3. ครฝู กึ ให้นกั เรยี นฝกึ วเิ คราะห์โจทย์โดยตอบคำถามต่อไปน้ี - โจทย์ข้อนเ้ี กีย่ วกับอะไร (การใชป้ ยุ๋ ) - โจทยถ์ ามอะไร (เหลือปยุ๋ อย่เู ทา่ ไร) - โจทยก์ ำหนดอะไรมาใหบ้ า้ ง (มปี ุย๋ 5 ของกระสอบ ใช้ไป 7 ของกระสอบ) 6 10 - จะเหลือป๋ยุ เท่าไร ( 2 ของกระสอบ) 15 4. ครูนำแผนภมู ิแสดงตัวอย่างโจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นและจำนวนคละ มาอภิปรายซกั ถาม นกั เรียนเกยี่ วกับการวเิ คราะห์โจทย์ การเขยี นโจทย์ปญั หา ประโยคสัญลักษณก์ ารแสดงวธิ ีทำเพอื่ หา คำตอบ ลงุ ดมี ีที่ดิน 5 1 ไร่ ลงุ เดน่ มีทีด่ นิ น้อยกว่าลงุ ดี 2 2 ไร่ ลุงเด่นมที ดี่ นิ เทา่ ไร 2 3 วเิ คราะห์โจทยด์ ังนี้ 1) โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง (ลงุ ดมี ีทด่ี นิ 5 1 ไร่ ลงุ เดน่ มที ด่ี ินนอ้ ยกวา่ ลุงดี 2 2 ไร่) 2 3 2) โจทยต์ อ้ งการทราบอะไร (จำนวนทด่ี ินของลงุ เดน่ ) 3) โจทย์ขอ้ นที้ ำโดยวิธีใด (วธิ ีการลบ นำจำนวนท่ีดินของลุงดีลบดว้ ยจำนวนทีด่ ินลงุ เด่น ลงุ เด่นมีทดี่ นิ นอ้ ยกวา่ ลุงด)ี เขยี นแสดงวิธที ำได้ดังนี้ ประโยคสัญลกั ษณ์ 5 1 - 2 2 = วธิ ีทำ ลงุ ดมี ีที่ดิน 2 3 ท่อนท่สี องยาว 5 1 ไร่ ลุงเดน่ มที ่ีดิน 2 ไร่ ไร่ 2 2 ไร่ 3 ไร่ ไร่ 5 1 - 2 2 ไร่ 2 3 ไร่ ไร่ = 11 - 8 2 3 = 11×3 + 8×2 2×3 3×2 = 33 + 16 6 6 = 33-16 6 = 17 6 = 2 5 6 ตอบ ลุงเด่นมีทดี่ ิน ๒ ๕ ไร่ ๖
ขัน้ ตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ครฝู กึ วเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนและจำนวนคละตามลกั ษณะกจิ กรรมที่ทำมา ขา้ งตน้ อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง ข้นั ตอนที่ 4 : การสรปุ 6. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรูร้ ่วมกนั ดงั น้ี การแกโ้ จทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ นและ จำนวนคละ ทำไดโ้ ดยการวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หาเพ่ือทำความเขา้ ใจโจทยว์ างแผนวา่ จะใชว้ ิธใี ดหาคำตอบ แลว้ ลงมือทำโดยการแสดงวธิ ีทำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เราสามารถนำความรู้เรื่อง การแกโ้ จทย์ ปญั หาไปใช้แก้ปญั หาเก่ยี วกบั จำนวนต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ ันที 7. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมนิ ผล การวัดผล 1. สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน 2. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 3. สงั เกตการทำงาน การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรับผทู้ ่ีได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ขนึ้ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ่ีทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคณุ ภาพตง้ั แต่ 2 ข้ึนไป 3. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรบั ผทู้ ท่ี ำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตงั้ แต่ 2 ข้นึ ไป 9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 2. แถบโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนและจำนวนคละ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 14 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลา 2 ชั่วโมง เรือ่ งโจทย์ปัญหาการคูณเศษสว่ นและจำนวนคละ 1.สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปัญหาการคณู เศษสว่ นและจำนวนคละ ต้องเร่ิมจากการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หา วางแผน แก้โจทย์ ปัญหาโดยเขยี นเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ีทำเปน็ ลำดับขนั้ ตอน แลว้ จึงหาคำตอบ พรอ้ มท้ังตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ 2. ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.6/7 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเศษสว่ นและจำนวนคละ 2 – 3 ขน้ั ตอน 3.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.บอกประโยคสัญลักษณ์และหาคำตอบโจทย์ปญั หาการคูณเศษสว่ นและจำนวนคละได้ (K) 2.เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบได้จากโจทยป์ ญั หาการคูณเศษสว่ นและจำนวนคละได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ 1.โจทยป์ ัญหาการคณู เศษส่วนและจำนวนคละ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุง่ ม่ันในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ กั เรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากนั้นให้นักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขัน้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. นักเรียนทบทวนความรู้ เรื่อง การคณู เศษสว่ น โดยพจิ ารณาโจทยก์ ารคณู เศษสว่ นบนกระดาน 5 ขอ้ ผู้แทนนักเรยี นออกมาแขง่ กนั เติมคำตอบ นกั เรียนทเี่ หลอื ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ดงั น้ี 1) 21 × 10 = 2) 3 × 2 = 14 5 3) 4 × 6 = 4) 1 × 3 × 1 = 98 6 4 2 5) 7 × 2 × 3 = 25 9 14
3.ครูติดแถบโจทยป์ ญั หาการคณู เศษสว่ นและจำนวนคละบนกระดาน พรอ้ มท้งั อา่ นโจทย์ให้ นกั เรยี นอา่ นตาม ดังนี้ นายอนิ มีท่ีดนิ 5 1 ไร่ ถา้ นายอินขายทีด่ ินไรล่ ะ 200,000 บาท นายอนิ จะไดเ้ งินเท่าไร 2 4.ครูใหน้ ักเรียนฝึกวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหา โดยตอบคำถามดังตอ่ ไปนี้ -โจทยถ์ ามอะไร (นายอนิ ได้เงนิ เท่าไร) -โจทยก์ ำหนดอะไรใหบ้ ้าง (นายอินมีท่ีดิน 5 1 ไร่ ถา้ นายอนิ ขายท่ีดินไรล่ ะ 200,000 บาท) 2 -จะหาคำตอบได้อย่างไร (เอาจำนวนไร่ของท่ดี ินคณู กับราคาขายต่อไร่) -เขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหาคำตอบได้อย่างไร (5 1 × 200,000 ) 2 คำตอบทไ่ี ดค้ ือเท่าใด (1,100,000 บาท) ขัน้ ตอนที่ 3 : การฝึก 5. ครฝู กึ วิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการคณู เศษสว่ นและจำนวนคละตามลกั ษณะกิจกรรมทีท่ ำมา ขา้ งตน้ อกี 2 – 3 ตวั อยา่ ง -กระเทียมหนัก 1 กโิ ลกรัม กระเทียม 250 ถุง หนักกีก่ โิ ลกรัม 4 -สดุ าตกั น้ำตาลใส่ถงุ ถุงละ 1 กโิ ลกรัม จำนวน 34 ถุง สุดามนี ำ้ ตาลทง้ั หมดก่กี ิโลกรัม 2 2 -นิรชามอี ายุ 4 1 ปี สมพรมีอายุ 1 3 ของนิรชา จงหาวา่ สมพรมีอายุก่ปี ี 5 7 ข้นั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 6.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ โจทย์ปัญหาเป็นการนำจำนวนหรือ สถานการณ์ต่างๆ มาเขียนเป็นคำถาม เพื่อให้คิดหาคำตอบ ซึ่งเราต้องอ่านโจทย์ให้เข้าใจ พิจารณาว่าโจทย์ กำหนดอะไรใหบ้ ้าง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ธิ ีการแก้ไขปญั หาอยา่ งไร ขัน้ ตอนท่ี ๕ : การประยกุ ตใ์ ช้ทันที 7. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 2 ข้ันตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรยี นท่องสูตรคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนัน้ ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครนู ำโจทย์ปัญหาการคูณเศษส่วน มาใหน้ ักเรียนฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์และหาคำตอบ เชน่ แมม่ เี งนิ 800 บาท ใหล้ ูกไปซื้อแบบเรียน 5 ของเงนิ ที่มีอยู่ แมใ่ หเ้ งนิ ลกู กี่บาท 8 3. ครฝู กึ ใหน้ กั เรยี นฝึกวเิ คราะหโ์ จทย์โดยตอบคำถามต่อไปนี้ - โจทย์ขอ้ นเ้ี ก่ยี วกบั อะไร (เงินทีแ่ ม่ใหล้ กู ) - โจทยถ์ ามอะไร (จำนวนเงินทแ่ี ม่ให้ลูก) - โจทย์กำหนดอะไรมาใหบ้ ้าง (มแี ม่มเี งิน 800 บาท ใหล้ กู ไปซ้ือแบบเรียน 5 8 ของเงนิ ที่มีอยู่)
