เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพฒั นาดา้ นการเกษตร สารสนเทศด๎านการเกษตร คือ รากฐานสาคัญ และเป็นส่ิงจาเป็นอันจะขาดมิได๎ในการ พัฒนาการเกษตรของประเทศไทย เพราะสารสนเทศเปน็ ท่ีมาของความรู๎ และเทคโนโลยีตําง ๆ ท่ีจะ สร๎างให๎เกิดมูลคําเพิ่ม และการพัฒนาองค์ความรู๎ ท้ังในด๎านการผลิต การจัดการการตลาด และการ แปรรูปผลิตภัณฑ์ ฯลฯ การพัฒนาสารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือการเกษตร เป็น กิจกรรมท่ีมีความสาคัญตํอเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เพราะวําประเทศไทยจะมีความเป็น อตุ สาหกรรมมากข้นึ แตํกวําร๎อยละ 60 ของประชาชนในประเทศก็ยังอยํูในภาคเกษตรกรรม วิกฤต เศรษฐกิจของประเทศท่ีผํานมาก็ยังตอกย้าให๎เห็นความสาคัญของภาคเกษตร ในฐานะท่ีเป็นภาค เศรษฐกิจทพ่ี งึ พาไดอ๎ ยํางแทจ๎ ริง ของประชาชนในประเทศ การพัฒนาสารสนเทศด๎านการเกษตรให๎เกิดประโยชน์อยํางแท๎จริง จาเป็นจะต๎ อง ดาเนนิ การอยํางเป็นระบบในลักษณะของเครือขํายความรํวมมือของหนํวยงานผ๎ูผลิตสารสนเทศทั้ง ในภาครฐั และภาคเอกชน ตลอดจนถงึ ผใ๎ู ช๎สารสนเทศ ทง้ั ท่ีเป็นองคก์ รและบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาดา้ นการเกษตร เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนามาประยกุ ตใ์ ชเ๎ พื่อประโยชนท์ างการเกษตรได๎หลาย ประการดังน้ี 1. ใชไ๎ อทีเป็นส่ือ (Media)ในการ ส่ือสาร เผยแพรํความรู๎ด๎านการเกษตรนอกเหนือจากสื่อ อ่นื ๆ 2. จัดทาโปรแกรมเพ่ืออานวยประโยชน์ตํอการประกอบอาชพี เกษตรกรรม 3. ประยุกตใ์ ช๎ไอทใี นการสบื ค๎นข๎อมลู ขาํ วสารความรด๎ู ๎านการเกษตรจากแหลงํ ความรู๎ 4. เปน็ ชํองทางการตลาดชํองทางหนงึ่ ด๎วยระบบ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (E- commerce) เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การจดั ประเภทขอ้ มลู ทางการเกษตร การใช๎ไอทีเป็นส่ือ (Media) ในการสื่อสาร รวบรวม เผยแพรํความร๎ูด๎านการเกษตร นอกเหนือจากสื่ออ่ืน ๆ เชํน เอกสาร วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ โดยมีเปูาหมายท่ีสาคัญคือเกษตรกรทุก จังหวดั ผาํ นศนู ย์ถํายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจาตาบลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุํม สหกรณ์ องค์การบริหารสํวนตาบล (อบต.) โรงเรียน (โดยผํานนักเรียน) ประเภทข๎อมูลทาง
2 การเกษตรที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได๎จัดประเภทข๎อมูลทางการเกษตรเพ่ือแพรํข๎อมูล การเกษตรบนเว็บไซด์ ม1ี 5 หัวขอ๎ ดงั นี้ 1. ดิน ประกอบดว๎ ย ข๎อมลู ความร๎เู ก่ยี วกบั ดินรายงานผลวิเคราะห์ดิน ระบบข๎อมูลเตือนภัย ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ การใชป๎ ระโยชนท์ ี่ดิน ผลจากการเปล่ียนแปลงการใช๎ท่ีดิน แผนการ ใชท๎ ีด่ ิน เนื้อทถ่ี อื ครองท่ีดินทางการเกษตร หญ๎าแฝกเพ่ือการอนุรักษ์ดินและน้า การอนุรักษ์ดินและ นา้ ปัญหาดนิ และการแกไ๎ ข ฯลฯ 2. น้า ประกอบด๎วย ข๎อมูลสถานการณ์น้า ฐานข๎อมูลแหลํงน้าขนาดเล็ก ความร๎ูเร่ืองน้า และการชลประทาน ยุทธศาสตร์การชลประทาน กฎหมายเกี่ยวกับการชลประทาน โครงการ ชลประทาน ข๎อมูลและสถติ ิที่สาคัญ แหลงํ น้าเพ่ือการเกษตร ขอ๎ มลู ทางสถิติที่สาคัญ แหลํงน้าเพ่ือ การเกษตร ข๎อมลู ปริมาณนา้ ภัยแล๎ง การจัดการแหลงํ น้าเพอ่ื การเกษตรท่ยี ่งั ยืน ฯลฯ 3. พืช ประกอบด๎วย ขอ๎ มูลความรู๎เกย่ี วกับพชื ใบอนุญาต / ใบรับรองด๎านพืช พืชเศรษฐกิจ สถิติเก่ียวกับพืช กฎหมายที่เกี่ยวข๎องความรู๎ทางกฎหมายเก่ียวกับพืช หนํวยงานท่ีเก่ียวข๎องกับ พืช รายชอ่ื สถาบัน หนวํ ยงานท่ีทางาน ให๎ความรูแ๎ ละคาแนะนาเก่ียวกับพืช วารสารอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ 4. ปศุสตั ว์ ประกอบด๎วย ข๎อมูลความร๎เู กย่ี วกบั สัตว์ โครงการทสี่ าคญั พ.ร.บ./กฏ กระทรวง/ระเบยี บ ขอ๎ มลู สถานการณ์ปศุสตั ว์ ขอ๎ มลู สถิติปศุสัตว์ ข๎อมลู นาเขา๎ /สงํ ออก ฯลฯ 5. ประมงและเพาะเลี้ยง ประกอบด๎วย ข๎อมูลสารบัญความร๎ูหมวดสตั ว์นา้ ::บทความ/กฎ ระเบยี บตําง ๆ โครงการและบรกิ ารตาํ ง ๆ ฯลฯ 6. โรคและแมลงศัตรูพืช ประกอบด๎วย ข๎อมูลความร๎ูเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช โรคพืช ศัตรู ธรรมชาติ แมลงที่เป็นประโยชน์ การควบคุมและปูองกันกาจดั ศัตรูพชื ฯลฯ 7. ปุ๋ยและสารเคมี ประกอบด๎วย ข๎อมูลความร๎ูเกี่ยวกับปุ๋ย สารเคมีที่ใช๎ในการเกษตร สาร ปอู งกันกาจดั ศัตรูพชื ปยุ๋ ชีวภาพ EM หลักการใช๎สารกาจดั ศตั รูพชื ฯลฯ 8. เทคโนโลยีการเกษตร ประกอบด๎วย ข๎อมูลความรู๎เกี่ยวกับพืช GMO ผักปลอดสารพิษ การปลกู พชื ไรด๎ ิน ฯลฯ 9. ราคาสินค๎าและปัจจัยการผลิต ประกอบด๎วย ข๎อมูลความร๎ูเกี่ยวกับ ราคาสินค๎า และ ปจั จัยการผลติ ฯลฯ 10. แหลํงรับซ้ือและจาหนําย ประกอบด๎วย ข๎อมูลความร๎ูเก่ียวกับข๎อมูลทางการตลาด แหลํง องค์กรจาหนํายสินค๎าท่ีสาคัญ ราคาผลผลิตทางการเกษตร ราคาสินค๎าและภาวะผลผลิตของ พชื ที่สาคัญ ฯลฯ
