แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 15 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 11 รปู เรขาคณติ สามมิติ เวลา 1 ช่ัวโมง เรือ่ งลักษณะและส่วนต่างๆ ของทรงกลม 1. สาระสำคญั ทรงกลมเปน็ รูปเรขาคณิตสามมติ ิ ทรงตัน มีผิวโคง้ เรยี บ ทุกๆ จดุ ที่อยูบ่ นผวิ โค้งห่างจากจุดศนู ยก์ ลาง เท่านั้นระยะระหวา่ งจุดศนู ย์กลางกบั จดุ ใดๆ บนผิวโค้งของทรงกลม เรียกว่า รัศมี 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.2 ป.6/3 : บอกลักษณะของรปู เรขาคณิตสามมติ ชิ นิดต่างๆ 3.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลกั ษณะของทรงกลมได้ (K) 2. เขยี นระบรุ ูปทรงกลมในชีวิตประจำวันได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ ลักษณะและส่วนตา่ งๆ ของทรงกลม 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ข้นั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูใหน้ ักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จาก นัน้ ให้นักเรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ข้อ ขนั้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ครทู บทวนความรเู้ รอ่ื ง กรวย โดยขออาสาสมัครนักเรียน 3-4 คน ออกมายกตวั อย่างสิ่งของท่ีมี ลกั ษณะเปน็ ทรงกรวยและนกั เรียนสามารถพบเหน็ ไดใ้ นชวี ติ ประจำวัน โดยครูตรวจสอบความถกู ต้อง
3. ครูนำวัตถุสิง่ ของทม่ี ลี กั ษณะเป็นทรงกลม เช่น ลกู ปงิ ปอง ลกู เทนนิส ลูกบอล ลูกแกว้ ใหน้ กั เรยี น รว่ มกันพจิ ารณา สงั เกต วิเคราะห์ และอภปิ รายถงึ ลักษณะสว่ นประกอบตา่ งๆ ของทรงกลมแต่ละแบบวา่ มคี วาม เหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร (ทรงกลมทกุ ขนาดมลี ักษณะเหมอื นกัน คอื มผี วิ โค้งเรยี บ) สามารถสรปุ ลกั ษณะ ของทรงกลมได้ ดงั น้ี รูปเรขาคณิตสามมิติที่มีผิวโค้งเรียบ และจุดทุกจุดบนผิวโค้งอยู่ห่างจากจุดคงที่จุดหนึ่งเป็นระยะเท่ากัน เรยี กว่า ทรงกลม จดุ คงทีน่ น้ั เรียกว่า จุดศูนย์กลางของทรงกลม ระยะที่เท่ากันนัน้ เรยี กวา่ รัศมขี องทรงกลม 4. ครใู หน้ ักเรยี นดูภาพทรงกลมพร้อมทง้ั อธบิ ายสว่ นตา่ งๆ ของทรงกลม ดงั น้ี รัศมี จุดศนู ย์กลาง ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครูให้นักเรยี นหาลกั ษณะและส่วนต่างๆ ของทรงกลม เมอื่ เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในหนงั สือ ขน้ั ตอนท่ี 4 : การสรุป 6. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ร่วมกัน ดังน้ี รูปเรขาคณิตสามมิตทิ ีม่ ีผวิ โค้งเรียบ และจุดทุก จุดบนผิวโคง้ อยหู่ า่ งจากจุดคงท่จี ดุ หน่ึงเปน็ ระยะเทา่ กัน เรียกวา่ ทรงกลม จุดคงทีน่ ั้นเรียกวา่ จุดศนู ย์กลางของ ทรงกลม ระยะท่ีเทา่ กันน้นั เรยี กวา่ รัศมขี องทรงกลม ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใช้ทนั ที 7. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวัดและประเมินผล การวัดผล 1. สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท.
การประเมินผล 1. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรบั ผ้ทู ่ีไดร้ ะดบั คุณภาพตั้งแต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผู้ท่ที ำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผทู้ ี่ทำงานได้ระดบั คณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ข้นึ ไป 9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 2. ภาพทรงกลม
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 15 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 11 รปู เรขาคณติ สามมติ ิ เวลา 3 ชัว่ โมง เรือ่ งรปู คลขี่ องรปู เรขาคณติ สามมติ ิ 1. สาระสำคญั รูปเรขาคณิตสามมติ ิ เมื่อคลี่ออกจะได้รูปที่ประกอบดว้ ยรูปเรขาคณิตสองมติ ิท่สี ามารถประกอบเป็นรปู เรขาคณิตสามมิติได้ 2. ตัวชว้ี ัด ค 2.2 ป.6/4 : ระบุรปู เรขาคณติ สามมิติทปี่ ระกอบจากรปู คลี่ และระบรุ ูปคล่ขี องรูปเรขาคณิตสามมิติ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกชนิดรูปเรขาคณิตสามมิติทป่ี ระกอบจากรปู คลีไ่ ด้ (K) 2. เขียนแสดงขั้นตอนการประกอบรปู คลไ่ี ด้ (P) 3. ประดษิ ฐร์ ูปคล่ี (P) 4. สาระการเรยี นรู้ รูปคลีข่ องรูปเรขาคณิตสามมิติ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 ข้ันตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูให้นกั เรยี นทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไมก้ ลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลงั จาก นน้ั ให้นักเรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 3. ครูนำกลอ่ งกระดาษทรงสเ่ี หล่ียมมุมฉาก เชน่ กล่องบรรจเุ ครื่องด่ืมรังนก กลอ่ งบรรจขุ นม มาให้ นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ ราย เชน่
- กลอ่ งนเ้ี ป็นรูปเรขาคณิตสามมิตชิ นิดใด (ทรงสีเ่ หล่ียมมมุ ฉากหรือปรซิ มึ สีเ่ หล่ียมมุมฉาก) - มหี น้าตดั หรอื ฐานกดี่ ้าน และหน้าขา้ งก่ีด้าน (มหี นา้ ตดั หรอื ฐาน 2 ดา้ น มหี นา้ ข้าง 4 ด้าน) - หน้าตดั หรือฐานเป็นรปู เรขาคณติ สองมิติชนดิ ใด (รูปสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉาก) - หน้าขา้ งเปน็ รูปเรขาคณติ สองมติ ชิ นิดใด (รูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก) 4. ครนู ำกล่องกระดาษทมี่ ลี ักษณะเป็นลูกบาศก์ เช่น กล่องใส่เคร่อื งดืม่ ซบุ ไก่สกดั แจกให้นกั เรียน กลมุ่ ละ 1 กลอ่ ง แลว้ ให้นกั เรียนนกึ ภาพ และรว่ มกนั อภปิ ราย ดังน้ี - ถ้าคลก่ี ล่องกระดาษนี้ออกจะได้แผ่นกระดาษมลี กั ษณะรปู ร่างเป็นอย่างไร (เป็นรูปเรขาคณติ สองมิติ หรอื รูปเหลยี่ ม) - ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเขียนภาพตามท่นี กั เรียนคิด เช่น 5. ครตู รวจสอบความถูกต้องและนำภาพท่นี ักเรียนเขียนไดถ้ ูกต้อง (ตามรปู ขา้ งต้น) มาติดบนกระดาน แลว้ ครอู ธบิ ายแนะนำรปู ทไี่ ด้นี้เปน็ รูปคลข่ี องลกู บาศก์ 6. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ นำกล่องกระดาษทมี่ ลี ักษณะที่เปน็ ลูกบาศก์คลอ่ี อก ครูตรวจสอบความถูกต้อง และใหน้ ำรปู คลข่ี องแตล่ ะกลุ่มมาติดบนกระดาน จากนั้นช่วยกันพิจารณาต่อไปวา่ ลูกบาศก์สามารถคลเี่ ป็นแบบใด ได้อีก ซง่ึ จะได้แบบต่างๆ ดังนี้
