิการ (2551: 1) ระบุ ว่า แม้เด็กไทยจะได้รับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมาเป็น เวลานาน แต่ไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ ส่ือสารได้อย่างถูกต้อง สาเหตุอาจจะเป็นเพราะการเรียนการสอนท่ีผิดวิธีคือ เน้นการสอนโครงสร้างกฎเกณฑ์ทาง ภาษามากกว่าการสอนใช้ภาษาในการสื่อสาร (Juhana, 2012: 12) เมื่อใดท่ีผู้เรียนต้อง ใช้ภาษาจะกังวลอยู่ ตลอดเวลาในเรื่องของไวยากรณ์ต้องพูดถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ อ่านออกเสียงถูกต้อง สำเนียงชัดเจน ซึ่ง ความสามารถด้านภาษาอังกฤษของผู้เรียนมีอยู่อย่างจำกัด จึงส่งผลให้ผู้เรียนเกิดอาการเขินอาย กลัวถูกหัวเราะ หรือเยาะเย้ยว่าพูดไม่ถูกตามหลักไวยากรณ์ หรือสำเนียงไม่ตรงเจ้าของภาษา แม้ว่าผู้คนนานาชาติเมื่อต้องใช้ ภาษาอังกฤษ ต่างก็พูดใน สำเนียงภาษาของตนเองโดยไม่วิตกกังวล ซ่ึงในบางสำเนียงภาษาน้ันอาจจะฟังยาก ทำ ให้ส่ือสารผิดพลาด ความหมาย ผิดเพ้ยี นไปจากเดิม แต่เหนอื สงิ่ อื่นใดพวกเขาก็ไม่เขินอายในสำเนียงภาษาท่ีฟงั ยาก ของเขา และอกี สาเหตหุ น่ึงคอื ผเู้ รียนยังไม่ มีแรงจูงใจในการเรียนท่ีมากพอ จึงมผี ลต่อการพัฒนาความสามารถด้าน

2 ภาษาอังกฤษของคนไทยที่จำกัดในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษน้ัน ทักษะการพูดนับว่าเป็นทักษะที่สำคัญท่ีสุด และจำเปน็ อยา่ งย่ิง เน่ืองจากเป็นทักษะเบ้อื งต้นท่ีใช้ในการส่ือสาร (สมุ ิตรา อังวัฒนกุล, 2537: 167) ทักษะการพูด จงึ เป็นทักษะที่นักเรียนต้องได้รับการพัฒนามากที่สุดซ่ึง เออร์ (Ur, 1998: 53) ได้ให้ความคดิ เกี่ยวกับเหตุผลท่ีต้อง พัฒนาทักษะการพูดของผู้เรียนว่า ทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในบรรดาทักษะทั้งหมด เพราะทักษะการ พูดเป็นทักษะท่ีแสดงเห็นว่าผู้พูดมีความรู้ทางภาษา และช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ทักษะอื่นได้ง่ายขึ้น สำหรับประเทศ ไทยวิชาภาษาอังกฤษได้กำหนดให้จดั การเรียนการสอนในลักษณะภาษาต่างประเทศ นักเรียนแทบไม่มีโอกาสไดพ้ ูด หรือใช้ภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจ้าวันนอกจากเวลาเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนเท่านั้น ท้ังน้ีปัญหาดังกล่าว ชู มิน (Shumin, 1997: 8) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการสอน การพูดว่าการพูดภาษาอังกฤษเป็นส่ิงท่ียากยิ่ง สำหรับ ผู้เรียน ผู้เรียนมักพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดี ขาดความคล่องแคล่วในการใช้โครงสร้างภาษาและ สำนวนต่างๆ เน่ืองจากผู้เรียนไม่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมท่ีมีการใช้ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ตลอดจน การขาดความเข้าใจใน สภาพความเป็นจริงทางวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาจากประสบการณ์ท่ีผู้วิจยั เคยสอนวิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐานได้ พบปัญหาและอุปสรรคว่าผู้เรยี นส่วนมากประสบกับปัญหาในการพูดสื่อความและการเรยี บเรยี งประโยคอีกท้ังขาด ความเชือ่ มน่ั ในการพดู ภาษาอังกฤษ จงึ ทำใหผ้ เู้ รียนไมส่ ามารถบรรลุเปา้ หมายในการเรยี นภาษาองั กฤษไดต้ รงตาม วัตถุประสงค์ท่ีหลักสูตรกำหนด ผู้วิจัยพบว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถประสบผลสำเร็จในการเรียน ภาษาอังกฤษน้ันคือผู้เรยี นส่วนมากไม่ไดใ้ ห้ความสำคัญกบั การฝึกพูดภาษาอังกฤษเท่าทีค่ วรเนือ่ งจากจะตอ้ งใชเ้ วลา ในการฝึกมาก ประกอบกับนักเรียนเองขาดความเชื่อม่ันในตนเอง และไม่กล้าแสดงออกในการใช้ภาษาอังกฤษ สื่อสารดา้ นการพดู ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ทำ ให้โรงเรียนไม่สามารถเปิดเรียนตามปกติ (on site) ได้ จึงต้องมีการจัดการเรียนการสอนในการเรียนการสอนใน รูปแบบ on line ขึ้น ทั้งน้ีในการจัดการเรียนการสอนจึงต้องเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับการเรียนผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในรายวิชาภาษาอังกฤษ และต้องใช้ส่ือการสอนที่นักเรียนเข้าถึงได้ง่าย ดังน้ันแล้วการพัฒนา ทักษะการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ต้องเลือกสรรส่ือที่เข้าถึงได้ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อนและมีเนื้อหาท่ี เหมาะสมไม่ยากจนเกินไป นกั เรียนสามารถฝกึ ฝนทกั ษะนอกเวลาเรยี นด้วยตนเองได้ จากการจัดการเรียนการสอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/4 ในรูปแบบ on line พบว่านักเรียนยังต้อง พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษขั้นพ้ืนฐานอยู่มาก ดังน้ันจึงเห็นควรนำนักเรียนทั้งระดับชั้นมาทาการวิจัยในช้ัน เรียน วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจยั 1. ผลการใช้บทสนทนาในชีวิตประจำวันจากยูทูป เพ่ือการพัฒนาทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษใน ชวี ติ ประจำวนั โดยใช้บทสนทนาจากยทู ปู ของนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 สมมติฐานการวจิ ัย นักเรียนท่ีเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด รหัส อ 20213 ได้รับการสอนโดยสื่อยูทูป ช่อง VOA Learning English เพื่อพัฒนาทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป มี ความสามารถในการใช้ทักษะการพูดในชวี ิตประจำวันมีผลการทดสอบหลังทำการทดลองสูงกวา่ ก่อนทำการทดลอง

3 ขอบเขตของการวิจยั 1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคร้ังนี้เป็นนักเรียนที่เรียนรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด 2 รหัส อ 20213 จำนวน 42 คน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 โรงเรียนพุนพนิ พทิ ยาคม 2. ตัวแปรท่ศี ึกษา ตวั แปรต้น ไดแ้ ก่ การใช้บทสนทนาในชวี ติ ประจำวันจากยูทูปชอ่ ง VOA Learning English ตัวแปรตาม ไดแ้ ก่ ทกั ษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวนั 3. ระยะเวลาในการทดลอง ดำเนินการทดลองในภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 เป็นระยะเวลา 8 สปั ดาห์ สปั ดาห์ละ 1 ชั่วโมง 4. เน้ือหาท่ใี ช้ในการทดลอง เนือ้ หาทบ่ี ทสนทนาจากยูทปู ชอ่ ง VOA Learning English ท้ังหมด 6 Lesson ดงั น้ี Lesson 7: What are you doing? Lesson 8: Are you busy? Lesson 9: Is it Cold? Lesson 10: Come Over to My Place Lesson 11: This is my Neighborhood. Lesson 12: Meet my family นิยามศพั ท์เฉพาะ 1. บทสนทนาในชีวิตประจำวันจากยูทูป หมายถึง ตัวอย่างการสนทนาจากเจ้าของภาษาซง่ึ เป็นสอ่ื ท่ีมีภาพ และเสยี งชดั เจน มหี ัวขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ Lesson 7: What are you doing? Lesson 8: Are you busy? Lesson 9: Is it Cold? Lesson 10: Come Over to My Place Lesson 11: This is my Neighborhood. Lesson 12: Meet my family 2. ทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษ หมายถึง ทักษะในการพูดภาษาอังกฤษโต้ตอบกับคู่สนทนาใน สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพโดยวัดจากแบบฝึกบทสนทนา และเกณฑ์การประเมิน ความสามารถด้านการพูดสอ่ื สารภาษาอังกฤษที่ผู้วจิ ัยสรา้ งขน้ึ 3. นักเรยี น หมายถงึ นักเรียนที่เรียนรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด 2 รหัส อ 20213 จำนวน 42 คน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรียนพนุ พนิ พทิ ยาคม ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ 1. ผูเ้ รยี นมคี วามมั่นใจในการพูดสือ่ สารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้คล่องแคลว่ ย่งิ ขึ้น 2. ได้แนวทางในการใชส้ ื่อยทู ปู ในการสอนและพัฒนาทักษะภาษาองั กฤษให้กบั นักเรียนผ่าน on line

4 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วขอ้ ง การวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาความสามารถในการ พัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและ งานวิจัยที่เก่ียวข้องกับ หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ผลการศึกษาค้นคว้าและงานวิจัยต่าง ๆ สรุปสาระสำคัญโดยน้า เสนอจ้าแนกตามหวั ข้อดงั ตอ่ ไปนี้ 1. หลักสตู รการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ พทุ ธศักราช 2551 1.1 หลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พทุ ธศกั ราช 2551 2. เอกสารเกย่ี วกับการพูดเพ่ือการสื่อสาร 2.1 ความหมายของการพูดเพอ่ื การสื่อสาร 2.2 ความสามารถในการพดู เพอ่ื การส่ือสาร 2.3 การวดั และประเมนิ ผลความสามารถในการพูดเพ่ือการส่ือสาร 2.3.1 วธิ ีการทดสอบความสามารถด้านการพูด 2.3.2 เกณฑ์การประเมนิ ความสามารถดา้ นการพูด 3. เอกสารเกยี่ วกับสอื่ ยูทบู 3.1 แนวคิดเกยี่ วกบั ยทู ูบ 3.2 ประเภทของวดิ ีโอยูทบู ท่ีไดร้ บั ความนยิ ม 3.3 ประโยชนแ์ ละข้อจำกัด กำรประยกุ ต์ใชง้ ำน YouTube เพอื่ การเรยี นการสอน 3.4 ประโยชนข์ อง YouTube สำหรับโรงเรียน 3.5 ข้อจำกดั 1. หลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ พทุ ธศกั ราช 2551 1.1 หลกั สตู รการศึกษาข้นั พ้นื ฐานกล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ พทุ ธศกั ราช 2551 สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี งั และอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมทงั้ แสดงความ คดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะในการส่ือสารทางภาษาเพ่ือการแลกเปล่ียน ข้อมูลข่าวสาร แสดง ความรสู้ กึ และความคดิ เห็น อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 น้าเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดย การพูดและการเขียน สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษาที่ทีผลกับวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษา และ นำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