3 11. องค์กรและเครือขํายเกษตร ประกอบด๎วย ข๎อมูลองค์กร มูลนิธิ สมาคม ชมรม บริษัท และหนวํ ยงานอน่ื ๆ ที่เกยี่ วข๎องกับการเกษตร 12. สหกรณ์และวิสาหกิจชุมชน ประกอบด๎วย ข๎อมูลเครือขํายสหกรณ์ตํางๆ เป็นส่ือกลาง ในธุรกิจของสหกรณ์ สํงเสริมกิจการสหกรณ์ ส่ือกลางการซ้ือขายสินค๎าและผลิตภัณฑ์เกษตร วิสาหกิจชุมชน มีประกาศ และข๎อมูลด๎านการเกษตรตํางๆ อาทิเชํนสหกรณ์ไทยอาสาดอทคอม จากัด สหกรณ์การเกษตรสูงเนิน จากัด สหกรณ์เลมอนฟาร์มพัฒนาจากัด สหกรณ์โคนม สกลนคร โครงการสํงเสริมอาชีพตามพระราชดาริ(ภูฟูา) กลํุมบ๎านเกษตรสหกรณ์สุราษฎร์ธานี สหกรณ์ประมงแมํกลอง สหกรณก์ รนี เนท สหกรณ์โคนมปากชํองจังหวัดนครราชสีมา องค์กร กลุํม แมํบ๎านภาคตาํ ง ๆ เปน็ ตน๎ 13. สถานการณ์เกษตร ประกอบด๎วย ขําวสารแวดวงการเกษตร สรุปขําวเกษตรรายวัน รายงานขําวเกษตรประจาวัน ค๎นหาขําวเกษตรทั่วไป ขําวการเกษตรจากหนังสือพิมพ์รายวัน ความรู๎ บทความทางการเกษตร งานวิจยั ขําวเศรษฐกิจการเกษตร ราคาสนิ คา๎ เกษตร พยากรณ์อากาศ สนทนาภาษาเกษตร ฯลฯ 14. เทคโนโลยีชาวบ๎าน ประกอบด๎วย ขําว บทความเทคโนโลยีชาวบ๎าน และการแปรรูป ผลติ ผลการเกษตร 15. เตอื นภัยเกษตร ประกอบด๎วย ขอ๎ มลู ภัยธรรมชาติภยั โรคระบาด และภยั เศรษฐกิจ สาหรับสานักงานเศรษฐกิจการเกษตรก็ได๎ดาเนินการกระจายข๎อมูลขําวสารและให๎บริการ สารสนเทศเศรษฐกิจการเกษตรผํานเว็บไซต์ http://www.oae.go.th เพ่ือเป็นแหลํงข๎อมูลขําวสาร สารสนเทศเศรษฐกจิ การเกษตร ประกอบดว๎ ย 1.ขําวสาร ประกอบด๎วยขําวสารตํอไปนี้ 1.1 ภาวะการผลิตการตลาดรายวันรายสัปดาห์ ได๎แกํข๎อมูลรายการสิ้นค๎าทาง การเกษตรเชํนปาล์มน้ามัน ข๎าว ยางพารา กาแฟดิบ ปศุสัตว์ การประมง ราคาสิ้นค๎าการเกษตร รายวัน ณ ตลาดกลางและตลาดทีส่ าคัญ เชํนตลาดไท ฯลฯ เปน็ ต๎น 1.2.วารสารเศรษฐกิจรายเดือน สามารถอํานและสืบค๎นบทความความร๎ู และ ขําวสารตาํ งๆจาก วารสารเศรษฐกิจจากฉบบั ปจั จุบันและฉบับยอ๎ นหลงั ได๎ 1.3 ขําวเตือนภัยเศรษฐกิจการเกษตรเชํน ลูํทาง ภาวะเส่ียงของการซ้ือขายส้ินค๎า ทางการเกษตร ความต๎องการทางการตลาด โรคระบาด อุทกภัย ภยั แล๎ง ฯลฯ เปน็ ตน๎ 1.ขาํ วสาร
4 1.4.ข๎อมูลเชิงพื้นที่ ประกอบด๎วยข๎อมูล แผนท่ีแสดงพ้ืนท่ีเพาะปลูก และ เพาะเล้ียงสินคา๎ เกษตร แผนท่แี สดงความเหมาะสมของสินค๎าเกษตร แผนที่แสดงผลพยากรณ์เน้ือ ที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ แผนที่เขตเกษตรเศรษฐกิจ แผนท่ีแสดงการใช๎ดิน แผนที่แสดงผลไม๎ที่ ออกสํตู ลาดในแตลํ ะเดือน 2. สถติ ิ ประกอบด๎วยสถิตทิ างการเกษตรที่สาคัญดงั น้ี 2.1 สถติ ิทางการเกษตรที่สาคัญของประเทศไทยรายปี เชนํ สถิติพ้ืนที่เพาะปลูก ผลผลิตตํอไรํ ราคาและมูลคําผลผลิตของพืชสาคัญเชํน พืชน้ามัน พืชเส๎นใย พืชผัก ไม๎ดอกไม๎ ประดบั สถิติปศสุ ัตวแ์ ละสัตวป์ ีกเชนํ จานวน จานวนโค กระบือ สุกร ไกํ เป็ด ฯลฯ เป็นต๎น 2.2 สถิติการใช๎ท่ีดินเพ่ือการเกษตรของประเทศไทย แสดงสถิติจานวนพ้ืนที่ทาง การเกษตรตํางๆ เชํน พ้ืนที่ถือครองทางการเกษตร ขนาดของฟาร์ม พื้นท่ีนา พื้นที่พืชไรํ พ้ืนที่ไม๎ ผลไมย๎ ืนต๎น พน้ื ที่สวนผักและไมด๎ อก พื้นทีท่ งํุ หญา๎ เล้ยี งสตั ว์ พน้ื ท่ีรกร๎าง ฯลฯ เป็นต๎น 2.3 ตัวชว้ี ัดทางเศรษฐกิจการเกษตรของประเทศไทยรายปี ข๎อมูลจากเป็นหนังสือท่ี ศูนย์สารสนเทศการเกษตร สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จัดทาข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือที่จะรวบรวมข๎อมูลเกี่ยวกับตัวช้ีวัดทางเศรษฐกิจการเกษตร ไว๎ในท่ีเดียวกัน เพื่ออานวยความสะดวกในการศึกษาวิเคราะห์เก่ียวกับเศรษฐกิจการเกษตรของ ประเทศ ตัวช้ีวัดทางเศรษฐกิจการเกษตรอาทิเชํน ผลผลิต เศรษฐกิจสํวนรวม มูลคําและดัชนี การ ผลิต ราคา สินเชื่อ รายได๎ รายจําย หนี้สิน ทรัพยากรธรรมชาติ งบประมาณและบุคลากร ฯลฯ เป็น ตน๎ 2.4 สถิตินาเข๎าและสํงออก เชํนมูลคําสํงออกและนาเข๎าสิ้นค๎าเกษตรกรรมราย เดือนมูลคําสํงออกและนาเข๎าสิ้นค๎าท้ังหมดเป็นรายเดือน ปริมาณและมูลคําสิ้นค๎าขาออก เกษตรกรรมฯลฯ เปน็ ตน๎ 3. ข๎อมูลเศรษฐกจิ ประกอบด๎วยขอ๎ มลู ตํอไปนี้ 3.1 ผลการพยากรณผ์ ลผลติ ได๎แกผํ ลการพยากรณ์พืชเศรษฐกิจ ปศุสัตว์ และไม๎ผล ที่สาคัญ เปน็ ต๎น 3.2 เศรษฐกิจมหภาค ได๎แกํข๎อมูลโครงสร๎างการผลิตการเกษตร ภาวะเศรษฐกิจ การเกษตรและแนวโน๎ม มูลคําผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ณ ราคาประจาปี การค๎า ระหวํางประเทศ ปริมาณสินเช่ือแยกตามมาตรฐานเงิน ปริมาณสินเชื่อแยกตามประเภท ธุรกิจ ประชากรและแรงงาน ฯลฯ เปน็ ต๎น 3.3 ดัชนีราคาสินค๎าเกษตรตามฤดูกาล เป็นการแสดงลักษณะการเคล่ือนไหวของ ราคาสินคา๎ เกษตรของแตํละเดือน ในรอบ 1 ปี
5 3.4 ดชั นีราคาสนิ คา๎ เกษตรทเ่ี กษตรกรขายไดแ๎ ละดชั นผี ลผลติ สินค๎าเกษตรท่ีสาคัญ ไดแ๎ กํ ข๎าวนาปี กาแฟ มันสาปะหลัง มะพรา๎ ว สุกร เป็นต๎น 3.5 ราคาสนิ้ คา๎ ที่สาคญั ทเ่ี กษตรกรได๎ท่ีไรํนา เป็นการนาเสนอข๎อมูลราคาเฉล่ียราย เดอื นและรายสปั ดาหร์ ะดบั จังหวดั ภาคและประเทศเป็นรายสนิ คา๎ ทส่ี าคญั จานวน 46 ชนิด 3.6 ข๎อมูลรายส้ินค๎า(Commodity Profile) เป็นการนาเสนอข๎อมูลรายละเอียดที่ เกี่ยวกับสินค๎าเกษตรแตํละชนิด เชํน เนื้อที่เพาะปลูก/เก็บเก่ียว แหลํงผลิต ราคาในตลาด ตํางๆ ปริมาณมลู คําการนาเข๎า สํงออก ประเทศคูํค๎าคูํแขํง 3.7 Country Profile เป็นการนาเสนอข๎อมูลพื้นฐาน เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ และ การค๎าด๎านการเกษตร ของประเทศตํางๆจาแนกตามทวีปดังนี้ ทวีปอเมริกาเหนือ ลาติน อเมริกา ยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ อาเซียน และแปซฟิ กิ ใต๎ และทวีปแอฟริกา เป็นตน๎ 3.8 ปัจจัยการผลิต ได๎แกํสถิติดังน้ี