คำนำ แนวการจดั การศึกษาในพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก่ไขเพิ่มเตมิ ( ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตร 27 ให้คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐานกำหนดหลักสตู รแกนกลางเพอ่ื ความเป็นไทย ความเปน็ พลเมอื งทด่ี ีของชาติ การดำรงชีวิตและการประกอบอาชพี ตลอดจนเพื่อการศึกษา ตอ่ และให้สถานศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานจัดทำหลักสูตร ในส่วนทเี่ ก่ยี วกับสภาพปัญหาในชมุ ชนและสงั คม ภมู ิ ปัญญาทอ้ งถ่ิน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 เป็นลักสูตรแกนกลางของประเทศที่มงุ่ พฒั นาผู้เรียนทุกคน ซึง่ เปน็ กำลงั ของชาตใิ ห้เป็นมนุษยท์ ี่มคี วามสมดุลทั้งด้านรา่ งกาย ความรู้ คุณธรรม มี จิตสำนกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและเปน็ พลเมืองโลก ยดึ มนั่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ มคี วามรแู้ ละทักษะพื้นฐานรวมท้ังเจตคติทจ่ี ำเปน็ ตอ่ การศึกษาต่อ การ ประกอบอาชพี และการศึกษาตลอดชวี ติ โดยมุ่งเน้นผ้เู รียนเปน็ สำคญั บนพื้นฐานความเชื่อวา่ ทุกคนสามารถ เรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองไดต้ ามศักยภาพ ให้ผู้เรียนมีทักษะท่ีจำเป็นสำหรับใช้เป็นเครอื่ งมือในการดำรงชีวติ ใน สงั คมทีม่ ีการเปลี่ยนแปลงและแสวงหาความรู้เพ่อื พฒั นาตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชวี ติ โรงเรยี นวรี วัฒนโ์ ยธนิ ได้จดั ทำและเร่มิ ใช้หลกั สตู รสถานศึกษาตั้งแตป่ กี ารศกึ ษา 2561 เป็นตน้ ไป เพอื่ การพฒั นาผูเ้ รยี นให้มีความสมดุลทง้ั ด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงาม และความ รับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สังคมและประเทศชาตติ ่อไป ขอขอบคุณคุณครูลมัย สวัสดี ครโู รงเรยี นท่าตมู ประชาเสริมวทิ ย์ ที่ให้ความอนเุ คราะหใ์ นเร่ืองการ จดั ทำหลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา พุทธศกั ราช 2551 และขอขอคุณ คณะกรรมการ สถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรยี น ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรยี นวรี วฒั นโ์ ยธนิ ที่ได้รว่ มมอื ร่วมใจ จัดทำหลกั สูตรสถานศึกษาและหลกั สูตรของกลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษาจนสำเร็จลุล่วงตาม เป้าหมาย กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา โรงเรยี นวีรวฒั นโ์ ยธิน
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา ทำไมตอ้ งเรียนสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สุขภาพ หรือ สขุ ภาวะ หมายถงึ ภาวะของมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ทง้ั ทางกาย ทางจิต ทางสงั คม และ ทางปัญญาหรอื จิตวิญญาณ สุขภาพหรือสขุ ภาวะจงึ เป็นเรอ่ื งสำคัญ เพราะเกี่ยวโยงกบั ทกุ มิตขิ องชวี ิต ซ่ึงทุก คนควรจะได้เรียนรู้เรื่องสุขภาพ เพื่อจะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง มีเจตคติ คุณธรรมและค่านิยมท่ี เหมาะสม รวมท้งั มที ักษะปฏบิ ัติด้านสุขภาพจนเปน็ กิจนสิ ัย อนั จะสง่ ผลให้สงั คมโดยรวมมคี ุณภาพ เรียนร้อู ะไรในสุขศึกษาและพลศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นการศึกษาด้านสุขภาพที่มีเป้าหมาย เพื่อการดำรงสุขภาพ การสร้างเสริม สุขภาพและการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของบคุ คล ครอบครัว และชุมชนใหย้ ั่งยืน สุขศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และ การปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั สุขภาพควบคู่ไปดว้ ยกนั พลศึกษา มุง่ เนน้ ให้ผู้เรียนใชก้ ิจกรรมการเคล่อื นไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกมและกฬี า เปน็ เครื่องมือในการพฒั นาโดยรวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมทั้งสมรรถภาพเพือ่ สขุ ภาพและกฬี า สาระที่เป็นกรอบเนื ้อหาหร ือขอบข่ายองค์ ความรู ้ของกลุ ่มสาระการเรียนรู ้สุขศึกษาและพลศึ กษ า ประกอบด้วย • การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติของการ เจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเตบิ โต ความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการทำงาน ของระบบตา่ งๆของร่างกาย รวมถึงวธิ ีปฏิบตั ติ นเพ่ือใหเ้ จริญเติบโตและมพี ัฒนาการท่สี มวยั • ชวี ติ และครอบครัว ผูเ้ รียนจะไดเ้ รยี นรู้เรอื่ งคุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตัวต่อการ เปลย่ี นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณค์ วามรูส้ กึ ทางเพศ การสร้างและรกั ษาสัมพนั ธภาพกับผู้อ่ืน สุขปฏิบัติ ทางเพศ และทกั ษะในการดำเนนิ ชวี ิต • การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล ผู้เรียนได้เรียนร้เู รื่อง การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ การเข้าร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ทั้งประเภทบุคคล และประเภททีม อย่างหลากหลายทั้งไทยและสากล การปฏิบัติตามกฎ กติกา ระเบียบ และข้อตกลงในการเข้าร่วมกิจกรรม ทางกาย และกีฬา และความมีนำ้ ใจนกั กีฬา • การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักและ วิธีการเลือกบริโภคอาหาร ผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ และการ ปอ้ งกนั โรคท้ังโรคติดต่อและโรคไม่ตดิ ต่อ
• ความปลอดภยั ในชีวติ ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ ร่ืองการปอ้ งกนั ตนเองจากพฤติกรรมเส่ยี งตา่ งๆ ทั้งความเส่ียงตอ่ สุขภาพ อุบัติเหตุ ความรุนแรง อันตรายจากการใชย้ าและสารเสพตดิ รวมถงึ แนวทางในการ สรา้ งเสรมิ ความปลอดภยั ในชีวติ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ สาระท่ี 2 ชวี ิตและครอบครวั มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคณุ ค่าตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมที กั ษะในการดำเนนิ ชีวิต สาระที่ 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มี วินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน สุนทรยี ภาพของการกฬี า สาระที่ 4 การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การป้องกันโรคและ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพือ่ สขุ ภาพ สาระที่ 5 ความปลอดภัยในชวี ิต มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกนั และหลกี เล่ยี งปัจจัยเส่ียง พฤตกิ รรมเสยี่ งตอ่ สขุ ภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพ ติด และความรุนแรง
คณุ ภาพผู้เรยี น จบชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 • มีความรู้ และเข้าใจในเรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ปัจจัยที่มีผลต่อ การ เจริญเตบิ โตและพฒั นาการ วธิ กี ารสรา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครวั และกลมุ่ เพอ่ื น • มีสุขนิสัยที่ดีในเรื่องการกิน การพักผ่อนนอนหลับ การรักษาความสะอาดอวัยวะทุกส่วนของ รา่ งกาย การเล่นและการออกกำลังกาย • ป้องกันตนเองจากพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การใช้สารเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศและรู้จัก ปฏิเสธในเรอื่ งท่ไี มเ่ หมาะสม • ควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้ตามพัฒนาการในแต่ละชว่ งอายุ มีทักษะ การเคล่ือนไหวข้ัน พื้นฐานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ และเกม ได้ อยา่ งสนุกสนาน และปลอดภยั • มีทักษะในการเลือกบริโภคอาหาร ของเล่น ของใช้ ที่มีผลดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงและป้องกัน ตนเองจากอุบัตเิ หตไุ ด้ • ปฏบิ ัตติ นได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเมอ่ื มปี ญั หาทางอารมณ์ และปญั หาสุขภาพ • ปฏบิ ตั ติ นตามกฎ ระเบียบขอ้ ตกลง คำแนะนำ และขัน้ ตอนต่างๆ และให้ความรว่ มมือกับผู้อ่ืน ดว้ ยความเตม็ ใจจนงานประสบความสำเร็จ • ปฏิบตั ิตามสทิ ธขิ องตนเองและเคารพสิทธขิ องผู้อ่นื ในการเล่นเป็นกลุ่ม จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 • เข้าใจความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย และรู้จักดแู ลอวัยวะท่ี สำคญั ของระบบน้นั ๆ • เขา้ ใจธรรมชาติการเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์และสังคม แรงขับทางเพศของชาย หญงิ เมอ่ื ย่างเข้าสู่วยั แรกรุ่นและวยั รุ่น สามารถปรับตวั และจดั การไดอ้ ยา่ งเหมาะสม • เข้าใจและเห็นคณุ ค่าของการมีชีวิตและครอบครัวท่ีอบอุ่น และเปน็ สขุ • ภูมิใจและเหน็ คุณค่าในเพศของตน ปฏบิ ัติสขุ อนามยั ทางเพศไดถ้ ูกต้องเหมาะสม • ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อุบัติเหตุ ความ รุนแรง สารเสพติดและการล่วงละเมิดทางเพศ • มีทักษะการเคลือ่ นไหวพ้นื ฐานและการควบคมุ ตนเองในการเคล่ือนไหวแบบผสมผสาน