5 มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษาท่ีมีความสัมพนั ธ์กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็น พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อเป็นเครื่องมือพ้ืนฐานใน การศึกษาต่อ การประกอบ อาชพี และการแลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ ับสงั คมโลก 2. เอกสารเกย่ี วกบั การพดู เพอื่ การส่ือสาร 2.1 ความหมายของการพดู เพอ่ื การส่ือสาร การพูดเป็นทักษะท่ีจำเป็นอย่างย่ิงในการเรียนภาษาเพื่อการสื่อสาร ผู้พูดจะต้องใช้ความสามารถทางด้าน ภาษาหลายด้านประกอบกัน เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจ โดยจะต้องถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของผู้พูดที่จะพูดให้ผู้ฟัง สามารถฟังเขา้ ใจ ผู้พูดท่ีดจี ะต้องพดู ให้เหมาะสมกบั โอกาสและสถานการณ์ตา่ งๆ และมคี วามคล่องแคล่วในการพูด โดยการเลือกใช้คำพูดท่ีถูกต้อง สุมิตรา อังวัฒนกุล (2540 หน้า 167) กล่าวว่า การพูดเป็นการถ่ายทอดความรู้สึก นึกคิดความเข้าใจให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจจุดมุ่งหมายของผู้พูด โดยใช้กลวิธีในการพูดที่ทาให้การสื่อสารมี ประสิทธิภาพ อวยชัย ผกามาศ (2542 หน้า 1-2) กล่าวถึง ความหมายของการพูดไว้ว่า การพูดคอื การส่ือสารทาง ความคิด ประสบการณ์และความต้องการของผู้พูดไปสู่ผู้ฟัง เพ่ือสื่อความหมายให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ โดยใช้น้า เสียง ภาษา และกรยิ าทา่ ทาง ไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามจรรยามารยาท และประเพณีนิยมของสังคมให้ผฟู้ งั รบั รแู้ ละได้รับ การตอบสนอง สรุปได้ว่า การพูดหมายถึงการใช้ความสามารถทางด้านภาษา รวมถึงท่าทาง ความรู้สึกนึกคิดที่จะ ถ่ายทอดให้ผู้ฟังเข้าใจ โดยมีจุดมุ่งหมายทสี่ ำคญั คอื เพ่อื แลกเปลี่ยนข่าวสารขอ้ มลู ระหวา่ งบคุ คลตง้ั แต่สองคนขน้ึ ไป การพูดที่มีประสิทธิภาพนั้น ผู้พูดจะต้องเลือกใช้ถ้อยคา น้ำเสียง รวมถึงอากัปกริยาในการพูด (Non-Verbal Language) เพือ่ ประกอบการพูดให้สอดคลอ้ งได้อยา่ งเหมาะสมถกู ต้องกบั โอกาส และวัฒนธรรมตลอดจนประเพณี นยิ มของสังคม 2.2 ความสามารถในการพูดเพอ่ื การสื่อสาร จดุ มุ่งหมายของการสอนภาษาในการพูดเพื่อการสื่อสารนั้น คือ ให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการใช้ ภาษาเพื่อการส่ือความหมายได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับกาลเทศะ ดังเช่น Bartz (1994: 18-82) กล่าวถึง องค์ประกอบของความสามารถในการพูดเพื่อการสื่อสารคือ 1. ความคล่องแคล่ว (Fluency) และมีความเข้าใจ ธรรมชาติในการพูด 2. ความเข้าใจ (Comprehensibility) คือ ความสามารถที่จะพูดให้ผู้อ่ืนเข้าใจในสิ่งที่ผู้พูด สื่อสารออกมา Canale และ Swain (1980: 147) กล่าวว่า ความสามารถในการออกเสียง (Pronunciation) คำศัพท์ (Vocabulary) และหลักภาษาและไวยากรณ์ (Grammar) เป็นส่ิงสำคัญ ที่จะทาให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจ

6 ข้อความท่ีใช้ในการสื่อสารได้อย่างมีคุณภาพ (Quality of communication) องค์ประกอบเหล่าน้ีจะทำให้เกิด ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประโยคทีเ่ ชือ่ มโยงกัน 2.3 การวดั และประเมินความสามารถในการพดู เพื่อการสอ่ื สาร 2.3.1 วธิ ีการทดสอบความสามารถดา้ นการพูด การทดสอบความสามารถด้านการพูดเพื่อการสอ่ื สารนั้น Finocehiaro และ Sango (1983: 139-143) ได้เสนอวธิ กี ารทดสอบความสามารถทางดา้ นการพูดไว้ดังต่อไปนี้ 1. พูดประโยคสั้นๆ ตามผสู้ อน หรอื ตามที่ไดย้ ินจากเครือ่ งบันทกึ เสยี ง 2. ให้อ่านออกเสียงประโยคต่างๆ 3. ให้บรรยายวัตถุวัตถุท่ีใช้บรรยายขึ้นอยู่กบั ระดับของผู้เรียน ผเู้ รยี นอาจพูดถึงข้อมูลอื่นๆ ของวัตถุแต่มีข้อห้ามไม่ให้บอกช่ือวัตถุหรือสิ่งที่เห็น โดยให้ผู้ฟังเป็นผู้เดาว่าส่ิงที่ผู้พูดกล่าวถึงน้ันคืออะไร และ สามารถบรรยายภาพบคุ คล สถานที่ หรอื ส่ิงของอ่นื ๆ ได้ 4. ให้บรรยายเหตุการณ์โดยใชภ้ าพประกอบ 5. ให้พูดตามหัวข้อที่กำหนด โดยมีการกำหนดไว้หลายหัวข้อ และให้ผู้เรียนเลือกหัวข้อได้ ตามทตี่ ้องการ 6. ให้ผู้เรียนแสดงเป็นผู้สัมภาษณ์โดยให้หาข้อมูลให้ได้มากที่สุดจากผู้ถูกสัมภาษณ์แล้วทำ การจดบันทึกไว้การทดสอบความสามารถด้านการพูดเพื่อการส่ือสารน้ันสามารถทาได้หลายวิธีเช่น การสัมภาษณ์ การบรรยาย การเล่าเรื่อง การโต้วาทีหรือ การแสดงบทบาทสมมติจากสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีกำหนดให้จากวิธีการ ต่างๆ เหล่านี้ผู้สอนจะต้องเป็นผู้เลือกการทดสอบที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้เรียน เพื่อให้สอดคล้อง กับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของผู้สอนสำหรับการวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยเลือกทดสอบความสามารถ ในการพดู เพ่อื การสอ่ื สารจากแบบฝึกการสนทนาภาษาอังกฤษ 2.3.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถดา้ นการพดู การประเมินความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารต้องคำนึงถึง องค์ประกอบ ความสามารถด้านการพูด เพื่อวัดความรู้ความสามารถของผู้เรียนในหลายๆ ด้าน เช่นการพูด การออกเสียง ไวยากรณค์ าศัพทค์ วามเขา้ ใจและความคล่องแคล่วในการใช้ภาษา ซึ่งสามารถทำได้หลายวธิ ีโดยสามารถดาเนินการ ได้ตั้งแต่ข้ันก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน โดยให้สอดคลอ้ งกับเน้ือหาสาระท่ีผู้เรียนได้เรียนมาแล้ว ดังน้ัน ผู้เชย่ี วชาญหลายท่านได้ใช้องคป์ ระกอบดงั กล่าวข้างตน้ มาใชเ้ ปน็ เกณฑก์ ารประเมินวัดความสามารถ โดยแบ่งเป็น ระดับ ดังเช่น Harris (1990 : 84) กล่าวถึงเกณฑ์การประเมินผลความสามารถในการพูด โดยแบ่งเกณฑ์การให้ คะแนน 5 อย่างคือ การออกเสียง ไวยากรณ์คาศัพท์ความคล่องแคล่วในการใช้ภาษา และความเข้าใจ โดยแต่ละ เกณฑม์ ีการประเมนิ ผล 5 ระดับ ดังน้ี 1. การออกเสียง (Pronunciation) ระดับท่ี 1 มีปัญหาทางการออกเสยี งมาก จึงทำให้ไม่สามารถเข้าใจในสงิ่ ท่ีพูดได้เลย ระดบั ท่ี 2 มีปญั หาในการออกเสียงมาก ยากแก่การทำความเขา้ ใจในคำพูดได้ผู้ฟงั จะต้องถามซ้ำ ระดับท่ี 3 มปี ัญหาในการออกเสียงน้อย ผฟู้ งั จะตอ้ งตั้งใจฟงั จึงจะสามารถเข้าใจได้มีการออกเสียง ผดิ ทำให้ผฟู้ งั สับสนในบางครงั้ ระดับท่ี 4 ผพู้ ดู ออกเสยี งไดด้ แี ต่กม็ ปี ัญหาในการออกเสียงอยบู่ า้ ง แตผ่ ู้ฟังสามารถฟังเขา้ ใจในส่ิง

7 ทผ่ี ู้พดู ต้องการส่ือสาร ระดบั ที่ 5 ผพู้ ูดสามารถออกเสียงได้ดีเทียบเท่ากับเจ้าของภาษา 2. ไวยากรณ(์ Grammar) ระดบั ท่ี 1 ผ้พู ดู ไมส่ ามารถส่ือความหมายใหเ้ ข้าใจไดเ้ นื่องจากใช้ไวยากรณผ์ ดิ และเรียงลำดบั คำ ไม่ถกู ตอ้ ง ระดบั ที่ 2 ผู้พดู ใช้ไวยากรณง์ า่ ยๆ ได้แตม่ ักจะใช้ไวยากรณ์และการเรยี งลาดับคำผดิ บ่อย ๆ ทำให้ ฟังเขา้ ใจยาก ระดบั ที่ 3 ผู้พดู ใช้ไวยากรณผ์ ิดบอ่ ยคร้ัง จนทำใหเ้ ขา้ ใจความหมายของประโยคที่พูดผดิ ไป ระดับท่ี 4 ผ้พู ูดใช้ไวยากรณ์ผดิ อย่บู ้าง แตส่ อ่ื ความหมายได้ถกู ตอ้ ง ระดบั ที่ 5 ผู้พูดใชไ้ วยากรณต์ ลอดจนเรยี งลำดบั คำโดยมขี ้อผิดพลาดน้อยมาก และสามารถแกไ้ ข ข้อบกพร่องใหมไ่ ด้อยา่ งถูกต้อง 3. คำศพั ท(์ Vocabulary) ระดบั ที่ 1 ผู้พดู ไม่สามารถสอื่ ความหมายไดเ้ พราะไม่มคี วามร้ดู า้ นคำศัพท์ ระดบั ที่ 2 ผพู้ ูดใชค้ ำศัพทผ์ ดิ เนอื่ งจากมคี วามรดู้ ้านคาศพั ท์อย่างจำกดั ทาใหย้ ากแก่การทำความ เขา้ ใจความหมายของประโยคทีพ่ ดู ระยะท่ี 3 ผูพ้ ดู ใช้คำศัพท์ผิด ในประโยคทีใ่ ชใ้ นการสนทนา เนอ่ื งจากผพู้ ูดมีปญั หาในการคดิ หาคำ ศพั ท์มาใช้ในการสอื่ สาร ระยะท่ี 4 ผพู้ ดู ใช้คำศัพท์ไมถ่ กู ตอ้ ง และไม่เหมาะสมกบั สถานการณ์เปน็ บางครง้ั ระยะท่ี 5 ผู้พูดมีความสามารถในการใชค้ ำศัพทว์ ลแี ละสำนวนได้อยา่ งคล่องแคล่วเทยี บเทา่ เจ้าของภาษา 4. ความคล่องแคลว่ ในการใช้ภาษา (Fluency) ระดบั ที่ 1 ผพู้ ดู มกี ารหยุดเว้นช่องในการสนทนาเปน็ เวลานานมาก จึงทำให้การสนทนาไม่รเู้ ร่ือง ระดับที่ 2 ผู้พดู มกี ารหยดุ เว้นชอ่ งในการสนทนา บอ่ ยคร้ังเพราะมคี วามรู้จำกัดในการใช้ภาษา ระดบั ท่ี 3 ผู้พูดมีความคลอ่ งแคลว่ ในการพดู ไม่มากนกั เน่อื งจากตดิ ขดั เรือ่ งการใชภ้ าษา ระดับที่ 4 ผู้พดู มคี วามเร็วและความคล่องแคล่วในการพูด แตม่ ีการสะดดุ เปน็ บางครัง้ ระดับที่ 5 ผพู้ ดู มคี วามสามารถในการพูดอย่างคลอ่ งแคล่วเทยี บเท่าเจ้าของภาษา 5. ความเขา้ ใจ (Comprehension) ระดับท่ี 1 ผ้ฟู งั ไมส่ ามารถเขา้ ใจในสิง่ ทีผ่ ้พู ดู ส่อื สาร ผูพ้ ูดไมส่ ามารถพดู ภาษาอังกฤษเพื่อส่ือ ความหมายให้เขา้ ใจได้ ระดบั ท่ี 2 ผู้พดู ติดขดั ในการพูด มักจะพูดซ้ าๆ เน่ืองจากใช้เวลาในการหาคำพูด ระดับท่ี 3 ผพู้ ดู เข้าใจในส่ิงทต่ี นพูด และพดู สนทนาไดเ้ ป็นสว่ นมาก แตค่ อ่ นขา้ งชา้ ระดับท่ี 4 ผู้พูดสามารถพดู ใหผ้ ูฟ้ งั เข้าใจไดค้ รบถว้ น แตม่ กี ารพูดขอ้ ความซ้ำเปน็ บางครั้ง ระดับที่ 5 ผพู้ ดู สามารถสือ่ สารใหผ้ ูฟ้ งั เขา้ ใจไดท้ ้งั หมด โดยไม่มปี ญั หา สรุปได้ว่า จากข้อมูลดังกล่าวส่ิงที่ใช้ในการประเมินระดับภาษาที่ใช้ทักษะการพูดเพ่ือการสื่อสาร สามารถ ประเมินได้จาก การออกเสียงได้อย่างเหมาะสม การเลือกใช้คาศัพท์ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์การใช้