มูลคําการนาเข๎าสารกาจัดศัตรูพืช ปริมาณและ มูลคําการนาเข๎าและสํงออกเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพ่ือการค๎า ราคาขายปลีก (เงินสด) พันธ์ุสุกร ไกํและ เป็ดในตลาดกรุงเทพฯ ราคาขายสงํ (เงินสด) อาหารสัตว์สาเรจ็ รูปในตลาดกรุงเทพฯ เนื้อท่ีถือครอง ทางการเกษตรของประเทศไทย การใช๎ท่ีดินของประเทศไทยปริมาณและมูลคําการนาเข๎าปุ๋ยเคมี สูตรที่สาคัญ ปริมาณปุ๋ยเคมีท่ีใช๎ในการเกษตรของไทย ราคานาเข๎า (CIF) ราคาขายสํงในตลาด กรุงเทพฯ และราคาขายปลกี ในตลาดท๎องถน่ิ ของป๋ยุ เคมีสูตรทส่ี าคญั 4. เอกสารวิชาการ เป็นข๎อมูลงานวิจัยด๎านตํางๆทางการเกษตรเชํนด๎านพืชไรํ พืชสวน ปศุ สตั ว์ ประมง ครวั เรือน เปน็ ตน๎ 5. การติดตามและประเมินผล เป็นการนาเสนอรายงานผลความก๎าวหน๎ารายสัปดาห์ของ งานและโครงการทางการเกษตร และรายงานการประเมินผลประจาปีของงานและโครงการตํางๆ ทางการเกษตร 6. นโยบายและแผน ประกอบด๎วยขอ๎ มูลดังนี้ ยุทธศาสตรเ์ กษตร ยุทธศาสตร์แกส๏ โซฮอล์ ผลกระทบ ethanal ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรและแนวโน๎ม กองทุนปรับโครงสร๎างการผลิตภาค การเกษตรเพ่ือเพม่ิ ขีดความสามารถการแขํงขนั ของประเทศ ฯลฯ เป็นตน๎ 7. โครงการพิเศษตํางๆ เป็นข๎อมูลโครงการพิเศษท่ีเป็นโครงการความรํวมมือระหวําง ประเทศไทยกับตํางประเทศเชํน โครงการ East Asia Emergency Rice Reserve (EAERR) ฯลฯ เป็น ต้น
6 ภาพที่ 4.1 : โมเดลเครือข่ายคอมพวิ เตอร์เพอื่ การเกษตร นอกจากนี้ณรงค์ สมพงษ์ (2543 : 203-204) ได๎รวบรวมขอบเขตของข๎อมูลในระบบ สารสนเทศทางการเกษตรนานาชาติ (AGRIS) เป็นหัวข๎อกวา๎ ง ๆ ดังน้ี 1. ดา๎ นการเกษตรท่วั ไป (Agriculture in General) 2. ภมู ิศาสตร์และประวัติศาสตร์ (Geography and History) 3. การศึกษา สงํ เสรมิ และเผยแพรขํ ๎อสนเทศ (Education Extension and Information) 4. การบริหารและกฎหมาย (Administration and Legislation) 5. เศรษฐศาสตร์และพฒั นาชนบท (Economic Development and Rural Sociology) 6. พชื ศาสตร์ (Plant Science and Protection) 7. วิทยาการหลักการเกบ็ เกีย่ ว (Post Harvest Technology) 8. สัตวศาสตร์ (Animal Science) 9. การประมงและเพาะเลย้ี งสัตวน์ ้า (Fisheries and Aquaculture) 10. วิศวกรรมเกษตรและเคร่อื งจกั รกล (Agricultural Machinery and Engineering) 11. ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล๎อม (Natural Resource and Environments) 12. อตุ สาหกรรมการเกษตร (Processing of Agricultural Product) 13. วทิ ยาการการเลีย้ งดู (Human Nutrition) 14. นเิ วศวิทยา (Pollution) รวมทง้ั เรอ่ื งเบด็ เตล็ดท่ัวไปเกีย่ วขอ๎ งดา๎ นการเกษตร และมีหวั เรอ่ื งยอํ ยละเอยี ดลงไปอกี
7 นอกจากน้ียังมีเว็บไซต์ด๎านการเกษตรอ่ืนๆท่ีได๎รวบรวม เช่ือมโยง เผยแพรํข๎อมูลทาง การเกษตร เชํน www.kasetonline.net ซึ่งมีสารบัญความร๎ูทางการเกษตรในเรื่องดิน น้า พืช ปศุสัตว์ ประมง เทคโนโลยีการเกษตร แหลํงวิทยาการ ปุ๋ย ข๎อมูลสาหรับผ๎ูประกอบการด๎านการเกษตร สหกรณ์และกลมํุ เกษตรกร งานวิจัยสารเคมี และยาฆําแมลง เปน็ ตน๎ ฐานขอ้ มลู และแหล่งข้อมลู ทางการเกษตรท่สี าคัญของไทย ปัจจุบันฐานข๎อมูลแบบเว็บเพ็จซึ่งอาจเก็บไว๎ในรูปแบบ HTML ,XML และ PDF ฯลฯ มี มากมายและมีแนวโน๎มเพิ่มข้ึนทุกวัน เทคโนโลยีสารสนเทศมีระบบค๎นหาข๎อมูลที่เรียกวํา Search Engine เพื่อค๎นหาคาสาคัญอันจะนาไปสูํข๎อมูลท่ีต๎องการ Search Engine ที่สาคัญเชํน Google , yahoo สาหรับ Search Engine ท่ีสาคัญของประเทศไทย ท่ีใช๎สืบค๎นข๎อมูลขําวสารความรู๎ด๎าน การเกษตรเชนํ Nontri Search (http://search.ku.ac.th/) สาหรับฐานข๎อมูลหรือแหลํงรวบรวมข๎อมูลทางการเกษตรท่ีสาคัญของไทย พิบูลศิลป์ วัฒนะพงศ์ (2543) ผู๎อานวยการสานักหอสมดุ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตรไ์ ดร๎ วบรวมไว๎ดงั นี้ ไดแ๎ กํ 1. สานักห๎องสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นแหลํงข๎อมูลด๎านการเกษตรท่ีสาคัญ แหํงหนึง่ เพราะนอกจากจะมเี อกสาร ส่ิงพิมพ์ด๎านการเกษตรทุกสาขาวิชาแล๎ว สานักหอสมุด ยังทา หนา๎ ท่เี ปน็ ศนู ย์สนเทศทางการเกษตรแหํงชาติ ในสถาบันการศึกษา นอกจากสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล๎ว มหาวิทยาลัย ตําง ๆ ท่ีสอนด๎านการเกษตร คือ คณะเกษตรมหาวิทยาลัยเชียงใหมํ มหาวิทยาลัยขอนแกํน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็เป็นแหลํงข๎อมูลด๎านการเกษตร โดยเฉพาะแตํละแหํงจะเน๎นหนัก ปญั หาการเกษตรระดับภาค เชํน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกํน เผยแพรํ และให๎ความรู๎ ด๎านการเกษตร รวมท้ังศึกษาปัญหาด๎านการเกษตรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะท่ีคณะ เกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหมํ จะเน๎นหนักปัญหาการเกษตรของภาคเหนือ คณะ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล๎อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สอนเกี่ยวกับเรื่องการเกษตร รวมท้ังแกไ๎ ขปัญหาการเกษตรของภาคใต๎ นอกจากน้ีวิทยาลัยเกษตรกรรม ซึ่งมีอยํูเกือบทุกจังหวัดก็ เป็นแหลํงขอ๎ มูลท่สี าคญั ด๎านการเกษตรเชํนกัน 2. ศูนยส์ นเทศทางการเกษตรแหงํ ชาติ (Thai National AGRIS Centre) http://thaiagris. lib.ku.ac.th/ จดั ตงั้ เมื่อวันท่ี 13 มีนาคม 2523 ผ๎ูรับผิดชอบ คือ สานักหอสมุด มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ มีหน๎าท่ีใหบ๎ ริการสารสนเทศด๎านการเกษตร ทั้งทีท่ างศนู ย์ฯ ผลติ ขึน้ เอง และท่ไี ด๎จากความรวํ มมือในระบบเครือขาํ ยสารสนเทศ AGRIS ดังนี้