ขั้นตอนท่ี 3 : การฝึก 7. ครูให้นกั เรยี นหารปู คล่ีของรูปเรขาคณติ สามมติ ิ เมอื่ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรปุ 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ่วมกนั ดังน้ี รปู เรขาคณิตสามมิติ เมอื่ คลี่ออกจะได้รปู ท่ี ประกอบดว้ ยรูปเรขาคณติ สองมติ ิท่สี ามารถประกอบเป็นรูปเรขาคณติ สามมติ ิได้ ข้ันตอนที่ 5 : การประยกุ ต์ใชท้ นั ที 9. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงท่ี 2 ขั้นตอนที่ 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ ักเรียนทอ่ งสตู รคณู โดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จาก นน้ั ให้นกั เรียนคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ให้นกั เรียนทบทวนความร้เู ร่ืองชนดิ ของรูปเรขาคณติ สามมิติ โดยครูให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกชื่อรูป เรขาคณติ สามมิติ เช่น ทรงสี่เหลีย่ มมุมฉาก ทรงกระบอก พรี ะมดิ ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง 3. จากกิจกรรม ครูเลอื กรูปเรขาคณติ สามมิติ 1 รูป แล้วติดบัตรภาพรปู คลีบ่ นกระดาน ดงั น้ี
ครูถามคำถามกระตนุ้ ความคดิ ของนักเรยี น ดงั นี้ - มีรปู สีเ่ หลยี่ มผืนผ้ากี่รูป (1 รูป) - มีรูปวงกลมกีร่ ูป (2 รปู ) - รปู คลี่นีเ้ ปน็ รูปคลข่ี องรปู เรขาคณติ สามมติ ิใด (ทรงกระบอก) 4. ดำเนินกจิ กรรมนอี้ กี เพ่ือให้นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะและความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั รูปคล่ี ดงั ตวั อย่าง 5. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 3 - 4 คน แจกบัตรรูปคล่ขี องรูปเรขาคณิตสามมติ ใิ ห้กลุ่มละ 2 แผน่ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกว่าเปน็ รปู คลขี่ องรูปเรขาคณติ สามมิติใด แลว้ วาดรปู เรขาคณติ สามมติ นิ ั้น 6. ผ้แู ทนกล่มุ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน ครแู ละนกั เรยี นกลุ่มอืน่ ๆ รว่ มกันตรวจสอบความ ถูกต้อง ข้ันตอนที่ 3 : การฝึก 7. ครูให้นักเรยี นหารปู คลขี่ องรูปเรขาคณิตสามมติ ิ เม่อื เสร็จแล้วให้นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนงั สอื เรยี น ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สิง่ ทไ่ี ด้เรียนรู้ร่วมกนั ดงั น้ี รปู เรขาคณติ สามมติ ิ เมือ่ คล่ีออกจะไดร้ ปู ท่ี ประกอบดว้ ยรูปเรขาคณติ สองมิตทิ สี่ ามารถประกอบเปน็ รูปเรขาคณิตสามมิตไิ ด้ ขน้ั ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใช้ทนั ที 9. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 3 ขั้นตอนท่ี 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครูให้นกั เรียนท่องสตู รคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก น้นั ให้นกั เรยี นคิดเลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขัน้ ตอนที่ 2 : เรียนรู้ 2. ใหน้ กั เรียนทบทวนความร้เู ร่อื ง รูปคลี่ของรูปเรขาคณิต โดยครตู ดิ รปู คล่บี นกระดานแลว้ ให้นักเรียน ชว่ ยกันบอกวา่ เป็นรูปเรขาคณติ สามมติ ิชนิดใด เช่น
3. ครูติดภาพรปู เรขาคณิตสองมติ บิ นกระดาน ดังนี้ 4. ให้ผู้แทนนักเรียนออกมาเขียนรูปเรขาคณิตสามมิติทีป่ ระกอบจากรูปเรขาคณติ สองมิติ พร้อมทัง้ บอก วา่ เป็นรปู เรขาคณติ สามมติ ชิ นดิ ใด (ทรงสี่เหล่ยี มมุมฉาก) ดำเนินกิจกรรมนี้อีก 1-2 ครั้ง เพอื่ ให้นกั เรียนฝกึ ทกั ษะ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 5. ครูติดภาพรปู เรขาคณิตสามมิติบนกระดาน 6. ใหผ้ ้แู ทนนักเรยี นออกมาเขียนรปู เรขาคณติ สองมิตจิ ากรปู เรขาคณติ สามมติ ทิ ่คี รูกำหนดให้ ดงั นี้ 7. ดำเนนิ กิจกรรมนอ้ี กี ครง้ั เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเกิดทกั ษะ โดยให้ผูแ้ ทนนกั เรยี นอีก 1 คน ออกมาเขยี นรูป เรขาคณิตสองมติ จิ ากรปู เรขาคณติ สามมติ ิ ดังนี้ ขนั้ ตอนที่ 3 : การฝกึ 8. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 3 – 4 คน แจกบัตรภาพรปู เรขาคณติ สองมิตทิ ีเ่ ป็นสว่ นประกอบ ของรูปเรขาคณิตสามมติ ิ เพือ่ ให้นักเรียนเขียนเป็นรปู เรขาคณิตสามมติ ิ และบตั รภาพรูปเรขาคณติ สามมติ เิ พ่อื ให้ นกั เรยี นเขยี นสว่ นประกอบทเ่ี ปน็ รปู เรขาคณติ สองมติ ิ จากนน้ั ผแู้ ทนกลมุ่ นำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น
9. ครใู หน้ กั เรยี นประดษิ ฐ์รูปคล่ขี องรปู เรขาคณิตสามมติ ิ เมื่อเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถูกต้อง จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในหนงั สอื เรียน ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 10. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกัน ดงั นี้ รูปคล่เี ปน็ การแสดงสว่ นประกอบของรูป เรขาคณติ สามมิตวิ า่ มีรูปเรขาคณติ สองมติ ิใดบา้ ง จำนวนเท่าใด เราสามารถนำความรู้ไปใช้ในการสร้างสิง่ ของให้ เปน็ รูปเรขาคณติ สามมติ แิ ละเปน็ พนื้ ฐานในการเรยี นขัน้ สูง ข้ันตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ ันที 11. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวัดผล 1. สงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน 2. สังเกตการทำงาน 3. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมนิ ผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผ้ทู ี่ได้ระดบั คุณภาพตงั้ แต่ 2 ขนึ้ ไป 2. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผู้ทที่ ำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดับคณุ ภาพตั้งแต่ 2 ขึน้ ไป 3. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผู้ทีท่ ำงานได้ระดบั คณุ ภาพตัง้ แต่ 2 ขนึ้ ไป 9. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. 2. กล่องกระดาษทรงสีเ่ หล่ยี มมุมฉาก เชน่ กล่องบรรจเุ คร่อื งดมื่ รังนก กลอ่ งบรรจขุ นม 3. กลอ่ งกระดาษทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉากท่มี ลี กั ษณะเปน็ ลูกบาศก์ เชน่ กลอ่ งใส่เครอื่ งดืม่ ซุปไกส่ กัด 4. บัตรภาพรปู คล่ีของรปู เรขาคณิตสามมิติ 5. บัตรภาพรูปคล่ีของรปู เรขาคณติ สามมติ ิ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 15 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 11 รปู เรขาคณิตสามมติ ิ เวลา 2 ชว่ั โมง เรื่องปรมิ าตรของทรงส่เี หลย่ี มมุมฉาก 1. สาระสำคญั การหาปรมิ าตรของทรงสเี่ หลี่ยมมุมฉาก เป็นการหาขนาดของทรงตนั เม่ือรคู้ วามกวา้ ง ความยาว และความ สูง จะสามารถหาปริมาตรของทรงส่เี หลีย่ มมมุ ฉาก เทา่ กับ ความกว้าง คณู ความยาว คณู ความสูง 2. ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.6/1 : แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมิตทิ ่ีประกอบด้วย ทรงสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายเกี่ยวกับการหาปริมาตรของทรงสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉาก (K) 2. เขยี นแสดงวิธีการหาปรมิ าตรของทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉาก (P) 4. สาระการเรียนรู้ ปริมาตรของทรงสเี่ หลี่ยมมมุ ฉาก 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นกั เรียนท่องสูตรคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลังจาก นั้นใหน้ กั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ขอ้ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ 2. ครใู ชก้ ารถามตอบเพ่ือทบทวนความสมั พันธ์ของหน่วยความยาว ดังน้ี 1 เมตร เท่ากบั กีเ่ ซนติเมตร (100 เซนตเิ มตร)