8 ไวยากรณ์ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มีความคลอ่ งแคล่วในการพูด และเกดิ ความเข้าใจในการส่ือสาร ระหว่างผูพ้ ูดและผ้ฟู งั ใน การวิจัยคร้ังน้ีผู้วิจัยได้ศึกษาเกณฑ์การประเมินผลความสามารถในการพูดของ Harris มาปรับใช้เพื่อให้เหมาะสม กบั การพัฒนาความสามารถในการพดู ภาษาอังกฤษโดยการใชแ้ บบฝึกบทสนทนาภาษาอังกฤษ 3. เอกสารเกีย่ วกับสอ่ื ยทู ปู ยูทูป จากการศึกษาของ (พัชรภรณ์ ไกรชุมพล, 2556) เร่ือง “ทัศนคติและพฤติกรรมการส่ือสารผ่าน เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการสร้างช่ือเสียง กรณีศึกษายูทูป (Youtube)” พบว่า ผู้คนส่วนใหญ่มีทัศนคติต่อยูทูป ในเชิงบวก โดยรู้สึกพึงพอใจและชื่นชอบการส่ือสารผ่านเครอื ข่ายสังคมออนไลน์ยูทูป เน่ืองจากมีพฤติกรรมการใช้ และมีการรบั รู้เข้าใจต่อยูทูปจึงส่งผลให้มีทัศนคติที่ดีอีกทั้งด้วยสภาพสงั คมที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับการ สอื่ สารผ่านเครือขา่ ยสังคมออนไลน์มากข้ึน สง่ ผลให้ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจเรยี นรู้และมีการยอมรับยูทูปเพ่ิม มากขน้ึ โดยคนส่วนใหญม่ คี วามคาดหวังตอ่ ยูทูป ว่าสามารถเป็นเครือ่ งมือทเี่ ออื้ ตอ่ ผลสำเร็จในดา้ นต่างๆ กลา่ วได้ ว่าสภาพสังคมและประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งในการส่งผลต่อทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อยูทูป และยังส่งผลให้มี ความกลา้ ท่ีจะแสดงออกมาในรูปแบบของพฤติกรรมมากข้ึน นอกจากนี้ งานวิจยั ของ (วราภรณว์ นา พทิ ักษ์, 2550) กล่าววา่ อนิ เทอร์เน็ตเป็นระบบการส่ือสารท่ีมีลักษณะความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่มมีการแพร่กระจายสูง รวมถึง ลักษณะข้ามพรมแดนและการควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตควรเป็นความร่วมมือของทุกฝ่าย และต้องมีมาตรการ จัดการการเผยแพร่เน้ือหาที่ไม่เหมาะสมบนอินเทอร์เน็ตเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชี วิต ของผู้คน ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารท่ีเจริญกา้ วหน้าส่งผลให้การรบั รู้ข้อมลู ข่าวสารของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในดา้ นของเทคโนโลยีกบั การสอื่ สารของผู้คนทมี่ ีความสัมพนั ธก์ ันอย่างมาก รูปแบบการสื่อสารจงึ ผา่ น เครือข่ายออนไลน์เกือบทั้งสิ้น สอดคล้องกับงานวิจัยของ (สุวิมล อังควานิช, 2552) ท่ีกล่าวว่า เมื่อสังคม เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและเพื่อก้าวให้ทนั ต่อความเปล่ยี นแปลง ทำให้คนในสังคมมปี ฏิสัมพันธด์ ้วยภาษาและ สัญลักษณ์ท่ีแตกต่างหลากหลายมากข้ึน ส่ืออินเทอร์เน็ตเป็นสถาบันทางสังคมสถาบันหนึ่งที่มีบทบาทในการขัด เกลาทางสังคม เป็นชอ่ งทางการสื่อสารทีม่ ีการเผยแพร่ข่าวในปัจจบุ ันและในอนาคต ซึ่งยทู ูปเป็นเทคโนโลยีหน่ึงที่มี ส่วนประกอบทั้งภาพเคล่ือนไหวและเสยี ง ซงึ่ เปน็ สือ่ ออนไลน์ทคี่ รบรูปแบบทีส่ ง่ ผลลัพทต์ อ่ สงั คมอย่างมาก 3.1 แนวคิดเกย่ี วกบั ยูทูบ จากการศึกษางานวิจยั ของ ศตพล จันทร์ณรงค์ (2558 อ้างใน อิศราวฒุ ิ กิจเจริญ, 2560) ท่ีกล่าวว่า ยูทูบ (YouTube) คือ เว็บไซต์โชเชียลมีเดีย (Social Media) ที่เป็นวิดีโอ ซึ่งมีเน้ือหาท่ีมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็น วิดีโอโฆษณา มิวสิควิดีโอ รายการโทรทัศน์ย้อนหลัง และคลิปวิดีโอจากบุคคลทั่วไป โดยคลิปวิดีโอท่ีเผยแพร่บน เว็บไซต์ยูทูบ (YouTube) ส่วนมากจะเป็นคลิปวิดีโอท่ีถ่ายทำโดยประชาชนท่ัวไป และอัพโหลดโดยมีการแบ่ง ประเภทและจัดอันดับคลิปโดยง่าย อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล (2555) กล่าวไว้ในหนังสือ Digital Commerce: Turn Buyers to Buyers: Turn Browsers to Buyers ว่า “ยูทูบ” ถือเป็นเสิร์ชเอนจินท่ีมีผู้ใช้งานจำนวนมาก และ ยูทูบได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างยูทูบชาแนลได้ พร้อมทั้งสามารถหารายไดจ้ ากวิดีโอท่ีผลิตก่อให้เกิดความ หลากหลายในเน้ือหาที่ช่วยตอบโจทย์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาอยู่กับโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก และดูวิดีโอ ออนไลน์มากกว่าทีวี ทำให้ยูทูบกลายเป็น The “Third Wave of Media” ต่อจากทีวี เน็ตเวิร์ค และเคเบิล เน็ตเวริ ์คแล้ว

9 3.2 ประเภทของวดิ ีโอยูทูบท่ีได้รบั ความนิยม มีเดียคิก (Mediakix, 2016) ผู้นำด้าน Influencer Marketing Agency ผู้เชื่อมต่อแบรนด์ระดับโลกกับ ผู้คนในโลกโซเชียลมีเดีย ทั้งในด้านการใช้ผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง (Influencer Marketing) และผู้ทรง อิทธิพลในยูทูบ (YouTube Influencers) รวมไปถึงเหล่าบล็อกเกอร์ท่ีมีสไตล์แตกต่าง จนกลายเป็นที่รู้จักใน โซเชียลมีเดยี ไดอ้ ธบิ ายความหมายของวดิ ีโอยอดนิยมที่มผี ใู้ ช้งานโซเชยี ลมเี ดยี ทว่ั โลกมากทส่ี ดุ 13 ประเภท ดงั น้ี 1) วิดโี อรวี วิ ผลิตภัณฑ์ (Product Reviews Videos) สำหรบั การรีววิ ผลิตภัณฑ์ ผ้ทู รงอิทธิพลในยู ทูบจะเป็นผู้ทำการทดลองใช้ผลิตภัณฑต์ ลอดจนน าผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบรกิ ารบอกต่อผู้ติดตาม ผู้ชม วิดีโอในยูทูบ เพราะผู้คนส่วนใหญ่มกั ใชย้ ูทบู ในการหาข้อมูลต่างๆ ดังนัน้ จึงทำให้วิดีโอทีเ่ กีย่ วกับการรีวิวผลติ ภัณฑ์ หรือบริการจะสามารถทำให้ผู้ชมเกิดการตัดสินใจตามผู้ทรงอิทธิพลได้มากขึ้นในกูเกลิ โน๊ต (Google Note) บอกว่า ผูบ้ ริโภคร้อยละ 62 จะดูรีวิววิดีโอสินคา้ ก่อนการตดั สนิ ใจซ้ือ และรอ้ ยละ 52 ของผู้ซ้ือสินค้า มักจะชอบซ้ือสินค้าที่ ไดร้ ับการรีวิวผ่านยทู ูบ 2) วิดีโอประเภทแนะน าวิธีการ (How-to Videos) โดยธรรมชาติของการเรียนรู้ วิดีโอในยูทูบจะ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้ทักษะพิเศษได้ เพราะเน้ือหาประเภทน้ีจะสามารถดูได้ตลอดเวลาวิดีโอท่ีแนะนำวิธีการ เกี่ยวกับความสวยงาม การท่องเท่ียว และยานยนต์ ของช่องรายการของยูทูบเบอร์ อ้างอิงจากผลสำรวจของ Google พบวา่ มีผคู้ ้นหาคีย์เวิร์ดเกี่ยวกบั วิดีโอแนะนำ เคลด็ ลับ เพ่มิ มากขนึ้ ร้อยละ 70 ในปตี ่อปี 3) วิดีโอประเภทไดอารี (Vlogs) วล็อค (Vlogs) หรือ วีดีโอวล็อค คือ การถ่ายทอดเรื่องราว เกีย่ วกบั ชวี ิตประจำวัน ทุกวัน ตามวิถีชีวิตของยูทูบเบอร์ ในขณะท่ีความถ่ีของการลงวิดีโอวล็อคอาจจะสามารถทำ ได้ทุกวัน ซ่ึงอาจจะเป็นการถ่ายทอดวิถีชีวิตปกติ หรือเร่ืองราวท่ีไม่ได้ต้ังใจให้เกิดรวมไปถึงการสร้างหัวข้อพิเศษ ใหมๆ่ ในการถา่ ยถอดลักษณะจะเหมือนรายการโทรทัศน์ ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมและสามารถดึงดูดผู้ชมได้หลาย ล้านคน และมกี ารติดตามอยา่ งสม่ำเสมอ เพ่ือรบั ชม \"วล็อคสว่ นตัว\" ทีพ่ วกเขาช่ืนชอบ 4) วิดีโอเก่ียวกับเกมส์ (Gaming Videos) ถ้าจะพูดถึงวิดีโอที่เกี่ยวกับเกมส์ในยูทูบ จะเป็น ลักษณะของความชอบแตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรม วิดีโอเกมส์จะรวมไปถึงการเล่นเกมส์ใหม่ เทคนิค การเล่น และการรีวิวประสบการทำเควสของเกมส์ต่างๆ ช่องรายการยูทูบประเภทเกมส์ถือเป็นหน่ึงช่องท่ีได้รับ ความนิยมเป็นอยา่ งมากในยูทูบ ประกอบกับยูทูบเบอร์ หรือผู้ทำวิดีโอเกยี่ วกับเกมส์ สามารถสร้างรายได้จากการมี ผตู้ ิดตามได้หลายล้าน และสามารถสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของผูบ้ ริโภคในระดบั สูงมากอกี ดว้ ย 5) วิดีโอประเภทตลก (Comedy/Skit Videos) วิดีโอตลกเป็นวิดีโออีกประเภทหนึ่งได้รับความ นยิ มและมีผู้สนใจรับชมเป็นจำนวนมากในยูทูบ จะเป็นการท าวดิ โี อในลกั ษณะของการนำเสนอสรา้ งสรรค์เนอ้ื หาที่ มีความสนุกสนาน ซ่ึงยูทูบเบอร์ท่ีทำวิดีโอประเภทตลก และสามารถสร้างยอดผู้ติดตามได้เป็นหลักล้าน สามารถ กลายเปน็ ผูท้ มี่ ชี ือ่ เสียงและมีคนรู้จกั มากกวา่ ดาราเสยี อีก 6) วดิ ีโออวดของ (Haul Videos) วิดีโอเป็นเภทนี้จะเปน็ วดิ ีโอที่ยูทูบเบอร์จะทำการโชว์ผลติ ภัณฑ์ ส่วนใหญ่เป็น เครื่องสำอาง เส้ือผ้า หรือของใช้ภายในบ้าน หรือเป็นการโชว์ของหลังจากการชอปปิงก็ได้ โดย ธรรมชาติของวิดีโออวดของหรือผลิตภัณฑ์จะเลือกส่ิงท่ีอวดเป็นสิ่งท่ีพิเศษ เป็นของแบรนด์เนม รวมไปถึงจะเกี่ยว โยงไปถึงการถูกจ้างเพ่ือโฆษณาด้วย เพราะว่ายูทูบเบอร์ หรือผู้นำเสนอ จะทำการออกแบบวิธีการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์ให้มีความต่ืนเต้นมากขึ้น มีการให้ข้อมูลกับผู้ชม มีการใช้อ้างอิงถึงเทรนด์ กระแสความนิยมด้วย วิดีโอ