8 2.1 บรกิ ารสารสนเทศในรปู สิง่ พมิ พ์ 2.1.1 AGRINDEX (ค.ศ.1975-1994) บรรณานุกรมการเกษตรของทว่ั โลก เป็นดรรชนวี ารสารรายเดือนท่ีใหบ๎ รกิ ารอยูํในสานักหอสมดุ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ไดแ๎ จกจํายไปยงั หนํวยงานด๎านการเกษตรทเ่ี กย่ี วข๎อง 2.1.2 AGRIASIA (ค.ศ.1977-1996) บรรณานุกรมการเกษตรของเอเชีย เปน็ ดรรชนีวารสารราย 3 เดือน ท่ีให๎บริการอยูํในสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได๎ แจกจํายไปยังหนวํ ยงานด๎านการเกษตรทเี่ กยี่ วข๎อง 2.1.3 บรรณานุกรมการเกษตรของประเทศไทย (พ.ศ.2523-2540) เป็น บรรณานุกรมท่ีให๎บริการอยูํในสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมีสมาชิกซ่ึงเป็น หนวํ ยงานท่เี กี่ยวขอ๎ งกบั การเกษตรจากทวั่ ประเทศ 2.2บริการสารสนเทศในรปู ฐานขอ๎ มูล 2.2.1 AGRIS CD-ROM (ค.ศ.1975 - ปัจจุบัน) เป็นฐานข๎อมูล บรรณานกุ รมดา๎ นการเกษตรของทั่วโลก (ภาษาองั กฤษ) 2.2.2 Food and Human Nutrition (FHN) ฐานข๎อมูลด๎านอาหารและ โภชนาการของโลก โดยตดิ ตั้งไว๎ในคอมพวิ เตอร์และใหบ๎ ริการใน 3 รูปแบบ 1) ให๎บริการบนเครือขํายภายในสานักหอสมุด ผ๎ูใช๎สามารถ สืบคน๎ สารสนเทศไดด๎ ว๎ ยตนเอง ส่ังพิมพแ์ ละถํายโอนข๎อมลู ลงแฟูมได๎ตามท่ีต๎องการ 2) ให๎บรกิ ารบนเครอื ขาํ ยมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ผ๎ูใช๎สามารถ สืบค๎นสารสนเทศได๎ด๎วยตนเองจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ท่ีตํออยํูกับเครือขําย มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 3) ให๎บริการสืบค๎นสารสนเทศตามคาขอ สาหรับผู๎ใช๎ที่ไมํ ต๎องการสืบค๎นด๎วยตนเอง หรือผู๎ใช๎ท่ีไมํสามารถติดตํอผํานระบบเครือขํายท่ีให๎บริการ สามารถ ติดตํอขอให๎ทางศูนย์ฯ ทาการสบื คน๎ ข๎อมูลให๎ โดยแจ๎งมาที่ [email protected] 2.2.3 ฐานข๎อมูลงานวิจัยด๎านการเกษตรของประเทศไทย THAI AGRIS DATABASE (ภาษาอังกฤษ) เป็นข๎อมูลต้ังแตํ พ.ศ. 2534 - ปัจจุบัน ให๎บริการบนเครือขํายภายใน สานกั หอสมดุ และท่ี http://anchan.lib.ku.ac.th
9 2.2.4 ฐานข๎อมูลการเกษตรของประเทศไทย TAB DATABASE (ภาษาไทย) เป็น ข๎อมูลต้ังแตํ ปี พ.ศ. 2523 - ปัจจุบันให๎บริการบนเครือขํายภายในสานักหอสมุด และท่ี http://anchan.lib.ku.ac.th นอกจากนี้ ยังให๎บริการสาเนาเอกสารจากฐานข๎อมูล THAI AGRIS และ TABบริการ รวบรวมสารสนเทศและสร๎างฐานข๎อมูลเฉพาะเรื่อง บริการให๎คาปรึกษาแนะนาการพัฒน า สารสนเทศด๎านการเกษตร ให๎กับหนํวยงานตํางๆ และบริการฝึกอบรมด๎านการพัฒนาสารสนเทศ การเกษตรแกผํ ส๎ู นใจ และฝกึ งานให๎กบั บุคลากรศูนย์ AGRIS ภาพท่ี 4.2 : ศนู ยส์ นเทศทางการเกษตรแห่งชาติ (Thai National AGRIS Centre) http://thaiagris. lib.ku.ac.th/ 3. ศูนย์บริการเอกสารการวิจัยแหํงประเทศไทย (Thai National Documentation Center) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล๎อม ซึ่งให๎บริการข๎อมูลด๎านวิทยาศาสตร์และ การเกษตร มงี านพมิ พ์บรรณานกุ รมเฉพาะเร่อื งด๎านการเกษตร และให๎บริการแกํนักวิจัย เชํน บริการ คน๎ ข๎อมลู เฉพาะเรือ่ ง บริการแปล รวมทง้ั พมิ พ์ดรรชนี สาระสงั เขปเกี่ยวกบั การเกษตร เนื่องจากข๎อมูลด๎านการเกษตรมีหลายสาขาวิชา มีหลายหนํวยงานท่ีให๎บริการเฉพาะเรื่อง ตามลักษณะงานที่เก่ียวข๎อง โดยจัดตั้งเป็นศูนย์ สถาบัน หรือจัดระบบข๎อมูล เพื่อให๎บริการด๎าน ขอ๎ มลู การเกษตร 4. ศูนย์ข๎อมูลสมุนไพรแหํงชาติ (National Information Center on Medicinal Plants) ภายใต๎การดาเนนิ งานของคณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหดิ ล ทาหนา๎ ที่ รวบรวมข๎อมูลด๎านพืชท่ีมี ประโยชนซ์ ่ึงใช๎ทายารักษาโรคตําง ๆ เป็นอาหารที่มปี ระโยชน์ และรวมทัง้ สกัดน้าหอมจากพชื
10 5. ศูนย์สนเทศทางปุ๋ย (National Fertilizer Information Center) สังกัดสานักงาน เศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบรวบรวมข๎อมูลเกี่ยวกับปุ๋ยของ ประเทศไทย 6. ศูนย์พัฒนาการประมงแหํงเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ (Southeast Asian Fisheries Development Center – SEAFDEC) ตั้งข้ึนตามข๎อตกลงระหวํางประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยมี จุดประสงค์เพ่ือรวบรวมข๎อมูลด๎านการประมง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียให๎ความรํวมมือกับ ประเทศสมาชิก ประกอบด๎วย ญ่ีปุน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย โดยศูนย์ได๎ จัดพิมพ์ดรรชนตี ําง ๆ ด๎นการประมง และสาขาทเี่ กย่ี วขอ๎ 7. สถาบันประมงน้าจืด (National Inland Fisheries Institute –NIFI) เป็นสถาบันที่จัดให๎มี ข้ึน เพื่อดาเนินการทดลองค๎นคว๎าวิจัย และเผยแพรํความร๎ูเพ่ือพัฒนาเกี่ยวกับการประมงน้าจืด โดยเฉพาะสาขาท่ีเกี่ยวกับการเพาะเล้ียง อาหารปลา โรคปลา ตลอดจนศึกษาคุณภาพของน้า พัฒนาการแหลํงน้าธรรมชาติ ให๎คาแนะนาแกผํ ู๎สนใจทง้ั ภายใน และตาํ งประเทศ 8. สถาบันวิจัยเพ่ือการพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development