- แมใ่ หเ้ งนิ ลูกก่ีบาท (500 บาท) 4. ครนู ำแผนภมู ิแสดงตัวอยา่ งโจทย์ปญั หาการคูณเศษส่วนและจำนวนคละ มาอภปิ รายซกั ถาม นกั เรียนเก่ยี วกับการวเิ คราะหโ์ จทย์ การเขียนโจทย์ปัญหา ประโยคสัญลักษณก์ ารแสดงวธิ ที ำเพอ่ื หา คำตอบ ในเวลา 1 ชั่วโมง ปรีดาขีจ่ ักรยานไดร้ ะยะทาง 7 2 กโิ ลเมตร และปรดี าขี่จักรยาน 5 3 นาน 3 4 ช่ัวโมง จะไดร้ ะยะทางกี่กิโลเมตร วเิ คราะหโ์ จทยด์ ังน้ี 1) โจทยก์ ำหนดอะไรใหบ้ า้ ง (ในเวลา 1 ชั่วโมง ปรดี าขจ่ี กั รยานไดร้ ะยะทาง 7 2 กิโลเมตร และ 5 3 ปรดี าข่ีจักรยานนาน 3 4 ชว่ั โมง) 2) โจทยต์ อ้ งการทราบอะไร (ในเวลา 3 3 ช่วั โมง ปรดี าขีจ่ กั รยานได้ระยะทางก่ีกโิ ลเมตร) 4 3) โจทย์ข้อนี้ทำโดยวธิ ีใด เพราะเหตุใด (วิธคี ณู เพราะเวลาเพิ่มขึน้ 3 3 เท่า ระยะทางตอ้ งเพิม่ ขนึ้ 4 3 3 4 เทา่ ดว้ ย) เขยี นแสดงวิธีทำได้ดังนี้ ประโยคสัญลกั ษณ์ 7 2 × 3 3 = 5 4 วธิ ีทำ เวลา 1 ชัว่ โมง ปรีดาขี่จกั รยานได้ 7 2 กิโลเมตร 5 ปรดี าขจี่ ักรยานนาน 3 3 ชว่ั โมง 4 ดังนัน้ ปรีดาขจี่ ักรยานได้ 7 2 × 3 3 กโิ ลเมตร 5 4 กิโลเมตร กิโลเมตร = 37 × 15 5 4 = 111 4 = 27 3 กิโลเมตร 4 ตอบ ปรีดาข่จี ักรยานไดร้ ะยะทาง ๒๗ ๓ กิโลเมตร ๔ ขัน้ ตอนท่ี ๓ : การฝึก 5. ครูฝกึ วิเคราะห์โจทยป์ ัญหาการคณู เศษสว่ นและจำนวนคละตามลกั ษณะกิจกรรมท่ที ำมา ข้างต้นอกี 2 – 3 ตัวอยา่ ง ขั้นตอนท่ี ๔ : การสรุป 6.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปส่งิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ร่วมกนั ดังนี้ การลบจำนวนคละอาจเขียนจำนวน คละในรปู เศษเกนิ กอ่ น แลว้ จึงหาผลลบ
ขั้นตอนท่ี ๕ : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที 7. ครูให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน 2. แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 3. สังเกตการทำงาน การประเมินผล 1. ถอื เกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรบั ผทู้ ี่ไดร้ ะดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ขน้ึ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผู้ที่ทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคณุ ภาพตั้งแต่ 2 ข้ึนไป 3. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผูท้ ี่ทำงานได้ระดบั คุณภาพตัง้ แต่ 2 ขึ้นไป ๙. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 2. แถบโจทย์ปญั หาการคูณเศษสว่ นและจำนวนคละ
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 14 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลา 2 ชั่วโมง เรอ่ื งโจทยป์ ัญหาการหารเศษสว่ นและจำนวนคละ 1. สาระสำคญั การแกโ้ จทยป์ ัญหาการหารเศษส่วนและจำนวนคละ ต้องเรม่ิ จากการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผน แกโ้ จทย์ ปัญหาโดยเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ แสดงวิธีทำเปน็ ลำดบั ขน้ั ตอน แลว้ จงึ หาคำตอบ พรอ้ มทัง้ ตรวจสอบความ สมเหตสุ มผลของคำตอบ 2. ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.6/7 : แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเศษส่วนและจำนวนคละ 2 – 3 ขนั้ ตอน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.บอกประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบโจทยป์ ญั หาการหารเศษสว่ นและจำนวนคละได้ (K) 2.เขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบไดจ้ ากโจทย์ปัญหาการหารเศษสว่ นและจำนวนคละได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ ๑.โจทยป์ ัญหาการหารเศษส่วนและจำนวนคละ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้ชวี ติ 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้นั ใหน้ กั เรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ข้นั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. นกั เรยี นทบทวนความรู้ เรอ่ื ง การหารเศษสว่ น โดยพิจารณาโจทยก์ ารคูณเศษสว่ นบน กระดาน 5 ขอ้ ผูแ้ ทนนกั เรยี นออกมาแขง่ กันเติมคำตอบ นักเรยี นท่เี หลอื ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ดังน้ี 1) 7 ÷ 7 = 2) 11 ÷ 121 = 9 3 3) 8 ÷ 4 ÷ 20 = 4) 46 113 = 95 3 7 21
5) 33 12 = 57 3. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาการหารเศษส่วนและจำนวนคละบนกระดาน พรอ้ มทัง้ อ่านโจทย์ให้ นักเรียนอา่ นตาม ดังนี้ ชา่ งตดั เสอื้ ตัวหนึง่ ใชผ้ ้า 2 1 เมตร มผี า้ อยู่ 18 เมตร จะตัดเสือ้ ได้ก่ีตวั 4 4. ครูให้นกั เรยี นฝกึ วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา โดยตอบคำถามดงั ต่อไปนี้ o โจทย์ข้อนี้เป็นเรือ่ งเกี่ยวกบั อะไร (การตดั เสอ้ื ) o โจทย์ถามอะไร (จำนวนเสอ้ื ทง้ั หมด) o โจทย์กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง (ตดั เสอ้ื 1 ตัว ใชผ้ ้า 2 1 เมตร มผี า้ อยู่ 18 เมตร) 4 o จะหาคำตอบได้อยา่ งไร (เอา 18 ÷ 2 41) o เขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการหาคำตอบได้อย่างไร (18 ÷ 1 = ) 2 4 o คำตอบทไี่ ด้คอื เท่าใด (8 ตวั ) ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครูฝกึ วเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการหารเศษส่วนและจำนวนคละตามลกั ษณะกจิ กรรมท่ีทำมา ข้างต้นอกี 2 – 3 ตัวอย่าง o มนี ้ำส้มอยู่ 32 ลิตร แบ่งใส่ขวด ขวดละ 4 ลติ ร จะแบง่ นำ้ ใสไ้ ดท้ ้ังหมดกี่ขวด 11 o เชอื กเสน้ หนงึ่ ยาว 3 เมตร ตดั เป็นเสน้ ยาวเทา่ ๆ กนั ได้ 25 เสน้ เชือกแต่ละ 9 8 เสน้ ยาวกี่เมตร o น้ำมันพชื 18 ลิตร แบง่ ใสข่ วดๆ ละ 2 1 ลิตร จะแบ่งไดก้ ่ขี วด 2 ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปสิง่ ทไี่ ดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี โจทย์ปัญหาเปน็ การนำจำนวนหรือ สถานการณต์ า่ งๆ มาเขียนเปน็ คำถาม เพือ่ ให้คิดหาคำตอบ ซง่ึ เราต้องอา่ นโจทย์ให้เขา้ ใจ พจิ ารณาว่า โจทย์กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง โจทย์ถามหาอะไร ควรใช้วธิ ีการแก้ไขปัญหาอยา่ งไร ข้นั ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ นั ที 7.ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงที่ 2 ขั้นตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้นั ใหน้ ักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูนำโจทย์ปัญหาการหารเศษสว่ น มาให้นกั เรยี นฝึกวเิ คราะห์โจทย์และหาคำตอบ เช่น ผใู้ หญ่ลีมลี ูกปัด 6 ถงุ นำไปร้อยสรอ้ ยคอโดยสร้อยคอเสน้ หน่ึงใชล้ ูกปัด 2 ถุง 88 ผู้ใหญล่ ีจะรอ้ ยสรอ้ ยได้ก่ีเส้น
3. ครูฝึกใหน้ ักเรียนฝกึ วเิ คราะห์โจทยโ์ ดยตอบคำถามต่อไปน้ี - โจทย์ข้อนเ้ี กยี่ วกบั อะไร (การรอ้ ยสร้อยคอ) - โจทยถ์ ามอะไร (ผใู้ หญล่ จี ะร้อยสร้อยไดก้ เี่ ส้น) - โจทย์กำหนดอะไรมาใหบ้ า้ ง (ผูใ้ หญ่ลีมีลกู ปดั 6 ถุง นำไปร้อยสร้อยคอโดยสรอ้ ยคอเสน้ 8 หนง่ึ ใชล้ กู ปดั 2 ถงุ ) 8 - ผ้ใู หญล่ ีจะรอ้ ยสรอ้ ยได้กเี่ ส้น (3 เส้น) 4. ครนู ำแผนภมู แิ สดงตัวอยา่ งโจทย์ปญั หาการหารเศษสว่ นและจำนวนคละ มาอภิปรายซักถาม นกั เรยี นเก่ียวกับการวเิ คราะห์โจทย์ การเขียนโจทย์ปญั หา ประโยคสญั ลักษณก์ ารแสดงวธิ ที ำเพอื่ หา คำตอบ มมี ะมว่ ง 77 กโิ ลกรมั แบ่งใส่ถุง ถุงละ 2 3 กิโลกรมั จะไดท้ ั้งหมดกถี่ ุง 4 วิเคราะหโ์ จทย์ดังน้ี 1) โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง (มะมว่ ง 77 กิโลกรมั แบ่งใส่ถงุ ถุงละ 2 3 กโิ ลกรัม) 4 2) โจทย์ตอ้ งการทราบอะไร (จำนวนถงุ ของมะม่วงท้ังหมด) 3) โจทยข์ อ้ น้ที ำโดยวธิ ีใด เพราะเหตุใด (วิธีหาร นำน้ำหนักของมะมว่ งทง้ั หมดหารดว้ ยน้ำหนักของ มะม่วงจำนวนหนง่ึ ถุง) เขยี นแสดงวิธที ำได้ดังน้ี ประโยคสญั ลักษณ์ 77 × 2 3 = วิธที ำ มมี ะมว่ ง 4 77 กิโลกรัม แบ่งใส่ถงุ ถุงละ 2 3 กิโลกรมั 4 ถงุ ถุง จะได้ทั้งหมด 77 ÷ 2 3 = 77 ÷ 11 ถงุ 4 4 = 77 × 4 11 = 7×4 = 28 ถงุ ตอบ ได้มะม่วงทั้งหมด ๒๘ ถุง ขน้ั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครฝู กึ วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาการหารเศษสว่ นและจำนวนคละตามลักษณะกจิ กรรมทที่ ำมา ข้างตน้ อกี 2 – 3 ตัวอย่าง ข้ันตอนท่ี 4 : การสรุป 6.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปสง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดงั นี้ การแก้โจทยป์ ญั หาการหารเศษสว่ นและ จำนวนคละ ทำได้โดยการวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหาเพ่อื ทำความเขา้ ใจโจทย์วางแผนวา่ จะใชว้ ิธใี ดหาคำตอบ แลว้ ลงมือทำโดยการแสดงวธิ ที ำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เราสามารถนำความรเู้ ร่ือง การแกโ้ จทย์