10 อวดของกลายเปน็ วิดีโอทน่ี ิยมใชก้ ับช่องรายการความงาม แฟชัน และไลฟส์ ไตล์ รวมไปถึงผูใ้ ชม้ ักเป็นผทู้ รงอิทธพิ ล หรือแบรนด์ตา่ งๆ 7) วิดีโอมีม (MEMS/TAGS Videos) การทำวดิ ีโอมุกขำขัน โดยการหยบิ เอาสิ่งที่กำลังเป็นกระแส ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองที่เก่ียวกับคน ส่ิงของ การ์ตูน ภาพยนต์ หรือเร่ืองบางอย่างที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสังคม อนิ เทอรเ์ น็ตมาทำเป็นวดิ ีโอให้กลายเป็นท่ีนิยมในยทู ูบ อินสตาแกรม หรือเฟซบุ๊กเป็นท่ีนิยมในโซเชียลมเี ดีย ทำให้ เกดิ กระแสบอกตอ่ จากชอ่ งทางโซเชียลหนงึ่ ไปอกี โซเชียลหนงึ่ หรอื หลายโซเชียลสำหรับในยูทบู วดิ โี อมีมมักถกู ผลิต จากยูทูบเบอร์ที่เป็นผู้สร้างสรรค์ด้านการผลิตวิดีโอด้วยตัวเอง โดยอาจมีการสร้างให้เกิด คำส้ันๆ (tag) หรือช่ือ วิดโี อ ทสี่ ร้างใหเ้ กดิ ความนยิ ม 8) วิดีโอประเภทให้คำปรึกษา (Favorites/Best Of) วิดีโอประเภทนี้จะแตกต่างจากวิดีโอ ประเภทรีวิว หรืออวดของ เพราะวิดีโอประเภทนี้จะ เป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ชอบ หรือดีจริง ๆ เพื่อแบ่งปัน ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ประสบการณ์การใช้ให้กับผู้ติดตามเท่าน้ัน หลายคนปรับเปล่ียนสไตล์ของตนเองเพ่ือนให้ กลายเป็นยูทูบเบอร์ หรือคนรู้จักในยูทูบ เพ่ือที่จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการควบคุมกระ บวกการตัดสินใจซื้อเลยทีเดยี ว อาทเิ ช่น อะไรทค่ี วรใส่ สถานที่ที่ควรไปในวันหยุด ซึง่ คำแนะนำตา่ งๆ สามารถสร้าง ให้ผชู้ มหรอื ผ้ตู ดิ ตามเกิดความไว้วางใจและทำตามได้ 9) วิดีโอเก่ียวกับการศึกษา (Educational Videos) วิดีโอเกี่ยวกับการศึกษาจะเน้นการให้ข้อมูล การกระตุ้นความสนใจ รวมไปถึงวีดีโอแนวบันเทิง โดยวิดีโอเหล่านี้จะมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะซ่ึงอาจเป็นเด็กเล็ก หรือกลุ่มนักเรียน เนื่องจากวิดีโอเกี่ยวกับการศึกษาในยูทูบจะสามารถเก็บข้อมูลต่างๆ อาทิเช่น คำถาม คำตอบ หรือหวั ข้อท่ตี ้องมีการอธิบาย เน้ือหาประเภทนจ้ี ะมีผู้ใชง้ านเข้าชมในจำนวนทมี่ าก และมกี ารใชง้ านแบบซ้ำไปมา 10) วิดีโอแกะกล่องของใหม่ (Unboxing Videos) เป็นวิดีโอที่ถูกสร้างสรรค์วิธีการนำเสนอของ ยทู ูบเบอร์แต่ละคน เพ่ือสร้างใหเ้ ห็นถึงความตื่นเต้น ในขณะเปิดกล่องผลติ ภัณฑใ์ หม่เป็นครั้งแรกโดยท่ีผู้ตดิ ตามจะ ร้สู ึกมีประสบการณ์ร่วมกับผลิตภัณฑ์ใหม่น้ันด้วย ปัจจุบันกลายเป็นปรากฎการทางวัฒนธรรมไปแล้ว ท่ีวิดีโอแกะ กล่องใหม่ในยูทูบจะสามารถท าให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวมเร็วและกลายเป็นช่องทางท่ีแบรนด์ต่างๆ จะ สามารถสร้างการรับรู้ และความชดั เจนเก่ียวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใหมๆ่ สู่กลุ่มผบู้ รโิ ภคอีกชอ่ งทางหนง่ึ 11) วิดีโอประเภทถาม-ตอบ (Q&A Videos) วิดีโอประเภทถาม-ตอบจะสร้างให้ผ้ชู มหรือผู้ติดตาม ได้มีส่วนร่วมในวิดีโอโดยยูทูบเบอร์จะเป็นผู้สร้างคำถามในวิดีโอ และผู้ชมหรือผู้ติดตามก็จะสามารถตอบคำตอบ ของตนได้ที่ช่องใต้วิดีโอ การเข้าถึงที่แสนจะยากสำหรับผู้มีช่ือเสียงหรือดาราในยุคเดิม ๆ (Traditional Celebrities) ทำให้เข้าถึงยาก แต่ยูทูบเบอร์ในยุคปัจจุบันท่ีมีจำนวนผู้ติดตามสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชม และผู้ติดตามได้โดยตรง วิดีโอประเภทถาม-ตอบ จะเข้ามารองรับด้านการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มผู้ชม ผู้ติดตามใน โซเชียลมีเดียร์ไดเ้ ป็นอยา่ งดี 12) วิดีโอของสะสม (Collection Videos) ในวิดีโอประเภทของสะสม ยูทูบเบอร์จะนำเสนอของ สะสมที่สะสมมาเป็นเวลานาให้กับผู้ชม หรือผู้ติดตามได้ดู ซ่ึงของสะสมนั้นอาจจะเป็นกลุ่มเครื่องสำอางค์ อุปกรณ์ เทคโนโลยีหรืออาจเปน็ ผลิตภณั ฑภ์ ายในบา้ น หรอื เสื้อผา้ ก็ได้ แม้ว่าในยูทบู จะมีวดี โี อประเภทของสะสมจำนวนมาก เหมือนกับวิดีโอประเภทรวี วิ ก็ตาม แตว่ ิดีโอประเภทของสะสมจะเนน้ การนำเสนอเน้อื หาที่แสดงให้ผตู้ ิดตาม ไดเ้ ห็น ถึงความชอบทแี่ ท้จรงิ ของยูทบู เบอร์มากกว่า

11 13) วิดีโอเล่นพิเรนทร์ (Prank Videos) วิดีโอประเภทน้ีมีลักษณะคล้ายกับวิดีโอแกล้งคนใน โทรทัศน์สมัยก่อน โดยวิดีโอเล่นพิเรนทร์ในยูทูบจะเน้นนำเสนอเรื่องตลก และการเล่นกับคนในสังคมโดยอาจจะ เป็นการหยอกล้อเพ่ือน คนในครอบครัว หรือคนท่ไี ม่รู้จัก วดิ ีโอเลน่ พิเรนทร์กลายเป็นท่ีนิยมในปัจจุบันมียูทูบเบอร์ หลายคนท่ีทำวิดีโอประเภทน้ีและมีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยเน้ือหาวิดีโอเหล่าน้ีเน้นการเข้าถึงผู้ชมเพื่อต้องการ ยอดกดถูกใจ (like) และบอกต่อ (share) 3.3 ประโยชน์และขอ้ จำกดั การประยุกตใ์ ชง้ าน YouTube เพื่อการเรยี นการสอน YouTube เป็นเว็บไซต์ท่ีให้บริการแลกเปลย่ี นภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี โดยนำเทคโนโลยีของ Adobe Flash มาใช้ในการแสดงภาพวดิ ีโอ ซ่ึงยูทูบมีนโนบายไม่ใหอ้ ัปโหลดคลปิ ที่มีภาพโป๊เปลอื ยและคลปิ ทม่ี ีลขิ สิทธิ์ นอก เสยี จากเจ้าของลิขสิทธิ์ได้อัปโหลดเองเมื่อสมัครสมาชกิ แล้วผู้ใช้จะสามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป แบ่งปันภาพวดิ ีโอให้ คนอื่นดูด้วยแต่หากไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ ใส่ไว้ใน YouTube ได้แม้จะ ก่อตั้งได้เพียงไม่นาน YouTube (ก่อตั้งข้ึนเม่ือเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2005) YouTube เติบโตอย่างรวดเร็วมาก เป็นท่ีรู้จักกันแพร่หลายและได้รับความนิยมท่ัวโลก ต่อมาปีค.ศ.2006 กูเก้ิลซ้ือยูทูบ ตอนนี้ยูทูบจึงกลายเป็นส่วน หนึ่งของกูเกิ้ลแล้ว แต่ด้วยตวั ยทู บู เองทมี่ เี น้ือหามากมายเป็นแสนชนิ้ ท้งั สื่อและเคร่อื งมือการเรียนรู้ดีๆท่สี ามารถใช้ เป็นสื่อการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสื่อประเภทท่ีสุ่มเสี่ยง และทำให้เด็กและเยาวชน ไขว้เขวไปได้ ท้ังจากมิวสิควีดีโอการ์ตูน และไม่ได้ใช้เป็นช่องทางเพื่อการเรียนรู้สึกทีเดียว จึงเป็นที่มาของการเปิด หน้าการศึกษาล่าสุดเของยูทูบข้ึนท่ีเรียกว่า“ยูทูบสำหรับโรงเรียน”หรือ (YouTube for Schools) เป็นช่อง ทางการเรียนรู้ที่จัดตั้งข้ึน โดยจะมีเนื้อแต่เร่ืองการศึกษาแต่เพียงอย่างเดียว โดยได้ร่วมมือกับภาคีด้านการศึกษา กว่า600แห่งเช่น TED, Smithsonian เว็บไซด์ชื่อดังเรื่องท่ีได้รวบรวมแหล่งเรียนรู้และนิทรรศการต่าง ๆ เอาไว้ Steve Spangler แหล่งผลิตเกมและของเล่นเพ่ือการพัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์ หรือ Numberphile ที่สอน คณติ ศาสตรอ์ อนไลน์ เป็นต้น นอกจากน้ีเพ่ือให้งา่ ยต่อการค้นหา ยทู ูบไดท้ ำงานร่วมกับครูในการจัดแบง่ เนอื้ หากว่า 300 ชนิ้ ออกเปน็ รายวิชา และระดบั ชัน้ โดยส่ือเหล่าน้ียูทบู เช่อื ว่าจะช่วยเสริมการเรยี นรใู้ นห้องเรียนได้เป็นอย่างดี ทำใหห้ อ้ งเรียนสนุกสนานขึน้ และเด็ก ๆ ก็จะตัง้ ใจเรยี นมากย่งิ ขน้ึ 3.4 ประโยชน์ของ YouTube สำหรับโรงเรียน 1. กวา้ งขวางครอบคลุม YouTube สำหรับโรงเรียนเปดิ โอกาสให้โรงเรียนต่าง ๆ เข้าถงึ วิดโี อเพื่อ การศึกษาฟรีนับแสนรายการจาก YouTube EDU วิดีโอเหล่านี้มาจากองค์กรที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ เช่น Stanford, PBS และ TED รวมทั้งจากพันธมติ รท่กี ำลงั ไดร้ ับความนิยมของ YouTube ซึ่งมียอดผู้ชมนับล้าน ๆ คน เชน่ Khan Academy, Steve Spangler Science และ Numberphile 2. ปรับแก้ได้สามารถกำหนดค่าเน้ือหาที่ดูได้ในโรงเรียนของคุณ โรงเรียนทั้งหมดจะได้รับสิทธ์ิ เข้าถึงเน้ือหา YouTube EDU ท้ังหมด แต่ครูและผู้ดูแลระบบอาจสร้างเพลย์ลิสต์วิดีโอที่ดูได้เฉพาะในเครือข่าย ของโรงเรียนเทา่ นนั้ ได้เช่นกนั 3. เหมาะสมสำหรับโรงเรียนผู้บริหารโรงเรียนและครูสามารถลงช่ือเข้าใช้และดูวิดีโอใด ๆ ก็ได้ แต่นักเรียนจะไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้และจะดูได้เฉพาะวิดีโอ YouTube EDU และวิดีโอที่โรงเรียนได้เพิ่มเข้าไป เท่านั้น ความคิดเห็นและวิดีโอที่เกี่ยวข้องท้ังหมดจะถูกปิดใช้งานและการค้นหาจะจำกัดเฉพาะวิดีโอ YouTube EDU เทา่ นนั้

12 4. เป็นมิตรกับครู YouTube.com/ Teachers มีเพลย์ลิสต์วิดีโอนับร้อยรายการที่ได้มาตรฐาน การศึกษาท่ัวไป และจัดระเบียบตามหัวเร่ืองและระดับช้ัน เพลย์ลิสต์เหล่าน้ีสร้างขึ้นโดยครูเพื่อเพ่ือนครูด้วยกัน ดังนนั้ คณุ จึงมีเวลาในการสอนมากขึ้นและใชเ้ วลาคน้ หานอ้ ยลง 3.5 ขอ้ จำกดั 1.อาจมกี ารละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ 2.อาจมกี ารกระทำท่ไี ม่ดี (โพสตเ์ มื่อ 3rd February 2014 โดย สัมมนาออนไลน์ หวั ข้อ “สือ่ สังคมออนไลนก์ ับการเรียนการสอน”)

13 บทที่ 3 วธิ ีดำเนินการวิจัย 1. กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 42 คน ไดม้ าโดยการสุม่ แบบเจาะจง 2. ขัน้ ตอนการดำเนินการวิจยั 1. ศึกษาเอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ียวข้อง 2. ออกแบบเคร่อื งมอื 3. สร้างเคร่อื งมอื ในการวจิ ยั 4. ตรวจสอบความถกู ต้อง เหมาะสม 5. เก็บรวบรวมขอ้ มูล 6. วิเคราะห์ขอ้ มลู 3. แบบแผนการวจิ ยั การวจิ ัยก่ึงทดลองแบบกล่มุ เดยี ว วัดกอ่ น-หลัง 4. เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการวจิ ัย เครือ่ งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ัยครั้งนปี้ ระกอบด้วย 1. การใช้บทสนทนาในชีวิตประจำวนั จากยูทูปชอ่ ง VOA Learning English เนอ้ื หาทบี่ ทสนทนาจากยูทูป ชอ่ ง VOA Learning English ท้ังหมด 6 Lessons ดังน้ี Lesson 7: What are you doing? Lesson 8: Are you busy? Lesson 9: Is it Cold? Lesson 10: Come Over to My Place Lesson 11: This is my Neighborhood. Lesson 12: Meet my family 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ซ่ึงมีลักษณะเป็นแบบประเมินการพูดจากการสังเกต โดยประเมิน การออกเสียง ความคล่องแคล่วในการพูด และ ความถูกต้องของการพูด โดยมีหลักเกณฑ์ให้คะแนน แบง่ ออกเปน็ 4 ระดับ คือ ดีมาก ดี พอใช้ น้อย 5. การสร้างเครื่องมอื การวจิ ยั 1. การคัดเลือกช่องยทู ปู เพอ่ื การพฒั นาทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ 1.1 ศกึ ษาเนื้อหาจากชอ่ งต่าง ๆ ในยทู ปู เพอ่ื เลอื กใชเ้ ปน็ ส่อื ในการพฒั นาทักษะ 1.2 เล่อื กเนอ้ื หาจากยูทูปชอ่ ง VOA Learning English ทัง้ หมด 6 Lessons ดงั น้ี

14 Lesson 7: What are you doing? Lesson 8: Are you busy? Lesson 9: Is it Cold? Lesson 10: Come Over to My Place Lesson 11: This is my Neighborhood. Lesson 12: Meet my family 2. การสรา้ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมพดู ภาษาอังกฤษเพอื่ การสื่อสาร 2.1 ศึกษาเอกสารเกี่ยวกบั แบบสังเกตพฤติกรรมเพ่ือการส่อื สาร 2.2 สร้างแบบสังเกตพฤติกรรมการพูดภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ซ่ึงมีลักษณะเป็นแบบ ประเมินการพูดจากการสังเกต โดยประเมิน การออกเสียง ความคล่องแคล่วในการพูด และ ความถูกต้องของการ พดู โดยมีหลกั เกณฑ์ใหค้ ะแนนแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ 4 หมายถึง ดีมาก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง ปานกลาง 1 หมายถงึ นอ้ ย 6. การรวบรวมขอ้ มูล ข้นั ตอนในการเก็บรวบรวมขอ้ มูลมีดงั นี้ 1. นำเน้ือหาจากบทสนทนาในยูทูปช่อง VOA Learning English ให้นักเรียนฝึกพูดเพ่ือประเมินการพูด สอื่ สารภาษาอังกฤษก่อนการเรยี น โดยผู้สอนทำการบนั ทึกการพูดลงในแบบสังเกตพฤตกิ รรมการพูด 2. หลังจากที่เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาจากยูทูปช่อง VOA Learning English ทั้งหมด 6 Lesson แล้ว ครูผู้สอนทำการวัดผลการฝึกทักษะหลังเรียน เพื่อนำผลที่ได้มาหาผลต่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนจาก แบบประเมนิ ก่อนเรียนและหลังเรียน 7. การวิเคราะห์ขอ้ มลู 1. คำนวณหาค่าเฉลี่ยจากแบบฝึกบทสนทนาภาษาอังกฤษของนักเรียนในกลุ่มตัวอย่าง ทั้งก่อนและหลัง การทดลองเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการพัฒนาการพูดภาษาอังกฤษเพื่อส่ือสารของ นักเรียนก่อนและ หลังการทดลองจากแบบฝึกบทสนทนาภาษาอังกฤษโดยใชก้ ารทดสอบ 2. นำข้อมูลที่ได้จากการประเมินการพัฒนาการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษของนักเรียนมาวิเคราะห์โดยสรุป เปน็ ความเรยี ง 8. สถติ ทิ ใี่ ช้ในกำรวเิ คราะห์ข้อมลู สถติ ิทีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในการวิจัยคร้ังน้ี ประกอบดว้ ย 1. การหารคา่ เฉลีย่ (Mean) = X N เมือ่ X = คะแนนท่ีได้ N = จำนวนนักเรยี นท้งั หมด = ผลรวมของคะแนนท้งั หมด

15 บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลของงานวิจัยในคร้ังน้ี เป็นการนำเสนอผลการใช้กิจกรรมการพูดเพื่อ การพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป ของนักเรียนชั้น มธั ยมศึกษาปีท่ี 1/4 โดยทดลองจากกล่มุ ตวั อย่างจำนวน 42 คน สญั ลกั ษณ์ท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ หมายถึง คะแนนท่ีได้ เมื่อ X = จำนวนนกั เรยี นท้งั หมด N = ผลรวมของคะแนนทัง้ หมด 4.1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลคะแนนของนกั เรยี นก่อนและหลงั การทดลอง ข้อมลู คะแนนนกั เรยี นแต่ละคนก่อนและหลังการทดลองได้นาเสนอในตารางที่ 4.1 ดงั นี้ ตารางที่ 4.1 แสดงผลคะแนนจากการประเมินทกั ษะการพดู ทงั้ 2 คร้งั คะแนนเต็มคร้งั ละ 20 ลำดับ ชัน้ ชอื่ -นามสกุล ทดสอบ ทดสอบ ผลตา่ ง ก่อนเรยี น หลังเรยี น 1 1/4 เดก็ ชายกฤษณะ ครี นี อ้ ย 4 2 1/4 เด็กชายกติ ติกร ประชมุ รัตน์ 12 16 5 3 1/4 เดก็ ชายเฉลิมเดช จุลมัย 6 11 2 4 1/4 เดก็ ชายชยกร เเซฟ่ ุ้ง 12 14 5 5 1/4 เดก็ ชายธนดล นิลนอ้ ย 10 15 4 6 1/4 เด็กชายธีระวฒั น์ เทียนนอ้ ย 6 10 4 7 1/4 เดก็ ชายนนั ทยศ ชยั รัตนารมย์ 8 12 7 8 1/4 เด็กชายปกรณ์ พรหมจรรย์ 6 13 5 9 1/4 เด็กชายภฒั นพงศ์ ทองผุด 7 12 5 10 1/4 เด็กชายภูรินท์ กล้าหาญ 4 9 7 11 1/4 เดก็ ชายเมธสั ศิรเิ รอื ง 11 18 4 12 1/4 เดก็ ชายเมธสั อินทรด์ ำ 6 10 5 13 1/4 เด็กชายรัชชานนท์ ปานสมุทร 5 10 5 14 1/4 เด็กชายศรญั ญู เข็มทอง 12 17 4 15 1/4 เดก็ ชายศรายุธ ปลกั ปลา 14 18 5 16 1/4 เด็กชายศุทธิรักษ์ รุม่ จิตร 4 9 6 7 13

16 ลำดับ ช้นั ชื่อ-นามสกุล ทดสอบ ทดสอบ ผลต่าง กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น 17 1/4 เด็กชายศภุ ณฐั ชนะสัตย์ 9 14 5 18 1/4 เด็กชายสวภัทร คมุ้ ภัย 12 16 4 19 1/4 เด็กชายสิทธิโชค ทองเทพ 693 20 1/4 เด็กชายสทิ ธนิ นท์ ชำนาญกจิ 6 11 5 21 1/4 เดก็ ชายสีหราช รกั ตรง 13 18 5 22 1/4 เดก็ ชายสุชาพงศ์ ใหม่แกว้ 12 17 5 23 1/4 เด็กชายสุรศักดิ์ กล่อมทอง 6 10 4 24 1/4 เด็กชายอคั รพนธ์ ไทยภักดี 484 25 1/4 เดก็ ชายเอกอาทิตย์ วิชติ เช้ือ 6 11 5 26 1/4 เดก็ หญิงจริ าพรรณ คชไกร 9 15 6 27 1/4 เดก็ หญิงชญาภา เทียนชยั 13 19 6 28 1/4 เด็กหญงิ ชนากานต์ สาระยาน 11 15 4 29 1/4 เด็กหญิงณัฏฐณชิ า ดสี ดุ จิตร 12 18 6 30 1/4 เด็กหญิงณัฐณิชา วงั ฉาย 15 19 4 31 1/4 เดก็ หญิงณชิ านนั ท์ นิ่มรกั ษ์ 10 16 6 32 1/4 เดก็ หญงิ ทตั พชิ ชา วชิ ัยดษิ ฐ 11 17 6 33 1/4 เดก็ หญงิ ธนัญญา บวั แกว้ 12 18 6 34 1/4 เด็กหญิงนนั ทน์ ภสั จติ ราภิรมย์ 11 16 5 35 1/4 เด็กหญงิ พมิ พิศา สระกอบแกว้ 8 13 5 36 1/4 เดก็ หญงิ มัญชภุ า พระสว่าง 13 18 5 37 1/4 เดก็ หญิงมีสุข คีรีมา 9 15 6 38 1/4 เดก็ หญิงวรัทญา เคลือบสุวรรณ 12 17 5 39 1/4 เด็กหญิงสิริยาพร ทองเกิด 10 16 6 40 1/4 เด็กหญิงสุนษิ า จนั ทร์ชัย 682 41 1/4 เด็กหญิงหรินทิพย์ ทพิ ยบ์ รรพต 12 18 6 42 1/4 เด็กหญงิ อรอมล สริ สิ มบรู ณ์ 7 13 6 ค่าเฉล่ีย 9.17 14.10 4.93 จากตารางท่ี 4.1 พบว่า คะแนนค่าเฉลี่ยก่อนเรียนของจำนวนนักเรียนทั้งหมด คือ 9.17 คะแนนค่าเฉล่ีย หลังเรียนของจำนวนนักเรยี นท้ังหมดคือ 14.10 มผี ลตา่ งคา่ เฉล่ียของคะแนนก่อนเรยี นและหลังเรยี นอยู่ที่ 4.93

17 บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเพื่อการพัฒนาทกั ษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนา จากยทู ูป ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1/4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 โดยมีรายละเอียดดังน้ี 1. สรุปผลการวิจยั 1. กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/4 เรียนรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด รหัส อ 20213 จำนวนทง้ั ส้นิ 42 คน พบว่ามีภาพรวมผลการประเมินการพูดสือ่ สารภาษาอังกฤษก่อนเรียนมรี ะดับคะแนนเฉล่ียอยู่ ท่ี 9.17 โดยมีนักเรียนที่ได้คะแนนสูงที่สุดก่อนเรียนจำนวน 1 คน คือ เด็กหญิงณัฐณิชา วังฉาย ซึ่งได้คะแนน 15 เต็ม 20 ค่าเฉล่ียคะแนนหลังเรียนมีระดับคะแนนเฉล่ียอยู่ท่ี 14.10 โดยมีนักเรียนท่ีได้คะแนนสูงท่ีสุดหลังเรียน จำนวน 1 คน คือ เด็กหญิงชญาภา เทียนชัย ซ่ึงได้คะแนน 19 เต็ม 20 ผลต่างของค่าคะแนนเฉลี่ยท้ัง 2 ครั้ง คือ 4.93 2. ผลการทดสอบสมมุติฐาน ปรากฏว่า ทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่า ความสามารถดังกล่าวก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 4.93 ดังน้ันจึงสรุปได้ว่า นักเรียนมีพัฒนาการ ความสามารถด้านการพดู ส่ือสารภาษาอังกฤษหลังการใช้กิจกรรมการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษในชวี ิตประจำวันโดย ใช้บทสนทนาจากยูทปู สูงกวา่ กอ่ นการทดลองอยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิติที่ 4.93 2. การอภปิ รายผล นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1/4 เรียนรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด รหัสวิชา อ20212 จำนวนทั้งสิ้น 42 คน ท่ใี ชก้ จิ กรรมฝึกทักษะการพูดภาษาองั กฤษในชวี ิตประจำวันโดยใชบ้ ทสนทนาจากยทู ูป มีความสามารถหลังการ เรียนสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 4.93 ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวมีประเด็นที่สามารถนามา อภิปรายไดด้ ังนี้ 1. กิจกรรมการพูดเพ่ือการส่ือสารมีความหลากหลาย เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใช้ภาษาในสถานการณ์ ต่างๆ ท่ีคล้ายคลึงกับประสบการณ์ในชีวิตจริง ในการวิจัยครั้งน้ีผู้วิจัยได้เลือกรูปแบบภาษาท่ีสมจริงในการส่ือสาร สถานการณต์ า่ งๆ รวม 6 Lessons ไดแ้ ก่ Lesson 7: What are you doing? Lesson 8: Are you busy? Lesson 9: Is it Cold? Lesson 10: Come Over to My Place Lesson 11: This is my Neighborhood. Lesson 12: Meet my family ซง่ึ แต่ละบทเป็นเหตุการณ์ที่นักเรียนมคี วามคุ้นเคยในชีวติ ประจำวัน และอาจเคยมีประสบการณ์แต่ละกจิ กรรมเปิด โอกาสให้นักเรียนได้ฝึกการใช้ทักษะการพูดสือ่ สารภาษาอังกฤษเพ่ือนในชั้นเรยี น และนำความรู้ท่ีได้ไปประยกุ ต์ใช้ ในสถานการณ์จริง จากการทดสอบของนักเรียนพบว่า ก่อนเรียนนักเรียนสามารถพูดสื่อสาร ที่ระดับคะแนน ค่าเฉลีย่ 9.17 หลังเรยี นพบว่า นกั เรียนสามารถสื่อสารในกิจกรรมการพดู ภาษาอังกฤษได้อยา่ งคล่องแคล่วขึ้น ผล

18 การศึกษาพบว่า นักเรียนมีพัฒนาการสูงข้ึนอยู่ในระดับค่าเฉล่ีย 14.10 ซึ่งมีความแตกต่างกันอยู่ท่ีค่าเฉล่ียอยู่ที่ 4.93 สอดคล้องกับ Harmer (1983 : 44-45) ที่กล่าวว่า ในการจัดกิจกรรมเพื่อการส่ือสาร ครูผู้สอนควรจัด กิจกรรมท่ีทาให้นักเรียนเห็นความสำคัญในการใช้ภาษานอกจากน้ีผลงานวิจัยของ กุสุมา ล่านุ้ย (2532: 22) ได้ กล่าวสนับสนุนว่า กจิ กรรมที่ดีจะตอ้ งน่าสนใจและเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน โดยไม่ง่ายและยากเกินไป เพราะจะ ทาใหไ้ มป่ ระสบผลสำเร็จเกดิ ความเบื่อและความท้อแท้ดังนน้ั กจิ กรรมท่ใี ช้จงึ ควรเปน็ กิจกรรมทเ่ี ปิดโอกาสให้ผู้เรียน ได้ใช้ภาษาในการส่ือสารมากท่ีสดุ ซ่งึ จะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจ และสง่ ผลให้ผเู้ รยี นกลา้ คดิ กล้าทา ตลอดจนกล้าแสดงออก 2. กิจกรรมการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป เป็นกิจกรรมท่ี น่าสนใจ เนื่องจากเป็นแบบฝึกการสนทนาท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน และการใช้สื่อจากยูทูป ทำให้ นักเรียนได้เห็นลักษณะ ท่าทางการพูด การออกเสียง พร้อมทั้งมีการฝึกให้พูดท้ังช้า และเร็ว ทำให้ผู้เรียนมีความ กระตือรอื ร้น ตั้งใจทำกิจกรรม สง่ ผลให้การเรียนร้เู ปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกท้ังกอ่ ให้เกดิ ความเช่ือมั่นในขณะ ปฏิบัติกิจกรรม โดยพบว่า ผลหลังการทดลองนักเรียนสามารถสื่อสารได้ดี และสอดคล้องกับ Nolasco and Arthur.( 1987:15-21) ท่ีกล่าวว่า การจัดกิจกรรมควรเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกด้านทัศนคติ ความรู้สึก และอารมณ์ดว้ ยตนเอง มิใช่ถูกบังคับให้ทำ นอกจากน้ียังมีผลจากงานวิจัยของ อุมาพร ภูพานเพชร (2547:54) ได้ สนับสนุนว่าบรรยากาศที่เป็นกันเองทำให้นักเรียนไม่รู้สึกกดดัน หรือ เครียด ไม่กลัวครูการปฏิสัมพันธ์ภายใน ห้องเรียนเป็นไปด้วยดีการที่นักเรียนร่วมกันทากิจกรรมทาให้รู้สึกว่าตนเองไม่รู้สึกว่าถูกสอน จึงทำให้เกิด บรรยากาศท่เี ปน็ กนั เองสนกุ สนานและไมเ่ ครยี ด 3. กิจกรรมการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป ในทุกบทเรียนบท สนทนาภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร มีการกำหนดเป้าหมายในการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอย่าง ชัดเจน รวมท้ังมีการทบทวนโครงสร้างของหน้าที่ทางภาษาก่อนทำกิจกรรม โดยก่อนทำกิจกรรมผู้วิจัยได้อธิบาย ขนั้ ตอนการทำกิจกรรม กำหนดเป้าหมายการพูด รวมท้งั ซักถามในแต่ละครั้งเพื่อใหแ้ น่ใจวา่ นกั เรียนเข้าใจข้ันตอน และเป้าหมายของการทำกิจกรรม ทำให้นักเรียนนักเรียนสามารถปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างถูกต้องบรรลุเป้าหมาย ของแตล่ ะแบบฝกึ การสนทนา ข้อเสนอแนะ 1.1 ขอ้ เสนอแนะท่ัวไป 1.1.1 ครูผู้สอนควรอธิบายขั้นตอนการทำกิจกรรมอย่างละเอียด และสอบถามความเข้าใจของ นักเรียนกอ่ นดำเนนิ กจิ กรรม เพื่อใหก้ ารปฏบิ ตั ิกิจกรรมเป็นไปดว้ ยความราบร่ืน 1.1.2 ครูผู้สอนควรเลือกหัวข้อการสอนท่ีอยู่ในความสนใจของเรียน ซึ่งสามารถได้มาจาก แบบสอบถาม การสัมภาษณ์หรอื การพูดคุย 1.1.3 ครผู ู้สอนควรเตรียมสอื่ การสอนท่ีหลากหลาย ที่จำเปน็ ต้องใช้ในการทำกจิ กรรมการพูดเพ่ือ การส่อื สารให้เหมาะสมกับกิจกรรมนัน้ ๆ เพอื่ ให้นกั เรยี นจะทำความเขา้ ใจโดยง่ายและรวดเร็ว 1.1.4 สำหรับนักเรียนท่ีพูดไม่คล่อง ครูอาจต้องใช้การสอนเสริมหรือให้นักเรียนฝึกเพิ่มเติมนอก เวลาเรียนก่อนการทำกิจกรรมการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ จะทำให้นักเรียนไม่เครียด และสนุกกับการพัฒนา ตนเอง

19 1.2 ข้อเสนอแนะในการทำวจิ ัยครั้งตอ่ ไป 1.2.1 ควรมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กิจกรรมเพื่อการสื่อสาร เพื่อศึกษา ความสามารถทางภาษาอังกฤษในทักษะอื่นๆ เชน่ ทกั ษะการฟงั เปน็ ต้น

20 บรรณานุกรม https://www.youtube.com/watch?v=heycg7D5VZw&list=PLd9hCvj34W5it4a-RMzhlwNJ- edf5HU3Q&index=37 กุสุมา ล่านยุ้ . (2533). การจดั การกจิ กรรมการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร. วารสารศกึ ษาศาสตร์. 6 : 22. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน. กรุงเทพฯ: ครุ สุ ภาลาดพร้าว. เฉลิม ทองนวล. เทคนคิ การสอนภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร. กรงุ เทพฯ: ไฮเอด็ พับลิชชิง่ , 2557. บุญชม ศรีสะอาด. (2545).การวจิ ัยเบือ้ งต้น. กรงุ เทพฯ : สวุ รี ิยาสาสน์ , สมุ ิตรา องั วฒั นกลุ . (2540). แนวคิดและเทคนคิ การสอนภาษาอังกฤษระดบั มธั ยมศึกษา. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. Harmer, Sermy. (1983). The Practice of English Language Teaching. 6th ed. New York: Longman. Shumin, K. (1997). “Developing Adult EFL Students’ Speaking Abilities. Forum, 35(3), Available: /http/exchanges.state.gov/forum/vols/vol35/no3/p8.htm

21 ภาคผนวก

22 ยูทูป ชอ่ ง VOA Learning English Lesson 7: What are you doing? Dialogue Anna: Hello, everyone. Today I start my new job! Awesome! I meet my new boss and my co-workers. I am excited but nervous. Here I go! Caty: Come in. Well, Anna, welcome. Anna: Thank you. Caty: I am your boss, Caty Weaver. But, please call me Caty. Anna: Thank you, Ms. Weaver. Caty: Just Caty. Anna: Sure thing, Ms. Weaver. Caty: Okay then. Are you excited? Anna: Yes, I am excited. Caty: So sorry, but I am busy. Please meet your co-workers. But remember, they are busy working. Anna: Sure. Thanks, Ms. Weaver. In the office.

23 Anna: Hi there! I’m Anna. Anne: Hi, Anna. I’m Anne. Anna: Nice to meet you. What are you doing? Anne: Um, I’m writing. Anna: You are writing! You are writing a lot. Oh! On dear. Anne: No! No! That’s okay. Anna: I’m sorry. Anne: That’s okay. Anna: Really Anne: Please. Please. Please stop. Please. Anna: Sorry. Sorry. In the audio room. Jonathan: “and people all around the world are waiting to hear news about the next president...” Anna: Jonathan hi! Remember me? I live in your building. Jonathan: Oh. Uh. Hi, Anna. Anna: What are you doing? Jonathan: I am doing my show! Anna: Oh, sorry. Are you recording? Jonathan: Yes! And, now I have to record again! Anna: Sorry. Have a good show. Jonathan: Thank you. Anna: Sorry. In the news room. (Word of the Day) Amelia: The word of the day is social. Social- Anna: Oh! Hi! Amelia: -is an adjective. Anna: Hi! I’m Anna! Amelia: Hi. I’m Amelia. Anna: Nice to meet you! What are you doing? Amelia: I’m reading. Anna: Are you reading the news? Hi! Amelia: No, I’m reading for my show. Can I read again? Anna: Sorry. Anna: This day is not going well.

24 Caty: Anna! Hi! What’re you doing? Anna: I am bothering people, Ms. Weaver Caty: Let’s go to my office and talk. Anna: I like to talk with you, Ms. Weaver. Caty: It’s Caty. Anna: Right. Thanks…Ms. Weaver.

25 Lesson 8: Are you busy? Dialogue Hello, everyone. Here I am at my new job! Yesterday at my first day of work… Anna: Let’s not talk about yesterday. Today is a new day! Today I want to apologize to my co-workers. Anne: Hi, Anne. Are you busy? Anna: Hi, Anna. Yes. At 10 a.m. I am writing. Every day I do my morning show. Sorry! Anne: Okay. See you later. Maybe. Anna: Maybe I’ll see you later. Jonathan: Hi, Jonathan. Are you busy? Anna: Yes, I’m busy. When the studio light is on, I am recording my evening show. Jonathan: Right. Sorry about yesterday. Anna: No worries. Jonathan: May I see the studio? Anna: Um, maybe another time? Right now I am busy. Jonathan: Sure. Ok, ‘bye. Anna: Bye. Amelia: Hi, Amelia! Are you busy? I’m a little busy.

26 Anna: I want to say I’m sorry for yesterday. Amelia: It’s okay, Anna. Anna: Well, I am sorry. Amelia: It’s okay, Anna. Come by this afternoon. Anna: Okay. Caty: Anna. Anna: Yes, Ms. Weaver. Caty: Are you busy? Anna: Yes, Ms. Weaver. I am busy. Caty: My office. 5 pm. Anna: 5 pm. At 5 pm. Anna knocks the door. Caty: Come in. Co-workers: Surprise! Anna: A party! Awesome! And I still have my job! Phew! Until next time!

27 Lesson 9: is it Cold? Dialogue Oh, hi, everyone! Here in Washington, DC, the weather changes often. One day is Anna: cold and windy. But the next day is warm and sunny! So, every day I check the forecast. Anna: Hello, Phone? What is today’s temperature? Phone: Today it is 18 degrees… Anna: Eighteen degrees! That is cold! Phone: …eighteen degrees Celsius. Anna: Oh, Celsius. That is 65 degrees Fahrenheit. That’s warm. Phone: Yes, Anna. It is warm. Anna: Excuse me, Phone. Is it windy today? Phone: No, It is not windy today. Anna: Is it sunny today? Phone: Yes, Anna. It is sunny. Anna: Excuse me, Phone. Phone: Yes Anna. Anna: Is it snowy today? Phone: No, Anna. It is not snowy.

28 Anna: Thank Phone. Today the weather is warm and sunny—great for seeing Washington, D.C. Outside. Anna: Phone! It is not warm and sunny! It is cold and windy and snowy! Phone: Anna, it is not cold, windy, or snowy. It is warm and sunny in Mexico City, Mexico. Anna: Oh. I see. Mexico. Washington weather changes often. Remember to check the forecast the right Phone: forecast. Anna: Yes, Anna. Next time remember to check the right fore…. Okay, thank you Phone. Goodbye, Phone. Phone: Until next time! Yes, until next time…

29 Lesson 10: Come Over to My Place Dialogue Anna: Hi. Today, my friend Ashley, is coming over. I am showing her my new apartment! Rrrr. Oh! That’s Ashley calling. Hi Ashley. Ashley: Hi Anna! I’m coming to your apartment. Where is your apartment? Anna: My apartment is near the Columbia Heights Metro. Ashley: It is near the Columbia Heights Metro? Anna: Yes, Exit the Metro and turn right. Then at the bus station turn left. Then walk straight ahead. Ashley: Okay. Exit Metro, tun right, turn left, then go straight ahead. Anna: Yes. My apartment is near a coffee shop. Ashley: Okay. See you soon! Ashley call Anna. Anna: Hi Ashley. Ashley: Hello. Anna, Which coffee shop? There are three coffee shops. Anna: Okay. My apartment is across from a big department store. Ashley: A big department store? Ah! I see it! Anna: Okay! Bye, Ashley. See you soon!

30 Ashley: Okay. See you soon. Anna: Ashley! Ashley! Ashley! Over here! It’s Anna! It’s Anna! I love having my friends over. Come on! Ashley: Great!

31 Lesson 11: This is my Neighborhood. Dialogue Hello. DC is a city for walking. In our neighborhood, I can do all my errands. Marsha, before we get ice cream, I need to return three books to the library. Anna: Where is the library? It is on this street on the corner. Marsha: Awesome. Anna: Let’s go! Marsha: Library. Marsha, I can return the books here. Anna: Anna, what are those in the books? Marsha: Marsha, these are letters to my family and friends back home…four letters! Anna: Is there a post office near here? Um, no. The post office is far from here. Marsha: But there is a mailbox across from the store. Awesome! Let’s go. Anna: Marsha, now I need to but stamps. Anna: Do you have cash? Marsha:

32 Anna: No. Is there a bank near here? Marsha: There is a bank behind you. Anna: Thanks, Marsha. You know our neighborhood so well. Anna: Now I have cash. I can buy stamps. Marsha: That store sells stamps. Anna: Wait here. I have stamps. Marsha; Wow, you’re fast. Anna: Thank you, thank you letters, for sending my words…my love…to my family and friends back home. Marsha: Do you have more cash? Anna: I do. Together: Ice cream!! Anna: I love my new neighborhood! Everything is near our apartment. Even hair salons and ice cream. Until next time!

33 Lesson 12: Meet my family Dialogue Hello! Washington D.C. has many beautiful parks. In fact, this park reminds me of my home very far away. Anna: Anna, here’s your coffee. Thanks, Marsha. Marsha: What’s wrong? Anna: I’m thinking about my family. I’m feeling homesick. Marsha: Do you want to talk about it? Anna: Sure! I have some photos. Marsha: Yes. Yes, you do! Anna: Photos really help. Marsha: This is my mother and this is my father. They are rodeo clowns. Anna: What do rodeo clowns do? They make jokes at a rodeo. People laugh. Marsha: That’s very different. Who is that woman in the picture? Anna: That is my Aunt Lavender. She is my mom’s sister. She loves gardening Marsha: and makes spoons. Anna:

34 Marsha: She makes spoons? Anna: Of course. Marsha: That, too, is very different. Anna: Oh! This is my Uncle John. He is my father’s brother. Marsha: What does Uncle John do? Anna: He’s a chicken farmer. And makes guitars. He’s awesome and I’m his favorite niece. Marsha: Who are they? Anna: They are my cousins. They are my Uncle John’s daughter and son. Marsha: What do they do? Anna: They raise sheep and make sweaters. Marsha: Yeah, that’s not a surprise. Thanks for showing me your family photos. Anna: Your family is very different. Marsha: I do feel better. Thanks for listening. I have many more photos! Anna: Yeah. Yeah, you do. Washington, DC is my new home. But I like remembering my old home, too.

35 แผนการจดั การเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้เพื่อพฒั นาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ Speaking Skill วชิ าภาษาองั กฤษฟัง-พดู 2 อ 20213 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1/4 กลุม่ สาระการเรียนรภู่ าษาต่างประเทศ จำนวน 8 ชั่วโมง Unit: Let’s Learn English ครูผ้สู อน นางสาวฑิฆัมพร เกตุเพชร 1. สาระสำคญั พูดสนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจกรรมและสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวัน ภาษาที่ใช้ ในการสื่อสารระหว่างบุคคล เช่น การทักล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกการชักชวน ประโยค/ ข้อความ ที่ใช้แนะนำตนเอและบคุ คลใกล้ตวั และสำนวนการตอบรบั การแลกเปลย่ี นข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ กรรม สถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน 2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั ต.1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปล่ียนข้อมลู เก่ียวกับตนเอง กจิ กรรมและสถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั ต.2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิริยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของ เจา้ ของภาษา ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลองท่เี กดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถาน สถาน ศกึ ษา 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นมีผลสัมฤทธ์ิการพัฒนาทกั ษะการพดู ส่ือสารภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจำวนั โดยใช้บทสนทนา จากยทู ูป หลงั เรียนสงู กว่าก่อนเรียน 2. นกั เรยี นสามารถออกเสียงพูดบทสนทนา Let’s Learn English จากยูทูบ ช่อง VOA Learning English ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 4. สาระการเรียนรู้ 1. หนา้ ทภี่ าษา Lesson 7: What are you doing? Lesson 8: Are you busy? Lesson 9: Is it Cold? Lesson 10: Come Over to My Place Lesson 11: This is my Neighborhood Lesson 12: Meet my family

36 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร การใชท้ กั ษะชวี ิต 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนร:ู้ นักเรยี นมเี จตคตทิ ่ีดีตอ่ ภาษาองั กฤษ 7. การเรียนรสู้ กู่ ารบูรณาการ การเรียนบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง การเรียนร้บู ูรณาการสวนพฤษศาสตรโ์ รงเรียน การเรียนรูส้ ู่ ASEAN การเรยี น STEM การส่งเสริมสขุ ภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์; ศลิ ปะ; สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม อนื่ ๆ(ระบ)ุ ………………………………………………………………………………. 8. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น Pre-test 2. ประเมินการพดู ระหว่างเรียน 3. แบบทดสอบหลังเรียน Post-test 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 1. ครูแจ้งจุดประสงค์ให้นักเรียนได้ทราบเกี่ยวกับการการพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษใน ชวี ิตประจำวันโดยใช้บทสนทนาจากยูทูป ซงึ่ การทดลองนับจากน้ีจะใช้เวลาท้ังหมด 8 ชว่ั โมง รวมทงั้ หมด 6 หนว่ ย การเรียนรู้ โดยชอ่ งยูทบู ทเ่ี ลือกใชค้ อื ชอ่ ง VOA Learning English 2. ครูประเมินทักษะการพูดออกเสียงของนักเรียนกอ่ นเรียน โดยให้นกั เรียนพูดบทสนทนาตาม Dialogue ท่ีครูเตรียมไว้ เพ่ือเกบ็ คะแนนก่อนเรยี น ช่ัวโมงท่ี 2 1. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมการพฒั นาทกั ษะการพูดสื่อสารภาษาองั กฤษในชวี ิตประจำวัน โดยใช้บทสนทนาจากยูทูป ชอ่ ง VOA Learning English หนว่ ยท่ี 7 เรือ่ ง What are you doing? 2. ครเู ปิดยูทูบ ชอ่ ง VOA Learning English หน่วยท่ี 7 เร่ือง What are you doing? ให้นกั เรียนฟังและ ดูภาพ ก่อน 1 รอบ 3. จากน้ันครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยท่ี 7 เร่ือง What are you doing? ให้ นักเรียนดแู ละฟงั ให้นักเรยี นฟงั 2 รอบ และให้นักเรียนฝึกพดู ในช่วงทวี่ ดิ ีโอใหน้ ักเรยี นฝึกพูด

37 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน และให้เน้ือหาบทสนทนา หน่วยที่ 7 เร่ือง What are you doing? เพ่ือ นกั เรียนไดฝ้ ึกฝนกบั คู่ของตนเองตามเวลาท่ีกำหนด 5. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ครใู หน้ ักเรียนและคู่ของนักเรียนมาพดู บทสนทนา เพื่อประเมินทักษะการพูด ใน หนว่ ยที่ 7 เรอ่ื ง What are you doing? ชว่ั โมงที่ 3 1. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บท สนทนาจากยูทูป ชอ่ ง VOA Learning English หน่วยท่ี 8 เรื่อง Are you busy? 2. ครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยท่ี 8 เรื่อง Are you busy? ให้นักเรียนฟังและดูภาพ ก่อน 1 รอบ 3. จากน้ันครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยท่ี 8 เร่ือง Are you busy? ให้นักเรียนดูและ ฟงั ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ และใหน้ ักเรียนฝึกพดู ในชว่ งทีว่ ดิ ีโอให้นกั เรยี นฝึกพดู 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน และให้เนื้อหาบทสนทนา หน่วยท่ี หน่วยที่ 8 เร่ือง Are you busy? เพื่อ นกั เรียนไดฝ้ ึกฝนกับคู่ของตนเองตามเวลาทกี่ ำหนด 5. เม่ือครบกำหนดเวลาแล้ว ครูให้นักเรียนและคู่ของนักเรียนมาพูดบทสนทนา เพ่ือประเมินทักษะการพูด ใน หนว่ ยท่ี หน่วยท่ี 8 เรอื่ ง Are you busy? ชั่วโมงที่ 4 1. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บท สนทนาจากยทู ูป ช่อง VOA Learning English หนว่ ยท่ี 9 เรือ่ ง Is it Cold? 2. ครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยที่ 9 เร่ือง Is it Cold? ให้นักเรียนฟังและดูภาพ ก่อน 1 รอบ 3. จากนั้นครเู ปดิ ยทู บู ช่อง VOA Learning English หนว่ ยที่ 9 เรอ่ื ง Is it Cold? ให้นกั เรยี นดแู ละฟัง ให้ นักเรยี นฟงั 2 รอบ และใหน้ กั เรียนฝกึ พดู ในชว่ งทีว่ ดิ โี อใหน้ ักเรียนฝกึ พดู 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน และให้เน้ือหาบทสนทนา หน่วยที่ 9 เรื่อง Is it Cold? เพื่อนักเรียนได้ ฝกึ ฝนกบั คู่ของตนเองตามเวลาทกี่ ำหนด 5. เม่ือครบกำหนดเวลาแล้ว ครูให้นักเรียนและคขู่ องนักเรียนมาพูดบทสนทนา เพ่ือประเมินทักษะการพูด ใน หน่วยที่ 9 เร่อื ง Is it Cold? ชว่ั โมงที่ 5 1. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บท สนทนาจากยทู ปู ชอ่ ง VOA Learning English หนว่ ยท่ี 10 เรื่อง Come Over to My Place 2. ครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยท่ี 10 เร่ือง Come Over to My Place ให้นักเรียน ฟงั และดูภาพ ก่อน 1 รอบ 3. จากนั้นครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยท่ี 10 เร่ือง Come Over to My Place ให้ นักเรยี นดูและฟงั ให้นกั เรยี นฟัง 2 รอบ และใหน้ กั เรียนฝึกพดู ในช่วงท่วี ดิ ีโอให้นักเรียนฝกึ พูด 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน และให้เน้ือหาบทสนทนา หน่วยท่ี 10 เร่ือง Come Over to My Place เพอื่ นักเรียนไดฝ้ กึ ฝนกบั ค่ขู องตนเองตามเวลาที่กำหนด

38 5. เม่ือครบกำหนดเวลาแล้ว ครูให้นักเรียนและคู่ของนักเรียนมาพูดบทสนทนา เพ่ือประเมินทักษะการพูด ใน หน่วยที่ 10 เรอื่ ง Come Over to My Place ช่ัวโมงที่ 6 1. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บท สนทนาจากยทู ปู ช่อง VOA Learning English หน่วยที่ 11 เร่ือง This is my Neighborhood. 2. ครเู ปิดยูทบู ชอ่ ง VOA Learning English หนว่ ยท่ี 11 เร่ือง This is my Neighborhood. ให้นักเรียน ฟงั และดภู าพ ก่อน 1 รอบ 3. จากนั้นครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยท่ี 11 เร่ือง This is my Neighborhood. ให้ นักเรยี นดแู ละฟัง ใหน้ กั เรียนฟงั 2 รอบ และใหน้ กั เรยี นฝกึ พดู ในช่วงที่วดิ ีโอใหน้ ักเรียนฝกึ พูด 4. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน และให้เน้ือหาบทสนทนา หน่วยท่ี 11 เรื่อง This is my Neighborhood. เพื่อนักเรียนได้ฝึกฝนกับคขู่ องตนเองตามเวลาที่กำหนด 5. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ครูให้นักเรียนและคู่ของนักเรียนมาพูดบทสนทนา เพ่ือประเมินทักษะการพูด ใน หน่วยท่ี 11 เร่อื ง This is my Neighborhood. ชว่ั โมงท่ี 7 1. ครูให้นกั เรียนทำกจิ กรรมการพฒั นาทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวนั โดยใชบ้ ทสนทนาจากยทู ูป ช่อง VOA Learning English หนว่ ยที่ 12 เร่อื ง Meet my family 2. ครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยที่ 12 เรื่อง Meet my family ให้นักเรียนฟังและดู ภาพ กอ่ น 1 รอบ 3. จากน้ันครูเปิดยูทูบ ช่อง VOA Learning English หน่วยที่ 12 เร่ือง Meet my family ให้นักเรียนดู และฟงั ให้นักเรยี นฟัง 2 รอบ และใหน้ กั เรยี นฝกึ พดู ในช่วงทว่ี ดิ ีโอให้นักเรยี นฝึกพดู 5. ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน และให้เน้ือหาบทสนทนา หน่วยท่ี 12 เร่ือง Meet my family เพื่อ นกั เรยี นไดฝ้ ึกฝนกับคู่ของตนเองตามเวลาท่กี ำหนด 6. เม่ือครบกำหนดเวลาแล้ว ครูให้นักเรียนและค่ขู องนักเรียนมาพูดบทสนทนา เพื่อประเมินทักษะการพูด ใน หนว่ ยท่ี หนว่ ยที่ 12 เรือ่ ง Meet my family ชัว่ โมงที่ 8 1. ในช่ัวโมงสุดท้ายของการพัฒนาทักษะการพูดส่ือสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันโดยใช้บทสนทนา จากยูทูป ซ่ึงการทดลองมาแล้วจนถึงตอนนี้ท้ังหมด 8 ช่ัวโมง รวมทั้งหมด 6 หน่วยการเรียนรู้ โดยช่องยูทูบท่ี เลอื กใช้คอื ช่อง VOA Learning English 2. ครูประเมินทักษะการพูดออกเสียงของนักเรียนหลังเรียน โดยให้นักเรียนพูดบทสนทนาตาม Dialogue ท่ีครเู ตรยี มไว้ เพอ่ื เก็บคะแนนหลงั เรียน 3. จากน้ันครูนำผลการเปรียบเทียบก่อนเรียนและหลังเรียนไปทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบผล ก่อนหลงั ในข้นั ตอนการวิเคราะห์ขอ้ มลู ต่อไป

39 10. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ 1. ยูทูบ ชอ่ ง VOA Learning English 2. แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรียน 3. แบบฝึกการสนทนาระหว่างเรียน

40 11. แบบบนั ทึกเปรียบเทยี บคะแนนกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ลำดบั ชน้ั ชือ่ -นามสกุล ทดสอบ ทดสอบ ผลตา่ ง กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น 1 1/4 เด็กชายกฤษณะ คีรนี ้อย 4 2 1/4 เดก็ ชายกติ ติกร ประชมุ รัตน์ 12 16 5 3 1/4 เด็กชายเฉลิมเดช จลุ มัย 6 11 2 4 1/4 เด็กชายชยกร เเซฟ่ ุง้ 12 14 5 5 1/4 เดก็ ชายธนดล นลิ นอ้ ย 10 15 4 6 1/4 เด็กชายธีระวฒั น์ เทียนนอ้ ย 6 10 4 7 1/4 เด็กชายนันทยศ ชยั รัตนารมย์ 8 12 7 8 1/4 เดก็ ชายปกรณ์ พรหมจรรย์ 6 13 5 9 1/4 เด็กชายภัฒนพงศ์ ทองผดุ 7 12 5 10 1/4 เดก็ ชายภรู นิ ท์ กลา้ หาญ 4 9 7 11 1/4 เดก็ ชายเมธสั ศิริเรอื ง 11 18 4 12 1/4 เด็กชายเมธัส อินทรด์ ำ 6 10 5 13 1/4 เดก็ ชายรัชชานนท์ ปานสมทุ ร 5 10 5 14 1/4 เดก็ ชายศรญั ญู เข็มทอง 12 17 4 15 1/4 เด็กชายศรายุธ ปลักปลา 14 18 5 16 1/4 เดก็ ชายศทุ ธิรักษ์ รมุ่ จติ ร 4 9 6 17 1/4 เดก็ ชายศุภณัฐ ชนะสัตย์ 7 13 5 18 1/4 เดก็ ชายสวภัทร คมุ้ ภยั 9 14 4 19 1/4 เด็กชายสิทธิโชค ทองเทพ 12 16 3 20 1/4 เด็กชายสทิ ธินนท์ ชำนาญกิจ 6 9 5 21 1/4 เด็กชายสีหราช รกั ตรง 6 11 5 22 1/4 เดก็ ชายสุชาพงศ์ ใหม่แก้ว 13 18 5 23 1/4 เด็กชายสุรศกั ดิ์ กล่อมทอง 12 17 4 24 1/4 เด็กชายอคั รพนธ์ ไทยภักดี 6 10 4 25 1/4 เดก็ ชายเอกอาทิตย์ วชิ ิตเช้ือ 4 8 5 26 1/4 เด็กหญงิ จริ าพรรณ คชไกร 6 11 6 27 1/4 เดก็ หญงิ ชญาภา เทยี นชยั 9 15 6 28 1/4 เด็กหญิงชนากานต์ สาระยาน 13 19 4 29 1/4 เด็กหญงิ ณัฏฐณิชา ดสี ดุ จิตร 11 15 6 30 1/4 เดก็ หญงิ ณฐั ณิชา วังฉาย 12 18 4 31 1/4 เด็กหญงิ ณิชานนั ท์ นิ่มรักษ์ 15 19 6 10 16

41 ลำดบั ช้ัน ช่ือ-นามสกุล ทดสอบ ทดสอบ ผลตา่ ง กอ่ นเรยี น หลงั เรียน 32 1/4 เด็กหญงิ ทตั พิชชา วชิ ยั ดิษฐ 6 33 1/4 เด็กหญิงธนญั ญา บัวแก้ว 11 17 6 34 1/4 เด็กหญิงนันท์นภัส จิตราภริ มย์ 12 18 5 35 1/4 เด็กหญงิ พมิ พิศา สระกอบแก้ว 11 16 5 36 1/4 เดก็ หญงิ มัญชุภา พระสวา่ ง 8 13 5 37 1/4 เด็กหญงิ มสี ุข คีรีมา 13 18 6 38 1/4 เด็กหญิงวรทั ญา เคลือบสวุ รรณ 9 15 5 39 1/4 เดก็ หญิงสิรยิ าพร ทองเกดิ 12 17 6 40 1/4 เด็กหญิงสนุ ิษา จันทร์ชัย 10 16 2 41 1/4 เด็กหญิงหรนิ ทิพย์ ทพิ ย์บรรพต 6 8 6 42 1/4 เด็กหญงิ อรอมล สิรสิ มบรู ณ์ 12 18 6 7 13 4.93 ค่าเฉลย่ี 9.17 14.10

42 12. บันทึกผลหลังการสอน 12.1 ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 12.2 ปญั หาและอุปสรรค 1.2.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ลงช่ือ (นางสาวฑิฆัมพร เกตุเพชร) ตำแหน่ง ครู คศ.1 ความคิดเห็นหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ลงชื่อ (นางสาวอรณุ ี ชนู าวา) ตำแหน่ง หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ลงชอ่ื (นางเกศสนุ ีย์ งานไพโรจน์) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ความคดิ เห็นผู้อำนวยการโรงเรียนพุนพินพทิ ยาคม ลงชอื่ (นายธรี เดช จู่ทนิ่ ) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนพนุ พินพทิ ยาคม

43 Pre-test - Dialogue Lesson 7: What are you doing? Anna: Hello, everyone. Today I start my new job! Awesome! I meet my new boss and my co-workers. I am excited but nervous. Here I go! Caty: Come in. Well, Anna, welcome. Anna: Thank you. Caty: I am your boss, Caty Weaver. But, please call me Caty. Anna: Thank you, Ms. Weaver. Caty: Just Caty. Anna: Sure thing, Ms. Weaver. Caty: Okay then. Are you excited? Anna: Yes, I am excited. Caty: So sorry, but I am busy. Please meet your co-workers. But remember, they are busy working. Anna: Sure. Thanks, Ms. Weaver. In the office. Anna: Hi there! I’m Anna. Anne: Hi, Anna. I’m Anne. Anna: Nice to meet you. What are you doing? Anne: Um, I’m writing. Anna: You are writing! You are writing a lot. Oh! On dear. Anne: No! No! That’s okay. Anna: I’m sorry. Anne: That’s okay. Anna: Really Anne: Please. Please. Please stop. Please. Anna: Sorry. Sorry. In the audio room. Jonathan: “and people all around the world are waiting to hear news about the next president...” Anna: Jonathan hi! Remember me? I live in your building. Jonathan: Oh. Uh. Hi, Anna. Anna: What are you doing?

44 Jonathan: I am doing my show! Anna: Oh, sorry. Are you recording? Jonathan: Yes! And, now I have to record again! Anna: Sorry. Have a good show. Jonathan: Thank you. Anna: Sorry. In the news room. (Word of the Day) Amelia: The word of the day is social. Social- Anna: Oh! Hi! Amelia: -is an adjective. Anna: Hi! I’m Anna! Amelia: Hi. I’m Amelia. Anna: Nice to meet you! What are you doing? Amelia: I’m reading. Anna: Are you reading the news? Hi! Amelia: No, I’m reading for my show. Can I read again? Anna: Sorry. Anna: This day is not going well. Caty: Anna! Hi! What’re you doing? Anna: I am bothering people, Ms. Weaver Caty: Let’s go to my office and talk. Anna: I like to talk with you, Ms. Weaver. Caty: It’s Caty. Anna: Right. Thanks…Ms. Weaver.