Research Institute – TDRI) เป็นหนํวยงานท่ีรวบรวมสํงเสริมงานวิจัยทุกสาขาวิชา รวมทั้งด๎านการเกษตร ซึ่งผู๎สนใจ สามารถขอข๎อมลู จากหอ๎ งสมุดของสถาบันได๎ 9. ระบบข๎อมูลทรัพยากรธรรมชาติ (Natural Resource Information System – NRIS) เป็น หนํวยงานสังกัด สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร รวบรวมข๎อมูลด๎านทรัพยากรธรรมชาติ เพ่ือ นามาใช๎ประโยชน์ด๎านการบริหาร และจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมท้ังใช๎เป็นแนวทางสาหรับ การทางานวจิ ยั ของสานกั งานเศรษฐกจิ เพ่ือการเกษตร หนวํ ยงานทเ่ี ก่ียวขอ๎ งผ๎สู นใจท่ัวไป 10. ระบบฝกึ อบรม และเย่ียมเยือน (Training and visit System) สังกัดตรงกับกรมสํงเสริม การเกษตร โดยมีจุดประสงค์ให๎มีขบวนการถํายทอดเทคโนโลยีท่ีเป็นระบบ และตํอเนื่องตั้งแตํ ระดับกรมจนถึงเกษตรกร โดยมีระบบจัดการฐานข๎อมูลตําง ๆ เพ่ือให๎สามารถนาไปใช๎ในการ วางแผน และพัฒนางานสงํ เสรมิ การเกษตร รวมทงั้ จัดให๎มีห๎องเจรจาธุรกิจเพื่อใหผ๎ ู๎ซ้ือ-ผ๎ูขายผลิตผล ทางการเกษตรพบปะกัน มีเจ๎าหน๎าที่เป็นตัวกลาง รวมท้ังการเสนอผลิตภัณฑ์แปรรูป ภาคเอกชน สามารถซ้ือสินค๎าตาํ ง ๆ โดยไมตํ ๎องเดินทางไปถงึ แหลํงผลิต นอกจากน้ยี ังมศี ูนย์ขยายพันธ์ุพืช ศูนย์ขยายพันธุ์ไหม ศูนย์สํงเสริม และผลิตภัณฑ์พืชสวน ฯลฯ นอกจากแหลํงข๎อมูลที่กลําวข๎างต๎นแล๎ว ยังมีห๎องสมุดของหนํวยงานองค์กรตํางประเทศ คือ ห๎องสมุดสานักงานสํวนภูมิภาค เอเชียและแปซิฟิค องค์การอาหารและเกษตรแหํง
11 สหประชาชาติ (FAO) ห๎องสมุดแหํงนี้ มีเอกสารเกี่ยวกับการเกษตร และสาขาท่ีเก่ียวข๎อง ได๎แกํ อาหารโภชนาการ ปุาไม๎ ประมง และผลิตผลทางทะเล อตุ สาหกรรมการเกษตร เศรษฐกิจการเกษตร สงั คมวทิ ยาชนบทสิ่งแวดลอ๎ ม และอืน่ ๆ หนว่ ยงานทใ่ี หบ้ ริการข้อมลู ดา้ นการเกษตร หนวํ ยงานทร่ี ะบไุ ว๎น้ี เป็นแหลํงขอ๎ มูลดา๎ นการเกษตรที่ให๎บริการเฉพาะเรื่อง ซ่ึงเราสามารถ ตติ ํอขอข๎อมูลได๎ - ธนาคารเพ่อื การเกษตร - โรงงานยาสูบ - สมาคมสํงเสริมการเลีย้ งไกแํ หํงประเทศไทย - สานักงานกองทนุ สงเคราะห์สวนยาง - องคก์ ารตลาดเพ่ือการเกษตร - องคก์ ารสํงเสริมกิจการโคนมแหงํ ประเทศไทย - องค์การสะพานปลา - องคก์ ารอตุ สาหกรรมปุาไม๎ - องคก์ ารอตุ สาหกรรมห๎องเย็น - องค์การสวนยาง ระดับกระทรวงท่ใี ห๎บริการเก่ียวข๎องกับการพฒั นาการเกษตร - กระทรวงสาธารณสขุ - กระทรวงพาณิชย์ - กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน - กระทรวงอุตสาหกรรม - ทบวงมหาวิทยาลัย - กระทรวงศึกษาธกิ าร - กระทรวงมหาดไทย
12 - สานกั นายกรฐั มนตรี - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - กระทรวงการคลงั - กระทรวงคมนาคม - กระทรวงกลาโหม - กระทรวงการตาํ งประเทศ สมาคมด๎านการเกษตร และสาขาที่เกยี่ วข๎อง ซึ่งเป็นแหลํงขอ๎ มลู ดา๎ นการเกษตร ได๎แกํ - สมาคมวทิ ยาศาสตรก์ ารเกษตรของประเทศไทย - สมาคมพันธุศาสตร์แหงํ ประเทศไทย - สมาคมดนิ และปุ๋ยแหงํ ประเทศไทย - สมาคมพชื สวนแหํงประเทศไทย - สมาคมปุาไมแ๎ หํงประเทศไทย - สมาคมวิศวกรรมเกษตรแหํงประเทศไทย การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อใช้งานดา้ นการเกษตร เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถประยกุ ต์ใชใ๎ นงานด๎านการเกษตรหลายๆดา๎ นเชํน 1.ประยุกต์ใช๎ระบบ Geographic Information Systems (GIS ) โดยใช๎ซอฟท์แวร์ Arc/INFO, Arc View, Arc CAD, ArcGIS ฯลฯ ออกแบบเพ่ือแสดงลักษณะของข๎อมูลด๎าน การเกษตรในรูปแบบตํางๆ เชํน ข๎อมูลทางด๎านส่ิงแวดล๎อมและทรัพยากร (Environmental Information) ได๎แกํ ข๎อมูลทางด๎านทรัพยากรดิน น้า และปุาไม๎ รวมถึงข๎อมูลทางด๎านสัตว์ปุา และ ความหลากหลายทางชีวภาพ อาจจะสามารถหมายรวมถึงการติดตามและจัดการมลพิษที่เกิดขึ้นใน ส่งิ แวดลอ๎ ม เป็นตน๎
13 ภาพท่ี 4.3 : การใช้ GIS วิเคราะห์ รูปแบบและความสมั พนั ธ์ของขอ้ มลู เชงิ พน้ื ที่ (Spatial Data) (tulip.bu.ac.th/~raweewan.p/bc424/week2.ppt) 2.ประยุกต์ใช๎คาสั่งและฟังก์ชั่นของโปรแกรมสาเร็จรูป เชํน Lotus 1-2-3 และ Microsoft Excel ในการจัดการข๎อมูลทางสัตว์ศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวกับการประมวลข๎อมูล การจัดการฟาร์ม การทา บัญชีฟาร์ม การสร๎างแบบฟอร์มผลผลิตทางสัตว์ศาสตร์ หรือการประกอบสูตรอาหารสัตว์ การ คานวณและ วเิ คราะห์ขอ๎ มูลทางสถติ ิเบื้องตน๎ และการรายงาน 3.ใช๎ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์เพ่ือการวางแผนการผลิต โปรแกรมการปูองกันกาจัดศัตรูพืช ฯลฯ การประยุกต์เพ่ือการวางแผนการผลติ และการจัดการทางการเกษตรเชํนแกป๎ ญั หาการขนสํง 4.กรมสงํ เสริมการเกษตรไดป๎ ระยกุ ต์ใช๎ซอฟท์แวร์เพ่ือใช๎ประโยชน์ทางการเกษตรด๎านตําง (มีบรกิ ารให๎ดาว์นโหลด)เชนํ 4.1 โปรแกรม ระบบ POS สาหรับธุรกิจค๎าปลีกขนาดยํอมโปรแกรมฟื้นฟูอาชีพ เกษตรกรหลงั การพักชาระหน้ี 4.2 .แบบจัดเก็บข๎อมูลและระบบรายงาน โครงการฟ้ืนฟูอาชีพเกษตรกรหลังการ พกั ชาระหนี้ ปี 2544 4.3 โปรแกรมเครือขํายธุรกจิ เกษตร
14 4.4 โปรแกรมทะเบียนกลมุํ เกษตรกร 4.5 โปรแกรมระบบข๎อมูลทะเบียนเกษตรกรผป๎ู ลูกขา๎ วนาปี (KGK version 1.0) 4.6 โปรแกรมระบบข๎อมลู ทะเบียนเกษตรกรผปู๎ ลูกข๎าวนาปี เทคโนโลยีสารสนเทศกบั การพฒั นาวจิ ยั ข้นั สูงด้านการเกษตร งานวิจัยและพัฒนาในปัจจุบันต๎องการอุปกรณ์เครื่องมือชํวย โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์เป็น อุปกรณ์ท่ีใช๎ในการรวบรวมค๎นหา และจัดเก็บข๎อมลู วเิ คราะหข์ อ๎ มูล ประมวลผล และยังสามารถใช๎ ในการคานวณโมเดลทส่ี ลับซับซ๎อนได๎รวดเร็วและแมํนยา คอมพิวเตอร์มีสํวนทาให๎เกิดการค๎นคว๎า ระบบโมเลกุลของเซลเป็นไปอยํางรวดเร็ว โดยเฉพาะในเร่ืองจีโนม บริษัทเซเรลรําได๎ประกาศ ความสาเร็จ ในการจัดทาแผนที่รหัสพันธุกรรมมนุษย์ โดยใช๎ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขีด ความสามารถสูง และสามารถดาเนินการได๎แล๎วตั้งแตํปี ค.ศ 2000 ไอทีได๎มีผลตํอการค๎นคว๎ารหัส พนั ธุกรรมของพืชและสตั ว์ตาํ ง ๆ ซงึ่ มผี ลทาใหก๎ ารศึกษาระดับโมเลกูลของดีเอ็นเอก๎าวหน๎าไปมาก จนสามารถผลติ พชื และสตั ว์สายพันธุใ์ หมํ ๆ และยังสามารถสงั เคราะห์และติดตํอจนเป็นท่ีร๎ูจักกันดี ในเร่อื ง GMO (ยนื ภํูวรวรรณ ,2543 :2-3) ภาพที่ 4. 4 : บรษิ ัท Celera ประสบผลสาเรจ็ การสรา้ งแผนทีร่ หัสพนั ธกุ รรมมนุษย์ (http://www.celera.com)
15 สาหรับประเทศไทยปัจจุบันเทคโนโลยีชีวภาพได๎เข๎ามามีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศในทุกด๎านรวมทั้งด๎านการเกษตร โดยเฉพาะอยํางย่ิงข๎าว ซ่ึงเป็นธัญญาหาร ของคนไทยและชาวโลกกวํา4,000 ล๎านคน ดังนั้นการวิจัยและพัฒนาด๎านข๎าว จึงเป็นพื้นฐานที่ สาคัญท่ีจะชํวยยกระดับความสามารถและประสิทธิภาพในการผลิต และปรับปรุงพันธ์ุข๎าว ได๎แกํ การค๎นหายนี ท่ีกาหนดลกั ษณะเดํนของพันธุ์ข๎าวท่ดี ีไว๎เชํน เคร่ืองหมายดเี อน็ เอ ของยนี ต๎านโรค และ แมลง ยีนทนตํอน้าทํวม และยีนควบคุมคุณภาพของข๎าวเป็นต๎น ภายหลังจากการเข๎ารํวมโครงการ หาลาดับเบสจีโนมข๎าว(international Rice Genome sequencing Project, IRGSP) เพื่อหาลาดับเบส โครโมโซม 9 ดังนั้นต้ังแตํปี2545 ข๎าวจะเป็นพืชที่มีจีโนมขนาดใหญํที่สุดท่ีถูกค๎นพบ ศูนย์พันธุ วิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแหํงชาติได๎เล็งเห็นความจาเป็นในการตั้งหนํวยปฏิบัติการเฉพาะ ทางเพื่อดาเนินการวิจัยที่เกี่ยวเน่ือง \"หนํวยปฏิบัติการค๎นหาและใช๎ประโยชน์ยีนข๎าว\" หรือ \"Rice Gene Discovery Unit\" จงึ ถกู จัดตง้ั ขึ้นเม่ือวันที่ 5 เมษายน 2544 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยา เขตกาแพงแสน นบั เป็นครงั้ แรกของประเทศท่มี ีหนํวยปฏิบัติการพิเศษมํุงเน๎นงานด๎านจีโนมข๎าวได๎ ถูกจัดต้ังข้ึนเพื่อติดตามและใช๎ประโยชน์ข๎อมูลสารพันธุกรรมที่ได๎จาก \"จีโนมเทคโนโลยี\" เพื่อ เสริมสร๎างความแข็งแกรํงให๎กับการวิจัยยีนและพัฒนาพันธุ์ข๎าวไทยให๎ก๎าวไกลสํูอนาคต ( http://dna.kps.ku.ac.th/rice_files/Intro_thai.html) ภาพที 4.5 : ระบบฐานขอ้ มลู ชีวภาพ (Bio-mirror) ของเครือขา่ ยนักวิจัย ภาคพน้ื เอเชยี -แปซิฟิก(Asia-Pacific Advanced Network: APAN) (http://bio-mirror.ku.ac.th/ )
16 นอกจากนี้ในระบบฐานข๎อมูลชีวภาพ (Bio-mirror) ของเครือขํายนักวิจัยภาคพื้นเอเชีย- แปซิฟิก (http://bio-mirror.ku.ac.th/ ) นอกจากจะชํวยทาให๎ผู๎ใช๎งานในประเทศไทยสามารถเข๎าถึง ข๎อมูลได๎สะดวกและรวดเร็วขึ้น ชํวยเพ่ิมประสิทธิภาพในการใช๎สายเครือขํายข๎ามประเทศให๎มี ประสิทธิภาพสูงข้ึนแล๎ว ยังมีโปรแกรมท่ีชํวยในการวิเคราะห์และจัดการฐานข๎อมูล ในลักษณะ ตํางๆเชํนโปรแกรมแปลลาดับเบส โปรแกรมค๎นหาลาดับเบสของดีเอ็นเอและโปรตีน โปรแกรม จาแนกชนดิ และลกั ษณะของโปรตีน เป็นต๎นซ่ึงนามาประยุกต์ทางด๎านการเกษตร เชํนการปรับปรุง พันธ์พืช พันธ์สัตว์ การตรวจความผิดปกติในพืชและสัตว์ ทางด๎านการแพทย์ เชํนการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีนรักษาโรค เป็นต๎น ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ตํอนักวิจัยและผ๎ูสนใจทั่วไปด๎วย ระบบข๎อมูล Bio-Mirror ชํวยให๎นักวิจัยท้ังทางด๎านเทคโนโลยีชีวภาพ และนักวิจัยทางด๎าน เทคโนโลยีสารสนเทศได๎ใช๎ประโยชน์ระบบข๎อมูลน้ี เพื่อการค๎นคว๎า วิจัยและพัฒนาให๎เกิด ประโยชน์มากขึน้ ตอํ ไป เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั ธรุ กิจการเกษตร ธุรกิจการเกษตรสามารถอาศัยระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(E- commerce) ซึ่งการดาเนิน ธุรกิจทุกรูปแบบที่เก่ียวข๎องกับการซ้ือขายสินค๎าและบริการผํานคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสาร โทรคมนาคมหรอื ส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์เปน็ ชํองทางการตลาดชอํ งทางหนงึ่ ธุรกิจการเกษตรคือกระบวนการทางธุรกิจท่ีเกี่ยวข๎องกับสาขาการเกษตรและสาขาอ่ืนที่ เกีย่ วข๎องดังน้ี 1 การปลกู พืช การเลี้ยงสตั ว์ การเพาะเลย้ี งและจับสตั ว์นา้ 2 การผลิต ปัจจัยการผลิต (ปุย๋ ยาปราบศัตรพู ชื เมลด็ พันธ์ ฯลฯ) 3 การแปรรปู 4 การรวบรวมสินค๎าจากเกษตรกร 5 การขายปลกี การขายสงํ 6 การเก็บรักษา 7 การขนสํง 8 สถาบนั สนับสนนุ (สถาบันการเงนิ )
17 ภาพท่ี 4.6 : เว็บไซต์บริษทั สง่ ออกข้าวไทย จาหนา่ ยขา้ วบนอนิ เทอร์เนต็ ตัวอย่างของพาณิชยอ์ ิเล็กทรอนิกสส์ ินคา้ การเกษตร ภาพท่ี 4. 7 : เว็บไซต์บริษทั จีพี เทคโนโลยี จากดั ผู้ผลิตแลจาหนา่ ย ผกั สลัดพันธต์ุ ่างประเทศโดยไมใ่ ชด้ นิ (Hydroponics) บนอนิ เทอร์เนต็