3. ครูใช้การถามตอบเพ่อื ทบทวนการหาปริมาตรของทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉาก ดงั น้ี หาปริมาตรของทรงสี่เหลีย่ มมมุ ฉากได้อยา่ งไร (ปรมิ าตรของทรงสเ่ี หลีย่ มมมุ ฉาก = ความกวา้ ง x ความยาว x ความสงู ) 4. ครูยกตวั อยา่ งการหาปรมิ าตรของทรงสี่เหล่ยี มมมุ ฉากบนกระดาน ครใู ชก้ ารถามตอบใหน้ กั เรยี น รว่ มกนั อภปิ รายแสดงวธิ หี าปรมิ าตรทรงส่เี หล่ยี มมมุ ฉาก โดยครตู รวจสอบความถูกต้องดังน้ี ตัวอย่างที่ 1 หาปรมิ าตรทรงสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉากท่กี ำหนดให้ 1.5 ม. 5 ม. 3.5 ม. ความกว้าง x ความยาว x ความสงู วธิ ที ำ ปรมิ าตรของทรงสีเ่ หล่ียมมุมฉาก = = 3.5 x 5 x 1.5 ลูกบาศกเ์ มตร = 26.25 ลกู บาศก์เมตร ตอบ ๒๖.๒๕ ลูกบาศกเ์ มตร 5. ครใู ช้การถามตอบจะหาปรมิ าตรของรูปเรขาคณติ สามมิติไดอ้ ยา่ งไร (ตอ้ งแบ่งรปู เรขาคณิตสามมติ ิ ออกเปน็ ทรงส่เี หลีย่ มมมุ ฉาก แลว้ หาปรมิ าตรของทรงสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก) 6. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงวธิ หี าปรมิ าตรของรูปเรขาคณิตสามมิติ โดยครตู รวจสอบความ ถกู ตอ้ งอีกครั้ง 1.2 ม. 3 ม. 1 ม. 1.2 ม. 1 ม. 1.2 ม. 1 ม. 3 ม. 1.2 ม. 2 ม. 1.2 ม.
ปรมิ าตรของทรงสีเ่ หลยี่ มมุมฉาก = ความกว้าง x ความยาว x ความสงู ปรมิ าตรของทรงส่ีเหลี่ยมมมุ ฉากรปู ที่ 1 = 1.2 x 1 x 1.2 ลกู บาศก์เมตร = 1.44 ลูกบาศก์เมตร ปรมิ าตรของทรงสีเ่ หล่ยี มมุมฉากรูปที่ 2 = 1.2 x 1 x 3 ลกู บาศกเ์ มตร = 3.6 ลกู บาศก์เมตร ดังน้ัน ปรมิ าตรของทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก 1.44 + 3.6 = 5.04 ลกู บาศก์เมตร ตอบ ๕.๐๔ ลูกบาศกเ์ มตร ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 7. ครใู ห้นกั เรยี นหาปริมาตรของทรงส่เี หลยี่ มมุมฉาก เมอ่ื เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูก ต้อง จากนั้นครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น ข้ันตอนท่ี 4 : การสรปุ 8. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นร้รู ว่ มกนั ดงั นี้ ปริมาตรของทรงส่ีเหลย่ี มมุมฉาก = ความกว้าง x ความยาว x ความสูง ขนั้ ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใช้ทนั ที 9. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชัว่ โมงที่ 2 ขนั้ ตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูให้นักเรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐแ์ ละตาราง 9 ชอ่ งประกอบการทอ่ งสูตรคณู หลงั จาก นั้นให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนท่ี 2 : เรยี นรู้ 2. ใหน้ ักเรยี นทบทวนเร่ืองลกู บาศก์โดยใหน้ ักเรียนบอกความกว้าง ความยาว ความสงู ของลูกบาศก์ (เทา่ กันทุกดา้ น) 3. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มหยิบลูกบาศก์มา 12 ลกู แลว้ วางเรียงเปน็ ทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉาก 4. ครนู ำบัตรภาพรปู เรขาคณติ สามมติ มิ าตดิ บนกระดาน แล้วถามคำถามนักเรยี นว่า สามารถหาความ ปริมาตรของรปู เรขาคณิตสามมิตนิ ้ไี ดอ้ ยา่ งไร โดยขออาสาสมัครนกั เรยี น 2-3 คน ยนื ขนึ้ ตอบคำถาม ตวั อยา่ ง หาปรมิ าตรของรปู เรขาคณติ สามมติ ทิ ป่ี ระกอบดว้ ยทรงสี่เหลย่ี มมุมฉากต่อไปน้ี 20 ซม. 8 ซม. 8 ซม. 20 ซม. 5 ซม.
วธิ ีคิด ตดั แล้วนำมาตอ่ กันใหเ้ ป็นทรงส่ีเหล่ียมมมุ ฉาก จากน้ันหาปริมาตรรของทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก 20 ซม. 8 ซม. 8 ซม. 20 ซม. 5 ซม. 16 ซม. 20 ซม. 5 ซม. 8 ซม. วิธที ำ ปรมิ าตรของทรงสเ่ี หล่ียมมุมฉาก = ความกวา้ ง x ความยาว x ความสงู = 5 x 20 x 16 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร = 1,600 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ดังนนั้ รูปเรขาคณติ สามมิติมปี ริมาตร 1,600 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ตอบ ๑,๖๐๐ ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ขน้ั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครูใหน้ กั เรยี นหาปรมิ าตรของทรงส่เี หลย่ี มมมุ ฉาก เม่อื เสร็จแล้วให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูก ตอ้ ง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยกจิ กรรมในหนังสอื เรียน ขั้นตอนท่ี 4 : การสรุป 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้รว่ มกนั ดังน้ี ปริมาตรของทรงสเี่ หล่ียมมมุ ฉาก = ความกวา้ ง x ความยาว x ความสูง ขั้นตอนท่ี 5 : การประยุกต์ใช้ทนั ที 7. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถอื เกณฑ์ผา่ นจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผ้ทู ไ่ี ด้ระดับคณุ ภาพต้งั แต่ 2 ขน้ึ ไป 2. ถอื เกณฑผ์ า่ นสำหรบั ผู้ทที่ ำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คณุ ภาพตัง้ แต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถอื เกณฑ์ผ่านสำหรับผูท้ ที่ ำงานไดร้ ะดบั คณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป 9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 2. รูปเรขาคณิตสามมิติ
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 8 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 15 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 11 รปู เรขาคณติ สามมติ ิ เวลา 2 ชวั่ โมง เร่อื งความจขุ องทรงสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉาก 1. สาระสำคญั การหาความจุของทรงส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก เป็นการหาปรมิ าตรภายในของทรงสามมติ ิที่กลวง จะสามารถหา ความจุของทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉาก เท่ากบั ความกวา้ ง คูณ ความยาว คูณ ความสูง 2. ตัวชีว้ ดั ค 2.1 ป.6/1 : แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตรของรปู เรขาคณติ สามมติ ิท่ีประกอบดว้ ย ทรงสเี่ หลี่ยมมุมฉาก 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความจุของทรงส่ีเหลยี่ มมุมฉาก (K) 2. เขยี นแสดงวิธีการหาความจขุ องทรงสีเ่ หลี่ยมมุมฉาก (P) 4. สาระการเรียนรู้ ความจุของทรงส่ีเหลีย่ มมุมฉาก 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครใู ห้นกั เรยี นทอ่ งสูตรคูณโดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการทอ่ งสตู รคณู หลงั จาก นน้ั ให้นักเรียนคดิ เลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ข้นั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูยกตัวอย่างโจทยก์ ารหาปรมิ าตรของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉากบนกระดานให้นกั เรยี นทุกคนแสดงวธิ หี า คำตอบ เช่น