• รหู้ ลกั การเคล่อื นไหวและสามารถเลือกเข้ารว่ มกิจกรรมทางกาย เกม การละเลน่ พื้นเมอื ง กีฬา ไทย กีฬาสากลได้อย่างปลอดภยั และสนกุ สนาน มนี ้ำใจนักกีฬา โดยปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า สิทธิ และหน้าที่ ของตนเอง จนงานสำเร็จลลุ ่วง • วางแผนและปฏิบัติกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพได้ตาม ความเหมาะสมและความตอ้ งการเปน็ ประจำ • จดั การกบั อารมณ์ ความเครยี ด และปัญหาสขุ ภาพได้อยา่ งเหมาะสม • มที กั ษะในการแสวงหาความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสารเพ่ือใช้สร้างเสริมสขุ ภาพ จบช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 • เข้าใจและเห็นความสำคัญของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่มีต่อ สุขภาพและชวี ิตในช่วงวยั ต่าง ๆ • เขา้ ใจ ยอมรบั และสามารถปรับตวั ต่อการเปลีย่ นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ ความรู้สึก ทางเพศ ความเสมอภาคทางเพศ สรา้ งและรักษาสมั พันธภาพกับผู้อื่น และตัดสินใจแกป้ ญั หาชีวติ ดว้ ยวิธีการที่ เหมาะสม • เลอื กกินอาหารทเี่ หมาะสม ไดส้ ัดส่วน ส่งผลดตี ่อการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการตามวัย • มีทักษะในการประเมินอิทธิพลของเพศ เพื่อน ครอบครัว ชุมชนและวัฒนธรรมที่มีต่อเจตคติ คา่ นยิ มเก่ียวกับสขุ ภาพและชวี ติ และสามารถจดั การได้อย่างเหมาะสม • ป้องกนั และหลีกเลยี่ งปจั จยั เส่ยี ง พฤตกิ รรมเส่ียงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อบุ ตั เิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรนุ แรง รจู้ ักสร้างเสรมิ ความปลอดภัยใหแ้ ก่ตนเอง ครอบครวั และชมุ ชน • เข้าร่วมกิจกรรมทางกาย กิจกรรมกฬี า กิจกรรมนนั ทนาการ กิจกรรมสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทาง กายเพื่อสุขภาพ โดยนำหลักการของทักษะกลไกมาใช้ได้อย่างปลอดภัย สนุกสนาน และปฏิบัติเป็นประจำ สม่ำเสมอตามความถนดั และความสนใจ • แสดงความตระหนกั ในความสมั พนั ธ์ระหวา่ งพฤตกิ รรมสขุ ภาพ การปอ้ งกนั โรค การดำรงสขุ ภาพ การจัดการกับอารมณแ์ ละความเครยี ด การออกกำลังกายและการเล่นกฬี ากับการมวี ิถีชวี ิตทม่ี ีสุขภาพดี • สำนกึ ในคณุ ค่า ศกั ยภาพและความเป็นตวั ของตัวเอง • ปฏิบตั ติ ามกฎ กติกา หนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบ เคารพสทิ ธิของตนเองและผอู้ น่ื ให้ความร่วมมือ ในการแข่งขันกีฬาและการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ ด้วยความมุ่งมั่นและมีน้ำใจนักกีฬา จนประสบ ความสำเร็จตามเป้าหมายดว้ ยความช่นื ชม และสนกุ สนาน
จบชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 • สามารถดแู ลสขุ ภาพ สร้างเสรมิ สุขภาพ ปอ้ งกนั โรค หลกี เล่ยี งปัจจัยเสีย่ ง และพฤติกรรมเส่ียง ต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการวางแผนอย่าง เปน็ ระบบ • แสดงออกถึงความรกั ความเออ้ื อาทร ความเขา้ ใจในอิทธิพลของครอบครัว เพอื่ น สงั คม และ วฒั นธรรมทีม่ ตี อ่ พฤติกรรมทางเพศ การดำเนินชวี ิต และวิถชี วี ติ ท่มี ีสขุ ภาพดี • ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพ เพ่ือ สุขภาพโดยนำหลกั การของทกั ษะกลไกมาใช้ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง สมำ่ เสมอดว้ ยความชน่ื ชมและสนกุ สนาน • แสดงความรับผิดชอบ ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎ กติกา สิทธิ หลักความปลอดภัยใน การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางกาย และเล่นกีฬาจนประสบความสำเร็จตามเปา้ หมายของตนเองและทมี • แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู การเล่น และการแขง่ ขัน ด้วยความมีน้ำใจนักกีฬาและนำไป ปฏิบัตใิ นทุกโอกาสจนเปน็ บคุ ลิกภาพทีด่ ี • วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ สุขภาพส่วนบคุ คลเพอื่ กำหนดกลวิธลี ดความเสยี่ ง สรา้ งเสริมสขุ ภาพ ดำรง สขุ ภาพ การปอ้ งกนั โรค และการจดั การกับอารมณ์และความเครยี ดได้ถกู ต้องและเหมาะสม • ใช้กระบวนการทางประชาสงั คม สรา้ งเสริมให้ชุมชนเขม้ แขง็ ปลอดภยั และมวี ิถีชวี ิตทด่ี ี
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา โรงเรยี นวีรวฒั นโ์ ยธิน วสิ ยั ทศั นโ์ รงเรยี นวีรวัฒน์โยธนิ คุณธรรม นำความรู้ วสิ ยั ทศั นก์ ลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศึกษา ม่งุ เนน้ ให้ผเู้ รยี นพัฒนาในด้านสขุ ภาพ สมรรถภาพและ ศกั ยภาพดา้ นกฬี าไทย และกีฬาสากล รักการออกกำลังกาย มีเจตคตทิ ่ีดี ตามหลักปรชั ญาของโรงเรยี น หลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมที กั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน มุ่งให้ผ้เู รียนเกดิ สมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง และสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลือกใชว้ ธิ กี ารสื่อสาร ที่มปี ระสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพื่อนำไปสู่การสรา้ งองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพอ่ื การตัดสนิ ใจเกยี่ วกับตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพน้ื ฐานของหลกั เหตผุ ล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสมั พนั ธ์ และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน และแก้ไข ปัญหา และมกี ารตดั สินใจท่มี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ตอ่ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนินชีวิตประจำวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกนั ในสังคม ดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พันธ์อนั ดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความขดั แย้งต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง ประสงคท์ ีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง และผู้อน่ื
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเอง และสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ ทำงาน การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรสถานศกึ ษา มุ่งพฒั นาผู้เรียนให้มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพอ่ื ใหส้ ามารถอยรู่ ว่ มกับผู้อื่นใน สังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ดงั นี้ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซ่ือสัตย์สจุ รติ 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ
โครงสรา้ งหลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โครงสรา้ งการจดั การเรียนร้กู ลุ่มสาระการเรียนสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ช้นั ประเภท ภาคเรยี น รหัสวชิ า ชอื่ วิชา นก. ชว่ั โมง/ วิชา สัปดาห์ สุขศกึ ษา 1 มัธยม ึศกษา ีป ่ีท 6 ัมธยม ึศกษา ีป ่ีท 5 มัธยม ึศกษา ีป ี่ท 4พื้นฐาน 1 พ31101 พลศึกษา 1 0.5 1 ภ4 2 พ31102 กฬี าฟุตบอล กีฬาฟตุ ซอล 0.5 1 พลศกึ ษา 2 เพิม่ เติม 1 พ31201 สขุ ศกึ ษา 2 1.0 2 2 พ31202 กีฬาตะกร้อ กีฬาวู้ดบอล 1.0 2 สุขศกึ ษา 3 พน้ื ฐาน 1 พ32101 พลศกึ ษา 3 0.5 1 2 พ32102 กฬี าแบดมนิ ตนั กีฬาแฮนดบ์ อล 0.5 1 เพมิ่ เติม 1 พ32201 1.0 2 2 พ32202 1.0 2 พ้ืนฐาน 1 พ33101 0.5 1 2 พ33102 0.5 1 เพมิ่ เตมิ 1 พ33201 1.0 2 2 พ33202 1.0 2 หมายเหตุ รายวชิ าเพิม่ เตมิ สามารถเลือกเรยี นได้ ทกุ ภาคเรียน ทกุ ชัน้ ปี ขนึ้ อยกู่ บั ความสนใจ ความตอ้ งการของ ผเู้ รียน และความพรอ้ มของสถานศึกษา และสามารถเปดิ เพิ่มเติมจากที่ระบไุ วใ้ นโครงสร้างได้หากเปน็ ความ ตอ้ งการของผเู้ รยี น ชุมชน หรือตามสภาพความจำเป็นของสถานศกึ ษา แตต่ อ้ งนำเสนอเพือ่ ขออนมุ ัตใิ ช้ก่อน
คำอธบิ ายรายวิชา ระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
คำอธิบายรายวิชา รายวิชาสขุ ศกึ ษา 1 รหสั วิชา พ31101 ประเภทวชิ าพ้ืนฐาน ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต คำอธบิ ายรายวิชา อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและดำรงประสิทธภิ าพการทำงานของระบบอวยั วะต่าง ๆ วางแผน ดแู ลสุขภาพตามภาวะการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของตนเองและบคุ คลในครอบครวั วเิ คราะห์อทิ ธิพลของครอบครวั เพอ่ื น สงั คม และวฒั นธรรมที่มีผลต่อพฤตกิ รรมทางเพศและการ ดำเนนิ ชวี ิต วเิ คราะหค์ ่านยิ มในเร่อื งเพศตามวัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมอ่ืน ๆ วเิ คราะหส์ าเหตุและผลของ ความขัดแยง้ ท่ีอาจเกิดขนึ้ ระหว่างนกั เรียนหรอื เยาวชน และเสนอแนวทางแก้ไขปญั หา เลือกใช้ทกั ษะทีเ่ หมาะสมในการป้องกนั ลดความขัดแยง้ และแกป้ ัญหาเรอ่ื งเพศและครอบครวั ตวั ชวี้ ดั พ 1.1 ม.4-6/1, พ 1/1 ม.4-6/2 ,พ 2.1 ม.4-6/1,พ 2.1 ม.4-6/2,พ 2.1 ม.4-6/3 ,พ 2.1 ม.4-6/4 รวมทง้ั หมด 6 ตัวชีว้ ัด