18 ประโยชนพ์ าณชิ ยอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ต่อเกษตรกร ผู้ผลติ หรือผู้ขาย 1. ระบบสามารถใช๎ทางานแทนพนักงานขาย เพราะระบบสามารถรับข๎อมูลจาก ลกู คา๎ ไดอ๎ ัตโนมตั ิ 2. สามารถเปิดหน๎าร๎านขายของให๎คนทั่วโลก และเปิดขายได๎ ทุกวันตลอด 24 ชัว่ โมง 3. ประหยัดคําพิมพ์เอกสารเพ่ือการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เพราะสามารถแสดง สนิ คา๎ บนหนา๎ จอเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเคร่ืองรบั ประเภทอ่ืนๆได๎ 4. ปรบั ปรงุ รปู แบบสนิ คา๎ ไดส๎ ะดวกรวดเร็ว และเห็นผลทันทีทว่ั โลก 5. เป็นเครอ่ื งมอื ประชาสมั พันธท์ ท่ี ันสมัย และใช๎ตน๎ ทนุ ทีต่ า่ 6. เกบ็ เงนิ และนาฝากเข๎าบัญชีอตั โนมตั ิ ถ๎าทาระบบให๎สมบูรณ์ ประโยชน์ดา้ นผู้ซอ้ื 1.เลือกสินค๎าได๎อยํางอิสระ มีแหลํงให๎เลือกสินค๎ามากมาย และเปรียบเทียบราคา ได๎ 2. ประหยัดเวลา และคําเดินทางไปยังรา๎ นค๎า 3. ราคาสินค๎ามกั ถูกกวําการซ้อื ตรงจากรา๎ นค๎า วธิ กี ารทาพาณชิ ย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ของธุกิจเกษตร 1. เกษตรกร กลํุมเครือขํายการเกษตร สหกรณ์ สามารถฝากสินค๎าขายของบน Shopping Mall (เป็นศูนย์รวมการขายสินค๎าขนาดใหญํบนอินเตอร์เน็ตคล๎ายกับ ศูนย์การค๎า) เหมาะสาหรับธุรกิจที่มีเงินลงทุนน๎อย และสินค๎าไมํคํอยเป็นท่ีรู๎จัก สาหรับคนทว่ั ไป ซ่งึ เป็นวธิ ีทีง่ าํ ย สะดวก เสียคาํ ใช๎จํายน๎อย ไมตํ อ๎ งประชาสัมพันธ์
19 หรือ Update ข๎อมูลตํางๆ โดยวิธีการลงโฆษณา ติดประกาศขาย หรือการประมูล สินค๎า ท้งั ในรูปแบบของการขายสํงและขายปลกี 2. สามารถสร๎าง web Site ของตัวเอง เหมาะสาหรับธุรกิจที่มีเงินลงทุน และมี เคร่ืองหมายการค๎าของตัวเอง ถึงแม๎วําจะเสียคําใช๎จํายที่สูงกวํา และต๎อง Update ข๎อมูลตํางๆ อยูํตลอดเวลา แตํสามารถจัดหน๎าร๎าน และให๎รายละเอียดเกี่ยวกับตัว สินค๎าเพอ่ื ชํวยการตัดสินใจของผู๎ซ้ือได๎มากกวํา นอกจากนี้ยังสามารถสร๎างรายได๎ เพิ่มขึ้นจากการคดิ คาํ บริการในการลงโฆษณาสินค๎า ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารตอ่ งานสง่ เสรมิ การเกษตร จากนโยบายด๎านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ สํงผลให๎เกิดการ เปลี่ยนแปลงของสังคมในทุกด๎าน และกระทบตํอการดาเนินงานท้ังในภาครัฐและเอกชน ลักษณะ และวิธีการทางานได๎มีการปรับเปล่ียนไป จากเดิมการใช๎ทรัพยากรมนุษย์แตํเพียงอยํางเดียวก็ได๎มี การนาเอาทรพั ยากรทางเทคโนโลยแี ละอเิ ลคโทรนิคส์เข๎ามาชํวย ทาให๎การทางานเกิดประสิทธิภาพ มากข้ึน แตํในทางตรงกันข๎ามทรัพยากรมนุษย์กลับถูกลดบทบาทและลดจานวนลง การปรับตัวเข๎า กับเทคโนโลยีในการทางานจึงเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมโยงแหํงยุคเพื่อให๎ทางานรํวมกันได๎อยําง ราบร่ืน ในภาครฐั หนวํ ยงานตํางๆในทกุ กระทรวง ทบวง กรม รวมถึงหนํวยราชการในสํวนท๎องถิ่น ก็ได๎มีนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเข๎ามาใช๎ในการดาเนินงานตาม นโยบาย e- Government หรือรฐั บาลอเิ ลคโทรนคิ ส์ ซ่ึงเปน็ นโยบายโดยตรงในการเพมิ่ ประสิทธิภาพการทางาน ให๎เข๎ากบั ยุค สมัยและก๎าวทนั กระแสโลกของ ดร.ทักษิน ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเน๎นการบูรณา การในการบริหารงานและปฏิบัตงิ านให๎มีประสทิ ธิภาพทดั เทียมกับภาคเอกชน จึงเป็นการหลีกเลี่ยง ไมํได๎ที่การดาเนนิ งานในทกุ ระบบจึงต๎องเกี่ยวข๎องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ เองไดส๎ งํ ผลกระทบใหเ๎ กดิ ในหลายด๎าน ในสํวนของภาคการเกษตรเองก็ได๎รับผลกระทบที่เกิดขึ้นน้ี เชํนกัน ไมํวําจะเปน็ เรื่องของระดบั การบริหารงาน และระดับการปฏิบตั กิ าร ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เกิดข้ึนในสํวนของงานสํงเสริม การเกษตรทเี่ ห็นได๎อยํางชัดเจนก็ได๎แกํ ด๎านบุคลากรในงานสํงเสริมการเกษตร ด๎านวิธีการสํงเสริม การเกษตร และดา๎ นตวั เกษตรกร ผลกระทบด้านบคุ ลากรในงานส่งเสริมการเกษตร
20 บุคลากรในงานสํงเสริมในงานสํงเสริมนี้นับเป็นสํวนสาคัญที่เกิดผลกระทบมาก เนื่องจาก เทคโนโลยเี ขา๎ มาเปล่ยี นวถิ กี ารปฏิบัตงิ านทีเ่ กดิ ขึ้นโดยตรง คือต๎องมีการปรับเปล่ียนวิธีการทางานท่ี เคยทามาจนเคยชิน และต๎องปรับตัวให๎เข๎ากับเทคโนโลยี แตํเดิมอาจจะเคยชินกับงานเอกสารบน แผํนกระดาษ ตั้งแตํข้ันตอนการพิมพ์ไปจนถึงขั้นการสํงเอกสารเวียนไปยังฝุายตํางๆ ก็มีการ ปรับเปลยี่ นรูปแบบมาเป็นเอกสารอิเล็กโทรนิกส์ด๎วยการสํงผํานอีเมล์ ซ่ึงไมํจาเป็นต๎องใช๎กระดาษ เลย อาจเหลือเพียงเฉพาะเอกสารสาคญั ๆเทําน้ันท่ียังคงใช๎เอกสารท่ีเป็นลายลักษณ์อักษร ท่ีทางานก็ เต็มไปด๎วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การสื่อสาร โดยในปัจจุบันยังคงเห็นภาพของการใช๎ สายเคเบิลเพื่อเช่ือมตํออุปกรณ์ตํางๆ แตํในอนาคตก็จะหายไปอาจเหลือไว๎แคํเพียงรูปแบบการ เชอ่ื มตอํ แบบไรส๎ าย (Wireless) ผ ล ที่ ก ร ะ ท บ ที่ เ กิ ด ขึ้ น กั บ บุ ค ล า ก ร ใ น ง า น สํ ง เ ส ริ ม ก็ คื อ ต๎ อ ง มี ก า ร ป รั บ ตั ว ใ ห๎ เ ข๎ า สภาพแวดล๎อมการทางานที่เปลี่ยนไป จาเป็นต๎องขวนขวายหาความร๎ูเพ่ือปรับตัวเองให๎เข๎ากับ สภาพแวดล๎อมในยุคที่อุปกรณ์ด๎านไอทีเป็นสํวนหนึ่งของการปฏิบัติงาน การเสาะแสวงหาความรู๎ เพ่ิมเติมจากสถาบันการศึกษา การฝึกอบรมภายในหนํวยงานในลักษณะของ e-Training หรือ แมก๎ ระทง่ั การเรยี นรรู๎ ํวมกันซึง่ กันและกันภายในหนํวยงาน(Learning organization) ก็จะเป็นวิธีการ ท่ีเกิดขนึ้ และถกู นามาใชเ๎ พื่อพฒั นาบคุ ลากรในงานสงํ เสรมิ เพ่อื เพ่มิ ประสิทธิภาพในการทางาน บุคลากรในงานสํงเสริมในงานสํงเสริมจะต๎องถูกสร๎างให๎มีวิสัยทัศน์ในด๎านไอทีเพ่ือ รองรับลักษณะงานท่ีจาต๎องมีการเปล่ียนแปลงในอนาคต และเพ่ือสร๎างรูปแบบการทางานใหมํๆท่ี จะเกิดขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ดังน้ันภาพของบุคลากรในงานสํงเสริมในงาน สํงเสริมด๎านการสํงเสริมการเกษตรในอนาคตจะมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคํอนข๎างมาก คือจะต๎องมีวิสัยทัศน์ในด๎านไอที มีความรอบร๎ูและสามารถปรับตัวและการปฏิบัติใน สภาพแวดล๎อมของเทคโนโลยีท่ีเปล่ียนไปได๎ อีกท้ังจะต๎องรู๎จักวิธีพัฒนากลํุมเปูาหมายให๎สามารถ รบั รข๎ู อ๎ มลู และเขา๎ ใจวิธกี ารทางานสงํ เสริมในยคุ สารสนเทศได๎ และท่สี าคัญตอ๎ งรู๎จักวธิ ีการประยุกต์ การทางานแบบรํวมสมัยได๎คือสามารถทางานได๎ท้ังในสภาพแวดล๎อมท่ีรอบล๎อมด๎วยเทคโนโลยี และในสภาพแวดล๎อมแบบดั้งเดมิ ไดอ๎ ีกด๎วย เรียกได๎วํามีศักยภาพด๎านไอทีแตํสามารถปฏิบัติงานได๎ ทกุ สถานการณ์ ผลกระทบด้านวิธีการสง่ เสริมการเกษตร วิธีการสํงเสริมการเกษตรในรูปแบบท่ีเคยชินอันได๎แกํ การสํงเสริมรายบุคคล การสํงเสริม แบบกลํุม และการสํงเสรมิ แบบมวลชน จะต๎องมกี ารปรับเปล่ียนเนือ่ งจากผลกระทบของเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสาร เน่ืองจากอุปกรณ์ที่เป็นผลพวงจากความก๎าวหน๎าของเทคโนโลยีได๎ เกิดข้ึนมากมาย อุปกรณ์ที่สามารแสดงผลได๎ทั้งในรูปแบบของมัลติมีเดีย อุปกรณ์ท่ีมีขนาดเล็กลง
21 พกพาไปมาไดด๎ ว๎ ยความสะดวก อุปกรณ์ทส่ี ามารบรรจุขอ๎ มลู ได๎มากข้ึนในรูปแบบดิจิตอล คงอีกไมํ นานที่จะได๎เห็นนักสํงเสริมการเกษตรของเราจากรูปแบบเดิม กลายเป็นนักสํงเสริมในยุคดิจิตอลที่ ใช๎อปุ กรณอ์ ิเลก็ โทรนกิ สข์ นาดเล็กเชํน คอมพิวเตอรข์ นาดเล็ก พีดีเอ หรือแม๎กระท่ังโทรศัพท์มือถือ เช่ือมโยงสัญญาณในการแสดงข๎อมูลตํางๆทางการเกษตรหรือสามารถสาธิตวิธีการโดยใช๎วิดีโอ คลปิ ในการแสดงข๎อมลู ตอํ เกษตรกร นอกจากนี้อาจจะยงั ยังสามารถใช๎การส่อื สารข๎อมลู และตอบโต๎ ซักถามกับผ๎ูเช่ียวชาญผํานเครือขํายการส่ือสารในแบบเวลาเดียวกันได๎อีกด๎วย และด๎วยการมีอิน เทอร์เนตในระดับตาบลใช๎งานรูปแบบของการสํงเสริมการเกษตรผํานเครือขํายจึงเกิดข้ึนได๎ไมํยาก แตํที่สาคัญกวําน้ัน การสํงเสริมการเกษตรท่ีเกิดข้ึนจะมีความแตกตํางกวําเดิมคือสามารถมี ปฏิสัมพันธ์สามารถตอบโต๎ข๎อมูลผํานเครือขํายอินเทอร์เนต เกษตรกรจะมีบทบาทมากข้ึนใน รปู แบบของกลมุํ ในการแลกเปลยี่ นข๎อมลู และอาจไปถงึ ในข้นั ของการอภปิ รายเพื่อรํวมกันแก๎ปัญหา และท๎ายที่สุดจะทาให๎เกิดชุมชนเกษตรกรบนเครือขํายอินเทอร์เนต เป็นชุมชนที่รํวมกันใช๎ข๎อมูล สร๎างข๎อมูล และรํวมกันชํวยแก๎ไขปัญหาท่ีเกิดข้ึนในแตํละพ้ืนท่ีโดยมีนักสํงเสริมเป็นผู๎คอยให๎ คาแนะนาชํวยเหลอื และรํวมวิเคราะหแ์ ก๎ไขปัญหา ผลกระทบด้านเกษตรกร ผลกระทบในด๎านนี้นับวําเป็นส่ิงที่คํอนข๎างนําเป็นหํวงอยูํมาก เนื่องจากในความเป็นจริง เกษตรกรในประเทศไทยเราน้ันยังคํอนข๎างมีข๎อจากัดทางด๎านการศึกษาเม่ือเทียบกับเกษตรกรใน ประเทศกาลังพัฒนาในบางประเทศ ซ่ึงถึงแม๎วําทางภาครัฐได๎มีนโยบายในการขยายโอกาสทาง การศึกษา แตํก็ยังครอบคลุมและให๎การศึกษากับกลุํมเกษตรกรไทยด๎านทั้งหมด ตรงนี้จึงเป็น ข๎อจากดั ดว๎ ยตวั ของเกษตรกรเอง ซ่ึงถา๎ ขาดทกั ษะในการอํานออกเขียนได๎ก็เป็นอุปสรรคที่สาคัญใน ดา๎ นของการใชไ๎ อทเี พื่อการสงํ เสริมการเกษตร เพราะสารสนเทศสํวนใหญํจะอยูํในรูปของภาพและ ตวั อักษรซึ่งต๎องใช๎ความสามารถพืน้ ฐานในการอํานออกเขียนได๎จึงจะเข๎าถึงสารสนเทศเหลํานั้นได๎ อีกทั้งยังต๎องใช๎ทักษะพ้ืนฐานด๎านไอทีเชํนสามารถใช๎คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนตได๎จึงจะ สามารถเข๎าสํูแหลํงข๎อมูลได๎ ในด๎านน้ีนับเป็นกระทบที่เป็นภาระของภาครัฐต๎องดาเนินการแก๎ไข ไมํวําจะเป็นการให๎ความร๎ูและทักษะแกํเกษตรกรโดยตรง หรือการให๎การชํวยเหลือโดยมีผู๎ ชํวยเหลือ หรือมีศูนย์กลางคอยอานวยความสะดวกในพื้นท่ี ที่สามารถชํวยเหลือให๎เกษตรกร สามารถเขา๎ ถึงขอ๎ มลู ไดโ๎ ดยเพราะถึงแม๎จะสามารถสํงเสริมข๎อมูลได๎ไปถึงเกษตรกรแตํเกษตรกรไมํ สามารถใช๎และเขา๎ ถึงขอ๎ มูลนั้นได๎ก็คงจะไมํมีประโยชน์และเป็นการสูญเปลําในการดาเนินงาน อีก ท้ังจะสร๎างความเบื่อหนํายความสับสนและอาจกลายเป็นการตํอต๎านไมํยอมรับข๎อมูลขาดความ เชือ่ ถอื ตอํ วิธีการสํงเสรมิ การเกษตรสมยั ใหมํตามมาภายหลัง
22 จากผลกระทบเหลํานี้จึงเป็นข๎อที่ควรตระหนักวําในการดาเนินงานสํงเสริมการเกษตรด๎วย เทคโนโลยีที่มีความล้าหน๎าและทันสมัยนั้นมิใชํวําจะมีแตํผลในทางบวกแตํเพียงอยํางเดียว แตํผล ในทางลบก็มีคํูขนานกันมา หากแตํวําควรต๎องพิจารณาอยํางถี่ถ๎วนมิเชํนนั้นอาจประสบความ ล๎มเหลวในการดาเนินการได๎ ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นสํงผลให๎ระบบการสํงเสริมการเกษตรท่ีกาลัง เกิดขึ้นหรือจะเกิดขึ้นควรต๎องมองให๎เห็นภาพท่ีจะเกิดขึ้นและพยายามดาเนินวิธีการแก๎ไขปูองกัน ควบคูํกันไปจึงจะชวํ ยให๎สามารถดาเนินการได๎อยํางมปี ระสิทธภิ าพ (พชิ ยั ทองดเี ลศิ ,2547) .............................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: