บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ที…่ …………………วนั ท่ี ………… เดอื น …………………….. พ.ศ.๒๕๖๓ เร่ือง ขออนญุ าตใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรงุ ) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์ บำรงุ ) ไดร้ ับมอบหมายให้ปฏิบตั ิหน้าที่การสอน รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค๑๖๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้ ตามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสาร หนว่ ยการเรียนที่ ๑๒ ชื่อหน่วย การนำเสนอข้อมูล เวลาเรยี น ๔ ชวั่ โมง มาพรอ้ มกับเอกสารนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชอื่ (นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา) ตำแหน่ง ครู ลงชอ่ื (นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ความเหน็ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น อนุญาต ไมอ่ นุญาต เพราะ .................................................................................. ............................................................................................ ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ .................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ( นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) ............./................../.............
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑๒ เรื่อง การนำเสนอข้อมลู ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั ค๑๖๑๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ครูผสู้ อน นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต ๑ สำนักานคณะกรรมการการศกึ ษาขึน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง ศึกษาตัวประกอบ จำนวนเฉพาะ และตัวประกอบเฉพาะ การแยกตัวประกอบ ห.ร.ม. ค.ร.น. โจทย์ ปัญหาเกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. การเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ การเรียงลำดับเศษส่วนและ จำนวนคละ การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจำนวนคละ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน และจำนวนคละ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม การหารทศนิยมที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยม ไม่เกิน 3 ตำแหน่ง โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับทศนิยม อัตราส่วน อัตราส่วนที่เท่ากัน มาตราส่วน โจทย์ปั ญหา อตั ราส่วนและมาตราส่วน โจทยป์ ญั หาร้อยละ ชนิดและสมบตั ิของรปู สามเหลี่ยม การสรา้ งรูปสามเหลี่ยม ส่วน ต่าง ๆ ของวงกลม การสร้างวงกลม ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม มุมภายในของรูปหลาย เหลยี่ ม ความยาวรอบรปู และพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม โจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูป หลายเหล่ียม ความยาวรอบรปู และพืน้ ทข่ี องวงกลม โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรูปและพน้ื ท่ีของวงกลม ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย และพีระมิด รูปคลี่ของทรงกระบอก กรวย ปริซึม และพีระมิด ปริมาตรของรูป เรขาคณิตสามมิติที่ประกอบด้วยทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ ประกอบด้วยทรงส่เี หล่ียมมมุ ฉาก การแกป้ ญั หาเก่ียวกับแบบรูป และการนำเสนอข้อมูล โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตุผล การเชื่อมโยง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ และกระบวนการทีไ่ ด้ไปใช้ในการเรยี นรู้สง่ิ ตา่ ง ๆ และใชใ้ นชวี ิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ มีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์และมีความเชือ่ มน่ั ในตนเอง รหัสตวั ชี้วดั ค ๑.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗ ป.๖/๘ ป.๖/๙ ป.๖/๑๐ ป.๖/๑๑ ป.๖/๑๒ ค ๑.๒ ป.๖/๑ ค ๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ค ๒.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ค ๓.๑ ป.๖/๑ รวมท้งั หมด ๒๑ ตัวชีว้ ัด
หน่วยท่ี มฐ ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร/ออ รหสั ค๑๖๑๐๑ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถ ครผู ู้สอน นางสาวแพร ตัวช้ีวัด จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๑๒ ค ป.6/1 :ใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ริ ูปวงกลม ๑.อ่านข้อมูลจากแผนภูมิรูป ๑.กา การนำเสนอ ๓.๑ ในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา วงกลมที่แสดงจำนวนเป็นร้อยละ วงกล ข้อมลู หรอื เปอร์เซ็นตไ์ ด้ (K) ๒.ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลม ที่แสดงจำนวนเป็นร้อยละหรือ เปอร์เซ็นต์ในการหาคำตอบของ โจทยป์ ัญหาได้ (P) ๓.นำความรู้เกี่ยวกับการอ่าน แผนภูมิรูปวงกลมแสดงข้อมูล เป็นร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ไปใช้ ในชวี ิตจรงิ ได้ (A) ๑.อ่านข้อมูลจากแผนภูมิรูป ๑.โจ วงกลมได้ (K) แผน ๒.ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลม ในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา ได้ (P) ๓.ประดิษฐ์แผนภูมริ ปู วงกลม (P) ๔.นำความรู้เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา เกี่ยวกับแผนภูมิวงกลมไปใช้ใน ชวี ติ จรงิ ได้ (A)
อกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ถมศกึ ษาปีที่ ๖ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รวรุ่ง ศรปี ระภา สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ชิ้นงาน สือ่ การสอน วดั ผล/ เวลา /ภาระงาน ประเมนิ เรยี น ารอ่านแผนภมู ิรูป อธิบาย - ๑.แผนภมู ิรปู วงกลม 1.ทดสอบ ๒ ลม (กอ่ นเรยี น) ๒.ตรวจ แบบฝกึ หัด จทย์ปญั หาเกย่ี วกบั แผนภมู ริ ปู ๑.แผนภมู ริ ูปวงกลม 1.ทดสอบ ๒ นภมู ิวงกลม วงกลม (หลังเรียน) ๒.ตรวจ แบบฝึกหัด
โรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) โครงการสอนปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหัส ค๑๖๑๐๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลาเรยี น ๔ ช่ัวโมง/สัปดาห์ ครผู ้สู อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา สปั ดาห์ คาบท่ี หน่วยการเรียนร/ู้ เรอื่ ง มฐ/ตัวชว้ี ดั ๑-๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ค ๑.๑ ๔-๖ ๑-๒ ตวั ประกอบ ป.๖/๔ ๓-๕ จำนวนเฉพาะ ป.๖/๕ ๖-๙ ตวั หารรว่ มมาก ( ห.ร.ม.) ป.๖/๖ ๑๐-๑๒ ตัวคณู รว่ มน้อย ( ค.ร.น.) ๑๓-๑๔ โจทยป์ ัญหา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ค ๑.๑ ป.๖/๑ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เศษส่วน ป.๖/๗ ๑-๒ การเปรยี บเทียบ และเรยี งลำดบั เศษสว่ น ๓-๔ การบวกเศษสว่ นและจำนวนคละ ค ๑.๑ ๕-๖ การลบเศษส่วนและจำนวนคละ ป.๖/๗ ๗-๘ การบวก ลบ เศษสว่ นและจำนวนคละระคน ค ๑.๑ ป.๖/๙ ๙-๑๐ การคณู หาร เศษสว่ นและจำนวนคละระคน ป.๖/๑๐ ๑๑-๑๒ การบวก ลบ คณู หาร เศษส่วนและจำนวนคละระคน ๗-๑๐ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ โจทยป์ ัญหาเศษสว่ น ๑๑-๑๔ ๑-๒ โจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนและจำนวนคละ ๓-๔ โจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นและจำนวนคละ ๕-๖ โจทยป์ ญั หาการคูณเศษสว่ นและจำนวนคละ ๗-๘ โจทยป์ ัญหาการหารเศษส่วนและจำนวนคละ ๙-๑๐ โจทย์ปัญหาการบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละ ๑๑-๑๒ โจทย์ปญั หาการคูณ หารเศษสว่ นและจำนวนคละ ๑๓-๑๔ โจทยป์ ญั หาการบวก ลบ คณู หารเศษสว่ นและจำนวน หนว่ ยการเครลียะนรทู้ ี่ ๔ ทศนิยม ๑-๒ การเขยี นเศษส่วน และจำนวนคละให้อยใู่ นรปู ทศนิยม ๓-๔ การหารทศนยิ มด้วยจำนวนนบั ๕-๗ การหารทศนิยมดว้ ยทศนิยมหนึง่ ถงึ สามตำแหน่ง ๘ การแลกเปลี่ยนเงนิ ตรา ๙-๑๐ โจทยป์ ญั หาการบวกทศนิยม
สปั ดาห์ คาบที่ หนว่ ยการเรยี นรู้/เร่ือง มฐ/ตัวชีว้ ัด ๑๑-๑๒ โจทย์ปัญหาการลบทศนิยม ๑๓-๑๔ โจทย์ปญั หาการคูณทศนิยม ๑๕-๑๖ โจทยป์ ัญหาการหารทศนิยม ๑๕-๒๐ ๑๗ โจทยป์ ญั หาการแลกเปลย่ี นเงินตรา ค ๑.๑ ป.๖/๑๑ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ ร้อยละและอตั ราส่วน ป.๖/๑๒ ๑-๒ โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ร้อยละ ๓-๗ โจทย์ปัญหาการซื้อขาย ๘-๑๑ โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั ดอกเบีย้ ๑๒-๑๓ อัตราสว่ นที่เทา่ กนั ๑๔-๑๕ มาตราส่วน ๑๖-๑๗ โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับอัตราส่วน ๑๘-๒๐ โจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั มาตราสว่ น ค ๑.๑ ๒๑ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๗ แบบรูป ป.๖/๑ ๑-๒ แบบรูปและความสมั พันธ์ ๒๒-๒๕ ๓-๔ การแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั แบบรูป ค ๒.๒ ป.๖/๑ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ รูปสามเหล่ียม ป.๖/๒ ๑-๒ มุม ๓-๔ การจำแนกชนดิ ของรปู สามเหลย่ี มโดยพจิ ารณาจาก ๕-๖ ขกนาราจดำขแอนงกมชุมนิดของรปู สามเหลย่ี มโดยพจิ ารณาจาก ความยาวของดา้ น ๗ การจำแนกชนิดของรูปสามเหล่ียมโดยพจิ ารณาจากมมุ และดา้ น ๘-๙ สว่ นประกอบของรปู สามเหล่ียม ๑๐-๑๑ มุมภายในของรูปสามเหล่ียม ๒๖-๒๘ ๑๒-๑๔ การสร้างรปู สามเหลีย่ ม ค ๒.๑ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๙ ความยาวรอบรูป และพนื้ ทีข่ องรูป ป.๖/๑ สามเหล่ยี ม ป.๖/๒ ๑-๒ ความยาวรอบรูปของรปู สามเหล่ียม ๓-๕ พื้นทีข่ องรูปสามเหลย่ี ม ๖-๗ โจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั ความยาวรอบรปู ของรปู สามเหล่ยี ม ๘-๙ โจทย์ปัญหาเก่ียวกับพน้ื ท่ีของรูปสามเหลี่ยม ๑๐-๑๑ โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับพ้ืนทแี่ ละความยาวรอบรูปของรปู สามเหลยี่ ม
สัปดาห์ คาบท่ี หนว่ ยการเรียนรู/้ เรอื่ ง มฐ/ตัวช้วี ดั ๒๙-๓๒ ค ๒.๑ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๐ รปู หลายเหล่ยี ม ๓๓-๓๕ ป.๖/๒ ๓๖-๓๙ ๑-๖ มมุ ภายในของรปู หลายเหลี่ยม ป.๖/๓ ๗-๘ ความยาวรอบรูปของรูปหลายเหลยี่ ม ค ๒.๑ ป.๖/๑ ๙-๑๐ การหาพื้นทข่ี องรูปส่เี หลย่ี มคางหมู ป.๖/๒ ๑๑ การหาพน้ื ท่ีของรูปสเี่ หลย่ี มจัตุรสั โดยใช้เสน้ ทแยงมมุ ค ๒.๒ ป.๖/๑ ๑๒ การหาพืน้ ทข่ี องรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปนู โดยใชเ้ ส้น ป.๖/๒ ทแยงมุม ค ๒.๒ ๑๓ การหาพน้ื ที่ของรูปสเ่ี หลี่ยมรูปว่าวโดยใชเ้ ส้นทแยงมมุ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ๑๔ การหาพื้นทข่ี องรปู ส่ีเหลี่ยมโดยแบ่งเป็นรูปสามเหลีย่ ม ๑๕ การหาพน้ื ทข่ี องรปู สเ่ี หลี่ยมโดยแบง่ เป็นรูปสามเหลย่ี ม หรือรปู ส่ีเหลีย่ ม ๑๖-๑๗ โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู ของรปู หลาย เหล่ียม ๑๘-๑๙ โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับพ้ืนทขี่ องรูปหลายเหล่ียม หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ รปู วงกลม ๑-๒ สว่ นประกอบของวงกลม ๓-๖ การสร้างวงกลม ๗-๘ ความยาวของเสน้ รอบวง ๙-๑๐ พนื้ ทขี่ องวงกลม ๑๑-๑๒ โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวของเสน้ รอบวง ๑๓-๑๔ โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั พื้นทีข่ องวงกลม ๑๕-๑๖ โจทย์ปญั หาเกีย่ วกับความยาวของเสน้ รอบวงและพ้นื ที่ ของวงกลม หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ รปู เรขาคณิตสามมติ ิ ๑ ลกั ษณะและส่วนตา่ งๆ ของปริซึม ๒ ลักษณะและส่วนตา่ งๆ ของพีระมดิ ๓ ลักษณะและสว่ นตา่ งๆ ของทรงกระบอก ๔ ลกั ษณะและส่วนต่างๆ ของกรวย ๕ ลักษณะและสว่ นตา่ งๆ ของทรงกลม ๖-๘ รูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติ ๙-๑๐ ปริมาตรของทรงส่ีเหลย่ี มมุมฉาก ๑๑-๑๒ ความจุของทรงสี่เหลย่ี มมุมฉาก ๑๓-๑๕ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรหรือความจขุ องทรง สีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก
สัปดาห์ คาบที่ หน่วยการเรียนร้/ู เรอ่ื ง มฐ/ตัวชี้วัด ๔๐ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๓ การนำเสนอข้อมูล ค ๓.๑ ๑-๒ การอา่ นแผนภูมิรูปวงกลม ป.๖/๑ ๓-๔ โจทย์ปญั หาเก่ียวกับแผนภมู ิวงกลม สอบปลายภาค ๑-๒ ทบทวนบทเรยี น ๓ ทบทวนบทเรยี น ๔ สอบปลายภาค ๕ สอบปลายภาค เทคนิค /กระบวนการ/ วธิ ีการสอน การจดั การเรยี นรูต้ ามหลักการพัฒนาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นตอนที่ ๑ : เตรียมความพรอ้ ม เพื่อเป็นการกระตุ้นสมอง ตามหลักการทำงานของสมอง เมื่อมีการเคลื่อนไหว ร่างกายอย่างมีความสุข สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชือ่ ว่า เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสารนี้มีความสำคัญมาก ช่วยให้มีจิตใจที่ สงบและเกิดสมาธิ ซึ่งจะแตกต่างจาก เอนดอร์ฟิน (Endorphin) และ โดพามีน (Dopamine) ที่จะช่วยให้มีความสุขและ สนุกสนาน ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ว่า ทุกชั่วโมงที่ครูเข้าสอน ครูจะต้อง Warm Up ก่อนเสมอ โดยใช้เวลาไม่เกนิ ๕ นาที ขน้ั ตอนท่ี ๒ : เรยี นรู้ ในข้นั ตอนนจี้ ะคำนึงถึงหลกั การทำงานของสมองทวี่ า่ “เรียนรูจ้ ากงา่ ยไปหายาก เรียนรู้จาก ของจริง และจากการสัมผัส” จากการศึกษาทางประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า “มือ” เป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสที่ส่งผล ต่อการเรียนรู้ได้ดีที่สุด รองลงมาคือ “ปาก” นั่นก็หมายถึง ต้องให้เด็กพูด หรือสื่อสาร การส่ือสารจะช่วยให้เด็กสามารถ เชื่อมโยงเรือ่ งได้ ดังนั้น การออกแบบรูปแบบการสอน สื่อการสอน คุณครูต้องคำนึงถึงหลักการทำงานของสมองอยา่ งมาก การเรียนการสอนจึงจะประสบความสำเร็จ ในขั้นตอนที่ ๒ นี้ มีขั้นตอนย่อยที่สำคัญหนึ่งคือ “การสรุปในแต่ละชั่วโมง” ทางโรงเรียนได้สนับสนนุ ให้มีการฝึกอบรม Graphic Organizer ให้แกค่ ณุ ครทู ุกกลุ่มสาระ ตลอดจนหนังสอื ทเี่ กี่ยวข้องจาก ต่างประเทศ เพื่อให้คุณครใู ชเ้ ปน็ เครื่องมอื ในการสรปุ ทช่ี ว่ ยให้เด็กเกดิ ความสนุก เกดิ การเรียนรู้ และจดจำไดง้ ่ายขน้ึ ขั้นตอนท่ี ๓ : ข้นั การฝึก ขน้ั นจี้ ะสอดคลอ้ งกับหลกั การทำงานของสมองที่ว่า “สมองจะจดจำได้ดนี ำไปสู่ความจำ ระยะยาว (Long-term Memory) ตอ้ งผา่ นกระบวนการฝกึ ซำ้ ๆ” คำวา่ “ซ้ำๆ” ในที่นีไ้ มไ่ ด้หมายถึง การทำโจทย์เดิมซ้ำๆ แต่หมายถึงการใช้หลักการ เช่น หลักการบวก ก็นำไปใช้กับการบวกที่แตกต่างกันออกไปในโจทย์ คุณครูจึงจำเป็นต้อง ออกแบบใบงานท่ีแตกตา่ งออกไป เพื่อให้นักเรียนไดฝ้ กึ ฝนเร่ือยๆ ขั้นตอนที่ ๔ : ขั้นการสรุป ขั้นนี้เป็นการสรุปเมื่อจบบทเรียนหรือหน่วย ซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นการ สรุปในแต่ละชั่วโมง ในขั้นตอนนี้เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทั้งหน่วย โดยใช้ Graphic Organizer ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยง ความรู้ภายในบทเรยี น สอดคลอ้ งกับหลักการทำงานของสมองท่วี า่ “สมองเรียนรเู้ ปน็ องคร์ วม” ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญ ต่อเด็กมาก และเปน็ ขั้นตอนที่ค่อนข้างยาก ครเู องกจ็ ำเป็นตอ้ งฝกึ ฝนบอ่ ยๆ เชน่ กนั ขั้นตอนที่ ๕ : ขั้นการประยุกต์ใช้ทันทีทันใด การที่เด็กเรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั้น ทำให้เกิดการ เรียนรู้ได้ถงึ ร้อยละ ๙๐ ดงั นัน้ เม่ือจบบทเรยี น คุณครตู อ้ งคิด ต้องออกแบบ เชื่อมโยงความรู้ท้ังหน่วย นำข้อสอบมาให้เด็ก ทดลองทำ
การวัดและประเมินผล วธิ กี ารเกบ็ คะแนน คะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = ๗๐ : ๓๐ โดยแบ่งดงั น้ี เร่อื งทีเ่ ก็บคะแนน คะแนน ประเภทเคร่ืองมือ ๑.คะแนนเกบ็ ก่อนกลางปี ๒๕ ๑.๑ ผลงานนกั เรยี น ๑๕ สมุด แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชิน้ งาน ๑.๒ ทดสอบหลงั เรียน ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๒. สอบกลางปี ๒๐ แบบทดสอบ ๓.คะแนนหลังกลางปี ๒๕ ๓.๑ ผลงานนกั เรียน ๑๕ สมดุ แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ช้ินงาน ๓.๒ ทดสอบหลังเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลงั เรียน ๔.สอบปลายปี ๓๐ รวม ๑๐๐ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ -สือ่ ประจำหนว่ ยการจดั การเรียนรู้ -หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ และแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท
แผนผังมโนทัศน์เปา้ หมายการเรยี นร้/ู หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ(Process: P) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑.อ่านข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลมท่ี ๑.ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลมที่ ๑. มีวนิ ยั แ ส ด ง จ ำ น ว น เ ป ็ น ร ้ อ ย ล ะ ห รื อ แสดงจำนว นเป็นร ้อ ยล ะ ห รื อ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ เปอรเ์ ซน็ ตไ์ ด้ (K) เปอร์เซ็นต์ในการหาคำตอบของ ๓. มงุ่ มั่นในการทำงาน ๒.อ่านข้อมูลจากแผนภูมิรปู วงกลมได้ โจทยป์ ญั หาได้ (P) (K) ๒.ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลมใน การหาคำตอบของโจทย์ปัญหาได้ (P) ๓. แผนภูมิรปู วงกลม (P) เป้าหมายการเรียน เรื่อง การนำเสนอขอ้ มลู หลกั ฐานการเรียนรู้ -แผนภูมิรปู วงกลม
แผนผังมโนทัศน์ข้ันตอนการทำกิจกรรมประกอบการจดั การเรียนรู้ด้วย การสอนตามหลกั การพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ศึกษามาตรฐานการรเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักการพฒั นาสมอง (Brain-Based learning: BBL) ขั้นท่ี ๑ เตรียมความพร้อม ข้ันที่ ๒ เรยี นรู้ ข้นั ที่ ๓ ขัน้ การฝึก ขน้ั ที่ ๔ ข้นั การสรปุ ขั้นท่ี ๕ ขน้ั การประยุกตใ์ ช้ทันทีทันใด ทดสอบหลังเรียน (ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๖๐)
ผงั มโนทัศน์ หน่วยการเรียนรทู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๒ จำนวน ๔ แผนที่ ๑ การอา่ นแผนภมู ริ ูปวงกลม การเรียนรู้แบ ภาษาไทย 1.ฟังแสดงความคดิ เห็น 2.พูดแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามอ่านและสะกดคำ 3.การเขยี นสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
ที่ ๑๒ การนำเสนอขอ้ มลู ๒ การนำเสนอข้อมูล ๔ ช่วั โมง แผนที่ ๒ โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับแผนภมู ิวงกลม บบบรู ณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศิลป์ ๑. การออกแผนภมู ริ ปู วงกลม
แผนบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี 1. ออกแบบการจดั กจิ กรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรียนรสู้ ่งเสริมกระบวนการคดิ 1. ศึกษาแนวทางการจัดการเรยี นร้ลู ่วงหนา้ ตัวช้ีวัด 2. ใช้เทคนิคการจดั การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 2. จดั เตรยี มการวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลือกส่ือ แหล่งเรยี นรเู้ หมาะสม สงั เกตพฤตกิ รมนกั เรยี น 3. วัดผลประเมนิ ผลตรงตามเน้อื หา เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม 1. รจู้ ักเทคนคิ การสอนที่สง่ เสรมิ กระบวนการคดิ และนกั เรียน 1. มีความขยัน เสยี สละ และมงุ่ มน่ั ในการจดั หาสอ่ื มาพัฒนานักเรยี น สามารถเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งมีความสขุ ให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพื่อพัฒนานกั เรียนโดยใช้เทคนคิ การสอนที่ หลากหลาย นกั เรียน ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมคิ มุ้ กันในตวั ทีด่ ี 1. การใช้เวลาในการทำกิจกรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ กระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 1. วางแผนการศึกษาค้นคว้าอสิ ระ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทนั เวลา 2. ฝกึ กระบวนการแสดงข้ันตอนการหาผลลพั ธ์ 2. นำความรู้เร่อื งการนำเสนอขอ้ มลู ไปใช้ใน 2. เลือกสมาชิกกลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั เน้ือหาท่ี ชีวิตประจำวนั ได้ เรียนและศักยภาพของตน เงื่อนไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. มคี วามรู้เรือ่ งการนำเสนอขอ้ มลู ตลอดจนสามารถสรา้ งจดั ทำชน้ิ งาน 1. มีความรบั ผดิ ชอบ และปฏิบตั ติ ามข้อตกลงของกลมุ่ ไดต้ ามวตั ถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มาธิช่วยเหลอื กนั ในการทำงานรว่ มกัน ส่งผลตอ่ การพัฒนา 4 มิตใิ หย้ ั่งยืนยอมรับตอ่ การเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภวิ ัฒน์ วัตถุ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรู้ความเข้าใจ เรอื่ งการนำเสนอ มคี วามร้แู ละเข้าใจ มคี วามรู้และเขา้ ใจ มคี วามร้แู ละเข้าใจการ ข้อมลู กระบวนการทำงาน เกย่ี วกับ สิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือ แบ่งปัน กลมุ่ และสง่ิ ต่าง ๆรอบตัว ทักษะ (P) สร้างช้นิ งาน เรอื่ งการนำเสนอข้อมลู ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตาม ใชแ้ หลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลือ แบ่งปนั ซง่ึ เปา้ หมาย ด้วย ทำลายสง่ิ แวดล้อม กนั และกัน กระบวนการกลมุ่ ค่านยิ ม (A) เหน็ ประโยชนข์ องเรียนรู้ เกีย่ วกบั เร่อื งการ เหน็ คุณคา่ และ เห็นคุณคา่ ของการใช้ ปลูกฝังนิสยั การ นำเสนอขอ้ มลู ภาคภูมใิ จในการ แหลง่ เรียนรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน ทำงานรว่ มกนั ได้ ทำลายสิง่ แวดลอ้ ม สำเรจ็
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เรื่อง การนำเสนอข้อมูล วิชาคณิตศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 3.1 : เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถิติในการแกป้ ญั หา ตัวช้วี ัด ป.6/1 : ใชข้ ้อมลู จากแผนภมู ิรปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2.สาระสำคัญ แผนภูมิรูปวงกลม เปน็ การนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้พื้นที่ภายในรปู วงกลมแทนจำนวนหรอื ปริมาณของข้อมลู แตล่ ะรายการ การแบ่งพนื้ ท่รี ูปวงกลมแบง่ ทีจ่ ุดศูนยก์ ลางโดยแบ่งออกเป็นส่วนๆ ตามจำนวนรายการของข้อมลู ซ่ึงสว่ นแบ่งของรูปวงกลมจะมพี ้นื ทม่ี ากหรือน้อยขน้ึ อยูก่ บั ปริมาณของข้อมูลแต่ละรายการ การนำเสนอข้อมูลดว้ ย แผนภูมิรปู วงกลมที่แสดงขอ้ มูลเป็นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ ในแตล่ ะส่วนแสดงจำนวนเปน็ รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซ็นต์ ซึ่งการกำหนดจำนวนในแตล่ ะสว่ นของแผนภมู ิรูปวงกลมเป็นรอ้ ยละหรือเปอรเ์ ซ็นต์ ผลรวมของรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ท้ังหมดต้องเท่ากบั 100% เสมอ 3. สาระการเรียนรู้ - การอ่านแผนภมู ริ ปู วงกลม - โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับแผนภูมวิ งกลม 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. แผนภูมิรปู วงกลม
7. การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 12 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 ตรวจแบบฝึกหัดหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 12 แบบฝึกหดั หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 ระดับคุณภาพ 2 ตรวจช้นิ งานหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 12 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ชิ้นงานหน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 ระดบั คุณภาพ 2 สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่นใน ผา่ นเกณฑ์ การทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 การอ่านแผนภมู ิรปู วงกลม ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครูให้นักเรียนทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก นั้นให้นักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบกอ่ นเรียน 2. ครทู บทวนวธิ กี ารนำเสนอขอ้ มูล โดยใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกว่า การนำเสนอขอ้ มลู ทีเ่ รียนมาแลว้ มีวธิ ี ใดบา้ ง ครแู นะนำนกั เรยี นว่า การนำเสนอข้อมลู มอี ีกหลายวธิ ี และวิธหี น่งึ คือ การนำเสนอข้อมลู โดยใช้แผนภูมิรปู วงกลม 3. ให้นกั เรียนทบทวนความรูเ้ รื่อง การนำเสนอข้อมูล โดยครใู ห้นกั เรียนสำรวจจำนวนนกั เรยี นท่ี สมคั รเล่นกีฬาประเภทตา่ งๆ 4. ครูให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ว่า สามารถนำเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบอ่ืนได้อีกหรอื ไม่ ครู แนะนำเพิม่ เติมว่าการนำเสนอข้อมูลรูปแบบหน่ึง ได้แก่ แผนภูมิรปู วงกลม 5. ครูติดแผนภมู ริ ปู วงกลมแสดงจำนวนนักเรยี นทส่ี มคั รเล่นกฬี าประเภทต่างๆ บนกระดาน จากกิจกรรมนักเรียนร่วมกันอภปิ รายว่าถา้ ตอ้ งการทราบจำนวนทแ่ี สดงในแผนภูมริ ปู วงกลมต้องทำ อย่างไร (เขียนจำนวนของแตล่ ะสว่ น) 7. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นแผนภมู ิรูปวงกลม เมือ่ เสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น 8. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สิ่งที่ได้เรียนร้รู ่วมกนั ดังน้ี แผนภูมริ ปู วงกลม เปน็ การนำเสนอข้อมลู โดยใช้ พ้ืนทีภ่ ายในรูปวงกลม การแสดงขอ้ มลู ไวใ้ นแตล่ ะสว่ นของแผนภูมิรปู วงกลมช่วยให้อา่ นข้อมลู ได้ถูกต้อง 9. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท.
ชวั่ โมงที่ 2 1. ครใู หน้ กั เรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก น้ันให้นักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครูทบทวนความรู้ เร่ือง การอา่ นแผนภมู ริ ูปวงกลม โดยครูตดิ บัตรแผนภมู ริ ูปวงกลมบนกระดาน จากนน้ั ขออาสาสมัครนักเรียนยกมอื ขึน้ แลว้ อา่ นแผนภูมริ ูปวงกลมคนละ 1 ข้อ ห้ามซ้ำกัน โดยครแู ละนกั เรียนที่ เหลอื ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 3. ครูติดแผนภูมริ ูปวงกลมบนกระดาน 4. ครใู หน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 2 การอา่ นแผนภูมิรูปวงกลม เม่อื เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน 5. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ร่วมกนั ดังน้ี แผนภมู ริ ูปวงกลม เปน็ การนำเสนอข้อมูลโดยใช้ พ้ืนท่ีภายในรปู วงกลม การแสดงข้อมูลไว้ในแต่ละสว่ นของแผนภูมิรูปวงกลมช่วยให้อ่านข้อมูลได้ถกู ต้อง 6. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. กจิ กรรมที่ 2 โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับแผนภูมิวงกลม ชั่วโมงที่ 1 1. ครูใหน้ ักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก นั้นใหน้ กั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ 2. ครทู บทวนความรู้ เรื่อง การอา่ นแผนภูมิรปู วงกลมแสดงขอ้ มลู เป็นร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์โดยครู ตดิ บตั รแผนภูมิรูปวงกลมแสดงขอ้ มลู เปน็ ร้อยละหรือเปอรเ์ ซ็นตบ์ นกระดาน จากน้ันขออาสาสมคั รนกั เรยี นยกมือ ข้ึน แลว้ อา่ นแผนภมู ิรปู วงกลมคนละ 1 ขอ้ หา้ มซำ้ กนั โดยครูและนักเรยี นท่เี หลือร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 3. ครูตดิ แผนภมู ริ ูปวงกลมบนกระดาน 4. ครใู หน้ ักเรยี นแสดงวิธกี ารแก้โจทย์ปัญหาเกยี่ วกับแผนภมู วิ งกลม เม่ือเสรจ็ แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนงั สอื เรียน 5. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกนั ดังนี้ แผนภูมิรปู วงกลมแสดงขอ้ มลู เป็นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ได้ว่า การนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยแผนภมู ิรูปวงกลมที่แสดงขอ้ มูลเป็นร้อยละหรอื เปอร์เซน็ ต์ ในแต่ละส่วน แสดงจำนวนเป็นร้อยละหรอื เปอร์เซ็นต์ ซ่ึงการกำหนดจำนวนในแต่ละสว่ นของแผนภมู ิรูปวงกลมเป็นร้อยละหรือ เปอร์เซ็นต์ ผลรวมของร้อยละหรือเปอรเ์ ซน็ ตท์ ั้งหมดต้องเท่ากบั 100% เสมอ 6. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงที่ 2 1. ครใู หน้ กั เรยี นท่องสูตรคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก นั้นให้นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรยี น 2. ให้นกั เรียนทบทวนความรเู้ ร่ือง การอ่านแผนภูมริ ูปวงกลมโดยครูติดแผนภมู ิรูปวงกลมบนกระดาน
3. ครูตดิ แผนภูมริ ปู วงกลมบนกระดาน 4. ครูถามคำถามนักเรียน ดังน้ี ถา้ เดือนมกราคม 2563 โรงงานนี้มีค่าใชจ้ า่ ยท้งั สิ้น 4,500,000 บาท คา่ ใช้จ่ายด้านการบรหิ ารมากกวา่ คา่ สาธารณปู โภคกีเ่ ปอรเ์ ซน็ ต์ คิดเป็นเงินเทา่ ใด มีวธิ ีคดิ อยา่ งไร 5. ครูให้นักเรียนแสดงวธิ ีแก้โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับแผนภมู ิวงกลม เม่ือเสร็จแลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในหนังสือเรยี น 6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรูร้ ่วมกนั ดังน้ี แผนภมู ิรูปวงกลมแสดงข้อมูลเปน็ ร้อยละหรือ เปอรเ์ ซน็ ต์ไดว้ า่ การนำเสนอข้อมลู ด้วยแผนภมู ริ ูปวงกลมที่แสดงข้อมูลเป็นรอ้ ยละหรือเปอร์เซ็นต์ ในแต่ละส่วน แสดงจำนวนเปน็ ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ ซ่ึงการกำหนดจำนวนในแตล่ ะส่วนของแผนภมู ิรูปวงกลมเปน็ ร้อยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ ผลรวมของรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตท์ ้งั หมดตอ้ งเท่ากบั 100% เสมอ 7. ครูให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน 9. สอ่ื / แหล่งเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบหลงั เรยี น 2. แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 3. แถบโจทย์ปญั หาประจำหนว่ ยการเรยี นรู้
โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี ข้อสอบบทท่ี 12 การนำเสนอขอ้ มูล มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ค3.1 ป.6/1 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นทำเครื่องหมาย x ทับอกั ษรหนา้ คำตอบทถี่ ูกตอ้ งทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดียว จำนวน 10 ขอ้ จากภาพ ตอบคำถามโดยใช้ข้อมูลจากแผนภูมิ ข้อ 1 - 5 ขอ้ 4. ขายชาเยน็ กบั ชาร้อนไดเ้ งินทง้ั หมดเทา่ ใด รา้ นปันสขุ ขายเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ซงึ่ ในเดือนพฤษภาคม 2563 ดังนี้ (ค 3.1 ป.6/1) จำนวนเครือ่ งดมื่ ท่รี ้านปนั สขุ ขายได้ในเดอื นพฤษภาคม 2563 ก. 64,125 บาท ข. 65,125 บาท ค. 66,125 บาท ง. 67,125 บาท ขอ้ 5. ขายเคร่ืองด่มื ได้เงินท้ังหมดเทา่ ใด (ค 3.1 ป.6/1) ก. 180,675 บาท ข. 181,675 บาท ค. 182,675 บาท ง. 183,675 บาท จากภาพ ตอบคำถามโดยใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ิ ข้อ 6 – 10 ผลการสำรวจความคดิ เห็นของชาวต่างชาติ 400 คน เก่ยี วกบั อาหารไทยทีช่ อบมากท่สี ุด เป็นดังนี้ จำนวนชาวตา่ งชาติที่ชอบอาหารไทยแตล่ ะชนิด ถ้าเดือนพฤษภาคม 2563 รา้ นปนั สขุ ขายเครอื่ งดืม่ ได้ทงั้ หมด 4,500 แก้ว และ กำหนดราคาขาย ดงั น้ี • กาแฟเย็นชาเย็น แก้วละ 45 บาท • กาแฟรอ้ นชาร้อน แกว้ ละ 30 บาท • นำ้ ผลไมป้ ั่นแก้วละ 40 บาท • เครอื่ งดมื่ ชนิดอ่นื ๆ แก้วละ 35 บาท ขอ้ 1. ขายนำ้ ผลไมป้ นั่ ได้กแ่ี ก้ว (ค 3.1 ป.6/1) ข้อ 6. อาหารไทยชนดิ ใดที่มีจำนวนชาวตา่ งชาติชอบมาก ก. 665 แก้ว ข. 675 แก้ว ที่สดุ คิดเป็นกีเ่ ปอรเ์ ซน็ ต์ (ค 3.1 ป.6/1) ค. 685 แก้ว ง. 695 แก้ว ก. มัสมนั่ 30% ข. มสั มัน่ 40% ข้อ 2. ขายกาแฟเย็นไดม้ ากกวา่ ชาเยน็ กีแ่ กว้ (ค 3.1 ป.6/1) ค. มสั มัน่ 50% ง. มัสมน่ั 60% ก. 225 แกว้ ข. 325 แกว้ ขอ้ 7. ชาวตา่ งชาติท่ีชอบต้มยำกุง้ มีกีเ่ ปอร์เซน็ ต์ ค. 425 แกว้ ง. 625 แก้ว (ค 3.1 ป.6/1) ขอ้ 3. ขายเคร่ืองดม่ื ชนดิ อน่ื ๆ ได้เงินเทา่ ใด (ค 3.1 ป.6/1) ก. 25% ข. 30% ก. 11,600 บาท ข. 12,600 บาท ค. 35% ง. 40% ค. 13,600 บาท ง. 14,600 บาท
ขอ้ 8. จากการสำรวจชาวตา่ งชาตทิ ่ชี อบต้มขา่ ไกม่ ีกี่คน (ค 3.1 ป.6/1) ก. 25% ข. 30% ค. 35% ง. 40% ขอ้ 9. ชาวตา่ งชาติท่ชี อบต้มยำกงุ้ มากกว่าชอบส้มตำก่ีคน (ค 3.1 ป.6/1) ก. 32 คน ข. 33 คน ค. 34 คน ง. 35 คน ข้อ 10. จำนวนชาวต่างชาตทิ ช่ี อบมสั มั่น คิดเปน็ กเ่ี ท่าของ จำนวนชาวตา่ งชาตทิ ีช่ อบผดั ไทย (ค 3.1 ป.6/1) ก. 3 เทา่ ข. 4 เท่า ค. 5 เท่า ง. 6 เทา่ ********** ขอใหท้ ุกคนโชคดี ************ ผ้ตู รวจขอ้ สอบ ลงช่อื .................................................ครผู ้สู อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา)
ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ด้าน คำชีแ้ จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น ในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องวา่ ง ใหต้ รงกับระดับคะแนน และตามความเปน็ จริง โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดังนี้ 4 = พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ัดเจนมาก และบอ่ ยครั้งสม่ำเสมอ 3 = พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ 2 = พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครัง้ 1 = พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั ิบางครง้ั คณุ ลักษณะอนั ระดับคะแนน พึงประสงค์ รายการประเมนิ 4 32 1 ด้าน 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มีความรกั และภูมใิ จในความเป็นชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดตี ่อสถาบันพระมหากษตั ริย์ 2. ซื่อสตั ย์ 2.1 ปฏิบตั ิตามระเบยี บการสอน และไมล่ อกการบ้าน สจุ รติ 2.2 ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเป็นจริงตอ่ ตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงต่อผู้อนื่ 3. มีวินยั 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของห้อง 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5. อยู่อยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด พอเพียง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6. มุ่งมนั่ ในการ 6.1 มคี วามต้ังใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อปุ สรรค เพื่อให้งานสำเรจ็ 7. รักความเป็น 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ 8.1 รจู้ กั การให้เพ่ือสว่ นรวม และเพื่อผอู้ นื่ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้ำใจหรือการให้ความชว่ ยเหลือผอู้ ่ืน 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพอื่ ส่วนรวมเม่ือมโี อกาส ชอ่ื ......................................................................................................................ชั้ น.................เลขท่ี..................
แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ผลการประเมนิ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) ปีการศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนน และสรปุ ผลการประเมินคุณภาพ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ การป ิฏสัม ัพนธ์กัน การสนทนาเ ื่รอง ี่ทกำหนด การ ิตด ่ตอ ื่สอสาร พฤติกรรมการทำงานก ุ่ลม รวม ระ ัดบ ุคณภาพ แปลผล 4 4 4 4 16 1 4 2 3 3 2 4 1 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ได้คะแนน 14-16 คะแนน = (ดีมาก) ลงชือ่ .........................................ผปู้ ระเมนิ (ด)ี (นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา) ได้คะแนน 11-13 คะแนน = (พอใช)้ วนั ....เดือน...............ป.ี ...... (ปรับปรงุ ) ได้คะแนน 8-10 คะแนน = ไดค้ ะแนน 0-7 คะแนน = * เกณฑผ์ า่ นการประเมินตอ้ งได้ 2 (พอใช)้ ขึน้ ไป
แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ปกี ารศึกษา 2563 คำชแี้ จง : กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนน และสรุปผลการประเมนิ คุณภาพ ผลการประเมิน เลขท่ี ชอื่ -สกลุ คะแนน ระดับ ุคณภาพ แปลผล 16 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ไดค้ ะแนน 14-16 คะแนน = 4 (ดมี าก) ลงช่ือ.........................................ผปู้ ระเมิน ได้คะแนน 11-13 คะแนน =3 (ด)ี (นางสาวแพรวร่งุ ศรปี ระภา) ไดค้ ะแนน 8-10 คะแนน =2 (พอใช)้ วัน....เดือน...............ปี....... ได้คะแนน 0-7 คะแนน =1 (ปรับปรุง) * เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ตอ้ งได้ 2 (พอใช้) ขนึ้ ไป
แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทำแบบทดสอบ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) ปกี ารศกึ ษา 2562 คำช้ีแจง : กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และประเมนิ ผล ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนก่อนเรียน(10) คะแนนหลงั เรียน(10) ้รอยละ ่ผาน/ไม่ ่ผาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 * ( ผเู้ รียนต้องมีคะแนนสอบหลังเรยี นผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๖๐ ) ลงช่ือ.........................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา) วัน....เดือน...............ป.ี ......
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ สรปุ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ 3. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไมผ่ า่ น............ คน ผา่ น.............คน ด.ี .................คน ดเี ยี่ยม................คน ระดับดขี ึ้นไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ไม่ผา่ น............ คน ผ่าน.............คน ดี..................คน ดเี ย่ยี ม................คน ระดบั ดีขนึ้ ไป ร้อยละ..................... 5. นกั เรยี นเกิดทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ใดบา้ ง ทำเคร่ืองหมาย / ในช่องวา่ งทีต่ รงกับทักษะทีเ่ กิด การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา การสร้างสรรค์ ความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ การสือ่ สาร ดา้ นความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ ำ ทักษะการเปลยี่ นแปลง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนการสอน/ปัญหา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื งการอา่ นแผนภูมิรูปวงกลม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. ................................................... • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื งโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั แผนภูมวิ งกลม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................................. ................................................................................................................................................................................ ลงชอื่ .................................................. (นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา)
ความคดิ เห็นหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู/้ ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................. .................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา ) หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ .................../......................./......................... ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ................................................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................... ...................................................................... .................................................................................................................................... ............................................................. ................................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ …………………………………………………… (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ โรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรงุ ) ................../......................./.........................
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 4 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 การนำเสนอข้อมลู เวลา 2 ช่ัวโมง เร่อื ง การอา่ นแผนภมู ิรปู วงกลม 1. สาระสำคญั แผนภูมิรูปวงกลม เป็นการนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้พ้ืนที่ภายในรปู วงกลมแทนจำนวนหรือปรมิ าณของข้อมลู แต่ ละรายการ การแบ่งพื้นที่รูปวงกลมแบ่งที่จุดศูนย์กลางโดยแบ่งออกเป็นส่วนๆ ตามจำนวนรายการของข้อมูล ซึ่ง สว่ นแบง่ ของรูปวงกลมจะมีพื้นทีม่ ากหรือนอ้ ยขึ้นอยู่กบั ปริมาณของข้อมลู แตล่ ะรายการ 2. ตัวชวี้ ดั ค 3.1 ป.6/1 : ใช้ข้อมลู จากแผนภูมิรปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อา่ นข้อมูลจากแผนภูมริ ูปวงกลมที่แสดงจำนวนเปน็ รอ้ ยละหรือเปอรเ์ ซ็นต์ได้ (K) 2. ใช้ข้อมลู จากแผนภูมิรูปวงกลมทแี่ สดงจำนวนเปน็ รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ตใ์ นการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา ได้ (P) 3. นำความร้เู กยี่ วกับการอ่านแผนภูมิรูปวงกลมแสดงขอ้ มูลเปน็ รอ้ ยละหรือเปอร์เซน็ ตไ์ ปใช้ในชีวิตจรงิ ได้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ การอ่านแผนภมู ริ ูปวงกลม 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้ันตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นักเรียนทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคูณ หลงั จาก นั้นใหน้ ักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรียน
ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูทบทวนวธิ ีการนำเสนอขอ้ มลู โดยให้นักเรยี นช่วยกันบอกว่า การนำเสนอขอ้ มูลที่เรียนมาแลว้ มวี ธิ ี ใดบา้ ง ครูแนะนำนักเรยี นว่า การนำเสนอขอ้ มูลมอี ีกหลายวธิ ี และวิธีหน่ึง คอื การนำเสนอขอ้ มูลโดยใชแ้ ผนภมู ิรูป วงกลม 3. ให้นกั เรยี นทบทวนความรเู้ ร่ือง การนำเสนอข้อมลู โดยครใู หน้ ักเรียนสำรวจจำนวนนักเรยี นท่ี สมัครเลน่ กีฬาประเภทต่างๆ ดังน้ี ฟุตบอล 36 คน วา่ ยนำ้ 48 คน ปงิ ปอง 12 คน เทนนิส 24 คน จากน้นั ร่วมกันอภปิ รายวา่ จะนำเสนอข้อมูลไดอ้ ยา่ งไร (เช่น ตาราง แผนภมู ริ ปู ภาพ แผนภูมแิ ทง่ ) 4. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ว่า สามารถนำเสนอข้อมูลในรปู แบบอนื่ ได้อีกหรอื ไม่ ครู แนะนำเพ่มิ เตมิ ว่าการนำเสนอข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ได้แก่ แผนภมู ิรูปวงกลม 5. ครูติดแผนภูมิรูปวงกลมแสดงจำนวนนกั เรียนท่ีสมคั รเล่นกีฬาประเภทตา่ งๆ บนกระดาน เทนนสิ ฟุตบอล ปงิ ปอง วา่ ยน้ำ ครูถามคำถามนกั เรยี น ดังน้ี - แผนภมู ินแ้ี บง่ ออกเปน็ กส่ี ว่ น (4 สว่ น) - พืน้ ท่แี ตล่ ะสว่ นของวงกลมแสดงถงึ อะไร (จำนวนนักเรยี นทสี่ มคั รเลน่ กีฬา 4 ชนดิ คอื ว่ายน้ำ เทนนสิ ปิงปอง และฟุตบอล) - นักเรยี นสมคั รเลน่ กฬี าประเภทใดมากที่สุด (วา่ ยน้ำ) - นักเรียนสมคั รเลน่ กีฬาประเภทใดนอ้ ยท่สี ุด (ปิงปอง) - นกั เรียนสมัครเล่นกฬี าฟตุ บอลมากกวา่ กฬี าชนิดใด (ปงิ ปองและเทนนสิ ) 6. จากกิจกรรมนักเรียนร่วมกันอภปิ รายวา่ ถ้าต้องการทราบจำนวนท่แี สดงในแผนภูมริ ูปวงกลมต้องทำ อย่างไร (เขยี นจำนวนของแต่ละส่วน) ครกู ำหนดจำนวนในแผนภมู ิรูปวงกลม ดังน้ี
ปงิ ปอง 12 เทนนิส 24 ฟุตบอล 36 วา่ ยนำ้ 48 ครถู ามคำถามเพ่ือกระตุน้ ความคดิ ของนักเรยี น ดงั นี้ - มนี ักเรียนสมัครเล่นกฬี าท้งั หมดกีค่ น (120 คน) - นักเรียนสมคั รเลน่ กีฬาประเภทใดมากท่ีสุด จำนวนเทา่ ไร (ว่ายน้ำ จำนวน 48 คน) - นักเรยี นสมัครเลน่ กีฬาประเภทใดน้อยท่ีสุด จำนวนเท่าไร (ปิงปอง จำนวน 12 คน) - นักเรียนทีส่ มัครเลน่ ฟุตบอลมากกว่านักเรยี นทีส่ มัครเลน่ ปงิ ปองจำนวนเทา่ ไร (24 คน) - จำนวนนักเรยี นท่ีสมัครเลน่ ฟตุ บอลคดิ เป็นกเ่ี ท่าของนกั เรียนท่สี มคั รเลน่ ปิงปอง (3 เท่า) ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝกึ 7. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านแผนภูมริ ูปวงกลม เม่อื เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรุป 8. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ สงิ่ ทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี แผนภูมริ ปู วงกลม เปน็ การนำเสนอข้อมลู โดยใช้ พน้ื ทภี่ ายในรูปวงกลม การแสดงขอ้ มลู ไวใ้ นแตล่ ะสว่ นของแผนภมู ริ ปู วงกลมชว่ ยให้อา่ นข้อมลู ได้ถกู ต้อง ขัน้ ตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทันที 9. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงที่ 2 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จาก น้ันให้นักเรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ และทดสอบก่อนเรยี น ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูทบทวนความรู้ เรื่อง การอา่ นแผนภมู ิรูปวงกลม โดยครตู ิดบัตรแผนภมู ิรูปวงกลมบนกระดาน จากนัน้ ขออาสาสมคั รนักเรียนยกมอื ข้นึ แลว้ อ่านแผนภมู ริ ูปวงกลมคนละ 1 ข้อ ห้ามซำ้ กนั โดยครแู ละนักเรยี นทเ่ี หลือ ร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง เช่น
จานวนสัตวใ์ นฟาร์ม แพะ 15 ตัว วัว 45 ตัว หมู 15 ตัว ไก่ 25 ตัว 3. ครตู ิดแผนภูมริ ูปวงกลมบนกระดาน รายไดจ้ ากการขายผลไม้ชนิดต่างๆ ของรา้ นคา้ แห่งหน่งึ ในเดอื นธันวาคม นา้ สม้ 40% นำ้ มะพรา้ ว 35% ครถู ามคำถามนกั เรียน ดงั น้ี - ร้านค้าขายน้ำผลไมช้ นิดใดบ้าง (น้ำส้ม นำ้ ลำไย น้ำฝร่งั และนำ้ มะพร้าว) - นำ้ ผลไมช้ นดิ ใดท่ขี ายไดม้ ากทสี่ ุด และขายได้กเ่ี ปอร์เซ็นต์ (น้ำสม้ ขายได้มากที่สุด ขายได้ 40%) - นำ้ ผลไม้สองชนิดใดที่ขายได้ปริมาณแตกต่างกันมากท่ีสดุ (นำ้ ส้มกบั นำ้ ลำไย) - นำ้ ผลไม้ชนดิ ใดขายได้นอ้ ยทสี่ ุด และขายไดก้ ่เี ปอร์เซ็นต์ (น้ำลำไย ขายไดน้ อ้ ยทีส่ ุดขายได้ 10%) - ถ้าเดือนนี้ขายน้ำผลไมไ้ ด้ 28,000 บาท อยากทราบวา่ ขายน้ำผลไมแ้ ต่ละชนิดไดเ้ งินกบี่ าท (ขายน้ำสม้ ได้เงนิ 40 × 28,000 = 11,200 บาท 100 ขายนำ้ มะพรา้ วไดเ้ งนิ 35 × 28,000 = 9,800 บาท 100 ขายนำ้ ฝรงั่ ไดเ้ งนิ 15 × 28,000 = 4,200 บาท 100 ขายนำ้ ลำไยไดเ้ งิน 10 × 28,000 = 2,800 บาท) 100 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องของคำตอบ
ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 4. ครใู ห้นักเรยี นทำใบงานท่ี 2 การอา่ นแผนภมู ิรปู วงกลม เม่อื เสร็จแล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกันตรวจสอบ ความถกู ต้อง จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนงั สือเรยี น ขั้นตอนท่ี 4 : การสรปุ 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรรู้ ่วมกนั ดังนี้ แผนภมู ริ ูปวงกลม เป็นการนำเสนอขอ้ มลู โดยใช้ พน้ื ทภี่ ายในรูปวงกลม การแสดงข้อมูลไวใ้ นแตล่ ะสว่ นของแผนภมู ิรูปวงกลมชว่ ยใหอ้ า่ นข้อมูลได้ถกู ต้อง ข้ันตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 6. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดผลและประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน 2. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน 4. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น การประเมินผล 1. ถอื เกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรับผูท้ ี่ไดร้ ะดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ขน้ึ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรบั ผู้ท่ีทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ขึ้นไป 3. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผู้ที่ทำงานไดร้ ะดับคณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ข้ึนไป 4. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรบั ผทู้ ่ีทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรยี นได้ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. แผนภูมริ ูปวงกลม 3. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท.
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 4 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 การนำเสนอข้อมูล เวลา 2 ช่ัวโมง เรื่องโจทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั แผนภูมิวงกลม 1. สาระสำคญั การนำเสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภูมริ ูปวงกลมที่แสดงข้อมูลเป็นร้อยละหรือเปอรเ์ ซน็ ต์ ในแต่ละส่วนแสดงจำนวน เป็นร้อยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ ซึ่งการกำหนดจำนวนในแต่ละส่วนของแผนภมู ิรูปวงกลมเปน็ ร้อยละหรอื เปอรเ์ ซ็นต์ ผลรวมของรอ้ ยละหรือเปอร์เซน็ ตท์ ัง้ หมดตอ้ งเท่ากบั 100% เสมอ 2. ตวั ช้ีวดั ค 3.1 ป.6/1 : ใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมริ ปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อา่ นขอ้ มูลจากแผนภมู ิรปู วงกลมได้ (K) 2. ใช้ขอ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาได้ (P) 3. นำความร้เู กยี่ วกบั โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั แผนภูมิวงกลมไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ (A) 4. สาระการเรยี นรู้ โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั แผนภูมวิ งกลม 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุง่ มั่นในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี 1 ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลงั จาก นัน้ ให้นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครทู บทวนความรู้ เรือ่ ง การอา่ นแผนภูมิรูปวงกลมแสดงข้อมูลเป็นร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์โดยครู
ติดบตั รแผนภมู ริ ปู วงกลมแสดงข้อมลู เป็นรอ้ ยละหรือเปอร์เซ็นตบ์ นกระดาน จากนนั้ ขออาสาสมคั รนักเรยี นยกมอื ขึ้น แลว้ อา่ นแผนภมู ิรูปวงกลมคนละ 1 ข้อ หา้ มซำ้ กัน โดยครูและนักเรียนทีเ่ หลอื ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง เช่น จานวนครูและนักเรียนของโรงเรยี นแหง่ หนึ่ง กา้ หนดให้โรงเรยี นแหง่ น้มี จี ้านวนครแู ละนกั เรียนทงั้ หมด 2,000 คน นกั เรยี นหญิง นักเรียนชาย 45% 40% 3. ครูตดิ แผนภมู ิรูปวงกลมบนกระดาน ค่าใช้จา่ ยประจำเดอื น เงินเกบ็ 30% คา่ ท่ีพัก 20% คา่ อาหาร 25% ครถู ามคำถามนักเรียน ดงั น้ี - ค่าทีพ่ กั เปน็ กเ่ี ปอร์เซ็นต์ (20%) - เงินเกบ็ เปน็ กเี่ ปอร์เซน็ ต์ (30%) - ค่าเดินทางนอ้ ยกว่าคา่ อาหารกเี่ ปอรเ์ ซน็ ต์ (25 – 15 = 10%) - ค่าทพ่ี กั และอืน่ ๆ รวมเทา่ กับส่วนใด (20 + 10 = 30% ค่าทีพ่ กั และอื่นๆ รวมเทา่ กับเงินเก็บ) - เอกได้เงนิ เดือน 12,000 บาท เอกจ่ายค่าที่พกั เทา่ ไร ( 20 × 12,000 = 2,400 บาท) 100 - กอ้ งได้เงินเดอื น 18,000 บาท กอ้ งจา่ ยคา่ อาหารและอื่นๆ รวมเท่าไร ( 25 + 10 ) × 18,000 = 6,300 บาท 100 100
- เบสไดเ้ งินเดือน 6,000 บาท บาสไดเ้ งินเดอื น 9,000 บาท เบสและบาสมีเงนิ เกบ็ รวมเท่าไร (( 30 × 6,000) + ( 30 × 9,000) = 1,800 + 2,700 = 4,500 บาท) 100 100 - เอกได้เงินเดอื น 14,000 บาท ออ้ ได้เงินเดือน 12,000 บาท ค่าอาหารของเอกมากกวา่ ค่าเดนิ ทางของ ออ้ เทา่ ไร (( 25 + 14,000) - ( 15 + 12,000) = 3,500 - 1,800 = 1,700 บาท) 100 100 ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 4. ครใู ห้นักเรียนแสดงวิธกี ารแก้โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับแผนภมู ิวงกลม เมอ่ื เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 5. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปสิ่งท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกนั ดงั น้ี แผนภมู ริ ปู วงกลมแสดงข้อมลู เปน็ รอ้ ยละหรอื เปอร์เซน็ ตไ์ ด้วา่ การนำเสนอข้อมูลดว้ ยแผนภมู ริ ูปวงกลมทแ่ี สดงขอ้ มูลเปน็ รอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซ็นต์ ในแตล่ ะสว่ น แสดงจำนวนเป็นรอ้ ยละหรอื เปอรเ์ ซน็ ต์ ซึ่งการกำหนดจำนวนในแต่ละส่วนของแผนภมู ิรปู วงกลมเป็นร้อยละหรอื เปอรเ์ ซ็นต์ ผลรวมของรอ้ ยละหรือเปอร์เซ็นตท์ ั้งหมดต้องเท่ากบั 100% เสมอ ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 6. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ กั เรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสตู รคูณ หลังจาก นัน้ ให้นกั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ และทดสอบก่อนเรียน ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นทบทวนความรู้เร่ือง การอ่านแผนภูมิรูปวงกลมโดยครูติดแผนภมู ริ ปู วงกลมบนกระดาน จานวนนกั เรียนที่ชอบเรียนวชิ าต่างๆ 60 85 คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 120 85 ภาษาไทย 50 สงั คมศกึ ษา ภาษาตา่ งประเทศ
3. ครูตดิ แผนภูมริ ปู วงกลมบนกระดาน ค่าใช้จา่ ยประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ของโรงงานแหง่ หน่งึ คา่ สาธารณปู โภค คา่ ใช้จ่ายอ่นื ๆ คา่ จา้ งพนักงาน 12% ค่าพาหนะ 5% 8% 35% ค่าวตั ถุดิบ 25% 15% ค่าใชจ้ า่ ยด้านการบรหิ าร 4. ครถู ามคำถามนักเรยี น ดงั น้ี ถ้าเดอื นมกราคม 2563 โรงงานนี้มคี า่ ใช้จ่ายทั้งส้ิน 4,500,000 บาท ค่าใช้จ่ายดา้ นการบรหิ ารมากกวา่ ค่าสาธารณปู โภคก่ีเปอรเ์ ซน็ ต์ คดิ เป็นเงินเท่าใด มวี ธิ ีคดิ อยา่ งไร วธิ คี ิด ขน้ั ท่ี 1 หาเปอรเ์ ซน็ ต์ของคา่ สาธารณปู โภค โดยนำเปอรเ์ ซน็ ต์ของทุกรายการมารวมกัน แลว้ ลบออกจาก 100% จะได้ 100% - (5 + 15 + 35 + 25 + 8)% = 12% ขน้ั ที่ 2 หาเปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายดา้ นการบริหารท่ีมากกว่าคา่ สาธารณูปโภค โดยนำเปอร์เซน็ ตข์ องคา่ ใชจ้ ่ายด้านการบริหาร ลบด้วยเปอรเ์ ซ็นต์ของค่าสาธารณปู โภค จะได้ 15% - 12% = 3% ขน้ั ท่ี 3 หาจำนวนเงนิ ทเ่ี ป็นค่าใช้จา่ ยดา้ นการบรหิ ารมากกว่าค่าสาธารณปู โภค โดยนำ 3% คูณกับค่าใชจ้ ่ายทง้ั หมด จะได้ 3 × 4,500,000 = 135,000 บาท 100 ดงั นน้ั คา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นการบริหารมากกว่าค่าสาธารณูปโภค 3% คดิ เปน็ เงิน 135,000 บาท ตอบ ๓% คดิ เป็น ๑๓๕,๐๐๐ บาท ข้ันตอนที่ 3 : การฝึก 5. ครใู ห้นักเรยี นแสดงวิธแี ก้โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั แผนภูมวิ งกลม เม่อื เสรจ็ แล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน ขั้นตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสิ่งท่ีไดเ้ รยี นรูร้ ว่ มกัน ดังนี้ แผนภมู ริ ปู วงกลมแสดงข้อมลู เป็นรอ้ ยละหรือ เปอรเ์ ซ็นต์ไดว้ า่ การนำเสนอข้อมูลดว้ ยแผนภูมิรูปวงกลมที่แสดงข้อมูลเป็นร้อยละหรือเปอรเ์ ซน็ ต์ ในแตล่ ะสว่ น แสดงจำนวนเปน็ รอ้ ยละหรือเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการกำหนดจำนวนในแตล่ ะสว่ นของแผนภูมริ ปู วงกลมเป็นร้อยละหรือ เปอร์เซ็นต์ ผลรวมของร้อยละหรือเปอรเ์ ซน็ ตท์ งั้ หมดต้องเท่ากบั 100% เสมอ ขั้นตอนที่ 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 7. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
8. การวัดและประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน 2. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน การประเมนิ ผล 1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ท่ีไดร้ ะดับคุณภาพตงั้ แต่ 2 ข้นึ ไป 2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผทู้ ่ีทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคุณภาพต้งั แต่ 2 ข้นึ ไป 3. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ่ีทำงานได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ขึ้นไป 9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 2. แผนภมู ิรปู วงกลม 3. แบบทดสอบหลงั เรียน
ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ
พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 12 เร่ืองการนำเสนอขอ้ มูล เวลาท่ีใช้ 4 ช่ัวโมง รหัสวชิ า ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ครูผู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มคี วามสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสดุ ทีส่ ุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถึง น้อยทสี่ ดุ ขอ้ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์มีความเช่ือมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเช่ือมโยงสมั พนั ธก์ นั ระหว่างชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผ้เู รยี นใหม้ ีความรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคัญของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผูเ้ รยี นไปสกู่ ารสร้างชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัด/กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะทอ้ นคุณภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรยี นรูใ้ นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกบั เวลาและการนำไปประยุกตใ์ ชไ้ ดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏิบัตจิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................................ ....................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................................. (นางสาวจิระพันธุ์ ปากวิเศษ) ผปู้ ระเมิน
พ.น./วก. 02 โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ หน่วยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 เรอ่ื งการนำเสนอข้อมูล เวลาท่ใี ช้ 4 ช่วั โมง รหัสวิชา ค16101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ครผู ้สู อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มีความสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดทส่ี ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถึง นอ้ ยทสี่ ดุ ข้อ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทดั รัด ชัดเจน ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้/สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคม์ ีความเช่ือมโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเชือ่ มโยงสัมพันธ์กนั ระหว่างชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้และสาระการเรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลมุ ในการพัฒนาผู้เรยี นให้มคี วามรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสูก่ ารสร้างช้ินงาน/ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด/ผล การเรยี นรู้ 11 ส่ือการเรียนรูใ้ นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใชไ้ ดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ ริงได้ ข้อเสนอแนะ ........................................................................................ .......................................................................................................... ............................................................ ........................................................................................ ............................................... ......................................................................................................................... ........................................................................ ลงช่ือ.................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผู้ประเมิน
พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมนิ หน่วยการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 12 เร่ืองการนำเสนอขอ้ มูล เวลาทใ่ี ช้ 4 ชว่ั โมง รหัสวชิ า ค16101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ครูผู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มีความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดทสี่ ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถึง นอ้ ยทสี่ ดุ ขอ้ รายการประเมิน ระดับคะแนน ที่ 54321 1 ช่อื หนว่ ยการเรยี นรูน้ า่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลมุ เนอ้ื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคม์ ีความเช่ือมโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเชอ่ื มโยงสมั พันธก์ ันระหว่างชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรสู้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรยี นใหม้ คี วามรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รยี นไปสู่การสร้างชิ้นงาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั /กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด/ผล การเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรยี นรู้ในแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ไดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................................................................................... ........................................ ......................................................................................... .......................................................................................................... ............................................................. ......................................................................................... ........................................... ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ ผู้ประเมนิ
พ.น./วก. 03 โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวสั ดิร์ าษฎร์บำรุง) สรุปผลการประเมินหนว่ ยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 12 เรื่องการนำเสนอข้อมลู เวลาทใี่ ช้ 4 ชั่วโมง รหสั วิชา ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมนิ หน่วยการเรียนรู้ ซึง่ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) จำนวน 12 ขอ้ มรี ะดบั การประเมิน 5 ระดับ คือ 5 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มากท่ีสดุ 4 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม น้อยท่ีสดุ ซงึ่ ถือเกณฑใ์ นการแปลความหมายของค่าเฉลี่ย ดงั นี้ 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มีความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม มากท่ีสุด 3.50 – 4.49 หมายความว่า มคี วามสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความวา่ มีความสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม นอ้ ยทสี่ ุด คะแนนของผปู้ ระเมิน คา่ การแปล ข้อท่ี รายการประเมนิ คนท่ี คนที่ คนที่ เฉลย่ี ความหมาย 123 1 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้น่าสนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้/สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคม์ ีความเชอ่ื มโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่อื มโยงสมั พันธ์กันระหวา่ งชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละ กิจกรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ และสาระการเรยี นรู้
-2- ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนนของผู้ประเมิน ค่า การแปล คนท่ี คนที่ คนที่ เฉลี่ย ความหมาย 7 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผู้เรยี นให้มีความรทู้ กั ษะ/ 123 กระบวนการ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรียนไปสู่การสรา้ งช้นิ งาน/ ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผูเ้ รียนตาม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรียนร้ใู นแตล่ ะกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไป ประยุกต์ใชไ้ ด้จรงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ ภาพรวม สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น (ความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสมตง้ั แต่ระดับปานกลางขน้ึ ไป) ผา่ น (ความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสมต่ำกว่าระดบั ปานกลาง) ลงชื่อ.......................................... (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชื่อ.......................................... ลงชือ่ .......................................... (นางสาวสุวดี กาญจนาภา) (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ
พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 เร่ืองการนำเสนอข้อมูล เวลาทใ่ี ช้ 4 ชัว่ โมง รหสั วิชา ค16101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ครผู ู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรยี นรู้สอดคล้องสมั พนั ธ์กับหน่วยการเรยี นร้ทู ่กี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถว้ นสมั พันธ์กนั 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ ีความชัดเจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคแ์ ละระดบั ชัน้ ของนักเรียน 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏิบัติไดจ้ รงิ 9 กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กิจกรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านิยมท่ีดีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ใหผ้ ู้เรียนมีส่วนร่วมในชนั้ เรียน 12 วัสดุอปุ กรณ์ ส่ือ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี คี วามหลากหลาย 13 วัสดุอปุ กรณ์ สอื่ และแหลง่ เรยี นรูเ้ หมาะสมกับเนอื้ หาสาระ 14 สง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รยี นคน้ ควา้ หาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ 15 มีการวดั และประเมนิ ผลทส่ี อดคล้องกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-2- ขอ้ เสนอแนะ ดา้ นเนอ้ื หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................... ................ ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................................ ................... ด้านกิจกรรมการเรยี นการสอน................................................................................................................................ .......................................................................................................................... ..................................................................... .............................................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .............................................................................................................. ด้านการวัดและประเมินผล........................................................................................................................ .............. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................................. .................. ............................................................................................................................................................................................... ด้านอืน่ ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ....................................................... ............................................................................................................................................................................................... .................................................... ....................................................................................... .................................................... (ลงชอ่ื )..................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวเิ ศษ) ............./.................../............. ส่งิ ทไี่ ดด้ ำเนนิ การแก้ไข ............................................................................................................................. .................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ......... ......................................................................................................................... ...................................................................... (ลงช่อื )..................................................ผ้สู อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 04 โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบประเมินแผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 เร่ืองการนำเสนอข้อมูล เวลาทใ่ี ช้ 4 ชว่ั โมง รหสั วิชา ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 ครผู ู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดมี าก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปรับปรงุ ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรยี นรู้สอดคล้องสมั พนั ธ์กับหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ีกำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสำคัญครบถว้ นสมั พนั ธ์กนั 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ คี วามชัดเจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์และเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และระดบั ชั้นของนักเรียน 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏิบตั ิไดจ้ ริง 9 กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กิจกรรมการเรยี นรูส้ อดคล้องแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ใหผ้ ู้เรียนมีส่วนรว่ มในชน้ั เรยี น 12 วัสดุอปุ กรณ์ ส่ือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมคี วามหลากหลาย 13 วัสดุอปุ กรณ์ สอื่ และแหลง่ เรยี นรูเ้ หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 สง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ 15 มีการวดั และประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
-2- ขอ้ เสนอแนะ ด้านเนอ้ื หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... .................................................................................................................................................... ........................................... ....................................................................................... ........................................................................................................ ด้านกจิ กรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... ..................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ......... ......................................................................................................................... ...................................................................... ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล...................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... .......................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................... ดา้ นอ่นื ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............... ................................................................................................................... ............................................................................ ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงชือ่ )..................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวสุวดี กาญจนาภา)) ............./.................../............. สงิ่ ทไี่ ดด้ ำเนนิ การแก้ไข .................................................................................................................................................................. ............................. ..................................................................................................... .......................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................ (ลงชื่อ)..................................................ผสู้ อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 12 เรื่องการนำเสนอข้อมูล เวลาทใ่ี ช้ 4 ชัว่ โมง รหัสวิชา ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ครูผ้สู อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ดมี าก 4 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ปรับปรุง ข้อที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคล้องสมั พนั ธก์ บั หนว่ ยการเรยี นรูท้ ีก่ ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งค์ประกอบสำคัญครบถ้วนสมั พนั ธก์ นั 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรูม้ คี วามชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 5 กำหนดเน้ือหาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคแ์ ละระดบั ช้นั ของนักเรียน 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏิบัติได้จรงิ 9 กิจกรรมการเรยี นรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสรมิ กระบวนการคิดของนักเรียน 10 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มท่ีดีงาม 11 กจิ กรรมการเรียนรูเ้ นน้ ให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในช้นั เรียน 12 วสั ดอุ ปุ กรณ์ สือ่ นวตั กรรมและเทคโนโลยีมีความหลากหลาย 13 วัสดุอปุ กรณ์ สอื่ และแหล่งเรยี นร้เู หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 ส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นคว้าหาความรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ 15 มีการวัดและประเมินผลทีส่ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
-2- ขอ้ เสนอแนะ ดา้ นเน้ือหาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกจิ กรรมการเรียนการสอน......................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................................................................................... ................................................................................................... ....................................................................................... ..... ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านการวดั และประเมินผล...................................................................................................................................... .................................................................. ....................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ด้านอน่ื ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................. ....................................................................................... ........... ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงชื่อ)..................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ) ............./.................../............. สิ่งท่ีไดด้ ำเนนิ การแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................... ................................ (ลงชื่อ)..................................................ผสู้ อน (นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา) ............./.................../............
Search