ปัญหาไปใช้แกป้ ญั หาเก่ียวกับจำนวนต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ ข้นั ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ ันที 7. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรบั ผูท้ ี่ได้ระดบั คุณภาพตงั้ แต่ 2 ข้ึนไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ี่ทำแบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คณุ ภาพต้ังแต่ 2 ขึ้นไป 3. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผทู้ ี่ทำงานได้ระดับคุณภาพตั้งแต่ 2 ขึ้นไป ๙. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 2. แถบโจทย์ปญั หาการหารเศษส่วนและจำนวนคละ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 14 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลา 2 ช่ัวโมง เร่อื งโจทย์ปัญหาการบวก ลบเศษสว่ น และจำนวนคละระคน 1. สาระสำคญั การแก้โจทย์ปญั หาการการบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละระคน ต้องเริ่มจากการวิเคราะหโ์ จทย์ปัญหา วางแผน แก้โจทย์ปัญหาโดยเขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ที ำเปน็ ลำดบั ข้ันตอน แลว้ จึงหาคำตอบ พรอ้ ม ทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 2. ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.6/8 : แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเศษส่วนและจำนวนคละ 2 – 3 ขั้นตอน 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.บอกประโยคสัญลกั ษณ์และหาคำตอบโจทย์ปัญหาการบวก ลบเศษส่วนและจำนวนคละได้ (K) 2.เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคำตอบได้จากโจทยป์ ัญหาการบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ 1.โจทย์ปญั หาการบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใช้ชีวิต 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขัน้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสูตรคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากนน้ั ให้นักเรียนคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ข้ันตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. นกั เรยี นทบทวนความรู้ เรื่อง การบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละระคน โดยพิจารณาโจทย์ การคณู เศษส่วนบนกระดาน 5 ขอ้ ผู้แทนนักเรยี นออกมาแขง่ กนั เตมิ คำตอบ นักเรยี นที่เหลือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ดงั นี้ 1) 16 + 8 − 17 = 2) 3 + 6 − 2 3 = 27 9 18 44 4 3) 1 + 2 − 3 = 4) 4 − (3 2 + 47) = 435 5
5) 1 5 − (12 + 41)= 6 3. ครตู ดิ แถบโจทย์ปญั หาการการบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละระคนบนกระดาน พรอ้ มทงั้ อ่าน โจทยใ์ หน้ กั เรยี นอา่ นตาม ดังน้ี ลวดเส้นหนึ่งยาว 20 เมตร ตดั ไปใชส้ องเส้น เส้นแรกยาว 4 1 เมตร เสน้ ท่ีสองยาว 2 3 5 4 เมตร จะเหลือลวดยาวก่ีเมตร 4. ครใู ห้นักเรียนฝึกวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หา โดยตอบคำถามดังตอ่ ไปนี้ o โจทยข์ อ้ นเี้ ป็นเรือ่ งเกย่ี วกบั อะไร (ลวด) o โจทย์ถามอะไร (จะเหลือลวดยาวกี่เมตร) o โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง (ลวดเสน้ หน่งึ ยาว 20 เมตร ตดั ไปใชส้ องเส้น เส้น แรกขาว 4 1 เมตร เสน้ ทีส่ องยาว 5 3 เมตร) 2 4 o เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการหาคำตอบได้อย่างไร (20 - (2 1 + 5 43) = ) 4 o คำตอบทไ่ี ดค้ ือเทา่ ใด (9 3 เมตร) 4 ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ครฝู ึกวเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาการการบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละระคนตามลักษณะ กจิ กรรมท่ีทำมาขา้ งตน้ อกี 2 – 3 ตัวอยา่ ง - คุณลงุ มีท่ีดนิ 3 ไร่ ใหล้ กู ไป 1 ไร่ จึงซ้ือมาเพิม่ อกี 5 ไร่ ขณะนี้คุณลงุ มีทีด่ ินกีไ่ ร่ 43 6 - ถงั น้ำใบหน่งึ มอี ยู่ 5 ลติ ร ตกั นำ้ ไปใช้ 1 ลิตร และตกั มาเพ่ิมอกี 3 ลิตร ขณะนีใ้ นถงั มีน้ำอยกู่ ี่ลติ ร 3 5 1 10 - ปลาช่อนตัวแรกหนกั 1 1 กโิ ลกรัม ปลาชอ่ นตัวทส่ี องหนักน้อยกว่าตัวแรก 3 กโิ ลกรัม ปลาช่อนสอง 2 5 - ตัวมีนำ้ หนกั รวมกันกกี่ ิโลกรัม ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 6.ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ที่ได้เรียนร้รู ว่ มกัน ดงั นี้ โจทย์ปญั หาเป็นการนำจำนวนหรือ สถานการณ์ตา่ งๆ มาเขียนเป็นคำถาม เพอื่ ให้คิดหาคำตอบ ซงึ่ เราต้องอา่ นโจทย์ให้เขา้ ใจ พจิ ารณาวา่ โจทย์กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง โจทยถ์ ามหาอะไร ควรใช้วิธกี ารแก้ไขปัญหาอยา่ งไร ขัน้ ตอนที่ 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ นั ที 7. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ชวั่ โมงท่ี 2 ขนั้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากนัน้ ใหน้ กั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ข้นั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครูนำโจทย์ปญั หาการหารเศษส่วน มาให้นกั เรยี นฝกึ วิเคราะหโ์ จทย์และหาคำตอบ เชน่ พ่อค้าซื้อส้ม เงาะ และมังคุดมนี ำ้ หนักรวมกนั 24 1 กโิ ลกรัม ส้มหนกั 5 1 2 4 1 กิโลกรัม เงาะหนัก 5 4 กโิ ลกรมั อยากทราบวา่ มังคุดหนกั เท่าไร
3. ครูฝกึ ใหน้ กั เรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์โดยตอบคำถามต่อไปนี้ - โจทยถ์ ามอะไร (มงั คดุ หนักเทา่ ไร) - โจทย์กำหนดอะไรมาให้บ้าง (พ่อคา้ ซื้อสม้ เงาะ และมังคุดมนี ำ้ หนกั รวมกัน 24 1 2 กิโลกรมั ส้มหนกั 1 กโิ ลกรัม เงาะหนัก 1 กโิ ลกรัม) 5 4 5 4 - มงั คุดหนักเท่าไร (14 กโิ ลกรมั ) 4. ครนู ำแผนภูมิแสดงตวั อยา่ งโจทยป์ ัญหาการการบวก ลบเศษส่วนและจำนวนคละระคน มา อภปิ รายซกั ถามนกั เรียนเกีย่ วกับการวิเคราะหโ์ จทย์ การเขยี นโจทย์ปัญหา ประโยคสญั ลักษณ์การแสดง วิธที ำเพ่ือหาคำตอบ แมม่ ีผา้ อยู่ 5 1 เมตร ตัดไปทำผ้าปโู ต๊ะ 3 เมตร และซ้ือผา้ มาเพิ่มเพ่ือตัดเสอ้ื อีก 8 4 1 1 เมตร แมม่ ผี า้ สำหรบั ตดั เสื้อเท่าไร 2 วิเคราะหโ์ จทยด์ ังนี้ 1) โจทยก์ ำหนดอะไรใหบ้ า้ ง (แม่มผี า้ อยู่ 5 1 เมตร ตดั ไปทำผา้ ปูโต๊ะ 3 เมตร และซื้อผา้ มาเพ่ิมเพื่อตัด 8 4 เสื้ออีก 1 1 เมตร) 2 2) โจทยต์ อ้ งการทราบอะไร (แม่มีผา้ สำหรับตัดเสอ้ื เท่าไร) 3) ถ้าเราอยากทราบว่าแมม่ ผี ้าสำหรบั ตดั เสื้อเทา่ ไร ตอ้ งทำอย่างไร (เอาจำนวนผา้ ที่แม่มอี ยู่ลบด้วย จำนวนผ้าท่ีทำผา้ ปูโต๊ะ แล้วบวกดว้ ยจำนวนผา้ ท่ีซื้อมาเพิ่ม) เขียนแสดงวธิ ีทำได้ดงั น้ี ประโยคสญั ลกั ษณ์ (5 1 − 43) + 1 1 = 8 2 วิธีทำ แมม่ ผี ้าอยู่ 5 1 เมตร 8 เมตร เมตร ตดั ไปทำผา้ ปโู ต๊ะ 3 เมตร 4 เมตร เมตร แมเ่ หลือผ้า 5 1 - 3 = 41 - 3 เมตร 8 4 84 เมตร เมตร = 41-6 8 = 35 8 ซ้อื ผ้ามาเพ่มิ เพอ่ื ตดั เสอ้ื อกี 1 1 2 แมม่ ผี ้าสำหรับตัดเสื้อ 35 +1 1 = 35 + 3 8 2 82 = 35 + 3×4 8 2×4 = 35+12 8
= 47 เมตร 8 = 5 7 เมตร 8 ตอบ แม่มผี ้าสำหรบั ตดั เส้ือ ๕ ๗ เมตร ๘ ข้นั ตอนที่ 3 : การฝกึ 5. ครูฝึกวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการการบวก ลบเศษส่วนและจำนวนคละระคนตามลกั ษณะ กิจกรรมท่ีทำมาข้างต้นอีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง ข้ันตอนท่ี 4 : การสรุป 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสง่ิ ทไี่ ด้เรียนร้รู ว่ มกนั ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาการการบวก ลบ เศษส่วนและจำนวนคละระคน ทำได้โดยการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาเพอื่ ทำความเขา้ ใจโจทยว์ างแผนวา่ จะ ใช้วิธใี ดหาคำตอบ แล้วลงมอื ทำโดยการแสดงวิธที ำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เราสามารถนำ ความร้เู ร่ือง การแกโ้ จทยป์ ัญหาไปใช้แกป้ ญั หาเกี่ยวกับจำนวนตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวันได้ ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทนั ที 7. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรับผูท้ ่ีได้ระดับคณุ ภาพต้ังแต่ 2 ขึ้นไป 2. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ทที่ ำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพตง้ั แต่ 2 ขึน้ ไป 3. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผูท้ ีท่ ำงานไดร้ ะดบั คุณภาพตัง้ แต่ 2 ขึ้นไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 2. แถบโจทย์ปัญหาการบวก ลบเศษส่วนและจำนวนคละ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 14 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 โจทย์ปัญหาเศษสว่ น เวลา 2 ชั่วโมง เร่อื งโจทยป์ ัญหาการคณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละระคน 1. สาระสำคญั การแก้โจทย์ปญั หาการการคณู หารเศษส่วนและจำนวนคละระคน ตอ้ งเริม่ จากการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา วางแผน แก้โจทยป์ ัญหาโดยเขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธที ำเปน็ ลำดบั ขั้นตอน แล้วจงึ หาคำตอบ พร้อม ทง้ั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 2. ตัวช้ีวดั ค 1.1 ป.6/7: แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเศษสว่ นและจำนวนคละ 2 – 3 ข้นั ตอน 3.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.บอกประโยคสญั ลักษณแ์ ละหาคำตอบโจทยป์ ญั หาการคณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละได้ (K) 2.เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบไดจ้ ากโจทยป์ ญั หาการคูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละได้ (P) 4. สาระการเรียนรู้ 1.โจทยป์ ัญหาการคูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้ชีวิต 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขนั้ ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูให้นักเรยี นท่องสตู รคูณโดยใช้แก้วและตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจากน้ัน ใหน้ กั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. นกั เรยี นทบทวนความรู้ เรอ่ื ง การบวก ลบเศษสว่ นและจำนวนคละระคน โดยพิจารณาโจทย์ การคูณเศษสว่ นบนกระดาน 5 ข้อ ผู้แทนนกั เรียนออกมาแข่งกันเตมิ คำตอบ นักเรียนทเี่ หลือชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ดงั น้ี 1) 63 ÷ 7 × 3 = 2) 21 × 2 ÷ 7 = 8 10 3 12 3) 3 ÷ 2 × 5 = 4) 1 × 4 ÷ 14= 439 2 5 15
5) 7 ÷ 14 × 6 = 8 15 7 3. ครูตดิ แถบโจทยป์ ญั หาการการคูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละระคนบนกระดาน พรอ้ มทั้ง อา่ นโจทยใ์ หน้ ักเรยี นอ่านตาม ดงั นี้ พอ่ ค้าคนหน่งึ มีแป้งมนั อยู่ 8 2 กิโลกรัม แบ่งใสถ่ ุงๆ ละ 2 กโิ ลกรมั นำไปขายถงุ ละ 3 3 14 บาท ขายแป้งมนั หมดจะไดเ้ งินเท่าไร 4. ครูใหน้ ักเรียนฝึกวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา โดยตอบคำถามดังต่อไปน้ี o โจทย์ถามอะไร (ขายแป้งมนั หมดจะได้เงินเทา่ ไร) o โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง (พอ่ คา้ คนหนง่ึ มีแป้งมนั อยู่ 8 2 กิโลกรมั แบ่งใสถ่ งุ ๆ 3 ละ 2 กโิ ลกรมั นำไปขายถงุ ละ 14 บาท) 3 o พ่อคา้ แบ่งแปง้ มนั ได้กถ่ี งุ จะหาคำตอบไดอ้ ยา่ งไร (8 2 23) 3 ÷ o ทำอยา่ งไรจึงจะรู้ว่าขายแปง้ มนั ได้เงินกีบ่ าท (นำราคาขายถงุ ละ 14 บาท ไป คณู กับจำนวนถงุ แป้งมันท้งั หมด) o เขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหาคำตอบได้อยา่ งไร (8 2 ÷ 32) × 14 = ) 3 o คำตอบที่ได้คอื เท่าใด (ขายแปง้ มันไดเ้ งิน 182 บาท) ขั้นตอนท่ี 3 : การฝกึ 5. ครฝู ึกวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการการคณู หารเศษส่วนและจำนวนคละระคนตามลกั ษณะ กจิ กรรมทท่ี ำมาขา้ งตน้ อีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง - มมี ีนำ้ ผ้งึ 15 3 ลิตร แบ่งใสข่ วดละ 7 ลติ ร ขายไปขวดละ 80 บาท จะได้เงนิ ทง้ั หมดเท่าไร 4 28 - เกบ็ ไข่มา 250 ฟอง ขายไป 4 ของทง้ั หมด ถ้าขายไปฟองละ 2 บาท จะไดเ้ งินท้ังหมดเทา่ ไร 5 - คณุ พอ่ ขายส้ม 1 กิโลกรมั ราคากิโลกรมั 24 บาท แล้วนำเงินทัง้ หมดไปซอ้ื เก้าอี้ได้ 3 ตัวพอดี 15 2 เกา้ อีร้ าคาตวั ละเทา่ ไร ขั้นตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นร้รู ่วมกัน ดังนี้ โจทย์ปญั หาเปน็ การนำจำนวนหรือ สถานการณต์ า่ งๆ มาเขียนเป็นคำถาม เพอ่ื ใหค้ ิดหาคำตอบ ซงึ่ เราตอ้ งอ่านโจทย์ใหเ้ ขา้ ใจ พิจารณาวา่ โจทย์กำหนดอะไรให้บา้ ง โจทยถ์ ามหาอะไร ควรใช้วิธีการแก้ไขปัญหาอยา่ งไร ขั้นตอนท่ี 5 : การประยกุ ต์ใช้ทนั ที 7. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น ชว่ั โมงท่ี 2 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ กั เรียนทอ่ งสูตรคูณโดยใช้แกว้ และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคูณ หลงั จากน้ัน ให้นักเรยี นคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขัน้ ตอนที่ 2 : เรยี นรู้ 2. ครูนำโจทย์ปญั หาการคูณ หารเศษสว่ นระคน มาใหน้ กั เรยี นฝึกวเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละหาคำตอบ เช่น มนี ้ำหวาน 10 ลิตร แบ่งใสข่ วด ขวดละ 1 2 ลิตร นำนำ้ หวานไปขายขวดละ 3 14 บาท ขายหมดจะไดเ้ งินเท่าไร
3. ครูฝึกใหน้ ักเรยี นฝึกวเิ คราะหโ์ จทยโ์ ดยตอบคำถามต่อไปน้ี - โจทย์ถามอะไร (ขายนำ้ หวานหมดจะไดเ้ งินเทา่ ไร) - โจทยก์ ำหนดอะไรมาให้บ้าง (มีน้ำหวาน 10 ลิตร แบ่งใสข่ วด ขวดละ 1 2 ลิตร นำ 3 นำ้ หวานไปขายขวดละ 14 บาท) - จะได้รับเงนิ ทัง้ หมดเทา่ ไร (84 บาท) 4. ครูนำแผนภูมแิ สดงตวั อย่างโจทย์ปญั หาการการคณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละระคน มา อภิปรายซักถามนักเรยี นเก่ยี วกบั การวเิ คราะหโ์ จทย์ การเขยี นโจทย์ปญั หา ประโยคสญั ลกั ษณ์การแสดง วิธที ำเพ่อื หาคำตอบ แม่ทำนำ้ ลำไย 12 2 ลติ ร เทใสข่ วดๆ ละ 2 ลิตร และขายขวดละ 4 1 บาท แมไ่ ด้ 5 5 2 เงินทั้งหมดกีบ่ าท วิเคราะห์โจทย์ดงั นี้ 1) โจทย์กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง (แม่ทำน้ำลำไย 12 2 ลิตร เทใส่ขวดๆ ละ 2 ลติ ร และขายขวดละ 4 1 บาท) 5 5 2 2) โจทยต์ อ้ งการทราบอะไร (แม่ไดเ้ งนิ ทัง้ หมดกี่บาท) 3) ถา้ เราอยากทราบวา่ แมไ่ ด้เงินทั้งหมดกี่บาท ต้องทำอยา่ งไร (นำจำนวนนำ้ ลำไยท่แี มท่ ำ หารด้วย จำนวนน้ำลำไยแตล่ ะขวด แลว้ คูณด้วยราคาต่อขวด) เขยี นแสดงวธิ ที ำได้ดังน้ี ประโยคสัญลกั ษณ์ (12 2 ÷ 25) × 4 1 = 5 2 วิธที ำ แมท่ ำนำ้ ลำไย 12 2 ลติ ร 5 ลติ ร เทใส่ขวด ขวดละ 2 ขวด 5 ขวด ขวด จะเทไดท้ ้ังหมด 12 2 ÷ 2 = 62 ÷ 2 5 5 55 = 62 ×5 8 2 = 31 ขายขวดละ 4 1 บาท แมไ่ ดเ้ งนิ ท้งั หมด 2 เมตร บาท 31 × 4 1 = 31 × 9 บาท 2 2 = 279 2 = 139 1 2 ตอบ แม่ไดเ้ งนิ ทั้งหมด ๑๓๙ ๑ บาท ๒
ขนั้ ตอนท่ี 3 : การฝกึ 5. ครฝู กึ วิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการการคณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละระคนตามลกั ษณะ กิจกรรมทีท่ ำมาข้างตน้ อีก 2 – 3 ตัวอย่าง ขั้นตอนที่ 4 : การสรปุ 6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงที่ได้เรยี นรรู้ ว่ มกนั ดงั นี้ การแกโ้ จทย์ปญั หาการการคณู หาร เศษสว่ นและจำนวนคละระคน ทำได้โดยการวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาเพ่ือทำความเขา้ ใจโจทย์วางแผนวา่ จะ ใชว้ ธิ ใี ดหาคำตอบ แลว้ ลงมอื ทำโดยการแสดงวิธีทำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เราสามารถนำ ความรเู้ ร่ือง การแก้โจทย์ปัญหาไปใชแ้ ก้ปญั หาเก่ียวกับจำนวนต่างๆ ในชวี ติ ประจำวนั ได้ ข้ันตอนท่ี ๕ : การประยุกต์ใชท้ ันที 7. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 8. การวัดและประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผทู้ ่ีได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ 2 ขึ้นไป 2. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรับผู้ที่ทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคณุ ภาพตั้งแต่ 2 ขนึ้ ไป 3. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรบั ผทู้ ่ที ำงานได้ระดับคุณภาพต้งั แต่ 2 ข้นึ ไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 2. โจทย์ปัญหาการคณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 14 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลา 2 ชวั่ โมง เร่อื งโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารเศษส่วนและจำนวนคละระคน 1. สาระสำคัญ การแก้โจทย์ปญั หาการการบวก ลบ คูณ หารเศษสว่ นและจำนวนคละระคน ต้องเรม่ิ จากการวิเคราะห์ โจทยป์ ญั หา วางแผน แก้โจทยป์ ัญหาโดยเขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ แสดงวิธที ำเปน็ ลำดับข้ันตอน แล้วจึงหา คำตอบ พร้อมทงั้ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 2. ตวั ช้ีวดั ค 1.1 ป.6/7 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ 2 – 3 ข้ันตอน 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.บอกประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบโจทยป์ ญั หาการบวกลบคูณหารเศษส่วนและจำนวนคละได้ (K) 2.เขียนประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคำตอบได้จากโจทยป์ ัญหาการบวกลบคูณหารเศษส่วนและจำนวนคละได้(P) 3.สร้างรปู แสดงบาร์โมเดลโจทย์ปญั หาเศษสว่ น (P) 4.นำความรู้เกย่ี วกบั โจทย์ปญั หาการบวก ลบคณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละระคนไปใช้ในชีวิตจริงได้(A) 4. สาระการเรียนรู้ 1.การบวก ลบ คณู หารเศษสว่ นและจำนวนคละระคน 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใช้ชวี ิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 ขนั้ ตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครใู ห้นักเรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใช้แกว้ และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จากน้ัน ใหน้ ักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. นกั เรียนทบทวนความรู้ เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละระคน โดย พิจารณาโจทยก์ ารคณู เศษสว่ นบนกระดาน 5 ข้อ ผแู้ ทนนกั เรียนออกมาแขง่ กนั เตมิ คำตอบ นักเรยี นท่ี เหลือชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ดังนี้ 1) (3 ÷ 1 2) − 1 = 2) (5 − 1) + 3 = 8 38 84 8
3) 1 × (1 + 1) = 4) 5 ÷ (2 1 − 1 41)= 2 36 8 5) 1 2 − (54 ÷ 21) = 3 3. ครูตดิ แถบโจทยป์ ญั หาการการบวก ลบ คณู หารเศษส่วนและจำนวนคละระคนบนกระดาน พร้อมท้งั อา่ นโจทย์ให้นักเรียนอ่านตาม ดงั นี้ พอ่ เติมน้ำมนั 9 ถงั ใช้ไป 2 ถัง ทเ่ี หลือใชไ้ ปวันละ 1 ถงั จะใช้ได้ก่วี นั 10 15 30 4.ครใู หน้ กั เรยี นฝกึ วิเคราะห์โจทย์ปญั หา โดยตอบคำถามดังตอ่ ไปนี้ o โจทยถ์ ามอะไร (จะใช้นำ้ มันได้กี่วนั ) o โจทยก์ ำหนดอะไรให้บ้าง (พ่อเติมน้ำมัน 9 ถงั ใช้ไป 2 ถัง ทีเ่ หลอื ใช้ไปวัน 10 15 ละ 1 ถัง) 30 o พ่อเหลือนำ้ มนั เทา่ ไร จะหาคำตอบไดอ้ ย่างไร ( 9 − 2) 10 5 o ทำอยา่ งไรจึงจะร้วู า่ จะใช้น้ำมนั ได้กว่ี นั (นำจำนวนนำ้ มนั ทเี่ หลอื ไปหารกบั นำ้ มนั ทใ่ี ชต้ ่อวัน) o เขียนประโยคสัญลักษณแ์ สดงการหาคำตอบได้อย่างไร (190 − 52) ÷ 1 = ) 30 o คำตอบทไ่ี ดค้ อื เทา่ ใด (ใช้น้ำมันไดท้ ้งั หมด 23 วนั ) ขั้นตอนท่ี 3 : การฝกึ 5. ครฝู กึ วเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละระคนตาม ลกั ษณะกิจกรรมทีท่ ำมาข้างต้นอีก 2 – 3 ตัวอยา่ ง o ชาวนามีขาว 35 1 เกวียน ขายไป 12 3 เกวยี น ทเ่ี หลือแบ่งให้บุตร 2 คน คน 4 5 ละเท่าๆ กนั จะได้คนละก่ีเกวียน o นกั เรยี นโรงเรยี นแห่งหน่ึงมี 600 คน เป็นนักเรยี นชาย 1 ของนักเรยี นทัง้ หมด 4 ทเ่ี หลอื เป็นนกั เรยี นหญิงก่คี น o มะม่วงสกุ ราคากิโลกรัมละ 50 1 บาท มะมว่ งดบิ ราคากโิ ลกรัมละ 25 1 บาท 2 4 ถ้าซ้อื อยา่ งละ 5 กิโลกรัม จะตอ้ งจา่ ยเงินเท่าไร ขั้นตอนท่ี 4 : การสรปุ 6. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ร่วมกัน ดงั นี้ โจทยป์ ัญหาเปน็ การนำจำนวนหรอื สถานการณ์ตา่ งๆ มาเขียนเป็นคำถาม เพ่ือให้คิดหาคำตอบ ซง่ึ เราต้องอ่านโจทย์ให้เข้าใจ พจิ ารณาวา่ โจทย์กำหนดอะไรใหบ้ า้ ง โจทย์ถามหาอะไร ควรใชว้ ิธกี ารแก้ไขปญั หาอยา่ งไร ขั้นตอนที่ 5 : การประยุกต์ใช้ทันที 7. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
ชวั่ โมงท่ี 2 ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครใู หน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคูณโดยใช้แก้วและตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จากน้ัน ให้นกั เรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ 2. ครูนำโจทย์ปัญหาการคูณ หารเศษส่วนระคน มาให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์และหาคำตอบ เชน่ 3 1 4 2 พอ่ มีเงนิ 150 บาท และขายสนิ คา้ ได้มาเพิ่ม 1200 บาท แบง่ เงนิ ทั้งหมด ให้ลกู 5 คน คนละเท่าๆ กนั จะได้คนละกี่บาท 3.ครูฝึกให้นักเรียนฝกึ วเิ คราะห์โจทยโ์ ดยตอบคำถามต่อไปนี้ - โจทยถ์ ามอะไร (เงินทล่ี กู ๆ จะได้รับคนละกบ่ี าท) - โจทยก์ ำหนดอะไรมาให้บ้าง (พอ่ มเี งิน 150 3 บาท และขายสนิ ค้าได้มาเพ่มิ 1200 1 4 2 บาท แบ่งเงินท้งั หมดให้ลูก 5 คน คนละเทา่ ๆ กัน) - จะได้รับเงนิ ทัง้ หมดเทา่ ไร (270 1 ( บาท) 4 4. ครนู ำแผนภูมแิ สดงตวั อย่างโจทย์ปญั หาการการบวก ลบ คณู หารเศษส่วนและจำนวนคละ ระคน มาอภิปรายซักถามนกั เรียนเกย่ี วกบั การวิเคราะหโ์ จทย์ การเขียนโจทยป์ ญั หา ประโยคสญั ลักษณ์ การแสดงวธิ ที ำเพอื่ หาคำตอบ แดงซือ้ เงาะ 30 1 กิโลกรมั ลำไย 20 1 กโิ ลกรมั แบง่ ให้เพอื่ นในหอ้ งคนละ 1 3 2 4 4 กิโลกรัม จะไดท้ ัง้ หมดก่คี น วเิ คราะหโ์ จทยด์ ังนี้ 1) โจทยก์ ำหนดอะไรใหบ้ า้ ง (แดงซอ้ื เงาะ 30 1 กโิ ลกรมั ลำไย 20 1 กโิ ลกรมั แบง่ ให้เพือ่ นในห้องคนละ 2 4 3 1 4 กิโลกรมั ) 2) โจทย์ตอ้ งการทราบอะไร (จะแบ่งเงาะและลำใยให้เพื่อนได้ทงั้ หมดก่ีคน) 3) ถ้าเราอยากทราบว่า จะแบ่งเงาะและลำใยให้เพอื่ นไดท้ ั้งหมดก่คี น ต้องทำอยา่ งไร (นำจำนวนเงาะ และลำใยที่มบี วกกนั หารด้วยจำนวนที่แบง่ ให้เพื่อนแตล่ ะคน) เขียนแสดงวธิ ที ำได้ดงั นี้ ประโยคสญั ลกั ษณ์ (30 1 + 20 41) ÷ 1 3 = 2 4 วธิ ีทำ แดงซอ้ื เงาะ 30 1 กโิ ลกรมั 2 แดงซือ้ ลำไย 20 1 กโิ ลกรัม 4 แดงมเี งาะและลำไย 30 1 + 20 1 = 61 + 81 กโิ ลกรัม 2 4 24 = 61×2 + 81 กิโลกรัม 2×2 4
= 122+81 กโิ ลกรมั กโิ ลกรัม 4 กิโลกรัม = 203 4 แบ่งใหเ้ พื่อนในห้องคนละ 1 3 4 จะได้ทงั้ หมด 203 ÷ 1 3 = 203 ÷ 7 คน 4 4 44 คน = 203 × 4 คน 4 7 = 29 ตอบ แบง่ ใหเ้ พือ่ นไดท้ ้งั หมด ๒๙ คน ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครูฝกึ วิเคราะห์โจทยป์ ญั หาการการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละระคนตาม ลักษณะกิจกรรมที่ทำมาขา้ งตน้ อีก 2 – 3 ตัวอย่าง ขนั้ ตอนที่ 4 : การสรปุ 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ที่ได้เรียนรรู้ ่วมกัน ดังน้ี การแก้โจทย์ปญั หาการการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนและจำนวนคละระคน ทำได้โดยการวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หาเพือ่ ทำความเขา้ ใจโจทย์ วางแผนวา่ จะใช้วิธใี ดหาคำตอบ แลว้ ลงมอื ทำโดยการแสดงวิธที ำหาคำตอบ และตรวจสอบคำตอบ เรา สามารถนำความรู้เรื่อง การแกโ้ จทย์ปัญหาไปใช้แก้ปัญหาเกีย่ วกบั จำนวนตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั ได้ ข้ันตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ ันที 7. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น 8. การวดั และประเมินผล การวดั ผล 1. สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤติกรรมสำหรบั ผทู้ ี่ได้ระดับคุณภาพตัง้ แต่ 2 ข้นึ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ที่ทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ขึ้นไป 3. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ี่ทำงานได้ระดับคณุ ภาพตั้งแต่ 2 ข้ึนไป 4. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรบั ผ้ทู ี่ทำงานทำแบบทดสอบก่อนเรยี นได้ร้อยละ 60 ขึ้นไป 9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1.แบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท.
ภาคผนวก -รปู ดาเนนิ การจดั การเรยี นรู้ -แบบประเมนิ ฯ
พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง โจทย์ปญั หาเศษสว่ น เวลาทีใ่ ช้ 14 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ค16101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ครูผู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มคี วามสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสดุ ทส่ี ุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 หมายถงึ นอ้ ยทีส่ ุด ขอ้ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ท่ี 54321 1 ชือ่ หน่วยการเรียนรูน้ า่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเน้อื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเช่ือมโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด/ผล การเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรยี นรู้ 5 ความเชอ่ื มโยงสัมพนั ธ์กนั ระหวา่ งช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั / ผลการเรยี นรู้สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดสาระการเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้และสาระการ เรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามครอบคลุมในการพฒั นาผเู้ รียนให้มคี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรียนไปส่กู ารสร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด/กจิ กรรม การเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ 11 ส่ือการเรียนรใู้ นแต่ละกิจกรรม มีความเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กิจกรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัติจรงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ......................................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ........................................................................ ลงชอ่ื .................................................................. (นางสาวจิระพนั ธุ์ ปากวิเศษ) ผูป้ ระเมิน
พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คำสวัสดร์ิ าษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ หน่วยการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่ือง โจทยป์ ัญหาเศษส่วน เวลาทใี่ ช้ 14 ชั่วโมง รหสั วชิ า ค16101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 ครูผู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มคี วามสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดท่ีสดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถึง นอ้ ยทส่ี ุด ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้นา่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนร/ู้ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์มีความเช่ือมโยงกนั อย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั /ผล การเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเชอื่ มโยงสมั พนั ธ์กนั ระหวา่ งชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด / ผลการเรยี นร้สู าระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรูแ้ ละสาระการ เรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามครอบคลมุ ในการพฒั นาผู้เรยี นให้มคี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมสามารถนำผ้เู รียนไปสกู่ ารสร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด/กิจกรรม การเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ 11 ส่ือการเรียนรใู้ นแต่ละกจิ กรรม มีความเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกต์ใชไ้ ดจ้ ริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบัติจรงิ ได้ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................................ ....................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผู้ประเมนิ
พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษสว่ น เวลาที่ใช้ 14 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ค16101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ มคี วามสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสุดทส่ี ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถึง น้อยท่สี ุด ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรูน้ า่ สนใจ กะทัดรดั ชัดเจน ครอบคลุมเน้อื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้/สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์มีความเชื่อมโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัด/ผล การเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั สาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่ือมโยงสัมพนั ธก์ ันระหว่างช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด / ผลการเรียนรสู้ าระสำคัญ/ความคิดรวบยอดสาระการเรยี นรูแ้ ละกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้และสาระการ เรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นร้มู ีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรียนใหม้ คี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รียนไปสู่การสร้างชิ้นงาน/ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั /กจิ กรรม การเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ 11 สือ่ การเรียนรใู้ นแต่ละกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกตใ์ ชไ้ ดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกบั กิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั ิจริงได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................................ ....................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ ผ้ปู ระเมนิ
พ.น./วก. 03 โรงเรียนวดั พืชนมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) สรุปผลการประเมินหนว่ ยการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง โจทยป์ ัญหาเศษส่วน เวลาที่ใช้ 14 ช่ัวโมง รหสั วชิ า ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมนิ หนว่ ยการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นแบบมาตราส่วนประมาณคา่ (Rating Scale) จำนวน 12 ขอ้ มรี ะดบั การประเมิน 5 ระดับ คือ 5 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มากที่สดุ 4 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม นอ้ ยท่ีสุด ซงึ่ ถอื เกณฑ์ในการแปลความหมายของค่าเฉล่ีย ดงั นี้ 4.50 – 5.00 หมายความว่า มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มากที่สดุ 3.50 – 4.49 หมายความว่า มีความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความว่า มีความสอดคลอ้ ง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความว่า มคี วามสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม น้อยท่สี ดุ คะแนนของผปู้ ระเมิน ค่า การแปล ข้อที่ รายการประเมิน คนท่ี คนที่ คนที่ เฉลย่ี ความหมาย 123 1 ชอ่ื หน่วยการเรียนรูน้ า่ สนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลุมเนอ้ื หา สาระ 2 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสำคัญของ ผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์มีความเช่อื มโยงกันอย่าง เหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐาน การเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั สาระการ เรียนรู้ 5 ความเช่ือมโยงสัมพันธก์ ันระหวา่ งชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน การเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด /ผลการเรียนร้สู าระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระการเรยี นร้แู ละกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั /ผล การเรยี นร้แู ละสาระการเรยี นรู้
-2- คะแนนของผู้ประเมิน ค่า การแปล ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คนท่ี คนท่ี คนท่ี เฉลี่ย ความหมาย 123 7 กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผเู้ รยี นให้มี ความรูท้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ ีความเหมาะสมสามารถนำผเู้ รยี นไปสกู่ าร สร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการ เรียนรู/้ ตัวชีว้ ัด/กิจกรรมการเรยี นรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผู้เรียนตาม มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรยี นรู้ในแตล่ ะกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกบั เวลาและการ นำไปประยุกตใ์ ช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกบั กิจกรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ ริง ได้ ภาพรวม สรุปผลการประเมนิ ผ่าน (ความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสมตัง้ แต่ระดับปานกลางขึ้นไป) ผ่าน (ความสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสมตำ่ กวา่ ระดบั ปานกลาง) ลงชอ่ื .......................................... (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชอ่ื .......................................... ลงชือ่ .......................................... (นางสาวสุวดี กาญจนาภา) (นางสาวจริ ะพันธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ
พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลาทใ่ี ช้ 14 ชั่วโมง รหัสวชิ า ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ครูผูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ข้อท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคล้องสัมพนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสำคัญครบถ้วนสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรยี นรู้มีความชดั เจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคล้องกบั จุดประสงค์และระดับชน้ั ของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง 9 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมทีส่ ง่ เสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคล้องแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทีด่ ีงาม 11 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในช้นั เรยี น 12 วัสดุอปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี คี วามหลากหลาย 13 วสั ดอุ ุปกรณ์ สื่อ และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนค้นควา้ หาความรู้ จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ 15 มีการวดั และประเมนิ ผลทสี่ อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-2- ขอ้ เสนอแนะ ด้านเนอ้ื หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกจิ กรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ..................................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................. .............................................................. ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................ ................................... (ลงชื่อ)..................................................ผูป้ ระเมนิ (นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวิเศษ) ............./.................../............. ส่ิงทไ่ี ดด้ ำเนินการแกไ้ ข ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. .......................................................................................................................................... ..................................................... (ลงช่อื )..................................................ผูส้ อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลาทใ่ี ช้ 14 ชั่วโมง รหัสวชิ า ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ครูผูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดมี าก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ข้อท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคล้องสัมพนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสำคัญครบถ้วนสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรยี นรู้มีความชดั เจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคล้องกบั จุดประสงค์และระดับชน้ั ของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง 9 กิจกรรมการเรียนรู้เปน็ กิจกรรมทีส่ ง่ เสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดคล้องแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทีด่ ีงาม 11 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นให้ผู้เรียนมีสว่ นรว่ มในช้นั เรยี น 12 วัสดุอปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดอุ ุปกรณ์ สื่อ และแหลง่ เรียนรู้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนค้นควา้ หาความรู้ จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ 15 มีการวดั และประเมนิ ผลทสี่ อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-2- ข้อเสนอแนะ ด้านเน้ือหาสาระ.............................................................................................................. ......................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรียนการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านการวดั และประเมนิ ผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ด้านอืน่ ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงชือ่ )..................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสุวดี กาญจนาภา)) ............./.................../............. สิ่งทีไ่ ด้ดำเนินการแก้ไข ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. .................................................................. (ลงช่ือ)..................................................ผสู้ อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 04 โรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง) แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษส่วน เวลาทใ่ี ช้ 14 ชั่วโมง รหัสวชิ า ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ครูผูส้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ดมี าก 4 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปรบั ปรงุ ข้อท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสมั พนั ธก์ บั หน่วยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกตอ้ ง 4 จุดประสงค์การเรียนรมู้ ีความชดั เจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ 5 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรียนร้สู อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกบั จุดประสงคแ์ ละระดับชน้ั ของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง 9 กิจกรรมการเรียนรูเ้ ปน็ กิจกรรมทีส่ ่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทีด่ ีงาม 11 กจิ กรรมการเรียนรูเ้ นน้ ให้ผเู้ รียนมสี ่วนรว่ มในชน้ั เรยี น 12 วัสดุอปุ กรณ์ สอ่ื นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอุปกรณ์ สอื่ และแหล่งเรียนรู้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นค้นควา้ หาความรู้ จากแหลง่ เรียนรตู้ า่ งๆ 15 มีการวัดและประเมินผลท่สี อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเนือ้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ........................................................................................ ....................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน......................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ด้านการวัดและประเมนิ ผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ...................................................................................................................................................... ......................................... ด้านอื่น ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............. (ลงช่อื )..................................................ผู้ประเมิน (นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถิ) ............./.................../............. ส่ิงที่ไดด้ ำเนนิ การแก้ไข ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................................... ................................ (ลงชอื่ )..................................................ผูส้ อน (นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 05 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดริ์ าษฎร์บำรงุ ) สรปุ ผลการประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษสว่ น เวลาทใี่ ช้ 14 ช่ัวโมง รหัสวชิ า ค16101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ครผู ู้สอน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั น้อย 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั น้อยมาก ซง่ึ ถือเกณฑ์ในการแปลความหมายของค่าเฉล่ยี ดังนี้ (ธานนิ ทร์ ศิลปะจาร.ุ 2555:112) 4.50 – 5.00 หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 3.50 – 4.49 หมายถึง หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดบั ดี 2.50 – 3.49 หมายถึง หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดับ น้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง หมายความวา่ มคี วามเหมาะสมในระดบั น้อยมาก ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนนของผปู้ ระเมนิ คา่ การแปล คนท่ี 1 คนที่2 คนที่ 3 เฉล่ยี ความหมาย 1 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคล้องสมั พนั ธก์ บั หน่วยการเรียนรู้ที่ กำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้มีองคป์ ระกอบสำคัญครบถ้วนสมั พนั ธ์กัน 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกตอ้ ง 4 จดุ ประสงค์การเรยี นรูม้ ีความชัดเจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ 5 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กจิ กรรมการเรียนร้สู อดคลอ้ งกบั จุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรียนร้สู อดคล้องกบั จดุ ประสงคแ์ ละระดับชน้ั ของ นกั เรียน 8 กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏิบัตไิ ดจ้ ริง 9 กจิ กรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสริมกระบวนการคิดของ นกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคล้องแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทดี่ ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วมในชั้นเรยี น 12 วสั ดุอปุ กรณ์ ส่ือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมคี วามหลากหลาย 13 วัสดอุ ปุ กรณ์ ส่อื และแหลง่ เรียนรเู้ หมาะสมกบั เนอ้ื หาสาระ 14 สง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นคน้ ควา้ หาความรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ 15 มีการวดั และประเมินผลท่สี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
-2- ขอ้ เสนอแนะ ดา้ นเนื้อหาสาระ............................................................................................................................. ......................... ......................................................................................................... ...................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ดา้ นกิจกรรมการเรยี นการสอน.............................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................................. .................................................. ดา้ นการวัดและประเมินผล..................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............... สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น (มีความเหมาะสมตัง้ แตร่ ะดับปานกลางข้นึ ไป) ไม่ผ่าน (ความเหมาะสมต่ำกว่าระดับปานกลาง) ลงชื่อ.......................................... (นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชอื่ .......................................... ลงชอ่ื .......................................... (นางสาวสุวดีกาญจนาภา) (นางสาวจริ ะพนั ธ์ุ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ
Search