7 ม. 3 ซม. 3 ม. 3 ซม. 3 ซม. 2 ม. 3. ครูนำกลอ่ งกระดาษ ถงุ ทราย แกว้ มาวางทห่ี น้าช้นั เรยี น แลว้ ให้นกั เรยี นออกมาตกั ทรายใสก่ ล่อง กระดาษให้เตม็ พอดี นักเรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายถึงความจขุ องรูปทรงส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก 2 ซม. 2 ซม. 3 ซม. 8 ซม. 8 ซม. 4 ซม. 0.5 ซม. 0.5 ซม. 0.5 ซม. รูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3 - รปู ที่ 1 ความจุของทรงส่ีเหลย่ี มมุมฉากเทา่ กับเทา่ ใด (รูปที่ 1 ความจขุ องทรงสี่เหล่ยี มมมุ ฉาก เท่ากับ 8 ลูกบาศก์เซนติเมตร) - รูปท่ี 2 ความจขุ องทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉากเทา่ กบั เทา่ ใด (รูปที่ 2 ความจขุ องทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก เทา่ กับ 8 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร) - รปู ที่ 3 ความจุของทรงสีเ่ หลี่ยมมุมฉากเท่ากับเทา่ ใด (รปู ที่ 3 ความจุของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก เทา่ กับ 6 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร) - ถ้าเกดิ นำรูปท่ี 1 รปู ท่ี 2 และรูปท่ี 3 มาต่อกนั ความจุทงั้ หมดจะเทา่ กับเท่าใด (ความจขุ องทรงสเี่ หล่ียมมุมฉากท้ังหมด เท่ากบั 8 + 8 + 6 = 22 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร) 4. ครนู ำบตั รภาพรปู เรขาคณติ สามมติ ิมาตดิ บนกระดาน แล้วถามคำถามนกั เรยี นว่า สามารถหาความจุ ของรูปเรขาคณิตสามมติ ิน้ไี ด้อยา่ งไร โดยขออาสาสมคั รนักเรยี น 2-3 คน ยนื ขึ้นตอบคำถาม 1.8 ม. 1.5 ม. 1.5 ม. 1.8 ม. 5.4 ม. จากน้ันครูอธบิ ายวธิ ีการหาความจขุ องรูปเรขาคณิตสามมติ ใิ ห้นกั เรียนเข้าใจมากยงิ่ ข้ึน 5. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 3 – 4 คน แลว้ ส่งตัวแทนออกมาจบั สลากรูปเรขาคณิตสามมิติ (แบบเดียวกับบตั รภาพทต่ี ิดบนกระดาน) กลุ่มละ 1 ใบ จากนั้นใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั หาคำตอบของความจุ ของภาชนะทรงสามมติ ลิ งในกระดาษ A4 เม่ือเสร็จแล้วนำสลากสลับกลับเพ่ือนกลุม่ ขา้ ง ๆ แลว้ หาคำตอบให้ ถกู ต้อง จากน้ันนำสง่ ครผู ู้สอนตรวจสอบความถูกต้อง เชน่
2 ม. 2.4 ม. 2 ม. 2.4 ม. 6 ม. ขั้นตอนที่ 3 : การฝึก 6. ครใู ห้นักเรยี นหาความจขุ องทรงสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉาก เมื่อเสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบ ความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในหนงั สอื ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรปุ 7. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้รว่ มกัน ดังน้ี - ความจุของทรงสีเ่ หลีย่ มมุมฉากเป็นการหาปรมิ าตรภายในของทรงส่ีเหลีย่ มมมุ ฉาก - ความจุของทรงสีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก = ความกวา้ ง × ความยาว × ความสูง ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยุกตใ์ ชท้ นั ที 8. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงที่ 2 ขน้ั ตอนที่ 1 : เตรยี มความพร้อม 1. ครูให้นกั เรยี นท่องสูตรคูณโดยใช้ไมก้ ลองประดิษฐ์และตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสูตรคูณ หลงั จาก นัน้ ให้นกั เรยี นคดิ เลขเร็วจำนวน 3 ข้อ ขน้ั ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรียนและทบทวนความรู้ เรือ่ ง ความจุของทรงสเี่ หลีย่ มมุมฉาก โดยครูชูบัตรภาพ ทรงสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากให้นักเรยี นดูหน้าช้นั เรยี น แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกันหาความจุของทรงสีเ่ หล่ยี มมมุ ฉากแต่ละภาพ เช่น 20 ซม. 15 ซม. 30 ซม. 3. ครนู ำบัตรภาพรูปเรขาคณิตสามมติ มิ าตดิ บนกระดาน แลว้ ถามคำถามนกั เรยี นวา่ สามารถหาความจุ ของรูปเรขาคณิตสามมติ นิ ีไ้ ด้อย่างไร โดยขออาสาสมคั รนักเรียน 2-3 คน ยืนขน้ึ ตอบคำถาม 12 ซม. 10 ซม. 12 ซม. 25 ซม. 15 ซม.
วธิ ีคิด เติมทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉากในชอ่ งวา่ ง จะไดภ้ าชนะทรงส่เี หล่ียมมมุ ฉากใหญ่ทกี่ วา้ ง 15 เซนติเมตร ยาว 10 + 12 + 12 = 34 เซนตเิ มตร และสงู 25 เซนติเมตร จากนนั้ หาความจุของภาชนะที่กำหนด โดยหาความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากใหญ่ ลบด้วยความจขุ องทรงสีเ่ หลี่ยมมุมฉากสว่ นทีเ่ ตมิ วธิ ที ำ ความจุของภาชนะทรงส่เี หล่ียมมมุ ฉาก = ความกว้าง × ความยาว × ความสูง ภาชนะทรงสเี่ หลยี่ มมมุ ฉากใหญ่มคี วามจุ 15 × 34 × 25 = 12,750 ลบ.ซม. ทรงส่เี หล่ยี มมุมฉากสว่ นทเี่ ตมิ มีความจุ 12 × 15 × 15 = 2,700 ลบ.ซม. ดังนนั้ ภาชนะรปู เรขาคณติ สามมิตมิ ีความจุ 12,750 – 2,700 = 10,050 ลบ.ซม. ตอบ ๑๐,๐๕๐ ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร 4. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความร้เู ก่ยี วกับความจุของรปู เรขาคณติ สามมติ ิไดว้ ่า การหาความจุเปน็ การ หาปรมิ าตรภายในของทรงสามมิตทิ กี่ ลวง ข้นั ตอนท่ี 3 : การฝึก 5. ครูให้นักเรียนหาความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในหนงั สอื เรยี น ขน้ั ตอนที่ 4 : การสรุป 6. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สิง่ ที่ไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกัน ดงั นี้ - ความจุของทรงสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉากเปน็ การหาปริมาตรภายในของทรงสเี่ หลยี่ มมุมฉาก - ความจขุ องทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก = ความกว้าง × ความยาว × ความสงู ขน้ั ตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 7. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวัดผล 1. สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มนั่ ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรับผทู้ ี่ไดร้ ะดับคุณภาพตงั้ แต่ 2 ขึ้นไป 2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผูท้ ท่ี ำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. ไดร้ ะดบั คณุ ภาพตัง้ แต่ 2 ขน้ึ ไป 3. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรับผูท้ ีท่ ำงานได้ระดับคณุ ภาพต้ังแต่ 2 ขน้ึ ไป 9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. แบบฝกึ หดั คณติ ศาสตร์ สสวท.
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 9 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 15 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 11 รปู เรขาคณติ สามมติ ิ เวลา 3 ชั่วโมง เรื่องโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับปรมิ าตรหรอื ความจขุ องทรงสเ่ี หล่ยี มมมุ ฉาก 1. สาระสำคญั การแก้โจทย์ปัญหาเริม่ จากการทำความเขา้ ใจโจทยป์ ัญหา วางแผน แก้ปัญหา ดำเนนิ การตามแผนและ ตรวจสอบ 2. ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.6/1 : แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรของรปู เรขาคณิตสามมิติทีป่ ระกอบด้วย ทรงส่ีเหลี่ยมมมุ ฉาก 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกขน้ั ตอนการวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาเก่ียวกบั ปรมิ าตรหรือความจขุ องทรงส่ีเหล่ยี มมมุ ฉากได้ (K) 2. เขียนข้นั ตอนการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาเก่ียวกับปริมาตรหรอื ความจุของทรงสีเ่ หล่ยี มมมุ ฉากได้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้ โจทย์ปัญหาเกีย่ วกบั ปรมิ าตรหรือความจุของทรงสี่เหลยี่ มมุมฉาก 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ขัน้ ตอนที่ 1 : เตรียมความพร้อม 1. ครใู ห้นกั เรยี นท่องสตู รคณู โดยใชไ้ ม้กลองประดิษฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสตู รคณู หลงั จาก นนั้ ใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขัน้ ตอนท่ี 2 : เรียนรู้ 2. ครูใชก้ ารถามตอบทบทวนสตู รการหาปริมาตรหรือความจขุ องทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉาก โดยนกั เรียนร่วมกัน
บอกสูตรปริมาตรหรอื ความจุของทรงส่ีเหลย่ี มมมุ ฉาก = ความกว้าง x ความยาว x ความสงู ) ครตู รวจสอบความ ถกู ต้องอีกครง้ั 3. ครูใชก้ ารถามตอบทบทวนความสัมพนั ธ์ของหน่วยปรมิ าตร โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกนั บอกความสัมพันธ์ ของหนว่ ยปรมิ าตร ดงั นี้ 1 ลิตร เทา่ กบั 1,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร 1 มลิ ลลิ ิตร เทา่ กบั 1 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร 1,000 ลติ ร เท่ากบั 1 ลกู บาศกเ์ มตร 4. ครเู ขียนหรอื ติดแถบโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั ปริมาตรหรอื ความจุบนกระดาน เชน่ สดุ าต้องการขดุ บอ่ ขนาดกวา้ ง 4 เมตร ยาว 6 เมตร และลกึ 3 เมตร อยากทราบว่า ดนิ ทีข่ ุดข้นึ มามปี ริมาตรเทา่ ใด 5. ครูใชก้ ารถามตอบ เพ่อื ให้นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาและหาคำตอบดงั น้ี - โจทย์ถามอะไร (ดนิ ทข่ี ุดข้ึนมามีปริมาตรเท่าใด) - โจทยก์ ำหนดอะไรให้บา้ ง (สดุ าตอ้ งการขุดบอ่ มีขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร และลึก 3 เมตร) - จะหาปริมาตรของดนิ ทข่ี ุดขน้ึ มาจากบอ่ ได้อยา่ งไร (ปริมาตรของดนิ ทข่ี ดุ ขน้ึ มาเทา่ กบั ความจขุ องบ่อ ทรงสี่เหลยี่ มมมุ ฉากทม่ี ขี นาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ลึก 3 เมตร) - จะหาความจุของบ่อทรงส่ีเหล่ียมมมุ ฉากไดอ้ ย่างใด (ความจุของบ่อทรงส่เี หล่ยี มมุมฉาก = ความกว้าง x ความยาว x ความสูง = 4 x 6 x 3 ลกู บาศก์เมตร = 72 ลกู บาศก์เมตร) - ดินที่ขดุ ข้นึ มามีปริมาตรเทา่ ใด (72 ลกู บาศก์เมตร) - สรปุ คำตอบได้อย่างไร (ดนิ ทข่ี ุดขนึ้ มามีปรมิ าตร 72 ลกู บาศกเ์ มตร) 6. ครเู ขยี นโจทย์ปัญหาอีก 1 ขอ้ บนกระดานดังนี้ “ตู้ปลาทรงสี่เหลย่ี มมุมฉากมคี วามกว้างภายใน 80 เซนตเิ มตร ความยาวภายใน 1.50 เมตร และความสูงภายใน 60 เซนตเิ มตร ถา้ ต้องการใสน่ ้าคร่ึงหนึ่งของตู้ปลา จะตอ้ งใช้น้ำก่ลี ิตร” 7. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั คดิ วิเคราะห์ วางแผน และดำเนนิ การแก้โจทยป์ ัญหานี้ เสร็จแลว้ ติดบน กระดาน พรอ้ มตัวแทนกลมุ่ นำเสนอ นกั เรยี นทกุ กลุม่ เดนิ ดผู ลงานของเพอ่ื น และเปรยี บเทยี บกบั กลุม่ ของตนเอง ว่าใช้วิธแี กป้ ญั หาเหมอื นกันหรือต่างกนั อยา่ งไร ไดค้ ำตอบเท่ากนั หรอื ไม่ ข้ันตอนที่ 3 : การฝกึ 8. ครใู หน้ กั เรยี นแสดง โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรหรอื ความจุของทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก เมอื่ เสร็จ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 13 ขนั้ ตอนท่ี 4 : การสรปุ 9. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีได้เรยี นรรู้ ว่ มกัน เก่ียวกบั โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับปรมิ าตรและความจุของ ทรงสีเ่ หล่ียมมุมฉาก ดงั นี้ การแก้โจทยป์ ัญหา เริ่มจากการทำความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา ดำเนนิ การตาม
แผน และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ และใหน้ กั เรยี นทมี่ ขี อ้ สงสัยไดซ้ ักถามเก่ยี วกับสิง่ ทเ่ี รียน ขัน้ ตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ ันที 10. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั ตอนท่ี 1 : เตรยี มความพรอ้ ม 1. ครูใหน้ กั เรยี นทอ่ งสตู รคูณโดยใช้ไม้กลองประดษิ ฐ์และตาราง 9 ชอ่ งประกอบการท่องสูตรคณู หลังจาก นน้ั ใหน้ กั เรียนคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ขั้นตอนที่ 2 : เรยี นรู้ 2. ใหน้ กั เรียนทบทวนความรเู้ รอ่ื ง การหาปริมาตรของทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉาก โดยครูติดภาพทรงส่ีเหลีย่ ม มุมฉากบนกระดาน แล้วใหผ้ ู้แทนนกั เรยี นออกมาแสดงวิธีการหาปริมาตรบนกระดาน เช่น ปรมิ าตรทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉาก = ความกว้าง × ความยาว × ความสงู 12 ซม. = 4 × 8 × 12 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร 8 ซม. 4 ซม. = 384 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และอภปิ รายร่วมกันว่าจะมีสถานการณใ์ ดบา้ งที่ตอ้ งใช้ ความร้นู ้แี ก้ปญั หา 4. ครเู ขียนตัวอย่างโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ปริมาตรหรือความจขุ องทรงส่ีเหลย่ี มมุมฉากบนกระดาน ดงั น้ี หมู่บ้านแหง่ หน่งึ ทาถังเกบ็ น้ำฝนทรงส่เี หลย่ี มมุมฉากดว้ ยปนู ซีเมนตห์ นา 25 เซนติเมตร มคี วามกวา้ งภายใน 4 เมตร 50 เซนติเมตร มีความยาวภายใน 8 เมตร มีความสงู ภายใน 3 เมตร ถ้าในฤดฝู นเก็บน้ำฝนได้เต็มถงั น้ำฝนมปี รมิ าตรกลี่ ูกบาศก์เมตร 5. ครูใชก้ ารถามตอบ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภิปรายและเขยี นแสดงวิธีทำ ดังน้ี - จะหาปรมิ าตรของนำ้ ฝนไดอ้ ย่างไร (ปรมิ าตรของนำ้ ฝนเทา่ กบั ความจุของถงั ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก) - จะหาความจขุ องถังทรงสี่เหลย่ี มมุมฉากได้อยา่ งไร (ความจุของถงั ทรงสี่เหลีย่ มมมุ ฉาก = ความกวา้ ง x ความยาว x ความสูง) 6. ครสู ุ่มให้นกั เรยี นออกมาเขยี นแสดงวธิ ีทำ ดังน้ี วิธที ำ ถงั เกบ็ นำ้ ฝนทรงสีเ่ หลีย่ มมมุ ฉาก มีความกว้างภายใน 4 เมตร 50 เซนติเมตร = 4.5 เมตร มคี วามยาวภายใน 8 เมตร มีความสูงภายใน 3 เมตร
ความจุของถงั ทรงสีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก = ความกวา้ ง x ความยาว x ความสงู ปริมาณของนำ้ ฝน = 4.50 x 8 x 3 ลกู บาศก์เมตร = 108 ลูกบาศกเ์ มตร ตอบ นำ้ ฝนมีปริมาตร ๑๐๘ ลกู บาศก์เมตร 8. ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ ดงั น้ี 4.5 ใกล้เคียง 5 ถ้าถงั เกบ็ นำ้ ฝนมคี วามกวา้ งภายใน 5 เมตร ความจุของถงั 5 x 8 x 3 = 120 ลูกบาศก์เมตร ซึง่ 108 ใกลเ้ คียง 120 ดังน้ัน 108 เป็นคำตอบทีส่ มเหตสุ มผล 9. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับพืน้ ทแ่ี ละความยาวรอบรูปของรปู สามเหลีย่ มอีก 2 ขอ้ แล้วใหน้ ักเรยี น ช่วยกนั วิเคราะหโ์ จทย์ เพ่ือเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ และสรปุ คำตอบลงในกระดาษเปล่า จากนนั้ ผ้แู ทนนักเรยี นแต่ ละกลุม่ นำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน นักเรยี นกลมุ่ อ่ืนๆ ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยครเู สนอแนะเพมิ่ เติม ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝึก 10. ครใู ห้นกั เรียนแสดงขน้ั ตอนการแก้โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ปรมิ าตรหรือความจขุ องทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก เมื่อเสรจ็ แลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในหนังสอื เรยี น ขัน้ ตอนท่ี 4 : การสรปุ 11. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรียนรู้รว่ มกัน เก่ยี วกบั โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับปรมิ าตรและความจุ ของทรงสีเ่ หล่ยี มมมุ ฉาก ดงั นี้ การแก้โจทยป์ ญั หา เรม่ิ จากการทำความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา ดำเนนิ การ ตามแผน และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ และใหน้ กั เรยี นทีม่ ีข้อสงสัยไดซ้ ักถามเกี่ยวกบั สง่ิ ทเ่ี รียน ขั้นตอนที่ 5 : การประยุกต์ใชท้ นั ที 12. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ สสวท. ช่วั โมงที่ 3 ข้ันตอนที่ 1 : เตรียมความพรอ้ ม 1. ครใู ห้นักเรียนท่องสตู รคณู โดยใชไ้ มก้ ลองประดิษฐแ์ ละตาราง 9 ช่องประกอบการท่องสตู รคูณ หลังจาก นนั้ ใหน้ กั เรยี นคิดเลขเรว็ จำนวน 3 ขอ้ ข้นั ตอนที่ 2 : เรยี นรู้ 2. ครกู ลา่ วทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้ เรื่อง โจทย์ปญั หาเกีย่ วกบั ปริมาตรของและความจุของ ภาชนะทรงสี่เหล่ยี มมุมฉาก โดยครตู ิดบตั รโจทยป์ ญั หาบนกระดานใหน้ กั เรยี นดหู นา้ ช้นั เรียน แล้วให้นกั เรยี นจบั คู่ กับเพอื่ น จากน้ันใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคู่ร่วมกนั แสดงข้นั ตอนวิธที ำและหาคำตอบใหถ้ กู ตอ้ งลงในกระดาษ A4 จากน้ัน นำส่งครผู ูส้ อนตรวจสอบความถกู ต้อง เชน่ ตปู้ ลามีความกวา้ ง 25 เซนติเมตร มีความยาว 35 เซนติเมตร เตมิ นำ้ สงู 20 เซนติเมตร ต้องใช้นำ้ กีล่ ิตร
3. ครูตดิ บตั รโจทย์ปญั หาใหน้ ักเรียนดบู นกระดาน จากนนั้ ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกันอา่ นโจทยป์ ญั หาพรอ้ ม ๆ กนั ดังน้ี ขนมชนั้ เปน็ ขนมไทยท่ีมีรสชาตหิ วานมีสีสันสวยงามแบ่งเปน็ ชนั้ ๆ บรรจใุ นถาดทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉากที่มีฐานเป็น รูปสเ่ี หลยี่ มจตั ุรัสยาวด้านละ 30 เซนตเิ มตรสงู 5 เซนติเมตร แสดงวธิ ีคดิ 1. ความจุของถาดขนมชนั้ เทา่ กับกีล่ ูกบาศก์เซนติเมตร 2. ถ้าขนมชั้นที่บรรจุในถาดต่ำกว่าขอบถาด 1 เซนติเมตร ปริมาตรของขนมชั้นเท่ากับกี่ลูกบาศก์ เซนติเมตร 3. ขนมชั้นที่แม่ค้าขายแต่ละชิ้น มีความกว้าง และความยาวเท่ากันยาว 5 เซนติเมตร และสูง 4 เซนติเมตร ซึ่งปริมาตรของขนมช้ัน 1 ถาด เท่ากับ 3,600 ลูกบาศก์เซนติเมตร และแมค่ ้าขายขนมช้นั ช้นิ ละ 15 บาท ถ้าแม่ค้าขายขนมช้นั หมดถาด 4. ครูสุม่ กลมุ่ นักเรยี นทแ่ี สดงวิธีคดิ ได้ออกมาเฉลยบนกระดาน ครูใช้การถามตอบในการตรวจสอบความ ถกู ต้องและอธบิ ายแนะนำเพมิ่ เติมดังนี้ ความจุของถาดขนมชั้นเท่ากับกลี่ ูกบาศก์เซนตเิ มตร วธิ คี ิด ความจุของถาดทรงสเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก = ความกวา้ ง x ความยาว x ความสูง ถาดขนมมีความจุ = 30 x 30 x 5 ลูกบาศก์เซนติเมตร = 4,500 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร ตอบ ถาดขนมมีความจุ ๔,๕๐๐ ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร 5. ถา้ ขนมชั้นท่ีบรรจุในถาดต่ำกว่าขอบถาด 1 เซนตเิ มตร ปรมิ าตรของขนมชนั้ เทา่ กับก่ีลกู บาศก์ เซนติเมตร วิธคี ิด ปริมาตรของทรงส่ีเหลีย่ มมุมฉาก = ความกว้าง x ความยาว x ความสงู ปรมิ าตรของขนมชั้น = 30 x 30 x 4 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร = 3,600 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร ตอบ ปริมาตรของขนมชั้น ๓,๖๐๐ ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร 6. ขนมช้ันทแ่ี ม่คา้ ขายแต่ละชิน้ มีความกว้าง และความยาวเท่ากนั ยาว 5 เซนติเมตร และสงู 4 เซนตเิ มตร ซงึ่ ปรมิ าตรของขนมช้นั 1 ถาด เทา่ กับ 3,600 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร และแม่คา้ ขายขนมชัน้ ชิ้นละ 15 บาท ถา้ แม่ค้าขายขนมชั้นหมดถาดจะไดเ้ งนิ กี่บาท วธิ คี ิด ปริมาตรของขนมช้นั 1 ช้นิ = 5 x 5 x 4 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร = 100 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร เน่อื งจากปริมาตรของขนมชั้น 1 ถาด = 3,600 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ดังน้นั ในแต่ละถาดจะแบ่งขนมชนั้ ได้ = 3,600 ÷ 100 = 36 ชิ้น แม่ค้าขายขนมช้ันช้ินละ 15 บาท ถ้าแมค่ า้ ขายขนมช้ันหมดถาดจะไดเ้ งิน 36 x 15 = 540 บาท ตอบ แมค่ า้ ขายขนมชัน้ ไดเ้ งนิ ๕๔๐ บาท
ขน้ั ตอนที่ 3 : การฝกึ 7. ครใู หน้ กั เรยี นแสดงวธิ กี ารแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตรหรือความจุของทรงสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก เมือ่ เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในหนงั สือเรยี น ขั้นตอนที่ 4 : การสรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สิ่งทไี่ ด้เรียนรรู้ ว่ มกัน เกี่ยวกบั โจทย์ปญั หาเก่ียวกับปรมิ าตรและความจขุ อง ทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก ดงั นี้ การแก้โจทย์ปัญหา เริม่ จากการทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา ดำเนนิ การตาม แผน และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ และให้นกั เรียนท่ีมีขอ้ สงสยั ไดซ้ ักถามเกย่ี วกบั สงิ่ ทเี่ รยี น ข้ันตอนท่ี 5 : การประยกุ ตใ์ ชท้ ันที 9. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดคณติ ศาสตร์ สสวท. 8. การวดั และประเมนิ ผล การวดั ผล 1. สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน 2. สงั เกตการทำงาน 3. แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สสวท. การประเมินผล 1. ถอื เกณฑผ์ า่ นจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผทู้ ่ีไดร้ ะดับคุณภาพต้ังแต่ 2 ขึน้ ไป 2. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรบั ผู้ทที่ ำแบบฝึกหดั คณิตศาสตร์ สสวท. ได้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 2 ขึน้ ไป 3. ถือเกณฑ์ผ่านสำหรบั ผู้ที่ทำงานไดร้ ะดบั คณุ ภาพตงั้ แต่ 2 ข้นึ ไป 9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบฝึกหดั คณติ ศาสตร์ สสวท. 2. แถบโจทย์ปญั หา
ภาคผนวก -รปู ดำเนนิ การจดั การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ฯ
พ.น./วก. 02 โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมนิ หน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 11 เรื่องรปู เรขาคณติ สามมติ ิ เวลาทใี่ ช้ 15 ชวั่ โมง รหัสวชิ า ค16101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มีความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสดุ ทีส่ ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถงึ นอ้ ยท่สี ุด ข้อ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้น่าสนใจ กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนือ้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู/้ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์มีความเชอ่ื มโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธก์ ันระหว่างชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด / ผลการเรียนรสู้ าระสำคญั /ความคิดรวบยอดสาระการเรยี นร้แู ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้และสาระการเรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผเู้ รียนให้มีความรทู้ กั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผู้เรียน และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ ีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสู่การสร้างชิ้นงาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวัด/กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะทอ้ นคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สอื่ การเรียนรู้ในแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยุกตใ์ ช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กิจกรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวจิระพนั ธ์ุ ปากวเิ ศษ) ผปู้ ระเมนิ
พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหนว่ ยการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 11 เรือ่ งรูปเรขาคณติ สามมติ ิ เวลาทใี่ ช้ 15 ชัว่ โมง รหสั วชิ า ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรุง่ ศรปี ระภา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มคี วามสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสุดทสี่ ดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถงึ ปานกลาง 2 หมายถึง นอ้ ย 1 หมายถึง น้อยทสี่ ุด ขอ้ รายการประเมิน ระดับคะแนน ท่ี 54321 1 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้น่าสนใจ กะทัดรัด ชดั เจน ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู/้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์มีความเช่อื มโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธ์กันระหวา่ งชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นร้สู าระสำคัญ/ความคิดรวบยอดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรียนรู้ 7 กิจกรรมการเรียนร้มู ีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรยี นให้มคี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผูเ้ รียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรูม้ คี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสร้างชิน้ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด/กจิ กรรมการเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั /ผล การเรยี นรู้ 11 สือ่ การเรียนรู้ในแตล่ ะกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ไดจ้ รงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบตั ิจริงได้ ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผ้ปู ระเมนิ
พ.น./วก. 02 โรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมนิ หน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 11 เร่ืองรูปเรขาคณติ สามมิติ เวลาทใี่ ช้ 15 ช่วั โมง รหัสวชิ า ค16101 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวร่งุ ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มคี วามสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสุดทส่ี ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ นอ้ ย 1 หมายถึง น้อยทส่ี ดุ ข้อ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ท่ี 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรยี นร้นู า่ สนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลมุ เนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้/สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคม์ ีความเช่อื มโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเชื่อมโยงสัมพันธก์ ันระหวา่ งชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด / ผลการเรียนรู้สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นร้แู ละกิจกรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผเู้ รยี นให้มีความรู้ทกั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะ สำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู คี วามเหมาะสมสามารถนำผูเ้ รียนไปสกู่ ารสรา้ งชิ้นงาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด/กิจกรรมการเรียนรู้ 10 ประเด็นและเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคุณภาพผ้เู รยี นตามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด/ผล การเรียนรู้ 11 สอื่ การเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรม มีความเหมาะสมกบั เวลาและการนำไปประยุกตใ์ ช้ได้จรงิ 12 กำหนดเวลาได้เหมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏบิ ตั ิจริงได้ ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ ผูป้ ระเมนิ
พ.น./วก. 03 โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) สรุปผลการประเมินหนว่ ยการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 11 เรอ่ื งรูปเรขาคณิตสามมิติ เวลาทใ่ี ช้ 15 ชว่ั โมง รหัสวชิ า ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุง่ ศรีประภา กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมนิ หนว่ ยการเรียนรู้ ซงึ่ เปน็ แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 12 ข้อ มีระดบั การประเมนิ 5 ระดบั คือ 5 หมายถึง มคี วามสอดคลอ้ ง/เช่ือมโยง/เหมาะสม มากทส่ี ดุ 4 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถงึ มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1 หมายถึง มคี วามสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม นอ้ ยทสี่ ุด ซง่ึ ถอื เกณฑใ์ นการแปลความหมายของค่าเฉล่ยี ดงั นี้ 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มีความสอดคลอ้ ง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มากที่สดุ 3.50 – 4.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความวา่ มีความสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายความว่า มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม น้อยทสี่ ุด คะแนนของผูป้ ระเมิน ค่า การแปล ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คนที่ คนที่ คนที่ เฉล่ีย ความหมาย 123 1 ช่ือหนว่ ยการเรียนร้นู ่าสนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู/้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเชอ่ื มโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกบั สาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธก์ ันระหวา่ งชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด /ผลการเรยี นรู้สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดสาระการเรียนรแู้ ละ กจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ และสาระการเรียนรู้
-2- ข้อที่ รายการประเมิน คะแนนของผ้ปู ระเมิน ค่า การแปล คนที่ คนที่ คนที่ เฉลย่ี ความหมาย 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ คี วามครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรยี นให้มคี วามรทู้ กั ษะ/ 123 กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรูม้ ีความเหมาะสมสามารถนำผูเ้ รียนไปสกู่ ารสรา้ งช้ินงาน/ ภาระงาน 9 มีการประเมินผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /กจิ กรรมการเรียนรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑก์ ารประเมนิ สามารถสะท้อนคุณภาพผเู้ รยี นตาม มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 สอ่ื การเรยี นรู้ในแต่ละกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมกบั เวลาและการนำไป ประยกุ ตใ์ ช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏิบัตจิ รงิ ได้ ภาพรวม สรปุ ผลการประเมนิ ผ่าน (ความสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสมตง้ั แตร่ ะดบั ปานกลางขน้ึ ไป) ผ่าน (ความสอดคลอ้ ง/เชอื่ มโยง/เหมาะสมต่ำกว่าระดบั ปานกลาง) ลงช่ือ.......................................... (นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชือ่ .......................................... ลงชอ่ื .......................................... (นางสาวสุวดี กาญจนาภา) (นางสาวจิระพันธุ์ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ
พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ ) แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 11 เรือ่ งรปู เรขาคณิตสามมิติ เวลาทใี่ ช้ 15 ช่วั โมง รหสั วิชา ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรงุ่ ศรปี ระภา กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ปรับปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรสู้ อดคลอ้ งสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรยี นรมู้ อี งคป์ ระกอบสำคัญครบถว้ นสัมพันธก์ ัน 3 การเขียนสาระสำคญั ในแผนถกู ตอ้ ง 4 จุดประสงค์การเรียนรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 5 กำหนดเนือ้ หาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละเนอื้ หาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละระดับช้ันของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ 9 กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ ปน็ กจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ ของนกั เรยี น 10 กิจกรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ให้ผ้เู รยี นมสี ่วนรว่ มในชน้ั เรยี น 12 วัสดุอุปกรณ์ ส่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอุปกรณ์ สือ่ และแหลง่ เรียนรเู้ หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 สง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ 15 มีการวดั และประเมินผลท่สี อดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้
-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเน้อื หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกจิ กรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นการวดั และประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นอ่ืน ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชื่อ)..................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิระพันธ์ุ ปากวิเศษ) ............./.................../............. ส่งิ ท่ไี ด้ดำเนินการแก้ไข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชอื่ )..................................................ผูส้ อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ ) แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 11 เรือ่ งรปู เรขาคณิตสามมิติ เวลาทใี่ ช้ 15 ช่วั โมง รหสั วิชา ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมนิ 5 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ปรับปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคล้องสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรียนรู้ทก่ี ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นรมู้ อี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถกู ตอ้ ง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละเนอื้ หาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละระดับช้ันของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ 9 กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ ป็นกจิ กรรมทสี่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ ของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ให้ผ้เู รยี นมสี ่วนรว่ มในชน้ั เรยี น 12 วัสดุอุปกรณ์ ส่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรียนรเู้ หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 ส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นคน้ คว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ 15 มกี ารวัดและประเมินผลท่สี อดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้
-2- ข้อเสนอแนะ ด้านเนือ้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นกจิ กรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวดั และประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นอ่ืน ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )..................................................ผู้ประเมิน (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา)) ............./.................../............. ส่ิงทไ่ี ด้ดำเนนิ การแกไ้ ข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่อื )..................................................ผู้สอน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรีประภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 04 โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ ) แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 11 เรื่องรปู เรขาคณิตสามมิติ เวลาทใี่ ช้ 15 ช่วั โมง รหสั วิชา ค16101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ครผู สู้ อน นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดบั ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ปรับปรุง ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 แผนการจัดการเรียนรสู้ อดคลอ้ งสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ีกำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นรมู้ อี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ นสัมพันธก์ ัน 3 การเขยี นสาระสำคญั ในแผนถกู ตอ้ ง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละเนอื้ หาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละระดับช้ันของนักเรยี น 8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ 9 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ ป็นกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ ของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งแทรกคุณธรรมและค่านยิ มทด่ี ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นให้ผ้เู รยี นมีสว่ นร่วมในชน้ั เรยี น 12 วัสดุอุปกรณ์ ส่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วสั ดุอปุ กรณ์ สือ่ และแหลง่ เรียนรเู้ หมาะสมกับเน้อื หาสาระ 14 ส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นค้นคว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ 15 มกี ารวัดและประเมินผลท่สี อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้
-2- ข้อเสนอแนะ ดา้ นเนอื้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นกจิ กรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นการวัดและประเมินผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นอื่น ๆ (โปรดระบุ)............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชื่อ)..................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวกันยาภัทร ภัทรโสตถ)ิ ............./.................../............. ส่ิงทีไ่ ด้ดำเนินการแก้ไข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่อื )..................................................ผสู้ อน (นางสาวแพรวรุ่ง ศรปี ระภา) ............./.................../............
พ.น./วก. 05 โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ำรงุ ) สรุปผลการประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 11 เรื่องรปู เรขาคณิตสามมิติ เวลาทใี่ ช้ 15 ชั่วโมง รหัสวิชา ค16101 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ครูผสู้ อน นางสาวแพรวรงุ่ ศรีประภา กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน 5 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ดีมาก 4 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั นอ้ ย 1 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั นอ้ ยมาก ซึ่งถือเกณฑใ์ นการแปลความหมายของคา่ เฉลีย่ ดงั น้ี (ธานนิ ทร์ ศลิ ปะจาร.ุ 2555:112) 4.50 – 5.00 หมายความว่า มคี วามเหมาะสมในระดับ ดมี าก 3.50 – 4.49 หมายถึง หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดับ ดี 2.50 – 3.49 หมายถงึ หมายความว่า มคี วามเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถงึ หมายความว่า มคี วามเหมาะสมในระดบั นอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายถึง หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดับ นอ้ ยมาก ข้อท่ี รายการประเมิน คะแนนของผปู้ ระเมิน ค่า การแปล คนท่ี 1 คนท2ี่ คนท่ี 3 เฉลยี่ ความหมาย 1 แผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งสัมพันธก์ ับหน่วยการเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นร้มู ีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วนสมั พันธ์กัน 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถกู ตอ้ ง 4 จุดประสงค์การเรียนรู้มคี วามชดั เจนครอบคลมุ เนอื้ หาสาระ 5 กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์และเน้ือหาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคแ์ ละระดบั ชัน้ ของนักเรียน 8 กิจกรรมการเรียนรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ 9 กจิ กรรมการเรียนรเู้ ป็นกจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ ของนกั เรยี น 10 กจิ กรรมการเรียนร้สู อดคล้องแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มที่ดงี าม 11 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในช้ันเรียน 12 วัสดุอปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดอุ ุปกรณ์ ส่ือ และแหลง่ เรยี นรู้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนคน้ ควา้ หาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ 15 มีการวดั และประเมนิ ผลทีส่ อดคล้องกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-2- ขอ้ เสนอแนะ ด้านเนื้อหาสาระ...................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกิจกรรมการเรยี นการสอน.............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวัดและประเมนิ ผล..................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... สรปุ ผลการประเมิน ผา่ น (มคี วามเหมาะสมต้งั แต่ระดบั ปานกลางข้นึ ไป) ไม่ผา่ น (ความเหมาะสมตำ่ กว่าระดับปานกลาง) ลงช่ือ.......................................... (นางสาวกนั ยาภทั ร ภทั รโสตถิ) ประธานกรรมการ ลงชื่อ.......................................... ลงช่ือ.......................................... (นางสาวสุวดกี าญจนาภา) (นางสาวจริ ะพนั ธุ์ ปากวิเศษ) กรรมการ กรรมการ
Search