โครงสร้างรายวิชา รายวิชาสขุ ศกึ ษา 4 รหัสวิชา พ31101 ประเภทวชิ าพื้นฐาน ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน ท่ี ตัวช้วี ัด (ชม.) 1 ระบบ พ 1.1 ม.4-6/1 อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและ 6 30 อวัยวะ ดำรงประสิทธิภาพการทำงานของ ระบบอวยั วะตา่ ง ๆ 2 วางแผน พ 1.1 ม.4-6/2 วางแผนดูแลสุขภาพตามภาวะการ 4 20 ดแู ล เจริญเติบโตและพัฒนาการของตนเอง สขุ ภาพ และบุคคลในครอบครัว 3 เพศศกึ ษา พ 2.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของครอบครวั เพือ่ น 6 30 พ 2.1 ม.4-6/2 สังคม และวัฒนธรรมท่มี ีผลตอ่ พ 2.1 ม.4-6/3 พฤตกิ รรมทางเพศและการดำเนนิ ชวี ิต วิเคราะห์ค่านิยมในเรื่องเพศตาม วฒั นธรรมไทยและวัฒนธรรมอ่ืน ๆ เลือกใช้ทักษะที่เหมาะสมในการ ป้องกัน ลดความขัดแย้ง และ แก้ปัญหาเรื่องเพศ 4 ความ พ 2.1 ม.4-6/4 วิเคราะห์สาเหตุและผลของความ 4 20 รนุ แรง ขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนหรือ เยาวชนในชุมชน และเสนอแนว ทางแกไ้ ขปญั หา รวมทงั้ ส้นิ 20 100
คำอธิบายรายวิชา รายวชิ ากีฬาฟตุ บอล รหสั วชิ า พ31201 ประเภทวชิ าเพิ่มเติม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ ศึกษา ค้นควา้ เกย่ี วกบั ประวัติความเป็นมาของกฬี าฟตุ บอล ทกั ษะการเล่นฟตุ บอล การ เคล่อื นไหว กตกิ าการแขง่ ขัน วิธกี ารเลน่ ถูกตอ้ งและปลอดภัย วธิ กี ารเก็บและรักษาอุปกรณ์ มารยาททด่ี ีในการ เล่น ประโยชน์และคุณค่าของการเลน่ ฟุตบอล ฝกึ ปฏบิ ตั ิทักษะกิจกรรมกายบรหิ าร ทกั ษะกฬี าฟตุ บอล การเคลอ่ื นไหว การส่ง - รบั ลกู ดว้ ย หลังเท้า ดว้ ยข้างเท้าด้านใน ด้วยเข่า ด้วยศีรษะ การเตะดว้ ยหลงั เทา้ การเตะข้างเทา้ ดา้ นใน การหยุดลูกด้วย ฝา่ เท้า การหยดุ ลกู ด้วยขา้ งเท้าดา้ นใน การหยดุ ด้วยหนา้ อก การเปน็ ผู้รกั ษาประตู เพื่อให้นกั เรยี นมคี วามรูแ้ ละทกั ษะในการเล่นกฬี าฟตุ บอล เล่นกฬี าอย่างปลอดภัยและสนุกสนาน มีสมรรถภาพทางกายและทางจติ ทดี่ ี มีระเบยี บวนิ ยั เห็นคุณคา่ และนำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน ผลการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถบอกประวตั ิความเปน็ มาของกฬี าฟุตบอลได้ 2. นกั เรียนสามารถบอกประโยชน์ท่รี ับจากการเล่นกีฬาฟุตบอลได้ 3. นักเรียนอธบิ ายองค์ประกอบท่ีสร้างเสริมสขุ ภาพของกฬี าฟตุ บอลได้ 4. นักเรียนสามารถบอกมารยาทในการเปน็ ผูน้ ำและผชู้ มของกฬี าฟตุ บอลได้ 5. นกั เรียนสามารถบอกวิธกี ารดูแลและรักษาอปุ กรณข์ องกฬี าฟตุ ฟตุ บอลได้ 6. นกั เรยี นสามารถฝกึ ทักษะการรับ - สง่ ลูกบอลแบบตา่ งๆได้ 7. นักเรยี นสามารถฝึกทักษะการหยุดลกู บอลแบบตา่ งๆได้ 8. นักเรียนสามารถฝึกทักษะการเตะลกู บอลแบบต่าง ๆ ได้ 9. นักเรียนสามารถฝกึ ทกั ษะการเป็นผู้รกั ษาประตูได้ 10. นกั เรยี นสามารถอธิบายวธิ กี ารปอ้ งกันและดแู ลการบาดเจบ็ ของกฬี าฟตุ ฟุตบอลได้ 11. นกั เรียนสามารถอธบิ ายวธิ กี ารบริหารรา่ งกาย การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย กอ่ นการฝกึ กฬี าฟุตบอล ได้ 12. นักเรยี นสามารถอธบิ าย กฎ กตกิ าการแขง่ ขนั ของกฬี าฟตุ บอลไดโ้ ดยสงั เขป ทคี่ วรทราบ รวม ผลการเรียนรู้ 12 ข้อ
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ ากฬี าฟตุ บอล รหสั วิชา พ31201 ประเภทวชิ าเพม่ิ เตมิ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หนว่ ยท่ี ชอื่ หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน 1 (ชม.) 20 ประวัติ 1,2,3,4,5 2 และความ 10 40 เป็นมาของ 3 กฬี า การเรียนรถู้ งึ ประวตั ิความเปน็ มา 40 ฟุตบอล 100 ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั ตลอดจนมารยาท ผเู้ ล่นผู้ดทู ี่ดี การเก็บรักษาอุปกรณ์ และการเลน่ ด้วยความปลอดภัย เป็น เป้าหมายสำคญั ของการเลน่ กฬี า ทักษะ 6,7,8,9,10,11 15 พนื้ ฐาน ของกีฬา ทักษะทถ่ี กู ต้องเป็นสง่ิ สำคญั ผูเ้ ล่นตอ้ ง ฟตุ บอล มีการเตรยี มความพร้อมทดี่ ี ปฏิบตั ิ ตามกระบวนการเรียนรู้ และรปู แบบ วิธที ถ่ี กู ตอ้ ง การเล่นทมี 12 การเลน่ ทีมเป็นการนำเอาทักษะท่ีได้ 15 ฝึกมา นำมาใชใ้ ห้ถกู จงั หวะ เวลา รวมทัง้ สน้ิ 40
คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาพลศึกษา 1 รหสั วิชา พ31102 ประเภทวิชาพ้ืนฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต วเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรปู แบบต่างๆ ในการเลน่ กีฬา ใช้ความสามารถของ ตนเพือ่ เพม่ิ ศกั ยภาพของทีม คำนึงถึงผลที่เกิดตอ่ ผู้อ่ืน และสงั คม เล่นกีฬาไทย กฬี าสากลประเภทบุคคล / คู่ กีฬาประเภททีมได้อยา่ งนอ้ ย ๑ ชนดิ แสดงการ เคลอ่ื นไหวได้อยา่ งสร้างสรรค์ เขา้ รว่ มกจิ กรรมนันทนาการนอกโรงเรียน และนำหลกั การแนวคิดไปปรบั ปรงุ และพฒั นาคณุ ภาพชีวิต ของตนและสงั คม ตวั ชี้วัด พ 3.1 ม.4-6/1, พ 3/1 ม.4-6/2 ,พ 3.1 ม.4-6/3 , พ 3.1 ม.4-6/4 , พ 3.1 ม.4-6/5 รวมท้ังหมด 5 ตวั ชว้ี ัด
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าพลศึกษา 1 รหสั วชิ า พ31102 ประเภทวิชาพื้นฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกิต หน่วย ช่อื หนว่ ย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน ท่ี ตวั ชี้วัด (ชม.) 1 หลักการ พ 3.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ 5 20 เคลอื่ นไหว พ 3.1 ม.4-6/2 การเคลื่อนไหวรูปแบบต่าง ๆในการ กฬี า เล่นกีฬา ใ ช ้ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง ต น เ พ ื ่ อ เ พิ่ ม ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลที่เกิดต่อ ผ้อู ่ืนและสงั คม 2 ทกั ษะการ พ 3.1 ม4-6/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภท 10 50 เลน่ กีฬา พ 3.1 ม.4-6/4 บุคคล/คู่ กีฬาประเภททีมอย่างน้อย ๑ ชนิด แสดงการเคลื่อนไหวได้อย่าง สร้างสรรค์ 3 ใช้ความรู้ พ 3.1 ม.4-6/5 เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก 5 30 พลศึกษา โรงเรียน และนำหลักการแนวคิดไป ช่วยนำพา ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของ บรู ณาการ ตนและสังคม รวมทั้งสนิ้ 20 100
คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชากีฬาฟตุ ซอล รหสั วชิ า พ31202 ประเภทวชิ าเพ่มิ เติม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรียน 40 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษา ค้นควา้ เก่ยี วกับประวตั ิความเป็นมาของกฬี าฟุตซอล ทกั ษะการเล่นฟตุ ซอล การ เคล่อื นไหว กติกาการแข่งขัน วธิ กี ารเล่นถูกตอ้ งและปลอดภยั วธิ ีการเกบ็ และรกั ษาอุปกรณ์ มารยาทท่ีดใี นการ เล่น ประโยชน์และคุณค่าของการเล่นฟตุ ซอล ฝกึ ปฏิบัติทกั ษะกิจกรรมกายบริหาร ทักษะกฬี าฟุตซอล การเคล่อื นไหว การสง่ - รับ ลูกด้วย หลงั เท้า ดว้ ยขา้ งเทา้ ด้านใน ด้วยเข่า ดว้ ยศรี ษะ การเตะดว้ ยหลังเทา้ การเตะข้างเท้าดา้ นใน การหยุดลกู ด้วย ฝ่าเท้า การหยดุ ลกู ดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน การหยดุ ด้วยหน้าอก การเปน็ ผ้รู กั ษาประตู เพื่อใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้และทักษะในการเลน่ กฬี าฟตุ ซอล เล่นกีฬาอยา่ งปลอดภัยและสนกุ สนาน มีสมรรถภาพทางกายและทางจติ ทดี่ ี มรี ะเบยี บวนิ ยั เหน็ คุณค่าและนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถบอกประวตั ิความเป็นมาของกีฬาฟุตซอลได้ 2. นกั เรียนสามารถบอกประโยชน์ท่ีรบั จากการเล่นกีฬาฟุตซอลได้ 3. นักเรยี นอธิบายองคป์ ระกอบท่สี ร้างเสรมิ สุขภาพของกีฬาฟตุ ซอลได้ 4. นกั เรยี นสามารถบอกมารยาทในการเป็นผูน้ ำและผู้ชมของกฬี าฟตุ ซอลได้ 5. นกั เรยี นสามารถบอกวธิ ีการดูแลและรักษาอปุ กรณข์ องกีฬาฟตุ ซอลได้ 6. นกั เรียนสามารถฝึกทกั ษะการรับ - ส่ง ลกู บอลแบบต่างๆได้ 7. นกั เรยี นสามารถฝึกทกั ษะการหยุดลกู บอลแบบต่างๆได้ 8. นักเรยี นสามารถฝกึ ทกั ษะการเตะลูกบอลแบบต่าง ๆ ได้ 9. นักเรยี นสามารถฝึกทกั ษะการเป็นผู้รักษาประตูได้ 10. นกั เรยี นสามารถอธิบายวธิ ีการปอ้ งกันและดแู ลการบาดเจ็บของกีฬาฟตุ ซอลได้ 11. นกั เรยี นสามารถอธิบายวธิ ีการบริหารรา่ งกาย การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย กอ่ นการฝึกกฬี าฟุตซอลได้ 12. นกั เรยี นสามารถอธิบาย กฎ กติกาการแขง่ ขันของกฬี าฟตุ ซอลได้ โดยสงั เขป ท่คี วรทราบ รวม ผลการเรียนรู้ 12 ข้อ
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ ากฬี าฟตุ ซอล รหสั วิชา พ31202 ประเภทวชิ าเพม่ิ เตมิ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หนว่ ยท่ี ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน 1 (ชม.) 20 ประวตั ิ 1,2,3,4,5 2 และความ 10 40 เป็นมาของ 3 กีฬาฟุต การเรียนรถู้ งึ ประวตั ิความเปน็ มา 40 ซอล 100 ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั ตลอดจนมารยาท ผเู้ ล่นผู้ดทู ี่ดี การเก็บรักษาอุปกรณ์ และการเลน่ ด้วยความปลอดภัย เป็น เป้าหมายสำคญั ของการเลน่ กฬี า ทักษะ 6,7,8,9,10,11 15 พ้นื ฐาน ของกฬี า ทักษะทถ่ี กู ต้องเป็นสง่ิ สำคญั ผูเ้ ล่นตอ้ ง ฟตุ ซอล มีการเตรยี มความพร้อมทดี่ ี ปฏิบตั ิ ตามกระบวนการเรียนรู้ และรปู แบบ วิธที ถ่ี กู ตอ้ ง การเล่นทมี 12 การเลน่ ทีมเป็นการนำเอาทักษะท่ีได้ 15 ฝึกมา นำมาใชใ้ ห้ถกู จงั หวะ เวลา รวมทัง้ สน้ิ 40
คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาพลศกึ ษา 2 รหัสวชิ า พ32101 ประเภทวชิ าพ้ืนฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ อธบิ ายและปฏิบัตเิ กยี่ วกบั สทิ ธิ กฎ กติกา กลวิธตี ่างๆ ในระหวา่ งการเลน่ การแข่งขันกฬี ากับผู้อื่น และนำไปสรุปเปน็ แนวปฏบิ ัตแิ ละใช้ในชีวิตประจำวันอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ออกกำลงั กายและเลน่ กีฬาทเี่ หมาะสมกบั ตนเองอย่างสม่ำเสมอ และใชค้ วามสามารถของตนเองเพม่ิ ศกั ยภาพของทีม ลดความเปน็ ตวั ตน คำนึงถงึ ผลท่เี กดิ ต่อสังคม แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู การเล่นและการแข่งขันกีฬา ดว้ ยความมีนำ้ ใจนกั กีฬา และ นำไปใช้ปฏบิ ัติทุกโอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพทีด่ ี ร่วมกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬาอยา่ งมีความสุข ชื่นชมใน คณุ ค่าและความงามของการกฬี า ตัวช้วี ดั พ 3.2 ม.4-6/1, พ 3.2 ม.4-6/2 ,พ 3.2 ม.4-6/3, พ 3.2 ม.4-6/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวชีว้ ดั
โครงสร้างรายวชิ า รายวิชาพลศึกษา 2 รหัสวิชา พ32101 ประเภทวิชาพื้นฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน ท่ี ตัวช้วี ัด (ชม.) 1 หลักการ พ 3.2 ม.4-6/1 ออกกำลังกายและเลน่ กีฬาท่ีเหมาะสม 6 30 ออกกำลงั กับตนเองอย่างสม่ำเสมอ และใช้ กาย ความสามารถของตนเองเพิ่มศักยภาพ ของทีม ลดความเป็นตัวตนคำนึงถึง ผลทเ่ี กิดตอ่ สังคม 2 การเลน่ ทมี พ 3.2 ม.4-6/2 อธิบายและปฏิบัติเกี่ยวกับสิทธิ กฎ 10 40 กติกา กลวิธตี ่าง ๆในระหว่างการเลน่ การแข่งขันกีฬากับผู้อื่น และนำไป สรุปเป็นแนวปฏิบัติและใช้ใน ชีวติ ประจำวนั อย่างตอ่ เน่อื ง 3 มารยาท พ 3.2 ม.4-6/3 แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู 4 30 การเลน่ พ 3.2 ม.4-6/4 การเล่น และการแข่งขันกีฬาดว้ ย กฬี า ความมนี ำ้ ใจนกั กฬี า และนำไปใช้ ปฏบิ ตั ทิ ุกโอกาสจนเปน็ บุคลิกภาพท่ดี ี ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬา อย่างมีความสุข ชื่นชมในคุณค่าและ ความงามของการกฬี า รวมท้ังสน้ิ 20 100
คำอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ ากีฬาตะกรอ้ รหสั วิชา พ32201 ประเภทวิชาเพ่ิมเติม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาค้นควา้ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของกฬี าตะกร้อทงั้ ในและตา่ งประเทศ กฎ กติกา การ แข่งขัน ประโยชน์ท่ีไดร้ บั จากการเลน่ กฬี าตะกร้อ มารยาทของการเปน็ ผเู้ ล่นและผดู้ กู ีฬาตะกร้อท่ดี ี ฝึกปฏบิ ตั หิ รอื ทำการทดลองเก่ียวกับกายบริหาร การออกกำลงั กายด้วยกิจกรรมกีฬาตะกร้อ การ สรา้ งจงั หวะในการเคลือ่ นไหวกับลูกตะกรอ้ การสรา้ งพลงั บังคบั กล้ามเนอ้ื ต่อจังหวะลูกตะกรอ้ การเล่นลูกดว้ ย ด้วยขา้ งเท้าด้านใน การเลน่ ลูกดว้ ยหลงั เท้า การเลน่ ลูกดว้ ยเข่า การเล่นลูกดว้ ยศรี ษะ การส่งลูก การรบั ลูก วธิ ีการเล่นในตำแหนง่ ต่างๆ ทง้ั ในขณะเปน็ ผเู้ ล่นฝ่ายรับและฝ่ายรุก การเลน่ เปน็ ทีม วธิ ีการเล่นตะกร้อ ประกอบท่าทางในกฬี าตะกรอ้ ลอดบ่วงและตะกรอ้ วง อยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั สนุกสนาน การเรียนรู้การ ปอ้ งกัน การแก้ไข การเสริมสร้างสุขภาพ เพ่ือใหน้ กั เรยี นรหู้ ลักและวิธกี ารออกกำลังกายทถี่ ูกต้องโดยใช้กฬี าตะกรอ้ เปน็ สือ่ ร้กู ฎกติกาการเล่นทีถ่ กู ต้อง รู้ถึงระเบียบ วินัยของการฝกึ เคารพเช่อื ฟงั ผฝู้ ึกสอน มีความกตัญญู ต่อผมู้ พี ระคุณ รู้จกั คุณค่าของความเป็นผ้มู นี ำ้ ใจเป็นนักกฬี า ร้แู พ้ รูช้ นะ รู้อภัย มีสมรรถภาพ ทางกายและทางจิตทด่ี ี เห็นคุณค่าของการเลน่ กีฬาและนำไปปฏบิ ตั ใิ นชวี ิตประจำวนั ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถบอกประวตั ิความเปน็ มาของกีฬาตะกร้อได้ 2. นกั เรยี นสามารถบอกประโยชนท์ ร่ี บั จากการเลน่ กีฬาตะกร้อได้ 3. นักเรยี นอธบิ ายองค์ประกอบท่สี ร้างเสริมสุขภาพของกีฬาตะกรอ้ ได้ 4. นักเรียนสามารถบอกมารยาทในการเป็นผ้นู ำและผู้ชมของกีฬาตะกร้อได้ 5. นักเรยี นสามารถบอกวิธกี ารดูแลและรักษาอปุ กรณ์ของกฬี าตะกร้อได้ 6. นักเรียนสามารถฝึกทกั ษะการรับ – สง่ ลกู ตะกรอ้ แบบตา่ งได้ 7. นักเรียนสามารถฝึกทกั ษะการเตะลกู ตะกร้อแบบต่างๆได้ 8. นักเรียนสามารถฝึกทกั ษะการเสิร์ฟขา้ มตาขา่ ยได้ 9. นักเรยี นสามารถฝึกทักษะการเปน็ ฝา่ ยรุก – ฝ่ายรับ ได้ 10. นกั เรียนสามารถอธิบายวธิ ีการป้องกนั และดแู ลการบาดเจบ็ ของกีฬาตะกรอ้ ได้ 11. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวิธกี ารบริหารร่างกาย การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย ก่อนการฝึกกีฬาตะกร้อได้ 12. นกั เรียนสามารถอธิบาย กฎ กติกาการแข่งขันของกีฬาตะกร้อได้ โดยสังเขปทีค่ วรทราบ รวมผลการเรยี นรู้ 12 ข้อ
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ ากฬี าตะกรอ้ รหสั วิชา พ32201 ประเภทวิชาเพิ่มเตมิ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกิต หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน 1 (ชม.) 20 ประวตั ิ 1,2,3,4,5 การเรียนรถู้ งึ ประวตั ิความเป็นมา 10 2 และความ ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั ตลอดจนมารยาท 40 เปน็ มาของ ผเู้ ล่นผู้ดทู ี่ดี การเก็บรักษาอปุ กรณ์ 3 กฬี า และการเลน่ ด้วยความปลอดภัย เปน็ 40 ตะกรอ้ เป้าหมายสำคญั ของการเลน่ กีฬา 100 ทักษะ 6,7,8,9,10,11 20 พ้นื ฐาน 10 ของกฬี า ทักษะทถ่ี กู ต้องเป็นสิง่ สำคญั ผ้เู ล่นตอ้ ง ตะกรอ้ มีการเตรยี มความพรอ้ มทีด่ ี ปฏิบัติ ตามกระบวนการเรียนรู้ และรูปแบบ การเลน่ ทีม 12 วิธที ถ่ี กู ตอ้ ง การเลน่ ทีมเป็นการนำเอาทักษะท่ีได้ ฝึกมา นำมาใชใ้ ห้ถกู จังหวะ เวลา รวมทัง้ สน้ิ 40
คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าสขุ ศกึ ษา 2 รหสั วชิ า พ32102 ประเภทวิชาพน้ื ฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรียน 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกติ วเิ คราะหบ์ ทบาทและความรบั ผดิ ชอบของบุคคลท่ีมีตอ่ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพและการป้องกนั โรคใน ชมุ ชน วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของสอ่ื โฆษณาเกย่ี วกบั สุขภาพเพอ่ื การบรโิ ภค วิเคราะหส์ าเหตแุ ละเสนอแนวทางการ ปอ้ งกันการเจบ็ ปว่ ยและการตายของคนไทย วางแผนและปฏบิ ัติตามแผนการพฒั นาสุขภาพของตนเองและครอบครวั วางแผนและปฏบิ ัตติ าม แผนการพฒั นาสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก มสี ว่ นรว่ มในการส่งเสรมิ และพฒั นาสุขภาพของบคุ คลในชมุ ชน ปฏิบตั ิตนตามสิทธิของผู้บริโภค ตัวชี้วดั พ 4.1 ม.4-6/1, พ 4.1 ม.4-6/2 ,พ 4.1 ม.4-6/3 , พ 4.1 ม.4-6/4, พ 4.1 ม.4-6/5 , พ 4.1 ม.4-6/6 , พ 4.1 ม.4-6/7 รวมทงั้ หมด 7 ตัวชวี้ ัด
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชาสุขศกึ ษา 2 รหัสวิชา พ32102 ประเภทวิชาพ้ืนฐาน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ หน่วยที่ ชือ่ หนว่ ย มาตรฐาน/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน ตัวช้วี ัด (ชม.) 1 การ พ 4.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์บทบาทและความรบั ผิดชอบ 4 20 เสริมสรา้ ง ของบคุ คลท่มี ีต่อการสร้างเสริมสุขภาพ สขุ ภาพ และการป้องกนั โรคในชุมชน 2 สิทธิ พ 4.1 ม.4-6/2 วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อโฆษณา 6 30 ผบู้ ริโภค พ 4.1 ม.4-6/3 เกีย่ วกบั สขุ ภาพเพือ่ การบริโภค ปฏบิ ัตติ นตามสิทธิของผูบ้ รโิ ภค 3 สุขภาพ พ 4.1 ม.4-6/4 วิเคราะหส์ าเหตุและเสนอแนวทางการ 6 30 ของบุคคล พ 4.1 ม.4-6/5 ป้องกันการเจ็บป่วยและการตายของ ในชมุ ชน พ 4.1 ม.4-6/6 คนไทย วางแผนและปฏิบัติตามแผนการ พัฒนาสุขภาพของตนเองและ ครอบครวั มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนา สุขภาพของบคุ คลในชุมชน 4 สมรรถภา พ 4.1 ม.4-6/7 วางแผนและปฏิบัตติ ามแผนการ 4 20 พทางกาย/ พฒั นาสมรรถภาพทางกายและ กลไก สมรรถภาพทางกลไก รวมท้งั สิ้น 20 100
คำอธิบายรายวชิ า รายวิชากีฬาวดู้ บอล รหัสวชิ า พ32202 ประเภทวชิ าเพิม่ เติม ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาเก่ยี วกบั ประวตั ิความเปน็ มา ประโยชนแ์ ละคุณค่า หลกั การเล่นด้วยความปลอดภัยมารยาท ของผดู้ แู ละผเู้ ลน่ การเก็บรักษาอปุ กรณ์ นำหลกั การทางวิทยาศาสตร์การเคล่ือนไหวไปใช้ในการออกกำลงั กายและการเล่นกฬี าวดู้ บอล มี ทักษะทางกีฬาว้ดู บอล การปฏิบตั ิตามกฎ กติกา เข้าร่วมการเล่นด้วยความปลอดภัยและสนกุ สนาน มีน้ำใจ นักกีฬาและการมีสมรรถภาพทางกายและทางจิตท่ดี ี เพือ่ ให้มีความร้คู วามเขา้ ใจ และเหน็ คณุ ค่าของกฬี าวูด้ บอล และสามารถนำความรู้ไปปฏบิ ัตแิ ละ ประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ผลการเรียนรู้ 1. รู้ความเปน็ มา ประโยชน์ มารยาท การเก็บรักษาอุปกรณห์ ลกั การเลน่ ด้วยความปลอดภยั 2. เสริมสรา้ งสมรรถภาพทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั กฬี าวู้ดบอล 3. ปฏิบัติทักษะพน้ื ฐานของกฬี าวดู้ บอล 4. อธิบายกติกากฬี าว้ดู บอล 5. ปฏบิ ัตทิ กั ษะการเล่นประเภทเดย่ี วและทมี รวม ผลการเรยี นรู้ 5 ข้อ
โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ ากฬี าวดู้ บอล รหัสวชิ า พ32202 ประเภทวิชาเพิ่มเตมิ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 40 ชัว่ โมง 1.0 หนว่ ยกิต หน่วยที่ ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน 1 ความรทู้ ่ัวไป ตวั ชว้ี ัด (ชม.) 1 การเรยี นรู้ถึงประวัติความเปน็ มา 2 10 ประโยชนท์ ี่จะไดร้ บั ตลอดจนมารยาท ผู้เลน่ ผู้ดูทีด่ ี การเกบ็ รกั ษาอปุ กรณ์ และการเลน่ ด้วยความปลอดภัย เป็น เป้าหมายสำคัญของการเล่นกีฬา 2 สมรรถภาพ 2 การมสี มรรถภาพทางกายท่ีดีจะนำไปสู่ 4 10 3 ทกั ษะ การมสี ุขภาพท่ีแขง็ แรง และสามารถ 16 40 4 กตกิ า ปฏิบัติกิจกรรมทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับกฬี าได้ 5 20 อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 5 การเลน่ ทมี 13 20 3 ทกั ษะทถ่ี กู ตอ้ งเป็นส่งิ สำคญั ผูเ้ ล่นตอ้ ง 40 100 มีการเตรยี มความพรอ้ มทด่ี ี ปฏิบัติ ตามกระบวนการเรียนรู้ และรปู แบบ วธิ ีท่ถี กู ตอ้ ง 4 กติกากฬี าที่สำคญั ประกอบด้วย กตกิ า ที่เกี่ยวขอ้ งกับสง่ิ อำนวยความสะดวก และอุปกรณ์ ผูเ้ ข้าร่วมแข่งขัน รปู แบบ การแข่งขัน ลกั ษณะการเล่น การหยดุ การแขง่ ขัน การหยุดพกั การปฏิบัติ ของผู้รว่ มการแขง่ ขัน ผตู้ ดั สิน และ สัญญาณของผตู้ ดั สินและผู้ชว่ ย 5 การเล่นทีมเป็นการนำเอาทักษะที่ได้ ฝึกมา นำมาใช้ให้ถกู จงั หวะ เวลา รวมทง้ั สิ้น
คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าสขุ ศึกษา 3 รหสั วชิ า พ33101 ประเภทวชิ าพนื้ ฐาน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 20 ชัว่ โมง 0.5 หน่วยกิต วเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดจากการครอบครอง การใช้และการจำหนา่ ยสารเสพตดิ ปัจจัยทมี่ ผี ลต่อ สุขภาพ หรอื ความรุนแรงของคนไทยและเสนอแนวทางป้องกนั วางแผนกำหนดแนวทางลดอุบัติเหตุ และ สร้างเสริมความปลอดภยั ในชมุ ชน ใชท้ กั ษะการตัดสินใจแกป้ ัญหาในสถานการณ์ท่ีเส่ียงตอ่ สุขภาพและความรนุ แรง แสดงวิธกี ารช่วยฟ้นื คืนชีพอย่างถกู วิธี มสี ว่ นรว่ มในการป้องกันความเสยี่ งต่อการใช้ยา การใชส้ ารเสพติด และความรนุ แรง เพ่อื สุขภาพ ของตนเอง ครอบครวั และสังคมมีสว่ นรว่ มในการสรา้ งเสรมิ ความปลอดภัยในชุมชน ตวั ช้ีวดั พ 5.1 ม.4-6/1 , พ 5.1 ม.4-6/2 , พ 5.1 ม.4-6/3 ,พ 5.1 ม.4-6/4 ,พ 5.1 ม.4-6/5 ,พ 5.1 ม.4-6/6 , พ 5.1 ม.4-6/7 รวมทง้ั หมด 7 ตวั ชวี้ ัด
โครงสร้างรายวิชา รายวชิ าสขุ ศึกษา 3 รหัสวชิ า พ33101 ประเภทวิชาพื้นฐาน ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ หน่วย ชือ่ หนว่ ย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน ท่ี ตวั ชี้วัด (ชม.) 1 สารเสพติด พ 5.1 ม.4-6/1 มีสว่ นรว่ มในการปอ้ งกันความเส่ยี งตอ่ 6 30 พ 5.1 ม.4-6/2 การใชย้ า การใช้สารเสพติด และ ความรนุ แรง เพ่ือสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และสังคม วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการ ครอบครอง การใช้ยา และการ จำหน่ายสารเสพติด 2 ความ พ 5.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์ปจั จัยท่มี ผี ลตอ่ สุขภาพหรอื 5 25 รนุ แรง พ 5.1 ม.4-6/6 ความรนุ แรงของคนไทยและเสนอ แนวทางปอ้ งกัน ใช้ทกั ษะการตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาใน สถานการณท์ ี่เส่ียงตอ่ สุขภาพและ ความรนุ แรง 3 อบุ ัตเิ หตุ/ พ 5.1 ม.4-6/4 วางแผน กำหนดแนวทางลดอบุ ัตเิ หตุ 5 25 ความ พ 5.1 ม.4-6/5 และสร้างเสรมิ ความปลอดภยั ในชุมชน ปลอดภัย มีส่วนรว่ มในการสรา้ งเสริมความ ปลอดภัยในชมุ ชน 4 ชว่ ยฟื้นคืน พ 5.1 ม.4-6/7 แสดงวิธกี ารช่วยฟนื้ คืนชพี อยา่ งถูกวิธี 4 20 ชพี รวมทั้งส้นิ 20 100
คำอธิบายรายวชิ า รายวิชากีฬาแบดมนิ ตัน รหัสวิชา พ33201 ประเภทวชิ าเพมิ่ เตมิ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษา ค้นคว้าเก่ียวกับประวัติความเปน็ มาของกีฬาแบดมินตนั ทกั ษะการเล่นแบดมินตัน การ เคลอื่ นไหว กตกิ าการแขง่ ขนั วธิ กี ารเลน่ ถูกตอ้ งและปลอดภยั วิธกี ารเกบ็ และรักษาอุปกรณ์ มารยาททด่ี ีในการ เลน่ ประโยชน์และคณุ ค่าของการเล่นแบดมนิ ตนั ฝึกปฏิบัติทักษะกจิ กรรมกายบรหิ าร ทักษะกฬี าแบดมินตัน การเคล่ือนไหว การจับไม้ การตลี กู หนา้ มือ การตลี ูกหลงั มอื การเสริ ์ฟลูก การรบั ลกู เพ่อื ใหน้ กั เรียนมคี วามรู้และทักษะในการเล่นกฬี าแบดมนิ ตัน เลน่ กฬี าอย่างปลอดภัยและ สนุกสนาน มีสมรรถภาพทางกายและทางจิตท่ีดี มีระเบยี บวนิ ยั เห็นคุณคา่ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ผลการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถบอกประวตั ิความเป็นมาของกฬี าแบดมินตันได้ 2. นักเรยี นสามารถบอกประโยชนท์ ีร่ ับจากการเลน่ กีฬาแบดมินตันได้ 3. นกั เรียนอธิบายองค์ประกอบทส่ี รา้ งเสรมิ สุขภาพของกีฬาแบดมนิ ตันได้ 4. นกั เรยี นสามารถบอกมารยาทในการเป็นผนู้ ำและผชู้ มของกฬี าแบดมินตนั ได้ 5. นักเรียนสามารถบอกวิธีการดูแลและรักษาอปุ กรณ์ของกีฬาแบดมนิ ตันได้ 6. นักเรียนสามารถฝกึ ทกั ษะและลกั ษณะของกีฬาแบดมนิ ตันประเภทตา่ งได้ 7. นักเรียนสามารถอธิบายวธิ กี ารป้องกันและดแู ลการบาดเจ็บของกีฬาแบดมินตนั ได้ 8. นกั เรียนสามารถอธิบายวธิ ีการบรหิ ารร่างกาย การสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย ก่อนการฝกึ กฬี าแบดมนิ ตนั ได้ 9. นักเรยี นสามารถอธิบาย กฎ กติกาการแขง่ ขนั ของกีฬาแบดมนิ ตนั ได้ โดยสังเขป ท่ีควรทราบ รวมผลการเรียนรู้ 9 ขอ้
โครงสร้างรายวิชา รายวชิ ากฬี าแบดมนิ ตนั รหสั วิชา พ33201 ประเภทวชิ าเพม่ิ เติม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต หนว่ ย ช่อื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน ท่ี (ชม.) 1 ประวตั แิ ละ 1,2,3,4,5 การเรียนรถู้ ึงประวตั คิ วามเป็นมา 10 20 ความเป็นมา ประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ ับตลอดจนมารยาท ของกีฬา ผเู้ ล่นผู้ดทู ี่ดี การเก็บรักษาอปุ กรณ์ แบดมินตนั และการเล่นดว้ ยความปลอดภยั เป็น เป้าหมายสำคญั ของการเล่นกีฬา 2 ทักษะ 6,7,8 15 40 15 40 พื้นฐานของ ทกั ษะที่ถกู ตอ้ งเป็นส่ิงสำคัญ ผู้เล่นต้อง มีการเตรียมความพรอ้ มทด่ี ี ปฏิบตั ิ กีฬา ตามกระบวนการเรียนรู้ และรูปแบบ วธิ ีท่ถี ูกต้อง แบดมนิ ตัน การเลน่ ทีมเปน็ การนำเอาทกั ษะทีไ่ ด้ 3 การเล่นทีม 9 ฝกึ มา นำมาใชใ้ ห้ถกู จงั หวะ เวลา รวมทงั้ สน้ิ 40 100
คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาพลศึกษา 3 รหสั วิชา พ33102 ประเภทวชิ าพ้ืนฐาน ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 20 ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ วเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั การเคลือ่ นไหวรูปแบบต่างๆ แสดงการเคลอ่ื นไหวไดอ้ ย่าง สร้างสรรคใ์ นการเล่นกีฬา นำไปสรปุ เป็นแนวปฏิบัตแิ ละใช้ในชีวติ ประจำวันอยา่ งต่อเนอ่ื ง แสดงออกถึงการมมี ารยาท ในการดู การเล่นและการแข่งขันกฬี า ด้วยความมีนำ้ ใจนกั กฬี า และ นำไปใช้ปฏบิ ัติทุกโอกาส จนเปน็ บุคลกิ ภาพที่ดี ร่วมกิจกรรมทางกาย กิจกรรมนนั ทนาการนอกโรงเรยี น ออกกำลังกายและเลน่ กฬี าอย่างมคี วามสุข ชื่นชมในคุณค่าและความงามของการกีฬาวางแผนและปฏบิ ตั ิตามแผนการพฒั นาสมรรถภาพทางกาย และ สมรรถภาพทางกลไก ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.4-6/1 , พ 3/1 ม.4-6/4 ,พ 3.1 ม.4-6/5 , พ 3.2 ม.4-6/1 , พ 3.2 ม.4-6/3 , พ 4.2 ม.4-6/4 , พ 4.1 ม.4-6/7 รวมท้ังหมด 7 ตัวชีว้ ดั
โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาพลศึกษา 3 รหัสวิชา พ33102 ประเภทวชิ าพ้ืนฐาน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น 20 ช่วั โมง 0.5 หนว่ ยกิต หนว่ ย ชื่อหนว่ ย มาตรฐาน/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา คะแนน ท่ี ตัวช้ีวัด (ชม.) 1 หลักการ พ 3.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการ 5 30 เคลอ่ื นไหว พ 3.1 ม.4-6/4 เคล่ือนไหวรปู แบบตา่ ง ๆในการเลน่ กฬี า แสดงการเคล่ือนไหวไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ 2 หลักการออก พ 3.2 ม.4-6/1 ออกกำลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับ 10 40 กำลังกาย พ 3.2 ม.4-6/3 ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ และใช้ความสามารถ ของตนเองเพิ่มศักยภาพของทีม ลดความ เป็นตัวตนคำนึงถึงผลที่เกิดต่อสังคม แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การ เล่น และการแข่งขันกีฬาดว้ ยความมีน้ำใจ นักกีฬา และนำไปใช้ปฏิบัติทุกโอกาสจน เป็นบุคลกิ ภาพท่ดี ี 3 นันทนาการ พ 3.1 ม.4-6/5 เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการนอกโรงเรียน 5 30 พ 3.2 ม.4-6/4 และนำหลักการแนวคิดไปปรับปรุงและ พ 4.1 ม.4-6/7 พัฒนาคุณภาพชวี ิตของตนและสงั คม ร่วมกิจกรรมทางกายและเลน่ กฬี าอย่างมี ความสขุ ชื่นชมในคณุ ค่าและความงาม ของการกฬี า วางแผนและปฏิบัติตามแผนการพัฒนา สมรรถภาพทางกายภาพแสมรรถภาพทาง กลไก รวมทง้ั ส้ิน 20 100
คำอธิบายรายวิชา รายวชิ ากีฬาแฮดนบ์ อล รหัสวชิ า พ33202 ประเภทวชิ าเพ่ิมเติม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาค้นควา้ เกี่ยวกับประวตั ิความเป็นมาของกฬี าแฮนดบ์ อลทั้งในและต่างประเทศ กฎ กติกา การ แขง่ ขัน ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการเล่นกฬี าแฮนดบ์ อล มารยาทของการเป็นผู้เล่นและผู้ดกู ฬี าแฮนด์บอลที่ดี ฝกึ ปฏบิ ัติหรอื ทำการทดลองเกยี่ วกับกายบริหาร การออกกำลงั กายด้วยกจิ กรรมกฬี าแฮนด์บอล การ สร้างจงั หวะในการเคล่ือนไหวกบั ลกู บอล การสร้างพลังบังคับกล้ามเนื้อต่อจงั หวะลกู บอล การบังคบั ลกู การรับ และส่งลูก การเล้ยี งลกู การยิงประตู การเป็นผู้รักษาประตู วธิ กี ารเล่นในตำแหนง่ ท่ตี ่างๆ ท้ังในขณะเป็นผู้ เล่นฝา่ ยรบั และฝ่ายรกุ การเล่นเป็นทมี อยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภัย สนุกสนาน การเรยี นรู้การป้องกัน การ แก้ไข การเสริมสรา้ งสุขภาพ เพื่อให้นกั เรยี นร้หู ลักและวิธีการออกกำลงั กายท่ีถกู ตอ้ งโดยใชก้ ีฬาแฮนด์บอลเปน็ สอื่ รู้กฎกตกิ าการเล่นที่ถูกตอ้ ง รู้ถึงระเบยี บ วินัยของการฝึก เคารพเช่อื ฟังผฝู้ กึ สอน มคี วามกตญั ญู ต่อผูม้ พี ระคณุ รจู้ กั คุณค่าของความเป็นผ้มู ีนำ้ ใจเปน็ นักกฬี า รูแ้ พ้ รชู้ นะ รูอ้ ภยั มีสมรรถภาพ ทางกายและทางจิตท่ีดี เหน็ คุณคา่ ของการเลน่ กีฬาและนำไปปฏบิ ัติในชีวติ ประจำวนั ผลการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถบอกประวตั ิความเป็นมาของกีฬาแฮนด์บอลได้ 2. นกั เรียนสามารถบอกประโยชนท์ รี่ บั จากการเลน่ กีฬาแฮนดบ์ อลได้ 3. นักเรยี นอธิบายองค์ประกอบที่สร้างเสริมสุขภาพของกีฬาแฮนดบ์ อลได้ 4. นักเรยี นสามารถบอกมารยาทในการเป็นผนู้ ำและผ้ชู มของกฬี าแฮนด์บอลได้ 5. นักเรยี นสามารถบอกวิธกี ารดูแลและรกั ษาอุปกรณข์ องกีฬาแฮนดบ์ อลได้ 6. นักเรียนสามารถฝึกทกั ษะและลักษณะของกีฬาแฮนดบ์ อลประเภทต่างได้ 7. นักเรยี นสามารถอธิบายวธิ ีการป้องกนั และดแู ลการบาดเจ็บของกีฬาแฮนด์บอลได้ 8. นักเรียนสามารถอธิบายวธิ กี ารบรหิ ารร่างกาย การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ก่อนการฝกึ กฬี าแฮนดบ์ อลได้ 9. นกั เรยี นสามารถอธบิ าย กฎ กตกิ าการแข่งขันของกีฬาแฮนดบ์ อลได้ โดยสังเขป ที่ควรทราบ รวมผลการเรยี นรู้ 9 ข้อ
โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ ากีฬาแฮนด์บอล รหัสวิชา พ33202 ประเภทวชิ าเพิม่ เตมิ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง 1.0 หน่วยกติ หน่วยที่ ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา คะแนน 1 (ชม.) 20 ประวตั ิ 1,2,3,4,5 2 และความ 10 40 เป็นมาของ 3 กีฬา การเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมา 40 แฮนด์บอล 100 ประโยชน์ที่จะได้รบั ตลอดจนมารยาท ทกั ษะ 6,7,8 พ้นื ฐาน ผู้เลน่ ผู้ดูทีด่ ี การเก็บรกั ษาอุปกรณ์ ของกีฬา แฮนด์บอล และการเล่นดว้ ยความปลอดภัย เป็น การเลน่ ทมี 9 เปา้ หมายสำคญั ของการเลน่ กีฬา 15 ทกั ษะท่ถี ูกตอ้ งเปน็ ส่ิงสำคญั ผเู้ ลน่ ต้อง มีการเตรยี มความพร้อมทีด่ ี ปฏิบัติ ตามกระบวนการเรยี นรู้ และรปู แบบ วิธที ี่ถกู ตอ้ ง การเล่นทมี เปน็ การนำเอาทักษะที่ได้ 15 ฝึกมา นำมาใช้ให้ถูกจังหวะ เวลา รวมทงั้ ส้ิน 40
อภธิ านศัพท์ กลไกของรา่ งกายที่ใช้ในการเคลือ่ นไหว (Body Mechanism) กระบวนการตามธรรมชาติในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตามลักษณะโครงสร้าง หน้าท่ี และการทำงานร่วมกนั ของขอ้ ตอ่ กลา้ มเนือ้ กระดูกและระบบประสาทท่ีเกีย่ วข้องภายใต้ขอบข่าย เง่ือนไข หลักการ และปัจจัยด้านชีวกลศาสตร์ที่มีผลต่อการเคลื่อนไหว เช่น ความมั่นคง (Stability) ระบบคาน (Leverage) การเคลอ่ื น (Motion) และแรง (Force) การเคล่อื นไหวเฉพาะอย่าง (Specialized Movement) การผสมผสานกนั ระหว่างทกั ษะย่อยของทักษะการเคลื่อนไหวพืน้ ฐานต่าง ๆ การออกกำลังกาย การเล่น เกม และการเล่นกีฬาต่าง ๆ ซ่งึ มีความจำเปน็ สำหรับกิจกรรมทางกาย เชน่ การขวา้ งลกู ซอฟทบ์ อล ต้อง อาศัยการผสมผสานของทักษะการสไลด์ (การเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่) การขว้าง (การเคลื่อนไหวแบบ ประกอบอุปกรณ์) การบิดตัว (การเคลื่อนไหวแบบไม่เคลื่อนที)่ ทักษะที่ทำบางอย่างยิ่งมีความซับซ้อนและ ตอ้ งใชก้ ารผสมผสานของทักษะการเคล่อื นไหวพืน้ ฐานหลาย ๆ ทักษะรวมกัน การเคลือ่ นไหวในชีวติ ประจำวัน (Daily Movement) รปู แบบหรือทักษะการเคลื่อนไหวรา่ งกายในอริ ิยาบถต่าง ๆ ท่ีบคุ คลทั่วไปใช้ในการ ดำเนนิ ชวี ติ ไม่ วา่ เพอื่ การประกอบกจิ วตั รประจำวัน การทำงาน การเดนิ ทางหรือกจิ กรรมอน่ื ๆ เชน่ การยืน กม้ นงั่ เดิน ว่งิ โหนรถเมล์ ยกของหนัก ปีนป่าย กระโดดลงจากที่สูง ฯลฯ การเคล่ือนไหวพ้นื ฐาน (Fundamental Movements) ทักษะการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายท่จี ำเปน็ สำหรบั ชีวติ และการดำเนนิ ชีวิตของมนษุ ย์ ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นทักษะที่มีการพัฒนาในช่วงวัยเด็ก และจะเป็นพื้นฐานสำหรับการ ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อเจริญวัยสูงขึ้น ตลอดจนเปน็ พื้นฐานของการ มีความสามารถในการเคล่ือนไหว โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในการเล่นกฬี า การออกกำลงั กาย และการประกอบกิจกรรมนันทนาการ การเคล่ือนไหว พ้นื ฐาน สามารถแบง่ ออกได้เป็น 3 ประเภท คอื 1. การเคลื่อนไหวแบบเคล่อื นที่ (Locomotor Movement) หมายถงึ ทกั ษะการเคลือ่ นไหว ที่ใช้ ในการเคลื่อนร่างกายจากที่หนึง่ ไปยงั อกี ที่หนึ่ง ได้แก่ การเดนิ การวิง่ การกระโดด สลับเท้า การกระโจน การสไลด์ และการวิง่ ควบม้า ฯลฯ หรือการเคล่ือนที่ในแนวดิง่ เช่น การกระโดด ทักษะการเคลื่อนไหว เหล่านเ้ี ป็นพื้นฐานของการทำงานประสานสัมพันธ์ทางกลไกแบบไมซ่ ับซ้อน และเปน็ การเคลื่อนไหวร่างกายที่ ใชก้ ล้ามเน้ือมัดใหญ่
2. การเคลื่อนไหวแบบอยู่กับที่ (Nonlocomotor Movement) หมายถึง ทักษะการเคลื่อนไหวที่ ปฏบิ ัตโิ ดยร่างกายไมม่ ีการเคลอื่ นท่ขี องรา่ งกาย ตัวอย่างเช่น การกม้ การเหยยี ด การผลักและดนั การบิดตัว การโยกตัว การไกวตวั และการทรงตัว เปน็ ต้น 3. การเคลือ่ นไหวแบบประกอบอุปกรณ์ (Manipulative Movement) เปน็ ทกั ษะการเคล่ือนไหวที่ มีการบังคับหรือควบคุมวัตถุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการใช้มือและเท้า แต่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็ สามารถใช้ได้ เชน่ การขว้าง การตี การเตะ การรับ เป็นต้น การจัดการกับอารมณแ์ ละความเครยี ด (Emotion and Stress Management) วิธีควบคุมอารมณ์ความเครียดและความคับข้องใจ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น แล้วลงมือ ปฏิบัติอย่างเหมาะสม เช่น ทำสมาธิ เล่นกีฬา การร่วมกิจกรรม นันทนาการ การคลายกล้ามเน้ือ (muscle relaxation) การช่วยฟืน้ คืนชีพ (Cardiopulmonary Resuscitation = CPR) การช่วยชีวติ เบ้ืองต้นก่อนส่งต่อให้แพทย์ในกรณีผู้ปว่ ยหัวใจหยุดเต้น โดยการนวดหัวใจและผายปอด ไปพรอ้ ม ๆ กนั การดแู ลเบ้ืองตน้ (First Care) การใหก้ ารดูแลสุขภาพผู้ปว่ ยในระยะพกั ฟ้นื และ / หรือการปฐมพยาบาล การพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื (Sustainable Development) การพัฒนาที่เป็นองค์รวมของความเป็นมนุษย์ตามแนวทางของพระธรรมปิฏก (ประยุทธ์ ปยุตโต) เป็น การพัฒนาที่เป็นบูรณาการ คือ ทำให้เกิดเป็นองค์รวมหมายความว่า องค์ประกอบทั้งหลาย ที่เกี่ยวข้อง จะต้องประสานกันครบทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ และมีดุลยภาพ สอดคล้องกับ กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ การละเลน่ พ้ืนเมอื ง (Folk Plays) กจิ กรรมเลน่ ดง้ั เดมิ ของคนในชมุ ชนแตล่ ะทอ้ งถิ่น ซ่ึงเปน็ ส่วนหน่ึงของการดำเนินชีวิตหรอื วิถีชวี ิต เพื่อ เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ ความเครยี ด และสรา้ งเสรมิ ให้มีกำลังกายแข็งแรง สตปิ ัญญาดี จิตใจเบิกบาน สนกุ สนาน อันก่อให้เกดิ ความสัมพันธ์ที่ดตี ่อกัน และเป็นสว่ นหนึง่ ของวัฒนธรรม เชน่ กิจกรรมการเลน่ ของ ชุมชนท้องถิน่ วิ่งเปี้ยว ชักเย่อ ขี่ม้าส่งเมือง ตีจับ มอญซ่อนผ้า รีๆข้าวสาร วิ่งกระสอบ สะบ้า กระบ่ี กระบอง มวยไทย ตะกรอ้ วง ตะกรอ้ ลอดบว่ ง
กิจกรรมเข้าจังหวะ (Rhythmic Activities) การแสดงออกของรา่ งกาย โดยการเคลือ่ นไหวสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายให้เขา้ กับอตั ราความ ชา้ – เร็ว ของตวั โน้ต กิจกรรมนนั ทนาการ (Recreation Activities) กิจกรรมที่บุคคลได้เลือกทำหรือเข้าร่วมด้วยความสมัครใจในเวลาว่าง และผลที่ได้รับเป็นความพึง พอใจ ไมเ่ ปน็ ภยั ต่อสงั คม กจิ กรรมรับน้ำหนักตนเอง (Weight Bearing Activities) กิจกรรมการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวบนพื้น เช่น การเดิน การวิ่ง การกระโดดเชือก ยมิ นาสตกิ การเต้นรำหรอื การเตน้ แอโรบกิ โดยกล้ามเน้ือส่วนที่รับน้ำหนักต้องออกแรงกระทำกับน้ำหนัก ของตนเองในขณะปฏิบัติกิจกรรม กีฬาไทย (Thai Sports) กีฬาที่มีพื้นฐานเช่ือมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของท้องถิ่นและสังคมไทย เช่น กระบี่กระบอง มวยไทย ตะกรอ้ กีฬาสากล (International Sports) กีฬาที่เป็นท่ียอมรับจากมวลสมาชิกขององคก์ รกีฬาระดับนานาชาตใิ ห้เป็นชนิดกีฬาที่บรรจุอยูใ่ นเกม การแข่งขนั เช่น ฟตุ บอล วอลเลยบ์ อล เทนนสิ แบดมนิ ตัน เกณฑส์ มรรถภาพทางกาย (Physical Fitness Reference) คา่ มาตรฐานทไ่ี ดก้ ำหนดข้ึน (จากการศึกษาวิจัยและกระบวนการสถติ ิ) เพ่อื เป็นดัชนสี ำหรับประเมิน เปรียบเทียบว่าบุคคลท่ีไดร้ ับคะแนน หรือค่าตัวเลข (เวลา จำนวน ครั้ง น้ำหนัก ฯลฯ) จากการทดสอบ สมรรถภาพทางกายแต่ละรายการทดสอบนั้น มีสมรรถภาพทางกายตามองค์ประกอบดังกล่าวอยู่ในระดับ คุณภาพใด โดยทัว่ ไปแลว้ นิยมจัดทำเกณฑ์ใน 2 ลกั ษณะ คือ 1. เกณฑ์ปกติ (Norm Reference) เป็นเกณฑ์ท่ีจดั ทำจากการศึกษากลุ่มประชากร ที่จำแนกตาม กลุม่ เพศและวัย เป็นหลัก สว่ นใหญแ่ ลว้ จะจัดทำในลกั ษณะของเปอรเ์ ซ็นไทล์
2. เกณฑ์มาตรฐาน (Criterion Reference) เป็นระดับคะแนนหรือค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ล่วงหนา้ สำหรบั แตล่ ะราย การทดสอบเพอื่ เป็นเกณฑ์การตัดสินว่าบุคคลที่รับการทดสอบ มสี มรรถภาพหรือ ความสามารถผา่ นตามเกณฑ์ทไ่ี ด้กำหนดไวห้ รือไม่ มิได้เปน็ การเปรยี บเทยี บกับบคุ คลอื่น ๆ ความคิดรวบยอดเกีย่ วกบั การเคลือ่ นไหว (Movement Concepts) ความสัมพันธ์ระหว่างขนาด จงั หวะ เวลา พ้นื ที่ และทศิ ทางในการเคล่ือนไหวร่างกาย ความเข้าใจถึงความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง และความพอเหมาะพอดีระหว่างขนาดของแรงที่ใช้ ในการ เคลื่อนไหวร่างกายหรือวัตถุ ด้วยห้วงเวลา จังหวะและทิศทางที่เหมาะสมภายใต้ข้อจำกัดของพื้นที่ที่มีอยู่ และสามารถแปรความเขา้ ใจดังกล่าวทง้ั หมดไปส่กู ารปฏิบตั กิ ารเคลอ่ื นไหวในการเลน่ หรอื แขง่ ขันกฬี า ความเส่ียงต่อสุขภาพ (Health Risk) การประพฤติปฏิบตั ิที่อาจนำไปสู่การเกิดอันตรายตอ่ ชีวิตและสุขภาพของตนเองและผู้อื่น เช่น การ ขับรถเรว็ การกินอาหารสกุ ๆ ดบิ ๆ ความสำส่อนทางเพศ การมนี ำ้ หนักตวั เกิน การขาดการออกกำลงั กาย การสูบบหุ รี่ การด่ืมสุรา การใช้ยาและสารเสพติด ค่านยิ มทางสังคม (Health Value) คุณสมบัติของสิง่ ใดก็ตาม ซึ่งทำให้สิ่งนั้นเป็นประโยชน์นา่ สนใจ ส่ิงทีบ่ คุ คลยึดถือในการตดั สนิ ใจและ กำหนดการกระทำของตนเองเก่ียวกบั พฤติกรรมสุขภาพ คณุ ภาพชวี ิต (Quality of Life) ความรับรู้หรือเข้าใจของปัจเจกบุคคลที่มีต่อสถานภาพชีวิตของตนเองภายใต้บริบทของระบบ วัฒนธรรมและค่านิยมที่เขาใช้ชีวิตอยู่ และมีความเชื่อมโยงกับจุดมุ่งหมาย ความคาดหวัง มาตรฐาน รวมทั้งความกังวลสนใจที่เขามีต่อสิ่งต่าง ๆ คุณภาพชีวิตเป็นมโนคติที่มีขอบเขตกว้างขวาง ครอบคลุมเรื่อง ต่าง ๆ ทีส่ ลบั ซบั ซ้อน ได้แก่ สุขภาพทางกาย สภาวะทางจติ ระดับความเป็นตวั ของตัวเอง ความสัมพันธ์ ต่าง ๆ ทางสงั คม ความเชือ่ สว่ นบคุ คล และสมั พันธภาพทดี่ ีต่อส่งิ แวดลอ้ ม จิตวญิ ญาณในการแข่งขัน (Competitive Spiritual) ความมุ่งมั่น การทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ความรู้ ความสามารถในการแข่งขัน และร่วมมืออย่าง สนั ตเิ ต็มความสามารถ เพื่อใหไ้ ดม้ าซึ่งผลท่ีตนเองตอ้ งการ ทักษะชีวติ (Life Skills) เป็นคุณลักษณะหรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา (Psychosocial Competence) และเป็น ความสามารถทางสตปิ ัญญา ทท่ี กุ คนจำเปน็ ตอ้ งใชใ้ นการเผชญิ สถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้น ในชวี ติ ประจำวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาขึ้นได้ด้วยการฝึกและกระทำซ้ำ ๆ ให้เกิดความคล่องแคล่ว เคยชิน
จนเป็นลักษณะนิสัย ประกอบดว้ ยทักษะตา่ ง ๆ ดังนี้ คือ การรู้จักตนเอง เข้าใจตนเองและเห็นคุณค่าของ ตนเอง การรจู้ กั คิดอย่างมีวจิ ารณญาณและคดิ สร้างสรรค์ การรู้จักคิดตัดสินใจและแก้ปญั หา การรจู้ กั แสวงหา และใช้ข้อมูลความรู้ การสื่อสารและการสร้างสัมพันธภาพกบั ผู้อื่น การจัดการกับอารมณ์และความเครียด การปรับตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง การตั้งเป้าหมาย การวางแผนและดำเนินการตามแผน ความเห็นใจ ผอู้ ่นื ความรับผดิ ชอบต่อสงั คมและซาบซ้ึงในส่ิงทด่ี ีงามรอบตวั ธงโภชนาการ (Nutrition Flag) เป็นเครื่องมือที่ช่วยอธิบายและทำความเข้าใจโภชนบัญญัติ 9 ประการ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ โดย กำหนดเป็นภาพ “ธงปลายแหลม” แสดงกลมุ่ อาหารและสดั สว่ นการกินอาหารในแต่ละกลมุ่ มากน้อยตามพื้นท่ี สังเกตได้ชัดเจนว่า ฐานใหญ่ดา้ นบนเน้นใหก้ ินมากและปลายธงข้างลา่ งบอกใหก้ ินน้อย ๆ เท่าที่จำเป็นโดยมี ฐานมาจากขอ้ ปฏิบตั ิการบรโิ ภคอาหารเพ่ือสุขภาพทดี่ ีของคนไทย หรอื โภชนบัญญัติ 9 ประการ คอื ๑. กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมูใ่ หห้ ลากหลายและหม่ันดูแลนำ้ หนกั ตัว ๒. กนิ ข้าวเปน็ อาหารหลักสลบั กับอาหารประเภทแป้งเปน็ บางมอื้ ๓. กนิ พืชผักให้มากและกินผลไมเ้ ป็นประจำ ๔. กินปลา เนื้อสตั วไ์ มต่ ดิ มนั ไข่ และถัว่ เมล็ดแหง้ เปน็ ประจำ ๕. ดืม่ นมให้เหมาะสมตามวัย ๖. กนิ อาหารทม่ี ไี ขมันแตพ่ อควร ๗. หลีกเล่ียงการกนิ อาหารรสหวานจดั และเค็มจดั ๘. กินอาหารทีส่ ะอาด ปราศจากการปนเปือ้ น ๙. งดหรือลดเครอื่ งดืม่ ทมี่ แี อลกอฮอล์ น้ำใจนักกฬี า (Spirit) เป็นคุณธรรมประจำใจของการเล่นร่วมกัน อยู่ร่วมกัน และมีชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่างปกติสุขและมีประสิทธิภาพ พฤติกรรมที่แสดงถึงความมีน้ำใจนักกีฬา เช่น การมีวินัย เคารพกฎ กติกา ร้แู พ้ รู้ชนะ รอู้ ภัย บริการสุขภาพ (Health Service) บรกิ ารทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขท้ังของรฐั และเอกชน ประชาสังคม (Civil Society) เครอื ขา่ ย กลมุ่ ชมรม สมาคม มูลนิธิ สถาบนั องคก์ ร หรือชุมชนทม่ี กี ิจกรรม การเคลอื่ นไหวทาง สังคม เพอ่ื ประโยชน์รว่ มกันของกลมุ่
ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพ (Health Products) ยา เครอื่ งสำอาง อาหารสำเรจ็ รูป เครื่องปรงุ รสอาหาร อาหารเสรมิ วิตามิน พฤติกรรมเบีย่ งเบนทางเพศ (Sex Abuse) การประพฤติปฏิบตั ิใด ๆ ทีไ่ มเ่ ป็นไปตามธรรมชาติทางเพศตนเอง เช่น มีจิตใจรกั ชอบในเพศเดียวกัน การแตง่ ตัวหรือแสดงกิรยิ าเปน็ เพศตรงขา้ ม พฤตกิ รรมสุขภาพ (Health Behaviour) การปฏิบัติหรือกิจกรรมใด ๆ ในด้านการป้องกัน การสร้างเสริม การรักษาและการฟื้นฟูสุขภาพ อันมีผลต่อสภาวะทางสขุ ภาพของบุคคล พฤติกรรมเสี่ยง (Risk Behaviour) รูปแบบจำเพาะของพฤติกรรม ซงึ่ ได้รับการพิสจู น์แลว้ วา่ มีความสัมพันธก์ บั การเพ่มิ โอกาส ทีจ่ ะป่วย จากโรคบางชนดิ หรือการเสือ่ มสุขภาพมากข้นึ พลงั ปัญญา (Empowerment) กระบวนการสรา้ งเสริมศกั ยภาพแกบ่ คุ คลและชมุ ชนใหเ้ ปน็ ผสู้ นใจใฝร่ ู้ และมีอำนาจ ในการคดิ การตัดสินใจ การแก้ปัญหาด้วยชุมชนเองไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นบุคคลและชุมชน ยังสามารถควบคุม สภาพแวดล้อมทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ปญั หาสุขภาพใหอ้ ยู่ในสภาพท่เี ออ้ื ตอ่ การสรา้ งเสรมิ และพัฒนาสขุ ภาพ ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) การขาดสารอาหารที่จำเป็นตอ่ การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของเด็ก ทำให้มผี ลกระทบต่อสขุ ภาพ ภาวะผู้นำ (Leadership) การมีคุณลักษณะในการเป็นหัวหน้า สามารถชักชวนและชี้นำสมาชิกในกลุ่มร่วมมือร่วมใจกัน ปฏิบตั งิ านให้สำเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี ภูมิปัญญาไทย (Thai Wisdom) สติปัญญา องค์ความรู้และค่านิยมที่นำมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมที่เกิดจากการสง่ั สมประสบการณ์ ความรู้แขนงต่าง ๆ ของบรรพชนไทยนบั แตอ่ ดตี สอดคล้องกับ วถิ ชี วี ิต ภมู ิปัญญาไทย จึงมคี วามสำคญั ต่อการพัฒนาชีวิตความเปน็ อยขู่ องคนไทย ท้ังดา้ นเศรษฐกิจ สังคม ลักษณะของภูมิปญั ญาไทย มีองคป์ ระกอบตอ่ ไปน้ี 1. คติ ความเชอ่ื ความคดิ หลักการที่เปน็ พืน้ ฐานขององค์ความรทู้ ีเ่ กดิ จากสัง่ สมถา่ ยทอดกนั มา 2. ศิลปะ วฒั นธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี
3. การประกอบอาชพี ในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ ท่ไี ดร้ ับการพฒั นาใหเ้ หมาะสมกบั สมยั 4. แนวคดิ หลกั ปฏบิ ตั ิ และเทคโนโลยีสมยั ใหม่ท่ีนำมาใชใ้ นชุมชน ซ่งึ เปน็ อทิ ธิพลของความก้าวหน้า ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ตัวอย่างภูมิปัญญาไทยที่เกีย่ วข้องกับสุขภาพ เช่น การแพทย์แผนไทย สมุนไพร อาหารไทย ยา ไทย ฯลฯ แรงขับทางเพศ (Sex Drive) แรงขับทเ่ี กิดจากสญั ชาตญาณทางเพศ ล่วงละเมิดทางเพศ (Sexual Abuse) การใช้คำพูด การจับ จูบ ลูบ คลำ และ / หรือร่วมเพศ โดยไม่ได้รับการยินยอมจาก ฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะกับผเู้ ยาว์ สติ (Conscious) ความรู้สึกตัวอยู่เสมอในการรับรู้สิ่งต่าง ๆ การให้หลักการและเหตุผลในการป้องกัน ยับยั้งชั่งใจ และควบคุมตนเองเพื่อไม่ให้คดิ ผิดทาง ไม่หลงลืม ไม่เครียด ไม่ผิดพลาด ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ถกู ต้องดี งาม สมรรถภาพกลไก (Motor Fitness) หรอื สมรรถภาพเชิงทักษะปฏบิ ัติ (Skill - Related Physical Fitness) ความสามารถของร่างกายที่ช่วยให้บุคคลสามารถประกอบกจิ กรรมทางกาย โดยเฉพาะอย่างย่ิงการ เล่นกีฬาไดด้ ี มอี งค์ประกอบ 6 ดา้ น ดังน้ี 1. ความคล่อง (Agility) หมายถึง ความสามารถในการเปลี่ยนทศิ ทางการเคลือ่ นท่ีได้อย่างรวดเรว็ และสามารถควบคมุ ได้ 2. การทรงตวั (Balance) หมายถึง ความสามารถในการรกั ษาดุลของร่างกายเอาไว้ได้ ทัง้ ในขณะ อยู่กับทแ่ี ละเคลอื่ นที่ 3. การประสานสัมพันธ์ (Co – ordination) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนไหวได้อย่าง ราบร่ืน กลมกลนื และมปี ระสทิ ธภิ าพ ซ่ึงเปน็ การทำงานประสานสอดคล้องกนั ระหว่างตา-มอื -เท้า 4. พลังกล้ามเนื้อ (Power) หมายถึง ความสามารถของกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งส่วนใดหรือ หลาย ๆ ส่วนของร่างกายในการหดตัวเพื่อทำงานด้วยความเร็วสงู แรงหรืองานที่ไดเ้ ป็นผลรวมของความแข็งแรงและ ความเรว็ ที่ใช้ในชว่ งระยะเวลาน้นั ๆ เชน่ การยืนอยกู่ บั ที่ กระโดด การทุ่มนำ้ หนัก เปน็ ตน้ 5. เวลาปฏิกิริยาตอบสนอง (Reaction time) หมายถึง ระยะเวลาทร่ี ่างกายใช้ในการตอบสนองตอ่ สิ่ง เรา้ ต่าง ๆ เชน่ แสง เสยี ง สมั ผสั 6. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกหนึ่งได้อย่าง รวดเร็ว
สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) ความสามารถของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บคุ คลทีม่ สี มรรถภาพทางกายดีนน้ั จะสามารถประกอบกิจกรรมในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างกระฉับกระเฉง โดย ไม่เหนอ่ื ยล้าจนเกินไปและยงั มพี ลงั งานสำรองมากพอ สำหรับกิจกรรมนนั ทนาการหรือกรณีฉกุ เฉิน ในปจั จุบนั นักวิชาชีพด้านสุขศึกษาและพลศึกษาได้เห็นพ้องต้องกันว่า สมรรถภาพทางกายสามารถจัดกลุ่มได้เป็น สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ (Health – Related Physical Fitness) และหรือสมรรถภาพกลไก (Motor Fitness) สมรรถภาพเชงิ ทักษะปฏบิ ัติ (Skill – Related Physical Fitness) สมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพ (Health – Related Physical Fitness) ความสามารถของระบบต่าง ๆ ในร่างกายประกอบดว้ ย ความสามารถเชงิ สรีรวิทยาด้านตา่ ง ๆ ที่ช่วยป้องกนั บุคคลจากโรคที่มีสาเหตุจากภาวะการขาดการออกกำลังกาย นับเป็นปจั จุบันหรอื ตัวบ่งชี้สำคญั ของการมีสุขภาพดี ความสามารถหรือสมรรถนะเหล่านี้ สามารถปรับปรุงพัฒนาและคงสภาพได้ โดยการออก กำลังกายอยา่ งสมำ่ เสมอ สมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพมีองค์ประกอบดังน้ี 1. องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) ตามปกติแล้วในร่างกายมนุษย์ประกอบด้วย กลา้ มเนื้อ กระดูก ไขมัน และส่วนอน่ื ๆ แตใ่ นสว่ นของสมรรถภาพทางกายนน้ั หมายถึง สดั ส่วนปริมาณ ไขมันในร่างกายกบั มวลร่างกายท่ปี ราศจากไขมนั โดยการวดั ออกมาเป็นเปอรเ์ ซ็นตไ์ ขมัน (% fat) ด้วยเคร่ือง 2. ความทนทานของระบบไหลเวยี นโลหิต (Cardiorespiratory Endurance) หมายถึง สมรรถนะ เชงิ ปฏบิ ัตขิ องระบบไหลเวยี นโลหิต (หัวใจ หลอดเลอื ด) และระบบหายใจในการลำเลียงออกซเิ จนไปยังเซลล์ กล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายสามารถยืนหยัดที่จะทำงานหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมดั ใหญ่เป็นระยะเวลา ยาวนานได้ 3. ความออ่ นตวั หรอื ความยดื หยุ่น (Flexibility) หมายถงึ พสิ ยั ของการเคลือ่ นไหวสงู สดุ เท่าท่ีจะทำ ได้ของขอ้ ต่อหรือกล่มุ ขอ้ ต่อ 4. ความทนทานหรือความอดทนของกล้ามเนื้อ (Muscular Endurance) หมายถึง ความสามารถ ของกล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อ ในการหดตัวซ้ำ ๆ เพื่อต้านแรงหรือความสามารถในการคง สภาพการหดตัวครัง้ เดยี วได้เป็นระยะเวลายาวนาน 5. ความแขง็ แรงของกลา้ มเนอ้ื (Muscular Strength) หมายถึง ปรมิ าณสูงสดุ ของแรง ที่กลา้ มเนอื้ มดั ใดมดั หนึง่ หรือกลุ่มกลา้ มเนือ้ สามารถออกแรงตา้ นทานได้ ในช่วงการหดตัว 1 ครงั้ สุขบัญญตั แิ หง่ ชาติ (National Health Disciplines) ข้อกำหนดที่เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป พึงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นสุขนิสัย เพอื่ ใหม้ ีสขุ ภาพดที ง้ั รา่ งกาย จิตใจ และสงั คม ซ่งึ กำหนดไว้ 10 ประการ ดงั น้ี ๑. ดูแลรกั ษาร่างกายและของใชใ้ ห้สะอาด ๒. รักษาฟนั ใหแ้ ข็งแรงและแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง
๓. ล้างมอื ให้สะอาดกอ่ นกินอาหารและหลังการขับถา่ ย ๔. กินอาหารสกุ สะอาด ปราศจากสารอนั ตราย และหลีกเลย่ี งอาหารรสจัด สฉี ูดฉาด ๕. งดบุหรี่ สรุ า สารเสพตดิ การพนัน และการสำส่อนทางเพศ ๖. สร้างความสัมพันธใ์ นครอบครวั ให้อบอุ่น ๗. ปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ยั ดว้ ยการไม่ประมาท ๘. ออกกำลงั กายสม่ำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี ๙. ทำจิตใจใหร้ ่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ ๑๐.มีสำนกึ ตอ่ สว่ นรวม รว่ มสร้างสรรคส์ ังคม สขุ ภาพ (Health) สุขภาวะ (Well – Being หรอื Wellness) ที่สมบูรณแ์ ละเชอื่ มโยงกันเป็นองค์รวมอยา่ งสมดุลท้ังมิติ ทางจิตวิญญาณ (มโนธรรม) ทางสังคม ทางกาย และทางจิต ซง่ึ มิไดห้ มายถึงเฉพาะความไมพ่ ิการและความ ไมม่ ีโรคเท่านนั้ สุนทรยี ภาพของการเคลือ่ นไหว (Movement Aesthetic) ศิลปะและความงดงามของท่วงท่าในการเคลื่อนไหวร่างกายในอิริยาบถต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจาก ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบท่าทางการเคลื่อนไหวและการฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ สามารถแสดง ออกมาเปน็ ความกลมกลนื และตอ่ เน่ือง แอโรบิก (Aerobic) กระบวนการสร้างพลังงานแบบต้องใช้อากาศ ซึ่งในที่นี้ หมายถึง ออกซิเจน (Aerobic -energe delivery) ในการสร้างพลังงานของกลา้ มเน้ือ เพื่อทำงานหรอื เคลอื่ นไหว นั้น กล้ามเนื้อจะมีวธิ กี าร 3 แบบท่จี ะไดพ้ ลงั งานมา แบบที่ 1 เปน็ การใช้พลังงานที่มสี ำรองอยูใ่ นกลา้ มเนือ้ ซึง่ จะใชไ้ ดใ้ นเวลาไม่เกิน 3 วนิ าที แบบที่ 2 การสังเคราะห์พลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic energy delivery) ซึ่งใช้ได้ไม่ เกิน 10 วินาที แบบท่ี 3 การสงั เคราะหส์ ารพลังงาน โดยใช้ออกซิเจน ซึ่งจะใช้พลังงานไดร้ ะยะเวลานาน
142
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: